๗๗ ฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซดี าวฤกษ์ และระบบสุรยิ ะ รวมทั้งปฏสิ มั พันธภ์ ายในระบบ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน - องเห็นบนท้องฟ้าอยู่ในอวกาศซึ่งเป็น อยู่นอกบรรยากาศของโลกมีทั้งดาว - ดาวเคราะห์ ดาวฤกษเ์ ปน็ แหล่งกำเนิด ามารถมองเห็นได้ ส่วนดาวเคราะห์ ล่งกำเนิดแสง แต่สามารถมองเห็นได้ กแสงจากดวงอาทิตย์ตกกระทบดาว ล้วสะทอ้ นเข้าสูต่ า งเห็นกลุ่มดาวฤกษ์มีรูปร่างต่าง ๆ เกิด นาการของผูส้ งั เกต กลุ่มดาวฤกษ์ ปรากฏในท้องฟ้าแต่ละกลมุ่ มีดาวฤกษ์ งเรยี งกนั ทีต่ ำแหนง่ คงที่ และมีเสน้ ทาง ละตกตามเส้นทางเดิมทุกคืน ซึ่งจะ ำแหน่งเดิมการสังเกตตำแหน่งและ ละตกของดาวฤกษ์และกลุ่มดาวฤกษ์ ทำได้โดยใช้แผนที่ดาว ซึ่งระบุมุมทิศ งยที่กลุ่มดาวนั้นปรากฏ ผู้สังเกต ช้มือในการประมาณคา่ ของมุมเงยเม่ือ วในท้องฟา้
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก เปลย่ี นแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลกรวมท้ังผลตอ่ สงิ่ มชี ีวติ และส่งิ แวดล้อม รหัสตัวชี้วัด ตัวชี้วดั ว ๓.๒ ป ๕/๑ ๑. เปรยี บเทยี บปริมาณนำ้ ในแต่ละแหล่ง และ - โลกมีทั้ง ระบปุ ริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ ต่าง ๆ ท ประโยชนไ์ ด้ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ มหาสมุทร น้ำในดิน แบ่งเป็นน มหาสมุท ประมาณร ปริมาณน น้ำแข็งแล แขง็ คงตัวแ ในดิน คว น้ำในส่ิงมีช ว ๓.๒ ป ๕/๒ ๒. ตระหนกั ถึงคุณค่าของนำ้ โดยนำเสนอ - น้ำจืดที แนวทาง การใชน้ ำ้ อยา่ งประหยัดและการ จึงควรใช้น อนรุ กั ษน์ ้ำ นำ้
๗๘ ก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น - งน้ำจืดและน้ำเค็มซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำ ที่มีทั้งแหล่งน้ำผิวดิน เช่น ทะเล - ร บึง แม่น้ำ และแหล่งน้ำใต้ดิน เช่น และน้ำบาดาล น้ำทั้งหมดของโลก น้ำเค็มประมาณรอ้ ยละ ๙๗.๕ซึ่งอย่ใู น รและแหล่งน้ำอื่น ๆ และที่เหลืออีก ร้อยละ ๒.๕ เป็นน้ำจืด ถ้าเรียงลำดับ น้ำจืดจากมากไปน้อยจะอยู่ที่ ธาร ละพืดน้ำแข็ง น้ำใต้ดิน ชั้นดินเยือก และน้ำแข็งใต้ดิน ทะเลสาบ ความชื้น วามชื้นในบรรยากาศ บึง แม่น้ำ และ ชวี ติ ่มนุษย์นำมาใช้ได้มีปริมาณน้อยมาก น้ำอย่างประหยัดและร่วมกันอนุรักษ์
รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชวี้ ัด - วฏั จักรน ว ๓.๒ ป ๕/๓ ๓. สรา้ งแบบจำลองที่อธบิ ายการหมนุ เวียน รูป ซำ้ เดมิ ของน้ำในวฏั จักรน้ำ บรรยากาศ ว ๓.๒ ป ๕/๔ พฤติกรรม ๔. เปรียบเทยี บกระบวนการเกดิ เมฆ หมอก ต่อวฏั จกั ร นำ้ ค้าง และน้ำคา้ งแขง็ จากแบบจำลอง - ไอน้ำในอ เล็ก ๆ โด เกสรดอกไ น้ำจำนวน พื้นดินมา กลุ่มรวมก ไอน้ำที่ค พื้นผิววัต อุณหภมู ิ ใ กจ็ ะกลาย
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๗๙ น้ำ เป็นการหมุนเวยี นของนำ้ ที่มแี บบ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน ม และต่อเนื่องระหว่างนำ้ ใน - ศ น้ำผวิ ดิน และนำ้ ใตด้ ิน โดย มการดำรงชวี ิตของพืชและสัตวส์ ่งผล - รนำ้ อากาศจะควบแน่นเปน็ ละอองน้ำ ยมีละอองลอย เช่น เกลือ ฝุ่นละออง ไม้ เป็นอนุภาคแกนกลาง เมื่อละออง นมากเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยู่สูงจาก าก เรียกว่า เมฆ แต่ละอองน้ำที่เกาะ กันอยู่ใกล้พื้นดิน เรียกว่า หมอก ส่วน วบแน่นเป็นละอองน้ำเกาะอยู่บน ตถุใกล้พื้นดิน เรียกว่า น้ำค้าง ถ้ำ ใกล้พืน้ ดินต่ำกวา่ จุดเยือกแข็ง น้ำค้าง ยเปน็ น้ำค้างแขง็
รหสั ตัวชี้วดั ตัวช้ีวดั - ฝน หิมะ ว ๓.๒ ป ๕/๕ มสี ถานะต ๕. เปรยี บเทยี บกระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ และ จากละออ ลูกเห็บ จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ สามารถพ หิมะเกิดจ ผลึกนำ้ แข เกนิ กว่าอา เกดิ จากหย ถกู พายุพดั มีขนาดให นำ้ แขง็ ขน
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๘๐ ะ ลูกเห็บ เปน็ หยาดน้ำฟา้ ซึ่งเปน็ น้ำที่ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน ต่าง ๆ ท่ีตกจากฟา้ ถึงพ้นื ดิน ฝน เกดิ - องน้ำในเมฆที่รวมตัวกนั จนอากาศไม่ พยุงไว้ไดจ้ ึงตกลงมา จากไอนำ้ ในอากาศระเหิดกลบั เปน็ ขง็ รวมตัวกันจนมีน้ำหนักมากข้ึนจน ากาศจะพยงุ ไวจ้ งึ ตกลงมา ลูกเหบ็ ยดนำ้ ท่ีเปลยี่ นสถานะเปน็ น้ำแข็งแลว้ ดวนซำ้ ไปซ้ำมาในเมฆฝนฟ้าคะนองที่ หญ่และอยู่ในระดบั สูงจนเปน็ กอ้ น นาดใหญ่ข้นึ แลว้ ตกลงมา
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตใน คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างส คำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และส่งิ แวดล้อม รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ดั -- สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในช เรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รูเ้ ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม รหสั ตัวชี้วดั ตัวชี้วดั ว ๔.๒ ป ๕/๑ ๑. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การ - การใช้เห อธิบายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ จาก หรือเงื่อน ปญั หาอยา่ งง่าย ในการแก การคาดก - สถานะเร ใหผ้ ลลัพธ - ตัวอย่าง ทำนายตั ตามค่าข้อ ในช่วงวนั ห
๘๑ นสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ สรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาะสมโดย สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ - - ชวี ติ จรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ - หตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ ไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมาใชพ้ ิจารณา ก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน หรือ การณ์ผลลัพธ์ ริม่ ต้นของการทำงานท่ีแตกต่างกันจะ ธ์ทีแ่ ตกตา่ งกนั งปัญหา เชน่ เกม Sudoku , โปรแกรม วเลข, โปรแกรมสร้างรูปเรขาคณิต อมูลเข้า, การจัดลำดับการทำงานบ้าน หยุด, จัดวางของในครวั
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้วี ัด - การออก ว ๔.๒ ป ๕/๒ เขยี น เปน็ ๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทม่ี กี ารใช้ - การออ เหตผุ ลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหา ตรวจสอบ ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข ผลลพั ธ์ท่ถี - หากมีข้อ ละคำสัง่ เ ทำการแก - การฝกึ ต ผู้อื่นจะช ปญั หาได้ด - ตัวอย่าง เลขคู่เลข ส่วนสูงแล โปรแกรม กำหนด - ซอฟต์แ Scratch,
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๘๒ กแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดย นข้อความ หรือผังงาน สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน กแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการ - บเง่ือนไขทีค่ รอบคลมุ ทกุ กรณเี พื่อให้ได้ ถกู ต้องตรงตามความต้องการ อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงาน ที เมอื่ พบจดุ ที่ทำให้ผลลัพธไ์ ม่ถกู ต้อง ให้ กไ้ ขจนกวา่ จะได้ผลลัพธท์ ่ถี กู ต้อง ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดจากโปรแกรมของ ช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตุของ ดยี งิ่ ข้นึ งโปรแกรม เช่น โปรแกรมตรวจสอบ ขคี่ โปรแกรมรับข้อมูลน้ำหนักหรือ ล้วแสดงผลความสมส่วนของร่างกาย, มสั่งให้ ตัวละครทำตามเงื่อนไขที่ แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น logo
รหัสตัวชี้วดั ตัวชี้วดั ว ๔.๒ ป ๕/๓ ๓. ใช้อนิ เทอร์เนต็ ค้นหาข้อมูล ติดตอ่ ส่ือสาร - การค้น และทำงานรว่ มกนั ประเมินความนา่ เช่อื ถือของ พิจารณาผ ข้อมูล - การติดต บลอ็ ก โปร - การเขี ภาษาไทย - การใช้อ ทำงานร่ว กลุ่ม ประ แลกเปลี่ย ภายใตก้ าร - การประ เปรียบเท ข้อมูลจาก ผู้เขียน วนั - ข้อมูลที่ด ข้อดีและข
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๘๓ นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน ผลการคน้ หา - ต่อสือ่ สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ต เช่น อีเมล รแกรมสนทนา ยนจดหมาย (บูรณาการกับวิชา ย) อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและ วมกัน เช่น ใช้นัดหมายในการประชุม ะชาสัมพันธ์กิจกรรมในห้องเรียน การ ยนความรู้ ความคิดเห็นในการเรียน รดแู ลของครู ะเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น ทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของ กหลายแหล่ง แหล่งต้นตอของข้อมูล นทเ่ี ผยแพร่ข้อมูล ดีต้องมีรายละเอียดครบทุกด้าน เช่น ข้อเสีย ประโยชนแ์ ละโทษ
รหสั ตัวชี้วัด ตัวช้ีวัด - การรว ว ๔.๒ ป ๕/๔ ๔. รวบรวม ประเมิน นำเสนอ ขอ้ มูลและ ทางเลือก สารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวร์ เพื่อใช้ใน ว ๔.๒ ป ๕/๕ หรอื บริการบนอนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลาย เพื่อ อย่างมีปร แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวัน - การใช้ซ ทีห่ ลากหล ๕. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มี ทางเลือก มารยาท เขา้ ใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพ แก้ปัญหา ในสทิ ธขิ องผู้อ่นื แจง้ ผเู้ กย่ี วข้องเมื่อพบขอ้ มูล แมน่ ยำ หรือบคุ คลที่ไม่เหมาะสม - ตัวอย่าง ที่ ในท้องถ พื้นที่ว่าง ความคิดเ นำเสนอข page - อนั ตราย อนิ เทอร์เน - มารยาท (บูรณาการ
๘๔ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน วบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้าง - ก ประเมินผล จะทำให้ได้สารสนเทศ นการแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจได้ - ระสิทธิภาพ ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ต ลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้าง ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้การ าทำได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ งปัญหา เช่น ถ่ายภาพและสำรวจแผน ถิ่นเพอ่ื นำเสนอแนวทางในการจัดการ งให้เกิดประโยชน์ ทำแบบสำรวจ เห็นออนไลน์ และวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลโดยการใช้ Blog หรือ web ยจากการใช้งานและอาชญากรรม ทาง น็ต ทในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ รกบั วชิ าท่ีเกีย่ วข้อง)
ตัวชว้ี ัดและสาระกา ช้นั ประถมศ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความห แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปัญหาสงิ่ แวดล้อมรวมทง้ั นำค รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวดั -- สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพนื้ ฐานของสงิ่ มีชีวิต ก สัตว์และมนุษยท์ ที่ างานสัมพนั ธ์กัน ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ีของอวยั วะต รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชี้วัด ว ๑.๒ ป ๖/๑ ๑. ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชนข์ อง - สารอาห สารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารทต่ี นเอง คาร์โบไฮเ รบั ประทาน และน้ำ
๘๕ ารเรยี นรู้แกนกลาง ศึกษาปที ี่ ๖ ธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับส่ิงมีชีวติ และความสมั พันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวติ ต่าง ๆ หมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่ิน -- การลำเลียงสารผ่านเซลล์ความสัมพันธข์ องโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของ ตา่ ง ๆ ของพืชทีท่ างานสมั พนั ธก์ ันรวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น หารที่อยูใ่ นอาหารมี ๖ ประเภท ได้แก่ - เดรต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน
รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ช้ีวัด ว ๑.๒ ป ๖/๒ ๒. บอกแนวทางในการเลอื กรับประทานอาหาร - อาหารแ ว ๑.๒ ป ๖/๓ ให้ไดส้ ารอาหารครบถว้ นในสัดส่วนทเี่ หมาะสม แตกต่างก กับเพศและวยั รวมท้งั ความปลอดภัยตอ่ สารอาหา สขุ ภาพ ประกอบด ๓. ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของสารอาหาร โดย - สารอาห การเลือกรับประทานอาหารท่ีมีสารอาหาร ร่างกายแต ครบถว้ นในสัดส่วนทเ่ี หมาะสมกับเพศและวัย และไขมัน ร่างกาย รวมทงั้ ปลอดภัยต่อสุขภาพ สารอาหา ให้ร่างกาย อาหารเพ เปลี่ยนแป มีสุขภาพ พลังงานเพ และให้ได เหมาะสม ชนิดและป ความปลอ
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๘๖ แต่ละชนิดประกอบด้วยสารอาหาร ที่ สาระการเรียนร้ทู อ้ งถิน่ กัน อาหารบางอย่างประกอบด้วย ารประเภทเดียว อาหารบางอย่าง ด้วยสารอาหารมากกว่าหนึง่ ประเภท หารแต่ละประเภทมีประโยชน์ต่อ ตกต่างกัน โดยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน น เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ ส่วนเกลือแร่ วิตามินและน้ำ เป็น ารที่ไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ช่วย ยทำงานไดเ้ ป็นปกติ – การรบั ประทาน พื่อให้ร่างกายเจริญ เติบโต มีการ ปลงของร่างกายตามเพศและวัย และ พดี จำเป็นต้องรับประทานให้ได้ พียงพอกับความต้องการของร่างกาย ด้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่ มกับเพศ และวัย รวมทั้งต้องคำนึงถึง ปริมาณของวัตถุ เจอื ปนในอาหารเพ่ือ อดภัยต่อสขุ ภาพ
รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชวี้ ดั - ระบบย่อ ว ๑.๒ ป ๖/๔ ได้แก่ ปา ๔. สร้างแบบจำลองระบบย่อยอาหาร และ ลำไส้เล็ก ว ๑.๒ ป ๖/๕ บรรยายหน้าทข่ี องอวัยวะในระบบย่อยอาหาร อ่อน ซึ่งท รวมทง้ั อธิบายการย่อยอาหารและการดูดซมึ สารอาหาร สารอาหาร - ปาก มีฟ ลงและมีล ๕. ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของระบบย่อย น้ำลาย มเี อาหาร โดยการบอกแนวทางในการดแู ลรักษา – หลอดอ อวยั วะในระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ ปาก ไปย อาหารมีก สรา้ งจากก
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๘๗ อยอาหารประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน าก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร - ก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ตับ และตับ ทำหน้าที่ร่วมกันในการย่อยและดูดซึม - ร ฟันช่วยบดเคี้ยวอาหารให้มีขนาดเล็ก ลิ้นช่วยคลุกเคล้าอาหารกับน้ำลาย ใน เอนไซมย์ ่อยแปง้ ให้เป็นนำ้ ตาล อาหาร ทำหน้าที่ลำเลียงอาหารจาก ยังกระเพาะอาหาร ภายในกระเพาะ การย่อยโปรตีนโดยกรดและเอนไซม์ท่ี กระเพาะอาหาร
รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั - ลำไส้เล็ก เองและจ คาร์โบไ คาร์โบไฮ เป็นสารอ รวมถึงน้ำ ผนังลำไส้เ ยังส่วนต คาร์โบไฮเ แหล่งพลัง น้ำ เกลือ ทำงานไดเ้ - ตับสร้า ไขมนั แตก - ลำไส้ให บริเวณที่ม เป็นกากอ หนัก
๘๘ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน - กมีเอนไซม์ที่สร้างจากผนังลำไส้เล็ก จ า ก ต ั บ อ ่ อ น ท ี ่ ช ่ ว ย ย ่ อ ย โ ป ร ตี น ฮเดรต และไขมัน โดยโปรตีน ฮเดรต และไขมัน ที่ผ่านการย่อยจน อาหารขนาดเล็กพอที่จะ ดูดซึมได้ ำ เกลือแร่ และวิตามิน จะถูกดูดซึม ที่ เล็กเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อลำเลียงไป ต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งโปรตีน เดรต และไขมัน จะถูกนำไปใช้เป็น งงานสำหรบั ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ส่วน อแร่ และวิตามิน จะช่วยให้ร่างกาย เปน็ ปกติ างน้ำดีแล้วส่งมายังลำไส้เล็กช่วยให้ กตวั หญ่ทำหน้าที่ดูดน้ำและเกลือแร่ เป็น มีอาหารที่ย่อยไม่ได้ หรือย่อยไม่หมด อาหาร ซึ่งจะถูกกำจัดออกทางทวาร
รหสั ตวั ชี้วัด ตัวช้ีวัด - อวัยวะ ความสำค ให้ทำงานเ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลัก ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวฒั นาการของสงิ่ มชี วี ติ รวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโย รหัสตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ัด --
๘๙ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถนิ่ ะต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหาร มี คัญ จงึ ควรปฏบิ ัติตน ดแู ลรักษาอวัยวะ เป็นปกติ กษณะทางพันธุกรรม สารพันธกุ รรม การเปลีย่ นแปลงทางพนั ธุกรรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ยชน์ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ --
สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พ ธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกริ รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด ว ๒.๑ ป ๖/๑ ๑. อธิบายและเปรียบเทยี บการแยกสารผสม - สารผสม โดยการหยบิ ออก การร่อน การใช้แมเ่ หล็ก ผสมกนั เช ดึงดูด การรินออก การกรอง และการ ทราย วิธีก ตกตะกอน โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์ รวมทง้ั ขึน้ อย่กู ับล ระบวุ ธิ แี ก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั เก่ียวกบั การ ถา้ องคป์ ร แยกสาร ของแข็งท ใชว้ ธิ ีการห ถ้ามีสารใด การใชแ้ มเ่ ของแข็ง ท รินออก ก วธิ ีการแยก ชวี ติ ประจ
๙๐ พนั ธร์ ะหวา่ งสมบัตขิ องสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลักและ ริยาเคมี สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น มประกอบดว้ ยสารต้ังแต่ ๒ ชนดิ ขึน้ ไป - ชน่ น้ำมนั ผสมนำ้ ข้าวสารปนกรวด การ ทเี่ หมาะสมในการแยกสารผสม ลกั ษณะและสมบตั ิของสารทีผ่ สมกนั ระกอบของสารผสมเป็นของแขง็ กบั ที่มีขนาดแตกต่างกันอยา่ งชัดเจน อาจ หยบิ ออกหรอื การร่อนผ่านวสั ดุ ทม่ี รี ู ดสารหนง่ึ เป็นสารแมเ่ หลก็ อาจใช้วธิ ี เหลก็ ดึงดูด ถ้าองค์ประกอบเปน็ ที่ไม่ละลายในของเหลว อาจใช้วธิ กี าร การกรอง หรอื การตกตะกอน ซง่ึ กสารสามารถนำไปใช้ประโยชน์ใน จำวันได้
สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรง ประโยชน์ รหัสตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ัด ว ๒.๒ ป ๖/๑ ๑. อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้าซ่ึงเกิด - วัตถุ ๒ จากวตั ถุท่ผี ่านการขัดถโู ดยใช้หลักฐานเชงิ ใกล้กัน อ ประจักษ์ เป็นแรงไ ระหว่างวตั ชนิด คือ วัตถุที่มีป ตรงขา้ มกนั สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและกา ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า รวม รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวดั - วงจรไ ว ๒.๓ ป ๖/๑ แหล่งก ๑. ระบุสว่ นประกอบและบรรยายหน้าที่ ของ เครื่องใช้ไ ว ๒.๓ ป ๖/๒ แต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า อยา่ งง่าย ไฟฟ้า เชน่ จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ให้พลังงาน หน้าที่เชื่อ ๒. เขียนแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย เครื่องใช้ หน้าทีเ่ ปล
๙๑ งที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ - ชนิดที่ผ่านการขัดถูแล้ว เมื่อนำเข้า อาจดึงดูดหรือผลักกัน แรงที่เกิดขึ้นน้ี ไฟฟ้า ซึ่งเป็นแรงไม่สัมผัส เกิดขึ้น ตถทุ ม่ี ีประจุไฟฟ้า ซ่งึ ประจุไฟฟา้ มี ๒ ประจุไฟฟ้าบวกและประจุไฟฟ้าลบ ประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกันผลักกัน ชนิด นดงึ ดดู กัน ารถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน มทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น - ไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วย ำเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และ ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า แหล่งกำเนิด น ถา่ นไฟฉาย หรือแบตเตอรี่ ทำหน้าท่ี นไฟฟ้า สายไฟฟ้าเป็นตัวนำไฟฟ้าทำ อมต่อระหว่างแหล่งกำเนิดไฟฟ้า และ ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน เครื่องใช้ไฟฟ้ามี ลี่ยนพลังงานไฟฟา้ เป็นพลงั งานอ่นื
รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ัด ว ๒.๓ ป ๖/๓ ว ๒.๓ ป ๖/๔ ๓. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวธิ ี - เมื่อนำเ ว ๒.๓ ป ๖/๕ ทเ่ี หมาะสมในการอธิบายวิธีการและผลของ โดยให้ขั้ว ว ๒.๓ ป ๖/๖ การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม ขั้วลบของ ๔. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องความรู้ของการต่อ ทำให้มีพล เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรมโดยบอกประโยชนแ์ ละ ไฟฟ้า ซึ การประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน สามารถน เชน่ การต ๕. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวธิ ี - การต่อห ท่ีเหมาะสมในการอธบิ ายการตอ่ หลอดไฟฟ้า หลอดไฟฟ แบบอนกุ รมและแบบขนาน ไฟฟ้าที่เห ๖. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องความรู้ของการต่อ ไฟฟา้ แบบ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน โดย หน่ึงออก บอกประโยชน์ ข้อจำกัด และการประยุกต์ใชใ้ น ก็ยังสว่าง สามารถน ชีวติ ประจำวัน ไฟฟ้าหลา แบบขนาน หน่ึงไดต้ าม
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๙๒ เซลล์ไฟฟ้าหลายเซลล์มาต่อเรียงกัน สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน วบวกของเซลล์ไฟฟ้าเซลล์หนึ่งต่อกับ - งอีกเซลล์หนึ่งเป็นการต่อแบบอนุกรม ลังงานไฟฟ้าเหมาะสมกับเครื่องใช้ - ่งการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ ในไฟฉาย หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมเม่ือถอด ฟา้ ดวงใดดวงหนง่ึ ออกทำให้หลอด หลือดับทั้งหมด ส่วนการต่อหลอด บขนาน เมื่อถอดลอดไฟฟา้ ดวงใดดวง หลอดไฟฟ้าที่เหลือ งได้ การต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบ นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ เช่น การตอ่ หลอด ายดวงในบ้านจึงต้องต่อหลอดไฟฟ้า นเพื่อเลือกใช้หลอดไฟฟ้าดวงใดดวง มต้องการ
รหัสตัวชี้วดั ตวั ช้วี ัด ว ๒.๓ ป ๖/๗ ๗. อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามัวจากหลักฐาน - เมอ่ื นำวตั เชิงประจักษ์ ฉากรับแส ว ๒.๓ ป ๖/๘ ๘. เขยี นแผนภาพรงั สีของแสงแสดงการเกดิ เงา คลา้ ยวตั ถ แสงบางสว่ มืดเงามัว บรเิ วณท่ีไ สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเก ปฏิสัมพนั ธภ์ ายในระบบสรุ ยิ ะทีส่ ง่ ผลตอ่ สิ่งมีชีวติ และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโล รหสั ตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั ว ๓.๑ ป ๖/๑ ๑. สร้างแบบจำลองทอี่ ธบิ ายการเกดิ และ - เมื่อโลกแ เปรยี บเทียบปรากฏการณ์สรุ ิยปุ ราคา และ เสน้ ตรงเด จันทรุปราคา เหมาะสม ของดวงจัน บรเิ วณเงา ปรากฏกา ดวงสรุ ยิ ปุ แหวน - หากดว เส้นตรงเด เคลื่อนที่ผ มืดไป เกิด
๙๓ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถนิ่ - ตถทุ ึบแสงมากนั้ แสงจะเกดิ เงาบน สงที่อยูด่ ้านหลงั วัตถุ โดยเงามีรูปร่าง ถุทีท่ ำใหเ้ กิดเงา เงามัวเปน็ บรเิ วณท่ีมี วนตกลงบนฉาก ส่วนเงามดื เปน็ ไม่มีแสงตกลง บนฉากเลย กิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้ง ลยอี วกาศ สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ และดวงจันทร์ โคจรมาอยใู่ นแน; ดียวกนั กับดวงอาทติ ยใ์ นระยะทางที่ ทำใหด้ วงจนั ทร์บังดวงอาทติ ย์ เงา นทร์ทอดมายังโลกผู้สังเกตที่อยู่ าจะมองเหน็ ดวงอาทิตย์มืดไปเกดิ ารณ์สุริยปุ ราคาซึง่ มีทั้งสุรยิ ุปราคาเต็ม ปราคาบางส่วนและสุรยิ ปุ ราคาวง วงจันทร์และโลกโคจรมาอยู่ในแนว ดียวกันกับดวงอาทิตย์ แล้วดวงจันทร์ ผ่านเงาของโลก จะมองเห็นดวงจันทร์ ดปรากฏการณ์จันทรุปราคา ซึ่งมีท้ัง
จันทรุปร บางส่วน ว ๓.๑ ป ๖/๒ ๒. อธบิ ายพฒั นาการของเทคโนโลยอี วกาศ - เทคโนโล และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ มนษุ ย์ในก ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวัน จากข้อมูลที่ กล้อง-โทร รวบรวมได้ เพ่อื สำรวจ อวกาศ แล มีการนำเท ประยุกต์ใช ดาวเทียมเ หรือการส อปุ กรณว์ ัด นิรภยั ชดุ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระ กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมอิ ากาศโลกรวมทง้ั ผลต่อสงิ่ มชี วี รหัสตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ัด ว ๓.๒ ป ๖/๑ ๑. เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดหินอัคนี หิน - หินเป็น ตะกอน และหนิ แปรและอธิบายวัฏจกั รหินจาก ประกอบ แบบจำลอง จำแนกห ประเภท แปร
๙๔ ราคาเต็มดวง และจันทรุปราคา ลยีอวกาศเร่มิ จากความตอ้ งการของ - การสำรวจวตั ถทุ อ้ งฟ้าโดยใช้ตาเปล่า รทรรศน์ และไดพ้ ัฒนาไปสกู่ ารขนส่ง จอวกาศด้วยจรวดและยานขนส่ง ละยังคงพัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง ปจั จุบนั ทคโนโลยีอวกาศบางประเภทมา ชใ้ นชีวติ ประจำวนั เช่น การใช้ เพื่อการสื่อสาร การพยากรณ์อากาศ สำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ ดชีพจรและการเตน้ ของหวั ใจ หมวก ดกีฬา ะบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย วิตและสง่ิ แวดล้อม สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น นวัสดุแข็งเกิดขึ้นเองตามธรรมชำติ -สังเกต เปรียบเทียบ หินที่พบบริเวณหน้า ด้วยแร่ตั้งแต่หนึง่ ชนดิ ขึน้ ไป สามารถ อาคารเรียนและหินทพ่ี บบริเวณสวน หินตามกระบวนการเกิดได้เป็น ๓ ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหิน
รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั - หินอัคน หิน มีลักษ ขนาดเล็ก พรนุ - หินตะก เมื่อถูกแร เกิดเป็นห เปน็ เมด็ ตะ บางชนิดเป ตกผลึกห ทะเล บาง ช้ัน ๆ จึงเร - หนิ แปร อาจเป็นห การกระท ปฏิกิริยาเ ของแร่เรยี ออกเป็นแ ความแข็งม
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๙๕ นีเกิดจากการเย็นตัวของแมกมา เนื้อ ษณะเป็นผลึก ทั้งผลึกขนาดใหญ่และ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน ก บางชนิดอาจเป็นเนื้อแก้ว หรือมีรู กอน เกิดจากการทับถมของตะกอน รงกดทับและมีสารเชื่อมประสานจึง หิน เนื้อหินกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะ ะกอน มีทั้งเน้ือหยาบและเนอ้ื ละเอียด ป็นเนื้อผลึกที่ยึดเกาะกันเกิดจากการ หรือตกตะกอนจากน้ำโดยเฉพาะน้ำ งชนิดมีลักษณะเป็น รยี กอกี ชอ่ื ว่าหนิ ช้นั เกดิ จากการแปรสภาพของหินเดิมซึ่ง หินอัคนี หินตะกอน หรือหินแปร โดย ทำของความร้อน ความดัน และ เคมี เนื้อหินของหินแปรบางชนิดผลึก ยงตัวขนานกนั เปน็ แถบ บางชนิดแซะ แผ่นได้ บางชนิด เป็นเนื้อผลึกที่มี มาก
รหัสตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด - หินใน ว ๓.๒ ป ๖/๒ เปลี่ยนแ ๒. บรรยายและยกตัวอย่างการใชป้ ระโยชน์ ประเภทห ของหินและแรใ่ นชวี ิตประจำวันจากข้อมลู ที่ รูปการเป รวบรวมได้ วฏั จกั ร - หินและ แตกต่าง ชีวิตประจ ทำเครื่อ อุปกรณ์ท กอ่ สรา้ งตา่
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๙๖ ธรรมชาติทั้ง ประเภท มีการ แปลงจากประเภทหนึ่งไปเป็นอีก สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ หนึ่ง หรือประเภทเดิมได้ โดยมีแบบ ปลี่ยนแปลงคงที่และต่อเนื่องเป็น ะแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติ กัน มนุษย์ใช้ประโยชน์จากแร่ใน จำวัน ในลักษณะต่าง ๆ เช่น นำแร่มา งสำอาง ยาสีฟัน เครื่องประดับ ทางการแพทย์ และนำหินมาใช้ในงาน าง ๆ เปน็ ตน้
รหัสตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ัด - ซากดกึ ด ว ๓.๒ ป ๖/๓ ประทบั รอ ๓. สร้างแบบจำลองที่อธบิ ายการเกดิ ซากดกึ โครงสร้าง ดำบรรพ์และคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดตี ปรากฏอย ของซากดึกดำบรรพ์ บรรพ์ ท่ีห ปลา เต่า ไ - ซากดึกด ที่ช่วยอธิบ ขณะเกิดส บรรพ์ของ นั้นอาจเค พบซากด บริเวณนั้น ซากดึกดำ และเป็นข ส่ิงมีชีวติ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๙๗ ดำบรรพ์เกิดจากการทบั ถม หรอื การ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน อยของสิ่งมชี ีวิตในอดีต จนเกิดเปน็ - งของซากหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวติ ที่ ยใู่ นหิน ในประเทศไทยพบซากดกึ ดำ หลากหลาย เชน่ พชื ปะการัง หอย ไดโนเสาร์ และรอยตนี สตั ว์ ดำบรรพ์สามารถใช้เป็นหลักฐานหนึ่ง บายสภาพแวดล้อมของพื้นที่ในอดีต สิ่งมีชีวิตนั้น เช่น หากพบซากดึกดำ- ง หอยน้ำจืด สภาพแวดล้อมบริเวณ คยเป็นแหล่งน้ำจืดมาก่อน และหาก ดึกดำบรรพ์ของพืช สภาพแวดล้อม นอาจเคยเป็นป่ามาก่อน นอกจากนี้ ำบรรพ์ยังสามารถใช้ระบุอายุของหิน ข้อมูลในการศึกษาวิวัฒนาการของ
รหัสตวั ชี้วัด ตัวช้วี ัด - ลมบก ล ว ๓.๒ ป ๖/๔ และ พื้น ๔. เปรียบเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล และ อณุ หภูมอิ มรสมุ รวมท้งั อธบิ ายผลทม่ี ีต่อสิ่งมีชีวติ และ กัน จึงเกิด สิ่งแวดล้อม จากแบบจำลอง ท่ีมอี ณุ หภ - ลมบกแ บริเวณชา ทำให้มีลม ทะเลเกิด ทะเลเขา้ ส
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๙๘ ลมทะเล และมรสุม เกิดจากพื้นดิน สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน นน้ำร้อนและเย็นไม่เท่ากันทำให้ - อากาศเหนือพื้นดนิ และพื้นน้ำแตกต่าง ด การเคลื่อนที่ของอากาศจากบริเวณ ภูมิต่ำ ไปยังบริเวณทีม่ ีอุณหภูมิสงู และลมทะเลเป็นลมประจำถิ่นที่พบ ายฝั่ง โดยลมบกเกิดในเวลากลางคืน มพัดจากชายฝั่งไปสู่ทะเล ส่วนลม ดในเวลากลางวัน ทำให้มีลมพัดจาก สชู่ ายฝั่ง
รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วัด - มรสุมเป ว ๓.๒ ป ๖/๕ ของโลก ๕. อธบิ ายผลของมรสมุ ต่อการเกดิ ฤดูของ ประเท ประเทศไทย จากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ ตะวันออ กลางเดือน เกิด ฤดูหน เฉียงใต้ใน จนถึงกลา ช่วงประม กลางเดือน ประเทศไท เกือบตั้งต เที่ยงวันท อย่างเต็มท ร้อน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๙๙ ป็นลมประจำฤดูเกิดบริเวณเขตร้อน สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน ซึ่งเป็นบริเวณกว้างระดับภูมิภาค - ศ ไ ท ย ไ ด ้ ร ั บ ผ ล จ า ก ม ร สุ ม อกเฉี ยงเหนือในช่วงประมาณ นตุลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้ นาว และได้รับผลจากมรสุมตะวันตก นช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม างเดือนตุลำคมทำให้เกิดฤดูฝน ส่วน มาณกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึง นพฤษภาคมเปน็ ช่วงเปล่ยี นมรสุมและ ทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แสงอาทิตย์ ตรงและตั้งตรงประเทศไทย ในเวลา ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ที่อากาศจึงร้อนอบอ้าวทำให้เกิดฤดู
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ดั ว ๓.๒ ป ๖/๖ ว ๓.๒ ป ๖/๗ ๖. บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของ นำ้ ทว่ ม - น้ำท่ว ว ๓.๒ ป ๖/๘ การกัดเซาะชายฝงั่ ดนิ ถลม่ แผ่นดินไหว สนึ ามิ แผ่นดินไห ว ๓.๒ ป ๖/๙ ๗. ตระหนักถงึ ผลกระทบของภัยธรรมชาตแิ ละ และส่ิงแว ธรณพี ิบัติภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝ้า - มนุษย์ค เช่น ติดต ระวังและปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัยจากภัย ธรรมชาตแิ ละธรณีพบิ ัติภยั ที่อาจเกดิ ในท้องถิ่น ยังชีพ ให คำสั่งขอ เคร่งครัด พิบตั ภิ ยั ๘. สรา้ งแบบจำลองที่อธบิ ายการเกิด - ปรากฏก ปรากฏการณเ์ รือนกระจกและผลของ กระจกใน ปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อสง่ิ มชี ีวิต ร้อนแล้ว ๙. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของปรากฏการณ์ ทำให้อาก เรือนกระจกโดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัตติ น ดำรงชีวติ เพ่ือลดกจิ กรรมทีก่ ่อใหเ้ กิดแก๊สเรอื นกระจก - หากปรา จะมีผลต มนุษย์ จึง แก๊สเรือนก
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑๐๐ ม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม หว และ สึนามิ มีผลกระทบต่อชีวิต สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน วดล้อมแตกตา่ งกนั - ควรเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เตรียมถุง - ห้พร้อมใช้ตลอดเวลา และปฏิบัติตาม องผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่อย่ าง ดเมื่อเกิดภัยทางธรรมชาติและธรณี การณ์เรือนกระจกเกิดจากแก๊สเรือน นชั้นบรรยากาศของโลก กักเก็บความ คายความร้อนบางส่วนกลับสู่ผิวโลก กาศ บนโลกมีอุณหภูมิเหมะสมต่อการ ากฏการณ์เรือนกระจกรุนแรงมากข้ึน ต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก งควรร่วมกันลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด กระจก
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตใน คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างส คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม รหสั ตัวชี้วดั ตัวชี้วดั -- สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบใ การเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธร รหัสตวั ชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ว ๔.๒ ป ๖/๑ ๑. ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการอธบิ ายและ - การแก้ ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หาท่ีพบใน แกป้ ญั หาไ ชวี ิตประจำวนั - การใช้เห หรือเงื่อน ในการแก้ป - การพิจ ทำงานแบ ช่วยให้กา อย่างมปี ร
๑๐๑ นสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ สรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาะสมโดย สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถิ่น - - ในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใน รรม สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้ - ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ หตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ ไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมาใชพ้ ิจารณา ปัญหา จารณากระบวนการทำงานที่มีการ บบวนซ้ำ หรือเงื่อนไขเป็นวิธีการที่จะ ารออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเป็นไป ระสิทธภิ าพ
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ดั - ตัวอย่าง ว ๔.๒ ป ๖/๒ ต้องการให ๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพ่ือ ๑ – ๑,๐ แก้ปญั หาในชีวติ ประจำวนั ตรวจหา คำถาม, ก ขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมและแก้ไข คำนงึ ถงึ ระ - การออก เขียน เปน็ - การออก แปร การว ขอ้ ผดิ พลา เม่ือพบจดุ แกไ้ ขจนก - การฝึกต ผอู้ ่ืนจะชว่ ปญั หาไดด้ - ตัวอยา่ ง หาคา่ ค.ร - ซอฟต์แว Scratch,
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254