แผนการจัดการเรยี นรู้ มงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพ และบรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รหัส 20200-1002 วชิ า การบญั ชเี บ้อื งต้น จานวน 3 หน่วยกติ 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.)พทุ ธศกั ราช 2562 จดั ทาโดย นางศิรนิ ทร์ทิพย์ ทองบรุ าณ ครู คศ.1 วทิ ยาลัยการอาชพี สอยดาว สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำนำ พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแหง่ ชำติ พ.ศ. 2542 ท่ไี ด้ประกำศใชต้ งั้ แตเ่ ดือนสงิ หำคม 2542 เปน็ ตน้ มำ ไดเ้ น้นให้ครู-อำจำรย์และผูเ้ ก่ียวขอ้ งทัง้ หลำยจัดกำรเรยี นกำรสอนโดยเน้นผเู้ รยี นสำคัญท่ีสดุ ซง่ึ กจิ กรรมกำร เรียนกำรสอนที่จดั ควรมลี ักษณะสำคญั ดังน้ี 1. ผู้เรยี นได้เรยี นรู้จำกกำรปฏบิ ตั ิจรงิ 2. ผูเ้ รยี นมโี อกำสเลอื กเรยี นรู้ในสงิ่ ที่ตนถนดั และสนใจ 3. ผ้เู รยี นได้มโี อกำสแสวงหำควำมรู้และสร้ำงองค์ควำมร้ดู ว้ ยตัวเอง 4. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกำสท่ีจะนำควำมรูไ้ ปปฏิบัติใช้จรงิ ในชีวติ ประจำวนั 5. ผเู้ รยี นมีส่วนรว่ มในกำรประเมนิ ผลกำรเรียนรูข้ องตนเอง ผู้จัดท ได้ตระหนักถึงภำรกิจของครูอำจำรย์ ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับ พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ ด้วยกำรบูรณำกำรคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม และ คุณลักษณะอันพึง ประสงคไ์ วใ้ นรำยวชิ ำ และในกำรคิดกิจกรรมท่ีจะสง่ เสริมกำรเรียนรขู้ องนักเรียนตำมพระรำชบญั ญัตกิ ำรศึกษำ แห่งชำติให้เป็นรูปธรรมจึงได้จัดทำส่ิงอำนวยควำมสะดวกให้แก่ครูอำจำรย์เป็น คู่มือครูเพื่อประกอบหนังสือ เรียนวิชา การบัญชีเบื้องต้น (Basic Accounting) รหัส 20200-1002 (2-2-3) ซ่ึงประกอบด้วย ซึ่ง ประกอบดว้ ย จดุ ประสงค์รำยวชิ ำ และสมรรถนะรำยวชิ ำ กลมุ่ ทักษะวชิ ำชพี พน้ื ฐำน คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ตำรำงวเิ ครำะห์หลักสตู ร กำหนดกำรสอนท่บี รู ณำกำรคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่บรู ณำกำรคุณธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผ้จู ัดทำหวังว่ำคู่มอื ครเู ล่มนี้คงเป็นประโยชนแ์ ก่ครู-อำจำรย์ไดใ้ ชเ้ ป็นแนวทำงในกำรจดั กจิ กรรมกำร เรียนรใู้ หบ้ รรลุตำมวตั ถปุ ระสงคต์ อ่ ไป ผจู้ ัดทำ
สำรบญั วิธกี ำรใช้แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โครงกำรสอนที่บรู ณำกำรคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่บูรณำกำรคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 1 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 2 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 3 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 4 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 5 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 6 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 7 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 8 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ 9 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 10 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 11 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 12 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 13 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 14 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 15 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 16 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 17 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 18 ภาคผนวก ก ตัวอยำ่ งแบบประเมนิ ด้วยแฟ้มสะสมผลงำน (Portfolio) ข ตวั อยำ่ งแบบสังเกตพฤติกรรมกำรปฏบิ ัติงำนรำยบุคคล ค ตวั อยำ่ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกิจกรรมกลมุ่ ง ตัวอย่ำงแบบประเมินกำรนำเสนอผลงำนรำยบุคคล จ ตัวอย่ำงแบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ฉ ตวั อย่ำงแบบรวมคะแนนกำรประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ช ตวั อย่ำงแบบสรุปผลกำรประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ฌ ตัวอย่ำงบนั ทึกหลังกำรสอน ญ ตวั อยำ่ งบันทึกหลังกำรสอน
รหัส 20200-1002 (2-2-3) วิชา กำรบญั ชเี บอื้ งต้น (Basic Accounting) ชนั้ ประกำศนยี บตั รวชิ ำชพี หมวดวิชาทักษะวิชาชพี กลุ่มวชิ าทกั ษะวิชาชพี พน้ื ฐาน พฤติกรรม พุทธพิ ิสัย (50%) ชื่อหน่วย ความ ู้ร ความเข้าใจ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ การ ัสงเคราะ ์ห การประเมิน ่คา ิจตพิ ัสย (25 %) ัทกษะ ิพ ัสย (25 %) รวม ลาดับความสาคัญ จานวนชั่วโมง 1.ควำมหมำย วัตถปุ ระสงค์ ประโยชนข์ องกำรบัญชี และข้อสมมติ 111 -- -11 5 4 ทำงบัญชี 2.สินทรัพย์ หนส้ี ิน และส่วนของเจ้ำของตำมกรอบแนวคิดสำหรับ 1111- - 11 6 4 กำรรำยงำนทำงกำรเงิน 3.สมกำรบญั ชี 1111- - 22 8 4 4. กำรวเิ ครำะห์รำยกำรค้ำ 1112- - 22 9 8 5.กำรบันทึกรำยกำรคำ้ ตำมหลักกำรบญั ชีทร่ี บั รองทัว่ ไปของธุรกิจ บริกำรเจำ้ ของคนเดียวในสมุดรำยวันทว่ั ไป 1 1 1 2 - - 3 3 11 8 6.กำรผ่ำนรำยกำรไปบญั ชีแยกประเภท 7.สมดุ เงินสด 2 ชอ่ ง 1 1 1 1 - - 3 3 10 4 8.งบทดลอง 1111- - 11 6 4 9.กระดำษทำกำร 6 ช่อง 1111 - - 22 8 4 10.งบกำรเงนิ 1111- -22 8 4 11.รำยกำรปรบั ปรงุ บญั ชี 1 1 1 1 - - 3 3 10 8 12.กำรปิดบญั ชี และสรปุ วงจรบญั ชี 1 1 1 2 - - 3 3 11 8 1111- -22 8 4 สอบกลำงภำค 25 25 100 4 สอบปลำยภำค 4 72 รวม 12 12 12 14 หมายเหตุ ลำดับควำมสำคัญ กำรสอบปลำยภำคเรียนสำหรับรำยวิชำนอ้ี ำจจะมหี รอื ไมก่ ไ็ ด้ขึ้นอยกู่ ับอำจำรยผ์ ูส้ อน
รหัส 20200-1002 วิชา กำรบญั ชเี บื้องตน้ (Basic Accounting) 3 หนว่ ยกติ (4 ชวั่ โมง) เวลาเรียนต่อภาค 72 ชั่วโมง รายวิชาตามหลักสตู ร สมรรถนะรายวิชา ชัว่ โมง จดุ ประสงค์รายวชิ า เพอื่ ให้ สมรรถนะรายวิชา 1.มีควำมเขำ้ ใจหลักกำร วิธกี ำร และขั้นตอน 1.แสดงควำมรเู้ กีย่ วกับหลักกำร กำรจัดทำบญั ชสี ำหรับกจิ กำรเจำ้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กิจ บริกำร วธิ กี ำร และขัน้ ตอนกำรจัดบญั ชีสำหรบั 2.มที กั ษะปฏิบตั ิงำนบญั ชตี ำมหลกั กำรบญั ชที ี่ กิจกำรเจำ้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ำร รับรองทว่ั ไปสำหรับกิจกำรเจ้ำของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ำร 2.ปฏบิ ตั งิ ำนบัญชสี ำหรับกจิ กำร 3.มีกิจนสิ ยั มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซ่ือสัตย์ เจำ้ ของคนเดียวประเภทธุรกจิ บรกิ ำรตำม มีวินัย ตรงตอ่ เวลำ และมเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ วิชำชพี บญั ชี หลกั กำรบญั ชีทีร่ ับรองท่วั ไป คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษำและปฏิบตั เิ กย่ี วกับควำมหมำย วัตถปุ ระสงค์ และ ประโยชน์ของกำรบัญชี ขอ้ สมมตทิ ำงบัญชี ควำมหมำยของสินทรพั ย์ หนส้ี ิน และสว่ นเจ้ำของตำมกรอบ แนวคดิ สำหรบั กำรรำยงำนทำงกำรเงนิ สมกำรบัญชี กำร วิเครำะหร์ ำยกำรค้ำ กำรบนั ทึกรำยกำรค้ำตำมหลักกำรบญั ชีท่ี รบั รองทั่วไปของธรุ กิจบรกิ ำรเจำ้ ของคนเดียวในสมดุ รำยวัน ทว่ั ไป สมดุ เงนิ สด 2 ช่อง ผ่ำนรำยกำรไปบญั ชีแยกประเภท งบ ทดลอง กระดำษ ทำกำรชนิด 6 ชอ่ ง งบกำรเงิน ปรับปรงุ ปิด รวม 72 บญั ชี และสรปุ วงจรบญั ชี **สมรรถนะรำยวิชำนี้ เปน็ เพยี งแนวทำงเพือ่ ใช้ในกำรประเมินคณุ ภำพผู้เรยี นเทำ่ นั้น สำมำรถเปลยี่ นแปลงได้
วิชา การบัญชีเบอ้ื งต้น (Basic Accounting) รหสั วชิ า 20200-1002 (2-2-3) จดุ ประสงคร์ ายวชิ า เพอ่ื ให้ 1.มีควำมเขำ้ ใจหลักกำร วธิ ีกำร และขั้นตอนกำรจัดทำบญั ชีสำหรบั กิจกำรเจำ้ ของคนเดียว ประเภทธรุ กจิ บรกิ ำร 2.มีทักษะปฏบิ ัตงิ ำนบัญชตี ำมหลกั กำรบญั ชีทร่ี ับรองทวั่ ไปสำหรบั กจิ กำรเจำ้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กิจบริกำร 3.มกี ิจนสิ ยั มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซื่อสัตย์ มวี นิ ยั ตรงตอ่ เวลำ และมเี จตคติทด่ี ตี อ่ วชิ ำชีพบัญชี สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงควำมรเู้ กี่ยวกับหลักกำร วธิ กี ำร และข้นั ตอนกำรจดั บญั ชีสำหรบั กจิ กำรเจำ้ ของคนเดยี ว ประเภทธรุ กิจบรกิ ำร 2.ปฏบิ ตั งิ ำนบญั ชสี ำหรับกิจกำรเจำ้ ของคนเดียวประเภทธรุ กิจบริกำรตำมหลกั กำรบญั ชีทร่ี บั รองท่วั ไป
