Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษา ม.ปลายรวมเล่ม2

หลักสูตรสถานศึกษา ม.ปลายรวมเล่ม2

Published by paryphichchac61, 2020-03-20 05:29:31

Description: หลักสูตรสถานศึกษา ม.ปลายรวมเล่ม2

Search

Read the Text Version

ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชีว้ ดั เนอ้ื หา 101 จำนวน 5 ส่งิ ประดิษฐจ์ ากวัสดุ 1. อธิบายหลักสะเต็ม 5.1 หลกั สะเต็มศกึ ษา (ชั่วโมง) ตามหลกั สะเต็ม ศึกษาสาหรับการ 5.2 หลักสะเต็มศกึ ษา 20 ศกึ ษา ประดิษฐ์วัสดใุ ช้แลว้ ได้ สาหรับการประดิษฐ์วัสดุใชแ้ ล้ว 20 2. สามารถออกแบบและ 5.3 การประดษิ ฐ์วัสดใุ ช้แลว้ สร้างสิ่งประดษิ ฐจ์ ากวัสดุ ใชแ้ ล้วได้ 6 เทคโนโลยีการกาจดั 1.อธิบายเทคโนโลยกี าร 1.เทคโนโลยกี ารกาจดั เศษวสั ดุ วัสดุ กาจดั เศษวัสดเุ หลือทิ้ง เหลือทิ้งดว้ ยการเผา ด้วยการเผาได้ 2.การผลติ พลงั งานจากเศษวสั ดุ 2.อธิบายการผลติ เหลอื ทิง้ พลงั งานจากเศษวัสดุ เหลอื ทงิ้ ได้

102 คำอธิบำยรำยวิชำ พว03032 ช่อื วิชำ พลังงำนทดแทนและสภำวะโลกรอ้ น จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั ประถมศกึ ษำ/มธั ยมศึกษำตอนต้น/มัธยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนท่ี 2.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจและทักษะพนื้ ฐานเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเกยี่ วกับเรื่องต่อไปน้ี ความหมายและประเภทของพลงั งานทดแทน ไดแ้ ก่ พลังงานจากธรรมชาติ และพลังงานจาก ชีวมวล การเลือกใช้พลังงานทดแทนที่เหมา ะสมในแต่ละท้องถ่ิน การน าพลังงา นทดแทน ไปใช้ใน ชีวติ ประจาวัน สภาวะโลกร้อน ความหมายสภาวะโลกรอ้ น ปรากฏการณ์เรือนกระจก สาเหตุการเกดิ สภาวะ โลกรอ้ น ปฏิบัตกิ ารทดลองด้วยการจาลองสถานการณ์สภาวะโลกรอ้ น ผลกระทบจากสภาวะโลกรอ้ น แนว ทางแกไ้ ขและป้องกนั สภาวะโลกรอ้ น กำรจดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ ใหผ้ ้เู รียนศึกษา คน้ ควา้ ตรวจสอบ ทดลอง อธบิ าย อภปิ ราย นาเสนอดว้ ยการจัดกระบวนการ เรยี นรูโ้ ดยการพบกลมุ่ การเรียนร้แู บบทางไกล แบบชั้นเรียน ตามอัธยาศัย การสอนเสริม การเรียนรู้ด้วย ตนเอง การทารายงาน การศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ประสบการณ์โดยตรง ใช้สถานการณ์จรงิ ปรากฏการณ์ ธรรมชาติ ประสบการณก์ ารเรียน และการเรยี นรู้ด้วยโครงงาน กำรวดั และประเมินผล การสังเกต การอภปิ ราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏิบัติ รายงานการทดลอง การมีส่วนรว่ มใน กิจกรรมการเรียนรู้ ผลงาน การทดสอบ ประเมินโครงงาน ประเมินการนาไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ

103 รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ พว03032 พลงั งำนทดแทนและสภำวะโลกรอ้ น จำนวน 2 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศกึ ษำ/มัธยมศึกษำตอนต้น/มัธยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนท่ี 2.2 มคี วามรู้ความเข้าใจและทักษะพื้นฐานเก่ียวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 พลังงานทดแทน 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมายและประเภทของ 40 และประเภทของพลงั งาน พลังงาน ทดแทน ได้แก่ พลงั งาน ทดแทน จากธรรมชาตแิ ละ พลงั งานจาก 2. ยกตัวอย่างพลังงาน ชวี มวล ทดแทนทีม่ ีในท้องถิ่น 2. การเลอื กใชพ้ ลงั งานทดแทนท่ี และสามารถนามาใชใ้ น เหมาะสมในแต่ละท้องถิน่ ชีวติ ประจาวันได้ 3. การนาพลงั งานทดแทนไปใชใ้ น ชวี ิตประจาวัน 2 สภาวะโลกรอ้ น 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมายสภาวะโลกร้อน 40 ปรากฏการณส์ ภาวะ 2. ปรากฏการณ์เรอื นกระจก โลกร้อนได้ 3. สาเหตุการเกิดสภาวะโลกร้อน 2. อธิบายสาเหตุและ 4. ปฏิบัติการทดลองดว้ ยการ ผลกระทบของสภาวะโลก จาลองสถานการณ์สภาวะโลก รอ้ นต่อส่งิ มชี ีวิตและ ร้อน สิง่ แวดล้อมได้ 5. ผลกระทบการเกิดสภาวะโลก 3. กาหนดแนวทางแกไ้ ข ร้อน และป้องกันสภาวะโลก 6. แนวทางแกไ้ ขและปอ้ งกัน ร้อนได้ สภาวะโลกรอ้ น 4. วางแผนและจดั ทา 7. โครงการหรอื โครงงานลด โครงการหรอื โครงงาน สภาวะโลกรอ้ น และเผยแพร่ การลด สภาวะโลกร้อนในชมุ ชน ได้

104 คำอธิบำยรำยวชิ ำ พว03010 โครงงำนวิทยำศำสตร์ จำนวน 3 หนว่ ยกิต สำระ ควำมรู้พ้นื ฐำน ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำน 2.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะพน้ื ฐานเกยี่ วกบั คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ศกึ ษำและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เรอ่ื งต่อไปนี้ 1. ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์และประเภทของโครงงาน 2. แนวคดิ หลกั การลาดับขั้นตอนการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3. การจัดทาเค้าโครงของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 4. การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 5. การศึกษาโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละการศึกษาสถานการณต์ ่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยา ศาตร์ในการแกป้ ัญหา 6. การจัดทาโครงงานวิทยาศาสตร์จากสถานการณ์และอปุ กรณท์ ่ีกาหนดให้ 7. การประเมินผลโครงงานวทิ ยาศาสตร์ กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ 1. ศึกษาจากชุดการเรียน ฝกึ ปฏบิ ตั ิจากผู้รแู้ ละจากเอกสารสือ่ 2. บรรยาย การสาธิต การศกึ ษาคน้ ควา้ เป็นกลมุ่ รายบคุ คล การอภิปราย การนาเสนอ กำรวัดและประเมินผล 1. การสังเกตพฤติกรรม การมีสว่ นรว่ ม ฝกึ ปฏิบตั ิ 2. รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ผลงาน

105 รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ โครงงำนวทิ ยำศำสตร์ จำนวน 3 หน่วยกติ สำระ ควำมร้พู ้ืนฐำน ระดับ ประถมศกึ ษำ มธั ยมศึกษำตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำน 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพ้นื ฐานเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ที่ หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ดั เน้อื หำ จำนวน (ช่วั โมง) 1 โครงงาน 1. บอกความหมาย ความสาคัญ 1. ความหมาย ความสาคัญ วทิ ยาศาสตร์ ประโยชนแ์ ละประเภทของ ประโยชน์และประเภทของ 5 โครงงานได้ โครงงาน 2. แนวคดิ หลกั การการทา 10 2. รู้เขา้ ใจ ขน้ั ตอนการทาโครงงาน 60 โครงงาน วิทยาศาสตรไ์ ด้ 3. กระบวนการขั้นตอนการ 15 3. รู้เข้าใจ การจัดทาเคา้ โครงของ ทาโครงงาน 20 - การเลือกเนื้อหาทีส่ นใจ 10 โครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ - การสร้างโครงงาน 4. รูเ้ ข้าใจการดาเนินงานตามหวั ข้อ - การลงมอื ปฏบิ ัติ - การรายงานผลการดาเนิน ทีก่ าหนดในการเขียนโครงงาน โครงงาน 5. รูแ้ ละเข้าใจการวเิ คราะห์โครงงาน 4. การเขียนเค้าโครงของ วิทยาศาสตร์ โครงงาน 6. นาความรู้ในการจัดทาโครงงาน 5. การศึกษาโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ไปใช้ในชวี ติ 6. การประเมนิ ผลโครงงาน - เอกสารโครงงาน ประจาวนั ได้ - กระบวนการทางาน - ผลงาน / ช้ินงาน

106 คำอธิบำยรำยวชิ ำ โลกและอวกำศ จำนวน 2 หน่วยกิต สำระ ควำมร้พู ้ืนฐำน ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำน 2.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศกึ ษำและฝกึ ทักษะเก่ยี วกบั เรื่องต่อไปนี้ 1. ทมี่ าและความสาคัญของระบบสุริยะ 2. การโคจรของโลกในระบบสรุ ยิ ะ 3. ตาแหน่งและเวลาบนโลก 4. การบอกตาแหน่งบนท้องฟ้า 5. เคร่อื งมือวัดมมุ อาซมิ ุทและมมุ เงย 6. ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยี กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ 1. ให้ศกึ ษาจากชุดการเรยี น คน้ คว้าจากอินเตอร์เนต็ เร่ืองโลกและอวกาศ 2. ศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้ประสบการณต์ รงโดยใชส้ ถานการณจ์ รงิ หรอื สถานการณ์จาลอง (ศูนย์ วทิ ยาศาสตร์) กำรวดั และประเมินผล 1. การสังเกตพฤตกิ รรม การมีส่วนรว่ มในการปฏิบัติหรอื การทางานกล่มุ 2. ดูผลงาน 3. การทดสอบ

107 รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำ โลกและอวกำศ จำนวน 2 หน่วยกติ สำระ ควำมรูพ้ ้นื ฐำน ระดับ มธั ยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำน 2.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะพ้ืนฐานเก่ยี วกับคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชี้วดั เนอื้ หำ จำนวน 1 โลกและอวกาศ (ช่ัวโมง) 1. อธิบายความหมายของโลกและ 1. โลก : ดาวเคราะหบ์ ้าน อวกาศ เรา 10 2. บอกทิศทางการโคจรของโลกใน 2. การโคจรของโลกใน 10 ระบบสรุ ิยะ ระบบสรุ ยิ ะ 15 3. บอกตาแหนง่ ตา่ ง ๆบนโลกทัง้ 3. ตาแหน่งและเวลาบนโลก แนวตัง้ และแนวนอน - เส้นละติจูด 15 4. อธิบายการบอกตาแหนง่ บนท้องฟา้ - เสน้ ลองตจิ ดู โดยบอกค่าเป็นมมุ เงยและมุมอาซิมทุ 4. การบอกตาแหน่งบน 15 5. บอกเครื่องมือต่าง ๆ ทไี่ ช้วัดมมุ เงย ทอ้ งฟ้า 15 และมมุ อาซิมุท - มุมเงย - มมุ อาซมิ ุท 5. เครอื่ งมอื วัดมมุ อาซมิ ทุ และมมุ เงย 6. ความกา้ วหน้าทาง เทคโนโลยีอวกาศ

108 คำอธิบำยรำยวชิ ำ พท33023 กำรเขียนอย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ จำนวน 5 หน่วยกติ สำระ ภำษำไทย ระดบั มัธยมศึกษำตอนปลำย มาตรฐานท่ี /2.1 มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะพน้ื ฐานเกย่ี วกับภาษาและการสอ่ื สาร ศกึ ษำและฝึกทักษะเกีย่ วกบั เร่อื งต่อไปนี้ 1.ความหมายสว่ นประกอบของประกาศ โครงการ การเขยี นบทความ ยอ่ ความ เรียงความ 2.วธิ เี ขยี นประกาศ โครงการ การเขยี นบทความ ยอ่ ความ เรยี งความ 3.ฝกึ เขยี นประกาศ โครงการ การเขยี นบทความ ยอ่ ความ เรียงความ กำรจัดประสบกำรณเ์ รียนรู้ 1. ศกึ ษาจากชุดแบบเรยี น แหล่งเรียนรู้ 2. แบ่งกลมุ่ ฝกึ เขียนประกาศ โครงการ การเขียนบทความ ย่อความ เรยี งความ (ใบงาน) 3. จดั ใหผ้ ู้เรยี นแตล่ ะคนเขยี นประกาศโครงการ การเขยี นบทความ ยอ่ ความ เรยี งความ กำรวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤตกิ รรม การมสี ่วนร่วม ฝกึ ปฏิบัติ - ใบงาน - ชิ้นงาน

109 คำอธิบำยรำยวชิ ำ พท33023 กำรเขียนอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ จำนวน 5 หนว่ ยกิต สำระ ภำษำไทย ระดับ มธั ยมศึกษำตอนปลำย มาตรฐานท่ี 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจและทกั ษะพนื้ ฐานเก่ยี วกับภาษาและการสือ่ สาร ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ช้วี ดั เนื้อหา จานวน (ชว่ั โมง) 1. การเขยี นอย่างมี 1.รู้และเข้าใจความหมาย - ความหมายของ ประสทิ ธิภาพ สว่ นประกอบวธิ กี ารเขยี น สว่ นประกอบของ 40 ประกาศ โครงการ การเขยี น ประกาศ โครงการ การ บทความ ย่อความ เรียงความ เขียนบทความ ยอ่ ความ 40 เรยี งความ 2.รูแ้ ละเขา้ ใจหลักการเขยี น 60 ประกาศ โครงการ การเขยี น - วิธกี ารเขียนประกาศ บทความ ยอ่ ความ เรียงความ - เขยี นประกาศตาม 60 ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหตกุ ารณส์ มมุติ - เขียน โครงการ การ 3. รู้และเขา้ ใจลกั ษณะของ เขยี นบทความ ย่อความ การเขียนประกาศ โครงการ เรยี งความ การเขยี นบทความ ยอ่ ความ - ลกั ษณะของการเขยี น เรยี งความ ประกาศ โครงการ การ 4. สามารถบอกองค์ประกอบ เขียนบทความ ยอ่ ความ ของหลกั การเขยี นประกาศ โครงการ การเขยี นบทความ เรยี งความ ย่อความ เรยี งความ - องคป์ ระกอบของ การเขียนประกาศ โครงการ การเขยี น บทความ ย่อความ เรียงความ

110 สำระกำรประกอบอำชพี สำระกำรประกอบอำชพี เปน็ สาระเกย่ี วกบั การมองเห็นช่องทาง และการตดั สนิ ใจประกอบอาชีพ เรียนรู้ ทกั ษะในอาชีพ การจัดการอาชพี อยา่ งมีคุณธรรม และการพฒั นาอาชีพใหม้ คี วามม่นั คง สาระการประกอบอาชพี ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดงั น้ี มำตรฐำนท่ี 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคตทิ ่ีดใี นงานอาชพี มองเหน็ ช่องทาง และตัดสินใจ ประกอบ อาชีพไดต้ ามความตอ้ งการ และศักยภาพของตนเอง มำตรฐำนท่ี 3.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะในอาชีพทต่ี ดั สินใจเลอื ก มำตรฐำนที่ 3.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการจัดการอาชีพอยา่ งมคี ณุ ธรรม มำตรฐำนท่ี 3.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการพฒั นาอาชีพให้มีความมน่ั คง มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั และผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวัง ในแตล่ ะมาตรฐาน มำตรฐำนที่ 3.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ดี ใี นงานอาชีพ มองเหน็ ชอ่ งทาง และตัดสนิ ใจ ประกอบ อาชีพได้ตามความตอ้ งการ และศกั ยภาพของตนเอง มำตรฐำน มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติทีด่ ใี นงานอาชีพ วเิ คราะห์ลกั ษณะงาน ขอบขา่ ย กำรเรยี นรูร้ ะดับ งานอาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศ และโลกทเ่ี หมาะสมกับศักยภาพของตน และ สอดคล้องกับชุมชนเพ่อื การพฒั นาอาชีพ ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคญั วเิ คราะห์ลกั ษณะงาน ขอบขา่ ยงานอาชพี ใน ชุมชน ท่คี ำดหวงั สงั คม ประเทศ และโลก ทจ่ี ะนาไปสู่การพัฒนาอาชีพทีเ่ หมาะสมกบั ศกั ยภาพของตน และสอดคล้องกบั ชุมชน สังคม 2. อธิบายเหตผุ ลปัจจัย ความจาเปน็ ในการพัฒนาอาชพี ทเี่ หมาะสมกับศักยภาพของ ตนเองได้ 3. จดั ระบบความสาคัญในการตัดสนิ ใจพฒั นาอาชพี ได้ 4. ปฏบิ ัตกิ ารวเิ คราะหเ์ พือ่ การพฒั นาอาชีพได้ มำตรฐำนท่ี 3.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะในอาชพี ท่ีตัดสินใจเลือก มำตรฐำน มคี วามรู้ ความเขา้ ใจทกั ษะในการพัฒนาอาชีพทีต่ ัดสนิ ใจเลือกบนพืน้ ฐานความรู้ กำรเรียนรรู้ ะดับ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดทใี่ ช้นวัตกรรม เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม และประยกุ ต์ ใชภ้ ูมิปัญญา ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายทักษะท่เี ก่ยี วข้องในกระบวนการผลติ กระบวนการตลาดทใ่ี ช้นวัตกรรม ที่คำดหวงั เทคโนโลยี ในการพฒั นาอาชีพทต่ี ดั สนิ ใจเลือกได้ 2. เหน็ ความสัมพนั ธข์ องการจัดระบบเตรียมความพร้อมกับการพัฒนาอาชีพ 3. ปฏบิ ตั กิ ารวิเคราะห์ทักษะในการพฒั นาอาชพี

111 มำตรฐำนที่ 3.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการจัดการอาชพี อยา่ งมีคุณธรรม มำตรฐำน มีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจัดทาแผนงานและโครงการธุรกจิ เพอ่ื พฒั นา อาชีพเข้าสูต่ ลาดการแขง่ ขนั ตามแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กำรเรียนรรู้ ะดบั เพ่อื สคู่ วาม เข้มแขง็ ผลกำรเรียนรู้ 1.อธิบายความหมาย ความสาคญั ของการจัดการอาชพี เพอ่ื พฒั นาอาชพี ได้ ทค่ี ำดหวัง 2. ดาเนนิ การปรับปรงุ แผนธุรกจิ ดา้ นการจดั การการผลติ หรือการบริการ และ ดา้ นการจดั การการตลาดตามแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ 3. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่างระบบการพัฒนาธุรกจิ คบั การขับเคล่ือนธุรกจิ อย่างมคี ณุ ธรรม 4.ปฏิบตั ิการจดั ทาแผนและโครงการพัฒนาอาชพี ได้ มำตรฐำนที่ 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชพี ใหม้ คี วามมั่นคง มีความรู้ ความเข้าใจในการพฒั นาอาชพี ให้มีผลติ ภณั ฑ์หรืองานบรกิ าร สรา้ งรายได้ มำตรฐำน พอเพียงต่อการดารงชีวติ และเหลอื เงนิ ออมตามศกั ยภาพ กำรเรยี นรู้ระดับ ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ ความจาเป็นในการพัฒนาอาชีพให้มผี ลติ ภณั ฑ์ ท่คี ำดหวงั หรอื งานบริการ สรา้ งรายได้พอเพียงต่อการดารงชวี ติ และเหลอื เงินออมตาม ศกั ยภาพ 2. วิเคราะห์ศักยภาพธุรกจิ การตลาด การผลติ หรือการบรกิ าร แผนธรุ กิจเพอ่ื สร้าง ธุรกิจใหม้ คี วามเขม้ แขง็ 3. อธบิ ายการจัดระบบ การพฒั นาอาชีพ สคู่ วามเข้มแข็งได้ 4. ปฏิบตั ิการทาแผนและโครงการพัฒนาอาชพี ให้มีความเข็มแข็ง

112 สำระกำรประกอบอำชีพ รำยวชิ ำบงั คับ มำตรฐำนที่ ระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย 3.1 สำระ รหสั รำยวชิ ำ รำยวิชำบังคับ หนว่ ยกิต 3.2-3.3 การประกอบอาชีพ อช31001 ชอ่ งทางการขยายอาชีพ 2 3.4 4 อช31002 ทักษะการขยายอาชพี 2 อช31003 พัฒนาอาชพี ให้มีความมัน่ คง 8 รวม รำยวชิ ำเลอื กเสรี มำตรฐำนที่ ระดับมัธยมศกึ ษำตอนปลำย สำระ รหัสรำยวิชำ รำยวิชำเลอื กเสรี หนว่ ยกติ การประกอบอาชีพ 2 อช32007 การใช้โปรแกรมสาเร็จรปู (Ms.office) (Ms.offece 2 (((Ms.office) รวม

113 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ อช31001 ช่องทำงกำรขยำยอำชพี จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ีดีในงานอาชีพ วิเคราะห์ลักษณะงาน ขอบข่ายงานอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และโลกที่เหมาะสมกับศักยภาพของตน และสอดคลอ้ งกบั ชมุ ชนเพอ่ื การขยายอาชีพ ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกบั ช่องทำงกำรขยำยอำชพี ดงั นี้ คอื ความหมาย ความสาคัญและความจาเปน็ ของการขยายอาชีพ วิเคราะห์ลักษณะขอบข่ายการงาน อาชีพ กระบวนการทางาน การบริหารจัดการของอาชพี ตา่ งๆ ในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก เพ่อื การ ขยายอาชีพจากการงานอาชีพต่างๆ เชน่ งำนบ้ำน เป็นการวิเคราะห์เกย่ี วกับงานบ้านและชีวติ ความเป็นอยู่ในบ้าน ผา้ และเคร่ืองแต่งกาย อาหารและโภชนาการ โดยเนน้ การแก้ปญั หาในการทางาน มีความรับผิดชอบ สะอาด มีระเบียบ ประหยัด อดออม อนรุ กั ษ์พลงั งานและสงิ่ แวดลอ้ มเพอ่ื จะนาไปสู่การสร้างงานอาชีพทเ่ี หมาะสมกบั ศักยภาพของตนและ สอดคล้องกบั ชมุ ชน สังคม งำนเกษตร เป็นการวเิ คราะห์เกย่ี วกับการปลูกพชื เล้ียงสตั ว์ และการประมง ตามกระบวนการผลิต และการจดั การผลผลติ มกี ารใช้เทคโนโลยีเพ่ือการเพม่ิ ผลผลิต ปลกู ฝังความรับผดิ ชอบ การอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมเพื่อนาไปสูก่ ารสร้างงานอาชีพ เพื่อจะนาไปสู่การสรา้ งงานอาชีพท่ีเหมาะสมกบั ศกั ยภาพของ ตนและสอดคลอ้ งกบั ชมุ ชน สังคม งำนช่ำง เป็นการวิเคราะหเ์ กีย่ วกบั การทางานตามกระบวนการของงานช่าง ซ่งึ ประกอบด้วยการ บารุงรักษา การตดิ ตั้ง ประกอบ การซอ่ มและการผลิตเพ่ือนาไปสูก่ ารสรา้ งอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพของ ตนและสอดคล้องกบั ชุมชน สงั คม งำนประดิษฐ์ เปน็ การวิเคราะหเ์ กี่ยวกับการทางานดา้ นการประดษิ ฐ์ส่ิงของเคร่ืองใช้ทเ่ี น้นความคิ ด สร้างสรรค์ โดยเนน้ ความประณีตสวยงามตามกระบวนการงานประดิษฐ์และเทคโนโลยี และเน้นการอนรุ กั ษ์ และสืบสานศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย ตามภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นและสากล เพื่อจะนาไปสกู่ าร สรา้ งงานอาชีพทีเ่ หมาะสมกับศกั ยภาพของตนและสอดคลอ้ งกับชุมชน สงั คม งำนธุรกิจ เปน็ การวิเคราะห์งานหรอื กจิ กรรมท่ีเป็นการนาเอาทรัพยากรต่างๆ มาใช้ร่วมกัน หรือ เปลี่ยนสภาพเพอื่ ทจี่ ะก่อให้เกิดคณุ คา่ ที่สูงกวา่ เดิม โดยทผ่ี ้ซู ่ึงเป็นเจ้าของหรือผู้จัดการหวังว่า ส่งิ ทต่ี นทาน้ัน จะย่ังยนื และเจรญิ กา้ วหน้าต่อไปในอนาคต โดยในงานหรือกจิ กรรมทางธรุ กจิ จะกล่าวถงึ งานการตลาด งาน การผลิตหรอื การบริการ งานการเงินและบญั ชี และงานทรัพยากรมนษุ ย์ ความหมาย ความจาเปน็ ในการขยายอาชพี ในชุมชน สงั คม ทเ่ี หมาะสมกับตนเอง วเิ คราะห์ความ เปน็ ไปได้ตา่ งๆ ได้แก่ การลงทนุ การตลาด กระบวนการผลติ การขนส่ง การบรรจุหีบหอ่ การแปรรูป และ ผลกระทบต่อชมุ ชนและสง่ิ แวดล้อม ความรู้ความสามารถของตนเองต่ออาชีพนั้นๆ การลาดับความสาคญั ของ อาชีพท่ีมคี วามเป็นไปไดต้ ่อการขยายอาชพี เพื่อนาขอ้ มูลที่วิเคราะห์ไว้นาไปปรึกษาผูร้ ู้ การตัดสินใจขยาย อาชีพที่เหมาะสมกบั ตนเอง โดยวิเคราะห์ความพรอ้ มของตนเอง ความต้องการของตลาด เทคนิคความรู้ ทักษะในอาชีพ และความรับผิดชอบต่อสงั คม ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม

114 กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้ เป็นการสารวจอาชีพในชมุ ชน ประเทศ และโลก แล้วนามาวิเคราะห์ รวมทั้งแลกเปล่ยี นเรียนรซู้ ่งึ กัน และกนั สรปุ เป็นองค์ความรเู้ พือ่ การขยายอาชีพ ของตน หรอื ชุมชน กำรวดั และประเมนิ ผล ประเมนิ จากสภาพจรงิ ผลงานปฏบิ ัติ สังเกตความสนใจ ความรว่ มมือในกระบวนการเรียนรู้

115 รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ อช31001 ชอ่ งทำงกำรขยำยอำชีพ จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดบั มัธยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคตทิ ดี่ ใี นงานอาชีพ วเิ คราะหล์ ักษณะงาน ขอบข่ายงานอาชีพใน ชมุ ชนสงั คม ประเทศ และโลกที่เหมาะสมกับศกั ยภาพของตน และสอดคลอ้ งกับชุมชนเพอ่ื การขยายอาชพี ที่ หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ัด เนอ้ื หำ จำนวน (ช่วั โมง) 1 การงานอาชพี 1. อธิบายความสาคัญ และ 1. ความสาคัญ และความ 50 ความจาเปน็ ในการขยายอาชพี จาเปน็ ในการขยายอาชพี 2. อธบิ ายลกั ษณะขอบขา่ ย 2. การขยายอาชีพในชุมชน กระบวนการผลิตงานอาชพี ใน ประเทศ และโลก ชมุ ชน สงั คม ประเทศ และโลก - งานบ้าน เพ่ือนามาวิเคราะห์ขยายอาชพี - งานเกษตร - งานช่าง - งานประดษิ ฐ์ - งานธุรกจิ ฯลฯ 3. อธบิ ายการจัดการในงาน 3. การขยายกระบวนการ อาชพี ในชมุ ชน สังคม ประเทศ จดั การงานอาชพี ในชุมชน และโลก เพอื่ นามาวิเคราะหใ์ น สังคม ประเทศ และโลก การขยายอาชพี 3.1 การจดั การการผลติ - การวางแผน - การจดั ทาโครงการ - การใชว้ ัสดุอปุ กรณ์ - การใช้แรงงาน - การใชส้ ถานท่ี - การใช้ทุน ฯลฯ 3.2 การจัดการการตลาด - การกาหนดทศิ ทาง การตลาด - การหาความตอ้ งการ ของตลาด - การขนสง่ - การขาย - การกาหนดราคาขาย - การทาบัญชีประเภท ต่างๆ ฯลฯ

116 ที่ หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวัด เนอ้ื หำ จำนวน 4. อธิบายคณุ ธรรม จริยธรรม (ชว่ั โมง) 2 ชอ่ งทางการขยาย ในการขยายอาชพี 4. คุณธรรม จริยธรรม อาชพี - ความรับผิดชอบ 20 5. อธิบายการอนุรักษพ์ ลังงาน - การประหยดั และสง่ิ แวดล้อมในการขยาย - การอดออม อาชีพในชมุ ชน สังคม ประเทศ - ความสะอาด และโลก - ความประณีต 1. อธบิ ายความจาเป็นในการ - ความขยัน มองเห็นช่องทางในการขยาย - ความซื่อสัตย์ อาชีพไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั ฯลฯ ตนเอง 2. ศกึ ษาอาชีพในชมุ ชน สังคม 5. การอนุรกั ษ์พลงั งาน และ ประเทศ และโลก เพ่ือวเิ คราะห์ สง่ิ แวดล้อมในการขยายอาชพี ความเป็นไปได้ในการขยาย ในชมุ ชน สังคม ประเทศ และ อาชีพ โลก 1. ความจาเปน็ ในการ 4. กาหนด มองเห็นชอ่ งทางการประกอบ วธิ กี ารและขั้นตอน อาชพี การขยายอาชพี โดย พจิ ารณาความเปน็ ไป 2. ความเป็นไปไดใ้ นการขยาย ไดข้ องการขยายอาชพี อาชพี พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตผุ ลใน การขยายอาชีพทเี่ ลือก - การลงทนุ - การตลาด - กระบวนการผลติ - การขนสง่ - การบรรจหุ ีบหอ่ - การแปรรปู - ผลกระทบต่อชุมชน และ สภาพแวดล้อม - ความร้คู วาม สามารถ ฯลฯ 3. การกาหนดวธิ ีการและ ขัน้ ตอนการขยายอาชพี พรอ้ ม ให้เหตุผล

117 ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ชี้วัด เนือ้ หำ จำนวน (ชว่ั โมง) 3 การตัดสินใจเลือก 1. ตดั สินใจเลือกขยายอาชพี ได้ 1. การตัดสินใจเลอื กขยาย ขยายอาชพี เหมาะสมกบั ตนเอง อาชพี 10 - ความพรอ้ ม - ความต้องการของตลาด - ความรู้ ทักษะและเทคนิค ต่างๆ - ทรพั ยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดลอ้ ม - สถานท่ี - แรงงาน - เงินทุน ฯลฯ

118 คำอธิบำยรำยวิชำ อช31002 ทกั ษะกำรขยำยอำชีพ จำนวน 4 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนร้รู ะดับ 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจทักษะ ในการขยายอาชีพ เพื่อสร้างความมั่นคงบนพื้นฐานความรู้ ใน กระบวนการผลิต กระบวนการตลาด ทใ่ี ช้นวัตกรรม เทคโนโลยที ี่เหมาะสม มคี วามหลากหลายทางชวี ภาพ พัฒนาตอ่ ยอดและประยุกต์ใช้ภูมปิ ัญญา 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจัดทาแผนงาน และโครงการ เพ่อื ขยายอาชพี เข้าสู่ตลาดการ แขง่ ขนั ตามแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพือ่ สู่ความมนั่ คง ศึกษำและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกบั ทักษะอำชีพที่ตอ้ งกำรขยำยอำชีพ ดังน้ีคือ ความจาเป็นในการฝึกทกั ษะอาชีพ เพอ่ื การขยายอาชีพ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาด ที่ใช้ นวตั กรรม เทคโนโลยี ความหมาย ความสาคัญของการจดั การอาชีพ เพื่อการขยายอาชีพ และระบบ การ จดั การเพ่อื การขยายอาชพี ท่ีตดั สินใจเลือก แหล่งเรยี นรู้ในการฝกึ การตัดสินใจเลอื กแหลง่ และวิธกี ารฝึก การ บนั ทกึ รายงาน การฝกึ ทักษะการขยายอาชีพโดยพัฒนาตอ่ ยอด และประยกุ ต์ใช้ภูมิปัญญา และคานงึ ถงึ ความ หลากหลายทางชีวภาพ ควำมหมำย ความสาคัญของการจัดทาและหรอื ปรับปรุงการจัดการอาชพี กำรทำแผนธรุ กิจ แผนธรุ กิจเปน็ แผนแม่บทในการประกอบการงานอาชพี ของทุกคนในครอบครัว ชุมชน ซ่งึ เปน็ กระบวนการในการระดมความคดิ จากการวิเคราะห์ชุมชนที่กาหนดด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจ รายได้ ค่านยิ มของชุมชน ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสคู่ วามม่ันคงเป็นผลสาเรจ็ โดย กาหนดเป้าหมาย และกลยุทธ์ การดาเนนิ งานท่ีจะดาเนินการไปตามแผนธุรกจิ กำรจัดกำรควำมเสี่ยง เป็นการวเิ คราะห์ศกั ยภาพและจัดการเก่ียวกบั ผลการดาเนินการในอดีต ทผี่ ่านมาในช่วงระยะเวลา 3-5 ปี จนถึงปัจจุบนั เน้นยอดขายของประเภทสินค้า ค่าใชจ้ ่ายต่างๆ ผลกาไร วเิ คราะหค์ ู่แขง่ ขัน วิเคราะหส์ ่วนครองตลาดสัมพนั ธ์ วิเคราะห์สมรรถนะของธรุ กจิ วิเคราะหส์ ภาวะแวดล้อม ภายในดา้ น จุดแข็ง จุดออ่ น วิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอกดา้ นโอกาสและอุปสรรค ว่าประเด็นใดจะทาให้ เกิดความเส่ยี งในการประกอบอาชพี ต้องจดั การแกป้ ัญหาความเสี่ยงน้นั เพื่อความมั่นคงของอาชพี กำรขับเคล่ือนแผนธุรกิจ เป็นการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการสู่ความสาเร็จ โดยการวเิ คราะห์ความ เป็นไปได้ของแผนปฏิบตั ิการ การพัฒนาแผนปฏิบัติการ การจัดการความรู้ขับเคล่ือนแผนปฏิบัตกิ ารสู่ ความสาเรจ็ กำรจัดกำรกำรผลิต เป็นการจดั การเก่ียวกับการควบคมุ คุณภาพใหไ้ ดม้ าตรฐานตามความต้องการ ของตลาด การใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยใี นการผลิต การลดตน้ ทุนการผลติ หรือการบริการ กำรจั ดกำรกำรตลำด เป็น การ นาผลผลิตเข้าสู่ตลาด ซึ่งดาเนินกา รโดยกา รโฆ ษณา กา ร ประชาสัมพันธ์ การวจิ ัยตลาด การส่งเสรมิ การขาย การจดั ทาข้อมลู ฐานลูกคา้ ความสามารถกระจายสินค้าให้ ถึงลกู ค้า บญั ชธี ุรกิจ บญั ชธี รุ กิจจะเป็นตวั ควบคมุ การดาเนนิ การด้านธุรกิจให้มปี ระสิทธภิ าพ บญั ชธี ุรกิจควรมี บญั ชเี กยี่ วกบั รายได้ - กาไร - รายจ่าย สภาพคล่องทางการเงนิ หน้สี ญู ต้นทุนทางการเงิน สินทรพั ย์ - หน้ีสิน และการลงทนุ ปฏบิ ัตกิ ำร จัดทาแผนและวางระบบพัฒนาธุรกิจให้มคี วามเข้มแข็ง ยั่งยืน

119 กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้ สารวจ วิเคราะห์ทักษะที่จาเป็นต่อการขยายอาชีพแหล่งฝึกและวิธีการฝึกกระบวนการผลิต กระบวนการตลาด นวตั กรรม เทคโนโลยี การถอดบทเรียนจากการฝกึ ทักษะเพอื่ การขยายอาชีพโดยการ พฒั นาต่อยอด ประยกุ ต์ใช้ภูมปิ ญั ญาและคานึงความหลากหลายทางชีวภาพ เปน็ การศึกษาปฏบิ ัติจรงิ ดว้ ยการ ทาแผนธุรกิจของชมุ ชน หรือของผู้เรยี นตามแนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง การจัดการความเสี่ยง การขบั เคล่ือนแผนธุรกจิ การจัดการผลติ การจดั การตลาด บญั ชีธรุ กิจ อาจสรา้ งสถานการณ์จาลองขึ้นมา หรอื พาไปศึกษาของจริง เพือ่ ฝกึ ปฏบิ ัติและนาแผนปฏิบัติการต่างๆ เขา้ สู่วิถีชีวิต หรือดาเนินการจรงิ ตามวิถี ชีวติ เพ่ือผเู้ รยี นจะเกดิ ความรู้ ความสามารถในการบรหิ ารจดั การธุรกิจอยา่ งแทจ้ รงิ กำรวดั และประเมินผล ประเมินจากสภาพจรงิ จากผลงานการเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้การจัดทาแผน และโครงการขยาย ธรุ กิจ

120 รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ อช31002 ทักษะกำรขยำยอำชพี จำนวน 4 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดับ 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจทักษะ ในอาชพี เพอื่ สร้างความมั่นคงบนพื้นฐานความรู้ ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาด ที่ใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม มีความหลากหลายทางชวี ภาพ พฒั นาต่อยอดและ ประยุกตใ์ ช้ภมู ปิ ญั ญา 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถจดั ทาแผนงาน และโครงการ เพือ่ ขยายอาชีพเข้าสู่ตลาดการ แข่งขนั ตามแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่อื สคู่ วามมนั่ คง ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้วี ัด เนื้อหำ จำนวน (ชัว่ โมง) 1 ทกั ษะในการขยาย 1. อธิบายความจาเปน็ ในการฝึก 1. ความจาเป็นในการฝึกทักษะ 80 อาชีพ ทักษะอาชีพ กระบวนการผลิต อาชีพ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดทใ่ี ช้ กระบวนการตลาดท่ีใช้ นวัตกรรม เทคโนโลยี เพอื่ การ นวตั กรรม เทคโนโลยี เพอื่ การ ขยายอาชีพ ขยายอาชีพ 2. อธบิ ายความหมาย 2. ความหมาย ความสาคญั ของ ความสาคญั ของการจดั การอาชพี การจดั การอาชพี และระบบ และระบบการจัดการ เพื่อการ การจัดการ ขยายอาชพี โดยพฒั นาต่อยอด ประยุกตใ์ ช้ภมู ิปญั ญา และ คานึงถงึ ความหลากหลายทาง ชีวภาพ 3. สารวจแหล่งเรยี นรู้ และ 3. แหล่งเรียนรู้ และสถานทฝี่ ึก สถานท่ีฝกึ ทกั ษะในการขยาย อาชพี อาชีพ 4. วางแผนในการฝึกทักษะอาชีพ 4. การวางแผนโดยกาหนดส่ิง โดยพัฒนาต่อยอด ประยุกตใ์ ช้ภมู ิ ตา่ งๆดงั นี้ ปัญญา และคานึงถงึ ความ - ความรู้และทักษะทีต่ ้องฝึก หลากหลายทางชวี ภาพ - วธิ ีการฝึก - แหลง่ ฝกึ - วัน เวลาในการฝึก ฯลฯ 5. ฝึกทักษะอาชีพตามแผนท่ี 5. การฝกึ ทักษะอาชีพ กาหนดไว้ได้โดยมกี ารบนั ทึก - การจดบนั ทกึ ข้ันตอนการฝึกทุกขั้นตอน - ปญั หาและการแกป้ ญั หา - ข้อเสนอแนะ ฯลฯ

121 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวช้วี ดั เนือ้ หำ จำนวน (ชว่ั โมง) 2 การทาแผนธรุ กิจ 1. วิเคราะหช์ ุมชน 1. การวเิ คราะห์ชุมชน 5 เพ่อื การขยายอาชีพ โดยการระดมความคิดเหน็ ของ - จดุ แขง็ คนในชมุ ชน และกาหนด - จุดออ่ น วสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ รายได้ คา่ นิยม - โอกาส ของชุมชน เปา้ หมาย และกลยุทธ์ - อปุ สรรค ตามแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. การกาหนดวสิ ัยทัศน์ พันธกจิ เป้าหมาย กลยทุ ธ์ ในการกาหนด แผนขยายธรุ กจิ ของชุมชน 2. วางแผนปฏิบัตกิ าร 3. การวางแผนปฏบิ ตั ิการ 3 การจดั การความเสีย่ ง 1. วิเคราะหศ์ กั ยภาพ และจดั การ 1. การวเิ คราะหศ์ ักยภาพ และ 10 เก่ยี วกับผลการดาเนินการในอดตี การจัดการความเส่ียงกบั ผลการ ท่ผี ่านมา 3-5 ปี จนถึงปจั จุบนั ดาเนินงาน - ประเภทสินคา้ - คา่ ใช้จา่ ยต่างๆ - ผลกาไร - คู่แขง่ ขัน - ส่วนครองตลาด - สมรรถนะของธุรกิจ - สภาวะแวดล้อมภายใน จดุ แขง็ จุดออ่ น - สภาวะแวดลอ้ มภายนอก ดา้ นโอกาส และอปุ สรรค 2.อธบิ ายวธิ ีแกป้ ัญหาความเสีย่ ง 2.การแกป้ ญั หาความเสยี่ ง เพ่ือความม่นั คงของอาชพี 3.สามารถวางแผนปฏบิ ัติการ 3.วางแผนปฏิบตั กิ าร 4 การจัดการการผลิต 1. จัดการเกี่ยวกับการควบคมุ 1. การจัดการเกย่ี วกับการ 5 หรอื การบริการ คุณภาพ ควบคุมคณุ ภาพ 2. อธบิ ายวิธีการใช้นวัตกรรม 2. การใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยี เทคโนโลยีในการผลิต ในการผลติ 3. อธิบายข้นั ตอนการลดต้นทนุ 3. การลดตน้ ทนุ การผลติ หรือ การผลติ หรอื การบริการ การบริการ 4. จัดทาแผนการผลิตหรือการ 4. การจัดทาแผนปฏิบัตกิ าร บริการ

122 ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชวี้ ดั เน้อื หำ จำนวน (ช่วั โมง) 5 การจัดการการตลาด 1. จัดการการตลาดเพอ่ื นา 1. การจดั การการตลาด 5 ผลผลิตเขา้ สตู่ ลาด - การโฆษณา - การประชาสมั พนั ธ์ - การวจิ ยั ตลาด - การส่งเสรมิ การขาย - การทาข้อมูลฐานลูกคา้ - การกระจายสนิ ค้า 2. จดั ทาแผนการจดั การ 2. การจัดทาแผนปฏิบตั กิ าร การตลาด 6 บญั ชธี ุรกิจ 1. อธบิ ายความสาคญั ในการทา 1. ความสาคัญในการทาบัญชี 30 บญั ชีธรุ กิจ ธุรกจิ 2. บอกประเภทของบญั ชี 2. ประเภทของบญั ชธี ุรกจิ ประเภทต่างๆที่เกย่ี วข้อง - ขั้นตอนการทาบญั ชี ประเภทต่าง ๆ - บัญชีรับ-จ่าย - บัญชีหนส้ี นิ - บญั ชกี ารเงิน - บญั ชสี ินทรัพย์ ฯลฯ 7 การขบั เคลอ่ื นธุรกจิ 1. วเิ คราะหค์ วามเป็นไปไดข้ อง 1. การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ 15 เพอ่ื ขยายอาชีพ แผนปฏิบตั ิการในการขยายธรุ กจิ ของแผนปฏิบตั ิการในการขยาย ธรุ กิจ 2. พัฒนาแผนปฏบิ ัติการการ 2. แผนปฏบิ ัติการขยายธุรกิจ ขยายธุรกจิ 3. อธิบายขัน้ ตอนการขบั เคลือ่ น 3. ขนั้ ตอนการขบั เคล่อื น แผนปฏิบตั ิการเพอ่ื การขยาย แผนปฏิบตั กิ ารเพ่อื การขยาย ธรุ กิจ ธุรกจิ 8 โครงการขยายอาชีพ 1. อธบิ ายความสาคญั ของการทา 1. ความสาคัญของโครงการ 10 โครงการขยายอาชีพ 2. เขียนโครงการ 2. ข้ันตอนการเขยี นโครงการ 3. เขียนแผนปฏิบัติการ 3. การเขียนแผนปฏบิ ตั กิ าร 4. ตรวจสอบโครงการไดถ้ ูกตอ้ ง 4. การตรวจสอบโครงการ และเหมาะสม

123 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ อช31003 พฒั นำอำชพี ใหม้ ีควำมมนั่ คง จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาอาชพี ใหม้ ีผลิตภัณฑห์ รอื งานบรกิ าร สร้างรายไดพ้ อเพยี งต่อการ ดารงชีวิต มเี งินออมและมที ุนในการขยายอาชีพ ศึกษำ และฝึกทกั ษะเกยี่ วกับกำรพฒั นำอำชีพ เพอื่ ใหม้ คี วำมมัน่ คง ดงั นี้ คือ ควำมหมำย ความสาคญั ความจาเป็นในการพฒั นาอาชีพ ศักยภำพธุรกิจของตนเอง ชุม ชน ความจาเป็นและคุณค่าของการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ การวิเคราะห์ตาแหน่งธุรกิจ (ระยะเริ่มตน้ ระยะสร้างตัว ระยะทรงตัว ระยะตกต่าหรอื สูงข้ึน) การวิเคราะห์ ศักยภาพธุรกจิ บนเสน้ ทางของเวลา กำรจัดทำแผนพฒั นำกำรตลำด การกาหนดทิศทางการตลาด การกาหนดเป้าหมายการตลาด การกาหนดกลยุทธส์ ู่เปา้ หมายบนพนื้ ฐานศกั ยภาพธรุ กิจที่เป็นอยู่ การวเิ คราะหก์ ลยุทธ์กาหนดกจิ กรรมแผนการ พัฒนาการตลาด กำรจัดทำแผนพัฒนำกำรผลิตหรือกำรบริกำร การกาหน ดคุณภาพผลผลิตหรือการบริกา ร การวิเคราะหท์ ุนปัจจยั การผลิตหรือการบรกิ าร การกาหนดเปา้ หมายการผลติ หรอื การบริการ การกาหนดแผน กจิ กรรม พัฒนาระบบการผลิตหรือการบรกิ าร กำรพัฒนำธุรกิจเชิงรุก ความจา เป็นและคุณค่าของธุรกิจ เชิงรุก การแทร กความนิยมเข้า สู่ ความตอ้ งการแทจ้ รงิ ของผูบ้ รโิ ภค รูปลักษณ์คุณภาพใหม่ เพิม่ ช่องทางเขา้ ถึงลกู คา้ ปฏบิ ตั กิ ำร จดั ทาแผน และโครงการพัฒนาอาชพี ให้มีความมั่นคง กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ เปน็ การศึกษาปฏิบัติจรงิ ดว้ ยการวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กิจ การจดั ทาแผนพัฒนาการตลาด การจัดทา แผนพฒั นาการผลติ การพัฒนาธุรกิจเชิงรกุ การพฒั นาองค์กรให้มปี ระสิทธภิ าพ อาจสร้างสถานการณจ์ าลอง ข้นึ มา หรือพาไปศึกษาของจรงิ เพื่อฝกึ ปฏิบตั ิและนาแผนปฏบิ ัตกิ ารตา่ ง ๆ เข้าส่วู ิถีชีวติ หรอื ดาเนนิ การจริง ตามวิถีชีวิต เพ่ือผู้เรยี นเกิดการเรยี นร้สู ามารถพฒั นาอาชีพของตน หรือชุมชน ให้มีความมัน่ คง (พออยู่ พอกิน มรี ายได้ มีการออม และมีทนุ ในการขยายอาชีพ) กำรวัดและประเมินผล ประเมินจากสภาพจริงจากผลงานการเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้ การจัดทาแผนและโครงการพัฒนา อาชพี ใหม้ ีความมั่นคง

124 รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวิชำ อช31003 พัฒนำอำชพี ใหม้ คี วำมม่นั คง จำนวน 2 หนว่ ยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรยี นรูร้ ะดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการพัฒนาอาชีพ ใหม้ ผี ลิตภัณฑ์หรอื งานบรกิ าร สร้างรายไดพ้ อเพยี งต่อการ ดารงชีวิต มีเงินออมและมีทนุ ในการขยายอาชีพ ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ัด เนอ้ื หำ จำนวน (ช่วั โมง) 1 ศักยภาพธุรกิจ 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมาย ความสาคญั 20 ความสาคัญ และความจาเป็น และความจาเป็นของการ ของการพฒั นาอาชีพ เพ่ือให้มี พฒั นาอาชพี ความม่นั คง 2. อธบิ ายความจาเปน็ และ 2. ความจาเป็นของการ คณุ คา่ ของการวเิ คราะห์ วิเคราะหศ์ กั ยภาพธุรกิจ ศกั ยภาพของธรุ กจิ 3. วเิ คราะห์ตาแหนง่ ธุรกจิ ใน 3. การวเิ คราะห์ตาแหนง่ ธุรกิจ ระยะต่าง ๆ - ระยะเร่ิมต้น - ระยะสรา้ งตัว - ระยะทรงตวั - ระยะตกต่าหรือสูงข้ึน 4. วเิ คราะหศ์ ักยภาพธุรกิจบน 4. การวิเคราะห์ศกั ยภาพ เส้นทางของเวลา ธุรกิจบนเสน้ ทางของเวลา 2 การจดั ทาแผนพัฒนา 1. กาหนดทศิ ทางการตลาด 1. การกาหนดทศิ ทาง 15 การตลาด การตลาด 2. กาหนดเปา้ หมายการตลาด 2. การกาหนดเป้าหมาย 3. กาหนดกลยทุ ธ์สเู่ ป้าหมาย การตลาด 3. การกาหนดกลยุทธ์สู่ 4. วเิ คราะหก์ ลยุทธ์ เปา้ หมาย 5. กาหนดกิจกรรมและ 4. การวเิ คราะหก์ ลยุทธ์ แผนการพฒั นาการตลาด 5. กิจกรรมและแผนการ พัฒนาการตลาด 3 การจัดทาแผนพฒั นาการ 1. อธบิ ายการกาหนดคุณภาพ 1. การกาหนดทุนการผลติ 15 ผลติ หรือการบริการ ผลผลติ หรอื การบรกิ าร หรอื การบรกิ าร 2. สามารถวเิ คราะห์ทุนปัจจัย 2. การวเิ คราะห์ทนุ ปัจจยั การผลิตหรอื การบริการ การผลิตหรอื การบรกิ าร 3. กาหนดเปา้ หมายการผลิต 3. การกาหนดเป้าหมายการ

125 ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ช้วี ัด เนือ้ หำ จำนวน 4 การพัฒนาธรุ กิจเชิงรุก (ช่วั โมง) หรือการบรกิ าร ผลิตหรอื การบรกิ าร 5 โครงการพัฒนาอาชีพใหม้ ี 4. กาหนดแผนกิจกรรมการ 4. การกาหนดแผนกิจกรรม 15 ความม่ันคง ผลิต 5. พัฒนาระบบการผลิตหรือ 5. การพัฒนาระบบการผลติ 15 การรกิ ารได้ หรอื การบรกิ าร 1. อธบิ ายความจาเปน็ และ 1. ความจาเป็น และคณุ คา่ คุณคา่ ของธุรกิจเชิงรกุ ของธุรกิจเชิงรุก 2. อธบิ ายการแทรกความนิยม 2. การแทรกความนิยมเข้าสู่ เขา้ สคู่ วามตอ้ งการของ ความตอ้ งการของผู้บรโิ ภค ผบู้ รโิ ภคได้อย่างแทจ้ รงิ 3. อธิบายการสรา้ งรูปลักษณ์ 3. สรา้ งรปู ลกั ษณ์คณุ ภาพ คณุ ภาพสนิ คา้ ใหม่ สินค้าใหม่ 4. อธบิ ายการพฒั นาอาชีพให้มี 4. การพฒั นาอาชพี ใหม้ ี ความมั่นคง ความมัน่ คง เขม้ แขง็ ย่งั ยืน (พออยู่ พอกิน มีรายได้ มี 1. วิเคราะหค์ วามเปน็ ไปไของ การออม และมีทนุ ในการ แผนการตลาดและการผลิต ขยายอาชีพ) หรอื การบรกิ าร 1. การวเิ คราะห์ความเปน็ ไป 2. เขยี นโครงการการพัฒนา ได้ของแผนการตลาดและ อาชพี ได้ การผลติ หรอื การบริการ 3. ตรวจสอบความเป็นไปได้ 2. การเขยี นโครงการการ ของโครงการพฒั นาอาชพี พัฒนาอาชีพ 4. ปรับปรุงโครงการพัฒนา 3. การตรวจสอบความ อาชพี เปน็ ไปไดข้ องโครงการ 4. การปรับปรุงโครงการ พัฒนาอาชพี

126 คำอธบิ ำยรำยวิชำ อช32007 กำรใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูป (Ms.office) สำระกำรประกอบอำชีพ ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย จำนวน 2 หนว่ ยกิต (80 ชั่วโมง) มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจทักษะในการขยายอาชีพ เพ่ือสร้างความม่ันคงบนพ้ืน ฐานความรู้ในกระบวนการผลติ กระบวนการตลาดทีใ่ ช้นวัตกรรม เทคโนโลยีท่เี หมาะสม มีความหลากหลายทางชวี ภาพ พัฒนาตอ่ ยอดและประยกุ ตใ์ ช้ภมู ิปญั ญา ศึกษำและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกบั เรื่องกำรใช้โปรแกรมสำเร็จรูป (Ms.office) ดงั นี้ ความหมาย ประโยชน์ รูปแบบและวิธีการใช้งานโปรแกรมสาเร็จรูปต่าง ๆ เพ่ือสามารถนาไป ประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวันในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสมและทนั ตอ่ เทคโนโลยีในสังคมปจั จุบนั กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ จดั ให้ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นร้จู ากการปฏิบตั จิ ริง เชื่อมโยงกับประสบการณ์เข้ากบั ความรู้ ฝึกประสบการณ์ เรียนร้ดู ว้ ยตนเองจากสอื่ ต่าง ๆ การเรยี นจากผรู้ ู้ เพ่อื นามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั กำรวัดและประเมนิ ผล ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ประเมนิ แผนปฏิบัติการ โดยสงั เกต ตรวจสอบ ประเมินการปฏบิ ัติจริง และประเมินสภาพจรงิ

127 รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ อช32007 กำรใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู (Ms.office) สำระกำรประกอบอำชพี ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย จำนวน 2 หนว่ ยกติ (80 ช่ัวโมง) มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจทักษะในการขยายอาชีพ เพ่ือสร้างความม่ันคงบนพื้น ฐานความรใู้ นกระบวนการผลติ กระบวนการตลาดทีใ่ ช้นวตั กรรม เทคโนโลยที ี่เหมาะสม มีความหลากหลายทางชวี ภาพ พฒั นาต่อยอดและประยุกตใ์ ชภ้ มู ิปญั ญา ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หำ จำนวน (ชั่วโมง) 1 ความรู้เกี่ยวกับการใช้ 1.อธบิ ายความหมาย ประโยชน์ 1.ความหมาย ประโยชน์ 15 โปร แกร มสา เร็จ รูป วธิ ีการใชง้ านและหน้าท่ีการ ของการใช้งานโปรแกรม (Ms.office) ทางานของโปรแกรมสาเร็จรปู สาเรจ็ รูปตา่ ง ๆ ตา่ ง ๆ ได้ 2.การใชง้ านวนิ โดวส์ 7 2 การใช้งา นโปร แกร ม 2.สา มาร ถใช้งา น โปร แกร ม 1.กา รเรียกใช้โปร แกร ม 25 Microsoft Word Microsoft Word และจัดการ Microsoft Word เอกสาร การใช้งานตามเมนไู ด้ ในการจัดการเอกสาร และสว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม 2.การใชแ้ ถบเคร่ืองมอื 3 .กา ร เปิดและปิดไฟ ล์ เอกสาร การ สร้างไฟล์ เอกสารใหม่ 4 .กา ร บัน ทึกแ ละกา ร ล บ ไฟล์เอกสาร 3 การใช้งา นโปร แกร ม 1.สามารถใช้งานโปรแกรม 1.การเรยี กใชง้ าน 20 Microsoft Excel และจดั การกบั ข้อมลู การสรา้ ง โปรแกรม Microsoft งานด้วย โปรแกรม Microsoft Excel ในการคานวณ Excel ได้ ข้อมลู และฐานขอ้ มลู และส่วนปร ะกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม 2.การใช้แถบเครื่องมอื 3 .กา ร เปิดและปิดไฟ ล์ เอกสาร 4.กา รสร้างไฟล์เอกสา ร ใหม่

128 ที่ หวั เรื่อง ตวั ช้ีวัด เนือ้ หำ จำนวน (ชั่วโมง) 5 .กา ร บัน ทึกแ ละกา ร ล บ 4 การใช้งา นโปร แกร ม 1.สามารถใช้งานโปรแกรม ไฟลเ์ อกสาร M icr o soft Pow e r Microsoft Power Point 6.. การพมิ พไ์ ฟล์เอกสาร Point และนาเสนอผลงานได้ 1.การเรยี กใชง้ าน 20 โปรแกรม Microsoft Power Point สาหรบั การ นาเสนอผลงาน (Present) และส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม 2.การใช้แถบเครือ่ งมือ 3 .กา ร สร้า ง งา นนา เสน อ ใหม่ 4.การบนั ทกึ ไฟล์เอกสาร 5.การพมิ พง์ านนาเสนอ 6.การปิดไฟลเ์ อกสาร

129 สำระทักษะกำรดำเนนิ ชวี ติ สำระทกั ษะกำรดำเนนิ ชวี ิต เป็นสาระเกย่ี วกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สุขศกึ ษา พลศึกษา ความปลอดภยั ในการดาเนินชวี ิต การมีศิลปะและสนุ ทรียภาพ ด้านทัศนศลิ ป์ ดนตรี นาฏศิลป์ สำระทกั ษะกำรดำเนนิ ชีวิต ประกอบดว้ ย 3 มำตรฐำน ดงั นี้ มำตรฐำนท่ี 4.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติทีด่ ีเกย่ี วกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และสามารถ ประยุกตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวิตได้อยา่ งเหมาะสม มำตรฐำนที่ 4.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคตทิ ี่ดเี ก่ยี วกับการดูแลส่งเสริมสุขภาพ อนามยั และความปลอดภัยในการดาเนนิ ชีวติ มำตรฐำนที่ 4.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคตทิ ีด่ ีเก่ียวกับศลิ ปะ และสนุ ทรยี ภาพ มำตรฐำนกำรเรียนร้รู ะดบั และผลกำรเรียนรู้ทค่ี ำดหวงั ในแตล่ ะมำตรฐำน มำตรฐำนท่ี 4.1 มีความรคู้ วามเข้าใจ เจตคตทิ ด่ี ีเกีย่ วกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง และสามารถ ประยุกต์ใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มำตรฐำน รู้ เขา้ ใจ ยอมรับ เห็นคุณค่าปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสามารถประยกุ ต์ กำรเรยี นรูร้ ะดับ ใช้ในการประกอบอาชพี และมีภูมคิ ้มุ กันในการดาเนนิ ชวี ิตของตนเอง ครอบครวั และชุมชนอยา่ งมคี วามสขุ ผลกำรเรียนรู้ ท่ีคำดหวงั 1. อธบิ ายแนวคดิ หลักการ ความหมาย ความสาคัญของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงได้ 2. บอกแนวทางในการนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบ อาชพี 3. เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ัติตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. แนะนา สง่ เสริมสมาชิกในครอบครัวและชุมชนใหเ้ หน็ คุณค่าและนาไปปฏิบัติ ในการดาเนนิ ชวี ติ

130 สำระทักษะกำรดำเนินชีวติ รำยวชิ ำบังคับ มำตรฐำนท่ี ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนปลำย 4.1 สำระ รหสั รำยวชิ ำ รำยวิชำบังคับ หน่วยกิต 4.2 ทักษะการดาเนนิ ชีวติ 1 4.3 ทช31001 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 2 ทช31002 สขุ ศึกษา พลศึกษา 5 ทช31003 ศลิ ปศกึ ษา รวม รำยวิชำเลอื กเสรี มำตรฐำนท่ี ระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย สำระ รหัสรำยวชิ ำ รำยวชิ ำเลอื กเสรี หนว่ ยกิต 3 ทช32005 สุขภาพและความปลอดภยั 3 ทกั ษะการดาเนินชวี ิต ทช02017 การปฐมพยาบาล รวม 6

131 คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทช31001 เศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดับ รู้ เข้าใจ ตระหนัก และเหน็ คณุ ค่าปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ยอมรับ ประยุกต์ใช้ใน ชมุ ชน และ มีคมุ้ กนั ในการดาเนนิ ชวี ติ และการอยูร่ ว่ มกนั ในครอบครัว ชมุ ชน และสังคม อยา่ งสันตสิ ุข สรา้ งความร่วมมือ ในการพัฒนาชุมชน ทอ้ งถน่ิ ศึกษำ ฝึกปฏบิ ัติ และประยกุ ตใ์ ช้ เกย่ี วกับเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้คือ ความเป็นมา ความหมาย หลักแนวคิด ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั้งระดับประเทศและ สถานการณ์โลก เพอื่ ใหเ้ ป็นคนมีเหตุผล พอประมาณ มีภูมคิ ุ้มกัน มคี วามรู้ และมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในการ พัฒนาชุมชน และมสี ว่ นร่วมในการพัฒนาชมุ ชนด้านสังคม เศรษฐกจิ และสง่ิ แวดล้อม กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ ศกึ ษาข้อมลู ตนเอง ข้อมูลวชิ าการ ข้อมลู ส่ิงแวดล้อม วิเคราะห์ สังเคราะห์ เชื่อมโยงเข้ากับความรู้ และประสบการณ์ จากกรณตี วั อยา่ ง สภาพจริง สื่อทกุ ประเภท อภปิ รายแลกเปล่ียนเรยี นรูร้ ะหว่างผู้เรยี นและ ภูมปิ ัญญา ทดลอง ฝกึ ปฏิบัติ และวางแผนการนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ทาแผน ปฏบิ ัติการ โครงงาน และ นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกระบวนการเรยี นรู้ การประกอบอาชีพ และการดาเนนิ ชวี ติ ของตนเอง และมีส่วนร่วมใน การพัฒนาชมุ ชน ตลอดจนมีการประเมนิ ตนเอง กำรวัดและประเมินผล ประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ ประเมินแผนปฏิบตั ิการ โครงงาน ช้ินงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สังเกต สมั ภาษณ์ ตรวจสอบ ประเมนิ การปฏบิ ัตจิ ริง และประเมนิ ตามสภาพจริง

132 รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทช31001 เศรษฐกจิ พอเพยี ง จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรยี นรรู้ ะดับ รู้ เขา้ ใจ ตระหนกั และเหน็ คุณค่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ยอมรบั ประยุกต์ใช้ใน ชมุ ชน และ มีคมุ้ กันในการดาเนนิ ชีวิต และการอย่รู ่วมกนั ในครอบครวั ชุมชน และสังคม อย่างสันตสิ ขุ สร้างความรว่ มมือ ในการพัฒนาชุมชน ทอ้ งถิ่น ที่ หวั เรอื่ ง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หำ จำนวน (ชว่ั โมง) 1 ความพอเพยี ง 1. อธบิ ายความเป็นมา ความหมาย 1. ความเปน็ มา ความหมาย 4 และหลกั แนวคดิ ของปรชั ญา หลกั แนวคิด เศรษฐกิจพอเพยี ง 2. รู้เข้าใจและวิเคราะห์แนวคดิ 2. ปรชั ญาของเศรษฐกิจ หลักการปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียงกับการจัดการความรู้ พอเพยี ง 2 ชมุ ชนพอเพียง 1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ 1. ความหมาย ความสาคญั 6 และการบรหิ ารจดั การชมุ ชน ตาม การบรหิ ารจดั การชมุ ชน หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. วเิ คราะหก์ ระบวนการ เทคนิค 2. การบรหิ ารจัดการชุมชน การบริหารจัดการชุมชน และ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจ ประยกุ ตใ์ ช้ในการดาเนนิ ชีวิตอยา่ ง พอเพียง สมดุลพรอ้ มรับตอ่ การเปล่ยี นแปลง 3. กระบวนการ เทคนคิ การ ของชมุ ชน บริหารจดั การชมุ ชน 3 การแก้ปญั หา 1. สารวจและวิเคราะหป์ ัญหาของ 1. ปัญหาของชุมชนด้านสังคม 10 ชุมชน ชมุ ชนดา้ นสังคม เศรษฐกิจ เศรษฐกจิ สิ่งแวดลอ้ ม สิ่งแวดล้อมและวฒั นธรรมพน้ื ฐาน และวัฒนธรรมพนื้ ฐานของ ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง พอเพียง 2. อธบิ ายแนวทางพฒั นาชุมชนด้าน 2. การพัฒนาชุมชนดา้ น สงั คม เศรษฐกิจ ส่งิ แวดล้อมและ สงั คมเศรษฐกิจ สง่ิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรมตามหลกั แนวคดิ ปรชั ญา และวัฒนธรรมตามหลัก ของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3. เสนอแนวทางและมีส่วนร่วมใน 3. การมสี ว่ นร่วมแก้ปญั หา การแก้ปญั หาหรอื พฒั นาชุมชนดา้ น หรือพฒั นาชุมชนด้านสงั คม สงั คม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อมและ เศรษฐกจิ สงิ่ แวดล้อมและ วัฒนธรรมโดยใช้ปรชั ญาของ วฒั นธรรมโดยใช้ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพยี ง 4. มีสว่ นรว่ มในการส่งเสรมิ เผยแพร่ 4. การสง่ เสรมิ เผยแพร่

133 ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชวี้ ดั เน้ือหำ จำนวน (ช่ัวโมง) ขยายผลงานการปฏบิ ตั ิตามหลกั ขยายผลงานการปฏบิ ตั ิตาม ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ บุคคล ชมุ ชนที่ประสบผลสาเร็จ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของบคุ คล ชมุ ชนท่ี ประสบผลสาเรจ็ 4 สถานการณ์ของ 1. อธบิ ายและวิเคราะห์การพัฒนา 1. การวเิ คราะห์สถานการณ์ 10 ประเทศกบั ความ ประเทศตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ ของประเทศโดยใชห้ ลกั พอเพียง พอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ประยกุ ต์ใช้ในการดาเนินชีวติ เชน่ สถานการณข์ องประเทศ อยา่ งสมดลุ และพรอ้ มรบั ตอ่ การ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ผู้เรียน(ภาวะ เปลย่ี นแปลงของประเทศชาติ เงนิ เฟ้อ ราคาผลผลติ ตกตา่ ค่าครองชพี สงู ฯลฯ) 2. การเลือกแนวทางการ ดาเนนิ ชวี ิตภายใตส้ ถานการณ์ ของประเทศโดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 5 สถานการณโ์ ลก 1. วเิ คราะห์สถานการณข์ องโลก 1. การวเิ คราะห์สถานการณ์ 10 กับความพอเพยี ง ประเทศในการการพัฒนาประเทศให้ ของโลก ประเทศภายใต้ ก้าวหน้าไปได้อยา่ งสมดุลภายใต้ กระแสโลกาภิวัตนท์ ีเ่ กย่ี วข้อง กระแสโลกาภิวตั น์ เชน่ ภาวะโลกร้อน การ 2. ตระหนกั ในความสาคญั ของการ ส่ือสารไร้พรมแดน น้ามัน พัฒนาประเทศภายใต้กระแสโลกา เชอื้ เพลงิ ฯลฯ ภวิ ัตน์และเลอื กแนวทางหลกั ปรัชญา 2. การเลือกแนวทางการ เศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ใน ดาเนินชวี ิตภายใต้สถานการณ์ การดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งสมดุลและพรอ้ ม ของโลกประเทศโดยใช้หลัก รบั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงของประเทศ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้กระแสโลกาภวิ ตั น์

134 รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทช31002 สขุ ศกึ ษำ พลศึกษำ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม เจตคติทด่ี ี มที ักษะในการดูแล และสรา้ งเสริมการมีพฤติกรรมสขุ ภาพท่ีดี ปฏบิ ัติจนเป็นกิจนสิ ยั วางแผนพัฒนาสุขภาพ ดารงสุขภาพของตนเอง และครอบครวั ตลอดจนสนับสนุนให้ ชมุ ชนมสี ว่ นร่วมในการสง่ เสริมด้านสขุ ภาพพลานามยั และพัฒนาสภาพแวดล้อมทด่ี ี ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เน้ือหำ จำนวน (ช่ัวโมง) 1 ระบบต่าง ๆ 1. อธบิ ายกระบวนการทางานของ 1. โครงสรา้ ง หน้าท่ี การทางานและ 8 ของร่างกาย ระบบอวยั วะในรา่ งกายทสี่ าคญั 5 การดรู กั ษาระบบอวยั วะทสี่ าคญั ของ ระบบไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ร่างกาย 5 ระบบ 2. บอกวธิ ีการดูแลป้องกันความ - ระบบหายใจ ผิดปกติของระบบในรา่ งกาย 5 - ระบบยอ่ ยอาหาร ระบบ - ระบบขับถ่าย 3. วางแผน และปฏบิ ตั ติ นตาม - ระบบสบื พนั ธุ์ แผนเพ่อื สรา้ งเสริมพฒั นาการของ - ระบบตอ่ มไร้ทอ่ ตนเองและครอบครวั - ระบบประสาท 2. การวางแผนและปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื การ เสริมสร้างพฒั นาการ 2 ปญั หา 1. อธบิ ายขน้ั ตอนการส่ือสารเพ่อื 1. การสอื่ สาร/การต่อรองและการขอ 10 เพศศกึ ษา ขอความช่วยเหลอื เก่ียวกับปญั หา ความชว่ ยเหลอื เกยี่ วกบั ปัญหาทางเพศ ทางเพศ 2. อธบิ ายวธิ ีการจัดการกับ 2. การจดั การกับอารมณแ์ ละความ อารมณ์และความตอ้ งการทางเพศ ต้องการทางเพศ ได้อย่างเหมาะสม 3. วิเคราะหค์ วามเช่อื ผิดๆ เรอ่ื ง 3. ความเชือ่ ผดิ ๆ เรื่องเพศท่สี ง่ ผลตอ่ เพศทส่ี ่งผลตอ่ สขุ ภาพทางเพศ สุขภาพทางเพศ 4. วิเคราะหก์ ารนาเสนอส่อื ที่ 4. อิทธิพลของสอ่ื ต่าง ๆ ที่สง่ ผลให้ ส่งผลใหเ้ กิดปญั หาทางเพศ เกดิ ปญั หาทางเพศ 5. ระบุกฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั 5. กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ งกับการลว่ ง การล่วงละเมิดทางเพศ และ ละเมดิ ทางเพศและกฎหมายคุ้มครอง กฎหมายคมุ้ ครองเดก็ และสตรี เดก็ และสตรี

135 ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ช้วี ดั เนอ้ื หำ จำนวน 3 อาหารและ (ช่วั โมง) 1. อธิบายปัญหา สาเหตุ อาการ 1. โรคขาดสารอาหาร ไดแ้ ก่ โรค โภชนาการ 8 และการปอ้ งกันโรคขาด ลกั ปดิ ลกั เปิดโรคคอหอยพอก โรคเออ๋ 4 เสรมิ สรา้ ง 12 สุขภาพ สารอาหาร โรคตาฟาง โรคโลหติ จาง ฯลฯ 2. บอกหลกั การ และปฏิบัตติ น 2 หลกั การสุขาภิบาลอาหาร ตามหลกั สุขาภบิ าลอาหารไดอ้ ยา่ ง -การปนเปือ้ น เหมาะสม -การปรงุ และจาหน่าย -ผปู้ ระกอบการ จาหนา่ ยอาหาร -สุขลกั ษณะท่วั ไปบรเิ วณแผง จาหนา่ ย -สุขลักษณะอาหารถุง ฯลฯ 3. จดั โปรแกรมอาหารทเ่ี หมาะสม 3. การจดั โปรแกรมอาหารที่เหมาะสม สาหรบั ครอบครวั ผสู้ ูงอายุ และ สาหรบั บุคคลกลุม่ ตา่ งๆ ผ้ปู ่วย -ตนเองและครอบครัว -ผสู้ งู อายุ -ผปู้ ่วย ฯลฯ 1. มสี ่วนร่วมในกิจกรรมสรา้ ง 1. การรวมกลุ่มเพ่ือสรา้ งเสรมิ สุขภาพ เสริมสุขภาพของชมุ ชนอยา่ ง เช่น กลมุ่ ออกกาลังกาย เล่นกฬี า สม่าเสมอ บาเพญ็ ประโยชนแ์ ละนันทนาการ เป็นต้น 2. อธิบายวธิ กี ารของการออก 2. การออกกาลังกายที่เหมาะสมกบั กาลังกายเพ่ือสุขภาพได้อย่าง บุคคลและวัยต่างๆ ถูกตอ้ ง 5 โรคท่ี 1. อธบิ ายโรคทถี่ า่ ยทอดทาง 1. โรคท่ีถา่ ยทอดทางพันธกุ รรม สาเหตุ 12 อาการ การป้องกนั และการรักษา ถ่ายทอดทาง พันธุกรรม - โรคทลั ลัสซีเมีย พนั ธุรกรรม - โรคภมู แิ พ้ - โรคขาดสารไอโอดีน 2. ปฏิบัตติ นในการปอ้ งกัน โรคติดต่อ โรคท่เี ป็นปญั หาต่อ ฯลฯ สุขภาพและโรคทเ่ี ปน็ ปญั หา สาธารณสขุ 2. การวางแผนร่วมกับชุมชนเพอื่ ป้องกันและหลกี เลย่ี งโรคตดิ ต่อและ โรคทีเ่ ปน็ ปญั หาสาธารณสุข

136 ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้ีวัด เน้ือหำ จำนวน (ชัว่ โมง) 6 ปลอดภยั จาก 3. วิเคราะห์ผลกระทบของ 3. ผลกระทบของพฤตกิ รรมสขุ ภาพที่ การใช้ยา พฤตกิ รรมสขุ ภาพท่ีมตี ่อการ มีต่อการปอ้ งกนั โรค 10 ป้องกนั โรค 4. แนะนา ข้อมูล ขา่ วสาร และ 4. ขอ้ มลู ข่าวสาร และแหลง่ บรกิ าร แหล่งบริการเพื่อป้องกันโรคแก่ เพือ่ การป้องกนั โรค ครอบครัวและชมุ ชน 1. อธิบายหลกั การ และวิธกี ารใช้ 1. หลกั การและวิธใี ชย้ า เช่น การใช้ ยาทถ่ี กู ต้อง โดยไม่จาเปน็ 2. วิเคราะหผ์ ลกระทบจากความเช่ือ 2. ความเชื่อเก่ยี วกบั การใชย้ า ทผี่ ดิ เก่ยี วกบั การใช้ยา - ยาบารุงกาลงั 3. จาแนกอนั ตรายท่ีเกดิ จากการ - ยาที่ทาจากอวัยวะสตั ว์ เช่น ใชย้ า การปอ้ งกันและการ อ้งุ ตนี หมี ดงี ู สมองลิง ยาดองงเู ห่า ช่วยเหลอื ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3. การวเิ คราะหอ์ ันตรายจากการใช้ยา 4. แนะนาขอ้ มลู ข่าวสาร และ การป้องกนั และการช่วยเหลือ ความรูท้ ี่ถูกตอ้ งเกย่ี วกับการใชย้ า แก่ครอบครัว และชุมชน 4. การแนะนาในการเลอื กใช้ขอ้ มลู ข่าวสาร เกี่ยวกับการใชย้ า 7 ผลกระทบ 1. วิเคราะห์ปัญหา สาเหตแุ ละ 1.การวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุ 10 จากสาร การแพร่ระบาดของสารเสพติด ผลกระทบ และการแพร่ระบาดของ 10 เสพติด สาร เสพติด 2. วเิ คราะห์ผลกระทบของสาร 8 ทกั ษะชีวิต เสพตดิ ทีม่ ตี อ่ ตนเอง ครอบครวั 2. การมสี ่วนร่วมในการป้องกันสงิ่ เพอ่ื ชุมชนและประเทศ เสพติดในชุมชน สุขภาพจิต 3. มสี ว่ นรว่ มรณรงคป์ อ้ งกัน 3. กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สิ่งเสพตดิ สิ่งเสพติดในชมุ ชนอย่างสม่าเสมอ 4. แนะนาสาระสาคัญของ 1. ความหมาย ความสาคัญของทกั ษะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกบั สง่ิ เสพตดิ ชวี ติ 10 ประการ แก่ครอบครวั และผูอ้ นื่ 2. ทกั ษะชีวติ ทจ่ี าเปน็ 3 ประการ 1. บอกความหมายและ -ทกั ษะการตระหนกั รใู้ นตน ความสาคัญของทกั ษะชวี ติ ได้ทั้ง -ทกั ษะการจดั การกับอารมณ์ 10 ประการ -ทักษะการจดั การกับความ 2. บอกทักษะชีวติ ท่จี าเปน็ ได้ เครยี ด อยา่ งนอ้ ย 3 ประการ

137 ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ช้วี ดั เนือ้ หำ จำนวน (ชั่วโมง) 3. ประยุกต์ใช้ทกั ษะชวี ิตในการ 3. การประยุกต์ใชท้ กั ษะชวี ิตในการ ทางาน การปรับตวั และการ ทางาน การปรบั ตัว และการแกป้ ัญหา แก้ปัญหาชวี ิตครอบครัวได้อย่าง ชีวิต เหมาะสม 4. แนะนากระบวนการทักษะชีวติ 4.การแนะนากระบวนการทกั ษะชีวิต ในการแก้ปญั หาแก่ครอบครัว ในการแก้ปัญหากบั ผ้อู ืน่ เพ่อื นและผอู้ น่ื

138 คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทช31003 ศิลปศึกษำ จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ชืน่ ชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม ทางทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลปส์ ากล และสามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณไ์ ด้อย่างเหมาะสม ศกึ ษำ เรียนรู้ เกย่ี วกับศิลปศึกษำ ดงั นี้คือ ทัศนศิลปส์ ำกล ความหมาย ความสาคญั ความเป็นมา รปู แบบต่าง ๆ ทางทศั นศิลป์ ที่เก่ียวข้องกับ ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมที่เปน็ ต้นกาเนิดของงานทัศนศิลป์ทุกประเภท การวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ การ อนุรักษ์ภมู ปิ ัญญา ดา้ นวฒั นธรรม ประเพณี โบราณสถานของทัศนศลิ ปส์ ากล ดนตรสี ำกล ความหมาย ความสาคญั ความเปน็ มา วิวัฒนาการรูปแบบเทคนิควิธกี ารของดนตรี ประเภทต่างๆ คณุ ค่าความงาม ความไพเราะของดนตรสี ากล การวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ การอนุรกั ษ์ ภมู ปิ ัญญา วัฒนธรรม ประเพณี ของดนตรีสากล นำฏศิลปส์ ำกล ความหมายความสาคัญ ความเปน็ มา ววิ ัฒนาการ รูปแบบเทคนิควิธีการ คุณค่า ความงามของนาฏศิลป์สากล การวิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ การอนุรักษ์ภูมปิ ญั ญา วัฒนธรรม ประเพณีของ นาฏศลิ ปส์ ากล กำรจดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ ศึกษาจากเอกสาร จากธรรมชาติ ส่ือ ทุกประเภท และแหล่งเรยี นรู้ ฝกึ จินตน าการ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ สรา้ งสรรค์ ฝึกปฏิบัติ ทศั นศึกษา กิจกรรมค่าย ฯลฯ ให้เหน็ คุณค่าและชนื่ ชมความงามของ ทศั นศิลป์ ดนตรนี าฏศิลป์ และการอนรุ ักษ์ ภูมปิ ญั ญา วฒั นธรรม ประเพณี สิง่ แวดลอ้ ม ของทศั นศลิ ป์สากล กำรวดั และประเมนิ ผล ประเมินความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิดเหน็ ชน้ิ งาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สังเกต สัมภาษณ์

139 รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทช31003 ศิลปศึกษำ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรียนรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ช่นื ชม เห็นคณุ คา่ ความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้ อมทาง ทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศลิ ปส์ ากล และสามารถวเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้ีวัด เนอ้ื หำ จำนวน ช่วั โมง 1 ทศั นศลิ ปส์ ากล 1.อธบิ ายความหมาย ความสาคัญ 1. ความหมาย ความสาคัญ และ 30 และความเปน็ มาของงาน ความเปน็ มาของทศั นศลิ ปส์ ากล ทัศนศลิ ป์สากลในดา้ นตา่ ง ๆ ในดา้ น - จติ รกรรม - ประติมากรรม - สถาปตั ยกรรม - ภาพพมิ พ์ 2. อธิบายเกี่ยวกับความซาบซึ้งใน 2. จุด เส้น สี แสง – เงา รปู ร่าง งานทศั นศลิ ป์สากล และรูปทรง เพอื่ ให้เกิดความ ซาบซ้งึ และมที ัศนคตทิ ่ีดกี ับงาน ทศั นศิลป์ 3. อธบิ ายกระบวนวพิ ากษ์ 3. การวพิ ากษว์ ิจารณ์ งาน วิจารณ์ งานทัศนศลิ ป์สากลด้าน ทศั นศลิ ปส์ ากล ตา่ ง ๆ 4. ความงามทางทัศนศิลปส์ ากล 4. สามารถจนิ ตนาการ และ ที่เกดิ จากการสร้างสรรคด์ ้วยจุด อธิบายวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ เสน้ สี แสง – เงา รปู รา่ ง และ วธิ กี ารสรา้ งสรรค์ความงามจาก รูปทรงของวัตถจุ ากธรรมชาติ ธรรมชาตใิ ห้ออกมาเป็นความงาม 5. ความคิดสรา้ งสรรค์ ความ ทางทัศนศลิ ป์สากล สวยงาม ความเหมาะสม ความ 5. อธบิ ายวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ พอดีของการนาวตั ถุ วสั ดสุ ่ิงของ วจิ ารณ์คณุ ค่าของงาน ทศั นศลิ ป์ ต่างๆ มาประดับตกแต่งร่างกายท่ี สากล ในเรอื่ งของความงาม ที่ อยอู่ าศยั หรอื ตกแต่งสถานที่ เกดิ จากความคิดสรา้ งสรรคข์ อง ส่ิงแวดล้อมทว่ั ๆ ไป มนุษย์ โดยนาวัตถุ วสั ดุ สิ่งของ 6. การศึกษา เปรียบเทียบ ต่าง ๆ เข้ามาประดับ เสริมแตง่ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ ร่างกาย ท่ีอยอู่ าศัย ตกแตง่ เกยี่ วกับ ความคดิ สร้างสรรคใ์ น สถานท่ีส่ิงแวดล้อมตา่ ง ๆ ได้ การประดบั ตกแต่งในงาน อยา่ งเหมาะสม ทศั นศิลป์สากล 6. นาเสนอ ถ่ายทอด ความรู้ 7. ความสาคัญ ความดี ความงาม วพิ ากษ์ วจิ ารณค์ วามคิดริเริม่ ของวฒั นธรรม ประเพณี และ สรา้ งสรรค์ การตกแตง่ วัสดุ ความสวยงามของจติ รกรรมฝาผนัง

140 ท่ี หัวเรื่อง ตัวชี้วดั เนอื้ หำ จำนวน ชัว่ โมง ของงานทศั นศิลปส์ ากล โบสถ์ วิหาร พระราชวงั ยคุ สมยั ตา่ ง ๆ 7. อธิบายคุณคา่ ของความซาบซงึ้ ทวั่ โลก ความรกั และความหวงแหนทาง 8.การนาเสนอและการวเิ คราะห์ วัฒนธรรม ประเพณขี อง วพิ ากษ์วจิ ารณ์เก่ยี วกับวัฒนธรรม โบราณสถาน ประเพณี โบราณสถานและ โบราณวตั ถขุ องสากลทั่วโลก โบราณวัตถุของสากล 2 ดนตรีสากล 8. นาเสนอถ่ายทอดความรู้ 1. ประวัติ ความเปน็ มาและ 20 วเิ คราะห์วพิ ากษ์ วิจารณ์ ววิ ัฒนาการของเคร่อื งดนตรีสากล วัฒนธรรม ประเพณี ประเภทต่าง ๆ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ของ 2. รปู แบบของเครื่องดนตรีสากล สากลได้ ประเภทต่าง ๆ และเทคนิค 1. อธิบายประวตั ิ ความเป็นมา วธิ ีการเลน่ ของเครื่องดนตรีสากล และวิวฒั นาการของเครอ่ื งดนตรี แตล่ ะประเภท สากลประเภทตา่ ง ๆ 3. คณุ ค่าและความไพเราะของ 2. อธิบาย รปู แบบและเทคนิค การเล่นเคร่ืองดนตรีสากล และ วิธกี ารเล่นของเคร่อื งดนตรสี ากล การวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ ประเภท ตา่ ง ๆ 4. คณุ ค่าของความไพเราะ ของ 3. อธบิ ายคุณคา่ และความ เพลง สากล และการวิเคราะห์ ไพเราะของการเล่นเครอ่ื งดนตรี วพิ ากษ์ วิจารณ์ สากล และสามารถวเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์ 5. ประวตั ิ ความเปน็ มาของภูมิ 4. อธบิ ายถงึ คุณค่าและความ ปัญญาทางดนตรแี ละเพลงสากล ไพเราะของเพลงสากล และ 6. เหน็ คุณค่าและเกดิ ความหวง สามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ แหนภูมปิ ญั ญาทางดนตรสี ากล วจิ ารณ์ เพลงสากล 5. อธบิ ายประวตั คิ วามเปน็ มาของ ภูมปิ ญั ญาทางดนตรแี ละเพลงสากล 6. อธบิ ายถงึ คณุ ค่าของความรกั และความหวงแหน พรอ้ ม ยกตัวอย่างตลอดจนร่วมสืบสาน กระบวนการถา่ ยทอดของภมู ิ ปญั ญาทางดนตรสี ากล

141 ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ัด เน้ือหำ จำนวน 3 นาฏศิลป์สากล ชั่วโมง 1. อธิบายรูปแบบ ประเภท และ 1. การแสดงนาฏศิลป์และการ 30 โอกาสในการแสดงนาฏศิลป์และ ละครสากลในรปู แบบและโอกาส การละครสากลทวั่ โลก ตา่ ง ๆ 2. อธบิ ายประวตั ิ ความเปน็ มา 2. ประวตั ิ ความเป็นมา และ และวิวฒั นาการของนาฏศิลป์และ ววิ ฒั นาการการแสดงทาง การละครสากลประเภทตา่ ง ๆ นาฏศลิ ปแ์ ละการละครสากล ประเภทต่างๆ 3. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง 3. ความสมั พนั ธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์และการละครสากล กบั และการละครสากลกับบทบาท การพัฒนาสังคม ทางสังคมในการพฒั นาสงั คม 4. สามารถประยกุ ตใ์ ชท้ กั ษะ การ 4. การเลอื กใชแ้ ละผสมผสาน แสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร องคป์ ระกอบและพฒั นาทักษะ สากลไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ทางนาฏศิลปแ์ ละการละครสากล ตนเองและสงั คมอย่างเหมาะสม 5. อธบิ ายการนาความรู้ ความ 5. การใช้ความรู้ ความเข้าใจและ เขา้ ใจและประสบการณ์มาประเมนิ ประสบการณป์ ระเมนิ คุณค่าการ คณุ คา่ การละครและเชอ่ื มโยงกับ ละคร และวิธกี ารเลือกชมการ ชวี ติ และสังคมเลือกชมการแสดง แสดงนาฏศลิ ป์และการละครของ เพอื่ สร้างความสุขและเกิด สากล เพื่อสร้างความสขุ และเกิด ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ประโยชน์ตอ่ ตนเอง 6. อธิบายคณุ คา่ ความสาคัญของ 6. คณุ ค่าของนาฏศิลป์และการ นาฏศิลปแ์ ละการละครสากล ละครสากลท่เี กย่ี วขอ้ งกบั มรดก มรดกทางวัฒนธรรม และภมู ิ ทางวฒั นธรรมภูมิปัญญา สากล ปญั ญาสากล กับการพฒั นาสังคม และการพัฒนาสังคม 7. อธบิ ายประวัติ ความเป็นมา 7. ประวตั ิ ความเป็นมา และวิวฒั นาการของการลีลาศ วิวฒั นาการของลลี าศสากลต่างๆ มาตรฐาน ทั่วโลก 8. อธิบาย คณุ ค่าและ 8. คุณค่าและความสัมพันธ์ของ ความสัมพนั ธข์ องวัฒนธรรม วฒั นธรรม ประเพณี ที่เก่ยี วขอ้ ง ประเพณที เ่ี กยี่ วข้องกบั กับการววิ ัฒนาการของการลลี าศ วิวฒั นาการของลลี าศมาตรฐานท่ี มาตรฐานที่เปน็ มรดกทาง เกย่ี วกบั มรดกทางวัฒนธรรม วฒั นธรรม 9. ระบคุ ุณค่าและความสมั พันธ์ 9. การนาทา่ ลลี าศมาตรฐาน ของทา่ ลีลาศ มาตรฐานไป ไปประยุกตใ์ ช้ประกอบเพลงอื่น ๆ ประยกุ ต์ใช้ประกอบกับเพลงอ่นื เพอื่ นาไปใช้ โดยให้สอดคลอ้ งกบั ๆ เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับวฒั นธรรม วัฒนธรรมในภูมิภาค ประเพณี และในชีวิตประจาวัน ของแต่ละภูมภิ าคทัว่ โลก

142 คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทช32005 สุขภำพและควำมปลอดภัยในชีวิต จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม เจตคตทิ ่ีดี มีทักษะในการดแู ลและสร้างเสรมิ การมพี ฤติกรรมสขุ ภาพท่ีดี ปฏิบตั จิ นเป็นกิจนสิ ยั วางแผนพฒั นาสขุ ภาพ ดารงสขุ ภาพของตนเอง และครอบครัวตลอดจนสนบั สนุนใหช้ มุ ชนมี สว่ นร่วมในการส่งเสรมิ ดา้ นสขุ ภาพพลานามัยและพัฒนาสภาพแวดลอ้ มท่ีดี ศกึ ษำและฝึกปฏิบัตเิ กีย่ วกับเรื่องต่อไปนี้ สภาพแวดลอ้ มกับการสง่ เสรมิ สขุ ภาพ วธิ จี ดั สภาพแวดลม้ ของครอบครวั และชมุ ชนท่ีเออ้ื ต่อการพัฒนา พฤตกิ รรมสขุ ภาพ ความหมายและความสาคัญของการมสี ุขภาพดี หลักการดูแลสขุ ภาพเบ้อื งต้น การปอ้ งกันการ สง่ เสรมิ การรักษาพยาบาลเบื้องต้น และการฟน้ื ฟูสขุ ภาพ กลวธิ ีนาไปสกู่ ารมพี ฤตกิ รรมสุขภาพด้วยการสร้างพลงั ปัญญา การเลอื กใชภ้ มู ิปัญญาไทยเพ่อื สขุ ภาพ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ผลิตภัณฑ์ และบริการสุขภาพ สทิ ธผิ ู้บริโภคและ กฎหมายที่เกยี่ วข้อง การวางแผนชวี ิตเพอ่ื การมีสุขภาพทด่ี ี การตรวจสอบและประเมินภาวะสขุ ภาพ การปรับ พฤตกิ รรมสุขภาพ แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ วธิ แี สวงหาและวิธเี ลอื กใช้ข้อมลู สารสนเทศ การสงั เคราะห์และประยุกต์ใช้ ขอ้ มูลสารสนเทศดา้ นสขุ ภาพและสมรรถภาพ หลกั การและวธิ กี ารนาเสนอและเผยแพรข่ ้อมูลสารสนเทศดา้ น สขุ ภาพ ความปลอดภยั การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬา วธิ กี ารฝึกสตแิ บบต่างๆ ประโยชนข์ องการมสี ติ การ ประเมนิ ระดบั ของการมสี ติ . ความหมาย ความสาคัญของการพกั ผ่อน การใช้เวลาวา่ ง และกจิ กรรมนนั ทนาการ แหลง่ บรกิ ารนนั ทนาการ หลกั และวิธีการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพ่อื สุขภาพ การทดสอบและประเมนิ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ ปจั จยั เสีย่ งในการดารงชีวติ การป้องกนั และหลีกเลย่ี งปัจจัยเสีย่ ง การปอ้ งกนั หลีกเลย่ี งและการให้ความช่วยเหลือ เมือ่ เกิดอุบตั เิ หตุ อัคคภี ัย และอนั ตรายจากมลพษิ และสารเคมี กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ ศึกษาเอกสาร สื่อทกุ ประเภท วิเคราะห์ อภิปรายแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ศึกษาจากสภาพจริง สาธิต ทดลองฝึกปฏบิ ัติ ค้นคว้า สรุป บันทึก ตรวจสอบ การประเมินตนเอง จัดทาชิ้นงาน/ผลงาน จดั แสดง นทิ รรศการ ศกึ ษาดูงาน กิจกรรมคา่ ย ฯลฯ กำรวดั และประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ช้ินงาน ผลงาน โดยวิธีการ ทดสอบ สังเกต สัมภาษณ์ ตรวจสอบ ประเมนิ การปฏบิ ัตจิ รงิ และประเมนิ สภาพจริง

143 รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทช32005 สุขภำพและควำมปลอดภัยในชวี ติ จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษำตอนปลำย มำตรฐำนกำรเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรม เจตคตทิ ีด่ ี มที ักษะในการดแู ลและสรา้ งเสริมการมพี ฤติกรรมสุขภาพที่ดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนสิ ัย วางแผนพัฒนาสุขภาพ ดารงสุขภาพของตนเอง และครอบครวั ตลอดจนสนบั สนนุ ใหช้ ุมชนมสี ว่ นร่วมในการส่งเสรมิ ดา้ นสขุ ภาพพลานามัยและพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดี ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ัด เนือ้ หำ จำนวน 1 สขุ ภาพกบั (ช่ัวโมง) วิเคราะห์บทบาทและความ 1. สภาพแวดล้อมกับการสง่ เสริม ส่งิ แวดล้อม รับผดิ ชอบของบคุ คลท่มี ตี ่อ 5 การป้องกนั โรค การสร้าง สขุ ภาพ 2 การดแู ลสขุ ภาพ เสริมสุขภาพของครอบครวั 1.1 สภาพแวดลอ้ มทาง 15 ตนเองและผู้อน่ื และชมุ ชน ธรรมชาติ ประเมนิ สขุ ภาพสว่ นบคุ คล 1.2 สภาพแวดล้อมทางสงั คม เพ่อื กาหนดกลวิธีลดความ 2. วิธจี ดั สภาพแวดล้อมของ เส่ียงและนาไปใช้ในการ ครอบครัว และชมุ ชนท่ีเอือ้ ตอ่ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพของ การพัฒนาพฤติกรรมสขุ ภาพ ตนเอง ชุมชน และสงั คม 1. ความหมายและความสาคัญ ของการมสี ขุ ภาพดี 2. หลกั การดแู ลสุขภาพเบื้องต้น การปอ้ งกันการสง่ เสรมิ การ รักษาพยาบาลเบือ้ งต้น และ การฟนื้ ฟสู ขุ ภาพ 3. กลวิธนี าไปสกู่ ารมีพฤติกรรม สขุ ภาพดว้ ยการสร้างพลัง ปัญญา 3.1 แนะนาวธิ ีการออกกาลงั กายทีถ่ กู ตอ้ งและมี ขน้ั ตอน 3.2 การบรโิ ภคอาหารทถ่ี ูก หลักอนามัยและมี ประโยชน์ตอ่ รา่ งกาย 3.3 การใชย้ าอย่างถูกต้อง

144 ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ัด เนือ้ หำ จำนวน 3 สุขภาพผ้บู รโิ ภค (ชว่ั โมง) อธบิ ายเกย่ี วกับสุขภาพ 1. การเลอื กใช้ภมู ปิ ัญญาไทย 4 การบรหิ ารจัดการ ผู้บริโภค เพ่ือสุขภาพ 15 ชีวิตเพอ่ื สขุ ภาพ วางแผนชวี ติ ตรวจสอบและ 2. ข้อมลู ข่าวสาร ผลิตภณั ฑ์ และ 10 5 การสังเคราะหแ์ ละ ประเมินภาวะและ ปรับ บริการสขุ ภาพ 10 ประยกุ ต์ใช้ข้อมูล พฤตกิ รรม เพอื่ การ สารสนเทศดา้ น มีสุขภาพทด่ี ี 3. สทิ ธผิ ูบ้ รโิ ภคและกฎหมาย 15 สขุ ภาพ ความ ที่เกี่ยวขอ้ ง ปลอดภยั การออก 1. เลอื กใช้ขอ้ มลู ขา่ วสาร กาลังกาย และการ ทางดา้ นสขุ ภาพไดอ้ ยา่ ง 1. การวางแผนชีวติ เพ่ือการมี เล่นกฬี า ถกู ต้อง สุขภาพที่ดี 6 การมีสติ 2. อธิบายหลกั การและ 2. การตรวจสอบและประเมนิ วิธกี ารนาเสนอและ ภาวะสุขภาพ เผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ ด้านสุขภาพ ความ 3. การปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ปลอดภัย การออกกาลงั 1. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ กายและการเล่นกฬี า 2. วธิ ีแสวงหาและวธิ เี ลือกใช้ บอกวธิ ีการฝึกสติ ประโยชน์ ข้อมลู สารสนเทศ การสังเคราะห์ และประเมินระดับของการมี และประยกุ ตใ์ ช้ขอ้ มลู สารสนเทศ สติ ด้านสุขภาพและสมรรถภาพ 3. หลักการและวิธีการนาเสนอ และเผยแพรข่ ้อมูลสารสนเทศ ด้านสขุ ภาพ ความปลอดภัย การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬา 1. วธิ กี ารฝกึ สติแบบต่างๆ 2. ประโยชน์ของการมีสติ 3. การประเมินระดับของการมีสติ 7 การพกั ผ่อนและ ออกกาลังกาย พกั ผอ่ น 1. ความหมาย ความสาคญั ของ 10 การพกั ผ่อน การใชเ้ วลาวา่ ง 10 นนั ทนาการ ฝึกจติ และรว่ มกจิ กรรม และกจิ กรรมนันทนาการ นนั ทนาการท่เี หมาะสม 2. แหลง่ บรกิ ารนันทนาการ จนเปน็ กจิ นิสัย 1. หลกั และวธิ ีการสรา้ งเสริม สมรรถภาพทางกายเพือ่ 8 การทดสอบและสร้าง ประเมนิ สรา้ งเสริมและ สขุ ภาพ เสริมสมรรถภาพทาง ดารงสมรรถภาพทางกาย 2. การทดสอบและประเมิน สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ กายเพือ่ สขุ ภาพ และทางจติ ตามหลกั การ สร้างเสรมิ สมรรถภาพเพื่อ สุขภาพ

145 ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชว้ี ัด เน้ือหำ จำนวน (ชว่ั โมง) 9 ความปลอดภยั ในชีวิต ประเมินความเสีย่ งต่อ 1. ปจั จยั เสย่ี งในการดารงชวี ิต 10 สุขภาพ และแสวงหา แนวทางป้องกันอนั ตราย 1.1 สง่ิ เสพติด เพื่อความปลอดภัยในชีวติ 1.2 โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ 1.3 อุบตั เิ หตุ 2. การป้องกันและหลกี เล่ยี ง ปจั จัยเสยี่ ง 10 การป้องกัน หลกี เล่ียง 1. แสดงทักษะการให้ความ 1. การป้องกนั หลกี เลย่ี งและการ 20 และ ทกั ษะการชว่ ยฟน้ื ชว่ ยเหลือเมื่อเกิด คืนชีพ สถานการณ์คบั ขันได้ ให้ความชว่ ยเหลือ เม่ือเกิด อย่างถูกตอ้ ง 2. แสดงทกั ษะการช่วยฟืน้ อบุ ตั เิ หตุ อัคคีภยั และอันตราย คืนชีพได้อยา่ งถกู ต้อง จากมลพิษและสารเคมี 2. ทักษะการช่วยฟ้นื คืนชีพ

146 อธิบำยรำยวิชำ ทช. กำรปฐมพยำบำลเบื้องต้น จำนวน 3 หนว่ ยกิต ระดับประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนท่ี 4.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคตทิ ีด่ เี กี่ยวกบั การดแู ลส่งเสริมสุขภาพอนามยั และความ ปลอดภยั ในการดาเนินชีวิต ศกึ ษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเร่อื งดงั ตอ่ ไปน้ี ความหมาย และความสาคัญของการปฐมพยาบาล การช่วยฟนื้ คนื ชพี การห้ามเลือด การปฐม พยาบาลผู้บาดเจบ็ กระดูกหกั การปฐมพยาบาลผถู้ กู ไฟไหม้ นา้ รอ้ นลวก ไฟฟ้าซ็อต สัตวท์ ่ีมีพษิ กดั ตอ่ ย ถูก สารพษิ ควนั พิษ ผูจ้ มนา้ ตลอดจนการลาเลยี งผ้ปู ว่ ยและการเคลื่อนยา้ ยผ้ปู ว่ ย เพ่อื ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจการ ปฐมพยาบาล และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้อง กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ 1. การฝึกอบรมจากวิทยากรผเู้ ชี่ยวชาญ 2. การศึกษาคน้ คว้าจากสื่อเอกสาร ใบความรู้และสอื่ อื่น ๆ 3. การฝึกปฏบิ ัตจิ ริง กำรวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ ความคดิ เห็นโดยการทดสอบ สังเกต สัมภาษณ์ ตอบคาถาม 2. ประเมินผลการปฏิบตั จิ ริง

147 รำยละเอียด คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทช. กำรปฐมพยำบำลเบื้องต้น จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย มำตรฐำนที่ 4.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตทิ ่ีดีเก่ยี วกบั การดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามัย และ ความปลอดภัยในการดาเนินชวี ิต ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ชีว้ ดั เนอื้ หา จานวน (ชัว่ โมง) 1 ความหมาย - บอกความหมายและ 1.ความหมาย ของการปฐมพยาบาล ความสาคญั ของการ ความสาคัญการปฐม 2.ความสาคัญของการปฐมพยาบาล 3 ปฐมพยาบาล พยาบาล 1.ความหมาย และความสาคัญของ ทฤษฎี 2 การชว่ ยฟนื้ คนื ชพี - บอกความหมายของ การช่วยฟ้นื คนื ชีพ 15 การฟ้ืนคนื ชีพ 2.วิธกี ารช่วยฟน้ื คืนชีพ ปฏิบัติ 3 การหา้ มเลือด - แสดงการช่วยเหลือ 6 ผปู้ ว่ ยดว้ ยวิธีชว่ ยฟนื้ คืน 1.ความหมาย ความสาคญั ของการ ห้ามเลือด ทฤษฎี ชีพได้อยา่ งถูกวธิ ี 2.ประเภทของบาดแผล 6 - บอกความหมาย ความสาคัญของการ - บาดแผลเปิด ปฏบิ ัติ - บาดแผลปดิ 12 หา้ มเลอื ดได้ 3.วธิ ีการห้ามเลือดบาดแผลเปิด - บอกประเภทของ บาดแผลปดิ บาดแผลได้อยา่ งถกู วธิ ี 4.วิธกี ารใชผ้ ้าพนั แผลชนิดต่าง ๆ - แสดงวิธีการห้ามเลอื ด ไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี - อธิบายการใช้ ผ้าพันแผลชนดิ ต่าง ๆ ได้ - แสดงการใช้ ผา้ พันแผลชนิดตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู วธิ ี 4 การปฐมพยาบาล - อธบิ ายความหมาย 1.ความหมายของกระดกู หัก ทฤษฎี ผบู้ าดเจบ็ กระดกู หกั ของกระดูกหักได้ 2.วธิ ีการปฐมพยาบาลผู้ป่วยข้อเคลอื่ น 6 - แยกประเภทลักษณะ และกระดกู หกั ปฏิบตั ิ ของกระดกู หักได้ 3.ขอ้ ควรระวังในการช่วยเหลือผปู้ ่วย 15 - บอกข้อควรระวังของ กระดกู หัก การชว่ ยเหลอื ผู้ป่วย 4.วิธกี ารเข้าเฝอื ก กระดูกหกั ได้

148 ท่ี หัวเร่ือง ตัวชี้วัด เน้อื หา จานวน 4 การปฐมพยาบาล (ชั่วโมง) - อธบิ ายความหมาย 1.ความหมายของกระดูกหกั ทฤษฎี ผบู้ าดเจบ็ กระดกู หกั ของกระดกู หกั ได้ 2.วธิ กี ารปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยขอ้ เคล่ือน - แยกประเภทลกั ษณะ และกระดกู หกั 6 5 การปฐมพยาบาลผู้ ของกระดูกหกั ได้ 3.ข้อควรระวงั ในการชว่ ยเหลือผ้ปู ว่ ย ปฏบิ ตั ิ ถูกไฟไหม้ น้าร้อน - บอกข้อควรระวังของ กระดูกหกั 15 ลวก ไฟฟ้าซอ็ ต สตั ว์ การชว่ ยเหลอื ผู้ป่วย 4.วิธกี ารเข้าเฝอื ก มีพิษกัดตอ่ ย ถกู กระดูกหกั ได้ ทฤษฎี สารพิษ ควนั พิษ - อธบิ ายวิธีการปฐม 1.วิธีการปฐมพยาบาลผถู้ ูกไฟไหม้ 6 พยาบาลผูถ้ ูกไฟไหม้ 2.วธิ ีการปฐมพยาบาลผู้ถูกน้ารอ้ นลวก 6 การปฐมพยาบาล น้ารอ้ นลวก ไฟฟา้ ชอ็ ต 3.วิธีการปฐมพยาบาลผู้ถกู ไฟฟา้ ซอ็ ต ปฏบิ ัติ ผจู้ มน้า สตั ว์มพี ิษกดั ตอ่ ย และ 4.วธิ ีการปฐมพยาบาลผู้ถกู สัตวม์ ีพิษ 15 ถูกสารพษิ ควนั พษิ ได้ กดั ตอ่ ย อย่างถูกตอ้ ง 5.วธิ ีการปฐมพยาบาลผถู้ กู สารพิษ ทฤษฎี - แสดงการปฐม ควันพิษ 6 พยาบาลผถู้ ูกไฟไหม้ น้ารอ้ นลวก ไฟฟ้าซ็อต 1.ลักษณะอาการของผู้ป่วยจากการ ปฏิบัติ สัตวม์ พี ษิ กัดต่อย และ จมนา้ 12 ถูกสารพษิ ควนั พษิ ได้ 2.วิธกี ารปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยจมนา้ อย่างถกู วธิ ี - บอกลกั ษณะอาการ ของผ้ปู ว่ ยจากการ จมนา้ ได้ - แสดงการช่วยเหลอื ผูจ้ มน้าได้อยา่ งถูกวธิ ี 7 การลาเลียงผูป้ ว่ ย/ - บอกความหมาย 1.ความหมายและความสาคญั ของการ ทฤษฎี การเคลือ่ นยา้ ย ความสาคัญของการ ลาเลยี ง การเคลอ่ื นย้ายผูป้ ่วย 6 ผู้บาดเจ็บ ลาเลยี งผู้ปว่ ย และการ ผ้บู าดเจ็บ ปฏิบัติ เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บได้ 2.การแยกประเภทผูป้ ว่ ย ผบู้ าดเจบ็ ท่ี 12 - อธิบายความจาเป็น ต้องการเคลื่อนย้าย ของการแยกประเภท 3.วธิ ีการลาเลียงผ้ปู ว่ ยและการ ผู้ป่วย ผบู้ าดเจบ็ ที่ เคลอื่ นย้ายผบู้ าดเจ็บ ตอ้ งการเคลอื่ นย้าย - แสดงวิธกี ารลาเลยี ง ผู้ปว่ ยและเคล่อื นย้าย ผู้บาดเจบ็ ได้อยา่ ง ถกู ตอ้ ง

149 สำระกำรพฒั นำสงั คม สำระกำรพฒั นำสงั คม เปน็ สาระเกี่ยวกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง และการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สังคมประกอบด้วย มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สาระการพัฒนาสงั คม ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดงั นี้ มำตรฐำนที่ 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถงึ ความสาคญั เก่ียวกับภูมศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง สามารถนามาปรบั ใช้ในการดารงชวี ติ มำตรฐำนที่ 5.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพื่อ การอยูร่ ว่ มกันอย่างสันติสขุ มำตรฐำนท่ี 5.3 ปฏิบัติตนเป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธปิ ไตย มีจติ สาธารณะ เพื่อความสงบสุขของ สังคม มำตรฐำนที่ 5.4 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นความสาคัญของหลักการพัฒนา และสามารถพัฒนา ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ระดบั และผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั ในแตล่ ะมาตรฐาน มำตรฐำนที่ 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญเกี่ยวกับภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครอง สามารถนามาปรับใชใ้ นการดารงชีวิต มำตรฐำน มคี วามรู้ ความเขา้ ใจตระหนกั เกี่ยวกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ กำรเรียนรูร้ ะดับ การเมอื ง ก1า. รอปธกิบคารยอขงอ้ ใมนลู โลเกกี่ยวแกลบั ะภนมูามศิ าปสตรบัร์ใชปใ้ รนะกวาตั ริศดาาสเตนริน์ ชเศวี รติ ษเฐพศื่อาคสวตารม์ มก่ันารคเงมือขงอกงชาารติ ผลกำรเรยี นรู้ ปกครองท่ีเกย่ี วขอ้ งกับประเทศต่าง ๆ ในโลก ทีค่ ำดหวัง 2. วิเคราะห์เปรยี บเทยี บสภาพภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง ของประเทศต่าง ๆ ในโลก 3. ตระหนกั และคาดคะเนสถานการณ์ระหว่างประเทศทางด้านภูมิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ การเมอื ง การปกครอง ท่มี ีผลกระทบต่อประเทศ1ไทย และโลกใน อนาคต 4. เสนอแนะแนวทางในการแกป้ ญั หา การปองกัน และการพัฒนาทางดา้ น การเมอื ง การปกครอง เศรษฐกจิ และสงั คม ตามสภาพปญั หาทเี่ กดิ ขึ้นเพื่อความ มน่ั คง ของชาติ

150 มำตรฐำนท่ี 5.2 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ ค่าและสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพื่อการอยู่ รว่ มกันอยา่ งมคี วามสขุ มำตรฐำน มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของ กำรเรยี นรรู้ ะดับ ประเทศในสงั คมโลก ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ าย ประวัติ ความสาคญั หลักคาสอน ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณขี อง ทีค่ ำดหวงั ประเทศในโลก 2. ยอมรับและปฏิบัติตนเพื่อการอย่รู ว่ มกันอย่างสันติสขุ ในสังคมท่ีมีความหลากหลาย ทางศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี 3. เลือกรับปรับใชว้ ัฒนธรรม ประเพณีที่สอดคลอ้ งและเหมาะสมกับสงั คมใหม่ มำตรฐำนท่ี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย มีจติ สาธารณะ เพ่ือความสงบสขุ ของสังคม มำตรฐำน มีความรู้ ความเข้าใจ ดาเนินชีวติ ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย กฎระเบียบของประเทศ ต่าง ๆ กำรเรยี นรู้ระดบั ในโลก ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายความสาคัญและบทบาทหนา้ ท่ีขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทคี่ ำดหวงั 2. ระบบุ ทบาทองค์กรระหว่างประเทศทม่ี ีบทบาทตอ่ การเมืองการปกครองของ ประเทศไทย/ โลก 3. ตระหนักถึงผลกระทบจากการไมป่ ฏบิ ตั ิตามกฎหมายของประชาชนในประเทศตา่ งๆ 4. เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาความไม่สงบท่ีเกยี่ วข้องกบั กฎหมายของประเทศไทย และ ประเทศต่างๆ มำตรฐำนที่ 5.4 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นความสาคัญของหลกั การพฒั นา และสามารถพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน/สงั คม มำตรฐำน มีความรู้ ความเขา้ ใจ หลักการพัฒนาชมุ ชน สงั คม สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู และเปน็ ผู้นา กำรเรียนรูร้ ะดบั ผตู้ าม ในการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สงั คม ใหส้ อดคล้องกบั สภาพการ ผลกำรเรียนรู้ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ปจั จุบัน ที่คำดหวัง 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจหลักการพัฒนาชมุ ชน สังคม 2. บอกความหมายและความสาคัญของแผนชีวิต และชมุ ชน สังคม 3. วิเคราะห์และนาเสนอขอ้ มูลตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน/สังคม ดว้ ยเทคนิค และวิธีการท่ี หลากหลาย 4. จงู ใจให้สมาชกิ ของชมุ ชนมสี ว่ นร่วมในการจัดทาแผนชีวิต และแผนชุมชน สงั คมได้ 5.เป็นผู้นาผูต้ ามในการจัดทาประชาคม ประชาพจิ ารณ์ของชุมชน 6. กาหนดแนวทางในการดาเนินการเพอื่ นาไปสูก่ ารทาแผนชีวติ ครอบครัว ชมุ ชน สังคม 7. รว่ มพัฒนาแผนชุมชนตามขัน้ ตอน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook