เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ต้นไม้ ตน้ ไม้ มที งั้ ต้นไมย้ นื ตน้ และตน้ ไมล้ ม้ ลุก ถา้ เป็นตน้ ไมใ้ หญ่ (ตน้ ไมย้ นื ตน้ ) จะมกี ง่ิ กา้ นสาขามใี บให้ ความร่มเยน็ เมอ่ื มนั ตายไป ใบกน็ ามาทาป๋ ยุ กง่ิ กา้ น ลาตน้ เรากน็ ามาใชเ้ ป็นถ่านหรอื นาไปสรา้ งบา้ นทา ประโยชน์อ่นื ๆ อกี มากมาย แลว้ ลกู เสอื ลองเปรยี บเทยี บกบั ตวั เรา ดซู วิ ่าตน้ ไมย้ งั ใหป้ ระโยชน์แก่มนุษย์ มากมาย แต่มนุษยถ์ า้ ตายไปรา่ งกายกเ็ น่าเป่ือยไมไ่ ดใ้ หป้ ระโยชน์อะไรแก่มนุษยไ์ ดเ้ ลย ฉะนนั้ เมอ่ื เรายงั มวี ติ อยู่ เราควรจะทางานใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากทส่ี ุด อยา่ ใหเ้ ขาพดู ไดว้ ่า เกดิ มาเสยี ชาตเิ กดิ ตน้ ไมย้ งั มคี ุณประโยชน์มากว่า เรือ่ งนี้สอนให้ร่า เราควรทาความดเี มอ่ื ยงั มชี วี ติ อยใู่ หช้ นร่นุ หลงั ไดจ้ ดจา 250 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 2-3) หน่วยที่ 12 สมั พนั ธภาพและการสื่อสาร แผนการจดั กิจกรรมท่ี 25 การพดู สภุ าพ เวลา 2 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถใชค้ าพดู ทเ่ี หมาะสมตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ 2. เนื้อหา การอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมตอ้ งอาศยั การพูดคุยสนทนาเป็นการส่อื ความเขา้ ใจ การพดู จาสอ่ื สารมผี ลต่อ สมั พนั ธภาพทงั้ ในทางทาลายหรอื สรา้ งเสรมิ ความเขา้ ใจถงึ การพดู จาสภุ าพ หรอื การส่อื สารทส่ี รา้ งสรรคจ์ ะ ช่วยใหล้ กู เสอื สามารถสรา้ งมติ รภาพในการอยรู่ ว่ มในสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสมซง่ึ กค็ อื การใชส้ รรพนามท่ี เหมาะสม มหี างเสยี ง มสี าเนียงทส่ี อ่ื ถงึ การใหเ้ กยี รตกิ บั ประเภทบุคคลทส่ี นทนาดว้ ย 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 3.3 ใบความรสู้ าหรบั ผกู้ ากบั ลกู เสอื 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาเขา้ ส่บู ทเรยี นดว้ ย “การสวมบทบาทการพดู 2 แบบ” (น่าสนทนา ดว้ ยและไมน่ ่าสนทนาดว้ ย) 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ชวนลกู เสอื แสดงความรสู้ กึ สงั เกตความแตกต่างของการพดู ทงั้ 2 แบบ และ ผลทต่ี ามมา 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื บรรยาย “การพดู สุภาพ” 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายงานใหก้ ล่มุ ลกู เสอื ทาตามใบกจิ กรรม 5) กล่มุ ลกู เสอื นาเสนอการสวมบทบาท ผกู้ ากบั นาอภปิ รายเพมิ่ เตมิ ช่นื ชม สรปุ จากการ นาเสนอ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 251
5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ รายและแสดงบทบาทสมมตุ ิ 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ คุณคา่ ของการพดู จาสุภาพ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 25 เพลง สวสั ดี ขอโทษ และขอบคณุ เมอ่ื เจอกนั เราทกั กนั สวสั ดี สวสั ดคี รบั /สวสั ดคี ่ะ เมอ่ื ผดิ พลงั้ ขออภยั ขอโทษที ขอโทษครบั /ขอโทษคะ่ เมอ่ื จากกนั ยกมอื ไหวส้ วสั ดี สวสั ดคี รบั /สวสั ดคี ่ะ เมอ่ื ใครมจี ติ ไมตรขี อขอบคุณ ขอบคณุ ครบั /ขอบคุณค่ะ ใบงาน สถานการณ์ ชายและสงิ หเ์ จอกนั หน้าโรงเรยี น ชายทกั สงิ ห์ ๆ ตอบกลบั มาดงั น้ี บทบาทสมมติท่ี 1 ชาย “สวสั ดสี งิ ห์ เป็นไงมงั่ ?” สงิ ห์ เหลอื บตามองหน้า ไมต่ อบ ทาท่าจะเดนิ ผ่านไป ชาย “เฮย้ เป็นไรหรอื เปล่า ?” สงิ ห์ “อยา่ ยงุ่ ไดม้ ยั๊ ราคาญ” บทบาทสมมติที่ 2 ชาย “สวสั ดสี งิ ห์ เป็นไงมงั่ ?” สงิ ห์ “สบายดี นายล่ะ ?” ชาย “อ๋อ เรากส็ บายด”ี สงิ ห์ “กนิ ขา้ วมาหรอื ยงั ไปกนิ ดว้ ยกนั มยั๊ ?” 252 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ใบงาน ใหก้ ลมุ่ ลกู เสอื รว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละหาวธิ กี ารพดู ทส่ี ุภาพในสถานการณ์ต่อไปน้ี หมลู่ ะ 1 สถานการณ์ (เวลา 20 นาท)ี พรอ้ มแสดงบทบาทสมมตใิ นทป่ี ระชุม (หมลู่ ะ 5 นาท)ี หมู่ 1 รบั โทรศพั ทจ์ ากคนไมร่ จู้ กั หมู่ 2 พบคนแปลกหน้าถามเสน้ ทาง หมู่ 3 ครตู าหนิ หมู่ 4 ขอความช่วยเหลอื จากเพอ่ื นทเ่ี ก่งกว่า หมู่ 5 ขอทราบขอ้ มลู จากเจา้ หน้าทธ่ี รุ การโรงเรยี น ใบความรู้ ถงึ บางพดู พดู ดเี ป็นศรศี กั ดิ ์ มคี นรกั รสถอ้ ยอรอ่ ยจติ แมน้ พดู ชวั่ ตวั ตายทาลายมติ ร จะชอบผดิ ในมนุษยเ์ พราะพดู จาฯ สนุ ทรภู่ การพดู จาสภุ าพ การพดู จากนั นัน้ มผี ลต่อสมั พนั ธภาพอยา่ งยงิ่ ดงั คากลอนทว่ี ่า“คารมเป็นต่อ รปู หล่อเป็นรอง” การพดู จาอย่างไรทเ่ี รยี กว่า “สุภาพ”พงึ พจิ ารณาในหลายประเดน็ ดงั น้ี 1. พดู ดว้ ยความรสู้ กึ ทด่ี ตี ่อคนท่เี ราพดู ดว้ ย การพดู คอื การใหค้ วามใส่ใจ ความรกั ความปรารถนาดี การใหเ้ กยี รตยิ กยอ่ ง คานงึ ถงึ จติ ใจคนฟังเสมอ 2. พดู ดว้ ยท่าที ถอ้ ยคาและน้าเสยี งทส่ี ภุ าพมหี างเสยี ง ใหเ้ กยี รติ มจี งั หวะทเ่ี หมาะสม ไมแ่ ยง่ พดู ขณะท่ี คนอ่นื ยงั พดู ไมจ่ บ สงั เกตว่าผฟู้ ังเขา้ ใจ ตามทนั หรอื ไม่ 3. พดู เหมาะสมกบั กาลเทศะเช่น เหมาะกบั บคุ คล เวลา สถานท่ี 4. พดู แลว้ ใหป้ ระโยชน์จงึ พดู พดู แลว้ ไมไ่ ดป้ ระโยชน์ เงยี บเสยี ดกี ว่า ดงั่ สภุ าษติ ทว่ี า่ “พดู ไปสองไพเบย้ี น่ิงเสยี ตาลงึ ทอง” 5. พดู เมอ่ื คนฟังพรอ้ มทจ่ี ะฟังเทา่ นนั้ ถา้ คนฟังไมพ่ รอ้ ม การพดู กไ็ มไ่ ดป้ ระโยชน์ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 253
เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ พดู ดีเป็นศรีแก่ตวั มบี ุตรเศรษฐสี ามคน อยากไดด้ อกบวั จงึ ชวนกนั ไปทส่ี ระบวั แหง่ หน่งึ ซง่ึ มชี ายจมกู แหว่งเฝ้ารกั ษา อยู่ บุตรเศรษฐคี นทห่ี น่งึ ไดพ้ ดู กบั ชายจมกู แหวง่ ทเ่ี ฝ้าสระบวั ว่า “ท่านผเู้ จรญิ ธรรมดาผมและหนวดทโ่ี กนแลว้ ยงั งอกไดฉ้ นั ใดจมกู ของท่านคงงอกไดฉ้ นั นัน้ ขอทา่ น จงใหด้ อกบวั แก่ขา้ พเจา้ เถดิ ” บุตรเศรษฐคี นทส่ี องพดู ว่า “พชื ทเ่ี ราหว่านลงในนายอ่ มงอกงามขน้ึ ไดฉ้ นั ใดจมกู ของทา่ นคงงอกได้ ฉนั นนั้ ขอท่านจงใหด้ อกบวั แก่ขา้ พเจา้ เถดิ ” ชายจมกู แหวง่ ไดฟ้ ังบุตรเศรษฐที งั้ สองพดู เอาแต่ไดเ้ ชน่ นนั้ กโ็ กรธ จงึ ไมใ่ หด้ อกบวั บุตรเศรษฐคี นท่ี สาม เมอ่ื เหน็ ชายจมกู แหวง่ โกรธจงึ พดู ว่า “ทงั้ สองคนนนั้ พดู ไม่จรงิ ธรรมดาจมกู ทแ่ี หว่งไปแลว้ จะงอกขน้ึ เหมอื นผม หนวด และพชื นนั้ ไมไ่ ด้ ขา้ พเจา้ พดู น้เี ป็นความจรงิ ทา่ นจงใหด้ อกบวั แก่ขา้ พเจา้ เถดิ ” ชายจมกู แหวง่ ไดฟ้ ังบุตรเศรษฐคี นทส่ี ามพดู ดงั นนั้ จงึ กล่าววา่ “ท่านเป็นคนพดู จรงิ พดู ถกู ขา้ พเจา้ ชอบใจ ไมเ่ หมอื นสองคนทพ่ี ดู มาก่อนยกยอ่ งขา้ พเจา้ เกนิ ความ จรงิ ขา้ พเจา้ จะใหด้ อกบวั แก่ทา่ น” แลว้ ชายจมกู แหวง่ กห็ ยบิ ดอกบวั มดั ใหญ่ใหแ้ ก่บุตรเศรษฐคี นทส่ี าม คน้ จาก http://www.everykid.com/nitan/speak_the_truth.html วนั ท2่ี 9 มถิ ุนายน 2556 เรือ่ งนี้สอนให้ร้วู ่า “การพดู ความจรงิ ยอ่ มนามาซง่ึ ผลตอบแทนทด่ี ”ี 254 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5-6 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.2-3) หน่วยที่ 12 สมั พนั ธภาพและการส่ือสาร เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 26 การเลือกค่คู รอง 1.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความสาคญั ในการเลอื กคคู่ รองทเ่ี หมาะสมได้ 2. เนื้อหา หญงิ ชายมกั ใหค้ วามสาคญั กบั คณุ สมบตั ขิ องค่คู รองทแ่ี ตกต่างกนั คอื หญงิ จะใหค้ วามสาคญั กบั คณุ สมบตั ทิ เ่ี ป็นคุณค่าภายในตนเป็นอนั ดบั แรกแต่ชายมกั เลอื กค่คู รองโดยมองทร่ี ปู ลกั ษณ์ภายนอกเป็น อนั ดบั ตน้ ๆ การเลอื กคคู่ รองทเ่ี หมาะสมโดยคานงึ ถงึ คุณสมบตั ทิ ด่ี งี ามจะมผี ลต่อการมชี วี ติ ครอบครวั ทม่ี ี ความสุขและยงั่ ยนื 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ใบงาน 1 และ 2 3.3 ใบความรู้ 3.4 วสั ดุประกอบใบงาน ไดแ้ ก่ กระดาษฟลปิ ชารท์ , ปากกาหวั สกั หลาด และกระดาษชน้ิ เลก็ สาหรบั ลกู เสอื เขยี นในการทางานกล่มุ 2 ครงั้ 3.5 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาเรอ่ื ง “ลกู เสอื ตอ้ งการคบเพ่อื นลกั ษณะใด” โดยไมต่ อ้ งสรปุ 2) สารวจความเหน็ “เมอ่ื ลกู เสอื โตเป็นผใู้ หญ่ จะเลอื กคคู่ รองทม่ี ลี กั ษณะอย่างไร” ตามใบ กจิ กรรม 1 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื รวบรวมคาตอบทงั้ หมด เขยี นบนกระดาษฟลปิ ชารท์ โดย แยก ความเหน็ ตามเพศ ชาย-หญงิ 4) ลกู เสอื จบั คเู่ พศเดยี วกนั ช่วยกนั คดิ ว่า จากคุณสมบตั ขิ องค่คู รองทต่ี อ้ งการทงั้ หมด บน กระดาษฟลปิ ชารท์ ถา้ ใหเ้ ลอื กคุณสมบตั ิ 1 อยา่ ง ลกู เสอื จะเลอื กคุณสมบตั ขิ อ้ ใด 5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เขยี นคณุ สมบตั ทิ ถ่ี ูกเลอื กแยกตามเพศชาย-หญงิ บนกระดาษฟลปิ ชารท์ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 255
6) แบ่งลกู เสอื ออกเป็นกลุ่ม ๆละ 8 คน โดยคละชายหญงิ นงั่ ลอ้ มวง และใหอ้ ภปิ รายตาม ประเดน็ ในใบกจิ กรรม 2 7) ผแู้ ทนกลมุ่ รายงาน ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ รายเพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ แนวคดิ ทค่ี วรไดต้ ามใบ ความรู้ 8) ลกู เสอื แต่ละคนเขยี นขอ้ ความสนั้ ๆ “คคู่ รองในอนาคตของฉนั ........................................” แลว้ แลกกนั อ่านในกลุม่ 4.4 ผกู้ ากบั เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม คอื ความคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการเลอื กค่คู รองโดย พจิ ารณาจากคุณสมบตั ภิ ายใน 256 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 26 เพลง ยิ้ม ยม้ิ ยม้ิ กนั เถอะนะ ยม้ิ แลว้ พาคลายเศรา้ ยม้ิ พาใหค้ ลายเหงา ยม้ิ พาเราเพลนิ ใจ ทาเรอ่ื งยากเป็นงา่ ย ยม้ิ นนั้ พาสขุ ล้า เรอ่ื งรา้ ยจะกลายเป็นดี ยม้ิ ใหก้ นั เมอ่ื ไร ใบงาน 1 คาแนะนา ลกู เสอื แต่ละคนใหเ้ ลอื กคุณสมบตั ติ ่อไปน้เี พยี ง 3 ประการทค่ี ดิ วา่ เป็นคุณสมบตั ขิ องคคู่ รองท่ี ลกู เสอื ตอ้ งการจะเลอื กในอนาคต ( ลกู เสอื อาจเขยี นคุณสมบตั อิ ่นื ๆทน่ี อกเหนอื จากน้กี ไ็ ด)้ เขยี นลงบน กระดาษชน้ิ เลก็ ทแ่ี จกให้ เขยี น 1 คุณสมบตั ติ ่อ 1 แผ่น โดยไมต่ อ้ งเขยี นช่อื แต่ใหเ้ ขยี นเพศของลกู เสอื ทห่ี วั กระดาษคาตอบ (เวลา 5 นาท)ี 1. หน้าตาดี 11. ขยนั 2. ฉลาด 12. ทาอาหารเก่ง 3. เออ้ื เฟ้ือ 13. รกั เดยี วใจเดยี ว 4. ฐานะดี 14. สบายใจเมอ่ื ยใู่ กล้ 5. เป็นนกั กฬี า 15. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 6. รกั ครอบครวั 16. พดู เก่ง 7. ซ่อื สตั ย์ 17. แต่งกายดี 8. ใจเยน็ 18. รปู รา่ งสมส่วน 9. สขุ ภาพดี 19. เรยี นเก่ง 10. มเี สน่ห์ 20. ประหยดั ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 257
ใบงาน 2 คาแนะนา ลกู เสอื อภปิ รายกล่มุ ตามประเดน็ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (เวลา 15 นาท)ี เม่อื ไดข้ อ้ สรปุ แลว้ ส่งตวั แทนรายงาน กล่มุ ท่ี 1-2 1. คุณสมบตั ขิ องคคู่ รองในอนาคต(ในกระดาษฟลปิ ชารท์ ) ทล่ี กู เสอื ชายและหญงิ เลอื กในครงั้ แรก ลกู เสอื เหน็ วา่ มคี วามแตกต่างกนั หรอื ไม่ และแตกต่างกนั อยา่ งไร 2. ในอนาคต ถา้ ตอ้ งเลอื กค่คู รองจรงิ ๆ ทาอยา่ งไรจงึ จะแน่ใจว่า จะไดค้ ่คู รองทม่ี คี ณุ สมบตั ติ รง ตามทเ่ี ราตอ้ งการ ไมเ่ ปลย่ี นแปลงเมอ่ื มาอยเู่ ป็นครอบครวั เดยี วกนั กล่มุ ที่ 3-4 1. เมอ่ื จะตอ้ งเลอื กคุณสมบตั เิ พยี ง 1 อยา่ ง ลกู เสอื คดิ วา่ คณุ สมบตั ทิ ล่ี กู เสอื ชายกบั ลกู เสอื หญงิ เลอื กในครงั้ ทส่ี องมคี วามแตกต่างกนั หรอื ไม่ และแตกต่างกนั อยา่ งไร 2. ถา้ จะตอ้ งเลอื กค่คู รองจรงิ ๆในอนาคต ทาอย่างไรจงึ จะแน่ใจวา่ จะไดค้ ่คู รองทม่ี คี ณุ สมบตั ติ รง ตามทเ่ี ราตอ้ งการ ไมเ่ ปลย่ี นแปลงเมอ่ื มาอยเู่ ป็นครอบครวั เดยี วกนั ใบความรู้ แนวคิดที่ควรได้ ประเดน็ อภิปราย แนวคิดที่ควรได้ 1. คณุ สมบตั ขิ องคคู่ รองในอนาคต (ใน - จะเหน็ ว่าชาย-หญงิ ใหค้ วามสาคญั กบั กระดาษฟลปิ ชารท์ ) ทล่ี กู เสอื ชายและหญงิ คณุ สมบตั ขิ องค่คู รองทต่ี ่างกนั เลอื กในครงั้ แรก ลกู เสอื เหน็ วา่ มคี วาม แตกต่างกนั หรอื ไม่ และแตกต่างกนั อยา่ งไร - หญงิ มกั ใหค้ วามสาคญั กบั คุณสมบตั ทิ ่ี เป็นคณุ ค่าภายในตนเป็นอนั ดบั แรกๆ 2. เมอ่ื จะตอ้ งเลอื กคณุ สมบตั เิ พยี ง 1 อยา่ ง - ชายมกั เลอื กคโู่ ดยมองทร่ี ปู ลกั ษณ์ ภายนอกเป็นอนั ดบั แรกๆ เมอ่ื ใหเ้ ลอื กคณุ สมบตั ปิ ระการเดยี ว ทงั้ ชาย ลกู เสอื คดิ วา่ คณุ สมบตั ทิ ล่ี กู เสอื ชายกบั ลกู เสอื และหญงิ มกั มคี วามเหน็ ทไี ม่ต่างกนั เน่อื งจาก หญงิ เลอื กในครงั้ ทส่ี องมคี วามแตกต่างกนั จรงิ ๆแลว้ การเลอื กค่คู รองเป็นเรอ่ื งคณุ ความดี หรอื ไม่ และแตกต่างกนั อยา่ งไร ของคนมากกวา่ รปู ลกั ษณ์ภายนอก 3. ถา้ จะตอ้ งเลอื กค่คู รองจรงิ ๆในอนาคต ทา การเลอื กคคู่ รองควรใชเ้ วลาศกึ ษากนั ใหถ้ ่อง อยา่ งไรจงึ จะแน่ใจว่า จะไดค้ ่คู รองทม่ี ี แทก้ ่อน และควรเตรยี มตวั ใหม้ คี วามพรอ้ มทุก คุณสมบตั ติ รงตามทเ่ี ราตอ้ งการ ไม่ อยา่ ง เพ่อื ป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ปัญหามาภายหลงั เปลย่ี นแปลงเมอ่ื มาอยเู่ ป็น ครอบครวั เดยี วกนั 258 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ค่แู ท้ ครงั้ หน่งึ นานมาแลว้ …มคี รกู บั ลกู ศษิ ยน์ งั่ อยใู่ ตต้ น้ ไมใ้ หญ่ ซ่งึ ใกลก้ บั สนามหญา้ อนั กวา้ งใหญ่ ทนั ใดนนั้ ลกู ศษิ ยค์ นหน่งึ กถ็ ามขน้ึ มาว่า ลกู ศษิ ย์ : อาจารยค์ รบั ผมสงสยั จงั เลยว่า เราจะหาค่แู ทเ้ ราเจอไดไ้ งครบั อาจารยบ์ อกผมหน่อยไดไ้ หม ครบั ? อาจารย์ : งนั้ เธอลองมองไปทางนนั้ นะ ตรงนนั้ น่ะ มหี ญา้ เยอะแยะ เธอลองเดนิ ไปหาหญา้ ต้นทส่ี วยทส่ี ุด แลว้ เดด็ มาใหค้ รสู ิ ตน้ เดยี วเท่านนั้ นะ แต่ว่า เวลาเธอเดนิ เน่ยี เธอตอ้ งเดนิ ไป ขา้ งหน้าอยา่ งเดยี วนะ หา้ ม เดนิ ถอยหลงั เขา้ ใจไหม ลกู ศษิ ย์ : ไดเ้ ลยครบั อาจารยร์ อสกั ครนู่ ะครบั (วา่ แลว้ กว็ ง่ิ ตรงไปยงั สนามหญา้ ) หลงั จากนนั้ ไมน่ าน… ลกู ศษิ ย์ :ผมกลบั มาแลว้ ครบั อาจารย์ อาจารย์ : ทาไมครไู มเ่ หน็ ตน้ หญา้ สวยๆ ในมอื เธอเลยหละ ลกู ศษิ ย์ : ตอนทผ่ี มเดนิ ไปแลว้ ผมเจอตน้ หญา้ สวย ๆ ผมกก็ ค็ ดิ วา่ เดยี๋ วกค็ งเจอตน้ ทส่ี วยกวา่ น้ี ดงั นนั้ ผมก็ เลยไมเ่ ดด็ มนั แลว้ ผมกเ็ ดนิ ไปเรอ่ื ย รตู้ วั อกี ที มนั กส็ ดุ สนามหญา้ แลว้ ครบั จะเดนิ กลบั กไ็ มไ่ ด้ เพราะ อาจารยส์ งั่ หา้ มไว้ อาจารย์ : นนั่ แหละ คอื สง่ิ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในชวี ติ จรงิ ตน้ หญ้า กค็ อื คนทอ่ี ยรู่ อบ ๆ ตวั เธอ ตน้ หญา้ ท่ี สวยงาม กค็ อื คนทเ่ี ธอชอบ สว่ นทงุ่ หญา้ กค็ อื เวลา เวลาทเ่ี ธอจะหาค่แู ท้ อยา่ มวั แต่เปรยี บเทยี บ แลว้ คดิ ว่า คงจะมที ด่ี กี ว่าน้ี เพราะถา้ มวั แต่ เปรยี บเทยี บ เธอจะเสยี เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อยา่ ลมื วา่ … \"เวลาไม่ เคยยอ้ นกลบั \" เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า ควรตดั สนิ ใจในสงิ่ ทต่ี อ้ งการก่อนทจ่ี ะสายเกนิ ไป ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 259
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6, ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช. 2-3) หน่วยท่ี 13 ประเมินผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 27 การประเมินผล 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 เพอ่ื ใหล้ กู เสอื เขา้ ใจการประเมนิ ผลเพอ่ื การตดั สนิ ผลการผา่ น ไมผ่ ่านกจิ กรรม 1.2 เพอ่ื ใหล้ กู เสอื สามารถรบั การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ ทล่ี กู เสอื ไดร้ บั การพฒั นา 1.3 เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มรบั การประเมนิ ตามวธิ กี ารของผกู้ ากบั กองลกู เสอื 2. เนื้อหา 2.1 เกณฑก์ ารตดั สนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นตามหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 Flow Chart การประเมนิ เพอ่ื ตดั สนิ ผลการเลอ่ื นชนั้ ของลกู เสอื และจบการศกึ ษา 3.2 การประเมนิ ทกั ษะชวี ติ ของลกู เสอื รายบุคคลหรอื รายหมลู่ กู เสอื 3.3 ใบความรู้ 4. กิจกรรม 4.1 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ ายหลกั เกณฑ์ วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามทห่ี ลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 กาหนดเพ่อื ตดั สนิ การจบการศกึ ษา 4.2 ผกู้ ากบั ลกู เสอื อธบิ ายถงึ พฤตกิ รรมของลกู เสอื ทไ่ี ดร้ บั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ผ่านกจิ กรรม ลกู เสอื 4.3 ลกู เสอื ประเมนิ ความพรอ้ มของตนเองเพ่อื รบั การประเมนิ และวางแผนพฒั นาตนเองในสว่ นทไ่ี ม่ มนั่ ใจ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื กาหนดขอ้ ตกลงรว่ มกนั ถงึ ช่วงเวลาการประเมนิ 4.5 ผกู้ ากบั ลกู เสอื นดั หมายและดาเนินการประเมนิ 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตจากผลการประเมนิ ตนเองของลกู เสอื 5.2 สงั เกตความมนั่ ใจและการยนื ยนั ความพรอ้ มของลกู เสอื 260 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 27 1. การประเมินผลตามเกณฑข์ องหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พ.ศ. 2551 Flow Char กระบวนการประเมินผลลกู เสือ ลกู เสอื เรยี นรจู้ ากกจิ กรรม เกณฑก์ ารประเมนิ ลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ 1. เวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ผกู้ ากบั ประเมนิ ผลเรยี นของ 3. ผลงาน / ชน้ิ งาน ลกู เสอื ทร่ี ว่ มกจิ กรรม 4. พฤตกิ รรม/คณุ ลกั ษณะของ ลกู เสอื ผลการประเมนิ ไมผ่ ่าน ผ่าน - ซอ่ มเสรมิ ตดั สนิ ผลการเรยี นรผู้ ่านเกณฑ์ - พฒั นาซ้า ผ่าน รบั เครอ่ื งหมายชนั้ ลกู เสอื ตามประเภทลกู เสอื ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 261
แบบประเมินตนเองของลกู เสือ ชอ่ื ..........................................................ประเภทลกู เสอื ...........................ชนั้ ................................ เกณฑท์ ่ี การประเมินตนเอง ข้อคิดเหน็ การพฒั นา ท่ี รายการท่ีรบั การประเมิน สถานศึกษา ครบ/ ไม่ครบ/ กาหนด ผา่ น ไม่ผา่ น 1 1. เขา้ รว่ มกจิ กรรมลกู เสอื ไมน่ ้อยกว่า 1.1 รว่ มกจิ กรรมการฝึกอบรม 24ชวั่ โมง/ ปี 1.2 รว่ มกจิ กรรมวนั สาคญั - วนั สถาปนาลกู เสอื 1 ครงั้ / ปี - วนั ถวายราชสดุดี 1 ครงั้ / ปี - วนั พ่อแห่งชาติ 1 ครงั้ / ปี - วนั แมแ่ ห่งชาติ 1 ครงั้ / ปี - วนั ตา้ นยาเสพตดิ 1 ครงั้ / ปี - กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์อ่นื ๆ 8ครงั้ / ปี - กจิ กรรมวฒั นธรรม/ ประเพณี 4ครงั้ / ปี 1.3 เดนิ ทางไกล/ อยคู่ า่ ยพกั แรม 1 ครงั้ / ปี 2 2. มผี ลงาน/ ชน้ิ งานจากการเรยี นรู้ กจิ กรรมลกู เสอื ไมน่ ้อยกวา่ 2.1 ผลงานการบรกิ าร 6รายการ/ ปี 2.2 ชน้ิ งาน/ งานทค่ี ดิ สรา้ งสรรค์ 2รายการ/ ปี 2.3 อ่นื ๆ เชน่ รายงานฯ 2รายการ/ ปี 3 3. มคี วามพรอ้ มเขา้ รบั การทดสอบเพอ่ื เลอ่ื นชนั้ และรบั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ ลกู เสอื วสิ ามญั 3.1............................................. 3.2............................................. 3.3............................................. 3.4............................................. 3.5............................................. ผา่ นและพร้อม สรปุ ฉนั มนั่ ใจว่าผา่ น ฉนั มคี วามพรอ้ มใหป้ ระเมนิ ฉนั ยงั ไมพ่ รอ้ ม 262 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
สรปุ ผลการประเมินตนเอง 1. ด้านทกั ษะลูกเสือ ☺ มนั่ ใจมากวา่ จะ พรอ้ มแลว้ ไมแ่ น่ใจ ตอ้ งขอความ งนุ งง ผ่านการประเมนิ ช่วยเหลอื จาก ไมเ่ ขา้ ใจ ผกู้ ากบั มนั่ ใจมาก พรอ้ มรบั การประเมนิ เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ พรอ้ มรบั การประเมนิ ไมแ่ น่ใจ ยงั ตอ้ งพฒั นา/ ซ่อมเสรมิ บางเรอ่ื ง ตอ้ งการความช่วยเหลอื จากผกู้ ากบั ลกู เสอื ลงช่อื .......................................................ผปู้ ระเมนิ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 263
แบบประเมินพฤติกรรมทกั ษะชีวิตของลกู เสือสาหรบั ผกู้ ากบั ลูกเสือ คาชี้แจง ใหผ้ ตู้ อบทาแบบประเมนิ ทุกขอ้ โดยแต่ละขอ้ ใหท้ าเครอ่ื งหมาย / ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ความ เป็นจรงิ 2.1 พฤติกรรมลกู เสือสารองท่ีคาดหวงั รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่ 1. ลกู เสอื มที กั ษะในการสงั เกตและจดจา 2. ลกู เสอื สามารถพง่ึ ตนเองและดแู ลตนเองได้ 3. ลกู เสอื สารองปฏบิ ตั กิ จิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม และอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ 4. ลกู เสอื ไมม่ ปี ัญหาทนั ตสุขภาพและไมเ่ จบ็ ป่วยดว้ ยโรคตดิ ต่อ ตามฤดกู าล 5. ลกู เสอื รจู้ กั รกั ษาสขุ ภาพและปฏเิ สธสงิ่ เสพตดิ 6. ลกู เสอื รจู้ กั แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าหรอื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื / แจง้ เหตุเมอ่ื ประสบเหตุ วกิ ฤต 7. ลกู เสอื มสี ว่ นสงู และน้าหนกั ตามเกณฑม์ าตรฐาน 8. ลกู เสอื มที กั ษะในการส่อื สารไดถ้ กู กาลเทศะและไมก่ ้าวรา้ วรนุ แรง สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ ฉนั มที กั ษะชวี ติ ฉนั ตอ้ งพฒั นาตนเองอกี มาก ฉนั จะมที กั ษะชวี ติ ถา้ แกไ้ ข ปรบั ปรงุ พฤตกิ รรม 264 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
2.2 พฤติกรรมลูกเสือสามญั ที่คาดหวงั ใช่ ไมใ่ ช่ รายการประเมิน 1. ลกู เสอื มที กั ษะในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลางแจง้ 2. ลกู เสอื รว่ มกจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ 3. ลกู เสอื ช่วยตนเองและครอบครวั ได้ 4. ลกู เสอื ไมม่ ปี ัญหาทนั ตสุขภาพ ไมด่ ่มื น้าอดั ลมขนมกรบุ กรอบ ไมร่ บั ประทานขนมหวานเป็นประจา 5. ลกู เสอื รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์และไมต่ ดิ เกม 6. ลกู เสอื ประพฤตติ นเหมาะสมกบั เพศและวยั มที กั ษะการสรา้ ง สมั พนั ธภาพและการสอ่ื สารไมก่ า้ วรา้ วรนุ แรง 7. ลกู เสอื แสดงออกถงึ ความซ่อื สตั ย์ รจู้ กั แกป้ ัญหา หรอื ใหค้ วาม ช่วยเหลอื ผอู้ ่นื 8. ลกู เสอื มนี ้าหนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ มที กั ษะชวี ติ จะมที กั ษะชวี ติ ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ น่ใจชวี ติ พรอ้ มเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี มาก (มปี ัญหาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเน่ยี ) เร่อื งที่ฉันจะต้องปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 265
2.3 พฤติกรรมลกู เสือสามญั ร่นุ ใหญ่ท่ีคาดหวงั 12 รายการประเมิน 1. ลกู เสอื พฒั นาตนเองใหม้ ที กั ษะในการทากจิ กรรมลกู เสอื ตามความสนใจและไดร้ บั เครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ 2. ลกู เสอื ทากจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ต่อครอบครวั สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม 3. ลกู เสอื ใชเ้ วลาวา่ งทเ่ี ป็นประโยชน์ทากจิ กรรม อนุรกั ษ์สง่ เสรมิ จารตี ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมไทย 4. ลกู เสอื รเู้ ทา่ ทนั ส่อื โฆษณาและรจู้ กั ใชป้ ระโยชน์จาก Internet 5. ลกู เสอื เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมหรอื ปรบั ปรงุ และพฒั นาตนเองได้ เหมาะสมกบั เพศวยั ไมก่ า้ วรา้ วรนุ แรง 6. ลกู เสอื ทากจิ กรรมหรอื โครงการประหยดั พลงั งาน/ทรพั ยากร 7. ลกู เสอื มกี ารออม หรอื ทาบญั ชรี ายรบั รายจา่ ยอยา่ งต่อเน่อื ง 8. ลกู เสอื ไมเ่ คยประสบอุบตั เิ หตุจากการใชย้ านพาหนะ สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ มที กั ษะชวี ติ จะมที กั ษะชวี ติ ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ น่ใจชวี ติ พรอ้ มเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี มาก (มปี ัญหาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเน่ยี ) เร่อื งที่ฉันจะต้องปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. 266 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
2.4 พฤติกรรมลกู เสือวิสามญั ท่ีคาดหวงั ใช่ ไม่ใช่ รายการประเมิน 1. ลกู เสอื ทากจิ กรรม/โครงการ ตามความถนดั และความสนใจ 2. ลกู เสอื บรกิ ารผอู้ ่นื ช่วยเหลอื ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ 3. ลกู เสอื รจู้ กั วธิ ปี ้องกนั ความเสย่ี งทางเพศ 4. ลกู เสอื ใชเ้ วลากบั สอ่ื ไอทไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม 5. ลกู เสอื ตระหนกั ถงึ พษิ ภยั และหลกี เลย่ี งจากสง่ิ ยาเสพตดิ 6. ลกู เสอื มคี ่านิยมสขุ ภาพ ดา้ นอาหาร และความงามทเ่ี หมาะสม 7. ลกู เสอื ทางานหารายไดร้ ะหวา่ งเรยี น 8. ลกู เสอื ไมม่ พี ฤตกิ รรมกา้ วรา้ วและไมก่ ่อเหตุรนุ แรง สรปุ แบบการประเมินตนเอง ☺ มที กั ษะชวี ติ จะมที กั ษะชวี ติ ตอ้ งพฒั นาตนเอง ไมแ่ น่ใจชวี ติ พรอ้ มเผชญิ แกไ้ ขปรบั ปรงุ อกี มาก (มปี ัญหาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (เสย่ี งนะเน่ยี ) เรือ่ งท่ีฉันจะต้องปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 267
ใบความรู้ การประเมินกิจกรรมลูกเสือ* 1. การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามแนวทางหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 2551 หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กาหนดใหก้ จิ กรรมลกู เสอื เป็นกจิ กรรมทม่ี งุ่ ปลูกฝังระเบยี บ วนิ ัยและกฎเกณฑ์เพ่อื การอยู่ร่วมกนั รจู้ กั การเสยี สละ บาเพญ็ ประโยชน์แก่สงั คมและดาเนินวถิ ชี วี ติ ใน ระบอบประชาธปิ ไตย ตลอดจนมที กั ษะชวี ติ เป็นภมู คิ ุม้ กนั ปัญหาสงั คมตามชว่ งวยั ของลกู เสอื การจดั กจิ กรรมลูกเสอื ยงั ต้องเป็นไปตามขอ้ บงั คบั ของสานักงานลูกเสอื แห่งชาตแิ ละสอดคล้องกบั หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานอกี ดว้ ย แนวทางการประเมินผลกิจกรรมลกู เสือ กิจกรรมลูกเสอื เป็นกจิ กรรมนักเรยี นท่ลี ูกเสือทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสอื 40 ชวั่ โมงต่อปี การศกึ ษาในระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษา การประเมนิ การจดั กจิ กรรมลูกเสอื ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานมปี ระเดน็ /สง่ิ ทต่ี อ้ ง ประเมนิ ดงั น้ี 1. เวลาในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผเู้ รยี นตอ้ งมเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมตามทส่ี ถานศึกษากาหนด 2. การเรยี นรผู้ ่านกจิ กรรมหรอื การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมอยา่ งต่อเน่ือง มงุ่ เน้นการพฒั นาศกั ยภาพของตน และการทางานกลุม่ 3. ผลงาน / ช้ินงาน / พฤติกรรม / คุณลักษณะของผู้เรยี น ท่ีปรากฏจากการเรียนรู้หรือการ เปลย่ี นแปลงตนเอง *การประเมนิ ผลอาจเขยี นแยกการประเมนิ ผลแต่ละกจิ กรรม หรอื เขยี นรวมในภาพรวมของกจิ กรรมลกู เสอื ก็ ได้ 268 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
แนวทางการประเมินผลการเรียนร้กู ิจกรรมลูกเสือ แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื เกณฑก์ ารประเมนิ 1. เวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรม จดั กจิ กรรมลกู เสอื 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตามค่มู อื การจดั กจิ การลกู เสอื ท่ี 3. ผลงาน / ชน้ิ งาน 4. พฤตกิ รรม/คุณลกั ษณะของ เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ลกู เสอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ผลการประเมนิ ไมผ่ า่ น ผ่าน ซอ่ มเสรมิ ผา่ น สรปุ ผลการประเมนิ / ตดั สนิ ผลการเรยี นรู้ รายงาน / สารสนเทศ จดั พธิ ปี ระดบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ตามประเภทลกู เสอื ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 269
การประเมินกิจกรรมลกู เสือ มี 2 แนวทาง คือ 1. การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื รายกจิ กรรมมแี นวปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1.1 ตรวจสอบเวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมของลกู เสอื ใหเ้ ป็นไปตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด 1.2 ประเมนิ กจิ กรรมการเรยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและผลงาน / ชน้ิ งาน / คุณลกั ษณะ ของผู้เรยี นตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนดด้วยวธิ ีการท่ีหลากหลาย เน้นการมสี ่วนร่วมในการปฏิบัติ กจิ กรรม 1.3 ลูกเสือท่ีมีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม มีการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน / คุณลกั ษณะตามเกณฑท์ ่สี ถานศกึ ษากาหนดเป็นผู้ผ่านการประเมนิ รายกจิ กรรมและนาผลการประเมนิ ไป บนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรยี น 1.4 ลกู เสอื ทม่ี ผี ลการประเมนิ ไมผ่ ่านในเกณฑเ์ วลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรม การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม และผลงาน / ชน้ิ งาน / คุณลกั ษณะตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด ผู้กากบั ลูกเสอื ตอ้ งดาเนินการซ่อมเสรมิ และ ประเมนิ จนผ่าน ทงั้ น้คี วรดาเนินการใหเ้ สรจ็ สน้ิ ในปีการศกึ ษานนั้ ๆ ยกเวน้ มเี หตุสุดวสิ ยั ใหอ้ ยใู่ นดุลพนิ จิ ของ สถานศกึ ษา 2. การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื เพ่อื การตดั สนิ ใจ การประเมนิ กจิ กรรมลูกเสอื เพ่อื ตดั สนิ ควรได้รบั เครอ่ื งหมายและเล่อื นระดบั ทางลกู เสอื และ จบการศกึ ษาเป็นการประเมนิ การผ่านกจิ กรรมลูกเสอื เป็นรายปี / รายภาค / เพ่อื สรุปผลการผ่านในแต่ละ กิจกรรม สรุปผลรวมเพ่ือสรุปผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรุปผลรวมเพ่ือเล่ือนชนั้ ระดบั ลูกเสอื และ ประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพ่อื การจบแต่ละระดบั การศกึ ษา โดยการดาเนินการดงั กล่าวมแี นวทางปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 2.1 กาหนดให้มผี ูร้ บั ผดิ ชอบในการรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั การเขา้ ร่วมกจิ กรรมลูกเสอื ของ ลกู เสอื ทกุ คนตลอดระดบั การศกึ ษา 2.2 ผรู้ บั ผดิ ชอบสรุปและตดั สนิ ใจผลการร่วมกจิ กรรมลกู เสอื ของลกู เสอื เป็นรายบุคคล ราย หมู่ ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด เกณฑก์ ารตดั สิน 1. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานกาหนดไว้ 2 ระดบั คอื ผา่ น และ ไมผ่ ่าน 2. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมนิ รายกจิ กรรม ผ่าน หมายถึง ลูกเสอื มเี วลาเข้าร่วมกิจกรรมครบตามเกณฑ์ ปฏิบตั ิกจิ กรรมและมผี ลงาน / ชน้ิ งาน / คณุ ลกั ษณะตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ลูกเสอื มเี วลาเข้าร่วมกจิ กรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่านการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม หรอื มผี ลงาน / ชน้ิ งาน / คณุ ลกั ษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด 3. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมลกู เสอื รายปี / รายภาค 270 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ผา่ น หมายถงึ ลกู เสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ผ่าน” ในกจิ กรรมสาคญั ตามหลกั สตู รลกู เสอื แต่ละ ประเภทกาหนด รวมถงึ หลกั สตู รลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ไม่ผ่าน หมายถงึ ลูกเสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ไมผ่ ่าน” ในกจิ กรรมสาคญั ทห่ี ลกั สูตรลูกเสอื แต่ละประเภทกาหนดและลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ 4. เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินกิจกรรมลูกเสือเพ่ือจบหลักสูตรลูกเสือแต่ละประเภทเป็น รายชนั้ ปี ผ่าน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ทุกชัน้ ปี ในระดับการศึกษานั้น ไมผ่ า่ น หมายถงึ ลกู เสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ไมผ่ า่ น” บางชนั้ ปีในระดบั การศกึ ษานนั้ (หมายเหตุ การประเมนิ ผลอาจเขยี นแยกการประเมนิ ผลแต่ละกิจกรรม หรอื เขยี นรวมในภาพรวมของ กจิ กรรมลกู เสอื กไ็ ด)้ เอกสารอ้างอิง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551.กรงุ เทพมหานคร : โรง พมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั . 2551 2. การประเมนิ พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ และคุณลกั ษณะทางลกู เสอื 271 2.1 ความสามารถทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ลกู เสอื โดยรวม คอื 1) ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 2) ความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์ 3) ความสามารถในการเหน็ ใจผอู้ ่นื 4) เหน็ คุณค่าตนเอง 5) รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 6) ความสามารถในการส่อื สารเพอ่ื สรา้ งสมั พนั ธภาพ 7) ความสามารถในการตดั สนิ ใจ 8) ความสามารถในการจดั การแกไ้ ขปัญหา 9) ความสามารถในการจดั การกบั อารมณ์ 10) ความสามารถในการจดั การกบั ความเครยี ด 2.2 พฤตกิ รรมทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ลกู เสอื โดยรวม คอื 1) ลกู เสอื สารอง (1) มที กั ษะในการสงั เกตและจดจา (2) พง่ึ ตนเอง ดแู ลตนเองได้ (3) รจู้ กั รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม (4) ไมเ่ จบ็ ป่วยดว้ ยโรคตดิ ต่อตามฤดกู าล (5) ปฏเิ สธสงิ่ เสพตดิ ทุกชนิด คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
(6) พดู จาสอ่ื สารเชงิ บวก ไมก่ า้ วรา้ วรุนแรง (7) แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าได้ (8) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื เพ่อื นในภาวะวกิ ฤติ 2) ลกู เสอื สามญั (1) มที กั ษะในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกลางแจง้ (2) รว่ มกจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ดว้ ยจติ อาสา (3) พง่ึ ตนเองและช่วยเหลอื ครอบครวั (4) ไมด่ ม่ื น้าอดั ลม (5) ไมร่ บั ประทานขนมหวานและขนมกรบุ กรอบ (6) ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ (7) รจู้ กั พดู เชงิ บวก ไมพ่ ดู กา้ วรา้ วรุนแรง (8) มคี วามซอ่ื สตั ย์ ไมโ่ กหก (9) รจู้ กั แกป้ ัญหาดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี (10) มนี ้าหนกั ส่วนสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน 3) ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ (1) มที กั ษะในการทากจิ กรรมตามความสนใจ (2) มจี ติ อาสาทาประโยชน์/ ไมก่ ่อความเดอื ดรอ้ น ใหก้ บั ครอบครวั สถานศกึ ษา ชุมชน สงั คม (3) ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ (4) รว่ มกจิ กรรมส่งเสรมิ อนุรกั ษ์ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมไทย (5) มที กั ษะการคดิ วเิ คราะห์ การยบั ยงั้ ไมเ่ ป็นทาสของส่อื โฆษณา (6) มที กั ษะการใชป้ ระโยชน์จาก Internet (7) มผี ลงาน/ โครงการการประหยดั พลงั งาน/ ทรพั ยากร (8) มกี ารออมหรอื ทาบญั ชรี ายรบั รายจ่ายของตนเองอยา่ งต่อเน่อื ง (9) มที กั ษะการหลกี เลย่ี ง รอดพน้ และไมเ่ กดิ อุบตั เิ หตุจากการใชย้ านพาหนะ (10) ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั สง่ิ เสพตดิ ทุกประเภท 4) ลกู เสอื วสิ ามญั (1) มผี ลงาน/ โครงการเฉพาะทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อตวั เอง/ สงั คม (2) มจี ติ อาสาและบรกิ าร (3) รวู้ ธิ ปี ้องกนั / และหลกี เลย่ี งความเสย่ี งทางเพศ (4) ใชเ้ วลากบั สอ่ื IT อยา่ งเหมาะสม ไมเ่ กดิ ความเสยี หายต่อวถิ ชี วี ติ ปกตขิ อง ตนเอง (5) ไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั สงิ่ เสพตดิ (6) มคี า่ นิยมดา้ นสุขภาพอยา่ งเหมาะสม ไมเ่ กดิ ผลเสยี ตามมา 272 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
(7) มคี า่ นยิ มดา้ นการรบั ประทานอาหารทเ่ี หมาะสม ไมเ่ กดิ ผลเสยี หายตามมา (8) มคี า่ นยิ มดา้ นความงามทเ่ี หมาะสมไมเ่ กดิ ผลเสยี หายตามมา (9) ไมม่ พี ฤตกิ รรมกา้ วรา้ วและก่อเหตุรนุ แรง อ้างอิงจาก ผลลพั ธก์ ารจดั กจิ กรรมลกู เสอื ค่มู อื Bench Marking คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 273
ภาคผนวก 274 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ภาคผนวก ก แนวคิดเรือ่ งทกั ษะชีวิต ความหมายและองคป์ ระกอบทกั ษะชีวิต ทกั ษะชีวิต เป็นความสามารถของบุคคล ทจ่ี าเป็นต่อการปรบั ตวั ในการเผชญิ ปัญหาต่าง ๆ และ สามารถดาเนินชวี ติ ทา่ มกลางสภาพสงั คมทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงทงั้ ในปัจจุบนั และเตรยี มพรอ้ มสาหรบั การ เผชญิ ปัญหาในอนาคต องค์ประกอบทักษะชีวิต มี 12 องค์ประกอบ จดั เป็ น 6 คู่ โดยแบ่งตามพฤติกรรมการเรียนรู้ 3 ดา้ น ดงั น้ี hอghงjhคgfป์ gjรjhะgกffอjhบhgทffักdsษdsะdsชีว◆ิต6 คู่ 3 ดา้ น ความตระหนัก การสรา้ ง สมั พนั ธภาพและ รูใ้ นตน การสือ่ สาร ความเห็นใจ ความคิด การ ผ้อู น่ื สร้างสรรค์ ตดั สินใจ พทุ ธิพิสัย และแกไ้ ข ติ พิสัย ปญหา ทักษะพิสัย ความ ความคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ภาคภมู ิใจ ในตัวเอง ความ การจดั การกบั อารมณ์และ รบั ผดิ ชอบ ความเครยี ด ตอ่ สงั คม แผนภาพที่ 1 องคป์ ระกอบของทกั ษะชวี ติ 1. ด้านพทุ ธิพิสยั จดั ไวต้ รงกลางของแผนภาพ เพราะเป็นองคป์ ระกอบรว่ มและเป็นพน้ื ฐานของทกุ องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ - ความคิดวิเคราะหว์ ิจารณ์ เป็นความสามารถทจ่ี ะวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ปัญหา และสถานการณ์ต่าง ๆ รอบตวั - ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการคดิ ออกไปอยา่ งกวา้ งขวางโดยไมย่ ดึ ตดิ อยู่ ในกรอบ และการสรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหม่ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 275
2. ด้านจิตพิสยั หรือ เจตคติ มี 2 คู่ คอื คทู่ ่ี 1 ความตระหนกั รใู้ นตนเอง และ ความเขา้ ใจ/เหน็ ใจผู้อ่นื ค่ทู ่ี 2 เหน็ คุณคา่ /ภมู ใิ จตนเอง และ ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม - ความตระหนักร้ใู นตนเอง เป็นความสามารถในการคน้ หาและเขา้ ใจในจุดดจี ุดดอ้ ยของ ตนเอง ยอมรบั ความแตกต่างของตนเองกบั บุคคลอ่นื ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วยั อาชพี ระดบั การศกึ ษา ฐานะทางเศรษฐกจิ ฐานะทางสงั คม ศาสนา สผี วิ ทอ้ งถน่ิ สขุ ภาพ ฯลฯ - ความเข้าใจ/เหน็ ใจผ้อู ่ืน เป็นความสามารถในการเขา้ ใจความรสู้ กึ ของผูอ้ ่นื เหน็ อกเหน็ ใจและยอมรบั ตัวตนของบุคคลอ่ืนท่ีแตกต่างกับเรา ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วยั อาชพี ระดบั การศกึ ษา ฐานะทางเศรษฐกจิ ฐานะทางสงั คม ศาสนา สผี วิ ทอ้ งถน่ิ สขุ ภาพ ฯลฯ - เหน็ คณุ ค่า/ภมู ิใจตนเอง เป็นการคน้ พบ คุณสมบตั เิ ฉพาะตวั ของตนเอง รสู้ กึ ว่าตนเองมี คุณค่า เช่น เป็นคนมนี ้าใจ ซ่อื สตั ย์ ยุตธิ รรม และภูมใิ จในความสามารถด้านต่าง ๆ ของตนเอง เช่น ด้าน สงั คม ดนตรี กฬี า ศลิ ปะ การเรยี น ฯลฯ - ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม เป็นความรสู้ กึ ว่าตนเองเป็นส่วนหน่ึงของสงั คมและมสี ่วน รบั ผดิ ชอบในความเจรญิ หรอื เส่อื มของสงั คมนัน้ คนท่เี ห็นคุณค่าตนเองจะมแี รงจูงใจท่จี ะทาดกี บั ผู้อ่นื และ สงั คมส่วนรวมมากขน้ึ จงึ จดั เขา้ คกู่ บั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 3. ด้านทกั ษะพิสยั หรือทกั ษะ ประกอบดว้ ย 3 คู่ คอื คทู่ ่ี 1 การสอ่ื สารและการสรา้ งสมั พนั ธภาพ ค่ทู ่ี 2 การตดั สนิ ใจและการแกไ้ ขปัญหา คทู่ ่ี 3 การจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด - ทกั ษะการการส่ือสารและการสรา้ งสมั พนั ธภาพ เป็นความสามารถในการใชค้ าพดู และ ภาษาทา่ ทาง เพ่อื สอ่ื สารความรสู้ กึ นึกคดิ ของตนเอง และสามารถรบั รคู้ วามรสู้ กึ นึกคดิ ความตอ้ งการ ของ อกี ฝ่ายหน่งึ มกี ารตอบสนองอยา่ งเหมาะสมและเกดิ สมั พนั ธภาพทด่ี ตี ่อกนั - ทกั ษะการตดั สินใจและการแก้ไขปัญหา การตดั สนิ ใจใชใ้ นกรณที ม่ี ที างเลอื กอยแู่ ลว้ จงึ เรม่ิ ตน้ ดว้ ยการวเิ คราะหข์ อ้ ดขี อ้ เสยี ของแต่ละทางเลอื กเพ่อื หาทางเลอื กทด่ี ที ส่ี ุดและนาไปปฏบิ ตั ิ ส่วนการ แกไ้ ขปัญหาเป็นความสามารถในการรบั รปู้ ัญหาและสาเหตุของปัญหา หาทางเลอื ก ไดห้ ลากหลาย วเิ คราะหข์ อ้ ดขี อ้ เสยี ของแต่ละทางเลอื ก ตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กในการแกป้ ัญหาทเ่ี หมาะสม ทส่ี ุดและนาไปปฏบิ ตั ิ - ทกั ษะการจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด เป็นความสามารถในการรบั รอู้ ารมณ์ ตนเอง ประเมนิ และรเู้ ทา่ ทนั วา่ อารมณ์จะมอี ทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมของตนอยา่ งไร และเลอื กใชว้ ธิ จี ดั การกบั อารมณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ส่วนการจดั การความเครยี ดเป็นความสามารถในการรบั รรู้ ะดบั ความเครยี ดของตนเอง รสู้ าเหตุ หาทางแกไ้ ข และมวี ธิ ผี ่อนคลายความเครยี ดของตนเองอยา่ งเหมาะสม 276 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ความแตกต่างระหว่างทกั ษะชีวิตทวั ่ ไปและทกั ษะชีวิตเฉพาะ ทักษะชี วิ ตทัว่ ไป เป็ นการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม สาหรับปั ญ หาทัว่ ๆ ไปใน ชวี ติ ประจาวนั ดว้ ยทกั ษะชวี ติ 12 องคป์ ระกอบ ใหก้ บั เดก็ ทุกคน ทกั ษะชีวิตเฉพาะ เป็นการประยุกตใ์ ชท้ กั ษะชวี ติ 12 องคป์ ระกอบ ทม่ี เี น้อื หาเกย่ี วกบั การ ป้องกนั ปัญหาเฉพาะเรอ่ื งสาหรบั เดก็ กลมุ่ เสย่ี ง โดยมคี รทู ป่ี รกึ ษาและระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นรองรบั ทกั ษะชีวิตกบั การพฒั นาเยาวชน เมอ่ื แบ่งเยาวชนออกเป็น 3 กลุ่ม คอื เดก็ ปกติ เดก็ กลุ่มเส่ียง และเดก็ ทม่ี ปี ัญหา ทกั ษะชวี ติ จะเป็นกลยทุ ธส์ าคญั ในการส่งเสรมิ ภมู คิ ุม้ กนั ทางสงั คม ใหก้ บั เดก็ ปกติ และเดก็ ทุกคน สาหรบั เดก็ กลุ่มเสย่ี ง ต้องมกี ารสอนทกั ษะชวี ติ เฉพาะในแต่ละปัญหา มคี รทู ป่ี รกึ ษาและระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี นรองรบั ส่วน เด็กท่มี ปี ัญหาแล้วใช้การดูแลใกล้ชดิ เพ่อื หาทางแก้ปัญหาท่เี หมาะสมเป็นรายบุคคล และมรี ะบบส่งต่อยงั วชิ าชพี เฉพาะทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 277
ตวั อย่างทกั ษะชีวิตเฉพาะ 278 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
ความแตกต่างระหว่างทกั ษะชีวิต และทกั ษะการดารงชีวิต ทกั ษะชีวิต (Life Skills) เป็นความสามารถทางจติ สงั คม อนั ประกอบ ดว้ ย ความรู้ เจตคติ และ ทกั ษะ ทจ่ี าเป็นในการดาเนินชวี ติ ท่ามกลางสภาพสงั คมทเ่ี ปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ ในปัจจบุ นั และ เตรยี มพรอ้ มสาหรบั การเผชญิ ปัญหาในอนาคต มี 6 คู่ 12 องคป์ ระกอบ ทกั ษะการดารงชีวิต (Living Skills) เป็นทกั ษะทใ่ี ชใ้ นกจิ วตั รประจาวนั ในเรอ่ื งพน้ื ฐานของชวี ติ มกั เป็นทกั ษะทางกายภาพ เชน่ อาบน้า แต่งตวั ซกั เสอ้ื ผา้ ปรงุ อาหาร ขจ่ี กั รยาน วา่ ยน้า ผกู เงอ่ื นเชอื ก การ จดั กระเป๋ าเดนิ ทาง การใชแ้ ผนทเ่ี ขม็ ทศิ ฯลฯ ความเชื่อมโยงระหว่างทกั ษะชีวิต และทกั ษะการดารงชีวิต ทกั ษะชวี ติ และทกั ษะการดารงชวี ติ มกั ถกู ใชผ้ สมผสาน เช่อื มโยงกนั ทงั้ ในกจิ วตั รประจาวนั ปกติ และในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไมแ่ ยกส่วน โดยทกั ษะชวี ติ จะเป็นตวั ชว่ ยในการเลอื กและใชท้ กั ษะการ ดารงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถกู ท่ี ถกู เวลา และเกดิ ผลลพั ธท์ ด่ี ี สถานการณ์ทางจติ สงั คม มกั ใชท้ กั ษะชวี ติ เป็นหลกั ตวั อยา่ ง เชน่ การจดั การกบั อารมณ์โกรธ ความขดั แยง้ และ ความรนุ แรง ตระหนกั รแู้ ละหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเสย่ี งต่าง ๆ รวมถงึ การป้องกนั อุบตั เิ หตุ การชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื และรบั ผดิ ชอบต่อสว่ นรวม การส่อื สารเชงิ บวกและสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ี ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 279
กจิ วตั รทท่ี าเป็นประจา ใชท้ กั ษะการดารงชวี ติ เป็นหลกั เช่น อาบน้า แต่งตวั แปรงฟัน ซกั เสอ้ื ผา้ ปรงุ อาหาร ขจ่ี กั รยาน ว่ายน้า ผกู เงอ่ื นเชอื ก ใชแ้ ผนทเ่ี ขม็ ทศิ ฯลฯ ทกั ษะชีวิตสร้างได้อย่างไร สรา้ งดว้ ย 2 วธิ กี ารใหญ่ ๆ คอื 1. เรยี นรเู้ องตามธรรมชาติ ซง่ึ ขน้ึ กบั ประสบการณ์และการมแี บบอย่างทด่ี ี จงึ ไมม่ ที ศิ ทางทแ่ี น่นอน และกว่าจะเรยี นรกู้ อ็ าจชา้ เกนิ ไป 2. สรา้ งโดยกระบวนการเรยี นการสอนทย่ี ดึ ผเู้ รยี นเป็นศูนยก์ ลาง ใหเ้ ดก็ เรยี นรรู้ ว่ มกนั ในกลมุ่ ผา่ น กจิ กรรมรปู แบบต่าง ๆ ทเ่ี ดก็ ตอ้ งมสี ว่ นรว่ มทงั้ ทางรา่ งกายคอื ลงมอื ปฏบิ ตั ิ และทางความคดิ คอื การอภปิ ราย แลกเปลย่ี นความคดิ และประสบการณ์ เพอ่ื สรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่รว่ มกนั การสอนทย่ี ดึ ผเู้ รยี นเป็ นศนู ยก์ ลาง • สรา้ งความรู้ (Construction) กจิ กรรมทใ่ี หผ้ เู ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มทาง สตปิ ัญญา คน้ พบความรดู ้ ว้ ยตนเอง • ปฏสิ มั พนั ธ์ (Interaction) กจิ กรรมตอ้ งสง่ เสรมิ ปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผอู ้ น่ื และแหลง่ ความรทู ้ หี่ ลากหลาย • เป็ นกระบวนการ (Process Learning) • มสี ว่ นรว่ ม (Physical Participation) มสี ว่ นรว่ มดา้ นรา่ งกาย ลง มอื กระทากจิ กรรมในลกั ษณะตา่ ง ๆ • มกี ารประยกุ ตใ์ ช้ (Application) การมสี ่วนรว่ มทางสตปิ ัญญาทาใหเ้ กดิ ทกั ษะชวี ติ 2 องคป์ ระกอบแกนหลกั คอื ความคดิ วเิ คราะหแ์ ละ ความคดิ วจิ ารณ์ ปฏสิ มั พนั ธใ์ นกลุ่มเพ่อื ทากจิ กรรมรว่ มกนั ทาใหเ้ ดก็ ไดฝ้ ึกองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ ดา้ นทกั ษะทงั้ 3 คู่ คอื การสรา้ งสมั พนั ธภาพและการส่อื สาร การตดั สนิ ใจและการแกไ้ ขปัญหา การจดั การอารมณ์และความเครยี ด การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของคนอ่นื ทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจคนอ่นื มากขน้ึ ขณะเดยี วกนั กเ็ กดิ การไตร่ตรอง ทาความเขา้ ใจและตรวจสอบตนเอง จดั เป็นองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ ดา้ นเจตคตคิ อื การเขา้ ใจตนเอง และเขา้ ใจ/ เหน็ ใจผอู้ ่นื การได้รบั การยอมรบั จากกลุ่ม การทางานสาเรจ็ ได้รบั คาชม ทาให้เกิดความภูมใิ จและเห็นคุณค่า ตนเอง นาไปส่คู วามรบั ผดิ ชอบมากขน้ึ ทงั้ ต่อตนเองและสงั คม กระบวนการและการมสี ่วนร่วม ช่วยให้กจิ กรรมสนุกสนานน่าสนใจ และนาไปส่จู ุดประสงค์ ทต่ี งั้ ไว้ รวมทงั้ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นการเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ ช่อื มองคค์ วามรใู้ หม่ทเ่ี กดิ ขน้ึ เขา้ ส่ชู วี ติ จรงิ ว่าไดเ้ กดิ การเรยี นรอู้ ะไรและนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั อยา่ งไร 280 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
8 ความหมายของกระบวนการลกู เสือ (Scout movement) ตามคานิยามของลกู เสอื โลก หมายถงึ กระบวนการเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่ืองสาหรบั เยาวชน เพ่อื สรา้ งเยาวชนทม่ี จี ติ ใจเสยี สละ รบั ผดิ ชอบ และอุทศิ ตนแก่สงั คม ดว้ ยวธิ กี ารลกู เสอื ตามแนวทางการจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น 2522 (สพฐ.) หมายถงึ กระบวนการทางการศกึ ษาส่วน หน่ึง ซ่งึ มุ่งพฒั นาสมรรถภาพของบุคคล ทงั้ ทางสมอง ร่างกาย จติ ใจ และศลี ธรรม เพ่อื ให้เป็นบุคคลท่มี ี ความประพฤตดิ งี าม ไมก่ ระทาตนเป็นปัญหาสงั คม และดารงชวี ติ อยา่ งมคี วามหมาย และสขุ สบาย หลกั การลกู เสือ (Scout principle) หลกั การลกู เสอื โลกเน้นทห่ี น้าทห่ี ลกั 3 ประการ คอื 1.หน้าทต่ี ่อพระเจา้ /ศาสนา ไดแ้ ก่ การแสวงหาและดาเนินชวี ติ อยา่ งมคี ุณคา่ และความหมาย 2.หน้าทต่ี ่อผอู้ ่นื ไดแ้ ก่ การเคารพ ใหเ้ กยี รติ ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื รวมถงึ การดแู ลสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม 3.ห น้ าท่ีต่ อ ต น เอ ง ได้แก่ พัฒ น าต น เอ งทั้งด้าน ร่างกาย จิต ใจ อารมณ์ สังค ม แล ะ จติ วญิ ญาณ หลกั การลกู เสือไทย มี 5 ข้อ คือ 1. มศี าสนาเป็นหลกั ยดึ ทางใจ 2. จงรกั ภกั ดตี ่อพระมหากษตั รยิ แ์ ละประเทศชาติ 3. เขา้ ร่วมพฒั นาสงั คม ยอมรบั เคารพในเกยี รตแิ ละศกั ดศิ ์ รผี ู้อ่นื และเพ่อื นมนุษยท์ ุกคน รวมทงั้ ธรรมชาติ และสรรพสง่ิ ทงั้ หลายในโลก 4. รบั ผดิ ชอบต่อการพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่อื ง คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 281
5. ยดึ มนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื วิธีการลกู เสือ (Scout method) วธิ กี ารลกู เสอื โลก มี 8 องคป์ ระกอบ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คอื กลุ่มท่ี 1 ผใู้ หญ่มหี น้าทช่ี ่วยเหลอื และส่งเสรมิ เยาวชนใหเ้ กดิ การเรยี นรใู้ นกลุ่ม กลมุ่ ท่ี 2 มกี จิ กรรมทบ่ี รรลวุ ตั ถุประสงคใ์ นการพฒั นาเยาวชนอยา่ งต่อเน่อื งและเป็นระบบ กลุ่มท่ี 3 เป็นลกั ษณะกจิ กรรมทใ่ี ช้ มี 6 องคป์ ระกอบ 1. ยดึ มนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 2. ใชร้ ะบบสญั ลกั ษณ์เป็นแรงกระตุน้ ไปส่เู ป้าหมายในการพฒั นาตนเอง 3. ระบบหมู่ (กลุ่มเรยี นรรู้ ว่ มกนั ) 4. เรยี นรใู้ กลช้ ดิ ธรรมชาติ 5. เรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั ิ / เกม 6. เรยี นรจู้ ากการบรกิ ารผอู้ ่นื วธิ กี ารลกู เสอื ไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 2551 มี 7 องคป์ ระกอบ คอื 1. ความกา้ วหน้าในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. การสนบั สนุนโดยผใู้ หญ่ 3. ยดึ มนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎ 4. การใชส้ ญั ลกั ษณ์รว่ มกนั 5. ระบบหมู่ 6. การศกึ ษาธรรมชาติ 7. เรยี นรจู้ ากการกระทา วิธีการลกู เสือสร้างทกั ษะชีวิตได้อย่างไร วธิ กี ารลูกเสอื มอี งค์ประกอบครบทงั้ 5 ประการ ของกระบวนการเรยี นการสอนท่ยี ดึ ผู้เรยี นเป็น ศูนยก์ ลาง การสรา้ งทกั ษะชวี ติ ทงั้ 12 องคป์ ระกอบ เกดิ ขน้ึ ดว้ ยกจิ กรรมดงั ตารางต่อไปน้ี 282 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
วตั ถปุ ระสงคค์ ณะลกู เสือแห่งชาติ (พระราชบญั ญตั ลิ กู เสอื พ.ศ. 2551 มาตรา 8) เพ่อื พฒั นาลูกเสอื ทงั้ ทางกาย สติปัญญา จติ ใจ และศีลธรรม ให้เป็นพลเมอื งดี มคี วามรบั ผดิ ชอบ และช่วยสรา้ งสรรค์สงั คมให้เกิดความสามคั คี และมคี วามเจรญิ ก้าวหน้า ทงั้ น้ีเพ่อื ความสงบสุข และความ มนั่ คงของประเทศชาติ ตามแนวทางดงั ต่อไปน้ี 1. ใหม้ นี สิ ยั ช่างสงั เกต จดจา เชอ่ื ฟัง และพง่ึ ตนเอง 2. ใหซ้ ่อื สตั ยส์ จุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ่นื 3. ใหร้ จู้ กั บาเพญ็ ตนเพอ่ื สาธารณประโยชน์ 4. ใหร้ จู้ กั ทาการฝีมอื และฝึกฝนใหท้ ากจิ การต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. ใหร้ จู้ กั รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม และความมนั่ คงของประเทศชาติ หลกั สตู รลกู เสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต หลกั สูตรลูกเสือเสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ได้ใช้ข้อบังคบั คณะลูกเสือแห่งชาติว่าด้วยการปกครอง หลกั สูตรและวชิ าชีพพิเศษลูกเสอื สารอง สามญั สามญั รุ่นใหญ่ และวิสามญั เป็นหลกั และเพมิ่ เน้ือหาท่ี สอดคล้องกับปัญหาตามวยั และพฒั นาการด้านต่าง ๆ ของลูกเสือ โดยจดั หน่วยกิจกรรมตามท่ีระบุใน หลกั สูตรของลูกเสอื แต่ละประเภท ดงั นัน้ ช่อื หน่วยกิจกรรม และจานวนหน่วยกจิ กรรมของลูกเสอื แต่ละ ประเภทจงึ แตกต่างกนั แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ในค่มู อื ชุดน้ี ไดอ้ อกแบบโดยบรู ณาการกจิ กรรมท่ี เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เขา้ กบั วธิ กี ารลูกเสอื คอื การใชร้ ะบบหมหู่ รอื กลุ่มย่อย โดยใหเ้ ดก็ เป็นศูนยก์ ลาง และมี ผู้ใหญ่ทาหน้าท่ชี ่วยเหลอื และส่งเสรมิ ให้เกิดกระบวนการเรยี นรใู้ นกลุ่ม แนะนา สงั่ สอน และฝึกอบรมให้ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 283
สามารถพ่งึ ตนเองได้ มจี ติ อาสา รบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม ยดึ มนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื เสรมิ สรา้ ง คุณค่าในตนเอง รวมทงั้ ใช้ระบบเคร่อื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทางลูกเสอื และเคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษ เป็นแรง กระตุน้ ไปสเู่ ป้าหมายในการพฒั นาตนเอง องคป์ ระกอบในการประชุมกอง เน้นการใชช้ วี ติ กลางแจง้ นอกหอ้ งเรยี น ใกลช้ ดิ ธรรมชาติ เรยี นรู้ จากการลงมอื ปฏบิ ตั ิดว้ ยตนเอง เกม และการบรกิ ารผูอ้ ่นื ซ่งึ ถอื เป็นหวั ใจของกจิ กรรมลูกเสอื ทุกประเภท โดยกจิ กรรมทใ่ี ช้ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คอื การแสดงออก การรายงานและการสารวจ การวเิ คราะหแ์ ละ การประเมนิ เกมและการแข่งขนั การบาเพญ็ ประโยชน์ การออกแบบกจิ กรรมเพ่อื ใหล้ กู เสอื ใชก้ ระบวนการ กลุ่มในการแลกเปลย่ี นประสบการณ์ แลกเปลย่ี นความคดิ ความเช่อื สรา้ งองคค์ วามรแู้ ละสรปุ ความคดิ รวบ ยอด รวมทงั้ เปิดโอกาสใหล้ กู เสอื ไดป้ ระยกุ ตใ์ ชส้ ง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรอู้ กี ดว้ ย เน้อื หาสาระในแผนการจดั กจิ กรรมแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 กลุม่ ประกอบดว้ ย 1.กจิ กรรมตามขอ้ บงั คบั ของคณะลูกเสอื แห่งชาติ (ไมร่ วมกจิ กรรมทดสอบเพ่อื รบั เคร่อื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทางลกู เสอื และเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ) 2. กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติท่ีช่วยเสรมิ สร้างทักษะชีวิตด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม 3.กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เพ่อื สรา้ งภูมคิ ุม้ กนั ทางสงั คมต่อเหตุการณ์และสภาพปัญหาของ เดก็ แต่ละวยั สาหรบั กจิ กรรมลกู เสอื ตามขอ้ บงั คบั เพ่ือการขอรบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ชนั้ พเิ ศษ และเครอ่ื งหมาย ลกู เสอื หลวง ไมไ่ ดน้ ามารวบรวมไวใ้ นคมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื ชดุ น้ี คู่มอื มจี านวน 11 เล่ม ตามชนั้ ปีของลูกเสอื 4 ประเภท แต่ละเล่ม ไดจ้ ดั ทาตารางหน่วยกจิ กรรม และแผนการจดั กจิ กรรมครบ 40 ชวั่ โมง เพ่อื ใหเ้ หน็ ภาพรวมของการจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ของลูกเสือในแต่ละระดบั ชนั้ และมีหมายเหตุบอกไว้ในตารางช่องขวาสุด ว่าเป็นแผนการจดั กิจกรรม เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ แผนการจดั กิจกรรมประกอบด้วย จุดประสงค์การเรยี นรู้ เน้ือหา ส่อื การเรยี นรู้ กิจกรรม การ ประเมนิ ผล องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ สาคญั ท่เี กดิ จากกจิ กรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์) ภาพรวมการพฒั นาหลกั สตู รลกู เสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต 1. เรมิ่ จากการศึกษาเอกสาร งานวจิ ยั หลกั สูตรลูกเสอื ไทยและต่างประเทศ รวมทงั้ สมั ภาษณ์ ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นลกู เสอื 2. สมั นาครู ผู้ปกครอง นักพัฒนาเยาวชน และผู้เช่ยี วชาญด้านกิจกรรมเด็กและเยาวชน เพ่ือ รว่ มกนั คน้ หาปัญหาจรงิ ของเดก็ แต่ละวยั และออกแบบกจิ กรรมทเ่ี หมาะสม 3. จดั ทาค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ ลกู เสอื สารอง ลูกเสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่และลกู เสอื วสิ ามญั รวมทงั้ สน้ิ 11 เลม่ โดยผ่านการประเมนิ ปรบั ปรงุ และพฒั นา จนเป็นทย่ี อมรบั และนาไปใชใ้ นสถานศกึ ษาจานวนมาก 284 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
4. จดั ทาหลกั สตู รการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่และลกู เสอื วสิ ามญั ขนั้ ความรู้เบ้อื งต้น และขนั้ ความรชู้ นั้ สูง รวม 8 ประเภท โดยได้รบั การอนุมตั จิ าก คณะกรรมการ บรหิ ารลูกเสอื แห่งชาติ ในการประชุม ครงั้ ท่ี 2/2557 เม่อื วนั ท่ี 22 กนั ยายน 2557 ให้ใช้เป็นหลกั สูตรการ ฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื ของสานกั งานลกู เสอื แห่งชาติ 5. จดั ทา คมู่ อื ฝึกอบรมวทิ ยากรลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เพ่อื ขยายผลในการสรา้ งวทิ ยากรและ ฝึกอบรมผกู้ ากบั ลกู เสอื ในสถานศกึ ษาทวั่ ประเทศ คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 285
ภาคผนวก ข กิจกรรมลกู เสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต การจดั กจิ กรรมลูกเสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ นัน้ ยงั คงหลกั การ และวธิ กี ารของลูกเสอื ไว้ ทุกประการ แต่เน้นการสอดแทรกการเรยี นรู้ทักษะชีวิตเพ่ิมเข้าไปด้วยเพ่ือตอบสนองวัตถุประสงค์ท่ีรอบด้าน และ ครอบคลุมการดารงชวี ติ ในปัจจบุ นั คณุ ค่าของส่ือการเรียนการสอนประเภทกิจกรรม ส่อื การเรยี นการสอนประเภทกจิ กรรม เป็นกระบวนการเรยี นการสอนท่ใี หผ้ ู้เรยี นได้ มโี อกาสเรยี นรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ด้วยตนเอง ผ่านการทากิจกรรมร่วมกนั ผู้เรยี นได้เรยี นรจู้ ากประสบการณ์ของเพ่อื นใน กลุ่ม ทาให้สามารถเรยี นรู้ได้มากขน้ึ โดยใช้เวลาน้อยลง การออกแบบกจิ กรรมจะต้องกระตุ้นให้ผู้เรยี นเกิด ความสนใจ และรว่ มมอื ในการทากจิ กรรมท่กี าหนดให้อย่างเตม็ ท่ี จงึ จะ เกดิ การเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ต่อผเู้ รยี นมดี งั น้ี 1. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นกลา้ แสดงออกและทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 2. เกดิ ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ ซง่ึ เป็นลกั ษณะเฉพาะของส่อื การสอนประเภทกจิ กรรม 3. เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดขอบขา่ ย เน้อื หา และวตั ถุประสงค์ 4. ผู้เรยี นได้ฝึกฝน พฤติกรรมการเรยี นรู้ทงั้ ทางด้านความรู้ เจตคติ และทักษะ รวมทัง้ ความคิด สรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการดว้ ย ประเภทของกิจกรรมลกู เสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต เมอ่ื จดั ประเภทตามทกั ษะ/ความสามารถ ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม แบง่ ออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท คอื 1. กิจกรรมการแสดงออก เป็นกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้ลูกเสอื ได้ใช้ความสามารถในการแสดงออก แสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ จนิ ตนาการในรปู แบบต่าง ๆ ซง่ึ มกั จะเป็นการจาลองประสบการณ์ต่าง ๆ มาเพ่อื การ เรยี นรไู้ ดง้ ่ายและสะดวกขน้ึ หรอื เป็นสงิ่ ทใ่ี ชแ้ ทนประสบการณ์จรงิ เพราะศาสตรต์ ่างๆ ในโลก มมี ากเกนิ กว่าท่ี จะเรยี นรู้ได้หมดส้ินจากประสบการณ์ตรงในชีวติ และบางกรณีก็อยู่ในอดีต หรอื ซับซ้อนเร้นลับหรอื เป็น อนั ตราย ไมส่ ะดวกต่อการเรยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ ตวั อยา่ งกจิ กรรม เชน่ 1.1 สถานการณ์จาลอง เป็นการจดั สภาพแวดลอ้ มใหใ้ กลเ้ คยี งกบั สภาพความเป็นจรงิ มากทส่ี ุด เพ่อื ให้ ผู้เรยี นได้ฝึกฝน แก้ปัญหาและตัดสินใจจากสภาพการณ์ท่ีกาลังเผชิญอยู่นัน้ แล้วนาประสบการณ์แห่ง ความสาเรจ็ ไปเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหา 1.2 การสาธติ กระบวนการทผ่ี สู้ อนช่วยใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ กดิ การเรยี นรตู้ ามวตั ถุประสงค์ โดยการแสดงหรอื กระทาใหด้ เู ป็นตวั อยา่ ง ใหค้ วามสาคญั กบั กระบวนการทงั้ หมดทผ่ี เู้ รยี นจะตอ้ งเฝ้าสงั เกตอยโู่ ดยตลอด 1.3 เลา่ นิทาน 1.4 ละคร หุ่นจาลอง 286 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
1.5 เพลง ดนตรี การเคล่อื นไหวตามจงั หวะดนตรี หมายถงึ กจิ กรรมทเ่ี น้นการใชด้ นตรเี ป็นส่อื ในการ เรยี นรทู้ งั้ ในแงเ่ น้อื หาและความบนั เทงิ ผอ่ นคลาย และเขา้ ถงึ วฒั นธรรมต่าง ๆ 1.6 ศลิ ปะ แขนงอ่นื ๆ เชน่ การวาดรปู การปัน้ ดนิ เหนียว งานหตั ถกรรม การรอ้ ยดอกไม้ 1.7 การโตว้ าที ฯลฯ 2. กจิ กรรมการการสารวจและการรายงาน เป็นกจิ กรรมทเ่ี น้นให้ลูกเสอื ไดเ้ รยี นรจู้ ากความเป็นจรงิ / เหตุการณ์จรงิ ในชวี ติ ประจาวนั ผ่านประสบการณ์ตรงด้วยตนเอง ซง่ึ เป็นรากฐานสาคญั ของการศกึ ษา เช่น การทาแผนท่ี การสารวจ หมายถึง การเรยี นรผู้ ่านสถานการณ์จรงิ ดว้ ยการลงพ้นื ทส่ี ารวจ และจาลองสงิ่ ท่ไี ด้ เรยี นรสู้ ่แู ผนท่ี ภาพ หรอื สญั ลกั ษณ์ เพอ่ื แสดงความคดิ รวบยอดของสงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรนู้ นั้ ตวั อยา่ งกจิ กรรม เชน่ การสมั ภาษณ์ การเป็นผสู้ ่อื ขา่ ว การทาสารคดี การศกึ ษานอกสถานท่ี ชุมชนศกึ ษา การผลติ ส่อื การทาปมู ชวี ติ บคุ คลตวั อยา่ ง การจดั นิทรรศการ การสอดแนม การสารวจ การทาแผนท่ี การเขยี นเรยี งความการเลา่ เรอ่ื ง ฯลฯ 3. กจิ กรรมการวเิ คราะห์และการประเมนิ เป็นการเรยี นรทู้ ่เี กดิ จากการแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นและ รว่ มกนั วเิ คราะห/์ ประเมนิ สง่ิ ต่างๆทเ่ี กดิ ขน้ึ ตวั อยา่ งกจิ กรรม เชน่ การเปรยี บเทยี บคณุ ค่า การประเมนิ ความเสย่ี ง การทาแผนทค่ี วามคดิ ฯลฯ 4. การเลน่ เกมและการแขง่ ขนั 4.1 เกม เป็น กจิ กรรมท่มี กี ฎกตกิ า และลาดบั ขนั้ ตอน ท่เี อ้อื ให้ลูกเสอื เกดิ การเรยี นรผู้ ่านการ เลน่ เกม ใหข้ อ้ คดิ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการ เช่น เกมกระซบิ เป็นตน้ 4.2 การแข่งขนั เป็นกจิ กรรมทม่ี กี ตกิ าในการแขง่ ขนั และมกี ารตดั สนิ หาผู้ชนะ เช่น การตอบ ปัญหาในเรอ่ื งต่าง ๆ เพ่อื กระตุน้ ใหเ้ กดิ ความสนใจใฝ่รมู้ ากขน้ึ ฯลฯ 5. กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ เป็นกจิ กรรมสรา้ งสรรคท์ เ่ี น้นการฝึกความเสยี สละของลูกเสอื ไดแ้ ก่ การ จดั กจิ กรรมการกุศล การซ่อมของเล่นให้น้อง การดแู ลทาความสะอาดสถานท่ี การปลูกและดแู ลตน้ ไม้ การเก็บ ผกั จากแปลงไปประกอบอาหารเลย้ี งน้อง ฯลฯ หลกั การออกแบบกิจกรรม 1. การเลอื กประเภทของกจิ กรรม ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการ เชน่ ผลการเรียนรดู้ ้านพทุ ธิพิสยั มกั เลอื กใช้ กจิ กรรมการวเิ คราะหแ์ ละการประเมนิ การรายงาน และการ แขง่ ขนั ตอบปัญหาในเรอ่ื งเน้อื หาทต่ี อ้ งการใหเ้ รยี นรู้ เป็นตน้ ผลการเรียนร้ดู ้านจิตพิสยั มกั เลอื กกจิ กรรมทส่ี รา้ งความรสู้ กึ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการ เชน่ กจิ กรรมการแสดงออก เกม กจิ กรรมบาเพญ็ ประโยชน์ เป็นตน้ ผลการเรียนร้ดู ้านทกั ษะพิสยั ถา้ เป็นทกั ษะทางสตปิ ัญญานิยมใชก้ จิ กรรมการวเิ คราะห์ และประเมนิ สว่ นทกั ษะทางกายภาพ เลอื กไดเ้ กอื บทกุ ประเภท คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 287
2. การตงั้ ประเดน็ อภปิ ราย เพ่อื ใหล้ กู เสอื ได้รว่ มอภปิ รายแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในเรอ่ื งทส่ี อดคลอ้ ง กบั ผลการเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการ เช่น ผลการเรียนร้ดู ้านพุทธิพิสยั ตงั้ ประเด็นให้ วเิ คราะห์ /สงั เคราะห์ /ประเมนิ เน้ือหาท่ตี ้องการให้ ผเู้ รยี นเกดิ ความเขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ เกดิ ความคดิ รวบยอดทช่ี ดั เจน และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดจ้ รงิ ผลการเรียนร้ดู ้านจิตพิสยั ตงั้ ประเดน็ ใหเ้ กดิ การโต้แยง้ กนั ด้วยเหตุผลในเรอ่ื งความคดิ ความเช่อื ท่ี เก่ยี วข้องกบั เจตคติท่ตี ้องการ เพ่อื ให้สมาชกิ แต่ละคนได้มโี อกาสตรวจสอบความคดิ ความเช่อื ของตนเอง ท่ี แตกต่างจากคนอ่นื ทาให้เกดิ การปรบั เปลย่ี นความคดิ ความเช่อื จากการโต้แยง้ กนั ดว้ ยเหตุผลในกระบวนการ กลุ่ม ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสยั ตงั้ ประเดน็ ให้เกิดความเขา้ ใจอย่างถ่องแท้ในขนั้ ตอนการทาทกั ษะ นนั้ ๆ เช่นการวเิ คราะหค์ วามครบถว้ นในการทาตามขนั้ ตอนของทกั ษะ การวเิ คราะหจ์ ุดอ่อน ทม่ี กั จะทาทกั ษะ นนั้ ๆ ไมส่ าเรจ็ เป็นตน้ 3. การสรุปความคดิ รวบยอดและประยุกต์ใช้ ทุกกจิ กรรมควรมกี ารสรุปความคดิ รวบยอดท่เี กดิ ขน้ึ ให้ ชดั เจน และเปิดโอกาสใหไ้ ดล้ องประยกุ ตใ์ ช้ ไดแ้ ก่ ผลการเรียนรู้ด้านพุทธิ พิ สัย ความคิดรวบยอดคือเน้ือหา องค์ความรู้ท่ีต้องการให้เกิดข้ึน ประยกุ ตใ์ ชโ้ ดยผลติ ซา้ ความคดิ รวบยอดในรปู แบบทต่ี ่างจากเดมิ เชน่ การทารายงาน ทาสรปุ ยอ่ ฯลฯ ผลการเรียนร้ดู ้านจิตพิสยั ความคดิ รวบยอดไมม่ เี น้ือหา แต่เป็นความรสู้ กึ และความคดิ ความเช่อื ท่ี เกดิ ขน้ึ ภายในตวั ผเู้ รยี น ประยุกต์โดยการแสดงออกท่สี อดคลอ้ งกบั เจตคตทิ ่เี กดิ เช่น การกระทาทแ่ี สดงออก ถงึ ความซ่อื สตั ย์ การกระทาทแ่ี สดงออกถงึ ความเป็นสุภาพบุรษุ สภุ าพสตรี เป็นตน้ ผลการเรียนร้ดู ้านทกั ษะพิสยั ความคดิ รวบยอดทเ่ี กดิ คอื ความเขา้ ใจขนั้ ตอนและทาทกั ษะนนั้ ๆ ได้ ประยกุ ตโ์ ดยการฝึกฝนทกั ษะนนั้ จนชานาญ 288 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
บรรณานุกรม สานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาต.ิ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลกั สตู รและวิชาพิเศษลูกเสือสารอง (ฉบบั ท่ี 10). โรงพมิ พ์ คุรสุ ภาลาดพรา้ ว, 2522. สานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง่ ชาต.ิ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลกั สตู รและวิชาพิเศษลกู เสือสามญั (ฉบบั ท่ี 13). โรงพมิ พ์ ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, 2525. สานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหง่ ชาต.ิ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลกั สตู รและวิชาพิเศษลูกเสือสามญั รนุ่ ใหญ่ (ฉบบั ที่ 14). โรงพมิ พ์ ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, 2528. สานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาต.ิ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลกั สตู รและวิชาพิเศษลูกเสือวิสามญั (ฉบบั ท่ี 15). โรงพมิ พ์ สกสค.ลาดพรา้ ว, 2529. กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือ – เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 1 - 3 (ลกู เสือสารอง). โรงพมิ พ์ ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, 2533. กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือ– เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 – 6 (ลูกเสือสามญั ) , 2533. กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือ – เนตรนารี ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 – 3 (ลูกเสือสามญั ร่นุ ใหญ่), (เอกสารอดั สาเนา) กรมพลศกึ ษาประจาเขตการศกึ ษา 8. นิทานที่เป็นคติสอนใจ. (เอกสารอดั สาเนา) : มปท.,2537. กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธรณสขุ . ค่มู ือวิทยากรฝึ กอบรมทกั ษะชีวิตเพ่ือการป้องกนั เอดส์ ด้วยการเรียนร้แู บบมีส่วนร่วม, ม.ป.ท.: พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1 สงิ หาคม 2541. กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธรณสุข. ค่มู อื การจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นาเดก็ ด้อยโอกาส. น.พ.อนนั ต์ อุ่นแกว้ บรรณาธกิ าร ม.ป.ท. : พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1 มถิ ุนายน 2544 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หลกั สตู รแกนกลาง. การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. โรงพมิ พ์ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551. คณะกรรมการลกู เสอื ฝ่ายพฒั นาบคุ ลากร สานกั งานลกู เสอื แห่งชาต.ิ ค่มู ือการฝึ กอบรมผบู้ งั คบั บญั ชา ลกู เสือขนั้ ผชู้ ่วยผใู้ ห้ฝึ กอบรมวิชาผใู้ ห้การฝึ กอบรมผกู้ ากบั ลกู เสือ (Assistant Leader Trainers course) (A .L.T.C). โรงพมิ พ์ สกสค. : ลาดพรา้ ว, 2551. จริ าวชุ คุม้ จนั ทร.์ เกม/นันทนาการกล่มุ สมั พนั ธ์. เอกสารอดั สาเนา : มปท., 2547. มณฑานี ตนั ตสิ ขุ , หนงั สอื ผหู้ ญงิ อศั จรรย.์ http://www.nantbook.com/webboard/detail.php?qID=116. เป็นแมเ่ หลก็ ดึงดดู ความรกั ดีดีง่ายนิดเดียว แค่ร้จู กั ตวั เองดีดี, สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 24 มนี าคม 2553 มลู นธิ คิ ณะลกู เสอื แห่งชาต.ิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมลกู เสือ – เนตรนารี ช่วงชนั้ ที่ 3 ชนั้ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 289
มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ตามหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2544, กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทศั น์, 2550. มลู นิธคิ ณะลกู เสอื แห่งชาต.ิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมลกู เสือ – เนตรนารี ช่วงชนั้ ท่ี 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ตามหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2544, กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทศั น์, 2551. มลู นธิ คิ ณะลกู เสอื แห่งชาต.ิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมลกู เสือ – เนตรนารี ช่วงชนั้ ที่ 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ตามหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2544, อกั ษรเจรญิ ทศั น์ : กรงุ เทพฯ, 2550. สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทย. ค่มู ืออบรมวิทยากร การจดั กิจกรรมลกู เสือที่เน้นทกั ษะ ชีวิต. สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย, 2553. สานกั การลกู เสอื ยวุ กาชาด และกจิ การนกั เรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. แนวทางการจดั กิจกรรมลกู เสือให้สอดคล้องกบั หลกั สตู ร การศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2544. โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพรา้ ว, 2549. สานกั การลกู เสอื ยวุ กาชาด และกจิ การนกั เรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. แนวทางการพฒั นาหลกั สตู ร การจดั กิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษา พ.ศ. 2552. องคก์ ารคา้ ของ สกสค., 2552. สานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาต.ิ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติว่าด้วยการปกครอง หลกั สตู ร และวิชาพิเศษลูกเสือสามญั (ฉบบั ท่ี 13) พ.ศ. 2525. โรงพมิ พค์ ุรสุ ภา : ลาดพรา้ ว, 2534. สานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง่ ชาต.ิ ข้อบงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติว่าด้วยการ ปกครอง หลกั สตู รและวิชาพิเศษลกู เสือสามญั ร่นุ ใหญ่(ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2528 องคก์ าร คา้ ของคุรสุ ภา : กรงุ เทพฯ, 2537. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน. แนวทางการจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น. โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว, 2534. อุบลวรรณ แสนมหายกั ษ.์ เพลงลกู เสือ. เอกสารประกอบการฝึ กอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสือสารอง สามญั สามญั ร่นุ ใหญ่ ขนั้ ความรชู้ นั้ สงู : (เอกสารอดั สาเนา), 2539. http://en.wikipedia.org/wiki/World_Scout_Jamboree http://en.wikipedia.org/wiki/World_Organization_of_the_Scout_Movement http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0db802ca17a2e96f&clk=wttpcts http://www.inspect2.moe.go.th/3%20SS.ATC/index.html http://www.lovesquare.com http://mathafaps.tripod.com/gentleman.htm , อย่างไรจึงเรยี กว่า เป็น \"สภุ าพบุรษุ ”, สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 23 มนี าคม 2553 http://www.navyscoutclub.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538687830 290 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
http://www.rdpb.go.th/RDPB/Front/Projects/RDPBImportantProject.aspx http://www.scoutthailand.org/main/show_page.php?topic_id=56&auto_id=13&TopicPk=19 http://122.155.0.105/~scout/modules/news/article.php?storyid=7 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 291
คณะผจู้ ดั ทาค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือเสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต คณะท่ีปรึกษา 1. นายศจั ธร วฒั นะมงคล ผอู้ านวยการสานกั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร 2. นายวรทั พฤกษากุลนนั ท์ สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3. นายพนสั บญุ วฒั นสุนทร ผอู้ านวยการสานกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 4. นายโอฬาร เก่งรกั ษส์ ตั ว์ รองผอู้ านวยการสานกั พฒั นากจิ การนกั เรยี น 5. นางสาวลดั ดา จติ รวฒั นแพทย์ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาติ ผอู้ านวยการสานกั สง่ เสรมิ กจิ การการศกึ ษา สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ผอู้ านวยการโครงการลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ฯ คณะทางานพฒั นาและปรบั ปรงุ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือเสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต 1. นายกฤตพฒั น์ พชิ ยั วรตุ มะ หวั หน้าฝ่ายพฒั นาวชิ าการ สานกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและ 2. นายชวลติ ศตี ะปันย์ กจิ การนกั เรยี น สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ครู วทิ ยฐานะชานาญการพเิ ศษ 3. นายทนงชยั เจรญิ รตั น์ โรงเรยี นวดั สมบรู ณ์สามคั ค(ี ปากช่องประชานุกูล) 4. นายอรรณพ จจู นั ทร์ สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครนายก 5. นายอารกั ษ์ ศุภสนิ ธุ์ กรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาติ 6. นายจริ ายุ จนั ทรเ์ พง็ รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา 7. นายสมคดิ พระสวา่ ง เชยี งราย เขต1 8. นางอาภาพรรณ แสงทอง ผตู้ รวจการลกู เสอื ประจาสานกั งานลกู เสอื แห่งชาติ ครู วทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ โรงเรยี นมธั ยมป่ากลาง สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 37 ครู วทิ ยฐานะชานาญการพเิ ศษ โรงเรยี นบา้ นหนองเหมอื ดแอ่ สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาหนองบวั ลาภู ผชู้ ่วยผตู้ รวจการลกู เสอื ประจาสานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ 292 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3
โครงการลกู เสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต ดาเนิ นการโดย สานักงานลกู เสือแห่งชาติ 154 ศาลาวชริ าวุธ แขวงวงั ใหม่ เขตปทุมวนั กรงุ เทพฯ 10330 โทรศพั ท์ 0-2219-2731 โทรสาร 0-2219-2108 website : http://www.scoutthailand.org สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ถนนราชดาเนนิ นอก เขตดุสติ กรงุ เทพฯ 10300 โทรศพั ท์ 0-2288-5511 website : http://www.obec.go.th สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสขุ ภาพ อาคารศนู ยเ์ รยี นรสู้ ุขภาวะ 99/8 ซอยงามดพู ลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรงุ เทพฯ 10120 โทรศพั ท์ 0-2343-1500 โทรสาร 0-2343-1501 website : http://www.thaihealth.or.th สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ในพระราชูปถมั ภส์ มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี 8 ซอยวภิ าวดรี งั สติ 44 ถนนวภิ าวดรี งั สติ แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรงุ เทพฯ 10900 โทรศพั ท์ 0-941-2320 โทรสาร 0-2561-5130 website : http://www.ppat.or.th E-mail : [email protected] สานักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สานกั ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ถนนราชดาเนินนอก เขตดสุ ติ กรงุ เทพฯ 10300 โทรศพั ท์ 0-2282-0850 website : http://www.srs.moe.go.th ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือวิสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5-6 และ ปวช.2-3 293
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295