Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร 060765

หลักสูตรโรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร 060765

Published by narathip tasaiwa, 2022-07-07 01:10:58

Description: หลักสูตรโรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร 060765

Search

Read the Text Version

43 คำอธิบายสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหัสวชิ า ท 22102 รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว บทรอ้ ยกรอง ตำนานนิทานพืน้ บ้าน (ตำนานรกั เขาสามมุก จงั หวดั ชลบุรี) บทความ หรอื คำประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลาย จับใจความสำคัญจากเรื่องท่อี ่าน สรปุ ความจากเรื่องท่ีอ่าน อธิบายแสดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งที่อา่ น รวบรวมคำภาษาตา่ งประเทศ(ประเทศในกลมุ่ อาเซยี น)ท่นี ำมาใช้ใน ภาษาไทย คุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่าน เขยี นผังความคิด บรรยายและพรรณนา เขยี น เรยี งความ ย่อความ รายงานจากการศึกษาค้นควา้ เขยี นจดหมายกจิ ธุระ วเิ คราะห์วิจารณแ์ ละแสดงความรู้ (นทิ านหรือตำนาน) แสดงความคิดเหน็ หรือโตแ้ ยง้ ในเร่ืองทีอ่ ่าน นิทานพื้นบา้ น อภิปรายเร่อื งท่ีอา่ น แสดง ความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกบั เรือ่ งที่อา่ น วิเคราะห์ขอ้ เท็จจรงิ ข้อมูลสนับสนุนจากบทความท่อี ่าน ขอ้ คิดเห็น ความน่าเช่ือถอื ของขา่ วสารจากสื่อตา่ งๆ เรือ่ งที่ฟังและดู โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยค ความรวม และประโยคความซอ้ น วรรณกรรม วรรณคดที ่ีอ่าน จำแนกข้อเท็จจรงิ ข้อมลู สนบั สนุนและ ข้อคิดเห็นจากบทความท่ีอา่ น ระบขุ ้อสังเกต การชวนเชื่อการโนม้ นา้ ว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขยี น ประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดทไ่ี ด้จากการอา่ น มมี ารยาทในการอ่าน การฟัง การดู และการพดู คัดลายมือตวั บรรจงครึง่ บรรทัด พูดสรปุ ใจความสำคญั จากเรอ่ื งที่ฟังและดู วจิ ารณ์เร่อื งทฟ่ี ังและดู วรรณกรรม วรรณคดี ทอี่ ่าน พูดในโอกาสตา่ งๆ รายงานเรือ่ ง หรือประเดน็ ทศ่ี ึกษาคน้ ควา้ สรา้ งคำในภาษาไทย แตง่ บทร้อยกรอง ใช้คำราชาศัพท์ รวบรวมความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย สรุปเนอ้ื หาวรรณคดีและ วรรณกรรมท่ีอา่ น ความรูแ้ ละจอ้ คดิ จากการอา่ น ทอ่ งจำบทอาขยาน และบทร้อยกรองตามท่ีกำหนดท่ีมี คุณค่าตามความสนใจ โดยใช้ทักษะกระบวนการอา่ น กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง กระบวนการคิดวเิ คราะห์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา รหัสตวั ชี้วัด ท. 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ท. 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ท. 3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ท. 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ท. 5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 รวม 32 ตวั ชวี้ ดั

44 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหสั วชิ า ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และ บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง และเหมาะสมกับเร่ืองท่ีอ่าน เร่ืองต่างๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ ผังความคิด บันทกึ ย่อความและรายงาน ระบใุ จความสำคญั และรายละเอยี ดของข้อมูลท่ี สนบั สนุนจากเร่ืองท่ีอา่ น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมิน เรือ่ งทอ่ี ่านโดยใชว้ ธิ กี ารเปรยี บเทียบเพื่อให้ผอู้ ่าน เขา้ ใจได้ดขี นึ้ นิทานพ้ืนบ้านเร่ืองนายดนั้ เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเกยี่ วกบั เร่ืองที่อา่ น เร่ืองที่ฟัง และดเู พื่อ นำขอ้ คิดมาประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ วถิ ีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดี และวรรณกรรมที่อา่ น วิจารณ์ความ สมเหตุสมผล การลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่อง ประเมินความถูกต้องของขอ้ มูลที่ใชส้ นบั สนนุ ใน เรอ่ื งที่อ่าน ตีความและประเมินคณุ ค่า แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลายเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต คัดลายมอื ตัวบรรจงครงึ่ บรรทัด นิทานพ้ืนบ้านเรื่องตามอ่ งลา่ ย เขียนข้อความโดยใชถ้ ้อยคำไดถ้ ูกต้องตามระดบั ภาษา ผญาโดยใช้ถอ้ ยคำได้ถูกต้อง ชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติ โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติใน เร่อื งตา่ งๆ ย่อความตำนานเรือ่ งดาวลกู ไก่ เขียนจดหมายกิจธุระ อธบิ ายช้แี จง แสดงความคดิ เห็น และโต้แย้ง อย่างมีเหตผุ ล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เห็นหรอื โต้แย้งในเรอื่ งตา่ งๆ รายงานการศึกษา คน้ คว้านทิ านพืน้ บ้านเร่ืองบางแมม่ ่าย จ.สุพรรณบรุ ี แสดงความคิดเหน็ และประเมินเร่ืองจากการฟงั และการดู ตำนานหลวงปทู่ วดเหยยี บน้ำทะเลจดื จ.ปัตตานี วเิ คราะห์และวจิ ารณเ์ รอ่ื งทฟี่ ังและดเู พ่อื นำข้อคดิ มา ประยกุ ตใ์ ช้ในการดำเนินชีวิต รายงานเรื่องหรือประเดน็ ที่ศึกษา คน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา พูด ในโอกาสต่างๆไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โน้มน้าวโดยการนำเสนอหลักฐานตามลำดับเนื้อหาอย่างมีเหตุผลและ นา่ เชอ่ื ถอื โดยใชภ้ าษาถ่ิน4ภาคในหัวขอ้ โน้มน้าวเชิญชวนมาท่องเท่ยี วในท้องถิน่ ของตนเอง จำแนกและใชค้ ำ ภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย ภาษาตา่ งๆที่ใช้ในประเทศอาเซยี น ใช้คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ อธบิ าย ความหมายคำศัพทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี แต่งบทรอ้ ยกรอง โคลงส่สี ภุ าพเป็นภาษาถนิ่ ท่องจำและบอก คณุ ค่าบทอาขยานตามทกี่ ำหนด และบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจ และนำไปใชอ้ า้ งองิ สรุปเน้ือหา วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมในท้องถิ่นในระดับทยี่ ากยิง่ ข้นึ ความรู้และข้อคิดจากการอา่ นเพ่ือนำไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ สำนวนภาษาถิน่ 4ภาคของไทย มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการ พูด ตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและพฒั นาทักษะการคดิ สูศ่ ตวรรษที่ 21 โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการแกป้ ญั หากระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวจิ ารณญาณ กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการคิด สรา้ งสรรค์ กระบวนการตดั สินใจ เพ่อื ให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ ง พอเพียง มุ่งม่นั ในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ รหสั ตัวช้ีวัด ท 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8ม.3/9 ม.3/10 ท 2.1ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8ม.3/9 ม.3/10 ท 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 รวม 36 ตวั ช้วี ัด

45 คำอธบิ ายสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รหสั วชิ า ท 23102 รายวิชา ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว บทรอ้ ยกรอง สรุปความแตกต่างของคำทมี่ ีความหมายโดยตรงและ ความหมายโดยนัย ใจความสำคญั และรายละเอยี ดของข้อมลู ทส่ี นบั สนุนจากเรื่องท่ีอา่ น อ่านเรื่องตา่ งๆ อ่านผญาทปี่ รากฏในท้องถ่นิ เขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน ข้อความ ชีวประวัติ ย่อความ จดหมายกิจธรุ ะ คำขวัญจังหวดั สกลนคร อธิบายชี้แจงแสดงความเห็นและโต้แย้ง วิเคราะห์วจิ ารณแ์ ละแสดงความรู้ ความคดิ เห็นหรอื โตแ้ ย้งในเรือ่ งตา่ งๆ รายงานการศึกษาคน้ คว้าและ โครงงาน วิเคราะห์เร่ืองท่ีอา่ นโดยใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทยี บ เพื่อแสดงความคิดเหน็ โตแ้ ยง้ เกยี่ วกบั เรื่องเพื่อ นำข้อคดิ มาประยกุ ต์ใชท้ ี่อ่าน เรอ่ื งท่ีฟังและดู เพ่ือนำขอ้ คิดมาประยุกตใ์ ช้ โครงสร้างประโยคซบั ซ้อน ระดับ ภาษา วิถไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ ่าน วิจารณเ์ รอ่ื งทอ่ี า่ นโดยใช้กลวิธกี ารเปรยี บเทยี บ ความสมเหตุสมผล การลำดับและความเปน็ ไปไดข้ องเร่ืองที่ฟงั และดู ประเมนิ เรื่องที่อา่ นโดยใช้กลวิธีการ เปรียบเทยี บ ความถูกต้อง ของข้อมูลท่ีใชส้ นบั สนนุ ในเร่อื งท่อี า่ น เร่อื งจากการฟังและดู ตคี วามจากงานเขียน ประเมินค่าจากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย มมี ารยาทในการอา่ น การดแู ละการพูด คดั ลายมอื ตัวบรรจงครง่ึ บรรทัด กรอกแบบสมัครงาน แสดงความคดิ เห็น จากการฟังและดู พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ีศกึ ษา ค้นคว้า ในโอกาสต่างๆ โน้มน้าวจำแนกคำภาษาตา่ งประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย ใช้คำภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ ในภาษาไทย คำทับศพั ท์และคำศัพท์บัญญตั ิ แต่งบทร้อยกรอง สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและ วรรณกรรมท้องถนิ่ ในระดับท่ียากขน้ึ ความรูแ้ ละข้อคิดจากการอ่าน ทอ่ งจำบทอาขยานทีก่ ำหนดและบทร้อย กรองที่มคี ุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการแกป้ ัญหา รหสั ตวั ช้ีวัดวามคดิ ท. 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/10 ท. 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/10 ท. 3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ท. 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ท. 5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 รวม 36 ตวั ชว้ี ัด

46 คำอธบิ ายรายวชิ ากลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค ๑๑๑๐๑ สาระการเรยี นรู้ วิชาคณิตศาสตร์ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๑๖๐ ชั้วโมง บอกจำนวนของส่งิ ต่าง ๆ แสดงสิง่ ตา่ งๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลข ไทยแสดงจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ นับผลติ ภณั ฑ์ ไข่เคม็ ดินสอพอง บา้ นหินสองก้อน ต. เขาสามยอด อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี อ่านจำนวนของสิง่ ต่าง ๆ แสดงสง่ิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดอู า รบกิ ตวั เลขไทยแสดงจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ เขียนจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่างๆ ตามจำนวน กำหนด อ่านและเขียนตวั เลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ แสดงจำนวนของส่ิง ต่าง ๆ แสดงสิ่งตา่ งๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ ตวั เลขไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของ จำนวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบของจำนวน นบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย = ≠ ,>,< หลกั คา่ ของเลขโดดใน แตล่ ะหลกั และการเขียนตวั เลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย. เรยี งลำดับจำนวนไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ ตงั้ แต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน หาค่าของตวั เลขไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวเปน็ เซนติเมตรการเปน็ เมตรการนำ้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัม เปน็ ขดี ระบุจำนวนทีห่ ายไปในแบบรูปของจำนวนทเ่ี พ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐ และระบุรูปที่หายไปในแบบ รปู ซำ้ ของรูปเรขาคณติ และรูปอ่ืน ๆ ท่สี มาชกิ ในแต่ละชดุ ทซี่ ำ้ มี ๒ รูป การระบุจำนวนกอ้ นแป้งดนิ สอพองที่ บรรจุลงในขวดของกล่มุ สหกรณ์บา้ นดนิ สอพอง ถ. นารายณม์ หาราช ต.ทะเลชนุ ทศการ อ.เมือง จ.ลพบรุ ี ใน บัตรภาพ วัดความยาวเป็นเซนตเิ มตรการ เป็นเมตรการ วดั ความกวา้ งความยาวของใบลาน เครอ่ื งสาน งอบ ต. บางนางรา้ อ. บางประหัน จ. อยธุ ยา น้ำหนักเป็นกิโลกรมั เป็นขดี วัดนำ้ หนักของปลาร้าหลนนิคม สงเคราะห์ ต. โคกสะอาด อ.เมือง จ. อดุ รธานี จำแนกรูปสามเหลีย่ ม รูปส่ีเหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ยี ม มมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย จำแนกรูปทรงของเคร่ืองจกั รสานจากไมไ้ ผบ่ ้านทองประดษิ ฐ์ ต. บาง เลน อ.สองพนี่ อ้ ง จ. สพุ รรณบรุ ี ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ริ ูปภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเมื่อกำหนดรปู ๑ รปู แทน ๑ หนว่ ย ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และพัฒนาทกั ษะสู่ความคิดที่ศตวรรษท่ี ๒๑ โดยใชท้ กั ษะทางคณติ ศาสตร์ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการเรยี นรเู้ ข้าใจ กระบวนการคดิ สร้างความรวบยอด กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเชอื่ มโยง

47 เพื่อให้เกดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีความซือ่ สัตย์ สุจริต มุง่ มั่นในการทำงานมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ รหัสตวั ช้ีวดั ค ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๑.๓ - ค ๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๑.๓ ป.๑/๑ ค ๓.๒ - รวม ๑๐ ตัวชว้ี ดั

48 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ รหัสวชิ า ค 21101 ชือ่ วชิ า คณติ ศาสตร์ กล่มุ สาระคณติ ศาสตร์ ชัน้ ป.2 เวลา 160 ชวั่ โมง บอกเขียนและอา่ นตวั เลขฮินดู อารบกิ ตัวเลขไทยและตวั หนังสอื แสดงปริมาณของสิง่ ของหรือ จำนวนนบั ทไ่ี ม่เกนิ หนึ่งพนั และศูนย์ นับตัวเลขจากปลาตะเพยี นสาน จ. อยุธยา รปู เรขาคณติ สองมิตโิ ดยใช้ ระบบของรปู เรขาคณติ อา่ นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนงั สือ แสดงปริมาณของสิ่งของหรือจำนวน นับไม่เกนิ หน่ึงพันและศูนย์ เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไมเ่ กินหน่งึ พันและศูนย์ ความยาวในหน่วยเดยี วกัน นำ้ หนกั ในหน่วยเดยี วกัน ปริมาตรและความจ(ุ กลุ่มตกแต่งรถแห่ปราสาทผึ้งสกลนคร โดยการวัดความยาวของปราสาท ผ้งึ แลว้ นำมาเปรยี บเทียบ) เรียงลำดบั จำนวนนับไมเ่ กินหนึ่งพนั และศนู ย์ อธิบายความยาวเปน็ เมตรและ เซนติเมตร นำ้ หนกั เป็นกิโลกรมั และขดี ปริมาตรและความจเุ ป็นลติ ร จำนวนเงนิ ท้งั หมดจากเงินเหรยี ญและ ธนบัตร บวก ลบ คูณ หาร บวกลบคูณหารระคน ของจำนวนนบั ไม่เกินหนึ่งพันและศนู ย์พรอ้ มตระหนักถงึ ความ สมเหตุสมผล ของคำตอบวิเคราะห์และหาคำตอบของโจทย์ปญั หา และโจทย์ปัญหาระคนของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ หนงึ่ พนั และศนู ย์พร้อมทั้งตระหนกั ถึงสมเหตสุ มผลของคำตอบ ความสัมพันธ์บนหน้าปัดนาฬิกา วนั เดือน ปี จากปฏทิ นิ ชนดิ ของรปู เรขาคณติ สองมิติ สามมิติ วา่ เป็นรูปสามเหลี่ยม ส่เี หล่ยี ม วงกลม หรือวงรี จำนวนใน แบบรูปของรปู ท่ีมรี ปู รา่ งขนาดหรอื สที ส่ี ัมพันธ์กนั อยา่ งใดอย่างหนึ่งการใช้ข้อมลู จากแผนภูมิภาพในการหา คำตอบใช้วิธีการท่ีหลากหลายแก้ปัญหา ความรู้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ต่างๆได้อยา่ งเหมาะสม เหตผุ ลในการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ภาษาและสัญลักษณ์ทาง คณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมายและนำเสนอได้อย่างถกู ต้อง เชอ่ื มโยงความร้ตู า่ งๆใน คณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อ่นื และมีความคดิ สร้างสรรค์2. ทกั ษะการคิดสูศ่ ตวรรษที่ 21 3Rs Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น) 8 Cs C1: Critical thinking & problem –Solving (ทักษะด้านการคิดวเิ คราะห์และการ แก้ปญั หา) C2: Creativity & innovation (ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม) C7: Career & learning Self-reliance (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นรู้) โดยใชก้ ระบวนการสอน กระบวนการเรยี นรู้ความเข้าใจ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการสบื สวนสอบสวน กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจและกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สุจริต มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ ทำงาน รกั ในความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ รหสั ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.2/1 ,ป.2/2 ,ป.2/3 ,ป.2/4 ,ป.2/5 ,ป.2/6 ,ป.2/7 ,ป. 2/8 ค 2.1 ป.2/1 ,ป.2/2 ,ป.2/3 ,ป.2/4 ,ป.2/5 ,ป.2/6 ค 2.2 ป.2/1 ค 3.1 ป.2/1 รวม 16 ตวั ช้ีวดั

49 คำอธิบายรายวิชาคณติ ศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง/ปี รายวชิ าพนื้ ฐานกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ศกึ ษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื แสดงจำนวนนับ หลัก ค่าของ เลขโดดในแตล่ ะหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การเรยี งลำดบั จำนวน แบบรปู ของจำนวนท่ีเพมิ่ ขน้ึ และลดลง การบวกจำนวนนบั ท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 การบวก จำนวนสามจำนวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 100,000 โจทยป์ ญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวน ที่มตี วั ตงั้ ไมเ่ กิน 100,000 การลบจำนวนสามจำนวน การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการ บวกและการลบ โจทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบ การคูณจำนวนหน่งึ หลักกับจำนวนไม่เกนิ สหี่ ลกั การคณู จำนวนสองหลกั กบั จำนวนสองหลกั โจทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณ การหารทีม่ ีตวั ตั้งไม่ เกินสี่หลักและตวั หารมีหน่ึงหลัก การหาตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทย์ ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการหาร การวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและมลิ ลเิ มตร เมตรและเซนตเิ มตร กโิ ลเมตรและเมตร การเลือกเคร่ืองวัดความยาวท่ีเหมาะสม การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและเป็น เซนตเิ มตร การเปรยี บเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาว โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ความ ยาว รูปท่มี ีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร การบอก อา่ นและเขียนเศษสว่ นทตี่ วั เศษนอ้ ยกว่าหรือเทา่ กบั ตัวส่วนการเปรยี บเทียบเศษส่วน การเรียงลำดบั เศษสว่ น การบวกเศษสว่ นที่มีตวั ส่วนเทา่ กัน การลบเศษส่วนท่ี มีตวั ส่วนเทา่ กนั โจทย์ปญั หาการบวกและการลบเศษส่วน การวัดและบอกน้ำหนักเปน็ กิโลกรัมและขีด กโิ ลกรัม และกรัม การเลือกเคร่ืองชัง่ ที่เหมาะสม การคาดคะเนน้ำหนกั เป็นกิโลกรมั และเป็นขีด การเปรยี บเทียบน้ำหนกั โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ระหวา่ งกิโลกรัมกบั กรัม เมตริกตันกบั กิโลกรมั โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับน้ำหนัก การวดั ปริมาตร และความจเุ ป็นลิตรและมิลลิลติ ร การเลอื กเคร่ืองตวงท่ีเหมาะสม การคาดคะเนปริมาตรและความจุเปน็ ลิตร การเปรียบเทยี บปริมาตรและความจโุ ดยใชค้ วามสัมพันธร์ ะหว่างลติ รกบั มลิ ลลิ ติ ร ชอ้ นชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกบั มิลลิลติ ร โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรและความจทุ ่มี หี น่วยเป็นลิตรและมิลลิลิตร การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและ จำแนกข้อมลู การอ่านและเขียนแผนภูมิรปู ภาพ การอา่ นและเขยี นตารางทางเดยี ว การบอกเวลาเป็นนาฬิกา และนาที การเขียนบอกเวลาและการอา่ น การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที การเปรยี บเทยี บระยะเวลา โดยใช้ความสัมพันธร์ ะหวา่ งช่ัวโมงกับนาที การอ่านและการเขียนบนั ทึกกจิ กรรมท่ีระบเุ วลา โจทยป์ ญั หา เก่ยี วกับเวลาและระยะเวลา เงินเหรยี ญและธนบตั รชนิดต่างๆ การบอกจำนวนเงนิ และเขียนแสดงจำนวนเงนิ แบบใช้จดุ และการอา่ น การเปรียบเทยี บจำนวนเงนิ และการแลกเงนิ การอ่านและเขยี นบนั ทกึ รายรับรายจ่าย โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยการจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ในชวี ติ ประจำวนั ทีใ่ กล้ตวั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศึกษา ค้นคว้า ฝกึ ทักษะ โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การ แก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิด ทกั ษะ และกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สงิ่ ต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์

50 เพอ่ื ใหเ้ ห็นคณุ คา่ และมเี จตคติท่ดี ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบยี บ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบมีวิจารณญาณ มีความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละมีความเชอื่ มนั่ ในตนเอง ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.3/1 ป.3/2 ป3/3 ป3/4 ป3/5 ป3/6 ป3/7 ป3/8 ป3/9 ป3/10 ป3/11 ค 1.2 ป.3/1 ค 2.1 ป3/1 ป3/2 ป3/3 ป3/4 ป3/5 ป3/6 ป3/7 ป3/8 ป3/9 ป3/10 ป3/11 ป3/12 ป 3/13 ค 2.2 ป.3/1 ค 3.1 ป.3/1 ป.3/2 รวม 28 ตวั ชว้ี ดั

51 รหัสวิชา ค 14101 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ เวลา 160 ช่ัวโมง อ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิกตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจำนวนนบั ที่มากกว่า 100,000 การอา่ นภาษาอาเซยี น ลาว จนี และเวียดนาม เปรียบเทียบและเรยี งลำดบั จำนวนนบั ได้พร้อมเปรียบเทียบชือ่ สมนุ ไพรไทยที่ใชร้ กั ษาโรคของไทย บอก อ่านและเขียนเศษสว่ น จำนวนคละแสดงปรมิ าณสงิ่ ของต่าง ๆ และ แสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามเศษส่วน จำนวนคละที่กำหนด เปรยี บเทียบเรยี งลำดบั เศษสว่ นและจำนวนคละทีต่ วั ส่วนตัว หนึ่งเปน็ พหคุ ูณของอีกตัวหนึ่งและบอกปริมาณสีทใี่ ช้ในการยอ้ มผา้ ครามในแต่ละคร้งั ของจงั หวดั สกลนคร อ่าน และเขยี นทศนยิ มไม่เกนิ 3 ตำแหนง่ จากสถานการณ์ต่าง ๆ โดยการหาขนาดของกระดาษสา บา้ นทา่ ล้อ ต.บ่อ แฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ตามขนาดที่ครกู ำหนดและสร้างชิ้นงานจากกระดาสาได้ พร้อมทงั้ เปรยี บเทียบและ เรยี งลำดับทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหน่ง เรียนรูก้ ารหาขนาดของผลติ ภณั ฑ์จากกะลามะพรา้ ว อ.อัมพวา จ. สมทุ รสงคราม หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนับ หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวนหลายหลัก 2 จำนวนทมี่ ี ผลคณู ไมเ่ กิน 6 หลกั และประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารที่ตวั ต้ังไม่เกิน 6 หลกั ตัวหารไม่เกนิ 2 หลกั การหา จำนวนผกั ตบชวา ต.ทา่ สัก อ.พชิ ยั จ.อตุ รดติ ถ์ โดยใชก้ ารคณู ของจำนวนหลายหลัก 2 จำนวน พร้อมท้ัง ประมาณผลลัพธ์ของการบวก ลบ คณู หาร จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ หาผลลัพธ์ของการบวกลบคูณหารระคนของ จำนวนนับ หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจำนวนคละที่ตวั ส่วนตวั หน่งึ เปน็ พหุคณู ของอีกตัวหน่ึง แสดงวิธี หาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและการลบเศษส่วน และจำนวนคละโดยการบอกวิธกี ารนำผลไมม้ าแบ่ง ออกเปน็ ชิ้นๆ ท่เี ท่ากนั รวมถึงการเรยี นรคู้ ำศพั ทผ์ ลไมใ้ นภาอาเซียน ได้แก่ ลาว อังกฤษ ไทย จีน หาผลบวก ผล ลบพรอ้ มท้ังแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ของทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตำแหนง่ บอกเวลาพร้อมทงั้ แสดง วิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับเวลา การเปรียบเทียบระยะเวลา ความสัมพันธ์ระหวา่ งหนว่ ยและอ่าน ตารางเวลา การวดั ขนาดของมุมดว้ ยไมโ้ พรแทรกเตอรแ์ ละสร้างมมุ ได้ หาความยาวรอบรปู สเ่ี หลย่ี มมุมฉาก พ้ืนทีข่ องรูปสี่เหล่ยี มมุมฉากพรอ้ มทงั้ แกโ้ จทย์ปัญหาพ้ืนที่ จำแนกชนดิ ของมุม บอกชื่อมมุ สรา้ งรปู ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉากเม่ือกำหนดความยาวของด้าน ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ิแท่ง ตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา และอ่านตารางสองทาง โดยใหเ้ นอ้ื หาการเรยี นการสอนสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และ พัฒนาทักษะการคิดของคนสู่ศตวรรษที่ 21 โดยใชก้ ระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการสรา้ งความคดิ วิจารณญาณ กระบวนการเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการทางภาษา กระบวนการ อ่านแบบที่ 1 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการ สอื่ สาร สอ่ื ความหมาย และการนา เสนอ กระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ กระบวนการสร้างคา่ นยิ ม และ กระบวนการ เชือ่ มโยง

52 เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มีความซ่ือสัตย์สุจรติ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่ อยา่ ง พอเพยี ง รกั ความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ รหัสตัวชี้วัด ป 4/1 , ป 4/2, ป 4/3, ป 4/4, ป 4/5, ป 4/6, ป 4/7, ป 4/8, ค 1.1 ป 4/9, ป 4/10, ป 4/11, ป 4/12, ป 4/13, ป 4/14, ป 4/15, ป 4/16 ป 4/1 , ป 4/2, ป 4/3 ค 2.1 ป 4/1 , ป 4/2 ค 2.2 ป 4/1 ค 3.1 รวม 22 ตัวช้ีวดั

53 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค๑๕๑๐๑ ช่อื วิชา คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง เขยี นเศษสว่ นจำนวนคละและทศนิยมไมเ่ กินสามตำแหนง่ การแบง่ ทุเรยี นออกจำหน่าย ของจงั หวัด จนั ทบรุ ี เศษสว่ นในรูปทศนยิ มและร้อยละ ร้อยละในรูปเศษส่วนและทศนิยม ทศนยิ มในรูปเศษส่วนและร้อยละ แผนภูมิแท่งท่ีมีการยน่ ระยะของเสน้ แสดงจำนวน นำเสนอข้อมลู จำนวนสืบค้นและนำเสนอข้อมลู ประชากรใน ประเทศอาเซียนในรปู แผนภมู ิแทง่ อ่านเศษสว่ นจำนวนคละ และทศนิยมไม่เกินสองตำแหนง่ ขอ้ มูลจาก แผนภูมแิ ทง่ เปรียบเทียบ เปรียบเทียบเศษสว่ นและทศนยิ มไม่เกินสองตำแหนง่ ผลไมต้ ามท้องถ่ินแบ่งครงึ่ และ บอกเป็นเศษสว่ น เรยี งลำดบั เศษส่วนและทศนยิ มไม่เกินสองตำแหนง่ บวก ลบ คณู หาร เศษส่วน บวก ลบ คณู หารระคนของเศษส่วน การคำนวณจำนวนการทำเคร่ืองป้ันดนิ เผาต่อวนั อำเภอบา้ นโป่ง จงั หวัดราชบุรี บวก ลบ คูณ ทศนยิ ม บวก ลบ คณุ ระคนของทศนิยมท่มี ีคำตอบทศนยิ มไมเ่ กนิ สองตำแหนง่ วเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา โจทยป์ ัญหาระคนของจำนวนนับการแปรรปู ผลติ ภณั ฑอ์ าหาร ตำบลไทร น้อย อำเภอบางบาล จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา โจทยป์ ัญหาระคนของเศษส่วน โจทยป์ ัญหาระคนของทศนยิ ม โจทย์ปัญหารอ้ ยละ สร้างโจทย์ปญั หาเก่ยี วกับจำนวนนับ สร้างมุมโดยใช้ไม้โพรแทรกเตอร์ สร้างรูปสีเ่ หล่ยี มมุม ฉาก รูปสามเหลยี่ ม รปู วงกลม เส้นขนานโดยใชไ้ ม้ฉาก บอกค่าประมาณใกลเ้ คียงจำนวนเตม็ สบิ เตม็ รอ้ ย เต็ม พันของจำนวนนบั ความสมั พันธ์ของหน่วยการวัดปรมิ าตรหรอื ความจปุ รมิ าตรการรับซ้ือนำ้ ยางพาราของ สหกรณ์นำ้ ยาง อำเภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา ตอ่ วนั ลกั ษณะรูปเรขาคณติ สามมติ ชิ นดิ ตา่ ง ๆ รวมถงึ เรียนรู้ คำศัพทร์ ปู ทรงเรขาคณติ ภาษาอังกฤษจำแนกเคร่ืองจักสานท่ีมรี ปู ทรงต่าง ๆ ในท้องถ่ินลกั ษณะความสัมพันธ์ ของรปู ส่ีเหล่ียม รูปสามเหล่ียมชนดิ ต่าง ๆ จำนวนและความสมั พนั ธใ์ นแบบรปู ของจำนวนทก่ี ำหนดให้ เหตุการณ์ที่กำหนดใหน้ น้ั เกิดข้นึ อย่างแนน่ อน อาจจะเกดิ ข้ึนหรือไม่ก็ได้ ไมเ่ กิดขึ้นอย่างแนน่ อน หาความยาว รอบรูปของรูปส่เี หลย่ี ม รปู สามเหล่ียม สี่เหลี่ยมมุมฉาก บอกความยาวรอบรูปของตะกร้ากลุ่มแม่บ้าน อ.นคิ มคำ สร้อย จ.มกุ ดาหาร ความจุของทรงสเี่ หลย่ี มมุมฉาก แก้ปัญหาเกยี่ วกบั พนื้ ท่ี การคำนวณหาพ้นื ท่ีการปลูก ทานตะวัน จ.ลพบรุ ี วธิ กี ารที่หลากหลายในการแกป้ ญั หา จำแนกรูปเรขาคณติ สามมิติ ความสมั พนั ธ์รปู สเ่ี หลย่ี ม ส่วนประกอบความสัมพนั ธข์ องสามเหลย่ี มชนดิ ตา่ งๆ การศึกษาหาพื้นทบี่ ริเวณวัดพระธาตเุ ชิงชุม วรมหาวหิ าร อ.เมอื ง จ.สกลนคร ทักษะและกระบวนการแกป้ ญั หาในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสมใช้ เหตุผลและสรุปผลประกอบในการตัดสนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม มภี าษาการส่ือสาร สอ่ื ความหมาย การนำเสนอ ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้องเชอ่ื มโยงความรูต้ า่ งๆทางคณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อนื่ ๆ โดยสอดคลอ้ งตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนาทักษะการคดิ ของคนสศู่ ตวรรษที่ ๒๑ โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ ความเข้าใจ กระบวนการปฏิบัติกรนะบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพือ่ ให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอื่ สัตย์ สจุ รติ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง มุ่งมน่ั ในการ ทำงาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ รกั และรับใช้ รหสั ตวั ช้ีวัด ค ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป ๕/๗, ป ๕/๘ ,ป ๕/๙ ค ๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ค ๒.๒ ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ค ๓.๑ ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, รวม ๑๙ ตวั ชี้วัด

54 คำอธบิ ายรายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค๑6๑๐๑ วชิ า คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา ๑6๐ ชว่ั โมง ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้ เศษส่วน การเปรียบเทยี บและเรียงลาดบั เศษสว่ นและ จานวนคละโดยใชค้ วามรเู้ รือ่ ง ค.ร.น. อตั ราสว่ น อัตราส่วน อัตราส่วนที่เท่ากนั และมาตราสว่ น เปรียบเทยี บอัตราส่วนของสินคา้ และผลิตภณั ฑ์ใน ทอ้ งถน่ิ จำนวนนบั และ 0 ตวั ประกอบ จำนวนเฉพาะ ตวั ประกอบเฉพาะ และการแยกตัวประกอบ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของการจัดผลิตภัณฑส์ ินคา้ การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ โดยใช้ความรู้เรือ่ ง ค.ร.น. การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษสว่ นและ จำนวนคละ การแกโ้ จทยป์ ญั หาเศษสว่ นและจำนวนคละ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหาร ความสมั พันธร์ ะหว่างเศษสว่ นและทศนิยม การหารทศนิยม การแก้ โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับทศนิยม (รวมการแลกเงินต่างประเทศ) อ่านนำ้ หนักสนิ คา้ เปน็ ทศนิยม อัตราสว่ นและร้อย ละ การแก้โจทย์ปญั หาอตั ราส่วนและมาตราสว่ น การแกโ้ จทยป์ ญั หาร้อยละ แบบรปู การแกป้ ัญหาเกย่ี วกับ แบบรปู ปริมาตรและความจุ ปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมติ ิท่ีประกอบดว้ ย ทรงสีเ่ หลยี่ มมุมฉาก การแก้ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ปริมาตรของรูปเรขาคณติ สามมิติท่ปี ระกอบด้วยทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉาก รปู เรขาคณติ สองมติ ิ ความยาวรอบรปู และพื้นทข่ี องรูปสามเหล่ยี ม มุมภายในของรปู หลายเหล่ียม ความยาวรอบรูปและพนื้ ที่ของรปู หลายเหลยี่ ม การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรูป และพ้นื ท่ขี องรูปหลายเหลีย่ ม ความยาวรอบรปู และ พ้นื ทขี่ องวงกลม การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปและพน้ื ท่ีของวงกลม คำศัพทภ์ าษาอังกฤษการ หาพื้นที่ รูปเรขาคณิตสองมิติ ชนิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหลีย่ ม การสรา้ งรปู สามเหล่ยี ม สว่ นตา่ ง ๆ ของ วงกลม การสรา้ งวงกลม รูปเรขาคณติ สามมติ ิ ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย พีระมดิ รูปคลีข่ องทรงกระบอก กรวย ปริซมึ พีระมดิ บอกช่อื รูปทรงของส่ิงก่อสร้างต่าง ๆ ในกล่มุ ประเทศอาเซียน การนำเสนอข้อมูล การอา่ น แผนภมู ริ ปู วงกลม การจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ที่ใกลต้ วั ใหผ้ ู้เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ โดยปฏิบัตจิ รงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทกั ษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ โดยใชก้ ระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการสร้างความคดิ วจิ ารณญาณ กระบวนการเรียนร้คู วามเข้าใจ กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการ สื่อสาร สือ่ ความหมายและการนำเสนอ กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ กระบวนการสร้างค่านิยมและ กระบวนการเช่ือมโยงการแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ ดา้ นความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการทไี่ ด้ ไปใชใ้ นการเรียนร้สู งิ่ ต่างๆ และใช้ในชีวติ ประจำวนั อยา่ ง สร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคตทิ ดี่ ตี ่อ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเชอ่ื มัน่ ในตนเอง ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนาทกั ษะการคิด ส่ศู ตวรรษท่ี 21

55 เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีความซ่อื สัตยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ ม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ น่ื ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผล การวดั และประเมนิ ผล ใช้วธิ กี ารหลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงของเนื้อหาและทกั ษะทตี่ ้องการ วัด รหัสตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9, ป.6/10, ป.6/11, ป.6/12 ค 1.2 ป.6/1 ค 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ค 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 ค 3.1 ป.6/1 รวมทั้งหมด 21 ตวั ช้ีวดั

56 คำอธบิ ายรายวชิ าคณิตศาสตร์ ช่ือวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 21101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่ัวโมง เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธข์ องจำนวนตรรกยะและใช้สมบตั ิของจำนวนตรรกยะ ในการ แกป้ ญั หาคณิตศารสตร์และปัญหาในชวี ิตจรงิ เขา้ ใจและใช้สมบัตขิ องเลขยกกำลงั ท่ีมีเอาชี้กำลงั เป็นจำนวนเตม็ บวกในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์และปัญหาในชวี ิต เข้าใจและประยุกตใ์ ช้อัตราสว่ น สดั สว่ น และรอ้ ยละ ใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชวี ิตจรงิ เขา้ ใจ และใช้สมบัติของการเท่ากันและสมบตั ิของจำนวน เพื่อ วิเคราะห์และการแกป้ ัญหาโดยใช้สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียว เขา้ ใจและใชค้ วามรู้เก่ียวกบั กราฟ ในการ แกป้ ญั หาคณิตศาสตร์และปัญหา เขา้ ใจและใชค้ วามรู้เกีย่ วกบั สมั พันธเ์ ชิงเสน้ ในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชวี ติ จริง ใช้ ความรู้ทางเรขาคณติ และเคร่ืองมือ เช่น วงเวยี นและเสน้ ตรง The Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรม เรขาคณิต เพ่ือสร้างรูปเรขาคณติ ตลอดจนนำความรูเ้ ก่ียวกับการสร้างนีไ้ ปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาใน ชีวติ จริง เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ทางเรขาคณิต ในการวิเคราะหห์ าความสมั พันธ์ระหว่าง รปู เรขาคณิตสองมติ แิ ละ รปู เรขาคณติ สามมิติ เข้าใจและใชค้ วามรทู้ างสถติ ิในการนำเสนอขอ้ มูลและแปลความหมายข้อมลู รวมท้ังนำสถติ ิไปใชใ้ น ชวี ติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้กระบวนการ กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการสรา้ งความเข้าใจ กระบวนการสรา้ ง ค่านยิ ม กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสบื สวนสอบสวนและกระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ เพื่อใหน้ ักเรียนเกดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตยส์ ุจริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อยา่ ง พอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทำงานรักความเปน็ ไทยและมจี ิตสาธารณะ รหสั ตัวช้ีวัด ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ค 3.1 ม.1/1 รวมท้ังหมด 9 ตัวชว้ี ดั

57 คำอธิบายรายวชิ าคณิตศาสตร์ ชือ่ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธข์ องจำนวนตรรกยะและใชส้ มบัตขิ องจำนวนตรรกยะ ในการ แกป้ ัญหาคณิตศารสตรแ์ ละปัญหาในชีวิตจริง เข้าใจและใช้สมบตั ขิ องเลขยกกำลังที่มีเอาชีก้ ำลงั เป็นจำนวนเต็ม บวกในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์และปญั หาในชีวติ เข้าใจและประยุกตใ์ ชอ้ ัตราสว่ น สดั ส่วน และรอ้ ยละ ใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ และปัญหาในชวี ิตจริงเขา้ ใจ และใช้สมบตั ิของการเท่ากันและสมบัติของจำนวน เพ่ือ วิเคราะห์และการแก้ปญั หาโดยใชส้ มการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว เขา้ ใจและใช้ความรู้เก่ียวกบั กราฟ ในการ แก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหา เข้าใจและใชค้ วามรู้เก่ยี วกับสัมพนั ธ์เชงิ เส้นในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชีวติ จริง ใช้ ความรู้ทางเรขาคณติ และเคร่ืองมือ เชน่ วงเวียนและเสน้ ตรง The Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรม เรขาคณิต เพ่ือสร้างรปู เรขาคณติ ตลอดจนนำความรูเ้ ก่ียวกับการสรา้ งน้ีไปประยุกต์ใชใ้ นการแก้ไขปญั หาใน ชีวิตจรงิ เข้าใจและใชค้ วามรู้ทางเรขาคณิต ในการวิเคราะหห์ าความสมั พันธ์ระหว่าง รูปเรขาคณิตสองมิติและ รปู เรขาคณติ สามมิติ เข้าใจและใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูล รวมทั้งนำสถิตไิ ปใช้ใน ชีวติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยที ่เี หมาะสม ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการ กระบวนการคิด กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการสรา้ งความเข้าใจ กระบวนการสรา้ ง คา่ นิยม กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสบื สวนสอบสวนและกระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ เพ่ือใหน้ ักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่าง พอเพียง มุ่งม่นั ในการทำงานรักความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ รหัสตวั ชี้วดั ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ค 3.1 ม.1/1 รวมท้ังหมด 9 ตวั ชี้วัด

58 คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค๒๒๑๐๑ วชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ เวลา 6๐ ชวั่ โมง ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ศกึ ษาเลขยกกำลังท่มี ีเลขชก้ี ำลังเปน็ จำนวนเตม็ การคณู และการหารเลขยกกำลัง เมอื่ เลขชีก้ ำลงั เปน็ จำนวนเตม็ สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ และการนำความรู้เก่ยี วกบั เลขยกกำลงั ไปใชใ้ นชีวติ จรงิ การเขยี นเศษส่วนใน รูปทศนิยมซ้ำ การเขียนทศนิยมซำ้ ในรปู เศษสว่ น จำนวนจริง สมบัติของจำนวนจรงิ รากที่สองและรากที่สาม ของจำนวนจริง การหารากที่สองและรากทสี่ ามของจำนวนจริงโดยการแยกตัวประกอบ การประมาณค่า เปดิ ตาราง และใช้เคร่ืองคำนวณ และการนำความรู้เกยี่ วกบั จำนวนจรงิ ไปใชใ้ นชีวติ จริง เอกนาม การบวกและการลบเอกนาม พหนุ าม การบวกและการลบพหนุ าม การคูณระหวา่ งเอกนาม กบั เอกนาม การคูณระหวา่ งเอกนามกับพหนุ าม การคณู ระหวา่ งพหนุ ามกับพหนุ าม การหารเอกนามดว้ ยเอก นาม การหารพหนุ ามด้วยเอกนามท่ีมีผลหารเป็นพหนุ าม การแปลง การแปลงทางเรขาคณิต การเลื่อนขนาน การสะท้อน และการหมุน ความสมั พันธ์ของการเล่ือนขนาน การสะท้อน และการหมุน และการนำสมบัติของ การเลือ่ นขนาน การสะท้อน และการหมุนไปใชใ้ นชวี ติ จริง ความเท่ากันทกุ ประการของรปู เรขาคณิต ความ เทา่ กันทุกประการของสว่ นของเสน้ ตรง ความเท่ากนั ทุกประการของมุม ความเทา่ กันทกุ ประการของรปู สามเหล่ยี ม ความเท่ากนั ทกุ ประการของรูปสามเหลี่ยมสองรปู ที่มีความสัมพันธ์แบบต่าง ๆ รูปสามเหลี่ยมสอง รูปที่สัมพนั ธ์กนั แบบ ด้าน-มมุ -ด้าน รูปสามเหลี่ยมสองรปู ที่สัมพนั ธ์กนั แบบ มมุ -ดา้ น-มุม รูปสามเหลย่ี มสองรปู ที่สัมพันธ์กนั แบบ ดา้ น-ดา้ น-ดา้ น และการนำความรู้เกีย่ วกับความเท่ากนั ทุกประการไปใช้ในการแก้ปญั หา เส้น ขนานและมมุ ภายใน เสน้ ขนานและมมุ แยง้ เส้นขนานและมุมภายนอกกับมุมภายใน เสน้ ขนานและรูป สามเหล่ยี ม เส้นขนานและรูปสามเหล่ยี ม การให้เหตผุ ลและแก้ปัญหาโดยใชส้ มบัติของเสน้ ขนานและความ เทา่ กันทุกประการของรปู สามเหลยี่ ม โดยการจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันทีใ่ กลต้ วั ให้ผเู้ รยี นได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการปฏิบัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ กระบวนการในการคดิ คำนวณ การ แกป้ ญั หาการให้เหตผุ ลการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะ และกระบวนการท่ีได้ไปใชใ้ นการเรียนร้สู ่งิ ต่างๆและใชใ้ นชีวติ ประจำวันอยา่ งสร้างสรรค์ เพือ่ ใหเ้ ห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีตอ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทำงานได้อยา่ งเปน็ ระบบ มีระเบยี บ รอบคอบมีความรบั ผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ มีความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ และมีความเชอ่ื ม่ันในตนเอง ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.2/1 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชวี ติ จริง ค 1.1 ม.2/2 เขา้ ใจจำนวนจริงและความสัมพนั ธ์ของจำนวนจรงิ และใชส้ มบตั ขิ องจำนวนจรงิ ในการแก้ปัญหา คณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวิตจริง ค 1.2 ม.2/1 เข้าใจหลกั การการดำเนนิ การของพหุนามและใชพ้ หนุ ามในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์ ค 2.2 ม.2/2 นำความร้เู กี่ยวกบั สมบตั ขิ องเส้นขนานและรูปสามเหล่ียมไปใช้ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ค 2.2 ม.2/3 เข้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกบั การแปลงทางเรขาคณิตในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาใน ชวี ิตจรงิ ค 2.2 ม.2/4 เข้าใจและใชส้ มบตั ขิ องรูปสามเหลยี่ มท่เี ทา่ กนั ทกุ ประการในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละ ปญั หาในชีวติ จริง รวม 6 ตัวชีว้ ัด

59 คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค๒๒๑๐๒ วิชา คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 6๐ ช่วั โมง การแยกตัวประกอบของพหนุ าม เรียนรู้ เกย่ี วกับการแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้ สมบตั กิ ารแจกแจง กำลงั สองสมบูรณ์ ผลตา่ งกำลังสอง ทฤษฎีบทพที าโกรัส เรยี นรเู้ กย่ี วกับทฤษฎีบทพีทาโกรสั และบทกลบั การนำความรเู้ กยี่ วกับทฤษฎบี ทพีทาโกรัสและบทกลับไปใชใ้ นชีวติ จริง พน้ื ทผ่ี วิ เรียนรูเ้ ก่ยี วกบั การหาพน้ื ที่ผวิ ของปรซิ ึมและทรงกระบอก การนำความรู้เกย่ี วกับพน้ื ทผ่ี วิ ของปริซมึ และทรงกระบอกไปใชใ้ น การแกป้ ัญหา ปรมิ าตร เรยี นรเู้ กยี่ วกบั การหาปริมาตรของปริซมึ และทรงกระบอก การนำความรู้เกี่ยวกบั ปริมาตรของปรซิ ึมและทรงกระบอกไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา สถิติ เรยี นรเู้ กยี่ วกบั การนำเสนอและวิเคราะห์ข้อมูล แผนภาพจดุ แผนภาพตน้ -ใบ ฮสิ โทแกรม คา่ กลางของขอ้ มูล การแปลความหมายผลลัพธ์ การนำสถติ ิไปใชใ้ น ชีวติ จรงิ การสร้างทางเรขาคณติ เรยี นรเู้ กย่ี วกบั การนำความรู้เกีย่ วกบั การสร้างทางเรขาคณติ ไปใชใ้ นชวี ติ จริง โดยใชว้ ธิ กี ารทห่ี ลากหลาย ใช้ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการ แกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่างๆ ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสนิ ใจและสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ใชภ้ าษาและ สัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาการการสอ่ื ความหมาย และการนำเสนอได้อยา่ งถูกต้องและชัดเจน เชอื่ มโยงความรตู้ ่างๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลกั กาการกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกบั ศาสตร์อน่ื ๆ และมีความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ เพื่อใหม้ คี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สตั ยส์ ุจริต มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งม่นั ในการทำงานรักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยู่รว่ มกับผอู้ นื่ ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข รหัสตัวช้ีวัด ค ๑.๒ ม.๒/๒ ค ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๓ ค ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๓ ม.๒/๕ ค ๓.๑ ม.๒/๑ รวมท้ังหมด ๗ ตัวชี้วัด

60 คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ ค23101 คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ศึกษาความรเู้ กี่ยวกบั อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว คำตอบของอสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี วและ กราฟแสดงคำตอบ การแก้อสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว การนำความรเู้ ก่ียวกบั อสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี วไป ใช้ในการแก้ปญั หา สมการกำลงั สองตวั แปรเดียว การแกส้ มการกำลังสองตวั แปรเดียว โดยใช้วธิ ีแยกตัว ประกอบของพหนุ ามและวธิ ีทำเปน็ กำลังสองสมบูรณ์ การนำความร้เู ก่ยี วกบั สมการกำลงั สองตัวแปรเดยี วไปใช้ ในการแก้ปญั หา รปู ทัว่ ไปของฟังก์ชน่ั กำลงั สอง กราฟของฟังก์ช่นั กำลงั สองที่อยใู่ นรูป y = ax2 เม่ือ a > 0 กราฟของฟังกช์ นั่ กำลังสองท่ีอยูใ่ นรูป y = ax2 เมื่อ a < 0 กราฟของฟังกช์ ่ันกำลงั สองทอ่ี ยใู่ นรูป y = ax2 + k เม่ือ a, k ≠ 0 กราฟของฟังกช์ ั่นกำลังสองที่อยูใ่ นรปู y = a(x – h)2 + k เมื่อ a, h ≠ 0 กราฟของฟงั ก์ช่นั กำลังสองทอี่ ยใู่ นรปู y = a(x – h)2 + k เม่ือ a, h, k ≠ 0 กราฟของฟงั กช์ ั่นกำลังสองทอี่ ยู่ในรปู y = ax2 + bx + c เม่ือ a ≠ 0 การนำความร้เู กีย่ วกับฟงั กช์ ่ันกำลงั สองไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา พีระมิด กรวย ทรงกลม คลอรไ์ ทล์ แผนภาพกล่อง การนำแผนภาพกลอ่ งไปใช้ในชีวติ จรงิ การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ และการนำความรู้เกีย่ วกบั ความนา่ จะเปน็ ไปใช้ในชีวิตจรงิ โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ใี กลต้ วั ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษา ค้นควา้ ฝึกทักษะ โดยการ ปฏิบัตจิ รงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตุผล การเช่อื มโยง การสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ กระบวนการทไี่ ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรูส้ ่งิ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์ เพ่อื ใหเ้ ห็นคุณคา่ และมีเจตคติท่ดี ีตอ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเปน็ ระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ มีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์และมีความเช่ือม่ันในตนเอง ตัวชีว้ ัด ค. 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใชค้ วามรูเ้ ก่ียวกับฟังกช์ ันกำลังสองในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ค. 1.3 ม.3/1 เขา้ ใจและใช้สมบตั ขิ องการไม่เทา่ กนั เพอ่ื วิเคราะห์และแก้ปัญหา โดยใชอ้ สมการเชงิ เส้นตัวแปร เดียว ค. 1.3 ม.3/2 ประยกุ ต์ใชส้ มการกำลังสองตัวแปรเดียวในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์ ค. 2.1 ม.3/1 ประยกุ ตใ์ ช้ความรเู้ รือ่ งพ้ืนท่ีผิวของพีระมดิ กรวย และทรงกลมในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชีวิตจริง ค. 2.1 ม.3/2 ประยุกตใ์ ช้ความรเู้ ร่อื งปรมิ าตรของพรี ะมิด กรวย และทรงกลมในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และปัญหาในชีวติ จริง ค. 3.1 ม.3/1 เข้าใจและใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการนำเสนอและวิเคราะหข์ ้อมูลจากแผนภาพกล่องและแปล ความหมายผลลพั ธร์ วมทงั้ นำสถิตไิ ปใชใ้ นชวี ิตจริงโดยใชเ้ ทคโนโลยที เ่ี หมาะสม ค. 3.2 ม.3/1 เข้าใจเกย่ี วกับกำรทดลองสุม่ และนำผลทไี่ ด้ไปหาความนา่ จะเป็นของเหตุการณ์ รวม 7 ตัวชว้ี ัด

61 คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ ค23102 คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน 6 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาระบบสมการเชิงเสน้ สองตวั แปรการอา่ นและแปลความหมายกราฟของระบบสมการ เชิงเสน้ สองตวั แปรการแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การนำระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรไปใช้ในการ แก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรีสงู กว่าสองที่มีสัมประสทิ ธิ์เปน็ จำนวนเตม็ รูปที่คล้ายกัน รูป สามเหลย่ี มทคี่ ล้ายกนั การนำรูปสามเหลีย่ มคลา้ ยไปใช้ในทางคณติ ศาสตร์ การนำความรเู้ กย่ี วกับรปู สามเหลย่ี มคล้ายไปใช้ ในชีวติ ประจำวนั อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ การประยุกตข์ องอตั ราส่วนตรโี กณมิติ วงกลม มุมที่จุดศนู ยก์ ลางและมุม ในส่วนโค้งของวงกลม คอร์ด เส้นสัมผสั วงกลม โดยการจัดประสบการณ์หรอื สรา้ งสถานการณ์ในชวี ติ ประจำวันทใี่ กล้ตวั ให้ผู้เรยี นได้ศกึ ษา คน้ ควา้ ฝกึ ทกั ษะ โดยการปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพอื่ พัฒนาทักษะ กระบวนการในการคดิ คำนวณ การ แก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิด ทกั ษะ และกระบวนการที่ได้ไปใชใ้ นการเรียนร้สู ิ่งตา่ ง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจำวันอยา่ งสร้างสรรค์ เพื่อใหเ้ หน็ คุณคา่ และมเี จตคติทด่ี ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบียบ รอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ มีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ และมีความเช่อื มัน่ ในตนเอง ตัวช้ีวัด เขา้ ใจและใช้การแยกตัวประกอบของพหนุ ามที่มีดกี รีสูงกวา่ สองในการแก้ปญั หา ค 1.2 ม.3/1 คณติ ศาสตร์ ประยุกตใ์ ช้ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปรในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์ ค 1.3 ม.3/3 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ขิ องรูปสามเหลยี่ มท่คี ล้ายกันในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาใน ค 2.2 ม.3/1 ชวี ติ จรงิ เขา้ ใจและใช้ความรู้เก่ยี วกบั อัตราสว่ นตรโี กณมติ ใิ นการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และปัญหาใน ค 2.2 ม.3/2 ชีวิตจริง เขา้ ใจและใช้ทฤษฎบี ทเก่ียวกับวงกลมในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์ ค 2.2 ม.3/3 รวม 5 ตัวชว้ี ัด

62 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คำอธิบายสาระการเรียนรู้ รหสั วิชา ว 11101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 80 ชว่ั โมง ระบุชื่อพืชและสัตว์ท่ีอาศัยอยู่บริเวณต่างๆ ในเขตอำเภอเมือง สกลนครชื่อสัตว์และชื่อดอกไม้ประจำ ชาติอาเซียนจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ชนิดของวัสดุ ชื่อของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช ดาวท่ี ปรากฏบนท้องฟา้ ในเวลากลางวันและกลางคืน การสังเกตดวงอาทิตย์ในการบอกชว่ งเวลาจากข้อมูลท่ีรวบรวม ได้ ตลอดจนเรยี นรคู้ ำศัพท์ 3 ภาษา (ภาษาไทย ภาษาลาวและภาษาองั กฤษ) คำว่า ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทรแ์ ละ ดวงดาว บอกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของสัตว์ในบริเวณที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมือง สกลนครหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืชบรรยายลักษณะของส่วนต่างๆ ของร่างกาย มนุษย์ สัตว์และพืช รวมทั้งการทำหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่างๆจาก ข้อมูลที่รวบรวมได้ การเกิดเสียงและการเกิดเสียงดนตรีพื้นบ้านจากเครื่องดนตรี เช่น แคน โหวด กลอง พิณ จากแหล่งผลิตบ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม และทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียงจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธบิ ายลกั ษณะภายนอกของหิน จากลกั ษณะเฉพาะตัวทีส่ ังเกตได้ ในเขตอำเภอเมอื ง สกลนครการใช้ ประโยชน์จากหิน โรงงานแกะสลักหินลานนา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงใหม่และสิ่งก่อสร้างจากหินในกลุ่ ม ประเทศอาเซียน ปราสาทหินวัดพู ประเทศลาว ปราสาทเขาพนมรุ้ง ประเทศไทย ปราสาทเขาพระวิหาร ประเทศกัมพูชา สมบตั ทิ ่สี งั เกตได้ของวสั ดุท่ีใช้ทำวัตถซุ ึ่งทำจากวสั ดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกัน โดย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ บอกสมบัติของผ้าที่ทำมาจากดอกฝ้าย และจัดกลุ่มวัสดุตามสมบัติที่สังเกตได้ ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญของส่วนต่างๆของร่างกายตนเองโดยการดูแลส่วนต่างๆอย่างถูกต้องรักษา ความสะอาดใหป้ ลอดภัยและรักษาความสะอาดอย่เู สมอ การแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูก การ เปรียบเทียบ แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพสัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อและใช้เทคโนโลยีในการสร้างจัดเก็บเรียกใช้ข้อมูลตาม วัตถุประสงค์ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ ร่วมกันดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้นใช้งานอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนา ทักษะการคิดสู่ศตวรรษที่ 21โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการเรียนรู้ความเข้าใจ กระบวนการสืบสวนสอบสวนกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความ ตระหนัก กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ เพื่อใหม้ คี วามซื่อสัตย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งม่ัน ในการทำงาน มีจติ สาธารณะ และมีจติ วิทยาศาสตร์ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่ได้เรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ คา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม

63 ตวั ช้ีวดั ว 1.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 1.2 ป.1/1 ป.1/2 ว 2.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 2.3 ป.1/1 ว 3.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 3.2 ป.1/1 ว 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 รวมตัวช้ีวดั ท้งั หมด 15 ตวั ชีว้ ดั

64 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว12101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 80 ชวั่ โมง ผ้เู รยี นสามารถระบุไดว้ า่ พชื ต้องการแสงและนำ้ เพ่ือการเจริญเติบโต โดยใชข้ อ้ มูลจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์และศึกษาการตอบสนองต่อแสงของตน้ ทานตะวันท่ีปลูกในชมุ ชนธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร ตระหนักถึงความจำเปน็ ที่พืชตอ้ งได้รบั น้ำและแสงเพื่อการเจรญิ เติบโต โดยดแู ลพชื ให้ได้รับสิง่ ดังกลา่ วอยา่ ง เหมาะสมสามารถสรา้ งแบบจำลองท่บี รรยายวัฏจกั รชวี ิตของพชื ดอกและเปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชวี ติ และสง่ิ ไม่มีชวี ิตจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ โดยเปรยี บเทียบลกั ษณะของสิง่ มชี ีวติ และส่ิงไมม่ ีชีวิตในโรงเรียน นอกจากนส้ี ามารถเปรยี บเทียบสมบัตกิ ารดูดซับนำ้ ของวสั ดุและระบุการนำสมบัติการดูดซับน้ำของวสั ดไุ ป ประยุกตใ์ ช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวนั ได้ สามารถอธบิ ายสมบัตทิ สี่ งั เกตได้ของวสั ดุท่ีเกดิ จากการนำวสั ดมุ า ผสมกันและเปรยี บเทียบสมบัตทิ ีส่ ังเกตไดข้ องวัสดเุ พื่อนำมาทำเปน็ วตั ถุในการใชง้ านตามวตั ถุประสงค์และ อธบิ ายการนำวัสดทุ ี่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหมโ่ ดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ตระหนักถึงประโยชน์ของการนำวสั ดุทใี่ ช้ แลว้ กลับมาใชใ้ หม่ โดยการนำวัสดุทใี่ ช้แล้วกลับมาใช้ใหมน่ อกจากนสี้ ามารถบรรยายแนวการเคลื่อนทีข่ องแสง จากแหล่งกำเนิดแสงและอธิบายการมองเห็นวตั ถจุ ากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์อีกท้ังตระหนักในคุณคา่ ของความรู้ ของการมองเห็นโดยเสนอแนะแนวทางการป้องกันอนั ตรายจากการมองวัตถุทอ่ี ยู่ในบริเวณทม่ี แี สงสวา่ งไม่ เหมาะสมนอกจากนีส้ ามารถระบุสว่ นประกอบของดนิ และจำแนกชนดิ ของดนิ โดยใช้ลักษณะเน้ือดินและการ จบั ตัวเปน็ เกณฑ์ โดยสำรวจและจำแนกภายในบริเวณโรงเรยี นโดยใชส้ มบตั ิทางกายภาพเปน็ เกณฑร์ วมทัง้ สามารถ อธบิ ายการใช้ประโยชน์จากดินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งไรก็ตามการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ในศตวรรษท่ี 21 ผู้เรียนจำเป็นตอ้ งใชค้ วามสามารถในการส่ือสารการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และการคดิ อย่าง เป็นระบบ อีกท้ังยังสามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชญิ ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลกั เหตุผลนอกจากนย้ี ังสามารถใช้เทคโนโลยี เพอื่ การพฒั นาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรียนรู้ การส่อื สาร การ ทำงานการแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสมโดยอาศยั กระบวนการแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ นำ กระบวนการต่างๆ ไปใชใ้ นการดำเนนิ ชวี ิตประจำวันรวมถึงการมีคุณธรรม มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการ ทำงานเพ่ือให้สามารถอย่รู ว่ มกับผอู้ ื่นในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข รหสั ตวั ช้วี ดั ว 1.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ว 1.3 ป.2/1 ว 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3ป.2/4 ว 2.3 ป.2/1 ป.2/2 ว 3.2 ป.2/1ป.2/2 ว 4.2 ป.2/1 ป.2/2ป.2/3 ป.2/4 รวมตัวชีว้ ัดทงั้ หมด 16 ตวั ชีว้ ัด

65 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 13101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 80 ชัว่ โมง ศกึ ษาและเรียนรูเ้ กย่ี วกบั ส่งิ ท่ีจำเป็นตอ่ การดำรงชีวติ และการเจรญิ เตบิ โตของมนุษยแ์ ละสตั ว์ ประโยชน์ของอาหาร นำ้ และอากาศ โดยการดูแลตนเองและสัตวใ์ ห้ได้รับสิ่งเหลา่ น้ีอย่างเหมาะสม วัฏจกั รชีวิต ของสตั ว์ เปรยี บเทยี บวัฏจักรชวี ิตของสัตว์บางชนดิ คุณคา่ ของชวี ิตสัตว์ โดยไมท่ ำใหว้ ฏั จกั รชีวิตของสัตว์ เปลีย่ นแปลง วัตถปุ ระกอบข้ึนจากช้นิ สว่ นย่อย ๆ ซ่งึ สามารถแยกออกจากกันไดแ้ ละประกอบกันเป็นวตั ถุช้ิน ใหมไ่ ด้ การเปลย่ี นแปลงของวสั ดุเม่ือทำใหร้ อ้ นขึ้นหรือทำให้เยน็ ลง ผลของแรงท่ีมตี อ่ การเปล่ยี นแปลงการ เคล่อื นท่ีของวัตถุ แรงสมั ผัสและแรงไม่สมั ผัสทีม่ ีผลต่อการเคล่อื นท่ีของวัตถุ จำแนกวัตถุโดยใชก้ ารดึงดูดกบั แมเ่ หล็กเปน็ เกณฑ์ ขว้ั แมเ่ หล็กและผลที่เกิดขึน้ ระหวา่ งข้ัวแมเ่ หลก็ เมื่อนำมาใกล้กัน สว่ นประกอบของอากาศ ความสำคญั ของอากาศ และผลกระทบของมลพษิ ทางอากาศต่อส่ิงมชี ีวิต ความสำคญั ของอากาศ แนวทางการ ปฏบิ ัตติ นในการลดการเกดิ มลพษิ ทางอากาศ การเกดิ ลม ประโยชน์และโทษของลม การเปล่ยี นแปลงพลังงาน หนึง่ ไปเปน็ อีกพลงั งานหนึ่ง การทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า ประโยชน์ และโทษของไฟฟา้ วิธีการใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภัย แบบรปู เสน้ ทางการข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ การเกดิ ปรากฏการณ์การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวนั กลางคืน และการกำหนดทิศและ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ โดยมุง่ หวังใหผ้ ูเ้ รียนได้เรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ทส่ี ามารถนำไปใชอ้ ธิบาย แก้ไขปญั หา หรอื สรา้ งสรรค์ พฒั นางานในชีวติ จริงได้ ซ่งึ เน้นการเชอ่ื มโยงความรทู้ างวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยี กบั กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และให้มีทักษะสำคัญในการค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ โดยใชก้ ระบวนการ สืบเสาะหาความร้แู ละการแก้ปญั หาทีห่ ลากหลาย เพ่ือให้ผเู้ รียนเกดิ ความร้คู วามเขา้ ใจ มีทักษะการคดิ และมีส่วนรว่ มในการเรยี นรูท้ กุ ขั้นตอน รวมทงั้ ส่งเสริมให้ผู้เรยี นเกิดจติ วิทยาศาสตร์และมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ตัวชว้ี ัด ว 1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ว 2.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 2.3 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 รวมท้ังหมด 20 ตวั ชวี้ ดั

66 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 80 ชั่วโมง บรรยายหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ดอก โดยใชข้ ้อมูลทรี่ วบรวมได้ สมนุ ไพรจากราก ลำตน้ ใบ และดอก ในเขตจังหวัดสกลนครลักษณะเฉพาะท่ีสงั เกตได้ของสัตว์มีกระดกู สันหลังในกลุ่มปลา กลมุ่ สัตวส์ ะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลมุ่ สตั วเ์ ลือ้ ยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตวเ์ ล้ียงลูกด้วยนำ้ นม และยกตัวอยา่ ง สิ่งมีชวี ิตในแต่ละกลุ่ม ส่ิงมชี วี ิต ในเขตจังหวัดสกลนครมวลของวัตถุท่ีมีผลต่อการเปลีย่ นแปลงการเคล่ือนท่ีของ วัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกสง่ิ มีชวี ิตโดยใช้ความเหมอื น และความแตกตา่ งของลักษณะของสงิ่ มีชวี ติ ออกเป็นกลุ่มพชื กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พชื และสตั ว์ สิง่ มีชีวิต ในเขตจังหวดั สกลนครพืชออกเป็นพืชดอกและ พชื ไม่มีดอกโดยใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ โดยใชข้ อ้ มูลท่ีรวบรวมได้ พชื ประจำถิน่ ในเขตจังหวัดสกลนคร สตั ว์ ออกเปน็ สตั ว์มีกระดูกสันหลังและสตั วไ์ มม่ ีกระดูกสนั หลัง โดยใช้การมกี ระดูกสนั หลงั เปน็ เกณฑ์ โดยใช้ข้อมลู ที่ รวบรวมได้ ส่งิ มชี วี ติ ในเขตจังหวดั สกลนครวตั ถุเป็นตวั กลางโปร่งใสตวั กลางโปรง่ แสง และวัตถุทึบแสง จาก ลกั ษณะการมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ผ่านวตั ถนุ นั้ เป็นเกณฑโ์ ดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ธุรกิจชุมชนทอผา้ ไหมแพรวา จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ เปรยี บเทยี บสมบัตทิ างกายภาพด้านความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน และการนำ ไฟฟ้าของวสั ดโุ ดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการทดลองและระบกุ ารนำสมบตั เิ รื่องความแขง็ สภาพยืดหย่นุ การนำความร้อน และการนำไฟฟา้ ของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจำวันผ่านกระบวนการออกแบบชน้ิ งาน สมบตั ขิ อง สสารทง้ั ๓ สถานะ จากข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตมวล การตอ้ งการทีอ่ ยู่รปู ร่างและปริมาตรของสสาร อภปิ ราย เกยี่ วกบั สมบตั ิทางกายภาพของวัสดุอย่างมเี หตผุ ลจากการทดลอง ใช้เครื่องมือเพ่ือวัดมวล และปริมาตรของ สสารทั้ง ๓ สถานะ เครือ่ งชง่ั สปรงิ ในการวัดน้ำหนักของวัตถุ เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบายการ ทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์ จากปญั หาอยา่ งง่าย อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เช่ือถอื ของ ข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิของผูอ้ น่ื แจ้งผู้เก่ยี วข้อง เม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลที่ไม่เหมาะสม ระบผุ ลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวตั ถจุ ากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ประเพณี แห่นางแมว จังหวดั ชัยภมู ิ อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ ดวงจนั ทร(์ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม) สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายแบบรูปการเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของดวง จันทรแ์ ละพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ แสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศโดยใชซ้ อฟตแ์ วรท์ ่ี หลากหลาย เพื่อแกป้ ญั หาในชีวติ ประจำวนั รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศโดยใชซ้ อฟต์แวร์ท่ี หลากหลาย เพ่ือแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และพัฒนาทักษะการคิดสู่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเรยี นร้คู วามเข้าใจ กระบวนการสบื สวน สอบสวน กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก เพื่อให้มี ความรกั ชาตศิ าสน์กษัตรยิ ์ ซื่อสตั ย์สุจรติ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ และมจี ติ วทิ ยาศาสตร์

67 เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสง่ิ ที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เห็นคณุ ค่าของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมทีเ่ หมาะสม ตวั ชวี้ ัด ว 1.2 ป.4/1 ว 1.3 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ว 2.3 ป.4/1 ว 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ว 4.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 รวมตวั ช้วี ดั ทงั้ หมด 21 ตัวชีว้ ดั

68 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 15101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 80 ชั่วโมง ศึกษา วิเคราะห์ โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจาก การปรับ และความสัมพันธ์ของส่ิงมชี ีวิตทีเ่ หมาะสมกบั การดำรงชวี ิตซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของสิ่งมชี ีวติ ในแต่ละแหล่งที่อยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งไม่มีชีวติ เพื่อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต โซ่อาหารและบทบาทหนา้ ที่ของส่ิงมชี วี ิตท่ีเป็นผูผ้ ลิตและผู้บรโิ ภค ในโซ่อาหาร คุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา สิ่งแวดล้อม ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์ ลักษณะท่ี คล้ายคลึงกันของตนเองกับพ่อแม่ การเปลี่ยนสถานะของสสารเมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลง การละลาย ของสารในนำ้ การเปลยี่ นแปลงของสารเม่อื เกดิ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี การเปลยี่ นแปลงทีผ่ นั กลบั ได้และการ เปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ วิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุอยู่นิ่ง แผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยูใ่ นแนวเดียวกันและแรงลัพธท์ ี่กระทำต่อวัตถุ การใช้เครื่องชั่งสปริงใน การวัดแรงที่กระทำต่อวัตถุ ผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ การเขียน แผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงที่อยู่ในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุ การได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสียงค่อย การวัดระดบั เสียงโดยใช้เคร่อื งมือวัดระดบั เสียง แนวทางในการหลกี เลย่ี งและลดมลพษิ ทางเสยี ง ความแตกต่าง ของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง การใช้แผนที่ดาวระบุตำแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของ กลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า แบบรูปเสน้ ทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี ปริมาณน้ำในแต่ ละแหล่ง ปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ แนวทางการใช้นน้ำอย่างประหยัดและการอนุรั กษ์ น้ำ แบบจำลองการหมุนเวียนของน้ำในวัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง จาก แบบจำลอง และกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการ ทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเตอร์เน็ตที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูล หรอื บคุ คลทไี่ มเ่ หมาะสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม รหัสตัวช้ีวัด ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 1.1 ป5/1, ป5/2 มาตรฐาน ว 1.3 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 2.1

69 มาตรฐาน ว 2.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 2.3 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 3.1 ป5/1, ป5/2 มาตรฐาน ว 3.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 4.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 รวม 31 ตัวช้ีวดั

70 คำอธิบายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 16101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 80 ชว่ั โมง ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชนข์ องสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารทตี่ นเองรับประทาน บอกแนวทางในการเลือกรบั ประทานอาหารใหไ้ ดส้ ารอาหารครบถว้ น ในสดั สว่ นท่ีเหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพ ตระหนกั ถึงความ สำคญั ของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มี สารอาหารครบถ้วนในสดั สว่ นท่ีเหมาะสมกับเพศและวัย รวมทง้ั ปลอดภยั ต่อสุขภาพ สรา้ งแบบจำลองระบบ ย่อยอาหาร และบรรยายหน้าทข่ี องอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทั้งอธบิ ายการย่อยอาหารและการดดู ซมึ สารอาหาร ตระหนกั ถึงความสำคญั ของระบบย่อยอาหารโดยการบอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวัยวะในระบบ ยอ่ ยอาหารให้ทำงานเปน็ ปกติ อธบิ ายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้ แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจักษ์รวมท้งั ระบวุ ิธีแกป้ ัญหาใน ชีวิตประจำวันเก่ียวกบั การแยกสาร การแยกน้ำครามออก ในกระบวนการผลติ ผ้าคราม จังหวดั สกลนคร อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้าซ่งึ เกิดจากวัตถทุ ่ผี ่านการขัดถโู ดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ระบุ สว่ นประกอบและบรรยายหน้าท่ขี องแตล่ ะส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างง่ายจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบาย วิธีการและผลของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม การต่อไฟหลอดไฟประดับในพธิ ีแหด่ าว จังหวัดสกลนคร ตระหนักถึงประโยชน์ของความรขู้ องการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รมโดยบอกประโยชนแ์ ละการประยกุ ต์ใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ที ีเ่ หมาะสมในการอธบิ ายการต่อหลอดไฟฟา้ แบบ อนกุ รมและแบบขนาน ตระหนักถึงประโยชนข์ องความรู้ของการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ข้อจำกัด และการประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวัน อธิบายการเกิดเงามดื เงามัวจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เขียนแผนภาพรงั สขี องแสงแสดงการเกดิ เงามืดเงามัว สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และ เปรียบเทยี บปรากฏการณ์สุริยปุ ราคาและจันทรปุ ราคา อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และ ยกตวั อยา่ งการนำเทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ เปรียบเทยี บ กระบวนการเกิดหนิ อคั นี หินตะกอน และหินแปร และอธิบายวัฏจักรหนิ จากแบบจำลอง ภูมปิ ัญญาไทย ประเภทของหินที่ใชส้ ร้างประสาทหินพิมาย จ.นครราชสมี า และประสาทหินพนมรุง้ จ.บุรีรมั ย์ ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ประเภทของหนิ ทใ่ี ช้สร้างพระธาตนุ ารายณเ์ จงเวง ในจังหวัดสกลนคร อาเซยี น ประเภทของหินท่ใี ช้สรา้ งนครวัด นครธม จังหวดั เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา บรรยายและยกตวั อยา่ งการใช้ ประโยชน์ของหนิ และแรใ่ นชวี ิตประจำวนั จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ สร้างแบบจำลองทอ่ี ธิบายการเกดิ ซากดึกดำ บรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดตี ของซากดึกดำบรรพ์ เปรยี บเทยี บการเกดิ ลมบก ลมทะเล และมรสุม รวมทั้งอธบิ ายผลทม่ี ีต่อสง่ิ มชี ีวิตและสิง่ แวดล้อมจากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสุมตอ่ การเกดิ ฤดูของ ประเทศไทยจากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วมการกัดเซาะชายฝงั่ ดนิ ถล่ม แผน่ ดินไหว สึนามิ การเกิดคลน่ื สนึ ามีในภูมภิ าคอาเซยี น ตระหนกั ถึงผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณพี ิบัติ ภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝา้ ระวังและปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภยั ธรรมชาติและธรณพี ิบตั ิภัยที่อาจเกิด ในทอ้ งถ่ิน การจัดการทรัพยากรน้ำ ในจังหวัดสกลนคร สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกดิ ปรากฏการณเ์ รือน กระจกและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อสิ่งมีชีวติ ตระหนักถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือลดกิจกรรมที่ก่อใหเ้ กิดแกส๊ เรอื นกระจก ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ

71 อธิบายและออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หาท่ีพบในชีวติ ประจำวัน ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพ่ือ แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตในการคน้ หาข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เขา้ ใจสิทธิและหน้าทขี่ องตน เคารพ ในสทิ ธิของผู้อ่นื แจ้งผู้เก่ยี วข้องเมื่อพบขอ้ มูลหรอื บุคคลที่ไม่เหมาะสม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และพฒั นาทกั ษะการคิดสูศ่ ตวรรษที่ 21 โดยใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการ ความรูค้ วามเข้าใจ กระบวนการสร้างคา่ นิยม กระบวกแก้ปญั หา กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการอ่าน กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรา้ งคา่ นิยม เพ่อื ให้มคี วามรักชาติ ศาสน์กษตั รยิ ์ ซื่อสัตยส์ จุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการ ทำงาน รักความเปน็ ไทยและมจี ติ สาธารณะ รหสั ตวั ช้วี ัด ว 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 ว 2.1 ป.6/1 ว 2.2 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8 ว 3.1 ป.6/1, ป.6/2 ว 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9 ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 รวม 30 ตัวช้ีวดั

72 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 21101 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นที่ 1 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งรูปร่างกับการทำหน้าท่ีของเซลลก์ ารจัดระบบของสิ่งมชี ีวติ โดยเรม่ิ จาก เซลล์เนือ้ เยื่อ อวยั วะระบบอวัยวะจนเปน็ สิง่ มีชวี ติ ความสำคัญของการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื ต่อสงิ่ มีชีวิต และส่ิงแวดล้อมกระบวนการแพรแ่ ละออสโมซสิ จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ และยกตัวอย่างการแพรแ่ ละออสโม ซสิ ในชีวิตประจำวนั การสืบพันธ์แุ บบอาศยั เพศและไมอ่ าศัยเพศของพชื ดอกลกั ษณะโครงสรา้ งของดอกท่ีมีสว่ น ทำ ใหเ้ กดิ การถ่ายเรณูรวมท้ังบรรยายการปฏสิ นธขิ องพืชดอก การเกดิ ผลและเมล็ดการกระจายเมลด็ และการ งอกของเมลด็ ความสำคัญของธาตุอาหารบางชนดิ ท่ีมีผลต่อการเจริญเตบิ โตและการดำรงชีวิตของพืช ความสำคัญของเทคโนโลยีการเพาะเลีย้ งเนื้อเยื่อพชื ในการใชป้ ระโยชนด์ า้ นต่าง ๆสมบตั ทิ างกายภาพบาง ประการของธาตุโลหะ อโลหะและกง่ึ โลหะ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ทไ่ี ด้จากการสังเกตและการทดสอบ และใชส้ ารสนเทศท่ีไดจ้ ากแหลง่ ขอ้ มูลต่าง ๆ รวมทั้งจดั กลุ่มธาตเุ ปน็ โลหะ อโลหะและกึ่งโลหะความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธแ์ิ ละสารผสมอธิบายเกี่ยวกับความสมั พนั ธ์ระหวา่ งอะตอมธาตุ และสารประกอบโดยใช้ แบบจำลองและสารสนเทศโครงสรา้ งอะตอมทปี่ ระกอบดว้ ยโปรตอน นวิ ตรอนอิเล็กตรอนโดยใช้แบบจำลอง การจดั เรียงอนภุ าค แรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งอนุภาคและการเคล่ือนที่ของอนุภาคของสสารชนิดเดยี วกนั ใน สถานะของแข็งของเหลว และแก๊ส โดยใช้แบบจำลองความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานความร้อนกบั การเปลยี่ น สถานะของสสาร โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์และแบบจำลองเปรียบเทียบรปู ร่าง ลักษณะ และโครงสร้างของ เซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ รวมทง้ั บรรยายหนา้ ท่ขี องผนงั เซลล์เยื่อหุม้ เซลล์ไซโทพลาซึม นิวเคลียสแวคิวโอล ไมโท คอนเดรียและคลอโรพลาสต์ระบุปัจจยั ที่จำเป็นในการสังเคราะหด์ ้วยแสงและผลผลติ ทเ่ี กิดขึน้ จากการ สงั เคราะห์ดว้ ยแสง โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ระบุปัจจัยท่ีจำเปน็ ในการสังเคราะห์ด้วยแสงและผลผลติ ที่ เกดิ ขนึ้ จากการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องการขยายพันธุ์พืชโดยการนำ ความร้ไู ปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั .ในคณุ ค่าของพืชท่มี ตี ่อสงิ่ มีชวี ติ และสิง่ แวดลอ้ ม โดยการร่วมกันปลกู และดแู ลรกั ษาต้นไม้ใน โรงเรยี นและชุมชนใช้ ใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ใช้แสงศึกษาเซลล์และโครงสรา้ งตา่ งๆ ภายในเซลล์ใชเ้ ครอื่ งมือเพอ่ื วดั มวล และปรมิ าตรของสารบริสทุ ธแ์ิ ละสารผสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละจติ วิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้การแกป้ ญั หา มี ความสามารถในการสื่อสารสิ่งท่ไี ดเ้ รยี นรู้สามารถคิดแก้ปญั หา และมคี วามสามารถในการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพ่ือให้เกิดความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มคี วามซื่อสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มีความมุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ นำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นการดำรงชวี ิตโดยใช้ กระบวนการเรียนรู้มีบทบาทในการพัฒนามนุษย์ พัฒนาความคดิ สรา้ งสรรค์ การแก้ปัญหา การทำงานรว่ มกนั การปฏบิ ัติตามศลี ธรรม คุณธรรม จริยธรรม และการรว่ มกับ ผ้อู น่ื ในสงั คม ประเทศชาติและในโลกอย่างมีความ รับผดิ ชอบ รหสั ตัวชี้วดั ว 1.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 , ม.1/8 ม1/9 , ม.1/10 , ม.1/11 , ม.1/12 , ม.1/13 , ม.1/14 , ม.1/15 , ม.1/16

73 ม.1/17 , ม.1/18 ว 2./1 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 , ม.1/8 ม1/9 , ม.1/10 ว 4. 1 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 รวมตัวช้ีวดั ทั้งหมด 33 ตัวช้ีวดั

74 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 21102 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 2 อธบิ ายการพยากรณอ์ ากาศ และพยากรณ์อากาศอย่างงา่ ยจากข้อมลู ที่รวบรวมได้ สถานการณแ์ ละ ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกจากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ วเิ คราะห์ แปลความหมายขอ้ มูล และคำนวณ ปริมาณความร้อนที่ทำใหส้ สารเปลี่ยนอุณหภมู ิและเปลย่ี นสถานะ โดยใชส้ มการ Q mc =t และ Q = mL5. วิเคราะห์สถานการณ์การถา่ ยโอนความรอ้ นและคำนวณปริมาณความร้อนที่ถ่ายโอนระหว่างสสารจนเกดิ สมดุล ความร้อนโดยใช้สมการQสูญเสยี = Q ได้รบั ใชเ้ ทอร์มอมเิ ตอรใ์ นการวัดอุณหภมู ขิ องสสารเทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ใช้ส่ือและแหล่งขอ้ มูลตามข้อกำหนดและข้อตกลงเปรียบเทียบกระบวนการเกดิ พายุ ฝนฟา้ คะนองและพายุหมนุ เขตร้อน และผลที่มีตอ่ สิง่ มชี วี ิตและส่งิ แวดล้อม รวมท้ังนำเสนอแนวทางการปฏิบัติ ตนใหเ้ หมาะสมและปลอดภัย ตระหนักถึงประโยชน์ของความร้ขู องการหดและขยายตัวของสสารเนือ่ งจาก ความรอ้ นโดยวเิ คราะหส์ ถานการณป์ ัญหา และเสนอแนะวิธกี ารนำความรู้มาแก้ปญั หาชีวติ ประจำวนั ตระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของการพยากรณ์อากาศ โดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัตติ นและการใชป้ ระโยชน์จากคำถึงผลกระทบ ของการเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศโลกโดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัตติ นภายใต้การเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศโลก ออกแบบเลือกใชแ้ ละสรา้ งอปุ กรณ์เพ่ือแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั โดยใชค้ วามรเู้ กีย่ วกับการถ่ายโอนความร้อน อลั กอริทึมที่ใชแ้ นวคิด เชงิ นามธรรมเพอ่ื แกป้ ัญหาหรืออธบิ ายการทำงานที่พบในชีวติ จริง๒. ออกแบบและเขยี น โปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพือ่ แกป้ ัญหาทาง สรา้ งแบบจำลองที่อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างความดนั อากาศกับความ สงู จากพ้นื โลก สร้างแบบจำลองที่อธิบายการขยายตัวหรอื หดตวั ของสสารเน่อื งจากไดร้ ับหรือสญู เสยี สร้าง แบบจำลองท่ีอธิบายการถา่ ยโอนความร้อนโดยการนำความรอ้ นการพาความร้อน การแผร่ งั สีความรอ้ น สรา้ ง แบบจำลองท่ีอธบิ ายการแบ่งช้ันบรรยากาศและเปรยี บเทียบประโยชนข์ องบรรยากาศ แต่ละชนั้ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา มี ความสามารถในการส่ือสารส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ สามารถคดิ แกป้ ัญหา และมีความสามารถในการนำเทคโนโลยมี าใช้ เพื่อใหเ้ กดิ ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสตั ยส์ ุจริต มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มี ความมงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำรงชีวิต โดยใชก้ ระบวนการเรียนรูม้ บี ทบาทในการพฒั นามนุษย์ พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน การปฏบิ ัตติ ามศลี ธรรม คุณธรรม จริยธรรม และการรว่ มกบั ผู้อน่ื ในสงั คม ประเทศชาติและ ในโลกอยา่ งมีความรับผดิ ชอบ รหสั ตัวช้ีวดั ม1/1 ว 2.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 ว 2.3 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 ว 3.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 ว 4. 1 รวมตัวชวี้ ัดทัง้ หมด 19 ตัวชว้ี ัด

75 คำอธิบายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 22101 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท2ี่ เวลา 60 ช่วั โมงจำนวน 1.5 หน่วยกติ ภาคเรียนที่ 1 ระบุ อธิบาย ตระหนกั บรรยาย ออกแบบการทดลอง ทดลอง แยก ตระหนักถึงความสำคญั อวยั วะ หน้าทข่ี องอวัยวะทีเ่ ก่ียวข้องในระบบหายใจ กลไกการหายใจเขา้ และออกโดยใช้แบบจำลอง ความสำคญั ของระบบหายใจโดยการบอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวัยวะในระบบหายใจใหท้ ำงานเป็นปกติ อวยั วะและหนา้ ทข่ี องอวัยวะในระบบขับถา่ ยในการกำจัดของเสียทางไต ความสำคัญของระบบขบั ถ่ายในการ กำจดั ของเสยี ทางไต โดยการบอกแนวทางในการปฏบิ ตั ิตนทีช่ ่วยให้ระบบขบั ถ่ายทำหน้าทีไ่ ด้อยา่ งปกติ โครงสรา้ งและหน้าท่ีของหวั ใจ หลอดเลือด และเลือด การทำงานของระบบหมุนเวยี นของเลือดโดยใช้ แบบจำลอง การเปรยี บเทียบอตั ราการเตน็ ของหัวใจ ขณะปกติและหลังทำกิจกรรม ความสำตัญของระบบ หมนุ เวียนเลอื ดโดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวยั วะในระบบหมนุ เวียนเลอื ดให้ทำงานเป็นปกติ อวยั วะและหนา้ ท่ีของอวยั วะในระบบประสาทสว่ นกลางในการควบคมุ การทำงานตา่ งๆ ของร่างกาย ความสำคญั ของระบบประสาท โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษา รวมถึงการป้องกันการกระทบกระเทือน และอนั ตรายตอ่ สมองและไขสนั หลัง อวยั วะและหนา้ ที่ของอวยั วะในระบบสบื พนั ธุข์ องเพศชายและเพศหญิง โดยใชแ้ บบจำลอง ผล ของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงทคี่ วบคุมการเปลีย่ นแปลงของรา่ งกาย เม่ือเข้าสวู่ ัย หนมุ่ สาว การเปลย่ี นแปลงของร่างกายเม่ือเข้าสู่วัยหนมุ่ สาวโดยการดแู ลรกั ษารา่ งกายและจติ ใจของตนเอง ในชว่ งทม่ี ีการเปลยี่ นแปลง การตกไข่ การมปี ระจำเดอื น การปฏิสนธิ และการพฒั นาของไซโกตจนคลอด เป็นทารก วธิ กี ารคุมกำเนิดที่เหมาะสมกบั สถานการณ์ทีก่ ำหนด ผลกระทบของการตั้งครรภ์กอ่ นวยั อันควร โดยการประพฤติตนให้เหมาะสม การแยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่นั อย่างง่าย โครทาโทกราฟีแบบกระดาษ การ สกดั ด้วยตัวทำละลาย โดยชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ นำวธิ กี ารแยกสารไปใชแ้ ก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั โดยบูรณา การวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ การอธบิ ายผลของชนิดตัวละลาย ชนิดของตวั ทำละลาย อณุ หภมู ทิ ม่ี ีต่อสภาพละลายไดข้ องสาร รวมทงั้ ผลของความดนั ที่มตี ่อสภาพละลายได้ของสารปริมาณตวั ละลายในสารละลาย ในหน่วยความเขม้ ขน้ เปน็ รอ้ ยละ ปริมาตรต่อปรมิ าตร มวลต่อมวล และมวลตอ่ ปรมิ าตร ความสำคญั ของการนำความร้เู ร่ืองความ เข้มขน้ ของสารไปใช้ โยการยกตัวอยา่ งการใช้สารละลายในชีวิตประจำวันอยา่ งถูกตอ้ งและปลอดภยั โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมลู บันทึกจดั กลุ่มข้อมูล เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอข้อมลู สื่อสารสิ่งที่เรยี นรู้ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็นคุณคา่ ของการนำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม รหัสตวั ชี้วัด ว 1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ม.2/16 ม.2/17 ว 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 รวมตัวชีว้ ัดทัง้ หมด 23 ตัวชวี้ ัด

76 คำอธิบายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 22102 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี 2 พยากรณ์ เขยี นแผนภาพ ออกแบบการทดลอง ทดลอง วิเคราะห์ อธบิ าย ตระหนกั ถงึ เปรยี บเทยี บ คำนวณ แปลความหมายข้อมลู สรา้ งแบบจำลอง ตรวจวดั สมบัตบิ างประการ การเคลื่อนที่ของ วตั ถทุ ่ีเป็นผลของแรงลพั ธท์ ีเ่ กิดจากแรงหลายแรงกระทำต่อวตั ถใุ นแนวเดียวกัน แผนภาพแสดงแรงและแรง ลัพธ์เกิดจากแรงหลายแรงกระทำต่อวตั ถุในแนวเดยี วกนั ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ ความดนั ของของเหลว แรงพยุงและ การจม การลอยของวตั ถใุ นของเหลว แผนภาพแสดงแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถุในของเหลว แรงเสียดทานสถติ และ แรงเสยี ดทานจลน์ ปัจจยั ท่มี ีผลต่อขนาดของแรงเสยี ดทาน แผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงอืน่ ๆ ที่ กระทำตอ่ วตั ถุ ประโยชน์ของความรู้เรื่องแรงเสียดทาน วธิ ีการลดหรอื เพิ่มแรงเสยี ดทานท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อ การทำกจิ กรรมในชวี ติ ประจำวัน โมเมนตข์ องแรง แหลง่ ของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟา้ และสนามโนม้ ถว่ ง และทศิ ทางของแรงที่กระทำต่อวตั ถทุ ่ีอยู่ในแต่ละสนาม แผนภาพแสดงแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโนม้ ถ่วงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ ความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโนม้ ถว่ งทีก่ ระทำตอ่ วตั ถุ ที่อยูใ่ นสนามนนั้ ๆกบั ระยะห่างจากแหลง่ ของสนามถงึ วตั ถุ อัตราเรว็ ความเร็วของการเคลื่อนที่ของวัตถุ แผนภาพแสดงการกระจัดและความเรว็ งานและกำลังที่เกิดจากแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ หลกั การทำงานของ เคร่อื งกลอย่างงา่ ย ประโยชน์ของความร้ขู องเครื่องกลอย่างง่าย ปจั จยั ที่มีผลตอ่ พลงั งานจลน์และพลังงานศักย์ โน้มถ่วง การเปลี่ยนพลงั งานระหว่างพลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถว่ งและพลงั งานจลนข์ องวตั ถุโดยพลงั งานกลของวตั ถุมี ค่าคงตัว การเปลียนและการถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์ กระบวนการเกิด สมบัติ และการใช้ ประโยชน์ รวมทง้ั ผลกระทบจาการใชเ้ ชื้อเพลิงซากดกึ ดำบรรพ์ ผลจากการใช้เชือ้ เพลงิ ซากดึกดำบรรพ/์ แนว ทางการใชเ้ ชือ้ เพลิงซากดึกดำบรรพ์ ข้อดีและข้อจำกัดของพลังงานทดแทน แนวทางการใชพ้ ลังงานทดแทนท่ี เหมาะสมในทอ้ งถิ่น โครงสรา้ งภายในโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี กระบวนการผพุ งั อยูก่ ับท่ี การกร่อนและ การสะสมตัวของตะกอนจากแบบจำลอง ผลของกระบวนการดงั กลา่ วที่ทำใหผ้ ิวโลกเกิดการเปล่ียนแปลง ลกั ษณะของช้ันหน้าตดั ดนิ กระบวนการเกิดดิน ปจั จยั ทีท่ ำใหด้ ินมีลักษณะและสมบัตแิ ตกตา่ งกนั สมบัติบาง ปจั จัยและกรบวนการเกดิ แหล่งน้ำผิวดนิ และแหลง่ นำ้ ใต้ดนิ จากแบบจำลองการใช้น้ำและแนว ทางการใชน้ ้ำอยา่ งยง่ั ยืนในท้องถน่ิ ของตนเอง กระบวนการเกดิ และผลกระทบของนำ้ ท่วม การกดั เซาะชายฝ่งั ดินถล่ม หลุมยุบ แผน่ ดินทรุด โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ขอ้ มูล บันทึกจัดกลุ่มข้อมลู เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอข้อมลู สือ่ สารส่งิ ทเ่ี รยี นรู้ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม รหสั ตัวช้ีวัด ว 2.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ว 2.3 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ว 3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 รวมตัวชว้ี ัดทง้ั หมด 31 ตัวชว้ี ัด

77 คำอธิบายสาระการเรียนรู้ รหัสวชิ า ว 23101 วทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรียนท่ี 1 วิเคราะห์ เขยี น ใช้ บรรยาย ตระหนัก ออกแบบ สร้าง วัด และอธิบายวิเคราะหค์ วามสัมพันธ์ ระหวา่ งความตา่ งศักย์ กระแสไฟฟ้าและความต้านทานไฟฟา้ และคำนวณปริมาณที่เกีย่ วขอ้ งโดยสมการ V=IR จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์วเิ คราะหค์ วามตา่ งศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเม่ือตอ่ ตวั ต้านทานหลาย ตวั แบบอนกุ รมและแบบขนานจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ เขยี นกราฟความสัมพนั ธ์ระหวา่ งกระแสไฟฟ้าและ ความตา่ งศักยไ์ ฟฟ้าเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและแบบขนาน แผนภาพ และต่อช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่ายในวงจรไฟฟา้ เขยี นแผนภาพการเคลื่อนท่ีของของแสงแสดงการเกดิ ภาพ จากกระจกเงา เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์บางเขยี นแผนภาพการเคล่ือนที่ ของแสงแสดงการเกิดภาพของทัศนูปกรณเ์ ลนส์เลนส์ตา๓.ใช้โวลต์มิเตอร์ แอมมิเตอร์ ในการวัดปรมิ าณไฟฟา้ บรรยายการทำงานของช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์อยา่ งง่ายในวงจรจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ ตระหนกั ในคุณคา่ ของ การเลอื กใชไ้ ฟฟ้าโดยนำเสนอแนะวธิ ีการใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภัยถึงประโยชน์และ อันตรายจากคลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ โดยนำเสนอการใช้ประโยชน์ในดา้ นต่างๆและอนั ตรายจากคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า ในชวี ิตประจำวนั ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรอ่ื งความสวา่ งของแสงทม่ี ีตอ่ ดวงตาโดยวิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหาและเสนอแนะการจัดความสว่างใหเ้ หมาะสมในการทำกจิ กรรมตา่ งๆออกแบบการทดลองและ ดำเนินการทดลองด้วยวิธที เี่ หมาะสมในการอธบิ ายกฎการสะท้อนของแสง สรา้ งแบบจำลองท่อี ธิบายการเกิดคล่นื และบรรยายสว่ นประกอบของคลื่นแบบจำลองท่ีอธิบายการ เกดิ ฤดแู ละการเคลื่อนทีป่ รากฏของดวงอาทิตย์แบบจำลองท่อี ธิบายการเกดิ ข้างขน้ึ ขา้ งแรม การเปล่ยี นแปลง เวลาขึ้นและตกของดวงจนั ทร์ และการเกิดนำ้ ขึน้ น้ำลง วดั ความสว่างของแสงโดยใชอ้ ุปกรณ์วัดความสวา่ งของ แสงอธิบายและคำนวณพลังงานไฟฟ้าโดยใชส้ มการ w=Pt รวมทัง้ คำนวณค่าไฟฟ้าของเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบ้าน อธิบายคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้าและสเปกตรมั คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟ้าจากข้อมลู ท่ีรวบรวมการหักเหของแสงเมื่อผา่ น ตัวกลางโปร่งใสทแี่ ตกต่างกนั และอธบิ ายการกระจายแสงของแสงขาวเม่ือผา่ นปริซึมจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ปรากฏการณ์ท่เี ก่ียวกบั เลนส์และการทำงานของทศั นปู กรณจ์ ากข้อมลู ที่รวบรวมได้ผลของความสวา่ งท่ีมีต่อ ดวงตาจากข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการสืบคน้ ๑. อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถ่วงจาก สมการ F=Gm1m2 / R2 การใชป้ ระโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศและยกตวั อยา่ งความก้าวหนา้ ของ โครงการสำรวจอวกาศจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา มี ความสามารถในการสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมลู และการอภิปราย

78 เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งทเ่ี รียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ น การดำรงชวี ิตและดูแลส่งิ แวดล้อม มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมท่ีเหมาะสม และเขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสงิ่ แวดล้อมเกยี่ วข้องสัมพนั ธ์กนั รหัสตัวช้ีวัด ว 2.3 ม.3/1 - ม.3/21 ว 3.1 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 รวมตัวช้ีวดั ท้ังหมด 25 ตวั ชีว้ ดั

79 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 23101 วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 2 วเิ คราะห์ ตระหนัก ออกแบบ สรา้ ง บอกวดั เปรยี บเทยี บ ระบุ และอธบิ ายวิเคราะหป์ ฏิกริ ิยาดูดความ รอ้ นและปฎิกริ ิยาคายความร้อนจากการเปล่ยี นแปลงพลังงานความร้อนของปฏิกริ ิยาตระหนกั ถึงความสัมพันธ์ ของสิ่งมีชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ มในระบบนิเวศ โดยไมท่ ำลายสมดลุ ของระบบนิเวศถงึ ประโยชน์ของความรเู้ ร่ืองโรค ทางพันธุกรรม โดยรู้ไว้ก่อนแต่งงานควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยภาวะเสี่ยงของลูกที่เกิดโรคทาง พันธุกรรม๘.ตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมที่อาจมีต่อมนุษย์และ ส่ิงแวดลอ้ ม โดยการเผยแพรค่ วามรู้ที่ได้จากการโต้แย้งทางวทิ ยาศาสตร์ซึ่งข้อมลู สนับสนุนถึงคุณค่าของการใช้ วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสมโดยเสนอแนะแนวทางการใช้วัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า ออกแบบวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีโดยบรูณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์แสดงความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของความ หลากหลายทางชีวภาพ โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ สร้างแบบจำลองในการ อธิบายการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหารบอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซมอาจทำให้เกิด โรคพันธุกรรมพร้อมทั้งยกตัวอย่างโรคทางพันธุกรรมเปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพในระดับ สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศระบุสมบัติทางกายและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซารามิกส์และ สารสนเทศระบุประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมและยกตัวอย่างวิธีการ ปอ้ งกนั และแก้ปัญหาท่ีเกดิ จากปฏกิ ิริยาเคมที ่ีพบในชีวิตประจำวนั จากการสบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ ายปฏิสัมพันธ์ของ ระบบนิเวศที่ได้จากการสำรวจ รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆในแหล่งที่อยู่ เดียวกันทไ่ี ดจ้ ากการสำรวจความสัมพนั ธข์ องผูผ้ ลิต ผบู้ ริโภค และผูย้ อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ในระบบนิเวศอธิบาย การสะสมสารพิษในสิ่งมชี ีวิตในโซ่อาหารความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ยีน ดี เอ็น เอ และโครโมโซม โดยใชแ้ บบจำลอง๒ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม จากการผสมโดยพจิ ารณาลกั ษณะเดียวท่ีแอลลลี เดน่ ขม่ แอลลนี ด้อยอย่าง สมบรูณ์ อธิบายการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของลูกและคำนวณอัตราส่วนการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของ รุ่นลูกความแตกต่างของการแบ่งเซลล์แบบไมโทซีสและไมโอซีสการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปลง พันธุกรรมและผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมความสำคัญของความ หลากหลายชวี ภาพท่มี ตี อ่ การรกั ษาสมดลุ ของระบบนิเวศและต่อมนษุ ย์การเกิดปฏิกิรยิ าเคมี รวมถงึ การจัดเรยี ง ตัวใหม่ของอะตอมเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใช้แบบจำลองและแก้สมการขอ้ ความ กฎทรงมวลโดยใช้หลักฐาน เชิงประจักร ปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็กปฎิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรดกับเบสและปฏิกิริยา ของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้การเกิดฝนกรดการสังเคราะห์ ดว้ ยแสงโดยใชส้ ารสนเทศ รวมท้งั เขยี นสมการขอ้ ความแสดงปฎิกิริยาดงั กลา่ ว โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปญั หา มี ความสามารถในการสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความ เข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตและดูแลสิ่งแวดล้อม มี คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มที่เหมาะสม และเขา้ ใจว่าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิง่ แวดล้อมเกี่ยวข้อง สัมพนั ธ์กนั

80 รหสั ตัวชี้วดั ว 1.1 ม.3/1 ,ม.3/2, ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ว 1.3 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10,ม.3/11 ว 2.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 , ม.3/7, ม.3/8 รวมตัวชี้วัดท้ังหมด 25 ตัวช้ีวดั

81 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 11101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี ศกึ ษาและฝึกทักษะในการแก้ปญั หา โดยใชข้ น้ั ตอนการแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ย การแสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หา โดยการเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือใชส้ ญั ลกั ษณ์ การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บือ้ งตน้ การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บื้องตน้ การสรา้ ง จัดเกบ็ และเรยี กใชไ้ ฟล์ ตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์ การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งเหมาะสม 1.แกป้ ญั หาอย่างง่ายโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถูกการเปรยี บเทยี บ 2.แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานหรือการแก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใชภ้ าพสัญลักษณห์ รือข้อความ 3.เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สอ่ื 4.ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้างจดั เกบ็ เรียกใชข้ ้อมลู ตามวตั ถุประสงค์ 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันดูแลรกั ษาอุปกรณ์ เบ้ืองต้น ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม ตวั ช้ีวัด ว. 4.2 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวชี้วัด

82 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 12101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี ศกึ ษาและฝกึ ทักษะในการแก้ปญั หาโดยใช้ข้นั ตอนการแก้ปัญหาอย่างง่ายการแสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หา โดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สญั ลักษณ์ การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สือ่ การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยเี บ้อื งต้น การใชง้ านซอฟต์แวร์เบือ้ งตน้ การสรา้ ง จัดเกบ็ และเรยี กใช้ไฟล์ ตามวตั ถปุ ระสงค์การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ข้อปฏบิ ตั ิในการใช้งานและการดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์ การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างเหมาะสม 1.แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพสัญลกั ษณห์ รือข้อความ 2.เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื ส่อื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด 3.ใช้เทคโนโลยีในการสร้างจดั เกบ็ เรียกใชข้ ้อมูลตามวตั ถุประสงค์ 4.ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ว่ มกันดแู ล รักษาอุปกรณ์เบื้องตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม ตัวช้ีวัด ว. 4.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวชวี้ ดั

83 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 13101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศกึ ษาและฝกึ ทักษะในการแก้ปญั หา โดยใช้ขัน้ ตอนการแก้ปัญหาอยา่ งง่าย การแสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หา โดยการเขียน บอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลกั ษณ์ การเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรอื ส่อื การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยีเบื้องต้น การใช้งานซอฟต์แวร์เบอื้ งต้น การสร้าง จดั เกบ็ และเรยี กใช้ไฟล์ ตามวตั ถุประสงค์ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ขอ้ ปฏิบัติในการใชง้ านและการดูแลรกั ษา อปุ กรณ์ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งเหมาะสม 1. แสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรอื การแกป้ ญั หา อยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ 2. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื ส่อื และตรวจหาข้อผิดพลาด 3. ใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ 4. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมลู โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ตามวัตถุประสงค์ 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในอินเตอร์เน็ต ตัวช้วี ัด ว. 4.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 รวมทั้งหมด 5 ตัวช้ีวัด

84 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 14101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาและฝึกทักษะการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหา ขอ้ ผดิ พลาด และแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอ ข้อมลู และสารสนเทศโดยใช้ซอฟต์แวร์ทีห่ ลากหลาย เพื่อแกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิของผ้อู ื่นแจง้ ผ้เู กีย่ วขอ้ งเม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลที่ไม่ เหมาะสม พัฒนาทักษะการคดิ สศู่ ตวรรษท่ี 21 โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวมยอด กระบวนการ เรียนรูค้ วามเขา้ ใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการส่ือสาร สื่อความหมายและการ นำเสนอ กระบวนการสร้างค่านยิ มและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่ืนในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 รวม 5 ตวั ชวี้ ดั

85 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 15101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาและฝึกทักษะการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหา ข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือ ของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม พัฒนาทักษะการคิดสู่ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวมยอด กระบวนการ เรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการส่ือสาร สื่อความหมายและการ นำเสนอ กระบวนการสรา้ งค่านิยมและกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผู้อ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข ตัวช้วี ัด ว 4.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.4/3, ป.5/4, ป.5/5 รวม 5 ตวั ช้วี ัด

86 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 16101รายวิชาวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาและฝึกทักษะการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมี ประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานร่วมกันอย่าง ปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพ ในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบ ข้อมลู หรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม พฒั นาทกั ษะการคดิ สศู่ ตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวมยอด กระบวนการ เรียนรู้ความเข้าใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสื่อสาร สื่อความหมายและการ นำเสนอ กระบวนการสรา้ งค่านยิ มและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผ้อู ่ืนในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, รวม 4 ตวั ชว้ี ัด

87 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 คำอธิบายรายวิชา ศกึ ษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคดั เลือกคุณลักษณะทจี่ ำเป็นตอ่ การแก้ปัญหา ขั้นตอนการแก้ปญั หา การเขียนรหัสจำลองและผังงาน การเขียนออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย ท่ีมีการใช้งานตวั แปร เงื่อนไข และการวนซ้ำ เพื่อแกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมลู ปฐมภูมิ การประมวลผล ข้อมลู การสร้างทางเลือกและประเมินผลเพ่ือตัดสนิ ใจ การใช้ซอฟต์แวร์และบริการบนอนิ เทอร์เนต็ ท่ีใช้ในการ จดั การข้อมูล แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย การจัดการอัตลักษณ์ การพิจารณาความ เหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและข้อกำหนด การใชส้ อื่ และแหล่งข้อมลู นำแนวคดิ เชงิ นามธรรมและข้ันตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกตใ์ ช้ในการเขยี นโปรแกรม หรือการ แกป้ ญั หาในชวี ิตจรงิ รวบรวมขอ้ มลู และสร้างทางเลอื ก ในการตดั สินใจได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ และตระหนกั ถึง การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เกดิ ประโยชนต์ อ่ การเรียนรแู้ ละไม่สรา้ งความเสยี หายใหแ้ ก่ ผอู้ ืน่ ภูมปิ ญั ญาพืน้ บ้าน ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม 1.1ภมู ปิ ญั ญาพ้ืนบ้านดา้ นอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ออกแบบขน้ั ตอนการทำงานเครื่องปั้นดินเผา ของชาวบ้านเชยี งเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร รหัสตัวชี้วดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , , ม.1/4 รวม 4 ตัวช้ีวดั

88 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาแนวคดิ เชิงนามธรรม การคดั เลือกคณุ ลักษณะท่จี ำเป็นตอ่ การแกป้ ัญหา ข้ันตอนการแกป้ ญั หา การเขียนรหสั จำลองและผังงาน การเขยี นออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย ทมี่ ีการใชง้ านตวั แปร เงือ่ นไข และการวนซำ้ เพ่ือแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์ การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ การประมวลผล ขอ้ มูล การสรา้ งทางเลือกและประเมนิ ผลเพื่อตดั สนิ ใจ การใช้ซอฟตแ์ วร์และบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตที่ใช้ในการ จัดการข้อมูล แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย การจัดการอตั ลกั ษณ์ การพิจารณาความ เหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและข้อกำหนด การใชส้ อื่ และแหลง่ ข้อมลู นำแนวคิดเชงิ นามธรรมและขั้นตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกตใ์ ช้ในการเขียนโปรแกรม หรอื การ แก้ปัญหาในชีวติ จรงิ รวบรวมขอ้ มลู และสร้างทางเลือก ในการตดั สินใจได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และตระหนกั ถึง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้และไมส่ ร้างความเสียหายให้แก่ ผอู้ นื่ ภูมปิ ัญญาพื้นบา้ น ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม 1.1ภมู ิปญั ญาพ้นื บา้ นดา้ นอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ออกแบบขัน้ ตอนการทำงานเคร่ืองปนั้ ดนิ เผา ของชาวบ้านเชยี งเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ชี้วดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , , ม.1/4 รวม 4 ตัวช้ีวดั

89 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณการออกแบบอลั กอริทึมทใี่ ช้แนวคิดเชงิ คำนวณ เพื่อแกป้ ญั หาอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันผ่านกระบวนการ STEM การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ท่ีมีการใช้ตรรกะ ตัวดำเนินการบูลนี และฟงั ก์ชนั เพ่ือแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยี การสอ่ื สารเพื่อประยุกต์ใช้งานและการแกป้ ญั หาเบ้ืองตน้ การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภัยและมี ความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธคิ วามเปน็ เจ้าของผลงาน นำแนวคดิ เชิงนามคำนวณและขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จรงิ ประยุกตใ์ ช้งานระบนบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการสอื่ สารอยา่ งมีประสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบโดยเลือกแนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อ พบเนือ้ หาทีไ่ ม่เหมาะสม ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ น ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ นด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครอ่ื งป้ันดนิ เผา ของชาวบ้านเชียงเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วดั

90 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คำอธิบายสาระการเรียนรู้ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณการออกแบบอลั กอริทึมทีใ่ ชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ เพื่อแกป้ ญั หาอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวันผ่านกระบวนการ STEM การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ท่ีมีการใช้ตรรกะ ตัวดำเนินการบูลนี และฟงั ก์ชนั เพื่อแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี การสอ่ื สารเพื่อประยุกต์ใช้งานและการแกป้ ญั หาเบ้ืองต้นการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภยั และมี ความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธคิ วามเปน็ เจา้ ของผลงาน นำแนวคดิ เชิงนามคำนวณและขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จรงิ ประยุกตใ์ ช้งานระบนบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการสอื่ สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบโดยเลือกแนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อ พบเนือ้ หาทีไ่ ม่เหมาะสม ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ น ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ นด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครอ่ื งป้ันดนิ เผา ของชาวบ้านเชียงเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วดั

91 คำอธิบายสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวิชา ขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชนั โดยการเขยี นโปรแกรม App Inventor เพื่อแกป้ ัญหาอย่างงา่ ย การใช้ Internet of Things (IoT) การรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลปฐมภมู แิ ละทุติยภมู ิ ประมวลผล สร้าง ทางเลือก ประเมินผลจะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพอ่ื ใช้ในการแก้ปญั หาหรือการตัดสนิ ใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ ซอฟตแ์ วร์หรอื บริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้แก้ปัญหาได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล วเิ คราะห์ ผลกระทบของส่ือ เพื่อการใชง้ านอยา่ งรู้ทัน การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภัยและมคี วามรับผดิ ชอบ กฎหมายเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ การใชส้ ิทธิ์ของผู้อ่ืนอยา่ งชอบธรรม นำแนวคิดเชิงนามคำนวณและข้นั ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั และ ตระหนกั ถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ปฏบิ ัติตามกฎหมายเกย่ี วกับ คอมพวิ เตอร์และใช้ลขิ สทิ ธ์ิของผู้อ่ืนโดยชอบธรรม ภมู ิปัญญาพนื้ บา้ น ดา้ นอุตสาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภมู ปิ ญั ญาพืน้ บ้านด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครือ่ งปน้ั ดนิ เผา ของชาวบา้ นเชยี งเครือ ตำบลเชยี งเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตัวช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วัด

92 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คำอธิบายสาระการเรียนรู้ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณการออกแบบอลั กอริทึมทีใ่ ชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ เพื่อแกป้ ญั หาอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวันผ่านกระบวนการ STEM การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ท่ีมีการใช้ตรรกะ ตัวดำเนินการบูลนี และฟงั ก์ชนั เพื่อแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี การสอ่ื สารเพื่อประยุกต์ใช้งานและการแกป้ ญั หาเบ้ืองต้นการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภยั และมี ความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธคิ วามเปน็ เจา้ ของผลงาน นำแนวคดิ เชิงนามคำนวณและขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จรงิ ประยุกตใ์ ช้งานระบนบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการสอื่ สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบโดยเลือกแนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อ พบเนือ้ หาทีไ่ ม่เหมาะสม ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ น ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ นด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครอ่ื งป้ันดนิ เผา ของชาวบ้านเชียงเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วดั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook