193 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย คำอธบิ ายสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทยเพิ่มเติม รหัสวิชา 11201 รายวิชา ภาษาไทยเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งคำ อ่านออกเสียงคำคลอ้ งจองและข้อความส้ันๆ อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ ง สมำ่ เสมอ และนำเสนอเร่อื งที่อ่าน อ่านนิทานพื้นบา้ น๔ภาคของไทย บอกความหมายของคำและข้อความที่อา่ น เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ ความหมายเครื่องหมายหรือสญั ลักษณส์ ำคัญที่มกั พบเหน็ ใน ชีวติ ประจำวัน ตอบคำถามเกย่ี วกับเร่ืองทอี่ ่าน เล่าเรอ่ื งย่อจากเร่ืองที่อ่าน อา่ นสะกดคำ และความหมายของ คำในภาษาไทยและภาษาอาเซยี น คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องที่อ่าน มีมารยาทในการอ่าน คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขียนส่ือสารด้วยคำและประโยคง่ายๆ มีมารยาทในการเขียน บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ต่อคำคล้องจองง่ายๆ และพฒั นาทักษะการ คดิ สู่ศตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการอา่ น กระบวนการทางภาษา กระบวนการฟงั กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการ ทำงาน กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการสร้างค่านิยม กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการแก้ปญั หา เพื่อให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สัตย์สจุ รติ มี วนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกซื่อและเขยี นพยัญชนะไทยตามรปู แบบอักษรไทยได้ 2. บอกและเขียนตัวเลขไทยได้ 3. อ่านและเขียนสระเสยี งสั้น-เสยี งยาว ได้ 4. แตง่ ประโยคง่ายๆ ได้ 5. อา่ นและเขยี นสะกดคำทป่ี ระสมกับสระตา่ งๆ ได้ 6. ต้งั คำถามและตอบคำถาม ได้ 7. อา่ นเร่ืองแลว้ ตอบคำถามจากเร่ืองได้ 8. บอกความหมายของเคร่ืองหมายหรือสญั ลกั ษณส์ ำคัญท่ีมักพบเห็นในชีวิตประจำวนั ได้
194 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยเพม่ิ เติม รหัสวิชา 12201 รายวชิ า ภาษาไทยเสริมทกั ษะ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 40 ช่วั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งคำ คำคล้องจอง ข้อความและบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆ อ่านหนังสอื ตามความสนใจอยา่ ง สมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องที่อา่ นนทิ านพื้นบา้ น ตั้งคำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองทอ่ี ่านเรื่องท่ีฟงั และดู ระบใุ จความสำคญั ข้อคิดและรายละเอยี ดจากการอ่านหรือการฟังคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั คำภาษาถนิ่ 4ภาคของไทย เขยี นเรอ่ื งสนั้ ๆ เกยี่ วกับประสบการณ์หรือตามจินตนาการ เขยี นสะกดคำและบอกความหมาย ของคำ บอกสาระสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย ลกั ษณะคำ คล้องจอง สื่อสารได้ชดั เจนตรงตาม เรยี บเรียงคำเป็นประโยคไดต้ รงตามเจตนาของการสอ่ื สาร มมี ารยาทใน การอ่านการเขียนการฟังการดูและการพูด ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและพฒั นาทกั ษะการคิดสู่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการทางภาษา กระบวนการฟงั กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการ ทำงาน กระบวนการเรยี นรู้ความเข้าใจ กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการสร้างค่านิยม กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการแก้ปัญหา เพ่ือให้มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสัตย์สุจรติ มี วนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ม่งุ มัน่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. บอกซ่ือและเขียนพยัญชนะไทยตามรปู แบบอักษรไทยได้ 2. บอกและเขียนตวั เลขไทยได้ 3. อา่ เขยี นสะกดคำและแจกลกู คำได้ 4. แตง่ ประโยคง่ายๆ ได้ 5. บอกความหมายของคำ ได้ 5. บอกคำคล้องจองได้ 7. ผนั วรรณยกุ ตอ์ ักษรสูงกลางตำ่ ได้ 8. เขยี นเรอื่ งจากภาพตามจนิ ตนาการได้
195 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยเพม่ิ เติม รหัสวิชา ท 13201 รายวิชาภาษาไทยเสรมิ ทักษะ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ป.3 เวลา 40 ชว่ั โมง อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง นิทานทอ้ งถ่นิ อีสานเร่ืองยายหมาขาว เร่ืองสนั้ เรอ่ื ง สนุ ขั ตวั น้อย คำทมี่ ตี ัวการนั ต์ คำทม่ี ี รร คำที่มีพยัญชนะและสระไม่ออกเสียง คำพ้อง คำพเิ ศษอื่นๆ เชน่ คำที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ ต้ังคำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ลเก่ียวกับเรอื่ งทอ่ี า่ น ลำดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จาก เร่ืองท่ีอา่ นโดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากเรื่องทีอ่ า่ นเพ่ือนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั หนงั สือ ตามความสนใจ อย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องที่อ่าน ขอ้ เขยี นเชิงอธบิ ายและปฏิบัตติ ามคำสั่งหรอื ข้อแนะนำ อธบิ ายความหมายของคำและขอ้ ความท่ีอ่าน ความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และ แผนภมู ิ คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด ขียนบรรยายเก่ียวกับสงิ่ ใดส่ิงหนึ่ง ได้อยา่ งชดั เจน บนั ทกึ ประจำวนั จดหมายลาครู เร่อื งตามจินตนาการ และมีมารยาทในการอ่าน การเขียน ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และพัฒนาสู่ศตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการฟังกระบวนการเรยี นรู้ ความเข้าใจ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ กระบวนการสร้าความคิด วจิ ารรณญาณเพ่ือใหม้ ี ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียงม่งุ มนั่ ในการทำงาน รัก ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. จับใจความสำคัญและบอกรายละเอียดจากนิทานทฟ่ี ังได้ 2. อ่านและเขียนคำท่มี ีอกั ษรนำได้ 3. ผนั วรรณยุกตแ์ ละเลือกใช้คำท่ีมีอกั ษรนำได้ถกู ต้อง 4. บอกลกั ษณะและอ่าน เขยี นคำทีม่ ตี ัวการันต์ได้ 5. อา่ นออกเสยี งและสะกดคำที่ออกเสยี ง อะ ได้ถูกตอ้ ง 6. บอกลกั ษณะของพยางค์ คำ และกลุ่มคำได้ 7. อ่านและเขยี นสะกดคำที่มี รร (ร หัน) ไดถ้ กู ต้อง 8. อา่ นและเขียนคำที่มีตวั สะกดมาตราแมก่ ก แม่กบ แม่กดและแม่กนได้ถูกต้อง 9. เขียนจดหมายลาครไู ด้ถูกตอ้ ง ครบถว้ นตามรปู แบบการเขียนจดหมาย 10. คัดลายมอื ดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทัดและตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั ได้ 11. แต่งประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏเิ สธ ประโยคคำสงั่ ประโยคขอร้อง และ ประโยคแสดงความต้องการได้ 12. บอกความหมายและใชค้ ำราชาศพั ท์ได้ถูกต้อง 13.อ่านและเขียนอักษรย่อได้ 14.อ่านและเขียนคำภาษาองั กฤษทีใ่ ช้ในภาษาไทยได้อยา่ งถูกต้อง 15. แตง่ คำขวญั ได้ถูกต้องตามรปู แบบ และสละสลวย 16. เขียนและพดู เล่าเรื่องได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 17. เขียนแสดงความรสู้ ึกได้อย่างสร้างสรรค์
196 กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รหสั วชิ า ค 11201 สาระการเรยี นรู้ วชิ าคณติ ศาสตร์(เพ่มิ เตมิ ) ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง บอกจำนวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงส่งิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลข ไทยแสดงจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 อ่านจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงส่งิ ตา่ งๆ ตามจำนวนกำหนด อ่าน และเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไม่เกิน 100 และ ๐ เขยี นจำนวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ แสดง สง่ิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยแสดงจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ ๐ แสดงจำนวนของสง่ิ ต่าง ๆ แสดงส่งิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทยแสดง จำนวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 ตวั เลขไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหา การลบของจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย = ≠ ,>,< หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ ละหลักและการเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนในรปู กระจาย. เรียงลำดบั จำนวนไม่เกนิ 100 และ 0 ต้ังแต่ 3 ถึง 5 จำนวน หาคา่ ของตัวเลขไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 ความยาวเปน็ เซนติเมตร เปน็ เมตร นำ้ หนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด ระบุ จำนวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจำนวนที่เพม่ิ ข้ึนหรอื ลดลงทีละ 1 และทลี ะ 10 และระบุรูปท่ีหายไปในแบบรูป ซ้ำของรูปเรขาคณิต และรปู อื่น ๆ ทส่ี มาชิกในแต่ละชดุ ทีซ่ ำ้ มี 2 รปู วัดความยาวเป็นเซนตเิ มตร เปน็ เมตร น้ำหนักเป็นกโิ ลกรัม เป็นขีด จำแนกรปู สามเหล่ยี ม รูป สเ่ี หล่ียม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ริ ปู ภาพใน การหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเมอ่ื กำหนดรูป 1 รูปแทน 1 หนว่ ย การประดิษฐบ์ ้านทรงไทยจากดิน บ้านกลาง อ.บางประหัน จ.พระนครศรอี ยุธยา ตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และพัฒนาทักษะสู่ความคิดที่ศตวรรษที่ 21 โดยใช้ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการเรียนรเู้ ข้าใจ กระบวนการ คิดสร้างความรวบยอด กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเช่ือมโยง เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มคี วามซือ่ สตั ย์ สุจรติ มุง่ มัน่ ในการทำงาน มีวนิ ัย ใฝ่ เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1.อา่ นและเขยี นจำนวนของส่ิงต่าง ๆ ตามจำนวนนบั หน่ึงเปน็ ตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทยและ ตวั หนังสอื ตามที่กำหนด 2.เปรยี บเทยี บจำนวนนบั และการใช้เครอ่ื งหมาย = ≠ < > 3.เรียงลำดบั จำนวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 ต้งั แต่ 3 ถึง 5 จำนวน 4. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนับ 5. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา การบวกและโจทย์ปัญหา การลบของจำนวนนับ
197 6. ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรูปของจำนวนท่เี พ่ิมข้ึนหรอื ลดลงทลี ะ ๑ และทีละ ๑๐และระบรุ ปู ท่ี หายไปในแบบรปู ซำ้ ของรปู เรขาคณิตและรูปอ่ืน ๆ ทส่ี มาชิก 7.วดั และเปรียบเทยี บความยาวเป็นเซนติเมตร เปน็ เมตร 8.วดั และเปรียบเทยี บนำ้ หนักเป็นกิโลกรมั เปน็ ขีด 9.จำแนกรปู สามเหลยี่ ม รูปสี่เหลยี่ ม วงกลมวงรี ทรงสเ่ี หลยี่ มมุมฉาก ทรงกลมทรง กระบอก และ กรวย
198 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม รายวิชา คณิตศาสตร์ (เพ่ิมเตมิ ) รหสั วิชา ค 21201 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 40 ชว่ั โมง ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 บอกเขยี นและอ่านตัวเลขฮินดู อารบกิ ตัวเลขไทยและตัวหนงั สอื แสดงปริมาณของส่ิงของหรือ จำนวนนับทไี่ ม่เกนิ หน่งึ พนั และศูนย์ นับตัวเลขจากปลาตะเพยี นสาน จ. อยธุ ยา รปู เรขาคณติ สองมิติโดยใช้ ระบบของรูปเรขาคณติ อ่านตัวเลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนังสอื แสดงปริมาณของส่งิ ของหรือจำนวน นบั ไม่เกนิ หน่ึงพนั และศนู ย์ เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไมเ่ กนิ หนง่ึ พนั และศนู ย์ ความยาวในหน่วยเดยี วกัน นำ้ หนัก ในหนว่ ยเดยี วกัน ปรมิ าตรและความจุ (กลุ่มตกแต่งรถแหป่ ราสาทผึ้งสกลนคร โดยการวดั ความยาวของ ปราสาทผ้งึ แล้วนำมาเปรยี บเทียบ) เรยี งลำดับจำนวนนับไมเ่ กนิ หนึ่งพนั และศนู ย์ อธิบายความยาวเปน็ เมตร และเซนตเิ มตร น้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด ปรมิ าตรและความจุเป็นลิตร จำนวนเงินท้งั หมดจากเงินเหรยี ญ และธนบัตร บวก ลบ คูณ หาร บวกลบคณู หารระคน ของจำนวนนับไมเ่ กนิ หนงึ่ พนั และศนู ยพ์ ร้อมตระหนกั ถึง ความสมเหตสุ มผล ของคำตอบวิเคราะห์และหาคำตอบของโจทย์ปัญหา และโจทยป์ ัญหาระคนของจำนวนนับ ไม่เกินหน่ึงพันและศนู ย์พรอ้ มทง้ั ตระหนักถงึ สมเหตุสมผลของคำตอบ ความสมั พันธบ์ นหนา้ ปัดนาฬิกา วนั เดอื น ปี จากปฏทิ ิน ชนดิ ของรูป เรขาคณิตสองมิติ สามมิติ ว่าเป็นรูปสามเหลี่ยม สีเ่ หลยี่ ม วงกลม หรือวงรี จำนวนในแบบรปู ของรปู ทมี่ รี ูปร่างขนาดหรือสีท่ีสมั พนั ธ์กันอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงการใชข้ ้อมูลจากแผนภูมภิ าพใน การหาคำตอบใชว้ ิธีการท่หี ลากหลายแกป้ ญั หา ความรกู้ ระบวนการทางคณติ ศาสตรใ์ นการแก้ปัญหาใน สถานการณต์ ่างๆไดอ้ ย่างเหมาะสม เหตุผลในการตัดสินใจ และสรุปผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ภาษาและสญั ลักษณ์ ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่อื สาร การสอื่ ความหมายและนำเสนอได้อย่างถูกต้อง เชอ่ื มโยงความรตู้ ่างๆใน คณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อน่ื และมีความคดิ สรา้ งสรรค์2. ทกั ษะการคิดสู่ศตวรรษที่ 21 3Rs Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithmetics (คดิ เลขเป็น) 8 Cs C1: Critical thinking & problem –Solving (ทกั ษะดา้ นการคิดวิเคราะห์และการ แก้ปญั หา) C2: Creativity & innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม) C7: Career & learning Self-reliance (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้) โดยใช้กระบวนการสอน กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการสืบสวนสอบสวน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้ความเข้าใจและกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื ใหม้ ีความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สัตย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง ม่งุ ม่นั ในการ ทำงาน รกั ในความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. หาคา่ ไมท่ ราบในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก 2. หาค่าไมท่ ราบในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก 3. หาคา่ ไม่ทราบในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู
199 4. หาค่าไมท่ ราบในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารท่ีมตี ัวต้ังไม่เกนิ 2 หลักตวั หาร 1 หลกั โดยทีผ่ ลหารมี 1 หลักทง้ั หารลงตวั และไมล่ งตัว 5. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกการลบเกยี่ วกับความยาวท่ีมหี นว่ ยเป็นเมตรและเซนติเมตร 6. การวดั และเปรียบเทียบน้ำหนกั เปน็ กโิ ลกรัมและกรัมกโิ ลกรัมและขดี 7. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคน
200 รหัสวชิ า ค ๒๑๒๐๑ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ วิชา คณิตศาสตร์เพ่ิมเติม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตวั หนังสือแสดงจำนวนนับ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละ หลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การเรียงลำดับจำนวน แบบรูปของ จำนวนท่ีเพ่ิมข้ึนและลดลง การบวกจำนวนนับที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 การบวกจำนวนสามจำนวนที่มีผลบวก ไม่เกิน 100,000 โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 100,000 การ ลบจำนวนสามจำนวน การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาและการ สร้างโจทย์ปัญหาการลบ การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนไม่เกินสี่หลัก การคูณจำนวนสองหลักกับจำนวนสอง หลัก โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ การหารทมี่ ีตัวต้ังไม่เกินสี่หลักและตวั หารมีหนึ่งหลัก การหาตัว ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการหาร การวัด ความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร การเลือกเครื่องวัดความยาวที่ เหมาะสม การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธ์ ระหว่างหน่วยความยาว โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาว รปู ทม่ี แี กนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร การบอก อ่าน และเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วนการเปรียบเทียบเศษส่วน การเรียงลำดับเศษส่วน การบวก เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน การลบเศษส่วนที่มีตัวสว่ นเทา่ กัน โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเศษส่วน การวัดและ บอกน้ำหนักเปน็ กโิ ลกรัมและขดี กิโลกรัมและกรัม การเลือกเคร่ืองชั่งท่ีเหมาะสม การคาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัม และเป็นขีด การเปรียบเทียบน้ำหนักโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม โจทย์ ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนัก การวัดปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร การเลือกเครื่องตวงที่เหมาะสม การ คาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างลิตรกับ มิลลิลิตร ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกับมิลลิลิตร โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตรและ มิลลิลิตร การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกข้อมูล การอ่านและเขียนแผนภูมิรูปภาพ การอ่านและเขียนตารางทาง เดียว การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การเขียนบอกเวลาและการอ่าน การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างชั่วโมงกับนาที การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมที่ระบุ เวลา โจทยป์ ญั หาเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา เงินเหรียญและธนบัตรชนิดต่างๆ การบอกจำนวนเงินและเขียนแสดง จำนวนเงินแบบใช้จุดและการอ่าน การเปรียบเทียบจำนวนเงินและการแลกเงิน การอ่านและเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าฝึก ทักษะ โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สงิ่ ตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์
201 เพื่อใหเ้ หน็ คุณค่าและมเี จตคติที่ดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มรี ะเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผิดชอบมวี ิจารณญาณ มีความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์และมีความเช่ือมั่นในตนเอง ผลการเรียนรู้ 1.การอา่ นเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตวั หนงั สือแสดงจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0 2. หาผลบวกและลบในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและลบของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0 3. เลอื กใช้เครอ่ื งมอื วดั ความยาวที่เหมาะสม 4. หาผลคูณในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลัก 5. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการหาร 6. การอ่านและการเขยี นเศษสว่ นทีต่ วั เศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับตวั ส่วน 7. หาผลลพั ธ์การบวกลบคณู หาร ระคน
202 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๒๑๒๐๑ วิชา คณิตศาสตร์เพิม่ เตมิ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการประยกุ ต์รปู เรขาคณิต จำนวนนับ ร้อยละในชีวิตประจำวัน ปัญหาชวน คิด จำนวนและตัวเลข ระบบตัวเลขโรมนั ระบบตวั เลขฐานตา่ ง ๆ การประยกุ ตข์ องจำนวนเตม็ และเลขยกกำลัง โจทย์ปัญหา การสร้างมุมขนาดต่าง ๆ การสร้างรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานโดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทยป์ ญั หาที่ส่งเสริมการพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณ การใหเ้ หตุผล การวิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การสอ่ื สาการการสือ่ ความหมายและ การนำเสนอ เพอื่ ใหม้ คี วามรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอื่ สตั ย์สุจริต มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุง่ มั่นใน การทำงานรกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยู่รว่ มกับผู้อ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. ใช้ความรู้และทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ๒. ตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ ๓. อา่ นและเขียนตวั เลขโรมันได้ ๔. บอกคา่ ของเลขโดดในตัวเลขฐานตา่ ง ๆ ท่ีกำหนดให้ได้ ๕. เขียนตวั เลขฐานทก่ี ำหนดใหเ้ ปน็ ตัวเลขฐานต่าง ๆ ได้ 6. ใช้ความรู้เก่ียวกบั จำนวนเตม็ และเลขยกกำลังในการแก้ปญั หาได้ 7. ตระหนกั ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบได้ 8. ใช้การสร้างพื้นฐานสรา้ งมุมขนาดต่าง ๆ ได้ 9. ใช้การสร้างพืน้ ฐานสรา้ งรูปทีซ่ ับซ้อนขนึ้ ได้ ๑๐. ใช้ความรูแ้ ละทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้ รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
203 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค ๒๑๒๐๒ วิชา คณิตศาสตร์เพ่มิ เติม เวลา ๒๐ ชัว่ โมง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ศกึ ษาความรเู้ ก่ียวกับเรื่องการให้เหตุผลทางเรขาคณิต พหนุ าม เอกนาม การบวก การลบ การคณู การ หาการเอกนาม การคูณ และ การหารพหุนามอย่างง่าย การเตรียมความพร้อมในการให้เหตผุ ล การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์อย่างง่ายโดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปัญหาท่ี ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การ แกป้ ัญหา การส่ือสาการการสื่อความหมายและการนำเสนอ เพอ่ื ใหม้ ีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สตั ย์สจุ ริต มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มั่นใน การทำงานรกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถอยูร่ ่วมกบั ผู้อน่ื ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข ผลการเรยี นรู้ ๑. สงั เกตข้อความคาดการณ์และให้เหตผุ ลทางคณิตศาสตรอ์ ยา่ งงา่ ยได้ ๒. หาผลบวกและผลลบของเอกนามและพหุนามได้ ๓. หาผลคณู และผลหารของพหุนามอยา่ งงา่ ยได้ ๔. ใช้วิธีการทหี่ ลากหลายแก้ปญั หาได้ ๕. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ และ เทคโนโลยีในการแก้ปัญหา สถานการณ์ต่างได้อยา่ งเหมาะสม 6. สามารถแสดงเหตผุ ลโดยอ้างองิ ความรขู้ ้อมลู หรอื ขอ้ เทจ็ จริงหรอื การสรา้ งแผนภาพ รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้
204 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๒๒๒๐๑ วิชา คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ศึกษาความรู้เก่ียวกับเร่ืองสมบัติของเลขยกกำลัง บทนยิ ามและสมบัติอน่ื ๆ ของเลขยกกำลัง การคูณ และการหารเลขยกกำลังท่ีมีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มและการนำไปใช้แก้ปัญหาหรือสถานการณต์ า่ ง ๆ การใช้ เลขยกกำลังในการเขียนแสดงจำนวนที่มีค่าน้อย ๆ หรือ มาก ๆ ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ การคำนวณ เกี่ยวกับจำนวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ การประยุกต์ของอัตราส่วนและร้อยละ การแก้ปัญหาหรือ สถานการณ์โดยใช้อัตราส่วนและสัดส่วน การแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ในชีวิตประจำวันโดยใช้ร้อยละ การ ประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต การสร้างสรรค์งานศิลปะโดยใช้การแปลงทางเรขาคณิต การออกแบบ โดยใช้การแปลงทางเรขาคณิต พหุนามและเศษส่วนของพหุนามอย่างง่าย การบวก การลบ การคูณ การหาร พหุนามดีกรีไม่เกินหนึ่ง และ เศษส่วนโดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปัญหาที่ส่งเสริมการพัฒนา ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสา การการสอื่ ความหมายและการนำเสนอ เพอื่ ให้มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตยส์ จุ ริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มั่นใน การทำงานรกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผอู้ ืน่ ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. คูณและหารจำนวนท่เี ขยี นอยใู่ นรปู เลขยกกำลงั ทีม่ เี ลขชี้กำลังเปน็ จำนวนเตม็ โดยใชบ้ ทนิยามและสมบัติของ เลขยกกำลงั และนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ ๒. คำนวณและใช้เลขยกกำลงั ในการเขยี นแสดงจำนวนท่ีมีค่านอ้ ย ๆ หรอื มาก ๆ ในรูป สัญกรณ์วิทยาศาสตร์ ได้ ๓. ตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ ๔. ใช้ความรู้เก่ยี วกับอัตราส่วน สดั สว่ นและร้อยละแกป้ ัญหาหรือสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ ๕. ใชค้ วามร้เู กย่ี วกับเลอื่ นขนาน การสะท้อน และ การหมุนในการสรา้ งสรรคง์ านศิลปะ หรอื ออกแบบ 6. บวก ลบ คณู หาการพหุนามได้ 7. บวก ลบ คณู หาการเศษส่วนของพหุนามดีกรไี ม่เกินหนึ่งได้ รวมท้งั หมด 7 ผลการเรยี นรู้
205 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม รหัสวชิ า ค ๒๒๒๐๒ วิชา คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ เวลา ๒๐ ชั่วโมง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้สมบัติการแจกแจง การ แยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่อยู่ในรปู ax2 + bx + c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัวและa ≠ ๐ การแยกตัว ประกอบของพหุนามดีกรีสองที่อยู่ในรูปค่าสัมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่อยู่ในรูปผลต่าง ของกำลังสอง สมการกำลังสองตัวแปรเดียว การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียวโดยใช้การแยกตัวประกอบ การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั สมการกำลงั สองตวั แปรเดียวโดยใชก้ ารแยกตวั ประกอบ การแกส้ มการกำลงั สองตัว แปรเดยี ว การแปรผนั การแปรผันโดยตรง การแปรผัน แบบผกผัน การแปรผนั เก่ยี วเนอ่ื ง การนำไปใช้ กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรผ์ ่านสาระการ เรียนรู้จำนวนและการดำเนินการเรขาคณิตและพีชคณิตโดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปัญหาท่ี ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การ แกป้ ญั หา การสือ่ สาการการสื่อความหมายและการนำเสนอ เพอ่ื ใหม้ ีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สจุ รติ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มั่นใน การทำงานรักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยูร่ ่วมกบั ผูอ้ นื่ ในสงั คมได้อย่างมีความสุข ผลการเรียนรู้ ๑. แยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรสี องได้ ๒. แกส้ มการกำลงั สองตัวแปรเดียวโดยใช้การแยกตวั ประกอบได้ ๓. แก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั สมการกำลังสองตัวแปรเดยี วโดยใช้การแยกตวั ประกอบได้ ๔. ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ ๕. เขียนสมการแสดงการแปรผันระหวา่ งปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่แี ปรผนั ต่อกนั ได้ 6. แก้ปัญหาหรือสถานการณ์ที่กำหนดโดยใช้ความรูเ้ กีย่ วกับการแปรผันได้ 7. สบื เสาะ สงั เกต ใหข้ ้อความคาดการณแ์ ละใหเ้ หตผุ ลทางคณติ ศาสตร์อย่างงา่ ยได้ รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรยี นรู้
206 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค ๒๓๒๐๑ วิชา คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ศึกษา ฝกึ ทกั ษะ / กระบวนการในสาระต่อไปนี้ กรณฑ์ท่สี อง การบวก การลบ การคณู และการหารจำนวนจรงิ ท่ีอยใู่ นรูป a เมอ่ื a 0 โดยใชส้ มบัติ ab = a b เมื่อ a, b 0 และ a = a เมอื่ a 0 และ b 0 bb การแยกตวั ประกอบของพหุนาม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยวธิ ีทำเปน็ กำลังสอง สมบูรณ์ การแยกตวั ประกอบของพหุนมดีกรีสงู กวา่ สองท่ีมสี มั ประสทิ ธ์ิเปน็ จำนวนเต็มโดยอาศัยวิธกี ารทำเปน็ กำลังสองสมบูรณ์หรอื ใชท้ ฤษฎเี ศษเหลือ สมการกำลงั สอง การแกส้ มการกำลงั สองตัวแปรเดยี วโดยสูตการ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการ กำลงั สองตวั แปรเดยี ว พาราโบลา สมการพาราโบลา กราฟของพาราโบลาท่อี ยู่ในรปู y = ax 2 + bx + c เม่ือa 0 การใหเ้ หตุผลทางเรขาคณิตศาสตร์ สมบตั ิเกย่ี วกับวงกลม การใหเ้ หตผุ ลเกย่ี วกบั การสรา้ งรูป เรขาคณิต เพื่อให้มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์สจุ รติ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพียง มุ่งมั่นใน การทำงานรักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อ่ืนในสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. บวก ลบ คูณ และหารจำนวนจรงิ ทอี่ ย่ใู นรูป a เมอ่ื a 0 โดยใชส้ มบตั ิ ab = a b เมอ่ื a, b 0 และ a = a เม่ือ a 0 และ b 0 bb ๒. หาพ้ืนทผ่ี วิ ของพรี ะมิด กรวย และ ทรงกลมได้ ๓. แก้ปญั หาหรอื สถานการณ์ทก่ี ำหนดใหโ้ ดยใช้ความรู้เก่ยี วกับปรมิ าตรและพน้ื ทผ่ี ิวได้ ๔. ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบได้ ๕. การแยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องที่อยใู่ นรปู คา่ สมบรู ณ์ 6. แยกตวั ประกอบของพหุนามดกี รสี ูงท่ีมสี ัมประสิทธิ์เปน็ จำนวนเต็มโดยอาศัยวิธีการทำเป็น กำลังสองสมบูรณ์หรอื ทฤษฎเี ศษเหลือได้ 7.การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดยี วโดยใช้สตู การ๒a 8. แก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับสมการกำลังสองตัวแปรเดยี วได้ 9. เขียนกราฟของพาราโบลาทีก่ ำหนดให้ได้ ๑๐. บอกลกั ษณะของกราฟพาราโบลาที่กำหนดให้ได้ รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
207 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม กล่มุ สาระคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค ๒๓๒๐๒ วิชา คณติ ศาสตร์เพิม่ เตมิ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ ศึกษาความร้เู กี่ยวกบั เรือ่ งการใหเ้ หตุผล สมบตั เิ ก่ยี วกับวงกลม การใหเ้ หตุผลเกย่ี วกับการสรา้ งรปู เรขาคณิต ระบบสมกาการการแกร้ ะบบสมการสองตวั แปรทมี่ ดี ีกรีไมเ่ กนิ สอง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ยี วกับ ระบบสมการสองตัวแปรที่มดี ีกรไี มเ่ กนิ สอง เศษสว่ นของพหนุ าม การบวก การลบ การคูณ การหารเศษสว่ น ของพหนุ าม การแก้สมการเศษส่วนของพหนุ าม การแกป้ ัญหาเกย่ี วกับเศษส่วนพหุนามโดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทย์ปญั หาทส่ี ่งเสรมิ การพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้ เหตุผล การวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การส่อื สาการการส่ือความหมายและการนำเสนอ เพือ่ ใหม้ คี วามรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มัน่ ใน การทำงานรักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ สามารถอยู่ร่วมกับผูอ้ ่นื ในสงั คมได้อย่างมีความสุข ผลการเรยี นรู้ ๑. ใช้สมบตั เิ กี่ยวกบั วงกลมในการให้เหตผุ ลได้ ๒. สรา้ งและใหเ้ หตุผลเกยี่ วกับการสร้างรูปเหล่ียมและรปู วงกลมท่ีกำหนดให้ได้ ๓. แกร้ ะบบสมการสองตวั แปรที่มีดีกรีไม่เกินสองได้ ๔. แก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ระบบสมการสองตวั แปรดกี รีไม่เกินสองได้ ๕. ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบท่ีได้ 6. การบวก การลบ การคณู การหารเศษส่วนของพหนุ ามได้ 7. แก้สมการเศษสว่ นของพหุนามได้ 8. แกปญั หาเก่ียวกับเศษสว่ นของพหุนามได้ 9. สืบเสาะ สงั เกต ใหข้ ้อความคาดการณ์และให้เหตผุ ลทางคณติ ศาสตร์อยา่ งง่ายได้ รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้
208 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ (เพ่มิ เติม) รหัสวชิ า ว 14203 รายวิชา วทิ ยาศาสตรเ์ สรมิ ทักษะ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 80 ชั่วโมง บรรยายหน้าทีข่ องราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก โดยใช้ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ สมนุ ไพรจากราก ลำตน้ ใบ และดอก ในเขตจงั หวดั สกลนครลกั ษณะเฉพาะท่ีสงั เกตได้ของสัตว์มีกระดูกสนั หลงั ในกลมุ่ ปลา กลุ่ม สตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลุม่ สตั ว์เลอื้ ยคลาน กลมุ่ นก และกลุ่มสัตวเ์ ลีย้ งลกู ด้วยน้ำนม และยกตวั อยา่ ง สิง่ มชี ีวิตในแต่ละกลุ่ม ส่ิงมีชวี ิต ในเขตจังหวดั สกลนครมวลของวตั ถุทมี่ ีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงการเคล่ือนที่ของ วตั ถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ จำแนกสิ่งมชี วี ติ โดยใช้ความเหมอื น และความแตกตา่ งของลักษณะของสง่ิ มีชวี ิต ออกเปน็ กล่มุ พชื กลุ่มสตั ว์ และกลุ่มทไ่ี ม่ใช่พืชและสัตว์ สงิ่ มีชีวติ ในเขตจงั หวดั สกลนครพืชออกเปน็ พชื ดอกและ พืชไมม่ ีดอกโดยใชก้ ารมดี อกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ พชื ประจำถ่นิ ในเขตจังหวัดสกลนคร สตั ว์ ออกเปน็ สตั วม์ กี ระดกู สันหลังและสตั วไ์ ม่มีกระดกู สันหลัง โดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมลู ท่ี รวบรวมได้ สงิ่ มชี วี ิตในเขตจังหวดั สกลนครวตั ถเุ ป็นตวั กลางโปร่งใสตวั กลางโปร่งแสง และวัตถทุ ึบแสง จาก ลักษณะการมองเห็นสง่ิ ต่าง ๆ ผ่านวตั ถนุ ้ันเปน็ เกณฑ์โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ธุรกจิ ชมุ ชนทอผ้าไหมแพรวา จังหวัดกาฬสินธ์ุ เปรียบเทยี บสมบตั ทิ างกายภาพดา้ นความแข็งสภาพยืดหยนุ่ การนำความรอ้ น และการนำ ไฟฟ้าของวสั ดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษจ์ ากการทดลองและระบุการนำสมบตั ิเร่ืองความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดไุ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ผ่านกระบวนการออกแบบช้นิ งาน สมบตั ิของ สสารทง้ั ๓ สถานะ จากข้อมูลที่ได้จากการสังเกตมวล การต้องการที่อยูร่ ปู ร่างและปริมาตรของสสาร อภปิ ราย เก่ยี วกบั สมบตั ทิ างกายภาพของวสั ดอุ ยา่ งมีเหตุผลจากการทดลอง ใช้เคร่ืองมือเพอ่ื วดั มวล และปรมิ าตรของ สสารท้ัง ๓ สถานะ เครอื่ งชั่งสปรงิ ในการวดั น้ำหนักของวัตถุ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธบิ ายการ ทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จากปญั หาอย่างงา่ ย อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมนิ ความน่าเช่อื ถอื ของ ขอ้ มูล เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทขี่ องตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อืน่ แจ้งผ้เู กี่ยวข้อง เมอ่ื พบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม ระบุผลของแรงโน้มถว่ งทีม่ ตี ่อวตั ถจุ ากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ประเพณี แห่นางแมว จังหวัดชัยภมู ิ อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ดวงจนั ทร(์ การเกิดขา้ งข้นึ ข้างแรม) สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายแบบรูปการเปลีย่ นแปลงรูปรา่ งปรากฏของดวง จนั ทร์และพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ แสดงองคป์ ระกอบของระบบสุรยิ ะ และอธิบายเปรียบเทียบ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือส่อื และตรวจหาข้อผดิ พลาดและแก้ไข รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศโดยใชซ้ อฟต์แวรท์ ่ี หลากหลาย เพ่อื แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศโดยใช้ซอฟตแ์ วรท์ ี่ หลากหลาย เพือ่ แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และพัฒนาทักษะการคดิ สู่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการเรยี นร้คู วามเขา้ ใจ กระบวนการสบื สวน สอบสวน กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการสร้างความตระหนัก เพื่อให้มี ความรักชาตศิ าสน์กษตั รยิ ์ ซ่ือสัตย์สจุ รติ มีวนิ ัยใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มน่ั ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ และมจี ิตวิทยาศาสตร์
209 เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิง่ ที่ได้เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ คา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. บรรยายหน้าทข่ี องราก ลำต้นของพชื ได้ 2. จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพชื ไม่มีดอก โดยใชด้ อกเปน็ เกณฑ์ได้ 3. บรรยายหน้าท่ขี องราก ลำต้นและดอก ของพืชดอกได้ จำแนกสงิ่ มีชวี ติ ออกเปน็ กลุ่ม โดยใชค้ วามเหมือน หรือความแตกต่างของลกั ษณะต่าง ๆ ของส่ิงมีชวี ิตเป็นเกณฑ์ได้ 4. จำแนกสตั วอ์ อกเปน็ สัตว์มกี ระดูกสันหลงั และสัตวไ์ ม่มกี ระดกู สันหลงั โดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ ได้ 5. บรรยายลักษณะเฉพาะทีส่ ังเกตได้ของสัตวม์ ีกระดกู สันหลงั ในกล่มุ ต่าง ๆ ได้ 6. อภิปรายและเปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพดา้ นความแขง็ สภาพยดื หยุ่น การนำความรอ้ นและการนำ ไฟฟา้ ของวสั ดุได้ 7. อภปิ รายเกย่ี วกบั สมบัติทางกายภาพของวัสดุ อย่างมเี หตผุ ล จากการทดลองได้ 8. บอกสมบัตแิ ละเปรียบเทียบสมบัตขิ องสสารทงั้ 3 สถานะได้ 9. ใช้เครอ่ื งมอื เพ่ือวัดมวลและปรมิ าตรของสสารท้ัง 3 สถานะได้ 10. ระบุผลของแรงโน้มถว่ งของโลกทมี่ ตี ่อวัตถุได้ 11. ใชเ้ ครื่องชง่ั สปริงวดั น้ำหนักของวตั ถไุ ด้ 12. จำแนกวตั ถเุ ป็นตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสงและวัตถุทึบแสง โดยใช้ลักษณะการมองเหน็ ตา่ ง ๆ ผา่ น วัตถนุ ัน้ เปน็ เกณฑ์ได้ 13. อธิบายแบบรูปเสน้ ทางการขนึ้ และตกของดวงจันทร์ได้ 14. บอกช่ือดาวเคราะหต์ ่าง ๆ ในระบบสรุ ิยะได้
210 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ (เพิ่มเติม) รหสั วชิ า ว 15203 รายวชิ า วิทยาศาสตรเ์ สรมิ ทกั ษะ กลุม่ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 40 ช่วั โมง ศึกษา วิเคราะห์ โครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตท่ีเหมาะสมกบั การดำรงชีวติ ซึ่งเป็นผลมาจาก การปรบั และความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี ีวติ ทีเ่ หมาะสมกับการดำรงชวี ิตซงึ่ เปน็ ผลมาจากการปรับตวั ของสงิ่ มีชวี ิต ในแต่ละแหล่งที่อยู่ ความสมั พันธร์ ะหว่างสงิ่ มีชีวติ กับสง่ิ มชี ีวติ และความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวติ กบั ส่ิงไม่มชี วี ิต เพ่ือประโยชน์ต่อการดำรงชวี ิต โซ่อาหารและบทบาทหนา้ ท่ีของสิง่ มีชวี ติ ที่เปน็ ผผู้ ลติ และผู้บรโิ ภค ในโซ่อาหาร คณุ ค่าของสง่ิ แวดล้อมที่มีต่อการดำรงชวี ิตของส่ิงมชี ีวติ โดยมสี ่วนรว่ มในการดแู ลรกั ษาส่งิ แวดล้อม ลกั ษณะทางพันธุกรรมท่มี กี ารถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ลู่ กู ของพืช สัตว์ และมนษุ ย์ ลักษณะที่คล้ายคลึงกันของ ตนเองกับพ่อแม่ การเปลี่ยนสถานะของสสารเม่ือทำให้สสารร้อนข้ึนหรอื เยน็ ลง การละลายของสารในนำ้ การ เปล่ียนแปลงของสารเมอื่ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลย่ี นแปลงที่ผันกลบั ได้และการเปลยี่ นแปลงทผี่ ัน กลับไม่ได้ วธิ กี ารหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดยี วกนั ทก่ี ระทำต่อวตั ถุอยู่นงิ่ แผนภาพแสดงแรงท่ี กระทำต่อวตั ถุทีอ่ ยู่ในแนวเดียวกนั และแรงลัพธท์ ีก่ ระทำต่อวตั ถุ การใช้เครอ่ื งชัง่ สปรงิ ในการวดั แรงท่ีกระทำต่อ วัตถุ ผลของแรงเสยี ดทานท่ีมีตอ่ การเปลยี่ นแปลงการเคลือ่ นทีข่ องวตั ถุ การเขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทาน และแรงที่อยูใ่ นแนวเดยี วกันท่ีกระทำตอ่ วตั ถุ การได้ยนิ เสยี งผา่ นตวั กลาง ลกั ษณะและการเกิดเสยี งสูง เสียงตำ่ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและการเกิดเสยี งดัง เสยี งคอ่ ย การวัดระดับเสยี งโดยใชเ้ ครื่องมือวดั ระดับเสียง แนวทางในการหลกี เล่ียงและลดมลพิษทางเสยี ง ความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จาก แบบจำลอง การใชแ้ ผนท่ดี าวระบุตำแหน่งและเส้นทางการขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า แบบรปู เสน้ ทางการข้นึ และตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้าในรอบปี ปรมิ าณนำ้ ในแตล่ ะแหล่ง ปรมิ าณน้ำทีม่ นุษย์ สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ได้ แนวทางการใชน้ นำ้ อย่างประหยัดและการอนุรักษน์ ้ำ แบบจำลองการหมนุ เวยี น ของน้ำในวัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก นำ้ ค้าง และน้ำคา้ งแข็ง จากแบบจำลอง และกระบวนการเกดิ ฝน หิมะ และลกู เหบ็ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์จาก ปญั หาอยา่ งง่าย ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือส่อื และตรวจหาข้อผดิ พลาดและ แกไ้ ข ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมลู ตดิ ต่อส่ือสารและทำงานรว่ มกนั ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือบริการบนอินเตอร์เน็ตท่ี หลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาในชีวติ ประจำวนั ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มีมารยาท เขา้ ใจสิทธแิ ละ หน้าที่ของตน เคารพในสิทธขิ องผู้อื่น แจง้ ผ้เู ก่ยี วข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทยี บข้อมลู จากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ และการอภปิ ราย เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสอื่ สารสิง่ ที่เรยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ นำความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรียนสามารถบรรยายโครงสร้างและลักษณะของสิง่ มชี ีวติ ที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต ซ่ึงเปน็ ผลมาจาก การปรับตัวของสิ่งมชี ีวติ ในแต่ละแหล่งท่ีอยู่ 2. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่งิ มชี ีวติ กับสิ่งมีชวี ติ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกับส่งิ ไมม่ ชี ีวติ เพื่อประโยชนต์ ่อการดำรงชีวติ 3.นกั เรยี นสามารถเขยี นโซ่อาหารและระบุบทบาทหนา้ ท่ีของส่ิงมีชีวติ ทเ่ี ป็นผู้ผลิตและผู้บรโิ ภคในโซ่อาหาร
211 4.นกั เรยี นสามารถอธิบายลักษณะทางพันธุกรรมที่มกี ารถา่ ยทอดจากพ่อแม่สลู่ ูกของพชื สตั ว์ และมนษุ ย์ 5. นกั เรยี นสามารถอธิบายการได้ยนิ เสียงผ่านตวั กลางจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ 6. ระบตุ วั แปร ทดลอง และอธิบายลกั ษณะและการเกิดเสียงสงู เสยี งต่ำ 7.นักเรยี นตระหนกั ในคุณคา่ ของความรู้เร่อื งระดบั เสยี ง โดยเสนอแนะแนวทางในการหลีกเลีย่ งและลดมลพิษ ทางเสยี ง 8.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการเปลยี่ นสถานะของสสาร เมื่อทำใหส้ สารร้อนขึน้ หรือเยน็ ลง โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ 9. นักเรยี นวิเคราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงของสารเมื่อเกดิ การเปล่ียนแปลงทางเคมี โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ 10. นกั เรยี นสามรถอธิบายวธิ ีการหาแรงลพั ธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดยี วกนั ที่กระทำตอ่ วัตถุในกรณที ีว่ ตั ถุ อยู่นง่ิ จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ 11. เขยี นแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยใู่ นแนวเดยี วกนั และแรงลัพธ์ทีก่ ระทำตอ่ วัตถุ 12. ระบผุ ลของแรงเสียดทานทมี่ ตี อ่ การเปลยี่ นแปลงการเคลอ่ื นท่ีของวัตถจุ ากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ 13. เปรียบเทยี บปริมาณนำ้ ในแต่ละแหลง่ และระบุปรมิ าณน้ำท่มี นุษยส์ ามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ดจ้ ากขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ 14.นกั เรียนสามารถเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ เมฆ หมอก น้ำค้าง และนำ้ ค้างแขง็ จากแบบจำลอง 15. นักเรยี นสารถเปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเหบ็ จากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ 16.นักเรยี นสามารถเปรียบเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์จากแบบจำลอง 17.นักเรยี นสามารถใชแ้ ผนที่ดาวระบตุ ำแหน่งและเสน้ ทางการขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า และ อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟ้าในรอบปี
212 คำอธบิ ายรายวชิ า (เพ่ิมเติม) รหัสวชิ า ว 16203 รายวชิ า วิทยาศาสตร์เสริมทกั ษะ กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 40 ชวั่ โมง ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแตล่ ะประเภทจากอาหารท่ตี นเองรับประทาน บอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วน ในสดั สว่ นทเ่ี หมาะสมกบั เพศและวัย รวมทั้งความปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ ตระหนกั ถึงความ สำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารท่ีมี สารอาหารครบถ้วนในสดั ส่วนทเ่ี หมาะสมกับเพศและวยั รวมท้ังปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ สร้างแบบจำลองระบบ ย่อยอาหาร และบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทงั้ อธิบายการย่อยอาหารและการดดู ซึม สารอาหาร ตระหนกั ถึงความสำคญั ของระบบย่อยอาหารโดยการบอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวยั วะในระบบ ยอ่ ยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ อธบิ ายและเปรยี บเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้ แม่เหล็กดึงดูด การรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษร์ วมท้งั ระบุวธิ ีแกป้ ัญหาใน ชวี ิตประจำวนั เก่ยี วกับการแยกสาร การแยกน้ำครามออก ในกระบวนการผลิตผา้ คราม จังหวดั สกลนคร อธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟา้ ซ่งึ เกดิ จากวัตถุทผี่ า่ นการขัดถูโดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ระบุ ส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ขี องแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ เขยี นแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ีเหมาะสมในการอธบิ าย วิธกี ารและผลของการต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม การต่อไฟหลอดไฟประดับในพธิ ีแห่ดาว จังหวัดสกลนคร ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องความรู้ของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอกประโยชน์และการประยกุ ต์ใช้ใน ชีวติ ประจำวัน ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ีท่เี หมาะสมในการอธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบ อนกุ รมและแบบขนาน ตระหนกั ถึงประโยชน์ของความรู้ของการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ข้อจำกัด และการประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามวั จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกดิ เงามดื เงามัว สรา้ งแบบจำลองท่ีอธิบายการเกดิ และ เปรียบเทียบปรากฏการณ์สรุ ิยุปราคาและจนั ทรปุ ราคา อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และ ยกตัวอยา่ งการนำเทคโนโลยอี วกาศมาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั จากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ เปรยี บเทยี บ กระบวนการเกิดหนิ อัคนี หินตะกอน และหนิ แปร และอธิบายวัฏจักรหนิ จากแบบจำลอง ภมู ปิ ญั ญาไทย ประเภทของหนิ ท่ีใชส้ ร้างประสาทหินพมิ าย จ.นครราชสมี า และประสาทหินพนมรุง้ จ.บุรีรมั ย์ ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ประเภทของหินทใ่ี ช้สรา้ งพระธาตุนารายณ์เจงเวง ในจังหวดั สกลนคร อาเซยี น ประเภทของหนิ ทีใ่ ช้สรา้ งนครวดั นครธม จงั หวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา บรรยายและยกตวั อยา่ งการใช้ ประโยชนข์ องหินและแรใ่ นชีวิตประจำวันจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบายการเกิดซากดึกดำ บรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดตี ของซากดึกดำบรรพ์ เปรียบเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม รวมทัง้ อธิบายผลท่มี ตี ่อสิ่งมชี ีวิตและสิง่ แวดล้อมจากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสุมต่อการเกิดฤดขู อง ประเทศไทยจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของนำ้ ทว่ มการกัดเซาะชายฝัง่ ดินถล่ม แผ่นดนิ ไหว สึนามิ การเกิดคลนื่ สึนามีในภูมิภาคอาเซียน ตระหนกั ถึงผลกระทบของภัยธรรมชาตแิ ละธรณีพิบตั ิ ภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝ้าระวงั และปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัยจากภยั ธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ตั ภิ ยั ทอี่ าจเกดิ ในทอ้ งถ่นิ การจดั การทรัพยากรน้ำ ในจังหวดั สกลนคร สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือน กระจกและผลของปรากฏการณ์เรอื นกระจกตอ่ สิง่ มีชีวติ ตระหนกั ถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบตั ติ นเพื่อลดกจิ กรรมท่ีก่อใหเ้ กิดแก๊สเรือนกระจก ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการ อธิบายและออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ติ ประจำวัน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อ
213 แกป้ ัญหาในชีวิตประจำวนั ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ในการค้นหาข้อมูล อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกันอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทีข่ องตน เคารพ ในสทิ ธขิ องผู้อ่ืน แจง้ ผูเ้ กีย่ วข้องเมื่อพบข้อมูลหรอื บุคคลท่ีไม่เหมาะสม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพฒั นาทกั ษะการคิดสูศ่ ตวรรษที่ 21 โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการ ความรคู้ วามเข้าใจ กระบวนการสร้างค่านิยม กระบวกแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการอา่ น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรา้ งคา่ นิยม เพือ่ ให้มคี วามรักชาติ ศาสน์กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ย์สุจรติ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมั่นในการ ทำงาน รักความเป็นไทยและมจี ิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารที่ตนเอง รบั ประทาน 2. นักเรียนสามารถบอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน ในสัดส่วนที่ เหมาะสม กบั เพศและวยั รวมทง้ั ความปลอดภัยต่อสุขภาพ 3. ตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารท่ีมสี ารอาหารครบถว้ นในสัดส่วนที่ เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทง้ั ปลอดภัยต่อสขุ ภาพ 4. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองระบบย่อยอาหาร และบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมท้งั อธบิ ายการยอ่ ยอาหารและการดูดซมึ สารอาหาร 5. นักเรียนสามารถอธบิ ายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การรอ่ น การใชแ้ มเ่ หล็กดงึ ดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหาใน ชีวติ ประจำวนั เกี่ยวกับการแยกสาร 6.นักเรียนสามารถอธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้า ซึ่งเกิดจากวัตถุที่ผ่านการขัดถู โดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ 7. นักเรียนสามารถระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าที่ของแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายจาก หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ 8. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย 9. นักเรยี นสามารถออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ีที่เหมาะสมในการอธบิ ายวธิ ีการและผลของการต่อ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรม 10. นักเรียนตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอกประโยชน์และการ ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั 11.นักเรยี นสามารถอธิบายการเกดิ เงามดื เงามวั จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ 12. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และเปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ จันทรปุ ราคา 13.นักเรียนสามารถอธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้
214 14 นักเรยี นสามารถเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร และอธิบายวัฏจกั รหินจาก แบบจำลอง 15. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดซากดึกดำบรรพ์และคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีต ของซากดกึ ดำบรรพ์ 16. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม รวมทั้งอธิบายผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและ ส่งิ แวดล้อมจากแบบจำลอง 17.นักเรยี นสามารถอธบิ ายผลของมรสมุ ต่อการเกดิ ฤดูของประเทศไทยจากข้อมูลทรี่ วบรวมได้ 18. นักเรียนสามารถบรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึ นามิ 19. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของปรากฏการณ์ เรือนกระจกต่อส่งิ มีชีวติ
215 คำอธิบายรายวชิ า (เพ่ิมเตมิ ) รายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ศึกษา การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ต ท่หี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ ง ทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้ แก้ปญั หาได้อย่างรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และแม่นยำ โดยใชก้ ระบวนการการ ทำงาน กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ และเห็น คณุ คา่ ของเทคโนโลยี สามารถนำเทคโนโลยสี ารสนเทศไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน เห็นคณุ คา่ ของการ ประกอบอาชีพ และมเี จตคติที่ดีต่ออาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ใช้สื่อ และแหล่งข้อมูลตาม ข้อกำหนดและขอ้ ตกลง โดยใช้กระบวนการการทำงาน กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ และเห็นคณุ คา่ ของเทคโนโลยี สามารถนำเทคโนโลยสี ารสนเทศไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวนั เห็นคณุ ค่าของการประกอบอาชีพ และมีเจตคติทด่ี ตี ่ออาชีพ เน้นการบรู ณาการกับวิชาอนื่ ๆ รวบรวมข้อมลู ปฐมภูมิประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มลู และ สารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ที่หลากหลาย ผลการเรียนรู้ ๑.นักเรียนสามารถใชง้ านโปรแกรม Google Drive ได้ ๒.นกั เรยี นสามารถสร้างแฟม้ งานได้ ๓.นกั เรียนสามารถสรา้ งไฟล์งานได้ ๔.นักเรยี นสามารถอัพโหลดข้อมูลแบบตา่ ง ๆ ได้ ๕.นกั เรียนสามารถแชร์ไฟลแ์ ละแฟ้มงาน ได้ ๖.นกั เรียนสามารถเขา้ ใช้งานและสรา้ งชิน้ งานบน Google Drive ๗.นกั เรยี นสามารถเข้าใชง้ านและสร้างชิน้ งานบน Google Sheets ๘.นักเรยี นสามารถเข้าใชง้ านและสร้างชิ้นงานบน Google Slide ๙.นกั เรียนสามารถพฒั นาแอปพลเิ คชนั ด้วย Kodular App บนโทรศัพท์มือเบ้ืองตน้ ได้ ๑๐.นักเรียนสามารถเข้าใชง้ านและสร้างช้นิ งานบนแอป Canva ได้ ๑๑.นกั เรยี นสามารถเข้าใช้งานและสรา้ งชนิ้ งานบน Glide Apps ได้ รวม ๑๑ ผลการเรยี นรู้
รายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ 216 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ คำอธิบายรายวิชา (เพ่ิมเตมิ ) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ศกึ ษาการใชซ้ อฟต์แวร์หรือบริการบนอนิ เทอรเ์ น็ต ทห่ี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ ง ทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะชว่ ยให้ แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ ใช้กระบวนการ สรา้ ง ความรู้ ความเข้าใจ การคิด การวเิ คราะห์ การฝกึ ทักษะและปฏิบตั ิงาน การแกป้ ัญหา การทำงานกลุ่ม การ เสรมิ สร้างเจตคติ และกระบวนการเสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคเ์ พ่ือใหผ้ ู้เรยี นเกิด ความตระหนักและ เห็นคุณค่า มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ และทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการแกป้ ัญหาการทำงาน และการ ประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างสรรค์ผลงานในการดำรงชวี ติ ใช้ทรพั ยากร และส่ิงแวดล้อมอย่างคุ้มค่าถูกวิธี อภิปรายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของ ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยกี ารสอื่ สาร เพือ่ ประยกุ ตใ์ ชง้ านหรือแก้ปญั หาเบื้องตน้ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มคี วาม รับผดิ ชอบ สรา้ งและ แสดงสิทธใิ นการเผยแพร่ ผลงาน ศึกษาขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ท่ีมีการบูรณาการกบั วชิ าอ่ืน อยา่ งสร้างสรรค์ โดยการเขยี น โปรแกรม Glide App และโปรแกรม Kodular App บนอนิ เทอร์เน็ตเพ่ือแก้ปัญหาอย่างง่าย นำไปประยุกตใ์ ช้ งานในการพฒั นาแอปพลิเคชนั ขน้ั สงู ตอ่ ไป ผลการเรียนรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถพฒั นาแอปเคร่ืองคิดเลขดว้ ย MIT AppInventor ได้ ๒.นกั เรียนสามารถการพัฒนาแอปคำศัพท์ MIT AppInventorได้ ๓.นกั เรียนสามารถการพฒั นาแอปพลิเคชันด้วย Glide Apps ได้ ๔.นักเรยี นสามารถใชง้ าน Google Drive ได้ ๕.นักเรยี นสามารถใช้งาน Google Sheets ได้ ๖.นกั เรียนสามารถทำ E-Book ได้ ๗.นกั เรยี นสามารถออกแบบปกรายงานดว้ ย Canva ได้ รวม ๗ ผลการเรียนรู้
217 คำอธบิ ายรายวิชา (เพิ่มเตมิ ) รายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 40 ชัว่ โมง / ปี ศกึ ษาขั้นตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชันทีม่ ีการบรู ณาการกบั วชิ าอน่ื อย่างสรา้ งสรรค์ โดยการเขียน โปรแกรม App Inventor เพอื่ แกป้ ัญหาอย่างงา่ ย การรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งข้อมลู ปฐมภูมแิ ละ ทุตยิ ภูมิ ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล จะทำให้ได้สารสนเทศเพื่อใชใ้ นการแกป้ ัญหา หรือการตัดสนิ ใจได้อยา่ ง มีประสิทธิภาพ การใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตทหี่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ ง ทางเลอื ก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้ แก้ปัญหาได้อยา่ งรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และแมน่ ยำ การประมวลผลเปน็ การกระทำกับข้อมลู เพื่อให้ได้ ผลลพั ธ์ทีม่ คี วามหมายและมีประโยชนต์ ่อการ นำไปใชง้ าน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมี ความรบั ผิดชอบต่อสังคม ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรใ์ ช้ลิขสิทธิข์ องผูอ้ น่ื โดยชอบธรรม เน้นการบูรณาการกบั วชิ าอื่น ๆ รวบรวมข้อมูลปฐมภมู ิประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูล และ สารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ทห่ี ลากหลาย ผลการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นสามารถพฒั นาแอปเกมปริศนาดว้ ย Kodular ได้ 2) นกั เรียนสามารถออกแบบแอปพลิเคชัน เกมปริศนา ได้ 3) นักเรียนสามารถเขยี นโปรแกรมและทดสอบเกมปริศนาได้ 4) นกั เรียนสามารถสง่ ออก และเผยแพร่ 5) นักเรยี นสามารถประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ 6) นกั เรียนสามารถทำ E-Book ได้ 7) นักเรียนสามารถออกแบบปกรายงานด้วย Canva ได้ 8) นกั เรยี นสามารถพัฒนาแอปต่าง ๆ ดว้ ย Glide app ได้ 9) นกั เรียนสามารถเข้าใช้งาน Google Drive ได้ 10) นกั เรยี นสามารถเขา้ ใช้งาน Google Docs ได้ 11) นักเรยี นสามารถเข้าใช้งาน Google Sheets ได้ 12) นักเรียนสามารถเข้าใชง้ าน Google Slides ได้ รวม ๑๒ ผลการเรียนรู้
218 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ หน้าทีพ่ ลเมือง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ส๑๑๒02 หน้าทพ่ี ลเมือง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย ในเรื่องการแสดงความเคารพ การรับประทานอาหาร การทักทายด้วย วาจาและยิม้ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่และญาติผูใ้ หญ่ เห็นความสำคัญของภาษาไทย ปฏิบัติ ตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องการออมและการประหยัด หลักการทรงงาน ในเรื่องการประหยัด ความเรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริตและจรงิ ใจตอ่ กนั และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏิบตั ิตนเป็นผ้มู วี นิ ัยในตนเอง ใน เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการ กระทำของตนเอง ปฏิบัตติ นตามขอ้ ตกลง กตกิ า และหน้าท่ีทต่ี อ้ งปฏิบัติในห้องเรียน ในเรอ่ื งการรกั ษาความสะอาด การ รักษาของใช้ร่วมกัน และการส่งงาน ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ในฐานะสมาชิกที่ดีของครอบครัวและ หอ้ งเรียนในเร่อื งการเชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ ญาติผ้ใู หญแ่ ละครู ปฏิบัติตนเปน็ ผูม้ วี นิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองความ ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัตหิ น้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกตา่ งของตนเองและผู้อื่น ในเรอื่ งเชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ สขุ ภาพ ความ พกิ าร ความสามารถ ถนิ่ กำเนิด ฯลฯ ยกตัวอยา่ งความขัดแย้งในห้องเรียน ในกรณีความคดิ เห็นไม่ตรงกัน การ ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น และเสนอวิธีการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ ซ่ือสัตยส์ จุ รติ อดทน และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแก้ปัญหา เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด มั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ สามารถจดั การความขัดแย้งดว้ ยสนั ติวธิ ี และมีวินัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญูกตเวทตี ่อบคุ คลในครอบครวั ๓. เหน็ ความสำคัญของภาษาไทย ๔. เขา้ ร่วมกจิ กรรมเก่ยี วกบั ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง กติกา และหน้าท่ีทีต่ อ้ งปฏิบตั ิในหอ้ งเรยี น
219 ๗. ปฏิบัตติ นตามบทบาทหน้าทีใ่ นฐานะสมาชิกทีด่ ีของครอบครวั และห้องเรียน ๘. ยอมรบั ความเหมือนและความแตกตา่ งของตนเองและผ้อู ่ืน ๙. ยกตัวอยา่ งความขัดแยง้ ในห้องเรยี นและเสนอวิธีการแกป้ ันหาโดยสนั ตวิ ธิ ี ๑๐.ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้มู ีวินยั ในตนเอง รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
220 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ หนา้ ท่พี ลเมอื ง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ส๑๒๒02 หน้าท่ีพลเมือง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ มี ารยาทไทย ในเรื่องการพดู ดว้ ยถ้อยคำไพเราะและมีกิริยาสภุ าพอ่อนน้อม แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบคุ คลในโรงเรียน เห็นประโยชนข์ องการแต่งกายด้วยผ้าไทย ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มวี ินยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซือ่ สตั ย์สจุ ริต ขยันหมัน่ เพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตงั้ ใจปฏิบตั หิ น้าท่ี และยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทำของตนเอง เข้ารว่ มกิจกรรมเกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา และสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรือ่ งความขยนั และอดทน หลกั การทรงงาน ในเรือ่ งการพ่งึ ตนเองและรู้ รกั สามัคคี และหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซือ่ สตั ยส์ ุจริต ขยันหมั่นเพยี ร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั หิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ และหน้าทที่ ่ตี ้องปฏบิ ัตใิ นโรงเรียน ในเร่อื งการแต่งกาย การเขา้ แถว การดูแล พนื้ ทที่ ี่ได้รับมอบหมาย ปฏบิ ัตติ ามบทบาทหนา้ ท่ใี นฐานะสมาชกิ ทีด่ ีของห้องเรยี นและโรงเรียน ในเรอ่ื งการเปน็ ผู้นำและการเปน็ สมาชกิ ที่ดี หนา้ ท่แี ละความรับผดิ ชอบ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอื่ สตั ย์ สจุ ริต ขยันหม่นั เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏิบตั ิหน้าท่ี และยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผอู้ น่ื ในเร่อื งเชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถน่ิ กำเนดิ ฯลฯ ยกตัวอย่างความขัดแย้งในหอ้ งเรียน ในกรณีหน้าทแ่ี ละความ รับผิดชอบและการใชข้ องสว่ นรวม และเสนอวิธีการแกป้ ัญหาโดยสันติวธิ ี ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเอง ใน เรือ่ งความซือ่ สตั ย์สจุ ริต อดทน และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ญั หา เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีลักษณะท่ีดขี องคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึง่ ความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรัก ชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ดำเนินชวี ิตตามวถิ ีประชาธปิ ไตย อยู่รว่ มกบั ผู้อื่นอยา่ ง สันติ สามารถจดั การความขดั แย้งด้วยสนั ติวิธี และมีวินยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้มู มี ารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญูกตเวทีต่อบุคคลในโรงเรียน ๓. เหน็ ประโยชนข์ องการแตง่ กายดว้ ยผ้าไทย ๔. เข้ารว่ มกิจกรรมเก่ียวกบั ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖. ปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบียบ และหนา้ ทีท่ ต่ี อ้ งปฏบิ ัตใิ นโรงเรียน ๗. ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทีใ่ นฐานะสมาชกิ ที่ดขี องห้องเรียนและโรงเรยี น ๘. ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างของตนเองและผู้อ่นื ๙. ยกตวั อย่างความขัดแยง้ ในโรงเรียนและเสนอวิธกี ารแกป้ นั หาโดยสนั ตวิ ิธี ๑๐.ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
221 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หน้าที่พลเมือง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ส๑๓๒02 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีมารยาทไทย ในเรอ่ื งการต้อนรับผู้มาเยอื น และการปฏบิ ัตติ นตามกาลเทศะ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทตี อ่ ชุมชน เหน็ คณุ ค่าของภมู ิปญั ญาท้องถ่ินในเรื่องตา่ งๆ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้มู ีวินัย ในตนเอง ในเรื่องความซื่อสตั ย์สุจริต ขยนั หม่ันเพยี ร อดทน และยอมรับผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง เข้าร่วมกจิ กรรมเกยี่ วกบั ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษตั ริย์ ปฏิบตั ติ นตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความซ่อื สตั ย์และความเสียสละ หลักการทรงงาน ในเร่อื งการมสี ว่ นร่วมและความเพยี ร และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซอ่ื สตั ยส์ ุจริต ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าทีท่ ีต่ อ้ งปฏิบตั ิในหอ้ งเรยี นและโรงเรียน ในเร่อื ง การใชแ้ ละการดแู ลรกั ษาสิ่งของ เครื่องใช้และสถานที่ของสว่ นรวม ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหน้าทใ่ี นฐานะสมาชิก ท่ดี ขี องห้องเรยี นและโรงเรยี น ในเรื่องการใชส้ ิทธแิ ละหน้าที่ และการใช้เสรภี าพอยา่ งรับผดิ ชอบ มสี ว่ นร่วมใน กิจกรรมต่างๆของห้องเรยี นและโรงเรยี น ปฏิบัตติ นเป็นผ้มู วี นิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซื่อสัตย์สจุ รติ ขยนั หมัน่ เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกตา่ งของตนเองและผู้อื่น ในเร่อื งเชือ้ ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถน่ิ กำเนดิ สถานะบุคคล ฯลฯ อยู่ร่วมกับผู้อนื่ อย่างสันติและพง่ึ พาซึง่ กนั และกัน ดว้ ย การไม่รังแก ไม่ทำร้าย ไมล่ ้อเลยี น ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันละกัน และแบง่ ปนั ยกตัวอยา่ งความขัดแยง้ ในชุมชน ในกรณี การใช้สาธารณสมบตั แิ ละการรักษาสิ่งแวดลอ้ ม และเสนอวธิ กี ารแก้ปัญหาโดยสันติวธิ ี ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ใน ตนเอง ในเรื่องความซ่ือสตั ย์สุจรติ อดทน และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุม่ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมลี ักษณะทดี่ ขี องคนไทย ภาคภูมใิ จและรักษาไว้ซงึ่ ความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรัก ชาติ ยดึ มั่นในศาสนา เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ ดำเนนิ ชวี ติ ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย อยูร่ ว่ มกับผู้อ่ืนอยา่ ง สันติ สามารถจัดการความขดั แย้งดว้ ยสันตวิ ิธี และมีวินยั ในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตัญญกู ตเวทีต่อบุคคลในชมุ ชน ๓. เหน็ คุณคา่ ของภูมิปัญญาท้องถ่ิน ๔. เข้าร่วมกิจกรรมเกีย่ วกับชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ตั ติ นตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖. ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าท่ีที่ต้องปฏิบัติในห้องเรียนและโรงเรยี น ๗. ปฏิบัตติ นตามบทบาทหนา้ ท่ีและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่างๆของห้องเรยี นและโรงเรียน ๘. ยอมรับและอยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนอย่างสันติ ๙. ยกตัวอยา่ งความขดั แยง้ ในชมุ ชนและเสนอวิธกี ารแกป้ นั หาโดยสันติวธิ ี ๑๐.ปฏิบัตติ นเป็นผูม้ วี นิ ยั ในตนเอง รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
222 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนา้ ท่ีพลเมือง ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ ส๑๔๒02 หนา้ ท่ีพลเมือง เวลา ๔๐ ชว่ั โมง เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในพิธีการต่างๆ ในเรื่องการกล่าวต้อนรับ การแนะนำ ตัวเองและแนะนำสถานที่ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ทำประโยชน์ในสังคม มีส่วนร่วมใน ขนบธรรมเนียมประเพณใี นท้องถิ่น ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสตั ย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน และยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นความสำคัญและแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องการใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติตนตามพระราชจริยวัตรและพระจรยิ วัตร ปฏิบัตติ นตามพระบรมราโชวาท ในเร่อื งการมวี นิ ยั และการข่ม ใจ หลักการทรงงาน ในเรื่องประโยชน์ส่วนรวมและพออยู่พอกิน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ หนา้ ที่ และยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง มีส่วนรว่ มในการสรา้ งและปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กตกิ าของหอ้ งเรยี น ในเร่อื งการรกั ษาความสะอาด การ รักษาของใช้ร่วมกันและการส่งงาน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างข้อตกลง กติกาด้วยหลักเหตุผล และยึดถือประโยชน์ส่วนรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของการเป็นสมาชิกท่ีดขี องครอบครัวและห้องเรียน ในเรอ่ื งการเปน็ ผู้นำและการเปน็ สมาชิกที่ดี การมีเหตุผล ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อ่นื และการปฏิบัติตาม เสยี งข้างมากและยอมรับเสยี งขา้ งน้อย มสี ่วนรว่ มและรับผิดชอบในการตดั สินใจในกิจกรรมของครอบครัวและ ห้องเรยี น ปฏิบัติตนเปน็ ผ้มู วี ินัยในตนเอง ในเร่อื งความซ่ือสัตย์สุจริต ขยนั หม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจ ปฏิบตั หิ น้าที่ และยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรับความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผู้อื่น ในเรอื่ งเช้ือชาติ ภาษา เพศ สขุ ภาพ ความ พิการ ความสามารถ ถิ่นกำเนิด สถานะบุคคล ฯลฯ อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติและพึ่งพาซึ่งกันและกัน ในเรื่อง การไม่รังแก ไม่ทำร้าย ไม่ล้อเลียน ช่วยเหลือซึ่งกันละกันและแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในท้องถ่ิน ในกรณีการใชส้ าธารณสมบัติและการรักษาส่ิงแวดล้อม และเสนอวิธีการแก้ปัญหาโดยสันตวิ ธิ ี ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วนิ ยั ในตนเอง ในเรอื่ งความซือ่ สตั ย์สุจริต อดทน และยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา เพื่อให้ผู้เรียนมีลกั ษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง สนั ติ สามารถจดั การความขัดแย้งด้วยสนั ตวิ ธิ ี และมีวนิ ยั ในตนเอง
223 ผลการเรียนรู้ ๑. เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูม้ ีมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญกู ตเวทตี ่อผู้ทำประโยชนใ์ นสงั คม ๓. มสี ว่ นร่วมในขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย ๔. เหน็ ความสำคญั และแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ๕. ปฏบิ ัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. มสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งและปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กตกิ าของห้องเรยี น ๗. ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของครอบครัวและ ห้องเรยี น ๘. ยอมรบั และอยูร่ ่วมกับผ้อู ื่นอย่างสนั ติ และพึ่งพาซง่ึ กนั และกนั ๙. วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในท้องถนิ่ และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสนั ติวธิ ี ๑๐.ปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ๑๑. รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
224 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา้ ที่พลเมอื ง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๕๒02 หน้าทีพ่ ลเมอื ง เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผูม้ ีมารยาทไทยในการสนทนา การปฏิบัติตนตามกาลเทศะ และการต้อนรับผู้มา เยือน รู้คุณค่า ใช้อย่างประหยัด คุ้มค่าและบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมใน ศลิ ปวฒั นธรรมไทย ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง ในเรอื่ งความซื่อสัตย์สจุ ริต ตงั้ ใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับ ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วย การใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติ ตนตามพระราชจริยวัตรและพระจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และ ความสามัคคี หลักการทรงงาน ในเรื่องการทำตามลำดับขั้นและทำงานอย่างมีความสุข และหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ตง้ั ใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ และยอมรบั ผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง มสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งและปฏิบัตติ ามข้อตกลง กติกาของหอ้ งเรียน ในเรอื่ งการรกั ษาความสะอาด การ รกั ษาของใชร้ ่วมกนั และการดูแลพ้ืนที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย โดยใชก้ ระบวนการมสี ่วนรว่ มในการสร้างกฎ ระเบียบ ดว้ ยหลกั เหตผุ ลและยดึ ถอื ประโยชน์สว่ นรวม ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหน้าท่ขี องการเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องห้องเรียน และโรงเรียน ในเรื่องการยึดถือหลักความจริง ความดีงาม ความถูกต้องและหลักเหตุผล การยึดถือประโยชน์ ของส่วนรวมเป็นสำคัญ การยึดหลักความเสมอภาคและความยุติธรรม มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการ ตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสั ตย์สุจริต ขยันหมัน่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้งั ใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ี และยอมรับผลทีเ่ กิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถิ่น ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและ สิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติและพึ่งพากัน ด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิริยา วาจาดูหมิ่น ผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเอง ในเรื่องการ จัดการทรัพยากร และการขัดแย้งทางความคิด และแสดงแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วินัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่อื สัตย์สุจรติ อดทน และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแก้ปัญหา เพื่อให้ผู้เรียนมีลกั ษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง สันติ สามารถจดั การความขัดแยง้ ด้วยสนั ตวิ ิธี และมวี ินัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ มี ารยาทไทย ๒. รคู้ ุณค่าและบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ๓. มสี ่วนร่วมในศิลปวัฒนธรรมไทย
225 ๔. เห็นความสำคญั และแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖. มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏิบตั กิ ฎ ระเบียบของโรงเรียน ๗. ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ๘. ยอมรับความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในท้องถ่ิน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสนั ติ และพึ่งพาซ่ึง กนั และกนั ๙. วิเคราะหป์ ญั หาความขัดแย้งในภมู ภิ าคของตนเองและเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยสนั ตวิ ิธี ๑๐.ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเอง รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
226 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ หน้าทพ่ี ลเมอื ง ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ส๑๖๒02 หน้าทพี่ ลเมอื ง ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นให้มีมารยาทไทย ในเรื่องการแสดงความเคารพ การสนทนา การปฏิบัติตนตาม กาลเทศะ และการต้อนรับผู้มาเยือน มีส่วนร่วมและการชักชวนผู้อื่นให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อม มสี ว่ นรว่ มในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยใน ตนเอง ในเรอ่ื งความซ่อื สตั ยส์ จุ ริต ต้ังใจปฏบิ ตั หิ น้าที่ และยอมรบั ผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าและแนะนำผู้อื่นให้แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ด้วยการใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตน เป็นศาสนิกชนทีด่ ี ปฏบิ ัตติ นตามพระราชจริยวัตรและพระจรยิ วตั ร ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่อง ความใฝ่รู้ ความกตัญญู หลักการทรงงานในเรื่ององค์รวมและทำให้ง่าย และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏิบตั หิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลทีเ่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏิบัติตนและแนะนำผู้อื่นใหป้ ฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบของห้องเรยี นและโรงเรียน ในการ ใช้และดูแลสิ่งของ เครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ และสถานที่ของส่วนรวม เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามบทบาท หน้าที่ของการเป็นสมาชกิ ที่ดีของห้องเรียนและโรงเรยี น ด้วยการเป็นผู้นำและการเป็นสมาชิกที่ดี การยึดถือ ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ การใช้สิทธิและหน้าที่ การใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบในการตัดสินใจใน กจิ กรรมของห้องเรียนและโรงเรยี น ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเร่ืองความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบตั หิ น้าท่ี และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทย ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและ ส่ิงแวดล้อม อยรู่ ว่ มกับคนอน่ื อยา่ งสันตแิ ละพ่งึ พากัน ในเรื่องการเคารพซ่ึงกนั และกัน ไม่แสดงกริ ิยา วาจาดู หมิ่นผู้อื่นช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย ในเรื่องการ ละเมดิ สทิ ธกิ ารรักษาสง่ิ แวดล้อม และเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยสนั ติวธิ ี ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจรติ ขยันหมั่นพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจาก การกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่น อย่างสนั ตสิ ามารถจดั การความขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี และวนิ ยั ในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑.ปฏิบตั ติ นและชกั ชวนผอู้ นื่ ให้มีมารยาทไทย ๒.มีสว่ นรว่ มและชกั ชวนผ้อู ่นื ให้อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ๓.มีสว่ นรว่ มในขนมธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย
227 ๔.เหน็ คณุ ค่าและแนะนำผูอ้ นื่ ให้แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ ๕.ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖.ปฏบิ ัตติ นและแนะนำผ้อู นื่ ให้ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบของห้องเรียนและโรงเรียน ๗.เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามบทบาทหนา้ ที่ มีส่วนร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจในกจิ กรรม ของห้องเรียนและโรงเรียน ๘.ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในประเทศไทย และอยู่รว่ มกบั ผอู้ ่นื อยา่ งสันติ และ พึง่ พาซึ่งกันและกนั ๙.วเิ คราะห์ปัญหาความขดั แยง้ ในประเทศไทย และเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยสันตวิ ิธี ๑๐.ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
228 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติมหนา้ ท่ีพลเมือง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ส๒๑๒03 หน้าท่ีพลเมอื ง ๑ ๒๐ ชัว่ โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกิจ ส๒๑๒04 หนา้ ที่พลเมือง ๑ ๒๐ ช่วั โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ มีส่วนร่วมอนุรกั ษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคูณค่าและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบัตติ นเปน็ แบบอย่างของความรักชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ประยุกต์ และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรื่องมาเหตุผล รอบคอบ หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบัติตนเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสตั ยส์ จุ รติ ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หา ความรู้ และต้ังใจปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย ในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสังคม การตัดสินใจ โดยใช้เหตุผล มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบ ข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องคว ามซื่อสัตย์ สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและส่ิงแวดล้อม อย่รู ว่ มกบั คนอ่ืนอย่างสันติและพึ่งพาซ่ึงกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิรยิ าและวาจาดูหมิ่นผูอ้ ื่นช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน มีส่วน ร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี ในเรื่องการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ด้วยการ เจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาต่อรอง การระงับความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำ ของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสรา้ ง ค่านิยม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความ ขัดแยง้ ด้วยสนั ตวิ ธิ ี และวนิ ัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑.มสี ว่ นรว่ มอนุรกั ษ์มารยาทไทย ๒.แสดงออกถึงความเอ้ือเฟื้อเผือ่ แผแ่ ละเสยี สละตอ่ สังคม ๓.เหน็ คูณคา่ และอนุรกั ษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๔.เป็นแบบอย่างของความรกั ชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์
229 ๕.ประยกุ ต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖.ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตย ๗.มสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกจิ กรรม ต่างๆ ๘.ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ และอย่รู ว่ มกับ คนอื่นอยา่ งสันตแิ ละพึ่งพาซ่ึงกนั และกัน ๙.มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแยง้ โดยสนั ติวิธี ๑๐.ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู วี ินัยในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
230 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติมหนา้ ท่ีพลเมอื ง ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ส๒๒๒03 หน้าทพี่ ลเมือง ๓ ๒๐ ช่วั โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ ส๒๒๒04 หนา้ ที่พลเมือง ๔ ๒๐ ชวั่ โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกิจ มีส่วนร่วมและแนะนำผูอ้ ื่นให้อนุรกั ษ์มารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนำผู้อื่นให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคูณค่า อนุรักษข์ นบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง ในเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและแนะนำผู้อื่นให้มีการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นใน ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์ และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรื่องการมีสติ ความขยัน อดทน หลักการทรงงาน ในเรื่องภูมิสังคม ขาดทุนคือกำไร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ และต้ังใจปฏิบัติหนา้ ที่ ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรื่องการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ความกล้าหาญทาง จริยธรรม การเป็นผู้นำและการเป็นสมาชิกที่ดี มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของ ห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ และรู้ทันข่าวสาร ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ใฝ่หา ความรู้ และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติ และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันโดยคำนึงถึงความ หลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและสิ่งแวดล้อม อยู่ รว่ มกับคนอน่ื อย่างสันติและพึ่งพาซ่ึงกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ด้วยการเคารพซ่ึงกันและกัน ไม่แสดง กิริยาและวาจาดูหม่ินผู้อื่น ชว่ ยเหลอื ซึง่ กันและกัน และแบ่งปนั มสี ว่ นร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดย สันติวิธี ในเรื่องการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ด้วยการเจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาต่อรอง การ ระงับความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถ านการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสรา้ ง ค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความ ขดั แย้งดว้ ยสนั ติวธิ ี และวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ๑.มสี ว่ นร่วมและแนะนำผู้อ่นื ให้อนุรักษ์มารยาทไทย ๒.แสดงออกและแนะนำผ้อู ่นื ให้มคี วามเอ้ือเฟือ้ เผื่อแผ่และเสียสละต่อสงั คม
231 ๓.เห็นคณู คา่ อนุรักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย ๔.เป็นแบบอย่างและแนะนำผู้อนื่ ให้มคี วามรักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ๕.ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖.ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ๗.มีส่วนร่วมและรับผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรม ตา่ งๆ และรทู้ ันข่าวสาร ๘.เหน็ คุณค่าของการอยู่รว่ มกันในภมู ิภาคเอเชยี อย่างสันติ และพ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกันและกนั ๙.มสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาความขัดแยง้ โดยสนั ตวิ ิธี ๑๐.ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มวี นิ ยั ในตนเอง รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
232 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ส๒๓๒03 หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๕ ๒๐ ชว่ั โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ ส๒๓๒04 หนา้ ที่พลเมือง ๖ ๒๐ ชัว่ โมง / ภาค ๐.๕ หนว่ ยกจิ มีส่วนร่วม แนะนำผู้อื่นให้อนุรักษ์ และยกย่องมารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออก แนะนำผู้อื่นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมเกี่ยวกับความ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคูณค่า อนุรักษ์ สืบสาน และประยุกต์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภูมิปญั ญาไทย ปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวินยั ในตนเอง ในเรอื่ งความซ่อื สัตยส์ ุจรติ ขยันหม่นั เพียร อดทน ตง้ั ใจปฏิบตั หิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง และมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นใน ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรื่องการเสียสละ ความซื่อสัตย์ หลักการทรงงาน ในเรื่องศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ แก้ไขปัญหาที่จุดเล็ก ปฏิบัติตนเป็นผ้มู ี วนิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ และตง้ั ใจปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรื่องการใช้สิทธิหน้าที่ การใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตัง้ มีส่วนร่วมและรบั ผิดชอบในการตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียนและ โรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ และรู้ทันข่าวสาร ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ใฝ่หาความรู้ และ ยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติและพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ท่ามกลางความ หลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในภมู ิภาคต่างๆ ของโลก ในเรือ่ งวิถีชีวติ วฒั นธรรม ศาสนาและสิ่งแวดล้อม อยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างสันติและพึ่งพาซึ่งกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และพึ่งพาซึ่งกันและกัน ในเรื่อง การเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกริ ยิ าและวาจาดูหมิ่นผู้อน่ื ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกัน แบ่งปัน มสี ่วนรว่ มและ เสนอแนวทางการป้องกันปัญหาความขัดแย้งในเรื่องทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ ชู้สาว ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และ ยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสรา้ ง คา่ นยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความ ขัดแย้งด้วยสนั ติวิธี และวนิ ยั ในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ๑.มีสว่ นร่วม แนะนำผู้อ่ืนใหอ้ นรุ ักษ์ และยกย่องผู้มีมารยาทไทย ๒.แสดงออก แนะนำผู้อื่น และมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมเกย่ี วกับความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่และเสียสละ
233 ๓.เห็นคูณคา่ อนุรักษ์ สบื สาน และประยุกต์ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภมู ิ ปญั ญาไทย ๔.เปน็ แบบอยา่ งและมีสว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และ เทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕.ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖.ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๗.มีสว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มลู ตรวจสอบการทำหนา้ ทข่ี องบุคคลเพื่อ ใชป้ ระกอบการตัดสนิ ใจ ๘.เห็นคุณคา่ ของการอยูร่ ่วมกนั ในภูมิภาคตา่ งๆ ของโลกอย่างสนั ติ และพึ่งพาอาศยั ซ่ึงกนั และกัน ๙.มสี ว่ นร่วมและเสนอแนวทางการป้องกนั ปัญหาความขัดแย้ง ๑๐.ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มีวินยั ในตนเอง รวมทงั้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
234 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมือง จุดเนน้ และขอบข่าย รายวิชาเพมิ่ เติมหน้าทพี่ ลเมอื ง กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม จดุ เน้นท่ี ๑ ความเปน็ ไทย ๑. ลักษณะที่ดีของคนไทย (มารยาทไทย กตญั ญูกตเวที เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ เสยี สละ) ๒. ศลิ ปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี ม และประเพณไี ทย (การแตง่ กาย ภาษา ภมู ิปญั ญา ประเพณี) จดุ เนน้ ที่ ๒ รกั ชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ การเหน็ คณุ คา่ และการแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ จุดเน้นท่ี ๓ ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ๑.การดำเนินชวี ติ ตามวิถีประชาธิปไตย ๒.การมีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ จุดเนน้ ท่ี ๔ ความปรองดอง สมานฉนั ท์ ๑. การอยูร่ ่วมกันในสงั คมแห่งความหลากหลาย ๒. การจัดการความขัดแยง้ และสันตวิ ธิ ี จุดเน้นที่ ๕ ความมีวนิ ยั ในตนเอง ซอื่ สตั ย์สจุ ริต ขยนั หม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏิบตั หิ น้าที่ ยอมรับผลท่ีเกดิ จาก การกระทำของตนเอง
235 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาเพิม่ เติม อ 21201 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทความสั้นๆให้ถูกต้องตามหลักการอ่านและ สามารถ ออกเสียงที่เหมือนและแตกต่างกันได้อย่างถูกต้อง เขียนประโยคและข้อความเพื่อบรรยาย และแสดงความ คิดเหน็ เก่ยี วกบั เรอื่ งทีอ่ ่านได้อยา่ งเหมาะสม และสามารถค้นคว้า รวบรวม สรุปข้อมลู ทีม่ ีเนอื้ หาเกย่ี วข้องกับ ASEAN และท้องถิ่นสกลนคร และนำเสนอด้วยการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์ จำลอง ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชนและสังคม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการ กลุ่ม กระบวนการเรียนภาษา เพื่อให้ เกิดความรู้และทักษะในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน มี ความสามารถในการสื่อสารในการคิด ในการใช้ทักษะชีวิต ในการใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นใน การทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมดำรงชีวิตอยู่อย่าง พอเพียงและสามารถดำรงตนเปน็ พลเมืองโลกที่มสี ขุ ภาวะ รวมทัง้ มีความซ่อื สตั ย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศและบทความสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน 2. ระบหุ รือเขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พันธก์ ับส่ือที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ งๆท่ีอ่าน 3. เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยายและแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับเร่อื งทอี่ า่ นอย่างเหมาะสม 4. เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคภาษาองั กฤษและภาษาไทย 5. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล หรือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่ง การเรยี นร้แู ละนำเสนอดว้ ยการเขยี น 6. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนสถานศึกษา และ ชุมชน รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้
236 คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาเพ่ิมเติม อ 21202 ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0หนว่ ยกติ ฟัง พูด สนทนาหรือนำเสนอข้อมลู แสดงความรู้สึก โดยออกเสียงเน้นคำ เสียงสูง ต่ำ เพื่อสามารถ ใช้ภาษา สื่อสารตามสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม เข้าใจน้ำเสียง คำศัพท์ สำนวนและการแสดง ท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมประเพณีตะวนั ตก สร้างความสมั พันธร์ ะหว่างบุคคล ชุมชน เพื่อให้ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นประกอบโดยใช้ภาษาสื่อสารใน สถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลอง ทั้งในและนอกโรงเรียนได้อย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการการ เรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสรา้ งองคค์ วามรู้ กระบวนการคดิ ควบคู่กบั กระบวนการเรียนรู้ทกั ษะทาง ภาษา กระบวนการฝึกปฏิบัติ และการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระอื่นโดยใช้สื่อเทคโนโลยีจาก แหล่งเรยี นรหู้ ลากหลาย เพือ่ ขยายโลกทัศน์ของตนเอง ชุมชน และสงั คม อกี ท้งั ดำรงตนอยู่ในความซ่ือสัตย์ สจุ ริต มีจิตสาธารณะ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน ผลการเรียนรู้ 1. ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ และคำชี้แจงง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน จากข้อความที่เป็น ความเรียง หรือภาพสัญลักษณ์ 2. พูดสนทนาเพื่อแนะนำตนเอง และบุคคลอื่น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว กิจกรรม และ สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน โดยใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3. พูดบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และบุคคลหรือสิง่ แวดล้อมใกล้ตัว แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองในสถานการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม 4. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล / ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหลง่ เรียนรู้และนำเสนอด้วยการพูด โดยใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง /สถานการณ์จำลอง ท่ี เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรียนรู้
237 คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาเพ่ิมเติม อ 22201 ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่ือสาร กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต อ่าน เขียน สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทข่าว บทความ สาระบันเทิง ได้ถูกต้องตามหลักการอ่านและมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องราว วัฒนธรรม ประเพณีอันหลากหลายในท้องถิ่นสกลนคร ประเทศและสังคมโลก สามารถ เขียนตอบคำถามจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆที่อ่าน เพื่อระบุใจความสำคัญ บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ เปรียบเทียบโดยใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาที่เหมาะสมตามโครงสร้างและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาได้ ถูกต้องและสามารถนำภาษาต่างประเทศไปใช้ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ตลอดจนสามารถถ่ายทอดความ คดิ เห็นเกี่ยวกบั วฒั นธรรมไทยไปยงั สังคมโลกไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ ผลการเรียนรู้ 1. ระบุความหมายของคำศัพท์ที่กำหนด บอกใจความสำคัญและรายละเอียดของการอ่านสาร ประเภทตา่ งๆได้ 2. ใช้ทักษะในการอ่านสารประเภทต่างๆแล้วย่อสรุป ตั้งชื่อเรื่อง ลำดับเหตุการณ์และแสดงความ คดิ เห็นเกี่ยวเร่ืองที่อา่ นได้ 3. เขียนประโยคข้อความสัน้ ๆโดยใช้สำนวนภาษาเหมาะสมกับโครงสร้างและวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษาได้ 4. เขียนสรุปความ ย่อความและเรียงความสั้นๆเกี่ยวกับท้องถิ่นของตนหรือตามสถานการณ์ท่ี กำหนดได้ 5. นำเสนอผลงานจากการค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆตามความสนใจหรือตามสถานการณ์ที่ กำหนดได้ รวม 5 ผลการเรยี นรู้
238 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าเพิม่ เติม อ 22202 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต พูดและเขียน โดยใช้คำศัพท์ สำนวน และโครงสร้างทางภาษาที่เหมาะสมกับระดับชั้นเรียน ใช้ ถ้อยคำ น้ำเสียง กิริยาท่าทางได้เหมาะสมตามมารยาทสังคม เพื่อสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้ แบบการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสอนภาษา เพื่อการสื่อสาร กระบวนการ เรียนภาษาด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้เรียน มีความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสารทั้งการพูดและ เขยี นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ 1. พูดออกเสยี งคำศัพท์ สำนวน รวมท้งั ประโยคได้ถูกตอ้ งหมาะสมท้ังน้ำเสยี งและกริ ิยาท่าทาง 2. เขียนคำศัพท์ สำนวน และประโยคต่างๆได้ถกู ตอ้ งตามโครงสร้างทางภาษา 3. เช่ือมโยงความรูก้ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ ๆโดยใชก้ ระบวนการเรยี นรูห้ ลากหลายรูปแบบ 4. พูดสอื่ สารในสถานการณ์ตา่ งๆไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 5. เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและสามารถใชค้ วามรใู้ นการพูดและเขียนเพ่อื การสอื่ สารไดเ้ หมาะสม รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้
239 คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าเพม่ิ เติม อ 23201 ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่ือสาร กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ใช้คำศัพท์ วลี สำนวน โครงสร้างทางภาษา และเทคนิคการเดาความหมายคำศัพท์ อ่านตีความและ ถ่ายโอนข้อมูลสือ่ ที่ไม่ใช่ความเรียง เช่นตาราง ดัชนี แผนภูมิ กราฟ การอ่านสื่อประเภทต่างๆที่เป็นความเรยี ง ระบุหัวเรือ่ ง ใจความสำคญั รายละเอียดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่ืองที่อ่าน สนทนาโต้ตอบใน สถานการณ์ต่างๆ เชน่ การซือ้ ตว๋ั การเลา่ เรอ่ื ง การตอบรับหรือปฏิเสธคำเชญิ การเสนอ การแสดงการขอบคุณ การแสดงความเห็นใจ พูดหรือเขยี นบรรยายนำเสนอประสบการณ์ เรื่องราวต่างๆที่เก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการ เรยี นรอู้ ื่น สืบค้น รวบรวม และสรุปขอ้ มลู มุ่งให้นักเรยี นมคี วามสามารถในการคดิ และการส่อื สารในสถานการณ์ จริงหรือสถานการณจ์ ำลอง ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี นและมุ่งมน่ั ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ 1. ระบแุ ละเขียนส่อื ท่ไี ม่ใชค่ วามเรยี งรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธก์ บั ประโยคและขอ้ ความทฟี่ ังหรืออา่ น 2. เลือกหรือระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องท่ี ฟังหรอื อา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ 3. สนทนาและโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องตนเอง เรื่องต่างๆใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความ สนใจของสังคมและส่อื สารอย่างต่อเนื่องและเหมาสม 4. พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ เรื่อง ประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความ สนใจของสังคม 5. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมลู /ข้อเท็จจริงท่ีเก่ียวข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้และ นำเสนอด้วยการพดู และการเขียน 6. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ สังคม รวมท้งั หมด 6 ผลการเรียนรู้
240 คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าเพิม่ เติม อ 23202 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ใช้คำศัพท์ สำนวน รูปประโยค รูปแบบต่างๆที่ใช้ในการนำเสนอฝึกปฏิบัติการวางโครงร่าง พูด เขยี น นำเสนอ ขอ้ มูลจากภาพ กราฟ แผนภูมิ สื่อส่ิงพมิ พ์ เช่น ประกาศ แผ่นพบั ตอบข้อซักถาม อธบิ าย ขยายความ โดยถ่ายทอด และนำเสนอความคิดอยา่ งชัดเจน เป็นระบบ ทั้งในรูปแบบเดีย่ ว หรือ กลุ่ม ใช้ สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลายและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะในรูปแบบต่างๆโดยใ ช้กระบวนการทางภาษาคือ ฟัง พูด อ่านและเขียน สื่อสาร สืบค้น หาความรู้ ค้นคว้าหาข้อมูลการ ปฏิบัติเพื่อให้เกิดทักษะความรู้ ความเขา้ ใจ มีความใฝเ่ รียน ใฝร่ ู้ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน มวี นิ ยั ความรบั ผิดชอบ และรกั ความเปน็ ไทยรวมทั้ง นำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. เขียนคำศัพท์ สำนวน รปู ประโยค รูปแบบต่างๆ ที่ใช้ในการนำเสนอได้ 2. วางแผนโครงร่างเรื่องที่นำเสนออย่างชัดเจน และจัดรูปแบบการนำเสนอได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 3. พดู นำเสนอข้อมูลจากภาพ กราฟ แผนภมู ิ และนำเสนอในรูปสื่อสิ่งพิมพ์ เชน่ ประกาศ แผ่น พบั 4. ตอบขอ้ ซักถาม และอธิบายขยายความเรยี งที่นำเสนอได้ 5. สามารถแนะนำตนเอง และนำเสนอตามหวั ขอ้ กำหนดทัง้ ในรูปแบบเด่ียวหรอื กลุม่ ได้ 6. ถ่ายทอดและนำเสนออย่างเป็นระบบโดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลายหลายทั้งรูปแบบเดี่ยวหรือกล่มุ ได้ 7. เผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณะโดยใชก้ ารพดู สนทนา หรือผา่ นสอ่ื อิเลคทรอนคิ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
242 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 1. ความสำคัญ พระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 กำหนดแนวการจดั การศึกษา โดยยดึ หลักว่า ผ้เู รียนทกุ คนมคี วามสามารถเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรยี นมีความสำคัญทีส่ ุดกระบวนการจดั การศกึ ษา ตอ้ งส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพ โดยจดั เนอื้ หาสาระ และกจิ กรรมให้ สอดคลอ้ งกับความสนใจและความถนดั ของผ้เู รยี น คำนึงถึงความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลฝึกทักษะกระบวนการ คดิ การจัดการ การเผชญิ สถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกนั แก้ปญั หาและเรยี นรจู้ าก ประสบการณ์จริง กอปรกบั มีการเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ ของสังคมและเทคโนโลยี กอ่ ให้เกดิ ท้งั ผลดแี ละ ผลเสยี ต่อการดำเนินชวี ติ ในปัจจุบันของบุคคล ทำให้เกิดความยุง่ ยาก ซับซ้อนมากย่ิงขึน้ จำเปน็ ต้องปรับเปลีย่ น วิถกี ารดำเนินชีวติ ใหส้ ามารถดำรงอยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมคี ุณค่ามีศักดศิ์ รี และมีความสุข หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กำหนดให้มีสาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี นซ่ึงเป็น กิจกรรมทจ่ี ดั ใหผ้ เู้ รียนได้พัฒนาความสามารถของตนเองตามศกั ยภาพ มุ่งเนน้ เพมิ่ เติมจากกิจกรรมท่ไี ดจ้ ดั ให้ ผ้เู รียนตามกลมุ่ สาระท่ี 8 กลุ่ม การเข้าร่วมและปฏิบตั ิกิจกรรมที่เหมาะสมรว่ มกบั ผู้อื่นอย่างมีความสขุ กบั กจิ กรรมทีเ่ ลือกดว้ ยตนเอง ตามความถนัด และความสนใจอยา่ งแทจ้ รงิ การพฒั นาทส่ี ำคัญ คือ การพัฒนาองค์ รวมของความเป็นมนุษย์ใหค้ รบทุกด้าน ทั้งรา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม ให้เป็นผมู้ ศี ลี ธรรม จรยิ ธรรม มีระเบียบวินัย และมคี ุณภาพ ปลกู ฝงั และสรา้ งจติ สำนกึ ของการทำประโยชน์เพื่อสังคม และประเทศชาติ 2. วิสยั ทัศน์ วสิ ัยทศั นข์ องกลุ่มกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น เป็นกจิ กรรมทีจ่ ัดอยา่ งเป็นกระบวนการด้วยรูปแบบวธิ ีการที่ หลากหลาย ให้ไดร้ ับประสบการณ์จากการปฏบิ ัตจิ รงิ มคี วามหมาย และมีคณุ ค่าในการพัฒนา ผ้เู รยี น ท้งั ดา้ นรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม มุ่งเสริมเจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝงั คุณธรรมและค่านิยมท่ี พง่ึ ประสงค์ ส่งเสริมใหร้ ู้เรยี นรจู้ ักและเข้าใจตนเอง สรา้ งจิตสำนึกในธรรมชาติและสิ่ง แวดลอ้ ม ปรับตัวและ ปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อสงั คม ประเทศชาติและดำรงชวิ ตี ิไดอ้ ย่างมีความสุข 3. ธรรมชาติและลกั ษณะวิชา กลุ่มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน เน้นการจัดกจิ กรรมในลักษณะของการบรู ณาการองค์ความรู้ต่างๆ ท่ี เกอ้ื กลู สง่ เสรมิ การเรียนรตู้ ามกล่มุ สาระให้มคี วามกวา้ งขาวงลกึ ซ้งึ ยิง่ ขนึ้ อีกทงั้ ให้ผู้เรยี นได้ค้นพบและใช้ ศักยภาพท่มี ใี นตนอยา่ งเต็มท่ี เลือก ตดั สินใจ ได้อยา่ งมเี หตุผลเหมาะสมกับตนเอง สามารถวางแผนชวี ิตและ อาชพี ไดอ้ ย่างมีคุณภาพ เนน้ การเสริมสร้างทักษะชีวติ วุฒภิ าวะทางอารมณ์ ศลี ธรรม และ จริยธรรม กิจกรรมพฒั นาทักษะชีวติ กิจกรรมสร้างเสรมิ ประสิทธิภาพทางการเรยี น เปน็ ต้น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313