แผนการสอนวิชาโปรแกรมประมวลผลคำ

149 4. สอบถามผเู้ รียน เร่ืองการพิมพห์ นงั สือราชการ สามารถใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2010 พิมพไ์ ดห้ รือไม่ โดยการสอบถามเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม เพื่อให้ผเู้ รียนไดแ้ สดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล 5. ผสู้ อนบอกแนวทางในการเรียน และวธิ ีการปฏิบตั ิตามภาระงานที่มอบหมาย ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ใหผ้ เู้ รียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 6 ในเวลาท่ีกาํ หนด 2. เม่ือผเู้ รียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนเสร็จแลว้ ใหผ้ เู้ รียนผลดั กนั ตรวจแบบทดสอบกบั เพอื่ น ดว้ ยความซ่ือสตั ยส์ ุจริต โดยผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 6 ข้นั สอน 1. ผสู้ อนทาํ การสอนโดยใหผ้ เู้ รียนเปิ ดหนงั สือประกอบการเรียนการสอน 2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนเปิ ดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์และเขา้ สู่การใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word 2010 3. ผสู้ อนทาํ การอธิบายเน้ือหาความรู้เกี่ยวกบั การพมิ พห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น พร้อมท้งั สาธิตเน้ือหาการเรียนรู้แต่ละเรื่องใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ไปพร้อมกนั 4. ผสู้ อนบอกวธิ ีการและแนวคิดในการปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ งใหแ้ ก่ผเู้รียน สงั เกต บนั ทึกพฤติกรรม ผเู้ รียนขณะเรียนและศึกษาบทเรียน คอยช่วยเหลือและใหค้ าํ แนะนาํ เมื่อผเู้ รียนเกิดความสงสัย 5. ผสู้ อนเปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสยั ข้ันสรุป 1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาจากใบความรู้และทาํ แบบฝึกปฏิบตั ิตามใบงาน 2. สังเกต บนั ทึกพฤติกรรมผเู้ รียนขณะดาํ เนินงานตามใบงาน คอยช่วยเหลือใหค้ าํ แนะนาํ เมื่อผเู้ รียนเกิดความสงสยั 3. แบ่งกลุ่มผเู้ รียนเพ่ือดาํ เนินงานตามใบงาน ผสู้ อนเดินสาํ รวจการศึกษาขอ้ มลู จากใบความรู้ และฝึกปฏิบตั ิตามใบงานของผเู้ รียน หากพบวา่ ผเู้ รียนยงั ไม่เขา้ ใจ ผสู้ อนจะทาํ การอธิบายใหผ้ เู้ รียน อีกคร้ัง 4. เมื่อผเู้ รียนทาํ งานท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหต้ วั แทนกลุ่มหรือสมาชิกท้งั กลุ่ม ลุกข้ึนอธิบายคาํ ตอบพร้อมท้งั วธิ ีการไดม้ าซ่ึงคาํ ตอบ 5. ผสู้ อนทาํ การเฉลยร่วมกบั ผเู้ รียน พร้อมท้งั อธิบายขอ้ มูลเพิม่ เติมหากผเู้ รียนเกิดความสงสยั และผเู้ รียนคนใดยงั ทาํ งานท่ีไดร้ ับมอบหมายไม่ถูกตอ้ งใหท้ าํ การแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งเรียบร้อยและเก็บ สะสมชิ้นงานทุกงานท่ีไดร้ ับมอบหมายส่งตามกาํ หนด

150 6. ผสู้ อนร่วมกบั ผเู้ รียนช่วยกนั สรุปสาระการเรียนรู้ประจาํ หน่วยการเรียน เพ่ือส่งเสริม ความเป็ นประชาธิปไตย 7. ผเู้ รียนทาํ แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 8. ผเู้ รียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 6 ในเวลาท่ีกาํ หนด 9. ผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน พร้อมกบั ใหผ้ เู้ รียนแลกเปล่ียนกระดาษคาํ ตอบ กนั โดยครูผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 10. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนท่ีไดร้ ับมอบหมายเวรประจาํ วนั สาํ รวจความเรียบร้อยของห้องเรียน พร้อมท้งั ทาํ ความสะอาดหอ้ งเรียน และใหผ้ เู้ รียนเตรียมตวั เรียนในคาบตอ่ ไป 7. สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ สื่อสิ่งพมิ พ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคาํ (Microsoft Word 2010) รหสั วชิ า 2204-2108 โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวิจิตร 2. แบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรียน 3. ใบความรู้ท่ี 6 เร่ืองการพิมพห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น 4. ใบกิจกรรม 5. แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 6. แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรียน และแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 7. แบบประเมินผลการทาํ งานตามใบงาน 8. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม / หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง / 3 D ส่ือโสตทศั น์ 1. คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพว่ ง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2010 3. โปรเจคเตอร์ 4. ไมโครโฟน เครื่องขยายเสียงพร้อมลาํ โพง สื่อของจริง -

151 8. แหล่งการเรียนรู้เพมิ่ เติม ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั ฯ 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ ศึกษาขอ้ มูลจากเอกสาร คน้ ควา้ ขอ้ มลู ทาง Internet 3. หอ้ ง Internet 4. ครูผสู้ อนแผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกิจ นอกสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดประชาชน/ร้านหนงั สือ 2. Internet / ร้านคอมพวิ เตอร์ที่ใหบ้ ริการทางดา้ น Internet 3. บุคลากรตา่ งๆ ที่มีความรู้เกี่ยวกบั การใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคาํ 9. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอนื่ 1. บูรณาการกบั กลุ่มวิชาภาษาไทย การฝึ กปฏิบตั ิเขียนยอ่ ความ เขียนเรียงความ เขียนโครงการ เขียนรายงานวิชาการ เขียนจดหมายสมคั รงาน เขียนบนั ทึกขอ้ ความในหน่วยงาน เขียนรายงานการ ประชุม กรอกแบบฟอร์มเอกสารประเภทต่าง ๆ เขียนแสดงความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ โดยการจดั พิมพ์ ในโปรแกรมประมวลผลคาํ 2. บูรณาการร่วมกับกลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ โดยการนาํ โปรแกรมประมวลผลคาํ มา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเขียนโตต้ อบทางสังคม เขียนให้ขอ้ มูลบุคคล เขียนจดหมายส่วนตวั เขียนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ เขียนบนั ทึกยอ่ / ขอ้ ความส้ัน ๆ ในโอกาสต่าง ๆ กรอกให้ขอ้ มูลในแบบฟอร์มต่าง ๆ ใบสมคั รงาน ใบสมคั รสมาชิก ต่าง ๆ ใบขอรับทุน ใบสมคั รเขา้ ศึกษา ใบสมคั รสอบ ฯลฯ เขียนให้ ขอ้ มูลในเอกสารการปฏิบตั ิงานในงานอาชีพตา่ ง ๆ เขียนบนั ทึกยอ่ รายงานส้ัน ๆ เขียนจดหมายธุรกิจ ประเภทต่าง ๆ ใช้ ICT เป็ นแหล่งการเรียนรู้ดว้ ยตนเองหรือฝึ กฝนกบั เพื่อน ใช้ ICT พฒั นาทกั ษะการ ฟัง - ดู พูด อ่าน การเขียน สืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เพ่ือพฒั นาทกั ษะการ สื่อสารและการประกอบอาชีพ 3. บูรณาการร่วมกับกลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ ด้านการใช้สูตรและฟังก์ชั่นในการคาํ นวณ ประยกุ ตก์ ระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการวางแผน การออกแบบประดิษฐ์คิดคน้ สิ่งใหม่ ๆ ใน งานอาชีพ 4. บูรณาการร่วมกบั วชิ าการบญั ชีเบ้ืองตน้ มีกิจนิสยั มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซื่อสตั ย์ มีวนิ ยั ตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติท่ีดีต่อวชิ าชีพ

152 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน 1. ตรวจผลงานตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. สังเกตการปฏิบตั ิงาน หลงั เรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 2. ตรวจงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 3. ตรวจแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 1. สิ่งทจี่ ะวดั 1.1 ความรู้ความเขา้ ใจจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.2 การประเมินผลงาน 1.3 สงั เกตพฤติกรรมขณะเรียน 2. วธิ ีการวดั 2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน 2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย 2.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 3. เคร่ืองมอื วดั 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กิจกรรมท่ีมอบหมาย 3.3 แบบสังเกตพฤติกรรม 4. เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั ผล 1. ใหข้ อ้ ถูก ขอ้ ละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน 2. ใหค้ ะแนนพฤติกรรมการเรียน 5 หมายถึง ดีมาก 4 หมายถึง ดี 3 หมายถึง ปานกลาง 2 และ 1 หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง

153 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนจากการทาํ แบบทดสอบ ไมต่ ่าํ กวา่ ร้อยละ 60 2. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนจากกิจกรรมการเรียน ไมต่ ่าํ กวา่ ร้อยละ 80 3. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนพฤติกรรมการเรียน ไม่ต่าํ กวา่ ร้อยละ 60 เกณฑ์การวดั แบบทดสอบ 20 คะแนน ระดบั ดี ต้งั แต่ร้อยละ 80 ข้ึนไป (16 คะแนน) ระดบั ปานกลาง ต้งั แตร่ ้อยละ 60 - 70 ข้ึนไป (12 - 14 คะแนน) ระดบั ปรับปรุง ต้งั แต่ร้อยละ 50 ลงมา (10 คะแนนลงมา) เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั ปานกลางข้ึนไป หรือต้งั แต่ร้อยละ 60 ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะประจาหน่วย 1. ผเู้ รียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วธิ ีการ หรือหลกั การง่ายเพ่ือใหห้ า คาํ ตอบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ต้งั ใจฟังหลกั การ เทคนิควธิ ีการที่ครูผสู้ อนสรุปใน ขณะท่ีทาํ การสอน และนาํ ขอ้ สงสยั ซกั ถามครูในการเรียนทุกคร้ังที่เกิดความสบั สน และไม่เขา้ ใจ 2. ผเู้ รียนมีการทบทวนบทเรียนตลอด เพื่อเสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผเู้ รียนหมนั่ ทาํ ใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ท่ีผดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ 4. ผเู้ รียนตอ้ งสร้างมโนภาพใหเ้ กิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการ พร้อมกบั ความจาํ เป็นในการนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดข้ึนโดยตนเองใหไ้ ดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเขา้ ใจ อยา่ งแทจ้ ริงไม่ใช่เกิดจากการทอ่ งจาํ

156 ใบความรู้ที่ 6 หน่วยท่ี 6 ช่ือวชิ า โปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) สอนคร้ังท่ี 12 - 14 ชื่อหน่วย การพมิ พห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น จานวน 9 ช่ัวโมง ช่ือเรื่อง การพมิ พห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวียน รวมเวลา 180 นาที 1. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถสร้างและพิมพห์ นงั สือภายในได้ 2. สามารถจดั รูปแบบหนงั สือภายในไดถ้ ูกตอ้ ง 3. สามารถสร้างและพิมพห์ นงั สือภายนอกได้ 4. สามารถจดั รูปแบบหนงั สือภายนอกไดถ้ ูกตอ้ ง 5. สามารถสร้างจดหมายเวยี นได้ 6. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีพึงประสงค์ คือ มีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมีวินยั ความซ่ือสัตย์ ความรับผดิ ชอบ ความเช่ือมน่ั ในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝ่ รู้ ความติดริเริ่มสร้างสรรค์ การพ่ึงตนเอง 7. ผเู้ รียนมีความพร้อมดา้ นการเรียนรู้ตามท่ีกาํ หนด มีความสนใจใฝ่ รู้ มีเหตุผล มีความรอบรู้ มีความรอบคอบ/ระมดั ระวงั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีความเป็นประชาธิปไตย 2. เนือ้ หาสาระ การพมิ พ์หนังสือราชการและจดหมายเวียน ศึกษาเกย่ี วกบั 1. การพิมพแ์ ละจดั รูปแบบหนงั สือภายใน 2. การพิมพแ์ ละจดั รูปแบบหนงั สือภายนอก 3. การสร้างจดหมายเวยี น

157 สรุปท้ายบท หนงั สือภายใน คือ หนงั สือติดตอ่ ราชการท่ีเป็นแบบพิธีนอ้ ยกวา่ หนงั สือภายนอก เป็นหนงั สือ ติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวดั เดียวกนั ใชก้ ระดาษบนั ทึกขอ้ ความและใหจ้ ดั ตาม แบบท่ีกาํ หนดไว้ หนงั สือภายนอก คือ หนงั สือติดต่อราชการท่ีเป็ นแบบพิธีโดยใชก้ ระดาษตราครุฑ เป็น หนงั สือติดต่อระหวา่ งส่วนราชการ หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอ่ืน ซ่ึงมิใช่ส่วนราชการ หรือ ที่มีถึงบุคคลภายนอก จดหมายเวยี น (Mail Merge) คือ จดหมายท่ีมีขอ้ ความเดิมซ้าํ ๆ กนั ทุกฉบบั แตม่ ีบางส่วนของ จดหมายท่ีแตกต่างกนั เช่น ช่ือและที่อยู่ ซ่ึงจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็ นเอกสารหลกั (Main Document) ท่ีเกบ็ ขอ้ ความในจดหมาย และส่วนที่เป็นแหล่งขอ้ มูลหรือฐานขอ้ มูล (Database) แบบฝึ กหดั จงตอบคาํ ถามต่อไปน้ีใหไ้ ดใ้ จความสมบรู ณ์ 1. หนงั สือภายใน คืออะไร . 2. หนงั สือภายนอก คืออะไร . 3. จดหมายเวยี น (Mail Merge) คืออะไร . .  . . . . . . . . 

158 เฉลยแบบฝึ กหัด จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ได้ใจความสมบูรณ์ 1. หนงั สือภายใน คืออะไร หนังสือภายใน คือ หนงั สือติดต่อราชการที่เป็นแบบพธิ ีนอ้ ยกวา่ หนงั สือภายนอก เป็นหนงั สือ ติดตอ่ ภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวดั เดียวกนั ใชก้ ระดาษบนั ทึกขอ้ ความและใหจ้ ดั ตามแบบ ท่ีกาํ หนดไว้ 2. หนงั สือภายนอก คืออะไร หนังสือภายนอก คือ หนงั สือติดต่อราชการท่ีเป็ นแบบพิธีโดยใชก้ ระดาษตราครุฑ เป็ นหนงั สือ ติดต่อระหวา่ งส่วนราชการ หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอ่ืน ซ่ึงมิใช่ส่วนราชการ หรือท่ีมีถึง บุคคลภายนอก หนงั สือภายนอก เป็นเอกสารทางราชการท่ีใชภ้ ายนอกหน่วยงาน 3. จดหมายเวยี น (Mail Merge) คืออะไร จดหมายเวยี น (Mail Merge) คือ จดหมายที่มีขอ้ ความเดิมซ้าํ ๆ กนั ทุกฉบบั แตม่ ีบางส่วนของ จดหมายที่แตกต่างกนั เช่น ชื่อและที่อยู่ ซ่ึงจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนท่ีเป็ นเอกสารหลกั (Main Document) ท่ีเกบ็ ขอ้ ความในจดหมาย และส่วนท่ีเป็นแหล่งขอ้ มลู (Data Source) หรือฐานขอ้ มลู (Database)  .

159 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน จงทาเคร่ืองหมาย  เพอื่ เลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดียว 1. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของหนงั สือภายในไดถ้ ูกตอ้ ง ก. หนงั สือติดต่อระหวา่ งส่วนราชการ หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอ่ืน ข. หนงั สือท่ีติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวดั เดียวกนั ใชก้ ระดาษบนั ทึก ขอ้ ความ ค. หนงั สือท่ีส่วนราชการจดั ทาํ ข้ึน เพือ่ ใชส้ ่ังการไปยงั หน่วยงานต่างๆ ในสงั กดั ง. หนงั สือท่ีใชต้ ราประทบั แทนการลงช่ือของหวั หนา้ ส่วนราชการ 2. การต้งั ระยะขอบหนา้ กระดาษ ในการพิมพห์ นงั สือราชการขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. ขอบซา้ ย 3 เซนติเมตร ขอบขวา 2 เซนติเมตร ข. ขอบซา้ ย 2 เซนติเมตร ขอบขวา 3 เซนติเมตร ค. ขอบซา้ ย 2.5 เซนติเมตร ขอบขวา 1.5 เซนติเมตร ง. ขอบซา้ ย 1.5 เซนติเมตร ขอบขวา 2.5 เซนติเมตร 3. การจดั ทาํ กระดาษบนั ทึกขอ้ ความใชข้ นาดตราครุฑสูงกี่เซนติเมตร ก. 1 เซนติเมตร ข. 2.5 เซนติเมตร ค. 1.5 เซนติเมตร ง. 3 เซนติเมตร 4. การพิมพห์ นงั สือภายใน คาํ วา่ วนั ที่จะอยตู่ าํ แหน่งใด ก. ยอ่ หนา้ ข. คาํ ลงทา้ ย ค. ตาํ แหน่ง ง. ชื่อ – สกุล 5. การจดั ระยะยอ่ หนา้ ของหนงั สือราชการ ใชร้ ะยะเท่าใด ก. 2.5 เซนติเมตร ข. 1.5 เซนติเมตร ค. 2 เซนติเมตร ง. 1 เซนติเมตร 6. การพมิ พข์ อ้ ความแตล่ ะยอ่ หนา้ มีระยะห่างเท่ากบั ขอ้ ใด ก. 1 Enter + Before 16 pt ข. 1 Enter + Before 12 pt ค. 1 Enter + Before 6 pt ง. 1 Enter + Before 3 pt 7. คาํ วา่ บนั ทึกขอ้ ความมีขนาดแบบอกั ษรเทา่ ใด ก. อกั ษรตวั หนาขนาด 16 พอยต์ ข. อกั ษรตวั หนาขนาด 20 พอยต์ ค. อกั ษรตวั หนาขนาด 24 พอยต์ ง. อกั ษรตวั หนาขนาด 29 พอยต์

160 8. ขอ้ ใดคือแบบอกั ษรที่ใชใ้ นการพมิ พห์ นงั สือราชการ ก. Arial ข. TH SarabunPSK ค. Tahoma ง. LilyUPC 9. ขนาดแบบอกั ษรที่ใชใ้ นการพิมพห์ นงั สือราชการขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. 14 พอยต์ ข. 20 พอยต์ ค. 16 พอยต์ ง. 22 พอยต์ 10. การเวน้ ระยะใหล้ งช่ือในการพิมพห์ นงั สือราชการขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. เวน้ 2 บรรทดั = 3 Enter ข. เวน้ 2 บรรทดั = 4 Enter ค. เวน้ 3 บรรทดั = 3 Enter ง. เวน้ 3 บรรทดั = 4 Enter 11. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของหนงั สือภายนอกไดถ้ ูกตอ้ ง ก. หนงั สือติดต่อระหวา่ งส่วนราชการ หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอ่ืน ข. หนงั สือที่ติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรมหรือจงั หวดั เดียวกนั ใชก้ ระดาษบนั ทึก ขอ้ ความ ค. หนงั สือท่ีส่วนราชการจดั ทาํ ข้ึน เพ่อื ใชส้ ง่ั การไปยงั หน่วยงานต่างๆ ในสงั กดั ง. หนงั สือท่ีใชต้ ราประทบั แทนการลงชื่อของหวั หนา้ ส่วนราชการ 12. การจดั ทาํ กระดาษตราครุฑ ใชข้ นาดตราครุฑสูงกี่เซนติเมตร ก. 1 เซนติเมตร ข. 2.5 เซนติเมตร ค. 3 เซนติเมตร ง. 1.5 เซนติเมตร 13. การพิมพห์ นงั สือภายนอก ขอ้ ความบรรทดั แรกจะอยตู่ าํ แหน่งใดของครุฑ ก. หาง ข. เทา้ ค. เอว ง. ปี ก 14. การพมิ พห์ นงั สือภายนอก วนั ท่ีจะอยตู่ รงกบั ตาํ แหน่งใด ก. คาํ ลงทา้ ย ข. ช่ือ – สกุล ค. ตาํ แหน่ง ง. ขอ้ มลู ท่ีอยู่ 15. จดหมายเวยี นหมายถึงขอ้ ใด ก. จดหมายหลกั และตารางขอ้ มูล ข. จดหมายท่ีมีขอ้ ความเหมือนกนั ค. จดหมายท่ีมีขอ้ ความไมเ่ หมือนกนั ง. จดหมายท่ีมีขอ้ ความเหมือนกนั ตา่ งกนั เฉพาะช่ือ-ท่ีอยผู่ รู้ ับ

161 16. การสร้างจดหมายเวยี น มีข้นั ตอนอยา่ งไร ข. การส่งจดหมาย > เร่ิมจดหมายเวยี น ก. เริ่มจดหมายเวยี น > เลือกผรู้ ับ ง. เริ่มจดหมายเวยี น > การส่งจดหมาย ค. การส่งจดหมาย > แกไ้ ขรายชื่อผรู้ ับ 17. ป่ ุมเคร่ืองมือ หมายความวา่ อยา่ งไร ข. เนน้ เขตขอ้ มลู ผสาน ก. คน้ หาผรู้ ับ ง. แสดงตวั อยา่ งผลลพั ธ์ ค. แทรกเขตขอ้ มลู ผสาน 18. ป่ ุมเครื่องมือ หมายความวา่ อยา่ งไร ข. เนน้ เขตขอ้ มลู ผสาน ก. คน้ หาผรู้ ับ ง. แสดงตวั อยา่ งผลลพั ธ์ ค. แทรกเขตขอ้ มูลผสาน ข. เร่ิมซองจดหมาย > เลือกผรู้ ับ 19. การสร้างซองจดหมาย มีข้นั ตอนอยา่ งไร ง. เร่ิมซองจดหมาย > การส่งจดหมาย ก. การส่งจดหมาย > เลือกผรู้ ับ ค. การส่งจดหมาย > ซองจดหมาย 20. ป่ ุมเครื่องมือ หมายความวา่ อยา่ งไร ข. เนน้ เขตขอ้ มลู ผสาน ก. แทรกเขตขอ้ มูลผสาน ง. การสัง่ พมิ พจ์ ดหมายเวยี น ค. ผสานเป็นเอกสารใหม่

162 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน ข้อ คาตอบ 1ข 2ก 3ค 4ง 5ก 6ค 7ง 8ข 9ค 10 ง 11 ก 12 ค 13 ข 14 ก 15 ง 16 ข 17 ค 18 ง 19 ค 20 ง

163 ใบงานที่ 9 หน่วยท่ี 6 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) สอนคร้ังท่ี 12-14 ช่ือหน่วย การพิมพห์ นงั สือราชการและจดหมายเวยี น จานวน 9 ช่ัวโมง ชื่องาน การพมิ พห์ นงั สือภายใน (บนั ทึกขอ้ ความ) เวลา 30 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้รู้จกั ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้เกี่ยวกบั การพิมพห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น 2. เพ่ือเสริมสร้างทกั ษะความสามารถทางดา้ นการปฏิบตั ิ 3. เพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้ความรู้ซ่ึงกนั และกนั 4. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีบทบาทในการเรียน และสร้างสรรคบ์ รรยากาศท่ีดีจากการเรียน 5. เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิงานดว้ ยความรอบคอบ วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร 2. ใบงานท่ี 9 เร่ืองการพมิ พห์ นงั สือภายใน (บนั ทึกขอ้ ความ) 3. เคร่ืองคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพว่ ง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2010 ลาดบั ข้นั การปฏบิ ตั งิ าน ข้นั ท่ี 1 รับใบงานท่ีครูผสู้ อน ข้นั ที่ 2 ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ ปลกั๊ ไฟ ใหเ้ รียบร้อยแลว้ ทาํ การเปิ ดเครื่อง คอมพิวเตอร์ เขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ข้นั ท่ี 3 ปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย

164 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาสุโขทยั ใบงานท่ี 9 การพมิ พ์หนังสือภายใน (บนั ทกึ ข้อความ) วชิ าการใช้โปรแกรมประมวลผลคา (2201-1001) ระดบั ช้ัน ปวช. 1 พณชิ ยการ สอนโดย : ครูธิตริ ัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาส่ัง ใหน้ กั เรียนพิมพข์ อ้ ความ และจดั รูปแบบเอกสารตามรูปแบบใหถ้ ูกตอ้ งสวยงาม แลว้ บนั ทึก เอกสารไวท้ ่ีไดร์ฟ D:\\งานนกั เรียน\\ช่ือ-สกลุ นกั เรียน\\ใบงานที่ 9.Docx ใชค้ าํ สงั่ ในการจดั เอกสาร ดงั ต่อไปน้ี 1. ต้งั ค่าหนา้ กระดาษ โดยกาํ หนดระยะขอบบน 1.5 ซม. ขอบซา้ ย 3 ซม. ขอบขวา 2 ซม. และกาํ หนดขนาดกระดาษ A4 2. การวางตราครุฑห่างจากขอบกระดาษดา้ น บน 1.5 ซม. ขนาดครุฑ มีขนาด 1.5 ซม. 3. ขอ้ ความท่ีพิมพใ์ ชแ้ บบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตวั ธรรมดา 4. ต้งั แทบ็ ตาํ แหน่งยอ่ หนา้ ที่ตาํ แหน่ง 2.5 ซม. การจดั แนว แทบ็ ซา้ ย ตาํ แหน่งแทบ็ วนั ที่ และชื่อ-สกุล ที่ตาํ แหน่ง 8 ซม. การจดั แนว แทบ็ ซา้ ย 5. คาํ วา่ “บนั ทึกขอ้ ความ” พิมพด์ ว้ ยอกั ษรตวั หนา ขนาด 29 พอยท์ จดั ตาํ แหน่งก่ึงกลาง และปรับคา่ ระยะบรรทดั จาก 1 เท่าเป็นคา่ แน่นอน 35 พอยท์ 6. คาํ วา่ “ส่วนราชการ ที่ วนั ที่ เรื่อง” พิมพด์ ว้ ยอกั ษรตวั หนาขนาด 20 พอยท์ 7. การพมิ พข์ อ้ ความแต่ละยอ่ หนา้ ใหม้ ีระยะห่างเทา่ กบั ระยะบรรทดั ปกติ และเพิ่มค่าก่อน หนา้ อีก 6 พอยท์ 8. การพิมพช์ ่ือ-สกุลของเจา้ ของหนงั สือ ใหเ้ วน้ ระยะบรรทดั การพมิ พ์ 3 บรรทดั หรือ 4 Enter

165 บันทกึ ข้อความ สว่ นราชการ วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาสุโขทยั วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ . ที่ . เรือ่ ง ขอแจ้งรายชือ่ สอ่ื การสอน . เรยี น ผอู้ านวยการวิทยาลัยอาชวี ศึกษาสุโขทัย ดว้ ยงานส่อื การเรยี นการสอน ได้รบั มอบสอ่ื อเี ลคทรอนคิ สเ์ พ่ือการศึกษา (CD) เพ่อื ใช้ประกอบการเรียนการสอน ประเภทวิชาศลิ ปกรรม จากศนู ย์วิจยั และพฒั นาอาชีวศึกษา จานวน ๕ แผน่ ดังนี้ ๑. การเขียนภาพด้วยเทคนิคพ้อยทริ สี ซ่มึ จานวน ๑ แผน่ ๒. การเขียนภาพสนี า้ จานวน ๑ แผ่น ๓. การเขยี นภาพคนเหมือนด้วยสีน้ามนั จานวน ๑ แผ่น ๔. วดี ิทศั น์ ๑ จานวน ๑ แผ่น ๕. วีดทิ ัศน์ ๒ จานวน ๑ แผน่ ถา้ อาจารยผ์ ู้สอนท่านใดมคี วามสนใจจะยืมไปใชใ้ นการเรยี นการสอนหรอื ศึกษาหา ความรู้ โปรดตดิ ต่อยืมไดท้ ี่งานสอื่ การเรียนการสอนได้ตงั้ แต่แตบ่ ดั นีเ้ ป็นต้นไป จงึ เรียนมาเพ่ือทราบ (นายอนันต์ เลขวรรณวจิ ติ ร) หัวหนา้ งานสื่อการเรยี นการสอน

166 ใบงานท่ี 10 หน่วยท่ี 6 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) สอนคร้ังท่ี 12-14 ช่ือหน่วย การพิมพห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น จานวน 9 ชั่วโมง ชื่องาน การพิมพห์ นงั สือภายนอก เวลา 30 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพ่ือให้รู้จกั ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้เกี่ยวกบั การพิมพห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น 2. เพื่อเสริมสร้างทกั ษะความสามารถทางดา้ นการปฏิบตั ิ 3. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ซ่ึงกนั และกนั 4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีบทบาทในการเรียน และสร้างสรรคบ์ รรยากาศที่ดีจากการเรียน 5. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิงานดว้ ยความรอบคอบ วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร 2. ใบงานท่ี 10 เรื่องการพิมพห์ นงั สือภายนอก 3. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพว่ ง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2010 ลาดบั ข้นั การปฏบิ ตั งิ าน ข้นั ท่ี 1 รับใบงานท่ีครูผสู้ อน ข้นั ท่ี 2 ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ ปลก๊ั ไฟ ใหเ้ รียบร้อยแลว้ ทาํ การเปิ ดเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ เขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ข้นั ท่ี 3 ปฏิบตั ิงานตามใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย

167 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาสุโขทยั ใบงานท่ี 10 การพมิ พ์หนังสือภายนอก วชิ าการใช้โปรแกรมประมวลผลคา (2201-1001) ระดับช้ัน ปวช.1 พณชิ ยการ สอนโดย : ครูธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาสั่ง ใหน้ กั เรียนพิมพข์ อ้ ความ และจดั รูปแบบเอกสารตามรูปแบบใหถ้ ูกตอ้ งสวยงาม แลว้ บนั ทึก เอกสารไวท้ ี่ไดร์ฟ D:\\งานนกั เรียน\\ชื่อ-สกุลนกั เรียน\\ใบงานท่ี 10.Docx ใชค้ าํ สัง่ ในการจดั เอกสาร ดงั ต่อไปน้ี 1. ต้งั ค่าหนา้ กระดาษ โดยกาํ หนดระยะขอบบน 1.5 ซม. ขอบซา้ ย 3 ซม. ขอบขวา 2 ซม. และกาํ หนดขนาดกระดาษ A4 2. การวางตราครุฑห่างจากขอบกระดาษดา้ น บน 1.5 ซม. ขนาดครุฑ มีขนาด 3 ซม. 3. ขอ้ ความท่ีพิมพใ์ ชแ้ บบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตวั ธรรมดา 4. ต้งั แทบ็ ตาํ แหน่งยอ่ หนา้ ที่ตาํ แหน่ง 2.5 ซม. การจดั แนว แทบ็ ซา้ ย ตาํ แหน่งแทบ็ วนั ท่ี และช่ือ-สกุล ที่ตาํ แหน่ง 8 ซม. การจดั แนว แทบ็ ซา้ ย 5. ขอ้ ความบรรทดั แรกอยรู่ ะหวา่ งเทา้ ครุฑ 6. การพิมพข์ อ้ ความแตล่ ะยอ่ หนา้ ใหม้ ีระยะห่างเทา่ กบั ระยะบรรทดั ปกติ และเพิม่ ค่าก่อน หนา้ อีก 6 พอยท์ ยกเวน้ ตาํ แหน่งก่อนคาํ ลงทา้ ย ระยะห่าง 12 พอยท์ 7. การพิมพช์ ่ือ-สกลุ และตาํ แหน่ง ใหว้ างศูนยก์ บั ตาํ แหน่งคาํ ลงทา้ ย 8. การพมิ พช์ ื่อ-สกลุ ของเจา้ ของหนงั สือ ให้เวน้ ระยะบรรทดั การพิมพ์ 3 บรรทดั หรือ 4 Enter

168 ที่ ศธ ๐๙๐๘.๓๖ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสโุ ขทยั ๑๐๘ ถนนสงิ หวฒั น์ ตาบลธานี อาเภอเมือง จังหวดั สโุ ขทยั ๖๔๐๐๐ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เรอ่ื ง ขอแจ้งรายช่อื ผเู้ ข้ารบั การสมั มนาเชิงปฏิบัตกิ ารการสร้างส่อื การเรยี นการสอนแบบ On-line เรยี น ผ้อู านวยการศนู ย์ส่งเสรมิ และพัฒนาอาชวี ศึกษาภาคเหนอื อ้างถงึ หนังสือศูนยส์ ง่ เสริมและพฒั นาอาชีวศึกษาภาคเหนือ ท่ี ศธ ๐๙๑๐/๕๐๐ ลงวนั ท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ สิง่ ท่ีส่งมาดว้ ย แบบสารวจการเขา้ รบั การสัมมนา จานวน ๑ ฉบับ หนังสือทีอ่ ้างถงึ ศนู ย์สง่ เสริมและพัฒนาอาชวี ศกึ ษาภาคเหนือ จะจดั โครงการสัมมนา เชงิ ปฏิบัติการการสร้างสื่อการเรยี นการสอนแบบ On-line ความละเอียดแจ้งแลว้ นัน้ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสโุ ขทยั ขอแจ้งรายช่ือผู้เขา้ รับการสมั มนาคือ นางธติ ิรัตน์ เลขวรรณวิจติ ร ตาแหน่ง ครู พรอ้ มหนังสือน้ีไดแ้ นบแบบสารวจการเข้ารบั การสัมมนามาแล้วด้วย จึงเรียนมาเพ่ือทราบ ขอแสดงความนบั ถือ (นายสมใจ นึกคิด) ผอู้ านวยการวิทยาลยั อาชีวศึกษาสโุ ขทัย ฝ่ายวชิ าการ โทร. ๐๕๕-๖๑๑๗๘๙ โทรสาร ๐๕๕-๖๑๒๔๑๙

169 ใบงานท่ี 11 หน่วยท่ี 6 ช่ือวชิ า โปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) สอนคร้ังท่ี 12-14 ช่ือหน่วย การพิมพห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น จานวน 9 ชั่วโมง ช่ืองาน จดหมายเวยี น เวลา 30 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพ่ือให้รู้จกั ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้เกี่ยวกบั การพมิ พห์ นงั สือราชการ และจดหมายเวยี น 2. เพื่อเสริมสร้างทกั ษะความสามารถทางดา้ นการปฏิบตั ิ 3. เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ความรู้ซ่ึงกนั และกนั 4. เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีบทบาทในการเรียน และสร้างสรรคบ์ รรยากาศที่ดีจากการเรียน 5. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิงานดว้ ยความรอบคอบ วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร 2. ใบงานที่ 11 เรื่องจดหมายเวยี น 3. เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพว่ ง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2010 ลาดับข้นั การปฏบิ ัตงิ าน ข้นั ท่ี 1 รับใบงานท่ีครูผสู้ อน ข้นั ท่ี 2 ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ ปลกั๊ ไฟ ใหเ้ รียบร้อยแลว้ ทาํ การเปิ ดเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ เขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ข้นั ที่ 3 ปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย

170 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาสุโขทยั ใบงานที่ 11 จดหมายเวยี น วชิ าการใช้โปรแกรมประมวลผลคา (2201-1001) ระดบั ช้ัน ปวช.1 พณชิ ยการ สอนโดย : ครูธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาส่ัง ใหน้ กั เรียนพิมพข์ อ้ ความ และจดั รูปแบบเอกสารตามรูปแบบใหถ้ ูกตอ้ งสวยงาม แลว้ บนั ทึก เอกสารไวท้ ี่ไดร์ฟ D:\\งานนกั เรียน\\ช่ือ-สกุลนกั เรียน\\ใบงานที่ 11.Docx ใชค้ าํ ส่งั ในการจดั เอกสาร ดงั ต่อไปน้ี 1. ต้งั ค่าหนา้ กระดาษ โดยกาํ หนดระยะขอบบน 1.5 ซม. ขอบซา้ ย 3 ซม. ขอบขวา 2 ซม. และกาํ หนดขนาดกระดาษ A4 2. การวางตราครุฑห่างจากขอบกระดาษดา้ น บน 1.5 ซม. ขนาดครุฑ มีขนาด 1.5 ซม. 3. ขอ้ ความที่พมิ พใ์ ชแ้ บบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตวั ธรรมดา 4. ต้งั แทบ็ ตาํ แหน่งยอ่ หนา้ ท่ีตาํ แหน่ง 2.5 ซม. การจดั แนว แทบ็ ซา้ ย ตาํ แหน่งแทบ็ วนั ท่ี และช่ือ-สกุล ที่ตาํ แหน่ง 8 ซม. การจดั แนว แทบ็ ซา้ ย 5. คาํ วา่ “บนั ทึกขอ้ ความ” พิมพด์ ว้ ยอกั ษรตวั หนา ขนาด 29 พอยท์ จดั ตาํ แหน่งก่ึงกลาง และปรับคา่ ระยะบรรทดั จาก 1 เท่าเป็นค่าแน่นอน 35 พอยท์ 6. คาํ วา่ “ส่วนราชการ ท่ี วนั ที่ เรื่อง” พมิ พด์ ว้ ยอกั ษรตวั หนาขนาด 20 พอยท์ 7. การพิมพข์ อ้ ความแตล่ ะยอ่ หนา้ ใหม้ ีระยะห่างเทา่ กบั ระยะบรรทดั ปกติ และเพ่ิมค่าก่อน หนา้ อีก 6 พอยท์ 8. การพมิ พช์ ่ือ-สกุลของเจา้ ของหนงั สือ ใหเ้ วน้ ระยะบรรทดั การพิมพ์ 3 บรรทดั หรือ 4 Enter 9. จดั ทาํ เป็นจดหมายเวยี น พร้อมซองจดหมาย ดงั น้ี การแทรกแหล่งข้อมูล 1. หลงั คาํ วา่ เรียน ใหแ้ ทรก<<ช่ือ-สกลุ >> 2. หลงั คาํ วา่ มีความประสงคข์ อเชิญ ใหแ้ ทรก<<ช่ือ-สกลุ >> หลงั คาํ วา่ แผนก ให้ แทรก<<แผนก>> 3. หลงั คาํ วา่ จึงขอให้ ให้แทรก<<ช่ือ-สกุล>> หลงั คาํ วา่ แผนก ใหแ้ ทรก<<แผนก>>

171 แหล่งข้อมูล แผนก ที่อยู่ ตาํ บล อาํ เภอ จงั หวดั รหสั ไปรษณีย์ การบญั ชี 111/1 หมู่ 1 ธานี เมือง สุโขทยั 64000 ช่ือ-สกลุ การตลาด 222/2 หมู่ 2 บา้ นสวน เมือง สุโขทยั 64000 ครูเอ้ือมดาว มหาสมทุ ร คอมพิวเตอร์ธุรกิจ 333/3 หมู่ 3 บา้ นกลว้ ย เมือง สุโขทยั 64000 ครูสมชาย รักดี การเลขานุการ 444/4 หมู่ 4 ในเมือง สวรรคโลก สุโขทยั 64110 ครูสมศรี มีใจบริสุทธ์ิ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 555/5 หมู่ 5 โตนด คีรีมาศ สุโขทยั 64160 ครูพลอยไพลิน รักประชา ครูเด่นดวง รักชาติ บันทกึ ข้อความ สว่ นราชการ วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาสโุ ขทยั . ที่ วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ . เรือ่ ง การแจ้งผลการเรียนของนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๕๓ . เรยี น «ชื่อสกลุ » ดว้ ยงานวดั ผลและประเมนิ ผล ฝ่ายวิชาการ มีความประสงค์ขอเชญิ «ช่อื สกลุ » แผนก«แผนกวชิ า» เข้าร่วมประชุมเพ่ือปรกึ ษาหารือ ในวนั ที่ ๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชุมเล็ก วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาสโุ ขทยั จึงขอให้ «ชอื่ สกลุ » แผนก«แผนกวชิ า» เข้าร่วม ประชมุ ในวนั เวลาดงั กล่าว จงึ เรียนมาเพ่ือทราบ (นางธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ติ ร) หวั หน้างานวดั ผลประเมินผลการศึกษา

172 ใบกจิ กรรมที่ 6 หน่วยที่ 6 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) สอนคร้ังท่ี 12-14 ชื่อหน่วย การพมิ พห์ นงั สือราชการและจดหมายเวยี น จานวน 9 ช่ัวโมง ชื่อกจิ กรรม สรุปบทเรียน เวลา 10 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การพิมพจ์ ดหมายราชการ และจดหมายเวยี น 2. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการจดั รูปแบบหนงั สือภายในไดถ้ ูกตอ้ ง 3. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการจดั รูปแบบหนงั สือภายนอกไดถ้ ูกตอ้ ง 4. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการสร้างจดหมายเวยี นได้ 5. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีพึงประสงค์ คือ มีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความซ่ือสัตย์ ความรับผดิ ชอบ ความเช่ือมน่ั ในตนเอง การประหยดั ความติดริเร่ิมสร้างสรรค์ ความสนใจใฝ่ รู้ การพ่ึงตนเอง 6. ผเู้ รียนมีความพร้อมดา้ นการเรียนรู้ตามที่กาํ หนด มีเหตุผล มีความรอบรู้ มีความรอบคอบ/ ระมดั ระวงั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. สมุด 1 เล่ม 2. ปากกา 3. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคาํ (2204-2108) โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร/ ใบความรู้ท่ี 6 คาสั่ง ผเู้ รียนร่วมกนั สรุปบทเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 พร้อมครูผสู้ อน แลว้ ทาํ การจดบนั ทึก สาระสาํ คญั ลงสมุด การประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรม 2. ตรวจสมุดบนั ทึกการสรุปบทเรียน

173 เอกสารอ้างองิ /เอกสารค้นคว้าเพม่ิ เติม เกียรติประถม สินรุ่งเรืองกลุ . หยบิ ง่ายใช้คล่อง เดี๋ยวกเ็ ก่ง ! มือใหม่หัดใช้โปรแกรม Word 2010. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 2550. ดวงพร เกี๋ยงคาํ . คู่มอื Office 2010 ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : โปรวชิ นั่ , 2551. ภทั ทิรา เหลืองวลิ าศ. มอื ใหม่ Word 2010 ใช้งานอย่างมอื โปรฯ. กรุงเทพฯ : ซีเอด็ ยเู คชนั่ , 2551. ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร. การพมิ พ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรม การพมิ พ์ในเครื่องคอมพวิ เตอร์. [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.opm.go.th/ opminter/itcenter/officialletter.htm

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 7 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลค า (20204-2102) สอนคร้ังที่ 15 - 17 ช่ือหน่วย การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ จานวน 9 ช่ัวโมง ชื่อเร่ือง การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ ช่ัวโมงรวม 51 1. สาระสาคญั การสร้างเอกสารทางวิชาการ จะตอ้ งจดั พิมพใ์ ห้ถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการ ไม่วา่ จะเป็ นการพิมพ์ บรรณานุกรม การใส่เชิงอรรถ การใส่ขอ้ ความหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ การแทรกหมายเลขหนา้ การทาดชั นี การทาสารบญั การพิมพป์ ก ตลอดจนการสัง่ พิมพเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพ์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป 1. เพื่อใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ 2. เพ่ือใหม้ ีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมดา้ นการเรียนรู้ตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนด ความสนใจใฝ่ รู้ ความมีเหตุผล ความรอบรู้ ความรอบคอบ/ระมดั ระวงั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง และความเป็นประชาธิปไตย 2.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถสร้างเอกสารทางวชิ าการได้ 2. สามารถพิมพบ์ รรณานุกรมไดถ้ ูกตอ้ ง 3. สามารถแทรกเชิงอรรถลงในเอกสารได้ 4. สามารถแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษลงในเอกสารได้ 5. สามารถแทรกหมายเลขหนา้ ลงในเอกสารได้ 6. สามารถทาดชั นีในเอกสารได้ 7. สามารถทาสารบญั ในเอกสารได้ 8. สามารถทาปกหนา้ ได้ 9. สามารถส่งั พมิ พเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพไ์ ด้ 10. ผเู้รียนมีคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์ คือ มีมนุษยสมั พนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความซื่อสตั ย์ ความรับผดิ ชอบ ความเชื่อมนั่ ในตนเอง การประหยดั ความติดริเริ่มสร้างสรรค์ ความสนใจใฝ่ รู้ การพ่ึงตนเอง

175 11. ผเู้ รียนมีความพร้อมดา้ นการเรียนรู้ตามท่ีกาหนด มีความสนใจใฝ่ รู้ มีเหตุผล มีความ รอบรู้ มีความรอบคอบ/ระมดั ระวงั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมีความเป็น ประชาธิปไตย 3. สมรรถนะ สามารถพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 4. สาระการเรียนรู้ การพมิ พ์เอกสารทางวชิ าการ ศึกษาเกย่ี วกบั 1. การสร้างเอกสารทางวชิ าการ 2. การพมิ พบ์ รรณานุกรม 3. การแทรกเชิงอรรถ 4. การแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ 5. การแทรกหมายเลขหนา้ 6. การทาดชั นี 7. การทาสารบญั 8. การพิมพป์ กหนา้ 9. การสง่ั พิมพเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพ์ 5. การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5.1 ความพอประมาณ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการใช้ พลงั งานไฟฟ้ าอยา่ งเหมาะสมและประหยดั เช่น ปิ ดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ปิ ดเครื่องปรับอากาศ ปิ ดไฟฟ้ า ปิ ดพดั ลมเม่ือเลิกการใชง้ าน 2. จดั สรรเวลาในการปฏิบตั ิงานตามที่ไดร้ ับมอบหมายอยา่ งเหมาะสม 5.2 ความมเี หตุผล 1. เห็นคุณค่าของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการนาไปพฒั นาชีวติ โดยใช้ พลงั งานไฟฟ้ าท่ีมีอยใู่ หค้ ุม้ ค่าและเกิดประโยชนส์ ูงสุด 2. สามารถพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

176 5.3 การมภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทดี่ ี 1. มีความตระหนกั และรู้จกั ประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการ ดาเนินชีวติ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. ฝึกฝนทกั ษะการพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. ฝึกฝนทกั ษะการสรุปสาระสาคญั ประจาหน่วยเรียน 5.4 เง่อื นไขความรู้ 1. การสร้างเอกสารทางวชิ าการ 2. การพิมพบ์ รรณานุกรม 3. การแทรกเชิงอรรถ 4. การแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ 5. การแทรกหมายเลขหนา้ 6. การทาดชั นี 7. การทาสารบญั 8. การพมิ พป์ กหนา้ 9. การส่งั พมิ พเ์ อกสารออกทางเครื่องพิมพ์ 5.5 เง่ือนไขคุณธรรม 1. ความรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิงาน 2. ความมีวนิ ยั 3. การพ่งึ ตนเอง 4. มีความสนใจใฝ่ รู้ 5. มีความซ่ือสตั ยส์ ุจริต 6. การประหยดั 7. มีความเช่ือมนั่ ในตนเอง 8. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 9. มีความรอบคอบ/ระมดั ระวงั 10. มีความเป็นประชาธิปไตยและความเป็นไทย 5.6 เช่ือมโยงสู่ 4 มิติ 1. มีทกั ษะในการพิมพเ์ อกสารทางราชการ โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2010 ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทาใหเ้ ป็ นผมู้ ีความสนใจใฝ่ รู้ มีความระมดั ระวงั และเกิดความเชื่อมนั่ ในตนเอง

177 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สอนแบบบรรยาย อธบิ ายและสาธติ ) ข้นั เตรียม 1. จดั เตรียมเอกสารประกอบการสอน สื่อการเรียนการสอน วธิ ีการเรียน การปฏิบตั ิงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย และวธิ ีวดั ผลประเมินผล การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 2. ใหผ้ เู้ รียนเปิ ดไฟฟ้ าดวงท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ เปิ ดเครื่องปรับอากาศ และเปิ ดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ตามจานวนผเู้ รียน ถา้ มีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่ไมไ่ ดใ้ ชห้ รือใชไ้ ม่ได้ หา้ มไมใ่ หเ้ ปิ ดหนา้ จอทิง้ ไว้ เพราะสิ้นเปลืองพลงั งาน 3. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหน่วยท่ี 7 และการใหค้ วามร่วมมือของผเู้รียนในการทากิจกรรม 4. สอบถามผเู้ รียน เร่ืองการพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ สามารถใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด พิมพเ์ อกสารอะไรไดบ้ า้ ง โดยการสอบถามเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนไดแ้ สดงความ คิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล 5. ผสู้ อนบอกแนวทางในการเรียน และวธิ ีการปฏิบตั ิตามภาระงานที่มอบหมาย ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 7 ในเวลาท่ีกาหนด 2. เมื่อผเู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเสร็จแลว้ ใหผ้ เู้ รียนผลดั กนั ตรวจแบบทดสอบกบั เพ่อื น ดว้ ยความซ่ือสตั ยส์ ุจริต โดยผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 7 ข้นั สอน 1. ผสู้ อนทาการสอนโดยใหผ้ เู้ รียนเปิ ดหนงั สือประกอบการเรียนการสอน 2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนเปิ ดเคร่ืองคอมพิวเตอร์และเขา้ สู่การใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word 2010 3. ผสู้ อนทาการอธิบายเน้ือหาความรู้เกี่ยวกบั การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ พร้อมท้งั สาธิต เน้ือหาการเรียนรู้แต่ละเร่ืองใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ไปพร้อมกนั 4. ผสู้ อนบอกวธิ ีการและแนวคิดในการปฏิบตั ิท่ีถูกตอ้ งให้แก่ผเู้รียน สงั เกต บนั ทึกพฤติกรรม ผเู้ รียนขณะเรียนและศึกษาบทเรียน คอยช่วยเหลือและใหค้ าแนะนาเม่ือผเู้ รียนเกิดความสงสัย 5. ผสู้ อนเปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนซกั ถามขอ้ สงสัย ข้นั สรุป 1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาจากใบความรู้และทาแบบฝึกปฏิบตั ิตามใบงาน 2. สังเกต บนั ทึกพฤติกรรมผเู้ รียนขณะดาเนินงานตามใบงาน คอยช่วยเหลือใหค้ าแนะนา เมื่อผเู้ รียนเกิดความสงสัย

178 3. แบ่งกลุ่มผเู้ รียนเพ่ือดาเนินงานตามใบงาน ผสู้ อนเดินสารวจการศึกษาขอ้ มูลจากใบความรู้ และฝึกปฏิบตั ิตามใบงานของผเู้ รียน หากพบวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจ ผสู้ อนจะทาการอธิบายใหผ้ เู้ รียน อีกคร้ัง 4. เมื่อผเู้ รียนทางานที่ไดร้ ับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหต้ วั แทนกลุ่มหรือสมาชิกท้งั กลุ่ม ลุกข้ึนอธิบายคาตอบพร้อมท้งั วธิ ีการไดม้ าซ่ึงคาตอบ 5. ผสู้ อนทาการเฉลยร่วมกบั ผเู้ รียน พร้อมท้งั อธิบายขอ้ มลู เพ่มิ เติมหากผเู้ รียนเกิดความสงสยั และผเู้ รียนคนใดยงั ทางานท่ีไดร้ ับมอบหมายไม่ถูกตอ้ งใหท้ าการแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งเรียบร้อยและเกบ็ สะสมชิ้นงานทุกงานท่ีไดร้ ับมอบหมายส่งตามกาหนด 6. ผสู้ อนร่วมกบั ผเู้ รียนช่วยกนั สรุปสาระการเรียนรู้ประจาหน่วยการเรียน เพื่อส่งเสริม ความเป็ นประชาธิปไตย 7. ผเู้ รียนทาแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 8. ผเู้ รียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 7 ในเวลาที่กาหนด 9. ผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน พร้อมกบั ใหผ้ เู้ รียนแลกเปล่ียนกระดาษคาตอบ กนั โดยครูผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 10. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนท่ีไดร้ ับมอบหมายเวรประจาวนั สารวจความเรียบร้อยของห้องเรียน พร้อมท้งั ทาความสะอาดหอ้ งเรียน และใหผ้ เู้ รียนเตรียมตวั เรียนในคาบตอ่ ไป 7. สื่อประกอบการจดั การเรียนรู้ ส่ือสิ่งพมิ พ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2010) รหสั วชิ า 2204-2108 โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวิจิตร 2. แบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรียน 3. ใบความรู้ท่ี 7 เรื่องการพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ 4. ใบกิจกรรม 5. แบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 6. แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน และแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 7. แบบประเมินผลการทางานตามใบงาน 8. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม / หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง / 3 D

179 ส่ือโสตทศั น์ 1. คอมพวิ เตอร์พร้อมอุปกรณ์ตอ่ พว่ ง 2. โปรแกรม Microsoft Word 2010 3. โปรเจคเตอร์ 4. ไมโครโฟน เครื่องขยายเสียงพร้อมลาโพง ส่ือของจริง - 8. แหล่งการเรียนรู้เพม่ิ เติม ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั ฯ 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาขอ้ มูลจากเอกสาร คน้ ควา้ ขอ้ มูลทาง Internet 3. หอ้ ง Internet 4. ครูผสู้ อนแผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกิจ นอกสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดประชาชน/ร้านหนงั สือ 2. Internet / ร้านคอมพวิ เตอร์ท่ีใหบ้ ริการทางดา้ น Internet 3. บุคลากรตา่ งๆ ที่มีความรู้เก่ียวกบั การใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคา 9. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอนื่ 1. บูรณาการกบั กลุ่มวิชาภาษาไทย การฝึ กปฏิบตั ิเขียนยอ่ ความ เขียนเรียงความ เขียนโครงการ เขียนรายงานวชิ าการ เขียนจดหมายสมคั รงาน เขียนบนั ทึกขอ้ ความในหน่วยงาน เขียนรายงานการ ประชุม กรอกแบบฟอร์มเอกสารประเภทต่าง ๆ เขียนแสดงความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ โดยการจดั พิมพ์ ในโปรแกรมประมวลผลคา 2. บูรณาการร่วมกับกลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ โดยการนาโปรแกรมประมวลผลคามา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเขียนโตต้ อบทางสังคม เขียนให้ขอ้ มูลบุคคล เขียนจดหมายส่วนตวั เขียนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ เขียนบนั ทึกยอ่ / ขอ้ ความส้ัน ๆ ในโอกาสต่าง ๆ กรอกใหข้ อ้ มูลในแบบฟอร์มต่าง ๆ ใบสมคั รงาน ใบสมคั รสมาชิก ต่าง ๆ ใบขอรับทุน ใบสมคั รเขา้ ศึกษา ใบสมคั รสอบ ฯลฯ เขียนให้

180 ขอ้ มลู ในเอกสารการปฏิบตั ิงานในงานอาชีพต่าง ๆ เขียนบนั ทึกยอ่ รายงานส้ัน ๆ เขียนจดหมายธุรกิจ ประเภทต่าง ๆ ใช้ ICT เป็ นแหล่งการเรียนรู้ดว้ ยตนเองหรือฝึ กฝนกบั เพ่ือน ใช้ ICT พฒั นาทกั ษะการ ฟัง - ดู พดู อ่าน การเขียน สืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เพ่ือพฒั นาทกั ษะการ ส่ือสารและการประกอบอาชีพ 3. บูรณาการร่วมกับกลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ ด้านการใช้สูตรและฟังก์ช่ันในการคานวณ ประยกุ ตก์ ระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการวางแผน การออกแบบประดิษฐค์ ิดคน้ ส่ิงใหม่ ๆ ใน งานอาชีพ 4. บรู ณาการร่วมกบั วชิ าการบญั ชีเบ้ืองตน้ มีกิจนิสยั มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซื่อสตั ย์ มีวนิ ยั ตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติที่ดีต่อวชิ าชีพ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน 1. ตรวจผลงานตามที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. สังเกตการปฏิบตั ิงาน หลงั เรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 2. ตรวจงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 3. ตรวจแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรียน 1. สิ่งทจี่ ะวดั 1.1 ความรู้ความเขา้ ใจจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.2 การประเมินผลงาน 1.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน 2. วธิ ีการวดั 2.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน 2.2 ตรวจงานที่มอบหมาย 2.3 สังเกตพฤติกรรมขณะเรียน

181 3. เครื่องมอื วดั 3.1 แบบทดสอบ 3.2 กิจกรรมที่มอบหมาย 3.3 แบบสงั เกตพฤติกรรม 4. เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั ผล 1. ใหข้ อ้ ถูก ขอ้ ละ 1 คะแนน ขอ้ ผดิ 0 คะแนน 2. ใหค้ ะแนนพฤติกรรมการเรียน 5 หมายถึง ดีมาก 4 หมายถึง ดี 3 หมายถึง ปานกลาง 2 และ 1 หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง เกณฑ์การประเมินผล 1. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนจากการทาแบบทดสอบ ไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 60 2. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนจากกิจกรรมการเรียน ไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 80 3. ผเู้ รียนไดค้ ะแนนพฤติกรรมการเรียน ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 60 เกณฑ์การวดั แบบทดสอบ 20 คะแนน ระดบั ดี ต้งั แต่ร้อยละ 80 ข้ึนไป (16 คะแนน) ระดบั ปานกลาง ต้งั แต่ร้อยละ 60 - 70 ข้ึนไป (12 - 14 คะแนน) ระดบั ปรับปรุง ต้งั แต่ร้อยละ 50 ลงมา (10 คะแนนลงมา) เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั ปานกลางข้ึนไป หรือต้งั แตร่ ้อยละ 60 ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะประจาหน่วย 1. ผเู้ รียนตอ้ งใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพ่ือหาเทคนิค วิธีการ หรือหลกั การง่ายเพอื่ ใหห้ า คาตอบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ต้งั ใจฟังหลกั การ เทคนิควธิ ีการท่ีครูผสู้ อนสรุปใน ขณะท่ีทาการสอน และนาขอ้ สงสยั ซกั ถามครูในการเรียนทุกคร้ังที่เกิดความสับสน และไม่เขา้ ใจ 2. ผเู้ รียนมีการทบทวนบทเรียนตลอด เพื่อเสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง 3. ผเู้ รียนหมนั่ ทาใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ที่ผดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ 4. ผเู้ รียนตอ้ งสร้างมโนภาพใหเ้ กิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควธิ ีการ พร้อมกบั ความจาเป็นในการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดข้ึนโดยตนเองใหไ้ ดเ้ พ่ือเกิดความรู้ความเขา้ ใจ อยา่ งแทจ้ ริงไมใ่ ช่เกิดจากการทอ่ งจา

184 ใบความรู้ที่ 7 หน่วยท่ี 7 ช่ือวชิ า โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) สอนคร้ังที่ 12 - 14 ชื่อหน่วย การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ จานวน 9 ชั่วโมง ช่ือเรื่อง การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ รวมเวลา 180 นาที 1. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถสร้างเอกสารทางวชิ าการได้ 2. สามารถพิมพบ์ รรณานุกรมไดถ้ ูกตอ้ ง 3. สามารถแทรกเชิงอรรถลงในเอกสารได้ 4. สามารถแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษลงในเอกสารได้ 5. สามารถแทรกหมายเลขหนา้ ลงในเอกสารได้ 6. สามารถทาดชั นีในเอกสารได้ 7. สามารถทาสารบญั ในเอกสารได้ 8. สามารถทาปกหนา้ ได้ 9. สามารถสงั่ พิมพเ์ อกสารออกทางเครื่องพิมพไ์ ด้ 10. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีพงึ ประสงค์ คือ มีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความซื่อสัตย์ ความรับผดิ ชอบ ความเชื่อมนั่ ในตนเอง การประหยดั ความสนใจใฝ่ รู้ ความติดริเริ่ม สร้างสรรค์ การพ่ึงตนเอง 11. ผเู้ รียนมีความพร้อมดา้ นการเรียนรู้ตามท่ีกาหนด มีความสนใจใฝ่ รู้ มีเหตุผล มีความรอบรู้ มีความรอบคอบ/ระมดั ระวงั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมีความเป็นประชาธิปไตย

185 2. เนือ้ หาสาระ หน่วยท่ี 7 การพมิ พ์เอกสารทางวชิ าการ ศึกษาเกย่ี วกบั 1. การสร้างเอกสารทางวชิ าการ 2. การพมิ พบ์ รรณานุกรม 3. การแทรกเชิงอรรถ 4. การแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ 5. การแทรกหมายเลขหนา้ 6. การทาดชั นี 7. การทาสารบญั 8. การพิมพป์ กหนา้ 9. การสั่งพมิ พเ์ อกสารออกทางเครื่องพิมพ์ สรุปท้ายบท เอกสารทางวชิ าการ เป็นเอกสารที่มีแบบแผนเป็นทางการ มีรูปแบบเฉพาะ ซ่ึงตอ้ งพิถีพถิ นั ในการจดั รูปแบบเอกสาร บรรณานุกรม (Bibliography) หรือหนงั สืออา้ งอิง (Reference) คือ รายการของทรัพยากร สารสนเทศท้งั หมดท่ีไดใ้ ชป้ ระกอบการเขียนเอกสาร ซ่ึงการเขียนอา้ งอิงและบรรณานุกรม เชิงอรรถ (Footnote) หรืออา้ งอิงทา้ ยเรื่อง เป็ นคาอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกบั คาศพั ทใ์ นเอกสาร แสดงขอ้ คิดเห็น หรือใหข้ อ้ มูลอา้ งอิงสาหรับขอ้ ความในเอกสาร ซ่ึงส่วนใหญจ่ ะอยดู่ า้ นล่างของ เอกสารเราอาจใชเ้ ชิงอรรถสาหรับขอ้ คิดเห็นเชิงรายละเอียด และใชอ้ า้ งอิงทา้ ยเรื่องสาหรับการ อา้ งอิงถึงแหล่งท่ีมาได้ การแทรกหมายเลขหนา้ ก็คลา้ ยกบั การแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ และอาจใช้ วธิ ีการเดียวกบั การแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ เพราะการแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ สามารถแทรกขอ้ ความ วนั ที่และเวลา ส่วนประกอบด่วน รูปภาพ รวมท้งั หมายเลขหนา้ แตก่ าร แทรกหมายเลขหนา้ จะเป็นเลขลาดบั ตอ่ เนื่องกนั ไม่เหมือนกนั ทุกหนา้ ดชั นี (Index) คือ รายการท่ีใชอ้ า้ งอิงคาหรือขอ้ ความที่ใชใ้ นเอกสาร หนงั สือ นิตยสาร โดย อา้ งอิงตามหมายเลขหนา้ สาหรับใชค้ น้ หาคาหรือขอ้ ความเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว สารบญั (Table Of Contents : TOC) คือ รายการหวั ขอ้ ในเอกสาร โดยทว่ั ไปสารบญั ประกอบดว้ ยหมายเลขหนา้ ของแต่ละหวั ขอ้ ของเอกสาร โดยเรียงตามลาดบั เน้ือหา หรือลิงคไ์ ปท่ี หวั ขอ้ น้นั ซ่ึงปรากฏอยบู่ นเวบ็ ไซด์ เราสามารถใชส้ ารบญั เป็นตวั ให้ขอ้ มูลคร่าวๆ แก่ผอู้ า่ นเก่ียวกบั

186 หวั ขอ้ และหมายเลขหนา้ ของเอกสาร หรือช่วยผอู้ ่านหาหนา้ เร่ิมแรกของเน้ือหาหรือหนา้ แรกของ เวบ็ ไซต์ ปกหน้า เป็ นส่วนแรกที่จะดึงดูดความสนใจให้เปิ ดอ่านเอกสารของเรา ฉะน้ันเราควร ออกแบบใหส้ ะดุดตา โดยอาศยั หลกั การวางองคป์ ระกอบทางศิลปะ 5 ประการดงั น้ี 1. ความสมดุล (Balance) 2. ความแตกต่าง (Contrast) 3. ลีลา (Rhythm) 4. ความผสมกลมกลืน (Harmony) 5. ความมีเอกภาพ (Unity) การสั่งพมิ พเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพ์ ทาไดโ้ ดยคลิกแทบ็ แฟ้ ม แลว้ คลิกเลือกคาวา่ พิมพ์ หรือกดแป้ น Ctrl + P

แบบฝึ กหัด 187 จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ได้ใจความสมบูรณ์ . 1. บรรณานุกรม คืออะไร . . . . 2. เชิงอรรถ คืออะไร . . . 3. จงบอกวธิ ีการแทรกหวั กระดาษทา้ ยกระดาษมาพอเขา้ ใจ . . 4. จงบอกข้นั ตอนในการแทรกหมายเลขหนา้ มีข้นั ตอนอยา่ งไรบา้ ง . . . . . . . . . . . .

5. ดชั นี คืออะไร 188 6. สารบญั คืออะไร . . . . 7. การพมิ พป์ กหนา้ มีหลกั การวางองคป์ ระกอบทางศิลปะ 5 ประการอะไรบา้ ง . 1. . 2. . 3. . 4. . 5. .  . . . . .

189 เฉลยแบบฝึ กหดั จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ได้ใจความสมบูรณ์ 1. บรรณานุกรม คืออะไร บรรณานุกรม (Bibliography) หรือหนงั สืออา้ งอิง (Reference) คือ รายการของทรัพยากร สารสนเทศท้งั หมดที่ไดใ้ ชป้ ระกอบการเขียนเอกสาร . 2. เชิงอรรถ คืออะไร เชิงอรรถ (Footnote) หรืออา้ งอิงทา้ ยเรื่อง เป็ นคาอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกบั คาศพั ทใ์ นเอกสาร แสดงขอ้ คิดเห็น หรือใหข้ อ้ มูลอา้ งอิงสาหรับขอ้ ความในเอกสาร ซ่ึงส่วนใหญ่จะอยดู่ า้ นล่างของ เอกสารเราอาจใชเ้ ชิงอรรถสาหรับขอ้ คิดเห็นเชิงรายละเอียด และใชอ้ า้ งอิงทา้ ยเรื่องสาหรับการอา้ งอิง ถึงแหล่งที่มาได้ โปรแกรม Microsoft Word 2010 จะลาดบั เลขเชิงอรรถและอา้ งอิงทา้ ยเร่ืองใหโ้ ดย อตั โนมตั ิภายหลงั จากที่ระบุแบบแผน การลาดบั เลขแลว้ เราสามารถใชแ้ บบแผนการลาดบั เลขแบบ แผนเดียวตลอดท้งั เอกสาร หรือใชแ้ บบแผนการลาดบั เลขที่แตกตา่ งกนั ภายในแตล่ ะส่วนในเอกสารก็ได้ . 3. จงบอกวธิ ีการแทรกหวั กระดาษทา้ ยกระดาษมาพอเขา้ ใจ แทรกหวั กระดาษหรือทา้ ยกระดาษไดง้ ่ายๆ ดงั น้ี 1. กรณีตอ้ งการแทรกหวั กระดาษ ใหค้ ลิกแทบ็ แทรก แลว้ คลิกป่ ุมหัวกระดาษ 2. จะปรากฏรูปแบบการแทรกหวั กระดาษใหเ้ ลือก 3. คลิกเลือกรูปแบบหวั กระดาษ ในที่น้ีจะเลือกรูปแบบว่างเปล่า (Blank) 4. เอกสารวชิ าการ จะไมใ่ ส่ขอ้ ความหรือหมายเลขหนา้ ในหนา้ ท่ีมีช่ือบทลงในหวั กระดาษ หรือทา้ ยกระดาษ ใหค้ ลิกป่ ุมถัดไป (Next) เพอ่ื เลื่อนไปยงั หนา้ ถดั ไป 5. พิมพข์ อ้ ความท่ีตอ้ งการ 6. กรณีตอ้ งการปรับตาแหน่งขอ้ ความท่ีพมิ พ์ ใหค้ ลิกป่ ุมหัวกระดาษจากด้านบน (Header from Top) เพอื่ ปรับตาแหน่งขอ้ ความห่างจากขอบกระดาษดา้ นบน 7. กรณีตอ้ งการทา้ ยกระดาษ ใหค้ ลิกป่ ุมไปทท่ี ้ายกระดาษ (Go to Footer) 8. พมิ พข์ อ้ ความท่ีตอ้ งการ 9. กรณีตอ้ งการปรับตาแหน่งขอ้ ความท่ีพิมพ์ ให้คลิกป่ ุมท้ายกระดาษจากด้านล่าง (Footer from Bottom) เพอ่ื ปรับตาแหน่งขอ้ ความห่างจากขอบกระดาษดา้ นล่าง

190 10. ถา้ ตอ้ งการจดั แนว ใหเ้ ล่ือนตาแหน่งเคอร์เซอร์ไปไวห้ นา้ ขอ้ ความ โดยใชเ้ มาส์คลิกหรือ กดแป้ น Home แลว้ คลิกป่ ุมแทรกแทบ็ การจัดแนว (Insert Alignment Tab) 11. จะปรากฏกล่องโตต้ อบแทบ็ การจดั แนว 12. คลิกเลือกการจดั แนวที่ตอ้ งการ 13. คลิกป่ ุม 14. ถา้ แทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษเรียบร้อยแลว้ คลิกป่ ุมปิ ดหัวกระดาษและ ท้าย กระดาษ (Close Header and Footer) 15. กรณีตอ้ งการแกไ้ ขขอ้ ความ แบบอกั ษร สีตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษร ตาแหน่ง หรือ การ จดั แนว สามารถทาไดโ้ ดยการดบั เบิล้ คลิกส่วนที่เป็ นหวั กระดาษหรือทา้ ยกระดาษที่ตอ้ งการแกไ้ ข 16. คลิกป่ ุมปิ ดหัวกระดาษและท้ายกระดาษ 17. ทา้ ยกระดาษทุกหนา้ จะถูกแกไ้ ข (ยกเวน้ หนา้ แรก) 4. จงบอกข้นั ตอนในการแทรกหมายเลขหนา้ มีข้นั ตอนอยา่ งไรบา้ ง วธิ ีการแทรกหมายเลขหนา้ โดยตรง ซ่ึงมีข้นั ตอน 1. คลิกแทบ็ แทรก (Insert) แลว้ คลิกป่ ุมหมายเลขหน้า (Page Number) 2. จะปรากฏรายการยอ่ ยใหเ้ ลือก 3. อาจคลิกเลือกจัดรูปแบบหมายเลขหน้า (Page Number Format) จะปรากฏกล่องโต้ตอบ รูปแบบหมายเลขหน้า 4. กาหนดรูปแบบตวั เลขและหนา้ เร่ิมตน้ 5. คลิกป่ ุม จะออกจากกล่องโตต้ อบรูปแบบหมายเลขหนา้ 6. ดบั เบิล้ คลิกที่หวั กระดาษหรือทา้ ยกระดาษที่ตอ้ งการแทรกหมายเลขเลข 7. เล่ือนตาแหน่งไปวางที่ตาแหน่งที่จะวางหมายเลขหนา้ 8. คลิกป่ ุมหมายเลขหนา้ อีกคร้ัง เล่ือนไปยงั รายการตาแหน่งปัจจุบนั แลว้ คลิกตวั เลขธรรมดา 9. คลิกป่ ุมปิ ดหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ 5. ดชั นี คืออะไร ดชั นี (Index) คือ รายการท่ีใชอ้ า้ งอิงคาหรือขอ้ ความที่ใชใ้ นเอกสาร หนงั สือ นิตยสาร โดย อา้ งอิงตามหมายเลขหนา้ สาหรับใชค้ น้ หาคาหรือขอ้ ความเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

191 6. สารบญั คืออะไร สารบญั (Table Of Contents : TOC) คือ รายการหวั ขอ้ ในเอกสาร โดยทวั่ ไปสารบญั ประกอบ ดว้ ยหมายเลขหนา้ ของแต่ละหวั ขอ้ ของเอกสาร โดยเรียงตามลาดบั เน้ือหา หรือลิงคไ์ ปที่หวั ขอ้ น้นั ซ่ึงปรากฏอยบู่ นเวบ็ ไซด์ เราสามารถใชส้ ารบญั เป็นตวั ใหข้ อ้ มลู คร่าวๆ แก่ผอู้ ่านเก่ียวกบั หวั ขอ้ และ หมายเลขหนา้ ของเอกสาร หรือช่วยผอู้ า่ นหาหนา้ เริ่มแรกของเน้ือหาหรือหนา้ แรกของเวบ็ ไซต์ 7. การพิมพป์ กหนา้ มีหลกั การวางองคป์ ระกอบทางศิลปะ 5 ประการอะไรบา้ ง ปกหนา้ เป็ นส่วนแรกที่จะดึงดูดความสนใจให้เปิ ดอ่านเอกสารของเรา ฉะน้นั เราควรออกแบบ ใหส้ ะดุดตา โดยอาศยั หลกั การวางองคป์ ระกอบทางศิลปะ 5 ประการดงั น้ี 1. ความสมดุล (Balance) คือ การวางองคป์ ระกอบยอ่ ยๆ ใหม้ ีน้าหนกั เท่ากนั น้าหนกั ดงั กล่าว ข้ึนอยกู่ บั ขนาด รูปร่าง สีและความเขม้ จาง เป็ นตน้ วา่ องคป์ ระกอบท่ีมีขนาดใหญจ่ ะดูมีน้าหนกั มากกวา่ องคป์ ระกอบขนาดเล็ก รูปทรงกลมจะดูมีน้าหนกั มากกวา่ รูปสี่เหล่ียม รูปทรงท่ีมีลกั ษณะแปลกๆ เช่น รูปลูกบาศก์ จะดูมีน้าหนกั มากกวา่ รูปทรงกลมหรือส่ีเหล่ียม องคป์ ระกอบท่ีมีสีเขม้ จะดูมีน้าหนกั มากกวา่ องคป์ ระกอบที่มีสีจาง 2. ความแตกต่าง (Contrast) คือ การทาใหอ้ งคป์ ระกอบที่ตอ้ งการเนน้ แตกตา่ งจากองคป์ ระกอบ อ่ืนๆ ซ่ึงนอกจากจะเป็ นการแสดงความสาคญั แลว้ ยงั ทาใหน้ ่าสนใจมากข้ึนอีกดว้ ย การเนน้ ดว้ ยการ สร้างความแตกต่างให้เกิดข้ึนในเอกสารสามารถทาไดห้ ลายวธิ ี เช่น การเนน้ ดว้ ยขนาด รูปร่าง วรรณะ ของสี หรือทิศทาง 3. ลีลา (Rhythm) หมายถึง การวางองคป์ ระกอบใหด้ ูเคล่ือนไหว โดยใชอ้ งคป์ ระกอบที่มี ความซ้าและต่อเนื่องกนั หรือใชเ้ ส้นโคง้ เส้นตรง หรือวงกลม 4. ความผสมกลมกลืน (Harmony) หมายถึง ความพอดีพอเหมาะของส่วนประกอบต่างๆ ที่ ประกอบกนั ข้ึนเป็นปกหนา้ ซ่ึงจะทาให้เกิดความงาม มีความสัมพนั ธ์กนั มีความเป็ นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั และไม่หลากหลาย ความผสมกลมกลืนจะพบไดจ้ ากลกั ษณะขององคป์ ระกอบในทางสี รูปร่าง และลกั ษณะของตวั อกั ษร เช่น มีการใชต้ วั อกั ษรในสกุลเดียวกนั ตลอดท้งั หนา้ แต่อาจมีขนาด หรือ เส้นหนา หนกั เบาตา่ งกนั แต่จะไมใ่ ชต้ วั อกั ษรแตกต่างกนั หลายแบบ หลายสกลุ ปะปนกนั ไป จะทาให้ เกิดลกั ษณะแตกต่างกนั ไปเป็ นจุดๆ ไม่มีความสัมพนั ธ์และไมผ่ สมกลมกลืนกนั 5. ความมีเอกภาพ (Unity) การนาเอาองคป์ ระกอบซ่ึงมีลกั ษณะต่างๆ กนั เขา้ มาจดั วางใหม้ ี ความสัมพนั ธ์กนั เพ่ือใหส้ ่ือเพียงความหมายเดียว 

192 แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน จงทาเคร่ืองหมาย  เพอื่ เลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดียว 1. การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ จะตอ้ งต้งั ระยะขอบกระดาษอยา่ งไร ก. ระยะขอบบน, ซา้ ย 1.5” ขวา, ล่าง 1.5” ข. ระยะขอบบน, ซา้ ย 1.5” ขวา, ล่าง 1” ค. ระยะขอบบน, ซา้ ย 1” ขวา, ล่าง 1.5” ง. ระยะขอบบน, ซา้ ย 1” ขวา, ล่าง 1” 2. ขอ้ ใดเขียนบรรณานุกรมหนงั สือภาษาไทยถูกตอ้ ง ก. ช่ือ / ช่ือสกลุ . / / ชื่อเร่ือง. / / คร้ังท่ีพิมพ.์ / /เมืองท่ีพมิ พ์ / : / ผรู้ ับผดิ ชอบในการพิมพ,์ / / / / / / / /ปี ที่พมิ พ.์ ข. ช่ือผเู้ ขียน. / / ชื่อเร่ือง. / / ระดบั วทิ ยานิพนธ์. / / ช่ือเมืองท่ีพมิ พ์ / : / ช่ือมหาวทิ ยาลยั , / / / / / / / / ปี ที่พมิ พ.์ ค. ชื่อผเู้ ขียน. / / (ปี ที่พิมพ)์ . / / ชื่อบทความ. / /ใน / ช่ือบรรณาธิการ (ถา้ มี). / / / / / / / / / ช่ือหนงั สือ. / / (หนา้ / เลขหนา้ ). / / เมือง / : /ผรู้ ับผดิ ชอบในการพมิ พ.์ ง. ช่ือผเู้ ขียนบทความ. / / \"ช่ือคอลมั น์ / : / ชื่อ เร่ืองในคอลมั น์\" /ช่ือหนงั สือพิมพ.์ / / / / / / / / /วนั / เดือน/ปี . / / หนา้ / เลขหนา้ . 3. ขอ้ ใดจะตอ้ งทาเป็ นอนั ดบั แรก ในการใส่เชิงอรรถ ก. คลิกแทบ็ แทรก > แทรกเชิงอรรถ ข. คลิกแทบ็ การอา้ งอิง > แทรกเชิงอรรถ ค. เลือกขอ้ ความที่ตอ้ งการทาเป็นเชิงอรรถ ง. เลือกตาแหน่งท่ีตอ้ งการใส่คาอธิบายของเชิงอรรถ 4. ป่ ุมเคร่ืองมือใดใชใ้ นการแทรกทา้ ยกระดาษ ก. ข. ค. ง. 5. ป่ ุมเคร่ืองมือใดใชเ้ ลื่อนไปที่หวั กระดาษ ก. ข. ค. ง.

193 6. การแทรกหมายเลขหนา้ ใชแ้ ทบ็ คาสั่งขอ้ ใด ก. แทรก ข. มุมมอง ค. หนา้ แรก ง. เคา้ โครงหนา้ กระดาษ 7. รูปแบบตวั เลขหมายเลขหนา้ ขอ้ ใดท่ีไม่สามารถแสดงได้ ก. ก, ข, ค ข. 1, 2, 3 ค. หน่ึง, สอง, สาม ง. one, two, three 8. การทาดชั นีจะตอ้ งกดคียใ์ ด เพ่ือเขา้ ไปยงั กล่องโตต้ อบ Mark Index Entry ก. <Alt+Shift+I> ข. <Alt+Shift+O> ค. <Alt+Shift+X> ง. <Alt+Shift+E> 9. การสร้างสารบญั ใชแ้ ทบ็ คาสั่งขอ้ ใด ก. แทรก ข. หนา้ แรก ค. เคา้ โครงหนา้ กระดาษ ง. การอา้ งอิง 10. การพิมพป์ กเอกสาร จะตอ้ งทาสิ่งใดก่อน ก. พิมพข์ อ้ ความ ข. ต้งั ค่าหนา้ กระดาษ ค. จดั รูปแบบเอกสาร ง. กาหนดแบบอกั ษร 11. ป่ ุมเครื่องมือน้ี ใชส้ าหรับทาอะไร ก. แสดงตวั อยา่ งก่อนพิมพแ์ ละพมิ พ์ ข. หนา้ ตา่ งแกไ้ ขเอกสาร ค. มุมมองเอกสาร ง. ดูเอกสารท้งั หมด 12. ป่ ุมเครื่องมือ หมายความวา่ อยา่ งไร ก. ความกวา้ งของหนา้ ข. กาหนดระยะขอบ ค. ปรับขนาดการแสดงเอกสาร ง. แสดงหรือซ่อนไมบ้ รรทดั 13. ป่ ุมเครื่องมือ หมายความวา่ อยา่ งไร ก. แสดงความกวา้ งของหนา้ ข. กาหนดระยะขอบ ค. การวางแนวกระดาษ ง. ขยายเตม็ หนา้ 14. การสัง่ พมิ พเ์ อกสารในขอ้ ใด จะตอ้ งเลือกเครื่องพมิ พแ์ ละกาหนดรายละเอียดการพมิ พก์ ่อน ก. คลิกป่ ุมเคร่ืองมือ ข. คลิกแทบ็ แฟ้ ม > พิมพ์ ค. คลิกแทบ็ แฟ้ ม > การต้งั ค่า ง. คลิกแทบ็ แฟ้ ม > แสดงตวั อยา่ งก่อนพิมพแ์ ละพิมพ์

194 15. แป้ นพมิ พล์ ดั ขอ้ ใดใชใ้ นการสง่ั พมิ พเ์ อกสารออกทางเครื่องพิมพ์ ก. Ctrl + P ข. Ctrl + V ค. Ctrl + S ง. Ctrl + C 16. ป่ ุมเครื่องมือใดใชใ้ นการส่งั พิมพเ์ อกสารท้งั หมด ก. ข. ค. ง. 17. ป่ ุมเคร่ืองมือใดใชใ้ นการสง่ั พมิ พเ์ อกสารดา้ นเดียว ก. ข. ค. ง. 18. การกาหนดการพิมพส์ ูงสุดไดก้ ี่หนา้ ต่อหนา้ กระดาษ ก. 16 หนา้ ตอ่ หนา้ กระดาษ ข. 14 หนา้ ต่อหนา้ กระดาษ ค. 12 หนา้ ต่อหนา้ กระดาษ ง. 10 หนา้ ต่อหนา้ กระดาษ 19. ตอ้ งการพมิ พเ์ อกสารหนา้ 15, 19 ถึงหนา้ 22 โดยพมิ พเ์ ฉพาะหนา้ ค่ี จะตอ้ งป้ อนตวั เลขในช่อง หนา้ อยา่ งไร ก. 15 – 22 ข. 15, 19, 21 ค. 15, 19 – 22 ง. 15, 19, 21, 22 20. การยกเลิกการสง่ั พมิ พเ์ อกสารในกรณีพบปัญหาเคร่ืองพมิ พไ์ มท่ างาน ควรใชว้ ธิ ีใด ก. ปิ ดสวติ ช์เครื่องพิมพ์ ข. ส่ังพมิ พเ์ อกสารใหม่ ค. ดบั เบิล้ คลิกท่ีไอคอน บนแถบ Taskbar ง. ปิ ดโปรแกรม

195 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน ข้อ คาตอบ 1ข 2ก 3ค 4ง 5ค 6ก 7ง 8ค 9ง 10 ข 11 ก 12 ค 13 ง 14 ข 15 ก 16 ง 17 ค 18 ก 19 ค 20 ค

196 ใบงานท่ี 12 หน่วยท่ี 7 ช่ือวชิ า โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) สอนคร้ังที่ 15 - 17 ช่ือหน่วย การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการ จานวน 9 ชั่วโมง ชื่องาน การพมิ พเ์ อกสารรายงาน เวลา 180 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้รู้จกั ศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้เก่ียวกบั การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ 2. เพื่อเสริมสร้างทกั ษะความสามารถทางดา้ นการปฏิบตั ิ 3. เพือ่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ซ่ึงกนั และกนั 4. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีบทบาทในการเรียน และสร้างสรรคบ์ รรยากาศที่ดีจากการเรียน 5. เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิงานดว้ ยความรอบคอบ วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) โดยนางธิติรัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร 2. ใบงานท่ี 12 เร่ืองการพิมพเ์ อกสารรายงาน 3. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพว่ ง 4. โปรแกรม Microsoft Word 2010 ลาดบั ข้นั การปฏบิ ตั งิ าน ข้นั ท่ี 1 รับใบงานที่ครูผสู้ อน ข้นั ท่ี 2 ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ ปลกั๊ ไฟ ใหเ้ รียบร้อยแลว้ ทาการเปิ ดเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ เขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ข้นั ท่ี 3 ปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย

197 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาสุโขทยั ใบงานท่ี 12 การพมิ พ์เอกสารรายงาน วชิ าการใช้โปรแกรมประมวลผลคา (2201-1001) ระดบั ช้ัน ปวช.1 พณชิ ยการ สอนโดย : ครูธิตริ ัตน์ เลขวรรณวจิ ิตร ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาสั่ง ใหน้ กั เรียนจดั พมิ พร์ ายงานเก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ คนละ 1 เร่ือง โดยจดั รูปแบบเอกสารให้ ถูกตอ้ งตามรูปแบบ พร้อมท้งั พิมพเ์ อกสารรายงานส่งตามวนั เวลาที่กาหนดไว้ โดยมีรายละเอียดใน การตรวจรายงาน ดงั น้ี 1. การต้งั คา่ หนา้ กระดาษ 2. แบบอกั ษร ขนาดอกั ษร 3. ปกรายงาน 4. สารบญั 5. หวั กระดาษ ทา้ ยกระดาษ 6. หมายเลขหนา้ 7. การจดั รูปแบบเอกสาร 8. บรรณานุกรม

198 เกณฑ์การให้คะแนน การพมิ พ์เอกสารรายงาน ลาดับที่ รายการ คะแนน หมายเหตุ 1 การต้งั ค่าหนา้ กระดาษ 1 ขนาดกระดาษถูกตอ้ ง ½ คะแนน ระยะขอบกระดาษถูกตอ้ ง ½ คะแนน 2 การกาหนดตวั อกั ษร 1 แบบอกั ษรถูกตอ้ ง ½ คะแนน ขนาดอกั ษร ขนาดตวั อกั ษรถูกตอ้ ง ½ คะแนน 1 การจดั องคป์ ระกอบ สมดุล ½ คะแนน 3 ปกรายงาน ความกลมกลืน ½ คะแนน 1 การจดั รูปแบบถูกตอ้ ง 4 สารบญั 2 ใส่ขอ้ ความหวั กระดาษ 1 คะแนน 5 หวั กระดาษ ทา้ ยกระดาษ ใส่ขอ้ ความทา้ ยกระดาษ 1 คะแนน 1 แทรกหมายเลขหนา้ 6 หมายเลขหนา้ 2 - การจดั ยอ่ หนา้ 1 คะแนน 7 การจดั รูปแบบเอกสาร - ระยะห่างระหวา่ งบรรทดั 1 คะแนน 1 การจดั รูปแบบถูกตอ้ ง 8 บรรณานุกรม

199 ใบกจิ กรรมที่ 7 หน่วยท่ี 7 ชื่อวชิ า โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) สอนคร้ังที่ 15-17 ช่ือหน่วย การพิมพเ์ อกสารทางวชิ าการ จานวน 9 ชั่วโมง ชื่อกจิ กรรม สรุปบทเรียน เวลา 10 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การพมิ พเ์ อกสารทางราชการ 2. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการพมิ พบ์ รรณานุกรมไดถ้ ูกตอ้ ง 3. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการแทรกเชิงอรรถลงในเอกสารได้ 4. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการแทรกหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษลงในเอกสารได้ 5. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการแทรกหมายเลขหนา้ ลงในเอกสารได้ 6. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการทาดชั นีในเอกสารได้ 7. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการทาสารบญั ในเอกสารได้ 8. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการทาปกหนา้ ได้ 9. ผเู้ รียนสามารถอธิบายวธิ ีการสงั่ พิมพเ์ อกสารออกทางเครื่องพมิ พไ์ ด้ 10. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีพึงประสงค์ คือ มีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความซ่ือสตั ย์ ความรับผดิ ชอบ ความเชื่อมน่ั ในตนเอง การประหยดั ความติดริเร่ิมสร้างสรรค์ ความสนใจใฝ่ รู้ การพ่ึงตนเอง 11. ผเู้ รียนมีความพร้อมดา้ นการเรียนรู้ตามท่ีกาหนด มีเหตุผล มีความรอบรู้ มีความรอบคอบ/ ระมดั ระวงั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. สมุด 1 เล่ม 2. ปากกา 3. หนงั สือเรียนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) / ใบความรู้ท่ี 7 คาส่ัง ผเู้ รียนร่วมกนั สรุปบทเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 พร้อมครูผสู้ อน แลว้ ทาการจดบนั ทึก สาระสาคญั ลงสมุด การประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรม 2. ตรวจสมุดบนั ทึกการสรุปบทเรียน

200 เอกสารอ้างองิ /เอกสารค้นคว้าเพม่ิ เตมิ กรมการจดั หางาน. บริการทนั ใจให้คนไทยมีงานทา. [แผน่ พบั ] ม.ป.ท., ม.ป.ป. . นักออกแบบแฟช่ัน Fashion Designer. [แผน่ พบั ] ม.ป.ท., ม.ป.ป. กลุ่มงานขอ้ มูลสารสนเทศและการสื่อสาร สานกั งานจงั หวดั สุโขทยั . ข้อมูลทวั่ ไปและสถานท่ี ท่องเทยี่ ว. [ออนไลน์] เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.sukhothai.go.th/3584/index.html เกษม วฒั นชยั . การปฏิรูปการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ : สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สานกั นายกรัฐมนตรี, 2545. ปิ ยะ ศุภวราสุวฒั น์ และคณะ. การใช้โปรแกรมประมวลผลคา. กรุงเทพฯ : ซคั เซส มีเดีย, 2553. วจิ ิตร อาวะกุล. เทคนิคการประชาสัมพนั ธ์. กรุงเทพฯ : ศูนยห์ นงั สือจุฬาลงกรณ์, 2544. มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. เอกสารการสอนชุดวชิ า การผลติ งานประชาสัมพนั ธ์ หน่วยที่ 1-8. กรุงเทพฯ : บางกอกบลอ๊ ก, 2535. สวนสตั วเ์ ชียงใหม่. Chaingmai Zoo “เทยี่ วสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้อะไรมากกว่าทค่ี ดิ ”. [แผน่ พบั ] ม.ป.ท., ม.ป.ป.

201 ภาคผนวก

202 เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธ์ิจากแบบทดสอบมีเกณฑ์ดังนี้ ร้อยละ 80 - 100 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ผลการเรียนดี ร้อยละ 70 - 79 หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60 - 69 หมายถึง ผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 50 - 59 หมายถึง ระดบั ความรู้ดีมาก ระดบั ความรู้ดี ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง ระดบั ความรู้พอใช้ ตอ้ งสอนซ่อมเสริม แบบประเมนิ ผลการเรียนและคณุ ธรรมของนักเรียน 18 - 20 คะแนน หมายถึง 14 - 17 คะแนน หมายถึง 10 - 13 คะแนน หมายถึง ต่ากวา่ 10 คะแนน หมายถึง แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม คาชี้แจง ใหข้ ีดเคร่ืองหมายถูก ในช่องพฤติกรรมของนกั เรียนเพื่อประเมินคุณธรรมจริยธรรม เกณฑก์ ารตดั สิน 4 คะแนน หมายถึง ผลการเรียนดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ผลการเรียนดี 2 คะแนน หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ผลการเรียนตอ้ งปรับปรุง เกณฑก์ ารประเมิน หมายถึง ระดบั ความรู้ดีมาก หมายถึง ระดบั ความรู้ดี 18 - 20 คะแนน หมายถึง ระดบั ความรู้พอใช้ 15 - 17 คะแนน หมายถึง ระดบั ความรู้ตอ้ งไดร้ ับการสอนซ่อมเสริม 10 - 14 คะแนน ต่ากวา่ 10 คะแนน