Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผน-merged-compressed

แผน-merged-compressed

Published by ทัศนีย์ วงทองดี, 2018-10-12 00:28:13

Description: แผน-merged-compressed

Search

Read the Text Version

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 43211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปนั สงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรุง

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี ) ปญั หา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข.................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ครผู สู้ อน (...........................................) วนั ท่ี ........................................

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมายความคดิ เหน็ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงช่อื ................................................หวั หน้ากลมุ่ สาระ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ความคดิ เหน็ หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..................................... หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงช่อื .................................................... (นายวนิ ยั คาวเิ ศษ ) วนั ท่ี ........................................ ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ งั สฤษดิ ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เรื่องระบบขบั ถ่ายของมนุษย์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 22101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวทศั นีย์ วงทองดี โรงเรียน หนั คาราษฎรร์ งั สฤษด์ิ1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั ว 1.1 ม.2/1 อธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของระบบยอ่ ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด ระบบหายใจ ระบบขบั ถ่าย ระบบสบื พนั ธุข์ องมนุษยแ์ ละสตั ว์ รวมทงั้ ระบบประสาทของมนุษย์ ว 8.1 ม.1-3/1, ม.1-3/2, ม.1-3/3, ม.1-3/4, ม.1-3/5, ม.1-3/6, ม.1-3/92. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ระบบขบั ถ่ายของมนุษย์ เป็นการกาจดั ของเสยี ออกจากรา่ งกายไดห้ ลายทาง ทงั้ ทางไตในรปู ของปสั สาวะทางผวิ หนงั ในรปู ของเหงอ่ื ทางปอดโดยการหายใจ และทางลาไสใ้ หญ่ในรปู ของอุจจาระ3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ระบบขบั ถ่ายของมนุษย์ ประกอบดว้ ย อวยั วะหลายชนิดทท่ี างานอยา่ งเป็นระบบ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ - 3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) อธบิ าย สบื คน้ ทดลอง เขยี น 3.3 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3.4 สมรรถนะสาคญั ผเู้ รยี น (C) 3.4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการเช่อื มโยง 2) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 3.4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1. ใบงานท่ี 1.105. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรียนความร้คู วามเข้าใจ(ชวั่ โมงท่ี 1) ขนั้ ที่ 1 สงั เกต ตระหนัก 1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั กจิ วตั รประจาวนั ของนกั เรยี นหลงั จากต่นื นอนตอนเชา้ ว่าจะตอ้ งทา อะไรบา้ ง 2. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ จากคาตอบของนกั เรยี น โดยเชอ่ื มโยงเป็นการขบั ถ่ายปสั สาวะและอุจจาระ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ 4. ครถู ามนกั เรยี นว่า อวยั วะใดในร่างกายทม่ี สี ่วนช่วยในการขบั ของเสยี ออกจากรา่ งกาย และอวยั วะแต่ ละชนิดนนั้ มหี น้าทอ่ี ยา่ งไรคำถำมกระต้นุ ควำมคิด เพราะเหตุใด คนเราจงึ ต้องมีการปัสสาวะและอจุ จาระ(เพราะการปสั สาวะและอุจจาระ เป็นวธิ กี ารกาจดั ของเสยี ออกจากรา่ งกายในรปู แบบหนงึ่ ) ขนั้ ที่ 2 วางแผนปฏิบตั ิ 1. สมาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ (กล่มุ เดมิ จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) เลอื กหมายเลขประจาตวั ตงั้ แต่ หมายเลข 1-4 แลว้ ใหแ้ ต่ละหมายเลขแบง่ หน้าทก่ี นั ในการศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ระบบขบั ถ่ายของมนุษย์ ดงั น้ี - หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ไต - หมายเลข 2 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ผวิ หนงั - หมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ปอด - หมายเลข 4 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ลาไสใ้ หญ่ 2. สมาชกิ แต่ละหมายเลขวางแผนในการศกึ ษาความรตู้ ามหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ขนั้ ที่ 3 ลงมอื ปฏิบตั ิ 1. สมาชกิ แต่ละหมายเลขลงมอื ศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั ระบบขบั ถ่ายของมนุษย์ ตามหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ตามขนั้ ตอนทไ่ี ดว้ างแผนไว้ 2. สมาชกิ แต่ละคนบนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน ขนั้ ท่ี 5 สรปุ นกั เรยี นทงั้ หอ้ งรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั โครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบขบั ถ่ายของมนุษย์ ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจดั ทาสมดุ ภาพเกี่ยวกบั ระบบต่างๆ ในร่างกายของมนุษย์ตามท่ีได้เรยี นมา โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบยอ่ ยอาหาร 2) การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบไหลเวยี นเลอื ด 3) การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบหายใจ 4) การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบขบั ถ่าย

นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยกำรเรียนร้ทู ี่ 16. การวดั และประเมินผลวิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทางานตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจสมดุ ภาพ เรอ่ื ง ระบบร่างกายมนุษย์ แบบประเมนิ สมุดภาพ เรอ่ื ง ระบบรา่ งกาย ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์(ระบบยอ่ ยอาหาร ระบบไหลเวยี นเลอื ด มนุษย์ (ระบบยอ่ ยอาหาร ระบบไหลเวยี นระบบหายใจ และระบบขบั ถ่าย) เลอื ด ระบบหายใจ และระบบขบั ถ่าย)7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 สือ่ กำรเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite วทิ ยาศาสตร์ ม.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั 7.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewgroup/151ระบบขบั ถ่าย

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมดุ ภาพ เร่อื ง ระบบรา่ งกายมนุษย์ (ระบบยอ่ ยอาหาร ระบบไหลเวยี นเลอื ด ระบบหายใจ และระบบขบั ถ่าย)ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน (ช้นิ งานที่2) 32 11 การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของ อวยั วะในระบบยอ่ ยอาหาร2 การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของ อวยั วะในระบบไหลเวยี นเลอื ด3 การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของ อวยั วะในระบบหายใจ4 การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของ อวยั วะในระบบขบั ถ่าย รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพดี = 3 คะแนน 14 – 16 ดมี ากพอใช้ = 2 คะแนน 11 - 13 ดีปรบั ปรุง = 1 คะแนน 8 - 10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

ช่อื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผแู้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่านสานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา ปีทพ่ี มิ พ์ พ.ศ. เวลา1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเรอ่ื งทอ่ี ่าน3. สงิ่ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั4. ขอ้ เสนอแนะของครูลงชอ่ื นกั เรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง ( )( ) ลงช่อื ครผู สู้ อน ()เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพรอ่ งเพียงเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

แบบประเมิน การนาเสนอผลงานคาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 321 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา2 ความคดิ สรา้ งสรรค์3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน4 การนาไปใชป้ ระโยชน์5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คลช่อื ชนั้คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 321 การแสดงความคดิ เหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย4 ความมนี ้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุคาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมีน้าใจ การมี รวม ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน ความ ฟังคนอ่ืน ตามที่ได้รบั ส่วนรว่ มใน 20 คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกล่มุ 43214321432143214321 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 43211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปนั สงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรุง

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี ) ปญั หา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข.................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ครผู สู้ อน (...........................................) วนั ท่ี ........................................

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมายความคดิ เหน็ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงช่อื ................................................หวั หน้ากลุ่มสาระ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ความคดิ เหน็ หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงช่อื ..................................... หวั หน้ากลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงช่อื .................................................... (นายวนิ ยั คาวเิ ศษ ) วนั ท่ี ........................................ ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ งั สฤษดิ ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่องระบบสืบพนั ธข์ุ องสตั ว์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 22101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวทศั นีย์ วงทองดี โรงเรียน หนั คาราษฎรร์ งั สฤษด์ิ1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ว 1.1 ม.2/1 อธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของระบบยอ่ ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด ระบบหายใจ ระบบขบั ถ่าย ระบบสบื พนั ธุข์ องมนุษยแ์ ละสตั ว์ รวมทงั้ ระบบประสาทของมนุษย์ ว 8.1 ม.1-3/1, ม.1-3/2, ม.1-3/3, ม.1-3/4, ม.1-3/5, ม.1-3/6, ม.1-3/92. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ระบบสบื พนั ธุใ์ นสตั ว์ แบ่งออกเป็น ระบบสบื พนั ธุแ์ บบอาศยั เพศ และระบบสบื พนั ธแุ์ บบ ไมอ่ าศยั เพศ3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ระบบสบื พนั ธขุ์ องสตั ว์ ประกอบดว้ ย อวยั วะหลายชนิดทท่ี างานอยา่ งเป็นระบบ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ - ระบบสบื พนั ธข์ องตกั๊ แตน 3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) อธบิ าย สบื คน้ ทดลอง เขยี น 3.3 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3.4 สมรรถนะสาคญั ผเู้ รยี น (C) 3.4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการเช่อื มโยง 2) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 3.4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. ใบกจิ กรรมท่ี 2.1

5. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ กระบวนการกลุ่มสมั พนั ธ์ นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 2 ขนั้ ที่ 1 นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครเู ปิดวซี ดี สี ารคดเี กย่ี วกบั การผสมพนั ธุข์ องสตั ว์ เช่น ปลาหางนกยงู ใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ให้ นกั เรยี นช่วยกนั บอกว่าสตั วใ์ นสารคดนี นั้ มวี ธิ กี ารผสมพนั ธุอ์ ยา่ งไร 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิคำถำมกระต้นุ ควำมคิด  ระบบสืบพนั ธ์มุ ีความสาคญั ต่อการดารงชีวิตของสิ่งมชี ีวิตอย่างไร (ระบบสบื พนั ธมุ์ คี วามสาคญั ต่อการดารงเผ่าพนั ธุ์ของสงิ่ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ ซงึ่ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมต่างๆ จะถ่ายทอดจากรุ่นหนงึ่ ไปยงั อกี รนุ่ หนงึ่ โดยระบบสบื พนั ธ)ุ์ ขนั้ ท่ี 2 จดั การเรยี นรู้ 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลาง คอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งอ่อน และอ่อน 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ระบบสบื พนั ธขุ์ องสตั ว์ จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด ดงั น้ี 1) การสบื พนั ธแุ์ บบไมอ่ าศยั เพศของสตั ว์ 2) การสบื พนั ธแุ์ บบอาศยั เพศของสตั ว์ 3. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ระบบสบื พนั ธุข์ องสตั ว์ โดยการแบง่ เป็นสองส่วน และการแตก หน่อ ใหน้ กั เรยี นฟงั เพ่อื ใหน้ ักเรยี นเกดิ ความเขา้ ใจมากยงิ่ ขน้ึ 4. สมาชกิ แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ ่า การสบื พนั ธแุ์ บบไมอ่ าศยั เพศ และการสบื พนั ธุแ์ บบ อาศยั เพศของสตั ว์ มคี วามแตกต่างกนั อยา่ งไร พรอ้ มยกตวั อยา่ งสตั วท์ ม่ี กี ารสบื พนั ธุ์ในแต่ละแบบ ประกอบ ขนั้ ท่ี 3 สรปุ และนาหลกั การไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะการสบื พนั ธแุ์ บบไมอ่ าศยั เพศ และการ สบื พนั ธแุ์ บบอาศยั เพศของสตั ว์ 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มช่วยกนั ทาใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง วฏั จกั รชวี ติ เต่าทะเล และทากจิ กรรมฝึก ทกั ษะ กจิ กรรมท่ี 1-2 จาก แบบวดั ฯ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิคำถำมกระต้นุ ควำมคิด  ทาไมระบบการสืบพนั ธ์แุ บบอาศยั เพศของสตั ว์ จึงเรยี กว่า การปฏิสนธิ (เพราะเป็นการสบื พนั ธทุ์ อี่ าศยั การรวมกนั ของเซลลส์ บื พนั ธุ์ เพศผู้ (อสุจ)ิ กบั เพศเมยี (ไข)่ แลว้ พฒั นาเป็นตวั อ่อนและเจรญิ เตบิ โตเป็น ตวั เตม็ วยั )

ขนั้ ท่ี 4 วดั และประเมินผล สมาชกิ แต่ละกลุ่มนาใบงานท่ี 2.1 และกจิ กรรมฝึกทกั ษะ กจิ กรรมท่ี 1-2 จากแบบวดั ฯ ส่งครเู พ่อื วดัและประเมนิ ผล6. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สือ่ กำรเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 2) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ม.2 3) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite วทิ ยาศาสตร์ ม.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั 4) วซี ดี สี ารคดกี ารผสมพนั ธสุ์ ตั ว์ 5) ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง วฏั จกั รชวี ติ เต่าทะเล 7.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้  แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.youtube.com (การผสมพนั ธขุ์ องสตั ว)์

ใบงานที่ 2.1 วฏั จกั รชีวิตเต่าทะเลคาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ เรยี งลาดบั วฏั จกั รชวี ติ ของเต่าทะเล และบอกชอ่ื ของเหตุการณ์แต่ละลาดบั กข ค ฉ งจ วฏั จกั รชวี ติ ของเต่าทะเล เรยี งลาดบั เหตุการณ์ ดงั น้ี ข มกี ารจบั คผู่ สมพนั ธุ์ จ การปฏสิ นธิ ง การเจรญิ ของตวั ออ่ นภายในไข่ ค ตวั ออ่ นออกจากไข่ ก เต่าวยั เดก็ ลงทะเล ฉ เจรญิ เตบิ โตเป็นตวั เตม็ วยั

ใบงานท่ี 2.1 วฏั จกั รชีวิตเต่าทะเลคาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ เรยี งลาดบั วฏั จกั รชวี ติ ของเต่าทะเล และบอกช่อื ของเหตุการณ์แต่ละลาดบั กข ค ฉ งจ วฏั จกั รชวี ติ ของเต่าทะเล เรยี งลาดบั เหตุการณ์ได้ ดงั น้ี ข มกี ารจบั ค่ผู สมพนั ธุ์ จ การปฏสิ นธิ ง การเจรญิ ของตวั ออ่ นภายในไข่ ค ตวั อ่อนออกจากไข่ ก เต่าวยั เดก็ ลงทะเล ฉ เจรญิ เตบิ โตเป็นตวั เตม็ วยั

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุชอ่ื กลมุ่ ชนั้คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 321 การแบง่ หน้าทก่ี นั อยา่ งเหมาะสม2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน3 การแสดงความคดิ เหน็4 การรบั ฟงั ความคดิ เหน็5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 43211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปนั สง่ิ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรุง

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี ) ปญั หา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข.................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ครผู สู้ อน (...........................................) วนั ท่ี ........................................

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมายความคดิ เหน็ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ................................................หวั หน้ากลุ่มสาระ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ความคดิ เหน็ หวั หน้ากล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ลงช่อื ..................................... หวั หน้ากล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .................................................... (นายวนิ ยั คาวเิ ศษ ) วนั ท่ี ........................................ ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ งั สฤษดิ ์

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่องระบบสืบพนั ธข์ุ องมนุษย์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 22101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวทศั นีย์ วงทองดี โรงเรียน หนั คาราษฎรร์ งั สฤษด์ิ1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ว 1.1 ม.2/1 อธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของระบบยอ่ ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด ระบบหายใจ ระบบขบั ถ่าย ระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษยแ์ ละสตั ว์ รวมทงั้ ระบบประสาทของมนุษย์ ว 8.1 ม.1-3/1, ม.1-3/2, ม.1-3/3, ม.1-3/4, ม.1-3/5, ม.1-3/6, ม.1-3/92. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษย์ ประกอบดว้ ยอวยั วะหลายชนดิ แต่ละชนดิ จะทาหน้าทแ่ี ตกต่างกนั ไป3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษย์ ประกอบดว้ ย อวยั วะหลายชนดิ ทท่ี างานอย่างเป็นระบบ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ - ระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษยจ์ ากแผนภาพจาลอง 3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) อธบิ าย สบื คน้ ทดลอง เขยี น 3.3 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3.4 สมรรถนะสาคญั ผเู้ รยี น (C) 3.4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง 2) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 3.4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. ใบกจิ กรรมท่ี 2.2

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)( ชวั่ โมงท่ี 1 ) ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ 1. ครนู าภาพหรอื แบบจาลองโครงสรา้ งอวยั วะในระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษย์ มาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกช่อื อวยั วะต่างๆ ในระบบสบื พนั ธทุ์ งั้ เพศชายและเพศหญงิ 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ 3. ครตู งั้ ประเดน็ คาถามถามนกั เรยี นวา่ เซลลส์ บื พนั ธเุ์ พศผแู้ ละเซลลส์ บื พนั ธเุ์ พศเมยี ของ มนุษยม์ คี วามสาคญั ต่อการดารงพนั ธุข์ องมนุษยอ์ ยา่ งไรคำถำมกระต้นุ ควำมคิด  ทาไมวยั รนุ่ จึงถอื ว่าเป็นวยั เจริญพนั ธ์ุ (เพราะร่างกายมกี ารสรา้ งเซลลส์ บื พนั ธขุ์ น้ึ ) ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา นกั เรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) จบั คกู่ นั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ต่ละค่รู ว่ มกนั ศกึ ษา ความรเู้ รอ่ื ง ระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษย์ จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ดงั น้ี - ค่ทู ่ี 1 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ระบบสบื พนั ธเุ์ พศชาย - คทู่ ่ี 2 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ระบบสบื พนั ธเุ์ พศหญงิ แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาลงในแบบบนั ทกึ การอ่านขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ 1. สมาชกิ แต่ละคนู่ าความรตู้ ามหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายมาอธบิ ายใหส้ มาชกิ อกี ค่หู น่งึ ทอ่ี ยใู่ นกลุ่มเดยี วกนั ฟงั และผลดั กนั ซกั ถามขอ้ สงสยั เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทต่ี รงกนั 2. สมาชกิ แต่ละกลุม่ ช่วยกนั ทาใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง อวยั วะสบื พนั ธขุ์ องมนุษย์ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (ชวั่ โมงที่ 2)1. ครคู ดั เลอื กนกั เรยี น 3-4 กลมุ่ นาเสนอใบงานท่ี 2.2 หน้าชนั้ เรยี น ครแู ละเพ่อื นกลมุ่ อ่นื ช่วยกนัตรวจสอบความถกู ตอ้ ง2. ครถู ามนกั เรยี นวา่ เมอ่ื เซลลอ์ สจุ ผิ สมกบั เซลลไ์ ข่ เกดิ การปฏสิ นธกิ นั จะเกดิ ภาวะการเจรญิ เตบิ โตอยา่ งไร3. ครใู หส้ มาชกิ แต่ละกล่มุ ศกึ ษาความรจู้ ากหนังสอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O.LMS Lite ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี1) การตงั้ ครรภ์ 2) การคลอด3) การเกดิ แฝด 4) การคมุ กาเนดิ

4. ครตู งั้ ประเดน็ คาถามถามนักเรยี นเกย่ี วกบั การสบื พนั ธุข์ องมนุษย์ เพอ่ื ขยายความเขา้ ใจ เช่น - ตวั อ่อน (embryo) จะฝงั ตวั อยใู่ นบรเิ วณใด - การคลอดลกู มวี ธิ กี ารแบบใดบา้ ง - การเกดิ แฝด สามารถเกดิ ไดอ้ ยา่ งไร - การคุมกาเนิดมปี ระโยชน์อย่างไร 5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิคำถำมกระต้นุ ควำมคิด  การเรียนร้เู ก่ียวกบั ระบบสืบพนั ธ์ขุ องมนุษย์มีประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างไรบา้ ง (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล 1. ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจากการทาใบงานท่ี 2.2 และจากการตอบคาถามเกย่ี วกบั การสบื พนั ธุ์ ของมนุษย์ 2. นกั เรยี นแต่ละคนทากจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมท่ี 2.2-2.3 จากแบบวดั ฯ เป็นการบา้ น6. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ใบงานท่ี 2.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 2.2 แบบบนั ทกึ การอา่ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 สือ่ กำรเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 2) แบบวดั และบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1 3) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite วทิ ยาศาสตร์ ม.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั 4) บตั รภาพ 5) แบบจาลองโครงสรา้ งอวยั วะในระบบสบื พนั ธุข์ องมนุษย์ 6) ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง อวยั วะสบื พนั ธุข์ องมนุษย์ 7.2 แหลง่ กำรเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://biology.clc.uc.edu/courses/bio105/reproduc.htm

บตั รภาพ  กระเพาะปสั สาวะ ต่อมลกู หมาก หลอดนาอสจุ ิ ต่อมสรา้ งน้าเล้ยี งอสจุ ิ ท่อปสั สาวะ ต่อมคาวเปอร์ องคชาติ อณั ฑะ ทวารหนกั ถุงอณั ฑะ หลอดเกบ็ น้าอสจุ ิ ภาพแสดงอวยั วะในระบบสืบพนั ธเุ์ พศชาย รงั ไข่ ทอ่ นาไข่ มดลกู ปากมดลกู ชอ่ งคลอด ภาพแสดงอวยั วะในระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิงท่ีมา : ยพุ า วรยศ และคณะ. 2554. หนังสือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 1. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.

ใบงานที่ 2.2 อวยั วะสืบพนั ธข์ุ องมนุษย์คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นชอ่ื อวยั วะตามหมายเลข และอธบิ ายหน้าทข่ี องอวยั วะแต่ละชนิด 5 3 4 6 72 1อวยั วะสืบพนั ธเ์ุ พศ ชายหมายเลข 1 คอื อณั ฑะ ทาหน้าทผี่ ลติ ฮอรโ์ มนเพศชายและเซลลส์ บื พนั ธุ์หมายเลข 2 คอื หลอดเกบ็ น้าอสจุ ิ ทาหน้าทเี่ กบ็ เซลลอ์ สจุ ิหมายเลข 3 คอื หลอดนาอสจุ ิ ทาหน้าทนี่ าอสจุ ผิ า่ นออกภายนอกรา่ งกายในขณะรว่ มเพศหมายเลข 4 คอื ต่อมสรา้ งน้าเล้ยี งอสจุ ิ ทาหน้าทสี่ รา้ งน้าเล้ยี งอสจุ ทิ มี่ สี ภาพเป็นเบสอ่อนๆหมายเลข 5 คอื ต่อมลกู หมาก ทาหน้าทสี่ รา้ งสารทมี่ สี ภาพเป็นเบสเพอื่ ทาหน้าทที่ าลาย ฤทธกิ์ รดในทอ่ ปสั สาวะหมายเลข 6 คอื ต่อมคาวเปอร์ ทาหน้าทสี่ รา้ งสารเป็นเมอื กหลอ่ ลนื่ ช่วยใหต้ วั อสจุ เิ คลอื่ นทไี่ ดเ้ รว็ ขน้ึหมายเลข 7 คอื องคชาต ทาหน้าทเี่ ป็นทางผา่ นของปสั สาวะและอสจุ ิ

2 1 3 อวยั วะสืบพนั ธเ์ุ พศ หญงิหมายเลข 1 คอื รงั ไข่ ทาหน้าทผี่ ลติ เซลลไ์ ข่ และสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญงิหมายเลข 2 คอื ท่อนาไข่ หรอื ปีกมดลกู เป็นบรเิ วณทเี่ กดิ การปฏสิ นธิหมายเลข 3 คอื มดลกู เป็นบรเิ วณทเี่ จรญิ ของทารก มเี น้อื เยอื่ 3 ชนั้ โดยเน้อื เยอื่ ชนั้ ในจะมลี กั ษณะ คลา้ ยฟองน้า ถา้ มกี ารปฏสิ นธจิ ะมกี ารสรา้ งรก หากไม่มกี ารปฏสิ นธจิ ะลอกหลดุ ออกเป็นประจาเดอื น

ใบงานที่ 2.2 อวยั วะสืบพนั ธข์ุ องมนุษย์คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นชอ่ื อวยั วะตามหมายเลข และอธบิ ายหน้าทข่ี องอวยั วะแต่ละชนดิ 5 3 4 6 72 1อวยั วะสืบพนั ธเ์ุ พศ ชายหมายเลข 1 คอื อณั ฑะ ทาหน้าทผี่ ลติ ฮอรโ์ มนเพศชายและเซลลส์ บื พนั ธุ์หมายเลข 2 คอื หลอดเกบ็ น้าอสจุ ิ ทาหน้าทเี่ กบ็ เซลลอ์ สจุ ิหมายเลข 3 คอื หลอดนาอสจุ ิ ทาหน้าทนี่ าอสจุ ผิ า่ นออกภายนอกรา่ งกายในขณะร่วมเพศหมายเลข 4 คอื ต่อมสรา้ งน้าเล้ยี งอสจุ ิ ทาหน้าทสี่ รา้ งน้าเล้ยี งอสจุ ทิ มี่ สี ภาพเป็นเบสอ่อนๆหมายเลข 5 คอื ต่อมลกู หมาก ทาหน้าทสี่ รา้ งสารทมี่ สี ภาพเป็นเบสเพอื่ ทาหน้าทที่ าลาย ฤทธก์ิ รดในทอ่ ปสั สาวะหมายเลข 6 คอื ต่อมคาวเปอร์ ทาหน้าทสี่ รา้ งสารเป็นเมอื กหลอ่ ลนื่ ช่วยใหต้ วั อสจุ เิ คลอื่ นทไี่ ดเ้ รว็ ขน้ึหมายเลข 7 คอื องคชาต ทาหน้าทเี่ ป็นทางผา่ นของปสั สาวะและอสจุ ิ

2 1 3 อวยั วะสืบพนั ธเ์ุ พศ หญงิหมายเลข 1 คอื รงั ไข่ ทาหน้าทผี่ ลติ เซลลไ์ ข่ และสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญงิหมายเลข 2 คอื ท่อนาไข่ หรอื ปีกมดลกู เป็นบรเิ วณทเี่ กดิ การปฏสิ นธิหมายเลข 3 คอื มดลกู เป็นบรเิ วณทเี่ จรญิ ของทารก มเี น้อื เยอื่ 3 ชนั้ โดยเน้อื เยอื่ ชนั้ ในจะมลี กั ษณะ คลา้ ยฟองน้า ถา้ มกี ารปฏสิ นธจิ ะมกี ารสรา้ งรก หากไม่มกี ารปฏสิ นธจิ ะลอกหลดุ ออกเป็นประจาเดอื น

ช่อื หนงั สอื ราคา ชอ่ื ผแู้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่านสานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์จานวนหน้า บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น นามปากกา ปีทพ่ี มิ พ์ พ.ศ. เวลา1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเรอ่ื งทอ่ี ่าน3. สงิ่ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั4. ขอ้ เสนอแนะของครูลงชอ่ื นกั เรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง ( )( ) ลงช่อื ครผู สู้ อน ()เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพรอ่ งเพียงเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุคาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ช่ือ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแก้ไข รวม ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน รว่ มมือกนั ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปัญหา/หรอื 20 ทากิจกรรม ปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 43211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปนั สงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรุง

แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี ) ปญั หา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข.................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ครผู สู้ อน (...........................................) วนั ท่ี ........................................

ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมายความคดิ เหน็ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ................................................หวั หน้ากลุ่มสาระ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ความคดิ เหน็ หวั หน้ากล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ลงช่อื ..................................... หวั หน้ากล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ (...........................................) วนั ท่ี ........................................ ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .................................................... (นายวนิ ยั คาวเิ ศษ ) วนั ท่ี ........................................ ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นหนั คาราษฎรร์ งั สฤษดิ ์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่องระบบประสาทของสตั ว์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 22101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวทศั นีย์ วงทองดี โรงเรียน หนั คาราษฎรร์ งั สฤษด์ิ1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ว 1.1 ม.2/1 อธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของระบบยอ่ ยอาหาร ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด ระบบหายใจ ระบบขบั ถ่าย ระบบสบื พนั ธขุ์ องมนุษยแ์ ละสตั ว์ รวมทงั้ ระบบประสาทของมนุษย์ ว 8.1 ม.1-3/1, ม.1-3/2, ม.1-3/3, ม.1-3/4, ม.1-3/5, ม.1-3/6, ม.1-3/92. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด สตั วแ์ ต่ละชนดิ จะตอ้ งอาศยั ระบบประสาทรบั และส่งความรสู้ กึ ไปยงั สมอง เพอ่ื สงั่ งานมายงั อวยั วะต่างๆ ใหท้ างาน3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง _ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ - ระบบประสาทของสตั ว์ 3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) อธบิ าย สบื คน้ ทดลอง เขยี น 3.3 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3.4 สมรรถนะสาคญั ผเู้ รยี น (C) 3.4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการเช่อื มโยง 2) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ 3) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 3.4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. ใบกจิ กรรมท่ี 2.3

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมือ : เทคนิคกล่มุ สืบค้น ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครเู ปิดวซี ดี เี กย่ี วกบั สตั วแ์ สนรู้ เช่น การแสดงของสุนขั ใหน้ กั เรยี นดู จากนนั้ ครถู ามนกั เรยี นวา่ สนุ ขั สามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ตามทค่ี นฝึกสงั่ ไดอ้ ย่างไร 2. ครเู ฉลยคาตอบโดยเชอ่ื มโยงเป็นการตอบสนองต่อสงิ่ เรา้ โดยรบั คาสงั่ มาจากระบบประสาท แลว้ ส่งไปยงั สมอง เพอ่ื สงั่ งานมายงั อวยั วะต่างๆ ใหท้ างาน ขนั้ สอน 1. นกั เรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื งระบบประสาทของ สตั ว์ จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite 2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ขอ้ 1-2 3. ครสู ่มุ นกั เรยี น 2-3 กลมุ่ อธบิ ายการทางานของระบบประสาทของสตั วต์ ามทไ่ี ด้ศกึ ษามา โดยใหย้ กตวั อยา่ งสง่ิ เรา้ แลว้ อธบิ ายการทางานของระบบประสาทของสตั วเ์ พ่อื ตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ นนั้ 4. สมาชกิ แต่ละกลุ่มช่วยกนั สบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ระบบประสาทของสตั วช์ นิดอ่นื ๆ นอกจากท่ี เรยี นมา แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู ลงในใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง ระบบประสาทของสตั ว์ 5. ตวั แทนแต่ละกลุม่ นาเสนอใบงานท่ี 2.3 หน้าชนั้ เรยี นจนครบทกุ กลุ่มแลว้ เกบ็ รวบรวมใบงาน สง่ ครูคำถำมกระต้นุ ควำมคิด • ระบบประสาทของสตั วท์ ี่มกี ระดกู สนั หลงั แตกต่างจากสตั วท์ ี่ไม่มกี ระดกู สนั หลงั อย่างไร (สตั วท์ มี่ กี ระดกู สนั หลงั จะมอี วยั วะรบั สมั ผสั เช่น ตา หู จมกู ล้นิ ทาหน้าทรี่ บั กระแสความรสู้ กึ แลว้ สง่ ผา่ นเสน้ ประสาทรบั ความรสู้ ึก) •ทาไมสนุ ัขตารวจจึงสามารถปฏิบตั ิหน้าที่ในหน่วยตรวจจบั สิ่งเสพติดและอาชญากรรมได้ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ขนั้ สรปุ นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรเู้ รอ่ื ง ระบบประสาทของสตั ว์  ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจดั ทาสมุดภาพเก่ียวกบั ระบบสืบพนั ธแ์ุ ละระบบประสาทของสตั ว์ โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบสบื พนั ธุ์ 2) การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะในระบบประสาท

6. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ใบงานท่ี 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 2.3 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ สมุดภาพ เร่อื ง ระบบร่างกาย ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ใน สตั ว์ (ระบบสบื พนั ธแุ์ ละระบบประสาท)การทางานตรวจสมุดภาพ เร่อื ง ระบบร่างกายสตั ว์(ระบบสบื พนั ธุแ์ ละระบบประสาท)7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 สือ่ กำรเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เลม่ 1 2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite วทิ ยาศาสตร์ ม.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั 3) วซี ดี สี ตั วแ์ สนรู้ 4) ใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง ระบบประสาทของสตั ว์ 7.2 แหลง่ กำรเรียนรู้  แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.youtube.com (สตั วแ์ สนร)ู้8

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมินสมดุ ภาพ เร่ือง ระบบรา่ งกายสตั ว์ (ระบบสบื พนั ธุแ์ ละระบบประสาท)ลาดบั ที่ รายการประเมิน (ช้นิ งานที่1) ระดบั คะแนน 43211 การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะ ในระบบสบื พนั ธุ์2 การอธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของอวยั วะ ในระบบประสาท รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพดี = 3 คะแนน 8 ดมี ากพอใช้ = 2 คะแนน 6 - 7 ดีปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 4 - 5 พอใช้ ต่ากวา่ 4 ปรบั ปรงุ

ใบงานท่ี2.3 ระบบประสาทของสตั ว์คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ระบบประสาทของสตั ว์ มา 3 ชนดิ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู พรอ้ มวาดภาพประกอบ1. สตั วช์ นิดน้ี คอื มรี ะบบประสาท ดงั น้ี (วาดภาพ)2. สตั วช์ นิดน้ี คอื มรี ะบบประสาท ดงั น้ี (วาดภาพ)3. สตั วช์ นิดน้ี คอื มรี ะบบประสาท ดงั น้ี (วาดภาพ)

ใบงานที่2.3 ระบบประสาทของสตั ว์คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ระบบประสาทของสตั ว์ มา 3 ชนดิ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลูพรอ้ มวาดภาพประกอบ (ตวั อย่าง)1. สตั วช์ นิดน้ี คอื ดาวทะเล (วาดภาพ) มรี ะบบประสาท ดงั น้ี มวี งแหวนประสาทอยู่ รอบปาก จากวงแหวนประสาทมแี ขนงประสาท แยกออกไปเล้ยี งแฉกต่างๆ โดยแยกออกไปทาง ดา้ นล่างของลาตวั ทบี่ รเิ วณผวิ ของลาตวั มเี ซลลป์ ระสาท เชอื่ มโยงกนั เป็นรา่ งแห ทาหน้าทรี่ บั สมั ผสั2. สตั วช์ นิดน้ี คอื มรี ะบบประสาท ดงั น้ี (วาดภาพ)3. สตั วช์ นดิ น้ี คอื มรี ะบบประสาท ดงั น้ี (วาดภาพ) (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

แบบประเมิน การนาเสนอผลงานคาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 321 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุคาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมีน้าใจ การมี รวม ท่ี ของผรู้ บั การประเมิน ความ ฟังคนอ่ืน ตามที่ได้รบั ส่วนรว่ มใน 20 คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกล่มุ 43214321432143214321 ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 43211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชมุ ชน4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนนอนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ6. ม่งุ มนั่ ในการ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทางาน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปนั สงิ่ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั ขิ องหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี ากปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดีปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook