Page 100 90 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก คนทสี อ: Manjingzi (蔓荆子) คนทีสอ หรอื มา นจงิ จอ่ื คอื ผลสกุ ท่ที าํ ใหแ หง ของพชื ท่ีมชี ือ่ วทิ ยาศาสตรว า Vitex trifolia L. var. simplicifolia Cham. หรือ V. trifolia L. วงศ Verbenaceae1 0.5 เซนติเมตร คนทีสอ (Fructus Viticis) ช่ือไทย: คนทีสอ, ดินสอ (ภาคกลาง); คนทีสอขาว (ชลบุรี); คุนตีสอ (สตูล); โคนดินสอ (จันทบุรี, ภาคกลาง); ดอกสมุทร, สีเสื้อนอย (เชียงใหม) ; ทสิ อ, เทยี นขาว (พิษณโุ ลก); ผเี สอื้ (เลย), ผีเสือ้ นอย (ภาคเหนือ); มูดเพิ่ง (ตาก); สีสอ (ประจวบคีรีขันธ)2 ชื่อจีน: มานจิงจื่อ (จีนกลาง), หม่ังเก็งจี้ (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Shrub Chastetree Fruit1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Viticis1 การเกบ็ เกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเกี่ยวผลสุกในฤดใู บไมรวง แยกสิง่ ท่ีปะปนท้ิง ตากแดดใหแหง เกบ็ รกั ษาไวใ นท่มี ีอากาศเย็น และแหง มีการระบายอากาศด1ี การเตรียมตวั ยาพรอ มใช: การเตรยี มตวั ยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดงั น้ี วิธที ี่ 1 คนทีสอ เตรียมโดยนําวัตถุดิบสมนุ ไพรทป่ี ราศจากสง่ิ ปนปลอมมารอนเอาเศษเลก็ ๆ ออก แลวทบุ ใหแตกกอ นใช1,3
Page 101 คูมือการใชสมุนไพรไทย-จีน 91 วิธีที่ 2 คนทีสอผัด เตรียมโดยนําตัวยาที่ไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไฟระดับ ปานกลาง ผดั จนกระทงั่ ผิวดานนอกสเี ขม ขึน้ นาํ ออกจากเตา รอนเอากา นผลและเยื่อบาง ๆ สีขาวออก ต้งั ทงิ้ ไวใ หเ ยน็ ทุบใหแตกกอ นใช1 ,3 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาที่มคี ุณภาพดี ผลตอ งมีขนาดใหญ มีเนื้อมาก กลน่ิ หอม และปราศจากสงิ่ ปนปลอม4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: คนทสี อ รสเผด็ ขม เยน็ เล็กนอย มีฤทธ์ผิ อนคลาย กระจายความรอ น ใชแ กหวัดจากการ กระทบลมรอ น ปวดศรี ษะ อาการผิดปกติตาง ๆ จากศรี ษะ และมฤี ทธ์ริ ะบายความรอนของศีรษะและตา ใชแกอ าการตาแดง บวม ปวดตา ตาลาย นา้ํ ตามาก1 คนทสี อผัด จะทําใหรสเผ็ดของยาลดลง มีฤทธร์ิ ะบายความรอนในระดบั ช่ี ระงับปวด ใชร ักษา อาการตาและหสู ูญเสยี ความสามารถ โรคไมเกรน3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: 5 คนทีสอ รสเผ็ดรอน สรรพคุณ แกพยาธิ แกฟกบวม แกเสมหะ แกล ม แกร ดิ สดี วงคอ ขนาดที่ใชและวธิ ีใช: การแพทยแ ผนจีน ใช 5-9 กรมั ตม เอานํา้ ดื่ม1 ขอ มูลวิชาการท่เี กี่ยวขอ ง: 1. มีรายงานวาสารสกัดน้ํามีฤทธ์ิฆาเช้ือจุลินทรียหลายชนิด เชน Staphylococcus aureus, Typhoid bacillus 6 ในหลอดทดลอง 2. สารสกดั นํ้า และสาร γ-aminobutyric acid ซงึ่ แยกไดจากผลคนทีสอ แสดงฤทธลิ์ ดความดัน โลหิตในกระตาย6 3. เมือ่ ใหส ารสกัด 70% เมทานอลทางปากหนถู ีบจกั รในขนาด 300, 500 มิลลิกรมั /กโิ ลกรัม พบวา แสดงฤทธร์ิ ะงบั ปวด และสารสกัดเมทานอลขนาด 300, 500, 1000 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรัม แสดงฤทธ์ิ ตานการอกั เสบในหนถู ีบจักรเมื่อใหโดยวธิ รี บั ประทาน6 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน ฉบบั แกไขเพ่มิ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครัง้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
Page 102 92 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. วฒุ ิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภีรเภสัชรตั นโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑและการพิมพ จํากัด, 2547. 6. Li CZ, Ma JK. Fructus Viticis: man jing zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 103 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 93 เฉากวย: Caoguo (草果) เฉากวย หรือ เฉาก่ัว คือ ผลสุกท่ีทําใหแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Amomum tsaoko Crevost et Lemaire วงศ Zingiberaceae1 เฉากวย (Fructus Tsaoko) 1 เซนติเมตร ชื่อไทย: เฉากวย ชื่อจีน: เฉาก่ัว (จีนกลาง), เฉากวย (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Caoguo1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Tsaoko1 การเก็บเกยี่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เกีย่ วผลสกุ ในฤดูใบไมรว ง คัดแยกส่งิ ปะปนท้ิง ตากแดดหรอื ทําใหแ หง ทอ่ี ณุ หภูมติ ่ํา เก็บ รักษาไวในทมี่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดังน้ี วิธีท่ี 1 เฉากว ย เตรยี มโดยนําวัตถุดิบสมุนไพรมาผัดในภาชนะท่เี หมาะสมโดยใชไ ฟแรง ผดั จนกระทงั่ ผวิ นอกมีสเี หลอื งไหมแ ละพองตวั นาํ ออกจากเตา แลว ต้ังทิง้ ไวใ หเ ย็น กะเทาะเอาเปลือกออก ใช เฉพาะสวนเน้อื ใน ทบุ ใหแตกกอนใช2 ,3 วธิ ที ี่ 2 เฉากวยผัดนาํ้ ขิง เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจากวิธีท่ี 1 ใสในภาชนะทเี่ หมาะสม เติมน้ํา คนั้ ขงิ สด ตงั้ ท้งิ ไวใ หน้าํ ขงิ สดแทรกซมึ เขาเน้อื ในตัวยา นําไปผัดโดยใชร ะดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระทงั่ มีสี
Page 104 94 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก เหลืองอมนา้ํ ตาล นาํ ออกจากเตา แลว ตง้ั ทิ้งไวใ หเ ยน็ ทุบใหแตกกอ นใช (ใชขงิ สด 10 กิโลกรัม ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรัม)2,3 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: 4 ตวั ยาทม่ี ีคณุ ภาพดี ผลตองมีขนาดใหญ เนอ้ื มาก สีนํา้ ตาลแดง กล่นิ หอมฉนุ สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: เฉากวย รสเผ็ด อุน มีฤทธิ์สลายความช้ืน ขบั ความเย็น แกความเย็นกระทบกระเพาะอาหารและ ลําไส ทําใหปวด จกุ เสยี ด แนน ทอง อาเจยี น ทอ งเสีย มีฤทธ์ขิ ับเสมหะ (ขบั ความเยน็ สลายความชืน้ ) และแกไ ขม าลาเรีย1 เฉากวยผัดนาํ้ ขงิ จะเพม่ิ ฤทธใ์ิ หค วามอบอุนแกกระเพาะอาหารและระงบั อาเจยี น เหมาะสาํ หรับ ผูป วยทม่ี ีอาการปวดทอง จุกเสยี ดแนน ทอ ง อาเจียน3 ขนาดท่ใี ชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแ ผนจีน ใช 3-6 กรัม ตมเอานาํ้ ด่ืม1 ขอมลู วชิ าการทเี่ กย่ี วของ: 1. มรี ายงานวาผลเฉากว ยมีฤทธิช์ วยใหล ําไสเ ลก็ ทอนตน แข็งแรง และชว ยลดกรดในกระเพาะ อาหาร รวมท้งั มฤี ทธิบ์ รรเทาอาการไอดว ย สารสกดั นํ้าชว ยบรรเทาอาการหดตัวอยา งแรงของกลามเนอ้ื ลาํ ไสเล็กทอนปลายท่ีเกิดจากสาร acetylcholine5 2. น้ํามันหอมระเหยจากผลเฉากวยมฤี ทธติ์ า นเชื้อรา โดยมคี า MIC และ MFC ใกลเคียงกนั นอกจากน้ีนํ้ามันดังกลา วยงั มฤี ทธิต์ า นเช้อื แบคทเี รียดวย5 3. การทดลองทางคลนิ ิก พบวา ผลเฉากว ยเมอ่ื ใชเดย่ี วหรือใชผสมกับตัวยาอื่นในตํารับมีสรรพคณุ ตา นเชอ้ื มาลาเรีย บรรเทาอาการถายอจุ จาระเปน เลือด คล่นื ไสอ าเจยี นในสตรมี คี รรภ แกทองเสีย ภาวะ ไตลม เหลวชนดิ เรือ้ รงั และตับอกั เสบ5 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 2. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. Deng JG, Wei SJ. Genuine and well-reputed medicinal materials in Guangxi. 1st ed. Beijing: Zhongguo Zhongyi Yao Publishing House, 2007.
Page 105 คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 95 ชะเอมเทศ: Gancao (甘草) ชะเอมเทศ หรอื กันเฉา คอื รากแหง ของพืชท่มี ชี ือ่ วทิ ยาศาสตรวา Glycyrrhiza uralensis Fischer หรอื G. inflata Bat. หรอื G. glabra L. วงศ Leguminosae-Papilionoideae1 2 เซนติเมตร 2 เซนตเิ มตร ชะเอมเทศ (Radix Glycyrrhizae) ชะเอมเทศผัดน้ําผงึ้ (Radix Glycyrrhizae Preparata) ชื่อไทย: ชะเอมจีน, ชะเอมเทศ, ชะเอมขาไก (ภาคกลาง)2,3 ชอื่ จีน: กนั เฉา (จีนกลาง), กาํ เชา (จนี แตจ ว๋ิ )1 ชอ่ื องั กฤษ: Liquorice Root1 ชื่อเคร่อื งยา: Radix Glycyrrhizae1 การเก็บเก่ียวและการปฏบิ ัตหิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เกย่ี วรากและเหงาในฤดใู บไมผ ลแิ ละฤดใู บไมรวง แยกเอารากแขนงออก ตากแดดใหแ หง เก็บรักษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอ มใช: การเตรยี มตวั ยาพรอมใชมี 2 วธิ ี ดังน้ี วธิ ีที่ 1 ชะเอมเทศ เตรียมโดยนําวัตถดุ บิ สมุนไพรท่ไี ด มาลา งดวยนํา้ สะอาด ใสภาชนะปด ฝาไว เพือ่ ใหออ นนมุ ห่ันเปน แวน หนา ๆ และนาํ ไปทาํ ใหแหง 1,4,5 วธิ ที ่ี 2 ชะเอมเทศผดั นา้ํ ผงึ้ เตรยี มโดยนํานา้ํ ผง้ึ บริสุทธิ์มาเจือจางดว ยนํ้าตม ในปริมาณท่เี หมาะสม ใสตวั ยาทไ่ี ดจ ากวธิ ที ่ี 1 แลวคลุกใหเขา กนั หมักไวส กั ครูเพอื่ ใหน า้ํ ผ้งึ ซึมเขาในตัวยา จากนน้ั นําไปผดั ใน กระทะโดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผดั จนกระท่งั มีสีเหลืองเขม และไมเหนยี วติดมือ นําออกจากเตา แลว ตงั้ ทิ้งไวใ หเยน็ (ใชน าํ้ ผงึ้ บรสิ ุทธ์ิ 25 กโิ ลกรมั ตอตวั ยา 100 กโิ ลกรัม)1,4,5
Page 106 96 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคุณภาพดี ผวิ นอกตองมสี นี า้ํ ตาลแดง มีคณุ สมบตั ิแข็งและเหนยี ว ดานหนาตัดสขี าว อมเหลอื ง มีแปงมาก และมรี สหวาน6 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: ชะเอมเทศ รสอมหวาน สุขมุ คอ นขา งเย็นเล็กนอ ย มสี รรพคุณระบายความรอ น ขับพิษ ปองกัน และรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ชว ยยอ ยอาหาร แกไอ ขับเสมหะ ทําใหช ุมคอ แกอาการใจส่นั แก ลมชัก โดยท่วั ไปมักใชเขาในยาตํารบั รักษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอกั เสบ หรอื พษิ 5,7 จากยาและอาหาร โดยสามารถชว ยระบายความรอ นและขบั พิษได ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผึ้ง รสอมหวาน อนุ มีสรรพคณุ บํารุงมา มและกระเพาะอาหาร เสริมช่ี ทําใหการ เตนของชพี จรมีแรงและกลบั คนื สภาพปกติ โดยท่ัวไปมักใชเขาในตาํ รับยารกั ษาอาการมามและกระเพาะ อาหารออนเพลยี ไมมแี รง ชีข่ องหวั ใจพรอ ง ปวดทอ ง เสน เอ็นและชพี จรตงึ แขง็ ชีพจรเตนไมส มํ่าเสมอ และชพี จรเตน หยุดอยา งมีจงั หวะ5 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ชะเอมเทศ รสหวาน ชุมคอ มีสรรพคณุ แกไอ ขบั เสมหะ ขับเลอื ดเนา บาํ รงุ หัวใจใหช ุม ชื่น แก กําเดาใหเปน ปกติ ใชสําหรับปรงุ แตงรสยาใหรับประทานงาย เปนยาระบายออ น ๆ3,5 ขนาดทีใ่ ชและวิธีใช: การแพทยแ ผนจีน ใชข นาด 1.5-9 กรมั ตม เอานาํ้ ดมื่ 1 ขอ หามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคยี ง: หามใชชะเอมเทศในผปู ว ยโรคความดันโลหติ สูง ผปู วยโรคตับแข็ง ผปู ว ยท่ีโลหติ มโี ปแทสเซียม ตาํ่ มากหรอื นอ ยเกินไป หรอื ผูปวยโรคไตบกพรอ งเร้อื รงั และสตรีมีครรภ8 ขอมลู วิชาการทเ่ี กยี่ วของ: 1. การศึกษาเปรยี บเทยี บฤทธเ์ิ สรมิ ภูมคิ ุมกันของชะเอมเทศท่ีผดั นาํ้ ผงึ้ และไมไดผ ดั พบวาฤทธ์ิ เสริมภูมคิ มุ กันของชะเอมเทศผดั น้ําผ้งึ จะแรงกวาชะเอมเทศไมไ ดผ ดั มาก ดังน้นั ชะเอมเทศผดั นาํ้ ผึง้ จงึ นับเปน ตวั ยาทีม่ ีสรรพคณุ บํารงุ ชท่ี ่ดี ที ส่ี ุดในทางคลินกิ 5 2. ชะเอมเทศมีฤทธค์ิ ลา ยฮอรโมนคอรติโซน ระงบั ไอ ขบั เสมหะในหนูถีบจักร ลดการเกดิ แผล ในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการบวมอกั เสบในหนขู าว แกแ พและเสรมิ ภมู ิตานทานในหนูตะเภา7,9
Page 107 คมู ือการใชสมนุ ไพรไทย-จีน 97 3. สารสกัดชะเอมเทศดว ยนาํ้ มีฤทธ์ิแกพ ิษของสตรคิ นีนได และสารสกดั เขม ขน สามารถแกพ ิษ เฉียบพลนั ของแอมโมเนียมคลอไรดไ ด รวมทง้ั สามารถปอ งกนั พษิ เฉยี บพลนั ทีท่ าํ ใหถงึ ตายของซลั ไพรนิ ได นอกจากนชี้ ะเอมเทศยงั สามารถลดความเปน พิษของฮสี ตามีน คลอรอลไฮเดรท โคเคน แอซิโนเบนซอลและ ปรอทไบคลอไรดไดอยางเดนชดั และสามารถแกพ ษิ ปานกลางหรอื เลก็ นอยตอ คาเฟอนี นโิ คตนิ เปนตน10,11 4. ชะเอมเทศมีสรรพคณุ ระบายความรอ น ขับพษิ แกไอ ขบั เสมหะ โดย ท่ัวไปมักใชเขาในยา ตาํ รับรกั ษาอาการไอมเี สมหะมาก พิษจากฝแผล คอบวมอักเสบ หรอื พิษจากยาและอาหาร เปนตน โดย สามารถชวยระบายความรอ นและขบั พษิ ได7 ,9 5. ชะเอมเทศมีสรรพคุณรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือลําไสเ ล็กในระยะเรม่ิ แรก จากการ ศึกษาในผูปว ยจํานวน 50-200 ราย พบวา ไดผลรอ ยละ 90 โดยเฉพาะผูป วยรายที่มอี าการปวดเม่ืออวัยวะ มีการเคลอื่ นไหวจะไดผลดี ปกตหิ ลังรับประทานยาแลว 1-2 สัปดาห อาการปวดจะหายหรอื ลดลงอยา ง เดนชดั อุจจาระเปนเลือดจะลดลง ชะเอมเทศสามารถรกั ษาแผลทีก่ ระเพาะอาหารไดผลดีกวา แผลที่ลําไส เล็กในระยะเริ่มเปน หลังการรกั ษาแลวตรวจดว ยเอ็กซเรย พบวาแผลหายเร็วกวา แตรายทม่ี ีอาการโรคอนื่ แทรกซอ นมกั ไมไดผล อยางไรก็ตามผลการรกั ษายังไมเปนท่ีนาพอใจ เพราะคนไขทหี่ ายแลว จํานวนกวา ครึง่ เมื่อหยุดยาแลว จะปรากฎอาการข้ึนอกี 9,11 6. ผงชะเอมเทศมีสรรพคุณแกอ าการปส สาวะออกมากผดิ ปกติ (เบาจดื ) จากการรกั ษาผปู วย โรคเบาจดื ทีเ่ ปน มานาน 4-9 ป จํานวน 2 ราย โดยใชผงชะเอมเทศ 5 กรัม รบั ประทาน 4 ครงั้ พบวา ไดผลในการรกั ษาอยา งมนี ัยสาํ คัญ โดยผูปว ยเมอื่ แรกเขาโรงพยาบาล ระดบั นาํ้ เขา ออกวนั ละ 8,000 มลิ ลิลติ ร หลงั จากรบั ประทานยาแลวปสสาวะลดลงเหลือวนั ละ 3,000-4,000 มลิ ลิลิตร มีผูปว ย 1 ราย ปสสาวะลดลงเหลอื 2,000 มิลลลิ ิตร9,11 7. ผปู วยวณั โรคปอดที่ไดร ับยารกั ษาวัณโรคแลว ไดผ ลไมนาพอใจหรือมีอาการเลวลง เมือ่ ให ยาสารสกัดชะเอมเทศรวมดว ย จะชวยใหผลการรักษาดีข้นึ สาํ หรบั ผปู ว ยท่มี นี ํา้ เหลอื งและเยื่อหมุ ปอด อักเสบ อาการอักเสบจะหายเร็วขนึ้ ตออาการจุดแผลทปี่ อดและหนองในชองอก ไดผ ลคอ นขา งดีและ ชว ยยน ระยะเวลาในการรักษาดว ย ผลการรกั ษาผปู วยวัณโรคปอดจาํ นวนหลายสิบราย พบวาเมอื่ ใหยา ผูป วยสว นใหญจ ะมีอาการดขี ึ้นหรอื หาย และอตั ราการตกตะกอนของเมด็ เลือดแดงจะลดลง เช้อื วัณโรค จะหายไป ผลจากการตรวจดูดว ยเอก็ ซเรย แผลที่ปอดดีขึ้น อาการปอดชนื้ จะหายไป นาํ้ ที่ขงั ในชองอก ลดลงจนหายไป รูแผลที่ปอดทมี่ ีลักษณะเปนเยื่อจะหดเล็กลง เนื่องจากชะเอมเทศมสี ารที่มีฤทธค์ิ ลา ยกบั สารประเภทออ็ กซีคอรต ิโซน ซง่ึ ลดอาการอักเสบและทําใหอาการตาง ๆ ดังกลา วหายเรว็ ข้นึ และมอี าการ
Page 108 98 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก ขางเคียงคลายกับสารประเภทอ็อกซีคอรตโิ ซน เชน ทาํ ใหความดันโลหิตสงู ขน้ึ ตวั บวมนํ้า บางรายมีอาการ หัวใจเตนชาลงหรือเรว็ กวาปกติ ดงั น้นั ผปู ว ยโรคความดันโลหิตสูงหรือการทาํ งานของหวั ใจไมปกติ ไม ควรใชช ะเอมเทศ10,11 8. ผลการรักษาผูป วยโรคหลอดลมอักเสบเรอ้ื รงั เปนหอบหืด โดยรับประทานผงชะเอมเทศ 5 กรมั หรอื สารสกดั ชะเอมเทศ 10 มลิ ลิลิตร วันละ 3 ครั้ง พบวาไดผลดขี ึ้นอยางเดนชดั อาการหอบหืดจะ ดขี ้ึนหรือหายไปเปนปกตใิ นเวลา 1-3 วนั เสียงหอบหืดในหลอดลมจะหายไปในเวลา 11 วนั และการ ทาํ งานของปอดดขี ึ้น มีผปู วย 1 รายท่ีมอี าการกลบั มาเปนอกี และไดร กั ษาดว ยชะเอมเทศอกี ก็ไดผ ล10,11 9. ผลการรักษาผูป วยจํานวน 13 รายทม่ี อี าการตัวเหลอื ง โดยใหร บั ประทานสารสกดั ชะเอมเทศ ครงั้ ละ 15-20 มิลลิลิตร วันละ 3 ครงั้ พบวา อาการตัวเหลอื งจะหายเปน ปกติในเวลาประมาณ 13 วัน ผปู ว ยทีม่ ีปรมิ าณนํา้ ดอี อกมาในปสสาวะในระดบั 3 จะหายเปนปกตใิ นเวลาประมาณ 10 วัน อาการตบั โตจะลดลงอยา งเดน ชดั ในเวลาประมาณ 10 วัน และอาการเจบ็ ทตี่ ับจะหายเปนปกตใิ นเวลาประมาณ 8 วนั 10,11 10. ชะเอมเทศมสี รรพคุณแกอาการของโรคพยาธใิ บไมในเลือดไดผลดี เน่ืองจากชะเอมเทศมี ฤทธค์ิ ลายสารประเภทออ็ กซคี อรติโซน จึงสามารถใชแ ทนคอรติโซนได ทาํ ใหตอมหมวกไตขับสารออกมา ปกตเิ มอื่ ใหผูป ว ยรับประทานยาประมาณ 1-2 วนั อาการไขเรม่ิ ลดลง และจะลดลงเปน ปกติในเวลา 5- 10 วัน ขณะเดยี วกนั สภาพทว่ั ไปจะดีขึ้นหรอื หายเปน ปกติ10,11 11. ผลการรกั ษาผูป ว ยลําไสเ ลก็ บบี ตัวผดิ ปกตจิ ํานวน 254 ราย โดยใชสารสกดั ชะเอมเทศ รับประทานครัง้ ละ 10-15 มลิ ลลิ ิตร วันละ 3 ครัง้ พบวาไดผลอยางเดน ชัดจํานวน 241 ราย (รอ ยละ 94.8) โดยใชร ะยะเวลาในการรกั ษา 3-6 วัน10,11 12. ผลการรกั ษาผปู วยเสนเลอื ดขอดจาํ นวน 8 ราย โดยใหร บั ประทานสารสกดั ชะเอมเทศวัน ละ 12-20 มิลลลิ ิตร หรือรบั ประทานชะเอมเทศ 50 กรมั ตมนา้ํ แบง รับประทานกอ นอาหาร 3 ครัง้ พบวา ไดผ ลดี อาการปวดบวมเปน เสนหายไป เนอ่ื งจากสารสําคญั ในชะเอมเทศสามารถบรรเทาอาการอกั เสบ ปวด และเพมิ่ ภูมิตา นทานใหแ กรา งกาย ระงับการเกิดกลุมกอ นเนื้อ ผปู วยบางรายในระหวางรักษามอี าการ บวมนํา้ เลก็ นอย ความดันโลหิตสงู ขึ้น เม่ือลดขนาดยาลงแลว อาการเหลา นจ้ี ะหายไป นอกจากนี้มีรายงาน วาหากรบั ประทานสารสกดั ชะเอมเทศวันละ 15 มิลลิลิตร โดยแบง รับประทานเปน 3 คร้ัง พบวาสามารถ รักษาอาการหลอดเลอื ดดําอุดตันและอักเสบได หลงั รับประทานยาแลว 3 สปั ดาห พบวาอาการสว นใหญ จะหายไป ผิวหนงั สแี ดงสดใสขน้ึ อุน ขน้ึ ขอเทา และขอตาง ๆ เคลือ่ นไหวไดเ ปนปกต1ิ 0,11
Page 109 คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 99 13. มีรายงานวา เม่ือใชสารละลายดางทบั ทิมในน้ําในอัตราสว น 1:4,000 ลางชอ งคลอดของ ผูป ว ยกอ นแลวใชสาํ ลีเช็ดใหแ หง จากนัน้ ใชส ารสกัดชะเอมเทศทาปากมดลูก พบวา ไดผลดใี นผปู วยที่ ปากมดลูกอกั เสบระดับปานกลาง ปกตใิ ชเ วลาในการรกั ษา 2-3 รอบ (แตละรอบทา 5 คร้ัง) ผูปวยจะ หายเปนปกติ ถาอักเสบจากเชอ้ื Trichomonas กต็ องฆา เช้ือใหห มดเชื้อกอ น จงึ มารกั ษาปากมดลกู ท่อี กั เสบ เนา เปอ ยตอไป10,11 14. ผลการรกั ษาผูปวยผวิ หนังอกั เสบจากการสัมผสั จาํ นวน 12 ราย โดยใชสารสกดั ชะเอมเทศ ดวยนาํ้ ความเขมขน 2% ทาบริเวณท่ีเปนใหช นื้ ทกุ 2 ชวั่ โมงตอครงั้ เวลาทายาแตละคร้ังใหทานาน 15-20 นาที เปนเวลา 1-4 วัน อาการบวมแดงหายไป น้ําเหลืองหยุดไหล แผลทีเ่ นา เปอยจะหดเล็กลง และใชครีม ซิงคออกไซดหรือคาลาไมนทาตออกี หลายวัน กจ็ ะหายเปนปกติ หรือใชชะเอมเทศจํานวน 30 กรมั ตมเอา นํา้ ชะลา งแผลวนั ละคร้ัง สามารถรักษาอาการผวิ หนังอกั เสบเปน ผ่ืนคันจากการแพไ ดผลดี นอกจากนม้ี ี รายงานผลการรกั ษาผูปว ยผวิ หนังบริเวณแขนขาแตกเปน ขยุ มากจาํ นวน 17 ราย โดยใชส ารสกดั ชะเอมเทศ ซึ่งเตรยี มโดยใชช ะเอมเทศ 30 กรัม ห่นั เปน แผนบาง ๆ แชใน 75% เอทานอล จํานวน 100 มลิ ลลิ ติ ร ทิง้ ไว 24 ชัว่ โมง กรอง สารสกดั ทีไ่ ดน าํ มาผสมกับกลีเซอรีนและนํ้าจนครบ 100 มิลลิลิตร ใชท าบรเิ วณ ทเ่ี ปนไดผ ลเปนทน่ี า พอใจ10,11 15. มีรายงานวา ผลการรักษาผูป ว ยที่มีอาการเยอื่ ตาอักเสบเปนผื่นแดงจาํ นวน 60 ราย โดยใช สารละลายสารสกดั ชะเอมเทศดวยนา้ํ ความเขม ขน 10-30% ใชห ยอดตาทกุ 1-2 ชัว่ โมงตอครั้ง ตามอาการ ของโรค หยอดตาวนั ละ 3-4 ครั้ง พบวา ผปู ว ยจาํ นวน 56 ราย ที่หายเปน ปกติหลังการรักษา 2-7 วนั และ มผี ปู วยจาํ นวน 2 รายที่หยุดยาเร็วเกินไป ทาํ ใหอาการกลบั มาเปน ใหมอีก นอกจากนยี้ งั มรี ายงานวา ผปู วยทมี่ ีอาการเยอ่ื ตาเปน ผื่นแดงอกั เสบใชย าน้เี ปนเวลา 2-14 วนั อาการปวด แดงจดั และผื่นแดง ๆ คอย ๆ ลดลงและหายเปนปกติ10,11 16. ชะเอมเทศมีพิษนอ ย แตก ารรบั ประทานตอเนอ่ื งเปน เวลานาน จะทําใหความดันโลหิตสูงขึ้น หรือมีอาการบวม7 การศึกษาพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร พบวา ขนาดของสารสกดั เทยี บเทา ผงยาเมอ่ื ฉดี เขา ใตผิวหนังท่ที ําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคา เทา กบั 3.6 กรมั /กโิ ลกรมั 9 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชื่อพรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน ฉบบั แกไ ขเพิม่ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544.
Page 110 100 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 3. เย็นจิตร เตชะดาํ รงสิน. การพฒั นาสมุนไพรแบบบรู ณาการ. กรุงเทพมหานคร : สํานกั งานกจิ การโรงพมิ พ องคการทหารผานศกึ ใน พระบรมราชูปถัมภ, 2550. 4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 5. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of traditional Chinese medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 6. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 7. ชยันต วเิ ชียรสุนทร, แมน มาส ชวลิต, วเิ ชียร จีรวงศ. คําอธิบายตาํ ราพระโอสถพระนารายณ. พิมพครงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : สาํ นักพิมพอมรนิ ทร, 2548. 8. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 9. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 10. Zhou QL, Wang BX. Radix Glycyrrhizae: gan cao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. เย็นจิตร เตชะดํารงสิน. ชะเอมเทศ. วารสารการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 2547; 2 (3): 75-89.
Page 111 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 101 ดอกคาํ ฝอย : Honghua (红花) ดอกคําฝอย หรือ หงฮวา คือ ดอกที่ทําใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Carthamus tinctorius L. วงศ Compositae1 ดอกคาํ ฝอย (Flos Carthami) 0.5 เซนติเมตร ช่ือไทย: ดอกคาํ ฝอย, ดอกคํา (ภาคเหนือ); ดอกคํา (ทั่วไป); ดอกคํายอง (ลําปาง)2 ชื่อจีน: หงฮวา (จีนกลาง), อั่งฮวย (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Safflower1 ช่ือเครื่องยา: Flos Carthami1 การเก็บเกย่ี วและการปฏบิ ัตหิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเก่ียวดอกในชวงเชาตรูที่มีแดดจัดในฤดูรอนเม่ือวงกลีบดอกเร่ิมเปลี่ยนสีจากสีเหลือง 1 เปนสีแดง ตากแดดหรือตากในท่ีรม เกบ็ รกั ษาไวใ นทมี่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี การเตรียมตัวยาพรอมใช: นําวัตถุดิบสมุนไพรที่ได มาคัดแยกเอาสิ่งปนปลอมออก แลวรอนเอาเศษเล็ก ๆ ออก3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ดอกตองละเอียด สีเหลืองแดงสด ไมมีกิ่งกาน คุณสมบัติเหนียวนุม3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ดอกคําฝอย รสเผ็ด อุน มฤี ทธิ์ทาํ ใหเ ลอื ดหมุนเวยี น ทะลวงจงิ ลว่ั แกประจาํ เดอื นไมมา ปวด
Page 112 102 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ประจาํ เดือน ทาํ ใหช ่แี ละเลอื ดหมนุ เวียน ระงบั ปวด และมฤี ทธก์ิ ระจายเลอื ดค่ัง ระงบั ปวด ชวยใหเ ลอื ด หมุนเวียน กระจายเลอื ดค่ัง ลดบวม ระงบั ปวด แกฟกชา้ํ ชํา้ ใน ปวดบวมจากเลอื ดคง่ั เสน เลือดหวั ใจ ตบี เจ็บ ปวด แนนบรเิ วณหัวใจ แกผ ่นื แดง เลอื ดค่ังเนื่องจากภาวะรอ น1 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ดอกคําฝอย รสหวานรอ น สรรพคณุ ขับระดู บํารงุ ประสาท บาํ รุงหัวใจ แกด พี กิ าร ขับเหง่อื ระงบั ประสาท บาํ รุงโลหติ แกต กเลือด แกไ ขใ นเดก็ แกด ีซาน แกไ ขขอ อักเสบ แกห วดั นา้ํ มกู ไหล แก ปวดในรอบเดือน4 ขนาดทใี่ ชและวธิ ีใช: การแพทยแผนจนี ใช 3-9 กรัม ตมเอาน้ําด่ืม1 ขอหา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขางเคยี ง: การแพทยแ ผนจีน หา มใชในสตรมี ีครรภ ในกรณที ่ีเลอื ดออกงา ยควรใชด ว ยความระมัดระวงั 1 ขอมูลวิชาการที่เกย่ี วขอ ง: 1. เมือ่ ใหสารสกัดแอลกอฮอลท างกระเพาะอาหารหนถู บี จกั รขนาด 500 มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรมั พบวา สารสกดั ดังกลา วแสดงฤทธิแ์ กปวดและลดไข แตเมือ่ ใหสารสกดั นํา้ ทางหลอดเลือดดาํ หนูถีบจักรในขนาด 10 กรัม/กโิ ลกรมั พบวาไมแสดงฤทธแ์ิ กปวด5 2. เม่ือใหสารสกัด 50% เมทานอลทางกระเพาะอาหารหนูถีบจักรในขนาด 30 มิลลิกรัม/ กโิ ลกรัม พบวาสารสกดั ดงั กลาวแสดงฤทธติ์ านการอักเสบ5 3. สารสกดั แอลกอฮอลแ สดงฤทธ์ิขยายหลอดเลอื ดหวั ใจในหนตู ะเภาและกระตา ย และสารสกดั นํา้ เม่อื ใหทางชองทองหนถู ีบจักรในขนาด 30 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั พบวา สามารถลดการรวมตัวของเกลด็ เลือด และปอ งกนั การสรางลม่ิ เลอื ดขึน้ มาใหมไ ด5 4. สารสกัดแอลกอฮอลแ สดงฤทธ์ยิ บั ย้ังการเจรญิ เติบโตของเชื้อ Staphylococcus aureus, Bacillus subtilis, Candida albicans และ Salmonella typhosa ในหลอดทดลอง แตไ มม ผี ลตอเช้อื Escherichia coli และ Shigella dysenteriae5 5. จากการศึกษาพษิ เฉยี บพลันในหนูถีบจักรของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจากดอกคําฝอย พบวา คา LD50 มีคามากกวา 10 กรมั /กิโลกรมั เม่อื ใหโดยการปอ นหรือฉีดเขาใตผวิ หนงั 6
Page 113 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จีน 103 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวีคณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน ฉบบั แกไขเพ่ิมเตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภีรเ ภสัชรตั นโกสินทร. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ศิลปส ยามบรรจภุ ัณฑและการพิมพ จํากัด, 2547. 5. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 3. Geneva: World Health Organization, 2002. 6. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวัสดีมงคล, ประยทุ ธ สาตราวาหะ. การศกึ ษาพษิ ของสมุนไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, ทรงพล ชีวะพัฒน, เอมมนัส อตั ตวชิ ญ (คณะบรรณาธิการ). ประมวลผลงานวิจัยดา นพิษวิทยาของสถาบันวิจัยสมุนไพร เลม 1. พิมพค ร้ังท่ี 1. กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2546.
Page 114 104 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก ดบี วั : Lianzixin (莲子心) ดบี วั หรือ เหลยี นจือ่ ซิน คือ ครรภะ (ยอดออนแรกเกดิ ) ของเมล็ดท่ีแกจ ดั ท่ที ําใหแหงของพืชที่มี ช่อื วิทยาศาสตรวา Nelumbo nucifera Gaertn. วงศ Nymphaeaceae1 0.5 เซนตเิ มตร ดีบัว (Plumula Nelumbinis) ชื่อไทย: ดีบัว (ท่ัวไป)2 ชื่อจีน: เหลยี นจ่ือซนิ (จีนกลาง), ไหนจซี้ มิ (จนี แตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Lotus Plumule1 ช่ือเครื่องยา: Plumula Nelumbinis1 การเกบ็ เก่ยี วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บฝกแกนาํ มารวมบนลาน แลวใชไมทุบใหลูกบัวแกรวงหลุดจากฝก เอาดีบัวออกจากลูก บัว นําไปตากแดดใหแหง หรือผ่ึงใหแหงในที่รม เกบ็ รักษาไวใ นท่มี อี ากาศเย็นและแหง มีการระบาย อากาศดี1,3 การเตรียมตัวยาพรอมใช: นําวัตถุดิบสมุนไพรท่ีได มาคัดแยกเอาส่ิงปนปลอมออก แลวรอนเอาเศษเล็ก ๆ ออก3,4 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี ตองมีขนาดใหญ สีเขียว ตองไมผ า นการตมมากอน รสขมจัด3,4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ดบี ัว รสขมเล็กนอย เย็น มสี รรพคุณแกอ าการหงดุ หงดิ นอนไมห ลบั การติดเชอื้ ในชอ งปาก ชว ยลดความดันโลหติ บาํ รุงสายตา บาํ รงุ หัวใจ ปอด ไต และแกน ้ํากามเคลอ่ื นขณะหลบั 3,5
Page 115 คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จนี 105 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: ดบี ัว รสขม มฤี ทธ์ิขยายหลอดเลอื ดทไ่ี ปเลี้ยงหวั ใจสาํ หรับผทู ่ีเปน โรคหัวใจ หลอดเลือดตบี แก กระหายนา้ํ แกน ้าํ กามเคลอ่ื นขณะหลับ2,6 ขนาดท่ีใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 2-5 กรัม ตมเอานํ้าด่ืม1 ขอมูลวิชาการที่เกี่ยวของ: 1. สารสกดั น้ําและสารสกัดแอลกอฮอลจากดีบวั ทําใหอัตราการเตนและแรงบีบตวั ของหวั ใจหนู ตะเภาเพ่ิมขนึ้ 7 สาร methylcorypalline ในดบี วั มฤี ทธิ์ขยายหลอดเลอื ดทไ่ี ปเลย้ี งหัวใจ ซึ่งนบั วา เปน ประโยชนม ากตอคนที่เปนโรคหัวใจขาดเลอื ดเนื่องจากหลอดเลอื ดตบี ตัน8 2. สารสกดั แอลคาลอยด (liensinine) จากดีบวั มีผลลด LVP และ SAP ในหนูขาวเหมอื น verapamil และลดการบีบตวั ของหวั ใจของกระตาย นอกจากนี้ neferine ซึง่ เปนสารประเภทแอลคาลอยด ในดีบัวสามารถยบั ย้งั การเกดิ transmembrane potential ยบั ยั้งการหดตวั ของกลามเนอ้ื และลด amplitude ของ action potential ของ capillary muscle ในหนูตะเภา เนอื่ งจากยบั ยั้ง Na+, Ca++, K+ current ของ myocardium รวมท้ังสามารถยบั ย้ังการเกาะกลมุ ของเกลด็ เลอื ด โดยมีผลยบั ย้งั การเกดิ TXA2 จาก arachidonic acid7 3. เมอ่ื ปอ นดีบวั ขนาด 20 มิลลกิ รมั /ตัว/วนั แกห นูถีบจักรเปนเวลา 3 สปั ดาห จากนั้นเหน่ยี วนาํ ใหหนูเกดิ การอกั เสบดว ยการฉดี lipopolysaccharide ขนาด 10 มลิ ลิกรัม/กโิ ลกรัม เขา ทางชองทอ งหนู พบวา ดบี วั มผี ลลดการอกั เสบได โดยลดระดบั ของ tumor necrosis factor-α (TNF-α) และเพิ่ม ระดับของ interleukin-109 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ชยันต วเิ ชยี รสุนทร, แมนมาส ชวลิต, วิเชียร จีรวงศ. คําอธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พิมพครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : สาํ นักพิมพอมรนิ ทร, 2548. 3. กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . สมุนไพรไทย-จีน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพการศาสนา, 2547. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. บริษทั หลกั ทรัพยจัดการกองทุน กสิกรไทย จํากดั . มหศั จรรยสมุนไพรจนี . กรุงเทพมหานคร : บริษทั ซีเอด็ ยเู คชัน่ จาํ กัด มหาชน, 2550. 6. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภีรเ ภสัชรตั นโกสนิ ทร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จํากัด, 2547. 7. บพิตร กลางกัลยา, นงลักษณ สขุ วาณชิ ยศิลป. รายงานผลการศกึ ษาโครงการการประเมินประสิทธภิ าพและความปลอดภยั ของยา จากสมนุ ไพร. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท เอส อาร พร้นิ ตงิ้ แมสโปรดกั ส จาํ กัด, 2544. 8. ลดั ดาวลั ย บุญรตั นกรกิจ. สมนุ ไพรนา ใช. พมิ พค ร้งั ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ แทนทองปร้นิ ต้ิงเซอรว สิ , 2535. 9. วสิ ุดา สุวิทยาวัญน (บรรณาธิการ). จุลสารขอ มูลสมุนไพร. 2551; 25(2): 2.
Page 116 106 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ดีปล:ี Bibo (荜茇) ดีปลี หรือ ปปอ คือ ผลใกลสุกหรือผลสุกที่ทาํ ใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Piper longum L. วงศ Piperaceae1 1 เซนติเมตร ดีปลี (Fructus Piperis Longi) ชื่อไทย: ดีปลี, พริกหาง (ภาคกลาง)2 ชื่อจีน: ปป อ (จีนกลาง), ปก หวก (จนี แตจ ว๋ิ )1 ชื่ออังกฤษ: Long Pepper1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Piperis Longi1 การเกบ็ เกยี่ วและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเกบ็ เก่ียว: เกบ็ เกี่ยวผลใกลส กุ หรือผลสกุ เมื่อกานผลเรมิ่ เปลี่ยนจากสีเขยี วเปนสีดํา แยกเอาสิง่ ที่ปะปนออก ตากแดดใหแ หง เก็บรักษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศดี1 การเตรียมตวั ยาพรอมใช: หลังเก็บเกี่ยวสมนุ ไพรแลว แยกเอากานผลและส่ิงอน่ื ทป่ี ะปนออก ทบุ ใหแตกกอนใช1 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทีม่ คี ณุ ภาพดี ผลตอ งอวบใหญ มเี น้ือมาก แข็งและเหนียว สนี ํา้ ตาลดํา กล่นิ หอมฉุน3 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: ผลดีปลี รสเผด็ รอ น มีฤทธ์ิขับความเยน็ ออกจากมามและกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการเจบ็ หนา อก แกอ าเจียนและทอ งเสยี อันเนือ่ งจากความเยน็ และมฤี ทธิร์ ะงับปวด แกไ มเกรน ใชภายนอกแก
Page 117 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 107 ปวดฟน 1 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนไทย: ผลดปี ลี รสเผด็ รอน ขม มีสรรพคุณบํารงุ ธาตุ ขบั ลม แกทองอดื ทอ งเฟอ ธาตุพิการ ขบั เสมหะ แกห ืด แกหลอดลมอักเสบ แกโ รคนอนไมห ลบั แกโ รคลมบา หมู เปนยาขับน้าํ ดี เปนยาขบั ระดแู ละทาํ ให แทงลกู เปน ยาขับพยาธิในทอง ใชป รุงเปน ยาภายนอกสาํ หรับบรรเทาอาการปวดทีก่ ลามเน้ือ ทาํ ใหรอ น แดง และมีเลือดมาเลีย้ งท่ีบริเวณนั้นมากข้ึน แกอ กั เสบ4,5 ขนาดท่ีใชแ ละวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 1.5-3 กรมั 1 ตม เอานา้ํ ดื่ม การแพทยแผนไทย ใชดปี ลี 1-2 ผลฝนกับนา้ํ มะนาวและแทรกเกลอื 1-2 เม็ด ใชร บั ประทาน หรอื ใชก วาดคอชว ยขับเสมหะ4 ขอหา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคยี ง: ผลดปี ลสี กดั ดวยปโ ตรเลียมอเี ทอรใ หสตั วก ิน ทําใหสตั วทดลองแทง จึงควรระวังการใชใ นสตรี 4 มีครรภ ขอมูลวชิ าการท่ีเกี่ยวขอ ง: 1. เมื่อฉีดสารสกัดแอลกอฮอลเขาทางชองทองของหนูถีบจักรในขนาดเทียบเทาผงยา 17.8 กรัม/กิโลกรัม ชว ยใหการไหลเวยี นของเลือดไปเลยี้ งหวั ใจเพ่ิมขนึ้ 6 2. นํ้ามันดีปลีมีฤทธิต์ า นเชือ้ Escherichia coli, Shigella dysenteriae และ Staphylococcus aureus และสาร sesamine ในผลดีปลมี ฤี ทธต์ิ า นเช้อื Mycobacterium tuberculosis 6 และเชอ้ื ไขห วดั 3. เม่อื ใหสารสกดั แอลกอฮอลท างปากหนูขาวในขนาด 0.25 กรมั /กโิ ลกรมั สามารถตานการ อกั เสบในหนทู ีท่ ําใหกระเพาะอาหารเปน แผลดวยแอลกอฮอลบ รสิ ุทธ์ิ หรอื แอสไพริน หรือ นา้ํ สมสายชู ไดผลด6ี 4. จากการศกึ ษาพษิ เฉียบพลนั ของนํ้ามันดีปลีชนิด unsaponification ในหนถู บี จกั ร พบวาคา LD50 เทากับ 49.73 มิลลิกรมั /กิโลกรมั เม่ือใหโดยการปอน และเม่อื ใหต ดิ ตอกนั นาน 9 เดือน ไมพบ ความผิดปกตใิ ด ๆ นอกจากนี้เมือ่ ปอ นสารสกดั แอลกอฮอลในหนูถีบจกั ร พบวาคา LD50 เทา กับ 4.97 กรัม/กิโลกรมั 6
Page 118 108 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่ือพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน ฉบบั แกไ ขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. พเยาว เหมอื นวงษญ าต.ิ สมุนไพรกา วใหม. พิมพครัง้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ท.ี พ.ี พร้ิน จาํ กดั , 2537. 5. ชยนั ต วิเชียรสนุ ทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คาํ อธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : สาํ นักพมิ พอมรินทร, 2548. 6. Qu SY. Fructus Piperis Longi: bi bo. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 119 คมู ือการใชสมุนไพรไทย-จีน 109 ตนพมิ เสน : Huoxiang (藿香) ตนพิมเสน หรือ ฮั่วเซยี ง คอื สว นเหนอื ดินทท่ี ําใหแ หง ของพชื ท่มี ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Pogostemon cablin (Blanco) Benth. วงศ Labiatae1 2 เซนตเิ มตร ตน พิมเสน (Herba Pogostemonis) ชื่อไทย: ตนพิมเสน2 ช่ือจีน: ฮั่วเซียง (จีนกลาง), คักเฮีย (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Cablin Patchouli Herb1 ชื่อเครื่องยา: Herba Pogostemonis1 การเกบ็ เกีย่ วและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เกีย่ วสวนเหนือดนิ ในระยะที่พชื เจริญเติบโตเต็มท่ี ตากแดดใหแหง เก็บรักษาไวในท่ีมีอากาศ เย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลงั เกบ็ เก่ียวสมุนไพรแลว แยกเอารากและสงิ่ อ่นื ที่ปะปนออก เก็บเฉพาะสวนใบ แรงเอาฝุน ออก สวนลําตน นาํ มาลา งนาํ้ ใหสะอาด ใสภ าชนะปดฝาไวเพอ่ื ใหอ อ นนุม หั่นเปนทอน ๆ ตากใหแหง แลว นํามาผสมกบั ใบ1 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ก่ิงและลําตนมีสีเขียว ปริมาณใบมาก ไมมีสวนของรากปนปลอม กลิ่น หอมฉุน3
Page 120 110 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ตน พมิ เสน รสเผด็ อนุ มฤี ทธิส์ ลายความชื้น แกค วามชืน้ จงเจยี ว อาเจียน จกุ เสยี ด แนน อดึ อดั ทีล่ ้นิ ป เบอื่ อาหาร มฤี ทธค์ิ ลายความรอน แกร อนใน แกไขแ ละไขห วัดจากความรอ นชืน้ ทานอาหาร ผดิ สาํ แดง เกดิ อาการไขหรอื จกุ เสยี ด อาเจียนหรอื ทอ งรวง และมฤี ทธร์ิ ะงับอาเจยี น แกอาเจียน1 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนไทย: ตนพิมเสน มกี ล่นิ หอมเย็น ฉุน เปนเครื่องยาชนดิ หน่งึ ในยาหอมแกลม ยาเย็นสาํ หรบั ดับรอ น ถอนพิษไขแ ละยาเขยี ว ใบสดใชต ม นํ้าดม่ื แกปวดประจําเดือน เปนยาขับประจาํ เดือน ยาชงจากยอดแหง และรากแหง (1:10) 4 ดื่มเปน ยาขบั ปส สาวะและขับลม ขนาดท่ีใชและวธิ ใี ช: การแพทยแผนจีน ใช 3-9 กรัม ตมเอานํ้าดมื่ 1 ขอมูลวชิ าการท่ีเก่ียวของ: 1. สารสกดั แอลกอฮอลค วามเขม ขน 1-5% และสารสกัดนาํ้ ความเขมขน 3-12% มีฤทธ์ิตา น 5 เชื้อราท่เี ปน สาเหตุของโรคผวิ หนงั หลายชนิดในหลอดทดลอง สารสกดั นํา้ มีฤทธล์ิ ดอาการเกรง็ ของกลา มเน้อื เรียบของลําไสกระตาย ตานอาเจียนในนกพิราบ ระงับปวดและชวยใหการทํางานของระบบกระเพาะ อาหารและลาํ ไสข องหนูถีบจกั รดขี ึน้ 6 2. ตนพมิ เสนมีสรรพคุณแกปวดทองและทอ งเสยี อันเนื่องจากการตดิ เชื้อ6 3. เม่ือใหสารสกัดนา้ํ ทางปากของหนูถบี จกั รในขนาดเทียบเทาผงยา 14.58 กรมั /กโิ ลกรมั วันละ 2 คร้งั พบวาภายใน 7 วนั หนูถีบจักรทุกตัวมกี ารเคลื่อนไหวเปน ปกติ 6 และไมพบหนูถบี จักรตวั ใดตาย เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชื่อพรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน ฉบับแกไ ขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 4. ชยนั ต วเิ ชยี รสุนทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จีรวงศ. คําอธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : สํานกั พิมพอมรนิ ทร, 2548. 5. Institute of Medicinal Plant Development and Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. IV. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1988. 6. Wang Y, Wang BX. Herba Pogostemonis (agastaches): huo xiang. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 121 คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จนี 111 ตนสะระแหน : Bohe (薄荷) ตนสะระแหน หรือ ปอ เหอ คอื สว นเหนอื ดินท่ีทาํ ใหแ หงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Mentha haplocalyx Briq. วงศ Labiatae1 2 เซนติเมตร ตนสะระแหน (Herba Menthae) ชื่อไทย: ตนสะระแหน2 ช่ือจีน: ปอเหอ (จีนกลาง), เปาะหอ (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Peppermint1 ช่ือเครื่องยา: Herba Menthae1 การเกบ็ เกย่ี วและการปฏิบตั หิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกย่ี วสวนเหนอื ดินในฤดูรอนและฤดใู บไมผลิเม่อื ใบเจรญิ เติบโตเต็มที่ หรือในชว งทอี่ อก ดอกในรุนท่สี าม เกบ็ ในวนั ท่ีอากาศดี เกบ็ ไดหลายคร้งั ตากใหแ หงหรือทําใหแหง ในท่ีรม เก็บรกั ษาไวใ น ท่มี ีอากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศดี1 การเตรยี มตัวยาพรอมใช: หลงั เก็บเกีย่ วสมุนไพรแลว แยกลาํ ตน แกแ ละสง่ิ อนื่ ท่ปี ะปนออก พรมน้าํ ปรมิ าณพอเหมาะ ใส ภาชนะปด ฝาไวเ พ่ือใหออ นนุม หั่นเปนทอน ๆ และนาํ ไปทําใหแ หงที่อณุ หภูมิหอง1 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ตอ งมีปริมาณใบมาก สเี ขยี วเขม มกี ลน่ิ รสเผ็ดและเยน็ มาก3
Page 122 112 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน: ตน สะระแหน รสเผด็ เยน็ มฤี ทธชิ์ ว ยใหผอ นคลาย กระจายลมรอ น แกห วดั จากการกระทบลม รอ น โรคท่มี ีไขส ูงในระยะแรก มีฤทธริ์ ะบายความรอ นใหศ รี ษะและทาํ ใหตาสวา ง แกปวดศรี ษะ ตาแดง เจบ็ คอ คอบวม มฤี ทธกิ์ ระทงุ และขับหัด อสี กุ อใี ส สรรพคุณชวยกระทุงหัด อีสกุ อีใส แกล มพิษ ผดผื่น คนั และมีฤทธิ์ชว ยผอนคลายอาการตบั และอาการเครยี ด แกอ าการเครียดแลวทาํ ใหช่ีไมหมุนเวยี น อึดอัด บรเิ วณหนา อก เจ็บบริเวณชายโครง1 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ตน สะระแหน รสหอมรอน สรรพคณุ ขับเหง่อื แกห ดื แกปวดทอง ขับลมในกระเพาะลําไส แก จุกเสยี ดแนน เฟอ แกอ าการเกรง็ ของกลามเนื้อ พอกหรอื ทา แกผ ่ืนคัน แกปวดบวม2 ขนาดที่ใชและวธิ ใี ช: การแพทยแผนจีน ใช 3-6 กรัม ตมเอาน้าํ ดมื่ 1 ขอมูลวิชาการที่เกีย่ วขอ ง: 1. สารสกดั นา้ํ มฤี ทธ์ติ านเช้อื ไวรสั ในกระตายและมฤี ทธติ์ านเชื้อแบคทเี รยี ในหลอดทดลอง นาํ้ มนั หอมระเหยมฤี ทธขิ์ บั เสมหะและตา นอักเสบในกระตาย โดยท่วั ไปใบสะระแหนม ักไมใชเ ด่ียว สว นใหญจะ ใชเ ปนสวนประกอบในตํารับยารกั ษาอาการไขหวัด คออกั เสบ และโรคผวิ หนัง4 2. สาร menthol จากใบสะระแหนมีฤทธ์ขิ ับเสมหะ และใชภ ายนอกเปน ยาระงับปวด แกค ัน5 3. มีรายงานการศึกษาพิษเฉยี บพลนั ในหนถู ีบจักรและหนูขาวโดยการฉดี เมนทอล (จากธรรมชาติ) เขา ใตผิวหนงั พบวาขนาดของเมนทอลที่ทาํ ใหสัตวท ดลองตายรอยละ 50 (LD50) มีคา มากกวา 5 และ 0.1 กรัม/กโิ ลกรมั ตามลําดับ และเมื่อใหเมนทอลทางปากและฉดี เขา ชองทอ งแมว พบวา LD50 มีคาเฉล่ีย มากกวา 0.9 กรมั /กโิ ลกรมั 4 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. วุฒิ วฒุ ธิ รรมเวช. คัมภีรเภสัชรตั นโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ศิลปสยามบรรจุภัณฑและการพิมพ จาํ กดั , 2547. 3. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 4. Du XM. Herba Menthae: bo he. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 5. Institute of Medicinal Plant Development and Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. IV. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1988.
Page 123 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จีน 113 บว ยดาํ : Wumei (乌梅) บวยดํา หรือ อูเหมย คือ ผลใกลส กุ ท่ีทาํ ใหแหง ของพชื ท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Prunus mume (Sieb.) Sieb. et Zucc. วงศ Rosaceae1 บวยดํา (Fructus Mume) 2 เซนติเมตร ช่ือไทย: บวยดํา, บวย (ภาคกลาง)2 ช่ือจีน: อูเหมย (จีนกลาง), โอวบวย (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Smoked Plum1 ช่ือเครื่องยา: Fructus Mume1 การเกบ็ เกยี่ วและการปฏิบัตหิ ลังการเกบ็ เก่ียว: เก็บเก่ียวผลใกลสุกในฤดูรอน ผิงไฟท่ีอุณหภูมิต่ํา ๆ จนกระทั่งเปล่ียนเปนสีดํา เกบ็ รักษาไว ในทม่ี ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตัวยาพรอ มใชม ี 4 วธิ ี ดงั น้ี วธิ ีที่ 1 บวยดาํ เตรยี มโดยนาํ วตั ถุดบิ สมนุ ไพรมาแยกสงิ่ อ่ืนที่ปะปนออก ลางน้าํ ใหสะอาด และ นาํ ไปตากแหง1,3 วิธที ี่ 2 เนอื้ บวยดาํ เตรยี มโดยนาํ ตวั ยาท่ไี ดจ ากวธิ ีท่ี 1 มาลา งนํ้าอยางรวดเรว็ ใหส ะอาด ใสภาชนะ ปดฝาไวห รอื นําไปน่งึ สกั ครเู พ่อื ใหอ อ นนมุ แยกเอาเฉพาะสว นเนอ้ื นาํ ไปตากแหง แลว รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3
Page 124 114 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก วิธีที่ 3 บว ยดําเผา เตรยี มโดยนําตัวยาทีไ่ ดจ ากวธิ ีท่ี 1 หรือ 2 ใสก ระทะ นําไปผดั โดยใชไฟแรง ผดั จนกระท่ังผิวนอกโปงพองและมีสีดาํ เกรียม นําออกจากเตา ตง้ั ทิง้ ไวใ หเย็น แลว รอนเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3 วิธีท่ี 4 บว ยดําหมกั น้าํ สม เตรยี มโดยนาํ ตัวยาทีไ่ ดจ ากวธิ ที ี่ 1 หรือ 2 มาหมักกับนํา้ สม (ที่ได จากการหมักกลน่ั ขา ว) ในภาชนะท่ีมีฝาปด จนกระท่งั น้ําสมแทรกซมึ เขาไปในเนือ้ ตวั ยา จากนนั้ นาํ ไปให ความรอ นโดยใชน้ําเปน ตัวกลาง (คลา ยวิธตี ุน) ประมาณ 2-4 ชัว่ โมง แลว นําออกมาตากแหง (โดยทั่วไป ใชน ้ําสม 10 กิโลกรมั ตอบว ยดาํ หรือเนื้อบวยดาํ 100 กิโลกรมั )1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: 4 ตัวยาที่มคี ุณภาพดี ผลตองมีขนาดใหญ เนื้อหนา สีดํา เหนียวนมุ สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: บว ยดาํ รสเปรย้ี ว ฝาด สุขุม มีฤทธใ์ิ หความชุมชืน้ ปอด ระงบั ไอ แกไอแหง ไอเรอ้ื รัง มฤี ทธิ์ สมานลําไส ระงบั อาการทองรว ง แกท องรวงเรื้อรงั บิดเรอ้ื รัง มีฤทธ์ิฆาพยาธิ แกพยาธิ และมฤี ทธเิ์ สรมิ ธาตุนํา้ แกรอ นแบบพรอง รอ นใน กระหายน้าํ 1 3 เนอ้ื บว ยดํา มีสรรพคุณและวธิ ใี ชเ หมอื นบว ยดํา แตมีฤทธิแ์ รงกวา เนือ่ งจากปราศจากเมล็ด บว ยดําเผา มฤี ทธสิ์ มานลําไส ระงับอาการทอ งรวง และหา มเลือดไดด ี โดยทว่ั ไปใชรกั ษาอาการ ทองรว งเรื้อรงั และมเี ลือดปน3 บว ยดาํ หมักนาํ้ สม มีวิธีใชเ หมือนบว ยดาํ แตมีฤทธิ์ฝาดสมานแรงขึน้ โดยท่ัวไปใชร กั ษาอาการ ไอเร้อื รังเน่ืองจากชีข่ องปอดไมเพยี งพอ และอาการปวดทอ งเนื่องจากพยาธิไสเดือน3 ขนาดท่ใี ชแ ละวิธีใช: การแพทยแ ผนจนี ใช 6-12 กรมั ตม เอานํา้ ด่ืม1 ขอ หามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง: การแพทยแ ผนจนี ควรระมดั ระวงั ในการใชในผูปว ยมไี ข รอนแกรง 1 ขอ มลู วชิ าการทเี่ กยี่ วของ: 1. ผลบวยดาํ มฤี ทธเิ์ สรมิ ภมู ิตา นทานในหนูถีบจักร สารสกดั นา้ํ มฤี ทธฆิ์ า และขับพยาธิไสเ ดือน ในสุนัข เพ่ิมการหล่งั นํา้ ดี และปอ งกนั หรอื ลดการติดเชอ้ื ในทอนํา้ ดี สารสกัดน้าํ มฤี ทธิ์แกแพในหนถู ีบ จกั ร สารสกดั น้ําสว นที่ตกตะกอนดว ยเอทานอลมฤี ทธต์ิ านเช้ือจุลนิ ทรียในหลอดทดลอง5,6 2. ผลบว ยดาํ มสี รรพคณุ ฆา พยาธิไสเ ดือนและพยาธิปากขอ แกป วดทอ ง บรรเทาอาการกระเพาะ อาหารอักเสบ ถุงน้าํ ดอี กั เสบชนิดเร้ือรงั และลําไสเ ปน แผลอักเสบ5
Page 125 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จนี 115 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบบั แกไ ขเพ่มิ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. Ran MX, Xie BZ. Fructus Mume: wu mei. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 6. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
Page 126 116 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ใบมะขามแขก : Fanxieye (番泻叶) ใบมะขามแขก หรือ ฟานเซี่ยเยี่ย คือ ใบยอยท่ีทําใหแหงของพชื ทมี่ ชี ่อื วิทยาศาสตรว า Cassia angustifolia Vahl หรือ C. acutifolia Delile วงศ Leguminosae-Caesalpinioideae1 2 เซนติเมตร ใบมะขามแขก (Folium Sennae) ชื่อไทย: ใบมะขามแขก (ทั่วไป)2 ช่ือจีน: ฟานเซ่ียเย่ีย (จีนกลาง), ฮวงเซี่ยเฮียะ (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Senna Leaf1 ชื่อเคร่ืองยา: Folium Sennae1 การเกบ็ เกยี่ วและการปฏิบัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวใบในชวงกอนออกดอก ลางนํ้าใหสะอาด ตากแดดสักครูเพื่อปองกันไมใหแผนใบ เปลยี่ นเปน สเี หลอื ง ตากใหแ หง ในท่ีรมหรอื ท่อี ณุ หภูมิต่าํ เก็บรักษาไวใ นทมี่ ีอากาศเย็นและแหง ทึบแสง มี การระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลังเกบ็ เกีย่ วสมนุ ไพรแลว แยกสงิ่ อื่นทีป่ ะปนออก ลางนาํ้ ใหส ะอาด และนาํ ไปทาํ ใหแหง1 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทม่ี คี ุณภาพดี ตองเปนใบท่ีสมบูรณแ ละแหง รปู หอก แผน ใบใหญ กา นใบเลก็ ปราศจากสิ่ง ปนปลอม3
Page 127 คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จนี 117 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ใบ รสขมเล็กนอย มีฤทธ์ิขับความรอน ชวยใหถายและขับปสสาวะ สรรพคุณรักษาอาการ ทองผูกและปวดหลัง ลดอาการบวมนํ้า1 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: ใบ รสเปร้ียว หวานชุม ใชเปนยาถายที่ดี รักษาอาการทองผูก4 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแ ผนจนี ใช 2-6 กรัม1 ตม เอานํา้ ดื่ม (ถาตมกับยาอ่ืนควรใสท ีหลงั ) หรอื แชใ นนา้ํ เดอื ด1 การแพทยแผนไทย ใช 3-10 กรัม ตมเอาน้ําด่ืม 4 หรือใชวิธีบดเปนผงชงนาํ้ รอนด่ืม ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง: การแพทยแผนจีน สตรีมีครรภควรระมัดระวังในการใช1 การแพทยแผนไทย สตรีมีครรภหรือมีประจําเดือนหามรับประทาน4 ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ: 1. สารประกอบทางเคมที ีส่ าํ คัญในใบ คือแอนทราควิโนน ซ่ึงประกอบดว ยสาร sennoside A, B, C และ D, emodin, rhein เปนตน มะขามแขกเปน ยาถา ยทมี่ ีประวัตนิ านเกือบ 100 ป สารแอนทรา ควิโนนมฤี ทธ์ิกระตนุ การบบี ตวั ของลาํ ไสใ หญท าํ ใหถา ยทอ งได และมรี ายงานวา การใชม ะขามแขกนาน ๆ จะทาํ ใหเ กดิ อาการขาดโพแทสเซยี มได ถา จาํ เปน ตองใชต ิดตอ กนั เปนเวลานาน ควรรบั ประทานโพแทสเซียม ดว ย4 สาร sennoside A และ B ในใบมะขามแขก มีฤทธ์ชิ ว ยเพิม่ การเคล่ือนตัวของลําไส และถกู เปล่ยี นโดยแบคทีเรียบริเวณลาํ ไสใ หญเ ปนสารสาํ คัญ rhein-anthrone กลไกการออกฤทธขิ์ องสารสําคัญ มี 2 ทาง คือ เพิ่มการเคล่อื นตัวของลําไส และเพิม่ ปรมิ าณของเหลวในลาํ ไส5 2. มรี ายงานวาการทดสอบฤทธ์ิกอ มะเร็งของมะขามแขกในหนขู าวเพศผู พบวา ในหนกู ลมุ ท่ี ไดร บั มะขามแขกผสมในอาหารหนใู นขนาดสงู 0.2% ทาํ ใหหนูตาย 50% ใน 15 วนั แรกเนอื่ งจาก ทองเสยี และจากการศกึ ษาไมพ บ ACF (aberrant crypt foci) ในกลุมท่ีไดร บั มะขามแขกอยางเดียว แตพ บวาบริเวณ mucosal epithelium มลี ักษณะเปน darker staining เม่อื ให DMF เหนี่ยวนาํ รว มกับใหมะขามแขกพบวา total ACF หรือจํานวนเฉลีย่ ของ ACF ขนาดใหญไ มเ พิ่มขน้ึ แตพบวา มะขามแขกในขนาดสูง 0.2% และ 1,8 HA จะพบจํานวนของ cryp ตอ focus เพ่ิมขึ้นอยางมีนัยสําคัญ6 3. จากการทดสอบฤทธติ์ อ เช้อื แบคทีเรียของสารสกัดนํ้า สารสกดั แอลกอฮอล และสารสกัด เฮกเซนที่เตรียมโดยวิธีหมักนาน 72 ช่ัวโมง พบวาสารสกัดนาํ้ และสารสกัดเฮกเซนไมมีฤทธ์ิยับย้ังเช้ือ
Page 128 118 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก แบคทีเรีย แตสารสกัดแอลกอฮอลใหผลปานกลางตอแบคทีเรีย Bacillus subtilis และ Salmonella typhimurium (ความกวางของเสนผาศนู ยกลางทย่ี ับยง้ั การเจรญิ ของเชื้ออยใู นชวง 10-19 มิลลเิ มตร)6 4. มะขามแขกใชเปน ยาระบายโดยกนิ กอนนอน ชวงเวลาที่ยาออกฤทธิป์ ระมาณ 8-10 ช่ัวโมง ยาจะทําใหอุจจาระมีมวลมากขึ้น และลกั ษณะอจุ จาระจะนม่ิ ข้ึน มีการใชมะขามแขกในคนไขหลังผา ตดั ควานตอมลกู หมาก พบวามะขามแขกชว ยใหถา ยอจุ จาระในลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคด กี วาการใช Milk of Magnesia นอกจากนี้แคลเซยี มเซนโนไซด ซึ่งเปนสารสกัดจากใบมะขามแขกชว ยใหผปู ว ยสูงอายุหลัง การผา ตดั ถายอจุ จาระไดคลอ งขึ้น5 5. การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลันของ sennosides บริสทุ ธิ์ และสารสกัด sennosides (ในรปู ของ เกลือแคลเซยี ม) ในหนถู ีบจักร พบวา LD50 ของ sennosides บรสิ ุทธิ์ เม่ือใหทางปากมคี ามากกวา 5 กรมั /กโิ ลกรัม และเมอื่ ใหทางเสนเลอื ดดํา มคี าเทา กบั 4.1 กรัม/กิโลกรัม สําหรับสารสกดั sennosides (ในรูปของเกลือแคลเซียม) เมอ่ื ใหท างปากจะมีคา LD50 มากกวา 5 กรมั /กิโลกรัม5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่ือพรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน ฉบับแกไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. กันทิมา สิทธธิ ัญกิจ, พรทิพย เตมิ วิเศษ (คณะบรรณาธกิ าร). คูมอื ประชาชนในการดูแลสุขภาพดวยการแพทยแผนไทย. พมิ พครง้ั ที่ 2 กรงุ เทพมหานคร : สาํ นักงานกิจการโรงพิมพองคก ารทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547. 5. กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . เอกสารวชิ าการสมุนไพร. นนทบุรี : สถาบนั วจิ ัยสมนุ ไพร, 2543. 6. บพติ ร กลางกัลยา, นงลักษณ สขุ วาณชิ ยศลิ ป. รายงานผลการศึกษาโครงการการประเมนิ ประสิทธภิ าพและความปลอดภัยของยา จากสมุนไพร. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท เอส อาร พริน้ ตงิ้ แมสโปรดักส จํากัด, 2544.
Page 129 คมู ือการใชสมนุ ไพรไทย-จีน 119 ใบหมอ น : Sangye (桑叶) ใบหมอน หรอื ซงั เยย่ี คอื ใบแหง ของพชื ทมี่ ชี ่อื วทิ ยาศาสตรว า Morus alba L. วงศ Moraceae1 2 เซนตเิ มตร ใบหมอน (Folium Mori) ช่ือไทย: ใบหมอน (ทั่วไป)2 ชื่อจีน: ซงั เยยี่ (จีนกลาง), ซงึ เฮียะ (จนี แตจ วิ๋ )1 ช่ืออังกฤษ: Mulberry Leaf1 ชื่อเคร่ืองยา: Folium Mori1 การเก็บเกยี่ วและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกี่ยวใบในฤดหู นาว แยกเอาแขนงและส่ิงทป่ี ะปนออก ตากแดดใหแ หง เกบ็ รกั ษาไวในทมี่ ี อากาศเยน็ และแหง มีการระบายอากาศด1ี การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตวั ยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดังนี้ วิธีท่ี 1 ใบหมอ น เตรียมโดยนําวตั ถุดบิ สมุนไพรที่ได แยกสงิ่ ปนปลอมออก ใชมอื ถูเบา ๆ แลว แยกเอากา นใบออก1,3 วธิ ที ี่ 2 ใบหมอนผัดนํ้าผึ้ง เตรียมโดยนํานํ้าผึง้ บรสิ ุทธิ์มาเจอื จางดว ยนา้ํ ตมในปริมาณท่ีเหมาะสม ใสต วั ยาท่ีไดจ ากวธิ ีที่ 1 แลว คลกุ ใหเขา กนั หมักไวส กั ครเู พ่อื ใหน ํา้ ผึ้งซมึ เขาในตวั ยา จากน้นั นาํ ไปผดั ใน
Page 130 120 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทะโดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทั่งมสี ีเหลืองเขมและไมเ หนียวตดิ มือ นําออกจากเตา แลวตง้ั ท้ิงไวใ หเย็น (ใชน ํา้ ผึ้งบริสทุ ธิ์ 25 กิโลกรัม ตอตัวยา 100 กโิ ลกรมั )3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคุณภาพดี ตอ งเปน ใบท่ีสมบูรณ ใหญและหนา สีเขียวอมเหลือง เปราะและแตกงา ย และปราศจากสิ่งปนปลอม4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ใบหมอ น รสขมอมหวาน เยน็ มีฤทธ์กิ ระจายลมรอ น ชวยใหผ อนคลาย แกหวดั จากการกระทบ ลมรอน ปวดศีรษะ มีฤทธ์ิใหค วามชุมชื้น และระบายความรอนที่ปอด ชวยขับความรอ นจากปอด แก อาการไอแหง และมฤี ทธผ์ิ อนคลายตับ ชว ยใหต าสวา ง แกอ าการเวยี นศรี ษะ (เนอื่ งจากหยางของตับกาํ เรบิ ) ตาอกั เสบ ตาลาย1 ใบหมอนผัดน้ําผึ้ง มีคณุ สมบัติคอ นขา งชุมชื้น เหมาะสาํ หรับผปู วยทีม่ อี าการไอแหง3 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: ใบหมอน รสจืด เย็น ใชแกไข ตัวรอน รอนในกระหายน้ํา แกไอ ระงับประสาท ขับเหง่ือ แก เจ็บคอ5 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 5-9 กรัม ตมเอานํ้าดื่ม1 ขอมูลวิชาการที่เกี่ยวของ: 1. นา้ํ คน้ั และสารสกดั เมทานอลจากใบมีฤทธติ์ า นอนมุ ูลอสิ ระ สารสกดั นา้ํ ของใบหมอนมีฤทธิ์ ลดนาํ้ ตาลในเลอื ดของหนูถบี จกั รที่เปนเบาหวานเนอ่ื งจากไดรับสาร streptozotocin เมือ่ ฉดี เขา ทางชอง ทองในขนาด 200 มิลลกิ รัม/กโิ ลกรมั นอกจากน้สี ารสกดั แอลกอฮอลจากใบหมอนมฤี ทธลิ์ ดความดัน โลหติ ในหนู และสารสกดั น้ําประกอบดวยสาร kuwanon L, mulberrofuran A และ sangenone C มี ฤทธิ์ตานเชือ้ แบคทีเรีย5 2. จากการวิจยั ที่โรงพยาบาลสาํ โรง จงั หวัดอบุ ลราชธานี ในผูป ว ยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไดร ับ ยา glibenclamide พบวาเม่อื ใหแ คปซูลหมอ นรว มดว ยในขนาด 20 กรมั ตอ วัน นาน 8 สปั ดาห มีผล ชว ยลดระดับนํา้ ตาลในเลือดกอ นอาหารเชา และระดบั ฮีโมโกลบนิ เอวนั ซี (HbA1C) อยางมีนัยสาํ คัญ เมือ่ เทียบกบั เมื่อกอนรับประทานหมอน ขณะทกี่ ลมุ ท่ีไดรบั ยาหลอกไมมีการเปลย่ี นแปลง การนาํ ใบหมอน ในรปู แบบชาชงหรอื สารสกัดมาใชใ นการควบคุมระดบั นํ้าตาลในเลือด ยงั ตองศกึ ษาวจิ ยั ทางคลนิ ิกเพิ่มเติม5
Page 131 คมู ือการใชสมนุ ไพรไทย-จนี 121 3. การศึกษาพิษเฉียบพลนั ของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจากพชื ทงั้ ตน เม่ือฉดี เขา ชอ งทอ งหนู ถีบจกั ร มีคา LD50 มากกวา 1 กรมั /นาํ้ หนกั ตัว 1 กิโลกรัม5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่ือพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน ฉบับแกไ ขเพิม่ เตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. อญั ชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธิการ). สมนุ ไพรไทยกาวไกลสูสากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ ร.ส.พ., 2548.
Page 132 122 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก เปลือกรากโบต๋นั : Mudanpi (牡丹皮) เปลือกรากโบต๋ัน หรือ หมูตันผี คือ เปลือกรากแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Paeonia suffruticosa Andr. วงศ Ranunculaceae1 2 เซนติเมตร เปลือกรากโบตน๋ั (Cortex Moutan) ช่ือไทย: เปลือกรากโบตั๋น (กรุงเทพฯ)2 ช่ือจีน: หมูตันผี (จีนกลาง), โบวตัวพวย (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Tree Paeony Bark1 ชื่อเครื่องยา: Cortex Moutan1 การเกบ็ เก่ียวและการปฏบิ ตั หิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเก่ียวรากอายุประมาณ 3-5 ปในฤดูใบไมรวง แยกเอารากฝอยและแกนลําตนทิ้ง ลอก เอาเฉพาะเปลือกราก ตากแดดใหแหง เกบ็ รกั ษาไวใ นทีม่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดงั นี้ วธิ ีที่ 1 เปลือกรากโบตน๋ั เตรยี มโดยนาํ วัตถดุ ิบสมุนไพรมาลา งนาํ้ อยางรวดเร็วใหสะอาด ใส ภาชนะปดฝาไวเพ่ือใหออนนุม ห่นั เปน แวนหนา ๆ และนําไปตากแหง 1,3 วธิ ที ่ี 2 เปลอื กรากโบตนั๋ เผา เตรยี มโดยนําตวั ยาทไ่ี ดจ ากวธิ ีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผดั โดยใชไฟ ระดับปานกลาง ผัดจนกระทงั่ ผวิ นอกสนี ํ้าตาลดํา พรมน้ําเลก็ นอ ย นาํ ออกจากเตา ตั้งทง้ิ ไวใ หเ ยน็ แลว รอ น เอาเศษเล็ก ๆ ออก (มีรายงานวา อุณหภมู ทิ ่ีเหมาะสมคือ 250 องศาเซลเซยี ส ผัดนาน 10 นาท)ี 3,4
Page 133 คมู ือการใชสมนุ ไพรไทย-จีน 123 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาที่มคี ณุ ภาพดี เปลือกรากตองหนา ตรงกลางกลวง ดานหนาตดั สขี าว มแี ปงและผลึกมาก มีกล่นิ หอมฉุน5 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: เปลือกรากโบต๋นั รสขม เผ็ด เย็นเลก็ นอย มีฤทธิ์ระบายความรอ น ทําใหเ ลือดเย็น แกผ นื่ ผด แดงบนผิวหนงั อาเจียนเปนเลอื ด เลอื ดกําเดาออก แกพิษไขก ระทบธาตุนาํ้ ยินพรอง รอนใน นอกจากนี้ ยงั มีฤทธ์ิทาํ ใหเลอื ดหมนุ เวียน กระจายเลอื ดค่ัง แกห ลอดเลอื ดตบี ประจําเดอื นไมมา ปวดประจําเดือน เปน เถาดาน กอนในทอง ฟกชา้ํ หรอื ชํา้ ในจากการกระทบกระแทก แกพิษฝ บวม อักเสบ ฝในลําไส หรือ 1 ไสต ิง่ อกั เสบ ปวดทองนอ ย เปลือกรากโบต๋ันเผา รสขมเลก็ นอ ย จะมฤี ทธ์ิระบายความรอ นออนลง แตเพิม่ ฤทธิ์ทําใหเ ลอื ดเยน็ 3,4 และฤทธห์ิ ามเลือดแรงข้ึน โดยท่วั ไปใชแกอ าเจยี นเปน เลือด และเลอื ดกาํ เดาออก ขนาดท่ีใชและวิธใี ช: การแพทยแผนจนี ใชขนาด 6-12 กรมั ตมเอานา้ํ ด่ืม1 ขอ หา มใช ขอควรระวงั และอาการขา งเคียง: ผปู ว ยที่มปี ระจาํ เดอื นมามากเกินไปและสตรมี คี รรภหา มใช (การแพทยแ ผนจนี )1 ขอ มูลวชิ าการที่เก่ยี วขอ ง: 1. สารพีโอนอล (paeonol) ซ่งึ เปนองคป ระกอบทางเคมขี องเปลอื กรากโบตัน๋ มีฤทธต์ิ า น อกั เสบในหนถู ีบจกั ร หนูขาว และหนตู ะเภา ชว ยใหการไหลเวยี นของเลือดดีขึ้นในสนุ ัข ระงับปวด ระบาย ความรอ น ลดไข และสงบประสาทในหนูถีบจักร ขบั ปสสาวะในหนูขาว สารสกัดนํา้ ชวยใหการทํางานของ หวั ใจหนขู าวเปน ปกติ และลดความดนั โลหิตในสนุ ขั 6 2. ยาเตรียมจากสารพีโอนอลมสี รรพคุณรักษาโรคผิวหนงั เชน ผดผ่ืนแดง ยาตมมีสรรพคณุ รักษาโรคความดันโลหิตสูง และโพรงจมกู อกั เสบจากการแพ6 3. เมอื่ ใหส ารพีโอนอลที่ละลาย (แขวนตะกอน) ในน้ํามนั ถ่ัวลิสง ความเขม ขน 1:1 ทางปาก และฉีดเขาชองทอ งหนถู บี จกั ร พบวาขนาดของสารพีโอนอลทท่ี าํ ใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มี คาเทากับ 4.9 และ 0.735 กรัม/กิโลกรัม ตามลาํ ดบั 6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
Page 134 124 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน ฉบบั แกไ ขเพิม่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Lei GL, Du BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: Xi-an World Library Publishing House, 2002. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 6. Hou JY. Cortex Moutan: mudan pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 135 คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จีน 125 เปลอื กรากหมอ น : Sangbaipi (桑白皮) เปลอื กรากหมอน หรือ ซงั ไปผี คอื เปลือกรากแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Morus alba L.วงศ Moraceae1 2 เซนตเิ มตร เปลือกรากหมอน (Cortex Mori) ช่ือไทย: เปลือกรากหมอน (ทั่วไป)2 ช่ือจีน: ซงั ไปผี (จนี กลาง), ซึงแปะพว ย (จีนแตจ ิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: White Mulberry Root-bark1 ช่ือเครื่องยา: Cortex Mori1 การเก็บเกยี่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวรากในฤดูใบไมรวงเมื่อใบรวงหมด และในตนฤดูใบไมผลิกอนเร่ิมผสมพันธุ แยก รากฝอยและดินออก ขูดเปลือกหยาบสีนา้ํ ตาลอมเหลืองออก หั่นตามยาว ลอกเอาเฉพาะเปลือกแลว นําไปตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวใ นทีม่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดังน้ี วิธีที่ 1 เปลอื กรากหมอน เตรยี มโดยนาํ วัตถุดบิ สมนุ ไพรทไี่ ด มาลา งดวยน้ําสะอาด ใสภาชนะปด ฝาไวเ พอื่ ใหอ อนนมุ หัน่ เปน เสนหรือแวนหนา ๆ และนาํ ไปทําใหแ หง 1,3
Page 136 126 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก วิธที ่ี 2 เปลือกรากหมอ นผดั น้าํ ผง้ึ เตรียมโดยนํานํ้าผง้ึ บริสุทธ์ิมาเจอื จางดว ยนํ้าตมในปริมาณที่ เหมาะสม ใสต ัวยาท่ีไดจากวิธีท่ี 1 แลวคลุกใหเ ขา กนั หมักไวส กั ครูเ พอื่ ใหนาํ้ ผึ้งซึมเขา ในตวั ยา จากน้นั นาํ ไปผัดในกระทะโดยใชระดับไฟปานกลาง ผดั จนกระทั่งมสี เี หลืองเขม และไมเ หนียวติดมือ นาํ ออกจาก เตา แลว ตง้ั ทิ้งไวใหเ ย็น (ใชน ้ําผ้งึ บริสุทธิ์ 25 กิโลกรัม ตอ ตัวยา 100 กิโลกรมั )3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี เปลือกหนา สีขาว เวลาปอกหรือลอกเปลือกตองมีละอองเกิดขึ้น4 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: เปลือกรากหมอน รสอมหวาน เย็น มีฤทธิ์ระบายความรอน บรรเทาอาการหอบ ใชแกไอ หอบหืด (เนอ่ื งจากปอดรอ น) และมีฤทธิข์ บั ปสสาวะ ลดบวม แกอาการบวมนา้ํ (ระบายและดงึ ชขี่ องปอด ลงตํา่ ปรับการหมุนเวียนของนา้ํ ขับนา้ํ ตัวบวม หนาบวม กลามเน้ือผิวหนังบวม น้ําทวมปอด ทําให หอบ ปสสาวะขัด)1 เปลือกรากหมอ นผดั นา้ํ ผึง้ จะชวยเพิม่ ความชมุ ชนื้ ใหปอด มีฤทธริ์ ะงับไอ เหมาะสําหรับผูปว ย ท่ีมอี าการไอและหอบเนอื่ งจากปอดพรอง3 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 6-12 กรัม ตมเอานํ้าดื่ม1 ขอมูลวิชาการที่เก่ียวของ: 1. สารสกัดน้ําจากเปลือกรากหมอนมีฤทธิ์ลดนาํ้ ตาลในเลือดของหนูถีบจักรที่เปนเบาหวาน เนือ่ งจากไดร ับสาร streptozotocin เมอ่ื ฉดี เขาทางชองทอ งในขนาด 200 มลิ ลิกรมั /กโิ ลกรัม5 2. สารสกดั บวิ ทานอลจากเปลอื กรากหมอนมฤี ทธ์ลิ ดความดันโลหติ ในหนู สารสกัดแอลกอฮอล มีฤทธิ์ยบั ย้ังการเจริญของเช้อื รา5 3. สารสกดั นํา้ และสารสกดั บวิ ทานอลจากเปลอื กรากหมอ นฤทธแิ์ กไ อ ขับปส สาวะ ลดอาการบวม 5 และเปนยาสงบประสาทในสตั วท ดลองดว ย 4. เมอ่ื ฉีดสารสกัดนํา้ เขาชอ งทอ งหนูถบี จกั รในขนาด 50 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม จะทาํ ใหสตั วทดลอง สงบ ความรสู กึ สัมผัสและความเจบ็ ปวดลดลง สารสกดั น้าํ เม่อื ใหหนูถบี จกั รทางปากในขนาดเทียบเทา ผง ยา 2 กรัม/กิโลกรัม มฤี ทธร์ิ ะงบั ปวดไดด ีเทียบเทาแอสไพรนิ 0.5 กรัม/กโิ ลกรัม สารสกดั น้าํ ยังมีฤทธ์ิ ยับยง้ั เช้ือโรคท่เี กิดอาการเจบ็ คอ เชอ้ื บิด และเชื้อรา6
Page 137 คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 127 5. เมื่อใหผ ปู วยเดก็ ทีม่ อี าการนํ้าลายไหลที่มุมปากรับประทานสารสกัดนาํ้ ในขนาดเทียบเทาผง ยา 20 กรัม โดยเด็กทอี่ ายุตํ่ากวา 1 ขวบ ใหใชข นาดเทยี บเทา ผงยา 10 กรัม และใหแบง รับประทานวัน ละ 2-3 ครั้ง ติดตอกนั นาน 3-7 วนั พบวา อาการดังกลาวหายเปนปกติ โดยทวั่ ไปเปลอื กรากหมอนไมใช เดี่ยว สวนใหญจ ะใชเปน สว นประกอบในตาํ รับยารักษาอาการบวมนํา้ หลอดลมอกั เสบ และเยอ่ื หุม ปอด อกั เสบ6 6. การศกึ ษาพษิ เฉียบพลันของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจ ากพืชท้ังตนเมอื่ ฉีดเขา ชองทอง หนถู บี จักร มีคา LD50 มากกวา 1 กรัม/น้ําหนักตวั 1 กิโลกรัม สารสกัดบิวทานอลจากเปลอื กราก เม่ือให กนิ ฉีดเขาชองทอง หรอื ฉดี เขาหลอดเลือดดาํ ในหนูถีบจักร ขนาด 20, 10 และ 5 กรัม/กิโลกรมั นํ้าหนกั ตัว ตามลําดบั ไมพบความเปนพษิ 3 สารสกัดน้ําเมอ่ื ใหท างปาก หรือฉดี เขา ชอ งทอ งหนถู ีบจกั รในขนาด เทยี บเทาผงยา 10 กรัม/กโิ ลกรมั และฉีดเขาทางหลอดเลอื ดดําในขนาดเทียบเทาผงยา 5 กรมั /กิโลกรมั ไมท ําใหหนูตวั ใดตาย นอกจากน้ยี งั พบวาการใหยาในขนาดสงู ครงั้ เดียว หรอื แบง รบั ประทานครั้งละนอย ๆ ใหผลไมแ ตกตางกนั ซึง่ จากผลการทดลองขา งตนอาจกลา วไดว า เปลือกรากหมอ นมีพิษนอ ย6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวีคณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพ่ิมเติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. อญั ชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธกิ าร). สมุนไพรไทยกา วไกลสูสากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ ร.ส.พ., 2548. 6. Deng YC. Cortex Mori: sang bai pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 138 128 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก โปงรากสน : Fuling (茯苓) โปง รากสน หรอื ฝหู ลิง คือ เหด็ ท่ีมีชือ่ วทิ ยาศาสตรว า Poria cocos (Schw.) Wolf วงศ Polyporaceae1 โปงรากสน (Poria) 3 เซนติเมตร ชื่อไทย: โปงรากสน2 ช่ือจีน: ฝหู ลงิ (จีนกลาง), หกเหล็ง (จีนแตจ ๋วิ )1 ชื่ออังกฤษ: Indian Bread1 ช่ือเครื่องยา: Poria1 การเก็บเกีย่ วและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เก่ยี วสมนุ ไพรในปลายฤดรู อ น แยกเอาดนิ ออก รวมเปนกอง ๆ เกลยี่ ใหแ ผกระจาย ทิง้ ไว ทอี่ ุณหภมู หิ อ งจนกระทงั่ ผิวนอกแหง ทําซา้ํ หลาย ๆ คร้งั จนกระท่ังผวิ นอกยน และนํา้ ขางในเนือ้ คอ ย ๆ ระเหย และตากใหแ หง ในที่รม เก็บรกั ษาไวใ นทม่ี ีอากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตวั ยาพรอ มใชมี 2 วธิ ี ดงั น้ี วธิ ที ี่ 1 โปง รากสน เตรยี มโดยนําวตั ถดุ ิบสมุนไพรทไี่ ด มาลางน้ําใหสะอาด ใสใ นหมอ นึง่ ทม่ี ีฝา ปด มิดชิด นง่ึ สักครูจนกระท่ังสมนุ ไพรออ นนุม ปอกเปลือกออก ห่ันเปนแวนหนา ๆ และนําไปทําใหแ หง 1,3 วิธีท่ี 2 โปง รากสนชาด เตรยี มโดยนําตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 ใสลงในชาด (แรธาตุท่ีมีสีแดง เปน สารประกอบของเมอรค ิวรกิ ซัลไฟด) ทีบ่ ดเปน ผงละเอียด คลกุ เคลาใหเ ขา กัน (ใชผ งชาด 2 กิโลกรัม ตอตัวยา 100 กิโลกรัม)3
Page 139 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จีน 129 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคุณภาพดี ตอ งมนี ้ําหนกั มีคณุ สมบัติแขง็ และเหนียว ไมมรี อยแตก หนา ตัดสขี าว ละเอยี ดเปนมัน4 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: โปงรากสน รสจืดอมหวาน สุขุม มีฤทธิ์ระบายน้าํ สลายความช้ืน สรรพคุณแกอาการบวมนาํ้ ปส สาวะขดั และมีฤทธบิ์ ํารุงมาม กลอมประสาท แกอาการมามพรอง ระบบการยอยอาหารออ นแอ เบอ่ื อาหาร ออนเพลยี ใจส่ัน นอนไมหลับ1 3 โปง รากสนชาด มฤี ทธิ์กลอ มประสาทแรงขน้ึ ขนาดท่ีใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใชขนาด 9-15 กรัม ตมเอานํา้ ด่ืม1 ขอมูลวิชาการที่เก่ียวของ: 5 1. ผง สารสกัดน้าํ มีฤทธิ์สงบประสาทในหนถู ีบจักร คลายกลามเนือ้ เรยี บของลําไสก ระตา ย ยาเม่ือใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มผี ลยบั ยงั้ อาการผิวหนังอกั เสบ สาร สกัดน้ําตาลเชิงซอนเมื่อใหทางปากหนูถีบจักรในขนาด 250, 500, 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม วันละคร้ัง ติดตอกันนาน 7 วัน มีฤทธ์ิเสริมมามใหแข็งแรง และสารสกัด 70% แอลกอฮอล เมอ่ื ฉีดเขาชอ งทอง กระตายในขนาด 0.5 กรมั /กิโลกรมั วันละครง้ั ตดิ ตอกนั นาน 5 วนั มีฤทธิ์ขบั ปส สาวะ นอกจากนยี้ ัง พบวาเมอ่ื ฉดี ยาเตรยี มเขา ใตผวิ หนังหนขู าวในขนาดเทียบเทา ผงยา 1.4 กรัม/กโิ ลกรัม วนั ละครง้ั ติดตอกัน นาน 8 วัน มีผลปกปอ งตับได6 2. สารสกัดน้าํ สามารถบรรเทาอาการหวาดผวาและจติ ใจไมส งบชนิดเรอื้ รงั และมีฤทธ์ิระบาย ความช้นื และน้ํา6 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. วิชัย โชควิวัฒน, ชวลิต สันตกิ จิ รุงเรือง, เย็นจิตร เตชะดาํ รงสิน. ตํารบั ยาจีนทใี่ ชบอยในประเทศไทย เลม 1. พมิ พค รัง้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร : สํานักงานกิจการโรงพมิ พ องคการทหารผานศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2549. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 6. Hu RJ, Wang SX. Poria: fu ling. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 140 130 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ผลพุดซอ น : Zhizi (栀子) ผลพุดซอน หรือ จือจ่ือ คือ ผลสุกที่ทําใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Gardenia jasminoides J. Ellis วงศ Rubiaceae1 2 เซนตเิ มตร ผลพุดซอ น (Fructus Gardeniae) ช่ือไทย: ผลพุดซอน, ผลพุดจีน, ผลพุดใหญ (ภาคกลาง); ผลพุทธรักษา (ราชบุรี); ผลเคดถวา, ผลแคถวา (เชียงใหม)2 ช่ือจีน: จือจื่อ (จีนกลาง), กีจ้ือ (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Cape Jasmine Fruit1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Gardeniae1 การเก็บเกย่ี วและการปฏิบตั หิ ลงั การเก็บเก่ียว: เก็บเก่ียวผลสุกในฤดูใบไมรวงเมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเปนสีเหลืองแดง แยกเอากานผลและสิ่ง แปลกปลอมท้ิง น่ึงดวยไอน้าํ หรือลวกดวยนาํ้ เดือดสักครู ทําใหแหง เกบ็ รักษาไวในทม่ี ีอากาศเย็นและ แหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตวั ยาพรอ มใชมี 4 วธิ ี ดงั นี้ วธิ ที ี่ 1 ผลพดุ ซอน เตรยี มโดยนําวตั ถดุ ิบสมนุ ไพรมาแยกสงิ่ อืน่ ที่ปะปนออก ทบุ ใหแตกกอ นใช1 ,3 วิธีท่ี 2 ผลพุดซอ นผดั เตรียมโดยนาํ ตวั ยาท่ีไดจ ากวธิ ีท่ี 1 มาทบุ ใหแ ตก ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดย ใชไ ฟออน ๆ ผดั จนกระทง่ั ผวิ นอกสเี หลอื งเขม นําออกจากเตา ตง้ั ทง้ิ ไวใ หเยน็ 3
Page 141 คูมือการใชสมุนไพรไทย-จีน 131 วิธที ี่ 3 ผลพุดซอนผัดเกรียม เตรยี มโดยนําตัวยาทไี่ ดจากวธิ ีท่ี 1 มาทบุ ใหแตก ใสก ระทะ นาํ ไป 3 ผดั โดยใชร ะดับไฟปานกลาง ผดั จนกระทงั่ ผวิ นอกสีเหลอื งไหม นําออกจากเตา ตง้ั ทง้ิ ไวใ หเ ย็น วิธที ี่ 4 ผลพุดซอ นถา น เตรยี มโดยนําตวั ยาทีไ่ ดจากวธิ ีที่ 1 มาทบุ ใหแ ตก ใสก ระทะ นําไปผดั โดยใชระดบั ไฟแรง ผัดจนกระท่งั ผวิ นอกของตวั ยามีสนี ํา้ ตาลดํา พรมน้าํ เล็กนอ ย นาํ ออกจากเตา ตั้งทง้ิ ไวใ หเย็น3 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคณุ ภาพดี ผลมีขนาดเล็ก เปลอื กผลบาง เนือ้ มาก ดานนอกและดา นในมีสแี ดง4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: ผลพุดซอน รสขม เย็น มฤี ทธิ์ขับความรอน แกห งดุ หงิด แกไ ข (ความรอนจากหวั ใจทําให หงดุ หงิดและกระวนกระวาย) มีฤทธร์ิ ะบายความรอ น เสรมิ ความชืน้ แกด ซี า น (ตวั เหลืองจากความรอน หรือรอนช้ืนของตับและถุงน้ําดี) มีฤทธ์ิบรรเทาอาการพิษอักเสบ ทําใหเลือดเย็น แกเลือดกําเดาไหล ปสสาวะและอาเจยี นเปน เลอื ด (เนือ่ งจากโลหติ มีพิษรอน) และมฤี ทธิ์ลดบวมจากการอกั เสบ ระงับปวด แกอักเสบบวมแดง พษิ อกั เสบของแผล ฝอ กั เสบบวมจากการกระทบกระแทก1 ผลพุดซอ นผดั และผลพุดซอนผดั เกรียม มสี รรพคณุ และวธิ ใี ชเ หมือนกนั แตผ ลพดุ ซอ นผดั จะมรี สขมและเย็นมากกวา โดยทวั่ ไปหากความรอนสงู จะใชผ ลพดุ ซอนผดั สาํ หรบั ผลพดุ ซอนผดั เกรยี ม จะใชใ นกรณีท่รี ะบบกระเพาะอาหารและมา มพรอ ง ตัวยาทง้ั สองชนดิ นมี้ ฤี ทธริ์ ะบายความรอ น แกห งดุ หงดิ ใชรกั ษาอาการความรอ นจากหัวใจทําใหห งุดหงดิ ตับรอนทําใหตาแดง3 ผลพุดซอ นถา น มีฤทธท์ิ าํ ใหเ ลือดเย็นและหามเลอื ด ใชรกั ษาอาการปส สาวะและอาเจยี นเปน เลือด เลอื ดกําเดาออก ไอเปนเลือด3 ขนาดที่ใชแ ละวธิ ใี ช: การแพทยแ ผนจีน ใช 6-9 กรมั ตม เอานาํ้ ดม่ื 1 ขอหา มใช ขอควรระวัง และอาการขา งเคยี ง: การแพทยแผนจีน ผลพุดซอนไมเ หมาะสาํ หรบั คนธาตอุ อน อุจจาระเหลว1 ขอ มูลวชิ าการท่เี กย่ี วขอ ง: 1. สารสกดั นํ้ามีฤทธิ์ปกปองตับและขบั น้ําดีในหนขู าว ระงับปวด ลดไข และแกโรคผวิ หนงั หลาย ชนดิ ในหนถู ีบจักร สารสกัดแอลกอฮอล สารสกัดเอทลิ อะซเี ตท และสารสกัดเมทานอลมีฤทธ์ิตา นอักเสบ ในหนถู ีบจักรและกระตา ย5,6
Page 142 132 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 2. สารสกัดนา้ํ มีสรรพคณุ แกโรคดซี า นชนดิ เฉียบพลัน กระเพาะปสสาวะอกั เสบชนิดเฉียบพลนั ลดบวม และระงบั ปวด5,6 3. การศึกษาพษิ เฉยี บพลนั ในหนถู บี จักร โดยฉดี สารสกัดเมทานอลเขาชองทอ งและใหทางปาก พบวาขนาดของสารสกดั เทยี บเทาผงยาทท่ี าํ ใหห นถู บี จักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคา เทากบั 17.1 และ 107.4 กรัม/กิโลกรมั ตามลําดบั 5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวคี ุณ (คณะบรรณาธิการ). ชื่อพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน ฉบับแกไ ขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. Hou JY. Fructus Gardeniae: zhi zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 6. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
Page 143 คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 133 ผลเลีย่ น : Chuanlianzi (川楝子) ผลเล่ียน หรือ ชวนเลี่ยนจื่อ คือ ผลสุกท่ีทาํ ใหแหงของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตรวา Melia toosendan Sieb. et Zucc. วงศ Meliaceae1 2 เซนติเมตร ผลเลย่ี น (Fructus Toosendan) ช่ือไทย: ผลเล่ียน, ผลเคี่ยน, ผลเล่ียนใบใหญ (ภาคกลาง); ผลเกรียน, ผลเฮี่ยน (ภาคเหนือ)2 ชื่อจีน: ชวนเล่ียนจ่ือ (จีนกลาง), ชวนเหลี่ยนจ้ี (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Szechwan Chinaberry Fruit1 ชื่อเครื่องยา: Fructus Toosendan1 การเกบ็ เก่ียวและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เก่ียว: เก็บเก่ียวผลสกุ ในฤดูหนาว แยกสง่ิ อืน่ ท่ีปะปนออก ตากแดดใหแ หง เกบ็ รกั ษาไวใ นทมี่ ีอากาศ เย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรยี มตัวยาพรอ มใช: การเตรียมตวั ยาพรอ มใชมี 3 วธิ ี ดงั นี้ วธิ ีท่ี 1 ผลเลยี่ น เตรยี มโดยนาํ วตั ถุดบิ สมุนไพรที่ปราศจากสงิ่ ปนปลอมมาทุบใหแตกกอ นใช1 ,3 วธิ ีท่ี 2 ผลเลี่ยนผัด เตรียมโดยนาํ ตวั ยาทไ่ี ดจากวธิ ีท่ี 1 มาหั่นเปนแวน หรือเปนช้ินเล็ก ๆ นาํ ไป ใสกระทะ ผัดโดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระทงั่ ผวิ นอกมสี เี หลอื งไหมหรอื สีน้าํ ตาลไหม นาํ ออกจาก เตา ตั้งทง้ิ ไวใ หเยน็ แลว รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3
Page 144 134 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก วิธีท่ี 3 ผลเลี่ยนผัดนา้ํ เกลือ เตรียมโดยนําตัวยาที่ไดจากวิธีที่ 1 มาหั่นเปนแวนหรือเปนช้ิน เลก็ ๆ ใสในภาชนะท่ีเหมาะสม เตมิ นาํ้ เกลือ คลกุ เคลาใหเขากัน ต้ังท้ิงไวจนกระทั่งนาํ้ เกลอื แทรกซึมเขาไป ในเนอ้ื ตวั ยา จากนน้ั นาํ ไปใสก ระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดับปานกลาง ผดั จนกระทง่ั ผวิ นอกมสี เี หลอื งเขม นํา ออกจากเตา ตั้งท้ิงไวใ หเย็น แลว รอนเอาเศษเล็ก ๆ ออก (ใชเ กลอื บริสทุ ธิ์ 2 กโิ ลกรมั ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมคี ุณภาพดี ตอ งเปนผลขนาดใหญ มีเน้ือมาก ผวิ นอกสเี หลืองทอง เนอ้ื ในผลสขี าวเหลอื ง4 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: ผลเลี่ยน รสขม เย็น มฤี ทธิ์ทาํ ใหช ี่หมนุ เวยี น บรรเทาปวด สรรพคณุ คลายเครียด แกร อนใน 1 บรรเทาอาการปวดตาง ๆ และมฤี ทธิ์ฆาพยาธิ หดิ กลาก เกล้อื น แกปวดทองเน่ืองจากพยาธิตา ง ๆ ผลเลี่ยนผัด จะชวยใหรสขมและเยน็ ลดลง ลดพิษ มฤี ทธช์ิ วยใหชีห่ มนุ เวยี นและบรรเทาปวด ใชร กั ษาอาการปวดบริเวณใตชายโครงและปวดทอ ง3 ผลเล่ียนผดั นํ้าเกลือ จะชว ยนาํ ตัวยาลงสูสว นลา งของรา งกาย (ตั้งแตใ ตสะดือลงมาจนถงึ ทอง) ใชรักษาอาการไสเลอ่ื น อัณฑะปวดบวม3 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนไทย: ผลเลยี่ น ใชเ ปนยาขับพยาธิตวั กลม แกโ รคเรื้อน และฝค นั ทะมาลา5,6 ขนาดทีใ่ ชแ ละวิธใี ช: การแพทยแ ผนจนี ใชขนาด 4.5-9 กรัม ตมเอานาํ้ ดื่ม1 การแพทยแผนไทย ใชข นาด 15-20 กรมั 5 และใชภายนอกโดยนาํ ผลเลี่ยน 5-7 ตมเอานํา้ ดื่ม ผลมาตาํ ใหละเอียด เตมิ นํา้ มันพืช แลวใชท าบริเวณทเ่ี ปน วันละ 2-3 ครั้ง ติดตอกนั จนกวา จะหาย นอกจากนี้ยงั สามารถใชผ ลทโี่ ตเต็มทีส่ ด ๆ 10-15 ผล โขลกใหละเอยี ด เติมนํา้ มนั มะพรา ว 3-4 ชอนแกง ชโลมผมทเ่ี ปน เหาทิง้ ไว 1 ชั่วโมง แลวสระใหส ะอาด สระตดิ ตอ กนั 2-3 วัน6 ขอหา มใช ขอควรระวัง และอาการขา งเคียง: ผลเลี่ยนมพี ิษเล็กนอ ย ไมควรใชปรมิ าณมากหรือใชต อเนือ่ งนาน ๆ (การแพทยแ ผนจนี ) อาการ พิษที่พบ ไดแ ก หายใจขดั แขนขาไมมแี รง ปวดศรี ษะ คล่นื ไสอ าเจยี น1,7 ขอมูลวชิ าการท่เี กยี่ วของ: 1. สารสกัดแอลกอฮอลและสารทูเซนดานิน (toosendanin) มีฤทธถิ์ ายพยาธิ สารทูเซนดานิน มฤี ทธกิ์ ระตุน การบีบตวั ของกลา มเน้อื เรยี บในกระตา ย และสารสกัดแอลกอฮอลค วามเขม ขน 10 % มี
Page 145 คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 135 ฤทธิ์ตา นเชือ้ รา8 2. สารพษิ ทีพ่ บในผลเลยี่ นคือ แอลคาลอยด azaridine ซึง่ มฤี ทธิ์ทําใหคลื่นไสอ าเจยี น และ ทอ งรว งอยา งแรง เปนอัมพาต หายใจไมส มาํ่ เสมอ หายใจขัด เดก็ เลก็ ๆ ถา กนิ ผลเลีย่ นเขาไปเพยี ง 6-8 ผล จะเปนอนั ตรายถงึ ตายได การรักษาทําไดโ ดย ทําใหอ าเจียน ใหดื่มนมหรือไขข าวเพ่ือลดการดูดซมึ ของสารพษิ แลว รบี นําสงโรงพยาบาล อาจใหน า้ํ เกลอื เพอื่ รกั ษาสมดลุ ของนํ้าและเกลอื แร และรักษาตาม อาการ9 3. ยาเมด็ ทูเซนดานินมสี รรพคุณถายพยาธทิ ัง้ ในเดก็ และผูใหญ8 4. เม่ือฉดี สารทเู ซนดานินเขาชองทอ ง หลอดเลอื ดดาํ ใตผวิ หนงั และใหทางปากหนถู บี จักร พบวา ขนาดสารทูเซนดานนิ ท่ที ําใหหนูถีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 13.8, 14.6, 14.3 และ 244.2 มิลลกิ รมั /กิโลกรมั ตามลําดับ เมือ่ ฉดี สารดังกลา วเขาใตผ วิ หนังและใหท างปากหนูขาว และฉดี เขาหลอด เลอื ดดํากระตาย พบวา ขนาดสารดงั กลาวที่ทําใหสัตวท ดลองตาย รอยละ 50 (LD50) มีคาเทา กบั 9.8, 120.7 และ 4.2 มลิ ลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตามลําดับ8 5. มีรายงานการทดลองทางคลนิ ิก พบวา ผลเลี่ยนมีสรรพคุณรักษาอาการตอมน้าํ นมแขง็ กระดา ง ชนดิ เฉยี บพลนั และแกก ลากเกล้อื นบนหนังศีรษะไดผลด6ี 6. มรี ายงานการทดสอบความเปนพษิ พบวา สารสกดั ผลดว ยคลอโรฟอรม เมื่อฉดี เขา ชองทอ ง ของหนถู ีบจักร ขนาดที่ทําใหหนูตายรอ ยละ 50 เทากบั 1.5 กรัม/กโิ ลกรัม สว นสารสกัดผลดวยอเี ทอร เม่ือฉีดเขา ชองทอ งของหนถู ีบจักร ขนาดทที่ ําใหหนูตายรอ ยละ 50 เทา กับ 1.04 กรมั /กโิ ลกรมั 8 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวีคณุ (คณะบรรณาธิการ). ชือ่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน ฉบับแกไขเพิ่มเตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. พเยาว เหมอื นวงษญาต.ิ สมนุ ไพรกา วใหม. พิมพค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท เมดคิ ัล มีเดยี จํากัด, 2537. 6. สนุ ทรี สงิ หบตุ รา. สรรพคณุ สมุนไพร 200 ชนิด. พมิ พคร้งั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พร้นิ ติง้ เฮาส, 2536. 7. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984. 8. Qu SY. Fructus Toosendan: chuan lian zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. สถาบนั วจิ ัยสมนุ ไพร กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . คูมือฐานขอมลู พืชพิษ. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พกรมการ ศาสนา, 2545.
Page 146 136 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ผักคาวทอง : Yuxingcao (鱼腥草) ผกั คาวทอง หรือ ยฺหวีซิงเฉา คอื สว นเหนอื ดินแหง ของพชื ท่ีมชี ่อื วิทยาศาสตรวา Houttuynia cordata Thunb.วงศ Saururaceae1 (Herba 3 เซนติเมตร ผักคาวทอง Houttuyniae) ช่ือไทย: ผักคาวทอง, พลูแก (กรุงเทพฯ); ผักคาวตอง, ผักขาวตอง (ภาคเหนือ); ผักกานตอง (แมฮองสอน)2 ช่ือจีน: ยฺหวีซิงเฉา (จีนกลาง), ห่ือชอเชา (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Heartleaf Houttuynia Herb1 ช่ือเครื่องยา: Herba Houttuyniae1 การเกบ็ เกยี่ วและการปฏบิ ัตหิ ลังการเก็บเกี่ยว: เกบ็ เกย่ี วสวนเหนอื ดนิ ในฤดูรอ นเมื่อพชื เจรญิ เตบิ โตเตม็ ท่ี แยกเอาสิง่ ปะปนออก ตากแดดใหแ หง 1 เก็บรกั ษาไวในที่มีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลงั เก็บเกี่ยวสมนุ ไพรแลว แยกเอารากและสง่ิ อื่นท่ปี ะปนออก ลา งอยา งรวดเร็วใหส ะอาด หั่น เปน ทอ น ๆ และนาํ ไปตากใหแหง1,3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: 4 ตัวยาที่มีคุณภาพดี ตองมีสีนา้ํ ตาลแดงออน ๆ ใบและลําตนสมบูรณ และมีกล่ินคาวมาก
Page 147 คูม ือการใชสมุนไพรไทย-จนี 137 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ผักคาวทอง มีรสเผ็ด เย็นเล็กนอย มีฤทธ์ิระบายความรอน ขับพิษ ขับหนอง ขับปสสาวะ ใชรักษาฝในปอด ไอหรืออาเจียนออกมามีเลือดปนหนอง ขับปสสาวะ แกอาการบวมน้ํา ฝอักเสบ บิด โรคติดเช้ือระบบทางเดินปสสาวะ ตานเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ1,5,6 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: แพทยแผนโบราณใชตนแหงเปนยาขับปสสาวะ แกบวมน้าํ ฝบวมอักเสบ ไอ บิด โรคติดเชื้อ ทางเดนิ ปส สาวะ หูชัน้ กลางอักเสบและริดสีดวง ตนสดใชภ ายนอกเปน ยาพอกฝ บวมอกั เสบ บาดแผล โรคผวิ หนงั งพู ษิ กดั และชว ยใหก ระดกู เชอื่ มตดิ กันเรว็ ข้นึ ใบสดผงิ ไฟพอนมิ่ ใชพ อกเนือ้ งอกชนิดตา ง ๆ รากเปนยาขับปสสาวะ7-9 ขนาดทใี่ ชแ ละวธิ ใี ช: การแพทยแ ผนจีน ใช 15-25 กรัม1 โดยตมเอานํา้ ดื่ม กอนตมใหแชนํ้าไว 1-3 นาที ตมให เดอื ดนาน 5 นาที หากใชส ดใช 30-50 กรมั โดยตม หรอื คั้นเอานา้ํ ด่ืม หากใชภายนอกใหใ ชส มุนไพร 1,5 ปรมิ าณทเี่ หมาะสม ตม เอานํา้ ชะลางหรอื ใชตน สดตาํ พอก ขอมูลวชิ าการทีเ่ กยี่ วขอ ง: 1. มรี ายงานวา สารประเภทแอลคาลอยดท แี่ ยกไดจ ากสว นเหนือดนิ ของผักคาวทองแสดงฤทธิ์ ปานกลางในหลอดทดลองในการทาํ ลายเซลลมะเร็งเพาะเลย้ี ง 5 ชนดิ คือ เซลลม ะเร็งปอด เซลลม ะเร็ง รงั ไข เซลลเ น้ืองอกที่เปนเนื้อรา ย เซลลมะเรง็ สมอง และเซลลม ะเร็งลําไสใ หญ1 0 2. สารสกัดนา้ํ จากผกั คาวทองมฤี ทธ์ยิ ับยัง้ การเจริญของเซลลม ะเร็งเม็ดเลอื ดขาวเพาะเลย้ี ง 5 ชนิด ไดแก L1210, U937, K526, Raja และ P3HR1 โดยมีคา IC50 อยูร ะหวา ง 478-662 ไมโครกรัม/ มิลลิลติ ร ในประเทศจนี มกี ารใชผ ักคาวทองเปนสวนประกอบในตํารบั ยารักษามะเร็งทางเดินอาหารและ มะเร็งทางเดินหายใจ รวมไปถงึ เนอ้ื งอกในรงั ไข มะเร็งปากมดลูก มะเรง็ เตา นม มะเรง็ หลอดอาหาร และ มะเรง็ ปอด เพิ่มการไหลเวียนของเลอื ด เพมิ่ ภมู ิตา นทาน และรกั ษาอาการขา งเคยี งที่เกิดจากการใชร งั สี รักษาและเคมีบําบดั 10 3. นาํ้ มันหอมระเหยจากผกั คาวทองสามารถยบั ยงั้ การเจรญิ เติบโตของเชอ้ื ไวรัสไขหวดั ใหญใน เซลลเพาะเล้ยี ง และยังพบวา น้ํามันระเหยงา ยท่ไี ดจ ากการกล่ันดว ยไอนา้ํ ของผกั คาวทองสดมฤี ทธิฆ์ า เชื้อ ไวรสั เรมิ ไขห วดั ใหญ และเอดส ในประเทศจีนมกี ารใชผักคาวทองเปน สวนผสมในตาํ รบั ยารกั ษาโรค หลอดลมอกั เสบชนดิ เฉยี บพลนั และชนดิ เรือ้ รงั ตดิ เช้ือเฉียบพลนั หวัด ไขห วัดใหญ และการติดเชือ้ ทางเดิน
Page 148 138 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก หายใจยาลดไข เปน สวนผสมในตาํ รบั ยาใชใ นการปอ งกนั และรกั ษาอาการโรคที่เกดิ จากไวรสั ในไก1 0 4. มรี ายงานการศึกษาในหลอดทดลองวา สารสกดั น้าํ จากผกั คาวทองมฤี ทธต์ิ านเชื้อแบคทเี รีย ชอ งปาก นาํ้ มันทสี่ กัดจากผกั คาวทองมีฤทธ์ยิ ับยั้งการเจริญเตบิ โตของจุลชีพหลายชนดิ โดยเฉพาะยีสต ในประเทศจนี มีการใชผกั คาวทองเปนสวนประกอบในตํารบั ยาสาํ หรับใชปองกนั และรักษาโรคติดเชือ้ ใน ชอ งปาก ยารกั ษาสิว ปอ งกันเชอื้ รา รกั ษาโรคผิวหนงั เชน กลาก ขเี้ รือ้ นกวาง เปนตน 10 5. สว นสกัดนํา้ จากผักคาวทองมฤี ทธ์ติ านการอักเสบ ในประเทศจนี ใชผ กั คาวทองเปนสว นประกอบ ในตาํ รับยารกั ษาอาการอกั เสบ แผลไฟไหมน้าํ รอ นลวก โรครูมาตอยด หนองใน และรกั ษาแผลหลงั ผาตดั 10 6. จากการทดลองในกบและคางคก พบวานํา้ คั้นจากตนสดมีผลขยายหลอดเลอื ดฝอย ทาํ ให อัตราการไหลเวยี นของเลือดและการขับปสสาวะเพมิ่ ขน้ึ 10 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ชอื่ พรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบบั แกไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รงั้ ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมุนไพรไทย-จีน. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2547. 6. Huang KC. The pharmacology of Chinese herbs. 2nd ed. Washington DC: CRC Press LLC, 1999. 7. เย็นจิตร เตชะดํารงสิน, ธิดารตั น บุญรอด, จารีย บนั สิทธ,์ิ ประไพ วงศสินคงมน่ั , ดวงเพญ็ ปท มดิลก, จิรานชุ มิ่งเมอื ง. คุณภาพ ทางเคมีของผกั คาวตอง. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, จารีย บนั สิทธ์,ิ กลั ยา อนลุ กั ขณาปกรณ, เย็นจิตร เตชะดํารงสิน, ธิดารัตน บุญ รอด. บุษราวรรณ ศรีวรรธนะ (คณะบรรณาธิการ). ผักคาวตอง Houttuynia cordata Thunb. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพองคก าร ทหารผานศกึ , 2546. 8. สนุ ทรี สงิ หบุตรา. สรรพคณุ สมุนไพร 200 ชนิด. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พรินติ้งเฮาส, 2536. 9. สาํ ลี ใจดี และคณะ. การใชสมนุ ไพร เลม 2. โครงการพฒั นาเทคนิคการทาํ ยาสมุนไพร. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท สารมวลชน จํากดั , 2524. 10. กลั ยา อนุลักขณาปกรณ. ผักคาวตองกบั การศกึ ษาทางดานเภสัชวทิ ยา. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, จารยี บันสทิ ธิ,์ กัลยา อนุลกั ขณา ปกรณ, เย็นจิตร เตชะดาํ รงสิน, ธิดารตั น บุญรอด. บุษราวรรณ ศรวี รรธนะ (คณะบรรณาธิการ). ผักคาวตอง Houttuynia cordata Thunb. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พองคการทหารผา นศึก, 2546.
Page 149 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 139 ผิวสมจนี : Chenpi (陈皮) ผิวสมจีน หรือ เฉินผี คือ เปลือกผลแกจัดที่ทําใหแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Citrus reticulata Blanco วงศ Rutaceae1 2 เซนติเมตร ผวิ สมจีน (Pericarpium Citri Reticulatae) ชื่อไทย: ผิวสมเขียวหวาน (ท่ัวไป); ผิวสมจุก (ภาคเหนือ, ปตตานี); ผิวสมแปนเกล้ียง, ผิวสม แปนหัวจุก (ปตตานี); ผิวสมเหม็น (ภาคกลาง); ผิวสมข้ีมา (นครราชสีมา); ผิวสมเชียงตุง (ภาคเหนือ); ผิวสมแกวเกล้ียง, ผิวสมแกวโบราณ, ผิวสมจันทบูร, ผิวสมตรังกานู, ผิวสมแปน กระดาน, ผิวสมแปนข้ีมา, ผิวสมแสงทอง (กรุงเทพฯ)2 ชื่อจีน: เฉินผี (จีนกลาง), ถิ่งพวย (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Dried Tangerine Peel1 ช่ือเครื่องยา: Pericarpium Citri Reticulatae1 การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัตหิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเก่ียวผลสุกปลายฤดูใบไมรวงถึงตนฤดูหนาว ปลอกเอาเฉพาะผิวผลมาตากใหแหงหรือ ทําใหแหงท่ีอุณหภูมิตา่ํ เก็บรกั ษาไวใ นทีม่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตวั ยาพรอมใชมี 4 วธิ ี ดังน้ี วธิ ที ี่ 1 ผวิ สมจีน เตรยี มโดยนําวตั ถุดบิ สมนุ ไพรทีป่ ราศจากสง่ิ ปนปลอม มาลา งน้าํ ใหสะอาด หมกั ไวสกั ครูใ หอ อนนมุ หั่นเปนเสน ฝอย ทาํ ใหแหงที่อณุ หภูมติ าํ่ 3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209