Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างหลักสูตร ปีการศึกษา 2565 full_270665

โครงสร้างหลักสูตร ปีการศึกษา 2565 full_270665

Published by sitchai tasaiwa, 2022-06-27 08:52:39

Description: โครงสร้างหลักสูตร ปีการศึกษา 2565 full_270665

Search

Read the Text Version

193 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย คำอธบิ ายสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทยเพ่มิ เติม รหัสวิชา 11201 รายวิชา ภาษาไทยเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งคำ อ่านออกเสียงคำคล้องจองและข้อความส้ันๆ อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ ง สมำ่ เสมอ และนำเสนอเร่อื งที่อ่าน อ่านนิทานพื้นบา้ น๔ภาคของไทย บอกความหมายของคำและข้อความที่อา่ น เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ ความหมายเครื่องหมายหรือสัญลักษณส์ ำคัญที่มกั พบเหน็ ใน ชีวติ ประจำวัน ตอบคำถามเกย่ี วกับเร่ืองทอี่ ่าน เล่าเร่ืองย่อจากเร่ืองที่อ่าน อา่ นสะกดคำ และความหมายของ คำในภาษาไทยและภาษาอาเซยี น คาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรื่องที่อ่าน มีมารยาทในการอ่าน คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขียนส่ือสารด้วยคำและประโยคง่ายๆ มีมารยาทในการเขียน บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ตอ่ คำคล้องจองง่ายๆ และพฒั นาทกั ษะการ คดิ สู่ศตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการอา่ น กระบวนการทางภาษา กระบวนการฟงั กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการ ทำงาน กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด กระบวนการสร้างค่านิยม กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการแก้ปญั หา เพื่อให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ มี วนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกซื่อและเขยี นพยัญชนะไทยตามรปู แบบอักษรไทยได้ 2. บอกและเขียนตัวเลขไทยได้ 3. อ่านและเขียนสระเสยี งสั้น-เสยี งยาว ได้ 4. แตง่ ประโยคง่ายๆ ได้ 5. อา่ นและเขยี นสะกดคำทป่ี ระสมกับสระตา่ งๆ ได้ 6. ต้งั คำถามและตอบคำถาม ได้ 7. อา่ นเร่ืองแลว้ ตอบคำถามจากเร่ืองได้ 8. บอกความหมายของเคร่ืองหมายหรือสญั ลกั ษณส์ ำคัญท่ีมักพบเห็นในชีวิตประจำวนั ได้

194 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยเพ่มิ เติม รหัสวิชา 12201 รายวชิ า ภาษาไทยเสริมทกั ษะ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งคำ คำคล้องจอง ข้อความและบทรอ้ ยกรองง่ายๆ อ่านหนังสอื ตามความสนใจอย่าง สมำ่ เสมอและนำเสนอเร่ืองที่อา่ นนทิ านพื้นบา้ น ตง้ั คำถามและตอบคำถามเก่ยี วกับเรื่องที่อา่ นเร่ืองท่ีฟงั และดู ระบใุ จความสำคญั ข้อคิดและรายละเอยี ดจากการอ่านหรือการฟงั คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั คำภาษาถน่ิ 4ภาคของไทย เขยี นเรอ่ื งสนั้ ๆ เกยี่ วกับประสบการณ์หรือตามจินตนาการ เขียนสะกดคำและบอกความหมาย ของคำ บอกสาระสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย ลกั ษณะคำ คล้องจอง สื่อสารได้ชดั เจนตรงตาม เรยี บเรียงคำเป็นประโยคไดต้ รงตามเจตนาของการสื่อสาร มมี ารยาทใน การอ่านการเขียนการฟังการดูและการพูด ตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและพฒั นาทกั ษะการคดิ สู่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการทางภาษา กระบวนการฟัง กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการ ทำงาน กระบวนการเรยี นรู้ความเข้าใจ กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการสรา้ งค่านยิ ม กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการแก้ปัญหา เพ่ือให้มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซือ่ สตั ย์สุจรติ มี วนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ม่งุ มัน่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. บอกซ่ือและเขียนพยัญชนะไทยตามรปู แบบอักษรไทยได้ 2. บอกและเขียนตวั เลขไทยได้ 3. อา่ เขยี นสะกดคำและแจกลกู คำได้ 4. แตง่ ประโยคง่ายๆ ได้ 5. บอกความหมายของคำ ได้ 5. บอกคำคล้องจองได้ 7. ผนั วรรณยกุ ตอ์ ักษรสงู กลางต่ำได้ 8. เขยี นเรอื่ งจากภาพตามจนิ ตนาการได้

195 คำอธบิ ายสาระการเรยี นร้ภู าษาไทยเพ่ิมเติม รหัสวิชา ท 13201 รายวิชาภาษาไทยเสรมิ ทักษะ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ป.3 เวลา 40 ชว่ั โมง อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง นิทานทอ้ งถนิ่ อีสานเร่ืองยายหมาขาว เร่ืองสนั้ เร่อื ง สนุ ขั ตวั น้อย คำทีม่ ตี ัวการนั ต์ คำที่มี รร คำท่ีมีพยัญชนะและสระไมอ่ อกเสยี ง คำพ้อง คำพเิ ศษอ่ืนๆ เช่น คำที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ ต้ังคำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ลเก่ยี วกับเรอื่ งท่อี า่ น ลำดับเหตุการณ์และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จาก เร่ืองท่ีอา่ นโดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากเรื่องทีอ่ า่ นเพื่อนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั หนงั สือ ตามความสนใจ อย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องที่อ่าน ขอ้ เขียนเชงิ อธบิ ายและปฏิบัติตามคำสั่งหรือ ข้อแนะนำ อธบิ ายความหมายของคำและข้อความท่ีอา่ น ความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และ แผนภมู ิ คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด ขียนบรรยายเก่ยี วกับส่ิงใดสงิ่ หนง่ึ ได้อยา่ งชดั เจน บนั ทกึ ประจำวนั จดหมายลาครู เรือ่ งตามจินตนาการ และมีมารยาทในการอ่าน การเขยี น ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง และพัฒนาสู่ศตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการอา่ น กระบวนการฟังกระบวนการเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ กระบวนการสร้าความคิด วจิ ารรณญาณเพ่ือให้มี ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียงม่งุ มนั่ ในการทำงาน รัก ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. จับใจความสำคัญและบอกรายละเอียดจากนทิ านทฟ่ี งั ได้ 2. อ่านและเขียนคำทีม่ ีอกั ษรนำได้ 3. ผนั วรรณยุกตแ์ ละเลือกใช้คำทม่ี ีอกั ษรนำได้ถกู ต้อง 4. บอกลกั ษณะและอ่าน เขยี นคำท่มี ตี ัวการนั ต์ได้ 5. อา่ นออกเสยี งและสะกดคำที่ออกเสยี ง อะ ไดถ้ ูกตอ้ ง 6. บอกลกั ษณะของพยางค์ คำ และกลุ่มคำได้ 7. อ่านและเขยี นสะกดคำที่มี รร (ร หนั ) ไดถ้ กู ต้อง 8. อา่ นและเขียนคำท่มี ีตวั สะกดมาตราแมก่ ก แม่กบ แม่กดและแม่กนได้ถูกต้อง 9. เขียนจดหมายลาครไู ด้ถูกตอ้ ง ครบถว้ นตามรูปแบบการเขยี นจดหมาย 10. คัดลายมอื ดว้ ยตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและตัวบรรจงคร่งึ บรรทดั ได้ 11. แต่งประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำสงั่ ประโยคขอร้อง และ ประโยคแสดงความต้องการได้ 12. บอกความหมายและใชค้ ำราชาศพั ท์ได้ถูกต้อง 13.อ่านและเขียนอกั ษรย่อได้ 14.อ่านและเขียนคำภาษาองั กฤษท่ใี ช้ในภาษาไทยไดอ้ ย่างถูกต้อง 15. แต่งคำขวญั ได้ถูกต้องตามรปู แบบ และสละสลวย 16. เขียนและพดู เล่าเร่ืองได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 17. เขียนแสดงความรสู้ ึกได้อย่างสร้างสรรค์

196 กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รหสั วชิ า ค 11201 สาระการเรยี นรู้ วชิ าคณติ ศาสตร์(เพ่มิ เตมิ ) ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง บอกจำนวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงส่งิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลข ไทยแสดงจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 อ่านจำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงส่งิ ตา่ งๆ ตามจำนวนกำหนด อ่าน และเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไม่เกิน 100 และ ๐ เขยี นจำนวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ แสดง สง่ิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยแสดงจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ ๐ แสดงจำนวนของสง่ิ ต่าง ๆ แสดงส่งิ ต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทยแสดง จำนวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 ตวั เลขไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหา การลบของจำนวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย = ≠ ,>,< หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ ละหลักและการเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนในรปู กระจาย. เรียงลำดบั จำนวนไม่เกนิ 100 และ 0 ต้ังแต่ 3 ถึง 5 จำนวน หาคา่ ของตัวเลขไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 ความยาวเปน็ เซนติเมตร เปน็ เมตร นำ้ หนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด ระบุ จำนวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจำนวนที่เพม่ิ ข้ึนหรอื ลดลงทีละ 1 และทลี ะ 10 และระบุรูปท่ีหายไปในแบบรูป ซ้ำของรูปเรขาคณิต และรปู อื่น ๆ ทส่ี มาชิกในแต่ละชดุ ทีซ่ ำ้ มี 2 รปู วัดความยาวเป็นเซนตเิ มตร เปน็ เมตร น้ำหนักเป็นกโิ ลกรัม เป็นขีด จำแนกรปู สามเหล่ยี ม รูป สเ่ี หล่ียม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ริ ปู ภาพใน การหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเมอ่ื กำหนดรูป 1 รูปแทน 1 หนว่ ย การประดิษฐบ์ ้านทรงไทยจากดิน บ้านกลาง อ.บางประหัน จ.พระนครศรอี ยุธยา ตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และพัฒนาทักษะสู่ความคิดที่ศตวรรษที่ 21 โดยใช้ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการเรียนรเู้ ข้าใจ กระบวนการ คิดสร้างความรวบยอด กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเช่ือมโยง เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มคี วามซือ่ สตั ย์ สุจรติ มุง่ มัน่ ในการทำงาน มีวนิ ัย ใฝ่ เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1.อา่ นและเขยี นจำนวนของส่ิงต่าง ๆ ตามจำนวนนบั หน่ึงเปน็ ตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทยและ ตวั หนังสอื ตามที่กำหนด 2.เปรยี บเทยี บจำนวนนบั และการใช้เครอ่ื งหมาย = ≠ < > 3.เรียงลำดบั จำนวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 ต้งั แต่ 3 ถึง 5 จำนวน 4. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนับ 5. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา การบวกและโจทย์ปัญหา การลบของจำนวนนับ

197 6. ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรูปของจำนวนท่เี พ่ิมข้ึนหรอื ลดลงทลี ะ ๑ และทีละ ๑๐และระบรุ ปู ท่ี หายไปในแบบรปู ซำ้ ของรปู เรขาคณิตและรูปอ่ืน ๆ ทส่ี มาชิก 7.วดั และเปรียบเทยี บความยาวเป็นเซนติเมตร เปน็ เมตร 8.วดั และเปรียบเทยี บนำ้ หนักเป็นกิโลกรมั เปน็ ขีด 9.จำแนกรปู สามเหลยี่ ม รูปส่เี หลยี่ ม วงกลมวงรี ทรงสเ่ี หลยี่ มมุมฉาก ทรงกลมทรง กระบอก และ กรวย

198 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม รายวชิ า คณติ ศาสตร์ (เพ่มิ เตมิ ) รหสั วิชา ค 21201 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เวลา 40 ชัว่ โมง ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 บอกเขยี นและอ่านตัวเลขฮนิ ดู อารบกิ ตัวเลขไทยและตัวหนังสอื แสดงปริมาณของสิ่งของหรือ จำนวนนับทไี่ ม่เกนิ หน่งึ พนั และศูนย์ นับตัวเลขจากปลาตะเพยี นสาน จ. อยุธยา รปู เรขาคณิตสองมิติโดยใช้ ระบบของรูปเรขาคณติ อ่านตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทยและตวั หนงั สอื แสดงปริมาณของสิง่ ของหรือจำนวน นบั ไม่เกนิ หน่ึงพนั และศนู ย์ เปรียบเทียบจำนวนนบั ไมเ่ กินหนงึ่ พันและศนู ย์ ความยาวในหนว่ ยเดยี วกนั น้ำหนัก ในหนว่ ยเดยี วกัน ปรมิ าตรและความจุ (กลุ่มตกแตง่ รถแหป่ ราสาทผึ้งสกลนคร โดยการวัดความยาวของ ปราสาทผ้งึ แล้วนำมาเปรยี บเทยี บ) เรยี งลำดับจำนวนนบั ไม่เกนิ หน่ึงพนั และศนู ย์ อธิบายความยาวเป็นเมตร และเซนตเิ มตร น้ำหนักเป็นกิโลกรมั และขดี ปริมาตรและความจุเปน็ ลติ ร จำนวนเงินทั้งหมดจากเงินเหรียญ และธนบัตร บวก ลบ คูณ หาร บวกลบคูณหารระคน ของจำนวนนบั ไม่เกนิ หนงึ่ พันและศูนย์พร้อมตระหนกั ถึง ความสมเหตสุ มผล ของคำตอบวเิ คราะห์และหาคำตอบของโจทย์ปญั หา และโจทยป์ ัญหาระคนของจำนวนนบั ไม่เกินหน่ึงพันและศนู ย์พรอ้ มทง้ั ตระหนักถงึ สมเหตุสมผลของคำตอบ ความสัมพนั ธบ์ นหน้าปดั นาฬิกา วนั เดอื น ปี จากปฏทิ ิน ชนดิ ของรปู เรขาคณติ สองมิติ สามมิติ วา่ เป็นรูปสามเหลีย่ ม ส่ีเหลี่ยม วงกลม หรอื วงรี จำนวนในแบบรปู ของรปู ทมี่ รี ูปรา่ งขนาดหรือสีท่ีสัมพนั ธ์กนั อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ การใช้ข้อมูลจากแผนภูมภิ าพใน การหาคำตอบใชว้ ิธีการท่หี ลากหลายแก้ปัญหา ความร้กู ระบวนการทางคณติ ศาสตรใ์ นการแกป้ ัญหาใน สถานการณต์ ่างๆไดอ้ ย่างเหมาะสม เหตุผลในการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่อื สาร การส่อื ความหมายและนำเสนอได้อย่างถูกต้อง เชอ่ื มโยงความรูต้ า่ งๆใน คณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อน่ื และมคี วามคิดสรา้ งสรรค์2. ทกั ษะการคิดสู่ศตวรรษท่ี 21 3Rs Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithmetics (คดิ เลขเป็น) 8 Cs C1: Critical thinking & problem –Solving (ทักษะด้านการคิดวเิ คราะห์และการ แก้ปญั หา) C2: Creativity & innovation (ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม) C7: Career & learning Self-reliance (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้) โดยใช้กระบวนการสอน กระบวนการเรยี นรู้ความเข้าใจ กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการสืบสวนสอบสวน กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนรู้ความเข้าใจและกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื ใหม้ ีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ ทำงาน รกั ในความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. หาคา่ ไมท่ ราบในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก 2. หาค่าไมท่ ราบในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก 3. หาคา่ ไม่ทราบในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู

199 4. หาค่าไมท่ ราบในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารท่ีมตี ัวต้ังไม่เกนิ 2 หลักตวั หาร 1 หลกั โดยทีผ่ ลหารมี 1 หลักทง้ั หารลงตวั และไมล่ งตัว 5. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกการลบเกยี่ วกับความยาวท่ีมหี นว่ ยเป็นเมตรและเซนติเมตร 6. การวดั และเปรียบเทียบน้ำหนกั เปน็ กโิ ลกรัมและกรัมกโิ ลกรัมและขดี 7. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคน

200 รหสั วชิ า ค ๒๑๒๐๑ คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ วิชา คณิตศาสตรเ์ พิ่มเติม เวลา ๔๐ ช่วั โมง ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื แสดงจำนวนนับ หลกั คา่ ของเลขโดดในแต่ละ หลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การเรียงลำดับจำนวน แบบรูปของ จำนวนท่ีเพิ่มข้ึนและลดลง การบวกจำนวนนับท่ีมีผลบวกไม่เกนิ 100,000 การบวกจำนวนสามจำนวนท่ีมีผลบวก ไม่เกิน 100,000 โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 100,000 การ ลบจำนวนสามจำนวน การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาและการ สร้างโจทย์ปัญหาการลบ การคูณจำนวนหนึ่งหลักกับจำนวนไม่เกินสี่หลัก การคูณจำนวนสองหลักกับจำนวนสอง หลัก โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ การหารทม่ี ีตวั ต้ังไม่เกินสี่หลักและตวั หารมีหนึ่งหลัก การหาตัว ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการหาร การวัด ความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร การเลือกเครื่องวัดความยาวท่ี เหมาะสม การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธ์ ระหว่างหน่วยความยาว โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับความยาว รูปทมี่ ีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร การบอก อ่าน และเขียนเศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วนการเปรียบเทียบเศษส่วน การเรียงลำดับเศษส่วน การบวก เศษส่วนที่มีตัวส่วนเทา่ กัน การลบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเทา่ กัน โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเศษส่วน การวัดและ บอกนำ้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมและขดี กิโลกรัมและกรัม การเลอื กเคร่ืองชั่งที่เหมาะสม การคาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัม และเป็นขีด การเปรียบเทียบน้ำหนักโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม โจทย์ ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนัก การวัดปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร การเลือกเครื่องตวงที่เหมาะสม การ คาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างลิตรกับ มิลลิลิตร ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกับมิลลิลิตร โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตรและ มิลลิลิตร การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกข้อมูล การอ่านและเขียนแผนภูมิรูปภาพ การอ่านและเขียนตารางทาง เดียว การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การเขียนบอกเวลาและการอ่าน การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างชั่วโมงกับนาที การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมที่ระบุ เวลา โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับเวลาและระยะเวลา เงินเหรยี ญและธนบัตรชนิดต่างๆ การบอกจำนวนเงินและเขียนแสดง จำนวนเงินแบบใช้จุดและการอ่าน การเปรียบเทียบจำนวนเงินและการแลกเงิน การอ่านและเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าฝึก ทักษะ โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรูส้ ง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจำวนั อย่างสร้างสรรค์

201 เพื่อใหเ้ หน็ คุณค่าและมเี จตคติที่ดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มรี ะเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผิดชอบมวี ิจารณญาณ มีความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์และมีความเช่ือมั่นในตนเอง ผลการเรียนรู้ 1.การอ่านเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตวั หนงั สือแสดงจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0 2. หาผลบวกและลบในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและลบของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0 3. เลอื กใช้เครอ่ื งมอื วดั ความยาวที่เหมาะสม 4. หาผลคูณในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลัก 5. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการหาร 6. การอ่านและการเขยี นเศษสว่ นทีต่ วั เศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับตวั ส่วน 7. หาผลลพั ธ์การบวกลบคณู หาร ระคน

202 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๒๑๒๐๑ วิชา คณิตศาสตร์เพิม่ เตมิ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการประยกุ ต์รปู เรขาคณิต จำนวนนับ ร้อยละในชีวิตประจำวัน ปัญหาชวน คิด จำนวนและตัวเลข ระบบตัวเลขโรมนั ระบบตวั เลขฐานตา่ ง ๆ การประยกุ ตข์ องจำนวนเตม็ และเลขยกกำลัง โจทย์ปัญหา การสร้างมุมขนาดต่าง ๆ การสร้างรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานโดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทยป์ ญั หาที่ส่งเสริมการพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณ การใหเ้ หตุผล การวิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การสอ่ื สาการการสือ่ ความหมายและ การนำเสนอ เพอื่ ใหม้ ีความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอื่ สตั ย์สุจริต มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุง่ มั่นใน การทำงานรกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยู่รว่ มกับผู้อ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. ใช้ความรู้และทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ๒. ตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ ๓. อา่ นและเขียนตัวเลขโรมนั ได้ ๔. บอกคา่ ของเลขโดดในตวั เลขฐานตา่ ง ๆ ท่ีกำหนดให้ได้ ๕. เขียนตวั เลขฐานทีก่ ำหนดให้เปน็ ตัวเลขฐานต่าง ๆ ได้ 6. ใช้ความรู้เกี่ยวกับจำนวนเตม็ และเลขยกกำลังในการแก้ปญั หาได้ 7. ตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ 8. ใช้การสร้างพน้ื ฐานสรา้ งมุมขนาดต่าง ๆ ได้ 9. ใช้การสร้างพนื้ ฐานสร้างรปู ทีซ่ ับซ้อนขนึ้ ได้ ๑๐. ใช้ความรแู้ ละทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แก้ปัญหาตา่ ง ๆ ได้ รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

203 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม กลุม่ สาระคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค ๒๑๒๐๒ วิชา คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ศกึ ษาความรเู้ ก่ียวกับเรื่องการให้เหตุผลทางเรขาคณิต พหนุ าม เอกนาม การบวก การลบ การคูณการ หาการเอกนาม การคูณ และ การหารพหุนามอย่างง่าย การเตรียมความพร้อมในการให้เหตผุ ล การให้เหตุผล ในชีวิตประจำวัน การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์อย่างง่ายโดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปัญหาท่ี ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การ แกป้ ัญหา การส่ือสาการการสื่อความหมายและการนำเสนอ เพอ่ื ใหม้ คี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สัตย์สจุ ริต มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งมั่นใน การทำงานรกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผอู้ ่นื ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. สงั เกตข้อความคาดการณ์และให้เหตผุ ลทางคณิตศาสตร์อยา่ งงา่ ยได้ ๒. หาผลบวกและผลลบของเอกนามและพหนุ ามได้ ๓. หาผลคณู และผลหารของพหุนามอยา่ งง่ายได้ ๔. ใช้วิธีการทหี่ ลากหลายแก้ปญั หาได้ ๕. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ และ เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหา สถานการณ์ต่างได้อยา่ งเหมาะสม 6. สามารถแสดงเหตผุ ลโดยอ้างองิ ความรู้ข้อมูลหรอื ขอ้ เทจ็ จริงหรอื การสร้างแผนภาพ รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้

204 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๒๒๒๐๑ วิชา คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม เวลา ๒๐ ชั่วโมง ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ศึกษาความรู้เก่ียวกับเร่ืองสมบัติของเลขยกกำลัง บทนยิ ามและสมบัติอน่ื ๆ ของเลขยกกำลัง การคูณ และการหารเลขยกกำลังท่ีมีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มและการนำไปใช้แก้ปัญหาหรือสถานการณต์ า่ ง ๆ การใช้ เลขยกกำลังในการเขียนแสดงจำนวนที่มีค่าน้อย ๆ หรือ มาก ๆ ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ การคำนวณ เกี่ยวกับจำนวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ การประยุกต์ของอัตราส่วนและร้อยละ การแก้ปัญหาหรือ สถานการณ์โดยใช้อัตราส่วนและสัดส่วน การแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ในชีวิตประจำวันโดยใช้ร้อยละ การ ประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต การสร้างสรรค์งานศิลปะโดยใช้การแปลงทางเรขาคณิต การออกแบบ โดยใช้การแปลงทางเรขาคณิต พหุนามและเศษส่วนของพหุนามอย่างง่าย การบวก การลบ การคูณ การหาร พหุนามดีกรีไม่เกินหนึ่ง และ เศษส่วนโดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปัญหาที่ส่งเสริมการพัฒนา ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสา การการสอื่ ความหมายและการนำเสนอ เพอื่ ให้มีความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มั่นใน การทำงานรกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผอู้ ืน่ ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. คูณและหารจำนวนท่เี ขยี นอยใู่ นรปู เลขยกกำลังทีม่ เี ลขชี้กำลังเปน็ จำนวนเตม็ โดยใชบ้ ทนิยามและสมบัติของ เลขยกกำลงั และนำไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ ๒. คำนวณและใช้เลขยกกำลงั ในการเขยี นแสดงจำนวนท่ีมีค่านอ้ ย ๆ หรอื มาก ๆ ในรูป สัญกรณ์วิทยาศาสตร์ ได้ ๓. ตระหนักถงึ ความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ ๔. ใช้ความรู้เก่ยี วกับอัตราส่วน สดั สว่ นและรอ้ ยละแกป้ ัญหาหรือสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ ๕. ใชค้ วามร้เู กย่ี วกับเลอื่ นขนาน การสะท้อน และ การหมุนในการสรา้ งสรรคง์ านศิลปะ หรอื ออกแบบ 6. บวก ลบ คณู หาการพหุนามได้ 7. บวก ลบ คณู หาการเศษส่วนของพหุนามดีกรไี มเ่ กินหนึ่งได้ รวมท้งั หมด 7 ผลการเรยี นรู้

205 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม รหัสวชิ า ค ๒๒๒๐๒ วิชา คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ เวลา ๒๐ ชั่วโมง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้สมบัติการแจกแจง การ แยกตัวประกอบของพหุนามดกี รีสองที่อยู่ในรปู ax2 + bx + c เมื่อ a,b,c เป็นค่าคงตัวและa ≠ ๐ การแยกตัว ประกอบของพหุนามดีกรีสองที่อยู่ในรูปค่าสัมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองที่อยู่ในรูปผลต่าง ของกำลังสอง สมการกำลังสองตัวแปรเดียว การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียวโดยใช้การแยกตัวประกอบ การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั สมการกำลงั สองตวั แปรเดียวโดยใชก้ ารแยกตัวประกอบ การแกส้ มการกำลงั สองตัว แปรเดยี ว การแปรผนั การแปรผนั โดยตรง การแปรผัน แบบผกผัน การแปรผันเก่ยี วเนอ่ื ง การนำไปใช้ กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรผ์ ่านสาระการ เรียนรู้จำนวนและการดำเนินการเรขาคณิตและพีชคณิตโดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรือ โจทย์ปัญหาท่ี ส่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การ แกป้ ญั หา การสือ่ สาการการสื่อความหมายและการนำเสนอ เพอ่ื ใหม้ ีความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สจุ รติ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มั่นใน การทำงานรักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ สามารถอยูร่ ่วมกับผูอ้ นื่ ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผลการเรียนรู้ ๑. แยกตวั ประกอบของพหุนามดกี รสี องได้ ๒. แกส้ มการกำลงั สองตัวแปรเดียวโดยใช้การแยกตวั ประกอบได้ ๓. แก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั สมการกำลังสองตัวแปรเดยี วโดยใช้การแยกตัวประกอบได้ ๔. ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ ๕. เขียนสมการแสดงการแปรผันระหวา่ งปรมิ าณตา่ ง ๆ ทแ่ี ปรผันต่อกนั ได้ 6. แก้ปัญหาหรือสถานการณ์ที่กำหนดโดยใช้ความรูเ้ กีย่ วกับการแปรผันได้ 7. สบื เสาะ สงั เกต ใหข้ ้อความคาดการณแ์ ละใหเ้ หตผุ ลทางคณิตศาสตร์อยา่ งงา่ ยได้ รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรยี นรู้

206 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ กลุ่มสาระคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค ๒๓๒๐๑ วิชา คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ศึกษา ฝกึ ทกั ษะ / กระบวนการในสาระต่อไปนี้ กรณฑ์ท่สี อง การบวก การลบ การคณู และการหารจำนวนจรงิ ท่ีอยใู่ นรูป a เม่อื a  0 โดยใช้สมบัติ ab = a b เมื่อ a, b  0 และ a = a เม่อื a  0 และ b  0 bb การแยกตัวประกอบของพหุนาม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรสี อง โดยวธิ ีทำเปน็ กำลังสอง สมบูรณ์ การแยกตัวประกอบของพหุนมดีกรีสงู กวา่ สองท่ีมสี ัมประสทิ ธ์ิเปน็ จำนวนเต็มโดยอาศัยวิธกี ารทำเปน็ กำลังสองสมบรู ณห์ รือใชท้ ฤษฎเี ศษเหลือ สมการกำลังสอง การแกส้ มการกำลงั สองตัวแปรเดียวโดยสูตการ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการ กำลงั สองตวั แปรเดียว พาราโบลา สมการพาราโบลา กราฟของพาราโบลาท่อี ยู่ในรปู y = ax 2 + bx + c เม่ือa  0 การใหเ้ หตุผลทางเรขาคณิตศาสตร์ สมบตั ิเกย่ี วกับวงกลม การใหเ้ หตุผลเกย่ี วกบั การสรา้ งรูป เรขาคณิต เพื่อให้มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพียง มุง่ มั่นใน การทำงานรักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อ่นื ในสังคมได้อย่างมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. บวก ลบ คูณ และหารจำนวนจรงิ ทอี่ ย่ใู นรูป a เมอ่ื a  0 โดยใชส้ มบตั ิ ab = a b เม่ือ a, b  0 และ a = a เมอ่ื a  0 และ b  0 bb ๒. หาพ้ืนทผ่ี วิ ของพรี ะมิด กรวย และ ทรงกลมได้ ๓. แก้ปญั หาหรือสถานการณ์ทก่ี ำหนดใหโ้ ดยใช้ความรู้เก่ยี วกับปรมิ าตรและพน้ื ท่ีผิวได้ ๔. ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบได้ ๕. การแยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องที่อยใู่ นรปู คา่ สมบรู ณ์ 6. แยกตวั ประกอบของพหุนามดกี รสี ูงท่ีมสี ัมประสิทธิ์เปน็ จำนวนเตม็ โดยอาศัยวิธีการทำเป็น กำลังสองสมบูรณ์หรอื ทฤษฎเี ศษเหลือได้ 7.การแก้สมการกำลงั สองตัวแปรเดยี วโดยใช้สตู การ๒a 8. แก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับสมการกำลังสองตัวแปรเดยี วได้ 9. เขียนกราฟของพาราโบลาทีก่ ำหนดให้ได้ ๑๐. บอกลกั ษณะของกราฟพาราโบลาที่กำหนดให้ได้ รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

207 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค ๒๓๒๐๒ วิชา คณิตศาสตร์เพิม่ เตมิ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ ศึกษาความร้เู กยี่ วกบั เรือ่ งการใหเ้ หตผุ ล สมบัตเิ ก่ยี วกบั วงกลม การใหเ้ หตผุ ลเกีย่ วกบั การสรา้ งรปู เรขาคณิต ระบบสมกาการการแกร้ ะบบสมการสองตัวแปรท่ีมีดกี รีไมเ่ กินสอง การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกับ ระบบสมการสองตัวแปรที่มดี ีกรไี ม่เกนิ สอง เศษสว่ นของพหุนาม การบวก การลบ การคูณ การหารเศษสว่ น ของพหนุ าม การแก้สมการเศษส่วนของพหนุ าม การแกป้ ัญหาเกีย่ วกับเศษส่วนพหุนามโดยจดั ประสบการณ์ กจิ กรรม หรือ โจทย์ปญั หาทส่ี ่งเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้ เหตุผล การวเิ คราะห์ การแก้ปญั หา การส่อื สาการการส่ือความหมายและการนำเสนอ เพือ่ ให้มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มงุ่ มัน่ ใน การทำงานรักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ สามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อ่นื ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. ใช้สมบตั เิ กี่ยวกบั วงกลมในการใหเ้ หตผุ ลได้ ๒. สรา้ งและใหเ้ หตุผลเกยี่ วกับการสร้างรูปเหลยี่ มและรปู วงกลมที่กำหนดให้ได้ ๓. แกร้ ะบบสมการสองตวั แปรที่มีดีกรีไม่เกนิ สองได้ ๔. แก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ระบบสมการสองตวั แปรดกี รีไม่เกินสองได้ ๕. ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของคำตอบทไี่ ด้ 6. การบวก การลบ การคณู การหารเศษส่วนของพหนุ ามได้ 7. แก้สมการเศษสว่ นของพหุนามได้ 8. แกปญั หาเก่ียวกับเศษสว่ นของพหุนามได้ 9. สืบเสาะ สงั เกต ใหข้ ้อความคาดการณ์และใหเ้ หตผุ ลทางคณติ ศาสตร์อยา่ งง่ายได้ รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้

208 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ (เพ่มิ เติม) รหัสวชิ า ว 14203 รายวิชา วทิ ยาศาสตรเ์ สรมิ ทักษะ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 80 ชั่วโมง บรรยายหน้าทีข่ องราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก โดยใช้ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ สมนุ ไพรจากราก ลำตน้ ใบ และดอก ในเขตจงั หวดั สกลนครลกั ษณะเฉพาะท่ีสงั เกตได้ของสัตว์มีกระดูกสนั หลงั ในกลมุ่ ปลา กลุ่ม สตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลุม่ สตั ว์เลอื้ ยคลาน กลมุ่ นก และกลุ่มสัตวเ์ ลีย้ งลกู ด้วยน้ำนม และยกตวั อยา่ ง สิง่ มชี ีวิตในแต่ละกลุ่ม ส่ิงมีชวี ิต ในเขตจังหวดั สกลนครมวลของวตั ถุทมี่ ีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงการเคล่ือนที่ของ วตั ถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ จำแนกสิ่งมชี วี ติ โดยใช้ความเหมอื น และความแตกตา่ งของลักษณะของสง่ิ มีชวี ิต ออกเปน็ กล่มุ พชื กลุ่มสตั ว์ และกลุ่มทไ่ี ม่ใช่พืชและสัตว์ สงิ่ มีชีวติ ในเขตจงั หวดั สกลนครพืชออกเปน็ พชื ดอกและ พืชไมม่ ีดอกโดยใชก้ ารมดี อกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ พชื ประจำถ่นิ ในเขตจังหวัดสกลนคร สตั ว์ ออกเปน็ สตั วม์ กี ระดกู สันหลังและสตั วไ์ ม่มีกระดกู สันหลัง โดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมลู ท่ี รวบรวมได้ สงิ่ มชี วี ิตในเขตจังหวดั สกลนครวตั ถเุ ป็นตวั กลางโปร่งใสตวั กลางโปร่งแสง และวัตถทุ ึบแสง จาก ลักษณะการมองเห็นสง่ิ ต่าง ๆ ผ่านวตั ถนุ ้ันเปน็ เกณฑ์โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ธุรกจิ ชมุ ชนทอผ้าไหมแพรวา จังหวัดกาฬสินธ์ุ เปรียบเทยี บสมบตั ทิ างกายภาพดา้ นความแข็งสภาพยืดหยนุ่ การนำความรอ้ น และการนำ ไฟฟ้าของวสั ดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษจ์ ากการทดลองและระบุการนำสมบตั ิเร่ืองความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดไุ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ผ่านกระบวนการออกแบบช้นิ งาน สมบตั ิของ สสารทง้ั ๓ สถานะ จากข้อมูลที่ได้จากการสังเกตมวล การต้องการที่อยูร่ ปู ร่างและปริมาตรของสสาร อภปิ ราย เก่ยี วกบั สมบตั ทิ างกายภาพของวสั ดอุ ยา่ งมีเหตุผลจากการทดลอง ใช้เคร่ืองมือเพอ่ื วดั มวล และปรมิ าตรของ สสารท้ัง ๓ สถานะ เครอื่ งชั่งสปรงิ ในการวดั น้ำหนักของวัตถุ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธบิ ายการ ทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จากปญั หาอย่างงา่ ย อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมนิ ความน่าเช่อื ถอื ของ ขอ้ มูล เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทขี่ องตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อืน่ แจ้งผ้เู กี่ยวข้อง เมอ่ื พบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม ระบุผลของแรงโน้มถว่ งทีม่ ตี ่อวตั ถจุ ากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ประเพณี แห่นางแมว จังหวัดชัยภมู ิ อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ดวงจนั ทร(์ การเกิดขา้ งข้นึ ข้างแรม) สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายแบบรูปการเปลีย่ นแปลงรูปรา่ งปรากฏของดวง จนั ทร์และพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ แสดงองคป์ ระกอบของระบบสุรยิ ะ และอธิบายเปรียบเทียบ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือส่อื และตรวจหาข้อผดิ พลาดและแก้ไข รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศโดยใชซ้ อฟต์แวรท์ ่ี หลากหลาย เพ่อื แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศโดยใช้ซอฟตแ์ วรท์ ี่ หลากหลาย เพือ่ แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และพัฒนาทักษะการคดิ สู่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการเรยี นร้คู วามเขา้ ใจ กระบวนการสบื สวน สอบสวน กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการสร้างความตระหนัก เพื่อให้มี ความรักชาตศิ าสน์กษตั รยิ ์ ซ่ือสัตย์สจุ รติ มีวนิ ัยใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มน่ั ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ และมจี ิตวิทยาศาสตร์

209 เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิง่ ที่ได้เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และ คา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. บรรยายหน้าทข่ี องราก ลำต้นของพชื ได้ 2. จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพชื ไม่มีดอก โดยใชด้ อกเปน็ เกณฑ์ได้ 3. บรรยายหน้าท่ขี องราก ลำต้นและดอก ของพืชดอกได้ จำแนกสงิ่ มีชวี ติ ออกเปน็ กล่มุ โดยใชค้ วามเหมือน หรือความแตกต่างของลกั ษณะต่าง ๆ ของส่ิงมีชวี ิตเป็นเกณฑ์ได้ 4. จำแนกสตั วอ์ อกเปน็ สัตว์มกี ระดูกสันหลงั และสัตวไ์ ม่มกี ระดกู สันหลงั โดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ ได้ 5. บรรยายลักษณะเฉพาะทีส่ ังเกตได้ของสัตวม์ ีกระดกู สันหลงั ในกล่มุ ต่าง ๆ ได้ 6. อภิปรายและเปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพดา้ นความแขง็ สภาพยดื หยุ่น การนำความรอ้ นและการนำ ไฟฟา้ ของวสั ดุได้ 7. อภปิ รายเกย่ี วกบั สมบัติทางกายภาพของวัสดุ อย่างมเี หตผุ ล จากการทดลองได้ 8. บอกสมบัตแิ ละเปรียบเทียบสมบัตขิ องสสารทงั้ 3 สถานะได้ 9. ใช้เครอ่ื งมอื เพ่ือวัดมวลและปริมาตรของสสารท้ัง 3 สถานะได้ 10. ระบุผลของแรงโน้มถว่ งของโลกทมี่ ตี ่อวัตถุได้ 11. ใชเ้ ครื่องชง่ั สปริงวดั น้ำหนักของวัตถไุ ด้ 12. จำแนกวตั ถเุ ป็นตวั กลางโปรง่ ใส ตัวกลางโปร่งแสงและวัตถทุ ึบแสง โดยใช้ลักษณะการมองเห็นตา่ ง ๆ ผา่ น วัตถนุ ัน้ เปน็ เกณฑ์ได้ 13. อธิบายแบบรูปเสน้ ทางการข้นึ และตกของดวงจันทร์ได้ 14. บอกช่ือดาวเคราะหต์ ่าง ๆ ในระบบสรุ ิยะได้

210 คำอธิบายสาระการเรียนรู้ (เพม่ิ เติม) รหัสวิชา ว 15203 รายวิชา วิทยาศาสตรเ์ สรมิ ทกั ษะ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 40 ช่วั โมง ศกึ ษา วิเคราะห์ โครงสรา้ งและลกั ษณะของสิง่ มชี ีวติ ท่ีเหมาะสมกับการดำรงชวี ติ ซ่ึงเป็นผลมาจาก การปรับ และความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชวี ิตท่ีเหมาะสมกับการดำรงชีวติ ซง่ึ เป็นผลมาจากการปรับตัวของสิง่ มีชวี ติ ในแต่ละแหล่งที่อยู่ ความสมั พันธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ติ กับสง่ิ มีชวี ติ และความสมั พันธ์ระหว่างส่ิงมชี ีวติ กับ สง่ิ ไมม่ ชี วี ิต เพื่อประโยชน์ตอ่ การดำรงชวี ติ โซอ่ าหารและบทบาทหน้าที่ของส่ิงมชี วี ติ ทเี่ ปน็ ผู้ผลิตและผูบ้ รโิ ภค ในโซอ่ าหาร คณุ ค่าของส่ิงแวดล้อมท่ีมตี ่อการดำรงชีวิตของสิง่ มีชวี ิต โดยมสี ว่ นร่วมในการดแู ลรกั ษาสิ่งแวดล้อม ลักษณะทางพันธุกรรมทมี่ ีการถ่ายทอดจากพ่อแมส่ ู่ลกู ของพืช สตั ว์ และมนุษย์ ลักษณะที่คล้ายคลึงกันของ ตนเองกับพ่อแม่ การเปลยี่ นสถานะของสสารเม่ือทำให้สสารร้อนข้ึนหรือเย็นลง การละลายของสารในน้ำ การ เปลี่ยนแปลงของสารเมอ่ื เกิดการเปลีย่ นแปลงทางเคมี การเปลย่ี นแปลงท่ผี นั กลับได้และการเปลย่ี นแปลงที่ผนั กลับไม่ได้ วธิ ีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดยี วกนั ทกี่ ระทำต่อวัตถุอยูน่ ่งิ แผนภาพแสดงแรงที่ กระทำตอ่ วตั ถุท่ีอยู่ในแนวเดียวกนั และแรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ การใช้เครอื่ งชั่งสปรงิ ในการวดั แรงท่ีกระทำต่อ วตั ถุ ผลของแรงเสียดทานที่มีตอ่ การเปล่ียนแปลงการเคลอ่ื นท่ีของวตั ถุ การเขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทาน และแรงที่อยู่ในแนวเดยี วกนั ที่กระทำตอ่ วตั ถุ การไดย้ ินเสียงผ่านตัวกลาง ลกั ษณะและการเกิดเสยี งสูง เสยี งต่ำ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและการเกดิ เสยี งดัง เสียงค่อย การวดั ระดับเสียงโดยใช้เคร่อื งมือวัด ระดับเสียง แนวทางในการหลีกเลย่ี งและลดมลพษิ ทางเสียง ความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษจ์ าก แบบจำลอง การใช้แผนท่ดี าวระบตุ ำแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟา้ แบบรปู เส้นทางการขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี ปรมิ าณนำ้ ในแต่ละแหล่ง ปรมิ าณนำ้ ท่มี นุษย์ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ แนวทางการใชน้ นำ้ อยา่ งประหยัดและการอนรุ ักษ์นำ้ แบบจำลองการหมนุ เวียน ของนำ้ ในวัฏจกั รน้ำ กระบวนการเกดิ เมฆ หมอก น้ำค้าง และนำ้ ค้างแข็ง จากแบบจำลอง และกระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ และลกู เหบ็ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์จาก ปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและ แก้ไข ใช้อินเทอรเ์ น็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อส่ือสารและทำงานร่วมกันประเมนิ ความนา่ เชื่อถอื ของข้อมลู รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถุประสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเตอร์เนต็ ท่ี หลากหลาย เพือ่ แก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวนั ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มีมารยาท เขา้ ใจสิทธิและ หน้าท่ีของตน เคารพในสทิ ธิของผอู้ น่ื แจ้งผูเ้ กย่ี วข้องเม่ือพบข้อมูลหรือบุคคลทีไ่ ม่เหมาะสม โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล การเปรยี บเทยี บข้อมูลจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ และการอภิปราย เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่อื สารสิง่ ที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นำความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถบรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของสิง่ มชี วี ิตทเี่ หมาะสมกับการดำรงชีวติ ซึ่งเป็นผลมาจาก การปรับตัวของส่งิ มชี ีวติ ในแต่ละแหลง่ ท่ีอยู่ 2. นักเรียนสามารถอธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มชี ีวิตกับสง่ิ มีชวี ิต และความสัมพนั ธ์ระหว่างกับสง่ิ ไมม่ ีชีวิต เพอ่ื ประโยชนต์ ่อการดำรงชีวิต 3.นักเรียนสามารถเขียนโซ่อาหารและระบบุ ทบาทหนา้ ท่ขี องสิง่ มชี วี ิตท่ีเป็นผ้ผู ลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร

211 4.นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีมกี ารถา่ ยทอดจากพ่อแม่สลู่ ูกของพชื สตั ว์ และมนุษย์ 5. นกั เรยี นสามารถอธิบายการได้ยนิ เสยี งผา่ นตัวกลางจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ 6. ระบตุ ัวแปร ทดลอง และอธบิ ายลกั ษณะและการเกิดเสยี งสูง เสยี งตำ่ 7.นกั เรียนตระหนักในคุณคา่ ของความรูเ้ ร่อื งระดับเสียง โดยเสนอแนะแนวทางในการหลีกเล่ยี งและลดมลพิษ ทางเสยี ง 8.นักเรยี นสามารถอธบิ ายการเปลีย่ นสถานะของสสาร เม่ือทำใหส้ สารร้อนขึน้ หรือเย็นลง โดยใช้หลกั ฐานเชิง ประจักษ์ 9. นกั เรยี นวิเคราะหก์ ารเปล่ียนแปลงของสารเม่อื เกิดการเปลยี่ นแปลงทางเคมี โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ 10. นักเรยี นสามรถอธิบายวิธกี ารหาแรงลัพธข์ องแรงหลายแรงในแนวเดียวกนั ท่ีกระทำตอ่ วัตถุในกรณีท่วี ัตถุ อยูน่ ่งิ จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ 11. เขียนแผนภาพแสดงแรงทก่ี ระทำต่อวัตถทุ ี่อย่ใู นแนวเดยี วกนั และแรงลัพธ์ทก่ี ระทำตอ่ วัตถุ 12. ระบุผลของแรงเสียดทานทมี่ ีตอ่ การเปล่ียนแปลงการเคลอ่ื นท่ีของวตั ถจุ ากหลักฐานเชิงประจักษ์ 13. เปรยี บเทยี บปริมาณนำ้ ในแต่ละแหลง่ และระบปุ ริมาณน้ำท่มี นุษยส์ ามารถนำมาใช้ประโยชน์ไดจ้ ากข้อมูล ทร่ี วบรวมได้ 14.นักเรยี นสามารถเปรียบเทยี บกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และนำ้ ค้างแข็ง จากแบบจำลอง 15. นักเรียนสารถเปรยี บเทยี บกระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ และลูกเหบ็ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ 16.นกั เรยี นสามารถเปรียบเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์จากแบบจำลอง 17.นักเรยี นสามารถใชแ้ ผนที่ดาวระบุตำแหนง่ และเส้นทางการขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า และ อธิบายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของกลมุ่ ดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟ้าในรอบปี

212 คำอธบิ ายรายวชิ า (เพ่ิมเติม) รหัสวชิ า ว 16203 รายวชิ า วิทยาศาสตร์เสริมทกั ษะ กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 40 ชวั่ โมง ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแตล่ ะประเภทจากอาหารท่ตี นเองรับประทาน บอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วน ในสดั สว่ นทเ่ี หมาะสมกบั เพศและวัย รวมทั้งความปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ ตระหนกั ถึงความ สำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารท่ีมี สารอาหารครบถ้วนในสดั ส่วนทเ่ี หมาะสมกับเพศและวยั รวมท้ังปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ สร้างแบบจำลองระบบ ย่อยอาหาร และบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทงั้ อธิบายการย่อยอาหารและการดดู ซึม สารอาหาร ตระหนกั ถึงความสำคญั ของระบบย่อยอาหารโดยการบอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวยั วะในระบบ ยอ่ ยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ อธบิ ายและเปรยี บเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้ แม่เหล็กดึงดูด การรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษร์ วมท้งั ระบุวธิ ีแกป้ ัญหาใน ชวี ิตประจำวนั เก่ยี วกับการแยกสาร การแยกน้ำครามออก ในกระบวนการผลิตผา้ คราม จังหวดั สกลนคร อธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟา้ ซ่งึ เกดิ จากวัตถุทผี่ า่ นการขัดถูโดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ระบุ ส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ขี องแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ เขยี นแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ีเหมาะสมในการอธบิ าย วิธกี ารและผลของการต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม การต่อไฟหลอดไฟประดับในพธิ ีแห่ดาว จังหวัดสกลนคร ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องความรู้ของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอกประโยชน์และการประยกุ ต์ใช้ใน ชีวติ ประจำวัน ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ีท่เี หมาะสมในการอธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบ อนกุ รมและแบบขนาน ตระหนกั ถึงประโยชน์ของความรู้ของการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ข้อจำกัด และการประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั อธบิ ายการเกิดเงามืดเงามวั จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกดิ เงามดื เงามัว สรา้ งแบบจำลองท่ีอธิบายการเกดิ และ เปรียบเทียบปรากฏการณ์สรุ ิยุปราคาและจนั ทรปุ ราคา อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และ ยกตัวอยา่ งการนำเทคโนโลยอี วกาศมาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั จากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ เปรยี บเทยี บ กระบวนการเกิดหนิ อัคนี หินตะกอน และหนิ แปร และอธิบายวัฏจักรหนิ จากแบบจำลอง ภมู ปิ ญั ญาไทย ประเภทของหนิ ท่ีใชส้ ร้างประสาทหินพมิ าย จ.นครราชสมี า และประสาทหินพนมรุง้ จ.บุรีรมั ย์ ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ประเภทของหินทใ่ี ช้สรา้ งพระธาตุนารายณ์เจงเวง ในจังหวดั สกลนคร อาเซยี น ประเภทของหนิ ทีใ่ ช้สรา้ งนครวดั นครธม จงั หวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา บรรยายและยกตวั อยา่ งการใช้ ประโยชนข์ องหินและแรใ่ นชีวิตประจำวันจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบายการเกิดซากดึกดำ บรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดตี ของซากดึกดำบรรพ์ เปรียบเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม รวมทัง้ อธิบายผลท่มี ตี ่อสิ่งมชี ีวิตและสิง่ แวดล้อมจากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสุมต่อการเกิดฤดขู อง ประเทศไทยจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของนำ้ ทว่ มการกัดเซาะชายฝัง่ ดินถล่ม แผ่นดนิ ไหว สึนามิ การเกิดคลนื่ สึนามีในภูมิภาคอาเซียน ตระหนกั ถึงผลกระทบของภัยธรรมชาตแิ ละธรณีพิบตั ิ ภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝ้าระวงั และปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัยจากภยั ธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ตั ภิ ยั ทอี่ าจเกดิ ในทอ้ งถ่นิ การจดั การทรัพยากรน้ำ ในจังหวดั สกลนคร สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือน กระจกและผลของปรากฏการณ์เรอื นกระจกตอ่ สิง่ มีชีวติ ตระหนกั ถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบตั ติ นเพื่อลดกจิ กรรมท่ีก่อใหเ้ กิดแก๊สเรือนกระจก ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการ อธิบายและออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ติ ประจำวัน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อ

213 แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ในการค้นหาข้อมูล อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกันอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทีข่ องตน เคารพ ในสทิ ธขิ องผู้อ่ืน แจง้ ผเู้ กีย่ วข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพฒั นาทกั ษะการคิดสู่ศตวรรษที่ 21 โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการ ความรคู้ วามเข้าใจ กระบวนการสรา้ งค่านิยม กระบวกแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการอา่ น กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรา้ งคา่ นิยม เพือ่ ให้มีความรักชาติ ศาสน์กษตั รยิ ์ ซอื่ สตั ย์สุจรติ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมั่นในการ ทำงาน รกั ความเป็นไทยและมจี ิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารที่ตนเอง รบั ประทาน 2. นักเรียนสามารถบอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน ในสัดส่วนที่ เหมาะสม กบั เพศและวยั รวมทัง้ ความปลอดภัยต่อสขุ ภาพ 3. ตระหนกั ถึงความสำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารท่ีมสี ารอาหารครบถว้ นในสัดส่วนที่ เหมาะสมกบั เพศและวยั รวมทง้ั ปลอดภยั ตอ่ สุขภาพ 4. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองระบบย่อยอาหาร และบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมท้งั อธิบายการย่อยอาหารและการดูดซมึ สารอาหาร 5. นักเรียนสามารถอธบิ ายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การรอ่ น การใชแ้ มเ่ หล็กดงึ ดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหาใน ชีวติ ประจำวนั เกี่ยวกับการแยกสาร 6.นักเรียนสามารถอธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้า ซึ่งเกิดจากวัตถุที่ผ่านการขัดถู โดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ 7. นักเรียนสามารถระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าที่ของแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายจาก หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ 8. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย 9. นักเรยี นสามารถออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ีทีเ่ หมาะสมในการอธบิ ายวธิ ีการและผลของการต่อ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม 10. นักเรียนตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอกประโยชน์และการ ประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั 11.นักเรยี นสามารถอธิบายการเกดิ เงามืดเงามวั จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ 12. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และเปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ จันทรปุ ราคา 13.นักเรียนสามารถอธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้

214 14 นักเรยี นสามารถเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หินอัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร และอธิบายวฏั จกั รหินจาก แบบจำลอง 15. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดซากดึกดำบรรพ์และคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีต ของซากดกึ ดำบรรพ์ 16. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม รวมทั้งอธิบายผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและ ส่งิ แวดล้อมจากแบบจำลอง 17.นักเรยี นสามารถอธบิ ายผลของมรสุมต่อการเกิดฤดขู องประเทศไทยจากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ 18. นักเรียนสามารถบรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึ นามิ 19. นักเรียนสามารถสร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของปรากฏการณ์ เรือนกระจกต่อส่งิ มีชีวติ

215 คำอธิบายรายวิชา (เพิ่มเตมิ ) รายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ศึกษา การใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ ง ทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้ แกป้ ัญหาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ โดยใชก้ ระบวนการการ ทำงาน กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ และเหน็ คณุ คา่ ของเทคโนโลยี สามารถนำเทคโนโลยสี ารสนเทศไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน เห็นคณุ คา่ ของการ ประกอบอาชีพ และมีเจตคติท่ีดตี อ่ อาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ใชส้ ือ่ และแหล่งข้อมลู ตาม ข้อกำหนดและขอ้ ตกลง โดยใช้กระบวนการการทำงาน กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ และเหน็ คุณคา่ ของเทคโนโลยี สามารถนำเทคโนโลยสี ารสนเทศไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวนั เห็นคณุ คา่ ของการประกอบอาชีพ และมีเจตคติทีด่ ีต่ออาชีพ เน้นการบรู ณาการกับวิชาอนื่ ๆ รวบรวมข้อมูลปฐมภูมปิ ระมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอขอ้ มลู และ สารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ต ทห่ี ลากหลาย ผลการเรียนรู้ ๑.นักเรียนสามารถใช้งานโปรแกรม Google Drive ได้ ๒.นกั เรยี นสามารถสรา้ งแฟม้ งานได้ ๓.นกั เรียนสามารถสร้างไฟล์งานได้ ๔.นักเรียนสามารถอัพโหลดข้อมูลแบบต่าง ๆ ได้ ๕.นกั เรียนสามารถแชร์ไฟลแ์ ละแฟ้มงาน ได้ ๖.นกั เรียนสามารถเขา้ ใช้งานและสรา้ งช้ินงานบน Google Drive ๗.นกั เรียนสามารถเข้าใช้งานและสร้างช้ินงานบน Google Sheets ๘.นักเรยี นสามารถเขา้ ใชง้ านและสร้างชิ้นงานบน Google Slide ๙.นกั เรียนสามารถพัฒนาแอปพลเิ คชันด้วย Kodular App บนโทรศัพท์มือเบือ้ งตน้ ได้ ๑๐.นักเรียนสามารถเข้าใช้งานและสร้างชิน้ งานบนแอป Canva ได้ ๑๑.นกั เรยี นสามารถเขา้ ใช้งานและสรา้ งชน้ิ งานบน Glide Apps ได้ รวม ๑๑ ผลการเรยี นรู้

รายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ 216 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ คำอธิบายรายวชิ า (เพ่ิมเตมิ ) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ศกึ ษาการใชซ้ อฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ ง ทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะชว่ ยให้ แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างรวดเรว็ ถูกต้อง และแม่นยำ ใช้กระบวนการ สรา้ ง ความรู้ ความเข้าใจ การคิด การวเิ คราะห์ การฝึกทักษะและปฏิบตั ิงาน การแก้ปญั หา การทำงานกลุ่ม การ เสรมิ สร้างเจตคติ และกระบวนการเสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคเ์ พื่อใหผ้ ู้เรยี นเกิด ความตระหนักและ เห็นคุณค่า มคี วามคดิ สร้างสรรค์ และทกั ษะการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการแก้ปญั หาการทำงาน และการ ประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างสรรค์ผลงานในการดำรงชวี ติ ใช้ทรพั ยากร และส่ิงแวดลอ้ มอย่างคุ้มค่าถูกวิธี อภิปรายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของ ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยกี ารสอื่ สาร เพื่อ ประยกุ ตใ์ ชง้ านหรือแก้ปญั หาเบื้องตน้ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มคี วาม รับผดิ ชอบ สรา้ งและ แสดงสิทธใิ นการเผยแพร่ ผลงาน ศึกษาขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ทม่ี ีการบูรณาการกบั วิชาอ่ืน อย่างสร้างสรรค์ โดยการเขยี น โปรแกรม Glide App และโปรแกรม Kodular App บนอนิ เทอร์เน็ตเพื่อแกป้ ญั หาอย่างง่าย นำไปประยุกต์ใช้ งานในการพฒั นาแอปพลิเคชนั ขน้ั สงู ตอ่ ไป ผลการเรียนรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถพฒั นาแอปเคร่ืองคดิ เลขดว้ ย MIT AppInventor ได้ ๒.นกั เรียนสามารถการพัฒนาแอปคำศัพท์ MIT AppInventorได้ ๓.นกั เรียนสามารถการพฒั นาแอปพลิเคชันดว้ ย Glide Apps ได้ ๔.นักเรยี นสามารถใชง้ าน Google Drive ได้ ๕.นักเรยี นสามารถใช้งาน Google Sheets ได้ ๖.นกั เรียนสามารถทำ E-Book ได้ ๗.นกั เรยี นสามารถออกแบบปกรายงานด้วย Canva ได้ รวม ๗ ผลการเรียนรู้

217 คำอธบิ ายรายวิชา (เพิ่มเตมิ ) รายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 40 ชว่ั โมง / ปี ศกึ ษาขั้นตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ทีม่ ีการบรู ณาการกบั วชิ าอน่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์ โดยการเขียน โปรแกรม App Inventor เพอื่ แกป้ ัญหาอย่างงา่ ย การรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมแิ ละ ทุตยิ ภูมิ ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล จะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพ่ือใชใ้ นการแกป้ ัญหา หรือการตัดสินใจได้อย่าง มีประสิทธิภาพ การใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตทหี่ ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้าง ทางเลอื ก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้ แก้ปัญหาได้อยา่ งรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และแม่นยำ การประมวลผลเปน็ การกระทำกับข้อมลู เพื่อให้ได้ ผลลพั ธ์ทีม่ คี วามหมายและมีประโยชนต์ ่อการ นำไปใช้งาน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมี ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอรใ์ ช้ลิขสิทธิข์ องผูอ้ น่ื โดยชอบธรรม เน้นการบูรณาการกบั วชิ าอื่น ๆ รวบรวมข้อมูลปฐมภมู ิประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูล และ สารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ทห่ี ลากหลาย ผลการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นสามารถพฒั นาแอปเกมปริศนาดว้ ย Kodular ได้ 2) นกั เรียนสามารถออกแบบแอปพลิเคชัน เกมปริศนา ได้ 3) นักเรียนสามารถเขยี นโปรแกรมและทดสอบเกมปริศนาได้ 4) นกั เรียนสามารถสง่ ออก และเผยแพร่ 5) นักเรยี นสามารถประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ 6) นกั เรียนสามารถทำ E-Book ได้ 7) นักเรียนสามารถออกแบบปกรายงานด้วย Canva ได้ 8) นกั เรยี นสามารถพัฒนาแอปต่าง ๆ ดว้ ย Glide app ได้ 9) นกั เรียนสามารถเข้าใช้งาน Google Drive ได้ 10) นกั เรยี นสามารถเขา้ ใช้งาน Google Docs ได้ 11) นักเรยี นสามารถเข้าใช้งาน Google Sheets ได้ 12) นักเรียนสามารถเข้าใชง้ าน Google Slides ได้ รวม ๑๒ ผลการเรียนรู้

218 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ หน้าทพี่ ลเมอื ง ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ส๑๑๒02 หนา้ ท่ีพลเมอื ง เวลา ๔๐ ชั่วโมง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย ในเรื่องการแสดงความเคารพ การรับประทานอาหาร การทักทายด้วย วาจาและยิม้ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีตอ่ พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ เห็นความสำคัญของภาษาไทย ปฏิบัติ ตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องการออมและการประหยัด หลักการทรงงาน ในเรื่องการประหยัด ความเรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด ความซื่อสตั ย์สจุ รติ และจรงิ ใจต่อกัน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มวี นิ ัยในตนเอง ใน เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการ กระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กตกิ า และหนา้ ทท่ี ีต่ อ้ งปฏิบตั ิในห้องเรียน ในเรอ่ื งการรักษาความสะอาด การ รักษาของใช้ร่วมกัน และการส่งงาน ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ในฐานะสมาชิกที่ดีของครอบครัวและ ห้องเรียนในเรอื่ งการเชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ ญาตผิ ูใ้ หญ่และครู ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองความ ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างของตนเองและผู้อ่ืน ในเร่อื งเช้อื ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความ พกิ าร ความสามารถ ถน่ิ กำเนิด ฯลฯ ยกตวั อยา่ งความขัดแย้งในห้องเรียน ในกรณีความคดิ เห็นไม่ตรงกัน การ ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น และเสนอวิธีการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ ซ่ือสตั ย์สจุ ริต อดทน และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ญั หา เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด มั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ด้วยสนั ตวิ ธิ ี และมีวนิ ัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัติตนเป็นผูม้ มี ารยาทไทย ๒. แสดงออกถงึ ความกตญั ญกู ตเวทีต่อบุคคลในครอบครวั ๓. เห็นความสำคญั ของภาษาไทย ๔. เข้าร่วมกจิ กรรมเก่ียวกับชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏิบัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖. ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง กติกา และหน้าที่ท่ตี อ้ งปฏบิ ัติในหอ้ งเรยี น

219 ๗. ปฏิบัตติ นตามบทบาทหน้าทีใ่ นฐานะสมาชิกทีด่ ีของครอบครวั และห้องเรียน ๘. ยอมรบั ความเหมือนและความแตกตา่ งของตนเองและผ้อู ่ืน ๙. ยกตัวอยา่ งความขัดแยง้ ในห้องเรยี นและเสนอวิธีการแกป้ ันหาโดยสนั ตวิ ธิ ี ๑๐.ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้มู ีวินยั ในตนเอง รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

220 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติมหนา้ ท่พี ลเมอื ง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ส๑๒๒02 หน้าท่ีพลเมือง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ มี ารยาทไทย ในเรื่องการพดู ดว้ ยถ้อยคำไพเราะและมีกิริยาสภุ าพอ่อนน้อม แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบคุ คลในโรงเรียน เห็นประโยชนข์ องการแต่งกายด้วยผ้าไทย ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มวี ินยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซือ่ สตั ย์สจุ ริต ขยันหมัน่ เพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตงั้ ใจปฏิบตั หิ น้าท่ี และยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทำของตนเอง เข้ารว่ มกิจกรรมเกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรือ่ งความขยนั และอดทน หลกั การทรงงาน ในเรือ่ งการพงึ่ ตนเองและรู้ รกั สามัคคี และหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซือ่ สตั ยส์ ุจริต ขยันหมั่นเพยี ร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั หิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ และหน้าทที่ ่ตี ้องปฏบิ ัตใิ นโรงเรียน ในเร่อื งการแต่งกาย การเขา้ แถว การดูแล พนื้ ทที่ ี่ได้รับมอบหมาย ปฏบิ ัตติ ามบทบาทหนา้ ท่ใี นฐานะสมาชกิ ทีด่ ีของห้องเรยี นและโรงเรียน ในเรอ่ื งการเปน็ ผู้นำและการเปน็ สมาชกิ ที่ดี หนา้ ท่แี ละความรับผดิ ชอบ ปฏิบัติตนเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอื่ สตั ย์ สจุ ริต ขยันหม่นั เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏิบตั ิหน้าที่ และยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผอู้ น่ื ในเร่อื งเชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถน่ิ กำเนดิ ฯลฯ ยกตัวอย่างความขัดแย้งในหอ้ งเรียน ในกรณีหน้าทแ่ี ละความ รับผิดชอบและการใชข้ องสว่ นรวม และเสนอวิธีการแกป้ ัญหาโดยสันติวธิ ี ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ วี นิ ัยในตนเอง ใน เรือ่ งความซือ่ สตั ย์สจุ ริต อดทน และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ญั หา เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีลักษณะท่ีดขี องคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึง่ ความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรัก ชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ดำเนินชวี ิตตามวถิ ีประชาธปิ ไตย อยู่รว่ มกบั ผู้อื่นอยา่ ง สันติ สามารถจดั การความขดั แย้งด้วยสนั ติวิธี และมีวินยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้มู มี ารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญูกตเวทีต่อบุคคลในโรงเรียน ๓. เหน็ ประโยชนข์ องการแตง่ กายดว้ ยผ้าไทย ๔. เข้ารว่ มกิจกรรมเก่ียวกบั ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖. ปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบียบ และหนา้ ทีท่ ต่ี อ้ งปฏบิ ัตใิ นโรงเรียน ๗. ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทีใ่ นฐานะสมาชกิ ที่ดขี องหอ้ งเรียนและโรงเรยี น ๘. ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างของตนเองและผู้อ่นื ๙. ยกตวั อย่างความขัดแยง้ ในโรงเรียนและเสนอวิธกี ารแกป้ นั หาโดยสนั ตวิ ิธี ๑๐.ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

221 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หน้าที่พลเมือง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ส๑๓๒02 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีมารยาทไทย ในเรอ่ื งการต้อนรับผู้มาเยอื น และการปฏบิ ัตติ นตามกาลเทศะ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทตี อ่ ชุมชน เหน็ คณุ ค่าของภมู ิปญั ญาท้องถ่ินในเรื่องตา่ งๆ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้มู ีวินัย ในตนเอง ในเรื่องความซื่อสตั ย์สุจริต ขยนั หม่ันเพยี ร อดทน และยอมรับผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง เข้าร่วมกจิ กรรมเกยี่ วกบั ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษตั ริย์ ปฏิบตั ติ นตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความซ่อื สตั ย์และความเสียสละ หลักการทรงงาน ในเร่อื งการมสี ว่ นร่วมและความเพยี ร และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซอ่ื สตั ยส์ ุจริต ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าทีท่ ีต่ อ้ งปฏิบตั ิในหอ้ งเรยี นและโรงเรียน ในเร่อื ง การใชแ้ ละการดแู ลรกั ษาสิ่งของ เครื่องใช้และสถานที่ของสว่ นรวม ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหน้าทใ่ี นฐานะสมาชิก ท่ดี ขี องห้องเรยี นและโรงเรยี น ในเรื่องการใชส้ ิทธแิ ละหน้าที่ และการใช้เสรภี าพอยา่ งรับผดิ ชอบ มสี ว่ นร่วมใน กิจกรรมต่างๆของห้องเรยี นและโรงเรยี น ปฏิบัตติ นเป็นผ้มู วี นิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซื่อสัตย์สจุ รติ ขยนั หมัน่ เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกตา่ งของตนเองและผู้อื่น ในเร่อื งเชือ้ ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถน่ิ กำเนดิ สถานะบุคคล ฯลฯ อยู่ร่วมกับผู้อนื่ อย่างสันติและพง่ึ พาซึง่ กนั และกัน ดว้ ย การไม่รังแก ไม่ทำร้าย ไมล่ ้อเลยี น ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันละกัน และแบง่ ปนั ยกตัวอยา่ งความขัดแยง้ ในชุมชน ในกรณี การใช้สาธารณสมบตั แิ ละการรักษาสิ่งแวดลอ้ ม และเสนอวธิ กี ารแก้ปัญหาโดยสันติวธิ ี ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ใน ตนเอง ในเรื่องความซ่ือสตั ย์สุจรติ อดทน และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุม่ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมลี ักษณะทดี่ ขี องคนไทย ภาคภูมใิ จและรักษาไว้ซงึ่ ความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรัก ชาติ ยดึ มั่นในศาสนา เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ ดำเนนิ ชีวติ ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย อยูร่ ว่ มกับผู้อ่ืนอยา่ ง สันติ สามารถจัดการความขดั แย้งดว้ ยสันตวิ ิธี และมีวินยั ในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตัญญกู ตเวทีต่อบุคคลในชมุ ชน ๓. เหน็ คุณคา่ ของภูมิปัญญาท้องถ่ิน ๔. เข้าร่วมกิจกรรมเกีย่ วกับชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ตั ติ นตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖. ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าท่ีท่ีต้องปฏิบัติในห้องเรียนและโรงเรยี น ๗. ปฏิบัตติ นตามบทบาทหนา้ ท่ีและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมต่างๆของห้องเรยี นและโรงเรียน ๘. ยอมรับและอยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนอย่างสันติ ๙. ยกตัวอยา่ งความขดั แยง้ ในชมุ ชนและเสนอวิธกี ารแกป้ นั หาโดยสันติวธิ ี ๑๐.ปฏิบัตติ นเป็นผูม้ วี นิ ยั ในตนเอง รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

222 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนา้ ที่พลเมอื ง ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ส๑๔๒02 หนา้ ทพี่ ลเมือง เวลา ๔๐ ชัว่ โมง เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในพิธีการต่างๆ ในเรื่องการกล่าวต้อนรับ การแนะนำ ตัวเองและแนะนำสถานที่ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ทำประโยชน์ในสังคม มีส่วนร่วมใน ขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องถิ่น ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวนิ ยั ในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน และยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นความสำคัญและแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องการใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี ปฏบิ ัตติ นตามพระราชจริยวตั รและพระจรยิ วัตร ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท ในเรอื่ งการมวี นิ ยั และการข่ม ใจ หลักการทรงงาน ในเรื่องประโยชน์ส่วนรวมและพออยู่พอกิน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ั งใจปฏิบัติ หนา้ ที่ และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง มีสว่ นรว่ มในการสร้างและปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กติกาของหอ้ งเรียน ในเร่ืองการรักษาความสะอาด การ รักษาของใช้ร่วมกันและการส่งงาน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างข้อตกลง กติกาด้วยหลักเหตุผล และยึดถือประโยชนส์ ่วนรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของการเป็นสมาชกิ ที่ดีของครอบครัวและห้องเรียน ในเรอ่ื งการเปน็ ผู้นำและการเปน็ สมาชิกที่ดี การมเี หตุผล ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื และการปฏิบัติตาม เสียงข้างมากและยอมรับเสยี งข้างน้อย มสี ว่ นร่วมและรับผดิ ชอบในการตดั สินใจในกจิ กรรมของครอบครัวและ หอ้ งเรียน ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง ในเรือ่ งความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ ขยนั หมั่นเพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตั้งใจ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ี และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง ยอมรับความเหมอื นและความแตกตา่ งของตนเองและผู้อน่ื ในเรอื่ งเช้อื ชาติ ภาษา เพศ สขุ ภาพ ความ พิการ ความสามารถ ถิ่นกำเนิด สถานะบุคคล ฯลฯ อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอยา่ งสันติและพึ่งพาซ่ึงกันและกัน ในเรื่อง การไม่รังแก ไม่ทำร้าย ไม่ล้อเลียน ช่วยเหลือซึ่งกันละกันและแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในท้องถิ่น ในกรณกี ารใช้สาธารณสมบตั ิและการรักษาสิ่งแวดล้อม และเสนอวิธีการแก้ปญั หาโดยสนั ตวิ ธิ ี ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ ี วินัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอื่ สตั ย์สุจริต อดทน และยอมรับผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ญั หา เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง สันติ สามารถจัดการความขดั แย้งดว้ ยสันติวธิ ี และมีวนิ ัยในตนเอง

223 ผลการเรียนรู้ ๑. เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูม้ ีมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญกู ตเวทตี ่อผู้ทำประโยชนใ์ นสงั คม ๓. มสี ว่ นร่วมในขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย ๔. เหน็ ความสำคญั และแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ๕. ปฏบิ ัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. มสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งและปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กตกิ าของห้องเรยี น ๗. ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของครอบครัวและ ห้องเรยี น ๘. ยอมรบั และอยูร่ ่วมกับผ้อู ื่นอย่างสนั ติ และพึ่งพาซง่ึ กนั และกนั ๙. วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในท้องถนิ่ และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสนั ติวธิ ี ๑๐.ปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ๑๑. รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

224 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา้ ที่พลเมอื ง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๕๒02 หน้าทีพ่ ลเมอื ง เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผูม้ ีมารยาทไทยในการสนทนา การปฏิบัติตนตามกาลเทศะ และการต้อนรับผู้มา เยือน รู้คุณค่า ใช้อย่างประหยัด คุ้มค่าและบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมใน ศลิ ปวฒั นธรรมไทย ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง ในเรอื่ งความซื่อสัตย์สจุ ริต ตงั้ ใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับ ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วย การใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติ ตนตามพระราชจริยวัตรและพระจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และ ความสามัคคี หลักการทรงงาน ในเรื่องการทำตามลำดับขั้นและทำงานอย่างมีความสุข และหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ตง้ั ใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ และยอมรบั ผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง มสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งและปฏิบัตติ ามข้อตกลง กติกาของหอ้ งเรียน ในเรอื่ งการรกั ษาความสะอาด การ รกั ษาของใชร้ ่วมกนั และการดูแลพ้ืนที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย โดยใชก้ ระบวนการมสี ่วนรว่ มในการสร้างกฎ ระเบียบ ดว้ ยหลกั เหตผุ ลและยดึ ถอื ประโยชน์สว่ นรวม ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหน้าท่ขี องการเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องห้องเรียน และโรงเรียน ในเรื่องการยึดถือหลักความจริง ความดีงาม ความถูกต้องและหลักเหตุผล การยึดถือประโยชน์ ของส่วนรวมเป็นสำคัญ การยึดหลักความเสมอภาคและความยุติธรรม มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการ ตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสั ตย์สุจริต ขยันหมัน่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้งั ใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ี และยอมรับผลทีเ่ กิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถิ่น ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและ สิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติและพึ่งพากัน ด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิริยา วาจาดูหมิ่น ผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเอง ในเรื่องการ จัดการทรัพยากร และการขัดแย้งทางความคิด และแสดงแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วินัยในตนเอง ในเร่อื งความซ่อื สัตย์สุจรติ อดทน และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแก้ปัญหา เพื่อให้ผู้เรียนมีลกั ษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง สันติ สามารถจดั การความขัดแยง้ ด้วยสนั ตวิ ิธี และมวี ินัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ มี ารยาทไทย ๒. รคู้ ุณค่าและบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ๓. มสี ่วนร่วมในศิลปวัฒนธรรมไทย

225 ๔. เห็นความสำคญั และแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖. มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏิบตั ิกฎ ระเบียบของโรงเรียน ๗. ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและ โรงเรยี น ๘. ยอมรับความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในท้องถ่ิน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสนั ติ และพึ่งพาซ่ึง กนั และกนั ๙. วิเคราะหป์ ญั หาความขัดแย้งในภูมภิ าคของตนเองและเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยสนั ตวิ ิธี ๑๐.ปฏิบัตติ นเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเอง รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

226 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมือง ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง ส๑๖๒02 หน้าที่พลเมอื ง ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นให้มีมารยาทไทย ในเรื่องการแสดงความเคารพ การสนทนา การปฏิบัติตนตาม กาลเทศะ และการต้อนรับผู้มาเยือน มีส่วนร่วมและการชักชวนผู้อื่นให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อม มีส่วนรว่ มในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏบิ ัติตนเป็นผู้มีวินัยใน ตนเอง ในเรื่องความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ตง้ั ใจปฏิบัติหนา้ ท่ี และยอมรับผลทเ่ี กดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าและแนะนำผู้อื่นให้แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ด้วยการใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตน เป็นศาสนกิ ชนท่ดี ี ปฏบิ ตั ติ นตามพระราชจรยิ วัตรและพระจริยวตั ร ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท ในเร่ือง ความใฝ่รู้ ความกตัญญู หลักการทรงงานในเรื่ององค์รวมและทำให้ง่าย และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ี และยอมรับผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบัติตนและแนะนำผู้อื่นให้ปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบของห้องเรียนและโรงเรยี น ในการ ใช้และดูแลสิ่งของ เครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ และสถานที่ของส่วนรวม เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามบทบาท หน้าที่ของการเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรยี นและโรงเรยี น ด้วยการเป็นผู้นำและการเป็นสมาชิกที่ดี การยึดถือ ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ การใช้สิทธิและหน้าที่ การใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบในการตัดสินใจใน กิจกรรมของห้องเรยี นและโรงเรียน ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มีวินยั ในตนเอง ในเร่ืองความซือ่ สตั ย์สจุ รติ ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตงั้ ใจปฏบิ ัติหน้าท่ี และยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทำของตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทย ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและ ส่ิงแวดลอ้ ม อยรู่ ว่ มกับคนอ่นื อยา่ งสนั ติและพง่ึ พากนั ในเรอ่ื งการเคารพซึ่งกนั และกัน ไมแ่ สดงกริ ิยา วาจาดู หมิ่นผู้อื่นช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย ในเรื่องการ ละเมดิ สทิ ธกิ ารรักษาสิง่ แวดล้อม และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสนั ติวิธี ปฏิบตั ิตนเป็นผ้มู ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหนา้ ที่ และยอมรับผลที่เกิดจาก การกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ญั หา เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อ่ืน อยา่ งสันติสามารถจดั การความขดั แยง้ ด้วยสนั ติวิธี และวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑.ปฏิบตั ติ นและชักชวนผ้อู น่ื ใหม้ ีมารยาทไทย ๒.มสี ่วนรว่ มและชกั ชวนผู้อื่นใหอ้ นุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ๓.มสี ว่ นรว่ มในขนมธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปญั ญาไทย

227 ๔.เหน็ คณุ ค่าและแนะนำผูอ้ นื่ ให้แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบัน พระมหากษัตริย์ ๕.ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖.ปฏบิ ัตติ นและแนะนำผ้อู นื่ ให้ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบของห้องเรยี นและโรงเรยี น ๗.เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามบทบาทหนา้ ที่ มีส่วนร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจในกจิ กรรม ของห้องเรียนและโรงเรียน ๘.ยอมรบั ความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในประเทศไทย และอยู่รว่ มกบั ผอู้ ่นื อยา่ งสนั ติ และ พึง่ พาซึ่งกันและกนั ๙.วเิ คราะห์ปัญหาความขดั แยง้ ในประเทศไทย และเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยสันติวธิ ี ๑๐.ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

228 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ หน้าทีพ่ ลเมอื ง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ส๒๑๒03 หน้าท่พี ลเมือง ๑ ๒๐ ช่วั โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ ส๒๑๒04 หน้าทพี่ ลเมือง ๑ ๒๐ ชั่วโมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ มีส่วนรว่ มอนุรกั ษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคูณค่าและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏิบัตหิ น้าที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นเป็นแบบอย่างของความรักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ ประยุกต์ และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรื่องมาเหตุผล รอบคอบ หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มวี นิ ัยในตนเอง ในเร่อื งความซ่ือสตั ย์สุจริต ขยันหมนั่ เพียร อดทน ใฝ่หา ความรู้ และตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสังคม การตัดสินใจ โดยใช้เหตุผล มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบ ข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเร่ื องวิถีชีวิต วฒั นธรรม ศาสนาและสง่ิ แวดล้อม อยรู่ ่วมกับคนอ่นื อย่างสันติและพึ่งพาซึ่งกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ด้วยการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิริยาและวาจาดูหม่ินผู้อื่นช่วยเหลือซึง่ กันและกัน และแบ่งปัน มีส่วน ร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี ในเรื่องการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ด้วยการ เจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาต่อรอง การระงับความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำ ของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสรา้ ง ค่านิยม และกระบวนการสร้างเจตคติ เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความ ขัดแยง้ ด้วยสันตวิ ธิ ี และวนิ ัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑.มสี ว่ นรว่ มอนุรกั ษม์ ารยาทไทย ๒.แสดงออกถงึ ความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละตอ่ สงั คม ๓.เห็นคูณค่าและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๔.เปน็ แบบอย่างของความรักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์

229 ๕.ประยกุ ต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖.ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตย ๗.มสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกจิ กรรม ต่างๆ ๘.ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ และอย่รู ว่ มกับ คนอื่นอยา่ งสันตแิ ละพึ่งพาซ่ึงกนั และกัน ๙.มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแยง้ โดยสนั ติวิธี ๑๐.ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู วี ินัยในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

230 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติมหนา้ ท่ีพลเมอื ง ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ส๒๒๒03 หน้าทพี่ ลเมือง ๓ ๒๐ ช่วั โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ ส๒๒๒04 หนา้ ที่พลเมือง ๔ ๒๐ ชวั่ โมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกิจ มีส่วนร่วมและแนะนำผูอ้ ื่นให้อนุรกั ษ์มารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนำผู้อื่นให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคูณค่า อนุรักษข์ นบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย ปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง ในเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและแนะนำผู้อื่นให้มีการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นใน ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์ และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรื่องการมีสติ ความขยัน อดทน หลักการทรงงาน ในเรื่องภูมิสังคม ขาดทุนคือกำไร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ และต้ังใจปฏิบัติหนา้ ที่ ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรื่องการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ความกล้าหาญทาง จริยธรรม การเป็นผู้นำและการเป็นสมาชิกที่ดี มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของ ห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ และรู้ทันข่าวสาร ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ใฝ่หา ความรู้ และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติ และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันโดยคำนึงถึงความ หลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและสิ่งแวดล้อม อยู่ รว่ มกับคนอน่ื อย่างสันติและพึ่งพาซ่ึงกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ด้วยการเคารพซ่ึงกันและกัน ไม่แสดง กิริยาและวาจาดูหม่ินผู้อื่น ชว่ ยเหลอื ซึง่ กันและกัน และแบ่งปนั มสี ว่ นร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดย สันติวิธี ในเรื่องการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ด้วยการเจรจาไกล่เกลี่ย การเจรจาต่อรอง การ ระงับความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หา ความรู้ ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถ านการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสรา้ ง ค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความ ขดั แย้งดว้ ยสนั ติวธิ ี และวินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ๑.มสี ว่ นร่วมและแนะนำผู้อ่นื ให้อนุรักษ์มารยาทไทย ๒.แสดงออกและแนะนำผ้อู ่นื ให้มคี วามเอ้ือเฟือ้ เผื่อแผ่และเสียสละต่อสงั คม

231 ๓.เห็นคณู คา่ อนุรักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย ๔.เป็นแบบอย่างและแนะนำผู้อนื่ ใหม้ คี วามรักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ๕.ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖.ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย ๗.มีส่วนร่วมและรับผดิ ชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอ้ มูลเพื่อใชป้ ระกอบการตัดสินใจในกิจกรรม ตา่ งๆ และรทู้ ันข่าวสาร ๘.เหน็ คุณค่าของการอย่รู ว่ มกันในภูมภิ าคเอเชยี อย่างสนั ติ และพงึ่ พาอาศยั ซ่ึงกันและกนั ๙.มสี ว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันตวิ ธิ ี ๑๐.ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู วี นิ ยั ในตนเอง รวมท้ังหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

232 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติมหน้าทีพ่ ลเมือง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ส๒๓๒03 หน้าท่พี ลเมอื ง ๕ ๒๐ ช่ัวโมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกจิ ส๒๓๒04 หนา้ ท่พี ลเมือง ๖ ๒๐ ช่ัวโมง / ภาค ๐.๕ หนว่ ยกิจ มีส่วนร่วม แนะนำผู้อื่นให้อนุรักษ์ และยกย่องมารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออก แนะนำผู้อื่นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมเกี่ยวกับความ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคูณค่า อนุรักษ์ สืบสาน และประยุกต์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย ปฏิบตั ิตนเป็นผ้มู ีวนิ ัยในตนเอง ในเรื่องความซ่อื สตั ย์สุจรติ ขยนั หมั่นเพียร อดทน ตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง และมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นใน ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรื่องการเสียสละ ความซื่อสัตย์ หลักการทรงงาน ในเรื่องศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ แก้ไขปัญหาที่จุดเล็ก ปฏิบัติตนเป็นผ้มู ี วนิ ยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซ่ือสตั ย์สุจรติ ขยันหมั่นเพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเรื่องการใช้สิทธิหน้าที่ การใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ การมีส่วนร่วมในกจิ กรรมการเลอื กต้ัง มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียนและ โรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ และรู้ทันข่าวสาร ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ใฝ่หาความรู้ และ ยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติและพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ท่ามกลางความ หลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคต่างๆ ของโลก ในเรอื่ งวถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม ศาสนาและสิ่งแวดล้อม อยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างสันติและพึ่งพาซึ่งกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และพึ่งพาซึ่งกันและกัน ในเรื่อง การเคารพซ่งึ กนั และกัน ไมแ่ สดงกริ ิยาและวาจาดหู มิน่ ผ้อู ืน่ ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั แบ่งปนั มีสว่ นร่วมและ เสนอแนวทางการป้องกันปัญหาความขัดแย้งในเรื่องทัศนคติ ความคิด ความเชื่อ ชู้สาว ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และ ยอมรับผลทเ่ี กดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสรา้ ง คา่ นิยม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข มีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความ ขัดแย้งด้วยสนั ตวิ ธิ ี และวินัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ๑.มีส่วนรว่ ม แนะนำผูอ้ ่นื ให้อนุรักษ์ และยกย่องผูม้ มี ารยาทไทย ๒.แสดงออก แนะนำผู้อ่ืน และมีส่วนร่วมในกจิ กรรมเกย่ี วกับความเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผแ่ ละเสียสละ

233 ๓.เห็นคูณคา่ อนุรักษ์ สบื สาน และประยุกต์ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภูมิ ปญั ญาไทย ๔.เปน็ แบบอยา่ งและมีสว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และ เทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕.ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖.ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๗.มีสว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มลู ตรวจสอบการทำหนา้ ทข่ี องบุคคลเพ่ือ ใชป้ ระกอบการตัดสนิ ใจ ๘.เห็นคุณคา่ ของการอยูร่ ่วมกนั ในภูมิภาคตา่ งๆ ของโลกอย่างสนั ติ และพึ่งพาอาศยั ซ่ึงกนั และกัน ๙.มสี ว่ นร่วมและเสนอแนวทางการป้องกนั ปัญหาความขัดแย้ง ๑๐.ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มีวินยั ในตนเอง รวมทงั้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

234 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมือง จุดเนน้ และขอบข่าย รายวิชาเพมิ่ เติมหนา้ ท่ีพลเมอื ง กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม จดุ เน้นท่ี ๑ ความเปน็ ไทย ๑. ลักษณะที่ดีของคนไทย (มารยาทไทย กตญั ญูกตเวที เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ เสยี สละ) ๒. ศลิ ปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีไทย (การแตง่ กาย ภาษา ภมู ปิ ัญญา ประเพณี) จดุ เนน้ ที่ ๒ รกั ชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ การเหน็ คณุ คา่ และการแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ จุดเน้นท่ี ๓ ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ๑.การดำเนินชวี ิตตามวิถีประชาธิปไตย ๒.การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ จุดเนน้ ท่ี ๔ ความปรองดอง สมานฉนั ท์ ๑. การอยูร่ ่วมกันในสงั คมแห่งความหลากหลาย ๒. การจัดการความขัดแยง้ และสันติวธิ ี จุดเน้นที่ ๕ ความมีวนิ ัยในตนเอง ซอื่ สตั ย์สจุ ริต ขยนั หม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหน้าท่ี ยอมรับผลท่ีเกิดจาก การกระทำของตนเอง

235 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาเพิม่ เติม อ 21201 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทความสั้นๆให้ถูกต้องตามหลักการอ่านและ สามารถ ออกเสียงที่เหมือนและแตกต่างกันได้อย่างถูกต้อง เขียนประโยคและข้อความเพื่อบรรยาย และแสดงความ คิดเหน็ เก่ยี วกบั เรอื่ งทีอ่ ่านได้อยา่ งเหมาะสม และสามารถค้นคว้า รวบรวม สรุปข้อมลู ทีม่ ีเนอื้ หาเกย่ี วข้องกับ ASEAN และท้องถิ่นสกลนคร และนำเสนอด้วยการเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง สถานการณ์ จำลอง ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชนและสังคม โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการ กลุ่ม กระบวนการเรียนภาษา เพื่อให้ เกิดความรู้และทักษะในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน มี ความสามารถในการสื่อสารในการคิด ในการใช้ทักษะชีวิต ในการใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งมั่นใน การทำงาน มีวินัย รักความเป็นไทย มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมดำรงชีวิตอยู่อย่าง พอเพียงและสามารถดำรงตนเปน็ พลเมืองโลกที่มสี ขุ ภาวะ รวมทัง้ มีความซ่อื สตั ย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศและบทความสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน 2. ระบหุ รือเขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พันธก์ ับส่ือที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ งๆท่ีอ่าน 3. เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยายและแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับเร่อื งทอี่ า่ นอย่างเหมาะสม 4. เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคภาษาองั กฤษและภาษาไทย 5. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล หรือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่ง การเรยี นร้แู ละนำเสนอดว้ ยการเขยี น 6. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนสถานศึกษา และ ชุมชน รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้

236 คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาเพ่ิมเติม อ 21202 ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0หน่วยกิต ฟัง พูด สนทนาหรือนำเสนอข้อมลู แสดงความรู้สกึ โดยออกเสียงเน้นคำ เสียงสูง ต่ำ เพื่อสามารถ ใช้ภาษา สื่อสารตามสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม เข้าใจน้ำเสียง คำศัพท์ สำนวนและการแสดง ท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมประเพณีตะวนั ตก สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ชุมชน เพื่อให้ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นประกอบโดยใช้ภาษาสื่อสารใน สถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลอง ทั้งในและนอกโรงเรียนได้อย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการการ เรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสรา้ งองค์ความรู้ กระบวนการคิด ควบคกู่ บั กระบวนการเรยี นรูท้ กั ษะทาง ภาษา กระบวนการฝึกปฏิบัติ และการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระอื่นโดยใช้สื่อเทคโนโลยีจาก แหล่งเรยี นรหู้ ลากหลาย เพือ่ ขยายโลกทัศน์ของตนเอง ชมุ ชน และสังคม อกี ทง้ั ดำรงตนอยู่ในความซื่อสัตย์ สจุ ริต มีจติ สาธารณะ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ 1. ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ และคำชี้แจงง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน จากข้อความที่เป็น ความเรียง หรือภาพสัญลักษณ์ 2. พูดสนทนาเพื่อแนะนำตนเอง และบุคคลอื่น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว กิจกรรม และ สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน โดยใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3. พูดบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวนั ประสบการณ์ และบุคคลหรือสิง่ แวดล้อมใกล้ตัว แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองในสถานการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม 4. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล / ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่ง เรียนรู้และนำเสนอด้วยการพูด โดยใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง /สถานการณ์จำลอง ท่ี เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรียนรู้

237 คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาเพ่ิมเติม อ 22201 ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ อ่าน เขียน สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทข่าว บทความ สาระบันเทิง ได้ถูกต้องตามหลักการอ่านและมีค วามรู้ ความเข้าใจในเรื่องราว วัฒนธรรม ประเพณีอันหลากหลายในท้องถิ่นสกลนคร ประเทศและสังคมโลก สามารถ เขียนตอบคำถามจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆที่อ่าน เพื่อระบุใจความสำคัญ บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ เปรียบเทียบโดยใช้คำศัพท์ สำนวนภาษาที่เหมาะสมตามโครงสร้างและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาได้ ถูกต้องและสามารถนำภาษาต่างประเทศไปใช้ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ตลอดจนสามารถถ่ายทอดความ คดิ เห็นเกี่ยวกบั วฒั นธรรมไทยไปยังสงั คมโลกไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ผลการเรียนรู้ 1. ระบุความหมายของคำศัพท์ที่กำหนด บอกใจความสำคัญและรายละเอียดของการอ่านสาร ประเภทตา่ งๆได้ 2. ใช้ทักษะในการอ่านสารประเภทต่างๆแล้วย่อสรุป ตั้งชื่อเรื่อง ลำดับเหตุการณ์และแสดงความ คดิ เห็นเกี่ยวเร่ืองทอ่ี ่านได้ 3. เขียนประโยคข้อความสั้นๆโดยใช้สำนวนภาษาเหมาะสมกับโครงสร้างและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษาได้ 4. เขียนสรุปความ ย่อความและเรียงความสั้นๆเกี่ยวกับท้องถิ่นของตนหรือตามสถานการณ์ที่ กำหนดได้ 5. นำเสนอผลงานจากการค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆตามความสนใจหรือตามสถานการณ์ที่ กำหนดได้ รวม 5 ผลการเรยี นรู้

238 คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าเพิม่ เติม อ 22202 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต พูดและเขียน โดยใช้คำศัพท์ สำนวน และโครงสร้างทางภาษาที่เหมาะสมกับระดับชั้นเรียน ใช้ ถ้อยคำ น้ำเสียง กิริยาท่าทางได้เหมาะสมตามมารยาทสังคม เพื่อสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้ แบบการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสอนภาษา เพื่อการสื่อสาร กระบวนการ เรียนภาษาด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้เรียน มีความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสารทั้งการพูดและ เขยี นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ 1. พูดออกเสยี งคำศัพท์ สำนวน รวมท้งั ประโยคไดถ้ ูกตอ้ งหมาะสมทง้ั น้ำเสยี งและกิริยาท่าทาง 2. เขียนคำศัพท์ สำนวน และประโยคต่างๆได้ถูกตอ้ งตามโครงสร้างทางภาษา 3. เช่ือมโยงความรูก้ ับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ ๆโดยใชก้ ระบวนการเรยี นร้หู ลากหลายรูปแบบ 4. พูดสอื่ สารในสถานการณ์ตา่ งๆได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 5. เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและสามารถใชค้ วามรใู้ นการพูดและเขียนเพ่ือการส่ือสารไดเ้ หมาะสม รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้

239 คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าเพม่ิ เติม อ 23201 ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ใช้คำศัพท์ วลี สำนวน โครงสร้างทางภาษา และเทคนิคการเดาความหมายคำศัพท์ อ่านตีความและ ถ่ายโอนข้อมูลสือ่ ที่ไม่ใช่ความเรียง เช่นตาราง ดัชนี แผนภูมิ กราฟ การอ่านสื่อประเภทต่างๆทีเ่ ป็นความเรยี ง ระบุหัวเรือ่ ง ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนุนและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเร่ืองที่อ่าน สนทนาโต้ตอบใน สถานการณ์ต่างๆ เชน่ การซอ้ื ตว๋ั การเล่าเรอ่ื ง การตอบรับหรือปฏิเสธคำเชิญ การเสนอ การแสดงการขอบคุณ การแสดงความเห็นใจ พูดหรือเขยี นบรรยายนำเสนอประสบการณ์ เรื่องราวต่างๆทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการ เรยี นรอู้ ื่น สืบคน้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูลมงุ่ ใหน้ ักเรยี นมีความสามารถในการคดิ และการสือ่ สารในสถานการณ์ จริงหรือสถานการณจ์ ำลอง ใฝ่ร้ใู ฝ่เรยี นและม่งุ ม่นั ในการทำงาน ผลการเรียนรู้ 1. ระบแุ ละเขียนส่อื ท่ไี ม่ใชค่ วามเรยี งรปู แบบตา่ งๆ ให้สัมพนั ธ์กับประโยคและข้อความท่ฟี ังหรอื อ่าน 2. เลือกหรือระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ ฟังหรอื อา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ 3. สนทนาและโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องตนเอง เรื่องต่างๆใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ ในความ สนใจของสังคมและสือ่ สารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาสม 4. พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ เรื่อง ประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความ สนใจของสังคม 5. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมลู /ข้อเท็จจริงที่เกีย่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื จากแหล่งเรียนรู้และ นำเสนอด้วยการพดู และการเขยี น 6. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ สังคม รวมท้งั หมด 6 ผลการเรียนรู้

240 คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าเพิม่ เติม อ 23202 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ใช้คำศัพท์ สำนวน รูปประโยค รูปแบบต่างๆที่ใช้ในการนำเสนอฝึกปฏิบัติการวางโครงร่าง พูด เขยี น นำเสนอ ขอ้ มลู จากภาพ กราฟ แผนภูมิ ส่อื สิ่งพิมพ์ เช่น ประกาศ แผ่นพบั ตอบข้อซกั ถาม อธบิ าย ขยายความ โดยถ่ายทอด และนำเสนอความคิดอยา่ งชัดเจน เป็นระบบ ทั้งในรูปแบบเดีย่ ว หรือ กลุ่ม ใช้ ส่ือเทคโนโลยีที่หลากหลายและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะในรูปแบบต่างๆโดยใช้กระบวนการทางภาษาคือ ฟัง พูด อ่านและเขียน สื่อสาร สืบค้น หาความรู้ ค้นคว้าหาข้อมูลการ ปฏิบัติเพื่อให้เกิดทักษะความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามใฝ่เรียน ใฝร่ ู้ ม่งุ มั่นในการทำงาน มวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ และรักความเปน็ ไทยรวมท้ัง นำความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. เขยี นคำศัพท์ สำนวน รูปประโยค รูปแบบต่างๆ ทีใ่ ช้ในการนำเสนอได้ 2. วางแผนโครงร่างเรื่องที่นำเสนออย่างชัดเจน และจัดรูปแบบการนำเสนอได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 3. พดู นำเสนอข้อมูลจากภาพ กราฟ แผนภมู ิ และนำเสนอในรูปส่ือสิ่งพิมพ์ เชน่ ประกาศ แผ่น พับ 4. ตอบข้อซกั ถาม และอธบิ ายขยายความเรียงทน่ี ำเสนอได้ 5. สามารถแนะนำตนเอง และนำเสนอตามหัวขอ้ กำหนดทัง้ ในรูปแบบเดย่ี วหรอื กลุม่ ได้ 6. ถ่ายทอดและนำเสนออย่างเป็นระบบโดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลายหลายทั้งรูปแบบเดี่ยวหรือกลมุ่ ได้ 7. เผยแพรผ่ ลงานสสู่ าธารณะโดยใช้การพดู สนทนา หรือผา่ นสอ่ื อิเลคทรอนคิ รวมทัง้ หมด 7 ผลการเรียนรู้

กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น

242 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น 1. ความสำคัญ พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 กำหนดแนวการจดั การศึกษา โดยยึดหลักวา่ ผ้เู รียนทกุ คนมคี วามสามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผเู้ รยี นมีความสำคัญท่ีสดุ กระบวนการจดั การศึกษา ตอ้ งส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพ โดยจดั เนื้อหาสาระ และกิจกรรมให้ สอดคลอ้ งกับความสนใจและความถนดั ของผ้เู รยี น คำนงึ ถึงความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลฝึกทักษะกระบวนการ คิด การจัดการ การเผชญิ สถานการณ์ และการประยกุ ต์ความรมู้ าใชใ้ นการปอ้ งกนั แก้ปญั หาและเรียนรูจ้ าก ประสบการณ์จริง กอปรกบั มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ของสังคมและเทคโนโลยี กอ่ ให้เกดิ ท้งั ผลดีและ ผลเสยี ต่อการดำเนินชีวติ ในปัจจุบันของบุคคล ทำให้เกิดความยุ่งยาก ซับซ้อนมากยงิ่ ข้นึ จำเป็นต้องปรับเปล่ยี น วิถกี ารดำเนินชีวติ ใหส้ ามารถดำรงอยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมคี ุณค่ามศี ักด์ิศรี และมีความสุข หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กำหนดให้มีสาระการเรยี นรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี นซงึ่ เป็น กจิ กรรมทจ่ี ดั ใหผ้ เู้ รยี นได้พัฒนาความสามารถของตนเองตามศกั ยภาพ มุ่งเนน้ เพ่มิ เติมจากกิจกรรมทีไ่ ด้จดั ให้ ผู้เรียนตามกลมุ่ สาระท่ี 8 กลุ่ม การเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมท่ีเหมาะสมร่วมกบั ผู้อ่ืนอย่างมีความสุข กับ กจิ กรรมทีเ่ ลือกดว้ ยตนเอง ตามความถนัด และความสนใจอย่างแทจ้ รงิ การพัฒนาทส่ี ำคัญ คือ การพัฒนาองค์ รวมของความเป็นมนุษย์ใหค้ รบทุกด้าน ทั้งรา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสังคม ใหเ้ ป็นผูม้ ศี ลี ธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย และมคี ณุ ภาพ ปลกู ฝงั และสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพือ่ สงั คม และประเทศชาติ 2. วิสยั ทัศน์ วสิ ัยทศั นข์ องกลุ่มกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน เปน็ กจิ กรรมท่ีจัดอยา่ งเปน็ กระบวนการดว้ ยรปู แบบวธิ ีการที่ หลากหลาย ให้ไดร้ ับประสบการณ์จากการปฏิบัตจิ รงิ มคี วามหมาย และมีคณุ คา่ ในการพัฒนา ผเู้ รยี น ท้งั ดา้ นรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม มุ่งเสรมิ เจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝังคณุ ธรรมและค่านิยมที่ พง่ึ ประสงค์ ส่งเสริมใหร้ ู้เรยี นรจู้ ักและเข้าใจตนเอง สรา้ งจิตสำนึกในธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ปรบั ตวั และ ปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อสงั คม ประเทศชาติและดำรงชิวีตไิ ด้อยา่ งมีความสุข 3. ธรรมชาติและลกั ษณะวิชา กลมุ่ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน เน้นการจดั กจิ กรรมในลกั ษณะของการบรู ณาการองคค์ วามร้ตู ่างๆ ที่ เกอ้ื กลู ส่งเสรมิ การเรียนรตู้ ามกล่มุ สาระให้มคี วามกวา้ งขาวงลกึ ซึ้งยิง่ ขึน้ อีกทั้งใหผ้ เู้ รยี นได้คน้ พบและใช้ ศกั ยภาพท่มี ใี นตนอย่างเต็มท่ี เลือก ตดั สินใจ ได้อยา่ งมเี หตุผลเหมาะสมกับตนเอง สามารถวางแผนชีวติ และ อาชพี ไดอ้ ย่างมีคุณภาพ เนน้ การเสริมสรา้ งทักษะชีวติ วุฒภิ าวะทางอารมณ์ ศลี ธรรม และ จรยิ ธรรม กิจกรรมพฒั นาทักษะชีวติ กิจกรรมสร้างเสรมิ ประสิทธภิ าพทางการเรยี น เป็นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook