ใบความรู้ - ภาพกจิ กรรมเสย่ี งภยั ประเภทต่าง ๆ และกจิ กรรมอ่นื ทเ่ี หมาะสมสาหรบั ลกู เสอื วสิ ามญั - ควรยกตวั อยา่ งสถานทใ่ี นทอ้ งถน่ิ ทม่ี กี จิ กรรมเสย่ี งภยั ใหเ้ หน็ ตามความเหมาะสม - ควรกล่าวอ้างถงึ หน่วยกจิ กรรม (ถ้าม)ี ในสานักงานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แห่งชาตดิ ้วย กบั ควรแนะนาเรอ่ื งการเอาประกนั ภยั สาหรบั ลกู เสอื ทไ่ี ปทากจิ กรรมเสย่ี งภยั ดว้ ย - การเดนิ ทางสารวจในความหมายอย่างกวา้ งขวางนนั้ เป็นทน่ี ิยมของเดก็ ทุกระดบั อายุ แมจ้ ะใน ปัจจบุ นั น้ีกเ็ ช่นเดยี วกนั สาหรบั ลูกเสอื วสิ ามญั นนั้ เล่า ทเ่ี ป็นทน่ี ิยมกนั มากกเ็ พราะวา่ การเดนิ ทางสารวจนนั้ อาจจะนาไปสกู่ ารเดนิ ทางไกลไปยงั ภเู ขาสูง ภเู ขาเลก็ หรอื แหลง่ น้าไกลออกไปจากทจ่ี อแจสบั สนวุ่นวายของ โลกปัจจบุ นั การพฒั นาในการอย่คู ่ายพกั แรมโดยใช้อุปกรณ์ท่เี บา ๆ และการเดนิ ทางรวมกนั เป็นคณะแสดงให้ เหน็ ชดั เจนยง่ิ ขน้ึ ว่า ปัจจุบนั น้ีมปี ระชาชนมาขน้ึ พยายามเดนิ ทางออกไปสู่แหล่งท่มี ชี ุมชนน้อย ฉะนัน้ การ เดนิ ทางสารวจในปัจจบุ นั จงึ ตอ้ งมองใหล้ กึ และกวา้ งขวางถงึ สถานทท่ี จ่ี ะเดนิ ทางไปดว้ ย เม่อื พูดถงึ เร่อื งความปลอดภยั ความสะอาดของสถานท่ี เป็นท่ีน่าเสยี ดายท่มี าตรฐานซ่งึ คณะบาง คณะถงึ ปฏบิ ตั อิ ยขู่ ณะน้ีนัน้ เป็นทน่ี ่าสงสยั เม่อื เป็นเช่นน้ีจงึ ตกเป็นภาระความรบั ผดิ ชอบของกจิ การลูกเสอื เพอ่ื ใหเ้ ป็นทแ่ี น่นอนวา่ มาตรฐานของลกู เสอื ยงั สงู เสมอ มาตรฐานทด่ี ขี น้ึ อยกู่ บั การฝึกอบรมทม่ี คี ุณภาพ การกระหายทจ่ี ะปฏบิ ตั งิ านใหมแ่ ละเสย่ี งภยั อาจจะ ทาใหล้ มื นึกถงึ ความจาเป็นเรอ่ื งการฝึกอบรมทเ่ี พยี งพอเสยี ความจรงิ เร่อื งการฝึกอบรมนนั้ ควรจะไดท้ าโดย ฉบั พลนั เช่น เรมิ่ ฝึกอบรมจากทบ่ี า้ น และฝึกอบรม การปฏบิ ตั ิ ณ จดุ ทไ่ี ป ก่อนทจ่ี ะออกเดนิ ทางสารวจภาระ ยงิ่ ใหญ่ท่ีควรคานึงถึง “ความปลอดภยั ” การหาเส้นทางและอ่ืน ๆ ซ่ึงอาจจะทาได้ ก็โดยการฝึกอบรม เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การรจู้ กั ใชอ้ ุปกรณ์ การจดั หุงหาอาหาร และการอยคู่ ่ายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผกู้ ากบั ลกู เสอื วสิ ามญั มคี วามรบั ผดิ ชอบทจ่ี ะรบั รองวา่ การฝึกอบรมเบอ้ื งตน้ เร่อื งการเดนิ ทางสารวจ นนั้ ไดเ้ ป็นไปอย่างบรบิ ูรณ์ถูกต้อง ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนานของการเดนิ ทางสารวจเกดิ จากสมรรถภาพ ของผเู้ ดนิ ทางทุกคน โดยปกติ การเดนิ ทางสารวจมกั จะมใี นท้องถ่ิน หรอื ในระยะไกลจากท่ตี งั้ กองลูกเสอื พอสมควรใน ตอนปลายสปั ดาห์ ในการน้ีกองลูกเสอื วสิ ามญั จะได้รบั ผลดหี ลายประการ ในด้านร่วมมอื กนั ทางานการ ประสานงานตามจดุ ประสงค์ และการฝึกอบรมโดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเหล่าน้ีเป็นการเตรยี มท่จี าเป็นสาหรบั การ เดนิ ทางครงั้ ใหญ่ ทม่ี รี ะยะทางไกลในเวลานาน หรอื เดนิ ทางไปต่างประเทศ “ทาไมอุบตั เิ หตุจงึ เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม จงใหห้ มแู่ สดงความคดิ เหน็ ออกมาแลว้ จดหวั ขอ้ ต่าง ๆ ขน้ึ ไว้ (รวมถงึ การฝึกอบรมไมเ่ พยี งพอ การขาดผนู้ าทด่ี ี ฯลฯ) “สง่ิ เหล่าน้อี าจหลกี เลย่ี งได้ ถา้ ผนู้ ามที กั ษะพอ” ทกั ษะในการประมาณภูเขาสูงด้วยตัวของผู้นา (ตามท่ีกล่าวไว้ในเอกสารประกอบเร่อื ง “ท่าน สามารถทาไดเ้ พยี งใด”) 200 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ลูกเสอื วสิ ามญั มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อกองของตนเองอย่างไรบ้าง เม่ือสมาชกิ นัน้ ไปเดนิ ทางไกลใน แหล่งทเ่ี สย่ี งภยั (ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มแสดงความคดิ เหน็ จดเป็นบญั ชหี วั ขอ้ น้ีไว้ ขน้ึ ดเู รอ่ื ง “ความปลอดภยั บน ภเู ขา” และใหด้ ขู อ้ บงั คบั คณะลกู เสอื แห่งชาติ เรอ่ื งความปลอดภยั ในการเดนิ ทางไกลดว้ ย) ใหแ้ จง้ ใหท้ ราบถงึ เรอ่ื งการฝึกอบรมเกย่ี วกบั กจิ กรรมเสย่ี งภยั วา่ จะมที ใ่ี ดบา้ ง เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ลกู นก มลี ูกนกอย่คู ่หู น่ึง อาศยั อย่ใู นรงั บนต้นไม้ ซ่งึ อย่กู ลางระหว่างสานักพระฤๅษกี บั หม่บู ้านโจร พ่อแม่ นกตอ้ งหาอาหารมาป้อนทกุ วนั คนื หน่งึ มพี ายแุ รงพดั เอาลกู นกทงั้ สองตอ้ งพลดั พรากจากกนั นกตวั หน่ึงตกลงไปอยู่ในสานกั พระฤๅษี กไ็ ดร้ บั การอบรม สงั่ สอน ฝึกฝนแต่ในทางดี พูดจาไพเราะ มจี ติ ใจมนั่ คง โอบออ้ มอารตี ่อเพ่อื นบา้ น ส่วนลูกนกอีกตวั หน่ึงถูกพายุพดั ตกไปในบ้านโจร ก็ได้รบั การอบรมแนะนาแต่ในทางเลว เช่น ลกั ขโมย พดู จาหยาบคาย ปากจดั มจี ติ ใจดุรา้ ย อาฆาต พยาบาท เป็นตน้ วนั หน่ึง มพี ระราชาพระองค์หน่ึงเดนิ หลงทางเขา้ มานอนหลบั อยใู่ ต้ต้นไมใ้ นแดนโจร นกตวั ท่อี ย่กู บั โจรกพ็ ดู ขน้ึ วา่ “เออ ! ดแี ลว้ วนั น้มี คี นมานอนหลบั อยถู่ นิ่ ของเรา เราตอ้ งฆา่ เสยี ใหต้ าย” พระราชาไดย้ นิ กต็ กใจ รบี หนีผ่านไปทางสานกั พระฤๅษี นกตวั ทอ่ี ยกู่ บั พระฤๅษกี อ็ อกมาทกั ทายว่า “เชญิ พกั ผ่อน ด่มื น้าและหลบั นอนทน่ี ่ีได้ ยนิ ดตี ้อนรบั เจา้ คะ่ ” พระราชาก็เขา้ ไปนอนใต้ต้นไมใ้ กล้ ๆ กบั สานักพระฤๅษี เม่อื ต่นื ขน้ึ มาก็คดิ ในใจว่า “นกสองตวั น้ีมี นิสยั แตกต่างกนั มากจรงิ ๆ ตวั หน่งึ ใจรา้ ย แต่อกี ตวั หน่งึ ใจด”ี เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า การอยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งไร ยอ่ มเป็นไปตามนนั้ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 201
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ 2-3 หน่วยที่ 9 จดุ ดี จดุ ด้อย และการพฒั นาตนเอง แผนการจดั กิจกรรมที่ 19 ร้จู กั ตนเอง เวลา 2 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายถงึ อทิ ธพิ ลของอารมณ์และความเครยี ดทม่ี ผี ลต่อตนเองและผอู้ ่นื และมี แนวทางในการจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ดได้ 2. เนื้อหา การตระหนกั รถู้ งึ อารมณ์และความเครยี ดทส่ี ง่ ผลต่อตนเองและผอู้ ่นื จะชว่ ยใหล้ กู เสอื รจู้ กั สงั เกตและ หาทางจดั การอารมณ์และความเครยี ดของตนไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ภาพสอ่ื เรอ่ื งอารมณ์และความเครยี ดจากหนงั สอื พมิ พ์ 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (การรจู้ กั ตนเองดา้ นอารมณ์) (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยเลอื กสอ่ื ภาพเหตุการณ์เกย่ี วกบั อารมณ์จาก หนงั สอื พมิ พ์ จานวน 2 ภาพ แลว้ ชวนสนทนาเรอ่ื งอารมณ์ทล่ี กู เสอื มปี ระสบการณ์ตรง วา่ มผี ลอยา่ งไรบา้ ง ทงั้ ทางสรา้ งสรรคแ์ ละไมส่ รา้ งสรรค์ (2) แบง่ กล่มุ ลกู เสอื ออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 8 คน (คละเพศชาย – หญงิ ) คดิ วธิ กี ารจดั การกบั อารมณ์ทส่ี รา้ งสรรค์ ทเ่ี คยมปี ระสบการณ์ดว้ ยตนเองหรอื รบั รจู้ ากคนรอบขา้ ง สอ่ื สง่ิ แวดลอ้ ม (3) ผแู้ ทนกลุม่ นาเสนอ ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ ราย เพม่ิ เตมิ (ใบความรู้ 1) ช่นื ชม สรุป (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ ถงึ การรจู้ กั ตนเองดา้ นอารมณ์ 202 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (การรจู้ กั ตนเองดา้ นความเครยี ด) (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยเลอื กสอ่ื ภาพเหตุการณ์เกย่ี วกบั ความเครยี ดจาก หนงั สอื พมิ พ์ จานวน 2 ภาพ แลว้ ชวนสนทนาเรอ่ื งความเครยี ดทล่ี กู เสอื มปี ระสบการณ์ตรง วา่ มผี ลอยา่ งไร บา้ ง ทงั้ ทางสรา้ งสรรคแ์ ละไมส่ รา้ งสรรค์ (2) แบ่งกลุ่มลกู เสอื หาวธิ จี ดั การกบั ความเครยี ดอยา่ งสรา้ งสรรค์ (3) ผแู้ ทนกลมุ่ นาเสนอ ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ ราย เพมิ่ เตมิ ชน่ื ชม สรปุ (4) บรรยายการจดั การกบั ความเครยี ดและนาลกู เสอื ฝึกผ่อนคลายความเครยี ด (ใบความรู้ 2 – 3) (5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สอบถามประสบการณ์ตรงหลงั ฝึกของลกู เสอื 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดปิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ผลเสยี ของอารมณ์ทางลบและความเครยี ด ต่อตนเองและผอู้ ่นื และมที กั ษะการจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ดอยา่ งเหมาะสม ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 203
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 19 เพลง ดงั่ ดอกไมบ้ าน เสถยี รธรรมสถาน จากสว่ นหน่งึ ของอลั บมั ชมสวน คารอ้ ง / ทานอง ทวศี กั ดิ ์อุชุคตานนท์ เรยี บเรยี ง กมั พล มณี ลมหายใจเขา้ …. ลมหายใจออก ดงั่ ดอกไมบ้ าน ภผู าใหญ่กวา้ ง ดงั่ สายน้าฉ่าเยน็ ดงั่ นภากาศ อนั บางเบา เมอ่ื เจอะกนั เราทกั กนั สวสั ดี สวสั ดี สวสั ดคี รบั เมอ่ื ผดิ พลงั้ ขออภยั ขอโทษที ขอโทษครบั เมอ่ื จากนั ยกมอื ไหวข้ อลาที สวสั ดคี ่ะ ลาก่อนครบั ผใู้ ดมมี ติ ไมตรขี อขอบคุณ ขอโทษคะ่ ขอบคณุ ครบั ลาก่อนค่ะ ขอบคุณคะ่ 204 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ใบงาน ภาพส่ือเรื่องอารมณ์ที่สร้างสรรค์ แอพฯ เจง๋ ๆ สร้างสรรค์ 'น้ิว' เป็น 'หน้า' สือ่ ทุกอารมณ์ คน้ จาก news,edtguide.com/373567_แอพ-สรา้ งสรรค-์ น้วิ -หน้า-ส่อื ทกุ อารมณ์วนั ท1่ี 0 มถิ ุนายน 2556 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 205
ภาพส่ือเรื่องอารมณ์จากหนังสือพิมพ(์ ไมส่ ร้างสรรค)์ แฟชนั ่ ฮิตนักเรียนหญิงยกพวกตีกนั แค่แยง่ คนรกั -เปรีย้ ว-มองหน้า เหตุหลกั ๆ จาก “แย่งคนรกั กนั ” ลองลงมาเป็น เรอ่ื ง“แฟชนั่ ” แต่งตวั เปรย้ี วกน็ ามาเป็นเรอ่ื งตกี นั ได้ และสุดทา้ ย การ “มองหน้า” กต็ กี นั ไดเ้ หมอื นกนั นกั เรยี นพาณชิ ย์ 2 คน เล่าวา่ หลงั มคี ลปิ วดิ โี อเผยแพร่ ออกไปนนั้ การตกี นั ของนกั เรยี นหญงิ ไดก้ ลายเป็น เรอ่ื งยอดฮติ ทาใหม้ เี พ่อื นมากขน้ึ บางคนถงึ ขนาด บอกใหเ้ พ่อื นทอ่ี ยใู่ นกลุม่ เดยี วกนั ช่วยใชโ้ ทรศพั ท์ ถ่ายคลปิ วดิ โี อฉากตบฝ่ายตรงขา้ มเอาไวห้ น่อยกม็ รี ปู แบบการตกี นั ของนกั เรยี นหญงิ นนั้ แต่ก่อนจะ ตบตกี นั ในโรงเรยี น ในหอ้ งเรยี นในโรงยมิ บา้ ง ในหอ้ งน้า ซง่ึ มกั จะถูกครลู งโทษทงั้ คู่ หรอื “ยงั ไม่ สะใจ” กถ็ กู เพอ่ื นหา้ มปรามเสยี แลว้ จงึ เกดิ การคาใจกนั ขน้ึ มาจนมาเป็น \"นัดตบตี\"กนั นอกโรงเรยี น เช่น สนามกฬี าทวั่ ๆ ไป ต่อมาเป็นป้ายรถประจาทาง บางครงั้ เขา้ ไปตบตกี นั ในหา้ งสรรพสนิ คา้ ต่าง ฝ่ายต่างกม็ ี \"กองเชียร\"์ ตามไปดว้ ย จงึ เกดิ การยวั่ ยกุ นั ขน้ึ หาก เช่น เพ่อื นคนหน่ึงพยายามหา้ ม ปรามไมใ่ หต้ กี นั แต่อกี ฝ่ายอาจเขา้ ใจผดิ คดิ ว่า ไปชว่ ยอีกฝ่ายหน่งึ ทก่ี าลงั ตบตกี นั อยู่ จงึ ทาใหท้ งั้ กลมุ่ ตอ้ งยกพวกตะลยุ กนั ไมร่ วู้ ่าใครเป็นใครมวั่ กนั ไปหมดกม็ ี คน้ จาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=90203วนั ท1่ี 0 มถิ ุนายน 2556 206 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
คลิปโจต๋ บกนั บงั คบั กราบเท้า ยกพวกตีค่อู ริ นกั เรยี นหญงิ โรงเรยี นประจาจงั หวดั น่านยก พวกตกี บั นกั ศกึ ษาหญงิ วทิ ยาลยั ดงั สาเหตุ เพราะมองหน้า หลงั บงั คบั ใหก้ ราบเทา้ ไม่ สาเรจ็ ท่ามกลางเสยี งเชยี รพ์ รอ้ มถ่ายคลปิ มอื ถอื ส่งแจกจา่ ยกลุม่ วยั รนุ่ ทวั่ เมอื ง... นกั เรยี นหญงิ โรงเรยี นประจาจงั หวดั น่าน ยกพวกตกี บั นกั ศกึ ษาหญงิ วทิ ยาลยั ดงั สาเหตุ เพราะมองหน้า หลงั บงั คบั ใหก้ ราบเทา้ ไมส่ าเรจ็ ท่ามกลางเสยี งเชยี รพ์ รอ้ มถ่ายคลปิ มอื ถอื ส่งแจกจ่ายกลุ่มวยั รุ่นทวั่ เมอื ง... ผสู้ อ่ื ขา่ วรายงานวนั น้ี (8 ม.ิ ย.) คลปิ มอื ถอื การชกต่อยตบตกี นั ระหว่างนกั เรยี นหญงิ ชนั้ มธั ยมปลาย สตรปี ระจา จงั หวดั น่าน กบั นกั ศกึ ษาหญงิ ระดบั ปวช.ของวทิ ยาลยั แห่งหน่งึ ใน จ.น่าน ในชุดนกั เรยี น นกั ศกึ ษาถกู เผยแพรร่ ะบาดไปยงั กล่มุ วยั รนุ่ เพ่อื ฝงู คนรจู้ กั ทวั่ จงั หวดั น่าน เป็นทฮ่ี อื ฮาและ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ถงึ ความไมเ่ หมาะสมและความกา้ วรา้ วใชก้ าลงั ของ เดก็ ในขณะทเ่ี มอื งน่านกาลงั กา้ ว ไปส่เู มอื งน่าอยู่ มวี ฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมอนั ดงี าม โดยคลปิ มอื ถอื ดงั กลา่ วถ่ายโดยนกั เรยี นนกั ศกึ ษาสองสถาบนั ดงั กล่าวระหว่างการ ตบตกี นั ของหญงิ สาวทงั้ สองทบ่ี รเิ วณสนามใน ฌาปนสถานบา้ นรอ้ งตอง ต.ท่าน้าว อ.ภเู พยี ง จ.น่าน เมอ่ื สปั ดาหท์ แ่ี ลว้ ช่วงเปิดเทอมใหม่ ทา่ มกลางการสง่ เสยี งเชยี รข์ องเพอ่ื น ๆ และบางคนถอื โอกาสใชเ้ ทา้ ถบี ฝ่ายตรง ขา้ ม ดว้ ยสาเหตุเพยี งแคอ่ กี ฝ่ายถกู มองหน้าแลว้ ไมพ่ อใจจงึ เรยี กใหไ้ ปขอโทษพรอ้ มบงั คบั ใหก้ ราบ เทา้ แต่ไมส่ ามารถตกลงกนั ไดจ้ งึ ลงมอื ตบตกี นั ดงั กล่าวเป็นเวลากว่า 10 นาที ซง่ึ คลปิ การตบตกี นั ได้ ถกู ส่งต่อไปใหเ้ พ่อื นนกั เรยี นนกั ศกึ ษาตลอดจนคนรจู้ กั ระบาดไปทวั่ จ.น่าน ซง่ึ ทางผเู้ กย่ี วขอ้ งยงั ไม่ ทราบและเหน็ คลปิ ดงั กล่าว ซง่ึ หากปล่อยใหม้ กี ารเผยแพรไ่ ปอกี กจ็ ะระบาดไปยงั จงั หวดั อ่นื ๆ อกี จะ สรา้ งความเสอ่ื มเสยี ใหแ้ ก่ชาวจงั หวดั น่าน ถา้ หน่วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบไม่รบี จดั การอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ โดยปลอ่ ยใหเ้ รอ่ื งเงยี บเองเหมอื นทเ่ี คยเกดิ ขน้ึ หลายครงั้ . คน้ จาก http://www.thairath.co.th/content/region/11569 วนั ท1่ี 0 มถิ ุนายน 2556 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 207
คนเบอื่ นักเรียน-นักเลง มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ธญั บรุ ี เผยผลสารวจ \"พฤตกิ รรม ของวยั รนุ่ ในสงั คม ณ วนั น้ี กรณี นกั เรยี น-นกั เลง\" ของประชาชนทม่ี ี ต่อพฤตกิ รรมวยั รุน่ ในกรณี นกั เรยี น-นกั เลง เพ่อื สะทอ้ นความ คดิ เหน็ โดยผลสารวจมดี งั น้ี รอ้ ยละ 27.56 เหน็ วา่ สรา้ งความเดอื นรอ้ นใหก้ บั ครอบครวั และคนรอบขา้ งจนสญู เสยี ทรพั ยส์ นิ และ ชวี ติ รอ้ ยละ 19.64 ไมพ่ อใจ เบ่อื น่ายกบั การกระทา รอ้ ยละ 18.31 มผี ลต่อภาพพจน์ของเยาวชน สถาบนั ศกึ ษาและสงั คมไทยใหด้ แู ยล่ ง รอ้ ยละ 16.62 รสู้ กึ แย่ เสยี ใจ หดหู่ กบั การกระทาน้ี รอ้ ยละ 36.16 ควรอบรมปลกู ฝังคา่ นยิ มทด่ี ใี ห้ รอ้ ยละ 35.64 ควรเพม่ิ บทลงโทษใหห้ ลาบจา รอ้ ยละ 28.36 ควรแกป้ ัญหาตงั้ แต่ครอบครวั คน้ จาก morning-news.bectrภo.าcพomสื่อ/เรเรอ่ื ื่องเงลคา่ เวชาา้ มนเ้ี-คขา่รวียปดรจะชาากสหมั นพังนั สธือ-์ 2พ3ิ9ม0พ.h์ tmlวนั ท1่ี 0 มถิ ุนายน 2556 น้องเมียเลือดร้อน รัวฆ่าเสธ.ตกิ๊ พ.อ.อาจารย์ วทิ ยาลยั ทบ. ฉุนไม่ไป รว่ มงานวนั เกิด กระหน่ายงิ “เสธ.ตกิ๊ ” พนั เอกอาจารยว์ ทิ ยาลยั นงั่ โจก้ ารทพั บกดน้ิ คาวงเหลา้ หน้าบา้ น ฝีมอื น้องเมยี เลอื ดรอ้ นไมพ่ อใจพเ่ี ขยไมไ่ ปรว่ มงานฉลองวนั เกดิ อกี ครงั้ กลบั มาเหน็ สุราเฮฮากบั เพอ่ื นฝงู เลยปะทะคารมไม่กี่ประโยค ก่อนคว้าปื นลนั่ กระสนุ ต่อหน้าสหายกลางวงไปสน้ิ ลมระหวา่ งส่งโรงพยาบาล ตารวจปิดลอ้ มลอ็ กฆาตกรทนั ควนั สารภาพ ระบายความอดั อนั้ ถงึ ขนั้ ระเบดิ อารมณ์ดบั แคน้ น้องเมยี เลอื ดรอ้ นยงิ ดบั นายทหารพเ่ี ขยคาวงเหลา้ เกดิ ขน้ึ เมอ่ื เวลา 00.30 ... คน้ จาก http://www.thairath.co.th/todayวนั ท1่ี 0 มถิ ุนายน 2556 208 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ไล่ล่าลอ็ กทนั ควนั แทก็ ซี่ห่ืน ขืนใจผโู้ ดยสารสาว ปืนข่บู งั คบั บาเรอกามมา่ นรดู แลว้ ชงิ กระเป๋ า-มอื ถอื เผน่ หนี ตร.คน้ ในรถ เจอยาบา้ อกี 6เมด็ แทก็ ซห่ี ่นื กามลวง ผโู้ ดยสารเป็นพนกั งานสาวบรษิ ทั วยั 24 ปี ไปขม่ ขนื ยบั ในโรงแรมมา่ นรดู ก่อนจะชงิ ทรพั ยห์ ลบหนี แต่ไปไมร่ อดเหยอ่ื สาวขอ ความชว่ ยเหลอื พนกั งานโรงแรมแจง้ ตารวจสกดั จบั ไวไ้ ดท้ นั ควนั พรอ้ มของ กลาง อา้ ง ผเู้ สยี หายสมยอม แฉก่อนก่อเหตุรบั หญงิ สาวเคราะหร์ า้ ยจากยา่ นเพชรบุรี ตดั ใหมใ่ หไ้ ปส่งบา้ นย่าน บางกรวย แต่กลบั ฉวยโอกาสขบั ออกนอกเสน้ ทางพาเขา้ ม่านรดู ใชป้ ืนจพ้ี าตวั ไปขม่ ขนื ผกู้ าร นนทบุรสี งั่ ตรวจสอบประวตั อิ ยา่ ง.... คน้ จาก http://www.thนaiาraยthห.cวั oฆ.th่า/นtoาdยayหววันทแ9่ี ทมงถิ พุนรายนุ นด2บั55ค6าแบงก์ 2 ศพ มอื มดี แคน้ -ทห่ี ลุดจานอง30ล. พา คนมาซอ้ื คนื ขอสว่ นต่าง8ล. อกี ฝ่ายไม่ ยอมเลยก่อคดสี ลดฆา่ สยอง 2 ศพคา ธนาคารกลางเมอื งภเู กต็ เสย่ี เจา้ ของอ พารต์ เมนตก์ ่อเหตุระทกึ ขวญั ควงมดี พบั กะซวกนายหวั เศรษฐที ด่ี นิ คนดงั เกาะ ภเู กต็ รา่ งพรนุ ดบั สยอง ก่อนจว้ งกระหน่า แทงปลดิ ชพี ตวั เองมดี ปักอกตดั ขวั้ หวั ใจ ตายตามอกี ศพ หลงั ทงั้ ค่นู ดั มาเจรจาทธ่ี นาคารเรอ่ื งไถ่ถอนทด่ี นิ ทเ่ี สย่ี หนุ่มมอื มดี นาไปจานองกบั นายหวั 30 ลา้ นบาท เอาเงนิ ไปลงทุนสรา้ งอพารต์ เมนต์ แต่หมดสญั ญาไถ่ถอนจนทด่ี นิ หลุดจานอง เสย่ี หนุ่มเจรจาขอส่วน ต่างราคาทด่ี นิ ท.่ี .. คน้ จาก http://www.thairath.co.th/todayวนั ท7่ี มถิ ุนายน 2556 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 209
นายกอินเดียขอรอ้ งมอ๊ บสลายชมุ นุม-ลนั ่ แก้กม.คดีล่วงละเมิดทางเพศ สานกั ขา่ วต่างประเทศรายงานจาก กรงุ นิวเดลี ประเทศอนิ เดยี ว่า นายกรฐั มนตรี มานโมฮนั ซงิ ห์ แห่งอนิ เดยี แถลงเรยี กรอ้ ง ขอใหป้ ระชาชนอยใู่ นความสงบ พรอ้ มกบั ให้ คามนั่ วา่ จะปรบั แกก้ ฎหมายลงโทษผกู้ ระทา ผดิ ในคดลี ่วงละเมดิ ทางเพศใหม้ คี วาม เขม้ งวดขน้ึ หลงั เจา้ หน้าทไ่ี มส่ ามารถควบคุม สถานการณ์ชุมนุม ทม่ี สี าเหตุจากคดขี ่มขนื นกั ศกึ ษาหญงิ เมอ่ื สปั ดาหก์ ่อน ซงิ หก์ ล่าววา่ รฐั บาลอนิ เดยี รบั ทราบมาโดยตลอด และมคี วามเขา้ ใจในอารมณ์โกรธแคน้ และ การแสดงออกซง่ึ ความไมพ่ อใจอยา่ งรุนแรงทเ่ี พม่ิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ มสี าเหตุจากคดสี ะเทอื นขวญั ท่ี เกดิ ขน้ึ เมอ่ื คนื วนั ท่ี 16 ธ.ค. อยา่ งไรกต็ าม ตนขอรอ้ งใหก้ ล่มุ ผชู้ ุมนุมยตุ กิ ารเดนิ ขบวนต่อตา้ น เพอ่ื ไมใ่ หส้ ถานการณ์วุ่นวายไปกวา่ น้ี ทงั้ น้ี รฐั บาลและหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้องจะทาทกุ วถิ ที าง เพ่อื เพม่ิ ความปลอดภยั และใหก้ ารคุม้ ครองสตรชี าวอนิ เดยี ทุกคนอยา่ งดที ส่ี ุด ขณะทร่ี ายงานจากสานกั งานตารวจกรงุ นวิ เดลรี ะบวุ ่า เหตุการณ์ปะทะระหว่างเจา้ หน้าท่ี กบั กลุ่มผปู้ ระทว้ งซง่ึ ส่วนใหญ่เป็นนกั ศกึ ษาเมอ่ื วนั อาทติ ย์ ทาใหม้ ผี ไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ กว่า 100 คน ใน จานวนน้เี ป็นเจา้ หน้าทก่ี วา่ 60 คน ทางการยงั คงตอ้ งปิดถนนทุกสายทม่ี งุ่ ส่ปู ระตูชยั และสถานท่ี สาคญั ทางราชการใจกลางกรงุ นิวเดลี ดา้ นเหยอ่ื ผถู้ กู กระทาชาเรา ซง่ึ เป็นนกั ศกึ ษาสาววยั 23 ปี ยงั คงตอ้ งนอนพกั รกั ษาตวั อยใู่ น หอ้ งพกั ผปู้ ่วยพเิ ศษ กลา่ วกบั ผสู้ อ่ื ขา่ วของหนงั สอื พมิ พ์ “เดอะ ฮนิ ดสู ถาน ไทมส์ ” เป็นครงั้ แรกหลงั เกดิ เหตุว่า ผลกรรมกาลงั จะตามสนองชายทงั้ 6 คน ทท่ี ารา้ ยเธอและแฟนหนุ่มจนไดร้ บั บาดเจบ็ สาหสั แลว้ คน้ จาก www.kraipost.com/p/578/นายกอนิ เดยี ขอมอ็ บสลายชุมนุม-ลนั่ แกก้ ม.คดลี ว่ งละเมดิ ทางเพศ.html วนั ท่ี 10 มถิ ุนายน 2556 210 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ใบความรู้ การจดั การกบั อารมณ์ อารมณ์เป็นสง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดเ้ สมอเมอ่ื มสี ง่ิ มากระทบซง่ึ อาจมาจากเหตุภายนอก เชน่ คนชมกด็ ใี จ คน วา่ กเ็ สยี ใจ หรอื มาจากภายใน เชน่ คดิ ว่าเรยี นเขา้ ใจ กส็ บายใจ คดิ ว่าเรยี นคนไมร่ กั กไ็ มส่ บายใจ เป็นตน้ อารมณ์ดนี ้คี นส่วนใหญ่มกั พอใจ และตดิ ใหม้ อี ารมณ์ดี แต่อารมณ์ดา้ นไมด่ ี เชน่ หงดุ หงดิ โมโห ไม่ พอใจ คนมกั ไมช่ อบ และไม่อยากเป็น ไมอ่ ยากเจอ เพราะนอกจากจะสง่ ผลกระทบต่อตนเองแลว้ ยงั กระทบ คนรอบขา้ งไปดว้ ย เช่น ไมอ่ ยากพดู คุยกบั ใคร พดู ไมเ่ พราะ หน้านิว่ คว้ิ ขมวด ขวางโลก บางครงั้ อาจถงึ ขนั้ เป็นอนั ตราย เช่น ขบั ขร่ี ถเรว็ ทาลายของ หรอื รา้ ยแรงถงึ ขนั้ ชกต่อย ทารา้ ยกนั หรอื ทารา้ ยตนเอง การจดั การกบั อารมณ์ทม่ี ากเกนิ ไป โดยเฉพาะอารมณ์ไมด่ ี จงึ มคี วามสาคญั มวี ธิ กี ารดงั น้ี 1. สงั เกตว่าเกิดอารมณ์ไมพ่ ึงพอใจแล้ว การสงั เกตเหน็ ถอื วา่ เป็นจดุ ตงั้ ตน้ ทส่ี าคญั ทจ่ี ะนาไปสู่ การจดั การกบั อารมณ์ได้ หรอื เรยี กว่า มสี ตเิ หน็ สงิ่ น้แี ลว้ 2. หาวิธีจดั การกบั อารมณ์ เมอ่ื สตมิ า ปัญญากเ็ กดิ ทบทวน ใครค่ รวญวา่ จะทาอยา่ งไรต่อ ปลอ่ ย อารมณ์ออกไปจะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ ระงบั อารมณ์จะเป็นอยา่ งไร และเลอื กวธิ ที ท่ี าไดจ้ รงิ เชน่ นบั หน่ึงถงึ รอ้ ย ขอเวลานอกหรอื หลบจากสถานการณ์ไปก่อนจนอารมณ์ดคี อ่ ยกลบั มา สงั เกตใจตวั เองทพ่ี ลุง่ พลา่ นไปมา หา กจิ กรรมทอ่ี อกแรงทา (เพ่อื ระบายอารมณ์ไมด่ ที ไ่ี มเ่ ป็นโทษแก่ใคร เชน่ เตะฟุตบอลแรง ๆ ตเี ทนนิสแรง ๆ ตบลกู ปิงปองแรง ๆ ขยผ้ี า้ ทซ่ี กั แรง ๆ แปรงผา้ ทซ่ี กั แรง ๆ ขดั หอ้ งน้าแรง ๆ) ปรกึ ษาเพ่อื น หรอื คนทล่ี กู เสอื เชอ่ื ถอื และไวว้ างใจเพอ่ื ทาความเขา้ ใจสง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ และหาทางจดั การอย่างเหมาะสมต่อไป 3. ชื่นชมตวั เองท่ีเอาชนะอารมณ์ไมด่ ีได้สาเรจ็ (กรณไี มส่ าเรจ็ สงั เกตวา่ มจี ดุ อ่อนตรงไหนจะได้ หาวธิ กี ารทเ่ี หมาะสมมาใชค้ รงั้ ต่อไปหรอื ปรกึ ษาผรู้ )ู้ การฝึกจดั การอารมณ์บอ่ ย ๆ เป็นเสมอื นบททดสอบตนเองในเรอ่ื งอารมณ์น้วี ่าสอบผา่ นหรอื ไมผ่ า่ น แมจ้ ะไมผ่ ่านในครงั้ เดยี ว แต่ถา้ มใี จมงุ่ มนั่ ทจ่ี ะพฒั นาตนในเรอ่ื งการแสดงออกทางอารมณ์ทเ่ี หมาะสมแลว้ มี ความเพยี รทจ่ี ะลงมอื ทาอยเู่ สมอ ๆ กจ็ ะทาใหเ้ กดิ ความชานาญขน้ึ ตามลาดบั การจดั การกบั ความเครียด ความเครยี ดเกดิ ขน้ึ ไดเ้ มอ่ื มคี วามรสู้ กึ วา่ ถูกกดดนั จากสถานการณ์บางอย่าง เชน่ ใกลส้ อบแต่ยงั เตรยี มตวั ไมท่ นั กลมุ้ ใจเมอ่ื ตอ้ งรายงานหน้าชนั้ ซง่ึ เป็นสง่ิ ทไ่ี มถ่ นดั ไมส่ บายใจทท่ี ะเลาะกบั เพ่อื น รสู้ กึ วา่ เรยี นยาก เป็นตน้ ถา้ จดั การไดเ้ รว็ ความเครยี ดกห็ ายไป แต่หลายครงั้ ทย่ี งั จดั การเรอ่ื งนนั้ ไมไ่ ด้ ทาใหม้ คี วามเครยี ด เป็นระยะเวลานาน ซง่ึ อาจส่งผลต่อปฏกิ ริ ยิ าทางร่างกายทเ่ี รยี กว่า ระบบประสาทอตั โนมตั ิรวน คอื การ ทางานของอวยั วะทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ระบบประสาทอตั โนมตั อิ าจทางานผดิ ปกตไิ ป เช่น เหงอ่ื ชุ่มโชกทม่ี อื หายใจ เรว็ หายใจตน้ื หายใจไมส่ ดุ เมอ่ื ยงั จดั การกบั ความเครยี ดไมไ่ ดต้ ่อไป กย็ ง่ิ ส่งผลรนุ แรงขน้ึ ต่อส่วนต่าง ๆ ดงั น้ี คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 211
ร่างกาย เชน่ ปวดทอ้ งหรอื ทอ้ งเสยี ทุกครงั้ ทต่ี อ้ งรายงานหน้าชนั้ ทร่ี สู้ กึ ไมพ่ รอ้ ม ทอ้ งอดื ฟุ้งซา่ น อ่านหนงั สอื ไมร่ เู้ รอ่ื งและปวดศรี ษะเมอ่ื ใกลส้ อบ ผน่ื คนั ตามผวิ หนังเมอ่ื เรยี นเทา่ ไรกต็ ามไม่ทนั ปวดเมอ่ื ย ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นตน้ อารมณ์ เชน่ เบอ่ื หน่าย ไม่อยากพดู คุยกบั ใคร หรอื หงดุ หงดิ ฉุนเฉยี วงา่ ย พฤติกรรม เชน่ กา้ วรา้ ว ทะเลาะ นอนไมห่ ลบั เกบ็ ตวั แยกตวั อยไู่ มเ่ ป็นสุข การจดั การกบั ความเครยี ดดว้ ยตนเองในเบอ้ื งตน้ ท่มี กั ทากนั เช่น นอนพกั ฟังเพลง ท่องเทย่ี วดทู วี ี ไหวพ้ ระ สวดมนต์ ทาบญุ ออกกาลงั กาย แต่ถา้ ไมไ่ ดผ้ ลกอ็ าจตอ้ งมวี ธิ ที เ่ี ขม้ ขน้ ขน้ึ เช่น นงั่ สมาธิ ฝึกหายใจคลายเครยี ด ฝึกผอ่ นคลายจติ ใจ หรอื กลา้ มเน้อื ฝึกผ่อนคลายดว้ ยจนิ ตนาการ ซง่ึ ตอ้ งฝึกใหช้ านาญก่อนเครยี ดจงึ จะไดผ้ ลดี แต่ทส่ี าคญั ทส่ี ดุ คอื หาสาเหตุของความเครยี ดและจดั การทต่ี น้ เหตุ เช่น เครยี ดการสอบเพราะ เตรยี มตวั ไมท่ นั กบ็ รหิ ารการเรยี นใหมใ่ หส้ อดคลอ้ งกบั การบา้ น รายงาน และการสอบ เงนิ ไมพ่ อใชก้ ส็ งั เกต และวางแผนการใชเ้ งนิ ใหม่ ทะเลาะกบั เพอ่ื นยงั ไมค่ ยุ กนั กส็ ารวจว่าเกดิ อะไรขน้ึ แมจ้ ะเป็นฝ่ายถูก แต่ถา้ ไม่ คุยกนั จะทุกขใ์ จ กล็ ดทฐิ ติ นเอง ใหอ้ ภยั เพ่อื น เรม่ิ ตน้ พดู คยุ กนั ใหม่ กจ็ ะทาใหค้ ลายเครยี ดไดต้ รงจดุ ทส่ี ดุ การผอ่ นคลายความเครียด ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใชน้ ้าเสยี งต่า ราบเรยี บ นุ่มนวล จงั หวะชา้ ๆ บอกถอ้ ยคาต่อไปน้ี ใหล้ กู เสอื ทาตาม “ใหล้ กู เสอื นงั่ ในท่าทส่ี บายทส่ี ุด สงั เกตสว่ นไหนทย่ี งั เกรง็ ไมส่ บาย ใหข้ ยบั ใหส้ บายทส่ี ุด ถา้ หลงั โกงใหย้ ดื หลงั ใหต้ รงเสยี ก่อน มอื ทงั้ สองขา้ งวางบนหน้าตกั วางเทา้ ทงั้ สองขา้ งใหร้ าบ และสบายทส่ี ดุ หายใจเขา้ ชา้ ๆ ใหล้ มหายใจคอ่ ย ๆ ผ่านจากปลายจมกู ไปบรเิ วณหน้าอกไปจนถงึ ทอ้ งสงั เกตวา่ ทอ้ งป่องขน้ึ ถา้ ไมแ่ น่ใจใหเ้ อามอื จบั ทอ้ งว่าป่องขน้ึ หรอื ไม่ หยดุ ลมหายใจไวท้ ท่ี อ้ งสกั ครู่ ค่อย ๆ ผอ่ นลมหายใจออกชา้ ๆ ทอ้ งจะแฟบลงอกจะราบลง ใหห้ ายใจออกชา้ กวา่ หายใจเขา้ ใหม้ ากทส่ี ุด ทาอย่างน้สี กั 5 ครงั้ โดยเอาความสงั เกตตดิ ตามลมหายใจอยตู่ ลอดเวลา” หมายเหตุ ผกู้ ากบั ลกู เสอื อาจใชว้ ธิ อี ่นื ตามทเ่ี คยไดฝ้ ึกการผ่อนคลายความเครยี ดมากไ็ ด้ 212 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ช้างเกเร ยงั มชี า้ งเกเรตวั หน่งึ เทย่ี วเดนิ เอางวงดงึ กงิ่ ไมแ้ ละใบไมม้ าเหยยี บย่า แลว้ ใชแ้ รงอนั มหาศาล โยกต้นไมไ้ ปมาจนต้นไมใ้ หญ่น้อยหกั โค่นลงตลอดสองขา้ งทางทม่ี นั เดนิ ผ่าน มนั เดนิ มาถงึ ต้นไมต้ ้นหน่ึงซ่งึ พ่อนกและแมน่ กกาลงั ช่วยกนั เลย้ี งดูลกู อย่ใู นรงั มนั ใชง้ วงรดั และโยกต้นไมต้ น้ นนั้ จนลูกนกตกลงมาตายทงั้ รงั โดยไมฟ่ ังเสยี งอ้อนวอนของพ่อและแมน่ กเลย พอมนั เดนิ ผ่านต้นไมซ้ ง่ึ มผี ง้ึ ฝงู หน่ึงทารงั อยู่ มนั จงึ ใชง้ วง ดงึ รงั ผง้ึ มาเพอ่ื จะเหยยี บย่า ทนั ใดนนั้ เอง ฝงู ผง้ึ งานจานวนนบั รอ้ ยกก็ รกู นั เขา้ ต่อยทต่ี า ของช้างพรอ้ มๆ กนั จนตาบอด ชา้ งเกเรเดนิ โซซดั โซเซไปมาอย่างน่าสงสาร แต่ฝูงเม่นซ่งึ เหน็ เหตุการณ์ ทงั้ หมดรว่ มใจกนั ลงโทษชา้ งใจรา้ ยโดยพากนั สลดั ขนทม่ิ แทงหนงั ชา้ งซา้ เขา้ ไปอกี จนชา้ งตาบอด ไดร้ บั ความเจบ็ ปวดอยา่ งแสนสาหสั มนั เดนิ สะเปะสะปะไปตลอดทาง จนกระทงั่ ตกหน้าผาตาย เรอ่ื งนี้สอนให้รวู้ ่า ทาดไี ดด้ ี ทาชวั่ ไดช้ วั่ การให้อภยั หลายปีก่อนมคี ดหี น่งึ เกดิ ขน้ึ ในสหรฐั อเมรกิ าๆ ในแก๊งเหน็ ทกุ นดั ทม่ี กี ารสบื พยานในศาล แมข่ อง ผตู้ ายนงั่ ฟังการพจิ ารณาอยา่ งนิ่งเงยี บ หลงั จากทศ่ี าลตดั สนิ จาคกุ วยั รนุ่ ผูน้ นั้ แมข่ องผตู้ ายเดนิ เขา้ ไปหาเขา จอ้ งหน้าและพดู วา่ “ฉนั จะฆ่าเธอ” ผ่านไปครง่ึ ปี หญงิ ผนู้ นั้ กไ็ ปเยย่ี มคนทท่ี ฆ่ี า่ ลกู ชายเธอ เป็นคนแรกและคนเดยี วทไ่ี ปเยย่ี มเขา เพราะ ขาเป็นเดก็ ขา้ งถนน ไมม่ ญี าตพิ น่ี ้อง ก่อนทจ่ี ะจากกนั เธอใหเ้ งนิ เขาเป็นคา่ บหุ ร่ี แลว้ เธอกเ็ รม่ิ ไปเยย่ี มเขาบ่อยขน้ึ แต่ละครงั้ กเ็ อาอาหารและของฝากไปให้ เมอ่ื ใกลค้ รบกาหนดจาคุกสามปี หญงิ ผนู้ นั้ กถ็ ามวา่ เขาจะทาอะไรเมอ่ื พน้ โทษ เขาตอบวา่ ไมร่ ู้ เธอ จงึ หางานใหเ้ ขาทาในบรษิ ทั ของเพ่อื น ครนั้ ถามว่าเขามที พ่ี กั ไหม กไ็ ดค้ าตอบว่าไม่มี เธอจงึ ชวนเขา มาพกั ในบา้ นของเธอ “บา้ นของเดก็ ทเ่ี ขาฆ่ากบั มอื ” ตลอดแปดเดอื นเขาพกั บา้ นเธอ กนิ อาหารทเ่ี ธอทา แลว้ เยน็ วนั หน่งึ เธอกเ็ รยี กเขาไปคยุ ในหอ้ ง เธอนงั่ ประจนั หน้าเขาน่งิ เงยี บพกั ใหญ่ แลว้ พดู ขน้ึ ว่า “เธอจาไดไ้ หมตอนทอ่ี ยใู่ นศาล ฉนั พดู วา่ จะฆา่ เธอ” “จาไดค้ รบั ” “ฉนั ไมต่ อ้ งการเหน็ คนทฆ่ี า่ ลกู ฉนั ยงั มชี วี ติ อยใู่ นโลกน้ี ฉนั ตอ้ งการใหเ้ ขาตายเพราะเหตุน้แี หละฉนั จงึ ไปเยย่ี มเธอและเอาของไปให้ เพราะเหตุน้แี หละฉนั จงึ หางานใหเ้ ธอและใหเ้ ธออยบู่ า้ นฉนั ” ถงึ ตรงน้ชี ายหนุ่มไมแ่ น่ใจว่าอะไรจะเกดิ ขน้ึ ต่อไป แลว้ แมข่ องผตู้ ายกพ็ ดู ต่อไปวา่ 213 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
“ทงั้ หมดน้กี เ็ พ่อื เปลย่ี นแปลงตวั เธอ ตอนน้เี จา้ วยั รนุ่ คนนนั้ กจ็ ากไปแลว้ ฉนั จะถามเธอล่ะทน่ี ้วี ่าลกู ของฉนั จากไปแลว้ เจา้ ฆาตกรกจ็ ากไปแลว้ เช่นกนั เธอยงั จะอยทู่ น่ี ่อี กี หรอื เปลา่ ฉนั อยากรบั เธอเป็นลกู หากเธอไมว่ ่าอะไร” ในทส่ี ุด เธอกไ็ ดก้ ลายเป็นแมข่ องคนทฆ่ี า่ ลกู เธอ สว่ นฆาตรกรผหู้ ลงผดิ กไ็ ดแ้ มซ่ ง่ึ เขา ไมเ่ คยมมี าก่อนในชวี ติ เรอ่ื งน้เี รมิ่ ตน้ ดว้ ยความสญู เสยี ทย่ี ง่ิ ใหญ่ทส่ี ุดของหญงิ คนหน่งึ แต่เธอกไ็ ดพ้ ลกิ เปลย่ี นเหตุการณ์ให้ กลายเป็นชยั ชนะอนั ยง่ิ ใหญ่ ชยั ชนะอนั สาคญั มไิ ดอ้ ยทู่ เ่ี ธอไดล้ กู คนใหมม่ าแทนคนเก่าทจ่ี ากไป หากไดแ้ ก่ การกาจดั “ศตั ร”ู ของเธอโดยไมม่ ใี ครเป็นฝ่ายสญู เสยี แต่อยา่ งใด ทุกคน เรือ่ งนี้สอนให้ร้วู ่า การใหอ้ ภยั เป็นชยั ชนะทย่ี งิ่ ใหญ่ 214 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช 2-3) หน่วยท่ี 9 จดุ ดี จดุ ด้อย และการพฒั นาตนเอง เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจกั กิจกรรมท่ี 20 ศกั ด์ิศรขี องความเป็นมนุษย์ 1.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายพฒั นาการ พฤตกิ รรมทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อคนหนุ่มสาวได้ 2. เนื้อหา 2.1 พฒั นาการวยั หนุ่มสาว 2.2 คุณสมบตั ทิ ด่ี ี ไดแ้ ก่ ความซ่อื สตั ย์ กตญั ญู กลา้ หาญ เสยี สละ อดทน บรกิ าร และรบั ผดิ ชอบ 2.3 คุณสมบตั ทิ ค่ี วรเวน้ ไมป่ ฏบิ ตั ไิ ดแ้ ก่ เสพสารเสพตดิ เทย่ี วกลางคนื การพนนั นกั เลงอนั ธพาล ไมร่ บั ผดิ ชอบ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน (แบบสอบถามเกย่ี วกบั ตนเอง) 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ลกู เสอื ทกุ คนตอบคาถาม(แบบสอบถามปลายเปิดเกย่ี วกบั ตนเอง)ผกู้ ากบั สุ่มลกู เสอื ตามความเหมาะสมนาเสนอคาตอบของตนเอง (2) ลกู เสอื ศกึ ษาใบความรู้ “พฒั นาการคนวยั หนุ่มสาว” “และอทิ ธพิ ลต่างๆ ทม่ี ตี ่อคน วยั หนุ่มสาว” (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื วสิ ามญั รว่ มกนั อภปิ รายถงึ อทิ ธพิ ลต่างๆทม่ี ตี ่อคน วยั หนุ่มสาวและการปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมกบั วยั คนหนุ่มสาว (4) ลกู เสอื แต่ละหมรู่ ว่ มกนั สรปุ การรกั เกยี รตแิ ละศกั ดศิ ์ รขี องคนวยั หนุ่มสาวเป็น Mind Map ประดษิ ฐเ์ ป็นงานศลิ ปะ และนาไปจดั นิทรรศการไวท้ ค่ี หู าลกู เสอื วสิ ามญั (Rover Den) ในการเปิด ประชุมกองครงั้ ต่อไป 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 215
4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 2) เพลง 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สนทนาตดิ ตามความพรอ้ มในการจดั นิทรรศการ (2) ลกู เสอื จดั นิทรรศการเป็นหมๆู่ (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เรยี นรนู้ ิทรรศการไปตามหมตู่ ่างๆ ทลี ะหมู่ (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื สรปุ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ รายและการทาแผนทค่ี วามคดิ (Mind Mapping) 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ การเหน็ คณุ ค่าและความภูมใิ จในตนเอง 216 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 20 เพลง คาสญั ญา ก่อนจากกนั ขอสญั ญา ฝากประทบั ตรงึ ตราจนกว่าจะพบกนั ใหม่ โบกมอื อาลา สญั ญาดว้ ยหวั ใจ เพราะความรกั ตดิ ตรงึ หว่ งใย ดว้ ยใจผกู พนั มนั่ คง ดว้ ยความดนี นั้ ฝังตรงึ จากไปแลว้ คานงึ ตรงึ ประทบั ดวงใจ อยา่ ไดล้ มื เลอื น สญั ญากนั ไวอ้ ยา่ งไร ขอใหเ้ ขามนั่ คงจติ ใจ กา้ วไปสวรรคส์ รา้ งความดี *โอเ้ พอ่ื นเอ๋ย เคยรว่ มสนุกกนั มา แต่เวลาตอ้ งพาใหเ้ ราจากกนั ไม่นานหรอกหนา เราคงได่มาพบกนั ไม่มสี ง่ิ ใดขวางกนั้ เพราะเรามนั่ ในสญั ญา หากแผน่ ดนิ ไมฝ่ ังกาย จะสุขจะทกุ ขเ์ พยี งใดน้อมกายยม้ิ สฟู้ ันฝ่า รอ้ ยรกั ดวงใจ มนั่ ในคาสญั ญา สรา้ งสรรคเ์ พอ่ื มวลประชา น้คี อื สญั ญาของเรา (ซา้ *) ความซื่อสตั ย์ ความซอ่ื สตั ยเ์ ป็นสมบตั ขิ องคนดี หากว่าใครไมม่ ี ชาตนิ ้เี อาดไี มไ่ ด้ มคี วามรทู้ ่วมหวั เอาตวั ไมร่ อดถมไป คดโกงแลว้ ใครจะรบั ไวใ้ หร้ ว่ มการงาน ใบความรู้ พฒั นาการของคนวยั หนุ่มสาว วยั หนุ่มสาวคอื ระยะเวลาของชวี ติ ทเ่ี คล่อื นออกจากชวี ติ และบทบาทของเดก็ เพอ่ื ไปรบั ภาระต่ออนั เป็นบทบาทของผใู้ หญ่ ฉะนนั้ วยั หนุ่มสาวทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการแสวงหาความเป็นตวั ของตวั เองเป็นเบอ้ื งตน้ เพอ่ื บรรลุถงึ เป้าหมายดงั กล่าว คนหนุ่มจงึ ตอ้ งพวั พนั กบั งานและความเจรญิ เตบิ โตหลายประการ แต่ละ ประการลว้ นมคี วามสมั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และกนั เป็นตน้ ว่า การแสวงหาความเป็นตวั ของตนในสงั คม ในเรอ่ื งเพศ ในเรอ่ื งอาชพี ในเรอ่ื งความหมายของชวี ติ สงิ่ เหล่าน้ีจะสะทอ้ นออกมาใหเ้ หน็ ไดใ้ นความประพฤตใิ นเมอ่ื คน หนุ่มไดพ้ ยายามทดลองบทบาทของเขาในกาลต่างๆ ความประพฤตนิ นั้ ๆบง่ ชถ้ี งึ ความเปลย่ี นแปลงทาง อารมณ์ ทางเจตคติ ทางความนกึ ฝันและความห่วงกงั วล จะแสดงดว้ ยภาพ กจ็ ะเหน็ ไดด้ งั น้ี ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 217
วิถชี ีวิต เกี่ยวกบั การสงั คม เก่ียวกบั เรือ่ งเพศ -ฉนั เป็นคนประเภทอะไร -ความสามารถในการผกู มติ ร -เพศตรงขา้ มเหน็ ฉนั อย่างไร -หมพู่ วกจะยอมรบั รองไหม -ความสามารถในการสมั พนั ธ์ -การยอมรบั เรอ่ื งการเปลย่ี นแปลงทาง -ความสมั พนั ธก์ บั บดิ ามารดา รา่ งกาย -ความสมั พนั ธก์ บั ผใู้ หญ่ -รจู้ กั บทบาทของชายหญงิ -ความผดิ หวงั -การกระทบกนั ระหว่าง ความเจรญิ เตบิ โตของรา่ งกาย และกฎ ของสงั คม เก่ียวกบั เรอื่ งอาชีพ เกี่ยวกบั ความหมายในชีวิต -ฉนั จะทางานอาชพี อะไรดี -ชวี ติ หมายความว่าอยา่ งไร -พฒั นาทกั ษะเกย่ี วกบั สตปิ ัญญา -เลอื กหาคา่ นยิ มทางธรรมจรยิ า -เลอื กและเตรยี มตวั เพอ่ื อาชพี -เรม่ิ สรา้ งความคดิ เหน็ ทางการเมอื ง -มเี สรภี าพในเศรษฐกจิ -ความเชอ่ื ทางศาสนา -ความหวงั ในความสมบรู ณ์ของชวี ติ -อุดมคตเิ กย่ี วกบั สงั คม 218 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
อทิ ธพิ ลต่างๆ ทม่ี ตี ่อคนวยั หนุ่ม มากเพยี งไร? งานโรงเรยี น บดิ ามารดา สงั คมทวั่ ๆไป ผใู้ หญ่ทวั่ ๆไป วดั เพ่อื นบา้ นใกลเ้ คยี ง ส่อื มวลชน เพอ่ื นสนิท วฒั นธรรม งานอดเิ รก กจิ กรรมลกู เสอื สง่ิ แวดลอ้ ม ตวั อย่างคาถาม (แบบสอบถามปลายเปิดเกย่ี วกบั ตนเอง) 1.ท่านคดิ ว่าอะไรเป็นเรอ่ื งสาคญั มากในชวี ติ ของท่าน เพ่อื น สุขภาพ ตาแหน่งงาน ความผาสกุ ใน ครอบครวั 2.ทา่ นมองเหน็ ตวั ทา่ นในอนาคต 10 ปี ขา้ งหน้าว่าจะเป็นอยา่ งไร 3.ท่านมคี วามคดิ เหน็ ในเรอ่ื งศาสนาอย่างไรบา้ ง 4.เมอ่ื อายเุ ทา่ ไร เราจงึ ควรทาการสมรส ท่านตอ้ งการมคี รอบครวั ไหม 5.ทา่ เหน็ ว่าอะไรเป็นสงิ่ สาคญั สาหรบั ทา่ นทค่ี วรเลอื กเป็นอาชพี ได้ 6.ทา่ นคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ผใู้ หญ่โดยทวั่ ไปอย่างไรบา้ ง ท่าคดิ เหน็ ว่าผใู้ หญ่บางคนแตกต่างกบั ผใู้ หญ่ คนอ่นื บา้ งไหม ทาไม 7. ทาไมท่านจงึ คดิ วา่ ท่านเป็นมติ รกบั ….. 8. งานของโรงเรยี น/วทิ ยาลยั เป็นอย่างไรบา้ ง การซกั ถามนนั้ จกั ทาขน้ึ เพอ่ื เพ่งเลง็ ใหท้ ราบถงึ ความตอ้ งการของคนหนุ่มทงั้ หลายทม่ี ตี ่อปัญหา ชวี ติ ของเราทวั่ ไปทุกคน ปัญหาต่างๆ ไดย้ กตวั อยา่ งไวเ้ ป็นขอ้ เสนอแนะดงั กลา่ วขา้ งลา่ งน้ี แต่ท่านอาจจะเลอื กปัญหาหรอื จะใชว้ ธิ กี ลา่ วนาการอภปิ ราย หรอื ตงั้ คาถามเพ่อื ซกั ถามอยา่ งใดกไ็ ด้ คาถาม ทใ่ี หไ้ วข้ า้ งล่างน้ี แต่ทา่ นอาจจะเลอื กปัญหาหรอื จะใชว้ ธิ กี ล่าวนาการอภปิ ราย หรอื ตงั้ คาถาม เพ่อื ซกั ถามอยา่ งใดกไ็ ด้ คาถามทใ่ี หไ้ วข้ า้ งล่างน้เี ป็นเพยี งตวั อยา่ ง และขอ้ เสนอแนะเทา่ นนั้ ท่านไมค่ วรจะถอื ใหเ้ ครง่ ครดั เกนิ ไป ในระยะแรกๆของการอภปิ รายนนั้ อาจจะปลอ่ ยใหก้ ารอภปิ ราย ลอยไปตามกระแส การอภปิ รายบา้ งกไ็ ด้ ทงั้ น้เี พ่อื ใหท้ กุ คนรสู้ กึ มคี วาม “เป็นกนั เอง” เกดิ ขน้ึ เสยี ก่อน ถา้ ทา่ นชอบพธิ กี ารตามแบบฉบบั ซง่ึ เป็นวธิ กี ารทด่ี ที ส่ี ุดกย็ อ่ มทาได้ จงระวงั อยา่ คดิ ว่าท่านมคี วามจาดี ท่าน คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 219
จะจดจาไดท้ กุ อย่างทไ่ี ดพ้ ดู ไดก้ ลา่ วกนั ทางทด่ี คี วรจดจาความคดิ เหน็ ทส่ี าคญั ไวท้ นั ที เมอ่ื เสรจ็ การอภปิ รายกนั แลว้ จงพยายามพดู ถงึ ปัญหาสาคญั เชน่ เจตคตเิ กย่ี วกบั เพอ่ื น ครอบครวั โรงเรยี น การเลอื กอาชพี เพศ กฬี า ศาสนา ผใู้ หญ่ การเงนิ การเมอื งใหม้ ากทส่ี ดุ ไมใ่ ช่เป็นคาถามทม่ี คี าตอบอยา่ งเดยี ว เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ บญุ คณุ ต้องตอบแทน มคี รอบครวั หน่งึ อาศยั อยใู่ นบา้ นหลงั เดยี วกนั ทร่ี มิ ฝัง่ แมน่ ้าฮวงโห มอี ยดู่ ว้ ยกนั 3 คน คอื ป่อู ายุ 70 ปี พอ่ อายุ 50 ปี และลกู ชายวยั 20 ปี ป่นู นั้ ป่วยเป็นอมั พาต เดนิ ไมไ่ ด้ ต้องคอยป้อนอาหาร กนั ทกุ วนั เวลาถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ กต็ อ้ งถ่ายอยกู่ บั ท่ี สองพ่อลกู ตอ้ งออกไปทางานนอกบา้ นทกุ วนั กลบั ถงึ บา้ นกต็ อ้ งหงุ หาอาหาร ป้อนขา้ วใหน้ ้า เปลย่ี นเสอ้ื ผา้ และทาความสะอาดใหป้ ่กู เ็ ป็นเวลาดกึ เหตุการณ์ ดาเนินไปเช่นน้ีทกุ วนั ในทส่ี ุด พ่อทนไมไ่ หว กพ็ ดู กบั ลกู ชายว่าขน้ึ ว่า “ป่ขู องเจา้ นนั้ เป็นโรคทร่ี กั ษาไมห่ าย เจา้ เองกไ็ ดร้ บั ความลาบาก ตอ้ งคอยดแู ลป่ทู ุกวนั เราน่าจะเอาป่ใู ส่เข่งแลว้ เอาไปทง้ิ ทแ่ี มน่ ้าจะดกี ว่า เจา้ เหน็ ดว้ ยไหม” ลกู ชายนง่ิ คดิ แลว้ กต็ อบว่า “กส็ ดุ แลว้ แต่พ่อเถดิ ” ในคนื วนั นัน้ เมอ่ื เหน็ ชาวบา้ นนอนหลบั หมดแลว้ พ่อลกู กช็ ว่ ยกนั อุม้ ป่ลู งเขง่ แลว้ หามเขง่ นนั้ ไปทร่ี มิ ฝัง่ แม่น้าฮวงโห ก่อนทจ่ี ะโยนเขง่ ทใ่ี สป่ ่ลู งไปในแมน่ ้าลกู ชายกพ็ ดู กบั พอ่ ว่า “พ่อครบั ก่อนจะโยนป่ลู งไปในแมน่ ้า ควรเอาป่อู อกจากเขง่ ก่อน แลว้ จงึ โยนตวั ป่อู ย่างเดยี ว ลงไป”คาพดู ของลกู ชายทาใหพ้ อ่ มคี วามสงสยั อยา่ งมากจงึ ถามลกู ชายไปวา่ “เจา้ จะเกบ็ เขง่ ไวท้ าไม” ลกู ชายเหลอื บนยั น์ตามองพ่อ แลว้ จงึ ตอบคาถามวา่ “เอา้ ผมกจ็ ะเกบ็ ไวใ้ ส่พอ่ ตอนทพ่ี อ่ แก่ตวั ลง และตอ้ งนอนป่วยอย่างป่นู ้ี แลว้ ผมกจ็ ะจบั พอ่ ใสเ่ ขง่ เอามาท้ิงแม่น้า อย่างทพ่ี อ่ กบั ผมกาลงั ทาอยเู่ ดยี๋ วน้ี” เมอ่ื พ่อไดฟ้ ังคาตอบจากลกู ชายกไ็ ดค้ ดิ จงึ เปลย่ี นใจใหล้ กู ชายหามป่กู ลบั ไปบา้ นเพ่อื รกั ษา และเลย้ี งดเู หมอื นเดมิ เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า การเลย้ี งดบู ุพการเี ป็นหน้าทข่ี องลกู หลานทต่ี อ้ งทดแทนบญุ คุณ 220 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ฟังเหตผุ ลก่อน มสี ามภี รรยาสองคน อยกู่ นั กนั มารว่ มยส่ี บิ ปีแลว้ จนมลี กู เตา้ โตกนั หมด ทงั้ ค่รู กั กนั ดมี าก และดเู หมอื นความรกั ของทงั้ สองจะเป็นทอ่ี จิ ฉาของคนทวั้ ไปทแ่ี มองแลว้ เหน็ ความอบอุ่นของครู่ กั น้ี ไมเ่ สอ่ื มคลาย วนั หน่งึ ฝ่ายทงั้ คอู่ ยากจดั งานครบรอบแต่งงานปีท่ี 30 กเ็ ชญิ แขกเหรอื มาตามประสา พอถงึ วนั งานทงั้ คตู่ อ้ งจดั เตรยี มงานมากมายตงั้ แต่เชา้ จนงานเลกิ แทบจะไมไ่ ดท้ านอะไรกนั เลย ทงั้ สองกเ็ ขว้ วยั ชราแลว้ ทงั้ เหน่อื ยทงั้ เพลยี และหวิ มาก เมอ่ื กลบั มาถงึ บา้ น ฝ่ายภรรยากพ็ ดู กบั สามวี ่า เดยี๋ วคุณไปรอทน่ี อกระเบยี งนะ ชนั้ จะเอาขนมปังและกาแฟมาใหท้ านก่อน (ปกตแิ ลว้ ภรรยาจะเตรยี มขนมปังหวั กะโหลกใหส้ ามที าน กบั กาแฟเป็นประจา ซง่ึ ขนมปังหวั กะโหลกน้ี เป็นขนมปังแถวไมไ่ ดต้ ดั เป็นแผ่นส่วนบนจะเกรยี ม จากการอบ) สกั คร่ภู รรยาจงึ หยบิ ขนมปังหวั กะโหลกมาพรอ้ มกาแฟมาเสรฟิ ใหส้ ามสี ุดทร่ี กั ฝ่ายสามรี บั มาแลว้ จงึ หยบิ ขนมปังขน้ึ มาบสิ ่วนบนทเ่ี กรยี มๆ นนั้ แลว้ ยน่ื แบ่งใหก้ บั ภรรยา ฝ่ายภรรยานงิ่ อง้ึ ไป แลว้ ตะหวาดใส่สามอี ย่างเหลอื อดวา่ “ทาไมตอ้ งเอาแต่ไอส้ ว่ นทไ่ี หมๆ้ ให้ เบ่อื คนเหน็ แก่ตวั ” แลว้ แกกบ็ ่นเป็นยกใหญ่ แต่ฝ่ายสามกี ลบั น่งิ ดว้ ยความความอดทน เมอ่ื เหน็ ภรรยาเรมิ่ น่ิงแลว้ เขาจงึ พดู กบั กบั ภรรยาสุดทร่ี กั ของเขาว่า “ทร่ี กั ...ทผ่ี มแบ่งสว่ นทเ่ี กรยี มนนั้ ใหเ้ พราะมนั เป็นส่วนทผ่ี มชอบนะ ทก่ี น้ ๆ นนั้ มนั น่ิม ผมไมช่ อบเลย ผมกเ็ ลยกนิ เอง” ฝ่ายภรรยาไดย้ นิ ดงั นนั้ จงึ หยดุ นงิ่ ดสู หี น้าเครยี ดและน่ิงอง้ึ ไป และหนั กลบั มาขอโทษสามี ทต่ี นเองผดิ ทโ่ี มโหแลว้ ใชอ้ ารมณ์โดยไมห่ ยดุ ตรองหรอื ไต่ถามใหด้ กี ่อน เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า การรบั ฟังเหตุผลของผอู้ ่นื จะทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจกนั ดกี วา่ ไม่ยอมรบั ฟัง คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 221
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5–6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 2-3) หน่วยท่ี 10 รกั และศรทั ธา สถาบนั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ เวลา 3 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 21 ประวตั ิศาสตรก์ ารเสียดินแดนไทย 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถบอกความสาคญั ของบรรพชนผอู้ ุทศิ ตน สละชวี ติ เพอ่ื ชาตพิ อสงั เขปได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถเล่าประวตั กิ ารสญู เสยี ดนิ แดนทงั้ 14 ครงั้ พอสงั เขปได้ 2. เนื้อหา 2.1 การเชดิ ชเู กยี รตปิ ระวตั ศิ าสตร์ ของบรรพชนผอู้ ุทศิ ตน สละชวี ติ สมยั ก่อนตงั้ พน้ื แผ่นดนิ ไทย 2.2 ประวตั ศิ าสตรก์ ารเสยี ดนิ แดนของประเทศไทย 14 ครงั้ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 3.3 แผ่นภาพ หรอื แผนท่ี หรือวดี ที ศั น์ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รชั กาลท่ี 1 เรอ่ื งการสญู เสยี ดนิ แดนไทย 14 ครงั้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาประวตั ศิ าสตรช์ นชาตไิ ทยทร่ี กั ษาไวใ้ หล้ ูกหลาน ประกอบแผนท่ี หรอื วดี ที ศั น์ สมยั รชั กาลท่ี 1 “ทศิ เหนือจรดทศิ ใต้ ทศิ ตะวนั ออกจรดทศิ ตะวนั ตก อาณาจกั รชนชาตไิ ทยลว้ น แลว้ แต่มชี ายฝัง่ ทะเลอนั งดงามลอ้ มรอบประเทศแทบทงั้ สน้ิ แต่ถูกกดั กรอ่ นแผ่นดนิ ตอ้ งสญู เสยี ดนิ แดนไทย ใหก้ บั ต่างชาติ ถงึ 14 ครงั้ ” (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยายเหตุการณ์การสญู เสยี ดนิ แดน ตงั้ แต่ครงั้ ท่ี 1 ถงึ ครงั้ ท่ี 14 โดยใช้ แผนทป่ี ระกอบวดี ที ศั น์ (หรอื จดั กจิ กรรมใหล้ กู เสอื ไดแ้ บง่ กลุ่มกจิ กรรมเป็น 4 กลมุ่ โดยใหล้ กู เสอื ทาการ วางแผนจดั การกจิ กรรมบทบาทการแสดง หรอื การบรรยายเป็นกลุ่ม เพอ่ื นาเสนอในการประชุมกองครงั้ ถดั ไป โดยแบง่ กลุม่ เป็นสองครงั้ กลมุ่ ท1่ี -2 นาเสนอสปั ดาหเ์ ดยี วกนั และสปั ดาหถ์ ดั เป็นกลุ่มท่ี 3-4 - ลกู เสอื กล่มุ ท่ี 1 การสญู เสยี ดนิ แดนครงั้ ท่ี 1 ถงึ ครงั้ ท่ี 4 222 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
- ลกู เสอื กลุ่มท่ี 2 การสญู เสยี ดนิ แดนครงั้ ท่ี 5 ถงึ ครงั้ ท่ี 7 - ลกู เสอื กลุ่มท่ี 3 การสญู เสยี ดนิ แดนครงั้ ท่ี 8 ถงึ ครงั้ ท่ี 11 - ลกู เสอื กลุ่มท่ี 4 การสญู เสยี ดนิ แดนครงั้ ท่ี 12 ถงึ ครงั้ ท่ี 14 (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ เรอ่ื งทล่ี กู เสอื จะนาเสนอในสปั ดาหต์ ่อไป 4) ผกู้ ากบั เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ท่ี 2 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ทบทวนการนาเสนอกจิ กรรม (2) ลกู เสอื กลมุ่ ท่ี 1 และ 2 นาเสนอกจิ กรรม (3) ผแู้ ทนกลมุ่ ลกู เสอื ทงั้ สองกลุม่ สรปุ การสญู เสยี ดนิ แดนทงั้ 7 ครงั้ (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ การนาเสนอเพมิ่ เตมิ และนดั หมายครงั้ ต่อไป 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.3 กิจกรรมครงั้ ที่ 3 1) พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ทบทวนการนาเสนอสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา (2) ลกู เสอื กลุ่มท่ี 3 และ 4 นาเสนอกจิ กรรม (3) ผแู้ ทนกลมุ่ ลกู เสอื ทงั้ สองกลมุ่ สรปุ การสญู เสยี ดนิ แดนทงั้ 7 ครงั้ (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ การสญู เสยี ดนิ แดนทงั้ 14 ครงั้ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตจากการสรปุ บทเรยี นของลกู เสอื 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ความภมู ใิ จ รกั และศรทั ธาใน สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 223
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 21 เพลง สดุ แผน่ ดิน สุดดนิ คอื ถนิ่ น้า เขตขามไทยสดุ แนว เราถอยไปไมไ่ ดอ้ กี แลว้ ผนื ดนิ สน้ิ แนวทะเลกวา้ งใหญ่ ชาตไิ ทยในเก่ากาล ถกู เขารานย่าใจ เคยเสยี น้าตามากเพยี งไหน เสยี เน้อื เลอื ดเทา่ ไรชาวไทยจาไดด้ ี เราถอยมาอยแู่ สนไกล รวมเผ่าไทยอยอู่ ยา่ งเสรี พระสยามทรงน้าโชคดี ผนื ดนิ ถน่ิ น้คี อื แผน่ ดนิ ทอง ไมม่ ที แ่ี หง่ ไหน ใหไ้ ทยไปจบั จอง เราถอยไปไมไ่ ดพ้ น่ี ้อง ใครคดิ มาแยง่ ครองผองไทยจงสตู้ าย ต้นตระกลู ไทย ตน้ ตระกูลไทยใจท่านเหย้ี มหาญ รกั ษาดนิ แดนไทยไวใ้ หล้ กู หลาน สจู้ นสญู เสยี แมช้ วี ติ ของทา่ น เพอ่ื ถนอมบา้ นเมอื งไวใ้ หเ้ รา ลุกขน้ึ เถดิ พน่ี ้องไทย อย่าใหช้ วี ติ สญู เปล่า รกั ชาตยิ งิ่ ชพี ของเรา เหมอื นดงั่ พงศเ์ ผ่าตระกูลไทย ท่านพระยารามผมู้ คี วามแขง็ ขนั สรู้ บป้องกนั มไิ ดย้ อมแพพ้ ่าย พระราชมนูทหารสมยั กชู้ าติ แสดงความสามารถไดช้ ยั ชนะมากหลาย เจา้ พระยาโกษาเหลก็ ทา่ นเป็นแมท่ พั ชนั้ เอก ของสมเดจ็ พระนารายณ์ สหี ราชเดโช ผจญสงครามใหญ่โต ต่อตศี ตั รแู พพ้ ่าย เจา้ คุณพชิ ยั ดาบหกั ผกู้ ลา้ หาญยงิ่ นกั ลว้ นเป็นตน้ ตระกูลไทย หมบู่ ุคคลสาคญั หวั หน้าชาวบางระจนั ท่เี ราหาชอ่ื ได้ นายแท่น นายดอก นายอนิ นายเมอื ง ขนุ สรร พนั เรอ่ื ง นายทองแสงใหญ่ นายโชติ นายทองเหมน็ ท่านเหล่าน้ลี ว้ นเป็น ผุก้ ลา้ หาญชาญชยั นายจนั หนวดเขย้ี วกบั นายทองแกว้ ทาชอ่ื เพรดิ แพรว้ ไวล้ ายเลอื ดไทย ชาวบางระจนั สาคญั ยง่ิ ใหญ่ เป็นตน้ ตระกูลของไทย ทค่ี วรระลกึ ตลอดกาล องคพ์ ระสุรโิ ยทยั ยอดหญงิ ไทย สละพระองคเ์ พอ่ื ชาติ ทา้ วเทพสตรี ทา้ วศรสี ุนทร ป้องกนั ถลางนคร ไวด้ ว้ ยความสามารถ ทา้ วสุรนารี ผเู้ ป็นนกั รบสตรี กลา้ หาญองอาจ ป้องกนั อสิ านตา้ นศตั รขู องชาติ ลว้ นเป็นสตรสี ามารถ ตน้ ตระกลู ของไทย 224 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
รกั เมืองไทย ใครจะรกั ใครใคร ฉนั รกั เมอื งไทยของฉนั เมอื งเดยี ว เมอื งไหนฉนั ไมย่ งุ่ เกย่ี ว (ซา้ ) รกั เดยี วใจเดยี ว ฉนั รกั เมอื งไทย ใบความรู้ ประวตั ิศาสตรก์ ารเสียดินแดนของประเทศไทย ครงั้ ท่ี 1 เสยี เกาะหมาก (ปีนงั ) ใหก้ บั ประเทศองั กฤษ เมอ่ื 11 สงิ หาคม 2329 พน้ื ท่ี 375 ตร.กม. ในสมยั ร.1 เกดิ จาก พระยาไทรบุรี ใหอ้ งั กฤษเช่าเกาะหมาก เพ่อื หวงั จะขอใหอ้ งั กฤษคุม้ ครองเกาะหมากจากกองทพั ของกรมพระราชวงั บวรสถาน มงคล ซง่ึ ยกทพั มาจดั ระเบยี บหวั เมอื งปักษ์ใต้ ในทส่ี ุดองั กฤษกย็ ดึ เอาไป ครงั้ ท่ี 2 เสยี มะรดิ ทวาย ตะนาวศรี ใหก้ บั พมา่ เมอ่ื 16 มกราคม 2336 พน้ื ท่ี 55,000 ตร.กม. ในสมยั ร.1 แต่เดมิ เป็นของไทยครงั้ สมยั สโุ ขทยั มงั สจั จา เจา้ เมอื งทวายเป็นไสศ้ กึ ใหพ้ มา่ รชั กาลท่ี 1 ไมส่ ามารถตคี นื จากพมา่ ได้ ประกอบกบั ชาวเมอื งทวายไมพ่ อใจกองทพั ไทยทเ่ี ขา้ ยดึ ครอง จงึ ตกเป็นของพม่าไป คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 225
ครงั้ ที่ 3 เสยี บนั ทายมาศ (ฮาเตยี น) ใหก้ บั ฝรงั่ เศส เมอ่ื พ.ศ.2353 ในสมยั รชั กาลท่ี 2 ครงั้ ท่ี 4 เสยี แสนหวี เมอื งพง เชยี งตุง ให้กบั พม่าเม่อื พ.ศ.2368 พ้นื ท่ี 62,000 ตร.กม.ในสมยั รชั กาลท่ี 3 แต่เดิมเราได้ดินแดนน้ีมาในสมยั รชั กาลท่ี 1 โดยพระเจ้ากาวลิ ะ ยกทพั ไปตีมาข้นึ อยู่กบั ไทยได้ 20 ปี เน่ืองจากเป็นดนิ แดนท่อี ยู่ไกล ประกอบกบั เกิดกบฏเจ้าอนุเวยี งจนั ทร์และเกิดกบฏทางหวั เมอื งปักษ์ใต้ (กลนั ตนั ไทรบุร)ี ไทยจงึ ห่วงหน้าพะวงหลงั ไม่มกี าลงั ใจจะยดึ ครอง หลงั จากนัน้ พม่าเป็นเมอื งข้นึ ของ องั กฤษ เชยี งตุงกเ็ ป็นขององั กฤษโดยสน้ิ เชงิ 226 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ครงั้ ท่ี 5 เสยี รฐั เปรคั ใหก้ บั องั กฤษเมอ่ื พ.ศ.2369 ในสมยั รชั กาลท่ี 3 เป็นการสญู เสยี ทท่ี ารา้ ยจติ ใจ คนไทย ทงั้ ชาติ เพราะเป็นการสญู ทห่ี า่ งจากครงั้ ก่อนไมถ่ งึ 1 ปี ครงั้ ท่ี 6 เสยี สบิ สองปันนา ใหก้ บั จนี เม่อื 1 พฤษภาคม 2393 พน้ื ท่ี 90,000 ตร.กม. ในสมยั รชั กาลท่ี 4 เป็น ดนิ แดนในยนู านตอนใตข้ องประเทศจนี เมอื งเชยี งรงุ้ เป็นเมอื ง หลวงของไทยสมยั รชั กาลท่ี 1 ต่อมาเกดิ การ แยง่ ชงิ ราชสมบตั กิ นั เอง แสนหวฟี ้า มหาอุปราชหนีลงมาพง่ึ พระบรมโพธสิ มภารในสมยั รชั กาลท่ี 3 ไดเ้ กณฑ์ ทพั เชยี งใหม่ ลาปาง ลาพูน ไปตเี มอื งเชยี งตุง (ต้องตเี มอื งเชยี งตุงให้ได้ก่อนจงึ จะไดเ้ ชยี งรุ้ง) แต่ไม่สาเรจ็ เพราะไม่พรอ้ มเพรยี งกนั มาในสมยั รชั กาลท่ี 4 ไดใ้ หก้ รมหลวงลวษาธริ าชสนิท (ต้นตระกูลสนิทวงศ์) ยก ทพั ไปตเี ชยี งตุงเป็นครงั้ ท่ี 2 แต่ไมส่ าเรจ็ จงึ ตอ้ งเสยี ใหจ้ นี ไป คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 227
ครงั้ ที่ 7 เสยี เขมรและเกาะ 6 เกาะ ใหก้ บั ฝรงั่ เศส เม่อื วนั ท่ี 15 กรกฎาคม 2410 พน้ื ท่ี 124,000 ตร.กม. ใน สมยั ร.4 ฝรงั่ เศสบงั คบั ให้เขมรทาสญั ญารบั ความคุม้ ครอง จากฝรงั่ เศส หลงั จากนัน้ ไดด้ าเนินการทางการ ฑตู กบั ไทย ขอใหม้ กี ารปักปันเขตแดน เขมรกบั ญวน แต่กลบั ตกลงกนั ไมไ่ ด้ ขณะนนั้ พระปิ่นเกลา้ แมท่ พั เรอื สวรรคต ไทยจงึ อ่อนแอ ฝรงั่ เศสจงึ ฉวยโอกาสบงั คบั ทาสัญญารบั รองความอารกั ขาจาก ฝรงั่ เศสต่อเขมร ในช่วงน้ีเอง องั กฤษกบั ฝรงั่ เศสไดท้ าสญั ญากนั เม่อื 15 มกราคม 2438 โดยตกลงกนั ให้ไทยเป็นรฐั กนั ชน ประกอบกบั การดาเนินนโยบายของ ร.5 ทไ่ี ปประพาสยโุ รปถงึ 2 ครงั้ ทาใหอ้ งั กฤษ เยอรมนั รสั เซยี เหน็ ใจ ไทย ฝรงั เศสจงึ ยดึ ดนิ แดนไป ครงั้ ที่ 8 เสยี สบิ สองจไุ ทย (เมอื งไล เมอื งเชยี งคอ้ ) ใหก้ บั ฝรงั่ เศส เมอ่ื 22 ธนั วาคม 2431 พน้ื ท่ี 87,000 ตร. กม. ในสมยั รชั กาลท่ี 5 พวกฮ่อ ก่อกบฏ ทางฝ่ายไทยจดั กาลงั ไปปราบ 2 กองทพั แต่ปฏบิ ตั เิ ป็นอสิ ระแก่ กนั อกี ทงั้ แมท่ พั ทงั้ สองไมถ่ ูกกนั จงึ เป็นโอกาสใหฝ้ รงั่ เศสส่งทหารเขา้ เมอื งไล โดยอ้างว่า มาช่วยไทยปราบ ฮ่อ แต่หลงั จากปราบไดแ้ ล้ว กไ็ มย่ อมยกทพั กลบั อกี ทงั้ ไทยก็ไมไ่ ดจ้ ดั กาลงั ไวย้ ดึ ครองอกี ดว้ ย จนในทส่ี ุด ไทยกบั ฝรงั่ เศสไดท้ าสญั ญากนั ทเ่ี มอื งแถง (เบยี นฟู) ยอมใหฝ้ รงั่ เศสรกั ษา เมอื งไลและเมอื งเชยี งคอ้ 228 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ครงั้ ที่ 9 เสยี ดนิ แดนฝัง่ ซา้ ยแมน่ ้าสาละวนิ (5 เมอื งเงย้ี ว และ 13 เมอื งกะเหรย่ี ง) ใหก้ บั ประเทศองั กฤษใน สมยั รชั กาลท่ี 5 เมอ่ื 27 ตุลาคม พ.ศ. 2435 เป็นการสญู เสยี ครงั้ ยงิ่ ใหญ่ทางดา้ นรฐั ศาสตร์ เศรษฐกจิ และ ทรพั ยากร อนั อุดม ดว้ ยดนิ แดนผนื ป่าอนั อุดมสมบรู ณ์ยง่ิ ครงั้ ท่ี 10 เสยี ดนิ แดนฝัง่ ซา้ ยแมน่ ้าโขง (อาณาจกั รลา้ นชา้ ง หรอื ประเทศลาว) ใหก้ บั ฝรงั่ เศส เม่อื 3 ตุลาคม 2436 พ้นื ท่ี 143,000 ตร.กม. ในสมยั รชั กาลท่ี 5 เป็นของไทยมาตงั้ แต่ สมยั สมเดจ็ พระนเรศวร ต้องเสยี ให้กบั ฝรงั่ เศสตามสญั ญา ไทยกับฝรงั่ เศส เท่านัน้ ยงั ไม่พอ ฝรงั่ เศสเรยี กเงนิ จากไทย 1 ล้านบาท เป็น ค่าเสียหายท่ีต้องรบกับไทย เสียค่าประกันว่าไทยต้องปฏิบตั ิตามสญั ญาอีก 3 ล้านบาท และยงั ไม่พอ ฝรงั่ เศสได้ ส่งทหารมายดึ เมอื งจนั ทบุรแี ละตราด ไวถ้ งึ 15 ปี นบั ว่าเป็นความเจบ็ ปวดทส่ี ดุ ของไทยถงึ ขนาด ทเ่ี จา้ นายฝ่ายในต้องขาย เคร่อื งแต่งกายเพ่อื นาเงนิ มาถวาย ร.5 เป็นค่าปรบั ร.5 ต้องนาถุงแดง (เงนิ พระ คลงั ขา้ งท)่ี ออกมาใช้ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 229
ครงั้ ท่ี 11 เสยี ดนิ แดนฝัง่ ขวาแม่น้าโขง (ตรงขา้ มเมอื งหลวงพระบาง ดนิ แดนในทศิ ตะวนั ออกของน่านคอื จาปาสกั และไซยะบลู )ี ใหก้ บั ฝรงั่ เศสเม่อื 12 พฤษภาคม 2446 พน้ื ท่ี 25,500 ตร.กม. ในสมยั .ร.5 ไทยทา สญั ญากบั ฝรงั่ เศส เพ่อื ขอใหฝ้ รงั่ เศสคนื จนั ทบุรใี หไ้ ทย แต่ฝรงั่ เศสถอนไปแต่จนั ทบุรแี ลว้ ไปยดึ เมอื งตราด แทนอกี 5 ปี แล้วเม่อื ฝรงั่ เศสได้ หลวงพระบางแล้วยงั ลุกล้าย่านนาดี, ด่านซ้าย จ.เลย และยงั ได้เอาศลิ า จารกึ ท่ี พระเจดยี ศ์ รสี องรกั ษ์ไปดว้ ย ครงั้ ท่ี 12 เสยี มลฑลบรู พา (พระตะบอง,เสยี มราฐ,ศรโี สภณ) ใหก้ บั ฝรงั่ เศส เม่อื 23 มคี . 2449 พน้ื ท่ี 51,000 ตร.กม. ในสมยั ร.5 ไทยไดท้ าสญั ญากบั ฝรงั เศส เพ่อื แลกกบั ตราด,เกาะกง,ด่านซา้ ย ตลอดจนอานาจศาล ไทยทจ่ี ะบงั คบั ต่อคนในบงั คบั ของฝรงั่ เศส ในประเทศไทย เพราะขณะนนั้ มคี นจนี ญวนไปพง่ึ ธงฝรงั่ เศสกนั มาก เพ่อื สทิ ธกิ ารคา้ ขาย ฝรงั่ เศสกเ็ พยี งแต่ถอนทหารออกจากตราดเม่อื 6 กรกฎาคม 2450 กบั ด่านซ้าย คงเหลอื แต่เกาะกงไมค่ นื ใหไ้ ทย 230 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ครงั้ ที่ 13 เสยี รฐั กลนั ตนั ,ตรงั กานู,ไทรบุร,ี ปรสิ ใหก้ บั องั กฤษเมอ่ื 10 มนี าคม 2451 พน้ื ท่ี 80,000 ตร.กม. ในสมยั ร.5 ไทยไดท้ าสญั ญากบั องั กฤษ เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ อานาจ ศาลไทยทจ่ี ะบงั คบั คดคี วามผดิ ของคน องั กฤษในไทย ครงั้ ท่ี 14 เสยี เขาพระวหิ าร ใหก้ บั เขมรเมอ่ื 15 มถิ ุนายน 2505 พน้ื ท่ี 2 ตร.กม. ในสมยั ร.9 ตามคา พพิ ากษาของศาลโลก ใหเ้ ขาพระวหิ ารตกเป็นของเขมร เน่อื งมาจาก หลกั ฐานสาคญั ของเขมร ในสมยั ทเ่ี ป็น ของฝรงั่ เศส เมอ่ื รวู้ ่ากรมพระยาดารงราชานุภาพ จะเสดจ็ เขาพระวหิ าร จงึ ขน้ึ ไปก่อนแลว้ ชกั ธงชาตฝิ รงั่ เศส รบั เสดจ็ แลว้ ถ่ายรปู ไวเ้ ป็น หลกั ฐาน และนามาใชเ้ ป็นหลกั ฐานสาคญั ทแ่ี สดงต่อศาลโลก ดว้ ยเสยี ง 9 ต่อ 3 พ.ศ. 2550 กมั พชู าเสนอองคก์ ารยเู นสโก ใหข้ น้ึ ทะเบยี นปราสาทพระวหิ ารเป็นมรดกโลก แต่ยงั ไมม่ ขี อ้ สรปุ 18 มถิ ุนายน พ.ศ. 2551 นาย นพดล ปัทมะ รฐั มนตรวี ่ากระทรวงการต่างประเทศ ไดล้ งนามยนิ ยอมให้ กมั พชู าขน้ึ ทะเบยี นปราสาทพระวหิ ารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดยี ว รว่ มกบั นายองึ เซยี น เอกอคั รราชทตู กมั พชู า และเจา้ หน้าทท่ี เ่ี กย่ี วขอ้ ง 24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2551 ทางการกมั พชู าปิดปราสาทพระวหิ ารชวั่ คราว หวนั่ ผไู้ มป่ ระสงคด์ เี ขา้ ไปทารา้ ยชาวกมั พชู าในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง 28 มถิ ุนายน พ.ศ. 2551 ศาลปกครองกลาง มคี าสงั่ คุม้ ครองชวั่ คราว ใหก้ ระทรวงการต่างประเทศและคณะรฐั มนตรยี ตุ ิ การดาเนนิ การตามมติ ครม.ท่ี รบั รองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กมั พชู าสนบั สนุนใหก้ มั พชู าจดทะเบยี น ปราสาทพระวหิ ารเป็นมรดก โลก ไปจนกวา่ คดจี ะเป็นทส่ี น้ิ สดุ หรอื ศาลจะมคี าสงั่ เป็นอยา่ งอ่นื 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 องคก์ ารยเู นสโก ประกาศรบั ปราสาทพระวหิ ารขน้ึ เป็นมรดกโลก คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 231
เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ลิงกบั พระราชา นานมาแลว้ มพี ระราชาองคห์ น่ึงมอี านาจมาก และเป็นราชาแห่งสตั ว์ทงั้ ปวง สตั ว์ท่อี ยู่ภายใต้การ ปกครองของพระองค์ พระองค์ทรงดูแลอยา่ งใกล้ชดิ และเป็นธรรม วนั หน่ึงพระราชาต้องการทดสอบว่า ใน บรรดาสตั วท์ งั้ หลาย ลูกสตั วใ์ ดเป็นลูกสตั วท์ ส่ี วยงามทส่ี ุด และเหมาะสมทส่ี ุด จงึ ไดเ้ รยี กบรรดาสตั วท์ งั้ หมด ใหน้ าลกู ๆ ของตนเองมาดว้ ย สตั วท์ ุกตวั ลว้ นมคี วามสุขกบั คาสงั่ น้ี บรรดาครอบครวั แพะกน็ าลกู แพะมาดว้ ย แมวกน็ าลกู แมวมา หมากน็ าลูกหมามา มา้ กว็ งิ่ เยาะๆ มาพรอ้ มดว้ ยลกู มา้ แกะเดนิ มาพระราชวงั พรอ้ มดว้ ย ลูกแกะ บรรดาครอบครวั สตั ว์ล้วนมาพร้อมกบั ลูกของตน ทาให้พระราชวงั เบยี ดเสยี ดยดั เยยี ด และเสยี ง อกึ ทกึ อ้อื องึ แม่ลงิ มาช้าท่สี ุดในบรรดาสตั ว์ทงั้ หมด แม่ลงิ มาพรอ้ มด้วยลูกลงิ ซ่งึ มาพรอ้ มด้วยหน้าตาหน้า หวั เราะมาก ลูกลงิ หน้ากลม มหี ูกลมใหญ่ จมกู แบน ตวั กไ็ ม่มขี น บรรดาแมส่ ตั วท์ งั้ หลายพากนั หวั เราะ เม่อื เหน็ ลกู ลงิ ตวั เลก็ ๆ ทก่ี อดตดิ อกแม่ ลกู ลงิ คอยหลบซ่อนหน้าเม่อื ไดย้ นิ เสยี งหวั เราะดงั ๆ เป็นคราวๆ แมล่ งิ ก็ ค่อยๆ ตบปลอบลูกเบาๆ เป็นคราวๆ แม่ลงิ มคี วามภาคภูมใิ จกบั ลูกตนเป็นอย่างมาก ในท่ามกลางฝงู สตั ว์ แม่ลิงจงึ พูดว่า “น้ีคือลูกของฉัน เพราะว่าฉันเป็นแม่ของลูก ฉันรกั ลูก ลูกจงึ งดงามท่สี ุดสาหรบั ฉัน และ งดงามกวา่ เดก็ อ่นื ๆ ความรกั ทฉ่ี นั มใี หแ้ ก่ลกู ทาใหล้ กู งดงมทส่ี ุดในสายตาฉนั ” พระราชาจงึ รบั สงั่ ใหแ้ ม่ลงิ และลูกลงิ เขา้ ไปใกล้ๆ ราชบลั ลงั ก์ของพระองค์ และจองมองสองแม่ลูก อยา่ งพนิ ิจพเิ คราะห์ แมท่ ม่ี คี วามภาคภมู ใิ จและลกู ทส่ี ่งเสยี งรอ้ งเจย๊ี กๆ ออกมาจากวอกขนหน้าอกทย่ี าวของ แมล่ งิ พระทยั ของพระองคก์ ไ็ ดส้ มั ผสั กบั ความรสู้ กึ ทล่ี กึ ซง้ึ ของแมล่ งิ พระราชาจงึ ไดป้ ระกาศว่า “ถูกต้องของ แม่ลงิ บางสง่ิ ทท่ี ่านคดิ ว่าลกู ของท่านงดงามทส่ี ุด เพราะว่าท่านรกั ลูกของท่าน หากว่าพวกเราตอ้ งการเหน็ บรรดาลูกๆ ของสตั ว์ทงั้ หลายมคี วามรกั แบบเดยี วกัน พวกเราก็ควรมองเหมอื นกัน ดงั นัน้ หากพวกเรา สามารถมองทุกคนสวยงาม และมคี วามรกั ซง่ึ กนั และกนั จงึ สามารถสรา้ งอาณาจกั รของพวกเราใหส้ งบสุขได้ ” พระราชาจงึ ประกาศว่า “ดว้ ยความรแู้ ละความรกั นบั แต่น้ไี ป แม่ลงิ จะเป็นทป่ี รกึ ษาของเรา และลกู ๆ ของเธอจะไดร้ บั การฝึกฝนให้มคี วามรแู้ ละความรกั ภายในพระราชวงั ของเรา” “พวกเราทงั้ หลายนับต่อไป จากน้ีอกี นาน จงึ จะมกี ารทดสอบเพ่อื จะดูว่าใครคอื เดก็ ๆ ทด่ี ูดที ่สี ุด สวยงามท่สี ุด เหมาะสมท่สี ุดในบรรดา สตั วท์ งั้ หลาย และขอใหพ้ กเราชว่ ยกนั มองหาความจรงิ ดว้ ยดวงตาแห่งความรกั ซง่ึ กันและกนั ” นบั จากวนั นัน้ มา พระราชาก็มกี ิตติศพั ท์เล่อื งลอื ขจรขจายไปทุกแคว้น ด้วยเหตุท่พี ระองค์ทรงปกครองอาณาจกั รของ พระองคด์ ว้ ยความสนั ตสิ ุขและการมความรกั ต่อกนั เรอื่ งนี้สอนให้ร้วู ่า สนั ตสิ ขุ เกดิ จากความรกั ความรกั สามารถสรา้ งอาณาจกั รใหส้ งบสุขได้ 232 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
พระเจ้าอย่หู วั ของชาวไทย คุณตาบุญส่งชอบเล่าเร่อื งในประวตั ิศาสตรใ์ ห้หลานๆ ฟัง วนั หน่ึงคุณตาเล่าว่า สมยั ท่คี ุณตาเป็น หนุ่มมโี อกาสเฝ้ารบั เสดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 9 แปรพระราชฐานไปวงั ไกลกงั วล อ.หวั หนิ จ.ประจวบครี ขี นั ธ์ พระองคเ์ สดจ็ พระราชดาเนินทางรถยนต์พระท่นี งั่ ระหว่างเสดจ็ มองเหน็ ลกู ยางหล่นใตต้ ้น พระองค์ทรงใหเ้ ก็บลูกยางนามาเพาะ และพระราชทานใหร้ าษฎรนาไปปลูก นับเป็นการอนุรกั ษ์ต้นยางนา ตงั้ แต่บดั นนั้ เป็นตน้ มา คุณตาบุญส่งเล่าพรอ้ มกบั ยกมอื ขน้ึ ไหว้พระบรมฉายาลกั ษณ์ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ซ่งึ ตดิ อยทู่ ฝ่ี าบา้ น คณุ ตาสอนวา่ เราเป็นขา้ ละอองธุลพี ระบาท ตอ้ งมคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อพระองค์ เพราะพระองค์ ทรงดแู ลราษฎรใหอ้ ยรู่ ม่ เยน็ การอนุรกั ษต์ น้ ไมก้ เ็ ท่ากบั การอนุรกั ษธ์ รรมชาติ เรอื่ งนี้สอนให้รวู้ ่า คนไทยควรจงรกั ษ์ภกั ดตี ่อพระมหากษตั รยิ ท์ พ่ี ระองคท์ รงหว่ งใยราษฎรและประเทศชาติ อดีตท่ีต้องจดจา ยอดปราสาทเคยเรอื งรองดงั่ ทองทพิ ย์ กลบั วงั เวงเงยี บกรบิ ทกุ แห่งหน เพลงิ พมา่ พาพนิ าศไมอ่ าจทน ไรผ้ คู้ นไรช้ วี า ไรพ้ ระศาสน์ จากคาประพันธ์ข้างต้น ทาให้คนไทยรู้สึกหดหู่ใจ เม่อื เรามีศัตรูมาทาร้ายบ้านเมือง ดงั นัน้ เรา เยาวชนไทยทกุ คน ควรจะชว่ ยกนั ปกป้องรกั ษาบา้ นเมอื งทร่ี กั ของเรายงิ่ ชวี ติ หาไมเ่ ราจะไมม่ แี ผน่ ดนิ อาศยั เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า หากเราไมร่ กั สามคั คี เราจะสญู เสยี ชาติ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 233
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 - 6 ,ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 11 คณุ ธรรม จริยธรรม เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 22 รกั ษ์เมอื งไทยโตไปไม่โกง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความหมายและบอกแนวทาง การป้องกนั การทุจรติ ได้ 2. เนื้อหา 2.1 คตธิ รรม “หริ โิ อตปั ปะ” “ความละอายและความเกรงกลวั ต่อบาป” 2.2 กฎลกู เสอื ขอ้ ท่ี 1 “ลกู เสอื มเี กยี รตเิ ชอ่ื ถอื ได้” 2.3 กฎลกู เสอื ขอ้ ท่ี 2 “ลกู เสอื มคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ แ์ ละซ่อื ตรงต่อผมู้ ี พระคณุ ” 2.4 การฉ้อราษฎรบ์ งั หลวงและการโกงกนิ บา้ นเมอื ง 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) กากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สนทนาถงึ ปัญหาการทุจรติ คอรร์ บั ชนั่ ในบา้ นเมอื งของเราวา่ ก่อใหเ้ กดิ ผลเสยี อยา่ งไรบา้ ง 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเสนอความหมายของคตธิ รรมหริ โิ อตปั ปะ (ความละอายความเกรงกลวั ต่อ บาป) กฎของลกู เสอื ขอ้ ท่ี 1 ลกู เสอื มเี กยี รตเิ ช่อื ถอื ได้”และกฎของลกู เสอื ขอ้ ท่ี 2 “ลกู เสอื มคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อ ชาตศิ าสนาพระมหากษตั รยิ แ์ ละซอ่ื ตรงต่อผมู้ พี ระคณุ ” (ดใู บความรปู้ ระกอบ) 3) แบง่ กลุ่มลกู เสอื วสิ ามญั เป็น 4 กลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ นวทางในการนาคตธิ รรม“หริ โิ อตปั ปะ และกฎลกู เสอื ทงั้ 2 ขอ้ ไปใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการปัญหาการทุจรติ คอรร์ บั ชนั่ ในบา้ นเมอื งโดยมี หวั ขอ้ ในการวเิ คราะหด์ งั น้ี (1) ลกู เสอื คดิ ว่าใครบา้ งทค่ี วรมสี ว่ นรว่ มในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการทุจรติ คอรร์ บั ชนั่ ในบา้ นเมอื งและลกู เสอื เองควรมสี ว่ นรว่ มดว้ ยหรอื ไม(่ เปิดโอกาสใหล้ กู เสอื แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ) (2) ลกู เสอื จะนาคตธิ รรมหริ โิ อตปั ปะและกฎลกู เสอื ทงั้ 2 ขอ้ มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั ตนเอง อยา่ งไรในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการปัญหาการทุจรติ คอรร์ บั ชนั่ ในบา้ นเมอื ง 234 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
4) ตวั แทนกลุ่มลกู เสอื รายงาน ทลี ะกลุ่ม 5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ ราย เพมิ่ เตมิ และสรปุ 6) ผกู้ ากบั ลกู เสอื รว่ มกบั ลกู เสอื สรปุ ถงึ คตธิ รรมทไ่ี ดศ้ กึ ษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ รายและการทาแผนทค่ี วามคดิ (Mind Mapping) 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ พษิ ภยั และรงั เกยี จการทุจรติ คอรปั ชนั่ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 22 เพลง ลกู ชาวนา ฉนั เป็นลกู ชาวนา อยธุ ยาบา้ นเกดิ เมอื งนอน ต่นื แต่เชา้ แดดอ่อน ฉนั หาบคอนคนั ไถ่ไปทงุ่ บารงุ เศรษฐกจิ ของไทย หมายจะผดุง สายฝนกระหน่าทนไป แดดกลา้ ลมแรง ขา้ วไทยดเี ด่น ชาวนาภมู ใิ จ ใครไมเ่ หน็ ใจเรา โอล้ ะเห่…. เหน่อื ยยากลาเคญ็ ต่างชาตมิ องเหน็ ความดี ขา้ วไทยชว่ ยไทยเป็นเอกราช ความสุขนนั้ มตี ามประสาชาวนา เราชาวนาหน้าแลง้ ร่นื เรงิ เตม็ ท่ี ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 235
ใบความรู้ หิริ โอตปั ปะ คาว่าหริ โิ อตปั ปะเกดิ จากการรวมกนั ของคาสองคาคอื หริ หิ มายถงึ ความละอายต่อการทาบาปละอายต่อการทาชวั่ ทาเลวของตนเอง โอตปั ปะหมายถงึ ความเกรงกลวั ต่อบาปความเกรงกลวั ผลของการกระทาบาปการกระทาชวั่ ของ ตนเอง หริ โิ อตตปั ปะคอื ความละอายและเกรงกลวั ต่อบาป หลกั ธรรมะหริ โิ อตปั ปะน้พี ระพทุ ธองคท์ า่ นทรงตรสั ไวเ้ พ่อื เป็นการเตอื นสตคิ นใหม้ สี ตยิ งั้ คดิ ใหไ้ ตรต่ รองก่อน การกระทาใดๆใหว้ เิ คราะหว์ ่าสง่ิ ทต่ี นกาลงั กระทานนั้ เป็นสง่ิ ดงี ามหรอื สงิ่ ชวั่ ชา้ ถ้าเป็นสง่ิ ชวั่ ชา้ กใ็ หน้ กึ ละอาย ทจ่ี ะกระทาเช่นนัน้ และใหน้ ึกเกรงกลวั ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ จากการกระทาของตน กฎลกู เสือข้อที่ 1“ลูกเสือมเี กียรติเชื่อถือได้” คอื เป็นผมู้ เี กยี รตเิ ป็นทไ่ี วว้ างใจของผอู้ ่นื เช่อื ถอื ไดเ้ มอ่ื กล่าวสง่ิ ใดออกไปแลว้ ตอ้ งรกั ษาสจั จะปฏบิ ตั ิ เหมอื นปากพดู เสมอเมอ่ื ไดร้ บั มอบหมายสง่ิ ใดตอ้ งทาสง่ิ นนั้ ใหส้ าเรจ็ เรยี บรอ้ ยดว้ ยความตงั้ ใจจรงิ อยา่ งเตม็ ความสามารถตามสตกิ าลงั ไมเ่ พกิ เฉยหลกี เลย่ี ง กฎลกู เสือข้อท่ี 2 “ลูกเสือมคี วามจงรกั ภกั ดีต่อชาติศาสนาพระมหากษตั ริย์ และซื่อตรงต่อผมู้ ีพระคณุ ” หมายความว่าลกู เสอื จะตอ้ งมคี วามจงรกั ภกั ดตี ่อประเทศชาตขิ องตนศาสนาพระมหากษตั รยิ ด์ ว้ ยใจจรงิ ประพฤตติ นเป็นพลเมอื งดปี ฏบิ ตั ติ ามกฎหมายระเบยี บแบบแผนประเพณีและมคี วามซอ่ื ตรงต่อพ่อแมค่ รู อาจารยผ์ บู้ งั คบั บญั ชาและผมู้ พี ระคณุ ปัญหาการทจุ ริตคอรร์ บั ชนั่ ในประเทศไทย ศาตราจารยธ์ านินทร์ กรยั วเิ ชยี ร องคมนตรี กล่าวปาฐกถาพเิ ศษในหวั ขอ้ “สรา้ งชาตโิ ปรง่ ใส สรา้ ง ไทยซอ่ื ตรง\"”ไวว้ ่า “ การทป่ี ระชาชนมองเรอ่ื งของฉ้อราษฎรบ์ งั หลวง โดยมคี วามคดิ วา่ อะไรกไ็ ด้ ฉนั ไมแ่ คร์ ฉนั ไมเ่ กย่ี วขอ้ ง คอรร์ บั ชนั่ เป็นเรอ่ื งธรรมดา จะโกงกนั บา้ งไมเ่ ป็นไร ขอใหฉ้ นั ไดป้ ระโยชน์บา้ งกพ็ อ สงิ่ เหลา่ น้เี ป็นเหมอื นเคราะหก์ รรมของบา้ นเมอื ง ทย่ี งั มคี นคดิ แบบน้อี ยใู่ นสงั คม คุณธรรมและจรยิ ธรรมจงึ ตกต่าลงไปมาก” จากคากล่าวปฐกถาพเิ ศษของ ศาตราจารยธ์ านนิ ทร์ กรยั วเิ ชยี ร องคมนตรี ทาใหไ้ ดเ้ หน็ ความสาคญั ของปัญหาคอรร์ บั ชนั่ ในระบบราชการ คอรร์ ชั นั่ คอื การทุจรติ โดยใชห้ รอื อาศยั ตาแหน่งหน้าท่ี อานาจและอทิ ธพิ ลทต่ี นมอี ยู่ เพอ่ื ประโยชน์ แก่ตนเองและหรอื ผอู้ ่นื รวมถงึ การเลอื กทร่ี กั มกั ทช่ี งั การเหน็ แก่ญาตพิ น่ี ้อง กนิ สนิ บน ฉ้อราษฎรบ์ งั หลวง การใชร้ ะบบอุปถมั ภแ์ ละความไมเ่ ป็นธรรมอ่นื ๆ ทข่ี า้ ราชการหรอื บุคคลใดใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการลดิ รอน ความเป็นธรรมและความถกู กฎหมายของสงั คม 236 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เหตุชกั นาในการคอรร์ บั ชนั่ ไดแ้ ก่ 1) จติ ใจและความโลภของแต่ละบคุ คล คนในสงั คมสว่ นใหญ่ นบั ถอื ความร่ารวย ยอ่ มเป็นแรงชใู จ ในการแสวงหาเงนิ ทอง ภาวะเศรฐกจิ ทบ่ี บี คนั้ 2) การใชอ้ านาจของผบู้ รหิ ารในทางทม่ี ชิ อบ ระบบอุปถมั ภห์ รอื ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผอู้ ุปถมั ภก์ บั ลกู น้องไวช้ ่วยเหลอื ตนในเรอ่ื งต่างๆ 3) ค่านยิ มแบบนิยมพวกพอ้ งและเครอื ญาติ ความสมั พนั ธใ์ นเชงิ ผลประโยชน์ 4) ระบบการควบคุมและตรวจสอบทข่ี าดประสทิ ธภิ าพ ความรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ องคก์ รความโปรง่ ใสสากล (Transparency International-TI) ไดเ้ ปิดเผยผมการจดั อนั ดบั ดรรชนี ภาพลกั ษณ์คอรร์ บั ชนั่ (Corruption Perceptions Index-CPI) ประจาปี 2011 พบว่า ประเทศไทยได้ 3.4 คะแนน จากคะแนนเตม็ 10 คะแนน อยอู่ นั ดบั ท่ี 80 จากการจดั อนั ดบั ทงั้ หมด 183 ประเทศทวั่ โลก และอยู่ อนั ดบั ท่ี 10 จาก 26 ประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี องคมนตรกี ลา่ วอกี ว่า “มาตรการทางกฎหมายกย็ งั ไมเ่ พยี งพอในการทจ่ี ะแกป้ ัญหา เพราะอยา่ งมาก ทส่ี ดุ ทาไดแ้ คเ่ อาตวั คนผดิ มาลงโทษ ส่วนในเรอ่ื งของการปรบั ปรงุ จติ ใจนนั้ กฎหมายไมส่ ามารถทจ่ี ะทาได้ เพราะฉะนนั้ คนในสงั คมตอ้ งมกี ารปลกู ฝังและสง่ เสรมิ ใหล้ กู หลานตงั้ แต่เลก็ ๆ โดยยดึ หลกั คตธิ รรม 7 ประการสาหรบั ฝึกอบรมตามแบบฉบบั ขององั กฤษ ไดแ้ ก่พดู ความจรงิ , ความซ่อื ตรง, สจุ รติ ,การระลกึ ใน หน้าท,่ี ความอดกลนั้ , ความเป็นธรรม , ความเอาในใส่ , มเี มตตาธรรม “คตธิ รรมสาหรบั คนไทยไวอ้ กี 5 ประการ ไดแ้ ก่ ความกตญั ญู กตเวที ,ความสุภาพนุ่มนวล , ความคารวะผอู้ าวุโส , การรกั ษาคาพดู และการ มจี ติ สาธารณะ แต่ในความเป็นจรงิ แลว้ พน้ื ฐานของทางศาสนาคนไทยควรยดึ หลกั หริ โิ อตปั ปะ หรอื การละ เวน้ ทจ่ี ะทาความชวั่ เพราะละอายต่อบาป โดยมกี ฎแหง่ กรรมเป็นขอ้ บงั คบั โดยพงึ ระลกึ ไวเ้ สมอวา่ ทาดไี ดด้ ี ทาชวั่ ไดช้ วั่ หากคนในสงั คมคดิ ไดเ้ ช่นน้ี จะไม่มคี นกลา้ ทาความชวั่ ” รปู แบบการคอรร์ บั ชนั่ ทส่ี าคญั ในวงราชการ ไดแ้ ก่ - การทุจรติ ในกระบวนการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง ตงั้ แต่การเรยี กรบั เงนิ สนิ บน ค่านายหน้า หรอื การตอบ แทนในรปู แบบต่างๆ - การสรรหาบคุ คลเขา้ สตู่ าแหน่ง โดยการเรยี กรบั เงนิ หรอื ผลประโยชน์อ่นื ในการแต่งตงั้ ขา้ ราชการ ในการเลอ่ื นตาแหน่งหรอื การโยกยา้ ย โดยการใหค้ ่าตอบแทน - การบรหิ ารงบประมาณโครงการ การเบกิ จ่ายค่าตอบแทนวทิ ยากรนอก - การทุจรติ โดยยกั ยอกทรพั ย์ ของทางราชการหรอื การทุจรติ ในการเบกิ ค่าเบย้ี เลย้ี ง คา่ พาหนะ ค่ารกั ษาพยาบาล และคา่ เช่าบา้ น เช่น การใชพ้ าหนะของราชการ โดยเบกิ ค่าพาหนะ หรอื การ เบกิ เบย้ี เลย้ี ง เกนิ วนั เวลาทป่ี ฏบิ ตั จิ รงิ หรอื การเบกิ คา่ เชา่ บา้ น แต่ไมไ่ ดเ้ ช่าบา้ นจรงิ การนาเอา วสั ดุอุปกรณ์ของทางราชการไปใชป้ ระโยชน์เพ่อื สว่ นตน - การทุจรติ โดยการเรยี กรบั เงนิ หรอื ผลประโยชน์อ่นื แนวทางการป้องกนั การทุจรติ - ดา้ นกฎหมาย ควรมกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ขระเบยี บ กฎเกณฑ์ บทลงโทษ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 237
- มาตรการสงั คม ควรต่อตา้ นผทู้ ก่ี ระทาการคอรร์ บั ชนั่ ไมใ่ หส้ ทิ ธติ ่างๆ ในสงั คม สรรหาบคุ คลทม่ี ี คุณภาพมาดารงตาแหน่ง ปฎริ ปู ระบบการคดั เลอื กและการฝึกอบรม - มรี ะบบและกระบวนการตรวจสอบทช่ี ดั เจน โปรง่ ใส มกี ารตรวจสอบบ่อยๆครงั้ –คา่ นิยมและ วฒั นธรรมประเพณี ปลกู ฝังจติ สานึกใหท้ ราบถงึ ผลเสยี ต่อตนเอง ชุมชนและประเทศชาติ ซง่ึ เกดิ การคอรร์ บั ชนั่ องคมนตรี กล่าวว่า “วอนคนไทยมจี ติ สานกึ ทด่ี ี มจี ติ สาธารณะ มคี วามเสยี สละเพอ่ื แผ่นดนิ หมนั่ ปรบั ปรงุ ตนเอง การทจ่ี ะใหม้ คี นดี รอ้ ยเปอรเ์ ซน็ นัน้ หาไมไ่ ด้ หรอื ชวั่ เตม็ รอ้ ยกห็ าไมไ่ ด้ คนเรานนั้ มที งั้ ดที งั้ ชวั่ ปนกนั ไป เพราะฉะนนั้ เราตอ้ งใฝ่หาความดขี องตนเอง โดยการรอ่ นทอง รอ่ นเอาสงิ่ ปฏกิ ูล สงิ่ สกปรกทงั้ หลาย ออกไป ตอ้ งคอยปรบั ปรงุ และแสวงหาความดขี องคนเอง” นายเชาวลติ ร บวั สาร นติ กิ รชานาญการพเิ ศษ สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๔ 238 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ คอรร์ บั ชนั่ –ไมโ่ กง นิทานสอนใจ เทพารกั ษก์ บั คนตดั ตน้ ไม้ ชาวป่าผหู้ น่งึ ขณะเขา้ ไปตดั ตน้ ไมซ้ ง่ึ ขน้ึ อยรู่ มิ แม่น้าทาขวานหลดุ มอื ตกจมหายลงไปในน้า เน่อื งจากเขาว่ายน้าไมเ่ ป็นและนกึ เสยี ดายขวานคชู่ วี ติ เลยนงั่ รอ้ งไห้ เทพารกั ษ์มคี วามเมตตาสงสารได้ ปรากฏกายขน้ึ กลา่ วปลอบโยน และลงไปงมขวานคนื ให้ แต่คดิ อยากจะลองใจผชู้ ายคนน้ี ครงั้ แรกจงึ นา ขวานทองขน้ึ มาจากแมน่ ้าแลว้ ถามว่า “ขวานดา้ มน้ใี ช่ของเจา้ หรอื ไม่” “ไมใ่ ชห่ รอกขอรบั ขวานของขา้ พเจา้ เป็นขวานเหลก็ ธรรมดา” เทพารกั ษน์ กึ พอใจแต่ยงั คดิ จะทดสอบอกี ครงั้ แสรง้ ดาลงไปคน้ หาในแมน่ ้าแลว้ โผล่ขน้ึ มาพรอ้ มกบั ขวานเงนิ ในมอื “ขวานดา้ มน้ใี ชข่ องเจา้ หรอื ไม่” “ไมใ่ ช่หรอกขอรบั ขวานของขา้ พเจา้ เป็นขวานเหลก็ ธรรมดา” เมอ่ื เทพารกั ษน์ าขวานเหลก็ มาคนื ใหก้ บั ชายตดั ฟืน ท่านไดย้ กขวานเงนิ และขวานทองใหด้ ว้ ยเพอ่ื เป็นรางวลั ในความซอ่ื สตั ย์ ครนั้ เพ่อื นของชายตวั ฝืนทราบเรอ่ื ง จงึ ทาทอี อกไปตดั ฟืนแลว้ นงั่ รอ้ งไหค้ ร่า ครวญ หลงั จากแกลง้ ทาขวานหลน่ ในแมน่ ้า เมอ่ื เทพารกั ษ์ปรากฏตวั ขน้ึ ปลอบโยน และลองใจโดยงมขวานทองมาสง่ ให้ ชายผนู้ นั้ เกดิ ความโลภ รบี บอกวา่ เป็นขวานของตน เทพารกั ษ์เหน็ ว่าชายผนู้ ้ี กล่าวเทจ็ จงึ แสดงฤทธหิ ์ ายตวั ไปทนั ที ชายผไู้ รค้ วาม ซอ่ื สตั ยน์ อกจากไมไ่ ดข้ วานเงนิ และขวานทองเป็นรางวลั แลว้ แมแ้ ต่ขวานเหลก็ ของตนกจ็ มอยใู่ นแมน่ ้า นนั้ เอง เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า ผมู้ คี วามซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ยอ่ มไดร้ บั ผลดตี อบแทน ผทู้ จุ รติ ยอ่ มไดร้ บั ผลรา้ ยตอบสนอง คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 239
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี5-6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 2-3) หน่วยท่ี 11 คณุ ธรรม จริยธรรม เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 23 รกั ท่ีรบั ผิดชอบและปลอดภยั 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความสาคญั และค่านิยมของการมเี พศสมั พนั ธท์ ร่ี บั ผดิ ชอบและปลอดภยั ได้ 2. เนื้อหา การมเี พศสมั พนั ธ์ ควรเกดิ จากความรกั ความเขา้ ใจ ความยนิ ยอมพรอ้ มใจ และความพรอ้ มของทงั้ สองฝ่าย ซง่ึ ตอ้ งมคี วามปลอดภยั และเป็นทย่ี อมรบั ของครอบครวั และสงั คม โดยคานึงถงึ วฒั นธรรมประเพณี เมอ่ื ลกู เสอื ยงั ไมม่ คี วามพรอ้ มทจ่ี ะมเี พศสมั พนั ธ์ วธิ ปี ้องกนั กค็ อื การปฏเิ สธ หรอื ถา้ ตดั สนิ ใจทจ่ี ะมี เพศสมั พนั ธก์ ค็ วรคานึงถงึ ความปลอดภยั โดยการใชถ้ ุงยางอนามยั ทุกครงั้ ทม่ี เี พศสมั พนั ธ์ 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรแู้ นวทางการสรปุ เพอ่ื ตอบคาถามจากภาพ 3.3 ภาพชดุ “วรรณ กบั วทิ ย”์ ในสถาณการณ์ต่างๆดงั น้ี (จานวนชุดภาพเทา่ กบั จานวนกลุ่มลกู เสอื บวกกบั ผกู้ ากบั 1 ชุด) ภาพท่ี 1 วรรณกบั วทิ ยน์ งั่ โอบกอดในบรรยากาศสว่ นตวั ภาพท่ี 2 วทิ ยป์ ระคองวรรณเขา้ หอ้ งนอน ภาพท่ี 3 วรรณนงั่ รอ้ งไห้ วทิ ยน์ อนหลบั อยใู่ กลๆ้ ภาพท่ี 4 วรรณกบั วทิ ยน์ ึกถงึ เหตุการณ์ทผ่ี ่านมาดว้ ยความเสยี ใจ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง “มาตามนดั ” 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ลกู เสอื ดภู าพ “วรรณกบั วทิ ย”์ ภาพท่ี 1 ถามวา่ “ทงั้ สองคนกาลงั คดิ หรอื รสู้ กึ อยา่ งไร” เปิดโอกาสใหต้ อบไดห้ ลากหลาย ไมต่ อ้ งสรปุ 2) แบง่ ลกู เสอื ออกเป็นกลมุ่ ๆละ 8 คน โดยคละชายหญงิ นงั่ ลอ้ มวง ใหด้ ภู าพทลี ะภาพ และให้ อภปิ รายตามประเดน็ ของแต่ละภาพต่อไปน้ี ภาพท่ี 2 “จะเกดิ เหตุการณ์อะไรขน้ึ แก่คนทงั้ คู่” ผกู้ ากบั สุ่มถาม อภปิ รายจนไดข้ อ้ สรปุ ตามใบความรู้ ภาพท่ี 3 “หลงั เหตุการณ์ วรรณและวทิ ย์ จะรสู้ กึ เหมอื นหรอื แตกต่างกนั ” และจะเกดิ 240 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ผลกระทบอะไรกบั วรรณและวทิ ยบ์ า้ ง เพราะอะไร” ผกู้ ากบั สุ่มถาม อภปิ รายจนได้ ขอ้ สรปุ ตามใบความรู้ ภาพท่ี 4 “ถา้ ยอ้ นเวลากลบั ไปได้ วรรณและวทิ ยจ์ ะป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ปัญหาน้ไี ดอ้ ยา่ งไร” ผกู้ ากบั สุม่ ถาม อภปิ รายจนไดข้ อ้ สรปุ ตามใบความรู้ 4.4 ผกู้ ากบั เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ “ไมเ้ ทา้ ยอดทองกระบองยอดเพช็ ร” 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6.องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คาะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการมเี พศสมั พนั ธท์ ร่ี บั ผดิ ชอบ และปลอดภยั คาแนะนาสาหรบั ผกู้ ากบั ลกู เสือ แผนการจดั กจิ กรรมน้ี ใหล้ กู เสอื เรยี นรโู้ ดยภาพชุด“วรรณกบั วทิ ย”์ ซง่ึ มจี านวน 4 ภาพ ควรเปิด ภาพใหด้ ทู ลี ะภาพตามลาดบั (ไมค่ วรใหด้ หู ลายภาพพรอ้ มกนั ) ตามดว้ ยคาถามในแต่ละภาพ และรวบรวม คาตอบ อภปิ ราย และสรปุ ความคดิ ทลี ะภาพตามลาดบั คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 241
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 23 เพลง มาตามนัด มากลาง วนั เธอนดั ใหม้ ากลางคนื มากลางคนื เธอนดั ใหม้ ากลางวนั มาวนั น้เี รามารว่ มกนั รอ้ งเพลง ช่วย บรรเลง เป็นเพลงทถ่ี ูกใจ สนุกสนานช่นื บานทกุ วนั ไปดว้ ยหวั ใจของคนทร่ี อ้ งเพลง ใบความรู้ ภาพท่ี 1 วรรณกบั วทิ ยน์ งั่ โอบกอดกนั ในบรรยากาศสว่ นตวั ภาพท่ี 2 วทิ ยป์ ระคองวรรณเขา้ หอ้ งนอน ภาพท่ี 3 วรรณนงั่ รอ้ งไห้ วทิ ยน์ อนหลบั อยใู่ กลๆ้ 242 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาพท่ี 4 วรรณกบั วทิ ยน์ กึ ถงึ เหตุการณ์ทผ่ี ่านมาดว้ ยความเสยี ใจ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 243
ภาพและคาถาม แนวทางการสรปุ เพื่อตอบคาถามจากภาพ แนวทางการสรปุ ภาพท่ี 1 “ทงั้ สองคนกาลงั คดิ อะไรอยู่” วรรณ รสู้ กึ อบอุ่นเป็นสขุ ทอ่ี ยใู่ กลช้ ดิ กบั คนทพ่ี งึ พอใจ วิทย์ รสู้ กึ มคี วามสุข พงึ พอใจ และอาจนกึ ถงึ การมเี พศสมั พนั ธด์ ว้ ย ภาพที่ 2 มเี พศสมั พนั ธโ์ ดยวทิ ยเ์ ป็นผเู้ รมิ่ ตน้ (เพราะความใกลช้ ดิ การสมั ผสั และ “จะเกดิ เหตุการณ์อะไรขน้ึ กบั คนทงั้ คู่” บรรยากาศทเ่ี ป็นใจ) ขณะทว่ี รรณเองกไ็ มส่ ามารถตา้ นทานทงั้ วทิ ยแ์ ละ ความรสู้ กึ ของตนเองได้ ภาพท่ี 3 วรรณ กงั วลใจหลายเรอ่ื งเช่น กลวั คนรู้ กลวั ทอ้ ง กลวั พอ่ แมเ่ สยี ใจ “หลงั เหตุการณ์วรรณและวทิ ยจ์ ะรสู้ กึ เหมอื นหรอื แตกต่างกนั อยา่ งไร” กลวั วทิ ยจ์ ะทง้ิ วิทย์ รสู้ กึ สมหวงั มคี วามสุข ไมก่ งั วลใจแบบทว่ี รรณเป็น “จะเกดิ ผลกระทบอะไรกบั วรรณและวทิ ย์ ไดบ้ า้ ง เหมอื นหรอื ต่างกนั อยา่ งไร” ความรสู้ กึ ของสองคนจะแตกต่างกนั มาก กลา่ วคอื ผหู้ ญงิ จะกงั วลใจมาก ส่วนผชู้ ายจะกงั วลใจน้อยกว่า ทงั้ น้เี พราะ 1. ค่านยิ มของสงั คมไทยเชอ่ื ว่า ผหู้ ญงิ ทเ่ี คยมเี พศสมั พนั ธแ์ ลว้ จะ หมดคณุ ค่า แต่สาหรบั ผชู้ าย การมเี พศสมั พนั ธเ์ ป็นเรอ่ื งธรรมดา 2. ผหู้ ญงิ อาจตงั้ ครรภ์ ซง่ึ เป็นการประจานตนเองและพอ่ แมใ่ หอ้ บั อาย แต่ผชู้ ายไมม่ ปี ัญหาน้ี ยง่ิ กวา่ นนั้ หากผหู้ ญงิ ไปทาแทง้ ก็ อาจไดร้ บั อนั ตรายจนเสยี ชวี ติ ได้ วรรณอาจตดิ โรค ตงั้ ครรภ์ ถูกสงั คมตฉิ นิ นนิ ทา พอ่ แมโ่ กรธ อบั อาย เสยี อนาคต ลดโอกาสในการมคี ่คู รองทด่ี ตี ่อไป วิทย์ อาจตดิ โรค อาจถูกวรรณเรยี กรอ้ งความผกู พนั เรยี กรอ้ งความ รบั ผดิ ชอบ และเรยี กรอ้ งทางกฎหมาย กรณที ต่ี อ้ งแต่งงานกนั เพราะ วรรณตงั้ ครรภ์ อาจมผี ลเสยี ตามมาจากความไมพ่ รอ้ มในการมคี รอบครวั เช่น รายได้ ความรู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความเขา้ ใจในการใชช้ วี ติ คู่ และความพรอ้ มในการเป็น พ่อแม่ ฯลฯ 244 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาพที่ 4 วรรณ ควรระมดั ระวงั ตนเองไมไ่ ปไหนกบั วทิ ยต์ ามลาพงั ในทล่ี บั ตา ไม่ “ถา้ ยอ้ นหลงั กลบั ไปได้ วรรณและวทิ ยจ์ ะ ยอมใหถ้ กู เน้อื ตอ้ งตวั ซง่ึ จะทาใหเ้ กดิ มอี ารมณ์เพศได้ ป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ปัญหาน้ไี ดอ้ ยา่ งไร วิทย์ ควรใหเ้ กยี รตคิ นรกั รกั ษาช่อื เสยี งของวรรณ ไมฉ่ วยโอกาสรกุ เรา้ เชน่ ถูกเน้อื ตอ้ งตวั กอดจบู ซง่ึ มกั จะไมส่ ามารถยบั ยงั้ ความตอ้ งการทาง เพศต่อไปได้ ถ้าทงั้ ค่ตู ้องการมีเพศสมั พนั ธก์ นั ต้องคานึงถึงเรื่องต่อไปนี้ 1. มคี วามรกั ทม่ี นั่ คงต่อกนั 2. ยนิ ยอมพรอ้ มใจทงั้ สองฝ่าย 3. สามารถรบั ผดิ ชอบและแกไ้ ขปัญหาทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ได้ 4. คานึงถงึ ความปลอดภยั จากการตงั้ ครรภแ์ ละการตดิ โรค 5. คานึงถงึ ความรสู้ กึ ของพอ่ แมข่ องทงั้ สองฝ่ายและการยอมรบั ของสงั คม ถา้ ทงั้ คสู่ ามารถรบั ผดิ ชอบการมเี พศสมั พนั ธแ์ ละตดั สนิ ใจ จะมเี พศสมั พนั ธก์ นั ใหค้ านึงถงึ ความปลอดภยั จากการตงั้ ครรภ์ ขณะทย่ี งั ไมพ่ รอ้ ม รวมทงั้ โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธแ์ ละเอดส์ โดยการสวมถุงยางอนามยั ทุกครงั้ ทม่ี เี พศสมั พนั ธ์ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 245
เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ไมเ้ ท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ชายหญงิ ค่หู น่งึ แต่งงานอยดู่ ว้ ยกนั มานานจนแก่เฒา่ ฝ่ายหญงิ มกี ลอ่ งเกบ็ ของอยใู่ บหน่งึ วางในตู้ เสอ้ื ผา้ และกาชบั กบั สามวี า่ อยา่ ไดเ้ ปิดดหู รอื ถามใดใดทงั้ สน้ิ เวลาผา่ นไปหลายสบิ ปี วนั หน่งึ ฝ่ายหญงิ ป่วยมาก หมอลงความเหน็ ว่าเธอคงจะมชี วี ติ อยตู่ ่อไปอกี ไม่ นาน เธอขอใหส้ ามหี ยบิ กลอ่ งใบนนั้ จากตเู้ สอ้ื ผา้ เมอ่ื เธอเปิดฝากลอ่ งขน้ึ มา พบวา่ มตี ุ๊กตาถกั ไหมพรมกบั ธนบตั รทงั้ เก่าและใหมบ่ รรจอุ ยขู่ า้ งในจนเตม็ กล่อง สามเี องกแ็ ปลกใจวา่ เงนิ เหล่าน้ีมาจากไหน ฝ่ายหญงิ พดู ว่า \"ในวนั แต่งงานของเรา คณุ ยา่ ของฉนั ไดใ้ หบ้ ทเรยี นสอนใจ ท่านว่าครอบครวั เป็น เรอ่ื งละเอยี ดอ่อน หนกั นิดเบาหน่อยตอ้ งใหอ้ ภยั และอดทน ใหเ้ กยี รตซิ ง่ึ กนั และกนั ไวเ้ น้อื เช่อื ใจ มคี วามรกั ใหแ้ ก่กนั และทส่ี าคญั คอื มคี วามเขา้ ใจกนั \" เธอหยดุ พดู พรอ้ มกบั ยน่ื มอื ลบู ตุ๊กตาไหมพรมไปมา \"คุณยา่ ได้ แนะเคลด็ ลบั ใหว้ า่ เมอ่ื ใดทค่ี วามรสู้ กึ ไมพ่ อใจเกดิ ขน้ึ หรอื รสู้ กึ โกรธมากๆขน้ึ มา ใหถ้ กั ตุ๊กตาไหมพรมเกบ็ ไว้ 1 ตวั เสมอ\" ฝ่ายชายเหลอื บมองเขา้ ไปในกลอ่ งมตี ุ๊กตาไหมพรม 2 ตวั วางอยู่ เขาเบอื นหน้าไปอกี ทางเพอ่ื ไมใ่ ห้ ภรรยาเหน็ น้าตาแหง่ ความปลม้ื ปิติ เขารสู้ กึ ซาบซง้ึ น้าใจของภรรยาทม่ี ตี ่อเขาเป็นยง่ิ นกั ตลอดชวี ติ สมรสท่ี ยาวนาน มตี ุ๊กตาไหมพรมเพยี ง 2 ตวั เท่านนั้ แทนจานวนครงั้ ทภ่ี รรยาไดโ้ กรธเคอื งเขา หลงั จากปาดคราบน้าตาแลว้ เขาหนั กลบั มา ฝ่ายภรรยาพดู ต่อ \"คณุ คงแปลกใจกบั เงนิ กอ้ นน้สี นิ ะ\" ฝ่ายหญงิ หยบิ มนั ขน้ึ มาแลว้ พูดต่อว่า \"มนั เป็นเงนิ ทไ่ี ดม้ าจากการทยอยขายตุ๊กตาไปทลี ะตวั ๆตลอด 50 ปีท่ี ผา่ นมาค่ะ\" เรื่องนี้สอนให้รวู้ ่า การใหอ้ ภยั และความอดทน เป็นสง่ิ ทช่ี ่วยประคบั ประคองความรกั ใหย้ งั่ ยนื 246 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่5-6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 11 คณุ ธรรม จริยธรรม เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 24 ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ 1.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายวธิ กี ารประพฤตติ นใหเ้ ป็นแบบอยา่ งทด่ี แี ก่ผอู้ ่นื ได้ 2. เนื้อหา ในฐานะทเ่ี ป็นลกู เสอื วสิ ามญั ต้องมใี จสะอาด คดิ แต่เรอ่ื งทเ่ี ป็นมงคล สามารถควบคุมสตแิ ละจติ ใจ ของตนไมใ่ หฟ้ ุ้งซ่าน รปู -รส-กลนิ่ -เสยี ง-สมั ผสั และของมนึ เมาจนเกนิ กวา่ เหตุ ทา่ นตอ้ งเป็นตวั ของตวั เอง และเป็นตวั อยา่ งทด่ี แี ก่ผอู้ ่นื ในทุกสง่ิ ทุกอยา่ งทท่ี ่านคดิ -พดู และกระทา ลกู เสือประพฤติชอบด้วย กาย วาจา ใจ คอื ลกู เสอื ตอ้ งประพฤตติ นใหถ้ ูกตอ้ งอยใู่ นศลี ธรรม อยู่ ในกรอบประเพณี ละเวน้ ความชวั่ และอกุศลกรรมต่างๆ ตอ้ งมหี ริ โิ อตปั ปะ คอื รจู้ กั ละอายต่อบาป เกลยี ดชงั และกลวั ความชวั่ ไมเ่ หน็ แก่สนิ จา้ งรางวลั มสี ตคิ ่อยเหน่ียวรงั้ ไมย่ อมใหใ้ จพาไปในทศิ ทางทผ่ี ดิ มวี าจาไพเราะ ไมก่ ลา่ วส่อเสยี ดใหผ้ อู้ ่นื เดอื นรอ้ น มจี ติ ใจดไี มค่ ดิ รา้ ยต่อผอู้ ่นื รจู้ กั ใหอ้ ภยั ซง่ึ กนั และกนั ในฐานะทท่ี า่ นเป็น ลกู เสอื วสิ ามญั ทา่ นตอ้ งเป็นตวั เอง และเป็นตวั อยา่ งทด่ี แี ก่ผอู้ ่นื ในทกุ สง่ิ ทุกอย่างทท่ี ่าน คดิ พดู และกระทา ในฐานะทเ่ี ป็นลกู เสอื วสิ ามญั ตอ้ งจาไวว้ ่า การขา้ มจากความเป็นเดก็ ไปส่คู วามเป็นผใู้ หญ่นนั้ มไิ ดเ้ ป็น แคเ่ พยี งเรยี นรใู้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสอื แต่ลกู เสอื วสิ ามญั ตอ้ งใชก้ ฎของลกู เสอื นนั้ สาหรบั ปฏบิ ตั ใิ น ดา้ นการดาเนินชวี ติ ประจาวนั ในปัจจบุ นั ลกู เสอื วสิ ามญั ตอ้ งเป็นตวั อยา่ งแก่ผอู้ ่นื และอาจชกั นาเขาเหล่านนั้ ใหไ้ ปในทางทด่ี หี รอื ชวั่ ได้ ถา้ ลกู เสอื วสิ ามญั ปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื กย็ อ่ มเป็นตวั อยา่ งทด่ี ี แต่ถา้ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื กอ็ าจจะนาผอู้ ่นื ไปในทางทไ่ี มด่ ี เพราะฉะนนั้ ลกู เสอื วสิ ามญั ตอ้ งยดึ มนั่ คาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื ไวต้ ลอดเวลาโดยทม่ี ไิ ดห้ มายถงึ การท่องจาแบบนกแกว้ นกขนุ ทอง ตอ้ งจาแลว้ นาไปประพฤตปิ ฏบิ ตั จิ นเกดิ ความเคยชนิ เป็นปกตนิ ิสยั แลว้ จะประสบความสาเรจ็ ใน ชวี ติ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบความรู้ “หริ โิ อตปั ปะ” 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 247
4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจแยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั อภปิ ราย คนด/ี ความดี คนชวั่ /ความชวั่ เกย่ี วกบั ความคดิ พดู และการกระทา ตวั อยา่ งจากหนงั สอื พมิ พ์ TV หรอื ส่อื อ่นื ๆ 2) ทบทวนกฎของลกู เสอื ขอ้ ท่ี 10 ลกู เสอื ประพฤตชิ อบดว้ ยการวาจา ใจ และการปฏบิ ตั ติ ามกฎ ของลกู เสอื ขอ้ ดงั กล่าว และการไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสอื ขอ้ ดงั กลา่ ว มผี ลอยา่ งไร 3) แบ่งลกู เสอื เป็น 3 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ ราย สรปุ ลงกระดาษชารท์ และนาเสนอ ดงั น้ี กลุม่ ท่ี 1 การประพฤตชิ อบดว้ ยกาย (กายกรรม) และผลของการประพฤตชิ อบ/ ไมป่ ระพฤติ ชอบดว้ ยกาย กลุ่มท่ี 2 การประพฤตชิ อบดว้ ยวาจา (วจกี รรม) และผลของประพฤตชิ อบ/ไมป่ ระพฤตชิ อบดว้ ย วาจา กลมุ่ ท่ี 3 การประพฤตชิ อบดว้ ยใจ (มโนกรรม)และผลของการประพฤตชิ อบ/ไมป่ ระพฤตชิ อบ ดว้ ยใจ (อภปิ ราย/สรปุ 15 นาที นาเสนอ 5 นาท)ี 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ เพอ่ื สรา้ งนิสยั ใหเ้ ป็นคนทส่ี ะอาดกาย สะอาดใจ สะอาด วาจา 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชงั ธง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการการประพฤตติ นทร่ี จู้ กั ละอาย เกรงกลวั ต่อความชวั่ 248 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวกประกอบแผนการจกั กิจกรรมที่ 24 เพลง ลกู เสือไมจ่ บั มือขวา ลกู เสอื เขาไมจ่ บั มอื ขวา ยน่ื ซา้ ยมาจบั มอื กนั มนั่ มอื ขวาใชเ้ คารพกนั (ซ้า) ยน่ื มอื ซา้ ยออกมาพลนั แลว้ จบั มอื จบั มอื จบั มอื นนั้ หมายถงึ มติ ร เหมอื นญาตสิ นิท ควรคดิ ยดึ ถอื ยม้ิ ดว้ ยเมอ่ื ยามจบั มอื (ซา้ ) เพราะพวกเราคอื ลกู เสอื ดว้ ยกนั ใบความรู้ หิริโอตปั ปะ คาวา่ “หริ โิ อตปั ปะ” หมายถงึ อะไร หริ ิ ความละอายต่อบาปกรรมทต่ี นกระทานนั้ ยงิ่ กว่าคนทเ่ี ป็นโรครา้ ยแต่งตวั เรยี บรอ้ ยเขา้ ไปในท่ี สาธารณะ ยอ่ มมคี วามละอายแก่ใจตนเสมอ คนอ่นื จะรเู้ หน็ หรอื ไมก่ ต็ าม แต่ใจของตนรเู้ หน็ ดว้ ยใจตนเองอยู่ ตลอดเวลา โอตปั ปะ ความกลวั ต่อบาปกรรมทต่ี นกระทาดว้ ยกาย วาจา และใจ อนั จะเกดิ มขี น้ึ แก่ตน กลวั ยงิ่ กวา่ เหน็ อสรพษิ ยอ่ มไมส่ ามารถเขา้ ไปใกลไ้ ด้ ความกลวั บาปทเ่ี หน็ ดว้ ยใจ และกลวั ดว้ ยใจนนั้ ยอ่ ยสะดงุ้ หวาดเสยี วอยเู่ ป็นนจิ เหมอื นเป็นแผลทห่ี วั ใจ ใครจะเจบ็ ปวดดว้ ยหรอื ไมก่ ต็ าม ผนู้ ัน้ ยอ่ มเจบ็ ปวดอยคู่ นเดยี ว ความละอายและความกลวั เหลา่ น้ี เปรยี บเหมอื นบคุ คลผลู้ ะอายและกลวั บาปกรรมทล่ี ะเมดิ ลว่ งเกนิ ศลี ขอ้ นนั้ ๆ เมอ่ื มคี วามละอายและกลวั บาปกรรมอยอู่ ยา่ งน้แี ลว้ ผนู้ นั้ ยอ่ มมสี ตริ ะวงั ตวั อยทู่ กุ เมอ่ื แลว้ มนั จะลว่ ง ละเมดิ ศลี ขอ้ นนั้ ๆ ไดอ้ ยา่ งไร ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 249
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295