ประมวลการเรียนรายวิชา (Course Outline) โครงการจัดการเรียนรู้ ช่อื วชิ าการบญั ชีเบือ้ งตน้ รหัส 20200-2001 ท-ป-น 2-2-3 จานวนคาบ 4 คาบ/ สปั ดาห์ ระดบั ชั้น ปวช. สปั ดำห์ หน่วยท่ี ทฤษฏี ปฏบิ ัติ จำนวน ที่ คำบ กรณีศกึ ษำ 4 1 1 ควำมหมำย วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชน์ของกำรบัญชี และขอ้ สมมติทำงบญั ชี กรณศี กึ ษำ 4 กรณศี กึ ษำ 4 2 2 สนิ ทรัพย์ หนส้ี นิ และส่วนของเจ้ำของตำมกรอบแนวคิดสำหรบั กำรรำยงำนทำงกำรเงนิ กรณีศึกษำ 8 กรณศี กึ ษำ 3 3 สมกำรบญั ชี กรณศี ึกษำ 8 4 4 กำรวิเครำะหร์ ำยกำรคำ้ กรณศี ึกษำ 5 4 กำรวเิ ครำะหร์ ำยกำรคำ้ 6 5 กำรบนั ทึกรำยกำรคำ้ ตำมหลกั กำรบญั ชที ี่รบั รองทั่วไปของธุรกจิ บรกิ ำรเจ้ำของคนเดยี วใน สมดุ รำยวันทว่ั ไป 7 5 กำรบันทกึ รำยกำรค้ำตำมหลกั กำรบญั ชที ีร่ บั รองท่ัวไปของธรุ กิจบรกิ ำรเจ้ำของคนเดยี วใน สมุดรำยวันท่ัวไป 8 6 กำรผำ่ นรำยกำรไปบญั ชแี ยกประเภท กรณีศึกษำ 4 กรณศี กึ ษำ 4 9 7 สมดุ เงนิ สด 2 ช่อง 4 กรณศี ึกษำ 4 10 - วัดผลและประเมินผลกลางภาคเรยี น กรณีศกึ ษำ 4 กรณศี กึ ษำ 11 8 งบทดลอง กรณีศกึ ษำ 8 กรณีศกึ ษำ 12 9 กระดำษทำกำร 6 ช่อง กรณีศึกษำ 8 กรณศี ึกษำ 13 10 งบกำรเงนิ 4 4 14 10 งบกำรเงนิ 72 15 11 รำยกำรปรบั ปรุงบญั ชี 16 11 รำยกำรปรบั ปรงุ บญั ชี 17 12 กำรปดิ บัญชี และสรุปวงจรบญั ชี 18 - วดั ผลและประเมินผลปลายภาคเรยี น รวม
กาหนดการสอนที่บรู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ วิชา รหสั 20200-1002 วชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (2-2-3) สปั ดาห์ท่ี หนว่ ย ชวั่ โมง ช่ือหนว่ ย/สาระการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม ที่ ที่ และคณุ ลกั ษณะ 1-4 ความหมาย วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชนข์ อง 1.อธบิ ำยควำมหมำยของกำรบัญชีได้ อันพงึ ประสงค์ การบัญชี และขอ้ สมมติทางบญั ชี 2.บอกวัตถุประสงคข์ องกำรบญั ชีได้ 11 1.ควำมหมำยของกำรบัญชี 3.บอกประโยชนข์ องขอ้ มูลกำรบัญชีได้ 2.วตั ถุประสงคข์ องกำรบัญชี 4.แนะนำกำรเรียนวชิ ำบญั ชีได้ 3.ประโยชน์ของขอ้ มูลกำรบญั ชี 5.แสดงควำมรเู้ กี่ยวกบั ข้อสมมตทิ ำง 4.ขอ้ แนะนำกำรเรยี นวิชำบญั ชี บัญชีได้ 5.ขอ้ สมมตทิ ำงบัญชี 22 5-8 สินทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของตาม 1.อธิบำยและคำนวณสินทรพั ย์ตำมกรอบ กรอบแนวคิดสาหรบั การรายงานทาง แนวคิดสำหรับกำรรำยงำนทำงกำรเงิน 33 การเงิน ได้ ควำมมมี นุษยสมั พนั ธ์ 44 1.สนิ ทรพั ย์ตำมกรอบแนวคิดสำหรบั กำร 2.อธิบำยและคำนวณหน้ีสนิ ตำมกรอบ ควำมมวี ินยั 54 รำยงำนทำงกำรเงิน แนวคิดสำหรบั กำรรำยงำนทำงกำรเงนิ ควำมรบั ผดิ ชอบ 2.หนสี้ ินตำมกรอบแนวคิดสำหรับกำร ได้ ควำมเชอื่ มน่ั ในตนเอง รำยงำนทำงกำรเงิน 3.อธบิ ำยและคำนวณส่วนของเจ้ำตำม ควำมสนใจใฝร่ ู้ 3.สว่ นของตำมกรอบแนวคิดสำหรบั กำร กรอบแนวคิดสำหรบั กำรรำยงำนทำง ควำมรกั สำมคั คี รำยงำนทำงกำรเงนิ กำรเงินได้ ควำมกตัญญูกตเวที 9-12 สมการบญั ชี 1.ควำมหมำยของสมกำรบญั ชี 1.อธิบำยควำมหมำยของสมกำรบัญชีได้ 2.กำรเขยี นสมกำรบัญชแี ละกำรคำนวณ 2.เขยี นสมกำรบัญชแี ละคำนวณสมกำร สมกำรบัญชี บัญชีได้ 3.งบแสดงฐำนะกำรเงิน 3.แสดงกำรจัดทำงบแสดงฐำนะกำรเงิน ได้ 13-16 การวิเคราะหร์ ายการค้า 1.บอกประเภทของธุรกิจและรปู แบบ 1.ประเภทของธุรกจิ และรปู แบบกำรดำเนนิ กำรดำเนนิ ธรุ กจิ ได้ ธุรกิจ 2.อธิบำยรำยกำรคำ้ ได้ 2.รำยกำรคำ้ 3.วเิ ครำะหร์ ำยกำรคำ้ ตำมหลกั กำรบัญชี 3.หลักกำรวิเครำะห์รำยกำรค้ำ ท่วั ไปได้ 4.วิเครำะห์ผลกระทบของรำยกำรคำ้ ต่อ 17-20 4.ผลกระทบของรำยกำรค้ำต่อสมกำรบญั ชี สมกำรบญั ชีและงบแสดงฐำนะกำรเงนิ และงบแสดงฐำนะกำรเงนิ ได้ 5.กำรวิเครำะห์รำยกำรค้ำตำมหลักกำรบญั ชี 5.วเิ ครำะห์รำยกำรค้ำตำมหลกั กำรบัญชี คู่ คู่ได้
(ตอ่ ) สปั ดำหท์ ่ี หนว่ ย ชว่ั โมง ชอ่ื หน่วย/สาระการเรยี นรู้ ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม ที่ ท่ี และคุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ 65 21-24 การบนั ทกึ รายการค้าตามหลักการบญั ชที ่ี 1.อธบิ ำยควำมหมำย และประโยชน์ของ รับรองทว่ั ไปของธุรกิจบรกิ ารเจา้ ของคน สมดุ รำยวันทว่ั ไปได้ ควำมมมี นุษยสัมพันธ์ 75 เดียวในสมดุ รายวันทั่วไป 2.บอกประเภทของสมุดบัญชไี ด้ ควำมมีวนิ ยั 86 1 ควำมหมำย และประโยชน์ของสมดุ รำยวัน 3.อธิบำยรูปแบบของสมุดรำยวันทั่วไป ควำมรบั ผิดชอบ ทว่ั ไป ได้ ควำมเชื่อมนั่ ในตนเอง 97 2 ประเภทของสมดุ บญั ชี 4.บันทึกรำยกำรค้ำในสมดุ รำยวันทว่ั ไป ควำมสนใจใฝร่ ู้ 3 รปู แบบของสมดุ รำยวนั ท่วั ไป ตำมหลกั กำรบัญชไี ด้ ควำมรกั สำมคั คี ควำมกตัญญกู ตเวที 25-28 4 หลกั กำรบนั ทึกรำยกำรค้ำใน 1.อธิบำยควำมหมำยและบอกประเภท สมุดรำยวันท่ัวไป ของบญั ชีแยกประเภทได้ 2.อธิบำยรูปแบบของบัญชี 29-32 การผ่านรายการไปบญั ชแี ยกประเภท แยกประเภทได้ 1 ควำมหมำย และประเภทของบัญชีแยก 3.จัดทำผังบัญชีได้ ประเภท 4.บนั ทกึ บัญชีกำรผ่ำนรำยกำรจำกสมุด 2 รปู แบบของบัญชแี ยกประเภท รำยวนั ทว่ั ไปไปสมดุ บัญชี 3 ผงั บัญชี แยกประเภทได้ 4 กำรผำ่ นรำยกำรจำกสมุดรำยวนั ทว่ั ไปไป 5.คำนวณหำยอดคงเหลอื ใน สมุดบัญชแี ยกประเภท บัญชแี ยกประเภทได้ 5 วิธกี ำรหำยอดคงเหลือใน 1.อธิบำยควำมหมำยของสมดุ บัญชีแยกประเภท เงินสด 2 ช่องได้ 2.อธิบำยลักษณะของสมดุ 33-36 สมุดเงนิ สด 2 ชอ่ ง เงนิ สด 2 ช่องได้ 1.ควำมหมำยของสมุดเงินสด 2 ชอ่ ง 3.อธิบำยรูปแบบและบันทึกรำยกำรใน 2.ลกั ษณะของสมดุ เงินสด 2 ช่อง สมดุ เงินสด 2 ชอ่ งได้ 3.รูปแบบและกำรบันทึกรำยกำรใน สมุดเงินสด 2 ชอ่ ง 10 - 37-40 สอบกลางภาคเรียน 11 8 41-44 งบทดลอง 1.อธบิ ำยควำมหมำย และประโยชน์ของ 1.ควำมหมำย และประโยชนข์ องบทดลอง บทดลองได้ 2.รูปแบบของงบทดลอง 2.อธิบำยรูปแบบของงบทดลองได้ 3.หลกั กำรจดั ทำงบทดลอง 3.จัดทำงบทดลองได้ 4.แนวทำงปฏบิ ตั ิเม่ืองบทดลองไม่ลงตัว 4.บอกแนวทำงปฏบิ ัติเมอ่ื งบทดลองไม่ ลงตัวได้ 12 9 45-48 กระดาษทาการ 6 ชอ่ ง 1.อธิบำยควำมหมำยและประโยชน์ของ 1.ควำมหมำยและประโยชน์ของกระดำษทำ กระดำษทำกำรได้ กำร 2.บอกรูปแบบของกระดำษทำกำรชนิด 2.รูปแบบของกระดำษทำกำรชนิด 6 ช่อง 6 ช่องได้ 3.ข้นั ตอนในกำรจัดทำกระดำษทำกำร 6 ช่อง 3.จัดทำกระดำษทำกำร 6 ช่อง ตำม ข้นั ตอนได้
สปั ดำห์ที่ หน่วย ช่ัวโมง ชอ่ื หนว่ ย/สาระสาคญั (ต่อ) คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม ท่ี ท่ี และคุณลักษณะ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั อันพงึ ประสงค์ 13 10 49-52 งบการเงิน 1.อธบิ ำยควำมหมำยของงบกำรเงินได้ 1.ควำมหมำยของงบกำรเงิน 2.บอกจุดมงุ่ หมำยของงบกำรเงินได้ 2.จดุ มุ่งหมำยของงบกำรเงิน 3.อธิบำยงบกำรเงินฉบบั สมบูรณ์ได้4. 3.งบกำรเงินฉบับสมบูรณ์ อธิบำยกำรกำหนดรำยกำรยอ่ ท่ีต้องมใี น 4.กำรกำหนดรำยกำรย่อทีต่ อ้ งมีในงบ งบกำรเงนิ ได้ กำรเงิน 5.จดั ทำงบกำไรขำดทนุ ได้ 5.งบกำไรขำดทุน 14 10 6.จัดทำงบแสดงฐำนะกำรเงินได้ 15 11 53-56 6.งบแสดงฐำนะกำรเงิน 57-60 รายการปรบั ปรุงบญั ชี 1.อธิบำยเกณฑ์กำรบันทึกบญั ชีได้ 16 11 2.อธิบำยควำมหมำยและบอกประเภท ควำมมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ 1.เกณฑก์ ำรบนั ทกึ บญั ชี ของรำยกำรปรับปรงุ บัญชีได้ ควำมมีวนิ ยั 2.ควำมหมำยและประเภทของรำยกำร 3.คำนวณและบันทึกบัญชีรำยได้ ควำมรบั ผดิ ชอบ ปรบั ปรุงบญั ชี รับล่วงหน้ำได้ ควำมเช่ือมั่นในตนเอง 3.รำยได้รบั ล่วงหนำ้ 4.คำนวณและบันทกึ บญั ชีรำยได้ ควำมสนใจใฝ่รู้ 4.รำยไดค้ ้ำงรับ คำ้ งรบั ได้ ควำมรักสำมัคคี 5.ค่ำใช้จ่ำยลว่ งหน้ำ 5.คำนวณและบนั ทึกบญั ชคี ่ำใชจ้ ำ่ ย ควำมกตัญญูกตเวที 61-64 6.ค่ำใชจ้ ่ำยค้ำงจ่ำย ลว่ งหนำ้ ได้ 7.หนีส้ งสัยจะสญู 6.คำนวณและบันทึกบัญชีคำ่ ใชจ้ ำ่ ยค้ำง 8.วัสดุสำนกั งำน จ่ำยได้ 9.ค่ำเสอ่ื มรำคำ 7.คำนวณและบนั ทึกบญั ชี หนีส้ งสยั จะสญู ได้ 17 12 65-68 การปิดบัญชี และสรปุ วงจรบญั ชี 8.คำนวณและบนั ทกึ บญั ชี 1.ควำมหมำยของกำรปดิ บญั ชี วัสดสุ ำนักงำนได้ 2.ขนั้ ตอนกำรปิดบัญชี 9.คำนวณและบนั ทึกบญั ชี 3.กำรปดิ บญั ชีในสมดุ รำยวนั ท่ัวไป คำ่ เสอื่ มรำคำได้ 4.กำรปิดบัญชีแยกประเภททวั่ ไป 1.อธิบำยควำมหมำยของกำรปิดบัญชีได้ 5.กำรจดั ทำงบทดลองหลังกำรปิดบัญชี 2.บอกขนั้ ตอนกำรปิดบัญชีได้ 6.กำรสรปุ วงจรบัญชี 3.บันทึกกำรปิดบัญชีในสมุดรำยวันทั่วไป ได้ 4.บันทึกกำรปดิ บญั ชแี ยกประเภททัว่ ไปได้ 5.จัดทำงบทดลองหลงั กำรปิดบญั ชีได้ 6.แสดงควำมรเู้ กี่ยวกับกำรสรปุ วงจรบญั ชี ได้ 18 - 69-72 ทบทวน/สอบปลายภาคเรยี น
หมายเหตุ กำหนดกำรสอนที่บรู ณำกำรคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์นี้ จดั ทำขน้ึ เพอ่ื เปน็ แนวทำงใหก้ ับครูผ้สู อนในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนเทำ่ น้นั สำมำรถเปลี่ยนแปลงไดข้ ้นึ อยู่กับผู้สอน และสถำนศกึ ษำท่จี ะ นำไปประยุกต์ใช้เป็นสำคญั ผูเ้ ขยี นแผนจัดการเรยี นรู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล การวัดผล 20% 20% 1. สอบกลำงภำค 10% 2. สอบปลำยภำค 10% 3. บรู ณำกำรคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 20% 4. กำรเขำ้ ชน้ั เรยี น 20% 5. กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนในหอ้ งเรยี น 6. ใบงำน/แบบประเมินผลกำรเรยี นรู้ หมายเหตุ ผู้เรียนต้องเข้ำเรียนไม่น้อยกว่ำร้อยละ 80 ของเวลำเรียนทั้งหมด แต่กำรแบ่งคะแนนกำรวัดผลนี้สำมำรถ เปล่ียนแปลงได้ข้ึนอยู่กับครูเป็นสำคัญ และเน่ืองจำกเป็นวิชำท่ีเน้นกำรนำทักษะควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยทั่วไป กำรวดั ผลสำมำรถจดั เข้ำไปในเร่ืองคุณธรรม จริยธรรมได้ เพอื่ ให้เห็นเป็นรปู ธรรมท่ีชดั เจน จึงจะขอแยกเร่ืองกำร วัดผลด้ำนคุณธรรม จริยธรรม ในรูปเคร่ืองมือวัดผลเป็นแบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม และคุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ของผู้สำเร็จกำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ โดยท้ังครูและผู้เรียน จะประเมินคุณลักษณะจำก พฤติกรรมบ่งช้ีที่กำหนดไว้ และต้องทำควบคู่กับกระบวนกำรทำกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ซ่ึงอำจอยู่ในรูปของกลุ่มผู้เรียน หรือเป็นรำยบุคคล โดยผู้เรียนอำจสับเปลี่ยนกันเป็นผู้ประเมินร่วมกับครู เพ่ือควำมเที่ยงตรงของกำรประเมิน ดังนั้น แบบ ประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้งของครู และผู้เรียนจึงเป็นชุดเดียวกัน และเพื่อดู พฒั นำกำรของผู้เรียน จะใชแ้ บบประเมินชุดนเี้ ป็นเครือ่ งมอื ประเมิน การประเมินผล กำหนดคำ่ ระดบั คะแนน ตำมเกณฑด์ งั นี้ คะแนนรอ้ ยละ 80-100 ได้เกรด 4 ไดเ้ กรด 3.5 คะแนนร้อยละ 75-79 ได้เกรด 3 ได้เกรด 2.5 คะแนนร้อยละ 70-74 ได้เกรด 2 ไดเ้ กรด 1.5 คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ได้เกรด 1 ได้เกรด 0 คะแนนรอ้ ยละ 60-64 คะแนนรอ้ ยละ 55-59 คะแนนรอ้ ยละ 50-54 คะแนนร้อยละ 0-49 หนังสอื ประกอบการเรยี น มนัสชยั กรี ติผจญ. และคณะ วชิ าการบญั ชีเบอ้ื งต้น .กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ,์ 2562.
1 แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการที่ 1 หน่วยท่ี 1 รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) สอนครงั้ ที่ 1 (1--4) ช่ือหน่วย/เร่ือง ความหมาย วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชน์ของ จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. การบญั ชีและขอ้ สมมติทางบญั ชี แนวคิด การบญั ชมี บี ทบาทและมคี วามสาคญั ในกจิ การทุกประเภท ไม่ว่าจะดาเนินการโดยหวงั ผลกาไรหรอื ไม่กต็ าม เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในการนาไปปฏบิ ตั งิ านดา้ นบญั ชหี รอื การประยุกตใ์ ชบ้ ญั ชแี บบครวั เรอื น ตามแนวคดิ หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ ควรเข้าใจความหมายของการบญั ชี จุดประสงค์ของการบญั ชี ประโยชน์ของข้อมูลการบญั ชี ขอ้ แนะนาการเรยี นวชิ าบญั ชี รวมทงั้ ความรเู้ กย่ี วกบั แม่บทการบญั ชี เพ่อื ประยกุ ต์ใชก้ บั งานดงั กล่าวขา้ งต้นใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั 1.อธบิ ายความหมายของการบญั ชไี ด้ 2.บอกวตั ถุประสงคข์ องการบญั ชไี ด้ 3.บอกประโยชนข์ องขอ้ มลู การบญั ชไี ด้ 4.แนะนาการเรยี นวชิ าบญั ชไี ด้ 5.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ขอ้ สมมตทิ างบญั ชไี ด้ 6.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 6.2 ความมวี นิ ยั 6.9 ความรกั สามคั คี 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที 6.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 6.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 6.6 การประหยดั 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป
2 สาระการเรียนรู้ 1.ความหมายของการบญั ชี 2.วตั ถุประสงคข์ องการบญั ชี 3.ประโยชนข์ องขอ้ มลู การบญั ชี 4.ขอ้ แนะนาการเรยี นวชิ าบญั ชี 5.ขอ้ สมมตทิ างบญั ชี ภาพรวม (Big Idea) กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครแู นะนาจดุ ประสงคท์ ผ่ี เู้ รยี นจะไดจ้ ากหลกั สตู ร โดยกาหนดใหผ้ เู้ รยี นทุกคนตอ้ งเขา้ ใจหลกั การ วธิ กี าร และขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร มที กั ษะปฏบิ ตั งิ านบญั ชี ตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไปสาหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ าร มกี จิ นสิ ยั มรี ะเบยี บ ละเอยี ด รอบคอบ ซ่อื สตั ย์ มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าชพี บญั ชี 2.ครอู ธบิ ายเน้อื หารายวชิ าและหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ครกู ลา่ วถงึ ทุกคนเม่อื ทางานแลว้ กต็ อ้ งมรี ายได้ และกต็ อ้ งจา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั
3 3.ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งการไปซอ้ื ของรา้ นสะดวกซอ้ื ทวั่ ไป กจ็ ะไดร้ บั ใบเสรจ็ รบั เงนิ ซง่ึ เป็นค่าใชจ้ ่าย ในการไป ซอ้ื สง่ิ ของเครอ่ื งใชบ้ างครงั้ กม็ กี ารวางแผน แต่บางครงั้ กไ็ ม่สามารถวางแผนได้ เน่อื งจากสนิ ค้าทต่ี อ้ งการซอ้ื นนั้ มี ความจาเป็นต่อการดาเนินชวี ติ ของตนเอง ขนั้ สอน 4.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบการจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) และเลา่ อธบิ ายแสดงสาธติ โดยทผ่ี เู้ รยี นเป็นผฟู้ งั และเปิดโอกาสใหซ้ กั ถามปญั หาไดบ้ า้ งในตอนทา้ ยของการบรรยาย เกย่ี วกบั ความหมาย วตั ถุประสงค์ ประโยชน์ของการบญั ชี และขอ้ สมมตทิ างบญั ชี เพอ่ื นาไปปฏบิ ตั ใิ ชใ้ นธุรกจิ ปจั จบุ นั โดยการใชส้ อ่ื Power Point ประกอบ สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย หรือ ส.บช. (The Institute of Certified Accountants and Auditor of Thailand: ICAAT) ในปจั จบุ นั คอื สภาวชิ าชพี บญั ชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Federation of Accounting Professions under the Royal Patronage of His Majesty the King) ไดใ้ หค้ วามหมายของการบญั ชไี วด้ งั น้ี การบญั ชี (Accounting) หมายถึง ศลิ ปะของการเกบ็ รวบรวม บนั ทกึ จาแนก และทาสรุปขอ้ มูลอนั เกย่ี วกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกจิ ในรปู ตวั เงนิ ผลงานขนั้ สุดทา้ ยของการบญั ชกี ค็ อื การใหข้ อ้ มูลทางการเงนิ ซ่งึ เป็นประโยชน์แก่บุคคลหลายฝา่ ย และผทู้ ส่ี นใจในกจิ กรรมของกจิ การ จากคานิยามดงั กล่าว การบญั ชี หมายถงึ ศลิ ปะของการจดบนั ทกึ การจาแนกใหเ้ ป็นหมวดหมู่ และการ สรุปผลสงิ่ สาคญั ในรูปตวั เงนิ รายการและเหตุการณ์ต่างๆ ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งดา้ นการเงนิ รวมทงั้ การแปลความหมาย ของผลการปฏบิ ตั ิ ซง่ึ เป็นคานิยามทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั โดยทวั่ ไป
4 5.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบการจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) โดยใช้ Power Point เป็นสอ่ื โดยครนู าใบเสรจ็ รบั เงนิ มาแสดงใหผ้ เู้ รยี นดู แลว้ ให้พจิ ารณาบญั ชซี อ้ื สนิ คา้ ต่อไปน้วี า่ ถอื เป็นความหมายของการบญั ชอี ยา่ งไรบา้ ง และใหพ้ จิ ารณาใบเสรจ็ รบั เงนิ รา้ นซ่อมเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าต่อไปน้ีวา่ เป็น ความหมายของการบญั ชอี ย่างไรบา้ ง 6.ผเู้ รยี นพจิ ารณางบกาไรขาดทนุ ของรา้ นคา้ แห่งหน่งึ วา่ มวี ตั ถุประสงคข์ องการบญั ชอี ยา่ งไรบา้ ง 7.ผู้เรียนพิจารณางบกาไรขาดทุนของกิจการให้บริการแห่งหน่ึงว่าว่าจะส่งผลทาให้กิจการได้รับ ประโยชน์ของขอ้ มลู การบญั ชอี ยา่ งไรบา้ ง 8.ครแู นะนาการเรยี นวชิ าบญั ชี เช่นการเขยี นตวั เลขนนั้ ควรใหต้ รงหลกั เสมอ เชน่ หลกั หน่วยกเ็ ขยี นให้ ตรงกบั หลกั หน่วยเหล่าน้ี เป็นตน้ ตวั เลขทกุ ๆ 3 ตวั ใหใ้ ชเ้ คร่อื งหมาย “ , ” โดยนบั จากจุดทศนยิ มไปทางซา้ ยมอื ทุก 3 ตวั และถา้ ไม่มเี ศษสตางคใ์ หใ้ ชเ้ คร่อื งหมาย “ - ” เชน่ 5,250.75 15,000.- 25,200.50 ถา้ เขยี นตวั เลขผดิ ใหข้ ดี เสน้ ฆา่ ตวั เลขทผ่ี ดิ แลว้ เขยี นตวั เลขใหม่ทถ่ี ูกตอ้ งไวข้ า้ งบนตวั เลขทผ่ี ดิ และลง ช่อื ย่อกากบั ไว้ ไม่ควรขดู ลบตวั เลขทผ่ี ดิ หรอื เขยี นตวั เลขอ่นื ทบั ตวั เลขทผ่ี ดิ เช่น ตวั เลขทถ่ี ูกต้องคอื 3,500 แต่ เขยี นเป็น 5,300 ดงั นนั้ จงึ แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง คอื 3,500 5,300 10.ผเู้ รยี นฝึ กปฏิบตั ิเขยี นตวั เลข หรอื ตวั อกั ษรใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การบญั ชี แต่ละกรณดี งั น้ี 1) เขยี นเคร่อื งหมายจลุ ภาค ( , ) ในจานวนเงนิ ต่อไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป จานวนเลข จานวนเงิน บาท สต. 10000 100000 1000000000 2) แกไ้ ขตวั เลขดงั ต่อไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง ตวั เลขผิด ตวั เลขถกู แกไ้ ขให้ถกู ต้อง 25,000.- 52,000.- 45,000.- 54,000.- 200,050.- 200,050.50 3) เขยี นตวั เลขต่อไปน้เี ป็นตวั อกั ษรใหถ้ กู ตอ้ ง จานวนเงิน (ตวั เลข) จานวนเงิน (ตวั อกั ษร) 21,345.10 59,999.50 14,552.20 2,234,550.50
5 4) เขยี นจานวนเงนิ ตวั อกั ษรต่อไปน้ใี หเ้ ป็นตวั เลขและรวมยอดใหถ้ ูกตอ้ ง จานวนเงิน (ตวั อกั ษร) จานวนเงิน (ตวั เลข) สองหมน่ื หา้ สบิ บาทถว้ น หน่งึ หมน่ื สพ่ี นั สามสบิ บาทยส่ี บิ สตางค์ หน่งึ แสนสามรอ้ ยหา้ สบิ บาทถว้ น สามลา้ นหา้ แสนหกหมน่ื เจด็ รอ้ ยบาทถว้ น 9.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) ดว้ ยการเลา่ อธบิ ายแสดงสาธติ ให้ ผเู้ รยี นเป็นผฟู้ งั และเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซกั ถามปญั หาไดใ้ นตอนทา้ ยของการบรรยายเร่อื งความรเู้ กย่ี วกบั ขอ้ สมมตทิ างบญั ชี ถอื เป็นสว่ นหนง่ึ ของแมบ่ ทการบญั ชที น่ี ามาใชใ้ นการจดั ทางบการเงนิ ไดแ้ ก่เกณฑค์ งคา้ ง เพ่อื จะไดน้ าไปประยุกตใ์ ชอ้ ย่างถูกตอ้ ง สว่ นขอ้ สมมตใิ นการจดั ทางบการเงนิ คอื การดาเนนิ งานต่อเน่อื ง (Going Concern) กลา่ วคอื งบการเงนิ ทจ่ี ดั ทาขน้ึ ตามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ ตอ้ งมขี อ้ สมมตทิ ว่ี า่ กจิ การจะดาเนนิ งานอย่างต่อเน่อื งและดารงอย่ตู ่อไปในอนาคต 10.ผเู้ รยี นอา่ นกรณีศกึ ษาทค่ี รกู าหนดให้ แลว้ สรุปเกย่ี วกบั สมมตฐิ านทางการบญั ชเี ป็นอยา่ งไรบา้ ง 11.ผเู้ รยี นอ่านและแขง่ ขนั เล่นเกมสค์ าศพั ทบ์ ญั ชี เพ่อื นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทางานและใน ชวี ติ ประจาวนั 12.ครผู สู้ อนและผเู้ รยี น รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ในการทาบญั ชคี รวั เรอื น ซง่ึ เป็นสว่ นหน่งึ ของ กระบวนการเรยี นรู้ การศกึ ษา การฝึกตน เพ่อื ใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั พิ ฒั นาความรู้ ความคดิ และการปฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ตอ้ ง ก่อใหเ้ กดิ ความเจรญิ ในดา้ นอาชพี หรอื เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม ซง่ึ การทาบญั ชคี รวั เรอื นเป็นเรอ่ื งการ บนั ทกึ รายรบั รายจา่ ยประจาวนั /เดอื น/ปี วา่ มรี ายรบั รายจ่ายจากอะไรบา้ ง จานวนเทา่ ใด รายการใดจา่ ยน้อยจ่าย มาก จาเป็นน้อยจาเป็นมาก กอ็ าจลดลงหรอื เพม่ิ ขน้ึ ตามความจาเป็น ถา้ ทุกคนคดิ ไดก้ แ็ สดงว่าเป็นคนรจู้ กั พฒั นา ตนเอง มเี หตุมผี ล รจู้ กั พอประมาณ รกั ตนเอง รกั ครอบครวั รกั ชมุ ชน และรกั ประเทศชาตมิ ากขน้ึ จงึ เหน็ ไดว้ า่ การทาบญั ชคี รวั เรอื น คอื วถิ แี หง่ การเรยี นรเู้ พ่อื พฒั นาชวี ติ ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 13.ผเู้ รยี นแสดงแผนผงั เร่อื งความหมายของการบญั ชี จุดประสงคข์ องการบญั ชี ประโยชน์ของขอ้ มลู การ บญั ชี ขอ้ แนะนาการเรยี นวชิ าบญั ชี และสมมตทิ างบญั ชี 14.เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 15.ผเู้ รยี นทาใบงาน และทาแบบประเมนิ ผลและนาผลงานสง่ ครผู สู้ อน ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 16.ผสู้ อนสมุ่ ผเู้ รยี นตอบคาถามความหมายของการบญั ชี จดุ ประสงคข์ องการบญั ชี ประโยชน์ของขอ้ มลู การบญั ชี ขอ้ แนะนาการเรยี นวชิ าบญั ชี และสมมตทิ างบญั ชี เพ่อื ใหส้ ามารถประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ต่อไป 17.ผเู้ รยี นและผสู้ อนสรปุ การบญั ชี หมายถงึ ศลิ ปะของการจดบนั ทกึ การจาแนกใหเ้ ป็นหมวดหมู่ และ การสรุปผลสงิ่ สาคญั ในรปู ตวั เงนิ รายการ และเหตุการณ์ต่างๆ ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งดา้ นการเงนิ รวมทงั้ การแปล ความหมายของผลการปฏบิ ตั ดิ งั กลา่ ว ในการจดั ทาบญั ชคี วรคานงึ ถงึ วตั ถุประสงคแ์ ละประโยชนข์ องขอ้ มลู การ บญั ชเี ป็นหลกั เน่อื งจากเป็นสว่ นทช่ี ว่ ยใหก้ จิ การดาเนนิ งานไปในทศิ ทางทถ่ี ูกตอ้ งตามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี และยงั เป็นประโยชน์ต่อผใู้ ชข้ อ้ มลู ทางบญั ชี และสง่ิ ทส่ี าคญั ต่อผศู้ กึ ษาวชิ าบญั ชกี ค็ อื การปฏบิ ตั ติ นใหส้ ม่าเสมอต่อ การเรยี น จงึ จะบรรลุตามเป้าหมายในชวี ติ ทต่ี งั้ ใจไว้
6 สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. มาตรฐานการบญั ช,ี ใบความรู้ 3. อนิ เทอรเ์ น็ต, Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50%
7 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี นมเี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2.บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3.กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4.มอบหมายใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษามาตรฐานการบญั ชแี ละแมบ่ ทการบญั ชเี พมิ่ เตมิ เพอ่ื เสรมิ สรา้ งทกั ษะและ ประสบการณ์ การบรู ณาการ 1) กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการอ่าน ทกั ษะการเขยี นและทกั ษะการพดู 2) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คุณธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรม กล่มุ วิชาภาษาไทย 4) หน้าทพ่ี ลเมอื งดี กล่มุ วิชาคณิตศาตร์ ความหมาย การบรู ณาการ กล่มุ วิชาวิทยาศาสตร์ วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชน์ กล่มุ วิชากฏหมาย ของการบญั ชีและข้อ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ ที่พลเมือง สมมติทางบญั ชี กล่มุ วิชาการขายและคอมพิวเตอร์ กล่มุ วิชาภาษาองั กฤษ
8 คาชี้แจง: ใหบ้ นั ทกึ บญั ชรี ายรบั -รายจ่าย ตามความเป็นจรงิ 1. จากการลงบนั ทกึ มเี งนิ เหลอื เกบ็ หรอื ไม่……………เพราะเหตใุ ด………………..………….……… 2. จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ มรี ายจา่ ยมากกว่ารายรบั ………………………..…………….………………….…
9 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์ แสดงกรยิ าทา่ ทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 2.ความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลาในการทางาน ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล กลา้ ทกั ทว้ งในสงิ่ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา
10 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์ 4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ ่นื เผอ่ื แผแ่ ละแบง่ ปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็น ประมขุ ทถ่ี กู ตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราช ดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ช้เมอ่ื ยาม จาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เม่อื มคี วามพรอ้ มโดยมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อานาจฝา่ ยต่า หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อบาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาตมิ ากกวา่ ผลประโยชน์ ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา
11 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................
12 แผนการจดั การเรียนร้แู บบบูรณาการท่ี 2 หน่วยที่ 2 สอนครง้ั ท่ี 2 (5-8) รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) ช่ือหน่วย/ช่ือเร่ือง สินทรพั ย์ หนี้สิน และส่วนของเจา้ ของตาม จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. กรอบแนวคิดสาหรบั การรายงานทางการเงิน แนวคิด การจดั ทาบญั ชสี าหรบั กจิ การเจ้าของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร จาเป็นต้องมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เกย่ี วกบั สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และส่วนของเจา้ ของ เพอ่ื นาไปคานวณหาตวั เลขของขอ้ มลู ทางบญั ชตี ่างๆ ของรายการ คา้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ซง่ึ เป็นขอ้ มลู พน้ื ฐานในการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ เพอ่ื แสดงวา่ ณ วันใดวนั หน่งึ กจิ การมี สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของเป็นจานวนเทา่ ใด ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวงั 1.อธบิ ายและคานวณสนิ ทรพั ยต์ ามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ ได้ 2.อธบิ ายและคานวณหน้ีสนิ ตามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ ได้ 3.อธบิ ายและคานวณสว่ นของเจา้ ตามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ ได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป
13 สาระการเรียนรู้ 1.สนิ ทรพั ยต์ ามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ 2.หน้สี นิ ตามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ 3.สว่ นของตามกรอบแนวคดิ สาหรบั การรายงานทางการเงนิ ภาพรวม (Big Idea) กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.ครกู ล่าวถงึ ลกั ษณะของสนิ ทรพั ย์ และใชโ้ ทรศพั ทเ์ ป็นสอ่ื ในการอภปิ รายรปู รา่ งลกั ษณะของสนิ ทรพั ย์ 2.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างสนิ ทรพั ยป์ ระกอบ เช่น เงนิ สด (Cash) เงนิ ฝากธนาคาร (Deposits at financial institutions) ลกู หน้ี (Account receivables) รถยนต์ อาคาร เคร่อื งใชส้ านกั งาน ทด่ี นิ ลขิ สทิ ธิ์ (Copyright) สทิ ธบิ ตั ร (Patent) ค่าความนิยม (Goodwill) สมั ปทาน (Franchises) เคร่อื งหมายการคา้ (Trademarks) เป็นตน้ 3.ครวู ธิ ใี ชค้ าถามกระตุน้ ผเู้ รยี น และคาแนะนารปู แบบการเรยี นการสอนแบบรว่ มแรงรว่ มใจดว้ ยวธิ กี าร รวมกล่มุ การจบั คู่ เพอ่ื ฝึกใหผ้ เู้ รยี นมคี วามสามคั คใี นหมคู่ ณะ ขนั้ สอน 4.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่
14 Power Point เพ่อื ประกอบการอธบิ ายสนิ ทรพั ย์ โดยสินทรพั ย์ (Asset) หมายถงึ ทรพั ยากรทอ่ี ย่ใู นความควบคมุ ของกจิ การ ทรพั ยากรดงั กล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดตี ซง่ึ กจิ การคาดว่าจะไดร้ บั ประโยชน์เชงิ เศรษฐกจิ จาก ทรพั ยากรนนั้ ในอนาคต เช่น เงนิ สด (Cash) เงนิ ฝากธนาคาร (Deposits at financial institutions) ลกู หน้ี (Account receivables) รถยนต์ อาคาร เครอ่ื งใชส้ านกั งาน ทด่ี นิ ลขิ สทิ ธิ์(Copyright) สทิ ธบิ ตั ร (Patent) คา่ ความนยิ ม (Goodwill) สมั ปทาน (Franchises) เคร่อื งหมายการคา้ (Trademarks) เป็นตน้ 5.ครแู ละผจู้ ดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) โดยบอกประเภทของสินทรพั ย์ ซง่ึ แบง่ ออก 2 ประเภท คอื สนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น และสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี น ดงั น้ี 1) สินทรพั ยห์ มนุ เวียน (Current Asset) หมายถงึ สนิ ทรพั ยท์ ม่ี สี ภาพคล่อง สามารถจะเปลย่ี นมาเป็น เงนิ สด หรอื ขายหรอื จะใชห้ มดไปภายในเวลา 1 ปี หรอื น้อยกวา่ นนั้ ซง่ึ เป็นไปตามการดาเนินธุรกจิ ขององคก์ ร เชน่ เงนิ สด (Cash) หรอื สนิ ทรพั ยอ์ น่ื ทส่ี ามารถเปลย่ี นมาเป็นเงนิ สดไดโ้ ดยเรว็ เงนิ ฝากธนาคาร ลกู หน้ีการคา้ และลกู หน้ีอน่ื (Trade and other receivables) และสนิ คา้ คงเหลอื (Inventories) รวมทงั้ สนิ ทรพั ยห์ มุนเวยี นอ่นื (Other current assets) เป็นตน้ 2) สินทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวยี น (Non-Current Asset) หมายถงึ สนิ ทรพั ยท์ ไ่ี มส่ ามารถเปลย่ี นมาเป็นเงนิ สด ไดโ้ ดยเรว็ หรอื เป็นสนิ ทรพั ยท์ ก่ี จิ การมไี วใ้ ชง้ านและมอี ายุการใชง้ านนานเกนิ กวา่ 1 ปี เช่น เงนิ ลงทุนระยะยาว (Long-term investments) ทด่ี นิ อาคาร และอปุ กรณ์ (Property, Plant and Equipment) นอกจากนนั้ ยงั อาจมี สนิ ทรพั ยท์ ไ่ี ม่มตี วั ตน (Intangible assets) เช่น ลขิ สทิ ธิ์ สทิ ธบิ ตั ร สมั ปทาน เป็นตน้ และสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวยี น อ่นื (Other non-current assets) ไดด้ ว้ ย โดยแต่ละรายการอาจแยกยอ่ ยไดอ้ กี ตวั อยา่ งท่ี เมอ่ื วนั ท่ี 1 มนี าคม 2558 นายพจน์ไดส้ ารวจตนเองพบวา่ มที รพั ยส์ นิ สว่ นตวั ดงั น้ี เงนิ สด 100,000 บาท รถยนต์ 172,000 บาท อุปกรณ์สานกั งาน 200,000 บาท รวมทงั้ สน้ิ 472,000 บาท หมายเหตุ 1.ทรพั ยส์ นิ ดงั กล่าวน้ีในทางบญั ชเี รยี กว่า “สนิ ทรพั ย์ (Asset)” 2.จะเหน็ ไดว้ า่ นายพจน์มสี นิ ทรพั ยส์ ว่ นตวั ทงั้ สน้ิ จานวน 472,000 บาท
15 ตวั อยา่ งที่ ต่อไปน้เี ป็นรายการสนิ ทรพั ยข์ องรา้ นเสรบี รกิ าร ซง่ึ มนี ายเสรเี ป็นเจา้ ของ เงนิ สด 100,000 บาท เงนิ ฝากธนาคาร 60,000 บาท รา้ นเสรกี ารคา้ มสี นิ ทรพั ย์ เคร่อื งตกแตง่ 80,000 บาท ทงั้ ส้นิ 840,000 บาท อาคาร 200,000 บาท ซงึ่ เป็นสนิ ทรพั ยส์ ว่ นตวั รถยนต์ 400,000 บาท รวม 840,000 บาท ตวั อยา่ งท่ี เม่อื วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2558 รา้ นนาวนิ บรกิ าร มสี นิ ทรพั ยต์ ่างๆ ดงั น้ี เงนิ สด 23,200 บาท ลกู หน้ี 17,000 บาท เครอ่ื งตกแตง่ 25,500 บาท รา้ นนาวินบริการ อปุ กรณ์สานกั งาน 52,900 บาท มีสินทรพั ยท์ งั้ ส้ิน 518,600 บาท รถยนต์ 400,000 บาท รวม 518,600 บาท 6.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างสนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น และสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี นมาอยา่ งละ 10 ชนดิ 7.ผเู้ รยี นคานวณหาสนิ ทรพั ยเ์ กย่ี วกบั 1) อยากทราบวา่ รา้ นแกว้ เกลา้ มสี นิ ทรพั ยท์ งั้ สน้ิ ……………………บาท 2) สนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี นมจี านวน……………………………………..บาท 3) สนิ ทรพั ยไ์ ม่หมุนเวยี นมจี านวน…………………………………..บาท 8.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื ประกอบการอธบิ ายหน้สี นิ โดยหนี้สิน (Liability) หมายถงึ ภาระผกู พนั ในปจั จุบนั ของกจิ การ ทต่ี อ้ งจ่ายชาระคนื แก่บุคคลภายนอกในอนาคต ภาระผกู พนั ดงั กล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดตี ซง่ึ การชาระภาระ ผกู พนั นนั้ คาดว่าจะสง่ ผลใหก้ จิ การสญู เสยี ทรพั ยากรทม่ี ปี ระโยชน์เชงิ เศรษฐกจิ เชน่ เจา้ หน้ีการคา้ เงนิ กู้ เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี เจา้ หน้จี านอง เป็นตน้ 9.ครแู ละผจู้ ดั การเรยี นรแู้ บบใชค้ าถาม (Questioning Method) โดยบอกประเภทของหน้สี นิ หน้สี นิ แบง่ ออก 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ก.หน้สี นิ หมนุ เวยี น (Current Liabilities) หมายถงึ หน้สี นิ ทถ่ี งึ กาหนดชาระภายใน 12 เดอื นนบั จากวนั ทใ่ี น งบแสดงฐานะการเงนิ และกจิ การคาดวา่ จะชาระหน้สี นิ นนั้ คนื ภายในรอบระยะเวลาดาเนนิ งานปกติ มลี กั ษณะดงั น้ี 1) หน้สี นิ ทม่ี รี ะยะเวลาการชาระคนื ภายใน 12 เดอื น หรอื ภายในรอบระยะเวลาการดาเนนิ งานตามปกติ ของกจิ การ 2) ชาระคนื ดว้ ยสนิ ทรพั ยห์ มุนเวยี น หรอื
16 3) การก่อหน้สี นิ ระยะสนั้ อ่นื แทน ตวั อยา่ งหน้สี นิ หมุนเวยี น ไดแ้ ก่ เจา้ หน้ีการคา้ (Accounts Payable) เจา้ หน้ีอ่นื (Other payables) เงนิ กยู้ มื ระยะสนั้ จากสถาบนั การเงนิ (Short-term borrowings from financial institutions) เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชธี นาคาร (Bank Overdrafts) ตวั ๋ เงนิ จ่าย (Notes Payable) เงนิ กยู้ มื ระยะสนั้ (Short-term borrowings) ภาษเี งนิ ไดค้ า้ งจา่ ย (Current Income tax payable) และหน้สี นิ หมุนเวยี นอ่นื (Other current liabilities) เชน่ ค่าใชจ้ า่ ยคา้ งจา่ ย รายไดร้ บั ล่วงหน้า เป็นตน้ ข.หน้สี นิ ไมห่ มุนเวยี น (Non-Current Liabilities) คอื หน้สี นิ ทม่ี รี ะยะเวลาการชาระเงนิ นานเกนิ กว่า 1 ปี หรอื เกนิ กวา่ รอบระยะเวลาการดาเนินงานตามปกตขิ องกจิ การ หน้สี นิ ไมห่ มนุ เวยี นอาจเกดิ จากการกยู้ มื เงนิ มาใช้ ในกจิ การเพ่อื ซอ้ื สนิ ทรพั ยท์ ม่ี รี าคาสงู การแสดงหน้สี นิ ไมห่ มนุ เวยี นในงบแสดงฐานะการเงนิ จะเปิดเผยขอ้ มลู เกย่ี วกบั ภาระผกู พนั และขอ้ ตกลงต่างๆ เชน่ อตั ราดอกเบย้ี วนั ครบกาหนดชาระ ลกั ษณะของภาระผกู พนั ไดแ้ ก่ เงนิ กยู้ มื ระยะยาว (Long-term Loans) หนุ้ กู้ (Bonds Payable) เป็นตน้ ตวั อยา่ งหน้สี นิ ไมห่ มุนเวยี น ไดแ้ ก่ เงนิ กยู้ มื ระยะยาว (Long-term borrowings) หน้สี นิ ภาษเี งนิ ไดร้ อการตดั บญั ชี (Deferred tax liabilities) ภาระผกู พนั ผลประโยชน์พนกั งาน ประมาณการหน้สี นิ ระยะยาว และหน้สี นิ ไม่หมุนเวยี นอ่นื (Other non-current liabilities) ตวั อยา่ งท่ี นางเกศมณีเปิดรา้ นเสรมิ สวยไดซ้ อ้ื อปุ กรณ์ 250,000 บาท เป็นเงนิ เชอ่ื จากรา้ นบวิ ต้ี ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งชาระเงนิ ใหร้ า้ นบวิ ตใ้ี นภายหน้า ซง่ึ เป็นเจา้ หน้ีนางเกศมณีดงั น้ี เจา้ หน้ี – รา้ นบวิ ต้ี 250,000 บาท 10.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ติ ามโจทย์ เมอ่ื วนั ท่ี 1 มกราคม 2558 รา้ นคา้ แห่งหน่งึ มสี นิ ทรพั ยแ์ ละหน้สี นิ ต่างๆ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ รายการบญั ชี สนิ ทรพั ย์ สนิ ทรพั ยไ์ ม่ หน้สี นิ หน้สี นิ ไม่ หมนุ เวยี น หมนุ เวยี น หมนุ เวยี น หมนุ เวยี น เงนิ สด 120,000 ลกู หน้ี 50,000 อาคาร 250,000 เจา้ หน้กี ารคา้ 50,000 เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี 230,000 ค่าใชจ้ ่ายคา้ งจ่าย 13,000 รายไดร้ บั ลว่ งหน้า 16,000 เงนิ กยู้ มื ระยะเวลา 5 ปี 500,000 ภาษเี งนิ ไดค้ า้ งจ่าย 12,000 รวม 11.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างหน้สี นิ หมนุ เวยี น และหน้สี นิ ไมห่ มนุ เวยี นมาอยา่ งละ 5 ประเภท 12.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื ประกอบการอธบิ ายสว่ นของเจา้ ของ โดยส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity) หมายถงึ สว่ น ไดเ้ สยี คงเหลอื ในสนิ ทรพั ยข์ องกจิ การ หลงั จากหกั หน้สี นิ ทงั้ สน้ิ ออกแลว้ กรรมสทิ ธทิ์ เ่ี จา้ ของกจิ การมใี นสนิ ทรพั ย์ เรยี กวา่ สินทรพั ยส์ ุทธิ (สินทรพั ย-์ หน้ีสิน)
17 ลกั ษณะสว่ นของเจา้ ของกจิ การแบ่งได้ 3 ประเภท คอื 1) สว่ นของเจา้ ของกจิ การเจา้ ของคนเดยี ว 2) สว่ นของเจา้ ของกจิ การหา้ งหนุ้ สว่ น 3) สว่ นของเจา้ ของกจิ การบรษิ ทั จากดั แต่จะกลา่ วในหน่วยน้เี ฉพาะสว่ นของเจา้ ของกจิ การคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ ารเทา่ นนั้ แสดงไดด้ งั น้ี ส่วนของเจา้ ของ = จานวนเงนิ ทเี่ จา้ ของนามาลงทนุ +ผลกาไร-ถอนใช้ (เงนิ ถอน)-ผลขาดทุน (ถา้ ม)ี ตวั อยา่ งท่ี ต่อไปน้เี ป็นสนิ ทรพั ยส์ ว่ นตวั ของนายราชา ดงั น้ี เงนิ สด 100,000 บาท นายราชามสี นิ ทรพั ยท์ งั้ ส้นิ 800,000 บาท เงนิ ฝากธนาคาร 100,000 บาท แสดงวา่ เขามสี ทิ ธใ์ิ นสนิ ทรพั ย์ 800,000 บาท (สนิ ทรพั ยส์ ทุ ธ)ิ รถยนต์ 300,000 บาท หรอื สว่ นของเจา้ ของเท่ากบั 800,000 บาท อาคาร 300,000 บาท รวมสนิ ทรพั ย์ 800,000 บาท สรปุ สนิ ทรพั ย์ 800,000 = สว่ นของเจา้ ของ 800,000 บาท 13.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ีตามโจทยท์ ก่ี าหนดให้ แลว้ ตอบคาถามว่า 1) สนิ ทรพั ยห์ มุนเวยี นมจี านวน…………………… บาท 2) สนิ ทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี นมจี านวน………………… บาท 3) หน้สี นิ หมุนเวยี นมจี านวน………………………. บาท 4) หน้สี นิ ไมห่ มนุ เวยี นมจี านวน…………………… บาท 5) สว่ นของเจา้ ของมจี านวน………………………. บาท 14.ผเู้ รยี นอภปิ รายเพอ่ื แสดงความคดิ เหน็ พรอ้ มยกตวั อยา่ ง โดยใชค้ าถามกระตุน้ นาจากสง่ิ ทใ่ี กลต้ วั ผเู้ รยี นเกย่ี วกบั ความหมายของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) 15.ผเู้ รยี นบอกขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งสนิ ทรพั ยม์ ตี วั ตนและสนิ ทรพั ยไ์ มม่ ตี วั ตน หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ 16.ผเู้ รยี นจบั คคู่ ยุ กนั เพ่อื แลกเปลย่ี นความรจู้ ากการศกึ ษาในความรแู้ ละเอกสาร ตาราเรยี น 17.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 18.ผเู้ รยี นวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ชใ้ นการคานวณ ซง่ึ ในเน้อื หาของ สปั ดาหน์ ้สี ามารถสรปุ ไดด้ งั น้ี (1) สรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองได้ เชน่ ใชค้ วามรอบคอบในการคานวณไมใ่ หผ้ ดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ แต่ละรายการ เพ่อื คานวณ (3) มคี วามเพยี งพอ ในการนาเงนิ มาลงทุนในกจิ การ (4) มเี งอ่ื นไขดา้ นคุณธรรม ไดแ้ ก่ การคานวณใหถ้ ูกตอ้ ง (5) มเี ง่อื นไขวชิ าการ ไดแ้ ก่ การคานวณตามหลกั การบญั ชที ย่ี อมรบั ทวั่ ไปและมคี วามรมู้ าตรฐานการบญั ชี ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 19.สมุ่ ผเู้ รยี นใหอ้ อกมาจดั ประเภทของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ (ทุน) หน้าชนั้ เรยี น
18 20.ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ ความหมายของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ (ทุน) และนาผลงาน ทุกชน้ิ สง่ ครผู สู้ อน 21.สมุ่ ผเู้ รยี นใหอ้ อกมาคานวณหาสมการบญั ชเี ป็นรายบุคคลหน้าชนั้ เรยี น ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. มาตรฐานการบญั ช,ี ใบความรู้ 3. อนิ เทอรเ์ นต็ , Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
19 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี นมเี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ศกึ ษามาตรฐานการบญั ชเี พมิ่ เตมิ เพ่อื เสรมิ สรา้ งทกั ษะและประสบการณ์ การบรู ณาการ 1) กลุ่มวชิ าภาษาไทย ไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการอา่ น ทกั ษะการเขยี นและทกั ษะการพดู 2) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คณุ ธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรม กล่มุ วิชาภาษาไทย 4) หน้าทพ่ี ลเมอื งดี 5) อ่นื ๆ กล่มุ วิชาคณิตศาตร์ กล่มุ วิชาวิทยาศาสตร์ สินทรพั ย์ หนี้สิน และส่วน การบรู ณาการ กล่มุ วิชากฏหมาย ของเจา้ ของตาม ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง แมบ่ ทการบญั ชี หนา้ ที่พลเพมือง กล่มุ วิชาการขายและคอมพิวเตอร์ กล่มุ วิชาภาษาองั กฤษ
20 คาชี้แจง : ใหบ้ นั ทกึ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย ตามความเป็นจรงิ 1. จากการลงบนั ทกึ มเี งนิ เหลอื เกบ็ หรอื ไม่……………เพราะเหตใุ ด………………..………….……… 2. จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ มรี ายจา่ ยมากกว่ารายรบั ………………………..…………….………………….…
21 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์ แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลาในการทางาน ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา
22 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน สงิ่ ทด่ี งี ามเพ่อื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์ 4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละแบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ี ถูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อ กนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การเมอ่ื มคี วามพรอ้ ม โดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ท่ดี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและตอ่ ชาตมิ ากกวา่ ผลประโยชน์ของ ตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา
23 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................
24 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการท่ี 3 หน่วยท่ี 3 รหสั วิชา 20200-1002 การบญั ชเี บ้ืองตน้ (2-2-3) สอนครงั้ ที่ 3 (9-12) ชื่อหน่วย/ชื่อเร่ือง สมการบญั ชี จานวนชวั่ โมง 4 ช.ม. แนวคิด การจดั ทาบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร มคี วามจาเป็นตอ้ งมีทกั ษะปฏบิ ตั งิ าน บญั ชเี บอ้ื งตน้ ตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของ เจา้ ของ เพอ่ื นาไปคานวณหาตวั เลขของขอ้ มลู ทางบญั ชตี ่างๆ ของรายการคา้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง สามารถเขยี นและ คานวณในรปู สมการบญั ชไี ดถ้ กู ตอ้ ง ซง่ึ เป็นพน้ื ฐานในการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ เพ่อื แสดงฐานะการเงนิ ของ กจิ การ ณ วนั ใดวนั หนง่ึ ได้ ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั 1.อธบิ ายความหมายของสมการบญั ชไี ด้ 2.เขยี นสมการบญั ชแี ละคานวณสมการบญั ชไี ด้ 3.แสดงการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ ได้ 4.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การ และวธิ กี ารบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ าร 2.ปฏบิ ตั งิ านบญั ชสี าหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธรุ กจิ บรกิ ารตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป
25 สาระการเรยี นรู้ 1.ความหมายของสมการบญั ชี 2.การเขยี นสมการบญั ชแี ละการคานวณสมการบญั ชี 3.งบแสดงฐานะการเงนิ ภาพรวม (Big Idea) กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.ครกู ล่าวว่าสมการบญั ชนี ้ถี อื ไดว้ ่าเป็นความรพู้ น้ื ฐานทม่ี คี วามสาคญั กอ่ นทจ่ี ะศกึ ษาเรอ่ื งการวเิ คราะห์ รายการคา้ ใหถ้ กู ตอ้ ง และจะไดน้ าความรูไ้ ปวเิ คราะหแ์ ละลงรายการต่อไป การทจ่ี ะบนั ทกึ ขอ้ มลู ทางดา้ นบญั ชนี นั้ จาเป็นตอ้ งเรยี นรสู้ มการทางบญั ชกี ่อน จงึ จะสามารถบนั ทกึ ขอ้ มลู ตามหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไปได้ เพอ่ื ใหไ้ ด้ ขอ้ มลู ทน่ี ่าเช่อื ถอื ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2.ครแู นะนารปู แบบการเรยี นการสอน และแจง้ ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั ในสปั ดาหน์ ้ี ขนั้ สอน 3.ครแู ละผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี าอปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื ประกอบการอธบิ ายความหมายของสมการบญั ชี โดยสมการบญั ชี (Accounting Equation) หมายถงึ การแสดงถงึ ทรพั ยากรของกจิ การเชงิ เศรษฐกจิ ทอ่ี ยใู่ นการดแู ลและควบคมุ ของกจิ การและมสี ทิ ธใิ นการครอบครองทงั้ หมดทม่ี ี ในทรพั ยากรนนั้ ไมว่ ่าจะเป็นสนิ ทรพั ยห์ น้สี นิ และสว่ นของเขา้ ของ โดยสมการจะแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของตามแม่บทการบญั ชี สามารถเขยี นในรปู สมการไดด้ งั น้ี
26 ดงั นนั้ จะเหน็ ไดว้ า่ สนิ ทรพั ยจ์ ะอย่ดู า้ นซา้ ย ซง่ึ เท่ากบั หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของอย่ดู า้ นขวามอื จะตอ้ งมี ความเท่ากนั หากมผี ลกระทบกจ็ ะเป็นการกระทบไปทงั้ สองดา้ นดว้ ยกนั เชน่ กเู้ งนิ จากธนาคารมาลงทุน 500,000 บาท กจ็ ะทาใหห้ น้สี นิ เพมิ่ ขน้ึ และมสี นิ ทรพั ยท์ เ่ี ป็นเงนิ สดเพม่ิ ขน้ึ ดว้ ยสว่ นของเจา้ ของนนั้ ไม่กระทบ สนิ ทรพั ย์ = หน้สี นิ + สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) 500,000 = 500,000 + สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) 4.ครสู าธติ การเขยี นสมการบญั ชแี ละแสดงการคานวณสมการบญั ชี โดยการจาแนกสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ จะนาไปสกู่ ารคานวณหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ เพ่อื จดั ทาสมการบญั ชี ซง่ึ ผจู้ ดั ทาบญั ชจี ะเขยี นสมการบญั ชใี นรปู แบบใดกต็ าม ความสมดลุ ระหว่างสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของจะยงั คงอยตู่ ลอดไปตามหลกั การของแมบ่ ทการบญั ชี ซง่ึ สามารถเขยี นไดห้ ลายลกั ษณะดงั น้ี 1) การเขียนสมการบญั ชีกรณีไม่มีหนี้สิน สนิ ทรพั ย์ = สว่ นของเจา้ ของ A = OE เขยี นสมการบญั ชไี ดด้ งั น้ี การคานวณสมการบญั ชีกรณีไม่มีหนี้สิน การคานวณสมการบญั ชสี ามารถจะสบั เปลย่ี นทก่ี นั ได้ หรอื เขยี นใหมจ่ ากสมการเดมิ ได้ ซง่ึ มลี กั ษณะ เหมอื นกบั การคานวณสมการโดยทวั่ ไป ตวั อยา่ งที่ ต่อไปน้เี ป็นสนิ ทรพั ยข์ องรา้ นชา่ งทองบรกิ าร ซง่ึ มนี ายชา่ งทองเป็นเจา้ ของดงั น้ี หน่วย: บาท เงนิ สด 120,000 รถบรรทุก 300,000 เงนิ ฝากธนาคาร 240,000 ทด่ี นิ อาคารและอุปกรณ์ 550,000 ลกู หน้กี ารคา้ 45,000 แทนค่าสมการบญั ชีไดด้ งั น้ี สนิ ทรพั ย์ = สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) A = OE 1,255,000 = สว่ นของเจา้ ของ ดงั นนั้ สนิ ทรพั ยข์ องนายชา่ งทอง 1,255,000 มคี า่ เทา่ กบั สว่ นของเจา้ ของ สนิ ทรพั ย์ 1,255,000 บาท = สว่ นของเจา้ ของ 1,255,000 บาท 5.ผเู้ รยี นคานวณสมการบญั ชตี ามโจทยข์ องรา้ นปลกู แปลงบรกิ าร ซง่ึ มนี ายปลกู แปลงเป็นเจา้ ของดงั น้ี หน่วย: บาท เงนิ สด 18,000 รถบรรทกุ 200,000 เงนิ ฝากธนาคาร 140,000 ทด่ี นิ อาคารและอุปกรณ์ 400,000 ลกู หน้กี ารคา้ 40,000
27 6.ผเู้ รยี นสาธติ และแสดงการคานวณตามขอ้ 2) การเขียนสมการบญั ชีกรณีมีหนี้สิน เขยี นสมการบญั ชไี ดด้ งั น้ี สนิ ทรพั ย์ = หน้สี นิ + สว่ นของเจา้ ของ A = L + OE ตวั อยา่ งที่ ต่อไปน้เี ป็นสนิ ทรพั ยข์ องรา้ นอมุ้ บุญบรกิ าร ซง่ึ มนี ายอมุ้ บุญเป็นเจา้ ของดงั น้ี หน่วย: บาท เงนิ สด 120,000 ทด่ี นิ อาคาร และอุปกรณ์ 550,000 เงนิ ฝากธนาคาร 240,000 เจา้ หน้กี ารคา้ 300,000 ลกู หน้กี ารคา้ 45,000 เงนิ กจู้ านอง 50,000 รถบรรทุก 300,000 แทนคา่ สมการบญั ชีได้ดงั นี้ สนิ ทรพั ย์ = หน้สี นิ +สว่ นของเจา้ ของ A = L+OE 1,255,000 = 350,000+สว่ นของเจา้ ของ สว่ นของเจา้ ขอ ง = 1,255,000-350,000 ดงั นัน้ สว่ นของเจา้ ของ = 905,000 บาท 7.ผเู้ รยี นคานวณสมการบญั ชขี องรา้ นอมุ้ บุญบรกิ าร ซง่ึ มนี ายอมุ้ บุญเป็นเจา้ ของดงั น้ี หน่วย: บาท เงนิ สด 60,000 ทด่ี นิ อาคาร และอุปกรณ์ 500,000 เงนิ ฝากธนาคาร 80,000 เจา้ หน้กี ารคา้ 70,000 ลกู หน้กี ารคา้ 32,000 เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี 40,000 รถบรรทกุ 100,000 8.ครสู าธติ และแสดงการคานวณตามขอ้ 3) การเขยี นสมการบญั ชกี รณีสมการบญั ชเี ปลย่ี นทก่ี นั ได้ เขยี นสมการบญั ชไี ดด้ งั น้ี หน้สี นิ = สนิ ทรพั ย-์ สว่ นของเจา้ ของ L = A - OE ตวั อยา่ งที่ ใหใ้ ชข้ อ้ มลู จากตวั อยา่ งท่ี แทนคา่ สมการบญั ชีไดด้ งั นี้ หน้สี นิ = สนิ ทรพั ย์ - สว่ นของเจา้ ของ (ทุน) L = A - OE (P) 350,000 = 1,255,000-905,000 350,000 = 350,000 บาท 9.ผเู้ รยี นคานวณสมการบญั ชโี ดยใชส้ ตู รแทนคา่ สมการบญั ชดี งั น้ี หน้สี นิ = สนิ ทรพั ย์ - สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) L = A - OE (P)
28 10.ครสู าธติ และแสดงการคานวณตามขอ้ 4) การเขยี นสมการบญั ชกี รณขี องค่าสทุ ธขิ องกจิ การ (สนิ ทรพั ย์ สทุ ธ)ิ โดยหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองโดยทวั่ ไปทส่ี าคญั นนั้ เรยี กว่าสินทรพั ยส์ ุทธิ จะคานวณหาโดย นาสนิ ทรพั ยท์ งั้ หมดหกั หน้ีสนิ ทงั้ หมด เขยี นสมการบญั ชไี ดด้ งั น้ี สว่ นของเจา้ ของ = สนิ ทรพั ย-์ หน้สี นิ OE (P) = A-L ตวั อยา่ งที่ ใหใ้ ชข้ อ้ มลู จากตวั อยา่ งท่ี แทนคา่ สมการบญั ชไี ดด้ งั น้ี สว่ นของเจา้ ของ = สนิ ทรพั ย์ - หน้สี นิ OE = A - L 905,000 = 1,255,000 - 350,000 905,000 = 905,000 บาท 11.ผเู้ รยี นคานวณสมการบญั ชโี ดยใชส้ ตู รสมการบญั ชดี งั น้ี สว่ นของเจา้ ของ (OE) = สนิ ทรพั ย์ – หน้สี นิ (A-L) 12.ครสู าธติ การจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ โดยสมการบญั ชเี ป็นพน้ื ฐานเบอ้ื งตน้ ของการจดั ทางบแสดง ฐานะการเงนิ ตามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ท่ี 1 (ปรบั ปรุง 2555) เรอ่ื ง การนาเสนองบการเงนิ ซง่ึ เป็นฉบบั ปรบั ปรงุ ของคณะกรรมการมาตรฐานการบญั ชรี ะหวา่ งประเทศทส่ี น้ิ สดุ ในวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2554 (IAS 1: Presentation of Financial Statements (Bound volume 2012 Consolidated without early application)) ไดใ้ หค้ วามหมายงบแสดง ฐานะการเงิน (Statement of Financial Position) ว่า คอื รายงานทจ่ี ดั ทาขน้ึ เพอ่ื แสดงฐานะทางการเงนิ ของ กจิ การ ณ วนั ใดวนั หนง่ึ ซง่ึ รปู แบบของงบแสดงฐานะการเงนิ ตามประกาศกรมทะเบยี นการคา้ เร่อื งกาหนด รายการยอ่ ทต่ี อ้ งมใี นงบการเงนิ มรี ปู แบบเดยี วคอื รปู แบบรายงาน (Report From) แต่กย็ งั มกี ารจดั ทาแบบบญั ชอี ยใู่ น ประเทศไทย เน่อื งจากหลกั การบญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไปรบั แบบอย่างมาจากสมาคมผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตของ สหรฐั อเมรกิ า (AICPA) และจากประเทศองั กฤษ อกี ทงั้ เพ่อื เป็นการสอ่ื ความหมายใหเ้ ขา้ ใจงา่ ยยงิ่ ขน้ึ จงึ นาเอา แบบบญั ชมี าใชใ้ นการวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ 13.ครบู อกขนั้ ตอนการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ แบบบญั ชี มดี งั น้ี ขนั้ ที่ เขยี นหวั งบแสดงฐานะการเงนิ 3 บรรทดั บรรทดั ท่ี 1 เขยี นชอ่ื กจิ การ บรรทดั ท่ี 2 เขยี นคาว่า “งบแสดงฐานะการเงนิ ” บรรทดั ท่ี 3 เขยี นวนั เดอื น ปี ทจ่ี ดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ ขนั้ ท่ี ดา้ นซา้ ยมอื ใหเ้ ขยี นรายละเอยี ดของสนิ ทรพั ย์ แสดงรายการต่างๆ ของสนิ ทรพั ยท์ ม่ี อี ยู่ ขนั้ ท่ี ทางดา้ นขวามอื ใหเ้ ขยี นรายละเอยี ดของหน้ีสนิ และสว่ นของเจา้ ของทก่ี จิ การมอี ยู่ ขนั้ ท่ี รวมยอดทงั้ 2 ดา้ นใหเ้ ท่ากนั และอยใู่ นระดบั เดยี วกนั
29 ชื่อกิจการ.................. งบแสดงฐานะการเงิน วนั ท่ี............................ สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจ้าของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน XX - เงนิ สด ลกู หน้ีการคา้ XX - เจา้ หน้าการคา้ XX +- สินทรพั ยไ์ ม่หมนุ เวียน XX - หนี้สินไมห่ มนุ เวียน เครอ่ื งตกแต่ง อุปกรณ์ + เงนิ กรู้ ะยะยาว XX - ส่วนของเจ้าของ XX - ทนุ ................. XX - XX - Business’s name………………… Statements of the financial position Date............................... Assets Bath St. Liabilities + Owner's Equity Bath St. Current Assets Current liabilities Cash XX +-- Payable XX - + Receivable XX ฯลฯ XX - Total current assets XX - Total current liabilities XX - Non-Current Assets Non-Current liabilities Decoration XX +-- Loan 5 years XX - + Equipment XX ฯลฯ XX - Total non-current assets XX - Total non-current liabilities XX - Total liabilities + = XX - Owner's Equity Capital................. XX - + ฯลฯ XX - Total owner's equity XX - Total assets + XX - Total liabilities+ owner's equity XX - 14.ครอู ธบิ ายการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ แบบรายงาน (Report Form) จะใชแ้ บบฟอรม์ ของกรมพฒั นา ธรุ กจิ การคา้ เรอ่ื งกาหนดรายการยอ่ ทต่ี อ้ งมใี นงบการเงนิ ซง่ึ เป็นรปู แบบทต่ี อ้ งนาเสนออยา่ งเป็นทางการ 15.ครบู อกขนั้ ตอนการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ แบบรายงาน มดี งั น้ี ขนั้ ที่ เขยี นหวั งบแสดงฐานะการเงนิ 3 บรรทดั บรรทดั ท่ี 1 เขยี นช่อื กจิ การ บรรทดั ท่ี 2 เขยี นคาวา่ “งบแสดงฐานะการเงนิ ” บรรทดั ท่ี 3 เขยี นวนั เดอื น ปี ทจ่ี ดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ
30 ขนั้ ที่ เขยี นคาว่า “สนิ ทรพั ย์” ไว้ตรงกลางกระดาษตอนบน เขยี นหัวข้อสนิ ทรพั ย์หมุนเวยี นและ สนิ ทรพั ยไ์ ม่หมุนเวยี นพรอ้ มรายละเอยี ดต่างๆ ของสนิ ทรพั ยท์ ก่ี จิ การมอี ยแู่ ลว้ รวมยอดทงั้ หมดของสนิ ทรพั ย์ ขนั้ ที่ เขยี นคาว่า “หน้ีสนิ และส่วนของเจา้ ของ” ไว้ตรงกลางกระดาษต่อจากสนิ ทรพั ย์ให้แสดง รายการทเ่ี ป็นหน้ีสนิ หมุนเวยี นและหน้ีสนิ ไม่หมุนเวยี นก่อนและตามดว้ ยรายการทเ่ี ป็นสว่ นของเจา้ ของ แลว้ รวม ยอดทงั้ หมดของหน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของซง่ึ จะมยี อดเท่ากบั สนิ ทรพั ย์ ช่ือกิจการ................... งบแสดงฐานะการเงิน วนั ที่........................... สินทรพั ย์ สินทรพั ยห์ มนุ เวียน เงนิ สด XX + เงนิ ฝากธนาคาร XX รวมสนิ ทรพั ยห์ มุนเวยี น XX สินทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี น ทด่ี นิ อาคารและอปุ กรณ์ XX + รถยนต์ XX รวมสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวยี น XX รวมสินทรพั ย์ XX หนี้สินและส่วนของเจ้าของ หนี้สินหมนุ เวียน เจา้ หน้ี XX + เงนิ เบกิ เกนิ บญั ชี XX รวมหน้สี นิ หมนุ เวยี น XX หนี้สินไมห่ มุนเวียน XX + เงนิ กรู้ ะยะเวลา 5 ปี รวมหน้สี นิ ไมห่ มุนเวยี น XX รวมหนี้สิน XX ส่วนของเจา้ ของ + ทุน............... XX รวมหนี้สินและสว่ นของเจา้ ของ XX
31 Report form will use the format of the notification of the Department of Business Development.(แบบรายงานจะใชต้ ามแบบกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ) Business’s name………………… Statements of the financial position Date............................... Assets Unit: bath Current Assets Cash XX Deposits XX Total Current Assets XX Non-Current Assets Property, Plant and Equipment-net XX Vehicle XX Total non-current Assets XX Total Assets XX Liabilities + Owner's Equity Current liabilities Payable XX Bank overdrafts XX Total current liabilities XX Non-current liabilities Long-term loans XX ฯลฯ XX Total non-current liabilities XX Total liabilities XX Owner's Equity Capital..................... XX ฯลฯ XX Total liabilities + owner's equity XX งบแสดงฐานะแบบรายงานสาหรบั กจิ การเจา้ ของคนเดยี วประเภทธุรกจิ บรกิ ารน้ี จะนาไปศกึ ษา รายละเอยี ดในเร่อื งงบการเงนิ อกี ครงั้ หน่งึ
32 ตวั อยา่ งท่ี ต่อไปน้เี ป็นรายการสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ ของรา้ นปรงุ แต่งบรกิ าร ซง่ึ นายปรงุ เป็นเจา้ ของ ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 มเี งนิ สด 20,000 บาท เงนิ ฝากธนาคาร 50,000 บาท ทด่ี นิ อาคาร และอุปกรณ์ 260,000 บาท รถยนต์ 300,000 บาท และเจา้ หน้ีการคา้ 80,000บาท ให้ทา 1.แทนคา่ ในสมการบญั ชี 2.งบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 สนิ ทรพั ย์ = หน้สี นิ + สว่ นของเจา้ ของ สว่ นของเจา้ ของ = 20,000+50,000+260,000+300,000 - 80,000 แทนคา่ ในสมการบญั ชี = 630,000-80,000 = 550,000 บาท = (L+OE) 80,000+ 550,000 บาท (A) 630,000 630,000 = 630,000 รา้ นปรงุ แต่งบริการ งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 สินทรพั ย์ บาท สต. หนี้สินและส่วนของเจ้าของ บาท สต. สินทรพั ยห์ มนุ เวียน หนี้สินหมนุ เวียน เงนิ สด 20,000 - เจา้ หน้กี ารคา้ 80,000 - เงนิ ฝากธนาคาร 80,000 - 50,000 - รวมหน้สี นิ หมนุ เวยี น รวมสนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น 550,000 - สินทรพั ยไ์ ม่หมนุ เวียน 70,000 - ส่วนของเจ้าของ ทนุ -นายปรุง ทด่ี นิ อาคารและอุปกรณ์ 260,000 - ยานพาหนะ 300,000 - รวมสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวยี น 560,000 - 630,000 - 630,000 -
33 รา้ นปรงุ แต่งบริการ งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 สินทรพั ย์ (หน่วย: บาท) สินทรพั ยห์ มนุ เวยี น เงนิ สด 20,000 เงนิ ฝากธนาคาร 50,000 รวมสนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น 70,000 สินทรพั ยไ์ ม่หมนุ เวียน อาคาร ทด่ี นิ และอุปกรณ์ 260,000 ยานพาหนะ 300,000 รวมสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี น 560,000 รวมสินทรพั ย์ 630,000 หนี้สินและส่วนของเจ้าของ หนี้สินหมุนเวียน เจา้ หน้ีการคา้ 80,000 ส่วนของเจา้ ของ ทนุ -นายปรุง 550,000 รวมหนี้สินและส่วนของเจา้ ของ 630,000 16.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั แิ ทนคา่ ในสมการบญั ชี และจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ ตามโจทยด์ งั นี รายการสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ ของรา้ นซกั รดี ไหมไทยบรกิ ารซง่ึ นางไหมเป็นเจา้ ของมดี งั น้ี ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 มเี งนิ สด 60,000 บาท เงนิ ฝากธนาคาร 80,000 บาท ทด่ี นิ อาคาร และอปุ กรณ์ 60,000 บาท รถยนต์ 400,000 บาท และเจา้ หน้ีการคา้ 120,000 บาท 17.ครแู นะนาผเู้ รยี นใหน้ าวถิ ชี วี ติ ทพ่ี อเพยี งไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เพ่อื ทจ่ี ะช่วยใหร้ จู้ กั พฒั นาทกั ษะ ความรู้ และความสามารถรวมทงั้ สตปิ ญั ญาเพ่อื แกป้ ญั หาการดาเนนิ ชวี ติ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผเู้ รยี นวชิ าน้นี อกจากจะไดค้ วามรู้ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 18.สมุ่ ผเู้ รยี นใหว้ เิ คราะหร์ ายการคา้ และแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงนิ โดยประยกุ ตใ์ ชเ้ น้อื หาท่ี ศกึ ษามาครแู ละผเู้ รยี นสรปุ เน้อื หาการเรยี นการสอนร่วมกนั ครเู ป็นทป่ี รกึ ษา แนะนาการเรยี นการสอนในชนั้ เรยี น 19.ผเู้ รยี นสรปุ สนิ ทรพั ย์ หมายถงึ ทรพั ยากรทอ่ี ยใู่ นความควบคมุ ของกจิ การ อาจมตี วั ตน หรอื ไม่มี ตวั ตนกไ็ ด้ ทส่ี ามารถตรี าคามลู ค่าเป็นเงนิ ได้ ซง่ึ กจิ การคาดว่าจะไดร้ บั ประโยชน์เชงิ เศรษฐกจิ ในอนาคต 20.ผเู้ รยี นสรุปหน้สี นิ หมายถงึ ภาระผกู พนั ในปจั จุบนั ของกจิ การทต่ี อ้ งจ่ายชาระคนื แก่บุคคลภายนอก ในอนาคต
34 21.ผเู้ รยี นสรปุ สว่ นของเจา้ ของ หมายถงึ สว่ นไดเ้ สยี คงเหลอื ในสนิ ทรพั ยข์ องกจิ การ หลงั จากหกั หน้ีสนิ ทงั้ สน้ิ ออกแลว้ เรยี กว่าสนิ ทรพั ยส์ ทุ ธิ (สนิ ทรพั ย์ – หน้สี นิ ) 22.ผเู้ รยี นสรปุ สมการบญั ชี หมายถงึ สมการทแ่ี สดงความสมั พนั ธร์ ะหว่างสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของ เจา้ ของ จะแสดงความสมดุลกนั อยเู่ สมอ 23.ผูเ้ รยี นสรุปงบแสดงฐานะการเงนิ คอื รายงานทจ่ี ดั ทาขน้ึ เพ่อื แสดงฐานะทางการเงนิ ของกจิ การ ณ วนั ใดวนั หน่งึ 24.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ติ ามใบงาน และซกั ถามขอ้ สงสยั พรอ้ มทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และนาผลงานทุก ชน้ิ สง่ ครผู สู้ อน 25.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลหลงั เรยี น ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าการบญั ชเี บอ้ื งตน้ (20200-1002) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. มาตรฐานการบญั ช,ี ใบความรู้ 3. คน้ ควา้ ขอ้ มลู สภาวชิ าชพี บญั ชที างอนิ เทอรเ์ นต็ 4. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของสถานศกึ ษา 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ
35 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อน/หลงั เรยี น 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี นมเี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรผู้ ่าน 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จา่ ย 3. ฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเพมิ่ เตมิ
36 การบรู ณาการ 1) กล่มุ วชิ าภาษาไทย ไดแ้ ก่ ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการอ่าน ทกั ษะการเขยี นและทกั ษะการพดู 2) ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3) คุณธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรม กล่มุ วิชาภาษาไทย 4) หน้าทพ่ี ลเมอื งดี 5) อน่ื ๆ กล่มุ วิชาคณิตศาตร์ กล่มุ วิชาวิทยาศาสตร์ สมการบญั ชี การบรู ณาการ กล่มุ วิชากฏหมาย ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ ท่ีพลเมือง กล่มุ วิชาการขายและคอมพิวเตอร์ กล่มุ วิชาภาษาองั กฤษ
37 คาชี้แจง : ใหบ้ นั ทกึ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย ตามความเป็นจรงิ 1. จากการลงบนั ทกึ มเี งนิ เหลอื เกบ็ หรอื ไม่……………เพราะเหตใุ ด………………..………….……… 2. จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ มรี ายจา่ ยมากกว่ารายรบั ………………………..…………….………………….…
38 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์ แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลาในการทางาน ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา
39 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์ 4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทางตรงและทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละแบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็น ประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระ ราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยาย กจิ การเมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อานาจฝา่ ยต่า หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและตอ่ ชาตมิ ากกว่า ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรุง 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237