Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 10.aephnkaarcchadkicchkrrm_m_4-com_0

10.aephnkaarcchadkicchkrrm_m_4-com_0

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-03-29 12:12:12

Description: 10.aephnkaarcchadkicchkrrm_m_4-com_0

Search

Read the Text Version

8. ถอดอวยั วะเพศทนั ทหี ลงั การหลงั่ 9. ใชก้ ระดาษชาระหรอื ผา้ พนั รอบๆองคชาตและค่อยๆรดู ถุงยางอนามยั 10. ใชก้ ระดาษหอ่ ถุงยางอนมยั ใหม้ ดิ ชดิ แลว้ นาไปทง้ิ ในทเ่ี หมาะสม ข้อดี 1. หางา่ ยราคาถูก 2. ไมม่ อี าการขา้ งเคยี ง 3. สามารถป้องกนั ทงั้ การตงั้ ครรภแ์ ละโรคเอดสไ์ ด้ ข้อจากดั 1. ตอ้ งเตรยี มถุงยางอนามยั ไวล้ ่วงหน้า 2. อาจเสยี จงั หวะการมเี พศสมั พนั ธ์ 3. ยาป้องกนั การตงั้ ครรภห์ ลงั มีเพศสมั พนั ธ(์ ยาคมุ ฉุกเฉิน) เป็นฮอรโ์ มนคลา้ ยฮอรโ์ มนเพศธรรมชาตทิ ผ่ี ลติ จากรงั ไขข่ องสตรี (โปรเจสเตอโรน) ใชก้ บั ผหู้ ญงิ เป็นทางเลือกในการป้องกนั การตงั้ ครรภท์ ี่ไม่พร้อมกรณีฉุกเฉินเทา่ นนั้ เช่น ถกู ขม่ ขนื ป้องกนั ดว้ ย วธิ อี ่นื แลว้ พลาด มเี พศสมั พนั ธโ์ ดยไมค่ าดคดิ และไมไ่ ดป้ ้องกนั ฯลฯ ไมเ่ หมาะสมอย่างย่ิงในการใช้ แทนวิธีคมุ กาเนิดแบบปกติ เพราะมปี ระสทิ ธภิ าพต่าและผลขา้ งเคยี งสงู ออกฤทธโิ ์ ดยป้องกนั การฝัง ตวั ของไขท่ ผ่ี นงั มดลกู วิธีใช้ กนิ 1 เมด็ ทนั ที ภายใน 72 ชวั่ โมงแรกหลงั การมเี พศสมั พนั ธ์ และกนิ ยาเมด็ ท่ี 2 ห่างจากเมด็ แรก 12 ชวั่ โมง มเี พศสมั พนั ธค์ รงั้ ต่อไปตอ้ งสวมถุงยางอนามยั ทกุ ครงั้ เดอื นหน่งึ ไม่ควรกนิ ยาเกนิ 4 เมด็ เพราะการกนิ บ่อย ๆ จะสง่ ผลเสยี ต่อรางกายในระยะยาว ข้อดี เป็นทางเลอื กในกรณฉี ุกเฉนิ ชว่ ยแกป้ ัญหาเฉพาะหน้า ข้อจากดั 1. ประสทิ ธภิ าพต่าและผลขา้ งเคยี งสงู 2. ไมส่ ามารถใชไ้ ดเ้ หมอื นการป้องกนั การตงั้ ครรภแ์ บบปกติ 3. ไมส่ ามารถป้องกนั การตดิ เชอ้ื โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดส์ 200 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ลิงกบั ลา หญงิ ชาวบา้ นคนหน่งึ อาศยั อยคู่ นเดยี วในกระทอ่ มดว้ ยความเหงานางจงึ หาสตั ว์มาเลย้ี งไวเ้ ป็น เพอ่ื นสองตวั คอื ลงิ และลาวนั หน่งึ หญงิ ชาวบา้ นคนน้ตี อ้ งออกไปตลาดเพอ่ื ซอ้ื อาหารก่อนออกจากบา้ น เธอไดเ้ อาเชอื กมาผกู คอลงิ แลว้ มดั ขาของลาเอาไวท้ งั้ สองขา้ งเพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ หส้ ตั วเ์ ลย้ี งทงั้ สองตวั เดนิ ย่าไปมาในกระทอ่ มจนทาใหข้ า้ วของต่าง ๆไดร้ บั ความเสยี หาย ทนั ทที ห่ี ญงิ ชาวบา้ นออกจากบา้ นไปลงิ ซง่ึ มคี วามฉลาดและแสนซนเป็นคณุ ลกั ษณะประจาตวั กค็ ่อย ๆ คลายปมเชอื กออกจากคอของมนั อกี ทงั้ ยงั ซุกซนไปแกเ้ ชอื กมดั ขาใหแ้ ก่ลาอกี ดว้ ย หลงั จากนนั้ เจา้ ลงิ กก็ ระโดดโลดเตน้ หอ้ ยโหนโจนทะยานไป ทวั่ กระท่อมจนทาใหข้ า้ วของต่าง ๆ ลม้ ระเนระนาดกระจดั กระจายไปทวั่ อกี ทงั้ ยงั ซุกซนรอ้ื คน้ เสอ้ื ผา้ ของ หญงิ ชาวบา้ นมาฉกี กดั จนไมเ่ หลอื ชน้ิ ดใี นขณะทล่ี าไดแ้ ต่มองดกู ารกระทาของเจา้ ลงิ อยเู่ ฉย ๆ สกั ครหู่ น่งึ หญงิ ชาวบา้ นคนน้กี ก็ ลบั มาจากตลาด เจา้ ลงิ มองเหน็ เจา้ ของเดนิ มาแต่ไกลจากทางหน้าต่างกร็ บี เอา เชอื กมาผกู คอตนไว้ อยา่ งเดมิ และอยอู่ ย่างสงบน่ิง ฝ่ายหญงิ ชาวบา้ นเมอ่ื เปิดประตูกระทอ่ มเขา้ มาเหน็ ขา้ วของของตนถูกรอ้ื คน้ กระจยุ กระจาย เชน่ นัน้ กเ็ กดิ โทสะขน้ึ ทนั ที หนั มองลงิ และลาเพ่อื ดวู ่าใครเป็นผกู้ ่อเรอ่ื ง และเหน็ ว่าลาไม่มเี ชอื กผกู ขา ดงั เดมิ เธอกค็ ดิ เอาเองวา่ เจา้ ลาน่เี องคอื ตวั ปัญหาทาใหก้ ระท่อมของเธอมสี ภาพไมต่ ่างจากโรงเกบ็ ขยะ ดงั นนั้ หญงิ ชาวบา้ นจงึ วง่ิ ไปหยบิ ท่อนไมน้ อกบา้ นมาทบุ ตลี าอยา่ งรุนแรงซง่ึ เจา้ ลาผนู้ ่าสงสารกไ็ ดแ้ ต่สง่ เสยี งรอ้ งดว้ ยความเจบ็ ปวดจนสน้ิ ใจโดยไมส่ ามารถทาอะไรไดเ้ ลย....... เร่อื งนี้สอนให้รวู้ ่า ควรพจิ ารณาใหร้ อบคอบ ก่อนจะตดั สนิ ใจทาสงิ่ ใดลงไป มฉิ ะนนั้ อาจเกดิ การ ตดั สนิ ใจทผ่ี ดิ พลาดได้ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 201

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยท่ี 12 การฝึ กอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง เวลา 3 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 21 การฝึ กอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถบอกวธิ แี ละแนวทางการฝึกอบรมลกู เสอื วสิ ามญั ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายวธิ เี ขยี นโครงการและดาเนินงานตามโครงการพรอ้ มสรปุ รายงานผล การดาเนินโครงการได้ 2. เนื้อหา 2.1 วธิ กี ารฝึกอบรมลกู เสอื วสิ ามญั 2.2 แนวทางการฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง 2.3 วธิ เี ขยี นโครงการ 2.4 การสรุปรายงานผลการดาเนินงานโครงการ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั รอ้ งเพลง “ชว่ ยกนั ทางาน” (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สนทนาและวเิ คราะหห์ าจดุ หมาย และประโยชน์ จาก “เพลงงานสง่ิ ใด” (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แบ่งลกู เสอื ออกเป็นกล่มุ ยอ่ ย กลุ่มละ 3-4 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายและวเิ คราะหเ์ สนอความตอ้ งการฝึกอบรมในการเป็นลกู เสอื วสิ ามญั (4) ผแู้ ทนลกู เสอื แต่ละกลุ่มส่งผแู้ ทน รายงานผลการอภปิ ราย (5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบใบความรใู้ หล้ กู เสอื รว่ มกนั ศกึ ษา เรอ่ื ง วธิ กี ารฝึกอบรมลกู เสอื วสิ ามญั และใหล้ กู เสอื แต่ละคนสรปุ ความตอ้ งการฝึกอบรมของตนเองเสนอผกู้ ากบั ลูกเสอื 202 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

(6) ผกู้ ากบั ลกู เสอื รวบรวมความตอ้ งการฝึกอบรมของลกู เสอื เพอ่ื เป็นขอ้ มลู ในการจดั กจิ กรรมต่อไป 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั ผลการสารวจความต้องการ ฝึกอบรมของลกู เสอื วสิ ามญั แต่ละคน (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื ศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง “การฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง” (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั อภปิ รายสรปุ แนวทางการฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.3 กิจกรรมครงั้ ที่ 3 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาลกู เสอื อภปิ รายเกย่ี วกบั การทางาน (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยาย วธิ ที าโครงการ วธิ รี ายงานผลการดาเนนิ โครงการ (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื ศกึ ษาใบความรู้ วธิ เี ขยี นโครงการ (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั อภปิ รายสรปุ การเขยี นโครงการ การดาเนิน โครงการ การประเมนิ และการรายงานผล (5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ และมอบหมายงาน 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากโครงการ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 203

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 21 เพลง ช่วยกนั ทางาน งานสง่ิ ใด งานสง่ิ ใด แมใ้ ครละเลยทง้ิ ปลอ่ ย มวั แต่คอย เฝ้าแต่คอย หวงั คอยแต่เกย่ี งโยนกลอง ไมม่ เี สรจ็ ไมม่ เี สรจ็ รบั รอง จาไวท้ กุ คนตอ้ ง ทางานเราตอ้ งชว่ ยกนั ชว่ ยกนั ชว่ ยกนั ชว่ ยกนั มองคนในแง่ดี มองคนในแงด่ ี เราจะมอี ารมณ์แจม่ ใส มองคนในแงร่ า้ ย พาจติ ใจเราใหข้ นุ่ มวั เป็นธรรมดาของคน มสี ง่ิ ปะปนทงั้ ดแี ละชวั่ สว่ นความชวั่ เรามองขา้ มไป * มองความดขี องเขาใหท้ วั่ (ซ้า) อย่าเกียจคร้าน อยา่ เกยี จครา้ น การทางานนะพวกเรา งานหนกั งานเบา เหน่อื ยแลว้ เราพกั ผ่อนกห็ าย ไมท่ างานหลบหลกี งาน เฝ้าเกยี จครา้ นเอาแต่สบาย แก่จนตายขอทานายว่าไมเ่ จรญิ แก่จนตายขอทานายวา่ ไมเ่ จรญิ 204 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ใบความรู้ วิธีการฝึ กอบรมลกู เสือวิสามญั 1. การฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง เพอ่ื เป็นการส่งเสรมิ การพฒั นาลกู เสอื วสิ ามญั ในเรอ่ื งสตปิ ัญญา จติ ใจ ศลี ธรรม การสงั คมและอ่นื ๆ ควรมกี ารฝึกอบรมร่วมกนั ทงั้ กอง โดยใหล้ กู เสอื วสิ ามญั และเตรยี ม ลกู เสอื วสิ ามญั ทกุ คน ประกอบกจิ กรรมต่าง ๆ ในวนั ประชุมประจาสปั ดาห์ ตามทค่ี ณะกรรมการประจา กองเป็นผวู้ างแผนและกาหนดไวล้ ว่ งหน้า เป็นเวลาอยา่ งน้อย 3 เดอื น ดว้ ยความเหน็ ชอบของผกู้ ากบั ลกู เสอื และทป่ี ระชุมลกู เสอื วสิ ามญั ลกู เสอื วสิ ามญั รวมทงั้ เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ควรมกี าหนดการฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง ดงั กลา่ วขา้ งตน้ คนละหน่งึ ชุดพรอ้ มทงั้ กาหนดวนั เวลา และสถานทป่ี ระชุมประจาสปั ดาหด์ ว้ ย การฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กองน้มี ปี ระโยชน์มาก ทาใหล้ กู เสอื วสิ ามญั เกดิ ความสนใจและ สนุกยง่ิ ขน้ึ ในการเขา้ มาเป็นลกู เสอื วสิ ามญั เพราะเป็นกจิ กรรมของเขา ทเ่ี ขาไดช้ ว่ ยกนั จดั ทาขน้ึ และเพอ่ื ประโยชน์ของเขาเอง 2. การฝึกอบรมเพอ่ื รบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื โลก สาหรบั เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ซง่ึ ควรจะสอบได้ ภายในระยะเวลาไมเ่ กนิ 6 เดอื น นบั แต่วนั สมคั ร 3. การฝึกอบรมเพ่อื รบั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษลกู เสอื วสิ ามญั สาหรบั ผทู้ ผ่ี า่ นการฝึกอบรมตาม หลกั สตู รเครอ่ื งหมายลกู เสอื โลกมาแลว้ และไดเ้ ขา้ พธิ ปี ระจากองแลว้ 4. การรบั หน้าทใ่ี นคณะกรรมการประจากอง หรอื พเ่ี ลย้ี งเป็นการฝึกอบรมทส่ี าคญั สว่ นหน่งึ ของ การฝึกอบรมลกู เสอื วสิ ามญั กรรมการประจากองมหี น้าทด่ี งั น้ี 1. วางแผนและจดั กจิ กรรมในวนั ประชุมกองประจาสปั ดาห์ 2. ในกรณที ม่ี กี จิ กรรมพเิ ศษ อาจพจิ ารณาแต่งตงั้ ลกู เสอื วสิ ามญั ในกองคนหน่งึ ใหเ้ ป็นหวั หน้า กจิ กรรมนนั้ 3. บรหิ ารกจิ การภายในกองลกู เสอื 4. รกั ษาเกยี รตขิ องกองลกู เสอื 5. ควบคุมการรบั จา่ ยเงนิ ของกองลกู เสอื 6. ใหป้ ระธานหรอื ผแู้ ทนทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเป็นผแู้ ทนกองในการตดิ ต่อกบั บุคคลภายนอก 7. จดั ใหม้ คี หู า (Den) ของกอง ขนาดอยา่ งน้อย 4x6 เมตร เพ่อื ใชเ้ ป็นสถานทอ่ี เนกประสงคข์ อง กอง 8. คดั เลอื กลกู เสอื วสิ ามญั อาวุโส 1 หรอื 2 คน ทร่ี อบรงู้ านลกู เสอื วสิ ามญั เพอ่ื ใหท้ าหน้าทพ่ี ่ี เลย้ี ง (Sponsor) เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั (Rover Squire) แต่ละคน จนกวา่ เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั นนั้ จะผ่าน หลกั สตู รลกู เสอื โลก การสารวจตวั เอง (Vigil) และไดเ้ ขา้ ประจากอง (Investiture) เป็นลกู เสอื วสิ ามญั (Rover Scout) โดยสมบรู ณ์ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 205

งานสาคญั อยา่ งหน่งึ ของกองการฝึกอบรมลกู เสอื วสิ ามญั คอื การรบั หน้าทเ่ี ป็นกรรมการประจา กอง เพอ่ี ชว่ ยกนั ดาเนินงานของกอง ภายใตก้ ารนาและควบคุมดแู ลของผกู้ ากบั ลกู เสอื บทบาทของพ่ีเลี้ยง พเ่ี ลย้ี งมหี น้าทด่ี งั น้ี 1. เป็นเพอ่ื นทด่ี หี รอื เป็นพท่ี ม่ี คี วามปรารถนาดตี ่อเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ใหม่ ซง่ึ เปรยี บเสมอื น น้อง และอาจจะยงั ไมเ่ ขา้ ใจว่าควรปฏบิ ตั หิ รอื บาเพญ็ ตนอยา่ งไรในกองลกู เสอื วสิ ามญั 2. เป็นตวั อยา่ งทด่ี ตี ่อเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ใหมใ่ นเรอ่ื งต่าง ๆ โดยทวั่ ไป 3. ช่วยเหลอื ชแ้ี จงแนะนาเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ในเรอ่ื งธรรมเนยี มประเพณขี องกอง 4. ชว่ ยเหลอื ชแ้ี จงแนะนาเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ในการฝึกอบรมตามหลกั สตู รเครอ่ื งหมายลกู เสอื โลก 5. เป็นผมู้ บี ทบาทสาคญั ในพธิ เี ขา้ ประจากองของเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ทต่ี นไดร้ บั มอบหมายให้ เป็นพเ่ี ลย้ี ง ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหท้ าหน้าทพ่ี เ่ี ลย้ี งเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ใหม่ ควรถอื วา่ เป็นงานทม่ี เี กยี รติ และควรปฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายอย่างจรงิ จงั นอกจากนนั้ การรบั หน้าทน่ี ้ียงั มปี ระโยชน์แก่ตวั พเ่ี ลย้ี งเอง คอื เท่ากบั เป็นการฝึกอบรมในเรอ่ี งการเป็นผนู้ า นอกจากนนั้ ยงั เป็นการช่วยเหลอื งานของ กองลกู เสอื วสิ ามญั ในการฝึกอบรมเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ใหม้ คี ุณภาพและเป็นกาลงั ของกองต่อไปอกี ดว้ ย ลกู เสอื วสิ ามญั ทุกคนในกอง ควรมโี อกาสไดร้ บั มอบหมายใหท้ าหน้าทพ่ี เ่ี ลย้ี งอยา่ งน้อยครงั้ หน่งึ ในโอกาสอนั สมควร 206 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

แนวทางการฝึ กอบรมลกู เสือวิสามญั รว่ มกนั ทงั้ กอง การฝึกอบรมรว่ มกนั ทงั้ กอง เป็นการสง่ เสรมิ และการพฒั นาลกู เสอื วสิ ามญั ในเรอ่ื ง สติปัญญา จติ ใจ ศีลธรรม การสงั คมและอ่นื ๆ โดยให้ลูกเสอื วสิ ามญั และเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ทุกคน ประกอบกจิ กรรมต่าง ๆ ในวนั ประชุมประจาสปั ดาห์ ตามทค่ี ณะกรรมการประจากองเป็นผวู้ างแผนและ กาหนดไวล้ ว่ งหน้า เป็นเวลาอยา่ งน้อย 3 เดอื น ดว้ ยความเหน็ ชอบของผกู้ ากบั ลกู เสอื และทป่ี ระชุม ลกู เสอื วสิ ามญั รวมทงั้ เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ลูกเสอื วสิ ามญั และเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ทุกคนควรมกี าหนดการฝึกอบรมร่วมกนั ทงั้ กองคน ละหน่ึงชุด พรอ้ มทงั้ กาหนดวนั เวลา และสถานท่ปี ระชุมประจาสปั ดาห์ด้วย เพ่อื ประโยชน์ในการทา กจิ กรรมของลกู เสอื วสิ ามญั แต่ละคน การประกอบกิจกรรมร่วมกนั ทงั้ กองน้ี มกี ิจกรรมให้ลูกเสอื วสิ ามญั กระทาได้ได้มากมาย หลายอยา่ ง ตามความคดิ และความตอ้ งการของกองลกู เสอื วสิ ามญั ขอ้ เสนอแนะในการทากจิ กรรมร่วมกนั ของลูกเสอื วสิ ามญั อาจดาเนินการจดั กจิ กรรมหรอื โครงการ ดงั น้ี 1. การฝึ กอบรมด้วยกนั ลกู เสอื วสิ ามญั อาจรวมตวั กนั เขา้ รบั การฝึกอบรมดว้ ยกนั ในในหลกั สตู รวชิ าการต่าง ๆ เชน่ 1.1 สมคั รเขา้ รบั การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื ขนั้ ความรทู้ วั่ ไป และขนั้ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ประเภทลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั และลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ 1.2 ฝึกอบรมในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทกั ษะทางวชิ าลกู เสอื เช่น การเดนิ ทางไกล การ อยคู่ า่ ยพกั แรม การบกุ เบกิ การสารวจ การบาเพญ็ ประโยชน์เพอ่ื ส่วนรวม ชุมชน สงั คมและชาติ บา้ นเมอื งกจิ กรรมกลางแจง้ การเลน่ กฬี า การปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื และการ “บรกิ าร” ตามคตพิ จน์ของลูกเสอื วสิ ามญั 1.3 ฝึกอบรมในเรอ่ื งสาคญั ต่าง ๆ ทล่ี กู เสอื วสิ ามญั ควรรู้ เช่น การว่ายน้า การปฐม พยาบาลในระดบั ความรขู้ นั้ สงู การขบั ขร่ี ถจกั รยานและรถจกั รยานยนต์ การขบั รถยนต์ การขบั เรอื ยนต์ การยงิ ปืน การถ่ายรปู การช่างต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า คอมพวิ เตอรเ์ บอ้ื งตน้ รจู้ กั ใชแ้ ละสามารถแก้ เครอ่ื งวทิ ยุ เคร่อื งโทรทศั น์ เครอ่ื งปรบั อากาศหรอื อุปกรณ์เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทม่ี ขี อ้ บกพรอ่ งเลก็ น้อยได้ 2. การทาส่ิงของต่าง ๆ ด้วยกนั เป็นการจดั ทา ทดลองใชอ้ ุปกรณ์และพฒั นาทกั ษะทางวชิ าลกู เสอื เชน่ การอยคู่ ่ายพกั แรม การบกุ เบกิ การทาสะพานเชอื ก บนั ไดเชอื ก ทพี กั แรม การทาแผนท่ี ห่นุ จาลอง การทาทห่ี งุ ต้มอาหาร การครวั การจดั โต๊ะอาหาร และการรบั ประทานอาหารดว้ ยกนั การเตรยี มการ แสดงสาหรบั การชมุ นุมรอบกองไฟ การทาสงิ่ ของต่าง ๆ ดว้ ยกนั ตามโครงการ เช่น การก่อสรา้ ง และ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 207

การจดั คหู าลกู เสอื วสิ ามญั การสรา้ งศาลาทพ่ี กั คนเดนิ ทาง การต่อเรอื การสร้างและจดั ทาเรอื นเพาะชา ฯลฯ 3. การเรียนรดู้ ้วยกนั เป็นการพฒั นาองค์ความรู้เพ่ือการเป็นพลเมอื งของประเทศ เช่น การเชิญผู้ทรงคุณวุฒมิ า บรรยาย หรอื เล่าเรอ่ื งต่าง ๆ ท่ลี ูกเสอื วสิ ามญั สนใจ เช่น การอาชพี งานอดเิ รก การศาสนา วฒั นธรรม การต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศท่ีมีคว ามเก่ียวข้องกับประเทศไทย การปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ เ์ ป็นประมขุ และเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั พรรคการเมอื งต่าง ๆ ความรเู้ รอ่ื ง เมอื งไทย บุคคล และสถานทส่ี าคญั งานของหน่วยราชการ องคก์ ร และบรษิ ทั ต่าง ๆ 4. การไปเยือนสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกนั เป็นการเดนิ ทางไปทศั นศกึ ษาหรอื เยย่ี มเยยี นสถานทต่ี ่าง ๆ เช่น พพิ ธิ ภณั ฑ์ ท้องฟ้าจาลอง วดั วาอาราม และสถานทส่ี าคญั โรงพมิ พ์ สานกั งานหนงั สอื พมิ พ์ โรงงานผลติ สนิ คา้ ต่าง ๆ เช่น อาหาร เสอ้ื ผา้ ยารกั ษาโรค เครอ่ื งดม่ื เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผา สถานทร่ี าชการ สถานีตารวจ การพจิ ารณาคดีของศาล สถติ ยตุ ธิ รรม เรอื นจา การไปต่างจงั หวดั เพ่อื เป็นการพกั ผอ่ น และศกึ ษาหาความรู้ 5. การช่วยเหลือประชาชนด้วยกนั เป็นภาระหน้าท่ขี องลูกเสอื วสิ ามญั ท่จี ะให้การช่วยเหลอื องค์กรการกุศลต่าง ๆ เช่น การจดั สถานท่ี การรบั เงนิ บรจิ าคการช่วยเหลอื ในการจราจร ผเู้ จบ็ ป่วย เดก็ คนชรา ผทู้ ุพพลภาพทข่ี าดคน ดูแล การช่วยทาความสะอาดสถานท่โี บราณสถาน โบราณวตั ถุ วดั การกาจดั ผกั ตบชวา การช่วยกนั คนมใิ หร้ กุ ล้าทห่ี วงหา้ มการช่วยเหลอื ผูป้ ระสบอุบตั ภิ ยั อุบตั เิ หตุ รวมถงึ การรว่ มกจิ กรรมเพ่อื ส่งเสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรม จารตี ประเพณี 208 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

การจดั ทาโครงการ การจดั ทาโครงการเพ่อื ดาเนินการตามแผนงานอย่างใดอยา่ งหน่ึงนนั้ สามารถทาใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ าน ทางานไดอ้ ยา่ งมขี นั้ ตอน และมองเหน็ ปัญหาในการทางานไดอ้ ยา่ งชดั เจนยงิ่ ขน้ึ รวมทงั้ มองเหน็ แนวทาง ในการแก้ปัญหาอีกด้วย การเสนอแนะให้จัดทาโครงการนั้น จาเป็ นจะต้ องระดมความสามารถ งบประมาณ และทรพั ยากรอ่ืน ๆ อีกเป็นจานวนมาก ซ่ึงโครงการบางโครงการอาจไม่จาเป็นต้อง ดาเนินการของบประมาณสนบั สนุนเลยกไ็ ด้ แต่การเขยี นโครงการจะต้องทาใหถ้ ูกขนั้ ตอน โดยมแี นวทาง ในการเขยี นโครงการดงั ต่อไปน้ี 1. โครงการ คอื งานหรอื กจิ กรรมทร่ี ะบุรายละเอยี ดต่าง ๆ เพอ่ื ทจ่ี ะนาไปปฏบิ ตั ใิ หบ้ รรลตุ าม วตั ถุประสงคท์ ก่ี าหนดไวใ้ นแผน บางครงั้ วตั ถุประสงคห์ น่งึ ๆ อาจจาเป็นตอ้ งมหี ลายโครงการกไ็ ด้ แต่ โครงการหน่งึ ๆ นนั้ จะตอ้ งมสี ว่ นประกอบทร่ี ะบุรายละเอยี ดอยา่ งชดั เจน และมคี วามแน่นอน ดงั น้ี (1) ชอ่ื โครงการ (2) หลกั การและเหตุผล (3) วตั ถุประสงค์ (4) เป้าหมาย (5) วธิ ดี าเนินงาน (6) ระยะเวลา (7) สถานท่ี (8) งบประมาณ (9) ผรู้ บั ผดิ ชอบ (10) หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (11) การประเมนิ ผล (12) ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 2. แนวทางในการเขยี นโครงการ (1) ชอ่ื โครงการ เป็นการกาหนดช่อื โครงการใหเ้ ฉพาะเจาะจงในเรอ่ื งทจ่ี ะทา (2) หลกั การและเหตุผล ควรระบหุ ลกั การอยา่ งกวา้ งๆ ว่ามคี วามจาเป็นและมคี วาม เหมาะสมอยา่ งไรจะใหป้ ระโยชน์อย่างไร (3) วตั ถุประสงค์ คอื สงิ่ ทผ่ี ทู้ าโครงการตอ้ งการจะไดร้ บั และผลต่อเน่อื งของโครงการนัน้ (4) เป้าหมาย คอื การระบุปรมิ าณ คณุ ภาพ และขอบข่ายงานทจ่ี ะทา (5) วธิ ดี าเนนิ งาน เป็นการบอกรายละเอยี ดของการดาเนินงาน หรอื วธิ ดี าเนินงานให้ บรรลุตามวตั ถุประสงค์ เรม่ิ ตงั้ แต่การเตรยี มงาน การศกึ ษาและสารวจขอ้ เทจ็ จรงิ ต่างๆ การเสนอขอ อนุมตั โิ ครงการ การเรมิ่ งาน จนถงึ การปฏบิ ตั งิ านและการสรปุ รายงานผล (6) ระยะเวลา เป็นการกาหนดวนั เรม่ิ โครงการ วนั สน้ิ สุดโครงการ หรอื ชว่ งเวลาท่ี ดาเนินการ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 209

(7) สถานท่ี การระบุสถานท่ี หรอื บรเิ วณทจ่ี ะทาโครงการ (8) งบประมาณ แยกงบประมาณรายรบั รายจา่ ยทงั้ หมดไวใ้ หล้ ะเอยี ดทส่ี ดุ เท่าทจ่ี ะทาได้ (9) ผรู้ บั ผดิ ชอบ ระบุช่อื ผทู้ าใหช้ ดั เจนว่าใคร หรอื หน่วยงานใดทร่ี บั ผดิ ชอบโครงการนัน้ (10) หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คอื หน่วยหลกั ทช่ี ่วยสง่ เสรมิ สนบั สนุนใหก้ ารดาเนินงาน ตามโครงการสาเรจ็ ลลุ ่วง (11) การประเมนิ ผล การบอกแนวทางในการประเมนิ ผลว่าจะทาอยา่ งไร และทาใน ชว่ งเวลาใด (12) ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั การระบผุ ลของโครงการทค่ี าดว่าเมอ่ื เสรจ็ สน้ิ โครงการ ตวั อย่างแบบฟอรม์ การเขียนโครงการ 1. ช่อื โครงการ ........................................................................................................................................................ 2. หลกั การและเหตุผล ........................................................................................................................................................ 3. วตั ถุประสงค์ 3.1 ......................................................................................................................................... 3.2 ......................................................................................................................................... 3.3 ......................................................................................................................................... 4. เป้าหมาย 4.1 ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ 4.2 ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ 5. วธิ ดี าเนินงาน 5.1 ......................................................................................................................................... 5.2 ......................................................................................................................................... 5.3 ......................................................................................................................................... 6. สถานท่ี ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ 7. ระยะเวลา ........................................................................................................................................................ 210 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

8. งบประมาณ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ 9. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ 10. หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ 11. การประเมนิ ผล 11.1 ....................................................................................................................................... 11.2 ....................................................................................................................................... 12. ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 12.1 ....................................................................................................................................... 12.2 ....................................................................................................................................... 12.3 ....................................................................................................................................... ลงช่อื ..............................................ผเู้ สนอโครงการ (............................................) ลงช่อื ...........................................ทป่ี รกึ ษาโครงการ (...........................................) ลงชอ่ื ........................................ผเู้ หน็ ชอบโครงการ (..........................................) ลงชอ่ื ............................................ผอู้ นุมตั โิ ครงการ (..........................................) คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 211

ตวั อย่างโครงการ 1. ชอ่ื โครงการ โครงการอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม(กจิ กรรมปลกู ตน้ ไมใ้ นทส่ี าธารณะ) 2. หลกั การและเหตุผล ดว้ ยสภาพในปัจจบุ นั มจี านวนประชากรเพม่ิ มากขน้ึ ทาใหท้ รพั ยากรต่าง ๆ ทม่ี อี ย่ถู กู ใชไ้ ป อยา่ งสน้ิ เปลอื งจนน่าวติ ก สภาพตน้ ไมถ้ ูกทาลายลง บา้ นเมอื งขยายตวั ออกไปอยา่ งรวดเรว็ ทาให้ ประชาชนทอ่ี าศยั อยใู่ นชุมชนในเมอื งขาดรม่ เงาจากตน้ ไมส้ าหรบั พกั ผ่อนหยอ่ นใจ ดงั นนั้ จงึ ควรสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารปลกู ตน้ ไมเ้ พ่อื ใหเ้ กดิ สภาพแวดลอ้ มทร่ี ม่ รน่ื รม่ เยน็ เพ่อื ช่วยรกั ษาสภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ ทางออ้ ม รวมทงั้ ยงั เป็นการฝึกใหล้ กู เสอื เกดิ ความรกั และหวงแหนในตน้ ไม้ จงึ เหน็ สมควรใหม้ โี ครงการน้ี ขน้ึ 3. วตั ถุประสงค์ 3.1 เพอ่ื ใหม้ ตี น้ ไมเ้ ป็นร่มเงาสาหรบั พกั ผ่อนหยอ่ นใจ 3.2 เพอ่ื ใหล้ กู เสอื ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการปลูกตน้ ไมว้ ่ามปี ระโยชน์ต่อมนุษยแ์ ละสตั ว์ 3.3 ใหล้ กู เสอื ไดม้ โี อกาสบาเพญ็ ประโยชน์ต่อชุมชนและสงั คม 3.4 ฝึกใหล้ กู เสอื มที กั ษะในการปลกู ตน้ ไมย้ งิ่ ขน้ึ 4. เป้าหมาย 4.1 เชงิ ปรมิ าณ ลกู เสอื ปลกู ตน้ ไมอ้ ยา่ งน้อยคนละ 1 ตน้ 4.2 เชงิ คุณภาพ ลกู เสอื มสี ่วนรว่ มในการปลกู ตน้ ไมแ้ ละบารงุ รกั ษาตน้ ไมท้ ต่ี นปลกู 5. วธิ ดี าเนินงาน 5.1 ประชมุ วางแผนการปลกู ตน้ ไมร้ ว่ มกบั สมาชกิ กองลกู เสอื วสิ ามญั 5.2 ตดิ ต่อขอพนั ธกุ์ ลา้ ไมจ้ ากศนู ยเ์ พาะชากลา้ ไม้ 5.3 จดั สภาพแวดลอ้ มบรเิ วณทจ่ี ะปลกู ตน้ ไม้ ตดิ ป้ายโฆษณาใหบ้ ุคคลทวั่ ไปทราบ และขอ ความรว่ มมอื ในการบารงุ รกั ษาตน้ ไม้ 5.4 ใหล้ กู เสอื จดั เตรยี มเครอ่ื งมอื และอาหารไปใหพ้ รอ้ ม 5.5 ลงมอื ปฏบิ ตั กิ าร 5.6 สรปุ และประเมนิ ผล 6. สถานท่ี สวนสาธารณะ วดั หรอื โรงเรยี น 7. ระยะเวลา ระหวา่ งเดอื นพฤษภาคม ถงึ มถิ ุนายน 8. งบประมาณ ใชเ้ งนิ บรจิ าคจานวน 3,000 บาท 9. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ผเู้ สนอโครงการรว่ มกบั สมาชกิ กองลกู เสอื วสิ ามญั 212 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

10. หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ศูนยเ์ พาะชากลา้ ไม้ 11. การตดิ ตาม ประเมนิ ผล สงั เกตพฤตกิ รรมของลกู เสอื 12. ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั จะมตี น้ ไมเ้ พมิ่ ขน้ึ ในสวนสาธารณะ วดั โรงเรยี น และทาใหม้ รี ่มเงาของตน้ ไมส้ าหรบั พกั ผ่อนหยอ่ นใจ แบบประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรม ช่อื วชิ า การจดั ทาโครงการ ชอ่ื กลุม่ ............................................................................................................................................... ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ (4) (3) (2) (1) 1 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ 2 ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ 3 ความถกู ตอ้ งของการจดั ทาโครงการ 4 วธิ กี ารนาเสนอ 5 ความเป็นไปไดข้ องโครงการ รวม ............................................................ (..........................................................) ผกู้ ากบั ลกู เสอื คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 213

เกณฑก์ ารประเมินผล หวั ขอ้ ทป่ี ระเมนิ ระดบั คณุ ภาพ/คะแนน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) สมาชกิ 3 คนขน้ึ 1.การมสี ่วนรว่ ม ทุกคนมสี ่วนรว่ ม สมาชกิ 1 คน สมาชกิ 2 คน ไปไมไ่ ดม้ สี ่วนรว่ ม ปฏบิ ตั ไิ มไ่ ดเ้ ลย ของสมาชกิ ไมไ่ ดม้ สี ว่ นรว่ ม ไมไ่ ดม้ สี ่วนรว่ ม ผดิ 5 ขอ้ ขน้ึ ไป 2. ความคดิ รเิ รม่ิ 1.ใหมไ่ มซ่ ้าใคร ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 ขอ้ สรา้ งสรรค์ 2.มปี ระโยชน์ ใน 3 ขอ้ ใน 3 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 ขอ้ 3.ประยกุ ตเ์ ป็น รปู แบบใหม่ 3. ความถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งทกุ ขนั้ ตอน ผดิ 1 – 2 ขอ้ ผดิ 2 – 4 ขอ้ ของการจดั ทา ตามแนวทางการ โครงการ จดั ทาโครงการ 4. วธิ กี ารนาเสนอ 1.นาเสนอน่าสนใจ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 ขอ้ 2.เสยี งดงั ฟังชดั เจน 3.วาจาสุภาพ 4.ตามกาหนดเวลา 5. ความเป็นไปได้ 1.ปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 3 ขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 ขอ้ ของโครงการ 2.มปี ระโยชน์ 3.มคี วามคุม้ ค่า 4.ยดึ หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง 214 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช. 1) หน่วยที่ 12 การฝึ กอบรมร่วมกนั ทงั้ กอง เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 22 การสารวจชุมชนวิถไี ทยและภมู ิปัญญาท้องถิ่น 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายลกั ษณะสาคญั วธิ กี ารหาขอ้ มลู โดยการสารวจชุมชนวถิ ไี ทย และภมู ิ ปัญญาทอ้ งถนิ่ ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถบอกวธิ รี ่วมปฏบิ ตั งิ านกบั ชุมชนวถิ ไี ทยและภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ได้ 2. เนื้อหา 2.1 ความหมายลกั ษณะสาคญั ของชมุ ชน วถิ ไี ทยและภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ 2.2 แนวทางการบนั ทกึ สารวจชุมชน และขอ้ มลู ทค่ี วรสารวจ 2.3 วธิ หี าขอ้ มลู โดยการสารวจชุมชน วถิ ไี ทย และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื จดั ใหม้ กี ารอภปิ รายกลุ่มกนั อยา่ งสนั้ ๆถงึ ความเกย่ี วขอ้ งทค่ี นวยั หนุ่มสาว อาจเขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั ชุมชนวถิ ไี ทย ปัญญาทอ้ งถนิ่ และความจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งเขา้ ไปบรกิ าร ผลประโยชน์ ผลเสยี ความตอ้ งการและการใหบ้ รกิ ารอนั เป็นวถิ ไี ทยและภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ 2) ลกู เสอื แต่ละหม่หู รอื แต่ละกลุ่ม ศกึ ษาใบความรู้ หมหู่ รอื กลุม่ ละหวั ขอ้ และนาเสนอ (1) ความหมายและลกั ษณะสาคญั ของชมุ ชน วถิ ไี ทย ภมู ปิ ัญญาไทย (2) แนวการบนั ทกึ สารวจชุมชน และขอ้ มลู ทค่ี วรสารวจ (3) แนวการบนั ทกึ เยย่ี มเยอื นและขอ้ มลู ทค่ี วรสอบถาม 3) ลกู เสอื แต่ละหมหู่ รอื กลุ่ม อภปิ รายรว่ มกนั ออกแบบการสารวจ ออกแบบการเยย่ี มเยอื น นาเสนอผลงาน 4) ลกู เสอื แต่ละหมหู่ รอื กลุ่มออกปฏบิ ตั กิ ารสารวจเยย่ี มเยอื นชุมชน วถิ ไี ทย และภมู ปิ ัญญา ทอ้ งถนิ่ รอบ ๆ สถานศกึ ษา ระยะทางไมเ่ กนิ 1 กโิ ลเมตร (20 - 40 นาท)ี 5) ลกู เสอื แต่ละหมหู่ รอื กลุม่ กลบั มานาเสนอวา่ ไดข้ อ้ มลู พบเหน็ อะไรมาบา้ ง หมหู่ รอื กลมุ่ ละ 3 นาที ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 215

6) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ ประโยชน์ของการสารวจชุมชน วถิ ไี ทยและภมู ิ ปัญญา และการนาขอ้ มลู จากการสารวจส่กู ารบรกิ ารอยา่ งไร 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 22 เกม ระวงั หางของท่าน ใหล้ กู เสอื ใชผ้ า้ ผกู คอเหน็บทเ่ี ขม็ ขดั ดา้ นหลงั หรอื ในขอบกางเกง โดยใหช้ ายแลบออกมาเป็นหาง เมอ่ื ลกู เสอื กระจายในสนามดแี ลว้ ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหส้ ญั ญาณ ลกู เสอื ทุกคนตอ้ งพยายามดงึ หางของคน อ่นื โดยระวงั ไมใ่ หล้ กู เสอื คนอ่นื ดงึ หางของตนไปได้ คนทห่ี างหลดุ แลว้ ตอ้ งออกจากการเลน่ ทนั ที ใครดงึ หางคนอ่นื ไดม้ ากทส่ี ุดเป็นผชู้ นะ ผกู้ ากบั ลกู เสอื ตอ้ งพยายามไมใ่ หล้ กู เสอื ต่อสหู้ รอื ถกู ตวั กนั ใบความรู้ การสารวจชุมชน เราในฐานะเป็นลกู เสอื วสิ ามญั มคี วามเป็นหว่ งเกย่ี วกบั การชว่ ยเหลอื บคุ คลวยั หนุ่ม เพ่อื ใหเ้ ขา “ได้ เป็นผชู้ ่วยสรา้ งสรรคส์ งั คมทเ่ี ขาอย่”ู กล่าวคอื ชว่ ยใหเ้ ขาเตบิ โตขน้ึ ในสงั คมของเขา ช่วยใหเ้ ขาเขา้ ใจสงั คม ของเขา ชว่ ยใหเ้ ขาไดท้ าใหส้ งั คมของเขาดขี น้ึ กวา่ ทเ่ี ป็นอยู่ คาว่า “ชมุ ชน” อาจนิยามไดว้ ่า “ คอื สภาพต่างๆ ทอ่ี ยใู่ กลช้ ดิ กบั ทท่ี เ่ี ราอยู่ ทม่ี คี วามสมั พนั ธพ์ เิ ศษ กบั เราและเกย่ี วขอ้ งกบั ความสมั พนั ธก์ บั บคุ คล สถานท่ี และสงิ่ ต่างๆ “สภาพชุมชน” ของแต่ละแห่ง อาจจะไมเ่ หมอื นกนั เรามอิ าจจะชว่ ยคนวยั รนุ่ ใหม้ คี วามเขา้ ใจและรบั ใช้ “สภาพชุมชน”ของเขาได้ นอกจากเราเองมคี วาม เขา้ ใจวา่ “สภาพชุมชน” ของคนหนุ่มนนั้ เป็นอยา่ งไร โครงการทใ่ี หเ้ ขาทาจะช่วยใหเ้ รามโี อกาส มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในเรอ่ื งน้ไี ด้ 216 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

การสารวจชุมชน โครงการน้ีเป็นโครงการกวา้ งใหญ่มาก ถ้ามไิ ดใ้ ห้ทาโครงการน้ีแลว้ ก่อนทจ่ี ะถงึ ตอนอภปิ ราย ปัญหาเก่ียวกับเร่อื งสงั คมในตอนท้ายของการฝึกอบรท ควรจะต้องให้ผู้เข้ารบั การฝึกอบรมทาการ ประเมนิ สงั คมในทอ้ งทข่ี น้ึ ไว้ โดยจะตงั้ คาถามคาตอบดงั ทเ่ี สนอแนะไว้ สาหรบั การสารวจในการประชุม กลุม่ ยอ่ ย (Duzz Group) และผลการสรปุ งานในทป่ี ระชุมใหญ่กไ็ ด้ พงึ สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ ขา้ การฝึกอบรมแต่ละคนทาการสารวจสงั คมดว้ ยตวั เอง โดยการสงั เกต โดยการ อ้างอิงจากเอกสารต่างๆ จากห้องสมุดในท้องถ่ิน โดยการสอบถามนักสังคมสงเคราะห์ ครูใหญ่ เจา้ หน้าท่เี ยาวชน ฯลฯ จงช้แี จงให้ทุกคนเขา้ ใจ และให้ผลติ เอกสารบนั ทกึ การสารวจชุมชนตามแนว ต่อไปน้ี ก. พลเมือง ในชมุ ชนนนั้ มพี ลเมอื งเท่าไหร่ มอี ตั ราสว่ นคนวยั รนุ่ นุ่มสาว วยั กลางคน และคนแก่ประมาณเทา่ ไหร่ มคี รอบครวั ทส่ี มั พนั ธด์ ว้ ยการสมรสกนั มากไหม ญาตมิ ติ ร เป็นแหล่งสาคญั ในการช่วยเหลอื คนแก่และ เดก็ เลก็ เพยี งไร ข. การทางาน คนในชุมชนนัน้ ทางานอะไรกนั การทางานอาชพี น้เี ปลย่ี นแปลงอะไรบา้ งไหม คนมรี ายไดอ้ ยา่ งไร คนวยั หนุ่มมโี อกาสจะไดเ้ ขา้ ทางานอาชพี บา้ งไหม ภรรยาไปทางานนอกบา้ นบา้ งไหม คนเดนิ ไปทางาน จากบา้ นไกลเพยี งไร มกี ารจดั รถรบั สง่ (สว่ นตวั และสาธารณะ) เพยี งพอไหม ค. ชุมชน ไดต้ งั้ อยนู่ านแลว้ หรอื พลเมอื งทไ่ี ดอ้ ยใู่ นชุมชนน้เี กนิ กว่า 20 ปีมาแลว้ มอี ตั ราส่วนเทา่ ไร มผี คู้ น เทา่ ไร และผคู้ นประเภทใดทเ่ี คลอ่ื นยา้ ยออกไปจากชุมชนน้ี สถานทอ่ี ยู่ บา้ นมแี บบรปู และสภาพเป็น อยา่ งไร โรงเรยี นมจี านวนเทา่ ไร และแบบรปู อยา่ งไร ง. ความสมั พนั ธ์ ประเพณกี ารตดิ ต่อกนั ระหว่างเพอ่ื นฝงู และเพ่อื นบา้ นเป็นอยา่ งไร มคี วามจงรกั ภกั ดี ความตงึ เครยี ด หรอื ความขดั แยง้ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจนในสงั คมบา้ งไหม ชนั้ วรรณะ ศาสนาหรอื ผวิ เป็นเหตุแห่งความตงึ เครยี ดหรอื เปล่า อะไรทพ่ี ดู เหมอื นวา่ จะเป็นจดุ สนใจของกจิ กรรมรว่ มกนั ในชุมชนแห่งน้ี ประชาชนทด่ี วู า่ จะเขา้ รว่ มในกจิ กรรมรว่ มเช่นนัน้ มอี ตั ราสว่ นเท่าไรมกี ลุ่มบคุ คลในชุมชนบา้ งไหม เช่นกรรมการสงั คม สงเคราะห์ ฯลฯ มกี ารจดั ใหม้ สี ถานทแ่ี ละสง่ิ อานวยความสะดวกในเรอ่ื งกจิ กรรมยามวา่ งบา้ งไหม เจตคติ ของเจา้ หน้าทท่ี างการศกึ ษา ทางวดั ดวู ่าจะช่วยเหลอื ให้ประโยชน์ต่อสงั คมบา้ งไหม มกี ารบรกิ ารทางการ ประชาสมั พนั ธอ์ ยา่ งไรบา้ ง จ. การตดั สินใจ มกี ารตดั สนิ ใจเก่ยี วกบั ชวี ติ ในสงั คมเรอ่ื งอะไรบา้ ง และตดั สนิ ใจกนั อยา่ งไร มกี ลุ่มอทิ ธพิ ลบา้ งไหม คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 217

โครงการสารวจชุมชน ก่อนการสารวจชุมชนนนั้ ควรจะไดม้ กี ารตดิ ต่อกบั หน้าชุมชนนัน้ ๆ ก่อน เช่น นายอาเภอ ผใู้ หญ่บา้ น กานัน หรอื ผดู้ ูแล ฯลฯ ในระหว่างการสารวจนนั้ ตอ้ งทาตวั สงบเสงย่ี มทส่ี ุด ไม่ทาตวั เป็น “คนวุ่นวาย” ปัญหา คาถาม ทใ่ี ชค้ วรจะใหเ้ หมาะสมกบั เรอ่ื งราว ในเวลาเดยี วกนั ระหวา่ งการสารวจและสอบถาม อย่าจด ทกุ สงิ่ ทุกอย่างทม่ี กี ารชแ้ี จง การทาเช่นน้ไี มอ่ าจใหผ้ ลดไี ด้ จงพยายามจดสง่ิ ทเ่ี ราตอ้ งการใหม้ ากทส่ี ุด เมอ่ื ลาจากไปแลว้ จงึ คอ่ ยบนั ทกึ สง่ิ เหล่านนั้ ไว้ ข้อมูลที่ท่านจะสารวจ 1. จานวนบคุ คลในสงั คมนัน้ ในชุมชนนนั้ มบี ุคคลทร่ี ว่ มอยดู่ ว้ ยจานวนเท่าไร มอี ตั ราสว่ นคนหนุ่ม คนวยั กลางคน คนสงู อายุ ประมาณเท่าไร มคี รอบครวั ทส่ี มั พนั ธด์ ว้ ยการสมรสกนั ไหม มญี าตมิ ติ รอยรู่ ว่ ม ดว้ ยเพยี งไร 2. การทางาน บคุ คลในชุมชนนนั้ มหี น้าทก่ี ารงานอะไร มกี ารเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ มรี ายไดอ้ ยา่ งไร คน อ่นื มโี อกาสเขา้ ทางานในชุมชนนนั้ บา้ งไหม ภรรยาไปทางานทอ่ี ่นื หรอื ไม่ คนเดนิ ทางมาทางานจากบา้ น ไกลเพยี งไร มรี ถรบั ส่งหรอื ไม่ 3. ชุมชน ชุมชนนนั้ ตงั้ มานานเพยี งไหน ผคู้ นทม่ี าอย่รู ว่ มดว้ ยนนั้ เป็นบุคคลประเภทใดเคลอ่ื นยา้ ย มารว่ มอยดู่ ว้ ย สถานทอ่ี ยอู่ าศยั มสี ภาพอย่างไร 4. ความสมั พนั ธ์ การตดิ ต่อและคบหาสมาคมระหว่างเพ่อื นบา้ นและบุคคลภายในชุมชนนนั้ เป็น อยา่ งไร มคี วามจงรกั ภกั ดี ความตงึ เครยี ด ความขดั แยง้ ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั เจน ในสงั คมนนั้ บา้ งไหม ชนั้ วรรณะ ศาสนา เป็นเหตุแหง่ ความตงึ เครยี ดหรอื เปล่า อะไรเป็นจดุ สนใจทท่ี าใหบ้ ุคคลเหล่านนั้ ทา กจิ กรรมรว่ มกนั มปี ระชาชนภายนอกเขา้ รว่ มหรอื ไม่ มกี ารจดั สถานทแ่ี ละสงิ่ อานวยความสะดวกในเรอ่ื ง กจิ กรรมยามว่างหรอื ไม่ มกี ารประชาสมั พนั ธอ์ ยา่ งไรบา้ ง 5. การตดั สินใจ มกี ารตดั สนิ ใจของบุคคลทร่ี ว่ มชุมชนนนั้ ในเรอ่ื งอะไรบา้ งและตดั สนิ ใจกนั อยา่ งไรมี กลมุ่ อทิ ธพิ ลบา้ งไหม 6. ประโยชน์ท่ีลกู เสือวิสามญั ได้รบั เมอ่ื ท่านไดส้ ารวจแลว้ คดิ ทบทวนแลว้ ท่านเหน็ วา่ มอี ะไรทจ่ี ะ เป็นบทเรยี นใหก้ บั ลกู เสอื วสิ ามญั ไดบ้ า้ ง 218 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

การเย่ียมเยียนชุมชน ควรส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมไปเยย่ี มเยยี น สานทต่ี ่างๆ ทม่ี คี นวยั หนุ่มอยู่ อาจจะเป็น สโมสรเยาวชนหรอื หน่วยเยาวชนอ่นื ๆ สถานทเ่ี ลน่ โบลงิ่ ไนตค์ ลบั รา้ นกาแฟ รา้ นขายเหลา้ โรงเรยี น และวทิ ยาลยั โปรดชแ้ี จงใหท้ กุ คนเขา้ ใจ และบนั ทกึ การเยย่ี มเยยี นลงไวต้ ามแนวต่อไปน้ี ก่อนการไปเยย่ี มเยยี น ควรจะไดม้ กี ารตดิ ต่อกบั บุคคลทจ่ี ะไปเยย่ี มเยยี นก่อน เช่น ผกู้ ากบั ลกู เสอื ผดู้ แู ลสถานท่ี ครใู หญ่ ฯลฯ ในระหวา่ งการเยย่ี มเยยี น ตอ้ งทาตวั ใหส้ งบเสงย่ี มทส่ี ุด ไมท่ าตวั เป็น “คนวุ่นวาย” ปัญหา คาถามทจ่ี ะใชค้ วรใหเ้ หมาะสมกบั เรอ่ื งราว ในเวลาเดยี วกนั ควรมองดปู ระเดน็ สาคญั ระหวา่ งการเยย่ี มเยยี น ไมค่ วนจดั “แบบนาเทย่ี ว” โดยมมี คั คเุ ทศก์ เป็นผชู้ แ้ี จงตลอดเวลาเป็นอนั ขาด เวลาเดยี วกนั อยา่ จดทุกสง่ิ ทุกอยา่ งทม่ี กี ารชแ้ี จง การทาเชน่ น้อี าจไมไ่ ดผ้ ลดกี ็ได้ จงพยายามจดจาสงิ่ ท่ี สาคญั ทเ่ี ราตอ้ งการใหม้ ากทส่ี ดุ เมอ่ื จากลาไปแลว้ จงึ คอ่ ยลงมอื บนั ทกึ สงิ่ เหลา่ นนั้ เขา้ ไว้ ต่อไปน้ี เป็นตวั อยา่ งคาถามทค่ี วรจะใช้ แต่วา่ ตอ้ งปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงตามความเหมาะสม เชน่ สมมตวิ ่าท่านจะไปเยย่ี มเยยี นโรงเรยี น ท่านตอ้ งการจะทราบเร่อื งวธิ กี ารสอน การสอนเป็นคณะ ผลการ เรยี น สง่ิ แวดลอ้ ม สภาพโรงเรยี น อทิ ธพิ ลการสอบไล่ การทน่ี กั เรยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมของโรงเรยี น ฯลฯ 1) โรงเรยี นน้เี ป็นโรงเรยี นประเภทใด โรงเรยี นราษฎร์ หรอื รฐั บาล อาชวี ศกึ ษา หรอื สามญั ศกึ ษา 2) อายขุ องนกั เรยี นมตี งั้ แต่เท่าไรถงึ เทา่ ไร มจี านวนชายกค่ี นหญงิ กค่ี น ขณะทม่ี าเยย่ี มมี นกั ศกึ ษามาเรยี นเท่าไร 3) คา่ เล่าเรยี นเกบ็ อย่างไร นกั เรยี นมกี ารประชุมกนั อยา่ งไร มที กุ สปั ดาหห์ รอื อยา่ งไร ประชุมท่ี ไหน ประชุมพรอ้ มกนั ทงั้ หมดหรอื อยา่ งไร 4) ในขณะทม่ี าเยย่ี มน้ีมกี จิ กรรมพเิ ศษทส่ี มควรใหช้ มไดบ้ า้ งไหม 5) โรงเรยี นมรี ะบบการปกครองอยา่ งไร มคี ณะกรรมการกลาง กรรมการนกั เรยี นหรอื ไม่ 6) โรงเรยี นมกี ารตดิ ต่อเกย่ี วขอ้ งกบั ชุมชนอยา่ งไรบา้ ง ทต่ี ดิ ต่อกบั ชมุ ชนนัน้ โรงเรยี นมคี วาม มงุ่ ประสงคอ์ ะไร และไดร้ บั ผลอยา่ งไรบา้ ง 7) ตวั ท่านเองมคี วามรสู้ กึ วา่ บรรยากาศของโรงเรยี นเป็นอยา่ งไร ในระหว่างทา่ นไปเยย่ี ม 8) เมอ่ื ไดพ้ จิ ารณา ไดค้ ดิ ทบทวนดจู ากการไปเยย่ี มเยยี นครงั้ น้แี ลว้ ท่านเหน็ วา่ มอี ะไรทจ่ี ะเป็น บทเรยี นใหล้ ุกเสอื วสิ ามญั ไดบ้ า้ ง เม่ือเลือกสถานท่ีไปเย่ียมเยียนนั้น ควรจะเลือกสถานท่ีท่ีต่างกันหลายๆแห่ง โรงเรียน สถานศกึ ษา หรอื สถานฝึกวชิ าชพี เป็นแหล่งทจ่ี ะเลอื กไปได้ แต่ว่าอาจจะมคี วามยุ่งยากเพราะสถานท่ี เหล่าน้ี ปฏบิ ตั หิ น้าท่ใี นระหว่างชวั่ โมงการทางาน มสี ถานเยาวชนหลายแห่งท่พี อเลอื กไปได้ บางแห่ง เป็นของราชการ บางแห่งเป็นเอกชน นอกจากนัน้ ยงั มหี น่วยงานการกุศลซ่งึ เป็นท่นี ่าสนใจ และลูกเสอื วสิ ามญั อาจเขา้ ไปให้บรกิ ารได้ นอกจากนั้นสถานเรงิ รมย์บางแห่ง เช่น โบลง่ิ ไนต์คลบั ค้อฟฟีช้อฟ รา้ นสุรา ซง่ึ ขายสาหรบั คนหนุ่มกเ็ ป็นแหล่งน่าสนใจทจ่ี ะไปเยย่ี มเยยี น ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 219

สาหรบั บุคคลท่ไี ปเยย่ี มเยยี นนัน้ กจ็ ะต้องระมดั ระวงั ให้ดที ส่ี ุด เพ่อื จะมใิ ห้เจา้ ของหรอื ผูจ้ ดั การ สถานทน่ี นั้ เขา้ ใจผดิ ได้ การไมร่ จู้ กั กาลเทศะ หรอื วางตวั ไม่เป็นอาจจะทาใหเ้ กดิ เรอ่ื งไมง่ ามขน้ึ ได้ การไป เย่ยี มเยยี นสถานท่อี ย่างน้ี ควรเป็นการสงั เกตดูเท่านัน้ วธิ ที ่ดี ีควรแบ่งการเย่ยี มเยยี นสถานท่อี ย่างน้ี ควรเป็นเพยี งการสงั เกตดูเท่านัน้ วธิ ที ด่ี คี วรแบ่งการเยย่ี มเป็นคู่ ๆ ถ้าท่านรสู้ กึ ว่าท่านยงั ต้องการอะไร เพม่ิ เตมิ อกี หน่วยเยาวชนในตอ้ งถน่ิ อาจใหล้ ะเอยี ดเพมิ่ เตมิ กบั ทา่ นได้ โครงการเย่ียมเยียน ก่อนการเยย่ี มเยยี น ควรมกี ารตดิ ต่อกบั บุคคลทจ่ี ะไปเยย่ี มเยยี นก่อน เชน่ ผกู้ ากบั ลกู เสอื ผดู้ ูแล สถานท่ี ครใู หญ่ ฯลฯ ในระหว่างการเยย่ี มเยยี น ต้องทาตวั ใหส้ งบเสงย่ี มท่ีสุด ไม่ทาตวั เป็น“คนวุ่นวาย” ปัญหา คาถาม ท่จี ะใชค้ วรเหมาะสมกบั เร่อื งราว ในเวลาเดยี วกนั ควรมองดูประเดน็ สาคญั ระหว่างการ เยย่ี มเยยี น อยา่ จดทุกสง่ิ ทุกอยา่ งทม่ี กี ารชแ้ี จง การทาเช่นน้ีอาจจะไมเ่ กดิ ผลดกี ไ็ ด้ จงพยายามจดจาสง่ิ ท่ี เราตอ้ งการใหม้ ากทส่ี ุด เมอ่ื ลาจากไปแลว้ จงึ ค่อยลงมอื บนั ทกึ สงิ่ เหลา่ นนั้ ขอ้ มลู ทท่ี ่านควรจะถาม 1. สถานทน่ี ้เี ป็นสถานทป่ี ระเภทใด ของรฐั หรอื เอกชน ระบบการปกครองเป็นอยา่ งไร 2. มสี มาชกิ จานวนเท่าไร ชายเท่าไร หญงิ เท่าไร ขณะทม่ี าเยย่ี มเยยี นน้ีมสี มาชกิ ชายและหญงิ รวมทงั้ สน้ิ เท่าไร 3. การศกึ ษาของสมาชกิ มมี ากน้อยแค่ไหน ผดู้ แู ล หรอื ผปู้ กครองชอ่ื อะไร ยศ ตาแหน่งใด 4. ในขณะทม่ี าเยย่ี มเยยี นน้มี สี ง่ิ ใดน่าชม และน่าศกึ ษาหาความรไู้ ดบ้ า้ ง 5. มกี ารปกครองอย่างไร มคี ณะกรรมการบา้ งไหม 6. มกี ารตดิ ต่อเกย่ี วขอ้ งกบั ชมุ ชนนนั้ อยา่ งไร มวี ตั ถุประสงคอ์ ะไร และไดผ้ ลอยา่ งไรบา้ ง 7. ตวั ทา่ นเองมคี วามรสู้ กึ ต่อบรรยากาศในทน่ี นั้ อย่างไร 8. เมอ่ื ไดพ้ จิ ารณา ไดค้ ดิ ทบทวนดจู ากการไปเยย่ี มเยยี นครงั้ น้แี ลว้ ท่านเหน็ วา่ มอี ะไรทจ่ี ะเป็น บทเรยี นใหล้ กู เสอื วสิ ามญั ไดบ้ า้ ง ฯลฯ บทสรปุ การสารวจชุมชน เม่อื เป็นความจาเป็นท่คี นวยั หนุ่มจะต้องเข้าไปเก่ียวข้องกับประชาชน ในการบรกิ ารชุมชน โดยตรงแลว้ ผู้ใหบ้ รกิ ารวยั หนุ่มมปี ัจจยั ทพ่ี งึ พจิ ารณาอย่สู องประการ คอื ความตอ้ งการเขา้ ไปเก่ยี วขอ้ ง กบั คนวยั หนุ่มดว้ ยกนั ในเร่อื งทเ่ี ป็นความเลวอนั เหลอื ทจ่ี ะกล่าว ความรงั เกยี จ ความไมพ่ อใจซง่ึ กนั และ กนั และความเขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั ผอู้ ่นื ทวั่ ไปจะไดป้ ระโยชนจาการบรกิ ารและทส่ี าคญั ทส่ี ุดก็ คอื ผทู้ จ่ี ะไป ใหบ้ รกิ ารต้องไมไ่ ปทาใหเ้ ขาเหล่านนั้ เสยี ใจ มคี วามรสู้ กึ เหมอื นถกู ตวั แสวงผลประโยชน์ หรอื ผดิ หวงั ทาง จติ ใจมาก ความรบั ผิดชอบทัง้ สองอย่างน้ีไม่ใช่เป็นเร่อื งท่ีจะกระทากันได้อย่างง่ายๆ ในประการแรก ให้บรกิ ารชุมชนแม้ว่าจะเป็นเร่อื งท่ีทันสมยั และท้าทายมาก และใคร ๆ อยากกระทา แต่เป็นเร่อื งท่ี 220 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

เปรยี บเสมอื นการปีนภเู ขาสูง กาลงั ของคณะผใู้ หบ้ รกิ ารต้องใหไ้ ดส้ ดั ส่วนกบั ความยากลาพากของภเู ขา นนั้ ส่วนผกู้ ากบั ลกู เสอื จะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจคุน้ เคยกบั ปัญหาทงั้ สองทก่ี ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ ก่อนทจ่ี ะลงมอื ปฏิบัติธุรกิจนัน้ ปัญหาความยุ่งยากนัน้ มิได้ส้ินสุดลงด้วยการให้บรกิ ารชุมชนเท่านัน้ โดยปกติการ ใหบ้ รกิ ารชุมชนจะนาคนวยั รนุ่ ไปพบกบั สภาวการณ์ และบุคคลทเ่ี ขามอิ าจพบไดใ้ นโอกาสอ่นื คนวยั หนุ่ม ตอ้ งสนองตอบต่อสงิ่ เหลา่ น้ตี ามสมควร ถา้ เขาจะโตต้ อบโดยกลา่ ววา่ “ไมม่ ใี ครทค่ี วรจะถูกปลอ่ ยใหม้ ชี วี ติ อย่อู ย่างน้ี”นัน่ หมายความว่าเขาต้องการความช่วยเหลอื เพ่อื ให้เขาได้ทางานสาเรจ็ เขาจะมคี วามแค้น เคอื งอยา่ งนนั้ กไ็ มถ่ กู แต่ว่าความโกรธนนั้ เป็นรากฐานทจ่ี ะนาไปส่กู ารก่อใหเ้ กดิ ผลดใี นอนาคต หน้าทข่ี องคนวยั หนุ่มทท่ี าการบรกิ ารชุมชน อย่ทู ก่ี ารเขา้ ไปสมั ผสั กบั คนวยั หนุ่มดว้ ยกนั และการ สรา้ งสรรค์ ความเช่อื ถอื ระหว่างกนั โดยการฟังและการตอบชแ้ี จง งานส่วนหน่ึงของวยั รนุ่ คอื การเสนอ ประสบการณ์ของคนวยั นุ่มให้แก่วยั หนุ่มด้วยกัน และช้ีแจงให้ลู่ทางอันกว้างขวางท่ีพึงจะเลือกได้ ขณะเดยี วกนั มคี วามสาคญั มากในการท่จี ะทาใหเ้ ขาเขา้ ใจในสง่ิ ท่เี ขาได้ประสบอยู่ เราอยากจะถามว่า “ท่านคดิ เร่อื งนนั้ ว่าอยา่ งไร” เร่อื งภาพยนตร์ เรอ่ื งดนตรที ก่ี าลงั นิยม หรอื เรอ่ื งพบปะกนั เราอยากจะถาม วา่ “ท่านคดิ ว่าเรอ่ื งนนั้ จะสาเรจ็ หรอื ไมอ่ ยา่ งไร”(เรอ่ื งปะทะกบั บุคคล หรอื เรอ่ื งการบรกิ ารชุมชน) และเรา ตอ้ งตงั้ ใจฟังใหด้ ี พยายามเขา้ ใจและกล่าวตอบดว้ ยความเหน็ อกเหน็ ใจ จากงานส่วนตวั ของเรา งานทไ่ี ม่ เป็นทางการกบั คนหนุ่ม การเชญิ ชวน ยวั่ ยุ ใหเ้ ขาพดู กบั เราและกบั เพอ่ื นของเขาเท่านนั้ ทจ่ี ะทาใหค้ วาม เขา้ ใจเรอ่ื งการบรกิ ารชมุ ชน และการปฏบิ ตั งิ านบรกิ ารชมุ ชนเกดิ ขน้ึ ได้ เรอ่ื งสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ เทพธิดากบั ชาวประมง หนุ่มชาวประมงคนหน่ึง อาศยั อยู่กบั แม่ของเขา ทงั้ สองคนแม่ลูกประพฤติตนเป็นคนดี มใี จ เมตตาปราณตี ่อเพอ่ื นบา้ นและคนทวั่ ไปตลอดมา วนั หน่ึง หนุ่มชาวประมงผนู้ ้ีออกไปตกเบด็ หาปลาแต่วนั น้ีไมไ่ ดป้ ลาสกั ตวั หน่ึง ก่อนจะกลบั บา้ น กม็ หี อยตวั หน่ึงมาตดิ เบด็ เขากเ็ ลยนาหอยตวั นนั้ ใส่เรอื เอากลบั บา้ นดว้ ย ในขณะทเ่ี ดนิ ทางกลบั บา้ นนัน้ หอยตวั น้ีมขี นาดใหญ่ขน้ึ ทุกที ๆ ในท่สี ุดก็มหี ญิงสาวสวยคนหน่ึงออกมาจากหอย ชายหนุ่มก็พาหญิง สาวนนั้ กลบั บา้ น แลว้ เล่าเรอ่ื งน้ใี หแ้ มฟ่ ัง แมข่ องเขากย็ นิ ดใี หห้ ญงิ สาวสวยผนู้ ้อี าศยั อยใู่ นบา้ น มชี าวบา้ น มากมายมาขอดูหญงิ สาวสวย พรอ้ มทงั้ มอบเสน้ ไหมอยา่ งดใี ห้ หญงิ สาวกเ็ อาเส้นไหมนัน้ มาทอเป็นผ้า ไหมสวยงามมาก แลว้ จงึ ให้ชายหนุ่มนาไปขาย แต่เน่ืองจากราคาแพงมาก จงึ ไม่มใี ครซอ้ื ต่อมาได้พบ ชายชราคนหน่งึ มลี กั ษณะเป็นผดู้ ี ไดร้ บั ซอ้ื ผา้ ไหมน้ไี วโ้ ดยไมเ่ กย่ี งราคา เม่อื ชายหนุ่มกลบั ถงึ บา้ นพรอ้ มดว้ ยเงนิ ทข่ี ายผา้ ได้ หญงิ สาวกม็ อบเงนิ ทงั้ หมดใหช้ ายหนุ่มและ แมข่ องเขาไวใ้ ชจ้ า่ ย ก่อนทห่ี ญงิ สาวจะจากไปกก็ ล่าวกบั สองคนลกู วา่ “เทพเจา้ ไดส้ งั่ ใหข้ า้ มาเพ่อื นาความสขุ และโชคลาภมาใหท้ า่ นทงั้ สอง เพราะท่านทงั้ สองเป็นคนดี มใี จโอบออ้ มอารเี สมอมา” เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า คนดนี นั้ แมจ้ ะไดร้ บั ความยากลาบาก กม็ กั จะมคี นช่วยเหลอื ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 221

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยที่ 13 ประเมินผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 23 การประเมินผล 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 เพอ่ื ใหล้ กู เสอื เขา้ ใจการประเมนิ ผลเพอ่ื การตดั สนิ ผลการผา่ น ไมผ่ ่านกจิ กรรม 1.2 เพอ่ื ใหล้ กู เสอื สามารถรบั การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ ทล่ี กู เสอื ไดร้ บั การพฒั นา 1.3 เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มรบั การประเมนิ ตามวธิ กี ารของผกู้ ากบั ลกู เสอื กองลกู เสอื 2. เนื้อหา 2.1 เกณฑก์ ารตดั สนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นตามหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 Flow Chart การประเมนิ เพอ่ื ตดั สนิ ผลการเลอ่ื นชนั้ ของลกู เสอื และจบการศกึ ษา 3.2 การประเมนิ ทกั ษะชวี ติ ของลูกเสอื รายบุคคลหรอื รายหมลู่ กู เสอื 3.3 ใบความรู้ 4. กิจกรรม 4.1 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ ายหลกั เกณฑ์ วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามทห่ี ลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 กาหนดเพ่อื ตดั สนิ การจบการศกึ ษา 4.2 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ ายถงึ พฤตกิ รรมของลกู เสอื ทไ่ี ดร้ บั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ผา่ นกจิ กรรม ลกู เสอื 4.3 ลกู เสอื ประเมนิ ความพรอ้ มของตนเองเพอ่ื รบั การประเมนิ และวางแผนพฒั นาตนเองในส่วนท่ี ไมม่ นั่ ใจ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื กาหนดขอ้ ตกลงรว่ มกนั ถงึ ชว่ งเวลาการประเมนิ 4.5 ผกู้ ากบั ลกู เสอื นดั หมายและดาเนินการประเมนิ 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตจากผลการประเมนิ ตนเองของลกู เสอื 5.2 สงั เกตความมนั่ ใจและการยนื ยนั ความพรอ้ มของลกู เสอื 222 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 23 1. การประเมินผลตามเกณฑข์ องหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พ.ศ. 2551 Flow Chartกระบวนการประเมินผลลกู เสือ ลกู เสอื เรยี นรจู้ ากกจิ กรรม เกณฑก์ ารประเมนิ ลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ 1. เวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ผกู้ ากบั ประเมนิ ผลเรยี นของ 3. ผลงาน / ชน้ิ งาน ลกู เสอื ทร่ี ว่ มกจิ กรรม 4. พฤตกิ รรม/คุณลกั ษณะ ของลกู เสอื ผลการประเมนิ ผา่ น ไมผ่ ่าน - ซ่อมเสรมิ - พฒั นาซา้ ตดั สนิ ผลการเรยี นรผู้ ่านเกณฑ์ ผ่าน รบั เครอ่ื งหมายชนั้ ลกู เสอื ตามประเภทลกู เสอื ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 223

แบบประเมินตนเองของลูกเสือ ชอ่ื ..........................................................ประเภทลกู เสอื ...........................ชนั้ ................................ เกณฑท์ ่ี การประเมินตนเอง ข้อคิดเหน็ การพฒั นา ท่ี รายการท่ีรบั การประเมิน สถานศึกษา ครบ/ ไม่ครบ/ กาหนด ผา่ น ไม่ผา่ น 1 1. เขา้ รว่ มกจิ กรรมลกู เสอื ไมน่ ้อยกว่า 1.1 รว่ มกจิ กรรมการฝึกอบรม 24ชวั่ โมง/ ปี 1.2 รว่ มกจิ กรรมวนั สาคญั - วนั สถาปนาลกู เสอื 1 ครงั้ / ปี - วนั ถวายราชสดุดี 1 ครงั้ / ปี - วนั พ่อแห่งชาติ 1 ครงั้ / ปี - วนั แมแ่ ห่งชาติ 1 ครงั้ / ปี - วนั ตา้ นยาเสพตดิ 1 ครงั้ / ปี - กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์อ่นื ๆ 8ครงั้ / ปี - กจิ กรรมวฒั นธรรม/ ประเพณี 4ครงั้ / ปี 1.3 เดนิ ทางไกล/ อยคู่ า่ ยพกั แรม 1 ครงั้ / ปี 2 2. มผี ลงาน/ ชน้ิ งานจากการเรยี นรู้ กจิ กรรมลกู เสอื ไมน่ ้อยกวา่ 2.1 ผลงานการบรกิ าร 6รายการ/ ปี 2.2 ชน้ิ งาน/ งานทค่ี ดิ สรา้ งสรรค์ 2รายการ/ ปี 2.3 อ่นื ๆ เชน่ รายงานฯ 2รายการ/ ปี 3 3. มคี วามพรอ้ มเขา้ รบั การทดสอบเพ่อื เลอ่ื นชนั้ และรบั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ ลกู เสอื วสิ ามญั 3.1............................................. 3.2............................................. 3.3............................................. 3.4............................................. 3.5............................................. ผา่ นและพรอ้ ม สรปุ  ฉนั มนั่ ใจว่าผา่ น  ฉนั มคี วามพรอ้ มใหป้ ระเมนิ  ฉนั ยงั ไมพ่ รอ้ ม 224 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

สรปุ ผลการประเมินตนเอง 1. ด้านทกั ษะลูกเสือ ☺ มนั่ ใจมากว่าจะ พรอ้ มแลว้ ไมแ่ น่ใจ ตอ้ งขอความ งนุ งง ผา่ นการประเมนิ ช่วยเหลอื จาก ไมเ่ ขา้ ใจ ผกู้ ากบั ลกู เสอื  มนั่ ใจมาก พรอ้ มรบั การประเมนิ เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ  พรอ้ มรบั การประเมนิ ไมแ่ น่ใจ  ยงั ตอ้ งพฒั นา/ ซ่อมเสรมิ บางเรอ่ื ง ตอ้ งการความช่วยเหลอื จากผกู้ ากบั ลกู เสอื ลงช่อื .......................................................ผปู้ ระเมนิ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 225

แบบประเมินพฤติกรรมทกั ษะชีวิตของลกู เสือสาหรบั ผกู้ ากบั ลูกเสือ คาชี้แจงใหผ้ ตู้ อบทาแบบประเมนิ ทุกขอ้ โดยแต่ละขอ้ ใหท้ าเครอ่ื งหมาย/ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ความ เป็นจรงิ 2.1พฤติกรรมลูกเสือสารองท่ีคาดหวงั รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่ 1. ลกู เสอื มที กั ษะในการสงั เกตและจดจา 2. ลกู เสอื สามารถพง่ึ ตนเองและดแู ลตนเองได้ 3. ลกู เสอื สารองปฏบิ ตั กิ จิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม และอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ 4. ลกู เสอื ไมม่ ปี ัญหาทนั ตสุขภาพและไมเ่ จบ็ ป่วยดว้ ยโรคตดิ ต่อ ตามฤดกู าล 5. ลกู เสอื รจู้ กั รกั ษาสุขภาพและปฏเิ สธสงิ่ เสพตดิ 6. ลกู เสอื รจู้ กั แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าหรอื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื / แจง้ เหตุเมอ่ื ประสบเหตุ วกิ ฤต 7. ลกู เสอื มสี ่วนสงู และน้าหนกั ตามเกณฑม์ าตรฐาน 8. ลกู เสอื มที กั ษะในการส่อื สารไดถ้ ูกกาลเทศะและไมก่ า้ วรา้ วรุนแรง สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺   ฉนั มที กั ษะชวี ติ ฉนั จะมที กั ษะชวี ติ ฉนั ตอ้ งพฒั นาตนเองอกี มาก ถา้ แกไ้ ขปรบั ปรงุ พฤตกิ รรม 226 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

2.2พฤติกรรมลูกเสือสามญั ที่คาดหวงั ใช่ ไมใ่ ช่  รายการประเมิน 1. ลกู เสอื มที กั ษะในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลางแจง้ 2. ลกู เสอื รว่ มกจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ 3. ลกู เสอื ชว่ ยตนเองและครอบครวั ได้ 4. ลกู เสอื ไมม่ ปี ัญหาทนั ตสุขภาพ ไมด่ ม่ื น้าอดั ลมขนมกรบุ กรอบ ไมร่ บั ประทานขนมหวานเป็นประจา 5. ลกู เสอื รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์และไมต่ ดิ เกม 6. ลกู เสอื ประพฤตติ นเหมาะสมกบั เพศและวยั มที กั ษะการสรา้ ง สมั พนั ธภาพและการส่อื สารไมก่ า้ วรา้ วรุนแรง 7. ลกู เสอื แสดงออกถงึ ความซ่อื สตั ย์ รจู้ กั แกป้ ัญหา หรอื ใหค้ วาม ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื 8. ลกู เสอื มนี ้าหนกั และส่วนสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ มที กั ษะชวี ติ จะมที กั ษะชวี ติ ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ น่ใจชวี ติ พรอ้ มเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี มาก (มปี ัญหาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเน่ยี ) เรอื่ งท่ีฉันจะต้องปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 227

2.3พฤติกรรมลูกเสือสามญั รนุ่ ใหญ่ที่คาดหวงั 12  รายการประเมิน 1. ลกู เสอื พฒั นาตนเองใหม้ ที กั ษะในการทากจิ กรรมลกู เสอื ตามความสนใจและไดร้ บั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ 2. ลกู เสอื ทากจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ต่อครอบครวั สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม 3. ลกู เสอื ใชเ้ วลาวา่ งทเ่ี ป็นประโยชน์ทากจิ กรรม อนุรกั ษส์ ่งเสรมิ จารตี ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมไทย 4. ลกู เสอื รเู้ ท่าทนั สอ่ื โฆษณาและรจู้ กั ใชป้ ระโยชน์จาก Internet 5. ลกู เสอื เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมหรอื ปรบั ปรงุ และพฒั นาตนเองได้ เหมาะสมกบั เพศวยั ไมก่ า้ วรา้ วรนุ แรง 6. ลกู เสอื ทากจิ กรรมหรอื โครงการประหยดั พลงั งาน/ทรพั ยากร 7. ลกู เสอื มกี ารออม หรอื ทาบญั ชรี ายรบั รายจา่ ยอยา่ งต่อเน่อื ง 8. ลกู เสอื ไมเ่ คยประสบอุบตั เิ หตุจากการใชย้ านพาหนะ สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ มที กั ษะชวี ติ จะมที กั ษะชวี ติ ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ น่ใจชวี ติ พรอ้ มเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี มาก (มปี ัญหาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเน่ยี ) เรื่องท่ีฉันจะต้องปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. 2.4 ฤติกรรมลกู เสือวิสามญั ที่คาดหวงั 228 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

รายการประเมิน ใช่ ไมใ่ ช่ 1. ลกู เสอื ทากจิ กรรม/โครงการ ตามความถนดั และความสนใจ  2. ลกู เสอื บรกิ ารผอู้ ่นื ช่วยเหลอื ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ 3. ลกู เสอื รจู้ กั วธิ ปี ้องกนั ความเสย่ี งทางเพศ 4. ลกู เสอื ใชเ้ วลากบั สอ่ื ไอทไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม 5. ลกู เสอื ตระหนกั ถงึ พษิ ภยั และหลกี เลย่ี งจากสงิ่ ยาเสพตดิ 6. ลกู เสอื มคี ่านิยมสขุ ภาพ ดา้ นอาหาร และความงามทเ่ี หมาะสม 7. ลกู เสอื ทางานหารายไดร้ ะหว่างเรยี น 8. ลกู เสอื ไมม่ พี ฤตกิ รรมกา้ วรา้ วและไมก่ ่อเหตุรนุ แรง สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ มที กั ษะชวี ติ จะมที กั ษะชวี ติ ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ น่ใจชวี ติ พรอ้ มเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี มาก (มปี ัญหาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเน่ยี ) เรื่องที่ฉันจะต้องปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. ใบความรู้ 229 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

การประเมินกิจกรรมลกู เสือ* 1. การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามแนวทางหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน 2551 หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน กาหนดให้กิจกรรมลูกเสอื เป็นกิจกรรมท่มี ุ่งปลูกฝัง ระเบยี บวนิ ัยและกฎเกณฑเ์ พ่อื การอย่รู ว่ มกนั รจู้ กั การเสยี สละ บาเพญ็ ประโยชน์แก่สงั คมและดาเนิน วถิ ชี วี ติ ในระบอบประชาธปิ ไตย ตลอดจนมที กั ษะชวี ติ เป็นภมู คิ ุม้ กนั ปัญหาสงั คมตามช่วงวยั ของลกู เสอื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื ยงั ตอ้ งเป็นไปตามขอ้ บงั คบั ของสานักงานลูกเสอื แห่งชาตแิ ละสอดคล้อง กบั หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานอกี ดว้ ย แนวทางการประเมนิ ผลกจิ กรรมลกู เสอื กจิ กรรมลกู เสอื เป็นกจิ กรรมนกั เรยี นทล่ี กู เสอื ทุกคนต้องเขา้ ร่วมกจิ กรรมลกู เสอื 40 ชวั่ โมงต่อปี การศกึ ษาในระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา การประเมนิ การจดั กจิ กรรมลูกเสอื ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานมปี ระเดน็ /สง่ิ ท่ี ตอ้ งประเมนิ ดงั น้ี 1. เวลาในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผเู้ รยี นตอ้ งมเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนด 2. การเรยี นรผู้ ่านกจิ กรรมหรอื การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมอยา่ งต่อเน่อื ง มุ่งเน้นการพฒั นาศกั ยภาพของ ตนและการทางานกลุม่ 3. ผลงาน / ช้นิ งาน / พฤติกรรม / คุณลกั ษณะของผู้เรยี น ท่ีปรากฏจากการเรยี นรูห้ รอื การ เปลย่ี นแปลงตนเอง *การประเมนิ ผลอาจเขยี นแยกการประเมนิ ผลแต่ละกิจกรรม หรอื เขยี นรวมในภาพรวมของกิจกรรม ลกู เสอื กไ็ ด้ เอกสารอา้ งองิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั . 2551 230 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

แนวทางการประเมินผลการเรียนรกู้ ิจกรรมลูกเสือ แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื จดั กจิ กรรมลกู เสอื เกณฑก์ ารประเมนิ ตามค่มู อื การจดั กจิ การลกู เสอื ท่ี 1. เวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ 3. ผลงาน / ชน้ิ งาน 4. พฤตกิ รรม/คณุ ลกั ษณะ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ของลกู เสอื ผลการประเมนิ ไมผ่ ่าน ซ่อมเสรมิ ผ่าน ผา่ น สรปุ ผลการประเมนิ / ตดั สนิ ผลการเรยี นรู้ รายงาน / สารสนเทศ จดั พธิ ปี ระดบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ตามประเภทลกู เสอื การประเมินกิจกรรมลกู เสือ มี 2 แนวทาง คือ 1. การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื รายกจิ กรรมมแี นวปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1.1 ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของลูกเสือให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา กาหนด 1.2 ประเมินกิจกรรมการเรียนรู้จากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน / คุณลกั ษณะของผู้เรยี นตามเกณฑท์ ่สี ถานศกึ ษากาหนดดว้ ยวธิ กี ารท่หี ลากหลาย เน้นการมสี ่วนรว่ มใน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 231

1.3 ลูกเสอื ท่มี เี วลาการเข้าร่วมกิจกรรม มกี ารปฏบิ ตั ิกิจกรรมและผลงาน / ช้นิ งาน / คุณลกั ษณะตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนดเป็นผผู้ ่านการประเมนิ รายกจิ กรรมและนาผลการประเมนิ ไป บนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรยี น 1.4 ลูกเสือท่มี ผี ลการประเมนิ ไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบตั ิ กจิ กรรมและผลงาน / ช้นิ งาน / คุณลกั ษณะตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด ผูก้ ากบั ลูกเสอื ต้องดาเนินการ ซ่อมเสรมิ และประเมนิ จนผ่าน ทงั้ น้คี วรดาเนินการใหเ้ สรจ็ สน้ิ ในปีการศกึ ษานนั้ ๆ ยกเวน้ มเี หตุสุดวสิ ยั ให้ อยใู่ นดุลพนิ จิ ของสถานศกึ ษา 2. การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื เพอ่ื การตดั สนิ ใจ การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื เพ่อื ตดั สนิ ควรได้รบั เครอ่ื งหมายและเล่อื นระดบั ทางลูกเสอื และจบการศกึ ษาเป็นการประเมนิ การผ่านกจิ กรรมลูกเสอื เป็นรายปี / รายภาค / เพ่อื สรุปผลการผ่านใน แต่ละกจิ กรรม สรุปผลรวมเพ่อื สรุปผลการผ่านในแต่ละกจิ กรรม สรปุ ผลรวมเพ่อื เล่อื นชนั้ ระดบั ลูกเสอื และประมวลผลรวมในปีสุดทา้ ยเพ่อื การจบแต่ละระดบั การศกึ ษา โดยการดาเนินการดงั กล่าวมแี นวทาง ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 2.1 กาหนดให้มผี ู้รบั ผดิ ชอบในการรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั การเขา้ ร่วมกจิ กรรมลูกเสอื ของลกู เสอื ทุกคนตลอดระดบั การศกึ ษา 2.2 ผูร้ บั ผดิ ชอบสรปุ และตดั สนิ ใจผลการร่วมกจิ กรรมลูกเสอื ของลูกเสอื เป็นรายบุคคล รายหมู่ ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด เกณฑก์ ารตดั สิน 1. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานกาหนดไว้ 2 ระดบั คอื ผ่าน และ ไมผ่ ่าน 2. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมนิ รายกจิ กรรม ผ่าน หมายถงึ ลกู เสอื มเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและมผี ลงาน / ชน้ิ งาน / คุณลกั ษณะตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่านการปฏิบัติ กจิ กรรมหรอื มผี ลงาน / ชน้ิ งาน / คณุ ลกั ษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด 3. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื รายปี / รายภาค ผ่าน หมายถงึ ลูกเสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ผ่าน” ในกจิ กรรมสาคญั ตามหลกั สตู รลูกเสอื แต่ละประเภทกาหนด รวมถงึ หลกั สตู รลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ไม่ผ่าน หมายถึง ลูกเสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ไม่ผ่าน” ในกิจกรรมสาคญั ท่ีหลกั สูตร ลกู เสอื แต่ละประเภทกาหนดและลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ 4. เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมนิ กิจกรรมลูกเสอื เพ่อื จบหลกั สูตรลูกเสอื แต่ละประเภทเป็น รายชนั้ ปี ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ทุกชัน้ ปี ในระดับการศึกษานั้น ไมผ่ ่าน หมายถงึ ลกู เสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ไมผ่ ่าน” บางชนั้ ปีในระดบั การศกึ ษานนั้ 232 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

2. การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ และคณุ ลกั ษณะทางลกู เสอื 2.1 ความสามารถทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ลกู เสอื โดยรวม คอื 1) ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 2) ความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์ 3) ความสามารถในการเหน็ ใจผอู้ ่นื 4) เหน็ คณุ ค่าตนเอง 5) รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 6) ความสามารถในการส่อื สารเพอ่ื สรา้ งสมั พนั ธภาพ 7) ความสามารถในการตดั สนิ ใจ 8) ความสามารถในการจดั การแกไ้ ขปัญหา 9) ความสามารถในการจดั การกบั อารมณ์ 10) ความสามารถในการจดั การกบั ความเครยี ด 2.2 พฤตกิ รรมทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ลกู เสอื โดยรวม คอื 1) ลกู เสอื สารอง (1) มที กั ษะในการสงั เกตและจดจา (2) พง่ึ ตนเอง ดแู ลตนเองได้ (3) รจู้ กั รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม (4) ไมเ่ จบ็ ป่วยดว้ ยโรคตดิ ต่อตามฤดกู าล (5) ปฏเิ สธสง่ิ เสพตดิ ทุกชนิด (6) พดู จาสอ่ื สารเชงิ บวก ไม่กา้ วรา้ วรนุ แรง (7) แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าได้ (8) ใหค้ วามช่วยเหลอื เพ่อื นในภาวะวกิ ฤติ 2) ลกู เสอื สามญั (1) มที กั ษะในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลางแจง้ (2) รว่ มกจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ดว้ ยจติ อาสา (3) พง่ึ ตนเองและช่วยเหลอื ครอบครวั (4) ไมด่ ม่ื น้าอดั ลม (5) ไมร่ บั ประทานขนมหวานและขนมกรบุ กรอบ (6) ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ (7) รจู้ กั พดู เชงิ บวก ไมพ่ ดู กา้ วรา้ วรุนแรง (8) มคี วามซอ่ื สตั ย์ ไมโ่ กหก (9) รจู้ กั แก้ปัญหาดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี (10) มนี ้าหนกั สว่ นสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 233

3) ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ (1) มที กั ษะในการทากจิ กรรมตามความสนใจ (2) มจี ติ อาสาทาประโยชน์/ ไมก่ ่อความเดอื ดรอ้ น ใหก้ บั ครอบครวั สถานศกึ ษา ชมุ ชน สงั คม (3) ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ (4) รว่ มกจิ กรรมสง่ เสรมิ อนุรกั ษป์ ระเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมไทย (5) มที กั ษะการคดิ วเิ คราะห์ การยบั ยงั้ ไมเ่ ป็นทาสของส่อื โฆษณา (6) มที กั ษะการใชป้ ระโยชน์จาก Internet (7) มผี ลงาน/ โครงการการประหยดั พลงั งาน/ ทรพั ยากร (8) มกี ารออมหรอื ทาบญั ชรี ายรบั รายจา่ ยของตนเองอยา่ งต่อเน่อื ง (9) มที กั ษะการหลกี เลย่ี ง ลอดพน้ และไมเ่ กดิ อุบตั เิ หตุจากการใชย้ านพาหนะ (10) ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั สง่ิ เสพตดิ ทุกประเภท 4) ลกู เสอื วสิ ามญั (1) มผี ลงาน/ โครงการเฉพาะทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อตวั เอง/ สงั คม (2) มจี ติ อาสาและบรกิ าร (3) รวู้ ธิ ปี ้องกนั / และหลกี เลย่ี งความเสย่ี งทางเพศ (4) ใชเ้ วลากบั ส่อื IT อยา่ งเหมาะสม ไมเ่ กดิ ความเสยี หายต่อวถิ ชี วี ติ ปกตขิ อง ตนเอง (5) ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั สง่ิ เสพตดิ (6) มคี ่านยิ มดา้ นสขุ ภาพอย่างเหมาะสม ไมเ่ กดิ ผลเสยี ตามมา (7) มคี ่านยิ มดา้ นการรบั ประทานอาหารทเ่ี หมาะสม ไมเ่ กดิ ผลเสยี หายตามมา (8) มคี ่านยิ มดา้ นความงามทเ่ี หมาะสมไมเ่ กดิ ผลเสยี หายตามมา (9) ไมม่ พี ฤตกิ รรมก้าวรา้ วและก่อเหตุรนุ แรง อ้างอิงจาก ผลลพั ธก์ ารจดั กจิ กรรมลกู เสอื ค่มู อื Bench Marking 234 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 1) หน่วยท่ี 14 พิธีการ แผนการจดั กิจกรรมที่ 24 พิธีเข้าประจากองลกู เสือวิสามญั เวลา 1 ชวั่ โมง (การสารวจตวั เองและพิธีเข้าประจากองลกู เสือวิสามญั ) 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 เพอ่ื เป็นการเตรยี มตวั เองของผทู้ ม่ี คี วามประสงคเ์ ขา้ มาเป็นลกู เสอื วสิ ามญั 1.2 เพ่อื ใหล้ กู เสอื มคี วามสมั ฤทธผิ ์ ลในการเขา้ เป็นลกู เสอื วสิ ามญั 1.3 เพ่อื ใหล้ กู เสอื วสิ ามญั เกดิ ความศรทั ธา ความภมู ใิ จ และรกั ษาเกยี รตติ นเองได้ 1.4 เพอ่ื เป็นไปตามขอ้ บงั คบั ของคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ 2. เนื้อหา 2.1 พธิ สี ่งลกู เสอื สามญั ร่นุ ใหญ่ไปเป็นเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั (สาหรบั สถานทต่ี งั้ ทม่ี กี องลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่และกองลกู เสอื วสิ ามญั ) 2.2 พธิ รี บั เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั 2.3 พธิ สี ารวจตวั เองก่อนเขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั 2.4 พธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั 2.5 คหู าลกู เสอื วสิ ามญั (Rover Den) 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ พธิ กี ารทางลูกเสอื วสิ ามญั 3.3 คหู าลกู เสอื สามญั 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ าย และใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั พิ ธิ กี ารส่งลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ ไป เป็นเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั 4.2 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ ายและปฏบิ ตั พิ ธิ รี บั เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั 4.3 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ ายและปฏบิ ตั พิ ธิ สี ารวจตวั เองและเขา้ ประจากองของลกู เสอื วสิ ามญั 4.4 การปฏบิ ตั พิ ธิ กี ารทางลูกเสอื วสิ ามญั ใหด้ าเนินการปฏบิ ตั ใิ นคหู าลกู เสอื วสิ ามญั (Rover Den) (การประกอบพธิ ใี หด้ าเนนิ การในเวลากลางคนื และสถานทส่ี งบเงยี บ) 4.5 ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ ขนั้ ตอนและพธิ กี ารทางลกู เสอื วสิ ามญั 5.การประเมินผล 5.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ใิ นพธิ รี บั เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั 5.2 สงั เกตความตงั้ ใจความสนใจในการรว่ มพธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 235

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 24 ใบความรู้ การฝึ กอบรมเตรยี มลูกเสือวิสามญั เม่อื เยาวชนทต่ี ้องการเขา้ เป็นลูกเสอื วสิ ามญั ซง่ึ อาจจะเคยเป็นลกู เสอื หรอื ไม่เคยเป็นลูกเสอื มา ก่อนก็ได้ การเข้าเป็นลูกเสอื วสิ ามญั นัน้ ผู้กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ต้องจดั ให้เยาวชนเหล่านัน้ เขา้ มาเป็น ลกู เสอื ตามหลกั การและวธิ กี ารของลูกเสอื จงึ จะเกดิ ความสมั ฤทธผิ ์ ลในการฝึกอบรม มใิ ช่ว่าอยู่ ๆ กใ็ ห้ เยาวชนเหล่านัน้ เป็นลูกเสอื ไดใ้ นทนั ที ในระยะเรม่ิ ตน้ การเขา้ เป็นลูกเสอื วิสามญั ต้องเป็นเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ทาการฝึกอบรมตามหลกั สตู รวธิ กี ารทจ่ี ะเขา้ มาเป็นลกู เสอื วสิ ามญั เป็นหน้าทข่ี องผกู้ ากบั ลกู เสอื ในกองลูกเสอื วสิ ามญั จะตอ้ งจดั พธิ กี ารต่าง ๆ เป็นลาดบั ตามขอ้ งบงั คบั ของคณะลกู เสอื แห่งชาตฯิ เพ่อื ทาให้เยาวชนเหล่านัน้ ท่เี ขา้ มาเป็นเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั เกดิ ความศรทั ธา ความภาคภูมใิ จ และรกั ใน เกยี รตขิ องตนเองทไี ดเ้ ขา้ มาเป็นลกู เสอื วสิ ามญั พธิ กี ารต่าง ๆ ในการเขา้ มาเป็นเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั มี ดงั ต่อไปน้คี อื พิธีส่งลกู เสือสามญั ร่นุ ใหญ่ไปเป็นเตรียมลกู เสือวิสามญั พธิ สี ่งตวั ลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่ไปเป็นเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั น้ีเป็นวธิ กี ารท่เี ม่อื ลูกเสอื สามญั รุ่น ใหญ่มาอายทุ จ่ี ะเป็นลกู เสอื วสิ ามญั ไดแ้ ลว้ พธิ นี ้ีไม่จาเป็นเสมอไปทใ่ี หก้ องลูกเสอื วสิ ามญั มาร่วมพธิ ที งั้ กอง แต่กค็ วรมลี ูกเสอื วสิ ามญั บ้าง สว่ นสาคญั นนั้ ประกอบดว้ ยพเ่ี ลย้ี ง 2 คน ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั กองลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่จดั เป็นรูปครง่ึ วงกลม ผู้กากบั ลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่ยนื กลาง ผู้กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั และพเ่ี ล้ยี ง 2 คน ยนื หลงั ผู้กากบั ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่หนั หน้าเขา้ สู่กองลูกเสอื ผูก้ ากบั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่นาลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่มามอบตวั ใหแ้ ก่ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ผู้กากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ “...(ออกช่อื ลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่) ได้เป็นลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่ มา ....ปี และปัจจุบนั น้โี ตพอทจ่ี ะเป็นลกู เสอื วสิ ามญั ไดแ้ ลว้ ขอ้ ขอเสนอใหเ้ ป็นผสู้ มคั รใหม่ และขา้ หวงั ว่า ทา่ นคงจะรบั ไวเป็นเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั พดู กบั ผสู้ มคั รใหม่ “เจา้ เตม็ ใจจะฝึกอบรมในกองลกู เสอื วสิ ามญั หรอื ” ผสู้ มคั รใหม่ “ขา้ เตม็ ใจ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั “ถา้ เชน่ นนั้ กองลกู เสอื กเ็ ตม็ ใจทจ่ี ะรบั เจา้ เขา้ ไว”้ ผกู้ ากบั ลูกเสอื กลุ่มพูดกบั ผสู้ มคั รใหม่ “ในฐานะทข่ี า้ เป็นผนู้ าของกลุ่ม ขา้ มคี วามยนิ ดที เ่ี จ้าจะได้ กา้ วหน้าต่อไปและขอใหเ้ จา้ จงสาเรจ็ ในกจิ การลกู เสอื วสิ ามญั ” ผู้กากบั ลูกเสือวสิ ามญั “ข้าขอมอบแถบท่ไี หล่สเี หลืองและสเี ขยี วให้แก่เจา้ ซ่งึ เป็นแถบสแี ทน ลกู เสอื สารอง และลกู เสอื สามญั ในกระบวนการลกู เสอื ส่วนแถบสแี ดงแทนลูกเสอื วสิ ามญั ยงั ไมไ่ ดม้ อบ 236 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ให้ ทงั้ น้ีเป็นเคร่อื งเตอื นใจว่า ต่อไปน้ีเจา้ จะต้องเตรยี มตวั เพ่อื เขา้ เป็นสมาชกิ อนั สมบูรณ์ในกองลูกเสอื วสิ ามญั ซง่ึ ในขณะน้เี ขา้ เช่อื ว่าพเ่ี ลย้ี งของเจา้ จะไดช้ ่วยใหเ้ จา้ ไดส้ าเรจ็ ผลในความปรารถนาของเจา้ (พเ่ี ลย้ี งสมั ผสั มอื กบั ผสู้ มคั รใหม)่ ผู้สมคั รใหม่พรอ้ มกบั พ่เี ล้ยี งทงั้ 2 คน กลบั หลงั หนั หนั หน้าสู่กองลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่และทา ความเคารพดว้ ยทา่ วนั ทยหตั ถ์ กองลูกเสอื สามญั ร่นุ ใหญ่แสดงการเคารพตอบ พรอ้ มกนั เปล่งเสยี งแสดง ความยนิ ดี พิธีรบั เตรียมลกู เสือวิสามญั พธิ รี บั เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั ต่อไปน้ี ให้กองลูกเสอื วสิ ามญั ยนื เป็นรปู ครง่ึ วงกลม เตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ยนื อยขู่ า้ งหลงั นอกวงกลม ผู้ กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ยนื ตรงกลาง พ่เี ล้ยี งของลูกเสอื ใหม่ยนื หนั หน้าเข้าหาผู้กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ห่าง ประมาณ 3 เมตร ให้ผู้ส่งมอบตวั นาลูกเสอื ใหม่มากลางวง ยนื อยู่กลางระหว่างพ่เี ล้ยี งกบั ผู้กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ลกู เสอื จากกลุ่มใหผ้ กู้ ากบั ลกู เสอื ของลกู เสอื นนั้ เป็นผสู้ ่งมอบตวั ส่วนลูกเสอื อ่นื ๆ ใหผ้ กู้ ากบั ลูกเสอื กลุ่ม เป็นผสู้ ง่ มอบ ผสู้ ง่ มอบตวั กล่าวว่า “ขา้ นา (ออกนามาลกู เสอื ) เพอ่ื เขา้ เป็นเตรยี มวสิ ามญั ในกองของทา่ น” ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั “ท่านพอใจแลว้ หรอื ว่า เขากาลงั พยายาม หรอื จะพยายามปฏบิ ตั ติ ามพนั ธะของ ลูกเสอื รวมทงั้ การบาเพญ็ ตนต่อสาธารณประโยชน์และจะเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี อง กองลกู เสอื วสิ ามญั ต่อไป” ผสู้ ่งมอบตวั “ขา้ พอใจแลว้ ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั “การเป็นลูกเสอื วสิ ามญั เป็นการร่วมวงในหมู่พ่ีน้องท่นี ิยมชวี ิตกลางแจ้งและ ใหบ้ รกิ ารแก่ผู้อ่นื การทเ่ี จา้ ประสงคจ์ ะเขา้ มาร่วมในกระบวนการน้ี เจา้ พรอ้ มท่ี จะเพมิ่ พนู ความรภู้ าคปฏบิ ตั ขิ องการลกู เสอื และนยิ มใชช้ วี ติ กลางแจง้ แลว้ หรอื ” ผสู้ มคั รใหม่ “ขา้ พรอ้ มแลว้ ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั “เจ้าทราบหรอื ไม่ว่า หน้าท่ีอนั แรกของเจ้านัน้ คือบ้านของเราเอง และเจา้ จะ พยายามสรา้ งฐานะของเจา้ ” ผสู้ มคั รใหม่ “ขา้ ทราบแลว้ ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั “เจา้ พรอ้ มทจ่ี ะอบรมตวั เจา้ เพ่อื ใหบ้ รกิ ารแก่ชุมชนหรอื ไม่” ผสู้ มคั รใหม่ “ขา้ ทราบแลว้ ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั “เจา้ ยอมรบั วถิ ชี วี ติ ดงั ทไ่ี ดก้ าหนดไวใ้ นกฎและคาปฏญิ าณของลกู เสอื หรอื ” ผสู้ มคั รใหม่ “ขา้ ยอมรบั ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื “เม่อื เจา้ ได้ให้ความมนั่ ใจเช่นน้ีแล้ว ขอให้เจา้ ทวนคาปฏญิ าณของลูกเสอื เพ่อื เป็นสญั ลกั ษณ์แห่งความจรงิ ใจของขา้ และเพ่อื แสดงว่าไดร้ บั เจา้ เขา้ เป็นเตรยี ม ลกู เสอื วสิ ามญั แลว้ ” ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 237

กองลกู เสอื แสดงรหสั ผสู้ มคั รใหมแ่ สดงรหสั “ดว้ ยเกยี รตขิ องขา้ ขา้ สญั ญาวา่ ขอ้ 1 ขา้ จะจงรกั ภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ขอ้ 2 ขา้ จะช่วยเหลอื ผอู้ ่นื ทกุ เมอ่ื ขอ้ 3 ขา้ จะปฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสอื ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั สมั ผสั มอื ซา้ ยกบั ลกู เสอื ใหม่ “ขา้ เชอ่ื ในเกยี รตขิ องเจา้ วา่ เจา้ จะทาดที ส่ี ดุ ท่ี จะรกั ษาคาปฏญิ าณนนั้ ไว้ บดั น้ขี า้ รบั เจา้ เขา้ ไวเ้ ป็นเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ในคณะพน่ี ้องลกู เสอื แห่งโลกอนั ยงิ่ ใหญ่แลว้ ” ผูก้ ากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ประดบั แถบตไิ หล่สเี หลอื และสเี ขยี ว อนั เป็นแถบของลูกเสอื สารอง และ ลูกเสอื สามญั ใหแ้ ก่ลูกเสอื ใหม่ และกล่าวว่า “แถบสแี ดง” ซ่งึ เป็นสขี องลูกเสอื วสิ ามญั นนั้ ยงั ขาดอยู่ ทงั้ น้ี เพ่อื เป็นเคร่อื งเตอื นใจว่าต่อจากน้ีไปเจา้ จะต้องเตรยี มตวั เพ่อื เขา้ เป็นสมาชกิ อนั สมบูรณ์ในกองลูกเสอื วสิ ามญั เพอ่ื การน้ขี า้ ขอมอบเจา้ ใหแ้ กพเ่ี ลย้ี งของเจา้ ทจ่ี ะช่วยเหลอื ใหบ้ รรลุจดุ ประสงคต์ ่อไป ให้พ่เี ล้ยี งสองคนเขา้ มาขา้ งหน้า พเ่ี ลย้ี งอาวุโสยนื ทางขวาของเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั พ่เี ล้ยี งคน รองยนื ทางซา้ ย ส่วนผสู้ ่งมอบตวั ให้กา้ วถอยหลงั ไป ใหพ้ เ่ี ลย้ี งอาวุโสกล่าวคาตอ้ นรบั ลูกเสอื วสิ ามญั ใหม่ เป็นสมาชกิ ในกองลูกเสอื วสิ ามญั ดว้ ยถ้อยคาอนั เหมาะสม แลว้ นาไปยนื รวมกบั ลกู เสอื วสิ ามญั ใหมอ่ ่นื ผู้ ซง่ึ จะไดต้ อ้ นรบั ดว้ ยวธิ กี ารอนั สมควร เม่อื ผู้กากบั ลูกเสอื และรองผูก้ ากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ไดด้ าเนินการจดั พธิ กี ารในการให้เยาวชนเขา้ มาเป็นเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั แล้วก็ดาเนินการฝึกอบรมไปตามหลกั สูตรท่ไี ด้กาหนดนัน้ นัน่ ก็คอื การ ฝึกอบรมใหเ้ ขาเหล่าน้ไี ดร้ บั เครอ่ื งหมายลกู เสอื โลก ซง่ึ มขี อบเขตและรายละเอยี ดของเน้อื หาวชิ าดงั น้ี คอื เม่อื เตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ได้ทาการฝึกอบรมผ่านหลกั สูตรเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั แล้วผู้กากับ ลกู เสอื จะต้องดาเนนิ การใหเ้ ตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั เหล่านนั้ เขา้ พธิ ปี ระจากองเป็นลูกเสอื วสิ ามญั ตามขอ้ ง บงั คบั คณะลูกเสอื แห่งชาติ ก่อนท่จี ะทาการฝึกอบรมเคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษต่อไปตามรายละเอยี ดของ เน้อื หาวชิ าพเิ ศษ จานวน 11 วชิ า พธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั ดาเนนิ การดงั ต่อไปน้คี อื พิธีสารวจตวั เองก่อนเข้าประจากองลูกเสือวิสามญั เม่อื เตรยี มลูกเสือวสิ ามญั ได้รบั การฝึกอบรมเคร่อื งหมายลูกเสอื โลกครบตามหลกั สูตรแล้ว ใหผ้ กู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ในกองนนั้ ๆ ดาเนนิ การจดั ใหเ้ ตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั เหล่านนั้ เขา้ พธิ ปี ระจากอ ตามลาดบั ขนั้ ตอนต่างๆ ดงั น้ี คอื ข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั การทาพิธีสารวจตวั เอง ในพธิ สี ารวจตวั เองก่อนพธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั มขี นั้ ตอนากรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. จดั ใหม้ พี ธิ ใี นตอนกลางคนื ควรจะเรมิ่ ตงั้ แต่เวลา 19.30. น. เป็นตน้ ไปจนกว่าจะเสรจ็ พธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั 2. ผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมซง่ึ เปรยี บเสมอื นลกู เสอื วสิ ามญั แต่งเครอ่ื งแบบครบเรยี บรอ้ ยเขา้ นงั่ ท่ี ทจ่ี ดั ไว้ อนั เป็นทน่ี งั่ ทส่ี บายพอสมควรและสงบเงยี บ 238 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

3. ประธานในพธิ เี ขา้ ช้แี จงถงึ วตั ถุประสงค์ของการสารวจตวั เอง ให้ทุกคนปฏบิ ตั ดิ ้วยศรทั ธา สงบ-จรงิ ใจ และมสี มาธทิ ่แี น่วแน่ ใหถ้ อื ว่าเป็นพธิ กี าร ไม่ใช่เร่อื งทาเล่น ๆ หรอื สนุกสนาน ทุกคนต้อง สงบและสารวมอยา่ งแทจ้ รงิ 4. หลงั จากทป่ี ระธานกล่าวถงึ วตั ถุประสงคใ์ นขอ้ 3 แล้ว ประธานจะกลา่ วปราศรยั ถงึ เกาะแก่ง แห่งชวี ติ ซง่ึ จะเป็นตวั อุปสรรคขดั ขวางมใิ หก้ ารดาเนินชวี ติ ของคนเราดาเนินไปดว้ ยดเี กาะแก่งแห่งชวี ติ ดงั กลา่ วคอื อบายมขุ ต่าง ๆ 5. กองลูกเสือวสิ ามญั ได้เตรยี มแผนการดาเนินทางสารวจตวั เองไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว โดย เขยี นกฎลูกเสอื 10 ขอ้ เพยี งย่อ ๆ เช่น “มเี กยี รติ” “ประพฤตชิ อบ” ลงบนก้อนหนิ ท่มี ขี นาดโตหรอื ใน กระดาษแผ่นโต สุดแต่กรณี เพ่อื ให้ผไู้ ปพบอ่านไดง้ า่ ย จานวน 10 ก้อน ครบจานวนกฎทงั้ 10 ขอ้ แล้ว นากอ้ นหนิ หรอื แผ่นกระดาษตอกตดิ กนั เสา ไปตงั้ ไวใ้ นป่า (หากม)ี หรอื รอบ ๆ สนาม โดยวางใหห้ ่าง ๆ กนั ตามลาดบั กฎขอ้ 1-10 ระยะทางท่วี างให้วกวนพอสมควร (สง่ิ ต่าง ๆ ดงั กล่าวในขอ้ น้ีต้องเตรยี มไว้ ก่อนล่วงหน้าในตอนเยน็ ของวนั สารวจตวั เอง) พรอ้ มทงั้ กาหนดตวั บุคคลจานวน 11 คน ไวป้ ระจาตามจุด ทงั้ 10 จดุ รวมทงั้ ผูท้ จ่ี ะกล่าวสรปุ อกี 1 คน อยรู่ วมกบั กฎขอ้ ท่ี 10 ทงั้ น้ีผปู้ ระจาตามจุดทงั้ 10 ตอ้ งมไี ฟ ฉายตดิ ตวั ด้วย เพ่อื ไวอ้ ่านขอ้ ความซง่ึ อธบิ ายความหมายของกฎลูกเสอื ได้ (ดูเอกสารประกอบ 8) และ อย่าลมื ว่าตามจดุ ต่าง ๆ ดงั กล่าว ต้องมตี ะเกยี งจุดตงั้ ไวเ้ พ่อื แสดงจุดท่ตี งั้ ดว้ ย เพราะลกู เสอื จะต้องเดนิ ผา่ นโดยมผี กู้ ากบั ลกู เสอื นาทางไป เมอ่ื ลกู เสอื ไดฟ้ ังเรอ่ื ง “อบายมขุ ” จบแลว้ 6. ผู้กากบั ลูกเสอื หรอื รองผู้กากบั ลูกเสอื คนหน่ึง จะเป็นผู้พากองลูกเสอื ออกเดนิ ทางไปใน ระหว่างความมอื ซง่ึ เปรยี บเสมอื นผ่านวถิ ที างแห่งชวี ติ ลูกเสอื โดยเรยี กแถวลูกเสอื ใหอ้ ย่ใู นรปู แถวตอน หมู่ (ตอนลกึ ) เมอ่ื เรยี บรอ้ ยแล้วถอื ไฟฉายเดนิ นาแถวลกู เสอื ไปช้า ๆ ทุกคนอย่ใู นภาวะสงบ ไม่พูด ไม่ คุยสง่ิ ใดทงั้ สน้ิ และเดนิ ตามผูน้ าไป เม่อื ถงึ กฎขอ้ 1 ให้ผนู้ าแถวใหส้ ญั ญาณดว้ ยไฟฉายแก่ผปู้ ระจาฐาน ซง่ึ ซ่อนตวั อยไู่ มใ่ หล้ กู เสอื เหน็ อ่านขอ้ ความของกฎขอ้ 1 และคาสอนประกอบดงั ๆ และชา้ ๆ ดว้ ยเสยี ง ทห่ี นกั แน่นในท่ามกลางความมอื อนั สงบเงยี บนัน้ เมอ่ื จบขอ้ ความแลว้ ผนู้ าแถวกน็ าลูกเสอื ผ่านฐานต่อไป ตามลาดบั จนครบกฎขอ้ 10 และแลว้ ตอนทา้ ยสุดจะมผี กู้ ลา่ วสรปุ กฎทงั้ 10 ขอ้ อกี ครงั้ หน่งึ 7. หลงั จากการกล่าวสรุปแลว้ ผูน้ าแถวจงึ นาแถวไปสู่ลานกวา้ งอกี แห่งหน่ึง ซง่ึ มโี ต๊ะหม่บู ูชา ตงั้ อยพู่ รอ้ มแลว้ ผนู้ าแถวเชญิ ประธานจดุ ธปู เทยี นบูชาพระรตั นตรยั ผนู้ าแถวและลกู เสอื ทุกคนยนื พนม มอื เสรจ็ แลว้ ผนู้ าแถวมอบเทยี น – ไมข้ ดี ไฟ พรอ้ มคาสารวจตวั เอง (ขอ้ งบงั คบั ฯ ขอ้ 297) ใหล้ กู เสอื ทุก คน ลูกเสอื แต่ละคนเม่อื รบั ของดงั กล่าวแลว้ ใหแ้ ยกกนั ไปหาท่นี ัง่ ทจ่ี ุดใดจุดหน่ึงในบรเิ วณนัน้ ต่างคน ต่างนงั่ ใหห้ ่างกนั เสมอื นนัง่ อย่โู ดดเดย่ี วและนัง่ พจิ ารณาตวั เองตามขอ้ ความทงั้ 21 ขอ้ ในแผ่นกระดาษ คาสารวจตวั เองท่ไี ดร้ บั แจกมา หากมขี อ้ ใดทไ่ี ม่อาจปฏบิ ตั ไิ ดห้ รอื ยากแก่การปฏบิ ตั ิ ใหพ้ จิ ารณาสารวจ ตวั เองในขอ้ นัน้ นาน ๆ อกี ครงั้ หน่ึง หากยงั ถือปฏบิ ตั ไิ ม่ได้เช่นเดมิ ลูกเสอื ผู้นัน้ มสี ทิ ธเิ ์ ดนิ ออกไปจาก บรเิ วณท่สี ารวจตัวเองได้ และไม่มสี ิทธจิ ์ ะเข้าร่วมพิธเี ข้าประจากองลูกเสือวสิ ามญั ในวนั นัน้ จนกว่า ลกู เสอื ผนู้ นั้ จาผ่านการสารวจตวั เองทุกขอ้ จงึ จะเขา้ พธิ ปี ระจากองลกู เสอื วสิ ามญั ไดใ้ นวนั ต่อไป คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 239

8. เม่อื ผู้นาแถวเหน็ ว่าลกู เสอื ไดก้ ระทาสารวจตวั เองเรยี บรอ้ ยแลว้ ใหน้ าลกู เสอื เขา้ ส่สู ถานท่ที ่ี จะประกอบพธิ เี ขา้ ประจากองลูกเสอื วสิ ามญั และตดิ แถบสามสตี ่อไป สถานทท่ี จ่ี ะประกอบพธิ เี ขา้ ประจา กองลกู เสอื วสิ ามญั ควรจะเป็นคหู าลกู เสอื วสิ ามญั หรอื พทุ ธศาลา หรอื โบสถ์ ซง่ึ เป็นสถานทส่ี งบเงยี บ ต่อจากนนั้ กองลกู เสอื วสิ ามญั ทาพธิ เี ขา้ ประจากอง ตามขอ้ บงั คบั คณะลกู เสอื แห่งชาติ เมอ่ื ลกู เสอื ไดต้ ดิ แถบสามสเี รยี บรอ้ ยแลว้ ผกู้ ากบั ลูกเสอื กล่าวใหโ้ อวาทลูกเสอื เก่า (ถา้ ม)ี หรอื ผกู้ ากบั ลกู เสอื จบั มอื แสดงความยนิ ดี เป็นอนั เสรจ็ พธิ ี แนวการปราศรยั เก่ียวกบั พิธีสารวจตวั เอง ในพธิ สี ารวจตวั เองและพธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั ซง่ึ เป็นพธิ กี ารทต่ี ่อเน่ืองกนั นนั้ ผกู้ ากบั ลกู เสอื จะเป็นบุคคลสาคญั ในพธิ ี เป็นผทู้ จ่ี ะกล่าวชแ้ี จง กล่าวปราศรยั และกล่าวใหโ้ อวาทตามขนั้ ตอนต่าง ๆ ซง่ึ แยกออกเป็น 3 ขนั้ ตอน คอื 1. การกลา่ วชแ้ี จงเมอ่ื ลกู เสอื วสิ ามญั ในกองทกุ คนมาพรอ้ มแล้ว 2. การกล่าวปราศรยั ก่อนเรม่ิ จะยา่ งก้าวเขา้ ส่พู ธิ สี ารวจตวั เอง 3. การกล่าวใหโ้ อวาทตอนทา้ ยพธิ เี ขา้ ประจากอง 1. การกล่าวชี้แจง เม่อื ลูกเสอื วสิ ามญั ทุกคนได้เขา้ นัง่ ท่พี รอ้ มกนั แล้ว ผูก้ ากบั ลูกเสอื จะกล่าวช้แี จงเป็นใจความว่า “พิธกี ารสารวจตวั เองของผู้ท่จี ะเป็นลูกเสอื วสิ ามญั ก่อนท่จี ะถึงพธิ เี ขา้ ประจากองถอื ว่าเป็นพธิ กี ารท่ี สาคญั ยง่ิ และมคี วามหมายอย่างมาก โดยเฉพาะแกชวี ติ ในอนาคตของผู้ท่เี ป็นลูกเสอื วสิ ามญั จงึ ใคร่ ขอร้องพ่ีน้องลูกเสือโปรดให้ความร่วมมือ ให้ความสนใจ และช่วยทาให้พิธนี ้ีเป็นพิธีท่ีสาคัญและมี ความหมายอยา่ งจรงิ จงั ดว้ ย ขออยา่ ไดห้ วั เราะ อยา่ พดู คยุ หรอื สง่ เสยี งลอ้ เลยี นกนั แต่ประการใด 2. การกล่าวปราศรยั ก่อนออกเดินทางส่พู ิธีสารวจตวั เองและพิธีเข้าประจากอง ต่อจากนัน้ ผู้กากบั ลูกเสอื จะกล่าวปราศรยั ช้ใี ห้ลูกเสอื ได้มองเหน็ ส่งิ อบายมุขต่าง ๆ อนั เป็น อุปสรรคต่อการดาเนินชวี ติ ท่มี อี ย่โู ดยรอบ โดยยกตวั อย่าง สุรา นารี ภาชี กีฬาบตั ร ดงั แนวการกล่าว ต่อไปน้ี (ขอ้ ความน้ี สามารถปรบั ปรงุ ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพปัจจุบนั ได)้ พน่ี ้องลกู เสอื ทงั้ หลาย ท่านทราบอยู่แล้วเป็นอย่างดวี ่าในการดาเนินชวี ติ ของคนเรานัน้ วถิ แี ห่งชวี ติ ย่อมแตกต่างกนั และมไิ ด้เป็นไปอย่างราบร่นื ประดุจดังหน่ึงเดินอยู่บนพรมสีแดง โรยด้วยกลบี กุหลาบอันสวยงาม ตลอดไป ชวี ติ ของคนเราจะประสบดว้ ยอุปสรรคนานาประการ มากบา้ งน้อยบา้ ง เสมอื นเกาะแก่งทม่ี อี ยู่ ในแม่น้าลาคลอง ขดั ขวางมใิ หน้ ้าไหลไปไดโ้ ดยสะดวก ในชวี ติ คนเรา อุปสรรคบางอยา่ งจะบนั่ ทอนชกั นา ชวี ติ บุคคลไปในทางทผ่ี ดิ ทช่ี วั่ รา้ ย พระทานเรยี กอุปสรรคเช่นน้ีว่าอบายมขุ อบายมขุ ท่วี ่าน้ีพระท่านเคย สอนไว้ว่า อบายมุขท่สี าคญั นัน้ มี 4 ประการด้วยกนั กล่าวคอื สุรา นารี ภาชี กีฬาบตั ร แต่ปัจจุบนั น้ี เหตุการณ์ของโลกได้เปล่ยี นแปลงไปอย่างมากมาย สง่ิ ท่จี ะทาให้ชวี ติ คนเรา โดยเฉพาะคนวยั รนุ่ หนุ่ม 240 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

สาวลงไปสู่ความหายนะ ลงสู่หว้ งเหวท่ตี ่านัน้ มเี พม่ิ ขน้ึ มากมาย อาทิ ยาเสพติด สนุกเกอรค์ ลบั สถาน เรงิ รมย์ สาหรบั เท่ยี วกลางคนื มี บาร์ ไนต์คลบั คอ็ ฟฟ่ีชอ็ พ สถานอาบอบนวด โรงแรมม่านรดู ผูค้ นท่มี ี จติ ใจทราม เหน็ แก่ประโยชน์ส่วนตน เหน็ แก่ได้ มแี ต่คนเก่งแต่ปาก เก่งแต่พดู งานไมท่ า ฯลฯ ดงั น้ี เป็นตน้ ใคร่จะกล่าวถงึ โทษของอุปสรรคหรอื เกาะแก่งแห่งชวี ติ เหล่าน้ี ในพน่ี ้องลูกเสอื ไดฟ้ ังเพ่อื เป็นคติ เตอื นใจบา้ ง ดงั ต่อไปน้ี สรุ า การด่มื สุราไดม้ มี านานก่อนพุทธกาล บรรดาผนู้ าของศาสนาทงั้ หลายในโลกไดม้ องเหน็ โทษของ การด่มื สุรา จงึ ได้บญั ญตั เิ ป็นขอ้ ห้าม ขอ้ เตอื นใจ ใหล้ ะเว้นการเสพสุราและเคร่อื งด่ืมของเมา แต่ก็ยงั มี การด่มื สุรามาจนถงึ ทุกวนั น้ี แมแ้ ต่ในการเลย้ี งซง่ึ ทางราชการเป็นผจู้ ดั กม็ กี ารเลย้ี งสรุ ากนั อย่เู สมอ เม่อื มิ อาจหา้ มด่มื สุราได้ และบางครงั้ บางคนอาจจาในด่มื สรุ า กพ็ งึ สานึกถงึ โทษของสุราไวเ้ สมอ โทษของการ ด่มื สุราและเครอ่ื งด่มื ดองของเมา พระท่านบญั ญตั ไิ วด้ งั ต่อไปน้ี คอื ทาใหเ้ สยี ทรพั ย์ ก่อให้เกดิ การววิ าม เกดิ โรค ถูกตาหนติ เิ ตยี น หน้าดา้ นไมร่ จู้ กั อาย บนั่ ทอนสุขภาพ กาลงั สตปิ ัญญา นารี ต่อไปจะได้กล่าวถึงนารี หรอื ความเป็นนักเลงผูห้ ญิง เร่อื งน้ีเป็ นเร่อื งสาคญั สาหรบั คนวยั หนุ่ม สาว เก่ียวกับเร่อื งเพศสัมพันธ์ เป็นความรู้สึกท่ีเกิดข้นึ โดยธรรมชาติ เม่ือคนวยั รุ่นหนุ่มย่างเข้าสู่ ภาวการณ์เป็นหนุ่มสาว ความรูส้ กึ ท่ีเกิดข้นึ โดยธรรมชาติน้ีจะผลกั ดนั ให้หนุ่มสาววงิ่ เข้าหากัน เพ่ือ ประสบความพอใจในเพศสมั พนั ธ์ แต่ศลี ธรรมและประเพณีบงั คบั มใิ ห้มนุษยก์ ระทาเยย่ี งสตั วไ์ ด้ ความ ต้องการทางเทศมิใช่ทุกส่ิงทุกอย่างในชีวิต การขาดความสัมพันธ์ทางเพศมิได้ทาให้คนถึงตาย เช่นเดยี วกบั คนทอ่ี ดขา้ ว คนวยั หนุ่มสาวควรฝึกขดั ขม่ ใจตนเอง มคี วามหนักแน่น อดทน หาทางระบาย ความรสู้ กึ น้ไี ปใชใ้ นทางทด่ี มี ปี ระโยชน์แก่ชวี ติ ของตนเอง เช่น ในการทางาน การคดิ สรา้ งสรรค์ งานศลิ ป์ และกฬี า เป็นตน้ กจิ กรรมเหล่าน้จี ะช่วยทาใหว้ ามรสู้ กึ ทางเพศลดน้อยลง สมัยน้ีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมได้เปล่ียนแปลงไปมาก สถานเรงิ รมย์ สถานอาบอบนวด โรงแรมม่านรดู ไดม้ ใี นเมอื งใหญ่ ๆ เมอื งละหลายแห่ง คนวยั รุน่ หนุ่มพากนั ไปเท่ยี วหาความสาราญใน สถานทเ่ี หลา่ น้ี การไปหาความสาราญในสถานทเ่ี หล่าน้ีต้องใชเ้ งนิ ทองมาก ปัญหามวี ่าคนวยั ร่นุ หนุ่มเหล่าน้ีซ่งึ เป็นคนในวยั เรยี นจะเอาเงนิ มาก ๆ เช่นนนั้ มาจากไหน น่ีคอื เหตุหน่ึงทก่ี ่อใหเ้ กดิ อาชญากรรม ส่วนโทษ ของการดารงตนเป็นนกั เลงผหู้ ญงิ นนั้ พระท่านสอนไวว้ ่า จะทาใหเ้ กดิ โรค ทาใหเ้ สยี ทรพั ย์ เสยี เวลา และ สุขภาพเสอ่ื มโทรม กามโรคเป็นโรคท่รี า้ ยแรง อาจตดิ ต่อไปถงึ ผู้อ่นื ได้ ถ้าผูท้ ่มี คี รอบครวั แลว้ กอ็ าจตดิ ต่อไปถงึ ลูก เมยี ได้ หากเป็นมากถงึ ขน้ึ สมองจะทาใหผ้ นู้ นั้ เป็นคนพกิ ารได้ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 241

ภาชี การเท่ยี วในยามวกิ าล คอื อะไรนัน้ ท่านคงทราบเป็นอย่างดี แต่เพ่อื เพม่ิ เตมิ ความเข้าใจอนั ดี ขอนาคาสอนท่ที ่านศาสดา กาหนดความหมายของการเทย่ี วยามวกิ าลมาเป็นอุทาหรณ์ ท่านว่ามรี าท่ี ไหนไปท่นี ัน่ ขบั รอ้ งท่ไี หนไปท่นี ัน่ ดดี สดี ีเป่ าท่ไี หนไปท่นี ัน่ เสภาท่ไี หนไปท่นี ัน่ เพลงท่ไี หนไปท่นี ัน่ เถดิ เถงิ ทไ่ี หนไปทน่ี นั่ ซง่ึ พอสรปุ ไดว้ ่า ไปเทย่ี วกนั แทบไม่มเี วลาทามาหากนิ พระท่านจงึ ไดบ้ ญั ญตั โิ ทษ ของการเทย่ี วยามวกิ าลไวว้ ่า ทาให้ไดช้ ่อื ว่าไม่รกั ษาตวั ทาให้ไดช้ ่อื ว่าไม่รกั ลกู เมยี ไม่รจู้ กั รกั ษาทรพั ย์ เป็นทร่ี ะแวงของคนทงั้ หลาย มกั ถกู ใสค่ วามและไดร้ บั ความลาบาก กีฬาบตั ร การเล่นการพนนั มโี ทษมาเช่นเดยี วกนั กล่าวคอื เม่อื ชนะยอ่ มก่อเวร เม่อื แพย้ อ่ มเสยี ดายทรพั ย์ ทเ่ี สยี ไป ทรพั ยย์ อ่ มฉิบหาย ไมม่ ใี ครเช่อื ถอ้ ยคา เป็นทห่ี มนิ่ ประมาทของเพ่อื น การเล่นการพนนั นนั้ นามาซง่ึ ความพนิ าศแก่ทรพั ยส์ นิ ทม่ี อี ย่ทู ุกชนิด มคี ากลา่ วว่าถูกไฟไหม้ 10 ครงั้ ยงั ไม่รา้ ยแรงเท่ากบั การเสยี การพนัน เพราะเม่อื ไฟไหม้บา้ น ท่ดี นิ ยงั อย่เู ป็นของเรา เราอาจปลูก บา้ นอย่ใู หม่ได้ แต่ถ้าเราแพก้ ารพนัน เราอาจเสยี ทงั้ บ้านทงั้ ท่ดี นิ กไ็ ด้ ฉะนัน้ จงึ นับว่าการเล่นการพนัน นนั้ นามาซง่ึ ความเสยี หายอยา่ งยง่ิ ยาเสพติด (ข้อความวรรคนี้ ควรเปล่ียนให้เป็นไปตามยคุ สมยั ) (สารที่เดก็ มกั เสพในปัจจบุ นั บหุ ร่ี ยาบ้า กญั ชา กระท่อม 4คณู 100) ยาเสพตดิ อบายมุขอย่างใหม่เป็นภยั รา้ ยแรงต่อสุขภาพ อนามยั ขณะน้ากาลงั ระบาดอย่ใู นหมู่ คนวยั รนุ่ หนุ่มสาวมากมาย ยาเสพตดิ มหี ลายชนิด ทร่ี จู้ กั กนั ทวั่ ไปคอื เฮโรอนี แหล่งผลติ เฮโรอนี มาจาก สามเหลย่ี มทองคา เดนิ ทางผ่านประเทศไทย เพ่อื ส่งไปขายต่างประเทศอกี ต่อหน่ึง เฮโรอนี มรี าคาแพง มาก และหาซ้อื ได้ยากเขา้ ทุกที เพราะทางราชการปราบปรามอย่างเขม้ แขง็ คนวยั รุ่นหนุ่มหนั ไปหา ทนิ เนอร์ น้ามนั ผสมสี เอามาสูดกล่ินแทน ทาใหส้ อี นั ตรายมากยง่ิ ขน้ึ ร่างการอ่อนแอ เป็นการบนั่ ทอน หลงั ของชาตโิ ดยทางอ้อม คนวยั รุ่นหนุ่มได้เงนิ จากไหนมาซ้อื ยาเสพติดเหล่าน้ี คงไม่มปี ัญหา ต้องไป ลกั ขโมยใครมาเป็นแน่ เหตุของการตดิ ยาเสพตดิ มกั เกดิ จากการคบเพ่อื นเสเพล เขาชวนใหล้ องครงั้ สองครงั้ โดยเขาซ้ือ ใหล้ อง ไมช่ า้ กต็ ดิ เมอ่ื ตดิ แลว้ รกั ษาใหห้ ายไดย้ าก อนาคตของชวี ติ จะหมดไป คนดีแต่พดู คนเหน็ แก่ได้ คนดแี ต่พดู นนั้ อาจทาใหเ้ ราหลงทาอะไรตามเขาไดห้ ลายอยา่ ง เขาเป็นคนช่างพูดแต่เขาพดู เพ่อื หาประโยชน์ของเขาเอง คนอย่างน้ีมีอันตรายมาก เพราะเขาเป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ ายเดียว ไม่คิดถึง ประโยชน์ของผอู้ ่นื ไมเ่ หน็ ใจผอู้ ่นื ขอจบคาปราศรยั แต่เพยี งน้ี 242 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ต่อจากน้ี นาย......จะนาท่านเดนิ ทางไปสู่สถานทท่ี จ่ี ะประกอบพธิ เี ขา้ ประจากองลูกเสอื วสิ ามญั ขอใหท้ ่านเดนิ ทางไปดว้ ยความสงบเงยี บ และทาใจใหผ้ อ่ งใส 3. การกล่าวให้โอวาทตอนท้ายของพิธีเข้าประจากอง เม่อื สมาชกิ กองลูกเสอื วสิ ามญั ไดเ้ ดนทางผ่านวถิ ชี วี ติ สารวจตวั เองเป็นท่แี น่นอนจนทาพธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั แลว้ ผกู้ ากบั ลกู เสอื จะกลา่ วใหโ้ อวาทแก่ลกู เสอื วสิ ามญั ตามแนวตวั อยา่ งดงั น้ี ลกู เสอื ใหมท่ งั้ หลาย บดั น้ีเจ้าทุกคนได้เป็นลูกเสอื วสิ ามญั โดยสมบูรณ์แล้วในนามของคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง่ ชาติ ขา้ พเจา้ ขอตอ้ นรบั เจา้ ทุกคนเป็นสมาชกิ ลกู เสอื วสิ ามญั ของไทยต่อไป ขา้ พเจา้ หวงั ว่าเจา้ คงไม่ลมื คาว่าบรกิ าร ซ่งึ เป็นคตพิ จน์อนั สาคญั ของลูกเสอื วสิ ามญั และเจา้ จะ ปฏบิ ตั กิ ารบรกิ ารใหแ้ ก่เพอ่ื นมนุษยท์ กุ ชนั้ โดยมไิ ดเ้ หน็ แก่ความเหน็ดเหน่อื ย และมไิ ดห้ วงั การตอบแทน แต่ประการใด ในการท่จี ะให้การบรกิ ารแก่ผู้อ่นื อย่างไดผ้ ลเตม็ ท่ี “เจา้ จงเตรยี มพรอ้ ม” ตวั เจา้ ตลอดไป ดว้ ย กล่าวคอื ทาตวั เจา้ ใหม้ สี ุขภาพอนามยั สมบูรณ์ไมเ่ จบ็ ไม่ป่วย ศกึ ษาหาความรเู้ ก่ยี วกบั วชิ าการปฐม พยาบาล เพอ่ื ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุบตั เิ หตุไดโ้ ดยฉบั พลนั ทนั ที อน่ึง เจา้ จงคานึงถงึ สสี ามสที ป่ี ระดบั อยทู่ ไ่ี หล่ของเจา้ เสมอ เจา้ มหี น้าท่ดี ูแลช่วยอุปการะสงั่ สอน ลูกเสือรุ่นน้องของเจ้าให้เขาเป็ นคนดี มีความรู้ ความประพฤติดีเสมอ ช่วยกันสร้างสังคมให้ เจรญิ กา้ วหน้า มคี วามสงบสขุ ประเทศชาตมิ นั่ คง ดว้ ยอานาจคุณพระศรรี ตั นตรยั และสง่ิ ศกั ดสิ ์ ทิ ธทิ ์ งั้ หลายทเ่ี จา้ นบั ถอื โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ดวงพระ วญิ ญาณของพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระผูพ้ ระราชทานกาเนิดลกู เสอื ไทย จงไดโ้ ปรด ดลบนั ดาลใหเ้ จา้ ทุกคน จงมคี วามสขุ ความเจรญิ ปรารถนาสงิ่ ใดทด่ี ที ช่ี อบจงสาเรจ็ ทุกประการ และใหม้ ี ความเจรญิ กา้ วหน้าในชวี ติ ลกู เสอื ของเจา้ ตลอดไป. สวสั ดี กฎลกู เสือ 10 ข้อท่ีใช้กล่าวตามมาตรฐานในการประกอบพิธีสารวจตวั เอง ข้อ 1. ลกู เสือมเี กียรติเชื่อถอื ได้ ลูกเสอื ท่แี ท้จรงิ ถอื ว่าเกยี รตขิ องเขาสาคญั กว่าสงิ่ ใด เกยี รติของเขาเป็นสง่ิ ศกั ดสิ ์ ทิ ธิ ์ คนทร่ี จู้ กั รกั ษาเกยี รตเิ ป็นผูเ้ ช่อื ถอื ได้เสมอ เขาจะไม่กระทาสงิ่ ใด ๆ ทเ่ี สยี เกียรติ เช่น พูดเทจ็ กบั ผู้บงั คบั บญั ชา หรอื นายจา้ ง หรอื ผอู้ ย่ใู ตบ้ งั คบั บญั ชาของเขา และเขาจะทาตวั ใหเ้ ป็นทน่ี บั ถอื ของคนทวั่ ไป ในฐานทเ่ี ป็น ลูกเสือวสิ ามญั ท่านต้องไม่ยอมให้ส่ิงท่ียวั่ ยวนใจ ไม่ว่าจะลกึ ลบั หรอื รุนแรงเพียงไรมาชกั จูงให้ท่าน กระทาการใด ๆ ทไ่ี มส่ จุ รติ หรอื เป็นทน่ี ่าสงสยั ทา่ นจะไมล่ ะเมดิ คามนั่ สญั ญาเป็นอนั ขาด ข้อ 2. ลกู เสือมีความจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และซื่อตรงต่อผมู้ พี ระคณุ ในฐานะเป็นพลเมอื งดี ท่านจะระลกึ ถงึ เสมอว่าท่านเป็นคนหน่ึงในคณะ หรอื เป็นอฐิ ก้อนหน่ึงใน กาแพง ท่านจะตอ้ งทาหน้าท่ขี องท่านใหด้ ที ส่ี ุด และซ่อื ตรงกบั ผมู้ สี ่วนเก่ยี วขอ้ งกบั ท่าน เช่น พ่อ แม่ พ่ี คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 243

น้อง นายจา้ งและลูกจา้ งของท่าน ท่านจะต้องไมทาลายเกยี รตขิ องท่านด้วยการเล่นไม่ซ่อื นอกจากนัน้ ท่านต้องไม่ทาให้ผู้ท่ไี ว้วางใจท่าน ไม่ว่าชายหรอื หญิงต้องผดิ หวงั บรรพบุรุษของท่านได้ทางานด้วย ความเขม้ แขง็ รบด้วยความทรหด และตายด้วยความองอาจ เพ่อื รกั ษาบ้านเมอื งไว้ให้ท่าน ขออย่าให้ บรรพบุรษุ ของท่านมองลงมาจากสวรรค์ และเหน็ ท่านเทย่ี วแต่ เอามอื ใส่กระเป๋ าโดยไม่ไดท้ าประโยชน์ อะไรเพอ่ื บา้ นเมอื งเลย จงแสดงบทบาทของทา่ นแต่ละคนตามตาแหน่งของตน และเล่นดว้ ยน้าใจนกั กฬี า ข้อ 3. ลกู เสือมีหน้าที่กระทาตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผอู้ ื่น ลูกเสอื จะพยายามให้ความเมตตากรุณา เพ่ือบาเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนอยู่เสมอ ความ คดิ เหน็ ของเขามวี ่าคนทุกคนตอ้ งตาย แต่ท่านควรจะทาใจของท่านว่าก่อนเวลาจากโลกน้ีไปตามวถิ ที าง ของธรรมชาติ ท่านควรจะทาความดบี ้าง ฉะนัน้ จงทาทนั ที เพราะท่านไม่รู้เลยว่าเม่อื ใดท่านจะต้อง ลว่ งลบั ไป ข้อ 4. ลกู เสือเป็นมิตรของคนทกุ คนและเป็นพี่น้องกบั ลกู เสืออื่นทวั่ โลก ในฐานะท่เี ป็นลูกเสอื วสิ ามญั ท่านจะต้องยอมรบั รวู้ ่าคนอ่นื เป็นเพ่อื นมนุษย์ และท่านต้องไม่ รงั เกยี จความแตกต่างในเรอ่ื งของความคดิ วรรณะ ศาสนาหรอื ชาตบิ า้ นเมอื ง ท่านตอ้ งขจดั อคตขิ องท่าน และมองหาจุดดขี องคนอ่นื ส่วนจุดชวั่ นัน้ คนโงก่ ย็ ่อมวจิ ารณ์ได้ ถ้าท่านแสดงไมตรจี ติ ต่อคนชาตอิ ่นื ได้ เชน่ น้ี กน็ บั ว่าทา่ นไดช้ ว่ ยก่อใหเ้ กดิ สนั ตภิ าพและไมตรจี ติ ระหว่างประเทศและมวลมนุษยช์ าตไิ ด้ ข้อ 5. ลกู เสือเป็นผสู้ ภุ าพเรียบร้อย ในฐานะทท่ี ่านเป็นลกู เสอื วสิ ามญั ท่านจะตอ้ งสภุ าพและคานงึ ถงึ ผหู้ ญงิ คนแก่ เดก็ และบุคคลทวั่ ๆ ไป แต่ยิ่งกว่านัน้ ท่านจะต้องสุภาพต่อฝ่ ายตรงข้ามกับท่านด้วย รวมความว่า ท่า นจะต้องเป็น สภุ าพบรุ ษุ สภุ าพบรุ ษุ คอื ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตามกฎแหง่ การบาเพญ็ ประโยชน์ของลกู เสอื ข้อ 6. ลกู เสือมีความเมตตากรณุ าต่อสตั ว์ สตั ว์ทงั้ หลาย มคี วามรกั และหวงแหนชวี ติ ของตนยงิ่ กว่าสงิ่ ใด ต่างกด็ น้ิ รนต่อสู่เพ่อื ใหม้ ชี วี ติ อยู่ รอดและปลอดภยั จากอันตราย ทุกชวี ติ ปรารถนาความสุข ความรกั ความอบอุ่น และการช่วยเหลอื เกอ้ื กลู แต่เกลยี ดกลวั และหวาดระแวงต่อการล่วงเกนิ เบยี ดเบยี น และทารา้ ย ภารกจิ อนั สาคญั ท่สี ุดของลูกเสอื วสิ ามญั คอื การช่วยเหลอื ผู้อ่นื ให้พ้นจากความทุกข์ และการ บรกิ ารแก่ผอู้ ่นื ใหไ้ ดร้ บั ความสุข ดงั นนั้ ลกู เสอื วสิ ามญั ทุกคน จงึ ควรจะเป็นผทู้ ม่ี คี วามรกั และความเมตตา กรณุ าต่อสตั วด์ ว้ ย ข้อ 7. ลกู เสือเช่ือฟังคาสงั่ ของบิดามารดา และผบู้ งั คบั บญั ชาด้วยความเคารพ ในฐานะท่ีเป็นลูกเสือวิสามญั ท่านย่อมบังคับตนเองและเต็มใจเช่ือฟังคาสงั่ ของพ่อแม่ ครู อาจารย์ นายหมแู่ ละผกู้ ากบั ลกู เสอื โดยชอบดว้ ยเหตุผล ไมม่ กี ารโตแ้ ยง้ 244 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ชุมชนท่มี วี นิ ัยดเี ป็นชุมชนท่มี คี วามสุขท่สี ุด แต่วนิ ัยต้องเกิดมาจากภายในมใิ ช่ถูกบงั คบั จาก ภายนอก ดงั นนั้ การปฏบิ ตั ติ นเป็นตวั อยา่ งทด่ี แี ก่ผอู้ ่นื จงึ เป็นสง่ิ ทม่ี คี ุณค่ามาก ข้อ 8. ลกู เสือมใี จรา่ เริง และไมย่ ่อท้อต่อความลาบาก ในฐานเป็นลกู เสอื วสิ ามญั คนอ่นื ๆ จะคอยมองดทู ่านและคดิ อยเู่ สมอวา่ ท่านคงจะไม่หวั เสยี และ จะยนื หยดั ต่อสดู้ ว้ ยความเขม้ แขง็ แระร่าเรงิ อดทน ในเมอ่ื มเี หตุการณ์ฉุกเฉินเกดิ ขน้ึ ข้อ 9. ลกู เสือเป็นผมู้ ธั ยสั ถ์ ในฐานะท่านเป็นลูกเสือวสิ ามญั ท่านจะมองไปข้างหน้าและจะไม่ยอมเสียเวลาห รอื เสยี เงนิ สาหรบั ความสุขสาราญในปัจจบุ นั แต่จะใชโ้ อกาสนนั้ เพ่อื ใหไ้ ดบ้ รรลุความสาเรจ็ ในหน้าทท่ี ท่ี ่านกระทา ทงั้ น้เี พ่อื วา่ จะไดไ้ มต่ อ้ งเป็นภาระแก่ผอู้ ่นื แต่กลบั จะเป็นการช่วยเหลอื ผอู้ ่นื ไดอ้ กี ดว้ ย ข้อ 10. ลกู เสือประพฤติชอบด้วย กาย วาจา ใจ ในฐานะทท่ี ่านเป็นลูกเสอื วสิ ามญั ท่านต้องมใี จสะอาด คดิ แต่เร่อื งท่เี ป็นมงคล สามารถควบคุม สตแิ ละจติ ใจตนเองไมใ่ หฟ้ ุ้งซานในรปู -รส-กลน่ิ -เสยี ง-สมั ผสั และของมนึ เมาจนเกนิ กว่าเหตุ ทา่ นตอ้ งเป็น ตวั ของตวั เอง และเป็นตวั อยา่ งทด่ี แี ก่ผอู้ ่นื ในทุกสง่ิ ทุกอยา่ งทท่ี ่านคดิ -พดู และกระทา สรปุ ตามกฎ 10 ข้อ ของลกู เสือวิสามญั ในฐานะท่ที ่านเป็นลูกเสือวสิ ามญั ท่านต้องจาไว้ว่าการขา้ มจากความเป็นเด็กไปสู่ความเป็น ผใู้ หญ่นนั้ ท่านมไิ ดเ้ ป็นแต่เพยี งเรยี นรใู้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎของลูกเสอื แต่ท่านกาลงั ใชก้ ฎของลกู เสอื นนั้ สาหรบั ปฏบิ ตั ใิ นการดาเนนิ ชวี ติ ของท่าน ในปัจจุบนั ท่านอยใู่ นฐานะรบั ผดิ ชอบทจ่ี ะเป็นตวั อย่างแก่ผอู้ ่นื และชกั นาเขาเหล่านนั้ ให้ไปในทางทด่ี หี รอื ทางชวั่ กไ็ ด้ ถา้ ท่านปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื ท่านก็ย่อมเป็นตวั อย่างท่ดี ี แต่ถ้าท่านไม่ปฏิบตั ิเช่นนัน้ ก็เป็นท่นี ่าเสยี ดายว่าท่านจะเป็นบ่อเกดิ แห่ง ความชวั่ รา้ ยและชกั นาผอู้ ่นื ไปในทางทผ่ี ดิ การสารวจตวั เองของผทู้ ่ีเข้าเป็นลกู เสือวิสามญั การสมคั รเขา้ เป็นลกู เสอื วสิ ามญั เรม่ิ ตน้ ดว้ ยการสารวจตวั เองก่อน ดงั ต่อไปน้ี ก. เม่อื เรามอี ายุมากข้นึ วนั เวลาก็ยง่ิ ผ่านไปเรว็ ขน้ึ เม่อื คดิ ดูจะเหน็ ว่าชวี ติ ของคนเรานัน้ สนั้ มาก และในไมช่ า้ กจ็ ะสน้ิ สุดลง ลกู เสอื วสิ ามญั จงึ ควรถามตนเองว่า 1) ฉนั ไดใ้ ชเ้ วลาในชวี ติ ของฉนั ใหเ้ ป็นประโยชน์สมกบั ทไ่ี ดเ้ กดิ มาแลว้ หรอื 2) ฉนั ไดป้ ล่อยเวลาใหห้ มดไปโดยไมไ่ ดท้ าอะไรใหเ้ ป็นประโยชน์เลยหรอื 3) ฉนั กาลงั ทางานอะไรทไ่ี มเ่ ป็นประโยชน์แก่ใครเลยหรอื คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 245

4) ฉันเสาะแสวงหาความเพลดิ เพลนิ หรือหาเงนิ หรอื หนทางก้าวหน้าให้แก่ตนเองมาก เกนิ ไป โดยมไิ ดพ้ ยายามช่วยเหลอื ผอู้ ่นื หรอื 5) ฉันเคยทารา้ ยหรอื ทาให้ใครเดอื ดรอ้ นบ้างหรอื ไม่ ฉันทาอะไรเพ่อื แก้ไขสงิ่ ทฉ่ี ันผดิ ไป แลว้ ไดบ้ า้ ง 6) ฉนั เคยไดช้ ว่ ยเหลอื ใครบา้ งในชวี ติ ของฉนั มใี ครอกี หรอื ไมท่ ฉ่ี นั จะชว่ ยได้ ข. คตพิ จน์ของลกู เสอื วสิ ามญั คอื “บรกิ าร” ฉะนนั้ ถา้ ไดเ้ ขา้ รว่ มเป็นลกู เสอื วสิ ามญั กค็ งจะไดม้ ี โอกาสไดร้ บั การฝึกอบรมและทางานเก่ยี วกบั บรกิ ารต่าง ๆ ซง่ึ ถา้ ฉนั มไิ ดเ้ ป็นลกู เสอื วสิ ามญั จงึ ควรถาม ตนเองวา่ 1) ฉนั เขา้ มาเป็นลกู เสอื วสิ ามญั เพอ่ื ความสนุกสนานทจ่ี ะไดเ้ ทา่ นนั้ หรอื 2) ฉนั ตงั้ ใจจะบรกิ ารโดยการเสยี สละอยา่ งจรงิ ใจหรอื ไม่ 3) ฉนั เขา้ ใจความหมายของคาวา่ “บรกิ าร” อยา่ งไร 4) ฉนั ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ นในงาน แผนงาน หรอื กระทาการใด ๆ ของฉนั บา้ งหรอื ไม่ 5) บรกิ ารอะไรทฉ่ี นั ทาไดอ้ ยา่ งดที ส่ี ดุ ทบ่ี า้ น ทท่ี างาน และในเวลาว่างของฉนั ค. บรกิ าร ไม่ใช่เรอ่ื งของเวลาว่างเท่านนั้ บรกิ ารความเป็นทศั นคตแิ ห่งชวี ติ ซง่ึ มชี ่องทางทจ่ี ะ แสดงออกมาดว้ ยความสมคั รใจของเราเอง เราไม่ไดท้ างานเพ่อื นายจา้ งใด ๆ ทเ่ี ราใหบ้ รกิ ารเพราะเรามี จติ ในสูง การกระทาเช่นน้ีแสดงว่าเราเป็นลูกผูช้ าย เน่ืองจากความสาเรจ็ ในการให้บรกิ ารย่อมแล้วแต่ นิสยั ในคอของเราเองเป็นสาคญั ฉะนนั้ จงึ ตอ้ งบงั คบั ตนเองใหอ้ ยใู่ นวนิ ัยเพ่อื ว่าเราไดเ้ ป็นตวั อยา่ งทด่ี แี ก่ ผอู้ ่นื 1) ฉนั จะเพยี รพยายามทจ่ี ะละหรอื เลกิ นสิ ยั ชวั่ ทงั้ หลายทไ่ี ดม้ มี าแต่ก่อนแลว้ หรอื 2) อะไรเป็นจดุ อ่อนใจคอของฉนั บา้ ง 3) ฉันมีความจงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซ่ือตรงต่อค รอบครวั ผบู้ งั คบั บญั ชา ผนู้ ้อย ขบวนการลกู เสอื เพอ่ื นของฉนั และตวั ของฉนั เองหรอื ไม่ 4) ฉนั เป็นผมู้ เี กยี รติ มสี จั จะ และเชอ่ื ถอื ไดจ้ รงิ หรอื 5) ฉนั มใี จหนกั แน่น รา่ เรงิ และมคี วามเมตตากรณุ าต่อผอู้ ่นื หรอื 6) ฉนั มสี ติ และประพฤตชิ อบดว้ ยกาย วาจา ใจ หรอื 7) ฉนั มคี วามมานะ อดทน ทจ่ี ะยนื หยดั ในเมอ่ื โชคไมเ่ ขา้ ขา้ งฉันหรอื 8) ฉนั เป็นตวั ของฉนั เอง หรอื ฉนั ยอมใหผ้ อู้ ่นื ชกั จงู ไป 9) ฉนั มใี จเขม้ แขง็ พอทจ่ี ะหลกี เลย่ี งจากสง่ิ ยวั่ เยา้ ยวนต่าง ๆ เช่น การพนนั สรุ า นารี 10) ถา้ ฉนั มขี อ้ บกพรอ่ งในสงิ่ เหล่าน้ีประการใด ฉันจะตกลงใจ ณ บนั น้ี หรื ไมว่ ่าฉนั จะทา ตวั ใหด้ ที ส่ี ุดจะแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งเหลา่ นนั้ และสลดั ใหส้ น้ิ ไปของใหส้ งิ่ ศกั ดสิ ์ ทิ ธทิ ์ งั้ หลายจงดลบลั ดาลใหข้ า้ มกี าลงั ในท่จี ะก้าวไปขา้ งหน้าอย่างลูกผชู้ ายสมเป็นพลเมอื งดี และเพ่อื เป็นกาลงั ของชาตบิ ้านเมอื งของ ขา้ สบื ไป 246 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

ในการสารวจตวั เองของลูกเสอื วสิ ามญั นนั้ ส่วนมากจะกระทาก่อนทาพิธเี ขา้ ประจากองเลก็ น้อย หรอื จะเรยี กว่าเป็นส่วนหน่ึงของพธิ เี ขา้ ประจากองกไ็ ดเ้ พราะในทางปฏบิ ตั นิ ัน้ เม่อื เตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ไดผ้ ่านหลกั สตู รเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั มาแลว้ และสมคั รใจทจ่ี ะเป็นลกู เสอื วสิ ามญั ผกู้ ากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ก็จะได้กระทาพธิ เี ขา้ ประจากองให้แก่เตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั นัน้ ๆ ก่อนทจ่ี ะทาพธิ เี ขา้ ประจากองนัน้ ผู้ กากบั ลกู เสอื จะใหเ้ ตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ทาการสารวจตวั เองก่อน โดยผกู้ ากบั ลกู เสอื จะนดั หมายใหเ้ ตรยี ม ลกู เสอื วสิ ามญั มาพรอ้ มกนั สว่ นมากจะกระทาในตอนกลางคนื เมอ่ื เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั มาพรอ้ มกนั แลว้ ผู้กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั กจ็ ะอธบิ ายใหเ้ ตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั ฟังถงึ เร่อื งอุปสรรคในการดาเนินชวี ติ ต่าง ๆ เช่น สรุ า นารี พาชี กฬี าบตั ร ใหเ้ ตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ฟังพอสมควรแลว้ กจ็ ะนาเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั เดนิ ไปยงั ทจ่ี ะกระทาการสารวจตวั เอง และก่อนจะถงึ สถานทส่ี ารวจตวั เองนนั้ จะผ่านจดุ ต่าง ๆ 10 จดุ แต่ละ จุดมผี บู้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื วสิ ามญั อ่านกฎของลูกเสอื และอธบิ ายความหมายนัน้ ๆ ใหฟ้ ังดงั ๆ โดยเรม่ิ ตงั้ แต่กฎของลูกเสอื ขอ้ ท่ี 1 เป็นต้นไปเป็นจุด ๆ ถงึ จุดไหนก็หยุดฟัง พออ่านจบกเ็ ดนิ ต่อไปจนหมดทงั้ 10 ขอ้ กจ็ ะถงึ สถานทส่ี ารวจตนเอง ซง่ึ มบี รเิ วณกวา้ งพอทล่ี กู เสอื จะแยกกนั เพ่อื สารวจตวั เองอยา่ งอสิ ระ ไม่ชดิ กนั เกินไป มโี ต๊ะหมู่บูชา และหลงั จากจุดธูปเทยี นบูชาพระแล้ว ผู้กากบั ลูกเสอื ก็จะแจกเทยี นให้ ลกู เสอื คนละ 1 เล่ม พรอ้ มทงั้ ขอ้ ความสารวจตนเองคนละ 1 แผ่น และนัดหมายใหท้ ุกคนไปนงั่ พจิ ารณา โดยจุดพจิ ารณาข้อความ เม่อื ทุกคนพจิ ารณาได้เวลาพอสมควรหรเื ข้าใจ หรอื เทยี นหมดเล่มแล้ว ให้ กลบั ไปยงั สถานท่ีทาพิธเี ข้าประจากองทันที ส่วนผู้กากบั ลูกเสือวสิ ามญั และผู้บงั คบั บัญชาอ่ืน ๆ ก็ กลบั มายงั สถานท่กี ระทาพธิ เี ข้าประจากอง เพ่อื เตรยี มพธิ กี ารต่าง ๆ รอเตรยี มลูกเสอื วสิ ามญั กลบั มา เมอ่ื เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั กลบั มายงั ทก่ี ระทาพธิ เี ขา้ ประจากองหมดแลว้ ทุกคน กเ็ รมิ่ พธิ เี ขา้ ประจากองทนั ที พิธีเข้าประจากองลกู เสือวิสามญั พธิ เี ขา้ ประจากองลกู เสอื วสิ ามญั ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั ต่อไปน้ี ใหน้ าเตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ในเคร่อื งแบบมายนื อย่ขู า้ งหน้ากองลูกเสอื วสิ ามญั และอย่รู ะหว่างพ่ี เลย้ี งสองคน มโี ต๊ะพธิ ซี ง่ึ ปดู ว้ ยธงชาติ ผูก้ ากบั ลูกเสอื ยนื ด้านหน่ึงของโต๊ะพธิ หี นั หน้าเขา้ ลูกเสอื ทจ่ี ะเขา้ ประจากองแลว้ เรยี กช่อื ผทู้ จ่ี ะเขา้ พธิ ี และถามดงั น้ี ผกู้ ากบั ลกู เสอื เรยี กชอ่ื ผสู้ มคั ร “เจา้ มาท่นี ่ีเพ่อื ทจ่ี ะเขา้ มาเป็นลูกเสอื วสิ ามญั ในคณะพ่นี ้องลูกเสอื แห่ง โลกอนั ยง่ิ ใหญ่หรอื ” ผสู้ มคั ร “ครบั ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื “ถงึ แมว้ า่ เจา้ จะมขี อ้ ยงุ่ ยากมาบา้ งแลว้ ในอดตี แต่บดั น้ี เจา้ กไ็ ดต้ งั้ ใจทจ่ี ะทาใหด้ ี ท่สี ุดเพ่อื เป็นผู้มเี กียรติ มสี จั จะ มคี วามซ่อื ตรงในการงานทงั้ ปวง พรอ้ มท่จี ะ ปฏบิ ตั ชิ อบดว้ ยกาย วาจา ใจ ใช่หรอื ไม่” ผสู้ มคั ร “ใช่ครบั ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื “เจา้ ไดค้ ดิ รอบคอบดแี ลว้ หรอื ว่า เจา้ พรอ้ มทจ่ี ะเขา้ เป็นลกู เสอื วสิ ามญั ” ผสู้ มคั ร “ขา้ ไดค้ ดิ รอบคอบดแี ลว้ ” คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 247

ผกู้ ากบั ลกู เสอื “เจา้ เขา้ ใจหรอื ไม่ว่าคาว่า “บรกิ าร” นนั้ หมายความว่า ตลอดเวลาเจา้ จะตอ้ งมใี จ หนักแน่นต่อผู้อ่นื ทุกคนและเจ้าจะทาดีท่สี ุดเพ่อื ช่วยเหลอื ผู้อ่นื ถึงแม้ว่าการ ช่วยเหลอื นัน้ ไม่สะดวก หรอื ไม่เป็นท่พี อใจ หรอื ไม่เป็นท่ปี ลอดภยั แต่ตวั เอง และจา้ จะไมห่ วงั สงิ่ ตอบแทนใด ๆ ในการใหบ้ รกิ ารนนั้ ” ผสู้ มคั ร “ขา้ เขา้ ใจดแี ลว้ ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื “เจา้ เขา้ ใจดแี ลว้ หรอื ไมว่ ่าการทเ่ี จา้ จะเป็นลูกเสอื วสิ ามญั นนั้ เจา้ กาลงั จะรว่ มอยู่ ในคณะลูกเสอื ท่ตี ้องการจะช่วยเหลอื เจา้ ให้สามารถปฏบิ ตั ติ ามอุดมการณ์คติ ของเจา้ และเราขอให้เจา้ ปฏบิ ตั ติ ามข้อบงั คบั และคติพจน์ของเราในเร่อื งการ ใหบ้ รกิ ารแก่ผอู้ ่นื ” ผสู้ มคั ร “ขา้ เขา้ ใจดแี ลว้ ” ผกู้ ากบั ลกู เสอื “ถา้ เช่นนนั้ ขา้ ขอให้เจา้ กล่าวคาปฏญิ าณของลูกเสอื และพงึ เขา้ ใจไดด้ ว้ ยว่า เจา้ แปลความหมายของคาปฏญิ าณน้ไี มใ่ ชอ่ ยา่ งเดก็ แต่จะแปลอยา่ งผใู้ หญ่” ผสู้ มคั ร (กา้ วออกมาขา้ งหน้า เอามอื ซา้ ยจบั ธง มอื ขวาแสดงรหสั ) ลกู เสอื ในกองลูกเสอื วสิ ามญั ทกุ คนแสดงรหสั ผสู้ มคั ร “ดว้ ยเกยี รตขิ องขา้ ขา้ สญั ญาว่า ขอ้ 1 ขา้ จะจงรกั ภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ขอ้ 2 ขา้ จะชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ทกุ เมอ่ื ขอ้ 3 ขา้ จะปฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสอื ” ครนั้ แลว้ ผกู้ ากบั ลกู เสอื จบั มอื ลกู เสอื วสิ ามญั ใหมด่ ว้ ยมอื ซา้ ย และกล่าวว่า ผกู้ ากบั ลกู เสอื “ขา้ ฯ เช่อื เจา้ ว่าดว้ ยเกยี รตขิ องเจา้ เจ้าจะปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณทเ่ี จา้ ใหไ้ วแ้ ลว้ ผกู้ ากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ตดิ แถบทไ่ี หล่แก่ลูกเสอื วสิ ามญั และมอบเครอ่ื งหมายให้ พรอ้ มกบั กลา่ ววา่ ผกู้ ากบั ลกู เสอื “แถบทไ่ี หล่น้ีมสี ามสี คอื สเี หลอื ง สเี ขยี วและสแี ดง สเี หลา่ น้ีเป็นสขี องลกู เสอื ทงั้ สามประเภททอ่ี ย่ใู นวงพน่ี ้องลกู เสอื ขา้ ขอต้อนรบั เจา้ มาอยดู่ ว้ ย ขอใหส้ ที งั้ สาม น้ีจงเป็นเคร่อื งเตือนใจให้เจา้ ระลกึ ถงึ หน้าท่ขี องเจา้ มอี ยู่ต่อลูกเสอื รุ่นน้องและ ขอใหเ้ จา้ ระลกึ ถงึ ความรบั ผดิ ชอบของเจา้ ในฐานะทเ่ี ป็นลูกเสอื วสิ ามญั ในการท่ี จะบาเพญ็ ตนใหด้ ที ส่ี ดุ ทจ่ี ะเป็นตวั อยา่ งแต่ลกู เสอื รนุ่ น้องต่อไป” ครนั้ แลว้ ใหก้ องลกู เสอื วสิ ามญั กา้ วเขา้ มาลอ้ มรอบลกู เสอื วสิ ามญั ใหม่ จบั มอื แลว้ กลา่ วคาตอ้ นรบั ลกู เสอื วสิ ามญั ใหใ้ ชไ้ มง้ า่ มแทนไมพ้ ลอง เมอ่ื เตรยี มลกู เสอื วสิ ามญั ไดเ้ ขา้ ถงึ พธิ ปี ระจากองเป็นลูกเสอื วสิ ามญั โดยสมบรู ณ์ ผูก้ ากบั ลูกเสอื วสิ ามญั จงึ ดาเนินการฝึกอบรมลูกเสอื วิสามญั ตามหลกั วชิ าพเิ ศษ ตามแผนกาหนดการ ฝึกอบรมท่ไี ด้จดั ทาไว้ วชิ าพเิ ศษลูกเสอื วสิ ามญั ตามขอ้ บงั คบั คณะลูกเสอื แห่งชาตวิ ่าดว้ ยการปกครอง หลกั สูตและวชิ าพิเศษลูกเสือวสิ ามญั (ฉบบั ท่ี 15) พ.ศ. 2529 ซ่ึงมรี ายละเอียดของเน้ือหาวิชาตาม รายวชิ าดงั น้คี อื 248 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1

คหู าลกู เสือวิสามญั คูหาลูกเสอื วสิ ามญั เป็นสงิ่ จาเป็นท่กี องลูกเสอื วสิ ามญั จะต้องจดั ให้มขี น้ึ ในกองลูกเสอื วสิ ามญั คูหาลูกเสอื วสิ ามญั หมายถงึ สถานทข่ี องลกู เสอื วสิ ามญั ซง่ึ เป็นสถานทป่ี ระกอบกจิ กรรมของลกู เสอื เช่น การประชุมวางแผนหรอื ประกอบพธิ ปี ระดบั แถบสี (สาหบั เตรยี มลูกเสือวสิ ามญั และลูกเสอื วสิ ามญั ) ตอ้ งการใหล้ กู เสอื วสิ ามญั มสี ถานทร่ี วมจติ ใจยดึ มนั่ ในอุดมการณ์ของลกู เสอื 1. บริเวณสถานที่ ควรเป็นสถานทส่ี งบเงยี บ มบี รเิ วณกวา้ งขวาง มคี วามสะอาดโดยรอบบรเิ วณ 2. ลกั ษณะการปลูกสร้าง จะเป็นแบบใดก็ได้ให้ดูแลว้ เป็นท่สี ะดุดตา อาจเป็นทรงไทยหรอื ทรงประยกุ ต์ 3. วสั ดทุ ่ีใช้ก่อสร้าง จะใชว้ สั ดุอย่างไรกแ็ ลว้ แต่ฐานะการเงนิ ของกองเป็นสาคญั การก่อสรา้ ง อาจะใชไ้ มก้ ลม ปีกไม้ หรอื อฐิ แต่ทส่ี าคญั คอื ใหม้ คี วามคงทน 4. การสรา้ งภายในคหู า (1) มหี อ้ งประชุม (2) มหี อ้ งสมดุ เกย่ี วกบั ลกู เสอื (3) มหี อ้ งเกบ็ เครอ่ื งหมาย (4) มหี อ้ งเกบ็ พสั ดุ (5) มหี อ้ งน้า (6) มที ส่ี าหรบั พกั 5. ส่ิงประกอบภายใน คูหาลูกเสอื วสิ ามญั เป็นสถานทซ่ี ง่ึ ใชส้ าหรบั พธิ กี ารต่าง ๆของลูกเสอื วสิ ามญั ดว้ ย จงึ ตอ้ งมสี งิ่ ต่าง ๆ ซง่ึ เป็นทเ่ี คารพสกั การะ ดงั น้ี (1) พระพุทธรูปและโต๊ะหมู่บูชา ถ้าลูกเสือนับถือศาสนาเดียวกันก็ให้ประดิษฐาน พระพทุ ธรปู ไวบ้ นโต๊ะบชู า หรอื ศาสนาอ่นื กแ็ ลว้ แต่ความเคารพนบั ถอื (2) ธงชาติ ธงประจากอง (3) พระบรมฉายาลกั ษณ์พระประมขุ ของคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ (4) พระบรมรปู รชั กาลท่ี 6 พระผพู้ ระราชทานกาเนดิ ลกู เสอื ไทย (5) รปู บ-ี พี ผกู้ ่อกาเนิดลกู เสอื โลก (6) คาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 6. ลกั ษณะการใช้คหู าลกู เสือวิสามญั (1) ใชเ้ ป็นทส่ี อนและอบรมลกู เสอื (2) ใชเ้ ป็นทป่ี ระชมุ คณะกรรมการประจากองหรอื ประชุมสมาชกิ ของกอง (3) ใชค้ น้ ควา้ หาความรเู้ ป็นหอ้ งสมดุ (4) ใชท้ าพธิ ที างศาสนา เช่น ทาบุญในโอกาสครบรอบตงั้ กองลกู เสอื (5) ใชท้ าพธิ ที างลกู เสอื เช่น พธิ เี ขา้ ประจากอง พธิ ถี วายราชสดดุ ี (6) ใชเ้ ป็นพพิ ธิ ภณั ฑท์ ร่ี ะลกึ ทไ่ี ดม้ าจากทอ่ี ่นื หรอื ต่างประเทศ (7) ใชเ้ ป็นสานกั งานของลกู เสอื ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 1 249


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook