Page 200 190 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ผัดจนกระทงั่ ผวิ นอกมีสเี หลืองออ น ๆ นําออกจากเตา ตงั้ ทง้ิ ไวใ หเ ย็น แลว รอ นเอาเศษเล็ก ๆ ออก4 วธิ ีที่ 3 เมลด็ หมากผดั เกรยี ม เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจ ากวิธีที่ 1 ใสกระทะ ผัดโดยใชไฟแรง ปานกลาง ผัดจนกระทั่งผิวนอกของตวั ยามสี ีเหลอื งเกรยี ม มีกล่นิ หอม นาํ ออกจากเตา ตงั้ ทง้ิ ไวใ หเยน็ แลว รอ นเอาเศษเล็ก ๆ ออก4 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มคี ุณภาพดี ตองเปน แวน บาง ๆ หนา ตดั มีสีขาวอมน้าํ ตาล ระหวา งกลางมีลายเสนลกั ษณะ คลายลายหนิ ขอบรอบ ๆ มีสีน้ําตาลอมเหลอื งออนหรือนา้ํ ตาลอมแดงออน เนือ้ แข็งเปราะ แตกหักงา ย มีกลน่ิ ออ น ๆ รสเฝอ น ขมเลก็ นอย5 สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน: หมาก รสขมเผ็ด อนุ มีฤทธิ์ถายพยาธิ ทองมานจากพยาธิ ใชเปนยาถา ยพยาธิในลําไส และมี ฤทธ์ทิ าํ ใหชี่หมุนเวียน ขบั น้ํา แกอาการอาหารตกคาง ชไี่ มห มุนเวียน ถา ยทอง บิด ปวดถว ง แกอ าการ 1 บวมนํ้า ขาบวม ปวด และแกม าลาเรยี เมลด็ หมากผดั และเมล็ดหมากผัดเกรยี ม จะชว ยใหฤทธขิ์ องยานมุ นวลขนึ้ และชว ยลดอาการ ขางเคียงของตัวยา เชน คลืน่ เหยี นอาเจยี น ปวดทอง มีสรรพคณุ และวธิ ใี ชเ หมอื นกัน โดยมฤี ทธิ์ชวยยอย อาหาร แกทองเสีย ใชร ักษาอาการธาตพุ กิ าร แกบิดขน้ั รุนแรง เมล็ดหมากผัดจะมีฤทธ์ิแรงกวา เมล็ดหมาก และเมลด็ หมากผดั เกรียม โดยทวั่ ไปคนท่ีมรี า งกายแขง็ แรงจะใชเ มลด็ หมากผดั สําหรับคนท่มี รี า งกายไม แขง็ แรงจะใชเ มลด็ หมากผดั เกรยี ม4 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนไทย: เมลด็ รสขมฝาด ทําใหเจรญิ อาหาร กลอ มประสาท ขับเสมหะ แกเ มาเหลา อาเจยี นอยา งแรง ไอ สมานแผล3 ขนาดท่ีใชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแผนจนี ใช 3-9 กรมั ตม เอาน้ําด่ืม1 การแพทยแผนไทย ใช 5-10 กรมั (ถา ใชข บั พยาธิ ใช 60-90 กรมั ) ตม กนิ หรอื บดเปนผงทํา เปนยาเม็ดหรือยาผงกิน ใชภ ายนอกตม ชะลา งหรอื บดเปนผงผสมทา3 ขอหา มใช ขอ ควรระวัง และอาการขา งเคยี ง: การแพทยแ ผนไทย หามใชในผปู ว ยที่มรี างกายออนแอ หรอื หลงั จากทองเสียหรอื เปน มาลาเรีย3 ขอมูลวชิ าการท่เี กยี่ วของ: 1. สาร arecoline ในเมล็ดมีฤทธข์ิ บั พยาธิ ตอพยาธติ วั ตดื ในหมู ทําใหพยาธทิ งั้ ตวั เปน อัมพาต ตอ ตดื ววั ทาํ ใหส ว นหวั และขอ ที่ยงั ไมแ กเปนอมั พาตตอ ปลอ งตรงกลางและทา ยท่เี ปนสวนผสมพันธุ มี
Page 201 คมู ือการใชสมุนไพรไทย-จีน 191 ผลไมแรงนักตอ พยาธเิ ขม็ หมดุ โดยทดลองกับพยาธเิ ข็มหมดุ นอกรางกายของหนู ทําใหพ ยาธิเปนอมั พาตได นอกจากนี้ arecoline ยงั เปน พษิ ตอพยาธิไสเดอื น 3 แตไ มม ผี ลตอ พยาธปิ ากขอ 2. จากการทดลองในหลอดทดลองพบวา นํ้าแชส กดั จากเมลด็ มีฤทธิ์ยบั ยัง้ การเจรญิ ของเชอื้ Staphylococcus aureus เช้อื ราที่ทาํ ใหเปน กลากเกล้ือน และราทท่ี าํ ใหเ กิดโรคผวิ หนงั อ่นื อกี ได นอกจาก นนั้ สารตม สกดั และนํา้ แชสกัด ยังมีฤทธ์ทิ ําลายพิษของเชอื้ โรคพวกบาซิลลสั ไดอยา งมนี ัยสําคญั สารสกัด แอลกอฮอลสามารถยับยั้งการเจรญิ ของเชอื้ Escherichia coli, Candida albicans, C. tropicalis และ Triphophyton interdigitate สว นสารละลาย arecoline ความเขม ขน 2% ไมสามารถยบั ยงั้ การเจริญ ของเช้ือ S. aureus แตส ารสกดั นา้ํ สามารถยับย้งั การเจริญของเชือ้ นไี้ ด แมใ นขนาดความเขมขน 1 ตอ 10,000 สวน ดังน้ันฤทธิฆ์ าเช้ืออาจเน่อื งจากสารพวกฟน อลและแทนนนิ ท่ีมีมากในเมล็ดกไ็ ด3 3. สารสกดั น้ํา สารสกดั แอลกอฮอล สารสกัดดว ยกรด และสารสกดั ดว ยดา งจากเมล็ด มีฤทธ์ิ ทาํ ใหหลอดเลอื ดฝอยขาหลงั ของหนทู ดลองหดตวั สารสกัดดวยดางจะมฤี ทธแ์ิ รงและนานท่สี ดุ สารสกัด ดว ยแอลกอฮอลมฤี ทธิร์ องลงมา สารสกดั นา้ํ และสารสกัดดวยกรดมีฤทธิ์ไมแ รงนัก สารสกดั น้ําจะเพ่ิม ฤทธิข์ อง adrenaline ทม่ี ตี อ หลอดเลอื ดฝอยขาหลงั ของหนทู ดลอง ท้งั เพม่ิ ความแรงและระยะเวลาใน การออกฤทธิ์ไดน านขนึ้ สารพวกฟนอลจากหมากสามารถเพิ่มฤทธ์ขิ อง adrenaline แตต วั ของมันเองไม 3 แสดงฤทธท์ิ ําใหห ลอดเลอื ดหดตวั 4. หมากมีสารทีท่ ําใหเ กดิ มะเร็งทเี่ ยอื่ เมือกในชองปาก ปกตเิ มื่อเคยี้ วหมาก จะทาํ ใหการรบั รู ตอรสนอ ยลง ความอยากอาหารลดลง ฟน ดํา และโยกคลอนงา ย ทอ งผกู เจบ็ คอนอ ยลง และยงั แกป วด ทองอกี ดวย อาจเนือ่ งจากหมากมแี ทนนนิ ปริมาณมาก ในกลมุ คนท่เี คยี้ วหมากเปน ประจาํ พยาธลิ าํ ไสจ ะ ลดลง อาการกระหายน้ําลดลง อาจเนอื่ งจากฤทธขิ์ อง adrenaline3 5. เมอื่ รบั adrenaline มากเกินไป ทาํ ใหมีอาการพษิ เกิดขึน้ มีอาการนา้ํ ลายออกมาก นํ้าลาย ยืด อาเจยี น ปสสาวะมาก มึนงง สลบ ชกั ถาเกิดจากกนิ มากไป แกโ ดยใชส ารละลายดา งทับทมิ เจอื จาง ลา งกระเพาะอาหารและฉดี atropine แกอ าการพษิ ตาง ๆ ที่เกดิ ขน้ึ 3 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ชือ่ พรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบบั แกไ ขเพิ่มเตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. ชัยโย ชยั ชาญทพิ ยุทธ, วชิรา แดนตะวัน, สถาพร ลิ้มมณ,ี ชะนะ ครองรกั ษา, ทพิ วลั ย ทรัพยเจริญ. สมุนไพร อันดับที่ 03: การ 4. รGวoบnรgวมQขFอ .มูลZเhบoอ้ื nงgตyนaสoําPหaรoับzงhาiนวXจิ uัยeข.อ2งnโdคeรdง.กาBรศeึกijษinาgว:ิจNยั สatมioนุ nไaพlรC. hกinรeุงsเทeพTมraหdาiนtiคonรa:lจMุฬeาdลiงcกinรณe Pมuหbาlวisทิ hยinาลgยั H, o2u5s2e7,.2003. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006.
Page 202 192 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก โหราเดอื ยไก: Fuzi (附子) โหราเดือยไก หรือ ฟูจ่ือ คือ รากแขนงแหงท่ีผานการฆาฤทธิ์ของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Aconitum carmichaeli Debx. วงศ Ranunculaceae1 2 เซนติเมตร โหราเดือยไก (Radix Aconiti Lateralis Preparata) ช่ือไทย: โหราเดอื ยไก (ภาคกลาง)2,3 ชื่อจนี : ฟูจ ือ่ (จีนกลาง), หูจื้อ (จนี แตจ๋วิ )1 ช่ืออังกฤษ: Prepared Common Monkshood Daughter Root1 ชอ่ื เครื่องยา: Radix Aconiti Lateralis Preparata1 การเก็บเกยี่ วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเกี่ยวรากในฤดูรอน แยกเอารากแกว รากฝอย และดินออก เอาเฉพาะรากแขนงมาลางนํา้ ใหสะอาด นาํ ไปตากแหง เกบ็ รกั ษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรยี มตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอมใชม ี 5 วธิ ี ดงั นี้ วิธีที่ 1 โหราเดือยไกแชน ํ้าเกลอื เตรียมโดยนาํ วัตถุดบิ สมุนไพรท่ปี ราศจากสิ่งปนปลอม มาลา ง นาํ้ ใหส ะอาด ใสภาชนะท่ีมฝี าปด เตมิ นาํ้ เกลอื ปรมิ าณท่เี หมาะสม แชท งิ้ ไวขา มคืน แลว เตมิ เกลอื บรสิ ทุ ธิ์ ลงไปอกี แชอยางตอเนือ่ ง โดยใหน าํ ตัวยาออกมาตากแดดหรือผ่งึ ใหแหง ทุกวนั จากนั้นนําตัวยาไปแชใน น้าํ เกลอื ใหม แชจ นกระทง่ั ผวิ นอกของตวั ยามผี ลกึ ของเกลอื เกาะติดอยูเ ม่ือตัวยาแหงแลว และเน้ือในของ ตวั ยามีลักษณะแขง็ 1,4
Page 203 คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จนี 193 วิธีท่ี 2 โหราเดอื ยไกแ วน สดี าํ (ทางการคาเรียก เฮยซุนเพ่ียน) เตรยี มโดยนําวตั ถดุ บิ สมนุ ไพรท่ี ปราศจากส่งิ ปนปลอม มาลางนํ้าใหสะอาด นํามาแชใ นนํ้าเกลือหลาย ๆ วัน แลว นาํ ไปตมจนกระทั่งเน้อื ใน ใส นําตวั ยาออกมาลางดว ยน้าํ สะอาด ห่ันเปนแวนตามยาวขนาดหนาประมาณ 5 มลิ ลิเมตร จากนัน้ นําไป แชน้ําอีกครง้ั แลว ลางนา้ํ ใหสะอาด ยอมสตี วั ยาดวยสผี สมอาหารใหไ ดสชี าเขม แลว นาํ ไปนึ่งจนกระท่งั ผวิ ดา นนอกของตวั ยามนี ํา้ มนั และเปน มัน นาํ ไปปงตอ ใหแ หงประมาณ 50% แลว นําไปตากแหง หรือปงตอ จนตัวยาแหง1,4 วธิ ที ่ี 3 โหราเดอื ยไกแวนสีขาว เตรยี มโดยนําวัตถดุ บิ สมุนไพรทปี่ ราศจากสิ่งปนปลอมมาลาง นา้ํ ใหสะอาด นาํ มาแชใ นนา้ํ เกลอื หลาย ๆ วนั แลว นําไปตมจนกระท่งั เนือ้ ในใส นาํ ตัวยาออกมา ปอกเอา ผวิ นอกออก หนั่ เปน แวนตามยาวขนาดหนาประมาณ 3 มลิ ลเิ มตร จากนัน้ นําไปแชน ํ้าอีกครัง้ ลางนํ้าให สะอาด นําไปนง่ึ จนกระทง่ั มองเห็นเนือ้ ในตวั ยา ตากแดดใหแหงประมาณ 50% แลว รมดว ยควนั กํามะถัน ตากแดดใหแหง 1,4 วิธีท่ี 4 โหราเดอื ยไกค่ัว เตรยี มโดยนาํ ทรายท่ีสะอาดใสใ นภาชนะท่ีเหมาะสม แลว ใหค วามรอ น ทอี่ ณุ หภูมสิ งู ใสต ัวยาทไ่ี ดจากวธิ ีท่ี 3 คนอยางสมา่ํ เสมอจนกระทัง่ ตวั ยาเร่ิมพองตวั และเปลย่ี นสเี ลก็ นอ ย นาํ ออกจากเตา รอ นเอาทรายออก แลว ตงั้ ทงิ้ ไวใหเย็น4 วิธีที่ 5 โหราเดือยไกจืด เตรยี มโดยนําตวั ยาทไี่ ดจ ากวิธที ี่ 1 มาแชน าํ้ สะอาดในภาชนะทีเ่ หมาะสม โดยเปลีย่ นน้าํ ทกุ วัน วันละ 2-3 คร้ัง จนกระทัง่ ตวั ยาไมมรี สเคม็ ของเกลอื แลวนาํ ไปนง่ึ พรอ มกบั ถั่วดาํ ชะเอมเทศ และนาํ้ ในปริมาณท่ีเหมาะสม น่ึงจนกระทง่ั มองเห็นเนอ้ื ในตวั ยา เมื่อนํามาหั่นและชมิ ดูจะไม รสู กึ ชาท่ีลิน้ จากนนั้ นาํ ออกจากเตา แยกเอาถัว่ ดาํ และชะเอมเทศออก เอาเฉพาะตัวยา นํามาหัน่ เปนแผน บาง ๆ ตากใหแ หง (ใชถ วั่ ดํา 10 กโิ ลกรมั และชะเอมเทศ 5 กโิ ลกรัม ตอตัวยาทเี่ ตรยี มโดยวธิ ที ี่ 1 หนกั 100 กโิ ลกรมั )4 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: 6 ตัวยาทีม่ ีคุณภาพดี ตองเปนแวน ขนาดหนาสมํ่าเสมอ หนาตัดสีเหลอื งอมนํ้าตาลเปน มัน สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: โหราเดอื ยไก รสเผด็ รอ น มฤี ทธิ์เสริมหยางใหร ะบบหวั ใจ ใหค วามอบอุนแกก ระเพาะอาหาร เสริมความแขง็ แรงของไต บํารุงธาตไุ ฟ กระจายความเย็นท่ีมาจับ บรรเทาอาการปวด รางกายออนแอจาก ปวยเรื้อรงั เหงอื่ ออกมาก อาเจยี นมาก ถา ยมาก มอื เทา เย็น ปวดปส สาวะบอยตอนกลางคนื 1 โหราเดือยไกเปน สมนุ ไพรทีม่ ีพษิ จงึ ตองฆา ฤทธิ์ยากอ นใช ซง่ึ ทาํ ไดหลายวธิ โี ดยมวี ตั ถปุ ระสงค 1 เพ่ือลดพิษของยาและเพือ่ สะดวกในการใช
Page 204 194 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก โหราเดอื ยไกแ ชนํา้ เกลอื มวี ัตถปุ ระสงคเ พ่อื ปองกันใหต วั ยาไมเ นา เสีย สะดวกในการเกบ็ รักษา4 โหราเดือยไกแ วน สีดาํ และโหราเดือยไกแวนสีขาว ไดผานกระบวนการฆา ฤทธ์ิยาแลว จงึ สามารถ 4 นาํ มาใชเขาตํารับยาไดเลย โหราเดือยไกคั่ว มีฤทธ์ิใหความอบอุนแกไตเพื่อใหมามฟนคืนสูสภาพปกติเปนหลัก เหมาะ สาํ หรับผปู ว ยทมี่ ีอาการหนาวเย็นปวดทองและทรวงอก อาเจยี นและทองเสีย4 โหราเดือยไกจืด มีฤทธ์ิแรงในการชวยเสริมหยางเพ่ือใหผูปวยหนักฟนตัว บรรเทาอาการปวด เหมาะสาํ หรับผปู วยที่หยางพรองมาก มือเทาเย็น ชีพจรเตนจังหวะออน เกิดอาการบวมนา้ํ 4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: โหราเดือยไก มีสรรพคณุ แกล มจับโปง (แกป วดตามขอ ) และใชภายนอกเปน ยาชาเฉพาะที่3 ขนาดท่ีใชแ ละวิธีใช: การแพทยแ ผนจีน ใชขนาด 3-15 กรมั ตมเอานํา้ ดื่ม1 ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขา งเคียง: หา มใชในหญงิ มีครรภ และหามใชรว มกับตวั ยา ปน เซ่ยี เปยหมู กวาโหลว ไปจ ๋ี เพราะเมือ่ ใช รว มกนั แลว จะทาํ ใหฤ ทธข์ิ องตัวยาหมดไป (การแพทยแผนจีน)1 ขอ มลู วิชาการท่ีเก่ยี วขอ ง: 1. โหราเดอื ยไก มีฤทธล์ิ ดความดนั โลหติ ในสุนัข ตานอกั เสบในหนถู ีบจักร และหนขู าว7 ระงับ 8 ปวดในหนูถีบจักร และเสริมภมู ติ านทานในหนูขาว 2. โหราเดอื ยไก มสี รรพคณุ รกั ษาโรคหวั ใจ8 3. โหราเดือยไกมีพิษมาก ความเปนพิษแตกตางกันมากหรือนอยจะขึ้นอยูกับแหลงปลกู อายุ เกบ็ เก่ียว วิธีฆา ฤทธขิ์ องยา และระยะเวลาในการตม มรี ายงานวา โหราเดือยไกจากแหลง ตาง ๆ มคี วาม เปนพิษแตกตางกันถึง 8 เทา เม่ือฆาฤทธิ์ของยาแลวจะสามารถลดพิษไดมากถึง 81% โดยทัว่ ไปขนาด ของยาที่ทําใหเปนพิษจะสูงกวา ขนาดรบั ประทานมาก3 การศกึ ษาพิษเฉียบพลันในหนูถบี จักร โดยฉีดสาร สกัดน้ําเขาหลอดเลือดดําพบวา ขนาดสารสกัดเทียบเทา ผงยาทท่ี ําใหห นูถีบจกั รตายรอ ยละ 50 (LD50) มี คา เทา กับ 13.75 กรมั /กโิ ลกรมั และขนาดของสารสกัดต่ําสดุ ท่ีทาํ ใหห นขู าวตายเทียบเทาผงยา 23.40 กรมั /กโิ ลกรมั 8 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
Page 205 คูมือการใชสมนุ ไพรไทย-จีน 195 2. ลีนา ผูพ ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วฒั น บุญทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน ฉบับแกไ ขเพม่ิ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพคร้งั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. ชยันต วเิ ชยี รสุนทร, แมน มาส ชวลติ , วิเชียร จรี วงศ. คาํ อธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พิมพค รง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : สํานกั พิมพอมรนิ ทร, 2548. 4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 5. Ye DJ, Zhang SC, Huang WL, Pan SH, Gong QF, Chen Q. Processing of Traditional Medicine. 7th ed. Shanghai: Publishing House of Shanghai College of Traditional Chinese Medicine, 2001. 6. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 7. Bensky D, Gamble A. Chinese herbal medicine: Materia medica. Revised edition. Washington: Eastland Press, 1993. 8. Qu SY. Radix Aconiti Lateralis Preparata: fu zi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 206 196 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก อบเชยจนี : Rougui (肉桂) อบเชยจีน หรือ โรวกุย คือ เปลือกตนของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Cinnamomum cassia Presl วงศ Lauraceae1 5 เซนติเมตร 2 เซนติเมตร อบเชยจีน (Cortex Cinnamomi) ชื่อไทย: อบเชยจีน2,3 ชื่อจีน: โรวกุย (จีนกลาง), เหน็กกุย (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Cassia Bark1 ชื่อเคร่ืองยา: Cortex Cinnamomi1 การเกบ็ เกีย่ วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเก็บเก่ียว: เก็บเกี่ยวเปลือกตนในฤดูใบไมรวง ทําใหแหงในที่รม เก็บรักษาไวในทีม่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: นําวตั ถดุ ิบสมนุ ไพรมาขูดผวิ สว นที่ขรุขระออก แลว หัน่ เปน ชิน้ บาง ๆ หรือทุบใหแ ตกกอ นใช1 ,4 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี ตองมีน้ําหนัก ผิวนอกละเอียด เน้ือหนา ดานหนาตัดสีมวงแดงหรือสี แดงเขม มีน้ํามันมาก กลิ่นหอมฉุนมาก รสเผ็ดอมหวาน เมื่อเค้ียวจะมีกากนอย5 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: อบเชยจีน รสเผด็ อมหวาน รอน มฤี ทธเ์ิ สรมิ หยาง บาํ รุงธาตไุ ฟในระบบไต แกอวยั วะเพศไม แขง็ ตัว มดลกู เย็น ปสสาวะบอยตอนกลางคนื หลั่งเรว็ กลั้นปส สาวะไมอ ยู และมีฤทธ์กิ ระจายความเย็น
Page 207 คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จนี 197 ระงบั ปวด รักษาอาการหยางของมา มและไตพรอ ง (ปวดทอ งนอ ย คลน่ื ไสอ าเจียน มือเทาเย็น อจุ จาระ เหลว) รวมทั้งมีฤทธิ์ใหความอบอุนและทะลวงจิงลั่ว ทาํ ใหระบบหมุนเวียนทั้งเลือดและชี่หมุนเวียนดี กระจายความเยน็ ระงบั ปวด ชาเนอื่ งจากความเย็น แกประจําเดือนไมมาเนอ่ื งจากภาวะพรอง เยน็ ทําให การหมนุ เวียนของเลือดตดิ ขัด ปวดประจาํ เดอื น เปน ตน 1,3 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: อบเชยจีน รสเผด็ หวาน สรรพคุณแกลมอณั ฑพฤกษ ปลุกธาตอุ นั ดบั ใหเจริญ แกไขสันนบิ าต แกอ อนเพลยี ขบั ผายลม6 ขนาดที่ใชแ ละวิธใี ช: การแพทยแผนจนี ใชขนาด 1-4.5 กรัม ตม เอานํา้ ดม่ื 1 ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคยี ง: ควรระมดั ระวังในการใชใ นผูปว ยท่ีมีแนวโนมเลือดออกงาย1 หามใชในผปู วยที่เปน ไขโ ดยไมร ู สาเหตุ หรือในสตรีมคี รรภ และผปู ว ยทเี่ ปนแผลในกระเพาะอาหาร รวมท้งั ผูปวยที่แพอ บเชยจีน7 ในทาง การแพทยแ ผนจนี ไมใชอบเชยจีนรว มกับช่ือสอื จือ เพราะจะถกู ลางฤทธิ์ได1 ขอมูลวิชาการท่ีเกยี่ วของ: 1. สารสกดั น้าํ ขนาดเทียบเทา ผงยา 20 กรัม/กโิ ลกรัม มีฤทธิ์ลดไข บรรเทาอาการปวดในหนูถบี จักร และสาร cinnamic acid ท่แี ยกไดจากเปลอื กตนอบเชยจนี แสดงฤทธ์ิระงับปวดในหนทู ดลอง และ แสดงฤทธิล์ ดไขใ นกระตาย8 2. เมอ่ื ใหก ระตา ยรบั ประทานผงอบเชยจนี ขนาด 1.2 กรัม/กโิ ลกรมั ตดิ ตอกนั นาน 6 วนั พบวา มีฤทธ์ิชว ยใหอ าการขาดออกซิเจนของกลามเนื้อหวั ใจดีข้ึน และสารสกดั สามารถเพิ่มการไหลเวยี นของเลอื ด ที่ไปเล้ียงหวั ใจในหนูตะเภา นอกจากน้ีเมอื่ ใหหนขู าวรบั ประทานสารสกดั นํา้ ขนาดเทยี บเทาผงยา 10 กรัม/ กโิ ลกรัม หรือสารสกัดอเี ทอร (น้าํ มันหอมระเหย) ขนาด 0.8 มิลลลิ ิตร/กิโลกรัม วนั ละคร้งั ติดตอกัน นาน 5 วัน พบวา สามารถตานการแขง็ ตวั ของเลอื ดได8 3. สารสกัดนํ้ายังมีฤทธติ์ า นเชอ้ื แบคทีเรยี และเชือ้ ไวรสั บางชนดิ ในหลอดทดลอง3 4. การศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนูถบี จกั ร โดยฉดี สารสกัดน้ําเขาหลอดเลือดดํา และใหโดยวธิ ี รบั ประทาน พบวาขนาดของสารสกดั น้ําเทยี บเทา ผงยาท่ีทาํ ใหห นูถีบจกั รตายรอยละ 50 (LD50) มีคา เทา กับ 18.48 และ 120 กรัม/กิโลกรมั ตามลาํ ดบั และเมอ่ื ใหสาร cinnamic acid แกห นูถบี จกั รโดยวธิ ี รบั ประทาน ฉีดเขาหลอดเลือดดํา และ ฉดี เขาชอ งทอ ง พบวา ขนาดของสารดงั กลาวท่ีทําใหห นูถบี จักร ตายรอ ยละ 50 (LD50) มคี า เทา กับ 225, 132 และ 610 มลิ ลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตามลาํ ดบั 8
Page 208 198 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก 5. การทดสอบความเปน พษิ พบวา เม่ือปอ นสารสกัดเปลอื กอบเชยจนี ดว ย 70% แอลกอฮอล 9 ใหหนูขาวในขนาด 500 มลิ ลิกรัม/กิโลกรัม และขนาดทท่ี าํ ใหห นถู บี จักรตายมคี า ไมเปน พษิ ตอ ตัวออน มากกวา 2 กรมั /กิโลกรัม เม่ือปอ นสารสกัดยาตํารบั ดวยนา้ํ ใหหนูถีบจักรหรอื หนูขาว ขนาดท่ที ําใหหนู ตายครงึ่ หนึ่งคือ 15 กรัม/กิโลกรัม10 เมื่อปอ นยาตํารับใหก ระตายในขนาด 0.8 กรมั /กโิ ลกรมั ไมพ บพิษ11 เม่ือฉีดสารสกัดเปลอื กอบเชยจนี ดวยแอลกอฮอลเ ขาชองทอ งหนูถบี จกั ร พบวาขนาดที่ทาํ ใหห นตู ายเปน จาํ นวนคร่งึ หน่ึงคอื 1 กรมั /กโิ ลกรมั 12 และการฉีดยาตํารับเขาชองทองหนถู บี จักร พบวา ขนาดที่ทาํ ให สตั วทดลองตายเปน จํานวนครง่ึ หน่ึงคือ 23.6 กรัม/กโิ ลกรมั 13 6. มีรายงานการศึกษาวิจัยทางคลินิกในประเทศจีนวา เม่ือใหผูปวยโรคบิดชนิดเฉียบพลัน จํานวน 110 คน รบั ประทานยาแคปซลู อบเชยจีน 1.2-1.5 กรมั ติดตอกัน 2 ครัง้ โดยใหห างกนั ครง้ั ละ 1 ชั่วโมง หลังจากน้ันใหรับประทานอีก 1.2-1.5 กรมั ติดตอ กนั 3 ครั้ง โดยใหหางกนั ครง้ั ละ 2 ชว่ั โมง พบวา ยาแคปซูลอบเชยจีนสามารถรกั ษาโรคบดิ ชนิดเฉยี บพลันไดอยา งมนี ยั สําคญั เม่อื เปรยี บเทยี บกับ กลุมควบคุม8 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ชยันต พิเชียรสนุ ทร, แมน มาส ชวลติ , วเิ ชยี ร จีรวงศ. คําอธิบายตาํ ราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พค รั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สาํ นักพิมพอมรนิ ทร, 2548. 3. เยน็ จิตร เตชะดาํ รงสิน. การพัฒนาสมุนไพรแบบบรู ณาการ. กรุงเทพมหานคร: สาํ นกั งานกิจการโรงพมิ พ องคก ารทหารผา นศึกใน พระบรมราชูปถัมภ, 2550. 4. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 6. วุฒิ วุฒิธรรมเวช. คัมภรี เภสัชรัตนโกสนิ ทร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจุภัณฑแ ละการพิมพ จํากัด, 2547. 7. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 8. Qu SY. Cortex Cinnamomi: rou gui. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 9. Yamasaki K, Hokoyama H, Nunoura Y, Umezawa C, Yoneda K. Studies on effect of crude drugs on enzyme activities. 1. Influence of cinnamon bark upon protein digestive action by pancreatin. Shoyakugaku Zasshi 1982; 36:11-6. 10. Aburada M, Takeda S, Ito E, Nakamura M, Hosoya E. Protective effects of juzentaihoto, dried decoction of 10 Chinese herbs mixture, upon the adverse effects of mitomycin C in mice. J Pharmacobio Dyn 1983; 6(12): 1000-4. 11. Akhtar MS. Hypoglycaemic activities of some indigenous medicinal plants traditionally used as antidiabetic drugs. J Pak Med Ass 1992; 42(11): 271-7. 12. Woo WS, Lee EB, Han BH. Biological evaluation of Korean medicinal plants. III. Arch Pharm Res 1979; 2: 127-31. 13. Shin KH, Lee EB, Chung MS, Kim OJ, Yoon KY. The acute and subacute toxicities and pharmacological actions of Gami Ssanghwa Tang preparations. Korean J Pharmacog 1990; 21(2): 179-85.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209