Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1.ชุดวิชา ทร21001 ม.ต้น

1.ชุดวิชา ทร21001 ม.ต้น

Published by Punyanut Keawnim, 2021-02-10 07:14:24

Description: วิชาการเรียนวิชาทักษะการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

ขน้ั ที่ 4 ประเมินผลการเรยี นรู้ - ผเู้ รียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน 3. สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ 1. วิดิทัศน์ข่าวนำ้ ท่วม ปี ๒๕๕๔ 2. ใบงาน 4. การวัดผลและประเมินผล 1แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน 2. แบบประเมนิ ใบงาน 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม 4. แบบประเมินด้านจติ พสิ ยั ลงช่อื .........................................................ผสู้ อน () ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล

คําชีแ้ จง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบทีถ่ ูกทสี่ ดุ เพียงขอ้ เดียว 1.ข้อใดหมายถึงความพอประมาณ ก.การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ข.ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป ค.การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล ง.การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ๒.ข้อใดหมายถึงความมีเหตุผล ก.ความพอดีท่ีไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป ข.การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงน้ันจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล ค.การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ง.การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ๓.ความพอเพียงหมายถึงข้อใด ก.ความพอประมาณ ข.ความมีเหตุผล ค.การมีระบบภูมิคุ้มกัน ง.ถูกทุกข้อ ๔.ข้อใดหมายถึงเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับเกษตรกร ก.มีความพอเพียงเลี้ยงตัวได้บนพ้ืนฐานของความประหยัดและลดค่าใช้จ่าย ข.ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลดละเลิกอบายมุขให้หมดส้ินไป ค.ยึดความประหยัดตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ง.ควรแสวงหาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูนข้ึน ๕.ปัจจัยสำคัญท่ีช่วยส่งเสริมการทำงานมี ๕ ประการได้แก่อะไรบ้าง ก.บุคลิกภาพ การสื่อสาร การตัดสินใจ การทำงานเป็นทีม ภาวะผู้นำ ข.บุคลิกภาพ การส่ือสาร การตัดสินใจ ความต้ังใจในการทำงาน ภาวะผู้นำ ค.การสื่อสาร การตัดสินใจ การทำงานเป็นทีม ภาวะผู้นำ ความตั้งใจในการทำงาน ง.การตัดสินใจ การทำงานเป็นทีม ภาวะผู้นำ ความต้ังใจในการทำงาน บุคลิกภาพ

๖.ข้อใดเป็นเง่ือนไขความรู้ ก.มีความซ่ือสัตย์สุจริต ข.มีความอดทน ค.มีความเพียร ง.มีความระมัดระวัง ๗.ข้อใดเป็นคุณลักษณะของหลักเศรษฐกิจพอเพียง ก.นำไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ทุกระดับ ข.เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควร ค.ประกอบด้วยความพอประมาณ มีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ง.การตัดสินใจต้องอาศัยเง่ือนไขความรู้และคุณธรรม ๘.ข้อใดคือทางสายกลาง ก.ความพอประมาณและมีเหตุผล ข.มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ค.เงื่อนไขความรู้ ง.ถูกทุกข้อ ๙.ข้อใดเป็นปัจจัยในการทำงานให้เหมาะสมกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง ก.บุคลิกภาพและการสื่อสาร ข.การตัดสินใจ ค.การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ ง.ถูกทุกข้อ ๑๐.ข้อใดเป็นทฤษฎี ข้ันท่ี ก.ดำปลูกผักบุ้งไว้รับประทานส่วนที่เหลือนำไปขาย ข.แดงและสมาชิกในหมู่บ้านรวมกลุ่มกันทำสินค้า OTOP จำหน่ายในชุมชน ค.เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ของจังหวัด ง.ถูกทุกข้อ

ใบงานท่ี 1 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง ทช 21001 เร่อื ง การประกอบอาชีพอยา่ งพอเพียง คำช้แี จง ให้นกั ศกึ ษาตอบคำตอบต่อไปนใี้ ห้ถกู ตอ้ ง ๑. ให้ผู้เรียนหาทรัพยากรทมี่ ีอยู่ของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน มาคนละ 5 อยา่ ง พร้อมทงั้ ตอบคำถาม ตามหัวขอ้ ทค่ี รูกำหนดให้ ๑.๑ อธิบายส่วนประกอบของทรัพยากรนีม้ ีอะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.2 บอกข้นั ตอนการผลติ ทรัพยากรน้ที ำอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……………………………………………………………………… ๑.๓ สาเหตุท่เี ลือกทรัพยากรน้ีเพราะอะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….

ชุดวิชา การเงนิ เพอ่ื ชีวติ 2 CS media Learning รหสั วชิ า สค22016 รายวิชาเลอื กบงั คบั ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอชมุ แสง สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดนครสวรรค์ สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการเรยี นรรู ายสปั ดาห กลุมสาระการเรียนรู การพัฒนาสงั คม รายวิชา การเงินเพื่อชวี ิต ๒ รหสั วชิ า สค 2๒01๖ เรื่อง วา ดว ยเรอื่ งของเงนิ การวางแผนการเงิน ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาตอนตน จํานวน 6 ชว่ั โมง การพบกลุม ครั้งท่ี ๑2

แผนการเรยี นรูร ายสปั ดาห กลมุ สาระการเรยี นรู การพัฒนาสังคม รายวิชา วิการเงนิ เพ่อื ชวี ิต ๒ รหัสวชิ า สค 2๒01๖ เรอ่ื ง วา ดวยเรอ่ื งของเงนิ การวางแผนการเงิน ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนตน จํานวน 6 ชวั่ โมง วนั ท่จี ัดการเรยี นการสอน...................................................การพบกลมุ ครง้ั ที่.....................๑2............................ 1. ตัวชีว้ ัด 1. ความหมายและประโยชนข องเงนิ 2. บอกประเภทและลักษณะของเงนิ ตราไทย ๓. อธิบายวธิ กี ารตรวจสอบธนบตั ร 2. เน้อื หา 1. ความหมายและประโยชน 2. ประเภทของเงิน ๓. การรูจกั ฐานะการเงนิ ของตนเอง ขัน้ จัดกระบวนการเรยี นรู ขั้นที่ 1 กําหนดสภาพปญ หาความตองการในการเรียนรู - ครูใหนกั ศึกษาทําแบบทดสอบกอนเรียน - ครูกระตุน และนาํ เขา สบู ทเรียนโดยครนู ําตัวอยา งประเภทชนิดของเงิน ครูและผูเรยี นรว มกันสนทนาเกีย่ วกบั การฝากเงิน และการประกันภัย

ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาขอมลู และจัดการเรียนรู - ครูใหผูเ รียนศึกษาขอ มูลประเภทของเงนิ การฝากเงิน และการประกนั ภยั การชาํ ระเงินใน รปู แบบตา งๆ (ใบความรู เรื่องวา ดวยเร่ืองเงิน การวางแผนการเงนิ ) -และศกึ ษาหาขอมูลเพิม่ เติมเร่อื ง วา ดว ยเร่อื งเงิน และการวางแผนการเงิน (ใบงาน เรอื่ งวาดว ยเร่อื งของเงนิ การวางแผนการเงิน) http://203.159.251.144/pattana/download/g.6/16.%20 money/money%201,2,3/2..pdf

ขนั้ ที่ 3 ปฏิบัตแิ ละนาํ ไปประยกุ ตใช - ครใู หผูเ รียนทําใบงาน เรื่อง ความหมายและประโยชนของเงิน ประเภทของเงนิ ขั้นท่ี 4 ประเมินผลการเรยี นรู - ผเู รยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี น

3. ส่อื ประกอบการเรยี นรู ๑. ใบความรู เรื่อง วา ดวยเรื่องของเงิน การวางแผนการเงนิ 2. ใบงาน ความหมายและประโยชนของเงนิ ประเภทของเงิน 4. การวัดผลและประเมินผล 1 แบบทดสอบกอนเรียน-หลงั เรียน 2. แบบประเมนิ ใบงาน 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ 4. แบบประเมนิ ดานจิตพสิ ัย ลงชอื่ .........................................................ผสู อน () ตําแหนง ครู กศน.ตาํ บล

คําชแี้ จง ใหน ักศกึ ษาเลือกคาํ ตอบทถี่ ูกท่สี ดุ เพียงขอ เดยี ว 1. การใหย มื เงนิ หมายถงึ ขอ ใด ก. การใหเ งนิ โดยคาดหวงั ใหมีการจายคนื ข. การใหเงินโดยไมไดห วงั ผลตอบแทน ค. การใหเงนิ โดยไมต องจายคืน ง. ผิดทุกขอ 2. ขอใดตอไปนี้คือวธิ ีตรวจสอบธนบตั ร ก. สมั ผัสเน้อื กระดาษ และลวดลายเสน นูน ข. พลกิ เอียงสงั เกตแถบฟอยลสามมิติ ค. ยกสองดูลายนํา้ ง. ถูกทุกขอ 3. ขอ ใดตอไปน้ีกลา วถูกตอง ก. บัญชเี งนิ ฝากในสหกรณจ ะไดรับความคมุ ครองจากสถาบนั คุมครองเงินฝากหาก สหกรณปด กจิ การลง ข. การคิดดอกเบย้ี ทบตน จะทําใหมียอดเงนิ ในบัญชีเทา กับการคิดดอกเบย้ี แบบไมทบตน ค. บัญชีเงินฝากทีค่ วรเปด เพ่ือไวร ับเงินเดือนหรือคา จาง คือ บัญชีเงนิ ฝากประจาํ ง. การทาํ ประกนั คุมครองความเสียหายของบานจัดเปนประกันวนิ าศภัย 4. ขอใดตอ ไปน้กี ลาวถูกตอง ก. ใชบตั รเอทเี อม็ ซือ้ สนิ คา ไดท่รี า นคา ข. ใชบตั รเดบิตเบกิ เงนิ กไู ดทเ่ี ครื่องเอทเี อ็ม ค. ใชบ ตั รเดบติ ซ้ือของ จะไมต องจายดอกเบย้ี ง. เมื่อซื้อของดว ยบัตรเครดิต ยอดเงนิ ฝากในบัญชจี ะถูกตดั ทันที 5. ธนาคารพาณิชยอยภู ายใตการกํากบั ดแู ลของหนวยงานใด ก. คณะกรรมการกาํ กับหลักทรัพยแ ละตลาดหลกั ทรัพย ข. ธนาคารแหงประเทศไทย ค. กระทรวงการคลงั ง. กระทรวงพาณิชย

๖. หากตองการแลกเงินบาทเปน เงนิ ตราตา งประเทศ จะตองไปแลกเปลี่ยนที่ใด ก. โรงแรมหรือบริษัทท่ีไดรบั อนุญาตใหป ระกอบธุรกจิ แลกเปล่ียนเงินตราตางประเทศ ข. ธนาคารพาณชิ ยท่ใี หบริการแลกเปลย่ี น ค. รา นคา สะดวกซือ้ ง. ถูกทง้ั ขอ ข และ ค ๗. ขอ ใดกลาวถูกตองเกย่ี วกับการประเมนิ ฐานะการเงนิ ก. ความมัง่ ค่งั สทุ ธคิ ํานวณมาจากทรัพยสิน + หนส้ี นิ ข. พฤตกิ รรมการใชจา ยจะประเมนิ ดวยบญั ชีรายรบั -รายจา ย ค. รายไดตอ เดือนและทรัพยสนิ ท่มี ี ใชบอกความมง่ั คงั่ ของบุคคลได ง. ประกันชีวติ แบบสะสมทรัพยแ ละกองทุนรวม เปนสินทรัพยส ภาพคลอง ๘. ขอ ใดไมใ ชลักษณะการมสี ุขภาพการเงนิ ทดี่ ี ก. บัญชเี งนิ ฝากในสหกรณจะไดรับความคมุ ครองจากสถาบันคุมครองเงนิ ฝากหาก สหกรณป ดกจิ การลง ข. การคดิ ดอกเบีย้ ทบตน จะทําใหม ียอดเงนิ ในบัญชีเทากบั การคิดดอกเบย้ี แบบไมทบตน ค. บัญชีเงินฝากที่ควรเปด เพ่ือไวรบั เงินเดือนหรอื คาจาง คือ บญั ชีเงนิ ฝากประจํา ง. การทาํ ประกนั คุมครองความเสยี หายของบา นจัดเปน ประกันวินาศภัย ๙. ขอใดตอไปน้ีกลา วถูกตอง ก. เปน รายจายท่ไี มสําคัญตอ ชีวติ แตเกิดข้ึนเพราะความรูสกึ อยากได เชน คา แตงรถ ข. เปน รายจา ยสําคัญสําหรับชวี ิต เชน คา อาหาร คา เชา บา น ค. เปน รายจายท่จี ะตอ งจา ย ไมส ามารถตัดออกได ง. เปนรายจา ยที่ทุกคนมีในจํานวนเทา กนั ๑๐. ขอใดไมใ ชล ักษณะของเปา หมายทางการเงินที่ดี ก. มคี วามชดั เจน ข. สามารถวดั ผลได ค. มีกรอบระยะเวลาท่ชี ัดเจน ง. ครอบคลุมถึงเปา หมายท้ังหมดในชวี ิต

ใบงานท่ี 1 การเงินเพื่อชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรอื่ ง วาดว ยเรือ่ งของเงิน การวางแผนการเงนิ คาํ ชี้แจง ใหนักศกึ ษาตอบคาํ ตอบตอ ไปนีใ้ หถูกตอง (10 คะแนน) ๑. ความหมายและประโยชนของเงนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ประเภทของเงิน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบความรูท ่ี 1 วชิ า การเงนิ เพื่อชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง วา ดว ยเรื่องของเงิน การวางแผนการเงนิ เรอื่ งท่ี 1 ความหมายและประโยชนของเงิน ความหมายและประโยชนข องเงิน พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 ใหค วามหมายของ “เงิน” คือ วัตถุท่กี ําหนดใหใชเ ปน ส่อื กลางในการแลกเปลี่ยนหรือชาํ ระหนี้ ปจ จบุ นั สว นใหญ คือ ธนบตั ร และเหรยี ญกษาปณ อยา งไรก็ดี เงนิ อาจ ไมไดจาํ กัดอยใู นรูปธนบัตรและเหรียญกษาปณเ ทานน้ั แตอาจอยูในรปู แบบอื่น ๆ อีก เชน เงินอเิ ล็กทรอนิกส “เงิน” เปน สงิ่ สําคัญที่มีผลตอ การดาํ รงชีวิตในยคุ ปจจบุ ัน เพราะเปนส่ิงท่ีใชใน การซื้อหาส่ิงของหรือบรกิ าร เพ่ือใหส ามารถดาํ รงชีพได หรอื เพื่อความสะดวกสบาย เชน การซ้อื หาอาหาร สิ่งของจาํ เปน การศึกษา การ รกั ษาพยาบาล คาใชจ ายเดนิ ทาง ดังนนั้ ทุกคนจึง จาํ เปน ตอ งประกอบอาชีพ สรา งอาชีพใหต นเองเพื่อใหมเี งิน หรือมีรายไดเ ล้ียงตนเองและคนใน ครอบครวั เมือ่ ไดเงนิ มาแลว ก็ควรรูจกั วางแผนการเงนิ ของตนเอง เพือ่ ใหใชเ งนิ อยางรคู ุณคา และมเี งินเพยี งพอตอ การดํารงชพี เชน เมือ่ มีรายไดใ หนําไปเกบ็ ออมสว นหนึ่งกอน โดยลาํ ดบั แรก ควรออมเผอ่ื ฉุกเฉนิ เม่อื เกดิ เหตุการณไมคาดฝนจะไดดึงเงินทอ่ี อมมาใชจายได หรอื การรูจกั วางแผนการใชจา ย โดยใชจ ายในสิ่งทจ่ี าํ เปน กอน หรือหากมเี งินออมเพยี งพอแลว อาจนาํ เงนิ ออม บางสว นไปสรา งผลตอบแทนเพิ่มข้นึ เชน การฝากเงินใน บญั ชเี งินฝากประจําเพ่ือรับดอกเบ้ยี ท่ีสูงขึ้น หรอื การลงทุนภายใตค วามเส่ียงทย่ี อมรับได เพ่ือใหเ งินท่ีหามาได สรา งมูลคาทีเ่ พม่ิ ข้นึ การใหเงนิ และการใหยมื เงนิ การใหเ งิน หมายถึง การใหเ งินโดยไมไดหวังผลตอบแทน และไมไดห วังใหมีการ นาํ เงนิ ดังกลา วมาจา ยคืน ให เชน พอแมใหค าขนมแกล กู การบริจาคเงนิ เพ่ือการกุศล การใหยืมเงนิ หมายถงึ การใหเงนิ โดยคาดหวังใหมี การจา ยคืนภายในระยะเวลา ท่ีกําหนด และมกี ารกาํ หนดอัตราผลตอบแทนของการใหยืมเงนิ นั้นดว ย ซ่ึงเรียกวา “ดอกเบ้ีย” เชน สมชายใหสมหญิงกยู ืม 10,000 บาท คิดดอกเบี้ย 2% ตอปแ ละใหใชคนื เมอื่ ครบ 1 ป หมายความวา สมหญิงตอ งจายเงินคนื สมชาย 10,200 บาท เม่ือครบ 1 ป จะเห็นวาการใหเ งนิ เปน การให เปลาไมต องคนื แตสําหรับการใหยืมเงินเปนการ คาดหวังใหมีการจายเงนิ คนื ซง่ึ ผใู หย มื อาจตอ งการดอกเบย้ี หรอื ไมต องการดอกเบีย้ ก็ได ดังนน้ั กอ นท่จี ะใหเงินหรือใหยมื เงิน ผใู หยืมควรอธบิ ายใหชัดเจนและเขา ใจตรงกัน วา ตองการใหเ งนิ หรอื ตองการใหย ืมเงนิ ซ่งึ หากเปน การใหย มื เงนิ ผูใหยืมควรแจง อตั ราดอกเบยี้ ระยะเวลาท่ตี อง ชาํ ระคืน และ ควรทาํ เอกสารเปนลายลกั ษณอักษรเพื่อเปนหลกั ฐานการใหยมื เงินไวด ว ย

ใบความรูที่ ๒ วชิ า การเงนิ เพอ่ื ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วา ดวยเรื่องของเงนิ การวางแผนการเงนิ เรอ่ื งที่ 2 ประเภทของเงนิ เงินตราไทย เงนิ ตราท่ีใชในประเทศไทย ปจ จบุ นั มี 2 ชนดิ คอื ธนบัตรและเหรยี ญกษาปณ โดยมรี ายละเอียด ดังน้ี ธนบตั ร ธนาคารแหง ประเทศไทยเปนหนวยงานทท่ี าํ หนาท่บี ริหารจดั การธนบตั ร ภายในประเทศทุก ขนั้ ตอน เร่มิ ตงั้ แตการผลติ นาํ ธนบตั รใหมอ อกใชหมุนเวียนและทําลาย ธนบตั รเกา รวมทง้ั ประเมนิ ความตองการใชธนบัตรใหมในแตล ะปวา ควรจะผลิตธนบตั รชนดิ ราคาใดออกมาจํานวนมากนอ ย เพยี งใด เพื่อใหเ พยี งพอตอความตอ งการใชจ ายของประชาชน ในประเทศ ซึ่งในแตล ะปปรมิ าณการ ผลิตธนบตั รจะผนั แปรไปตามความตอ งการใชธนบตั ร ท่ีเพ่ิมขึน้ หรือลดลงตามภาวะเศรษฐกจิ ของ ประเทศ ธนาคารแหงประเทศไทยเปนผูม สี ิทธิ์พมิ พและออกใชธ นบัตรในประเทศไทย แตเพียงผูเดียว โดยปฏบิ ตั ิตามทีพ่ ระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 กาํ หนดไววา การน า ธนบัตรออกใชหมุนเวยี น ในระบบเศรษฐกิจสามารถทําได 2 กรณีคือ 1. แลกเปล่ยี นทันทีกบั ธนบตั รที่ออกใชห มนุ เวยี นอยูแลวในมลู คา ท่เี ทา กนั เชน ธนบัตรชนิดราคา 1000 บาท 10 ฉบบั มลู คา 10,000 บาท แลกเปล่ียนกับธนบตั รใหมชนิด ราคาเดียวกันหรือชนิด ราคาอื่นในมลู คา ท่ีเทากนั อาทิ ธนบตั รชนิดราคา 500 บาท จํานวน 20 ฉบับ 2. แลกเปลยี่ นทนั ทีกบั สนิ ทรพั ยท่ีกฎหมายกําหนดใหเ ปนทุนสาํ รองเงนิ ตรา ในมลู คาทเี่ ทา กนั เชน นาํ ทองคํามลู คา 100 ลา นบาทมาเขาบัญชที นุ สํารองเงินตรา แลกเปล่ยี น กบั ธนบตั รเพอ่ื นําออกใช มลู คา 100 ลานบาทเทากัน ทาํ ไมธนบัตรจึงมีคา การทีธ่ นบตั รไดร บั ความเชอื่ ถือและมมี ลู คา ตามราคาทร่ี ะบุไวไดนั้น เน่ืองจาก กฎหมายกําหนดให ตอ ง นาํ สินทรพั ย เชน ทองคาํ เงินตราตางประเทศ หลกั ทรัพยต า งประเทศ มาแลกเปล่ยี นเทา กับจาํ นวน มลู คา ของธนบตั รท่จี ะนําออกใช ซงึ่ สินทรัพยดงั กลาวจะโอนเขาไว ในบัญชที ุนสํารองเงินตรา โดย ธนาคารแหงประเทศไทยเปน ผดู ูแลรกั ษาบัญชี และมสี ํานกั งาน

ใบความรทู ่ี ๒ วิชา การเงนิ เพอื่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง วา ดวยเรื่องของเงิน การวางแผนการเงนิ การตรวจเงินแผนดินตรวจสอบเปน ประจาํ ทุกป ดังน้ัน จึงม่ันใจไดว าธนบัตรทุกฉบับมีมลู คา ตาม ราคา ท่ตี ราไวอ ยางแทจ ริง ธนบตั รท่ีใชหมนุ เวียนในปจจบุ ัน นบั จากป พ.ศ. 2445 ท่ีเริ่มนาํ ธนบตั รแบบแรกออกใช จนถงึ ปจจบุ นั ป พ.ศ. 2559 ประเทศ ไทยมธี นบตั รออกใชห มนุ เวียนรวมจํานวน 16 แบบ โดยธนบัตรแบบปจ จุบนั คอื ธนบัตรแบบสิบหก 1มี 5 ชนิดราคา ไดแ ก 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1000 บาท ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลักษณ พระบาทสมเด็จ พระเจา อยหู ัว ในฉลองพระองค ครยุ มหาจักรบี รมราชวงศ ลักษณะธนบัตรดา นหนา ภาพประธาน : ภาพพระบรมราชานุสาวรยี พอขุน รามคําแหง มหาราช ลกั ษณะธนบตั รดานหลงั ภาพประกอบ : ภาพการประดิษฐอ กั ษรไทย ภาพ ขนาด ศิลาจารึก หลักที่ 1 จารึกพอขนุ รามคาํ แหง ภาพ วนั ประกาศออกใช ลายสอื ไทย ภาพทรง รบั เรื่องราวรอ งทุกขของ วนั ออกใช ราษฎร ภาพกระด่ิง และภาพ เคร่ืองสงั คโลก 7.20 x 13.80 เซนติเมตร ลงวนั ที่ 2 พฤศจกิ ายน 2555 วันที่ 1 เมษายน 2556 ขอ มูล ณ เดือนมิถนุ ายน 2559

ใบความรทู ี่ ๒ วิชา การเงนิ เพอื่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วา ดว ยเรื่องของเงิน การวางแผนการเงนิ ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทสิ ลักษณ พระบาทสมเดจ็ พระเจาอยหู ัว ในฉลองพระองคครุย มหาจกั รบี รมราชวงศ ลกั ษณะธนบตั รดานหนา ภาพประธาน : ภาพพระบรมราชานุสาวรยี สมเด็จ ลักษณะธนบตั รดานหลงั พระนเรศวร มหาราช ขนาด ภาพประกอบ : ภาพจติ รกรรมฝาผนัง ทรงพระแสง วันประกาศออกใช ดาบ นาํ ทหารเขาตีคายพมา พระบรมราชานุสาวรีย วันออกใช ณ อนุสรณ ดอนเจดยี  และพระเจดยี ชยั มงคล วดั ลกั ษณะธนบตั รดา นหนา ใหญช ัยมงคล จงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา ลกั ษณะธนบัตรดานหลงั 7.20 x 14.40 เซนติเมตร ลงวันท่ี 24 มถิ ุนายน 2554 วันที่ 18 มกราคม 2555 ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทสิ ลักษณ พระบาทสมเด็จ พระเจา อยูหัว ในฉลองพระองคค รยุ มหาจกั รีบรมราชวงศ ภาพประธาน : ภาพพระบรมรปู สมเด็จพระเจา ตากสิน มหาราช ภาพประกอบ : ภาพทรงเกลี้ยกลอมใหป ระชาชน รวมกาํ ลงั กันตอสูกอู ิสรภาพ ภาพทอ งพระโรง พระราชวงั กรุงธนบรุ ี ภาพพระบรมราชานสุ าวรีย สมเดจ็ พระเจาตากสนิ มหาราช ทรงมาพระที่นง่ั

ใบความรทู ี่ ๒ วิชา การเงินเพือ่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วาดวยเรื่องของเงนิ การวางแผนการเงิน ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทสิ ลกั ษณ พระบาทสมเด็จ พระเจาอยหู ัว ในฉลองพระองคค รุย มหาจกั รีบรมราชวงศ ลกั ษณะธนบัตรดานหนา ภาพประธาน : ภาพพระบรมราชานสุ าวรียส มเด็จ ลกั ษณะธนบัตรดา นหลงั พระนเรศวร มหาราช ภาพประกอบ : ภาพจิตรกรรมฝาผนงั ทรงพระแสง ดาบ นําทหารเขา ตีคา ยพมา พระบรมราชานสุ าวรยี  ณ อนสุ รณ ดอนเจดยี  และพระเจดยี ช ยั มงคล วัด ใหญช ัยมงคล จงั หวัด พระนครศรอี ยุธยา ขนาด 7.20 x 14.40 เซนติเมตร วันประกาศออกใช ลงวันท่ี 24 มถิ นุ ายน 2554 วันออกใช วนั ที่ 18 มกราคม 2555 ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลักษณ ลกั ษณะธนบัตรดา นหนา พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยูห ัว ในฉลองพระองคครุย มหาจกั รบี รมราชวงศ ลกั ษณะธนบตั รดานหลงั ภาพประธาน : ภาพพระบรมรูปสมเด็จพระเจา ตากสนิ มหาราช ภาพประกอบ : ภาพทรงเกลี้ยกลอ มใหป ระชาชน รวมกําลัง กนั ตอสูกูอิสรภาพ ภาพทองพระโรง พระราชวงั กรงุ ธนบรุ ี ภาพพระบรมราชานสุ าวรีย สมเดจ็ พระเจาตากสินมหาราช ทรงมาพระทน่ี ง่ั

ใบความรูท่ี ๒ วิชา การเงนิ เพอื่ ชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง วาดวยเรือ่ งของเงิน การวางแผนการเงนิ ขนาดมาตรฐานของธนบตั รแบบปจ จุบนั 2(แบบสิบหก) การกาํ หนดขนาดธนบัตรมงุ เนน ถงึ ความสะดวกในการพกพาเปนหลกั และเพ่ือ ประโยชนต อการ สังเกตของประชาชน โดยเฉพาะอยางยง่ิ ผูทมี่ ีความบกพรองทางสายตาซ่งึ สามารถแยกแยะชนดิ ราคาธนบตั รดว ยการสมั ผัสเทานน้ั จึงกาํ หนดใหธ นบัตรทกุ ชนดิ ราคา มคี วามกวางเทากันคอื 72 มิลลิเมตร แตมคี วามยาวท่ลี ดหลนั่ กนั ชนดิ ราคาละ 6 มิลลเิ มตร วธิ ีการตรวจสอบธนบตั รแบบสิบ หก 1. สัมผัส 1.1 สมั ผัสกระดาษธนบตั ร ธนบัตรทาํ จากกระดาษชนิดพิเศษที่มีใยฝายเปน สวนประกอบหลัก จงึ มีความแกรง ทนทาน ไมยยุ งา ย เม่ือจบั สมั ผสั จะใหความรสู ึกแตกตา งจากกระดาษ ทว่ั ไป 1.2 ลายพมิ พเ สน นนู สามารถสมั ผัสความนูนตามจดุ ตา ง ๆ ไดแก ตวั เลขอารบกิ แจงชนดิ ราคาที่มุมขวาบนของธนบัตร ตัวอักษรคําวา “รัฐบาลไทย” และตัวเลขไทยแจงชนิดราคา ดานหนา ธนบัตร นอกจากนี้ ท่ีบริเวณมุมลางดานขวาของธนบัตรทุกชนิดราคาจะมีลายพิมพ เสนนูนรูปดอกไมซ่ึงเปน สัญลักษณแจงชนิดราคาธนบัตรท่ีประยุกตมาจากอักษรเบรลลเพื่อ อํานวยความสะดวกแกผูมี ความบกพรองทางสายตา ขอมูล ณ เดือนมิถุนายน 2559

ใบความรูที่ ๒ วชิ า การเงินเพือ่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วา ดว ยเรอ่ื งของเงนิ การวางแผนการเงิน 2. ยกสอ ง 2.1 ลายนํา้ ลายน้ําเกิดข้นึ ในขั้นตอนการผลิตกระดาษท่ีทําใหเ น้ือกระดาษมีความหนา ไมเทากัน เม่ือยกธนบัตรสองกับแสงสวางจึงมองเห็นภาพท่ีมีการไลระดับของแสงเงา และ ตัวเลข ไทยตามชนิดราคาธนบัตรที่มีความโปรงแสงเปนพิเศษ ประดับควบคูลายน้ําพระบรม ฉายา สาทิสลกั ษณพระบาทสมเด็จพระเจา อยหู วั 2.2 แถบสแี ละแถบส่เี หลย่ี มเคลอื่ นไหวสลับสี ธนบตั รทุกชนิดราคามีแถบสีตา ง ๆ ตามชนดิ ราคาธนบัตรท่ีฝง ไวใน เนือ้ กระดาษตามแนวตงั้ มบี างสวนของแถบปรากฏใหเหน็ เปนระยะ ๆ ที่ดานหลงั ของธนบัตร เมอื่ ยก สอ งดกู ับแสงสวางจะเห็นเปนเสน ตรงยาวตอ เนื่อง บนแถบมตี ัวเลขและตัวอกั ษร โปรงแสงแจงชนดิ ราคาธนบัตรที่มองเห็นไดท ้งั สองดาน และสามารถมองเห็นการเปลยี่ นสี ของแถบนเ้ี มื่อพลิกเอียง ธนบัตรไปมา ภาพท1ี่ ภาพท2่ี ภาพท3่ี ภาพท4ี่ ภาพที่5 ภาพท่ี1 - 3 เปน แถบสซี ่งึ มีอยใู นธนบตั รชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ภาพที่4 - 5 เปนแถบสีท่มี ีสีเ่ หลยี่ มเคลือ่ นไหวสลับสซี งึ่ มอี ยใู นธนบตั รชนดิ ราคา 500 บาท และ 1000 บาท

ใบความรทู ่ี ๒ วิชา การเงนิ เพอ่ื ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วา ดว ยเร่อื งของเงนิ การวางแผนการเงนิ 2.3 ภาพซอ นทบั บริเวณมุมบนดา นซายของธนบตั รมีตวั เลขอารบิกแจง ชนดิ ราคาธนบัตร ทพี่ ิมพแ ยกไวใ นตําแหนง ตรงกนั ของดานหนา และดา นหลงั ธนบัตร จะมองเหน็ เปน ตัวเลข ท่สี มบูรณ เมอ่ื ยกธนบัตรสองกับแสงสวาง 3. พลกิ เอียง 3.1 หมกึ พิมพพิเศษสลับสี เปนจุดสังเกตสําหรบั ธนบตั รชนิดราคา 500 บาท และ 1000 บาท เทานั้น โดยใหส ังเกตท่มี มุ ลา งดา นซา ยของธนบัตรเม่ือพลกิ ขอบลา งธนบัตรขึน้ ลายประดิษฐ สที อง จะเปลี่ยนเปน สเี ขียว 3.2 แถบฟอยล 3 มติ ิ แถบฟอยล 3 มิติที่ผนกึ อยูบนดานหนาธนบัตรชนดิ ราคา 100 บาท 500 บาท และ 1000 บาท จะมองเหน็ เปน หลายมติ ิแตกตา งกนั ตามชนดิ ราคาและจะเปล่ียน สี สะทอนแสงวาววบั เมอื่ พลกิ เอียงธนบัตรไปมา 3.3 ตวั เลขแฝง ในลายประดิษฐมุมลางซายของธนบัตรทุกชนิดราคาเมอื่ ยกธนบตั รเอียง เขาหาแสงสวางและมองผา นจากมุมลางซายเขา หาก่ึงกลางธนบตั รในมุมทเี่ หมาะสม จะเหน็ ตวั เลขอารบกิ แจงชนดิ ราคาธนบตั รฉบับนน้ั เหรยี ญกษาปณ กรมธนารักษไ ดผลิตเหรยี ญกษาปณห มุนเวยี นออกใชใ นระบบเศรษฐกิจต้งั แต พ.ศ. 2493 เปน ตน มา ซึง่ มีหลากรุนหลายแบบ โดยไดปรับเปลย่ี นรูปลักษณะ ลวดลาย และ กรรมวธิ กี ารผลติ เร่อื ยมา เพ่อื ใหสะดวกตอการพกพา การใชสอยและยากตอการปลอมแปลง เหรยี ญกษาปณห มนุ เวียน เปนเหรยี ญกษาปณท่ีใชหมุนเวียนกนั อยทู วั่ ไป ในชีวิตประจาํ วนั มี 9 ชนิด ราคาคือ 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค 25 สตางค 10 สตางค 5 สตางค และ 1 สตางค แตใ ชหมนุ เวียนในระบบเศรษฐกจิ มี 6 ชนดิ ราคา คอื

ใบความรูท่ี ๒ วิชา การเงินเพอ่ื ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วา ดวยเรอ่ื งของเงิน การวางแผนการเงิน 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค25 สตางค สว นเหรียญชนดิ ราคา 10 สตางค 5 สตางค และ 1 สตางค มีใชในทางบญั ชเี ทานนั้ ในป พ.ศ. 2551 กระทรวงการคลังไดอนุมัติใหกรมธนารักษ จัดทําเหรียญ กษาปณออกใชหมุนเวียน ชุดใหมใ นระบบเศรษฐกิจ โดยมีลกั ษณะและชนิดราคา ดังน้ี 1. เหรียญกษาปณโ ลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ชนิดราคา 10 บาท 2. เหรยี ญกษาปณโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนกิ เกลิ เคลือบไสทองแดง) ชนิดราคา 5 บาท 3. เหรยี ญกษาปณโ ลหะสที อง (ทองแดงผสมนิกเกลิ และอลมู ิเนียม) ชนิดราคา 2 บาท 4. เหรยี ญกษาปณโ ลหะสขี าว (ไสเ หลก็ ชบุ นกิ เกิล) ชนดิ ราคา 1 บาท 5. เหรียญกษาปณโลหะสีแดง (ไสเหล็กชุบทองแดง) ชนิดราคา 50 สตางค 6. เหรียญกษาปณ โลหะสีแดง (ไสเหล็กชุบทองแดง) ชนิดราคา 25 สตางค 7. เหรียญกษาปณโลหะสีขาว (อลูมิเนียม) ชนดิ ราคา 10 สตางค 5 สตางค 1 สตางค

ใบความรทู ี่ ๒ วิชา การเงนิ เพือ่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วาดว ยเรื่องของเงนิ การวางแผนการเงนิ อัตราแลกเปลยี่ นไมไดค งที่แตมกี ารเปล่ียนแปลงขึ้นลงอยเู สมอในแตล ะชวงเวลา ตามปจ จัยที่มี ผลกระทบ เชน ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เศรษฐกจิ โลก ภาวะตลาดการเงนิ การดูอัตรา แลกเปลี่ยนอยา งงาย ตวั อยาง ตารางแสดงอตั ราแลกเปล่ียนระหวา งเงนิ ตางประเทศและเงินบาท ที่ผูใหบ ริการ ซงึ่ ประกอบธรุ กิจปจจัยชําระเงนิ ตราตางประเทศที่ไดร ับอนญุ าตจากธนาคารแหงประเทศไทย ประกาศ ไว (เงินบาทตอ 1 หนว ยสกลุ เงินตราตา งประเทศ) ประเทศ สกลุ เงิน อตั รารับซอ้ื อตั ราขาย สหรฐั อเมรกิ า USD 34.89 35.22 สหราชอาณาจกั ร GBP 49.84 50.69 ยโู รโซน EUR 39.25 39.96 ญีป่ ุน (ตอ 100 เยน) JPY 31.68 32.37 ฮอ งกง HKD 4.47 4.55 มาเลเซีย MYR 8.85 9.13 อตั รารบั ซื้อ คอื อตั ราทผ่ี ูใหบริการเสนอซื้อเงินตราตางประเทศ อัตราขาย คอื อัตราทีผ่ ูใหบ ริการเสนอขายเงนิ ตราตางประเทศ หากตองการนาํ เงินบาทไทยไปแลกเปนเงนิ ดอลลารส หรฐั กลา วคือ ตองการ ซื้อเงนิ ดอลลารสหรัฐเรา ตอ งดรู าคาท่ีอัตราขาย จากตัวอยางขางตน 1 USD = 35.22 บาท ∙ หากตอ งการนําเงินดอลลาร สหรฐั ไปแลกเปนเงนิ บาท กลาวคอื ตองการขาย เงนิ ดอลลารส หรฐั เราตอ งดูราคาท่ีอตั รารบั ซอื้ จาก ตวั อยา งขา งตน 1 USD = 34.89 บาท วธิ ีการคํานวณอัตราแลกเปล่ยี นเงินตราตา งประเทศ ในกรณที ่ีตองเดนิ ทางไปตา งประเทศ เราอาจตองแลกเปลย่ี นสกลุ เงนิ เปนของ ประเทศน้ัน ๆ ซง่ึ สามารถคาํ นวณอัตราแลกเปลย่ี นได ดงั นี้

ใบความรทู ่ี ๒ วชิ า การเงนิ เพื่อชวี ิต ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง วา ดวยเรอ่ื งของเงนิ การวางแผนการเงนิ ตัวอยางที่ 1 หากตองการเดนิ ทางไปยงั ประเทศสหรฐั อเมริกา ซึ่งใชสกุลเงนิ ดอลลารสหรัฐ (USD) สมมตุ ิวา อัตราแลกเปลย่ี นขณะนน้ั อยูที่ 1 USD = 30 บาท หากตองการแลก 100 USD ตอ งใชเงินบาท ไทยแลกเปนจํานวนเทา ไร วธิ คี ํานวณ 1 USD = 30 บาท 100 USD = [30 x 100] ÷ 1 = 3,000 บาท ดงั นัน้ ตอ งใชเงินบาทไทยจาํ นวนเงิน 3,000 บาท จงึ จะแลกได 100 USD ตวั อยา งท่ี 2 หากตองการนาํ เงินดอลลารสหรฐั มาแลกเปน เงนิ บาท สมมุติวา อตั รา แลกเปลี่ยนขณะนนั้ อยูท่ี 1 USD = 30 บาท หากตองการแลก 1,500 บาท จะตองใชเ งนิ ดอลลารส หรัฐจํานวนเงนิ เทาไร วิธคี ํานวณ 30 บาท = 1 USD 1,500 บาท = [1 x 1,500] ÷ 30 = 50 USD ดงั น้นั ตอ งใชเงนิ ดอลลารส หรฐั จาํ นวนเงนิ 50 USD จึงจะแลกได 1,500 บา ชองทางการแลกเปล่ยี นเงินตราตางประเทศ การติดตอขอแลกเปลี่ยนเงินตราตางประเทศสามารถติดตอกับผูใหบริการซ่ึง ประกอบธุรกิจปจจัยชําระ เงนิ ตราตางประเทศท่ีไดร บั อนญุ าตจากธนาคารแหงประเทศไทย (ธปท.) เชน - นิตบิ ุคคลรับอนญุ าต (authorized financial institution) หมายถงึ ธนาคารพาณชิ ยทไี่ ดร บั อนุญาตให ประกอบธรุ กิจซ้ือ ขาย แลกเปลย่ี น ใหย ืม หรอื โอนเงินตรา ตา งประเทศ - บุคคลรับอนุญาต (authorized money changer) หมายถงึ นติ บิ ุคคล ที่ไดร ับอนุญาตใหป ระกอบ ธรุ กจิ ซื้อและขายธนบตั รตางประเทศ และรบั ซ้ือเช็คเดินทาง เชน ผปู ระกอบธุรกิจโรงแรม หรอื บรษิ ัท ทไ่ี ดรบั อนุญาตใหประกอบธรุ กิจแลกเปลีย่ นเงินตรา ตา งประเทศ

ใบความรทู ่ี ๓ วชิ า การเงินเพือ่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สินเชือ่ สิทธแิ ละหนาทขี่ องผูใ ชบ ริการทางการเงินระดบั ชั้น เรอ่ื งท่ี 3 การฝากเงนิ และการประกันภัย การฝากเงนิ เมอ่ื ไดรบั เงนิ จากแหลง ตางๆ เชน รายไดจากการประกอบอาชีพ สง่ิ ทค่ี วรทํา คือแบงเงินบางสว น ไปเกบ็ ออมเพื่อวตั ถปุ ระสงคตาง ๆ เชน ไวใ ชยามฉกุ เฉิน เปน คาใชจายหลัง เกษยี ณหรือเลิกทํางาน การมองหาสถานที่เก็บรกั ษาเงนิ จึงเปนเรอ่ื งจาํ เปน โดยแหลง เกบ็ เงิน ท่ีนิยมกันคอื การฝากเงนิ ไวก ับ ธนาคาร ซึง่ นอกจากมีความปลอดภัยกวา การเก็บเงินสดไวกับตวั หรอื ไวท ่ีบา นแลว การฝากเงนิ ไวก ับ ธนาคารยงั ทาํ ใหไดรับผลตอบแทนในรูปของดอกเบ้ีย เงินฝากดว ย อยา งไรกด็ ี การจะไดร ับดอกเบีย้ มากหรือนอ ยขน้ึ อยูกับวา เปนบญั ชเี งนิ ฝาก ประเภทใด มีเงอื่ นไข อยา งไร เราจึงจําเปนตอ งรจู ักบัญชเี งินฝากแตละประเภท เพ่อื เลือกบัญชี ที่เหมาะสมและตรงกบั ความ ตองการของเรามากท่สี ุด โดยปจ จบุ นั บัญชเี งนิ ฝากท่รี ูจกั และ ใชก ันมาก เชน บัญชีเงนิ ฝากออมทรัพย บญั ชีเงนิ ฝากประจํา ประเภทของบัญชีเงินฝาก 1. บัญชเี งนิ ฝากออมทรัพย ลกั ษณะ ∙ สามารถฝากหรือถอนเงนิ เมอื่ ไหรก็ได ∙ กาํ หนดจํานวนเงนิ ฝากขัน้ ตํ่าไวไ มส ูงนัก เชน 100 - 1,000 บาท ∙ จา ยดอกเบี้ยปละ 2 คร้ัง ในเดือนมถิ ุนายนและธันวาคมของทุกป ประโยชน ∙ ถา ดอกเบยี้ รบั ไมเ กิน 20,000 บาท ไมต องเสยี ภาษี 15% ของดอกเบย้ี ที่ ไดรบั (รวมรับจากทุกสถาบันการเงนิ ใน 1 ป) ถา เกิน 20,000 บาท ธนาคาร จะหักภาษี ณ ทีจ่ าย ไวเ ลยจากบญั ชีเงนิ ฝาก ∙ มีบริการบัตรเอทเี อ็มหรอื บัตรเดบติ สาํ หรบั ใชถ อนหรือโอนเงินทีเ่ ครอ่ื ง เอทีเอม็ ไดส ะดวก (บัตรเดบติ ยังสามารถใชช าํ ระคา สนิ คาและบรกิ ารไดด ว ย) แต หากตองการเปด บญั ชีเพยี งอยา งเดยี วก็สามารถทําไดโ ดยไมจําเปนตอ งทาํ บตั ร ใด ๆ

ใบความรทู ่ี ๓ วชิ า การเงินเพ่ือชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรอื่ ง สินเช่อื สิทธแิ ละหนาท่ีของผูใ ชบรกิ ารทางการเงินระดบั ชนั้ ขอ จํากดั ∙ อัตราดอกเบ้ียคอนขางตาํ่ ∙ มคี า ธรรมเนียมกรณบี ัญชีเงินฝากไมเคล่ือนไหวและมียอดเงินฝาก คงเหลือ นอ ยกวาท่กี ําหนด ∙ กรณีทําบัตรเอทเี อ็มและบัตรเดบิตมักจะตอ งเสียคา ทําบตั รและ คาธรรมเนยี มรายป บัญชีน้ีเหมาะกบั ใคร: ∙ ผทู ่ใี ชบ รกิ ารรบั โอนเงนิ เดอื นหรอื คาจาง หรือคา สนิ คา ∙ ผทู ่ีเบิกถอนบอยคร้ัง หรือใชบ รกิ ารหกั บญั ชีเพ่ือชําระคาใชจายรายเดอื น เชน คา นา้ํ คาไฟ คา บัตรเครดิต และคาใชจา ยอ่นื ๆ ∙ ผูที่ตองการออมเงินไวใ ชย ามฉุกเฉนิ เน่ืองจากถอนไดส ะดวก (ถอนได หลาย ชอ งทางและถอนเมอื่ ไหรก็ได) นอกจากนี้ บางธนาคารมีบญั ชเี งนิ ฝากออมทรพั ยพเิ ศษ ซึ่งใหอ ัตราดอกเบ้ยี ทีส่ งู กวาบญั ชีเงินฝาก ออมทรพั ย แตจะมีเง่อื นไขที่เพม่ิ ขน้ึ ดวย เชน เงนิ ฝากขั้นตํ่า 10,000 บาท ถอนไดไมเ กิน 2 ครัง้ ตอ เดือน หากถอนต้ังแตค รงั้ ที่ 3 เปนตน ไปในเดือนนัน้ จะถูกคิด คา ธรรมเนียมคร้งั ละ 500 บาท ซงึ่ บัญชี ในลกั ษณะน้เี หมาะกบั การออมเงินมากกวา ทจี่ ะใชเปน บญั ชเี พอ่ื ชาํ ระคาใชจ า ย คําแนะนํา 1. ควรทํารายการฝาก ถอน หรือโอนอยางนอยปละ 1 ครั้ง เพ่ือหลีกเลี่ยง การถูกคิด คาธรรมเนียมรักษาบัญชีกรณีบัญชีเงินฝากไมเคลื่อนไหว และมียอดเงินฝากคงเหลือ นอยกวาที่ กําหนด 2. ปรับสมุดบญั ชอี ยางสมํา่ เสมอเพ่ือดูวามีเงินคงเหลอื ในบัญชเี พยี งพอ สําหรบั การหักบัญชี หรือเง่อื นไขตาง ๆ ที่กําหนดหรอื ไม เชน คา ใชจ า ยที่จะถูกตัดออกจากบัญชี ยอดเงนิ ขนั้ ต่ําทธ่ี นาคาร กาํ หนด เพ่ือไมใหพลาดการชําระเงนิ หรอื มเี งินไมพอทจี่ ะชําระซง่ึ อาจทาํ ให ตองเสียคาใชจา ยเพม่ิ เตมิ 3. หากไมม ีความจาํ เปน ตอ งใชบตั รเอทีเอ็มหรือบัตรเดบติ ควรแจง ยกเลิก บัตร หรือแจง เจาหนา ทวี่ า ไมตองการทําบตั ร จะชว ยประหยัดคาธรรมเนียมท่ีไมจาํ เปน ได 2. บญั ชีเงนิ ฝากประจาํ มหี ลายรูปแบบ เชน

ใบความรทู ่ี ๓ วชิ า การเงนิ เพ่อื ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่อื ง สินเชื่อ สิทธิและหนาท่ีของผใู ชบรกิ ารทางการเงนิ ระดบั ชั้น 2.1 บญั ชเี งินฝากประจําท่ัวไป ลักษณะ ∙ มรี ะยะเวลาการฝากหลายแบบ เชน 3 เดอื น 6 เดอื น 12 เดือน ∙ สว นใหญจะกาํ หนดจาํ นวนเงินฝากขนั้ ต่าํ ไวประมาณ 1,000 บาท ∙ การจายดอกเบ้ีย แลว แตเงอื่ นไขธนาคาร เชน บัญชี 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน จา ยดอกเบ้ยี เมื่อครบกําหนด บญั ชี 24 เดอื น และ 36 เดอื น จา ย ดอกเบ้ียทุก 3 เดือน โดยอาจจะนาํ ดอกเบ้ยี ทไ่ี ดมาฝากเขาบญั ชเี งินฝาก ประจํา (ทบตน) หรอื อาจจะโอน ดอกเบ้ียเงนิ ฝากเขา บัญชเี งนิ ฝากออมทรพั ย หรือกระแสรายวัน ซง่ึ ธนาคารจะแจง ใหทราบ ต้ังแตต อนเปด บัญชกี ับธนาคาร ∙ กรณีถอนกอนครบกาํ หนด อาจไมไดร ับดอกเบ้ยี หรือไดร บั ใน อตั ราดอกเบยี้ เงนิ ฝากออมทรพั ย เชน ธนาคารอาจกาํ หนดวา หากเลือกฝากประจํา 6 เดอื น แตฝ ากยงั ไมถึง 3เดือนแลว ตองการถอนออกมา จะไมไ ดร ับดอกเบย้ี หรือ ถอนหลัง 3เดอื นไปแลว แตยงั ไมครบกําหนด 6 เดอื น จะไดร บั ดอกเบยี้ ในอตั รา ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย พรอมท้ัง ถูกหักภาษี ณ ทีจ่ าย นอกจากน้ี บางธนาคารมรี ูปแบบการฝากประจําแบบพิเศษ เชน ให เลือกระยะเวลาการฝากไดตามท่สี ะดวก กาํ หนดระยะการฝากเปน จาํ นวนวัน (เชน 99 วัน) หรือ จาย ดอกเบยี้ เงินฝากต้ังแตว ันแรกที่ผูฝากเปด บัญชี โดยอาจมเี งอื่ นไขที่กาํ หนดจํานวนเงนิ ฝาก ทค่ี อนขาง สูง เชน 100,000 บาทข้ึนไป บญั ชีน้ีเหมาะกบั ใคร ∙ ผทู ตี่ องการเกบ็ ออมเพื่อเพิ่มรายไดจากดอกเบยี้ ∙ ผทู ่ีมเี งนิ กอนและไมม ีความจําเปน ท่ีจะใชเงนิ ท่ีออมไวในชว ง ระยะเวลาหน่งึ

ใบความรทู ี่ ๓ วชิ า การเงินเพ่อื ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรอื่ ง สนิ เช่ือ สิทธแิ ละหนาที่ของผูใชบ รกิ ารทางการเงนิ ระดับชัน้ 2.2 บญั ชเี งนิ ฝากประจําแบบปลอดภาษี ลักษณะ ∙ เปนบัญชเี งนิ ฝากประจาํ ท่ไี ดร บั ยกเวน ภาษี แตเ ปดไดเ พียงบญั ชีเดยี ว ∙ ตามเกณฑสรรพากรไมไดมีการกาํ หนดจาํ นวนเงินฝากขั้นต่ําไว แตม ี เพดานฝากสงู สุดอยทู ่ี 25,000 บาทตอ เดือน และเม่ือรวมจํานวนเงนิ ที่ฝาก ทกุ เดอื นแลว ตอ ง ไมเกนิ 600,000 บาท ซงึ่ ตอ งฝากตอเนือ่ งในจํานวนที่ เทากันทกุ ๆ เดอื น เดือนละ 1 ครงั้ เปน เวลาไมนอ ยกวา 24 เดอื น ∙ หากเงินฝากครบกําหนด บางธนาคารจะโอนเงินตนและดอกเบี้ย เขา บญั ชีออมทรพั ยห รือบญั ชกี ระแสรายวันตามท่ลี ูกคา แจงความประสงคไว ตอนเปดบัญชี หรอื บางกรณีหากลกู คา ไมไดถอนเงินออก ธนาคารก็อาจ เปล่ยี นประเภทเปนบัญชเี งินฝากประจําให อตั โนมตั โิ ดยมเี งื่อนไขการฝาก เงนิ และอตั ราดอกเบีย้ ตามประกาศของธนาคารท่ใี ชอยูในขณะน้ัน ∙ ใน ระหวา งระยะเวลาการฝาก ขาดฝากไดไมเกนิ 2 ครัง้ และยงั คง ตอ งฝากใหครบตามวงเงนิ ทกี่ ําหนด ∙ กรณถี อนกอ นครบกาํ หนด สวนใหญม ักกาํ หนดวา หากฝากไมถงึ 3 เดอื น จะไมไดรบั ดอกเบ้ยี หากถอนหลังจาก 3 เดอื นไปแลวจะไดรับใน อตั ราดอกเบ้ียเงนิ ฝาก ออมทรพั ย พรอมทงั้ ถูกหกั ภาษี ณ ท่ีจา ย ∙ จา ยดอกเบยี้ เมอ่ื ครบกําหนดระยะเวลาการฝาก โดยทั่วไปจะโอน ดอกเบยี้ ไปยังบัญชีเงนิ ฝากออมทรัพยหรือกระแสรายวนั ประโยชน ∙ ไดรับอตั ราดอกเบ้ยี เงนิ ฝากสูงกวาบัญชเี งนิ ฝากออมทรัพย ∙ ไดฝก วนิ ยั การออม (ตองนําเงนิ ไปฝากทุกเดือน เดอื นละเทา ๆ กัน) ∙ ดอกเบย้ี ทไ่ี ดรับไมต องเสียภาษี ขอ จาํ กดั มีขอจาํ กัดและเง่ือนไขในการถอน เชน หากมกี ารถอนกอน ระยะเวลาท่ีกําหนดไวอาจไมไดรบั ดอกเบย้ี และไมไ ดรับสทิ ธยิ กเวน การหักภาษี ณ ที่จา ย 15%

ใบความรทู ี่ ๓ วชิ า การเงินเพือ่ ชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สินเชื่อ สิทธแิ ละหนา ท่ีของผใู ชบ รกิ ารทางการเงนิ ระดับชน้ั บัญชีนีเ้ หมาะกบั ใคร ∙ ผทู ่ีตองการสรา งวินัยการออม และเพิ่มรายไดจ ากดอกเบี้ย ∙ ผูที่ไมมีความจําเปน ท่ีจะใชเ งนิ ทีอ่ อมไวในชวงระยะเวลาหน่ึง (อยางนอย 2 ป) คาํ แนะนาํ ผูสนใจจะฝากเงินในบัญชเี งินฝากประจําท้ัง 2 ประเภทน้ี ควรศกึ ษา เง่อื นไขการฝากและถอนเงินใหเขาใจ และตองมน่ั ใจวายงั ไมมคี วามจําเปน ตองใชเงินในระหวาง ท่ีฝาก เงินไวกับธนาคาร เพ่ือปองกันปญหาการไมปฏิบัติตามเง่ือนไขและทําใหไมไดรับดอกเบี้ย ตามที่ กาํ หนด 3. บญั ชเี งินฝากแบบขั้นบนั ได ลกั ษณะ ∙ จาํ นวนเงินฝากขัน้ ตา่ํ สว นใหญม ักจะสูงกวาบัญชีเงินฝากประจาํ ทว่ั ไป เชน ไมน อยกวา 5,000 บาท ∙ กําหนดการจายดอกเบยี้ ขน้ึ อยูกับเง่ือนไขของธนาคาร เชน จา ยดอกเบยี้ ทุก เดือน โดยจะโอนดอกเบีย้ เงินฝากเขา บญั ชีเงินฝากออมทรัพยหรือกระแส รายวัน ซง่ึ ธนาคาร จะแจง ใหทราบตงั้ แตตอนเปด บญั ชีกับธนาคาร ∙ มักจงู ใจผูฝากดวยการโฆษณาวาใหอัตราดอกเบี้ยสูงมาก แตใ นความจรงิ แลว มักเปน เพยี งชว งเวลาสน้ั ๆ (สวนใหญจะสูงมากเฉพาะเดือนสดุ ทา ย) และใน แตล ะชว งเวลา การฝากดอกเบี้ยจะคอย ๆ เพิ่มสงู ขึน้ อาทิ เดือนที่ 1 - 5 อัตราดอกเบ้ีย 1% เดือนที่ 6 - 7 อตั ราดอกเบยี้ 1.7% เดอื นที่ 8 - 9 อัตราดอกเบ้ยี 1.9% เดอื นที่ 10 อัตราดอกเบ้ีย 8% ดงั นนั้ ผูสนใจฝากตองมองหาอตั ราดอกเบ้ยี เฉลี่ยตอปของท้งั โครงการ ท่ธี นาคารตอ งเขียน ไวในใบโฆษณา หรอื สอบถามจากเจา หนาท่ีธนาคารเพมิ่ เตมิ เพอื่ ขอรายละเอียดทีช่ ัดเจน หากเงนิ ฝากครบกําหนด แลว ไมไดถ อนเงินออก ธนาคารมักจะเปลย่ี น ประเภทเปนบญั ชเี งนิ ฝากประจําใหอัตโนมตั โิ ดยมเี งื่อนไขการฝากเงนิ และอตั ราดอกเบีย้ ตาม ประกาศของธนาคารทใี่ ชอ ยู ในขณะนนั้

ใบความรูท่ี ๓ วิชา การเงนิ เพอื่ ชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สินเชือ่ สิทธแิ ละหนา ทขี่ องผใู ชบริการทางการเงินระดบั ช้นั ∙ ขอ กาํ หนดในเร่อื งถอนกอนครบกําหนดมหี ลายรูปแบบ อาทิ อาจตอง ปด บญั ชเี ลย หรือ ตอ งถอนท้ังจาํ นวน ของแตละยอดการฝาก เชน ฝากครง้ั แรก 10,000 บาท คร้งั ที่ 2 ฝาก 20,000 บาท หากตอ งการถอนเงนิ ทฝ่ี ากไวจะตอ งถอนเงนิ ท่ยี อด 10,000 บาท หรอื 20,000 บาท เทาน้นั ไมสามารถถอนบางสว นได ∙ สําหรบั เรอ่ื งดอกเบย้ี ผฝู ากทถ่ี อนกอนครบกําหนดอาจไดดอกเบ้ยี ตาม อัตราท่กี ําหนดไวในแตล ะ ชวงระยะเวลาการฝาก หรืออาจไมไดดอกเบย้ี หรอื ไดร ับอัตรา ดอกเบย้ี เงนิ ฝากออมทรพั ย ขึน้ อยกู บั เงอ่ื นไขท่ี ธนาคารกําหนด ขอจาํ กัด ∙ ใหอัตราดอกเบีย้ เงนิ ฝากสงู กวาเงินฝากออมทรพั ยแตสวนใหญมักอยู ในรปู แบบของบัญชีเงินฝาก ประจาํ จงึ จะถกู หักภาษี ณ ท่ีจา ย 15% ของดอกเบี้ยท่ีไดร ับ ∙ มขี อ จาํ กดั และเง่อื นไขในการถอน เชน กรณี การถอนกอนครบกําหนด (อยา งทก่ี ลาวไปแลว ) บัญชีนเ้ี หมาะกบั ใคร ∙ ผูท ่ีตอ งการเก็บออมเพื่อเพิ่มรายไดจ ากดอกเบ้ยี ∙ ผทู ่มี ีเงนิ กอนและไมมคี วามจาํ เปน ท่จี ะใชเ งินในชว งระยะเวลาหน่ึง

ใบความรทู ี่ ๓ วิชา การเงนิ เพอื่ ชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง สนิ เชอื่ สิทธแิ ละหนาที่ของผใู ชบ ริการทางการเงนิ ระดับชัน้ ขอ แนะนําการเลือกประเภทบัญชเี งินฝาก เมอ่ื ไดประเภทบญั ชีท่ตี องการแลว ใหหาขอมลู บัญชีประเภทเดยี วกันจากหลาย ๆ ธนาคาร เพือ่ นาํ มาเปรยี บเทียบ ซ่ึงสามารถหาขอมลู ไดจ ากเว็บไซตข องธนาคารแตล ะแหง หรือ แผนพับหรือ โฆษณาที่ธนาคารเผยแพร อยางไรกต็ าม ควรดปู ระกาศอัตราดอกเบี้ยเงนิ ฝากของ ธนาคาร ประกอบดว ย เนื่องจากจะมีการระบุรายละเอียดและเงื่อนไขในการจา ยดอกเบย้ี ตา ง ๆ ในสวนทา ย ของประกาศ โดยขอมูลท่คี วรนํามาเปรียบเทียบมีดังนี้ 1. อัตราดอกเบี้ย ไมค วรดูเฉพาะในใบโฆษณา แตควรดูจากประกาศอตั รา ดอกเบย้ี ใน เว็บไซตของธนาคารท่ีเราสนใจจะนาํ เงินไปฝากดวย เพื่อใหไดข อมูลท่ีครบถว น 2. ระยะเวลาการฝาก ตอ งมั่นใจวาสามารถฝากไดตามระยะเวลาท่เี ปน เงื่อนไข ของบญั ชี นน้ั 3. เงินฝากขัน้ ตํ่า และเง่ือนไขการฝาก เชน ตองฝากตอ เนื่องทุกเดือนหรอื ไม และท่ีสาํ คัญ ควรดคู วามสามารถในการฝากของตนเองดว ย เพราะหากเปน เงินฝากท่ีใหอัตรา ดอกเบี้ยสูง ก็มกั จะ กาํ หนดจํานวนเงนิ ฝากขั้นตํ่าไวสูงเชนกนั 4. วิธีการจายดอกเบี้ย หากเปนบัญชีออมทรัพยทั่วไป ธนาคารจะนําดอกเบี้ย เขาบัญชีเงิน ฝากไปสมทบกับเงินตนใหแตหากเปนบัญชีเงินฝากประจําบางประเภท ธนาคาร อาจจะโอนดอกเบี้ย เขาบัญชีออมทรัพยหรือบัญชีกระแสรายวันตามที่ไดแจงใหลูกคาทราบตอน เปดบัญชีซ่ึงการจาย ดอกเบ้ยี จะมที งั้ จา ยเมื่อครบกาํ หนดระยะเวลาการฝาก หรือจา ยดอกเบีย้ ทกุ 3 เดอื น 5. เง่อื นไขเกย่ี วกับภาษีดอกเบีย้ จะถูกหกั ภาษี ณ ท่ีจา ย 15% หรือไม เพราะ หากเสยี ภาษี อตั ราดอกเบยี้ ทจ่ี ะไดร ับก็จะนอยกวาทธี่ นาคารประกาศไว 6. เงอื่ นไขการใชบ ริการ ฝาก ถอน โอน หรอื เง่ือนไขกรณกี ารถอนกอนครบ ระยะเวลา หรือการเรียกเก็บคาธรรมเนยี ม เชน กรณบี ัญชีเงินฝากไมเ คลือ่ นไหวหรือมยี อดเงนิ ในบัญชีตาํ่ กวาที่กาํ หนด จะถกู เรียกเกบ็ คา ธรรมเนยี มรักษาบญั ชี หรือกรณีมีเงื่อนไขเรือ่ งจํานวน คร้งั การถอน เชน ถอนไดเพยี ง 2 ครง้ั ตอ เดือน หากถอนตัง้ แตคร้งั ที่ 3 เปนตน ไป จะเสีย คา ธรรมเนียมการถอนครัง้ ละ 500 บาท

ใบความรูท ี่ ๓ วิชา การเงินเพ่อื ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง สนิ เช่อื สิทธิและหนา ทีข่ องผูใชบริการทางการเงินระดับชัน้ ดอกเบยี้ เงินฝาก ดอกเบย้ี เงนิ ฝาก หมายถงึ ผลตอบแทนทผี่ ฝู ากเงนิ จะไดร ับจากการนําเงนิ ไปฝาก ไวก บั สถาบนั การเงนิ โดยทั่วไปแตละสถาบันการเงินจะกําหนดเปน อตั ราดอกเบ้ียตอ ป เชน 3% ตอ ป อยางไรก็ดี แตล ะสถาบนั การเงนิ จะมกี ารกาํ หนดอตั ราดอกเบี้ยท่แี ตกตางกันไป จงึ ควร ศกึ ษารายละเอยี ดอตั ราดอกเบย้ี ตลอดจนเง่ือนไข อ่ืน ๆ ที่เกยี่ วของเพอ่ื หาขอมูล และเปรยี บเทียบ เพ่ือเลือกฝากเงนิ กับสถาบนั การเงนิ ทใ่ี หอตั ราดอกเบยี้ สูงภายใต เงือ่ นไขท่ผี ฝู ากรบั ได เชน ระยะเวลาการฝาก เงื่อนไขการเบิกถอน โดยสามารถดูรายละเอยี ดไดจากเวบ็ ไซตข อง สถาบัน การเงนิ น้นั ๆ หรือจากประกาศอัตราดอกเบี้ยที่จะติดไว ณ ที่ทําการของสถาบันการเงิน ตวั อยา งการคํานวณดอกเบ้ียเงินฝากออมทรพั ย สาํ รวยเปด บัญชเี งนิ ฝากออมทรัพยทธี่ นาคารมุงมัน่ เม่อื วันที่ 1 ม.ค. 58 จาํ นวน 10,000 บาท ไดรับดอกเบยี้ เงนิ ฝากในอตั รา 3% ตอ ป โดยธนาคารจะจายดอกเบีย้ ใหในวนั ท่ี 30 มิ.ย. และ 31 ธ.ค. ของทุกป ในวันที่ 30 ม.ิ ย. สาํ รวยจะไดรบั ดอกเบ้ยี เงนิ ฝากเปนจาํ นวน เงินเทา ไร และมเี งินฝากในบัญชีรวมดอกเบ้ียเปนเงินเทาไร หาก สาํ รวยไมถ อนเงนิ ออกหรือฝาก เงินเพ่ิม สูตรคาํ นวณดอกเบ้ยี เงินฝาก * จนวนวันใน 1 ปข ้นึ กับการกําหนดของสถาบนั การเงนิ ซ่ึงอาจเปน 360 วนั 365 วนั หรือ 366 วันกไ็ ด แต ไมวาจะ กําหนดจาํ นวนวันเปนเทา ใดก็ตาม สถาบันการเงินจะตองใชจ าํ นวนวนั เดยี วกันสาํ หรบั การคํานวณทัง้ ดอกเบ้ียจาย เชน เงนิ ฝาก และดอกเบ้ียรบั ชา่ํ ละ สินเชอ่ื 1. เงินตน คือ ยอดเงินทนี่ าํ มาฝาก จากตวั อยางน้คี ือ 10,000 บาท 2. อตั ราดอกเบี้ยตอป ในตวั อยา งนี้ธนาคารกําหนดอัตราดอกเบ้ีย 3% ตอ ป ซงึ่ เงินฝากออมทรัพยไมตอง เสยี ภาษี ณ ที่จาย 15% ดังน้ัน จึงนํามาคํานวณในสตู รไดเลย (แตหากเปน ดอกเบ้ียเงินฝากทีต่ อ งเสียภาษี ณ ท่ี จา ย เชน เงนิ ฝากประจํา จะตองนําดอกเบ้ียเงนิ ฝากท่ีไดร ับ คณู ดวย 0.85 กอน (เพราะถูกหักภาษีไป 15%) เชน 3 x 0.85 ก็จะไดอตั ราดอกเบย้ี เงินฝาก หลงั หักภาษี)

ใบความรทู ่ี ๓ วิชา การเงินเพอ่ื ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรอ่ื ง สินเชอ่ื สทิ ธิและหนา ท่ีของผูใชบ ริการทางการเงนิ ระดับช้นั 3. จาํ นวนวันทฝ่ี าก จะคาํ นวณถึงวันกอนวนั ทจี่ ายดอกเบีย้ ดงั น้ัน หากธนาคาร จา ย ดอกเบยี้ 30 มิ.ย. 58 ก็จะเร่ิมนับตัง้ แตวันท่ี 1 ม.ค. 58 ถงึ 29 ม.ิ ย. 58 รวม 180 วนั คําตอบ ณ 30 มิ.ย. 58 สาํ รวยจะไดรบั ดอกเบยี้ 147.95 บาท และเม่ือรวมกับ เงนิ ตน แลว จะ ไดร ับเงนิ ทั้งสนิ้ 10,147 บาท โดยประมาณ สลากออมทรัพย/สลากออมสนิ เปนทางเลือกการออมอยางหน่ึงของผูทชี่ อบลนุ รางวลั แมจ ะใหผลตอบแทน ไมสงู นัก (หาก ไมถ ูกรางวลั ) แตจะไดเ งนิ ตน คนื เต็มจํานวนเม่ือครบกาํ หนด ซึ่งแตกตา งจากการ ซ้ือหวย หรอื สลากกนิ แบงรัฐบาล สถาบันการเงนิ ที่ออกสลากในปจจบุ นั 3เปนสถาบันการเงนิ เฉพาะกิจของรฐั ลักษณะของสลากออมทรพั ย/ สลากออมสนิ คือ ขายเปน จํานวนหนวยและมกี าร กาํ หนด อายทุ ่ีแนน อน (เชน อายุ 3 ป หรือ 5 ป) และมักมกี ารจายดอกเบยี้ เปนผลตอบแทนหาก ถอื จนครบ ตามเกณฑท ีผ่ ูออกสลากกาํ หนด ผซู ื้อสลากสามารถลนุ รางวลั ไดท กุ งวดจนกวา สลาก จะหมดอายุ แตก ็ อาจมีสลากบางรนุ ซ่งึ หากถอนกอ นครบกําหนดอาจไดคนื เงนิ ตน นอ ยกวาทจี่ า ย ไป หรือมบี รกิ ารพเิ ศษ ทสี่ ามารถใชส ลากคํ้าประกนั การกเู งนิ ไดดวย ทงั้ นี้ เม่ือซอื้ สลาก สถาบันการเงนิ ที่ออกสลากมักแนะนําใหเปด บัญชเี งินฝาก ออมทรัพย คูกันเพ่อื เปน บัญชีเงนิ ฝากสาํ หรับการรับเงนิ หากถูกรางวัล 3ขอมูล ณ มถิ นุ ายน 2559

ใบความรูที่ ๓ วิชา การเงินเพอื่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรอ่ื ง สนิ เชื่อ สทิ ธิและหนา ทีข่ องผใู ชบริการทางการเงินระดับชัน้ ขอ จาํ กัด 1. เงินที่นํามาซอ้ื สลากออมทรัพยควรจะเปนเงินเย็น หรอื เปนเงนิ ทไี่ มต อ งการ ใช ตลอดอายุของสลาก เพราะหากถอนสลากกอนกําหนด อาจไดร ับเงินคืนนอยกวา จาํ นวนท่ีซอ้ื 2. ควร ศึกษาเงื่อนไขใหล ะเอยี ดกอนซ้ือ 3. เมื่อไดสลากมาควรตรวจสอบความถกู ตองทุกคร้ัง เชน ชอื่ นามสกลุ จาํ นวน หนวย จํานวนเงนิ ทซี่ ้ือ 4. ควรเกบ็ รักษาสลากใหด หี ากทาํ หายตองไปแจง ความ และตดิ ตอขอทําสลาก ใหม ซึง่ จะมีคา ธรรมเนียมในการออกสลากใหมด วย 5. ควรพิจารณาและเปรยี บเทยี บผลตอบแทนของสลากแตล ะประเภท หรือ แตละ รนุ กอ นตดั สินใจซื้อ การคุมครองเงินฝาก เปนการคุมครองประโยชนของประชาชนท่ีฝากเงินไวกับสถาบันการเงิน ซึ่งเปน ระบบสากลทป่ี ระเทศตาง ๆ นํามาใชมากกวา 100 ประเทศ โดยการกําหนดวงเงินที่รับรองวา ผูฝาก จะไดรับคืนเปนจํานวนที่แนนอนภายในระยะเวลาที่กําหนดโดยเร็วหากสถาบันการเงิน ถูกปด กิจการ สําหรับเงินฝากสวนที่เกินวงเงินดังกลาว ผูฝากมีโอกาสไดรับเพิ่มเติมหลังจากการ ขาย สินทรพั ยและชาํ ระบัญชีสถาบันการเงนิ นนั้ แลว การคมุ ครองเงนิ ฝากในประเทศไทย ในอดีตหากสถาบันการเงนิ ถูกปดกจิ การ ผูฝากเงินจะตองไปดาํ เนินการฟองรอง เพอื่ ให ไดรับเงินฝากคืนเอง ซึ่งไมมีความแนนอนวา จะไดรบั เงนิ คืนหรอื ไม จะไดร บั เงนิ คนื เมื่อใด และจาํ นวน เทา ไร ดงั น้ัน ภาครัฐจงึ ไดจ ดั ใหมรี ะบบคุมครองเงนิ ฝากขนึ้ เพ่ือชวยเหลือประชาชน ผูฝ ากเงนิ ใหไดรับ เงนิ ฝากคนื ภายในเวลาที่รวดเรว็ หากสถาบนั การเงินถกู ปดกิจการ ซ่งึ การมีระบบ คมุ ครองเงนิ ฝากจะไม กอ ใหเ กดิ ภาระกับภาครฐั เนื่องจากมกี ารเรยี กเกบ็ เงินนาํ สงจากสถาบนั การเงนิ ตาง ๆ สะสมไวใชในการ จายคนื เงนิ ใหก ับประชาชนผฝู ากเงิน ซึง่ ดําเนินการโดยสถาบัน คมุ ครองเงินฝาก (Deposit Protection Agency: DPA) สถาบนั คมุ ครองเงินฝาก เปน หนวยงานของรัฐ จัดตงั้ ขึ้นเม่ือวันที่ 11 สงิ หาคม 2551 เพื่อคมุ ครองประชาชนผูฝากเงนิ โดยมหี นาที่หลกั คอื

ใบความรทู ่ี ๓ วชิ า การเงินเพ่ือชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เช่ือ สทิ ธิและหนาทขี่ องผูใชบ รกิ ารทางการเงินระดบั ชนั้ 1. จา ยเงนิ คืนผูฝากภายในวงเงนิ และระยะเวลาท่ีกฎหมายกาํ หนด ในกรณีที่ สถาบันการเงนิ ทีอ่ ยภู ายใตการคมุ ครองถูกปด กิจการ 2. ชําระบญั ชสี ถาบันการเงินทถี่ ูกปด กจิ การ เพ่ือรวบรวมเงินจากการขาย สินทรพั ย มาชําระคืนใหแกเจา หน้ีของสถาบันการเงนิ นนั้ รวมถงึ เงนิ ฝากสว นทเ่ี กินวงเงนิ คุมครองดวย คมุ ครองอะไรบา ง เงนิ บาททฝ่ี ากไวก บั สถาบนั การเงินทอ่ี ยูภายใตก ารคุมครอง (ธนาคารพาณิชย บริษัท เงินทุน และบรษิ ัทเครดิตฟองซเิ อร) แตไมครอบคลุมถงึ เงินที่ฝากไวก ับสถาบันการเงิน เฉพาะกิจของรัฐ เน่ืองจากมีกฎหมายเฉพาะจัดต้ังข้ึน ทั้งน้ี สถาบันการเงินท้ังหมดอยูภายใตการ กํากับดูแลของ กระทรวงการคลัง และธนาคารแหงประเทศไทย ซ่ึงจะกํากับดูแลความม่ันคง อยางใกลชิด และจะ ปอ งกนั หรือแกไ ขปญหาท่อี าจเกิดขนึ้ มใิ หตอ งปดกิจการโดยงาย เงนิ ฝากที่ไดรับความ เงนิ ฝากท่ีไมไดรบั การคุมครอง คุมครอง เงนิ ฝากออมทรัพย Ω เงินฝากท่ีเปนเงินตราตางประเทศ เงินฝากประจาํ เงนิ ฝากกระแสรายวนั Ω เงินฝากท่ีมีอนุพันธแ ฝง บตั รเงินฝาก ใบรับฝากเงิน Ω เงินฝากระหวางสถาบันการเงิน ฝากใน “บญั ชีรว ม” หรือ “บัญชีเพอ่ื ” Ω เงนิ ฝากในบญั ชีเงินบาทของผมู ถี ิ่นที่อยูน อกประเทศ (เปน ประเภทบัญชี พเิ ศษที่เปด เพ่ือทํารายการเฉพาะ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลย่ี นเงิน) Ω เงนิ ฝากในสหกรณ (เนื่องจากสหกรณไมไดเปน สถาบนั การเงนิ ภายใต กฎหมายคุมครองเงินฝาก) Ω เงนิ ลงทนุ อ่นื ๆ เชน กองทนุ รวม หุนกู ตัว๋ แลกเงนิ พนั ธบตั รรฐั บาล สลากออมทรัพย (เปน ผลติ ภณั ฑอ ืน่ ที่มิใชเ งนิ ฝากจงึ ไมไดร บั การคมุ ครอง)

ใบความรูท ่ี ๓ วชิ า การเงนิ เพือ่ ชวี ิต ๒ สค 2๒01๖ เร่อื ง สินเชอ่ื สิทธิและหนาท่ขี องผูใ ชบ รกิ ารทางการเงนิ ระดับชน้ั จํานวนเงินท่ีไดร บั การคมุ ครอง4 จํานวนเงนิ ฝากรวมดอกเบีย้ ท่ีจะไดรับการคุมครองตามเกณฑท ี่กฎหมายกําหนด ดงั นี้ ระยะเวลา จํานวนเงินฝากท่ีคมุ ครอง (ตอ รายผฝู าก ตอ สถาบันการเงิน) 11 ส.ค. 2558 – 10 ส.ค. 2559 ไมเ กิน 25 ลานบาท 11 ส.ค. 2559 – 10 ส.ค. 2561 ไมเ กิน 15 ลา นบาท 11 ส.ค. 2561 – 10 ส.ค. 2562 ไมเกิน 10 ลา นบาท 11 ส.ค. 2562 – 10 ส.ค. 2563 ไมเ กนิ 5 ลานบาท 11 ส.ค. 2563 เปนตน ไป ไมเกนิ 1 ลา นบาท หมายเหตุ: เงินฝากสวนท่ีเกนิ ความคุมครอง จะไดร บั คืนเพิม่ เติมหลงั จากการชาํ ระบัญชีสถาบนั การเงินทป่ี ด กจิ การ การประกนั ภัย ความหมายและประโยชน การท าประกนั ภัยเปน การบริหารความเสี่ยงภัยวิธีหน่ึง ซ่งึ จะโอนความเสี่ยงภัย ของ ผเู อาประกันภยั ไปสูบริษัทประกันภยั เมื่อเกดิ ความสูญเสยี หรือความเสียหายจากเหตุการณ ไมค าดฝน บรษิ ัทประกนั ภยั จะชดใชค า สินไหมทดแทนตามที่ไดรับความคุม ครองในกรมธรรม ประกนั ภยั ใหแกผู เอาประกนั ภยั โดยทผ่ี ูเ อาประกันภยั จะตองเสียเบย้ี ประกันภยั ใหแกบ ริษทั ประกันภยั ตามที่ไดต กลงกนั ไว การประกันภัยจะชว ยสรางความมน่ั คงทางการเงนิ ใหแกผ เู อาประกนั ภัยและ ครอบครวั กลา วคือ หากเกดิ ความสญู เสียหรือความเสยี หายตอ สงิ่ ทีเ่ อาประกันจะไมสงผล กระทบตอ ฐานะการเงินของผเู อาประกนั นอกจากนี้ การท าประกันภัยยงั ชว ยใหผเู อาประกันภยั คลายความ กังวลกบั สิ่งท่เี หนือการควบคุมหรือคาดเดาไดยากวา ในอนาคตจะเกิดอะไรข้ึนบา ง เชน การท าประกัน ชีวติ โดยหากผเู อาประกันเกิดเสยี ชีวิตขึ้นมาในขณะทยี่ ังมีภาระดูแล ครอบครัว ผทู ่ีอยูขางหลังจะไดร ับ คาสนิ ไหมทดแทนในฐานะผูรับประโยชนตามทผ่ี เู อาประกันภัย ไดตกลงไวก ับบรษิ ทั ประกนั ภยั 4ขอ มลู นี้อาจมีการปรับเปล่ียนในอนาคต ดังนั้น ควรสอบถามรายละเอยี ดเพิ่มเติมไดท่ี สถาบนั คมุ ครองเงินฝาก โทร. 1158 เว็บไซต www.dpa.or.th

ใบความรูท่ี ๓ วิชา การเงินเพื่อชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เชอื่ สทิ ธิและหนาทข่ี องผูใ ชบ รกิ ารทางการเงนิ ระดบั ชั้น หลักการพิจารณาความจาํ เปน ในการทําประกนั ภยั อยางไรก็ตาม ไมจําเปนวาทุกคนตองทําประกันภัยเสมอไป หากตัวเราเอง สามารถ รับความเสี่ยงหรือมีแผนการรองรับท่ีดีก็ไมจําเปนตองทําประกันภัย โดยมีหลักในการ พิจารณาวา จําเปน ตอ งทาํ ประกนั ภัยหรือไมดังน้ี 1. ภาระรบั ผิดชอบที่มี หากเราเปน เสาหลักทางการเงนิ ของครอบครัว เชน เปน คน ดแู ลคาใชจา ยของทุกคนในบา น หรอื มีภาระหน้ีทตี่ องรับผิดชอบ ถาเกิดปญ หากับเรา จนไมสามารถ ดแู ลครอบครวั ได เชน เจ็บปว ยหนกั เกิดอุบัตเิ หตรุ ุนแรงหรือเสียชวี ติ จะสรา ง ภาระใหแ กคนที่อยู เบือ้ งหลงั มากนอ ยแคไหน เรามแี ผนการรองรบั ความเสย่ี งท่ีจะเกดิ ข้ึนแลว หรือไม (ถา เรามเี งินเกบ็ มาก พอ มีทรพั ยสินที่ปลอดภาระแลว การเสียชีวิตของเราไมทําใหผ ูที่ อยเู บ้ืองหลงั เดือดรอน ประกนั ภัยก็ อาจไมจ ําเปนสาํ หรับเรา) 2. โอกาสความเปนไปไดท่ีจะเกิดความเสี่ยงหรือประกอบอาชีพที่มีความเส่ียง เชน ตองอยูในเขตกอสราง ผลิตสารเคมี หรือเดินทางบอย ยอมมีความเสี่ยงมากกวาผูท่ีทํางาน ใน ออฟฟศ ในกรณีนกี้ ็ควรทาํ ประกันภัย ในการประกันภยั จะมีบุคคลทเ่ี กยี่ วของ 3 ฝาย คือ ∙ ผรู ับประกันภยั คือ บรษิ ทั ทป่ี ระกอบธุรกจิ ประกันภัย ∙ ผเู อาประกนั ภัย คือ บุคคลที่ตอ งการจะทาํ ประกันภยั และมีหนาที่จาย เบี้ย ประกนั ภัยใหแ กผรู ับประกนั ภัย ∙ ผูรบั ประโยชนคือ คนทจี่ ะไดรับสนิ ไหมทดแทนตามท่ผี ูเอาประกันภัยระบุไว โดยผู เอาประกันภยั กบั ผรู บั ประโยชนอาจเปน คนคนเดยี วกนั ได

ใบความรูที่ ๓ วิชา การเงินเพือ่ ชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่ือง สินเช่ือ สทิ ธิและหนา ท่ขี องผูใ ชบ ริการทางการเงนิ ระดบั ช้ัน รปู แบบประกนั ภัย กอนซื้อประกันภยั ผูเ อาประกันภัยควรศกึ ษาทําความเขา ใจ เปรยี บเทยี บ รปู แบบ ความคุมครอง และเบย้ี ประกันภัยของการประกนั ภัยกอ น เพื่อใหไดร บั แบบประกันภยั ที่มคี วามเหมาะสม ตรงตามความตองการมาก ท่สี ุด ซึ่งสามารถแบง ประกันภัยออกเปน 2 ประเภทใหญ ไดแก 1) ประกันชวี ติ 2) ประกันวนิ าศภัย โดยแต ละประเภทก็ยังมีรปู แบบการ ประกันภยั ทจี่ าํ แนกยอยอีก 1. ประกันชีวิต เปน สัญญาระหวา งผูร บั ประกันภัย (บริษทั ประกันชีวิต) กับ ผูเอาประกันภยั โดยเรยี ก สัญญาดังกลา ววา กรมธรรมป ระกนั ชีวติ ซ่งึ กาํ หนดใหผ ูเ อาประกนั ภยั ตอ งจา ยเบ้ียประกันภยั ใหแ กบ รษิ ทั ประกนั ชวี ติ หากผูเอาประกันภัยเกิดเสยี ชีวติ ขณะท่ี กรมธรรมม ผี ลบงั คบั (ยังอยูในระยะเวลาการคมุ ครอง) ภายใตเ งื่อนไขในกรมธรรม เชน การ เสียชีวิตทไ่ี มใ ชก ารฆา ตัวตาย บริษทั ประกนั ชีวิตจะจา ยเงนิ จาํ นวนหนง่ึ ใหกับผูร ับผลประโยชน เรียกวา เงนิ สินไหม หากพจิ ารณาจากลักษณะความคมุ ครองและผลประโยชน สามารถแบง แบบการประกันชีวติ ได หลายแบบ โดยหากแบง ตามแบบการประกันชวี ติ พืน้ ฐานจะมีอยู 4 แบบคอื 1) ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (term insurance) เปนการประกัน ชีวิตที่บริษัท ประกันชีวิตจะจายเงินเอาประกันภัยใหแกผูรับประโยชน เม่ือผูเอาประกันภัย เสียชีวิตในระยะเวลา เอาประกันภัย วัตถุประสงคเพื่อคุมครองการเสียชีวิตกอนวัยอันสมควร การประกันชีวิตแบบน้ีไมมี สวนของการออมทรัพย เบี้ยประกันภัยจึงต่ํากวาแบบ อื่น ๆ และไมมีเงินเหลือคืนใหหากผูเอา ประกนั ภัยมีชวี ิตอยูจนครบกําหนดสญั ญา ตวั อยา งการประกันชวี ติ แบบช่ัวระยะเวลา เชน กรมธรรมประกนั ชีวติ แบบ คุมครองสนิ เช่ือ เพ่อื ที่อยูอาศยั จะใหความคุมครองการเสยี ชวี ิตของผกู ูยมื ซง่ึ ไดแกผ ูเ อา ประกนั ภยั ซง่ึ เปนผมู รี ายได หลกั ของครอบครวั หากผเู อาประกนั ภัยเสียชวี ติ สมาชกิ ใน ครอบครัวซง่ึ เปน ผูรับประโยชน จะไดรบั ความคมุ ครองเปนเงนิ รายงวดเพอ่ื นําไปผอ นชําระ สนิ เชอ่ื ใหแกสถาบันการเงนิ 2) ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (whole life) เปนการประกันชีวิต ที่บริษัทประกันชีวิตจะ จายเงินเอาประกันภัยใหแกผูรับประโยชนเม่ือผูเอาประกันภัยเสียชีวิต ในขณะที่กรมธรรมมีผลบังคับ หรือหากผูเอาประกันภัยมีอายุยืนยาวจนครบกําหนดสัญญา ผูเอาประกันภัยจะไดรับจํานวนเงินเอา ประกันภัย (ระยะเวลาเอาประกนั ชวี ติ แบบตลอดชีพ กําหนดใหครบกําหนดสัญญาเม่ือผูเอาประกันภัยมีอายุครบ 90 ป ถึง 99 ป) วัตถุประสงคเพ่ือ คุมครองการเสียชีวิต เพื่อใหบุคคลท่ีอยูในความอุปการะของผูเอาประกันภัยไดรับเงินทุน จํานวน หน่ึงไวสําหรับจุนเจือ หรือเปนเงินทุนสําหรับการเจ็บปวยคร้ังสุดทายและคาทําศพ เพ่ือไมใหตก เปน ภาระของคนอื่น 3) ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย (endowment) เปน การประกันชวี ิตท่ี บรษิ ทั ประกัน ชวี ิตจะจา ยจํานวนเงนิ เอาประกันภัยใหแ กผ เู อาประกันภัย เมื่อมีชีวติ อยูครบ

ใบความรูท่ี ๓ วิชา การเงนิ เพอ่ื ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรอ่ื ง สินเชอื่ สทิ ธิและหนา ทขี่ องผใู ชบริการทางการเงนิ ระดบั ชน้ั กําหนดสญั ญา หรือจา ยเงินเอาประกันภัยใหแกผูรับประโยชนเมื่อผูเอาประกันภัยเสียชีวิตลง ภายใน ระยะเวลาเอาประกันภัย วัตถุประสงคเพ่ือคุมครองการเสียชีวิตและการออมทรัพย โดยในสวนของการ ออมทรัพย ผูเอาประกนั ภัยไดรบั เงินคืนในระหวา งสญั ญาหรือเมอ่ื สญั ญา ครบกาํ หนด 4) ประกนั ชีวิตแบบบํานาญ (annuity) เปนการประกันชีวติ ทีบ่ รษิ ทั ประกนั ชีวิตจะจายเงิน จาํ นวนหนึ่งเทา กันอยา งสม่ําเสมอใหแกผูเอาประกันภัยทุกเดือน นับแต ผูเอาประกันภัยเกษียณอายุ หรือมี อายุครบ 55 ป หรือ 60 ป เปนตนไป แลวแตเง่ือนไข ในกรมธรรมที่กําหนดไว สําหรับระยะเวลาการ จายเงนิ ข้นึ อยกู บั ความตอ งการของผูเอา ประกันภัย โดยบริษัทประกันชีวิตจะเก็บเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ หนึ่งซ่ึงชวงระยะเวลาท่ีเก็บ เบ้ียประกันภัยจะอยูในชวงที่ทํางาน หรือชวงกอนเกษียณอายุ วัตถุประสงค เพ่อื ใหค วาม คุมครองกรณที ี่ผูเอาประกันภยั ที่คาดวามอี ายยุ ืนยาว และตอ งการใหมเี งินไดป ระจําหลังจาก ท่ี เกษียณอายุ เบีย้ ประกนั ชีวิต จะแตกตางกันไปตามประเภทของประกันทที่ าํ เชน ถา เปนประกันชวี ิตแบบ สะสมทรัพย คา เบีย้ ประกนั ภัยจะแพงกวา แบบอน่ื ๆ นอกจากน้ี ขอ มลู ของผูเ อาประกนั ภยั เชน เพศ อายุ ก็มีผลตอ การคาํ นวณ เบย้ี ประกนั ภยั ดว ยเชน กนั ประกนั วนิ าศภัย เปน การท าประกันภยั เพ่ือใหความคุมครองตอทรพั ยส ิน เชน ประกนั อคั คีภัย ประกนั ภยั รถยนต หากทรพั ยสนิ ท่ไี ดรับการคมุ ครองเสยี หาย บริษัทอาจจะ จา ยเปนตัวเงิน หรือซอมแซม หรอื หาของมาทดแทน หรือทําใหกลับคนื สูส ภาพเดิม ขึ้นอยกู บั เงอ่ื นไขที่ไดตกลงหรอื กําหนดไว ประกัน วินาศภยั มี 4 ประเภท ไดแ ก 1) การประกันอคั คีภยั (fire insurance) คอื การประกนั ภยั เพือ่ คุมครอง ความเสยี หายของ ทรัพยสินที่เกิดจากไฟมาเผาผลาญ ซ่ึงเม่ือเกิดภัยขึ้นแลวบริษัทประกันภัย ชดใชคาเสียหายให ซ่ึงภัยท่ี คุมครอง ไดแก ไฟไหม ฟาผา การระเบิดของแกสท่ีใชในครัวเรือน และความสูญเสียหรือเสียหายจาก สาเหตใุ กลชิดของอคั คีภยั เชน ทรัพยส ินทีเ่ สยี หายจากน้ํา หรือสารเคมีทใ่ี ชใ นการดับเพลิง 2) การประกันภัยรถยนต (automobile insurance) คือ การประกัน เพอ่ื คมุ ครองความเสยี หาย อันเกดิ จากการใชร ถยนต ไดแก

ใบความรทู ี่ ๓ วชิ า การเงินเพื่อชวี ิต ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เชือ่ สิทธิและหนา ทขี่ องผูใชบรกิ ารทางการเงนิ ระดับชนั้ ∙ ความสญู เสียหรอื เสียหายท่ีเกดิ แกร ถยนต ไดแก ความเสยี หาย บุบสลาย หรือสูญหาย ของตัวรถยนต ∙ ความสูญเสียหรือเสยี หายทร่ี ถยนตก อใหเ กิดขนึ้ แกชีวิต รา งกาย และทรพั ยส นิ ของบคุ คลภายนอก รวมท้งั บคุ คลที่โดยสารอยใู นรถยนตน นั้ ดวย 3) การประกนั ภยั ทางทะเล (marine insurance) คอื การประกนั ภยั ความเสยี หายของตัว เรือ สนิ คาและทรพั ยส ินที่อยรู ะหวา งการขนสงภายในประเทศและระหวา ง ประเทศ รวมทงั้ พาหนะ และสงิ่ อ่นื ๆ ที่ใชใ นการขนสง ดวย และยงั ขยายขอบเขตความคมุ ครอง รวมไปถึงภยั ทางบกและความ สูญเสียในขณะขนสง 4) การประกันภัยเบ็ดเตล็ด (miscellaneous insurance) คือ การ ประกันภัยที่ใหความ คมุ ครองตอความสูญเสียหรือความเสียหายอันเนื่องมาจากภัยอื่น ๆ ที่อยู นอกเหนือจากการคุมครอง ของกรมธรรมประกันภยั รถยนต ประกนั ภัยทางทะเล ประกนั อคั คีภัย และประกันชวี ิต เบี้ยประกนั วินาศภัย คาเบยี้ ประกันภัยกจ็ ะแตกตางกนั ตามระดบั ความเส่ยี งภัย ระยะเวลาที่คมุ ครอง และจํานวนเงนิ เอาประกนั ภยั นอกจากน้ี ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติม เชน - เบยี้ ประกนั อัคคีภัย จะพิจารณาปจ จยั จากสถานท่ตี ั้งของสง่ิ ปลูกสรา ง ลักษณะของสงิ่ ปลูก สราง คํานงึ ถึงความเสี่ยงภยั ท่จี ะเกิด เชน อยูใ นพ้นื ทท่ี ่ีมสี ่งิ ปลกู สรา ง หนาแนน การเขาถึงได ของรถดับเพลงิ หรอื สง่ิ ปลกู สรางเปน ไมห รือวัสดุตดิ ไฟ - เบี้ยประกนั ภัยรถยนตผ รู ับประกนั ภยั จะพิจารณาจากหลาย ๆ ปจจัย เชน อายุ รุน ประเภท ของรถยนต ขนาดของเคร่อื งยนต ประเภทกรมธรรม รวมถึงอายุ เพศ ของผูเ อาประกนั ภัย ดว ย แบบประกนั ภยั ใกลตัว 1. สัญญาเพมิ่ เติมกรมธรรมประกนั ชวี ิต เปนสญั ญาประกนั ภยั ชนิดหนึง่ เวลา ทีเ่ ราทาํ ประกนั ชีวติ เราสามารถเลอื กทําสัญญาเพื่อรบั ความคมุ ครองเพ่ิมเตมิ ไดอีก เชน 1) คมุ ครองความทพุ พล ภาพถาวรส้ินเชิง (สญู เสียสมรรถภาพในการ ท างานอนั เกิดจากอุบตั เิ หตุ การเจบ็ ปว ยหรือเชอ้ื โรคทําใหไ มสามารถประกอบหนา ที่การงาน ไดแบบถาวร) เชน สูญเสียสายตา มือหรอื เทาหรอื ทัง้ 2 ขางหรืออยางใดอยางหน่ึงรวมกนั ตัง้ แต

ใบความรทู ่ี ๓ วชิ า การเงินเพ่ือชวี ิต ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เช่ือ สิทธิและหนา ท่ีของผูใชบรกิ ารทางการเงนิ ระดบั ชัน้ สองอยางข้ึนไป สัญญาเพ่ิมเติมนีม้ ักจะเพิ่มไวในกรมธรรมป ระกนั ชีวิตใหโดยอตั โนมัติ และ กําหนด ผลประโยชนเทา กับจาํ นวนเงินเอาประกนั ภยั 2) คุมครองโรครายแรงและการเจ็บปวยข้ันวิกฤต หากปวยดวยโรค รายแรงหรือข้ันวิกฤต มักจะมคี ารักษาพยาบาลเปน จาํ นวนสูง การท าประกันภัยเพ่ือความ คุมครองกรณีดังกลาวจะชวยแบง เบาภาระคารักษาลงได เชน โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด ไตวาย ซึ่งผูรับ ประกันภัยอาจทาํ เพม่ิ เปน อีกหน่ึงกรมธรรมได 3) ประกันอุบัติเหตุ เปนสัญญาท่ีใหความคุมครองกรณีท่ีผูเอาประกันภัย ประสบอุบัติเหตุ เสียชวี ติ สูญเสียอวยั วะ รวมถงึ ใหผลประโยชนด านคารกั ษาพยาบาลจากการ ไดร ับอบุ ัตเิ หตุดว ย 4) ประกนั สุขภาพ เปนสัญญาเพิ่มเติมที่ผูเอาประกันภัยจะไดรับการ คุมครองเมื่อตองเขาพัก รักษาตัวในโรงพยาบาล ซ่ึงในสัญญาจะระบุรายการผลประโยชนท่ีจะ ไดรับ และจํานวนเงินที่ผูรับ ประกันภัยจะจายให เชน คาหอง คาอาหาร คาบริการพยาบาล 1,000 บาทตอวัน คาหองผาตัด 4,000 บาทตอการเขา รบั การรกั ษา 1 ครัง้ 2. กรมธรรมป ระกันภยั สาํ หรับรายยอยหรือไมโครอินชัวรนั ส (micro insurance) หมายถึง การประกันภัยสาํ หรับผมู รี ายไดน อย-ปานกลาง ซ่ึงมลี กั ษณะทสี่ าํ คญั ดังนี้ - เบยี้ ประกันภยั ราคาไมแพง - ความคุมครองไมซ ับซอ น เขา ใจงาย - การขอรับเงนิ คาสนิ ไหมทดแทนไมยงุ ยาก - ชอ งทางการจําหนายหลากหลาย เขาถงึ ประชาชนทุกกลุม - สามารถเปนเคร่ืองมอื ในการรองรบั ความเส่ียงของประชาชนได โดยเฉพาะผูม รี ายไดน อ ย กรมธรรมป ระกนั ภยั 200 สาํ หรบั รายยอย เปนประกันภัยทถ่ี ูกออกแบบมาให เหมาะกับผมู รี ายได นอย มีข้ันตอนการซ้อื งายเพยี งใชบ ัตรประชาชนพรอมชาํ ระเบยี้ ประกนั ภัย เพียง 200 บาท ซึ่งผเู อา ประกนั ภัยจะไดร บั ใบรับรองการประกันภยั และไดรบั ความคุมครอง ทนั ทเี มอื่ ซอื้ โดยแบบประกันภัยน้ี มีระยะเวลาคมุ ครอง 1 ป สามารถตอ อายุปถ ัดไปได ให ความคมุ ครองกรณเี สียชีวติ การสญู เสียมอื เทา สายตา หรอื ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชงิ จาก อุบัติเหตหุ รอื ถกู ฆาตกรรม รวมถึงคาใชจา ยในการจดั งาน ศพกรณีเสียชีวติ จากการเจบ็ ปวย

ใบความรทู ี่ ๓ วิชา การเงินเพอ่ื ชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เรอื่ ง สินเช่ือ สิทธิและหนา ทข่ี องผใู ชบริการทางการเงินระดับช้นั ผสู นใจสามารถติดตอซ้ือไดตามชองทางการจําหนายตาง ๆ เชน บริษัทประกันภัยและสาขา ตัวแทน ประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย นายหนาประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย เคานเตอรเซอรวิส ในรานเซเวน อีเลฟเวน โบรกเกอรประกันภัยในหางเทสโก โลตัส ที่ทําการไปรษณีย โดยซ้ือได คนละไมเกิน 2 กรมธรรม 3. ประกันภัยคุมครองผูประสบภัยจากรถ (ประกันภัย พ.ร.บ.) เปนประกันภัย รถยนตภาค บังคบั ทเี่ จาของรถหรอื ผเู ชา ซือ้ รถตอ งจัดทําประกันภัยรถยนต ตาม พ.ร.บ. คุมครอง ผูประสบภัยจาก รถ พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงคเพ่ือคุมครองใหความชวยเหลือแกประชาชน ผูประสบภัยจากรถท่ี ไดรับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะเหตุประสบภัยจากรถ โดยจายชดใชเปน คารักษาพยาบาลกรณี บาดเจบ็ หรือเปน คาทําศพในกรณีเสยี ชีวติ อยา งไรก็ดี การท าประกนั ภัยรถยนตภ าคบังคบั หรือประกนั ภัย พ.ร.บ. นี้จะ ไมค มุ ครองความ เสยี หายท่ีเกิดข้นึ กบั รถยนตด ังนั้น ผใู ชร ถจึงอาจเลือกทาํ ประกันภัยรถยนต เพ่ิมเติมได ซึ่งเรียกวา ประกนั ภัยรถยนตภาคสมคั รใจ ตวั อยางท่ีพบเหน็ บอย ดังนี้ 1) ประกนั ภัยรถยนตประเภท 1 (ประกนั ชั้น 1) ใหความคมุ ครองชวี ิต รา งกายและทรัพยสิน ของบุคคลภายนอก ความเสยี หายของตวั รถ การสญู หายและไฟไหม ตวั รถยนตข องผเู อาประกนั ภัย 2) ประกนั ภัยรถยนตประเภท 2 (ประกันชนั้ 2) ใหความคุมครองชีวิต รา งกายและทรัพยสิน ของบุคคลภายนอก การสญู หายและไฟไหมต ัวรถยนตข องผูเอาประกนั ภัย 3) ประกนั ภัยรถยนตป ระเภท 3 (ประกนั ชน้ั 3) ใหค วามคมุ ครองชีวติ รา งกายและทรัพยส ิน ของบุคคลภายนอก 4) ประกันภัยรถยนตแบบคุมครองเฉพาะภัย (2+, 3+) ใหความคุมครองชีวิต รางกายและ ทรัพยสินของบุคคลภายนอก ความเสียหายของตัวรถจากการชนกับยานพาหนะ ทางบก การสูญหาย และไฟไหมตัวรถยนตของผูเอาประกันภัย นอกจากน้ี ผูเอาประกันภัย สามารถซ้ือความคุมครอง เพ่ิมเติมสําหรับผูขับข่ีและผูโดยสารที่อยูในรถยนตคันเอาประกันภัยได โดยมีความคุมครองอุบัติเหตุ สว นบุคคล ความคมุ ครองคารักษาพยาบาล และการประกันตวั ผขู ับขใี่ นคดอี าญา 4. ประกนั อคั คภี ยั สําหรับท่ีอยูอาศัย ใหค วามคมุ ครองการสูญเสียหรือเสยี หาย ของทรัพยส ินทีเ่ อา ประกันภยั ไดแก ส่งิ ปลูกสราง (บา น ทาวนเ ฮา ส ตึกแถวสาํ หรบั อยอู าศยั

ใบความรูท่ี ๓ วิชา การเงินเพอ่ื ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เร่อื ง สนิ เชือ่ สทิ ธิและหนา ทข่ี องผูใชบรกิ ารทางการเงนิ ระดับชั้น โรงรถ กําแพง รั้ว ประตู หอ งชุดสาํ หรับอยูอาศยั ในแฟลต คอนโดมิเนยี ม ยกเวนฐานราก) และ ทรัพยสินภายในสง่ิ ปลกู สราง ทเี่ กิดจาก 1) ไฟไหม ฟา ผา (รวมถึงความเสยี หายตอเคร่ืองใชไ ฟฟาท่ีเกิดจาการ ลดั วงจรจากฟา ผา) ระเบิด ภยั จากการเฉี่ยว และ/หรือการชนของยานพาหนะหรอื สัตวพาหนะ ภัยจากอากาศยาน และ/ หรือวตั ถทุ ตี่ กจากอากาศยาน ภัยเนื่องจากนํ้าทเ่ี กิดขึ้นโดยอุบตั เิ หตุ จากการปลอยการรั่วหรือลน ออกมาของนาํ้ หรือไอนํ้า จากทอ นํา้ ถังน้าํ ฯลฯ ทัง้ นี้ บริษทั จะ ชดใชต ามความเสยี หายที่เกดิ ขึ้นจริง แตไ มเ กนิ จาํ นวนเงินเอาประกันภยั 2) กลุม ภยั ธรรมชาติ ไดแ ก ภยั ลมพายุ ภัยน้าํ ทวม ภัยแผน ดนิ ไหว หรือภูเขา ไฟระเบิด หรอื คลนื่ ใตนา้ํ หรือสนึ ามิ และภัยจากลกู เห็บ ทั้งน้ี บรษิ ัทจะชดใชตามความเสียหาย ทเี่ กิดข้นึ จรงิ ทุกภยั รวมกนั แลวไมเ กิน 20,000 บาท 3) การขยายความคมุ ครองคาเชาทีอ่ ยูอาศัยชว่ั คราว กรณที รัพยสินท่ี เอาประกันภัยเปนสงิ่ ปลูกสรางและไดร ับความเสยี หายอนั เนือ่ งจากภัยตามขอ 1) ทั้งน้ี หากผรู บั ประกนั ภัยพบวา ความ เสยี หายเกดิ จากการทจุ รติ หรือความ ประมาทอยางรายแรง หรอื การกระทาํ โดยเจตนา ของผเู อา ประกนั ภยั หรอื ผรู ับประโยชน หรือ แสดงขอ ความ เอกสารอันเปนเท็จเพ่อื ใหไ ดมาซึง่ ผลประโยชนของ การประกันภยั น้ี บริษทั มสี ิทธิ ปฏเิ สธการชดใชคา สินไหมทดแทนในความเสียหาย โดยไมตองคนื เบีย้ ประกันภัย ขอ แนะนําในการตดั สนิ ใจเลือกประเภทประกันภยั เมื่อเรารจู ักผลิตภณั ฑประกนั ภัยแตละประเภทแลว ก็อาจทําใหเราอยากจะทํา ประกันภัยขึ้นมา บาง และเพ่ือใหเราไดประกันภัยตามท่ีตองการ โดยไมเกินความสามารถในการ จายเบี้ยประกันภัย กอนตัดสินใจทําประกันภัย เราควรพจิ ารณาขอมลู เพิ่มเติม ดังนี้ 1. วัตถุประสงคข องการทาํ ประกันภยั เปนสิง่ ทตี่ องพจิ ารณาเปน อันดบั แรก ตองรูก อนวา “เราตอ งการท าประกนั ภยั เพื่ออะไร”เพื่อเลอื กไดต รงกับความตอ งการ เชน ∙ ตองการปองกนั ความเสีย่ ง ควรจะเลือกประกันภัยโดยดูที่การคุมครอง เปนหลัก เชน ถา กงั วลวาครอบครัวจะผอนบานตอไมไหวหากเราซ่ึงเปนผูหารายไดหลักของ ครอบครัวเสียชีวิตไปกอน ก็ควรเลอื กทาํ ประกนั คุมครองวงเงินสินเชื่อ ถากังวลวาจะไมมีเงินซ้ือ รถใหมถารถหาย ก็ควรเลือกทํา ประกนั ภยั รถยนตป ระเภท 1

∙ ใบความรทู ่ี ๓ วชิ า การเงนิ เพ่ือชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เรอื่ ง สนิ เชอ่ื สิทธิและหนา ที่ของผูใชบ ริการทางการเงนิ ระดบั ชนั้ ตองการทําประกันชีวิตและเนนการออมเงินควบคูไปดวย อาจจะเลือก ทําประกันภัยแบบสะสม ทรัพย หรือแบบบาํ นาญทจ่ี ะจา ยคืนเงินกอ นครั้งเดยี ว หรือทยอยคืน อยา งสมาํ่ เสมอหลงั เกษยี ณ ∙ ตองการทําประกันชีวิตเพ่ือใหล กู หลานไมล ําบากในอนาคตหาก ตนเองเสยี ชีวิตกะทันหนั อาจเลือกทาํ ประกนั ชวี ิตแบบชวั่ ระยะเวลา (term insurance) ซง่ึ จะ ใหค วามคมุ ครองชวี ิตสูงใน ขณะที่จา ยคา เบี้ยประกนั นอย (หากเปรียบเทยี บกับประกันภยั แบบ สะสมทรพั ยใ นกรณที ่ีจายคา เบีย้ ประกันภัยเทา กัน) ถาผเู อาประกันภยั เสียชีวิตในระยะเวลาทท่ี าํ ประกันภัย แบบชวั่ ระยะเวลาจะให ผลตอบแทนแกผูรับประโยชนมากกวา แบบสะสมทรพั ย 2. การเลือกระยะเวลาทําประกันภัยใหครอบคลุม ผูท่ีทําประกันภัยโดยเลือก ระยะเวลาส้ัน แตเพิ่งคิดอยากจะทําตอเม่ือส้ินสุดกรมธรรม มักตองจายเบี้ยประกันภัยแพงกวา การ เลอื กระยะเวลายาวต้ังแตแรก เพราะความเส่ียงของตนเองจะสูงขึ้นตามอายุท่ีมากขึ้นใน กรณีประกัน ชีวิต หรือในกรณีประกันคุมครองวงเงินสินเชื่อหากประกันที่ทําไมครอบคลุมกับ ระยะเวลาผอนหน้ี และตอมามีเหตุเกิดขึ้นหลังจากท่ีประกันภัยหมดสัญญา ผูขอสินเชื่อหรือ ลูกหลานก็ตองเปน ผูร ับผิดชอบภาระหน้ีนั้นเอง 3. ความสามารถในการจายเบย้ี ประกันภยั ควรพิจารณาดวยวามี ความสามารถใน การจา ยเบ้ียประกนั ภัยหรือไม แมวาตองการท าประกนั ภยั ใหค รอบคลุมความ เสย่ี ง แตหากเกนิ กาํ ลงั ในการจา ยเบย้ี ประกันภัย ก็อาจเลือกเงนิ เอาประกันภัยท่จี ํานวนไมส ูงนกั เพอ่ื ท่ีอยางนอยจะไดช วย แบงเบาภาระบางสว นหากเกิดเหตุรายขึ้นจรงิ 4. การเปรยี บเทยี บขอ มลู ควรเปรยี บเทยี บรายละเอียดความคมุ ครอง ระยะเวลา การคมุ ครอง เบ้ียประกนั ภยั ของบรษิ ัทหลาย ๆ แหง เพื่อเลือกประกันภยั ท่ีคุม คา ในราคาท่เี หมาะสม เมือ่ ไดรบั กรมธรรมป ระกันภัย ควรอานสาระสําคัญของกรมธรรมป ระกันภัย และตรวจสอบความ ถูกตอง ไดแก 1. ช่ือ - ที่อยูของผเู อาประกันภัย ทตี่ ้งั ของทรัพยส นิ 2. ระยะเวลาประกนั ภัย ไดแก วนั ท่เี รมิ่ ตน จนถงึ วนั ท่ีส้นิ สุด 3. ขอมลู ของสิง่ ทเี่ อาประกนั ภยั เชน กรณปี ระกันภยั รถยนต จะตองมีขอ มูล ของชื่ รุน เลขทะเบยี นรถยนต ขอมลู เลขตัวถัง เลขเครอ่ื ง ป รุน ทผ่ี ลติ จํานวนที่นั่ง 4. จํานวนเงนิ เอาประกนั ภัย และรายละเอียดความคุมครอง

ใบความรูท ่ี ๓ วิชา การเงินเพ่ือชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เช่ือ สทิ ธิและหนา ที่ของผูใชบ ริการทางการเงนิ ระดบั ช้ัน 5. เบ้ียประกันภัยทีต่ อ งจาย 6. ชอ่ื ผรู บั ประโยชน 7. เงื่อนไขทว่ั ไป หรอื ขอยกเวนการคุม ครอง ในสว นนี้ควรทําความเขา ใจ รายละเอียดความคุมครองวาตรงกบั ที่ตองการหรือไม

ใบความรทู ี่ ๔ วชิ า การเงินเพือ่ ชีวิต ๒ สค 2๒01๖ เร่อื ง สนิ เชอ่ื สิทธิและหนา ทข่ี องผใู ชบรกิ ารทางการเงนิ ระดบั ชัน้ เร่ืองที่ 4 การชาํ ระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ความหมายและประโยชนข องการชาํ ระเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส การชาํ ระเงิน (payment) คือ การสง มอบเงนิ หรือโอนเงินผา นชองทางตาง ๆ เพื่อ ซื้อสินคา และบรกิ าร หรือใชช ําระหน้ี โดยสามารถใชส่ือการชําระเงินทเี่ ปน ไดท้ังเงนิ สดและ ไมใชเ งินสด ในบางครัง้ การชาํ ระเงนิ อาจทําผา นคนกลางที่เปนผูใหบ รกิ ารเพอ่ื อาํ นวยความ สะดวกและรกั ษาความ ปลอดภยั ของการทํารายการ ซ่ึงผใู หบ รกิ ารมีท้ังทีเ่ ปนสถาบันการเงินและ มใิ ชสถาบันการเงนิ (non- bank) เงินสดเปน สิ่งท่ีเราคนุ เคยในการใชจา ยมากทส่ี ดุ จนนึกไมถึงวาท่จี รงิ แลว การใช เงนิ สดน้ันไมสะดวกหลายประการ เชน ตอ งเตรียมเงินสดใหเ พียงพอในการซ้ือสนิ คา และหาก ย่งิ พกพา จาํ นวนมากก็เส่ียงตอการถูกปลน ขโมย หรือหากมองในมมุ เจา ของกจิ การ การรบั ชาํ ระ ดวยเงนิ สดอาจ ถกู ยกั ยอกหรือขโมยไดงายและตรวจสอบไดยาก รวมถงึ เสียโอกาสในการขาย สนิ คาหากมีชอ งทางให ลูกคา ชาํ ระคา สนิ คาเปนเงนิ สดเพยี งอยางเดียว สาํ หรบั มมุ ของประเทศ นั้น เงินสดมีคา ใชจายในการ จดั การคอนขางสงู เชน คาใชจา ยทเี่ กิดจากการผลิต การขนสง การ เกบ็ รกั ษา การตรวจนับ การคดั แยก และการทําลาย ถาเราหันมาชวยกนั ใชก ารชาํ ระเงนิ ทาง อเิ ล็กทรอนกิ ส (e-Payment) จะชวยลด ภาระคา ใชจา ยในการจดั การได 2-3 เทาเลยทเี ดียว ความหมายการชําระเงินทางอเิ ล็กทรอนกิ ส การชาํ ระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส หมายถึง การสง มอบหรอื โอนเงนิ เพอ่ื ซ้ือสินคา และ บรกิ าร หรอื ชําระหน้ี ผา นชองทางตา ง ๆ ที่มีความสะดวกและรวดเร็วโดยใชส่ืออิเลก็ ทรอนิกส มาชว ย ทง้ั ดานส่อื ทใ่ี ชชําระเงินแทนเงินสด เชน บตั รเอทเี อ็ม บตั รเดบติ บัตรเครดิต เงินอเิ ล็กทรอนิกส รวมถึง ชอ งทางการชําระเงนิ ทีใ่ ชงานงายและรวดเรว็ เชน ผา นอินเทอรเ น็ต โดยใชอปุ กรณประเภทตา ง ๆ อาทิ คอมพิวเตอร โทรศัพทมอื ถือ

ใบความรูท่ี ๔ วิชา การเงนิ เพื่อชีวติ ๒ สค 2๒01๖ เร่อื ง สนิ เช่อื สิทธิและหนาที่ของผใู ชบริการทางการเงนิ ระดบั ช้ัน ประโยชนของการชําระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส ตอ ประชาชน ตอ เจาของกิจการ ∙ โอนเงินหรือชําระเงินไดท ุกทีท่ ุก ∙ ไมต องเกบ็ เงนิ สดจาํ นวนมากไวทีร่ า นคา ลดปญหา เวลา ∙ ไมตองเสยี เวลาและคาใชจ าย พนักงานยักยอกหรอื ขโมยเงิน ∙ จัดทําบญั ชไี ดรวดเร็ว ในการ เดินทาง และมรี ะบบที่ ตรวจสอบได ปลอดภัย ไมต องกลัวเงนิ สดหายหรอื ถูก ∙ มีทางเลือกใหลูกคาในการชําระเงนิ ได หลายวิธี ขโมย ∙ ไมจําเปน ตองมีสถานทห่ี รือหนา ราน กข็ ายของ ∙ ตรวจสอบได มีหลักฐานชดั เจน ได ∙ มรี ูปแบบการชาํ ระเงินใหเ ลือกได ∙ ขยายฐานลกู คาไดก วางข้นึ ไมจํากัดแต พ้นื ท่ใี ดพืน้ ท่ี หน่ึง หรอื ในประเทศเทา น้ัน หลากหลายตามความสะดวก ตอ ประเทศ ∙ ลดคาใชจ า ยในการพมิ พธ นบัตร ∙ ลดคาใชจ า ยในการบรหิ ารจัดการเงินสด เชน การขนสงธนบตั ร ∙ การหมนุ เวียนของเงนิ ในเศรษฐกจิ มีความคลองตัว ∙ การคาและการชําระเงินระหวางประเทศทาํ ไดสะดวกรวดเร็วข้นึ ลักษณะของบัตรเอทีเอ็ม บตั รเดบติ บัตรเครดิต และเงินอิเลก็ ทรอนิกส บัตรอิเล็กทรอนิกสเปน สอ่ื การชาํ ระเงนิ ที่ถูกพัฒนาเพอื่ นํามาใชแทนเงินสด ปจจบุ ันมีดว ยกนั 4 ประเภท คือ บัตรเอทเี อม็ บตั ร เดบติ บัตรเครดิต และเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส เทคโนโลยขี องบัตรอเิ ล็กทรอนิกส บัตรอิเลก็ ทรอนกิ สมกี ารน าเทคโนโลยีมาใช ซง่ึ จะทําใหเ ราสามารถใชง านได อยาง ปลอดภัยและหายกงั วล โดยแบบดั้งเดิมเปนบัตรแถบแมเหล็ก (magnetic stripe) มี ลักษณะเปนแถบ สีด าคาดอยูห ลังบตั ร กวางประมาณ 1 เซนตเิ มตร ซงึ่ ขอมูลของผูถือบตั รจะ ถกู บันทึกอยทู ่ีแถบ แมเ หลก็ อยา งไรกด็ ี ยงั มีชอ งโหวข องการรักษาความปลอดภัยโดยอาจถกู มจิ ฉาชีพคดั ลอกขอมลู ใน บตั รผานเครอ่ื งสกมิ เมอร (skimmer) ได (หากเปนบตั รเอทีเอม็ หรอื บตั รเดบิตจะตองไดรหัสผา น สว นตัวของผถู อื บัตร (PIN: personal identification number) 4 หรือ 6 หลักดวยจึงจะใชได) ใน ปจจุบนั ไดมกี ารพฒั นาบตั รแบบชิป (chip) ซ่ึงขอ มลู จะถูกฝง อยใู นชิปดา นหนาของบตั ร โดยบัตรแบบ น้จี ะปอ งกนั การขโมยขอมลู ไดดกี วา เพราะมีการ เขา รหสั ขอมลู ที่ทําใหยากตอ การคดั ลอกหรือขโมย ขอมูลในบัตร

ใบความรูท ่ี ๔ วชิ า การเงินเพ่อื ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เชอ่ื สทิ ธิและหนา ทขี่ องผใู ชบริการทางการเงนิ ระดับชน้ั 1. บตั รเอทีเอ็ม เปน บตั รอเิ ลก็ ทรอนกิ สท่ธี นาคารพาณิชยอ อกใหแ กล กู คา โดย ผกู กับบัญชเี งนิ ฝากของเจาของบัตร เพ่อื ใชทําธรุ กรรมทางการเงินผานเครื่องทาํ รายการ อตั โนมัตแิ ทนการเดนิ ทางไป ทําธุรกรรมทธี่ นาคาร เชน เครื่องเอทเี อ็ม (ATM : automated teller machine) ลกั ษณะเดน ∙ ใชบ ตั รเอทเี อ็มทําธรุ กรรมการเงนิ เชน ฝาก/ถอน/โอน/ชําระเงนิ / สอบถามยอดเงนิ ในบัญชี ทเี่ คร่อื งทาํ รายการอัตโนมัติ ∙ การทาํ ธรุ กรรมจะมผี ลกบั ยอดเงินในบัญชีเงินฝากทันที ∙ ใชบัตรเอทีเอ็มควบคกู ับรหสั ผา นสว นตัว (PIN) 4 หรือ 6 หลัก เพือ่ ทําธรุ กรรมทางการเงิน ทีเ่ ครอื่ งทาํ รายการอตั โนมัติ ซ่ึงธนาคารพาณิชยจะใหผถู ือบัตรกาํ หนด รหสั ผา นสว นตัวหรอื มอบรหัสผานสว นตวั ใหแ กผูถอื บัตร (ผูถอื บัตรสามารถเปลย่ี นรหัสผาน สวนตัวไดเ องใน ภายหลงั ) 2. บัตรเดบติ (debit card) เปน บัตรอเิ ล็กทรอนกิ สที่ธนาคารพาณชิ ยอ อก ใหแ กล กู คา โดย ผูกกับบญั ชีเงนิ ฝากของเจาของบตั รและสามารถใชงานไดเ ชน เดยี วกบั บัตร เอทีเอม็ แตมีคุณสมบตั ิที่ เพิม่ ขึน้ จากบัตรเอทเี อ็มตรงท่สี ามารถใชซ ื้อสินคาและบริการตางๆ ณ จดุ ขายและทางออนไลนได โดยผถู ือบตั รสามารถสังเกตจุดท่รี ับบตั รไดจ ากตราหรือโลโก ท่รี านคา ติดหรือแสดงไว เชน VISA, MasterCard, UnionPay ลักษณะเดน ∙ สามารถนาํ ไปทําธรุ กรรมทางการเงิน ไมว าจะเปน ฝาก/ถอน/โอน/ ชาํ ระเงนิ ทีเ่ คร่ืองทํา รายการอัตโนมัติไดเหมือนบัตรเอทเี อม็ ∙ ใชซ ือ้ สนิ คา และบรกิ าร ณ จดุ ขายและออนไลนไ ด โดยเม่อื ใชแลว ยอดเงนิ ทใ่ี ชจ า ยจะ ถูกตดั จากบัญชเี งนิ ฝากทนั ที ∙ การใชบตั รเดบิต มที งั้ แบบใชลายเซ็นและแบบกดรหสั ผา นสวนตวั ของ ผถู ือบัตร (PIN) ขนึ้ อยูก ับระบบการใหบ ริการ ∙ การใชจ ายผา นบัตรเดบติ เปนการใชเงินของเราทม่ี อี ยูในบญั ชจี ึงไมสราง ภาระหนี้

ใบความรูที่ ๔ วชิ า การเงินเพือ่ ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรื่อง สนิ เชื่อ สิทธิและหนา ทข่ี องผใู ชบ ริการทางการเงินระดับชั้น บัตรเดบิตมจี ุดที่แตกตางจากบัตรเอทีเอ็มอยา งไร รูห รอื ไมวา หากคุณตองการทําบัตรเดบิตที่ธนาคาร คุณมีสิทธิเลือกไดวาตองการประกันพวง หรือไม ซึ่ง ธนาคารสามารถนําเสนอผลิตภัณฑอื่นควบคูกับผลิตภัณฑหลักของธนาคารได แตจะบังคับขายไมได ซึ่งหากคณุ ตองการบัตรธรรมดาท่ีไมพวงประกนั สามารถแจงพนักงานได 3. บตั รเครดิต (credit card) เปนบตั รที่ออกโดยธนาคารพาณชิ ยหรือบริษัท ผปู ระกอบธรุ กิจ บัตรเครดิต (ผูออกบัตร) เพื่อใหผใู ชบริการ (ผูถือบตั ร) นําไปใชชําระ คาสินคาและบริการแทนเงนิ สด โดยไมเ กนิ วงเงนิ ทีผ่ อู อกบตั รกาํ หนดไว โดยผูอ อกบัตรจะ จา ยเงินใหก บั รา นคา ไปกอน และจะเรียกเก็บ เงินจากผูถือบัตรภายหลังตามระยะเวลาที่กาํ หนด (ดูรายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ ไดจากหนวยการเรยี นรทู ี่ 3 เรื่อง สนิ เชือ่ ) 4. เงินอเิ ลก็ ทรอนกิ ส (e-Money) เราอาจไดยิน e-Money ในชื่อเรยี กอ่นื ๆ เชน บตั รเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกสบ ตั รเติมเงนิ รถไฟฟา e-Wallet, e-Purse, Mobile money, e-Cash แมจ ะมชี อ่ื เรยี ก ตา งกันไป แตลกั ษณะที่เหมือนกนั คือ มลู คา เงนิ จะถูกบันทึกอยูในส่ือ

ใบความรทู ี่ ๔ วชิ า การเงนิ เพือ่ ชวี ติ ๒ สค 2๒01๖ เรอ่ื ง สินเชอ่ื สทิ ธิและหนา ท่ีของผูใชบ รกิ ารทางการเงินระดบั ชน้ั อิเล็กทรอนกิ สโดยอาจจะอยใู นรปู ของบัตรหรอื บนเครือขายคอมพิวเตอรก็ได ซ่ึงผใู ชบริการ จะตอ ง เติมเงนิ กอ นจึงสามารถนาํ ไปซื้อสินคาและบริการตามรานคาที่ผูออก e-Money กาํ หนดได ตัวอยาง e-Money ทใี่ ชใ นปจจุบัน เชน บัตรเติมเงนิ รถไฟฟา (บัตร Rabbit, บัตร MRT) บตั ร smart purse ที่ใชซื้อสินคาในรา น 7-eleven อีกท้งั ผูใ ชบ ริการสามารถ ตรวจสอบมูลคาคงเหลือได ลกั ษณะเดน ∙ ผูใชบรกิ ารเติมเงนิ ไดต ามมลู คา ทีต่ องการ ∙ ใหความสะดวกรวดเร็วในการใชจ า ย ไมต องพกเงนิ สด ขอ แนะนาํ ในการใชบัตรอิเล็กทรอนิกสใหปลอดภัย 1. เมื่อไดร บั บัตรมาใหมใหร บี เซน็ ชื่อหลังบัตรทนั ที เพอื่ ปองกนั ผอู ่ืนนาํ ไปแอบอาง 2. เกบ็ รกั ษารหัสบัตรไวเ ปน ความลับ ไมต ้งั รหัสทีค่ าดเดางาย และควรเปลีย่ น รหสั อยูเสมอ 3. อยาใหขอมลู สว นตวั หรอื เกีย่ วกับบตั รแกผ ูท่ตี ิดตอเขามาทางโทรศัพทหรือ อีเมล โดยท่เี ราไมไดเ ปน ผตู ดิ ตอ ไปกอน 4. ตรวจสอบความถูกตองของรายการธุรกรรมทุกคร้ัง เชน ยอดเงินท่ีตองชําระ รวมถึงตรวจสอบ รายการใชจา ยเปน ประจาํ เม่อื ไดรบั ใบแจงหนี้ 5. สังเกตสง่ิ แปลกปลอมที่อาจตดิ ตัง้ อยูกบั เคร่ืองเอทีเอ็ม เชน กลองขนาดเล็ก ที่อาจถูกตดิ อยูบรเิ วณ เครื่องเอทเี อม็ หรอื อุปกรณแ ปลกปลอมที่ติดอยูตรงชอ งสอดบัตร 6. หากมีรายการธรุ กรรมทางการเงินทเ่ี ราไมไดใชเ กดิ ข้ึน ใหรบี ติดตอ ผอู อกบัตร เพื่อตรวจสอบทนั ที 7. เมื่อทําบัตรหายตองรีบแจงอายัดบตั รทันที อยา งไรก็ดี บัตร e-Money โดยทว่ั ไปที่ไมมกี าร ลงทะเบยี น หากบตั รหายก็เหมอื นกับทาํ เงนิ หาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook