240 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ ทำงเลอื กท่ี 2 ปิดโรงงำนชัว่ ครำวเป็นเวลำ 1 เดือน โดยในช่วงท่ีปิดโรงงำนจะ สำมำรถประหยดั ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงทไ่ี ด้ 80% ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรขำยและบรหิ ำรคงทห่ี ลกี เลย่ี ง ได้ 50,000 บำท แต่จะมตี น้ ทนุ ในกำรทดลองเดนิ เครอ่ื งจกั รใหม่ 5,000 บำท เมอ่ื โรงงำนไดเ้ ปิด ทำกำรใหมห่ ลงั จำกปิดโรงงำนในครงั้ น้ี จำกขอ้ มลู ขำ้ งต้น สำมำรถแสดงกำรคำนวณประกอบเพ่อื กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ในแต่ละ ทำงเลอื กเพอ่ื กำรตดั สนิ ใจ ไดด้ งั น้ี ขำย (8,000 x 20) ทาการผลิตต่อ ปิ ดโรงงานชวั่ คราว หกั ตน้ ทนุ และค่ำใชจ้ ำ่ ยผนั แปร (8,000 x 9) 160,000 - กำไรสว่ นเกนิ หกั ตน้ ทนุ และคำ่ ใชจ้ ำ่ ยคงท่ี 72,000 - 88,000 - ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำร 37,500 7,500 ตน้ ทนุ ในกำรทดลองเดนิ เคร่อื งจกั ร 25,000 กำไร (ขำดทนุ ) สทุ ธิ 75,000 5,000 - (37,500) (24,500) จำกกำรคำนวณขำ้ งตน้ จะเหน็ ว่ำทำงเลอื กทำกำรผลติ ต่อไปจะแสดงรำยงำนขอ้ มลู ผลกำรดำเนินงำนซ่งึ เกดิ ผลขำดทุนจำนวน 24,500 บำท ส่วนทำงเลอื กปิดโรงงำนชวั่ ครำว ตน้ ทนุ ปิดโรงงำน ประกอบดว้ ย คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงทซ่ี ง่ึ หลกี เลย่ี งไม่ได้ 20% ของ 37,500 คดิ เป็นเงนิ 7,500 บำท ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรหลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ 20,000 บำท และต้นทุนใน กำรทดลองเดนิ เครอ่ื งจกั รจำนวน 5,000 บำท รวมเป็นตน้ ทนุ ในกำรปิดจำนวน 37,500 บำท ดงั นนั้ จำกผลกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู เปรยี บเทยี บ บรษิ ทั ควรทำกำรผลติ ต่อไป เพรำะมผี ล ขำดทุนน้อยกว่ำตน้ ทนุ ของกำรปิดโรงงำนชวั่ ครำวจำนวน 13,000 บำท (37,500 - 24,500) บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 241 สรปุ กำรดำเนินงำนอย่ำงต่อเน่ืองของกจิ กำรจะประสบผลสำเรจ็ ได้ อำจประสบกบั ปญั หำ และอุปสรรคต่ำงๆ มำกมำย ซง่ึ ตอ้ งไดร้ บั กำรแก้ไขและใชก้ ำรตดั สนิ ใจเพ่อื ใหไ้ ดม้ ำซง่ึ ทำงเลอื ก ทด่ี แี ละเหมำะสมท่สี ุดกบั กจิ กำร โดยเป็นหน้ำท่ขี องผู้บรหิ ำรท่ตี ้องทำตำมกระบวนกำรซ่งึ เรม่ิ จำกกำรค้นหำปญั หำ กำหนดทำงเลอื ก รวบรวมขอ้ มูล ประเมนิ ทำงเลอื ก และตดั สนิ ใจ จำก รปู แบบของกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู เพ่อื กำรตดั สนิ ใจอยู่ 3 รปู แบบ คอื กำรวเิ ครำะหร์ ูปแบบของ ต้นทุนรวม กำรวเิ ครำะหร์ ูปแบบของต้นทุนส่วนต่ำง และกำรวเิ ครำะห์รูปแบบของต้นทุนเสยี โอกำส สำหรบั ปญั หำท่อี ำจเกิดข้นึ อำจใช้รูปแบบในกำรวเิ ครำะห์แบบใดก็ได้ขน้ึ อยู่กบั ควำม เหมำะสมของข้อมูลซ่ึงคำตอบของปญั หำจะเป็นทำงเลือกเดียวกันเสมอ สำหรบั ปญั หำท่ี ผบู้ รหิ ำรมกั พบอยเู่ สมอ ไดแ้ ก่ กำรตดั สนิ ใจยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ กำรตดั สนิ ใจผลติ เองหรอื ซอ้ื จำกบคุ คลภำยนอก กำรตดั สนิ ใจยกเลกิ กำรผลติ หรอื จำหน่ำยผลติ ภณั ฑบ์ ำงชนิด กำรตดั สนิ ใจ กำหนดสดั ส่วนของผลติ ภณั ฑ์หรอื บรกิ ำรกรณีท่มี ปี จั จยั กำรผลติ อยู่อย่ำงจำกดั กำรตดั สนิ ใจ จำหน่ำยหรอื ผลติ ต่อของผลติ ภณั ฑร์ ว่ ม และกำรตดั สนิ ใจปิดโรงงำนชวั่ ครำว บทท่ี 8
242 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ แบบฝึ กหดั ท้ายบท 1. บรษิ ทั อุตสาหกรรมผา้ ไทย จากดั ผลติ และจาหน่ายเสอ้ื สาเรจ็ รปู ทท่ี ามาจากผา้ ไหมไทย บรษิ ทั มกี าลงั การผลติ แต่ละเดอื นเท่ากบั 5,000 ตวั โดยบรษิ ทั มกี ารผลติ และขายปกตเิ ดอื นละ 4,000 ตวั ราคาขายตวั ละ 1,000 บาท ขอ้ มลู ตน้ ทุนการผลติ และคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง มดี งั น้ี ตน้ ทนุ การผลติ ผนั แปรต่อหน่วย 380 บาท คา่ ใชจ้ ่ายในการขายและบรหิ ารผนั แปรต่อหน่วย 120 บาท ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงทร่ี วมต่อเดอื น 150,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ ารคงทร่ี วมต่อเดอื น 50,000 บาท ในช่วงปลายปี บรษิ ทั อุตสาหกรรมผา้ ไทย จากดั มใี บสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจากลกู คา้ ในการสงั่ ซ้อื เสอ้ื สาเรจ็ รูปจานวน 500 ตวั โดยลูกค้าต้องการจะนาไปใช้เป็นของโบนัสให้กบั พนักงานช่วงปีใหม่ โดยเสนอราคาซ้ือตวั ละ 850 บาท บรษิ ทั ควรรบั คาสงั่ ซอ้ื น้ีหรอื ไม่ โดยใน การรบั คาสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ี บรษิ ทั ตอ้ งเสยี คา่ ทาป้ายพเิ ศษจานวน 4,000 บาท หมายเหตุ : ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษไมม่ ผี ลกระทบต่อยอดขายปกตขิ องกจิ การ แต่อยา่ งใด ให้ทา คานวณประกอบเพอ่ื ตดั สนิ ใจวา่ บรษิ ทั ควรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 2. บรษิ ทั แหง่ หน่งึ ทาการผลติ และจาหน่ายสนิ คา้ ชนดิ หน่งึ ซง่ึ บรษิ ทั มกี าลงั การผลติ สงู สุด ปีละ 10,000 หน่วย โดยบรษิ ัทมกี ารผลติ และขายปกติปีละ 9,000 หน่วย กาหนดราคาขาย หน่วยละ 3,000 บาท ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มลู ตน้ ทุนการผลติ และคา่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วย: 500 บาท วตั ถุดบิ ทางตรง 800 บาท คา่ แรงงานทางตรง 400 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 200 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยขายและบรหิ าร บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 243 ตน้ ทนุ คงทร่ี วม: 3,000,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ 5,000,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร ขณะน้ีมคี าสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจากลูกค้าภายนอกสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ กบั บรษิ ทั จานวน 1,000 หน่วย โดยเสนอราคาซอ้ื หน่วยละ 2,600 บาท บรษิ ทั ควรรบั คาสงั่ ซ้อื น้ีหรอื ไม่ โดยในการรบั คาสงั่ ซ้อื พเิ ศษน้ี บรษิ ทั ต้องเสยี ค่าขนส่ง และค่าภาษีรวมจานวน 5,000 บาท แต่ไม่มผี ลกระทบต่อ ยอดขายปกตขิ องกจิ การ ให้ทา คานวณประกอบเพอ่ื ตดั สนิ ใจวา่ บรษิ ทั ควรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 3. บรษิ ทั ทนั สมยั แฟชนั่ จากดั ผลติ และจาหน่ายเสอ้ื ผ้าสาเรจ็ รูป โดยมกี าลงั การผลติ สูงสุด จานวน 8,000 ตวั ขณะท่บี รษิ ทั ผลติ และขายเองเพยี งจานวน 6,000 ตวั ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มลู เกย่ี วกบั งบกาไรขาดทนุ สาหรบั ปี สน้ิ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 บริษทั ทนั สมยั แฟชนั่ จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x1 ขาย 90,000 หน่วย : บาท หกั ตน้ ทุนและคา่ ใชจ้ า่ ยผนั แปร 36,000 588,000 42,000 วตั ถุดบิ ทางตรง 72,000 240,000 ค่าแรงงานทางตรง 348,000 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 54,000 ค่าใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ ารผนั แปร 60,000 114,000 กาไรส่วนเกนิ 234,000 หกั ตน้ ทุนและค่าใชจ้ า่ ยคงท่ี ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงท่ี ค่าใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ ารคงท่ี กาไรสุทธิ บทท่ี 8
244 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ จากขอ้ มลู ขา้ งต้น ขณะน้ีไดม้ คี าสงั่ ซอ้ื พเิ ศษมายงั บรษิ ทั จานวน 3,000 ตวั โดยเสนอ ราคาตวั ละ 100 บาท บรษิ ทั ต้องการรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษแต่ไม่มกี าลงั การผลติ เหลอื พอต่อการ ยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื ในครงั้ น้ี บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจอย่างไร ถ้าการรบั คาสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ีจะทาใหต้ อ้ งเสยี ตน้ ทนุ ของวตั ถุดบิ ทางตรงเพมิ่ ขน้ึ 10% ค่าแรงงานทางตรงเพม่ิ ขน้ึ 5% ในขณะทค่ี ่าใชจ้ ่ายการ ผลติ ผนั แปรและค่าใช้จ่ายในการขายและบรหิ ารผนั แปรเพมิ่ ขน้ึ ในอตั ราเดมิ ทางเลอื กท่นี ามา พจิ ารณามดี งั น้ี ทางเลอื กท่ี 1 ลดกาลงั การผลติ และจาหน่ายปกตขิ องบรษิ ทั ลงจานวน 1,000 ตวั ทางเลอื กท่ี 2 ขยายกาลงั การผลติ ของบรษิ ทั เป็นการชวั่ คราว ซ่งึ จะทาให้ต้องเสีย คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ในอตั ราเดมิ และเสยี ค่าใชจ้ ่ายในการขายและบรหิ ารคงท่ีจานวน 5,000 บาท ให้ทา คานวณประกอบเพอ่ื ตดั สนิ ใจวา่ บรษิ ทั ควรเลอื กทางใดหากตอ้ งการยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษในครงั้ น้ี เพราะเหตุใด 4. รา้ นขนมไทย ทาการผลติ และจาหน่ายขนมไทย โดยมขี อ้ มลู ทเ่ี ก่ยี วกบั การผลติ ประจาเดอื น มกราคม 25x1 ดงั ต่อไปน้ี กาลงั การผลติ ปกติ 1,000 หน่วย จานวนหน่วยผลติ และขาย 800 หน่วย ราคาขายต่อหน่วย 20 บาท ตน้ ทนุ การผลติ ประกอบดว้ ย 3.50 บาท/หน่วย วตั ถุดบิ ทางตรง 2.50 บาท/หน่วย ค่าแรงงานทางตรง 3.25 บาท/หน่วย ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 2,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงทร่ี วม ตน้ ทนุ ทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การผลติ ประกอบดว้ ย 3.75 บาท/หน่วย คา่ นายหน้า 1,200 บาท คา่ เชา่ สานกั งาน บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 245 ขณะน้ีมคี าสงั่ ซอ้ื พเิ ศษมายงั รา้ นขนมไทย จานวน 300 กล่อง โดยเสนอราคากล่องละ 22 บาท รา้ นขนมไทยตอ้ งการรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษแต่ไม่มกี าลงั เหลอื พอทจ่ี ะยอมรบั รา้ นขนมไทย ควรตดั สนิ ใจอย่างไร ถ้าการรบั ใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษน้ี จะทาให้ต้องเสยี ต้นทุนของวตั ถุดบิ ทางตรง เพม่ิ ขน้ึ 0.50 บาทต่อหน่วย ค่าแรงงานทางตรง 5% จากอตั ราเดมิ ส่วนค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร และค่าใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ ารผนั แปรเพมิ่ ขน้ึ ในอตั ราเดมิ ทางเลอื กท่ี 1 ขยายกาลงั การผลติ เป็นการชวั่ คราว ซง่ึ จะทาให้เสยี ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงทเ่ี พม่ิ ขน้ึ 500 บาท เท่านนั้ ทางเลอื กท่ี 2 ลดกาลงั การผลติ และจาหน่ายปกตขิ องกจิ การลง ให้ทา คานวณประกอบเพอ่ื ตดั สนิ ใจว่าบรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจอยา่ งไรหากตอ้ งการยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษในครงั้ น้ี เพราะเหตุใด 5. (จากขอ้ มลู ขอ้ 3.) หากมบี รษิ ทั ภายนอกมาเสนอขายเสอ้ื ใหต้ วั ละ 30 บาท ซง่ึ ถา้ รบั ขอ้ เสนอ บรษิ ทั จะตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ ่ายในการขนส่ง 3,000 บาท ค่าตรวจสอบคุณภาพเฉลย่ี ตวั ละ 1 บาท แต่จะสามารถลดค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงทไ่ี ด้ 20% ให้ทา บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจรบั ขอ้ เสนอจากบรษิ ทั ภายนอกหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (คานวณ ประกอบ) 6. บรษิ ทั ภผู า จากดั ไดท้ าการผลติ ชน้ิ ส่วนคอมพวิ เตอรช์ นดิ หน่งึ เพ่อื ใชป้ ระกอบคอมพวิ เตอร์ จานวน 2,000 หน่วยต่อปี ซง่ึ ณ ระดบั การผลติ น้มี ตี น้ ทุนการผลติ รวม ประกอบดว้ ย วตั ถุดบิ ทางตรง 80,000 บาท ค่าแรงงานทางตรง 20,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปร 15,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 10,000 บาท รวม 125,000 บาท บทท่ี 8
246 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ ฝ่ายบรหิ ารกาลงั พจิ ารณาเพ่อื ตัดสนิ ใจซ้อื ช้นิ ส่วนชนิดน้ีจากภายนอก เน่ืองจากมี บรษิ ทั จากภายนอกมาเสนอราคาขายหน่วยละ 55 บาท ซง่ึ ถ้าบรษิ ัทตดั สนิ ใจรบั ขอ้ เสนอจาก บรษิ ทั ภายนอกจะสามารถลดค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงทล่ี งไปได้ 30% และสามารถนาเคร่อื งจกั รท่ี วา่ งจากการผลติ ไปใหบ้ ุคคลอ่นื เช่าได้ 5,000 บาท ให้ทา คานวณประกอบเพ่อื การตดั สนิ ใจวา่ บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจผลติ ชน้ิ สว่ นคอมพวิ เตอรใ์ ชเ้ อง หรอื ซอ้ื จากภายนอก เพราะเหตุใด 7. จากการแสดงผลการดาเนินงานของ บรษิ ทั ทนั สมยั แฟชนั่ จากดั ตามขอ้ 3. มกี ารรายงาน ตามส่วนงานของผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนิด ไวด้ งั น้ี บริษทั ทนั สมยั แฟชนั่ จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 ขาย กางเกง เสื้อ กระโปรง 238,000 250,000 100,000 หกั ตน้ ทุนและค่าใชจ้ ่ายผนั แปร 97,143 92,040 50,817 กาไรสว่ นเกนิ 140,857 157,960 49,183 หกั ตน้ ทนุ และคา่ ใชจ้ ่ายคงท่ี 5,000 10,000 39,000 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ 15,000 15,000 30,000 120,857 132,960 (19,817) ค่าใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ าร กาไร (ขาดทุน) สุทธิ จากการรายงานตามส่วนงานของผลติ ภณั ฑท์ งั้ 3 ชนิด แสดงให้เหน็ ถึงผลขาดทุน สาหรบั ผลิตภณั ฑ์กระโปรง ดังนัน้ ผู้บรหิ ารจงึ กาลงั พิจารณาตัดสินใจท่ีจะยกเลิกการผลิต ผลติ ภณั ฑก์ ระโปรง แต่ถา้ ยกเลกิ ตน้ ทนุ และค่าใชจ้ า่ ยคงทจ่ี ะไมส่ ามารถหลกี เลย่ี งไดท้ งั้ จานวน ให้ทา รวบรวมขอ้ มลู ประกอบการวเิ คราะหเ์ พ่อื การตดั สนิ ใจว่าจะยกเลกิ หรอื ผลติ ผลติ ภณั ฑ์ กระโปรงต่อไปหรอื ไม่ เพราะเหตุใด บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพอ่ื การตดั สนิ ใจ 247 8. บรษิ ทั อุสาหกรรมไหมไทย จากดั ทำกำรผลติ ผำ้ ไหมอยู่ 3 ชนดิ คอื ผำ้ ไหมเทยี ม ผำ้ ไหมแกว้ ผำ้ ไหมแท้ ซง่ึ ในขณะน้ผี จู้ ดั กำรของบรษิ ทั กำลงั พจิ ำรณำทจ่ี ะยกเลกิ กำรผลติ ผำ้ ไหมเทยี ม เพรำะทำใหเ้ กดิ ผลขำดทนุ สำหรบั ระยะเวลำ 6 เดอื นทผ่ี ่ำนมำ ดงั ปรำกฏ ในงบกำไรขำดทนุ ดงั น้ี บริษทั อตุ สาหกรรมผา้ ไทย จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x1 ขาย ผา้ ไหมเทียม ผา้ ไหมแก้ว หน่วย : บาท หกั ตน้ ทุนและค่าใชจ้ ่ายผนั แปร 150,000 300,000 ผา้ ไหมแท้ กาไรส่วนเกนิ หกั ตน้ ทุนและคา่ ใชจ้ ่ายคงท่ี 84,000 168,000 250,000 66,000 132,000 140,000 โดยตรง 110,000 จดั สรร 24,000 30,000 กาไร (ขาดทุน) สทุ ธิ 65,000 15,000 15,000 (23,000) 43,000 24,500 70,500 ทำงเลอื กในกำรพจิ ำรณำตดั สนิ ใจ 2 ทำงเลอื ก คอื 1. ไมย่ กเลกิ ผลติ ผำ้ ไหมเทยี ม 2. ยกเลกิ ผลติ ผำ้ ไหมเทยี ม แลว้ ทำกำรปรบั ปรงุ เครอ่ื งจกั รเพ่อื ทำกำรผลติ ผำ้ ไหมแกว้ แทน หมำยเหตุ : ต้นทุนในกำรปรบั ปรุงเคร่อื งจกั รเพ่อื ทำกำรผลติ ผำ้ ไหมแกว้ มจี ำนวน 5,000 บำท ตน้ ทุนคงทโ่ี ดยตรงหลกี เล่ยี งไดท้ งั้ จำนวน ส่วนตน้ ทุนและค่ำใชจ้ ่ำยคงทห่ี ลกี เลย่ี งไดเ้ ฉพำะค่ำ เบย้ี ประกนั ภยั จำนวน 5,000 บำท และทำใหป้ รมิ ำณขำยของผำ้ ไหมแกว้ เพม่ิ ขน้ึ จำกเดมิ 40% ให้ทา ใหน้ กั ศกึ ษำนำเสนอขอ้ มลู ต่อผจู้ ดั กำรเพอ่ื นำไปใชป้ ระกอบกำรตดั สนิ ใจว่ำควรทำ อยำ่ งไร เพรำะเหตุใด บทท่ี 8
248 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 9. บรษิ ทั แก้วตาหวานใจ จากดั ทาการผลติ จาหน่ายกระเป๋ าอยู่ 2 ชนิดคอื กระเป๋ าสะพาย กระเป๋ าถอื ซง่ึ ในเดอื นหน้าบรษิ ทั จะมปี จั จยั การผลติ ชวั่ โมงแรงงานทางตรงจากดั 6,000 ชวั่ โมง เน่ืองจากมพี นักงานลาออก ดงั นัน้ ผู้บรหิ ารจงึ ต้องวางแผนการผลติ ภายใต้ปจั จยั การผลติ ท่ี จากดั ดงั กลา่ ว โดยรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั การผลติ ไดด้ งั น้ี ราคาขายต่อหน่วย (บาท) กระเป่ าสะพาย กระเป๋ าถอื ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วย (บาท) 500 800 กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย (บาท) 200 450 ชวั่ โมงแรงงานทางตรงต่อหน่งึ หน่วยการผลติ (ชวั่ โมง) 300 450 ความตอ้ งการของลกู คา้ (หน่วย) 1.5 3 2,000 1,500 ให้ทา จงช่วยผบู้ รหิ ารในการคานวณหาสดั สว่ นในการผลติ ทเ่ี หมาะสมภายใตป้ จั จยั การผลติ ทจ่ี ากดั เพยี งชนดิ เดยี วเพ่อื ใหเ้ กดิ กาไรสงู สดุ แก่กจิ การ 10. ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มลู เก่ยี วกบั การผลติ ของบรษิ ทั น้าหน่ึง จากดั ซง่ึ ประกอบธุรกิจผลติ และ ขายสนิ คา้ อยู่ 2 ชนิด ภายใต้ชวั่ โมงเคร่อื งจกั รทจ่ี ากดั 10,000 ชวั่ โมง เน่ืองจากมเี คร่อื งจกั ร เพยี ง 1 เครอ่ื ง ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ารจงึ ตอ้ งวางแผนการผลติ ภายใตป้ จั จยั การผลติ ทจ่ี ากดั ดงั กล่าว กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย (บาท) นาฬิ กา สรอ้ ยข้อมือ ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รต่อหน่งึ หน่วยการผลติ (ชวั่ โมง) 540 250 ความตอ้ งการของลกู คา้ (หน่วย) 5 2 1,500 3,000 ให้ทา คานวณหาสดั ส่วนในการผลติ ทเ่ี หมาะสมภายใตป้ จั จยั การผลติ ทจ่ี ากดั เพยี งชนิดเดยี ว เพอ่ื ใหเ้ กดิ กาไรสงู สดุ แก่กจิ การ บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 249 11. บรษิ ทั เซรามกิ จากดั ไดท้ าการผลติ และขายสนิ คา้ 2 ชนดิ โดยมปี จั จยั การผลติ ทจ่ี ากดั อยู่หลายชนิด ในเดือนหน้าคาดว่าจะทาการซ่อมแซมเคร่ืองจักร 1 เคร่ือง ทาให้ชัว่ โมง เครอ่ื งจกั รมจี ากดั อยเู่ พยี ง 10,000 ชวั่ โมง และคนงานลาออกทาใหช้ วั่ โมงแรงงานทางตรงจากดั อยเู่ พยี ง 4,000 ชวั่ โมง ดงั นนั้ ฝา่ ยบรหิ ารต้องทาการวางแผนการผลติ เพ่อื ใหเ้ กดิ กาไรสูงสุดแก่ กจิ การ ซง่ึ ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งมดี งั น้ี ราคาขายต่อหน่วย (บาท) แจกนั ดอกไม้ กระถางดอกไม้ ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วย (บาท) 250 300 กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย (บาท) 130 120 ชวั่ โมงแรงงานทางตรงต่อหน่งึ หน่วยการผลติ (ชม.) 120 180 ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รต่อหน่งึ หน่วยการผลติ (ชม.) 5 6 2.5 1 ให้ทา 1. คานวณหาสดั สว่ นการผลติ ทเ่ี หมาะสม 2. คานวณกาไรสงู สุดของกจิ การภายใตส้ ดั ส่วนการผลติ ทเ่ี หมาะสม 12. บรษิ ัท อุตสาหกรรมพลาสตกิ จากดั ผลติ และขายสนิ ค้า 2 ชนิด คอื ถงั น้า และกล่อง ปกตบิ รษิ ทั จะใชเ้ คร่อื งจกั ร 2 เครอ่ื งในการผลติ สนิ คา้ แต่ในเดอื นน้ีกจิ การมแี ผนตอ้ งซ่อมบารงุ เครอ่ื งจกั ร 1 เครอ่ื ง บรษิ ทั จงึ มชี วั่ โมงเครอ่ื งจกั รจากดั เพยี ง 8,000 ชวั่ โมง และมเี มด็ พลาสตกิ ซง่ึ เป็นวตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ ทงั้ 2 ชนิด จากดั เพยี ง 3,000 กโิ ลกรมั จงช่วยผบู้ รหิ ารใน การวางแผนการผลติ และจาหน่ายว่าควรจะผลติ และจาหน่ายสนิ คา้ แต่ละชนิดเป็นจานวนเท่าใด บรษิ ทั จงึ จะไดก้ าไรส่วนเกนิ สงู สดุ ขอ้ มลู การผลติ และจาหน่ายของสนิ คา้ 2 ชนดิ มดี งั น้ี ราคาขายต่อหน่วย (บาท) ถงั น้า กล่อง ตน้ ทุนผนั แปรต่อหน่วย (บาท) 500 1,000 ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ ต่อหน่วย (ชม.) 350 700 ปรมิ าณเมด็ พลาสตกิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ ต่อหน่วย (กก.) 95 32 บทท่ี 8
250 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ ให้ทา คานวณจานวนหน่วยท่บี รษิ ทั ควรทาการผลติ แต่ละชนดิ และกาไรทบ่ี รษิ ทั จะไดร้ บั จากสดั ส่วนในการผลติ 13. โรงงานปนู ซเี มนตแ์ ห่ง เป็นบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจาหน่ายปนู ซเี มนต์ 3 ชนิด ซง่ึ มกี ระบวนการ ผลติ ร่วมกนั โดยบรษิ ทั สามารถท่จี ะขายปูนซเี มนต์นัน้ ได้ ณ จุดแยก หรอื จะทาการผลติ ต่อ แลว้ จงึ ขายกไ็ ด้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การตดั สนิ ใจวา่ บรษิ ทั จะทาการผลติ ต่อหรอื จะขาย ณ จดุ แยก มดี งั น้ี (หน่วย : บาท) ชนิดปนู ซีเมนต์ มลู ค่า ณ จดุ แยก ต้นทนุ การผลิตต่อ มลู ค่าหลงั ผลิตต่อ ปอรต์ แลนด์ ผสม 130,000 50,000 160,000 ขาว 60,000 20,000 100,000 80,000 35,000 120,000 ต้นทุนร่วมท่เี กิดข้นึ มีจานวนเท่ากับ 250,000 บาท โดยบรษิ ัทมนี โยบายจะจดั สรร ตน้ ทุนรว่ มตามมลู คา่ ณ จดุ แยก ให้ทา จงคานวณประกอบเพ่อื การตดั สนิ ใจวา่ ปนู ซเี มนตช์ นดิ ใดควรจะขายเลย ณ จดุ แยก หรอื ชนดิ ใดควรผลติ ต่อแลว้ คอ่ ยขาย เพราะเหตุใด 14. บรษิ ทั พยญั ชนะไทย จากดั ผลติ สนิ ค้า 4 ชนิด คือ สนิ ค้า ก ข ค และ ง ภายใต้ กระบวนการผลติ เดยี วกนั โดยมตี น้ ทุนรว่ มประกอบดว้ ย วตั ถุดบิ ทางตรงจานวน 125,000 บาท คา่ แรงงานทางตรงจานวน 85,000 บาท และคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 90,000 บาท รายละเอยี ด ตน้ ทนุ รว่ มจดั สรร และรายไดจ้ ากการขายสนิ คา้ แต่ละชนิด ต่อเดอื นมดี งั น้ี ชนิ ดของสินค้า ต้นทุนรว่ มจดั สรร (บาท) รายได้จากการขาย (บาท) สนิ คา้ ก 60,000 100,000 สนิ คา้ ข สนิ คา้ ค 120,000 152,000 สนิ คา้ ง 30,000 164,000 90,000 120,000 บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพอ่ื การตดั สนิ ใจ 251 สนิ คา้ ของบรษิ ทั ไมม่ กี ารนาไปผลติ ต่อ ซง่ึ จะขาย ณ จุดแยกตวั ทนั ที ยกเวน้ สนิ คา้ ก ทม่ี กี ารผลติ ต่อหลงั จุดแยกตวั ซง่ึ จะทาให้มูลค่าขายเพม่ิ เป็น 180,000 บาท แต่อย่างไรกต็ าม การผลติ ต่อหลงั จดุ แยกตวั จะตอ้ งจา่ ยค่าแรงงานเพมิ่ เดอื นละ 50,000 บาท และมตี ้นทุนเพม่ิ ขน้ึ 18,000 บาทต่อเดอื น ให้ทา ถา้ นกั ศกึ ษาเป็นผจู้ ดั การบรษิ ทั น้ีควรจะตดั สนิ ใจขายสนิ คา้ ก ณ จดุ แยกตวั หรอื จะ ผลติ ต่อกอ่ นแลว้ ค่อยขาย เพราะเหตุใด 15. (จากขอ้ มลู ขอ้ 3.) เน่ืองจากในเดอื นทผ่ี ่านมาเกดิ พายแุ กมใี นประเทศ ทาใหก้ ารจาหน่าย ของบรษิ ทั ลดลงจากเดมิ เหลอื แค่ 1,000 ตวั ดงั นัน้ บรษิ ัทควรตัดสนิ ใจทาการผลิตต่อไป ตามปกติ หรอื ปิดโรงงานชวั่ คราว เพราะเหตุใด โดยในช่วงท่ปี ิดโรงงานชวั่ คราวน้ี บรษิ ทั สามารถประหยดั ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงทไ่ี ด้ 50% ส่วนค่าใชจ้ ่ายในการขายและบรหิ ารคงทล่ี ดได้ 20,000 บาท แต่ตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ ่ายในการ ตดิ ตงั้ อุปกรณ์ใหม่ 5,000 บาท ให้ทา จงคานวณประกอบเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 16. บรษิ ทั ภคพงษ์ จากดั เป็นผผู้ ลติ และจาหน่ายอาหารกระป๋ อง ประเภทผลไมก้ ระป๋ อง โดยปจั จบุ นั บรษิ ทั ไดท้ าการผลติ และจาหน่ายเดอื นละ 100,000 กระป๋ อง ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การจาหน่ายและตน้ ทุนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง มดี งั น้ี ราคาขายกระป๋ องละ 30 บาท ตน้ ทุนการผลติ ผนั แปรต่อหน่วย 14 บาท ตน้ ทนุ ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปรต่อหน่วย 6 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงทร่ี วมเดอื นละ 400,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ ารคงทร่ี วมเดอื นละ 200,000 บาท เน่ืองจากตลาดสินค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นการจาหน่ายในประเทศ ดังนั้น สถานการณ์เศรษฐกจิ และการเมอื งไทยในปจั จบุ นั ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงอยตู่ ลอดเวลา จงึ ส่งผล กระทบใหย้ อดขายของบรษิ ทั ลดลงเหลอื เพยี งประมาณเดอื นละ 20,000 กระป๋ อง บทท่ี 8
252 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ จากปญั หาดงั กลา่ ว ผบู้ รหิ ารกาลงั พจิ ารณาว่า ควรทจ่ี ะปิดโรงงานชวั่ คราวหรอื จะยงั คง ทาการผลติ ต่อไป ถ้าบรษิ ทั ตดั สนิ ใจท่จี ะปิดโรงงานลงจรงิ ๆ กส็ ามารถทจ่ี ะประหยดั ค่าใช้จ่าย การผลติ คงทไ่ี ดเ้ ดอื นละ 100,000 บาท และค่าใช้จา่ ยในการขาย และบรหิ ารคงทก่ี ็จะลดลงได้ อกี เดอื นละ 60% นอกจากน้ี เม่อื บรษิ ทั ได้ปิดโรงงานลง และจะเรมิ่ ทาการผลติ ใหม่จะตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ยในการทดลองเดนิ เครอ่ื งจกั รใหมจ่ านวน 50,000 บาท ให้ทา ทา่ นคดิ วา่ ผบู้ รหิ ารของบรษิ ทั ควรทจ่ี ะตดั สนิ ใจปิดโรงงานชวั่ คราวหรอื ไม่ เพราะเหตุใด 17. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู การรายงานผลการดาเนนิ งานของบรษิ ทั แสนสบาย จากดั หน่วย : บาท ขาย (2,000 หน่วย x 50 บาท) 100,000 หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร (2,000 หน่วย x 20 บาท) 40,000 กาไรสว่ นเกนิ 60,000 หกั ตน้ ทุนคงท่ี 36,000 กาไรสทุ ธิ 24,000 ให้ทา สมมตหิ ากจานวนหน่วยขายลดลงเหลอื เพยี ง 900 หน่วย กจิ การควรปิดโรงงาน ชวั่ คราวหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (ถา้ ปิดโรงงานชวั่ คราวตน้ ทนุ คงทห่ี ลกี เลย่ี งได้ 40%) 18. อุตสาหกรรมการผลติ แห่งหน่งึ เป็นบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจาหน่ายสนิ คา้ 2 ชนดิ คอื ยางรถยนต์ และแผ่นยางแหง้ โดยมตี ้นทุนร่วมชนิดเดยี วกนั คอื น้ายางพาราจานวน 100,000 บาท ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การตดั สนิ ใจว่าบรษิ ทั จะทาการผลติ ต่อหรอื จะขาย ณ จุดแยกของสนิ คา้ ทงั้ 2 ชนิด มี ดงั น้ี ผลิตภณั ฑ์ ผลิตภณั ฑ์ ราคาขาย ต้นทุน ราคาขายหลงั ณ จดุ แยก หลงั การผลิตต่อ ณ จดุ แยก การผลิตต่อ การผลิตต่อ ยำงรถยนต์ แผ่นยาง - 60,000 -- ยางกนั ชน 20,000 65,000 80,000 ให้ทา จงคานวณประกอบเพอ่ื การตดั สนิ ใจวา่ แผน่ ยางควรจะขายเลย ณ จดุ แยก หรอื ควร ผลติ ต่อแลว้ คอ่ ยขาย เพราะเหตุใด บทท่ี 8
การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 253 บทที่ 9 การวิเคราะหก์ ารลงทุน การลงทุน (Capital) เป็นการนาเงนิ หรอื สนิ ทรพั ยไ์ ปลงทุนเพ่อื หวงั ผลตอบแทนอาจมี ทงั้ การลงทุนระยะสนั้ และระยะยาว แต่ไม่ว่าจะลงทุนในลกั ษณะใด ผูบ้ รหิ ารจาเป็นต้องมกี าร วางแผนอย่างรอบคอบ และระมดั ระวงั เพ่อื ให้มผี ลตอบแทนและลดความเสย่ี งในการลงทุนท่ี อาจจะเกดิ ข้นึ จากการลงทุนในโครงการต่างๆ ซ่งึ ในบทน้ีจะกล่าวถึงการลงทุนระยะยาวท่มี ี ระยะเวลาดาเนินโครงการมากกว่า 1 ปี การวเิ คราะหก์ ารลงทุนจงึ มบี ทบาทและมคี วามสาคญั อย่างมากต่อการนามาพจิ ารณาประกอบเพ่อื การตดั สนิ ใจของผูบ้ รหิ ารในการเลอื กท่จี ะลงทุน หรอื จะปฏเิ สธการลงทุน เพ่อื มุ่งใหก้ จิ การไดร้ บั ผลประโยชน์สงู สุด ซง่ึ ขอ้ มลู ทจ่ี ะนามาพจิ ารณา ประกอบการลงทุนนัน้ จะอยู่ในรูปของกระแสเงนิ สดสุทธิตลอดอายุโครงการ และกาไรสุทธิ ทางการบญั ชี ซง่ึ บางกรณกี ารตดั สนิ ใจอาจตอ้ งคานึงถงึ มลู คา่ ของเงนิ ตามเวลาประกอบดว้ ย ความหมายของการลงทนุ สมนึก เออ้ื จริ ะพงษ์พนั ธ์ (2552 : 359) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า การลงทุน หมายถงึ การลงทุนในสนิ ทรพั ยล์ งทุน หรอื โครงการลงทุนท่จี ะก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์หรอื ผลตอบแทนแก่ กจิ การในอนาคตระยะยาว ไพฑรู ย์ อนิ ต๊ะขนั (2554 : 10-3) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า การลงทุน หมายถึง กจิ กรรม หลกั อย่างหน่ึงในการดาเนินธุรกจิ โดยกิจการไดท้ าการลงทุนเพ่อื คาดหวงั กระแสเงนิ สดหรอื ผลตอบแทนทจ่ี ะไดร้ บั กลบั มาในอนาคต ศรสี ุดา อาชวานันทกุล (2557 : 10-2) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า การลงทุน หมายถงึ การพจิ ารณาลงทุนในปจั จบุ นั โดยหวงั ไดร้ บั ผลตอบแทนทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต กล่าวโดยสรุป การลงทุน (Capital Investment) หมายถงึ การวางแผนระยะยาวทเ่ี ป็น ลกั ษณะการพจิ ารณาลงทุนในสนิ ทรพั ยล์ งทุน หรอื โครงการลงทุน เพ่อื มงุ่ หวงั ผลตอบแทนทจ่ี ะ เกดิ ขน้ึ ในอนาคต บทท่ี 9
254 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน ประเภทของการลงทนุ ประเภทของการลงทุนมหี ลายประเภทขน้ึ อย่กู บั วตั ถุประสงค์ของกจิ การ ซง่ึ สามารถ จาแนกได้ 5 ประเภท ดงั น้ี 1. การลงทุนในผลิตภณั ฑช์ นิดใหม่ (New Product Investment) การลงทุนในผลติ ภณั ฑช์ นิดใหม่ เป็นลกั ษณะการเพม่ิ สายการผลติ หรอื เพมิ่ จานวน ผลิตภณั ฑ์ใหม่ อาจจะเก่ียวข้องกับผลิตภณั ฑ์เดิมหรือไม่ก็ได้ เช่น กิจการเป็นผู้ผลิตและ จาหน่ายเสอ้ื ผา้ สาเรจ็ รปู แต่ตอ้ งการลงทุนเพมิ่ ในผลติ ภณั ฑช์ นิดใหม่ คอื รองเทา้ เป็นตน้ 2. การทดแทนและบารงุ รกั ษาสินทรพั ยเ์ ดิม (Replacement and Maintenance) การทดแทนและบารุงรกั ษาสนิ ทรพั ยเ์ ดมิ เป็นลกั ษณะการพจิ ารณาถงึ การทดแทน และบารงุ รกั ษาสนิ ทรพั ยเ์ ดมิ เทยี บกบั สนิ ทรพั ยใ์ หม่ เช่น การเปลย่ี นเครอ่ื งจกั รหรอื อุปกรณ์จาก เคร่อื งเก่าไปเป็นเคร่อื งใหม่ โดยความสามารถในการผลิตยงั เท่าเดิม หรือการซ่อมบารุง เครอ่ื งจกั รใหอ้ ยใู่ นสภาพทพ่ี รอ้ มใชง้ านได้ต่อเน่อื งอกี หลายปีอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. การขยายหรือสร้างโรงงานใหม่ (Expansion or Build New Factory) การขยายหรอื สรา้ งโรงงานใหม่ เป็นลกั ษณะการพจิ ารณาถงึ เงนิ ลงทุนทต่ี ้องนาไปใช้ ในการขยายหรอื สรา้ งโรงงานใหม่ เปรยี บเทยี บกบั ผลกาไรทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยตอ้ งคานึงถงึ ความคุม้ ทนุ เป็นสาคญั 4. การลงทุนเพ่ือซื้อหรอื เช่าสินทรพั ย์ (Buy or Lease) การลงทนุ เพอ่ื ซอ้ื หรอื เชา่ สนิ ทรพั ย์ เป็นลกั ษณะการพจิ ารณาถงึ สนิ ทรพั ยท์ ไ่ี ดก้ าหนด มูลค่าของการซ้อื ไว้ แล้วนาเปรยี บเทยี บกบั ค่าเช่าโดยทเ่ี ป็นสนิ ทรพั ยช์ นิดเดยี วกนั เพ่อื ใหไ้ ด้ ทางเลอื กทด่ี ที ส่ี ดุ 5. การลงทุนในลกั ษณะอ่ืน (Other Investment) การลงทนุ ในลกั ษณะอ่นื เป็นลกั ษณะการลงทุนทน่ี อกเหนือจากทุกประเภททก่ี ล่าวมา เช่น การลงทุนเพ่อื ลดต้นทุน การขยายกาลงั การผลติ ท่มี อี ยู่เดมิ การควบคุมความปลอดภยั รวมทงั้ รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มเป็นตน้ บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 255 ขนั้ ตอนของการวิเคราะหก์ ารลงทนุ การวเิ คราะหก์ ารลงทุน เป็นการวเิ คราะหว์ ่าผลตอบแทนหรอื ผลประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จาก การลงทนุ ตลอดอายขุ องโครงการนนั้ และจานวนเงนิ ลงทุนทต่ี อ้ งตอ้ งจ่ายไปในช่วงแรกนนั้ จะให้ ผลตอบแทนทค่ี ุม้ ค่ากนั หรอื ไม่ ขนั้ ตอนของการวเิ คราะหก์ ารลงทุนเพ่อื ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพใน การตดั สนิ ใจ สามารถกาหนดตามลาดบั ดงั น้ี (ปรบั ปรุงจากสมนึก เอ้อื จริ ะพงษ์พนั ธ์, 2552 : 361) 1. การประมาณการกระแสเงินสดสทุ ธิ (Net Cash Flow Forecast) การประมาณการกระแสเงนิ สดสุทธิ อาจจะเป็นการคานวณจากกระแสเงนิ สดรบั หรอื กระแสเงนิ สดจ่ายตลอดอายุของโครงการ หรอื อาจเกิดจากการประมาณการจากกิจกรรมท่ี เก่ยี วขอ้ งกบั การงบกระแสเงนิ สด เน่ืองจากกระแสเงนิ สดสุทธิของโครงการไม่ได้รบั ครงั้ เดยี ว แต่จะตอ้ งไดร้ บั ในแต่ละปีตลอดอายขุ องโครงการ 2. การประเมินความเส่ียงของกระแสเงินสดสุทธิที่จะได้รบั ในอนาคต (Risk Evaluation for Net Cash Flow Received Future) การประเมนิ ความเส่ยี งของกระแสเงนิ สดสุทธทิ ่จี ะได้รบั ในอนาคต อาจจะกาหนด ภายใตค้ วามไมแ่ น่นอนหรอื ภายใตค้ วามน่าจะเป็นของการทก่ี จิ การจะไดร้ บั หรอื จ่ายกระแสเงนิ - สดในลกั ษณะต่างๆ 3. การกาหนดอตั ราผลตอบแทนขนั้ ตา่ ท่ีต้องการ (Minimum Rate of Return) การกาหนดอตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี ้องการ เพ่อื ใชใ้ นการปรบั ค่ากระแสเงนิ สดสุทธิ ในอนาคตใหเ้ ป็นมลู คา่ เงนิ ปจั จบุ นั เมอ่ื ตอ้ งพจิ ารณาถงึ มลู ค่าของเงนิ ตามเวลา 4. การประมาณการจานวนเงินที่กิจการต้องจ่ายลงทุนเร่ิมแรก (Investment Forecast) การประมาณการจานวนเงนิ ท่กี จิ การต้องจ่ายลงทุนเรมิ่ แรกก็เพ่อื นาไปพจิ ารณาถึง ผลตอบแทนหรอื กระแสเงนิ สดสทุ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ของโครงการในแต่ละปีตลอดอายขุ องโครงการ บทท่ี 9
256 การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 5. การคานวณเพ่ือวิเคราะหข์ ้อมลู เกี่ยวกบั การลงทุน (Calculation Investment Analysis) การคานวณเพ่อื วเิ คราะห์ข้อมูลเก่ยี วกบั การลงทุนนัน้ กจิ การสามารถคานวณด้วย เทคนิควธิ ตี ่างๆ เช่น วธิ อี ตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี วธิ งี วดเวลาคนื ทุน วธิ มี ลู ค่าปจั จบุ นั สุทธิ วธิ ี ดชั นีทาการไร เป็นตน้ เพอ่ื พจิ ารณาวา่ กจิ การควรตดั สนิ ใจลงทนุ ในโครงการลงทนุ นนั้ หรอื ไม่ จากขนั้ ตอนการวเิ คราะหก์ ารลงทนุ ขา้ งตน้ สามารถสรปุ ขนั้ ตอนไดด้ งั ภาพท่ี 9-1 ดงั น้ี ประมาณการกระแสเงนิ สด 1. กระแสเงนิ สดรบั 2. กระแสเงนิ สดจา่ ย ประเมนิ ความเสย่ี ง กาหนดผลตอบแทนขนั้ ต่า 1. มลู คา่ เงนิ ในอนาคต ประมาณการเงนิ ลงทนุ 2. มลู คา่ เงนิ ในปจั จบุ นั วเิ คราะหก์ ารลงทุน 1. วธิ อี ตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี 2. วธิ งี วดเวลาคนื ทนุ 3. วธิ มี ลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ 4. วธิ ดี ชั นที ากาไร ภาพท่ี 9-1 ขนั้ ตอนการวเิ คราะหก์ ารลงทุน ข้อมลู เพ่ือการวิเคราะหก์ ารลงทนุ การวเิ คราะหก์ ารลงทุนมหี ลายวธิ ีแตกต่างกนั ตามความเหมาะสมของแต่ละส่วนงาน และในการวเิ คราะหแ์ ต่ละวธิ กี ม็ กี ารใชข้ อ้ มลู แตกต่างกนั โดยทวั่ ไปขอ้ มลู เพ่อื การวเิ คราะหก์ าร ลงทนุ มดี งั น้ี (ปรบั ปรงุ จาก ศรสี ดุ า อาชวานนั ทกุล, 2557 : 10-3 ถงึ 10-4) บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 257 1. กระแสเงินสด กระแสเงนิ สด (Cash Flows) คอื การประมาณการเก่ยี วกบั กระแสเงนิ สดรบั และ กระแสเงนิ สดจา่ ย ซง่ึ เป็นขอ้ มลู พน้ื ฐานทส่ี าคญั ในการวเิ คราะหม์ ากกว่าจะใช้ขอ้ มลู รายได้และ ค่าใช้จา่ ยตามเกณฑค์ งคา้ ง จากการประมาณการกระแสเงนิ สดรบั หรอื กระแสเงนิ สดจ่าย เป็น ทม่ี าของการประมาณกระแสเงนิ สดสุทธิ เน่ืองจากกระแสเงนิ สดไม่ไดร้ บั ครงั้ เดยี ว แต่จะไดร้ บั เป็นงวดตามอายุของโครงการ หรอื การประมาณกระแสเงนิ สดสุทธิอาจเกดิ จากการพจิ ารณาใน งบกระแสเงนิ สดซง่ึ เกดิ ขน้ึ จาก 3 กจิ กรรม คอื กจิ กรรมดาเนินงาน กจิ กรรมลงทุน และกจิ กรรม จดั หาเงนิ สรปุ กระแสเงนิ สดรบั และกระแสเงนิ สดจา่ ย ดงั แสดงในตารางท่ี 9-1 ดงั น้ี ตารางที่ 9-1 กระแสเงนิ สดรบั และกระแสเงนิ สดจา่ ยจากกจิ กรรม กิจกรรม กระแสเงินสดรบั กระแสเงินสดจ่าย 1. กจิ กรรม 1. รบั จากขายสนิ คา้ และการใหบ้ รกิ าร 1. ซอ้ื สนิ คา้ หรอื ผใู้ หบ้ รกิ าร ดาเนนิ งาน 2. รบั จากรายไดค้ ่าสทิ ธิ 2. จา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆของกจิ การ 3. ค่าธรรมเนียม คา่ นายหน้า และ 3. จา่ ยใหแ้ ก่พนกั งานและจา่ ย รายไดอ้ ่นื แทนพนกั งาน 4. รบั จากคา่ สนิ ไหมทดแทน 4. จา่ ยค่าประกนั 5. รบั รายไดด้ อกเบย้ี และเงนิ ปนั ผลรบั 5. จา่ ยค่าภาษเี งนิ ได้ 6. จา่ ยคา่ ดอกเบย้ี 2. กจิ กรรม 1. ขายทด่ี นิ อาคาร และอุปกรณ์ 1. ซอ้ื ทด่ี นิ อาคารและอุปกรณ์ ลงทุน 2. ขายสนิ ทรพั ยไ์ มม่ ตี วั ตน และ 2. ซอ้ื สนิ ทรพั ยไ์ ม่มตี วั ตน และ สนิ ทรพั ยร์ ะยะยาวอ่นื สนิ ทรพั ยร์ ะยะยาวอ่นื 3. ขายหลกั ทรพั ยห์ รอื เงนิ ลงทุน 3. ซอ้ื หลกั ทรพั ยห์ รอื เงนิ ลงทนุ 4. ขายตราสารทุนหรอื ตราสารหน้ี 4. ซอ้ื ตราสารทุนหรอื ตราสารหน้ี ของกจิ การอ่นื และส่วนไดเ้ สยี ใน ของกจิ การอ่นื และส่วนไดเ้ สยี การรว่ มคา้ ในการรว่ มคา้ 3. กจิ กรรม 1. ออกหุน้ หรอื ตราสารทุนอ่นื 1. ซอ้ื หุน้ ทนุ คนื จดั หาเงนิ 2. ออกหุน้ กู้ เงนิ กยู้ มื การจานอง 2. ไถ่ถอนหนุ้ กู้ 3. กยู้ มื ระยะสนั้ และระยะยาวอ่นื 3. ชาระหน้เี งนิ กยู้ มื 4. จา่ ยเงนิ ปนั ผล ทม่ี า : (ปรบั ปรงุ จาก สภาวชิ าชพี บญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ,์ 2557) บทท่ี 9
258 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน เพ่ือให้เข้าใจและชดั เจนมากยง่ิ ข้ึนเก่ียวกับการประมาณกระแสเงนิ สดสุทธิ จงึ ขอ ยกตวั อย่างเพ่อื อธบิ ายเก่ยี วกบั การประมาณกระแสเงนิ สดสุทธิท่ไี ด้จากกระแสเงนิ สดรบั และ กระแสเงนิ สดจา่ ย ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-1 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 9-1 บรษิ ทั ยดู ไี ทย จากดั กาลงั พจิ ารณาขอ้ เสนอเกย่ี วกบั การลงทุนในอุปกรณ์ใหม่ซง่ึ มี มลู ค่า 300,000 บาท คาดวา่ อายกุ ารใชง้ านของอุปกรณ์ใหมเ่ ทา่ กบั 10 ปี เมอ่ื ครบอายใุ นการ ใชง้ านแลว้ มูลค่าคงเหลอื เท่ากบั 0 บาท ประมาณการรายไดจ้ ากการขายรายปีโดยประมาณ เทา่ กบั 600,000 บาท และประมาณการจา่ ยชาระคนื เงนิ กูร้ ายปีเทา่ กบั 450,000 บาท จากขอ้ มลู สามารถนามาสรปุ เป็นขอ้ มลู เพ่อื การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ ไดด้ งั น้ี เงนิ ลงทุนเรมิ่ แรก 300,000 บาท อายกุ ารใชง้ านของสนิ ทรพั ยโ์ ดยประมาณ 10 ปี 0 บาท มลู ค่าคงเหลอื เมอ่ื ครบอายกุ ารใชง้ าน กระแสเงนิ สดรายปีโดยประมาณ 600,000 บาท 450,000 บาท กระแสเงนิ สดรบั 150,000 บาท กระแสเงนิ สดจา่ ย กระแสเงนิ สดสุทธริ ายปี ส่วนการประมาณกระแสเงนิ สดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงาน กิจกรรมลงทุน และ กจิ กรรมจดั หาเงนิ สามารถคานวณดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-2 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 9-2 บรษิ ทั น้าหวานอุดร จากดั กาลงั พจิ ารณาขอ้ เสนอเก่ยี วกบั การลงทุนในผลติ ภณั ฑ์ ชนิดใหมซ่ ง่ึ มมี ลู ค่าจานวน 100,000 บาท รายละเอยี ดประมาณการรายไดแ้ ละค่าใชจ้ า่ ยทค่ี าด ว่าจะเกดิ ขน้ึ ตลอดระยะเวลาดาเนินโครงการ มดี งั น้ี ขายสนิ คา้ 80,000 บาท ขายทด่ี นิ 30,000 บาท กยู้ มื เงนิ ระยะยาว 120,000 บาท บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 259 ซอ้ื สนิ คา้ 50,000 บาท จา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆ 10,000 บาท ซอ้ื อุปกรณ์สานกั งาน 6,000 บาท จา่ ยชาระหน้เี งนิ กยู้ มื 20,000 บาท จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถนามาสรปุ เพอ่ื หากระแสเงนิ สดสุทธจิ าก 3 กจิ กรรมไดด้ งั น้ี กจิ กรรมดาเนนิ งาน: หน่วย : บาท ขายสนิ คา้ 80,000 ซอ้ื สนิ คา้ (50,000) จา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆ 10,000 กระแสเงนิ สดสทุ ธจิ ากกจิ กรรมดาเนินงาน 40,000 กจิ กรรมลงทุน: ขายทด่ี นิ 30,000 ซอ้ื อุปกรณ์สานกั งาน (6,000) กระแสเงนิ สดสทุ ธจิ ากกจิ กรรมลงทุน 24,000 กจิ กรรมจดั หาเงนิ : กูย้ มื เงนิ ระยะยาว 120,000 จา่ ยชาระหน้เี งนิ กยู้ มื (20,000) กระแสเงนิ สดสทุ ธจิ ากกจิ กรรมจดั หาเงนิ 100,000 กระแสเงนิ สดสุทธิ 164,000 2. มลู ค่าของเงินตามเวลา ประเภทของการลงทุนระยะยาว สาหรบั ผลตอบแทนทค่ี าดว่าจะไดร้ บั นนั้ อาจใชเ้ วลา หลายปี โดยจานวนเงนิ ท่ไี ด้รบั ในแต่ละปีอาจเท่ากนั หรอื ต่างกนั ก็ได้ ซ่งึ เป็นลกั ษณะของการ ไดร้ บั กลบั คนื มาเป็นงวดๆ ดงั นนั้ ในการวเิ คราะหก์ ารลงทุนจงึ ต้องพจิ ารณามลู ค่าของเงนิ ตาม เวลา (Time Value of Money) เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั ช่วงของผลตอบแทนกบั ระยะเวลาทไ่ี ดร้ บั กล่าวคอื ถ้าเราจะไดร้ บั เงนิ 1 บาทในวนั น้ี กย็ ่อมจะดกี ว่าทจ่ี ะไดร้ บั เงนิ 1 บาทในวนั ขา้ งหน้า เพราะเงนิ 1 บาทในวนั น้ีสามารถนาไปหาผลประโยชน์ได้ ซง่ึ รปู แบบทม่ี กั นิยมใชน้ ามาคานวณ คอื “ทฤษฎดี อกเบย้ี ” โดยมลู ค่าของเงนิ ตามเวลาจะต้องศกึ ษาเกย่ี วกบั มลู ค่าปจั จบุ นั และ มลู ค่า ในอนาคต ดงั น้ี บทท่ี 9
260 การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 2.1 มลู ค่าปัจจบุ นั (Present Value : PV) มูลค่าปจั จุบนั หมายถงึ การหามูลค่าของเงนิ ทค่ี าดว่าจะได้รบั ในอนาคต ว่าเม่อื ขอรบั เงนิ ในวนั น้หี รอื ปจั จบุ นั ควรจะมจี านวนเท่าใด กล่าวคอื ถา้ เงนิ ทจ่ี ะได้รบั อกี ปี 5 ปีขา้ งหน้า เท่ากบั 1 บาท แลว้ เงนิ ทจ่ี ะขอรบั ในวนั น้ีจะเป็นเท่าไหร่ ซ่งึ จานวนเงนิ ทไ่ี ดร้ บั ย่อมน้อยกว่า 1 บาท แน่นอน สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี มลู ค่าปจั จบุ นั (PV) = Fn หรอื Fn 1 n n 1 r 1 r โดยท:่ี Fn คอื จานวนเงนิ ทไ่ี ดร้ บั ในอนาคต r คอื อตั ราดอกเบย้ี ต่อปี n คอื จานวนปีหรอื จานวนงวด เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ ในการคานวณมลู ค่าปจั จุบนั ของเงนิ จงึ ขอยกตวั อยา่ งเพอ่ื อธบิ ายเกย่ี วกบั การคานวณหามลู ค่าปจั จบุ นั ของเงนิ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-3 และ ตวั อยา่ งท่ี 9-4 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 9-3 นางสาวพรเพญ็ นาเงนิ ฝากธนาคารวนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 โดยเมอ่ื สน้ิ ปีจะไดร้ บั เงนิ จานวน 53,000 บาท ขณะท่อี ตั ราดอกเบ้ยี เท่ากบั 6% ต่อปี อยากทราบว่าจานวนเงนิ ท่ี นางสาวพรเพญ็ จะขอรบั ในวนั น้ี (1 มกราคม 25x1) จะเป็นเท่าใด จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณมลู คา่ ปจั จบุ นั ของเงนิ ไดด้ งั น้ี มลู ค่าปจั จุบนั (PV) = Fn n 1 r = 53,000 1 0.06 = 50,000 บาท ดงั นัน้ จานวนเงนิ ทน่ี างสาวพรเพ็ญจะขอรบั ในวนั น้ี (1 มกราคม 25x1) จะเป็น จานวน 50,000 บาท บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 261 ตวั อย่างท่ี 9-4 ถา้ นางสาวพรเพญ็ นาเงนิ ฝากธนาคารวนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 โดยเมอ่ื สน้ิ ปี 25x5 จะ ไดร้ บั เงนิ เท่ากบั 66,900 บาท ในขณะทอ่ี ตั ราดอกเบย้ี เทา่ กบั 6% ต่อปี อยากทราบว่าจานวน เงนิ ทน่ี างสาวพรเพญ็ จะขอรบั ในวนั น้ี (1 มกราคม 25x1) จะเป็นจานวนเทา่ ใด จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี มลู คา่ ปจั จบุ นั (PV) = Fn n 1 r = 66,900 5 1 0.06 = 66,900 1.3382* = 50,000 บาท ดงั นนั้ จานวนเงนิ ทน่ี างสาวพรเพญ็ จะขอรบั ในวนั น้ี จะเป็นจานวน 50,000 บาท หมายเหตุ : ค่า 1.3382* มาจากมลู ค่าในอนาคตของเงนิ 1 บาท สาหรบั ระยะเวลา 5 ปี อตั ราดอกเบย้ี 6% ต่อปี เปิดตาราง FVIF i=6%, n=5 จากตวั อยา่ งท่ี 9-4 สามารถนามาคานวณหามลู คา่ ปจั จุบนั อกี วธิ หี น่งึ ไดด้ งั น้ี มลู ค่าปจั จบุ นั (PV) = Fn 1 n 1 r = 66,900 1 1 0.065 = 66,900 (0.7473*) = 49,994.37 บาท ดงั นนั้ จานวนเงนิ ทน่ี างสาวพรเพญ็ จะขอรบั ในวนั น้ี จะเป็นจานวน 49,994.37 บาท หมายเหตุ : ค่า 0.7473* มาจากมลู คา่ ปจั จุบนั ของเงนิ 1 บาท สาหรบั ระยะเวลา 5 ปี อตั ราคดิ ลด 6% ต่อปี เปิดตาราง PVIF i=6%, n=5 บทท่ี 9
262 การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 2.2 มลู ค่าในอนาคต (Future Value : FV) มลู คา่ ในอนาคต หมายถงึ การหามลู ค่าของเงนิ ปจั จุบนั ทค่ี าดว่าจะไดร้ บั ในอนาคต เม่อื รวมกบั ผลตอบแทนท่นี าไปลงทุนว่าควรจะมจี านวนเท่าใด กล่าวคอื การคานวณเงนิ ท่จี ะ ไดร้ บั จากเงนิ 1 บาทในวนั น้ี เมอ่ื สน้ิ ปีหรอื อกี 5 ปีขา้ งหน้าย่อมมคี ่ามากกว่า 1 บาท แน่นอน สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี มลู คา่ ในอนาคต (FV) = P (1 + r)n โดยท:่ี คอื จานวนเงนิ ในปจั จบุ นั P คอื อตั ราดอกเบย้ี ต่อปี r คอื จานวนปีหรอื จานวนงวด n เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ ในการคานวณมลู ค่าในอนาคตของเงนิ จงึ ขอยกตัวอย่างเพ่ืออธิบายเก่ียวกับการคานวณหามูลค่าในอนาคตของเงิน ดงั แสดงใน ตวั อยา่ งท่ี 9-5 และ 9-6 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 9-5 นายขวญั ชยั นาเงนิ ฝากธนาคารเมอ่ื วนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 จานวน 50,000 บาท โดย อตั ราดอกเบย้ี เท่ากบั 6% ต่อปี อยากทราบว่า ณ วนั สน้ิ ปี 31 ธนั วาคม 25x1 นายขวญั ชยั จะ ไดร้ บั เงนิ ตน้ พรอ้ มดอกเบย้ี จานวนเท่าใด จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี มลู คา่ ในอนาคต (FV) = P (1 + r)n = 50,000 (1 + 0.06) = 53,000 บาท ดงั นนั้ ณ วนั สน้ิ ปี นายขวญั ชยั จะไดร้ บั เงนิ ตน้ พรอ้ มดอกเบย้ี จานวน 53,000 บาท บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 263 ตวั อย่างท่ี 9-6 ถา้ นายขวญั ชยั นาเงนิ ฝากธนาคารเม่อื วนั ท่ี 1 มกราคม 25X1 จานวน 50,000 บาท โดยอตั ราดอกเบย้ี เทา่ กบั 6% ต่อปี อยากทราบว่า ณ วนั สน้ิ ปี 31 ธนั วาคม 25X5 นายขวญั ชยั จะไดร้ บั เงนิ ตน้ พรอ้ มดอกเบย้ี จานวนเท่าใด จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี มลู ค่าในอนาคต (FV) = P (1 + r)n = 50,000 (1 + 0.06)5 = 50,000 (1.3382)* = 66,900 บาท ดงั นนั้ สน้ิ ปี 25x5 นายขวญั ชยั จะไดร้ บั เงนิ ตน้ พรอ้ มดอกเบย้ี จานวน 66,900 บาท หมายเหตุ: คา่ 1.3382* มาจากมลู ค่าในอนาคตของเงนิ 1 บาท สาหรบั ระยะเวลา 5 ปี อตั ราดอกเบย้ี 6% ต่อปี FVIF i=6%, n=5 เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะหก์ ารลงทนุ เพ่อื ให้การวเิ คราะหก์ ารลงทุนมปี ระสทิ ธภิ าพ ผบู้ รหิ ารจาเป็นต้องใชเ้ คร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ น การวิเคราะห์การลงทุนเพ่อื ช่วยในการเปรยี บเทียบผลประโยชน์และผลเสียว่าสมั พนั ธ์กัน อยา่ งไรสาหรบั การตดั สนิ ใจลงทุนในแต่ละทางเลอื ก ซง่ึ เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ในการวเิ คราะหก์ ารลงทุน สามารถแบง่ พจิ ารณาได้ 2 แบบ คอื (ปรบั ปรงุ จาก กชกร เฉลมิ กาญจนา, 2557 : 262) 1. แบบวิธีท่ีไมค่ านึงถึงมลู ค่าปัจจบุ นั การวิเคราะห์การลงทุนแบบวิธีท่ีไม่คานึงถึงมูลค่าปจั จุบัน (Non-Discounting Approach) เป็นวธิ กี ารคานวณทไ่ี มย่ งุ่ ยากและทาไดง้ า่ ย คานวณไดโ้ ดยพจิ ารณาจากกระแสเงนิ สดสุทธิ และกาไรสุทธทิ างบญั ชี ซ่งึ ไม่ต้องคานึงถึงค่าของเงนิ ตามเวลาแต่อย่างใด เหมาะ สาหรบั การนามาประเมนิ โครงการลงทุนเบอ้ื งตน้ เพยี งช่วงระยะเวลาสนั้ ๆ โดยผบู้ รหิ ารจะตอ้ งมี การกาหนดเกณฑม์ าตรฐานขนั้ ต่าของผลตอบแทนไว้ด้วย ทงั้ น้ีเพ่อื การยอมรบั หรอื ปฏเิ สธ โครงการ พจิ ารณาไดจ้ าก 2 วธิ ี ดงั น้ี บทท่ี 9
264 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 1.1 วิธีอตั ราผลตอบแทนถวั เฉล่ีย (Average Rate of Return : ARR) วธิ อี ตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี เป็นวธิ ี การใชก้ าไรสทุ ธถิ วั เฉลย่ี ต่อปีเทยี บกบั เงนิ ลงทุนเฉล่ยี โดยไม่ตอ้ งพจิ ารณากระแสเงนิ สดสุทธิ เรยี กอกี อยา่ งว่า วธิ อี ตั ราผลตอบแทนทาง บญั ชี (Account Net) สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ก. คานวณอตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี อตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี = กำไรสทุ ธถิ ัวเฉลย่ี เงินลงทุนเฉลยี่ * ข. คานวณเงนิ ลงทนุ เฉลย่ี เงนิ ลงทนุ เรม่ิ แรก มลู ค่าคงเหลอื เงนิ ลงทุนเฉลย่ี * = 2 เกณฑก์ ารตดั สินใจ : ควรเลอื กลงทุนในโครงการทม่ี คี า่ อตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี สงู ท่ีสุด หรือควรตัดสินใจยอมรบั โครงการนั้นเม่ือค่าอัตราผลตอบแทนเฉล่ียสูงกว่าอัตรา ผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการ เพอ่ื ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ เกย่ี วกบั การคานวณอตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี เพ่อื นาไป วเิ คราะหก์ ารลงทนุ จงึ ขอยกตวั อยา่ งเก่ยี วกบั การลงทุน ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-7 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 9-7 800,000 บาท ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู การลงทุนในโครงการหน่งึ 10 ปี เงนิ ลงทุนจา่ ยตามโครงการ อายขุ องโครงการ 100,000 บาท กาไรสทุ ธเิ ฉลย่ี ต่อปี 0 บาท มลู ค่าคงเหลอื อตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการ 20 % จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถคานวณหาค่าอตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี ไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี กำไรสทุ ธถิ วัเฉลย่ี อตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี = เงินลงทุนเฉลยี่ * บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 265 = 100,000 800,000 0 2 = 100,000 400,000 = 0.25 หรอื 25% จากการคานวณอตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี ขา้ งตน้ มคี ่าเทา่ กบั 25% ซง่ึ มคี า่ สงู กวา่ อตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการ ดงั นนั้ กจิ การควรยอมรบั โครงการลงทนุ ข้อดี : วธิ อี ตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี คอื 1. สามารถทาความเขา้ ใจและคานวณไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ไมซ่ บั ซอ้ น 2. เป็นวธิ ที น่ี ยิ มใช้ เพราะทาใหส้ ะดวกในการนามาวเิ คราะหเ์ น่อื งจากใช้ กาไรสุทธทิ างบญั ชี ข้อเสีย : วธิ อี ตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี คอื 1. ไมค่ านงึ ถงึ คา่ ของเงนิ ตามเวลา 2. ไมน่ าขอ้ มลู กระแสเงนิ สดมาพจิ ารณา เพราะใชเ้ พยี งขอ้ มลู ทางบญั ชซี ง่ึ อาจยงั ไมเ่ พยี งพอต่อการตดั สนิ ใจเท่าทค่ี วร 1.2 งวดเวลาคืนทนุ (Payback Period : PB) เป็นวธิ กี ารคานวณหาช่วง ระยะเวลาท่ีกิจการจะได้รบั ผลตอบแทนกลบั มาเพ่ือให้เท่ากับเงินสดท่ีลงทุนเรม่ิ แรก โดย พจิ ารณาจากกระแสเงนิ สดสุทธทิ ค่ี าดว่าจะไดร้ บั ในแต่ละปีตลอดอายโุ ครงการ สามารถคานวณ ไดโ้ ดยการแบ่งเป็น 2 กรณี ดงั น้ี 1.2.1 กรณที ก่ี ระแสเงนิ สดสทุ ธเิ ท่ากนั ทุกปี คานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี งวดเวลาคนื ทุน = เงนิ ลงทนุ เรม่ิ แรก กระแสเงนิ สดทไ่ี ดร้ บั ต่อปี เกณฑก์ ารตดั สินใจ : ควรเลอื กลงทนุ หรอื ตดั สนิ ใจยอมรบั โครงการทม่ี งี วดเวลา คนื ทุนทส่ี นั้ ทส่ี ุด เพราะเป็นการแสดงถงึ การไดร้ บั ผลตอบแทนกลบั มาไดเ้ รว็ ขน้ึ บทท่ี 9
266 การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ เพอ่ื ความเขา้ ใจและสามารถคานวณหางวดเวลาคนื ทนุ ของโครงการไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง จงึ ขอยกตวั อยา่ งเกย่ี วกบั การลงทนุ ของโครงการเอ และโครงการบี ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-8 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 9-8 ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู ของกจิ การแหง่ หน่งึ ทก่ี าลงั พจิ ารณาการลงทุนอยู่ 2 โครงการ จง แสดงการคานวณหางวดเวลาคนื ทุนของทงั้ 2 โครงการ เงนิ ลงทุนเรมิ่ แรก โครงการเอ โครงการบี กระแสเงนิ สดทค่ี าดว่าจะไดร้ บั ต่อปี 1,000,000 บาท 1,200,000 บาท 200,000 บาท 300,000 บาท ดงั น้ี จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถคานวณหางวดเวลาคนื ทุนของทงั้ 2 โครงการ จากสตู ร งวดเวลาคนื ทนุ = เงนิ ลงทนุ เรมิ่ แรก กระแสเงนิ สดทไ่ี ดร้ บั ตอ่ ปี โครงการเอ = 1,000,000 งวดเวลาคนื ทุน 200,0000 = 5 ปี โครงการบี = 1,200,000 งวดเวลาคนื ทุน 300,0000 = 4 ปี จากการคานวณงวดเวลาคนื ทนุ ขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ วา่ โครงการเอ มงี วดเวลาคนื ทุน 5 ปี โครงการบี มงี วดเวลาคนื ทุน 4 ปี ดงั นนั้ กจิ การควรเลอื กหรอื ยอมรบั โครงการลงทุนบี เพราะ มงี วดเวลาคนื ทนุ ทเ่ี รว็ กวา่ โครงการเอ 1.2.2 กรณที ก่ี ระแสเงนิ สดสุทธไิ ม่เท่ากนั ในแต่ละปี สามารถอธบิ ายและแสดง การคานวณ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-9 ดงั น้ี บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 267 ตวั อย่างที่ 9-9 บรษิ ทั มสิ เตอรเ์ คก้ จากดั กาลงั พจิ ารณาทจ่ี ะเลอื กลงทุนทาเคก้ ชนดิ ใหม่ 2 ชนดิ ซง่ึ มขี อ้ มลู เกย่ี วกบั ประมาณการลงทนุ ดงั น้ี เงนิ ลงทุนครงั้ แรก เค้กชาเยน็ เค้กชาเขียว กระแสเงนิ สดสุทธิ 105,000 บาท 90,000 บาท ปีท่ี 1 50,000 บาท 40,000 บาท ปีท่ี 2 45,000 บาท 50,000 บาท 40,000 บาท 35,000 บาท ปีท่ี 3 35,000 บาท 45,000 บาท ปีท่ี 4 30,000 บาท 30,000 บาท ปีท่ี 5 8% 12 % อตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการ จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถคานวณหางวดเวลาคนื ทนุ ของทงั้ 2 โครงการ ดงั น้ี โครงการ เค้กชาเยน็ 50,000 10,000 x12 3 * ปีท่ี 1 45,000 40,000 ปีท่ี 2 10,000 3 เดอื นในปีท่ี 3 105,000 รวม *คานวณคนื ทุนบางสว่ นในปีท่ี 3 จานวน 10,000 บาท จากทงั้ หมด 40,000 บาท โครงการ เค้กชาเขียว 40,000 ปีท่ี 1 50,000 ปีท่ี 2 90,000 รวม จากการคานวณงวดเวลาคนื ทุนขา้ งต้น แสดงใหเ้ หน็ ว่า โครงการชาเยน็ มีงวดเวลา คนื ทุน 2 ปี 3 เดอื น โครงการเคก้ ชาเขยี ว มงี วดเวลาคนื ทุน 2 ปี ดงั นนั้ กจิ การควรเลอื กหรอื ยอมรบั โครงการลงทุนชาเขยี ว เพราะมงี วดเวลาคนื ทนุ ทเ่ี รว็ กว่าโครงการชาเยน็ บทท่ี 9
268 การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ ข้อดี : วธิ งี วดเวลาคนื ทุน คอื 1. สามารถคานวณไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ งา่ ยต่อการเขา้ ใจ 2. ลดความเสย่ี งจากการลงทุน เพราะไดร้ บั คนื ทุนเรว็ ข้อเสีย : วธิ งี วดเวลาคนื ทุน คอื 1. ไมค่ านงึ ถงึ คา่ ของเงนิ ตามเวลา 2. ไมไ่ ดค้ านึงถงึ ผลตอบแทนทจ่ี ะไดร้ บั หลงั จากคนื ทุนหมดแลว้ 2. แบบวิธีที่คานึงถึงมลู ค่าปัจจบุ นั การวเิ คราะหแ์ บบวธิ ที ค่ี านึงถงึ มลู ค่าปจั จุบนั (Discounting Approach) เป็นวธิ กี าร คานวณจากการประมาณการกระแสเงนิ สดสุทธขิ องโครงการ ซง่ึ ตอ้ งคานึงถงึ มลู ค่าของเงนิ ตาม เวลา โดยถอื ว่ากระแสเงนิ สดทเ่ี กดิ ขน้ึ ก่อนจะมคี ่ามากกว่ากระแสเงนิ สดท่เี กดิ ขน้ึ ในลาดบั หลงั ดงั นัน้ จงึ ต้องคดิ ลดของมูลค่าของกระแสเงนิ สดท่เี กดิ ขน้ึ ในอนาคตตลอดอายุโครงการมาเทยี บ คา่ เป็นมลู ค่าปจั จบุ นั พจิ ารณาไดจ้ าก 3 วธิ ี ดงั น้ี 2.1 วิธีมลู ค่าปัจจบุ นั สุทธิ (Net Present Value Method : NPV) เป็นวธิ กี าร คานวณหามูลค่าปจั จุบนั รวมของกระแสเงนิ สดสุทธติ ลอดอายุของโครงการลงทุน เพ่อื นาไป เทยี บกบั เงนิ ลงทุนเรม่ิ แรก (Investment) จดั เป็นเคร่อื งมอื ทต่ี ้องมกี ารคดิ ลดของมลู ค่าเงนิ ใน อนาคต แยกพจิ ารณาได้ 2 กรณี ดงั น้ี 2.1.1 กรณที ก่ี ระแสเงนิ สดสุทธเิ ท่ากนั ทกุ ปี คานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี มลู ค่าปจั จบุ นั สุทธิ = มลู คา่ ปจั จบุ นั รวม (PV) - เงนิ ลงทุนเรม่ิ แรก (I) เกณฑก์ ารตดั สินใจ : ควรเลอื กลงทนุ หรอื ตดั สนิ ใจยอมรบั ในโครงการทม่ี มี ลู ค่า ปจั จุบนั สุทธเิ ป็นบวกหรอื เท่ากบั ศูนย์ แต่ถ้ามมี ลู ค่าปจั จบุ นั เป็นลบแสดงว่ากจิ การไม่ควรเลอื ก หรอื ไมค่ วรยอมรบั โครงการลงทุน เพ่ือความเข้าใจและชดั เจนมากยงิ่ ข้นึ ในการคานวณหามูลค่าปจั จุบนั สุทธิ จงึ ขอ ยกตวั อยา่ งเกย่ี วกบั การลงทนุ ในโครงการใดโครงการหน่งึ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-10 ดงั น้ี บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 269 ตวั อย่างที่ 9-10 ต่อไปน้ีเป็นข้อมูลการลงทุนของบรษิ ัท จงก้าวหน้า จากดั จงแสดงการคานวณหา มลู ค่าปจั จบุ นั สุทธิ เงนิ ลงทนุ เรมิ่ แรก 1,000,000 บาท อายโุ ครงการ 5 ปี กระแสเงนิ สดสุทธติ ่อปี อตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการ 300,000 บาท 10 % จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถคานวณหามลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ จากสตู รดงั น้ี มลู คา่ ปจั จุบนั สทุ ธิ = มลู ค่าปจั จบุ นั รวม (PV) - เงนิ ลงทุนเรม่ิ แรก (I) = (300,000 x 3.7908*) - 1,000,000 = 1,137,240 - 1,000,000 = 137,340 บาท คา่ 3.7908* มาจากมลู ค่าปจั จบุ นั ของเงนิ งวด 1 บาท สาหรบั ระยะเวลา 5 ปี อตั รา คดิ ลด 10% ต่อปี ตาราง PVIFA i=10%, n=5 จากการคานวณข้างต้น พบว่า มูลค่าปจั จุบนั สุทธขิ องกิจการมคี ่าเป็นบวกเท่ากบั 137,340 บาท แสดงใหเ้ หน็ วา่ กจิ การมกี ารดาเนนิ งานทด่ี แี ละเหมาะสมสาหรบั การเลอื กลงทนุ 2.1.2 กรณที ก่ี ระแสเงนิ สดสทุ ธแิ ต่ละปีเทา่ กนั สามารถอธบิ ายและแสดงการ คานวณประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-11 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 9-11 จากขอ้ มลู ต่อไปน้ี จงแสดงการคานวณหามลู ค่าปจั จบุ นั สทุ ธขิ องโครงการ เงนิ ลงทุนเรมิ่ แรก 100,000 บาท อายโุ ครงการ 4 ปี อตั ราคดิ ลด 8% กระแสเงนิ สดสุทธ:ิ ปีท่ี 1 30,000 บาท ปีท่ี 2 20,000 บาท ปีท่ี 3 35,000 บาท ปีท่ี 4 32,000 บาท บทท่ี 9
270 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน จากขอ้ มลู ข้างต้น สามารถแสดงการคานวณหามูลค่าปจั จุบนั สุทธขิ องโครงการ ได้ ดงั น้ี ปี ที่ กระแสเงินสดสทุ ธิ ค่าเงินปัจจบุ นั มลู ค่าปัจจบุ นั ของเงิน 1 บาท* 27,777 1 30,000 0.9259 17,146 27,783 2 20,000 0.8573 23,520 96,226 3 35,000 0.7938 4 32,000 0.7350 รวม *มลู ค่าเงนิ ปจั จบุ นั ของเงนิ 1 บาทในแต่ละปี อตั ราคดิ ลด 8% ต่อปี ตามตารางท่ี 9-2 มลู ค่าปจั จบุ นั สุทธิ (NPV) = มลู ค่าปจั จบุ นั รวม (PV) - เงนิ ลงทนุ เรม่ิ แรก (I) = 96,226 - 100,000 = -3,774 บาท จากการคานวณขา้ งต้น พบว่า มูลค่าปจั จุบนั สุทธมิ คี ่าเป็นลบเท่ากบั 3,774 บาท แสดงใหเ้ หน็ ว่า การดาเนนิ งานของกจิ การไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพและไมค่ วรเลอื กลงทุน ข้อดี : วธิ มี ลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ คอื เป็นวธิ ที ค่ี านงึ ถงึ มลู คา่ เงนิ ตามเวลา เพ่อื นาประกอบการพจิ ารณาตดั สนิ ใจ ข้อเสีย : วธิ มี ลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ คอื 1. มขี นั้ ตอนในการคานวณซบั ซอ้ นมากกว่ากรณไี มค่ านงึ ถงึ มลู ค่าเงนิ ตามเวลา 2. การประมาณการอาจเกดิ ความผดิ พลาดและคลาดเคล่อื นได้ เน่อื งจากเป็น การคานวณจากขอ้ มลู ทต่ี อ้ งประมาณการในอนาคตระยะยาว บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 271 2.2 วิธีดชั นีการทากาไร (Profitability Index: PI) หรือวิธีดชั นีมลู ค่าปัจจบุ นั (Present Value Index : PI) เป็นวธิ กี ารคานวณอตั ราส่วนระหวา่ งมลู ค่าปจั จบุ นั ของกระแส เงนิ สดสุทธริ วม (PV) ตลอดอายโุ ครงการกบั เงนิ ลงทุนเรมิ่ แรก (I) สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ดชั นีการทากาไร (PI) = มลู คำ่ ปจั จุับนของกระแสเงินสดสทุ ธริ วม (PV) เงินลงทนุ เรมิ่ แรก เกณฑก์ ารเลือกตดั สินใจ : กจิ การควรตดั สนิ ใจเลอื กลงทุนหรอื ยอมรบั โครงการ เมอ่ื คา่ ดชั นีการทากาไรมคี ่ามากกว่า 1 เพราะนนั่ จะหมายความว่ามมี ลู ค่าปจั จุบนั สุทธเิ ป็นบวก เช่นเดยี วกนั เพ่อื ความเขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ ในการคานวณดชั นีทากาไร จงึ ขอยกตวั อย่าง เกย่ี วกบั การลงทุนในโครงการใดโครงการหน่งึ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 9-12 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 9-12 จากข้อมูลตวั อย่างท่ี 9-11 ซ่งึ มมี ูลค่าปจั จุบนั ของกระแสเงนิ สดสุทธิรวมเท่ากับ 96,226 บาท เงนิ ลงทุนเรมิ่ แรกเท่ากบั 100,000 บาท สามารถนามาแสดงการคานวณหาค่า ดชั นีการทากาไร ไดด้ งั น้ี ดชั นีการทากาไร (PI) = มลู คำ่ ปจั จบุั นของกระแสเงินสดสทุ ธริ วม (PV) = เงินลงทนุ เรม่ิ แรก = 96,230 100,000 0.96 จากการคานวณข้างต้น พบว่า ค่าดชั นีการทากาไรมเี ท่ากบั 0.96 แสดงให้เห็นว่า กจิ การไม่ควรเลอื กลงทุนหรอื ยอมรบั โครงการเน่ืองจากมคี ่าดชั นีการทากาไรน้อยกว่า 1 และ เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั มลู คา่ ปจั จบุ นั สทุ ธติ ามทค่ี านวณไดใ้ นตวั อยา่ งท่ี 9-8 ทม่ี คี ่าเป็นลบ ซง่ึ กไ็ ม่ ควรตดั สนิ ใจยอมรบั โครงการเชน่ กนั บทท่ี 9
272 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน ข้อดี : วธิ ดี ชั นกี ารทากาไร คอื เป็นวธิ ที ค่ี านึงถงึ มลู ค่าเงนิ ตามเวลา ข้อเสีย : วธิ ดี ชั นกี ารทากาไร คอื 1. มขี นั้ ตอนในการคานวณซบั ซอ้ นมากกวา่ กรณไี มค่ านงึ ถงึ มลู ค่าเงนิ ตามเวลา 2. การพยากรณ์อาจเกดิ ความคลาดเคลอ่ื นได้ เน่อื งจากเป็นการคานวณจาก ขอ้ มลู ทต่ี อ้ งพยากรณ์ระยะยาวทเ่ี กดิ ขน้ึ ในอนาคต 2.3 วิธีงวดเวลาคืนทุน (คานึงถึงมูลค่าเงินตามเวลา) เป็นลกั ษณะการหา ช่วงเวลาคนื ทุนท่ตี ้องคานึงถงึ มูลค่าเงนิ ตามเวลา โดยใหไ้ ดม้ าซง่ึ มูลค่าปจั จุบนั ของแต่ละงวด ตลอดอายโุ ครงการ สามารถแสดงการคานวณไดต้ ามตวั อยา่ งท่ี 9-13 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 9-13 ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มลู ของกจิ การแห่งหน่ึง จงคานวณหางวดเวลาคนื ทุน (คานึงถงึ มลู ค่า เงนิ ตามเวลา) เงนิ ลงทุนเรม่ิ แรก 120,000 บาท อายโุ ครงการ 4 ปี 8% อตั ราคดิ ลด กระแสเงนิ สดสุทธ:ิ 60,000 บาท 55,000 บาท ปีท่ี 1 50,000 บาท ปีท่ี 2 40,000 บาท ปีท่ี 3 ปีท่ี 4 จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงการคานวณหางวดเวลาคนื ทุน โดยเรม่ิ จากคานวณหา มลู คา่ ปจั จบุ นั ในแต่ละปีของโครงการ ดงั น้ี บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทนุ 273 ปี ที่ กระแสเงินสดสทุ ธิ ค่าเงินปัจจบุ นั มลู ค่าปัจจบุ นั ของเงิน 1 บาท* 1 60,000 55,560 2 55,000 0.926 47,135 3 50,000 0.857 39,700 4 40,000 0.794 29,400 0.735 171,795 รวม *มลู ค่าเงนิ ปจั จบุ นั ของเงนิ 1 บาทในแต่ละปี อตั ราคดิ ลด 8% ต่อปี ตามตารางท่ี 9-2 แสดงการคานวณงวดคนื ทุน: 55,560 17,305 x12 5.23 * ปีท่ี 1 47,135 39,700 ปีท่ี 2 17,305 ปีท่ี 3 120,000 รวม *คานวณคนื ทุนบางส่วนในปีท่ี 3 จานวน 17,305 บาท จากทงั้ หมด 39,700 บาท จากการคานวณขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ ว่า กจิ การมงี วดเวลาคนื ทนุ 2 ปี 5.23 เดอื น หรอื ประมาณ 2 ปี 5 เดอื น บทท่ี 9
274 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน ตารางท่ี 9-2 มลู คา่ ปจั จบุ นั ของเงนิ 1 บาท เมอ่ื สน้ิ งวดท่ี n (PVIF i,n) n 1% 2% 3% 4% 5% 6% 7% 8% 9% 10% 12% 1 .9901 .9804 .9709 .9615 .9524 .9434 .9346 .9259 .9174 .9091 .8929 2 .9803 .9612 .9426 .9246 .9070 .8900 .8734 .8573 .8417 .8264 .7972 3 .9706 .9423 .9151 .8890 .8638 .8369 .8163 .7938 .7722 .7513 .7118 4 .9610 .9238 .8885 .8548 .8227 .7921 .7629 .7350 .7084 .6830 .6355 5 .9515 .9057 .8626 .8219 .7835 .7473 .7130 .6806 .6499 .6206 .5674 6 .9420 .8880 .8375 .7903 .7462 .7050 .6663 .6302 .5963 .5645 .5066 7 .9327 .8706 .8131 .7599 .7107 .6651 .6227 .5835 .5470 .5132 .4523 8 .9235 .8535 .7894 .7307 .6768 .6274 .5820 .5403 .5019 .4665 .4039 9 .9143 .8368 .7664 .7026 .6446 .5919 .5439 .5002 .4604 .4241 .3606 10 .9053 .8203 .7441 .6756 .6139 .5584 .5083 .4632 .4224 .3855 .3220 ทม่ี า : (การจดั การเงนิ ธรุ กจิ , 2554 : A-1) ตารางท่ี 9-3 มลู ค่าปจั จบุ นั ของเงนิ งวด 1 บาทต่องวด เป็นเวลา n งวด (PVIFA i,n) n 1% 2% 3% 4% 5% 6% 7% 8% 9% 10% 12% 1 0.9901 0.9804 0.9709 0.9615 0.9524 0.9434 0.9346 0.9259 0.9174 0.9091 0.8929 2 1.9704 1.9416 1.9135 1.8861 1.8594 1.8334 1.8080 1.7833 1.7591 1.7355 1.6901 3 2.9410 2.8839 2.8286 2.7751 2.7232 2.6730 2.6243 2.5771 2.5313 2.4869 2.4018 4 3.9020 3.8077 3.7171 3.6299 3.5460 3.4651 3.3872 3.3121 3.2397 3.1699 3.0373 5 4.8534 4.7135 4.5797 4.4518 4.3295 4.2124 4.1002 3.9927 3.8897 3.7908 3.6048 6 5.7955 5.6014 5.4172 5.2421 5.0757 4.9173 4.7665 4.6229 4.4859 4.3553 4.1114 7 6.7282 6.4720 6.2303 6.0021 5.7864 5.5824 5.3893 5.2064 5.0330 4.8684 4.5638 8 7.6517 7.3255 7.0197 6.7327 6.4632 6.2098 5.9713 5.7466 5.5348 5.3349 4.9676 9 8.5660 8.1622 7.7861 7.4353 7.1078 6.8017 6.5152 6.2469 5.9952 5.7590 5.3282 10 9.4713 8.9826 8.5302 8.1109 7.7217 7.3601 7.0236 6.7101 6.4177 6.1446 5.6502 ทม่ี า : (การจดั การเงนิ ธรุ กจิ , 2554 : A-2) บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 275 ตารางท่ี 9-4 มลู คา่ ในอนาคตของเงนิ 1 บาท เมอ่ื สน้ิ งวดท่ี n (FVIF i,n) n 1% 2% 3% 4% 5% 6% 7% 8% 9% 10% 12% 1 1.0100 1.0200 1.0300 1.0400 1.0500 1.0600 1.0700 1.0800 1.0900 1.1000 1.1200 2 1.0201 1.0404 1.0609 1.0816 1.1025 1.1236 1.1449 1.1664 1.1881 1.2100 1.2544 3 1.0303 1.0612 1.0927 1.1249 1.1576 1.1910 1.2250 1.2597 1.2950 1.3310 1.4049 4 1.0406 1.0824 1.1255 1.1699 1.2155 1.2625 1.3108 1.3605 1.4116 1.4641 1.5735 5 1.0510 1.1041 1.1593 1.2167 1.2763 1.3382 1.4026 1.4693 1.5386 1.6105 1.7623 6 1.0615 1.1262 1.1941 1.2653 1.3401 1.4185 1.5007 1.5869 1.6771 1.7716 1.9738 7 1.0721 1.1487 1.2299 1.3159 1.4071 1.5036 1.6058 1.7138 1.8280 1.9487 2.2107 8 1.0829 1.1717 1.2668 1.3686 1.4775 1.5938 1.7182 1.8509 1.9926 1.1436 2.4760 9 1.0937 1.1951 1.3048 1.4233 1.5513 1.6895 1.8385 1.9990 1.1719 1.3579 2.7731 10 1.1046 1.2190 1.3439 1.4802 1.6289 1.7908 1.9672 1.1589 1.3674 1.5937 3.1058 ทม่ี า : (การจดั การเงนิ ธุรกจิ , 2554 : A-3) สรปุ การวเิ คราะห์การลงทุนทงั้ ระยะสนั้ และระยะยาว ผูบ้ รหิ ารจาเป็นต้องมกี ารวางแผน อย่างรอบคอบ และระมดั ระวงั เพ่อื ก่อให้เกิดประโยชน์และผลตอบแทนท่เี หมาะสม และลด ความเส่ยี งในการลงทุนท่อี าจจะเกิดข้นึ จากการลงทุนในโครงการต่างๆ จะต้องปฏบิ ตั ิตาม ขนั้ ตอนการลงทุน เรม่ิ จากการประมาณการกระแสเงนิ สดสุทธิ การประเมนิ ความเส่ยี งของ กระแสเงนิ สดสุทธทิ จ่ี ะไดร้ บั การกาหนดอตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี ้องการ การประมาณการ จานวนเงนิ ท่กี ิจการต้องจ่ายลงทุนเรมิ่ แรก และการคานวณเพ่อื วเิ คราะห์ข้อมูลเก่ยี วกบั การ ลงทุน โดยมเี ครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหก์ ารลงทุนซง่ึ แบ่งออกเป็น 2 แบบ คอื การวเิ คราะห์ การลงทนุ แบบวธิ ที ไ่ี มค่ านงึ ถงึ มลู ค่าปจั จุบนั ประกอบดว้ ย 2 วธิ ี คอื วธิ อี ตั ราผลตอบแทนเฉลย่ี และวธิ งี วดเวลาคนื ทุน และการวเิ คราะหก์ ารลงทนุ แบบวธิ ที ค่ี านงึ ถงึ มลู คา่ ปจั จบุ นั ประกอบดว้ ย 3 วธิ ี คอื วธิ มี ลู ค่าปจั จบุ นั สทุ ธิ วธิ ดี ชั นีการทากาไร และวธิ งี วดเวลาคนื ทุน บทท่ี 9
276 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน แบบฝึ กหดั ท้ายบท 1. นายทศพรนาเงนิ ฝากธนาคารเมอ่ื วนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 จานวน 100,000 บาท โดยมอี ตั รา ดอกเบย้ี เท่ากบั 8% ต่อปี อยากทราบวา่ ณ วนั สน้ิ ปี 31 ธนั วาคม 25x1 นายทศพรจะไดร้ บั เงนิ ตน้ พรอ้ มดอกเบย้ี จานวนเทา่ ใด ให้ทา แสดงการคานวณเพอ่ื หาจานวนเงนิ ทจ่ี ะไดร้ บั ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 2. นายวณัฐนาเงนิ ฝากธนาคารเม่อื วนั ท่ี 1 มกราคม 25x5 จานวน 200,000 บาท โดยมี อตั ราดอกเบ้ยี เท่ากบั 10% ต่อปี อยากทราบว่า ณ วนั ส้นิ ปี 31 ธนั วาคม 25x6 นายวณัฐจะ ไดร้ บั เงนิ ตน้ พรอ้ มดอกเบย้ี จานวนเทา่ ใด ให้ทา แสดงการคานวณเพ่อื หาจานวนเงนิ ทจ่ี ะไดร้ บั ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x6 3. นางสาวกรวกิ านาเงนิ ฝากธนาคารโดยจะไดร้ บั เงนิ อกี 4 ปีขา้ งหน้าเท่ากบั 100,000 บาท ในขณะทอ่ี ตั ราดอกเบ้ยี เท่ากบั 8% ต่อปี อยากทราบว่าเงนิ ท่นี างสาวกรวกิ าขอรบั ในวนั น้ีจะ เป็นเท่าไหร่ ให้ทา แสดงการคานวณเพ่อื หาจานวนเงนิ ทจ่ี ะไดร้ บั ในวนั น้ี 4. นางสาวอรอนงค์นาเงนิ ฝากธนาคารโดยจะไดร้ บั เงนิ อกี 10 ปีขา้ งหน้าเท่ากบั 500,000 บาท ในขณะทอ่ี ตั ราดอกเบย้ี เท่ากบั 10% ต่อปี อยากทราบว่าเงนิ ท่นี างสาวอรอนงคข์ อรบั ใน วนั น้จี ะเป็นเทา่ ไหร่ ให้ทา แสดงการคานวณเพ่อื หาจานวนเงนิ ทจ่ี ะไดร้ บั ในวนั น้ี บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 277 5. บรษิ ทั สยามฟ้าใส จากดั กาลงั พจิ ารณาลงทุนซอ้ื อุปกรณ์ชนิดใหม่ ซง่ึ สามารถนามาใชแ้ ทน แรงงานทางตรงได้ โดยอุปกรณ์มตี น้ ทุนซอ้ื 120,000 บาท ประมาณอายกุ ารใชง้ าน 5 ปี เมอ่ื สน้ิ สุดอายกุ ารใชง้ านแลว้ คาดว่าจะขายได้ 5,000 บาท บรษิ ทั คดิ ค่าเส่อื มราคาตามวธิ เี สน้ ตรง และคาดวา่ จะมรี ายไดแ้ ละต้นทนุ ของผลติ ภณั ฑใ์ หมใ่ นการผลติ จากโครงการลงทนุ ดงั น้ี รายได้ 300,000 หกั ตน้ ทนุ ขาย 180,000 กาไรขนั้ ตน้ 120,000 หกั คา่ ใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ าร 23,000 55,000 คา่ เส่อื มราคา 32,000 65,000 คา่ ใชจ้ า่ ยในการขายและบรหิ ารอ่นื 13,000 กาไรจากการดาเนินงานก่อนหกั ภาษี 52,000 หกั ภาษเี งนิ ได้ 20% กาไรสุทธิ ให้ทา คานวณหาอตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี (ARR) 6. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู การลงทุนในโครงการหน่งึ เงนิ ลงทนุ จา่ ยตามโครงการ 450,000 บาท อายขุ องโครงการ 8 ปี กาไรสุทธเิ ฉลย่ี ต่อปี มลู ค่าคงเหลอื 68,000 บาท อตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการ 10,000 บาท 15 % ให้ทา คานวณหาอตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี (ARR) พรอ้ มวเิ คราะหค์ วามเป็นไปไดข้ อง โครงการ บทท่ี 9
278 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 7. โครงการลงทุนในเคร่อื งจกั ร ซง่ึ มอี ายุโครงการ 10 ปี ใชเ้ งนิ ลงทุนเรม่ิ แรก 100,000 บาท คาดว่าจะมกี ระแสเงนิ รบั จากการลงทุน 50,000 บาทต่อปี และกระแสเงนิ สดจ่าย 10,000 บาท ต่อปี ให้ทา คานวณหางวดเวลาคนื ทุน โดยไมต่ อ้ งคานงึ ถงึ มลู คา่ ปจั จบุ นั 8. ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มลู เกย่ี วกบั การลงทุนในโครงการซอ้ื สนิ ทรพั ย์ ซง่ึ มอี ายโุ ครงการ 6 ปี ใชเ้ งนิ ลงทนุ เรมิ่ แรก 200,000 บาทคาดว่าจะมกี ระแสเงนิ สดสทุ ธแิ ต่ละปีเท่ากบั 50,000 บาท ให้ทา คานวณหางวดเวลาคนื ทุน โดยไมต่ อ้ งคานงึ ถงึ มลู ค่าปจั จบุ นั 9. บรษิ ทั ศรอี ุดร จากดั กาลงั พจิ ารณาลงทุนซ้อื เคร่อื งจกั รใหมเ่ ขา้ มาใชแ้ ทนเคร่อื งจกั รเก่า โดยคาดการณ์วา่ เครอ่ื งจกั รใหมจ่ ะช่วยใหบ้ รษิ ทั ประหยดั ตน้ ทุนในการดาเนนิ งานเป็นเงนิ สด ปีละ 40,000 บาท โดยมรี าคาทุน 250,000 บาท กาหนดอายุการใชง้ าน 10 ปี ส่วนเคร่อื งจกั ร เก่าไมม่ มี ลู ค่าคงเหลอื แต่ยงั ใชง้ านต่อไปไดร้ ะยะหน่งึ ให้ทา 1. คานวณหางวดเวลาคนื ทุน 2. คานวณหาอตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี 10. บรษิ ทั สรอ้ ยระวี จากดั กาลงั ประเมนิ การตดั สนิ ใจเก่ยี วกบั การซอ้ื เคร่อื งจกั รใหม่ ซ่งึ มี ราคาทนุ 95,000 บาท ไมม่ มี ลู ค่าซาก กระแสเงนิ สดสุทธทิ ค่ี าดว่าจะไดร้ บั แต่ละปีตลอดอายุการ ใชง้ าน 10 ปี ปีละ 20,000 บาท อตั ราผลตอบแทนขนั้ ต่าทต่ี อ้ งการเท่ากบั 10% ให้ทา บริษัทควรตัดสินใจซ้ือเคร่ืองจกั รใหม่น้ีหรือไม่ เพราะเหตุใด โดยพิจารณาจาก เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหก์ ารลงทนุ ดงั น้ี 1. งวดเวลาคนื ทนุ 2. มลู ค่าปจั จบุ นั สทุ ธิ บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 279 11. บรษิ ทั สามใบเถา จากดั กาลงั พจิ ารณาทจ่ี ะซอ้ื อุปกรณ์ชนิดหน่ึงเพ่อื ใชใ้ นการดาเนินงาน ราคาอุปกรณ์รวมค่าตดิ ตงั้ และภาษเี ป็นเงนิ 200,000 บาท กาหนดอายุการใชง้ าน 5 ปี ไม่มี มลู คา่ คงเหลอื และเมอ่ื นาอุปกรณ์มาใชจ้ ะทาใหม้ กี ระแสเงนิ สดสุทธแิ ต่ละปี ดงั น้ี ปีท่ี 1 60,000 2 60,000 3 50,000 4 50,000 5 40,000 ให้ทา 1. คานวณมลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธขิ องโครงการ 2. บรษิ ทั ควรเลอื กลงทนุ ในอุปกรณ์ชนิดน้ีหรอื ไม่ เพราะเหตุใด ถา้ ตอ้ งการ ผลตอบแทนขนั้ ต่า 20% 12. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู ของบรษิ ทั แห่งหน่งึ เงนิ ลงทุนเรม่ิ แรก 420,000 บาท อายโุ ครงการ 5 ปี 10 % อตั ราคดิ ลด กระแสเงนิ สดสุทธ:ิ - 200,000 บาท 150,000 บาท ปีท่ี 1 120,000 บาท ปีท่ี 2 80,000 บาท ปีท่ี 3 ปีท่ี 4 ให้ทา 1. คานวณหาดชั นกี ารทากาไรสาหรบั แต่ละโครงการ 2. จงวเิ คราะหถ์ งึ ความเหมาะสมของโครงการในการเลอื กลงทนุ บทท่ี 9
280 การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 13. บรษิ ทั รงุ่ เรอื ง จากดั มกี ารคานวณมลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ สาหรบั รายจ่ายฝา่ ยทุนของโครงการ C และโครงการ D โดยใชว้ ธิ ดี ชั นกี ารทากาไร ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การคานวณทงั้ สองโครงการมดี งั น้ี มลู คา่ ปจั จบุ นั กระแสเงนิ สดสทุ ธริ วม โครงการ C โครงการ D เงนิ ลงทุนครงั้ แรก 1,000,000 700,000 มลู คา่ ปจั จบุ นั สทุ ธิ 300,000 600,000 400,000 400,000 ให้ทา 1. คานวณหาดชั นกี ารทากาไรสาหรบั แต่ละโครงการ 2. จงวเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายถงึ เหตุผลของการเลอื กลงทนุ สาหรบั แต่ละโครงการ 14. ร้านกระเป๋ าถกั กาลงั พจิ ารณาท่จี ะเลอื กลงทุนทากระเป๋ าชนิดใหม่ 2 แบบ ซ่งึ มขี อ้ มูล เกย่ี วกบั ประมาณการลงทนุ ดงั น้ี กระเป๋ าถือ กระเป๋ าสะพาย เงนิ ลงทนุ ครงั้ แรก 120,000 บาท 100,000 บาท กระแสเงนิ สดสุทธิ ปีท่ี 1 60,000 บาท 40,000 บาท ปีท่ี 2 45,000 บาท 55,000 บาท ปีท่ี 3 30,000 บาท 60,000 บาท ปีท่ี 4 30,000 บาท 60,000 บาท อตั ราผลตอบแทนทต่ี อ้ งการ 10 % 12 % กาไรสทุ ธถิ วั เฉลย่ี 95,000 บาท 100,000 บาท มลู คา่ คงเหลอื 0 บาท 0 บาท ให้ทา 1. จงคานวณหาคา่ ต่อไปน้ีของทงั้ 2 โครงการ ก. วธิ อี ตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี ข. งวดเวลาคนื ทุนโดยคานึงถงึ มลู คา่ ปจั จบุ นั ค. มลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ ง. ดชั นีการทากาไร 2. จงวเิ คราะหว์ ่าบรษิ ทั ควรเลอื กลงทุนในโครงการใด เพราะเหตุใด บทท่ี 9
การวเิ คราะหก์ ารลงทุน 281 15. บรษิ ทั กอบกู้ จากดั มกี ารคานวณมูลค่าปจั จุบนั สุทธิ สาหรบั รายจ่ายฝ่ายทุนของ โครงการ A และโครงการ B โดยใชว้ ธิ ดี ชั นีการทากาไร ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การคานวณทงั้ สอง โครงการ มดี งั น้ี มลู ค่าปจั จบุ นั กระแสเงนิ สดสุทธริ วม โครงการ A โครงการ B 600,000 500,000 เงนิ ลงทุนครงั้ แรก 400,000 400,000 มลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ 200,000 100,000 ให้ทา 1. คานวณหาดชั นกี ารทากาไรสาหรบั แต่ละโครงการ 2. จงวเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายถงึ เหตุผลของการเลอื กลงทนุ สาหรบั แต่ละโครงการ 16. ร้านลาบแซ่บอุดร กาลงั พจิ ารณาท่จี ะเลอื กลงทุนสินค้าชนิดใหม่ 2 แบบ ซ่งึ มขี ้อมูล เกย่ี วกบั ประมาณการลงทุนดงั น้ี ลาบทอด เนื้อทอด เงนิ ลงทนุ ครงั้ แรก 60,000 บาท 50,000 บาท กระแสเงนิ สดสุทธิ ปีท่ี 1 24,000 บาท 22,000 บาท ปีท่ี 2 20,000 บาท 20,000 บาท ปีท่ี 3 20,000 บาท 18,000 บาท ปีท่ี 4 25,000 บาท 20,000 บาท ปีท่ี 5 20,000 บาท 18,000 บาท อตั ราผลตอบแทนทต่ี อ้ งการ 10 % 12 % กาไรสทุ ธถิ วั เฉลย่ี 55,000 บาท 55,000 บาท มลู คา่ คงเหลอื 0 บาท 0 บาท ให้ทา 1. จงคานวณหาค่าต่อไปน้ีของทงั้ 2 โครงการ ก. วธิ อี ตั ราผลตอบแทนถวั เฉลย่ี ข. งวดเวลาคนื ทุนโดยคานึงถงึ มลู คา่ ปจั จุบนั ค. มลู คา่ ปจั จบุ นั สุทธิ ง. ดชั นีการทากาไร 2. จงวเิ คราะหว์ า่ บรษิ ทั ควรเลอื กลงทุนในโครงการใด เพราะเหตุใด บทท่ี 9
การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 283 บทที่ 10 การบญั ชีตามความรบั ผิดชอบ และการกาหนดราคาโอน การวางแผน การควบคุม และการตดั สนิ ใจจะบรรลุวตั ถุประสงคต์ ามทว่ี างแผนไวไ้ ด้ นัน้ ผู้บรหิ ารจะต้องมคี วามเข้าใจเก่ยี วกบั เทคนิคและวธิ กี ารต่างๆ ท่จี ะสามารถนามาใช้เป็น เคร่อื งมอื ในการควบคุมการดาเนินงานของกจิ การ ซ่ึงการบรหิ ารงานแบบกระจายอานาจท่มี ี ลกั ษณะการแบ่งหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของแต่ละฝ่าย โดยเป็นการระบุถงึ ความรบั ผดิ ชอบใน หน่วยงานว่าเป็นหน้าทข่ี องใครในแต่ละกิจกรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ ในกจิ การ และกาหนดให้ผจู้ ดั การแต่ ละหน่วยงานมอี านาจหน้าทใ่ี นการตดั สนิ ใจอยา่ งเตม็ ทภ่ี ายในหน่วยงานของตน ภายใตแ้ นวคดิ ของการบัญชีตามความรับผิดชอบ ถือเป็นหลักการสาคัญท่ีนามาใช้ในการควบคุมและ ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านใหเ้ กดิ ความมปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ ลกั ษณะของการบริหารงาน การบรหิ ารงานทด่ี แี ละเหมาะสมอาจแตกต่างกนั ไปตามประเภทของธุรกจิ ลกั ษณะ การบรหิ ารงานโดยทวั่ ไปแบ่งออกเป็น 2 รปู แบบ คอื (ปรบั ปรงุ จาก กชกร เฉลมิ กาญจนา, 2557 : 212) 1. การบริหารงานแบบรวมอานาจ การรวมอานาจ (Centralized) เป็นการดาเนินงานท่ใี ห้อานาจแก่ผูบ้ รหิ ารสูงสุดแต่ เพยี งผเู้ ดยี ว เพ่อื วางแผน ควบคุม และตดั สนิ ใจในทุกส่วนงานหรอื หน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง ส่วน หวั หน้าแผนกหรอื ผจู้ ดั การฝ่ายเป็นเพยี งผูม้ หี น้าทป่ี ฏบิ ตั งิ านตามคาสงั่ และความต้องการของ ผบู้ รหิ ารสงู สดุ เทา่ นนั้ ข้อดี : การบรหิ ารงานแบบรวมอานาจ คอื 1. มกี ารกาหนดแนวทางปฏบิ ตั ิงาน และนโยบายในการดาเนินงานเหมอื นกนั ทงั้ องคก์ ร จงึ ทาใหฝ้ า่ ยหรอื แผนกไมแ่ บง่ แยกหรอื แขง่ ขนั กนั 2. มเี อกภาพในการบรหิ าร แต่ละฝา่ ยมหี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบอยา่ งชดั เจน จงึ ทาใหก้ าร ทางานไม่ก้าวก่ายหน้าทซ่ี ่งึ กนั และกนั และเม่อื ต้องการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กส็ ามารถทาไดง้ ่าย และรวดเรว็ ขน้ึ เพราะแต่ละฝา่ ยมคี วามสามคั คกี นั บทท่ี 10
284 การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 3. ประหยดั ต้นทุนและค่าใช้จ่ายมากขน้ึ เน่ืองจากวสั ดุหรอื เคร่อื งใช้บางอย่าง สามารถใชส้ บั เปลย่ี นกนั ไดร้ ะหว่างฝ่ายหรอื แผนก หากซอ้ื กซ็ อ้ื ไดใ้ นราคาถูกเน่ืองจากจะซอ้ื ใน ปรมิ าณทม่ี ากเพราะเป็นการซอ้ื จากสว่ นกลางหน่วยงานเดยี ว 4. ผบู้ รหิ ารไดใ้ ชค้ วามสามารถอยา่ งเตม็ ท่ี และใชเ้ วลาทม่ี อี ยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์ทส่ี ดุ ข้อเสีย : การบรหิ ารงานแบบรวมอานาจ คอื 1. การบรหิ ารงานมคี วามล่าช้า เพราะจะมกี ารทางานเป็นขนั้ ตอนจงึ ทาให้ใช้ เวลานานในการอนุมตั งิ านหรอื การตดั สนิ ใจในเรอ่ื งต่างๆ 2. ไม่เหมาะสมกบั ธุรกจิ ขนาดใหญ่ เพราะทาใหส้ ่วนกลางไมส่ ามารถควบคุมการ ทางานของสว่ นงานยอ่ ยทเ่ี ป็นฝา่ ยหรอื แผนกไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ 3. ฝา่ ยหรอื แผนกไม่มคี วามเป็นอสิ ระทงั้ ดา้ นการบรหิ ารงานและการตดั สนิ ใจ ซ่งึ อาจทาใหข้ าดขวญั และกาลงั ใจ ตลอดจนทาใหพ้ นักงานไมม่ คี วามกระตอื รอื รน้ ในการทางานใน หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของตน 2. การบริหารงานแบบกระจายอานาจ การกระจายอานาจ (Decentralized) เป็นการแบ่งหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบใหก้ บั แต่ละ ฝา่ ยหรอื แผนกทม่ี คี วามเก่ยี วขอ้ งในกจิ กรรมต่างๆ เพ่อื ใหอ้ านาจในการบรหิ ารงานแก่ผจู้ ดั การ หรอื หวั หน้าฝา่ ยในการวางแผน ควบคุม และตดั สนิ ใจไดด้ ว้ ยตนเอง ทงั้ น้ีเพ่อื ใหก้ ารดาเนินงาน ของแต่ละฝ่ายมคี วามคล่องตวั มากยง่ิ ขน้ึ เพราะไมต่ ้องขน้ึ อยกู่ บั ผบู้ รหิ ารสูงสุดแต่เพยี งผเู้ ดยี ว ซง่ึ เป็นลกั ษณะการบรหิ ารงานทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั มากในปจั จบุ นั ข้อดี : การบรหิ ารงานแบบกระจายอานาจ คอื 1. ผูบ้ รหิ ารระดบั สงู มเี วลามากขน้ึ เน่ืองจากไมต่ ้องไปตดั สนิ ใจในทุกๆ เร่อื งของ แต่ละฝ่ายหรอื แผนก ซ่งึ ส่งผลให้มเี วลามากพอท่จี ะไปกาหนดแผนระยะยาวท่สี าคญั ให้กบั กจิ การได้ 2. เป็นการสรา้ งแรงจงู ใจใหก้ บั ผู้จดั การฝ่ายหรอื แผนกได้เป็นอย่างดี เน่ืองจาก ผจู้ ดั การจะมคี วามรสู้ กึ ภมู ใิ จต่ออานาจและหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 3. ผู้จดั การฝ่ายหรอื แผนกเกิดทกั ษะ และความเช่ยี วชาญในหน้าท่งี านนัน้ ๆ เน่อื งจากตอ้ งทาหน้าทใ่ี นงานทต่ี อ้ งรบั ผดิ ชอบเฉพาะเรอ่ื งตามความรบั ผดิ ชอบ 4. ลกู คา้ มคี วามพงึ พอใจในการใหบ้ รกิ ารขององคก์ ร เน่ืองจากการกระจายอานาจ เป็นการใหอ้ านาจหน้าทใ่ี นการตดั สนิ ใจของแต่ละฝ่ายดว้ ยตนเอง เม่อื ลูกคา้ มปี ญั หากส็ ามารถ บทท่ี 10
การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 285 แก้ไขได้ทนั เวลาโดยไม่จาเป็นต้องรอพบผู้บรหิ ารระดบั สูงแต่เพยี งผู้เดยี ว เช่น หากลูกค้านา สนิ ค้ากลบั มาคืนอาจเกิดจากสนิ ค้าชารุดหรอื มตี าหนิ ผู้จดั การฝ่ายก็สามารถดูแลและแก้ไข ปญั หาใหก้ บั ลกู คา้ ไดท้ นั ที ข้อเสีย : การบรหิ ารงานแบบกระจายอานาจ คอื 1. มตี น้ ทนุ เพมิ่ มากขน้ึ เพราะการแบง่ หน้าทใ่ี นการบรหิ ารงานแต่ละฝา่ ยหรอื แผนกนนั้ ผจู้ ดั การหรอื หวั หน้าฝ่ายต่างกม็ คี วามตอ้ งการใชง้ บประมาณเพ่อื นาไปบรหิ ารจดั การ ส่วนงานของตน 2. มกี ารแข่งขนั กนั มากขน้ึ ในองค์กรจนทาให้เกดิ ความเหน็ แก่ตวั และขาดการ ประสานงานท่ีดีกับเพ่ือนรวมงานโดยมุ่งบริหารแต่หน่วยงานของตน จนลืมท่ีจะให้ความ ช่วยเหลอื หน่วยงานหรอื แผนกอ่นื ๆ จนบางครงั้ องคก์ รตอ้ งประสบกบั ปญั หาขาดทุน การบญั ชีตามความรบั ผิดชอบ เม่อื กจิ การใช้รปู แบบการบรหิ ารงานแบบกระจายอานาจ ผู้บรหิ ารจะมอบอานาจให้ ผู้จดั การฝ่ายหรอื หวั หน้าแผนกได้บรหิ ารงานและตดั สินใจตามหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบด้วย ตนเอง ดงั นนั้ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านจงึ เป็นสงิ่ สาคญั ทจ่ี ะช่วยควบคุมใหก้ ารทางานของ แต่ละฝ่ายเป็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ซ่งึ เคร่อื งมอื หรอื เทคนิคท่นี ามาใช้ในการควบคุม ติดตาม และประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของผจู้ ดั การแต่ละฝา่ ยหรอื แต่ละแผนก คอื การบญั ชตี ามความ รบั ผดิ ชอบ (Responsibility Accounting) สมนึก เอ้อื จริ ะพงษ์พนั ธ์ (2552 : 289) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า การบญั ชตี ามความ รบั ผดิ ชอบ หมายถงึ ระบบการรายงานผลการดาเนินงานหรอื ผลการปฏบิ ตั งิ านของหน่วยงาน หรอื สว่ นงานใดสว่ นงานหน่งึ โดยพจิ ารณาถงึ ขอบเขตของอานาจหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบทผ่ี ู้ บรหิ ารงานนัน้ จะสามารถควบคุมผลการดาเนินงานหรอื ผลการปฏบิ ตั งิ านได้จากการตดั สนิ ใจ ดว้ ยตนเอง ศรสี ุดา อาชวานันทกุล (2557 : 7-3) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า การบญั ชตี ามความ รบั ผดิ ชอบ หมายถงึ การจดั ทาขอ้ มลู และรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านของผบู้ รหิ ารและหน่วยงาน ย่อยแต่ละระดบั ตามสายงาน โดยเน้นการแสดงรายการท่ผี ูบ้ รหิ ารสามารถควบคุมได้เพ่อื การ วางแผน การควบคุมการปฏบิ ตั งิ าน และเพ่อื ประเมนิ ผลการดาเนินงานของหน่วยงานยอ่ ยตาม ความรบั ผดิ ชอบ บทท่ี 10
286 การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน กชกร เฉลมิ กาญจนา (2557 : 213) ได้ใหค้ วามหมายไวว้ ่า การบญั ชตี ามความ รบั ผดิ ชอบ หมายถงึ กระบวนการบญั ชที ร่ี วบรวม บนั ทกึ จาแนกประเภท และจดั ทารายงานผล การปฏบิ ตั งิ านเสนอต่อผบู้ รหิ ารระดบั ต่างๆ เพ่อื จะนาไปเปรยี บเทยี บกบั เป้าหมายหรอื แผนงาน ทก่ี าหนดไวส้ าหรบั หน่วยงานนนั้ กล่าวโดยสรุป การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ หมายถงึ กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล และการจดั ทารายงานผลการปฏบิ ตั งิ านของส่วนงานใดส่วนงานหน่ึง โดยอานาจและหน้าท่ใี น การตดั สนิ ใจเป็นของผูจ้ ดั การหรอื หวั หน้าส่วนงานนนั้ โดยตรง ทงั้ น้ีเพ่อื นาผลจากการรายงาน ไปเปรยี บเทยี บกบั แผนงานหรอื เป้าหมายทว่ี างแผนไว้ ประเภทของศนู ยต์ ามความรบั ผิดชอบ การบรหิ ารงานแบบกระจายอานาจ เพ่อื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคเ์ ดยี วกนั ทงั้ องคก์ ร สง่ิ สาคญั คอื ผูบ้ รหิ ารจะต้องมกี ารกาหนดเป้าหมายหรอื นโยบายขององคก์ รใหไ้ ปทศิ ทางเดยี วกนั ในทุกฝ่ายหรอื ทุกแผนกท่เี ก่ียวข้อง โดยผู้บรหิ ารจะทาหน้าท่ปี ระเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านหรอื ควบคุมการทางานตามความรบั ผิดชอบของผู้จดั การหรอื หวั หน้าแต่ละคน ซ่งึ เรยี กว่า ศูนย์ ความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility Centers) ซง่ึ อาจจะอยใู่ นรปู ของ สายผลติ ภณั ฑ์ สาขา แผนก หรอื ฝา่ ย เป็นตน้ โดยทวั่ ไปศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบจะแบง่ เป็น 4 รปู แบบ คอื 1. ศนู ยต์ ้นทนุ ศูนยต์ ้นทุน (Cost Center) เป็นศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบหน่ึงในองคก์ รทผ่ี จู้ ดั การศูนยจ์ ะ มหี น้าท่แี ละความรบั ผดิ ชอบเฉพาะต้นทุนเท่านัน้ ศูนยต์ ้นทุนจะไม่มอี านาจในการควบคุมใน เรอ่ื งของการขายหรอื เรอ่ื งของรายได้แต่อย่างใด ซง่ึ ส่วนงานทค่ี วรกาหนดใหเ้ ป็นศูนยต์ ้นทุนจงึ เป็นส่วนงานทไ่ี ม่มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อรายไดห้ รอื เงนิ ลงทุนไปใช้ในศูนย์ เช่น แผนกคลงั พสั ดุ แผนกผลติ แผนกซอ่ มบารงุ แผนกอาคารสถานท่ี แผนกบญั ชี แผนกบคุ คล เป็นตน้ 2. ศนู ยร์ ายได้ ศูนยร์ ายได้ (Revenue Center) เป็นศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบท่ผี ูจ้ ดั การศูนยจ์ ะมหี น้าท่ี และความรบั ผดิ ชอบเฉพาะรายได้หรอื เพม่ิ ยอดขายใหก้ บั กจิ การเท่านัน้ โดยผจู้ ดั การศูนยต์ อ้ ง พยายามหาวธิ เี พมิ่ รายไดใ้ หไ้ ดม้ ากทส่ี ุด ซง่ึ สว่ นงานทค่ี วรกาหนดใหเ้ ป็นศูนย์รายไดจ้ งึ เป็นส่วน งานท่ไี ม่เก่ียวข้องกบั ต้นทุนหรอื จานวนเงินลงทุนแต่อย่างใด เช่น แผนกขายตวั ๋ ผู้โดยสาร รถทวั ร์ แผนกขายสนิ คา้ ของกจิ การแห่งหน่งึ แผนกขายตวั ๋ หนงั ของโรงภาพยนตร์ เป็นตน้ บทท่ี 10
การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 287 3. ศนู ยก์ าไร ศูนยก์ าไร (Profit Center) เป็นศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบท่ผี ูจ้ ดั การศูนยจ์ ะมหี น้าท่แี ละ ความรบั ผดิ ชอบทงั้ รายได้และต้นทุน โดยผู้จดั การศูนย์ต้องเพ่มิ รายได้ให้มากท่สี ุด ควบคุม ต้นทุนให้ต่าท่สี ุด ทงั้ น้ีเพ่อื ให้ได้กาไรสูงสุด ซ่งึ ส่วนงานท่คี วรกาหนดให้เป็นศูนย์กาไร เช่น สาขาของสานกั งานใหญ่ สาขาของรา้ นสะดวกซอ้ื สาขาของหา้ งสรรพสนิ คา้ เป็นตน้ 4. ศนู ยล์ งทนุ ศูนยล์ งทุน (Investment Center) เป็นศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบทผ่ี จู้ ดั การศูนยจ์ ะมหี น้าท่ี และความรบั ผดิ ชอบทงั้ รายได้ ตน้ ทุน และจานวนเงนิ ลงทุนทต่ี อ้ งใชใ้ นการลงทุนของส่วนงาน นนั้ ๆ ซ่งึ ผจู้ ดั การศูนยต์ อ้ งพยายามหารายไดใ้ หม้ ากทส่ี ุด ควบคุมต้นทุนใหต้ ่าทส่ี ุด และบรหิ าร เงนิ ลงทุนใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด จากการศกึ ษาประเภทของศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบขา้ งตน้ สามารถนามาสรุปดงั แสดงใน ภาพท่ี 10-1 ดงั น้ี ศนู ยค์ วามรบั ผดิ ชอบ ศนู ยต์ น้ ทุน ศนู ยร์ ายได้ ศูนยก์ าไร ศนู ยล์ งทุน ภาพท่ี 10-1 ประเภทของศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบ การประเมินผลการปฏิบตั ิงานของศนู ยค์ วามรบั ผิดชอบ เม่อื การบรหิ ารงานไดแ้ บ่งออกเป็นศูนยค์ วามรบั ผดิ ชอบออกเป็น 4 ศูนยต์ ามทก่ี ล่าว มาแลว้ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของแต่ละศูนยจ์ งึ มคี วามสาคญั ทงั้ น้ีเพ่อื เป็นการควบคุม การทางาน และสร้างแรงจูงใจในการปฏิบตั ิงานของแต่ละศูนย์ ส่งผลให้เกิดการทางานท่มี ี ประสทิ ธภิ าพโดยส่วนรวม ซง่ึ สามารถจดั ลาดบั ความสาคญั ของการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน ของแต่ละศนู ยค์ วามรบั ผดิ ชอบ ไดด้ งั น้ี บทท่ี 10
288 การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 1. ศนู ยต์ ้นทุน การประเมินผลการปฏิบัติงานของศูนย์ต้นทุน สามารถประเมินได้จากการ เปรยี บเทยี บระหว่างต้นทุนจรงิ กบั ต้นทุนมาตรฐานเพ่อื นามาวเิ คราะหห์ าผลต่างในการควบคุม ประกอบดว้ ย ผลต่างเก่ยี วกบั วตั ถุดบิ ทางตรง ผลต่างเก่ยี วกบั ค่าแรงงานทางตรง และผลต่าง ค่าใชจ้ ่ายการผลติ โดยผลต่างทเ่ี กดิ ขน้ึ อาจเป็นผลทน่ี ่าพอใจ (Favorable : F) และไม่น่าพอใจ (Unfavorable : U) ดงั ไดก้ ล่าวมาแลว้ ในบทท่ี 6 ซง่ึ ถา้ ผลต่างทไ่ี ดเ้ ป็นทน่ี ่าพอใจ แสดงว่าการ ทางานมปี ระสทิ ธกิ อ็ าจสรา้ งแรงจงู ใจในการทางาน เช่น ใหส้ วสั ดกิ าร จ่ายโบนสั เป็นต้น แต่ถ้า ผลต่างท่ไี ด้ไม่น่าพอใจ ก็ต้องหาแนวทางแก้ไข โดยถอื เป็นหน้าท่ขี องทุกฝ่ายท่ตี ้องให้ความ รว่ มมอื และอกี วธิ หี น่งึ ทส่ี ามารถนามาประเมนิ งานศูนยต์ น้ ทุนได้ คอื การวเิ คราะหผ์ ลต่างจาก การเปรยี บเทยี บระหว่างต้นทุนจรงิ กบั ต้นทุนตามงบประมาณอาจจดั ทาในรปู ของงบประมาณ ยดื หยุ่น ทงั้ น้ีเพ่อื ใหก้ ารใชท้ รพั ยากรเป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพตามแผนงานทก่ี จิ การกาหนด ไว้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ จะขอยกตวั อย่างเก่ยี วกบั การประเมนิ ผลการ ปฏบิ ตั งิ านของศูนยต์ น้ ทุนจากการเปรยี บเทยี บระหว่างต้นทุนจรงิ กบั ต้นทุนมาตรฐาน ดงั แสดง ในตวั อยา่ งท่ี 10-1 และ การเปรยี บเทยี บระหวา่ งตน้ ทนุ ตามงบประมาณกบั ตน้ ทนุ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 10-2 ตวั อย่างที่ 10-1 บรษิ ทั อุดรเอซซี ี จากดั ผลติ ขนมไทยชนิดหน่งึ มตี น้ ทุนมาตรฐานต่อ 1 หน่วยการผลติ ดงั น้ี (กาลงั การผลติ ปกตขิ องบรษิ ทั เทา่ กบั 500 ชวั่ โมงแรงงานทางตรงต่อเดอื น) วตั ถุดบิ ทางตรง 0.03 กโิ ลกรมั @ 30 บาท คา่ แรงงานทางตรง 0.11 ชวั่ โมง @ 35 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 0.11 ชวั่ โมง @ 9 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 0.11 ชวั่ โมง @ 11 บาท ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การดาเนินงานสาหรบั ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ระหวา่ งเดอื น มกราคม 25x1 มดี งั น้ี 1. ผลติ สนิ คา้ จานวน 3,000 หน่วย 2. ซอ้ื วตั ถุดบิ ทางตรง 60 กโิ ลกรมั @ 25 บาท 3. เบกิ วตั ถุดบิ ทางตรงไปใช้ 60 กโิ ลกรมั 4. ใชแ้ รงงานทงั้ สน้ิ 360 ชวั่ โมง อตั ราค่าจา้ งชวั่ โมงละ 30 บาท บทท่ี 10
การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 289 5. ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ 2,692 บาท 6. ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปรเกดิ ขน้ึ จรงิ 3,490 บาท จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถนามาวเิ คราะหผ์ ลต่างระหว่างตน้ ทนุ จรงิ กบั ต้นทุนมาตรฐาน ไดด้ งั น้ี 1. วิเคราะหผ์ ลต่างวตั ถดุ ิบทางตรง ผลต่างดา้ นราคาวตั ถุดบิ ทางตรง = (ราคาจรงิ ต่อหน่วย – ราคามาตรฐานต่อหน่วย) x ปรมิ าณทซ่ี อ้ื จรงิ = (25 – 30) x 60 = 300 บาท (ผลต่างทน่ี ่าพอใจ) ผลต่างดา้ นการใชว้ ตั ถุดบิ ทางตรง = (ปรมิ าณใชจ้ รงิ – ปรมิ าณใชต้ ามมาตรฐาน*) x ราคามาตรฐานต่อหน่วย = (60 – 90) x 30 = 900 บาท (ผลต่างทน่ี ่าพอใจ) *ปรมิ าณใชต้ ามมาตรฐาน = หน่วยเทยี บเท่าการผลติ x ปรมิ าณวตั ถุดบิ ต่อหน่วย ตามมาตรฐาน = (3,000 x 0.03) = 900 กโิ ลกรมั สรปุ ผลต่างวตั ถุดบิ ทางตรง: 300 บาท (พอใจ) ผลต่างดา้ นราคาวตั ถุดบิ ทางตรง 900 บาท (พอใจ) ผลต่างดา้ นการใชว้ ตั ถุดบิ ทางตรง 1,200 บาท (พอใจ) รวม จากการวเิ คราะหผ์ ลต่างเก่ยี วกบั วตั ถุดบิ ทางตรง พบว่า กจิ การมผี ลต่างท่นี ่าพอใจ จานวน 1,200 บาท ซ่งึ จากการคานวณผลต่างด้านราคาและด้านปรมิ าณการใช้วตั ถุดบิ จะมี ผลต่างท่นี ่าพอใจทงั้ สองดา้ น แสดงใหเ้ หน็ ว่า การทางานของฝ่ายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไม่ว่าจะเป็นฝ่าย จดั ซอ้ื ฝา่ ยผลติ ทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ บทท่ี 10
290 การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ และการกาหนดราคาโอน 2. วิเคราะหผ์ ลต่างค่าแรงงานทางตรง ผลต่างดา้ นอตั ราค่าจา้ งแรงงานทางตรง = (อตั ราค่าจา้ งจรงิ ต่อชวั่ โมง – อตั ราคา่ จา้ งมาตรฐานต่อชวั่ โมง) x จานวนชวั่ โมงทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ = (30 – 35) x 360 = 1,800 บาท (ผลต่างทน่ี ่าพอใจ) ผลต่างดา้ นประสทิ ธภิ าพการทางาน = (จานวนชวั่ โมงจรงิ – จานวนชวั่ โมงมาตรฐาน*) x อตั ราจา้ งมาตรฐานต่อ ชวั่ โมง = (360 – 330) x 35 = 1,050 บาท (ผลต่างทไ่ี ม่น่าพอใจ) *จานวนชวั่ โมงมาตรฐาน = หน่วยเทยี บเท่าการผลติ xจานวนชวั่ โมงมาตรฐานต่อหน่วย = 3,000 x 0.11 = 330 ชวั่ โมง สรปุ ผลต่างค่าแรงงานทางตรง: 1,800 บาท (พอใจ) ผลต่างดา้ นอตั ราค่าจา้ งแรงงาน 1,050 บาท (ไมพ่ อใจ) ผลต่างดา้ นประสทิ ธภิ าพแรงงาน รวม 750 บาท (พอใจ) จากการวเิ คราะหผ์ ลต่างเกย่ี วกบั คา่ แรงงานทางตรง พบว่า กจิ การมผี ลต่างทน่ี ่าพอใจ จานวน 750 บาท ซง่ึ จากการคานวณผลต่างดา้ นอตั ราค่าจา้ งมผี ลต่างทน่ี ่าพอใจ แต่ผลต่างดา้ น ประสิทธภิ าพการทางานมผี ลต่างท่ีไม่น่าพอใจ แสดงให้ว่า กิจการได้ใช้จานวนชวั่ โมงจรงิ มากกว่าท่กี าหนดไว้ อาจเกิดจากเคร่อื งจกั รไม่ได้ทาการซ่อมบารุงหรอื ล้าสมยั คนงานขาด ทกั ษะ เป็นตน้ 3. วิเคราะห์ผลต่างค่าใช้จ่ายการผลิตแบบผลต่างเดียว ผลต่างเกย่ี วกบั ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ = ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ จรงิ – ค่าใชจ้ ่ายการผลติ จดั สรร* = 6,182 – 6,600 = 418 บาท (ผลต่างทไ่ี ม่น่าพอใจ) บทท่ี 10
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328