Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 59 รายงานผลการวิจัย

59 รายงานผลการวิจัย

Published by วิจัย แม่โจ้, 2022-06-10 04:02:48

Description: 59 รายงานผลการวิจัย

Search

Read the Text Version

๒๒๑ แผนภาพที่ ๕.๖๘ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรม เรื่อง “จิตอยสู่ ุข” คาสาคญั [ป.๓-๘] มอง จิตมน่ั คง สภาวะจิต ชาระลา้ ง ภายใน เป็ นกลาง จิต เมตตา แสวงหาจิต แก่น สมั มาทิฐิ วญิ ญาณ ปัญญา สามญั ใชป้ ัญญา อนตั ตา ยกระดบั จิต ลกั ษณะ หยงั่ รู้ ปัญญา แก่นปัญญา จิต เจริญ ญาณ วญิ ญาณ ภาวนา ตารางท่ี ๕.๖๘ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “จิตอยสู่ ุข” [ป.๓-๘]๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระ ุจดเ ้นน ข้อ สรุป๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๑. เน้นดา้ นธรรมมานุปัสสาสติปัฏฐาน ดา้ นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ดงั ต่อไปน้ี แนว B-ME คลา้ ยเร่ืองไตรลกั ษณ์ วธิ ีการคิดเรื่องการเกิดข้ึนต้งั อยู่ดบั ไป ความรู้เก่ียวกบั การเจริญภาวนา การปฏิบตั ิให้อยูก่ บั ปัจจุบนั มองภายในปรับสู่การเกิดข้ึนต้งั อยดู่ บั ไป ความเป็ นอิสระแห่งจิต ยกระดบั จิต สติระลึกรู้ จิตเกิดพลงั ความสงบนิ่ง ๒. แก่นปัญญา คือ ความจริงท่ีวา่ สาเหตุหลกั ของความทุกขม์ าจากความเห็นผดิ หรือมิจฉาทิฐิ แปรมาเป็ นการกระทาใหห้ ลงผดิ เกิดความทุกข์ การพฒั นาจิตวิญญาณเพื่อนมนุษย์ ยกระดบั จิตตอ้ งมาจากความเมตตากรุณา มีพ้ืนฐานมาจากปัญญาและสติแห่งความตื่นรู้ ต้งั มนั่ การ เจริญภาวนา คือ การปฏิบตั ิใหอ้ ยกู่ บั ปัจจุบนั จิตสะอาดเขา้ สู่ปัญญาได้ ๓. ผเู้ ขียนใชภ้ าษาง่ายๆ แตเ่ ขา้ ใจยาก แฝงธรรมเรื่องสติปัฏฐาน ๔ อยา่ งลึกซ้ึง ความรู้เร่ืองการ เจริญภาวนา ธรรมชาติของโลกน้ี อธิบายความตามยคุ สมยั ปัจจุบนั มีปรัชญาขอ้ คิดนาทาง โดยเฉพาะเรื่องธรรม ท่ีมาจากความคิดหรือวธิ ีการคิด ๔. วรรณกรรมเรื่องน้ีเป็นวรรณกรรมแปล ผเู้ ขียนเป็นชาวตา่ งประเทศมีความสนใจทาง พระพุทธศาสนามา ๒๐ ปี ไดศ้ ึกษาธรรมะตามแนวทางของหลวงพอ่ ชา สุภทั โท ภาษา วรรณกรรมง่ายและเขา้ ใจยาก อ่านแลว้ ใหข้ อ้ คิดลึกซ้ึง แนะนาใหอ้ า่ น

๒๒๒ แผนภาพที่ ๕.๖๙ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรม เร่ือง “ภาวนา เร่ิมตน้ ณ กม.๐” คาสาคญั [ป.๓-๙] ประยกุ ต์ เทคนิค ประยกุ ต์ สมาถะไมม่ ี จนลงตวั ภาวนา จนลงตวั วปิ ัสสนาไม่ มา ปรุงแตง่ ศรัทธา ภาวะจิต บ่มเพาะ ปัญญาญาณ นิพพาน อดทน ทุกข ปรุงแตง่ เพยี ร เวทนา โยนิโส ฝึ กฝน ทาจิตสงบ ยกจิตสู่ไตร มนสิการ บ่มเพาะ ลกั ษณ์ ตารางท่ี ๕.๖๙ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “ภาวนา เริ่มตน้ ณ กม.๐ ” [ป.๓-๙] ข้อ สรุป ๑. เน้นด้านธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐานและจิตตานุปัสสนาสติปัฎฐาน เวทนานุปัสสนา ๑.สาระ ุจดเ ้นน สติปัฏฐาน การปฏิบตั ิภาวนาถา้ มีรูปแบบอย่าไปคิดว่าแบบอยา่ งใดถูกหรือแบบอย่างใดผิด รับรู้เรียนรู้แบบใดใหห้ าคุณค่าความหมายของแบบน้นั ถา้ แบบน้นั ยงั ไม่พอกจ็ ะหาแบบใหม่ก็ ตอ้ งนาเอาแบบเก่ามาผสมผสานกบั แบบใหม่แลว้ พฒั นาได้ ปัญญาคือเคร่ืองชาระลา้ ง เลือก เทคนิคการภาวนาดว้ ยตวั เอง ๒. เวทนา คือ ความรู้สึกเป็ นเน้ือเป็ นตัว มีท้ังความรู้สึกทุกข์ (ทุกขเวทนา) ความรู้สึ กสุ ข ๒.อง ์คความ ู้ร (สุขเวทนา) ความรู้สึกเฉย ๆ สุขก็ไม่ใช่ทุกขก์ ไ็ ม่ใช่ ขนั ติ คือ จิตแกร่งดว้ ยความออ่ นโยน น่ิม นวล ศีลบริสุทธ์ิเกิดจากจิตบริสุทธ์ิ จิตรู้ การภาวนาไม่ใช่หนีโลก แต่เป็ นความจริงดา้ นใน โลกแห่งความเป็ นจริงภายใน ประยกุ ตจ์ นลงตวั อานาปานสติ ยบุ พอง ดูเวทนา ดูจิต รับรู้การ เคลื่อนไหวของกาย ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. ใช้ภาษาง่าย ประยุกต์ธรรมะได้อย่างเขา้ ใจยุคสมยั ปัจจุบนั เหมาะสาหรับผูค้ นท่ีแสวงหา ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติภาวนา ความทันสมัยสาหรับการอธิบายเร่ืองมหา สติปัฏฐาน ๔ การยกตวั อยา่ ง การเช่ือมโยงระหว่างทฤษฎีและการปฏิบตั ิได้ดีมาก ผูเ้ ขียน แสดงใหเ้ ห็นวา่ การเชื่อมโยงความรู้เป็นอยา่ งดีครบถว้ นหลายส่วน บูรณาการ ๔. ตอ้ งมีแนวทางการปฏิบตั ิอย่างไรยกตวั อย่างให้เห็นเขา้ ใจเรื่องการปฏิบตั ิภาวนาโดยอาศยั ประสบการณ์ผูเ้ ขียนเล่าเร่ืองราวการเรียบเรียงเล่าเร่ืองประสบการณ์ความรู้ความเขา้ ใจเร่ือง การภาวนาในมุมมองคนยุคสมยั ปัจจุบนั วรรณกรรมเรื่องน้ีน่าสนใจ มีคุณค่า น่าอ่านแนะนา เป็ นอยา่ งย่ิง ปัญญานามาทุกสิ่งเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ ตอ้ งมีปัญญาไม่วา่ เทคนิคภาวนาอยา่ ง ใด ไมม่ ีถูกผดิ ข้ึนอยกู่ บั ผปู้ ฏิบตั ิ ความเหมาะสมทนั สมยั สังคมยคุ ปัจจุบนั แนะนาใหอ้ า่ น

๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๒๓ ๓.กลวิ ีธเขียนแผนภาพที่ ๕.๗๐ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง“รู้แลว้ ละได”้ คาสาคญั [ป.๓-๑๐] ๔.แนะนา วรรณกรรม ธาตุ ๔ ปิ ติ รู้ตวั ใน อุเบกขา จิต บารมีถึง อ่ิมใจ อารมณ์ มรรค ๘ พร้อม จิต สงั โยชน์ รู้ตวั ใน ธรรม ไตรลกั ษณ์ ๑๐ กาย วจิ ยั ตณั หา รับรู้ ความ ภาวนามย จริต อารมณ์ เป็ นจริง ปัญญา จิต ตารางท่ี ๕.๗๐ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “รู้แลว้ ละได”้ [ป.๓- ๑๐] ข้อ สรุป ๑. เนน้ เร่ืองธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน นาเป็ นหลกั แลว้ อธิบายเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ตามมรรค ๘ คือ สัมมาสมาธิ สัมมาสติ การวดั ผลท่ีแทจ้ ริงของภาวนาไม่ใช้ “ตวั รู้” แต่อยูท่ ่ี “ตวั ละ” ดว้ ย ปัญญาท่ีรู้เท่าทนั ความจริงตามไตรลกั ษณ์ โดยสัมมาสติ คือ มหาสติปัฏฐาน ๔ ใชใ้ นการปฏิบตั ิ กรรมฐาน ความรู้ตวั ในกาย เวทนา จิต ธรรม ๒. มรรค ๘ เป็นหลกั การอธิบายความโดยเฉพาะ นามรรค ๘ มาเชื่อมโยงกบั การอธิบายเรื่อง มหาสติปัฏฐาน ๔ หวั ใจการปฏิบตั ิวปิ ัสสนา คือ การเอารูปนามมาเป็ นเครื่องมือในการปฏิบตั ิ พจิ ารณารูปนามลงสู่ไตรลกั ษณ์ วางใจเป็นอุเบกขาทุกสภาวธรรม อุเบกขาเป็ นผลการปฏิบตั ิ เป็นตวั ละกิเลส ตณั หา อุปทาน ๓. อธิบายดว้ ยภาษาง่ายๆ นาไปสู่การปฏิบตั ิได้ มีการเชื่อมโยง วิธีการทฤษฎีสู่การปฏิบตั ิไดช้ ดั เจน ใชภ้ าษาเขียนเขา้ ใจง่ายมีการยกตวั อยา่ งประกอบการอธิบายความ โดยผเู้ ขียนมีความชดั เจนใน ความคิดเห็นของผเู้ ขียน ๔. เขียนโดยใชห้ ลกั เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ อธิบายดว้ ยภาษาง่ายๆ อาจมีการใชภ้ าษาบาลีแตไ่ ม่มาก นกั แนะนาวา่ เล่มน้ีน่าอา่ น เขียนน่าอา่ นโดยใชห้ ลกั การตามพระไตรปิ ฎก อธิบายความดว้ ย ภาษาเรียบง่าย อาจมีภาษาบาลีบา้ งเลก็ นอ้ ย วรรณกรรมเล่มน้ีดีมาก แนะนาน่าอ่าน

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๒๔ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพที่ ๕.๗๑ แผนที่ความคิด และคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “หายใจใหเ้ ป็น The Tibetan Yoga of Breath” ๓.กลวิ ีธเขียน คาสาคญั [ป.๓-๑๑] ๔.แนะนาวรรณกรรม ต้งั จิต ลม พจิ ารณา โพธิจิต วรรณกรรม หายใจ ความไม่ คือ ชีวติ เท่ียง โยคะลม จิต อารมณ์ ธาตุลม หายใจ วญิ ญาณ ควบคุม ปัญญา รูปแบบ ระบบ หายใจ บริสุทธ์ิ หายใจ ประสาท ปัญญา ซกเซ็น ยนั ตระ พลงั ลม โยคะ ตารางท่ี ๕.๗๑ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง“หายใจใหเ้ ป็น The Tibetan Yoga of Breath” [ป.๓-๑๑] ข้อ สรุป ๑. เนน้ ดา้ นกาย (ลมหายใจ) ดา้ นจิต (ต้งั จิตวญิ ญาณ) ดา้ นเวทนา(อารมณ์) และดา้ นธรรม (ปัญญา) ครบ ๔ ดา้ นสรุปแนวคิด เนน้ การฝึ กลมหายใจเขา้ ออกเพ่ือการปฏิบตั ิทางจิตวิญญาณตามพุทธ ศาสนาทิเบต ลมหายใจเช่ือมโยงประสาทส่วนนอกและส่วนใน ดึงอากาศโลกภายนอกเขา้ มาสู่ ฐานกายดว้ ยลมหายใจ เพ่อื ชาระลา้ งจิตใจและอกุศลท้งั ปวง ๒. หลกั การ การฝึกลมหายใจบาบดั ปลดปล่อยความทุกขท์ างกายจิตใจ สงบ ชาระลา้ งความขุ่นขอ้ ง หมองใจ วิธีการพ้ืนฐานสติ คือ การฝึ กลมหายใจ สติคือ สิ่งที่เช่ือมโยงการฝึ กลมและอารมณ์ ตอบสนอง ต้งั จิตหายใจ ปรับลมหายใจ เอาลมหายใจเป็ นฐานควบคุมจิต ลมหายใจ คือ ชีวติ คือ ปัญญา มีผลต่อจิต อารมณ์ กายกบั ลมหายใจควบคุม สร้างความตระหนกั รู้ทางจิตวญิ ญาณได้ ควบคุมความสมดุลกาย อารมณ์ จิตวญิ ญาณ ดว้ ยลมหายใจ ๓. เป็นวรรณกรรมแปล อธิบาย เร่ืองราวลมหายใจ พระพุทธศาสนาแนวทิเบต เรียบเรียงอยา่ งเป็น ข้นั ตอน เร่ือง การฝึกทางจิตวิญญาณ ต้งั จิตหายใจ ปรับลมหายใจ เจริญโพธิจิต จิตต่ืนรู้ พจิ ารณาความไม่เที่ยงระดบั ปัญญา การพิจารณาความไม่เที่ยงดว้ ยการรู้ลมหายใจ การตื่นรู้ ปัญญา อธิบายการฝึกลมหายใจและการควบคุมลมหายใจเป็นหลกั ๔. วรรณกรรมแปล การปฏิบตั ิการทางวญิ ญาณ ตามพทุ ธแบบทิเบต ชาระลา้ งจิตใจ และอกุศล ท้งั หลาย เนน้ การฝึกลมหายใจ ตามการฝึกฝนหายใจมีผลต่ออารมณ์ และกายหยาบ ลมหายใจมี ผลตอ่ ร่างกาย อารมณ์ และจิตวญิ ญาณของเราเอง การฝึกควบคุมลมหายใจ เป็นวรรณกรรม น่าสนใจในสาระ มีคุณค่าเพิ่มเติมความรู้เร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ เติมเตม็ แนวพระพทุ ธศาสนา แบบเถรวาทเขา้ ใจไดด้ ีข้ึน

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๒๕ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพท่ี ๕.๗๒ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรม เรื่อง “คลายเครียดดว้ ยลมหายใจ เยยี วยาความเครียดดว้ ยวถิ ีพทุ ธ” ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน คาสาคญั [ป.๓-๑๒] สภาวะ มีสติ ฝึ กฝนจิต โพชฌงค์ กาย ๗ นิวรณ์ ๕ อุเบกขา จิตวญิ ญาณ ปรุงแต่ง ความคิด ปลอ่ ยวาง ฝึ ก ต้งั มน่ั จิต อริยสจั เมตตา ๔ ภาวนา ฝึ กฝน รู้แจง้ ตระหนกั รู้ พลงั สติ ตารางท่ี ๕.๗๒ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “คลายเครียดดว้ ยลมหายใจ เยยี วยาความเครียดดว้ ยวถิ ีพทุ ธ” [ป.๓-๑๒] ข้อ สรุป ๑. เน้นเรื่อง กาย(ลมหายใจ) จิต (จิตวิญญาณ) เวทนา (อารมณ์) ธรรม (ตระหนกั รู้) สรุปแนวคิด มิติทางจิตวิญญาณ คือ การใชช้ ีวติ ปัจจุบนั ขณะ โดยเริ่มตน้ ปล่อยวางตวั ตน และปล่อยให้ มีสติ หยงั่ ลึก ลมหายใจ คือ ฐานแห่งสติเพ่อื ฝึกจิตไม่เป็นอกุศลกรรม ๒. หลักการ กระบวนการเปล่ียนแปลงทางจิตวิญญาณ เส้นทางการพฒั นาจิตวิญญาณ คือ รู้จกั ความยดึ มนั่ ถือมนั่ และจดั การปล่อยวางความยึดมนั่ ถือมนั่ จนถึงความตระหนกั รู้ปรากฎการณ์ ความจริง และเรียนรู้อยา่ งมีสติกบั สิ่งท่ีเกิดข้ึน วธิ ีการ สมาธิหมนั่ ฝึ กฝน ต่อเน่ือง ฝึ กสติอยูก่ บั ปัจจุบนั ขณะ ทาสมาธิเพื่อฝึกสติ ความคิดส่งผลต่อความรู้สึก ตอ้ งฝึกจิตตามรูปแบบการพฒั นา จิตเพ่ือใหบ้ ริสุทธ์ิ ๓. การนาเร่ืองลมหายใจ และอริยสัจ ๔ สัมพนั ธ์กนั โดยผูเ้ ขียนมีประสบการณ์จริง และความรู้ ความเขา้ ใจ อธิบายธรรม เน้นสาระเน้ือหาที่ดีมาก ดว้ ยภาษาง่ายๆ เขา้ ใจ เหมาะสม เรียนรู้ ทา ความเขา้ ใจดว้ ยวธิ ีคิดท่ีถูกตอ้ ง เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ท่ีแทจ้ ริงของผเู้ ขียน ๔. วรรณกรรมเล่มน้ีน่าอ่านศึกษาอย่างมาก มีคุณค่าเขียนดว้ ยภาษาเรียบง่าย แมเ้ ขา้ ใจยากเพราะ เน้ือหาสาระความรู้ที่ดีมากๆ มีความลึกซ้ึง มากมาย เขียนดี อธิบายเรื่องอริยสัจ ๔ กบั การฝึ ก สมาธิกบั ลมหายใจ และนาเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ดา้ นอริยสัจ ๔ มาอธิบายสอดคลอ้ งกบั การ ฝึ กลมหายใจ ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ พฒั นาวธิ ีการฝึ กฝนจิตใจ รู้จกั สติและพฒั นาสติ ใหม้ ีความเหมาะสม

๒๒๖ แผนภาพท่ี ๕.๗๓ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง“สติ กญุ แจไขชีวติ ” คาสาคญั [ป.๓-๑๓] ธรรมชาติ สติ คือ ผสั สะ สภาวธรรม จิต ความ เกิด รู้สึกตวั เวทนา ประสาท ขนั ธ์ ๕ อาการ ไตรลกั ษณ์ สมั ผสั ๖ จิต เจตสิก อายตนะ จิตสงบ อตั ตา ๖ สร้าง สมั มาสติ จิต อนิจจงั ทุก ความ วญิ ญาณ ขงั อนตั ตา รู้สึกตวั ตารางท่ี ๕.๗๓ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “สติ กุญแจไขชีวิต” [ป.๓-๑๓] ข้อ สรุป ๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๑. เน้นครบท้งั ๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นกาย เวทนา จิต และธรรม สูตรสาเร็จในการสร้างสติปัฏฐาน ๔ คือ เห็นกายใน(ที่)กาย เห็นเวทนาใน(ที่)เวทนา เห็นจิตใน(ที่)จิต เห็นธรรมใน(ที่)ธรรม ครบถว้ น ๔ ดา้ น ทาความรู้สึกตวั กบั การเคลื่อนไหวต่างๆ เมื่อรู้สึกตวั จิตหยดุ ส่งออกนอกใจ ของตน ผกู สติความรู้สึกตวั ไปท่ีกาย ๒. กรรมฐาน สติเป็ นบาทฐาน ผกู สติลงสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม โดยการปฏิบตั ิอบรม จิต เรียกวา่ กรรมฐาน : สมถกรรมฐาน คือ การปฏิบตั ิอบรมจิตใหส้ งบรวมจิตสมาธิจุดเดียว ผกู จิตไวอ้ ารมณ์เดียว วปิ ัสสนากรรมฐาน คือ การมีสติรู้สึกตวั ผกู จิตเห็นสภาวธรรม รู้เท่าทนั จิตอยู่ ตลอดเวลา ใหต้ ามดูทว่ั พร้อมที่กายเวทนาจิตธรรม ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. การประยุกตเ์ ร่ืองมหาติปัฏฐาน ๔ ไดอ้ ย่างเขา้ ใจ ทนั สมยั เป็ นปัจจุบนั เชื่อมโยงพระไตรปิ ฎก ได้ครบถว้ น อธิบายความความเขา้ ใจทนั สมยั อ่านมีเหตุมีผลเป็ นไปตามหลกั วิชาการ เน้ือหา แบ่งเป็นตอนๆ ผเู้ ขียนเก่งมาก เขียนวรรณกรรมโดยไม่ลอกเลียนแบบ โดยมีความคิดเป็ นตวั เอง อธิบายความคิดอยา่ งตกผลึกเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ๔. วรรณกรรมเล่มน้ี แนะนาเป็นอยา่ งยง่ิ ใหอ้ ่าน สนุกสนาน ตอบสนองความรู้ใหม่ๆ บูรณาการกบั ศาสตร์สมัยใหม่ได้ดี และอธิบายเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้อย่างเข้าใจง่ายครบถ้วน เป็ น ลกั ษณะการเขียนวรรณกรรมท่ีดี มีความคิดเป็ นตวั เองของผูเ้ ขียน ไม่ลอกเลียนคากล่าวอา้ งใด จนทาให้ไม่เป็ นความคิดของของผูเ้ ขียน วรรณกรรมเล่มน้ีจดั วา่ เป็ นวรรณกรรมท่ีมีคุณค่าเป็ น อยา่ งยงิ่

๒๒๗ แผนภาพที่ ๕.๗๔ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “เรื่องสติ...ใครวา่ ยาก คาอธิบายสติและการปฏิบตั ิธรรมดว้ ยภาษาท่ีเขา้ ใจง่าย” คาสาคญั [ป.๓-๑๔] ลมหายใจ จิต การฝึ ก สมาธิระดบั วญิ ญาณ จิต ลึก ต้งั มน่ั เมตตา บรรลุ สติเป็ นฐาน ธรรม ธรรม พฒั นา ยอมรับ แผ่ จิต สมั ปชญั ญะ ความจริง เมตตา วญิ ญาณ สารวจจิต กายน่ิง รากเหงา้ วธิ ีฝึ กจิต จิตนิ่ง จิต ๑.สาระ ุจดเ ้นนตารางที่ ๕.๗๔ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “เร่ืองสติ...ใครวา่ ยาก คาอธิบายสติและ การปฏิบตั ิธรรมดว้ ยภาษาที่เขา้ ใจง่าย” [ป.๓-๑๔] ๒.อง ์คความ ู้ร ข้อ สรุป ๓.กลวิ ีธเขียน ๑. เนน้ ดา้ นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน และจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน โดยนาลมหายใจเป็ นหลกั เร่ืองการปฏิบตั ิภาวนา สติปัฏฐาน ๔ เฝ้าดูลมหายใจ สติ คือ สภาวะท่ีทาหนา้ ท่ีค่อยเตือนวา่ เรา ควรทาอะไร มองเห็นส่ิงต่างๆ ตามความเป็ นจริง และมองเห็นธรรมแทจ้ ริง ดูลมหายใจ และ จิต การฝึ กลมหายใจ ลมหายใจคือเครื่องมือการปฏิบตั ิภาวนา เป็ นฐานการปฏิบตั ิภาวนา การมี สติอยกู่ บั ลมหายใจ คือ ความรู้สึกตวั อยกู่ บั ปัจจุบนั เร่ืองสติ ๒. หลักการวปิ ัสสนาภาวนา คือ การอบรมจิตใหร้ ู้วธิ ีการอนั พิเศษท่ีนาไปสู่ปัญญา และความเขา้ ใจ อนั สมบูรณ์ การคน้ พบความจริงดว้ ยการตรวจสอบดว้ ยตนเอง เฝ้าดูสังเกตการณ์ทางานของจิต เกิดปัญญา ฝึ กจิตให้เป็ นระบบ วิธีการโดยเอาจิตไปจดจ่อแน่วแน่ท่ีลมหายใจเพ่ือสมาธิ สมาธิ สาคญั คือ ความรู้ตวั หรือสัมปชญั ญะ เพ่ือฝึกสติเบ้ืองตน้ ทาใหจ้ ิตบริสุทธ์ิ เพื่อการมองเห็นตาม ความ ๓. ความสามารถผเู้ ขียนวรรณกรรม อธิบายอะไรใหผ้ ูอ้ ื่นเขา้ ใจ คือการใชภ้ าษาท่ีเรียบง่ายท่ีสุด ใช้ ภาษาตรงไปมาที่สุด แต่ยงั คงสาระที่เป็ นประโยชน์สาระไวม้ ากที่สุด เป็ นการอธิบายเป็ น ข้นั ตอน เป็นคู่มือการปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ อธิบายเนน้ การปฏิบตั ิแนวทาง ดว้ ยภาษาเขา้ ใจง่าย ๔.แนะนา ๔. เป็ นวรรณกรรมแปล และเป็ นเล่มที่เป็ นประโยชน์มาก น่าอ่านดว้ ยภาษาเขา้ ใจง่ายๆ แต่ความ วรรณกรรม เขม้ ขน้ สาระเน้ือหามีประโยชน์มากมาย แนะนาใหอ้ ่านเป็นอยา่ งมาก เหมาะสมสาหรับผปู้ ฏิบตั ิ ที่ไม่มีครูบาอาจารยแ์ นะนา แนะนาให้อ่าน อ่านแล้วเขา้ ใจเรื่องวิธีการฝึ กสมาธิ เป็ นคู่มือการ ปฏิบตั ิไดเ้ ขียนในเชิงปฏิบตั ิ อธิบายความ ไดด้ ี

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๒๘ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพที่ ๕.๗๕ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “บรรลุธรรมไดไ้ มต่ ิดรูปแบบ” คาสาคญั [ป.๓-๑๕] ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน เจริญ สมถะ มรรค ๘ สะสมบุญ ภาวนา อินทรียก์ ลา้ อริยสจั วปิ ัสสนา อินทรีย์ ศรัทธา วริ ิยะ ๔ ๕ ปัญญา ฟัง บรรลธุ รรม สาธยาย ไตรลกั ษณ์ ธรรม ธรรม แสดง พระไตรปิ ฎก ตรึก พจิ ารณา ธรรม ตรอง ธรรม ธรรม ตารางท่ี ๕.๗๕ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “บรรลุธรรมไดไ้ มต่ ิดรูปแบบ” [ป.๓-๑๕] ข้อ สรุป ๑. เนน้ ครบท้งั ๔ ด้าน กาย เวทนา จิต ธรรม เน้นการเจริญสติโดยใช้ฐาน ๔ ฐาน กาย(ร่างกาย) เวทนา(ความรู้สึกสุขทุกข์ เฉยๆ) จิต(อาการของจิต) ธรรม(สภาวธรรม) สรุปการเจริญสติปัฏ ฐาน ทาไดห้ ลายรูปแบบ ทาไดท้ ุกทีทุกเวลา การเจริญสติไปกบั ทุกกิจกรรมในชีวติ ประจาวนั ได้ ไม่ตอ้ งอาศยั นง่ั สมาธิ หรือ เดินจงกรม เทา่ น้นั ปฏิบตั ิตนตามมรรค ๘ กบั อินทรีย์ ๕ ๒. แนวฝึ กจิตที่เหมาะสม ตามอาการและจิต คือการพิสูจน์ด้วยตนเอง เลือกสะสมอินทรีย์ที่ เหมาะสมกบั ตวั เรา บรรลุธรรมควรฝึ กเจริญสมถะนา วปิ ัสสนานา หรือท้งั สมถะและวปิ ัสสนา ควบคู่กนั ไป วธิ ีการ การบรรลุธรรมไม่ไดเ้ กิดจากการปฏิบตั ิฌานตามรูปแบบ คือ นง่ั สมาธิเดิน จงกรม เท่าน้นั แต่สามารถเกิดโดยวธิ ีอ่ืนได้ การเจริญสติปัฏฐาน ๔ มีหลายรูปแบบทาไดท้ ุกที่ ทุกเวลา เจริญสติไปพร้อมทุกกิจกรรมในชีวติ ประจาวนั ๓. ความสามารถของผเู้ ขียนท่ีอธิบายความเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ไดอ้ ยา่ งเห็นภาพ อาศยั หลกั การ ต่างๆ อา้ งพระไตรปิ ฏกแล้ว ถ่ายทอดเป็ นความรู้ไปสู่กระบวนการคิดแบบใหม่ นาเสนอการ ปฏิบตั ิธรรม การบรรลุธรรมในวธิ ีการอ่ืนๆท่ีไม่ใช่การเจริญภาวนาตามรูปแบบ ๔. วรรณกรรมเล่มน้ีน่าอ่านมาก สนุกเหมาะสาหรับเรื่อง สติปัฏฐาน ๔ สาหรับผูค้ นยุคปัจจุบนั แนะนาให้อ่าน ผูเ้ ขียนเป็ นฆราวาสเขียนธรรมะไดบ้ ูรณาการสอดคลอ้ งกบั ความเขา้ ใจยคุ สมยั ปัจจุบนั ให้กาลงั ใจการบรรลุธรรม ในการส่ังสมบารมีหลายรูปแบบสอดคล้องกบั ยุคสมยั ปัจจุบนั อาศยั การสั่งสมบารมีรูปแบบอื่นๆจนกระทงั่ บรรลุธรรมไดโ้ ดยไม่ตอ้ งบวช

๒๒๙ แผนภาพท่ี ๕.๗๖ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “ฆราวาสบรรลุธรรม” คาสาคญั [ป.๓-๑๖] อริยมรรค โพธิจิต สภาวะ ธรรมเกิด ๘ ธรรม จากจิตสู่จิต ฝึ กจิตให้ ผสั สะ อปั ปานา ฝึ กจิตให้ ถกู ทาง ความรู้สึก ถูกทาง อารมณ์ ชาระลา้ ง สมาธิ กฎไตร เวทนา จิตบริสุทธ์ิ สมั ปชญั ญะ ลกั ษณ์ ถอน จิตเป็ น วาง กิเลส อิสระ เวทนาเป็ น อุเบกขา สะพาน ตารางที่ ๕.๗๖ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “ฆราวาสบรรลุธรรม” [ป.๓-๑๖] ๑.สาระ ุจดเ ้นนข้อ สรุป ๑. เนน้ ดา้ นกาย เวทนา จิต ธรรม ครบท้งั ๔ ดา้ นเร่ืองมหาสติปัฏฐาน โดยแนวคิด เรียกว่า เตโช วปิ ัสสนา ใหเ้ พง่ ท่ีฝ่ ามือที่ประกบกนั มีความเพียรเผากิเลสที่ร้อน วางจิตให้น่ิงจนเป็นกาลงั ฌาน และพฒั นาไปสู่วิปัสสนาญาณ อายตนะ ๖ ประตูเข้าของกิเลส หากปล่อยให้จิตไหลไปกบั อารมณ์ ตดั กิเลสตอ้ งดูเวทนา เวทนาเป็ นสะพานใหจ้ ิตขา้ มไปสู่โลกตุ รธรรม มีกิเลสมาอาศยั ใน จิต กิเลสอยูใ่ นจิต จิตอยูใ่ นกาย จิตปรุงแต่งอารมณ์ตลอดเวลา การบรรลุธรรมฝึ กฝนจิตอยา่ ง จริงจงั ประหารกิเลสบีบค้นั จิต การบรรลุธรรมจิตเกิดปัญญา จิตอิสระ ๒. หลกั การ เป็ นการวางจิตอุเบกขาได้ เฝ้าดูความรู้สึก การหลุดพน้ เป็ นเร่ืองของจิต จิตต่ืนรู้พาจิต ให้เป็ นอิสระ ลงมือปฏิบตั ิจึงเขา้ ถึงประสบการณ์ วิธีการ : เป็ นการบนั ทึกประสบการณ์ภาวนา ๓.กลวิ ีธเขียน ๒.อง ์คความ ู้ร แบบปัจจตั ตงั (คิดเอาเอง) ปฏิบตั ิอยา่ งเอาชีวติ เป็ นเดิมพนั สมถกรรมฐาน คือ สมาธิ ความต้งั มนั่ ของจิต ฝึ กจิตให้อยูอ่ ารมณ์เดียว วปิ ัสสนากรรมฐานเป็นการเจริญปัญญา ปฏิบตั ิสติสมั ปชญั ญะ คือ การรู้ตวั ทวั่ พร้อมจะตอ้ งฝึ กจิตให้มีอุเบกขา วางเฉยต่อส่ิงท่ีกระทบจิต จิตไม่เกิดปฏิกิริยา ปรุงแต่ง ๓. การอธิบายการฝึ กสมาธิตามแนวทางของผูเ้ ขียนแทจ้ ริง นาขอ้ พบจากการปฏิบตั ิสมาธิมาเขียน วรรณกรรม อธิบายความเขา้ ใจของผูเ้ ขียน ยกตวั อย่างปัจจุบนั นาเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ มา เขียนตามประสบการณ์ตน บางคร้ังไมม่ ีเหตุผลและมีเหตุผล ๔.แนะนา ๔. วรรณกรรมท่ีอยากแนะนาใหอ้ า่ น และไม่อยากแนะนาให้อา่ น ไปพร้อมๆ กนั ที่มาอาจดูไม่ วรรณกรรม สมเหตุผลการเขียนวรรณกรรม แต่เน้ือหาสาระนาประสบการณ์ผเู้ ขียนมากนาเสนอ ดูน่าสนใจ ผอู้ ่านควรเปิ ดใจใหก้ วา้ ง อาจไดบ้ างส่ิงที่เหมือนหรือคลา้ ยความเช่ือเดิมของตนเอง หรือขดั แยง้ กบั ความเชื่อเดิมตนเอง ตอ้ งวางใจเป็นกลางๆ ไวก้ ่อนอา่ นวรรณกรรมเร่ืองน้ี

๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๓๐ ๓.กลวิ ีธเขียนแผนภาพท่ี ๕.๗๗ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “ชีวติ ไม่ไดม้ ีดา้ นเดียว” คาสาคญั [ป.๓-๑๗] ๔.แนะนาวรรณกรรม ปัญญา ตวั เราไม่ สติระลึก เห็นรูปนาม มีอยจู่ ริง อยกู่ ายใจ ตามจริง สรรพ ความ ศรัทธา ไตรลกั ษณ์ สิ่งลว้ น จริงของ ชวั่ คราว จิต งานทาง เห็นเกิด วปิ ัสสนา สมถกรรม จิต ดบั กรรมฐาน ฐาน อปั ปนา วปิ ัสสนา ปรมตั ถ์ เพง่ อารมณ์ สมาธิ ตารางท่ี ๕.๗๗ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “ชีวติ ไม่ไดม้ ีดา้ นเดียว” [ป.๓-๑๗] ข้อ สรุป ๑. เนน้ ดา้ นธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน โดยแนวคิดสติปัฏฐาน คือ องคป์ ระกอบ อาตาปี สัมปะชา โนสติมา และศรัทธา วิริยะ สมาธิ การปฏิบตั ิธรรม คือ การฝึ กจิตเม่ือมีอะไรมากระทบเกิดข้ึน ตาหูจมูกลิ้นกายสัมผสั สติสมาธิเกิดข้ึนเอง ฝึ กจนถึงเกิดข้ึนเองอตั โนมตั ิใช้งานได้จริง การ ปฏิบตั ิธรรม คือ การทางานของจิต ๒. หลกั การ จิตเม่ือมีอะไรมากระทบตอ้ งเห็นความรู้สึกของจิตท่ีสัมผสั กรรมฐานไม่นอกใจตวั เอง สตินอกตวั ในตวั รู้กายรู้ใจอยูก่ นั ตวั เอง จิตอยกู่ บั ปัจจุบนั อารมณ์ ของจริงเกิดจากคนจริงเทา่ น้นั วิธีการ สมถะและวิปัสสนา ไม่ต้องแยกกันก็ได้ การศึกษาธรรมไม่ควรจากัดโดยวิธีการ วปิ ัสสนาเป็นศิลปะทุกอยา่ งไมม่ ีแบบฉบบั ตายตวั ตามสถานการณ์ ๓. ลกั ษณะเป็ นการเล่าเรื่องราว ลูกศิษยไ์ ดร้ วบรวมวรรณกรรมธรรมเทศนาพระอาจารยน์ วลจนั ทร์ ในหลายวาระ โดยรวบรวมเรียบเรียงจดั หมวดหมู่ ยุคสมยั ปัจจุบนั ภาษาตามสมยั ปัจจุบัน ทนั สมยั โดยกล่าววา่ เทคนิคการภาวนามีหลายอยา่ ง ใชเ้ ทคนิคไปเปล่ียนผสั สะ เลือกบริกรรม อะไรดีงาม ผอ่ นคลายสบาย ไมก่ ดดนั ตวั เอง ๔. วรรณกรรมจะมีคุณค่าข้ึนอยูก่ บั จริตของผูอ้ ่าน การนาเสนอธรรมะไม่ควรถูกจากดั โดยวธิ ีการ ไม่ใช่เฉพาะการเขียนวรรณกรรม วรรณกรรมเร่ืองน้ีเป็ นการรวบรวมเรียบเรียงคาสอน สรุปมา อีกคร้ัง มีความเป็ นสมยั ใหม่ ทนั สมยั และเป็ นปัจจุบนั สอนให้เป็ นนักปฏิบตั ิ คลาทางเอาเอง ดว้ ยความสนุกสนาน เจริญไดท้ ุกประเภททุกเคร่ืองมือ เป็ นสติก็ได้ เป็ นสมาธิก็ได้ อะไรก็ได้ เจริญกุศลไดท้ ุกประเภท

๒๓๑ แผนภาพที่ ๕.๗๘ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “วธิ ีปฏิบตั ิธรรมในชีวิตประจาวนั อยา่ งง่ายๆ” คาสาคญั [ป.๓-๑๘] อริยสจั ๔ อานาปาน สมองตาม มรรค ๘ คุมคิด สติ เจตนา ควบคุมจิต มีสติหยดุ มรรค ๘ ควบคุมคิด ได้ คิด จิต ฝึ กหยดุ ความจริง จิตใจจด บริสุทธ์ิ คิดปรุง จ่อ แตง่ เจริญสติ สารวจ สารวจการ อานาปาน ความคิด รับรู้ สติ ตารางท่ี ๕.๗๘บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง“วธิ ีปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจาวนั อยา่ งง่ายๆ”[ป.๓-๑๘] ข้อ สรุป ๑. เนน้ ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน การฝึ กความคุมความคิด วิธีการปฏิบตั ิในชีวิตประจาวนั อยา่ ง ๑.สาระ ุจดเ ้นน ง่ายๆ ตามมรรค ๘ โดยแนวคิด ความดบั ทุกข์ คือ ภาวะจิตท่ีมีความบริสุทธ์ิ ผ่องใส ไม่ทุกข์ สบายสงบ ไม่คิดอกุศลกรรม ควบคุมความคิด มีสติ วิธีการฝึ กปฏิบัติธรรมตามมรรค ๘ ควบคุมจิตได้ คือ ผมู้ ีสติหยุดความคิด และควบคุมความคิด อานาจควบคุมคิดเหนือจิตใจ สมอง ทางานตามเจตนา ความดบั ทุกข์ คือ สภาวะท่ีจิตมีความบริสุทธ์ิ ผอ่ งใส ไม่ทุกข์ มีแต่ความสุข สงบ ไมค่ ิดอกศุ ล ไมค่ ิดกิเลส ตณั หา ๒.อง ์คความ ู้ร ๒. หลกั การสติ คือ การมีความต้งั ใจ มีจิตใจจดจ่ออยู่กบั กิจที่เจตนาทาอยู่ เพียรฝึ กตนเอง มีสติใน อริยสัจ4 ดูแลจิตไม่ให้คิดอกุศล วิธีการ เพียรศึกษาอริยสัจ ๔ ฝึ กปฏิบตั ิตามมรรค ๘ สมอง ทางานตามท่ีมีเจตนา คิดทากิจต่าง ๆ ตามเจตนา กายวาจาใจ สมองควบคุมคิด มีสติจะควบคุม คิดได้ ต้งั ใจเพียรสอนตวั เอง ฝึกปฏิบตั ิตลอดเวลา ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. ผูเ้ ขียนอธิบายเรื่องน้ีอย่างมีเหตุผลมาก ดีมาก ทาความเขา้ ใจเร่ืองการนัง่ สมาธิอย่างมีเหตุผล ผเู้ ขียนมีความสามารถในการอธิบายความอยา่ งมีเหตุผลมาก ดีมาก ทาความเขา้ ใจ การนงั่ สมาธิ ๔.แนะนา ไดอ้ ย่างดี มีแนวเหตุผล การใช้ปัญญานาการอธิบายธรรมะ เขา้ ทางดา้ นธรรมนุปัสสนามา จึง วรรณกรรม นามาสู่การฝึกสมาธิในชีวติ ประจาวนั ๔. วรรณกรรมเล่มน้ีดีมาก ผูเ้ ขียนจากประสบการณ์ ต้งั ใจอยา่ งชา้ ๆ ทาความเขา้ ใจ ตรวจสอบ ขอ้ เทจ็ จริงทุกข้นั ตอนและทดลองฝึกปฏิบตั ิธรรม กา้ วขา้ มการติดยดึ สมมติตามตวั อกั ษร เขา้ ไปสู่รูปแบบการปฏิบตั ิธรรมอยา่ งแทจ้ ริง ขา้ มสมมติบญั ญตั ิจากวรรณกรรมเล่มน้ี ไปสู่ความมี คุณค่าทางปัญญา ไดเ้ ป็นอยา่ งดีมาก แนะนาใหอ้ ่าน

๑.สาระเ ื้นอหา ุจดเ ้นน ๒๓๒ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพที่ ๕.๗๙ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “รหสั ลบั บรรลุธรรมแบบเซน” คาสาคญั [ป.๓-๑๙] ๓.กลวิ ีธเขียน จิตเดิมแท้ สุญญตา ปริศนา โลกตุ ร ๔.แนะนาวรรณกรรม ธรรม ธรรม ขนั ธ์ ๕ สมมติ มรรควธิ ี พทุ ธ บญั ญติ ภาวะ รูปนาม ไตรลกั ษณ์ จิต มรรควธิ ี สงั ขาร จิตพทุ ธะ สภาวธรรม ปัญญา จิตสานึก ญาณ รู้ ตารางที่ ๕.๗๙ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง“รหสั ลบั บรรลุธรรมแบบเซน” [ป.๓-๑๙] ข้อ สรุป ๑. เน้นเรื่องจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็ นการบรรลุธรรมแบบเซน จิตตื่นรู้ จิตพุทธะ คือ สภาวธรรมสูงสุดของจิต จากจิตสู่จิต ธรรมแบบเซน ต่ืนรู้อย่างเซน การปฏิบตั ิแบบเซน คือ การปฏิบตั ิแบบไม่มีส่ิงใดการกระทาส่ิงใด การปฏิบตั ิใหเ้ ห็นความเป็ นจิตเดิมแทต้ ามธรรมชาติ ผรู้ ู้แจง้ วา่ สภาพส่ิงบนโลกไม่มีอะไร ไม่เป็ นของใคร นอกจากความวา่ งปรากฏอยู่ อะไรก็ไม่ จริง ไมม่ ีส่ิงใดท่ีเราไดอ้ ะไรจริงในชีวติ ๒. จิตพุทธะ มีปัญญาญาณตามความเป็ นจริงตามธรรมชาติ เหตุปัจจยั ท่ีเหมาะสมจิตจะลุกโพลง ออก พิจารณาเห็นสภาวธรรมแห่งความคิดปรุงแต่งเป็ นมายาพฤติจิต มรรควธิ ีการปฏิบตั ิธรรม ของเซน คือ มรรควธิ ี จากจิตสู่จิต ไม่ยึดติดคาพูดภาษา อกั ขระ พยญั ชนะใด มีเอกลกั ษณ์พิเศษ ในการถ่ายทอดจากพระธรรมคาสอน ช้ีตรงสู่ “จิตพุทธะ” จิตเดิมแทพ้ น้ จากส่ิงสมมติ พุทธ ภาวะ คือ สภาวะสูงสุดแห่งจิต ๓. เน้ือหาสาระองคค์ วามรู้มากมาย ครบองคค์ วามรู้แบบนิกายเซน นิกายเซนแตกตา่ งจากเถรวาท และมหายานอย่างสิ้นเชิง เช่นคาสอน ไร้การปฏิบตั ิ ไม่สอนด้วยภาษาหรือคาพูด มุ่งให้ถึง สภาวธรรมรับรู้สมมติสัจจะดว้ ยตนเอง มรรควธิ ีการตื่นรู้ดว้ ยปัญญาญาณกุญแจไขประตูรู้แจง้ ดว้ ยมายา สรรพสิ่งมีหรือเป็ นไม่จริง สรรพสิ่งกายและจิตล้วนแต่ไม่มีจริง อะไรๆ ก็ไม่จริง ดงั น้นั การทาความเขา้ ใจจะยากมากในการเขา้ ใจเร่ืองนิยายเซน ๔. แนะนาอ่าน เนื่องจากอ่านเขา้ ใจยากเป็ นคาสอนไม่ได้เหมือนกบั ส่ิงที่เคยรู้ คือ พุทธศาสนา เถรวาท แต่เป็ นแบบเซน ในการเขา้ ถึงปัญญาดา้ นต่างๆ เป็ นนิกายเซน องคค์ วามรู้แตกต่างไป จากเถรวาทเกือบท้งั หมด หนงั สือแนะนาให้อ่าน แต่เน้ือหาเขา้ ใจยากมาก แลว้ ยงั เป็ นหนงั สือ แปล อา่ นเขา้ ใจยาก

๒๓๓ แผนภาพที่ ๕.๘๐ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “ศาสตร์แห่งภาวนาการหลอมรวมพุทธศาสนากบั ประสาทวทิ ยา” คาสาคญั [ป.๓-๒๐] เพง่ ฝึ กพลงั จด จิตสานึก พทุ ธปัญญา ภายใน จ่อ มอง จิตวญิ ญาณ จิตไร้ กระบวนการ ความจริง สานึก ทางจิต พรหม จิตอิสระ อายตนะ การหยงั่ รู้ วหิ าร ๔ อตั วสิ ยั บ่มเพาะสติ สร้างสติ ระลึกรู้ ตารางที่ ๕.๘๐ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “ศาสตร์แห่งภาวนาการหลอมรวมพุทธศาสนา กบั ประสาทวทิ ยา” [ป.๓-๒๐] ข้อ สรุป ๑. เน้นมหาสติปักฐาน ๔ ครบทุกดา้ น กาย เวทนา จิต ธรรม ชัดเจนเน้นการฝึ กพรหมวิหาร ๔ ๑.สาระ ุจดเ ้นน นาทาง อธิบายเแนวคิด แนวหลกั ปฏิบตั ิเพ่ือบรรลุถึงฌาน เรียกวา่ สติปัฏฐาน ๔ จดจ่อพิจารณา กายเวทนาจิตธรรม นาไปสู่การตระหนักรู้สิ่งเดียวคือ จิตสานึกเดิมแท้ น้อมจิตไปในสภาวะ ธรรมชาติ การเพ่งพิจารณาภายในบ่มเพาะพลงั การจดจ่อ จิตสานึกจิตไร้สานึก เพ่งพินิจวธิ ีการ ชาระลา้ ง บม่ เพาะสติของกระบวนการทางจิต เฝ้าสังเกตจิต ๒. หลกั การ การมีสติคือเคร่ืองมือหลกั การบรรลุธรรม สมถะตอ้ งอาศยั สัมปชญั ญะ ถา้ ควบคุมจิต ๒.อง ์คความ ู้ร ได้ จะควบคุมสรรพสิ่งได้ จิตมาก่อนปรากฏการณ์ เมื่อเราเขา้ ใจจิตเราเขา้ ใจปรากฎการณ์ได้ กระบวนการทางจิตพิจารณาดว้ ยตนเอง วิธีการ การเพ่งภายในบ่มเพาะพลงั งานการจดจ่อจดั ระเบียบความเป็ นจริงภายในสอดคลอ้ งภายนอก การปฏิบตั ิโดยใชส้ ติไปทากบั ความรู้สึกต่างๆ (เวทนา) สังเกตความเกิดข้ึนและจางหายไป ของความรู้สึกพ้ืนฐานของกายและจิต สุขทุกข์ สงบน่ิงของสมาธิฝึกฝน สร้างเครื่องมือสืบคน้ ปรากฏการณ์ทางจิตแห่งการพินิจภายใน ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. ผูเ้ ขียนมีความรู้ความสามารถ ผสมผสานหลายศาสตร์เขา้ มารวมกบั ในการอธิบายความเร่ือง มหาสติปัฏฐาน ๔ การนากลวิธีของสมาธิภาวนาในพุทธศาสนามาบูรณาการเข้ากับ วทิ ยาศาสตร์ตะวนั ตกเพ่ือหลอมรวมเป็นศาสตร์แห่งการภาวนาจิตสานึก ๔. วรรณกรรมอ่านเขา้ ใจยาก เนื่องจากเป็ นวรรณกรรมแปล และพระพุทธศาสนาสายทิเบต แต่ เน้ือหาสาระดีมาก แนะนาใหอ้ ่านเป็ นอยา่ งย่ิง ถึงแมว้ า่ อ่านทาความเขา้ ใจจะยาก เนื่องจากเป็ น ศาสตร์ดา้ นประสาทวิทยานามาผสมผสานเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ทาให้เน้ือหามีแนววชิ าการ มากไปบา้ ง แต่สาระความรู้เร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ มีความเขม้ ขน้ องคค์ วามรู้มาก แนะนาให้ อา่ นวรรณกรรมเล่มน้ี เป็นอยา่ งมาก แตอ่ า่ นเขา้ ใจยาก

๑.สาระเ ุจดเ ้นน ๒๓๔ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพที่ ๕.๘๑ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “อริยทรัพย์ แห่ง ผรู้ ู้แจง้ หลกั ปฏิบตั ิวา่ ดว้ ยสมั มาทิฏฐิ สัมมาภาวนา และสัมมาจริยา” [ป.๓-๒๑] ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน คาสาคญั ขนั ธ์ ๕ รับรู้ที่ โพธิจิต แรงจูงใจ บริสุทธ์ิ สมั มาทิฏฐิ สมั มา ปัญญา ธรรมชาติ ภาวนา จิต ชาระจิตใจ สงั สารวฏั โยคะ เวทนา บริสุทธ์ิ ธรรมชาติ โพธิจิต ธรรมารมณ์ อารมณ์ จิต เดียว ตารางที่ ๕.๘๑ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “อริยทรัพย์ แห่ง ผรู้ ู้แจง้ หลกั ปฏิบตั ิวา่ ดว้ ย สมั มาทิฏฐิ สัมมาภาวนา และสมั มาจริยา” [ป.๓-๒๑] ข้อ สรุป ๑. เนน้ เรื่องธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน และจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน อธิบายเรื่องโพธิจิต และ สัมมาทิฐิ สัมมาภาวนา และสัมมาจริยา ฝ่ ายมหายานคาสอนตามแนวทางมหายาน โพธิจิตเป็ น แก่นแทข้ องมหายาน การชาระจิตใหบ้ ริสุทธ์ิ โพธิจิต หมายถึง จิตท่ีรู้แจง้ ๑)จิตท่ีอาทรต่อสรรพ สัตว์ ๒)จิตท่ีมุ่งไปทางในปัญญา ฝึ กจิตให้อุบายท่ีเหมาะสมอยูเ่ สมอ ให้จิตมีธรรมะเป็ นฐาน จิต คือ ธรรมารมณ์ ปรากฎการณ์ท้งั ปวงวา่ งเปล่า สิ่งท่ีจิตยึดติด คือว่างเปล่า ปฏิบตั ิดว้ ยจิตท่ี ปราศจากความยดึ ติด ๒. สัมมาทิฐิ สัมมาภาวนา สัมมาจริยา ฝ่ ายมหายานหลกั การปฏิบตั ิตามแนวทาง การชาระจิตให้ บริสุทธ์ิ รากฐานมรรคาฝ่ ายมหายาน คือ โพธิจิต ความปรารถนาท่ีจะบรรลุธรรมเพื่อประโยชน์ สรรพสัตวท์ ้งั มวล ธรรมชาติของจิตทุกสิ่งลว้ นมายา มิไดม้ ีตวั ตนอย่างแทจ้ ริง จงใชอ้ ุบายเป็ น แก่นคาสอนละวางความคิดแลว้ สวดมนตร์ ตอยใู่ นอารมณ์เดียว เรียบง่าย มีรสเป็นหน่ึง ๓. เป็ นหนงั สือวรรณกรรมที่เน้ือหามีความน่าสนใจ แนวทางพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เพ่ือ ความเป็ นแหล่งทาความเขา้ ใจในเรื่องต่าง ๆ เก่ียวกบั การปฏิบตั ิอีกแนวทางหน่ึง แลว้ ผูเ้ ขียนมี องคค์ วามรู้ไดอ้ ยา่ งดี และสาระมากมายในประเด็นต่างๆ ๔. เป็นหนงั สือวรรณกรรมแปล อา่ นเขา้ ใจไดย้ ากท้งั เน้ือหาสาระ ความหมาย ตอ้ งใหม้ ีผมู้ ีความรู้ ความเขา้ ใจมาอธิบายความ อ่านเขา้ ใจยากเน่ืองจากเป็ นสาระเกี่ยวกบั พุทธศาสนานิกายมหายาน และเน้ือหาสาระมาก นามาเป็ นการศึกษาธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตอ้ งนามาศึกษาอ่านหลายคร้ังเพอ่ื ทาความเขา้ ใจอยา่ งลึกซ้ึง และช่วยเสริมแนวทางปฏิบตั ิต่อไปอยา่ งเป็นประโยชน์

๒๓๕ แผนภาพที่ ๕.๘๒ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “จิตดวงสุดทา้ ย” คาสาคญั [ป.๓-๒๒] จิตดวง กรรมผู้ กรรมฐาน สติสาคญั สุดทา้ ย ปฏิบตั ิ สญั ญา มรณสติ กรรม เหนือบุญ นิมิต เหนือบาป ศีล ทุคติภมู ิ วางขนั ธ์ สมั ปชญั ญะ บริสุทธ์ิ ๕ ฝึ กจิต สุคติภมู ิ สติระลึก ปัญญาญาณ รู้ ตารางท่ี ๕.๘๒ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “จิตดวงสุดทา้ ย” [ป.๓-๒๒] ข้อ สรุป ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๑. เนน้ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน (ลมหายใจ) กบั จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน(ตาย) สติ คือ เอาจงใจ เจตนาระลึกรู้กายใจ ด้วยวิธีการต่างๆ ตามดูตามรู้ลมหายใจ การรู้กายใจมี ๒ อย่าง คือ รู้ขา้ ง นอก (สติ) รู้ข้างใน คือ (สติปัฏฐาน) ความเป็ นอยู่ของกายใจเป็ นท่ีต้ังของสติ เรี ยกว่า สติปัฏฐาน การฝึกภาวนาเพือ่ ยอมรับความจริงใหไ้ ด้ ไม่หนีความจริง ๒. หลกั การ สัญญา คือ ความจาไดห้ มายรู้ของจิต ทาหน้าที่ จดจา บนั ทึกภาพเหตุการณ์ เหมือน ๒.อง ์คความ ู้ร ภาพถ่ายวดี ิโอ เก็บไวต้ ลอดทุกภพ วธิ ีการการฝึ กจิต คือ การปฏิบตั ิธรรมเป็ นการหดั ใหจ้ ิตรู้จกั สภาวะตา่ งๆ วา่ มีลกั ษณะอยา่ งไร มีความเพยี รสร้างสัมปชญั ญะเกิดข้ึนตลอดเวลาไม่ขาดสาย มี ความเตรียมพร้อมกบั ความตาย กรรมฐานมีหลายรูปแบบวาระสุดทา้ ยชีวิตฝึ กลมหายใจดีที่สุด จิตสุดทา้ ยคลายขอ้ มูลใหจ้ ิตรับรู้อารมณ์ พาจิตจดจาสภาวะตา่ งๆ แม่นยา ๓. เป็ นการรวบรวมเรียบเรียงธรรมบรรยาย การแสดงธรรม จิตดวงสุดทา้ ย แลว้ เติมเน้ือหาท่ียงั ไม่ ๓.กลวิ ีธเขียน ชดั เจนจากการบรรยายเพิ่มเติมต่อมา อธิบายเร่ือง กรรมจาแนกจิตเป็ นพลงั งาน กฎแห่งกรรม กายเป็ นสสาร จิตดวงสุดทา้ ย จิตต้งั มน่ั กบั ลมหายใจเขา้ ออกตลอดเวลา กรรมฐานมรณะสติการ ระลึกถึงความตาย ถา้ ตายตอนน้ีจิตใจเป็นอยา่ งไร เพ่ือยอมรับความจริง ไมห่ นีความจริง ไม่กลวั ความจริง ยอมรับความจริง ๔. วรรณกรรมเล่มน้ีอ่านง่ายๆ ดว้ ยภาษาทาความเขา้ ใจง่าย เหมาะทนั สมยั สาหรับคนยคุ ปัจจุบนั ๔.แนะนา ทุกคนแสวงหาคาตอบของชีวิต จิตดวงสุดท้ายอธิบายด้วยการเตรี ยมพร้อมรับกบั ความตาย วรรณกรรม อยา่ ง มีสติ ธรรมะตอ้ งมีจากความศรัทธา ความมีเหตุผลอยา่ งมีปัญญา ไมห่ ลงทางไปกบั ความ งมงาย จึงเป็นธรรมะที่เหมาะสมกบั ยคุ ปัจจุบนั เขา้ ถึงธรรมอยา่ งถูกตอ้ งมีปัญญา

๒๓๖ แผนภาพท่ี ๕.๘๓ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “เตโชวปิ ัสสนา เปิ ดประตูนิพพาน” คาสาคญั [ป.๓-๒๓] ทุกข์ วญิ ญาณ จิตคลนื่ จิตคลืน่ ธาตุ ถี่ต่า ความถ่ีสูง โทสะ เตโช สจั ธรรม มิจฉาทิฐิ กิเลส วปิ ัสสนา ชีวติ วาง รหสั ปลงอสุภ ชาระลา้ ง อุเบกขา พนั ธุกรรม จิต เพียรเผา วปิ ัสสนา ธาตุ ๔ วญิ ญาณ กิเลส ธาตุ ตารางท่ี ๕.๘๓ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “เตโชวปิ ัสสนา เปิ ดประตูนิพพาน” [ป.๓-๒๓] ข้อ สรุป ๑. เน้นเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ครบทุกดา้ น โดยแนวคิด ต้งั สติสังเกตกาย เวทนา จิต ธรรม จิต คืออาณาจกั ร จิตอยู่กลางเป็ นรากเหงา้ กิเลส อาตาปี สัมปชาโน สติมา มีความเพียรเผ่ากิเลส ๑.สาระ ุจดเน้น วธิ ีการเตโชวปิ ัสสนา หลกั การ พลงั แห่งสติปฏิบตั ิวิปัสสนาอยา่ งต่อเน่ือง จิตลงสู่จิตให้สานึก ชาระจิตให้บริสุทธ์ิ วิปัสสนาเพื่อชาระจิตให้บริสุทธ์ิ ฝึ กวางจิตเป็ นอุเบกขา วิปัสสนา กรรมฐานคือการเผชิญหน้ากบั ความจริงด้วยการใช้ปัญญาพิจารณาขุดรากกิเลสเครื่องดอง สันดาน วธิ ีฝึ กอุเบกขา คือการรับรู้ความรู้สึกทางกายและใจวางเฉยต่ออารมณ์ที่เกิดข้ึน รับรู้ วางเฉยวางอุเบกขา ใหร้ ู้อนิจจงั ไมเ่ ที่ยง จิตเอาชนะตอ่ กิเลศจิตเป็นอิสระ ๒.องค์ความ ู้ร ๒. จิตคือกาย กายคือจิต แยกกนั ไม่ออก แฝงจุดธาตุไฟในกายเผากิเลส วิธีการเตโชวิปัสสนา หมายถึง การเพ่งดูโดยใช้ธาตุไฟในกายเป็ นเครื่องมือ การเห็นการแตกดับสังขาร ฝึ กวาง อุเบกขา คือ ไม่ปรุงใจไปรับเขา้ มาและส่งออก อุเบกขา คือ แคร่ ับรู้แลว้ วางเฉย ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเ ีขยน ๓. เอาจิตไปพิจารณากาย สังขารคือจิตส่วนสุดทา้ ยที่สะสมปรุงแต่งตามอารมณ์ ชาระจิตให้ บริสุทธ์ิ จิตเป็นพลงั งานที่มีกระแสความถ่ี ท้งั ตาและสูง แลว้ แตส่ ถาวะของจิตคนน้นั คลื่นต่า คือบาปมาก คล่ืนถ่ีคือจิตสะอาดมากวปิ ัสสนากรรมฐานเป็ นการดูให้รู้แจง้ ใหเ้ กิดปัญญาหยงั่ รู้ ไปถึงรากเหงา้ กิเลส กาจดั ความเศร้าหมองในจิตโดยสิ้นเชิง ๔. ท่ีมาของการกล่าวอ้างเกินบรรยายหรือความเช่ือถือ เป็ นตน้ ว่าการอ้างที่มาของการเขียน วรรณกรรมเล่มน้ี และ การใหค้ าตอบวา่ ไดร้ ับการถ่ายทอดวชิ า มาให้แก่ขา้ พเจา้ ผเู้ ดียวในการ ถ่ายทอด ยากแก่ความเช่ือถือพสิ ูจน์กล่าวอา้ ง แมเ้ น้ือหาขา้ งในจะเล่าถึงประสบการณ์หรือการ อธิบายความน่าสนใจก็ตาม แนะนาอาจตอ้ งใชใ้ จอา่ น เกินคาบรรยายใด ๆ อ่านแลว้ ไตร่ตรอง

๒๓๗ แผนภาพท่ี ๕.๘๔ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “นิพพานไมไ่ กลเกินเอ้ือม” คาสาคญั [ป.๓-๒๔] ธาตุ ๔ หาจริตให้ จิตทางาน คิดดว้ ย เจอ ปัญญา หาอุบาย หาปัญญา มรรค ๘ บรรลุ สอนใจ ตวั เอง ธรรม วญิ ญาณ ดูเวทนา อาการจิต ไตร ตวั รู้ ลกั ษณ์ โพธิปักขิย สมั มาทิฐิ ภาวนามย นิพพาน ธรรม ปัญญา ตารางที่ ๕.๘๔ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “นิพพานไม่ไกลเกินเอ้ือม” [ป.๓-๒๔] ขอ้ สรุป ๑. ครบท้งั ๔ ดา้ นเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ โดยดา้ นกาย คือ รักษาศีล ๕ ศีลสาคญั ต่อการปฏิบตั ิ ธรรม สวดมนต์ นง่ั สมาธิ เดินจงกรม ดา้ นเวทนา คือ สภาวะไม่ทุกขไ์ ม่สุข หรืออุเบกขา คือ ๑.สาระ ุจดเน้น ความเป็ นกลาง ดา้ นจิต คือ พฒั นาจิตการชาระกิเลส การใหจ้ ิตทางานวปิ ัสสนาพิจารณาเห็น สิ่งต่างๆ ตามความเป็ นจริงไตรลกั ษณ์ ชาระจิตให้บริสุทธ์ิ คือการเจริญภาวนาจิตต่อยอดจาก อายตนะ ดา้ นธรรมคือ บรรลุธรรม คือ ผลท่ีไดร้ ับความรู้จากทฤษฎีหรือปริยตั ิ นาพระธรรม คาสอนพระพุทธเจา้ ท่ีไดอ้ ่านจากตารา ฟังครูบาอาจารย์ มาปฏิบตั ิจิตยอมรับ กระจ่างปัญญารู้ เห็นธรรมดว้ ยปัญญา พจิ ารณาทุกสิ่งตามความเป็นจริง ๒. แนวคิด ปฏิบตั ิตามแนวสัมมาทิฐิ คือ ความเห็นที่ถูกตอ้ งรู้ทนั ใชป้ ัญญาเห็นความจริง ฝึกสร้าง ๒.องค์ความ ู้ร ปัญญา รู้จกั ความคิดตนเอง รู้จกั เส้นทางบรรลุธรรม หลกั การ ฝึ กคิดดว้ ยปัญญา พิจารณาให้ ชานาญแตกฉาน จิตส่ังสมองไปที่กายให้อารมณ์แสดงออก พฒั นาจิตชาระกิเลส สอนใจ ตนเอง วิธีการ ข้นั ตอนเกิดปัญญา ๑)สุตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการอ่านฟังเล่าเรียนและ โยนิโสมนสิการให้เป็ น ๒)จินตมยปัญญา ๓)ภาวนามยปัญญา ฝึ กจิตให้รู้จกั คิดพิจารณาขอ้ ธรรมที่พระพทุ ธเจา้ นาสอนพฒั นาจิตใจ จนจิตเห็นแจง้ ในธรรม ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. ผเู้ ขียนคน้ หาแนวทางการปฏิบตั ิธรรมมาสอนใจ ละกิเลสตา่ งๆ และใชว้ ธิ ีการศึกษาธรรมและ เขา้ ถึงธรรมจากการอ่านวรรณกรรมของหลวงพอ่ ทูล โดยผเู้ ขียนคน้ หาแนวทางการปฏิบตั ิ ธรรมท่ีเหมาะสมกบั ตนเองผา่ นการทดลองผิดถูก มาพจิ ารณาขอ้ ธรรม ๔. วรรณกรรมเล่มน้ีแนะนาใหอ้ ่านเหมาะสมสาหรับคนรุ่นใหม่ ทนั สมยั คนยคุ ใหม่ โดยต้งั ขอ้ สงั เกตุวา่ การเป็ นฆราวาสแลว้ บวชเป็นพระ เขียนวรรณกรรมไดเ้ ขา้ ใจดีมาก เขา้ ใจไดท้ ้งั ทาง โลกและทางธรรม โดยผสมผสานกลมกลืน ใหก้ าลงั ใจทุกคนใหบ้ รรลุธรรมที่เกิดมาเป็น มนุษย์ ฝึกหดั คิดโดยป้อนขอ้ มูลลงไป ทนั สมยั น่าอา่ น

๒๓๘ แผนภาพที่ ๕.๘๕ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “กรรมตามสมอง” คาสาคญั [ป.๓-๒๕] ฝึ กฝน สะกดจิต จิตใต้ อากาลิโก ตวั เอง สานึก สม่าเสมอ พลงั จิต มโนกรรม สมอง มีสติ จินตนาการ คาสง่ั เกิดดบั จิต รู้สึกตวั สมอง สติ ควบคุมคิด รู้เท่าทนั เรียนรู้ จิต ๑.สาระ ุจดเ ้นนตารางที่ ๕.๘๕ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “กรรมตามสมอง” [ป.๓-๒๕] ข้อ สรุป๒.อง ์คความ ู้ร ๑. เน้นครบท้งั ๔ ด้าน กาย เวทนา จิต ธรรม เป็ นหัวใจการฝึ กสมาธิ คือ รู้เท่าทนั จิต จิตและ๓.กลวิ ีธเขียน ความคิดเกิดดบั ว่องไว การเขา้ ไปดูจิตท่ีวิ่งไปจบั อารมณ์ต่างได้ ตอ้ งฝึ กฝนอย่างสม่าเสมอ การฝึกสมาธิ โดยนง่ั สมาธิ ช่วยใหว้ อ่ งไวต่อการจบั ความเคลื่อนไหวของความคิด เกิดดบั ใน จิตเบ้ืองตน้ เพม่ิ สติเพม่ิ เส้นประสาทสมองได้ ๒. สติ คือ เบรกที่จะถึงจิตของเรากลบั มาอยู่กับปัจจุบนั ขณะ สติจะช่วยให้ดึงพลังงานของ จิตสานึกและจิตใตส้ านึกออกมาใช้งานอย่างเต็มที่ นง่ั สมาธิ คือการน่ังดูลมหายใจ จิตไป ไหนจนจิตกลับมาอยู่กับลมหายใจได้บ่อยๆ จิตสงบเป็ นสุข ฝึ กจิตกลับมาปัจจุบัน ทา สม่าเสมอ สติคือสมาธิ เปลี่ยนแปลงชีวิต เทคนิคการโตค้ ล่ืนความคิด การเอาชนะใจตวั เอง สมองช้นั นอกสุด คือ สติ มีสติอารมณ์หรือความหลงผิดไม่ครอบงาได้ เพราะ รู้ตวั ทว่ั พร้อม อยเู่ สมอ เป็นการรับรู้อารมณ์ มองเห็นอารมณ์อยา่ งชดั เจน ๓. ผูเ้ ขียนมีความทนั สมยั ดา้ นศาสตร์สมยั ใหม่ ดว้ ยศาสตร์ดา้ นจิตวิทยา และพุทธศาสนา นา ความรู้และประสบการณ์ด้านจิตวิทยามาอธิบายความเร่ือง การฝึ กสติ การฝึ กจิต การป้ัน สมอง เรียนรู้หลกั การทางานสมองและจิต จิต พลงั จิต และการทางานจิต ๔.แนะนาวรรณกรรม ๔. วรรณกรรมเก่ียวกับเร่ืองศาสนากบั จิตวิทยา เล่มน้ี บูรณาการความทนั สมัยของศาสตร์ สมยั ใหม่ น่าสนใจเป็ นอยา่ งมาก มีคุณค่าดา้ นวิชาการและการบูรณาการศาสตร์ แนะนาให้ อ่านเป็นอยา่ งยง่ิ อ่านสนุกไดค้ วามรู้ท้งั ศาสตร์สมยั ใหม่ และดา้ นธรรมะปฏิบตั ิ การฝึกสมาธิ เช่น การฝึ กสมาธิโดยการน่ัง ช่วยให้ว่องไวต่อการจดั ความเคล่ือนไหว ของความคิด และ การเกิดดบั ของจิตในเบ้ืองตน้ วรรณกรรมเร่ืองน้ีแนะนาให้อ่านเป็ นอยา่ งย่งิ ผศู้ ึกษาชอบงาน เขียนวรรณกรรมเร่ืองน้ี

๒๓๙ ตอนท่ี ๕.๔ บทสรุปจากวรรณกรรมประเภท ๔) แนวบูรณาการศาสตร์สมยั ใหม่ แผนภาพที่ ๕.๘๖ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง“ไอน์สไตนพ์ บ พระพุทธเจา้ เห็น” คาสาคญั [ป.๔-๑] กาหนดจิต กาหนด โพชฌงค์ วปิ ัสสนา สมั ปชญั ญะ ๗ ญาณ คาบริกรรม ภาวนา ภาวะ ไตร มยปัญญา หยงั่ รู้ ลกั ษณ์ ญาณ๑๖ ญาณทศั นะ ขนั ธ์ ๕ มิติท่ี ๔ ทฤษฎี สมถกรรม อภิญญา รูปนาม สมั พนั ธภาพ ฐาน ๖ ตารางท่ี ๕.๘๖ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจา้ เห็น” [ป.๔-๑]๒.อง ์คความ ู้ร ๒. สาระ ุจดเ ้นน ข้อ สรุป๓.กลวิ ีธเขียน ๔.แนะนาวรรณกรรม๑. ครบท้ัง ๔ ด้าน แต่เน้นการอธิบายเรื่องจิต และปัญญา เช่ือมโยงกัน ตามแนวทาง วิทยาศาสตร์ ความสาคัญที่สุดของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน คือ การกาหนด สติสัมปชญั ญะให้รู้เท่าทนั การเกิดข้ึน ต้งั อยู่ และดบั ไป นาไปสู่การพิจารณาไตรลกั ษณ์ เขา้ ใจถึงอนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา มรรคญาณ การเกิดดบั ของกายเวทนาจิตธรรม ๒. มหาสติปัฏฐาน คือ ขอ้ คน้ พบของพระพุทธเจา้ ทางสายเอกท่ีจะนาไปสู่การหยงั่ รู้เขา้ ใจ สรรพสิ่ง คือ วิถีทางสติปัฏฐาน ๔ คือ วถิ ีทางเจริญสติสมาธิปัญญา เป็ นทางสายเอก คือ การนาสติไปวางฐานท้งั ๔ ฐาน กาหนดสติไวท้ ่ี กาย เวทนา(ความรู้สึก) จิต ธรรม มีสติ กาหนดพิจารณา หลักวิปัสสนากรรมฐาน ตามสติปัฏฐาน ๔ วิถีทางแห่งวิปัสสนา กรรมฐาน ๓. เปรียบเทียบอธิบายหลกั พระพทุ ธศาสนากบั วทิ ยาศาสตร์ ไดอ้ ยา่ งลึกซ้ึง อธิบายไดด้ ีมาก ท้งั ภาคทฤษฎีเช่ือมโยงการปฏิบตั ิ เป็ นแนวทางวิทยาศาสตร์ เป็ นการอธิบายแนวปฏิบตั ิ ตามท่ีผูเ้ ขียนได้เคยปฏิบตั ิธรรม ความรู้ความสามารถท้งั สองศาสตร์ จะเช่ือมโยงและ บูรณาการ แง่มุมท้งั สองไดเ้ ป็ นอย่างดี จะถูกตอ้ งหรือไม่เป็ นเร่ืองไม่มีคาตอบแต่เป็ น มุมมองใหม่ประเดน็ ใหม่ ๔. การเขียนวรรณกรรมความรู้ของผู้เขียนมีส่วนสาคัญ ภูมิประวัติของผู้เขียนและ ประสบการณ์ศึกษา สู่การรับรู้ทางพระพุทธศาสนา เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ตามแนวคิด และแนวทางการปฏิบตั ิ แนะนาให้อ่านด้วยความทนั สมยั ของเน้ือหา และการนาไป บูรณาการศาสตร์สมยั ใหม่

๒๔๐ แผนภาพท่ี ๕.๘๗ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง“ไอน์สไตน์พบ พระพทุ ธเจา้ เห็น II” คาสาคญั [ป.๔-๒] ปรากฎการณ์ ความลบั จิต ญาณ ๑๖ ทางจิต ของแสง จกั รวาล ปัญญาระดบั หยงั่ รู้จิต ศาสนา ญาณ ภาวนามย แห่ง ทศั นะ ปัญญา จกั รวาล บรรลุญาณ อจินไตย ผสั สะ ทวาร๖ มหศั จรรย์ มิติที่ ๔ เจริญสติ เน้ือแท้ ของเวลา จิต ตารางท่ี ๕.๘๗ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “ไอนส์ ไตน์พบ พระพุทธเจา้ เห็น II” [ป.๔-๒]๑. สาระ ุจดเ ้นน ข้อ สรุป๓. กลวิ ีธเขียน ๒. อง ์คความ ู้ร ๑. เป็ นการอธิบายวิทยาศาสตร์กบั ศาสนา สรุปวิธีวิปัสสนากรรมฐานตามหลกั สติปัฏฐาน ๔ เลือกฐานใดฐานหน่ึง ให้ตรงกบั จริตตน แลว้ เพียรปฏิบตั ิอยา่ งต่อเนื่อง ทาถูกวธิ ีต่อเนื่องทุก วนั ภาวนามยปัญญา เป็ นปัญญาท่ีครอบคลุมความจริงท้งั หมด การหยง่ั รู้ความจริง เน้ือแท้ ของโลก คือเน้ือแทข้ องจิต จกั รวาลมากจากจิต จุดหมายการปฏิบตั ิธรรมคือ การฝึ กสติให้ รู้เทา่ ทนั โลก รู้อารมณ์ความรู้สึกของตวั เอง ๒. อจินไตยเรื่องไม่คิดดว้ ยสมองแต่คิดดว้ ยความรู้สึก เพราะสมองเป็ นโครงสร้างธรรมชาติที่ เป็ นแบบสามมิติ อยู่ใต้อิทธิพลแสงและเวลา จะเข้าใจมิติที่สูงกว่า ต้องใช้ปัญญาระดับ ภาวนามยปัญญา เป็ นปัญญาท่ีเกิดจากจิต ปัญญาระดบั ภาวนามยปัญญา เร่ืองของจิตถา้ ทุ่มทุน สารวจเป็นการพสิ ูจน์จิตของตนเองให้รู้เท่าทนั ถ่องแท้ ๓. ประเด็นความรู้ความคิด ความเช่ือวิทยาศาสตร์กบั ศาสนา ความลบั จิตวญิ ญาณ ความรู้ท่ีเป็ น วิทยาศาสตร์แทจ้ ริง รับรู้ความจริงของจกั รวาลทางศาสนา ตอ้ งหาวิธีทาให้มนุษยต์ ิดกิเลส ตณั หาได้ ๔. แนะนาวรรณกรรม ๔. แนะนาใหอ้ ่านเป็นอยา่ งยง่ิ แตต่ อ้ งมีความรู้พ้ืนฐานเรื่องสติปัฏฐาน ๔ มากพอสมควร แนวคิดเชิงบูรณาการพระพทุ ธศาสนากบั นกั คิดนกั วทิ ยาศาสตร์ ความสุขของมนุษยไ์ ม่ได้ เดินทางไปถึงขอบจกั รวาล แตอ่ ยทู่ ่ีการรู้ซ้ึงถึงจกั รวาลภายในจิต เน้ือหาทนั สมยั เหมาะ สาหรับคนยคุ ปัจจุบนั ขอ้ สังเกตวา่ คนในยคุ ใดมกั เขียนงานท่ีเหมาะสมกบั คนในยคุ น้นั ๆ อาจดว้ ยท้งั ความเป็นเวลา และดว้ ยภาษาเดียวกนั

๒๔๑ แผนภาพที่ ๕.๘๘ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง“ทวาร ๖ เกิดดบั ญาณ ๑๖ : ศาสตร์แห่งการรู้ทนั ตนเอง” สญั ญา กาหนด คาสาคญั [ป.๔-๓] เปิ ดทวาร สติ ทวาร๖ รูปนาม รู้ทนั กาหนดรู้ อายตนะ อปุ ทาน ตนเอง ๖ เห็นดว้ ย ความวา่ ง ปิ ดทวาร จิต ปัญญา สุญญตา วปิ ัสสนา ๑. สาระ ุจดเ ้นนตารางที่ ๕.๘๘ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “ทวาร ๖ : ศาสตร์แห่งการรู้ทนั ตนเอง” ๒. อง ์คความ ู้รข้อ สรุป ๑. ความสาคญั อายตนะ ๖ ต่อการฝึ กสติสัมปชญั ญะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือ ทวารในการ๔. แนะนาวรรณกรรม ๓. กลวิ ีธเขียน รับสัมผสั ทาให้เกิดผสั สะ รูป รส กล่ิน เสียง สัมผสั ตน้ กาเนิดเวทนา ตณั หา อุปทาน วิปัสสนากรรมฐาน เน้นที่การเกิดดบั รูปรสกล่ินเสียง สัมผสั แทน การเห็นดว้ ยจิตท่ีฝึ ก แลว้ เป็ นการเห็นความจริงแท้ เป็ นนามธรรม จิตไมม่ ีขอบเขตการมองเห็น กาหนดสติรับรู้ ผสั สะ ฐานกายเป็ นฐานต้งั ทวารท้งั หมด กายกาหนดรู้เท่าทนั ได้ กายเป็ นฐานแข็งแกร่ง กาหนดเวทนา จิต ธรรม ๒. อธิบายเก่ียวกบั ร่างกาย กบั แนวทางวทิ ยาศาสตร์สมั พนั ธ์กนั แนวทางปฏิบตั ิวปิ ัสสนาสมาธิ คลื่นแสง เสียง อธิบาย ตาหูจมูกลิ้นกายใจ กรรมเก่าเกิดจากผสั สะ ๖ ผสั สะทางกายภาพท้งั ๕ คือ ตาหูจมูกลิ้นกาย ในที่สุดมารวมกนั เกิด เวทยา ตณั หา ข้ึนที่ใจ การทางานของจิตไว กวา่ สมองมาก ๓. อธิบายการเชื่อมโยงอายตนะ ๖ กบั หลกั การทางพระพุทธศาสนา ไดอ้ ยา่ งเห็นภาพสร้าง ความรู้ความเข้าใจ อธิบายได้หลากหลาย ทาให้เข้าใจอายตนะภายในและอายตนะ ภายนอก เขา้ ใจฐานกายไปสู่ฐานจิต เชื่อมโยงอายตนะ ๖ มีความสาคญั อย่างมากในการ ปฏิบตั ิธรรม สมาธิวปิ ัสสนา ๔. อธิบายไดอ้ ยา่ งบูรณาการ มีความเชื่อมโยง เชิงศาสตร์สมยั ใหม่และความเป็ นวทิ ยาศาสตร์ เห็นความสาคญั ของทวารท้งั ๖ ศาสตร์แห่งการรู้เท่าทนั ตนเอง การเช่ือมโยงไปสู่เร่ืองสติ ปัฏฐาน เหมือนการต่อเติมใหเ้ ขา้ ใจสมบูรณ์

๒๔๒ แผนภาพที่ ๕.๘๙ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง“เดอะทอ็ ปซีเคร็ต” คาสาคญั [ป.๔-๔] พลงั จิต จิตสร้าง ขนั ธ์ ๕ ทวาร ๖ ใตส้ านึก จกั รวาล ปฏิจสมุ ปบาท โยนิโส สมั ปชญั ญะ กฏแรง ฝึ กสติ พลงั มนสิการ ดึงดูด จกั รวาล ผสั สะ ภวงั คจิต นิพพาน จิต ภาพแห่ง หยงั่ รู้ อธิษฐาน ความรู้สึก องคร์ วม ๑.สาระ ุจดเ ้นนตารางที่ ๕.๘๙ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “เดอะทอ็ ปซีเคร็ต” [ป.๔-๔] ข้อ สรุป ๑. ใชส้ ติสัมปชญั ญะจากการฝึ กฝนซ่ึงไวกวา่ คนในปกตินบั ลา้ นเท่า เพง่ กาหนดไปปรากฏการณ์ เกิดดบั ความไม่เที่ยง จนเกิดภาวนามยปัญญาญาณ หยง่ั รู้ทุกสรรพสิ่งในจกั รวาล รวมไปถึง กฎ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ต่างๆสติทาให้เกิดปัญญา คาวา่ สติปัญญา ไวค้ ู่กนั ปัญญาญาณเขา้ ใจความจริงของธรรมชาติพลงั จิตใตส้ านึก แปลความรู้สึกไวเ้ หตุปัจจยั เหมาะนาไปเจอ ๒.อง ์คความ ู้ร ๒. นามาใชใ้ นทางปฏิบตั ิได้ กฎแรงดึงดูดของความคิด เม่ือรู้วา่ “ความคิดมีแรงดึงดูด”วิธีปฎิบตั ิ เพ่ือการเจริญสติควบคุมความรู้สึกนึกคิดมีพลงั ดึงดูดได้ จิต การปฏิบตั ิวิปัสสนากรรมฐาน พลงั กาย พลงั ใจ พลงั สติปัญญา ถ้าจะอธิษฐานขอ จงขอ พลงั ๓ ขอ้ จงเช่ือ มีศรัทธามน่ั ใจ ตนเองวา่ พลงั กาย พลงั ใจ พลงั สติปัญญา ทุกวนั จะฝึกเจริญสติ ปฏิบตั ิธรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. เป็นวรรณกรรมน่าอ่านนาไปสู่การบูรณาการศาสตร์สมยั ใหม่ คนรุ่นใหม่ ไดด้ ีมาก อธิบายใน เชิงสติปัฎฐาน ๔ วปิ ัสสนากรรมฐานในการนาไปใชป้ ระโยชน์ในยคุ ปัจจุบนั ไดด้ ี เป็นธรรมะ ๔.แนะนาวรรณกรรม แนววทิ ยาศาสตร์ อธิบายเรื่องจิต และประสบการณ์ปฏิบตั ิวปิ ัสสนาของผเู้ ขียน การคน้ พบกฎ แรงดึงดูดทางความคิด ๔. ผู้เขียนกล่าวว่า “วรรณกรรมเล่มน้ีเขียนข้ึนมาเพ่ืออ่านคู่กับวรรณกรรมช่ือก้องโลก “เดอะซีเคร็ต” เป็ นการผสมผสานการค้นพบทางตะวนั ตกเข้ากับศาสตร์อันลึกล้าของ ตะวนั ออก วรรณกรรมท้งั สองเล่มเขียนข้ึนคนละซีกโลก “เดอะซีเคร็ต” มีตน้ กาเนิดมาจาก สหรัฐอเมริกา “เดอะท็อปซีเคร็ต”เกิดประเทศไทย ฟากฝ่ังของโลกพอดี“เดอะซีเคร็ต” ได้อธิบายไวอ้ ย่างชัดเจนแล้วว่า “ความคิดทาให้เกิดอะไร” (What think can do?) และ “เดอะทอ็ ปซีเคร็ต” จะมาอธิบายต่อวา่ “ความคิดทาใหเ้ กิดไดอ้ ยา่ งไร” (How think csn do) ซ่ึง เป็ นคาตอบต่อมาไดว้ ่า ความคิดทาให้เกิดแรงดึงดูดได้เมื่อไร (When think can do?)ท่ีไหน Where think can do?)”

๒๔๓ แผนภาพท่ี ๕.๙๐ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “เดอะท็อปพาวเวอร์พลงั จิตใตส้ านึกพลงั สู่ความสาเร็จ” คาสาคญั [ป.๔-๕] จบั พลงั พลงั พลงั อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด สมอง เขา้ ถึงจิต ภาพแห่ง สง่ั จิตใต้ แรง ใตส้ านึก ความรู้สึก สานึก บนั ดาลใจ ระดบั ภวงั คจิต หยงั่ รู้ เจตสิก ญาณ คิด สติ อารมณ์ ปัญญา ยอ้ นกลบั ญาณ ตารางท่ี ๕.๙๐ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “เดอะทอ็ ปพาวเวอร์พลงั จิตใตส้ านึก พลงั สู่ความสาเร็จ” [ป.๔-๕] ข้อ สรุป ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๑. เนน้ เร่ืองจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน และธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน การบรรลุธรรมเป็ นเรื่อง ของจิต นาไปสู่เร่ืองพลงั จิตใตส้ านึก กรรมฐานตดั อารมณ์ได้ เกิดปัญญาตามแต่ระดบั ญาณ กาจดั อารมณ์ได้ อารมณ์คือสาเหตุแห่งความทุกขส์ ะสมอยใู่ นจิต ผสั สะแบบเดิมมากระทบเกิด ตอบสนองแบบซ้าๆ สติเป็นส่วนของจิต ๒. ความคิดส่งเสริมพลงั จิต คือ ความคิดท่ีเป็ นระบบ มีแบบแผน หรือเป็ นภาพ จิตสานึกยงิ่ ถ่อม ๒.อง ์คความ ู้ร ตนมากเท่าใด จิตใตส้ านึกยง่ิ แสดงพลงั งานมากข้ึนเท่าน้นั สติ คือ การระลึกก่อนลงมือกระทา และขณะกระทา สัมปชัญญะ คือ การรู้ตวั ทวั่ พร้อมในขณะกาลงั ทาความรู้สึกรู้ตวั ขณะน้ัน สัมปชัญญะ เกิดมาระบายกรรมเก่าในจิตใตส้ านึกออกไป จิตระบายกรรมเก่าในรูปแบบ ความรู้สึก จบั ความรู้สึกคือ การควบคุมพลงั แห่งกรรม ๓. ผูเ้ ขียนจบทางวทิ ยาศาสตร์การแพทยม์ าประยกุ ตใ์ ช้ เก่ียวกบั เรื่องการอธิบายการทางานจิต ที่มี ๓.กลวิ ีธเขียน ผลต่อร่างกาย การเขียนแนวพลงั งานจิตใตส้ านึกและพลงั งานความสาเร็จ การควบคุมการ ตดั สินใจทุกเรื่อง แนะวธิ ีปรับเปล่ียนและป้อนขอ้ มูลใหม่ลงจิตใตส้ านึก การดึงพลงั งานจิตใต้ สานึกออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และการนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาวิปัสสนา กรรมฐานมาผสมผสานอธิบายความไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งกนั ๔.แนะนาวรรณกรรม ๔. วรรณกรรมอธิบายเร่ืองจิตใตส้ านึก เป็นวรรณกรรมธรรมะแบบ How to คือ การนาความรู้ทาง พระพุทธศาสนามาอธิบายเชื่อมโยงกบั จิตวิทยา หลกั ธรรมและจิตใตส้ านึกอธิบายความได้ อยา่ งเชื่อมโยง

๒๔๔ แผนภาพที่ ๕.๙๑ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “การปฏิบตั ิสมาธิเพอื่ การ เยยี วยาสุขภาพ ” คาสาคญั [ป.๔-๖] สมาธิ สมาธิ SKT โยคะ บาบดั มิซูกิ เทคนิค จิต จิตใต้ หายใจ ประสาน สานึก กาย หายใจ เพง่ อารมณ์ กาหนด จิต สะกดจิต ความรู้สึก ประสาท จิตต้งั มนั่ บงั คบั จิต เยยี วยา จินตภาพ กาย ตารางท่ี ๕.๙๑ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “การปฏิบตั ิสมาธิเพอื่ การเยยี วยาสุขภาพ” [ป.๔-๖]๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียนข้อ สรุป ๑. เนน้ เร่ืองกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นการฝึกสมาธิเพอื่ การเยยี วยารักษาโรค การปฏิบตั ิ สมาธิดว้ ยการหายใจ เทคนิคการหายใจการรับรู้รสดว้ ยการหายใจ เป็นเร่ืองความรู้สึกตวั จิตบาบดั แบบ SKT เป็นการฝึกสมาธิแบบบาบดั โดยสมาธิคือกระบวนการจดั ระบบการ ทางานประสาท เริ่มส่วนท่ีต้งั ของสติ ท่องคากาหนดความรู้สึกไปท่ีอวยั วะ ๒. สมาธิ คือ จิตต้งั มนั่ นึกถึงสิ่งใดสิ่งเดียว จิตมีความสงบเพง่ อยอู่ ารมณ์เดียวไม่ฟุ้งซ่าน เป็น วธิ ีการบงั คบั จิตใตส้ านึกบริหารจิตใตส้ านึก เพ่อื เอาพลงั มาใชป้ ระโยชน์ การหายใจตาม เทคนิค ๑-๗ ต้งั ใจฝึกอยา่ งต่อเน่ืองทุกวนั ฝึกตอ้ งใหจ้ ดจ่อจุดพลงั เฝ้าดูการไหลเวยี น ทดสอบพลงั โดยการสังเคราะห์เคล่ือนไหวอยา่ งมีสมาธิ ๓. เป็ นการเรียบเรียงเป็ นตอนๆ เทคนิค ๑) นง่ั ผอ่ นคลายประสานกาย ประสานจิต ๒) ยนื ผอ่ น คลายประสานกายประสานจิต ๓) นง่ั ยดื เหยียดผอ่ นคลายประสานกายประสานจิต ๔) กา้ ว ยา่ งอยา่ งไทยเยยี วยาประสานจิต ๕) ยดื เหยยี บอยา่ งไทย เยยี วยากายประสานจิต ๖) เทคนิค ฝึกสมาธิเยยี วยาไทยจินตภาพ ๗) เทคนิคสมาธิเคล่ือนไหว ไทยซี่กง ๔. รายละเอียดการฝึกการปฏิบตั ิสมาธิเป็นตอนๆ ของหนงั สือวรรณกรรม การปฏิบตั ิตาม แนวทางวธิ ีการปฏิบตั ิ แตล่ ะข้นั ตอนอธิบาย

๒๔๕ แผนภาพที่ ๕.๙๒ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “พทุ ธศาสนาในฐานะเป็นรากฐาน ของวทิ ยาศาสตร์” คาสาคญั [ป.๔-๗ ] การรับรู้ ผสั สะ ปัญญา แดนจิต กาลาม ฉนั ทะ อเุ บกขา อนุมาน สูตร สจั ธรรม โยนิโส ศรัทธา ความ มนสิการ จริง พชื นิยาม จิตตนิยาม กรรม ธรรม นิยาม นิยาม ๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระเ ุจดเ ้นนตารางที่ ๕.๙๒ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “พุทธศาสนาในฐานะเป็นรากฐานของวทิ ยาศาสตร์”[ป.๔-๗] ข้อ สรุป ๑. เน้นเรื่องธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้ความหมายศาสนาพุทธกับวิทยาศาสตร์ ถือว่า ศรัทธาเป็ นเรื่องสาคญั เช่ือมนั่ ในศกั ยภาพของมนุษยพ์ ฒั นาปัญญาให้เขา้ ใจกฏธรรมชาติ มี ความศรัทธาในธรรม ธรรมชาติทวั่ ไป ภายนอกและภายในตวั มนุษย์ ที่ไดพ้ ฒั นา ความใฝ่ รู้ใน ความจริงในธรรมชาติ ๒. อธิบายวธิ ีการหาความรู้ พุทธศาสนาเอาวธิ ีการหาความรู้ หาความจริงมาใชก้ บั มนุษย์ เป็ น เป้าหมายและแกไ้ ขปัญหาของมนุษย์ เจตคติของพทุ ธ คือ การมองส่ิงท้งั หลายตามหลกั แห่ง เหตุและผล และทา่ ทีของส่ิงท้งั หลายตามเหตุปัจจยั มองดว้ ยท่าทีแห่งการเรียนรู้ ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ๓. เป็นการเรียบเรียงจากคาบรรยายธรรม เป็นการบรรยายทางธรรมแลว้ นามารวบรวม เป็ น หนงั สืองานเขียนเล่าเพมิ่ เติมตรวจสอบ ตามความเหมาะสมเพอื่ การเผยแพร่ ๔. หนังสือวรรณกรรมเรื่องน้ี ความน่าสนใจ คือ ความทันสมัยการเรียนรู้ด้วยวิธีการทาง วทิ ยาศาสตร์กบั แนวทางพระพุทธศาสนา ความเขา้ ใจวธิ ีการจะทาใหแ้ นวทางการสร้างความรู้ ทางศาสตร์เป็นระบบ ดว้ ยหลกั การและเหตุผล พุทธศาสนาเป็นรากฐานของวทิ ยาศาสตร์

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๔๖ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพที่ ๕. ๙๓ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “ธรรมชาติของร่างกายและจิต” คาสาคญั [ป.๔-๘] ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน ขนั ธ์ ๕ สงั ขาร อายตนะ จิตสานึก ปรุงแต่ง รู้สึกตวั เชลล์ ศรัทธา อบรมจิต ประสาท อริยสจั ๔ จิตสานึก ระบบ ระบบ ประสาท ประสาท สภาว รับรู้จิต สญั ญาณ วญิ ญาณ ธรรม ตารางท่ี ๕.๙๓ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง เร่ือง “ธรรมชาติของร่างกายและจิต” [ป.๔-๘] ข้อ สรุป ๑. เน้นครบท้งั ๔ ดา้ น กาย เวทนา จิต ธรรม กล่าวถึง ร่างกาย ระบบประสาท รูปธรรมของจิต สมองศูนยก์ ลางประสาท จิตสานึก สภาวะของจิตแห่งการรู้สึกตวั ชีวิตประกอบดว้ ย กายจิต ทางานของเซลล์ต่าง ๆ การพิจารณาให้รู้เห็นตามความเป็ นจริง กาย เวทนา จิต ธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสมองมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์ประสาทหลายพนั ล้าน รวมตวั กนั ทาหนา้ ที่เป็นกลุ่มขนั ธ์ เป็น เวทนา สญั ญา สังขาร วญิ ญาณ ๒. พทุ ธศาสนาเป็นการเรียนรู้จากภายใน เรียนรู้จากความจริงของธรรมชาติ อธิบายเร่ืองระบบจิต ตามแนวทางสติปัฏฐาน ๔ กาย รูปเป็ นพลงั งาน เวทนาเป็ นส่ิงรับรู้ส่ิงเร้าเป็ นอารมณ์สนองใจ จิตเป็ นธาตุรู้ วญิ ญาณรับรู้ จดั ประมวลผลเกิดเป็ นเสวยอารมณ์ สมองเป็ นเคร่ืองมือของจิต มี วิญญาณทาหน้าที่รับรู้สัญญาณ อายตนะ เกิดเป็ นจิตสานึก หัวใจศาสนา คือ การเรียนรู้กับ ธรรมชาติของจิต เป็นการเช่ือมโยงองคค์ วามรู้วทิ ยาศาสตร์ ทฤษฎีจิตสานึก วญิ ญาณการรับรู้ ๓. ผูเ้ ขียนมีความสามารถในองค์ความรู้ และการเรียบเรียงขอ้ มูลให้มีความเขา้ ใจเป็ นประเด็น แยกเป็ นเร่ือง สอดคล้องกัน นาเสนอเป็ นภาพประกอบและตารางอธิบายความ ตามอย่าง รูปแบบงานหนงั สือเป็นดา้ นวชิ าการ ๔. เป็ นหนงั สือวรรณกรรมที่เห็น ท้งั ลกั ษณะหนงั สือ รูปภาพประกอบ ผเู้ ขียนมีความสามารถใน การถ่ายทอดให้เขา้ ง่าย แมจ้ ะเป็ นเรื่องยากแก่ความเขา้ ใจ หนังสือดี ภาพประกอบสวยงาม อธิบายเป็ นวิทยาศาสตร์ น่าอ่าน มีคุณค่า เชื่อมโยงภาคทฤษฏีและปฏิบตั ิ เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ อธิบายความเช่ือมโยงระบบประสาท สมอง ไปสู่จิต ควรนาไปศึกษาและอ่านโดยละเอียด ใหค้ วามรู้ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๔๗ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพท่ี ๕.๙๔ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “จิตวทิ ยาของความดบั ทุกข”์ คาสาคญั [ป.๔-๙] ๓.กลวิ ีธเขียน ขนั ธ์ ๕ รูปนาม ญาณ ทวาร ๖ ๔.แนะนาวรรณกรรม อารมณ์ ตน้ จิต มรรค วสิ ุทธิ ๘๗ วปิ ัสสนา ญาณ ไตร สภาวะ ญาณ ๑๖ ปัญญา ลกั ษณ์ ธรรม ทิฏฐิ ภาวนามย จิต ผสั สะ วสิ ุทธ์ิ ปัญญา กาหนด ตารางท่ี ๕.๙๔ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “จิตวทิ ยาของความดบั ทุกข”์ [ป.๔-๙] ข้อ สรุป ๑. อธิบายเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ ครบ แต่เนน้ เร่ืองจิต และธรรม อธิบายเรื่องวิปัสสนาญาณ ๑๖ อธิบายลกั ษณะญาณต่างๆ อยา่ งเป็ นข้นั ตอน ท้งั เป็นภาคทฤษฎีและวธิ ีการปฏิบตั ิ พระพุทธศา นากบั จิตวิทยา สาเหตุการเกิดความทุกข์ คือ ตณั หา ปฏิจจสมุปบาท คือ วงจรของความทุกข์ การพฒั นาจิตเพ่อื การพน้ ทุกข์ ตามหลกั วสิ ุทธ์ิ ๗ และ วิปัสสนาญาณ ๑๖ การฝึกสมาธิ คือ การ ฝึกจิต จิตบริสุทธ์ิคือจิตที่ปราศจากเครื่องเศร้าหมอง คือ นิวรณ์ท้งั หลาย ๒. ความบริสุทธ์ิแห่งความเห็น คือ ทิฏฐิวิสุทธิ เมื่อผา่ นจิตตวิสุทธิแล้ว คือ ความเห็นที่บริสุทธ์ิ เห็นชอบถูกตอ้ งตามความเป็ นจริง สัมมาทิฏฐิ การฝึ กสมาธิคือ การฝึ กใจให้สงบและต้งั มนั่ วิธีการวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนา ตามหลกั อริยสัจ ๔ ไตรลกั ษณ์มกั ปรากฏชดั แก่ผปู้ ฏิบตั ิ คือ ทุกขเวทนาท่ีมีอาการต่างๆ ผปู้ ฏิบตั ิตอ้ งต้งั สติกาหนดอาการต่างๆ ซ่ึงเป็ นทุกขเวทนา ตาม ความเป็นจริง ลกั ษณะการกาหนดอาการพองยบุ การกาหนดการเกิดดบั ของรูปนาม ๓. เขียนแนวภาคทฤษฎีและวิธีการปฏิบตั ิ ไดอ้ ย่างถ่องแทล้ ึกซ้ึง อา้ งอิงอย่างมีความชัดเจน มี เหตุผลเป็ นอยา่ งมาก มีการเรียงตามลาดบั ข้นั ตอน เป็ นตรรกะการเขียนหนงั สือเป็ นอยา่ งเขา้ ใจ ผูเ้ ขียนอธิบายความไดอ้ ย่างมีความเช่ือมโยงเป็ นระบบแนวความคิดเป็ นอยา่ งดี ผูเ้ ขียนสนุก เขียนเป็ นประเด็นที่ใชค้ าง่ายทว่ั ไป แต่มีสาระเป็ นตวั ตนของผูเ้ ขียนเอง ทาให้งานวรรณกรรม อา่ นไดป้ ระโยชน์โดยแทจ้ ริง ๔. เป็ นหนงั สือวรรณกรรมที่ดีมาก สาระเนน้ ลึกเขา้ ไปแต่ละประเด็นรายละเอียด เหมาะกบั ผอู้ ่าน มีพ้ืนความรู้ พ้ืนฐานเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ แนะนาครบถว้ น การอธิบายตามเร่ืองมหาสติปัฏ ฐาน ๔ และตามหลกั การในพระไตรปิ ฎกอีกด้วย ท้งั การอา้ งอิงและคมั ภีร์พระพุทธศาสนา เหมาะสาหรับผอู้ ่านท่ีมีพ้นื ฐานความรู้ที่ตอ้ งการพฒั นาต่อไป เป็นการตอ่ ยอด

๒๔๘ แผนภาพที่ ๕.๙๕ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง กระบวน เจตสิก “ชีวติ พระพุทธศาสนา และ วทิ ยาศาสตร์” จิต คาสาคญั [ป.๔-๑๐] สภาวะ อาการของ จิต ผสั สะ เจตสิก จิต สภาว ธรรม ปัญญา นิพพาน สจั ธรรม อนตั ตา อนตั ตา จิตสานึก กฎแห่ง ธรรมชาติ ทิฏฐิ จิตไร้ สานึก ตารางท่ี ๕.๙๕ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “ชีวิต พระพุทธศาสนา และ วทิ ยาศาสตร์” [ป.๔-๑๐]๑.สาระ ุจดเ ้นน ขอ้ สรุป๒.อง ์คความ ู้ร ๑. เน้นเรื่องกาย และ จิต เป็ นกระบวนการศึกษาและทาความเข้าใจเรื่อง จิต ชีวิต และ๓.กลวิ ีธเขียน ธรรมชาติ การแสวงหาขอ้ เท็จจริงเชิงประจกั ษท์ างรูปธรรมเนน้ กระบวนการเรียนรู้ ศึกษา ชีวิตเรียนรู้ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พระพุทธศาสนาอธิบายปรากฎการณ์ทาง๔.แนะนาวรรณกรรม ธรรมชาติ อาศยั ขอ้ เท็จจริงประจกั ษ์ นามธรรม วทิ ยาศาสตร์แสวงหาขอ้ เทจ็ จริงประจกั ษ์ นามธรรม ๒. แนวทางการศึกษาหาความจริงของธรรมชาติ การบรรลุเป้าหมาย การดบั ทุกข์ ดว้ ยวิธีการ ปฏิบตั ิตาม มรรค ๘ การเรียนรู้ตามธรรมชาติและชีวติ แนวการศึกษาพระพุทธศาสนาเป็ น วิทยาศาสตร์สหวิทยาการ ประมวลความรู้เป็ นวิทยาการสาขาต่าง ๆ ปรากฎการณ์ ควอนตมั แห่งจิต จิตเป็ นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ ไตรลักษณ์เป็ นธรรมชาติ พฒั นา แบบจาลองการรับรู้การตอบสนอง ธรรมชาติชีวติ วงจรชีวติ กฎแห่งกรรม ๓. เป็ นหนังสื อวรรณกรรมชุดวิชาการเน้นหาสาระเน้นด้านวิชาการ เน้ือหาทางด้าน วทิ ยาศาสตร์ พุทธวทิ ยาศาสตร์ที่เช่ือมโยงกนั ไดเ้ ป็ นอย่างดี มีภาพประกอบความรู้ความ เข้าใจได้ง่าย และตารางอธิบายความเน้ือหาสาระด้านต่างๆ อ่านแล้วมีความเข้าใจ ธรรมชาติกาย และจิต เรียนรู้พุทธศาส นาแห่งชีวิตเป็ นวิทยาศาสตร์ เป็ นหนังสื อ วทิ ยาศาสตร์ ๔. เป็นหนงั สือที่น่าอา่ น เหมาะสมสาหรับผมู้ ีความสนใจเช่ือมโยงศาสตร์สมยั ใหมก่ บั ดา้ นจิต ตามแนวทางพระพุทธศาสนา เป็ นการสร้างความเข้าในสาหรับยุคปัจจุบนั ที่ต้องการ คาตอบดา้ นต่างๆ อยา่ งเป็นระบบวทิ ยาศาสตร์ใหม้ ีความน่าเชื่อถือ

๒.อง ์คความ ู้ร ๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๔๙ ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียนแผนภาพท่ี ๕.๙๖ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเรื่อง “ความลบั ของจกั รวาลทางแห่งนิพพาน” คาสาคญั [ป.๔-๘] วปิ ัสสนา รู้เท่าทนั ญาณ จกั รวาล กรรมฐาน อาการจิต ทฤษฎี จิตสมอง สภาวะ สมอง สมั พนั ธภาพ แยกกนั นิพพาน วา่ ง ทฤษฎี รู้เท่าทนั ความวา่ ง ผสั สะ ควอนตมั อาการจิต ความลบั มิติ ๕ สูญญตา ความ เวลา วา่ ง ตารางท่ี ๕.๙๖ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “ความลบั ของจกั รวาลทางแห่งนิพพาน” [ป.๔-๑๑] ข้อ สรุป ๑. อธิบายเร่ืองจิตกับจกั รวาล เน้นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน อธิบายความมีเหตุผลทางมิติ จกั รวาล และเจา้ กรรมนายเวร จกั รวาลเกิดจากจิตเมื่อเขา้ ใจจิตจะเขา้ ใจจกั รวาล จิตเป็ นคนละ ส่วนกบั สมอง จิตแยกจากสมอง จิตกบั สมองเป็นคนละส่วนกนั ๒. สภาวะนิพพานเป็ นสภาวะท่ีเป็ นกลาง ว่างจากกิเลสตณั หา การบรรลุสภาวะนิพพานทาได้ ในขณะมีชีวติ คือ สติแยกออกไปจากจิตและสมอง แต่ยงั มีรูปขนั ธ์อยู่ ฌานวา่ ง คือ เอาความ วา่ งมาเป็ นอารมณ์ของจิต จะเกิดปิ ติสุข ว่างจากความคิดท้งั ปวง และลมหายใจตวั เองยงั ไม่ รับรู้ จิตตดั กระแสการรับรู้ ท้งั ผสั สะทวารท้งั ๖ ๓. เขียนแทรกเร่ืองจิตไวใ้ นเรื่องวิทยาศาสตร์ อธิบายหลกั ธรรมะและวิทยาศาสตร์ ใช้หลัก วทิ ยาศาสตร์ผสมผสานกบั หลกั ธรรมะ ๔. อา่ นแลว้ เขา้ ใจทางเน้ือหาทฤษฎีทางวทิ ยาศาสตร์ แลว้ นาหลกั พุทธศาสนามาผสมผสาน เล่มน้ี อ่านแลว้ ไม่สนุก เพราะเน้นเน้ือหาวิทยาศาสตร์มาเกินไป ไม่ค่อยเน้นเรื่องนิพพานตามช่ือ เร่ืองวรรณกรรม

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๕๐ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพที่ ๕.๙๗ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “ธรรมชาติของสรรพสิ่ง : การเขา้ ถึงความจริงท้งั หมด” ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน คาสาคญั [ป.๔-๑๒] ขนั ธ์ ๕ อายตนะ จิต บรรลคุ วาม ภายใน วญิ ญาณ จริง ใจรับรู้ สมอง ธรรม อิสรภาพ รมณ์ จิต ฝึ กรู้สึกตวั โพธิจิต อารมณ์ วญิ ญาณ ทางสาย เช่ือมโยง ความ อิทปั กลาง จริง ปัจจยตา ตารางท่ี ๕.๙๗ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “ธรรมชาติของสรรพสิ่ง : การเขา้ ถึงความจริงท้งั หมด” [ป.๔-๑๒] ข้อ สรุป ๑. ครบทุก ๔ ดา้ น เนน้ เร่ืองจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน กล่าวถึง จิตวิญญาณ กบั การเจริญ สติ ๔ ใหร้ ู้กายท้งั ปวง อานาปานสติ ฝึกรู้ลมหายใจ เดินจงกรม เจริญสติใหร้ ู้เวทนา เกิด ความรู้สึกใดๆ ตามความรู้สึกน้ัน สุขทุกข์เฉยๆ เจริญสติให้รู้จิต สภาพจิตในขณะ กาหนดรู้มีราคะ ไม่มีราคะ เจริญสติรู้ธรรม หวั ขอ้ ธรรม นิวรณ์ ๕ อายตนะ โพชฌงค์ อริยสัจ มหาสติปัฏฐาน ๔ คือ มีสติอยใู่ นฐานท้งั ๔ ๒. การเขา้ ถึงความจริงของส่ิงท้งั หมดของธรรมชาติสรรพสิ่ง บรรลุความจริง ความงาม และความดี ความสุข และอิสรภาพ วิธีคิดแบบอิทปั ปัจจยตา เหตุปัจจยั เห็นกระแส กระบวนการ รู้อยา่ งเช่ือมโยง คิดอยา่ งเป็ นกลาง ทาให้มีปัญญารู้เห็นธรรมชาติตามท่ี เป็นจริง การฝึกรู้ตวั เอง (การเจริญสติ) การระลึกรู้ ๓. แนวความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และพทุ ธศาสนา วธิ ีการเรียนรู้เชิงบูรณาการถึงธรรมชาติ สติคือ ความรู้สมาธิตอ้ งแนวแน่เป็นจุดเดียว ผเู้ ขียนมีความรู้ความสามารถเขา้ ใจเรื่องท่ี เขียนไดเ้ ป็นอยา่ งดี อธิบายไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจสาระเน้ือหามีหลายตอน ระเอียดเป็ นอยา่ งดี อา่ นแลว้ มีความรู้ความเขา้ ใจ ๔. เป็ นหนงั สือวิชาการแนวปรัชญาการเรียนรู้ผสมผสานบรูณาการกบั ศาสตร์สมยั ใหม่ อธิบายเรื่องสาระ มีเหตุผลทางวิชาการแมว้ า่ จะมีศพั ทเ์ ฉพาะทางมากไปก็ตาม เป็ นการ อธิบายท้งั หลกั การและวธิ ีการปฏิบตั ิ แนะนาสาหรับผอู้ ่านท่ีสนใจความรู้เชื่อมโยงกบั วทิ ยาศาสตร์และพุทธศาสนาในยคุ ปัจจุบนั เป็ นข้นั ตอนวธิ ีการเปรียบเทียบ และวธิ ีการ เขา้ ใจทางปัญญา เป็นหนงั สือวรรณกรรมที่มีคุณคา่ อยา่ งยง่ิ

๒๕๑ แผนภาพท่ี ๕.๙๘ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง อภิญญา เจตสิก “พระพุทธเจา้ พลิกใจ ไอนส์ ไตน์พลิกโลก” ญาณ สงั ขาร หยง่ั รู้ ขนั ธ์ คาสาคญั [ป.๔-๑๓] ทวาร ๖ ฌาน ๔ ขนั ธ์ ๕ สญั ญาในจิต ธาตุ ๔ เวทนาขนั ธ์ พลงั จิต จินตนา การ รู้ดว้ ยจิต ภาวนามย ปัญญา พนั ธุ วบิ ากรรม กรรม ๑.สาระ ุจดเ ้นนตารางท่ี ๕.๙๘ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “พระพทุ ธเจา้ พลิกใจ ไอนส์ ไตน์พลิกโลก ” [ป.๔-๑๓] ๒.อง ์คความ ู้รข้อ สรุป ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน๑. เนน้ เรื่องกาย และเรื่องจิต ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งกายและจิต การแยกสติออกมาเป็ นผูด้ ู โดย สติปัฏฐาน ๔ คือ การกาหนดรู้เท่าทนั อาการของกาย อาการของใจ อาการของจิต การคิด เป็ นการกาหนดรู้โดยไม่ตอ้ งเพง่ เพียงแต่เฝ้าดูอาการที่เกิดการเปลี่ยนแปลง กายเคล่ือนไหว จิตเคลื่อนไหว หลกั การปฏิบตั ิวปิ ัสสนากรรมฐานตามหลกั สติปัฏฐาน ๔ คือ การใชก้ าลงั สติ เขา้ ไปพิจารณาขนั ธ์ ๕ ๒. อธิบายแกนหลกั การคน้ พบทางโลกทางธรรม การคน้ พบสามารถเปลี่ยนจิตใจมนุษยแ์ ละ เปลี่ยนแปลงโลกได้ สติเป็ นองคป์ ระกอบของจิต ถา้ แยกสติออกมาเป็ นผดู้ ูจะสามารถดึงจิต ได้ หลุดออกมาจากความคิดได้โดยอตั โนมตั ิ คนส่วนใหญ่ปล่อยจิตไปผสมกบั ความคิด ก่อให้เกิดรักโลภโกรธหลง จิตเดิมแทป้ ระภสั สร เมื่อดึงสติออกมาเป็ นผูด้ ู จะเห็นความคิด อยา่ ชดั เจน ๓. วเิ คราะห์สิ่งท่ีพระพุทธเจา้ สงั่ สอน ขอ้ คน้ พบไดอ้ ยา่ งลึกซ้ึง นกั คิดนกั วทิ ยาศาสตร์ ผเู้ ขียน อธิบายไดอ้ ยา่ งชดั เจน อธิบายเช่ือมโยงส่ิงที่พระพุทธเจา้ คน้ พบกบั ทฤษฎีทางวทิ ยาศาสตร์ยคุ ใหมส่ อดคลอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนา ขนั ธ์ ๕ ธาตุ ๔ ในร่างกายมนุษย์ ๔. วรรณกรรมอ่านสนุก นาธรรมะมาเช่ือมโยงกบั วทิ ยาศาสตร์ มาอธิบายร่วมกนั อยา่ งตกผลึก ในความคิดของผเู้ ขียน อ่านสนุกอธิบายเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ ไดอ้ ยา่ งบูรณาการกบั ศาสตร์ สมยั ใหม่ เป็นวรรณกรรมธรรมะแนววทิ ยาศาสตร์ แทรกเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔

๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒๕๒ ๒.อง ์คความ ู้รแผนภาพท่ี ๕.๙๙ แผนที่ความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “พทุ ธปรัชญา : มองพุทธศาสนาดว้ ยทรรศนะทางวทิ ยาศาสตร์” [ป.๔-๑๔] ๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน คาสาคญั ญาณวทิ ยา พทุ ธภว จริย ศาสนวทิ ยา วทิ ยา ศาสตร์ วญิ ญาณ จิตหลดุ อวชิ ชา ปัญญา นิยม พน้ วทิ ยา มโน พทุ ธ กลามสูตร อกั ซิโอ สมั ผสั ปรัชญา พระสูตร ปรุงแตง่ ผสั สะ ปัญญา จิต แทจ้ ริง ตารางท่ี ๕.๙๙ บทสรุปจากวรรณกรรมเร่ือง “พุทธปรัชญา : มองพุทธศาสนาดว้ ยทรรศนะ ทางวทิ ยาศาสตร์” [ป.๔-๑๔] ข้อ สรุป ๑. เนน้ เรื่องธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน โดยนาเร่ืองพุทธปรัชญามาอธิบายความตามทรรศนะ ทางวิทยาศาสตร์ เพ่ือเกิดความรู้ความเขา้ ใจเรื่องต่างๆ นาไปสู่วธิ ีการเขา้ ถึงธรรมตามระบบ ทางวิทยาศาสตร์ นาปรัชญามาวิเคราะห์พระพุทธศาสนา ญาณวทิ ยาของพระพุทธศาสนา คือ การกาเนิดความรู้ของมนุษย์ ปัญญา คือ วิทยาการว่าด้วยความหลุดพน้ และวิถีทาง นาไปสู่ความหลุดพน้ จากกิเลส ๒. ความรู้เก่ียวกบั เรื่องระเบียบวธิ ีการศึกษาทางพระพทุ ธศาสนา เป็ นส่ิงสาคญั ต่อความรู้ความ เขา้ ใจ การเกิดและแนวทางท่ีแทจ้ ริงพุทธปรัชญาอธิบายความเขา้ ใจต่อระบบศาสนาไดแ้ ก่ เร่ือง ศาสนวทิ ยาและจริยสงั คมวทิ ยา การกาเนดและการเผยแพร่พระพุทธศาสนา แนวทาง ที่แทจ้ ริงของพุทธปรัชญา พุทธภววทิ ยา วิทยาอกั ซิโอในพุทธปรัชญา ญาณวิทยา ปัญญา อนั แทจ้ ริง จริยศาสตร์ ๓. ผูเ้ ขียนมีความรู้องค์ความรู้เรื่องทางพระพุทธศาสนาเป็ นอย่างดี หลากหลายอธิบายความ โดยนาแนวทางศึกษาเชิ งปรัชญามาศึกษาเรื่ องราวต่างๆอธิ บายความเรื่ องการได้มาซ่ึ ง ปัญญา ผเู้ ขียนเป็นผมู้ ีความรู้ความสามารถในระดบั สูง ๔. หนังสือวรรณกรรมเร่ืองน้ี เน้ือหาสาระดีมา ทาให้อ่านทาความเขา้ ใจไดย้ ากตามาก เนื่อง ดว้ ยองคค์ วามรู้ระดบั สูง ยงั ตอ้ งใชเ้ วลาศึกษาอ่านทาความเขา้ ใจอีกหลายคร้ัง หรือหาผรู้ ู้ท่ีมี ความสามารถในการอธิบายความไดม้ าอธิบายความให้เขา้ ใจ อ่านเขา้ ใจยากมาก เหมาะ สาหรับใชเ้ พ่ือการเรียนปรัชญามากกวา่ เป็นหนงั สืออ่านเล่นทว่ั ไป

๒๕๓ แผนภาพที่ ๕. ๑๐๐ แผนท่ีความคิดและคาสาคญั จากวรรณกรรมเร่ือง “ปัญญา” จิตวสิ ยั คาสาคญั [ป.๔-๑๕] มโน การรับรู้ กาย อารมณ์ ภาพ สมั ผสั โลก ทรรศน์ จินตนาการ การนึก ผสั สะ อุปมา ถึง สะสม ขอ้ เทจ็ อนุมาน ปัญญา จริง การนึกถึง ความคิด สญั ลกั ษณ์ ตารางท่ี ๕.๑๐๐ บทสรุปจากวรรณกรรมเรื่อง “ปัญญา” [ป.๔-๑๕]๑.สาระ ุจดเ ้นน ๒.อง ์คความ ู้รข้อ สรุป ๑. เน้นเรื่องธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ด้านปัญญา คือ หลกั วิทยาศาสตร์อย่างกวา้ งขวางท่ีสุด๔.แนะนาวรรณกรรม ๓.กลวิ ีธเขียน เป็ นปรัชญาวิทยาศาสตร์ การมองโลกในแง่ต่างๆ กนั ตามโลกทรรศน์ ปัญญา คือ หลกั โลก ภายนอกที่มนุษยไ์ ดผ้ า่ นวทิ ยาศาสตร์มาแลว้ เป็ นผลการสะสมขอ้ เทจ็ จริงจากโลกภายนอกเป็ น เวลานานด้วยเทคนิคอย่างสูง การหาข้อเท็จจริงให้ได้มาก คิดให้น้อย สัจธรรมสมบูรณ์ คือ ขอ้ เทจ็ จริงลว้ นๆที่ต่อยอดเก่ียวโยงกบั ความสมั พนั ธ์ สร้างจากขอ้ เทจ็ จริงที่เกิดข้ึน ๒. ปัญญาเป็ นจุดกาเนิดและกระบวนการพัฒนาทางปัญญาของมนุษยชาติ คือหลักการทาง วิทยาศาสตร์ ความรู้มาจากไหน พระเวท ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ การคิด และความรู้ท่ีไดม้ าจากผสั สะ การรับรู้ การคิดคืบไปจากการรับรู้ เคร่ืองช่วยคิด อุปมา และเรื่องวิธีการทางวิทยาศาสตร์ใน การสะสมปัญญา ปัญญามาจากไหน วทิ ยาศาสตร์สะสมปัญญาอยา่ งไร ๓. ผเู้ ขียนมีความสามารถอยา่ งสูงในการทาความเขา้ ใจเชิงปรัชญาทางวทิ ยาศาสตร์ การใชภ้ าษา ของผเู้ ขียนเองที่ตกผลึกทางความคิดแลว้ มาเป็นอยา่ งดีนามาสู่การเขียนองคค์ วามรู้ถ่ายทอดเป็ น ตวั หนังสือ การใชภ้ าษามีคาเฉพาะทาความเขา้ ใจยากมาก และเน้ือหาท่ีมีองค์ความรู้อนั มีค่า มากมาย ตอ้ งใชเ้ วลาเรียนรู้นานพอสมควร ๔. หนังสือวรรณกรรมเล่มน้ี อ่านทาความเขา้ ใจยากมากเน้ือหาเป็ นนามธรรม และรูปแบบคา เฉพาะ และเป็ นเน้ือหามากมาย เป็ นงานเขียนท่ีมีคุณค่าอย่างสูงมาก แต่ทาความเขา้ ใจเน้ือหา สาระไดย้ ากมาก ทาความเข้าใจยาก เป็ นนามธรรมระดบั สู ง และเน้ือทางวิทยาศาสตร์ตอ้ ง อาศยั การอธิบายความมาทาความเขา้ ใจ

๒๕๔ อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ ๑) การสารวจวรรณกรรมปัจจุบัน จานวน ๑๐๐ เล่ม จาแนกลกั ษณะงานเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ แบ่งไดเ้ ป็น ๔ ประเภทวรรณกรรม ดงั ต่อไปน้ี ๑) แนววชิ าการ จานวน ๑๕ เล่ม ร้อยละ ๑๕ ๒) แนวคา สอนครูบาอาจารย์ จานวน ๔๕ เล่ม ร้อยละ ๔๕ ๓) แนวนกั เขียนคิดคน้ จานวน ๒๕ เล่ม ร้อยละ ๒๕ ๔) แนวบูรณาการศาสตร์สมัยใหม่ จานวน ๑๕ เล่ม ร้อยละ ๑๕ อธิบายตามลักษณะประเภท ๑) วรรณกรรมแนววิชาการ หมายถึง หมายความถึง หนงั สือเก่ียวกบั เร่ืองมหาสติปัฏฐาน ที่ผูเ้ ขียนนาเสนอ เป็ นวิชาการ อ้างพระไตรปิ ฎก อ้างอิงคาบาลีเพื่ออธิบายความ เน้ือหาสาระเป็ นการอธิบายรูปแบบ วรรณกรรม แนวทางวชิ าการ ประเภท ๒) วรรณกรรมแนวคาสอนครูบาอาจารย์ หมายความถึง คาสอน ครูบาอาจารยอ์ ธิบายเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ตามภาคทฤษฎีและปฏิบตั ิของสายครูบาอาจารย์ ประเภท ๓) วรรณกรรมแนวนกั เขียน หมายความถึง งานเขียนที่ผเู้ ขียนไดค้ น้ คิดเรื่องสติปัฏฐาน ๔ ตามแนวทางความรู้ ความเขา้ ใจเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ประเภท ๔)วรรณกรรมแนวบูรณาการศาสตร์สมยั ใหม่ หมายความถึง หนงั สือที่ผูเ้ ขียนได้นาหลกั การเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ไปบูรณาการเขียนกบั ศาสตร์สมยั ใหม่ หรือการนา หลกั การสติปัฏฐาน ๔ ไปประยกุ ตใ์ ช้ วรรณกรรมปัจจุบนั เร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ แสดงให้เห็นถึงความ อธิบายเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ หลายมุมมองหลายรูปแบบวิธีการเขา้ ถึงเพื่อทาความรู้ความเขา้ ใจเรื่องมหา สติปัฏฐาน ๔ กระบวนการไดม้ าซ่ึงความรู้ความเขา้ ใจทางพระพุทธศาสนา นาสู่การอธิบายความเชิงงาน วชิ าการงานวิจยั เป็ นความยากเป็ นอยา่ งย่ิงตอ้ งใชเ้ วลาทาความเขา้ ใจอยา่ งต่อเน่ืองและยาวนาน ไม่เพียงแค่ ภาคทฤษฎีเท่าน้นั ยงั ตอ้ งเช่ือมโยงต่อภาคปฏิบตั ิดว้ ยจึงส่งผลดี ท่ีจะเขา้ ใจเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ งานวจิ ยั เรื่องน้ีจึงเป็นเพียงการสืบจากหนงั สือวรรณกรรมท่ีมีอยใู่ นปัจจุบนั ไปยงั เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ๒) การวิเคราะห์วรรณกรรม พบว่า ๑) ด้านแนวคิด พบว่า สมาธิสร้างเกิดพลงั อานาจเหนือ ความรู้สึกตวั กูของกวู า่ งจากตวั ตน ใชก้ ารเรียนรู้โดยการปฏิบตั ิเขา้ ถึงความเป็ นจริงแห่งวิถีการบรรลุธรรม โดยจุดเริ่มตน้ การภาวนาอยูท่ ี่ใจนาจิตไปสู่การปฏิบตั ิ สร้างความสงบภายในโดยการเห็นอย่างลึกซ้ึงสู่ ความเป็ นอริยบุคคล ๒) ดา้ นหลกั การ พบว่า การฝึ กภาวะจิตให้สงบ เพ่งจิตให้นิ่ง ดูจิต ต้งั จิต และ พฒั นาจิต ยกจิตข้ึนสู่วปิ ัสสนาใหจ้ ิตเห็นไตรลกั ษณ์ นาธรรมมาพิจารณาสร้างปัญญาญาณ ยกระดบั จิตไปสู่ ภาวะจิตด้ังเดิมท่ีไม่ปรุงแต่ง ๓) ด้านวิธีการ พบว่า ดูลมหายใจให้ถูกวิธีโดยฝึ กจิต มีสติอยู่กับกาย ความรู้สึก จิต ปรากฎการณ์ นาฌานสู่ญาณใช้จิตตามดู สู่จิตวา่ ง อาศยั ฐานกาย เวทนา จิต และธรรม และ สร้างการรู้ตวั พิจารณารูปนาม วางใจเป็ นอุเบกขา ต่อทุกสภาวธรรม เขา้ ใจรู้จกั ส่ิงที่เกิดข้ึนตามความเป็ น จริงกฎของไตรลกั ษณ์ ๓) การสังเคราะห์เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ผลการศึกษาพบว่า ๑) ดา้ นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน พบวา่ ร่างกายเป็นท่ีต้งั ของความรู้สึก ศีลบริสุทธ์ิจะรักษากายวาจาใจ กายเป็ นท่ีปฏิบตั ิธรรม เป็ นท่ีประชุม แห่งความจริง เพ่งกาย ตามรู้กาย นาลมหายใจเอาสติมาต้งั ไวแ้ ละทาความรู้ตวั ฝึ กอิริยาบถใหญ่ย่อย การ เคลื่อนไหวเป็ นอุปกรณ์กรรมฐานสร้างความรู้สึกตวั และความตระหนกั รู้อยา่ งมีสติ ๒) ดา้ นเวทนานุปัสส

๒๕๕ นาสติปัฏฐาน พบวา่ เนน้ อารมณ์ปัจจุบนั ทาความรู้สึกตวั ผสั สะกระทบอายตนะภายในภายนอก มีสติตาม รู้เวทนา เวทนาอาศยั รูปเกิด ปรุงแต่งเวทนาท่ีไหนกาหนดที่น้ัน ให้รู้ทุกข์ท่ีต้งั ไว้ กาหนดอาการนาม ลกั ษณะต่างๆ สุข ทุกข์ อุเบกขา ตอ้ งวางเป็ นกลางใหม้ ีสัมปชญั ญะควบคุม สติกาหนดชดั จะเห็นอารมณ์ชดั ๓) ดา้ นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน พบวา่ ความบริสุทธ์ิแห่งจิต จิตเดิมแทไ้ ม่ปรุงแต่ง สติกาหนดจิตตามรู้ จิต ท่ึต้งั แห่งการทางานจิตคือกรรมฐาน จิตมองเห็นดว้ ยตาใจจิตตภาวนาเครื่องมือพฒั นาจิตให้สูงฝึ กฝน จิตใหจ้ ิตต้งั มนั่ ต่ืนตระหนกั รู้ สร้างดวงจิตดว้ ยปัญญา ๔) ดา้ นธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน พบวา่ ความเห็น แจง้ ทางปัญญา มรรค ๘ อริยสัจ ๔ คือทางดบั ทุกข์ สัมมาทิฐิเป็ นประธานไดป้ ัญญารู้ตามความเป็ นจริง วิปัสสนาญาณ คือ ความเห็นแจง้ ในรูปนาม เคร่ืองกาหนดพิจารณาแจ่มแจง้ รู้เขา้ ใจในเหตุปัจจยั ท้งั ปวง เขา้ ใจสภาวะธรรมตามความเป็นจริง พจิ ารณาไตรลกั ษณ์ อนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา ๔) ลกั ษณะวรรณกรรมปัจจุบันเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ การศึกษาหนงั สือวรรณกรรมแต่ละเร่ือง สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ไดค้ ือ การเทียบเคียงองค์ความรู้เดิมท่ีมีอยู่ในตวั ผูศ้ ึกษาวิจยั ท้งั เรื่องภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบตั ิ วเิ คราะห์ผลดีคือทาใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจปัญญาในประเด็นเรื่องศึกษา แต่วิเคราะห์ผลไม่ดี คือ อะไรท่ีเป็ นเร่ืองประเด็นไม่สอดคลอ้ งกบั ความรู้ความเขา้ ใจเดิม ต่างกนั ไปมาก ทาให้มีความเขา้ ใจยาก จึงให้เทคนิคการศึกษาท่ีว่า ทาความเขา้ ใจวางใจเป็ นกลาง สิ่งใดเห็นถ้าอะไรตรงขา้ มกบั ความเชื่อเดิม ความรู้ ก็อย่าไปคดั คา้ นและอย่าไปยอมรับ ภาษาการสื่อสารเรื่องมหาสติปัฏฐานผ่านลายลกั ษณ์อกั ษร วรรณกรรม สังเกตว่า เมื่ออ่านแล้วศึกษาแล้วมีความสุข หรือ เมื่ออ่านแล้วรู้สึกอึดอัดปนความทุกข์ หมายถึงการถ่ายทอดไปยงั ผูอ้ ่าน การส่ือสารภาษาทางธรรมยอ่ มเขา้ ถึงธรรม ความหมายภาษาธรรม คือ การเขา้ ถึง การเขา้ ใจ การนาไปลงมือปฏิบตั ิเพ่ือความแจ่มแจง้ ถา้ คิดยึดติดภาษาสมมติบญั ญตั ิจะเขา้ ใจยาก มีผลต่อการปฏิบตั ิธรรมเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ ติดขดั ดว้ ยความลงั เลสงสัยในธรรม ตอ้ งปฏิบตั ิโดยไม่ สนใจสมมติบญั ญตั ิ แลว้ เขา้ ใจวา่ ภาษาธรรมไมม่ ีคาวา่ ภาษา ภาษาการส่ือสารธรรมเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ เป็นความสาคญั การสื่อสารสิ่งท่ีเป็นระดบั นามธรรม ตอ้ งแทนดว้ ยคาสาคญั ในระดบั รูปธรรม จึงทาใหเ้ กิด ความเขา้ ใจรูปธรรมในคาสาคญั แต่ละคา ก็ไม่อาจสื่อสารไดค้ รบทว่ั ไป จาตอ้ งแยกบุคคลท่ีนาไปสู่ความ เขา้ ใจดว้ ยระดบั นามธรรมไม่เท่าเทียมกนั เนื่องดว้ ยจากระยะเวลาการฝึ กปฏิบตั ิการอ่านทฤษฎีทาความ เขา้ ใจ ยอ่ มมีความแตกต่างกนั ท่ีเขา้ ถึงธรรมเน้ือหาสาระเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ แต่สุดทา้ ย เม่ือนาไปสู่การปฏิบตั ิต่างๆ ล่วนภาษาลายลกั ษณ์อกั ษรแทบไม่มีความจาเป็ นทุกอยา่ งตอ้ งทิ้งไปกลบั ไปสู่ ภายในจิต กายความเป็ นนามธรรมท่ีตอ้ งเขา้ ใจดว้ ยตนเอง จนแทบไม่ตอ้ งมีภาษาหรือคาลญั ลกั ษณ์ใดๆ มา แทนความหมาย ๕) เรื่องมหาสตปิ ัฏฐาน ๔ ไม่อาจเขา้ ใจดว้ ยการศึกษาจากการอ่านวรรณกรรมเพียงอยา่ งเดียว ตอ้ ง ทาการเรียนรู้และทดลอง ทดสอบ จากการปฏิบตั ิตามแนวทาง เป็ นเรื่องท่ียากท่ีสุด ตามเข้าใจผู้ศึกษา ขอ อธิบายวา่ กาย หมายถึง ร่างกาย เวทนา หมายถึง ความรู้สึกอารมณ์เช่ือมต่อจากกายและจิตปรุงแต่ง จิต อยู่ ตรงกลางระหว่าง ๓ ส่วน ร่างกาย ความรู้สึกอารมณ์ และสมองความคิด จิตรับรู้ได้ทุกอย่างจิตจึงมี ความสาคญั เป็นอยา่ งมากท่ีสุด เป้าหมายสุดทา้ ยของการเจริญสติคือการจิตชาระสะอาดบริสุทธ์ิ แต่เป็ นสิ่ง ท่ียากที่สุดอาศยั เวลายาวนาน แต่ทาไดด้ ีคือ การฝึ กสติ สร้างสติ อยูก่ บั สติเป็ นปัจจุบนั ไดด้ ี นาไปสู่การไม่

๒๕๖ นาจิตใตส้ านึกมาทางาน หมายถึง กรรมเก่าท่ีเคยผา่ นมาสะสมหลายชาติ สติจะช่วยตดั กรรมเก่าท่ีมาจาก จิตใต้สานึก การวิเคราะห์เร่ื องมหาสติปั ฏฐาน ๔ ประกอบด้วย ๔ ด้านกายเวทนาจิตธรรมเป็ น ส่วนประกอบกนั และกนั เพียงแต่ขณะช่วงเวลาน้นั การเขา้ ถึงสภาวธรรมจะใช้อะไรเป็ นฐานการพิจารณา แต่ส่ิงท่ีอยูส่ าคญั หรือหัวใจเรื่องสติปัฏฐาน ๔ คือฐานจิต วา่ ดว้ ยดา้ นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน หมายถึง การพิจารณาจิต การเปล่ียนแปลงจิต การชาระลา้ งจิตให้ไปสู่กุศลกรรม การศึกษาเรื่องสติปัฏฐาน เป็ น การศึกษาจากหนงั สือวรรณกรรม และเป็ นเรื่องมีระดบั นามธรรมสูงมาก ความเขา้ ใจเขา้ ถึง ตอ้ งอาศยั ท้งั จากหนงั สือและการปฏิบตั ิธรรมอยา่ งควบคู่กนั ระดบั เขา้ ใจข้ึนอยูก่ บั ภูมิหลงั ดว้ ย จึงยากศึกษาและอธิบาย ความไดอ้ ย่างชดั เจน แต่ดว้ ยหลายเร่ืองวรรณกรรมประเภทแนวนกั เขียนคิดคน้ จะกล่าวถึง วธิ ีการปฏิบตั ิ สติปัฏฐาน ไม่มีรูปแบบและวธิ ีการจะข้ึนกบั การตีความหมายและการอธิบายความของผศู้ ึกษาปฏิบตั ิเอง เป็นการแสวงหาแผน่ ที่ความคิด และแผน่ ท่ีทางเดินไปสู่ทางพน้ ทุกข์ ดงั น้นั จึงเป็นการสรุปไดว้ า่ ไม่มีอะไร ผดิ หรือถูกเพยี งแต่จะยืนจุดใดมองและจุดที่ยนื จิตผนู้ ้นั จะเห็นอะไร จะนากายเวทนาจิตธรรมไปใชอ้ ยา่ งไร แนวการเขียน พบวา่ วรรณกรรมปัจจุบนั เร่ืองมหาสติปัฏฐานเป็ นลกั ษณะการเรียบเรียง การเขียนจากคา บรรยายคาเทศนาคาบรรยาย และแบบแนวท้งั สองแนว นางานวิทยานิพนธ์มาตีพิมพเ์ พ่ือเผยแพร่งานเขียน การอธิบายท่ีตอ้ งมีความเช่ือมโยง การสร้างธรรมะในรูปแบบภาพการ์ตูนเน้นเป็ นประเด็น การนาเสนอ แบบเรียบเรียงเป็นตอนความคิด วธิ ีการปฏิบตั ิและวธิ ีการคิด เหมาะสมกบั ยคุ สมยั ปัจจุบนั ความเชื่อศรัทธา ที่ตอ้ งการเหตุผล ชวนเพ่ือลงมือปฏิบตั ิ การสร้างความเช่ือมโยงท้งั ภาคทฤษฎีและการปฏิบตั ิ การใชภ้ าษา เรียบง่ายผเู้ ขียนผอู้ า่ นเขา้ ใจการปฏิบตั ิธรรม ๖) ด้านผู้อ่าน เขา้ ใจหลกั ธรรมเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ เป็ นพระสูตรช้นั สูง ทาให้ความเขา้ ใจเรื่อง สภาวธรรม หลายอย่าง รูปธรรมและนามธรรมต่างกนั การสื่อความรู้ความเข้าใจ โดยอาศยั หนังสือ วรรณกรรมอ่านนาความเขา้ ใจเอง จึงทาให้เป็ นท่ีเขา้ ใจคนทวั่ ไปไดย้ าก ตอ้ งข้ึนอยูก่ บั การสะสมความรู้ ความเขา้ ใจ ภาคทฤษฎีและการปฏิบตั ิ มากพอ จึงเขา้ ใจ ผูอ้ ่านที่มีประสบการณ์ ตีความหมายความเอง ท้งั ตวั ลายลกั ษณ์อกั ษร ความหมายคานิยาม ความหมายขอ้ ความ และท่ีสาคญั คือ ผ่านการปฏิบตั ิภาวนา วิปัสสนาภาวนาในรูปแบบต่าง ๆ มาก่อน จึงตีความหมายหนงั สือเล่มน้นั ได้ สรุปวา่ ความรู้ความเขา้ ใจ เรื่องมหาสติปัฏฐาน มากจากประสบการณ์การสั่งสมความรู้ของผอู้ ่านมามากความตามระดบั ธรรม จึงผล ต่อความเขา้ ใจในระดบั ธรรมแตกต่างกนั เป็นขอ้ เสนอผลจากการศึกษาวจิ ยั ๗) ด้านผู้เขียน ความสามารถสื่อสารดว้ ยองค์ความรู้แทจ้ ริง เม่ืออ่านหนงั สือศึกษาวรรณกรรม พบวา่ ความหลากหลายวิธีการและรูปแบบเทคนิค และที่สาคญั คือ ความสามารถผเู้ ขียนเชิง ๑)องคค์ วามรู้ เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๒) ความสามารถในการส่ือสารภาษา จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมให้เขา้ ใจ ดว้ ยภาษา เรียบง่าย หรือภาษาธรรมแทจ้ ริง ๓) ประสบการณ์ดา้ นการปฏิบตั ิวิปัสสนาภาวนาของผูเ้ ขียนเอง มีผลต่อ งานวรรณกรรมเร่ืองน้นั ดว้ ยความมีประสบการณ์ องคค์ วามรู้การส่ือสารจะเป็ นลกั ษณะการตกผลึกไม่มี การลอกเลียนตารา หรือ คมั ภีร์มากล่าวอา้ งอยา่ งมากมายทาใหเ้ ขา้ ใจไดย้ ากกวา่ เดิม ถา้ ไม่มีความเขา้ ใจทาง ธรรมโดยประสบการณ์ตรงของผูเ้ ขียน งานเน้ือหาเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔ ก็เป็ นเพียงการนาขอ้ ความมา เรียบเรียงต่อกนั นาขอ้ ความจากแหล่งต่างมารวบรวม ติดต่อกนั เรียงร้อยกนั เท่าน้นั เอง ไม่ไดม้ ีประเด็นที่

๒๕๗ เป็ นองค์ความรู้อะไรใหม่เกิดข้ึนมา เพียงแต่นาเอาองค์ความรู้ของครูบาอาจารยห์ รือสายการปฏิบตั ิตาม รูปแบบที่เป็ นการยอมรับมากล่าวอา้ งเท่าน้ันเอง ๔)ระบบภาษาธรรมตอ้ งสื่อสารออกจากภาษาจิต เร่ือง มหาสติปัฏฐาน ๔ ตอ้ งใชภ้ าษาเรียบง่ายเขา้ ใจไดง้ ่าย เป็ นภาษาตวั ผูเ้ ขียนเอง ภาษาธรรมตอ้ งเป็ นภาษาท่ีมี ความบริสุทธ์ิ แมจ้ ะใชค้ าบาลีไปบา้ ง กอ็ า่ นไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจง่ายๆ ๘) ข้อเสนอแนะของผู้ศึกษาวจิ ัย พบวา่ การอธิบายความแนวทาง เทคนิคคาอธิบายท้งั เรื่องแนวคิด ทฤษฎีและการปฏิบตั ิเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ตามคาสอน แนวคิด วธิ ีการ เช่ือมโยง มีหลากหลายวิธีการ หลายแนวทางแล้วนาไปสู่การมีความแตกต่างกนั ตามลกั ษณะวรรณกรรมและแนวทางการนาเสนอใน รูปแบบวรรณกรรมปัจจุบัน แต่ละเร่ืองวรรณกรรมเหมาะจึงเหมาะกับแต่ละวตั ถุประสงค์ และความ ตอ้ งการของผูอ้ ่านเป็ นสาคญั ฐานกาย ฐานเวทนา ฐานจิต และฐานธรรม เป็ นองคป์ ระกอบของเรื่องมหา สติปัฏฐาน 4 จะแยกเป็ นเฉพาะดา้ นไม่ได้ ข้ึนอยูก่ บั วา่ ขณะสติปัจจุบนั เกิดข้ึนจะเลือกใชอ้ ะไรเป็ นฐานนา สติหรือเป็ นฐานที่ต้งั ของสติ ตามลกั ษณะการเนน้ ของหนงั สือวรรณกรรมแต่ละเร่ืองของการเขา้ สู่ความรู้ ความเขา้ ใจ และเชื่อมโยงไปสู่การฝึ กปฏิบตั ิไดอ้ ย่างเหมาะสม ฐานกายเป็ นฐานฝึ กฐานความจริง ฐาน เวทนาเป็ นฐานฝึ กการเช่ือมโยงกายไปสู่จิต ฐานจิตเป็ นสร้างสติฝึ กจิต ฐานธรรมเป็ นการฝึ กคิดฝึ กไตร ลกั ษณ์ ทุกอยา่ งคือส่วนประกอบขณะเวลาน้นั ๆ ข้ึนอยูก่ บั ผปู้ ฏิบตั ิ จะเลือกทางอยา่ งไร ขอ้ จากดั งานวจิ ยั เร่ืองน้ี เป็ นมุมมองแบบภาพกวา้ งไกลวรรณกรรมหลายเรื่อง ทาให้การมองเห็นอยา่ งกวา้ งแต่ไม่ลึกซ้ึงแต่ ละเร่ือง เราก็ไม่มองเห็นความแตกต่างออกไป ความเหมือนกนั ระเบียบการเขา้ ถึงเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ เป็ นเรื่องยาก ตอ้ งอาศยั เทคนิคทางวิชาการหรือเทคนิคงานวจิ ยั ทาใหม้ ีความเหมาะสมกบั ยุคสมยั ของผูค้ น ปัจจุบนั ครูบาอาจารยท์ ่ียงั คงมีชีวิตในยุคปัจจุบนั กบั ครูบาอาจารยม์ รณภาพไปแลว้ มีความแตกต่างกนั เรื่องคาอธิบายเรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ความเขา้ ใจเขา้ ถึงจะเปล่ียนแปลงไปตามเหตุปัจจยั ความสมยั ใหม่ ของยคุ สมยั ๙)งานวิจัยประเด็นเร่ืองทีน่ ่าสนใจ ต่อจากเรื่องน้ี คือ การศึกษาแนวคาสอนครูบาอาจารยจ์ ากโลก โซเชียลมีเดีย สังคมออนไลน์ โดยผา่ นจาก You tube ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยคี วามสมยั ปัจจุบนั ทา ให้เขา้ ถึงขอ้ มูลไม่ยาก แต่ดว้ ยความเร็วของคล่ืน ไม่วา่ เป็ น Facebook Twitter Instragram ความรวดเร็ว ของเวลา เปลี่ยนผา่ นสังคมไปอยา่ งเร็วมากตามไม่ทนั ดงั น้นั การศึกษาเรื่องมหาสติปัฏฐาน หรือเร่ืองของ สติ โดยเฉพาะคาสอนท่ีมาจากน้าเสียงของท่านครูบาอาจารยน์ าการบนั ทึกคาสอนของทา่ นผา่ นเสียงบนั ทึก ที่มีการเผยแผธ่ รรมะจากสงั คมออนไลน์ ซ่ึงโดยบางส่วนจะไม่มีวรรณกรรมไดเ้ ขียนบนั ทึกไวเ้ ป็นหนงั สือ วรรณกรรม เป็ นเรื่องที่น่าทางานวิจยั ในคร้ังต่อไปมากจะเติมเต็มองค์ความรู้เรื่อง มหาสติปัฏฐาน ๔ ไดอ้ ย่างสวยงาม และครบถว้ น ส่ิงท่ีผูศ้ ึกษาวิจยั อยากรู้ต่อจากเร่ืองน้ี คือ การเขา้ ถึงรูปแบบมหาสติปัฏ ฐาน ๔ โดยเฉพาะในมุมมองแต่ละด้าน และในสายตาของชาวต่างประเทศที่หันมาสนใจเรื่องภายใน กาย ภายในจิต เป็ นความทา้ ทายความเชื่อมโยงต่อโลกยุคสมยั ต่อไป ธรรมะของพระพุทธเจา้ เป็ นของ กลาง เป็นของบริสุทธ์ิ ผมู้ ีความทุกข์ ยอ่ มขอความคุม้ ครองจากธรรมะแทบ้ ริสุทธ์ิของคาสอนพระพุทธองค์

๒๕๘ บรรณานุกรม พระไตรปิ ฎกภาษาไทย ฉบบั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . ๒๕๓๙. พระสุตตนั ตปิ ฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๑๐ . ที.ม.(ไทย) ๑๐/๓๗๒/๓๐๑ . หนา้ ๓๐๑. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยตุ ฺโต). ๒๕๕๓.พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบบั ประมวลธรรม. โรงพมิ พเ์ พ่มิ ทรัพยก์ ารพมิ พ์ : นนทบุรี. พิมพค์ ร้ังท่ี ๑๘. หนา้ ๑๔๑. พระมหาสมบูรณ์ วฑุ ฺฒิกโร. วรรณกรรมพระพทุ ธศาสนาในสงั คมยคุ ใหม่. http://www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=446&articlegroup_id=102.. (คน้ เม่ือ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๙) พิชญรัชต์ บุญช่วย. การศึกษากระบวนการสร้างภาวนา ๔ โดยใชห้ ลกั ไตรสิกขา. ๒๕๔๙. วทิ ยานิพนธ์พทุ ธศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพระพทุ ธศาสนา มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . วทิ ย์ ศิวะศริยานนท์ วรรณคดีและวรรณคดีวจิ ารณ์. ๒๔๓๑. บริษทั โรงพมิ พไ์ ทยวฒั นาพานิช จากดั กรุงเทพฯ. พิมพค์ ร้ังท่ี ๑. ร่ืนฤทยั สจั จพนั ธุ์. วรรณกรรมปัจจุบนั . ๒๕๔๗. สานกั พิมพม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง : กรุงเทพฯ พิมพค์ ร้ังท่ี ๑๔. สรัญญา โชติรัตน์ . การสังเคราะห์วทิ ยานิพนธ์เรื่องมหาสติปัฏฐาน ๔ ของมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ระหวา่ งปี พุทธศกั ราช ๒๕๔๐–๒๕๕๕. ๒๕๕๙. วทิ ยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบณั ฑิต (สาขาพระพทุ ธศาสนา) มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . บทคดั ยอ่ สุชีพ ปุญญานุภาพ. พระไตรปิ ฏกสาหรับประชาชน. ๒๕๕๐. โรงพิมพม์ หามกุฏราชวิทยาลยั กรุงเทพฯ. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑๗. หนา้ ๓๓๖-๓๓๗ . สุธีรา สตั ยพนั ธ์. 2551. งานของ \"ดงั ตฤณ\" ในฐานะวรรณกรรมพุทธศาสนาแนววฒั นธรรมประชานิยม http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/16205 วทิ ยานิพนธ์อกั ษรศาสตรมหาบณั ฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (คน้ เม่ือ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๙)

๒๕๙ รายช่ือหนังสือวรรณกรรมนามาสังเคราะห์ (จานวน ๑๐๐ เล่ม) เล่มท่ี ปก อธิบายลกั ษณะทว่ั ไปของวรรณกรรม ๑ รหัส ป.๑-๑ วรรณกรรมเร่ือง“ธรรมะภาคปฏิบตั ิ ๖ (Buddhist Meditation VI)” ผู้เขียน คณาจารย์มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๒ ป. ๑-๒ วรรณกรรมเร่ื อง“ธรรมะภาคปฏิบัติ ๗ (Buddhist Meditation VII)” ผู้เขียน มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๓ ป.๑-๓ วรรณกรรมเรื่ อง “ธรรมะภาคปฏิบัติ ๓ (Buddhist Meditation III)” ผู้เขียน คณาจารย์มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พิมพ์ คร้ั งท่ี ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลยั จุฬาลงกรณราชวิทยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๔ ป.๑-๔ วรรณกรรมเร่ือง“สมาธิ : ฐานสู่สุขภาพจิตและปัญญาหยง่ั รู้” ผู้เขียน พระพรหม คุณำภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) พิมพ์คร้ังที่ ๙ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สำนักพิมพ์ศยำม : กรุงเทพมหำนคร ๕ ป. ๑-๕ วรรณกรรมเรื่ อง “ธรรมะภาคปฏิบัติ ๕ (Buddhist Meditation V)” ผู้เขียน มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพ์ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๖ ป.๑-๖ วรรณกรรมเรื่ อง “ธรรมะภาคปฏิบัติ ๔ (Buddhist Meditation IV)” ผู้เขียน คณาจารย์มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พิมพ์ คร้ั งที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพม์ หาวทิ ยาลยั จุฬาลงกรณราชวิทยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๗ ป.๑-๗ วรรณกรรมเร่ื อง “ธรรมะภาคปฏิบัติ ๑ (Buddhist Meditation 1)” ผู้เขียน คณาจารย์มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๑ สานกั พิมพม์ หาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๘ ป.๑-๘ วรรณกรรมเร่ือง “วิปัสสนากรรมฐานตามรอยพระพุทธองค์” ผู้เขียน ศรีศายอ โศก พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพธ์ รรมสภา : กรุงเทพมหานคร ๙ ป.๑-๙ วรรณกรรมเร่ือง “การปฏิบตั ิวิปัสสนากมั มฏั ฐาน ตามแนวมหาสติปัฏฐาน ๔” ผู้เขียน พระครูปลดั วรเมธาวฒั น์(วรพงศป์ ภสฺสโร,ประโมณะกงั ) พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ บริษทั คอมม่า ดีไซนแ์ อนพริ้นทจ์ ากดั : กรุงเทพมหานคร ๑๐ ป.๑-๑๐ วรรณกรรมเร่ื อง “ธรรมะภาคปฏิบตั ิ ๒ (Buddhist Meditation II)” ผู้เขียน คณาจารยม์ หาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๑ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั : จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา

๒๖๐ ๑๑ ป.๑-๑๑ วรรณกรรมเร่ือง “สติปัฏฐานส่ีฐานแห่งสติและวิธีฝึ กสติเพื่อความพน้ ทุกข์” ผ้เู ขียน ภณั เต คุณะรัตนา มหาเถระ เขียน นยั นา นาควชั ระ แปล พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๗ สานกั พิมพ์ มลู นิธิโกมลคีมทอง : กรุงเทพมหานคร ๑๒ ป.๑-๑๒ วรรณกรรมเรื่อง “พุทธปรัชญาแห่งชีวิต” ผู้เขียน ฟ้ื น ดอกบวั พิมพ์คร้ังท่ี ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพ์ บริษทั สานกั พิมพส์ ยามปริทศั น์ จากดั : กรุงเทพมหานคร ๑๓ ป.๑-๑๓ วรรณกรรมเรื่อง “กรรมฐานและฌานสมาบตั ิตามรอยพระพทุ ธองค”์ ผ้เู ขียน ศรี สากยอโศก พิมพ์ครั้งท่ี ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพ์ ธรรมสภา : กรุงเทพมหานคร ๑๔ ป.๑-๑๔ วรรณกรรมเร่ือง “มหาสติปัฏฐานสูตรแปล (ฉบบั ปรังปรุง)”ผู้เขียน พระ อาจารยอ์ านวยศิลป์ สีลสวโร และคณะ พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๗ สานกั พิมพ์ โรง พิมพช์ า้ งเผอื ก : เชียงใหม่ ๑๕ ป.๑-๑๕ วรรณกรรมเร่ือง “พุทธปรัชญา ๒๕ ศตวรรษ” ผู้เขียน สมคั ร บุราวาศ พิมพ์ คร้ังท่ี ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพศ์ ยาม : กรุงเทพมหานคร ๑๖ ป.๒-๑ วรรณกรรมเรื่อง“พระอรหันตส์ อนกรรมฐาน” ผู้เขียน สมชาย สุวรรณโปดก (เจตสิก) เรียบเรียง พิมพ์คร้ังท่ี ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพบ์ ริษทั สานกั พิมพส์ ุภา จากดั : กรุงเทพมหานคร ๑๗ ป.๒-๒ วรรณกรรมเรื่อง “การปฏิบตั ิวิปัสสนากรรมฐานตามแนวของหลวงป่ ูมน่ั ภูริทตฺ โต” ผู้เขยี น พระมหายทุ ธนา นรเชฏฺโฐ พิมพ์คร้ังที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๗ โรงพิมพ์ บริษทั สหธรรมิกจากดั : กรุงเทพมหานคร ๑๘ ป ๒-๓ วรรณกรรมเรื่อง “อริยสัจ เพื่อความหลุดพน้ ” ผู้เขียน หลวงพ่อปราโมชย์ ปา โมชโช พระธรรมเทศนา พิมพ์คร้ังท่ี ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพ์ บริษทั แปลน พริ้นติ้งจากดั : กรุงเทพมหานคร ๑๙ ป.๒-๔ วรรณกรรมเร่ื อง “คู่มือมนุษย์ ๖ ฉบบั อ่านง่าย เข้าใจง่าย เร่ือง สมาธิและ วิปัสสนาตามธรรมชาติ (การทาใหร้ ู้แจง้ ตามวิธีธรรมชาติ)” ผู้เขียน ท่านพุทธทาสภิกขุ พิมพ์ คร้ั งที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานักพิมพ์เล่ียงเชียง เพียรเพ่ือพุทธศาสน์ : : กรุงเทพมหานคร ๒๐ ป.๒-๕ วรรณกรรมเรื่อง “มนุษย.์ .เกิดมาทาไม? เล่ม ๑๖ ตอน จบพรหมจรรย์ (กิจอ่ืนท่ี พึงกระทายิ่งไปกว่าน้ีไม่มี)” ผู้เขียน สุวฒั น์ สุวฑั ฒโน (พิทกั ษว์ งษ)์ พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพ์ บริษทั พิมพส์ วย : กรุงเทพมหานคร ๒๑ ป.๒-๖ วรรณกรรมเร่ือง “หลวงป่ ูมน่ั ” ผ้เู ขียน เพญ็ อลงกรณ์ ผเู้ รียบเรียง.พิมพ์คร้ังที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพ์ บริษทั อมรินทร์พริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลิชชิ่ง จากดั (มหาชน) : กรุงเทพมหานคร

๒๖๑ ๒๒ ป.๒-๗ วรรณกรรมเรื่อง “มนุษย…์ เกิดมาทาไม? เล่ม ๒๐ ตอน โปรดสงั สารวฏั ” ผ้เู ขยี น สุวฒั น์ สุวฑฺตโน (พิทกั ษว์ งษ)์ ผเู้ รียบเรียง พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพก์ องทุนมลู นิธิมนุษยเ์ กิดมาทาไม? : กรุงเทพมหานคร ๒๓ ป.๒-๘ วรรณกรรมเร่ือง “โรดแมพ็ ธรรมปฎิบตั ิทางเดินสู่โลกุตรธรรม” ผู้เขียน พระ ปราโมทย์ ปาโมชฺโช พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพบ์ ริษทั อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนดพ์ บั ลิชชิ่ง จากดั (มหาชน) : กรุงเทพมหานคร ๒๔ ป.๒-๙ วรรณกรรมเรื่อง “คู่มือการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว” ผ้เู ขียน พุทธยานนั ทภิกขุ พิมพ์คร้ังที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๔๙ บริษทั นพบุรีการพิมพ์ จงั หวดั เชียงใหม่ ๒๕ ป.๒-๑๐ วรรณกรรมเร่ือง “คิดแบบพระโสดาบนั ” ผู้เขียน พระครูใบฎีกา อานาจ โอภา โส วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว พิมพ์คร้ั งที่ ๑ ๒๕๕๖ บริ ษัท ตถาตา พับลิเคชั่น : กรุงเทพมหานคร ๒๖ ป.๒-๑๑ วรรณกรรมเร่ือง “บรรลธุ รรมตามหลกั วิชาการ(สมาธิและวปิ ัสสนา ๒)”ผู้เขยี น ท่านพุทธทาสภิกขุ พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพเ์ ล่ียงเชียงเพียรเพ่ือพุทธ ศาสน์ : กรุงเทพมหานคร ๒๗ ป.๒-๑๒ วรรณกรรมเรื่อง “สนั ติสุขทุกลมหายใจ: วิธีปฏิบตั ิสาหรับคนไมม่ ีเวลา” ผ้เู ขียน ติช นทั ฮนั ห์ พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพบ์ ริษทั ฟรีมายด์ พลั ลิชช่ิง จากดั :กรุงเทพมหานคร ๒๘ ป.๒-๑๓ วรรณกรรมเรื่อง “สติเคลด็ ลบั มองดา้ นใน” ผ้เู ขียน พุทธยานนั ทภิกขุ พิมพ์ครั้ง ที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๐ สานกั พิมพบ์ ริษทั นพบุรีการพิมพ์ : จงั หวดั เชียงใหม่ ๒๙ ป.๒-๑๔ วรรณกรรมเรื่อง “พ้ืนฐานการทาสมาธิ” ผู้เขียน ขนั ติพโล และคณะศิษยว์ ดั ธรรมมงคล พิมพ์คร้ังท่ี ๗ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพ์ สถาบนั พลงั จิตตานุภาพ มลู นิธิ หลวงพ่อวริ ิยงั ค์ สิรินฺธโร : กรุงเทพมหานคร ๓๐ ป.๒-๑๕ วรรณกรรมเร่ื อง “มนุษย์เกิดมาทาไม? เล่ม ๑๘ ตอน จบกิจ-จบกรรม สังสารวฏั ” ผู้เขียน สุวฒั น์ สุวฑฺตโน (พิทกั ษว์ งษ)์ ผูเ้ รียบเรียง พิมพ์ครั้งที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๗ สานกั พิมพก์ องทุนมลู นิธิมนุษยเ์ กิดมาทาไม? : กรุงเทพมหานคร ๓๑ ป.๒-๑๖ วรรณกรรมเรื่อง “มนุษย.์ เกิดมาทาไม ? เล่ม ๑๔ ตอน กรรมฐานลืมตา (ใน ชีวิตประจาวนั )” ผู้เขียน สุวฒั น์ พิทกั ษว์ งษ์ พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ บริษทั พิมพ์ สวยจากดั : กรุงเทพมหานคร ๓๒ ป.๒-๑๗ วรรณกรรมเร่ือง “สมถวิปัสสนาแห่งยคุ ปรมาณู” ผู้เขยี น พุทธทาสภิกขุ พิมพ์ครั้งที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั ปัญญา ญาณ : กรุงเทพมหานคร ๓๓ ป.๒-๑๘ วรรณกรรมเรื่อง “เรื่องเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิธรรมศิลปะอนั จาเป็ นสาหรับชีวิต มนุษย”์ ผู้เขียน ท่านพุทธทาสภิกขุ พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพแ์ สงดาว : กรุงเทพมหานคร

๒๖๒ ๓๔ ป.๒-๑๙ วรรณกรรมเร่ือง “เจริญกรรมฐาน ๗ วนั ไดผ้ ลแน่นอน” ผู้เขียน หลวงพอ่ จรัญ ฐิตธมั โม พิมพ์ครั้งที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพธ์ รรมสภา : กรุงเทพมหานคร ๓๕ ป.๒-๒๐ วรรณกรรมเรื่อง “หลวงป่ ูชาสอนกรรมฐาน” ผู้เขียน หลวงป่ ูชา สุภทฺโท พิมพ์ ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพธ์ รรมลดา : กรุงเทพมหานคร ๓๖ ป.๒-๒๑ วรรณกรรมเรื่อง “วิธีฝึ กสมาธิวิปัสสนา ฉบบั นานาแบบอยา่ งสมบูรณ์” ผู้เขยี น พุทธทาสภิกขุ พิมพ์คร้ังที่ ๑ ๒๕๔๘ สานกั พิมพส์ ุขภาพใจ : กรุงเทพมหานคร ๓๗ ป.๒-๒๒ วรรณกรรมเรื่อง “อยกู่ บั มาร” ผู้เขียน พระครูใบฎีกาอานาจ โอภาโส. พิมพ์ ครั้งที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ บริษทั อมรินทร์ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๓๘ ป.๒-๒๓ วรรณกรรมเร่ือง “ปฏิบตั ิธรรมใหถ้ ูกทาง : คาถามสาหรับชาวพุทธ ” ผู้เขียน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) พิมพ์ครั้งที่ ๗๒ ปี พิมพ์ ๒๕๔๘ โรงพิมพ์ พระพทุ ธศาสนาของธรรมสภาสถาบนั บนั ลือธรรม : กรุงเทพมหานคร ๓๙ ป.๒-๒๔ วรรณกรรมเร่ือง “พทุ โธ ผรู้ ู้ ผตู้ ่ืน ผเู้ บิกบาน” ผู้เขยี น ดารงเกียรติ อาจหาญ พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๗ สานกั พิมพด์ ีเอม็ จี : กรุงเทพมหานคร ๔๐ ป.๒-๒๕ วรรณกรรมเรื่อง “ดูจิตเพ่ือรู้แจง้ : วิธีปฏิบตั ิภาวนาอยา่ งง่ายๆดว้ ยการดูจิตใน ชีวิตประจาวนั ” ผู้เขยี น หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช สุรวฒั น์ เสรีวิวฒั นา ผเู้ รียบเรียง พิมพ์ครั้งที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๗ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลิชชิ่ง: กรุงเทพมหานคร ๔๑ ป ๒-๒๖ วรรณกรรมเรื่อง “อศั จรรยส์ มาธิพระโพธิสตั วห์ ลวงป่ ูดู่ พรหมปัญโญ” ผู้เขียน ทิพยจกั ร พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพก์ รีน ปัญญาญาณ : จงั หวดั นนทบุรี ๔๒ ป ๒-๒๗ วรรณกรรมเร่ือง “พุทธานุสสติหวั ใจกรรมฐาน” ผู้เขียน พระครูสิทธิสงั วร (วี ระ ฐานวิโร) เรียบเรียง พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพส์ มั ปชญั ญะ จงั หวดั นนทบุรี ๔๓ ป ๒-๒๘ วรรณกรรมเร่ือง “กรรมฐานจากหลวงป่ ูทวดสู่หลวงป่ ูดู่” ผู้เขียน ทิพยจกั ร พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพก์ รีน ปัญญาญาณ : กรุงเทพมหานคร ๔๔ ป ๒-๒๙ วรรณกรรมเร่ือง “อบรมกรรมฐาน” ผ้เู ขยี น พระราชสงั วรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) พิมพ์ครั้งที ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพธ์ รรมสภาและสถาบนั บนั ลือธรรม: กรุงเทพมหานคร ๔๕ ป.๒-๓๐ วรรณกรรมเรื่อง “วิปัสสนาสมาธิภาวนารักษาใจ” ผู้เขียน พระอาจารยฟ์ ้ัน อา จาโร พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สถาบนั บนั ลือธรรม : กรุงเทพมหานคร

๒๖๓ ๔๖ ป ๒-๓๑ วรรณกรรมเรื่อง “กรรมฐานแกก้ รรมพน้ ทุกขด์ ว้ ยกรรมฐาน” ผู้เขียน หลวง พอ่ จรัญ ฐิตธมั โม พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพห์ า้ งหุน้ ส่วนจากดั ที บี เค มีเดีย พบั ลิซซิ่ง จากดั : กรุงเทพมหานคร ๔๗ ป ๒-๓๒ วรรณกรรมเรื่อง “บริกรรมพุทโธสมาธิรักษาโรคกาจดั ภยั ” ผู้เขียน หลวงป่ ู เทสก์ เทสรังสี พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานักพิมพ์สถาบันบันลือธรรม : กรุงเทพมหานคร ๔๘ ป ๒-๓๓ วรรณกรรมเรื่อง “คู่มือมนุษยฉ์ บบั สมบูรณ์ (วิชาที่ว่าดว้ ยอะไรเป็ นอะไร)” ผู้เขียน พระธรรมโกศาจารย์ (หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ) พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพธ์ รรมสภาและสถาบนั บนั ลือธรรม : กรุงเทพมหานคร ๔๙ ๒-๓๔ วรรณกรรมเร่ื อง “อดีตกรรม ประสพการณ์..ประสพกรรม” ผู้เขียน พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สถาบนั บนั ลือธรรม : กรุงเทพมหานคร ๕๐ ป.๒-๓๕ วรรณกรรมเรื่อง “ธรรมะจากพระไพศาล วสิ าโล” ผ้เู ขียน พระไพศาล วิ สาโล พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพอ์ มั รินทร์ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๕๑ ป.๒-๓๖ วรรณกรรมเรื่อง “อตุโล จิต คือ พุทธะ เล่ม ๒” ผู้เขียน พระโพธินันทมุนี (พระมหาสมศกั ด์ิ ปณฺฑิโต) ผเู้ รียบเรียง พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพด์ ีเอม็ จี : กรุงเทพมหานคร ๕๒ ป.๒-๓๗ วรรณกรรมเร่ือง “ธรรมะจากพระราชวฒุ าจารย์ (หลวงป่ ูดูลย์ อตุโล)” ผ้เู ขียน พระราชวุฒาจารย์ (หลวงป่ ูดูลย์ อตุโล) ศุทธดา อชิรกมั พู ผรู้ วบรวม พิมพ์คร้ังที่ ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๕๓ ป.๒-๓๘ วรรณกรรมเร่ือง “สันติภาพทุกย่างกา้ ว ติช นทั ฮนั ห์” ผู้เขียน ติช นทั ฮนั ห์ พิมพ์คร้ังที่ ๖ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพศ์ ยาม : กรุงเทพมหานคร ๕๔ ป.๒-๓๙ วรรณกรรมเร่ือง “ปัจจุบนั เป็นเวลาประเสริฐสุด” ผ้เู ขียน ติช นทั ฮนั ห์ ส.ศิว รักษ์ ผแู้ ปล พิมพ์คร้ังท่ี ๖ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพศ์ ยาม : กรุงเทพมหานคร ๕๕ ป.๒-๔๐ วรรณกรรมเร่ือง “สงบ” ผู้เขียน พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพด์ ีเอม็ จี : กรุงเทพมหานคร ๕๖ ป.๒-๔๑ วรรณกรรมเร่ือง “สว่าง” ผู้เขียน พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพด์ ีเอม็ จี : กรุงเทพมหานคร ๕๗ ป.๒-๔๒ วรรณกรรมเร่ือง “กรรมฐาน ๔๐ สมาธิแบบพระพุทธเจา้ ” ผู้เขียน หลวงป่ ูมน่ั ภิริ ทัตโต พิ มพ์ ครั้ งที่ ๑ ปี พิ มพ์ ๒๕๕๔ สานักพิมพ์สถาบันบันลือธรรม : กรุงเทพมหานคร

๒๖๔ ๕๘ ป.๒-๔๓ วรรณกรรมเรื่อง “นิพพานระหว่างวนั ” ผู้เขียน ว.วชิรเมธี อิสระพร บวรเกิด ผู้เรี ยบเรี ยง พิ มพ์ ครั้ งท่ี ๑๑ ปี พิ มพ์ ๒๕๕๕ สานักพิมพ์อมริ นทร์ ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๕๙ ป.๒-๔๔ วรรณกรรมเรื่อง “ทางเอก” ผู้เขียน พระปราโมชย์ ปาโมชโช พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิ มพ์ ๒๕๕๕ : สานักพิมพ์บริ ษัทอัมริ นทร์ พริ้ นติ้งแอนพับลิซซิ่ ง จากัด : กรุงเทพมหานคร ๖๐ ป.๒-๔๕ วรรณกรรมเรื่อง “ผลของจิตภาวนาคือนิพพาน” ผู้เขียน พุทธทาสภิกขุ พิมพ์ ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพส์ ุขภาพใจ: กรุงเทพมหานคร ๖๑ ป.๓-๑ วรรณกรรมเร่ือง “ศิลปะการปฏิบตั ิสมาธิ The art of meditation” ผู้เขียน มาติ เยอ ริการ์ (Matthieu Ricard) เขียน สดใส ขนั ติวรพงศ์ แปล พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพส์ วนเงินมีมา : กรุงเทพมหานคร ๖๒ ป.๓-๒ วรรณกรรมเรื่อง “ไม่ใช่กู” ผู้เขียน หลวงพ่อเอ้ียน วิโนทโก (พระครูวินยั ธร พระมหาทรงศกั ด์ิ วิโนทโร) พิมพ์คร้ังท่ี ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานักพิมพ์อมรินทร์ ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๖๓ ป.๓-๓ วรรณกรรมเรื่อง “จะเสียอะไรถา้ ไดป้ ฏิบตั ิธรรม” ผ้เู ขียน พระกรภพ กิตติปญฺ โญ.พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๖๔ ป.๓-๔ วรรณกรรมเรื่อง ทางสายเอก สติปัฏฐานสี่ ผ้เู ขยี น นิลมณี พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพป์ ราชญ์ : กรุงเทพฯ ๖๕ ป ๓-๕ วรรณกรรมเรื่อง “ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การปฏิบตั ิธรรม” ผ้เู ขยี น วศิน อินทสระ พิมพ์ครั้งที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพธ์ รรมดา : กรุงเทพมหานคร ๖๖ ป ๓-๖ วรรณกรรมเรื่อง “ถึงโสดาบนั ในชาติน้ี” ผู้เขยี น สนอง วรอุไร พิมพ์คร้ังที่ ๖ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร ๖๗ ป ๓-๗ วรรณกรรมเรื่อง “ ฝึ กจิต ชีวติ เปลี่ยน” ผ้เู ขยี น อรรถจาโร ภิกขุ พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพก์ รีน ปัญญาญาณ : กรุงเทพมหานคร ๖๘ ป ๓-๘ วรรณกรรมเรื่อง “จิตอยสู่ ุข” ผ้เู ขยี น พระอาจารย์ สุมโน ภิกข.ุ พิมพ์ครั้งที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ ฟรีมายด์ : กรุงเทพมหานคร ๖๙ ป.๓-๙ วรรณกรรมเร่ือง “ภาวนา เริ่มตน้ ณ กม.๐” ผู้เขียน ประมวล เพง็ จนั ทร์ พิมพ์ คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๘ สานกั พิมพบ์ ริษทั ตถาพบั ลิเคชนั่ จากดั : กรุงเทพมหานคร ๗๐ ป.๓-๑๐ วรรณกรรมเรื่อง “รู้แลว้ ละได”้ ผ้เู ขียน พระอาจารย์ ชาญชยั อธิปญฺโญ. พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ : กรุงเทพมหานคร

๒๖๕ ๗๑ ป.๓-๑๑ วรรณกรรมเรื่ อง “หายใจให้เป็ น The Tibetan Yoga of Breath” ผู้เขียน อาเญน รินโปเช และอลั ลิลนั เชอยิง จงั โม พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพ์ อมรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลิชช่ิง จากดั : กรุงเทพมหานคร ๗๒ ป.๓-๑๒ วรรณกรรมเรื่อง “คลายเครียดดว้ ยลมหายใจ เยียวยาความเครียดดว้ ยวิถี พทุ ธ” จอหน์ แมคคอนแนล เขียน สุรภี ชูตระกลู แปล พิมพ์คร้ังที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพศ์ ูนยศ์ ึกษาและพฒั นาสนั ติวธิ ี (ศพส.) มหาวทิ ยาลยั มหิดล : จงั หวดั นครปฐม ๗๓ ป.๓-๑๓ วรรณกรรมเร่ือง “สติ กญุ แจไขชีวิต” ผ้เู ขยี น คงศกั ด์ิ ตนั ไพจิตร พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๐ สานกั พิมพห์ อรัตนชยั การพิมพ์ : กรุงเทพมหานคร ๗๔ ป.๓-๑๔ วรรณกรรมเรื่อง “เร่ืองสติ...ใครว่ายาก คาอธิบายสติและการปฏิบตั ิธรรม ดว้ ยภาษาที่เขา้ ใจง่าย” ภณั เต คุณะรัตนา มหาเถระ เขียน นยั นา นาควชั ระ แปล พิมพ์ คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๕ สานกั พิมพม์ ูลนิธิโกมลคีมทอง : กรุงเทพมหานคร ๗๕ ป.๓-๑๕ วรรณกรรมเรื่อง “บรรลุธรรมไดไ้ ม่ติดรูปแบบ” ผู้เขียน ณัฐพบธรรม ธนนั ทเ์ มธากรณ์ พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖.สานกั พิมพ์ อมรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พ ริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลิชชิ่ง: กรุงเทพมหานคร ๗๖ ป.๓-๑๖ วรรณกรรมเรื่อง “ฆราวาสบรรลุธรรม” ผ้เู ขียน อจั ฉราวดี วงศส์ กล พิมพ์ คร้ังที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพอ์ มรินทร์พริ้นติ้งแอนดพ์ ลั ลิชชิ่ง กรุงเทพมหานคร ๗๗ ป.๓-๑๗ วรรณกรรมเร่ือง “ชีวติ ไมไ่ ดม้ ีดา้ นเดียว” ผู้เขยี น พระอาจารยน์ วลจนั ทร์ กิตติ ปัญโญ พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ บริษทั อมรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนพบั ลิซซ่ิง : กรุงเทพมหานคร ๗๘ ป.๓-๑๘ วรรณกรรมเรื่อง “วธิ ีปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจาวนั อยา่ งง่ายๆ” เอกชัย จุละจาริ ตต์ พิมพ์คร้ังท่ี ๘ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ หอรัตนชัยการพิมพ์ : กรุงเทพมหานคร ๗๙ ป.๓-๑๙ วรรณกรรมเร่ือง “รหสั ลบั บรรลุธรรมแบบเซน” ผู้เขียน อ.นิโรธ จิตวิสุทธ์ิ พิมพค์ ร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพก์ า้ วแรก : กรุงเทพมหานคร ๘๐ ป.๓-๒๐ วรรณกรรมเรื่อง “ศาสตร์แห่งภาวนาการหลอมรวมพุทธศาสนากบั ประสาท วิทยา” ผู้เขียน บี. อลนั วอลเลซ เขียน เพชรรัตน์ พงษเ์ จริญสุข แปล พิมพ์ครั้งที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๒ สานกั พิมพบ์ ริษทั แปลนพริ้นติ้งจากดั : กรุงเทพมหานคร ๘๑ ป ๓-๒๑ วรรณกรรมเรื่อง “อริยทรัพย์ แห่ง ผูร้ ู้แจง้ หลกั ปฏิบตั ิว่าดว้ ยสัมมาทิฏฐิ สมั มาภาวนา และสัมมาจริยา” ผู้เขียน ริมโปเช,ดิลโก เค็นเซ นยั นา นาควชั ระ ผแู้ ปล พิมพ์คร้ังท่ี ๑ มกราคม ปี พิ มพ์ ๒๕๕๗ สานักพิมพ์มูลนิ ธิ โกมลคีมทอง : กรุงเทพมหานคร

๒๖๖ ๘๒ ป.๓-๒๒ วรรณกรรมเร่ือง “จิตดวงสุดทา้ ย” ผู้เขียน พระอาจารยน์ วลจนั ทร์ กิติปัญโญ พิมพค์ ร้ังที่ ๗ ปี พิมพ์ ๒๕๙๙ สานกั พิมพบ์ ริษทั อมั รินทร์พริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลิซซิ่งจากดั : กรุงเทพมหานคร ๘๓ ป.๓-๒๓ วรรณกรรมเรื่อง “เตโชวิปัสสนา เปิ ดประตูนิพพาน” ผู้เขยี น อจั ฉราวดี วงษ์ สกล พิมพ์ครั้งท่ี ๖ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพบ์ ริษทั อมั รินทร์บุค๊ เซ็นเตอร์ จากดั กรุงเทพมหานคร ๘๔ ป.๓-๒๔ วรรณกรรมเรื่อง “นิพพานไมไ่ กลเกินเอ้ือม” ผ้เู ขยี น พระกรภพ กิตติปัญโญ (พ.ต.ท.กรภพ เอมซบุตร) พิมพ์คร้ังที่ ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพบ์ ริษทั อมั รินทร์ บุ๊คเซ็นเตอร์ จากดั : กรุงเทพมหานคร ๘๕ ป.๓-๒๕ วรรณกรรมเรื่อง “กรรมตามสมอง” ผ้เู ขียน ขนุ เขา สินธุเสน เขจรบุตร พิมพ์ ครั้งท่ี ๑๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๙ สานกั พิมพบ์ ริษทั ไพบูลยอ์ อ๊ ฟเซต จากดั : กรุงเทพมหานคร ๘๖ ป ๔-๑ วรรณกรรมเรื่อง “ไอนส์ ไตนพ์ บ พระพทุ ธเจา้ เห็น” ผ้เู ขียน ทนั ตแพทยส์ ม สุจิรา พิมพ์คร้ังที่ ๗ ปี พิมพ์ ๒๕๕๐ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พริ้นติ้งพบั ลิชชิ่ง : กรุงเทพมหานคร ๘๗ ป.๔-๒ วรรณกรรมเร่ือง “ไอนส์ ไตนพ์ บ พระพุทธเจา้ เห็น II” ผ้เู ขยี น ทนั ตแพทยส์ ม สุจี รา พิมพ์ครั้งท่ี ๑๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พริ้นติ้งพบั ลิช ช่ิง กรุงเทพมหานคร ๘๘ ป.๔-๓ วรรณกรรมเร่ือง “ทวาร ๖ : ศาสตร์แห่งการรู้ทนั ตนเอง” ผู้เขียน ทนั ตแพทยส์ ม สุจีรา พิมพ์คร้ังที่ ๒๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๒ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พริ้นติ้ง พบั ลิชชิ่ง : กรุงเทพมหานคร ๘๙ ป.๔-๔ วรรณกรรมเร่ือง “เดอะท็อปซีเคร็ต” ผู้เขียน ทนั ตแพทยส์ ม สุจีรา พิมพ์คร้ังที่ ๗๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๑ สานักพิมพ์อมริ นทร์ธรรมะ อมริ นทร์พริ้ นติ้งพับลิชช่ิง : กรุงเทพมหานคร ๙๐ ป ๔-๕ วรรณกรรมเร่ือง“เดอะท็อปพาวเวอร์พลงั จิตใตส้ านึกพลงั สู่ความสาเร็จ”ทนั ต แพทยส์ ม สุจีรำ พิมพ์คร้ังท่ี ๔ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พ ริ้นติ้งพบั ลิชช่ิง : กรุงเทพมหานคร ๙๑ ป.๔-๖ วรรณกรรมเรื่อง “ การปฏิบตั ิสมาธิเพื่อการเยียวยาสุขภาพ” ผู้เขียน สมพร กนั ทรดุษฏี-เตรียมชยั ศรี ภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล พิมพ์คร้ังท่ี ๑๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพ์เพรชเกษมพริ้นติ้ง : นครปฐม ๙๒ ป.๔-๗ วรรณกรรมเรื่อง“พุทธศาสนาในฐานะเป็ นรากฐานของวิทยาศาสตร์” ผู้เขียน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พิมพ์คร้ังที่ ๑๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ สานกั พิมพก์ รีน ปัญญาญาณ : จงั หวดั นนทบุรี

๒๖๗ ๙๓ ป.๔-๘ วรรณกรรมเรื่อง “ธรรมชาติของร่างกายและจิต” ผู้เขียน รุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์ พิมพ์ครั้งท่ี ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ ไมร่ ะบุสานกั พิมพ์ ๙๔ ป.๔-๙ วรรณกรรมเรื่อง “จิตวทิ ยาของความดบั ทุกข”์ ผู้เขียน จาลอง ดิษยวณิช พิมพ์ครั้ง ที่ ๒ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพต์ น้ บุญ : กรุงเทพมหานคร ๙๕ ป.๔-๑๐ วรรณกรรมเร่ือง “ชีวติ พระพุทธศาสนา และ วิทยาศาสตร์” ผ้เู ขยี น รุ่งเรือง ลิ้ม ชูปฏิภาณ์ พิมพ์ครั้งท่ี ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๖ ไมร่ ะบุสานกั พิมพ์ ๙๖ ป.๔-๘ วรรณกรรมเร่ือง “ความลบั ของจกั รวาลทางแห่งนิพพาน” ผู้เขียน ทนั ตแพทย์ สม สุจีรา พิมพ์คร้ังท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพ์ บริษทั โพสต์ พบั ลิชช่ิง จากดั : กรุงเทพมหานคร ๙๗ ป.๔-๑๒ วรรณกรรมเรื่ อง “ธรรมชาติของสรรพส่ิง : การเขา้ ถึงความจริงท้งั หมด” ผู้เขียน ประเวศ วะสี พิมพ์ครั้งท่ี ๑ ปี พิมพ์ ๒๕๕๓ สานกั พิมพก์ รีนปัญญาญาณ : กรุงเทพมหานคร ๙๘ ป.๔-๑๓ วรรณกรรมเร่ือง “พระพุทธเจา้ พลิกใจ ไอน์สไตน์พลิกโลก” ผู้เขียน ทนั ต แพทยส์ ม สุจีรา พิมพค์ ร้ังที่ ๖ ปี พิมพ์ ๒๕๕๔ สานกั พิมพอ์ มรินทร์ธรรมะ อมรินทร์พ ริ้นติ้งพบั ลิชช่ิง : กรุงเทพมหานคร ๙๙ ป.๔-๑๔ วรรณกรรมเร่ือง “พทุ ธปรัชญา : มองพทุ ธศาสนาดว้ ยทรรศนะทาง วิทยาศาสตร์” ผ้เู ขียน สมคั ร บุราวาศ พิมพ์คร้ังที่ ๔ ปี พิมพ์ ๒๕๕๒ สานกั พิมพบ์ ริษทั เคลด็ ไทย จากดั :กรุงเทพมหานคร ๑๐๐ ป.๔-๑๕ วรรณกรรมเร่ือง “ปัญญา” ผู้เขียน สมคั ร บุราวาศ พิมพ์คร้ังที่ ๓ ปี พิมพ์ ๒๕๕๒ สานกั พิมพศ์ ยาม :กรุงเทพมหานคร

๒๖๘ ประวตั ิผู้วจิ ยั 1. ชื่อ (ภาษาไทย) นางสาวสรัญญา โชติรัตน์ (ภาษาองั กฤษ) Miss . Saranyar Chotirat 2. ตาแหน่งปัจจุบนั ตาแหน่ง นกั วจิ ยั ชานาญการ สังกดั งานวจิ ยั และบริการวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ-้ แพร่เฉลิมพระเกียรติ ต.แม่ทราย อ. ร้องกวาง จ.แพร่ 54140 E-mail : [email protected] 3. หน่วยงานและที่อยทู่ ่ีติดต่อ มหาวทิ ยาลยั แม่โจ-้ แพร่เฉลิมพระเกียรติ 17 หมู่ 3 ต.แมท่ ราย อ. ร้องกวาง จ.แพร่ 54140 โทรศพั ท์ 054-648593-5 ต่อ 6060 โทรสาร 054-648596 หรือ โทรศพั ทม์ ือถือ 099-636-6263 4. ประวตั ิการศึกษา ปี ทจ่ี บ ระดบั สาขาเอก วุฒิการศึกษา/ ชื่อสถาบัน ประเทศ การศึกษา ประกาศนียบตั ร 2559 ปริญญาโท พระพุทธศาสนา พทุ ธศาสตร มหาวทิ ยาลยั ไทย มหาบณั ฑิต มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั (พ.ม.) 2539 ปริญญาโท การจดั การ พฒั นบริหารศาสตร สถาบนั บณั ฑิต ไทย พฒั นาสงั คม มหาบณั ฑิต พฒั นบริหารศาสตร์ (พบ.ม.) 2550 ปริญญาตรี นิติศาสตร์ นิติศาสตรบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ไทย (น.บ.) 2536 ปริญญาตรี ภาษาไทย ศิลปศาสตรบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง ไทย (ศศ.บ.) 5. สาขาวชิ าการทม่ี ีความชานาญพเิ ศษ (แตกต่างจากวุฒิการศึกษา) 6. ประสบการณ์ทเ่ี กย่ี วข้องกบั การบริหารงานวจิ ัยท้งั ภายในและภายนอกประเทศ 6.1) งานวจิ ัยทที่ าเสร็จแล้ว ปี 2561 โครงการวิจยั เร่ือง “รูปแบบการเขา้ ถึงปัญญาเร่ืองมหาสติปัฏฐาน ๔” หัวหน้า โครงการวจิ ยั งบประมาณสนบั สนุนจาก คณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ (วช.) สานกั งานคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ

๒๖๙ ปี 2560 โครงการวิจัย เรื่ อง “การสังเคราะห์วรรณกรรมเรื่ องมหาสติปัฏฐาน 4” หัวหน้า โครงการวิจยั งบประมาณสนบั สนุนจาก คณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ (วช.) สานกั งานคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ ปี 2560 โครงการวิจยั เร่ือง “การสังเคราะห์งานวิจยั ในฐานขอ้ มูลงานวิจยั ของมหาวิทยาลยั แม่โจ-้ แพร่ เฉลิมพระเกียรติ” ผูว้ ิจยั ร่วม งบประมาณสนับสนุนจาก เงินรายได้มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ (ดาเนินงานวจิ ยั ) ปี 2559 งานวิทยานิพนธ์ เร่ื อง “การสังเคราะห์วิทยานิพนธ์เร่ื องมหาสติปัฏฐาน ๔ ของ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ระหว่างปี พุทธศกั ราช ๒๕๔๐–๒๕๕๕” วิทยานิพนธ์(ดีเด่น). หลกั สูตรพุทธศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาพระพุทธศาสนา มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ปี 2554 โครงการวิจัย เรื่อง “วิธีการต้ังโจทย์ทางสังคมศาสตร์เพ่ือนาสู่การเขียนข้อเสนอ โครงการวิจยั ” หัวหน้าโครงการวิจยั งบประมาณสนับสนุนจากเงินรายได้มหาวิทยาลยั แม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ปี 2549 โครงการวิจยั เร่ือง“การจดั การความรู้ของกลุ่มรักษ์ดอยหลวงเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจ พอเพียงของชุมชนหว้ ยหมา้ ย” ผวู้ จิ ยั ร่วม. งบประมาณสนบั สนุนจากกระทรวงวฒั นธรรม ปี 2545-2546 ชุดโครงการวิจยั เรื่อง “แนวทางการพฒั นาการศึกษาระดบั อุดมศึกษาในรูปแบบ วิทยาเขตไปสู่ความเป็ นเลิศทางวชิ าการ : กรณีศึกษา มหาวทิ ยาลยั แม่โจ-้ แพร่ เฉลิมพระเกียรติ” หวั หน้า โครงการวจิ ยั งบประมาณสนบั สนุนจากคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ (วช.) ปี 2544 โครงการวจิ ยั เรื่อง “แนวโนม้ แผนการพฒั นามหาวทิ ยาลยั แม่โจใ้ นอนาคต ระยะ 10 ปี ” หวั หนา้ โครงการวจิ ยั งบประมาณสนบั สนุนจากคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ (วช.) ปี 2544 โครงการวิจยั เรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบจุดคุม้ ทุนจากการลงทุนตามแนวทางเกษตร ทฤษฎีใหม่:กรณีศึกษาจงั หวดั แพร่” ผูว้ ิจยั ร่วม. งบประมาณสนับสนุนจากคณะกรรมการวิจยั แห่งชาติ (วช.) ปี 2543 โครงการวิจยั เร่ือง “บทบาทที่คาดหวงั การบริหารการพฒั นามหาวิทยาลยั แม่โจต้ ่อการ เป็ นมหาวิทยาลัยในกากบั ของรัฐ” หัวหน้าโครงการวิจัย งบประมาณสนับสนุนจากคณะกรรมการ วจิ ยั แห่งชาติ (วช.) ปี 2541 โครงการวิจยั เรื่อง “บทบาทที่คาดหวงั ของประชาชนชาวไทยภาคใตต้ อนบนต่อแผนการ จัดการศึกษาวิทยาเขตชุมพร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ” หัวหน้า โครงการวจิ ยั . งบประมาณสนบั สนุนจากคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ (วช.) ปี 2539 โครงการวจิ ยั เร่ือง “การปรับปรุงบทบาทโครงสร้างและอานาจหนา้ ท่ี ของศูนยอ์ านวยการ บริหารจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพอื่ สนองตอบความเปล่ียนแปลงในยคุ ปัจจุบนั ” ผชู้ ่วยนกั วิจยั . งบประมาณสนบั สนุนจากกระทรวงมหาดไทย

๒๗๐ ปี 2538 โครงการวิจยั เรื่อง “ความพึงพอใจของประชาชนต่อระบบและกระบวนการให้บริการ ของกรุงเทพมหานคร: ศึกษากรณีสานักงานเขต” ผูช้ ่วยนกั วิจยั . สมาคมพฒั นาสังคม สถาบนั บณั ฑิต พฒั นบริหารศาสตร์ ปี 2538 โครงการวิจยั เร่ือง “การมีส่วนร่วมของประชาชนกรุงเทพมหานครต่อการเลือกต้งั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรในเขตพ้ืนที่ กรุงเทพฯ” ผูช้ ่วยนักวิจยั .สมาคมพฒั นาสังคม สถาบนั บณั ฑิต พฒั นบริหารศาสตร์ บทความวจิ ัย และบทความวชิ าการ 1) บทความวจิ ยั เร่ือง“กำรวิเครำะห์เรื่องมหำสติปัฏฐำน 4 จำกวรรณกรรมปัจจุบันประเภทแนวคำสอน ครูบำอำจำรย์” การประชุมวิชาการระดบั ชาติ “มศว วิจยั ” คร้ังที่ 10 มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ วนั ที่ 20-21 กรกฎาคม 2560 2) บทความวิจยั เร่ือง “มหำสติปัฏฐำน 4 ว่ำด้วยด้ำนจิตตำนุปัสสนำสติปัฏฐำน : กรณีศึกษำจำกงำน วรรณกรรมปัจจุบันประเภทนักเขียนคิดค้น” การประชุมวชิ าการและนาเสนอผลงานวิจยั ระดบั ชาติ ทางจิตวทิ ยา ประจาปี 2560 : ชีวติ ดี เปลี่ยนได้ ดว้ ยศาสตร์แห่งใจ วนั ศุกร์ท่ี 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 3) บทความวิจยั เรื่อง “มหำสติปัฏฐำน 4 : กรณีศึกษำจำกวรรณกรรมปัจจุบันประเภทแนวคำสอน ครูบำอำจำรย์” การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ คร้ังที่ 1 มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยา เขตแพร่ วนั เสาร์ท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 4) บทความวิจยั เรื่อง “กำรวิเครำะห์เร่ืองมหำสติปัฏฐำน 4 จำกวรรณกรรมประเภทนักเขียนคิดค้น” การประชุมวิชาการระดบั ชาติทางศิลปศาสตร์ คร้ังท่ี 6 คณะศิลปศาสตร์ สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอม เกลา้ เจา้ คุณทหารลาดกระบงั วนั ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 5) บทความวิจยั เร่ือง “กำรสำรวจวรรณกรรมปัจจุบันเร่ื องมหำสติปัฏฐำน 4” การประชุมวิชาการ ระดบั ชาติ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์ คร้ังท่ี 4 มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์ วนั ที่ 10 มีนาคม 2560 6) บทความวิจยั เร่ือง “กำรสังเครำะห์องค์ควำมรู้เรื่องมหำสติปัฏฐำน 4 ว่ำด้วยด้ำนธรรมำนุปัสสนำ สติปัฏฐำน ในวิทยำนิพนธ์ของมหำวิทยำลัยมหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย” การประชุมวิชาการ ระดบั ชาติ “มศว วจิ ยั ” คร้ังท่ี 9 วนั ท่ี 28-29 กรกฎาคม 2559 มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ 7) บทความวิจัยเร่ื อง “กำรสังเครำะห์ วิทยำนิพนธ์ เร่ื องมหำสติปั ฏฐำน 4 ของมหำวิทยำลัย มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลยั ระหว่ำงปี พทุ ธศักรำช 2540-2555” การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ คร้ังที่ 3 และระดบั นานาชาติ คร้ังที่ 1 พุทธบูรณาการกบั การวจิ ยั พฒั นาสงั คมใหย้ ง่ั ยนื มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬา ลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น วนั ที่ 28 มีนาคม 2559


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook