190 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ขน้ึ เป็นตน้ ลาดบั ต่อมากค็ อื การดาเนินงานใหไ้ ดต้ ามเป้าหมายทว่ี างแผนไว้ โดยต้องกาหนด ราคาใหส้ งู กวา่ ตน้ ทนของกจิ การทงั้ น้กี เ็ พ่อื ผลกาไรตามทต่ี อ้ งการ 1.3 ประเภทของผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ (Type of Product or Service) หาก ผลติ ภณั ฑท์ ่กี จิ การผลติ มลี กั ษณะคล้ายคลงึ กบั ท่ตี ลาดคู่แข่งขนั มอี ยู่ กิจการก็ไม่สามารถตงั้ ราคาท่สี ูงได้ จงึ ต้องพจิ ารณาขอ้ มูลคู่แข่งขนั ก่อน เพ่อื ให้ได้ราคาท่เี หมาะสม หรอื บางครงั้ ผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารดงั กล่าวอาจเป็นผลติ ภณั ฑใ์ หม่ทย่ี งั ไม่เป็นรจู้ กั หรอื ไดร้ บั การยอมรบั จาก ลกู คา้ กจิ การกค็ วรมกี ารทดสอบตลาด หรอื ใชก้ ารเลอื กกลยทธใ์ นการกาหนดราคาใหเ้ หมาะสม เชน่ กนั 2. ปัจจยั ภายนอก (External Factors) ปจั จยั ภายนอก เป็นขอ้ มลู ภายนอกทก่ี จิ การไมส่ ามารถควบคมใหเ้ ป็นไปตามท่ี ต้องการได้ ซ่ึงถือเป็นปจั จัยท่ีมีอิทธิพลในการกาหนดราคาผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก ประกอบดว้ ย 2.1 ความต้องการของลูกค้า (Customer Demand) ความต้องการของลูกคา้ เป็นปจั จยั ท่มี อี ทิ ธพิ ลสาคญั มากต่อการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑท์ ก่ี จิ การต้องคานึงถงึ โดยต้อง กาหนดราคาให้เหมาะสมกบั การยอมรบั ของลูกค้า เช่น ราคาอาจไม่จาเป็นต้องต่าเกนิ ไปเม่อื เทยี บกบั คณภาพของสนิ คา้ ทล่ี กู คา้ ต้องการ กล่าวคอื ลูกคา้ ยอมจ่ายเงนิ ในราคาท่สี งู ไดเ้ พ่อื ให้ ไดส้ นิ คา้ ทม่ี คี ณภาพตามความตอ้ งการ เมอ่ื เทยี บกบั การจา่ ยเงนิ ในราคาทต่ี ่าแต่คณภาพไมด่ ี 2.2 ค่แู ข่งขนั (Competitors) การศกึ ษาคแู่ ขง่ ขนั ก่อนการกาหนดราคาถอื เป็น สง่ิ ทก่ี จิ การควรปฏบิ ตั ิ เพราะธรกจิ ไมอ่ าจตงั้ ราคาผลติ ภณั ฑส์ ูงกว่าราคาค่แู ข่งขนั ขณะคณภาพ ของผลติ ภณั ฑใ์ กล้เคยี งกนั ได้ โดยเฉพาะเม่อื อย่ใู นตลาดแข่งขนั กนั อย่างสมบูรณ์ เพราะอาจ ขายผลติ ภณั ฑไ์ มไ่ ดเ้ น่อื งจากลกู คา้ หนั ไปซอ้ื สนิ คา้ ของคแู่ ขง่ ขนั แทนการเลอื กซอ้ื กบั กจิ การ 2.3 นโยบายภาครฐั (Political) นโยบายภาครฐั มอี ทิ ธพิ ลต่อการกาหนดราคา ผลติ ภณั ฑ์ โดยเฉพาะกจิ การทม่ี กี ารผลติ สนิ คา้ ทอ่ี ย่ใู นประเภทสนิ ค้าควบคม ปจั จบนั มจี านวน ถงึ 41 รายการ จะตอ้ งกาหนดราคาผลติ ภณั ฑต์ ามนโยบายภาครฐั ซ่งึ ไมส่ ามารถกาหนดราคา ผลิตภัณฑ์ได้โดยอิสระ ตัวอย่างสินค้าควบคม เช่น ข้าวเปลือก ข้าวสาร นมผง นมสด ผงซกั ฟอก ยารกั ษาโรค น้ามนั เชอ้ื เพลงิ จกั รยานยนต์ เมด็ พลาสตกิ ป๋ ย ท่อพวี ซี ี เป็นตน้ บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 191 2.4 สภาพแวดล้อมโดยทวั่ ไป (General Environment) เป็นสภาพแวดลอ้ มท่ี ส่งผลทงั้ โดยตรงและโดยอ้อมต่อกจิ การ เช่น การเมอื งและกฎหมาย (Politic and law) เป็น เสมอื นกฎเกณฑ์ของการดาเนินธรกิจ และการแข่งขนั ซ่ึงกิจการจะต้องดาเนินงานตามท่ี กฎหมายกาหนด เทคโนโลยี (Technology) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยที าให้เกิดการ เปลย่ี นแปลงทางธรกจิ วฒั นธรรมและสงั คม (Social Cultural) ซง่ึ การเปลย่ี นแปลงทางสงั คมจะ มผี ลทาใหค้ า่ นยิ มเปลย่ี นแปลงไป เศรษฐกจิ มหภาค (Macroeconomic) เป็นตน้ จากการอธบิ ายถงึ ปจั จยั ท่มี อี ิทธพิ ลต่อการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ข้างต้น ซ่งึ มที งั้ ปจั จยั ภายในและปจั จยั ภายนอก สามารถนามาสรปุ ดงั แสดงในภาพท่ี 7-1 ดงั น้ี ปจั จยั ทม่ี ี อทิ ธพิ ล ปจั จยั ภายใน ปจั จยั ภายนอก ตน้ ทุน เป้าหมาย ประเภทของ ความตอ้ งการ คแู่ ขง่ ขนั นโยบาย สภาพแวดลอ้ ม กาไร ผลติ ภณั ฑ์ ของลกู คา้ ภาครฐั ทวั่ ไป ภาพที่ 7-1 ปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ การกาหนดราคาโดยใช้ต้นทนุ เป็นฐาน การกาหนดราคาโดยใช้ต้นทุนฐาน (Cost-Based Pricing) เป็นการกาหนดราคา ผลิตภณั ฑ์โดยใช้ข้อมูลทางด้านต้นทุนท่ีมีลกั ษณะแตกต่างกันไปข้ึนอยู่กับความต้องการ นาไปใช้ เพ่อื เป็นขอ้ มลู สาหรบั การพจิ ารณาตดั สนิ ใจ ซง่ึ การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ในลกั ษณะ น้ีเป็นท่ีนิยมใช้โดยทวั่ ไป เพราะส่วนใหญ่แล้วการกาหนดราคาต้องสามารถชดเชยต้นทุนท่ี เกดิ ขน้ึ ทงั้ หมดของสนิ คา้ และบรกิ ารได้ (ปรบั ปรงุ จากศรสี ุดา อาชวานนั ทกุล, 2557 : 9-3) บทท่ี 7
192 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 1. การกาหนดราคาโดยใช้ส่วนบวกเพ่ิมจากต้นทนุ (Pricing Based on Cost- plus Pricing Formulas) การกาหนดราคาตามวธิ นี ้ี เป็นลกั ษณะทม่ี กี ารใชข้ อ้ มลู ทางดา้ นต้นทุนเป็นฐานในการ กาหนดราคาแลว้ ใชก้ ารบวกส่วนเพมิ่ (Markup) เขา้ ไปกบั ต้นทุนผลติ ภณั ฑ์ โดยฐานของต้นทุน ทน่ี ามาใชพ้ จิ ารณาประกอบการกาหนดราคาอาจมหี ลายลกั ษณะ เช่น ลกั ษณะต้นทุนเต็มหรอื ตน้ ทุนรวม (Full Costing or Absorption Costing) ต้นทุนผนั แปร หรอื ต้นทุนตรง (Variable Costing or Direct Costing) ซง่ึ เป็นการกาหนดต้นทุนผลติ ภณั ฑต์ ามทไ่ี ดก้ ล่าวมาแลว้ ในบทท่ี 3 ส่วนลกั ษณะตน้ ทุนผนั แปรรวม (Total Variable Costing) และตน้ ทุนรวม (Total Costing) เป็นการกาหนดเพม่ิ จากการนาไปรวมส่วนทไ่ี ม่เก่ยี วขอ้ งกบั การผลติ การกาหนดราคาโดยใช้ ส่วนบวกเพม่ิ จากตน้ ทุน สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ราคาผลติ ภณั ฑ์ = ตน้ ทนุ + (ตน้ ทุน x อตั ราสว่ นบวกเพมิ่ ) เพ่อื ให้เขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ เก่ยี วกบั การกาหนดราคาโดยใชส้ ่วนบวกเพม่ิ จากต้นทุนในแต่ ละลกั ษณะ จงึ ขอยกตวั อยา่ งเพ่อื อธบิ ายและแสดงการคานวณ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 7-1 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 7-1 บรษิ ทั คุณหญงิ แฟชนั่ จากดั ได้มกี ารกาหนดนโยบายสาหรบั การกาหนดราคา ผลติ ภณั ฑข์ องสนิ คา้ แต่ละชนดิ โดยใหม้ กี ารบวกส่วนเพม่ิ ในอตั รา 60% จากราคาทุนของสนิ คา้ ทซ่ี อ้ื เขา้ มาจาหน่าย รายละเอยี ดขอ้ มลู ของสนิ คา้ มดี งั น้ี ชนิ ดของสินค้า ราคาทุนของสินค้า (บาท) รองเทา้ 200 กระโปรง 400 เสอ้ื 300 กางเกง 500 จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถนามาแสดงการคานวณประกอบเพอ่ื หาราคาผลติ ภณั ฑข์ อง สนิ คา้ แต่ละชนดิ ไดจ้ ากสตู รดงั น้ี บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 193 ราคาผลติ ภณั ฑ์ = ตน้ ทุน + (ตน้ ทุน x อตั ราส่วนบวกเพมิ่ ) รองเท้า = 200 + (200 x 60%) = 200 + 120 = 320 กระโปรง = 400 + (400 x 60%) = 400 + 240 = 640 เสื้อ = 300 + (300 x 60%) = 300 + 180 = 480 กางเกง = 500 + (500 x 60%) = 500 + 300 = 800 จากการคานวณข้างต้นทุน แสดงใหเ้ ห็นว่า ถ้าบรษิ ทั ต้องการบวกส่วนเพมิ่ ในอตั รา 60% จากราคาทุนของสนิ คา้ จะตอ้ งกาหนดราคาขายรองเทา้ เท่ากบั 320 บาท กระโปรงเท่ากบั 640 บาท เสอ้ื ราคา 480 บาท และกางเกงราคา 800 บาท การแสดงการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑด์ งั กล่าวมกั เป็นการกาหนดราคาสาหรบั กจิ การ ซ้อื มาแล้วขาย โดยการกาหนดอัตราส่วนบวกเพิม่ จะต้องกาหนดข้นึ อย่างเพยี งพอสาหรบั ค่าใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ รวมถงึ ผลกาไรทก่ี จิ การต้องการ ส่วนสาหรบั กจิ การ ผลติ แลว้ ขายจะพจิ ารณา ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 7-2 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 7-2 บรษิ ทั แพรวาไทย จากดั กาลงั พจิ ารณาเก่ยี วกบั การกาหนดราคาสนิ คา้ ชนิดหน่ึงโดย ใชต้ น้ ทนุ เป็นฐาน ซง่ึ แผนกบญั ชไี ดแ้ สดงขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตน้ ทุนทม่ี ปี รมิ าณการผลติ และจาหน่าย เทา่ กบั 10,000 หน่วย ไวด้ งั น้ี (หน่วย : บาท) บทท่ี 7
194 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ วตั ถุดบิ ทางตรง ต้นทุนต่อหน่วย ต้นทุนรวม คา่ แรงงานทางตรง 10 100,000 8 80,000 ค่าใชจ้ า่ ยในการผลติ ผนั แปร 50,000 ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ คงท่ี 5 70,000 30,000 คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปร 7 20,000 คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงที 3 2 จากข้อมูลข้างต้น บรษิ ทั สามารถนามากาหนดลกั ษณะของต้นทุนต่อหน่วยโดยแยก พจิ ารณาไดเ้ ป็น 4 ลกั ษณะ ดงั น้ี ประเภทของต้นทนุ ต้นทุน ต้นทนุ ต้นทุน ต้นทุน เตม็ ผนั แปร ผนั แปรรวม รวม วตั ถุดบิ ทางตรง 10 10 ค่าแรงงานทางตรง 8 10 10 คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปร 5 8 คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 7 8 8 คา่ ใชจ้ ่ายการขายและ 5 - 5 5 บรหิ ารผนั แปร 7 คา่ ใชจ้ ่ายการขายและ - - - 30 บรหิ ารคงท่ี - 33 รวม --2 23 26 35 จากข้อมูลเก่ยี วกบั ต้นทุนของผลติ ภณั ฑ์ข้างต้น หากกิจการมแี นวทางท่จี ะกาหนด ราคาผลิตภณั ฑ์ของข้อมูลต้นทุนท่ีมีลกั ษณะแตกต่างกันตามนโยบายการบวกส่วนเพ่ิมท่ี แตกต่างกนั ในแต่ละกรณดี งั น้ี กรณีที่ 1 นโยบายบวกส่วนเพม่ิ 50% จากต้นทุนเต็ม ราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วยของ บรษิ ทั จะเป็นดงั น้ี ตน้ ทุนเตม็ 30 บาท บวก สว่ นบวกเพมิ่ 50% 15 บาท ราคาผลติ ภณั ฑ์ 45 บาท บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 195 กรณีที่ 2 นโยบายบวกส่วนเพม่ิ 95.65% จากตน้ ทุนผนั แปร ราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วย ของบรษิ ทั จะเป็นดงั น้ี 23 บาท ตน้ ทุนผนั แปร บวก สว่ นบวกเพม่ิ 95.65% 22 บาท ราคาผลติ ภณั ฑ์ 45 บาท กรณีท่ี 3 นโยบายบวกส่วนเพมิ่ 73.08% จากต้นทุนผนั แปรรวม ราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อ หน่วยของบรษิ ทั จะเป็นดงั น้ี ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม 26 บาท บวก สว่ นบวกเพม่ิ 73.08% 19 บาท ราคาผลติ ภณั ฑ์ 45 บาท กรณีท่ี 4 นโยบายบวกส่วนเพมิ่ 28.57% จากต้นทุนรวม ราคาผลติ ภณั ฑ์ต่อหน่วย ของบรษิ ทั จะเป็นดงั น้ี ตน้ ทนุ รวม 35 บาท บวก สว่ นบวกเพมิ่ 28.57% 10 บาท ราคาผลติ ภณั ฑ์ 45 บาท โดยสรุป การกาหนดราคาโดยใช้ส่วนบวกเพม่ิ จากต้นทุนเป็นวธิ ที ท่ี าได้ง่าย และถอื เป็นแนวปฏบิ ตั โิ ดยส่วนใหญ่ แต่ทส่ี าคญั คอื ต้องกาหนดลกั ษณะของตน้ ทุนทต่ี ้องการบวกส่วน เพมิ่ ใหช้ ดั เจนโดยเฉพาะธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย 2. การกาหนดราคาโดยใช้กาไรท่ีต้องการ (Pricing Based on Target Profit) การกาหนดราคาตามวธิ นี ้ี เป็นลกั ษณะการกาหนดราคาโดยผู้บรหิ ารจะมเี ป้าหมาย ของกาไรทต่ี อ้ งการไวก้ ่อน แลว้ นามาบวกเพม่ิ จากตน้ ทนุ ตามลกั ษณะทแ่ี ตกต่างกนั ดงั ทไ่ี ด้กล่าว มาแลว้ สามารถแสดงการคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วย = ตน้ ทน กาไรทต่ี อ้ งการ จานวนหน่วย บทท่ี 7
196 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ เกย่ี วกบั การกาหนดราคาโดยใชก้ าไรทต่ี อ้ งการ จงึ ขอ ยกตวั อยา่ งเพอ่ื อธบิ ายและแสดงการคานวณประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 7-3 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 7-3 จากขอ้ มลู ตวั อย่างท่ี 7-2 ของบรษิ ทั แพรวาไทย จากดั ถ้าสมมตบิ รษิ ทั มนี โยบายใน การกาหนดราคาโดยต้องการกาไรสูงสุดจานวน 100,000 บาท จากตน้ ทุนเตม็ บรษิ ทั จะต้อง กาหนดราคาผลติ ภณั ฑห์ น่วยละเทา่ ใด สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี ราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วย = ตน้ ทน กาไรทต่ี อ้ งการ จานวนหนว่ ย = 30 x10,000100,000 10,000 = 40 บาท ดงั นนั้ หากบรษิ ทั ตอ้ งการกาไรจานวน 100,000 บาท จะตอ้ งกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ หน่วยละ 40 บาท กาหนดราคาตามวธิ นี ้ี นอกจากจะกาหนดเป็นนโยบายสาหรบั ธุรกจิ ผลติ แลว้ ขาย ยงั เป็นท่นี ิยมนามาใช้กบั ธุรกิจการให้บรกิ ารเพ่ือเป็นกาหนดอตั ราค่าบรกิ ารอีกด้วย ซ่งึ จะขอ ยกตวั อยา่ งเพ่อื อธบิ ายเพมิ่ เตมิ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 7-4 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 7-4 บรษิ ทั ยานยนตเ์ ซอรว์ สิ จากดั ไดด้ าเนินธุรกิจเก่ยี วกบั การรบั ตรวจสอบคุณภาพรถ ทวั่ ไป โดยบรษิ ัทมนี โยบายท่จี ะคิดค่าบรกิ ารจากลูกค้าตามชวั่ โมงให้บรกิ ารตรวจสอบ ซ่งึ บรษิ ัทได้มกี ารจดั ทางบประมาณค่าใช้จ่ายท่ีจะเกิดข้นึ ในแต่ละเดอื น ณ ระดบั ชวั่ โมงการ ใหบ้ รกิ ารตรวจสอบจานวน 1,000 ชวั่ โมง ไวด้ งั น้ี เงนิ เดอื นพนกั งาน 50,000 บาท คา่ เชา่ รา้ น 12,000 บาท ค่าเบย้ี ประกนั 8,000 บาท ค่าสาธารณูปโภค 5,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยเบด็ เตลด็ 20,000 บาท 95,000 บาท รวม บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 197 ถ้าบรษิ ัทต้องการกาไรจากการดาเนินงานเดอื นละ 25,000 บาท การกาหนดอตั รา คา่ บรกิ ารต่อชวั่ โมงตรวจสอบทจ่ี ะใหบ้ รกิ ารแก่ลกู คา้ สามารถคานวณไดด้ งั น้ี ตน้ ทนุรวม กาไรทต่ี อ้ งการ อตั ราคา่ บรกิ ารต่อชวั่ โมง = จานวนชวั่ โมงการใหบ้ ริการ = 95,000 25,000 1,000 = 120 บาท / ชวั่ โมง ดงั นัน้ หากบรษิ ัทต้องการกาไรจากการดาเนินงานเดอื นละ 25,000 บาท ณ ระดบั ชวั่ โมงการให้บรกิ ารจานวน 1,000 ชวั่ โมง บรษิ ัทจะต้องกาหนดอตั ราค่าบรกิ ารตรวจสอบ คณุ ภาพสนิ คา้ เทา่ กบั 120 บาทต่อชวั่ โมง 3. กาหนดราคาโดยใช้อตั ราผลตอบแทนจากการลงทุน (Pricing Based on Return on Investment : ROI) การกาหนดราคาตามวิธีน้ี เป็นวิธีท่ีคานึงถึงเงนิ ลงทุนในการดาเนินธุรกิจมา ประกอบการตดั สนิ ใจด้วย ซง่ึ เป็นการมุ่งหวงั ให้กจิ การมผี ลกาไรเท่ากบั ผลตอบแทนจากการ ลงทนุ ทก่ี จิ การตอ้ งการ เมอ่ื กาหนดหรอื ทราบอตั ราผลตอบแทนจากการลงทุนทต่ี ้องการแลว้ ก็ สามารถนาไปคานวณหาอตั ราส่วนบวกเพม่ิ สาหรบั นาไปกาหนดราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อไปได้ การ คานวณหาอตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี อตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ = กาไรสทธิ x 100 เงนิ ลงทน การคานวณหาอตั ราส่วนบวกเพม่ิ (Markup Percentage) สามารถคานวณได้จาก ลกั ษณะของตน้ ทนุ 2 กรณี คอื ตน้ ทุนเตม็ และตน้ ทุนผนั แปรรวม กรณีท่ี 1 กจิ การใชว้ ธิ กี ารคดิ ต้นทุนตามลกั ษณะของต้นทุนเตม็ สามารถคานวณ ไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี อตั ราสว่ นบวกเพมิ่ = ผลตอบแทนจากการลงทน คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร x100 ปรมิ าณการผลติ และขาย x ตน้ ทนเตม็ ต่อหนว่ ย บทท่ี 7
198 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ กรณีที่ 2 กจิ การใชว้ ธิ กี ารคดิ ตน้ ทุนตามลกั ษณะของต้นทุนผนั แปรรวม สามารถ คานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี อตั ราสว่ นบวกเพมิ่ = ผลตอบแทนจากการลงทนุ ตน้ ทนุ และคิาใชจ้ ายคงที่ x 100 ปรมาณการผลตและขาย x ตน้ ทนุ ผนั แปรรวมตอหนิวย เพ่อื ให้เขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ เก่ยี วกบั กาหนดราคาโดยใช้อตั ราผลตอบแทนท่ี ต้องการจากการลงทุน จงึ ขอยกตวั อยา่ งเพ่อื อธบิ ายและแสดงการคานวณประกอบ โดยแยก ตามลกั ษณะของตน้ ทนุ ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 7-5 จากขอ้ มลู ตวั อย่างท่ี 7-2 ของบรษิ ทั แพรวาไทย จากดั หากบรษิ ทั กาลงั พจิ ารณา เก่ยี วกบั การกาหนดราคาของผลติ ภณั ฑ์ชนิดหน่ึง ซ่งึ เป็นโครงการท่ีบรษิ ทั จะลงทุนในอีก 6 เดอื นขา้ งหน้า โดยได้ประมาณเงนิ ลงทุนไว้จานวน 520,000 บาท บรษิ ัทใช้วธิ กี ารคดิ ต้นทุน ตามลกั ษณะของต้นทุนเตม็ ถ้าบรษิ ทั ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน 25% การคานวณหา อตั ราสว่ นบวกเพม่ิ และราคาของผลติ ภณั ฑ์ สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี อตั ราส่วนบวกเพม่ิ = ผลตอบแทนจากการลงทน ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร x100 ปรมิ าณการผลติ และขาย x ตน้ ทนเตม็ ต่อหน่วย = 520,000 x 25% 50,000 x 100 10,000 x 30 = 180,000 x 100 300,000 = 60% ดงั นนั้ ราคาผลติ ภณั ฑ์ = ตน้ ทุนเตม็ ต่อหน่วย + (ตน้ ทนุ x อตั ราส่วนบวกเพมิ่ ) = 30 + ( 30 x 60% ) = 30 + 18 = 48 บาท จากการคานวณขา้ งต้น แสดงใหเ้ หน็ ว่า ถ้าบรษิ ทั ตอ้ งการอตั ราผลตอบแทนจากการ ลงทุน 25% จากตน้ ทุนเตม็ จะตอ้ งกาหนดราคาผลติ ภณั ฑเ์ ท่ากบั 48 บาท แต่ทงั้ น้ีต้องอย่ใู น บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 199 เง่อื นไขของการผลติ และขายไดท้ งั้ หมด 10,000 หน่วยตามทว่ี างแผนไว้ จงึ จะทาให้ได้กาไร เท่ากบั 130,000 บาท ซง่ึ คดิ เป็น 25% ของเงนิ ลงทุนจานวน 520,000 บาท ดงั แสดงไวใ้ นงบ กาไรขาดทุนเพ่อื เป็นการพสิ จู น์ผลตอบแทนทจ่ี ะไดร้ บั ดงั น้ี บริษทั แพรวาไทย จากดั หน่วย : บาท งบกาไรขาดทุน 480,000 300,000 ยอดขาย (10,000 x 48) 180,000 หกั ตน้ ทุนขาย (10,000 x 30) 50,000 กาไรขนั้ ตน้ 130,000 หกั ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร กาไรสทุ ธิ ดงั นนั้ ROI = 130,000 x 100 520,000 = 25% ตวั อย่างที่ 7-6 จากขอ้ มลู ตวั อย่างท่ี 7-2 ของบรษิ ทั แพรวาไทย จากดั สมมตถิ ้าบรษิ ทั ใชน้ โยบาย ในการกาหนดราคาโดยใช้อตั ราผลตอบแทนจากการลงทุนจากลกั ษณะของตน้ ทุนผนั แปรรวม ขณะท่มี เี งนิ ลงทุนและอตั ราผลตอบแทนเท่าเดมิ การคานวณหาอตั ราส่วนบวกเพม่ิ และราคา ผลติ ภณั ฑ์ สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี อตั ราส่วนบวกเพม่ิ = ผลตอบแทนจากการลงทนุ ตน้ ทนุ และคิาใชจ้ ายคงท่ี x 100 ปรมาณการผลตและขาย x ตน้ ทนุ ผนั แปรรวมตอหนิวย = 520,000 x 25% 90,000 x 100 10,000 x 26 = 220,000 x 100 260,000 = 84.62% บทท่ี 7
200 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ดงั นนั้ ราคาผลติ ภณั ฑ์ = ตน้ ทุนผนั แปรรวมต่อหน่วย + ส่วนบวกเพมิ่ = 26 + ( 26 x 84.62% ) = 26 + 22 = 48 บาท จากการคานวณขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ ว่า ถ้าบรษิ ทั ตอ้ งการอตั ราผลตอบแทนจากการ ลงทุน 25% จากตน้ ทนุ ผนั แปรรวม จะต้องกาหนดราคาผลติ ภณั ฑเ์ ท่ากบั 48 บาท แต่ทงั้ น้ีต้อง อย่ใู นเง่อื นไขของการผลติ และขายได้ทงั้ หมด 10,000 หน่วยตามท่วี างแผนไว้ จงึ จะทาใหไ้ ด้ กาไรเท่ากบั 130,000 บาท ซง่ึ คดิ เป็น 25% ของเงนิ ลงทุนจานวน 520,000 บาท ดงั แสดงไวใ้ น งบกาไรขาดทนุ เพอ่ื เป็นการพสิ จู น์ผลตอบแทนทจ่ี ะไดร้ บั ดงั น้ี บริษทั แพรวาไทย จากดั งบกาไรขาดทุน ยอดขาย (10,000 x 48) หน่วย : บาท หกั ตน้ ทนุ ผนั แปร (10,000 x 26) 480,000 กาไรสว่ นเกนิ 260,000 หกั ตน้ ทนุ คงท่ี 220,000 กาไรสทุ ธิ 90,000 130,000 ดงั นนั้ ROI = 130,000 x 100 520,000 = 25% การกาหนดราคาผลิตภณั ฑใ์ หม่ การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑใ์ หม่ (New Products Pricing) ปญั หาสาคญั ทม่ี กั จะเกดิ ข้นึ กับผลิตภณั ฑ์ใหม่ก็คือ ความไม่แน่นอน (Uncertainties) หลายๆ ด้านท่ีต้องยอมรบั ว่า จะต้องนามาพจิ ารณาในการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ใหม่ เช่น ต้นทุนของผลติ ภณั ฑ์ หรอื การ ยอมรบั ในตวั ผลติ ภณั ฑ์ และราคาของผลติ ภณั ฑถ์ า้ หากผลติ ภณั ฑม์ ลี กั ษณะแปลกใหม่ เป็นตน้ ดงั นัน้ เพ่อื ให้ความไม่แน่นอนในการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ให้เกิดขน้ึ น้อยทส่ี ุด กิจการควร ดาเนนิ การดงั น้ี บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 201 1. กิจการต้องทดสอบตลาดของผลิตภณั ฑ์ ซง่ึ จะทาใหไ้ ดข้ อ้ มลู ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การ แข่งขนั ปรมิ าณความต้องการในผลติ ภณั ฑ์ และราคาท่เี หมาะสมสาหรบั ความต้องการของ ผูบ้ รโิ ภค อาจทาเป็นลกั ษณะเชงิ วจิ ยั เพ่อื สารวจความต้องการของผูบ้ รโิ ภคก่อน แต่การทา ลกั ษณะน้ีอาจต้องใช้เวลาและเงนิ ลงทุนค่อนขา้ งสู เน่ืองจากต้องมกี ารสารวจให้ครอบคลุมทุก พน้ื ทเ่ี พ่อื จะไดข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ งตามเป็นจรงิ มากทส่ี ดุ 2. กิจการต้องเลือกกลยุทธใ์ นการกาหนดราคาของผลิตภณั ฑ์ ซง่ึ มแี นวทางใน การกาหนดกลยทุ ธไ์ ด้ 2 ลกั ษณะ คอื 2.1 กาหนดราคาใหส้ งู กว่าราคาปกติ เพ่อื ใหไ้ ดร้ ายได้จานวนมาก แต่มเี งอ่ื นไขว่า การกาหนดราคาในลกั ษณะน้สี นิ คา้ จะตอ้ งเด่น พเิ ศษกว่าค่แู ขง่ ขนั และเจาะตลาดลูกคา้ ระดบั สูง เทา่ นนั้ 2.2 การกาหนดราคาระดบั ต่ากว่าราคาปกติ การกาหนดราคาลกั ษณะน้ีกเ็ พ่อื ทจ่ี ะ ขายผลติ ภณั ฑใ์ หไ้ ดม้ ากในระยะแรกทผ่ี ลติ ภณั ฑอ์ อกสู่ตลาด เป็นการเจาะกลุ่มตลาดเป้าหมาย ในสภาวะการแขง่ ขนั ทร่ี นุ แรง 3. กิจการกาหนดเป้ าหมายต้นทนุ และการกาหนดราคาผลิตภณั ฑไ์ ว้ก่อน สาหรบั การกาหนดราคาของผลติ ภณั ฑใ์ หมล่ กั ษณะน้ี จะเกดิ ขน้ึ สาหรบั ผลติ ภณั ฑท์ ม่ี ี ลกั ษณะเดยี วกนั และมกี ารจาหน่ายอยแู่ ลว้ ในตลาด การกาหนดราคาจงึ ไม่ควรใหแ้ ตกต่างจาก ผลติ ภณั ฑท์ จ่ี าหน่ายอยแู่ ลว้ มากนกั ดงั นนั้ กจิ การจงึ ควรตงั้ เป้าหมายของต้นทุน (Target Cost) เพ่อื ใหร้ วู้ ่ากจิ การควรจะทาการผลติ สนิ คา้ โดยใหม้ ตี น้ ทุนเท่าไรเมอ่ื ตอ้ งการจาหน่ายตามราคา ทก่ี าหนดไว้ ทงั้ น้เี พ่อื ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนทค่ี ุม้ ค่ากบั การลงทนุ ตามทก่ี าหนดไว้ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจและชดั เจนมากยง่ิ ขน้ึ ในการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑใ์ หม่ เพ่อื ลดความไม่ แน่นอนในการยอมรบั ผลติ ภณั ฑ์ ในลกั ษณะการกาหนดเป้าหมายต้นทุนและการกาหนดราคา ผลติ ภณั ฑไ์ วก้ ่อน จงึ ขอยกตวั อยา่ งเพ่อื อธบิ ายและแสดงการคานวณ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 7-7 ดงั น้ี บทท่ี 7
202 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ตวั อย่างที่ 7-7 บรษิ ทั ดอกฝ้ายการค้า จากัด ได้ดาเนินการผลติ สนิ ค้าชนิดหน่ึงออกจาหน่ายโดย บรษิ ทั ไดว้ างแผนทจ่ี ะกาหนดราคาของสนิ คา้ ไวใ้ นราคาหน่วยละ 25 บาท รวมทงั้ คาดว่าจะผลติ และจาหน่ายไดป้ ีละ 20,000 หน่วย เงนิ ลงทนุ ทงั้ สน้ิ 600,000 บาท บรษิ ทั ต้องการผลตอบแทน จากการลงทุน (ROI) 20% นอกจากน้ียงั ไดป้ ระมาณว่าจะมคี ่าใช้จ่ายการขายและบรหิ ารปีละ ประมาณ 100,000 บาท การกาหนดเป้าหมายของต้นทุน (Target Cost) สามารถแสดงการ คานวณไดด้ งั น้ี หน่วย: บาท ยอดขายโดยประมาณ (20,000 x 25) 500,000 หกั ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร 100,000 ผลตอบแทนจากการลงทุน (600,000 x 20%) 120,000 220,000 เป้าหมายตน้ ทนุ การผลติ สนิ คา้ 20,000 หน่วย 280,000 เป้าหมายตน้ ทุนการผลติ ต่อหน่วย 14 ( 280,000 / 20,000) จากการคานวณขา้ งตน้ แสดงใหเ้ หน็ ว่า หากบรษิ ทั ต้องการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑไ์ ว้ เท่ากบั 20 บาท โดยตอ้ งการอตั ราผลตอบแทนจากการลงทุน 20% เป้าหมายของต้นทุนการ ผลติ จะเท่ากบั 14 บาท หรอื น้อยกว่าน้จี งึ จะเหมาะสม การกาหนดราคาตามใบสงั ่ ซื้อพิเศษ การกาหนดราคาสาหรบั ใบสงั่ ซ้ือพเิ ศษ (Special Orders Pricing) เป็นการกาหนด ราคาท่ไี ม่จาเป็นต้องเท่ากบั ราคาของผลิตภณั ฑ์ท่กี จิ การจาหน่ายตามปกติ อาจต่ากว่าราคา ปกตหิ รอื ต่ากวา่ ตน้ ทนุ เตม็ กไ็ ด้ เพราะการกาหนดราคาผลติ ตามวธิ นี ้ี จะคานวณจากตน้ ทุน ผนั แปรท่เี กิดข้นึ จากการยอมรบั ใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษเท่านัน้ แต่ทงั้ น้ีการตดั สนิ ใจยอมรบั ใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษจะตอ้ งพจิ ารณาก่อนว่ามผี ลกระทบกบั ยอดขายปกตขิ องบรษิ ทั หรอื ไม่ และยงั อยใู่ นกาลงั การผลติ ปกตทิ ว่ี างแผนไวไ้ ม เพราะการผลติ ภายใต้กาลงั การผลติ ทเ่ี หลอื อยจู่ ะไม่ทาใหต้ ้นทุน คงทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป รวมถงึ การพจิ ารณาถงึ ตน้ ทนุ สว่ นเพมิ่ วา่ มมี ากกวา่ รายไดส้ ว่ นเพมิ่ หรอื ไม่ สามารถคานวณไดจ้ ากสตู ร ดงั น้ี ราคาผลติ ภณั ฑ์ = ตน้ ทนุ ผนั แปรตามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ + ส่วนบวกเพมิ่ บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 203 เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ เกย่ี วกบั การกาหนดราคาตามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ จงึ ขอยกตวั อยา่ ง เพ่อื อธบิ ายและแสดงการคานวณประกอบ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 7-8 ดงั น้ี ตวั อย่างที่ 7-8 บรษิ ทั ยูดฟี ้าไทย จากดั มกี าลงั การผลิตปกติสูงสุดเท่ากบั 50,000 หน่วย ซ่งึ วางแผนการผลติ จรงิ ระหว่างงวดเท่ากบั 45,000 หน่วย ขณะท่บี รษิ ทั กาลงั พจิ ารณากาหนด ราคาตามใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษจานวน 4,000 หน่วย โดยการยอมรบั ใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษในครงั้ น้ีไม่มี ผลกระทบต่อยอดขายปกตขิ องบริษทั แต่อย่างใด ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มูลต้นทุนสาหรบั การผลติ ใน ระหว่างงวด ต้นทุนต่อหน่วย (บาท) วตั ถุดบิ ทางตรง 8 ค่าแรงงานทางตรง 6 คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 2 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 4 รวมตน้ ทนุ การผลติ 20 จากข้อมูลต้นทุนการผลติ ขา้ งต้น หากผู้บรหิ ารต้องการบวกส่วนเพมิ่ ในอตั รา 50% จากต้นทุนผนั แปรตามใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษ และสาหรบั การยอมรบั ใบสงั่ ซ้อื ครงั้ น้ีจะมีค่าใช้จ่ายการ ขายและบรหิ ารผนั แปรหน่วยละ 2 บาท สามารถแสดงการคานวณไดด้ งั น้ี ต้นทนุ ต่อหน่วย (บาท) วตั ถุดบิ ทางตรง 8 คา่ แรงงานทางตรง 6 คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 2 คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปร 2 รวมตน้ ทุนการยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ 18 หากผบู้ รหิ ารต้องการบวกส่วนเพม่ิ ในอตั รา 50% จากตน้ ทุนผนั แปร ราคาทค่ี วร กาหนดคานวณไดด้ งั น้ี ราคาผลติ ภณั ฑ์ = ตน้ ทนุ ผนั แปรตามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ + สว่ นบวกเพมิ่ = 18 + (18 x 50%) = 18 + 9 = 27 บทท่ี 7
204 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ดงั นัน้ จากการคานวณข้างต้น ผู้บรหิ ารควรกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ตามใบสงั่ ซ้ือ พเิ ศษในราคาหน่วยละ 27 บาท สรปุ การตดั สนิ ใจเก่ยี วกบั การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ เป็นการตดั สนิ ใจระยะสนั้ ทผ่ี บู้ รหิ าร ต้องให้ความสาคญั เป็นอย่างยง่ิ การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑม์ ี 3 วธิ คี อื วธิ กี ารกาหนดราคา ผลติ ภณั ฑม์ าตรฐาน ซง่ึ จาเป็นต้องทราบถงึ ลกั ษณะของต้นทุนทน่ี าไปใชเ้ ป็นเกณฑห์ รอื ฐานใน การคานวณก่อนแล้วจงึ กาหนดราคาโดยใช้ส่วนบวกเพมิ่ จากต้นทุน ใช้กาไรสูงสุดท่ตี ้องการ หรอื ใชอ้ ตั ราผลตอบแทนจากการลงทุน วธิ กี ารกาหนดราคาผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ทม่ี กั ประสบปญั หา ความไมแ่ น่นอนเกดิ ขน้ึ ดงั นนั้ จงึ ควรมกี ารทดสอบตลาดของผลติ ภณั ฑ์ เลอื กกลยุทธร์ าคาของ ผลติ ภณั ฑ์ หรอื กาหนดเป้าหมายต้นทุนและการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑไ์ ว้ก่อน เพ่อื ใหค้ วามไม่ แน่นอนเกดิ ขน้ึ น้อยทส่ี ุด และ วธิ กี ารกาหนดราคาตามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ จะตอ้ งกาหนดจากต้นทุน ผนั แปรท่เี กดิ ขน้ึ จากการรบั ใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษเท่านัน้ แต่ไม่ว่าจะเป็นการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ตามวธิ ใี ดกต็ าม เพอ่ื ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ ควรตอ้ งคานงึ ถงึ ปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการกาหนด ราคาผลติ ภณั ฑท์ ม่ี ที งั้ ปจั จยั ภายในและปจั จยั ภายนอกประกอบการพจิ ารณาดว้ ย บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 205 แบบฝึ กหดั ท้ายบท 1. ห้างหุ้นส่วนจากัด แสนดีการค้า เป็นบรษิ ัทท่ีดาเนินธุรกิจเก่ียวกบั การจาหน่ายสนิ ค้า อุปโภคและบรโิ ภคหลายชนิด โดยบรษิ ทั มนี โยบายทจ่ี ะกาหนดราคาสนิ คา้ แต่ละชนิด จากการ บวกส่วนบวกเพมิ่ (Markup) ในต้นทุนของสนิ คา้ ทซ่ี อ้ื มาตามอตั ราทแ่ี ตกต่างกนั ในแต่ละแผนก ดงั ต่อไปน้ี แผนกซุปเปอรม์ าเกต็ 10% แผนกเสอ้ื ผา้ สาเรจ็ รปู 80% แผนกเครอ่ื งเขยี น 25% แผนกเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า 20% ในระหว่างวนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 บรษิ ทั ไดท้ าการสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ เพ่อื มาจาหน่าย หลายชนิด โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี ชนิ ดของสินค้า จานวนหน่วย จานวนเงิน เครอ่ื งทาน้าอุ่น 50 เครอ่ื ง 100,000 บาท ปากกา 500 ดา้ ม 1,500 บาท เสอ้ื สทู แฟชนั่ 200 ตวั 40,000 บาท ยาสฟี นั 50 หลอด 2,000 บาท ให้ทา กาหนดราคาผลติ ภณั ฑข์ องสนิ คา้ แต่ละชนดิ 2. ต่อไปน้เี ป็นขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตน้ ทนุ ของบรษิ ทั บางระจนั การผลติ จากดั ซง่ึ ประกอบดว้ ย ตน้ ทุนการผลติ ผนั แปร 140 บาท/หน่วย ตน้ ทนุ การผลติ คงท่ี 60 บาท/หน่วย คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปร 20 บาท/หน่วย ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงท่ี 40 บาท/หน่วย บทท่ี 7
206 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ โดยบรษิ ทั มนี โยบายท่จี ะขายสนิ คา้ ในราคา 300 บาทต่อหน่วย ดงั นัน้ ผู้บรหิ ารของ บรษิ ทั จงึ ตอ้ งการทจ่ี ะทราบถงึ จานวนอตั ราส่วนบวกเพม่ิ ทจ่ี ะบวกเขา้ ไปกบั ตน้ ทุน เพ่อื กาหนด เป็นราคาผลติ ภณั ฑอ์ อกมา ถา้ ในกรณที บ่ี รษิ ทั ใชเ้ กณฑก์ ารคานวณตน้ ทุนแตกต่างกนั ให้ทา คานวณอตั ราสว่ นบวกเพมิ่ ในกรณที บ่ี รษิ ทั ใชเ้ กณฑก์ ารคานวณตน้ ทุนลกั ษณะต่างๆ ดงั น้ี 1. ตน้ ทนุ เตม็ 2. ตน้ ทุนผนั แปร 3. ตน้ ทุนผนั แปรรวม 4. ตน้ ทุนรวม 3. ผู้บรหิ ารของแห่งหน่ึง กาลงั พจิ ารณาท่จี ะกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ของบรษิ ัท ซ่งึ ข้อมูล เกย่ี วกบั ตน้ ทนุ การผลติ และค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร มดี งั น้ี วตั ถุดบิ ทางตรง ต่อหน่วย (บาท) ต้นทนุ รวม (บาท) ค่าแรงงานทางตรง 20 40 150,000 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 10 300,000 ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงท่ี 5 คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงท่ี คา่ ใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารผนั แปร บรษิ ทั ได้ประมาณว่าในปีน้ีจะทาการผลติ และจาหน่าย 10,000 หน่วย ผู้บรหิ ารได้ กาหนดนโยบายในการตงั้ ราคาผลติ ภณั ฑ์ของผลติ ภณั ฑ์ โดยจะบวกส่วนบวกเพม่ิ ในอตั รา 60% จากลกั ษณะตน้ ทนุ เตม็ ให้ทา 1. คานวณตน้ ทนุ ต่อหน่วยตามลกั ษณะตน้ ทนุ เตม็ ตน้ ทุนผนั แปร ตน้ ทุนผนั แปรรวม และตน้ ทุนรวม 2. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑต์ ามนโยบายขา้ งตน้ บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 207 4. (จากขอ้ มลู ขอ้ 3.) ถา้ บรษิ ทั ฯ ใชน้ โยบายการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑโ์ ดยมคี วามต้องการ กาไร จานวน 600,000 บาท จากต้นทุนผนั แปรรวม ราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วยของผลติ ภณั ฑท์ ่ี บรษิ ทั ตอ้ งกาหนดคอื เทา่ ใด 5. รา้ นยดู คี ารแ์ คร์ เป็นกจิ การทใ่ี หบ้ รกิ ารลา้ งอดั ฉีดรถยนต์ โดยกจิ การตอ้ งการกาหนด อตั ราค่าบรกิ ารต่อ 1 คนั ซง่ึ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั คา่ ใชจ้ า่ ยในแต่ละเดอื น มดี งั น้ี เงนิ เดอื นผจู้ ดั การ 12,000 บาท เงนิ เดอื นพนกั งาน 9,000 บาท ค่าวสั ดสุ น้ิ เปลอื ง 2,000 บาท คา่ สาธารณูปโภค 1,500 บาท คา่ เช่ารา้ น 3,500 บาท 28,000 บาท รวม ถ้ากิจการต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน (กาไร) เดือนละ 17,000 บาท และ คาดการณ์จานวนรถยนตท์ จ่ี ะเขา้ มาใชบ้ รกิ ารเท่ากบั 300 คนั ให้ทา 1. กาหนดอตั ราค่าบรกิ ารลา้ งอดั ฉีดต่อคนั 2. ถา้ กจิ การเพม่ิ จานวนพนกั งานอกี 1 คน ซง่ึ จะตอ้ งจา่ ยเงนิ เดอื นให้ จานวน 6,000 บาท และกจิ การสามารถใหบ้ รกิ ารเพมิ่ ขน้ึ เป็น 500 คนั ต่อเดอื น อยากทราบว่าอตั ราค่าบรกิ ารต่อคนั จะเป็นเทา่ ใด เมอ่ื กาไรทต่ี อ้ งการยงั เทา่ เดมิ 6. ธุรกจิ บรกิ ารแห่งหน่ึง ดาเนินกจิ การให้เช่าห้องพกั รายเดอื น มคี วามต้องการกาไรเดอื นละ 40,000 บาท และคาดการณ์วา่ จะมคี นมาเช่าจานวน 20 หอ้ ง ขอ้ มลู เกย่ี วกบั คา่ ใชจ้ า่ ยในแต่ละ เดอื น มดี งั น้ี ค่าสาธารณูปโภค 20,000 บาท ค่าวสั ดุสน้ิ เปลอื ง 12,000 บาท คา่ เบย้ี ประกนั ภยั 4,000 บาท เงนิ เดอื นพนกั งาน 30,000 บาท คา่ รบั รอง 6,000 บาท 72,000 บาท รวม บทท่ี 7
208 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ให้ทา คานวณอตั ราค่าเช่าต่อหอ้ งทก่ี จิ การควรกาหนดเพอ่ื ใหไ้ ดก้ าไรตามตอ้ งการ 7. บรษิ ทั แห่งหน่งึ กาลงั พจิ ารณาในการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑช์ นดิ ใหม่ ซง่ึ บรษิ ทั มนี โยบาย ทจ่ี ะกาหนดราคาผลติ ภณั ฑใ์ หมน่ ้ี โดยใชอ้ ตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ จากตน้ ทุนเตม็ ซง่ึ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั เงนิ ลงทุน ตน้ ทนุ และอตั ราผลตอบแทนทต่ี อ้ งการจากการลงทนุ มดี งั น้ี เงนิ ลงทนุ 800,000 บาท 20% อตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ ทต่ี อ้ งการ ตน้ ทุนการผลติ ต่อหน่วย: 200 บาท 50 บาท ผนั แปร คงท่ี 10 บาท 100,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ าร: ผนั แปรต่อหน่วย 5,000 หน่วย คงทร่ี วม จานวนหน่วยทค่ี าดว่าจะผลติ ได้ ให้ทา 1. คานวณหาตน้ ทุนเตม็ ต่อหน่วย 2. คานวณหาอตั ราสว่ นบวกเพมิ่ เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนจากการลงทนุ ตามทต่ี อ้ งการ 3. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วยตามอตั ราสว่ นบวกเพมิ่ ทค่ี านวณไดใ้ นขอ้ 2 4. งบกาไรขาดทนุ ตามวธิ ตี น้ ทนุ เตม็ 8. บรษิ ทั ทรพั ยท์ วกี ารคา้ จากดั กาลงั พจิ ารณาทจ่ี ะนาผลติ ภณั ฑใ์ หม่ชนิดหน่ึงออกจาหน่าย บรษิ ทั มนี โยบายทจ่ี ะกาหนดราคาผลติ ภณั ฑใ์ หม่น้ี โดยใชอ้ ตั ราผลตอบแทนจากการลงทุนจาก ต้นทุนผนั แปรรวม ซง่ึ ขอ้ มูลเก่ยี วกบั เงนิ ลงทุน ต้นทุน และอตั ราผลตอบแทนท่ตี ้องการจาก การลงทุน มดี งั น้ี เงนิ ลงทนุ 2,000,000 บาท อตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ ทต่ี อ้ งการ 15% ตน้ ทนุ การผลติ ผนั แปรรวมต่อหน่วย 100 บาท บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 209 ตน้ ทนุ การผลติ คงทร่ี วม 200,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปรต่อหน่วย 20 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงท่ี จานวนหน่วยทค่ี าดวา่ จะผลติ ได้ 40,000 บาท 10,000 หน่วย ให้ทา 1. คานวณหาตน้ ทนุ ผนั แปรรวมต่อหน่วย 2. คานวณหาอตั ราสว่ นบวกเพมิ่ เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนจากการลงทุนตามทต่ี อ้ งการ 3. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑต์ ่อหน่วยตามอตั ราส่วนบวกเพมิ่ ทค่ี านวณไดใ้ นขอ้ 2 4. งบกาไรขาดทุนตามวธิ ตี น้ ทุนผนั แปรรวม 9. บรษิ ทั ตะวนั ทอแสง จากดั กาลงั พจิ ารณาเก่ยี วกบั การกาหนดราคาของผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ชนิดหน่ึง โดยใช้ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นเกณฑ์ ซง่ึ มขี อ้ มูลเก่ยี วกบั ต้นทุนดงั ต่อไปน้ี (กาลงั การผลติ 10,000 หน่วยต่อปี) วตั ถุดบิ ทางตรง ต้นทนุ ต่อหน่วย ต้นทุนรวม (บาท) (บาท) ค่าแรงงานทางตรง 10.00 คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปร 3.50 50,000 2.00 40,000 ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 5.00 คา่ ใชจ้ ่ายในการขายผนั แปร 1.50 4.00 ค่าใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารคงท่ี บรษิ ทั ไดป้ ระมาณเงนิ ลงทุนทจ่ี ะใชส้ าหรบั การผลติ ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ดงั ต่อไปน้คี อื สาหรบั เงนิ ทนุ หมนุ เวยี น 150,000 บาท สาหรบั เครอ่ื งจกั รและอุปกรณ์ 300,000 บาท รวม 450,000 บาท บทท่ี 7
210 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ ให้ทา 1. คานวณตน้ ทุนต่อหน่วยตามลกั ษณะตน้ ทนุ เตม็ ตน้ ทนุ ผนั แปร ตน้ ทุนผนั แปรรวม และตน้ ทุนรวม 2. สมมตวิ า่ บรษิ ทั ใชว้ ธิ ตี น้ ทุนเตม็ ในการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑต์ ามนโยบาย ก. คานวณหาอตั ราสว่ นบวกเพมิ่ ทจ่ี ะทาใหบ้ รษิ ทั มผี ลตอบแทนเทา่ กบั 15% ข. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑ์ โดยใชอ้ ตั ราสว่ นบวกเพม่ิ ตามทค่ี านวณไดใ้ น ขอ้ (ก) ค. พสิ จู น์อตั ราผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั 3. สมมตวิ ่าบรษิ ทั ใชว้ ธิ ตี น้ ทุนผนั แปรรวม ในการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑต์ ามนโยบาย ก. คานวณหาอตั ราสว่ นบวกเพม่ิ ทจ่ี ะทาใหบ้ รษิ ทั มผี ลตอบแทนเทา่ กบั 20% ข. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑ์ โดยใชอ้ ตั ราสว่ นบวกเพมิ่ ตามทค่ี านวณไดใ้ น ขอ้ (ก) ค. พสิ จู น์อตั ราผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั 10. บรษิ ทั แสนรกั จากดั กาลงั พจิ ารณาเกย่ี วกบั การกาหนดราคาสนิ คา้ ชนิดหน่ึง ซง่ึ มขี อ้ มลู ทเ่ี กย่ี วกบั ตน้ ทนุ ดงั ต่อไปน้ี ระดบั การผลติ 50,000 หน่วย ตน้ ทุนรวมทงั้ สน้ิ :- 400,000 บาท วตั ถุดบิ ทางตรง 250,000 บาท 150,000 บาท คา่ แรงงานทางตรง 200,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 300,000 บาท 100,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี ค่าใชจ้ า่ ยในการขายผนั แปร ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารคงท่ี เงนิ ลงทุนท่ีบรษิ ัทได้ประมาณไว้สาหรบั การผลิตและจาหน่ายผลิตภัณฑ์ชนิดน้ีคือ 500,000 บาท และตอ้ งการอตั ราผลตอบแทนจากการลงทนุ 20% ให้ทา 1. คานวณตน้ ทุนต่อหน่วยทงั้ 4 ลกั ษณะ บทท่ี 7
การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 211 2. ถา้ กจิ การใชว้ ธิ คี ดิ ตน้ ทุนเตม็ ก. คานวณหาอตั ราส่วนบวกเพม่ิ ข. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑท์ ค่ี วรจะกาหนด ค. พสิ จู น์อตั ราผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั 3. ถา้ กจิ การใชว้ ธิ กี ารคดิ ตน้ ทนุ ผนั แปรรวม ก คานวณหาอตั ราส่วนบวกเพมิ่ ข. คานวณหาราคาผลติ ภณั ฑท์ ค่ี วรจะกา ค. พสิ จู น์อตั ราผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั 11. บรษิ ทั เกรยี งไกรการช่าง จากดั ประกอบธุรกจิ ผลติ อะไหล่รถยนตช์ นิดหน่ึง ซง่ึ จากการ สารวจตลาดปรากฏว่าตอ้ งขายในราคาชน้ิ ละ 600 บาท ณ ระดบั การวางแผนการผลติ และขาย จานวน 10,000 ชน้ิ ต่อปี จานวนเงนิ ทน่ี ามาลงทุนทงั้ สน้ิ เท่ากบั 2,500,000 บาท ขณะทต่ี อ้ งการ กาไรจากการลงทุน 1,000,000 บาท และบรษิ ทั ฯ ประมาณค่าใชจ้ ่ายการขายและบรหิ ารไว้ เท่ากบั 480,000 บาท ให้ทา คานวณเป้าหมายของตน้ ทุน (Target Cost) 12. บรษิ ทั ก้องเกยี รตกิ ารคา้ จากดั เป็นบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจาหน่ายสนิ คา้ ชนิดหน่ึง โดยมี นโยบายบวกส่วนเพม่ิ ในอตั รา 40% จากต้นทุนผนั แปรตามใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษ ขอ้ มลู ตน้ ทุนการ ผลติ รวมทเ่ี กดิ ขน้ึ สาหรบั ปีมดี งั น้ี (ณ ระดบั การผลติ ปกติ 10,000 หน่วย) วตั ถุดบิ ทางตรง 240,000 บาท คา่ แรงงานทางตรง 320,000 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 140,000 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 200,000 บาท ขณะน้ีบรษิ ัทมใี บสงั่ ซ้อื พเิ ศษจากบุคคลภายนอกจานวน 1,500 หน่วย โดยการ ยอมรบั ใบสงั่ ซ้อื น้ีไม่กระทบกบั ยอดขายปกติของบรษิ ทั และไม่เกนิ กาลงั การผลติ ท่เี หลอื อยู่ ดงั นนั้ บรษิ ทั จงึ มนี โยบายในกาหนดราคาผลติ ภณั ฑต์ ามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ ให้ทา คานวณราคาผลติ ภณั ฑต์ ามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ บทท่ี 7
212 การกาหนดราคาผลติ ภณั ฑ์ 13. บรษิ ทั วง่ิ ทน จากดั เป็นบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจาหน่ายรองเทา้ ยห่ี อ้ หน่ึง โดยมนี โยบายบวก ส่วนบวกเพม่ิ ในอตั รา 25% จากตน้ ทุนผนั แปรตามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ ในตน้ เดอื นทผ่ี ่านมา ไดม้ บี รษิ ทั ภายนอกมาสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ พเิ ศษกบั ทางบรษิ ทั จานวน 1,000 เคร่อื ง ซง่ึ ยงั อยใู่ นการกาลงั การผลติ ทว่ี างแผนไว้ และไม่มผี ลกระทบกบั ยอดขายปกติ ของบรษิ ทั ดงั นัน้ บรษิ ทั จงึ มอบหมายใหผ้ จู้ ดั การฝ่ายโรงงานทาการคานวณต้นทุนผนั แปรเพ่อื จะไดก้ าหนดราคาผลติ ภณั ฑต์ ามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ ทงั้ น้ีการรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจากบรษิ ทั ภายนอก จะตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ยการขายและบรหิ ารผนั แปรอกี ค่ลู ะ 2 บาท ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตน้ ทนุ การผลติ ต่อหน่วย: 100 บาท วตั ถุดบิ ทางตรง 80 บาท คา่ แรงงานทางตรง 20 บาท คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ผนั แปร 60 บาท ค่าใชจ้ ่ายการผลติ คงท่ี ให้ทา คานวณราคาผลติ ภณั ฑต์ ามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ 14. บรษิ ทั อาพโิ กอ้ ุตสาหกรรม จากดั กาลงั พจิ ารณาการกาหนดราคาผลติ ภณั ฑข์ องสนิ คา้ ชนิดหน่ึง โดยมคี วามต้องการบวกส่วนเพมิ่ ในอตั รา 20% จากตน้ ทุนตามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ ขอ้ มลู ตน้ ทนุ การผลติ ต่อหน่วย มดี งั น้ี (ณ ระดบั การผลติ ปกติ 2,000 หน่วย) วตั ถุดบิ ทางตรง 35 บาท คา่ แรงงานทางตรง 24 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ผนั แปร 8 บาท ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ คงท่ี 15 บาท ในงวดปจั จุบนั ได้มคี าสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจากภายนอกมาจานวน 200 ชน้ิ โดยการยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื น้ีจะมผี ลทาใหต้ ้องเสยี ต้นทุนวตั ถุดบิ ทางตรงและค่าแรงงานทางตรงเพิ่มขน้ึ ในอตั รา 10% แต่ไมก่ ระทบกบั ยอดขายปกตขิ องบรษิ ทั และไมเ่ กนิ กาลงั การผลติ ทเ่ี หลอื อยู่ ให้ทา คานวณราคาผลติ ภณั ฑต์ ามใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ บทท่ี 7
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพอ่ื การตดั สนิ ใจ 213 บทท่ี 8 การใช้ข้อมลู ต้นทนุ เพื่อการตดั สินใจ ธุรกจิ จะดำเนินงำนได้อยำ่ งต่อเน่ืองและประสบผลสำเรจ็ ได้นัน้ อำจประสบกบั ปญั หำ และอุปสรรคต่ำงๆ มำกมำย ซง่ึ ปญั หำเกดิ ขน้ึ จะต้องไดร้ บั กำรแก้ไขและใชก้ ำรตดั สนิ ใจเพ่อื ให้ ได้ทำงเลอื กทด่ี ที ส่ี ุดกบั กจิ กำร ผูบ้ รหิ ำรในฐำนะท่มี หี น้ำท่ใี นกำรตดั สนิ ใจเม่อื กจิ กำรเผชญิ กบั ปญั หำกย็ อ่ มมหี น้ำท่ตี อ้ งแกไ้ ขปญั หำดงั กล่ำว ดงั นัน้ ผูบ้ รหิ ำรจงึ จำเป็นตอ้ งศกึ ษำและทำควำม เข้ำใจกบั กระบวนกำรตดั สนิ ใจ รูปแบบของกำรวเิ ครำะห์ทำงเลอื กเพ่อื กำรตดั สนิ ใจตลอดจน ข้อมูลทำงด้ำนบัญชีท่ีเก่ียวข้องกับปญั หำ ซ่ึงถือเป็นข้อมูลท่ีสำคัญในกำรนำไปพิจำรณำ ประกอบเพอ่ื กำรตดั สนิ ใจ โดยขอ้ มลู ทน่ี ำเสนอจะตอ้ งมคี วำมถกู ต้อง ครบถว้ น ใหป้ ระโยชน์และ รวดเรว็ ทนั ต่อกำรตดั สนิ ใจ ซง่ึ ในบทน้ีจะกล่ำวถงึ ปญั หำท่เี กิดข้นึ เพยี งระยะสนั้ เท่ำนัน้ ไดแ้ ก่ การตดั สินใจยอมรบั ใบสงั่ ซ้ือพิเศษ การตัดสนิ ใจผลิตเองหรอื ซ้ือจากบุคคลภายนอก การ ตดั สินใจยกเลิกการผลติ หรอื จาหน่ายผลิตภณั ฑ์บางชนิด การตัดสนิ ใจกาหนดสดั ส่วนของ ผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร กรณที ่มี ปี จั จยั การผลติ อย่อู ยา่ งจากดั การตดั สนิ ใจจาหน่ายหรอื ผลติ ต่อ ของผลติ ภณั ฑร์ ว่ ม และการตดั สนิ ใจปิดโรงงานชวั่ คราว ลกั ษณะข้อมลู ต้นทนุ เพ่ือการตดั สินใจ ลกั ษณะขอ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ สามารถจาแนกไดห้ ลายลกั ษณะขน้ึ อย่กู บั ความ ต้องการใช้ ซง่ึ จากการจาแนกต้นทุนตามการวเิ คราะห์ปญั หาเพ่อื ตดั สนิ ใจท่กี ล่ำวไว้ในบทท่ี 1 สำมำรถนำมำจำแนกตำมลกั ษณะขอ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื กำรตดั สนิ ใจได้ 2 ส่วน ดงั น้ี 1. ต้นทนุ ที่เก่ียวข้องกบั การตดั สินใจ (Relevant Cost Decision) ตน้ ทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจ หมำยถงึ ตน้ ทุนทแ่ี ตกต่ำงอำจเพมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลง ในระหว่ำงทำงเลอื กทม่ี กี ำรตดั สนิ ใจ นิยมเรยี กวำ่ “ตน้ ทุนส่วนเพม่ิ (ลดลง)” ต้นทุนส่วนใหญ่จะ เป็นพฤตกิ รรมแบบผนั แปรได้ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของ กชกร เฉลมิ กำญจนำ (2557 : 244) ได้ ใหค้ วำมหมำยไวว้ ำ่ ตน้ ทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หมำยถงึ ตน้ ทนุ ทม่ี คี วำมสมั พนั ธแ์ ละเกย่ี วขอ้ งกบั ปญั หำ ท่ฝี ่ำยบรหิ ำรกำลงั พจิ ำรณำเพ่อื กำรตดั สนิ ใจ ต้นทุนท่เี ก่ียวขอ้ งจะต่ำงกนั ไปตำมปญั หำท่จี ะ ตดั สนิ ใจและบุคคลทท่ี ำกำรตดั สนิ ใจ ซ่ึงจะมลี กั ษณะสำคญั คอื เป็นตน้ ทุนทค่ี ำดว่ำจะเกดิ ขน้ึ ใน อนำคต และเป็นตน้ ทนุ ส่วนทแ่ี ตกต่ำงกนั ระหว่ำงทำงเลอื กต่ำงๆ แบ่งไดเ้ ป็น 4 ประเภท ดงั น้ี บทท่ี 8
214 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 1.1 ต้นทุนที่ควบคมุ ได้ (Controllable Costs) หมายถงึ ตน้ ทุนทอ่ี ย่ใู นอานาจ การควบคุมของหน่วยงานหรอื บุคคลนัน้ ๆ โดยตรง เช่น เงนิ เดอื นพนักงานฝ่ายผลติ ย่อมถือ เป็นต้นทุนท่ีควบคุมได้สาหรบั ผู้จดั การฝ่ายผลิต เพราะผู้จดั การสามารถท่ีจะเพ่ิมหรือลด เงนิ เดอื นของพนกั งานได้ 1.2 ต้นทุนส่วนต่าง (Differential Costs) หมายถงึ ตน้ ทุนทแ่ี ตกต่างกนั ในแต่ ละทางเลอื ก ซง่ึ การประมาณต้นทุนส่วนต่างอาจวเิ คราะห์เป็นตน้ ทุนต่อหน่วย หรอื เป็นต้นทุน รวมกไ็ ด้ เช่น ต้นทุนการผลติ เองต่างจากตน้ ทุนของการซอ้ื จากภายนอกจานวน 10,000 บาท หรอื คดิ เป็นตน้ ทุนต่อหน่วยจานวน 2 บาท 1.3 ต้นทุนท่ีหลีกเล่ียงได้ (Avoidable Costs) หมายถงึ ตน้ ทุนทก่ี จิ การสามารถ ประหยดั ไดถ้ ้าลดกจิ กรรมลงหรอื ไมเ่ ลอื กทางเลอื กนนั้ โดยทวั่ ไปจะเป็นต้นทุนผนั แปร เช่น ถ้า ไม่ผลติ สนิ ค้าเอง ต้นทุนวตั ถุดบิ ทางตรง ต้นทุนค่าแรงงานทางตรง และต้นทุนค่าใช้จ่ายการ ผลติ สว่ นทผ่ี นั แปรจะเป็นตน้ ทุนทห่ี ลกี เลย่ี งได้ 1.4 ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Costs) หมายถงึ ผลประโยชน์หรอื ผลตอบแทนทก่ี จิ การจะไดร้ บั จากการตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กหน่ึง แต่กลบั ต้องสูญเสยี โอกาสไป จากตดั สนิ ใจเลอื กอกี ทางเลอื กหน่งึ โดยปกตติ น้ ทุนเสยี โอกาส จะไม่มกี ารบนั ทกึ ลงในบญั ชขี อง กจิ การ เน่อื งจากไมไ่ ดเ้ ป็นตน้ ทุนทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ หรอื จา่ ยเงนิ ไปจรงิ 2. ต้นทุนท่ีไม่เกี่ยวข้องกบั การตดั สินใจ (Irrelevant Cost Decision) ตน้ ทุนทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจ หมายถงึ ตน้ ทุนและรายไดท้ ไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจในระหว่างทางเลือกใดทางเลอื กหน่ึง นิยมเรยี กว่า “ต้นทุนท่หี ลกี เล่ยี งไม่ได้” สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของ ศรสี ุดา อาชวานันทกุล (2557 : 8-5) ไดใ้ หค้ วามหมายไวว้ ่า ต้นทุน ทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจ หมายถงึ ตน้ ทุนทไ่ี มแ่ ตกต่างกนั ระหว่างทางเลอื กไม่ว่าผบู้ รหิ าร จะตดั สนิ ใจอยา่ งไรกต็ าม ในการตดั สนิ ใจจงึ ไม่ต้องนามาต้นทุนเหล่าน้ีมาพจิ ารณา แบ่งไดเ้ ป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 2.1 ต้นทุนจม (Sunk Costs) หมายถงึ ตน้ ทุนทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว้ จากการตดั สนิ ใจใน อดีต ซ่ึงไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจในปจั จุบัน เพราะไม่มคี วามแตกต่างกันในแต่ละ ทางเลอื ก เช่น ค่าเส่อื มราคาทต่ี ้องคดิ ใหส้ าหรบั สนิ ทรพั ยท์ ่มี อี ายุการใชง้ านเกนิ 1 ปี ตงั้ แต่ บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ 215 รบั เขา้ มาในกจิ การ ค่าเช่าท่ตี ้องจ่ายตามสญั ญาเช่าระยะยาว ต้นทุนการผลติ สนิ คา้ ท่เี กดิ แล้ว ถงึ แมส้ นิ คา้ ดงั กล่าวจะขายไมไ่ ดก้ ต็ าม 2.2 ต้นทนุ หลีกเลี่ยงไม่ได้ (Non-avoidable Costs) หมายถงึ ตน้ ทนุ ทก่ี จิ การ ไม่สามารถประหยดั ได้ ถงึ แมจ้ ะลดกจิ กรรมลงหรอื จะไม่เลอื กทางเลอื กนัน้ ซง่ึ จะมจี านวนเท่า เดมิ และไมแ่ ตกต่างกนั ในแต่ละทางเลอื ก มกั เป็นตน้ ทุนคง ท่ี เช่น ถึงแม้กิจการจะตัดสินใจซ้ือ สนิ คา้ จากบคุ คลภายนอก แต่ตอ้ งรบั ภาระในค่าใชจ้ า่ ยการผลติ สว่ นทเ่ี ป็นคงทเ่ี หมอื นเดมิ เพราะ ถอื ว่าเป็นตน้ ทุนทห่ี ลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ 2.3 ต้นทนุ ท่ีควบคมุ ไม่ได้ (Non-controllable Costs) หมายถงึ ตน้ ทุนทไ่ี ม่อยู่ ในอานาจการควบคุมของหน่วยงานหรอื บุคคลนนั้ ๆ โดยตรง ซง่ึ ไม่สามารถท่จี ะเพมิ่ หรอื ลดได้ ตามความตอ้ งการหากไมไ่ ดเ้ กย่ี วขอ้ งกบั ผทู้ ร่ี บั ผดิ ชอบ เช่น เงนิ เดอื นผจู้ ดั การฝา่ ยผลติ ถอื เป็น ตน้ ทนุ ทค่ี วบคมุ ไมไ่ ดข้ องผจู้ ดั การฝา่ ยผลติ เพราะผจู้ ดั การไมส่ ามารถเพม่ิ หรอื ลดเงนิ เดอื นของ ตนเองได้ จากลกั ษณะข้อมูลต้นทุนเพ่อื กำรตดั สนิ ใจตำมท่อี ธบิ ำยข้ำงต้น สำมำรถนำมำสรุป ควำมเกย่ี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจ ดงั แสดงในภำพท่ี 8-1 ดงั น้ี ลกั ษณะ ขอ้ มลู ตน้ ทุน ตน้ ทนุ ท่ี ตน้ ทุนทไ่ี ม่ เกย่ี วขอ้ งกบั เกย่ี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจ กำรตดั สนิ ใจ ตน้ ทุนท่ี ตน้ ทนุ ส่วน ตน้ ทุนท่ี ตน้ ทนุ คำ่ เสยี ตน้ ทุนจม ตน้ ทุนท่ี ตน้ ทุนท่ี ควบคมุ ได้ ต่ำง หลกี เลย่ี ง ควบคมุ ไมไ่ ด้ หลกี เลย่ี งได้ โอกำส ไมไ่ ด้ ภาพท่ี 8-1 ลกั ษณะขอ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื กำรตดั สนิ ใจ บทท่ี 8
216 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ กระบวนการตดั สินใจเพื่อการบริหาร กำรดำเนินงำนธุรกจิ เม่อื ประสบกบั ปญั หำไม่ว่ำจะเป็นปญั หำระยะสนั้ หรอื ระยะยำว ยอ่ มตอ้ งหำแนวทำงเพ่อื แก้ไขปญั หำดงั กล่ำว ทงั้ น้ีเพ่อื ประโยชน์สงู สุดและใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ ำพ ในกำรแก้ไขปญั หำท่ีเกิดข้ึน จึงจำเป็นต้องศึกษำถึงกระบวนกำรตัดสินใจเพ่ือกำรบริหำร สำมำรถแบ่งออกเป็น 5 ขนั้ ตอน ดงั น้ี 1. การค้นหาปัญหา (Defining the Problem) ขนั้ ตอนแรกของกระบวนการตดั สนิ ใจในแกไ้ ขปญั หากค็ อื กจิ การจะต้องคน้ หาปญั หา ท่แี ท้จรงิ เสยี ก่อนว่าปญั หาหรอื ความยุ่งยากท่เี กิดข้นึ นัน้ คืออะไร เพราะถ้าเรารู้จกั ปญั หาท่ี แทจ้ รงิ แลว้ กจ็ ะทาใหเ้ ราแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม เช่น การขายสนิ คา้ ไดน้ ้อยลง ส่งผลให้บรษิ ทั มกี าไรลดลง ต้นทุนการผลติ เพมิ่ ขน้ึ เพราะเคร่อื งจกั รเส่อื มสภาพ แรงงานขาด ทกั ษะในการทางาน เป็นตน้ 2. การกาหนดทางเลือกในการแก้ไขปัญหา (Identifying Alternatives เมอ่ื คน้ พบปญั หาทแ่ี ทจ้ รงิ แลว้ ขนั้ ตอนต่อไปคอื การกาหนดแนวทางเลอื กทจ่ี ะใชใ้ น การแกป้ ญั หาเพราะปญั หาต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ อาจมที างเลอื กหรอื วธิ กี ารแกไ้ ขไดห้ ลายวธิ มี กั จะต้อง มที างเลอื กตงั้ แต่ 2 ทางเลอื กขน้ึ ไป เช่น เม่อื เกดิ ต้นทุนการผลติ เพม่ิ ขน้ึ ทางเลอื กท่ี 2 เพม่ิ ทกั ษะใหพ้ นกั งาน ทางเลอื กท่ี 2 ซอ่ มบารงุ เครอ่ื งจกั ร 3. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ที่เก่ียวข้องกบั การตดั สินใจ (Accumulating Relevant Information) หลงั จากท่ไี ด้กาหนดทางเลอื กในการแก้ไขปญั หาแล้วขนั้ ตอนต่อไปก็คือ การเก็บ รวบรวมขอ้ มูลทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การตดั สินใจในแต่ละทางเลอื ก ซ่งึ ขอ้ มลู ทเ่ี ก็บรวบรวมมาจะต้อง เป็นขอ้ มลู ทม่ี คี วามน่าเช่อื ถอื ได้จากหลกั ฐานอนั เทย่ี งธรรม 4. การวิเคราะหแ์ ละเปรยี บเทียบในแต่ละทางเลือก (Analysis and Comparison of Alternatives) การวเิ คราะหแ์ ละเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ในแต่ละทางเลอื ก เป็นขนั้ ตอนทผ่ี วู้ เิ คราะห์จะต้อง มคี วามเขา้ ใจในเทคนิคหรอื วธิ กี ารต่างๆ ทจ่ี ะนามาใชใ้ นการวเิ คราะหอ์ ย่างเพยี งพอ เพ่อื มใิ ห้ การตดั สนิ ใจเกดิ ความผดิ พลาด ภายใตร้ ปู แบบของการวเิ คราะหท์ แ่ี ตกต่างกนั เช่น รปู แบบของ ตน้ ทนุ รวม รปู แบบต้นทุนส่วนต่าง รปู แบบตน้ ทุนเสยี โอกาส เป็นต้น หลงั จากนนั้ เมอ่ื ไดท้ าการ บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 217 วเิ คราะห์ข้อมูลในแต่ละทางเลอื กแล้วก็จะนาผลการวิเคราะห์ของแต่ละทางเลือกมาทาการ เปรยี บเทยี บถงึ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ จากตดั สนิ ใจในการเลอื กทางเลอื กนนั้ 5. การตดั สินใจ (Making the decision) การตดั สนิ ใจเป็นขนั้ ตอนสุดท้ายของกระบวนการตัดสนิ ใจเพ่อื การบรหิ าร ซ่งึ การ ตดั สนิ ใจน้จี ะใหป้ ระโยชน์สงู สดุ แก่กจิ การหรอื ไม่กข็ น้ึ อย่กู บั ประสทิ ธภิ าพของการใชก้ ระบวนการ ตดั สนิ ใจทงั้ 4 ขนั้ ตอนทก่ี ล่าวมา โดยดจู ากผลทป่ี ระเมนิ ไดข้ องแต่ละทางเลอื กแลว้ ตดั สนิ ใจเลอื ก ทางเลอื กทด่ี ที ส่ี ุด ซง่ึ ถา้ เป็นกาไรกต็ อ้ งเป็นกาไรสูงสุดหรอื ถ้ามผี ลขาดทุนกต็ อ้ งเป็นผลขาดทุน น้อยทส่ี ุด จากกระบวนการตดั สนิ ใจเพอ่ื การบรหิ ารทไ่ี ดก้ ลา่ วมาขา้ งตน้ สามารถนามาสรปุ ดงั แสดงในภาพท่ี 8-2 ดงั น้ี คน้ หาปญั หา กาหนดทางเลอื ก รวบรวมขอ้ มลู รปู แบบของการวิเคราะห์ วเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บ 1. รปู แบบตน้ ทนุ รวม 2. รปู แบบตน้ สว่ นต่างหรอื ตน้ ทุน ตดั สนิ ใจ ส่วนเพมิ่ 3. รปู แบบต้นทนุ เสยี โอกาส ภาพท่ี 8-2 กระบวนกำรตดั สนิ ใจเพ่อื กำรบรหิ ำร บทท่ี 8
218 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ รปู แบบของการวิเคราะหท์ างเลือกเพื่อการตดั สินใจ ในขนั้ ตอนท่ี 4 ของกระบวนกำรตดั สนิ ใจ ซง่ึ เป็นขนั้ ตอนทเ่ี ก่ยี วกบั กำรวเิ ครำะห์และ กำรประเมนิ ทำงเลอื กเพ่อื กำรตดั สนิ ใจใหม้ คี วำมเหมำะสมและเป็นประโยชน์มำกทส่ี ุด สำมำรถ แสดงรปู แบบของกำรวเิ ครำะหไ์ ด้ 3 รปู แบบ คอื 1. การวิเคราะหร์ ปู แบบของต้นทนุ รวม (Total Cost Format) กำรวเิ ครำะหร์ ปู แบบต้นทุนรวม เป็นลกั ษณะของกำรวเิ ครำะหโ์ ดยพจิ ำรณำทงั้ ต้นทุน ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจ และไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจในแต่ละทำงเลอื ก 2. การวิเคราะหร์ ปู แบบของต้นทนุ ส่วนต่างหรอื ต้นทุนส่วนเพ่ิม (Differential Cost Format) กำรวเิ ครำะหร์ ปู แบบของต้นทุนส่วนต่ำงหรอื ตน้ ทุนส่วนเพมิ่ เป็นกำรวเิ ครำะหต์ น้ ทุน ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจในแต่ละทำงเลอื กทจ่ี ะนำมำประกอบกำรตดั สนิ ใจ โดยพจิ ำรณำถงึ ตน้ ทนุ ส่วนทม่ี คี วำมแตกต่ำงในแต่ละทำงเลอื กเท่ำนนั้ 3. การวิเคราะหร์ ปู แบบของต้นทนุ เสียโอกาส (Opportunity Cost Format) กำรวเิ ครำะหร์ ปู แบบของตน้ ทุนเสยี โอกำส เป็นกำรวเิ ครำะหใ์ นรปู แบบของตน้ ทุนส่วน ต่ำงท่พี จิ ำรณำถงึ ต้นทุนและรำยได้ส่วนท่มี คี วำมแตกต่ำงในแต่ละทำงเลอื กรวมกบั ต้นทุนเสยี โอกำสทม่ี คี วำมหมำยถงึ ผลประโยชน์หรอื ผลตอบแทนทก่ี จิ การจะไดร้ บั จากการตดั สนิ ใจเลอื ก ทางเลอื กหน่งึ แต่กลบั ตอ้ งสญู เสยี โอกาสไปจากตดั สนิ ใจเลอื กอกี ทางเลอื กหน่งึ กำรวเิ ครำะหท์ งั้ 3 รปู แบบ เมอ่ื พจิ ำรณำแลว้ จะใหข้ อ้ มลู เพ่อื กำรตดั สนิ ใจในทำงเลอื ก เดยี วกนั ซง่ึ ผบู้ รหิ ำรและนกั บญั ชจี ะเลอื กใชร้ ปู แบบใดกไ็ ดข้ น้ึ อยกู่ บั ควำมเหมำะสมกบั ลกั ษณะ ของปญั หำเพ่อื ให้ได้รำยงำนทเ่ี หมำะสมและเป็นประโยชน์มำกท่สี ุด โดยพจิ ำรณำดงั แสดงใน ตวั อยำ่ งท่ี 8-1 ดงั น้ี บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 219 ตวั อย่างที่ 8-1 บรษิ ทั ตน้ กลำ้ อุตสำหกรรม จำกดั ประกอบธรุ กจิ ผลติ และจำหน่ำยเกำ้ อเ้ี หลก็ ซง่ึ ใน เดอื นน้ี บรษิ ทั สำมำรถผลติ ได้ 10,000 ตวั โดยมตี น้ ทนุ กำรผลติ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ดงั น้ี ต้นทนุ การผลิต ต่อหน่วย (บาท) จานวนเงินรวม (บาท) วตั ถุดบิ ทำงตรง 20 100,000 คำ่ แรงงำนทำงตรง 15 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร 8 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงทร่ี วม เน่ืองจำกปจั จบุ นั บรษิ ทั มคี ่แู ข่งขนั จำนวนมำกทำใหส้ นิ คำ้ ของบรษิ ทั ขำยไดแ้ ค่ 7,000 ตวั รำคำขำยปกตติ วั ละ 150 บำท โดยผู้บรหิ ำรกำลงั พจิ ำรณำทำงเลอื กในกำรแก้ไขปญั หำ สำหรบั สนิ คำ้ ทข่ี ำยไมไ่ ดจ้ ำนวน 3,000 ตวั จำก 2 ทำงเลอื ก ดงั น้ี ทำงเลอื กท่ี 1 นำไปขำยลดรำคำเหลอื ตวั ละ 50 บำท โดยตอ้ งเสยี คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำร ขำยผนั แปรเพม่ิ ตวั ละ 5 บำท ทำงเลอื กท่ี 2 ทำกำรปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหท้ นั สมยั ซง่ึ จำกกำรปรบั ปรงุ แกไ้ ขจะมตี น้ ทุน ส่วนท่ีต้องจ่ำยเพิ่ม คือ วัตถุดิบทำงตรงตัวละ 5 บำท ค่ำแรงงำนทำงตรงตัวละ 3 บำท ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปรตวั ละ 2 บำท ซง่ึ หลงั จำกปรบั ปรงุ แลว้ บรษิ ทั คำดว่ำจะสำมำรถขำยได้ ตวั ละ 60 บำท จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ สำมำรถนำมำวเิ ครำะหโ์ ดยใชร้ ปู แบบของกำรวเิ ครำะหท์ ำงเลอื ก เพอ่ื กำรตดั สนิ ใจในแต่ละรปู แบบ ดงั น้ี การวิเคราะหร์ ปู แบบของต้นทนุ รวม: รำยไดส้ ว่ นเพมิ่ (3,000 x 50) ทางเลือก 1 ทางเลือก 2 หกั ตน้ ทนุ รวม: 150,000 (3,000 x 60) 180,000 (3,000 x 53) ตน้ ทุนจม (3,000 x 5) 159,000 (3,000 x 53) 159,000 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยผนั แปร 15,000 - วตั ถุดบิ ทำงตรง (3,000 x 5) ค่ำแรงงำนทำงตรง - (3,000 x 3) 15,000 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร - (3,000 x 2) 9,000 กำไรส่วนเพม่ิ (ลดลง) - 6,000 (24,000) (9,000) บทท่ี 8
220 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ จำกกำรคำนวณขำ้ งต้น เป็นกำรนำรำยไดแ้ ละต้นทุนท่เี ก่ยี วขอ้ ง และไม่เก่ยี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจมำคำนวณทงั้ หมด เม่อื วเิ ครำะหแ์ ละเปรยี บเทยี บแลว้ จะเหน็ ว่ำทำงเลอื กท่ี 1 มี กำไรลดลงจำนวน 24,000 บำท ขณะทท่ี ำงเลอื กท่ี 2 มกี ำไรลดลงจำนวน 9,000 บำท ดงั นัน้ ผู้บรหิ ำรควรตดั สนิ ใจเลอื กทำงเลอื กท่ี 2 คอื ทำกำรปรบั ปรุงแกไ้ ขใหท้ นั สมยั เน่อื งจำกมกี ำไรลดลงน้อยกว่ำทำงเลอื กท่ี 1 ทท่ี ำกำรลดรำคำจำนวน 15,000 บำท การวิเคราะหร์ ปู แบบของต้นทุนส่วนต่างหรอื ต้นทุนส่วนเพิ่ม: ทางเลือก 1 ทางเลือก 2 รำยไดส้ ่วนเพมิ่ (3,000 x 50) 150,000 (3,000 x 60) 180,000 หกั ตน้ ทนุ รวม: คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยผนั แปร (3,000 x 5) 15,000 - วตั ถุดบิ ทำงตรง - (3,000 x 5) 15,000 คำ่ แรงงำนทำงตรง - (3,000 x 3) 9,000 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร - (3,000 x 2) 6,000 กำไรส่วนเพม่ิ (ลดลง) 135,000 150,000 จำกกำรคำนวณขำ้ งต้น เป็นกำรนำเฉพำะรำยไดแ้ ละตน้ ทุนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กำรตดั สนิ ใจ มำคำนวณ เม่อื วเิ ครำะหแ์ ละเปรยี บเทยี บแลว้ จะเหน็ ว่ำ ทำงเลอื กท่ี 1 มกี ำไรส่วนเพม่ิ จำนวน 135,000 บำท ขณะทท่ี ำงเลอื กท่ี 2 มกี ำไรสว่ นเพมิ่ จำนวน 150,000 บำท ดงั นัน้ ผู้บรหิ ำรควรตดั สนิ ใจเลอื กทำงเลอื กท่ี 2 คอื ทำกำรปรบั ปรุงแก้ไขใหท้ นั สมยั เน่อื งจำกมผี ลกำไรสว่ นเพม่ิ มำกกวำ่ ทำงเลอื กท่ี 1 ทท่ี ำกำรลดรำคำจำนวน 15,000 บำท การวิเคราะหร์ ปู แบบของต้นทนุ เสียโอกาส: รำยไดส้ ่วนเพมิ่ (3,000 x 50) ทางเลือก 1 ทางเลือก 2 หกั ตน้ ทนุ รวม: (3,000 x 5) 150,000 (3,000 x 60) 180,000 ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยผนั แปร 15,000 (3,000 x 5) - วตั ถุดบิ ทำงตรง - (3,000 x 3) 15,000 ค่ำแรงงำนทำงตรง - (3,000 x 2) 9,000 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร - 6,000 ตน้ ทนุ เสยี โอกำส 135,000 กำไรส่วนเพม่ิ (ลดลง) 150,000 15,000 (15,000) บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 221 จำกกำรคำนวณขำ้ งต้น เป็นกำรนำรำยได้และต้นทุนท่เี ก่ยี วขอ้ ง รวมถึงต้นทุนเสยี โอกำสท่ีควรจะได้จำกอีกทำงเลือกหน่ึงแต่ไม่เลือกมำคำนวณด้วย เม่ือวิเครำะห์และ เปรยี บเทยี บแลว้ จะเหน็ ว่ำทำงเลอื กท่ี 1 มกี ำไรลดลงจำนวน 15,000 บำท ขณะทท่ี ำงเลอื กท่ี 2 มกี ำไรสว่ นเพม่ิ จำนวน 15,000 บำท ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ำรควรตดั สนิ ใจเลอื กทำงเลอื กท่ี 2 คอื ทำกำรปรบั ปรงุ แก้ไขใหท้ นั สมยั เน่ืองจำกมผี ลกำไรส่วนเพมิ่ จำนวน 15,000 บำท ขณะทำงเลอื กท่ี 1 ทำกำรลดรำคำนนั้ มผี ล กำไรลดลงจำนวน 30,000 บำท ประเภทของปัญหาเพ่ือการตดั สินใจ ประเภทของปญั หำเพ่อื กำรตดั สนิ ใจท่เี กดิ ขน้ึ จำกกำรดำเนินธุรกจิ อำจส่งผลกระทบ โดยตรงต่อกจิ กำร เพรำะเป็นปญั หำทไ่ี มส่ ำมำรถกำหนดหรอื ควบคุมได้ แต่หำกไดม้ กี ำรศกึ ษำ ข้อมูลต้นทุนประเภทต่ำงๆ แล้ว ก็จะทำให้ผู้บรหิ ำรสำมำรถวำงแผน สงั่ กำร ควบคุม และ ตดั สนิ ใจเพ่อื แก้ไขปญั หำดงั กล่ำวไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ ซง่ึ ต่อไปน้ีจะขอยกตวั อย่ำงปญั หำท่ี เกดิ ขน้ึ กบั กจิ กำรเพยี งระยะสนั้ ทม่ี ผี ลกระทบไมเ่ กนิ 1 ปี แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดงั น้ี 1. การตดั สินใจยอมรบั ใบสงั่ ซื้อพิเศษ (Accept a Special order) การตัดสินใจยอมรับใบสัง่ ซ้ือพิเศษ เกิดจากการท่ีมีใบสัง่ ซ้ือพิเศษมายังบริษัท นอกเหนอื จากการวางแผนตามปกตขิ องกจิ การ เพราะการประกอบธุรกจิ อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ จะมกี ารวางแผนการผลิตในแต่ละปีไว้อย่างชดั เจน โดยเฉพาะกาลงั การผลติ สูงสุด เพ่อื ให้ เหมาะสมกบั ปจั จยั การผลติ ท่จี ะทาการผลติ ได้ เช่น ปรมิ าณของวตั ถุดบิ เคร่อื งจกั ร คนงาน เป็นต้น ซ่งึ บรษิ ทั อาจจะทาการผลติ และจาหน่ายปกติในแต่ละปีไม่ถงึ กาลงั การผลติ สูงสุดท่ี วางแผนไว้ และเม่อื มกี ารสงั่ ซอ้ื พเิ ศษมายงั บรษิ ทั ผบู้ รหิ ารจงึ ตอ้ งพจิ ารณาเพ่อื การตดั สนิ ใจว่า จะยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษดงั กล่าวหรอื ไม่ โดยตอ้ งพจิ ารณาเขา้ เงอ่ื นไขทุกขอ้ ดงั ต่อไปน้ี 1.1 เมอ่ื ยอมรบั ใบสงั่ ซื้อพิเศษแล้วยงั อย่ใู นกาลงั การผลิตสงู สดุ ท่ีวางแผนไว้ หรือไม่ คอื การนากาลงั การผลติ ปกตทิ ่วี างแผนไว้ มาเทยี บกบั ปรมิ าณการผลติ ในงวด ซง่ึ ถ้า กาลงั การผลติ มมี ากกว่าปรมิ าณการผลติ แสดงว่ามกี าลงั การผลติ เหลอื ถ้าใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษมี จานวนน้อยกว่าหรอื เท่ากับกาลงั การผลติ ท่ีเหลืออยู่ก็แสดงว่าเข้าเง่อื นไขในการพจิ ารณา ยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษได้ เช่น บรษิ ทั มกี ารวางแผนกาลงั การผลติ ปกตไิ วจ้ านวน 5,000 หน่วย แต่มปี รมิ าณการผลติ ในงวดเพียง 4,000 หน่วย แสดงว่าบรษิ ทั มกี าลงั การผลติ เหลือ 1,000 หน่วย ถ้าหากมใี บสงั่ ซ้อื พเิ ศษมาจานวนน้อยกว่าหรอื เท่ากบั 1,000 หน่วย บรษิ ัทสามารถ ยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษดงั กลา่ วได้ บทท่ี 8
222 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 1.2 เม่ือยอมรบั ใบสงั่ ซื้อพิเศษแล้วมีผลกระทบต่อยอดขายปกติของบริษัท หรอื ไม่ คอื การยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจะตอ้ งไมท่ าใหย้ อดการขายทบ่ี รษิ ทั วางแผนผลติ และขาย ในงวดไวล้ ดลง เช่น บรษิ ทั มกี ารวางแผนกาลงั การผลติ ปกตไิ วจ้ านวน 5,000 หน่วย มปี รมิ าณ การผลติ ในงวด 4,000 หน่วย ถ้าการยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื มผี ลทาใหย้ อดขาย 4,000 หน่วย ลดลงจงึ ไมค่ วรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื 1.3 เมื่อคานวณตามข้อมลู ตามใบสงั่ ซื้อพิเศษแล้วมีรายได้ส่วนเพ่ิมมากกว่า ต้นทุนส่วนเพิ่มหรือไม่ โดยปกตติ ้นทุนส่วนเพมิ่ ของการยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจะเป็นต้นทุน ประเภทผนั แปรเสมอ และหากมตี ้นทุนส่วนเพม่ิ อ่นื กใ็ หน้ ามารวมเพ่ือคานวณดว้ ย ซง่ึ ถ้ารายได้ สว่ นเพมิ่ มากกวา่ ตน้ ทุนส่วนเพม่ิ บรษิ ทั กค็ วรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ี แสดงรปู แบบการนาเสนอ ขอ้ มลู ประกอบเพอ่ื การตดั สนิ ใจ ไดด้ งั น้ี รายไดส้ ว่ นเพมิ่ xx หกั ตน้ ทุนส่วนเพมิ่ : xx ตน้ ทนุ ผนั แปร xx xx ตน้ ทุนสว่ นเพม่ิ อ่นื (ถา้ ม)ี กาไรส่วนเพม่ิ (ลดลง) xx อย่ำงไรก็ตำม ในกำรพจิ ำรณำยอมรบั ใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษอำจมคี วำมแตกต่ำงกนั ไปตำม ลกั ษณะหรอื ประเภทของธุรกจิ และขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ ดั สนิ ใจ สอดคลอ้ งกบั บทควำมวจิ ยั ของ วนั วสิ ำ เน่ืองสมศรี (2557 : บทคดั ยอ่ ) พบว่ำ กำรตดั สนิ ใจยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ ผูบ้ รหิ ำร ฝำ่ ยตลำดจะใชข้ อ้ มลู กำลงั กำรผลติ มำกทส่ี ุดในกำรนำมำพจิ ำรณำ และเมอ่ื เปรยี บเทยี บควำม ต้องกำรใชข้ อ้ มูลทำงด้ำนบญั ชตี ้นทุนเพ่อื กำรตดั สนิ ใจ พบว่ำ ผู้บรหิ ำรฝ่ำยกำรตลำดจำแนก ตำมระดบั กำรศกึ ษำต่ำงกนั มคี วำมตอ้ งกำรใชข้ อ้ มลู ในกำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษต่ำงกนั เกณฑ์ในการตดั สินใจ : ควรตดั สนิ ใจยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ หำกไม่เกนิ กำลงั กำร ผลติ ทว่ี ำงแผนไว้ ไม่ทำใหย้ อดขำยของกจิ กำรลดลง และทำใหม้ กี ำไรส่วนเพม่ิ จำกกำรคำนวณ เปรยี บเทยี บระหว่ำงรำยไดส้ ่วนเพม่ิ กบั ตน้ ทนุ สว่ นเพม่ิ บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 223 ตวั อย่างท่ี 8-2 บรษิ ทั มติ อิ ุตสำหกรรม จำกดั เป็นบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจำหน่ำยแว่นตำ 3 มติ ิ โดยมตี ้นทุน ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ดงั น้ี ตน้ ทุนกำรผลติ ผนั แปรต่อหน่วย 500 บาท คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงทต่ี ่อเดอื น 100,000 บาท ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรคงทต่ี ่อเดอื น 20,000 บาท บรษิ ทั ไมม่ คี ่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปร ในตน้ ปี บรษิ ทั มคี ำสงั่ ซอ้ื พเิ ศษจำกลกู คำ้ ต่ำงประเทศ จำนวน 300 อนั โดยเสนอรำคำ ซอ้ื อนั ละ 800 บำท บรษิ ทั ควรจะยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื น้ีหรอื ไม่ เพรำะเหตุใด ซง่ึ ในกำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ี บรษิ ทั พจิ ำรณำแลว้ ว่ำไม่มผี ลกระทบกบั ยอดขำยปกตขิ องบรษิ ทั รวมทงั้ ค่ำใชจ้ ำ่ ย กำรผลติ คงทเ่ี น่อื งจำกยงั อยใู่ นกำลงั กำรผลติ ปกตทิ ว่ี ำงแผนไว้ หมำยเหตุ : บรษิ ทั จะเกดิ ค่ำใชจ้ ำ่ ยสำหรบั คำสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ีจำนวน 10,000 บำท เพ่อื เป็นคำ่ ทำลวดลำยเพม่ิ เตมิ จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ เมอ่ื นำมำพจิ ำรณำวำ่ บรษิ ทั ควรจะยอมรบั ใบซอ้ื พเิ ศษน้หี รอื ไม่ แสดงใหเ้ หน็ ว่ำเขำ้ เงอ่ื นไขทกุ ขอ้ ดงั น้ี คอื 1. กำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ยี งั อยใู่ นกำลงั กำรผลติ ปกตขิ องบรษิ ทั 2. กำรยอมรบั ใบสงั่ พเิ ศษน้ไี มม่ ผี ลกระทบต่อยอดขำยปกตขิ องบรษิ ทั 3. กำรพจิ ำรณำตน้ ทุนส่วนเพม่ิ มมี ำกกวำ่ รำยไดส้ ว่ นเพมิ่ ซง่ึ พจิ ำรณำไดจ้ ำก กำรคำนวณประกอบเพ่อื กำรตดั สนิ ใจ ดงั น้ี หน่วย : บำท รำยไดส้ ่วนเพม่ิ (300 x 800) 280,000 หกั ตน้ ทุนส่วนเพม่ิ : ตน้ ทนุ กำรผลติ ผนั แปร (300 x 500) 150,000 ค่ำทำลวดลำยเพม่ิ เตมิ 10,000 160,000 กำไรสว่ นเพมิ่ (ลดลง) 80,000 ดงั นนั้ บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจยอมรบั คำสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ี เพรำะอยใู่ นกำลงั กำรผลติ ปกติ ไมก่ ระทบต่อยอดขำยปกติ และทำใหบ้ รษิ ทั มกี ำไรส่วนเพม่ิ จำนวน 80,000 บำท บทท่ี 8
224 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ กำรตัดสินใจยอมรบั ใบสัง่ ซ้ือพิเศษบำงครงั้ เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับกำร ตดั สนิ ใจอำจตอ้ งใชก้ ำรวเิ ครำะหใ์ นรปู แบบต้นทุนเสยี โอกำสเพม่ิ เตมิ หำกกำรพจิ ำรณำยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื ครงั้ น้ีเกนิ กำลงั กำรผลติ ทว่ี ำงแผนไว้ เช่น เมอ่ื บรษิ ทั มกี ำลงั กำรผลติ เหลอื เพยี ง 1,000 หน่วย แต่มใี บสงั่ ซอ้ื พเิ ศษมำยงั บรษิ ทั ถงึ 1,500 หน่วย ซง่ึ เกนิ กำลงั กำรผลติ ทเ่ี หลอื อยถู่ งึ 500 หน่วย จำกเหตุกำรณ์ดงั กล่ำวหำกผู้บรหิ ำรต้องกำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื จะต้องหำแนวทำงแก้ไข ปญั หำเพ่อื กำรตดั สนิ ใจทด่ี ที ส่ี ุด ดงั นนั้ เพ่อื ใหเ้ ขำ้ ใจมำกยง่ิ ขน้ึ เก่ยี วกบั กำรวเิ ครำะหใ์ นรปู แบบ ตน้ ทุนเสยี โอกำส จงึ ขออธบิ ำยและแสดงกำรคำนวณประกอบ ดงั แสดงในตวั อยำ่ งท่ี 8-3 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 8-3 บรษิ ทั ปลำสวรรค์ จำกดั ทำกำรผลติ และจำหน่ำยน้ำพรกิ โดยมกี ำลงั กำรผลติ สงู สุด 28,000 กระปุก แต่บรษิ ทั จะผลติ และจำหน่ำยจำนวน 25,000 กระปุก ต่อไปน้ีเป็นขอ้ มูล เกย่ี วกบั งบกำไรขำดทุน สำหรบั ปี สน้ิ สุดวนั ท่ี 31 ธนั วำคม 25x1 บริษทั ปลาสวรรค์ จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x1 ขำย (25,000 กระปกุ ) 50,000 หน่วย : บำท หกั ตน้ ทนุ และค่ำใชจ้ ำ่ ยผนั แปร: 100,000 500,000 25,000 วตั ถุดบิ ทำงตรง 50,000 225,000 คำ่ แรงงำนทำงตรง 275,000 ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร 37,500 ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปร 75,000 112,500 กำไรส่วนเกนิ 162,500 หกั ตน้ ทนุ และคำ่ ใชจ้ ่ำยคงท:่ี ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงท่ี คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรคงท่ี กำไรสทุ ธิ บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 225 จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ ขณะน้ีมบี รษิ ทั น้ำพรกิ นรก จำกดั ไดม้ คี ำสงั่ ซอ้ื พเิ ศษมำยงั บรษิ ทั จำนวน 5,000 กระปกุ โดยเสนอรำคำกระปุกละ 25 บำท บรษิ ทั ต้องกำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ แต่ไมม่ กี ำลงั กำรผลติ เหลอื พอ บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจอยำ่ งไร ถำ้ กำรรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษครงั้ น้ีจะทำ ใหต้ ้องเสยี ต้นทุนของวตั ถุดบิ ทำงตรงเพมิ่ ขน้ึ 5% ค่ำแรงงำนทำงตรงเพม่ิ ขน้ึ 10% ในขณะท่ี ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปรและคำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปรเพม่ิ ขน้ึ ในอตั รำเดมิ ทำงเลือกท่ี 1 ลดกำลังกำรผลิตและจำหน่ำยปกติของบรษิ ัทลงจำนวน 2,000 กระปกุ ทำงเลอื กท่ี 2 ขยำยกำลงั กำรผลติ ของบรษิ ทั เป็นกำรชวั่ ครำวจำนวน 2,000 กระปุก ซง่ึ จะทำใหต้ อ้ งเสยี คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงทเ่ี พมิ่ ขน้ึ ในอตั รำเดมิ การคานวณประกอบเพ่ือพิจารณาตดั สินใจ: กำรคำนวณประกอบในแต่ละทำงเลอื กจะควรแสดงกำรเปรยี บเทยี บรำคำขำยและ ตน้ ทุนต่อหน่วย ณ ระดบั กำรผลติ และจำหน่ำยปกติ 25,000 กระปกุ กบั กำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ ดงั น้ี รำคำขำย การผลิต ใบสงั่ ซื้อ วตั ถุดบิ ทำงตรง ปกติ พิเศษ คำ่ แรงงำนทำงตรง 20 25 คำ่ ใชจ้ ่ำยกำรผลติ ผนั แปร 2 2 + (2x 5%) = 2.1 ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงท่ี 4 4 + (4x10%) = 4.4 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปร ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรคงท่ี 1 1 - 1.5 2 - 2 3 บทท่ี 8
226 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ ทางเลือกที่ 1: 10,500 125,000 รำยไดส้ ่วนเพมิ่ (5,000 x 25) 22,000 หกั ตน้ ทนุ สว่ นเพม่ิ : 5,000 69,500 10,000 55,500 วตั ถุดบิ ทำงตรง (5,000 x 2.1) 22,000 ค่ำแรงงำนทำงตรง (5,000 x 4.4) ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร (5,000 x 1) ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปร (5,000 x 2) ตน้ ทุนเสยี โอกำส* กำไรส่วนเพม่ิ (ลดลง) หมำยเหตุ: *กำรคำนวณตน้ ทนุ เสยี โอกำสจำกกำไรทล่ี ดยอดขำยปกตขิ องบรษิ ทั ลง จำนวน 2,000 กระปกุ รำยไดจ้ ำกกำรขำย 40,000 หกั ตน้ ทุนและคำ่ ใชจ้ ่ำยผนั แปร: 4,000 วตั ถุดบิ ทำงตรง (2,000 x 2) 8,000 ค่ำแรงงำนทำงตรง (2,000 x 4) 2,000 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร (2,000 x 1) 4,000 18,000 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปร (2,000 x 2) กำไรสว่ นเกนิ 22,000 ทางเลือกที่ 2: 10,500 125,000 รำยไดส้ ่วนเพม่ิ (5,000 x 25) 22,000 หกั ตน้ ทุนสว่ นเพมิ่ : 5,000 50,500 10,000 74,500 วตั ถุดบิ ทำงตรง (5,000 x 2.1) 3,000 คำ่ แรงงำนทำงตรง (5,000 x 4.4) ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร (5,000 x 1) คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำรผนั แปร (5,000 x 2) คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงท่ี (2,000 x 1.5) กำไรส่วนเพมิ่ (ลดลง) บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 227 จำกกำรคำนวณขำ้ งตน้ จะเหน็ วำ่ ทำงเลอื กท่ี 1 นอกจำกจะมตี ้นทุนผนั แปรเป็นตน้ ทุน ส่วนเพม่ิ ในอตั รำตำมเง่อื นไขของกำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษแลว้ ยงั มตี ้นทุนเสยี โอกำสรวมดว้ ย จำนวน 22,000 บำท ซง่ึ เกดิ จำกกำรท่บี รษิ ทั ยอมลดกำลงั กำรผลติ และจำหน่ำยปกตลิ งจำนวน 2,000 กระปกุ เพ่อื จะรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษ จงึ ทำให้บรษิ ทั สญู เสยี กำไรส่วนเกนิ ทค่ี วรจะไดจ้ ำกกำร ขำยปกตขิ องบรษิ ทั ไป ส่วนกำรคำนวณทำงเลอื กท่ี 2 จะไมม่ ตี ้นทุนเสยี โอกำสเป็นตน้ ทุนส่วน เพม่ิ เพรำะไม่ไดล้ ดกำรผลติ และจำหน่ำยปกตลิ ง แต่จะมคี ่ำใชจ้ ่ำยกำรผลติ คงทจ่ี ำนวน 3,000 บำท เป็นสว่ นเพม่ิ แทน ขอ้ สงั เกตของจำนวนทเ่ี พมิ่ ขน้ึ ของค่ำใชจ้ ่ำยกำรผลติ คงท่ี จำนวนหน่วย ทน่ี ำมำคำนวณจะเป็นจำนวนหน่วยตำมทบ่ี รษิ ทั ตอ้ งขยำยกำลงั กำรผลติ เป็นกำรชวั่ ครำว 2,000 หน่วยเท่ำนนั้ ดงั นนั้ จำกกำรตดั สนิ ใจยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษน้ี บรษิ ทั ควรตดั สนิ ใจขยำยกำลงั กำร ผลติ ของบรษิ ทั เป็นกำรชวั่ ครำว เพรำะทำให้มกี ำไรส่วนเพมิ่ มำกกว่ำกำรลดกำลงั กำรผลติ ถงึ จำนวน 19,000 บำท (74,500 - 55,500) 2. การตดั สินใจผลิตเองหรือซื้อจากภายนอก (Make or Buy Decision) กำรตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั กำรผลติ เองหรอื ซอ้ื จำกภำยนอก ลกั ษณะของปญั หำน้ีคอื มบี ุคคล จำกภำยนอกมำนำเสนอขำยสนิ ค้ำให้กับทำงบรษิ ัทซ่งึ เป็นอีกทำงเลอื กหน่ึงท่ีบรษิ ทั ไม่ต้อง เสยี เวลำในกำรผลติ เอง แต่ทงั้ น้ีกำรท่จี ะรบั ขอ้ เสนอจำกบุคคลภำยนอกนัน้ บรษิ ทั อำจต้อง พจิ ำรณำขอ้ มลู ต่ำงๆ ของบุคคลภำยนอกประกอบดว้ ย เช่น ควำมชำนำญ หรอื ประสบกำรณ์ใน กำรผลติ ระยะเวลำในกำรส่งมอบ ค่ำขนส่งสนิ คำ้ คุณภำพของสนิ คำ้ และปรมิ ำณจะไดต้ รงตำม ควำมตอ้ งกำรของลกู คำ้ ของบรษิ ทั หรอื ไม่ เป็นตน้ กำรพจิ ำรณำถงึ ตน้ ทุนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ทำงเลอื กกำรผลติ เอง กจ็ ะประกอบดว้ ย วตั ถุดบิ ทำงตรง คำ่ แรงงำนทำงตรง คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ทงั้ ผนั แปรและคงท่ี รวมถงึ ตน้ ทนุ เสยี โอกำส (ถ้ำม)ี ซง่ึ ต้นทุนเสยี โอกำสมกั เกดิ จำกกำรท่บี รษิ ทั ตดั สนิ ใจซอ้ื จำกภำยนอกแลว้ อำจนำอำคำร โรงงำน เครอ่ื งจกั ร หรอื อุปกรณ์ต่ำงๆ ไปใหบ้ ุคคลอ่นื เช่ำ ส่วนตน้ ทุนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ทำงเลอื กท่ี จะซอ้ื จำกภำยนอกกจ็ ะเกดิ จำกตน้ ทนุ ทงั้ หมดทท่ี ำใหไ้ ดส้ นิ คำ้ นนั้ มำ ซง่ึ ตน้ ทนุ หลกั คอื รำคำซอ้ื และรวมถงึ ค่ำใชจ้ ่ำยต่ำงๆ ทจ่ี ะทำใหไ้ ดส้ นิ คำ้ มำ เช่น ค่ำขนส่งสนิ คำ้ ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรตรวจรบั ของ คำ่ ประกนั สนิ คำ้ ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรสงั่ ซอ้ื รวมถงึ ตน้ ทุนในกำรผลติ คงทท่ี ห่ี ลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ อย่ำงไรก็ตำม ในกำรใช้ข้อมูลเพ่ือกำรพิจำรณำ ตัดสินใจผลิตเองหรือซ้ือจำก บุคคลภำยนอกอำจมคี วำมแตกต่ำงกนั ไปตำมลกั ษณะของธุรกจิ และขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ ดั สนิ ใจ สอดคลอ้ งกบั บทควำมวจิ ยั ของวนั วสิ ำ เน่ืองสมศรี (2557 : บทคดั ย่อ) พบว่ำ กำรตดั สนิ ใจ ผลติ เองหรอื ซ้อื จำกบุคคลภำยนอก ผบู้ รหิ ำรฝ่ำยตลำดจะใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนของกำรผลติ เองมำก บทท่ี 8
228 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ ทส่ี ดุ ในกำรนำมำพจิ ำรณำ และเมอ่ื เปรยี บเทยี บควำมตอ้ งกำรใชข้ อ้ มลู ทำงดำ้ นบญั ชตี น้ ทุนเพ่อื กำรตดั สนิ ใจ พบว่ำ ผบู้ รหิ ำรฝำ่ ยกำรตลำดจำแนกตำมเพศ ระดบั กำรศกึ ษำ และประสบกำรณ์ สำยกำรตลำดต่ำงกนั มคี วำมตอ้ งกำรใชข้ อ้ มลู ในกำรยอมรบั ใบสงั่ ซอ้ื พเิ ศษต่ำงกนั รปู แบบกำรนำเสนอขอ้ มลู เพอ่ื กำรตดั สนิ ใจ แสดงไดด้ งั น้ี รายละเอียดต้นทนุ ผลิตเอง ซื้อจากภายนอก วตั ถุดบิ ทำงตรง xx - xx - คำ่ แรงงำนทำงตรง xx - คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ ผนั แปร xx - - xx ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ คงท่ี xx xx คำ่ ซอ้ื (25,000 x 6 ) xx xx ตน้ ทนุ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอ่นื (ถำ้ ม)ี รวม เกณฑใ์ นการตดั สินใจ : ควรตดั สนิ ใจเลอื กทำงเลอื กทม่ี ตี น้ ทุนต่ำทส่ี ุดเพ่อื ประโยชน์ สงู สุดแก่กจิ กำร ตวั อย่างท่ี 8-4 จำกขอ้ มลู ตวั อย่ำงท่ี 8-3 ของบรษิ ทั ปลำสวรรค์ จำกดั ขณะน้ีมบี ุคคลภำยนอกมำ เสนอขำยน้ำพรกิ ให้กบั บรษิ ัทในรำคำกระปุกละ 6 บำท ถ้ำรบั ขอ้ เสนอจำกบุคคลภำยนอก บรษิ ทั ตอ้ งเสยี ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรขนส่งเฉลย่ี กระปุกละ 1 บำท แต่สำมำรถลดค่ำใชจ้ ่ำยกำรผลติ คงทไ่ี ด้ 40% และสำมำรถนำอุปกรณ์ในกำรผลติ ทว่ี ่ำงลงใหค้ นอ่นื เช่ำไดจ้ ำนวน 5,000 บำท จำกปญั หำดงั กล่ำวบรษิ ัทควรตดั สนิ ใจซ้อื จำกบุคคลภำยนอกหรอื ทำกำรผลิตเอง เพรำะเหตุใด จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ สำมำรถแสดงกำรคำนวณประกอบเพ่อื พจิ ำรณำตดั สนิ ใจ ไดด้ งั น้ี บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ 229 รายละเอียดต้นทนุ ผลิตเอง ซื้อจากภายนอก วตั ถุดบิ ทำงตรง 50,000 - คำ่ แรงงำนทำงตรง 100,000 - 25,000 - ค่ำใชจ้ ่ำยกำรผลติ ผนั แปร 37,500 คำ่ ใชจ้ ่ำยกำรผลติ คงท่ี 22,500 - 150,000 ค่ำซอ้ื (25,000 x 6 ) - 25,000 คำ่ ขนส่งสนิ คำ้ (25,000 x 1) 5,000 217,500 - ตน้ ทุนเสยี โอกำส (รำยไดค้ ่ำเชำ่ อุปกรณ์) 197,500 รวม จำกกำรคำนวณข้ำงต้น กำรต้นทุนกำรผลิตเองจะประกอบด้วย วตั ถุดิบทำงตรง ค่ำแรงงำนทำงตรง ค่ำใช้จ่ำยกำรผลติ ส่วนท่ผี นั และส่วนท่คี งท่ี รวมถงึ ต้นทุนเสยี โอกำส ซ่งึ หมำยถงึ รำยไดค้ ่ำเช่ำอุปกรณ์ท่บี รษิ ทั สูญเสยี ไป เน่ืองจำกทำกำรผลติ เองจงึ ไมไ่ ดร้ ำยได้ค่ำเช่ำ อุปกรณ์ดงั กล่ำว ส่วนตน้ ทุนกำรซอ้ื จำกภำยนอกจะประกอบด้วย ต้นทุนค่ำซอ้ื ค่ำขนส่งสนิ ค้ำ และค่ำใช้จ่ำยกำรผลติ คงท่ใี นส่วนท่หี ลกี เล่ยี งไม่ได้ 60% ของ 37,500 บำท เท่ำกบั 22,500 บำท ขณะท่วี ตั ถุดบิ ทำงตรง ค่ำแรงงำนทำงตรง และค่ำใชจ้ ่ำยกำรผลติ ผนั แปรจะไมเ่ ก่ยี วขอ้ ง เพรำะเป็นตน้ ทนุ ผนั แปรทห่ี ลกี เลย่ี งไดท้ งั้ จำนวน ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ำรควรตดั สนิ ใจซอ้ื จำกบคุ คลภำยนอก เพรำะมตี น้ ทุนกำรซอ้ื น้อยกว่ำ ตน้ ทุนกำรผลติ เองจำนวน 20,000 บำท (217,500 – 197,500) 3. การตดั สินใจยกเลิกการผลิตหรือจาหน่ายผลิตภณั ฑบ์ างชนิด (Elimination of a Product Line) กำรตัดสินใจยกเลกิ กำรผลติ หรอื จำหน่ำยผลิตภณั ฑ์บำงชนิด กำรประกอบธุรกิจ อุตสำหกรรมในกจิ กำรหน่ึงๆ อำจมกี ำรผลิตหรอื จำหน่ำยผลติ ภณั ฑห์ ลำยชนิด กำรรำยงำนผล กำรดำเนินงำน นอกจำกกำรรำยงำนในภำพรวมแลว้ ยงั มคี วำมจำเป็นตอ้ งรำยงำนตำมส่วนงำน ยอ่ ยท่จี ำแนกตำมชนิดของผลติ ภณั ฑเ์ พมิ่ เตมิ ทงั้ น้ีเพ่อื แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลกำรดำเนินงำนของ ผลติ ภณั ฑ์แต่ละชนิดได้กำไรหรอื ขำดทุนจำนวนเท่ำใด ซ่งึ หำกผลติ ภณั ฑ์ชนิดใดรำยงำนผล ขำดทุนตดิ ต่อกนั หลำยเดอื น หรอื หลำยงวดบญั ชี ผู้บรหิ ำรอำจต้องพจิ ำรณำยกเลกิ ผลติ หรอื จำหน่ำยผลติ ภณั ฑด์ งั กล่ำว ทงั้ น้เี พอ่ื ประโยชน์โดยรวมของกจิ กำร บทท่ี 8
230 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ หลกั กำรพจิ ำรณำ ในกำรคำนวณประกอบเพ่อื กำรตดั สนิ ใจจะไม่นำรำยไดแ้ ละต้นทุน ผนั แปรของผลติ ภณั ฑท์ ่กี ำลงั พจิ ำรณำยกเลกิ มำรวมคำนวณ เพรำะถือว่ำถ้ำยกเลกิ ทำกำรผลติ และจำหน่ำยผลติ ภณั ฑช์ นิดนัน้ แลว้ ต้นทุนและค่ำใช้จ่ำยผนั แปรจะเป็นส่วนท่หี ลกี เลย่ี งได้ทงั้ จำนวน ขณะต้นทุนและค่ำใช้จ่ำยคงท่จี ะเป็นส่วนท่หี ลกี เล่ยี งไม่ได้ ดงั นัน้ ผู้บรหิ ำรจงึ ต้องมี ควำมรอบคอบและระมดั ระวงั ในกำรนำขอ้ มลู มำใช้ เพ่อื กำรประกอบกำรตดั สนิ ใจในแต่ละครงั้ ซง่ึ อำจจะพจิ ำรณำขอ้ มลู เชงิ คุณภำพประกอบดว้ ย เชน่ ภำพพจน์ของกจิ กำร พนักงำนขำดขวญั และกำลงั ใจ และผลตอบแทน เป็นตน้ แต่อย่ำงไรก็ตำม ในกำรใช้ข้อมูลเพ่อื กำรพจิ ำรณำตดั สนิ ใจยกเลิกผลิตภณั ฑ์หรอื จำหน่ำยผลติ ภณั ฑบ์ ำงชนิดอำจมคี วำมแตกต่ำงกนั ไปตำมลกั ษณะของธุรกจิ และขอ้ มลู ทวั่ ไป ของผตู้ ดั สนิ ใจ สอดคลอ้ งกบั บทควำมวจิ ยั ของวนั วสิ ำ เน่ืองสมศรี (2557 : บทคดั ย่อ) พบว่ำ กำรตดั สนิ ใจยกเลกิ ผลติ ภณั ฑห์ รอื จำหน่ำยผลติ ภณั ฑบ์ ำงชนิด ผบู้ รหิ ำรฝ่ำยตลำดจะใช้ขอ้ มลู กำรเตบิ โตของยอดขำยมำกท่สี ุดในกำรนำมำพจิ ำรณำ และเม่อื เปรยี บเทยี บควำมต้องกำรใช้ ขอ้ มูลทำงด้ำนบญั ชตี ้นทุนเพ่อื กำรตดั สนิ ใจ พบว่ำ ผู้บรหิ ำรฝ่ำยกำรตลำดจำแนกตำมระดบั กำรศกึ ษำต่ำงกนั มคี วำมตอ้ งกำรใชข้ อ้ มลู ในกำรยกเลกิ ผลติ ภณั ฑห์ รอื จำหน่ำยผลติ ภณั ฑบ์ ำง ชนดิ ต่ำงกนั เกณฑใ์ นการตดั สินใจ : ควรตดั สนิ ใจเลอื กทำงเลอื กทท่ี ำใหไ้ ดก้ ำไรสูงสุด หรอื ผล ขำดทุนต่ำสุด ภำยใต้กำรเปรยี บเทยี บผลกำรดำเนินงำนระหว่ำงกำรผลติ หรอื จำหน่ำยต่อไป (ไมย่ กเลกิ ) กบั ยกเลกิ กำรผลติ หรอื จำหน่ำย ตวั อย่างที่ 8-5 จำกขอ้ มลู ตวั อย่ำงท่ี 8-3 ของบรษิ ทั ปลำสวรรค์ จำกดั สมมตบิ รษิ ทั มกี ำรผลติ และ จำหน่ำยน้ำพรกิ 3 ชนิด คอื น้ำพรกิ ปลำรำ้ น้ำพรกิ ปลำป่น และน้ำพรกิ แมงดำ ซ่งึ ขณะน้ี ผบู้ รหิ ำรกำลงั พจิ ำรณำจะยกเลกิ กำรผลติ และจำหน่ำยน้ำพรกิ ปลำปน่ เพรำะกำรดำเนนิ งำน ทผ่ี ำ่ นมำมผี ลขำดทนุ ขณะทผ่ี ลติ ภณั ฑช์ นิดอ่นื มผี ลกำไรอยำ่ งต่อเน่อื ง ดงั ขอ้ มลู ต่อไปน้ี บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ 231 บริษทั ปลาสวรรค์ จากดั งบกาไรขาดทุน สาหรบั ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x1 ขำย น้าพริกปลารา้ น้าพริกปลาป่ น หน่วย : บำท หกั ตน้ ทนุ และคำ่ ใชจ้ ำ่ ยผนั แปร กำไรสว่ นเกนิ 250,000 100,000 น้าพริกแมงดา หกั ตน้ ทุนและคำ่ ใชจ้ ำ่ ยคงท:่ี 112,500 45,000 137,500 55,000 150,000 ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ 67,500 ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำร 10,500 20,000 82,500 กำไร (ขำดทุน) สุทธิ 20,000 107,000 40,000 7,000 (5,000) 15,000 60,500 หมำยเหตุ : จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ ภำยใตก้ ำรพจิ ำรณำตน้ ทุนและค่ำใชจ้ ำ่ ยคงทม่ี เี ฉพำะ คำ่ สำธำรณูปโภคในสำนกั งำนจำนวน 20,000 บำท เทำ่ นนั้ ทห่ี ลกี เลย่ี งได้ จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ สำมำรถแสดงกำรคำนวณประกอบเพ่อื พจิ ำรณำตดั สนิ ใจ ไดด้ งั น้ี ขำย ไมย่ กเลิก ยกเลิก 500,000 400,000 หกั ตน้ ทุนและคำ่ ใชจ้ ่ำยผนั แปร กำไรส่วนเกนิ 225,000 180,000 หกั ตน้ ทุนและค่ำใชจ้ ำ่ ยคงท:่ี 275,000 220,000 ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ 37,500 37,500 คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรขำยและบรหิ ำร 75,000 55,000 162,500 127,500 กำไร (ขำดทนุ ) สทุ ธิ จำกกำรคำนวณขำ้ งต้น เม่อื ยกเลกิ กำรผลติ และจำหน่ำยน้ำพรกิ ปลำป่น จะเหน็ ว่ำ ยอดขำยและต้นทุนผนั แปรจะลดลงจำกเดมิ ตำมจำนวนท่เี ป็นของผลติ ภณั ฑ์น้ำพรกิ ปลำป่น ส่วนต้นทุนและค่ำใชจ้ ่ำยคงทจ่ี ะเท่ำเดมิ ยกเว้นค่ำใช้จ่ำยในกำรขำยและบรหิ ำรคงท่จี ะลดลง จำนวน 20,000 บำท ซง่ึ เป็นส่วนของค่ำสำธำรณูปโภคสำนกั งำนทห่ี ลกี เลย่ี งไดต้ ำมเงอ่ื นไข บทท่ี 8
232 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ำรควรตดั สนิ ใจทำกำรผลติ และจำหน่ำยน้ำพรกิ ปลำป่นต่อไป เพรำะถ้ำ ยกเลกิ จะทำใหบ้ รษิ ทั มกี ำไรลดลงจำนวน 35,000 บำท (162,500 - 127,500) 4. การตดั สินใจกาหนดสดั ส่วนของผลิตภณั ฑห์ รือบริการ กรณีมีปัจจยั การ ผลิตท่ีมอี ย่อู ย่างจากดั (Utilization of a Constrained Resource) การกาหนดสดั ส่วนของผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร กรณีมปี จั จยั การผลติ ทม่ี อี ย่อู ยา่ งจากดั สาหรบั ธุรกจิ อุตสาหกรรมมกั มกี ารผลติ ผลติ ภณั ฑห์ ลายชนิด และอาจมคี วามต้องการของลกู คา้ เป็นจานวนมากในผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนดิ ปจั จยั การผลติ ทต่ี อ้ งนาเขา้ ส่กู ระบวนการผลติ จงึ ถอื เป็น สง่ิ สาคญั ทต่ี อ้ งมกี ารวางแผนไวก้ ่อนล่วงหน้าสาหรบั การผลติ แต่ละงวด ทงั้ น้ีเพ่อื การผลติ จะได้ ดาเนินงานไปอย่างต่อเน่ืองและมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยปจั จยั การผลติ ทต่ี ้องนาเขา้ สู่กระบวนการ ผลติ เช่น ปรมิ าณวตั ถุดบิ ชวั่ โมงแรงงานทางตรง ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั ร ซง่ึ เม่อื ปจั จยั ดงั กล่าวมอี ยู่ อย่างจากดั อาจไม่สามารถทาการผลติ ให้ตามความต้องการของลูกค้าได้ทงั้ จานวน ดงั นัน้ ผบู้ รหิ ารจงึ ต้องตดั สนิ ใจว่าจะผลติ ผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนิดจานวนเท่าใดจงึ จะก่อใหเ้ กดิ กาไรสูงสุด ซง่ึ จะต้องพจิ ารณาเฉพาะส่วนทเ่ี ป็นกาไรส่วนเกนิ ของผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนิด โดยไม่รวมส่วนท่ี เป็นตน้ ทุนคงท่ี การกาหนดสดั ส่วนของผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร กรณมี ปี จั จยั การผลติ ทม่ี อี ย่อู ย่าง จากดั แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดงั น้ี 4.1 ปัจจยั การผลิตท่ีมีอย่อู ย่างจากดั ชนิดเดียว การตดั สนิ ใจผลติ ผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ ารภายใต้สภาวะทม่ี ปี จั จยั การผลติ จากดั เพยี ง ชนิดเดยี ว อาจเป็นชวั่ โมงแรงงานทางตรง ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั ร หรอื ปจั จยั การผลติ อ่นื กจิ การควร จะเลอื กทาการผลติ ผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ ารทก่ี ่อใหเ้ กดิ กาไรสงู สุด โดยมขี นั้ ตอนในการพจิ ารณา ตดั สนิ ใจ ลาดบั ไดด้ งั น้ี ขนั้ ที่ 1 คานวณกาไรส่วนเกนิ ของปจั จยั การผลติ ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจากดั ของผลติ ภณั ฑ์ แต่ละชนิด การพจิ ารณาวา่ จะทาการผลติ ผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนิดจานวนเท่าใดเม่อื มปี จั จยั การผลติ บางอยา่ งจากดั อยู่ กจิ การจะต้องพจิ ารณากาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยร่วมกบั การใช้ปจั จยั การผลติ ประกอบ ซ่ึงเราเรียกว่า กาไรส่วนเกินต่อหน่วยของปจั จัยการผลิตท่ีมีอยู่อย่างจากัด (Contribution Margin per Unit of Limited Resource) สามารถคานวณไดด้ งั น้ี กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วยของปจั จยั การผลติ ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจากดั = กาไรสว่ นเกนิั ตอ่ หนว่ ย จานวนปจั จยการผลติ ทีัม่ อี ยจู่ ากัดในการผลติ ตอ่ หนว่ ย บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพอ่ื การตดั สนิ ใจ 233 ขนั้ ที่ 2 คานวณจานวนชวั่ โมงทใ่ี ชใ้ นการผลติ ผลติ ภณั ฑช์ นิดแรกจากการพจิ ารณา กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วยของปจั จยั การผลติ ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจากดั สงู สดุ ขนั้ ท่ี 3 คานวณจานวนหน่วยของการผลติ ผลติ ภณั ฑช์ นดิ ทเ่ี หลอื เกณฑใ์ นการตดั สินใจ : ควรเลอื กทาการผลติ สนิ คา้ ทม่ี กี าไรส่วนเกนิ ของปจั จยั การ ผลิตท่ีมีอยู่อย่างจากัดสูงสุดก่อน หากมปี จั จยั การผลิตคงเหลือจึงผลิตสินค้าชนิดท่ีเหลือ ตามลาดบั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจและชดั เจนมากยงิ่ ขน้ึ เกย่ี วกบั การคานวณสดั ส่วนในการผลติ ท่ี เหมาะสม กรณีมปี จั จยั การผลติ ท่มี อี ยู่อย่างจากดั ชนิดเดยี ว จงึ ขอยกตวั อย่างเพ่อื อธบิ ายและ แสดงการคานวณ ดงั แสดงในตวั อยา่ งท่ี 8-6 ดงั น้ี ตวั อย่างท่ี 8-6 บรษิ ทั ปลายฟ้า จากดั ทาการผลติ และจาหน่ายผลติ ภณั ฑ์ 2 ชนิด โดยในเดอื น หน้า บริษัทคาดว่าปจั จยั การผลิตคอื ชวั่ โมงเคร่อื งจกั รจะมกี าลงั การผลติ จากดั เน่ืองจาก เคร่อื งจกั รตวั หน่ึงถงึ กาหนดซ่อมบารุงรกั ษา บรษิ ัทจงึ คาดว่าในเดอื นหน้าจะมจี านวนชวั่ โมง เคร่อื งจกั รเหลอื เพยี ง 800 ชวั่ โมง ดงั นัน้ ฝ่ายบรหิ ารต้องทาการวางแผนการผลติ เพ่อื ให้เกดิ กาไรสูงสุดแก่กจิ การ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั การผลติ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ชวั่ โมงเคร่อื งจกั รของผลติ ภณั ฑแ์ ต่ ละชนดิ รวมทงั้ ความตอ้ งการผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนิดของลกู คา้ มดี งั น้ี รองเท้า กระเป๋ า กาไรสว่ นเกนิ ต่อหน่วย 30 40 จานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ ต่อหน่งึ หน่วย 0.5 1 ความตอ้ งการของลกู คา้ (หน่วย) 1,000 1,200 จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถแสดงลาดบั ขนั้ ตอนการพจิ ารณาตดั สนิ ใจ ไดด้ งั น้ี ขนั้ ท่ี 1 คานวณกาไรส่วนเกนิ ของปจั จยั การผลติ ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจากดั ของผลติ ภณั ฑ์ แต่ละชนดิ กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย รองเท้า กระเป๋ า 30 40 หาร จานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ ต่อหน่งึ หน่วย 0.5 1 กาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยของปจั จยั การผลติ ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจากดั 60 40 บทท่ี 8
234 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ ขนั้ ท่ี 2 คานวณจานวนชวั่ โมงทใ่ี ชใ้ นการผลติ ผลติ ภณั ฑช์ นิดแรก จากการพจิ ารณากาไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยของปจั จยั การผลติ ในขนั้ ท่ี 1 แสดงใหเ้ หน็ ว่า กจิ การควรทาการผลติ รองเทา้ ก่อน เน่อื งจากมกี าไรส่วนเกนิ ต่อหน่วยของปจั จยั การผลติ สงู กว่า กระเป๋ า ดงั นนั้ จานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ รองเทา้ เทา่ กบั ความตอ้ งการของลกู คา้ สาหรบั ผลติ รองเทา้ 1,000 หน่วย คณู จานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทต่ี อ้ งใชต้ ่อหน่งึ หน่วย 0.5 ชวั่ โมง จานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ 500 ชวั่ โมง ขนั้ ที่ 3 คานวณจานวนหน่วยของการผลติ ผลติ ภณั ฑช์ นิดทเ่ี หลอื จากจานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทม่ี อี ยจู่ ากดั 800 ชวั่ โมง เมอ่ื ไดใ้ ชส้ าหรบั การผลติ รองเทา้ ไปแลว้ จานวน 500 ชวั่ โมง จานวนชวั่ โมงทเ่ี หลอื เพอ่ื ทาการผลติ กระเป๋ า จงึ เทา่ กบั = 800 – 500 = 300 ชวั่ โมง เมอ่ื จานวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทต่ี อ้ งใชต้ ่อหน่งึ หน่วย สาหรบั ผลติ กระเป๋ าเทา่ กบั 1 ชวั่ โมง ซง่ึ มชี วั่ โมงเครอ่ื งจกั รเหลอื จานวน 300 ชวั่ โมง ดงั นนั้ สามารถผลติ ได้ = 300 / 1 = 300 หน่วย ดงั นนั้ จากการคานวณภายใตจ้ านวนชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทม่ี อี ยจู่ ากดั เพยี ง 800 ชวั่ โมง ภายใต้การพจิ ารณากาไรสูงสุด ดงั นัน้ บรษิ ัทจะต้องผลติ รองเท้าจานวน 1,000 หน่วย ตาม ความต้องการของลูกค้า และควรจะผลติ กระเป๋ าเพยี ง 300 หน่วยถึงแม้จะไม่เท่ากบั ความ ตอ้ งการของลกู คา้ กต็ าม 4.2 ปัจจยั การผลิตที่มีอย่อู ย่างจากดั หลายชนิด กรณมี ปี จั จยั การผลติ หลายชนดิ ทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจากดั หมายถงึ บางครงั้ ในการผลติ อาจมปี จั จยั การผลติ ทจ่ี ากดั มากกว่า 1 ชนิด เช่น ปจั จยั จานวนชวั่ โมงเคร่อื งจกั รจากดั ปจั จยั วตั ถุดบิ จากดั รวมถงึ ปจั จยั จานวนชวั่ โมงแรงงานจากดั ขณะเดยี วกนั การตดั สนิ ใจเพ่อื ใหเ้ กดิ กาไรสูงสุดแก่บรษิ ทั การคานวณว่าจะผลติ ผลติ ภณั ฑช์ นิดใดจานวนเท่าใด จึงมขี นั้ ตอนในการ ตดั สนิ ใจ ดงั น้ี บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ 235 ขนั้ ท่ี 1 แจกแจงตวั แปรทใ่ี ชใ้ นการตดั สนิ ใจ ขนั้ ที่ 2 กาหนดสมการแสดงวตั ถุประสงคห์ ลกั ของกจิ การซง่ึ จะมไี ด้ 2 แบบ คอื สมการแสดงค่าสงู สดุ (Maximize) และสมการแสดงคา่ ต่าสดุ (Minimize) ขนั้ ที่ 3 เขยี นสมการแสดงขอ้ จากดั ของปจั จยั การผลติ แต่ละชนดิ ขนั้ ที่ 4 แกส้ มการขอ้ จากดั เพ่อื หาสดั ส่วนในการผลติ ทเ่ี หมาะสม ซง่ึ นอกจากจะ สามารถหาคาตอบด้วยวธิ กี ารแก้สมการได้แล้ว ยงั สามารถใช้วธิ วี าดกราฟ หรอื ใช้โปรแกรม สาเรจ็ รปู SPSS เพ่อื หาคาตอบไดเ้ ช่นกนั ตวั อย่างท่ี 8-7 จำกขอ้ มลู ตวั อย่ำงท่ี 8-6 ของบรษิ ทั ปลำยฟ้ำ จำกดั ถ้ำบรษิ ทั มปี จั จยั กำรผลติ ทจ่ี ำกดั เพม่ิ อกี 1 ชนดิ คอื ชวั่ โมงแรงงำน โดยมขี อ้ มลู ทร่ี วบรวมไดเ้ พม่ิ เตมิ ดงั น้ี กำไรส่วนเกนิ ต่อหน่วย (บำท) รองเท้า กระเป๋ า ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นกำรผลติ ต่อหน่วย (ชวั่ โมง) 30 40 ชวั่ โมงแรงงำนทใ่ี ชใ้ นกำรผลติ ต่อหน่วย (ชวั่ โมง) 0.5 1 3 2 ปจั จยั กำรผลติ จำกดั ต่อเดอื น: ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั ร 800 ชวั่ โมง ชวั่ โมงแรงงำน 400 ชวั่ โมง จำกขอ้ มลู ขำ้ งตน้ สำมำรถแสดงขนั้ ตอนกำรคำนวณหำสดั ส่วนกำรผลติ ของผลติ ภณั ฑ์ 2 ชนดิ กรณมี ปี จั จยั กำรผลติ หลำยชนิดทม่ี อี ยอู่ ยำ่ งจำกดั ไดด้ งั น้ี ขนั้ ท่ี 1 แจกแจงตวั แปรทใ่ี ชใ้ นกำรตดั สนิ ใจ กำหนดให้ x แทน จำนวนหน่วยผลติ รองเทำ้ y แทน จำนวนหน่วยผลติ กระเป๋ ำ ขนั้ ท่ี 2 กำหนดสมกำรวตั ถุประสงค์ (Objective Function) Max Z = 30x + 40y บทท่ี 8
236 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ ขนั้ ท่ี 3 กำหนดสมกำรขอ้ จำกดั ของปจั จยั กำรผลติ ทกุ ชนิด 800 ปจั จยั ชวั่ โมงเครอ่ื งจกั ร : 0.5x + 1y ≤ 400 ปจั จยั ชวั่ โมงแรงงำน : 3x + 2y ≤ ขนั้ ที่ 4 กำรแกส้ มกำรขอ้ จำกดั เพ่อื หำสดั ส่วนในกำรผลติ ทเ่ี หมำะสม 0.5x + 1y = 800 .… 3x + 2y = 400 …. นำ คณู 3 จะได้ 1.5x + 3y = 2,400 …. นำ คณู 0.5 จะได้ 1.5x + 1y = 1,200 …. นำ ลบ จะได้ 2y = 1,200 y = 600 แทนคำ่ y ใน เพ่อื หำคำ่ x 800 0.5X + 1(600) = 0.5x = 800 – 600 200 / 0.5 x= x = 400 ดงั นนั้ สดั ส่วนในกำรผลติ ทเ่ี หมำะสมภำยใต้ปจั จยั กำรผลติ ทจ่ี ำกดั หลำยชนิด บรษิ ทั ควรผลติ รองเทำ้ จำนวน 400 หน่วย และผลติ กระเป๋ ำจำนวน 600 หน่วย หำกบรษิ ัทต้องกำรทรำบกำไรสูงสุดท่จี ะได้รบั จำกสดั ส่วนในกำรผลติ ท่เี หมำะสม ขำ้ งตน้ สำมำรถนำสดั สว่ นทไ่ี ดไ้ ปแทนค่ำในสมกำรวตั ถุประสงค์ จำก Max Z = 30x + 40y เมอ่ื x เท่ำกบั 400 และ y เท่ำกบั 600 จะได้ Max Z = 30x + 40y = 30(400) + 40(600) = 12,000 + 24,000 = 36,000 ดงั นนั้ บรษิ ทั จะไดร้ บั กำไรส่วนเกนิ สงู สุดเท่ำกบั 36,000 บำท บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพอ่ื การตดั สนิ ใจ 237 5. การตดั สินใจจาหน่ายหรือผลิตต่อของผลิตภณั ฑร์ ่วม ผลติ ภณั ฑร์ ว่ ม (Joint Products) หมำยถงึ ผลติ ภณั ฑต์ งั้ แต่ 2 ชนิดขน้ึ ไปทเ่ี กดิ จำก กระบวนกำรผลติ ร่วมกนั โดยใช้ปจั จยั กำรผลติ ชนิดเดยี วกนั เช่น วตั ถุดบิ ทำงตรง ค่ำแรงงำน ทำงตรง และค่ำใช้จ่ำยกำรผลิตร่วมกัน ซ่ึงต้นทุนท่ีใช้ร่วมกันน้ีเรียกว่ำ ต้นทุนร่วม (Joint Costs) จดั เป็นต้นทุนในอดตี ทไ่ี มม่ ปี ระโยชน์ต่อกำรตดั สนิ ใจ ตรงกนั ขำ้ มกบั ตน้ ทุนกำรผลติ ต่อ ท่ถี ือเป็นต้นทุนท่มี ผี ลต่อกำรตดั สนิ ใจ เพรำะเม่อื กระบวนกำรผลติ มำถึงจุดแยกตวั (Split-off Point) กจ็ ะไดผ้ ลติ ภณั ฑร์ ว่ มออกมำ (สมนึก เออ้ื จริ ะพงษ์พนั ธ์, 2552 : 338) และปญั หำทม่ี กั เกดิ ขน้ึ แลว้ ทำใหผ้ ูบ้ รหิ ำรตอ้ งนำขอ้ มลู ทำงดำ้ นตน้ ทุนมำพจิ ำรณำเพ่อื ประกอบกำรตดั สนิ ใจก็ คอื บรษิ ทั ควรจะขำยผลติ ภณั ฑเ์ ลย ณ จดุ แยกตอนทเ่ี ป็นผลติ ภณั ฑร์ ว่ ม หรอื จะทำกำรผลติ ต่อ และค่อยขำยท่ีหลงั ซ่ึงในกำรผลิตต่อจะเกิดต้นทุนกำรผลิตต่อหรือต้นทุนหลังจุดแยกตัว (Separable Costs) มกั ประกอบดว้ ย ตน้ ทุนกำรผลติ ต่อ และค่ำใชจ้ ่ำยอ่นื ๆ ลกั ษณะของขอ้ มลู ผลติ ภณั ฑร์ ว่ มและตน้ ทุนรว่ ม สำมำรถนำมำแสดงในภำพท่ี 8-3 ดงั น้ี เครอ่ื งในหมู จำหน่ำย หมู ตน้ ทนุ ส่วนเพมิ่ ตน้ ทนุ รว่ ม เน้อื สนั นอก หมสู ะเต๊ะ จำหน่ำย จดุ แยกตวั ผลติ ภณั ฑร์ ว่ ม ภาพท่ี 8-3 ผลติ ภณั ฑร์ ว่ มและตน้ ทนุ รว่ ม จำกภำพท่ี 8-2 อธบิ ำยไดว้ ่ำ “หม”ู เป็นตน้ ทุนรว่ มทน่ี ำมำผลติ ผลติ ภณั ฑ์ ณ จุดแยก ได้ 2 ชนิดคอื เครอ่ื งในหมู และเน้ือสน้ นอก หรอื เรยี กว่ำ “ผลติ ภณั ฑร์ ่วม” สำหรบั เคร่อื งในหมู จะนำออกจำหน่ำยทนั ที ส่วนเน้ือสนั นอกจะมกี ำรนำไปผลติ ต่อเป็นหมสู ะเต๊ะแลว้ ค่อยขำย โดย ในกำรผลติ ต่อก่อใหเ้ กดิ ต้นทนุ สว่ นเพม่ิ ดว้ ย รปู แบบกำรนำเสนอขอ้ มลู ประกอบเพ่อื กำรตดั สนิ ใจ แสดงไดด้ งั น้ี รำยไดส้ ว่ นเพม่ิ (มลู ค่ำหลงั กำรผลติ ต่อ - มลู ค่ำ ณ จดุ แยก) xx หกั ตน้ ทุนส่วนเพมิ่ (ตน้ ทนุ กำรผลติ ต่อ) xx กำไรส่วนเพม่ิ (ลดลง) xx บทท่ี 8
238 การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ เกณฑใ์ นการตดั สินใจ : ถำ้ กำรคำนวณไดก้ ำไรสว่ นเพมิ่ ควรตดั สนิ ใจผลติ ต่อแลว้ คอ่ ยขำย แต่ถำ้ ไดผ้ ลกำไรลดลงควรตดั สนิ ใจขำยเลย ณ จดุ แยกตวั ตวั อย่างท่ี 8-8 โรงฆ่ำสตั วแ์ ห่งหน่ึง ผลติ และจำหน่ำยหมชู ำแหล่ะ เมอ่ื ผ่ำนกระบวนกำรผลติ ขนั้ ต้น แลว้ จะไดผ้ ลติ ภณั ฑ์ ณ จุดแยกตวั 2 ชนิด คอื เน้ือหมสู นั นอก และเคร่อื งในหมู สำหรบั เคร่อื ง ในหมูกจิ กำรขำยทนั ที แต่เน้ือสนั นอกนัน้ กจิ กำรจะขำยทนั ทหี รอื นำไปผลติ ต่อเป็นหมสู ะเต๊ะ แลว้ คอ่ ยขำยกไ็ ด้ ขอ้ มลู ของโรงฆำ่ สตั วแ์ ห่งน้ี มดี งั น้ี หน่วย : บำท เคร่ืองในหมู เนื้อสนั นอก มลู คำ่ ขำย ณ จดุ แยกตวั 10,000 40,000 มลู ค่ำขำยหลงั กำรผลติ ต่อ - 100,000 ตน้ ทุนรว่ มทจ่ี ดั สรรให้ 5,000 15,000 ตน้ ทนุ ผลติ เพมิ่ หลงั จดุ แยกตวั - 50,000 จำกข้อมูลขำ้ งต้น ผู้บรหิ ำรกำลงั พจิ ำรณำว่ำเน้ือสนั นอกนัน้ จะขำยทนั ที ณ จุดแยก หรอื จะผลติ ต่อแลว้ ค่อยขำยทหี ลงั เพ่อื ใหก้ ำรตดั สนิ ใจเป็นไปอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ จงึ ได้แสดง กำรคำนวณประกอบดงั น้ี รำยไดส้ ่วนเพมิ่ (100,000 – 40,000) 60,000 หกั ตน้ ทุนสว่ นเพมิ่ 50,000 กำไรสว่ นเพม่ิ (ลดลง) 10,000 จำกกำรคำนวณจะเหน็ ว่ำ ต้นทุนร่วมท่จี ดั สรรให้จำนวน 15,000 บำท บรษิ ทั ไม่ได้ นำมำคำนวณประกอบเพรำะต้นทุนร่วมเป็นต้นทุนในอดีตซ่ึงไม่มผี ลต่อกำรตดั สินใจจงึ ไม่ จำเป็นตอ้ งนำมำคำนวณ ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ำรควรตดั สนิ ใจผลติ เน้ือสนั นอกเป็นหมสู ะเต๊ะก่อนแลว้ ค่อยขำย เพรำะ จะทำใหม้ กี ำไรสว่ นเพมิ่ จำกกำรผลติ ต่อจำนวน 10,000 บำท บทท่ี 8
การใชข้ อ้ มลู ตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ 239 6. การตดั สินใจปิ ดโรงงานชวั่ คราว กำรตัดสินใจปิดโรงงำนชัว่ ครำว (Temporary Shutdown) กำรดำเนินธุรกิจ ผูป้ ระกอบกำรมกั ประสบปญั หำท่เี กดิ จำกภำวะสงครำมหรอื ควำมผนั ผวนทำงเศรษฐกจิ เป็น ระยะ ซง่ึ บำงชว่ งเวลำควำมผนั ผวนน้ีทำใหก้ จิ กำรต้องประสบผลขำดทุนอย่ำงต่อเน่ือง กำรขำย สนิ คำ้ ไดน้ ้อยลงทำใหก้ ำไรสว่ นเกนิ ไมเ่ พยี งพอทจ่ี ะชดเชยตน้ ทนุ คงท่ี สง่ิ เหล่ำน้ีผบู้ รหิ ำรจะต้อง ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หำเพ่อื ควำมอย่รู อด ในกำรปิดโรงงำนจะมตี ้นทุนคงทท่ี ห่ี ลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ รวมทงั้ ค่ำใช้จ่ำยต่ำงๆ ท่จี ะต้องจ่ำยเม่อื กลบั มำดำเนินงำนใหม่ เช่น ค่ำใช้จ่ำยในกำรทดลองเดิน เครอ่ื งจกั รใหม่ คำ่ น้ำมนั หลอ่ ล่นื เรยี กว่ำ ต้นทุนปิดโรงงำน (Shutdown Cost) ดงั นนั้ ถ้ำกจิ กำร ตดั สนิ ใจปิดโรงงำนชวั่ ครำว กห็ มำยถงึ กจิ กำรประสบผลขำดทุนเท่ำกบั ตน้ ทุนปิดโรงงำน แต่อย่ำงไรกต็ ำม ในกำรใชข้ อ้ มลู เพ่อื กำรพิจำรณำตดั สนิ ใจปิดโรงงำนชวั่ ครำว อำจมี ควำมแตกต่ำงกันไปตำมลกั ษณะของธุรกิจ และข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตัดสินใจ สอดคล้องกับ บทควำมวจิ ยั ของวนั วสิ ำ เน่ืองสมศรี (2557 : บทคดั ย่อ) พบว่ำ กำรตดั สนิ ใจปิดโรงงำน ชวั่ ครำว ผู้บรหิ ำรฝ่ำยตลำดจะใช้ขอ้ มูลกำไรลดลง (ขำดทุน) มำกทส่ี ุดในกำรนำมำพจิ ำรณำ และเม่ือเปรียบเทียบควำมต้องกำรใช้ข้อมูลทำงด้ำนบัญชีต้นทุนเพ่ือกำรตัดสินใจ พบว่ำ ผบู้ รหิ ำรฝำ่ ยกำรตลำดจำแนกตำมเพศ จำแนกตำมอำยุ และจำแนกตำมระดบั กำรศกึ ษำต่ำงกนั มคี วำมตอ้ งกำรใชข้ อ้ มลู ในกำรปิดโรงงำนชวั่ ครำวต่ำงกนั เกณฑใ์ นการตดั สินใจ : ควรตดั สนิ ใจปิดโรงงำนชวั่ ครำว หำกผลขำดทุนทเ่ี กดิ ขน้ึ ระหวำ่ งทำงเลอื กทำกำรผลติ ต่อไปมมี ำกกวำ่ ตน้ ทุนในกำรปิดโรงงำนชวั่ ครำว แต่ถำ้ ผลขำดทุน สำหรบั ทำงเลอื กทำกำรผลติ ต่อไปมนี ้อยกว่ำต้นทุนในกำรปิดโรงงำนชวั่ ครำว ควรตดั สนิ ใจทำ กำรผลติ ต่อไป ตวั อย่างที่ 8-9 จำกข้อมูลตัวอย่ำงท่ี 8-3 ของบรษิ ัท ปลำสวรรค์ จำกดั หำกบรษิ ัทกำลงั ประสบกับ ปญั หำเศรษฐกจิ ทเ่ี กดิ จำกควำมขดั แยง้ ทำงกำรเมอื งอย่ำงรุนแรงในปจั จุบนั จนทำใหย้ อดขำย ปกตขิ องบรษิ ทั ลดลงจำนวนมำก จำกทว่ี ำงแผนและขำยไว้เดมิ จำนวน 25,000 กระปุก ลดลง เหลอื แค่ 8,000 กระปุก แต่ข้อมูลอ่นื ไม่มกี ำรเปล่ยี นแปลง ซ่งึ ขณะน้ีผู้บรหิ ำรกำลังเสนอ ทำงเลอื กเพ่อื แกไ้ ขปญั หำดงั กล่ำว 2 ทำงเลอื ก ดงั น้ี ทำงเลอื กท่ี 1 ทำกำรผลติ ต่อไปตำมปกติ บทท่ี 8
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328