Lyndall Urwick ได้ให้ความหมายขององค์การในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน โดยกล่าวว่าองค์การ คือ การกาหนดกิจกรรมต่างๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย แล้วจาแนกแบ่ง กจิ กรรมหรืองานน้ันๆ ให้บคุ คลในกลุ่มดาเนินการ Chester I Barnard องคก์ ารคือระบบทีบ่ ุคคลสองคนหรือมากกวา่ น้ัน ร่วมแรงร่วมใจกันทางานอย่างมจี ิตสานึก Frank Sherwood องคก์ ารว่าเปน็ วิธีการทีบ่ ุคคลจานวนมากร่วมแรงร่วม ใจกนั ทางานทีม่ คี วามซบั ซ้อนอย่างมีระบบเพื่อให้งาน สาเรจ็ ตามเป้าหมายทีก่ าหนดรว่ มกนั
ลกั ษณะสาคัญขององคก์ าร • จดุ มุ่งหมายที่เดน่ ชดั • บุคคลหรือสมาชิกในองค์การ ประกอบด้วยบุคคลตั้งแต่สองคน ขึ้นไป • ลกั ษณะการปฏิสัมพนั ธ์เปน็ การทางานร่วมกันของคนในองค์การ ตามที่ระบุไว้ในโครงสร้าง • การปฏิสัมพันธ์กันในส่วนต่างๆจะนาไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ หรือจดุ มุ่งหมายในการก่อต้ังองค์การ นาไปสู่ผลผลิตขององค์การ ในทีส่ ุด • โครงสร้างที่เหมาะสม มีความชัดเจน รัดกุม ยืดหยุ่นได้ โครงสร้างองค์การอาจประกอบด้วย • องค์การแบบดง้ั เดมิ มงุ่ ทก่ี ฎเกณฑ์ ข้อกาหนด และตาแหน่ง งานซึ่งอานาจตัดสินใจอยทู่ ี่ผู้บงั คับบัญชา • องค์การแบบใหม่ พัฒนามาจากแบบด้ังเดิมโดยมีความ ยืดหยุ่นและปรับเปล่ียนได้ มุ่งความสาคัญที่ทีมงาน ข้อกาหนด รายละเอียดของงาน และทักษะ อานาจการ ตัดสินใจอยู่ที่ทีมงานซึ่งมีความสัมพันธ์แบบแนวนอนและ แบบเครือข่าย
ระดับของการบริหาร • คือกลมุ่ ของบคุ คลหลายๆ คนมาทากิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประกอบด้วยผู้บริหาร และ พนักงาน • โดยทั่วไปองค์กรจะแบ่งฝ่ายบริหารออกเป็น 3 ระดบั 1. ผู้บริหารระดับสูง (Top Management Level) โดยเน้นการกาหนดนโยบายและการวางแผนระยะ ยาว 2. ผู้บริห าร ระ ดับกล า ง (Middle Management Level) รับนโยบายจากผู้บริหารระดับสูงไปปฏิบัติ รบั ผิดชอบงานเฉพาะในฝ่ายของตน 3. ผู้บริหารระดับต้นหรือระดับปฏิบัติงาน (Low Management Level) มี ห น้ า ที่ ค ว บ คุ ม ดู แ ล รับผิดชอบการปฏิบัติงานของคนงาน ซึ่งจะต้อง ติดต่อกับคนงานสม่าเสมอเพื่อให้การปฏิบัติงาน นั้นลลุ ่วงไปดว้ ยดี
องค์ประกอบพื้นฐาน ขององค์การ
หน้าทีข่ องการจัดการ 1. กาหนดเปา้ หมายและทศิ ทางขององคก์ ร อย่างแรกคือการตั้งเป้าหมาย เมื่อมีการจัดการผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือสมาชิกในบริษัท จาเป็นต้องมีผจู้ ัดการเพื่อแสดงถึงเป้าหมายที่องค์กรจะตดั สินใจ หลังจากต้ังเป้าหมายให้เริ่มคิดว่าควรทา อย่างไรและตัดสินใจทาอะไรบ้าง การกาหนดเป้าหมายต้องมีความชัดเจน เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าใจ เหตุผลในการดาเนินการเหล่านั้นได้ 2. แจกแจงหนา้ ทีส่ าหรบั สมาชิกแต่ละคน องค์กรต้องมีความเข้าใจเก่ียวกับทักษะของพนักงานแต่ละคน เพื่อจะได้จาแนกหน้าที่ให้ตรง กบั ความสามารถและเหมาะสมกบั พนกั งานคนนั้นๆ ตลอดจนมคี วามเหมาะสมกบั งานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 3. สร้างแรงจูงใจ สมาชิกอาจจะไม่สามารถปฏิบตั ิงานได้อย่างเต็มที่หากแค่มอบหมายงานให้กับพวกเขา องค์กร จาเป็นต้องมีการสร้างแรงจูงใจโดยชี้ให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของการทางาน ซึ่งหมายถึงการแสดงความ ชัดเจนเก่ียวกับการให้รางวัลหรือการเลื่อนตาแหน่งด้วยการปฏิบัติเช่นนี้จะทาให้องค์กรและพนักงานมี ความต้องการไปในทิศทางเดียวกนั พนกั งานจะสามารถแสดงประสิทธิภาพในการทางานได้สงู สุด
หน้าที่ของการจัดการ 4. การประเมินประสิทธิภาพการทางานของผูท้ ีอ่ ยู่ใตบ้ ังคับบญั ชา การประเมินผลเปน็ ปจั จัยสาคัญในการสร้างแรงจงู ใจใหพ้ นักงานและเปน็ แรงกระตุ้นอนั สาคัญในการบรรลุเป้าหมาย โดยการทาเช่นนั้น ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาจะรู้ว่าพวกเขาจะต้อง แสดงผลลัพธ์ออกมามากน้อยเพียงใด ซึง่ หมายความว่าคุณสามารถคาดหวังได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ ดีขึ้น การประเมินผลเป็นกิจกรรมที่สาคัญมากสาหรับองค์กรและพนักงานเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้จัดการต้องทาให้แน่ใจว่าพนักงานได้ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างผลลัพธ์ของท้ังองค์กร และการทางานของพนกั งานเอง 5. การจัดการฝึกอบรมและการจัดการที่เหมาะสมสาหรบั ผทู้ ีอ่ ยูใ่ ตบ้ ังคบั บญั ชา “ มนุษย์” เป็นทรัพยากรที่มีความสาคัญในองค์กร ดังน้ันผู้จัดการจะต้องมีการจัดการ สมาชิกหรือพนกั งานขององค์กรอย่างถกู ตอ้ งและใช้ความสามารถของพนักงานให้ดีทีส่ ุด
ประเดน็ ที่เป็นสาระสาคญั • จะต้องมีวัตถุประสงค์ (Objective) คือ เป้าหมายในการดาเนินงานที่ ผู้บริหารต้องดาเนินการให้ประสบความสาเร็จ • จะต้องมีประสิทธิภาพ (Effectiveness) คือ ความสาเร็จของผลงาน ตามทีค่ าดหมายไว้ • จะต้องมีทรัพยากร (Resource) คือ ปัจจัยต่างๆ ของการบริหาร ที่ ผู้บริหารเกี่ยวข้องด้วยโดยตรง ซึ่งแต่เดิมโดยท่ัวไป ประกอบด้วย คน (Man) เงิน (Money) วัสดุ (Material) และการจัดการ (Management) หรือที่เรียกโดยย่อว่า 4M’s แต่ในปัจจุบัน สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทาง สังคมและเทคโนโลยีเปล่ียนแปลงไป ทรัพยากรดังกล่าวจึงจาเป็นต้อง เปล่ียนแปลงไปด้วย ทรัพยากรที่เป็นส่วนประกอบในการบริหาร ประกอบด้วย ทรัพยากรคน (Human Resource) ทรัพยากรที่เป็นวัสดุ และอุปกรณ์ (Physical Resource) และทรัพยากรทางด้านเงินทุน (Financial Resource) แ ล ะ ท รั พ ย า ก ร ท า ง ด้ า น ข่ า ว ส า ร ข้ อ มู ล (Information Resource) • มี ก า ร ป ร ะ ส ม ป ร ะ ส า น กั น (Integration and Coordination) คื อ กระบวนการในการดาเนินงานที่ทาให้กิจกรรมต่างๆ สอดคล้อง ต่อเนื่องกนั
•แนวคิด POSDCoRB ของ Lyndall Urwick & Luther Gulick
แนวคิด POSDCoRB ➢ P – Planning : การวางแผน ตลอดจนการจัดวาง โครงสร้างของการทางาน รวมไปถึงการวางแผนการล่วงหน้าเพ่ือ เตรียมการ ไปจนถงึ การวางแผนทางานร่วมกนั ของฝ่ายต่างๆ ➢ O – Organizing : การจัดองค์กร ต้ังแต่การกาหนด โครงสร้าง ตาแหน่ง อานาจหน้าท่ี ความรับผิดชอบ ตลอดจนการ กาหนดส่งงาน แบ่งงานทาอย่างเป็นระบบระเบียบ เช่น การแบ่งงาน (Division of Work) เป็นกรม กอง หรือแผนก โดยอาศัยปริมาณงาน คุณภาพงาน หรือจัดตามลักษณะเฉพาะของงาน (Specialization) ➢ S – Staffing : การจัดการเกี่ยวกับบุคลากรใน องค์กร การจัดบุคลากรปฏิบัติงาน เป็นเร่ืองท่ีเกี่ยวกับการบริหาร ทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร ท้ังน้ีเพ่ือให้บุคลากรมาปฏิบัติงานอย่างมี ประสทิ ธภิ าพและสอดคล้องกับการจัด แบ่งหน่วยงานท่ีกาหนดไว้ตั้งแต่ การจัดอัตรากาลงั การสรรหา การจดั ตาแหนง่ การพฒั นา เป็นต้น
แนวคิด POSDCoRB ➢ D – Directing : การอานวยการ ต้ังแต่หน้าที่ในการ ตัดสินใจ วินิจฉัย ส่ังการ ออกคาส่ัง ไปจนถึงการมอบหมาย ภารกิจใหผ้ ู้ใต้บงั คับบญั ชา ตลอดจนภาวะผู้นา ➢ Co – Co-ordinating : การประสานงาน ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ให้การทางานบรรลุเป้าหมายด้วยดี รวมไปถึงการประสานงานในแต่ละส่วนให้สอดคล้องกันด้วย เพือ่ ใหก้ ารทางานสาเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพสูงสดุ ➢ R – Reporting : การรายงานการปฏิบัติงาน ต้ังแต่งานส่วนบุคคลไปจนถึงองค์กร เพื่อให้รู้ถึงการทางาน ของฝ่ายต่างๆ และควบคุมให้ดาเนินไปตามแผนงานที่ได้ กาหนดไว้ และสามารถตรวจสอบตลอดจนประเมินผลได้ ➢ B – Budgeting : การบริหารงบประมาณ ตั้งแต่ การประเมินงบประมาณ การจัดทาบัญชี การตรวจสอบด้าน การเงนิ ไปจนถึงการนางบประมาณมาใชอ้ ย่างคุ้มค่าทส่ี ดุ
• แนวคดิ ของ Max Weber (แม็กซ์ เวเบอร์) • ผู้ท่ีได้รับการยกย่องว่าเป็นเจ้าตารับระบบราชการ (Bureaucracy)โดยเขาได้ทาการศึกษาระบบโครงสร้าง ขององค์กรขนาดใหญ่มากมายในยุคน้ัน แล้วนาเสนอ การจัดการองค์กรขนาดใหญ่ขึ้นมาในปี ค.ศ.1911 โดย มีการกาหนดโครงสร้างตลอดจนการบริหารงานที่ ชดั เจน โดยมอี งค์ประกอบ 7 ประการ ดงั น้ี
• แนวคิดของ Max Weber (แมก็ ซ์ เวเบอร์) • ทฤษฎีระบบราชการ (Bureaucratic Theory) • ผู้ ที่ ไ ด้ รั บ ก า ร ย ก ย่ อ ง ว่ า เ ป็ น เ จ้ า ต า รั บ ร ะ บ บ ร า ช ก า ร (Bureaucracy) โดยเขาได้ทาการศึกษาระบบโครงสร้างของ องค์กรขนาดใหญ่มากมายในยุคน้ัน แล้วนาเสนอการจัดการ องค์กรขนาดใหญ่ขึ้นมาในปี ค.ศ.1911 โดยมีการกาหนด โครงสร้างตลอดจนการบริหารงานที่ชัดเจน โดยมีองค์ประกอบ 7 ประการ ดังนี้ ➢ หลักลาดับขัน้ (hierarchy) ➢ หลกั ความสานึกแหง่ ความรับผิดชอบ (responsibility) ➢ หลักแหง่ ความสมเหตสุ มผล (rationality) ➢ หลกั การม่งุ สผู่ ลสาเรจ็ (achievement orientation) ➢ หลักการทาให้เกิดความแตกต่างหรือการมีความ ชานาญเฉพาะดา้ น (Specialization) ➢ หลกั ระเบียบวนิ ัย (discipline) ➢ หลกั ความเป็นวชิ าชีพ (Professionalization)
การ กาหนด ทิศทาง องค์การ
การ กาหนด ทิศทาง องค์การ
การ กาหนด ทิศทาง องค์การ
การ กาหนด ทิศทาง องค์การ
การกาหนดทิศทาง (Direction Setting) ➢ การกาหนดทิศทางขององค์การจะประกอบด้วย การกาหนดวิสัยทัศน์ (Vision) การกาหนดพันธกิจ/ภารกิจ (Mission) และ เป้าหมาย (Goal) เพื่อเป็นกรอบในการดาเนินงานที่ชัดเจนจะช่วยให้องค์การสามารถ กาหนดทิศทางในระยะยาว อีกทั้งยังแสดงถึงความต้ังใจในการ ดาเนินงาน ➢ วิสัยทัศน์หมายถึงการตั้งเป้าหมายระยะยาวขององค์การ โดยให้ ความสาคัญกับการใช้เครื่องมือในการกาหนดทิศทางขององค์การ ทาให้องค์การมีจุดมุ่งหมายในการดาเนินงานทีช่ ดั เจน ส่วนใหญ่การ ตั้งวิสยั ทัศน์จะเป็นการตง้ั เปา้ หมายขององค์การให้เป็นไปในทิศทาง ที่มุ่งให้องค์การเติบโตหรือมีความยั่งยืนในระยะยาว การตั้ง วิสัยทัศน์ยังรวมไปถึง การกาหนดทิศทางให้กับองค์การอย่าง ชดั เจน มีจุดมงุ่ หมายที่ชัดเจนว่าจะดาเนินงานไปเพื่ออะไร ทาให้คน ภายในองค์การซึ่งได้แก่ พนักงาน รู้ว่าควรทาอะไร หรือองค์การ ต้องการอะไร อีกทั้งยังเป็นการส่ือสารให้คนภายนอกองค์การได้ รบั รู้ถงึ ทิศทางขององคก์ าร
การกาหนดทิศทางที่ดี ประกอบด้วย 3 ส่วน วิสยั ทัศน์ 01 02 ขอ้ ความทีอ่ งคก์ ารบอกกบั ตวั เองและผ้อู ่านใหท้ ราบว่า 03 องค์การต้องการจะเปน็ อะไรในอนาคต พนั ธกิจ ข้อความของบริษทั ทีพ่ ยายามกาหนดวา่ จะทาอะไรใน ปัจจุบนั และอนาคต เปา้ หมาย คือ ความมงุ่ หวังขององคก์ าร เป็นสว่ นที่แสดงความตอ้ งการ วา่ องค์การจะเป็นเชน่ ไรในอนาคต
วสิ ัยทศั น์ (Vision) พนั ธกจิ / ภารกิจ (Mission) เปา้ หมาย (Goal) ➢ คาจากัดความของข้อความวิสัยทัศน์ ➢ ในกระบวนการบริหารจดั การเชิงกลยุทธ์ ➢ คื อ ก า ร บ อ ก ถึ ง สิ่ ง ที่ อ ง ค์ ก า ร เปน็ การแสดงใหท้ ุกๆ คน ไม่ว่าจะภายใน นั้น ขั้นแรกองค์การจะต้องระบุภารกิจ ปรารถนาให้เกิดขึ้นในอนาคต และ อ ง ค์ ก า ร ห รื อ ภ า ย น อ ก อ ง ค์ ก า ร ไ ด้ และเป้าหมายหลักที่สาคัญของบริษัท พยามบรรลุ โดยมีการกาหนดให้ มองเห็นภาพรวมขององค์การและความ ซึ่งภา รกิ จ หม ายถึง ประกาศหรือ ชัดเจน กระชับ ตรงจุด และ ฝันที่จะไปให้ถึงในอนาคต จะต้อง ข้อความของบริษัทที่พยายามกาหนดว่า สามารถวัดได้ ทั้งนี้การกาหนด ชัดเจนและแสดงให้เห็นถึงจินตนาการที่ จะทาอะไรในปัจจุบัน และกาลังจะทา เป้าหมายจะมีการกาหนดให้ชัดเจน น่าดึงดูดใจโดยเป็นการเสนอแนวทาง อะไรในอนาคตและองค์การเป็นองค์การ ขึ้นกว่าการกาหนดภารกิจว่าจะต้อง ใหม่ในการปรับปรุงองค์การให้ได้รับการ แบบใด และจะกา้ วไปสูก่ ารเปน็ องค์การ ท า สิ่ ง ใ ด เ ช่ น ต้ อ ง ก า ร เ พิ่ ม ยอมรบั และเปน็ การวาดขึ้นจากกิจกรรม แบบใดท้ังนี้เพื่อบรรลุสู่ความเป็นเลิศ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง บุ ค ล า ก ร ด้ังเดิมขององค์การและรวมถึงความ เหนือคู่แข่ง ซึ่งจะประกอบไปด้วย ต้องการเพิ่มความพึงพอใจแก่ผู้รับผู้ เกี่ยวพันกบั การดาเนินการต่างๆ ที่จะทา ข้อความที่บ่งบอกถึงคุณค่าทางปรัชญา บรกิ าร ใ ห้ บุ ค ล า ก ร มี ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ก า ร สาคัญที่ผู้บริหารตัดสินใจกระทา แสดง เปลี่ยนแปลง ถึงพันธะของบริษัทที่มีต่อเป้าหมายและ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ คุ ณ ค่ า ข อ ง ผู้ บ ริ ห า ร น อ ก จ า ก นี้ แ ล้ ว ภ า ร กิ จ ยั ง จ ะ ส ร้ า ง สภาพแวดล้อมในการกาหนดกลยุทธ์อีก ด้วย
ตวั อย่าง “สถาบนั พัฒนา วิชาการประปา”
ตวั อยา่ ง “สถาบันวิจยั ดาราศาสตร์ แหง่ ชาติ (องค์การ มหาชน)”
กลยุทธ์ด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ คา่ นิยมรว่ ม
กลยทุ ธด์ ้านวิสยั ทัศน์ (Vision)
➢ วิสัยทัศน์ คือการต้ังเป้าหมายระยะยาวขององค์กร โดยให้ความสาคัญเพื่อใช้เป็นการกาหนดทิศทางของ องค์กร ให้มีจุดมุ่งหมายในการดาเนินงานที่ชัดเจน เปน็ เป้าหมายระยะยาวขององคก์ รที่มกี รอบระยะเวลา ประมาณ 5 ถึง 10 ปี เนื่องจากเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ แ ล ะ ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ส า เ ร็ จ จ า ก ห ล า ย ส่ ว น เ พื่ อ ใ ห้ เป้าหมายในภาพนั้นเกิดขึ้นได้จริง เป็นการมุ่งให้ องคก์ รเติบโตหรือมคี วามยง่ั ยืนในระยะยาว ➢ เป้าหมายระยะยาวขององค์กรยังรวมไปถึงการ กาหนดทิศทางให้กบั องค์กรอยา่ งชดั เจน ทาให้องค์กร มจี ดุ หมายทีช่ ดั เจนว่าดาเนินงานไปเพื่ออะไร ทาให้คน ภายในองค์กรรู้ว่า ควรทาอะไร องค์กรต้องการอะไร รวมถึงเป็นการสื่อสารให้บุคคลภายนอกองค์กรได้รับ รู้วา่ องค์กรทาอะไร หรือมที ิศทางไปในทางไหน
วสิ ัยทัศน์องคก์ รที่ดีประกอบดว้ ย 3 ส่วน ➢ Product : ในท่ีนี้คือสิ่งท่ีองค์กรนาเสนอ สินค้าหรือบริการขององค์กร ➢ Market : คือตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายท่ี นาเสนอสินคา้ หรือบรกิ ารขององคก์ ร ➢ ความมุ่งหวังขององค์กร : คือส่วนท่ีแสดง ความต้องการท่ีองค์กรต้องการจะเป็นใน อนาคต
เทคนคิ การเขยี นวิสยั ทศั น์ ➢ ในการสร้างวิสัยทัศน์รวมกันสิ่งที่ควรต้องคานึงถึง คือ วิสัยทัศน์ต้องมี ความสมั พนั ธ์จากผลที่ได้จากการวิเคราะห์ SWOT และ กลยุทธ์เบื้องต้น โดยต้องสั้น ง่าย และได้ใจความ มีระยะเวลากากับ โดยต้องมีความ เป็นไปได้ เป็นการดึงดูดและท้าทาย เพื่อสร้างแรงผลักดันในการมุ่งสู่ เป้าหมายที่สาเร็จขององค์การ จาเป็นต้องอธิบายว่าหมายความว่า อย่างไร และคาดหวังว่าหากองค์การบรรลุวิสัยทัศน์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ตามมา ➢ เช่น ถ้าบอกว่า วิสัยทัศน์ของกลุ่มภารกิจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของ กระทรวงยุติธรรมคือ “มุ่งม่ันสู่ระบบการพัฒนาพฤตินิสัยตาม มาตรฐานสากล เพื่อคืนคนดีสู่สังคม” เพราะฉะนั้น สิ่งที่คาดหวังว่าจะ เ กิ ด ข้ึ น คื อ ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ พั ฒ น า พ ฤ ติ นิ สั ย จ ะ เ ป็ น ไ ป ต า ม มาตรฐานสากล ทีจ่ ะช่วยแกไ้ ขพฤติกรรมผตู้ ้องขังและ/หรือ ผู้ถูกควบคุม ความประพฤติ และ/หรือ ผู้อยู่ในความดูแลของกระทรวงให้กลายเป็น คนดีกลับคืนสู่สงั คม อย่างปกติสขุ และไม่กระทาผิดซ้าอีกในอนาคตเป็น ต้น
ตวั อย่างวิสยั ทศั น์ บางกอกแอร์ “สรา้ งสรรคค์ วามเป็นเลิศ เพือ่ เปน็ สายการบินทีด่ ี ที่สุดของเอเชีย”
ตวั อย่าง วิสัยทศั น์ “ธนาคารทีน่ ่าชื่นชมที่สุด” (The most atmired bank)
ตัวอย่าง วิสัยทัศน์ ปปง. “องค์กรทีเ่ ปน็ มาตรฐาน ไดร้ บั การยอมรับใน ระดับสากล”
ตัวอย่างวสิ ัยทศั นน์ “กฟภ. เปน็ องคก์ รช้นั นาที่ทนั สมัยในระดับ การไฟฟ้าส่ วน ภมู ิภาค มุง่ มน่ั ให้บริการพลงั งานไฟฟา้ และ ภูมภิ าค (PEA) ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ เชือ่ ถือได้ เพือ่ พัฒนาคณุ ภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคม อย่างยงั่ ยืน”
ตวั อย่าง “กองทนุ เงินให้ ก้ยู ืมเพือ่ การศึกษา”
กลยทุ ธด์ ้านพันธกิจ (Mission)
กลยทุ ธ์ด้านพันธกิจ ➢ พันธกิจ (Mission) คือ ความมุ่งหมายพื้นฐานในการจัดตั้งของ (Mission) องค์การ ที่จะดาเนินการในระยะยาว หรือเป็นขอบเขตในการ ดาเนินงานขององค์การหรือบริษัทก็ได้ ดังนั้นพันธกิจจะบ่งบอกว่า ภารกิจขององค์การคืออะไร อะไรคือสิ่งที่องค์การต้องการจะเป็น และบางครั้งอาจจะแสดงสิ่งที่องค์การกาลงั ให้บริการแก่ลูกค้าอยู่ท้ัง ผลิตภัณฑ์และบริการ ➢ พันธกิจ คือ กิจที่ผูกพัน เป็นภารกิจที่ทุกคนในองค์กรต้องมีส่วน รบั ผิดชอบ ➢ พันธกจิ คือ สิ่งที่เราเป็น สิง่ ทีเ่ ราทา และเหตุทีเ่ รามาถงึ จุดนี้ ➢ พนั ธกจิ ส่งผลต่อวตั ถุประสงค์ขององคก์ ร
กลยทุ ธด์ า้ นพนั ธกิจ ➢ พันธกิจ คือ การบ่งบอกถึงเหตุผลของการดารงอยู่ขององค์การ (Mission) โดยรวมถึงค่านิยมและความหวังขององค์การ องค์การใดก็ตามที่มี การกาหนดพันธกิจที่ชัดเจนจะช่วยในการพัฒนาเป้าหมายของ องค์การและวางแผนองค์การ โดยท่ัวไปพันธกิจได้แสดงถึงขอบข่าย การปฏบิ ตั ิงาน จดุ ประสงค์ขององคก์ ารทีเ่ ปน็ เอกลักษณ์โดดเด่นและ แตกต่างจากองค์การอืน่ ๆ ทีม่ ีลกั ษณะกจิ กรรมคล้ายเคียงกัน ➢ ข้อความพันธกิจจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจบุคลาการในการทางานและ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลการดาเนินงานขององค์การ ข้อความ พันธกิจจะให้ความสาคัญกับตลาด ลูกค้า และสิ่งที่องค์การ ปรารถนาหรือบากบ่ันจะกระทา ในขณะที่ภารกิจขององค์การจะ บอกถึงลักษณะขององค์การ เช่น ค่านิยมองค์การ คุณภาพสินค้า และบริการขององค์การ ที่ตั้งในการให้บริการ ทัศนคติของบุคลากร ปรัชญาองค์การ และวัตถุประสงค์ขององคก์ าร
➢ พันธกิจน้ันจะเป็นข้อความที่เขียนข้ึนมาเพื่อระบุถึงสิ่งที่องค์การมี พันธะผูกพันที่จะต้องทา และเป็นข้อความที่บ่งบอกเรื่องราวต่าง ๆ ขององค์การ และทุกคนในองค์การจาเปน็ ต้องรู้เหมือนๆ กนั ➢ ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ให้หลีกเลี่ยงความคล้ายคลึงกับวิสัยทัศน์ หรือ กลยุทธ์ เช่น อย่าเขียนให้เป็นเป้าหมายทานองวิสัยทัศน์ หรืออย่า เขียนให้มลี ักษณะเป็นสิ่งทีจ่ ะต้องทาให้บรรลวุ ิสยั ทศั น์ ➢ สาหรบั พธั กจิ ของหน่วยงานภาครัฐโดยส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงถึง บทบาทหน้าทขี่ ององค์การและอาจรวมถงึ พันธกจิ ตามกฎหมายและ/ หรือพันธสญั ญาท้ังในและต่างประเทศขององค์การ กลยทุ ธด์ า้ นพนั ธกิจ (Mission)
ขอ้ ความของพันธกิจที่ดีตอ้ งประกอบดว้ ย ขอบเขตที่ กลุ่มลูกคา้ ที่ ผลติ ภณั ฑห์ รือ สถานทีห่ รือ ข้อความจะตอ้ งสื่อสารถงึ องค์การจะทา ต้องการจะ บรกิ ารหลักของ พืน้ ทีท่ ีจ่ ะ พนักงานในปรชั ญา หรือ ให้บรกิ าร ดาเนินการ แนวทางในการบริหารของ องคก์ าร องค์การ เพือ่ พนกั งานจะได้ ดาเนินการให้สอดคลอ้ งกับ พนั ธกจิ ขององคก์ ร
ตัวอยา่ งพันธกิจ ของหน่วยงาน ภาครัฐ
ตวั อยา่ ง สานักงานตารวจแห่งชาติ วิสัยทศั น์ “เปน็ องค์กรบงั คับใช้กฏหมายทีป่ ระชาชนเชือ่ มั่น ศรทั ธา” พันธกิจ • ถวายความปลอดภัยพระมหากษตั ริย์และพระบรมวงศานุ วงศ์ • บงั คบั ใชก้ ฎหมายและอานวยความยตุ ิธรรมทางอาญา • รักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของ ราชอาณาจกั ร
ตัวอยา่ ง กระทรวงยตุ ิธรรม • วิสัยทศั น์ “เปน็ องค์กรทีม่ งุ่ มั่นอานวยความยตุ ิธรรม พัฒนาระบบงาน ยตุ ิธรรม ให้ประชาชนมีส่วนร่วม มคี วามเชือ่ ม่นั และเข้าถงึ ความ ยตุ ิธรรม” • พันธกิจ 1. พิทกั ษ์ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน และสวัสดิภาพของ ประชาชนทกุ ระดบั รวมทงั้ ทาใหป้ ระชาชนเข้าถงึ ความ ยุติธรรม 2. พฒั นาและส่งเสรมิ งานสมานฉันทแ์ ละกระบวนการ ยตุ ิธรรมทางเลือกเพื่อประชาชน 3. ประสาน ส่งเสริม และสร้างเครือข่ายความร่วมมืองาน ยตุ ิธรรมกบั ทุกภาคส่วน 4. พัฒนาระบบบริหารจดั การ และบุคลากรของกระทรวง ยตุ ิธรรมโดยยึดหลักธรรมาภิบาล
ตัวอย่าง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา • วิสัยทัศน์ “เปน็ องค์กรทีเ่ ป็นเลิศด้านการบริหารจดั การ เพื่อขับเคลือ่ นนโยบายดา้ นการทอ่ งเที่ยว กีฬาและ นันทนาการสู่การปฏิบัติอย่างมเี อกภาพ” • พนั ธกิจ • 1. จดั ทาขอ้ เสนอเชิงนโยบายท่สี ามารถตอบสนองตอ่ การพัฒนาประเทศ และผลักดันนโยบายไปสกู่ าร ปฏิบัติ 2. กาหนดยทุ ธศาสตร์ แผนงานและงบประมาณ ในการบรหิ ารจัดการดา้ นการท่องเท่ยี ว กีฬา และ นนั ทนาการให้มีประสทิ ธภิ าพ เพ่อื เปน็ ศนู ย์กลางขบั เคลือ่ นนโยบาย และยุทธศาสตร์สู่การปฏิบตั ิไดอ้ ย่าง บรรลผุ ล 3. กากบั ตดิ ตาม เร่งรดั ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบตั ิงานของหนว่ ยงาน ในสงั กดั กระทรวงการ ทอ่ งเทีย่ วและกีฬา 4. พัฒนาโครงสรา้ ง อัตรากาลัง ระบบงาน วางแผนการจัดสรรทรพั ยาการและบุคลากรให้มีศักยภาพใน การบริหารงาน • 5. พฒั นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และเป็นศูนย์ข้อมลู กลางเพอ่ื สนบั สนุนการบรหิ ารงานของกระทรวง และให้บริการแก่หน่วยงานของรฐั และประชาชน • 6. ดาเนินการให้ความช่วยเหลือและประสานความร่วมมือกบั เครือขา่ ยด้านการท่องเทย่ี ว กีฬา และ นนั ทนาการทุกภาคสว่ นทั้งในประเทศและตา่ งประเทศ
ค่านิยมขององค์การ (Corporate Values) ค่านิยมหลกั (Core Values) ค่านิยมร่วม (Shared Values)
คา่ นิยมขององค์การ (Corporate Values) ค่านิยมหลัก (Core Values)
ค่านิยมขององค์การ (Corporate Values) คา่ นิยมหลกั (Core Values) คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ บ ร ร ทั ด ฐ า น ท่ี มี ค ว า ม เ ป็ น ลักษณะเฉพาะของแต่ละองค์การ และส่งผลต่อ พฤติกรรมในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายใน องค์การ โดยการกาหนดค่านิยมหลักต้องเป็นท่ี ปรารถนาตอ่ ความสาเรจ็ ขององค์การ ต้องสอดคล้อง กับวสิ ัยทัศน์ การปฏิบตั ิภายในองค์การภายใต้ค่านิยม ร่วมกัน เมื่อปฏิบัติไปนาน ๆ สิ่งน้ันจะกลายเป็น วฒั นธรรมองค์การ
คา่ นิยมร่วม (Shared Values) • ค่านิยมเป็นความเชื่อ คุณสมบัติ และลักษณะพิเศษจาเพาะ อย่างหนึ่งของคนในองค์การที่จะต้องมีร่วมกัน เป็นแนวทางที่มี ลักษณะเป็นกรอบของการกระทาต่อกันของบุคคลเป็นสิ่งที่ผูก บุคลากรในองค์การไว้ด้วยกัน และเป็นแรงผลักดันให้เกิด กิจกรรมขององค์การเพื่อให้องค์การเดินไปข้างหน้า สิ่งที่ว่านี้ อาจมีประวัติมาอย่างยาวนานบางทีอาจจะเกิดข้ึนต้ังแต่ตอนที่ เริม่ จัดต้ังองคก์ าร • เป็นสิ่งที่บุคลากรในองค์การเชื่อและคิดร่วมกันจนก่อให้เกิด การสร้างสรรค์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละองค์การ ได้รับ การหล่อหลอมให้ยึดถือประพฤติปฏิบัติรวมกันซึ่งค่านิยมร่วม ขององค์การจะถูกถ่ายทอดสู่สมาชิกรุ่นใหม่เพื่อสืบทอดค่านิยม ต่อไป การเปลี่ยนแปลงค่านิยมร่วม ต้องเปลี่ยนที่พฤติกรรมของ คนไม่ใช่ทีต่ ัววตั ถุ
เทคนิคการเขียนค่านิยมรว่ ม ประกอบด้วยตัวอย่างคาเหล่านี้ คือ ❖ การยอมรบั ซึ่งกันและกนั ❖ ความมีประสทิ ธิภาพ ❖ ความสาเร็จผล ❖ ความมีพลงั ❖ ความเป็นหนึง่ ใจเดยี วกัน ❖ ความเทา่ เทยี มกนั ❖ ความเหน็ อกเหน็ ใจ ❖ ความยุติธรรม ❖ ความสามารถในการแขง่ ขนั ❖ ความมีจรยิ ธรรม ❖ การอุทิศตน ❖ ความดีเลิศ ❖ ความกล้าหาญ ❖ ความเท่ยี งตรง ❖ การสร้างสรรค์ ❖ ความแมน่ ยา ❖ การมุ่งเน้นที่ลูกค้า ❖ การทางานเปน็ ทีม ❖ การให้ความสาคญั กบั ลูกค้า ❖ การเคารพกฎเกณฑ์ ❖ การเสยี สละ ❖ ความน่าเชื่อถือ ❖ ความเปิดเผย ❖ ความมีศีลธรรมอนั ดี ❖ ความหลากหลาย ❖ ความมง่ั คั่ง ❖ ความใฝ่รู้ ❖ ความมีสขุ ภาพดี
ตวั อย่าง ค่านิยมองค์การ
ค่านิยม สานกั งานพัฒนา รัฐบาลดิจิทลั (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานในการกากับดูแลของนายกรัฐมนตรี สังกัดสานัก นายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รอง นายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นผู้กากับดูแล สานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็น หน่วยงานกลางของระบบรัฐบาลดิจิทัล ทาหน้าท่ีในการให้บริการ ส่งเสริมและสนับสนุนการดาเนินงานของหน่วยงานของรัฐและ หน่วยงานอื่นเก่ยี วกับการพัฒนารฐั บาลดจิ ิทัล
ค่านิยม องค์การเภสัชกรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253