Page 150 140 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก วิธีท่ี 2 ผิวสมจีนผัด แบงเปน 1) ผิวสมจีนผัดดิน (เปน ดินที่อยใู นเตาเผาไฟเปน ระยะเวลานานมาก มักมฤี ทธเ์ิ ปนดางออน คน จีนเรียกดินชนดิ นี้วา ฝหู ลงกาน) เตรยี มโดยนําดินใสใ นภาชนะท่ีเหมาะสม ใสต ัวยาทไี่ ดจากวธิ ีที่ 1 ลงไป ผัด โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระท่ังตัวยามีสีเหลืองเขม นาํ ออกจากเตา รอ นเอาดินออก นําตัวยาท่ีได ไปวางแผอ อก ตง้ั ท้งิ ไวใ หเ ยน็ (ใชดนิ ฝหู ลงกาน 30 กิโลกรมั ตอ ตวั ยา 100 กโิ ลกรัม)3 2) ผิวสมจีนผัดรําขาวสาลี เตรยี มโดยนาํ รําขา วสาลีใสลงในภาชนะท่เี หมาะสม ใหค วามรอน โดยใชร ะดบั ไฟปานกลางจนกระท่ังมคี วนั ออกมา ใสต วั ยาทไ่ี ดจ ากวิธีท่ี 1 ลงไป คนอยา งรวดเรว็ จนกระท่ัง ผวิ ของตวั ยาเปน สีเหลืองเขม นาํ ออกจากเตา แลว รอ นเอารําขา วสาลอี อก ตั้งท้ิงไวใ หเยน็ (ใชร าํ ขา วสาลี 30 กิโลกรัม ตอ ตวั ยา 100 กิโลกรมั )3 วธิ ที ี่ 3 ผิวสมจีนผัดนาํ้ ผ้ึง เตรยี มโดยนํานาํ้ ผง้ึ บริสทุ ธิ์มาเจอื จางดว ยนํ้าตมในปริมาณทีเ่ หมาะสม ใสต วั ยาทไ่ี ดจ ากวิธีที่ 1 แลว คลุกใหเขากนั หมกั ไวสกั ครูเพ่อื ใหน า้ํ ผึ้งซมึ เขา ในตวั ยา จากนั้นนําไปผดั ใน กระทะโดยใชระดบั ไฟปานกลาง ผัดจนกระทง่ั มสี ีเหลอื งเขมและไมเหนียวตดิ มอื นําออกจากเตา แลวตง้ั ท้ิงไวใ หเย็น (ใชน ้าํ ผึ้งบริสทุ ธิ์ 18.75 กโิ ลกรัม ตอตัวยา 100 กิโลกรัม)3 วิธที ี่ 4 ผวิ สม จีนถา น เตรียมโดยนําตวั ยาที่ไดจากวิธีท่ี 1 ใสก ระทะ นาํ ไปผดั โดยใชไ ฟระดับ ปานกลาง ผดั จนกระทง่ั ผิวนอกมสี นี ํ้าตาลดาํ พรมน้ําเลก็ นอย นาํ ออกจากเตา ตง้ั ท้ิงไวใหเ ยน็ แลวนาํ ไป ตากแหง ในท่ีรม3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาทม่ี คี ุณภาพดี ตองเปน เสนขนาดสมํ่าเสมอ ผวิ นอกสแี ดงอมสมหรือสแี ดงอมเหลอื ง ผิว 4 ดา นในสเี หลอื งอมขาว กลน่ิ หอม รสเผด็ สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: ผวิ สม จีน รสขมเผ็ด อุน มีฤทธ์ทิ าํ ใหชห่ี มนุ เวยี น บาํ รงุ มาม สรรพคุณ แกอ าหารไมยอ ย แก ปวดทอง มีฤทธ์ิสลายความชืน้ ละลายเสมหะ สรรพคุณแกเ สมหะและความชื้นตกคา ง บรรเทาอาการไอ1,3 ผิวสมจีนผัดดิน (ดินฝูหลงกาน) รสขมเล็กนอย มีกล่ินหอม สรรพคณุ บาํ รุงมา ม 3 แกทองเสีย ผิวสมจีนผัดราํ ขาวสาลี รสขมเล็กนอย รสเผ็ดจะลดลง แตคุณสมบัติแหงจะนุมนวลข้ึน มี 3 กลิ่นหอม เพ่ิมฤทธ์ิชวยใหการทํางานของมามและกระเพาะอาหารดีข้ึน ผิวสมจีนผัดน้ําผ้ึง รสหวาน สรรพคุณบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ3 ผิวสมจนี ถา น รสจดื มกี ลน่ิ ออน ๆ สรรพคุณเปน ยาหา มเลือด3
Page 151 คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จนี 141 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ผวิ สม รสปรา หอม ปรงุ ยาหอม แกล มวิงเวียน หนามืดตาลาย แกลมจกุ เสยี ด แนน เฟอ 5 ขนาดทใี่ ชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแ ผนจีน ใช 3-9 กรัม ตมเอานาํ้ ด่ืม1 ขอ มลู วิชาการทเี่ กี่ยวขอ ง: 1. มีรายงานวา น้ํามันหอมระเหยจากผวิ สม จีนมีฤทธิข์ บั เสมหะ สารสกดั น้าํ และสารสกดั แอลกอฮอล มีฤทธ์ิขยายหลอดลมในกระตาย และสาร nobiletin มฤี ทธิแ์ กหอบในหนูตะเภาและแมว6 2. สารสกัดนา้ํ มฤี ทธ์ิยบั ย้ังการหดตัวของกลามเนอ้ื เรยี บของลาํ ไสห นูตะเภา กระตา ย และสนุ ัข ตา นอนุมูลอสิ ระในหนขู าว นํา้ มนั หอมระเหยใหค วามอบอนุ และกระตุน การทํางานของระบบกระเพาะอาหาร และลําไสใ นกระตา ย เม่ือฉีดสาร hesperidin ท่แี ยกไดจากผิวสม จนี เขา ใตผ วิ หนังของสัตวท ดลองใน ขนาด 100 หรอื 500 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม/วนั ติดตอกนั นาน 6 วัน พบวา สารดังกลาวแสดงฤทธบ์ิ รรเทา อาการแผลในกระเพาะอาหารไดผลดี และสารดงั กลา วในขนาดเดยี วกนั มฤี ทธข์ิ บั นาํ้ ดีและละลายน่วิ ใน 6,7 ถงุ นํ้าดีในหนูขาวและสนุ ัข 3. การทดลองทางคลนิ ิก พบวาผวิ สมจีนมสี รรพคณุ รกั ษาอาการชอ็ คอันเนือ่ งจากการตดิ เชื้อ และสารสกัดมีสรรพคณุ รักษาแผลกลากเกลื้อน บรรเทาอาการแพ และแกอ จุ จาระมเี ลอื ดปน นา้ํ มนั หอม ระเหยมีสรรพคณุ รกั ษาน่ิวในถุงนาํ้ ดี7 4. เมื่อฉีดน้ํามันหอมระเหยเขาชองทองหนูถีบจักร พบวาขนาดของนา้ํ มันหอมระเหยท่ที ําให หนถู ีบจักรตายรอยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 1 7 มิลลิลิตร/กโิ ลกรัม เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหงประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. วุฒิ วุฒธิ รรมเวช. ยอเภสัชกรรมไทยและสรรพคณุ สมุนไพร. พิมพค ร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจุภัณฑแ ละ การพมิ พ จํากัด, 2548. 6. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984. 7. Li W. Pericarpium Citri Reticulatae: chen pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 152 142 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก พทุ ราจนี : Dazao (大枣) พทุ ราจีน หรือ ตา เจา คอื ผลสุกที่ทาํ ใหแ หงของพชื ท่ีมีชอื่ วทิ ยาศาสตรว า Ziziphus jujuba Mill. วงศ Rhamnaceae1 2 เซนติเมตร พทุ ราจนี (Fructus Jujubae) ชือ่ ไทย: พุทราจนี (ภาคกลาง)2 ชอ่ื จีน: ตา เจา (จีนกลาง), ตัว่ จอ (จนี แตจ ิว๋ )1 ชื่ออังกฤษ: Chinese Date1 ชื่อเคร่อื งยา: Fructus Jujubae1 การเกบ็ เก่ยี วและการปฏิบตั หิ ลังการเก็บเกี่ยว: เก็บเก่ียวผลสกุ ในฤดูใบไมรวง ตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวใ นท่ีมีอากาศเย็นและแหง มีการ ระบายอากาศดี1 การเตรยี มตวั ยาพรอ มใช: นาํ วตั ถุดิบสมนุ ไพรมาลา งนํ้าใหส ะอาด ตากใหแหง กอนใชใ หเ อาเมด็ ออก1 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทมี่ ีคณุ ภาพดี ผลตองมีขนาดใหญ สมบูรณ สแี ดงอมมว ง เมลด็ เลก็ และมรี สหวาน3 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนจีน: พุทราจนี รสหวาน อุน มีฤทธ์ิเสริมช่ี บํารงุ มา มและกระเพาะอาหาร แกอาการมามพรอง (เบื่อ
Page 153 คมู ือการใชสมุนไพรไทย-จีน 143 อาหาร ถายเหลว ออนเพลีย ไมมีแรง) และมฤี ทธสิ์ งบประสาท บํารงุ เลอื ด แกอาการเลอื ดพรอง (ซดี เซยี ว สตรีท่ีมีอาการของระบบประสาท กระวนกระวาย บํารุงเลือด) รวมท้งั มีฤทธิ์ปรบั ฤทธิ์ของยาใน ตํารบั ยาทีม่ ีฤทธ์ิรุนแรง สามารถใชพทุ ราจีนปรับฤทธยิ์ าและลดอาการไมพงึ ประสงค ชวยใหร างกายดดู ซึม ยาไดดีข้ึน รักษาช่ที ด่ี ไี วไ ด1 ขนาดทใ่ี ชและวิธใี ช: การแพทยแ ผนจนี ใชขนาด 6-15 กรัม ตมเอาน้าํ ด่ืม1 ขอ หามใช ขอควรระวัง และอาการขา งเคยี ง: พุทราจีนแหงมีนํ้าตาลสูง ผูทเ่ี ปนโรคเบาหวานควรรับประทานแตน อย และน้าํ ตาลอาจทาํ ใหฟ น ผุได นอกจากนผี้ ทู ่ีมีอาการของโรคลําไสแ ละฟน ผคุ วรหลีกเลย่ี ง4 ขอมูลวชิ าการที่เกย่ี วของ: 1. สารสกัดน้ํามีฤทธิ์ปกปองตับจากสารพิษและเพ่ิมความแข็งแรงใหตับในหนูถีบจักรและ กระตาย ระงับไอ ขับเสมหะในหนูถีบจักร4,5 2. มีรายงานวาเม่ือใหหนูขาวท่ีเปนมะเร็งกระเพาะอาหารรับประทานเนื้อพุทราจีนแหงวันละ 1 กรัม โดยกลุมท่ี 1 ใหรับประทานติดตอกันนาน 8 เดือน และกลุมท่ี 2 ใหรับประทานติดตอกันนาน 10 เดือน พบวา สามารถยับย้งั เซลลมะเร็งกระเพาะอาหารไดท้งั สองกลมุ โดยใหผ ลแตกตา งกันอยา งชดั เจน5 3. สารเพกทนิ (pectin) ในพทุ ราจีนชว ยจับโลหะหนกั ทีต่ กคางในรา งกายและลดคอเลสเตอรอล6 4. มรี ายงานการทดลองทางคลนิ กิ พบวาสารสกดั นํา้ มสี รรพคณุ บรรเทาอาการเลอื ดคงั่ และแก โรคตบั อกั เสบชนดิ เฉียบพลัน โดยท่ัวไปพุทราจีนมักไมใชเด่ียว สวนใหญจ ะเปน สวนประกอบในตํารบั ยา ตา ง ๆ4,5 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวีคณุ (คณะบรรณาธิการ). ชื่อพรรณไมแหงประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพ่ิมเตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้งั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 4. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984. 5. Zhou ZC. Fructus Jujubae: da zao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 6. บริษัทหลักทรัพยจ ัดการกองทนุ กสิกรไทย จํากัด. มหัศจรรยสมุนไพรจนี . กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ซเี อด็ ยเู คชน่ั จํากดั (มหาชน), 2550.
Page 154 144 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ฟา ทะลายโจร : Chuanxinlian (穿心莲) ฟาทะลายโจร หรือ ชวนซินเหลียน คือ สวนเหนือดินแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Andrographis paniculata (Burm. f.) Wall.ex Nees วงศ Acanthaceae1 (Herba 2 เซนติเมตร ฟาทะลายโจร Andrographis) ชื่อไทย: ฟาทะลายโจร, ฟาทะลาย (กรุงเทพฯ); หญากันงู (สงขลา)2 ชื่อจีน: ชวนซินเหลียน (จีนกลาง), ชวงซิมโนย (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Common Andrographis Herb1 ช่ือเคร่ืองยา: Herba Andrographis1 การเกบ็ เก่ียวและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกย่ี วสว นเหนือดนิ เมื่อพืชเจริญเติบโตเต็มท่ีและเร่ิมออกดอกจนถงึ ออกดอก แยกสิ่งอนื่ ที่ ปะปนมาทงิ้ ตากแดดใหแหง เก็บรักษาไวใ นท่ีมีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: นําวัตถดุ บิ สมุนไพรมาลางนํา้ ใหส ะอาด หั่นเปนทอน ๆ ขนาดพอเหมาะ และนาํ ไปทําใหแ หง1,3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ตองมีปริมาณใบมาก สีเขียว4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ฟาทะลายโจร รสขม เย็น มีสรรพคุณรักษาอาการไขหวัด เจ็บคอ แผลในปากและล้ิน ไอ เฉียบพลันและไอเร้ือรัง แกทองเสีย ติดเช้ือทางเดินปสสาวะ ปสสาวะขัด1
Page 155 คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จีน 145 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: 5 ฟาทะลายโจร มีสรรพคุณแกไขเจ็บคอ แกทองเสีย ขนาดท่ีใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใชขนาด 6-9 กรัม ตมเอาน้ําด่ืม1 การแพทยแ ผนไทย บญั ชียาหลักแหง ชาติ พ.ศ. 2542 กําหนดขนาดใชของฟา ทะลายโจร5 ดังนี้ - รักษาอาการเจบ็ คอ วันละ 3-6 กรมั วันละ 4 คร้ัง หลงั อาหารและกอ นนอน - รกั ษาอาการทอ งเสียไมต ิดเชอ้ื ครงั้ ละ 0.5-2 กรมั วันละ 4 คร้ัง หลังอาหารและกอนนอน องคการอนามัยโลก กาํ หนดขนาดใชข องฟาทะลายโจร4 ดังน้ี - แกไ ข ตมยาฟา ทะลายโจรแหง 3 กรัม รับประทานวันละ 2 คร้งั - แกหวดั ผงยาฟา ทะลายโจร 1.5-3 กรัม วันละ 3 ครง้ั หลังอาหารและกอนนอน - แกทอ งเสยี 3-9 กรัม รบั ประทานครง้ั เดยี วเมื่อมีอาการหรอื รับประทานแคปซลู หรือยา เม็ด 500 มลิ ลิกรมั ครง้ั ละ 2 เม็ด วนั ละ 4 คร้งั กอ นอาหารและกอ นนอน ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง: 1. หามใชในผูมีอาการแพฟาทะลายโจร5 2. ประสทิ ธิผลในการบรรเทาอาการไขเ จ็บคอของฟา ทะลายโจร นาจะเกิดจากฤทธิล์ ดไข และ ฤทธิต์ านการอกั เสบมากกวา ฤทธติ์ านเช้ือแบคทเี รยี ดังนัน้ เพื่อปองกนั ไมใ หผูป วยไดรบั อันตรายทเ่ี กิดจาก การติดเชือ้ แบคทีเรยี Streptococcus group A ซ่ึงอาจทาํ ใหเ กดิ ภาวะแทรกซอ นท่รี นุ แรงตามมา เชน ไข รหู ม าตคิ โรคหัวใจรูหม าตกิ และไตอักเสบ จงึ มีขอหา มใชฟ าทะลายโจรสาํ หรบั แกเจ็บคอในกรณตี าง ๆ ดังตอไปนี้ ในผปู ว ยทมี่ ีอาการเจบ็ คอเน่ืองจากตดิ เชือ้ Streptococcus group A - ในผูปวยท่ีมีประวัตเิ ปน โรคไตอกั เสบเน่ืองจากเคยติดเช้ือนี้ - ในผปู วยท่ีมีประวัตเิ ปน โรคหัวใจรูหมาติก - ในผูปวยท่ีมอี าการเจบ็ คอเน่ืองจากมกี ารตดิ เชื้อแบคทีเรีย และมอี าการรุนแรง เชน เปน - ตมุ หนองในคอ มีไขส งู หนาวสน่ั 3. ฟาทะลายโจรอาจทําใหเ กิดอาการแพไ ดต ง้ั แตอาการผน่ื คนั ลมพษิ จนถงึ อาการแพขั้นรนุ แรง ถา ใหโ ดยการฉดี หรอื ในขนาดสงู 5 4. ในผปู ว ยบางราย ฟา ทะลายโจรอาจทาํ ใหเกิดอาการปวดทอง ทอ งเดนิ ปวดเอว หรือวงิ เวยี น ศีรษะ ใจสน่ั หากมีอาการดังกลา วควรหยุดใชยาฟาทะลายโจรและเปล่ยี นไปใชย าอื่นแทน5 5. หากใชติดตอ กนั เปน เวลานาน อาจทําใหแขนขามอี าการชาหรอื ออนแรง5
Page 156 146 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก 6. หากใชฟาทะลายโจรตดิ ตอ กนั 3 วัน แลว ไมห าย หรือมอี าการรนุ แรงขนึ้ ระหวางใชย า ควร 5 หยดุ ใชแ ละไปพบแพทย 7. เนอื่ งจากมรี ายงานวาฟา ทะลายโจรทาํ ใหเกดิ การแทง ได ดังนัน้ ทางองคก ารอนามัยโลกจงึ แนะนําวา สตรมี ีครรภไ มควรใชฟ า ทะลายโจร5 ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ: 1. สารสกัดแอลกอฮอลแ ละสารสาํ คญั กลมุ diterpene lactone ของฟา ทะลายโจรสามารถลดการ บบี ตัวของลาํ ไสเล็กและกลามเนอ้ื กระเพาะอาหารของหนูทดลองได6,7 สารสกดั บวิ ทานอล andrographolide และ neoandrographolide สามารถตา นฤทธข์ิ อง E. coli enterotoxin ทีท่ ําใหท อ งเสยี ได เพราะชว ยทาํ ใหก ารสญู เสยี นา้ํ ทางลําไสล ดลง นอกจากน้สี ารสกดั 85% แอลกอฮอลยงั ปอ งกันการเกิดอาการทองเสีย ในหนถู บี จกั รทไ่ี ดรบั น้ํามนั ละหุงหรือ magnesium sulfate ได แสดงฤทธิล์ ดไขใ นกระตาย และสามารถ ตา นการอกั เสบในหนขู าวไดเ มือ่ ศกึ ษาฤทธิใ์ นการลดบวมขององุ เทา หลังของหนู หลงั ไดร ับสารคาราจีแนน (carrageenan-induced hind paw edema)5,8 2. มบี างรายงานกลาววา สารสกดั ฟา ทะลายโจรมฤี ทธิ์ตานเชอ้ื แบคทเี รยี บางชนิดได แตรายงาน การวจิ ัยหลายช้นิ ในประเทศไทยบงชี้วา ฟาทะลายโจรหรือสารสกัดฟาทะลายโจรไมมีฤทธิ์ตา นเชื้อแบคทีเรีย ท่ที ําใหทองเสีย หรอื ทาํ ใหเกิดโรคตดิ เช้ือของทางเดินหายใจสวนบน หรอื ถาพบฤทธยิ์ บั ยัง้ เช้อื ก็จะเปน ฤทธ์ทิ อ่ี อ นตอ งใชค วามเขมขนของสารสกัดสงู เกินกวา ท่ีจะมคี วามสมั พนั ธกับระดับยาในเลือดหรือในทางเดนิ อาหารหลงั รบั ประทานฟาทะลายโจร นอกจากนี้สารสกดั ฟา ทะลายโจรยังแสดงฤทธติ์ า นเชื้อ Porphyromonas gingivalis ซึ่งทาํ ใหเกิดโรคปริทนั ตได และสารสกัดหยาบของฟาทะลายโจรสามารถยับยงั้ การจับตัวของ แบคทเี รีย Streptococcus mutans (แบคทเี รียในชองปากทีเ่ ปลี่ยนน้าํ ตาลบนเคลือบฟน ใหเ ปน กรด อัน เปน สาเหตุของฟน ผ)ุ บนผวิ แกวหรอื บน hydroxyapatite ทเ่ี คลือบนํ้าลาย โดยมีคา IC50 เทากบั 0.5% โดยนาํ้ หนกั /ปรมิ าตร5 3. สารสกดั แอลกอฮอลจ ากฟา ทะลายโจรและสาร andrographolide สามารถกระตุน ระบบ ภูมิคุมกันของหนูถบี จกั รทั้งแบบจาํ เพาะและแบบไมจ ําเพาะ โดยสารสกัดแอลกอฮอลมีฤทธกิ์ ระตนุ ภมู ิคุมกัน ท่ีแรงกวา andrographolide นอกจากน้ีสารสกดั แอลกอฮอลย งั แสดงฤทธ์ลิ ดนาํ้ ตาลในเลือดในหนูขาวที่ ถกู ทําใหเปนเบาหวานจากการไดร ับสาร streptozotocin (STZ) ได สว นการศึกษาในกระตายปกตพิ บวา สารสกดั นํ้าในขนาด 10 มิลลิกรมั /กโิ ลกรมั ปอ งกนั การเพม่ิ ของระดับนา้ํ ตาลในเลือดเนอ่ื งจากไดรับ กลโู คสทางปากในขนาด 2 มลิ ลิกรัม/กโิ ลกรัม แตไ มส ามารถลดนํา้ ตาลจากการกระตนุ ดวย adrenaline ได และเม่ือใหส ารสกดั นาน 6 สปั ดาหไมส ามารถลดระดับน้ําตาลในเลอื ดได เมื่อใหส ารสกดั นา้ํ ขนาด 50 มลิ ลกิ รมั /กิโลกรัม แกห นทู เี่ ปน เบาหวานจากการไดร ับ STZ พบวา สามารถลดระดับนํา้ ตาลในเลอื ดได
Page 157 คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จีน 147 52.90% และประสทิ ธผิ ลจะสงู ขึน้ เม่ือใชส ารสกดั ท่เี ตรยี มแบบทาํ ใหแหง โดยวิธไี มใ ชค วามรอ น โดยพบวา ขนาด 6.25 มลิ ลกิ รัม/กิโลกรัม สามารถลดน้าํ ตาลไดถงึ 61.81% นอกจากนีส้ ารสกัดนาํ้ และสารสกดั 5 แอลกอฮอลข องใบฟาทะลายโจรสามารถปอ งกนั ตบั จากสารพิษตาง ๆ 4. การศกึ ษาประสิทธผิ ลในการรักษาโรคอจุ จาระรว งและบิดแบคทีเรยี โดยใชผ งฟา ทะลายโจร (เตรียมจากสวนเหนือดิน) เทียบกบั ยาเตตราซัยคลนิ ในการรกั ษาอุจจาระรว งและบิดแบคทีเรยี โดยใหยา 2 ขนาด คอื 500 มลิ ลกิ รัม ทกุ 6 ชวั่ โมง และ 1 กรมั ทกุ 12 ช่วั โมง พบวา ฟา ทะลายโจรทง้ั สองขนาด สามารถลดจํานวนอุจจาระรว ง (ท้ังความถ่ีและปรมิ าณ) และจํานวนนํ้าเกลือที่ใหทดแทนไดอ ยา งนา พอใจ แมว าจะไมแ ตกตางกันอยา งมีนัยสําคญั ทางสถติ ิ ฟาทะลายโจรสามารถทําลายเช้อื ที่กอ ใหเ กิดโรคบิดแบคทีเรยี ไดดีกวา เตตราซยั คลนิ แตท ําลายเชื้ออหวิ าตกโรคไดไ มดีเทา tetracycline อยา งไรก็ตามฟาทะลายโจร ชวยใหผ ปู วยอหวิ าตกโรคถายนอ ยกวากลมุ ทีไ่ ดร ับ tetracycline อยา งมนี ัยสาํ คัญ5 5. เมือ่ ใหผปู วยทม่ี อี าการไขเ จบ็ คอรับประทานฟา ทะลายโจรแคปซูลในขนาด 3 กรมั /วัน หรอื 6 กรมั /วนั แบงใหว นั ละ 4 ครง้ั ตดิ ตอ กัน 7 วัน เปรยี บเทยี บกบั กลมุ ทไ่ี ดร บั พาราเซตามอลขนาด 3 กรัม/วนั พบวา ในวันท่ี 3 หลงั การรกั ษา ผปู ว ยทีไ่ ดรับยาพาราเซตามอลหรือฟาทะลายโจรขนาด 6 กรมั / วัน หายจากไขแ ละอาการเจ็บคอไดมากกวา กลมุ ท่ีไดร ับฟาทะลายโจรขนาด 3 กรัม/วัน อยา งมนี ัยสําคญั แตผลการรกั ษาไมมคี วามแตกตา งกันในวันท่ี 75 6. รายงานผลการวจิ ยั ทางคลนิ กิ ในตางประเทศ โดยทดลองใหส ารสกดั ฟาทะลายโจรในขนาด 1,200 มิลลิกรมั /วัน แกผปู วยโรคหวดั จํานวน 28 คน แลววดั ผลในวันท่ี 4 หลังไดรับยา พบวา สารสกดั ฟา ทะลายโจรสามารถลดอาการเจ็บคอ เหน่ือย ออ นเพลีย ปวดเมอ่ื ยกลามเนือ้ ได เมื่อเทียบกบั กลุม ควบคุมทไ่ี ดร บั ยาหลอก 33 ราย โดยไมมรี ายงานอาการขา งเคียงจากการใชย า ตอ มามกี ารทดลองใหยา เม็ดฟาทะลายโจรซ่งึ มีสารสกัด 100 มลิ ลกิ รัม/เม็ด จาํ นวนครั้งละ 4 เมด็ วนั ละ 3 เวลา ในผูป ว ยทเ่ี ปน ไขห วัด 102 คน เทยี บกบั กลุม ทีไ่ ดรบั ยาหลอก 106 คน โดยใหผ ปู ว ยระบคุ วามรนุ แรงของแตล ะอาการ เม่ือเริ่มใหยาและหลังไดรับยา 2 วัน และ 4 วันตามลาํ ดับ โดยทําเครื่องหมายลงบนเสนตรงยาว 10 เซนติเมตร ท่ีแบงจาก 0-10 (0 หมายถึงไมมีอาการ และ 10 หมายถึงอาการรุนแรงท่ีสุด) พบวาวันท่ี 2 หลังไดรับยา ความรุนแรงของอาการออนเพลีย นอนไมหลับ เจ็บคอ นา้ํ มูกไหล ในกลุมท่ีไดรับยา ฟาทะลายโจรนอ ยกวา กลุมควบคุมอยา งมนี ัยสําคัญ และในวนั ท่ี 4 หลังไดรบั ยา ความรุนแรงของทกุ อาการ ไดแ ก อาการไอ (ทง้ั ความแรงและความถ่ี) เสมหะ น้ํามูกไหล ปวดศีรษะ ออ นเพลีย ปวดหู นอน ไมหลับ เจ็บคอ ในกลุมทไ่ี ดรับยาฟา ทะลายโจรนอ ยกวากลุมควบคมุ อยางมนี ยั สําคัญ ขอมลู งานวิจยั ทางคลินกิ ของฟา ทะลายโจรในโรคติดเชอื้ ของระบบทางเดนิ หายใจสว นตน สรปุ ไดวาฟาทะลายโจรนาจะมี ประสทิ ธผิ ลในการนํามาใชบรรเทาอาการของโรคตดิ เช้ือทางเดินหายใจสว นตนทีไ่ มม ภี าวะแทรกซอน5
Page 158 148 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 7. ฟาทะลายโจรมีฤทธ์ิยบั ยง้ั เชอ้ื Porphyromonas gingvalis จงึ มีการพฒั นายาเจลฟา ทะลายโจร เพอ่ื ทดสอบประสิทธผิ ลในการรกั ษาโรคปริทนตอ กั เสบ โดยศกึ ษาเปรยี บเทยี บผลทางคลนิ กิ และทางจลุ ชีววทิ ยาของเจลฟา ทะลายโจรและขผี้ ง้ึ ยามโิ นไซคลินท่ีใชใ สใ ตเหงอื ก เพอ่ื เสริมการรักษาผูปว ยโรคปรทิ นต อกั เสบเร่มิ เร็วในระยะเวลา 4 เดอื น โดยผูปวยตองมีรากฟนเดยี วอยางนอ ย 2 ซีท่ ่มี รี องลึกปริทนตเ มอื่ เริม่ ตนมากกวา หรือเทา กบั 5 มิลลิเมตร พบวาเมื่อใชเจลฟาทะลายโจรรว มกับการเกลารากฟนจะไดผ ล ใกลเ คยี งกบั การใช minocycline gel เม่ือใชรว มกบั การเกลารากฟน5 8. สารสกัด 50% แอลกอฮอลข องฟา ทะลายโจร ไมท าํ ใหเ กิดอาการพิษเฉยี บพลันในหนถู บี จกั ร และมีขนาดของ LD50 เมื่อใหทางปากและใตผวิ หนังมากกวา 15 กรมั /กโิ ลกรมั และเทากับ 14.98 กรมั / กโิ ลกรัมเม่อื ใหท างชอ งทอง สว นผลการศกึ ษาพษิ ระยะยาวของผงฟาทะลายโจรในหนูพนั ธุวสิ ตาร เมือ่ ใหท างปากในขนาด 0.12, 1.2 และ 2.4 กรัม/กโิ ลกรัม/วนั ตดิ ตอกันนาน 6 เดอื น พบวา ไมกอ ใหเ กดิ พษิ ในหนูขาว5 9. การศึกษาความเปนพษิ ของสารสกัด 70% แอลกอฮอลของฟาทะลายโจรตอระบบสบื พนั ธุ ของหนเู พศผู โดยใหสารสกัดทางปากนาน 60 วัน พบวา ไมก อ ใหเกดิ พิษตออณั ฑะ และไมทาํ ใหเกดิ การ เปลี่ยนแปลงของรูปรา งหรอื หนาท่ขี อง Leydig cells ในเพศเมียพบวาเมอื่ เอาผงฟา ทะลายโจรมาผสมกับ อาหารแลว ใหหนูถีบจักรเพศเมียกินในขนาด 2 กรัม/กิโลกรมั /วัน นาน 6 สัปดาห พบวาไมม ีหนตู ัวใดต้ัง ทองเมื่อผสมกบั หนูเพศผทู ่ีไมไดรับยา ขณะท่หี นกู ลมุ ควบคมุ ต้ังทอ ง 95.2% มีรายงานการศึกษาวาเมอื่ ฉดี นา้ํ ตม ฟา ทะลายโจรเขมขน 50% ทางชอ งทอ งแกห นถู ีบจักร มผี ลทําใหห นแู ทง ได และถา ฉีด progesterone รวมกับฮอรโมน LH-RH พรอ มกบั ฟาทะลายโจร จะปองกนั การแทงในชว งระยะแรกของการต้งั ครรภได จึงคดิ วา ฟาทะลายโจรอาจมผี ลตา นฤทธิข์ อง progesteroneจงึ ทาํ ใหเกดิ การแทงได5 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วฒั น บญุ ทวีคณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่ือพรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมิตินันทน 3. ฉMบeับiแXกHไ ข.เพSิ่มhเiตyิมonพg.ศZ.h2o5n4g4y)a.oสPําaนoกั zวhชิ iาZกhารinปaา nไม. . 1sกt รeมd.ปาHไมu.beพi:มิ Hพuค bรeัง้ iทS่ี 2c.ieกnรcงุ eเท&พมTหeาcนhคnรol:oบgรyิษPทั uปblรiะsชhาiชnนg Hจาํ oกuัดs,e2, 524040.5. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. อญั ชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธกิ าร). สมุนไพรไทยกา วไกลสูสากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ ร.ส.พ., 2548. 6. กัลยา อนลุ ักขณาปกรณ และอุไรวรรณ เพมิ่ พพิ ัฒน. ฤทธขิ์ องฟา ทะลายโจรในการลดการบีบตวั ของลําไสเ ลก็ และปอ งกนั การเกดิ ทอ งเสยี ในสัตวทดลอง. วารสารกรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย 2540; 39(1): 23-33. 7. วนดิ า แสงอลังการ และคณะ. ผลของ andrographolide, neoandrographolide และ 14-deoxy-11,12 didehydroandrographolide ตอการหดเกร็งของกลา มเน้ือกระเพาะอาหารหนขู าวนอกรางกาย. ไทยเภสชั สาร. 2533; 15(1): 5-16. 8. กองวจิ ยั และพัฒนาสมุนไพร กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย. คูม ือสมนุ ไพรเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน. กรุงเทพมหานคร : Text and Journal Cooperation, 2533.
Page 159 คูมือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 149 เมลด็ บวั : Lianzi (莲子) เมล็ดบัว หรือ เหลียนจื่อ คือ เมล็ดสุกท่ีทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Nelumbo nucifera Gaertn. วงศ Nymphaeaceae1 1 เซนติเมตร เมล็ดบัว (Semen Nelumbinis) ชื่อไทย: เมล็ดบัวหลวง เมล็ดบัว (ทว่ั ไป); เมล็ดสัตตบงกช, เมลด็ สัตตบษุ ย (ภาคกลาง)2 ช่ือจีน: เหลียนจ่ือ (จีนกลาง), โหนยจ้ี (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Lotus Seed1 ชื่อเคร่ืองยา: Semen Nelumbinis1 การเกบ็ เก่ียวและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเกี่ยวฝกแก (สังเกตไดจากฝกบัวมีลูกบัวเปนสีเทาหรือสีดาํ ) นํามารวมบนลานดิน แลว ใชไมทุบใหลูกบัวแกรวงหลุดจากฝก นาํ ลูกบัวไปตากแดดใหแหงประมาณ 3 วัน เมื่อแหงดีแลวจะใช ตะแกรงหาง ๆ รอนหรือฝดเอาลูกลีบหรือเสียท้ิง กะเทาะเอาเปลือกออก ตากแดดใหแหง เก็บรกั ษา ไวใ นทีม่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1,3 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอมใชมี 2 วธิ ี ดงั น้ี วธิ ีที่ 1 เมลด็ บัว เตรยี มโดยนําวตั ถุดบิ สมุนไพรทป่ี ราศจากสงิ่ ปนปลอม มาแชด ว ยนาํ้ รอน จนกระทัง่ ออ นนมุ แยกเอาดีบัวออก และนาํ ไปตากแหง1,4 วิธีที่ 2 เมล็ดบัวผัด เตรียมโดยนําตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไฟระดับ ปานกลาง ผดั จนกระท่ังผวิ ดานนอกมีสเี ขม ข้นึ และเนือ้ ดา นในมีสีเหลืองออ น ๆ มกี ล่นิ หอมกรนุ นําออก
Page 160 150 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก จากเตา ต้ังทงิ้ ไวใ หเ ย็น4 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาทีม่ ีคณุ ภาพดี เมลด็ ตองมีขนาดใหญ และมเี น้อื มาก5 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: เมลด็ บัว รสอมหวานฝาด สขุ ุม มีฤทธบ์ิ าํ รุงไต ควบคมุ และกระชบั การหล่ังนา้ํ อสุจิ แกอาการ ฝนเปยก และปส สาวะไหลโดยไมรตู ัว (ระหวา งหลับ) มฤี ทธิบ์ าํ รงุ มา ม หยุดถา ย แกอ าการทองรว งชนิด ทีไ่ มไ ดเกดิ จากการตดิ เชอื้ และมีฤทธบ์ิ ํารงุ หัวใจ ใชบ ํารงุ หัวใจและชว ยใหนอนหลับ3 เมล็ดบัวผดั รสอมหวาน มกี ลน่ิ หอม ใชรกั ษาอาการทองรวงชนดิ ที่ไมไดเ กดิ จากการตดิ เชอ้ื หรืออาการฝนเปยกและปส สาวะไหลโดยไมร ูตัว3,4 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: เมลด็ บัว รสหวานมนั สรรพคุณ บํารุงกําลงั บํารงุ ไขขอ ทําใหก ระชุมกระชวย แกร อนในกระหาย นา้ํ แกเสมหะ แกพพุ อง แกดพี กิ าร แกอ าเจยี น แกอ อ นเพลยี 6 ขนาดทใ่ี ชแ ละวิธีใช: การแพทยแ ผนจนี ใช 6-15 กรัม ตม เอานา้ํ ด่ืม หรือบดเปนผงรบั ประทาน1 ขอหา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคียง: การแพทยแ ผนจนี หามใชเมลด็ บัวในผปู วยทม่ี อี าการทองผกู ทองเฟอ อาหารไมยอ ย3,7 ขอ มูลวิชาการท่ีเกีย่ วของ: เมอื่ ใหสารสกัดปโตรเลยี มอีเทอรจากเมล็ดแหง ในหนขู าวโดยการปอนในขนาด 3 มิลลิกรมั / กโิ ลกรัม พบวา มีผลขดั ขวาง estrous cycle8 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผูพ ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพมิ่ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค ร้ังท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมนุ ไพรไทย-จีน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพการศาสนา, 2547. 4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 6. วฒุ ิ วฒุ ธิ รรมเวช. คัมภรี เ ภสชั รตั นโกสนิ ทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปส ยามบรรจภุ ัณฑและการพิมพ จํากดั , 2547. 7. บริษัท หลักทรพั ยจ ัดการกองทุน กสกิ รไทย จาํ กดั . มหัศจรรยสมนุ ไพรจีน. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ซเี อ็ดยูเคช่ัน จาํ กัด มหาชน, 2550. 8. บพติ ร กลางกัลยา, นงลักษณ สุขวาณิชยศ ิลป. รายงานผลการศกึ ษาโครงการการประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา จากสมนุ ไพร. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท เอส อาร พริ้นต้งิ แมสโปรดกั ส จาํ กดั , 2544.
Page 161 คูม อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 151 เมลด็ ฝอยทอง: Tusizi (兔丝子) เมล็ดฝอยทอง หรอื ทซู ือจ่อื คอื เมล็ดสุกท่ีทําใหแหงของพืชที่มชี ื่อวิทยาศาสตรว า Cuscuta chinensis Lam. วงศ Convolvulaceae1 0.5 เซนติเมตร 0.3 เซนติเมตร เมล็ดฝอยทอง (Semen Cuscutae) ช่ือไทย: เมล็ดฝอยทอง (ภาคกลาง); เมล็ดผักไหม (อุดรธานี); เมล็ดฝอยไหม (นครราชสีมา)2 ชื่อจีน: ทูซือจื่อ (จีนกลาง), โทวซีจี้ (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Dodder Seed1 ช่ือเครื่องยา: Semen Cuscutae1 การเก็บเกยี่ วและการปฏิบัตหิ ลังการเก็บเก่ียว: เก็บเก่ียวผลสกุ ในฤดใู บไมร วง ตากแดดใหแหง เคาะเมล็ดรวง เก็บสง่ิ อน่ื ที่ปะปนออก เมล็ดท่ี ไดน ําไปตากแหง เกบ็ รักษาไวใ นทมี่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอมใชม ี 4 วธิ ี ดงั น้ี วธิ ีท่ี 1 เมลด็ ฝอยทอง เตรยี มโดยนาํ วตั ถดุ ิบสมนุ ไพรมาแยกสงิ่ อ่ืนท่ีปะปนออก ลางนาํ้ ใหสะอาด ตากใหแ หง 3 วิธีที่ 2 เมล็ดฝอยทองผัดนาํ้ เกลือ เตรยี มโดยนาํ ตัวยาทไ่ี ดจ ากวธิ ีท่ี 1 มาใสในภาชนะท่เี หมาะสม เติมนาํ้ เกลอื คลุกเคลา ใหเขา กนั ตง้ั ทง้ิ ไวจ นกระท่งั น้าํ เกลือแทรกซมึ เขา ไปในเนื้อตัวยา จากนัน้ นําไปใส กระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระทง่ั เมล็ดพองตัวและมเี สียงเปลอื กเมลด็ ปริออกเล็กนอ ย
Page 162 152 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก มีกลิ่นหอมกรุน นําออกจากเตา ตั้งทงิ้ ไวใ หเยน็ (ใชเ กลอื บริสทุ ธิ์ 2 กโิ ลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรมั )3 วธิ ีท่ี 3 เมลด็ ฝอยทองผสมเหลา อัดเปน แผน เตรียมโดยนาํ ตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธีที่ 1 มาใสใ นภาชนะ ท่เี หมาะสม ตมนํ้าจนกระทัง่ เปลอื กเมล็ดแตกออก คนตลอดเวลาจนกระท่งั นํา้ แทรกซมึ เขาไปในเน้ือตวั ยา และตวั ยาทง้ั หมดมลี กั ษณะเหมือนโจก เตมิ เหลา เหลอื งและแปง หม่ขี าวลงไปผสมใหเขา กัน นําออกจาก เตา อัดเปนแผน แลวหัน่ เปน ชิ้นสเ่ี หลยี่ มเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ตากใหแหง (ใชเหลา เหลอื ง 15 กโิ ลกรัมและแปง หมขี่ าว 15 กิโลกรัม ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )3 วธิ ีท่ี 4 เมลด็ ฝอยทองผดั เตรียมโดยนําตัวยาที่ไดจากวิธีท่ี 1 ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไฟ ระดบั ปานกลาง ผัดจนกระท่งั ผวิ ดา นนอกเปนสีเหลอื งออ น ๆ และมีเสยี งปรอิ อกของเปลือกเมลด็ นําออก จากเตา ตง้ั ทิ้งไวใหเ ยน็ 3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี เมล็ดมีสีเหลืองเทา เมล็ดอวบอ่ิม4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: เมล็ดฝอยทอง รสอมหวาน อุน มีฤทธ์บิ าํ รุงไต ควบคมุ การหล่งั ของนํ้าอสุจิ รกั ษากลุมอาการ ของระบบไตพรอ ง (ปวดเอว อวัยวะเพศไมแ ขง็ ตวั ฝนเปยก ปสสาวะบอย ตกขาว) มีฤทธบ์ิ าํ รุงตับ ทาํ ใหตาสวาง รักษากลุมอาการของระบบตับและไตออนแอ (ตามัว หนามดื ตาลา เบลอ) ชว ยใหหยุดถา ย (เนื่องจากระบบมา มและไตพรอ ง ทําใหถา ยทอง) นอกจากน้ียงั มฤี ทธบ์ิ ํารุงมดลูก ปองกนั การแทงลูก (เน่ืองจากระบบตบั และไตออ นแอ ทําใหแทง งา ย)1,5 เมล็ดฝอยทองผัดนาํ้ เกลือ เน่ืองจากเมล็ดฝอยทองมีคุณสมบัติคอนขางอุน และมีฤทธ์ิบํารุง หยางมากกวาบาํ รงุ ยนิ เมือ่ นาํ มาผดั น้าํ เกลอื จะชวยใหฤ ทธ์บิ ํารุงยนิ และหยางเสมอกนั และชว ยนําตวั ยา เขา สูระบบไต ชว ยเพม่ิ ฤทธบ์ิ าํ รุงไตและบํารุงครรภ เหมาะสาํ หรับผูปวยท่ีมีอาการอวยั วะเพศไมแ ข็งตวั ฝนเปย ก ปส สาวะบอ ย ตกขาว3 เมล็ดฝอยทองผสมเหลาอดั เปน แผน จะเพมิ่ ฤทธใ์ิ หค วามอบอนุ และบาํ รงุ ไต และชว ยใหตวั ยาสามารถละลายออกมาไดดเี วลาตม ยา และสามารถบดเปนผงไดงาย จงึ เปนวธิ ที ี่นิยมใช เหมาะสาํ หรบั ผปู วยท่ีมีอาการปวดเมอ่ื ยเอวและเขา หูอือ้ ตามัว กระหายนาํ้ 3 เมลด็ ฝอยทองผัด มสี รรพคณุ และวธิ ีใชเหมือนเมลด็ ฝอยทอง แตเมลด็ ฝอยทองผดั จะชว ยให ตวั ยาสามารถละลายออกมาไดดเี วลาตม ยาและสามารถบดเปน ผงไดงา ย สะดวกในการเตรยี มยาตํารบั นิยม ใชใ นการเตรียมยาลกู กลอนและยาผง เหมาะสาํ หรบั ผูปว ยท่มี อี าการปวดเอวเนอ่ื งจากไตพรอ ง หลงั ปส สาวะ แลว ยังมีหยดปส สาวะเหลอื อย3ู
Page 163 คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 153 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: เมล็ดฝอยทอง รสฝาดเฝอน สรรพคุณ บํารุงกําลัง บํารุงตับไต แกปวดเม่ือย ทําใหตาสวาง แกกระหายนาํ้ แกน้าํ กามเคลื่อนเวลาหลับ6 ขนาดท่ีใชและวิธีใช การแพทยแผนจนี ใชขนาด 6-12 กรมั ตม เอานา้ํ ดม่ื หรอื ทําเปนยาเมด็ หรอื ยาผงรับประทาน ใชภ ายนอก บดเปนผงผสมทา1,5 ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง 1,5 สตรีมคี รรภ และผูป วยท่มี อี าการทอ งผูก ไมควรรับประทาน พชื น้ีถา ขึ้นเกาะบนตนไมท เี่ ปน พิษ เชน ตน ยโ่ี ถ ลําโพง ถอบแถบนํา้ และยาสบู เปน ตน ไมควร เก็บมาใช5 ขอมูลวิชาการท่ีเก่ียวของ: 1. สารสกดั โดยวิธแี ชส กัดเมลด็ ดวยแอลกอฮอล นํา้ หรอื ทําในรปู ยาทงิ เจอร จะมฤี ทธิ์ทําให หวั ใจคางคกทีแ่ ยกตัว บีบตัวแรงขึ้น สารสกดั แชด ว ยแอลกอฮอลมีฤทธิ์ทาํ ใหจ งั หวะการเตนของหัวใจ เพ่ิมขึ้น แตส ารสกดั แชด วยน้ําและทท่ี าํ ในรปู ยาทงิ เจอร ทําใหจังหวะการเตน ของหวั ใจลดลง ผลตอ สุนขั ทดลองทท่ี าํ ใหส ลบมีผลทาํ ใหค วามดนั โลหิตลดลง มามหดตัวเลก็ ลง ลดการบีบตวั ของลาํ ไส ผลตอ มดลูกทแี่ ยกตวั มีผลกระตุนการบีบตัวของมดลกู เพิ่มขน้ึ 5 2. เม่อื ฉีดสารสกดั โดยวธิ แี ชส กดั เมลด็ ดวยแอลกอฮอลแ ละน้าํ เขาใตผ วิ หนงั ของหนูขาวในขนาด 2.465 กรัม/กโิ ลกรมั จะทาํ ใหหนูตายจาํ นวนคร่งึ หนึง่ เม่ือใหทางปากในขนาด 30-40 กรัม/กโิ ลกรมั ไม ปรากฏอาการพษิ เมอ่ื ใหห นูทดลองกนิ สารแชส กดั ดวยแอลกอฮอลแ ละนาํ้ และทีท่ ําในรูปทงิ เจอรต ิดตอ กัน เปน เวลา 70 วัน ไมมผี ลตอการเจริญเติบโตของสัตวทดลอง และไมพ บอาการเปลี่ยนแปลงผิดปกตใิ ด ๆ5 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1. English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000. 2. ลนี า ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ช่อื พรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพ่มิ เติม พ.ศ. 2544). สํานกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รง้ั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. ชยั โย ชัยชาญทิพยุทธ, วชริ า แดนตะวัน, สถาพร ลิ้มมณ,ี ชะนะ ครองรกั ษา, ทิพวลั ย ทรัพยเจริญ. สมุนไพร อันดับท่ี 03: การ รวบรวมขอมูลเบือ้ งตนสาํ หรบั งานวจิ ัยของโครงการศึกษาวจิ ยั สมุนไพร. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย, 2527. 6. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภีรเภสชั รตั นโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จํากัด, 2547.
Page 164 154 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ราชดัด : Yadanzi (鸭胆子) ราชดัด หรือ ยาตา นจ่ือ คือ ผลสกุ ทที่ าํ ใหแหง ของพชื ทีม่ ีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Brucea javanica (L.) Merr. วงศ Simaroubaceae1 (Fructus 0.5 เซนติเมตร ราชดัด Bruceae) ชื่อไทย: ราชดัด, ดีคน (ภาคกลาง); กาจับหลัก, เทายายมอมนอย, มะขี้เหา, มะดีควาย, ยาแกฮ าก ขม (เชียงใหม); พญาดาบหัก (ตราด); เพียะฟาน (นครราชสีมา); มะลาคา (ปตตานี)2 ช่ือจีน: ยาตานจ่ือ (จีนกลาง), อะตาจ้ี (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Java Brucea Fruit1 ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Bruceae1 การเกบ็ เกีย่ วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเกบ็ เก่ียว: เก็บเกีย่ วผลสกุ ในฤดใู บไมร วง แยกเอาสง่ิ ปะปนออก ตากแดดใหแหง เกบ็ รกั ษาไวในท่มี อี ากาศ เยน็ และแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรยี มตวั ยาพรอมใช: นาํ สมุนไพรที่ปราศจากสง่ิ ปนปลอมมากะเทาะเอาเปลือกผลออก ใชเฉพาะสว นเนื้อ รอ นเอาเศษ เลก็ ๆ ออก ทบุ ใหแตกกอ นใช1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทม่ี คี ุณภาพดี ผลมขี นาดใหญ อวบมาก เน้อื ในเมล็ดมสี ีขาว มนี ํา้ มันมาก4
Page 165 คูมือการใชสมนุ ไพรไทย-จนี 155 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ผล รสขม เยน็ มีฤทธิข์ บั พษิ รอ น แกม าลาเรยี และแกโ รคบิด1 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ผล รสขม สรรพคณุ แกไข แกก ระษัย บํารงุ น้ําดี บาํ รงุ น้ําเหลือง แกท องอดื เฟอ แกล มวงิ วยี น แกหาวเรอ แกเ จ็บอก แกอาเจยี นเปนเลอื ด เปนยาบํารงุ ธาตุ ยาขบั พยาธิ และแกบดิ 5,6 ใชรกั ษาโรคผวิ หนังจาํ พวกเกลอ้ื น ใชเมล็ดแหงตาํ พอแหลก แลวเอาน้าํ ทาบริเวณทีเ่ ปน7 ขนาดท่ีใชและวธิ ใี ช: การแพทยแผนจนี ใช 0.5-2 กรัม 1 ตมเอานา้ํ ดื่ม ขอหา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขางเคียง: ราชดัดมพี ิษเลก็ นอ ย หามใชใ นเด็กและสตรมี คี รรภ8,9 ขอ มูลวชิ าการทเ่ี ก่ยี วขอ ง: 1. มรี ายงานวา สารพษิ ที่พบในเมลด็ คือ bruceantin, bruceine A-E, yadanziolide A, F, I ซึ่งมฤี ทธิย์ บั ยั้งการเจรญิ เติบโตของเชื้อมาลาเรยี ชนิดฟลซพิ ารมั และเชอื้ บดิ ในหลอดทดลอง แตพ บความ เปน พษิ สงู 9 และเน้อื ในเมล็ดหรอื สารสกัดนํา้ จากเลบ็ มือนางมีฤทธิย์ บั ย้ังเช้อื มาลาเรียในไกไ ดผลดี และ จากการทดลองทางคลนิ ิกในเบ้อื งตนพบวา สามารถรักษาโรคมาลาเรียได นอกจากน้ยี งั พบสารพษิ brahmine และ kerpestine10,11 2. กองวจิ ยั ทางแพทย กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย พบวา สวนสกดั ดวยนํ้าไมม ีพษิ เมอื่ ให ทางปากในขนาดทีท่ ําใหห นตู ายรอยละ 50 โดยฉีดเขาใตผิวหนัง เทา กบั 5.17 กรัม/กิโลกรมั และเม่ือฉีด เขาทางชอ งทอ ง เทา กบั 6.37 กรมั /กิโลกรมั 10 3. มรี ายงานการศกึ ษาทางเภสัชวิทยาและทางคลนิ ิก พบวาสารสกดั จากผลราชดัดมีฤทธ์ิฆาเชื้อ บดิ แตฤ ทธอ์ิ อนกวา ยา emetine8,11 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วฒั น บุญทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพม่ิ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครงั้ ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xian: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. พเยาว เหมอื นวงษญาต.ิ สมนุ ไพรกา วใหม. พิมพค รง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ท.ี พ.ี พริ้น จาํ กดั , 2537.
Page 166 156 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 6. ชยันต วเิ ชียรสุนทร, แมนมาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คําอธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พิมพคร้ังท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : สาํ นกั พิมพอมรนิ ทร, 2548. 7. กองวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมนุ ไพรพื้นบานฉบับรวม. พิมพครง้ั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : Text and Journal Corperation Co., Ltd., 2533. 8. พรอมจิต ศรลมั ภ, วงศส ถิตย ฉ่ัวกุล, สมภพ ประธานธุรารักษ (คณะบรรณาธิการ). สมุนไพรสวนสริ รี ุกขชาติ สารานุกรมสมุนไพร เลม 1. พิมพค ร้ังท่ี 3. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั อมรินทรพริ้นติง้ แอนดพบั ลิชชง่ิ จาํ กัด (มหาชน), 2543. 9. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 1. Geneva: World Health Organization, 1999. 10. สถาบนั วิจัยสมนุ ไพร กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . คูมือฐานขอ มูลพืชพิษ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ กรมการศาสนา, 2545. 11. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed. Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
Page 167 คูม อื การใชส มนุ ไพรไทย-จนี 157 เรวดง : Sharen (砂仁) เรวดง หรือ ซาเหริน คือ ผลสุกท่ีทาํ ใหแหงของพืชที่มีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Amomum villosum Lour. หรอื A. villosum Lour. var. xanthioides T.L.Wu et Senjen หรือ A. longiligulare T.L. Wu วงศ Zingiberaceae1 0.5 เซนติเมตร เรวดง (Fructus Amomi) ช่ือไทย: เรวดง (ตราด)2 ช่ือจีน: ซาเหริน (จีนกลาง), ซาย้ิง (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Villous Amomum Fruit1 ชื่อเครื่องยา: Fructus Amomi1 การเกบ็ เก่ยี วและการปฏิบัตหิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ยี วผลสกุ ในชวงฤดูรอ นถงึ ฤดใู บไมร ว ง ตากแดดใหแหง ในทันที หรอื ทําใหแ หงทอี่ ุณหภมู ิ ต่ํา ในการปองกันการเส่ือมสภาพของเมล็ดและการระเหยของนํ้ามันอยางรวดเร็ว ไมควรแกะเมล็ด กอนเมล็ดแหง เก็บรักษาเมล็ดแหงในกระสอบปานหรือถุงพลาสติก เก็บไวในท่ีมีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1,3 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดังนี้ วธิ ที ี่ 1 เรวดง เตรยี มโดยนําวัตถุดบิ สมุนไพรมาแยกสงิ่ อ่นื ทป่ี ะปนออก ทบุ ใหแ ตกกอนใช4
Page 168 158 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก วธิ ีท่ี 2 เรว ดงผดั นาํ้ เกลอื เตรยี มโดยนาํ ตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธที ี่ 1 มาใสใ นภาชนะที่เหมาะสม เตมิ นา้ํ เกลือ คลกุ เคลาใหเ ขากัน ตงั้ ท้ิงไวจนกระท่งั น้าํ เกลอื แทรกซมึ เขาไปในเนอื้ ตัวยา จากน้นั นําไปใสก ระทะ ผัดโดยใชไ ฟระดับปานกลาง ผดั จนกระทง่ั ตัวยาแหง นาํ ออกจากเตา ตั้งทง้ิ ไวใ หเย็น (ใชเกลอื บริสทุ ธ์ิ 2 กิโลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรัม)4 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาท่ีมคี ณุ ภาพดี ตอ งมีขนาดผลใหญ แขง็ และมีเน้อื มาก เนื้อในเมล็ดสนี ้ําตาลแดง กลน่ิ หอมฉนุ มาก รสเผด็ และเย็นมาก5 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน: เรวดง รสเผ็ด อนุ มีฤทธสิ์ ลายความชน้ื ทําใหช ี่หมนุ เวยี น ใชรกั ษาอาการช่ีติดขัด ทาํ ใหจกุ เสียด แนนทอง มีฤทธ์ิใหความอบอุนแกกระเพาะอาหาร ระงับอาเจียน ทองเสีย ใชแกกระเพาะอาหารและ ลาํ ไสเย็นเกินไป ทําใหทองเสีย อาเจียน และมีฤทธ์ิบํารุงครรภ แกอาการแพทอง เชน คลื่นไสอาเจียน เบื่ออาหารในสตรีมีครรภ1,6 เรว ดงผดั นา้ํ เกลือ รสเผ็ดจะลดลง มีฤทธช์ิ ว ยนําตัวยาลงสสู วนลา งของรางกาย เพิม่ ฤทธิใ์ หความ อบอุนกบั ไตและบํารุงครรภ4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: ผล รสรอนเผ็ดปรา แกริดสีดวง แกหืดไอ แกระดูขาว แกไขสันนิบาต7 เมล็ด รสรอนเผ็ดปรา ขับลมในลาํ ไส แกทองขึ้นอืดเฟอ แกปวดทอง แกคล่ืนเหียนอาเจียน แกริดสีดวง หืดไอ กัดเสมหะ แกไขสันนิบาต ขับนํ้านม บาํ รุงธาตุ7 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 3-6 กรัม หรือมากกวานี้ตามอาการของโรค ตมเอานํ้าดื่ม (ถาตมกับ ยาอ่ืนควรใสทีหลัง)1,6 โดยมีรายละเอียดการใชทางคลินิก ดังนี้ 1. แกอาการแพทอง อาเจียน รับประทานอาหารไมได ใหใชเมล็ดบดเปนผงชงกับนา้ํ ขิงตม รับประทานวันละหลาย ๆ คร้ัง6 2. แกอาการเปนพิษ ใหใชเมล็ดบดเปนผง รับประทานกับน้ําอุน6 3. บาํ รุงธาตุ แกอาการทองอืด ทองเฟอและปวดทอง โดยใชเมล็ดเรวดง หัวแหวหมู ราก ชะเอมเทศ และขิงแหงรวมกัน6 4. แกประจําเดือนมามากกวาปกติ ใหใชผลเรวแหงรางไฟจนแหงกรอบ แลวบดเปนผงชง นาํ้ รับประทานบอย ๆ6
Page 169 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 159 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ชือ่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน ฉบบั แกไขเพิม่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค ร้งั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544. 3. สถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยแี หงประเทศไทย. PROSEA: ทรัพยากรพืชในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต 12(1) พืช สมุนไพรและพืชพษิ เลม 1. นนทบุรี : สหมิตรพร้ินติง้ , 2546. 4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 6. กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . สมนุ ไพรไทย-จีน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพก ารศาสนา, 2547. 7. วฒุ ิ วฒุ ิธรรมเวช. ยอเภสชั กรรมไทยและสรรพคุณสมุนไพร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปส ยามบรรจุภัณฑและการพิมพ, 2546.
Page 170 160 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ลกู จนั ทนเทศ : Roudoukou (肉豆蔻) ลูกจันทนเทศ หรือ โรวโตวโคว คือ เนื้อในเมล็ดที่ทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Myristica fragrans Houtt. วงศ Myristicaceae1 2 เซนติเมตร ลกู จนั ทนเ ทศ (Semen Myristicae) ช่ือไทย: ลูกจันทนเทศ (ภาคกลาง); ลูกจันทนบาน (ภาคเหนือ)2 ช่ือจีน: โรว โตวโคว (จีนกลาง), เหน็กเตา โขว (จีนแตจ ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Nutmeg1 ชื่อเครื่องยา: Semen Myristicae1 การเกบ็ เกี่ยวและการปฏิบัตหิ ลังการเกบ็ เก่ียว: เกบ็ เกีย่ วผลแกจ ัดในฤดใู บไมผลแิ ละฤดใู บไมร ว ง แยกเอาเปลือกผลและเปลือกหุมเมล็ดเทยี ม ท้งิ กะเทาะเอาเปลอื กแขง็ ทหี่ มุ เมล็ดออก เอาเฉพาะเนอื้ ในเมล็ดมาแชน าํ้ ปนู ใสทิ้งไวข ามคนื แลวนํามาปง โดยใชร ะดบั ไฟปานกลาง ปงจนแหง เก็บรกั ษาไวใ นทม่ี ีอากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศดี3 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตัวยาพรอมใชม ี 4 วธิ ี ดงั นี้ วิธที ี่ 1 ลูกจนั ทนเทศ เตรยี มโดยนาํ วตั ถดุ บิ สมนุ ไพรทป่ี ราศจากสง่ิ ปนปลอม มาลา งนา้ํ ใหส ะอาด ตากแดดใหแหง ทุบใหแตกกอนใช4 วิธีท่ี 2 ลูกจันทนเทศค่ัวราํ ขาวสาลี เตรียมโดยนํารําขาวสาลีและตัวยาท่ีไดจากวิธีท่ี 1 ใสลง ในกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง พรอ มคนอยา งสมํา่ เสมอ จนกระทัง่ รําขาวสาลีเปนสเี หลือง
Page 171 คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จนี 161 เกรียม และตัวยามีสีน้าํ ตาลเขม นําออกจากเตา แลวรอนเอารําขาวสาลีออก ตั้งท้ิงไวใหเ ยน็ ทุบใหแ ตก กอนใช (ใชร าํ ขาวสาลี 40 กโิ ลกรมั ตอ ตัวยา 100 กิโลกรัม)3 วธิ ีท่ี 3 ลูกจันทนเทศค่ัวผงหินล่ืน เตรียมโดยนําผงหนิ ลื่นใสในภาชนะทเี่ หมาะสม แลวให ความรอ นท่อี ณุ หภมู ิสูง ใสตัวยาทไ่ี ดจ ากวธิ ีท่ี 1 ลงไป คนอยา งสมาํ่ เสมอจนกระทง่ั ผิวดา นนอกของตัวยา มสี ีนํา้ ตาลเขม และมกี ล่นิ หอมกรนุ นําออกจากเตา แลวรอ นเอาผงหนิ ลนื่ ออก ตงั้ ทงิ้ ไวใ หเยน็ ทุบใหแ ตก กอนใช (ใชผ งหนิ ลน่ื 50 กิโลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรมั )3 วธิ ีท่ี 4 ลกู จนั ทนเทศหอ แปง หม่ีควั่ เตรยี มโดยนําแปงหม่ีผสมนํา้ ในปริมาณทเ่ี หมาะสม ปนให เปนแผน แลวนาํ มาอัดใหเปนแผนบาง ๆ จากนั้นนาํ แผนแปงหม่ีที่เตรียมไดมาหอตัวยาที่ไดจ ากวิธีที่ 1 พรมนํา้ ทผี่ วิ ดา นนอกเพอ่ื ใหช มุ ชน้ื แลว นําไปหอ กับแผนแปง หมอ่ี กี หอประมาณ 3-4 ชัน้ ใหท ําเชนเดยี วกัน นําไปตากแดดใหแ หง ประมาณ 50% จากน้นั นาํ ไปใสล งในภาชนะทบี่ รรจผุ งหนิ ลืน่ ท่ผี ดั ใหรอ นแลว คน อยางสมาํ่ เสมอ จนกระทั่งผิวดานนอกมสี เี หลืองเกรยี ม นําออกจากเตา แลวรอ นเอาผงหินลื่นออก ตัง้ ทงิ้ ไวใ หเ ย็น ใหเอาแผนแปงหมท่ี ่ีหอไวทงิ้ เอาเฉพาะตวั ยา ทุบใหแตกกอนใช (ใชแ ปงหมี่ 50 กโิ ลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรมั )3 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี เนื้อในเมล็ดตองมคี ุณสมบัติแขง็ และเหนยี ว มลี ายเสน คลา ยเนื้อในเมล็ด หมาก มนี ้ํามันมาก และมกี ล่นิ หอม5 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ลกู จนั ทนเทศ รสเผด็ อุน มีฤทธ์สิ มานลําไส ระงบั ถายทองรว ง แกท องรว งเรือ้ รงั (เน่ืองจากมาม และไตพรองและเย็นเกินไป) และมีฤทธ์ิใหความอบอนุ แกก ระเพาะอาหาร ทําใหช ีห่ มุนเวียนดี แกป วด กระเพาะอาหาร เบอ่ื อาหาร อาเจยี น จกุ เสยี ดแนนทอง1 ลกู จันทนเทศมนี ้ํามันในปริมาณสูง ทําใหมีขอ เสยี คอื มฤี ทธ์หิ ลอลื่นและกระตุนลาํ ไสม ากเกินไป โดยทั่วไปจงึ ตองนาํ มาแปรรูปโดยใชว ธิ เี ฉพาะกอนใช การคว่ั จะขจดั น้าํ มันบางสว นออกไป ทําใหฤทธิห์ ลอลนื่ และกระตุนลาํ ไสลดนอ ยลง แตม ีฤทธ์แิ รงข้นึ ในการชว ยใหล าํ ไสแขง็ แรงและระงับอาการทองเสยี เหมาะ สําหรับผูป วยทม่ี ีอาการปวดทอ ง จกุ เสยี ดแนน ทอ ง ทองรว ง อาเจยี น อาหารไมยอ ย3 สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนไทย: ลกู จนั ทนเทศ มกี ลน่ิ หอม รสเปร้ยี วฝาด รอ น มีสรรพคณุ บาํ รงุ กําลงั บํารงุ ธาตุ แกธ าตพุ ิการ ขับลม แกจุกเสยี ด แกก าํ เดา แกทองรว ง แกรอ นในกระหายนา้ํ แกปวดมดลูก บาํ รงุ เลอื ด6-8
Page 172 162 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ขนาดท่ีใชแ ละวธิ ใี ช: การแพทยแ ผนจนี ใชข นาด 3-9 กรัม ตมเอาน้ําดมื่ หรือใชภ ายนอกโดยบดเปน ผงผสมกับนํา้ มนั หรอื นํา้ สม สายชผู สมทา1 การแพทยแ ผนไทย ใชเนอื้ ในเมลด็ 0.5 กรัม หรือประมาณ 1-2 เมล็ด บดใหเ ปนผงละเอยี ด ชงนํ้าคร้ังเดียว รับประทานวันละ 2 ครั้ง 2-3 วนั 6,9 ขอหา มใช ขอควรระวงั และอาการขางเคียง: หามใชใ นผูปวยทมี่ อี าการรอ นแกรง บดิ ทองรว งเพราะมีความรอน (การแพทยแ ผนจีน)1 หา มใชลกู จันทนเทศในปรมิ าณสูง เพราะทาํ ใหเกิดอาการขางเคียงอันไมพึงประสงค (การแพทย แผนไทย)6 มรี ายงานวาเม่อื รบั ประทานลกู จันทนเทศขนาดนอยกวา 1 ชอนโตะ ก็ทําใหเกิดอาการขางเคียง ได อาการขางเคียงในขนาดสูง ทาํ ใหเกิดอาการคลนื่ ไส อาเจยี น ปากแหง หัวใจเตน เรว็ กระตนุ ระบบ ประสาทสว นกลางทาํ ใหม า นตาขยาย นอนไมห ลบั มนึ งง สบั สน เกดิ อาการประสาทหลอน และอาจทําให ชักได นอกจากน้ยี งั ทาํ ใหเกิดอาการแพ เชน allergic contact dermatitis และ occupational asthma6 ขอ มูลวิชาการท่เี กย่ี วของ: 1. สารสกัด Nutmeg oil จากลกู จันทนเ ทศสามารถยบั ย้ังการจับตัวของเกลด็ เลอื ดได โดยมี eugenol และ isoeugenol เปนสารออกฤทธ6์ิ 2. สารสกัดแอลกอฮอลม ฤี ทธติ์ านเชือ้ จุลินทรีย น้ํามันลูกจนั ทนเทศสามารถยับย้งั การจบั ตวั 10 ของเกล็ดเลือดได สารสกดั ของเปลือกเมล็ดแสดงฤทธิต์ า นอักเสบในสัตวทดลอง 3. ลกู จนั ทนเทศมีสรรพคณุ แกทองเสยี ชนดิ เร้ือรัง แกปวดทอ ง อาหารไมยอ ย อาเจียน มี รายงานวา เม่อื รบั ประทานผงลกู จันทนข นาด 7.5 กรัม อาจทําใหเ กดิ อาการวงิ เวยี นศรี ษะ คลื่นไส อาเจียน ปากแหง นอนไมห ลับ หากรับประทานในขนาดสงู มากอาจทาํ ใหตายได1 0 4. เมอ่ื ใหสารสกดั อเี ทอรทางปากแมว พบวาขนาดของสารสกดั ท่ีทาํ ใหแ มวตายมีคา เทากบั 0.5- 1 มิลลิลิตร/กิโลกรัม และเม่ือใหผงยาทางปากแมวในขนาด 1.8 กรัม/กิโลกรัม อาจทําใหเกิดอาการ ประสาทหลอน และถงึ ตายไดภ ายใน 24 ช่วั โมง10 5. จากการศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนถู ีบจักรของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจ ากลกู จนั ทนเทศ พบวาคา LD50 มีคามากกวา 10 กรัม/กิโลกรัม เมือ่ ใหโ ดยการปอนหรอื ฉีดเขา ใตผิวหนงั 11
Page 173 คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 163 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวีคณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่อื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินนั ทน ฉบับแกไ ขเพ่ิมเติม พ.ศ. 2544). สํานกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้ังที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 6. กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. เอกสารวิชาการสมุนไพร. นนทบรุ ี : สถาบนั วจิ ัยสมุนไพร, 2543. 7. วุฒิ วุฒธิ รรมเวช. คัมภรี เภสชั รัตนโกสนิ ทร. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จํากดั , 2547. 8. ชยันต วเิ ชียรสนุ ทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จีรวงศ. คาํ อธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพอมรนิ ทร, 2548. 9. สุนทรี สงิ หบตุ รา. สรรพคณุ สมุนไพร 200 ชนิด. พมิ พค รัง้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร : โอ.เอส.พร้นิ ต้ิงเฮา ส, 2536. 10. Tao C, Lin ZB. Semen Myristicae: rou dou kou. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 11. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวสั ดีมงคล, ประยทุ ธ สาตราวาหะ. การศึกษาพษิ ของสมุนไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธํารง, ทรงพล ชวี ะพัฒน, เอมมนสั อัตตวิชญ (คณะบรรณาธิการ). ประมวลผลงานวจิ ัยดา นพิษวิทยาของสถาบันวิจยั สมุนไพร เลม 1. พิมพค ร้ังท่ี 1. กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พการศาสนา, 2546.
Page 174 164 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก ลกู เดือย : Yiyiren (意苡仁) ลูกเดือย หรือ อ้ีอ่ีเหริน คือ เนื้อในเมล็ดของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Coix lacryma-jobi L. var. mayuen (Rorman.) Stapf วงศ Gramineae1 0.5 เซนติเมตร ลูกเดือย (Semen Coicis) ช่ือไทย: ลูกเดือย (ทั่วไป)2 ช่ือจีน: อ้ีอี่เหริน (จีนกลาง), อี้อี๋ย้ิง (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Coix Seed1 ชื่อเครื่องยา: Semen Coicis1 การเก็บเกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว: เก็บเก่ียวผลสุกในฤดูใบไมรวง ตากแดดใหแหง แยกเอาเนื้อในเมล็ดออกจากเปลือกนอกซึ่ง มีสีนํา้ ตาลเหลือง แยกเอาสงิ่ ท่ีปะปนทิง้ เกบ็ รักษาไวในทมี่ อี ากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตัวยาพรอ มใชมี 3 วธิ ี ดังนี้ วธิ ีที่ 1 ลกู เดอื ย เตรียมโดยนําวัตถุดบิ สมนุ ไพรที่ปราศจากส่งิ ปนปลอมมารอนเอาเศษเลก็ ๆ ออก1,3 วิธีที่ 2 ลูกเดือยผัด เตรียมโดยนาํ ตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นําไปผัดโดยใชไฟระดับ ปานกลาง ผดั จนกระทงั่ ผวิ ดา นนอกเปน สีเหลือง พองออกเลก็ นอ ย นาํ ออกจากเตา ตงั้ ทิ้งไวใหเ ย็น3
Page 175 คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 165 วิธีที่ 3 ลูกเดือยผัดราํ ขาวสาลี เตรียมโดยนาํ รําขาวสาลีใสในภาชนะท่ีเหมาะสม แลวใหความ รอนจนกระทัง่ มีควันออกมา ใสต ัวยาทไ่ี ดจ ากวธิ ที ี่ 1 ลงไป คนอยา งรวดเร็วจนกระทัง่ ผวิ ดานนอกมีสี เหลอื ง พองออกเล็กนอ ย นําออกจากเตา แลวรอ นเอารําขาวสาลอี อก (ใชราํ ขา วสาลี 15 กโิ ลกรัม ตอ ตวั ยา 100 กโิ ลกรมั )1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่มี ีคุณภาพดี เนอื้ ในเมล็ดมขี นาดใหญ มีเนอื้ มาก และมีสีขาว4 สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน: ลูกเดือย รสจืดอมหวาน เย็นเล็กนอ ย มฤี ทธส์ิ ลายความช้นื ขบั ปสสาวะ ใชเ ปน ยาขบั ปสสาวะ แกบวมน้ํา ขาบวม มฤี ทธ์เิ สรมิ บํารุงมาม แกอ าการมามพรอง ถายกระปด กระปรอย บวมน้ํา ทอ งมาน มี ฤทธบ์ิ รรเทาอาการปวดขอ ปวดเม่ือยกลา มเน้ือ แกป วดขอ กลามเนื้อ บวมตึง เปนตะคริว คลายเสนเอน็ และมฤี ทธ์ริ ะบายความรอน ขับหนอง นํ้าเหลืองเสยี ใชแ กโ รคปอดอักเสบ ลาํ ไสอกั เสบ ขับหนอง แผลฝ1 ลูกเดือยผัด และลูกเดือยผัดราํ ขาวสาลี จะชว ยใหคณุ สมบัติเย็นหรอื เยน็ มากของลกู เดอื ยเกิด ความสมดลุ เพมิ่ ฤทธิบ์ าํ รงุ มา มและระงับทองเสยี ใชรักษาอาการทองเสียที่เกดิ จากภาวะมามพรอง แก ทองมาน3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: ลูกเดอื ย รสมันเยน็ สรรพคณุ แกห ลอดลมอกั เสบ แกปอดอกั เสบ ขับปสสาวะ แกน ้าํ ค่งั ใน ปอด ใชเ ปนอาหารบํารงุ กาํ ลงั สาํ หรบั คนฟนไข5 ขนาดทีใ่ ชแ ละวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 9-30 กรัม ตมเอาน้าํ ด่ืม1 ขอหา มใช ขอควรระวงั และอาการขางเคยี ง: ลกู เดอื ยไมเหมาะกบั ผมู ีปญ หาทอ งผูกบอ ย ปส สาวะบอ ย หรือมปี ญ หาเก่ยี วกับระบบสืบพนั ธุ6 ขอ มลู วชิ าการที่เก่ียวขอ ง: 1. มรี ายงานวา สาร coixol ในลูกเดอื ย มฤี ทธ์คิ ลายอาการเกรง็ ตวั ของกลามเน้ือและปองกนั การชกั ลดความดันโลหิตไดช ว่ั ขณะ ลดนํา้ ตาลในเลอื ดและลดไข และสาร coixenolide มีฤทธ์ติ า นการ เจริญเตบิ โตของเนือ้ งอก7,8 2. น้าํ มันจากลกู เดอื ย มปี ระมาณ 5.9-9.8% ซ่ึงประกอบดว ยสารสาํ คัญคอื coix acid, palmitic acid น้ํามันลกู เดอื ยมฤี ทธ์ิกระตุน ศนู ยการหายใจในสัตวทดลอง (หากใหปรมิ าณสูง ๆ อาจทําใหส ตั วทดลอง
Page 176 166 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ตายได) ลดความเปลี้ยของรา งกาย ลดความดันโลหติ และขับปส สาวะ7,8 3. จากการศึกษาพษิ เฉียบพลันในหนถู ีบจักร พบวาเม่ือฉีดน้ํามนั จากลูกเดือยเขา ทางชองทอง ในขนาด 90 มิลลกิ รัม/ตัว ไมพ บสัตวทดลองตัวใดตายภายใน 24 ชัว่ โมง แตเ มอ่ื ฉดี นํ้ามันดงั กลาวเขา ทางใตผิวหนัง พบวาขนาดท่ีทาํ ใหหนูถบี จักรตายคือ 5-10 มิลลิกรัม/กรมั และขนาดทท่ี าํ ใหก ระตายตาย เมอ่ื ฉีดเขาทางหลอดเลอื ดดําคือ 1-1.5 กรมั /กิโลกรัม เมือ่ ฉดี สาร coixol เขา ทางชอ งทองหนถู ีบจกั รใน ขนาด 500 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั พบวา แสดงฤทธ์ริ ะงบั ปวดไดชัว่ ขณะ และไมพบสัตวทดลองตวั ใดตาย และเม่อื ใหโดยวิธรี บั ประทานวนั ละ 20, 100, 500 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตดิ ตอ กันนาน 30 วัน ไมพ บ อาการผดิ ปกตใิ ด ๆ และไมมสี ตั วทดลองตวั ใดตาย8 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่ือพรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน ฉบับแกไ ขเพ่ิมเติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. วฒุ ิ วุฒธิ รรมเวช. คัมภีรเภสชั รัตนโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั ศลิ ปสยามบรรจุภัณฑแ ละการพิมพ จํากดั , 2547. 6. บริษทั หลกั ทรัพยจ ัดการกองทนุ กสกิ รไทย จํากัด. มหศั จรรยสมุนไพรจีน. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ซีเอด็ ยเู คชนั่ จาํ กัด มหาชน, 2550. 7. ลดั ดาวลั ย บุญรตั นกรกจิ . สมนุ ไพรนาใช. พมิ พค ร้งั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ แทน ทองปร้ินต้ิงเซอรว สิ , 2535. 8. Han XZ, Li DH. Semen Coicis: yi yi ren. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 177 คูม ือการใชส มุนไพรไทย-จนี 167 เลบ็ มือนาง: Shijunzi (使君子) เล็บมือนาง หรือ ส่ือจฺวินจื่อ คือ ผลสุกท่ีทาํ ใหแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Quisqualis indica L. วงศ Combretaceae1 0.5 เซนติเมตร เล็บมือนาง (Fructus Quisqualis) ชื่อไทย: เล็บมือนาง (ภาคกลาง); จะม่ัง, จา ม่งั , มะจีม่ัง (ภาคเหนือ); ไทห มอ ง (แมฮ อ งสอน); อะดอนง่ิ (ยะลา)2 ชื่อจีน: สื่อจฺวินจ่ือ (จีนกลาง), ไซกุงจ้ือ (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Rangooncreeper Fruit1 ชื่อเครื่องยา: Fructus Quisqualis1 การเก็บเกย่ี วและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเก็บเกี่ยว: เกบ็ เก่ยี วผลสุกในฤดใู บไมร ว งเมอ่ื เมลด็ สกุ และเน้ือผลมสี ีมว งดาํ แยกเอาสง่ิ ที่ปะปนมาทิ้ง ตาก แดดหรอื ทําใหแ หงที่อุณหภมู ติ าํ่ เก็บรกั ษาไวในทม่ี อี ากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศด1ี การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรยี มตวั ยาพรอ มใชม ี 3 วธิ ี ดังนี้ วิธีที่ 1 เล็บมือนาง เตรียมโดยนําวัตถดุ บิ สมุนไพรมาคัดเอาส่ิงปนปลอมและกา นผลออก ทบุ ให แตกกอนใช1 ,3
Page 178 168 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก วธิ ีท่ี 2 เนื้อผลเล็บมือนาง เตรยี มโดยนําตวั ยาท่ไี ดจากวธิ ที ่ี 1 มากะเทาะเอาเปลือกออก ใช 1,3 เฉพาะสวนเนื้อผล ทุบใหแตกกอนใช วธิ ีที่ 3 เน้อื ผลเลบ็ มอื นางผัด เตรียมโดยนาํ ตวั ยาท่ีไดจ ากวิธที ี่ 2 ใสก ระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดับ ปานกลาง ผัดจนกระท่ังผิวนอกมสี เี หลอื งและมจี ุดดาํ เกรยี ม มีกลนิ่ หอม นาํ ออกจากเตา ตง้ั ทิง้ ไวใ หเย็น ทุบใหแตกกอนใช1,3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาท่ีมคี ณุ ภาพดี ผลตองมขี นาดใหญ ผวิ นอกสนี ้าํ ตาลมวง เนื้อผลอวบอม่ิ 4 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: เล็บมอื นาง รสหวานเลก็ นอย มฤี ทธ์ฆิ าพยาธแิ ละชว ยใหก ารยอยอาหารดขี ึ้น ใชถ า ยพยาธไิ สเ ดือน และพยาธเิ สนดาย1 เนื้อผลเล็บมอื นาง มีสรรพคุณและการใชเหมือนเล็บมือนาง โดยทวั่ ไปเลบ็ มือนางจะใชใน รปู แบบของยาตม หากเตรยี มเปนยาผงหรือยาเมด็ จะใชเ น้อื ผลเล็บมอื นาง3 เนือ้ ผลเลบ็ มอื นางผดั จะชว ยลดอาการขา งเคียงทเ่ี กดิ จากการหดเกรง็ ของกลา มเนอื้ กระบงั ลม มฤี ทธิช์ ว ยใหม า มแข็งแรง การยอ ยอาหารดีขนึ้ และฆาพยาธิ สวนใหญใชร กั ษาอาการปวดทอ งเน่ืองจาก พยาธไิ สเดือนและพยาธิเสนดา ยในเด็ก3 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย: เล็บมือนาง รสเอียน เบอ่ื เลก็ นอย ใชข ับพยาธแิ ละตานซาง5 ขนาดทใี่ ชแ ละวิธใี ช: การแพทยแ ผนจนี ใช 9-12 กรมั ตม เอานํ้าดืม่ หรือเนือ้ ในผล 6-9 กรัม ทาํ เปน ยาลูกกลอน หรือเปนยาผงรบั ประทานคร้ังเดียว หรือแบงรบั ประทานเปน 2 ครั้ง1 การแพทยแ ผนไทย ใชถ ายพยาธไิ สเดอื นและพยาธเิ สนดาย สาํ หรับเด็กใช 2-3 เมล็ด (หนัก 4- 6 กรมั ) ผใู หญใช 5-7 เมล็ด (หนกั 10-15 กรมั ) ทบุ พอแตก ตมเอาน้ําด่ืมหรือห่ันทอดกบั ไขร ับประทาน5 เมล็ดใชต าํ เปน ผงละเอียด ใชรกั ษาโรคผวิ หนังโดยผสมกบั นํ้ามันพชื 6 ขอหา มใช ขอ ควรระวัง และอาการขางเคยี ง: การแพทยแ ผนจนี หามใชเ ลบ็ มือนางรวมกบั นํา้ ชาเขมขน เนือ่ งจากจะลบลา งฤทธกิ์ ัน1 การแพทยแผนไทย ควรระมดั ระวงั ในการใชเลบ็ มือนาง เพราะอาจทาํ ใหเ กดิ อาการขา งเคียง คือ สะอกึ เวียนศีรษะ คลื่นไส อาเจียน เปน ตน 5
Page 179 คูม อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 169 ขอ มลู วิชาการท่ีเกีย่ วของ: 1. เมลด็ เล็บมือนางประกอบดว ยนา้ํ มนั และสาร quisqualic acid (กรดอะมโิ น) และ D-manitol พบวา สารสาํ คัญซง่ึ ออกฤทธข์ิ บั พยาธคิ ือ quisqualic acid และยงั มรี ายงานฤทธขิ์ ับถายอยางแรงของนํา้ มัน ในเมล็ดเลบ็ มอื นางดว ย5 2. การศกึ ษาความเปนพษิ ของเมล็ดเลบ็ มือนางพบวา เมือ่ ใหสารสกัดนาํ้ จากเมล็ดเลบ็ มอื นาง แกหนูถีบจกั รทางปากไมทาํ ใหเกดิ พิษเฉยี บพลัน และขนาดเมลด็ เล็บมือนางที่ทาํ ใหสัตวท ดลองตายรอย ละ 50 (LD50) มคี า มากกวา 20 กรมั /กิโลกรัม จากการทดสอบพิษกึง่ เฉียบพลนั ในหนแู รทพนั ธวุ สิ ตาร โดยใหส ารสกดั เทยี บเทา เมล็ดเลบ็ มือนางขนาด 0.2, 2.0, 6.0, 10.0 และ 20.0 กรมั /กโิ ลกรมั /วนั ทาง ปากติดตอกันเปน เวลา 60 วนั เปรียบเทียบกับกลมุ ควบคมุ ทีไ่ ดรบั นํา้ พบวา เมื่อไดร บั สารสกดั เทยี บเทา เมล็ดเล็บมอื นางขนาด 6.0, 10.0 และ 20.0 กรมั /กิโลกรัม/วนั เปน เวลา 2 วัน สัตวท ดลองแสดงอาการ ท่เี กดิ จากความเปนพษิ ตอระบบประสาท โดยมีอาการทส่ี าํ คัญคอื ชักกระตกุ รวมกับชกั เกรง็ ตอมาหยุด หายใจและตาย หนูเพศผูตายจากอาการพิษ คิดเปนรอยละ 26, 53 และ 80 ในเพศเมียคิดเปนรอยละ 0, 6 และ 80.0 ตามลาํ ดบั ขนาดยา และตอ มากลมุ ทไ่ี ดรับสารสกัดขนาดสูงสดุ คือ 20.0 กรัม/กโิ ลกรัม/ วัน นาน 3 วนั ตายหมด หนูที่ไดร ับสารสกัดเมลด็ เลบ็ มอื นางครบ 60 วนั มีการเจรญิ เตบิ โตและการกนิ อาหารไมตา งจากกลมุ ควบคมุ การเปล่ยี นแปลงคาทางโลหิตวทิ ยาและคา ทางชวี เคมขี องซีร่มั ตรวจพบได ในหนูท่ีไดรบั สารสกัดบางกลุมอยา งไมส ัมพันธก บั ขนาดของสารสกัด จงึ ไมส ามารถกลา วไดว า เกิดจาก สารสกัดโดยตรง ผลการตรวจเนื้อเย่ืออวยั วะภายในทางจุลพยาธิวทิ ยา ไมพบการเปลยี่ นแปลงทสี่ รปุ ได 7 วาเกิดจากความเปนพษิ ของสารสกัดจากเมล็ดเลบ็ มือนาง เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บญุ ทวคี ุณ (คณะบรรณาธิการ). ชื่อพรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบบั แกไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. กนั ทิมา สิทธิธัญกิจ, พรทพิ ย เตมิ วเิ ศษ (คณะบรรณาธิการ). คูมอื ประชาชนในการดูแลสุขภาพดว ยการแพทยแ ผนไทย. พิมพครัง้ ที่ 2 กรงุ เทพมหานคร : สาํ นักงานกิจการโรงพมิ พองคการทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547. 6. พเยาว เหมือนวงษญาต.ิ สมุนไพรกา วใหม. พมิ พค รง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ที.พ.ี พร้ิน จํากดั , 2537. 7. ทรงพล ชวี พัฒน, ปราณี ชวลิตธาํ รง, ปราณี จนั ทเพช็ ร. ความเปน พิษของเมลด็ เล็บมือนาง ในประมวลผลงานวิจยั ดา นพิษวทิ ยาของ สถาบันวจิ ยั สมุนไพร กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข., 2550.
Page 180 170 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก วา นพรา ว : Xianmao (仙茅) วานพรา ว หรอื เซียนเหมา คอื เหงา แหงของพืชท่ีมีชือ่ วทิ ยาศาสตรว า Curculigo orchioides Gaertn. วงศ Amaryllidaceae1 1 เซนติเมตร วานพราว (Rhizoma Curculiginis) ช่ือไทย: วานพราว (ภาคเหนือ)2 ชื่อจีน: เซียนเหมา (จีนกลาง), เซียงเมา (จีนแตจิ๋ว)1 ชื่ออังกฤษ: Common Curculigo Rhizome1 ช่ือเครื่องยา: Rhizoma Curculiginis1 การเก็บเกีย่ วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเก็บเก่ียว: เก็บเก่ียวเหงาในฤดูใบไมรวงหรือฤดูหนาวเม่ือสวนเหนือดินเหี่ยวแหงกอนแตกตา แยกเอา สวนรากฝอยและใบและทิ้ง ลางนํา้ ใหสะอาด ตากแดดใหแหง เกบ็ รักษาไวใ นทม่ี ีอากาศเย็นและแหง มี การระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอ มใชมี 2 วธิ ี ดังน้ี วธิ ที ี่ 1 วา นพราว เตรียมโดยนาํ วตั ถดุ ิบสมุนไพรมาลา งนาํ้ ใหสะอาด ใสภาชนะปดฝาไวเพื่อให ออนนุม หนั่ เปน ทอ น และนาํ ไปตากแหง 1,3 วธิ ีท่ี 2 วา นพรา วผัดเหลา เตรยี มโดยนาํ ตวั ยาท่ไี ดจากวิธีท่ี 1 ใสใ นภาชนะทีเ่ หมาะสม เตมิ เหลา เหลืองปริมาณพอเหมาะ แลวคลุกเคลา ใหเขา กัน จนกระทัง่ เหลาแทรกซึมเขาไปในเนื้อตวั ยา จากนัน้ นําไป
Page 181 คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จนี 171 ผัดโดยใชไ ฟระดับปานกลาง ผัดจนแหง นาํ ออกจากเตา ตากใหแหง ในทีร่ ม (ใชเหลาเหลอื ง 10 กิโลกรมั ตอตวั ยา 100 กโิ ลกรมั )3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทม่ี คี ุณภาพดี ผิวนอกสนี ้ําตาลเขม หรือสนี ้ําตาลดาํ คุณสมบตั แิ ขง็ แตเ ปราะ หักงายแต ดา นหนาตดั จะไมเรยี บ มีกลิน่ หอมออ น ๆ รสเผ็ด4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน: วา นพรา ว รสเผด็ รอน มฤี ทธิใ์ หความอบอุนและเสรมิ หยางของระบบไต แกห ยางของไตไมพ อ ธาตุไฟนอ ย (เชน อวัยวะเพศไมแ ขง็ ตวั นาํ้ อสจุ ิเย็น ปสสาวะรดท่ีนอน ปสสาวะบอ ย) มีฤทธบิ์ าํ รงุ เสน เอน็ และกระดูก แกร ะบบไตออนแอ เขาและเอวออนแรง ปวดเสน เอน็ และกระดูก การปวดและการชา เร้ือรังจากความเย็นและความช้ืน และมีฤทธิ์ขับความเย็นและความชื้น แกหยางของมามและไตพรอง หนาทอ งและทอ งนอ ยเย็นและปวด ถา ยทอง1 วานพราวผัดเหลา จะชวยลดพิษของสมุนไพร เพิ่มฤทธ์ิในการบํารุงหยางของไต เสริมความ แขง็ แรงของเสน เอน็ และกระดกู รวมทง้ั ขบั ความเยน็ และความช้ืนไดดี เหมาะสาํ หรับผปู วยทีม่ ีอาการหยอ น 3 สมรรถภาพทางเพศ ปวดเสนเอ็นและกระดูก และปสสาวะบอ ย สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนไทย: วา นพรา วมสี รรพคุณเปนยาชกั มดลูก เชน สตรคี ลอดบุตรใหม ๆ มดลกู ลอยเพราะความอักเสบ ชวยใหม ดลกู เคล่ือนไหวกลับท่ีเดมิ ใหเปน ปกติ5 ขนาดท่ีใชและวธิ ีใช: การแพทยแผนจีน ใช 3-9 กรมั 1 ตมเอานํ้าดื่ม ขอหามใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคยี ง: วานพราวเปน สมนุ ไพรท่มี พี ษิ หามใชใ นผูปว ยทีม่ อี าการรอนใน1 ขอ มลู วิชาการทีเ่ กี่ยวของ: 1. สารสกดั แอลกอฮอลเม่อื ใหท างชอ งทอ งหนถู บี จกั รในขนาด 10 กรมั /กโิ ลกรมั พบวาสามารถ เพ่ิมฤทธ์ขิ องยา pentobarbital sodium ใหนอนหลบั นานข้นึ และชว ยเพิ่มฤทธิ์ของยา picrotoxin หรอื cocculin ใหลดอาการตนื่ ตระหนกตกใจลง นอกจากนีส้ ารสกดั ดงั กลาวยังแสดงฤทธ์ิตานการอกั เสบที่ เกดิ จากนาํ้ มันสลอดดว ย6
Page 182 172 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก 2. สารสกัดแอลกอฮอลเ ม่ือใหท างปากหนูถีบจกั รในขนาด 10 และ 20 กรัม/กโิ ลกรมั วนั ละครง้ั ติดตอกันนาน 8 วนั พบวาไมสามารถเพ่ิมเซลลเม็ดเลอื ดขาวชนิดลิมโฟชัยตในหนปู กติ แตส ามารถรกั ษา ภาวะภูมิคุมกันบกพรอ งในหนทู ไ่ี ดร บั สารกดภมู คิ ุม กัน6 3. การศึกษาพิษเฉียบพลันโดยใหสารสกัดนาํ้ ทางปากหนูถีบจักรในขนาด 150 กรัม/กิโลกรัม พบวาไมม ีสตั วท ดลองตัวใดตายภายใน 7 วัน แสดงวาวานพรา วมพี ิษตํ่ามาก6 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชือ่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน ฉบับแกไขเพม่ิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. เสงี่ยม พงษบุญรอด. ไมเ ทศ เมืองไทย. กรงุ เทพมหานคร : เกษมบรรณกจิ , 2514. 6. Di L. Rhizoma Curculigo: xian mao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 183 คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 173 วานน้าํ : Zangchangpu (藏菖蒲) วานนํ้า หรือ จ้ังชางผู คือ เหงาแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Acorus calamus L. วงศ Araceae1 2 เซนติเมตร วานน้ํา (Rhizoma Acori Calami) ช่ือไทย: วานน้ํา, วานน้ําเล็ก, ฮางคาวผา (เชียงใหม); ทิสีปุคอ (แมฮองสอน); ตะไครนํ้า (แพร); ไครนาํ้ (เพชรบูรณ); คาเจี้ยงจี้, ผมผา, สมชื่น, ฮางคาวนาํ้ , ฮางคาวบาน (ภาคเหนือ)2 ช่ือจีน: จั้งชางผู (จีนกลาง), เจี่ยงเชียงพู (จีนแตจ๋ิว)1 ชื่ออังกฤษ: Tibet Sweetflag Rhizome1 ชื่อเครื่องยา: Rhizoma Acori Calami1 การเกบ็ เกีย่ วและการปฏบิ ัตหิ ลังการเก็บเก่ียว: เก็บเกี่ยวเหงาในฤดูใบไมรวงและฤดูหนาว แยกเอารากฝอยและดินท้ิง ตากใหแหง เก็บ รักษาไวใ นที่มอี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตัวยาพรอมใช: หลังเกบ็ เกี่ยวสมุนไพรแลว แยกส่งิ อน่ื ทป่ี ะปนออก ลา งนาํ้ ใหส ะอาด จากนน้ั นาํ ไปใสใ นภาชนะ ท่เี หมาะสม คลุมดวยผา ขาวบาง ตั้งทิ้งไวจ นตัวยาออนนุม หนั่ เปนแวนเฉียง ๆ หรอื หนั่ ตามขวาง ทาํ ให แหงในที่รมหรือตากแดด1,3
Page 184 174 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ดานหนาตัดตองมีสีออกขาว กล่ินหอมฉุน5 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: วานนํ้า รสขมเผ็ด สุขุม มีฤทธิ์ขับลม ขับเสมหะ สงบประสาท ใชรักษาอาการไอ ต่ืนเตนลืม งาย สลึมสลือ บิด ทองเสีย ทองอืด อาหารไมยอย ปวดขอ แผลฝหนอง และขับพยาธิ1,6 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: เหงา มีกล่ินหอม รสรอน สรรพคุณเปนยาแกบิด แกปวดทอง แกทองอืดทองเฟอ แนนจุก เสียด ขับลมในกระเพาะอาหารและลาํ ไส ขับเสมหะ แกไอ ระงับประสาท แกปวดตามขอ แกแผลฝ หนอง ขับพยาธิ แกปวดฟน เลือดออกตามไรฟน7-8 ขนาดท่ีใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 3-6 กรัม ตมเอานํ้าดื่ม ใชภายนอก ตมเอาน้าํ ชะลางหรือบดเปนผง ผสมทา1,5 ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง: การแพทยแผนจีน ควรระมัดระวังในการใชในผูปวยที่เหง่ือออกบอย ๆ หรือเหง่ือออกงาย5 การแพทยแ ผนไทย หา มกินมากกวา ครง้ั ละ 2 กรัม เพราะจะทําใหอ าเจียน (อาจใชประโยชนใ น กรณีผูปวยกนิ สารพิษ และตองการขับสารพิษออกจากทางเดินอาหารดว ยการทําใหอาเจยี น)9 ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ: 1. นํ้ามนั หอมระเหย และสารสกัดน้ํามีฤทธิ์ลดการเคลื่อนไหวของหนูทที่ ดลอง น้ํามนั หอมระเหย สามารถเพิม่ ฤทธส์ิ งบประสาทและทําใหนอนหลับของโซเดยี มเพนโทบารบทิ าล ไลเซอจิกแอสดิ ไดเอทิลเอ ไมด และไดเบนซลิ นี เสรมิ ฤทธข์ิ องรีเซอปนในการลดพษิ ของแอมเฟทามนี ในหนู รวมทงั้ มีฤทธิบ์ รรเทา ปวด และปองกนั หนูชักจากการทดลองชอ็ คดว ยไฟฟา สารสกัดแอลกอฮอลจากเหงามีฤทธค์ิ ลา ยกนั สามารถ เพ่ิมฤทธิ์ของยาชาเฉพาะที่ และสามารถลดพษิ ของแอมเฟทามนี ในหนทู ที่ ดลองได5 2. นํ้ามันหอมระเหย สารสกดั แอลกอฮอล และสารสกดั น้ําจากเหงา สามารถลดความดนั โลหิต ของสตั วทดลองที่สลบได สารสกัดน้ํามฤี ทธก์ิ ดการเตนของหัวใจ น้ํามันหอมระเหยสามารถลดอัตราการ เตน ของหวั ใจสนุ ขั และกบ5 3. น้าํ มนั หอมระเหยจากเหงามีฤทธ์ริ ะงบั อาการไอที่เกดิ จากการกระตุนดวยซัลเฟอรไ ดออกไซด ในหนทู ดลอง ฤทธร์ิ ะงบั อาการไอนีเ้ ดนชัดมาก และจากการทดลองใชหลอด capillary ตอหลอดลมเพอื่
Page 185 คูม อื การใชส มนุ ไพรไทย-จีน 175 วัดปรมิ าตรของเมือกสารทขี่ บั ออกมาในหลอดลมของกระตาย พบวาน้ํามันหอมระเหยแสดงฤทธิ์ขบั เสมหะ5 4. นํ้าคน้ั จากเหงา สดสามารถเพิ่มการหลง่ั กรดในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะในคนที่มกี รดใน กระเพาะอาการนอย ยาเตรียมจากเหงาวา นนาํ้ ใชเปนยาเจริญอาหาร ชวยใหอยากอาหาร ทาํ ใหการยอ ย อาหารดีขน้ึ และน้ํามันระเหยงายในขนาดนอย ๆ จะมีฤทธ์ิขบั ลม5 5. นํา้ มนั หอมระเหย สารสกดั นํา้ และสารสกดั แอลกอฮอลม ีฤทธล์ิ ดอุณหภูมใิ นสตั วท ดลอง นํา้ มันหอมระเหยในขนาด 10 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร สามารถยับย้งั การเจริญของเชื้อวณั โรคได สารสกัด แอลกอฮอลส ามารถยบั ยัง้ การเจริญของเช้อื ราได มีบางรายงานวาสามารถใชเ ปนยาขบั และฆา พยาธไิ ด5 6. จากการศึกษาพษิ เฉียบพลนั ในหนูถีบจกั รของสารสกดั 50% แอลกอฮอลจากเหงา วานนาํ้ พบวา คา LD50 มคี า มากกวา 10 กรัม/กิโลกรัม เมอ่ื ใหโดยการปอ นหรอื ฉดี เขา ใตผ ิวหนัง10 เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ช่อื พรรณไมแหงประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน ฉบับแกไขเพม่ิ เติม พ.ศ. 2544). สํานักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จํากัด, 2544. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xian: World Library Publishing House, 2002. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. ชัยโย ชยั ชาญทพิ ยุทธ, วชริ า แดนตะวัน, สถาพร ล้มิ มณี, ชะนะ ครองรักษา, ทพิ วลั ย ทรัพยเ จริญ. สมุนไพร อันดับที่ 3: การ รวบรวมขอ มูลเบ้อื งตนสาํ หรบั งานวิจัยของโครงการศกึ ษาวิจัยสมนุ ไพร. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลยั , 2527. 6. สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยแี หงประเทศไทย. PROSEA: ทรพั ยากรพืชในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต 12(1) พชื สมนุ ไพรและพืชพษิ เลม 1. นนทบุรี : สหมติ รพร้ินต้ิง, 2546. 7. พเยาว เหมอื นวงษญาติ. สมุนไพรกา วใหม. พมิ พค ร้ังที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ที.พ.ี พร้ิน จาํ กัด, 2537. 8. ชยนั ต วิเชยี รสุนทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คาํ อธบิ ายตาํ ราพระโอสถพระนารายณ. พิมพคร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : สํานักพมิ พอมรนิ ทร, 2548. 9. พรอ มจติ ศรลัมภ, วงศส ถติ ย ฉว่ั กุล, สมภพ ประธานธุรารักษ (คณะบรรณาธกิ าร). สมนุ ไพรสวนสิรรี กุ ขชาติ สารานุกรมสมุนไพร เลม 1. พมิ พครง้ั ที่ 3. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท อมรินทรพริ้นตง้ิ แอนดพับลิชชง่ิ จํากัด (มหาชน), 2543. 10. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวัสดีมงคล, ประยุทธ สาตราวาหะ. การศึกษาพิษของสมนุ ไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, ทรงพล ชวี ะพัฒน, เอมมนัส อตั ตวิชญ (คณะบรรณาธกิ าร). ประมวลผลงานวิจัยดานพษิ วิทยาของสถาบันวจิ ัยสมุนไพร เลม 1. พิมพคร้ังท่ี 1. กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พการศาสนา, 2546.
Page 186 176 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก สายน้าํ ผงึ้ : Jinyinhua (金银花) สายนํา้ ผง้ึ หรือ จนิ อ๋ินฮวา คือ ดอกตูมหรือดอกเริ่มบานทที่ ําใหแ หง ของพืชทม่ี ีช่อื วิทยาศาสตรวา Lonicera japonica Thunb. หรือ L. hypoglauca Miq. หรือ L.confusa DC. หรือ L. dasystyla Rehd. วงศ Caprifoliaceae1 0.5 เซนติเมตร สายนาํ้ ผึ้ง (Flos Lonicerae) ช่ือไทย: สายน้ําผ้ึง (กรุงเทพฯ)2 ชื่อจีน: จินอ๋ินฮวา (จีนกลาง), กิมหง่ึงฮวย (จีนแตจิ๋ว)1 ช่ืออังกฤษ: Honeysuckle Flower1 ชื่อเคร่ืองยา: Flos Lonicerae1 การเก็บเกีย่ วและการปฏิบัตหิ ลังการเก็บเกี่ยว: เกบ็ เก่ยี วดอกตูมหรือดอกเร่ิมออกในตนฤดรู อน ผง่ึ ในท่ีรมแลวนําไปตากแดดใหแหง เก็บรกั ษา ไวในทม่ี อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรียมตวั ยาพรอมใช: การเตรียมตวั ยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดงั น้ี วิธีท่ี 1 ดอกสายนาํ้ ผงึ้ เตรยี มโดยนําวตั ถุดบิ สมุนไพรมาคัดแยกเอาสิ่งปนปลอมออก รอ นเอา 3 ฝนุ และเศษเล็ก ๆ ออก วิธีท่ี 2 ดอกสายนาํ้ ผึง้ ถา น เตรยี มโดยนําตวั ยาทีไ่ ดจ ากวิธีท่ี 1 ใสก ระทะ นําไปผดั โดยใชไ ฟ ระดบั ปานกลาง ผดั จนกระทงั่ ผวิ นอกสีน้าํ ตาลดํา พรมนาํ้ เลก็ นอย นําออกจากเตา ตงั้ ทงิ้ ไวใ หเย็น แลว นาํ ไป
Page 187 คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 177 ตากแหง ในท่ีรม3 คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ตองมีปริมาณดอกมาก สีเหลืองอมขาว กลิ่นหอมจรุงใจ4 สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน: ดอกสายนาํ้ ผึ้ง รสอมหวาน เย็น มีฤทธิ์ระบายความรอน แกหวัดจากการกระทบลมรอน ระบายความรอน ขับพษิ มีฤทธ์ิขบั พิษ แกแ ผลฝ แผลเปอย บวม (มกั ใชภ ายนอก) และมฤี ทธิ์ผอนคลาย และกระจายความรอน ใชแกบิด มีพิษรอน ถายบิดเปนมูกเลือด1 ดอกสายนาํ้ ผ้ึงถา น มสี รรพคุณแกถ า ยบิดเปน มกู เลือด สตรที ีม่ ีอาการตกเลอื ด อาเจยี นเปน เลอื ด และเลอื ดกําเดาไหล3 สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: ดอกสายนํา้ ผ้ึง รสหวานเย็น สรรพคุณเจริญอาหาร เปนยาอายุวัฒนะ ขับปสสาวะ แกไข แกปวดหลัง แกความดันโลหิตสูง5 ขนาดที่ใชและวิธีใช: การแพทยแผนจีน ใช 6-15 กรัม ตมเอาน้ําดื่ม1 การแพทยแผนไทย ค้ันหรือใชดอกแหงชงดื่มแทนน้ําชา5 ขอมูลวิชาการที่เกี่ยวของ: 1. มีรายงานวาดอกสายนา้ํ ผึ้งมีฤทธิ์ตานเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสหลายชนิด ไดแก เชื้อ Staphylococcus aureus, Hemolytic streptococcus, Pneumococcus, Typhoid bacillus, Influenza virus, Herpes virus, C virus ECHO19 virus โดยสารสกัดนา้ํ ที่ไดโดยวิธีแชจะมีฤทธิ์แรงกวาสาร สกัดนา้ํ ที่ไดโดยวิธีตม นอกจากน้ีดอกสายนํ้าผึ้งมีฤทธิ์ตานเช้ือราโรคผิวหนังได6 2. ดอกสายนํ้าผ้งึ มีฤทธิ์ลดไข ตานการอกั เสบ ตา นอนุมลู อสิ ระ ลดไขมนั ในเลอื ด และหามเลือด6 3. การศึกษาทางคลินิกพบวา ดอกสายนํา้ ผ้ึงเมื่อใชเดี่ยว หรือใชเปนสวนประกอบของยา ตํารับที่ใชรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจในทารก การอักเสบที่เกิดขึ้นที่ทางเช่ือมระหวางปากและ คอหอย การติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อปรสิตตระกูล Treponemataceae การติดเช้ือท่ีเกิดจากการผาตัด การอักเสบชนิดเฉียบพลัน โรคผิวหนังโดยเฉพาะท่ีเกิดจากหนังแท โรคซาร และลาํ ไสเล็กอักเสบ7 4. การศกึ ษาพษิ เฉยี บพลนั ของสารสกดั น้าํ เมอ่ื ฉีดเขาใตผ วิ หนงั ของหนถู บี จกั ร มคี า LD50เทากบั 53 กรมั /กโิ ลกรมั 6
Page 188 178 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก เอกสารอางอิง 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลีนา ผูพ ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชือ่ พรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน ฉบับแกไขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รงั้ ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 5. วฒุ ิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภรี เ ภสัชรตั นโกสินทร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปส ยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จาํ กัด, 2547. 6. Deng WL. Flos Lonicerae: jin yin hua. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999. 7. Deng JG, Wei SJ. Genuine and well-reputed medicinal materials in Guangxi. 1st ed. Beijing: Zhongguo Zhongyi Yao Publishing House, 2007.
Page 189 คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จนี 179 สีเสียด : Ercha (儿茶) สเี สยี ด หรอื เออ ฉา คือ สว นสกดั นาํ้ ทเี่ ตรยี มจากลําตนและกิง่ ทป่ี อกเปลือกออกแลว ของพืชท่ีมี ชื่อวิทยาศาสตรวา Acacia catechu (L.f.) Willd. วงศ Leguminosae1 3 เซนติเมตร สีเสียด (Catechu) ชื่อไทย: สีเสียด, ขี้เสียด (ภาคเหนือ); สีเสียดแกน (ราชบุรี); สีเสียดเหนือ (ภาคกลาง); สีเสียด เหลือง (เชียงใหม)2 ชื่อจีน: เออ ฉา (จีนกลาง), หย่แี ต (จนี แตจ๋วิ )1 ชื่ออังกฤษ: Cutch Black Catechu1 ช่ือเคร่ืองยา: Catechu1 การเก็บเกีย่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เก่ียว: เก็บเก่ยี วกิ่งและลําตน ในฤดูหนาว ปอกเปลือกออก หนั่ เปน ชิ้นใหญ ๆ ใสน ้ําใหทว ม เคย่ี ว 5-6 ช่ัวโมง ยางจะถกู สกดั ออกมา เปน สนี ํา้ ตาลดาํ ขน ๆ คลา ยนํา้ ตาลทเ่ี ค่ียวจนงวด เทลงพิมพตามตองการ เมอ่ื เย็นจะแขง็ มีลักษณะเปนกอนสนี ้าํ ตาลดํา เกบ็ รักษาไวใ นทมี่ ีอากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศ ด1ี ,3 การเตรยี มตวั ยาพรอ มใช: หลงั เกบ็ เกีย่ วสมุนไพรแลว แยกสง่ิ อื่นท่ปี ะปนออก รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก ทบุ ใหแ ตกหรอื บด ใหละเอียดกอ นใช1 ,4
Page 190 180 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มคี ณุ ภาพดี ดานนอกมีสีนํ้าตาลเขมถึงสนี ํ้าตาลดํา ผิวเรยี บเปน มัน แข็งและแตกหกั งา ย ปราศจากสิง่ ปนปลอม5 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: สเี สียด รสฝาด มฤี ทธชิ์ ว ยใหเนอ้ื เย่ือท่เี กดิ ใหมเจริญเตบิ โต ชว ยสมานแผล แกแ ผลในปาก แก ทอ งเสีย1 สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนไทย: สเี สยี ดไทย รสฝาด สรรพคุณ ชว ยสมานแผล แกอ าการทองเดนิ (ท่ีไมใชบิดหรอื อหิวาตกโรค) และแกบดิ (ปวดเบง และมมี กู หรอื อาจมีเลอื ดดวย)3,6,7 ขนาดทีใ่ ชแ ละวธิ ใี ช: การแพทยแผนจนี ใช 1-3 กรัม หอใสถุงผา ตมเอานํ้าด่มื หรือทําเปนยาลกู กลอน หรือยาผง1 การแพทยแ ผนไทย ใชผง ครง้ั ละ 0.3-1 กรัม ตม เอาน้ําด่ืม6 ใชภายนอก ใชผ งสเี สียดละลาย น้ําใสแ ผลสดหา มเลอื ด กอ นสีเสยี ดฝนกบั นํา้ ใหขน ๆ ทาแผลนาํ้ กัดเทา ผงสีเสยี ดผสมกับนาํ้ มนั พืช ทา แผลนํ้ากดั เทา ใสป นู ทีใ่ ชร ับประทานกับหมากและพลู เพื่อปอ งกันปูนกดั ปาก3 ขอ หา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขางเคียง: ควรระมัดระวงั ในเรือ่ งขนาดทใี่ ช ถาใชม ากจะเกดิ อาการขา งเคยี งได6 ขอ มลู วชิ าการท่ีเกีย่ วขอ ง: 1. กอ นสีเสยี ดประกอบดว ย catechin 2-20%, catechu-tannic acid 25-35%, epicatechin, dicatechin และสารอื่น ๆ เน่ืองจากมีแทนนนิ ในปริมาณสูง จงึ มีฤทธฝิ์ าดสมาน ฆาเชอื้ แบคทีเรยี 6 2. สารสกดั น้ําความเขม ขน 20% สามารถยบั ยง้ั การเจริญของเซลลม ะเรง็ กระเพาะอาหารและฤทธ์ิ ในการฆา เซลลม ะเรง็ คอนขางแรง แตไมมพี ษิ ตอ ตอมนํา้ ลายและเซลลล กู อัณฑะ8 3. สาร d-catechin ในสีเสยี ดชว ยใหก ารทาํ งานของตบั ดขี น้ึ และชว ยปกปองตับจากสารพษิ ดังนั้นจึงสามารถใชไ ดผ ลดีในผปู วยโรคตับอกั เสบชนิดเฉยี บพลันและชนดิ เรอ้ื รังหรอื ผปู ว ยที่ตบั ถูกทําลาย จากการไดร บั สารพิษ8 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
Page 191 คูม อื การใชส มุนไพรไทย-จนี 181 2. ลีนา ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่ือพรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน ฉบบั แกไ ขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จํากดั , 2544. 3. พเยาว เหมอื นวงษญ าต.ิ สมนุ ไพรกา วใหม. พมิ พค รั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ท.ี พ.ี พริ้น จาํ กัด, 2537. 4. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002. 5. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005. 6. กนั ทิมา สิทธิธัญกิจ, พรทิพย เตมิ วเิ ศษ (คณะบรรณาธกิ าร). คูมือประชาชนในการดูแลสุขภาพดวยการแพทยแ ผนไทย. พมิ พคร้งั ท่ี 2 กรุงเทพมหานคร : สํานกั งานกจิ การโรงพิมพองคก ารทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547. 7. กองวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมุนไพรพื้นบา นฉบับรวม. พิมพคร้ังที่ 1. กรุงเทพมหานคร : Text and Journal Corperation Co., Ltd., 2533. 8. Wang DP, Guo ZK. Catechu: er cha. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 192 182 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก หญา คา: Baimaogen (白茅根) หญา คา หรือ ไปเหมาเกนิ คือ เหงาแหงของพชื ที่มีช่ือวทิ ยาศาสตรวา Imperata cylindrica Beauv. var. major (Nees) C.E. Hubb. วงศ Gramineae1 หญาคา (Rhizoma Imperatae) 1 เซนติเมตร ช่ือไทย: หญา คา (ท่วั ไป); ลาลาง ลาแล (ยะลา); เกอ ฮี (แมฮอ งสอน)2 ชื่อจนี : ไปเ หมาเกนิ (จีนกลาง), แปะเหมากิง (จนี แตจวิ๋ )1 ชอื่ อังกฤษ: Lalang Grass Rhizome1 ชอ่ื เคร่ืองยา: Rhizoma Imperatae1 การเก็บเกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลงั การเก็บเก่ียว: เก็บเกย่ี วเหงาในฤดูใบไมผลถิ งึ ฤดูใบไมรวง ลางน้ําใหสะอาด ตากแดดใหแ หง แยกเอารากฝอย และกาบใบทง้ิ เก็บรกั ษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1 การเตรยี มตวั ยาพรอ มใช: การเตรียมตวั ยาพรอ มใชมี 2 วธิ ี ดังนี้ วิธีที่ 1 หญาคา เตรียมโดยนําวัตถดุ ิบสมุนไพรที่ปราศจากส่ิงปนปลอมมาลา งนํา้ ใหส ะอาด ใส ภาชนะหมกั ไวส กั ครูเพ่อื ใหอ อนนุม หัน่ เปน ชิน้ ขนาดพอเหมาะ และนาํ ไปทําใหแ หง 1,3 วธิ ที ่ี 2 หญาคาถา น เตรยี มโดยนําตัวยาทไ่ี ดจ ากวิธที ่ี 1 ใสกระทะ ผัดโดยใชไฟระดบั ปานกลาง ผดั จนกระท่ังผวิ นอกของตวั ยามสี ีนาํ้ ตาลไหม เนือ้ ในเปน สีเหลืองไหม พรมนาํ้ เลก็ นอย นําออกจากเตา ต้ังทงิ้ ไวใหเย็น ตากใหแ หงในทร่ี ม 3
Page 193 คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จีน 183 คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตวั ยาทีม่ คี ณุ ภาพดี ลาํ ตน ตอ งหยาบ สขี าว และมรี สหวาน4 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน: หญาคา รสอมหวาน เยน็ มฤี ทธิ์หา มเลือด ทําใหเลอื ดเยน็ ใชร กั ษาอาการเลอื ดออกจากภาวะ เลือดรอน เชน เลือดกําเดา ไอ อาเจยี น ปส สาวะเปนเลือด และมีฤทธ์ิระบายความรอ น ขับปสสาวะ ใช เปนยาขบั ปส สาวะ แกอ าการบวมน้ํา ปสสาวะรอนมีสีเขม 1 หญา คาถาน รสฝาด เย็นเลก็ นอย ฤทธ์ริ ะบายความรอ นในระบบเลือดคอ นขา งออน แตฤ ทธิ์ 3 หา มเลอื ดแรง โดยทั่วไปใชในกลุมอาการของโรคทีม่ ีเลือดออก เปนยาฝาดสมานและยาหามเลือด สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย: ตํารายาไทยใชเ ปน ยาขบั ปส สาวะ แกรอ นในกระหายนา้ํ แกอกั เสบในทางเดินปสสาวะ บาํ รงุ ไต แกนํ้าดซี าน แกอ อนเพลยี เบอื่ อาหาร5 ขนาดทใี่ ชแ ละวธิ ีใช: การแพทยแผนจีน ใช 9-30 กรัม 1 ตมเอาน้ําดื่ม การแพทยแ ผนไทย ใช 1 กํามือ (สด 40-50 กรัม หรอื แหง 10-15 กรมั ) หนั่ เปน ชน้ิ เลก็ ๆ ตม นา้ํ รบั ประทานวนั ละ 3 ครั้ง กอนอาหารคร้งั ละ 1 ถว ยชา (75 มลิ ลลิ ติ ร)6 ขอมูลวิชาการท่ีเกีย่ วของ: 1. สารสกัดนา้ํ จากเหงามฤี ทธใิ์ นการลดจํานวนปส สาวะและทาํ ใหจ ํานวนคลอไรดใ นปสสาวะ เพ่ิมข้นึ สารสกดั น้ํารอนจากเหงาสามารถลดอาการของแผลในกระเพาะอาหารและสามารถยับย้งั การหลง่ั ฮีสตามีนในหนูขาวทถ่ี ูกกระตุนดว ย สาร 48/80 ไมพบฤทธใ์ิ นการกอ กลายพันธ7ุ 2. สารสกัดดวยนาํ้ จากเหงาแหง สารสกัดดวยแอลกอฮอลจากเหงาสดและเหงาแหง แสดง ฤทธ์ิยับยง้ั เอนไซม HIV-1 protease โดยสารสกัดท่แี สดงฤทธิแ์ รง คอื สารสกัดดวยแอลกอฮอลจ าก เหงา สด สามารถยบั ยัง้ เอนไซมด ังกลาวไดรอยละ 98 ท่คี วามเขมขน ของตัวอยาง 66.67 ไมโครกรัม/ มลิ ลิลิตร7 3. เม่ือใหก ระตา ยกนิ นา้ํ ตมจากหญาคาขนาด 25 กรัมตอ นํา้ หนักตวั 1 กโิ ลกรมั หลังจากนน้ั 16 ชั่วโมง กระตายเคลื่อนไหวชา ลง การหายใจเรว็ ขนึ้ และคนื สปู กตใิ นเวลาไมน านนัก ถา ฉีดเขาหลอด เลือดดําขนาด 10-15 กรัมตอ นํ้าหนักตัว 1 กโิ ลกรัม การหายใจจะเร็วขึน้ การเคลื่อนไหวชา ลง หลังจาก นน้ั 1 ช่ัวโมง จะกลับสูปกติ ถาฉดี ขนาด 25 กรมั ตอ นํา้ หนักตัว 1 กโิ ลกรมั หลังจากฉีด 6 ชัว่ โมง กระตายกต็ าย8
Page 194 184 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน ฉบับแกไขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สํานกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพคร้ังที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006. 5. เสงี่ยม พงษบ ุญรอด. ไมเ ทศ เมืองไทย. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พประเสริฐศริ ิ, 2493. 6. ดรณุ เพ็ชรพลาย และคณะ. สมุนไพรพืน้ บา น (ฉบบั รวม). สถาบนั วิจัยสมนุ ไพร กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย. กรุงเทพมหานคร : หา งหนุ สวนจํากดั รุง เรืองสาสนก ารพมิ พ, 2541. 7. เย็นจติ ร เตชะดํารงสิน, บษุ ราวรรณ ศรีวรรธนะ, จนั ทรเพ็ญ วิวัฒน, สธุ น วงษช รี ี, จารีย บนั สิทธ์ิ และประถม ทองศรรี กั ษ. หญา คา. ใน: ปราณี ชวลติ ธํารง (บรรณาธิการ). รายงานการศกึ ษาวจิ ยั โครงการสมนุ ไพรตา นเอดส. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พอ งคการ สงเคราะหท หารผา นศึก, 2546. 8. Jiangsu New Medical College. A Dictionary of Chinese Materia Medica. Vol.1. Hong Kong: Shangwa, 1979.
Page 195 คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จีน 185 หญา แหวหมู : Xiangfu (香附) หญา แหว หมู หรอื เซยี งฟู คอื เหงา แหงของพชื ที่มชี ่ือวิทยาศาสตรว า Cyperus rotundus L. วงศ Cyperaceae1 1 เซนติเมตร หญาแหวหมู (Rhizoma Cyperi) ชื่อไทย: หญาแหวหมู (ทั่วไป); หญาขนหมู (แมฮองสอน)2 ชื่อจีน: เซียงฟู (จนี กลาง), เฮยี งหู (จีนแตจ ว๋ิ )1 ชื่ออังกฤษ: Nutgrass Galingale Rhizome1 ช่ือเครื่องยา: Rhizoma Cyperi1 การเก็บเกี่ยวและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเก็บเก่ียว: เก็บเกี่ยวเหงาในฤดูใบไมร วง แยกเอารากฝอยท้งิ ตมนา้ํ สกั ครูหรอื น่งึ สักครู ตากใหแหง เกบ็ รกั ษาไวใ นท่ีมอี ากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศด1ี การเตรยี มตวั ยาพรอมใช: การเตรียมตวั ยาพรอมใชม ี 5 วธิ ี ดังนี้ วธิ ีที่ 1 หญาแหวหมู เตรียมโดยนาํ วัตถุดิบสมุนไพรที่ปราศจากสง่ิ ปนปลอม มาลางนํ้าใหสะอาด ใสภาชนะปดฝาไวเ พ่อื ใหออนนมุ หนั่ เปน ชิ้นหรือฝานเปน แผนบาง ๆ นาํ ไปทําใหแหงโดยใชอ ณุ หภมู ิต่ํา1,3 วธิ ที ่ี 2 หญา แหว หมผู ัดนาํ้ สม เตรยี มโดยนําตัวยาท่ีไดจากวิธีท่ี 1 ใสในภาชนะที่เหมาะสม เติม นํา้ สม (ซึ่งไดมาจากการหมักกลน่ั ขา ว) ปริมาณพอเหมาะ แลว คลุกเคลา ใหเ ขา กนั จนกระทง่ั นาํ้ สม แทรกซึม เขาไปในเนื้อตัวยา จากนั้นนําไปผัดโดยใชไฟระดับปานกลาง ผัดจนกระทั่งตัวยาแหง นําออกจากเตา
Page 196 186 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก ตากใหแ หงในทรี่ ม (น้ําสม 20 กโิ ลกรัม ตอ ตวั ยา 100 กโิ ลกรมั )1,3 นอกจากหญาแหวหมูผดั น้าํ สมแลว ยงั อาจเตรียมอีกวิธีหนง่ึ คือ หญา แหว หมนู ง่ึ กบั น้าํ สม โดย นาํ ตัวยาทไี่ ดจากวิธที ี่ 1 ใสใ นภาชนะทเี่ หมาะสม เติมนา้ํ สม (ซง่ึ ไดม าจากการหมักกลั่นขา ว) ปริมาณพอเหมาะ และเติมนาํ้ สะอาดปรมิ าตรเทานาํ้ สม นําไปใสในภาชนะนงึ่ น่งึ จนกระทั่งนํ้าสมแทรกซมึ เขา ไปในเนอ้ื ตวั ยา จากนนั้ นง่ึ ตออีก 5 ชว่ั โมง นาํ ออกจากเตา ต้ังท้งิ ไวใ หเ ย็นลงเลก็ นอ ย ฝานเปน แวน บาง ๆ นําไปตากแหง (น้าํ สม 20 กิโลกรมั ตอตัวยา 100 กโิ ลกรมั )1,3 วิธีที่ 3 หญาแหว หมผู ดั สารปรุงแตง 4 ชนิด เตรียมโดยนําตัวยาท่ไี ดจากวธิ ีที่ 1 ใสในภาชนะที่ เหมาะสม เตมิ นา้ํ คั้นขิงสด นา้ํ สม (ซึง่ ไดมาจากการหมกั กลน่ั ขา ว) เหลาเหลอื ง และนา้ํ เกลอื ปรมิ าณ พอเหมาะ แลวคลุกเคลาใหเขา กัน จนกระท่งั สารปรุงแตงแทรกซึมเขา ไปในเน้อื ตวั ยา จากน้นั นําไปผัด โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผดั จนกระท่งั ตวั ยาแหง นําออกจากเตา ตากใหแหง ในทรี่ ม (ใชข ิงสด 5 กิโลกรมั คัน้ เอาแตน้ํา ใชน ้ําสม และเหลาเหลอื งอยางละ 10 กิโลกรัม เกลอื บรสิ ทุ ธ์ิ 2 กิโลกรมั ละลายในน้ํา รวม สารปรงุ แตง ท้ังหมด ตอ ตวั ยา 100 กิโลกรัม)3 วธิ ที ่ี 4 หญาแหวหมูผัดเหลา เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจากวิธที ่ี 1 ใสใ นภาชนะท่ีเหมาะสม เตมิ เหลา เหลอื งปรมิ าณพอเหมาะ แลวคลุกเคลา ใหเขากนั จนกระทั่งเหลาแทรกซึมเขา ไปในเนอื้ ตัวยา จากนั้น นาํ ไปผัดโดยใชไฟระดับปานกลาง ผดั จนกระทั่งตัวยาแหง นาํ ออกจากเตา ตากใหแหงในทรี่ ม (ใชเ หลา เหลอื ง 20 กโิ ลกรมั ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )3 วิธีที่ 5 หญาแหวหมูถาน เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจากวิธีท่ี 1 ใสกระทะ ผัดโดยใชไฟระดับ ปานกลาง ผัดจนกระท่ังผวิ นอกของตวั ยามีสีดาํ ไหม เนื้อในมีสนี ํ้าตาลไหม พรมนาํ้ เลก็ นอ ย นาํ ออกจาก เตา ตากใหแหงในทร่ี ม3 คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก: ตัวยาที่มีคุณภาพดี ขนาดของเหงา ตองสมํ่าเสมอ ผิวเรียบเปน มัน ไมม ีขน มีกล่ินหอม4 สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนจีน: หญา แหวหมู รสเผด็ ขมเลก็ นอย อมหวานเลก็ นอ ย สขุ มุ มีฤทธิ์ผอ นคลายตับ ทําใหชี่หมุนเวยี น แกอ าการชี่ติดขดั ปวดทอง ปวดชายโครง และมีฤทธป์ิ รบั ประจาํ เดอื น แกป วด ใชบ รรเทาอาการเครยี ด ประจําเดือนมาไมป กติ ปวดประจําเดอื น ปวดคัดเตา นม1 หญาแหว หมผู ัดหรือน่ึงนาํ้ สม ตัวยาจะเขาสเู สนลมปราณของตบั เพมิ่ ฤทธผ์ิ อนคลายตับ ระงับ ปวด และชว ยยอ ยอาหาร เหมาะสําหรับผปู ว ยทม่ี อี าการปวดทอ ง อาหารไมยอ ย ธาตุพกิ าร3
Page 197 คูม อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 187 หญาแหว หมูผดั สารปรงุ แตง 4 ชนดิ จะชว ยใหชห่ี มนุ เวยี นไมตดิ ขัด ปรับประจาํ เดอื นใหเ ปน ปกติ เหมาะสาํ หรับผูปวยท่มี ีอาการปวดประจําเดือน ประจําเดือนมาไมป กต3ิ หญา แหวหมผู ัดเหลา มีฤทธช์ิ วยใหเลอื ดลมเดินสะดวก เหมาะสาํ หรับผปู ว ยท่ีมีอาการปวดทอ ง เนื่องจากไสเ ลอื่ น3 หญาแหว หมถู าน รสขม ฝาด อุน โดยทวั่ ไปใชรักษาอาการประจําเดอื นมามากผดิ ปกต3ิ สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนไทย: หญา แหว หมู มีกลนิ่ หอม รสเผด็ ปรา ขมเล็กนอ ย สรรพคุณเปน ยาบํารงุ หัวใจ ขบั เหงอื่ ขับระดู ขบั ปส สาวะ แกไ ข ขบั ลมในลําไส แกป วดทอ ง ทองอืด เปนยาบาํ รุงกําลงั บํารุงธาตุ บาํ รงุ ทารกในครรภ เปน ยาฝาดสมาน สงบประสาท เปน ยาอายวุ ฒั นะ5-7 ขนาดท่ใี ชและวธิ ใี ช: การแพทยแผนจนี ใช 6-9 กรัม ตมเอานํ้าดม่ื 1 การแพทยแ ผนไทย ใชครงั้ ละ 1 กาํ มือ (60-70 หัว หรือหนัก 15 กรัม) ทุบใหแ ตก ตมเอานํ้า ดืม่ หรือสด คร้ังละ 5 หัว 5,6 โขลกใหละเอยี ดผสมนํ้าผ้ึงรบั ประทาน ขอ มลู วชิ าการท่ีเกยี่ วของ: 1. การทดลองในสัตวทดลอง พบฤทธ์ิขับปส สาวะ ลดไข ลดความดันโลหิต และลดการอกั เสบ ซึง่ เกดิ จาก α-cyperone นอกจากนี้ยังพบฤทธ์ยิ ับยั้งการเจรญิ เตบิ โตของเช้อื มาลาเรยี ชนิดฟลซิพารมั ใน หลอดทดลองดว ย8 2. หัวแหว หมมู ีน้ํามันหอมระเหย และมรี ายงานวา มฤี ทธิค์ ลายอาการเกร็งตัวของกลา มเน้อื เรียบ ชวยขบั ปส สาวะ กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทยรายงานวาไมม ีพษิ เฉยี บพลัน5 3. จากการศกึ ษาพษิ เฉียบพลันในหนูถีบจักรของสารสกดั 50% แอลกอฮอลจากหัวแหว หมู พบวาคา LD50 มีคามากกวา 10 กรมั /กโิ ลกรัม เมือ่ ใหโ ดยการปอนหรอื ฉดี เขาใตผ วิ หนัง9 เอกสารอางองิ 1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005. 2. ลนี า ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอื่ พรรณไมแหง ประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน ฉบับแกไขเพม่ิ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพคร้งั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จาํ กัด, 2544. 3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003. 4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006.
Page 198 188 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก 5. กนั ทิมา สิทธิธัญกิจ, พรทพิ ย เตมิ วิเศษ (คณะบรรณาธิการ). คูมือประชาชนในการดูแลสุขภาพดวยการแพทยแ ผนไทย. พมิ พครงั้ ที่ 2 กรุงเทพมหานคร : สาํ นกั งานกจิ การโรงพิมพองคการทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547. 6. กองวจิ ยั และพฒั นาสมุนไพร กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมุนไพรพ้ืนบานฉบับรวม. พิมพคร้ังที่ 1. กรุงเทพมหานคร : Text and Journal Corporation Co., Ltd., 2533. 7. ชยนั ต วเิ ชียรสนุ ทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คาํ อธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : สาํ นกั พมิ พอมรินทร, 2548. 8. พรอมจติ ศรลมั ภ, วงศส ถติ ย ฉ่วั กลุ , สมภพ ประธานธรุ ารกั ษ (คณะบรรณาธิการ). สมนุ ไพรสวนสริ รี ุกขชาติ สารานกุ รมสมุนไพร เลม 1. พิมพครง้ั ท่ี 3. กรุงเทพมหานคร : บริษทั อมรินทรพร้ินต้งิ แอนดพบั ลิชช่ิง จํากดั (มหาชน), 2543. 9. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวัสดีมงคล, ประยทุ ธ สาตราวาหะ. การศึกษาพษิ ของสมนุ ไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, ทรงพล ชวี ะพัฒน, เอมมนัส อตั ตวชิ ญ (คณะบรรณาธิการ). ประมวลผลงานวจิ ัยดา นพษิ วิทยาของสถาบันวจิ ัยสมนุ ไพร เลม 1. พิมพค รั้งที่ 1. กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2546.
Page 199 คูมือการใชส มุนไพรไทย-จนี 189 หมาก: Binglang (槟榔) หมาก หรือ ปงหลาง คือ เมล็ดสุกท่ีทําใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Areca catechu L. วงศ Palmae1 เมล็ดหมาก (Semen Arecae) 1 เซนติเมตร ช่ือไทย: หมาก, หมากเมีย (ท่ัวไป); หมากมู, แซ (แมฮองสอน); สีซะ (ภาคเหนือ); มะ (ตราด); เซียด (นครราชสีมา)2 ชื่อจีน: ปงหลาง (จีนกลาง), ปงนอ (จีนแตจ๋ิว)1 ช่ืออังกฤษ: Areca Seed1 ช่ือเครื่องยา: Semen Arecae1 การเก็บเก่ียวและการปฏบิ ัตหิ ลังการเกบ็ เกี่ยว: เกบ็ เกยี่ วผลสกุ ในปลายฤดใู บไมผ ลถิ งึ ตน ฤดใู บไมร วง ตมนาํ้ ใหเดือด ตากแดดใหแ หง กรีดแยก เปลือกออก เอาเมล็ดตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวในท่มี ีอากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศดี1,3 การเตรียมตัวยาพรอมใช: การเตรียมตัวยาพรอมใชมี 3 วธิ ี ดงั น้ี วธิ ที ี่ 1 เมลด็ หมาก เตรยี มโดยนําวตั ถดุ ิบสมุนไพรที่ปราศจากสิ่งปนปลอม มาแชนํา้ 3-5 วัน นําตวั ยาออกมาใสใ นภาชนะท่ีเหมาะสม ราดดวยนาํ้ สะอาด หมักไวจนกระทัง่ น้ําซึมเขาไปในเน้ือตัวยา ห่ัน เปนแวน บาง ๆ ตากใหแ หง ในทร่ี ม 1,4 วิธที ี่ 2 เมล็ดหมากผดั เตรยี มโดยนาํ ตัวยาท่ีไดจากวธิ ีท่ี 1 ใสกระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดับปานกลาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209