95 2.6 พน้ื ท่รี ปู หลายเหลย่ี ม การหาพ้ืนทร่ี ูปหลายเหลีย่ ม ใชว ธิ ีแบง รูปหลายเหล่ียม เปนรูปสเี่ หลยี่ มยอยๆ แลว หาพ้ืนท่ี ของรปู แตล ะรูปนาํ ผลลัพธมารวมกนั แตบ างครงั้ อาจใชว ิธีตอ เติมรปู เพื่อใหเกิดรปู เหลยี่ มใหมแ ลว นาํ มาหักลบกนั ดังตัวอยาง ตวั อยาง จงหาพ้นื ทรี่ ปู เหลยี่ มทแี่ รเงา วธิ ีทํา ลากตอ EF และ HG ทําใหเกิดเปนรปู ส่ีเหลย่ี มมุมฉากยอย 3 รูป คอื DEJC, FGKJ, ABKH จากรูป EJ = 6 เซนติเมตร FJ = 4 เซนตเิ มตร พ้ืนทร่ี ูปหลายเหลีย่ ม ABCDEFGH = พ.ท. DEJC + พ.ท. FGKJ + พ.ท. ABKH = ( 2×6) + (1×4) + (3×10) = 12 + 4 + 30 ตารางเซนติเมตร ดังน้นั พ้ืนท่ีรูปหลายเหลี่ยม ABCDEFGH = 46 ตารางเซนติเมตร 2.7 พืน้ ทีร่ ปู วงกลม การหาพืน้ ที่ของรูปวงกลมโดยวิธีแบง ออกเปนสว นเลก็ ๆ แลว นําแตละสวนมาสลบั กัน ดัง รปู
96 จะเห็นไดว า ถายิ่งแบง สวนยอยใหมจี ํานวนมากขนึ้ รูปสีเ่ หลย่ี มท่ีไดจ ะมีรูปใกลเคียงกบั รปู สเ่ี หล่ยี มผนื ผา โดยมสี วนสูงใกลเคียงกับรัศมีของวงกลม ความยาวของฐาน ใกลเคียงกับครึ่งหนึ่งของเสนรอบวง หรือ 1 (2πr) = πr 2 จากสตู ร พื้นท่ี ผืนผา = ฐาน × สงู = (πr)× r = πr 2 สูตร พืน้ ทวี่ งกลม = πr 2 เมอื่ π = 22 หรอื 3.14 โดยประมาณ 7 r แทนความยาวรัศมี ตวั อยา ง จงหาพื้นท่วี งกลมท่ีมีรศั มียาว 7 เซนติเมตร วธิ ที าํ พ้นื ทว่ี งกลม = πr 2 พน้ื ทีว่ งกลม = = 22 × 7 × 7 ตารางเซนตเิ มตร 7 154 ตารางเซนตเิ มตร
97 แบบฝก หัด 5 1. จงหาพืน้ ทส่ี ว นที่แรเงา ตัวเลขท่เี ขียนกาํ กับดา นมหี นวยเปนเซนติเมตร และจุด O แทนจุด ศนู ยกลางของวงกลม 1
98 สรุปสูตรการหาพ้ืนที่
99
100 เร่อื งที่ 4 การแกโ จทยปญหาเก่ียวกบั พน้ื ทใ่ี นสถานการณตางๆ ตัวอยาง ทีด่ ินรูปส่เี หลย่ี มผนื ผากวาง 12 เมตร ยาว 20 วา ตองการทําถนนในที่ดินกวาง 1 วา โดยรอบถนนจะมีพ้นื ทก่ี ่ีตารางวา วธิ ีทํา พนื้ ท่ีทงั้ หมด = 12 × 20 พน้ื ทรี่ ูปใน = 240 ตารางวา พน้ื ทีถ่ นน ∴ พน้ื ทถ่ี นน = 10 × 18 = 180 ตารางวา = 240 – 180 = 60 ตารางวา ตวั อยาง หองๆ หนง่ึ 6.5 เมตร กวาง 4 เมตร ตอ งการปกู ระเบ้อื งรูปส่เี หลย่ี มจตั ุรสั ซงึ่ มีความกวาง ดา นละ 25 เซนตเิ มตร จะตอ งใชก ระเบ้อื งก่แี ผน วธิ ที าํ หอ งหน่ึงมคี วามยาว 6.5 เซนตเิ มตร = 650 เซนตเิ มตร ความกวาง 4 เมตร = 400 เซนตเิ มตร พื้นทีห่ อง = 400 × 650 = 260,000 เซนตเิ มตร พน้ื ที่กระเบอื้ ง = 25 × 25 = 625 ตารางเซนติเมตร ตอ งใชก ระเบ้ือง = 260,000 = 416 แผน ดังน้นั ตองใชกระเบื้อง 416 แผน 625
101 แบบฝกหัด 6 1. แผนผังบา นหลงั หนง่ึ มีลกั ษณะและขนาดดงั รปู ถา บริเวณท่แี รเงาตองการเทปูนซเี มนต โดยเสยี คาใชจายตารางเมตรละ 250 บาท จะตองเสียคาใชจายทั้งหมดกี่บาท กําหนดความยาวมีหนวยเปนเมตร 2. ตองการตัดเสื้อตัวหนึ่งมลี ักษณะดังรูป จะตองใชผา กต่ี ารางเมตร (ไมคิดตะเข็บ) ความยาวที่ กาํ หนดมหี นวยเปน เซนตเิ มตร
102 เรอื่ งท่ี 5 การคาดคะเนเวลา ระยะทาง ขนาด น้ําหนัก ในชีวิตประจําวันบางครั้งเราอาจตองการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเวลา ระยะทาง ขนาด หรือนาํ้ หนกั ของส่ิงตา งๆ แตไมสะดวกที่จะวัดสงิ่ ตางๆ เหลานน้ั เนื่องจากมขี อจํากัดบางประการ ตัวอยางเชน ตองการวัดความยาว และความกวางของสนามฟุตบอลของโรงเรียน แตไมมีอุปกรณที่ เหมาะสม ทําใหตองมีกี่ประมาณอยางคราวๆ ซึ่งในบางครั้งอาจจะถูกตอง หรืออาจผิดไปจากความ เปนจรงิ บาง เราเรยี กวิธีการประมาณในลักษณะน้ีวา การคาดคะเน การคาดคะเนปริมาณตางๆ เชน ชว งเวลา ระยะทาง ขนาด และนาํ้ หนกั ของส่ิงตางๆ ผู คาดคะเนมักใชสายตารวมกับประสบการณของผูคาดคะเนเอง ซึ่งในการคาดคะเนแตละครั้งอาจ ถกู ตองพอดี หรืออาจมขี อผิดพลาดเกิดข้ึนบางก็ได เราเรยี กขอ ผดิ พลาดนว้ี า ความคลาดเคลอื่ น และ ความคลาดเคลื่อนคํานวณไดจากผลตางของปริมาณที่คาดคะเนไวกับปริมาณที่วัดไดจริง เชน คะเนวา หนงั สือเรยี นกวา ง 15 เซนตเิ มตร ยาว 20 เซนติเมตร และหนา 1 เซนติเมตร แตเมื่อ วดั จรงิ พบวา หนงั สอื เรยี นกวาง 14.6 เซนตเิ มตร ยาว 20.9 เซนตเิ มตร และหนา 1 เซนติเมตร ดังนั้น คะเนความกวาง และความยาวของหนังสือเรียนคลาดเคลื่อนไป 0.4 และ 0.9 ตามลําดับ (15.0 เซนตเิ มตร – 14.6 เซนติเมตร = 0.4 เซนตเิ มตร และ 20.9 เซนติเมตร – 20 เซนตเิ มตร = 0.9 เซนตเิ มตร สว นความหนาคาดคะเนไดถูกตองไมคลาดเคลื่อนเลย ) หมายเหตุ บางคร้ังอาจพบการใชสัญลกั ษณ ± ตามความคลาดเคลื่อน เชน เครื่องบรรจุนา้ํ ไดข วดละ 1,000 ลกู บาศกเซนตเิ มตร ± 5 ลูกบาศกเซนติเมตร หมายความวา โดยปกติแลว นํ้าดม่ื ท่ี บรรจขุ วดโดยเครอ่ื งน้จี ะมีปริมาตร 1,000 ลูกบาศกเซนติเมตร แตอาจจะมีบางขวดที่มีปริมาตร มากกวา หรอื นอ ยกวา 1,000 ลูกบาศกเซนติเมตร ซึ่งปริมาตรท่ีคลาดเคลือ่ นนไ้ี มเกิน 5 ลูกบาศก เซนติเมตร นั่นคือ นํ้าดื่มที่บรรจุขวดจะมีปริมาตรตั้งแต 995 ลูกบาศกเ ซนติเมตร ถงึ 1,005 ลูกบาศกเ ซนตเิ มตร
