Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 10.aephnkaarcchadkicchkrrm_m_4-com_0

10.aephnkaarcchadkicchkrrm_m_4-com_0

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-03-29 12:12:12

Description: 10.aephnkaarcchadkicchkrrm_m_4-com_0

Search

Read the Text Version

5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื ทดสอบตามแบบทดสอบ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 ตรวจผลการแบบทดสอบหลงั เรยี น 150 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 13 เพลง เพลงเงื่อนพิรอด คารอ้ ง ครสู กุ ลั ยา ธปู พงษ์ (จงั หวะ โซล) ขวาทบั ซา้ ย ซา้ ยทบั ขวา เง่อื นพริ อด นนั้ หนา ลกู เสอื จงจา ประโยชน์ มไี วท้ า ( ซ้า ) ต่อเชอื กขนาดเดยี วกนั นาไปใชไ้ ดเ้ ลย ( ซ้า ) เกม ผกู เงื่อนตามคาสงั่ จานวนผเู้ ล่น 20 – 40 คน อปุ กรณ์ เชอื กยาว ประมาณ 3 – 5 เมตร คนละ 1 เสน้ สถานที่เล่น สนาม วิธีการเล่น 1. จดั ผเู้ ล่นออกเป็นหมๆู่ ละ 8 – 10 คน โดยใหผ้ เู้ ล่นเขา้ แถวหน้ากระดาน แตล่ ะหมหู่ า่ งกนั ประมาณ 3 ช่วงแขน ข้อควรระวงั 2. ผนู้ าเกมสงั่ ใหผ้ เู้ ลน่ ผกู เงอ่ื นทใ่ี ชต้ ่อเชอื ก เชน่ เงอ่ื นพริ อด ผเู้ ล่นแตล่ ะคนภายใน ประโยชน์ หมจู่ ะนาปลายเชอื กของตนเอง และของเพ่อื นลกู เสอื ทางซา้ ยมาผกู ต่อกนั ดว้ ย เงอ่ื น พริ อดเมอ่ื ผกู เสรจ็ ทงั้ หมใู่ หค้ นแรกและคนสดุ ทา้ ย ของแต่ละหมถู่ อื เชอื กท่ี ต่อดงึ ใหต้ งึ แลว้ นงั่ หมใู่ ดผกู เสรจ็ ก่อนเป็นหมทู่ ช่ี นะ ควรใหผ้ กู เชอื ก 3 หรอื 4 เงอ่ื น และเกบ็ ผลแพช้ นะของแต่ละเงอ่ื น เพ่อื ตดั สนิ หาผชู้ นะรวมเมอ่ื ครบ 3 – 4 เงอ่ื น ขณะทด่ี งึ เชอื กใหต้ งึ อาจหกลม้ ได้ ถา้ เงอ่ื นทผ่ี กู ต่อเชอื กไมแ่ น่น 1. เป็นการทบทวนทกั ษะเงอ่ื นเชอื กทไ่ี ดศ้ กึ ษามา 2. ทาใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนาน คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 151

ใบความรู้ เงื่อนเชือก เงอ่ื นเชอื กกย็ งั มบี ทบาทและความสาคญั สาหรบั การดาเนินชวี ติ ของคนเรา ถงึ แมว้ ่าเทคโนโลยตี ่าง ๆ จะเจรญิ เขา้ มากต็ าม จะเหน็ ไดว้ ่าเง่อื นเชอื กจะเก่ยี วขอ้ งกบั เราตงั้ แต่แรกเกดิ เมอ่ื เราคลอดออกมาหมอจะ ให้เชอื กในการผูกสายสะดือ ตอนเด็กใช้เง่ือนเชอื กผูกทาเปลนอน ผูกสายมุ้ง ตอนโตใช้เง่อื นเชอื กผูก รองเท้า ผูกเนคไท ผูกสงิ่ ของต่าง ๆ และยงั ใช้เง่อื นเชอื กถกั เป็นเส้อื ผ้าเคร่อื งนุ่มห่มและเคร่อื งใช้ต่าง ๆ หลายชนิด บางครงั้ เง่อื นเชือกยงั มีบทบาทกับเราอีก อาจจะช่วยชีวติ ให้รอดพ้นจากอันตรายได้ ตอน เสยี ชวี ติ เชอื กยงั มบี ทบาทอกี เงอ่ื นเชอื กมคี วามสมั พนั ธ์เก่ยี วขอ้ งกบั การดาเนินชวี ติ ของเรา เพราะฉะนัน้ ลกู เสอื วสิ ามญั ควรจะตอ้ งศกึ ษาเรอ่ื งเงอ่ื นเชอื กเพ่อื จะไดน้ าไปใชป้ ระโยชน์ในโอกาสต่อไป คณุ สมบตั ิของเชือกและการใช้ประโยชน์จากเงื่อนเชือกต่าง ๆ เชอื กเป็นสงิ่ สาคญั สาหรบั ผกู จากวสั ดุต่าง ๆ ทเ่ี ป็นเสน้ เลก็ ๆ ยาวๆ เอามาทบกนั หลายๆ เสน้ หรอื จะนามาฟัน่ กนั เป็นเกลยี วทาใหม้ ขี นาดใหญ่และยาว เหมาะแก่การใชง้ านประเภทต่าง ๆ ทต่ี อ้ งการ เชือกแบง่ เป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 4 ประเภท คือ 1. เชอื กทท่ี าจากพชื โดยนาสว่ นต่าง ๆ ของพชื เช่น ตน้ เปลอื ก ใยของพชื มาทาความสะอาด แลว้ นามาฟัน่ เป็นเกลยี วหรอื ทบกนั ใหม้ ขี นาดพอดี พชื ทส่ี ามารถนามาทาเป็นเชอื กได้ เช่น เถาวลั ย์ กาบ กลว้ ยตากแหง้ ใยมนิลา ต้นกก หวาย ใยฝ้าย เปลอื กปอ ไมไ้ ผ่ (ทาตอกมดั สง่ิ ของได)้ เป็นต้น 2. เชอื กทาจากอวยั วะบางสว่ นของสตั ว์ เช่น หนงั สตั ว์ ใยไหม เป็นตน้ โดยนามาเป็นเสน้ เลก็ ๆ แลว้ นามาฟัน่ ใหเ้ ป็นเกลยี วหรอื ทบกนั ใหม้ ขี นาดเหมาะสมกบั การใชง้ าน 3. เชอื กทาจากแร่โดยเอาแร่บางชนิด เช่น แรเ่ หลก็ อลูมเิ นยี มมารดี ใหเ้ ป็นเสน้ เลก็ ๆ เรยี กว่าเสน้ ใยโลหะ เอาหลายๆ เสน้ แลว้ นามาฟัน่ ใหเ้ ป็นเกลยี วหรอื ใชง้ านเป็นเสน้ เลก็ ๆ ลวด ลวดสลงิ เป็นตน้ 4. เชอื กทาจากสารเคมี หรอื เชอื กทท่ี าจากเสน้ ใยสงั เคราะห์ ไดจ้ ากการนาเอาสารเคมบี างชนิดมา สงั เคราะหด์ ว้ ยกรรมวธิ ตี ่าง ๆ จนไดเ้ ป็นเสน้ ใยแลว้ นาเสน้ ใยมาทบกนั ฟัน่ เป็นเชอื ก เชอื กไนล่อนเป็นตน้ เชือกท่ีเรานามาใช้งานทวั่ ไปในปัจจบุ นั ท่ีทาจากวสั ดตุ ่าง ๆ มชี ื่อเรยี ก คือ 1. เชอื กป่าน ทาจากเปลอื กตน้ เฮมพ์ หรอื กญั ชาเป็นเชอื กสเี หลอื งอ่อน มคี วามเหนียวและแขง็ แรง ดี แต่มคี วามทนทานน้อย ผงุ ่ายขาดเรว็ ในการทจ่ี ะใชเ้ ชอื กป่านใหไ้ ดท้ นทาน จงึ เอาเชอื กป่านชบุ น้ามนั ดนิ เราเรยี กว่าเชอื กน้ามนั มคี ณุ สมบตั อิ ่อนตวั ไม่ดดู อมน้า จงึ เหมาะทจ่ี ะใชใ้ นการผสู้ ง่ิ ของไดด้ ี เชอื กน้ามนั ขนาดเลก็ 1 น้วิ เรยี กว่า เชอื กกญั ชา ชาวเรอื นิยมใชผ้ กู โยงเรอื และใชผ้ กู ส่วนประกกอบเสาใบเรอื เลก็ 2. เชอื กมะลลิ า ทามาจากเปลอื กตน้ อะคาบามมี ากในประเทศฟิลปิ ปินส์ เชอื กเหนยี วแขง็ แรงกวา่ เชอื กป่านชุบน้ามนั ดนิ มคี วามอ่อนตวั กว่า แต่ผเุ รว็ กว่าเชอื กป่าน มปี ระโยชน์ใชท้ ารอก ทาสลงิ ใชผ้ ูกโยง เรอื 152 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

3. เชอื กกาบมะพรา้ ว ทาจากเสน้ ใยมะพรา้ ว มนี ้าหนกั เบาลอยน้าได้ มคี วามฝืดดี ไมอ่ มน้า ผุยาก จงึ เป็นเชอื กทเ่ี หมาะสมกบั การใชง้ านในน้า ประโยชน์ ใชท้ าเชอื กลากจงู หรอื โยงเรอื พว่ งเรอื ทาความ สะอาดง่าย แต่มคี วามเหนียวน้อยกวา่ เชอื กอ่นื ๆ ขนาดเดยี วกนั 4. เชอื กมะเลน็ เป็นเชอื กป่านขนาดเลก็ แต่น้าไปชุบน้ามนั ดนิ ใชไ้ ดท้ นกว่าเชอื กป่านธรรมดาไม่ อมน้า ผกู มดั พนั รอบปากขอรอก ป้องกนั ไมใ่ หส้ ง่ิ ของทแ่ี ขวนอยใู่ นรอกหลดุ ออกจากขอ 5. เชอื กน้ามนั เป็นเชอื กป่านขนาดใหญ่ท่ชี บุ น้ามนั ดนิ อ่อนตวั กว่าเชอื กป่านธรรมดา ใชไ้ ดท้ นไม่ อมน้า กร่าแดดกร่าฝนไดด้ กี วา่ เชอื กอ่นื ๆ 6. เชอื กปอ ทาจากปอกระเจา เป็นเชอื กขนาดเลก็ แขง็ ก่อนใชน้ าไปชุบน้าก่อน เชอื กจะอ่อนตวั และเหนียว ทาใหผ้ กู ง่ายขน้ึ เชอื กปอทาในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ 7. เชอื กสปันยารน์ เป็นเชอื กเกลยี วหยาบ ฟัน่ เป็นเกลยี ว 3 – 4 เกลยี ว บางชนิดชุบน้ามนั ดนิ ทา ใหเ้ ชอื กอ่อนตวั ไมอ่ มน้า ใชส้ าหรบั อุดรรู วั่ ต่าง ๆ เช่น อุดตะเขบ็ เรอื ขนาดใหญ่ก่อนยาเรอื ดว้ ยชนั 8. เชอื กดา้ ย ทาจากดา้ ยดบิ หรอื ดา้ ยฟอก เป็นเชอื กทอ่ี ่อนตวั มาก ขดเกบ็ ไดง้ า่ ย มสี ขี าว มอด ปลวกไมช่ อบอาศยั กดั กนิ ประโยชน์ใชท้ าแห อวน สวงิ หรอื ผกู มดั สง่ิ ของเลก็ มหี ลายชนดิ ขนาดเลก็ มากๆ ใชใ้ นการปักเยบ็ 9. เชอื กสายลอ็ ก ทาจากป่านอยา่ งดี ถกั เป็นเสน้ ไมไ่ ดใ้ ชฟ้ ัน่ เป็นเกลยี วอยา่ งเชอื กชนิดอ่นื ๆ ใช้ ทาสายลอ็ คเครอ่ื งวดั ระยะทางเดนิ เรอื ใชท้ าบว่ งบาศ ชนิดทท่ี าจากใยไนลอนใชโ้ รยตวั จากทส่ี งู ได้ คุณสมบตั ไิ มอ่ มน้า ไมข่ าดงา่ ย 10. เชอื กลวด ทาจากโลหะเสน้ เลก็ ๆ ใชท้ าลวดสลงิ ขงึ โยงวตั ถุต่างๆ คุณสมบตั แิ ขง็ แรง ไมอ่ มน้า ทนทาน รบั น้าหนักไดม้ าก ใชผ้ กู มดั สงิ่ ของกไ็ ด้ และเชอื กลวดชนิดฟัน่ เป็นเกลยี วมไี สเ้ ป็นลวดแขง็ งอเกบ็ ไดย้ กมกี าลงั ยกและฉุดไดม้ าก ประโยชนใชท้ าลวดขงึ โยงสลงิ ยดึ สงิ่ ต่างๆ ใหอ้ ยกู่ บั ท่ี เช่น โยงยดึ เสาไฟฟ้า 11. เชอื กไนลอน ทาจากเสน้ ใยไนลอนซง่ึ เป็นใยสงั เคราะห์ คณุ สมบตั เิ หนียวมาก ไมด่ ดู น้าทนต่อ ดนิ ฟ้าอากาศและความชน้ื มอดปลวกไมก่ ดั กนิ แต่มคี วามยดื ตวั ไดม้ ากกว่าเชอื กประเภทอ่นื ๆ เหมาะใช้ งานทงั้ บนบกและในน้า ขอ้ เสยี คอื ปมเงอ่ื นจะคลายง่าย เงื่อนเชือกตามหลกั สตู รลูกเสือโลกมีดงั นี้ เง่ือนพิรอด (Reef Knot) ประโยชน์ 1. ใชต้ ่อเชอื กทม่ี ขี นาดเดยี วกนั 2. ใชเ้ ป็นเงอ่ื นในการพยาบาล เชน่ ผา้ ผกู พนั แผล 3. ใชผ้ กู ปลายเชอื กของเงอ่ื นกากบาทญป่ี ่นุ วธิ ผี กู วธิ ที ่ี 1 ขนั้ ท่ี 1 ปลายเชอื กดา้ นซา้ ยทบั ดา้ นขวา ขนั้ ท่ี 2 – 3 ออ้ มปลายเชอื กดา้ นซา้ ยลงใตเ้ สน้ เชอื กดา้ นขวาใหป้ ลายเชอื กตงั้ ขน้ึ แลว้ รวบปลาย เชอื กเขา้ หากนั โดยใหด้ ่านขวาทบั ดา้ นซา้ ย คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 153

ขนั้ ท่ี 4 ออ้ มปลายเชอื กขวามอื ลอดใตเ้ สน้ ซา้ ยมอื จดั เงอ่ื นใหเ้ รยี บรอ้ ย วธิ ผี กู วธิ ที ่ี 2 (เงอ่ื นพริ อด) เมอ่ื ปลายเชอื กมคี วามแขง็ มาก ขนั้ ท่ี 1 ขดปลายเชอื กดา้ นซา้ ยงอเป็นบว่ ง สอดปลายเชอื กดา้ นขวาขน้ึ ในบ่วง ขนั้ ท่ี 2 มว้ นเสน้ ขวามอื ลงอ้อมดา้ นหลงั ของบ่วง ขนั้ ท่ี 3 สอดปลายเชอื กเสน้ ขวามอื ลงในบว่ ง แลว้ จดั เงอ่ื นใหเ้ รยี บรอ้ ย 154 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เง่ือนขดั สมาธิ (Sheet Bend) ประโยชน์ 1. ใชต้ ่อเชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั 2. ใชผ้ กู กบั สง่ิ ทเ่ี ป็นขอหรอื เป็นหอู ยแู่ ลว้ เช่น ธงชาติ เป็นตน้ วธิ ผี กู ขนั้ ท่ี 1 งอเชอื กเสน้ ใหญ่ใหเ้ ป็นบว่ ง สอดปลายเสน้ เลก็ เขา้ ในบว่ งโดยสอดจากขา้ งลา่ ง ขนั้ ท่ี 2 มว้ นเสน้ เลก็ ลงออ้ มดา้ นหลงั เสน้ ใหญ่ทงั้ คู่ ขนั้ ท่ี 3 จบั ปลายเสน้ เลก็ ขน้ึ ไปลอดเสน้ ตวั เองเป็นการขดั ไว้ จดั เงอ่ื นใหแ้ น่นและเรยี บรอ้ ย คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 155

เงื่อนผกู กระหวดั ไม้ (Simple Turn and Two Half Hitch) ประโยชน์ 1. เป็นเงอ่ื นผกู สตั ว์ เรอื แพ ไวก้ บั หลกั หรอื ห่วง 2. ใชใ้ นเงอ่ื นบุกเบกิ โดยปิดหวั เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ กนั เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ หลุดหรอื คลาย 3. เป็นเงอ่ื นทผ่ี กู งา่ ยแกง้ ่าย วธิ ผี กู ขนั้ ท่ี 1 ออ้ มปลายเชอื กไปคลอ้ งหลกั หรอื ราวหรอื บ่วง ใหป้ ลายเชอื กอยขู่ า้ งบนเสน้ เชอื ก ขนั้ ท่ี 2 สอดปลายเชอื กลอดใตเ้ ชอื กเขา้ ไป ขนั้ ท่ี 3 ออ้ มปลายเชอื กขา้ มเสน้ ทเ่ี ป็นบว่ งและเสน้ ทเ่ี ป็นตวั เชอื ก ขนั้ ท่ี 4 สอดปลายเชอื กลอดใตต้ วั เชอื ก เลยขา้ มไปเสน้ บ่วงจดั เงอ่ื นใหเ้ รยี บรอ้ ย 156 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เง่ือนบ่วงสายธนู (Bowline) ประโยชน์ 1. เป็นเงอ่ื นทไ่ี ม่รดู เขา้ ไปรดั สงิ่ ทผ่ี กู จงึ เหมาะทจ่ี ะคลอ้ งสตั วไ์ วก้ บั หลกั ทาใหห้ มนุ ไดร้ อบ 2. ใชเ้ ป็นบว่ งคลอ้ งช่วยคนตกน้า ขณะทล่ี ากขน้ึ มาจะไมร่ ดู เขา้ ไปรดั (เวลาลากตอ้ งจบั ตน้ คอคนตกน้าใหห้ งายขน้ึ เพอ่ื ใหจ้ มกู พน้ น้า) 3. ใชค้ ลอ้ งคนหยอ่ นจากทส่ี งู หรอื ดงึ จากทต่ี ่าขน้ึ ทส่ี งู วธิ ผี กู วธิ ที ่ี 1 ทาบว่ งนอกตวั (เพ่อื ชว่ ยเหลอื หรอื คลอ้ งผอู้ ่นื ) ขนั้ ท่ี 1 ขดเชอื กใหเ้ ป็นบ่วงคลา้ ย เลข 6 ถอื ไวด้ ว้ ยมอื ซา้ ยขนั้ ท่ี 2 มอื ขวาจบั ปลายเชอื กสอด เขา้ ไปในบว่ ง (สอดจากดา้ นลา่ ง) ขนั้ ท่ี 3 จบั ปลายเชอื กออ้ มหลงั ตวั เลข 6 แลว้ วธิ ที ่ี 2 (เงอ่ื นบ่วงสายธนู) เป็นการผกู ห่วงในตวั เพ่อื สอดปลายลงในบว่ งหวั เลข 6 จดั เงอ่ื นใหแ้ น่น ชว่ ยเหลอื ตนเอง และเรยี บรอ้ ย ขนั้ ท่ี 1 ใชม้ อื ซา้ ยจบั เชอื กใหเ้ หลอื ส่วนปลายเชอื ก ประมาณ 1 เมตร มอื ขวาออ้ มไปหลงั จบั ปลายเชอื ก ขนั้ ท่ี 2 พลกิ ขอ้ มอื ขน้ึ มาจนเป็นบว่ งคลอ้ งลาตวั ปลายเชอื กอยบู่ นเสน้ ขวาเขา้ หาตวั ตกั เชอื กจากมอื เชอื ก ซา้ ย (2ก) จนตวั เชอื กเขา้ ไป คลอ้ งขอ้ มอื ขวาเป็นบ่วงเลข 6 (2ข) ขนั้ ท่ี 3 สอดปลายเชอื กออ้ ม ลอดใตเ้ สน้ มอื ซา้ ย มอื ซา้ ยแลว้ ดงึ ลง ในช่องหมายเลข 6 ชกั มอื ขวาออกจาก บ่วงเลข 6 พรอ้ มดงึ ปลายเชอื กมอื ซา้ ย ถงึ เชอื กจดั เงอ่ื นใหเ้ รยี บรอ้ ย คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 157

เงื่อนตะกรดุ เบด็ (Ciove Hitch) ประโยชน์ 1. เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ใชใ้ นการผกู แน่น เชน่ ผูกกากบาท 2. ใชผ้ กู โยง เรอื แพ สตั วเ์ ลย้ี งไวก้ บั เสาหรอื รวั้ 3. ใชท้ าบนั ไดเชอื ก บนั ไดลงิ วธิ ผี กู วธิ ที ่ี 1 (เมอ่ื สามารถทาเป็นห่วงสวมหวั เสาได)้ ขนั้ ท่ี 1 พกั เชอื กใหเ้ ป็นบว่ งสลบั กนั (ดงั รปู ) ขนั้ ท่ี 2 เลอ่ื นบ่วงใหเ้ ขา้ ไปซอ้ น (รปู ก.) จนทบั กนั เป็นบ่วงเดยี ว (รปู ข.) ขนั้ ท่ี 3 นาบว่ งจากขนั้ ท่ี 2 ข. สวมลงในเสา แลว้ ดงึ ปลายเชอื กจดั เงอ่ื นใหแ้ น่ วธิ ที ่ี 2 (เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ) เมอ่ื ตอ้ งการผกู กบั หลกั เสา ต้นไม้ ซง่ึ ไมส่ ามารถทาเป็นบ่วงไปสวมกบั วธิ ที ่ี 1 ได้ (วธิ นี ้ใี ชม้ าก ลกู เสอื ตอ้ งฝึกใหค้ ล่องทงั้ สภาพเสาทต่ี งั้ อยู่ หรอื คานทอ่ี ยใู่ นแนวนอน) ขนั้ ท่ี 1 พาดปลายเชอื กออ้ มหลกั ไปดา้ นหลงั วกกลบั มาดา้ นหน้าใหป้ ลายเชอื กอยใู่ หต้ วั เชอื ก 158 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ขนั้ ท่ี 2 ยกปลายเชอื ก พรอ้ มทอ่ี อ้ มหลงั อกี ครงั้ หน่งึ ขนั้ ท่ี 3 ออ้ มปลายเชอื กไปดา้ นหลงั แลว้ วกกลบั มาดา้ นหน้าลอดตวั เอง จดั เงอ่ื นให้ เรยี บรอ้ ย เงื่อนประมง (Fisherman’s Knot) ประโยชน์ เป็นเงอ่ื นทใ่ี ชต้ ่อเชอื กสองเสน้ ขนาดเดยี วกนั อยา่ งงา่ ยทส่ี ดุ และรบั กาลงั ลากไดอ้ ยา่ งดบี างคน เรยี กว่า เงอ่ื นหวั ลา้ นชนกนั วธิ ผี กู ขนั้ ท่ี 1 ใหป้ ลายเชอื กซอ้ นกนั ดงั รปู ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 159

ขนั้ ท่ี 2 ผกู ปลายเชอื ก ก. รอบตวั เชอื ก A ดว้ ยผกู ขดั ชนั้ เดยี วธรรมดา ขนั้ ท่ี 3 ผกู ปลายเชอื ก ข. รอบตวั เชอื ก B ขนั้ ท่ี 4 ดงึ เสน้ เชอื ก A, B ใหป้ มเงอ่ื นเขา้ ไปชนกนั เง่ือนผกู ซุง (A Timber Hitch) ประโยชน์ 1. ใชผ้ กู ซุงหรอื เสาหนกั ๆ เพ่อื ลาก 2. ผกู สตั ว์ เรอื แพ ไวก้ บั หลกั จะยง่ิ แน่นเมอ่ื ถูกดงึ 3. ใชเ้ ป็นเงอ่ื นเรมิ่ ต้นในการผกู ทแยง วธิ ผี กู ขนั้ ท่ี 1 สอดเชอื กใหค้ ลอ้ งรอบตน้ ซุงหรอื เสา ขนั้ ท่ี 2 งอปลายเชอื กคลอ้ งตวั เชอื ก 160 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ขนั้ ท่ี 3 พนั ปลายเชอื กรอบเสน้ ตวั เอง 3 – 5 รอบ ดงึ ตวั เชอื ก A ใหเ้ งอ่ื นแน่น เง่ือนผกู รงั้ (Tarbuck Knot) ประโยชน์ ใชผ้ กู สายเตน็ ทย์ ดึ เสาธงเพอ่ื กนั ลม้ ใชร้ งั้ ตน้ ไมเ้ ป็นเงอ่ื นเล่อื นใหต้ งึ และหยอ่ นได้ วธิ ผี กู ขนั้ ท่ี 1 นาเชอื กคลอ้ งกบั หลงั เสาหรอื บว่ ง ขนั้ ท่ี 2 ใชป้ ลายเชอื กพนั เชอื กเสน้ ยาว โดยพนั ปลายเกลยี วประมาณ 3 – 4 เกลยี ว พนั ลงมาทางดา้ นเป็นห่วง ขนั้ ท่ี 3 ดงึ ปลายเชอื กขน้ึ ไปดา้ นบน แลว้ พนั กบั เชอื กเสน้ ยาวดา้ นบนเพอ่ื กนั ไมใ่ หเ้ กลยี วเชอื กหลุด เงอ่ื นหมายเลข 8 หรอื ปมตาไก่ ประโยชน์ 1. ใชผ้ กู ปลายเชอื กใหเ้ ป็นปม 2. ใชผ้ กู แทนการพนั หวั เชอื กชวั่ คราวเอาตวั เชอื กทาเป็นบ่วง c ทบั ปลาย a แลว้ ออ้ มเชอื ก a ออ้ มออกมาทบั บ่วง c สอดปลาย b เขา้ ในบว่ ง c ดงึ ปลาย a และ b จะเกดิ ปม คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 161

การผกู แน่น (Lashing) 1. ผกู ประกบ ใชส้ าหรบั ผกู ไมห้ รอื เสา 2 ตน้ เขา้ ดว้ ยกนั มคี าดคอ เรม่ิ ผกู ดว้ ยเงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ทไ่ี มห้ ลกั ลง ดว้ ยเงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ทไ่ี มต้ ่อ ประโยชน์ 1. ต่อไมใ้ หย้ าวหรอื มดั ไมเ้ ขา้ ดว้ ยกนั 2.ทาใหไ้ ดค้ วามยาวของไม้ สาหรบั งานก่อสรา้ งอาคาร 2.ผกู กากบาท ขน้ึ ต้นดว้ ยเง่อื นตะกรุดเบด็ ทไ่ี มต้ วั ใดตวั หน่งึ และหกั คอลงดว้ ยเงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ทไ่ี มอ้ กี ตวั หน่งึ การวางใหว้ างพาดกนั ตงั้ ฉาก ประโยชน์ 1. ใชใ้ นงานก่อสรา้ งทานงั่ รา้ นทาสอี าคาร 2. ใชใ้ นงานสรา้ งค่ายพกั แรม อุปกรณ์การพกั แรม 162 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

3.ผกู ทแยง เป็นการผกู ไมใ้ หต้ ดิ กนั ใชก้ ลางเชอื กพนั ขน้ึ ตน้ ดว้ ยเงอ่ื นผกู ซุง แลว้ พนั ทแยงมมุ ไขวก้ นั ในมุม ตรงกนั ขา้ ม จบลงดว้ ยเงอ่ื นพริ อดทไ่ี มต้ วั ใดตวั หน่งึ กไ็ ด้ แลว้ หกั คอ ประโยชน์ 1. ใชใ้ นงานก่อสรา้ ง 2. ใชค้ า้ หรอื ยนั เพ่อื ป้องกนั มใิ หล้ ม้ เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ความสามคั คีก่อให้เกิดความสาเรจ็ ครงั้ หน่งึ มคี นตาบอด 3 คน เดนิ ทางไปพบชา้ งตวั หน่ึง กต็ รงเขา้ ไปจบั ลูบคลาดู คนหน่ึงบอกว่าชา้ ง มลี กั ษณะคล้ายงู เพราะเขาคลาไปท่งี วงชา้ ง อกี คนหน่ึงบอกว่าช้างมลี กั ษณะคล้ายเสาเรอื น เพราะเขาไป คลาท่ีขาช้าง ส่วนคนท่ีสามบอกว่ามีลกั ษณะคล้ายพัดอันใหญ่ เพราะไปคลาท่ีหูช้าง ทงั้ สามคนต่างก็ ถกเถยี งกนั ไมย่ อมหยดุ ในทส่ี ดุ กถ็ กู ชา้ งกระทบื ตายหมดทงั้ สามคน เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า การไม่รอู้ ะไรจรงิ และไมย่ อมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื นนั้ เป็นอนั ตรายอย่างยง่ิ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 163

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยท่ี 10 การปฐมพยาบาล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 14 ก้ภู ยั ใกล้ตวั และการปฐมพยาบาล 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถขอความช่วยเหลอื จากหน่วยงานทใ่ี หค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถปฐมพยาบาลผปู้ ระสบเหตุ คนเป็นลม แมลงกดั ต่อย ขอ้ เทา้ แพลงและ ผวิ หนงั ถลอกได้ 2. เนื้อหา 2.1 หน่วยงานทใ่ี หค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุ 2.2 การปฐมพยาบาลคนเป็นลม 2.3 การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยถกู แมลงกดั ต่อย 2.4 การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยขอ้ เทา้ แพลง 2.5 การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยผวิ หนงั ถลอก 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 1) หน่วยงานทใ่ี หค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุ 2) การปฐมพยาบาลคนเป็นลม 3) การปฐมพยาบาลผถู้ ูกแมลงกดั ต่อย 4) การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยขอ้ เทา้ แพลง 5) การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยผวิ หนงั ถลอก 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาเรอ่ื ง อุบตั เิ หตุทเ่ี กดิ ขน้ึ และพบไดบ้ ่อยสอบถามประสบการณ์ ทล่ี กู เสอื ไดพ้ บและใหล้ กู เสอื ทเ่ี คยผา่ นประสบการณ์ดงั กล่าวเลา่ ถงึ สาเหตุของอุบตั เิ หตุและการไดร้ บั การ ชว่ ยเหลอื หรอื การขอความช่วยเหลอื ในชวี ติ ประจาวนั ใหล้ กู เสอื แต่ละหมบู่ อกถงึ หน่วยงานทใ่ี หบ้ รกิ าร ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุ หรอื อุบตั ภิ ยั 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แจกใบความรทู้ ่ี 1 หน่วยงานทใ่ี หค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุ สนทนาวธิ กี าร แจง้ เหตุไปยงั เจา้ หน้าท่ี 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยาย และสาธติ การปฐมพยาบาล เรอ่ื งคนเป็นลม 164 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

คนถกู แมลงกดั ต่อยผปู้ ่วยขอ้ เทา้ แพลงผปู้ ่วยผวิ หนงั ถลอก 4) แบ่งลกู เสอื ออกเป็น 4 กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ฝึกปฏบิ ตั กิ ารปฐมพยาบาลทผ่ี โู้ ดยศกึ ษา เพม่ิ เตมิ จากใบความรตู้ ามกล่มุ ดงั น้ี (โดยใชว้ ธิ เี รยี นแบบฐาน) ฐานท่ี 1 การปฐมพยาบาลคนเป็นลม ฐานท่ี 2 การปฐมพยาบาลผถู้ กู แมลงกดั ต่อย ฐานท่ี 3 การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยขอ้ เทา้ แพลง ฐานท่ี 4 การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยผวิ หนงั ถลอก 5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ บทเรยี นจากการเรยี นแต่ละฐาน โดยเสรมิ ส่วนทย่ี งั ไมส่ มบรู ณ์ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในการทากจิ กรรม และตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการปฏบิ ตั ิ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 14 เพลง เพลง นักปฐมพยาบาล นกั ปฐมพยาบาล งานของเราขนั้ ต้น คอื คดิ จะช่วยคนทป่ี ่วยกะทนั หนั หากใจหยดุ เตน้ กน็ วดเฟ้นและผายปอดพลนั เลอื ดออกมากนนั้ เรว็ ไวหา้ มไวก้ ่อน จบั นอนตะแคงเครอ่ื งแต่งกายนนั้ ช่วยคลายผอ่ น ซบเซาเฝ้านอนหา้ มใหย้ าหา้ มอาหาร ใหค้ วามอุ่นพอ และรบี ตามหมอมาจดั การ เราตอ้ งช่วยพยาบาลก่อนนาสง่ หมอ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 165

ใบความรู้ หน่วยงานท่ีให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบอบุ ตั ิเหตุ ศนู ยก์ ้ชู ีพ “นเรนทร” (Narenthorn EMS Center) ความเจบ็ ป่ วยเกิดขน้ึ ได้ทุกท่ที ุกเวลา ไม่ว่าจะเกดิ อุบตั เิ หตุ หรอื อาการป่ วยเฉียบพลนั จาก โรคภยั หากรกั ษาไมท่ นั การณ์โอกาสรอดชวี ติ อาจมไี มม่ าก หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน จงึ พรอ้ มปฏบิ ตั หิ น้าท่ี 24 ชม. เพ่อื นาผู้ป่ วยเขา้ สู่การรกั ษาในโรงพยาบาลอย่างทนั ท่วงที พวกเขาอุทศิ ตวั เพ่อื คนไขโ้ ดยไม่ หวงั ผลตอบแทน ทนั ทโ่ี ทรแจง้ 1669 พวกเขาจะไปถงึ ท่ี เป็นบรกิ ารฟรไี มเ่ ก่ยี งว่าน้าจะท่วม ไฟจะ ไหม้ หรอื ตอ้ งฝ่าเขา้ ไปในเขตระเบดิ ป่ วยฉุกเฉินแจ้ง 1669 สง่ิ หน่งึ ทห่ี น่วยแพทยฉ์ ุกเฉนิ หรอื หน่วยกูช้ พี ใหค้ วามสาคญั อยา่ งมากกค็ อื การเขา้ ถงึ ผปู้ ่วยใหเ้ รว็ ท่สี ุด ไม่ว่าผู้ป่ วยจะอยู่ท่ไี หน เหตุเกิดในเวลาใด ดงั นัน้ นอกจากหน่วยกู้ชพี ท่มี หี น้าท่เี ข้าไปให้การ ช่วยเหลอื ผปู้ ่วยแลว้ จงึ ต้องมศี ูนยร์ บั แจง้ เหตุทใ่ี หบ้ รกิ ารตลอด 24 ชวั่ โมง และทาหน้าทป่ี ระสานงาน หน่วยงานต่าง ๆ ซ่งึ จะอานวยความสะดวกในการช่วยเหลอื ผปู้ ่ วย โดยเม่อื ศูนยร์ บั แจง้ เหตุได้รบั แจง้ จากผู้ป่ วยหรอื บุคคลใกลช้ ดิ กจ็ ะต้องสอบถามรายละเอยี ดต่าง ๆ ใหช้ ดั เจน เช่น ได้รบั บาดเจบ็ จาก อุบตั ิเหตุ หรอื มอี าการป่ วยจากโรคประจาตวั อาการของผู้ป่ วยอายุ – เพศ และจานวนของผู้ป่ วย สถานทเ่ี กดิ เหตุ พรอ้ มทงั้ เบอรโ์ ทร ทส่ี ามารถตดิ ต่อได้ จากนนั้ จงึ แจง้ ไปยงั เจา้ หน้าทข่ี องหน่วยแพทยฉ์ ุกเฉินซง่ึ ใกลจ้ ดุ เกดิ เหตุทส่ี ุด พรอ้ มทงั้ ประสาน กบั หน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งเพ่อื ให้ช่วยอานวยความสะดวกหรอื เข้าไปช่วยเหลอื ผู้ป่ วยในเบ้อื งต้น เช่น แจง้ ให้ตารวจจราจรช่วยเคลยี รเ์ สน้ ทาง ให้อาสาสมคั รป้องกนั ฝ่ายพลเรอื น (อพปร.) ช่วยงดั รถยนต์ เพ่ือนาผู้ป่ วยออกจากจุดเกิดเหตุ ปัจจุบนั ได้กาหนดให้มกี ารใช้เลขหมายโทรศพั ท์ในการบั แจง้ เหตุ ผูป้ ่ วยฉุกเฉินหมายเลขเดยี วกนั ทวั่ ประเทศ คอื หมายเลข 1669 เพ่อื ให้งา่ ยต่อการจดจา โดยเม่อื ผู้ป่ วยหรอื ผู้ใกลช้ ดิ โทร เรยี ก 1669 ระบบจะเช่อื มโยงไปยงั หน่วยแพทยฉ์ ุกเฉินท่ใี กล้ท่สี ุด จากนัน้ หน่วยกู้ชพี ในพ้นื ท่รี บั ผดิ ชอบก็จะส่งเจา้ หน้าท่เี ขา้ ไปนาตวั ผูป้ ่ วยส่งโรงพยาบาลโดยเรว็ โดยระหว่าง ทางเจา้ หน้าท่จี ะทาการช่วยเหลอื ผูป้ ่ วยในเบ้อื งต้นตามความจาเป็น เช่น ห้ามเลอื ด ใหน้ ้าเกลอื ให้ ออกซเิ จน และภายในรถกู้ชพี จะต้องมอี ุปกรณ์ช่วยชวี ติ ต่าง ๆ ครบครนั ไม่ว่าจะเป็น เพลท หรอื เตยี งลาเลยี งผปู้ ่วย เครอ่ื งมอื ปฐมพยาบาล เครอ่ื งวดั ความดนั เครอ่ื งปัม๊ หวั ใจ สายน้าเกลอื ฯลฯ ทงั้ น้ี เพ่อื เป็นการเพม่ิ ศกั ยภาพในการเขา้ ถงึ ผปู้ ่วยขณะน้ีทางสานกั งานระบบบรกิ ารการแพทย์ ฉุกเฉินไดเ้ รง่ ดาเนนิ การจดั ทาโปรแกรมซอฟตแ์ วร์ เพ่อื ใชใ้ นการบอกตาแหน่งของผปู้ ่วย โดยเมอ่ื มกี าร โทรแจง้ เหตุ ระบบจะทาการเช่ือมโยงขอ้ มูลว่าผู้แจ้งอยู่ ณ จุดใด พร้อมทงั้ ปรากฏภาพแผนท่บี น หน้าจอคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื บอกตาแหน่งทม่ี กี ารโทรแจง้ ซง่ึ จะช่วยใหห้ น่วยแพทยฉ์ ุกเฉินสามารถเดนิ ทาง ไปยงั พน้ื ทเ่ี กดิ เหตุไดเ้ รว็ ยง่ิ ขน้ึ และเมอ่ื รถกู้ชพี เดนิ ทางออกจากโรงพยาบาลไปยงั จดุ เกดิ เหตุกจ็ ะปรากฏ ภาพขน้ึ บนหน้าจอว่ารถเคล่อื นท่ไี ปถงึ จุดใด มอี ุปสรรคใดหรอื ไม่ เพ่อื ทห่ี น่วยรบั แจง้ เหตุจะไดท้ าการ ประสานไปยงั เจา้ หน้าทต่ี ่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งเพ่อื ช่วยแกป้ ัญหา โดยระบบดงั กล่าวจะแลว้ เสรจ็ ประมาณ ตน้ ปี 2551 และนามาใชก้ บั หน่วยบรกิ ารแพทยฉ์ ุกเฉนิ ทวั่ ประเทศ 166 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

การปฐมพยาบาลคนเป็ นลม คนเป็นลมหน้ามดื เป็นผลเน่อื งจากเลอื ดไปเลย้ี งสมองไมเ่ พยี งพอชวั่ คราว สาเหตุอาจ เน่อื งมาจาก 1. รา่ งกายอ่อนเพลยี มาก เชน่ อดนอน 2. อากาศถ่ายเทไมส่ ะดวก เชน่ ผคู้ นหนาแน่น อากาศรอ้ นจดั 3. อารมณ์ เชน่ ต่นื เตน้ ตกใจกลวั มากเกนิ ไป คนเป็นลมมกั มอี าการวงิ เวยี น คล่นื ไสอ้ าเจยี น หน้ามดื ใจสนั่ ใบหน้าซดี เซยี ว มเี หงอ่ื ออก ตามฝ่ามอื ฝ่าเทา้ และหน้าผาก ชพี จรเบา หายใจหอบถ่ี อาจลม้ ลงและหมดสติ การปฐมพยาบาล 1. เมอ่ื รสู้ กึ เวยี นศรี ษะ หน้ามดื ใหผ้ ปู้ ่วยนงั่ ลงสดู หายใจยาวๆ 2. ขยายเสอ้ื ผา้ ใหห้ ลวม 3. หา้ มคนมงุ ดู 4. พดั ใหผ้ ปู้ ่วย 5. ใหด้ มแอมโมเนีย หรอื ยาดม 6. เชด็ เหงอ่ื ตามมอื เทา้ หน้าผาก 7. ถา้ หมดสตใิ หผ้ ปู้ ่วยนอนลงใหศ้ รี ษะต่ากว่าตวั เลก็ น้อย หรอื นอนราบกไ็ ด้ 8. ถา้ ยงั ไมร่ สู้ กึ ตวั ควรใหค้ วามอบอุ่น ทาการผายปอดและนาไปพบแพทย์ การปฐมพยาบาลคนถกู แมลงกดั ต่อย แมลงท่ีมีเหล็กใน เช่น ผ้ึง แตน ต่อ เม่อื ต่อยแล้วเหล็กในจะคาอยู่ ให้นาเหล็กในออก พษิ ของแมลงพวกน้ีฤทธเิ ์ป็นกรด แผลทถ่ี ูกต่อยจะบวม คนั และปวด ไมค่ ่อยมอี นั ตรายมากนกั แต่ถา้ ต่อยเป็นจานวนมาก อาจทาให้มไี ขส้ ูง อาเจยี น ท้องเดนิ เป็นลม หมดสติ และอาจตายไดซ้ ่งึ ต้อง ไดร้ บั การปฐมพยาบาลโดยดว่ น การปฐมพยาบาล 1. ใหร้ บี เอาเหลก็ ในออกจากแผลทนั ที 2. ใชส้ าลชี ุบแอมโมเนียหอม ซง่ึ มฤี ทธเิ ์ป็นด่างอ่อนทาบรเิ วณแผล 3. ใชน้ ้าแขง็ ประคบเพอ่ื ระงบั ปวด และช่วยลดการซมึ ซาบของพษิ 4. ถา้ ถกู แมลงต่อยบรเิ วณหน้า คอ มอี าการบวมหายใจไมอ่ อกใหร้ บี นาส่งโรงพยาบาล การปฐมพยาบาลผ้ปู ่ วยข้อเท้าแพลง ขอ้ เทา้ แพลงหรอื ขอ้ เคลด็ สาเหตุเน่อื งมาจากขอ้ ต่อสว่ นนนั้ เกดิ กระทบกระเทอื น ถกู ชน ถูก บดิ พลกิ หรอื แพลงอยา่ งรนุ แรง ทาใหเ้ ยอ่ื หุม้ หรอื เอน็ รอบๆ ขอ้ ต่อพลกิ หรอื แพลงได้ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 167

การปฐมพยาบาล 1. ใหข้ อ้ เทา้ นนั้ พกั ผอ่ น ใหอ้ ยนู่ ิ่งๆ อยา่ ใชง้ าน 2. ยกขอ้ เทา้ สว่ นนนั้ ใหส้ งู นนั้ 3. ใหน้ ้าแขง็ ประคบเพ่อื ระงบั ปวด การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยผิวหนังถลอก ผวิ หนงั ถลอก มลี กั ษณะแผลต้นื ๆ ท่ผี วิ หนังส่วนนอกถลอก มเี ลอื ดไหลซมึ ออกเลก็ น้อยเกดิ จากวง่ิ หกลม้ เล่นกฬี า หรอื แผลจากถูกขดี ขว่ น การปฐมพยาบาล 1. ถา้ มกี ารตกเลอื ด จะตอ้ งหา้ มเลอื ดเสยี ก่อน 2. ทาความสะอาดบาดแผล แต่อยา่ ทาลายเลอื ดทแ่ี ขง็ ตวั อุดบาดแผล เพราะจะทาให้ เลอื ดออกอกี 3. ขณะทาความสะอาดบาดแผล ควรตรวจดบู าดแผลมลี กั ษณะบาดแผลชนิดใด 4. ถา้ บาดแผลนัน้ มวี ตั ถุอยใู่ หเ้ อาออกเสยี ก่อน จงึ แต่งบาดแผล 5. ใชย้ าใส่บาดแผลสด เช่น ทงิ เจอรไ์ อโอดนี หรอื ยาแดง 6. หากบาดแผลถลอกมากและมอี าการเจบ็ แสบมาก ควรนาสง่ แพทย์ 168 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ คณุ ธรรมของครู สานักของอาจารยบ์ นั ไก มนี ักศกึ ษาจากหลายท้องถนิ่ ทวั่ ประเทศญ่ีปุ่นเข้าไปฝากตวั กนั มาก ในจานวนผไู้ ปเรยี นธรรมะคนหน่งึ กลบั ประพฤตติ วั เป็นขโมยไปเรยี นธรรมะแต่กลบั ประพฤตติ วั เป็นขโมย โดนจบั ไดห้ นทห่ี น่ึง เมอ่ื นาเรอ่ื งไปฟ้องอาจารย์ ท่านอาจารยบ์ นั ไกกร็ บั ฟัง แต่มไิ ดจ้ ดั การอะไรแมห้ น ทส่ี อง ท่านอาจารยก์ เ็ ฉยตามเคย นกั ศกึ ษาไม่เขา้ ใจการวางเฉยของอาจารย์ สุดจะทนได้ กเ็ ขา้ ชอ่ื กนั รอ้ งขอให้พจิ ารณาโทษนักศึกษานิสยั เสยี ไม่ดี เสยี ที มฉิ ะนัน้ ทุกคนจะพากนั ไปจากสานักทงั้ หมด ท่านอาจารยอ์ ่านคาเรยี กรอ้ งน้แี ลว้ ท่านกเ็ รยี กประชมุ นักศกึ ษาพรอ้ มกนั แลว้ ไดก้ ล่าวขน้ึ มา “พวกเธอ ทงั้ หลายทล่ี งช่อื มาน้ี เป็นผฉู้ ลาด เพราะทุกคนสามารถรผู้ ดิ รถู้ ูก ฉะนนั้ หากพวกเธอมคี วามประสงค์ จะจากสานกั ศกึ ษาของฉนั ไป เพ่อื ไปหาสถานศกึ ษาต่อท่ดี กี ว่า กอ็ นุญาตไปได้ตามความปรารถนา ” ท่านอาจารยบ์ นั ไกกล่าวดงั น้ี ส่วนนักศกึ ษาผู้ประพฤตมิ ชิ อบ ท่านอาจารย์บนั ไกก็หนั มาประกาศว่า “แต่เจา้ เพ่อื นขข้ี โมยผนู้ ่าสงสารของเจา้ คนน้ี เขายงั เขลามาก โง่ ไมร่ แู้ มก้ ระทงั่ อะไรเป็นสง่ิ ถูก อะไร ไม่บงั ควร ฉะนนั้ ขอให้เหน็ ใจเถอะ ท่ฉี นั จะตอ้ งให้เขาอย่กู บั ฉันต่อไป เพราะถ้าฉันไม่สอนเขา แลว้ ใครเล่าจะสอน” นกั ศกึ ษาคนผดิ ถงึ รอ้ งไหโ้ ฮ หว้ งแหง่ ความรผู้ ดิ รชู้ อบเกดิ ขน้ึ ในตอนน้เี อง นิสยั ไมด่ ถี ูก ความเมตตาปราณเี ปลย่ี นอยา่ งหมดสน้ิ ตงั้ แต่บดั นนั้ มา เรื่องนี้สอนให้รวู้ ่า ความดยี อ่ มชนะความชวั่ จากหนงั สอื ชวี ติ งาม คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 169

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.1) หน่วยที่ 11 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรมของลกู เสือวิสามญั แผนการจดั กิจกรรมที่ 15 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรม และประกอบอาชีพ ในสถานประกอบการ เวลา 1 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถบอกประโยชน์และวธิ สี รา้ งความปลอดภยั ในการทางานได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถบอกวธิ ปี ฏบิ ตั งิ านในสถานประกอบการไดอ้ ย่างปลอดภยั 2. เนื้อหา 2.1 องคป์ ระกอบความปลอดภยั ในการทางาน 2.2 ผลกระทบทเ่ี กดิ จากความปลอดภยั ในการทางาน 2.3 การเสรมิ สรา้ งความปลอดภยั ในการทางาน 2.4 ประโยชน์ของความปลอดภยั ในการทางาน 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง(ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แบ่งลกู เสอื ออกเป็น 4 กลุม่ นาเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยการสนทนาจากภาพ อุบตั เิ หตุทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสถานประกอบการ ใหล้ กู เสอื ชว่ ยกนั อภปิ รายถงึ อนั ตรายจากภาพดงั กล่าว 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายงานใหแ้ ต่ละกล่มุ ช่วยกนั อภปิ รายตามหวั ขอ้ เรอ่ื ง ดงั น้ี ใหเ้ วลา กลุ่มละ 5 นาที แลว้ นามาอธบิ ายหน้าชนั้ ตามลาดบั กลมุ่ ท่ี 1 องคป์ ระกอบของความปลอดภยั ในการทางาน กลุ่มท่ี 2 ผลกระทบทเ่ี กดิ จากความปลอดภยั ในการทางาน กลุ่มท่ี 3 การเสรมิ สรา้ งความปลอดภยั ในการทางาน กลุ่มท่ี 4 ประโยชน์ของความปลอดภยั ในการทางาน 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แจกใบความรู้ ใหล้ กู เสอื ไปศกึ ษาตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ ตามหวั ขอ้ เรอ่ื งทงั้ หมด 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 170 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 15 เพลง จบั มือ จบั มอื กนั ไวใ้ หม้ นั่ คง เพ่อื ความยนื ยงสามคั คี รกั กนั ปรองดองเหมอื นน้องพ่ี เพอ่ื ความสามคั คมี รี ว่ มกนั เปรยี บดงั เป็นเปลวรอ้ นไฟนนั้ โกรธกนั มนั รา้ ยเป็นสง่ิ เลว จบั มอื ยม้ิ ใหก้ นั เป็นสง่ิ ดี เผาใจใหม้ คี วามไหวหวนั่ เกรกิ เกยี รติ เกรยี งไกร วนิ ยั ดี จงรกั ภกั ดี มที วั่ กนั พวกเราลกู เสอื เชอ้ื เผา่ ไทย ศลี ธรรม จรรยา และหน้าท่ี ใบความรู้ องคป์ ระกอบของความปลอดภยั ในการทางาน ความปลอดภยั ในการทางานจะเกิดขน้ึ ได้นัน้ ต้องประกอบด้วยปัจจยั ท่สี าคญั 2 องค์ประกอบ คอื 1. บุคลากรหรอื ผู้ปฏิบัติงาน ทุกระดบั ทุกหน้าท่ีภายในองค์กรทงั้ ภาครฐั และเอกชน ตัง้ แต่ พนักงานจนถึงผู้บริหาร ต้องตระหนักในความสาคัญและมีจิตสานึกท่ีดีต่อความปลอดภัยในการ ปฏบิ ตั งิ าน จากสถติ อิ ุบตั เิ หตุทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั งิ านพบว่าส่วนใหญ่เกดิ จากการกระทาท่ีไม่ปลอดภยั ของบุคลากรทข่ี าดความรคู้ วามเขา้ ใจ ขาดประสบการณ์และความชานาญ หรอื มอี าการเหน็ดเหน่อื ยมาก เกนิ ไป ส่งผลให้มคี วามผดิ พลาดในการปฏบิ ตั ิงาน หรอื หวั หน้างานและผู้บรหิ ารปล่อยปละละเลยต่อ อนั ตรายทเ่ี กดิ ขน้ึ ดงั นนั้ ในการปฏบิ ตั งิ านจาเป็นตอ้ งมกี ารพฒั นาบคุ ลากรทุกฝ่าย โดยการใหก้ ารศกึ ษา อบรม ปลุกจติ สานึกท่ีดีด้านความปลอดภยั โดยช้ีให้ผู้ปฏิบัติงานเห็นถึงความเสียหายต่อชีวติ และ ทรพั ยส์ นิ ท่อี าจเกดิ ข้นึ จากความปลอดภยั ตลอดจนฝึกฝนให้เกดิ ความชานาญในการปฏบิ ตั ิงานท่ตี น รบั ผิดชอบ นอกจากน้ีหน่วยงานภาครฐั ท่ีมสี ่วนเก่ียวข้องกับความปลอดภัยในการปฏิบตั ิงานต้อง สอดสอ่ งดแู ลใหส้ ถานประกอบการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายความปลอดภยั อยา่ งเครง่ ครดั ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 171

2. สภาพแวดล้อมในการทางานท่ปี ลอดภยั จากการเก็บรวบรวมสถติ กิ ารเกดิ อุบตั เิ หตุในการ ทางานนนั้ พบว่ามากกว่า 10% มสี าเหตุมาจากสภาพแวดลอ้ มในการทางานทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยอนั ตรายต่างๆ เช่น สถานท่ที างานมอี ากาศถ่ายเทไม่สะดวก การวางโรงงานไม่มี การก่อสรา้ งต่อเตมิ ไม่ได้มาตรฐาน หรอื ไมป่ ลอดภยั ไมม่ เี ครอ่ื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์เตอื นภยั เครอ่ื งจกั รเก่าหรอื เส่อื มคุณภาพ เครอ่ื งมอื ไร้ คุณภาพวตั ถุมพี ษิ หรอื สารเคมที ่จี ดั การเก็บไม่ถูกวธิ ี เคร่อื งป้องกนั อันตรายส่วนบุคคลเก่าหรอื เส่อื ม คณุ ภาพ รวมไปถงึ สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ เช่น ฝนตกหนกั น้าท่วม ฟ้าผา่ ฯลฯ ผลกระทบท่ีเกิดจากความไม่ปลอดภยั ในการทางาน อุบตั ภิ ยั จากการทางานทกุ สาขาอาชพี ก่อใหเ้ กดิ ความสญู เสยี ต่อชวี ติ และทรพั ยส์ นิ อยา่ งมหาศาล และส่งผลกระทบต่อทุกๆ ฝ่ ายท่ีมสี ่วนเก่ียวข้อง ทงั้ ผู้ประกอบการ นายจ้าง ผู้ปฏบิ ตั ิงาน ครอบครวั สงั คมและประเทศชาติ พอสรปุ ไดด้ งั น้ี 1. ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุและครอบครวั เป็นผไู้ ดร้ บั ผลกระทบโดยตรง ตอ้ งบาดเจบ็ หรอื สญู เสยี ชวี ติ เสยี เวลาในการรกั ษาตวั เสยี รายได้ประจาท่เี คยไดร้ บั เสยี ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เสยี อวยั วะ ต่างๆ พิการทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพหรอื ช่วยเหลือตนเองได้เสียสุขภาพจติ เกิด ความเครยี ด วติ กกงั วล เกดิ ความทุกขต์ ามมา 2. เพ่อื นรว่ มงาน เกดิ การเสยี ขวญั และกาลงั ใจในการทางาน สขุ ภาพจติ ย่าแย่ ประสทิ ธภิ าพใน การทางานลดลง ส่งผลต่อผลผลติ ขององคก์ ร 3. หวั หน้างาน ซง่ึ หมายถงึ ผคู้ วบคุมงานตงั้ แต่หวั หน้าช่าง หวั หน้ากะ หวั หน้าแผนกทเ่ี ป็นฝ่าย บรหิ ารระดบั ตน้ ผู้นาของกลุ่มคนงาน ทม่ี หี น้าทค่ี วบคุมดูแลให้พนักงานทาการผลติ ตามแผนทว่ี างไว้ มี ส่วนได้รบั ผลกระทบต่ออุบตั ภิ ยั ท่เี กดิ ข้นึ และถือเป็นความบงพร่องในการควบคุมดูแลพนักงานต้อง เสยี เวลาในการสอบสวนและวเิ คราะหห์ าสาเหตุ การรายงานผล การฝึกอบรมพนกั งานใหมท่ ดแทน ฯลฯ 4. เจา้ ของธุรกจิ หรอื ผปู้ ระกอบการ ไดร้ บั ผลกระทบโดยตรง เพราะอุบตั เิ หตุภยั สง่ ผลให้ ประสิทธิภาพในการทางานลดลง ผลผลิตลดลงแต่ค่าใช้จ่ายสูงข้นึ ทัง้ ในรูปของเงนิ ค่าชดเชย ค่ า รกั ษาพยาบาล ค่าวสั ดุ ค่าซ่อมแซมเคร่อื งจกั ร ค่าถูกปรบั จากการส่งมอบงานล่าชา้ ฯลฯ ทาให้ผลกาไร ลดลงหรอื ประสบกบั การขาดทุนในการดาเนนิ งาน 5. สงั คมและประเทศชาติ อุบตั ภิ ยั ในการทางานทร่ี า้ ยแรงในประเทศไทยส่วนใหญ่สง่ ผลกระทบ ต่อสงั คมประเทศไทย ก่อให้เกิดการเสียขวญั และกาลงั ใจ ทงั้ ผู้ปฏิบัติงานประชาชนทวั่ ไป สูญเสีย ทางดา้ นเศรษฐกจิ โดยเปล่าประโยชน์ เป็นภารต่อสงั คมในการดแู ลและชว่ ยเหลอื คนงานทไ่ี รส้ มรรถภาพ ในการปฏบิ ตั ิงานเพม่ิ มากข้นึ ความเช่อื มนั่ ของนักลงทุนต่างชาตทิ ่มี ตี ่ออุตสาหกรรมไทยลดลง เสีย ภาพพจน์และชอ่ื สยี งทด่ี ขี องประเทศชาติ 172 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

การเสริมสร้างความปลอดภยั ในการทางาน การเสรมิ สรา้ งความปลอดภยั ในการทางานจะดาเนินไปไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพนนั้ จาเป็นตอ้ ง ไดร้ บั ความรว่ มมอื จากบุคลากรทกุ ๆ ฝ่ายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพราะเป็นทท่ี ราบกนั ดวี า่ อุบตั เิ หตุต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในการทางานนนั้ ไมใ่ ช่เคราะหก์ รรมหรอื เหตุสดุ วสิ ยั สว่ นใหญ่มาจากความผดิ พลาด ความบกพรอ่ งของ มนุษยแ์ ละสภาพแวดลอ้ มต่างๆ ทไ่ี มป่ ลอดภยั เชน่ อุปกรณ์เครอ่ื ง เครอ่ื งจกั ร กระบวนการผลติ ฯลฯ การเสรมิ สรา้ งความปลอดภยั ในการทางานสามารถทาได้ ดงั น้ี 1. สรา้ งจติ สานึกและความรบั ผดิ ชอบทด่ี ใี หเ้ กดิ ขน้ึ ในตวั บคุ ลากรทุกๆ ฝ่ าย 1.1. นายจา้ งหรอื ผปู้ ระกอบการ ตอ้ งมจี ติ สานึกทด่ี แี ละรบั ผดิ ชอบต่อความปลอดภยั ใน การทางานของบคุ ลากรทุกฝ่ายภายในองคก์ รของตน โดยดาเนินงานภายใตก้ ฎหมายความปลอดภยั อยา่ งเครง่ ครดั นาเครอ่ื งจกั รทด่ี มี ปี ระสทิ ธภิ าพสงู มาใชใ้ นกระบวนการผลติ สนิ คา้ รวมไปถงึ การจดั หา วสั ดุอุปกรณ์ป้องกนั ภยั เช่น เครอ่ื งดบั เพลงิ เครอ่ื งป้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล เครอ่ื งมอื ชดุ ปฏบิ ตั งิ าน ต่างๆทด่ี มี ปี ระสทิ ธภิ าพเหมาะสมกบั ลกั ษณะงาน และเพยี งพอต่อการปฏบิ ตั งิ าน 1.2. วศิ วกร ผคู้ วบคมุ งานหรอื วศิ วกรมความปลอดภยั มหี น้าทต่ี ดั สนิ ใจและรบั ผดิ ชอบ ต่อการปฏบิ ตั งิ านของลกู จา้ ง และการทางานของเครอ่ื งจกั ร วสั ดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ วา่ มคี วามปลอดภยั ใน การทางานหรอื ไม่ ตอ้ งมจี ติ สานึกทด่ี ตี ่อการควบคุม หรอื ป้องกนั อนั ตรายต่าง ๆ ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ การ ออกแบบเครอ่ื งจกั ร เครอ่ื งมอื หรอื อุปกรณ์ รวมไปถงึ การวางผงั โรงงาน การตดิ ตงั้ ระบบไฟฟ้า แสง สว่าง การระบายอากาศ ตอ้ งอาศยั หลกั วชิ าการทางวศิ วกรรมศาสตรใ์ นการคานวณ ออกแบบโดย ถูกตอ้ งตามกฎหมายทบ่ี ญั ญตั ไิ วเ้ พอ่ื ความปลอดภยั สงู สุดในการทางาน 1.3. หวั หน้างานหรอื ผคู้ วบคุมงาน ตอ้ งควบคุมดแู ลใหป้ ฏบิ ตั งิ านปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ ของโรงงานอย่างเครง่ ครดั แกไ้ ข ปรบั ปรงุ สภาวะการทางาน สงิ่ แวดลอ้ ม เครอ่ื งจกั ร อุปกรณ์ต่างๆทไ่ี ม่ ปลอดภยั ใหด้ ขี น้ึ วา่ กล่าวตกั เตอื น ลงโทษผปู้ ฏบิ ตั งิ านทไ่ี มป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บทอ่ี าจนาไปสอู่ ุบตั เิ หตุ และรณรงคก์ ระตุน้ ใหค้ นงานตระหนกั เหน็ ความสาคญั ของการป้องกนั อุบตั เิ หตุโดยเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี 1.4. ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ตอ้ งมจี ติ สานกึ ท่ดี ตี ่อความปลอดภยั ในการทางาน โดยปฏบิ ตั งิ าน ตามกฎขอ้ บงั คบั ของโรงงาน มสี ติ มคี วามเขา้ ใจในงานทต่ี นรบั ผดิ ชอบ ฝึกฝนและปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความชานาญและไมล่ ะเลยต่อการกระทาทไ่ี ม่ปลอดภยั เช่น ปฏบิ ตั ทิ งั้ ๆท่ี ไมม่ หี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั งิ านทต่ี นขาดทกั ษะแทนผอู้ ่นื เพ่อื หวงั ค่าตอบแทนทส่ี งู ขน้ึ หรอื ปฏบิ ตั งิ านทงั้ ๆทไ่ี มม่ หี น้าท่ี รบั ผดิ ชอบ ปฏบิ ตั งิ านทต่ี นขาดทกั ษะแทนผอู้ ่นื เพ่อื หวงั คา่ ตอบแทนทส่ี งู ขน้ึ หรอื ปฏบิ ตั งิ านมากเกนิ ไป จนขาดการพกั ผ่อน หยอกลอ้ หรอื เล่นในระหว่างทางาน ใชเ้ ครอ่ื งจกั ร อุปกรณ์ทงั้ ๆทร่ี วู้ า่ ชารดุ หรอื ดดั แปลงแกไ้ ขอุปกรณ์ความปลอดภยั เพราะการกระทาเหล่าน้อี าจนาไปสอู่ ุบตั เิ หตุทส่ี ่งผลต่อชวี ติ และ ทรพั ยส์ นิ ทงั้ ของตนเอง ผอู้ ่นื และสถานประกอบการ 1.5. เจา้ หน้าทข่ี องรฐั ตอ้ งควบคมุ ดแู ลสถานประกอบการต่างๆใหด้ าเนนิ งานตาม กฎหมายทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้ หากมกี ารละเมดิ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามบทลงโทษทก่ี าหนดไวส้ งู สุดโดยไมเ่ หน็ แก่ ผลประโยชน์ใดๆ และตระหนกั อยเู่ สมอความไมป่ ลอดภยั ในการทางานเป็นภยั ต่อเศรษฐกจิ โดยรวมของ ประเทศชาตแิ ละทรพั ยากรมนุษยท์ ม่ี คี ่ายงิ่ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 173

2. ปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ้ มในการทางาน ใหเ้ หมาะสมถกู สขุ ลกั ษณะอนามยั และเป็นไป ตามขอ้ กฎหมายกาหนด เช่น ผงั โรงงานตอ้ งไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั วศิ วกรรมและกฎหมาย พน้ื โรงงานตอ้ ง ไมเ่ ป็นหลุมเป็นบอ่ การจดั เกบ็ วสั ดุอุปกรณ์ต่างๆ ตอ้ งเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย ไมส่ กปรกรกรุงรงั แสงสว่าง เสยี ง อุณหภมู ิ ตอ้ งเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภยั ใชส้ ญั ลกั ษณ์และเครอ่ื งหมาย ความหมายความปลอดภยั ในพน้ื ทท่ี เ่ี สย่ี งต่ออนั ตราย 3. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมกบั บุคคล โดยเฉพาะอย่างยงิ่ งานทม่ี อี นั ตรายสงู แมจ้ ะมกี าร มอบหมายงานพรอ้ มกบั การตอ้ งการและประสบการณ์ของบคุ คล โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ งานทม่ี อี นั ตรายสงู แมจ้ ะมกี ารมอบหมายงานพอ้ มกบั การฝึกสอนงาน หรอื แนะนาวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านแลว้ ยงั ต้องมกี าร ตดิ ตามผล หากเหน็ ว่าบุคคลนนั้ ไมเ่ หมาะสมกบั งานทม่ี อบหมาย อาจก่อใหเ้ กดิ อนั ตรายในการ ปฏบิ ตั งิ านกค็ วรโยกยา้ ยสบั เปลย่ี นหน้าท่ี 4. จดั ทากฎระเบยี บใหเ้ ป็นมาตรฐาน ทงั้ ดา้ นเครอ่ื งจกั ร อุปกรณ์การปฏบิ ตั งิ าน และระบบ การทางาน เชน่ กาหนดมาตรฐานวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านทป่ี ลอดภยั การแต่งกายสาหรบั การปฏบิ ตั งิ านต่างๆ การใชเ้ ครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั ร อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบคุ คล ฯลฯ ประโยชน์ของอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ในการทางาน 1. คณุ ภาพชวี ติ ของพนกั งานดขี น้ึ อุบตั เิ หตุจากการทางานส่วนใหญ่ก่อใหเ้ กดิ จากการบาดเจบ็ พกิ ารหรอื เสยี ชวี ติ จนไม่สามารถประกอบอาชพี หารายไดเ้ ลย้ี งตนเองและครอบครวั ต่อไปได้ กลายเป็น ภาระของสงั คมครอบครวั และญาตพิ น่ี ้องมคี ่าใชจ้ า่ ยเพม่ิ มากขน้ึ ขณะทร่ี ายไดไ้ ดล้ ดลง สง่ ผลใหค้ ณุ ภาพ ชวี ติ ต่าลง ในทางตรงกนั ขา้ มหากปราศจากอุบตั ภิ ยั ในการทางาน คณุ ภาพชวี ติ ของพนกั งานและ ครอบครวั ยอ่ มดขี น้ึ 2. ผลผลติ เพมิ่ ขน้ึ การทางานอยา่ งปลอดภยั ในทกุ สาขาอาชพี ภายใตส้ ภาพแวดลอ้ มทถ่ี กู สุขลกั ษณะและปราศจากอนั ตราย โดยมอี ุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายทม่ี คี ณุ ภาพและเพยี งพอจะสง่ ผลให้ พนกั งานมขี วญั และกาลงั ใจทด่ี กี ว่าสภาพการทางานทเ่ี สย่ี งภยั อนั ตราย ก่อใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจ ตงั้ ใจ ทางาน รบั ผดิ ชอบอยา่ เตม็ ท่ี ผลผลติ โดยรวมจงึ เพมิ่ สงู ขน้ึ ทงั้ เชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ 3. คา่ ใชจ้ า่ ยลดลง ตน้ ทุนการผลติ ต่าภายใตก้ ารทางานทป่ี ลอดภยั ไรอ้ ุบตั เิ หตุยอ่ มส่งผลให้ คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ สนิ คา้ ลดลง เพราะสามารถประหยดั เงนิ คา่ รกั ษาพยาบาล คา่ เงนิ เขา้ กองทุนทดแทน ค่าซ่อมแซมเครอ่ื งจกั ร คา่ เสยี เวลา ซง่ึ คา่ เหลา่ น้ถี อื เป็นสว่ นหน่งึ ของ ตน้ ทุนการผลติ สนิ คา้ 4. ผลกาไรเพม่ิ มากขน้ึ การทางานอยา่ งปลอดภยั ปราศจากภยั อนั ตรายต่างๆ จะส่งผลใหต้ น้ ทุน การผลติ ต่าและเพมิ่ ผลผลติ ใหส้ งู ขน้ึ ซง่ึ จะเป็นเหตุใหก้ าไรเพมิ่ มากยง่ิ ขน้ึ 5. ลดการสญู เสยี ทรพั ยากรมนุษยข์ องชาติ การทางานทไ่ี มป่ ลอดภยั สง่ ผลใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตุ บางครงั้ อาจก่อใหเ้ กดิ การสญู เสยี ชวี ติ พกิ ารทุพพลภาพ ถอื เป็นการสญู เสยี แรงงานทส่ี าคญั ของ ประเทศชาติ 174 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

6. ภาพลกั ษณ์ขององคก์ ารดขี น้ึ อุบตั เิ หตุหรอื อนั ตรายต่างๆ ทเ่ี กดิ จากการทางานมผี ลกระทบ ต่อช่อื เสยี งภาพพจน์ขององคก์ าร ต่อวชิ าชพี ต่อสงั คมและประเทศชาติ ลดความเช่อื มนั่ ในผลผลติ ของ องคก์ าร 7. เศรษฐกจิ ของประเทศโดยรวมดขี น้ึ ชอ่ื เสยี ง ภาพพจน์และความเชอ่ื มนั่ จากนกั ลงทนุ ต่างชาติ ทม่ี ตี ่อสงั คมไทยในภาพรวมยอ่ มดขี น้ึ ส่งผลใหม้ กี ารลงทุน การจา้ งแรงเพม่ิ มากขน้ึ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 175

176 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เรอื่ งสนั้ ที่เป็นประโยชน์ แมวเป็นเพ่ือนกบั เสือ ณ.หม่บู ้านใกลช้ ายป่ าแห่งน้ีมคี รอบครวั ท่เี จา้ ของเล้ยี งแมวท่มี ลี กั ษณะนิสยั ขอ้ี ้อนชอบส่งเสยี ง เวลาเจ้าของกลบั มาถึงบ้านแต่แล้วเจ้าแมวตัวน้ีเกิดซนวิ่งออกนอกบ้าน พลดั หลงเข้าไปในป่ าใหญ่ หาทางกลบั มาท่บี า้ นไม่เจอแมวตวั น้ีก็เดนิ ทางไปเร่อื ยๆหวงั ว่าจะพบทางออก มไิ ด้ประสบกบั อนั ตราย ใดๆเลยอกี ทงั้ ยงั ไดพ้ บเขา้ กบั เสอื ผใู้ จดี \"อ้าว...เจา้ เหมยี ว เจา้ เขา้ มาทาอะไรทนี่ ี่ มนั อนั ตรายนะแต่หากเจา้ ไมม่ ที ไี่ ปจรงิ ๆแลว้ ล่ะก็ เจา้ กม็ าอยกู่ บั ขา้ ทนี ีก่ ไ็ ดน้ ะ\"แมเ่ สอื เอ่ยปากถามเจา้ แมวเหมยี ว แมวเหมยี วขอ้ี อ้ นเม่อื หมดหนทางไปจงึ ตดั สนิ ใจอาศยั อยกู่ บั แมเ่ สอื เตบิ โตมาพรอ้ มกบั ลกู เสอื เป็นทงั้ เพ่อื นเล่นและเพ่อื นทค่ี อยล่าสตั วด์ ว้ ยเสมอ เมอ่ื เวลาผ่านไป .. จากเจา้ แมวทเ่ี คยขอ้ี อ้ นไดก้ ลบั กลายเป็นแมวป่าทแ่ี สนจะดุรา้ ยเลยทเี ดยี ว เร่อื งนี้สอนให้ร้วู ่า คนเราแปรเปลย่ี นไปไดต้ ามสภาพแวดลอ้ มและวธิ กี ารเลย้ี งดู ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 177

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.1) หน่วยที่ 11 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรมของลกู เสือวิสามญั เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 16 สายไปเสียแล้ว 1.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถบอกการมเี พศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั ได้ 2. เนื้อหา การมเี พศสมั พนั ธ์เป็นเร่อื งท่ที งั้ ชายและหญิงจะต้องรบั ผดิ ชอบร่วมกนั ต่อผลท่เี กิดข้นึ ตามมา ได้แก่ ตงั้ ครรภ์ การเรยี น ความรสู้ กึ ของพ่อแม่ ครอู าจารย์ เพ่อื น รวมทงั้ ผลกระทบด้านอ่นื ๆอกี มาก นอกจากน้ยี งั ตอ้ งคานึงถงึ ความปลอดภยั จากการตดิ โรคต่างๆ ไดแ้ ก่ กามโรคและเอดส์ ซง่ึ ทาใหส้ ญู เสยี ทงั้ อนาคตและชวี ติ ความตระหนักในเพศสมั พนั ธท์ ่ปี ลอดภยั ทาใหม้ กี ารควบคุมตนเอง ไตร่ตรองอย่าง รอบคอบและมกี ารป้องกนั ทเ่ี หมาะสม 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาเรอ่ื ง “ความหมายของเพศสมั พนั ธท์ ร่ี บั ผดิ ชอบ” (เพศสมั พนั ธท์ ร่ี บั ผดิ ชอบประกอบดว้ ย ความรกั ความเขา้ ใจ ความยนิ ยอมพรอ้ มใจของทงั้ สองฝ่าย ปลอดภยั ไมม่ ผี ลกระทบทางจติ ใจ สงั คมและครอบครวั ) 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื อ่านกรณศี กึ ษาเรอ่ื ง “สายไปเสยี แลว้ ” 3) ลกู เสอื จบั คู่ บอกความรสู้ กึ ทม่ี ตี ่อเรอ่ื งของสทิ ธิ ์ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สมุ่ ถามความรสู้ กึ ของลกู เสอื 4 - 5 คู่ โดยไมต่ อ้ งสรปุ 5) แบ่งลกู เสอื ออกเป็นกลุ่ม ๆละ 8 คน โดยคละชายหญงิ นงั่ ลอ้ มวง และใหอ้ ภปิ รายตาม ประเดน็ ในใบกจิ กรรม 6) ผแู้ ทนกลมุ่ รายงานทลี ะประเดน็ / ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ รายเพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ ตามใบ ความรู้ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 178 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการมเี พศสมั พนั ธท์ ่ี ปลอดภยั ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 16 เพลง สขุ กนั เถอะเรา สุขกนั เถอะเรา เศรา้ ไปทาไม จบั มอื กนั ไว้ แลว้ ยกั เอวยกั ไหล่ หมนุ ตวั กลบั ไป หมนุ ตวั กลบั มา อยา่ มวั รอชา้ เปลย่ี นค่มู าเรว็ ไว คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 179

ใบงาน กรณีศึกษาเร่ือง “สายไปเสียแล้ว สิทธ์ิเพื่อนรกั เรามาอยอู่ เมรกิ าเกอื บสองปีแลว้ เวลาผ่านไปเรว็ มาก เราไดเ้ รยี นรอู้ ะไรมากมาย ในระยะแรกๆ เราเหงาและคดิ ถงึ บา้ นมาก แต่ช่วงหลงั ๆคอ่ ยดหี น่อยเพราะตอ้ งเรยี นหนักจนไมม่ เี วลาคดิ ถงึ บา้ น แต่เรา กย็ งั คดิ ถงึ นายและน้อยอยเู่ สมอนะ เพราะนายเป็นเพ่อื นทด่ี ที ส่ี ุดของเรา น้อยกเ็ ป็นผหู้ ญงิ ทน่ี ายภมู ใิ จได้ เลย เพราะจะหาผู้หญงิ ทด่ี อี ยา่ งน้อยคงไม่ง่ายเม่อื พูดถงึ สาวๆท่นี ่ีกบั สาวไทยแลว้ เราอยากแต่งงานกบั สาวไทยมากกวา่ หวงั วา่ เราคงกลบั ไปทนั งานแต่งงานของนายกบั น้อยนะ เราขอเล่าถึงเร่อื งคนหนุ่มสาวทน่ี ่ีหน่อยนะ ท่นี ่ีการมเี พศสมั พนั ธก์ บั เพ่อื นต่างเพศถอื เป็นเร่อื ง ธรรมดา แต่เขาก็รูจ้ กั ระมดั ระวงั ไม่ให้มปี ัญหาตามมา เช่นเร่อื งตงั้ ครรภ์ ติดโรค หนุ่มๆสาวๆท่นี ่ีพก ถุงยางอนามยั ตดิ ตวั กนั จนเป็นเร่อื งธรรมดาถ้านายจะเอาอย่างหนุ่มสาวทน่ี ่ี เราหวงั ว่านายจะต้องระวงั หน่อย เพราะสงั คมไทยยงั ไมย่ อมรบั เร่อื งน้ี ผหู้ ญงิ จะเสยี หาย เราเตอื นมาเพราะรกั เพ่อื น อยากใหน้ าย ทงั้ สองคนเรยี นจบ ทางานและมคี รอบครวั ทอ่ี บอุ่น จาทอ่ี าจารยป์ รชี าเคยพดู อย่เู สมอไดไ้ หมว่า “อนาคต ขน้ึ อยกู่ บั การกระทาของเราเอง”..............จาก ชาย...... สทิ ธนิ ์ ัง่ นิ่งอยู่คนเดยี ว ตาเหม่อมองไปท่ี Note book อย่างล่องลอย ชาย...เพ่อื นแท้คนเดยี วท่ี เขามกั จะนึกถงึ เสมอ โดยเฉพาะเวลาทม่ี คี วามทุกข์ สทิ ธริ ์ สู้ กึ เจบ็ ปวด ใช่แลว้ ... “อนาคตขน้ึ อย่กู บั การ กระทาของเราเอง” สทิ ธติ ์ ดั สนิ ใจเคาะตวั อกั ษรตอบเพอ่ื นอยา่ งชา้ ๆ ชายเพ่ือนรกั ทงั้ ๆท่เี รารกั น้อยมาก แต่เราก็พลาดอย่างไม่น่าให้อภยั นายจะคดิ อย่างไรถ้ารวู้ ่าเราตดิ เอดส์ เพราะความเมาแทๆ้ ในวนั เลย้ี งฉลองสอบเอน็ ตดิ พวกเรา 4 คนไปฉลองกนั ทเ่ี ธคจนเมา เราเจอผหู้ ญงิ คนหน่ึง คุยกนั ไปคุยกนั มา เรากไ็ ปมอี ะไรทห่ี ้องพกั กบั เธอคนนัน้ พอหายเมาเรารสู้ กึ เสยี ใจทไ่ี ม่ซ่อื ตรง กบั น้อยเสยี แลว้ เราตงั้ ใจจะหยุดไวแ้ ค่นนั้ ดที ่เี ธอคนนนั้ กไ็ ม่คดิ จรงิ จงั อะไรกบั เรา แต่...เราไมอ่ ยากเช่อื เลยว่าจะตดิ เอดส์จากผหู้ ญงิ คนนนั้ ได้ เธอไม่ใช่ผูห้ ญงิ อย่างว่า เธอเป็นเพยี งวยั รุ่นทใ่ี จแตกและรกั สนุก ธรรมดาๆคนหน่งึ เทา่ นนั้ เราทุกข์ใจเหลอื เกิน ไม่กลา้ ปรบั ทุกขก์ บั ใครทงั้ สน้ิ กลวั คนรงั เกยี จ โดยเฉพาะน้อย...เรากลวั เหลอื เกนิ ว่าน้อยจะตดิ โรคจากเรา.... นายคงเขา้ ใจนะว่าทเ่ี รามอี ะไรกบั น้อยเป็นเพราะเรารกั น้อยและไม่ เคยคดิ จะทาให้น้อยเสยี ใจ ยงั ไงๆเรากต็ ้องแต่งงานกบั น้อย แต่ว่าเวลาน้ีเรามองไม่เหน็ อนาคตเลยว่าจะ เป็นอยา่ งไรต่อไป...มนั สายเกนิ ไปเสยี แลว้ 180 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ใบกิจกรรม คาแนะนา ลกู เสอื อภปิ รายกลุ่ม ตามประเดน็ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เมอ่ื ไดข้ อ้ สรปุ แลว้ ส่งตวั แทนรายงาน (เวลา 15 นาท)ี กล่มุ ที่ 1. เพราะเหตุใดสทิ ธจิ ์ งึ ตดิ เอดส์ และลกู เสอื มคี วามเหน็ อยา่ งไรต่อความคดิ เหน็ ของสทิ ธ์ ทว่ี ่า“เธอไมใ่ ชผ่ หู้ ญงิ อยา่ งว่า เธอเป็นเพยี งวยั รนุ่ ทใ่ี จแตกรกั สนุกธรรมดาๆคนหน่งึ เท่านนั้ ” กล่มุ ท่ี 2. ทงั้ ๆทม่ี คี วามรเู้ รอ่ื งเอดสแ์ ละทราบวธิ ปี ้องกนั แต่เหตุใดผชู้ ายบางคนจงึ ยงั คงมี เพศสมั พนั ธโ์ ดยไมค่ ดิ จะป้องกนั กล่มุ ที่ 3. ในการคบเพ่อื นต่างเพศของผหู้ ญงิ มโี อกาสตดิ เอดสเ์ ชน่ เดยี วกบั กรณขี องน้อยหรอื ไม่ เพราะเหตุใด กล่มุ ท่ี 4. ลกู เสอื คดิ ว่า “เพศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั ” ควรเป็นอยา่ งไร จะมวี ธิ ปี ้องกนั การเกดิ เพศสมั พนั ธท์ ไ่ี มป่ ลอดภยั ไดอ้ ยา่ งไร และเมอ่ื ตดั สนิ ใจทจ่ี ะมเี พศสมั พนั ธ์ การมเี พศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั ทาไดอ้ ยา่ งไร ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 181

ใบความรู้ ประเดน็ อภิปราย แนวคิดท่ีควรได้ 1. เพราะเหตุใดสทิ ธจิ ์ งึ ตดิ เอดส์ - สทิ ธติ ์ ดิ เอดสเ์ พราะมเี พศสมั พนั ธโ์ ดยไมม่ กี าร ป้องกนั - การมเี พศสมั พนั ธก์ บั ผหู้ ญงิ ทวั่ ไป แมไ้ มใ่ ชผ้ หู้ ญงิ บรกิ ารกอ็ าจตดิ เชอ้ื เอดสไ์ ด้ เพราะผหู้ ญงิ คนนัน้ อาจไดร้ บั เชอ้ื มาจากผชู้ ายอ่นื โดยเธอเองกไ็ มร่ ตู้ วั 2. ทงั้ ๆ ทม่ี คี วามรเู้ รอ่ื งเอดส์ และรวู้ ธิ ปี ้องกนั แต่ - การดม่ื สุราก่อนมเี พศสมั พนั ธอ์ าจทาใหข้ าดสตยิ งั้ เหตุใดผชู้ ายบางคนจงึ มเี พศสมั พนั ธโ์ ดยไมป่ ้องกนั คดิ ทาใหม้ เี พศสมั พนั ธโ์ ดยไมป่ ้องกนั - บางกรณเี กดิ เพราะมคี วามเขา้ ใจผดิ ๆ เชน่ เชอ่ื ว่าผหู้ ญงิ ทไ่ี มใ่ ช่ผหู้ ญงิ บรกิ ารจะปลอดเอดส์ หรอื มี วธิ ปี ้องกนั อ่นื ๆ นอกเหนอื จากการใชถ้ ุงยาง อนามยั 3. ในการคบเพอ่ื นต่างเพศของนกั เรยี น หญงิ จะมี - มี เพราะความใกลช้ ดิ อาจนาไปสู่การมี โอกาสตดิ เอดสเ์ ช่นเดยี วกบั กรณขี องน้อยหรอื ไม่ เพศสมั พนั ธโ์ ดยไมค่ าดคดิ และกรณเี ช่นน้ีมกั จะไม่ เพราะเหตุใด มโี อกาสใชถ้ ุงยางอนามยั ในการป้องกนั 4. เพศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั เป็นอยา่ งไร -หมายถงึ การมเี พศสมั พนั ธท์ น่ี อกจากไม่มี ผลกระทบต่างๆ เช่น การเรยี น การตงั้ ครรภ์ หน้าทก่ี ารงาน ฯลฯ แลว้ ตอ้ งไมม่ คี วามเสย่ี งต่อการ ตดิ โรคต่าง ๆ เช่น กามโรค และโรคเอดส์ นกั เรยี นคดิ วา่ จะป้องกนั เพศสมั พนั ธท์ ไ่ี มป่ ลอดภยั -หลกี เลย่ี งการอยใู่ กลช้ ดิ ตามลาพงั สองคนกบั เพอ่ื น ไดอ้ ยา่ งไร ต่างเพศ เพ่อื ป้องกนั เพศสมั พนั ธท์ ไ่ี มค่ าดคดิ -ไมม่ เี พศสมั พนั ธใ์ นขณะทย่ี งั ไมม่ คี วามพรอ้ มทงั้ ทางร่างกาย จติ ใจ และสงั คม -ขอรบั บรกิ ารตรวจเลอื ดก่อนการสมรส เมอ่ื ตดั สนิ ใจทจ่ี ะมเี พศสมั พนั ธ์ การมเี พศสมั พนั ธท์ ่ี -ใชถ้ ุงยางอนามยั อย่างถูกวธิ ี ในการป้องกนั ปลอดภยั ทาไดอ้ ย่างไร 182 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ อยากร้ไู หม...มีอะไรในมอื พ่อ คุณพ่อเรยี กลูกสาวเขา้ ไปพบ และบอกกบั ลูกสาวว่า \"พ่อมอี ะไรจะใหด้ ู เป็นของสาคญั มากนะ\" แลว้ คุณพ่อกห็ ยบิ อะไรบางอย่างออกจากกระเป๋ าเสอ้ื โดยกาสง่ิ ของไว้ในมอื ไม่ใหล้ ูกมองเหน็ และคุณ พ่อก็ถามลกู สาวว่า\"อยากรมู้ ยั้ ว่ามอี ะไรในมอื พ่อ\" ลกู สาวพยกั หน้า พ่อเลยย่นื ขอ้ เสนอว่างนั้ เอามอื เขก พน้ื 3 ที พอลกู เขกเสรจ็ คุณพ่อพูดอกี ว่า \"ไมพ่ อเปลย่ี นเป็น 5 ทดี กี วา่ \" ลกู กเ็ ขกพน้ื อกี 5 ที พ่อกพ็ ดู ต่อ ว่า \"เปลย่ี นเป็น 10 ทดี กี วา่ \" ดว้ ยความอยากรู้ ลกู สาวยอมเขกพน้ื เพมิ่ เป็น 10 ที พรอ้ มพดู กบั พ่อวา่ \"ลกู อยากรจู้ รงิ ๆว่าในมอื พ่อมนั คอื อะไร\"พ่อเลยแบมอื ออก เผยให้เหน็ เหรยี ญ 5 บาทธรรมดาเหรยี ญหน่ึง หลงั จากนนั้ คุณพ่อกเ็ อามอื กาเหรยี ญ 5 บาทเหรยี ญเดมิ อกี ครงั้ และถามลูกสาววา่ อยากดไู หมว่าในมอื พ่อมอี ะไร ถา้ อยากรตู้ อ้ งเอามอื เขกพน้ื 5 ที ลกู สาวส่ายหน้า พรอ้ มกบั บอกวา่ ไมอ่ ยากดแู ลว้ เพราะรแู้ ลว้ วา่ ในมอื พ่อมอี ะไรพอ่ เลยต่อรองวา่ เขกแค่ 1 ทกี ไ็ ด้ ลกู สาวยงั สา่ ยหน้า พรอ้ มกบั บอกว่า หนูรแู้ ลว้ หนูไม่ อยากดแู ลว้ คณุ พ่อเลยบอกวา่ พอ่ ใหด้ ฟู รๆี กไ็ ด้ เอาหรอื เปลา่ ฝ่ายลกู สาวตอบว่าไมเ่ อา ไมร่ จู้ ะดไู ปทาไม กร็ อู้ ยแู่ ลว้ ว่าในมอื พ่อมอี ะไร ไดฟ้ ังเช่นนนั้ คุณพ่อเลยสอนลูกสาวว่า ของอะไรทย่ี งั คงเป็นความลบั คน มกั ยอมทาตามทุกทจ่ี ะไดส้ มความปรารถนา แต่เม่อื สมปรารถนาแลว้ กเ็ ป็นเรอ่ื งธรรมดา ไม่ต่นื เตน้ เร่อื ง ความรกั ของชายหญงิ กเ็ ชน่ เดยี วกบั เหรยี ญ 5 ทอ่ี ยใู่ นมอื พอ่ นนั่ เอง เรอื่ งนี้สอนให้รวู้ ่า กุลสตรตี อ้ งรกั นวลสงวนตวั คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 183

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.1) หน่วยที่ 11 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรมของลกู เสือวิสามญั เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 17 ภยั ใกล้ตวั วยั หนุ่มสาว 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั การล่วงละเมดิ ทางเพศได้ 2. เนื้อหา การล่วงละเมดิ ทางเพศเป็นปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ เสมอ 3.สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยถามวา่ “การกระทาอะไรบา้ งทค่ี ดิ วา่ เป็นการ ล่วงละเมิดทางเพศ” สุ่มถาม ครูสรุปความหมายและประเภทของการล่วงละเมิด 3 ประเภท คือ “ทางคาพูด” “ทางการกระทาไม่ถูกเน้ือต้องตัว”และ “ทางการกระทาท่ีถูกเน้ือต้องตัว” (ดูใบความรู้ ประกอบ) 2) แบง่ ลกู เสอื ตามหมู่ 5 หมู่ แจกกรณศี กึ ษาหมลู่ ะ 1 เรอ่ื งใหช้ ่วยกนั อภปิ รายตาม ประเดน็ และส่งตวั แทนหมอู่ อกมารายงาน (1) คดิ ว่าเป็นการล่วงละเมดิ ทางเพศประเภทใด (กรณีท1ี่ วาจา กรณีที่ 2 การกระทาทไี่ มถ่ ูก เน้อื ตอ้ งตวั กรณที ี่3 – 5 เป็นการกระทาทถี่ กู เน้อื ตอ้ งตวั และรุนแรงขน้ึ เป็นลาดบั ) (2) ถา้ ลกู เสอื ตอ้ งตกอยใู่ นสถานการณ์เดยี วกนั จะมคี วามรสู้ กึ อยา่ งไร และคดิ วา่ อาจจะเกดิ อะไรตามมาไดบ้ า้ ง (เปิดกวา้ งใหเ้ ป็นไปตามความคดิ เหน็ ของกล่มุ ไมม่ ผี ดิ ถกู ) (3) คดิ วา่ ควรมที างออกอยา่ งไรเมอ่ื ตอ้ งอยใู่ นเหตุการณ์ และควรมวี ธิ ปี ้องกนั ไม่ใหต้ อ้ งตกอย่ใู นสถานการณ์เช่นนัน้ ไดอ้ ย่างไร (เปิดกวา้ งใหเ้ ป็นไปตามความคดิ เหน็ ของกลุ่มไม่มผี ดิ ถกู ) 3) ตวั แทนหมรู่ ายงานทลี ะหมู่ ครนู าอภปิ ราย สรปุ และเพม่ิ เตมิ (ควรเน้นย้าการป้องกนั และการ หาทางออกทเี่ สยี่ งต่ออนั ตรายน้อยทสี่ ุด --ดใู บความรปู้ ระกอบ) 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 184 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความตระหนกั รถู้ งึ สถานการณ์ท่เี ป็นการล่วงละเมดิ ทางเพศ การหาทางออกและการป้องกนั ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 17 เพลง ความซ่ือสตั ย์ ความซ่อื สตั ยเ์ ป็นสมบตั ขิ องคนดี หากวา่ ใครไมม่ ี ชาตนิ ้เี อาดไี มไ่ ด้ มคี วามรทู้ ่วมหวั เอาตวั ไมร่ อดถมไป คดโกงแลว้ ใครจะรบั ไวใ้ หร้ ว่ มการงาน ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 185

ใบงาน กรณีศึกษา การล่วงละเมิดทางเพศ กรณีที่ 1 แสงดาว สาวโรงงานทอผ้า หน้าตาสะสวย ทุก ๆ เยน็ หลงั เลกิ งานเธอต้องเดนิ ผ่านอู่รถเมลเ์ พ่อื ขน้ึ รถประจาทางกลบั บ้าน ช่วงเดนิ ผ่านอู่รถเมลจ์ ะมเี สียงเป่าปากบา้ ง ตะโกนแซวชมว่า สวยบา้ ง, น้อง ๆ มแี ฟนแลว้ ยงั รบั พเ่ี ป็นแฟนซกั คนไดไ้ ม๊ หรอื บางครงั้ กร็ อ้ งเพลงแซวบ้าง แสงดาวรสู้ กึ อดึ อดั และอบั อายมาก กรณีที่ 2 วทิ ยช์ วนดาวไปเล่นอนิ เตอรเ์ น็ตท่รี า้ นใกล้ ๆ โรงเรยี นหลงั เลกิ เรยี น วทิ ยเ์ รยี กดาวใหเ้ ขา้ ไปดูท่ี หน้าจอของเขาพร้อมกับบอกว่ามเี ร่อื งน่าสนใจจะให้ดู สกั ครู่ก็ปรากฏภาพลามกข้นึ ท่ีจอ เป็นภาพ การรว่ มเพศของชายหญงิ ดาวตกใจและโกรธมาก กรณีที่ 3 โอ เป็นเดก็ ชายวยั รุ่น หน้าตาดี ตอนเยน็ หลงั เลกิ เรยี นโอกบั เพ่อื น ๆ มกั จะไปเล่นกตี ารท์ ห่ี ลงั โรงเรยี น วนั หน่ึงขณะทโ่ี อกาลงั นงั่ เล่นกตี ารอ์ ย่มู เี พ่อื นรุ่นพผ่ี ชู้ ายคนหน่ึง มายนื อยใู่ กล้ ๆ แลว้ โอบไหล่ ของโอไว้ เม่อื โอยงั เฉย ๆ พผ่ี ชู้ ายคนนนั้ กข็ ยบั เขา้ มาชดิ แลว้ ใชอ้ วยั วะเพศถูไปมาบรเิ วณดา้ นขา้ งของ โอ โอตกใจมาก กรณีที่ 4 ภพชวนแอนสาวเว้นท์ ไปดูบ้านรา้ งท่มี ขี ่าวว่าทผี ดี ุมาก แอนกลวั แต่ก็ยอมไปเพราะเพ่อื น ๆ หลายคนไปกนั มาแลว้ และนามาเล่าส่กู นั ฟังว่าเหน็ ผดี ว้ ย เธอกลวั จะน้อยหน้าเพ่อื น ๆ จงึ ตดั สนิ ใจไปกบั ภพ ภพนัดเพ่อื นชายอกี 6 คนไปดว้ ย บอกว่าจะไดช้ ่วยกนั จบั ผี พอไปถงึ บา้ นรา้ งหลงั นัน้ ภพกบั เพ่อื น ชายทงั้ 6 ช่วยกนั จบั แอนแลว้ ผลดั กนั ขม่ ขนื แอนต่อสู้ เธอถกู แทงเสยี ชวี ติ กรณีที่ 5 ทมี และเพ่อื นชาย 4 คน ชวนกนั ไปด่มื เหลา้ หลงั จากสอบปลายภาคเสรจ็ สน้ิ นดั เจอกนั ทบ่ี า้ นตุ้ย ทมี พาเพ่ือนสาวรุ่นน้องไปด้วย 2 คน ทงั้ หมดสนุกสนานกบั การร้องเพลงและด่มื สุราจนได้ท่ี ตุ้ยจงึ วางแผนแยกสาวรุ่นน้องออกจากกนั โดยพาอกี 1 สาวไปบ้านเพ่ือนอกี คนหน่ึงท่อี ย่ใู กล้ ๆ กนั ทมี และ เพ่อื น ๆ ผลดั เวยี นกนั ขม่ ขนื 2 สาว จนครบทกุ คน 186 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ใบความรู้ การล่วงละเมิดทางเพศ ความหมายของการล่วงละเมิดทางเพศ การล่วงละเมดิ ทางเพศ หมายถงึ พฤตกิ รรมทล่ี ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื ในเรอ่ื งเพศไมว่ า่ จะเป็นทาง คาพดู และการกระทาทงั้ ทม่ี แี ละไมม่ กี ารถูกเน้อื ตอ้ งตวั โดยผทู้ ถ่ี ูกกระทาไมย่ นิ ยอม ประเภทของการล่วงละเมิดทางเพศ มี 3 ประเภท คือ 1. การล่วงละเมิดทางคาพดู ได้แก่ - การวพิ ากษว์ จิ ารณ์เก่ยี วกบั รปู ร่างหน้าตา การแต่งกาย ทส่ี ่อในทางลามก - การเล่าเรอ่ื งตลกลามกสองแงส่ องงา่ ม - การตามต๊อื ตามจบี เก้ยี วพาราสที งั้ ๆ ทร่ี วู้ ่าอกี ฝ่ายไม่ชอบ - การพดู เสยี ดสเี ลา้ โลมในทส่ี าธารณะ - การกลา่ วถงึ หญงิ หรอื ชายในทางลามก - การใชค้ าพดู เพอ่ื กระตุน้ อารมณ์ทางเพศ ฯลฯ 2. การล่วงละเมิดทางการกระทาท่ีไมถ่ กู เนื้อต้องตวั ได้แก่ - การจอ้ งมองอยา่ งกรมุ้ กรมิ่ - การลว่ งเกนิ ดว้ ยสายตา - การแสดงสหี น้าท่าทางเจา้ ชู้ - การแสดงท่าทางหรอื การเคล่อื นไหวรา่ งกายทส่ี อ่ ถงึ เจตนาการล่วงเกนิ ทางเพศ เช่น ผวิ ปาก แซว สง่ จบู ยกั คว้ิ หลวิ่ ตา - การโชวภ์ าพโป๊ หรอื ภาพทส่ี อ่ ไปในทางเพศหรอื ลามก - การส่งจดหมาย ขอ้ ความ ภาพ ทส่ี ่อไปในทางเพศหรอื ลามก - การแอบดตู ามหอ้ งน้า - การตดิ วดี โี อวงจรปิดในหอ้ งน้า หอ้ งเปลย่ี นเสอ้ื ผา้ - การโชวอ์ วยั วะเพศ ฯลฯ 3. การล่วงละเมิดทางเพศโดยการกระทาท่ีมีการถกู เนื้อต้องตวั ได้แก่ - การแตะเน้อื ตอ้ งตวั รวมทงั้ การจบั ตอ้ งเสอ้ื ผา้ รา่ งกาย ผม คอ แขน ฯลฯ - การกอด จบู หอมแกว้ ตกี น้ สะโพก จบั หน้าอก กอดรดั ฟัดเหวย่ี ง - การยนื เดนิ หรอื นัง่ ใกลช้ ดิ เกนิ ความจาเป็น ใชบ้ างส่วนของรา่ งกายสมั ผสั โดยจงใจ - การขม่ ขนื ฯลฯ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 187

การหาทางออกเมือ่ เผชิญเหตกุ ารณ์ล่วงละเมิดทางเพศ กรณีเหตุการณ์ไมร่ นุ แรงควรหาทางออกดว้ ยการใชว้ ธิ ตี ่อไปน้ี โดยอาจใชว้ ธิ ใี ดวธิ หี น่งึ หรอื หลาย วธิ ี รว่ มกนั แลว้ แต่เหตุการณ์ คอื - ปฏเิ สธทนั ที - หนอี อกจากเหตุการณ์ - รบี ขอความช่วยเหลอื กรณเี หตุการณ์รนุ แรงหรอื ตกอยใู่ นภาวะวกิ ฤติ ควรใชว้ ธิ กี ารต่อไปน้ี 1. ควบคมุ อารมณ์ตนเองให้ได้ สงิ่ แรกทส่ี าคญั ทส่ี ดุ คอื การควบคมุ อารมณ์และร่างกายใหอ้ ยู่ ในภาวะสงบนิ่งใหม้ ากทส่ี ุด รวบรวมสตใิ หม้ นั่ เพอ่ื ใหต้ นเองเกดิ การรบั รทู้ ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ และมไี หวพรบิ ปฏภิ าณในการแกป้ ัญหาเฉพาะหน้า 2. ประเมินสถานการณ์ ว่ามอี นั ตรายใดทอ่ี าจเกดิ แก่ตนเองไดบ้ า้ งเพ่อื หาทางหลบเลย่ี ง และ มสี งิ่ ใดทจ่ี ะใชป้ ระโยชน์ไดบ้ า้ งในการป้องกนั ตวั และขอความช่วยเหลอื 3. มองหาโอกาสหลบหนี ขณะรอความช่วยเหลอื และมองหาโอกาสหรอื จงั หวะเหมาะในการ หลบหนี ใหท้ าใจดสี เู้ สอื คลอ้ ยตามเป็นพวกเดยี วกนั ก่อน พยายามถ่วงเวลาโดยไมป่ ะทะหกั ลา้ งโดยตรง และไม่ยวั่ ยใุ หเ้ กดิ ความรนุ แรง อาจใชว้ ธิ เี บนความสนใจ ต่อรอง หรอื ตงั้ เง่อื นไขต่าง ๆ เพมิ่ ขน้ึ ชวนคุย เพอ่ื ประวงิ เวลาใหน้ านทส่ี ุด เช่น ตวั อยา่ งต่อไปน้ี สถานการณ์ กาลงั จะถูกขม่ ขนื อาจใชป้ ระโยคคาพดู ต่อไปน้เี พ่อื พจิ ารณา “เดยี๋ วนะ....... กาลงั กลวั มากเลย (ยกมอื ไหว)้ ขอหายใจก่อนนะ” “ตรงน้มี ดื จงั เลย ยงุ กดั ไปสวา่ ง ๆ หน่อยดไี หม” “ปวดฉ่ี ขอเขา้ หอ้ งน้าหน่อย” ทงั้ น้ี เพราะการพดู และการลงมอื ทารา้ ยเป็นพฤตกิ รรมทไ่ี มค่ ่อยเกดิ ข้นึ พรอ้ มกนั 4. ต่อรองเมื่อจวนตวั เมอ่ื จวนตวั ใหต้ ่อรองหรอื บอกเง่อื นไขใหม่ ๆ เพ่อื ใหค้ ู่กรณีเปลย่ี นใจ หรอื ลดความรุนแรง หรอื ลดความเสยี หายลง เช่น ต่อรองช่วยสาเรจ็ ความใครใ่ ห้แทนการรว่ มเพศ เป็น ตน้ 5. หาทางป้องกนั ปัญหาท่อี าจตามมาจากเหตุการณ์ เช่น กรณีถูกข่มขนื ต้องรบี พบแพทย์ โดยดว่ นเพอ่ื ป้องกนั การตงั้ ครรภแ์ ละการตดิ เชอ้ื โรคทางเพศสมั พนั ธ์ รวมทงั้ โรคเอดส์ ฯลฯ 188 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เรือ่ งสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ตากบั ตีน ตนี กบั ตาอยกู่ นั มาแสนผาสุก จะนงั่ ลุกยนื เดนิ เพลนิ หนกั หนา มาวนั หน่ึง ตนี ทะลง่ึ เอ่ยปรชั ญา วา่ ตนี มคี ุณแก่ตา เสยี จรงิ ๆ ตนี ช่วยพาตาไปทต่ี ่างๆ ตาจงึ ไดช้ มนางและสรรพสง่ิ เพราะฉะนนั้ ดวงตา จงประวงิ ว่าตนี น้ีเป็นสง่ิ ควรบชู า ตาไดฟ้ ังตนี คุยกห็ มนั่ ไส้ จงึ รอ้ งบอกออกไปดว้ ยโทสา ว่าทต่ี นี เดนิ ไป ได้กเ็ พราะตา ดูมรรคา เศษแก้วหนามไม่ตาตนี เพราะฉะนัน้ ตาจงึ สาคญั กว่า ตนี ไม่ควรจะมาคดิ ดู หมนิ่ สรปุ แลว้ ตามคี ่าสงู กว่าตนี ทวั่ ธานินทรต์ นี ไปไดก้ เ็ พราะตา ตนี ไดฟ้ ังใหค้ งั่ แคน้ แสนจะโกรธ วง่ิ กระโดดโลดไป ใกล้หน้าผาเพราะอวดดี คุยเบ่ง เก่งกว่าตา ดวงชวี าจะดบั ไปไม่รเู้ ลย ตาเหน็ ตนี ทา เก๋งเรง่ กระโดดกพ็ โิ รธแกลง้ ระงบั หลบั ตาเฉย ตนี พาตาถลาลม้ ทงั้ กม้ เงย ตกแลว้ เหวย หน้าผา ทงั้ ตา ตนี เรื่องนี้สอนให้รวู้ ่า การอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสุขนนั้ ยอ่ มเกดิ จากการพง่ึ พาอาศยั กนั จากหนงั สอื ชวี ติ งาม ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 189

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยท่ี 11 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรมของลกู เสือวิสามญั เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 18 สรา้ งวิกฤตให้เป็นโอกาส 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายแนวทางในการปรบั ตวั เมอ่ื ครอบครวั แตกแยกไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. เนื้อหา ครอบครวั ทะเลาะเบาะแวง้ หรอื ครอบครวั แตกแยกเป็นเร่อื งทค่ี นเราอาจตอ้ งเผชญิ ในชวี ติ การ ทาความเขา้ ใจและยอมรบั ปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ จะชว่ ยใหเ้ หน็ ทางออกและปรบั ตวั อยกู่ บั ปัญหาไดอ้ ย่าง เหมาะสม 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ชวนสนทนา ถงึ ปัญหาในครอบครวั ทอ่ี าจสง่ ผลกระทบถงึ สมาชกิ ทุกคน ในครอบครวั (เช่น พอ่ แมท่ ะเลาะกนั เป็นประจา การใชค้ วามรนุ แรงในครอบครวั พ่อแมแ่ ยกทางกนั หวั หน้าครอบครวั ตดิ สุรา/ยาเสพตดิ /การพนนั ปัญหาเศรษฐกจิ ฯลฯ) 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ กรณศี กึ ษาเรอ่ื ง ครอบครวั ของน้องเมย์ 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ส่มุ ถามความรสู้ กึ หลงั ไดฟ้ ังกรณศี กึ ษา 2 -3 คน 4) แบ่งกลุม่ ลกู เสอื ออกเป็นกลุม่ ๆละ 8 คน (คละเพศชายหญงิ ) อภปิ รายประเดน็ ต่อไปน้ี แลว้ ส่งตวั แทนรายงาน (1) คดิ วา่ แต่ละคนในครอบครวั ไดร้ บั ผลกระทบเหมอื นหรอื ต่างกนั อย่างไร (ทุกคนใน ครอบครวั ต่างไดร้ บั ผลกระทบ มากน้อยต่างกนั ขน้ึ กบั ความเขา้ ใจ และการยอมรบั ต่อปัญหาทเี่ กดิ ข้นึ ) (2) ลกู เสอื คดิ วา่ อะไรทเ่ี ป็นสงิ่ สาคญั ทช่ี ว่ ยใหน้ ้องเมยผ์ ่านวกิ ฤตคิ รงั้ น้ีมาได้ (แมจ้ ะโกรธพอ่ แม่ แต่กเ็ ขา้ ใจและยอมรบั กบั ปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ เขม้ แขง็ มองหาทางออกใหช้ วี ติ ดขี น้ึ แทน การทารา้ ยตนเองดว้ ยการหมกม่นุ กบั ปัญหา รวมทงั้ มตี ากบั ยายคอยชว่ ยเหลอื ) (3) ถา้ ลกู เสอื ตอ้ งเผชญิ ปัญหาครอบครวั แตกแยกไม่ว่าจากสาเหตุใด คดิ วา่ จะมี ทางออกอยา่ งไร (เปิดกวา้ งใหแ้ สดงความคดิ เหน็ อยา่ งกวา้ งขวาง) 190 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สุ่มใหร้ ายงาน อภปิ ราย และสรปุ ทลี ะประเดน็ จนครบ แลว้ ผกู้ ากบั ลกู เสอื ลกู เสอื เพมิ่ เตมิ เรอ่ื งคดิ ทางบวก (เป็นความคดิ ทที่ าใหเ้ กดิ ความสขุ ไดแ้ ก่ 1.มองปัญหาว่ามที างออกเสมอ 2.มองหาว่า “อะไรผดิ ”ทตี่ อ้ งแกไ้ ข แทนการมองหาว่า “ใครผดิ ” เพอื่ กล่าวโทษ 3. มองสงิ่ ทเี่ หลอื แทนสงิ่ ทหี่ ายไป 4. หาสงิ่ ดี ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ จากเหตุการณ์ เช่น มองความผดิ พลาดเป็นครู 5. มสี ตอิ ยกู่ บั ปัจจบุ นั รวู้ ่าตนเองทาอะไรเพอื่ อะไร และทาปัจจบุ นั ใหด้ ที ีส่ ดุ เพอื่ เป็นรากฐานอนาคต 6. ตงั้ ความหวงั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความเป็นจรงิ ไมเ่ พอ้ ฝัน 7. มอี ารมณ์ขนั อยเู่ สมอ) 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ เขา้ ใจตนเอง เขา้ ใจผอู้ ่นื จดั การกบั อารมณ์ และความเครยี ด รบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 18 เพลง ยิ้ม ร่าเริง ยม้ิ ยม้ิ ยม้ิ ยม้ิ มาหน้าตาหวานช่นื ยม้ิ นดิ ชวี ติ ยงั่ ยนื สดชน่ื อุราอยา่ มวั รอ (ซา้ ) มายม้ิ กนั หนอเพ่อื นเอย รา่ เรงิ รา่ เรงิ เราบนั เทงิ ใจ หนั หน้ากนั ไปทางไหน เขากย็ ม้ิ เรากย็ ม้ิ (ซ้า) ยม้ิ แยม้ เปรมปรดี สิ ์ ดช่นื อุรา คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 191

ใบงาน กรณีศึกษาเรอื่ ง ครอบครวั ของน้องเมย์ น้องเมยเ์ ป็นลกู สาวคนเดยี วของพอ่ แม่ เธออาศยั อยกู่ บั ตายาย เน่อื งจากพอ่ แมแ่ ยกทางกนั ตงั้ แต่ เธออายุ 10 ขวบ แม่แต่งงานใหม่และมลี ูกชายอีกคนหน่ึง ส่วนพ่อกลบั ไปอยู่กับครอบครวั เดมิ ใน ระยะแรกน้องเมยเ์ สยี ใจมาก โกรธทงั้ พ่อและแม่ เม่อื พ่อและแม่มาหากม็ กั ปฏเิ สธทจ่ี ะพบ โดยใหเ้ หตุผล ว่า มกี ารบ้านท่ตี ้องทา ไม่มเี วลาคุย น้องเมย์ไม่อยากไปโรงเรยี น เน่ืองจากกลวั ว่า คนจะถามถึงเร่อื ง ครอบครวั มตี ากบั ยายเท่านัน้ ทน่ี ้องเมยไ์ วใ้ จมากทส่ี ุด ตากบั ยายกค็ อยดูแลเอาใจใส่และใหก้ าลงั ใจน้อง เมยอ์ ยา่ งเสมอมา น้องเมยเ์ ป็นเดก็ เขม้ แขง็ เขา้ ใจและยอมรบั ปัญหาต่างๆ ไดง้ า่ ย และมกั หาทางออกใหช้ วี ติ ได้ดี ไมห่ มกมนุ่ กบั ปัญหา รวมทงั้ มตี ากบั ยายคอยช่วยเหลอื ) ทุกวนั น้ี ใครๆ กพ็ ูดว่าน้องเมยเ์ ป็นเดก็ เรยี นเก่ง ก่อนปิดภาคเรยี น ทางโรงเรยี นมกั เชญิ ให้ผู้ปกครองไปรว่ มพธิ มี อบเกยี รตบิ ตั รนักเรยี นเรยี นดี แต่น้อง เมย์ปฏิเสธท่จี ะไปร่วมงานทุกครงั้ โดยอ้างว่าไม่สะดวก ขณะน้ีน้องเมย์กาลงั เรยี นอยู่ชนั้ ม. 6 และ เตรยี มเรยี นต่อกฏหมายต่อไป เร่อื งสนั้ ที่เป็นประโยชน์ เทวดากบั อฐู ผโู้ ง่เขลา อูฐตวั หน่ึงเดนิ ทางไปพบเทวดา มนั พูดขน้ึ ด้วยน้าเสยี งไม่พอใจว่า “เพราะเหตุใด ขา้ จงึ มรี ปู ร่าง ไม่เหมอื นกบั สตั ว์ตวั อ่นื ๆ เลย ขา้ ไม่มเี ขา ไม่มฟี ัน หรอื อุ้งเลบ็ และไม่มอี วยั วะอ่นื ใดท่จี ะสามารถใช้ ปกป้องตวั เองจากศตั รเู ลย ขา้ ขอใหท้ า่ นไดโ้ ปรดมอบเครอ่ื งป้องกนั เหล่านนั้ ใหก้ บั ขา้ บา้ งเถอะ” เทวดาได้ ฟังดงั นนั้ กร็ สู้ กึ โกรธในคาอนั โง่เขลาของอูฐ จงึ บนั ดาลใหอ้ ูฐมใี บหูทเ่ี ลก็ ลงกว่าเดมิ เพ่อื เป็นกางลงโทษ ต่อความไมร่ จู้ กั พอของมนั เร่ืองนี้สอนให้ร้วู ่า จงพอใจในสงิ่ ทต่ี นมอี ยู่ 192 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยที่ 11 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรมของลกู เสือวิสามญั แผนการจดั กิจกรรมท่ี 19 สารเสพติด เวลา 1 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายถงึ โทษภยั ของสารเสพตดิ ชนิด บหุ ร่ี สรุ า และยาบา้ ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายการตดิ สารเสพตดิ จากชนิดอ่อนไปส่ชู นดิ รนุ แรงได้ 1.3 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายแนวทางในป้องกนั และช่วยเหลอื ตนเองจากการตดิ สารเสพตดิ ได้ 2. เนื้อหา การตระหนกั รถู้ งึ พษิ ภยั และกระบวนการตดิ สารเสพตดิ จะชว่ ยใหล้ กู เสอื รจู้ กั สงั เกตและมี แนวทางในการป้องกนั และช่วยเหลอื ตนเองจากการตดิ สารเสพตดิ ได้ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู /ิ เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาดว้ ยคาถามวา่ “ อะไรเป็นสารเสพตดิ ทล่ี กู เสอื พบเหน็ บ่อย ทส่ี ดุ ในชวี ติ ประจาวนั ” ( บุหรี่สรุ า ) 2) แบ่งลกู เสอื ออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 8 คน (คละเพศชาย – หญงิ ) อภปิ รายประเดน็ ต่อไปน้ี และสง่ ตวั แทนรายงาน (1) ลกู เสอื คดิ ว่ามวี ยั รนุ่ จานวนมากน้อยแค่ไหนทอ่ี ยากทดลองสบู บุหรห่ี รอื ดม่ื สุรา หรอื ลองทงั้ สองอยา่ ง (เปิดกวา้ งใหแ้ สดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ) (2) เมอ่ื ไดล้ องแลว้ ลกู เสอื คดิ ว่าคนส่วนใหญ่แคล่ องเท่านนั้ หรอื จะสบู บุหร/่ี ด่มื สุราต่อไปจนตอ้ งสบู /ด่มื อย่างต่อเน่อื ง (เปิดกวา้ งใหแ้ สดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ) (3) ผทู้ ส่ี บู บหุ รห่ี รอื ดม่ื สุรา มกั มโี อกาสเขา้ ถงึ และทดลองสารเสพตดิ ตวั อ่นื ๆ ท่ี แรงกวา่ ดว้ ยหรอื ไมแ่ ละเมอ่ื ลองแลว้ จะเกดิ ผลอะไรตามมา (มโี อกาสเขา้ ถงึ ไดม้ าก เพราะมกั ถกู ชกั ชวน จากคนทสี่ บู บุหร/ี่ดมื่ สุรา ดว้ ยกนั คนขายสารเสพตดิ กม็ กั แฝงตวั เขา้ หาลกู คา้ ในคนกลมุ่ น้ดี ว้ ยเช่นกนั และการลองสารเสพตดิ ทรี่ ุนแรงแมค้ รงั้ เดยี วกท็ าใหต้ ดิ ได)้ (4) ลกู เสอื คดิ วา่ จะมแี นวทางป้องกนั ตนเองจากการตดิ สารเสพตดิ ไดอ้ ยา่ งไร คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 193

3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ส่มุ ตวั แทนกลุ่มรายงาน อภปิ ราย และสรปุ ทลี ะประเดน็ จนครบ ผกู้ ากบั ลกู เสอื เพม่ิ เตมิ (ดใู บความรปู้ ระกอบ) 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั วา่ สารเสพตดิ เป็นเรอ่ื งใกลต้ วั เมอ่ื ทดลอง อาจนาไปส่กู ารตดิ สารเสพตดิ ทร่ี นุ แรงได้ การตดั สนิ ใจ การแกไ้ ขปัญหา ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 19 เพลง เลิกให้ได้ ศลิ ปิน เอราวณั คราวน้ตี อ้ งเลกิ ใหไ้ ด้ ถา้ เลกิ ไมไ่ ดต้ อ้ งตายแน่ ๆ เลกิ เสพตดิ เสยี ทดี แี ท้ ตดิ ไปจนแก่ คงจะแย.่ สกั วนั ใบความรู้ การติดสารเสพติดจากชนิดอ่อนเป็นชนิดรนุ แรง การเรมิ่ ใชส้ ารเสพตดิ ครงั้ แรกมที ม่ี าหลากหลาย เช่น เพ่อื นชวน ใชต้ ามเพ่อื น อยากลอง ใช้ เพอ่ื ใหอ้ ่านหนงั สอื ไดท้ น นาน ทางานไดน้ าน ทาใหอ้ ดนอนได้ เล่นกฬี าทนมากขน้ึ ใชเ้ พ่อื ผอ่ นคลาย ใช้ เพ่อื สงั คม การใชช้ ่วงตน้ มกั จะทาใหส้ บายใจ สนุกสนาน ลมื ความทุกข์ มแี รง ทนทานมากขน้ึ รสู้ กึ ไดร้ บั การยอมรบั ในกลมุ่ เพ่อื นทใ่ี ชส้ าร ทาใหช้ ะล่าใจและใชต้ ่อมาเรอ่ื ย ๆ จนเรมิ่ ตดิ สาร ซง่ึ จะยงั รสู้ กึ ว่าตนไม่ ตดิ แต่กไ็ มส่ ามารถหยดุ ไดน้ านนกั จนทส่ี ุดถงึ ขนั้ ตดิ ขาดไมไ่ ด้ ทาใหเ้ กดิ ปัญหาตามมาคอื ตอ้ งใชเ้ งนิ เยอะขน้ึ เวลาไมไ่ ดย้ าจะหงุดหงดิ ฉุนเฉียว ตอ้ งการแต่ยาเท่านนั้ และอาจถงึ ขนั้ ขโมย ทารา้ ยคนอ่นื เพ่อื ไดเ้ งนิ มาซอ้ื สารเสพตดิ ขายเสยี เอง หรอื ถูกจบั กุม ทส่ี าคญั คอื บอกไมไ่ ดว้ า่ ติดตอนไหน เพราะอะไร เพราะเป็นสงิ่ ทด่ี าเนินมาอยา่ งต่อเน่อื ง คอ่ ย เป็นค่อยไป มกั เรม่ิ ตน้ จากสารชนิดอ่อนก่อน เช่น บุหร่ี เบยี ร์ สุราบาง ๆ จะเรม่ิ ใชถ้ ข่ี น้ึ เขม้ ขน้ ขน้ึ หรอื ใชส้ ารทแ่ี รงขน้ึ ตามลาดบั โดยมไิ ดม้ องถงึ อนั ตราย จนตดิ สารที่มฤี ทธ์ิรนุ แรงในทส่ี ดุ 194 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เรอื่ งสนั้ ที่เป็นประโยชน์ สามวยั ชวี ติ ของคน ทา่ นแบ่งอายอุ อกเป็น 3 ระยะ คอื ระยะตน้ ระยะท่ามกลาง และระยะสดุ ทา้ ย ระยะของตน้ ชวี ติ เรยี กกนั ว่า “ปฐมวยั ” คอื วยั แรกเรม่ิ มกี าหนดวา่ ตงั้ แต่เรม่ิ เกดิ จนอายถุ งึ 25 ปี สาหรบั ระยะทา่ มกลางของชวี ติ เรยี กกนั วา่ “มชั ฌมิ วยั ” นบั ตงั้ แต่อายุ 25 ปีขน้ึ ไป จนถงึ 50 ปี ส่วนระยะสุดทา้ ยของชวี ติ เรยี กกนั วา่ “ปัจฉมิ วยั ” นบั ตงั้ แต่อายุ 50 ปีขน้ึ ไปโดยลาดบั นกั ปราชญท์ า่ นสองคนใหพ้ ยายามสรา้ งประโยชน์แก่ตวั เองตามวยั ทงั้ 3 ระยะหรอื 3 วยั คอื ปฐมวยั ใหเ้ รง่ รบี ศกึ ษาหาความรใู้ ส่ตวั มชั ฌมิ วยั ใหเ้ รง่ ก่อสรา้ งตวั และตงั้ ฐานะเป็นหลกั ฐานไว้ ปัจฉิมวยั ใหเ้ รม่ิ สรา้ งคณุ งานความดใี สต่ นใหม้ ากทส่ี ดุ เพอ่ื เป็นเสบยี งเครอ่ื งเดนิ ทางต่อไปของ ตนและเป็นตวั อยา่ งแก่อนุชนในภายหลงั ผพู้ ลาดประโยชน์ตามวยั ทเ่ี ป็น คอื ไมห่ าสาระของชวี ติ ใหแ้ กต้ นเองตามกาหนดแห่งวยั ยอ่ มตอ้ ง เสยี ใจและเสยี ดายเมอ่ื ผ่านพน้ วยั นนั้ ๆ แลว้ เช่นเป็นเดก็ อยไู่ มส่ นใจต่อการศกึ ษาเตบิ โตขน้ึ จะไม่มวี ชิ า ความรเู้ ป็นเครอ่ื งชว่ ยตนเอง ยามทย่ี งั มเี รย่ี วแรงกาลงั ไมเ่ รง่ รบี สรา้ งฐานะ เมอ่ื หมดกาลงั แลว้ ยอ่ ม กลายเป็นคนอนาถา ถงึ วยั ใกลต้ ายเรง่ รบี สรา้ งบญุ กุศล แต่กลบั ประมาทมวั เมาในเร่อื งอ่นื ๆ เสยี จะตอ้ ง โศกเศรา้ สงสารตวั เองในเม่อื จวนจะสน้ิ ใจ วยั สาม หรอื สามวยั เป็นระยะของการสรา้ งประโยชน์ใหแ้ ก่ตนเองดว้ ยวธิ ตี ่างๆ ดงั ชแ้ี จงมา เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า ทุกท่านผมู้ อี ายอุ ยใู่ นวยั ใด จงึ ไมค่ วรปลอ่ ยใหว้ นั เวลาลว่ งเลยไปเปลา่ ๆ เพราะไม่ อาจเรยี กเวลาทล่ี ว่ งเลยไปนัน้ กลบั คนื มาตงั้ ตน้ ใหมไ่ ด้ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 195

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยที่ 11 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิกิจกรรมของลกู เสือวิสามญั เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 20 ป้องกนั ไว้ก่อน 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถบอกวธิ คี มุ กาเนดิ แต่ละวธิ ี และตระหนกั รวู้ า่ การคมุ กาเนิดเป็นความรบั ผดิ ชอบต่อ ตนเองและค่ขู องตนเชน่ เดยี วกบั การดแู ลสุขภาพทวั่ ไปได้ 2. เนื้อหา การคุมกาเนิดเป็นการป้องกนั การตงั้ ครรภ์ ซง่ึ เป็นความรบั ผดิ ชอบของแต่ละบคุ คลในการดแู ล ตนเองและค่ขู องตน เช่นเดยี วกบั การดแู ลสุขภาพทวั่ ไปไมใ่ ชก่ ารส่งเสรมิ ใหว้ ยั รนุ่ มเี พศสมั พนั ธ์ แต่เป็น การใหว้ ยั รนุ่ ไดเ้ รยี นรวู้ ธิ ปี ้องกนั ตนเองจากการตงั้ ครรภเ์ มอ่ื ไมพ่ รอ้ ม จะชว่ ยลดปัญหาการตงั้ ครรภเ์ มอ่ื ไมพ่ รอ้ ม จะช่วยลดปัญหาการตงั้ ครรภเ์ มอ่ื ไมพ่ รอ้ มได้ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 อุปกรณ์คุมกาเนิด ไดแ้ ก่ ยาเมด็ คุมกาเนดิ ถุงยางอนามยั และยาคุมฉุกเฉนิ ” 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แบง่ ลกู เสอื ออกเป็นกลุ่มละ 3 กลุ่ม เพ่อื เขา้ ศกึ ษาแบบฐาน 3 ฐาน ฐานท่ี 1 ยาเมด็ คุมกาเนดิ ฐานท่ี 2 ถุงยางอนามยั ฐานท่ี 3 ยาคมุ ฉุกเฉิน 2) เมอ่ื ผเู้ รยี นเขา้ ฐานครบ 3 ฐานแลว้ ใหผ้ แู้ ทนแต่ละกลมุ่ จบั ฉลาก สรปุ ความรใู้ นเรอ่ื ง ทจ่ี บั ฉลากได้ และนาเสนอ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 196 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะหแ์ ละความตระหนกั ถงึ ความรบั ผดิ ชอบในเรอ่ื งเพศ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 20 เกม เหยียบลกู โป่ ง อปุ กรณ์ 1. ถุงยางอนามยั 2. หนงั ยาง วิธีเล่น 1. แบ่งลกู เสอื ออกเป็น 2 ฝ่าย เทา่ ๆ กนั 2. แจกถุงยางอนามยั คนละ 2 ใบ ฝ่ายละสี 3. ใหท้ กุ คนเป่าถุงยางอนามยั ใหล้ กู ใหญ่มากทส่ี ดุ แลว้ ผกู มดั ไวท้ ข่ี อ้ เทา้ ทงั้ 2 ขา้ ง 4. เมอ่ื ไดย้ นิ เสยี งเพลงหรอื เสยี งสญั ญาณนกหวดี เรม่ิ ดงั ขน้ึ ใหท้ กุ คนเตน้ และไลเ่ หยยี บถุงยางของ ฝ่ายตรงขา้ มใหแ้ ตก 5. เมอ่ื เสยี งเพลงหยดุ หรอื ไดย้ นิ เสยี งสญั ญาณนกหวดี ใหท้ ุกคนหยดุ 6. นบั จานวนถุงยางของแต่ละฝ่าย ฝ่ายใดเหลอื ถุงยางทไ่ี ม่แตกมากทส่ี ุดเป็นฝ่ายชนะ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 197

ใบความรู้ การคมุ กาเนิดสาหรบั วยั ร่นุ การคุมกาเนิด เป็นความรบั ผดิ ชอบของบุคคลในการดูแลสุภาพตวั เอง และเป็นความรบั ผดิ ชอบ รว่ มกนั ของหญงิ และชาย ในการป้องกนั ปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามมา เช่น การตงั้ ครรภ์ไมพ่ รอ้ ม ไมใ่ ช่ฝ่ายใด ฝ่ายหน่ึงตอ้ งรบั ผดิ ชอบเพยี งฝ่ ายเดยี ว แมว้ ่าฝ่ ายหญิงจะเป็นฝ่ ายตงั้ ครรภ์ แต่ฝ่ ายชายควรรบั ผดิ ชอบ ด้วย เพราะ ปัญหาทเ่ี กดิ ย่อมกระทบต่อทงั้ สองฝ่ าย การคุมกาเนิดสามารถทาได้หลายวธิ ี ในแผนการ เรยี นรนู้ ้ีเน้นวธิ กี ารคุมกาเนิดแบบชวั่ คราวท่วี ยั รนุ่ นิยมใชก้ นั 3 วธิ ี ไม่รวมการทาหมนั ฝังยาคุม และใส่ ห่วงอนามยั 1. ยาเมด็ คมุ กาเนิด เป็นฮอรโ์ มนสงั เคราะหค์ ลา้ ยฮอรโ์ มนธรรมชาตขิ องเพศหญงิ ผลติ เป็นเมด็ บรรจแุ ผงมที งั้ แบบ 21เมด็ และ 28 เมด็ ชนดิ 28 เมด็ 7เมด็ สดุ ทา้ ยจะมสี ตี ่างออกไปเพราะเป็นยาบารงุ เลอื ดไมม่ ฮี อรโ์ มน ยาเมด็ คมุ กาเนิดออกฤทธโิ ์ ดยการยบั ยงั้ การตกไขแ่ ละทาใหม้ กู ปากมดลกู เหนียว อสจุ ไิ มส่ ามารถผา่ นเขา้ ส่โู พรงมดลกู ได้ วิธีใช้ 1.กนิ ทุกวนั ๆ ละ 1 เมด็ ก่อนนอน (ควรกนิ เวลาเดยี วกนั ทุกวนั ) 2.กนิ ยาเมด็ แรกของแผงแรกภายใน 5วนั แรกของการเรมิ่ มปี ระจาเดอื น (แมว้ ่าประจาเดอื น จะหยดุ หรอื ไมก่ ต็ าม) เมด็ ต่อไปกนิ ตามลกู ศรจนหมดแผง 1.ชนดิ 28 เมด็ ขน้ึ แผงใหมต่ ่อทนั ทเี มอื แผงแรกหมด ชนดิ 21 เมด็ ใหห้ ยดุ กนิ ยาครบ 7 วนั แลว้ จงึ เรม่ิ แผงใหม่ 2.กรณลี มื กนิ ยา o ถา้ ลืม 1 เมด็ ให้ กินทนั ทีท่ีนึกได้ แลว้ กนิ เมด็ ต่อไปตามเวลาปกติ o ถา้ ลืม 2 เมด็ ติดต่อกนั ในช่วง 2 สปั ดาหแ์ รกของแผง ตอ้ งคุมกาเนิดโดย ถุงยางอนามยั รว่ มดว้ ยนานอยา่ งน้อย 7 วนั และกนิ ยาวนั ละ 2 เมด็ ตดิ ต่อกนั 2 วนั แลว้ กนิ เมด็ ต่อไปตามปกติ ไมต่ อ้ งกงั วลเรอ่ื งเลอื ดออกเพราะจะหยดุ เองได้ o ถา้ ลืม 2 เมด็ ติดต่อกนั ในช่วงสปั ดาหท์ ่ี 3 หรือลืมกินยา 3 เมด็ ขึน้ ไปใน ช่วงเวลาใดกต็ าม ให้หยดุ กินยาแผงนัน้ แลว้ เรม่ิ กนิ ยาแผงใหมไ่ ดท้ นั ทโี ดยไม่ ตอ้ งกงั วลเรอ่ื งเลอื ดออกและตอ้ งคุมกาเนิดโดยใชถ้ ุงยางอนามยั รว่ มดว้ ยอยา่ ง น้อย 7 วนั 198 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ข้อดี 1.ใชง้ า่ ย สะดวก ใชไ้ ดท้ กุ กลุ่มอายุ 2.ใหค้ วามรสู้ กึ เหมอื นเป็นธรรมชาตเิ พราะยงั มปี ระจาเดอื นทุกเดอื นโดยอาจมา น้อยลงและชว่ งสนั้ ขน้ึ 3.ชว่ ยลดอาการปวดประจาเดอื น 4.บางชนิดชว่ ยทาใหส้ วิ ลดน้อยลง ข้อจากดั 1. อาจลมื เพราะตอ้ งกนิ ทุกวนั 2. อาจมปี ระจาเดอื นกระปรดิ กระปรอยโดยเฉพาะใน 2 เดอื นแรกทก่ี นิ ยา 3. อาจมผี ลขา้ งเคยี งซง่ึ หายไดเ้ อง เช่น คลน่ื ไส้ เจบ็ ตงึ เตา้ นม น้าหนกั ขน้ึ ฯลฯ 4. ตอ้ งรบั คาแนะนาจากบคุ ลากรทางการแพทยใ์ นการใชแ้ ผงแรก 5. ไมป่ ้องกนั การตดิ เชอ้ื โรคทางเพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดส์ 2. ถงุ ยางอนามยั เป็นวธิ ที ฝ่ี ่ายชายเป็นผใู้ ช้ สามารถป้องกนั ทงั้ การตงั้ ครรภแ์ ละโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธร์ วมทงั้ โรคเอดส์ วิธีเลือกซื้อ 1. สงั เกตวนั เดอื น ปีทห่ี มดอายุ ดวู นั ผลติ หรอื วนั หมดอายุ โดยทวั่ ไปถุงยางอนามยั มอี ายุ การใชง้ าน 3 ปีนบั จากวนั ทผ่ี ลติ 2. การบรรจุ และการเกบ็ รกั ษาตอ้ งไมช่ ารดุ ฉีกขาดหรอื รวั่ ซมึ 3. เลอื กขนาดทเ่ี หมาะสม โดยทวั่ ไปชายไทยควรใชข้ นาด 49 ขนั้ ตอนการใช้ถงุ ยางอนามยั 1. ตรวจสอบวนั หมดอายทุ ซ่ี อง 2. ใชม้ อื รดี ถุงยางอนามยั ใหไ้ ปอยดู่ า้ นใดดา้ นหน่งึ ฉีกซองอยา่ งระมดั ระวงั ไมใ่ หเ้ ลบ็ / แหวนเกย่ี วถุงยางอนามยั 3. ตรวจดขู อบถุงยางอนามยั หาขอบดา้ นรดู ลง 4. รดู หนงั หุม้ ปลายอวยั วะเพศลง 5. บบี ปลายถุงกระเปาะถุงยางอนามยั เพ่อื ไลอ่ ากาศโดยใชห้ วั แมม่ อื กบั น้วิ ช้ี 6. วางถุงยางอนามยั บนหวั อวยั วะเพศขณะแขง็ ตวั ค่อยๆ รดู ถุงยางอนามยั ลงจนถงึ โคน 7. สอดใสอ่ วยั วะเพศในชอ่ งคลอด ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 199


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook