90 ระบบตน้ ทนุ รวม และระบบตน้ ทนุ ผนั แปร รายละเอยี ดหน่วยผลติ และขายในแต่ละปี มดี งั น้ี ปี 25x5 ปี 25x6 2,200 หน่วยผลติ 2,000 2,100 หน่วยขาย 1,800 ให้ทา 1. งบกาไรขาดทนุ ตามระบบตน้ ทนุ รวม และระบบตน้ ทนุ ผนั แปร สาหรบั ปี สน้ิ สุด วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 และ 25x6 2. การปรบั กาไรหรอื ขาดทุนสทุ ธจิ ากระบบตน้ ทุนผนั แปรเป็นระบบตน้ ทุนรวม 7. ต่อไปน้ีเป็นการจดั ทางบกาไรขาดทุนเพ่อื รายงานผลการดาเนินงานตามแผนกของบรษิ ทั เพชรเอก จากดั สาหรบั ปี สน้ิ สดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 ทผ่ี า่ นมา บริษทั เพชรเอก จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x5 ขาย แผนก แผนก รวม หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร เสื้อผา้ รองเท้า กาไรส่วนเกนิ 1,000,000 800,000 1,800,000 หกั ตน้ ทุนคงทโ่ี ดยตรง 1,075,000 600,000 475,000 เงนิ เดอื น 725,000 คา่ เช่าแผนก 400,000 325,000 ค่าใชจ้ า่ ยการบรหิ ารทวั่ ไป กาไรแต่ละแผนก 50,000 45,000 95,000 หกั ตน้ ทนุ คงทร่ี ว่ ม 10,000 15,000 25,000 กาไรสุทธิ 100,000 180,000 280,000 240,000 85,000 325,000 260,000 65,000 จากการรายงานผลขา้ งต้น แสดงให้เหน็ ว่ากาไรของแผนกเส้อื ผ้ามจี านวน 240,000 บาท ขณะทแ่ี ผนกรองเทา้ มจี านวน 85,000 บาท ซง่ึ ต่างกบั แผนกเส้อื ผา้ ทงั้ ๆ ทย่ี อดขายเม่อื บทท่ี 3
ระบบตน้ ทนุ รวม และระบบตน้ ทนุ ผนั แปร 91 เทยี บสดั ส่วนแลว้ กไ็ มไ่ ดต้ ่างกนั มากนกั ดงั นนั้ เพ่อื อธบิ ายถงึ ความแตกต่างในผลกาไรทเ่ี กดิ ขน้ึ ของแผนก ผู้บริหารจงึ ได้สัง่ ให้ฝ่ายบัญชีจดั ทารายงานส่วนงานย่อยจาแนกตามชนิดของ ผลติ ภณั ฑส์ าหรบั แผนกรองเทา้ เพม่ิ เตมิ ซง่ึ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑใ์ นแผนกรองเทา้ มดี งั น้ี ยอดขาย แผนกรองเท้า (หน่วย : บาท) ตน้ ทุนคงทโ่ี ดยตรง: รองเท้าเดก็ รองเท้า รองเท้า เงนิ เดอื น สภุ าพบรุ ษุ สภุ าพสตรี คา่ เช่าแผนก ค่าใชจ้ า่ ยการบรหิ ารทวั่ ไป 150,000 200,000 450,000 อตั ราตน้ ทนุ ผนั แปรต่อยอดขาย 10,000 15,000 20,000 3,000 6,000 6,000 26,000 24,000 30,000 50% 65% 60% ให้ทา งบกาไรขาดทุนตามสว่ นงานยอ่ ยของแผนกรองเทา้ โดยจาแนกตามชนดิ ของ ผลติ ภณั ฑ์ 8. บรษิ ทั อเิ ลก็ ทรอนิกสก์ ารผลติ จากดั ไดท้ าการผลติ และจาหน่ายผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า อยู่ 2 ชนิด คอื เคร่อื งปรบั อากาศ และเคร่อื งซกั ผ้า โดยได้ทาการขยายสาขาการจาหน่าย ออกเป็น 2 สาขา คอื สาขาขอนแก่น และสาขาเชยี งใหม่ ต้นทุนและรายไดเ้ กย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์ ทงั้ 2 ชนดิ และสาขาทงั้ 2 แหง่ มดี งั น้ี 1. ราคาขาย และอตั รากาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย ของผลติ ภณั ฑท์ งั้ 2 ชนิด เครอื่ งปรบั อากาศ เคร่ืองซกั ผา้ ราคาขายต่อหน่วย (บาท) 15,000 8,000 อตั รากาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย 40% 55% 2. ปรมิ าณการขายในสาขาทงั้ 2 แหง่ สาขาขอนแก่น สาขาเชียงใหม่ เครอ่ื งปรบั อากาศ รวม 240 180 420 เครอ่ื งซกั ผา้ 100 120 220 บทท่ี 3
92 ระบบตน้ ทุนรวม และระบบตน้ ทนุ ผนั แปร 3. ตน้ ทนุ คงท่ี ประกอบดว้ ย (หน่วย : พนั บาท) ผลิตภณั ฑ์ สาขา ขอนแก่น เชียงใหม่ เครอ่ื งปรบั เคร่ือง -- อากาศ ซกั ผา้ 2,500 2,000 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 2,000 1,200 คา่ ใชจ้ า่ ยการขาย -- และบรหิ ารคงท่ี 4. มคี า่ ใชจ้ า่ ยการบรหิ ารทวั่ ไปของสานกั งาน 500,000 บาทต่อปี ให้ทา จดั ทารายงานผลการดาเนนิ งานตามสว่ นงานยอ่ ย โดยจาแนกตามชนิดของผลติ ภณั ฑ์ และจาแนกตามสาขา 9. บรษิ ทั มติ รแทอ้ ุตสาหกรรม จากดั แสดงการจดั ทางบกาไรขาดทุนสาหรบั ปี 25x1 ดงั น้ี ยอดขาย หน่วย : บาท 800,000 หกั ตน้ ทุนผนั แปร 470,000 กาไรส่วนเกนิ 330,000 หกั ตน้ ทนุ คงท่ี 345,000 กาไร (ขาดทนุ ) สทุ ธิ (15,000) จากการรายงานผลการดาเนินงานขา้ งตน้ ปรากฏถงึ ผลขาดทุนจานวน 15,000 บาท ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ารจงึ ตอ้ งการทราบสาเหตุของผลขาดทนุ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จงึ ไดม้ อบหมายใหแ้ ผนกบญั ชไี ด้ จดั ทารายงานผลการดาเนินงานตามส่วนงานย่อยเพมิ่ เตมิ โดยจาแนกตามชนิดผลติ ภณั ฑท์ ม่ี ี อยู่ 3 ชนิด ตามขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ ดงั น้ี ผลิตภณั ฑ์ เอ ผลิตภณั ฑ์ บี ผลิตภณั ฑ์ ซี ยอดขาย (บาท) 250,000 200,000 350,000 อตั รากาไรส่วนเกนิ 30% 40% 50% ตน้ ทุนคงทข่ี องผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนิด (บาท) 70,000 10,000 100,000 ให้ทา งบกาไรขาดทนุ ตามส่วนงานยอ่ ยโดยจาแนกตามชนิดของผลติ ภณั ฑ์ บทท่ี 3
การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 93 บทท่ี 4 การวิเคราะหต์ ้นทุน ปริมาณ และกาไร การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร (Cost Volume-Profit Analysis : CVP) เป็น เครอ่ื งมอื สาคญั ทช่ี ่วยผบู้ รหิ ารในการวางแผนกาไรของธุรกจิ เน่ืองจากทาใหผ้ บู้ รหิ ารทราบว่า ธุรกจิ ต้องขายสนิ คา้ จานวนเท่าใดจงึ จะไดก้ าไรตามต้องการและจะตอ้ งขายสนิ คา้ จานวนเท่าใด จงึ จะมยี อดขายเท่ากบั ต้นทุนทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ทงั้ หมด ซง่ึ เรยี กว่า “จดุ คุม้ ทุน (Break-Even Point)” สงิ่ สาคญั ทส่ี ุดของการวเิ คราะห์กค็ อื การมขี อ้ มูลทเ่ี ช่อื ถอื ไดแ้ ละใกลเ้ คยี งกบั ความเป็นจรงิ มาก ทส่ี ุด โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ขอ้ มูลทางดา้ นต้นทุน ซง่ึ เป็นขอ้ จากดั พน้ื ฐานของการวเิ คราะห์ โดย ตน้ ทุนทงั้ หมดทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ จะต้องแบ่งเป็น 2 ลกั ษณะเท่านนั้ คอื ต้นทุนผนั แปร และต้นทุนคงท่ี ซ่งึ เป็นไปตามขอ้ สมมตฐิ านในการวเิ คราะห์ นอกจากขอ้ มลู ต้นทุนแล้วยงั ต้องพจิ ารณาถึงขอ้ สมมตฐิ านอ่นื ประกอบการคานวณเพ่อื การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณและกาไร ข้อสมมติฐานในการวิเคราะหต์ ้นทนุ ปริมาณ และกาไร การวเิ คราะห์ต้นทุน ปรมิ าณ และกาไร เพ่อื ให้เกดิ ประสทิ ธใิ นการวเิ คราะห์จะอยู่ ภายใตข้ อ้ สมมตฐิ าน ดงั ต่อไปน้ี (ปรบั ปรงุ จาก กชกร เฉลมิ กาญจนา, 2557 : 109-110) 1. ตน้ ทุนทงั้ หมดจาแนกตามพฤตกิ รรมไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะเท่านนั้ คอื ตน้ ทุนผนั แปร และตน้ ทุนคงท่ี ซง่ึ หากมตี ้นทุนรายการใดมลี กั ษณะเป็นตน้ ทุนผสม จะต้องใชว้ ธิ กี ารประมาณ ตน้ ทุนเพอ่ื แยกตน้ ทนุ ผนั แปร กบั ตน้ ทุนคงทอ่ี อกจากกนั ตามทไ่ี ดก้ ล่าวมาแลว้ ในบทท่ี 2 2. พฤตกิ รรมของตน้ ทนุ และรายไดท้ ม่ี ลี กั ษณะเป็นเสน้ ตรง หมายความว่า ภายใต้ช่วง ของการวิเคราะห์ในสถานการณ์หน่ึงๆ ปจั จัยท่ีเก่ียวข้องกับการวิเคราะห์จะไม่มีการ เปลย่ี นแปลง ไดแ้ ก่ ราคาขายต่อหน่วย ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วย ตน้ ทุนคงทร่ี วม 3. กรณีท่ขี ายสนิ ค้าหลายชนิด สดั ส่วนการขายของสนิ คา้ แต่ละชนิดจะคงทใ่ี นทุกๆ ระดบั ของการขาย เช่น จากการคานวณสดั ส่วนการขายของสนิ ค้า 2 ชนิด คอื กระเป๋ า และ รองเท้า มสี ดั ส่วนเท่ากบั 1 : 3 หมายความว่า ถ้าสนิ ค้ากระเป๋ าขายได้จานวน 10 หน่วย สดั สว่ นการขายสนิ คา้ รองเทา้ กจ็ ะเทา่ กบั 30 หน่วย เสมอ เป็นตน้ 4. ช่วงของการวเิ คราะหม์ ลู คา่ ของเงนิ จะไมเ่ ปลย่ี นแปลง เน่ืองจากจะไมพ่ จิ ารณาถงึ ค่า ของเงนิ ตามงวดเวลาหรอื นาปจั จยั ดอกเบย้ี มาเกย่ี วขอ้ ง ถงึ แมจ้ ะมกี ารประกาศปรบั เพม่ิ หรอื ลด มลู ค่าของเงนิ ในช่วงของการวเิ คราะหก์ ต็ าม บทท่ี 4
94 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 5. การวเิ คราะห์จะไม่ปรากฏสนิ ค้าคงเหลือต้นงวด และสนิ ค้าคงเหลอื ปลายงวด หมายความวา่ ในการวเิ คราะห์จะมกี ารกาหนดใหป้ รมิ าณการผลติ เท่ากบั ปรมิ าณการขายเสมอ จงึ ทาใหไ้ มม่ สี นิ คา้ คงเหลอื ตน้ งวดและสนิ คา้ คงเหลอื ปลายงวดเกดิ ขน้ึ จากขอ้ สมมตฐิ านในการวเิ คราะห์ต้นทุน ปรมิ าณ และกาไรขา้ งต้น ทาให้ทราบถงึ ความสาคญั ของขอ้ มลู ทม่ี ผี ลต่อการวเิ คราะห์ โดยไดม้ กี ารกาหนดตวั แปรสาหรบั ขอ้ มลู ถอื เป็น องคป์ ระกอบทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการวเิ คราะห์ ดงั ต่อไปน้ี กาหนดให้ : x = ปรมิ าณการผลติ และขาย p = ราคาขายต่อหน่วย b = ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วย a = ตน้ ทุนคงทร่ี วม ในการวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร หลกั การหน่งึ ทน่ี ยิ มนามาใชค้ ือ การคานวณ กาไรส่วนเกิน (Contribution Margin) เพราะเม่อื ธุรกจิ ทราบถงึ กาไรส่วนเกินแลว้ จะทาให้ สามารถทจ่ี ะขายสนิ คา้ ในราคาทต่ี ่ากวา่ ราคาปกตไิ ด้ เม่อื ธุรกจิ ยงั คงมกี าไรส่วนเกนิ อยู่ สามารถ นาไปใช้ประเมนิ ผลการดาเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ภายในองค์กรได้ ใช้ในการจดั ทา รายงานทางการเงนิ เพ่อื ใช้ภายในองค์กร และท่สี าคญั ยงั ช่วยในการคานวณหาจุดคุ้มทุน (Break-Even Point) ของบรษิ ทั ไดอ้ กี ด้วย ดงั นนั้ จงึ จาเป็นตอ้ งศกึ ษาถงึ กาไรส่วนเกนิ เพ่อื ใช้ ประกอบการวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร กาไรส่วนเกิน กาไรส่วนเกนิ (Contribution Margin : CM) หมายถงึ ส่วนท่เี กดิ จากผลต่างระหว่าง ยอดขายกบั ต้นทุนผนั แปร ประโยชน์เพ่อื ให้ผู้บรหิ ารพจิ ารณาว่ากาไรส่วนเกนิ มมี ากพอท่ีจะ นาไปชดเชยตน้ ทุนส่วนทค่ี งทไ่ี ดห้ รอื ไม่ และทาใหบ้ รษิ ทั ทราบว่าจะขายสนิ คา้ ในราคาทต่ี ่ากว่า ราคาปกตไิ ด้ รวมถงึ ชว่ ยในการคานวณหาจดุ คุม้ ทนุ ดว้ ย 1. กาไรส่วนเกินรวม กาไรส่วนเกนิ รวม (Total Contribution Margin : TCM) เป็นส่วนทเ่ี กดิ จากผลต่าง ระหวา่ งยอดขายกบั ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 95 กาไรสว่ นเกนิ รวม = ยอดขาย - ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม TCM = px - bx 2. กาไรส่วนเกินต่อหน่วย กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย (Unit Contribution Margin : UCM) เป็นสว่ นทเ่ี กดิ จากผลต่าง ระหว่างราคาขายต่อหน่วยกบั ต้นทุนผนั แปรต่อหน่วย ซ่งึ เป็นการพจิ ารณาว่า ในการจาหน่าย สนิ คา้ 1 หน่วย เมอ่ื หกั ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วยจะมกี าไรส่วนเกนิ ไปชดเชยต้นทุนคงทไ่ี ดเ้ ท่าไร สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย = ราคาขายต่อหน่วย - ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วย UCM = p- b 3. อตั รากาไรส่วนเกิน การวเิ คราะหอ์ ตั รากาไรส่วนเกนิ (Contribution Margin Ratio : CMR) เป็นการ เปรยี บเทยี บกาไรสว่ นเกนิ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ว่าเป็นกเ่ี ปอรเ์ ซน็ ตห์ รอื เป็นรอ้ ยละเท่าไรของยอดขาย สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี อตั รากาไรสว่ นเกนิ = กาไรสว่ นเกิน x 100 เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ไดด้ งั น้ี ราคาตอ่ หน่วย CMR = p b x 100 หรอื คานวณจาก p อตั รากาไรส่วนเกนิ = กาไรยสอว่ ดนขเกายินรวม x 100 บทท่ี 4
96 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ ไดด้ งั น้ี px - bx x 100 CMR = px เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ เกย่ี วกบั กาไรสว่ นเกนิ จงึ ขอยกตวั อยา่ งเพ่อื อธบิ ายและคานวณประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-1 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 4-1 ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู การดาเนินงานของบรษิ ทั เจา้ ขนุ ทองไทย จากดั ประกอบธุรกจิ ผลติ และขายกรงนก โดยในเดอื นทผ่ี ่านมามยี อดขายจานวน 4,000 หน่วย ราคาขายหน่วยละ 200 บาท รายละเอยี ดตน้ ทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง มดี งั น้ี วตั ถุดบิ ทางตรง ต้นทนุ ผนั แปรต่อหน่วย ต้นทนุ คงที่รวม ค่าแรงงานทางตรง (บาท) (บาท) คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 30 คา่ ใชจ้ า่ ยการขาย 100,000 คา่ ใชจ้ ่ายการบรหิ าร 50 40,000 60,000 รวม 20 200,000 15 5 120 จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถนามาแทนค่าตวั แปรสาหรบั ขอ้ มลู ทถ่ี อื เป็นองคป์ ระกอบท่ี เกย่ี วขอ้ งในการคานวณกาไรส่วนเกนิ ไดด้ งั น้ี กาหนดให:้ x = 4,000 p = 200 b = 120 a = 200,000 บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 97 จากการแทนค่าตวั แปรองคป์ ระกอบในการวเิ คราะหข์ า้ งตน้ สามารถนามาคานวณหา กาไรส่วนเกนิ รวม กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย และอตั รากาไรสว่ นเกนิ ดงั น้ี 1. คานวณกาไรสว่ นเกนิ รวม จากสตู ร TCM = px - bx = 200(4,000) - 120(4,000) = 800,000 - 480,000 = 320,000 บาท 2. คานวณกาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย จากสตู ร UCM = p - b = 200 - 120 = 80 บาทต่อหน่วย 3. คานวณอตั รากาไรส่วนเกนิ จากสตู ร CMR = p - b x 100 p = 200 - 120 x 100 120 = 0.4 หรอื 40% จากการคานวณขา้ งต้น แสดงใหเ้ หน็ ว่า บรษิ ัทมกี าไรส่วนเกนิ รวมจานวน 300,000 บาท กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย 80 บาทต่อหน่วย และคดิ เป็นอตั รากาไรส่วนเกนิ 40% การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทนุ จดุ คุม้ ทุน (Break-Even Point) หมายถงึ จุดท่มี ปี รมิ าณการขายหรอื ยอดขายเท่ากบั ตน้ ทุนทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ทงั้ หมดของบรษิ ทั กล่าวคอื เป็นจดุ ทผ่ี ลการดาเนินงานเป็นศูนย์ และเป็นจุด ทม่ี กี าไรส่วนเกนิ รวมเท่ากบั ต้นทุนคงท่พี อดี ประโยชน์เพ่อื ใช้เป็นเคร่อื งมอื หรอื เป็นเทคนิคท่ี นามาใช้ในการว างแผนแล ะคว บคุมการดาเนินงานของกิจก ารเพ่ือ ไม่ให้ขายสินค้าต่ ากว่า จุดคุ้มทุน เพราะถ้าขายต่ากว่าจุดคุ้มทุนก็เท่ากบั ว่าบรษิ ทั จะประสบผลขาดทุนทนั ที ซ่งึ การ วเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ สามารถวเิ คราะหไ์ ด้ 3 วธิ ี คอื บทท่ี 4
98 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 1. การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทุนโดยวิธีใช้แผนภาพ การวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชแ้ ผนภาพ มขี นั้ ตอนในการจดั ทา ดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 กาหนดค่าบนแกนตงั้ และแกนนอน โดยใหแ้ กนนอนเป็นปรมิ าณการขาย สนิ คา้ สว่ นแกนตงั้ เป็นจานวนเงนิ ขนั้ ที่ 2 ลากเสน้ ตน้ ทนุ คงทจ่ี ากแกนตงั้ ใหข้ นานกบั แกนนอน ขนั้ ที่ 3 คานวณหาต้นทุนรวม ณ ระดบั ปรมิ าณการขายใดหน่วยขายหน่ึง และ กาหนดไวเ้ ป็นเกณฑ์ ขนั้ ท่ี 4 ลากเสน้ ต้นทุนผนั แปรจากจดุ ตดั ทแ่ี กนตงั้ ณ ระดบั ต้นทุนคงท่ใี นขนั้ ท่ี 2 ผา่ นจดุ ทก่ี าหนดไวใ้ นขนั้ ท่ี 3 เสน้ ทไ่ี ดจ้ ะเป็นเสน้ ตน้ ทนุ รวม ณ ระดบั ปรมิ าณการขายต่างๆ ขนั้ ท่ี 5 คานวณยอดขาย ณ ปรมิ าณการขายใดหน่วยขายหน่งึ และกาหนดจดุ ไว้ ขนั้ ที่ 6 ลากเสน้ รายไดจ้ ากจุดตดั ของแกนตงั้ และแกนนอน ซง่ึ มคี ่าเท่ากบั ศูนยใ์ ห้ ผ่านจดุ ทก่ี าหนดไวใ้ นขนั้ ท่ี 5 จะไดเ้ สน้ รายไดร้ วม ณ ระดบั ปรมิ าณการขายต่างๆ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ ถงึ ขนั้ ตอนการวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ โดยใชแ้ ผนภาพ จงึ ขอยกตวั อยา่ งและอธบิ ายประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-2 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 4-2 จากขอ้ มูลตวั อย่างท่ี 4-1 ของบรษิ ัท เจา้ ขุนทองไทย จากดั สามารถนามาวเิ คราะห์ จดุ คุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชแ้ ผนภาพ ตามขนั้ ตอนในการจดั ทา ไดด้ งั น้ี ขนั้ ที่ 1 กาหนดค่าบนแกนตงั้ และแกนนอน โดยใหแ้ กนนอนเป็นปรมิ าณการขาย สนิ คา้ ส่วนแกนตงั้ เป็นจานวนเงนิ ขนั้ ท่ี 2 ลากเส้นต้นทุนคงท่จี ากแกนตงั้ ใหข้ นานกบั แกนนอน ณ ระดบั จานวนเงนิ 200,000 บาท ซง่ึ เทา่ กบั ตน้ ทุนคงทข่ี องบรษิ ทั เจา้ ขนุ ทองไทย จากดั ขนั้ ท่ี 3 คานวณหาตน้ ทุนรวม ณ ระดบั ปรมิ าณการขายใดหน่วยขายหน่ึง และกาหนด ไว้ สมมตเิ ลอื กปรมิ าณการขาย ณ ระดบั 3,000 หน่วย ตน้ ทุนรวมจะเท่ากบั 560,000 บาท ซง่ึ คานวณไดจ้ ากสมการตน้ ทนุ ดงั น้ี จากสมการตน้ ทุน y = a + bx จะได้ = 200,000 + 120(3,000) = 560,000 บาท บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 99 ขนั้ ท่ี 4 ลากเสน้ ตน้ ทุนผนั แปรจากจุดตดั ทแ่ี กนตงั้ ณ ระดบั จานวนเงนิ 200,000 บาท ผา่ นจดุ ทก่ี าหนดในขนั้ ท่ี 3 เสน้ ทไ่ี ดจ้ ะเป็นเสน้ ตน้ ทุนรวม ณ ระดบั ปรมิ าณการขายต่างๆ ขนั้ ท่ี 5 คานวณยอดขาย ณ ปรมิ าณการขายใดหน่วยขายหน่ึง และกาหนดจุดไว้ สมมตวิ ่าเลอื กปรมิ าณการขาย ณ ระดบั 4,000 หน่วย ยอดขายจะเท่ากบั (4,000 x 200) = 800,000 บาท ขนั้ ท่ี 6 ลากเสน้ รายไดจ้ ากจดุ ตดั ของแกนตงั้ และแกนนอนซง่ึ มคี ่าเท่ากนั ศูนยใ์ หผ้ า่ น จดุ ทก่ี าหนดไวใ้ นขนั้ ท่ี 5 จะไดเ้ สน้ รายไดร้ วม ณ ระดบั ปรมิ าณการขายต่างๆ จากขนั้ ตอนการวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ โดยวธิ ใี ชแ้ ผนภาพ สามารถนามาสรา้ งแผนภาพ ประกอบเพอ่ื พจิ ารณา ดงั แสดงในภาพท่ี 4-1 ดงั น้ี ภาพท่ี 4-1 แสดงจดุ คุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชแ้ ผนภาพ จากภาพท่ี 4-1 แสดงใหเ้ หน็ วา่ ณ ระดบั ปรมิ าณการขายจานวน 2,500 หน่วย และ ณ จานวนเงนิ เท่ากบั 500,000 บาท คอื จดุ ทเ่ี สน้ รายไดต้ ดั กบั เสน้ ต้นทุนรวมพอดี นนั่ หมายความ ว่า เป็นจุดทม่ี กี าไรเป็นศูนยห์ รอื รายไดเ้ ท่ากบั ต้นทุนรวมพอดี จงึ ถอื ว่าจุดน้ีเป็นจุดคุม้ ทุน ซ่งึ สรุปได้ว่า บรษิ ทั ฯ มีปรมิ าณการขาย ณ จุดคุ้มทุนเท่ากบั 2,500 หน่วย และยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ เท่ากบั 500,000 บาท บทท่ี 4
100 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 2. การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทนุ โดยวิธีใช้สมการ การวเิ คราะหจ์ ุดคุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชส้ มการ เป็นวธิ ที ส่ี ะดวกและคานวณไดอ้ ยา่ งงา่ ย ซง่ึ สามารถคานวณไดจ้ ากสมการพน้ื ฐานของการคานวณกาไรสทุ ธิ ดงั น้ี จากสมการกาไรสทุ ธิ = ยอดขาย - ตน้ ทุนคงท่ี - ตน้ ทนุ ผนั แปร จะได้ ยอดขาย = ตน้ ทนุ คงท่ี + ตน้ ทนุ ผนั แปร + กาไรสุทธิ หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ a + bx + π px = โดยท:่ี x = ปรมิ าณการผลติ และขาย p = ราคาขายต่อหน่วย b = ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วย a = ตน้ ทุนคงทร่ี วม π = กาไรสทุ ธิ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ เกย่ี วกบั การวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ โดยวธิ ใี ชส้ มการ จงึ ขอยกตวั อยา่ งและอธบิ ายประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-3 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 4-3 จากขอ้ มลู ตวั อยา่ งท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขนุ ทองไทย จากดั สามารถนามาวเิ คราะห์ จดุ คุม้ ทนุ โดยวธิ ใี ชส้ มการ ไดจ้ ากสตู รดงั น้ี จาก px = a + bx + π จะได้ 200x = 200,000 + 120x + 0 200 - 120x = 200,000 80x = 200,000 x = 200,000 / 80 x = 2,500 หน่วย หรอื 500,000 บาท บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 101 จากการคานวณขา้ งต้น แสดงใหเ้ หน็ ว่าบรษิ ทั มปี รมิ าณการขาย ณ จุดคุม้ ทุนจานวน เทา่ กบั 2,500 หน่วย หรอื คดิ เป็นจานวนเงนิ เทา่ กบั 500,000 บาท (2,500 หน่วย x 200 บาท) 3. การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทุนโดยวิธีใช้กาไรส่วนเกิน การวเิ คราะหจ์ ุดคุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ เป็นวธิ กี ารนากาไรส่วนเกนิ มาคานวณ ซง่ึ ทาไดง้ า่ ย และเป็นวธิ ที น่ี ิยมใชค้ ่อนขา้ งมาก สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ก. ปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ (หน่วย) ปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ = ตน้ ทุนคงทร่ี วม กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ ไดด้ งั น้ี p-b XBE = p ข. ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ (บาท) ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทุน = ตน้ ทุนคงทร่ี วม อตั รากาไรส่วนเกนิ หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ ไดด้ งั น้ี YBE a = p -b p เพ่อื ให้เขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ เก่ยี วกบั การวเิ คราะห์จุดคุ้มทุนโดยวธิ ีใช้กาไร สว่ นเกนิ จงึ ขอยกตวั อยา่ งและอธบิ ายประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-4 ดงั น้ี บทท่ี 4
102 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร ตวั อย่างที่ 4-4 จากขอ้ มลู ตวั อยา่ งท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขนุ ทองไทย จากดั สามารถนามาวเิ คราะห์ จดุ คุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ ไดด้ งั น้ี ปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทุน = a p-b = 200,000 200 - 120 = 2,500 หน่วย ดงั นนั้ ปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทุนของบรษิ ทั มจี านวนเทา่ กบั 2,500 หน่วย ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทุน =a p -b p = 200,000 200 - 120 200 = 200,000 0.4 = 500,000 บาท ดงั นนั้ จดุ คุม้ ทุนของบรษิ ทั เจา้ ขนุ ทองไทย จากดั กจ็ ะเท่ากบั 500,000 บาท จากการคานวณปรมิ าณขาย ณ จุดคุม้ ทุน และยอดขาย ณ จุดคุม้ ทุนขา้ งตน้ ไม่ว่าจะ วเิ คราะหโ์ ดยวธิ ใี ช้สมการ วธิ ใี ช้แผนภาพ หรอื วธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ จะมจี านวนเท่ากนั เสมอ คอื ปรมิ าณการขายจานวน 2,500 หน่วย และยอดขายเท่ากบั 500,00 บาท แต่เพ่อื เป็นการพสิ จู น์ ความถูกต้องในปรมิ าณและยอดขายท่คี านวณได้ จงึ จดั ทางบกาไรขาดทุนเพ่อื ทาการพสิ ูจน์ ความถกู ตอ้ ง ซง่ึ ผลการดาเนินงานทไ่ี ดจ้ ะตอ้ งมยี อดเป็นศูนย์ สามารถแสดงการจดั ทาไดด้ งั น้ี งบกาไรขาดทนุ เพ่อื พสิ จู น์ปรมิ าณขาย หรอื ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทุน หน่วย : บาท ยอดขาย (200 x 2,500) 500,000 หกั ตน้ ทุนผนั แปร (120 x 2,500) 300,000 กาไรส่วนเกนิ 200,000 หกั ตน้ ทุนคงท่ี 200,000 กาไรก่อนหกั ภาษี -0- บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 103 จากการทางบพสิ จู น์ขา้ งตน้ พบว่า บรษิ ทั มยี อดกาไรก่อนหกั ภาษีเท่ากบั “0” บาทนนั่ หมายความว่า ณ ระดบั จุดคุม้ ทุนทค่ี านวณได้ คอื ปรมิ าณจานวน 2,500 หน่วย หรอื ยอดขาย จานวน 500,000 บาท เป็นยอดทถ่ี ูกตอ้ ง การวางแผนกาไร การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร สง่ิ สาคญั คอื บรษิ ทั จะตอ้ งวางแผนกาไรเพ่อื ให้ บรรลุวตั ถุประสงค์ตามท่วี างแผนไว้ เพราะกาไรถือเป็นตัวช้ีวดั ในการแสดงให้เห็นถึงการ ดาเนินงานท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพไดเ้ ป็นอยา่ งดี ดงั นนั้ หลงั จากท่บี รษิ ทั ไดว้ เิ คราะห์จดุ คุม้ เรยี บรอ้ ย แลว้ หน้าทใ่ี นการวางแผนต่อจากน้ีคอื การวางแผนกาไร (Profit Planning) ซง่ึ สามารถคานวณ ไดจ้ าก 3 วธิ ี เช่นเดยี วกบั การวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ คอื 1. การวางแผนกาไรโดยวธิ ใี ชแ้ ผนภาพ 2. การวางแผนกาไรโดยวธิ ใี ชส้ มการ 3. การวางแผนกาไรโดยวธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ เน้ือหาบทน้ีจะอธบิ ายและแสดงการคานวณเฉพาะการวางแผนกาไรโดยวธิ ใี ชส้ มการ และวธิ ใี ชก้ าไรสว่ นเกนิ เทา่ นนั้ เน่อื งจากเป็นวธิ ที ส่ี ะดวก ทาไดง้ า่ ย และเป็นวธิ ที น่ี ิยมใชเ้ พ่อื การ คานวณ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ จงึ ขอยกตวั อยา่ งประกอบเพ่อื การวางแผนกาไรทงั้ 2 วธิ ดี งั น้ี 1. การวางแผนกาไรโดยวิธีใช้สมการ การวางแผนกาไรโดยวธิ ใี ชส้ มการ เป็นวธิ ที ท่ี าไดง้ า่ ยโดยการคานวณต่อจากการ วเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทุนโดยวธิ ใี ชส้ มการ สามารถคานวณไดด้ งั น้ี จากสมการกาไรสุทธิ = ยอดขาย - ตน้ ทุนคงท่ี - ตน้ ทุนผนั แปร จะไดย้ อดขาย = ตน้ ทนุ คงท่ี + ตน้ ทนุ ผนั แปร + กาไรสุทธิ หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ px = a + bx + π บทท่ี 4
104 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร โดยท:่ี x = ปรมิ าณการผลติ และขาย p = ราคาขายต่อหน่วย b = ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วย a = ตน้ ทนุ คงทร่ี วม π = กาไรสุทธิ เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ เก่ยี วกบั การวางแผนกาไรโดยวธิ ใี ชส้ มการ จงึ ขอ ยกตวั อยา่ งประกอบเพ่อื การวางแผนกาไร ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-5 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 4-5 จากตวั อยา่ งท่ี 4-1 ขอ้ มลู ของบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั สมมตถิ ้าบรษิ ทั ต้องการ กาไรจานวน 200,000 บาท บรษิ ทั ตอ้ งขายสนิ คา้ จานวนกห่ี น่วย และจานวนเงนิ ก่บี าท จงึ จะทา ใหไ้ ดก้ าไรตามทต่ี อ้ งการ จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณโดยวธิ ใี ชส้ มการ ดงั น้ี จาก px = a + bx + π จะได้ 200x = 200,000 + 120x + 200,000 200x - 120x = 200,000 + 200,000 80x = 400,000 x = 400,000 / 80 x = 5,000 หน่วย หรอื 1,000,000 บาท ดงั นนั้ ถ้าบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั ต้องการกาไรจานวน 200,000 บาทต้องขาย สนิ คา้ เทา่ กบั 5,000 หน่วย หรอื คดิ เป็นจานวนเงนิ 1,000,000 บาท 2. การวางแผนกาไรโดยวิธีใช้กาไรส่วนเกิน การวางแผนกาไรโดยวิธีใช้กาไรส่วนเกิน เป็นลักษณะการวางแผนต่อจากการ วเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ โดยวธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ ซง่ึ สามารถคานวณไดท้ งั้ จานวนหน่วยและจานวนเงนิ จากสตู ร ดงั น้ี บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 105 ก. ปรมิ าณการขาย (หน่วย) ปรมิ าณการขายเพ่อื ใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ = ตน้ ทนุ คง ทรี่ วม กาไรทตี่ อ้ งการ กาไรสว่ นเกินตอ่ หนว่ ย หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ x = a กาไรทต่ี อ้ งการ p-b ข. ยอดขาย (บาท) ยอดขายเพอ่ื ใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ = ตน้ ทนุ คง ทรี่ วม กาไรทตี่ อ้ งการ อตั รากาไรสิว่ นเกน หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ = a กาไรทต่ี อ้ งการ y p - b p เพ่อื ให้เกดิ ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ และทาให้สามารถคานวณหาปรมิ าณการขายและ ยอดขายเพ่ือให้ได้กาไรตามต้องการ จงึ ขอยกตัวอย่างเพ่ืออธิบายและแสดงการคานวณ ประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-6 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 4-6 จากขอ้ มลู ตวั อย่างท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั สมมตวิ ่า บรษิ ทั ต้องการ กาไร 200,000 บาท จะตอ้ งขายสนิ คา้ จานวนกห่ี น่วย และจานวนเงนิ กบ่ี าท จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณโดยวธิ ใี ชก้ าไรสว่ นเกนิ ไดด้ งั น้ี จากสตู ร x = a กาไรทต่ี ้องการ p-b = 200,000 200,000 200 - 120 = 5,000 หน่วย บทท่ี 4
106 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร จากการคานวณขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ ว่า ถา้ บรษิ ทั ต้องการกาไร 200,000 บาท จะต้อง ขายสนิ คา้ ใหไ้ ดจ้ านวน 5,000 หน่วย สว่ นจานวนยอดขายเพ่อื ใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ จะสามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี จากสตู ร y = a กาไรทต่ี อ้ งการ p - b p = 200,000 200,000 200 - 120 200 = 1,000,000 บาท จากการคานวณขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ ว่า ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไร 200,000 บาท จะตอ้ ง ขายสนิ คา้ ใหไ้ ดจ้ านวนเงนิ 1,000,000 หน่วย จากการคานวณปรมิ าณขาย หรอื ยอดขายเพ่อื ใหไ้ ด้กาไรตามต้องการ 200,000 บาท ข้างต้น โดยใช้วธิ สี มการ และใช้วธิ กี าไรส่วนเกินจะมจี านวนเท่ากัน คอื ปรมิ าณขายจานวน 5,000 หน่วย หรอื คดิ เป็นยอดขายเท่ากบั 1,000,000 บาท ดงั นัน้ เพ่อื เป็นการพสิ ูจน์ปรมิ าณ การขาย หรอื ยอดขายเพ่อื ใหไ้ ดก้ าไรตามต้องการดงั กล่าว จงึ ได้จดั ทางบกาไรขาดทุนเพอ่ี ทา การพสิ จู น์ ดงั น้ี ยอดขาย (200 x 5,000) หน่วย : บาท หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร (120 x 5,000) 1,000,000 กาไรส่วนเกนิ 600,000 หกั ตน้ ทุนคงท่ี 400,000 กาไรก่อนหกั ภาษี 200,000 200,000 จากการจดั ทางบกาไรขาดทุนพสิ จู น์ขา้ งต้น พบว่า บรษิ ทั มยี อดกาไรก่อนภาษเี ท่ากบั 200,000 บาท ซง่ึ ได้ผลกาไรเป็นไปตามท่ตี ้องการ นัน่ หมายความว่า ถ้าบรษิ ทั ต้องการกาไร 200,000 บาท จะต้องมปี รมิ าณขาย 5,0000 หน่วย หรอื ยอดขาย 1,000,000 บาท เป็นยอดท่ี ถกู ตอ้ ง บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 107 การวางแผนกาไรโดยมีภาษีเงินได้เข้ามาเก่ียวข้อง จากการคานวณปรมิ าณการขายเพ่อื ใหไ้ ด้กาไรตามต้องการขา้ งต้น กาไรท่ตี ้องการ หมายถงึ กาไรก่อนภาษี แต่ถ้ากาไรทต่ี ้องการบรษิ ทั กาหนดเป็นกาไรหลงั หกั ภาษีเงนิ ได้ หรอื กาไรสุทธทิ ่แี ก้จรงิ ในกรณีท่บี รษิ ัทมกี ารพจิ ารณาภาษเี งนิ ได้เขา้ มาเก่ยี วขอ้ งการวเิ คราะห์ ซ่งึ สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ก. ปรมิ าณการขาย (หน่วย) ิตตน้ น้ททนุ ุนคงคทงีร่ทว่ริี มวม กา1ไ-รอหตัลรังาหภกั าภษาีษี ปรมิ าณการขายเพอ่ื ใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ = กาไรส่วนเกินตอ่ หน่วย หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ ไดด้ งั น้ี a กาไรหลงั หักภาษี 1- อตั ราภาษี x = p-b ข. ยอดขาย (บาท) ตน้ ทุนคง ทร่ี วม กา1ไ-รอหตัลรังาหภกั าภษาีษี ยอดขายเพ่อื ใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ = อตั รากาไรสิ่วนเกน หรอื เขยี นเป็นสญั ลกั ษณ์ ไดด้ งั น้ี a กาไรหลงั หักภาษี 1- อตั ราภาษี y = p -b p เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ เกย่ี วกบั การวางแผนกาไรโดยมภี าษเี งนิ ไดเ้ ขา้ มา เกย่ี วขอ้ ง จงึ ขอยกตวั อยา่ งเพ่อื อธบิ ายและแสดงการคานวณประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-7 ดงั น้ี บทท่ี 4
108 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร ตวั อย่างท่ี 4-7 จากขอ้ มลู ตวั อยา่ งท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั สมมตวิ ่า บรษิ ทั ตอ้ งการ กาไรหลงั หกั ภาษี 200,000 บาท โดยมอี ตั ราภาษเี งนิ ได้ 20% บรษิ ทั จะตอ้ งขายสนิ คา้ จานวน กห่ี น่วย หรอื คดิ เป็นจานวนเงนิ กบ่ี าท จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณโดยวธิ ใี ชก้ าไรสว่ นเกนิ ไดด้ งั น้ี a กาไรหลงั หักภาษี 1- อตั ราภาษี จากสตู ร x = p-b 200,000 200,000 = 1- 0.2 200 - 120 = 5,625 หน่วย ดงั นัน้ ถ้าบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั ต้องการกาไรหลงั หกั ภาษี 200,000 บาท จะตอ้ งขายสนิ คา้ ใหไ้ ดจ้ านวน 5,625 หน่วย หรอื จานวนเงนิ เท่ากบั 1,125,000 บาท ซง่ึ สามารถ แสดงการคานวณ ไดด้ งั น้ี a กาไรหลงั หักภาษี 1- อตั ราภาษี จากสตู ร y = p -b p 200,000 200,000 = 1- 0.2 200 - 120 200 = 1,125,000 บาท จากการคานวณปรมิ าณขาย หรอื ยอดขายเพ่อื ใหไ้ ดก้ าไรหลงั หกั ภาษี 200,000 บาท ขา้ งต้น คอื ปรมิ าณขายจานวน 5,625 หน่วย และยอดขายเท่ากบั 1,125,000 บาท สามารถ นามาจดั ทางบกาไรขาดทุนเพ่อื ทาการพสิ ูจน์ปรมิ าณการขาย หรอื ยอดขายเพ่อื ให้ไดก้ าไรตาม ตอ้ งการ ไดด้ งั น้ี บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 109 ยอดขาย (200 x 5,625) หน่วย : บาท หกั ตน้ ทุนผนั แปร (120 x 5,625) 1,125,000 กาไรสว่ นเกนิ 675,000 หกั ตน้ ทุนคงท่ี 450,000 กาไรก่อนหกั ภาษี 200,000 หกั ภาษเี งนิ ได้ 20% 250,000 กาไรหลงั หกั ภาษี 50,000 200,000 จากการจดั ทางบกาไรขาดทนุ พสิ จู น์ขา้ งตน้ พบว่า บรษิ ทั มยี อดกาไรหลงั หกั ภาษี เท่ากบั 200,000 บาท ซง่ึ ไดผ้ ลกาไรเป็นไปตามทต่ี อ้ งการ นนั่ หมายความว่า ถ้าบรษิ ทั ตอ้ งการ กาไรหลงั หกั ภาษีจานวน 200,000 บาท จะต้องมปี รมิ าณขาย 5,625 หน่วย หรอื ยอดขาย 1,125,000 บาท เป็นยอดทถ่ี กู ตอ้ ง การเปลี่ยนแปลงตวั แปรในการวิเคราะหต์ ้นทนุ ปริมาณ และกาไร จากสภาพแวดล้อมในปจั จุบนั ท่มี กี ารเปล่ียนแปลงอยู่เสมอ เช่น สภาพเศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรม เทคโนโลยี การเมอื ง การแข่งขนั เป็นตน้ ได้ส่งผลกระทบต่อการวางแผน ของผู้บรหิ ารเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการวางแผนกาไร เพราะสภาพแวดล้อมดงั กล่าวมี ความเกย่ี วขอ้ งกบั ตวั แปรทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร ไดแ้ ก่ ตน้ ทุนผนั แปรต่อ หน่วย ตน้ ทุนคงท่รี วม ราคาขายต่อหน่วย การเปลย่ี นแปลงเหล่าน้ีจะทาใหจ้ ุดคุม้ ทุน และกาไร ของบรษิ ัทเปล่ยี นแปลงไปด้วย ดงั นัน้ ผู้บรหิ ารของบรษิ ัทจงึ ต้องติดตามการเปล่ยี นแปลง ดงั กล่าวอย่เู สมอเพ่อื ให้การวางแผนทนั ต่อสถานการณ์ในปจั จุบนั ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป ซง่ึ สามารถ พจิ ารณาถงึ การเปลย่ี นแปลงตวั แปรในการวเิ คราะหไ์ ดด้ งั น้ี 1. การเปลี่ยนแปลงต้นทุนผนั แปรต่อหน่วย สาหรบั ขอ้ มลู การเปลย่ี นแปลงตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วยทจ่ี ะอธบิ ายต่อไปน้ี จะขอยก ตวั อยา่ งโดยใชข้ อ้ มลู ตวั แปรตามตวั อยา่ งท่ี 4-1 ซง่ึ มกี ารกาหนดค่าของตวั แปรทเ่ี กย่ี วขอ้ งไว้ แลว้ ดงั น้ี x = 4,000 p = 200 b = 120 a = 200,000 บทท่ี 4
110 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร ตวั อย่างที่ 4-8 จากขอ้ มลู ตวั อยา่ งท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขนุ ทองไทย จากดั ถา้ บรษิ ทั ลดต้นทุนผนั แปร ต่อหน่วยลงจากเดมิ หน่วยละ 120 บาท เป็น 100 บาท ขณะทป่ี จั จยั อ่นื ไมเ่ ปลย่ี นแปลง ปรมิ าณ ขาย ณ จดุ คุม้ ทุนใหมข่ องบรษิ ทั คอื เท่าใด การเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ขา้ งต้น มผี ลกระทบต่อตวั แปร b จากเดมิ มคี ่าเท่ากบั 120 แต่ ตามเง่อื นไขน้ีไดเ้ ปลย่ี นเป็นเท่ากบั 100 ขณะทค่ี ่าตวั แปรอ่นื ไม่เปล่ยี นแปลง จงึ สามารถแสดง การคานวณไดด้ งั น้ี จากสตู ร XBE = a p-b = 200,000 200 - 100 = 2,000 หน่วย ดงั นนั้ จากการคานวณจะเหน็ ว่าเม่อื ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วยลดลงจาก 120 บาท เป็น 100 บาท จดุ คุม้ ทนุ จะลดลงจาก 2,500 หน่วย เป็น 2,000 หน่วย 2. การเปล่ียนแปลงต้นทุนคงที่รวม สาหรบั ขอ้ มลู การเปลย่ี นแปลงตน้ ทนุ คงทร่ี วม จะขอยกตวั อยา่ งโดยใชข้ อ้ มลู ตวั แปร ตามตวั อยา่ งท่ี 4-1 ซง่ึ มกี ารกาหนดคา่ ของตวั แปรทเ่ี กย่ี วขอ้ งไวแ้ ลว้ ดงั น้ี x = 4,000 p = 200 b = 120 a = 200,000 ตวั อย่างที่ 4-9 จากขอ้ มลู ตวั อยา่ งท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั ถา้ บรษิ ทั เพม่ิ ต้นทุนคงท่ี รวมจากเดมิ 200,000 บาท เป็น 250,000 บาท ขณะทป่ี จั จยั อ่นื ไมเ่ ปลย่ี นแปลง ปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ ใหมเ่ ป็นจานวนเทา่ ใด การเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ขา้ งตน้ มผี ลกระทบต่อตวั แปร a จากเดมิ มคี ่าเท่ากบั 200,000 แต่ตามเงอ่ื นไขน้ไี ดเ้ ปลย่ี นเป็นเทา่ กบั 250,000 ขณะทค่ี ่าตวั แปรอ่นื ไม่เปลย่ี นแปลง จงึ สามารถ แสดงการคานวณไดด้ งั น้ี บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 111 จากสตู ร XBE = a p-b = 250,000 200 - 100 = 3,125 หน่วย ดงั นัน้ จากการคานวณจะเห็นว่าเม่อื เพมิ่ ต้นทุนคงท่รี วมจาก 200,000 บาท เป็น 250,000 บาท จดุ คุม้ ทนุ จะเพมิ่ ขน้ึ จาก 2,500 หน่วย เป็น 3,125 หน่วย 3. การเปลี่ยนแปลงราคาขายต่อหน่วย สาหรบั ขอ้ มลู การเปลย่ี นแปลงราคาขายต่อหน่วย จะขอยกตวั อยา่ งโดยใชข้ อ้ มลู ตวั แปรตามตวั อยา่ งท่ี 4-1 ซง่ึ มกี ารกาหนดค่าของตวั แปรทเ่ี กย่ี วขอ้ งไวแ้ ลว้ ดงั น้ี x = 4,000 p = 200 b = 120 a = 200,000 ตวั อย่างท่ี 4-10 จากตวั อย่างท่ี 4-1 ของบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั ถ้าบรษิ ทั ลดราคาขายต่อหน่วย ลงจากเดมิ หน่วยละ 200 บาท เป็น 180 บาท ขณะทป่ี จั จยั อ่นื ไมเ่ ปลย่ี นแปลง ปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ ใหมเ่ ป็นจานวนเท่าใด การเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ขา้ งตน้ มผี ลกระทบต่อตวั แปร p จากเดมิ มคี ่าเท่ากบั 200 แต่ ตามเง่อื นไขน้ีไดเ้ ปลย่ี นเป็นเท่ากบั 180 ขณะทค่ี ่าตวั แปรอ่นื ไม่เปล่ยี นแปลง จงึ สามารถแสดง การคานวณไดด้ งั น้ี จากสตู ร XBE = a pb = 250,000 180 100 = 3,333.33 หน่วย บทท่ี 4
112 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร ดงั นนั้ จากการคานวณจะเหน็ ว่าเม่อื ราคาขายต่อหน่วยลดลงจาก 200 บาท เป็น 180 บาท จดุ คุม้ ทนุ จะเพม่ิ ขน้ึ จาก 2,500 หน่วย เป็น 3,333.33 หน่วย หรอื ประมาณ 3,333 หน่วย ส่วนเกินที่ปลอดภยั ส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั (Margin of Safety) หมายถงึ ผลต่างระหว่างยอดขายจรงิ หรอื ยอดขายตามเป้าหมาย กับยอดขาย ณ จุดคุ้มทุน ประโยชน์ของการวิเคราะห์ส่วนเกินท่ี ปลอดภยั คอื จะช่วยให้ฝ่ายบรหิ ารสามารถนาไปใช้ในการตดั สนิ ใจเก่ียวกบั การกาหนด และ ยอมรบั นโยบายบางอย่างท่อี าจจะมผี ลทาใหย้ อดขายในปจั จุบนั หรอื ยอดขายตามเป้าหมาย ลดลง แต่ไม่ต่ากว่าจดุ คุม้ ทุน หรอื ไม่ทาใหบ้ รษิ ทั ขาดทุนนนั่ เอง โดยทวั่ ไปส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั มกั แสดงอยใู่ นรปู จานวนเงนิ (บาท) หรอื เป็นอตั ราส่วน โดยสามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี 1. จานวนเงินส่วนเกินท่ีปลอดภยั ส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั เป็นผลต่างของยอดขายจรงิ กบั ยอดขาย ณ จุดคุม้ ทุน สามารถ คานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี สว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั (บาท) = ยอดขายจรงิ - ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 2. อตั ราส่วนเกินท่ีปลอดภยั การวเิ คราะห์อตั ราส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั เป็นการเปรยี บเทยี บส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั ท่จี ะ เกดิ ขน้ึ วา่ เป็นกเ่ี ปอรเ์ ซน็ ตห์ รอื เป็นรอ้ ยละเท่าไรของยอดขาย สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี อตั ราส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั = ยอดขายจรงิ -ยอดขายณ จดุ คมุ้ ทนุ x 100 ยอดขายจรงิ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจและชัดเจนมากยิ่งข้นึ เก่ียวกับส่วนเกินท่ีปลอดภยั จงึ ขอ ยกตวั อยา่ งเพอ่ื อธบิ ายและแสดงการคานวณประกอบ ดงั แสดงไดใ้ นตวั อยา่ งท่ี 4-11 ดงั น้ี บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 113 ตวั อย่างที่ 4-11 ขอ้ มูลจากตวั อย่างท่ี 4-1 ของบรษิ ัท เจา้ ขุนทองไทย จากดั สามารถนามาขอ้ มูลมา แสดงการคานวณกาไรส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั และอตั ราส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั ไดด้ งั น้ี 1. สว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั (บาท) = ยอดขายจรงิ - ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ = 800,000 - 500,000 = 300,000 บาท 2. อตั ราสว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั = ยอดขายจรงิ -ยอดขายณ จดุ คุม้ ทนุ x 100 ยอดขายจรงิ = 800,000- 500,000 x 100 800,000 = 0.375 หรอื 37.50% ดงั นนั้ สว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั ของบรษิ ทั เจา้ ขุนทองไทย จากดั กจ็ ะเท่ากบั 300,000 บาท หรอื คดิ เป็นอตั ราสว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั เท่ากบั 37.50% การวิเคราะหจ์ ดุ ค้มุ ทนุ กรณีขายสินค้าหลายชนิด การวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทนุ ทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ เป็นเพยี งการวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทุนทเ่ี กดิ จากการ ขายสนิ ค้าชนิดเดยี วเท่านัน้ แต่ถา้ กรณีบรษิ ทั ขายสนิ ค้าหลายชนิด หรอื มากกว่า 1 ชนิดและ สนิ ค้าแต่ละชนิดก็มตี ้นทุนต่างกนั ราคาขายต่างกนั จงึ ทาให้กาไรท่ไี ด้ก็ต่างกนั การคานวณ จุดคุ้มทุนจงึ ต้องหาสดั ส่วนการขาย (Sale Mix) เพ่อื ให้ทราบว่าจะต้องขายสนิ ค้าแต่ละชนิด จานวนเท่าใด จงึ จะทาใหบ้ รษิ ทั คุม้ ทุน โดยต่อไปน้จี ะใช้ กาไรส่วนเกินต่อหน่วยถวั เฉลี่ย เพ่อื ประกอบการคานวณจดุ คุม้ ทุน กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยถวั เฉลย่ี สามารถคานวณไดจ้ ากสตู รดงั น้ี (ไพบลู ย์ ผจงวงศ,์ 2554 : 93) กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยถวั เฉลย่ี = กาไรสว่ นเกินตอ่ หน่วยตามสดั สว่ นการขาย สดั สว่ นการขายรวม เพ่อื ให้เขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ เก่ยี วกบั การวเิ คราะห์จุดคุ้มทุนกรณีขายสนิ ค้า หลายชนดิ จงึ ขอยกตวั อยา่ งประกอบการอธบิ ายและคานวณ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 4-12 ดงั น้ี บทท่ี 4
114 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร ตวั อย่างที่ 4-12 บรษิ ัท แอดอาร์ตการผลิต จากดั ผลติ และขายสนิ ค้า 2 ชนิด คอื กระเป๋ าเดนิ ทาง และกระเป๋ าแฟชนั่ มขี อ้ มลู เกย่ี วกบั การผลติ และขาย ดงั น้ี ปรมิ าณการขาย กระเป๋ า กระเป๋ า รวม ราคาขายต่อหน่วย เดินทาง แฟชนั ่ 1,500 ยอดขาย 1,000 190,000 หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร 500 200 90 กระเป๋ าเดนิ ทาง @ 100 100,000 กระเป๋ าแฟชนั่ @ 50 90,000 กาไรส่วนเกนิ 50,000 กระเป๋ าเดนิ ทาง @ 100 (200 - 100) - 50,000 (100,000) กระเป๋ าแฟชนั่ @ 40 (90 - 40) หกั ตน้ ทุนคงท่ี 50,000 40,000 90,000 กาไรสุทธิ 10,000 (36,000) 26,000 54,000 จากขอ้ มลู ขา้ งต้น สามารถนามาแสดงการวเิ คราะห์จุดคุม้ ทุนของสนิ คา้ แต่ละชนิดได้ ตามลาดบั ต่อไปน้ี 1. คานวณสดั ส่วนการขาย จากยอดขายกระเป๋ าเดนิ ทางเท่ากบั 500 หน่วย ส่วนยอดขายกระเป๋ าแฟชนั่ เท่ากบั 1,000 หน่วย ดงั นนั้ เม่อื เทยี บยอดขายของสนิ คา้ ทงั้ 2 ชนดิ จงึ มสี ดั ส่วนการขายเท่ากนั 1 : 2 2. คานวณกาไรส่วนเกินต่อหน่วยถวั เฉลี่ย รายการ กาไร สดั ส่วน กาไรส่วนเกินต่อ ส่วนเกิน การขาย หน่วยตามสดั ส่วน ต่อหน่วย กระเป๋ าเดนิ ทาง 100 x 1 = การขาย 100 กระเป๋ าแฟชนั่ 40 x 2 = 80 รวม 3 180 บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 115 กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยถวั เฉลย่ี = 180 3 = 60 บาท 3. คานวณจดุ ค้มุ ทุนรวมเป็นปริมาณการขาย ตตน้น้ ททุนนุ คคงงทท่ีรร่ิี ววมม กาไรสว่ นเกินตอ่ หน่วยถวั เฉลยี่ จาก = = 36,000 60 = 600 หน่วย จากการคานวณขา้ งตน้ จดุ คุ้มทุนรวมของสนิ ค้ากระเป๋ าเดนิ ทาง และกระเป๋ าแฟชนั่ ของบรษิ ทั แอดอารต์ การผลติ จากดั เท่ากบั 600 หน่วย ซง่ึ สามารถนามาหาจุดคุม้ ทุนของสนิ คา้ แต่ละชนดิ ไดด้ งั น้ี สินค้ากระเป๋ าเดินทาง = 600 x 1 ปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ 3 = 200 หน่วย ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ = 200 หน่วย x 200 บาท = 40,000 บาท สินค้ากระเป๋ าแฟชนั่ = 600 x 2 ปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ 3 = 400 หน่วย ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ = 400 หน่วย x 90 บาท = 36,000 บาท บทท่ี 4
116 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร จากการคานวณจดุ คุม้ ทุนขา้ งต้น เป็นจดุ คุม้ ทุนเม่อื สดั ส่วนของการขายสนิ คา้ กระเป๋ า เดนิ ทาง และกระเป๋ าแฟชนั่ เท่ากบั 1 : 2 เท่านนั้ โดยต้องกาหนดใหส้ ดั ส่วนของการขายคงท่ี เสมอในชว่ งของการวเิ คราะห์ ซง่ึ เป็นไปตามขอ้ สมมตฐิ านของการวเิ คราะหท์ ว่ี ่าสดั ส่วนการขาย ของสินค้าแต่ละชนิดจะคงท่ีในทุกๆระดับของการขาย เพราะถ้าสัดส่วนของการขาย เปลย่ี นแปลงไป จดุ คุม้ ทุนกจ็ ะเปลย่ี นแปลงไปดว้ ย ดงั นนั้ ในการคานวณหาสดั ส่วนของการขาย จงึ ต้องใช้ความระมดั ระวังให้เกิดความถูกต้อง เพราะถ้าคานวณผิดก็จะทาให้การคานวณ จดุ คุม้ ทุนของสนิ คา้ แต่ละชนิดผดิ ตามไปดว้ ย สรปุ การวเิ คราะห์ต้นทุน ปรมิ าณ และกาไร เป็นเคร่อื งมอื สาคญั ท่ชี ่วยผู้บรหิ ารในการ วางแผนกาไรของบรษิ ทั ซง่ึ การวางแผนกาไรทด่ี จี าเป็นต้องคานวณหาจุดคุ้มทุนก่อน เพราะ เป็นการวเิ คราะหห์ าจดุ ทม่ี ปี รมิ าณขายหรอื ยอดขายเท่ากบั ต้นทุนทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ทงั้ หมดของบรษิ ทั พอดี การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนทาได้ 3 วธิ ี คือ วิธีใช้แผนภาพ วิธีใช้สมการ และวิธีใช้กาไร ส่วนเกนิ ซง่ึ หลงั จากวเิ คราะห์จุดคุม้ ทุนไดแ้ ลว้ กจ็ ะนาไปวางแผนกาไรต่อโดยวธิ ใี ชส้ มการ และ วธิ ีใช้กาไรส่วนเกิน นอกจากน้ียงั มีการวเิ คราะห์ส่วนเกินท่ปี ลอดภยั เพ่อื ช่วยให้ฝ่ายบรหิ าร สามารถนาไปใชใ้ นการตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั การกาหนด และยอมรบั นโยบายบางอยา่ งทอ่ี าจจะมผี ล ทาให้ยอดขายในปจั จุบนั หรอื ยอดขายตามเป้าหมายลดลง แต่เน่ืองจากสภาพแวดล้อมใน ปจั จบุ นั ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงไปผบู้ รหิ ารจงึ ตอ้ งศกึ ษาถงึ การเปลย่ี นแปลงตวั แปรในการวเิ คราะห์ ตน้ ทุน ปรมิ าณ และกาไรอย่เู สมอ รวมไปถงึ ต้องศกึ ษาการวเิ คราะหจ์ ุดคุ้มทุนกรณีบรษิ ทั ขาย สนิ คา้ หลายชนดิ เพ่อื ใหท้ ราบว่าจะต้องขายสนิ คา้ แต่ละชนิดจานวนเท่าใด โดยใช้กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยถวั เฉลย่ี แต่ควรระมดั ระวงั ในการคานวณหาสดั สว่ นของการขายใหถ้ กู ตอ้ ง บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 117 แบบฝึ กหดั ท้ายบท 1. จงคานวณหาจานวนเงนิ ในชอ่ งว่างทห่ี ายไปใหส้ มบรู ณ์ โดยแต่ละกรณเี ป็นอสิ ระจากกนั กรณี รายได้ ต้นทุน ต้นทุน ต้นทนุ กาไรจาก กาไร อตั รา การ ส่วนเกิน กาไร ผนั แปร คงท่ี รวม ดาเนิ นงาน ส่วนเกิน 1 .......... 1,500 ............. 2,200 1,800 2,500 ............. 2 1,500 ............... 300 ............... 600 900 ............. 3 2,000 800 ............. 1,200 ................. ............... ............. 4 3,000 ............... 300 ............... ................. ............... 20% 2. จงเตมิ ตวั เลขในช่องว่างต่อไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง โดยแต่ละกรณเี ป็นอสิ ระจากกนั กรณี ราคาขาย ต้นทุน หน่วยขาย กาไร ต้นทุนคงท่ี กาไร ส่วนเกิน รวม จากการ ผนั แปร รวม ดาเนินงาน ต่อหน่วย 1 40 25 5,000 …………… …………… 28,000 2 32 …………… 10,000 90,000 50,000 …………… 3 …………… 12 9,000 45,000 20,000 …………… 4 50 34 …………… 24,000 …………… 12,000 3. บริษัท เอ็มแอนเอ็ม จากัด มีข้อมูลเก่ียวกับยอดขาย และต้นทุนท่ีเก่ียวข้องสาหรับ ผลติ ภณั ฑช์ นิดหน่ึง โดยได้วางแผนการผลติ และขายปกติเท่ากับ 10,000 หน่วย ราคาขาย หน่วยละ 40 บาท ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วยเทา่ กบั 25 บาท ตน้ ทนุ คงทร่ี วม 100,000 บาท ให้ทา จงคานวณหาคาตอบต่อไปน้ี 1. กาไรส่วนเกนิ รวม 2. กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย 3. อตั รากาไรส่วนเกนิ บทท่ี 4
118 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 4. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู ของบรษิ ทั นาโชค จากดั 100,000 บาท ขายสนิ คา้ (1,000 หน่วย x 100 บาท) 60,000 บาท ตน้ ทนุ ผนั แปร (1,000 หน่วย x 60 บาท) 20,000 บาท ตน้ ทนุ คงท่ี ให้ทา จงคานวณหาคาตอบต่อไปน้ี 1. กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย 2. อตั รากาไรส่วนเกนิ 3. ปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 4. จานวนเงนิ ณ จดุ คุม้ ทนุ 5. พสิ จู น์ปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 5. รา้ นปงั ปอนด์ ไดท้ าการผลติ และจาหน่ายขนมเคก้ โดยในเดอื นทผ่ี ่านมามยี อดขายจานวน 2,000 ปอนด์ ราคาปอนดล์ ะ 150 บาท มตี ้นทุนการผลติ ผนั แปรต่อหน่วยเท่ากบั 80 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงทร่ี วมเทา่ กบั 40,000 บาท นอกจากน้ี ยงั มคี ่านายหน้าในการขายปอนดล์ ะ 10 บาท และค่าใชจ้ า่ ยการขายและการบรหิ ารคงทร่ี วม 20,000 บาท ให้ทา จงวเิ คราะหจ์ ดุ คุม้ ทุนโดยใชว้ ธิ ตี ่างๆ ตอ่ ไปน้ี เพ่อื หาปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 1. โดยวธิ ใี ชแ้ ผนภาพ 2. โดยวธิ ใี ชส้ มการ 3. โดยวธิ ใี ชก้ าไรสว่ นเกนิ 6. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู ของบรษิ ทั ตน้ หมาก จากดั 500,000 บาท 200,000 บาท ขายสนิ คา้ ตน้ ทนุ ผนั แปร 120,000 บาท 1,000 หน่วย ตน้ ทนุ คงท่ี ปรมิ าณหน่วยผลติ และขาย บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 119 ให้ทา จงใชว้ ธิ ตี ่อไปน้ี เพอ่ื คานวณปรมิ าณการขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 1. โดยวธิ ใี ชส้ มการ 2. โดยวธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ 7. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู ของบรษิ ทั ตน้ หอม จากดั 500,000 บาท ขายสนิ คา้ 200,000 บาท ตน้ ทนุ ผนั แปร 120,000 บาท ตน้ ทนุ คงท่ี ปรมิ าณหน่วยผลติ และขาย 1,000 หน่วย บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรก่อนภาษี 30,000 บาท ให้ทา จงคานวณปรมิ าณการขาย และยอดขาย เพ่อื ใหไ้ ดก้ าไรตามทต่ี อ้ งการ ตามวธิ ตี ่อไปน้ี 1. โดยวธิ ใี ชส้ มการ 2. โดยวธิ ใี ชก้ าไรส่วนเกนิ 8. บรษิ ทั ตน้ น้า จากดั ผลติ และขายสนิ คา้ ชนดิ หน่งึ มขี อ้ มลู การผลติ และขายในปจั จบุ นั ดงั น้ี ปรมิ าณการผลติ และขาย 20,000 หน่วย ราคาขายต่อหน่วย 20 บาท ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วย 15 บาท ตน้ ทนุ คงทต่ี ่อหน่วย 4 บาท ให้ทา (แต่ละกรณเี ป็นอสิ ระจากกนั ) 1. คานวณหาปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทุน และจานวนเงนิ ณ จดุ คุม้ ทนุ และทางบ กาไรขาดทนุ พสิ จู น์ปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 2. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรก่อนหกั ภาษเี ท่ากบั 40,000 บาท ตอ้ งขายสนิ คา้ จานวน กห่ี น่วย 3. ถา้ ขายสนิ คา้ ได้ 15,000 หน่วย บรษิ ทั จะไดก้ าไรหรอื ขาดทนุ เพราะเหตุใด 4. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการเพมิ่ ราคาขายเป็นหน่วยละ 25 บาท ปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทุน ใหมค่ อื เท่าใด บทท่ี 4
120 การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ปรมิ าณ และกาไร 9. บรษิ ทั ก่อไผ่การผลติ จากดั เป็นบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจาหน่ายสนิ คา้ ชนิดหน่ึง ซง่ึ ในขณะน้ี ผู้จดั การฝ่ายบญั ชขี องบรษิ ัทกาลงั พจิ ารณาเก่ียวกบั การวางแผนกาไรของปี 25x2 ขอ้ มูลท่ี นามาใชป้ ระกอบการพจิ ารณาเป็นขอ้ มลู ของปี 25x1 มดี งั น้ี ปรมิ าณการผลติ และจาหน่าย 1,500 หน่วย ราคาขายต่อหน่วย 400 บาท ตน้ ทุนการผลติ ต่อหน่วย: 80 บาท วตั ถุดบิ ทางตรง 100 บาท ค่าแรงงานทางตรง 50 บาท คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปร 60 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 20 บาท ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน: 20,000 บาท คา่ นายหน้าและคา่ ขนสง่ ต่อหน่วย 40,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการขายคงทร่ี วม คา่ ใชจ้ า่ ยการบรหิ ารคงทร่ี วม อตั ราภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคล 20% ให้ทา 1. คานวณหายอดขาย ณ จดุ คุม้ ทุน 2. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรหลงั หกั ภาษเี ท่ากบั 120,000 บาท จะตอ้ งมยี อดขายเท่าใด และพสิ จู น์ยอดขายทท่ี าใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ 3. คานวณสว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั และอตั ราสว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั 4. คานวณปรมิ าณขาย ณ จดุ คุม้ ทุนใหมใ่ นกรณตี ่อไปน้ี (แต่ละกรณเี ป็นอสิ ระจากกนั ) 4.1 ค่าแรงงานทางตรงเพมิ่ ขน้ึ 20% 4.2 ตน้ ทนุ คงทเ่ี พม่ิ ขน้ึ 10% 4.3 ราคาขายต่อหน่วยลดลงจาก 400 บาท เป็น 380 บาท 4.4 ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วยและราคาขายต่อหน่วยเพมิ่ ขน้ึ 5% บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 121 10. บรษิ ทั เพลงิ ทระนง จากดั มผี ลการดาเนินงานของงวดทผ่ี า่ นมา ดงั น้ี ขาย (20,000 หน่วย) ต่อหน่วย หน่วย : บาท หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร 40 รวม กาไรส่วนเกนิ หกั ตน้ ทนุ คงท่ี 25 800,000 กาไรจากการดาเนินงาน 15 500,000 300,000 180,000 120,000 ให้ทา คานวณกาไรขาดทุนของการเปลย่ี นแปลงในแต่ละกรณตี ่อไปน้ี (แต่ละกรณีเป็นอสิ ระ จากกนั ) 1. ปรมิ าณขายเพมิ่ ขน้ึ 20% จากการโฆษณาสนิ คา้ เพมิ่ เตมิ ซง่ึ เสยี คา่ ใชจ้ า่ ยจานวน 10,000 บาท 2. ราคาขายลดลง 5 บาทต่อหน่วย ตน้ ทุนคงทเ่ี พม่ิ ขน้ึ 20,000 บาท 3. ราคาขายเพม่ิ ขน้ึ 10% หน่วยขายลดลง 5% ตน้ ทุนคงทเ่ี พม่ิ 15% 4. ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วยและราคาขายต่อหน่วยเพม่ิ ขน้ึ 5% 11. บรษิ ทั แรงเงาการคา้ จากดั ทาการผลติ สนิ คา้ และจาหน่ายสนิ คา้ ชนิดหน่ึง โดยรวบรวม ขอ้ มูลเก่ยี วกบั การผลติ ประจาปี 25x1 เพ่อื ใชใ้ นการวเิ คราะห์ต้นทุน ปรมิ าณ และกาไร ในปี 25x2 ดงั น้ี ปรมิ าณการผลติ และจาหน่าย 10,000 หน่วย 300 บาท ราคาขายต่อหน่วย ตน้ ทุนการผลติ ประกอบดว้ ย 80 บาท 50 บาท วตั ถุดบิ ทางตรงต่อหน่วย 40 บาท คา่ แรงงานทางตรงต่อหน่วย 300,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปรต่อหน่วย ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงทร่ี วม บทท่ี 4
122 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร ประกอบดว้ ย 10% ของยอดขาย คา่ ใชจ้ า่ ยการขายผนั แปร 50,000 บาท คา่ ใชจ้ ่ายการขายคงทร่ี วม 150,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายการบรหิ ารคงทร่ี วม อตั ราภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล 20% ให้ทา 1. คานวณหาหน่วยขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ 2. บรษิ ทั มกี าไรก่อนหกั ภาษใี นปี 25x2 จานวนเท่าใด 3. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรก่อนหกั ภาษเี พมิ่ ขน้ึ จากเดมิ 20% จะตอ้ งมหี น่วยขายเท่าใด และพสิ จู น์หน่วยขายทท่ี าใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ 4. คานวณส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั (บาท) 5. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการลดราคาขายจากหน่วยละ 300 บาท เป็น 290 บาท หน่วยขาย ณ จดุ คุม้ ทุนใหม่ คอื เทา่ ใด 6. ถา้ หลงั จากลดราคาเป็น 290 บาทแลว้ ฝา่ ยการตลาดคาดวา่ จะทาใหย้ อดขาย ของบรษิ ทั ฯ เพม่ิ อกี 20% โดยทต่ี น้ ทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอ่นื ไมม่ กี ารเปลย่ี นแปลง บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจลดราคาดงั กลา่ วหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 12. บรษิ ทั น้าใจไทย จากดั ผลติ และจาหน่ายสนิ คา้ อยู่ 3 ชนดิ คอื สนิ คา้ เอ สนิ คา้ บี และ สนิ คา้ ซี ขอ้ มลู ในการผลติ และขายในปี 25x1 มดี งั น้ี สินค้า ราคาขายต่อหน่วย ต้นทนุ ผนั แปรต่อหน่วย ปริมาณการผลิต (บาท) (บาท) และขาย (หน่วย) เอ 15 9 1,200 บี 20 13 800 ซี 30 10 600 ตน้ ทุนคงทร่ี ว่ มของสนิ คา้ ทงั้ 3 ชนิด มจี านวน 21,000 บาท บทท่ี 4
การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 123 ให้ทา 1. คานวณกาไรสุทธสิ าหรบั ปี 25x1 2. คานวณจดุ คุม้ ทุนรวม 3. คานวณกาไรสว่ นเกนิ เฉลย่ี ต่อหน่วย 4. คานวณจดุ คุม้ ทนุ ของสนิ คา้ แต่ละชนิด 5. คานวณอตั ราสว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั สาหรบั ปี 25x1 13. บรษิ ทั ไทยสวา่ ง จากดั ประกอบบรษิ ทั ผลติ และขายหลอดไฟ 2 ชนิด ไดแ้ ก่ หลอดกลม หลอดนอี อน มขี อ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งดงั น้ี ปรมิ าณผลติ และขาย (หน่วย) หลอดกลม หลอดนีออน 3,000 4,000 ราคาขายต่อหน่วย (บาท) 40 60 ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วย (บาท) 20 30 ตน้ ทนุ การผลติ ผนั แปร 5 10 ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปร ตน้ ทุนคงทร่ี ว่ มเกดิ ขน้ึ จานวน 71,440 บาท ให้ทา 1. คานวณกาไรส่วนเกนิ ของสนิ คา้ แต่ละชนิด 2. คานวณสดั ส่วนของการขาย 3. คานวณจดุ คุม้ ทนุ รวม 4. คานวณกาไรสว่ นเกนิ เฉลย่ี ต่อหน่วย 5. คานวณจดุ คุม้ ทนุ ของสนิ คา้ แต่ละชนดิ 6. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรก่อนหกั ภาษจี านวน 80,000 บาท ตอ้ งขายสนิ คา้ แต่ละชนิด จานวนเท่าใด บทท่ี 4
124 การวเิ คราะหต์ น้ ทุน ปรมิ าณ และกาไร 14. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู งบกาไรขาดทนุ สาหรบั ปี สน้ิ สุดวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 ของ บรษิ ทั อุดรรกั ดี จากดั บริษทั อดุ รรกั ดี จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 หน่วย : บาท ขาย (12,000 หน่วย x 100 บาท 1,200,000 หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร: ตน้ ทนุ ขายผนั แปร 420,000 ค่าใชจ้ า่ ยการในขายและบรหิ ารผนั แปร 60,000 480,000 กาไรส่วนเกนิ 720,000 หกั ตน้ ทนุ คงท:่ี ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงท่ี 200,000 คา่ ใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารคงท่ี 250,000 450,000 กาไรก่อนหกั ภาษี 270,000 ให้ทา 1. คานวณหาจดุ คุม้ ทุนเป็นจานวนหน่วย และจานวนเงนิ 2. ทางบกาไรขาดทุนเพอ่ื พสิ จู น์ยอดขาย ณ จดุ คุม้ ทนุ ตามทค่ี านวณไดใ้ นขอ้ 1. 3. คานวณหาจานวนเงนิ สว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั และอตั รากาไรสว่ นเกนิ 4. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรก่อนหกั ภาษี 330,000 บาท จะตอ้ งมหี น่วยขายเทา่ ใด และพสิ จู น์หน่วยขายทท่ี าใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ 5. ถา้ บรษิ ทั ตอ้ งการกาไรหลงั หกั ภาษี 450,000 บาท จะตอ้ งมยี อดขายเท่าใด และพสิ จู น์ยอดขายทท่ี าใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ 6. ถา้ ตน้ ทุนขายผนั แปรของบรษิ ทั เพม่ิ ขน้ึ 20% ขณะทม่ี คี า่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงทล่ี ดลง 10% ตอ้ งการ หน่วยขาย ณ จดุ คุม้ ทุนใหม่ คอื เท่าใด 7. ถา้ บรษิ ทั ขายสนิ คา้ ไดจ้ านวน 7,000 หน่วย ผลจากการดาเนินงานจะเป็นกาไรหรอื ขาดทนุ เพราะเหตุใด และมจี านวนเงนิ เท่าใด บทท่ี 4
งบประมาณ 125 บทที่ 5 งบประมาณ ธุรกจิ ส่วนใหญ่ทป่ี ระสบความสาเรจ็ ไดใ้ นปจั จุบนั ทงั้ ขนาดเลก็ ขนาดกลาง และขนาด ใหญ่ อาจมลี กั ษณะการดาเนนิ งานในรปู แบบธุรกจิ การใหบ้ รกิ าร หรอื ธุรกจิ การขายสนิ คา้ จาก 2 ลกั ษณะ ได้แก่ ธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย และธุรกจิ ซอ้ื มาแล้วขาย สง่ิ สาคญั ท่ชี ่วยให้ธุรกจิ ดงั กล่าว ประสบความสาเรจ็ ได้กค็ อื การจดั ทางบประมาณหลกั (Master Budget) ซง่ึ จะมงี บประมาณ ยอ่ ยหลายงบประมาณ เช่น งบประมาณการขาย งบประมาณการผลติ งบประมาณตน้ ทนุ ขาย เป็นต้น เพราะงบประมาณจะช่วยในเร่อื งของการวางแผนและควบคุม แสดงให้ทราบถงึ การ ไดม้ าและใชไ้ ปของทรพั ยากรทม่ี อี ยใู่ หเ้ กดิ ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ส่งผลใหธ้ ุรกจิ บรรลุ วตั ถุประสงคต์ ามทต่ี อ้ งการ และนอกจากน้ีงบประมาณยงั เป็นเครอ่ื งมอื ในการวดั และประเมนิ ผล การดาเนินงานของผรู้ บั ผดิ ชอบในแต่ละส่วนงานยอ่ ยไดอ้ กี ดว้ ย ความหมายของงบประมาณ สมนกึ เออ้ื จริ ะพงษพ์ นั ธ์ (2552 : 198) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า งบประมาณ หมายถงึ แผนงานทแ่ี สดงใหท้ ราบถงึ การใชท้ รพั ยากรของบรษิ ทั ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุดในช่วงระยะเวลา ต่างๆ ไพบูลย์ ผจงวงศ์ (2554 : 100) ได้ให้ความหมายไวว้ ่า งบประมาณ หมายถงึ แผนงานท่แี สดงรายละเอียดในการจดั หาและใช้ไปของทรพั ยากรในช่วงระยะเวลาหน่ึงใน อนาคตในรปู ของตวั เลขจานวนเงนิ เพ่อื ใชใ้ นการควบคมุ และประเมนิ ผลงานในปจั จุบนั และการ วางแผนงานในอนาคต เบญจมาศ อภสิ ทิ ธภิ ์ ญิ โญ (2554 : 245) ได้ให้ความหมายไว้ว่า งบประมาณ หมายถึง แผนการดาเนินงานท่เี ก่ยี วกบั การได้มาและใช้ไปของข้อมูลทางการเงนิ ซ่งึ ได้ถูก กาหนดไวล้ ว่ งหน้าสาหรบั ชว่ งระยะเวลาหน่งึ ซง่ึ อาจทาไดท้ งั้ ในระยะสนั้ และในระยะยาว กชกร เฉลมิ กาญจนา (2557 : 141) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ า่ งบประมาณ หมายถงึ แผนทางการเงนิ ท่แี สดงถงึ ทรพั ยากรท่จี าเป็นต้องใชไ้ ปในการทากจิ กรรม และสอดคล้องกบั เป้าหมายทางการเงนิ สาหรบั แต่ละงวดเวลาในอนาคต งบประมาณจะแสดงภาพรวมของแผน ทางการเงนิ ของบรษิ ทั สาหรบั ระยะเวลาหน่งึ ๆ บทท่ี 5
126 งบประมาณ กล่าวโดยสรุป งบประมาณ หมายถึง แผนการดาเนินงานเชิงปรมิ าณท่ีได้มกี าร กาหนดไวล้ ่วงหน้าสาหรบั ช่วงระยะเวลาใดเวลาหน่ึง อาจแสดงเป็นรายไตรมาส หรอื รายปีกไ็ ด้ เพ่อื แสดงใหท้ ราบถงึ การใชท้ รพั ยากรทม่ี อี ยใู่ หเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ แก่กจิ การ วตั ถปุ ระสงคข์ องงบประมาณ งบประมาณเป็นเครอ่ื งมอื ทางการเงนิ ชนิดหน่ึงทน่ี ามาใชใ้ นการวางแผนและควบคุม ใหก้ ารดาเนนิ งานเป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และสามารถนามาประกอบการอธบิ ายถงึ แนวทาง และขนั้ ตอนท่ีจะมีผลต่อการปฏิบัติงานของทุกส่วนงานย่อยได้ ซ่ึงการจดั ทางบประมาณ โดยทวั่ ไปมวี ตั ถุประสงคห์ ลายประการ พอสรปุ ไดด้ งั น้ี 1. เพื่อการวางแผนของธรุ กิจ (Panning) ดว้ ยการระบถุ งึ ทรพั ยากรทม่ี คี วามตอ้ งการใชใ้ นการดาเนินกจิ กรรมต่างๆ ซง่ึ จะทาให้ ประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายทก่ี าหนดไวโ้ ดยมคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั ผบู้ รหิ ารทกุ ระดบั ชนั้ 2. เพื่อการควบคมุ (Controlling) เกิดจากการดาเนินงานจากแผนงานท่วี างไว้กับการดาเนินงานท่เี กิดข้นึ จรงิ อาจมี ความแตกต่างกนั จงึ เป็นสาเหตุใหม้ กี ารเปรยี บเทยี บผลการดาเนินงานตามงบประมาณกบั ท่ี เกดิ ขน้ึ จรงิ เพ่อื หาผลแตกต่างและนามาควบคุมเพอ่ื เป้าหมายกาไรสงู สดุ แก่บรษิ ทั 3. เพื่อการส่ือสารและการประสานงาน (Communication and Coordination) เมอ่ื การจดั ทางบประมาณจะตอ้ งมคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั หลายส่วนงาน และเป็นแผนงาน ทก่ี าหนดไวอ้ ยา่ งชดั แลว้ จงึ ทาใหก้ ารส่อื สารและประสานงานในธรุ กจิ เป็นไปอย่างต่อเน่ืองและมี ความเขา้ ใจไปในทศิ ทางเดยี วกนั เชน่ ฝา่ ยผลติ ต้องมกี ารวางแผนใหส้ อดคลอ้ งกบั แผนการขาย แผนการจา่ ยคา่ แรงงานตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ฝา่ ยผลติ เป็นตน้ 4. เพ่ือการประเมินการปฏิบตั ิงานและสร้างแรงจงู ใจในการทางาน (Evaluating Performance and Providing Incentives) จากการเปรยี บเทยี บผลการดาเนินงานตามงบประมาณกบั ผลดาเนินงานทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ จะส่งผลใหเ้ กดิ แรงจงู ใจในการทางานแก่พนักงานเป็นอย่างยง่ิ โดยเฉพาะเม่อื การประเมนิ ผล การปฏบิ ตั ิงานปรากฏว่าประสบความสาเร็จตามแผน หรอื เกินกว่าแผนท่วี างไว้ ก็จะได้รบั แรงจงู ใจตามมา เช่น โบนสั สวสั ดกิ าร เบย้ี ขยนั หรอื เงนิ รางวลั เป็นตน้ บทท่ี 5
งบประมาณ 127 จากวตั ถุประสงค์ของงบประมาณข้างต้น สามารถนามาสรุปดงั แสดงในภาพท่ี 5-1 ดงั น้ี วตั ถุประสงคข์ อง งบประมาณ การวางแผน การควบคมุ การสอ่ื สาร การประเมนิ การ ปฏบิ ตั งิ าน ภาพที่ 5-1 วตั ถุประสงคข์ องงบประมาณ ประเภทของงบประมาณ งบประมาณหลกั หรอื งบประมาณประจาปี มลี กั ษณะเป็นงบประมาณสาหรบั ระยะเวลา 1 ปี มกั ประกอบดว้ ย งบประมาณย่อยหลายงบประมาณ ขน้ึ อยกู่ บั รปู แบบของธุรกจิ ทแ่ี ตกต่าง กนั ซง่ึ ธุรกจิ การใหบ้ รกิ าร และธรุ กจิ ซอ้ื มาแลว้ ขาย อาจมงี บประมาณยอ่ ยไมม่ ากนัก แต่สาหรบั ธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย จะมงี บประมาณย่อยหลายงบประมาณ โดยถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื งบประมาณดาเนินงาน (Operational Budget) และงบประมาณการเงนิ (Financial Budget) 1. งบประมาณดาเนิ นงาน เป็นการรวบรวมงบประมาณเก่ยี วกบั การดาเนินงาน โดยเฉพาะดา้ นการขายและการผลติ ทงั้ น้ีเพ่อื วตั ถุประสงคใ์ นผลกาไรตามเป้าหมายของบรษิ ทั ประกอบดว้ ย 1.1 งบประมาณการขาย 1.2 งบประมาณการผลติ 1.3 งบประมาณวตั ถุดบิ ทางตรง 1.4 งบประมาณค่าแรงงานทางตรง 1.5 งบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 1.6 งบประมาณตน้ ทุนขาย 1.7 งบประมาณค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร 1.8 งบประมาณกาไรขาดทุน บทท่ี 5
128 งบประมาณ 2. งบประมาณการเงิน เป็นงบประมาณท่แี สดงใหท้ ราบถงึ ฐานะการเงนิ และการ ไดม้ าและใชไ้ ปของเงนิ สด ซง่ึ เกย่ี วกบั การลงทุนในสนิ ทรพั ยต์ ่างๆ ประกอบดว้ ย 2.1 งบประมาณเงนิ สด 2.2 งบประมาณงบแสดงฐานะการเงนิ จากงบประมาณหลกั สาหรบั ธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย สามารถสรปุ ความสมั พนั ธแ์ ละลาดบั การจดั ทางบประมาณยอ่ ย ดงั แสดงในภาพท่ี 5-2 ดงั น้ี งบประมาณวตั ถดุ บิ ทางตรง งบประมาณการขาย งบประมาณคา่ ใช้จ่ายการผลติ งบประมาณการผลติ ผลิต งบประมาณคา่ ใช้จ่ายใน ขายและบริหาร งบประมาณคา่ แรงทางตรง งบประมาณงบแสดงฐานะการเงิน งบประมาณต้นทนุ ขาย งบประมาณเงินสด งบประมาณกาไรขาดทนุ ภาพท่ี 5-2 การจดั ทางบประมาณสาหรบั ธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย จากภาพท่ี 5-2 แสดงใหเ้ หน็ ว่า จุดเรมิ่ ต้นของการจดั ทางบประมาณหลกั คอื การ จดั ทางบประมาณการขาย จากนนั้ จงึ นาขอ้ มลู ทอ่ี ย่ใู นงบประมาณการขายไปจดั ทาประมาณการ ผลติ ซ่ึงงบประมาณการผลิต จะนาไปเป็นข้อมูลในการจดั ทางบประมาณวัตถุดิบทางตรง งบประมาณค่าแรงงานทางตรง และงบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต ต่อจากนัน้ ก็จะทาการ รวบรวมข้อมูลท่ีเกดิ ข้นึ ในงบประมาณวตั ถุดบิ ทางตรง งบประมาณค่าแรงงานทางตรง และ งบประมาณค่าใช้จา่ ยการผลติ ไปจดั ทางบประมาณต้นทุนขาย แต่ทงั้ น้ีอาจต้องทางบประมาณ ตน้ ทุนการผลติ เพมิ่ เตมิ จากนนั้ กจ็ ดั ทางบประมาณค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารทต่ี อ้ งใชข้ อ้ มลู จากงบประมาณการขายประกอบ ในลาดบั ต่อไปคอื ต้องจดั ทางบประมาณเงนิ สด ซง่ึ จะต้องมี ขอ้ มลู จากงบประมาณต่างๆ ตามทก่ี ลา่ วมาเป็นองคป์ ระกอบ เมอ่ื เรยี บรอ้ ยแลว้ กน็ าไปจดั ทา บทท่ี 5
งบประมาณ 129 งบประมาณงบกาไรขาดทุน และลาดบั สุดท้ายของการจดั ทางบประมาณหลกั กค็ อื ต้องจดั ทา งบประมาณงบแสดงฐานะการเงนิ ซง่ึ เป็นงบทท่ี าให้สามารถตรวจสอบความถูกตอ้ งของการทา งบประมาณไดเ้ ป็นอยา่ งดี การจดั การทางบประมาณสาหรบั ธรุ กิจผลิตแล้วขาย เพ่อื ใหม้ คี วามเขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ เก่ยี วกบั การจดั ทางบประมาณสาหรบั ธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย จงึ ขอยกตวั อย่างเพ่อื อธบิ ายและแสดงการจดั ทางบประมาณ โดยเรยี งลาดบั การ จดั ทาตงั้ แต่จดุ เรมิ่ ตน้ ของงบประมาณจนถงึ ลาดบั สดุ ทา้ ย ดงั แสดงไดด้ งั น้ี 1. งบประมาณการขาย งบประมาณการขาย (Sales Budget) เป็นงบประมาณท่ตี ้องทาอนั ดบั แรกเพราะมี ความสาคญั ต่องบประมาณย่อยอ่นื ๆ จดั ทาได้จากการพยากรณ์ยอดขายซ่งึ ข้นึ อยู่กบั ปจั จยั ต่างๆ เช่น นโยบายของบรษิ ทั สภาวะเศรษฐกจิ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เป็นต้น โดย ลกั ษณะการพยากรณ์ยอดขายท่ดี จี ะต้องไม่ให้มจี านวนท่มี ากเกินไปจนทาให้บรษิ ัทต้องนา สนิ ค้าไปขายลดราคา และไม่ให้น้อยเกนิ ไปจนทาให้เกิดความสูญเสยี โอกาสในการขาย การ จดั ทางบประมาณการขาย ทาไดด้ งั น้ี ยอดขายโดยประมาณ (บาท) = ปรมิ าณการขาย (หน่วย) x ราคาขายต่อหน่วย ตวั อย่างที่ 5-1 บรษิ ทั ภูมพิ ฒั น์การผลติ จากดั ดาเนินธุรกจิ ผลติ และขายสนิ คา้ ชนิดหน่ึง โดยการ จดั ทางบประมาณหลกั เพ่อื ใช้ในการวางแผนการดาเนินงานในปี 25x8 โดยมขี ้อมูลการ พยากรณ์ยอดขายตลอดทงั้ ปี 5,500 หน่วย จาแนกไดใ้ นแต่ละไตรมาส ดงั น้ี ไตรมาสท่ี 1 1,000 หน่วย ไตรมาสท่ี 2 1,200 หน่วย ไตรมาสท่ี 3 1,800 หน่วย ไตรมาสท่ี 4 1,500 หน่วย รวม 5,500 หน่วย นโยบายการขาย : 1. บรษิ ทั ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื ในราคาหน่วยละ 100 บาท 2. รบั ชาระหน้จี ากลกู หน้ใี นไตรมาสทข่ี าย 60% ทเ่ี หลอื 40% รบั ชาระในไตรมาสถดั ไป บทท่ี 5
130 งบประมาณ ขอ้ มลู งบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x7 มดี งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั หน่วย : บาท งบแสดงฐานะการเงิน 60,000 ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x7 230,000 20,000 สนิ ทรพั ย์ สนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น:- 3,600 5,000 8,600 เงนิ สด เงนิ ฝากธนาคาร 318,600 ลกู หน้กี ารคา้ สนิ คา้ คงเหลอื 80,000 200,000 8,000 วตั ถุดบิ 200,000 72,000 สนิ คา้ สาเรจ็ รปู 20,000 รวมสนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น 180,000 สนิ ทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวยี น:- 452,000 ทด่ี นิ 770,600 อุปกรณ์โรงงาน หกั คา่ เส่อื มราคาสะสม – อุปกรณ์โรงงาน 30,000 เครอ่ื งจกั ร 30,000 หกั คา่ เส่อื มราคาสะสม – เครอ่ื งจกั ร รวมสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวยี น 100,000 รวมสนิ ทรพั ย์ 100,000 130,000 หน้สี นิ และสว่ นของผถู้ อื หนุ้ หน้สี นิ หมนุ เวยี น:- เจา้ หน้กี ารคา้ รวมหน้สี นิ หมนุ เวยี น หน้สี นิ ไมห่ มนุ เวยี น:- เงนิ กรู้ ะยะยาว รวมหน้สี นิ ไมห่ มนุ เวยี น รวมหน้สี นิ บทท่ี 5
งบประมาณ 131 บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั หน่วย : บาท งบแสดงฐานะการเงิน (ต่อ) ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x7 500,000 140,600 สว่ นของผถู้ อื หุน้ :- 640,600 ทนุ เรอื นหนุ้ 770,600 กาไรสะสม รวมสว่ นของผถู้ อื หนุ้ รวมหน้สี นิ และส่วนของผถู้ อื หนุ้ จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถนามาจดั ทางบประมาณการขาย ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั งบประมาณการขาย สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x8 หน่วย : บาท ไตรมาส 1 2 3 4 รวม ปรมิ าณการขาย (พยากรณ์) 1,000 1,200 1,800 1,500 5,500 คณู ราคาขายต่อหน่วย 100 100 100 100 100 ยอดขายโดยประมาณ (บาท) 100,000 120,000 180,000 150,000 550,000 ตารางการชาระหนี้จากลูกหนี้ (บาท) ลกู หน้กี ารคา้ ยกมา 20,000 20,000 ไตรมาสท่ี 1 60,000 40,000 100,000 72,000 ไตรมาสท่ี 2 48,000 120,000 - ไตรมาสท่ี 3 112,000 108,000 72,000 180,000 ไตรมาสท่ี 4 - - 90,000 90,000 รวม 80,000 156,000 162,000 510,000 บทท่ี 5
132 งบประมาณ 2. งบประมาณการผลิต งบประมาณการผลติ (Production Budget) เป็นงบประมาณท่ตี ้องจดั ทาต่อจาก งบประมาณการขาย โดยใชป้ รมิ าณขายมาประมาณแผนการผลติ รวมถงึ การพจิ ารณานโยบาย ของบรษิ ทั ในการสารองสนิ คา้ คงเหลอื แต่ละงวดดว้ ย ทงั้ น้ีเพ่อื ใหไ้ ดป้ รมิ าณการผลติ ทเ่ี หมาะสม แก่บรษิ ทั การจดั ทางบประมาณการผลติ ทาไดด้ งั น้ี ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการการผลติ (หน่วย) = ปรมิ าณการขาย + สนิ คา้ คงเหลอื ปลายงวดทต่ี อ้ งการ – สนิ คา้ คงเหลอื ตน้ งวด ตวั อย่างท่ี 5-2 จากขอ้ มลู ตวั อยา่ งท่ี 5-1 ของบรษิ ทั ภมู พิ ฒั น์การผลติ จากดั สมมตบิ รษิ ทั มนี โยบาย สารองสนิ คา้ คงเหลอื 10% ของปรมิ าณการขายในงวดถดั ไป และไดว้ างแผนการขายในไตรมาส ท่ี 1 ของปี 25x9 จานวน 2,000 หน่วย จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการจดั ทางบประมาณการผลติ ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั งบประมาณการผลิต สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x8 ปรมิ าณการขาย (หน่วย) ไตรมาส หน่วย : บาท บวก สนิ คา้ สาเรจ็ รปู คงเหลอื 123 1,000 1,200 1,800 4 รวม ปลายงวดทต่ี อ้ งการ 120* 180 150 1,500 5,500 ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการทงั้ สน้ิ 200*** 200 1,120 1,380 1,950 หกั สนิ คา้ สาเรจ็ รปู คงเหลอื ตน้ งวด 100** 120 180 1,700 5,700 1,020 1,260 1,770 150 100 ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการผลติ 1,550 5,600 *10% ของปรมิ าณการขายในไตรมาสถดั ไป (1,200 หน่วย x 10%) = 120 **10% ของปรมิ าณการขายในไตรมาสท่ี 1 ของปี 25x8 (1,000 หน่วย x 10%) = 100 ***10% ของปรมิ าณการขายในไตรมาสท่ี 1 ของปี 25x9 (2,000 หน่วย x 10%) = 200 บทท่ี 5
งบประมาณ 133 3. งบประมาณวตั ถดุ ิบทางตรง งบประมาณวตั ถุดบิ ทางตรง (Materials Direct Budget) เป็นงบทจ่ี ะจดั ทาในลาดบั ต่อ จากการทางบประมาณการผลติ เรยี บรอ้ ยแลว้ ซง่ึ ต้องจดั หาวตั ถุดบิ มาใหเ้ พยี งพอต่อการผลติ ตามท่ไี ด้วางแผนไว้และต้องคานึงถึงนโยบายการสารองวตั ถุดบิ คงเหลอื เช่นเดยี วกบั สนิ ค้า คงเหลอื การจดั ทางบประมาณวตั ถุดบิ ทางตรง ทาไดด้ งั น้ี ก. ตน้ ทนุ วตั ถุดบิ ทางตรง (บาท) = ปรมิ าณวตั ถุดบิ ทางตรงทซ่ี อ้ื * x ราคาวตั ถุดบิ ต่อหน่วย ข. ปรมิ าณวตั ถุดบิ ทางตรงทซ่ี อ้ื * (หน่วย) = วตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งการใช้ + วตั ถุดบิ คงเหลอื ปลายงวดทต่ี อ้ งการ – วตั ถุดบิ คงเหลอื ตน้ งวด ตวั อย่างที่ 5-3 จากขอ้ มลู ของบรษิ ทั ภมู พิ ฒั น์การผลติ จากดั สมมตวิ า่ บรษิ ทั มยี อดวตั ถุดบิ ท่ี ตอ้ งการใชใ้ นไตรมาสท่ี 1 ของปี 25x9 จานวน 3,600 เมตร ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั การใชว้ ตั ถุดบิ ทางตรงในการผลติ มดี งั น้ี 1. วตั ถุดบิ ทางตรงทใ่ี ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ สาเรจ็ รปู 1 หน่วย เทา่ กบั 2 เมตร 2. ราคาวตั ถุดบิ ทางตรง เทา่ กบั 10 บาทต่อเมตร นโยบายการซอ้ื และการชาระเงนิ ค่าวตั ถุดบิ 1. บรษิ ทั ซอ้ื วตั ถุดบิ เป็นเงนิ เชอ่ื 2. ชาระเงนิ ในไตรมาสทม่ี กี ารซอ้ื 50% 3. ชาระเงนิ ในไตรมาสถดั ไป 50% นโยบายการสารองวตั ถุดบิ คงเหลอื ปลายงวด 1. บรษิ ทั สารองวตั ถุดบิ คงเหลอื ปลายงวด 10% ของวตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งใชใ้ นงวดถดั ไป บทท่ี 5
134 งบประมาณ จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถจดั ทางบประมาณวตั ถุดบิ ทางตรง ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั งบประมาณวตั ถดุ ิบทางตรง สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x8 ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการผลติ ไตรมาส หน่วย : บาท คณู วตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ 123 4 รวม สนิ คา้ สาเรจ็ รปู 1 หน่วย 1,020 1,260 1,770 1,550 5,600 ปรมิ าณวตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งการใช้ 222 บวก วตั ถุดบิ คงเหลอื ปลายงวด 22 ปรมิ าณวตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งการใช้ 2,040 2,520 3,540 252* 354 310 3,100 11,200 ทงั้ สน้ิ 2,292 2,874 3,850 360** 360 หกั วตั ถุดบิ คงเหลอื ตน้ งวด 3,460 11,560 ปรมิ าณวตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งการซอ้ื 360*** 252 354 คณู ราคาวตั ถุดบิ ต่อหน่วย 1,932 2,622 3,496 310 360 ตน้ ทุนการซอ้ื วตั ถุดบิ ทงั้ สน้ิ 3,150 11,200 10 10 10 19,320 26,220 34,960 10 10 31,500 112,000 ตารางการจ่ายชาระหนี้ให้เจ้าหนี้ (บาท) เจา้ หน้กี ารคา้ ยกมา 30,000 30,000 19,320 ไตรมาสท่ี 1 9,660 9,660 26,220 13,110 17,480 34,960 ไตรมาสท่ี 2 13,110 15,750 15,750 ไตรมาสท่ี 3 - 17,480 33,230 126,250 22,770 ไตรมาสท่ี 4 - - 30,590 รวม 39,660 *10% ของปรมิ าณวตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งการใชใ้ นไตรมาสถดั ไป (2,520 หน่วย x 10%) = 252 **10% ของปรมิ าณวตั ถุดบิ ทต่ี อ้ งการใชใ้ นไตรมาสท่ี 1 ของปี 25x9 (3,600 หน่วย x 10%) = 360 *** กาหนดใหม้ สี นิ คา้ คงเหลอื ตน้ งวด 360 หน่วย บทท่ี 5
งบประมาณ 135 4. งบประมาณค่าแรงงานทางตรง งบประมาณค่าแรงงานทางตรง (Direct Labor Budget) เมอ่ื ทราบปรมิ าณสนิ คา้ ท่ี ตอ้ งการผลติ แลว้ บรษิ ทั จะต้องจดั ทางบประมาณค่าแรงงานทางตรงทต่ี อ้ งใชใ้ นการผลติ สนิ คา้ ทงั้ น้ีเพ่ือให้ทราบถึงต้นทุนของค่าแรงงงานทางตรงท่ีจะเกิดข้นึ ในแต่ละงวด และเพ่ือการ วางแผนเกย่ี วกบั การว่าจา้ งแรงงานและการวางแผนในการเพมิ่ ทกั ษะ หรอื ความชานาญใหก้ บั พนกั งาน การจดั ทางบประมาณคา่ แรงงานทางตรง ทาไดด้ งั น้ี ก. ตน้ ทุนค่าแรงงานทางตรง (บาท) = จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรงทต่ี อ้ งการใช*้ x อตั ราคา่ จา้ งแรงงานต่อชวั่ โมง ข. จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรงทต่ี อ้ งการใช้ (ชวั่ โมง) = ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการผลติ x จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรงทใ่ี ชต้ ่อ 1 หน่วย ตวั อย่างท่ี 5-4 จากขอ้ มูลของบรษิ ัท ภูมพิ ัฒน์การผลิต จากดั สมมติบรษิ ัทมนี โยบายในการจ่าย ค่าแรงงานทางตรงในอตั ราชวั่ โมงละ 30 บาท และจากการคานวณโดยผู้เชย่ี วชาญฝ่ายผลติ พบว่าการผลติ สนิ คา้ สาเรจ็ รปู 1 หน่วย ตอ้ งใชช้ วั่ โมงแรงงานทางตรง 0.4 ชวั่ โมง จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถจดั ทางบประมาณคา่ แรงงานทางตรง ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั งบประมาณค่าแรงงานทางตรง สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x8 ไตรมาส หน่วย : บาท 1 2 3 4 รวม ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการผลติ 1,020 1,260 1,770 1,550 5,600 คณู จานวนชวั่ โมงแรงงานทใ่ี ช้ 0.4 0.4 0.4 0.4 0.4 ต่อ 1 หน่วย จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรง 408 504 708 620 2,240 ทต่ี อ้ งการใชท้ งั้ สน้ิ คณู อตั ราค่าจา้ งแรงต่อชวั่ โมง 30 30 30 30 30 ตน้ ทุนคา่ แรงงานทางตรง (บาท) 12,240 15,120 21,240 18,600 67,200 บทท่ี 5
136 งบประมาณ 5. งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลติ (Manufacturing Overhead Budget) จะเป็นอีก งบประมาณหน่ึงทต่ี ้องจดั ทาหลงั จากทท่ี ราบปรมิ าณการผลติ แลว้ เพ่อื ให้ไดม้ าซง่ึ ต้นทุนสนิ คา้ สาเรจ็ รปู การประมาณการค่าใชจ้ า่ ยการผลติ แบง่ ออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร และค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงท่ี แต่หากมคี ่าใชจ้ ่ายท่ไี ม่ไดจ้ ่ายเป็นเงนิ สดให้นามาหกั ออก จากงบประมาณค่าใชจ้ ่ายการผลติ ดว้ ย เช่น ค่าเส่อื มราคา เป็นต้น งบประมาณค่าใชจ้ า่ ยการ ผลติ ทาไดด้ งั น้ี ก. ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ รวม (บาท) = ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร* + คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี ข. คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร* = จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรงทต่ี อ้ งการใช้ x อตั ราคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร ตวั อย่างที่ 5-5 จากขอ้ มลู ของบรษิ ทั ภมู พิ ฒั น์การผลติ จากดั สมมตมิ รี ายละเอยี ดเกย่ี วกบั ค่าใชจ้ า่ ย การผลติ ผนั แปร และค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี ดงั น้ี นโยบายเกย่ี วกบั ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ : 1. กาลงั การผลติ ปกติ 2,000 หน่วย จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรงปกติ เทา่ กบั 800 ชวั่ โมง 2. อตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 10 บาทต่อชวั่ โมงแรงงานทางตรง 3. ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงทต่ี ่องวด ประกอบดว้ ย คา่ เสอ่ื มราคา 7,000 บาท คา่ เช่าโรงงาน 5,000 บาท คา่ เบย้ี ประกนั โรงงาน 7,600 บาท รวม 19,600 บาท บทท่ี 5
งบประมาณ 137 จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถจดั ทางบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั งบประมาณค่าใช้จ่ายการผลิต สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x8 จานวนชวั่ โมงแรงงานทางตรงท่ี 1 ไตรมาส หน่วย : บาท ตอ้ งการใช้ 408 23 4 รวม คณู อตั ราค่าใชจ้ า่ ยการผลติ 10 504 708 620 2,240 ผนั แปร 4,080 10 10 10 10 รวมคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท:่ี 7,000 5,040 7,080 6,200 22,400 5,000 ค่าเสอ่ื มราคา 7,600 7,000 7,000 7,000 28,000 ค่าเชา่ โรงงาน 19,600 5,000 5,000 5,000 20,000 คา่ เบย้ี ประกนั โรงงาน 23,680 7,600 7,600 7,600 30,400 รวมคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 7,000 19,600 19,600 19,600 78,400 รวมค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ทงั้ สน้ิ 16,680 24,640 26,680 25,800 100,800 หกั ค่าเส่อื มราคา 7,000 7,000 7,000 28,000 คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ จา่ ยเป็นเงนิ สด 17,640 19,680 18,800 72,800 6. งบประมาณต้นทุนขาย งบประมาณตน้ ทุนขาย (Cost of Goods Sold Budget) เป็นงบประมาณทแ่ี สดงให้ ทราบถึงต้นทุนของการขายสนิ ค้าท่เี กิดข้นึ ในแต่ละงวดในช่วงระยะเวลาหน่ึง แต่การจะทา งบประมาณตน้ ทนุ ขายไดน้ นั้ จาเป็นต้องทราบต้นทุนสนิ คา้ สาเรจ็ ภาพทผ่ี ลติ ก่อน ดงั นนั้ บรษิ ทั จงึ ตอ้ งจดั ทางบประมาณตน้ ทุนการผลติ ก่อนจดั ทางบประมาณตน้ ทุนขาย ซง่ึ ทาไดด้ งั น้ี ก. ตน้ ทุนขาย = สนิ คา้ สาเรจ็ รปู ตน้ งวด + ตน้ ทุนสนิ คา้ สาเรจ็ รปู สาหรบั งวด* - สนิ คา้ สาเรจ็ รปู ปลายงวด บทท่ี 5
138 งบประมาณ ข. ตน้ ทนุ สนิ คา้ สาเรจ็ รปู สาหรบั งวด* = วตั ถุดบิ ทางตรง + ค่าแรงงานทางตรง + คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ตวั อย่างท่ี 5-6 จากขอ้ มลู ของบรษิ ทั ภมู พิ ฒั น์การผลติ จากดั สมมติบรษิ ทั ไมม่ งี านระหว่างผลติ คงเหลอื ตน้ งวดและปลายงวด สามารถนามาจดั ทางบประมาณต้นทุนการผลติ (Manufacturing Cost Budget) ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั หน่วย : บาท งบประมาณต้นทุนการผลิต 112,000 สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x8 67,200 100,800 วตั ถุดบิ ทางตรง (ตวั อยา่ งท่ี 5-3) 280,000 คา่ แรงงานทางตรง (ตวั อยา่ งท่ี 5-4) 0 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ (ตวั อยา่ งท่ี 5-5) 280,000 ตน้ ทนุ การผลติ รวม 0 บวก งานระหวา่ งผลติ คงเหลอื ตน้ งวด 280,000 ตน้ ทุนการผลติ ระหวา่ งงวด หกั งานระหว่างผลติ คงเหลอื ปลายงวด ตน้ ทุนสนิ คา้ สาเรจ็ รปู ดงั นนั้ ตน้ ทุนการผลติ ต่อหน่วย = ตน้ ทนุ สนิ ค้า้ สาเรจ็ รูป ปรมิ าณสนิ ค้า้ ทต่ี อ้ งการผลติ * = 280,000 5,600 = 50 บาท *จากตวั อยา่ งท่ี 5-2 (งบประมาณการผลติ ) บทท่ี 5
งบประมาณ 139 งบประมาณตน้ ทนุ ขาย สามารถจดั ทาต่อจากงบประมาณตน้ ทุนการผลติ ไดด้ งั น้ี บริษทั ภมู ิพฒั น์การผลิต จากดั หน่วย : บาท งบประมาณต้นทุนขาย 5,000 สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x8 280,000 285,000 สนิ คา้ สาเรจ็ รปู คงเหลอื ตน้ งวด* 10,000 บวก ตน้ ทุนสนิ คา้ สาเรจ็ รปู สาหรบั งวด** 275,000 สนิ คา้ ทม่ี ไี วเ้ พ่อื ขาย หกั สนิ คา้ สาเรจ็ รปู คงเหลอื ปลายงวด*** ตน้ ทนุ ขาย *จากตวั อยา่ งท่ี 5-2 (งบประมาณการผลติ ) = (100 หน่วย x 50) = 5,000 **จากตวั อยา่ งท่ี 5-6 (งบประมาณตน้ ทนุ การผลติ ) ***จากตวั อยา่ งท่ี 5-2 (งบประมาณการผลติ ) = (200 หน่วย x 50) = 10,000 7. งบประมาณค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร งบประมาณค่าใชจ้ ่ายการขายและบรหิ าร (Selling and Administrative Expense Budget) เป็นงบประมาณทแ่ี สดงค่าใชจ้ ่ายในส่วนทไ่ี มเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การผลติ โดยนาไปคานวณ ประกอบในงบประมาณกาไรขาดทุนเพ่อื หกั กบั ยอดขาย ซง่ึ ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารจะแยก ออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื คา่ ใชจ้ า่ ยขายและบรหิ ารผนั แปร และค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงท่ี และจะนาค่าใช้จ่ายท่ไี ม่ได้จ่ายเป็นเงนิ สดมาหกั ออกจากงบประมาณ ทงั้ น้ีเพ่อื ให้แสดงยอด ค่าใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารทจ่ี ่ายเป็นเงนิ สดเท่านนั้ งบประมาณค่าใชจ้ ่ายการขายและบรหิ าร ทาไดด้ งั น้ี = ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปร + ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงท่ี ตวั อย่างท่ี 5-7 จากขอ้ มูลของบรษิ ทั ภูมพิ ฒั น์การผลติ จากดั สมมติบรษิ ัท มรี ายละเอียดเก่ยี วกบั คา่ ใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารโดยแยกออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื ค่าใชจ้ า่ ยขายและบรหิ ารผนั แปร และคา่ ใชจ้ า่ ยขายและบรหิ ารคงท่ี ดงั น้ี บทท่ี 5
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328