103 แบบฝกหดั 7 1. จงคาดคะเนเวลาหรือชวงเวลาใหเหมาะสมกับสถานการณตอไปนี้ 1) ฟาใกลส วาง อากาศเยน็ สบาย ไกตวั ผูต ีปก และสง เสียงขัน มนี ํ้าคา งจบั ตามยอดหญา นาจะเปนเวลาประมาณ...................นาฬกิ า 2) เมอ่ื อยูกลางแจงดวงอาทิตยอยตู รงศีรษะพอดี เงาของตัวเองอยบู นพ้นื ทยี่ ืนอยพู อดี นาจะ เปนเวลาประมาณ...................นาฬกิ า 3) ในจังหวัดทางภาคเหนือเปนเวลาเชาตรู ฟาสวางแลว แตยงั ไมเ ห็นพระอาทิตย ทอ งฟาขมุกขมัว อากาศหนาวเยน็ จดั นา จะเปนฤดู....................และควรจะเปน ชว งเดือน..................... 2. จงวงกลมลอมรอบขอที่เหมาะสมที่สุด สําหรับใชหนวยในการคาดคะเน ระยะทาง น้ําหนัก หรือ ขนาดของสิ่งตอไปนี้ 1) ความยาวของคัตเตอร ก. 1.5 มลิ ลิเมตร ข. 15 เซนตเิ มตร ค. 15 เมตร 2) นาํ้ หนกั ของมะพรา ว 1 ผล ก. 1 กรมั ข. 1 กโิ ลกรมั ค. 1 ตนั 3) ปริมาณของนม 1 กลอ ง ก. 4 ×5×12 เซนติเมตร3 ข. 4 ×5×12 ฟตุ 3 ค. 4 ×5×12 เมตร3 4) รถกระบะ 4.1 มีน้าํ หนัก ก. 10 กิโลกรัม ข. 100 กิโลกรมั ค. 1 ตนั 4.2 ความกวา ง ก. 160 เซนติเมตร ข. 16 ฟตุ ค. 16 เมตร 4.3 ความยาว ก. 5 ฟตุ ข. 5 เมตร ค. 5 วา 4.4 ความสงู ก. 160 มิลลเิ มตร ข. 1,600 มลิ ลเิ มตร ค. 16,000 มิลลเิ มตร 5) เกาอี้นง่ั 5.1 กวาง ยาว สงู ก. 40 ×50×80 มลิ ลเิ มตร3 ข. 40 ×50×80 เซนตเิ มตร3 ค. 4 ×5×8 เมตร3 5.2 นาํ้ หนกั ก. 10 กโิ ลกรมั ข. 100 กโิ ลกรมั ค. 1 ตนั
104 3. ทางหลวงสายพหลโยธินกรุงเทพฯ-แมสาย ยาว 952 กิโลเมตร รถประจําทางปรับอากาศวิ่งบน ทางหลวงสายนต้ี ลอดเสน ทางดว ยอตั ราเรว็ 80-100 กิโลเมตรตอ ช่วั โมง (1) รถประจําทางปรับอากาศใชเวลาวิ่งตลอดเสนทางนานเทาไร (2) ถารถออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 18.00 นาฬิกา จะถึงแมสายในชวงใด (3) ถาตองการใหถ งึ แมส ายประมาณเทย่ี งวนั ท่ี 16 กันยายน จะตองออกจากกรุงเทพฯ เวลา เทาไร 4. ลฟิ ตของโรงแรมแหงหน่ึงบรรทกุ ผูโดยสายไดเ ทย่ี วละไมเ กนิ 10 คน (600 กิโลกรัม) บางครั้งมี ผูโดยสารเขา ลิฟตเพยี ง 8 คน ลฟิ ตจะมีเสยี งเตือน บางครง้ั มีผูโดยสาร 12 คน ลิฟตไมม เี สียงเตือนยงั ใชงานไดเปนเพราะเหตุใด จงอธิบาย 5. ทางหลวงสายเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-บานคลองพราน จังหวัดนราธิวาส) 1,352 กิโลเมตร ทาง หลวงสายมิตรภาพ (กรงุ เทพฯ-จังหวดั หนองคาย) 508 กิโลเมตร ทางหลวงสายสุขุมวิท (กรุงเทพฯ- จงั หวดั ตราด) 400 กโิ ลเมตร (1) ถาขับรถจากบานคลองพรานตามทางหลวงสายเพชรเกษมผานกรุงเทพฯ แลวมุงสู จังหวัดหนองคายตามทางหลวงสายมิตรภาพ ดว ยอตั ราเรว็ ในชว ง 90-100 กโิ ลเมตรตอ ช่ัวโมง จะใช เวลาประมาณกี่ชั่วโมง (2) ถาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงสายเพชรเกษม เวลา 12.00 นาฬกิ า วันน้ี จะ ถึงจังหวัดนราธวิ าสเมอื่ ใด โดยใชอัตราความเรว็ 100 กิโลเมตรตอช่ัวโมง (3) ถาตองการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดตราดทางหลวงสายสุขุมวิท และถึงจังหวัด ตราดประมาณเที่ยงวัน จะตองออกจากกรุงเทพฯ เวลาใด เมื่อใชอัตราความเร็ว 80 กิโลเมตรตอ ชัว่ โมง (4) ใหนักเรียนเปรียบเทียบความยาวของทางหลวงทั้งสามสาย
105 บทท่ี 6 ปริมาตรและพนื้ ท่ีผวิ สาระสําคัญ การหาพื้นทีผ่ ิวและปริมาตรของ ปรซิ มึ พรี ะมดิ ทรงกระบอก กรวย ทรงกลม จําเปน จะตอ งรกู ระบวนการคิด และการใชส ูตร เพื่อสะดวกในการคาํ นวณอนั จะเปนประโยชนต อ การ นําไปใชใ นชีวติ จริง ผลการเรียนรูทคี่ าดหวัง 1. อธิบายลักษณะและสมบัติของปริซึม พีระมดิ ทรงกระบอก กรวย ทรงกลม หา ปริมาตรและพน้ื ทผี่ วิ ของปริซึมได 2. สามารถหาปริมาตรและพื้นที่ผิวของทรงกระบอกได 3. สามารถหาปริมาตรของพีระมิด กรวยและทรงกลมได 4. เปรยี บเทยี บหนวย ความจุ หรอื หนว ยปรมิ าตรในระบบเดยี วกนั หรือตา งระบบ และ เลอื กใชห นว ยการวัดเกย่ี วกบั ความจหุ รือปรมิ าตรไดอ ยา งเหมาะสม 5. ใชความรเู กี่ยวกบั ปริมาตรและพืน้ ท่ีผวิ แกป ญหาในสถานการณตา งๆ ได 6. ใชการคาดคะเนเก่ียวกบั ปริมาตรและพืน้ ทผี่ ิวในสถานการณตางๆ ไดอยางเหมาะสม ขอบขา ยเน้ือหา เรื่องท่ี 1 ลักษณะสมบตั ิและการหาพ้นื ท่ผี ิวและปริมาตรของปรซิ ึม เร่ืองท่ี 2 การหาปริมาตรและพื้นที่ผิวของทรงกระบอก เร่ืองที่ 3 การหาปริมาตรของพีระมิด กรวยและทรงกลม เรื่องที่ 4 การเปรียบเทียบหนวยปริมาตร เร่ืองท่ี 5 การแกโจทยปญ หาเก่ยี วกับปรมิ าตรและพ้ืนที่ผวิ เรื่องท่ี 6 การคาดคะเนปรมิ าตรและพืน้ ทีผ่ วิ
106 เรือ่ งที่ 1 ลกั ษณะสมบัติและการหาพน้ื ที่ผิวและปรมิ าตรของปรซิ มึ พน้ื ที่ผวิ และปรมิ าตรของปริซมึ รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีหนา ตดั (ฐาน) ทั้งสองเปนรูปหลายเหลี่ยมที่เทากันทุกประการและ อยูใ นระนาบท่ขี นานกัน มีหนา ขา งเปน รปู สเ่ี หลีย่ มดานขนาน เรียกวา ปรซิ มึ สว นตา งๆ ของปรซิ มึ มีชอื่ เรียกดงั นี้ เราเรียกชื่อปริซึมชนิดตาง ๆ ตามลักษณะของฐานของปริซึมดังตัวอยาง ปรซิ มึ สเ่ี หลย่ี มผืนผา ปรซิ ึมสามเหลีย่ ม ปริซึมสี่เหลี่ยมคางหมู ปริซมึ หา เหลยี่ ม ปรซิ ึมหกเหล่ียม สตู ร การหาพ้ืนที่ผิวของปรซิ ึม = พื้นทผี่ วิ ขาง + พนื้ ที่ผิวหนาตัด ปริมาตรปริซึม = พื้นทฐ่ี าน x สงู
107 ตวั อยา ง 1 จงหาพนื้ ที่ผิวของปริซมึ ตอ ไปน้ี กาํ หนดความยาวทห่ี นว ยเปน เซนติเมตร วธิ ีทาํ พืน้ ท่ผี วิ ดา นขาง 4 ดา น = 2(3 x5) + 2 ( 4 x 5) = 70 ตารางเซนตเิ มตร พนื้ ท่ีหนา ตัด = 2 ( 3 x 4) = 24 ตารางเซนตเิ มตร พน้ื ทผ่ี วิ ของปรซิ ึม = 70 + 24 = 94 ตารางเซนตเิ มตร ตัวอยา ง 2 จงหาปริมาตรของปริซึมตอไปนี้ (ความยาวท่ีกาํ หนดใหม หี นวยเปน เมตร) วิธที าํ ปริมาตรปริซึม = พน้ื ที่ฐาน x สงู = (4 x 5) x 8 = 160 ลูกบาศกเมตร แบบฝกหดั ท่ี 1 จงหาพื้นทีผ่ วิ และปรมิ าตรของปริซมึ ตอไปนี้
108 เรอ่ื งท่ี 2 การหาปรมิ าตรและพ้นื ท่ีผวิ ของทรงกระบอก ทรงกระบอก คือ ทรงสามมิติที่มีฐานเปนรูปวงกลมที่เทากันทุกประการ และอยูในระนาบ ท่ีขนานกัน ซง่ึ เมื่อตดั ทรงสามมติ ินี้ดว ยระนาบท่ีขนานกบั ฐานแลว จะไดรอยตัดเปนวงกลมที่เทากัน ทุกประการกับฐานเสมอ พ้ืนทผ่ี วิ ของทรงกระบอก เมื่อคลี่ผิวขางของทรงกระบอกใดๆ พบวา จะเปน รปู สี่เหลี่ยมผืนผาทีม่ คี วามยาวเทา กบั เสน รอบฐานวงกลม และสวนสูงเทากับความสูงของทรงกระบอก สูตร พน้ื ที่ผวิ ของทรงกระบอก = พ้ืนทผี่ ิวขาง + พ้ืนท่ีฐานทงั้ สอง = 2πrh + 2πr 2 เมื่อ r แทน รัศมีของฐานของทรงกระบอก h แทน ความสูงของทรงกระบอก
109 ปริมาตรทรงกระบอก = พ้ืนท่ีฐาน x สงู จาก ปริมาตรของปริซึม = πr 2 h ปริมาตรทรงกระบอก สตู ร ปริมาตรทรงกระบอก = πr 2 h ตัวอยางท่ี 5 กระปองทรงกระบอกใบหนึ่งมีรัศมี 7 เซนตเิ มตร และสูง 10 เซนติเมตร ก) ตองการปดกระดาษรอบขางและปดฝาทั้งสองจะตองใชกระดาษกี่ตาราง เซนตเิ มตร ข) กระปองใบน้มี ีความจุก่ลี ูกบาศกเซนตเิ มตร วธิ ที าํ ก) พ้ืนทฐ่ี านทง้ั หมด = 2πr 2 = 2 × 22 × 7 × 7 7 = 308 ตารางเซนตเิ มตร พน้ื ทีผ่ วิ ขา ง = ความยาวรอบฐาน x สงู = 2πr × h พืน้ ทผ่ี ิวกระปอ ง = 2 × 22 × 7 ×10 7 = = 440 ตารางเซนตเิ มตร = 308 + 440 748 ตารางเซนตเิ มตร ข) ปริมาตร = พื้นท่ฐี าน x สงู = πr 2 h = 22 × 7 × 7 ×10 7 = 1,540 ลูกบาศกเซนติเมตร ดงั น้ัน ก. ตองใชก ระดาษ 748 ตารางเซนตเิ มตร ข. กระปองมีความจุ 1,540 ลูกบาศกเซนตเิ มตร
110 แบบฝก หดั ท่ี 2 1. จงหาปริมาตร และพื้นที่ผิวทั้งหมดของทรงกระบอกสูง 10 เซนติเมตร มีเสนผานศูนยกลาง 14 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. จงหาปริมาตรของทรงกระบอกใบหนึ่งที่มีรัศมีของฐาน 3.5 นวิ้ และสงู 5 นว้ิ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3. จงหาปรมิ าตรและพ้ืนท่ผี วิ ท้ังหมดของถังเกบ็ นํา้ รูปทรงกระบอกใบหนงึ่ ที่มรี ัศมีท่ีฐาน 3 เมตร สูง 4 เมตร 90 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
111 เรื่องที่ 3 การหาปรมิ าตรของพรี ะมดิ กรวยและทรงกลม 3.1 พืน้ ที่ผวิ และปรมิ าตรของพีระมิด พรี ะมิด คอื ทรงสามมิติทมี่ ฐี านเปนรปู เหลย่ี มใดๆ มยี อดแหลม ซง่ึ ไมอ ยูใ นระนาบเดียวกบั ฐาน และหนา ทุกหนา เปน รปู สามเหลีย่ ม ที่มีจุดยอดรว มกันทย่ี อดแหลม ลักษณะของพรี ะมดิ ตรง 1. หนาของพีระมิดตรงเปนรูปสามเหลี่ยมหนาจั่ว 2. สันของพรี ะมิดตรงจะยาวเทากันทุกเสน 3. ความสูงเอียงของพีระมิดตรง ดานเทา มุมเทา จะยาวเทากันทุกเสน 4. ปริมาตรของพีระมิด เปนหนึ่งในสามของปริมาตร ปริซึมที่มีฐานเทากับพีระมิด และมี สวนสูงเทากบั พรี ะมิด สูตร พื้นทผ่ี ิวขา งของพีระมดิ = 1 × ความยาวรอบฐาน x สงู เอยี ง 2 พ้ืนท่ีผวิ ทั้งหมดของพีระมดิ = พ้ืนท่ีผวิ ขา ง + พ้นื ทฐี่ าน ปริมาตรของพีระมิด = 1 × พืน้ ที่ฐาน x สูง 3
112 ตวั อยางท่ี 3 พรี ะมิดฐานส่ีเหลย่ี มผืนผา กวา ง 10 เซนติเมตร ยาว 18 เซนติเมตร และความสูงของ พรี ะมิดเปน 12 เซนติเมตร จงหาความสูงเอียงของพีระมิดทั้งสองดาน 1. ความสูงเอียงดานกวาง a 2 = 122 + 92 =144 + 81 a 2 = 225 a =15 เซนตเิ มตร 2. ความสูงเอียงดานยาว c 2 = 52 + 12 2 = 25 + 144 = 169 c = 13 เซนตเิ มตร ตัวอยางท่ี 4 พรี ะมิดแหง หนึ่งมีฐานเปน รปู สี่เหลยี่ มจัตรุ ัส ยาวดา นละ 6 เมตร สงู เอยี ง 5 เมตร และ สูงตรง 4 เมตร จงหาพน้ื ทีผ่ ิวและปริมาตรของพรี ะมดิ วธิ ที าํ พนื้ ท่ผี วิ ขา งของพีระมิด = 1 × ความยาวรอบฐาน x สงู เอยี ง พนื้ ทฐ่ี าน 2 ดังนัน้ พนื้ ท่ผี ิวของพีระมดิ ปริมาตรของพีระมิด = 1 × (6x4) x 5 2 = 60 ตารางเมตร = 6x6 = 36 ตารางเมตร = 60 + 36 = 96 ตารางเซนติเมตร = 1 × พน้ื ท่ีฐาน x สงู 3 = 1 × 36 x 4 3 = 48 ลูกบาศกเมตร
113 แบบฝก หัดที่ 3 1. จงหาปรมิ าตรและพ้นื ท่ผี ิวท้งั หมดของพีระมดิ ทส่ี งู 6 เซนติเมตร ฐานเปนรปู สเี่ หลย่ี มจัตรุ สั ยาว ดา นละ 16 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. จงหาพื้นที่ผิวเอียงของพีระมิดฐานรูปหกเหลี่ยมดานเทา มุมเทา ยาวดานละ 4 เซนติเมตร สงู เอยี ง 7.5 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
114 3.2 พนื้ ทผ่ี วิ และปรมิ าตรของทรงกรวย กรวย คอื ทรงสามมิตทิ ่ีมฐี านเปนรปู วงกลม มยี อดแหลมทไี่ มอยบู นระนาบเดยี วกับฐาน และเสนท่ตี อ ระหวางจุดยอดกบั จุดใด ๆ บนเสน รอบวงของฐาน เรียกเสนตรงนวี้ า “สงู เอยี ง” สงู ตรง สูงเอยี ง พ้ืนทผ่ี ิวของกรวย การหาพ้นื ทผ่ี ิวเอียงของกรวย ทําไดโ ดยตัดกรวยตามแนวสงู เอียงแลว คล่แี ผอ อกจะเกดิ เปน รูปสามเหลี่ยมฐานโคง h สูตร พ้ืนทผ่ี ิวของกรวย = πrl + πr 2 เมือ่ r เปนรัศมีของฐานกรวย l เปนความยาวของสูงเอียง ปริมาตรของกรวย ความสัมพันธของปริมาตรของกรวยกับทรงกระบอก จะเหมือนกับความสัมพันธของ ปรซิ ึมกับพีระมดิ ทม่ี ีสวนสูงและพ้ืนท่ีฐานเทา กนั น่ันคอื
115 ปริมาตรของกรวย เปน 1 ของปริมาตรของทรงกระบอก ที่มีพื้นที่ฐานและสวนสูงเทากับ 3 กรวย สตู ร ปริมาตรของกรวย = 1 × πr 2 h 3 เมื่อ r แทน รัศมีของฐานกรวย h แทน ความสูงของกรวย ตวั อยา งท่ี 6 จงหาพ้ืนทผ่ี วิ และปรมิ าตรของกรวย ซงึ่ สงู 24 เซนตเิ มตร และเสน ผา นศูนยก ลาง 14 เซนตเิ มตร รัศมี = 14 = 7 เซนตเิ มตร วธิ ที ํา 2 หาความสูงเอียง (l) จาก ABO l 2 = 242 + 7 2 = 576 + 49 = 625 l = 25 เซนตเิ มตร พ้นื ทผี่ ิวขาง = πrl พ้นื ทฐี่ าน = 22 × 7 × 25 = 7 = 550 ตารางเซนตเิ มตร = πr 2 = 22 × 7 × 7 7 154 ตารางเซนตเิ มตร พน้ื ที่ผิวทั้งหมด = พน้ื ท่ีผวิ ขา ง + พืน้ ท่ีฐาน = 550 + 154 = 704 ตารางเซนตเิ มตร ปริมาตรของกรวย = 1 × πr 2 h 3 = 1 × 22 × 7 × 7 × 24 37 = 1,232 ลูกบาศกเซนติเมตร พน้ื ท่ผี ิวทัง้ หมด 704 ตารางเซนตเิ มตร ปริมาตรของกรวย 1,232 ลูกบาศกเซนติเมตร
116 แบบฝก หดั ท่ี 4 1. จงหาปริมาตร และพื้นที่ผิวทั้งหมดของกรวยกลมที่สูง 24 เซนติเมตร มีเสน ผานศูนยกลาง 14 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. จงหาปริมาตรและพื้นที่ผิวทั้งหมดของกรวยกลมที่สูงเอียง 5 เซนตเิ มตร มีเสน ผานศูนยก ลาง 8 เซนตเิ มตร (ตอบในรูป π) ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3. จงหาปริมาตรจรวดทรงกระบอกมีปลายเปนกรวย มีเสนผานศูนยกลาง 14 เซนติเมตร ความยาว ทรงกระบอก 30 เซนตเิ มตร ความสงู ยอดกรวย 12 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
117 3.3 พ้ืนท่ผี ิวและปริมาตรของทรงกลม ทรงกลม คอื ทรงสามมติ ทิ ี่มีผวิ โคงเรยี บ และจุดทุกจุดอยูบนผิวโคงอยหู า งจากจุดคงที่จดุ หน่ึงเปนระยะเทากนั จุดคงที่ เรียกวา จุดศูนยก ลางของทรงกลม ระยะท่เี ทากนั เรยี กวา รศั มีของทรงกลม พนื้ ท่ีผิวของทรงกลม พ้ืนที่ผิวของทรงกลม เปนสี่เทาของพื้นที่วงกลม ซึ่งมีรัศมีเทากับรัศมีของทรงกลม จาก พ้นื ทข่ี องรปู วงกลม = πr 2 ดงั น้ัน พน้ื ที่ผิวของทรงกลม = 4 πr 2 สูตร พน้ื ท่ผี วิ ของทรงกลม = 4 πr 2 ปริมาตรของทรงกลม ปริมาตรของทรงกลมอาจหาไดจากการทดลองหาความสัมพันธระหวางปริมาตรของครึ่ง วงกลมกับปริมาตรของกรวย ขอ กาํ หนด 1) ครึ่งของทรงกลมที่มีรัศมี r หนว ย 2) กรวยที่มีรัศมีเทากับครึ่งทรงกลม r หนว ย และสว นสงู ของกรวย (h) เปน 2 เทา ของรัศมี ฐานของกรวย คือ 2 r หนว ย
118 สตู ร ปริมาตรของทรงกลม = 4 πr 3 3 เม่อื แทน r รัศมีของทรงกลม ตัวอยางที่ 7 จงหาปรมิ าตรและพนื้ ท่ีผิวของลูกโลกพลาสตกิ ซง่ึ มีรัศมยี าว 7 เซนติเมตร วิธีทาํ พ้นื ทผ่ี ิวทรงกลม = 4 πr 2 = 4 × 22 × 7 × 7 7 = 616 ตารางเซนตเิ มตร ปริมาตรทรงกลม = 4 πr 3 3 = 4 × 22 × 7 × 7 × 7 37 = 4,312 3 = 1,437.3 ลูกบาศกเซนติเมตร พน้ื ท่ผี วิ ของทรงกลม = 616 ตารางเซนตเิ มตร ปริมาตรของทรงกลม = 1,437.3 ลูกบาศกเซนติเมตร
119 แบบฝกหัดที่ 5 1. จงหาปริมาตรและพื้นที่ผิวของทรงกลมซึ่งมีเสนผานศูนยกลาง 14 เซนตเิ มตร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. ทรงกลมมีปริมาตร 38,808 ลกู บาศกเซนตเิ มตร จงหารัศมแี ละพน้ื ท่ีผวิ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3. ทรงกลมมีพ้นื ทผี่ วิ 616 ตารางนิ้ว จงหาปริมาตรของทรงกลม ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 4. โลหะกลมลูกหน่งึ รศั มภี ายนอก 21 เซนติเมตร รัศมีภายใน 7 เซนตเิ มตร จงหาปรมิ าตรเนอ้ื โลหะ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
120 เร่ืองที่ 4 การเปรยี บเทยี บหนว ยปรมิ าตร การตวง คือ การนําส่ิงทต่ี องการหาปริมาตรใสใ นภาชนะท่ีใชส ําหรบั ตวง หนว ยการตวง ท่ีนยิ มและใชก นั มาก คอื ลติ ร 1 ลติ ร = 1,000 มลิ ลิลิตร 1,000 ลติ ร = 1 กิโลลติ ร เมือ่ เทียบกับหนว ยปรมิ าตร หนว ยการตวงในมาตราไทย เปนหนวยการตวงที่นิยมใชกันมาก คอื 1 ถัง = 20 ลติ ร (ทะนานหลวง) 1 เกวียน = 100 ถัง 1 เกวียน = 2 ลูกบาศกเมตร 1 เกวียน = 2,000 ลติ ร 1 ลติ ร = 1,000 ลูกบาศกเซนติเมตร 10 มิลลิลติ ร = 1 ลูกบาศกเซนติเมตร 1 ลูกบาศกเมตร = 1,000 ลติ ร 1 ลูกบาศกเมตร = 1,000,000 ลูกบาศกเซนติเมตร 1 แกลลอน = 4.546 ลติ ร 1 ลูกบาศกนวิ้ = 16.103235 ลูกบาศกเซนติเมตร 1 ลกู บาศกน้ิว = 0.0164 ลติ ร 1 ลกู บาศกฟุต = 1.728 ลูกบาศกนิว้ 1 ลกู บาศกฟ ตุ = 28.32 ลติ ร 1 บารเ รล = 158.98 ลติ ร
121 ตัวอยางท่ี 1 อางน้ําทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากใบหนึ่ง กวา ง 30 เซนตเิ มตร ยาว 50 เซนติเมตร และสูง 40 เซนตเิ มตร 1. อา งใบนจ้ี ุน้าํ ก่ลี ิตร 2. ถามนี ้ําบรรจุเต็มอาง และนาํ้ 1 ลูกบาศกเซนติเมตร หนัก 1 กรมั จงหานํ้าหนักของ นาํ้ ในอางใบนี้ วิธที าํ 1. ปริมาตรของอางนํา้ = ความกวาง × ความยาว × ความสูง แทนคา ปริมาตรของอางน้ํา = 30 × 50 × 40 = 60,000 ลูกบาศกเซนติเมตร เมอ่ื เทยี บกบั หนว ยปริมาตร 1,000 ลูกบาศกเซนติเมตร = 1 ลติ ร 60,000 ลูกบาศกเซนติเมตร = 60,000 = 60 ลติ ร 1,000 2. น้าํ 1 ลูกบาศกเซนติเมตร หนกั 1 กรมั นํ้า 60,000 ลูกบาศกเซนติเมตร หนกั 60,000 กรมั = 60,000 = 60 กโิ ลกรมั 1,000 ตอบ 60 กโิ ลกรมั 4ตัวอยางที่ 2 ถังเก็บน้ําฝนทรงกระบอกเสนผานศูนยกลางภายใน 3 เมตร สูง 5 เมตร คดิ เปน ปรมิ าตรของนาํ้ กล่ี ิตร วิธีทาํ ปริมาตร = πr2 h = 22 ×1.5 ×1.5 × 5 7 = 35.36 ลูกบาศกเมตร = 35.36 X 1,000,000 ลูกบาศกเซนตเิ มตร = 35,360,000 ลูกบาศกเซนติเมตร เนอ่ื งจาก 1,000 ลูกบาศกเซนตเิ มตร = 1 ลติ ร ดังน้นั 35,360,000 ลกู บาศกเซนติเมตร = 35,360,000 = 35,360 ลติ ร 1,000
122 แบบฝก หัดที่ 6 1. สระแหง หนง่ึ เปน รูปสี่เหล่ียมผนื ผา กนสระกวาง 5 วา ลกึ 3 เมตร ยาว 15 เมตร ถา ใชเ คร่อื งสบู นํา้ ออกจากสระไดนาทีละ 9,000 ลิตร จะตองใชเ วลาสูบนํ้าเทา ไร ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. 2. อางเลี้ยงปลาทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากกวาง 90 เซนติเมตร ยาว 1.2 เมตร จนุ ้ํา 540 ลิตร ตองการปู กระเบอ้ื งภายในอา งดว ยแผนกระเบ้อื งรปู สเี่ หลีย่ มจัตุรสั ยาวดานละ 10 เซนติเมตร ตองใชก ระเบอ้ื ง อยางนอ ยทสี่ ดุ เทาไร ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. 3. นายาบวนปากขวดหนึ่งปริมาตรสุทธิ 700 มลิ ลิลิตร ใชอ มปว นปากคร้ังละ 10 มลิ ลลิ ิตร วันละ 2 คร้ัง จะใชไดก่ีวัน ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. 4. ถังน้ําทรงลูกบาศกยาวดานละ 2 เมตร จุนํ้าไดกี่ลิตร ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. 5. ถังทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากวัดภายในกวาง 90 เซนตเิ มตร ยาว 1.50 เซนติเมตร สงู 1.20 เมตร บรรจุนํา้ เตม็ ถัง ถาตอ งการตวงนา้ํ จากถังใสแกลอนซึ่งมีความจุ 4.5 ลิตร จะไดนํ้าทง้ั หมดกีแ่ กลอน ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………….
123 เร่อื งที่ 5 การแกโ จทยปญ หาเกีย่ วกับปรมิ าตรและพื้นทีผ่ ิว ตัวอยาง ลังกระดาษบรรจุกลองซีดี วัดความยาวภายในไดกวาง 12 เซนติเมตร บรรจุ ยาว 14 เซนตเิ มตร และสูง 15 เซนตเิ มตร และบรรจุกลอ งซดี เี ตม็ ลังพอดี ลงั กระดาษน้มี ปี รมิ าตรเทา ไร และถา หยบิ กลอ ง ซดี อี อกมา 1 กลอ ง ซงึ่ มปี รมิ าตร 270 ลูกบาศกเซนติเมตร กลองซีดีจะหนาเทาไร วิธที าํ ลังกระดาษมีปริมาตร = พ้นื ทฐ่ี าน x สูง = (12 x 14) x 15 = 2, 520 ลูกบาศกเซนติเมตร กลอ งซดี ี 1 กลอง มีปริมาตร = พ้นื ท่ฐี าน x หนา 270 = (12 x 15) x หนา หนา = 270 กลอ งใสซีดมี คี วามหนา = 12 ×15 1.5 เซนตเิ มตร ลังกระดาษมีปริมาตร 2,520 ลูกบาศกเซนติเมตร ตวั อยาง นาํ้ ขนั ครง่ึ วงกลมรัศมี 3 น้ิว ตักนํ้าใสถ งั ทรงกระบอกทีม่ ีรศั มี 10 น้ิว และสงู 27 น้ิว กี่คร้ัง นาํ้ จงึ จะเตม็ ถงั วิธีทํา ปริมาตรน้ํา 1 ขัน = 1 ของปริมาตรของทรงกลม 2 = 1 × 4 πr 3 23 = 1 × 4 ×π ×3×3×3 23 = 18 π ลูกบาศกน ิว้ ปริมาตรถังทรงกระบอก = πr 2 h = π ×102 × 27 = 2,700 π ลูกบาศกน้วิ จะตองตักนาํ้ = 2,700π ครัง้ ตอบ 18π = 150 คร้ัง 150 ครงั้
124 แบบฝกหดั ท่ี 7 1. ถังเกบ็ นาํ้ มนั ของปมแหง หนึ่งเปนรปู ทรงกลม มีเสน ผานศูนยกลาง 7 เมตร ตองการทาสีครึ่ง ทรงกลมบน โดยเสียคาทาสีตารางเมตรละ 40 บาท ตองเสียคาทาสีกี่บาท ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 2. หินออนทรงลูกบาศกมีขนาดดานละ 2.1 เมตร ถาตองการกลึงใหเปนรูปทรงกลมใหมีขนาดเสน ผานศูนยกลางเทากับความยาวของดานลูกบาศก จงหาวาจะตองกลึงหินออกไปปริมาตรเทาใด ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3. นําแทงตะกั่วทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากกวาง 8 นว้ิ ยาว 11 น้ิว หนา 5 นว้ิ ไปหลอมเปน ลูกปน ทรงกลม ขนาดรัศมี 1 นิ้ว จะหลอมไดกี่ลูก ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
125 เร่ืองท่ี 6 การคาดคะเนเกย่ี วกับปรมิ าตรและพ้นื ทีผ่ ิว การคาดคะเนพื้นที่ เปนการประมาณพื้นที่อยางคราวๆ จากการมองโดยอาศัยประสบการณ และความรูเกี่ยวกับขนาดและความยาวมาชวยในการเปรียบเทียบและตัดสินใจ เพื่อใหใกลเคียงกับ พน้ื ทจ่ี ริงมากท่ีสุด หนวยพนื้ ที่ทน่ี ิยมใช คือ ตารางเซนติเมตร(ซม.2 ) ตารางเมตร(ม.2) และตารางวา (วา2) การคาดคะเนพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม ตวั อยา ง จงคะเนหาพนื้ ที่รูปหลายเหลย่ี มตอไปน้ี
126 วธิ ีคดิ ในบางคร้งั การหาพ้ืนท่ีรปู หลายเหล่ยี มตางๆ ทไี่ มไ ดระบหุ นวยความยาว เราอาจจะใช วธิ ีการสรางหนวยตาราง 1 หนว ย คลุมพื้นท่ดี งั กลาว โดยกาํ หนด แทนพน้ื ท่ี 1 หนวย หรอื แทนพืน้ ท่ี 1 ตารางเซนตเิ มตร หรอื แทนพืน้ ที่ 1 ตารางเมตร หรอื แทนพน้ื ท่ี 1 ตารางวา จากรูปภาพนับรปู ได 22 รูป ซงึ่ แทนพน้ื ท่ี 22 ตารางหนว ย ดงั นนั้ พน้ื ท่ีรปู หลายเหลย่ี ม = 22 ตารางหนวย
127 บทท่ี 7 คูอันดบั และกราฟ สาระสําคัญ คอู ันดับ เปน การจบั ครู ะหวางสมาชิกสองตวั จากกลุม เพ่อื นําไปจดั ทํากราฟบนระนาบพกิ ัด หาปริมาณ ความเกี่ยวของของปริมาณสองชุด ผลการเรียนรูทีค่ าดหวงั 1. อานและอธิบายความหมายคูอันดับได 2. อานและแปลความหมายกราฟบนระนาบพิกัดฉากที่กําหนดใหได 3. เขียนกราฟแสดงความเกี่ยวของของปริมาณสองชุดที่กําหนดใหได ขอบขา ยเน้ือหา เร่ืองที่ 1 คูอ ันดับ เร่ืองท่ี 2 กราฟของคูอ ันดับ เร่ืองท่ี 3 การนําคูอันดับและกราฟไปใช
128 เรือ่ งที่ 1 คูอ ันดบั คอู ันดับ (Ordered pairs) เปนการจับคูระหวางสมาชิกสองตัวจากกลุม 2 กลมุ ท่ีมี ความสัมพนั ธภายใตเ ง่ือนไขทีก่ ําหนด เขยี นแทนดว ยสัญลักษณ (a , b) อา นวา คอู นั ดับเอบี เรียก a วา สมาชิกตวั หนา หรือสมาชิกตัวที่หนง่ึ และเรียก b วา สมาชิกตัวหลัง หรอื สมาชกิ ตัวที่สอง ดงั แผนภาพ เขยี นเปนคูอันดับไดดงั น้ี (1, 12), (2,24), (3,36), (4,48) หมายเหตุ คูอ ันดบั (1,a) ≠ (a,1) ถา กาํ หนด ( a , b ) และ ( x , y ) เปนคูอันดับ 2 คใู ดๆ จะไดว า ( a , b ) = ( x , y ) กต็ อ เมื่อ a = x และ b = y เชน 1. ( x , y ) = (5 , 12) ดงั นนั้ x = 5 และ y = 12 2. (x – 3, y – 2 ) = (0,0) วิธที ํา x – 3 = 0 และ y – 2 = 0 ดังน้ัน x = 3 และ y = 2
129 แบบฝก หัดที่ 1 1. จงเขยี นคอู ันดบั จากแผนภาพทก่ี าํ หนดให 2. จงหาคา x และ y จากเงื่อนไขทก่ี าํ หนดให ตอไปน้ี ในแตล ะขอ ตอไปน้ี 1). 1). (x,y) = (4,3) …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… 2). 2). (x,y) = (y,2) …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… 3). …………………………………………… 3). (x,0) = (6,y) …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… 4). (x+1,y) = (5,4) …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… ……………………………………………
130 เร่อื งที่ 2 กราฟของคอู ันดับ กราฟของคูอ ันดับเปนแผนภาพทีแ่ สดงความสัมพันธระหวางสมาชิกของกลุมหนึง่ กลับ สมาชิกของอีกกลุม หนึ่งโดยใชเสนจํานวนในแนวนอนหรือแนวตั้ง ใหตัดกันเปนมุมฉาก ที่ ตาํ แหนง ของจดุ ทแ่ี ทนศนู ย (0) ซง่ึ เราเรยี กวา จดุ กาํ เนิด ดงั ภาพ เสน จาํ นวนในแนวนอน หรอื แกน X และเสน จาํ นวนในแนวตง้ั หรอื แกน Y อยูบนระนาบ เดยี วกนั และแบง ระนาบออกเปน 4 สว นเรยี กวา จตุภาค (Quadrant) การอานและแปลความหมายกราฟบนระนาบพกิ ัดฉากทีก่ ําหนดให
131 ตาํ แหนง ของจุด A คอื (1,2) ตาํ แหนง ของจุด B คอื (-2,3) ตาํ แหนง ของจุด C คอื (-3,-2) ตาํ แหนง ของจุด D คอื (2,-4) เรยี กจดุ ทแี่ ทนตําแหนง คูอนั ดับวากราฟของคูอนั ดบั และเรียกตาํ แหนงของคูอันดับวา พกิ ดั ตัวอยา ง กาํ หนด A = (-4,6) , B= (3,-5) , C= (2,2) , D = (-1,-2) จดุ A, B, C, D อยูในจตุภาคใด วิธีทํา จดุ A = (-4,6) อยูในจตภุ าคที่ 2 จดุ B = (3,-5) อยูใ นจตุภาคที่ 4 จดุ C = (2,2) อยูในจตุภาคท่ี 1 จดุ D = (-1,-2) อยใู นจตภุ าคที่ 3
132 แบบฝก หดั ที่ 2 1. จงหาพกิ ดั ของจดุ A, B, C, D ในแตล ะขอ 1.1 ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 1.2 ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
133 2. จงเขียนกราฟของคูอันดับในแตละขอ 1). (1, 2), (-2, 4), (3, -6), (4, 0) 2). (5, -1), (2, 2), (-4, 3), (-2, 0)
134 เร่ืองที่ 3 การนาํ คูอ ันดบั และกราฟไปใช เราสามารถนาํ คูอนั ดับและกราฟไปใชในชีวิตประจําวันได ซึ่งจะกลา วในตัวอยางตอไปนี้ ตวั อยา งที่ 1 กราฟที่แสดงปริมาณน้ํามัน (ลิตร) และรา คาน้ํ ามัน (บาท) ของวนั ที่ 5 เ ดือน มีนาคม ป 2552 4 ซึ่งมีราคาลิตรละ 19 บาท วธิ ที ํา 4 ราคาน้ํามนั (บาท) ปริมาณนํ้ามนั (ลติ ร) ตวั อยางท่ี 2 จากกราฟในตัว อยางที่ 1 จงต อบคําถามตอไ ปน้ี 4 (1) น้ํามนั 9 ลิตร ราคาเทาใด (2) เงนิ 209 บาท ซ้ือน้ํามันไดกีล่ ติ ร วิธีทาํ 4
135 (1) จากตาํ แหนง แสดงปรมิ าณนาํ้ มนั 9 ลติ ร ลากเสนตรงใหข นานกบั แกนตง้ั ไป ตดั กราฟและจากจุดทต่ี ดั กราฟลากเสน ตรงขนานแกนนอนไปตดั แกนท่ีแสดงราคานาํ้ มนั เปน เงิน 171 บาท ดงั นัน้ นํา้ มัน 9 ลติ ร เปนราคา 171 บาท (2) จากตาํ แหนง แสดงราคานาํ้ มนั 209 ลติ ร ลากเสน ตรงใหข นานกบั แกนนอนไปตัดกราฟและ จากจดุ ทต่ี ัดกราฟลากเสนตรงขนานแกนตั้งไปตัดที่แกนแสดงจํานวนน้ํามันเปนปริมาณ 11 ลติ ร ดงั นน้ั เงิน 209 ลติ ร จะซ้ือนํ้ามันได 11 ลติ ร แบบฝกหัดที่ 3 กราฟขางลางแสดงการเดินทางของอนุวัฒนและอนุพันธ จงใชกราฟที่กําหนดใหตอบคําถามตอไปนี้ 1.อนวุ ัฒนอ อกเดนิ ทางกอนอนุพันธก ชี่ วั่ โมง 4.อนวุ ัฒนอ อกเดนิ ทางนานเทา ไรจงึ จะหยดุ พกั ................................................................. ................................................................. 2.อนุพันธใชเ วลาเดนิ ทางกชี่ ั่วโมงจงึ ทนั อนุวัฒน 5.ตาํ แหนง ท่ีอนวุ ัฒนห ยุดพกั หางจากตําแหนงที่ อนุพนั ธอ อกเดินทางก่ีกิโลเมตร ................................................................. ................................................................. 3. อนุพนั ธเดินทางทันอนวุ ัฒนเมือ่ ทั้งสอง เดนิ ทางไดกก่ี ิโลเมตร .................................................................
136 บทท่ี 8 ความสมั พนั ธร ะหวา งรปู เรขาคณติ สองมิตแิ ละสามมติ ิ สาระสําคัญ รูปเรขาคณิตสองมิติ และสามมิติ มีความสัมพันธกันเปนอยางมาก เหมาะที่จะนําไปใชใน การประดิษฐเปนรูปลูกบาศกและใชประโยชนในชีวติ ประจาํ วัน ผลการเรยี นรูทค่ี าดหวัง 1. อธิบายลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติจากภาพสองมิติที่กําหนดใหได 2. ระบุภาพสองมิติที่ไดจากการมองดานหนา ดานขาง ดานบน ของรูปเรขาคณิตสาม มติ ทิ ่ีกาํ หนดใหได 3. วาดหรือประดิษฐรูปเรขาคณิตที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศกเมื่อกําหนดภาพสองมติ ิทไ่ี ด จากการมองทางดานหนา ดานขาง หรือดานบนได ขอบขา ยเน้ือหา เรื่องที่ 1 ภาพของรูปเรขาคณิตสองมิติที่เกิดจากการคลี่รูปเรขาคณิตสามมิติ เร่ืองที่ 2 ภาพสองมิติที่ไดจากการมองดานหนา ดานขาง หรือดานบนของรูปเรขาคณิตสามมิติ เรื่องที่ 3 การวาดหรือประดิษฐรูปเรขาคณิตที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก
137 เรอื่ งท่ี 1 ภาพของรปู เรขาคณติ สองมิตทิ ่เี กิดจาการคล่ีรูปเรขาคณิตสามมติ ิ รูปเรขาคณิตมีสวนเกีย่ วของสัมพันธกับชีวิตประจําวันมนุษยตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน สิ่งแวดลอมตางๆ ที่อยูรอบตัวเราลวนเปนไปดวยวัตถุรูปเรขาคณิต นอกจากนีเ้ ราใชเรขาคณิตเพือ่ ทําความเขาใจหรืออธิบายสิ่งตางๆ รอบตวั เชน ในการสํารวจพ้นื ที่ สรางผังเมือง เปนตน ภาพของรูปเรขาคณิต รูปเรขาคณิต เปนรูปที่ประกอบดวย จุด ระนาบ เสนตรง เสนโคง ฯลฯ อยางนอยหนึง่ อยา ง ตวั อยางภาพเรขาคณิตสองมิติ ตัวอยางรูปเรขาคณิตสามมิติ จะเห็นวา รูปเรขาคณิตสามมิติ หรือทรงสามมิติ มีสวนประกอบของรูปเรขาคณิตหนึ่งมิติ และสองมิติ
138 รูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติ รูปคลี่ของรปู เรขาคณิตสามมิติ หรือทรงสามมิติใดๆ เปนรูปเรขาคณิตสองมิติที่สามารถ นํามาประกอบกันแลวไดทรงสามมิติ พิจารณาทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความกวาง ความยาว และความสูง 1 หนวย เทา กัน ซ่ึงเรา เรียกทรงส่เี หล่ียมมุมฉากน้ีวา “ลูกบาศก”
139 แบบฝก หัดที่ 1 1. จงบอกชนิดของรูปเรขาคณิตสามมติ ทิ ่ีมีรปู คลี่ดงั ตอ ไปนี้ 1. ……..………………………...…. 2. ….………………………………. 3. …….…………………………….. 4. …..……………………………….
140 2. จงเขียนรูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติในแตละขอตอไปนี้
141 เรือ่ งที่ 2 ภาพสองมติ ทิ ่ไี ดจ ากการมองดานหนา ดา นขา ง หรอื ดานบนของรปู เรขาคณติ สามมติ ิ โดยทั่วไปการเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติ ในการอธิบายลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติ นยิ มเขยี น 3 ภาพ ซึ่งประกอบดวย ภาพท่ไี ดจากการมองทางดา นหนา ดา นขา ง และดานบน ดัง ตวั อยาง ตวั อยา ง จงแรเงาพรอมทั้งเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติสวนที่เปนดานบน ดานหนา และดานขางของ ทรงสามมิติที่กําหนดใหตอไปนี้
142 วิธที าํ
143 แบบฝก หดั ที่ 2 จงเขียนภาพดานบน ดานหนา และดานขางของรูปเรขาคณิตสามมิติที่กําหนดให
144 เรือ่ งท่ี 3 การวาดหรอื ประดิษฐรปู เรขาคณติ ทป่ี ระกอบข้นึ จากลกู บาศก พิจารณารูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศกตอไปนี้ จะเหน็ วา เมื่อเขยี นรูปเรขาคณติ สองมิติ แสดงภาพทไ่ี ดจ ากการมองดา นหนา ดานขาง และ ดา นบนดงั ภาพ จะเหน็ วาการเขียนรูปเรขาคณติ สองมติ ิ เพอื่ แสดงรูปเรขาคณิตสามมติ ทิ ี่ประกอบขน้ึ จาก ลูกบาศก เราสามารถเขียนจํานวนลูกบาศกกํากับไวในตารางรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสในดานที่มองทั้งสาม ดานดังภาพตอ ไปน้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268