Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 11._aephnkaarcchadkicchkrrm_m_5_m_6-com

11._aephnkaarcchadkicchkrrm_m_5_m_6-com

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-03-29 12:14:02

Description: 11._aephnkaarcchadkicchkrrm_m_5_m_6-com

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ ตวั อย่างแผนการใช้เงิน นายสมชายเป็นนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 อาศยั อย่กู บั บดิ ามารดาทบ่ี า้ นซง่ึ อยไู่ กลจากโรงเรยี น ประมาณ 5 กโิ ลเมตร มรี ถประจาทางไป-กลบั ไดส้ ะดวก บดิ าใหค้ า่ ใชจ้ ่ายรายสปั ดาหๆ์ ละ 1,000 บาท รวมค่ารถ คา่ อาหาร และอุปกรณ์การเรยี น แต่ถา้ ไมพ่ อกส็ ามารถขอเงนิ ซอ้ื อุปกรณ์ การเรยี นเพม่ิ ไดอ้ กี เป็นครงั้ คราวไป สมชายชอบเตะฟุตบอลกบั เพ่อื นหลงั เลกิ เรยี นเสมอ และมกั จะไป ด่มื นมทร่ี า้ นขาประจากบั กลุ่มเตะฟุตบอลก่อนกลบั ทุกวนั ทเ่ี รยี นหนงั สอื นอกจากนนั้ ในวนั หยดุ สมชายมกั จะไปรา้ นเกมใกลบ้ า้ นประมาณวนั ละ 1-2 ชวั่ โมง และอาจทารายงานกลุม่ กบั เพ่อื นอกี สกั 1 ครงั้ ต่อสปั ดาห์ และไปเตะฟุตบอลกบั กล่มุ เพ่อื นแถวบา้ นทกุ วนั หยดุ พรอ้ มแวะด่มื นมรว่ มกนั ก่อนแยกกลบั บา้ น รวมทงั้ ชอบดหู นงั ยาว จงึ ไปซอ้ื ดวี ดี ชี ุดจากรา้ นเป็นระยะ สมชายวางแผนการใชเ้ งนิ ดงั น้ี 1. ค่ารถไป-กลบั โรงเรยี นวนั ละ 12 บาท X 2 เทย่ี ว X 5 วนั X 1 สปั ดาห์ จานวน 120 บาท 2. ค่าอาหารกลางวนั ๆ ละ 50 บาท X 1 มอ้ื X 5 วนั X 1 สปั ดาห์ จานวน 250 บาท 3. ค่านมและขนมตอนเยน็ วนั ละ 40 บาท X 1 มอ้ื X 5 วนั X 1 สปั ดาห์ จานวน 200 บาท 4. ค่าดวี ดี ปี ระจาสปั ดาห์ 200 บาท X 1 ชดุ X 1 สปั ดาห์ จานวน 200 บาท 5. ค่าเลน่ เกมวนั หยดุ 15 บาท X 2 ชวั่ โมง X 2 วนั X 1 สปั ดาห์ จานวน 60 บาท 6. ค่าอาหารวนั ทารายงานกลุ่มกบั เพอ่ื น 100 บาท X 1 ครงั้ X 1 สปั ดาห์ จานวน 100 บาท 7. ค่าอุปกรณ์การเรยี นรายสปั ดาห์ 200 บาท X 1 สปั ดาห์ จานวน 200 บาท 8. รายจา่ ยจร 100 บาท X 1 สปั ดาห์ จานวน 100 บาท 9. เงนิ ออม 150 บาท X 1 สปั ดาห์ จานวน 150 บาท รวมรายจ่าย 1,480 บาท สมชายสงั เกตวา่ รายจา่ ยเกนิ รายได้ 1,000 บาทต่อสปั ดาห์ จงึ ลดรายจา่ ยลงบางรายการ เชน่ ซอ้ื ดวี ดี เี ปลย่ี นเป็น 1 ครงั้ ต่อเดอื น การทารายงานกลมุ่ อุปกรณ์การเรยี นและรายจ่ายจร ไมท่ าทุกสปั ดาห์ จงึ น่าจะถวั เฉลย่ี กบั สปั ดาหท์ ไ่ี มม่ ไี ดล้ งตวั พอดนี อกจากนนั้ สงั เกตวา่ คา่ อาหารเหลอื แต่ไมเ่ ทา่ กนั ทกุ วนั จงึ น่าจะมาทดแทนกนั ได้ สมชายจงึ นาเงนิ ตดิ ตวั ไปโรงเรยี นวนั ละ 200 บาท เผ่อื ตดิ กระเป๋ าไวส้ าหรบั รายจา่ ยจรเสมอ แต่กม็ เี งนิ เหลอื กลบั บา้ นทกุ วนั เสมอและใชแ้ ผนการเงนิ เดมิ ก่อน 150 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ตวั อยา่ งแบบบนั ทึกการใช้เงินประจาวนั วนั ที่ 3 สิงหาคม 2556 รายรบั 143 บาท รายจ่าย 1. ค่ารถไป-กลบั โรงเรยี น จานวน 24 บาท 2. ค่าอาหารกลางวนั จานวน 40 บาท 3. ค่านมและขนมตอนเยน็ จานวน 35 บาท 4. ค่ากระดาษทาปกรายงาน จานวน 50 บาท 5. เงนิ ออม จานวน 20 บาท รวมรายจ่าย 169 บาท ติดลบ 26 บาท วนั ที่ 4 สิงหาคม 2556 รายรบั 143 บาท รายจ่าย 1. ค่ารถไป-กลบั โรงเรยี น จานวน 24 บาท 2. ค่าอาหารกลางวนั จานวน 50 บาท 3. ค่านมและขนมตอนเยน็ จานวน 10 บาท 4. เงนิ ออม จานวน 20 บาท รวมรายจ่าย 100บาท เหลือ 43 บาท ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 151

ตวั อย่างการทาบญั ชีรายรบั – รายจ่ายอย่างง่าย ว/ด/ป รายการ รบั จ่าย คงเหลือ หมายเหตุ 11 ม.ิ ย.56 แมใ่ หเ้ งนิ 200 - 200 12 ม.ิ ย.56 ค่ารถ 50 150 คา่ อาหาร 50 100 13 ม.ิ ย.56 ค่าอุปกรณ์การเรยี น 20 80 ของขวญั 100 -20 แมใ่ หเ้ งนิ 200 - 200 คา่ รถ 50 150 คา่ อาหาร 50 100 คา่ อุปกรณ์การเรยี น 10 90 อ่นื ๆ 50 40 ออมเงิน 40 0 แมใ่ หเ้ งนิ 200 - 200 ค่ารถ 50 150 คา่ อาหาร 50 100 ค่าอุปกรณ์การเรยี น - 100 อ่นื ๆ - 100 ออมเงิน 100 0 152 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ตวั อย่างสรปุ ผลการใช้เงินรายเดือน รายรบั 4,500 บาท 1. ค่ารถไป-กลบั โรงเรยี น จานวน 552 บาท 2. ค่าอาหารกลางวนั จานวน 1,000 บาท 3. ค่านมและขนมตอนเยน็ จานวน 900 บาท คา่ อาหาร 2,100 บาท ค่าผ่อนคลาย 640 บาท 4. ค่าอาหารวนั ทารายงานกลุ่มกบั เพอ่ื น จานวน 200 บาท 5. ค่าอุปกรณ์การเรยี น จานวน 200 บาท 6. ค่าดวี ดี ี จานวน 200 บาท 7. ค่าเลน่ เกมสว์ นั หยดุ จานวน 240 บาท 8. รายจา่ ยเบด็ เตลด็ จานวน 200 บาท 9. เงนิ ออม จานวน 600 บาท รวมรายจ่าย 4,092บาทเงนิ เหลอื เกบ็ 1,008 บาท เหลือ 408 บาท คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 153

เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ สภุ าษิตสอนหญิง(สอนทงั้ หญงิ และชาย) สนุ ทรภู่ มสี ลงึ พงึ บรรจบใหค้ รบบาท อยา่ ใหข้ าดสง่ิ ของตอ้ งประสงค์ แมม้ นี ้อยกนิ น้อยค่อยบรรจง อยา่ จ่ายลงใหม้ ากจะยากนาน ไมค่ วรซอ้ื กอ็ ยา่ ไปพไิ รซอ้ื ใหเ้ ป็นมอ้ื เป็นคราวทงั้ คาวหวาน เมอ่ื พ่อแมแ่ ก่เฒา่ ชรากาล จงเลย้ี งท่านอยา่ ใหอ้ ดระทดใจ ดว้ ยชนกชนนีน้ีมคี ณุ ไดก้ ารญุ เลย้ี งรกั ษามาจนใหญ่ อุม้ อุทรป้อนขา้ วเป็นเท่าไร หมายจะไดพ้ ง่ึ พาธดิ าดวง ถา้ เรามดี วงจติ คดิ อุปถมั ภ์ กุศลลา้ เลศิ เท่าภเู ขาหลวง จะปรากฏยศยงิ่ สงิ่ ทงั้ ปวง กว่าจะลว่ งลถุ งึ ซง่ึ พมิ าน เทพไทในหอ้ งสบิ หกชนั้ จะชวนกนั สรรเสรญิ เจรญิ สาร วา่ สตรนี ้เี ป็นยอดยพุ าพาล ไดเ้ ลย้ี งท่านชนกชนนี เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า การรจู้ กั ประหยดั อดออม ทาใหเ้ ราสามารถมเี งนิ ใชจ้ า่ ยในการดแู ลผมู้ พี ระคุณได้ 154 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 7 ดาเนินชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง แผนการจดั กิจกรรมที่ 12 การหารายได้ระหว่างเรียน เวลา 1 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถบอกความสาคญั และแนวทางทเ่ี หมาะสมของการหารายไดร้ ะหว่างเรยี นได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถทากจิ กรรมหารายไดร้ ะหว่างเรยี นได้ 2. เนื้อหา การหารายไดร้ ะหว่างเรยี นเป็นการฝึกฝนการแบ่งเวลา การใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ สรา้ งเสรมิ ประสบการณ์การปรบั ตวั กบั งานและผคู้ น สรา้ งรายไดเ้ พ่อื ลดภาระของครอบครวั และเป็นการปลกู เมลด็ พนั ธุแ์ หง่ ความภาคภมู ใิ จในตน เหน็ คณุ คา่ ของเงนิ ทไ่ี ดม้ าดว้ ยความอุตสาหะ อนั เป็นส่วนหน่งึ ของการดาเนินชวี ติ ตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งทน่ี าความสขุ ในชวี ติ ของลกู เสอื อยา่ งยงั่ ยนื 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกบั ประสบการณ์ในการทางาน หารายไดร้ ะหว่างเรยี น 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แบ่งกลมุ่ ลกู เสอื ใหร้ ะดมสมอง วธิ กี ารหารายไดร้ ะหวา่ งเรยี น กล่มุ ละอยา่ งน้อย 5 วธิ ี 3) ผแู้ ทนกลุ่มรายงานผลการระดมสมองต่อทป่ี ระชมุ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื อภปิ ราย เพมิ่ เตมิ ช่นื ชม สรปุ 5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหล้ กู เสอื กลมุ่ ละไมเ่ กนิ 3 คน เขยี นโครงการการหารายได้ ระหวา่ งเรยี นของกลุม่ ส่ง ลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามโครงการ และจดั ทารายงานผลการปฏบิ ตั โิ ครงการ พรอ้ มช่นื ชมลกู เสอื เพอ่ื เป็นตวั อยา่ งแก่ลกู เสอื คนอ่นื ๆ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดเปิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 155

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื การคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของเงนิ ทไ่ี ดจ้ ากน้าพกั น้าแรงตนเอง เหน็ ความสาคญั ของการวางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 12 เพลง อย่าเกียจคร้าน อยา่ เกยี จครา้ นการทางานนะพวกเรา งานหนกั งานเบาเหน่อื ยแลว้ เรา พกั ผอ่ นกห็ าย ไมท่ างาน หลบหลกี งาน เฝ้าเกยี จครา้ นเอาแต่สบาย แก่จนตาย ขอทานายว่าไมเ่ จรญิ (ซา้ ) เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ คนขีเ้ หนียวกบั ทองคา ชายคนหน่งึ เป็นคนขเ้ี หนยี ว เขามกั จะเอาสมบตั ฝิ ังดนิ ไวร้ อบๆบา้ นไม่ยอมนามาใชจ้ า่ ย ใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อมาเขากลวั วา่ จะไมป่ ลอดภยั ถ้าฝังเงนิ ทองไวห้ ลายเเหง่ เขาจงึ ขายสมบตั ทิ งั้ หมด เเลว้ ซอ้ื ทองคาแท่งหน่งึ มาฝังไวท้ ห่ี ลงั บา้ นเเลว้ หมนั่ ไปดทู ุกวนั คนใชผ้ หู้ น่งึ สงสยั จงึ เเอบตามไปดู ทห่ี ลงั บา้ น แลว้ กข็ ดุ เอาทองแท่งไปเสยี ชายขเ้ี หนียวมาพบหลมุ ทว่ี า่ งเปล่าในวนั ต่อมากเ็ สยี ใจ รอ้ งหม่ รอ้ งไหไ้ ปบอกเพอ่ื นบา้ นคนหน่งึ เพ่อื นบา้ นจงึ เเนะนาประชดประชนั วา่ “ทา่ นกเ็ อากอ้ นอฐิ ใส่ในหลุมแลว้ คดิ ว่าเป็นทองคาสเิ พราะถงึ อยา่ งไรท่านกไ็ มเ่ อามาใชอ้ ยแู่ ลว้ ” เรอื่ งนี้สอนให้รวู้ ่า การมที รพั ยแ์ ละประหยดั ออมทรพั ยเ์ ป็นสง่ิ ทด่ี แี ต่ตอ้ งรจู้ กั ประมาณการใชท้ รพั ย์ ทม่ี อี ยใู่ หเ้ กดิ ประโยชน์ดว้ ย 156 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี่ ที่ 5-6,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยท่ี 8 การคิดวิเคราะห์ ตดั สินใจ แก้ปัญหา เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 13 ความเส่ียงท่ีเล่ียงได้ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายสถานการณ์ทจ่ี ะนาไปสกู่ ารมเี พศสมั พนั ธท์ ไ่ี มค่ าดคดิ ได้ 2. เนื้อหา สถานการณ์ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั อาจนาไปสู่ความเส่ยี งต่อการมเี พศสมั พนั ธ์ท่ไี ม่คาดคดิ และ นาไปสู่ปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การตงั้ ครรภ์ท่ไี ม่พรอ้ ม โรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์และเอดส์ รวมทงั้ ปัญหาสุขภาพจติ และผลกระทบต่างท่เี กดิ ในชวี ติ หากเรามคี วามสามารถประเมนิ สถาณการณ์ท่นี าไปสู่ ความเสย่ี งต่างๆ จะทาใหเ้ ราปลอดภยั ได้ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 เกม 3.2 ใบงานกรณศี กึ ษา เรอ่ื ง “ทายใจ แกว้ กบั หนุ่ม” “และสถานการณ์ฝึกประเมนิ ความเสย่ี ง 3.3 ใบความรู้ 1) ขนั้ ตอนการประเมนิ ความเสย่ี ง 2) แนวทางการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ความเสย่ี ง 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนา เรอ่ื ง สถานการณ์ทน่ี าไปส่กู ารมเี พศสมั พนั ธข์ องวยั รนุ่ 2) จบั คพู่ ดู คยุ กนั ถงึ กรณศี กึ ษา “ทายใจ แกว้ กบั หนุ่ม” ในใบงานท่ี 1 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รวบรวมความคดิ เหน็ สถานการณ์บางอยา่ งใน ชวี ติ ประจาวนั เป็นสถานการณ์เสย่ี งในเรอ่ื งเพศ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยาย เรอ่ื ง “สถานการณ์เสย่ี งในเร่อื งเพศของวยั รนุ่ และขนั้ ตอน การประเมนิ ความเสย่ี ง” ตามใบความรทู้ ่ี 1 พรอ้ มสาธติ การวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ความเสย่ี ง “กรณศี กึ ษาจบุ๊ กบั จอม “ ตามใบความรทู้ ่ี 2 5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แบ่งกลุ่มลกู เสอื ออกเป็น 5 กลมุ่ ฝึกวเิ คราะหส์ ถานการณ์ และประเมนิ ความเสย่ี งตามสถานการณ์ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (ใบรายงานท่ี 2) 6) ตวั แทนกลุ่มลกู เสอื นาเสนอหน้าชนั้ ผกู้ ากบั จงึ นาอภปิ รายทลี ะสถานการณ์เพ่อื ชใ้ี หเ้ หน็ ความ เสย่ี งของสถานการณ์ต่างๆ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 157

7) สรปุ ขนั้ ตอนการประเมนิ ความเสย่ี ง 4.4 ผกู้ ากบั เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั รถู้ งึ สถานการณ์เสย่ี งทางเพศใกลต้ วั ตดั สนิ และ แกไ้ ขปัญหา ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 13 เกม “พิชิตยกั ษ์(THE BLIND GIANTS)” เกมน้ีคลา้ ยๆ กบั หมาในเขา้ ถ้า แต่ใช้เก้าอ้ี 2 ตวั แทนประตู วางให้ขา้ งหลงั เขา้ หากนั ห่างกนั ประมาณ 40 น้ิว ในระว่างช่องน้ีให้มยี กั ษ์ตาบอด 2 คน โดยให้เอาผ้าผูกลูกเสอื 3 คน ให้ลูกเสอื ทงั้ 2 คนจบั มอื กนั อกี มอื หน่ึงจบั พนักเก้าอ้ี ให้ลูกเสอื อ่นื เป็นผู้พชิ ติ ยกั ษ์ ลอดเขา้ ไปในช่องใต้มอื ระหว่างมอื ทจ่ี บั กนั หรอื มอื ท่จี บั พนักเก้าอ้ี หรอื ระหว่างขายกั ษ์ตาบอดท่เี ป็นยาม ภายในเวลาจากดั ถ้าเข้าไม่ได้เกินกว่าจานวนท่ี กาหนดไว้ ยกั ษเ์ ป็นผชู้ นะ ถา้ เขา้ ไดม้ ากผพู้ ชิ ติ ยกั ษเ์ ป็นผชู้ นะ ใบงาน กรณีศึกษา “ทายใจแก้วกบั หนุ่ม” แกว้ กบั หนุ่มอยดู่ ว้ ยกนั ตามลาพงั ทบ่ี า้ นของหนุ่ม หนุ่มชวนแกว้ ไปดวู ดี โี อทห่ี อ้ งรบั แขก นงั่ ดสู กั ครู่ หนุ่มขยบั ตวั ไปใกลๆ้ แกว้ แลว้ ยกแขนขน้ึ ไปโอบไหล่แกว้ ....... จากกรณศี กึ ษาน้ี ใหล้ กู เสอื พดู คุยกบั เพ่อื นว่า “เหตุการณ์ต่อจากน้ีจะเป็นอยา่ งไรต่อไป (เวลา 5 นาที) 158 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ใบงาน ใหแ้ บง่ กลุ่ม 6 กลุม่ รว่ มกนั วเิ คราะหส์ ถานการณ์ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายและประเมนิ ความเสย่ี ง ของสถานการณ์นนั้ ๆ แลว้ เขยี นผลการวเิ คราะหล์ งตาราง ขนั้ ตอนประเมินความเสี่ยง ผลการวิเคราะห์ 1. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ปัจจบุ นั 1. สถานการณ์ปัจจบุ นั คอื ............................................ 2. เทยี บสถานการณ์ปัจจบุ นั กบั เกณฑ์ …………………………………………………… ประเมนิ ความเสย่ี ง 2. เขา้ เกณฑเ์ สย่ี งขอ้ ท่ี 3. ถา้ เสย่ี ง ตดั สนิ ใจอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ต่อไป .................................................. …………………………………………………… 3. ควรตดั สนิ ใจดงั น้ี ..................................................... …………………………………………………… สถานการณ์ท่ี 1 “กแ็ ค่...งานวนั เกิด” คนื วนั เสาร์ ออ้ ยไปงานวนั เกดิ วทิ ยพ์ ช่ี ายเพอ่ื นทบ่ี า้ น ในงานมวี ยั รนุ่ ชายหญงิ มากมาจบั ค่คู ุยกนั บา้ ง เตน้ รา บา้ งดวู ดี โี ออยใู่ นบา้ น พ่อแมข่ องเพอ่ื นไมอ่ ยบู่ า้ น ออ้ ยเตน้ รากบั วทิ ยอ์ ยา่ งสนุกสนาน ราวๆ 4 ท่มุ วทิ ยเ์ ปิดเหลา้ และรนิ แจกทกุ คน วทิ ยป์ ิดไฟบางดวงเพ่อื สรา้ งบรรยากาศ สถานการณ์ที่ 2 “ปารต์ ี้ชายโสด” อ๋อง หนุ่มน้อยวยั ย่าง 15 ปี ถกู พไ่ี กรชวยไปงานปารต์ ช้ี ายโสดทบ่ี า้ น ในงานมที งั้ เหลา้ ทงั้ บหุ ร่ี อ๋อง แปลกใจทบ่ี างคนอายุมากกวา่ พไ่ี กรเยอะ แถมแต่งหน้าและทาท่าราวหญงิ สาว บางคนู่ งั่ จบั มอื โอบกอดกนั บางค่แู อบไปอยตู่ ามมมุ มดื ราว 4 ทมุ่ อ๋องบอกพไ่ี กรว่าจะกลบั บา้ น พไ่ี กรไมย่ อม และใหอ้ ๋องโทรไปบอกแมว่ ่าจะนอนบา้ นพไ่ี กร แมค่ งไมว่ ่าเพราะแม่รจู้ กั พไ่ี กร คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 159

สถานการณ์ท่ี 3 “อยากรจู้ งั .....เธคเป็นไง” กก๊ิ สาวน้อยไรเ้ ดยี งสา ไมเ่ คยเหน็ วา่ เธคเป็นอยา่ งไร เพ่อื น ๆ บอกวา่ เธคเชย ไมอ่ นิ เทรน เยน็ วนั ศุกรก์ กิ๊ ขอแมไ่ ปคา้ งบา้ นเพ่อื นสนทิ แมอ่ นุญาต คนื นนั้ กก๊ิ และเพ่อื นผหู้ ญงิ 5 คนไปเทย่ี วเธคในเธค น่าต่นื ตาต่นื ใจ สาว ๆ สงั่ น้าสม้ มาด่มื เสยี งดนตรเี รา้ ใจมาก กก๊ิ และเพอ่ื นออกไปเตน้ หลายเพลงจนเหน่อื ยก็ กลบั มานงั่ พกั ทโ่ี ต๊ะกก๊ิ เหน็ ชายหนุ่ม 2 คนทา่ ทางเมา พดู ไมค่ ่อยรเู้ รอ่ื ง ถอื แกว้ เบยี รม์ านงั่ คุยกบั แจ๋มเพอ่ื น ของกกิ๊ อยา่ งสนุกสนานแจ๋มแนะนาใหก้ กิ๊ รจู้ กั หน่งึ ใน 2 คนนนั้ จอ้ งกกิ๊ ไมล่ ะสายตา สถานการณ์ท่ี 4 “และสกั เดี๋ยวคงไมเ่ ป็นไร” อวิ๋ กบั โกไ้ ปดหู นงั รอบค่าดว้ ยกนั สองคน ขากลบั โกช้ วนอวิ๋ ไปนงั่ เล่นทบ่ี า้ นก่อน อวิ๋ ลงั เล โกบ้ อกอวิ๋ ว่า “ไปเถอะ ทบ่ี า้ นไมม่ ใี ครหรอก” สถานการณ์ท่ี 5 “สายเด่ียวสดุ เซก็ ซ่ี” ดาหวนั ชองแต่งตามสมยั วนั นัน้ ดาหวนั นุ่งกระโปรงสนั้ เอวต่า แถมผ่าหลงั สงู สวมเสอ้ื บางๆ เอวลอยเหน็ หน้าทอ้ ง เสน้ ทางกลบั ตอ้ งเขา้ ซอยเปลย่ี ว ดาหวนั เดนิ ผ่านกลุ่มวยั รุ่นชายกลุ่มใหญ่ทก่ี าลงั นงั่ ด่มื เหลา้ อยู่ พวกนนั้ หนั มามองเป็นตาเดยี ว หน่งึ ในนนั้ ลกุ ขน้ึ เดนิ ตามมาใกล้ ๆ แลว้ พดู ว่า “วนั น้แี ต่งตวั สวยเป็นพเิ ศษ แวะคยุ กบั หน่อยสนิ ้อง” สถานการณ์ท่ี 6 “ดหู นังกนั เถอะ” ชายชวนนดิ ว่า “วนั น้เี กยี รตซิ อ้ื หนงั มาใหมต่ งั้ สองเรอ่ื ง ไปดกู นั นะ ค่า ผมจะพาไปสง่ บา้ น” นดิ ตอบตกลงไปดหู นงั ทบ่ี า้ นเกยี รติ ทงั้ สองดหู นงั เรอ่ื งแรกจบไปแลว้ กส็ นุกดี พอเรม่ิ ฉายเรอ่ื งทส่ี อง ไปนดิ เดยี ว นดิ รสู้ กึ วา่ หนงั ทฉ่ี ายเป็นหนงั โป๊ นดิ ตกใจมาก ใบความรู้ ขนั้ ตอนการประเมินความเส่ียง ความเส่ียง หรอื สถานการณ์เสี่ยงในเร่อื งเพศ หมายถงึ สถานการณ์ เหตุการณ์ หรอื พฤตกิ รรมใด ๆ ทอ่ี าจนาไปส่กู ารมเี พศสมั พนั ธโ์ ดยไมค่ าดคดิ ตวั อย่างสถานการณ์เส่ียงโดยไมค่ าดคิด • ตุม้ ไปนอนคา้ งทบ่ี า้ นเพอ่ื นขณะทพ่ี อ่ แมเ่ พอ่ื นไมอ่ ยบู่ า้ น • หญงิ กบั เดชไปนงั่ คุยกนั ในสวนสาธารณะในจดุ ทไ่ี มค่ ่อยมคี นผ่านไปมา • แอนกบั นนทแ์ ยกตวั จากกลุ่มเพ่อื นไปเทย่ี วตามลาพงั สองต่อสอง • จมุ๋ ไปเทย่ี วเธคกบั เพ่อื น • นดิ ไปงานเลย้ี งวนั เกดิ บา้ นพช่ี ายเพอ่ื นทม่ี กี ารเลย้ี งเคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ 160 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

• อฟี ชอบแต่งตวั ตามสมยั เช่น นุ่งกระโปรงสนั้ มาก ใส่เสอ้ื สายเดย่ี ว เอวลอยเปิดหน้าทอ้ ง สวมกระโปงเอวต่าและสนั้ เป็นตน้ ขนั้ ตอนการประเมินความเสี่ยง 1. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ปัจจบุ นั คอื วเิ คราะหว์ ่าสถานการณ์เป็นอยา่ งไร 2. เทยี บสถานการณ์ปัจจบุ นั “เกณฑป์ ระเมนิ ความเสย่ี ง” 3. ถา้ เสย่ี ง ตดั สนิ ใจอยา่ งหน่งึ อยา่ งใด ต่อไปน้ี 3.1 ปฏเิ สธ 3.2 ถอยห่าง (ปลกี ตวั ) จากเหตุการณ์ 3.3 เดนิ หนี 3.4 ขอความช่วยเหลอื เกณฑป์ ระเมินความเส่ียง ถา้ เขา้ เกณฑข์ อ้ ใดขอ้ หน่ึงต่อไปน้ถี อื ว่าเสย่ี ง 1. ลบั ตา 2. สองต่อสอง 3. สมั ผสั 4. สงั่ ยวั่ ยุ (สอ่ื โป๊ /ลามกต่างๆ เช่น หนงั สอื วดี โี อ ฯลฯ การแต่งการทล่ี ่อแหลมของผหู้ ญงิ ) 5. ยามวกิ าล 6. แอลอฮอล/์ สงิ่ เสพตดิ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 161

แนวทางการวิเคราะหแ์ ละประเมินความเสี่ยง แนวทางการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ และประเมนิ ความเสย่ี งกรณศี กึ ษา “จบุ๊ กบั จอม” สถานการณ์ หลงั เลกิ ทา OT ราว 5 ทุ่ม จอมชวนจุ๊บซอ้ นมอเตอรไ์ ซต์เพ่อื ไปส่งบา้ น ขบั ไปสกั พกั จอมบอก ว่าจะแวะไปเอาของบา้ นเพ่อื น ระหวา่ งทางในซอยเปลย่ี ว จอมจอดรถและบอกวา่ “นงั่ คุยกนั ก่อนนะ เดยี๋ วคอ่ ยกลบั บา้ น” ขนั้ ตอนประเมินความเส่ียง ผลการวิเคราะห์ 1. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ปัจจบุ นั 1. สถานการณ์ปัจจบุ นั ของจบุ๊ คอื “อยตู่ าม ลาพงั สองต่อสองในทล่ี บั ตาคน ในเวลาใกลค้ ่า 2. เทยี บสถานการณ์ปัจจบุ นั กบั เกณฑ์ 2. เขา้ เกณฑเ์ สย่ี ง 3 ขอ้ คอื ยามวกิ าล ลบั ตา ประเมนิ ความเสย่ี ง และสองต่อสอง 3. ถา้ เสย่ี ง ตดั สนิ ใจอย่างใดอยา่ งหน่งึ ต่อไป 3. จบุ๊ ควรตดั สนิ ใจ “ปลกี ตวั จากเหตุการณ์” 3.1ปฏเิ สธ โดยบอกกบั จอมตรง ๆ ว่าตอ้ งกลบั บา้ น 3.2ถอยหา่ ง (ปลกี ตวั ) จากเหตุการณ์ หรอื เสนอวา่ ควรไปนงั่ คุยทอ่ี ่นื 3.3เดนิ หนี 3.4ขอความช่วยเหลอื 162 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ชาวนากบั เทพเจ้าแห่งโชคดี ชาวนาคนหนึ่งทานามาเนิ่นนานแต่กย็ งั มีฐานะยากจนเหมอื นเคยในแต่ละวนั เขาได้บชู าศาล เทพเจ้าแห่งหน่ึงเป็นประจา เพื่อหวงั ว่าเทพเจ้าจะช่วยทาให้เขารา่ รวยมากขึ้น วนั หน่งึ ทช่ี าวนากาลงั ดานาอยู่\"ขา้ รวยแลว้ ขา้ กาลงั จะรวยแลว้ \"ชาวนาตะโกนออกมาสดุ เสยี งเมอ่ื เขาพบเจอ หบี สมบตั โิ บราณทฝ่ี ังอยอู่ ยา่ งบงั เอญิ \"ขอบคณุ ท่านมาก ทมี่ อบสมบตั อิ นั มหาศาลมาใหข้ า้ \" ชาวนายกมอื ไหว้ พรอ้ มทงั้ นาของมาบชู าศาลเทพเจา้ ทน่ี บั ถอื เหมอื นเช่นเคย\"ทาไม!!! ทาไมกนั นะ เจา้ ถงึ ไมข่ อบคณุ ขา้ ล่ะเพราะจรงิ ๆแลว้ ขา้ ต่างหากทเี่ ป็นคนมอบของน้ใี หก้ บั เจา้ มใิ ช่ศาลเทพเจา้ ทเี่ จา้ กาลงั ขอบคณุ อย\"ู่ เทพเจา้ แหง่ ความโชคดสี ่งเสยี งพดู กบั ชาวนา เรอ่ื งนี้สอนให้รวู้ ่า คนเราเมอ่ื ศรทั ธาหรอื เช่อื อะไรแลว้ มกั จะเชอ่ื ว่าสงิ่ นนั้ เป็นสงิ่ ทท่ี าใหเ้ ราเกดิ ความโชคดี ทงั้ ทจ่ี รงิ แลว้ อาจจะเป็นสงิ่ อ่นื กไ็ ด้ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 163

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาป่ี ที่ 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยท่ี 8 การคิดวิเคราะห์ ตดั สินใจ แก้ไขปัญหา แผนการจดั กิจกรรมที่ 14 การแก้ไขความขดั แย้งด้วยสนั ติ เวลา 1 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความสาคญั ในการแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ไี ด้ 1.2 ลกู เสอื สามารถบอกแนวทางในการการแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ไี ด้ 2. เนื้อหา การอยรู่ ว่ มกนั เป็นเรอ่ื งปกตทิ จ่ี ะมคี วามเหน็ ต่าง มคี วามขดั แยง้ การแกป้ ัญหาดว้ ยอารมณ์ชวั่ วบู อาจนาไปส่กู ารทะเลาะววิ าท บาดหมางใจ สญู เสยี มากมาย ส่วนการแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ นี าไปสู่ สงิ่ สรา้ งสรรค์ คุณประโยชน์ และมติ รภาพ โดยใชแ้ นวทางการยตุ คิ วามรุนแรง 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 ใบความรสู้ าหรบั ผกู้ ากบั ลกู เสอื 3.4 ภาพข่าวจากหนงั สอื พมิ พ์ 2 เรอ่ื ง คอื “การจดั การความขดั แยง้ ดว้ ยความรุนแรง และอยา่ งสรา้ งสรรค”์ 3.5 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ สู่บทเรยี นเรอ่ื งความขดั แยง้ และการแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ดี ว้ ย ภาพข่าวหนงั สอื พมิ พ์ 2 ตวั อยา่ ง (แกไ้ ขดว้ ยอารมณ์ชวั่ วบู และ แกไ้ ขดว้ ยสนั ตวิ ธิ )ี 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ขยายความเขา้ ใจเรอ่ื งการแกไ้ ขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ดี ว้ ยหลกั ของศลิ ปะ การป้องกนั ตวั ไอคโิ ด้ Aikido พรอ้ มสาธติ และยกตวั อยา่ งประกอบตามใบความรสู้ าหรบั ผกู้ ากบั ลกู เสอื 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายงานใหห้ มลู่ กู เสอื ทาตามใบกจิ กรรม 4) ผแู้ ทนหมนู่ าเสนอ ผกู้ ากบั นาอภปิ ราย เพม่ิ เตมิ ช่นื ชม สรปุ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งเป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 164 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตที่ได้จากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั รถู้ งึ คุณค่าของการแก้ไขความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 165

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 14 เพลง รกั กนั ไว้เถิด * รกั กนั ไวเ้ ถดิ เราเกดิ รว่ มแดนไทย จะเกดิ ภาคไหนกไ็ ทยดว้ ยกนั เชอ้ื สายประเพณไี มม่ กี ดี กนั้ เกดิ ใตธ้ งไทยนนั้ ปวงชนทกุ คนคอื ไทย ทอ้ งถนิ่ แหลมทอง เหมอื นทอ้ งของแม่ เกดิ ถนิ่ เดยี วกนั แทเ้ หมอื นแมเ่ ดยี วกนั ใชไ่ หม ยามฉนั มองตาคุณ อบอุ่นดวงใจเหน็ สายเลอื ดไทย ในสายตาบอกสายสมั พนั ธ์ (*) ทะเลแสนงาม ในน้ามปี ลา พชื พนั ธเุ์ กลอ่ื นตาตามไร่นารวงทองไสว สนิ ทรพั ยม์ เี กล่อื นกล่น บรรพชนใหไ้ วเ้ ราลกู หลานไทยจงรว่ มใจรกั ษาใหม้ นั่ (*) รกั กนั ไวเ้ ถดิ รกั กนั ไวเ้ ถดิ รกั กนั ไวเ้ ถดิ แหลมทองโสภาดว้ ยบารมี ปกเกลา้ เราไทยน้รี ม่ เยน็ เป็นศรผี ่องใส ใครคดิ บงั อาจหมนิ่ ถนิ่ ทององคไ์ ธ้ เราพรอ้ มพลใี จป้องหมไู่ ทยและองคร์ าชนั ย์ (*) จะเกดิ ชาตไิ หนกไ็ ทยดว้ ยกนั เชอ้ื สายประเพณณไี มม่ กี ดั กนั้ เกดิ ใตธ้ งไทยนนั้ ปวงชนทกุ คนคอื ไทย 166 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ใบงาน ใบงาน ใหห้ มลู่ กู เสอื รว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละหาทางจดั การกบั ความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ใี นสถานการณ์ ต่อไปน้ี หมลู่ ะ 1 สถานการณ์ (เวลา 10 นาท)ี พรอ้ มสง่ ตวั แทนนาเสนอในกลุ่มใหญ่ (หมลู่ ะ 3 นาท)ี หมู่ 1 เพ่อื นต่อวา่ เรอ่ื ง “พดู ใหเ้ พ่อื นเสยี หาย” หมู่ 2 เพอ่ื นชวนยกพวกไปต่อยกนั หลงั โรงเรยี น หมู่ 3 ครตู าหนิในหอ้ งเรยี น หมู่ 4 นกั เรยี นโรงเรยี นอ่นื มองตาขวาง หมู่ 5 นกั เรยี นโรงเรยี นอ่นื ยกพวกมารุมกนิ โต๊ะ ใกลๆ้ ทางผา่ นออกจากโรงเรยี น คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 167

ใบความร้สู าหรบั ผกู้ ากบั ลกู เสือ หลกั การแก้ไขความขดั แย้งด้วยสนั ติ (1) ความขดั แยง้ เป็นสถานการณ์ทพ่ี บเหน็ ไดใ้ นชวี ติ ประจาวนั ความสามารถในการควบคมุ หรอื จดั การความขดั แยง้ ใหไ้ ปในทศิ ทางทส่ี รา้ งสรรค์ มคี วามสงบสขุ ไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อชวี ติ ทรพั ยส์ นิ หรอื สง่ิ ของเป็นสง่ิ ทต่ี อ้ งเรยี นรู้ ฝึกฝน ไอคโิ ด (Aikido) เป็นศลิ ปะป้องกนั ตวั ทม่ี รี ากเหงา้ จาก ประเทศญป่ี ่นุ ผกู้ ่อตงั้ คอื ปรมาจารยม์ อรเิ ฮะ อเู ยชบิ ะ ในปี ค.ศ.1925 (ประมาณ 80 ปีมาแลว้ ) ปัจจุบนั แพรห่ ลายไปทวั่ โลก มผี ฝู้ ึกรวมแลว้ เกนิ กว่าลา้ นคน มกี ารนาไปผสมผสานกบั วชิ าอ่นื ๆ เช่น การควบคุมเหตุรา้ ยของตารวจ ทหาร การรกั ษาความปลอดภยั การใหค้ าปรกึ ษา และจติ บาบดั (มหี ลกั สตู รเรยี นทางจติ วทิ ยากบั ไอคโิ ด สามารถเรยี นไดส้ งู ถงึ ระดบั ปรญิ ญาเอก) และการระงบั ขอ้ ขดั แยง้ ระหว่างบุคคล ความหมายของคาว่า “ไอคิโด” มาจากคา 3 คา คอื ✤ไอ หมายถงึ ความรกั ความเมตตา ความกลมกลนื เป็นหน่งึ เดยี ว ✤คิ หมายถงึ พลงั ชวี ติ (เชน่ เดยี วกนั ฉี หรอื ช่ี ในภาษาจนี หรอื ปราณ ในภาษาบาล)ี ✤โด หมายถงึ วถิ ที างหรอื วถิ ชี วี ติ รวมความแลว้ ไอคโิ ด กค็ อื การใชช้ วี ติ อยา่ งกลมกลนื เป็นหน่งึ เดยี วกบั คนอ่นื ๆ หรอื กบั สรรพสงิ่ อยบู่ นพน้ื ฐานของความรกั และความเมตตานนั่ เอง หลกั การทน่ี ามาใชเ้ พ่อื ระงบั ความขดั แยง้ ความรนุ แรงต่อกนั มี 3 ขนั้ ตอน ดงั น้ี 1. ตามแรง 2. สลายแรง 3. นาแรง ตวั อยา่ งทเ่ี ป็นรปู ธรรม เช่น เมอ่ื มคี นมาจบั มอื เราไว้ ปกตคิ นมกั จะสะบดั มอื หนี แต่สงิ่ ทพ่ี บ คอื คนจบั ยง่ิ รดั มอื นนั้ ใหแ้ น่นเขา้ คนถกู จบั มอื ยงิ่ เจบ็ มากขน้ึ หรอื ยง่ิ ตา้ นแรง ยงิ่ เจบ็ ไมอ่ าจพน้ จาก สถานการณ์นนั้ ได้ โดยเฉพาะกรณที ค่ี นถกู จบั มอื ไวม้ กี าลงั น้อยกว่า 168 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

หลกั การแก้ไขความขดั แยง้ ด้วยสนั ติวิธี (2.. “ใช้สาธิต”) ศลิ ปะป้องกนั ตวั หรอื การยตุ คิ วามรุนแรงทเ่ี รยี กว่า ไอคโิ ด้ มขี นั้ ตอนต่อไปน้ี ตามแรงคอื ปลอ่ ยใหเ้ ขาดงึ มอื ไปก่อน ตงั้ สติ เตรยี มตงั้ ขาใหส้ มดลุ ย์ สลายแรง คอื ปล่อยใหเ้ ขาดงึ มอื ไปจนสุดแขนเขาโดยเราโย้ ตาม ผฉู้ ุดจะเรม่ิ เสยี สมดุลย์ เพราะไมค่ ดิ ว่าเราจะโยต้ ามโดยงา่ ย จงึ ออกแรงมากเกนิ ไป แต่ผถู้ กู ฉุดจะเรม่ิ ตงั้ สองขาหน้าหลงั ในตาแหน่งทใ่ี หค้ วามรสู้ กึ สมดุลยเ์ รยี บรอ้ ยแลว้ พรอ้ มหา ชอ่ งทางปลดล๊อคมอื ทถ่ี ูกจบั ออก นาแรง คอื หมนุ ขอ้ มอื ขา้ งทถ่ี กู ฉุดใหห้ วั แมม่ อื อยตู่ รงกบั ช่องระหว่างน้วิ โป้งกบั น้วิ ทงั้ 4 ทเ่ี หลอื ซง่ึ เป็นจดุ อ่อนทส่ี ุดของการจบั นนั้ และสะบดั หลดุ จากการถกู จบั มอื อย่างรวดเรว็ แมว้ ่าผถู้ ูกจบั มอื จะมกี าลงั น้อยกวา่ กส็ ามารถทาได้ ใบความร้สู าหรบั ผกู้ ากบั (ต่อ) คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 169

หลกั การแก้ไขความขดั แย้งด้วยสนั ติ (3) เมอ่ื นามาปรบั ใชก้ บั สถานการณ์ในชวี ติ จรงิ สมศกั ดถิ ์ ูกเพ่อื นทา้ ชกต่อหน้าคนกลุ่มใหญ่ ดว้ ยเสยี งด่ากราด สาดเสยี เทเสยี แทนการชกต่อย ทารา้ ยกนั สมศกั ดริ ์ บั ฟังพรอ้ มประเมนิ สถานการณ์วา่ ควรรบั มอื อยา่ งไร กรณีแรก เพ่อื นเมามาก คุยไมร่ เู้ รอ่ื ง สมศกั ดคิ ์ ดิ วา่ คุยไป ตอบโตไ้ ป กไ็ มไ่ ดป้ ระโยชน์อะไร จงึ หาทางเลย่ี งออกจากสถานการณ์นนั้ ไปก่อน กรณีที่สอง เพ่อื นเมามาก คุยไมร่ เู้ รอ่ื ง ทาท่าจะเดนิ เขา้ มาทารา้ ย สมศกั ดริ ์ บั ฟัง เรยี ก การตามแรง พรอ้ มยกมอื ไหว้ ขอโทษ ขออภยั เรยี ก การสลายแรง และ นาแรง แลว้ ขอตวั ออก จากสถานการณ์ใหเ้ รว็ ทส่ี ุด กรณีท่ีสาม เพ่อื นเมามาก คุยไมร่ เู้ รอ่ื ง ทาท่าจะเดนิ เขา้ มาทารา้ ย และกระชากขอ้ มอื สมศกั ดไิ ์ ว้ สมศกั ดปิ ์ ล่อยตวั ตามแรงฉุดของเพอ่ื น เรยี กวา่ การตามแรง ปล่อยตวั ตามแรงฉุดจนสุด พรอ้ มตงั้ สตติ งั้ ขาใหส้ มดลุ ย์ เรยี กว่า การสลายแรง สงั เกตความรา้ ยแรงของเหตุการณ์ พรอ้ ม หาทางออกอยา่ งละมอ่ มทส่ี ุด ดว้ ยการบดิ ขอ้ มอื ใหห้ วั แมม่ อื อยตู่ รงชอ่ งวา่ งระหวา่ งปลายน้วิ มอื เพ่อื น แลว้ ออกแรงปลดลอ๊ คขอ้ มอื ออกมา เรยี กวา่ นาแรง พรอ้ มมองหาจดุ ทป่ี ลอดภยั ทจ่ี ะวง่ิ หนี แลว้ วง่ิ หนีออกจากสถานการณ์ใหเ้ รว็ ทส่ี ุด กรณีที่ส่ี เพอ่ื นโกรธกจ็ รงิ แต่ไมเ่ มา สมศกั ดจิ ์ งึ รบั ฟังอยา่ งสงบ เรยี กว่า การตามแรง พรอ้ มตอบสนองคาพดู ของเพ่อื นดว้ ยการบอกกลบั ตามทเ่ี พ่อื นไดว้ ่ากลา่ วมาว่า “คุณคดิ วา่ ผมใส่ ความคณุ คณุ จงึ ไมพ่ อใจผม และชวนผมต่อสกู้ นั อยา่ งลกู ผชู้ ายคนหน่งึ ซง่ึ ๆ หน้า แทนการแทงขา้ ง หลงั ” ซง่ึ เมอ่ื ตรงกบั สง่ิ ทเ่ี พ่อื นสอ่ื กจ็ ะทาใหค้ นทโ่ี กรธอยสู่ งบลงไดใ้ นระดบั หน่งึ เรียกวา่ การสลายแรง แลว้ ชวนเพ่อื นนงั่ คุยกนั เพอ่ื ปรบั ความเขา้ ใจทค่ี ลาดเคลอ่ื นแทน เรยี กว่า การนาแรง จะเหน็ ว่าการใชห้ ลกั การจดั การกบั ความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี ตอ้ งประเมนิ สถานการณ์ก่อนวา่ พงึ ใชว้ ธิ ใี ดรบั มอื จงึ จะเหมาะสม เมอ่ื ฝึกบอ่ ย ๆ จะคลอ่ ง ชานาญ และภมู ใิ จตนเองในการจดั การกบั ความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ นี ้ไี ด้ คน้ จาก http://aikidocmu.wordpress.com/what-is-aikido/ วนั ท2่ี 9 มถิ ุนายน 2556 สมบตั ิ ตาปัญญา. หลกั สตู รการจดั การกบั ความขดั แย้งอย่างสรา้ งสรรค.์ ในการอบรม นกั จติ วทิ ยาคลนิ ิก สมาคมนักจติ วทิ ยาคลนิ กิ ไทย มปป. หอ้ งประชุมกรมสขุ ภาพจติ . 170 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ภาพข่าวการจดั กบั ความขดั แย้งด้วยความรนุ แรง คน้ จาก http://www.google.co.th/imgres?hl=th&biw=1024& bih=509&tbm=isch&tbnid=Nw5VO52_kTRvvM:&i mgrefurl=http://www.thairath.co.th/content/edu/26 9536&docid=cMwU3EU- Ccsp5M&imgurl=http://www.thairath.co.th/media/c ontent/2012/06/19/269536/hr1667/630.jpg&w=630 &h=378&ei=0J3OUarZDcSJrAf8yIGoAQ&zoom=1 &ved=1t:3588,r:0,s:0,i:76&iact=rc&page=1&tbnh= 173&tbnw=274&start=0&ndsp=8&tx=172&ty=54 วนั ท่ี 29 มถิ ุนายน 2556 คน้ จาก http://www.mr- rojanasak.com/html/modules.php?name =activeshow_mod&file=function&asop=p rint&asid=55วนั ท2่ี 9 มถิ ุนายน 2556 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 171

ภาพข่าวการจดั กบั ความขดั แย้งด้วยสนั ติ มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) มชี ่อื เตม็ วา่ โมฮนั ดาส ครามจนั ทร์ คานธี (Mohandas Karamchand Gandhi) เป็นผนู้ าและนกั การเมอื งทม่ี ี ช่อื เสยี งชาวอนิ เดยี เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี 2 ตุลาคม พ.ศ. 2412 และถูกลอบ สงั หารเสยี ชวี ติ ในวนั ท่ี 30 มกราคม พ.ศ. 2491 รวมอายไุ ด้ 78 ปี มหาตมะ คานธี เกดิ ในครอบครวั ชาวฮนิ ดู รฐั คุชราต ประเทศอนิ เดยี บดิ าเป็นนกั การเมอื งทอ้ งถนิ่ สว่ นมารดาเป็นผทู้ เ่ี ครง่ ครดั ศาสนามาก แต่งงานกบั กสั ตรู ์ คานธี การศกึ ษาเขา้ เรยี นดา้ นกฎหมาย ทน่ี ครลอนดอน ประเทศองั กฤษ มหาตมะ คานธี เป็นผนู้ าคนสาคญั ในการเคล่อื นไหวเรยี กรอ้ งอสิ รภาพของอนิ เดยี จากการเป็นอาณานิคม ของสหราชอาณาจกั ร โดยใชว้ ธิ อี หงิ สา ซง่ึ ภายหลงั ไดก้ ลายเป็นตน้ แบบของการประทว้ งแบบสนั ติ ทไ่ี ดร้ บั การยกยอ่ ง มหาตมะ คานธี เรม่ิ เขา้ ส่กู ระบวนการเปลย่ี นผา่ นทางความคดิ ทางการเมอื งในปี พ.ศ.2449 เน่อื งจาก กฎหมายใหมก่ าหนดใหช้ าวอนิ เดยี ทกุ คนจะตอ้ งเขา้ รบั การจดทะเบยี นและ พมิ พล์ ายน้วิ มอื ขอ้ บงั คบั น้ี รวมถงึ การใหห้ ญงิ ชาวอนิ เดยี ตอ้ งเปลอ้ื งผา้ ต่อหน้าตารวจผวิ ขาว เพ่อื กรอกตาหนิรปู พรรณลงในทะเบยี น ดว้ ย ดว้ ยความโกธรแคน้ ชาวอนิ เดยี ประมาณ 3,000 คนมารวมตวั กนั ทเ่ี มอื งโยฮนั เนสเบริ ต์ เพ่อื วางแผนการ ตอบโต้ เขาลกุ ขน้ึ แลว้ กพ็ ดู ว่า “เราจะสวดขอต่อพระเป็นเจา้ วา่ เราจะเขา้ คุก และเราจะอยใู่ นนนั้ จนกวา่ กฎหมายน้จี ะถูกเพกิ ถอน และเราจะยอม” คาพดู ของเขาจดุ ประกายใหเ้ กดิ การต่อตา้ นครงั้ ยง่ิ ใหญ่ เป็นประวตั กิ ารณ์ของมวล ชน ผปู้ ระทว้ งกระทาตามอยา่ งคานธี พวกเขาอดทนต่อการทุบตขี องตารวจ ยอมรบั ความเจบ็ ปวดอย่างกลา้ หาญโดยไมต่ อบโต้ มหาตมะ คานธี เป็นผนู้ าในการต่อสูเ้ รยี กรอ้ งเอกราชของประเทศอนิ เดยี จากเครอื สหราชอาณาจกั ร จนประเทศอนิ เดยี ไดร้ บั เอกราชในปี พ.ศ.2490 โดยเขามคี วามเชอ่ื ทม่ี นั่ คงเกย่ี วกบั การประทว้ งโดยไมใ่ ช้ ความรุนแรง และความอดทนตามหลกั ศาสนา ทเ่ี รยี กว่าวธิ ี “อหงิ สา” โดยเขาจะอดอาหารประทว้ งจนความ รนุ แรงยตุ ลิ ง 172 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ในขณะทม่ี อื ขา้ งหน่งึ เปิดฉากการประทว้ ง แต่อกี ขา้ งหน่ึงกต็ ้องปกป้องพวกพอ้ งไมใ่ หพ้ า่ ยต่อความตอ้ งการ ก่อเหตุนอง เลอื ด หลายครงั้ ทค่ี านธยี กเลกิ การชุมนุม เม่อื เหตุการณ์ทาท่าจะบานปลายเป็นความรุนแรงของ ประชาชนในประเทศ ในฐานะผนู้ าทางการเมอื ง คานธไี ดแ้ สดงใหเ้ หน็ ว่า “อหงิ สา” สามารถใชใ้ หเ้ กดิ ผล ทางการเมอื งได้ บาป 7 ประการในทศั นะคานธี ใหก้ บั พวกนกั การเมอื งทงั้ หลายโดยเฉพาะรฐั บาลทบ่ี รหิ ารประเทศ 1. เล่นการเมอื งโดยไม่มหี ลกั การ 2. หาความสขุ สาราญโดยไมย่ งั้ คดิ 3. ร่ารวยเป็นอกนษิ ฐโ์ ดยไมต่ อ้ งทางาน 4. มคี วามรมู้ หาศาลแต่ความประพฤตไิ มด่ ี 5. คา้ ขายโดยไม่มหี ลกั ศลี ธรรม 6. วทิ ยาศาสตรเ์ ลศิ ลา้ แต่ไมม่ ธี รรมแหง่ มนุษย์ 7. บชู าสงู สุดแต่ไมม่ คี วามเสยี สละ ขอบคุณขอ้ มลู : clipmass.com 7 แนวคดิ สรา้ งสุขทางใจ ฉบบั มหาตมะคานธี มหาตมะคานธี คอื วรี บุรษุ ผูต้ ่อสเู้ รยี กรอ้ งเสรภี าพจนอนิ เดยี ไดร้ บั เอกราชจากองั กฤษ ทา่ นเปลย่ี นความ โกรธแคน้ ของประชาชนเป็นการใหอ้ ภยั และแมจ้ ะถูกคุกคามเอาชวี ติ กย็ งั คงยนื ยนั ทจ่ี ะต่อสอู้ ยา่ งสงบ หลาย ครงั้ ชว่ งเวลาทเ่ี ลวรา้ ยผ่านพน้ ไปไดเ้ พราะการมองโลกในแงด่ ี บทความน้ี ขอเสนอแนวคดิ ในการมองโลก เพ่อื สรา้ งความสุขในแบบของมหาตมะคานธี ดงั น้ี • ทกุ อยา่ งในโลกน้มี สี องดา้ น ทงั้ สรา้ งความทกุ ขแ์ ละใหค้ วามสขุ จงเลอื กมองเฉพาะดา้ นทส่ี วยงาม ใชเ้ วลากบั มนั เพอ่ื สรา้ งความอม่ิ เอมใจ สว่ นอกี ดา้ นจงมองผา่ นและเกบ็ ไวเ้ ป็นบทเรยี น • ความคดิ เป็นสง่ิ วเิ ศษ จงคดิ แต่สงิ่ ทด่ี งี าม เพราะผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั จะงดงามเชน่ เดยี วกนั • เราไมอ่ าจสรา้ งความพอใจใหแ้ ก่ทกุ คน เพราะหากทาเช่นนัน้ สดุ ทา้ ยจะไมส่ ามารถสรา้ งความพอใจ ใหใ้ ครไดเ้ ลย จงซอ่ื สตั ยก์ บั ตวั เอง รบั ฟัง โตแ้ ยง้ ดว้ ยเหตุผลและยดึ มนั่ ในสง่ิ ทด่ี งี าม • เผชญิ หน้ากบั คาตาหนิ หากผใู้ ดกลวั หรอื มวั แต่หลกี หนี ยอ่ มไม่มวี นั ทางานสาคญั ใดๆ ได้ จงรบั แต่สาระทเ่ี ขามอบให้ ปล่อยอารมณ์ใหผ้ า่ นเลยไป คดิ เพ่อื แกไ้ ขและทาสงิ่ นนั้ ใหด้ ที ส่ี ุด • คนอ่นื เทา่ นนั้ ทม่ี องเหน็ หลงั ของเรา เมอ่ื มองไมเ่ หน็ แผ่นหลงั ฉนั ใด ยอ่ มมองไมเ่ หน็ ความผดิ ของ ตนเองฉนั นนั้ จงฟังคาแนะนาจากผอู้ ่นื แลว้ นามาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ • พดู ใหน้ ้อยลง คดิ ใหม้ ากขน้ึ จงหาขอ้ มลู ใหม้ าก คดิ ก่อนพดู เพราะความนุ่มนวลและความสุขุม เป็นสญั ลกั ษณ์ทแ่ี ทจ้ รงิ ของความสาเรจ็ ในชวี ติ • ศรทั ธาในตวั เอง ทใ่ี ดมศี รทั ธา ทน่ี นั่ ยอ่ มไมม่ คี วามสน้ิ หวงั จงมองเป้าหมายมากกว่ามองอุปสรรค ทเ่ี กดิ ขน้ึ ระหวา่ งทาง ขอบคุณขอ้ มลู : นิตยสารชวี จติ รายปักษ์ ปีท่ี 14:1 พฤศจกิ ายน 2554 คน้ จาก http://www.myplern.com/plern/?p=7067 วนั ท2่ี 9 มถิ ุนายน 2556 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 173

คน้ จาก http://www.peace.mahidol.ac.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=356&Itemid=156 วนั ท่ี 29 มถิ ุนายน 2556 174 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ พ่อลกู กบั แขนงไมไ้ ผ่ ครอบครวั หน่งึ ลกู มกั ทะเลาะกนั สารพนั มปี ัญหาไปทุกเรอ่ื งแมค้ วามเลก็ ความน้อยกโ็ กรธเคอื งเถยี ง ต่อเน่อื งทะเลาะกนั เป็นประจา มาวนั หน่งึ พ่อคดิ จะสอนสงั่ ใหม้ านงั่ พรอ้ มหน้าพดู สอนพร่าหยบิ แขนงไมไ้ ผ่มาหน่งึ กาเพ่อื หวงั นามา สอนลกู ทกุ คน แจกแขนงไมใ้ หค้ นละอนั แทนความพนั ผกู รกั หวงั ใหผ้ ลใชแ้ ขนงไมน้ นั้ แทนตวั ตน ในกมลแทนความรกั มตี ่อกนั พอ่ บอกใหล้ กู ทกุ คนหกั ไมไ้ ผแ่ ลว้ กไ็ ดเ้ หน็ แขนงทุกอนั นนั่ อยา่ งง่ายดายไมห้ กั ลงฉบั พลนั เปรยี บไมน้ นั้ เป็นตวั ใครตวั มนั พอ่ ใหห้ กั อกี ครงั้ ไมท้ งั้ กาทกุ คนทาไมไ่ ดอ้ ย่างมงุ่ มนั่ พอ่ บอกวา่ อยากใหเ้ ปรยี บเทยี บกนั เหน็ ไหมนนั่ สามคั คแี ลว้ แขง็ แรงแลว้ สอนลกู วา่ การอยรู่ ว่ มกนั จะคงมนั่ รวมกนั ชว่ ยใหแ้ กรง่ ตา้ นศตั รแู ละผองภยั ดงั่ กาแพงยากจะแบง่ แยกเราแตกกนั ไป เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า รวมพลงั สามคั คเี ราอยไู่ ด้ หากแตกความสามคั คแี ลว้ ไซร้ ชาตไิ หนไหนกอ็ ยไู่ มไ่ ด้แม้ หน่งึ คน ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 175

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 - 6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.2-3) หน่วยที่ 8 การคิดวิเคราะห์ ตดั สินใจ แก้ไขปัญหา เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 15 การติดเกมและ IT มีผลอย่างไรต่อเยาวชน 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถบอกสาเหตุ ผลทเ่ี กดิ และวธิ แี กไ้ ขปัญหาจากการตดิ เกมและ IT ได้ 2. เนื้อหา 2.1 ความหมายของเกมและ IT 2.2 ประโยชน์ของเกมและ IT 2.3 ผลเสยี ของการตดิ เกมและ IT 2.4 สาเหตุทท่ี าใหเ้ ยาวชนตดิ เกมและ IT 2.5 วธิ กี ารแกไ้ ขปัญหา การตดิ เกมและ IT 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 กระดาษชารต์ หมลู่ ะ 1 แผ่น และปากกาเมจกิ หมลู่ ะ 2 ดา้ ม (2 ส)ี 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดเปิดการประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แจกกระดาษฟลป๊ิ ชารต์ พรอ้ มปากกาเมจกิ และมอบหมายให้ลกู เสอื แต่ละหมู่ รว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ ต่อไปน้ี แลว้ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอดว้ ยฟลปิ๊ ชารต์ (1) วเิ คราะหห์ าสาเหตุของการตดิ เกมและ IT ของเยาวชน (2) วเิ คราะหผ์ ลดี ผลเสยี ของการตดิ เกมและ IT ของเยาวชน (3) หาวธิ แี กไ้ ขปัญหาของการตดิ เกมและ IT ของเยาวชน 2) ตวั แทนลกู เสอื แต่ละหมอู่ อกมานาเสนอผลการระดมสมองโดยใชแ้ ผ่นชารต์ 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ ผลทไ่ี ดจ้ ากการอภปิ ราย และฝากขอ้ คดิ และการ นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั (ใบความร)ู้ 4.4 ผกู้ ากบั เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 176 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ผลเสยี ของการตดิ เกม IT เขา้ ใจตนเอง และเขา้ ใจ ผอู้ ่นื ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 15 เกม คนตาบอด ใหล้ กู เสอื ยนื จบั มอื กนั เป็นวงกลม เลอื กลกู เสอื คนหน่งึ มายนื กลางวงเอาผา้ ปิดตา เรม่ิ เลน่ โดยใหค้ นจบั มอื เป็นวงกลมนนั้ เคล่อื นทไ่ี ปรอบๆ จะหยดุ กต็ ่อเมอ่ื คนทถ่ี กู ปิดตานนั้ ตบมอื ขน้ึ 3 ครงั้ แลว้ ตรงเขา้ ไปจบั คนใดคนหน่งึ มากลางวง คลาดตู ามตวั แลว้ ทายชอ่ื หากทายถูก ผนู้ นั้ จะตอ้ งปิดตาแลว้ เรมิ่ เลน่ ใหม่ หากทายผดิ ใหป้ ิดตาอยเู่ ชน่ เดมิ และเลน่ ต่อไป ใบความรู้ เดก็ ติดเกม เดก็ ติดเกมคอื อะไร มสี าเหตุมาจากอะไร แลว้ จะรไู้ ดอ้ ย่างไรวา่ คนใกลช้ ดิ หรอื ตวั เราเองตดิ เกมหรอื ไม่ รศ.นพ.ชาญวทิ ย์ พรนภดล จติ แพทยเ์ ดก็ และวยั รนุ่ ประจาภาควชิ าจติ เวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตรศ์ ริ ริ าชพยาบาล มคี าตอบมาใหท้ ุกคนไดค้ ลายขอ้ สงสยั ในบทความเรอ่ื ง \"เดก็ ตดิ เกม\" ... ลกั ษณะของเดก็ ติดเกม 1. ไมส่ ามารถควบคุมตวั เองใหเ้ ล่นในเวลาทก่ี าหนด ทาใหใ้ ชเ้ วลาในการเล่นนานตดิ ต่อกนั หลายๆ ชวั่ โมงหรอื เลน่ นานขน้ึ เรอ่ื ยๆ จากเดมิ ไมก่ ช่ี วั่ โมงต่อวนั เพมิ่ เป็นหลายชวั่ โมงต่อวนั บางคนเล่นขา้ มวนั ขา้ มคนื 2. หากถูกบงั คบั ใหเ้ ลกิ หรอื หยดุ เล่นจะต่อตา้ น หรอื มปี ฏกิ ริ ยิ าหงดุ หงดิ ไมพ่ อใจ อยา่ งรุนแรง บางคนถงึ ขนั้ กา้ วรา้ ว คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 177

3. การเล่นของเดก็ มผี ลกระทบต่อหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของเดก็ เชน่ เดก็ ไมส่ นใจ การเรยี น ไมส่ นใจทจ่ี ะทาการบา้ น หนเี รยี นหรอื แอบหนีออกจากบา้ นเพอ่ื จะไปเล่นเกม การเรยี นตกลงอยา่ ง มาก ละเลยการเขา้ สงั คม หรอื ทากจิ กรรมรว่ มกบั ครอบครวั 4. บางรายอาจมปี ัญหาพฤตกิ รรมอ่นื ๆรว่ มดว้ ย เช่น โกหก ลกั ขโมย (เพ่อื นาเงนิ ไปเล่นเกม) ดอ้ื ต่อตา้ นแยกตวั เกบ็ ตวั ฯลฯ สาเหตขุ องการติดเกม สาเหตุทท่ี าใหเ้ ดก็ ตดิ เกมมไิ ดม้ เี พยี งสาเหตุใดสาเหตุหน่ึง แต่การตดิ เกมเป็นเพยี งผลลพั ธข์ อง หลายๆปัจจยั ทผ่ี สมผสานและสมั พนั ธก์ นั อยู่ สาเหตุหลกั ๆ ไดแ้ ก่ 1. การเลย้ี งดใู นครอบครวั : มกั จะพบเดก็ ตดิ เกมไดบ้ ่อยในครอบครวั ทเ่ี ลย้ี งเดก็ โดยไมเ่ คยฝึกใหเ้ ดก็ มี วนิ ยั ในตวั เอง ขาดกฎระเบยี บ กตกิ าในบา้ น ตามใจเดก็ หรอื มกั จะใจอ่อน ไมท่ าโทษเมอ่ื เดก็ กระทาผดิ บางครอบครวั มลี กั ษณะทส่ี มาชกิ ในครอบครวั ต่างคน ต่างอยู่ ไมม่ กี จิ กรรมทส่ี นุกสนานใหเ้ ดก็ ทา หรอื ไมม่ กี จิ กรรมทส่ี มาชกิ ทุกคนทารว่ มกนั ทาใหเ้ ดก็ เกดิ ความ เหงา ความเบอ่ื หน่าย เดก็ จงึ ตอ้ งหากจิ กรรมอ่นื ทาเพ่อื ใหต้ วั เองสนุกซง่ึ กห็ นีไมพ่ น้ การเลน่ เกม พ่อแมอ่ าจ ไมม่ เี วลาควบคุมเดก็ หรอื มองไมเ่ หน็ ความจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งจากดั เวลาในการเลน่ เกมของเดก็ ในชว่ งแรก พอ่ แมอ่ าจรสู้ กึ พอใจทเ่ี หน็ เดก็ เล่นเกมเงยี บๆคนเดยี วไดโ้ ดยไมม่ ารบกวนตน ทาใหต้ นมเี วลาสว่ นตวั มากขน้ึ พดู งา่ ยๆคอื ใชเ้ กมเสมอื นเป็นพเ่ี ลย้ี งดแู ลเดก็ แทนตน 2. สงั คมทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป: สงั คมยคุ ไฮเทคทม่ี เี ครอ่ื งมอื ทม่ี พี ลงั ในการเรา้ ความต่นื เตน้ ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในตวั เดก็ อยา่ งมหาศาล สงั คมวตั ถุนิยม สงั คมทข่ี าดแคลนกจิ กรรม หรอื สถานทท่ี เ่ี ดก็ จะไดใ้ ชป้ ระโยชน์หรอื เรยี นรโู้ ดยไดร้ บั ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ ไปดว้ ย เหล่าน้เี ป็นแรงผลกั ดนั ใหเ้ ดก็ หนั ไปใชก้ ารเล่นเกมเป็นทางออก 3. ปัจจยั ในตวั เดก็ เอง: เดก็ บางกล่มุ อาจมคี วามเสย่ี งต่อการตดิ เกมมากกว่าเดก็ ทวั่ ไป เช่น เดก็ ทเ่ี ป็นโรคสมาธสิ นั้ (ADHD) เดก็ ทม่ี ปี ัญหาอารมณ์ ซมึ เศรา้ หรอื วติ กกงั วล เดก็ ทข่ี าดทกั ษะทาง สงั คม เขา้ กบั เพ่อื นไมไ่ ด้ เดก็ ทม่ี ปี ัญหาการเรยี น เดก็ ทม่ี คี วามรสู้ กึ มคี ณุ ค่าในตวั เองต่า (low self-esteem) เป็นตน้ วิธีป้องกนั 1. คยุ กบั เดก็ เพอ่ื กาหนดกตกิ ากนั ล่วงหน้าก่อนจะซอ้ื เกม หรอื อนุญาตใหเ้ ดก็ เล่นว่า เดก็ สามารถเลน่ เกมไดใ้ นวนั ใดบา้ ง วนั ใดเลน่ ไมไ่ ด้ เล่นไดค้ รงั้ ละไมเ่ กนิ กช่ี วั่ โมง ตงั้ แต่เวลาใดถงึ เวลาใด ก่อนจะเล่นตอ้ งรบั ผดิ ชอบทาอะไรใหเ้ สรจ็ เรยี บรอ้ ยก่อนบา้ ง หากเดก็ ไมร่ กั ษากตกิ า เชน่ เลน่ เกนิ เวลา ไม่ ทาการบา้ นใหเ้ สรจ็ ก่อน ฯลฯ เดก็ จะถูกทาโทษอยา่ งไร (แนะนาใหใ้ ชว้ ธิ รี บิ เกม หรอื ตดั สทิ ธกิ ารเลน่ เป็นเวลา ระยะหน่งึ หากเดก็ ไมท่ าตามกตกิ าทต่ี กลง) 178 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

2. วางตาแหน่งคอมพวิ เตอรห์ รอื เครอ่ื งเลน่ เกมในสถานทท่ี เ่ี ป็นทโ่ี ลง่ มคี นเดนิ ผ่านไป ผา่ นมาบอ่ ยๆ ไมค่ วรตงั้ ไวใ้ นหอ้ งนอนหรอื หอ้ งทป่ี ิดมดิ ชดิ เพ่อื ทผ่ี ปู้ กครองจะไดต้ ดิ ตามเฝ้าดไู ด้ เป็นการ ป้องกนั มใิ หเ้ ดก็ เกบ็ ตวั แอบเล่นคนเดยี วในหอ้ งหรอื แอบเล่นทงั้ คนื 3. วางนาฬกิ าขนาดใหญ่ไวห้ น้าเครอ่ื ง หรอื ในตาแหน่งทเ่ี ดก็ สามารถมองเหน็ ไดช้ ดั เจน 4. ใหค้ าชมแก่เดก็ เมอ่ื เดก็ สามารถรกั ษาเวลาการเลน่ ควบคุมตวั เองไมใ่ หเ้ ล่นเลยเวลาทก่ี าหนดได้ เอาจรงิ เดด็ ขาดหากเดก็ ไม่รกั ษากตกิ า เช่น รบิ เกมโดยไมใ่ จอ่อน ถอดสายโมเดม็ ออก ฯลฯ 5. สง่ เสรมิ จดั หากจิ กรรมทส่ี นุกสนานอยา่ งอ่นื (ทส่ี นุกพอๆกบั /หรอื มากกว่าการเล่นเกม) ใหเ้ ดก็ ทา หรอื มกี จิ กรรมทท่ี ารว่ มกนั ในครอบครวั 6. หลกี เลย่ี งการใชเ้ กมเป็นเสมอื นพเ่ี ลย้ี งเดก็ เพ่อื ทพ่ี อ่ แมจ่ ะไดม้ เี วลาสว่ นตวั ไปทาอยา่ งอ่นื 7. สอนใหเ้ ดก็ รจู้ กั การแบ่งเวลา รจู้ กั ใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม วิธีแก้ไข 1. หากในบา้ นยงั ไม่มกี ฎหรอื กตกิ าการเล่นเกม จาเป็นทจ่ี ะตอ้ งพดู คยุ กบั เดก็ และใหเ้ ดก็ เขา้ มามี ส่วนรว่ มในการวางกตกิ า กาหนดเวลาการเลน่ (เหมอื นขอ้ 1 ในหวั ขอ้ การป้องกนั ) 2. มเี วลาอยกู่ บั เดก็ มากขน้ึ พาออกนอกบา้ นเพอ่ื ไปทากจิ กรรมทเ่ี ดก็ ชอบ (ยกเวน้ การไปเล่นเกมนอกบา้ น)อยา่ ลมื วา่ เดก็ ส่วนหน่งึ ตดิ เกมเพราะความเหงา เบอ่ื ไมม่ อี ะไรสนุกๆทา 3. รกั ษาสมั พนั ธภาพระหว่างกนั ใหด้ ี หลกี เลย่ี งการบ่น ตาหนิ ใชอ้ ารมณ์ หรอื ถอ้ ยคารนุ แรง แสดงความเหน็ ใจ เขา้ ใจว่าเดก็ ไมส่ ามารถคมุ ตวั เอง หรตื ดั ขาดจากเกมไดจ้ รงิ ๆ 4. ผปู้ กครองควรรว่ มมอื กนั ในการแกป้ ัญหา โดยใชก้ ฎเดยี วกนั อยา่ ปัดใหเ้ ป็นภาระหรอื ความรบั ผดิ ชอบของใครคน ใดคนหน่งึ 5. ฟอรม์ เครอื ข่าย (network) ผปู้ กครองทม่ี เี ดก็ ตดิ เกมเหมอื นๆกนั หลายๆครอบครวั แลว้ ผลดั กนั นาเดก็ ทากจิ กรรม หลงั เลกิ เรยี น หรอื ในวนั หยุด เชน่ camping, field trip, walk rally ฯลฯ จดั ตงั้ เป็นกลมุ่ ยอ่ ยๆเช่น sport club, adventure club เป็นตน้ 6. ในรายทต่ี ดิ มากจรงิ ๆ และเดก็ ต่อตา้ นรนุ แรงทจ่ี ะเลกิ ในระยะแรกพอ่ แมค่ วรรว่ มเลน่ เกมกบั เดก็ (แต่อยา่ เผลอตดิ เองเสยี หละ) ทาความรจู้ กั กบั เกมทเ่ี ดก็ ชอบเล่น หากเหน็ ว่าเป็นเกมทไ่ี มเ่ หมาะสม หรอื เกมทใ่ี ชค้ วามรุนแรง พยายามเบย่ี งเบนใหเ้ ดก็ มาสนใจเกมอ่นื ทพ่ี อจะมสี ว่ นดี ดงึ เอาสว่ นดขี องเกมมาสอนเดก็ เชน่ เกมสรา้ งเมอื ง strategicgame ต่างๆ เกมทม่ี บี ทบาทสมมตุ เิ พ่อื ฝึกทกั ษะทางสงั คมเป็นตน้ เมอ่ื สมั พนั ธภาพกบั เดก็ เรมิ่ ดขี น้ึ พ่อแม่ จงึ ค่อยๆดงึ เดก็ ใหม้ าสนใจในกจิ กรรมอ่นื ทลี ะเลก็ ทลี ะน้อย 7. หากทาทกุ วธิ ขี า้ งตน้ แลว้ ไมไ่ ดผ้ ล พ่อแมค่ วรพาเดก็ มาพบจติ แพทยเ์ ดก็ เน่อื งจากเดก็ อาจจะป่วย มปี ัญหา สุขภาพจติ ทม่ี า: SanookGame คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 179

เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ อมตพจนา สมเดจ็ ย่าของปวงชน “ประชาธปิ ไตยทแ่ี ทจ้ รงิ เป็นเสรภี าพทม่ี ขี อบเขตเป็นตน้ วา่ ทกุ คนยอ่ มมสี ทิ ธเิ สรภี าพทจ่ี ะกระทาสง่ิ ใด ๆ กไ็ ดจ้ รงิ แต่บางสงิ่ บางอยา่ งเราอาจจะทาไดเ้ มอ่ื อยตู่ ามลาพงั และบางสิ่งบางอยา่ งกท็ าไมไ่ ด้ เพราะจะตอ้ ง คานึงถงึ และเคารพในสทิ ธขิ องผอู้ ่นื เสมอ เชน่ การทาเสยี งเอะอะอกึ กะทกึ ใหเ้ ป็นทร่ี าคาญของผอู้ ่นื เป็นตน้ ” “คนเราตอ้ งรจู้ กั บงั คบั ตวั เองถา้ ปล่อยตามบุญตามกรรมกจ็ ะไมเ่ จรญิ ดงั เชน่ การเลย้ี งเดก็ ตอ้ ง กาหนดเวลาแน่นอน เวลาเรยี น เวลารบั ประทานอาหาร เวลาพกั ผ่อน ทกุ อยา่ งตอ้ งใหเ้ ป็นไปตามเวลา ถา้ ไม่ ทาเช่นน้กี จ็ ะไมเ่ จรญิ เตบิ โตไมม่ สี ตปิ ัญญา” เร่อื งนี้สอนให้ร้วู ่า การคานงึ ถงึ สทิ ธแิ ละหน้าทท่ี งั้ ของตนเองและผอู้ ่นื เป็นสง่ิ ทพ่ี งึ กระทา 180 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยท่ี 9 จดุ ดี จดุ ด้อยและการพฒั นาตนเอง เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 16 ศรทั ธา...ส่กู ารพฒั นาตนเอง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายถงึ คุณค่าในตนเองทเ่ี กดิ จากแรงบนั ดาลใจจากบคุ คลตวั อยา่ งได้ 2. เนื้อหา ความศรทั ธาบคุ คลตวั อยา่ งในใจลกู เสอื จะเป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ของการพฒั นาความเชอ่ื มนั่ ในตนทจ่ี ะดารง เอกลกั ษณ์ของตนทไ่ี มต่ อ้ งเหมอื นใคร ไมต่ อ้ งตามกระแส แต่เลอื กขดั เกลาสง่ิ ทเ่ี ป็นแก่นแทข้ องตนเพอ่ื การ ดารงตนอยา่ งมคี ณุ ค่าทงั้ ต่อตนเองและคนรอบข้าง ซง่ึ นาความภาคภมู ใิ จและความสงบสุขมาส่ลู กู เสอื สอดคลอ้ งกบั การดารงชวี ติ ตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในทส่ี ุด 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ สบู่ ทเรยี นเรอ่ื งการสรา้ งความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง โดยยกตวั อยา่ งคน ธรรมดาทไ่ี มธ่ รรมดาดว้ ยสรา้ งสมทลี ะเลก็ ทลี ะน้อย เขาเหล่านนั้ ไมไ่ ดเ้ ก่ง ไมไ่ ดพ้ เิ ศษกวา่ คนอ่นื ๆ แต่สง่ิ ทเ่ี ขามกี ค็ อื ใชส้ ง่ิ ทเ่ี ขามอี ยู่ ทาสงิ่ ทเ่ี ขามอี ยแู่ ลว้ สะสม เพม่ิ พูนสง่ิ ทม่ี อี ยแู่ ลว้ ทลี ะเลก็ ทลี ะน้อย จนสง่ิ นนั้ เตบิ ใหญ่ ประจกั ษ์ชดั สง่ิ สาคญั คอื ทุกสง่ิ ทด่ี ธู รรมดา จะกลายเป็นสงิ่ พเิ ศษกต็ ่อเมอ่ื เจา้ ตวั ไดเ้ จยี ระไนสง่ิ ทม่ี อี ยเู่ สมอๆ ใหไ้ ดฉ้ ายแสงแวววาว 2) ลกู เสอื แต่ละหมแู่ บง่ ปันประสบการณ์เก่ยี วกบั บคุ คลทต่ี นศรทั ธาและนาสงิ่ ทป่ี ระทบั ใจ นนั้ มาเป็นตวั อยา่ งและแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเอง แลว้ เลอื กประสบการณ์ของสมาชกิ ทน่ี ่าสนใจ 1 เรอ่ื ง เพอ่ื นาเสนอในกองลกู เสอื 3) ตวั แทนหมลู่ กู เสอื นาเสนอทลี ะหมู่ ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ ราย เพม่ิ เตมิ ช่นื ชม สรปุ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 181

5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการทาตนใหเ้ ป็นแบบอยา่ งท่ี ดแี ก่ผอู้ ่นื ภมู ใิ จ/เหน็ คณุ ค่าของตนเองและผอู้ ่นื ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 16 เพลง ศรทั ธา ศลิ ปิน: หนิ เหลก็ ไฟ /อลั บมั้ Never Say Die ไมม่ ี กค็ งตอ้ งมสี กั วนั ความฝันเป็นจรงิ ตอ้ งทนสไู้ ป ไมน่ าน เราคงจะไดส้ มใจ มงุ่ มนั่ ทุ่มเทเพยี งใดกวา่ จะไดม้ า เสน้ ชยั ไม่มาตอ้ งไปหามนั รางวลั มไี วใ้ หค้ นตงั้ ใจ ขวากหนาม ทมิ่ แทงกผ็ ่านพน้ ไป โลกน้ไี ม่มอี ะไรไดม้ างา่ ยดาย (ซา้ ) **** ใจส้หู รือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผกู้ ล้า ศรทั ธาไม่มที ้อ ทม่ี า รดู้ ไี ม่รทู้ ไ่ี ป คนเรามนั เลอื กเกดิ เองไมไ่ ด้ แต่เราเลอื กไดจ้ ะเป็นเช่นไร เลอื กไดจ้ ะทาตามใจดว้ ยตวั ของเรา หลายคน เช่อื ในเรอ่ื งโชคชะตา บางคนเชอ่ื มนั่ ในตวั เอง ชวี ติ เรากาหนดของเราเอง จะแพช้ นะไมเ่ กรงจะสกั เท่าไร(ซ้าทอ่ นแยก) เรอ่ื งราวมากมายทท่ี า ไดใ้ จโอบกห็ วนั่ ไหว แต่กม็ เี หตุผลสาคญั ใหบ้ างคนยอมถอดใจ เย....... 182 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ใบงาน กรณีศึกษา อนันต์ ศรเี รอื ง – จากเซียนซิ่งมอเตอรไ์ ซคส์ ่โู ค้ชจกั รยานยอดเย่ียม สมั ภาษณ์ โดย วนั ชยั ตนั ติวิทยาพิทกั ษ์ อนนั ต์ ศรเี รอื ง เป็นลกู ชาวนาแหง่ อ.จอมบงึ จ.ราชบุรี เพ่อื นๆ เรยี กเขาว่า เงาะ คนแถวบา้ นมกั พูดกนั วา่ ไอเ้ งาะมนั บา้ ! เดก็ ชายเงาะเรยี นหนงั สอื ไมเ่ อาถ่าน สารภาพว่าทรมานทกุ ครงั้ ทค่ี รใู หท้ ่องสตู ร คณู หน้าหอ้ งเรยี นจนแทบอยากฆ่าตวั ตาย กว่าจะเรยี นจบชนั้ ม. ๖ ไดเ้ ลอื ดตาแทบกระเดน็ ไมค่ ดิ จะเรยี นหนงั สอื อกี ต่อไปยา่ งเขา้ วยั ๒๐ เดก็ หนุ่มคนน้ี หลงใหลเครอ่ื งยนต์ และรปู โฉมของมอเตอรไ์ ซคจ์ นกลายมาเป็นนกั บดิ ระดบั พระกาฬ ตงั้ ทมี แขง่ รถชอ่ื “ซา ไก” ประชนั ฝีมอื ไปทวั่ นกั ซง่ิ แถวภาคกลางรจู้ กั ชอ่ื เสยี งดี ไมม่ ใี ครกลา้ ทาบรศั มี โดยเฉพาะฝีมอื การทง้ิ โคง้ บนทางหลวงดว้ ยความเรว็ เกนิ ๑๐๐ กโิ ลเมตร/ชวั่ โมงเวลานนั้ เงาะแห่งทมี ซาไกไมร่ จู้ กั ความตาย อยา่ ง เดยี วในชวี ติ ทร่ี จู้ กั คอื ความมนั สุดขดี บนหลงั อานมอเตอรไ์ ซคท์ พ่ี ุ่งทะยานไปขา้ งหน้าดว้ ยความเรว็ สงู สดุ เป็นแชมป์ มาได้ ๗ ปีกถ็ งึ จดุ อม่ิ ตวั จากชวี ติ นกั ซง่ิ มอเตอรไ์ ซค์ เงาะบ่ายหน้าส่กู ารปัน่ จกั รยานบน ทอ้ งถนนแทน จนในทส่ี ดุ ตดิ ใจรสชาตขิ องการไดเ้ หงอ่ื แบบน้ี เลยชกั ชวนคหู่ ชู าวเยอรมนั ตระเวนปัน่ จกั รยาน ไปทวั่ ประเทศ ชวั่ ขณะนนั้ เงาะเรมิ่ รสู้ กึ หดหทู่ เ่ี ดก็ วยั ร่นุ แถวบา้ น มวั่ สุมเสพยาเสพตดิ ไมก่ ซ็ งิ่ มอเตอรไ์ ซคห์ รอื ยก พวกตกี นั เขาจงึ เรมิ่ ตน้ ชกั ชวนเดก็ แถวบา้ นทา้ แขง่ จกั รยาน จนเรมิ่ มเี ดก็ ในชุมชนทยอยสมคั รเขา้ ทมี ปัน่ จกั รยานดว้ ย เดก็ บางคนมปี ัญหาครอบครวั แตกแยก พ่อแมท่ ะเลาะกนั กห็ นีมาขออาศยั อยกู่ บั เขาในบา้ นท่ี ดดั แปลงเป็นอู่ซอ่ มรถ ทกุ วนั เขาสอนเดก็ ๑๐ กว่าคนปัน่ จกั รยานอยา่ งจรงิ จงั เพอ่ื หวงั ใหเ้ ดก็ เหล่าน้หี ่างไกลยาเสพตดิ การ พนนั เหลา้ บหุ ร่ี หรอื เกมออนไลน์ ไมน่ านเดก็ ๆ กม็ โี อกาสไดล้ องทดสอบฝีมอื เพ่อื คดั เลอื กเป็นนกั กฬี า เยาวชนตวั แทนของจงั หวดั โดยมเี งาะเป็นโคช้ หรอื ผฝู้ ึกสอนของทมี ระหวา่ งเสน้ ทางการแข่งขนั พวกเขาถูก มองดว้ ยสายตาเหยยี ดหยาม ดถู ูกดแู คลนมาตลอด ตงั้ แต่รถจกั รยานคนั เก่า ชุดนกั กฬี าซอมซ่อ หน้าตาและ ผมเผา้ รุงรงั ของเงาะทด่ี อู ยา่ งไรกไ็ มใ่ ชโ่ คช้ แน่นอน ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 183

แต่ทมี ของเงาะใชเ้ วลาเพยี งไมก่ ป่ี ีกส็ ามารถชนะ การแขง่ ขนั คดั เลอื กเป็นนกั กฬี าตวั แทนจงั หวดั กา้ ว ขน้ึ ส่ตู วั แทนระดบั ภาค และกลายเป็นแชมป์ จกั รยานเยาวชนของประเทศ ไดเ้ หรยี ญทองมานบั ครงั้ ไมถ่ ว้ น ลา่ สุดในการแขง่ ขนั จกั รยาน ทางไกลนานาชาตกิ เ็ ขา้ เสน้ ชยั เป็น อนั ดบั ๑ สรา้ งความประหลาดใจ ใหแ้ ก่คนในวงการกฬี าจานวนมาก เงาะบอกเคลด็ ลบั ว่า เขา เพยี งฝึกใหเ้ ดก็ เหล่าน้รี จู้ กั คดิ เป็น และการแข่งจกั รยานเป็นเพยี ง เครอ่ื งมอื ทจ่ี ะทาใหเ้ ดก็ เตบิ โต เป็นคนมคี ณุ ภาพในสงั คมต่อไป ความสาเรจ็ น้เี องสง่ ผลใหใ้ นปี ๒๕๕๑ อนนั ต์ ศรเี รอื ง หรอื เงาะ ไดร้ บั การยกยอ่ งใหเ้ ป็นผฝู้ ึกสอน จกั รยานถนนยอดเยย่ี มของประเทศ ปัจจบุ นั เดก็ ในทมี ของเขาอยรู่ ะหวา่ งเกบ็ ตวั เพ่อื คดั เลอื กเป็นตวั แทน ของประเทศเขา้ แขง่ ขนั กฬี าโอลมิ ปิกครงั้ หน้า บ่ายวนั หน่งึ สารคดี เดนิ ทางสอู่ าเภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบุรี เราออกนอกเมอื ง ลดั เลาะไปตามคลอง ชลประทานเขา้ สถู่ นนลกู รงั จนมาพบบา้ นเก่าๆ ทด่ี ดั แปลงเป็นอู่ซอ่ มรถ เราพบเงาะ–ชายฉกรรจว์ ยั ย่าง ๔๐ ผไู้ มก่ นิ เหลา้ ไมส่ บู บุหร่ี กาลงั กาชบั ลกู ๆ ของเขาดว้ ยสหี น้าจรงิ จงั ว่า โปรแกรมซอ้ มจกั รยานวนั น้ีมอี ะไรบา้ ง ไมง่ า่ ยนกั สาหรบั คนทม่ี รี ายไดไ้ ม่มากมายเท่าไร ไมม่ อี งคก์ รใดหนุนชว่ ย แต่ตอ้ งรบั ผดิ ชอบชวี ติ เดก็ นบั สบิ คนโดยมจี กั รยานเป็นเครอ่ื งมอื แมจ้ ดุ เรมิ่ ต้นเพยี งมงุ่ หวงั ใหเ้ ดก็ ๆ เป็นคนดี หลกี หนีจากอบายมขุ หากในทส่ี ดุ กส็ ามารถผลกั ดนั ใหพ้ วกเขากลายเป็นแชมป์ นกั กฬี าของประเทศ เงาะบอกกบั เราว่า เขาเป็นเพยี งคนเปิดประตใู หเ้ ดก็ เหลา่ น้เี ท่านนั้ คน้ จาก http://www.sarakadee.com/2009/08/18/anan-sruruang/ วนั ท9่ี มถิ ุนายน 2556 184 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

เจง๋ ! เอกชยั วรรณแก้ว จิตรกรเพนกวินชายไรแ้ ขน คว้าปริญญาตรี ความผิดปกติของร่างกายไม่ใช่อุปสรรคท่ีจะขดั ขวางการสร้างความก้าวหน้าให้ชีวติ อย่างเช่น เร่อื งราวของ เอกชยั วรรณแกว้ หนุ่มไรแ้ ขนทงั้ สองขา้ ง แต่เขากลบั สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานทางศลิ ปะได้ อย่างยอดเยย่ี ม และเม่อื วนั ท่ี 25 เมษายนทผ่ี ่านมา ชายหนุ่มคนน้ีเพงิ่ จะควา้ ปรญิ ญาตรจี ากคณะจติ รกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ วทิ ยาเขตเพาะช่าง มาครอบครองไดส้ าเรจ็ ทางรายการเจาะ ขา่ วเด่น ซ่งึ ดาเนินรายการโดยสรยุทธ สุทศั นะจนิ ดา จงึ ขอพาทุกคนไปรว่ มแสดงความยนิ ดกี บั เขา ??เอก ชยั วรรณแกว้ โดยเอกชยั เล่าว่า อาจารยท์ ม่ี หาวทิ ยาลยั และ เพ่อื น ๆ เรยี กเขาว่า มนุษยเ์ พนกวิน ซง่ึ เขา รสู้ กึ ว่าเป็นคาทน่ี ่ารกั ดี ไมไ่ ดค้ ดิ ว่าเป็นปมดอ้ ย อะไร สว่ นครอบครวั กเ็ ลย้ี งมาอยา่ งปกติ คอื พยายามใหเ้ ขาหดั ดน้ิ รนช่วยเหลอื ตวั เองก่อน ถา้ เหน็ วา่ เขาทาไมไ่ ดก้ จ็ ะเขา้ มาช่วยทหี ลงั ซง่ึ กท็ าใหเ้ ขาดน้ิ รนมาตงั้ แต่เดก็ โดยเฉพาะช่วงพยายามหดั เดินท่ีเจบ็ ตวั มาก เวลาล้มไม่มมี ือคา้ พื้นไว้เหมือนคนอื่น หน้ากฟ็ าดพื้น ปากแตก หวั แตกทุกวนั ดา้ นคณุ แมน่ พ วรรณแกว้ คณุ แมข่ องเอกชยั เล่าว่า ตอนลกู ชายเกิดมาตวั เลก็ นิดเดียว หนักไม่ ถงึ หน่ึงกิโลกรมั ไมม่ ีแขนทงั้ สองข้าง สว่ นขากม็ งี อกมานดิ เดยี ว ใคร ๆ กพ็ ดู ว่าไมน่ ่าเลย้ี งรอด แต่สุดทา้ ย กร็ อดมาได้ ตอนเลก็ ๆ ลกู ชายคนน้เี ลย้ี งยากมาก เพราะมโี รคภยั ไขเ้ จบ็ รมุ เรา้ แต่โชคดพี อโตขน้ึ มาหน่อยก็ ไมป่ ่วยแลว้ “สมยั ก่อนเคยคดิ ว่าถา้ เราตายไปก่อน เขาจะดแู ลตวั เองอยา่ งไร แต่พอมาตอนน้เี ขากลบั ใช้ ความสามารถของเขา ออกไปวาดรปู ตามงานต่าง ๆ ไดร้ ายไดม้ าช่วยปลดหน้ี ธ.ก.ส.ใหแ้ ม่ และยงั ปลกู บา้ น หลงั ใหมใ่ หค้ รอบครวั ดว้ ย แถมยงั ส่งเสยี เงนิ ใหแ้ ม่ทุกเดอื นจนใคร ๆ หลายคนพดู กนั ว่า น่แี หละคนดไี มไ่ ด้ พง่ึ พง่ึ คนพกิ าร” คุณแมบ่ อก กลบั มาถามเอกชยั เรอ่ื งการวาดภาพบา้ ง เขาเลา่ ว่า ไดฝ้ ึกวาดภาพดว้ ยตวั เอง โดยใชเ้ ทา้ คบี กงิ่ ไม้ บา้ ง ไมเ้ สยี บลกู ชน้ิ บา้ ง ลองขดี ๆ เขยี น ๆ บนพน้ื ดนิ ดู จากนนั้ กไ็ ดม้ โี อกาสเขา้ เรยี นหนงั สอื เหมอื นเดก็ คน อ่นื ๆ แต่กเ็ กอื บจะไมไ่ ดเ้ รยี นเหมอื นกนั เพราะผอู้ านวยการโรงเรยี นไมร่ บั เขาเขา้ เรยี น เน่อื งจากเหน็ ว่าเป็น คนพกิ าร แต่สดุ ทา้ ย เขากไ็ ดเ้ ขา้ เรยี นในโรงเรยี นเพราะพอ่ และแมไ่ ปตดิ ต่อเจา้ หน้าทร่ี ะดบั จงั หวดั จนไดเ้ ขา้ เรยี นในทส่ี ุด ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 185

หลงั จากเรยี นจบอนุปรญิ ญาตรี ทว่ี ทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษานครสวรรคแ์ ลว้ เอกชยั กไ็ ดร้ บั คาแนะนาจาก อาจารยท์ า่ นหน่งึ ใหไ้ ปเรยี นต่อทโ่ี รงเรยี นเพาะช่าง เพอ่ื จะ ไดเ้ รยี นศลิ ปะตามทเ่ี ขาชน่ื ชอบ เอกชยั จงึ ลองไปสอบท่ี โรงเรยี นเพาะช่าง แต่เขาสอบไมต่ ดิ โชคดที เ่ี จออาจารย์ ท่านหน่งึ ใหค้ วามเมตตากรุณา เสนอเรอ่ื งต่อโรงเรยี น เขา จงึ ไดเ้ รยี นต่อทโ่ี รงเรยี นเพาะชา่ ง เมอ่ื ถามวา่ การเรยี นเพาะช่างยากไหม จติ รกรไรแ้ ขน ยอมรบั วา่ ยากมากแต่กต็ อ้ งเรยี น เพราะอยากลบคาสบ ประมาทของหลาย ๆ คนทเ่ี คยพูดกบั พ่อแมไ่ วว้ ่า จะส่งเขา มาเรยี นทาไมเรยี นไปกไ็ ม่จบ จบไปกไ็ มม่ งี านทา คนอยา่ ง น้ใี ครเขา จะเอาไปทาอะไร แต่แมก่ พ็ ยายามใหก้ าลงั ใจ บอกใหเ้ ราพยายามมาโดยตลอด ซง่ึ เป็นแรงกระตุน้ ใหเ้ รา สามารถทาไดส้ าเรจ็ “เราต้องทามากกว่าคนอื่น เช่นคนอื่นทาสองชวั่ โมงเราต้องทามากกว่านัน้ เพราะศกั ยภาพเรา มีจากดั ” เอกชยั บอก เทคนคิ สว่ นตวั ในการวาดภาพของเอกชยั กค็ อื การพลกิ ภาพเขยี นกลบั ฟ้ากลบั ดนิ เพราะบางครงั้ ภาพมขี นาดใหญ่เกนิ ความสูงของเขา เขากต็ อ้ งวาดภาพช่วงลา่ งใหเ้ สรจ็ เสยี ก่อน จงึ คอ่ ยหมนุ พลกิ ภาพ ดา้ นบนกลบั ลงมาวาดภาพในลกั ษณะกลบั หวั ซง่ึ ถอื วา่ ยาก เพราะตอ้ งจาเฉดสี จาทุกอยา่ งใหไ้ ด้ ภาพจงึ จะ ปะตดิ ปะต่อเป็นภาพเดยี วกนั และจากประสบการณ์รวมทงั้ การฝึกฝน กท็ าใหเ้ ขาสามารถเขยี นภาพไดด้ ว้ ย การใชท้ งั้ เทา้ ปาก คอ และยงั นาเทคนคิ เหล่าน้ไี ปสอนเดก็ ๆ พกิ าร ทม่ี ใี จรกั การวาดภาพอกี ดว้ ย เอกชยั บอกวา่ บางครงั้ เขากท็ อ้ ซง่ึ ถา้ ทอ้ กห็ ยดุ แต่พอหายเหน่อื ยแลว้ กก็ ลบั มาเขยี นใหม่ คอื เหน่อื ยไดแ้ ต่ไมห่ ยดุ มแี รงตอ้ งเขยี นต่อ ทุกคนตอ้ งมวี นั ทห่ี มดกาลงั ใจ แต่เราตอ้ งคดิ วา่ จะเอากาลงั ใจของเรา กลบั คนื มาไดอ้ ยา่ งไร ทผ่ี ่านมา เขาไมเ่ คยต่อว่าต่อขานโชคชะตาฟ้าดนิ เพราะเราเลอื กเกิดไมไ่ ด้ แต่เรา เลอื กทาได้ ในอนาคต เอกชยั วาดฝันไวว้ า่ อยากเปิดโรงเรยี นสอนศลิ ปะ แต่ตอนน้คี งขอใหต้ วั เองมงี านทาเป็น หลกั เป็นแหลง่ เสยี ก่อน ซง่ึ เขาอยากทาอะไรกไ็ ดท้ เ่ี ขาสามารถทาใหไ้ ดอ้ ย่างเตม็ ท่ี เช่น สอนศลิ ปะ เป็นครู ศลิ ปะ ไมอ่ ยากใหใ้ ครจา้ งเขาเพราะความสงสาร อยากใหจ้ า้ งดว้ ยความสามารถมากกว่า เพราะอยากใหค้ น เหน็ คณุ ค่าในตวั ของเขาจรงิ ๆ อยา่ งเชน่ หากใครจา้ งใหเ้ ขาวาดภาพ เขาจะไมเ่ กบ็ เงนิ ก่อน 186 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

แต่จะวาดภาพใหเ้ สรจ็ แลว้ สง่ ไปใหด้ ู ถา้ พอใจกซ็ อ้ื ถา้ ไมพ่ อใจไมซ่ อ้ื กไ็ มเ่ ป็นไร เขากจ็ ะ เกบ็ ภาพไวเ้ อง นนั่ เพราะไม่อยากใหใ้ ครซอ้ื ภาพเพราะสงสารตวั เขา ดา้ นคณุ แม่ กบ็ อกวา่ รกั ลกู ชายคนน้ีมาก ทส่ี ดุ และไมเ่ คยนึกไมเ่ คยฝันมาก่อนเลยวา่ จะมี วนั น้ี คอื วนั ทเ่ี ขาสามารถเรยี นจบปรญิ ญาตรไี ด้ สาเรจ็ คณุ แมพ่ ดู จบ เอกชยั ก็ไดเ้ ดนิ มากม้ ลง กราบคณุ แมเ่ ป็นครงั้ แรก และกล่าวขอบคุณแม่ ทท่ี าใหเ้ ขามวี นั น้ี และเป็นกาลงั ใจใหม้ าโดย ตลอด สุดทา้ ย เอกชยั ยงั ไดฝ้ ากถงึ ทุกคนท่ี อาจจะกาลงั หมดแรง และทอ้ ถอยอยวู่ ่า “ผมคง เป็นตวั อย่างให้คนอีกหลายคน ผมคิดว่า โอกาสของคนมนั มอี ยู่ แล้วแต่ว่าเราจะ ไขว่คว้ามนั ยงั ไง ผมว่าปี หน่ึง 365 วนั วนั หน่ึงมนั ต้องมวี นั ของเรา ถา้ เราไม่ท้อไม่ ถอยไปเสียก่อน” คน้ จาก http://news.tlcthai.com/news/26074.html วนั ท9่ี มถิ ุนายน 2556 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 187

เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ กากบั นกยงู กาตวั หน่ึงรสู้ กึ ไมพ่ อใจทต่ี นเองเกดิ มามขี นสดี าทาใหร้ า่ งของมนั ไรค้ วามงดงาม เม่อื รวู้ ่าทุกวนั นกยงู จะไซ้ขนออกท้งิ มนั จงึ ไปเก็บมาแซมขนของตน เพ่อื นๆของการสู้ กึ แปลกใจจงึ พากนั สอบถามด้วยความ สงสยั “เจา้ จะเลกิ เป็นกาแลว้ หรอื ” เพ่อื นทส่ี นิททส่ี ุดของมนั เอ่ยถาม“ใช่..ใครจะอยากเป็นนก ทต่ี ้อยต่าไรข้ น อนั สวยงามอย่างพวกเจา้ ” คาตอบของกาทาให้เพ่อื นๆของมนั ไมพ่ อใจขบั ไล่ออกจากฝงู แทนทจ่ี ะสานึกตวั เจา้ กากลบั ทะนงตนคดิ ว่าเวลาน้ีขนสองมนั สวยงามเทยี มเท่ากบั พวกนกยงู จงึ ไปปะปนอย่ใู นฝงู นกยูงเหน็ ความไม่เจยี มตวั ของกา จงึ ต่างกพ็ าหวั เราะเยาะและรมุ จกิ ตดี ว้ ยความหมนั่ ไสท้ ก่ี าคดิ จะเทยี บชนั้ กบั พวกตน “ไปใหพ้ น้ นะเจา้ นกอปั ลกั ษณ์” นกยงุ พากนั ขบั ไล่ กาพารา่ งอนั สะบกั สะบอมกลบั ไปทฝ่ี งู ของตนแต่กไ็ มม่ ใี คร ยอมคบหาสมาคมดว้ ย มนั อย่ใู นฝงู กากไ็ ม่ได้ ไปอยใู่ นฝงู นกยุงกถ็ ูกรงั เกยี จ สุดทา้ ยจงึ ตอ้ งไปอย่ตู ามลาพงั ตวั เดยี ว เรือ่ งนี้สอนให้ร้วู ่า จงพอใจในสง่ิ ทต่ี นมอี ยู่ ไมฉ่ กฉวยของผอู้ ่นื 188 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 9 จดุ ดี จดุ ด้อย และการพฒั นาตนเอง เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 17 ลมใต้ปี ก 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความสาคญั ทจ่ี ะตอ้ งตอบแทนบคุ คลทม่ี พี ระคณุ ได้ 2. เนื้อหา ลมใตป้ ีกหรอื การเกอ้ื กูลของบุคคลรอบขา้ งในชวี ติ ของลกู เสอื เป็นส่วนสาคญั ทท่ี าใหล้ กู เสอื มชี วี ติ มา ไดจ้ นถงึ วนั น้หี รอื ต่อไปในวนั หน้า การตระหนกั รถู้ งึ คณุ คา่ ของคนหรอื สง่ิ รอบตวั ทเ่ี ออ้ื เฟ้ือชวี ติ ของลกู เสอื จะ ทาใหล้ กู เสอื ไดใ้ ชเ้ วลาและโอกาสทม่ี ตี อบแทนผมู้ พี ระคุณเหลา่ นนั้ อย่างอ่อนน้อม 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงานกรณตี วั อยา่ ง “ในหลวง” และ “เจา้ ปยุ สุนัขฮโี ร่” 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ ส่บู ทเรยี นถงึ เรอ่ื งลมใตป้ ีกเครอ่ื งบนิ ทม่ี สี ว่ นชว่ ยพยงุ เครอ่ื งบนิ ใหบ้ นิ ได้ ดี เชน่ เดยี วกบั คนทส่ี นบั สนุนชวี ติ ของลกู เสอื มสี ว่ นกบั ชวี ติ ของลกู เสอื คนทล่ี กู เสอื มกั นึกถงึ เป็นคนแรกเวลา มคี วามทุกขใ์ จ คนทเ่ี ออ้ื เฟ้ือการมชี วี ติ ของลกู เสอื ไมว่ า่ โดยตรงหรอื ออ้ ม และใหผ้ กู้ ากบั เลา่ กรณตี วั อยา่ งใน หลวงประกอบภาพพระราชกรณยี กจิ 2) แบ่งหมลู่ กู เสอื เพ่อื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมแบ่งปันประสบการณ์ตรงของตนในกลุ่มยอ่ ย และ เลอื กประสบการณ์ของสมาชกิ ทม่ี คี วามประทบั ใจมากทส่ี ดุ มา 1 เรอ่ื ง เพอ่ื นาเสนอในทป่ี ระชุม 3) ผแู้ ทนหมนู่ าเสนอ ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ ราย เพม่ิ เตมิ ช่นื ชม สรุป 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ “น้าพระทยั ในหลวง” 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั รถู้ งึ คณุ ค่าของผมู้ พี ระคุณต่อลกู เสอื ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 189

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 17 เพลง สายฝน ทานอง: พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช คารอ้ ง: พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ เมอ่ื ลมฝนบนฟ้ามาลวิ่ ตน้ ไมพ้ ลว้ิ ล่กู ง่ิ ใบ เหมอื นจะเอนรากคลอนถอนไป แต่เหล่าไมย้ งิ่ กลบั งาม พระพรหมท่านบนั ดาลใหฝ้ นหลงั่ เพ่อื ประทงั ชวี ติ มทิ ราม น้าทพิ ยส์ าดเป็นสายพรายพลว้ิ ทวิ งาม ทวั่ เขตคามชุ่มธารา สาดเป็นสายพรายพลว้ิ ทวิ ทุ่ง แดดทอรงุ้ อร่ามตา รงุ้ เลอ่ื มลายพรา่ งพรายนภา ยามเมอ่ื ฝนมาแต่ไกล พระพรหมช่วยอานวยใหช้ ่นื ฉ่า เพอ่ื จะนาดบั ความรอ้ นใจ น้าฝนหลงั่ ลงมาจากฟ้าแดนไกล พชื พรรณไมช้ ่นื ยนื ยง 190 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ใบงาน กรณีศึกษา ในหลวง ทรงพระเจริญ พระคณุ และคณุ ธรรมของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ภมู ิพลอดลุ ยเดช ในหลวงของปวงชน ชาวไทยที่เลิศลา้ และมีพระมหากรณุ าทิคณุ ต่อ ประชาชาวไทยอยา่ งมากล้นราพนั ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 191

192 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

เจ้าปยุ สนุ ัขฮีโร่ คณะศลิ ปศาสตรแ์ ละศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั หาดใหญ่ พาดหวั ขา่ วเป็น Talk of The Town สาหรบั เจา้ ปุย อายุ 2 ปี สนุ ขั พนั ธุบ์ างแกว้ ผสมพนั ธไุ์ ทยเพศผู้ ซง่ึ คาบ ถุงวงิ่ มาจากปากซอยเอามาวางไวใ้ นบา้ น ก่อนสง่ เสยี งเหา่ ใหเ้ จา้ ของบา้ นรบั รู้ และเปิดถุงออกดพู บเป็นเดก็ ทารกแรกเกดิ ยงั มชี วี ติ อยู่ แลว้ แจง้ เจา้ หน้าทใ่ี หร้ บี นาตวั ทารกสง่ โรงพยาบาล จงึ ทาใหท้ ารกไดร้ บั ความ ปลอดภยั ดว้ ยแลว้ หากจะคาดเดาเป็นว่า เจา้ ปุย สนุ ขั พนั ธุบ์ างแกว้ แสนรนู้ ้ี คงจะมคี วามรสู้ กึ รกั เดก็ ดว้ ย เพราะอุปนสิ ยั ดขี องเจา้ ปยุ ซง่ึ เจา้ ของสนุ ขั ยนื ยนั หรอื อาจเป็นเพราะเหตุปัจจยั แห่งผลบุญของทารก แต่ กระนนั้ คงตอ้ งรว่ มรสู้ กึ ชน่ื ชมกบั ปรากฏการณ์ของเจา้ ปุยเป็นพเิ ศษในกรณนี ้ี พระนครศรอี ยธุ ยา -ผกก.ทา่ เรอื นาทมี พบเจา้ ของ “เจา้ ปยุ สุนขั ฮโี ร่” หาหลกั ฐานคนใจรา้ ยนาเดก็ ทารกมาทง้ิ ยนั ตามคนใจรา้ ยมาดาเนนิ คดใี หไ้ ด้ ดา้ น นอภ.ท่าเรอื พรอ้ มนายกกงิ่ กาชาดฯ ตดิ เหรยี ญให้ “เจา้ ปยุ สนุ ขั ฮโี ร”่ เผยขณะทม่ี คี นใจบุญขอรบั หนูน้อยเป็นลกู บุญธรรมแลว้ หลายราย พรอ้ มตงั้ 2 ชอ่ื “สุธิ รกั ษ์” และ “พบพนั ธบ์ ุญ” ใหป้ ระชาชนรว่ มเลอื ก วนั น้ี (4 ม.ิ ย.) พ.ต.อ.จติ เกษม สนขา ผกก.สภ.ท่าเรอื พรอ้ มเจา้ หน้าทต่ี ารวจชุดสบื สวน สภ.ท่าเรอื ได้ เดนิ ทางไปทบ่ี า้ นนายกาเหนดิ ทองมาก อายุ 39 ปี นางภมุ รตั น์ ทองมาก อายุ 35 ปี สองสามภี รรยา และ ด.ญ.สดุ ารตั น์ หรอื น้องแนน ทองมา อายุ 12 ปีบุตร นกั เรยี นชนั้ ม.1 โรงเรยี นท่าเรอื นติ ยานุกูล ทบ่ี า้ นเลขท่ี 87 ม.1 ต.ศาลาลอย อ.ทา่ เรอื จ.พระนครศรอี ยธุ ยา ซง่ึ เป็นเจา้ ของสนุ ขั ฮโี ร่ เพศผชู้ ่อื “ปยุ ” ทช่ี ่วยชวี ติ ทารก แรกเกดิ ถูกมนุษยใ์ จรา้ ยนามาทง้ิ กองขยะจนรอดชวี ติ เม่อื วนั ท่ี 3 ม.ิ ย.ทผ่ี ่านมา โดยเมอ่ื เดนิ ทางไปถงึ พ.ต.อ.จติ เกษม สนขา ผกก.สภ.ท่าเรอื ไดใ้ ห้ น้องแนน ช่วยชจ้ี ุดทพ่ี บเดก็ ทารกบรเิ วณบนั ไดบา้ นท่ี เจา้ ปุย คาบถุงสดี าทม่ี เี ดก็ ทารกแรกเกดิ มาวางไว้ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 193

พ.ต.อ.จติ เกษม เปิดเผยว่า ไดม้ าดแู ละสอบถามพอ่ แมข่ องเดก็ ถงึ รายละเอยี ดต่างๆ ในช่วงทพ่ี บเดก็ และดจู ากน้องแนน ทไ่ี ดช้ จ้ี ุดทส่ี ุนขั นัง่ เฝ้าถุงพลาสตกิ ดแู ลว้ น่าจะมคี นทน่ี าถุงทารกแรกเกดิ มาวางทง้ิ ไว้ อาจจะเขา้ มาทางหลงั บา้ นซง้ึ เป็นป่า และบงั เอญิ สุนขั ไปพบแลว้ คาบมา หรอื อาจจะมคี นนามาวางทง้ิ ไวท้ ่ี บนั ไดบา้ นแลว้ สุนขั เหน็ จงึ ไดม้ านงั่ เฝ้าเพ่อื ป้องกนั ไมใ่ หส้ นุ ขั ตวั อ่นื มากดั สว่ นในเรอ่ื งคดไี ดส้ งั่ การใหช้ ุด สบื สวนออกหาขา่ วใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุดเพอ่ื ความกระจา่ งในเรอ่ื งน้ี ประกอบกบั ไดส้ อบถามชาวบา้ นวา่ มผี ไู้ ดย้ นิ เสยี งเหา่ ของสนุ ัขในชว่ งตี 4 กวา่ ๆ หรอื ไมอ่ ยา่ งไร ซง่ึ ทางเจา้ หน้าทจ่ี ะตอ้ งหาตวั ผกู้ ระทาผดิ ใหไ้ ด้ เพราะ เป็นคดอี าญา ดา้ นนายกาเหนิด เจา้ ของสุนขั เปิดเผยว่า ไดป้ รกึ ษากบั ครอบครวั และพ่อแมแ่ ลว้ ยนิ ดที จ่ี ะรบั เดก็ ไว้ เลย้ี ง เพราะเชอ่ื วา่ เดก็ มบี ญุ จะสง่ เสรมิ ใหค้ รอบครวั ของตนมคี วามเจรญิ ได้ และรสู้ กึ สงสารเดก็ มาก สว่ นทม่ี ี คนพดู ถงึ เกย่ี วกบั ลกู สาวต่างๆ นานา คนในครอบครวั ของตนรดู้ วี า่ ลกู สาวตนประพฤตติ วั อยา่ งไร ทผ่ี ่านมา ลกู สาวของตนเป็นคนดี ช่วยเหลอื พอ่ แมท่ างาน ตงั้ ใจเรยี น อยกู่ บั พอ่ แมต่ ลอดเวลา ตนพรอ้ มทจ่ี ะใหค้ วาม รว่ มมอื เพ่อื ความกระจา่ งของลกู สาว “คนเราต่างจติ ต่างใจยอ่ มพดู กนั ไปเรอ่ื ย ผมไมต่ ดิ ใจหรอก สเู้ อาเวลาไปทามาหากนิ ดกี ว่า และเลย้ี งเจา้ ปยุ เพราะเป็นสนุ ขั ทฉ่ี ลาด และจติ ใจดี เพยี งแต่เจา้ ปยุ นงั่ เฝ้าถุงพลาสตกิ ถอื วา่ เป็นฮโี รแ่ ลว้ หากเป็นสุนขั อ่นื เหน็ อาจจะกดั กนิ กเ็ ป้นได”้ นายกาเหนิด กลา่ ว ต่อมา ในช่วงบ่าย นายวิทิต ปิ่ นนิกร นายอาเภอท่าเรือ นางศศิธร ปิ่ นนิกร นายกก่ิงกาชาด อาเภอท่าเรือพร้อมคณะได้เดินทางมาที่บ้านครอบครวั ของสนุ ัขฮีโร่ พรอ้ มมอบใบประกาศ เกียรติยศให้แก่เจ้าปยุ สนุ ัขฮีโร่ ท่ีช่วยชีวิตเดก็ ทารกแรกเกิดไว้ได้ พรอ้ มกบั ติดลอ็ กเกต็ ท่ีคอให้เจ้า ปยุ นายวทิ ติ เปิดเผยว่า ไดต้ รวจสอบไปทโ่ี รงพยาบาลพระนครศรอี ยธุ ยา ทร่ี กั ษาเดก็ ทราบวา่ อาการของ เดก็ ปลอดภยั ยงั อยใู่ นตู้อบ และใชเ้ ครอ่ื งช่วยหายใจปกติ ไมเ่ กนิ 2 อาทติ ยจ์ ะรบั เดก็ มาไวท้ โ่ี รงพยาบาล ท่าเรอื เพอ่ื อนุบาลต่อไป ขณะน้มี ชี าวต่างชาตยิ น่ื ความจานงขอเลย้ี งดเู ดก็ แลว้ 5 ราย รวมทงั้ เจา้ ของบา้ นท่ี พบเดก็ โดยใหล้ งชอ่ื กนั ไวก้ ่อนจะตอ้ งปรกึ ษากบั สานกั งานพฒั นาและความมงั่ คงของมนุษย์ รวมทงั้ ผลคดี จากทางเจา้ หน้าทต่ี ารวจ ส่วนเจา้ สนุ ขั ฮโี ร่ หรอื เจา้ ปยุ ซง่ึ ขณะน้ไี ดร้ ว่ มกนั ตงั้ ช่อื ใหมว่ า่ “คาบทอง” ใหแ้ ก่เจา้ ปุย เป็นสุนขั ทไ่ี มด่ ุ รา้ ยฟังรเู้ รอ่ื ง เป็นสุนขั พนั ธุบ์ างแกว้ ผสมพนั ธไุ์ ทย ลกั ษณะหตู งั้ ถอื ว่าซอ่ื สตั ยท์ างอาเภอไดม้ อบเกยี รตบิ ตั ร ไวพ้ รอ้ มกบั ยกยอ่ งเจา้ ของสนุ ขั เป็นผทู้ เ่ี ลย้ี งสุนขั ไดด้ ี 194 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ น้าพระทยั ในหลวง ครงั้ หน่งึ เมอ่ื ในหลวงเสดจ็ ฯ เยย่ี มโครงการหว้ ยสตั วใ์ หญ่ เมอ่ื เฮลคิ อบเตอรพ์ ระทน่ี งั่ มาถงึ ปรากฎวา่ ฝนตกลงมาอย่างหนกั ขา้ ราชการและราษฎรทเ่ี ขา้ แถวรอรบั เปียกฝนกนั ทกุ คน เมอ่ื ทรงเหน็ ดงั นนั้ จงึ มรี บั สงั่ ใหอ้ งคร์ กั ษเ์ กบ็ รม่ แลว้ ทรงเยย่ี มขา้ ราชการและราษฎรท่ามกลางสายฝน เร่ืองนี้สอนให้รวู้ ่า ความเหน็ ใจผนู้ ้อย เป็นหวั ใจของนกั ปกครอง ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 195

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี่ ท่ี 5-6,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 9 จดุ ดี จดุ ด้อย และการพฒั นาตนเอง เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 18 ส่กู ารยอมรบั และชยั ชนะ (ให้โอกาสการเป็นผนู้ า) 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความสาคญั ในการพฒั นาตนเอง เพ่อื ใหเ้ ป็นผมู้ จี ติ อาสา บาเพญ็ ประโยชน์และ เป็นทย่ี อมรบั ของสงั คมได้ 2. เนื้อหา การเป็นผู้นาและได้รบั การยอมรบั นัน้ ถอื เป็นเกียรติเป็นศกั ดศิ ์ รแี ละความภาคภูมใิ จของบุคคลและ ครอบครวั ซ่งึ เรม่ิ ต้นมาจากความสามารถในการนาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพตนเองได้ การดูแล บทบาทหน้าท่ีของตนเองได้ หรอื เรยี กว่านาชีวิตตนเองได้ จะนาไปสู่การเอ้ือเฟ้ื อเผ่ือแผ่ ใส่ใจ ดูแล ช่วยเหลอื สงั คมรอบ ๆ ตวั เป็นลาดบั ถดั ไป ทเ่ี รยี กวา่ เป็นผใู้ ห้ ผมู้ จี ติ อาสา ผบู้ าเพญ็ ประโยชน์ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยนาสนทนาในเรอ่ื งการเป็นผนู้ าและไดร้ บั การยอมรบั นบั ถอื นนั้ ถอื เป็นเกยี รตเิ ป็นศกั ดศิ ์ รแี ละความภาคภมู ใิ จของตนเองและครอบครวั ซง่ึ เรมิ่ ตน้ มาจาก ความสามารถในการนาตนเอง ไมว่ า่ จะเป็นการดแู ลสขุ ภาพ การดแู ลบทบาทหน้าท่ี หรอื เรยี กว่านาชวี ติ ตนเองได้ จะนาไปสกู่ ารเออ้ื เฟ้ือเผ่อื แผ่ ใส่ใจ ดแู ล ชว่ ยเหลอื สงั คมรอบๆ ตวั เป็นลาดบั ทเ่ี รยี กว่าเป็นผใู้ ห้ ผูม้ จี ติ อาสา ผบู้ าเพญ็ ประโยชน์ต่อสว่ นรวม 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เชญิ ชวนลกู เสอื สารวจการนาตนเองไมว่ ่าจะเป็นสุขภาพ การเรยี น การรบั ผดิ ชอบ บทบาทหน้าทว่ี ่าเป็นอย่างไรบา้ ง สว่ นทย่ี งั พรอ่ งอยตู่ อ้ งทาอยา่ งไรจงึ จะสมบรู ณ์ขน้ึ ตามใบงาน1 ผกู้ ากบั ลกู เสอื สุ่มถามลกู เสอื 1 – 2 คน พอเป็นตวั อยา่ ง 196 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สนทนาถงึ การเป็นผใู้ ห้ การเออ้ื เฟ้ือ การดแู ล การมจี ติ อาสา การเสยี สละต่อผอู้ ่นื และส่วนรวม โดยสุ่มถามลกู เสอื 1 – 2 คน พอเป็นตวั อยา่ ง 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แบง่ ลกู เสอื เป็น 5 กล่มุ ปฏบิ ตั ติ ามใบงานท่ี 2 ใชเ้ วลา 10 นาที และนาเสนอ 3 นาที 5) ลกู เสอื แต่ละหมศู่ กึ ษาใบความรใู้ ชเ้ วลา 5 นาที และร่วมกนั อภปิ รายเพม่ิ เตมิ สนทนาซกั ถาม 6) แบง่ ลกู เสอื เป็น 5 กล่มุ ปฏบิ ตั งิ านตามใบกจิ กรรม 3 ใชเ้ วลา 20 นาที และนาเสนอ 3 นาที 7) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ ภาวะของการเป็นผนู้ าสกู่ ารยอมรบั (ใหโ้ อกาสการเป็นผนู้ า) เรมิ่ ตน้ จากการพฒั นาตนเอง พฒั นาการเป็นผใู้ ห้ ความใสใ่ จดแู ลผอู้ ่นื และส่วนรวม จนกลายเป็นจติ สานกึ ของผนู้ า และการยอมรบั ในตนเองและของสงั คม 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั รถู้ งึ คุณค่าของการพฒั นาตนเองใหเ้ ป็น ผมู้ จี ติ อาสา คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 197

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 18 เพลง สามคั คีร่วมใจ สามคั ครี ว่ มใจ เรว็ ไวชว่ ยกนั ทาการงาน ดว้ ยความสาราญเรงิ ใจ มาช่วยกนั นะทรามวยั จะไดเ้ สรจ็ ทนั ใด ใคร ๆ กพ็ ากนั ยกยอ่ ง ลา.............................. ใบงาน ใบงานท่ี 1 แบบสารวจตนเอง 1. สารวจสุขภาพ 1.1 การเจบ็ ป่วย 1.2 การพกั ผ่อน 1.3 อาหาร 1.4 การออกกาลงั กาย 2. การเรยี น 2.1 ผลการเรยี น 2.2 วธิ เี รยี น 2.3 ปัญหาและอุปสรรค 3. บทบาทหน้าท่ี 3.1 การเป็นสมาชกิ ของครอบครวั 3.2 การเป็นสมาชกิ ของสถานศกึ ษา 3.3 การเป็นสมาชกิ ของสงั คม ใบงานท่ี 2 ใหก้ ลมุ่ ลกู เสอื เลอื กประธาน เลขา และผนู้ าเสนอ เสรจ็ แลว้ รว่ มกนั แบง่ ปันประสบการณ์การเป็นผใู้ ห้ จติ อาสา การช่วยเหลอื การเสยี สละแก่ผอู้ ่นื และส่วนรวม คนละ 1 ประสบการณ์ ในประเดน็ ต่อไปน้ี แลว้ รว่ มกนั เลอื กประสบการณ์ทน่ี ่าสนใจ 1 ประสบการณ์ สง่ ตวั แทนหมู่นาเสนอในกองลูกเสอื 1. ประสบการณ์ในงานอะไร ทไ่ี หน ไดร้ บั มอบหมายใหท้ าหน้าทอ่ี ะไร 2. มเี หตุจงู ใจใดทท่ี าใหไ้ ดเ้ ขา้ ร่วมปฏบิ ตั งิ านนนั้ 3. ไดผ้ ลอยา่ งไร และรสู้ กึ อย่างไรหลงั ปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ 198 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3

ใบงานที่ 3 1. กจิ กรรมเก่ยี วกบั การผจญภยั เป็นกจิ กรรมทท่ี า้ ทายความสามารถของลูกเสอื วสิ ามญั อยา่ งหน่ึง และกจิ กรรมเสย่ี งภยั กเ็ ป็นกจิ กรรมทส่ี นองความต้องการและความสามารถมวลสมาชกิ ลกู เสอื วสิ ามญั อยไู่ ม่ น้อยกจิ กรรมดงั กล่าวน้ีมหี ลายชนิด เช่น การไต่เขา การขา้ มแม่น้า ฯลฯ นอกจากกจิ กรรมทย่ี กตวั อย่างมา ท่านคดิ ว่าจะมกี จิ กรรมเสย่ี งภยั อะไรอกี ทค่ี วรเป็นกจิ กรรมเสย่ี งภยั ของลูกเสอื วสิ ามญั ขอไดย้ กตวั อย่างมา ใหม้ ากทส่ี ดุ เท่าทจ่ี ะหาได้ 2. มนี ักเสย่ี งภยั ไม่น้อยท่ตี ้องถงึ แก่ชวี ติ บ้างก็เกดิ อุบตั เิ หตุไดร้ บั บาดเจบ็ ถงึ แก่ทุพพลภาพ เม่อื ออกไปปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเสย่ี งภยั จงึ ขอใหห้ ม่ขู องท่านช่วยกนั คดิ ว่ามสี งิ่ ใดท่เี ป็นสาเหตุสาคญั อนั ก่อให้เกดิ อนั ตรายดงั กลา่ วแก่นกั เสย่ี งภยั และท่านมวี ธิ กี ารอย่างไรบา้ งทจ่ี ะไมใ่ หเ้ หตุการณ์นนั้ ๆ เกดิ แก่ลูกเสอื วสิ ามญั ในกองของทา่ น เมอ่ื ไปปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเสย่ี งภยั 3. จากขอ้ ความทว่ี ่า “อุบตั เิ หตุในการเสย่ี งภยั อาจหลกี เลย่ี งได้ ถา้ ผนู้ ามที กั ษะพอ” ในฐานะทท่ี ่านเป็นผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั จะจดั กจิ กรรมเส่ยี งภยั ให้กบั ลูกเสอื วสิ ามัญของท่าน ปฏบิ ตั ิ จะสนบั สนุนขอ้ ความขา้ งบนน้ไี ดแ้ ค่ไหนเพยี งใด ลองกลา่ วมาเป็นขอ้ ๆ ใหม้ ากทส่ี ดุ 4. ท่านมาจากหลายแหล่งหลายทท่ี แ่ี ตกต่างกนั ย่อมมปี ระสบการณ์ทผ่ี ดิ แผกกนั ออกไปจงช่วยกนั คดิ คน้ ดวู า่ “มสี ถานทแ่ี หง่ ใดบา้ งทท่ี ่านคดิ ว่าเหมาะสมในเรอ่ื งการปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั กจิ กรรมเสย่ี งภยั ของลูกเสอื วสิ ามญั ” 5. ในฐานะทท่ี ่านเป็นผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั ท่านมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อลกู เสอื วสิ ามญั เมอ่ื มกี ารเดนิ ทางไกลในแหลง่ ทเ่ี สย่ี งภยั อยา่ งไรบา้ ง รวมทงั้ ตวั ท่านเองดว้ ยว่าท่านต้องมบี ทบาทในเรอ่ื งน้ีอยา่ งไร โดยให้ สมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ เป็นขอ้ ๆ ไวใ้ หช้ ดั เจน 6. “กจิ กรรมเสย่ี งภยั ของลูกเสอื ย่อมมกี ารเส่ยี งอนั ตรายมากบา้ งน้อยบา้ งเป็นของธรรมดา แต่ใน ฐานะท่ที ่านเป็นผู้กากบั ลูกเสอื วสิ ามญั ย่อมต้องการใหล้ ูกเสอื และผูบ้ งั คบั บญั ชาลูกเสอื ทงั้ หลายทไ่ี ปปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมเส่ยี งภยั มคี วามปลอดภยั ด้วยกนั ทุกคน ด้วยเหตุน้ีจงึ ขอใหท้ ่านช่วยกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่าเรา ควรจะทกี ารประกนั ภยั ใหแ้ ก่ลกู เสอื หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ใหแ้ ต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายตามหวั ขอ้ อภปิ รายขา้ งตน้ โดยใชเ้ วลา 20 นาที แลว้ สง่ ผแู้ ทนมาชแ้ี จง ในทป่ี ระชุมใหญ่ (กลุ่มละ 3 นาท)ี คอื กลุ่ม 1 ทาขอ้ 1 กลมุ่ 2 ทาขอ้ 2 กลุ่ม 3 ทาขอ้ 3 กลมุ่ 4 ทาขอ้ 4 กลุ่ม 5 ทาขอ้ 5 และใหแ้ ต่ละกล่มุ ทาขอ้ 6 ดว้ ยอกี 1 ขอ้ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 199


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook