แทนของนัจฺรอนไวแลว ถาพวกเขากาวเขาสูการมุบาฮะละฮฺ พระเจาจะลงโทษพวกเขาใบหนา มนุษยของเขาจะเปลี่ยนไป และพวกเขาจะเผาจมอยูในกองไฟแหงทะเลทรายท่ีพระองคเตรียมไว แนน อน การลงโทษ จะลามไปจนถงึ แผนดนิ นัจรฺ อน อาอิชะฮฺ เลาวาวันมุบาฮะละฮฺ ทานศาสดา (ศ.) ไดคลุมผูรวมขบวนส่ีคนดวยอะบา (เสื้อ คลุม) สีดาํ และอา นโองการตอไปน้ี ความวา อันที่จริง อัลลอฮฺ ทรงประสงคท่ีจะขจัดความโสมมออกไปจากพวกเจา โอ อะฮุ ลุลบัยตฺ และทรงประสงคท่ีจะขัดเกลาพวกเจาใหสะอาดบริสุทธ์ิจริง หลังจากนั้น ซะมัคชะรียฺ อธิบายประเด็นสําคัญของโองการ ซ่ึงในตอนทายของคําอธิบายกลาววา เหตุการณมุบาฮะละฮฺ และ ประเด็นสําคัญของโองการเปนการกลาวถึงความประเสริฐอันย่ิงใหญของอัซฮาบกิซาอฺ และเปน หลกั ฐานทีย่ นื ยันถงึ สจั ธรรมความถูกตองของอิสลาม รายงานจากบรรดาผูนําศาสนาสามารถสรุปไดวาประเด็นเร่ืองการมุบาฮะละฮฺ มิได เฉพาะเจาะจงอยูแคสมัยของทานศาสดา (ศ.) เทาน้ัน เพราะวามุสลิมทุกคนสามารถทํามุบาฮะละฮฺ กับศัตรูได สวนแบบแผนของการมุบาฮะละฮฺมีกลาวไวในหนังสือดุอาอฺ และฮะดีษ สามารถศึกษา เพ่ิมเติมไดจากหนังสือ นรู ซุ ซะเกาะลยั นฺ เลม 1 หนา 291 – 292
43 ฮัจญะตลุ วะดาอฺ ขบวนการอิบาดะฮขฺ องอิสลาม การบําเพญ็ ฮัจฺเปนพิธีกรรม ที่ยิ่งใหญท่ีสุดที่บรรดามุสลิม ไดรวมกันกระทํา เนื่องจากในปหน่ึงจะกระทําเพียงครั้งเดียว แตสําหรับประชาชาติอิสบามฮัจฺถือ วาเปนการแสดงความเปนเอกภาพและความเปนหน่ึงเดียว อีกท้ังเปนการแสดงการไมยึดติดกับ ทรัพยสินและลาภยศสรรเสริญ แสดงความเสมอภาคในหมูมนุษยไมวาจะเปนใครก็ตาม และที่ สาํ คญั ญัจเฺ ปนการแลกเปล่ียนความสัมพันธในหมูมุสลิมใหมีความม่ันคงแข็งแรง ดงั น้ัน ถามุสลิม ใชประโยชนจากพิธีกรรมดังกลาวไดนอยที่สุด ทั้งท่ีในความเปนจริงพิธีฮัจฺสามารถแกไขปญหา ตางๆ ทางสังคมไดมากมาย นั่นมิไดหมายความวาเปนความบกพรองของมุสลิม แตเปนเพราะวา เหลาบรรดาผนู าํ อิสลามทีม่ ีความสามารถ ไมใสใ จตอ พธิ ีดังกลา ว นับจากวันท่ี เคาะลีลุรเราะฮฺมาน ซอมแซมอาคารกะอฺบะฮฺเสร็จ และเชิญชวนใหเหลาผูท่ี เคารพภักดีตอพระเจามาซิยาเราะฮฺ (เยี่ยม) กะอฺบะฮฺๆ คือ หัวใจและเปนศูนยกลางความรักของ ประชาชาติที่เคารพภักดีในพระเจา ฉะนั้นทุกปจะมีมุสลิมจากท่ัวโลกหลั่งไหลมาสูซาอุดิอาระเบีย เพือ่ เยย่ี ม กะฮฺบะฮฺ และกระทาํ พธิ ีกรรมตามทน่ี บีอบิ รอฮีม (อ.) ไดส อนสัง่ เอาไว แตกาลเวลาที่ผานมาอยางยาวนาน และแผนดินซาอุดิอาระเบีย ปราศจากนบีมาอยาง ยาวนาน ความเหน็ แกต ัวของชาวกเุ รช ประกอบกับ รัฐบาล
ที่เคารพบูชารูปปนไดปกครองซาอุดีอาระเบียมาอยางยาวนาน อันเปนสาเหตุทําใหพิธีฮัจฺถา พิจารณาตามกาลเวลาและสถานที่แลว จะเห็นวาพิธีกรรมดังกลาวไดรับการเปล่ียนแปลงรูปโฉมไป จากความจริง ดวยเหตุนี้ ในปฮิจญเราะฮฺท่ี 10 ทานศาสดา (ศ.) ไดรับมอบหนาที่ไปนําฮัจฺดวยตนเอง และสอนส่ังประชาชนใหรูจักหนาที่อันถูกตองและทําลายสิ่งแปลกปลอมท่ีแอบแฝงอยูในพิธีให หมดไป ตลอดจนการสอนประชาชนใหรูจักขอบเขตท่ีแทจริงของมะนาและอาเราะฟะฮฺ การ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจฺในคร้ังนี้นอกจากมีเหตุผลทางเมืองแลว อีกประการหนึ่งคือ การสอน ประชาชนใหร จู ักขั้นตอนการทําฮัจฺท่ถี กู ตอง ยางเขา เดือนซลุ เกาะอิดะฮฺ ทา นศาสดา (ศ.) ส่งั ใหป ระกาศแกป ระชาชนทัง้ ในมะดีนะฮฺ และ บริเวณรอบๆ วา ปน้ีทานจะเดินทางไปบําเพ็ญฮัจฺดวยตนเอง คําประกาศดังกลาวเหมือนเปนแรง บันดาลใจใหบรรดามุสลิมกระตือรือรนตอพิธีฮัจฺในปนี้ นักแสวงบุญจํานวนนับพันคนไดมาต้ัง คายที่พักบรเิ วณรอบๆ มะดนี ะฮฺ เพอื่ รอการเคลื่อนขบวนของทา นศาสดา (ศ.) วันท่ี 26 ซูลเกาะอิดะฮฺ ทานศาสดา (ศ.) ไดแตงตั้งให อบูดิญานะฮฺเปนตัวแทนประจํามะดี นะฮฺ สวนทานไดออกเดินทางมุงหนาไปยังมักกะฮฺพรอมกับสัตวท่ีเตรียมไปเชือดพลีจํานวน 60 ตัว เมื่อเดินทางมาถึง ซุลฮะลีฟะฮฺ หรือพื้นท่ีๆ เปนที่ตั้งของมัสญิดชะญะเราะฮฺในปจจุบัน ทานไดเขา ไปครองอิฮฺรอม ณ มัสญิดดังกลาว เม่ือครองอิฮฺรอมแลวทานอานดุอาอฺครองอิฮฺรอมที่กลาววา ลับบยั กฺ อลั ลอฮมุ มะ ลับบัยกะ ลาชะรีกะ ละกะลับบัยกุ อินนัลฮัมดะ วันนิอฺมะตะ ละกะ วัลมุลกฺ ลา ชะรีกะ ละกะ ลับบัยกฺ ซึ่งมักคุนกันในหมูนักแสวงบุญทั้งหลาย เสียงลับบัยกฺ ประหนึ่งเปนการตอบ รบั เสียงรอ งเรียกของอิบรอฮีม และดุอาอฺบทนี้จะถูกกลาวตลอดเวลาขณะที่ครองอิฮุรอม เม่ือใกลจะ ถึงมักกะฮฺ เสียงลับบัยกฺจะถูกตัดขาดหายไป และวันท่ีส่ีกองคาราวานของทานศาสดา (ศ.) ไดเขาสู มักกะฮฺ ทุกคนมุงหนาไปยังมัสญิดและเขามัสญิดอัล-ฮะรอม ทางประตู บนีชัยบะฮฺ ขณะท่ีปากของ พวกเขากลา วสรรเสริญตอพระเจา และประสาทพรแดนบอี บิ รอฮมี (อ.) เมือ่ ขบวนเฏาะวาฟไดหยุดตรงกบั ฮะญะรลุ อัซวดั (หินดํา) อันดบั แรก
ทุกคนจะอิซติอฺลาม หมายถึง เอาฝามือลูบที่หินดํา และเดินเฏาะวาฟ (วนเวียน) จนครบ 7 รอบ หลัง จากเฏาะวาฟเสร็จใหนมาซเฏาะวาฟ 2 เราะกะอัตหลังมะกอมอิบรอฮีม เมื่อนมาซเสร็จแลว ใหเดิน ซะอี (เดินวกวน) ระหวางเนนิ เขาเซาะฟากับมัรวะฮฺ จํานวน 7 เท่ียว เมื่อเดินครบแลว ทา นไดหันมา หาบรรดานกั แสวงบุญ และกลาววา บคุ คลท่มี ิไดนําเอาสัตวเชือดพลีมาดวย เขาสามารถปลดอิฮฺรอม ไดดวยการ ตักซีร หมายถึงตัดเล็บ หรือผมเล็กนอง หลังจากนั้นส่ิงฮะรอม (ตองหาม) ขณะครองอิฮฺ รอมจะฮะลาล (อนุมัติ) สําหรับเขา สวนผูที่นําสัตวมาเชือดพลีจะตองครองอิฮฺรอมตอไป จนกวาจะ เชอื ดสัตวพ ลหี ลังจากนั้นจึงปลดอฮิ ฺรอมได การกระทําดังกลาวเปนความยากลําบากสําหรับบางกลุม พวกเขาอางวาไมเปนการ เหมาะสมถาพวกเราจะปลดอิฮฺรอม และทานศาสดา (ศ.) ยังครองอิฮฺรอมอยู บางสิ่งบางอยางอนุมัติ สําหรบั พวกเราแตไมอนุมัติสําหรับทาน บางคร้ังพวกเขากลาววา ไมถูกตอง พวกเราเปนผูแสวงบุญ ณ กะอฺบะฮฺเหมือนกันแตเราสามารถรวมหลับนอนกับภรรยาได ทานศาสดา (ศ.) หันไปมองอุมมัร และถามวา ทําไมเจายังครองอฮิ ฺรอมอยูอีก เจา นาํ สตั วม าเชอื ดพลีดว ยหรือ ตอบวา เปลา ฉันไมไดนํา สัตวมาเชือดพลี แลวทําไมเจาไมปลดอิฮฺรอม ตอบวา มันไมเหมาะสมการท่ีฉันจะปลดอิฮฺรอม ขณะที่ทานยังครองอิฮฺรอมอยู ทานศาสดา (ศ.) กลาววา ยังไมใชตอนนี้ แตฉันขอบอกไวกอนเลยวา เจาจะอยกู บั ความเช่ือแบบนี้ตลอดไป ทานศาสดา (ศ.) ไมพอใจกับการลังเลใจของประชาชน กลาววา ถาฉันรูอนาคตชัดเจน เหมือนกบั รูอ ดีต ฉันคงรูวาความลังเลใจอันไรสาระของพวกเจา ฉันก็คงทําเหมือนกับพวกเจาคือไม พาสัตวเชือดพลีมาและมาเยี่ยมกะอฺบะฮฺดวยมือเปลา แตจะทําอยางไรไดเมื่อฉันนําสัตวเชือดพลีมา ดวยและพระเจาทรงบัญชาวา ตองครองอิฮฺรอมจนกวาจะถึงวันมินา และเชือดสัตวพลีที่สถานที่ เชือดตามที่กําหนดไว แตสําหรับผูท่ีไมไดนําสัตวเชือดพลีมาส่ิงที่กระทําไปแลวถือวาเปนอุมเราะฮฺ และใหค รองอฮิ รฺ อมเพ่อื ฮจั ใฺ หมอ ีกคร้งั อะลี (อ.) กลบั จากเยเมน
อะมีรลิ มอุ ฺมนิ ีน อะลี (อ.) เม่ือทราบเรือ่ งการเดนิ ทางไปทําฮจั ฺของทา นศาสดา (ศ.) ทานได ตัดสินใจเดินทางจากเยเมนเพ่ือเขารวมพิธีฮัจฺพรอมนําสัตวไปเชือดพลีจํานวน 34 ตัว และนําผา จํานวนหน่ึงที่ประชาชนจากนัจฺรอนมอบใหในฐานะภาษีติดตัวไปดวย พอเดินทางมาไดครึ่งทาง ทานไดมอบการเปนผูนําใหกับนายทหารคนหนึ่ง สวนตัวทานไดแยกทางเพื่อเดินทางตอไป ประกอบพิธีฮัจฺรวมกับทานศาสดา (ศ.) และทานไดพบกับทานศาสดา (ศ.) ใกลๆ จะถึงมักกะฮฺ เม่อื ทา นพบทานอะลีและทราบถึงผลสําเร็จของภารกิจตางๆ ในเยเมนทานดีใจมาก ทานถามทานอะ ลีวาทานเนียตอยางไร ตอบวา ขณะท่ีครองอิฮฺรอมฉันไดเนียตเหมือนท่ีทานเนียตโดยกลาววา โอ อัลลอฮฺ ฉันขอเนียตครองอิฮฺรอมดังที่ศาสดาของพระองคเนียตครองอิฮฺรอม ทานศาสดา (ศ.) สังเกตเห็นวาอะลี (อ.) นําสตั วเ ชือดพลตี ดิ มาดวยทานจึงกลาววา หนาท่ีของเจากับฉันเหมือนกัน คือ ตองครองอิฮฺรอมไปจนกวาจะเชือดพลีสัตวเวลานั้นจึงจะปลดอิฮฺรอมได หลังจากน้ันทานไดสั่ง ทา นอะลี (อ.) จงรบี ตามทหารของเจาไปใหทันและนาํ พวกเขากลบั มาทาํ ฮจั ฺดว ย เมื่ออะลี (อ.) ไปทันเหลาทหารทานเห็นวาพวกเขาไดจัดแบงผาท่ีรับมา จากพวกนัจฺรอน ในฐานะของภาษีเรียบรอยแลว เพื่อนําไปทําเปนชุดอิฮฺรอม ทานอะลี (อ.) ไมพอใจที่ตัวแทนของ ทานกระทําการโดยพละการขณะท่ีทานไมอยู ทานถามเขาวา ทําไมจึงแบงทรัพยเหลานี้ใหทหาร โดยทีย่ ังไมไ ดสง มอบใหท า นศาสดา (ศ.) เขากลาววา เหลาทหารเขาขอรอ งใหฉนั แบงเปนอามานะฮฺ (ของฝาก) และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฮัจฺแลวพวกเขาจะคืนให อะลี (อ.) กลาววา พวกเจาไมมีสิทธ์ิ ในการเลือกสรรเชนน้ี หลังจากน้ันอิมามกลาววาใหไปผากลับคืนจากพวกเขาใหหมด และพับให เรยี บเพ่ือนําไปสง มอบใหทา นศาสดา (ศ.) ทมี่ กั กะฮฺ บางกลุมชนท่ีเคยพบเห็นความยุติธรรมของทานอะลี (อ.) และเคยประสบความลําบากใจ มาแลว และในครงั้ นอี้ ีกเชน กันอมิ ามกระทาํ ขดั กบั สิ่งท่ีเปนความตองการของพวกเขา พวกเขาไดนํา เรื่องการเอาผา คนื ไปฟองทา น
ศาสดา (ศ.) และแสดงความไมพอใจที่ทานอะลีกระทําเชนนั้น ทานศาสดา (ศ.) ไดบอกใหสาวกคน หนง่ึ ไปบอกกับพวกเขาวา อยา กลา วตาํ หนอิ ะลีในทางท่ีไมด ี เขากําลงั ปฏิบัตติ ามคาํ สง่ั ของพระเจา พิธีฮจั ฺเริม่ ข้ึนแลว เมื่อพิธีอมุ เราะฮฺไดเสร็จส้ิน ทานศาสดา (ศ.) ไมพอใจเทา ท่ีควร ระยะหางระหวางอุมเราะฮฺ กบั ฮจั ฺทา นมไิ ดไปบา นใคร ทานสัง่ ใหต ้ังคา ยทพ่ี กั ของทานไวนอกมกั กะฮฺ บายของวันท่ี 8 ซุลฮิจญะฮฺ บรรดานักแสวงบุญทั้งหมดไดเคลื่อนขบวนออกไปยังทุงอา เราะฟะฮฺ เพื่อทาํ การวกุ ฟู (หยุดคา ง) ณ ทีน่ ัน้ ตัง้ แตบายวนั ท่ี 9 ไปจนถึงมฆั รบิ บายของวันที่ 8 ซุลฮิจญะฮฺ หรือท่ีรูจักกันในนามของ เยามุนตัรวียะฮฺ ทานศาสดา (ศ.) เตรียมตัวจะออกเดินทางจากมินาไปยังอาเราะฟะฮฺ จนกระท่ังถึงเชาวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ ทานจึงข่ีอูฐ สวนตัวเดินทางไปอาเราะฟะฮฺ เมื่อเดินทางมาถึงสถานท่ีหนึ่งนามวา นุมเราะฮฺ ซึ่งมีคายที่พักของ ทา นไดตั้งอยูทา นไดหยดุ พัก ณ สถานท่ชี มุ นุมนั้นและกลาวเทศนาขณะอยบู นหลงั อูฐ คําเทศนาประวัติศาสตรข องศาสดา (ศ.) ในฮัจญะตลุ วะดาอฺ ในวนั น้ันทุงอาเราะฟะฮฺเต็มไปดวยผูคนท่ีมาชุมนุมกันอยางหนาแนน ตลอดประวัติศาสตร ทผี่ า นมาฮิญาซไมเ คยมีการชมุ นุมยิ่งใหญเชนน้ันมากอน เสียงเรียกรอ งเชิญชวนไปสูการเคารพภักดี ตอ พระเจาองคเดียวดังไปทั่วทองทุงอาเราะฟะฮฺ ซ่ึงนับต้ังแตอดีตท่ีผานมาเคยเปนสถานท่ีตั้งเทวรูป เพ่ือเคารพสักการะมากอน แตปจจุบันกลายเปนสถานท่ีเคารพภักดีตอพระเจาองคเดียว และจะเปน เชนน้ีตลอดไปชวั่ กาลนาน ทานศาสดา (ศ.) นมาซซุฮรฺและอัซรฺท่ีอาเราะฟะฮฺพรอมกับบรรดานักแสวงบุญจํานวน หลายหมน่ื คน เมื่อนมาซเสรจ็ แลว ทา นไดก ลา วคํา
เทศนาประวัติศาสตรขณะอยูบนหลังอูฐ โดยมีสาวกคนหน่ึงท่ีเสียงดังคอยกลาวคําพูดของทานซํ้า เพอ่ื ใหทกุ คนไดยนิ ไปท่ัว ในวนั นั้นทา นไดเ รม่ิ คําเทศนาแกป ระชาชนวา โอ ประชาชนที่รักท้ังหลาย ไดยินเสียงฉันไหมบางทีฉันจะไมไดพบพวกเจา ณ ท่ีนี้อีก ตอ ไปก็ได โอ ประชาชนท่ีรักท้งั หลาย ชีวิตและทรัพยสินของพวกเจาแตบ ัดนี้เปนตนไป จนกระท่ังถึง วันท่ีพวกเจาไดพบกับพระเจา จะเหมือนกับวันนี้และเดือนนี้ คือ ไดร ับเกียรติและหามละเมิดตอกัน เด็ดขาด ทานศาสดา (ศ.) ตองการสรางทราบวาคําพูดของทานในเร่ืองการใหเกียรติชีวิตและ ทรัพยส นิ ของผอู ื่นจะมีผลหรือไม ทานจึงสั่งใหเราะบีอะฮฺบุตรของอุมัยยะฮฺ ถามประชาชนวา เดือน น้ีเปนเดือนอะไร ท้ังหมดตอบวาเปนเดือนฮะรอม (เดือนตองหาม) หามทําสงครามและนองเลือด เด็ดขาด ทานศาสดาส่ังใหเราะบีอะฮฺ บอกกับประชาชนอีกวา จงบอกกับพวกเขาซิวาพระเจาทรง บญั ชาใหพ วกเจา จงใหเกียรติในชวี ติ และทรพั ยส ินของกันและกันจนกระทั่งถึงวันท่ีพวกเจาจากโลก นไ้ี ป ทานกลา วอีกวา จงถามพวกเขาซิวาท่ีนี่ คือ แผนดินอะไร ท้ังหมดตอบวา ที่น่ี คือ แผนดินที่ หามนองเลือดหามทําสงครามและหามละเมิดสิทธิของคนอ่ืนเด็ดขาด ทานกลาววา จงบอกพวกเขา ไปวา ชีวติ และทรัพยสินของพวกเจาท้ังหลายเหมือนกับพ้ืนแผนดินนี้ คือ ตองไดรับเกียรติหามนอง เลอื ดและหามละเมิดสิทธิของกนั และกันเดด็ ขาด ทานกลาววา จงถามพวกเขาซิวา วันนี้เปนวันอะไร พวกเขาตอบวาวันนี้เปนวันฮัจฺอักบัร (ฮัจฺท่ียิ่งใหญ) กลาววา จงบอกกับพวกเขาไปวาชีวิตและทรัพยสินของพวกเจาท้ังหลายเหมือนกับ วันนี้ คือ ตองไดรับเกียรตหิ ามนองเลอื ดและหา มละเมิดสิทธขิ องกันและกันเด็ดขาด โอ ประชาชนที่รักทั้งหลาย การนองเลือดและการสังหารกันที่เกิดข้ึนในชวงท่ียังมิไดเปน มุสลิม วันนี้ตองใหอภัยและลืมเร่ืองเหลานั้นใหหมดจะไมมีการลางแคนกันอีกตอไปแมแตเลือด ของ อิบนิ เราะบีอะฮฺ (สาวกคน
หนึง่ ของทา น) ก็ตอ งถกู ลืมดว ยเชนกัน พวกเจาท้ังหลายจะไดกลับคืนสูพระเจาในไมชานี้ในโลกหนานั้น ฉะนั้น การงานทั้งดีและ ไมดีของพวกเจาจะถูกตรวจสอบ ฉันขอแจงใหพวกเจาทั้งหลายรูวา บุคคลใดก็ตามที่มีสิ่งของๆ คน อ่นื อยูในครอบครองจงสง คนื ของส่งิ นั้นใหกับเจาของเสีย โอ ประชาชนท่ีรักทั้งหลาย จงรูไวเถิดวาดอกเบ้ียในอิสลามเปนส่ิงตองหามชนิดรุนแรง บุคคลใดออกเงินกูหรือลงทุนเพื่อตักตวงดอกเบ้ีย จงรูไววาทานสามารถเอาเงินทุนคืนไดเพียงอยาง เดียวไมสามารถนําดอกสวนเกินมาบริโภคไดเด็ดขาด จงอยายอมถูกกดขี่และจงอยากดขี่บุคคลอื่น ผลกําไรที่อับบาสเคยเรียกเก็บจากลูกหน้ีกอนอิสลาม บัดน้ีมันยุติลงแลว เจาไมมีสิทธิเรียกเก็บสิ่ง นั้นอีกตอ ไป โอ ประชาชนท่ีรักท้ังหลาย ชัยฏอนมารรายตั้งใจวาจะไดรับการเคารพภักดีบนพื้นแผนดิน ของพวกเจา แตบัดน้ีความหวังเหลานั้นดับสลายลงหมดแลว แตจงรูไววาถาหากพวกเจาปฏิบัติตาม ซัยฏอนเพียงเลก็ นอยมันจะดใี จอยา งยิง่ ดังนัน้ จงหลกี หา งการปฏบิ ัตติ ามซัยฏอนอยา งสิน้ เชงิ การทําลายความศักดิ์สิทธ์ิของเดือนตองหามเกิดจากความสุดโตงในการปฏิเสธของตน และเปนสาเหตุใหพวกเขาไมเขาใจเรื่องเดือนตองหาม ผลของการเปล่ียนแปลงนั้นทําใหพวกเขาย่ิง หลงทางออกไป และทําใหเดือนตองหามปน้ีกลายเปนเดือนอนุมัติ และปหนากลับมาเปนเดือน ตองหามเหมือนเดิม พวกเขาจงรูไววาการกระทําของพวกเขาเทากับทําใหสิ่งตองหามของพระเจา กลายเปนสงิ่ อนุมตั ิ และส่งิ อนุมัติของพระองคกลายเปน สงิ่ ตอ งหาม เดือนตองหามและเดือนอนุมัติของทุกปจําเปนเรียงตามลําดับ เนื่องจากพระเจาทรงสราง ทองฟา แผนดิน ดวงจันทร และดวงตะวันในชว งเวลาเหลา นั้น จํานวนเดือน ณ พระเจามี 12 เดือน 4 ใน 12 เดือน เปนเดือนตองหามซ่ึงประกอบดวยเดือนซุลเกาะอิดะฮฺ ซุลฮิจญะฮฺ มุฮัรรอนและเดือน เราะญบั โอ ประชาชนทร่ี ักทั้งหลาย ภรรยาของพวกเจา มีสิทธิเหนอื พวกเจา
และพวกเจาก็มีสิทธิเหนือพวกนาง ซีง่ สทิ ธิของพวกเจา คือ นางไมมีสิทธิ์นําบุคคลอื่นเขามาในบาน โดยมิไดรับอนุญาตจากสามี แมวาจะไมไดกระทําผิดก็ตาม ถามิเชนน้ันแลวพระเจาทรงอนุญาตให พวกเจามิตองหลับนอนกับนางและลงโทษนาง ถาหากพวกนางกลับตัวกลับใจมาสูสัจธรรม พวก เจาจงอภยั และอยกู ินกบั นางและจงสรรหาปจ จัยยังชีพเพ่ือการดําเนนิ ชีวิตคูตอไป ฉันขอแนะนําพวกเจาบนพื้นแผนดินศักด์ิสิทธ์ิน้ีวา พวกเจาจงทําดีกับภรรยาของตน เนื่องจากพวกนาง คือ อามานะฮฺ (ของฝาก) ของพระเจาท่ีอยูในมือของพวกเจาพวกนางถูกอนุมัติ สําหรับพวกเจาดว ยกฎเกณฑข องพระองค โอ ประชาชนที่รักทั้งหลาย พวกเจาจงตง้ั ใจฟง คาํ พดู ของฉันใหด ี ฉนั ขอฝากสิ่งหนักสองส่ิง อันมีคาย่ิงไวในหมูพวกเจา ถาหากพวกเจายึดมั่นกับท้ังสองพวกเจาจะไมหลงทางตลอดไป สง่ิ หน่ึง คอื อัล-กุรอาน คัมภรี แหงพระเจา และอกี สงิ่ หน่ึง คอื แบบฉบบั ของฉนั โอ ประชาชนที่รักท้ังหลาย โปรดฟงคําพูดของฉันใหดีและคิดใครครวญประเด็นดังกลาว ใหรอบคอบ มุสลิมคนหน่ึงเปนพ่ีนองกับมุสลิมอีกคนและมุสลิมทั้งโลกลวนเปนพี่นองกัน ทรัพยสินของมุสลิมคนหน่ึงมิไดเปนที่อนุมัติสําหรับอีกคนหนึ่ง เวนเสียแตวาจะไดรับอนุญาต และ ไดรับมาอยางถูกตอ ง โอ ประชาชนที่รักทั้งหลาย พวกที่อยู ณ ที่น่ีจงแจงขาวใหพวกท่ีไมไดมาทราบกันอยาง ถวนหนาดวยวา หลังจากฉันแลวจะไมมีนบีคนใดถูกประทานลงมา และหลังจากพวกเจาแลวจะไม มีประชาชาตใิ ดอกี โอ ประชาชนที่รักทั้งหลาย จงรูไวเถิดวา นับต้ังแตวันนี้เปนตนไป ฉันขอประกาศวา พิธีกรรมท้ังหมดตลอดจนความศรัทธาในสมัยที่เปนผูปฏิเสธตองถูกโยนทิ้งไวใตฝาเทาท้ังส้ิน ฉัน ขอประกาศวาสง่ิ เหลา นน้ั ไมถกู ตอ ง ในเวลาน้ันทานศาสดา (ศ.) หยุดเทศนาช่ัวครูหลังจากน้ันทานไดช้ีไปบนทองฟา พรอมกับ กลาววา โอ พระเจาของฉัน ฉันเผยแผสาสนของพระองคแลว หลังจากน้ันทานกลาว 3 คร้ังวา โอ อลั ลอฮโฺ ปรดเปน พยาน เพื่อเปนการจบคาํ เทศนา
ทานศาสดา (ศ.) ไดวุกูฟอยูท่ี อาเราะฟะฮฺต้ังแตเท่ียงวันของวันที่ 9 ซิลฮิจญะฮฺไปจนถึงมัฆ ริบ เม่ือดวงตะวันลับขอบฟาความมืดมิดคอยๆ เลื่อมลํ้าเขามาแทนท่ีทานไดขึ้นอูฐออกจากทุงอา เราะฟะฮฺ มุงหนาไปสูมุซดะละฟะฮฺ ทานทองอยูมัชอัรตลอดท้ังคืน และหยุดวุกูฟเมื่อแสงสีเงินจับ ขอบฟาจนกระทั่งดวงตะวันขึ้น หลังจากน้ัน และในตอนเชาของวันท่ี 10 ซุลฮิจญะฮฺ ทานไดเคลื่อน ขบวนไปยังทุงมินา เพื่อทําุมเราะฮฺอะเกาะบะฮฺ (ขวางเสาหินตนสุดทาย) ทํากุรบาน (เชือดพลี สัตว) และตักซีร (ตัดหรือโกนผมหรือตัดเล็บ) หลังจากนั้นทานเดินทางเขามักกะฮฺเพื่อปฏิบัติ ข้ันตอนอ่ืนของฮัจฺ ดังน้ัน จะสังเกตเห็นวาทานไดสอนประชาชนใหรูจักข้ันตอนการบําเพ็ญที่ ถกู ตอง บางครัง้ รายงานและประวัติศาสตรเรียกการบําเพ็ญฮัจฺประวัติศาสตรน้ีวาฮัจญะตุลวะดาอฺ และบางคร้ังเรยี กวา ฮัจญะตุลบะลาฆ หรือ ฮัจญะตุลอิสลาม ซ่ึงช่ือแตละช่ือลวนมีความหมายและมี ความสลักสําคัญอยางย่ิง ซึ่งความเหมาะสมของแตละชื่อเปนที่ชัดเจนสําหรับมวลผูถวิลหา ความ จริง สุดทายประเด็นที่ขอกลาว ณ ท่ีน้ี คือ เปนที่ทราบกันดีในหมูนักรายงานท้ังหลายวา ทาน ศาสดา (ศ.) กลาวคําเทศนานี้ที่ทุงอาเราะฟะฮฺแตนักวิชาการบางทาน เชื่อวาคําเทศนานี้ทานกลาวใน วันท่ี 10 ซลิ ฮจิ ญะฮฺ ณ ทุงมินา เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั เฆาะดรี เม่ือพิธีบาํ เพ็ญฮัจฺสิ้นสุดลง บรรดามุสลิมตางเรียนรูขั้นตอนการบําเพ็ญฮัจฺที่ถูกตองจาก ทานศาสดา (ศ.) ในเวลานั้นทานตัดสินใจเดินทางกลับมะดีนะฮฺ ทานจึงส่ังใหทุกคนออกเดินทาง เม่ือมาถึงสถานที่หนึ่งนามวา รอบิฆ ซึ่งอยูหางจากุฮฺฟะฮฺ ประมาณ 3 ไมล อะมีนญิบรออีลไดนํา วะฮีมา ใหศาสดา ณ สถานท่มี ีนามวา เฆาะดีรคุม ซ่งึ โองการที่ประทาน ณ ท่ีนั้น ความวา โอศาสดา จงประกาศสง่ิ ท่ีถกู ประทานลงมายังเจาจาก พระ
ผูอภิบาลของเจา ถาเจาไมปฏิบัติ เทากับเจาก็ไมไดประกาศสารของพระองค อัลลอฮฺ ทรงคุมครอง เจาจากมวลมนุษย แทจรงิ อัลลอฮฺจะไมท รงชนี้ าํ พวกปฏเิ สธท้ังหลาย สาเหตขุ องการประทานโองการ จากตําราทั้งฝายชีอะฮฺและซุนนี ตางไดบันทึกตรงกันวา โองการดังกลาวถูกประทานใหกับ ทานอิมามอะลี (อ.) รายงานดังกลาวเหลาสาวกจํานวนมาก เชน อบูซะอีด คุดรี ซัยดฺ บินอัรกอม ญาบิร บินอับ ดุลลอฮฺ อิบนุ มัซอูด อามีริบนิ ลัยลา ไดรายงานไว ซ่ึงริวายะฮฺทั้งหมด กลาววา โองการดังกลาวลง ใหทานอิมามอะลี (อ.) โวหารของโองการบงบอกวาพระเจาทรงมีบัญชาใหทานศาสดา (ศ.) กระทําภารกิจที่มี ความสําคัญและอันตรายอยางย่ิง ฉะนั้น ยังจะมีภารกิจใดอันตรายยิ่งไปกวาการแตงต้ังใหทานอะลี (อ.) เปนคอลีฟะฮฺและเปนตัวแทนของทานทามกลางสายตานับจํานวน 100,000 กวาคูกําลังจอง มองดูอยูอยางไมลดละ พระเจาทรงขูบังคับใหทานประกาศสิ่งท่ีประทานลงมายังทานแกประชาชน วา ถาทานไมประกาศสิ่งนี้ พระองคจะยกเลิกการประกาศสาสนทั้งหมดที่ผานมา หลังจากน้ัน พระองคปลอบประโลมวา จงอยากลัวสิ่งใดเน่ืองจาก พระองค ทรงคุมครองเจาจากมวลมนุษย ทงั้ หลาย สิ่งท่นี าแปลกใจ คอื บางรายงานมีกระแสรายงานหลายกระแสดว ยกันเชน 1. รายงาน ของอบซู ะอดี คุดรี รายงานไวท ้งั ส้ิน 11 กระแสรายงาน 2. รายงานของ อบิ นุ อบั บาซ รายงานไว 11 กระแสรายงาน 3. รายงานของ บรั รออฺ บิน อาซิบ รายงานไว 3 กระแสรายงาน บุคคลทบี่ ันทึกรายงานเหลานอ้ี ยูในตําราของตน ลวนเปน บุคคลทมี่ ีชื่อเสียงท้งั สิ้นไดแก 1. ฮาฟซ อบนู ะอมี เอซฟาฮานี บนั ทกึ ไวใ นหนังสอื มานะซะละ มนิ ัล
กุรอานิ ฟ อะลี คดั ลอกมาจาก อลั เคาะซออซิ หนา 29 2. อบลุ ฮะซนั วาฮดิ ี นีชาบรุ ี บันทึกไวใ น อซั บาบุลนซุ ลู หนา 150 3. อิบนุ อะซากริ ชาฟาอี คดั ลอกมาจาก อรั ดรุ ุลมนั ซรู เลม 2 หนา 298 4. ฟครรุ รอซี บันทกึ ไวใ นตฟั ซรี กะบีร เลม 3 หนา 636 5. อบูอซิ ฮาก ฮุมูวยั นี บนั ทึกไวใ น ฟะรออดิ อซั ซมิ ตัยนฺ 6. อบิ นุ ซิบาฆ มาลกิ ี บนั ทกึ ไวใน ฟฟุ ลู ลุ มฮุ มิ มะฮฺ หนา 27 7. ญะลาลดุ ดีน ซุยูฏีย บนั ทกึ ไวใน อัรดุรลุ มนั ซูร เลม 3 หนา 298 8. กอฎี เชากานี บันทึกไวใน ฟตฮุลเฆาะดรี เลม ๓ หนา ๕๗ 9. ชะฮาบดุ ดีน อาลูซี ชาฟอี บนั ทกึ ไวในเราฮลุ มะอานี เลม ๖ หนา ๑๗๒ 10. ชัยคฺ สลุ ัยมาน กันดซู ี ฮะนะฟ บนั ทึกไวใน ยะนาบีอลุ มะวัดดะฮฺ หนา ๑๒๐ 11. บัดรุดดีน ฮะนะฟ บันทกึ ไวใน อมุ ดะตุล กอรี ฟ ชรั ฮิล บุคอรี เลม ๖ หนา ๕๘๔ 12. ชัยคฺ มฮุ มั มดั อบั ดุ มซิ รี บันทกึ ไวใ น อลั มินาร เลม ๖ หนา ๔๖๓ 13. ฮาฟซ อิบนุมัรดะวียะฮฺ เสียชีวิตเม่ือป ฮ.ศ. ท่ี ๔๑๘ คัดลอกมาจากซุยูฏี จากอัดดุ รลุ มัสซูร และยังมีการบันทกึ รายงานเหลานใี้ นตาํ ราอืน่ ๆ อีกมากมาย ดังที่กลาวไปแลววาโองการขางตนถูกประทานใหกับทานอิมามอะลี (อ.) ซ่ึงรายงาน จํานวนมากกวา ถึงเหตกุ ารณดงั กลา วไว ซง่ึ บันทึกอยูในตาํ ราของชอี ะฮฺและซุนนี จนยากที่จะปฏิเสธ ความจริงเหลานี้ได นอกเสียจากอคติหรือทิฐิท่ีฝงแนนอยูในใจของบางคนเทาน้ัน และนอกจาก รายงาน ที่กลาวมาแลว ยังมีรายงานอีกจํานวนมากกลาวถึงเหตุการณของเฆาะดีรไว เชน กลาววา โองการดังกลาว (๕/๖๗) ถูกประทานลงมาหลังจากเหตุการณ เฆาะดีร หลังคําเทศนาของทาน ศาสดา (ศ.) และหลังจากที่ทานได แนะนําทานอะลีเปนอิมามเปนวะซี และเปนตัวแทนของทานแก ประชาชาติ ซึ่งจํานวนรายงานเหลานม้ี ีมากกวารายงานที่ไดกลาวมาขางตน จนกระท่ัง วาทานอัลลา มะฮฺ อามีนี
ไดรวบรวมไวในหนังสือ อัลเฆาะดีร ของทาน โดยรายงานมาจากเหลาบรรดาสาวกถึง ๑๑๐ ทาน พรอมกับหลักฐานและกระแสรายงาน รวมท้ังรายงานจากบรรดาตาบิอีนอีก ๘๕ ทาน และจาก บรรดา นกั ปราชญทม่ี ชี ่อื เสยี งของอสิ ลามอกี ๓๖๐ ทาน ฉะนั้น เม่ือพิจารณารายงานเหลาน้ันอยางละเอียดแลว สามารถเช่ือไดอยางม่ันใจวา ฮะดีษ เฆาะดีร เปนฮะดีซที่เช่ือถือไดอยางไมมีขอเคลือบแคลงสงสัยใดๆ ท้งั สิ้น อีกทั้งเปนรายงานท่ีม่ันคง ที่สดุ มาตรฐานของรายงานเฆาะดรี ชวงบั้นปลายสุดทายแหงชีวิตอันจําเริญของทานศาสดา (ศ.) และหลังจากการบําเพ็ญฮัจฺ ครั้งสุดทาย (ฮัจญะตุลวะดา) ซึ่งขณะน้ันหัวใจทุกดวงยังอ่ิมเอิบกับผลบุญท่ีไดรับจากการบําเพ็ญ ฮัจฺ จํานวนนกั แสวงบุญครั้งน้มี มี ากเกนิ กวา ๑๒๐,๐๐๐ คน พิธีการดังกลาวไมไดมีเฉพาะมุสลิมชาวมะดีนะฮฺเทานั้น แตมีมุสลิมมาจากทั่วสารทิศเขา รวมในพิธีการดังกลาว แมวาแสงแดดจะรอนระอุสักปานใดก็ตามแตเมื่อเทียบกับความหวานชื่น ของพธิ ีกรรมแลวไมอ าจเทยี บกันไดเด็ดขาด ทกุ ส่งิ ทุกอยางแลดงู ายดายไปเสยี หมด เมอื่ กองคาราวานไดเ ดินทางมาถงึ ทางแยก ซ่งึ แยกหน่ึงมงุ หนาไปสมู ะดนี ะฮฺ ทางตอนเหนือ ของมักกะฮฺ แยกหน่ึงมุงหนาไปสูอีรักทางทิศตะวันออก แยกหนึ่งมุงหนาสูทิศตะวันตกและอียิปต สวนอีกแยกหน่ึงมุงหนาไปสูเยเมนซึ่งอยูทางทิศใต ทุกคนท่ีเดินทางมาตางรอคําส่ังสุดทายจากทาน ศาสดา (ศ.) วา ทานจะสัง่ เสียสิง่ ใดอีก วันพฤหัส ป ฮิจฺเราะฮฺศักราชที่ ๑๐ แปดวันหลังอีดกุรบาน ทานศาสดา (ศ.) สั่งใหกอง คาราวานทั้งหมดหยุดลงโดยกะทันหัน พวกที่ลวงหนาไปแลวทานไดส่ังใหกลับมา และสั่งใหรอ พวกท่ียังเดินทางมาไมถึงตะวัน ไดคลอยผานไปบงบอกวาถึงเวลาซุฮฺริแลว เสียงอะซาน อัลลอฮุ อกั บรั จากผอู ะซานบอกเวลานมาซไดดงั ขึน้ เพอ่ื เชิญชวนประชาชนไปสูนมาซซฮุ รฺ ิ ทา ม
กลางอากาศท่ีรอนแดดแผดเผา กลางทะเลทรายท่ีไมมีพื้นสีเขียว ไมมีตนไมและไมมีรมเงาบังแดด บางคนตองเอาอะบาอฺบางสวนรองไวใตฝาเทา และเอาอีกดานหนึ่งปดศีรษะเพื่อกันความรอนทุก คนไดต อ สูกบั ความรอ นดวยความยากลาํ บาก คําเทศนาของศาสดา (ศ.) ในเฆาะดรี คมุ หลังนมาซซฮุ ฺริ มุสลิมบางกลุมกําลังจะเขาไปหลบแดดใตเต็นทท่ีตนไดพามา แตทานศาสดา (ศ.) ได ประกาศใหทุกคนเตรียมตัวรอรับฟงขาวอันยิ่งใหญจากพระผูอภิบาล เน่ืองจากประชาชนหนาแนน บางกลุมมองไมเห็นทาน จึงไดสรางมิมบัร (อาสนเทศนา) ขึ้นโดยใชอานมาและอูฐเรียงทับกัน หลังจากน้ันสาวกไดเชิญทานข้ึนไปบนน้ัน ทานกลาวสรรเสริญพระเจา วิงวอนขอความชวยเหลือ จากพระองค ศรัทธามั่นตอพระองค และมอบหมายทุกภารกิจตอพระองคและขอพระองคทรง ปกปองการงานท้ังดีและไมดีของทาน พระผูซ่ึงนอกจากพระองคแลวไมมีผูช้ีนําอื่นใดอีก และ บุคคลใดท่ีไดรับทางนําจากพระองค เขาจะไมหลงทางตลอดไป ฉัน ขอปฏิญาณวาไมมีพระเจาอื่น ใดนอกจากพระองค และมุฮัมมดั คอื บา วและเปน นบีของพระองค โอ ประชาชนท่ีรักท้งั หลาย ฉนั ไดตอบรับคําเชิญของพระผูอภิบาลเรียบรอ ยแลว และในไม ชาน้ีฉันคงตองจากพวกเจาไปอยางถาวร ฉันและพวกเจาท้ังหลายตางมีหนาที่รับผิดชอบดวยกัน ท้ังสิ้น พวกทานคิดอยางไรเก่ียวกับตัวฉัน ในเวลานั้น ประชาชนทั้งหมดตางตะโกนดวยเสียงดังวา พวกเราขอยืนยันวาทานไดทําหนาที่ประกาศสารของพระผูเปนเจาแลว ทําการอบรมและปรับปรุง สังคมแลว และสุดทายทานไดทําการชี้นําพวกเราเขาสูหนทางที่เท่ียงธรรม ขอพระองคโปรด ประทานรางวลั อันดงี ามแกท า น ทานศาสดา (ศ.) กลาววา พวกเจายืนยันไหมวาไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ มุฮัมมัด เปนบาวและเปนนบีของพระองค วันแรกแหงการฟนคืนชีพเพ่ือรอการสอบสวน สรวงสวรรคและ นรกนัน้ มีจรงิ ท้งั หมดกลาวเปน เสียงเดียวกันวา แนนอน พวกเราขอยนื ยนั เชนนน้ั
ทานกลา ววา ขอใหอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงเปน พยานตอคาํ ยืนยนั ทานกลาววา โอ ประชาชนที่รักท้ังหลาย พวกเจาไดยินเสียงฉันไหม พวกเขาตอบวา พวก เราไดย ิน หลงั จากน้ันทกุ คนไดนิง่ เงยี บไมมีเสยี งอนั ใดนอกจากเสียงกระแสลมรอนท่กี รรโชกเขามา หลังจากนัน้ ทาน กลา ววา โอ ประชาชนเอย ฉันขอฝากสิ่งหนักที่สําคัญสองสิ่งอันมีคายิ่งไว ในหมูพวกเจา พวกเจาลองพิจารณาดูซิวา พวกเจาจะทําอยางไรกับของสองส่ิงภายหลังจากฉัน เวลา นนั้ มคี นหนึ่งยนื ขนึ้ และตะโกนวาสิ่งสาํ คัญสองสงิ่ น้นั คอื อะไร ทานตอบวา ส่ิงแรกเปนส่ิงหนักอันยิ่งใหญไดแก คัมภีรแหงอัลลอฮฺซ่ึงดานหน่ึงของคัมภีร อยูในพระหัตถของพระองค สวนอีกดานหนงึ่ อยูในมือของพวกเจา และพวกเจาจงยึดสิ่งนี้ไวใหมั่น เพ่ือจะไดไมหลงทาง สวนสิ่งหนักอีกสิ่งท่ีฉันขอฝากไวใหหมูพวกเจา คือ อิตรัตและอะฮฺลุบัยตฺของ ฉนั (ทายาทท่ีใกลช ิดของฉนั ) อลั ลอฮฺ (ซ.บ.) ผทู รงเมตตาไดสง ขาวใหฉันทราบวา สิ่งหนักสองส่ิงนี้ จะไมแยกออกจากกันอยางเด็ดขาด จนกวาท้ังสองจะยอนคนื สูฉัน ณ สระน้ําแหงสรวงสวรรค พวก เจาท้ังหลายจงอยาล้ําหนาท้ังสองเพราะจะเปนสาเหตุใหพวกเจาพบกับความหายนะ และพวกเจาจง อยา ลา หลงั จากทัง้ สองเพราะจะเปนสาเหตุใหพ วกเจาพบกบั ความหายนะเชนกัน ประชาชนเห็นวาทานศาสดา (ศ.) ไดหันมองรอบๆ ราวกับวาทานกําลังมองหาใครบางคน และแลว สายตาของทานกจ็ ะจบั จองไปทที่ านอะลี ทานไดกม ไปจบั มอื ของทา นอะลีชูขึ้นจนเห็นรอย ขาวนวลใตรักแรของทั้งสอง ทานแนะนําใหทุกคนรูจักอะลี ซ่ึงประชาชนท้ังหมดเห็นและจําไดวา บคุ คลนนั่ คอื ราชสหี แหงอิสลามผไู มเคยพายแพ ตรงน้ีเสียงของทานดังกวาเดิม ทานกลาววา โอ ประชาชนที่รัก ท้ังหลาย ใครคือผูท่ีมีความ ประเสริฐกวาชีวิตของบรรดาผูศรัทธา ท้ังหมด กลาววา อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และศาสดาของพระองค เทา นน้ั ท่ีรูดี ทานกลา ววา อลั ลอฮฺ (ซ.บ.) เปน ผคู ุม ครองและเปนนายของฉนั สว น
ฉันคือ ผูปกครองมวลผูศรัทธาทั้งหลาย และฉันมีความประเสริฐยิ่งกวาชีวิตของพวกเขา (หมายถึง ความตอ งการของศาสดายอ มมากอนความตอ งการของพวกเขา) หลงั จากน้ันทา นกลาววา ใครกต็ ามทีฉ่ ันเปน ผูปกครองเขา อะลีก็เปน ผูปกครองเขาดว ย ทานไดตอกยํ้าประโยคน้ีถึง ๓ คร้ัง บางรายงานกลาววา ทานไดเนนยํ้าถึง ๔ ครั้ง และบาง รายงานกลาววา มากกวานน้ั หลังจากน้ันทานไดแหงนหนา มองทอ งฟาและกลาววา โอ อลั ลอฮฺ โปรดเปนมิตรกับบุคคลที่เปนมิตรกับเขา โปรดเปนศัตรูกับบุคคลที่เปน ศัตรูกับ เขา โปรดรักบุคคลที่รักเขา โปรดเกลียดชังบุคคลท่ีเกลียดชังเขา โปรดชวยเหลือบุคคลท่ีชวยเหลือ เขา โปรดทอดทิ้งบุคคลท่ีทอดทิ้งเขา โปรดใหส ัจธรรมอยูกับเขาตราบที่เขายังมีชีวิต และโปรดอยา แยกเขาออกสจั ธรรม หลังจากนั้นทานกลาววา พวกเจาจงจําไวใหดีวาเปนหนาที่ของผูที่อยูท่ีน่ีทุกคน ที่ตองแจง ขา วใหก บั ผทู ไ่ี มไ ดมาในวนั นร้ี ับทราบ เม่ือทานกลาวเทศนาจบและกาวเทาลงมาจากอาสนธรรม ประชาชนไดแหเขามาหาทาน กับอะลีอยางลนหลาม และไมทันที่ประชาชน จะแตกแถวออกไป ญิบรออีล ไดนําเอา อัล-กุรอาน โองการนี้มาใหทา น ความวา วันน้ีขาทําใหศาสนาของพวกเจาสมบูรณแกพวกเจาแลว ขาใหความกรุณาเมตตา ของขา ครบบริบูรณแ ลว และขา ไดเ ลือกอิสลามเปน ศาสนาสาํ หรับพวกเจา ทานกลาววา อัลลอฮุอักบัร อัลลอฮุอักบัร แทจริง พระองคทรงทําใหศาสนาของพระองค สมบูรณ ทรงประทานความโปรดปรานแกพวกเราอยางครบถวน และทรงพึงพอพระทัยกับสภาวะ การเปน นบขี องฉัน และวิลายะฮฺของอะลภี ายหลงั จากฉัน ในเวลาน้ันประชาชนเริ่มวุนวาย เนื่องจากทุกคนตางคนตางแยงกันเขามาแสดงความดีใจ กับทานอะลี (อ.) แมแตบุคคลในช้ันแนวหนาอยาง อบูบักรฺ หรืออุมมรั เองตางก็เขามาแสดงความดี ใจกบั ทานอะลที ้งั ส้ิน ทง้ั สอง ได
กลา วตอหนาประชาชนจํานวนมากมายในวันนน้ั วา ขอแสดงความยินดีกับทาน โอ บุตรของอบูฏอลิบ บัดน้ีทานไดเปนผูปกครองและเปนผูนํา ของฉัน และของผศู รทั ธาชนทัง้ ชายและหญิงแลว ทานอบิ นุอบั บาซกลาววา ขอสาบานตอ อลั ลอฮวฺ า คําม่ันสัญญานีจ้ ะยืนหยดั ตลอดไป วิเคราะหอ ายะฮตฺ ับลฆี ถา หากไมคิดถึงสาเหตุของการลงโองการและรายงานตางๆ ที่บันทึกไวเพียงแคพิจารณาถึง สาระและมาตรฐานของโองการ และโองการหลังจากน้ีอยางละเอียดถี่ถวน จะทําใหเห็นถึงบทบาท และหนา ที่ของตนเองเกว่ี กับผูน ําผูเปน ตวั แทนของทา นศาสดา (ศ.) ไดอยางชัดเจน โองการขางตนพรอมกับคําอธิบายในมุมมองตางๆ ท่ีไดกลาวไว ถาใครครวญอยางละเอียด จะเหน็ วา มปี ระเด็นสําคญั ๓ ประการ ดงั สรุปไดด งั น้ี ๑. ปญหาที่มีความสําคัญอยางยิ่งในอิสลาม ถึงขนาดท่ีอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงมีบัญชาใหทาน ศาสดา (ศ.) ประกาศส่ิงนั้นออกไป ถาไมประกาศ พระองคจะยกเลิกการเผยแผที่ทานไดกระทํามา ตลอด ๒๓ ป ซึ่งเทากับวาทานไมเคยประกาศสารของพระองค อีกนัยหน่ึงสามารถกลาวไดวา ส่ิงนี้ มีความสําคัญเทาเทียมกับการเปนนบี เน่ืองจากถาทานศาสดาไมประกาศออกไปเทากับการเปน ศาสดาของทานไมสมบูรณหรือถูกยกเลิก ดังที่ อัล-กุรอาน กลาววา ถาเจามิไดปฏิบัติ ดังนั้น เจาก็ มไิ ดประกาศสารของพระองค แนนอน สิ่งสําคัญประการน้ันตองไมใชคําส่ังธรรมดาทั่วไป เน่ืองจากพระองคกําชับวา ถา ไมกระทําเทากับไมเคยประกาศสารมาเลย ซึ่งคําพูดน้ีชัดเจนมากไมตองการคําอธิบายแตอยางใด เนอ่ื งจากโองการไดย ก ความสาํ คญั ของประเดน็ ดงั กลา วเทียบเทา ริซาละฮขฺ องนบี 2. ประเด็นสําคัญดังกลาวไมเก่ียวของกับนมาซ ศีลอด ฮัจฺ ญิฮาด ซะกาต และส่ิง คลายคลึงกันอยางแนนอน เนื่องจากวาโองการดังกลาวอยูในซูเราะฮฺมาอิดะฮฺ ซ่ึงเปนท่ีรูกัน โดยท่วั ไปวา ซเู ราะฮมฺ าอลั -อิดะฮฺ เปน ซูเราะฮฺ
สุดทายที่ถูกประทานลงมาใหทานศาสดา (ศ.) หมายถึงในชวงบ้ันปลาย สุดทายแหงชีวิตอันจําเริญ ของทาน นน่ั หมายความวา ทานไดส อนส่งั เกี่ยวกับหลกั การ อสิ ลามไปเรียบรอยแลว กอนหนา นี้ 3. คําอธิบายของโองการบงบอกวา ภารกิจนี้มีความลําบากใจอยางยิ่งเน่ืองจากดานหน่ึงเปน สาเหตุนําพาใหชีวิตของทานไมปลอดภัยและตกอยูในอันตราย ดวยเหตุน้ี อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จึงรับปาก ทา นวา พระองคจะปกปอ งทานเอง พระองค ตรัสวา อัลลอฮทฺ รงคมุ ครองเจา จากมวลมนษุ ย ทา ยสดุ ของโองการสาํ ทับอกี วา แทจรงิ อัลลอฮฺจะไมทรงช้ีนาํ พวกปฏิเสธท้ังหลาย แนนอน คําอธิบายน้ียอมแสดงใหเห็นวาตองมีบุคคลไมมากก็นอยปฏิเสธและตองแสดง ความขัดแยงออกมาอยางแนนอน ฉะน้ัน ส่ิงสําคัญ 3 ประการท่ีกลาวมาทําใหเห็นวาสิ่งท่ีโองการ ตองการประกาศมิสามารถเปนอยางอ่ืนไปได นอกจากการประกาศแตงต้ังใหทานอะลีเปนเคาะ ลฟี ะฮแฺ ละเปนตวั แทนของทาน แนนอน ในชวงสุดทายแหงชีวิตอันจําเริญของทานคงจะไมมีส่ิงใดสําคัญเกินไปกวา การ แตง ต้งั ตวั แทน มิใชป ญ หาเรอื่ งหลักการปฏบิ ัตแิ ตอยางใด เน่ืองจากชวงน้ันเปนชวงสุดทายแหงชีวิต ถาจนถึงเวลานั้นยังไมไดประกาศหลักการอิสลามแลว มุสลิมจะปฏิบัติตัวกันอยางไร และภารกิจ ตางๆ ท่ีกระทํามากอนหนานั้นจะเปนอยางไร สําคัญไปกวานั้น สิ่งนี้ตองเทาเทียมกับ ริซาละฮฺของ ทานดว ย เนือ่ งจากถา ไมป ระกาศออกไป รซิ าละฮฺ (การเผยแผ) ของทา นตองถกู ยกเลิก ฉะนั้น ทุกตัฟซีรที่อธิบายโองการดังกลาวใหนอกเหนือไปจากการแตงตั้งทานอะลีแลว ถือ วา ไมถ ูกตอ งทั้งสิน้ และไมมคี วามเหมาะสมกบั โองการและสถานการณแตอยา งใด สัจธรรมของเฆาะดรี เปน อมตนิรนั ดรก าล
พระเจาทรงประสงคใหเหตุการณน้ีเกิดขึ้นกลาวคือ ทรงประสงคใหประวัติศาสตรอันเปน ความจริงแหงเฆาะดรี ดํารงอยูใ นทกุ ยคุ สมยั ในรูปของประวัติศาสตรที่มีชีวิตซ่ึงดึงดูดดวงใจทุกดวง ใหเขา ไปหา จงึ จะเห็นไดวานักเขียนมุสลิมในทุกยุคสมัยมีการกลาวถึง เฆาะดีร เอาไวทั้งในหนังสือ อรรถาธิบายอัล-กุรอาน ประวัติศาสตร ศาสนศาสตร และรายงานฮะดีษ ตลอดจนนักบรรยาย ท้ังหลายตางก็กลาวถึงเร่ืองราวของเฆาะดีร และคําเทศนาเฆาะดีรในมุมมองตางๆ ตามวาระโอกาส ที่มีความเหมาะสม สําคัญท่ีสุด คือ กลาวถึงความประเสริฐของอะลี (อ.) ในฐานะของอิมามท่ีไมมี บุคคลใดสามารถปฏิเสธไดนอกเสียจากความอคติ มิใชเพียงนักบรรยายเทาน้ันทวาบรรดานักกวี ภาษาตางๆ ไดถ า ยทอดความจริงแหงการดลใจในเรือ่ งราวของเฆาะดีรเปน โวหารและลีลาของภาษา ทง่ี ดงามโดยยกยอ งเหตุการณบรสิ ุทธิน์ ้ีสมั พันธไ ปยงั เจา ของๆ มัน ดวยหตุนี้ จะเห็นวาไมมีเหตุการณใดบนหนาประวัติศาสตรเกิดขึ้นแลวจะไดรับการ ถายทอด และกลาวขานถึงจากชนชั้นตางๆ ไมวาจะเปนนักรายงาน นักอรรถาธิบายอัล-กุรอาน นักภาษาศาสตร นักศาสนวทิ ยา นกั ปรชั ญา นักกลาวปาฐกถา นกั กวี นกั เขยี น และนักประวัติศาสตร มากเหมือนกับเร่อื งราวของเฆาะดรี หนึ่งในสาเหตุของความเปนอมตะนิรันกาลของเหตุการณเฆาะดีร คือ การประทานอัล-กุ รอาน 2 โองการ ลงมาเก่ียวกับเหตุการณดังกลาว ดังนั้น ตราบเทาที่อัล-กุรอานเปนอมตะ เหตุการณ ประวัตศิ าสตรแหงเฆาะดีรก็เปนอมตะดว ย อีกดานหน่ึงในสังคมอิสลามนับต้ังแตอดีตผานมาจวบจนถึงปจจุบันโดยเฉพาะในสังคม ชีอะฮฺถือวาเฆาะดีรเปนหนึ่งในวันตรุษ (อีด) สําคัญของอิสลามและในวันน้ีจะมีการจัดงานเฉลิม ฉลองพิเศษเหมอื นกับวันตรษุ อนื่ ๆ และเนอื่ งจากเฆาะดรี เปน ความจรงิ แหงประวัติศาสตรไดถูกยอม สสี ันแหงความเปนอมตะดวยตัวเอง ดงั นัน้ เฆาะดรี จึงไมถูกลมื เลอื นไปจากความคดิ ของผูศ รทั ธา เม่ือศึกษาประวัตศิ าสตรอ ยา งละเอยี ดจะเปนทีป่ ระจกั ษว า วันท่ี 18
ซิลฮิจญะฮฺอัลฮะรอมเปนวันอีดสําคัญในหมูมุสลิมมาโดยตลอด จนถึงข้ันที่วา อิบนิ คุลกาน กลาวถึงเรื่องราวของ อัลมุซตะอะลี อิบนิ อัลมุซตันซิรวา ในปฮิจฺเราะฮฺศักราชที่ 487 ตรงกับวันท่ี 18 ซิลฮิจญะฮฺ ซ่งึ เปน อีดเฆาะดรี คุมประชาชนไดแ หมาใหสตั ยาบันกับเขา อิบนิ คุลกานเขียนถึง อัลมุซตันซิรบิลลาฮฺ อัลอะบีดีวา ในปฮิจฺเราะฮฺศักราชที่ 487 เหลือ เวลาอีก 12 คืน จะสิ้นเดือนซิลฮิจญะฮฺ เขาไดสิ้นใจจากไปและคืนน้ัน คือ ค่ําที่ 18 ของเดือนซิล ฮิจญะฮฺ ซงึ่ ตรงกับ อดี เฆาะดรี อบูร็อยฮาน บีรูนี บันทึกไวในหนังสือ อัลอาซารุลบากียะฮฺ วา เฆาะดีร เปนหน่ึงในวันอีด สาํ คัญของอสิ ลาม ซึ่งมสุ ลมิ จะจดั ใหม ีการเฉลิมฉลองกันในวันน้ี มิใชเฉพาะอิบนิคุลกานและอบูร็อยฮาน บีรูนี เทานั้นท่ีกลา วถึงความสําคัญของเฆาะดีร ซะ อาลุบบี ก็กลาวไวเ ชน กันวา คํา่ คืนนเี้ ปน หนึง่ ในค่ําคืนสาํ คัญในหมมู สุ ลมิ ท้ังหลาย เม่ือพิจารณารากท่ีมาของวันอีดในอิสลามจะเห็นวาอีดเหลาน้ัน ยอนกลับไปยัง วันเฆาะดีร คุม เน่ืองจากในวันน้ันทานศาสดา (ศ.) สั่งให บรรดามุฮาญิรีน อันศอร และภรรยาของทานเขาไป แสดงความยินดีกบั ทา นอะลี ในฐานะทเ่ี ปน ผูครอบครองความประเสริฐของวนั น้ี ซัยดฺ บุตรของ อัรกอม กลาววา ในหมูบรรดามุฮาญิรีนอบูบักรฺ อุมมัร อุสมาน ฏ็อลฮะฮฺ และซุบัยรฺ เปน กลมุ แรกท่ีใหส ัตยาบันกับทา นอะลี การเฉลิมฉลองและการใหสัตยาบนั ดําเนินตอไป จนถงึ มัฆริบ อีกเหตุผลหนงึ่ แหง ความเปน อมตะของเฆาะดรี การใหความสาํ คัญกับรายงานประวัติศาสตรน้ีจะเห็นวามีนักรายงานจํานวนมากรายงานไว เฉพาะตําราของอะฮฺลิซซุนนะฮฺเพียงอยางเดียว มีนักรายงานเกินกวา 110 คน รายงานไว จริงอยูวา ทา นศาสดา (ศ.) กลา วคําเทศนาเกย่ี วกับเฆาะดีรทามกลางผูคนมากเกินกวา 120,000 คน แตบางกลุม ชนท่รี ว มอยใู นวนั นนั้ อยูหา งไกลจากฮิญาซซงึ่ พวกเขามิไดร ายงานเอาไว แต
บางกลมุ ไดรายงานความจรงิ นี้ไว ประมาณศตวรรษที่ 2 ของอิสลาม ซ่ึงตรงกับชวงของตาบิอีน หมายถึงกลุมชนหลังจาก บรรดาสาวกใกลช ิดของทานศาสดา (ศ.) จาํ นวน 89 คน รายงานเหตกุ ารณเฆาะดรี เอาไว นักรายงานเหตุการณเฆาะดีรในศตวรรษตอมาทั้งหมดลวนเปนนักปราชญและเปนผูรู ฝา ยอะฮฺลิซซุนนะฮฺท้ังสิ้น ซ่ึงจํานวนท้ังส้ิน 360 คน พวกตางบันทึกเหตุการณเก่ียวกับเฆาะดรี ไวใน ตําราของตน แมว าจะมีเสียงวิพากษว ิจารณห รือกระแสตอตานจากบคุ คลอ่นื ก็ตาม ประมาณศตวรรษที่ 3 มีผูรายงานประมาณ 92 คน ประมาณศตวรรษท่ี 4 มผี ูรายงานประมาณ 43 คน ประมาณศตวรรษที่ 5 มผี ูรายงานประมาณ 24 คน ประมาณศตวรรษท่ี 6 มผี รู ายงานประมาณ 20 คน ประมาณศตวรรษที่ 7 มีผูรายงานประมาณ 21 คน ประมาณศตวรรษท่ี 8 มีผูร ายงานประมาณ 18 คน ประมาณศตวรรษที่ 9 มผี ูรายงานประมาณ 16 คน ประมาณศตวรรษท่ี 10 มผี รู ายงานประมาณ 14 คน ประมาณศตวรรษที่ 11 มีผรู ายงานประมาณ 12 คน ประมาณศตวรรษที่ 12 มผี รู ายงานประมาณ 13 คน ประมาณศตวรรษท่ี 13 มผี ูรายงานประมาณ 12 คน ประมาณศตวรรษท่ี 14 มีผรู ายงานประมาณ 20 คน ผูรายงานไมไดเลารายงานเพียงอยางเดียว ทวากลาวถึงสายสืบและประเด็นสําคัญของ รายงานโดยเขียนเปนตําราแยกตางหาก นักประวัติศาสตรท่ีมีช่ือเสียงของอิสลาม ฏ็อบรี เขียนตํารา เลมหนง่ึ ชื่อวา อลั วิลายะฮฺ ฟ ฏรุกิน ฮะดีษิลเฆาะดีร เปน ตาํ ราที่อางถึงสายสบื ของฮะดีซเฆาะดีร โดย อางวาฮะดีษดังกลาว มสี ายรายงานถึงจํานวน 75 สาย ซึ่งท้ังหมดรายงานโดยตรงมาจากทานศาสดา (ศ.) อิบนิ อกุ ดะฮฺ กูฟ บันทึกไวในรซิ าละฮฺ อลั วิลายะฮฺ วา ฮะดซี เฆาะดีร
มผี ูร ายงานมากถึง 105 คน อบบู ักรฺ มุฮมั มัด บิน อมุ ัร บฆั ดาดี ซึ่งรูจักกันในนามของ ญัมอานี กลาววา ฮะดีซเฆาะดีร มี สายรายงานถึง 25 สาย นกั ฮะดษี ทีม่ ชี ่ือเสยี งกลา วถึงสายรายงาน ฮะดษี เฆาะดรี ไว เชน 1. อะฮมฺ ัด บนิ ฮันบัล ชยั บานี บนั ทกึ สายรายงานไวจ าํ นวน 40 สายรายงาน 2. อิบนิ ฮาญรั อัซเกาะลานี บนั ทกึ สายรายงานไวจ าํ นวน 25 สายรายงาน 3. ญะซะรี ชาฟอี บนั ทึกสายรายงานไวจาํ นวน 80 สายรายงาน 4. อบูซะอดี ซะญซิ ตานี บันทกึ สายรายงานไวจํานวน 120 สายรายงาน 5. อะมรี มุฮัมมดั เยมนั นี บันทกึ สายรายงานไวจํานวน 40 สายรายงาน 6. นะซาอี บันทึกสายรายงานไวจ ํานวน 250 สายรายงาน 7. อบลุ อะอลฺ าอฺ ฮิมดานี บันทกึ สายรายงานไวจ ํานวน 100 สายรายงาน 8. อบลุ อิรฟาน ฮับบาน บนั ทกึ สายรายงานไวจาํ นวน 30 สายรายงาน นักเขียน ท่ีเขียนถึงเหตุการณและเรื่องราวที่เก่ียวของกับเฆาะดีร ความจริงแหง ประวัติศาสตรไวมีจํานวนถึง 26 คน และบางที่อาจเปนไปไดวายังมีนักเขียน อีกมากมายท่ีเขียนถึง เหตุการณของเฆาะดีรไวแตประวัติศาสตรมิไดบันทึกช่ือของเขาเหลาน้ันเอาไว ซึ่งสามารถศึกษา ขอมูลเพมิ่ เตมิ ไดจ ากหนงั สือ อัลเฆาะดีร เลม 1 อลั ลามะฮฺอามนี ี นักวิชาการฝายชีอะฮฺ เขียนหนังสืออันมีคาย่ิงไวเปนจํานวนมากเกี่ยวกับเรื่องราวของเฆาะ ดีร ซึ่งหน่ึงในตําราท่ีครอบคลุมมากที่สุด คือ อัลเฆาะดีร เปนตําราที่แสดงใหเห็นถึงความอุตสาหะ อยา งสงู ของนักเขียนอสิ ลาม อัลลามะฮฺ นักตอ สู มรั ฮมู อายะตลุ ลอฮฺ อามนี ี หลงั จากน้ันทา นศาสดา (ศ.) กลาววา โอ ประชาชนที่รัก ท้งั
หลาย บัดนม้ี ะลาอกิ ะฮฺ ไดน ําวะฮีโองการหน่ึงมาใหฉนั วา ความวา วันน้ีขาทําใหศาสนาของพวกเจาสมบูรณแกพวกเจาแลว ขาใหความกรุณาเมตตา ของขาครบบริบรู ณแ ลว และขา ไดเลอื กอสิ ลามเปนศาสนาสําหรบั พวกเจา ในเวลาน้ันเสียงตักบีร อัลลอฮุอักบัร ไดดังกึกกองไปทั่วทองทุง ทะเลทราย หลังจากน้ัน ทานกลา ววา ฉันขอขอบคุณตอพระเจาที่พระองคทรงประทานใหศาสนาของพระองคสมบูรณ และ ประทานใหค วามเมตตาของพระองคครบบริบูรณ และพระองคทรงพึงพระทัยตอการแตงต้ังใหอะลี เปน ตัวแทนของฉัน หลังจากนั้นทานไดกาวลงมาขางลางและกลาวกับอะลีวา เจาจงเขาไปนั่งใน คายท่ีพัก เพื่อวาบรรดาผูนําเผาตางๆ จะไดเขามากลาวแสดง ความยินดีและใหสัตยาบันกับเจา และ พวกเขาเปนกลุมชนแรกทใี่ หส ัตยาบนั กบั ทานอะลกี อ นบคุ คลใดทั้งหมด อัซซาน บิน ซาบิต นักกวีเอกที่มีช่ือเสียงในยุคน้ันไดฉวยโอกาส โดยขออนุญาตทาน ศาสดา (ศ.) กลา วบทกลอนเก่ยี วกบั เหตกุ ารณเฆาะดีร และเขาไดกลา วตอ หนา ทานศาสดา (ศ.) วา ทานศาสดา (ศ.) ไดเรียกพวกเขาใหมารวมกันในวันเฆาะดีร ณ คุม เพ่ือฟงสิ่งท่ีศาสดาได เรียกมา ทานกลาววา ใครเปน นายและเปนนบีของพวกทาน พวกเขาตอบอยางตรงไปตรงมาโดยไม ออ มคอมทนั ทีวา พระผูเปนเจาของทานคือนายของพวกเรา และทาน คือ นบีของ พวกเรา การที่เรายอมรับวิ ลายะฮขฺ องทานจะไมทําใหเราระหกระเหนิ ทา นกลาวกับอะลีวา ลุกขน้ึ เถดิ ฉนั ไดเลือกใหเจาเปน อิมามและ ผชู ้ีนําภายหลงั จากฉนั แลว หลังจากนั้นกลาววา ใครก็ตามท่ีฉันเปนผูปกครองเขา อะลีก็เปนผูปกครองเขาดวย ดังน้ัน พวกทานจงปฏบิ ัติตามเขาดว ยความจริงใจ เวลานั้น ทา นกลาววา โออ ัลลอฮฺ โปรดเปนมิตรกับผูที่เปนมิตรกับเขา โปรดเปนศัตรูกับผูที่ เปน ศตั รกู ับอะลี
ถาพิจารณาจะเห็นวา ฮะดีษเฆาะดีร เปนฮะดีซเดียวในประวัติศาสตรที่เปนหลักฐานอัน ยิ่งใหญยืนยันถึงความดีและความประเสริฐกวาของทานอะลีที่มีเหนือบรรดาสาวกท้ังหมด ซ่ึงทาน เคยกลา วถึงส่งิ นี้ถึงสองครัง้ สองคราว ในการประชมุ เลอื กอมุ มรั และอซุ มานเปน คอลฟิ ะฮฺ หลังจากพิธีแตงตั้งทานอะลี (อ.) ใหเปนเคาะลิฟะฮฺ เสร็จเรียบรอยแลว บรรดานักแสวงบุญ ทีเ่ ดินทางมาจากซเี รยี และอิยิปตไ ดขออนุญาต แยกทางกับทานศาสดา (ศ.) ตรงุฮฺฟะฮฺเพื่อเดินทาง กลับบานเกิดเมอื งนอนของตน สวนนักแสวงบญุ ท่เี ดนิ ทางมาจาก คุซูมัต และเยเมน บางกลุมไดแยก ทางกับทานกอนหนาน้ันและบางกลุมขอแยกทางกับทานตรงุฮฺฟะฮฺนั่นเอง สวนนักแสวงบุญกลุม ใหญจํานวนหลายหมื่นคน ท่ีเดินทางมาพรอมกับ ทานไดรวมเดินทางกลับมะดีนะฮฺพรอมกัน ยังไม ทันส้นิ ปฮ จิ ญเราะฮฺศกั ราชท่ี 10 กองคาราวานของทา นศาสดา (ศ.) ก็ไดม าถงึ มะดนี ะฮฺ ทานศาสดา (ศ.) ม่ันใจวารัฐบาลที่เขมแข็งแหงโรม ซ่ึงพวกเขาไดเห็นการเติบโตของ อิสลามอยูทุกวัน พวกเขาตองไมพอใจอิสลามอยางแนนอน โดยเฉพาะอยางยิ่งการท่ีทานไดสั่งให พวกยะฮูดอี อกไปจาก ซาอุดีอาระเบีย สวนพวกครสิ เตียนน้ันไมพอใจรัฐบาลอิสลามเปนทุนเดิม อยู แลว พวกเขาตอ งวางแผนรา ยกับอิสลามอยางแนนอน ดวยเหตุน้ี ใน ปฮิจญเราะฮฺศักราชท่ี 8 ทานจึง ไดสงกองทัพภายใตการนําทัพของทานญะอฺฟร บุตราของอบีฏอลิบ ซัยดฺ บุตรของฮาริซ และอับ ดุลลอฮฺ เราะวาฮะฮฺ เดินทาง ไปยังดินแดนโรม ในสงครามนี้แมทัพทั้งสามทานถูกสังหารจนหมด ส้ิน สุดทาย กองทัพอิสลามตองตกอยูภายใตการบัญชาของคอลิด ไมมีฝายใดแพหรือชนะ คอลิดจึง นําทพั กลับมะดนี ะฮฺ เมื่อยางเขาปฮิจฺเราะฮฺศักราชท่ี 9 ขาวการบุกโจมตีฮิญาซโดยกองทัพของโรมแพรสะบัด ไปท่ัวเมืองมะดีนะฮฺ ทานศาสดาไดนําทัพพรอมจํานวนทหาร 30,000 คน เคล่ือนไปยังแผนดิน ตะบูก แตมิไดมีการปะทะกับทหารฝายศัตรูแตอยางใด เน่ืองจากพวกเขาหวาดกลัวทานจึงยกทัพ กลบั มะดนี ะฮฺ ดังรายละเอยี ดทีก่ ลา วไปแลว ตอนอธบิ ายสงครามตะบกู ในมมุ มองหน่ึงทานศาสดา (ศ.) เห็นวา อนั ตรายครง้ั น้ีใหญห ลวง ยงิ่
นัก ดวยเหตุน้ี หลังจากกลับจากฮัจญะตุลวะดาอฺ เม่ือถึงมะดีนะฮฺทาน จึงไดจัดทันที ซ่ึงมีบุคคล สําคัญเขารวมทัพกันอยางมากมาย ไมวาจะ เปนอบูบักรฺ อุมมัร อบีอุบัยดะฮฺ ซะอฺดฺ วะกอซ และคน อื่นๆ อีกมากมายท่ีเขารวมทัพ ทานยังไดกําชับอกี วาพวกมุฮาญิรีน ที่อพยพมามะดีนะฮฺรุนแรก พวก ทานทุกคนตองเขา รวมสงครามครง้ั น้ี ทานศาสดา (ศ.) ตองการปลุกความรูดานศาสนาและการเปนนักตอสูของพวกเขา ทานจึง ไดนาํ ธงมาผกู ตดิ ไวท่แี ขนของ อุซามะฮฺ และกลา วกบั เขาวา ดว ยพระนามแหงพระเจา เจาจงตอสูในนามของพระองค จงฟาดฟนศัตรูของพระองค และ พรุงน้ีเชาจงเขาโจมตีอุมบา จงรีบผานดินแดนน้ีไปใหเร็วทส่ี ุดกอนที่พวกเขาจะรูวาเจายกทัพมา เจา จงพาทหารไปใหถ ึงกอ นท่พี วกเขาจะรู อุซามะฮฺ ไดใหธงแกบุรีดะฮฺ และตั้งคายพักท่ี ุรฟุน เพ่ือรอใหทหารแตละกลุมเดินทาง มาถงึ และรอเคลื่อนทพั ไปพรอ มกัน ทานศาสดา (ศ.) ไดแตงตั้งใหเด็กหนุมเฉกเชน อุซามะฮฺ เปนแมทัพ โดยใหผูอาวุโสท้ังจาก มุฮาญีรนี และอนั ศอรอยภู ายใตบ ังคบั บัญชาของเขา โดยมีจดุ ประสงค 2 ประการดังน้ี 1. ตองการใหอุซามะฮฺ ลบลางความโศกเศราและยกระดับตนเองใหสูงสงขึ้นมา อุซามะฮฺ เขา ใจถงึ สิ่งน้ันดี เนอ่ื งจากเขาไดสูญเสยี บิดาไปในการทําสงครามกบั โรมคร้ังกอ น 2. ทานตองการจัดแบงภารกิจและหนาท่ีไปตามความเหมาะสมและความสามารถของแต ละคน และตองการใหสิ่งนีม้ ีชีวิตชีวาตลอดเวลา อีกอยางทานตองการใหเปนท่ีประจักษแกสังคมวา ตาํ แหนงหนาที่ทางสงั คมมไิ ดข ึน้ อยกู บั ส่ิงใด นอกจากความสามารถและความเหมาะสม มิไดขึ้นอยู กับอายุหรือความอาวุโสหรือความใกลชิดท่ีมีตอทาน และเพื่อประกาศแกเด็กหนุมทั้งหลายวา ถา หากเจามีความสามารถจงเตรียมตัวใหพรอมเพ่ือรับมอบหนาท่ีเพื่อรับใชสังคม และจงรูดวยวาตาม หลักการอิสลาม ตําแหนงหนาท่ีทางสังคมข้ึนโดยตรงกับความรูและความสามารถ มิไดขึ้นอยูกับ ความอาวโุ ส
อิสลามที่แทจริง คือ ความเครงครัดตอหลักการอันสูงสงของพระเจาและมุสลิมท่ีแทจริง คือ บุคคลท่ียอมเช่ือฟงคําสั่งและปฏิบัติตามคําบัญชาของพระองค ดุจดังเชนที่กองทัพเช่ือฟง ผูบังคับบัญชาในสนามรบ และตองเปนการเชื่อฟงจากใจจริงไมวาสิ่งนั้นจะเปนประโยชนกับตน หรอื ใหโ ทษหรือตรงกบั ความตอ งการของตนหรอื ไมก ต็ าม อะมีริลมอุ มฺ ินนี อะลี (อ.) กลา วอธบิ ายอิสลามดว ยประโยคสั้นๆ แตม ีความลึกซ้ึงวา อิสลาม ฮุวลั ตัซลีม หมายถงึ อิสลาม คอื การยอมจํานนตอ อาํ นาจและพระบญั ชาของพระองคเทาน้นั บุคคลที่แบงระดับชั้นในการปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจา จะสังเกตเห็นไดอยาง ชัดเจนวาเม่ือใดหรือเรื่องใดที่ขัดแยงกับความตองการของตนเขาจะทักทวงทันทีทันใด หรือหา ขออา งตางๆ นาๆ มาหักลาง ดังน้ัน บุคคลเหลานี้ถือวาไมมีความเครงครัดตอหลักการอิสลาม ย่ิงไป กวาน้นั พวกเขามิใชผ ูยอมจาํ นนท่ีแทจริง ซง่ึ ถอื เปน รากเหงา สําคัญของอิสลาม แมทพั คนใหมเปนเดก็ หนมุ นามวา อุซามะฮฺ บตุ รของ ซัยดฺ เพิ่งจะมอี ายไุ ด 20 ปบรบิ ูรณ ซึ่ง ถือวาเปนหลักฐานสําคัญสําหรับคํากลาวอางขางตนของเราที่วา ตําแหนงหนาที่ทางสังคมขึ้น โดยตรงกับความรูและความสามารถ ดังน้ัน การเปนแมทัพของอุซามะฮฺ สรางความลําบากใจแกผู อาวุโสหลายคน เนื่องจากเม่ือเทียบอายุกันแลวพวกเขามีอายุมากกวาอุซามะฮฺเทาตัว พวกเขาจึง ทักทวงทานศาสดา (ศ.) ทันที ซึ่งสาเหตุการทักทวงของพวกเขามิไดเกิดจากส่ิงใด นอกจากจิต วิญญาณเบ้อื งลึกทไี่ มยอมรับ ทานศาสดา (ศ.) ในฐานะผูบัญชาสูงสุดแหงกองทัพอิสลาม คําทักทวง ของพวกเขา คอื ทานศาสดา (ศ.) แตง ต้ังเด็กหนุมที่มอี ายุนอยกวาบรรดาสาวก เปนแมทัพแทน ตามความเปนจริงแลวพวกเขาลืมเลือนประเด็นสําคัญอันมีคาย่ิงไป ซึ่งไดกลาวอธิบายไป กอนหนาน้ันแลว พวกเขาไดเอาสติปญญาอันเล็กนอยและบุคลิกภาพของพวกเขามาวัดเจตจํานง ของทานศาสดา (ศ.) ซงึ่ โดยหลกั การแลว มใิ ชส่งิ ถูกตอ ง ทั้งทใ่ี นความรสู ึกลกึ ๆ ของพวกเขาก็ทราบดีวา ทานศาสดา (ศ.) พยา
ยามอยางยิ่งที่จะใหกองทัพเคล่ือนออกไป แตพวกเขาพยายามบายเบี่ยงตางๆ นาๆ จนกระทั่งตอง ลาชาในการเคล่อื นทัพและตองมาหยดุ คอยพวกเขาอยทู ่ี รุ ฟนุ พวกเขาแอบที่จะทําลายแผนการของ ทา นศาสดา (ศ.) อยา งเงยี บๆ ทานศาสดา (ศ.) หลังจากมอบธงใหอุซามะฮฺนําทัพออกไป ในวันรุงข้ึนทานก็ลมปวยลง และปว ยหนักตดิ ตอกนั นานหลายวันจนในทีส่ ดุ ทา นไดอําลาจากโลกไป ระหวางทน่ี อนปว ยอยูน ้นั ทานศาสดา (ศ.) ไดยินขา ววาเกดิ ปญหาในการเคลื่อนทัพของอุซา มะฮฺ มีบางกลุมดูถูกเหยียดหยามการนําทัพของเขา ทานรูสึกเสียใจมากท่ีเกิดเหตุการณเชนนั้น ทาน ลุกขึ้นขณะท่ีมีผาเช็ดตัวพันกายอยูและรีบตรงไปยังมัสญิดเพื่อพูดกับบรรดามุสลิมที่แสดงทาที กระดางกระเดื่องกับอุซามะฮฺ ทานกลาวถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการฝาฝนของพวกเขา ทานตอง ขึ้นกลาวเทศนาขณะท่ีมีไขข้ึนสูงและตัวรอนจัดมาก หลังจากกลาวสรรเสริญพระเจาแลว ทานกลาว วา โอ ประชาชนท่ีรักท้ังหลาย ฉันรูสึกเสียใจมากที่พวกทานลาชาในการเคลื่อนทัพ แมทัพอุ ซามะฮฺเขาไมไดมาจากพวกเจาดอกหรือ พวกเจาจึงพูดจาบายเบี่ยงและทักทวงกันอยางมากมาย ซึ่ง การทักทวงของพวกเจาชัดเจนและไมตางอะไรไปจากอดีตที่คร้ังหนึ่งพวกเจาก็เคยทักทวงบิดาของ เขา ฉันขอสาบานดวยพระนามของอัลลอฮฺวา ท้ังบิดาของเขาและตัวเขามีความเหมาะสมกับ ตําแหนงน้ีมากกวาบุคคลอ่ืนท้ังหมด ฉันรักเขามาก พวกเจาจงกระทําดีกับเขาและแนะนําบุคคลอื่น ใหกระทาํ ดกี บั เขาดว ย เนอ่ื งจากเขาเปน หนึ่งในคนดีจากหมพู วกเจา ทานศาสดา (ศ.) ไดยุติเทศนาเพียงเทาน้ัน ทานไดกาวลงจาก มิมบัร ดวยความยากลําบาก เน่ืองจากมีอาการไขสูงและตัวรอนจัดมาก หลังจากนั้นทานไดกลับบานและลมปวยลงอีก ทาน กลาวกับบรรดาสาวก ชั้นใกลชิดที่มาเย่ียมเยือนทา นที่บานวา พวกเจาจงเขารวมทัพไปกับ อุซามะฮฺ เถิด ทานศาสดาขอรอ งพวกเขาใหเขา รว มทัพกับอุซามะฮฺท้ังท่ีทานยังนอนปวยอยู และทุกครั้งท่ี ทา นส่ังใหบรรดาสาวกเขารวมทัพทานจะกลาวกบั พวกเขาวา จงเตรียมการเคล่อื นทัพไปกบั อซุ ามะฮฺ และจงสาปแชงบรรดาผูท่ไี ม
ยอมรวมทัพและตองการอยูในมะดนี ะฮฺตอ ไป คําขอรองของทานเปนสาเหตุใหกลุมมุฮาญิรีนและอันศอรตองมาชี้แจงกับทาน และ ถึงแมวา พวกเขาจะปรารถนาหรือไมก็ตองออกจากมะดีนะฮฺ เพ่ือไปเขา รวมทัพกับอซุ ามะฮฺที่ รุ ฟนุ สองสามวันที่ผานมาอุซามะฮฺยุงอยูกับการจัดระบบทัพ และการจัดเตรียมสิ่งของสําคัญ เบอื้ งตนสาํ หรับการออกทัพ มรี ายงานมาจากมะดีนะฮวฺ า ทานศาสดา (ศ.) ไมพอใจบางกลุมท่ีขัดขืน ไมยอมทีจ่ ะออกทพั กบั อซุ ามะฮฺ พวกเขาลงั เลใจจึงทําใหการเคล่ือนทัพของอุซามะฮฺลาชาจนกระท่ัง วันจันทร อุซามะฮฺ ในฐานะแมทัพไดเดินทางมาพบทานศาสดา (ศ.) และเห็นสีหนาไมสบายใจของ ทาน ทานศาสดา (ศ.) สั่งกําชับวาจงเคลื่อนทัพออกไปยังเปาหมายใหเร็วท่ีสุด เมื่ออุซามะฮฺ กลับมายังกองทัพเขาส่ังใหเคล่ือนทัพทันที ขณะนั้นกองทัพยังไมทันเคลื่อนออกจากุรฟุน (ที่ต้ัง กองทัพ) มีรายงานมาจากมะดีนะฮฺวาทานศาสดา (ศ.) กําลังจะส้ินใจ ทําใหบางคนท่ีพยายามหา ขออางท่ีจะไมออกทัพ ซึ่งเปนเพราะพวกเขาทําใหการเคล่ือนทัพลาไปถึง 16 วัน ไดใชโอกาสนั้น เปนขอตอรองวาพวกเขาเปนหวงสุขภาพและอาการของทานศาสดา (ศ.) จึงไดออกจากทัพและ กลับมามะดีนะฮฺ และทหารบางกลุมตามพวกเขากลับมาดวย ซ่ึงพวกเขาลืมไปวาอาการทรุดหนัก ของทานศาสดา (ศ.) ตามความจริงเกิดจากความไมมีระเบียบวินัยของพวกเขา เนื่องจากพวกเขา พยายามฝา ฝน ไมปฏบิ ตั ติ ามคาํ สั่งของทา น การขออภยั โทษใหช าวบะกอี ฺ วันที่ทานศาสดา (ศ.) เริ่มรูสึกวามีอาการปวยไขทานไดจับมือของ อะลีพรอมกับชนบาง กลุมเดินไปยังสุสานบะกีอฺ ทานบอกกับพวกเขาวา ฉันไดรับมอบหมายจากพระเจาใหวิงวอนและ อภัยโทษใหพวกเขา เมื่อทาน ยางเทาเขาสุสานบะกีอฺ ทานไดกลาวสลามแกชาวกุบูร (หมายถึงขอ ความสันติใหแกผูตายในสุสาน โดยเร่ิมตนวา โอ บรรดาผูที่ถูกฝงเรือนรางอยูใตดิน สภาพที่ได ประสบ
กับพวกเจา คือ ความสงบสุข การทดสอบประหนึ่งความมืดมิดแหงคํ่าคืนท่ียํ่ากายเขามาโดยที่ อันหนึ่งไดไปรวมกับอีกอันหน่ึง หลังจากน้ันทานขออภัยใหแกชาวสุสานบะกีอฺ และหันมากลาว กับอะลี (อ.) วา กุญแจแหงกรุสมบัติของโลกและชีวิตท่ีสุขสบายไดถูกเสนอแกฉัน พรอมกับการได พบกับพระผูอภิบาลและการเขาสวรรค ฉันเลือกการไดพบกับพระเจาและเขาสวรรคแทนชีวิตที่สุข สบายทางโลก มะลาอิกะฮฺ ผูนําวะฮไี ดน าํ วะฮมี าใหฉ ันปล ะหน่งึ คร้ัง แตปน้ีไดนํามาใหฉัน 2 คร้ัง สาเหตุท่ี เปน เชนน้ี มิไดมีสิง่ ใดแอบแฝงนอกเสยี จากเปน การบง บอก วา ความตายของฉนั ใกลเขา มาแลว สําหรับบุคคลที่ไมเช่ือเร่ืองพระเจา เปนพวกวัตถุนิยมพวกเขาจะมองไมเห็นส่ิงใดนอกจาก วัตถุ พวกเขาอาจลังเลใจและไมเชือ่ ส่งิ เหลาน้ี พวกเขาอาจสงสัยวามนุษยจะพูดกับจิตวิญญาณ สราง ความสัมพันธกบั ญาณ และรูความตายของตนไดอยางไร แตประเดน็ เหลาน้ีสําหรับผูทีม่ ิไดหลงใหล อยกู ับวตั ถแุ ละเช่ือวา วิญญาณกับสังขารเปน คนละองคประกอบกัน อกี ท้งั มไิ ดปฏเิ สธเร่ืองการติดตอ กบั วญิ ญาณ ในความคดิ ของเขาสงิ่ เหลา นีเ้ ปนไปไดอยางแนนอน ทานศาสดา (ศ.) ซึ่งสัมพันธอยูกับ โลกของวะฮฺยู และโลกในอีกมิติหน่ึงที่มิไดเปนวัตถุธาตุและปราศจากความผิดพลาด ดังน้ัน มิใช เรือ่ งแปลกท่ีทา นเขาใจความตายโดยการแจง ขาวของพระเจา
เหตุการณในปท่ี 10 แหงฮจิ ญเราะฮศฺ ักราช 44 พนิ ัยกรรมทมี่ ิไดถูกบันทึก ชวงบน้ั ปลายสุดทายแหงชีวติ อันจําเริญของทานศาสดา (ศ.) เปนชวงที่มีความละเอียดออน และสําหรับอิสลามและมุสลิม แลวถือวาเปนชวงท่ีมีความเจ็บปวดที่สุด สาวกบางคนแสดงการฝา ฝนพวกเขา ด้ือรั้น ไมยอมออกทัพกับอุซามะฮฺ ตามคําสั่งของทานศาสดา (ศ.) พวกเขาวางแผนมา อยางยาวนาน และรอเวลาท่ีจะยึดอํานาจการปกครอง อิสลามทันทีเม่ือทา นศาสดาจากไป โดยไมใส ใจการแตงต้งั ทานอะลี (อ.) ทีเ่ ฆาะดีรคุม ทา นศาสดา (ศ.) ทราบแผนการของพวกเขาคราวๆ และตองการทําลายแผนการนั้น ทานจึง ส่ังใหสาวกและผูนําเผาทุกคนออกสงครามกับอุซามะฮฺ และรีบเคล่ือนทัพออกจากมะดีนะฮฺไปทํา สงครามกับโรม ใหเร็วที่สุด แตพวกเขาไดใชการเมืองแทรกแซงโดยบายเบี่ยงและหาขออางตางๆ นาๆ ที่จะไมยอมออกทัพกบั อซุ ามะฮฺ อันเปนสาเหตทุ ําใหก ารเคลือ่ นทัพของอุซามะฮฺตองลาออกไป ถึง 16 วนั จนถงึ วนั ที่ทา นศาสดา (ศ.) กาํ ลังจะสิ้นใจเมื่อออกไปแลว พวกเขาก็ยอนกลับเขามะดีนะฮฺ มาอีกสองครั้ง สองครา โดยอางวาเปนหวงอาการของทาน จุดประสงคของทานศาสดา (ศ.) ไม ตองการใหมีปญหาการเมืองเขามาแทรกแซงในวันที่ทานจะจากไป ไมตองการใหมีนักหยิบฉวย โอกาสทางการเมืองเขามากอกวน หรือแสดงทาทีตอตานตัวแทนท่ีทานแตงตั้งไว พวกเขาไมใชวา จะไมออกจาก มะดีนะฮฺเทา น้นั ทวาพวกเขาพยายามกระทาํ
การขัดขวางทุกภารกิจ ท่ีจะเสริมสราง ใหการเปนตัวแทนของอะลี (อ.) มีความมน่ั คงแข็งแรง หรือ กีดขวางมิใหเขาข้ึนปกครอง พวกเขาพยายามขัดขวางมิใหทานศาสดา (ศ.) กลาวหรือเบี่ยงเบนการ พดู ถงึ เรือ่ งแตง ตัง้ อิมามอะลี (อ.) ทานศาสดา (ศ.) ลวงรูแผนการอันเรนลับของพวกเขาจากภรรยาของทาน ผูเปนบุตรสาว ของพวกเขา ทานไปมัสญิดขณะที่มีอาการไขสูงและตัวรอนจัด ทานยืนอยูขางๆ มิมบัรพรอมกับ กลาวดว ยเสยี งดงั ฟง ชัดจนไดย นิ ออกมาจากมัสญดิ วา โอ ประชาชนเอย ไฟแหงการใสรายไดลุกข้ึนแลว ซ่ึงการใสรายน้ัน ประหน่ึงความมืดมิด แหงยามคํ่าคืนที่ไดกรํ้ากรายเขามา พวกเจาอยาไดคิดตอตานฉันเปนอันขาด ฉันไมเคยอนุมัติสิ่งใด เวนเสียแตวา อัล-กุรอานไดอนุมัติสิ่งน้ัน และฉันไมเคยหามส่ิงใดเวนเสียแตวา อัล-กุรอานไดหาม สง่ิ น้ัน ประโยคดังกลาวบง บอกวาทา นศาสดา (ศ.) มคี วามเปน หว ง สถานการณอยา งยงิ่ โดยเฉพาะ อยางยิ่งเร่ืองการเปนผูนําภายหลังจากทานจุดประสงคท่ีทานกลาววา บัดนี้เปลวไฟแหงการใสราย ไดลุกข้ึนแลว ทานหมายถึงเปลวไฟใด มันมิใชเปลวไฟแหงความแตกแยกและความดื้อรั้น ที่ประทุ อยูในหมูมุสลิมมาอยางชานานดอกหรือ ซึ่งหลังจากทานจากไปแลว มันตองลุกโชติชวงข้ึนมาอยาง แนนอน จงนําปากกาและกระดาษมาฉันจะบนั ทกึ บางอยา ง ทานศาสดา (ศ.) ลวงรูแผนการที่พวกเขาตองการชวงชิงตําแหนงคอลีฟะฮฺท่ีทานไดแตงตั้ง ข้ึน ทานตองการยกเลิกแผนการของพวกเขา และตองการปกปองมิใหมีความแตกแยกเกิดขึ้นใน สังคม ที่สําคัญท่ีสุดทานไมตองการใหประชาชนสับสนหรือหลงประเด็นออกไป ทานตองการ รักษาสถานภาพการเปนคอลีฟะฮฺของอิมามอะลี (อ.) และอะฮฺลุบัยตฺของทานใหมีความม่ันคง แขง็ แรง ทานจงึ ตองการบันทกึ เปน พินยั กรรม เพื่อเปนหลกั ฐานสําคัญแกส ังคมตอไปในวนั ขางหนา ดวยเหตุน้ี วนั หนึ่งเมื่อบรรดาผนู าํ เผาตา งๆ ของกุเรซไดม าเยีย่ มอาการปวยของทาน ทานนั่ง กม หนาครนุ คดิ อยูสกั พกั หน่ึง หลงั จากนั้นทา นได
จองมองไปยังพวกเขาและส่ังวา จงนําปากกาและกระดาษมาใหฉัน ฉันจะบันทึกส่ิงสําคัญบางอยาง แกพวกทาน ซ่ึงจะไมทําใหพวกทานหลงทางภายหลังในเวลาน้ัน อุมัร อิบนิ เคาะฏ็อบ คอลีฟะฮฺท่ี สอง ไดท ําลายความเงียบของทป่ี ระชมุ พรอมกบั กลา ววา อาการไขขึ้นสูงไดทําให ศาสดาเพอไปเสีย แลว พวกทานมอี ัล-กรุ อาน ซงึ่ อลั -กรุ อานอยา งเดยี วในหมูพวกเรากเ็ พียงพอแลว ทัศนะของคอลีฟะฮฺท่ีสอง กลายเปนประเด็นวิภาษกันอยางกวางขวาง กลุมท่ีตอตานอุมัร กลาววา จําเปนตองปฏิบัติตามคําสั่งของทาน จงรีบไปนําปากกาและกระดามาใหทาน เพ่ือทานจะ ไดบันทึกสิ่งท่ีทานตองการ บางกลุมเขาขางอุมัร พวกเขาขัดขวางมิใหนําเอาปากกาและกระดาษมา ใหทาน เสียงโตเถียงกันดังขึ้นเร่ือยๆ ทานศาสดา (ศ.) เสียใจ ตอส่ิงท่ีเกิดขึ้นมาก ทานโกรธมากและ ไลพ วกเขาออกไปจากบา น อบิ นิอบั บาซ หลังจากเลาเหตุการณที่เกิดข้ึนแลวกลาววา โศกสลดท่ีสุดสําหรับอิสลามก็คือ การโตเ ถยี งและวภิ ากันระหวา งเหลา บรรดาสาวกอันเปนสาเหตทุ ําใหทา นศาสดา (ศ.) มไิ ดบนั ทกึ สง่ิ ที่ทานตอ งการจะบันทึก จดุ ประสงคข องพินยั กรรมคอื ส่ิงใด อาจมีคําถามวา พินัยกรรมที่ทานศาสดา (ศ.) ตองการจะเขียนน้ัน เก่ียวกับเรื่องอะไร คําตอบสําหรับคําถามนี้ชัดเจน เน่ืองจากเปาหมายของทานเราซูล (ศ.) การทําใหตําแหนงคอลีฟะฮฺ ของทานอะลี (อ.) มีความม่ันคงแข็งแรง และเปนความจําเปนสําหรับสังคมท่ีตองเจริญรอยตาม บรรดา อะฮลฺ ุลบยั ตฺ (อ.) ซึง่ สองประเด็นดงั กลา วทา นสามารถสรางความเขาใจไดจาก ฮะดีซซะเกาะ ลัยนฺ ซึ่งนักรายงานฮะดีซท้ังชีอะฮฺ และซุนนีท่ีมีความเห็นพรองตองกันในเรื่องความถูกตองของฮะ ดีซ และสายรายงานแมวาบางรายงานจะกลาวขัดแยงกัน ระหวางอะฮฺลุบัยตีกับซุนนะตี ซ่ึงท้ังสอง มไิ ดม คี วามขดั แยงกนั ดังที่อธิบายผา นมาแลว อยางไรก็ตามเกี่ยวกับพินัยกรรมที่ทานตองการจะบันทึกน้ัน ทานกลาววา เจาจงบันทึก ตามท่ีฉันบอก ซ่ึงจะทําใหพวกเจาไมหลงภายหลังจากนี้ ฮะดีซซะเกาะลัยนฺ กับประโยคที่ทานส่ัง ในชวงวาระสุดทายแหงชีวิตอันจําเริญของทานเปนประโยคเดียวกัน กลาวคือ ทานกลาวถึงสาเหตุ ของการปฏิบตั ิตาม
อัล-กุรอานและอะฮฺลุบัยตฺ สิ่งหนักสองสิ่งอันมีคาย่ิง คือ การไมหลงทางตลอดไปหลังจากนี้ ตัวบท ของฮะดซี ซะเกาะลัยนกฺ ลา ววา แทที่จริงฉันขอฝากส่ิงสําคัญไวในหมูพวกทาน หากพวกทานไดยึดมั่นกับส่ิงน้ันจะไมหลง ทางอยางเด็ดขาด สิ่งหน่ึงมีความย่ิงใหญกวาอีกส่ิงไดแกคัมภีรแหงอัลลอฮฺอันเปนสายเชือกท่ีทอด ตรงมาจากฟากฟาสูแดนดินและอีกส่ิง คือ อะฮฺลุลบัยตฺ (ทายาท) ของฉัน ท้ังสองจะไมแยกออกจาก กันเด็ดขาด จนกวาทั้งสองจะยอนคืนสูฉัน ณ บอน้ํา พวกทานจงพิจารณาเถิดวาจะปฏิบัติกับของ ฝากของฉันอยางไร รายงานที่ไดใชคําวา แบบฉบับของฉัน (ซุนนะตี) แทนคําวาทายาทของฉัน (อะฮฺลุบัยตี) นั้น เปนฮะดีซท่ีอุปโลกนข้ึนมา ซ่ึงนอกเหนือจากจะมีสายรายงานท่ีออนแลว ยังมีสิ่งอ่ืนอีก คือ ความสัมพันธกบั ราชวงศ อะมะวี เปนตัวการที่บงบอกวา พวกเขาไดอ ุปโลกนฮะดซี น้ีขนึ้ มา ฮากิม นิชาบูรี บันทึกตัวบทไวในมุซตัดร็อก ของทาน โดยมีกระแสรายงานดังตอไปนี้ อับ บาซ บนิ อะบีอเุ วซ รายงานจาก อะบีอุเวซ จาก เซารฺ บิน ซยั ดฺ อดั ดัยละมี จาก อิกเราะมะฮฺ จาก อิบนุ อับบาซ วา ทา นศาสดา (ศ.) กลา ววา “โอประชาชนเอย ฉันไดฝากส่ิงสําคัญไวในหมูพวกทาน หากพวกทานไดยึดมั่นกับมันจะ ไมห ลงทางอยา งเด็ดขาด ไดแกคัมภีรแหง อลั ลอฮฺ และแบบฉบบั ของศาสดาแหง พระองค” จะสังเกตเห็นวากระแสรายงานตัวบทฮะดีซดังกลาวนั้น คือบิดากับบุตร ซ่ึงถือวาเปน กระแสรายงานที่นาเกลียด และไมเปนท่ีเชื่อถือในหมูนักรายงานดวยกัน กลาวคอื อิซมาอีลบินอะบี อุเวซ และอบอู เุ วซ ท้ังสองพอ ลูกคูน มี้ ใิ ชแ คไมเปนท่ีเชื่อถือเทานั้น แตยังถูกกลาวหาวา โกหก เปนผู อุปโลกนแ ละปลอมแปลงฮะดซี อีกตางหาก อยางไรก็ตามส่ิงสําคัญท่ีตองการกลาว ณ ที่น้ี คือ ขอใหทานผูอานพิจารณาคําพูดของทั้ง สองฮะดีซ (ฮะดีซซะเกาะลัยนฺ กับ ฮะดีซสั่งใหนําเอาปากกาและกระดาษ) เหมือนกันตรงที่วาทั้ง สอง คือคําส่ัง ดังน้ัน ไมสามารถคิดเปนอยางอื่นไดเด็ดวาเปาหมายของทานศาสดา (ศ.) ท่ีขอ กระดาษและปากกา
ก็คือ ตองการใหจดบันทึกสิ่งท่ีกลาวไวในฮะดีซซะเกาะลัยนฺ เพ่ือยืนยัน ถึงสิ่งท่ียิ่งใหญไปกวานั้น กลาวคือ การบันทึกพินัยกรรมท่ีทานไดแตงตั้ง ใหอะลีเปนผูแทนของทานภายหลังจากทาน เม่ือ วันที่ 18 เดือน ซิลฮิจญะฮฺ ป ฮ.ศ. ที่ 10 ณ เฆาะดีรคุม และการสนับสนุนอํานาจวิลายะฮฺ (อํานาจ ปกครอง) ของอะลี (อ.) ใหม ั่นคงแขง็ แรงยิ่งขึ้น การอาํ ลาสุดทา ยกับสาวกสนทิ ตลอดระยะเวลาที่ทานศาสดา (ศ.) ปวยอยูนั้น บางคร้ังทานก็มามัสญิดเพื่อนํานมาซ ประชาชน หรอื กลาวเทศนาแกป ระชาชน มอี ยวู ันหนง่ึ ขณะทปี่ วยหนัก ถึงขนาดทีอ่ ะลีและฟฏลิอับบาซ ตองหวิ้ ปก แขนคนละขางเขา มาในมัสญิด เทาทั้งสองของทานไมสามารถกาวเดินไดและศีรษะพันดวยผาเพื่อบรรเทาอาการปวด เมอ่ื มาถึงมัสญดิ ทานไดข น้ึ มมิ บรั เพอื่ เทศนา กลา ววา โอ ประชาชนที่รักท้ังหลาย ถึงเวลาแลวท่ีฉันตองอําลาจากพวกทานไป ถาฉันเคยสัญญาสิ่ง ใดไวกับใครขอใหทานมารับสัญญาน้ันจากฉัน ถาฉันเปนหน้ีใครขอใหบอกมาฉันจะไดใชหน้ีคืน ไดอ ยา งถูกตอง ในเวลาน้ันมีชายคนหนึ่งยืนข้ึนและกลาววา เม่ือไมนานมานี้ทานสัญญากับฉันวา ถาฉัน แตงงานทานจะชวยเหลือเงินฉนั จํานวนหน่ึง ทานสั่งให ฟฎลิ อับบาซ จายเงินใหเขาทันที เมื่อทาน กาวลงจากมิมบัรทานไดมุงตรงกลับบานทันที หลังจากน้ันอีก 3 วัน ซึ่งตรงกับวันศุกร ทานไดไป มัสญดิ อีกครั้งเพือ่ กลาวคาํ เทศนาและระหวางกลาวเทศนาอยูนั้น ทานกลาววา ใครก็ตามที่ฉันติดหนี้ ขอใหม ารบั หน้ีคนื เนื่องจากการตัดสนิ บนโลกนีง้ า ยดายกวา การตดั สนิ ในโลกหนา ขณะน้ัน ซะวาดะฮฺ บิน กิซไดยืนข้ึนพรอมกับกลาววา เม่ือเรากลับจากสงครามฏออิฟ ขณะที่ทา นอยูบนหลงั อฐู ทานไดตอี ฐู เพ่ือใหเดินเรว็ แตป ลายแซโดนทที่ อ งฉันตอนน้ฉี ันขอทวงคนื คํากลา วของทานศาสดา (ศ.) มไิ ดก ลา วเพราะเกรงใจ หรือเพอื่ เปน
มารยาทเทานั้น แตทวาทานกลาวดวยความจริงใจ เนื่องจากทานทราบดีวาสิทธิเหลานี้แมวาจะเปน สิทธิเพียงเล็กนอยซ่ึงประชาชนสวนใหญมองขาม แตนั่นเปนหนาท่ีๆ ตองรับผิดชอบ ทานศาสดา (ศ.) ส่ังใหเขาไป เอาแซท่ีบานมา หลังจากน้ันทานไดถกเสื้อของทานขึ้นมาเพ่ือใหซะวาดะฮฺลาง แคน บรรดาสาวกเสียใจมากบางคนถึงกับกัน้ น้ําตาไวไมอยูปลอยใหไหล อาบหนา พวกเขาคอยดูวา ซะวาดะฮฺจะกระทําจรงิ หรือไม ทันใดพวกเขาก็ไดเห็นซะวาดะฮฺกมลงจูบทองและหัวไหลของทาน ศาสดา (ศ.) ในเวลานั้น ทานไดวิงวอนวา โอ อัลลอฮฺ โปรดอภัยโทษแกซะวาดะฮฺดุจดังเชนท่ีเขาได ใหอภัยแกบรรดานบี
45 วันเวลาสดุ ทา ยแหง ชวี ติ อนั จําเรญิ ความกงั วลใจ ความหวาดหวัน่ ที่ระคนเคลากบั ความเศราหมองไดครอบงําเหนือบรรยากาศ ของเมืองมะดีนะฮฺ เหลาบรรดาสาวกผูทรงเกียรติตางรํ่าไหจนน้ําตานองใบหนา หัวใจของพวกเขา เกือบจะแตกสลายออกเปน เสี่ยงๆ พวกเขาว่งิ ไปมาบานของทานศาสดา (ศ.) เพอ่ื รบั ทราบอาการปวย ของทาน รายงานแตละชวงท่ีถูกสงออกมาลวน แลวสรางความรันทดใจ ไมมีขาวใดสรางความ สบายใจแกประชาชนที่เฝาคอยดูอาการ ทุกรายงานท่ีถูกสงออกมาลวนแลวแตทําลายความหวังท่ีวา ทานคงจะมีอาการดีข้ึนใหหมดไป ประชาชนท่ีมาเฝาดูอาการตางทําใจแลววา คงเหลือเวลาอีกไม นานแลว สาํ หรบั รศั มอี ันโชตชิ ว งแหงชวี ิตของพวกเขา สาวกบางกลุมที่มีความจงรักภักดีอยางย่ิงปรารถนาท่ีจะเยี่ยม ทานอยางใกลชิด แตอาการ ปวยหนกั ไมส ามารถอนุญาตใหพวกเขาเขาเย่ียมได ภายในหองของทานคงมีเฉพาะอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) เทานน้ั ทีเ่ ขาออกและเฝาคอยดอู าการอยางใกลช ิด ทานหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) บุตรีผูมีเกียรติยิ่งของทานน่ังเฝาดูแลอยางใกลชิด ทานจองมอง ใบหนาที่เปลงไปดวยรัศมีของทานศาสดา (ศ.) อยางไมใหคลาดสายตา เธอเห็นเหงื่ออันเปน สัญลักษณของความตาย ไหลรินออกจากหนาผากและบริเวณใบหนาประดุจดังไขมุกท่ีใสสะอาด หัวใจของทาน
หญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) เตนอยางไมเปนจังหวะดวงตาของเธอเออนองไปดวยนํ้าตา ความเสียใจต้ืนตัน อยูในลําคอ ปากของเธอเฝารําพันบทกวีท่ีทานอบูฏอลิบ กลาวแกทานศาสดา (ศ.) เสมอวา โอ ใบหนา ทใี่ สสะอาด หากผใู ด ใหเ กียรติแกใ บหนา นนั้ นาํ้ ฝนจะรนิ หลงั่ ลงมาจากกอนเมฆ โอ ผูเปนที่ พงึ่ ของ บรรดาเดก็ กาํ พรา เปนเกราะกําบงั แกเหลาสตรี เวลานนั้ ทา นศาสดา (ศ.) กลา วกับบุตรีสุดท่ีรักยิ่งของทาน ดวยเสียงท่ีแผวเบาวา บทกวีท่ีทา นอบูฏอลิบอา นใหพ อฟงนั้นเปนสิง่ ที่ดีงาม แตดีกวาถาลกู จะอา นโองการเหลานี้ ความวา มุฮัมมัดเปนศาสดาคนหน่ึงเทาน้ัน เคยมีศาสดามากอนหนาน้ีและจากไปแลว ถา หากเขาตายหรือถูกสังหารสูเจาจะหันหลังกลับไปยังศาสนาเดิมกระน้ันหรือ และผูใดหันหลัง กลับไปยังศาสนาเดิมมิไดกอ ความเสยี หายใดแกอ ลั ลอฮฺ ทรงตอบแทนแกผ กู ตัญูทง้ั หลาย ศาสดา (ศ.) สนทนากบั บตุ รี ประสบการณท่ีผานมาเปนท่ีประจักษวา ความอาลัยรักของบุรุษผูย่ิงใหญแมวาทานจะ หมกมุนอยูกับความคิด และภารกิจตางๆ มากมาย แตส่ิงเหลานี้มิไดเปนอุปสรรคบั่นทอนความรัก ในหัวใจของทานใหเจือจางลงไปได เน่ืองจากปกติแลวบุคคลท่ีมีเปาหมายอันยิ่งใหญ และความคิด ระดับโลกมักจะไมมีเวลาท่ีจะแสดงความรักกับคนในครอบครัว แตสําหรับ บุรุษท่ีเปยมลนดวย จริยธรรมอันดีงามอยางทานศาสดา (ศ.) แตกตางไปจากบุคคลอื่น เนื่องจากบุคคลท่ัวไปที่มี เปาหมาย และหมกมุนอยูกับภารกิจ อื่นมากมายจะไมสามารถปฏิบัติภารกิจไดครบท้ังสองดาน กลาวคือ เมื่อหมกมุนอยูกับภารกิจนอกบานมากการดูแลครอบครัวจะไมท่ัวถึง หรือในทางกลับกัน แตส าํ หรับทา นศาสดา (ศ.) แลว มไิ ดเปน เชน นัน้ ทา นสามารถปฏิบัติไดค รบทงั้ สองดา น อัล-กรุ อาน กลา วถึงความรกั และความเปนหวงเปนใยประชาชาติของทา นวา … ความวา แนน อน มศี าสดาคนหนึง่ จากหมูพวกทา นไดมายงั พวกทา น
แลว ความทุกขยากของสูเจา คือ ลําบากใจทาน ทานเปนผูหวงเปนใยเจามีความเมตตาสงสารตอ บรรดาผูศ รัทธา ความรักของศาสดา (ศ.) ท่ีมีตอบุตรีเปนภาพความรักที่ถายทอดออกมาจากหัวของมนุษยที่ เขาใจความรักอยางแทจริง ตลอดอายุขัยทานมิเคยเดินทางโดยไมไดกลาวอําลาบุตรี และเม่ือกลับ จากเดินทางบานหลังแรกที่ทานไปเยี่ยม คอื บานของบุตรี ทานใหเกียรติเปนพิเศษตอภรรยาทุกคน และกลาวกับสาวกเสมอวา ... ฟาฏิมะฮฺ คือ หนวยเนื้อเดียวกันกับของฉัน ความสุขของเธอคือความสุขของฉัน ความ โกรธของเธอ คือ ความโกรธของฉนั การท่ีทานศาสดา (ศ.) ไปเยี่ยมทานฟาฏิมะฮฺ (อ.) ทําใหทานรําลึกถึงสตรีนางหน่ึงผูสะอาด บริสุทธ์ิและเปนสตรีท่ีนารักที่สุดบนโลกนี้น่ัน คือ ทานหญิงเคาะดิญะฮฺ ภรรยาสุดท่ีรักของทาน ผู อดลําบากและอุทิศแรงกายแรงใจและทรัพยสินทั้งหมดที่มีอยูใหทานศาสดา (ศ.) เพื่อการเผยแผ อสิ ลาม ตลอดระยะเวลาท่ที านศาสดา (ศ.) นอนปวยอยูนั้น ทานหญิง ฟาฏิมะฮฺ (อ.) เปนผูดูแลอยาง ใกลชิดตลอดเวลาเธอไมเคยปลอยใหทานคลาดสายตาแมแตนอย ทานศาสดา (ศ.) ไดช้ีมาที่เธอเพ่ือ ตองการบอกวา ทานตองการกลาวบางอยางกับเธอ เธอกมศีรษะเอาหูมาแนบใกลกับปากคงมีแต เสียงกระซิบแผวเบาท่ีไมมีบุคคลรอบๆ ขางคนใดไดยินความจริงวาทานกลาวถึงสิ่งใด เมื่อทาน กลาวจบทานหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) รองไหสะอึกสะอื้น ดวยความเสียใจอยางรุนแรง น้ําตาท่ีไหลดุจ สายนํา้ ไดพ วยพงุ ออกมาจากดวงตาของเธออยางไมขาดสาย หลังจากน้ันไมนานทานศาสดา (ศ.) ได เรียกเธอและกระซิบดว ยเสียงแผวเบาอีกครั้ง แตใ นคร้ังน้ที า นหญิงไดเ งยหนาขึ้นมาพรอมกับรอยยิ้ม อากัปกริยาตรงกันขามของทานหญิงในชวงเวลาติดตอกันสรางความฉงนสงสัย และความ ประหลาดใจแกคนรอบขาง ไมนอย พวกเขาตองการทราบความจริงวาศาสดา (ศ.) กลาวส่ิงใดกับ เธอ เธอตอบวาฉนั จะไมบอกความลับท่ที า นศาสดา (ศ.) บอกกบั ฉนั แกผใู ด หลังจากทานศาสดา (ศ.) จากไป อาอิชะฮฺออนวอนใหเธอบอกส่ิงที่ทานกลาวกับเธอ เธอ กลาววา ครง้ั แรกบิดาของฉันกลา วถงึ ความตายของทา น
และกลาววาพอไมม ีวันหายจากอาการเจ็บปวยแนนอน ทําใหฉันรูสึกวา กําลังจะสูญเสียสิ่งที่รักอันมี คายิ่งไป ฉันจึงรํ่าไหเสียใจ แตครั้งที่สองทานกลาวกับฉันวา ฉันเปนคนแรกในหมูอะฮฺลุลบัยตฺท่ีจะ กลบั ไปพบทา น ในชวงบั้นปลายสุดทายแหงชีวิตอันจําเริญ ทานศาสดา (ศ.) ลืมตาขึ้นมาพรอมกับกลาววา จงเรียกนองชายฉันเขามาน่ังใกลๆ ฉันซิ ท้ังหมดเขาใจทันทีวาทานหมายถึงอะลี อะลีไดเขาไปนั่ง ใกลๆ ทานศาสดา (ศ.) สังเกตเห็นวาทานตองการจะลุกจากท่ีนอน อะลีประคองทานศาสดา (ศ.) ให ลกุ ขึ้นน่ังและทา นเอาศีรษะพงิ ไวบนหนาอกของอะลี เวลาผา นไปไมน านเทา ไหรนกั สัญลกั ษณของการส้ินใจได ปรากฏขึ้นบุคคลหน่ึงไดถามอิบ นิอับบาซวา ทานศาสดา (ศ.) ไดส้ินใจในออมอกของใคร อิบนิอับบาซ ตอบวา ทานศาสดา (ศ.) สนิ้ ใจขณะที่ศรี ษะของทา น อยูใ นออมกอดของอะลี (อ.) ผูที่ถามคนน้ันกลาววาอาอิชะฮฺ อางวาทาน ศาสดา (ศ.) สิ้นใจในออมอกของนาง อิบนิอับบาซ กลาววา นางพูดไมจริง พรอมท้ังกลาวยืนยันวา ทานศาสดา (ศ.) ส้ินใจในออมกอดของอะลี อะลี และฟฏลฺ นองชายของฉันเปนผูอาบน้ํา (ฆุชลฺ มัยยิต) ใหแกท าน อะมีรลิ มอุ ฺมนิ นี อะลี (อ.) กลาวถงึ ประเดน็ นไ้ี วในคาํ เทศนาบทหน่ึงของทา นวา ... ทานศาสดา (ศ.) สิ้นใจจากไปขณะที่ศีรษะของทานอยูในออมอกของฉัน และฉันเปนผู อาบนาํ้ (ฆุชลมฺ ัยยติ ) ใหแกทานขณะท่มี มี ะลาอิกะฮฺเปน ผูช วยเหลือ นักรายงานบางกลุมกลาววา ประโยคสุดทายท่ีทานศาสดา (ศ.) กลาวในชวงวินาทีสุดทาย แหงชีวิตอันจําเริญของทานคือ ประหน่ึงวาชวงเวลาถอดดวงวิญญาณของทานศาสดา (ศ.) มะลาอิ กะฮฺ มีอํานาจในมือซึ่งเขาไดเขาเฝาพระเจาอีกคร้ังเพื่อขอประทานราชอนุญาตในการถอดดวง วิญญาณจากพระองคอีกคร้ัง เมื่อเขากลับมายังโลก จึงไดถอดดวงวิญญาณของทาน สาเหตุท่ีทาน กลาวประโยคดังกลาวเพ่ือ ใหพระองครับทราบวา ทานตองการไปอยูรวมกับบุคคลที่โองการ กลาวถง ... ความวา และผูใดเชอ่ื ฟง ปฏิบัตติ ามอลั ลอฮฺ และศาสดาแลว ดงั นั้น
(ในวันฟน คืนชพี ) เขาจะอยรู ว มกับบรรดาผูทีอ่ ลั ลอฮฺ ทรงโปรดปรานพวกเขาจากบรรดานบี บรรดา ผูสัตยจริง บรรดาผูพลีชีวิตในสงคราม และบรรดากัลยาณชน และพวกเขาชางเปนเพื่อนที่ดี หลงั จากกลา วประโยคนี้จบทานก็ไดอ ําลาจากโลกไป วนั อสญั กรรมของทานศาสดา ดวงวิญญาณศักด์ิสิทธิ์และยิ่งใหญของศาสดาแหงพระองคไดอําลาจากโลกไป เม่ือวัน จันทรตอนบายท่ี 28 เดือนเซาะฟร ขณะที่เรือนรางบริสุทธิ์ของทานถูกคลุมไวดวยผาจากเยเมน ราง ของทานต้ังอยู ณ มุมหน่ึงของบา น เสียงรอ งไหข องเหลาสตรีดังออกมานอกบาน ทําใหผูที่เฝาคอยดู อาการอยูขางนอกมนั่ ใจทันทวี า ทานศาสดา (ศ.) จากไปแลว และชวงเวลาผา นไปไดไมนานนักขาว อสญั กรรมของทา นกแ็ ผส ะพดั ไปทวั่ มะดนี ะฮฺ คอลีฟะฮฺท่ีสอง ไดรองตะโกนอยูนอกบานวาทานศาสดา (ศ.) ยังมีชีวิตอยูทานยังไมได เสียชีวิต ทานไปพบพระเจาเหมือนด่ังท่ีมูซาไดไปพบมา เสียงรองตะโกนของเขาสรางความสับสน แกประชาชนซ่ึงมีบางกลุมชน เกือบจะหลงเช่ือไปกับเขาดวย ขณะน้ันมีสาวกคนหน่ึงยืนข้ึน และ กลา วโองการนแี้ กเ ขา ความวา มุฮัมมัดเปนศาสดาคนหน่ึงเทาน้ัน เคยมีศาสดามากอนหนาน้ีและจากไปแลว ถา หากเขาตายหรือถูกสังหารสูเจาจะหันหลังกลับไปยังศาสนาเดิมกระน้ันหรือ และผูใดหันหลัง กลับไปยังศาสนาเดิมมิไดกอความเสียหายใดแกอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺ ทรงตอบแทนแกผูกตัญู ท้ังหลาย ทานอะมีริลมุอฺมินีน อะลี (อ.) ไดอาบนํ้า (ฆุซลฺมัยยิต) และกะฟน (หอศพ) ใหแกเรือนราง อันบริสุทธ์ิทานศาสดา (ศ.) เน่ืองจากทานเคยกลาวไววา ผูที่ใกลชิดฉันมากท่ีสุด คือ ผูที่อาบนํ้า ใหแกฉ ัน ดงั นัน้ บุคคลดังกลา วจะไมเปน ใครนอกจากอะลี (อ.) หลังจากนั้นอะลีไดเปดใบหนา ของ ทานออกขณะที่ดวงตาของบรรดาผูจงรักภักดีของทานเออนองไปดวยนํ้าตา อะลี (อ.) กลาววา ฉัน ขอสาบานวาความตายของทานไดตัดขาดรากเหงา แหงนบูวัตและวะฮฺยูของพระเจาจนหมดสิ้น ถงึ แมว า ความตายของบคุ คลจะไมท าํ ใหแนว
ทางดงั กลาวยุตลิ งก็ตาม มาตรวาไมมกี ารเชิญชวนของทา นใหรอดพนจากความสงสัย และการเกือก กลั้วอยูกับความต่ําทรามแลวไซร พวกเราคงจะไมแตกตางอะไรไปจากสรรพสิ่งอื่น ดวงตาของเรา ไดร ํ่าไหเ น่อื งจากแหลงบอเกดิ แหงนา้ํ ตาของเรากําลังจะเหอื ดแหง บุคคลแรกท่ีนมาซใหทานศาสดา (ศ.) คือ อะมีริลมุอฺมินีน อะลี (อ.) หลังจากน้ันบรรดา สาวกไดทยอยกันเขามานมาซใหทานเปนกลุมๆ จนถึงตอนบายของวันอังคาร หลังจากนั้นได รวมกันตัดสินใจกันวาสมควรฝงรางของทานไวท่ีหองท่ีทานสิ้นใจ ผูที่ทําหนาท่ีขุดหลุมฝงศพ คือ อบูอบีดะฮฺ ญัรเราะฮฺ และ ซัยดฺ บิน ซุฮิล สวนผูท่ีทําหนาที่ฝงเรือนรางอังบริสุทธ์ิของทาน คือ อะลี (อ.) ดวยการชวยเหลอื ของฟฏลฺ และอบั บาซ สดุ ทายความโชตชิ วงแหงชีวติ อันจาํ เริญของอรยิ บคุ คล ผซู ่ึงเสียสละและทุม เทอยางไมรูสึก เหน็ดเหน่ือยใหกับอิสลาม ผูเปล่ียนวิถีชีวิตใหมใหแกสังคม ผูสรางวัฒนธรรมและจริยธรรมอัน จําเริญแกม นษุ ยไดดับลงอยางสนิททามกลางความโศกเศรา ของมวลมุสลิมท้งั หลาย ญะอฟฺ ร ซุบอานี ชะอบฺ าน ฮจิ เฺ ราะฮฺศักราชท่ี 1390
เชงิ อรรถ (๑) เหตุการณสังหารคณะเผยแพรนี้เกิดข้ึนในเดือนท่ี ๓๖ หลังการอพยพของทานศาสดา (ศ.) และ อันเนื่องจากปแรกมี ๑๐ เดือน จึงนับวาเกิดขึ้นในปท่ี ๔ แหงฮิจญเราะฮฺศักราชนั่นเอง (จากมะฆอซี วากดิ ี เลม ๑ หนา ๓๕๔). (๒) ซเี ราะฮอฺ บิ นุฮิชาม เลม ๒ หนา ๑๖๙ และฏอบะกอตอิบนซุ ะอดั เลม ๒ หนา ๓๙. (๓) ฏอ บะกอตอบิ นซุ ะอัด เลม ๒ หนา ๓๙. (๔) มะฆอซี วากิดี เลม ๑ หนา ๓๖๔-๓๖๙ (๕) มะฆอซี กลาววา ทานศาสดา (ศ.) เขาไปในท่ีประชุมของพวกหัวหนาบนีอันนะฎี้รดวย (จาก มะฆอซี เลม ๑ หนา ๓๖๔). (๖) มะฆอซี วากิดี เลม ๑ หนา ๓๖๕. (๗) บฮิ ารลุ อันวาร เลม ๑๙ หนา ๑๑๐-๑๑๑. (๘) ซีเราะฮอฺ ิบนุฮชิ าม เลม ๒ หนา ๑๙๑. (๙) จากซูเราะฮฺอัลฮชั รฺ อายะฮทฺ ี่ ๖. (๑๐) อิรชาด หนา ๔๗ และ ๔๘. (๑๑) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๑ หนา ๓๙๐-๔๘๔ เหตุการณนี้เกิดในเดือนที่ ๕๔ หลังการอพยพของทาน ศาสดา (ศ.) (๑๒) ตารีคุลคอ มีซ เลม ๑ หนา ๔๖๗. (๑๓) อิมตาอลุ อัซมาอฺ หนา ๑๘๗ และตารีคลุ คอมซี เลม ๑ หนา ๔๖๔. (๑๔) ผูเขียน ตารีคุลคอมีซ เช่ือวา เหตุการณนี้เกิดในเดือนซุลเกาะอฺดะฮฺ ปที่ ๕ แตเม่ือพิจารณา ความเปนจริงทางสังคมแลว ไมนาจะถูกตองนัก เพราะทานศาสดา (ศ.) ตองเผชิญกับสงครามอะ ฮุซาบ และสงครามกับพวกบนีกอรีเฎาะฮฺ ตั้งแต ๒๔ เชาวาล ปที่ ๕ จนถึง ๑๙ ซุลฮิจญะฮฺ ภายใต บรรยากาศแบบนี้จึงเปนไปได ยากวาจะมีการจัดสมรสขึ้น แตถามีการสมรสกับซัยนับจริงในปท่ี ๕ ก็นา จะเกิดข้ึนกอ นเหตกุ ารณเ หลาน้ี (๑๕) อุซะดุลฆอบะฮ,ฺ อลั อซิ ตอี าบ และอลั อศิ อบะฮฺ ในหมวด ซัยดฺ (๑๖)
(๑๗) บทสรุปอายะฮทฺ ่ี ๔-๕ ซเู ราะฮอฺ ัลอะฮฺซาบ (๑๘) (๑๙) จากซเู ราะฮอฺ ัลอะฮฺซาบ อายะฮทฺ ี่ ๔๐. (๒๐) (๒๑) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๔๔๑. (๒๒) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๔๔๓. (๒๓) ตารคี ฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๒๔. (๒๔) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๔๔๕. (๒๕) ซเี ราะฮอฺ ิบนุฮชิ าม เลม ๒ หนา ๒๒๐ และมะฆอซี เลม ๒ หนา ๔๕๓. (๒๖) มะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๔๔๖ และซีเราะฮอฺ บิ นฮุ ชิ าม เลม ๒ หนา ๒๒๔. (๒๗) ซีเราะฮอฺ ิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๒๓๘. (๒๘) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๔๕๕-๔๕๖. (๒๙) บิฮารลุ อันวา ร เลม ๒๐ หนา ๒๒๓. (๓๐) ชื่อของชนเผา ๒ เผา ซึง่ ไดเ ชญิ ชวนใหนกั เผยแพรอิสลามมาเผยแพรทเี่ ผาของตนเอง จากน้ันก็ ทําการสังหารพวกเขาท้ังหมด. (๓๑) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๔๕๘-๔๕๙. (๓๒) ซเี ราะฮฺฮะละบี เลม ๒ หนา ๓๓๕. (๓๓) ซีเราะฮฮฺ ะละบี เลม ๒ หนา ๓๔๕. (๓๔) อลั อิมตาอฺ หนา ๒๔๐. (๓๕) จาก ซเี ราะฮฺฮะละบี เลม ๒ หนา ๓๔๙. (๓๖) ตารีคฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๓๙ และฏอ บะกอตกบุ รอ เลม ๒ หนา ๖๘. (๓๗) (๓๘) วากิดี เขียนไววา ขณะท่ีอัมรวรองทาทายใหมาตอสูกันนั้น กองทหารมุสลิมเงียบกริบ ถานก มาเกาะบนศีรษะก็จะไมบ นิ จากไป
(๓๙) กนั ซุลฟะวาอดิ หนา ๑๓๗. (๔๐) (๔๑) บิฮารลุ อันวา ร เลม ๒๐ หนา ๒๒๗. (๔๒) บิฮารุลอันวา ร เลม ๒๐ หนา ๒๑๖ และมุซตัดร็อกฮากิม เลม ๓๐ หนา ๓๒. (๔๓) มุซตัดรอ็ กฮากิม เลม ๓๐ หนา ๓๓. (๔๔) (๔๕) ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๒๒๓ และบฮิ ารลุ อันวาร เลม ๒๐ หนา ๒๕๒. (๔๖) (๔๗) ซีเราะฮอฺ บิ นุฮิชาม เลม ๒ หนา ๒๒๙-๒๓๑ และตารคี ฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๔๒-๒๔๓. (๔๘) ตารีคฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๔๔. (๔๙) (๕๐) (๕๑) ซเี ราะฮอฺ บิ นุฮชิ าม เลม ๒ หนา ๒๓๔ และตารคี ฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๔๕-๒๔๖. (๕๒) ซเี ราะฮอฺ บิ นฮุ ชิ าม เลม ๒ หนา ๒๓๕. (๕๓) จากอัลอนั ฟาล อายะฮทฺ ี่ ๕๓ (๕๔) อัตเตาบะฮฺ อายะฮฺท่ี ๑๐๒ (๕๕) ซีเราะฮอฺ ิบนฮุ ิชาม เลม ๒ หนา ๒๓๗. (๕๖) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๕๐๑. (๕๗) อริ้ ชาด หนา ๕๐. (๕๘) ซเี ราะฮอฺ บิ นุฮิชาม เลม ๒ หนา ๒๔๐ และมะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๕๑๐.
(๕๙) เตารอต สวนท่ี ๒๐. (๖๐) จาก ตารีคฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๕๐. (๖๑) ซเี ราะฮอฺ บิ นุฮิชาม เลม ๒ หนา ๖๕. (๖๒) จาก ตารีคฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๖๐. (๖๓) (๖๔) อธิบายเชิงอรรถของหนังสอื ซเี ราะฮอฺ บิ นฮุ ิชาม ถา ยทอดจาก ซุฮยั ลี (๖๕) มัจญม ะอุล บะยาน เลม ๙ หนา ๑๒๖. (๖๖) ซีเราะฮฺอบิ นุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๐๙. (๖๗) เราเฏาะฮฺอลั กาฟ หนา ๓๒๒. (๖๘) มจั ญมะอุลบะยาน เลม ๒ หนา ๔๘๘. (๖๙) บิฮารลุ อันวา ร เลม ๒๐ หนา ๓๓๐. (๗๐) จาก ตารีคฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๗๐-๒๗๒. (๗๑) ตามการรายงานของ ตารีคฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๗๖ เขามาพบทานศาสดา (ศ.) หลังจาก อุ รวะฮฺ ษะกอฟ. (๗๒) ซเี ราะฮอฺ ิบนฮุ ิชาม เลม ๒ หนา ๓๑๔ และตารคี ฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๗๔-๒๗๕. (๗๓) ตารคี ฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๗๘. (๗๔) ตารคี ฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๗๘-๒๗๙. (๗๕) จาก ซูเราะฮฺฟต ฮฺ อายะฮฺที่ ๑๘ (๗๖) อ้ิรชาด มุฟด หนา ๖๐, อะอฺลามุลวะรอ หนา ๑๐๖ และบิฮารุลอันวาร เลม ๒๐ หนา ๓๖๘. ฏอบะรีเขา ใจผิดในประเด็นน้โี ดยเขยี นวา ทา นศาสดา (ศ.) เขยี นช่ือของทานเอง (๗๗) กามิล้ เลม ๒ หนา ๑๓๘ และบฮิ ารลุ อนั วาร เลม ๒๐ หนา ๓๕๓.
(๗๘) กามิ้ล เลม ๒ หนา ๑๖๑. (๗๙) ซเี ราะฮฮฺ ะละบี เลม ๓ หนา ๒๔. (๘๐) บิฮารลุ อันวา ร เลม ๒๐ หนา ๓๕๓. (๘๑) มัจญม ะอลุ บะยาน เลม ๙ หนา ๑๑๗. (๘๒) ซีเราะฮฮฺ ะละบี เลม ๓ หนา ๒๕-๒๖. (๘๓) ซเี ราะฮฺฮะละบี เลม ๓ หนา ๑๒ และบิฮารุลอันวา ร เลม ๒๐ หนา ๓๑๒. (๘๔) ฮุดยั บียะฮฺ หา งจากเมืองมักกะฮปฺ ระมาณ ๙ ไมล (๘๕) ตารีคฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๘๑, บิฮารุลอันวาร เลม ๒๐ หนา ๓๕๓ และซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๑๘. (๘๖) หมบู านหนงึ่ อยูหางจากเมืองมะดีนะฮฺประมาณ ๗ ไมล เปนบริเวณท่ีสามารถครองเอียะฮฺรอม เพอ่ื การทาํ ฮจั ญและอุมเราะฮฺ. (๘๗) มะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๖๒๔ และตารคี ฏอ บะรี เลม ๒ หนา ๒๘๔. (๘๘) ซเี ราะฮฺอบิ นฮุ ิชาม เลม ๒ หนา ๓๒๓. (๘๙) จากซูเราะฮอฺ ัลมมุ ตะฮินะฮฺ อายะฮทฺ ่ี ๑๐ (๙๐) นักปราชญอสิ ลามไดร วบรวมจดหมายหรือสารท่ที า นศาสดา (ศ.) เขยี นเปนหนังสือ ขอแนะนํา อัลวะษาอิกุซซิยาซียะฮฺ รวบรวมโดย มุฮัมมัด ฮะมีดุลลอฮฺ ฮัยดั้รอาบาด และ มะกาตีบุลรอซูล รวบรวมโดย อะลี อะฮมฺ ะด.ี (๙๑) อิบนุซะอัด ในฏอบะกอต เลม ๑ หนา ๒๘๕ มีทัศนะวา เริ่มมีการสงผูแทนไปในเดือนมุ ฮัรรอ็ ม ปท ่ี ๗ แหง ฮิจญเ ราะฮฺศักราช. (๙๒) จาก ฏอบะกอตกุบรอ เลม ๑ หนา ๒๖๐. ตารีคฏอบะรี เลม ๒ หนา ๒๙๕ และ ๒๙๖, กามิ้ล เลม ๒ หนา ๘๑ และบิฮารลุ อนั วา ร เลม ๒๐ หนา ๓๘๙. (๙๓) ฏอ บะกอตกุบรอ เลม ๑ หนา ๒๖๐.
(๙๔) ตารคี ยะอฺกูบี เลม ๒ หนา ๖๒. (๙๕) มุซนัดอะฮมฺ ดั เลม ๑ หนา ๙๖. (๙๖) ซเี ราะฮฺฮะละบี เลม ๓ หนา ๒๗๘. (๙๗) กามิล้ เลม ๒ หนา ๑๐๖. (๙๘) ฏอบะกอตกบุ รอ เลม ๑ หนา ๒๖๐ และบฮิ ารุลอนั วาร เลม ๒๐ หนา ๓๘๒. (๙๙) ซเี ราะฮฮฺ ะละบี เลม ๓ หนา ๓๖ และตารคี ยะอฺกบู ี เลม ๒ หนา ๔๖. (๑๐๐) (๑๐๑) อะมาลี ฏซี หนา ๑๖๔, ซีเราะฮอฺ บิ นฮุ ชิ าม เลม ๒ หนา ๓๒๘. (๑๐๒) จาก กามล้ิ เลม ๒ หนา ๑๔๘. (๑๐๓) ซเี ราะฮฮฺ ะละบี เลม ๓ หนา ๓๘. (๑๐๔) ซีเราะฮฺอบิ นุฮชิ าม เลม ๓ หนา ๓๔๕. (๑๐๕) ซีเราะฮฺอิบนุฮชิ าม เลม ๓ หนา ๓๔๖ และ ๓๖๐. (๑๐๖) ตารคี ฏอบะรี เลม ๒ หนา ๓๓๐. (๑๐๗) มัจญมะอุลบะยาน เลม ๙ หนา ๑๒๐, ซีเราะฮฺฮะละบี เลม ๒ หนา ๔๓ และซีเราะฮฺอิบนุฮิ ชาม เลม ๓ หนา ๓๔๙. (๑๐๘) (๑๐๙) เมอ่ื อะลไี ดยินคาํ กลา วของทานศาสดา (ศ.) ขณะอยูในกระโจมพกั ทา นกลา วดวยความลิงโลด ใจวา โออัลลอฮฺ พระองคไมไดเปนผูทรงประทานใหในส่ิงท่ีพระองคทรงหามไว และพระองคไม ทรงเปนผูห ักหา มสง่ิ ที่พระองคไ ดใหไวแ ลว.
(๑๑๐) ขอ ความท่ีปรากฏใน ตารคี กอ บะรี คอื “ฟะตะฏอวะละอะบบู กั รวฺ ะอมุ ัร” (๑๑๑) บฮิ ารลุ อนั วาร เลม ๒๑ หนา ๒๘. (๑๑๒) ศอ ฮีฮฺมสุ ลมิ เลม ๕ หนา ๑๙๕ และศอ ฮฮี บฺ ุคอรี เลม ๕ หนา ๒๒ และ ๒๓. (๑๑๓) อบิ นุฮชิ าม ไดยกลํานําอนื่ ของม้ัรฮบั มา (๑๑๔) ตารีคฏอบะรี เลม ๒ หนา ๙๔ และซเี ราะฮฺอบิ นุฮิชาม เลม ๓ หนา ๓๔๙. (๑๑๕) ตารีคฏอบะรี เลม ๒ หนา ๔๖. (๑๑๖) อริ้ ชาด หนา ๕๙. (๑๑๗) บิฮารุล อนั วาร เลม ๒๑ หนา ๒๑. (๑๑๘) ซเี ราะฮอฺ บิ นฮุ ชิ าม เลม ๑ หนา ๓๓๗. (๑๑๙) ซีเราะฮอฺ ิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๕๖. (๑๒๐) ซเี ราะฮอฺ ิบนฮุ ิชาม เลม ๒ หนา ๓๕๔ และฟรุ ูอฺกาฟ เลม ๑ หนา ๔๐๕. (๑๒๑) ดหู นังสอื มะรอศิดุลอิฏลาอฺ หมวดคาํ ฟะดัก. (๑๒๒) มาจากความหมายของ ซเู ราะฮฮฺ ชั รฺ อายะฮทฺ ี่ ๖ และ ๗ (๑๒๓) จาก ซูเราะฮฺอัลอิซรออ อายะฮฺที่ ๒๖ง (๑๒๔) มัจญมะอุลบะยาน เลม ๓ หนา ๔๑๑ และชั้รฮฺนะฮฺุลบะลาเฆาะฮฺ ของอิบนุอะบ้ิลฮะดีด เลม ๑๖ หนา ๒๔๗. (๑๒๕) อัดดรุ รุลมนั ษูร เลม ๔ หนา ๑๗๖. (๑๒๖) มัจญมะอลุ บะยาน เลม ๒ หนา ๔๑๑ และฟุตฮู ุลบุล ดาน หนา ๔๕. (๑๒๗) ชั้รฮฺนะฮฺุลบะลาเฆาะฮฺ ของ อบิ นอุ ะบิ้ลฮะดดี เลม ๑๕ หนา ๒๑๗. (๑๒๘) นะฮฺ ลุ บะลาเฆาะฮฺ จดหมายที่ ๔๕. (๑๒๙) ฟุตฮู ุลบุลดาน หนา ๔๓. (๑๓๐) จาก ซเู ราะฮอฺ ลั อะฮฺซาบ อายะฮฺที่ ๓๓ (๑๓๑) ชร้ั ฮฺนะฮฺลุ บะลาเฆาะฮฺ ของ อิบนอุ ะบล้ิ ฮะดีด เลม ๑๖ หนา ๓๗๔. (๑๓๒) จาก ซูเราะฮมฺ ัรยัม อายะฮฺท่ี ๖.
(๑๓๓) จาก ซเู ราะฮฺอันนมั ลฺ อายะฮฺท่ี ๑๖. (๑๓๔) เอยี ะฮตฺ ญิ าจญ ฏอ บัร้ ซี เลม ๑ หนา ๑๔๕. (๑๓๕) อุมเราะฮฺคือพิธีกรรมเฉพาะซ่ึงสามารถปฏิบัติไดตลอดท้ังป แตกตางจากฮัจญซึ่งจะปฏิบัติ ไดเ ฉพาะในชวงเทศกาลฮจั ญค ือเดอื นซลุ ฮิจญะฮฺ (๑๓๖) ฮะร็อม คือ อาณาบริเวณท่ีเม่ือผูใดเขาเขตน้ีแลว จําเปนตองกระทําและไมกระทําตามสิ่งท่ี ศาสนากําหนด ครอบคลุมเมืองมกั กะฮฺและขอบเขตทั้งสี่ทิศของเมอื งมกั กะฮ.ฺ (๑๓๗) ซเี ราะฮอฺ ิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๗. (๑๓๘) ลกั ษณะกงึ่ เดนิ ก่งึ ว่ิง. (๑๓๙) ซเี ราะฮอฺ บิ นุฮิชาม เลม ๓ หนา ๑๒-๑๔ และตารีคุล คอมีซ เลม ๒ หนา ๖๒-๖๕. (๑๔๐) (๑๔๒) มะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๕๕๗-๕๕๘. (๑๔๓) จาก บิฮารุลอันวา ร เลม ๒๑ หนา ๖๐ และฏอ บะกอตกุบรอ เลม ๒ หนา ๑๒๘. (๑๔๔) จาก ซูเราะฮฺมัรยมั อายะฮฺท่ี ๗๑. (๑๔๕) ซเี ราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๗๔. (๑๔๖) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๗๖๐ และซีเราะฮฺอบิ นุฮชิ าม เลม ๒ หนา ๓๗๕. (๑๔๗) จาก ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๗๘. (๑๔๘) ซเี ราะฮอฺ ิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๘๑, ๓๘๘ และ ๓๘๙. (๑๔๙) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๗๖๓. (๑๕๐) บฮิ ารุลอนั วา ร เลม ๒๑ หนา ๕๔-๕๕ และมะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๗๖๖.
(๑๕๑) เปน ตระกลู เผาหนงึ่ ของชนเผา กนิ านะฮฺ (๑๕๒) บุดัยลฺเปนผูอาวุโสคนหนึ่งของเผาคอซาอะฮฺ อาศัยอยูในมักกะฮฺ ขณะนั้นเขามีอายุ ๙๗ ป (จากอะมาลี ฏซ ี) (๑๕๓) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๗๙๒. (๑๕๔) สถานที่หนึง่ อยูระหวา งทางเมอื งมะดีนะฮฺ (๑๕๕) มะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๙๘๐-๗๙๔, ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๗๙-๓๙๘ และบิ ฮารุลอนั วา ร เลม ๒๑ หนา ๑๐๒. (๑๕๖) มะฆอซี วากดิ ี เลม ๒ หนา ๗๗๙-๘๐๐. (๑๕๗) มีใจความวา จากฮาฏิบ บินอุบีบั้ลตะอะฮฺ ถึงชาวเมืองมักกะฮฺ ทานศาสดาจะเขาโจมตี จง เตรยี มอาวุธใหพรอม. (๑๕๘) ตามการรายงานของอิบนุฮชิ ามระบุวาอยใู นบริเวณท่ีมชี ่อื วา คุลยั เกาะฮ.ฺ (๑๕๙) จาก ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๓๙๙ และมัจญมะอุลบะยาน เลม ๙ หนา ๒๖๙-๒๗๐. ระบวุ า ต้ังแตอ ายะฮทฺ ี่ ๑ ถึง อายะฮฺท่ี ๙ ซูเราะฮอฺ ัลมุมตะฮินะฮฺ ถกู ประทานลงมาในเรอื่ งราวเหลา น้ี (๑๖๐) วะซาอิลชุ ชอี ะฮฺ เลม ๗ หนา ๑๒๔ และซีเราะฮฮฺ ะละบี เลม ๓ หนา ๙๐. (๑๖๑) จาก ซูเราะฮฺอัลฮุ ุรอต อายะฮฺที่ ๑. (๑๖๒) ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๔๐๐-๔๐๔, มัจญมะอุลบะยาน เลม ๑๐ หนา ๕๕๔-๕๕๖, มะฆอซี วากิดี เลม ๒ หนา ๘๑๖-๘๑๘ และช้ัรฮฺนะฮฺุล บะลาเฆาะฮฺ ของ อิบนุอะบิ้ลฮะดีด เลม ๑๗ หนา ๒๖๘. (๑๖๓) วากิดีไดร ะบุจาํ นวนทีแ่ นช ดั ไวใ น มะฆอซี เลม ๒ หนา ๘๐๐-๘๐๑. (๑๖๔) อิมตาอลุ อัซมาอฺ เลม ๑ หนา ๓๗๙. (๑๖๕) หรอื ไมก เ็ ปน ศอบาบะฮฺ ตามที่ ตารีคุลคอ มซี บันทึกเอาไวใ น เลม ๒ หนา ๙๓. (๑๖๖) ซีเราะฮอฺ ิบนุฮิชาม เลม ๒ หนา ๔๐๙ และตารคี ุล คอ มซี เลม ๒ หนา ๙๐-๙๔.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257