คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 การแยกสารเน้ือผสม 158 ความรเู้ พิ่มเตมิ สาหรับครู เรอื่ ง กระบวนการบาบัดน้าเสยี จากชุมชน ขน้ั ตอนการบาบดั นา้ เสียจากชุมชนมีดังน้ี น้าเสียจากชุมชนจะมีส่ิงต่าง ๆ ปนอยู่ในน้า ได้แก่ เศษขยะ กรวด ทราย น้าเสียจะถูกรวบรวม ไหลตามท่อผ่านตะแกรง เศษขยะท่ีมีขนาดใหญ่กว่ารูตะแกรงจะถูกแยกออก น้าเสียที่มีทรายปน จะส่งมายังบ่อดักกรวดทรายเพื่อคัดแยกกรวดทรายออก และจะถูกส่งต่อไปยังบ่อเติมอากาศเพื่อ เลี้ยงจุลินทรีย์ให้ย่อยสลายสิ่งสกปรกในน้า จากนั้นน้าเสียจะไหลเข้าสู่บ่อตกตะกอน เพ่ือแยก ตะกอนออกจากน้า น้าจะไหลผ่านบ่อกรอง ของแขง็ ที่ปนมากบั นา้ จะถูกแยกออกดว้ ยวสั ดุกรองท่ีมี รขู นาดเล็ก ตอ่ จากน้นั เติมสารเคมเี พ่ือฆ่าเชื้อโรคในน้าท่ีกรองได้ กอ่ นทีจ่ ะปล่อยน้าให้ไหลไปยังถัง น้าใสก่อนปล่อยสแู่ หล่งน้า สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์157 คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ ภาพรวมการจัดการเรยี นรู้ประจาหนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ บท เรอื่ ง กจิ กรรม ลาดบั แนวคดิ ต่อเนื่อง ตัวช้วี ัด บทท่ี 1 หนิ เรอ่ื งที่ 1 กระบวนการ กจิ กรรมที่ 1.1 หนิ เป็นวสั ดุแข็งเกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ ว 3.2 ป.6/1 วฏั จกั รหิน และ เกดิ หนิ วฏั จกั รหนิ และ องคป์ ระกอบของ สว่ นใหญป่ ระกอบดว้ ยแรต่ ัง้ แต่ 1 ชนดิ ข้ึนไป เปรยี บเทยี บกระบวนการ ซากดึกดาบรรพ์ การนาหนิ และแร่ไปใช้ หินมีอะไรบ้าง เกิดหินอคั นี หินตะกอน ประโยชน์ และหนิ แปร และ กจิ กรมท่ี 1.2 นกั วิทยาศาสตร์สามารถจาแนกหนิ ตาม อธบิ ายวัฏจกั รหนิ จาก กระบวนการเกิด กระบวนการเกิดไดเ้ ปน็ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ แบบจาลอง หนิ และวฏั จักรหนิ หนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร เป็นอยา่ งไร หินอคั นีเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของ แมกมาใต้ผวิ โลก และเกดิ จากการเย็นตัวและ ตกผลกึ ของลาวาบนผวิ โลก หรอื เกดิ จากการ เย็นตัวและแขง็ ตัวของลาวาบนผิวโลก เนือ้ หินอคั นมี ีลักษณะเป็นผลกึ มที ้ังผลกึ ขนาดใหญแ่ ละขนาดเล็ก บางชนดิ อาจเปน็ เนื้อแก้ว และอาจมรี ูพรนุ หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอน และการเชื่อมประสานตะกอนในแอง่ สะสม ตะกอน และเกดิ จากการตกผลึกหรือ ตกตะกอนของสารบางชนิด หินตะกอนท่เี กิด จากการสะสมตวั ของตะกอนท่ีผพุ งั และถูก พดั พามาจากเศษหินเดมิ เน้อื หินสว่ นใหญ่มี ลักษณะเปน็ เมด็ ตะกอน มีทงั้ เน้ือหยาบและ ละเอยี ด สว่ นหนิ ตะกอนท่ีเกิดจากการ ตกผลึกหรือตกตะกอน เนือ้ หินจะเปน็ เน้อื ผลึก หนิ ตะกอนบางชนิดมีลกั ษณะเป็นชน้ั ๆ บางครงั้ ในอดตี จึงเรียกหินตะกอนวา่ หนิ ชน้ั หินแปรเกดิ จากการแปรสภาพของหินเดมิ ซึ่ง อาจเปน็ หินอคั นี หินตะกอนหรือหนิ แปร โดย การกระทาของความร้อน ความดนั และ ปฏกิ ริ ยิ าเคมที ี่เกดิ ขน้ึ บรเิ วณใตผ้ วิ โลก ทาให้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 158 บท เร่ือง กจิ กรรม ลาดับแนวคดิ ต่อเนอ่ื ง ตัวชว้ี ัด หนิ แปรบางชนิดมผี ลึกแรเ่ รียงตัวขนานกนั เป็นแถบ บางชนิดเนอ้ื หนิ จะมรี อยแยกเป็น แผน่ ๆ ซง่ึ รอยแยกนอ้ี าจแซะหรอื กะเทาะ ออกเปน็ แผ่นใหญ่ ๆ ได้ บางชนิดเปน็ เนื้อ ผลกึ ท่มี คี วามแข็งมาก หินทกุ ประเภท ได้แก่ หินอคั นี หินตะกอน และหนิ แปร มกี ารเปลีย่ นแปลงจากหนิ ประเภทหนึง่ ไปเป็นหินอกี ประเภทหนง่ึ และ เปลี่ยนแปลงกลับไปเปน็ หนิ ประเภทเดิมได้ โดยมีกระบวนการเปลย่ี นแปลงคงทเี่ ป็นแบบ รูปและต่อเน่ืองเป็นวฏั จกั รหิน กจิ กรรมที่ 1.3 หิน หินและแรแ่ ต่ละชนดิ มลี ักษณะและสมบตั ิ ป.6/2 บรรยายและ และแรม่ ีประโยชน์ แตกต่างกนั มนษุ ย์จงึ ใชป้ ระโยชนใ์ นการทา ยกตวั อยา่ งการใช้ อย่างไรบา้ ง สงิ่ ตา่ ง ๆ ได้แตกต่างกนั สิ่งของเคร่ืองใชท้ ี่อยู่ ประโยชนข์ องหินและแร่ใน รอบตวั เราสว่ นใหญผ่ ลติ มาจากหนิ และแร่ ชวี ติ ประจาวนั จากขอ้ มลู ที่ หรือมสี ว่ นผสมของหนิ และแร่ รวบรวมได้ เร่อื งท่ี 2 การเกดิ กิจกรรมท่ี 2.1 ซากดึกดาบรรพ์เกดิ จากโครงรา่ งหรอื ร่องรอย ป.6/3 สร้างแบบจาลองที่ ซากดกึ ดาบรรพแ์ ละ ซากดกึ ดาบรรพ์ ของสิง่ มีชีวิตในอดตี โดยมปี ัจจัยตา่ ง ๆ ตาม อธบิ ายการเกดิ การนาไปใช้ประโยชน์ เกิดขึ้นไดอ้ ย่างไร ธรรมชาติทาใหโ้ ครงร่างหรอื ร่องรอยของ ซากดกึ ดาบรรพแ์ ละ สงิ่ มีชีวติ ในอดตี กลายเปน็ ซากดกึ ดาบรรพ์ คาดคะเนสภาพแวดลอ้ มใน ซากดึกดาบรรพส์ ว่ นใหญ่พบในหนิ ตะกอน อดตี ของซากดกึ ดาบรรพ์ หรอื อาจพบอยู่ในวสั ดุอนื่ ๆ ตามธรรมชาติ ซากดกึ ดาบรรพ์ทพี่ บในหนิ ตะกอนสว่ นใหญ่ เกดิ ข้นึ พร้อม ๆ กับการเกิดหินตะกอน กิจกรรมท่ี 2.2 ซากดึกดาบรรพ์มีประโยชน์หลายอย่าง ท้งั ใช้ ซากดึกดาบรรพ์มี ศึกษาการลาดับช้นั หนิ ระบอุ ายุของหนิ ประโยชนอ์ ยา่ งไร เปรียบเทยี บอายชุ นั้ หนิ ใช้ศึกษา สภาพแวดลอ้ มในอดีตของพืน้ ที่ และใชศ้ กึ ษา วิวัฒนาการของสง่ิ มชี วี ิต รว่ มคดิ รว่ มทา สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
159 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ บทที่ 1 หนิ วัฏจักรหิน และซากดกึ ดาบรรพ์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ประจาบท เมอ่ื เรยี นจบบทน้ี นักเรยี นสามารถ 1. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินทั้งสามประเภท ได้แก่ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร จากแบบจาลอง 2. อธิบายกระบวนการเปล่ียนแปลงของหินแต่ละ ประเภททเ่ี กดิ ขนึ้ เป็นวัฏจกั รจากแบบจาลอง 3. ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของหินและแร่ใน ชีวติ ประจาวนั 4. อธบิ ายการเกดิ ซากดึกดาบรรพ์จากแบบจาลอง 5. อธบิ ายประโยชน์ของซากดึกดาบรรพ์ เวลา 15 ชั่วโมง แนวคดิ สาคญั หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ที่รวมตัวกัน สามารถ จาแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร หินแต่ละประเภทมีการ บทน้ีมอี ะไร เปล่ยี นแปลงไปมา โดยมกี ระบวนการเปลย่ี นแปลงเป็นแบบรูป เรอ่ื งท่ี 1 กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน และ การนาหินและแรไ่ ปใช้ประโยชน์ และต่อเนื่องเป็นวัฏจักร หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและ กจิ กรรมที่ 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง สมบัติทีแ่ ตกต่างกันจึงนามาใช้ประโยชน์ไดแ้ ตกต่างกัน ใน กจิ กรรมที่ 1.2 กระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหิน หินตะกอนอาจพบซากดึกดาบรรพ์ท่ีใช้เป็นหลักฐานใน เปน็ อยา่ งไร กิจกรรมที่ 1.3 หินและแร่มีประโยชน์อย่างไรบา้ ง การศกึ ษาสภาพแวดล้อมในอดีตของพื้นท่ีหน่ึง ๆ ได้ เรื่องท่ี 2 การเกิดซากดึกดาบรรพ์และการ สอ่ื การเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้ นาไปใช้ประโยชน์ กจิ กรรมที่ 2.1 ซากดกึ ดาบรรพเ์ กิดขึน้ ไดอ้ ย่างไร 1. หนังสือเรียน ป.6 เล่ม 1 หนา้ 64-119 กจิ กรรมท่ี 2.2 ซากดกึ ดาบรรพม์ ปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.6 เลม่ 1 หน้า 62-105 3. ชดุ ตัวอย่างหิน ไดแ้ ก่ หินอัคนี หนิ ตะกอน และหินแปร 4. แหล่งหนิ ตามธรรมชาติในทอ้ งถ่ิน 5. พพิ ธิ ภัณฑท์ างธรณีวทิ ยา 6. เว็บไซต์กรมทรัพยากรธรณี http://www.dmr.go.th 7. เวบ็ ไซตส์ ารานุกรมสาหรับเยาวชน http://saranukromthai.or.th สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 160 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 กิจกรรมที่ 2.2 รหัส ทกั ษะ 1.1 1.2 1.3 2.1 ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S2 การวัด S3 การใชจ้ านวน S4 การจาแนกประเภท S5 การหาความสัมพันธ์ระหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกบั เวลา S6 การจัดกระทาและส่อื ความหมายขอ้ มูล S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู S9 การตง้ั สมมตฐิ าน S10 การกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบตั กิ าร S11 การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ S14 การสรา้ งแบบจาลอง ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 C1 การสร้างสรรค์ C2 การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ C3 การแก้ปญั หา C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร หมายเหตุ : รหัสทกั ษะท่ปี รากฏน้ี ใช้เฉพาะหนังสอื คู่มอื ครูเลม่ น้ี สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
161 คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ แนวคิดคลาดเคลือ่ น แนวคิดคลาดเคล่อื นทอี่ าจพบและแนวคดิ ที่ถูกต้องในบทท่ี 1 หิน วฏั จกั รหนิ และซากดึกดาบรรพ์ มีดงั ตอ่ ไปนี้ แนวคิดคลาดเคลื่อน แนวคิดทถ่ี กู ต้อง หินไม่สามารถเปลย่ี นแปลงได้ (OSU, 2019; หินเปลี่ยนแปลงไดโ้ ดยปจั จัยตา่ ง ๆ ตามธรรมชาติ UCI, 2019) (Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) หินและแร่คือสิง่ เดียวกัน (King, 2010) แรเ่ ปน็ ส่วนประกอบของหนิ หินสว่ นใหญป่ ระกอบดว้ ยแร่ ตั้งแต่ 1 ชนิดข้ึนไป (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) หินแกรนิตเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ หินแกรนิตเป็นหนิ อัคนที เี่ กิดจากการเย็นตัวและตกผลึก (King, 2010) ของแมกมาบริเวณใต้ผวิ โลก (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ตะกอนแข็งตัวเปน็ หนิ ตะกอนได้เพราะเกิดจาก ตะกอนแข็งตัวเปน็ หินตะกอนได้ ไม่ไดเ้ กิดจากการที่ การท่ตี ะกอนต่าง ๆ ถูกบบี อดั โดยนา้ หนักของ ตะกอนต่าง ๆ ถูกบีบอัดโดยน้าหนกั ของตะกอนหรือวสั ดุ ตะกอนหรือวสั ดุท่วี างตัวอย่ดู ้านบนของตะกอน ทว่ี างตวั อยดู่ า้ นบนของตะกอนทีส่ ะสมตัวในบรเิ วณ เพียงอย่างเดียว (King, 2010) แอ่งสะสมตะกอนเพียงอย่างเดยี ว แต่ตะกอนเหลา่ น้ันต้อง ถกู เช่อื มประสานดว้ ยสารเชอ่ื มประสานตามธรรมชาติ จนกระท่งั ตะกอนและสารเชอ่ื มประสานทั้งหมดแข็งตวั กลายเปน็ หนิ ตะกอน (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ลักษณะชน้ั ๆ ทีพ่ บในหินตะกอน เกิดขึน้ จาก ลกั ษณะชัน้ ๆ ทีพ่ บในหินตะกอน เกิดจากช้นั ของการสะสม การทหี่ ินนน้ั ได้รับความดันสูงตามธรรมชาติ ตัวของตะกอนในช่วงเวลาทีแ่ ตกต่างกัน (Hamblin & (King, 2010) Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 162 แนวคดิ คลาดเคลอ่ื น แนวคิดทถี่ กู ต้อง ซากดึกดาบรรพ์พบไดใ้ นหินทุกประเภท ซากดกึ ดาบรรพส์ ว่ นใหญ่พบในหินตะกอน (USGS, 2018) (USGS, 2018) ซากดึกดาบรรพเ์ ป็นสงิ่ ที่มนษุ ยส์ ร้างขึ้น มนษุ ย์ไม่สามารถสรา้ งซากดึกดาบรรพไ์ ด้ เพราะซากดึกดาบรรพ์ (ESLI, 2009) เปน็ ซากส่งิ มชี ีวิตในอดีตที่ถูกเก็บรกั ษาไว้ในหินหรอื เป็น รอ่ งรอยของสิง่ มชี วี ิตในอดีตในหิน ซึง่ การเกิดซากดึกดาบรรพ์ สิง่ มีชีวติ ทุกชนดิ ทตี่ ายลงจะกลายเป็น ตอ้ งอาศยั ปจั จยั ต่าง ๆ ตามธรรมชาติ และใชเ้ วลาในการเกิดท่ี ซากดึกดาบรรพ์* ยาวนาน (Hamblin & Christiansen, 2001; Jeannie Evers, 2013; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ส่ิงมีชวี ติ ทุกชนดิ ที่ตายลงอาจไม่ได้กลายเปน็ ซากดึกดาบรรพ์ เพราะอาจถูกนา้ ลม หรือสิ่งมีชีวติ อื่น ๆ ทาให้โครงร่างหรือ ซากของส่งิ มชี ีวิตถูกพดั พาหรือทาให้กระจัดกระจายไปจาก แหลง่ บรเิ วณที่เหมาะสมทจี่ ะมีกระบวนการตา่ ง ๆ ทีจ่ ะทาให้ โครงรา่ งหรือซากส่ิงมชี วี ิตดงั กลา่ วกลายเป็นซากดึกดาบรรพ์ได้ (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ถ้าครพู บว่ามีแนวคิดคลาดเคล่ือนใดท่ียังไม่ได้แก้ไขจากการทากิจกรรมการเรียนรู้ ครคู วรจัดการเรียนรู้เพม่ิ เติมเพ่ือแก้ไข ต่อไปได้ * ขอ้ มูลที่ได้จากการสังเกตชั้นเรยี นในการทดลองใช้หนงั สือเรยี นของ สสวท. สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
163 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ บทน้เี รม่ิ ต้นอย่างไร (1 ชัว่ โมง) ในการทบทวนความรู้พ้ืนฐาน ครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครูกระต้นุ ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความอยากเรียนรู้ เรือ่ งหนิ และ ซาก เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ดึกดาบรรพ์ โดยอาจนาหินจริงหรือรูปหินท่ีมีลักษณะแตกต่างกัน นักเรียนต้องตอบคาถามเหล่าน้ีได้ หรือท่ีมีลักษณะแปลกตามาให้นักเรียนดู ลักษณะของหินที่แตกต่าง ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืมครู กัน เช่น สี รูปทรง ลวดลาย เน้ือหิน ความวาว ความมีรูพรุน และ ต้องใหค้ วามร้ทู ีถ่ กู ตอ้ งทันที อาจนารปู ซากดึกดาบรรพ์ท่ีอยู่ในหนิ มาใหน้ ักเรียนดเู พม่ิ เติม (อาจใช้ รูปในหนังสือเรียน หน้า 64-65 ซึ่งเป็นรูปซากดึกดาบรรพ์ปลาที่อยู่ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ในหิน) ทั้งน้ีถ้าครูใช้รูปซากดึกดาบรรพ์อ่ืน ๆ มาให้นักเรียนศึกษา ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ครูควรศึกษาชนิดของซากดึกดาบรรพ์ท่ีปรากฏอยู่ในรูป เผื่อ สาคัญ ครูยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ นักเรียนที่มีความสนใจอาจถามถึงชนิดของซากดึกดาบรรพ์ดังกล่าว แต่ชักชวนให้หาคาตอบที่ถูกต้อง จากนั้นให้นักเรยี นรว่ มกันอภปิ ราย โดยใช้คาถามดังน้ี จากกิจกรรมตา่ ง ๆ ในบทเรียนน้ี 1.1 หินแต่ละก้อนมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ) 1.2 หนิ เหลา่ นีเ้ กดิ ขน้ึ มาไดอ้ ย่างไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ) 1.3 ซากดึกดาบรรพ์ท่ีอยู่ในหินเป็นซากดึกดาบรรพ์ของอะไร และ เกิดอยู่ในหนิ ได้อย่างไร (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ) 2. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเก่ียวกับลักษณะของหิน ซึ่งนักเรียนเคย เรียนมาแลว้ ในชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 โดยใช้คาถามดังนี้ 2.1 ลักษณะภายนอกของหินท่ีสังเกตได้มีอะไรบ้าง (สี รูปทรง เนื้อหิน ความวาว ความมีรูพรุน) 2.2 หินที่พบในธรรมชาติ มีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร บ้าง (หินแต่ละก้อนอาจมีลักษณะต่าง ๆ ท้ังท่ีเหมือนกันและ แตกตา่ งกัน เชน่ สี เนื้อหนิ รปู ทรง ความวาว ความมรี ูพรุน) 3. ครูตรวจสอบความรูเ้ ดมิ ของนักเรยี นเกี่ยวกบั หินและซากดกึ ดาบรรพ์ โดยใช้คาถามดังนี้ 3.1 ภายในหินประกอบดว้ ยส่ิงใดบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง เช่น หินประกอบด้วยวัสดุท่ีเป็นของแข็ง บางก้อนมี ก้อนกรวดขนาดตา่ ง ๆ หรือบางกอ้ นมีเศษหินปะปนอย)ู่ 3.2 หินและแร่คืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หนิ และแร่ คือวัสดุทีเ่ ปน็ ของแขง็ ) 3.3 หินมีกี่ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง และแต่ละประเภทเกิดข้ึนได้ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินมี 3 ป ร ะ เ ภ ท ไ ด้ แ ก่ หิ น อั ค นี หิ น ต ะ ก อ น แ ล ะ หิ น แ ป ร สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 164 หินบางประเภทเกิดจากการเย็นตัวและตกผลกึ ของแมกมาใต้ผิว โลก บางประเภทเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวาบน ผิวโลก) 3.4 วัฏจักรหินคืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น วัฏจักรหินเป็นการเปล่ียนแปลงของหินจากหินประเภท หน่ึงไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึง และสามารถเปลี่ยนแปลง กลับไปเป็นหินประเภทเดมิ ได้) 3.5 สิ่งใดบ้างทาจากหินและส่ิงใดบ้างทาจากแร่ (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น ครกทามาจากหิน หินลับมีดทามา จากหนิ กระจกทามาจากแร่ ไสด้ นิ สอทามาจากแร่) 3.6 ซากดึกดาบรรพ์คืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง เช่น ซากดึกดาบรรพ์เป็นโครงร่างหรือร่องรอยของ ส่ิงมชี วี ติ ในอดตี ทป่ี รากฏอยูใ่ นหิน) 4. ครชู ักชวนนกั เรยี นศกึ ษาเร่ืองหินและซากดึกดาบรรพ์ โดยใหอ้ ่านชื่อ หน่วย และอ่านคาถามสาคัญประจาหน่วย ในหนังสือเรียน หน้า 64 ดงั น้ี - หินและซากดึกดาบรรพ์เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีประโยชน์ อย่างไร ครูให้นักเรียนตอบคาถาม โดยยังไม่ต้องเฉลยคาตอบ แต่จะให้ นกั เรยี นย้อนกลบั มาตอบอีกครั้งหลงั จากเรยี นจบหน่วยน้แี ลว้ 5. ครูให้นักเรียนอ่านชื่อบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจาบทใน หนงั สอื เรียน หน้า 65 จากนนั้ ครใู ช้คาถามว่า 5.1 บทนจี้ ะไดเ้ รียนเรื่องอะไร (เร่อื งหนิ วฏั จักรหิน และ ซาก ดกึ ดาบรรพ์) 5.2 จากจุดประสงค์การเรียนรู้เม่ือเรียนจบบทเรียน นักเรียน สามารถทาอะไรได้บ้าง (สามารถเปรียบเทียบกระบวนการเกิด หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร อธิบายกระบวนการ เปลี่ยนแปลงของหินแต่ละประเภทท่ีเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรหิน ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจาวัน อธิบายการเกิดซากดึกดาบรรพ์ และอธิบายประโยชน์ของ ซากดกึ ดาบรรพ)์ 6. นักเรียนอ่านช่ือบทและแนวคิดสาคัญ ในหนังสือเรียน หน้า 66 จากนั้นครูใช้คาถามว่า จากการอ่านแนวคิดสาคัญ นักเรียนจะได้ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
165 คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ เรียนเกี่ยวกับเร่ืองอะไรบ้าง (เรียนเร่ืองหิน แร่ วัฏ จักรหิน ความรู้เพ่ิมเติมสาหรับครู ซากดกึ ดาบรรพ์ ประโยชนข์ องหนิ แร่ และซากดกึ ดาบรรพ์) 7. ครูชักชวนให้นักเรียนสังเกตรูป และอ่านเน้ือเรื่องในหนังสือเรียน รปู ซากดึกดาบรรพ์ท่ปี รากฏอยู่ หน้า 66 โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับ ในหิน ในหนังสือเรียน หน้า 66 เป็น ความสามารถของนักเรียน ครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน ซากดึกดาบรรพ์สัตว์ทะเลที่มีหลาย โดยใชค้ าถามดงั นี้ ขนาด ลกั ษณะมเี ปลือกขดแน่นเปน็ วง 7.1 รูปในหนังสือเรยี นหน้าท่ี 66 เป็นรูปอะไร (รูปซ้ายมือเป็นรูปหนิ การเตรียมตวั ล่วงหนา้ สาหรับครู ซึ่งมีสีน้าตาลและมีซากดึกดาบรรพ์ปรากฏอยู่ และรูปขวามือ เพ่อื จัดการเรียนรู้ในครง้ั ถดั ไป เป็นรูปภูเขาหินซึ่งอยู่ใกล้แหล่งน้า และมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ ริมแหล่งน้า) ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้เรียน 7.2 ซ า ก ดึ ก ด า บ ร ร พ์ จ ะ พ บ ใ น หิ น ทุ ก ป ร ะ เ ภ ท ห รื อ ไ ม่ เรื่องที่ 1 กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหนิ (ซากดึกดาบรรพจ์ ะพบในหินบางประเภทเทา่ น้นั ) และการนาหนิ และแรไ่ ปใช้ประโยชน์ โดย 7.3 นักเรียนเคยพบซากดึกดาบรรพ์หรือไม่ เป็นซากดึกดาบรรพ์ของ ครูเตรยี มการสอน ดงั นี้ อะไร (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจ หรือตามประสบการณ์เดิม) 1. ให้นักเรียนเก็บหินท่ีบ้านมาคนละ 1 8. ครูชักชวนนักเรียนตอบคาถามเก่ียวกับหิน วัฏจักรหิน และ ซากดึกดาบรรพ์ ในสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม ก้อน กอ้ นขนาดกาป้นั มือ เพือ่ นามาใช้ หน้า 64-66 โดยนักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ ครูตรวจสอบความ ในช่วงข้ันตรวจสอบความรู้ ท้ังน้ีครู เข้าใจของนักเรียน จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทาได้ด้วยตนเอง จึง ควรเตรียมหินมาเผื่อเอาไว้ในกรณีที่ ใหน้ กั เรียนตอบคาถาม ซง่ึ คาตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกนั และ นกั เรียนบางคนไม่ได้เตรียมหนิ มา คาตอบอาจถูกหรือผิดกไ็ ด้ 2. ครูจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้หรือรูป 9. ครูสังเกตการตอบคาถามของนักเรียนเพ่ือตรวจสอบว่านักเรียนมี สิ่งของเคร่ืองใช้ที่ทามาจากหินและแร่ แนวคดิ เก่ียวกับหิน วัฏจกั รหนิ และซากดึกดาบรรพ์อยา่ งไร โดยอาจ เช่น ครก แป้งทาตัว แว่นขยาย สมุ่ ใหน้ ักเรยี น 2-3 คน นาเสนอคาตอบของตนเอง ครูยังไมต่ ้องเฉลย กระจก แก้ว บีกเกอร์ แท่งแก้วคน คาตอบ แตจ่ ะใหน้ กั เรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกครงั้ หลังจากเรียน ก ร ะ ด า ษ ท ร า ย ปู น ป ล า ส เ ต อ ร์ จบบทน้ีแล้ว ท้ังน้ีครูควรบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่ หินลับมีด จานหรือชามกระเบ้ือง น่าสนใจของนักเรียน แล้วนามาใช้ในการออกแบบการจัดการเรยี นรู้ กระป๋องเครื่องด่ืม ดินสอดา (ให้ เ พื่ อ แ ก้ ไ ข แ น ว คิ ด ค ล า ด เ ค ลื่ อ น ใ ห้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ต่ อ ย อ ด แ น ว คิ ด ที่ นักเรียนสังเกตไส้ดินสอดา) ช้อนหรือ นา่ สนใจของนักเรียน ส้อมท่ีทามาจากโลหะ กรรไกร เพ่ือ นามาใช้ในขนั้ ตรวจสอบความรู้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 166 แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กิจกรรม การสารวจความรู้ก่อนเรยี น นักเรียนอาจตอบคาถามถกู หรือผดิ ก็ได้ขน้ึ อยู่กบั ความรู้เดมิ ของนักเรียน แตเ่ ม่อื เรยี นจบบทเรียนแล้ว ให้นกั เรยี นกลบั มาตรวจสอบคาตอบอกี ครั้งและแก้ไขให้ถกู ต้อง ดังตวั อยา่ ง ค. ข. ง. ช. ข. ค. ค. ก. ก. ก. ข. ก. จ. ฉ. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
167 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 168 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
169 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ เรื่องที่ 1 กระบวนการเกดิ หิน วฏั จักรหนิ และการนาหนิ และแรไ่ ปใชป้ ระโยชน์ ในเร่ืองนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบ ของหิน กระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร วัฏจักรหิน และการนาหินและแร่ชนิดต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ ในการทาสง่ิ ต่าง ๆ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สื่อการเรียนรแู้ ละแหล่งเรียนรู้ หน้า 69-91 หน้า 67-88 1. รวบรวมข้อมลู และอธบิ ายองค์ประกอบของหิน 1. หนงั สอื เรียน ป.6 เลม่ 1 2. สังเกตและอธิบายลักษณะทางกายภาพของหินอัคนี 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.6 เลม่ 1 หนิ ตะกอน และหนิ แปร 3. รวบรวมข้อมูล อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการ เกิดหินอคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร จากแบบจาลอง 4. รวบรวมข้อมูลและอธิบายกระบวนการเปล่ียนแปลง ของหินในวัฏจักรหนิ จากแบบจาลอง 5. รวบรวมข้อมูลและอธิบายการใช้ประโยชน์จากหินและ แร่ เวลา 9 ชวั่ โมง วสั ดุ อปุ กรณส์ าหรบั ทากจิ กรรม ชุดตัวอย่างหิน 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร แว่นขยาย กรรไกร ชุดเกม Rocks & Minerals ชุดเกม Rocks Dominoes สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 170 แนวการจัดการเรยี นรู้ (60 นาที) ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน ขน้ั ตรวจสอบความรู้ (15 นาท)ี และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ ชกั ชวนใหน้ กั เรียนไปหาคาตอบด้วย 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเก่ียวกับหิน กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน ตนเองจากการอา่ นเนอ้ื เร่ือง และการนาหินและแร่ไปใช้ประโยชน์ โดยนาหนิ ทนี่ ักเรยี นเตรียมมาจาก บ้าน หรือที่ครูเตรียมมา นามารวมกันเพื่อให้นักเรียนสังเกต โดยอาจ แบง่ หนิ ให้นักเรยี นสงั เกตกลุ่มละจานวนเทา่ ๆ กัน หรอื กลุ่มละประมาณ 5 กอ้ น จากนน้ั ครนู าอภปิ ราย โดยใช้คาถามดังนี้ 1.1 ในหินมีอะไรอยู่บ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น ในหิน ส่วนใหญ่มีแร่ และอาจพบเศษหิน หรอื เม็ดกรวด) 1.2 หินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกันหรือไม่ (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจ เช่น หินแต่ประเภทมีกระบวนการเกิด แตกตา่ งกัน) 1.3 หินประเภทหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึง และ เปลี่ยนกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้หรือไม่ อย่างไร (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจ เช่น หินประเภทหน่ึงสามารถเปลี่ยนแปลง ไ ป เ ป็ น หิ น อี ก ป ร ะ เ ภ ท ห น่ึ ง แ ล ะ เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ก ลั บ ไ ป เ ป็ น หิ น ประเภทเดิมได้ โดยอาศัยกระบวนการทางธรณีวทิ ยาต่าง ๆ) จากน้ันครูนาส่ิงของเครื่องใช้หรือรูปส่ิงของเครื่องใช้ท่ีทามาจาก หินและแร่ จานวน 2-3 อย่าง เช่น ครก แป้งทาตัว แว่นขยาย กระจก แก้ว บกี เกอร์ แทง่ แกว้ คน กระดาษทราย ปูนปลาสเตอร์ หินลบั มดี จาน หรือชามกระเบ้ือง กระป๋องเคร่ืองดื่ม ดินสอดา (ให้นักเรียนสังเกต ไส้ดินสอดา) ช้อนหรือส้อมท่ีทามาจากโลหะ กรรไกร มาให้นักเรียน สังเกต จากนนั้ ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายโดยใชค้ าถามดงั น้ี - ส่งิ ของหรอื รปู สิ่งต่าง ๆ เหลา่ น้ที ามาจากอะไร (นักเรยี นตอบตาม ความเข้าใจ เช่น ครก หินลับมีด ทามาจากหิน ส่วนแป้งทาตัว แว่นขยาย กระจก แก้ว บีกเกอร์ แท่งแก้วคน กระดาษทราย ปนู ปลาสเตอร์ จานหรือชามกระเบอ้ื ง กระป๋องเคร่อื งดม่ื ไส้ ดนิ สอดา ชอ้ นหรอื สอ้ มทท่ี าจากโลหะ กรรไกร ทามาจากแร่) - หินที่นักเรียนนามาจากบ้าน สามารถนามาทาครกหรือนามาทา หินลับมีดได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หินบางชนิดที่นามาจากบ้านสามารถนามาใช้ทาครกได้ เพราะเป็นหินที่มีความแข็งมาก หินบางชนิดนามาใช้ทาครกไม่ได้ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
171 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ เพราะเนื้อหินสามารถกะเทาะออกได้ หรือหินบางชนิดสามารถ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ นามาทาหินลบั มีดได้ เพราะเนอื้ หนิ เป็นเม็ดตะกอน มเี นอ้ื หยาบ) คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องกระบวนการเกิดหิน คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด วัฏจักรหิน และการนาหินและแร่ไปใช้ประโยชน์ โดยใช้คาถามว่า อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน นักเรียนรู้หรือไม่ว่า หินคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร แร่คืออะไร แ ล ะ รั บ ฟั ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง วัฏจักรหินเป็นอย่างไร และหินและแร่นาไปใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง นกั เรยี น จากน้นั ครูชกั ชวนนักเรยี นหาคาตอบจากการอ่าน เร่ืองกระบวนการเกิด หนิ วัฏจกั รหนิ และการนาหนิ และแร่ไปใชป้ ระโยชน์ ข้นั ฝกึ ทกั ษะจากการอ่าน (30 นาท)ี 3. นักเรียนอ่านช่ือเรื่อง และคาถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียน หน้า 69 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหาคาตอบและนาเสนอ ครูบันทึกคาตอบ ของนักเรียนบนกระดานเพ่ือใช้เปรียบเทียบคาตอบภายหลังการอ่าน เรอ่ื ง 4. นักเรียนอ่านคาสาคัญ ท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียน อ่านไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากนั้นครูชักชวนให้นักเรียน อธิบายความหมายของคาสาคัญ ตามความเขา้ ใจของตนเอง 5. นักเรียนอ่านเน้ือเรื่องในหนังสือเรียน หน้า 69-70 โดยครูฝึกทักษะการ อ่านตามวิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ครูใช้ คาถามเพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คาถามดงั นี้ 5.1 ลักษณะของหินมีอะไรบ้าง (ลักษณะของหิน เช่น มีลวดลาย สี ผิวสมั ผสั ความแขง็ ) 5.2 หินคืออะไร และหินเป็นส่ิงที่มนุษย์สร้างข้ึนได้หรือไม่ (หินเป็น ของแข็งทเ่ี กิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ มนษุ ยไ์ ม่สามารถสรา้ งขนึ้ ได)้ 5.3 องค์ประกอบของหนิ มอี ะไร (โดยทวั่ ไปมีแร่เป็นองคป์ ระกอบ) 5.4 แร่คืออะไร (แร่เป็นสารท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ เกิดจากการ ตกผลึก ซ่ึงการตกผลึกของสารเป็นกระบวนการที่สารในสถานะ แก๊ส ของเหลว หรือของแข็งท่ีมีโครงสร้างไม่เป็นระเบียบ มีการ จัดเรียงตัวของอนุภาคใหม่ให้เป็นผลึกของแข็ง ซึ่งมีโครงสร้างที่เปน็ ระเบียบ มรี ปู ทรงทางเรขาคณติ ทแ่ี นน่ อนเฉพาะตัว) 5.5 นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง และใช้อะไร เป็นเกณฑ์ (นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร โดยใช้กระบวนการเกิดเป็นเกณฑ์ ในการจาแนก) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 172 5.6 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็นหิน หากนักเรียนไม่สามารถตอบ ประเภทอ่ืนได้หรือไม่ อย่างไร (หินท้ังสามประเภทสามารถ คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว เปล่ียนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและ คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด เปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยผ่านกระบวนการทาง อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ธรณีวิทยาต่าง ๆ ซ่ึงมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงท่ีเป็นแบบรูปและ แ ล ะ รั บ ฟั ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง ตอ่ เน่ืองเปน็ วัฏจักรหนิ ) นักเรียน 5.7 นักเรียนเคยใช้สิ่งใดบ้างที่ทามาจากหินและแร่ (คาตอบของนักเรียน จะแตกต่างกันออกไป เช่น นักเรียนบางคนเคยใช้แป้งทาตัวซึ่งมี แร่ทัลก์เป็นส่วนผสมหลัก หรือใช้เลนส์ในการดูรายละเอียดของวัสดุ หรือวัตถุขนาดเล็ก ซ่ึงเลนส์ทามาจากแร่ควอตซ์ หรือใช้กระจกเพื่อ สอ่ งหน้า ซึง่ กระจกทามาจากแร่ควอตซ์) ขั้นสรปุ จากการอ่าน (15 นาท)ี 6. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปเร่ืองท่ีอ่านซึ่งควรสรุปได้ว่า หินเป็น ของแข็งที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ โดยท่ัวไปมีแร่เป็นองค์ประกอบ นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร หินท้ังสามประเภทมีการ เปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและ เปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยผ่านกระบวนการ ทางธรณีวิทยาต่าง ๆ ซึ่งมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูป และต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน หินและแร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีมี คุณค่าและมีประโยชน์มากมาย ปัจจุบันมนุษย์ใช้เทคโนโลยีในการ แปรรปู หินและแร่มาเป็นวัตถุหรือเปน็ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อนามาใช้ ประโยชน์ 7. นักเรียนตอบคาถามในร้หู รอื ยัง ในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หน้า 67 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคาตอบของ นักเรียน ในร้หู รือยงั กับคาตอบทเ่ี คยตอบและบันทึกไวใ้ นคดิ กอ่ นอา่ น 9. ครใู ห้นักเรียนตอบคาถามทา้ ยเรอ่ื งทีอ่ ่าน ดังน้ี 9.1 หินแตล่ ะก้อนมีชนิดของแร่ท่เี ป็นองคป์ ระกอบมากน้อยเพียงใด (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง) 9.2 นอกจากมแี รเ่ ป็นองค์ประกอบแลว้ หินยงั ประกอบดว้ ยอะไรอีก บ้าง (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง) ครยู งั ไมเ่ ฉลยคาตอบ แต่ชกั ชวนให้นักเรียนหาคาตอบจากการทากจิ กรรม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
173 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ ความรู้เพ่ิมเติมสาหรับครู หินบางก้อนที่ประกอบด้วยแร่ชนิดเดียวจะเห็นหินก้อนน้ันมีสีเด่นชัดเพียงสีเดียว เช่น หินอ่อนบางก้อนมีสี เด่นชัดเป็นสีขาวหรือสีเทาอ่อน ดังรูปที่ 1 หินบางก้อนที่ประกอบไปด้วยแร่หลายชนิดและมีผลึกแร่ขนาดเล็กมาก อาจจะทาให้เห็นหินก้อนดังกล่าวมีสีเดียวผสมกลืนกันไป เช่น หินปูนบางก้อนท่ีมองเห็นเป็นสีเทา ดังรูปท่ี 2 และหิน บางก้อนที่ประกอบไปด้วยแร่หลายชนิดและมีผลึกแร่ขนาดใหญ่ท่ีตามองเห็นได้ จะเห็นหินก้อนนั้นมีสีเด่นชัดหลายสี ปนกนั อยู่ภายในก้อนเดยี วกนั เชน่ หินแกรนติ จะมีแร่หลายชนิดปนกันอยู่ภายในก้อนเดียวกนั ทาใหเ้ ห็นหินแกรนิตมีสี เด่นชดั หลายสี เชน่ สีชมพู สดี า และอาจมีแร่ทีใ่ ส ไม่มสี ีปนอยู่ด้วย ดงั รปู ที่ 3 รูปที่ 1 หนิ ออ่ นทีม่ สี ีขาว รูปท่ี 2 หนิ ปูนท่ีมสี ีเทา แร่มลี ักษณะใส ไมม่ ีสี แรม่ ีสีดา แร่มสี ีชมพู รปู ที่ 3 หินแกรนติ ทีป่ ระกอบไปด้วยแร่หลายชนิด สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 174 ความร้เู พม่ิ เตมิ สาหรบั ครู (ตอ่ ) แร่ชนิดต่าง ๆ ในธรรมชาติมีผลึกเป็นรูปทรงเรขาคณิต ซ่ึงอาจสังเกตเห็นรูปทรงผลึกแร่ได้ชัดเจน เช่น ผลึกแร่เฮไลต์ มีลักษณะเปน็ ลูกบาศก์ ดงั รปู ท่ี 4 หรอื ผลกึ แรค่ วอตซ์ มลี กั ษณะเปน็ แท่ง ดังรปู ที่ 5 แตถ่ า้ แรช่ นดิ ตา่ ง ๆ พบอยู่ในลักษณะท่ีเป็นแร่ประกอบอยู่ในหิน ผลึกแร่ต่าง ๆ จะจับตัวกันแน่นทาให้มองเห็นผลึกแร่ไม่ชัด ดัง รูปท่ี 6 นอกจากนแ้ี ร่ชนดิ เดยี วกนั อาจพบได้หลายสี เชน่ แรค่ วอตซม์ ที ั้งสีมว่ ง สีชมพู สเี ขียว หรอื ใสไมม่ สี ี รูปท่ี 4 ผลกึ แร่เฮไลตม์ ีลกั ษณะเปน็ ลกู บาศก์ รปู ท่ี 5 ผลึกแรค่ วอตซม์ ีลกั ษณะเปน็ แทง่ รูปท่ี 6 หินทป่ี ระกอบไปดว้ ยผลกึ แร่ทีจ่ ับตวั กันแนน่ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
175 คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ การเตรียมตวั ล่วงหน้าสาหรับครู เพือ่ จดั การเรียนรู้ในครั้งถัดไป ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้ทากิจกรรมที่ 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง ซ่ึงจะมีการฝึกทักษะการสังเกต โดยใช้แว่นขยายเป็นเครื่องมือช่วยในการสังเกต ในการทากิจกรรมครูควรเตรียมแว่นขยายให้เพียงพอกับ จานวนกลุ่มของนักเรียน และเตรียมชดุ ตัวอย่างหินจานวน 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร พร้อมตดิ ชอื่ และประเภทของหนิ แต่ละกอ้ น - หนิ อัคนี เชน่ หนิ แกรนติ หินไดออไรต์ หนิ บะซอลต์ หินพัมมซิ - หนิ ตะกอน เช่น หินกรวดมน หินทราย หนิ ดนิ ดาน หนิ ปูน - หินแปร เชน่ หินไนส์ หนิ ชนวน หนิ อ่อน หนิ ควอรต์ ไซต์ ในเบื้องต้นจานวนชนิดของหินที่จัดหาได้อาจไม่ครบตามจานวนที่ระบุไว้ ซ่ึงข้ึนอยู่กับสภาพแวดล้อมของ ท้องถิ่นที่สามารถพบหินชนิดต่าง ๆ ดังกล่าว ซึ่งครูอาจต้องใช้เวลาในการสะสมตัวอย่างหิน ครูอาจขอคาปรึกษา เกี่ยวกับการจัดเตรียมหินท้ังสามประเภทจากนักธรณีวิทยาหรือผู้เช่ียวชาญทางด้านธรณีวิทยาท่ีประจาอยู่ใน ท้องถ่ินหรือในจังหวัด และครูอาจเก็บตัวอย่างหินในท้องถ่ินมาให้นักเรียนศึกษา โดยเข้าไปศึกษาชนิดของหินใน ท้องถ่ินจากแผนทธี่ รณวี ทิ ยา จากเว็บไซตข์ องกรมทรพั ยากรธรณี ดงั URL ต่อไปนี้ http://www.dmr.go.th/more_news.php?cid=296&filename=index ในช่วงแรกท่ีครูยังสะสมหินได้ไม่มากพอ ครูอาจหารูปหินชนิดต่าง ๆ จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มาให้ นักเรยี นศึกษาแทนหนิ จรงิ กอ่ นได้ ครูเตรียมชุดเกม Rocks & Minerals สาหรับใช้ในการทากิจกรรมที่ 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง โดยดาวน์โหลดชุดเกมโดยการสแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 71 หรือจากเว็บไซต์ http://ipst.me/10917 แล้วนามาพิมพ์ ในการพิมพส์ ามารถพิมพ์ได้ทงั้ แบบสีหรือขาวดา จากนั้นครูดาเนินการดังนี้ - ศึกษาคูม่ ือการเล่นเกมให้เขา้ ใจ โดยศกึ ษาจากเอกสารคูม่ ือการเล่นเกมทดี่ าวน์โหลดไว้ - เตรียมชุดเกมที่จะให้นักเรียนทากิจกรรม โดยจัดกิจกรรมได้ทั้งรายกลุ่มหรือรายคน โดยจัดเตรียมสิ่ง ตา่ ง ๆ ดังน้ี 1) การด์ Rocks & Minerals 1 ใบต่อกลุ่มหรอื ต่อคน 2) ภาพองค์ประกอบของหิน 1 ชดุ (15 ภาพ) ต่อกลุ่มหรอื ต่อคน และจดั แต่ละชดุ ใสซ่ องแยกไว้ 3) ภาพแร่ แก้วภเู ขาไฟ และเศษหิน จดั เตรยี มเพียง 1 ชุด (16 ภาพ) เพอ่ื ให้ผู้ควบคุมเกมใช้ในการสมุ่ - เตรยี มวัตถแุ ทนเบยี้ ในการเล่นเกม เชน่ เหรยี ญ กระดมุ เมด็ กรวด หรือเศษหนิ ขนาดเลก็ - เตรียมเอกสารคู่มือการเล่นเกมให้นักเรียนศึกษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ท่ีเหมาะสม เช่น จัดเตรียมเป็น เอกสาร (พิมพข์ าวดาได)้ หรอื เตรยี มฉายเอกสารคูม่ ือการเล่นเกมขน้ึ บนจอท่ีหน้าช้นั เรยี น สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 176 แนวคาตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม หนิ เปน็ ของแขง็ ที่เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ โดยทว่ั ไปมแี ร่เป็นองคป์ ระกอบ นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหนิ แปร วัฏจักรหินเป็นการเปล่ยี นแปลงของหินทั้งสามประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากหนิ ประเภทหน่ึงไปเป็นหินอกี ประเภทหนึง่ และเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยา ตา่ ง ๆ ซึ่งมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเน่ืองเป็นวฏั จกั รหิน ในอดีตมนุษย์ใช้หินทาขวานหินสาหรับใช้ล่าสัตว์และป้องกันตัว ปัจจุบัน มนุษย์ใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปหินและแร่มาเป็นวัตถุหรือเป็นผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ เช่น นามาเป็นส่วนผสมของเคร่ืองสาอาง นามาทาเลนส์ กระจก ซีเมนต์ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
177 คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ กจิ กรรมที่ 1.1 องคป์ ระกอบของหนิ มีอะไรบ้าง กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้รวบรวมข้อมูลและอธิบาย องคป์ ระกอบของหิน เวลา 2 ชั่วโมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ รวบรวมข้อมลู และอธิบายองคป์ ระกอบของหิน วัสดุ อปุ กรณส์ าหรบั ทากิจกรรม ส่ิงท่คี รูตอ้ งเตรยี ม/กลุม่ 1. ชุดตวั อยา่ งหนิ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1 ชุด หินอคั นี หินตะกอน และหนิ แปร 2. แว่นขยาย 1 อนั 3. ชุดเกม Rocks & Minerals 1 ชุด สื่อการเรียนร้แู ละแหล่งเรียนรู้ หมายเหตุ: เตรียมชุดเกมที่จะให้นักเรียนทากิจกรรม 1. หนังสือเรยี น ป.6 เล่ม 1 หนา้ 71-73 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.6 เล่ม 1 หน้า 68-72 สามารถให้นักเรยี นเล่นได้ทั้งเป็นรายกลมุ่ หรือรายคน 3. ชดุ เกม Rocks & Minerals ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ http://ipst.me/10917 S1 การสงั เกต S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ C4 การสือ่ สาร C5 ความรว่ มมือ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 178 แนวการจดั การเรียนรู้ ในการทบทวนความรู้พ้ืนฐาน ครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับลักษณะของหิน โดยใช้คาถาม เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ดงั ตอ่ ไปน้ี นักเรียนต้องตอบคาถามเหล่าน้ีได้ 1.1 หินแต่ละก้อนมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืมครู (หนิ แตล่ ะกอ้ นอาจมีลกั ษณะท้งั ทเี่ หมือนกนั และแตกต่างกัน) ตอ้ งให้ความร้ทู ี่ถกู ตอ้ งทนั ที 2. ครูตรวจสอบความรู้เดมิ เกย่ี วกบั องคป์ ระกอบของหิน โดยให้นกั เรยี น ในการตรวจสอบความรู้เดิม สังเกตตัวอย่างหินที่ครูจัดเตรียมไว้ จากน้ันให้นักเรียนร่วมกัน ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน อภิปราย โดยใชค้ าถามดังนี้ เป็นสาคัญ ครูยังไม่เฉลยคาตอบ 2.1 จากการสงั เกตลักษณะของหนิ หินประกอบดว้ ยสิ่งใดบ้าง (หนิ ใด ๆ แต่ชักชวนให้หาคาตอบด้วย ประกอบดว้ ยวสั ดุที่มสี ถานะเปน็ ของแข็ง บางก้อนอาจมีวัสดุท่ี ตนเองจากการทากจิ กรรม เป็นของแข็งหลายสีปนอยู่ด้วยกัน บางก้อนมีกรวดหรือมี เศษหนิ ขนาดตา่ ง ๆ ปนอยู่ หรอื หนิ ประกอบด้วยแร่) 3. ครูใชค้ าถามเพื่อเช่ือมโยงความรเู้ ดิมของนักเรียนเขา้ สู่กิจกรรมท่ี 1.1 โดยใช้คาถามว่า หินแต่ละก้อนมีองค์ประกอบเหมือนหรือแตกต่าง กนั อยา่ งไร 4. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากน้ันร่วมกัน อภิปรายเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทา กิจกรรม โดยใช้คาถามดังนี้ 4.1 กิจกรรมน้นี กั เรยี นจะไดเ้ รยี นเรื่องอะไร (องค์ประกอบของหนิ ) 4.2 นกั เรียนจะไดเ้ รยี นรู้เรือ่ งนด้ี ว้ ยวิธใี ด (รวบรวมข้อมลู ) 4.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายองค์ประกอบของ หนิ ได้) 5. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 68 และ อ่านส่งิ ท่ตี อ้ งใชใ้ นการทากิจกรรม 6. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยฝึกอ่านตามความเหมาะสม จากน้ัน ร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปข้ันตอนการทากิจกรรม โดยใช้คาถาม ตอ่ ไปนี้ 6.1 นักเรียนต้องสังเกตส่ิงใดของหิน สังเกตหินก่ีประเภท อะไรบ้าง (สังเกตเนื้อหินของหินแต่ละก้อนจากชุดตัวอย่างหิน 3 ประเภท ได้แก่ หนิ อคั นี หินตะกอน และหนิ แปร) 6.2 นกั เรยี นใชอ้ ุปกรณ์อะไรช่วยในการสังเกตเน้ือหิน (ใช้แวน่ ขยาย) สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
179 คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 6.3 เม่ือสังเกตลักษณะเน้ือหินของหินแต่ละประเภทแล้วให้ร่วมกัน ข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ บันทึกข้อมูลท่ีใด และอภิปรายเกี่ยวกับอะไร (บันทึกข้อมูลหิน ท้ัง 3 ประเภทเก่ียวกับชื่อหิน และบันทึกลักษณะเนื้อหินตามท่ี ก่อนท่ีนักเรียนจะเล่นเกม ควรให้นักเรียน สังเกตได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม ตาราง 1 ในหน้า 68-69 อ่านคู่มือการเล่นเกม Rocks & Minerals จากนั้นนาข้อมูลจากตาราง 1 มาร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ และครูนาอภิปรายกับนักเรียนให้เข้าใจ องค์ประกอบของหินว่าจากการสังเกตลักษณะเนื้อหินแล้ว พบ เก่ยี วกับกตกิ าการเล่น ว่าเม่ือใดท่ีจะมีผชู้ นะ ส่ิงใดท่ีเป็นองค์ประกอบของหินบ้าง และเม่ืออภิปรายเสร็จแล้ว และเม่ือใดท่จี ะจบเกม ให้บันทึกข้อมูลลงในแบบบันทึกกิจกรรม ท้ายตาราง 1 ในหน้า 69) หิ น แ ต่ ล ะ ช นิ ด ใ น ธ ร ร ม ช า ติ อ า จ มี องค์ประกอบแตกต่างจากที่แสดงไว้ในเกม 6.4 หลังจากอภิปรายและบันทึกข้อมูลเก่ียวกับองค์ประกอบของหิน Rocks & Minerals แลว้ นักเรยี นต้องทาสิ่งใดต่อไป (อ่านคู่มอื การเล่นเกม Rocks & Minerals ให้เข้าใจ และจากนนั้ ใหเ้ ล่นเกม Rocks & Minerals) ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ 6.5 หลังจากเล่นเกมเสร็จแล้ว นักเรียนต้องบันทึกสิ่งใด (บันทึก แนะนานักเรียนเกยี่ วกับการบนั ทึกผลลักษณะ ข้อมูลองค์ประกอบของหินที่ได้จากการเล่นเกม จานวน 15 เนื้อหินในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 68-69 ว่าให้ กอ้ น ลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม ตาราง 2 ในหน้า 70) นักเรียนสังเกตและบันทึกลักษณะเนื้อหิน เช่น มีเน้ือ ละเอียด เนื้อหยาบถึงปานกลาง เนื้อหยาบ เนื้อแก้ว 6.6 เม่ือนักเรียนบันทึกข้อมูลท่ีได้จากการเล่นเกมเสร็จแล้ว ต้องทา เน้ือหินมีรูพรุน เน้ือหินมีเศษหินปะปนอยู่ หรือเนื้อหิน ส่ิงใดต่อไป (อภิปรายข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะเน้ือหินของหินแต่ ประกอบไปด้วยเมด็ ตะกอนและเม็ดตะกอนอาจมหี ลาย ละก้อนอีกครั้งหนึ่ง โดยเปรียบเทียบข้อมูลจากที่สังเกตได้กับ สีหรือหลายขนาด และให้สังเกตและบันทึกจานวนสี ข้อมูลในแบบบันทึกกิจกรรม ตาราง 2 และนาข้อมูลที่ได้ไป ข อ งวัสดุ แ ข็ งที่ป ระ กอ บกันอยู่ในเน้ือ หิน เช่น ปรับปรุงข้อมูลเก่ียวกับองค์ประกอบของหินที่บันทึกไว้ใน ประกอบด้วยวัสดุแข็งประมาณ 2-3 สี เกาะอยู่รวมกัน แบบบันทึกกิจกรรม หน้า 69 ให้ถกู ต้องย่งิ ขน้ึ ) หรือหินประกอบด้วยวัสดุแข็งขนาดเล็กมากเกาะอยู่ ครูอาจเขียนสรุปเป็นขั้นตอนส้ัน ๆ บนกระดาน เพื่อเป็น รวมกัน โดยรวมมองเห็นเป็นสีดา สีเทาเข้ม หรือ สนี ้าตาล แนวทางให้นกั เรียนทากจิ กรรมตามลาดับ 7. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูแจกวัสดุ แ นะ นา นัก เรียนเก่ียว กับ การอภิปร าย องค์ประกอบของหิน โดยใช้ข้อมูลจากการสังเกต อุปกรณ์ และให้นกั เรยี นลงมือปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอน ลักษณะเนื้อหิน (ก่อนทากจิ กรรมโดยการเลน่ เกม) ดังน้ี 8. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ครูนาอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยใช้ - หินบางก้อนมีเน้ือหยาบ หรือเน้ือหยาบถึงปานกลาง คาถามดังต่อไปน้ี องค์ประกอบทท่ี าให้หนิ มีเนอ้ื หยาบ หรือเนื้อหยาบถงึ 8.1 ลักษณะเน้ือหินท้ังสามประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน ปานกลางอาจพบวา่ เป็นวัสดุแข็ง ซึ่งวัสดุแข็งน้ันอาจ มีหลายสีหรือมีเพียงสีเดียว และอาจมีองค์ประกอบ และหินแปร มีลักษณะคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันอย่างไร พวกเศษหิน กรวด หรอื ทรายปะปนอยู่ ( เ นื้ อ หิ น ทั้ ง ส า ม ป ร ะ เ ภ ท มี ลั ก ษ ณ ะ ท้ั ง ท่ี ค ล้ า ย ค ลึ ง กั น แ ล ะ - หินบางก้อนมีเนื้อละเอียด องค์ประกอบที่ทาให้หินมี แตกต่างกนั ดังน้ี เน้ือละเอียด อาจพบว่าเป็นวัสดุแข็งที่มีขนาดเล็กท่ี - เนื้อหินที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น มีเนื้อละเอียดหรือมี เกาะอยู่รวมกัน - หินบางก้อนเนื้อหินมีลักษณะคล้ายเน้ือ แ ก้ ว เน้อื หยาบคลา้ ยคลงึ กนั องค์ประกอบที่ทาให้หินมีเนื้อแก้วอาจพบเป็นวัสดุ แขง็ ท่มี ีลักษณะมันวาว เมอ่ื สมั ผัสเน้ือหินจะล่ืนมอื ท้ั ง นี้ เ มื่ อ นั ก เ รี ย น ไ ด้ ท า กิ จ ก ร ร ม ผ่ า น ก า ร เลน่ เกมแล้ว นกั เรยี นจะทราบช่อื องคป์ ระกอบของหนิ ที่ ถูกตอ้ งอกี ครัง้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 180 - เน้อื หินท่มี ีลักษณะแตกต่างกัน เชน่ บางกอ้ นมเี นอ้ื แก้ว บาง ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ก้อนมีรพู รนุ บางกอ้ นมีลักษณะเป็นช้ัน ๆ บางกอ้ นมผี ลึกแร่ เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ บางก้อนเนื้อหินเป็นเม็ดตะกอน เม่ือนักเรียนเล่นเกมเสร็จแล้ว ให้นักเรียน บางก้อนประกอบด้วยวัสดุแข็งที่มีสีจานวน 1 สี หรือบาง พิจารณาข้อมูลองค์ประกอบของหินแต่ละชนิด กอ้ นประกอบด้วยวสั ดุแขง็ ที่มีสีจานวนมากกวา่ 1 สี) ในการ์ด Rocks & Minerals และท่ีวางไว้ ข้าง ๆ การ์ด Rocks & Minerals ที่ได้จากการ 8.2 องค์ประกอบของหินจากที่สังเกตได้แตกต่างจากที่ได้จากการ เล่นเกม หรือจากภาพองค์ประกอบของหินท้ัง เล่มเกมหรือไม่ อย่างไร (องค์ประกอบของหินจากท่ีสังเกตได้ 15 ภาพ และนาข้อมูลองค์ประกอบของหินแต่ อาจแตกต่างจากที่ได้จากการเล่นเกม เพราะข้อมูลที่ได้จาก ละชนิดไปบันทึกลงในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า การสังเกตหินอาจไมล่ ะเอยี ดหรือไมช่ ัดเจนเทา่ กับท่ีได้จากการ 70 ให้ครบถ้วน เล่มเกม ข้อมลู จากการเลม่ เกมจะทาให้ทราบองค์ประกอบของ หินแต่ละก้อนอย่างละเอียด ว่าหินบางก้อนประกอบด้วยแร่ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละ บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนอาจมีเศษหิน ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ท่นี กั เรยี นจะได้ ปะปนอยู่ในหิน และหินบางก้อนท่ีประกอบด้วยแร่ ก็จะทาให้ ทราบชอื่ แร่ท่เี ปน็ องค์ประกอบของหิน) ฝกึ จากการทากิจกรรม 9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในส่ิงท่ีอยากรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับ S1 สังเกตลักษณะเนอื้ หนิ ของหนิ แตล่ ะก้อน องค์ประกอบของหิน จากนั้นร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า หิน S8 ลงความเห็นเกี่ยวกับลักษณะเน้ือหินและ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่ 1 ชนิดข้ึนไป หินบางชนิดมี องค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ และบางชนิดมีเศษหินเป็น องคป์ ระกอบของหนิ องค์ประกอบ (S13) C2 เปรียบเทียบลักษณะเน้ือหินของหินแต่ละก้อน 10. นักเรียนตอบคาถามในฉันรู้อะไร และร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้แนว โดยใช้ขอ้ มูลจากการสงั เกตกบั ข้อมลู ทไี่ ด้จากการ คาตอบที่ถูกต้อง เล่นเกม และนาไปปรับปรุงข้อมูลองค์ประกอบ ของหิน 11. นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากนั้นครูให้นักเรียนอ่าน C4 อภิปรายลักษณะเนื้อหินและองค์ประกอบของ ส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ และเปรียบเทยี บกับขอ้ สรุปของตนเอง หิน C5 ร่วมมือในการอภิปรายลักษณะเนื้อหินและ 12. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคาถามเกี่ยวกับเร่ืองที่สงสัยหรืออยากรู้ องคป์ ระกอบของหิน และร่วมกันเลน่ เกม Rocks เพิม่ เติมในอยากรู้อกี วา่ จากนั้นครอู าจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอ & Minerals คาถามของตนเองหน้าช้ันเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เกีย่ วกบั คาถามทน่ี าเสนอ ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมีแนวคิด คลาดเคลอ่ื นเกย่ี วกับองคป์ ระกอบของ 13. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ หิน ให้ร่วมกันอภิปรายจนนักเรียนมี ทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างในข้ันตอน ใด แล้วบันทึกลงในแบบบันทกึ กจิ กรรมหนา้ 72 แนวคดิ ทถ่ี กู ตอ้ ง สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
181 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ การเตรยี มตัวลว่ งหน้าสาหรับครู เพ่อื จดั การเรยี นรูใ้ นครั้งถดั ไป ในครงั้ ถดั ไป นกั เรียนจะได้ทากิจกรรมท่ี 1.2 กระบวนการเกดิ หินและวัฏจักรหินเป็นอยา่ งไร โดยครู เตรียมสื่อการสอน ดงั น้ี เตรียมตัวอย่างหิน 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร พร้อมติดชื่อประเภทของหินแต่ละ ก้อนใหช้ ดั เจน หรอื จดั กล่มุ ประเภทของหินให้แยกออกจากกนั อย่างชดั เจน เพือ่ ใหน้ ักเรียนสังเกต อภปิ ราย และบนั ทกึ ข้อมลู ไดถ้ ูกต้อง - หินอคั นี เชน่ หนิ แกรนิต หินไดออไรต์ หนิ บะซอลต์ หนิ พมั มิซ - หนิ ตะกอน เชน่ หินกรวดมน หินทราย หินดนิ ดาน หนิ ปนู - หินแปร เชน่ หินไนส์ หนิ ชนวน หนิ อ่อน หินควอร์ตไซต์ เตรียมชุดเกม Rocks Dominoes สาหรับใช้ในการทากิจกรรมที่ 1.2 โดยดาวน์โหลดชุดเกมโดยการ สแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 74 หรือจากเว็บไซต์ http://ipst.me/10918 แล้วนามาพิมพ์ ในการพมิ พส์ ามารถพิมพ์ได้ทั้งแบบสีหรอื ขาวดา เมอ่ื ดาวน์โหลดชดุ เกมมาแล้วจะพบขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1) คู่มือการเล่นเกม Rocks Dominoes 2) การด์ ต่าง ๆ จานวน 5 กลุ่ม ดังน้ี - การ์ดกลุ่มที่ 1 การ์ดภาพรวมหนิ 3 ประเภท จานวน 3 ใบ - การด์ กลมุ่ ท่ี 2 การด์ ประเภทของหนิ จานวน 18 ใบ - การด์ กลมุ่ ท่ี 3 การ์ดวสั ดุ จานวน 12 ใบ - การ์ดกลมุ่ ที่ 4 การด์ กระบวนการทางธรณีวิทยา จานวน 30 ใบ - การด์ กลุม่ ที่ 5 การ์ดชนดิ หิน จานวน 15 ใบ ทงั้ น้ีในจดั เตรยี มการ์ดให้แตล่ ะกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะได้การ์ดกลุ่มท่ี 1-5 อย่างละ 1 ชดุ (แต่ละกลุ่มจะได้ การ์ดรวมทั้งสน้ิ 78 ใบ) และเพอื่ ความสะดวกในการเลน่ เกม ครคู วรเตรียมซองกระดาษจานวน 3 ซอง ซองท่ี 1 ใส่การ์ดกลุม่ ที่ 1 ซองท่ี 2 ใส่การ์ดกลุม่ ท่ี 2-4 และซองที่ 3 ใส่การด์ กล่มุ ที่ 5 จากน้นั ครูดาเนนิ การดงั นี้ ศึกษาคู่มือการเล่นเกม Rocks Dominoes ให้เข้าใจ โดยศกึ ษาจากเอกสารคู่มือการเล่นเกม หรอื จากวีดิ ทัศนว์ ิธกี ารเลน่ เกมทเ่ี ว็บไซต์ http://ipst.me/11376 - เตรียมเอกสารคู่มือการเล่นเกมให้นักเรียนศึกษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม เช่น จัดเตรียมเป็นเอกสาร (พิมพ์ขาวดาได)้ หรือฉายเอกสารคมู่ ือการเลน่ เกม หรอื ฉายวีดทิ ศั นว์ ิธกี ารเล่นเกมขึ้นบนจอที่หน้าชน้ั เรียน - ถ้านกั เรียนมจี านวนมาก อาจใหน้ กั เรยี นจบั คู่ หรือรวมกล่มุ ประมาณ 3 คน แทนผู้เลน่ แต่ละหมายเลข - ขนาดโต๊ะที่ใช้เล่นเกม Rocks Dominoes ควรมีขนาดความกวา้ งประมาณ 150 เซนติเมตร และความยาวประมาณ 200 เซนตเิ มตร - ถ้านกั เรียนต้องตัดการด์ เอง ควรจัดเตรียมกรรไกรให้มีจานวนเพียงพอ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 182 แนวคาตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม รวบรวมข้อมูลและอธบิ ายองคป์ ระกอบของหนิ หินแกรนิต หนิ มเี น้ือหยาบ ประกอบดว้ ยวัสดุแขง็ ประมาณ 3-4 สี หินไดออไรต์ เกาะรวมกนั หินบะซอลต์ หนิ พมั มซิ หินมีเนือ้ หยาบ ประกอบด้วยวัสดุแขง็ ประมาณ 2-3 สี หนิ กรวดมน เกาะรวมกัน หนิ ทราย หินมเี นอ้ื ละเอียด ประกอบดว้ ยวัสดุแข็งเกาะรวมกัน บางกอ้ นอาจมี หนิ ดนิ ดาน รูพรนุ โดยรวมหินมีสีดา สเี ทาเข้ม หรือสนี า้ ตาลเข้ม หนิ ปนู หินมเี น้ือแก้ว มีรพู รุน สว่ นใหญโ่ ดยรวมหินมสี ีขาวปนเหลือง หรือสีเทาอ่อน หินมเี นอื้ หยาบ มลี กั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดใหญเ่ กาะรวมกนั อาจมี เศษหนิ ขนาดตา่ ง ๆ ปะปนอยใู่ นเนื้อหิน เม็ดตะกอนอาจมไี ด้หลายสี หินมีเน้อื หยาบถงึ ปานกลาง มีลกั ษณะเป็นเมด็ ตะกอนขนาดปานกลางหรือขนาดเมด็ ทรายเกาะรวมกนั อาจมีเศษหนิ ปะปน เน้ือหินอาจมลี กั ษณะเปน็ ชน้ั ๆ เมด็ ตะกอนอาจมีหลายสี เชน่ สนี ้าตาล สีเหลอื ง หินมเี นื้อละเอียด มลี กั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดเล็กเกาะรวมกัน เนื้อหนิ มีลกั ษณะเปน็ ชนั้ ๆ มีหลายสี เช่น สีนา้ ตาล สีเทา สีดา หนิ มเี นอื้ ละเอียด ประกอบดว้ ยวัสดแุ ขง็ ขนาดเลก็ มากเกาะอยรู่ วมกันแน่น เน้อื หินอาจมลี ักษณะเปน็ ชน้ั ๆ โดยรวมท้ังกอ้ นเปน็ สีเทาออ่ น หรอื สีเทาเข้ม สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
183 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ หินไนส์ หินมเี นื้อหยาบ ประกอบด้วยวสั ดุแขง็ เกาะรวมกัน มีการเรียงตวั ของวสั ดุแข็ง หนิ ชนวน เปน็ แถบ อาจพบการสลับแถบสขี องวัสดุแขง็ เปน็ แถบสขี าวสลับสีดา หินอ่อน หนิ มีเนื้อละเอียด ประกอบด้วยวสั ดแุ ข็งเกาะรวมกนั มกี ารเรยี งตัวของวัสดุแขง็ หนิ ควอร์ตไซต์ เป็นแถบ สามารถแซะหรือกะเทาะออกเป็นแผน่ ได้ หินมีสดี าหรอื สเี ทา หินมเี นื้อละเอียดถงึ หยาบ ประกอบดว้ ยวัสดแุ ขง็ เกาะรวมกัน โดยรวมภายใน หนึ่งก้อนมีสีเดยี ว เชน่ สีขาว สีเทา สีนา้ ตาล อาจพบลวดลายในเน้อื หิน หินมีเน้อื ละเอยี ด ประกอบด้วยวสั ดแุ ขง็ เกาะรวมกัน โดยรวม ภายในหนงึ่ กอ้ นมสี ีเดียว เช่น สขี าว สีเทาอ่อน สีชมพู - ตัวอย่างผลการอภิปรายกอ่ นเล่นเกม เช่น วสั ดุแขง็ เศษหิน กรวด ทราย - ตวั อยา่ งผลการอภิปรายหลังเล่นเกม เชน่ แร่ แกว้ ภเู ขาไฟ เศษหิน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 184 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
185 ค่มู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ แร่ แก้วภเู ขาไฟ เศษหนิ หนิ อ่อน หินควอร์ตไซต์ หินแกรนิต หนิ ไดออไรต์ หนิ บะซอลต์ หินกรวดมน หินทราย หินดินดาน หินทรายแปง้ หนิ ปนู หินไนส์ หินชนวน หินฟลิ ไลต์ หินพมั มิซ หนิ ออบซิเดยี น หนิ กรวดมน หินทราย หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ต้ังแต่ 1 ชนิดขึ้นไป บางก้อนประกอบด้วยแร่ เพียงชนิดเดียว บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนมีเศษหิน ปะปนอยูใ่ นเน้อื หนิ การที่หนิ มีองค์ประกอบแตกตา่ งกนั ทาให้เนอ้ื หนิ ทปี่ รากฏ มลี ักษณะแตกตา่ งกนั ไปดว้ ย เชน่ มเี นื้อหยาบ เน้อื ละเอียด เนื้อแก้ว สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 186 หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป หินบางชนิดมี องค์ประกอบเปน็ แกว้ ภเู ขาไฟ และบางชนิดมเี ศษหินเป็นองค์ประกอบ คาถามของนักเรียนท่ตี ัง้ ตามความอยากรู้ของตนเอง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
187 คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ แนวการประเมนิ การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรียนทาได้ ดังน้ี 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชนั้ เรยี น 2. ประเมินการเรยี นรูจ้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหว่างการจัดการเรียนรแู้ ละจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรมของนกั เรียน การประเมนิ จากการทากิจกรรมท่ี 1.1 องคป์ ระกอบของหนิ มีอะไรบ้าง รหสั ส่ิงทีป่ ระเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S8 การลงความเหน็ จากข้อมลู S13 การตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ C4 การส่ือสาร C5 ความร่วมมือ รวมคะแนน สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 188 ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท ใช้ประสาทสมั ผสั เกบ็ รายละเอียดเกย่ี วกบั สัมผสั เกบ็ รายละเอียด สัมผสั เกบ็ รายละเอียด รายละเอียดข้อมลู S8 การลงความ ลักษณะเน้อื หินของ ข้อมลู เก่ียวกบั ลักษณะ ข้อมลู เกย่ี วกบั ลกั ษณะ เกี่ยวกบั ลักษณะ เหน็ จากข้อมูล หนิ แตล่ ะก้อน เนื้อหินของหินแต่ละ เนื้อหนิ ของหนิ แตล่ ะ เนือ้ หนิ ของหินแต่ละ กอ้ นได้ดว้ ยตนเอง โดย ก้อนได้ จากการชีแ้ นะ กอ้ นไดเ้ พยี งบางส่วน ไมเ่ พม่ิ เตมิ ความคิดเหน็ ของครูหรอื ผูอ้ นื่ หรือมี แม้วา่ จะไดร้ ับคา การเพิ่มเติมความ ชีแ้ นะจากครหู รือ การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก คิดเหน็ ผอู้ ื่น ขอ้ มลู ได้วา่ หนิ บาง ขอ้ มูลไดถ้ ูกตอ้ งด้วย สามารถลงความเห็น สามารถลงความเหน็ จากข้อมลู ได้ถกู ต้องจาก จากข้อมลู ได้แต่ไม่ ชนิดประกอบดว้ ยแร่ ตนเองวา่ หนิ บางชนดิ การช้ีแนะของครูหรือ ครบถ้วนสมบูรณ์ ผู้อน่ื ว่า หินบางชนิด แม้ว่าจะไดร้ ับคา 1 ชนิด บางชนดิ ประกอบด้วยแร่ 1 ชนดิ ประกอบด้วยแร่ 1 ชนดิ ชีแ้ นะจากครูหรือ บางชนดิ ประกอบดว้ ย ผู้อื่นว่า หนิ บางชนดิ ประกอบดว้ ยแร่ บางชนดิ ประกอบดว้ ยแร่ แรม่ ากกว่า 1 ชนิด บาง ประกอบด้วยแร่ 1 ชนิดประกอบด้วยแก้ว ชนดิ บางชนดิ มากกวา่ 1 ชนดิ บาง มากกวา่ 1 ชนิด บาง ภเู ขาไฟ และบางชนดิ มี ประกอบดว้ ยแร่ เศษหนิ เป็น มากกว่า 1 ชนดิ บาง ชนิดประกอบด้วย ชนิดประกอบดว้ ยแก้ว องค์ประกอบอยดู่ ว้ ย ชนิดประกอบด้วย การท่หี ินมีองคป์ ระกอบ แก้วภูเขาไฟ และ แก้วภูเขาไฟ และ ภูเขาไฟ และบางชนดิ มี แตกต่างกัน ทาให้เน้ือ บางชนดิ มเี ศษหิน หนิ ทีป่ รากฏมีลกั ษณะ เปน็ องคป์ ระกอบอยู่ บางชนิดมีเศษหนิ เศษหินเปน็ องค์ประกอบ แตกต่างกนั ดว้ ย การที่หินมี องค์ประกอบ เปน็ องค์ประกอบอยู่ อยู่ด้วย การที่หนิ มี แตกต่างกนั ทาให้ เนอ้ื หินท่ปี รากฏมี ด้วย การท่หี ินมี องค์ประกอบแตกต่างกัน ลักษณะแตกตา่ งกัน องคป์ ระกอบ ทาให้เนือ้ หนิ ที่ปรากฏมี แตกต่างกนั ทาให้ ลกั ษณะแตกต่างกนั เนือ้ หินทป่ี รากฏมี ลักษณะแตกต่างกัน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
189 คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ ทักษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ สามารถตคี วามหมาย ขอ้ มูลและลงข้อสรุปจาก S13 การตีความ ตคี วามหมายข้อมลู การสงั เกต รวบรวมข้อมูล สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย และจากการอภิปรายได้ ข้อมลู และลงข้อสรปุ จาก ขอ้ มูลและลงข้อสรปุ หมายข้อมูลและ และลงข้อสรปุ จาก ถูกต้องด้วยตนเองว่า หนิ การสงั เกต รวบรวม จากการสังเกต สว่ นใหญป่ ระกอบดว้ ยแร่ ขอ้ มูล และจากการ รวบรวมขอ้ มูล และ ลงข้อสรุป การสงั เกต รวบรวม ต้ังแต่ 1 ชนดิ ขึ้นไป หิน อภปิ รายได้ถูกต้องโดย จากการอภปิ รายได้ บางชนดิ มอี งคป์ ระกอบ อาศยั การชแี้ นะของครู ไมค่ รบถว้ นวา่ หนิ ขอ้ มลู และจากการ เป็นแกว้ ภเู ขาไฟ และบาง หรอื ผ้อู น่ื วา่ หนิ สว่ นใหญ่ สว่ นใหญ่ ชนดิ มีเศษหนิ เปน็ ประกอบดว้ ยแร่ต้งั แต่ 1 ประกอบดว้ ยแร่ อภิปรายได้ว่า หนิ องคป์ ระกอบ ชนดิ ข้นึ ไป หนิ บางชนดิ มี ต้งั แต่ 1 ชนดิ ข้นึ ไป องคป์ ระกอบเป็นแก้ว หนิ บางชนิดมี ส่วนใหญ่ ภูเขาไฟ และบางชนิดมี องคป์ ระกอบเป็น เศษหินเป็นองคป์ ระกอบ แกว้ ภูเขาไฟ และบาง ประกอบด้วยแร่ ชนดิ มีเศษหนิ เป็น ตั้งแต่ 1 ชนิดขึ้นไป องค์ประกอบ แมว้ า่ จะไดร้ บั คาชี้แนะจาก หินบางชนดิ มี ครหู รือผ้อู ืน่ องค์ประกอบเป็น แก้วภูเขาไฟ และ บางชนิดมเี ศษหิน เป็นองคป์ ระกอบ ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ทักษะแห่ง รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ควรปรบั ปรงุ (1) ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) สามารถวเิ คราะห์ C2 การคิดอยา่ งมี การวิเคราะห์และ สามารถวเิ คราะห์และ สามารถวเิ คราะห์และ และอภปิ รายข้อมลู วิจารณญาณ และอธบิ ายเกี่ยวกบั อภปิ รายขอ้ มูล อภิปรายข้อมูล และ อภปิ รายข้อมูล และ องค์ประกอบของหิน ไดถ้ ูกต้องและ และอธิบายเกี่ยวกบั อธบิ ายองค์ประกอบของ อธิบายเกีย่ วกับ สมเหตุสมผล บางส่วน แมว้ า่ จะได้ องคป์ ระกอบของ หนิ ได้ถูกต้องและ องค์ประกอบของหิน ได้ รับคาชีแ้ นะจากครู หรือผอู้ ่ืน หนิ สมเหตสุ มผลด้วยตนเอง ถกู ต้องและสมเหตุสมผล โดยต้องอาศัยการช้ีแนะ จากครหู รือผู้อนื่ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 190 ทักษะแห่ง รายการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ศตวรรษที่ 21 C4 การสอ่ื สาร การนาเสนอข้อมูล ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) จากการสงั เกต C5 ความรว่ มมือ รวบรวมขอ้ มูล และ สามารถนาเสนอข้อมูลจาก สามารถนาเสนอข้อมูล สามารถนาเสนอ จากการอภิปราย ข้อมูลจากการสังเกต เกย่ี วกบั ลกั ษณะ การสังเกต รวบรวมข้อมลู จากการสงั เกต รวบรวม รวบรวมขอ้ มูล และ เนอ้ื หินและ จากการอภปิ ราย องค์ประกอบของ และจากการอภปิ ราย ข้อมลู และจากการ เกีย่ วกับลกั ษณะ หิน โดยใชค้ าพดู เน้อื หนิ และ เพื่อให้ผูอ้ ืน่ เขา้ ใจ เกี่ยวกับลกั ษณะเน้อื หนิ อภปิ รายเกีย่ วกบั ลกั ษณะ องค์ประกอบของหิน โดยใชค้ าพดู เพือ่ ให้ การทางานร่วมกบั และองคป์ ระกอบของหนิ เนื้อหินและองค์ประกอบ ผูอ้ ื่นเขา้ ใจไดเ้ พียง ผอู้ ่นื และการแสดง บางส่วน แมว้ า่ จะได้ ความคดิ เห็นในการ โดยใช้คาพูดเพื่อให้ผู้อื่น ของหนิ โดยใชค้ าพูด รบั คาชแ้ี นะจากครู สังเกตและอภิปราย หรือผูอ้ ื่น ลกั ษณะเน้ือหนิ และ เข้าใจด้วยตนเอง เพอื่ ให้ผู้อ่ืนเข้าใจได้ โดย องค์ประกอบของ สามารถทางาน หิน และในการเลม่ อาศัยการช้แี นะจากครู ร่วมกบั ผู้อืน่ และ เกม Rocks & การแสดงความ Minerals รวมทัง้ หรือผู้อ่ืน คิดเหน็ ในการสังเกต ยอมรบั ความ และอภปิ ราย คิดเหน็ ของผอู้ นื่ สามารถทางานรว่ มกับ สามารถทางานรว่ มกบั ลกั ษณะเนื้อหินและ ผอู้ ่ืน และการแสดงความ ผู้อ่ืน และการแสดงความ องคป์ ระกอบของหิน คดิ เห็นในการสงั เกตและ คดิ เห็นในการสงั เกตและ และในการเล่มเกม อภิปรายลกั ษณะเนื้อหนิ อภปิ รายลกั ษณะเน้ือหิน Rocks & Minerals และองคป์ ระกอบของหิน และองคป์ ระกอบของหนิ รวมท้งั ยอมรับความ และในการเล่มเกม Rocks และในการเล่มเกม คิดเหน็ ของผู้อน่ื ใน & Minerals รวมทั้ง Rocks & Minerals บางชว่ งเวลาที่ทา ยอมรบั ความคดิ เหน็ ของ รวมท้งั ยอมรับความ กิจกรรม แต่ไม่ค่อย ผอู้ ่ืนตงั้ แต่เริ่มตน้ จนสาเร็จ คิดเหน็ ของผอู้ น่ื ในบาง สนใจในความคดิ เห็น ของผู้อ่นื ช่วงเวลาทีท่ ากิจกรรม สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
191 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ กจิ กรรมท่ี 1.2 กระบวนการเกดิ หนิ และวัฏจักรหินเปน็ อย่างไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้สังเกต รวบรวมข้อมูล และอธิบาย ลักษณะทางกายภาพของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร เปรียบเทียบ กระบวนการเกดิ หนิ แต่ละประเภท และอธบิ ายกระบวนการเปลย่ี นแปลง ของหนิ ในวฏั จักรหินจากแบบจาลอง เวลา 4 ชัว่ โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สือ่ การเรียนร้แู ละแหล่งเรยี นรู้ 1. สังเกตและอธิบายลักษณะทางกายภาพของหินอัคนี หินตะกอน และ 1. หนงั สือเรยี น ป.6 เล่ม 1 หนิ แปร 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.6 เลม่ 1 3. ชดุ เกม Rocks Dominoes 2. รวบรวมข้อมูล อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละ ประเภท จากแบบจาลอง 3. รวบรวมข้อมูลและอธิบายกระบวนการเปล่ียนแปลงของหินใน วัฏจกั รหิน จากแบบจาลอง วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรับทากจิ กรรม หน้า 74-78 หน้า 73-83 สิง่ ท่ีครูต้องเตรยี ม/กลมุ่ 1. ชุดตัวอย่างหนิ 3 ประเภท ได้แก่ 1 ชุด หินอคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร 2. แวน่ ขยาย 1 อัน 3. ชุดเกม Rocks Dominoes 1 ชดุ 4. กรรไกร 1 อนั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ http://ipst.me/10918 4. วดี ทิ ศั น์วิธกี ารเลน่ เกม Rocks Dominoes S1 การสงั เกต S8 การลงความเหน็ จากข้อมลู S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุป S14 การสรา้ งแบบจาลอง ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ C4 การสอ่ื สาร http://ipst.me/11376 C5 ความรว่ มมอื สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 192 แนวการจัดการเรียนรู้ ในการทบทวนความรู้พ้ืนฐาน คุณครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบของหิน โดยใช้ เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน คาถามดงั ต่อไปนี้ นักเรียนต้องตอบคาถามเหล่านี้ได้ 1.1 องค์ประกอบของหินมอี ะไรบ้าง (แร่ แกว้ ภูเขาไฟ เศษหิน) ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืมครู 1.2 หินแต่ละก้อนมีองค์ประกอบแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ตอ้ งให้ความรทู้ ี่ถูกต้องทนั ที (หินแต่ละก้อนอาจมีองค์ประกอบแตกต่างกัน บางก้อน ประกอบด้วยแร่ บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ บางก้อนมี ในการตรวจสอบความรู้เดิม องคป์ ระกอบเปน็ เศษหินปะปนอยู่ดว้ ย) ค รู เ พี ย ง รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นกั เรยี นเปน็ สาคัญ ครูยงั ไม่เฉลย 2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับกระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหิน คาตอบใด ๆ แต่ชัก ชวนให้ โดยใช้คาถามดังนี้ นักเรียนหาคาตอบด้วยตนเอง 2.1 เพราะเหตใุ ดหินบางก้อนจึงมีองค์ประกอบเป็นแร่ (นกั เรยี นตอบ จากการทากิจกรรม ตามความเข้าใจ เช่น หินบางก้อนมีองค์ประกอบเป็นแร่ เพราะ อาจเกิดจากการเย็นตวั และตกผลกึ ของแมกมาบรเิ วณใตผ้ ิวโลก) 2.2 เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีองค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หินบางก้อนมีองค์ประกอบ เป็นแก้วภูเขาไฟ เพราะเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา บนผิวโลก) 2.3 เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีเศษหินเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หินบางก้อนมีเศษหินเป็น องค์ประกอบอยู่ด้วย เพราะหินดังกล่าวเกิดจากการสะสมตัว ของตะกอนและมีการเชื่อมประสานตะกอน ซึ่งตะกอนที่มา สะสมตวั และถูกเชือ่ มประสานอาจมเี ศษหินปะปนอยดู่ ้วย) 2.4 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกตา่ งกัน หรือไม่ (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หนิ ทั้งสามประเภทมี กระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั ) 2.5 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีลักษณะใดแตกต่างกันบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หินอัคนีอาจมีเนื้อแก้ว และ มีรูพรุนในเน้ือหิน หินตะกอนอาจมีเศษหินปะปนอยู่ในเนื้อหิน และหินแปรอาจมีผลึกแร่เรียงตวั ขนานกนั เป็นแถบ) 2.6 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็น หินประเภทอ่ืนและเปล่ียนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิมได้ หรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หินอัคนี หินตะกอน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
193 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินประเภทอื่นและ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เปลีย่ นแปลงกลับมาเป็นหนิ ประเภทเดมิ ได้) และทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ท่ี 3. ครใู ช้คาถามเพื่อเชื่อมโยงความรเู้ ดิมของนักเรียนเขา้ สู่กิจกรรมท่ี 1.2 โดยใช้คาถามว่า นักเรียนจะได้ฝึกจากการทากิจกรรม 3.1 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปรมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน อยา่ งไร S1 สงั เกตลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภท 3.2 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็น S8 ลงความเห็นว่าหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มี หินประเภทใหม่ และเปล่ียนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิม ไดอ้ ยา่ งไร กระบวนการเกิดแตกต่างกัน ทาให้ลักษณะทาง 4. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากนั้นร่วมกัน กายภาพของหนิ ทงั้ สามประเภทมีลกั ษณะบางอย่าง อภิปรายเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์ในการทา แตกต่างกัน หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร กิจกรรม โดยใช้คาถามดังน้ี สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภทอื่น และ 4.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (ลักษณะทางกายภาพ เปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้โดย ของหิน กระบวนการเกดิ หนิ และวัฏจักรหิน) อาศยั กระบวนการทางธรณีวทิ ยาต่าง ๆ 4.2 นักเรียนจะได้เรียนรู้เร่ืองนี้ด้วยวิธีใด (สังเกต รวบรวมข้อมูล S14 สร้างแบบจาลองเพ่ือเปรียบเทียบและอธิบาย และสร้างแบบจาลอง) กระบวนการเกิดและลักษณะของหินแต่ละประเภท 4.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายลักษณะทาง แ ล ะ อ ธิ บ า ย ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง หิ น กายภาพของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร อธิบายและ ทุกประเภทเปน็ วัฏจกั รหิน เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภท และอธิบาย C2 การวิเคราะห์และเปรยี บเทียบกระบวนการเกิดและ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินทีท่ าใหเ้ กดิ วัฏจักรหนิ ได้) ลักษณะของหินแต่ละประเภท และอธิบาย 5. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73 และ ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ข อ ง หิ น ทุ ก ป ร ะ เ ภ ท อ่านส่ิงทีต่ ้องใช้ในการทากิจกรรม เปน็ วฏั จักรหิน จากแบบจาลอง 6. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยฝึกอ่านตามความเหมาะสม จากน้ันร่วมกนั C4 อภิปรายเก่ียวกับกระบวนการเกิดและลักษณะของ อภิปรายเพือ่ สรปุ ขนั้ ตอนการทากจิ กรรม โดยใชค้ าถามต่อไปน้ี หินแต่ละประเภท และกระบวนการเปลี่ยนแปลง 6.1 นักเรียนต้องสังเกตและบันทึกส่ิงใดของหินแต่ละประเภท ของหินทุกประเภทเปน็ วัฏจักรหิน (สังเกตและบันทึกลักษณะของหินแตล่ ะประเภท ลงใน แบบ C5 ร่วมมือในการอภิปรายและร่วมกันเล่นเกม Rocks บนั ทึกกจิ กรรม หน้า 73-74) Dominoes 6.2 เมื่อสังเกตและบันทึกลักษณะของหินแต่ละประเภทแล้วให้ ร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับประเด็นอะไร และทาสิ่งใดต่อไป (อภิปรายเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หินแตล่ ะประเภท โดยใช้ ข้อมูลลักษณะของหินแต่ละประเภทท่ีบันทึกไว้ และอภิปราย เหตผุ ลว่าหนิ แตล่ ะประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกนั หรือไม่ เพราะเหตใุ ด จากน้นั จึงเล่นเกม Rocks Dominoes) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 194 6.3 หลังเล่นเกมแล้ว นักเรียนจะต้องทาอยา่ งไร (หลังเล่นเกมต้องนา ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม ข้อมลู ท่ีไดม้ าบนั ทึกลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม หน้า 73-79 ดังน้ี แนะนานักเรียนเก่ียวกับการสังเกตและ - บันทึกกระบวนการเกิดและลักษณะของหินอัคนี หินตะกอน บนั ทึกผลลักษณะของหนิ แตล่ ะประเภท ในแบบบันทกึ และหินแปร ลงในผังมโนทัศน์ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า กิจกรรม หน้า 73-74 ว่าให้นักเรียนสังเกตและบันทึก 75-77 ลักษณะของหิน เช่น - หินมีลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาดใหญ่เกาะอยู่ - บันทึกกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทาให้หินประเภทหนึ่ง เปล่ียนแปลงไปเปน็ หนิ ประเภทหนึ่งและเปลีย่ นแปลงกลับไป รวมกัน หินมีเนือ้ หยาบ เปน็ หินประเภทเดิม ลงในแบบบนั ทึกกิจกรรม หน้า 78 - หนิ มลี ักษณะเป็นผลกึ แร่ขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน - บนั ทกึ การเกดิ วัฏจักรหิน ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา้ 79 หินมเี นอ้ื ละเอยี ด - หินมลี กั ษณะเป็นเนอ้ื แก้ว - นาตัวอย่างหินแต่ละประเภทมาสังเกตลักษณะของหิน - การพบรพู รนุ ในเนอื้ หิน อีกครั้ง โดยใช้ข้อมูลจาการเล่นเกมประกอบการสังเกต และ - หินมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดใหญ่เกาะอยู่ บันทึกผลลักษณะของหินแต่ละประเภทหลังจากการเลน่ เกม ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73-74 ตาราง 1 ในช่อง รวมกนั อาจมีเศษหนิ ปะปนอยู่ หินมเี นื้อหยาบ คอลัมนห์ ลงั เลน่ เกม) - หินมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดเล็กเกาะอยู่ 6.4 หลังจากบันทึกข้อมูลลกั ษณะของหินในตาราง 1 ในช่องคอลัมน์ รวมกนั หนิ มีเนื้อละเอยี ด หลังเล่นเกม ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73-74 เรียบร้อยแล้ว - เนอื้ หินมีลกั ษณะเป็นชนั้ ๆ ให้ทาส่ิงใดต่อไป (นาข้อมูลท่ีได้จากการเล่นเกมมาอภิปราย - เน้ือหินมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และ เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภทอีกครั้ง และ บนั ทึกขอ้ มลู ลงในแบบบันทึกกจิ กรรม หนา้ 74 ตาราง 2 ในชอ่ ง แถบในเนื้อหินบางชนิดอาจแซะหรือกะเทาะ คอลัมน์หลังเล่นเกม) ออกเปน็ แผน่ ได้ แนะนานักเรียนเก่ียวกับคาว่าผลึกแร่ เพื่อใช้เป็น 6.5 การร่วมกันอภิปรายข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของหิน ข้อมูลในการสังเกต และการอภิปรายผลการทา ประเภทหนงึ่ ไปเปน็ หินอีกประเภทหนง่ึ และเปล่ียนแปลงกลับไป กิจกรรม ดงั น้ี เป็นหินประเภทเดิม ต้องอภิปรายการเปล่ียนแปลงของหิน - ผลึกแร่ เป็นผลึกของแขง็ ท่ีมีการจดั เรียงอนุภาคท่ี จานวนกี่คู่ อะไรบ้าง (อภิปรายการเปลี่ยนแปลงของหินทั้งหมด มีโครงสร้างเป็นระเบียบ มีรูปทรงทางเรขาคณิตท่ี จานวน 15 คู่ ไดแ้ ก่ แน่นอนเฉพาะตัว ผลึกแร่ท่ีประกอบกันอยู่ในหินจะ - หินอัคนี เปลี่ยนเป็นหินตะกอนเนื้อเม็ด หินตะกอนเน้ือผลกึ เกาะอยู่รวมกัน ทาให้มองเห็นรูปทรงของผลึกได้ หนิ แปร หนิ อคั นีพุ และหินอัคนีแทรกซอน ค่อนข้างยาก ในการสังเกตขนาดผลึกแร่จาเป็นต้องใช้ - หินตะกอน เปล่ียนเป็นหินอัคนีพุ หินอัคนีแทรกซอน แว่นขยายช่วยในการสังเกต หนิ แปร หนิ ตะกอนเนื้อเมด็ และหินตะกอนเนือ้ ผลึก - หินแปร เปลี่ยนเป็นหินอัคนีพุ หินอัคนีแทรกซอน แนะนานกั เรยี นเก่ียวกับการนาขอ้ มลู ลักษณะ หนิ ตะกอนเนอื้ เม็ด หินตะกอนเนื้อผลกึ และหินแปร) ของหินมาอภิปรายเปรียบเทียบกระบวนการเกิดหิน แต่ละประเภท (ก่อนเล่นเกม Rocks Dominoes) ว่า จากการสังเกตหินแต่ละประเภท ลักษณะของหิน แต่ละประเภทมีลักษณะบางอย่างแตกต่างไปจากหิน ประเภทอ่ืนหรอื ไม่ ถา้ มี ลกั ษณะของหนิ ท่แี ตกตา่ งจาก หินประเภทอ่ืนน้ันเกิดข้ึนได้อย่างไร เกี่ยวข้องกับ กระบวนการเกิดหินแต่ละประเภทหรือไม่ อย่างไร ซึ่งนักเรียนจะได้อภิปรายร่วมกันในประเด็นนี้อีกครั้ง หลังจากไดเ้ ล่นเกม Rocks Dominoes แล้ว สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
195 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 6.6 การอภิปรายข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดวัฏจักรหินให้อภิปรายข้อมูล ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ในประเด็นใด และบันทึกข้อมูลในลักษณะใด (อภิปรายเก่ียวกับ กระบวนการทางธรณีวิทยาท่ีใช้ในการเปลี่ยนแปลงของหิน ก่อนเล่นเกม ครูควรนานักเรียน ประเภทหนึง่ ไปเปน็ หนิ อีกประเภทหนง่ึ และเปลี่ยนแปลงกลับไป อภิปรายรายละเอียดคาบรรยายและรูปท่ี เป็นหินประเภทเดิมเป็นวัฏจักรหิน และบันทึกข้อมูล อยู่ในการ์ดทุกกลุ่มและทุกใบก่อนเล่นเกม กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาดังกลา่ วลงในแผนภาพในแบบบันทึก เพื่อให้นักเรียนทราบว่าการ์ดแต่ละกลุ่ม กิจกรรมหน้า 79) และแต่ละใบมีรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งใด ครูอาจเขียนสรุปเป็นขั้นตอนสั้น ๆ บนกระดาน เพื่อเป็น เช่น ประเภทของหิน วัสดุท่ีปรากฏอยู่ใน วัฏจักรหิน กระบวนการทางธรณีวิทยา แนวทางใหน้ กั เรียนทากิจกรรมตามลาดบั ดงั ตวั อย่าง ต่าง ๆ ที่ปรากฏในวัฏจักรหิน และชนิดหิน ต่าง ๆ และอภิปรายกับนักเรียนให้เข้าใจ เก่ียวกับกติกาการเล่น ว่าเม่ือใดที่จะมี ผู้ชนะ และเมือ่ ใดทีจ่ ะจบเกม ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม ก า ร บั น ทึ ก ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ธรณีวิทยาท่ีทาให้หินเกิดการเปล่ียนแปลง ไปเป็นหินประเภทใหม่หรือเปล่ียนกลับมา เป็นหินประเภทเดิม ในแบบบันทึก กิจกรรม หน้า 78 ตาราง 3 นักเรียนอาจ บั น ทึ ก ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ท า ง ธ ร ณี วิ ท ย า ท่ี ท า ใ ห้ หิ น แ ต่ ล ะ คู่ เ กิ ด ก า ร เปล่ียนแปลงไปได้ไม่ครบถ้วนทุกเส้นทาง ครูอาจจะเอาข้อมูลที่นักเรียนบันทึกได้ใน แต่ละคู่มาอภิปรายร่วมกัน ว่าหินในแต่ละ คู่สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภท ใหม่หรือเปล่ียนกลับมาเป็นหินประเภท เดิมได้ มีเส้นทางการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ได้บา้ ง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 196 ตัวอย่างการเขยี นสรุปขนั้ ตอนการทากิจกรรมเป็นขนั้ ตอนส้ัน ๆ และการบนั ทึกผล ลงบนกระดาน มดี งั น้ี วิธกี ารทากจิ กรรม การบนั ทึกผล สังเกตลักษณะของหินแตล่ ะประเภท แบบบนั ทึกกิจกรรม หน้า 73-74 ตาราง 1 คอลมั น์กอ่ นเล่นเกม สังเกตลักษณะของหนิ แตล่ ะประเภทอีกครั้ง แบบบันทึกกิจกรรม หน้า 74 ตาราง 2 คอลัมน์ก่อนเล่นเกม โดยใช้แว่นขยายชว่ ยในการสงั เกต แบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 75-77 แบบบนั ทกึ กจิ กรรม หน้า 73-74 ตาราง 1 อภิปรายเปรียบเทียบวา่ หินแต่ละประเภทมี คอลัมนห์ ลงั เลน่ เกม กระบวนการเกดิ แตกต่างกันหรือไม่ เพราะเหตใุ ด แบบบันทกึ กจิ กรรม หนา้ 74 ตาราง 2 คอลมั นห์ ลังเล่นเกม อา่ นคูม่ ือการเลน่ เกม และกติกาการเลน่ เกม แบบบนั ทึกกจิ กรรม หน้า 78 Rocks Dominoes ให้เข้าใจ แบบบนั ทกึ กจิ กรรม หน้า 79 เลน่ เกม Rocks Dominoes รวบรวมขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการเล่นเกม และอภปิ รายเก่ียวกับ กระบวนการเกดิ และลกั ษณะของหนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหินแปร สงั เกตลกั ษณะของหนิ ทง้ั สามประเภทอีกครั้ง โดยใชข้ อ้ มลู จากการเล่นเกมมาประกอบการสงั เกต อภิปรายเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หนิ แตล่ ะประเภทอีกครงั้ รวบรวมขอ้ มลู ที่ได้จากการเล่นเกม และอภปิ รายเกี่ยวกับ การเปลยี่ นแปลงของหินประเภทหนงึ่ ไปเปน็ หินอีกประเภท หนง่ึ และเปลย่ี นแปลงกลับไปเปน็ หนิ ประเภทเดิม รวบรวมขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการเล่นเกม และอภิปรายเกีย่ วกับ การเปลย่ี นแปลงของหินประเภทหนึ่งไปเปน็ หินอีกประเภท หน่ึง และเปลยี่ นแปลงกลบั ไปเปน็ หินประเภทเดมิ ในวฏั จกั รหิน สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
197 คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 7. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูแจกวัสดุ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ อปุ กรณ์ และให้นกั เรียนลงมือปฏิบัตติ ามข้นั ตอน คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว - เมื่อเล่นเกมเสร็จแล้ว ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายข้อมูลจาก คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด การด์ ที่เรียงไว้ ท่ไี ด้จากการเลน่ เกม ในประเด็นต่าง ๆ ดังน้ี อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน - ร่วมกันอภิปรายว่าหินมีกี่ประเภท อะไรบ้าง (ให้พิจารณา และรบั ฟังแนวความคิดของนกั เรียน จากการ์ดกลุ่มที่ 2 ทไี่ ด้จากการเลน่ เกม) - ร่วมกันศึกษาข้อมูลลักษณะของหินจากการ์ดกลุ่มท่ี 5 ที่ เป็นการ์ดชนิดของหิน จานวน 15 ชนิด และให้ร่วมกัน อภิปรายว่าหินแต่ละชนิดเป็นหินประเภทใด (ให้พิจารณา สัญลักษณ์ที่ปรากฏบนการ์ดกลุ่มที่ 5 และให้นาไปเทียบกับ สญั ลกั ษณ์บนการ์ดกลุม่ ที่ 2 ทเี่ ปน็ การด์ ประเภทของหนิ จะ พบวา่ หินแต่ละชนิดเปน็ หนิ ประเภทใด จากน้ันให้ตรวจสอบ วา่ ตรงกบั ทีไ่ ดร้ ่วมกันอภิปรายไว้หรอื ไม่) - อภิปรายลักษณะของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร (พิจารณาจากการ์ดกลุ่มท่ี 2 และกลุ่มที่ 5 ท่ีได้จากการเลน่ เกม) - อภปิ รายกระบวนการทางธรณวี ิทยาที่ทาให้หินมี การ เปลี่ยนแปลงว่ามีกระบวนการอะไรบ้าง (พจิ ารณาจากการ์ด กลมุ่ ท่ี 4 ท่ไี ดจ้ ากการเลน่ เกม) - อภิปรายว่ากระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และ หินแปร ต้องอาศัยกระบวนการทางธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มที่เรียงต่อกัน ที่ได้จากการเล่น เกม) - อภิปรายเปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภท (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มท่ีเรียงต่อกัน ท่ีได้จากการเล่น เกม) - อภิปรายการเปล่ียนแปลงของหนิ ประเภทหน่งึ ไปเป็นหินอีก ประเภทหน่ึง ต้องอาศัยกระบวนการทางธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มที่เรียงต่อกัน ท่ีได้จากการเล่น เกม) - อภิปรายการเปลี่ยนแปลงของหินประเภทหนึ่งจน เปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิม ต้องอาศัย สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 198 กระบวนการทางธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุก ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เติม กลุ่มที่เรียงตอ่ กนั ท่ีได้จากการเล่นเกม) - อภิปรายการเปลี่ยนแปลงของหินอัคนี หินตะกอน และ กรณีมีเวลาน้อยสาหรับใช้ในการอภิปราย หินแปรเป็นวัฏจักรหิน ต้องอาศัยกระบวนการทาง ข้อมูลที่ได้จากการเล่นเกม เม่ือเล่นเกมเสร็จแล้วอาจ ธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มที่เรียงต่อกัน จาเป็นต้องเก็บหลักฐานการ์ดที่วางเรียงต่อไว้เพื่อ ท่ไี ดจ้ ากการเลน่ เกม) นาไปใช้ในการอภิปรายในครัง้ ต่อไป อาจเก็บหลักฐาน จากน้ันนาข้อมูลที่ได้จากการอภปิ รายมาบันทึกลงในแบบบันทึก การเล่นเกมโดยเก็บการ์ดแยกเป็น 4 ซอง (ซอง A, B, กจิ กรรม หนา้ 73-79 ใหค้ รบถว้ น C, D) โดยแต่ละซองให้เก็บการ์ดเรียงตามท่ีเรยี งต่อกัน 8. หลงั จากทากจิ กรรมแล้ว นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายผลการทากิจกรรม ไว้ตามลาดบั ก่อนหลัง โดยใช้คาถามดังต่อไปนี้ - ซอง A เป็นซองที่ประกอบด้วยการ์ดท่ีเร่ิมด้วยหิน 8.1 หินแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร (หินอัคนีแทรกซอนมี ลกั ษณะเป็นผลึกแร่ขนาดใหญ่เกาะอยู่รวมกัน มเี น้ือหยาบ หิน ทุกประเภท และต่อด้วยการ์ดกระบวนการท่ีเป็น อัคนีพุมีลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน มีเน้ือ การหลอมเหลว และการ์ดอนื่ ๆ ทเี่ รยี งตอ่ ไว้ ละเอียด บางกอ้ นเปน็ เนื้อแกว้ บางกอ้ นมีรูพรุนในเน้ือหนิ หิน - ซอง B เป็นซองท่ีประกอบด้วยการ์ดท่ีเร่ิมด้วยหิน ตะกอนมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดใหญ่เกาะอยู่รวมกัน มี ทุกประเภท และต่อด้วยการ์ดกระบวนการท่ีเป็น เน้ือหยาบ บางก้อนมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดเล็กเกาะ การด์ การผุพงั และการ์ดอื่น ๆ ท่ีเรียงตอ่ ไว้ อยู่รวมกัน มีเน้ือละเอียด บางก้อนมีเศษหินปะปนอยู่ บาง - ซอง C เป็นซองที่ประกอบด้วยการ์ดที่เริ่มด้วยหิน ก้อนเนื้อหินมีลักษณะเป็นชั้น ๆ และหินแปรมีลักษณะเป็น ทุกประเภท และต่อด้วยการ์ดกระบวนการที่เป็น ผลึกแร่เกาะอยู่รวมกัน บางก้อนผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็น การแปรสภาพ และการด์ อนื่ ๆ ทเ่ี รียงตอ่ ไว้ แถบ และแถบของเน้ือหินบางชนิดแซะหรือกะเทาะออกเป็น - ซอง D เป็นซองท่ีประกอบด้วยการ์ดชนิดของหิน แผ่นได)้ โดยแยกเป็นชนดิ ของหินอัคนี ชนิดของหนิ ตะกอน 8.2 หินแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะอะไรบ้างที่แตกต่างจากหิน และชนิดของหินแปร (แยกเป็น 3 ประเภทภายใน ประเภทอ่ืน ซองเดยี วกนั ) (- หินอัคนีมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากหินประเภทอ่ืน เม่ือต้องการนาการ์ดมาอภิปรายข้อมูลต่อ ให้เอา ได้แก่ บางก้อนจะเป็นเนอ้ื แกว้ และมรี พู รนุ การ์ดในซองทั้ง 4 ซองมาเรียงแผ่ตามแถว (3 แถว) - หินตะกอนมีลักษณะเฉพาะท่ีแตกต่างจากหินประเภทอื่น เช่นเดิม (ให้เหมือนการ์ดที่เคยเรียงต่อกันเมื่อตอนจบ ได้แก่ เนื้อหินประกอบด้วยเม็ดตะกอน และอาจพบ เกม) แล้วให้ร่วมกันอภิปรายและบันทึกข้อมูลต่อจน การวางตวั ของเน้ือหินเป็นชั้น ๆ แล้วเสร็จ หรืออาจจัดเก็บผลการเล่นเกมโดยบันทึก - หินแปรมีลักษณะเฉพาะท่ีแตกต่างจากหินประเภทอื่น เป็นภาพถ่ายและนาภาพดังกล่าวฉายบนจอหน้า ได้แก่ การมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และแถบ ชั้นเรียนเพ่ือใช้ในการอภิปรายผลการทากิจกรรมใน ดังกล่าวของหินแปรบางชนิดอาจแซะหรอื กะเทาะออกเป็น ครั้งต่อไป หรือจัดเก็บการ์ดที่เรียงต่อไว้จากการเล่น แผน่ ได)้ เกมโดยติดลงบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด หรือบนกระดาน หรือบนกระดาษแข็งด้วยวิธีการต่าง ๆ ซ่ึงไม่ควรติด กาวแบบถาวร เพราะเม่ือนักเรียนทากิจกรรมเสร็จ เรียบรอ้ ยแลว้ และต้องการดงึ การด์ ออก จะทาให้การ์ด ชารดุ เสยี หาย ไม่สามารถนามาใช้เล่นในครง้ั ตอ่ ไปได้ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
199 คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 8.3 การเกิดหินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดเหมือนหรือ แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (หินแต่ละประเภทมีกระบวนการ เกิดแตกต่างกันดังน้ี หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึก จากแมกมา หรือเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิด จากการสะสมตัวของตะกอนและการเช่ือมประสานตะกอน หากนักเรียนไม่สามารถตอบ คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว หรือเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนดิ และ คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน หินแปรเกิดจากหินทุกประเภทมีการแปรสภาพโดยความร้อน และรบั ฟงั แนวความคดิ ของนักเรยี น ความดนั และปฏกิ ริ ยิ าเคมี) 8.4 เพราะเหตุใดหินแต่ละประเภทจึงมีลักษณะแตกต่างกัน (หิน แตล่ ะประเภทมีกระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั ) 8.5 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินต่าง ๆ ไปเป็นหินอัคนี มี กระบวนการเปล่ียนแปลงคงท่ีเป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (มี การเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูป เช่น หินตะกอนจะ เปลีย่ นไปเป็นหินอคั นีพุ ตอ้ งผ่านการแปรสภาพ การ หลอมเหลว และการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือการ เย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หรือจะต้องผ่าน การ หลอมเหลว และการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือการ เย็นตัวและแขง็ ตัวของลาวา) 8.6 กระบวนการเปล่ียนแปลงของหินต่าง ๆ ไปเป็นหินตะกอน มี กระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (มี การเปล่ียนแปลงคงท่ีเป็นแบบรูป เช่น หินแปรจะเปลี่ยนไป เปน็ หนิ ตะกอนชนิดท่ีเนือ้ เปน็ เม็ดตะกอน ต้องผา่ น การ หลอมเหลว การเย็นตัวและตกผลกึ ของแมกมา การผุพัง และ การสะสมตัวของตะกอนและการเช่ือมประสานตะกอน หรือ จะต้องผ่านการผุพัง และการสะสมตัวของตะกอนและการ เชอ่ื มประสานตะกอน) 8.7 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินต่าง ๆ ไปเป็นหินแปร มี กระบวนการเปลี่ยนแปลงคงท่ีเป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (การเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูป เช่น หินอัคนีจะเปลี่ยนไป เป็นหินแปรต้องผ่านการแปรสภาพ หรือต้องผ่านการผุพัง การตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนิด และการแปร สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 200 สภาพ หรือจะต้องผ่านการผุพัง การสะสมตัวของตะกอนและ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ การเชื่อมประสานตะกอน และการแปรสภาพ) คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว 8.8 กระบวนการทางธรณีวิทยาท่ีทาให้หินประเภ ทหนึ่ง คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด เปลี่ยนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งหรือเปล่ียนแปลง อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน กลับไปเป็นหินประเภทเดิมมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่ และรบั ฟงั แนวความคดิ ของนักเรยี น เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (มีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่ เป็นแบบรปู เช่น - การที่หินอัคนีจะเปลี่ยนไปเป็นหินแปรจะผ่านกระบวนการ ทางธรณีวิทยาต่าง ๆ เช่น หินอัคนีจะผ่านกระบวนการ แปรสภาพกลายเป็นหินแปร หรือ หินอัคนีจะผ่าน กระบวนการผุพังกลายเป็นตะกอนก่อน จากนั้นตะกอนจะ ผ่านกระบวนการสะสมตัวของตะกอนและการเช่ือม ประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และจาก นั้น หินตะกอนจะผ่านกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหนิ แปร การเปล่ียนแปลงจากหินอัคนีไปเป็นหินแปร ดังตัวอย่างจะ มีการเปลีย่ นแปลงคงทเ่ี ป็นแบบรูป - การท่ีหินตะกอนจะเปล่ียนไปเป็นหินอัคนีจะผ่าน กระบวนการทางธรณวี ิทยาต่าง ๆ เชน่ หินตะกอนจะถูกแปร สภาพกลายเป็นหินแปรก่อน แล้วหินแปรจะหลอมเหลว กลายเป็นแมกมาหรือลาวา จากน้ันแมกมาหรือลาวาจะผ่าน การเย็นตัวและตกผลึก หรือผ่านการเย็นตัวและแข็งตัว กลายเป็นหินอัคนี หรือหินตะกอนจะหลอมเหลวกลายเป็น แมกมาหรือลาวากอ่ น จากน้ันแมกมาหรือลาวาจะผา่ น การ เย็นตัวและตกผลึก หรือการที่ลาวาจะผ่านการเย็นตัวและ แข็งตวั กลายเป็นหนิ อัคนี การเปลย่ี นแปลงจากหนิ ตะกอนไป เป็นหินอัคนีดังตัวอย่างจะมีการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบ รปู - การท่ีหินแปรจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินแปรอีกครั้ง อาจผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่าง ๆ เช่น หินแปรมี การผุพังกลายเป็นตะกอน จากน้ันผ่านการสะสมตัวและ การเช่ือมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และ หินตะกอนจะถูกกระบวนการแปรภาพกลายเป็นหินแปร สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
201 คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ การเปล่ียนแปลงของหินแปรให้กลับมาเป็นหินแปรใหม่อีก ถ้ า ค รู พ บ ว่ า นั ก เ รี ย น ยั ง มี ครงั้ ดงั ตวั อยา่ ง จะมีการเปล่ยี นแปลงคงที่เปน็ แบบรปู แนวคิดคลาดเคลื่อนเก่ียวกับ - การที่หินตะกอนจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินตะกอนอีก กระบวนการเกิดหิน ลักษณะ คร้ัง หินตะกอนอาจผ่านกระบวนการหลอมเหลวกลายเป็น ท า ง ก า ย ภ า พ ข อ ง หิ น แ ล ะ แมกมา จากนั้นแมกมามีการเย็นตัวและตกผลึกกลายเป็น วัฏจักรหิน ให้ร่วมกันอภิปราย หินอัคนี หินอัคนีมีการผุพังกลายเป็นตะกอนหรือสาร จนนกั เรยี นมีแนวคดิ ท่ถี ูกต้อง บางชนิด จากนั้นสารบางชนิดจะมีการตกผลึกหรือ ตกตะกอนเป็นหินตะกอนอีกครั้ง การเปล่ียนแปลงจาก หิ น ต ะ ก อ น ไ ป เ ป็ น หิ น ต ะ ก อ น ดั ง ตั ว อ ย่ า ง จ ะ มี การเปล่ียนแปลงคงท่เี ปน็ แบบรูป) 8.9 การเปลี่ยนแปลงของหินเป็นวัฏจักรหินมีลักษณะเป็นอย่างไร (เป็นการเปล่ียนแปลงของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร จากหินประเภทหน่ึงเปลี่ยนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่ง หรือเปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยมี กระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเน่ืองเป็น วฏั จกั ร) 9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในส่ิงที่อยากรู้เพ่ิมเติมเก่ียวกับ กระบวนการเกิดหิน ลักษณะทางกายภาพของหิน และวัฏจักรหิน จากนนั้ ร่วมกันอภปิ รายและลงข้อสรปุ ว่า - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน และมีลักษณะทางกายภาพบางอยา่ งแตกตา่ งกัน ดงั นี้ หินอคั นเี กิดจากการเยน็ ตัวและตกผลึกของแมกมาใต้ผิวโลก และเกิดจากการเย็นตวั และตกผลึก หรือเกิดจากการเย็นตัว และแข็งตัวของลาวาบนผิวโลก เนื้อหินมีลักษณะเป็นผลึก มีท้ังผลึกขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และบางชนิดอาจเป็น เนอื้ แกว้ และอาจมีรพู รนุ ในเนือ้ หิน หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อม ประสานตะกอนในแอ่งสะสมตะกอน หรือเกิดจากการ ตกผลึกหรือตกตะกอนโดยเฉพาะส่วนใหญ่จากน้าทะเล หินตะกอนที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนหรือเศษหิน เศษแร่จากหินที่ผุพังมา เน้ือหินส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเม็ด ตะกอน มีท้ังเน้ือหยาบและละเอียด ส่วนหินตะกอนที่เกิด จากการตกผลึกหรือตกตะกอนจากสารบางชนิด เน้ือหินจะ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 202 เป็นเนื้อผลึก หินตะกอนบางชนิดมีลักษณะเป็นชั้น ๆ บางครงั้ ในอดีตจงึ เรยี กหินตะกอนวา่ หินชน้ั หินแปรเกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมซ่ึงอาจเป็น หินอัคนี หินตะกอน หรือหินแปร โดยการกระทาของ ความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมีท่ีเกิดข้ึนใต้ผิวโลก ทาให้หินแปรบางชนิดมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ บางชนิดเนื้อหินจะมีรอยแยกเป็นแผ่น ๆ ซึ่งรอยแยกนี้อาจ แซะหรือกะเทาะออกเป็นแผ่นหินใหญ่ ๆ ได้ บางชนิดเป็น เนือ้ ผลกึ ทีม่ ีความแข็งมาก หินท้ังสามประเภทมีการเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหน่ึง ไป เป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหนิ ประเภทเดิมได้ โดยมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงท่ีเป็น การเตรยี มตวั ลว่ งหน้าสาหรบั ครู เพ่ือจัดการเรียนรูใ้ นครง้ั ถดั ไป แบบรูปและและตอ่ เน่ืองเปน็ วัฏจกั รหิน (S13) ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไ ด้ท า 10. นักเรียนตอบคาถามในฉันรู้อะไร จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ กิจกรรมที่ 1.3 หินและแร่มีประโยชน์ อย่างไรบ้าง ครูเตรียมส่ิงของเครื่องใช้ แนวคาตอบที่ถกู ตอ้ ง หรือรูปที่ทามาจากหินหรือแร่ เพื่อนามา กระตุ้นนักเรียนในการนาเข้าสู่กิจกรรม 11. นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากน้ันครูให้นักเรียนอ่าน ตัวอย่างส่ิงของเครื่องใช้หรือรูปที่ทามา จากหินและแร่ เช่น หินลับมีด หินขัดตัว สง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้ และเปรียบเทียบกบั ข้อสรุปของตนเอง ก ร ะ เ บื้ อ ง ปู พ้ื น ห รื อ ผ นั ง แ ก้ ว น้ า เครอ่ื งสาอาง แป้งทาตวั ไส้ดนิ สอดา และ 12. ครูอาจให้นักเรียนศึกษากระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหินเพ่ิมเติม เตรียมแหล่งสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ เพ่ือให้ นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการนาหิน โดยสแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 77 หรือดาวน์โหลด และแร่ไปใช้ประโยชน์ ตัวอย่างแหล่ง สืบค้นข้อมูลเช่น เว็บไซต์กรมทรัพยากร ขอ้ มูลจากเว็บไซต์ http://ipst.me/10924 เมอ่ื สแกนหรอื ดาวน์ ธรณี http://www.dmr.go.th โหลดข้อมูลไปแล้วจะพบส่ือประกอบเพ่ิมเติม เป็นส่ือแอนิเมชัน เก่ียวกับกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภทและ การ เปล่ียนแปลงของหินเป็นวัฏจักรหิน หรืออาจดาวน์โหลดข้อมูลจาก เว็บไซต์ http://ipst.me/10925 เม่ือดาวน์โหลดไปแล้วจะพบส่ือ e-poster เร่ืองกระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหิน ครูอาจให้ นักเรียนหาเวลาว่างเข้าไปศึกษาสื่อประกอบทั้งสอง และอาจให้ นักเรียนนาเสนอข้อมูลท่ีได้จากการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ที่ น่าสนใจ 13. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคาถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้ เพม่ิ เตมิ ในอยากรู้อีกวา่ จากน้ันครอู าจสมุ่ นักเรียน 2-3 คน นาเสนอ คาถามของตนเองหน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เกีย่ วกับคาถามที่นาเสนอ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
203 ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 14. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างในข้ันตอน ใด แลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 83 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ 204 แนวคาตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม 1. สงั เกตและอธิบายลกั ษณะทางกายภาพของหนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร 2. รวบรวมข้อมูล อธบิ าย และเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หนิ แต่ละประเภท จากแบบจาลอง 3. รวบรวมข้อมลู และอธบิ ายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินในวฏั จักรหิน จากแบบจาลอง มีวัสดุแข็งสีต่าง ๆ รวมตัวกัน บาง พบท้งั ที่มีลกั ษณะเปน็ ผลกึ แรข่ นาด ก้อนหินมีเน้ือหยาบ บางก้อนมีเนื้อ ใหญ่เกาะอยู่รวมกันมีเนื้อหยาบ ละเอียด ถ้าหินมีเน้ือละเอียดจะ และพบลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาด มองเห็นหินท้ังก้อนมีสีเดียว หินบาง เล็กเกาะอยู่รวมกันมีเนื้อละเอียด ก้อนเป็นเน้ือแก้ว บางก้อนหินมรี พู รุน และหินบางก้อนเป็นเนื้อแ ก้ว ในเนื้อหนิ บางกอ้ นหนิ มีรพู รุนในเนอื้ หิน พบเม็ดตะกอนเกาะอยู่รวมกัน มีทัง้ พบท้ังที่มีลักษณะเป็นเม็ดตะกอน เนื้อหยาบและเน้ือละเอียด บาง ขนาดใหญ่เกาะอยู่รวมกัน มีเน้ือ ก้อนมีเศษหินปะปน บางก้อนเน้ือ หยาบ และหินบางก้อนมีลักษณะ หนิ มีลักษณะเปน็ ชนั้ ๆ เป็นเม็ดตะกอนขนาดเล็กเกาะอยู่ รวมกัน มีเน้ือละเอียด บางก้อนมี เศษหินปะปนอยู่ บางกอ้ นเน้ือหินมี ลักษณะเปน็ ช้ัน ๆ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
205 ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ หินประกอบด้วยวัสดุแข็งขนาด หินมีลักษณะเปน็ ผลึกแรข่ นาดใหญเ่ กาะอยู่ ต่าง ๆ เกาะอยู่รวมกัน บางก้อน รวมกนั มีเนอ้ื หยาบ บางก้อนมลี กั ษณะเป็น วัสดุแข็งจะเรียงตัวขนานกันเป็น ผลึกแร่ขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อ แถบสี และบางก้อนสามารถแซะ ละเอียด บางก้อนเน้ือหินมีผลึกแร่เรียงตัว หรอื กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ ขนานกันเป็นแถบ และแถบในเนื้อหินบาง ชนดิ แซะหรอื กะเทาะออกเป็นแผ่นได้ ลักษณะของหินอัคนี หินตะกอน และ หิน หินอัคนี เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมา หรือ แปร มีลักษณะบางอย่างแตกต่างกัน เช่น เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือเกิดจากการเย็น การพบเนื้อแก้วและรูพรุนในหินอัคนี การ ตัวและแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของ พบเม็ดตะกอนและเศษหินในหินตะกอน ตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน หรือเกิดจากการตกผลึก และพบการเรียงตัวของวัสดุแข็งที่เรียงตัว และตกตะกอนของสารบางชนิด และหินแปรเกิดจากหิน ขนานกันแถบในหินแปร ลักษณะบางอย่าง ทุกประเภทมีการแปรสภาพโดยความร้อน ความดัน และ ของหินแต่ละประเภทท่ีแตกต่างกันน้ี เกิด ปฏกิ ริ ยิ าเคมบี รเิ วณใต้ผวิ โลก จากหินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิด แตกต่างกนั การท่ีหนิ แตล่ ะประเภทมีกระบวนการเกดิ แตกตา่ งกัน จงึ ทา ให้ลักษณะทางกายภาพของหินแต่ละประเภทอาจมีลักษณะ บางอย่างแตกต่างกัน สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346