Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 1_2564

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 1_2564

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2021-05-08 03:32:50

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ 1 1_2564

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 64 1. ครนู ำภาพการเคล่ือนท่ขี องวตั ถุต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้ จำนวน 10-12 ภาพ ใหน้ กั เรียนจำแนกวา่ ภาพใดบา้ ง เป็นการเคลอื่ นทแี่ นวตรง ซึ่งประกอบดว้ ยภาพตวั อย่าง ดังตอ่ ไปน้ี • ภาพชงิ ช้าสวรรค์ • ภาพผลไม้ตกสูพ่ ื้นดิน • ภาพรถวิ่งตามถนนเส้นตรง • ภาพรถเล้ยี วโค้ง • ภาพคนวง่ิ แข่ง 100 เมตร • ภาพลูกต้มุ นาฬิกา • ภาพการแกวง่ ชงิ ช้า • ภาพรถไต่ถัง • ภาพคนยิงธนู • ภาพดาวเทียมโคจรรอบโลก • ภาพการเคลอื่ นท่ีของลกู บาสเกตบอล • ภาพนกั กฬี าว่ายน้ำในลู่ของสระวา่ ยนำ้ 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการพิจารณาว่าภาพใดบ้าง ที่เป็นภาพการเคล่ือนท่ีแนวตรง เพื่อ นำไปสู่ความเข้าใจลักษณะของการเคลื่อนที่แนวตรงว่า “การเคล่ือนท่ีแนวตรง เป็นการเคลื่อนท่ีท่ีมี ระยะทางและการกระจัดอยู่ในแนวเส้นตรงเดยี วกัน” 3. นักเรียนชว่ ยกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เห็นคำตอบจากภาพตัวอย่าง 4. ครูถามนักเรียนว่า ภาพแต่ละภาพมีลักษณะการเคลื่อนที่เหมือนกันหรือแตกต่างกัน หรือไม่ อย่างไร นกั เรียนสงั เกตลักษณะการเคลื่อนท่ีของวัตถุนั้นอยา่ งไร (ทงิ้ ช่วงใหน้ ักเรียนคิด) จากน้นั ครูอธบิ ายลกั ษณะ การเคลื่อนทีท่ ลี ะภาพ 5. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 1 หน้า 30 ว่า ใน ชีวิตประจำวันมีกิจกรรมใดบ้าง ท่ีเก่ียวข้องกับการเคล่ือนที่ และให้ยกตัวอย่าง (เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ แสดงความคิดเห็นโดยไม่เน้นถูกผิด) (แนวตอบ : ในชีวิตประจำวัน เราพบเหน็ การเคล่ือนท่ีของส่งิ ตา่ งๆ เชน่ นกบิน รถยนตแ์ ล่นบนถนน ลูกฟุตบอลเคลื่อนท่ีในอากาศ ใบพดั ลมหมุน เดก็ แกวง่ ชิงช้า ผลไมห้ ล่นจากต้น เป็นต้น) 6. นักเรียนช่วยกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นคำตอบจากคำถาม เพ่ือเช่ือมโยงไปสู่การเรียนในเรื่อง ตำแหน่ง ระยะทาง และการกระจดั 7. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูถามคำถาม Prior knowledge จากหนังสือเรียน หน้า 31 ว่า เราจะทราบได้อย่างไรว่าวัตถุเกิดการ เคล่ือนที่ (แนวตอบ : วัตถุมีการเปลี่ยนตำแหนง่ จากจุดหนงึ่ ไปอกี จดุ หนงึ่ ) 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การเคล่ือนท่ีของวัตถุเป็นผลมาจากการท่ีมีแรงไปกระทำต่อวัตถุ ทำให้วัตถุ เปลยี่ นแปลงสภาพโดยเปลี่ยนตำแหน่งจากจุดที่ 1 ไปยังจุดท่ี 2 โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุจะทำให้ เกดิ ปริมาณที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเคล่อื นท่ี จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 65 3. ครูแจ้งให้นกั เรยี นทราบวา่ จะได้ศึกษาเรื่อง ตำแหนง่ ระยะทาง และการกระจดั 4. ครเู ขา้ สู่บทเรยี น เริม่ จากให้นกั เรียนเขา้ ใจจุดอ้างองิ หรือตำแหน่งอา้ งองิ โดยการต้ังประเดน็ คำถาม เชน่ • นักเรยี นจะบอกตำแหน่งของบ้านนักเรียนให้เพ่อื นเข้าใจไดอ้ ย่างไร (ข้ึนอยู่กบั คำตอบของนักเรยี น เช่น ชอื่ ถนน ชอ่ื ซอย เป็นตน้ ) • นกั เรียนเดินทางจากบ้านถึงโรงเรียนเป็นได้อย่างไร (ข้นึ อยกู่ ับคำตอบของนักเรียน เชน่ เดินออก จากบ้านมาโรงเรยี นโดยท่ีเดินตรงไปทางทิศเหนอื 180 เมตร จากน้ันเลี้ยวซ้ายมุ่งหนา้ ไปทางทิศ ตะวันตก 240 เมตร แลว้ เดินตอ่ ไปทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนืออกี 200 เมตร จงึ จะถึงโรงเรียน) • นักเรียนมีวิธีอย่างไร สำหรับการเดินทางมาโรงเรียนท่ีใช้เวลาน้อยที่สุด (ขึ้นอยู่กับคำตอบของ นกั เรยี น) 5. ครูและนกั เรียนช่วยกนั อภิปรายถึงระยะทางในการเดิน ความเร็วในการเดนิ และระยะทางในการเดินน้อย ท่ีสดุ เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น 6. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การศึกษาการเคล่ือนท่ีของวัตถุเป็นการศึกษาการเปล่ียนแปลงตำแหน่งของวัตถุ (position) การท่ีจะบอกการเปลี่ยนตำแหน่งต้องมีการระบุตำแหน่งเพ่ือให้สื่อความหมายได้ตรงกันและ เป็นระบบเดียวกัน โดยกำหนดจุดอ้างอิงหรือตำแหน่งอ้างอิง (reference point) ซ่ึงเป็นจุดท่ีบอกพิกัดท่ี แน่นอน และเป็นตัวเปรียบเทียบในการบอกตำแหน่งของวัตถุท่ีอยู่ภายในกรอบอ้างอิง (reference frame) 7. ครูให้นักเรียนแต่ละคนวิเคราะห์และอธิบายเกี่ยวกับจุดอ้างอิงและตำแหน่งของรถชนิดต่าง ๆ เทียบกับ ท่ีตั้งของป้ายรถประจำทาง จากภาพในหนงั สือเรียนหน้า 31 8. ครูให้นักเรยี นร่วมกนั สรุปความสัมพันธ์ระหวา่ งจดุ อ้างอิงกับตำแหน่งของรถในภาพ โดยกำหนดจุดอา้ งอิง และอธิบายทิศทางของวัตถุเทียบกับจุดอ้างอิง จากนั้นครูสรุปเรื่องจุดอ้างอิงกบั ตำแหน่งของวัตถุ เพื่อให้ นกั เรียนมีความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขนึ้ 9. ครูเข้าสู่เนื้อหาเร่ือง ระยะทางและการกระจัด โดยครูช่วยเช่ือมโยงความรู้ใหม่จากเนื้อหาความรู้เดิมที่ เรียนรู้มาแลว้ ด้วยการให้นักเรียนแตล่ ะคนบอกตำแหน่งของเพ่ือน และระยะห่างระหว่างตัวนักเรียนกับ เพอื่ น เพื่อให้เขา้ ใจความแตกตา่ งระหวา่ งระยะทางกบั การกระจัด 10. ครูกลา่ วต่อว่า การเคลอ่ื นท่ีของวัตถเุ ปน็ การเปลย่ี นตำแหนง่ ของวตั ถุ ซง่ึ จะพิจารณาไดจ้ ากระยะทางและ การกระจัด แล้วครูอาจถามด้วยคำถาม เพ่ือให้นักเรียนตอบจากความรู้และประสบการณ์ของนักเรียน ดังนี้ • ระยะทางกับการกระจดั มีความหมายและแตกตา่ งกนั อยา่ งไร • ระยะทางและการกระจดั มคี วามสัมพนั ธ์กนั หรอื ไม่ อย่างไร • ระยะทางจะมคี า่ เท่ากบั การกระจดั ในกรณใี ด 11. ครทู ง้ิ ช่วงใหน้ ักเรยี นแตล่ ะไดค้ ิด จากน้ันอาจสมุ่ นกั เรียนใหอ้ อกมาตอบคำถามท่ีครูไดถ้ ามไว้หน้าชัน้ เรียน 12. หลังจากน้ันครูอธิบายสรุปจากคำถามเกี่ยวกับระยะทางกับการกระจัดว่า ระยะทาง (distance) คือ ระยะท้ังหมดท่ีวัดได้ตามแนวการเคลื่อนที่ ระยะทางจะระบุแต่ขนาดเพียงอย่างเดียว จึงจัดว่าเป็น ปรมิ าณสเกลาร์ หน่วยเป็นเมตร (m) ส่วนการกระจัด (displacement) คือ ระยะที่วัดได้ในแนวเส้นตรง จากตำแหน่งเร่มิ ต้นไปยังตำแหน่งสดุ ท้าย ซ่ึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ท่ตี ้องระบุทั้งขนาดและทิศทาง มีหน่วย เป็นเมตร (m) ครูอธิบายช้ีให้นักเรียนเห็นว่า ระยะทางข้ึนอยกู่ ับเสน้ ทางการเคล่ือนทีจ่ ริง ส่วนการกระจัด จะข้ึนอยู่กับตำแหน่งเริ่มต้นและตำแหน่งสุดท้ายของการเคลื่อนท่ี และระยะทางจะมีขนาดเท่ากับการ กระจัด ในกรณีท่ีวัตถเุ คล่อื นท่ีเปน็ เส้นตรงและไมเ่ ปล่ียนแปลงทศิ ทาง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 66 13. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน กำหนดให้แต่ละกลุ่มสืบค้นในหัวข้อ การคำนวณหา ระยะทางและการกระจัด โดยให้นักเรียนแต่ละร่วมกันวางแผนการสืบค้นทั้งจากหนังสือเรียน (หน้า 33- 34) เอกสารอ้างอิง และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ตามข้ันตอนทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ทักษะหรือกระบวนการ สงั เกต จากนัน้ นำขอ้ มูลทไี่ ด้มาอภิปรายรว่ มกันหนา้ ช้นั เรียน ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่างท่ี 2.1-2.2 จากหนังสือเรียนหน้า 33-34 โดยให้ร่วมกันศึกษา ความแตกต่างระหว่างระยะทางและการกระจัด วิธีการหาระยะทางและการกระจัด โดยครูใช้คำถาม นำเพื่อหาข้อสรุป ดังน้ี • จากโจทย์ตัวอย่างที่ 2.1 การเคล่ือนท่ีของวัตถุแต่ละครั้งระยะทางและการกระจัดท่ีเกิดขึ้นมี ลักษณะอย่างไร (แนวตอบ : ระยะทางและการกระจัดในการเคล่ือนท่ีมี 2 ลักษณะ คือ ระยะทางมากกว่าการ กระจดั และระยะเท่ากับและการกระจดั แต่จากตวั อย่างระยะทางมากกว่าการกระจดั ) • จากโจทย์ตัวอย่างที่ 2.2 เด็กชายเอเดินเป็นแนววงกลมครบ 1 รอบ จะได้ระยะทาง 88 เมตร และทำไมการกระจัดถึงมคี า่ เป็นศูนย์ (แนวตอบ : การกระจัดมีค่าเป็นศูนย์ เนื่องจากเม่ือส้ินสุดการเคลื่อนท่ีแล้วจะไม่มีการ เปลย่ี นแปลง) 2. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอวิธีการแกป้ ัญหาโจทย์ตวั อย่างใหเ้ พื่อน ๆ ทราบหน้าห้องเรียน 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปผลการสืบเสาะหาความรู้เกี่ยวกับประเด็นคำถามต่าง ๆ ท่ีครูกำหนดไว้ (อาจ นำเสนอในรปู ของเอกสาร) แลว้ นำมาอภปิ รายและแลกเปลย่ี นความคิดเห็นกับกลมุ่ อน่ื ๆ 4. นักเรียนร่วมกันเขียนแผนผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) เกี่ยวกับระยะทางและการกระจัด เพ่ือเป็น การสรปุ ความคดิ ความเขา้ ใจทีไ่ ด้ในชน้ั เรยี น แลว้ สง่ เปน็ การบ้านในคาบเรยี นต่อไป ขน้ั สรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูนำนกั เรยี นอภปิ รายและสรปุ เกย่ี วกับเรอ่ื ง ระยะทางและการกระจดั ดังน้ี • ความหมายของระยะทางและการกระจัด • การคำนวณหาระยะทางและการกระจดั • การกระจดั จะมีค่าเท่ากับระยะทางในกรณใี ด 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเรื่อง ตำแหน่ง ระยะทาง และการกระจัด ว่ามีส่วนไหนท่ียังไม่ เข้าใจและให้ความรู้เพ่ิมเติมในส่วนนั้น โดยท่ีครูอาจจะใช้ PowerPoint เร่ือง ระยะทางและการกระจัด ช่วยในการอธิบาย 3. ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ระยะทางและการกระจดั 4. ครูให้นักเรียนทำ Unit Question 2 เร่ือง ระยะทางและการกระจัด จากหนังสือเรียน หน้า 79 ส่งเป็น การบ้านในช่ัวโมงถดั ไป ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 67 2. ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และจากการนำเสนอผลงาน 3. ครวู ดั และประเมนิ การปฏิบัติการ จากการทำใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ระยะทางและการกระจดั 4. ครตู รวจสอบผลการทำแผนผงั มโนทศั น์ (Concept Mapping) 5. ครูวัดและประเมนิ ผลจากการทำ Unit Question 2 เรื่อง ระยะทางและการกระจัด 6. ครูวดั และประเมนิ ผลจากแผนผังมโนทัศน์ท่นี ักเรียนได้สรา้ งข้ึนจากข้นั อธบิ ายความรู้ของนักเรยี นเป็น รายบุคคล ช่ัวโมงที่ 2 ขน้ั นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูและร่วมกันทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับ เรื่อง ระยะทางและการกระจัด เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานนำไปสู่ เนือ้ หา เรื่อง อัตราเรว็ และความเร็ว 2. ครถู ามคำถามกระตุ้นใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ว่า • ในการเคลอื่ นท่ี นอกจากจะมรี ะยะทางและการกระจัดแล้ว ยงั มปี ริมาณใดอกี • การบอกวา่ วตั ถุใดเคลอื่ นท่ีเรว็ หรอื ชา้ จะพิจารณาจากระยะทางหรอื การกระจดั เทียบกบั ส่งิ ใด 3. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกบั คำถามตามความคดิ เหน็ ของแต่ละคน หลงั จากนักเรยี นร่วมกัน อภิปรายแล้ว ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจมากข้นึ ว่า การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังจุดหน่ึงน้ัน นอกจากจะมีระยะทางและการกระจัดแลว้ ยงั มีเวลาที่ใช้เคลอ่ื นท่ีดว้ ย และการบอกว่าวตั ถุใดเคล่ือนที่เร็ว หรอื ชา้ จะพิจารณาจากระยะทางหรือการกระจัดเทียบกบั เวลาทใี่ ช้ในการเคล่อื นท่ี ซึ่งเก่ียวกับปริมาณการ เคลอ่ื นท่ขี องวตั ถุ คอื อตั ราเรว็ และความเร็ว 4. ครูแจ้งใหน้ กั เรียนทราบว่า จะได้ศกึ ษาเรื่อง อตั ราเรว็ และความเร็ว ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครใู ห้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกบั อัตราเร็วและความเร็ว จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ฟสิ ิกส์ เลม่ 1 หน้า 35-36 โดยถามคำถามใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ดงั นี้ • นักเรยี นคดิ ว่า ความเร็วต่างจากอตั ราเรว็ หรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ ต่างกนั โดยอัตราเรว็ เปน็ ระยะทางทเี่ ปลี่ยนแปลงใน 1 หน่วยเวลา เป็นปริมาณสเกลาร์ สว่ นความเร็วเปน็ การกระจดั ที่เปลีย่ นแปลงในหนง่ึ หนว่ ยเวลา เป็นปรมิ าณเวกเกอร)์ • นกั เรียนพิจารณา สมการของอัตราเรว็ และความเร็ว นักเรียนจะสามารถหาปริมาณอื่นไดห้ รือไม่ เช่น การกระจดั ระยะทาง หรอื เวลา (แนวตอบ สามารถหาปริมาณอื่นได้ โดยการปรับรูปสมการ ดังสมการความสัมพันธ์ในหนังสือ เรียนหน้า 38) 2. ครูให้ผู้แทนนักเรียนออกมานำอธิบายความแตกต่างระหว่างอัตราเร็วกับความเร็ว จากนั้นครูอธิบาย เพ่มิ เตมิ ถึงความแตกต่างของท้ังสองปรมิ าณ พร้อมบอกเหตุผล 3. ครูถามคำถาม H.O.T.S จากหนังสือเรยี นหน้า 36 เพื่อเป็นการตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนว่า “ถ้า พูดวา่ โดยปกติโปเต้ขับรถเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง และวันนี้โปเต้ขับรถมาทำงานเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง” นกั เรียนคิดว่ามคี วามแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 68 (แนวตอบ : มีความแตกต่างกัน เนื่องจากข้อความแรกกล่าวถึงอัตราเร็วโดยเฉลี่ยในการเดินทาง ของโปเต้ ขณะอกี ขอ้ ความหนง่ึ คอื ความเร็วซ่ึงเป็นปริมาณเวกเตอร์ โดยมกี ารระบุทศิ ทางมายงั ท่ีทำงานไว้ ด้วย ทำใหป้ รมิ าณท้งั สองมคี วามแตกตา่ งกัน) 4. ครูอาจให้ความรู้เสริมว่า อัตราเร็วท่ีอ่านได้จากมาตรวัดบนหน้าปัดรถยนต์จะแสดงว่าอัตราเร็ว ณ ขนาด น้ัน แต่ถ้าพิจารณาถึงทิศทางของการเคลื่อนที่จะได้รถเคล่ือนท่ีด้วยความเร็ว และถ้ามีการเปล่ียนแปลง ความเรว็ จะกล่าวได้วา่ รถเคลอื่ นทีด่ ว้ ยความเรง่ 5. ครูถามนักเรียนต่อไปว่า ความเร็วกับความเร็วเฉลี่ย เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร และ อัตราเร็วกับอัตราเร็วเฉลี่ย เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (ทิ้งช่วงให้นักเรียนคิด) 6. ครใู ห้ผู้แทนนกั เรียนแต่ละกล่มุ นำเสนอความร้ตู ามที่นักเรียนเขา้ ใจ 7. นักเรียนและครูร่วมกนั วิพากษ์เกีย่ วกับขอ้ มูลการนำเสนอของแต่ละคนต่าง ๆ เพอื่ ความเข้าใจตรงกัน โดย นกั เรยี นและครูควรได้ข้อสรุปรว่ มกันดังนี้ • ความเร็ว เป็นการกระจัดของวัตถุในหนึ่งหน่วยเวลา เป็นปริมาณเวกเตอร์ มีหน่วยเป็นเมตรต่อ วินาที ส่วนความเร็วเฉลี่ย เป็นการกระจัดระหว่างจุดเร่ิมต้นกับจุดสุดท้ายของการเคล่ือนที่ต่อ เวลาท่ีใช้ในการเคลือ่ นทที่ งั้ หมด • อตั ราเรว็ เป็นระยะทางท่ีวัตถุเคล่ือนที่ในหนึ่งหน่วยเวลา เป็นปรมิ าณสเกลาร์ มีหน่วยเป็นเมตร ตอ่ วินาที สว่ นอัตราเร็วเฉลยี่ เป็นอตั ราการเคลอื่ นทีต่ ามระยะทางจรงิ ในหนึง่ หนว่ ยเวลา 8. จากนั้นครูให้ความรู้เรื่องอัตราเร็วขณะหนึ่ง (instantaneous speed) ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน หน้า 40-41 โดยที่นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการอภิปรายหรือสอบถาม ซึ่งนักเรียนจะเข้าใจมากย่ิงข้นึ ในหัวข้อ ต่อไป เร่ือง เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา ขน้ั สอน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันศึกษาทำความเข้าใจโจทย์ เรื่อง อัตราเร็วและความเร็ว และลองหา คำตอบจากตัวอย่างด้วยตนเอง จากตัวอย่างที่ 2.3-2.5 ในหนังสือเรียน หน้า 37 และ 39 เพื่อให้ช่วย เข้าใจการนำเสนอข้อมูลได้มากยิ่งข้ึน ครูควรให้นักเรยี นทำโจทย์ตามข้นั ตอนการแก้โจทยป์ ัญหา ดังน้ี • ขน้ั ที่ 1 ทำความเข้าใจโจทย์ตวั อยา่ ง • ข้นั ที่ 2 ส่งิ ท่ีโจทยต์ อ้ งการถามหา และจะหาสง่ิ ทีโ่ จทย์ต้องการ ตอ้ งทำอย่างไร • ขั้นที่ 3 ดำเนินการหาคำตอบ • ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทยต์ ัวอย่าง 2. ครูสุ่มนักเรียนให้ออกมานำเสนอวิธีการแก้ปัญหาโจทย์ตัวอย่างตามข้ันตอนในแต่ละข้ัน โดยท่ีครูคอย แนะนำและเสริมข้อมลู ท่ถี ูกต้องใหน้ ักเรยี น ขน้ั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครนู ำนกั เรียนอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับวิธีการหาอัตราเร็วและความเรว็ แลว้ ให้นกั เรียนรว่ มกันวิเคราะห์ และสรปุ ความแตกต่างระหวา่ งอตั ราเร็วและความเรว็ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 69 2. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และยกตัวอย่างเพ่ิมเติมเก่ียวกับความเร็วเฉลี่ย และอัตราเร็ว เฉลี่ยในชวี ิตประจำวัน และการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ได้อย่างไร เช่น การวเิ คราะห์เส้นทางท่ี เหมาะสมจะชว่ ยประหยดั เวลา นำไปใช้ในระบบ GPS เพอ่ื คำนวณเสน้ ทางการเดนิ ทาง 3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเนื้อหาเร่ือง อัตราเร็วและความเร็ว ว่ามีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจและให้ ความร้เู พ่มิ เติมในสว่ นนน้ั โดยท่ีครอู าจจะใช้ PowerPoint เรอื่ ง อตั ราเรว็ และความเร็ว ชว่ ยในการอธบิ าย 4. ครใู ห้นกั เรยี นทำใบงานที่ 2.2 เรอื่ ง อัตราเรว็ และความเรว็ 5. ครูมอบหมายให้นักเรียนสรุปแผนผงั มโนทัศน์ (Concept Mapping) เรือ่ ง อัตราเรว็ และความเรว็ และให้ นกั เรียนทำ Unit Question 2 เร่ือง อัตราเร็วและความเร็ว ส่งเปน็ การบา้ นชั่วโมงถดั ไป ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ครูประเมนิ ผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำผลงาน และจากการนำเสนอผลงาน 3. ครวู ัดและประเมินการปฏบิ ตั ิการ จากการทำใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง อตั ราเร็วและความเรว็ 4. ครูวดั และประเมนิ ผลจากการทำ Unit Question 2 เร่อื ง อตั ราเรว็ และความเรว็ 5. ครูวัดและประเมนิ ผลจากผังมโนทศั น์ทน่ี กั เรียนได้สร้างข้ึนจากข้นั ขยายความเข้าใจของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีวดั เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ประเมนิ ตามสภาพจริง 7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น ตรวจแบบทดสอบ - ใบงานท่ี 2.1-2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบก่อน กอ่ นเรยี น เรยี น หนว่ ยการ เรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การ เคลื่อนทีแ่ นวตรง 7.2 การประเมินระหว่าง การจดั กิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 2.1-2.2 1) ปริมาณทีเ่ กิดจาก การเคล่ือนทข่ี อง วตั ถุ 2) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานที่นำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ - แบบสงั เกตพฤติกรรม 3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานกลมุ่ 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ อันพงึ ประสงค์ 5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวินยั ระดบั คณุ ภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ผ่านเกณฑ์ ในการทำงาน จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 70 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน รายวชิ าเพม่ิ เติม ฟิสกิ ส์ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่ือง การเคล่ือนทแ่ี นวตรง 2) ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง ระยะทางและการกระจดั 3) ใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง อตั ราเร็วและความเรว็ 4) PowerPoint เรอื่ ง ปรมิ าณท่ีเกดิ จากการเคลอ่ื นที่ของวัตถุ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) หอ้ งสมุด 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 9. การบูรณาการตามจดุ เน้นของโรงเรียน : ความหลากหลายทางชีวภาพ หลกั ปรัชญา ครู ผู้เรยี น ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 2. ความมีเหตผุ ล รูจ้ กั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลติ สื่อท่ี มจี ิตสำนกึ ที่ดี จติ สาธารณะร่วม 3. มีภูมคิ ุมกันในตวั ทด่ี ี 4. เงื่อนไขความรู้ เหมาะสมและสอดคล้องเนอ้ื หาเปน็ อนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและ 5. เง่ือนไขคณุ ธรรม ประโยชนต์ ่อผูเ้ รยี นและพัฒนาจากภมู ิ ส่งิ แวดลอ้ ม ปญั ญาของผเู้ รียน - ยดึ ถอื การประกอบอาชพี ด้วยความ ไม่หยดุ นิ่งทห่ี าหนทางในชีวติ หลุดพ้น ถกู ตอ้ ง สุจรติ จากความทุกขย์ าก (การคน้ หาคำตอบ เพ่อื ใหห้ ลดุ พน้ จากความไม่รู้) ภมู ิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั รบั ผิดชอบ ระมดั ระวัง สรา้ งสรรค์ ความรอบรู้ เร่ือง ปริมาณทเ่ี กดิ จาก ความรอบรู้ เร่ือง ปริมาณท่เี กิด การเคลื่อนท่ีของวัตถุ ที่เก่ยี วข้องรอบ จากการเคลื่อนที่ของวตั ถุ สามารถนำ ด้าน นำความรู้มาเชื่อมโยง ความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เกิด ประกอบการวางแผน การดำเนินการ ความเชือ่ มโยง สามารถประยกุ ต์ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ใหก้ ับผเู้ รยี น ใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ มีความตระหนักใน คุณธรรม มี มีความตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม ความซอื่ สตั ย์สุจรติ และมคี วามอดทน ซอื่ สตั ย์สจุ ริตและมคี วามอดทน มี มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการ ความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดำเนนิ ดำเนนิ ชีวติ ชวี ิต จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 71 สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ครู ผเู้ รยี น ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชวี ภาพ ในโรงเรียน (ตามจดุ ท่ีได้รบั มอบหมาย) - ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง ผเู้ รยี น ชีวภาพในโรงเรยี น (กำหนดจุดให้ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สืบคน้ ขอ้ มูลการอนุรกั ษ์ความ ผู้เรียนสำรวจ) หลากหลายทางชีวภาพ (ตามหัวขอ้ ท่ี ไดม้ อบหมาย) สง่ิ แวดลอ้ ม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนุรักษค์ วามหลากหลาย - การอนุรกั ษค์ วามหลากหลายทาง ทางชวี ภาพ ชีวภาพ (กำหนดหวั ขอ้ ใหผ้ ู้เรยี น สบื ค้น) จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 72 10. ความเห็น/ขอ้ เสนอแนะ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย 10.1 หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นางสาวณัฐธนัญา บญุ ถึง) ………./……………./…………. 10.2 รองผู้อำนวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 73 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน  ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์  ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤติกรรมท่มี ีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชื่อ.........................................................ผู้สอน (นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา) ตำแหน่ง ครู จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 74 ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ระยะทางและการกระจดั คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงอธบิ ายความหมายของตำแหน่ง ระยะทาง และการกระจดั 2. ถ้าเหวี่ยงกอ้ นหินไปเป็นรูปวงกลมรัศมี 3 เซนติเมตรกอ้ นหนิ จะเคลอ่ื นที่ไดร้ ะยะทางและการกระจดั เท่าไร 3. เด็กชายคนหน่งึ เดนิ ทางไปทางทิศตะวันออก 150 เมตร แลว้ เดนิ กลับทางเดิม 30 เมตร ไปทางทศิ ตะวนั ตก จงหา การกระจัดของเด็กคนน้ี 4. โยนก้อนหนิ ขน้ึ ไปจากยอดตึกสงู 100 เมตร ก้อนหนิ เคล่ือนทไี่ ปไดส้ งู สุด 50 เมตร จงึ ตกกลบั ลงมายังพนื้ ดิน จงหาว่ากอ้ นหินเคลอื่ นท่ไี ด้ระยะทางและการกระจัดทงั้ หมดเท่าไร จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 75 ใบงานท่ี 2.1 เฉลย เรื่อง ระยะทางและการกระจดั คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จงอธบิ ายความหมายของตำแหนง่ ระยะทาง และการกระจัด ตำแหน่ง คอื การบอกให้ทราบวา่ วัตถุหรอื สิ่งของท่ีเราพจิ ารณาอยู่ท่ีใด และเพ่ือความชัดเจนการบอกตำแหนง่ ของ วัตถุจะต้องเทียบกับจุดอ้างองิ หรอื ตำแหนง่ อ้างอิง (reference point) ระยะทาง คอื ระยะทง้ั หมดท่ีวดั ไดต้ ามแนวการเคลือ่ นที่ ระยะทางจะระบุแต่ขนาดเพียงอย่างเดยี ว จงึ จดั วา่ เปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ หน่วยเปน็ เมตร (m) การกระจัด คือ ระยะทว่ี ัดไดใ้ นแนวเสน้ ตรงจากตำแหนง่ เริม่ ตน้ ไปยังตำแหนง่ สดุ ทา้ ย ซงึ่ เป็นปรมิ าณ เวกเตอรท์ ีต่ อ้ งระบทุ ั้งขนาดและทศิ ทาง มีหนว่ ยเป็นเมตร (m) 2. ถา้ เหวีย่ งกอ้ นหนิ ไปเป็นรูปวงกลมรศั มี 3.0 เมตร ก้อนหินจะเคลือ่ นที่ไดร้ ะยะทางและการกระจัดเท่าไร วิธีทำ ก้อนหนิ เคล่ือนท่ีไดร้ ะยะทาง = เส้นรอบวง = 2r = 2 (3.0) = 18.8 การกระจัด = 0 (จุดเริ่มต้นกับจดุ สุดทา้ ยอยู่จุดเดียวกัน) ดงั นั้น ระยะทางเท่ากบั 18.8 เมตร และการกระจัดเทา่ กับ 0 3. เด็กชายคนหน่ึงเดินทางไปทางทศิ ตะวนั ออก 150 เมตร แล้วเดินกลบั ทางเดมิ 30 เมตร ไปทางทิศตะวนั ตก จงหา การกระจัดของเดก็ คนนี้ วิธีทำ กำหนดใหท้ ิศทางตะวันออกมีคา่ เปน็ บวก และทิศทางตะวนั ตกมีคา่ เปน็ ลบ การกระจัดที่เด็กเดนิ ได้ = 150 + (-30) = 120 เมตร ดงั นน้ั การกระจดั ของเดก็ ชายเป็น 120 เมตร ไปทางทิศตะวันออก 4. โยนกอ้ นหินขน้ึ ไปจากยอดตึกสงู 100 เมตร กอ้ นหินเคลื่อนทีไ่ ปได้สูงสดุ 50 เมตร จึงตกกลบั ลงมายังพืน้ ดนิ จงหาวา่ ก้อนหินเคลื่อนท่ีได้ระยะทางและการกระจัดทัง้ หมดเทา่ ไร วิธีทำ ระยะทางทีก่ ้อนหนิ เคลือ่ นที่ = 50 + 50 + 100 = 200 กำหนดให้ ทิศทางข้ึนจากพืน้ ดินมีคา่ เป็นบวก และทิศทางลงสู่พน้ื ดินมคี า่ เป็นลบ การกระจัด = 50 + (-50) + (-100) = 100 เมตร มีทศิ จาก A ไป C ดังน้ัน กอ้ นหินเคลอื่ นท่ไี ด้ระยะทาง 200 เมตร และการกระจดั 100 เมตรทิศจาก A ไป C จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 76 ใบงานที่ 2.2 เรื่อง อตั ราเรว็ และความเรว็ คำชแี้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. ความหมายของความเรว็ ความเรว็ เฉลีย่ และความเรว็ ขณะใดขณะหนง่ึ 2. ลงิ กำลังปนี ข้ึนตน้ มะพรา้ ว ถา้ ในทุก ๆ 30 วินาที สามารถปีนข้นึ ไปได้สงู 10 เมตร แตจ่ ะล่ืนไถลลงมาอกี 1 เมตร เสมอ จงหาระยะทาง การกระจัด อตั ราเร็วเฉล่ยี และความเรว็ เฉล่ีย 3. ชายคนหนึ่งว่ิงออกกำลังกายดว้ ยอัตราเร็วคงตวั 5 เมตรต่อวินาที เมื่อว่งิ ได้ระยะทาง 100 เมตร เขารสู้ ึกเหนื่อย จึงเปล่ียนมาเป็นเดินด้วยอัตราเร็วคงตัว 1 เมตรต่อวินาที ในระยะทาง 100 เมตรต่อมา อัตราเร็วเฉล่ียในการ เคลอ่ื นท่ขี องชายคนนีม้ คี ่าเท่าใด จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 77 ใบงานที่ 2.2 เฉลย เร่อื ง อัตราเร็วและความเรว็ คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จงอธิบายความหมายของความเรว็ ความเร็วเฉลย่ี และความเร็วขณะใดขณะหนึง่ ความเร็ว คอื การเปล่ียนแปลงการกระจดั หรือการเปลยี่ นตำแหน่งท่เี กิดข้นึ ในหนึ่งหน่วยเวลา เปน็ ปริมาณ เวกเตอร์ มหี น่วยเปน็ เมตรต่อวนิ าที (m/s) ความเร็วเฉล่ยี คอื กระจัดของการเคลอ่ื นท่ีทั้งหมดต่อชว่ งเวลาท่ีใช้ในการเคลื่อนที่ ความเรว็ ขณะใดขณะหนึง่ คอื ความเรว็ ของวตั ถขุ ณะผา่ นจดุ ใดจุดหนงึ่ หรือทเี่ วลาใดเวลาหน่ึง 2. ลิงกำลังปีนขน้ึ ต้นมะพรา้ ว ถ้าในทุก ๆ 30 วินาที สามารถปนี ขึ้นไปได้สูง 10 เมตร แต่จะลนื่ ไถลลงมาอกี 1 เมตร เสมอ จงหาระยะทาง การกระจดั อัตราเรว็ เฉลีย่ และความเรว็ เฉลยี่ วธิ ีทำ ระยะทาง = 10 + 1 = 11 เมตร การกระจัด = 10 + (-1) = 9 เมตร ระยะทาง อัตราเรว็ เฉลยี่ = เวลา = 11 = 0.37 เมตรต่อวนิ าที 30 = 18.84 การกระจดั ความเร็วเฉล่ยี = เวลา = 9 = 0.3 เมตรต่อวินาที 30 ดงั นนั้ ระยะทาง การกระจดั อตั ราเร็วเฉล่ีย และความเรว็ เฉลย่ี เท่ากับ 11 เมตร 9 เมตร 0.37 เมตรตอ่ วินาที 0.3 เมตรต่อวินาที ตามลำดับ 3. ชายคนหน่ึงวิ่งออกกำลังกายด้วยอัตราเร็วคงตัว 5 เมตรต่อวินาที เม่ือวิง่ ได้ระยะทาง 100 เมตร เขารสู้ ึกเหน่ือย จึงเปลี่ยนมาเป็นเดินด้วยอัตราเร็วคงตัว 1 เมตรต่อวินาที ในระยะทาง 100 เมตรต่อมา อัตราเร็วเฉล่ียในการ เคล่ือนที่ของชายคนน้มี ีค่าเท่าใด ระยะทาง อัตราเรว็ วธิ ที ำ เวลาที่ชายคนนใ้ี ช้ในการเคลอื่ นท่ีในแต่ละช่วง = เวลาที่ใช้ในระยะ 100 เมตรแรก = 100 = 20 วินาที 5 เวลาท่ีใชใ้ นระยะ 100 เมตรต่อมา = 100 = 100 วินาที 1 เวลาทง้ั หมดที่ใช้ในการเคล่อื นที่ = 20 + 100 = 120 วนิ าที ระยะทาง อัตราเรว็ เฉลีย่ = เวลา = 100+100 = 1.67 เมตรต่อวนิ าที 120 ดังน้ัน อัตราเรว็ เฉล่ยี ของชายคนนเ้ี ป็น 1.67 เมตรตอ่ วนิ าที จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 78 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1/2564 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การเคล่อื นทใ่ี นแนวตรง เรื่อง เคร่อื งเคาะสญั ญาณเวลา จำนวนเวลาทีส่ อน 2 ช่ัวโมง ครูผู้สอน นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (ความเข้าใจทีค่ งทน) เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา เป็นอุปกรณ์ที่ใช้หาอัตราเร็วของวัตถุในช่วงเวลาสั้น ๆ เม่ือต่อเครื่องเคาะ สัญญาณเวลาเข้ากับความต่างศักย์ไฟฟ้า 4-6 โวลต์ของหม้อแปลงโวลต์ต่ำ จะทำให้คันเคาะส่ันด้วยความถ่ีของ ไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้ คือ 50 คร้ังต่อวินาที เม่ือดึงแถบกระดาษท่ีสอดใต้กระดาษคารบ์ อน จะทำให้เกิดจุดต่าง ๆ เรยี งกันบนแถบกระดาษ จุดเหล่าน้ีช่วยใหท้ ราบระยะทางและเวลาท่ีใช้ในการเคลอื่ นท่ี เพราะเวลาระหวา่ งจุด 2 จดุ ท่เี รยี งกันเท่ากับ 1/50 วนิ าที ขอ้ มูลเวลาและระยะทางช่วยให้วิเคราะห์หาอัตราเร็วได้ 2. ผลการเรยี นรู้ 3) ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเรง่ ของการเคล่อื นที่ ของวัตถุในแนวตรงท่ีมีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมท้ังทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วงของโลก และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เก่ียวข้องได้ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธิบายเก่ยี วกบั เครื่องเคาะสัญญาณและข้อมูลที่ได้จากเคร่อื งเคาะสัญญาณเวลาได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) มีทกั ษะการใช้เครอ่ื งเคาะสัญญาณเวลาเบื้องต้น 3) มที กั ษะการทดลอง สามารถสรปุ และอภปิ รายผลการทดลองได้ 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 4) ทำงานรว่ มกับผูอ้ นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคิดเห็นของผอู้ ่ืนได้ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 เนอื้ หาสาระหลกั : Knowledge (ผู้เรียนตอ้ งรอู้ ะไร) - ปรมิ าณทเ่ี กี่ยวกับการเคล่อื นท่ี ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจดั ความเรว็ และความเร่ง โดยความเร็ว และความเร่งมีทั้งค่าเฉลี่ยและค่าขณะหน่ึงซ่ึงคิดในช่วงเวลาส้ัน ๆ สำหรับปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ เคลอื่ นทแ่ี นวตรงดว้ ยความเรง่ คงตัวมีความสมั พันธ์ตามสมการ v = u + at u+v ∆x = ( 2 ) t จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 79 ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x 4.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (ผเู้ รยี นสามารถปฏิบตั อิ ะไรได้) - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการสื่อสาร - ทักษะการทำงานร่วมกนั - ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้ 4.3 คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude (ผเู้ รียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบา้ ง) - มีวินยั - ใฝ่เรียนรู้ - ม่งุ มั่นในการทำงาน - มคี วามซือ่ สตั ย์ - อยู่อย่างพอเพียง 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการวิเคราะห์ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 2) ทักษะการสงั เกต 4. มีความซ่อื สตั ย์ 3) ทกั ษะการสอ่ื สาร 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 4) ทกั ษะการทำงานร่วมกนั 5) ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงที่ 1 ขน้ั นำ กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิม เก่ียวกับปริมาณต่าง ๆ ซ่ึงเกี่ยวข้องกับการเคล่ือนที่ ได้แก่ ระยะทาง การกระจัด อตั ราเรว็ เฉลี่ย อตั ราเรว็ ขณะหนง่ึ ความเร็วเฉล่ยี ความเรว็ ขณะหน่ึง จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 80 • เม่ือวัตถุเคล่ือนที่จากท่ีหน่ึงไปยังท่ีใด ๆ ระยะตามเส้นทางการเคล่ือนท่ี คือ ระยะทาง ซึ่งเป็นปริมาณส เกลาร์ • เม่ือวัตถุทีเปล่ียนตำแหน่งจากตำแหน่งหน่ึงไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง ระยะทางตามแนวเส้นตรง จากตำแหน่งเดิมไปยังตำแหนง่ ใหม่ เรยี กวา่ การกระจัด ซ่งึ เป็นปริมาณเวกเตอร์ • อัตราเร็วเฉลี่ย เป็นอัตราส่วนระหว่างระยะทางท่ีวัตถุเคล่ือนที่ไปได้กับช่วงเวลาที่ใช้ในการ เคลอ่ื นที่และเป็นปริมาณสเกลาร์ • อตั ราเรว็ ขณะหนง่ึ เป็นอัตราเร็วเฉลยี่ ในชว่ งใดช่วงหนึ่งของการเคลอ่ื นท่ี • ความเร็วเฉล่ีย เป็นอัตราส่วนระหว่างการกระจัดของวัตถุกับช่วงเวลาของการกระจัดนั้น และ เป็นปริมาณเวกเตอร์ • ความเรว็ ขณะหนง่ึ เป็นความเร็วเฉลย่ี ในช่วงเวลาสัน้ มาก ๆ และเปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ 2. ครูเชื่อมโยงเนื้อหาโดยนักเรียนร่วมกันตอบคำถาม Prior knowledge จากหนังสือเรียน หน้า 43 ว่า นักเรียนสามารถเห็นความเร็วของวัตถุที่เคล่ือนที่ในแนวตรงได้อย่างไร โดยให้นักเรยี นร่วมกันหาคำตอบ อย่างอิสระ (แนวตอบ : ใชเ้ คร่อื งเคาะสัญญาณเวลาช่วยในการพิจารณา) 3. ครูอาจเสริมนักเรยี นว่า เครอ่ื งเคาะสญั ญาณเวลา เป็นอุปกรณท์ ใ่ี ชว้ ัดความเร็วของวตั ถุ หรือใช้หาอตั ราเร็ว ของวัตถทุ ่ีเคลื่อนท่ีในช่วงเวลานั้น ๆ เนื่องจากสามารถบนั ทกึ ตำแหน่งเวลา และตำแหนง่ วัตถุท่ีสมั พันธก์ ัน ได้ 4. ครูถามคำถามกับนักเรียนว่า เครื่องเคาะสัญญาณเวลามีการทำงานอย่างไร โดยให้คำแนะนำเก่ียวกับการ ทำงานของเครื่องเคาะสัญญาณเวลา ตามรายละเอียดในหนังสือเรียนหน้า 43 5. ครูและนักเรียนช่วยกันอภิปรายคำตอบ เพื่อเช่ือมโยงไปสู่การเรียนในเร่ือง การวิเคราะห์จุดบนแถบ กระดาษเคาะสญั ญาณเวลา ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนพิจารณาลักษณะจุดบนแถบกระดาษเคาะสัญญาณเวลาในหนังสือเรียน หน้า 44 แล้วถาม คำถามว่า จุดท่ีปรากฏบนแถบกระดาษจากเคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา สามารถบอกลักษณะการเคล่อื นทไี่ ด้ อย่างไร (แนวตอบ : ถา้ ระยะห่างระหว่างจุดเพ่ิมข้ึนเร่ือย ๆ แสดงว่าแถบกระดาษเคลื่อนที่ด้วยความเรง่ ถ้า ระยะหา่ งระหว่างจุดคงท่ี แสดงวา่ แถบกระดาษเคลื่อนทดี่ ว้ ยความเร็วคงที่ ไม่มีความเร่ง และถา้ ระยะห่าง ระหวา่ งจุดลดลงเร่อื ย ๆ แสดงว่าแถบกระดาษเคลอ่ื นทด่ี ว้ ยความเรว็ ลดลง มคี วามหน่วง) 2. ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ โดยเน้นวา่ จุด 2 จดุ ท่ถี ัดกนั จะมรี ะยะเวลาห่างกนั เท่า ๆ กนั เทา่ กับ 1 วินาที 50 3. ครูให้นักเรยี นศกึ ษาตวั อย่างที่ 2.7 และกรอบ Physics Focus เร่ือง การหาความเรว็ จากจากเคร่ืองเคาะ สญั ญาณเวลา ในหนังสือเรียนหน้า 45 4. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน ให้แต่ละกลุ่มศึกษา อภิปราย และคำนวณเก่ียวอัตราเร็ว เฉล่ยี และอตั ราเร็วขณะใดขณะหนงึ่ 5. ให้ผู้แทนแต่ละกลุ่มออกมาสรุปความรู้เก่ียวกับการคำนวณวิธีการหาค่าอัตราเร็วเฉลี่ย จากนั้นครูและ นักเรียนร่วมกันสรุปแต่ละข้ันตอนของการคำนวณ เพ่ือให้นักเรียนสามารถสรุปสาระสำคัญลงในสมุดจด บนั ทึก จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 81 6. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 2 ข้อ 20. ในหนังสือเรียนหน้า 82 เพ่ือเป็นการ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิม ทำกิจกรรม เร่ือง การวัดอัตราเร็วโดยใช้เครื่องเคาะสัญญาณเวลา จากหนังสือ เรียนหน้า 46 เพื่อหาอัตราเร็วเฉล่ีย และอัตราเร็วขณะหนึ่ง พร้อมให้ข้อแนะนำก่อนการทำกิจกรรม กับนักเรียน 2. ครูอธิบายวิธีใช้เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา พร้อมท้ังอธิบายการทำงานว่าเครื่องเคาะสัญญาณเวลาจะเคาะ 50 ครั้ง ในเวลา 1 วินาที กล่าวคือถ้าดึงแถบกระดาษผ่านเคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา คันเคาะจะเคาะบน กระดาษคาร์บอนท่ีอยบู่ นแถบกระดาษ ทำให้เกดิ จุดบนแถบกระดาษ 50 จุด ในเวลา 1 วนิ าที หรอื เวลาที่ ใช้จากจุดหน่ึงไปยังอกี จุดหนงึ่ ทอี่ ยู่ถดั กนั จะเท่ากับ 1 วินาที 50 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการทดลองหาอัตราเร็วเฉล่ีย และอัตราเร็วขณะหนึ่ง โดยใช้เคร่ืองเคาะ สัญญาณเวลา (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตการณท์ ำงานกลมุ่ ) 4. นกั เรยี นจัดเตรยี มอปุ กรณแ์ ละทำการทดลองตามวิธีทำการทดลอง 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั วิเคราะห์ อธิบายผล และสรุปผลการทดลอง แล้วนำผลการทดลองมานำเสนอ หน้าชนั้ เรียน โดยครูช่วยอธิบายเพ่ิมเตมิ เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ ทีถ่ ูกตอ้ ง ขน้ั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูใหค้ วามรู้เพิ่มเติม โดยการอธบิ ายเกยี่ วกบั ความเรว็ เฉลีย่ และอตั ราเร็วเฉล่ยี 2. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามจากกิจกรรมการทดลอง ว่ามสี ว่ นไหนท่ยี งั ไมเ่ ขา้ ใจและใหค้ วามร้เู พิม่ เติม ในสว่ นนัน้ โดยทค่ี รูอาจจะใช้ PowerPoint เร่ือง เคร่ืองเคาะสัญญาณเวลา ช่วยในการอธบิ าย 3. ครูใหน้ กั เรียนทำใบงานที่ 2.3 เรอื่ ง เครื่องเคาะสญั ญาณเวลา 4. ครใู ห้นกั เรยี นทำ Unit Question 2 สง่ เป็นการบา้ นในช่วั โมงถัดไป ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำผลงาน และจากการนำเสนอผลงาน 2. ครูวดั และประเมินการปฏิบตั ิการ จากการทำใบงานที่ 2.3 เร่ือง เครื่องเคาะสัญญาณเวลา 3. ครตู รวจสอบผลการทำกิจกรรม เร่ือง การวดั อัตราเร็วโดยใชเ้ คร่ืองเคาะสัญญาณเวลา จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 82 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ - ใบงานที่ 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7.1 การประเมนิ ระหว่าง การจดั กิจกรรม 1) เครอ่ื งเคาะ - ตรวจใบงานที่ 2.3 สัญญาณเวลา 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - ผลงานท่นี ำเสนอ ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุม่ 4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2 ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ อันพึงประสงค์ 5) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่น ผ่านเกณฑ์ ในการทำงาน 8. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การเคลือ่ นที่ในแนวตรง 2) ใบงานท่ี 2.3 เร่ือง เครื่องเคาะสญั ญาณเวลา 3) ชุดการทดลองเครอ่ื งเคาะสัญญาณเวลา 4) PowerPoint เร่ือง เครื่องเคาะสญั ญาณเวลา 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องเรยี น 2) หอ้ งสมดุ 3) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ เชน่ การเคลอื่ นที่หนงึ่ มติ ิ http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/73/one-dimension-motion.htm สืบคน้ วันท่ี 20 มกราคม 2561 จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 83 9. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรียน : ความหลากหลายทางชีวภาพ หลกั ปรชั ญา ครู ผูเ้ รยี น ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยีมาผลติ สอื่ ท่ี มีจิตสำนึกทด่ี ี จติ สาธารณะร่วม 2. ความมีเหตุผล อนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนอ้ื หาเปน็ สงิ่ แวดล้อม 3. มีภูมคิ มุ กันในตวั ท่ีดี ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี นและพฒั นาจากภมู ิ 4. เงือ่ นไขความรู้ ปัญญาของผเู้ รียน ไม่หยดุ นง่ิ ทีห่ าหนทางในชวี ติ หลุดพน้ - ยึดถอื การประกอบอาชพี ดว้ ยความ จากความทุกข์ยาก (การค้นหาคำตอบ ถูกตอ้ ง สุจริต เพ่ือใหห้ ลดุ พน้ จากความไม่ร)ู้ ภมู ิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ ภมู ิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ รบั ผิดชอบ ระมัดระวงั สร้างสรรค์ ระมัดระวงั ความรอบรู้ เร่อื ง เครอ่ื งเคาะ ความรอบรู้ เร่ือง เครอื่ งเคาะ สัญญาณเวลา สามารถนำความรู้ สญั ญาณเวลา ท่เี กย่ี วข้องรอบด้าน เหลา่ น้นั มาพิจารณาให้เกดิ ความ นำความรู้มาเชอื่ มโยงประกอบการ เชื่อมโยง สามารถประยุกต์ วางแผน การดำเนินการจัดกจิ กรรม ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ การเรียนรู้ใหก้ บั ผ้เู รียน 5. เง่ือนไขคุณธรรม มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม ซอ่ื สัตย์สจุ รติ และมีความอดทน มี ความซื่อสตั ย์สุจริตและมีความอดทน ความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนนิ ชวี ติ มีความเพียร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ผ้เู รยี น ดำเนินชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชวี ภาพ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ในโรงเรียน (ตามจุดที่ไดร้ บั มอบหมาย) ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ผเู้ รียน ความหลากหลายทางชีวภาพ - ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง - สืบคน้ ขอ้ มูลการอนุรักษ์ความ หลากหลายทางชีวภาพ (ตามหัวขอ้ ท่ี ชวี ภาพในโรงเรยี น (กำหนดจดุ ให้ ได้มอบหมาย) ผเู้ รียนสำรวจ) สิ่งแวดล้อม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนุรกั ษค์ วามหลากหลาย - การอนุรักษค์ วามหลากหลายทาง ทางชวี ภาพ ชีวภาพ (กำหนดหวั ขอ้ ให้ผูเ้ รยี น สืบคน้ ) จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 84 10. ความเห็น/ขอ้ เสนอแนะ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย 10.1 หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นางสาวณัฐธนัญา บุญถงึ ) ………./……………./…………. 10.2 รองผู้อำนวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 85 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน  ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์  ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงช่อื .........................................................ผู้สอน (นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา) ตำแหน่ง ครู จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 86 ใบงานที่ 2.3 เรื่อง เครื่องเคาะสัญญาณเวลา คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี 1. ระยะห่างระหว่างจุดบนแถบกระดาษต่างกันอย่างไร เมื่อวัตถุดงึ แถบกระดาษชา้ ๆ กับเมือ่ วัตถุดึงแถบกระดาษเรว็ ๆ 2. ระยะหา่ งระหวา่ งจดุ บนแถบกระดาษตา่ งกันอย่างไร เมอื่ เปรียบเทยี บการดงึ แถบกระดาษด้วยอตั ราเรว็ สม่ำเสมอ กบั อตั ราเรว็ ไมส่ ม่ำเสมอ 3. เวลาท่ีวตั ถใุ ช้เคลื่อนที่ทำให้ปรากฏจุดแตล่ ะชว่ งจุดเท่ากันหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 4. จากรปู แสดงแถบกระดาษท่ไี ดจ้ ากการทดลองดึงผ่านเครื่องเคาะสัญญาณเวลาเคาะ 50 ครง้ั ตอ่ 1 วนิ าที จงหา ความเรว็ เฉลี่ยของแถบกระดาษในชว่ ง AD และช่วง จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 87 ใบงานท่ี 2.3 เฉลย เรอื่ ง เครอื่ งเคาะสัญญาณเวลา คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. การดงึ แถบกระดาษช้า ๆ กับการดงึ แถบกระดาษเร็ว ๆ ระยะห่างระหว่างจุดบนแถบกระดาษต่างกันอย่างไร ถา้ ดึงแถบกระดาษช้า ๆ จุดทปี่ รากฏบนแถบกระดาษจะอยชู่ ิด ๆ กัน แตถ่ ้าดึงแถบกระดาษเร็ว ๆ จดุ ที่ ปรากฏบนแถบกระดาษจะอย่หู า่ ง ๆ กัน 2. เมอ่ื เปรยี บเทียบการดึงแถบกระดาษดว้ ยอตั ราเร็วสม่ำเสมอ กับอตั ราเรว็ ไมส่ ม่ำเสมอ ระยะหา่ งระหว่างจดุ บน แถบกระดาษตา่ งกันอยา่ งไร ถ้าดงึ แถบกระดาษดว้ ยอตั ราเร็วสม่ำเสมอ จดุ ทีป่ รากฏบนแถบกระดาษหา่ งจากกันเทา่ กัน แตถ่ า้ ดงึ แถบ กระดาษดว้ ยอตั ราเร็วไม่สม่ำเสมอ จุดท่ีปรากฏบนแถบกระดาษหา่ งจากกันไมเ่ ท่ากนั 3. เวลาท่วี ัตถุใช้เคล่อื นที่ทำให้ปรากฏจดุ แต่ละช่วงจุดเท่ากนั หรือไม่ เพราะเหตใุ ด เวลาท่ีวตั ถุใช้เคลอ่ื นที่ทาให้ปรากฏจุดแตล่ ะชว่ งจุดเทา่ กัน เพราะเครอ่ื งเคาะสญั ญาณเวลาเคาะด้วยความถี่ 50 ครัง้ ใน 1 วินาที น่ันคอื แต่ละช่วงจุดใชเ้ วลา 1/50 วนิ าที 4. จากรปู แสดงแถบกระดาษท่ีได้จากการทดลองดงึ ผ่านเคร่ืองเคาะสัญญาณเวลาเคาะ 50 ครั้ง ตอ่ 1 วนิ าที จงหา ความเรว็ เฉลี่ยของแถบกระดาษในชว่ ง AD และช่วง BC วิธีทำ อัตราเร็วเฉลยี่ ในชว่ ง AD = ระยะทาง เวลา = 8.2×10−2 10/50 = 0.41 m/s ระยะทาง อัตราเรว็ เฉล่ยี ในชว่ ง BC = เวลา = 3.6×10−2 3/50 = 0.6 m/s ดงั นั้น อัตราเรว็ เฉล่ียในช่วง AD มคี ่า 0.41 เมตรตอ่ วินาที และอตั ราเรว็ เฉล่ียในชว่ ง BC มีค่า 0.6 เมตรต่อวินาที จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 88 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1/2564 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 1 (ว31201) หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การเคลอื่ นทใี่ นแนวตรง เรื่อง ความเรง่ จำนวนเวลาท่ีสอน 3 ชวั่ โมง ครูผสู้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (ความเขา้ ใจท่คี งทน) การเคลื่อนที่ของวัตถุใด ๆ มีการเคลื่อนที่เร็วขึ้นหรือช้าลง และบางครั้งมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางการ เคลอื่ นท่ี การเคล่ือนทที่ มี่ ีขนาดหรือทศิ ทางของความเร็วเปลีย่ นแปลงไป เรยี กว่า การเคลื่อนที่แบบมคี วามเรง่ ความเร่ง เป็นความเร็วที่เปลีย่ นไปในหนึ่งหน่วยเวลา หรืออัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็ว ซึ่งเป็นปริมาณ เวกเตอร์ แต่ถา้ ถ้าหากพิจารณาเฉพาะขนาดของความเรง่ โดยไมค่ ำนึงถึงทศิ ทางของการเคลือ่ นทีแ่ ลว้ จะเรยี กว่า อัตราเร่ง ซ่ึงเปน็ ปริมาณสเกลาร์ ความเร่งเฉลี่ย เป็นอัตราส่วนระหว่างความเร็วที่เปลี่ยนไปทั้งหมด กับช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ความเร็วนนั้ 2. ผลการเรยี นรู้ 3. ทดลองและอธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างตำแหนง่ การกระจดั ความเร็ว และความเรง่ ของการเคล่ือนที่ ของวตั ถใุ นแนวตรงทม่ี ีความเรง่ คงตวั จากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่งโนม้ ถ่วงของโลก และ คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้องได้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธบิ ายเก่ียวกบั ความเรง่ ได้ 3.2 ด้านทกั ษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) มีทกั ษะการคำนวณหาความเรง่ และปรมิ าณทเี่ กย่ี วข้องกับการเคล่ือนทไี่ ด้ 3.3 ดา้ นเจตคติ (Attitude) 3) ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ อย่างสรา้ งสรรค์ ยอมรบั ความคิดเหน็ ของผู้อนื่ ได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge (ผู้เรยี นตอ้ งรู้อะไร) - ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง โดยความเรว็ และความเร่งมีทั้งค่าเฉลี่ยและค่าขณะหนึ่งซึ่งคิดในช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ เคลอ่ื นทแ่ี นวตรงด้วยความเรง่ คงตัวมคี วามสัมพนั ธ์ตามสมการ v = u + at u+v ∆x = ( 2 ) t จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 89 ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x - การอธิบายการเคลือ่ นที่ของวัตถุสามารถเขยี นอยใู่ นรปู กราฟตำแหน่งกบั เวลา กราฟความเร็วกบั เวลา หรอื กราฟความเร่งกบั เวลา ความชันของเส้นกราฟตำแหนง่ กบั เวลาเป็นความเร็ว ความชนั ของ - การอธิบายการเคล่ือนทข่ี องวัตถุสามารถเขยี นอยู่ในรูปกราฟตำแหน่งกับเวลา กราฟความเรว็ กับเวลา หรือกราฟความเรง่ กบั เวลา ความชนั ของเส้นกราฟตำแหน่งกบั เวลาเป็นความเรว็ ความชนั ของเส้นกราฟความเร็วกบั เวลาเปน็ ความเรง่ และพืน้ ที่ใตเ้ สน้ กราฟความเรว็ กับเวลาเปน็ การกระจดั ในกรณีทีผ่ ู้สังเกตมีความเร็ว ความเร็วของวัตถุ ท่สี ังเกตได้เป็นความเร็วที่เทยี บกับผสู้ งั เกต 4.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (ผ้เู รียนสามารถปฏิบัติอะไรได้) - ทักษะการคดิ วิเคราะห์ - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการส่อื สาร - ทักษะการทำงานร่วมกัน - ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ 4.3 คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude (ผเู้ รยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรยี นอะไรบ้าง) - มีวินยั - ใฝเ่ รียนรู้ - มุ่งมัน่ ในการทำงาน - อยู่อย่างพอเพียง 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสังเกต 4. มคี วามซื่อสัตย์ 3) ทักษะการสื่อสาร 4) ทักษะการทำงานร่วมกนั 5) ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 90 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรูเ้ ดิม เกี่ยวกับ เรื่อง ระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว และความเร็ว เพื่อเชื่อมโยงความคิดนักเรยี นสู่เนื้อหาโดยให้นักเรียนร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับ การเคลื่อนที่ว่ามีปริมาณ ใดบ้าง ที่เป็นปริมาณสเกลาร์และปริมาณเวกเตอร์ (ทิ้งช่วงให้นักเรียนคิด) เพื่อเปน็ ความรู้พืน้ ฐานนำไปสู่ การศกึ ษา เร่ือง ความเร่ง 2. ครสู นทนากบั นกั เรียนถึงเรื่องการเคลื่อนทตี่ า่ ง ๆ โดยซกั ถามนกั เรียนในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี • การที่รถยนตแ์ ล่นใชค้ วามเร็วเทา่ กนั หรอื ไม่ • การขีร่ ถจกั รยานของนักเรียนใช้ความเร็วเท่ากนั หรือไม่ 3. ครถู ามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรยี นหน้า 47 ว่า “นกั เรียนรไู้ ด้อย่างไรวา่ วตั ถุเคลือ่ นที่แบบ มคี วามเร่ง” เพ่อื เปน็ การกระต้นุ ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั คดิ (แนวตอบ : ความเรว็ ของวตั ถุการเปลย่ี นแปลงไป ซ่งึ ความเร่งอาจมคี า่ เป็นบวกหรือลบกไ็ ด้) 4. นกั เรยี นช่วยกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ คำตอบจากคำถาม 5. ครอู าจจะยกตัวอย่างการเคลอ่ื นท่ีทมี่ ีความเรง่ แลว้ อธิบายวา่ การเคลอื่ นท่นี ัน้ เปน็ อยา่ งไร อะไรบ่งบอกว่า การเคลื่อนที่นั้น ๆ มีความเร่ง เช่น นักวิ่งเพิ่มความเร็วในการวิง่ เพ่ือแซงคู่แข่งขัน ซึ่งทำให้เกิดความเรง่ เปน็ ตน้ ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้ความรู้เกีย่ วกบั ความหมายของความเรง่ เพอ่ื ให้นกั เรยี นเข้าใจมากขน้ึ ว่า ในการเคลอื่ นที่ของวัตถุ บาง ช่วงเวลาขนาดของความเรว็ และทิศทางการเคลื่อนท่ขี องวตั ถไุ มเ่ ปล่ียนแปลง ซ่ึงกลา่ วได้ว่าวัตถุมีความเรว็ คงตวั แต่ถา้ ขนาดของความเรว็ เปล่ยี น หรือทิศการเคลอ่ื นที่เปลยี่ น หรอื เปล่ียนทง้ั ขนาดของความเร็ว และ ทศิ การเคล่อื นท่ี เราเรยี กวา่ วัตถุมี “ความเร่ง” เช่น รถทเี่ ล้ยี วโคง้ ด้วยขนาดของความเรว็ คงตวั ก็ถือว่ารถมี ความเร่ง เพราะทศิ การเคลือ่ นท่ขี องรถเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา 2. ครนู ำเสนอวธิ กี ารคำนวณหาค่าความเร่งจากสมการความเรง่ (ในหนังสือเรียน หน้า 47) ในความหมาย ของอัตราส่วนระหว่างความเร็วทเี่ ปล่ยี นไปกับช่วงเวลาหนงึ่ 3. ครใู ห้ความร้เู กี่ยวกับการเขยี นกราฟความสมั พันธข์ องความเร็วกบั เวลาของการเคล่อื นท่ขี องวัตถุแนวตรง พรอ้ มทงั้ ร่วมอภปิ รายกับนักเรยี นให้ไดข้ ้อสรปุ ดงั น้ี • ถา้ ความเรว็ คงท่ี ลักษณะของกราฟระหว่างความเร็วกับเวลาเป็นเสน้ ตรงขนานกับแกนเวลา โดยมี ความชนั เป็นศนู ย์ • ถา้ วตั ถเุ คลื่อนที่ดว้ ยความเรว็ ที่เปล่ยี นแปลงสมำ่ เสมอ ลักษณะของกราฟระหว่างความเร็วกับเวลา เปน็ เส้นตรงมีความชันคา่ หนง่ึ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 91 4. ครูให้นกั เรียนพิจารณาความหมายของความเรง่ กับความหน่วง จากรายละเอียดในหนงั สือเรียนหน้า 48 โดยพิจารณาสถานการณ์การเกดิ ความเรง่ และความหน่วงของรถจักรยานยนต์ 5. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปราย สรุปได้วา่ รถจักรยานยนต์เคลือ่ นท่ีเป็นเส้นตรงมีการเคล่ือนที่ 2 แบบ คือ • แบบแรก รถจกั รยานยนต์มคี วามเรว็ เพมิ่ ข้นึ เรยี กว่า รถมคี วามเรง่ • แบบสอง รถจักรยานยนตม์ คี วามเรว็ ลดลง เรียกวา่ รถมีความหนว่ ง ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 6. ครถู ามนักเรียนว่าความเรง่ และความหนว่ งมีทิศทางอยา่ งไร 7. ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 – 5 คน แล้วช่วยกันเขยี นแผนภาพเวกเตอรแ์ สดงทิศทางการเปลยี่ นความเรว็ ลงในกระดาษ A4 (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตการณท์ ำงานกลมุ่ ) 8. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นำแผนภาพและคำตอบทีค่ ิดได้ มารว่ มกันอภิปรายภายในกลมุ่ ตรวจสอบและรวบรวม ข้อมูล และทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ตรงกนั 9. ครสู มุ่ ตัวแทนของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม เพอ่ื นำเสนอแผนภาพที่แตล่ ะกลุ่มได้ไปสรปุ เป็นแผนที่ความคิด 10. ครูสอบถามข้อสรุปของแต่ละกลุ่ม โดยครูตรวจสอบข้อมูลจากการนำเสนอเพื่อความถูกต้อง แล้วสรุป ดงั น้ี • ถ้า V2 มากกวา่ V1 แสดงว่าความเร่ง (a) เป็น + (V2 – V1 > 0) ซ่งึ หมายถงึ a มที ิศเดยี วกับทิศการ เคลื่อนท่ีของวัตถุซ่งึ มคี วามเรว็ เพิม่ ข้ึน • ถ้า V2 น้อยกว่า V1 แสดงว่าความเร่ง (a) เป็น – (V2 – V1 < 0) ซึ่งหมายถึง a มีทิศตรงข้ามกับทิศ การเคล่อื นที่ของวตั ถุ ในกรณนี ีว้ ัตถจุ ะเคลือ่ นท่ีชา้ ลง 11. จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน ศึกษาการหาความเร่งเฉลี่ยและความเร่งขณะหนึ่งของวัตถจุ าก เครอื่ งเคาะสญั ญาณเวลา จากหนังสือเรยี นหนา้ 49 12. ครูเชื่อมโยงการหาอัตราเร็วของแถบกระดาษจากเครื่องเคาะสัญญาณ ซึ่งหากดึงแถบกระดาษด้วย อัตราเร็วที่ต่างกันจะพบว่า บางครั้งกระดาษเคลื่อนที่ด้วยความเร็วท่ีสม่ำเสมอและไม่สม่ำเสมอ ลักษณะ ของการเคล่ือนที่ท่ีมีการเปล่ียนแปลงความเร็วและทิศทาง เรียกว่า การเคล่ือนท่ีแบบมีความเร่ง 13. ครูอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับวิธีการหาอัตราเร็วเฉลี่ยจากแถบกระดาษเครื่องเคาะสัญญาณเวลา รวมทัง้ การแปลความหมายจุดบนกระดาษ โดยการนำแถบกระดาษท่ีปรากฏจุดแตกต่างกนั มาให้นักเรียนสังเกต และร่วมกันสรปุ ผล จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 92 ช่ัวโมงท่ี 3 ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรยี นร่วมกันศึกษาโจทย์ตัวอยา่ งของวธิ ีการคำนวณความเร่งเฉลีย่ จากตวั อย่างที่ 2.8 ในหนังสอื เรยี นหน้า 50 โดยครูอธบิ ายเสรมิ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจมากข้นึ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่างที่ 2.9 และ 2.10 ในหนังสือเรียนหน้า 51-52 ตามขั้นตอนการแก้ โจทย์ปญั หา ดังน้ี • ขน้ั ท่ี 1 ครูให้นกั เรียนทุกคนทำความเข้าใจโจทยต์ ัวอยา่ ง • ขั้นท่ี 2 ครถู ามนักเรียนวา่ สง่ิ ท่ีโจทย์ต้องการถามหาคืออะไร และจะหาสงิ่ ที่โจทย์ต้องการ ต้องทำ อยา่ งไร • ข้นั ที่ 3 ครูใหน้ กั เรียนดูวิธีทำในการคำนวณหาคำตอบ • ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทย์ตัวอย่างว่าถกู ตอ้ ง หรอื ไม่ 3. นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกับวิธีการคำนวณความเร่ง เพือ่ ใหน้ ักเรยี นสรปุ สาระสำคญั ลงในสมุด จดบนั ทกึ ขน้ั สรุป ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูนำนกั เรียนอภิปรายและสรปุ เก่ยี วกับความเร่ง ดงั น้ี • ในชีวติ ประจำวนั ของนักเรียนได้เกย่ี วขอ้ งกับอตั ราเรว็ หรือความเรว็ ด้านใดบา้ ง • ความเร่งกบั ความหนว่ งแตกตา่ งกนั อย่างไร 2. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนสอบถามเนอื้ หาเรอื่ ง ความเรง่ วา่ มสี ว่ นไหนทีย่ งั ไมเ่ ข้าใจและใหค้ วามรเู้ พิ่มเติมใน ส่วนนั้น โดยทคี่ รอู าจจะใช้ PowerPoint เรอ่ื ง ความเรง่ ช่วยในการอธบิ าย 3. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันทำใบงานที่ 2.4 เรื่อง ความเร่ง 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 2 ข้อ 15–19 ในหนังสือเรียนหนา้ 81-82 เปน็ การบา้ น ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินการนำเสนอขอ้ มูลเกีย่ วกบั แผนภาพเวกเตอร์แสดงทิศทางการเปลย่ี นความเร็ว 2. ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรียน 3. ครตู รวจสอบผลจากใบงานที่ 2.4 เรอื่ ง ความเรง่ 4. ครตู รวจการทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 2 5. ครูประเมินผลงานจากแผนภาพเวกเตอร์ทีน่ กั เรยี นไดส้ รา้ งขึน้ จากขน้ั สำรวจค้นหา จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 93 7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ วี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ - ตรวจใบงานท่ี 2.4 - ใบงานที่ 2.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ รายการวดั 7.1 การประเมนิ ระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) ความเรง่ 2) แผนภาพเวกเตอร์ - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานทนี่ ำเสนอ ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน ผ่านเกณฑ์ - ผลงานท่นี ำเสนอ 3) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน ผลงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานรายบคุ คล 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 5) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ 6) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ 2 อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ัน คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน อนั พึงประสงค์ 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเพม่ิ เติม ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเคลอ่ื นท่ใี นแนวตรง 2) ใบงานท่ี 2.4 เรอื่ ง ความเรง่ 3) ชดุ การทดลองเครื่องเคาะสัญญาณเวลา 4) PowerPoint เรอ่ื ง ความเรง่ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) ห้องสมดุ 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 94 9. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรียน : ความหลากหลายทางชีวภาพ หลกั ปรัชญา ครู ผเู้ รยี น ของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ 2. ความมเี หตุผล รจู้ กั ใช้เทคโนโลยมี าผลติ สื่อที่ มจี ิตสำนึกทด่ี ี จติ สาธารณะร่วม 3. มภี มู ิคมุ กนั ในตัวท่ดี ี เหมาะสมและสอดคล้องเน้อื หาเปน็ อนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ 4. เง่ือนไขความรู้ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี นและพัฒนาจากภูมิ สง่ิ แวดล้อม ปัญญาของผเู้ รียน - ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความ ไม่หยุดนง่ิ ทีห่ าหนทางในชวี ิต หลุดพน้ ถูกตอ้ ง สุจรติ จากความทุกขย์ าก (การค้นหาคำตอบ เพ่ือใหห้ ลดุ พ้นจากความไม่ร)ู้ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั รับผิดชอบ ระมัดระวัง สรา้ งสรรค์ ความรอบรู้ เรอื่ ง ความเร่ง ที่ ความรอบรู้ เรอ่ื ง ความเร่ง เก่ยี วข้องรอบดา้ น นำความรู้มา สามารถนำความรเู้ หลา่ นน้ั มาพจิ ารณา เชือ่ มโยงประกอบการวางแผน การ ใหเ้ กิดความเชือ่ มโยง สามารถ ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ให้กับ ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ ผู้เรยี น 5. เง่ือนไขคุณธรรม มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มี มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มคี วาม ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ และมีความอดทน มี ความซื่อสตั ย์สุจริตและมีความอดทน ความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดำเนิน ชีวติ มีความเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ผเู้ รยี น ดำเนนิ ชวี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ครู ในโรงเรยี น (ตามจดุ ที่ไดร้ บั มอบหมาย) ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้เรียน ความหลากหลายทางชีวภาพ - ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง - สืบคน้ ข้อมูลการอนรุ ักษค์ วาม หลากหลายทางชีวภาพ (ตามหวั ข้อท่ี ชวี ภาพในโรงเรยี น (กำหนดจดุ ให้ ได้มอบหมาย) ผ้เู รยี นสำรวจ) สิง่ แวดล้อม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนรุ กั ษค์ วามหลากหลาย - การอนรุ กั ษค์ วามหลากหลายทาง ทางชวี ภาพ ชีวภาพ (กำหนดหัวขอ้ ให้ผูเ้ รียน สืบคน้ ) จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 95 10. ความเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ ของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ่ไี ดร้ ับมอบหมาย 10.1 หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………. (นางสาวณฐั ธนญั า บญุ ถึง) ………./……………./…………. 10.2 รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวชิ าการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………. (นายวิเศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผู้อำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ………./……………./…………. จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 96 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ .........................................................ผู้สอน (นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา) ตำแหนง่ ครู จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 97 ใบงานที่ 2.4 เรอ่ื ง ความเร่ง คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี กราฟระหวา่ งความเรว็ (⃑v) กับเวลา (t) ของวตั ถุท่ีเคล่อื นท่เี ป็นเสน้ ตรงดงั รูป จงหา 1. ระยะทางท่ีเคล่อื นทีท่ ั้งหมด 2. การกระจดั ทไ่ี ดท้ งั้ หมด (x⃑ ) 3. อตั ราเรว็ เฉล่ียของการเคล่ือนท่ีท้งั หมด (vav) 4. ความเร็วเฉลี่ยของการเคลอื่ นท่ีทั้งหมด (v⃑ av) 5. ความเรง่ ที่วินาทที ่ี 1 และ 7 (a⃑ 1, a⃑ 7) จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 98 ใบงานท่ี 2.4 เฉลย เรอื่ ง ความเร่ง คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี กราฟระหวา่ งความเรว็ (⃑v) กบั เวลา (t) ของวัตถุที่เคลอ่ื นทเ่ี ป็นเส้นตรงดังรูป จงหา 1. ระยะทางท่ีเคล่อื นที่ทั้งหมด ระยะทางทเ่ี คลือ่ นทีท่ งั้ หมด หาได้จากผลรวม ของขนาดการกระจดั ในแตล่ ะชว่ ง = พน้ื ท่ีใต้กราฟ พื้นที่ใตก้ ราฟ = x1 + x2 + x3 + x4 = (1⁄2 × 2 × 15) + (1⁄2 × 2 × 15) + (1⁄2 × (20 + 15) × 2) + (1⁄2 × 2 × 20) = 85 เมตร 2. การกระจดั ท่ไี ด้ท้งั หมด การกระจัด = พื้นทใ่ี ต้กราฟ = x1 + x2 + x3 + x4 = (-15) + 15 + 35 + 20 = 55 เมตร 3. อัตราเร็วเฉลย่ี ของการเคลื่อนที่ทัง้ หมด (vav) vav = ระยะทางทง้ั หมด = 85 = 10.6 เมตรต่อวนิ าที เวลาท้ังหมด 8 4. ความเรว็ เฉล่ยี ของการเคลือ่ นท่ีทั้งหมด (v⃑ av) v⃑ av = ระยะทางท้ังหมด = 55 = 6.9 เมตรตอ่ วินาที เวลาท้งั หมด 8 5. ความเร่งที่วนิ าทีที่ 1 และ 7 ( ∆⃑v ) ∆t ความเรง่ a⃑ = ความชันของกราฟ (v⃑ ) กับ (t) = ∆⃑v ∆t วนิ าทีที่ 1, a⃑ 1 = ∆v⃑ = (0−(−15) = 7.5 เมตรตอ่ วนิ าที2 ∆t (2−0) วินาทที ี่ 7, a⃑ 1 = ∆⃑v = (0−20) = -10 เมตรต่อวินาที2 ∆t (8−6) จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 99 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1/2564 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 1 (ว31201) หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 การเคลอ่ื นท่ีในแนวตรง เร่ือง กราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างปริมาณตา่ ง ๆ จำนวนเวลาที่สอน 3 ชั่วโมง ครูผูส้ อน นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (ความเข้าใจทีค่ งทน) กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง การกระจัด (Δx) ความเร็ว (v) ความเร่ง (a) และเวลา (t) เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย จะใชก้ ราฟเสน้ ตรงหาความสัมพันธ์ระหวา่ งสองปริมาณที่เป็นปฏิภาคกัน ส่วนกราฟเส้นโค้งใช้ดูการเปลี่ยนแปลง ไดแ้ ต่ไมส่ ามารถพสิ จู นค์ วามสัมพนั ธไ์ ด้ชัดเจน 2. ผลการเรยี นรู้ 3. ทดลองและอธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างตำแหน่ง การกระจดั ความเร็ว และความเรง่ ของการเคลื่อนท่ี ของวัตถุในแนวตรงทีม่ คี วามเรง่ คงตัวจากกราฟและสมการ รวมทัง้ ทดลองหาค่าความเรง่ โนม้ ถ่วงของโลก และ คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี กีย่ วข้องได้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1) อธบิ ายกราฟแสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งระยะทาง ความเร็ว กับเวลา สำหรับการเคลื่อนทใ่ี นแนวตรงได้ 3.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) มีทกั ษะการคำนวณหาระยะทาง ความเร็ว กับเวลา จากกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ได้ 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 3) ทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์ ยอมรบั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื ได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge (ผูเ้ รยี นตอ้ งรู้อะไร) - ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง โดยความเรว็ และความเร่งมีทั้งค่าเฉลี่ยและค่าขณะหนึ่งซึ่งคิดในช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ เคลอื่ นทีแ่ นวตรงด้วยความเร่งคงตวั มคี วามสัมพนั ธ์ตามสมการ v = u + at u+v ∆x = ( 2 ) t ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 100 - การอธบิ ายการเคล่อื นทขี่ องวตั ถุสามารถเขยี นอยู่ในรปู กราฟตำแหน่งกับเวลา กราฟความเร็วกับเวลา หรอื กราฟความเร่งกับเวลา ความชันของเส้นกราฟตำแหนง่ กับเวลาเปน็ ความเร็ว ความชันของเส้นกราฟความเร็วกบั เวลาเป็นความเร่ง และพ้ืนทใ่ี ตเ้ ส้นกราฟความเร็วกับเวลาเปน็ การกระจดั ในกรณที ผ่ี ู้สังเกตมีความเรว็ ความเร็วของวัตถุ ทส่ี ังเกตได้เปน็ ความเรว็ ที่เทยี บกับผู้สังเกต 4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process (ผู้เรียนสามารถปฏิบตั ิอะไรได)้ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการสอื่ สาร - ทักษะการทำงานร่วมกนั - ทักษะการนำความรูไ้ ปใช้ 4.3 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude (ผ้เู รียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง) - มีวนิ ยั - ใฝเ่ รยี นรู้ - มุง่ มนั่ ในการทำงาน - อยู่อย่างพอเพียง 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 3. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 2) ทักษะการสงั เกต 4. มคี วามซือ่ สตั ย์ 3) ทักษะการสอ่ื สาร 4) ทักษะการทำงานร่วมกนั 5) ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิม เกี่ยวกับ ระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว และ ความเร่ง เชื่อมโยงเนื้อหาโดยนักเรียนร่วมกันตอบคำถาม เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ระหว่างระยะทาง การ จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 101 กระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว และความเร่ง (ทิ้งช่วงให้นักเรียนคิด) เพื่อนำไปสู่การศึกษา เรื่องกราฟ ความสมั พันธร์ ะหว่างการกระจัด (Δx) ความเรว็ (v) ความเร่ง (a) และเวลา (t) 2. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า จะได้ศึกษาเรื่อง กราฟความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัด (Δx) ความเร็ว (v) ความเร่ง (a) และเวลา (t) 3. ครถู ามคำถาม Prior Knowledge วา่ “กราฟระยะทางกบั เวลาสามารถบง่ บอกถงึ ปรมิ าณใดได้” เพอื่ เป็น การกระตนุ้ ให้นักเรยี นรว่ มกันคดิ (แนวตอบ : จากกราฟความสมั พันธ์ระหว่างการกระจัดกับเวลาสามารถหาคา่ ความเร็ว (v) จากค่า ความชนั ของกราฟได้) 4. ครแู ละนักเรียนช่วยกนั อภิปรายและแสดงความคิดเหน็ คำตอบจากคำถาม 5. ครยู กตัวอยา่ งการเคลอ่ื นที่ของรถยนต์ในแต่ละวนิ าที (หนังสอื เรยี น หน้า 53) แล้วอธิบายว่าการเคล่ือนที่ ของวัตถุอธิบายได้ด้วยปริมาณต่าง ๆ ดังที่นักเรียนทราบมาแล้ว เช่น ระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว และความเร่ง ถ้านำปริมาณต่าง ๆ ในการเคลื่อนทีข่ องวตั ถุกบั เวลาที่วัตถุใช้ในการเคลื่อนที่มา เขียนเป็นกราฟ จะได้กราฟความสัมพันธ์ของปริมาณดังกล่าวในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้กราฟดัง กล่าวหาปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วขอ้ งกบั การเคลอ่ื นทน่ี ัน้ ได้ ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครใู ห้นกั เรยี นพจิ ารณาการเคล่ือนท่ีของรถยนตใ์ นหนังสอื เรียน หนา้ 53 ทแ่ี สดงการกระจัดทีร่ ถยนต์ เคลื่อนท่ไี ด้ในแต่ละวินาที ซ่งึ จากภาพการเคล่อื นท่ขี องรถยนต์ สามารถเขยี นกราฟความสัมพันธ์ของการ กระจดั กบั เวลาได้ ทีม่ ีความเร็วคงตวั 5 m/s 2. ครอู ธิบายวธิ กี ารคำนวณหาค่าความเร็วจากกราฟความสัมพนั ธ์ของการกระจดั กบั เวลาไดว้ ่าเป็นกราฟ เสน้ ตรงเฉยี งขนึ้ แสดงวา่ เมื่อเวลาเพ่มิ ขน้ึ การกระจดั ท่รี ถยนต์เคล่ือนทไ่ี ด้จะเพ่มิ ขึ้นตามไปดว้ ยในอัตราคง ตัวหรือแปรผันตรงซึง่ กนั และกันเม่ือหาความชนั ของกราฟในชว่ งเวลา 1 – 3 วินาที จะได้ว่า ความชนั ของกราฟ = 15−5 = 5 m/s 3−1 3. ครอู ธิบายใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากข้นึ ว่าคา่ ความชันของกราฟระหว่างการกระจัดกับเวลาที่หาได้ ก็คอื ความเร็วของรถยนตม์ คี า่ เท่ากับ 5 m/s จากสมการเส้นตรงทัว่ ไป คอื y = mx + c เมือ่ m คอื ความชันของเสน้ ตรง มคี ่าเทา่ กบั ∆y ∆x c คอื จุดตัดบนแกน y จากสมการ v = ∆x หรือ ∆x = vt ∆t เมอ่ื เทยี บกบั y = mx + c แลว้ กราฟระหว่างการกระจดั (Δx) กบั เวลา (t) จะได้ความชนั เทา่ กับ ความเร็ว (v) และจดุ ตดั บนแกน Δx เทา่ กับ 0 (c = 0) 4. ครูใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาความหมายของกราฟการกระจัดกับเวลาของรถยนตท์ เ่ี คลอ่ื นท่ีในแนวตรงจาก ตารางในหนังสอื เรยี น หนา้ 54 ซึ่งทำใหท้ ราบความเรว็ ของการเคลือ่ นทขี่ องวตั ถุจากความชันของ เสน้ กราฟ แลว้ ยงั บอกถึงลกั ษณะการเคลื่อนทีข่ องวตั ถไุ ดอ้ กี ด้วย 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปเกยี่ วกบั กราฟการกระจัดกบั เวลา ดงั นี้ จัดทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 102 • ความชันของกราฟการกระจัดกบั เวลาแทนความเร็วเฉลยี่ ของการเคลือ่ นที่ • เมือ่ ความเรว็ คงตัว ความเรว็ เฉลยี่ เท่ากับความเร็วขณะหน่งึ • การหาความเรว็ เฉล่ยี ระหว่าง 2 จุดใด ๆ หาจากความชนั ของเส้นตรงท่ีลากจากจุดทัง้ สองบนกราฟ ตรงชว่ งเวลาน้นั ความชันจะแทนความเร็วเฉลีย่ และแทนความเร็วขณะหน่งึ ตรงจุดกง่ึ กลางช่วงเวลา นั้น ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั สอน สำรวจค้นหา (Explore) 6. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 4 – 5 คน แล้วให้นักเรียนเขียนกราฟการกระจัดกับเวลาจากสถานการณ์ที่ กำหนดให้ คือ รถคันหนง่ึ เคลื่อนท่ีในแนวตรงไดค้ ่าการกระจัดกับเวลาเป็นดงั ตารางด้านล่าง ใหน้ ักเรยี นเขียน กราฟความสัมพันธ์การกระจดั กบั เวลา โดยให้แกน y เปน็ การกระจัด แกน x เป็นเวลา การกระจัด (เมตร) เวลา (วนิ าที) 3 1 62 93 12 4 15 5 (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตการณท์ ำงานกลมุ่ ) 7. ครถู ามนักเรยี นแต่ละกลุ่มวา่ ลักษณะกราฟท่ีได้เป็นเชน่ ใด อธบิ ายความหมายของกราฟได้วา่ อยา่ งไร (ทิ้ง ช่วงใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ คดิ ) (แนวตอบ : ลักษณะเป็นกราฟเส้นตรงเฉยี งขึ้น แสดงวา่ เม่อื เวลาเพม่ิ ขน้ึ การกระจดั ที่รถเคลื่อนที่ได้ จะเพ่มิ ขึ้นตามไปด้วยในอตั ราคงตวั หรอื แปรผันตรงซง่ึ กันและกนั ) 8. ครูสุ่มตัวแทนของนักเรียนแต่ละกลุ่ม เพื่อนำเสนอคำตอบที่แต่ละกลุ่มได้ไปสรุปเป็นความคิดของแต่ละ กลุม่ 9. ครูตรวจสอบข้อมูลจากการนำเสนอเพ่ือความถูกตอ้ ง แล้วสรปุ ดังน้ี • ลักษณะเป็นกราฟเส้นตรงเฉียงขึ้น แสดงว่าเมื่อเวลาเพิม่ ขึน้ การกระจัดที่รถเคลื่อนที่ได้จะเพิ่มข้นึ ตามไปดว้ ยในอัตราคงตวั หรือแปรผนั ตรงซง่ึ กันและกัน 10. ครูถามคำถามตอ่ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คิดและสรปุ จากคำถามต่อไปนี้ • ความชันของกราฟไดอ้ ย่างไร • ความชันของกราฟท่ีไดแ้ ทนปริมาณใดของการเคลือ่ นท่ี 11. ครูและนักเรียนอภิปราย สรุปไดว้ ่า กราฟการกระจดั กับเวลาทไ่ี ด้ มีลักษณะเปน็ เส้นตรงเฉยี งขึน้ และเมื่อ เวลาเพ่มิ ขึ้นการกระจดั ที่รถเคลื่อนท่ีได้จะเพิม่ ขน้ึ ตามไปดว้ ยในอัตราคงตัว ความชนั ของกราฟ (m) หาได้ จาก ∆y = ∆x = 6−3 = 3 m/s แสดงวา่ ความชนั ของกราฟที่ไดแ้ ทนความเร็วเฉลีย่ ของรถ ซง่ึ มีคา่ เทา่ กับ 3 ∆x ∆t 3−1 m/s 12. จากนั้นครูให้นักเรียนพิจารณาการเคลื่อนที่ของรถยนต์ที่ช่วงเวลาต่าง ๆ กัน ในหนังสือเรียน หน้า 55 เพื่อศกึ ษากราฟแสดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเรว็ เวลา เมือ่ วัตถเุ คลอ่ื นที่แล้วเกดิ ความเรว็ ที่เวลาต่าง ๆ จะสามารถนำไปเขียนกราฟแสดงความสมั พันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลา (v – t) ที่แสดงถึงความสมั พันธ์ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟสิ กิ ส์ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 103 ของปริมาณความเร็ว ความเรง่ กบั เวลา ดงั ภาพแสดงการเคลอื่ นทข่ี องรถยนตใ์ นแต่ละช่วงเวลาเวลา และ สามารถเขยี นกราฟความสัมพันธ์ความเร็วกบั เวลาได้ 13. ครูอธิบายว่าจากกราฟจะเห็นว่ากราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลาเป็นกราฟเส้นตรง เฉยี งขึน้ นนั่ คอื ค่าบนแกนความเร็วของรถเปล่ียนแปลง เราทราบแล้วว่าถ้าวัตถุเคลอ่ื นท่ีด้วยความเร็วคง ตัว แสดงว่าวัตถุนั้นไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร่ง หรือความเร่งของวัตถุเป็น 0 แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ความเร็ว แสดงว่าวัตถุนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง พิจารณาจากกราฟจะพบว่าความชันของกราฟเป็น ∆v ∆t ซึ่งก็คือ ความเร่งของการเคลื่อนที่ หาได้จาก ∆v = v3−v1 = 15−5 = 5 m/s2 กล่าวได้ว่า ความชันของ ∆t t3−t1 3−1 กราฟความเรว็ กับเวลาแทนความเรง่ เฉลี่ยของการเคลือ่ นท่ี 14. ครถู ามกบั นกั เรยี นว่าจากกราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างความเรว็ กบั เวลา เราสามารถหาการกระจัดได้ หรือไม่ อย่างไร (ทิ้งชว่ งใหน้ ักเรยี นคิด) 15. ครูอธิบายว่า เราสามารถหาการกระจัดได้จากพื้นที่ใต้กราฟ ความชันของกราฟจะบ่งบอกถึงความเร่ง ของการเคลื่อนที่และเมื่อนักเรียนหาพื้นที่ใต้กราฟออกมา ซึ่งหาได้จาก พื้นที่ใต้กราฟ = พื้นที่รูป สามเหลย่ี ม = 1 × ฐาน × สูง = 1 × 3 × 15 = 22.5 m พน้ื ทใี่ ต้กราฟจะมคี ่าเท่ากับการกระจัดท่ีรถยนต์ 22 คันนี้เคลื่อนที่ได้ในเวลา 3 s จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันศึกษากราฟความเร็วกับเวลาในแต่ละกรณีจาก ตารางในหนังสอื เรียน หนา้ 56 16. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปเก่ียวกับกราฟความเรว็ กับเวลา ดังนี้ • ความชนั ของกราฟความเรว็ กับเวลาแทนความเร่งเฉลย่ี ของการเคลือ่ นที่ • เม่อื ความเรว็ คงตวั ความเรว็ เฉล่ียเท่ากับความเรว็ ขณะหนึ่ง • การหาความเร่งขณะหนงึ่ ตรงตำแหน่งเวลาใด หาจากความชันของเส้นตรงที่ลากสัมผัสกบั กราฟตรง ตำแหนง่ เวลานน้ั • พืน้ ทใ่ี ตก้ ราฟความเร็วกบั เวลาแทนการกระจัดของการเคลือ่ นท่ี 17. ครสู รปุ เพิ่มเตมิ เก่ยี วกับกราฟแสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่างการกระจัดกับเวลา (Δx – t) ความเร็วกับเวลา (v – t) ความเรง่ กับเวลา (a – t) ดังน้ี ถา้ ความชนั เพ่มิ ขนึ้ → ความเรว็ เพ่ิมสม่ำเสมอ → ความเรง่ คงตัวมคี า่ เปน็ บวก ถ้าความชนั เลดลง → ความเร็วลดลงมำ่ เสมอ → ความเร่งคงตวั มคี า่ เป็นลบ ชัว่ โมงท่ี 3 ขน้ั สอน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครทู บทวนความรู้ใหก้ บั นักเรยี นเก่ยี วกบั กราฟความสัมพนั ธส์ ำหรบั การเคล่ือนทใี่ นแนวตรง ดังนี้ • กราฟระหวา่ งการกระจัดกบั เวลา (Δx – t) ความชนั ของกราฟน้ี คือ ความเร็ว • กราฟระหว่างความเรว็ กับเวลา (v – t) ความชันของกราฟน้ี คอื ความเรง่ • ความชันของกราฟ ถ้าความชันเป็นศูนย์ กราฟจะขนานแกน x ถ้าความชันคงตัว กราฟจะเป็น เส้นตรง ในกรณีความชันไม่คงตัว ถ้าความชันเพิ่มขึ้น กราฟจะโค้งหงาย และถ้าความชันลดลง กราฟจะโคง้ ควำ่ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 104 2. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาตัวอย่างท่ี 2.11 และ 2.12 ในหนังสือเรียนหนา้ 58-59 ตามขน้ั ตอนการแก้ โจทยป์ ญั หา ดังน้ี • ขั้นท่ี 1 ครใู หน้ กั เรยี นทกุ คนทำความเขา้ ใจโจทยต์ วั อยา่ ง และพิจารณากราฟความสมั พันธ์ • ขั้นท่ี 2 ครูถามนกั เรยี นว่า จากกราฟความสัมพันธ์ สง่ิ ที่โจทย์กำหนดคอื อะไร ส่งิ ทีโ่ จทย์ต้องการคือ อะไร และต้องทำอย่างไร • ขนั้ ที่ 3 ครูให้นกั เรยี นดวู ธิ ที ำในการคำนวณหาคำตอบ • ขัน้ ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบของโจทยต์ วั อย่างวา่ ถกู ต้อง หรือไม่ 3. นักเรียนและครูรว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการคำนวณจากกราฟความสัมพันธ์ทีก่ ำหนด เพื่อให้นกั เรียน สรุปสาระสำคัญลงในสมุดจดบันทึก ขน้ั สรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครนู ำนกั เรยี นอภปิ รายและสรุปเกี่ยวกับกราฟแสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่างปรมิ าณต่าง ๆ ของการเคล่ือนที่ แนวตรง 2. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเน้อื หาเร่ือง กราฟความสัมพนั ธ์ระหว่างระยะทาง ความเร็ว กบั เวลา ว่า มีสว่ นไหนทยี่ งั ไม่เข้าใจและให้ความรเู้ พ่ิมเติมในส่วนนัน้ โดยทคี่ รูอาจจะใช้ PowerPoint เรื่อง กราฟแสดง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างปรมิ าณต่าง ๆ ของการเคลอื่ นท่แี นวตรง ช่วยในการอธบิ าย 3. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั ทำใบงานที่ 2.5 เร่ือง กราฟความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งระยะทาง ความเร็ว กับเวลา 4. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 2 เรื่อง กราฟแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณตา่ ง ๆ ของการเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง ในหนังสอื เรียนหน้า 80-82 เป็นการบ้าน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้และการรว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี น 2. ครูสังเกตการตอบคำถามของนกั เรยี น 3. ครตู รวจสอบผลจากใบงานท่ี 2.5 เรื่อง กราฟความสมั พันธร์ ะหว่างระยะทาง ความเรว็ กับเวลา 4. ครตู รวจการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 2 เรือ่ ง กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณตา่ ง ๆ ของการเคล่ือนท่ีแนวตรง จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 105 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธวี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมนิ ระหว่าง - ใบงานท่ี 2.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจดั กิจกรรม - ผลงานทีน่ ำเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ 1) กราฟ - ตรวจใบงานท่ี 2.5 การทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ความสมั พันธ์ ระหวา่ งระยะทาง ความเรว็ กับเวลา 2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน ผลงาน 3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ทำงานกลุม่ การทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มั่น คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น รายวิชาเพิ่มเตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 1 2) ใบงานที่ 2.5 เรือ่ ง กราฟความสมั พันธ์ระหวา่ งระยะทาง ความเรว็ กบั เวลา 3) PowerPoint เร่ือง การเคล่อื นทีใ่ นแนวตรง 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) ห้องสมดุ 3) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 106 9. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น : ความหลากหลายทางชวี ภาพ หลักปรัชญา ครู ผู้เรียน ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ รู้จกั ใช้เทคโนโลยมี าผลิตสอ่ื ที่ มจี ติ สำนึกที่ดี จติ สาธารณะร่วม 2. ความมีเหตผุ ล อนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ เหมาะสมและสอดคล้องเน้อื หาเป็น ส่ิงแวดล้อม 3. มีภูมคิ มุ กันในตัวท่ดี ี ประโยชน์ต่อผ้เู รยี นและพฒั นาจากภูมิ 4. เงอื่ นไขความรู้ ปญั ญาของผู้เรียน ไม่หยุดน่ิงท่ีหาหนทางในชวี ติ หลุดพ้น - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความ จากความทกุ ขย์ าก (การค้นหาคำตอบ ถกู ต้อง สจุ รติ เพ่ือให้หลุดพน้ จากความไม่รู้) ภมู ิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ รับผิดชอบ ระมดั ระวัง สร้างสรรค์ ระมดั ระวงั ความรอบรู้ เรือ่ ง กราฟแสดง ความรอบรู้ เร่ือง กราฟแสดง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งปรมิ าณตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างปริมาณตา่ ง ๆ สามารถนำความร้เู หลา่ นัน้ มาพจิ ารณา ท่ีเกยี่ วข้องรอบด้าน นำความรมู้ า ให้เกดิ ความเช่อื มโยง สามารถ เช่ือมโยงประกอบการวางแผน การ ประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ ดำเนนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5. เงื่อนไขคณุ ธรรม มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ ซอ่ื สตั ยส์ ุจริตและมคี วามอดทน มี ความซือ่ สัตย์สุจริตและมคี วามอดทน ความเพยี ร ใช้สตปิ ัญญาในการดำเนิน ชีวิต มคี วามเพียร ใช้สติปญั ญาในการ ผู้เรยี น ดำเนนิ ชวี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ในโรงเรยี น (ตามจุดทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย) ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้เรยี น ความหลากหลายทางชีวภาพ - ความหลากหลายทางชีวภาพ - สำรวจความหลากหลายทาง - สืบค้นข้อมูลการอนุรักษค์ วาม หลากหลายทางชวี ภาพ (ตามหัวข้อท่ี ชวี ภาพในโรงเรยี น (กำหนดจุดให้ ได้มอบหมาย) ผู้เรียนสำรวจ) สิ่งแวดล้อม ครู ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ - การอนรุ ักษค์ วามหลากหลาย - การอนุรักษ์ความหลากหลายทาง ทางชีวภาพ ชีวภาพ (กำหนดหวั ข้อให้ผูเ้ รยี น สบื คน้ ) จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ ิกส์ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 107 10. ความเห็น/ขอ้ เสนอแนะ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย 10.1 หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………. (นางสาวณัฐธนัญา บุญถึง) ………./……………./…………. 10.2 รองผ้อู ำนวยการฝ่ายบรหิ ารวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายวเิ ศษ ฟองตา) ………./……………./…………. 10.3 ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………. (นายอดิศร แดงเรือน) ………./……………./…………. จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 108 11. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน  ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ด้านความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแก้ไข ลงชอ่ื .........................................................ผู้สอน (นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา) ตำแหน่ง ครู จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 109 ใบงานที่ 2.5 เรอ่ื ง กราฟความสัมพนั ธ์ระหว่างระยะทาง ความเรว็ กับเวลา คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ 1. กราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างการกระจัด (m) และเวลา (s) จากการเคล่ือนที่ของวตั ถุ จงหา 1.1ระยะทางทัง้ หมด 1.2ความเรว็ เฉล่ีย ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… 2 จาก……ก……รา……ฟ……a……–…………t เ……ป……็น……กา……ร……เค……ล……ือ่ น……ท……ข่ี ……อ……งว……ัต……ถ……ุจา……ก……จ……ุดห…ย…ดุ …น…งิ่ ตลอดร…ะ…ยะ…เว…ล…า…2…0…วนิ…า…ท…ี ว…ัต…ถ…ุเคล่ือนทีไ่ ด้ระยะทางเท่าใด จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 110 ใบงานท่ี 2.5 เฉลย เรือ่ ง กราฟความสัมพันธ์ระหวา่ งระยะทาง ความเรว็ กบั เวลา คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. กราฟแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างการกระจัด (m) และเวลา (s) จากการเคล่ือนที่ของวัตถุ จงหา 1.1 ระยะทางท้ังหมด 1.2 ความเรว็ เฉลีย่ วิธีทำ ระยะทางท้งั หมด = พนื้ ที่ A +พน้ื ท่ี B + พื้นท่ี C วิธีทำ ความเร็วเฉลี่ย = การกระจดั ทงั้ หมด เวลาทง้ั หมด = 1 (2)(200) + 1 (200 + 400)(4) + 1 (2)(400) 22 2 = 1800 = 200 + 1200 + 400 8 = 225 = 1800 ดงั นนั้ ความเร็วเฉลีย่ มีค่าเท่ากับ 225 เมตรตอ่ วนิ าที ดังนนั้ ระยะทางท้ังหมดมคี ่าเท่ากับ 1800 เมตร 2 จากกราฟ a – t เปน็ การเคลอ่ื นทีข่ องวัตถจุ ากจุดหยุดน่ิง ตลอดระยะเวลา 20 วินาที วตั ถเุ คลื่อนท่ีไดร้ ะยะทางเทา่ ใด วธิ ที ำ ตอ้ งเปล่ียนเป็นกราฟ v – t จะได้ ที่วนิ าทีที่ 5 มีความเร็ว = พน้ื ท่ี A = (2)(5) = 10 ทว่ี ินาทีท่ี 5 มีความเรว็ เท่ากับ10 m/s2 ระยะทางทวี่ ตั ถุเคล่ือนท่ี = พืน้ ทใี่ ตก้ ราฟ = 1 (5)(10) + (10 - 5)(10) + 1 22 (10 - 15)(10) + 0 = 25 + 50 + 25 = 100 ดังนัน้ วัตถุเคลื่อนท่ีได้ระยะทาง 100 เมตร จดั ทำโดย นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาฟิสิกส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 111 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1/2564 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า ฟสิ ิกส์ 1 (ว31201) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การเคลื่อนทใ่ี นแนวตรง เร่อื ง การเคลอ่ื นที่ของวตั ถกุ รณคี วามเรง่ คงตัว จำนวนเวลาทสี่ อน 3 ชว่ั โมง ครูผ้สู อน นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (ความเข้าใจทค่ี งทน) การเคล่ือนที่ของวัตถุแนวตรงในกรณีความเร่งมีค่าคงตวั คอื การท่วี ตั ถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่งโดยมีท้ังขนาด และทิศทางเหมือนเดิมตลอดเวลาของการเคลื่อนที่ โดยสมการการเคลื่อนที่ของวัตถุทีเ่ กี่ยวข้องมีความสัมพันธ์ ตามสมการ v = u + at u+v ∆x = ( 2 ) t ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x 2. ผลการเรยี นรู้ 3. ทดลองและอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งตำแหน่ง การกระจัด ความเรว็ และความเรง่ ของการเคลือ่ นที่ ของวัตถใุ นแนวตรงทม่ี ีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมท้ังทดลองหาค่าความเรง่ โนม้ ถ่วงของโลก และ คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้องได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (Knowledge) 1) อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการกระจัด เวลา ความเร็ว ความเรง่ ของการเคลื่อนที่เส้นตรงได้ 3.2 ด้านทกั ษะและกระบวนการ (Skill/Process) 2) มีทักษะการคำนวณหาปรมิ าณท่เี กย่ี วข้องกบั การเคลอ่ื นท่ีในแนวตรง 3.3 ด้านเจตคติ (Attitude) 3) ทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื อยา่ งสร้างสรรค์ ยอมรับความคิดเหน็ ของผ้อู ืน่ ได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge (ผเู้ รียนตอ้ งรู้อะไร) - ปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ได้แก่ ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง โดยความเร็ว และความเร่งมีทั้งค่าเฉลี่ยและค่าขณะหนึ่งซึ่งคิดในช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ เคลื่อนท่ีแนวตรงด้วยความเรง่ คงตัวมีความสมั พนั ธต์ ามสมการ จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 112 v = u + at u+v ∆x = ( 2 ) t ∆x = ut + 1 at2 2 v2 = u2 + 2a∆x - การอธบิ ายการเคลอื่ นทีข่ องวัตถุสามารถเขยี นอยูใ่ นรปู กราฟตำแหนง่ กบั เวลา กราฟความเร็วกับเวลา หรือกราฟความเรง่ กับเวลา ความชันของเส้นกราฟตำแหนง่ กับเวลาเป็นความเรว็ ความชันของเสน้ กราฟความเรว็ กบั เวลาเป็นความเรง่ และพน้ื ที่ใต้เส้นกราฟความเรว็ กับเวลาเปน็ การกระจัด ในกรณีทีผ่ ู้สังเกตมคี วามเรว็ ความเร็วของวตั ถุ ที่สังเกตได้เปน็ ความเรว็ ท่ีเทียบกบั ผูส้ งั เกต 4.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (ผ้เู รียนสามารถปฏิบัติอะไรได้) - ทักษะการคิดวเิ คราะห์ - ทักษะการสังเกต - ทักษะการสอื่ สาร - ทกั ษะการทำงานร่วมกนั - ทักษะการนำความรไู้ ปใช้ 4.3 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude (ผู้เรียนควรแสดงพฤตกิ รรมการเรียนอะไรบา้ ง) - มวี นิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้ - ม่งุ ม่ันในการทำงาน - มีความซอ่ื สตั ย์ 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 2) ทักษะการสงั เกต 4. มีความซอื่ สตั ย์ 3) ทกั ษะการสื่อสาร 4) ทักษะการทำงานรว่ มกัน 5) ทักษะการนำความร้ไู ปใช้ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต จัดทำโดย นายธนพัฒน์ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าฟสิ กิ ส์ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 113 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิม เกี่ยวกับ ตำแหน่งระยะทาง การกระจัด อัตราเร็ว ความเร็ว และความเร่ง เชื่อมโยงเนื้อหาโดยนักเรียนร่วมกันตอบคำถาม เกี่ยวกับ อัตราเร็วและระยะทางมี ความสัมพันธ์กันอย่างไร (ทิ้งช่วงให้นักเรียนคิด) เพื่อนำไปสู่การศึกษา เรื่อง สมการที่ใช้ในการคำนวณ ปริมาณต่าง ๆ ของการเคลื่อนทใี่ นแนวตรงของวตั ถุที่มีความเรง่ คงตวั 2. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียน หน้า 60 ว่า “วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงตัวจะมี ลักษณะการเคลื่อนทีเ่ ป็นอยา่ งไร” เพอื่ เป็นการกระตุ้นใหน้ ักเรยี นร่วมกนั คดิ (แนวตอบ : วตั ถุจะเคลือ่ นท่ีดว้ ยความเร่งโดยมที ั้งขนาดและทิศทางเหมือนเดิมตลอดเวลาของการ เคล่ือนท่ี) 3. นกั เรยี นช่วยกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เห็น 4. ครสู ามารถกระตุ้นความสนใจของนักเรยี น โดยการเปดิ โปรแกรมสาธติ การเคลือ่ นที่ของวัตถุด้วยความเร่ง คงตัว จาก http://www.walter-fendt.de/html5/phth/acceleration_th.htm ซึ่งครูอาจจะขอ อาสาสมัครนักเรียนให้ออกมาหน้าชั้นเรียนเพื่อเป็นตัวแทนในการสาธิตการใช้โปรแกรม โดยแนะนำให้ นักเรยี นนำโปรแกรมไปศกึ ษาในเรื่อง การเคลื่อนทีด่ ้วยความเรง่ คงตวั นอกเวลาเรยี นได้ โปรแกรมเรื่อง การเคลือ่ นท่ีด้วยความเร่งคงตวั จดั ทำโดย นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook