43 คำอธิบายสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหัสวชิ า ท 22102 รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว บทรอ้ ยกรอง ตำนานนิทานพืน้ บ้าน (ตำนานรกั เขาสามมุก จงั หวดั ชลบุรี) บทความ หรอื คำประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลาย จับใจความสำคัญจากเรื่องท่อี ่าน สรปุ ความจากเรื่องท่ีอ่าน อธิบายแสดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งที่อา่ น รวบรวมคำภาษาตา่ งประเทศ(ประเทศในกลมุ่ อาเซยี น)ท่นี ำมาใช้ใน ภาษาไทย คุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่าน เขยี นผังความคิด บรรยายและพรรณนา เขยี น เรยี งความ ย่อความ รายงานจากการศึกษาค้นควา้ เขยี นจดหมายกจิ ธุระ วเิ คราะห์วิจารณแ์ ละแสดงความรู้ (นทิ านหรือตำนาน) แสดงความคิดเหน็ หรือโตแ้ ยง้ ในเร่ืองทีอ่ ่าน นิทานพื้นบา้ น อภิปรายเร่อื งท่ีอา่ น แสดง ความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกบั เรือ่ งที่อา่ น วิเคราะห์ขอ้ เท็จจรงิ ข้อมูลสนับสนุนจากบทความท่อี ่าน ขอ้ คิดเห็น ความน่าเช่ือถอื ของขา่ วสารจากสื่อตา่ งๆ เรือ่ งที่ฟังและดู โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยค ความรวม และประโยคความซอ้ น วรรณกรรม วรรณคดที ่ีอ่าน จำแนกข้อเท็จจรงิ ข้อมลู สนบั สนุนและ ข้อคิดเห็นจากบทความท่ีอา่ น ระบขุ ้อสังเกต การชวนเชื่อการโนม้ นา้ ว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขยี น ประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดทไ่ี ด้จากการอา่ น มมี ารยาทในการอ่าน การฟัง การดู และการพดู คัดลายมือตวั บรรจงครึง่ บรรทัด พูดสรปุ ใจความสำคญั จากเรอ่ื งที่ฟังและดู วจิ ารณ์เร่อื งทฟ่ี ังและดู วรรณกรรม วรรณคดี ทอี่ ่าน พูดในโอกาสตา่ งๆ รายงานเรือ่ ง หรือประเดน็ ทศ่ี ึกษาคน้ ควา้ สรา้ งคำในภาษาไทย แตง่ บทร้อยกรอง ใช้คำราชาศัพท์ รวบรวมความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย สรุปเนอ้ื หาวรรณคดีและ วรรณกรรมท่ีอา่ น ความรูแ้ ละจอ้ คดิ จากการอา่ น ทอ่ งจำบทอาขยาน และบทร้อยกรองตามท่ีกำหนดท่ีมี คุณค่าตามความสนใจ โดยใช้ทักษะกระบวนการอา่ น กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง กระบวนการคิดวเิ คราะห์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา รหัสตวั ชี้วัด ท. 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ท. 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ท. 3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ท. 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ท. 5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 รวม 32 ตวั ชวี้ ดั
44 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหสั วชิ า ท 23101 รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และ บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง และเหมาะสมกับเร่ืองท่ีอ่าน เร่ืองต่างๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ ผังความคิด บันทกึ ย่อความและรายงาน ระบใุ จความสำคญั และรายละเอยี ดของข้อมูลท่ี สนบั สนุนจากเร่ืองท่ีอา่ น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และประเมิน เรือ่ งทอ่ี ่านโดยใชว้ ธิ กี ารเปรยี บเทียบเพื่อให้ผอู้ ่าน เขา้ ใจได้ดขี นึ้ นิทานพ้ืนบ้านเร่ืองนายดนั้ เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเกยี่ วกบั เร่ืองที่อา่ น เร่ืองที่ฟัง และดเู พื่อ นำขอ้ คิดมาประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ วถิ ีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดี และวรรณกรรมที่อา่ น วิจารณ์ความ สมเหตุสมผล การลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่อง ประเมินความถูกต้องของขอ้ มูลที่ใชส้ นบั สนนุ ใน เรอ่ื งที่อ่าน ตีความและประเมินคณุ ค่า แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากงานเขียนอยา่ งหลากหลายเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต คัดลายมอื ตัวบรรจงครงึ่ บรรทัด นิทานพ้ืนบ้านเรื่องตามอ่ งลา่ ย เขียนข้อความโดยใชถ้ ้อยคำไดถ้ ูกต้องตามระดบั ภาษา ผญาโดยใช้ถอ้ ยคำได้ถูกต้อง ชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติ โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติใน เร่อื งตา่ งๆ ย่อความตำนานเรือ่ งดาวลกู ไก่ เขียนจดหมายกิจธุระ อธบิ ายช้แี จง แสดงความคดิ เห็น และโต้แย้ง อย่างมีเหตผุ ล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เห็นหรอื โต้แย้งในเรอื่ งตา่ งๆ รายงานการศึกษา คน้ คว้านทิ านพืน้ บ้านเร่ืองบางแมม่ ่าย จ.สุพรรณบรุ ี แสดงความคิดเหน็ และประเมินเร่ืองจากการฟงั และการดู ตำนานหลวงปทู่ วดเหยยี บน้ำทะเลจดื จ.ปัตตานี วเิ คราะห์และวจิ ารณเ์ รอ่ื งทฟี่ ังและดเู พ่อื นำข้อคดิ มา ประยกุ ตใ์ ช้ในการดำเนินชีวิต รายงานเรื่องหรือประเดน็ ที่ศึกษา คน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา พูด ในโอกาสต่างๆไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โน้มน้าวโดยการนำเสนอหลักฐานตามลำดับเนื้อหาอย่างมีเหตุผลและ นา่ เชอ่ื ถอื โดยใชภ้ าษาถ่ิน4ภาคในหัวขอ้ โน้มน้าวเชิญชวนมาท่องเท่ยี วในท้องถิน่ ของตนเอง จำแนกและใชค้ ำ ภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย ภาษาตา่ งๆที่ใช้ในประเทศอาเซยี น ใช้คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ อธบิ าย ความหมายคำศัพทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี แต่งบทรอ้ ยกรอง โคลงส่สี ภุ าพเป็นภาษาถนิ่ ท่องจำและบอก คณุ ค่าบทอาขยานตามทกี่ ำหนด และบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจ และนำไปใชอ้ า้ งองิ สรุปเน้ือหา วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมในท้องถิ่นในระดับทยี่ ากยิง่ ข้นึ ความรู้และข้อคิดจากการอา่ นเพ่ือนำไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ สำนวนภาษาถิน่ 4ภาคของไทย มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการ พูด ตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและพฒั นาทักษะการคดิ สูศ่ ตวรรษที่ 21 โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการแกป้ ญั หากระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวจิ ารณญาณ กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการคิด สรา้ งสรรค์ กระบวนการตดั สินใจ เพ่อื ให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ ง พอเพียง มุ่งม่นั ในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ รหสั ตัวช้ีวัด ท 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8ม.3/9 ม.3/10 ท 2.1ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8ม.3/9 ม.3/10 ท 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 รวม 36 ตวั ช้วี ัด
45 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รหสั วชิ า ท 23102 รายวิชา ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ บทรอ้ ยกรอง สรปุ ความแตกตา่ งของคำท่มี ีความหมายโดยตรงและ ความหมายโดยนัย ใจความสำคญั และรายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนนุ จากเรื่องที่อา่ น อา่ นเร่ืองต่างๆ อ่านผญาทปี่ รากฏในท้องถ่นิ เขยี นกรอบแนวคิด ผังความคิด บนั ทึก ย่อความ และรายงาน ข้อความ ชีวประวัติ ย่อความ จดหมายกิจธรุ ะ คำขวัญจงั หวัดสกลนคร อธบิ ายชี้แจงแสดงความเหน็ และโต้แย้ง วิเคราะห์วจิ ารณแ์ ละแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ย้งในเรือ่ งตา่ งๆ รายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และ โครงงาน วิเคราะห์เร่ืองท่ีอา่ นโดยใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทยี บ เพื่อแสดงความคิดเหน็ โตแ้ ยง้ เกี่ยวกับเรื่องเพื่อ นำข้อคดิ มาประยกุ ต์ใชท้ ี่อ่าน เรอ่ื งท่ีฟังและดู เพ่ือนำข้อคิดมาประยุกตใ์ ช้ โครงสรา้ งประโยคซับซ้อน ระดบั ภาษา วิถไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน วจิ ารณเ์ รอ่ื งท่ีอ่านโดยใช้กลวธิ ีการเปรียบเทียบ ความสมเหตุสมผล การลำดับและความเป็นไปได้ของเร่ืองท่ีฟังและดู ประเมนิ เร่ืองท่อี ่านโดยใชก้ ลวธิ ีการ เปรียบเทยี บ ความถูกต้อง ของข้อมูลท่ีใชส้ นบั สนุนในเร่ืองทอี่ า่ น เรื่องจากการฟังและดู ตีความจากงานเขยี น ประเมินค่าจากงานเขยี นอยา่ งหลากหลาย มมี ารยาทในการอา่ น การดูและการพูด คดั ลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทัด กรอกแบบสมัครงาน แสดงความคดิ เห็น จากการฟังและดู พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นที่ศกึ ษา ค้นคว้า ในโอกาสตา่ งๆ โน้มน้าวจำแนกคำภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย ใช้คำภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ ในภาษาไทย คำทับศพั ท์และคำศัพท์บัญญตั ิ แต่งบทร้อยกรอง สรปุ เนอื้ หาวรรณคดี วรรณกรรมและ วรรณกรรมท้องถนิ่ ในระดับท่ียากข้ึน ความรู้และข้อคดิ จากการอ่าน ทอ่ งจำบทอาขยานท่ีกำหนดและบทร้อย กรองที่มคี ุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการแกป้ ัญหา รหสั ตวั ช้ีวัดวามคดิ ท. 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/10 ท. 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/10 ท. 3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ท. 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ท. 5.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 รวม 36 ตวั ชว้ี ัด
46 คำอธิบายรายวิชากลุม่ สาระคณิตศาสตร์ คำอธิบายสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค ๑๑๑๐๑ สาระการเรยี นรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๑๖๐ ช้วั โมง บอกจำนวนของสิง่ ต่าง ๆ แสดงส่ิงตา่ งๆ ตามจำนวนกำหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลข ไทยแสดงจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ นับผลิตภณั ฑ์ ไขเ่ ค็มดนิ สอพอง บ้านหนิ สองก้อน ต. เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบรุ ี อา่ นจำนวนของส่งิ ต่าง ๆ แสดงสิ่งต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อา่ นและเขียนตวั เลขฮินดูอา รบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ เขียนจำนวนของสิง่ ต่าง ๆ แสดงส่ิงต่างๆ ตามจำนวน กำหนด อา่ นและเขียนตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ แสดงจำนวนของส่งิ ต่าง ๆ แสดงสิ่งต่างๆ ตามจำนวนกำหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยแสดงจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ตัวเลขไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของ จำนวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของจำนวน นบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ โดยใชเ้ ครอื่ งหมาย = ≠ ,>,< หลัก ค่าของเลขโดดใน แต่ละหลกั และการเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย. เรยี งลำดับจำนวนไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ ตงั้ แต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน หาค่าของตวั เลขไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวเปน็ เซนตเิ มตรการเป็นเมตรการน้ำหนักเป็นกโิ ลกรัม เปน็ ขีด ระบุจำนวนทีห่ ายไปในแบบรูปของจำนวนท่ีเพ่ิมขึน้ หรือลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐ และระบุรปู ทีห่ ายไปในแบบ รูปซำ้ ของรูปเรขาคณติ และรูปอ่นื ๆ ทีส่ มาชิกในแต่ละชุดท่ีซ้ำมี ๒ รปู การระบจุ ำนวนกอ้ นแป้งดินสอพองที่ บรรจุลงในขวดของกลมุ่ สหกรณบ์ า้ นดินสอพอง ถ. นารายณม์ หาราช ต.ทะเลชุนทศการ อ.เมือง จ.ลพบรุ ี ใน บตั รภาพ วัดความยาวเป็นเซนตเิ มตรการ เป็นเมตรการ วดั ความกวา้ งความยาวของใบลาน เคร่อื งสาน งอบ ต. บางนางร้า อ. บางประหัน จ. อยุธยา น้ำหนกั เปน็ กิโลกรัม เปน็ ขดี วัดนำ้ หนักของปลาร้าหลนนคิ ม สงเคราะห์ ต. โคกสะอาด อ.เมอื ง จ. อุดรธานี จำแนกรูปสามเหล่ียม รปู ส่ีเหล่ยี ม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหลยี่ ม มมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย จำแนกรปู ทรงของเครื่องจักรสานจากไมไ้ ผ่บ้านทองประดษิ ฐ์ ต. บาง เลน อ.สองพี่นอ้ ง จ. สุพรรณบุรี ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ริ ูปภาพในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเม่ือกำหนดรปู ๑ รปู แทน ๑ หน่วย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพฒั นาทกั ษะสู่ความคดิ ทีศ่ ตวรรษท่ี ๒๑ โดยใช้ทกั ษะทางคณิตศาสตร์ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการเรยี นรู้เขา้ ใจ กระบวนการคิดสรา้ งความรวบยอด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเชอื่ มโยง
47 เพื่อให้เกดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซือ่ สัตย์ สุจริต มุง่ มั่นในการทำงานมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ รหัสตวั ช้ีวดั ค ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๑.๓ - ค ๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๑.๓ ป.๑/๑ ค ๓.๒ - รวม ๑๐ ตัวชว้ี ดั
48 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ รหัสวชิ า ค 21101 ชือ่ วชิ า คณติ ศาสตร์ กล่มุ สาระคณติ ศาสตร์ ชัน้ ป.2 เวลา 160 ชวั่ โมง บอกเขียนและอา่ นตวั เลขฮินดู อารบกิ ตัวเลขไทยและตวั หนังสอื แสดงปริมาณของสิง่ ของหรือ จำนวนนบั ทไ่ี ม่เกนิ หนึ่งพนั และศูนย์ นับตัวเลขจากปลาตะเพยี นสาน จ. อยุธยา รปู เรขาคณติ สองมิตโิ ดยใช้ ระบบของรปู เรขาคณติ อา่ นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนงั สือ แสดงปริมาณของสิ่งของหรือจำนวน นับไม่เกนิ หน่ึงพันและศูนย์ เปรยี บเทยี บจำนวนนบั ไมเ่ กินหน่งึ พันและศูนย์ ความยาวในหน่วยเดยี วกัน นำ้ หนกั ในหน่วยเดยี วกัน ปริมาตรและความจ(ุ กลุ่มตกแต่งรถแห่ปราสาทผึ้งสกลนคร โดยการวัดความยาวของปราสาท ผ้งึ แลว้ นำมาเปรยี บเทียบ) เรียงลำดบั จำนวนนับไมเ่ กินหนึ่งพนั และศนู ย์ อธิบายความยาวเปน็ เมตรและ เซนติเมตร นำ้ หนกั เป็นกิโลกรมั และขดี ปริมาตรและความจเุ ป็นลติ ร จำนวนเงนิ ท้งั หมดจากเงินเหรยี ญและ ธนบัตร บวก ลบ คูณ หาร บวกลบคูณหารระคน ของจำนวนนบั ไม่เกินหนึ่งพันและศนู ย์พรอ้ มตระหนักถงึ ความ สมเหตุสมผล ของคำตอบวิเคราะห์และหาคำตอบของโจทย์ปญั หา และโจทย์ปัญหาระคนของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ หนงึ่ พนั และศนู ย์พร้อมทั้งตระหนกั ถึงสมเหตสุ มผลของคำตอบ ความสัมพันธ์บนหน้าปัดนาฬิกา วนั เดือน ปี จากปฏทิ นิ ชนดิ ของรปู เรขาคณติ สองมิติ สามมิติ วา่ เป็นรูปสามเหลี่ยม ส่เี หล่ยี ม วงกลม หรือวงรี จำนวนใน แบบรูปของรปู ท่ีมรี ปู รา่ งขนาดหรอื สที ส่ี ัมพันธ์กนั อยา่ งใดอย่างหนึ่งการใช้ข้อมลู จากแผนภูมิภาพในการหา คำตอบใช้วิธีการท่ีหลากหลายแก้ปัญหา ความรู้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ ต่างๆได้อยา่ งเหมาะสม เหตผุ ลในการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ภาษาและสัญลักษณ์ทาง คณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมายและนำเสนอได้อย่างถกู ต้อง เชอ่ื มโยงความร้ตู า่ งๆใน คณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อ่นื และมีความคดิ สร้างสรรค์2. ทกั ษะการคิดสูศ่ ตวรรษที่ 21 3Rs Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น) 8 Cs C1: Critical thinking & problem –Solving (ทักษะด้านการคิดวเิ คราะห์และการ แก้ปญั หา) C2: Creativity & innovation (ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม) C7: Career & learning Self-reliance (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นรู้) โดยใชก้ ระบวนการสอน กระบวนการเรยี นรู้ความเข้าใจ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการสบื สวนสอบสวน กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนรู้ความเขา้ ใจและกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สุจริต มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ ทำงาน รกั ในความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ รหสั ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.2/1 ,ป.2/2 ,ป.2/3 ,ป.2/4 ,ป.2/5 ,ป.2/6 ,ป.2/7 ,ป. 2/8 ค 2.1 ป.2/1 ,ป.2/2 ,ป.2/3 ,ป.2/4 ,ป.2/5 ,ป.2/6 ค 2.2 ป.2/1 ค 3.1 ป.2/1 รวม 16 ตวั ช้ีวดั
49 คำอธิบายรายวิชาคณติ ศาสตร์ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง/ปี รายวชิ าพนื้ ฐานกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ศกึ ษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย ตวั หนังสอื แสดงจำนวนนับ หลัก ค่าของ เลขโดดในแตล่ ะหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การเรยี งลำดบั จำนวน แบบรปู ของจำนวนท่ีเพมิ่ ขน้ึ และลดลง การบวกจำนวนนบั ท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 การบวก จำนวนสามจำนวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 100,000 โจทยป์ ญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวน ที่มตี วั ตงั้ ไมเ่ กิน 100,000 การลบจำนวนสามจำนวน การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการ บวกและการลบ โจทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบ การคูณจำนวนหน่งึ หลักกับจำนวนไม่เกนิ สหี่ ลกั การคณู จำนวนสองหลกั กบั จำนวนสองหลกั โจทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณ การหารทีม่ ีตวั ตั้งไม่ เกินสี่หลักและตวั หารมีหน่ึงหลัก การหาตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณและการหาร โจทย์ ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาการหาร การวัดความยาวเปน็ เซนตเิ มตรและมลิ ลเิ มตร เมตรและเซนตเิ มตร กโิ ลเมตรและเมตร การเลือกเคร่ืองวัดความยาวท่ีเหมาะสม การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและเป็น เซนตเิ มตร การเปรยี บเทียบความยาวโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาว โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ความ ยาว รูปท่มี ีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร การบอก อา่ นและเขียนเศษสว่ นทตี่ วั เศษนอ้ ยกว่าหรือเทา่ กบั ตัวส่วนการเปรยี บเทียบเศษส่วน การเรียงลำดบั เศษสว่ น การบวกเศษสว่ นที่มีตวั ส่วนเทา่ กัน การลบเศษส่วนท่ี มีตวั ส่วนเทา่ กนั โจทย์ปญั หาการบวกและการลบเศษส่วน การวัดและบอกน้ำหนักเปน็ กิโลกรัมและขีด กโิ ลกรัม และกรัม การเลือกเคร่ืองชัง่ ที่เหมาะสม การคาดคะเนน้ำหนกั เป็นกิโลกรมั และเป็นขีด การเปรยี บเทียบน้ำหนกั โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ระหวา่ งกิโลกรัมกบั กรัม เมตริกตันกบั กิโลกรมั โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับน้ำหนัก การวดั ปริมาตร และความจเุ ป็นลิตรและมิลลิลติ ร การเลอื กเคร่ืองตวงท่ีเหมาะสม การคาดคะเนปริมาตรและความจุเปน็ ลิตร การเปรียบเทยี บปริมาตรและความจโุ ดยใชค้ วามสัมพันธร์ ะหว่างลติ รกบั มลิ ลลิ ติ ร ชอ้ นชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกบั มิลลิลติ ร โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรและความจทุ ่มี หี น่วยเป็นลิตรและมิลลิลิตร การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและ จำแนกข้อมลู การอ่านและเขียนแผนภูมิรปู ภาพ การอา่ นและเขยี นตารางทางเดยี ว การบอกเวลาเป็นนาฬิกา และนาที การเขียนบอกเวลาและการอา่ น การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที การเปรยี บเทยี บระยะเวลา โดยใช้ความสัมพันธร์ ะหวา่ งช่ัวโมงกับนาที การอ่านและการเขียนบนั ทึกกจิ กรรมท่ีระบเุ วลา โจทยป์ ญั หา เก่ยี วกับเวลาและระยะเวลา เงินเหรยี ญและธนบตั รชนิดต่างๆ การบอกจำนวนเงนิ และเขียนแสดงจำนวนเงนิ แบบใช้จดุ และการอา่ น การเปรียบเทยี บจำนวนเงนิ และการแลกเงนิ การอ่านและเขยี นบนั ทกึ รายรับรายจ่าย โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เงิน การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน โดยการจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ในชวี ติ ประจำวนั ทีใ่ กล้ตวั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศึกษา ค้นคว้า ฝกึ ทักษะ โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การ แก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิด ทกั ษะ และกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สงิ่ ต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์
50 เพอ่ื ใหเ้ ห็นคณุ คา่ และมเี จตคติท่ดี ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบยี บ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบมีวิจารณญาณ มีความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละมีความเชอื่ มนั่ ในตนเอง ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.3/1 ป.3/2 ป3/3 ป3/4 ป3/5 ป3/6 ป3/7 ป3/8 ป3/9 ป3/10 ป3/11 ค 1.2 ป.3/1 ค 2.1 ป3/1 ป3/2 ป3/3 ป3/4 ป3/5 ป3/6 ป3/7 ป3/8 ป3/9 ป3/10 ป3/11 ป3/12 ป 3/13 ค 2.2 ป.3/1 ค 3.1 ป.3/1 ป.3/2 รวม 28 ตวั ชว้ี ดั
51 รหัสวิชา ค 14101 คำอธิบายสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เวลา 160 ชั่วโมง อ่านและเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนังสือแสดงจำนวนนบั ที่มากกวา่ 100,000 การอา่ นภาษาอาเซยี น ลาว จนี และเวียดนาม เปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวนนับได้พร้อมเปรียบเทียบชอื่ สมนุ ไพรไทยที่ใชร้ ักษาโรคของไทย บอก อ่านและเขียนเศษส่วน จำนวนคละแสดงปริมาณสง่ิ ของตา่ ง ๆ และ แสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามเศษส่วน จำนวนคละท่ีกำหนด เปรยี บเทยี บเรยี งลำดบั เศษสว่ นและจำนวนคละทตี่ ัวส่วนตวั หนึ่งเปน็ พหคุ ูณของอีกตัวหน่ึงและบอกปริมาณสีทใี่ ช้ในการย้อมผ้าครามในแตล่ ะคร้งั ของจงั หวัดสกลนคร อ่าน และเขยี นทศนยิ มไม่เกนิ 3 ตำแหน่งจากสถานการณ์ต่าง ๆ โดยการหาขนาดของกระดาษสา บ้านท่าล้อ ต.บ่อ แฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ตามขนาดที่ครูกำหนดและสรา้ งชิน้ งานจากกระดาสาได้ พร้อมทง้ั เปรียบเทยี บและ เรยี งลำดับทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหนง่ เรียนรูก้ ารหาขนาดของผลิตภัณฑจ์ ากกะลามะพร้าว อ.อมั พวา จ. สมทุ รสงคราม หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนับ หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวนหลายหลัก 2 จำนวนทีม่ ี ผลคณู ไมเ่ กิน 6 หลกั และประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารท่ีตวั ตัง้ ไม่เกนิ 6 หลกั ตัวหารไม่เกนิ 2 หลัก การหา จำนวนผกั ตบชวา ต.ทา่ สัก อ.พชิ ยั จ.อุตรดติ ถ์ โดยใช้การคูณของจำนวนหลายหลกั 2 จำนวน พร้อมทงั้ ประมาณผลลัพธข์ องการบวก ลบ คณู หาร จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ หาผลลัพธ์ของการบวกลบคูณหารระคนของ จำนวนนับ หาผลบวก ผลลบของเศษสว่ นและจำนวนคละท่ีตวั สว่ นตวั หนงึ่ เป็นพหุคณู ของอีกตัวหนึ่ง แสดงวธิ ี หาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและการลบเศษส่วน และจำนวนคละโดยการบอกวธิ ีการนำผลไมม้ าแบ่ง ออกเปน็ ชน้ิ ๆ ท่เี ท่ากนั รวมถึงการเรยี นรู้คำศัพท์ผลไมใ้ นภาอาเซยี น ไดแ้ ก่ ลาว องั กฤษ ไทย จนี หาผลบวก ผล ลบพรอ้ มท้ังแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ของทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหน่ง บอกเวลาพร้อมทัง้ แสดง วิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับเวลา การเปรียบเทียบระยะเวลา ความสัมพันธ์ระหวา่ งหนว่ ยและอ่าน ตารางเวลา การวดั ขนาดของมุมดว้ ยไมโ้ พรแทรกเตอรแ์ ละสร้างมมุ ได้ หาความยาวรอบรปู สี่เหลยี่ มมมุ ฉาก พ้ืนทีข่ องรูปสี่เหล่ยี มมุมฉากพร้อมทงั้ แก้โจทย์ปัญหาพ้ืนที่ จำแนกชนดิ ของมุม บอกชอ่ื มุม สร้างรูปสีเ่ หล่ยี มมมุ ฉากเม่ือกำหนดความยาวของดา้ น ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ิแท่ง ตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา และอ่านตารางสองทาง โดยใหเ้ นอ้ื หาการเรยี นการสอนสอดคล้องกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ พัฒนาทักษะการคิดของคนสู่ศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กระบวนการสรา้ งความคิดวจิ ารณญาณ กระบวนการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการทางภาษา กระบวนการ อ่านแบบที่ 1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการ สอื่ สาร สอ่ื ความหมาย และการนา เสนอ กระบวนการคดิ สร้างสรรค์ กระบวนการสรา้ งค่านิยม และ กระบวนการ เชือ่ มโยง
52 เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มีความซ่ือสัตย์สุจรติ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่ อยา่ ง พอเพยี ง รกั ความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ รหัสตัวชี้วัด ป 4/1 , ป 4/2, ป 4/3, ป 4/4, ป 4/5, ป 4/6, ป 4/7, ป 4/8, ค 1.1 ป 4/9, ป 4/10, ป 4/11, ป 4/12, ป 4/13, ป 4/14, ป 4/15, ป 4/16 ป 4/1 , ป 4/2, ป 4/3 ค 2.1 ป 4/1 , ป 4/2 ค 2.2 ป 4/1 ค 3.1 รวม 22 ตัวช้ีวดั
53 คำอธิบายสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค๑๕๑๐๑ ช่อื วิชา คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง เขยี นเศษสว่ นจำนวนคละและทศนยิ มไม่เกนิ สามตำแหนง่ การแบง่ ทเุ รียนออกจำหนา่ ย ของจังหวดั จนั ทบรุ ี เศษสว่ นในรูปทศนยิ มและร้อยละ ร้อยละในรปู เศษส่วนและทศนยิ ม ทศนยิ มในรปู เศษสว่ นและร้อยละ แผนภมู ิแท่งท่ีมีการยน่ ระยะของเสน้ แสดงจำนวน นำเสนอข้อมลู จำนวนสบื คน้ และนำเสนอขอ้ มลู ประชากรใน ประเทศอาเซียนในรปู แผนภมู ิแทง่ อา่ นเศษส่วนจำนวนคละ และทศนยิ มไมเ่ กินสองตำแหนง่ ข้อมลู จาก แผนภูมิแทง่ เปรียบเทียบ เปรียบเทยี บเศษสว่ นและทศนยิ มไม่เกนิ สองตำแหนง่ ผลไม้ตามท้องถนิ่ แบง่ ครงึ่ และ บอกเป็นเศษสว่ น เรยี งลำดบั เศษส่วนและทศนยิ มไมเ่ กนิ สองตำแหนง่ บวก ลบ คูณ หาร เศษสว่ น บวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน การคำนวณจำนวนการทำเคร่ืองป้ันดินเผาตอ่ วัน อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี บวก ลบ คูณ ทศนยิ ม บวก ลบ คณุ ระคนของทศนิยมทีม่ ีคำตอบทศนยิ มไมเ่ กินสองตำแหนง่ วเิ คราะห์โจทย์ปัญหา แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา โจทยป์ ญั หาระคนของจำนวนนับการแปรรูปผลิตภณั ฑอ์ าหาร ตำบลไทร น้อย อำเภอบางบาล จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา โจทยป์ ัญหาระคนของเศษสว่ น โจทยป์ ัญหาระคนของทศนิยม โจทยป์ ัญหารอ้ ยละ สร้างโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั จำนวนนับ สรา้ งมุมโดยใชไ้ มโ้ พรแทรกเตอร์ สร้างรปู สเี่ หลีย่ มมุม ฉาก รูปสามเหลย่ี ม รปู วงกลม เส้นขนานโดยใช้ไม้ฉาก บอกค่าประมาณใกล้เคยี งจำนวนเต็มสิบ เต็มรอ้ ย เต็ม พันของจำนวนนบั ความสมั พันธ์ของหนว่ ยการวัดปริมาตรหรือความจุปรมิ าตรการรบั ซ้ือนำ้ ยางพาราของ สหกรณ์นำ้ ยาง อำเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา ตอ่ วัน ลักษณะรูปเรขาคณติ สามมิติชนิดต่าง ๆ รวมถงึ เรยี นรู้ คำศัพทร์ ปู ทรงเรขาคณติ ภาษาองั กฤษจำแนกเครอ่ื งจักสานท่ีมรี ปู ทรงต่าง ๆ ในท้องถิน่ ลักษณะความสัมพนั ธ์ ของรปู ส่ีเหล่ียม รูปสามเหล่ียมชนดิ ต่าง ๆ จำนวนและความสมั พันธ์ในแบบรปู ของจำนวนทก่ี ำหนดให้ เหตุการณ์ที่กำหนดใหน้ น้ั เกิดข้นึ อย่างแน่นอน อาจจะเกดิ ข้ึนหรือไม่ก็ได้ ไม่เกิดขน้ึ อย่างแน่นอน หาความยาว รอบรูปของรูปส่เี หล่ียม รปู สามเหล่ยี ม สเี่ หลย่ี มมุมฉาก บอกความยาวรอบรปู ของตะกร้ากลุ่มแม่บ้าน อ.นคิ มคำ สร้อย จ.มกุ ดาหาร ความจุของทรงสี่เหลย่ี มมมุ ฉาก แก้ปัญหาเกย่ี วกับพน้ื ที่ การคำนวณหาพื้นท่ีการปลกู ทานตะวัน จ.ลพบรุ ี วธิ กี ารท่หี ลากหลายในการแกป้ ัญหา จำแนกรปู เรขาคณติ สามมิติ ความสมั พนั ธ์รปู สเ่ี หลย่ี ม ส่วนประกอบความสมั พนั ธข์ องสามเหลย่ี มชนิดตา่ งๆ การศึกษาหาพืน้ ที่บริเวณวดั พระธาตุเชิงชุม วรมหาวหิ าร อ.เมือง จ.สกลนคร ทักษะและกระบวนการแกป้ ัญหาในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมใช้ เหตุผลและสรุปผลประกอบในการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม มภี าษาการส่อื สาร สอ่ื ความหมาย การนำเสนอ ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้องเชอ่ื มโยงความร้ตู า่ งๆทางคณติ ศาสตร์กับศาสตร์อ่ืน ๆ โดยสอดคล้องตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพฒั นาทักษะการคิดของคนส่ศู ตวรรษที่ ๒๑ โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ ความเข้าใจ กระบวนการปฏบิ ัติกรนะบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ เพือ่ ให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สจุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมนั่ ในการ ทำงาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ รักและรับใช้ รหสั ตวั ช้ีวดั ค ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป ๕/๗, ป ๕/๘ ,ป ๕/๙ ค ๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ค ๒.๒ ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ค ๓.๑ ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, รวม ๑๙ ตัวช้ีวดั
54 คำอธบิ ายรายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค๑6๑๐๑ วชิ า คณิตศาสตร์ กลุม่ สาระคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา ๑6๐ ช่ัวโมง ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี เศษส่วน การเปรียบเทยี บและเรยี งลาดบั เศษส่วนและ จานวนคละโดยใชค้ วามรู้เรือ่ ง ค.ร.น. อตั ราสว่ น อัตราส่วน อัตราส่วนที่เท่ากนั และมาตราสว่ น เปรยี บเทยี บอัตราสว่ นของสนิ คา้ และผลติ ภณั ฑ์ใน ทอ้ งถน่ิ จำนวนนบั และ 0 ตวั ประกอบ จำนวนเฉพาะ ตวั ประกอบเฉพาะ และการแยกตวั ประกอบ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของการจดั ผลิตภัณฑส์ ินคา้ การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ โดยใช้ความรู้เรือ่ ง ค.ร.น. การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษสว่ นและ จำนวนคละ การแก้โจทยป์ ัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหาร ความสัมพนั ธร์ ะหว่างเศษสว่ นและทศนยิ ม การหารทศนิยม การแก้ โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับทศนิยม (รวมการแลกเงินต่างประเทศ) อ่านนำ้ หนักสนิ คา้ เป็นทศนิยม อัตราสว่ นและร้อย ละ การแก้โจทย์ปญั หาอตั ราส่วนและมาตราส่วน การแกโ้ จทยป์ ญั หาร้อยละ แบบรูป การแก้ปัญหาเก่ยี วกับ แบบรปู ปริมาตรและความจุ ปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมติ ทิ ่ปี ระกอบดว้ ย ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก การแก้ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ปริมาตรของรูปเรขาคณติ สามมิติท่ปี ระกอบด้วยทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉาก รูปเรขาคณติ สองมิติ ความยาวรอบรปู และพื้นทข่ี องรูปสามเหลย่ี ม มุมภายในของรปู หลายเหลย่ี ม ความยาวรอบรูปและพนื้ ท่ีของรปู หลายเหลยี่ ม การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรูป และพ้ืนท่ีของรูปหลายเหลย่ี ม ความยาวรอบรูปและ พ้นื ทขี่ องวงกลม การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปและพน้ื ทีข่ องวงกลม คำศพั ทภ์ าษาอังกฤษการ หาพื้นที่ รูปเรขาคณิตสองมิติ ชนิดและสมบัติของรปู สามเหล่ยี ม การสร้างรูปสามเหลีย่ ม ส่วนตา่ ง ๆ ของ วงกลม การสรา้ งวงกลม รูปเรขาคณติ สามมติ ิ ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย พีระมิด รูปคลีข่ องทรงกระบอก กรวย ปริซมึ พีระมดิ บอกช่อื รูปทรงของส่ิงก่อสรา้ งต่าง ๆ ในกล่มุ ประเทศอาเซียน การนำเสนอข้อมูล การอา่ น แผนภมู ริ ปู วงกลม การจัดประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณ์ท่ใี กล้ตัวใหผ้ ู้เรียนไดศ้ ึกษาค้นควา้ โดยปฏบิ ัตจิ รงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทกั ษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ โดยใชก้ ระบวนการทางคณติ ศาสตร์ กระบวนการสร้างความคดิ วจิ ารณญาณ กระบวนการเรียนร้คู วามเข้าใจ กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการทางภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการ สื่อสาร สือ่ ความหมายและการนำเสนอ กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ กระบวนการสรา้ งคา่ นยิ มและ กระบวนการเช่ือมโยงการแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ ดา้ นความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการทไ่ี ด้ ไปใชใ้ นการเรียนร้สู ิ่งต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวนั อยา่ ง สร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคตทิ ดี่ ีต่อ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเชื่อมัน่ ในตนเอง ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และพัฒนาทกั ษะการคดิ ส่ศู ตวรรษท่ี 21
55 เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีความซ่อื สัตยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ ม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ น่ื ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ผล การวดั และประเมนิ ผล ใช้วธิ กี ารหลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงของเนื้อหาและทกั ษะทตี่ ้องการ วัด รหัสตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9, ป.6/10, ป.6/11, ป.6/12 ค 1.2 ป.6/1 ค 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3 ค 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 ค 3.1 ป.6/1 รวมทั้งหมด 21 ตวั ช้ีวดั
56 คำอธบิ ายรายวชิ าคณิตศาสตร์ ช่ือวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 21101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจำนวนตรรกยะและใช้สมบตั ขิ องจำนวนตรรกยะ ในการ แกป้ ญั หาคณิตศารสตร์และปัญหาในชีวติ จรงิ เขา้ ใจและใช้สมบตั ิของเลขยกกำลงั ท่ีมเี อาช้ีกำลังเปน็ จำนวนเต็ม บวกในการแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์และปญั หาในชีวิต เข้าใจและประยุกต์ใช้อัตราส่วน สดั ส่วน และรอ้ ยละ ใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ และปัญหาในชวี ิตจริงเขา้ ใจ และใชส้ มบัติของการเท่ากนั และสมบตั ขิ องจำนวน เพื่อ วิเคราะห์และการแกป้ ัญหาโดยใชส้ มการเชิงเส้นตวั แปรเดียว เข้าใจและใชค้ วามร้เู ก่ยี วกบั กราฟ ในการ แกป้ ญั หาคณิตศาสตร์และปัญหา เขา้ ใจและใชค้ วามรูเ้ กยี่ วกับสัมพันธ์เชิงเส้นในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์ และปัญหาในชวี ติ จริง ใช้ ความรู้ทางเรขาคณติ และเคร่ืองมือ เช่น วงเวยี นและเสน้ ตรง The Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรม เรขาคณิต เพ่ือสร้างรูปเรขาคณิต ตลอดจนนำความรู้เก่ียวกับการสรา้ งนีไ้ ปประยุกต์ใชใ้ นการแก้ไขปญั หาใน ชีวติ จริง เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ทางเรขาคณิต ในการวิเคราะห์หาความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง รปู เรขาคณิตสองมติ ิและ รปู เรขาคณติ สามมิติ เข้าใจและใชค้ วามรู้ทางสถติ ิในการนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมลู รวมทั้งนำสถติ ิไปใชใ้ น ชวี ติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการ กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการเรยี นรู้ กระบวนการสร้างความเขา้ ใจ กระบวนการสร้าง ค่านยิ ม กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสบื สวนสอบสวนและกระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ เพื่อใหน้ ักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตย์สุจรติ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ ง พอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทำงานรักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ รหสั ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ค 3.1 ม.1/1 รวมท้ังหมด 9 ตัวชว้ี ดั
57 คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชือ่ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 21101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสมั พนั ธข์ องจำนวนตรรกยะและใช้สมบัตขิ องจำนวนตรรกยะ ในการ แกป้ ัญหาคณิตศารสตร์และปัญหาในชีวิตจริง เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลงั ท่ีมีเอาช้ีกำลังเปน็ จำนวนเต็ม บวกในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์และปญั หาในชวี ติ เข้าใจและประยุกต์ใช้อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ ใน การแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ และปัญหาในชวี ิตจรงิ เข้าใจ และใช้สมบัตขิ องการเท่ากันและสมบตั ขิ องจำนวน เพื่อ วิเคราะห์และการแก้ปญั หาโดยใช้สมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว เข้าใจและใช้ความรูเ้ ก่ียวกบั กราฟ ในการ แก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหา เข้าใจและใช้ความรู้เก่ียวกบั สมั พนั ธเ์ ชงิ เส้นในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชีวิตจริง ใช้ ความรู้ทางเรขาคณติ และเคร่ืองมือ เช่น วงเวียนและเสน้ ตรง The Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรม เรขาคณิต เพ่ือสร้างรปู เรขาคณติ ตลอดจนนำความรเู้ ก่ียวกบั การสร้างนไ้ี ปประยุกตใ์ ช้ในการแก้ไขปญั หาใน ชีวิตจรงิ เข้าใจและใชค้ วามรู้ทางเรขาคณติ ในการวิเคราะหห์ าความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง รปู เรขาคณิตสองมติ ิและ รปู เรขาคณติ สามมติ ิ เข้าใจและใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการนำเสนอขอ้ มูลและแปลความหมายข้อมูล รวมท้งั นำสถติ ิไปใช้ใน ชีวติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยที ่เี หมาะสม ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ศตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการ กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการสรา้ งความเข้าใจ กระบวนการสร้าง คา่ นิยม กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสืบสวนสอบสวนและกระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ เพ่ือใหน้ ักเรียนเกดิ ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตยส์ จุ รติ มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่าง พอเพียง มุ่งม่นั ในการทำงานรักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ รหัสตวั ชี้วดั ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ค 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ค 3.1 ม.1/1 รวมท้ังหมด 9 ตวั ชี้วัด
58 คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค๒๒๑๐๑ วชิ า คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ เวลา 6๐ ชั่วโมง ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ศกึ ษาเลขยกกำลังที่มีเลขชก้ี ำลังเปน็ จำนวนเต็ม การคณู และการหารเลขยกกำลัง เมือ่ เลขชกี้ ำลงั เปน็ จำนวนเตม็ สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ และการนำความรเู้ กี่ยวกบั เลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง การเขียนเศษส่วนใน รูปทศนิยมซ้ำ การเขียนทศนิยมซำ้ ในรูปเศษส่วน จำนวนจริง สมบตั ขิ องจำนวนจริง รากทส่ี องและรากทส่ี าม ของจำนวนจริง การหารากที่สองและรากทสี่ ามของจำนวนจรงิ โดยการแยกตัวประกอบ การประมาณค่า เปดิ ตาราง และใช้เคร่ืองคำนวณ และการนำความรเู้ ก่ียวกับจำนวนจริงไปใช้ในชวี ิตจรงิ เอกนาม การบวกและการลบเอกนาม พหุนาม การบวกและการลบพหนุ าม การคูณระหว่างเอกนาม กบั เอกนาม การคูณระหวา่ งเอกนามกบั พหนุ าม การคณู ระหว่างพหนุ ามกับพหนุ าม การหารเอกนามดว้ ยเอก นาม การหารพหนุ ามด้วยเอกนามท่ีมีผลหารเป็นพหุนาม การแปลง การแปลงทางเรขาคณติ การเลื่อนขนาน การสะท้อน และการหมุน ความสมั พันธข์ องการเลื่อนขนาน การสะทอ้ น และการหมุน และการนำสมบตั ขิ อง การเลือ่ นขนาน การสะท้อน และการหมุนไปใช้ในชีวติ จริง ความเทา่ กนั ทกุ ประการของรูปเรขาคณิต ความ เท่ากันทุกประการของสว่ นของเสน้ ตรง ความเท่ากนั ทุกประการของมมุ ความเท่ากนั ทุกประการของรูป สามเหล่ยี ม ความเท่ากนั ทกุ ประการของรูปสามเหลยี่ มสองรปู ทีม่ คี วามสัมพนั ธแ์ บบต่าง ๆ รูปสามเหลี่ยมสอง รูปที่สัมพนั ธ์กนั แบบ ด้าน-มมุ -ด้าน รูปสามเหลี่ยมสองรูปท่ีสัมพันธ์กันแบบ มุม-ดา้ น-มุม รูปสามเหลย่ี มสองรปู ที่สัมพันธ์กนั แบบ ดา้ น-ดา้ น-ด้าน และการนำความรู้เกีย่ วกับความเทา่ กันทุกประการไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา เสน้ ขนานและมมุ ภายใน เส้นขนานและมมุ แยง้ เสน้ ขนานและมมุ ภายนอกกับมุมภายใน เส้นขนานและรูป สามเหล่ยี ม เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม การใหเ้ หตุผลและแกป้ ัญหาโดยใชส้ มบตั ิของเส้นขนานและความ เทา่ กันทุกประการของรปู สามเหลยี่ ม โดยการจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ในชวี ติ ประจำวันทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนได้ศึกษา คน้ คว้า ฝึกทักษะ โดยการปฏิบัตจิ ริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอื่ พัฒนาทกั ษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การ แกป้ ญั หาการให้เหตผุ ลการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคดิ ทกั ษะ และกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนร้สู ่งิ ตา่ งๆและใช้ในชีวิตประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์ เพือ่ ใหเ้ ห็นคณุ ค่าและมีเจตคติทีด่ ีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อยา่ งเปน็ ระบบ มีระเบียบ รอบคอบมีความรบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และมคี วามเช่ือม่ันในตนเอง ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.2/1 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และปญั หาในชวี ติ จริง ค 1.1 ม.2/2 เขา้ ใจจำนวนจริงและความสัมพันธ์ของจำนวนจรงิ และใชส้ มบัติของจำนวนจรงิ ในการแก้ปัญหา คณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวิตจริง ค 1.2 ม.2/1 เข้าใจหลกั การการดำเนินการของพหนุ ามและใชพ้ หนุ ามในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ค 2.2 ม.2/2 นำความร้เู กี่ยวกบั สมบตั ขิ องเส้นขนานและรูปสามเหล่ียมไปใช้ในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์ ค 2.2 ม.2/3 เข้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกับการแปลงทางเรขาคณิตในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาใน ชวี ิตจรงิ ค 2.2 ม.2/4 เข้าใจและใชส้ มบตั ขิ องรปู สามเหลยี่ มท่ีเทา่ กนั ทกุ ประการในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละ ปญั หาในชีวติ จรงิ รวม 6 ตัวชีว้ ัด
59 คำอธบิ ายรายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค๒๒๑๐๒ วิชา คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 6๐ ชว่ั โมง การแยกตัวประกอบของพหนุ าม เรียนรู้ เกย่ี วกบั การแยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้ สมบตั กิ ารแจกแจง กำลงั สองสมบูรณ์ ผลต่างกำลังสอง ทฤษฎีบทพที าโกรัส เรียนรเู้ กีย่ วกับทฤษฎีบทพีทาโกรัส และบทกลบั การนำความรเู้ กยี่ วกับทฤษฎีบทพีทาโกรัสและบทกลับไปใชใ้ นชวี ิตจริง พ้นื ท่ีผิว เรยี นรู้เกย่ี วกับ การหาพน้ื ที่ผวิ ของปรซิ ึมและทรงกระบอก การนำความรู้เกย่ี วกบั พน้ื ทผ่ี วิ ของปริซมึ และทรงกระบอกไปใชใ้ น การแกป้ ัญหา ปรมิ าตร เรยี นรเู้ กยี่ วกบั การหาปริมาตรของปริซึมและทรงกระบอก การนำความรูเ้ ก่ียวกบั ปริมาตรของปรซิ ึมและทรงกระบอกไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา สถติ ิ เรยี นรเู้ กยี่ วกับการนำเสนอและวเิ คราะหข์ ้อมูล แผนภาพจดุ แผนภาพตน้ -ใบ ฮสิ โทแกรม คา่ กลางของขอ้ มูล การแปลความหมายผลลพั ธ์ การนำสถิติไปใชใ้ น ชวี ติ จรงิ การสร้างทางเรขาคณติ เรยี นรเู้ กย่ี วกบั การนำความรเู้ ก่ียวกับการสร้างทางเรขาคณติ ไปใชใ้ นชีวิตจริง โดยใชว้ ธิ กี ารทห่ี ลากหลาย ใช้ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการ แกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่างๆ ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สนิ ใจและสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ใช้ภาษาและ สัญลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการสื่อสาการการสอ่ื ความหมาย และการนำเสนอได้อยา่ งถูกต้องและชัดเจน เชอื่ มโยงความรู้ต่างๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ หลกั กาการกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปเชื่อมโยงกบั ศาสตร์อน่ื ๆ และมีความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ เพื่อใหม้ คี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง มุ่งม่นั ในการทำงานรักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยูร่ ว่ มกับผอู้ นื่ ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข รหัสตัวช้ีวัด ค ๑.๒ ม.๒/๒ ค ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๓ ค ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๓ ม.๒/๕ ค ๓.๑ ม.๒/๑ รวมท้ังหมด ๗ ตัวชี้วัด
60 คำอธบิ ายรายวชิ าคณิตศาสตร์ ค23101 คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ศึกษาความรเู้ กี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดยี ว คำตอบของอสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี วและ กราฟแสดงคำตอบ การแก้อสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว การนำความรเู้ กย่ี วกบั อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียวไป ใช้ในการแก้ปญั หา สมการกำลงั สองตัวแปรเดยี ว การแก้สมการกำลังสองตวั แปรเดียว โดยใช้วธิ แี ยกตวั ประกอบของพหนุ ามและวธิ ที ำเปน็ กำลงั สองสมบรู ณ์ การนำความรเู้ กย่ี วกบั สมการกำลังสองตัวแปรเดียวไปใช้ ในการแก้ปญั หา รปู ทัว่ ไปของฟังกช์ ัน่ กำลงั สอง กราฟของฟังกช์ ่ันกำลงั สองที่อยใู่ นรปู y = ax2 เม่ือ a > 0 กราฟของฟังกช์ นั่ กำลังสองที่อย่ใู นรปู y = ax2 เมื่อ a < 0 กราฟของฟงั ก์ชน่ั กำลังสองทีอ่ ย่ใู นรูป y = ax2 + k เม่ือ a, k ≠ 0 กราฟของฟังกช์ นั่ กำลงั สองที่อยู่ในรูป y = a(x – h)2 + k เมอื่ a, h ≠ 0 กราฟของฟังกช์ น่ั กำลังสองทอี่ ยใู่ นรปู y = a(x – h)2 + k เมื่อ a, h, k ≠ 0 กราฟของฟงั กช์ ่นั กำลังสองท่ีอยู่ในรปู y = ax2 + bx + c เม่ือ a ≠ 0 การนำความรูเ้ กย่ี วกบั ฟังก์ชนั่ กำลังสองไปใช้ในการแก้ปัญหา พีระมิด กรวย ทรงกลม คลอรไ์ ทล์ แผนภาพกล่อง การนำแผนภาพกล่องไปใชใ้ นชวี ติ จริง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ความนา่ จะเป็น ของเหตุการณ์ และการนำความรู้เก่ยี วกบั ความน่าจะเปน็ ไปใช้ในชวี ิตจริง โดยการจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ทใ่ี กล้ตัวผูเ้ รียนไดศ้ ึกษา คน้ ควา้ ฝกึ ทักษะ โดยการ ปฏิบัตจิ รงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพฒั นาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตุผล การเช่อื มโยง การสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ กระบวนการทไี่ ด้ไปใชใ้ นการเรียนรูส้ ง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสรา้ งสรรค์ เพ่อื ใหเ้ ห็นคุณคา่ และมีเจตคติทีด่ ตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ มีความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรคแ์ ละมคี วามเชอื่ ม่ันในตนเอง ตัวชีว้ ัด ค. 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใชค้ วามรู้เกยี่ วกับฟังกช์ ันกำลังสองในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ค. 1.3 ม.3/1 เขา้ ใจและใช้สมบัตขิ องการไม่เทา่ กันเพื่อวเิ คราะหแ์ ละแก้ปัญหา โดยใช้อสมการเชงิ เส้นตัวแปร เดียว ค. 1.3 ม.3/2 ประยกุ ต์ใชส้ มการกำลงั สองตัวแปรเดียวในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ค. 2.1 ม.3/1 ประยกุ ตใ์ ช้ความรเู้ รือ่ งพ้นื ทผี่ ิวของพีระมิด กรวย และทรงกลมในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์ และปญั หาในชีวติ จริง ค. 2.1 ม.3/2 ประยุกตใ์ ช้ความรูเ้ รอื่ งปริมาตรของพรี ะมดิ กรวย และทรงกลมในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และปัญหาในชีวติ จรงิ ค. 3.1 ม.3/1 เข้าใจและใช้ความรทู้ างสถิตใิ นการนำเสนอและวเิ คราะหข์ ้อมลู จากแผนภาพกล่องและแปล ความหมายผลลัพธ์รวมทัง้ นำสถติ ไิ ปใช้ในชวี ิตจริงโดยใชเ้ ทคโนโลยที ่ีเหมาะสม ค. 3.2 ม.3/1 เข้าใจเกย่ี วกับกำรทดลองส่มุ และนำผลท่ไี ด้ไปหาความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์ รวม 7 ตัวชว้ี ัด
61 คำอธิบายรายวิชาคณติ ศาสตร์ ค23102 คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน 6 กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาระบบสมการเชิงเสน้ สองตวั แปรการอา่ นและแปลความหมายกราฟของระบบสมการ เชิงเส้นสองตวั แปรการแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การนำระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปรไปใช้ในการ แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ การแยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรีสงู กว่าสองที่มีสัมประสทิ ธิ์เปน็ จำนวนเตม็ รูปทีค่ ล้ายกัน รูป สามเหลย่ี มทคี่ ล้ายกนั การนำรูปสามเหลีย่ มคลา้ ยไปใช้ในทางคณติ ศาสตร์ การนำความรเู้ กย่ี วกับรปู สามเหลี่ยมคล้ายไปใช้ ในชีวติ ประจำวนั อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ การประยุกตข์ องอตั ราส่วนตรโี กณมิติ วงกลม มุมท่จี ดุ ศูนย์กลางและมุม ในส่วนโค้งของวงกลม คอร์ด เส้นสัมผสั วงกลม โดยการจัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณ์ในชวี ติ ประจำวนั ทใี่ กล้ตวั ใหผ้ ู้เรยี นได้ศึกษา คน้ ควา้ ฝกึ ทักษะ โดยการปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพอื่ พัฒนาทักษะ กระบวนการในการคิดคำนวณ การ แก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิด ทกั ษะ และกระบวนการที่ได้ไปใชใ้ นการเรียนร้สู ิ่งตา่ ง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจำวันอยา่ งสร้างสรรค์ เพื่อใหเ้ หน็ คุณคา่ และมเี จตคติท่ดี ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ มีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ และมีความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง ตัวชีว้ ัด เขา้ ใจและใช้การแยกตัวประกอบของพหนุ ามที่มีดกี รีสูงกวา่ สองในการแก้ปัญหา ค 1.2 ม.3/1 คณติ ศาสตร์ ประยุกตใ์ ช้ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตัวแปรในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์ ค 1.3 ม.3/3 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ขิ องรูปสามเหลยี่ มท่คี ล้ายกันในการแก้ปัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาใน ค 2.2 ม.3/1 ชวี ติ จรงิ เขา้ ใจและใช้ความรู้เก่ยี วกบั อัตราสว่ นตรโี กณมติ ใิ นการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และปัญหาใน ค 2.2 ม.3/2 ชีวิตจริง เขา้ ใจและใช้ทฤษฎบี ทเก่ียวกับวงกลมในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์ ค 2.2 ม.3/3 รวม 5 ตัวชว้ี ัด
62 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คำอธิบายสาระการเรยี นรู้ รหสั วิชา ว 11101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 80 ชัว่ โมง ระบุชื่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยูบ่ ริเวณต่างๆ ในเขตอำเภอเมือง สกลนครชื่อสัตว์และช่ือดอกไม้ประจำ ชาติอาเซียนจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ชนิดของวัสดุ ชื่อของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช ดาวท่ี ปรากฏบนท้องฟา้ ในเวลากลางวันและกลางคืน การสังเกตดวงอาทิตยใ์ นการบอกชว่ งเวลาจากข้อมูลที่รวบรวม ได้ ตลอดจนเรยี นรคู้ ำศพั ท์ 3 ภาษา (ภาษาไทย ภาษาลาวและภาษาอังกฤษ) คำว่า ดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์และ ดวงดาว บอกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของสัตว์ในบริเวณที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมือง สกลนครหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืชบรรยายลักษณะของส่วนต่างๆ ของร่างกาย มนุษย์ สัตว์และพืช รวมทั้งการทำหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่างๆจาก ข้อมูลที่รวบรวมได้ การเกิดเสียงและการเกิดเสียงดนตรีพื้นบ้านจากเครื่องดนตรี เช่น แคน โหวด กลอง พิณ จากแหล่งผลิตบ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม และทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียงจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธบิ ายลักษณะภายนอกของหิน จากลกั ษณะเฉพาะตัวที่สงั เกตได้ ในเขตอำเภอเมือง สกลนครการใช้ ประโยชน์จากหิน โรงงานแกะสลักหินลานนา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงใหม่และสิ่งก่อสร้างจากหินในกลุ่ม ประเทศอาเซียน ปราสาทหินวัดพู ประเทศลาว ปราสาทเขาพนมรุ้ง ประเทศไทย ปราสาทเขาพระวิหาร ประเทศกัมพูชา สมบตั ิทสี่ ังเกตได้ของวัสดุทใี่ ช้ทำวตั ถุซ่ึงทำจากวัสดชุ นิดเดียวหรือหลายชนดิ ประกอบกัน โดย ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ บอกสมบัติของผ้าที่ทำมาจากดอกฝ้าย และจัดกลุ่มวัสดุตามสมบัติที่สังเกตได้ ตลอดจนตระหนักถึงความสำคัญของส่วนต่างๆของร่างกายตนเองโดยการดูแลส่วนต่างๆอย่างถูกต้องรักษา ความสะอาดใหป้ ลอดภัยและรักษาความสะอาดอยเู่ สมอ การแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูก การ เปรียบเทียบ แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพสัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อและใช้เทคโนโลยีในการสร้างจัดเก็บเรียกใช้ข้อมูลตาม วัตถุประสงค์ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ ร่วมกันดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้นใช้งานอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนา ทักษะการคิดสู่ศตวรรษที่ 21โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการเรียนรู้ความเข้าใจ กระบวนการสืบสวนสอบสวนกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความ ตระหนัก กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพ่อื ให้มีความซ่ือสัตย์สจุ รติ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มุ่งม่ัน ในการทำงาน มีจติ สาธารณะ และมีจติ วิทยาศาสตร์ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ คา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม
63 ตวั ช้ีวดั ว 1.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 1.2 ป.1/1 ป.1/2 ว 2.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 2.3 ป.1/1 ว 3.1 ป.1/1 ป.1/2 ว 3.2 ป.1/1 ว 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 รวมตัวช้ีวดั ท้งั หมด 15 ตวั ชีว้ ดั
64 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว12101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 80 ชั่วโมง ผู้เรยี นสามารถระบุได้วา่ พืชต้องการแสงและนำ้ เพ่ือการเจริญเตบิ โต โดยใช้ข้อมูลจากหลักฐานเชิง ประจักษ์และศึกษาการตอบสนองต่อแสงของต้นทานตะวนั ทีป่ ลกู ในชุมชนธาตนุ าเวง อ.เมอื ง จ.สกลนคร ตระหนกั ถึงความจำเป็นทีพ่ ืชต้องไดร้ ับนำ้ และแสงเพื่อการเจรญิ เติบโต โดยดูแลพืชให้ไดร้ ับสิง่ ดังกลา่ วอยา่ ง เหมาะสมสามารถสร้างแบบจำลองท่ีบรรยายวฏั จกั รชีวิตของพชื ดอกและเปรยี บเทียบลกั ษณะของสงิ่ มชี วี ติ และส่ิงไมม่ ีชีวิตจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ โดยเปรียบเทียบลกั ษณะของส่งิ มีชีวิตและสิ่งไมม่ ชี วี ติ ในโรงเรียน นอกจากนี้สามารถเปรียบเทยี บสมบตั ิการดดู ซับน้ำของวสั ดุและระบุการนำสมบัติการดูดซบั นำ้ ของวัสดุไป ประยุกต์ใช้ในการทำวตั ถุในชีวิตประจำวันได้ สามารถอธิบายสมบัติทสี่ งั เกตได้ของวัสดทุ ี่เกิดจากการนำวัสดมุ า ผสมกนั และเปรียบเทียบสมบัติทส่ี ังเกตไดข้ องวัสดเุ พ่ือนำมาทำเปน็ วัตถุในการใช้งานตามวัตถปุ ระสงค์และ อธบิ ายการนำวสั ดุทใ่ี ชแ้ ลว้ กลับมาใชใ้ หม่โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ตระหนักถึงประโยชน์ของการนำวสั ดุทใี่ ช้ แลว้ กลับมาใช้ใหม่ โดยการนำวสั ดุท่ีใชแ้ ล้วกลบั มาใช้ใหม่นอกจากนส้ี ามารถบรรยายแนวการเคลือ่ นท่ีของแสง จากแหล่งกำเนิดแสงและอธิบายการมองเหน็ วตั ถจุ ากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์อีกทั้งตระหนักในคุณคา่ ของความรู้ ของการมองเห็นโดยเสนอแนะแนวทางการปอ้ งกันอันตรายจากการมองวัตถุทอ่ี ยู่ในบริเวณท่มี แี สงสวา่ งไม่ เหมาะสมนอกจากนี้สามารถระบสุ ว่ นประกอบของดินและจำแนกชนดิ ของดนิ โดยใชล้ ักษณะเน้ือดินและการ จบั ตวั เป็นเกณฑ์ โดยสำรวจและจำแนกภายในบรเิ วณโรงเรียนโดยใชส้ มบัตทิ างกายภาพเป็นเกณฑร์ วมท้งั สามารถ อธบิ ายการใชป้ ระโยชน์จากดินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งไรก็ตามการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ในศตวรรษที่ 21 ผู้เรยี นจำเป็นตอ้ งใช้ความสามารถในการส่ือสารการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และการคดิ อย่าง เป็นระบบ อกี ท้ังยังสามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชญิ ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลกั เหตผุ ลนอกจากน้ียังสามารถใชเ้ ทคโนโลยี เพ่ือการพฒั นาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่อื สาร การ ทำงานการแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสมโดยอาศัยกระบวนการแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ นำ กระบวนการต่างๆ ไปใชใ้ นการดำเนินชวี ิตประจำวันรวมถึงการมคี ุณธรรม มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และม่งุ มัน่ ในการ ทำงานเพ่ือใหส้ ามารถอยู่รว่ มกับผอู้ ืน่ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข รหัสตวั ช้ีวัด ว 1.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ว 1.3 ป.2/1 ว 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3ป.2/4 ว 2.3 ป.2/1 ป.2/2 ว 3.2 ป.2/1ป.2/2 ว 4.2 ป.2/1 ป.2/2ป.2/3 ป.2/4 รวมตัวช้วี ดั ทั้งหมด 16 ตัวชี้วดั
65 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 13101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 80 ชัว่ โมง ศกึ ษาและเรียนรูเ้ กย่ี วกบั ส่งิ ที่จำเป็นตอ่ การดำรงชวี ิตและการเจรญิ เตบิ โตของมนุษยแ์ ละสัตว์ ประโยชน์ของอาหาร นำ้ และอากาศ โดยการดูแลตนเองและสัตวใ์ ห้ได้รับสิ่งเหลา่ น้ีอย่างเหมาะสม วฏั จักรชีวิต ของสตั ว์ เปรยี บเทยี บวัฏจักรชวี ิตของสัตวบ์ างชนดิ คุณคา่ ของชวี ิตสัตว์ โดยไมท่ ำใหว้ ฏั จกั รชีวิตของสตั ว์ เปลีย่ นแปลง วัตถปุ ระกอบข้ึนจากช้นิ ส่วนย่อย ๆ ซ่งึ สามารถแยกออกจากกันไดแ้ ละประกอบกันเปน็ วตั ถชุ ิ้น ใหมไ่ ด้ การเปลย่ี นแปลงของวสั ดุเมื่อทำให้รอ้ นขึ้นหรือทำให้เยน็ ลง ผลของแรงท่ีมตี อ่ การเปล่ยี นแปลงการ เคล่อื นท่ีของวัตถุ แรงสมั ผัสและแรงไม่สมั ผัสทีม่ ีผลต่อการเคล่อื นท่ีของวัตถุ จำแนกวัตถุโดยใชก้ ารดงึ ดูดกบั แมเ่ หล็กเปน็ เกณฑ์ ขว้ั แมเ่ หล็กและผลทีเ่ กิดข้นึ ระหวา่ งข้ัวแม่เหลก็ เมื่อนำมาใกล้กัน สว่ นประกอบของอากาศ ความสำคญั ของอากาศ และผลกระทบของมลพษิ ทางอากาศตอ่ ส่ิงมชี ีวิต ความสำคญั ของอากาศ แนวทางการ ปฏบิ ัตติ นในการลดการเกดิ มลพษิ ทางอากาศ การเกดิ ลม ประโยชน์และโทษของลม การเปล่ยี นแปลงพลงั งาน หนึง่ ไปเปน็ อีกพลงั งานหนึ่ง การทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟา้ และแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า ประโยชน์ และโทษของไฟฟา้ วิธีการใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภัย แบบรปู เส้นทางการข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ การเกดิ ปรากฏการณ์การขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวนั กลางคืน และการกำหนดทิศและ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ โดยมุง่ หวังใหผ้ ูเ้ รียนได้เรยี นรู้วิทยาศาสตร์ที่สามารถนำไปใชอ้ ธิบาย แก้ไขปญั หา หรอื สรา้ งสรรค์ พฒั นางานในชีวติ จริงได้ ซ่งึ เน้นการเช่ือมโยงความรทู้ างวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยี กบั กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และให้มที ักษะสำคัญในการค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ โดยใชก้ ระบวนการ สืบเสาะหาความร้แู ละการแก้ปัญหาทีห่ ลากหลาย เพ่ือให้ผเู้ รียนเกดิ ความร้คู วามเขา้ ใจ มีทักษะการคดิ และมีส่วนรว่ มในการเรยี นรู้ทกุ ข้นั ตอน รวมทงั้ ส่งเสริมให้ผู้เรยี นเกิดจติ วิทยาศาสตร์และมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ตัวชว้ี ัด ว 1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ว 2.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 2.3 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 รวมท้ังหมด 20 ตวั ชวี้ ดั
66 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 80 ชั่วโมง บรรยายหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ดอก โดยใชข้ ้อมูลทรี่ วบรวมได้ สมนุ ไพรจากราก ลำตน้ ใบ และดอก ในเขตจังหวัดสกลนครลักษณะเฉพาะท่ีสงั เกตได้ของสัตว์มีกระดกู สันหลังในกลุ่มปลา กลมุ่ สัตวส์ ะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลมุ่ สตั วเ์ ลือ้ ยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตวเ์ ล้ียงลูกด้วยนำ้ นม และยกตัวอยา่ ง สิ่งมีชวี ิตในแต่ละกลุ่ม ส่ิงมชี วี ิต ในเขตจังหวัดสกลนครมวลของวัตถุท่ีมีผลต่อการเปลีย่ นแปลงการเคล่ือนท่ีของ วัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกสง่ิ มีชวี ิตโดยใช้ความเหมอื น และความแตกตา่ งของลักษณะของสงิ่ มีชวี ติ ออกเป็นกลุ่มพชื กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พชื และสตั ว์ สิง่ มีชีวิต ในเขตจังหวดั สกลนครพืชออกเป็นพืชดอกและ พชื ไม่มีดอกโดยใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ โดยใชข้ อ้ มูลท่ีรวบรวมได้ พชื ประจำถิน่ ในเขตจังหวัดสกลนคร สตั ว์ ออกเปน็ สตั ว์มีกระดูกสันหลังและสตั วไ์ มม่ ีกระดูกสนั หลัง โดยใช้การมกี ระดูกสนั หลงั เปน็ เกณฑ์ โดยใช้ข้อมลู ที่ รวบรวมได้ ส่งิ มชี วี ติ ในเขตจังหวดั สกลนครวตั ถุเป็นตวั กลางโปร่งใสตวั กลางโปรง่ แสง และวัตถุทึบแสง จาก ลกั ษณะการมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ผ่านวตั ถนุ นั้ เป็นเกณฑโ์ ดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ธุรกิจชุมชนทอผา้ ไหมแพรวา จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ เปรยี บเทยี บสมบัตทิ างกายภาพด้านความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน และการนำ ไฟฟ้าของวสั ดโุ ดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการทดลองและระบกุ ารนำสมบตั เิ รื่องความแขง็ สภาพยืดหย่นุ การนำความร้อน และการนำไฟฟา้ ของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจำวันผ่านกระบวนการออกแบบชน้ิ งาน สมบตั ขิ อง สสารทง้ั ๓ สถานะ จากข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตมวล การตอ้ งการทีอ่ ยู่รปู ร่างและปริมาตรของสสาร อภปิ ราย เกยี่ วกบั สมบตั ิทางกายภาพของวัสดุอย่างมเี หตผุ ลจากการทดลอง ใช้เครื่องมือเพ่ือวัดมวล และปริมาตรของ สสารทั้ง ๓ สถานะ เครือ่ งชง่ั สปรงิ ในการวัดน้ำหนักของวัตถุ เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบายการ ทำงาน การคาดการณ์ผลลพั ธ์ จากปญั หาอยา่ งง่าย อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เช่ือถอื ของ ข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิของผูอ้ น่ื แจ้งผู้เก่ยี วข้อง เม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลที่ไม่เหมาะสม ระบผุ ลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวตั ถจุ ากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ประเพณี แห่นางแมว จังหวดั ชัยภมู ิ อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ ดวงจนั ทร(์ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม) สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายแบบรูปการเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของดวง จันทรแ์ ละพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ แสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศโดยใชซ้ อฟตแ์ วรท์ ่ี หลากหลาย เพื่อแกป้ ญั หาในชีวติ ประจำวนั รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศโดยใชซ้ อฟต์แวร์ท่ี หลากหลาย เพ่ือแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และพัฒนาทักษะการคิดสู่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเรยี นร้คู วามเข้าใจ กระบวนการสบื สวน สอบสวน กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก เพื่อให้มี ความรกั ชาตศิ าสน์กษัตรยิ ์ ซื่อสตั ย์สุจรติ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ และมจี ติ วทิ ยาศาสตร์
67 เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสง่ิ ที่ได้เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ เห็นคณุ ค่าของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมทีเ่ หมาะสม ตวั ชวี้ ัด ว 1.2 ป.4/1 ว 1.3 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ว 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ว 2.3 ป.4/1 ว 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ว 4.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 รวมตวั ช้วี ดั ทงั้ หมด 21 ตัวชีว้ ดั
68 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 15101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 80 ชั่วโมง ศึกษา วิเคราะห์ โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจาก การปรับ และความสัมพันธ์ของส่ิงมชี ีวิตทีเ่ หมาะสมกบั การดำรงชวี ิตซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของสิ่งมชี ีวติ ในแต่ละแหล่งที่อยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งไม่มีชีวติ เพื่อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต โซ่อาหารและบทบาทหนา้ ที่ของส่ิงมชี วี ิตท่ีเป็นผูผ้ ลิตและผู้บรโิ ภค ในโซ่อาหาร คุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา สิ่งแวดล้อม ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์ ลักษณะท่ี คล้ายคลึงกันของตนเองกับพ่อแม่ การเปลี่ยนสถานะของสสารเมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลง การละลาย ของสารในนำ้ การเปลยี่ นแปลงของสารเม่อื เกดิ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี การเปลยี่ นแปลงทีผ่ นั กลบั ได้และการ เปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ วิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุอยู่นิ่ง แผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยูใ่ นแนวเดียวกันและแรงลัพธท์ ี่กระทำต่อวัตถุ การใช้เครื่องชั่งสปริงใน การวัดแรงที่กระทำต่อวัตถุ ผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ การเขียน แผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงที่อยู่ในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุ การได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสียงค่อย การวัดระดบั เสียงโดยใช้เคร่อื งมือวัดระดบั เสียง แนวทางในการหลกี เลย่ี งและลดมลพษิ ทางเสยี ง ความแตกต่าง ของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง การใช้แผนที่ดาวระบุตำแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของ กลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า แบบรูปเสน้ ทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี ปริมาณน้ำในแต่ ละแหล่ง ปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ แนวทางการใช้นน้ำอย่างประหยัดและการอนุรั กษ์ น้ำ แบบจำลองการหมุนเวียนของน้ำในวัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง จาก แบบจำลอง และกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการ ทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเตอร์เน็ตที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูล หรอื บคุ คลทไี่ มเ่ หมาะสม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม รหัสตัวช้ีวัด ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 1.1 ป5/1, ป5/2 มาตรฐาน ว 1.3 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 2.1
69 มาตรฐาน ว 2.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 2.3 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4 มาตรฐาน ว 3.1 ป5/1, ป5/2 มาตรฐาน ว 3.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 มาตรฐาน ว 4.2 ป5/1, ป5/2, ป5/3, ป5/4, ป5/5 รวม 31 ตัวช้ีวดั
70 คำอธิบายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 16101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 80 ช่วั โมง ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแตล่ ะประเภทจากอาหารท่ตี นเองรับประทาน บอกแนวทางในการเลือกรบั ประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถว้ น ในสัดสว่ นท่เี หมาะสมกบั เพศและวยั รวมทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพ ตระหนกั ถึงความ สำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรบั ประทานอาหารที่มี สารอาหารครบถ้วนในสดั สว่ นท่ีเหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ สรา้ งแบบจำลองระบบ ย่อยอาหาร และบรรยายหน้าทข่ี องอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทั้งอธบิ ายการย่อยอาหารและการดูดซมึ สารอาหาร ตระหนักถึงความสำคญั ของระบบย่อยอาหารโดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบ ยอ่ ยอาหารให้ทำงานเปน็ ปกติ อธบิ ายและเปรยี บเทียบการแยกสารผสมโดยการหยบิ ออก การร่อน การใช้ แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู การรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจักษร์ วมทง้ั ระบุวธิ ีแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันเก่ียวกบั การแยกสาร การแยกน้ำครามออก ในกระบวนการผลติ ผ้าคราม จังหวดั สกลนคร อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟา้ ซงึ่ เกดิ จากวัตถุทีผ่ า่ นการขัดถูโดยใช้หลักฐานเชิงประจกั ษ์ ระบุ สว่ นประกอบและบรรยายหน้าท่ขี องแตล่ ะส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟา้ อย่างง่าย ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธที เ่ี หมาะสมในการอธิบาย วิธีการและผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม การต่อไฟหลอดไฟประดับในพิธีแหด่ าว จังหวัดสกลนคร ตระหนักถึงประโยชน์ของความรขู้ องการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมโดยบอกประโยชนแ์ ละการประยุกต์ใชใ้ น ชวี ติ ประจำวนั ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ที เี่ หมาะสมในการอธบิ ายการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ อนกุ รมและแบบขนาน ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ข้อจำกัด และการประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อธิบายการเกิดเงามดื เงามัวจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เขียนแผนภาพรงั สีของแสงแสดงการเกดิ เงามืดเงามัว สรา้ งแบบจำลองที่อธบิ ายการเกดิ และ เปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยปุ ราคาและจันทรุปราคา อธบิ ายพฒั นาการของเทคโนโลยอี วกาศ และ ยกตวั อยา่ งการนำเทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ เปรยี บเทียบ กระบวนการเกดิ หนิ อคั นี หินตะกอน และหนิ แปร และอธิบายวัฏจกั รหนิ จากแบบจำลอง ภูมิปญั ญาไทย ประเภทของหินท่ีใช้สร้างประสาทหินพมิ าย จ.นครราชสมี า และประสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรมั ย์ ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ประเภทของหินทีใ่ ชส้ ร้างพระธาตนุ ารายณ์เจงเวง ในจงั หวดั สกลนคร อาเซยี น ประเภทของหินท่ใี ช้สรา้ งนครวดั นครธม จงั หวัดเสียมราฐ ประเทศกมั พูชา บรรยายและยกตวั อยา่ งการใช้ ประโยชน์ของหินและแรใ่ นชวี ิตประจำวนั จากข้อมูลที่รวบรวมได้ สร้างแบบจำลองทอ่ี ธิบายการเกิดซากดึกดำ บรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดตี ของซากดึกดำบรรพ์ เปรยี บเทียบการเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม รวมทั้งอธบิ ายผลทม่ี ตี ่อสง่ิ มชี ีวติ และสิง่ แวดลอ้ มจากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสมุ ตอ่ การเกิดฤดขู อง ประเทศไทยจากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วมการกดั เซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผน่ ดินไหว สึนามิ การเกิดคล่นื สนึ ามีในภูมิภาคอาเซียน ตระหนกั ถึงผลกระทบของภยั ธรรมชาติและธรณพี ิบตั ิ ภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั จากภัยธรรมชาตแิ ละธรณพี บิ ัตภิ ัยที่อาจเกดิ ในทอ้ งถ่ิน การจดั การทรัพยากรน้ำ ในจงั หวัดสกลนคร สรา้ งแบบจำลองทอี่ ธบิ ายการเกดิ ปรากฏการณเ์ รือน กระจกและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อสง่ิ มชี วี ติ ตระหนกั ถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือลดกิจกรรมท่ีก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการ
71 อธิบายและออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหาที่พบในชีวติ ประจำวัน ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อ แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการค้นหาขอ้ มูล อย่างมีประสิทธิภาพ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าทขี่ องตน เคารพ ในสทิ ธิของผู้อ่นื แจ้งผู้เก่ยี วข้องเมื่อพบขอ้ มลู หรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และพฒั นาทกั ษะการคิดสูศ่ ตวรรษท่ี 21 โดยใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการ ความรูค้ วามเข้าใจ กระบวนการสรา้ งค่านยิ ม กระบวกแกป้ ัญหา กระบวนการเรยี นรคู้ วามเข้าใจ กระบวนการอ่าน กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด กระบวนการทางภาษา กระบวนการสรา้ งคา่ นยิ ม เพ่อื ให้มคี วามรักชาติ ศาสน์กษัตรยิ ์ ซือ่ สตั ย์สุจริต มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ ทำงาน รักความเปน็ ไทยและมจี ติ สาธารณะ รหสั ตวั ช้วี ัด ว 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 ว 2.1 ป.6/1 ว 2.2 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8 ว 3.1 ป.6/1, ป.6/2 ว 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9 ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4 รวม 30 ตัวช้ีวดั
72 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 21101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรียนท่ี 1 อธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างรูปรา่ งกบั การทำหนา้ ท่ีของเซลล์การจดั ระบบของสิ่งมชี วี ิต โดยเรมิ่ จาก เซลลเ์ น้ือเยื่อ อวยั วะระบบอวยั วะจนเปน็ ส่ิงมชี วี ิตความสำคัญของการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ต่อส่ิงมชี ีวิต และส่งิ แวดล้อมกระบวนการแพรแ่ ละออสโมซิสจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ และยกตวั อยา่ งการแพร่และออสโม ซิสในชีวิตประจำวัน การสืบพันธ์ุแบบอาศยั เพศและไม่อาศัยเพศของพชื ดอกลักษณะโครงสร้างของดอกทม่ี สี ่วน ทำ ให้เกิดการถ่ายเรณูรวมทั้งบรรยายการปฏิสนธิของพชื ดอก การเกิดผลและเมลด็ การกระจายเมลด็ และการ งอกของเมล็ดความสำคัญของธาตอุ าหารบางชนิดท่ีมีผลตอ่ การเจริญเติบโตและการดำรงชวี ติ ของพชื ความสำคัญของเทคโนโลยีการเพาะเลีย้ งเนื้อเย่ือพืชในการใชป้ ระโยชน์ด้านต่าง ๆสมบัตทิ างกายภาพบาง ประการของธาตโุ ลหะ อโลหะและกง่ึ โลหะ โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์ท่ีไดจ้ ากการสังเกตและการทดสอบ และใช้สารสนเทศที่ได้จากแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ รวมท้งั จดั กลุ่มธาตุเปน็ โลหะ อโลหะและก่ึงโลหะความหนาแน่น ของสารบรสิ ุทธิแ์ ละสารผสมอธบิ ายเก่ยี วกบั ความสมั พนั ธ์ระหว่างอะตอมธาตุ และสารประกอบโดยใช้ แบบจำลองและสารสนเทศโครงสร้างอะตอมท่ีประกอบดว้ ยโปรตอน นวิ ตรอนอเิ ลก็ ตรอนโดยใช้แบบจำลอง การจัดเรยี งอนภุ าค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคและการเคลือ่ นที่ของอนุภาคของสสารชนิดเดยี วกันใน สถานะของแข็งของเหลว และแกส๊ โดยใช้แบบจำลองความสมั พันธร์ ะหวา่ งพลงั งานความร้อนกับการเปลี่ยน สถานะของสสาร โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์และแบบจำลองเปรียบเทยี บรูปร่าง ลกั ษณะ และโครงสรา้ งของ เซลลพ์ ชื และเซลล์สัตว์ รวมท้ังบรรยายหน้าทข่ี องผนังเซลล์เยื่อหมุ้ เซลล์ไซโทพลาซึม นิวเคลียสแวควิ โอล ไมโท คอนเดรียและคลอโรพลาสต์ระบุปจั จัยทีจ่ ำเปน็ ในการสังเคราะหด์ ้วยแสงและผลผลิตท่เี กิดขึน้ จากการ สังเคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ระบุปัจจัยท่จี ำเป็นในการสงั เคราะห์ด้วยแสงและผลผลติ ท่ี เกิดขึ้นจากการสงั เคราะห์ด้วยแสง ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องการขยายพนั ธุ์พชื โดยการนำ ความรู้ไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวัน.ในคณุ คา่ ของพืชท่ีมีต่อสิ่งมชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม โดยการร่วมกันปลกู และดแู ลรักษาตน้ ไม้ใน โรงเรียนและชมุ ชนใช้ ใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ช้แสงศึกษาเซลล์และโครงสรา้ งต่างๆ ภายในเซลลใ์ ช้เครอ่ื งมือเพ่อื วดั มวล และปรมิ าตรของสารบริสุทธิแ์ ละสารผสม โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรกู้ ารแกป้ ัญหา มี ความสามารถในการสื่อสารสิ่งท่ไี ด้เรยี นร้สู ามารถคดิ แก้ปญั หา และมีความสามารถในการนำเทคโนโลยมี าใช้ เพ่ือให้เกิดความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มีความมุ่งม่นั ในการทำงาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในการดำรงชวี ติ โดยใช้ กระบวนการเรยี นรู้มบี ทบาทในการพัฒนามนษุ ย์ พฒั นาความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปญั หา การทำงานร่วมกนั การปฏิบัตติ ามศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และการร่วมกับ ผู้อื่นในสงั คม ประเทศชาติและในโลกอย่างมีความ รบั ผดิ ชอบ รหัสตัวชี้วัด ว 1.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 , ม.1/8 ม1/9 , ม.1/10 , ม.1/11 , ม.1/12 , ม.1/13 , ม.1/14 , ม.1/15 , ม.1/16
73 ม.1/17 , ม.1/18 ว 2./1 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 , ม.1/8 ม1/9 , ม.1/10 ว 4. 1 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 รวมตัวช้ีวดั ทั้งหมด 33 ตัวช้ีวดั
74 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 21102 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 2 อธบิ ายการพยากรณอ์ ากาศ และพยากรณ์อากาศอยา่ งงา่ ยจากข้อมลู ที่รวบรวมได้ สถานการณแ์ ละ ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกจากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ วเิ คราะห์ แปลความหมายขอ้ มูล และคำนวณ ปริมาณความร้อนที่ทำใหส้ สารเปลยี่ นอุณหภมู ิและเปลย่ี นสถานะ โดยใชส้ มการ Q mc =t และ Q = mL5. วิเคราะห์สถานการณ์การถา่ ยโอนความรอ้ นและคำนวณปริมาณความร้อนที่ถ่ายโอนระหว่างสสารจนเกดิ สมดุล ความร้อนโดยใช้สมการQสูญเสยี = Q ไดร้ บั ใชเ้ ทอรม์ อมเิ ตอรใ์ นการวัดอุณหภมู ขิ องสสารเทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ใช้ส่ือและแหล่งขอ้ มูลตามข้อกำหนดและข้อตกลงเปรียบเทียบกระบวนการเกดิ พายุ ฝนฟา้ คะนองและพายุหมนุ เขตร้อน และผลที่มีตอ่ สิง่ มชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม รวมท้ังนำเสนอแนวทางการปฏิบัติ ตนใหเ้ หมาะสมและปลอดภัย ตระหนักถึงประโยชน์ของความร้ขู องการหดและขยายตัวของสสารเนือ่ งจาก ความรอ้ นโดยวเิ คราะหส์ ถานการณป์ ัญหา และเสนอแนะวิธีการนำความรู้มาแก้ปญั หาชีวติ ประจำวนั ตระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของการพยากรณ์อากาศ โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบตั ติ นและการใชป้ ระโยชน์จากคำถึงผลกระทบ ของการเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศโลกโดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ติ นภายใต้การเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศโลก ออกแบบเลือกใชแ้ ละสรา้ งอปุ กรณ์เพ่ือแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวันโดยใชค้ วามรเู้ กีย่ วกับการถ่ายโอนความร้อน อลั กอริทึมที่ใชแ้ นวคิด เชงิ นามธรรมเพอ่ื แกป้ ัญหาหรืออธบิ ายการทำงานที่พบในชีวติ จริง๒. ออกแบบและเขยี น โปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพือ่ แกป้ ัญหาทาง สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างความดนั อากาศกับความ สงู จากพ้นื โลก สร้างแบบจำลองที่อธิบายการขยายตัวหรือหดตวั ของสสารเน่อื งจากไดร้ บั หรือสญู เสยี สร้าง แบบจำลองท่ีอธิบายการถา่ ยโอนความร้อนโดยการนำความร้อนการพาความร้อน การแผร่ งั สีความรอ้ น สรา้ ง แบบจำลองท่ีอธบิ ายการแบ่งช้ันบรรยากาศและเปรยี บเทียบประโยชนข์ องบรรยากาศ แต่ละชนั้ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา มี ความสามารถในการส่ือสารส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ สามารถคดิ แกป้ ัญหา และมีความสามารถในการนำเทคโนโลยมี าใช้ เพื่อใหเ้ กดิ ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซ่ือสตั ยส์ ุจริต มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มี ความมงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำรงชีวิต โดยใชก้ ระบวนการเรียนรูม้ บี ทบาทในการพฒั นามนษุ ย์ พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน การปฏบิ ัตติ ามศลี ธรรม คุณธรรม จริยธรรม และการรว่ มกบั ผู้อน่ื ในสงั คม ประเทศชาติและ ในโลกอยา่ งมีความรับผดิ ชอบ รหสั ตัวช้ีวดั ม1/1 ว 2.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 ว 2.3 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 , ม.1/6 , ม.1/7 ว 3.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 ว 4. 1 รวมตัวชวี้ ัดทัง้ หมด 19 ตัวชว้ี ัด
75 คำอธิบายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 22101 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท2ี่ เวลา 60 ช่วั โมงจำนวน 1.5 หน่วยกติ ภาคเรียนที่ 1 ระบุ อธิบาย ตระหนกั บรรยาย ออกแบบการทดลอง ทดลอง แยก ตระหนักถึงความสำคญั อวยั วะ หน้าทข่ี องอวัยวะทีเ่ ก่ียวข้องในระบบหายใจ กลไกการหายใจเขา้ และออกโดยใช้แบบจำลอง ความสำคญั ของระบบหายใจโดยการบอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวัยวะในระบบหายใจใหท้ ำงานเป็นปกติ อวยั วะและหนา้ ทข่ี องอวัยวะในระบบขับถา่ ยในการกำจัดของเสียทางไต ความสำคัญของระบบขบั ถ่ายในการ กำจดั ของเสยี ทางไต โดยการบอกแนวทางในการปฏบิ ตั ิตนทีช่ ่วยให้ระบบขบั ถ่ายทำหน้าทีไ่ ด้อยา่ งปกติ โครงสรา้ งและหน้าท่ีของหวั ใจ หลอดเลือด และเลือด การทำงานของระบบหมุนเวยี นของเลือดโดยใช้ แบบจำลอง การเปรยี บเทียบอตั ราการเตน็ ของหัวใจ ขณะปกติและหลังทำกิจกรรม ความสำตัญของระบบ หมนุ เวียนเลอื ดโดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวยั วะในระบบหมนุ เวียนเลอื ดให้ทำงานเป็นปกติ อวยั วะและหนา้ ท่ีของอวยั วะในระบบประสาทสว่ นกลางในการควบคมุ การทำงานตา่ งๆ ของร่างกาย ความสำคญั ของระบบประสาท โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษา รวมถึงการป้องกันการกระทบกระเทือน และอนั ตรายตอ่ สมองและไขสนั หลัง อวยั วะและหนา้ ที่ของอวยั วะในระบบสบื พนั ธุข์ องเพศชายและเพศหญิง โดยใชแ้ บบจำลอง ผล ของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงทคี่ วบคุมการเปลีย่ นแปลงของรา่ งกาย เม่ือเข้าสวู่ ัย หนมุ่ สาว การเปลย่ี นแปลงของร่างกายเม่ือเข้าสู่วัยหนมุ่ สาวโดยการดแู ลรกั ษารา่ งกายและจติ ใจของตนเอง ในชว่ งทม่ี ีการเปลยี่ นแปลง การตกไข่ การมปี ระจำเดอื น การปฏิสนธิ และการพฒั นาของไซโกตจนคลอด เป็นทารก วธิ กี ารคุมกำเนิดที่เหมาะสมกบั สถานการณ์ทีก่ ำหนด ผลกระทบของการตั้งครรภ์กอ่ นวยั อันควร โดยการประพฤติตนให้เหมาะสม การแยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่นั อย่างง่าย โครทาโทกราฟีแบบกระดาษ การ สกดั ด้วยตัวทำละลาย โดยชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ นำวธิ กี ารแยกสารไปใชแ้ ก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั โดยบูรณา การวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ การอธบิ ายผลของชนิดตัวละลาย ชนิดของตวั ทำละลาย อณุ หภมู ทิ ม่ี ีต่อสภาพละลายไดข้ องสาร รวมทงั้ ผลของความดนั ที่มตี ่อสภาพละลายได้ของสารปริมาณตวั ละลายในสารละลาย ในหน่วยความเขม้ ขน้ เปน็ รอ้ ยละ ปริมาตรต่อปรมิ าตร มวลต่อมวล และมวลตอ่ ปรมิ าตร ความสำคญั ของการนำความร้เู ร่ืองความ เข้มขน้ ของสารไปใช้ โยการยกตัวอยา่ งการใช้สารละลายในชีวิตประจำวันอยา่ งถูกตอ้ งและปลอดภยั โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมลู บันทึกจดั กลุ่มข้อมูล เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอข้อมลู สื่อสารสิ่งที่เรยี นรู้ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็นคุณคา่ ของการนำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม รหัสตวั ชี้วัด ว 1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ม.2/16 ม.2/17 ว 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 รวมตัวชีว้ ัดทัง้ หมด 23 ตัวชวี้ ัด
76 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 22102 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรียนท่ี 2 พยากรณ์ เขยี นแผนภาพ ออกแบบการทดลอง ทดลอง วิเคราะห์ อธิบาย ตระหนักถึง เปรียบเทยี บ คำนวณ แปลความหมายข้อมูล สร้างแบบจำลอง ตรวจวดั สมบัติบางประการ การเคลื่อนท่ีของ วตั ถุท่ีเปน็ ผลของแรงลพั ธท์ ีเ่ กิดจากแรงหลายแรงกระทำต่อวัตถใุ นแนวเดยี วกัน แผนภาพแสดงแรงและแรง ลัพธ์เกิดจากแรงหลายแรงกระทำต่อวัตถใุ นแนวเดียวกัน ปจั จยั ทีม่ ีผลต่อความดันของของเหลว แรงพยุงและ การจม การลอยของวตั ถใุ นของเหลว แผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวตั ถุในของเหลว แรงเสยี ดทานสถิตและ แรงเสยี ดทานจลน์ ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อขนาดของแรงเสียดทาน แผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงอื่นๆ ท่ี กระทำตอ่ วตั ถุ ประโยชน์ของความร้เู รื่องแรงเสียดทาน วธิ ีการลดหรอื เพิ่มแรงเสียดทานทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อ การทำกิจกรรมในชวี ติ ประจำวัน โมเมนตข์ องแรง แหล่งของสนามแมเ่ หลก็ สนามไฟฟา้ และสนามโนม้ ถ่วง และทศิ ทางของแรงที่กระทำต่อวตั ถทุ ่ีอยูใ่ นแต่ละสนาม แผนภาพแสดงแรงแมเ่ หล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโน้ม ถ่วงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ ความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของแรงแม่เหลก็ แรงไฟฟ้า และแรงโนม้ ถว่ งทีก่ ระทำต่อวตั ถุ ที่อยใู่ นสนามนนั้ ๆกบั ระยะห่างจากแหลง่ ของสนามถงึ วัตถุ อัตราเร็ว ความเรว็ ของการเคล่ือนทข่ี องวัตถุ แผนภาพแสดงการกระจัดและความเรว็ งานและกำลังทีเ่ กดิ จากแรงทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุ หลักการทำงานของ เคร่อื งกลอย่างงา่ ย ประโยชน์ของความรู้ของเครื่องกลอยา่ งง่าย ปัจจยั ท่มี ผี ลต่อพลังงานจลนแ์ ละพลงั งานศกั ย์ โน้มถ่วง การเปลี่ยนพลงั งานระหว่างพลงั งานศักย์โน้มถว่ งและพลังงานจลน์ของวตั ถุโดยพลังงานกลของวัตถมุ ี ค่าคงตัว การเปลียนและการถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนรุ ักษ์ กระบวนการเกิด สมบัติ และการใช้ ประโยชน์ รวมทง้ั ผลกระทบจาการใช้เช้อื เพลงิ ซากดึกดำบรรพ์ ผลจากการใช้เชอ้ื เพลงิ ซากดึกดำบรรพ์/แนว ทางการใชเ้ ชือ้ เพลิงซากดึกดำบรรพ์ ข้อดแี ละข้อจำกัดของพลงั งานทดแทน แนวทางการใชพ้ ลังงานทดแทนท่ี เหมาะสมในทอ้ งถิ่น โครงสรา้ งภายในโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี กระบวนการผพุ ังอยกู่ บั ท่ี การกรอ่ นและ การสะสมตัวของตะกอนจากแบบจำลอง ผลของกระบวนการดังกลา่ วที่ทำใหผ้ วิ โลกเกดิ การเปล่ยี นแปลง ลกั ษณะของช้ันหน้าตดั ดนิ กระบวนการเกดิ ดนิ ปัจจัยทที่ ำใหด้ ินมีลักษณะและสมบัตแิ ตกต่างกัน สมบัติบาง ปจั จัยและกรบวนการเกิดแหล่งน้ำผวิ ดิน และแหล่งนำ้ ใต้ดินจากแบบจำลองการใช้น้ำและแนว ทางการใชน้ ้ำอยา่ งยง่ั ยืนในท้องถนิ่ ของตนเอง กระบวนการเกดิ และผลกระทบของนำ้ ท่วม การกัดเซาะชายฝ่งั ดินถล่ม หลุมยุบ แผน่ ดินทรุด โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล บันทึกจัดกลุ่มข้อมลู เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอข้อมลู สือ่ สารส่งิ ท่ีเรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ เหน็ คณุ ค่าของการนำความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม รหสั ตัวช้ีวัด ว 2.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11 ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ว 2.3 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ว 3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 รวมตัวชว้ี ัดทง้ั หมด 31 ตัวชว้ี ัด
77 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว 23101 วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี 1 วเิ คราะห์ เขยี น ใช้ บรรยาย ตระหนัก ออกแบบ สร้าง วดั และอธิบายวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ ระหว่างความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้าและความตา้ นทานไฟฟา้ และคำนวณปรมิ าณท่เี ก่ียวข้องโดยสมการ V=IR จากหลักฐานเชงิ ประจักษว์ ิเคราะห์ความต่างศักยไ์ ฟฟา้ และกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเม่ือต่อตัวตา้ นทานหลาย ตวั แบบอนกุ รมและแบบขนานจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขยี นกราฟความสัมพนั ธ์ระหวา่ งกระแสไฟฟ้าและ ความต่างศักย์ไฟฟา้ เขียนแผนภาพวงจรไฟฟา้ แสดงการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและแบบขนาน แผนภาพ และต่อชิน้ ส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์อย่างงา่ ยในวงจรไฟฟ้าเขยี นแผนภาพการเคล่ือนที่ของของแสงแสดงการเกิดภาพ จากกระจกเงา เขียนแผนภาพการเคลอ่ื นที่ของแสงแสดงการเกดิ ภาพจากเลนส์บางเขยี นแผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสงแสดงการเกดิ ภาพของทศั นูปกรณเ์ ลนส์เลนส์ตา๓.ใช้โวลต์มิเตอร์ แอมมิเตอร์ ในการวดั ปริมาณไฟฟ้า บรรยายการทำงานของชิน้ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์อยา่ งง่ายในวงจรจากข้อมูลท่รี วบรวมได้ ตระหนักในคณุ ค่าของ การเลอื กใช้ไฟฟา้ โดยนำเสนอแนะวิธกี ารใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งประหยัดและปลอดภยั ถึงประโยชนแ์ ละ อนั ตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยนำเสนอการใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นตา่ งๆและอันตรายจากคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า ในชีวิตประจำวนั ตระหนกั ในคุณคา่ ของความรเู้ รอ่ื งความสว่างของแสงที่มีต่อดวงตาโดยวิเคราะหส์ ถานการณ์ ปญั หาและเสนอแนะการจัดความสวา่ งให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่างๆออกแบบการทดลองและ ดำเนนิ การทดลองดว้ ยวิธีที่เหมาะสมในการอธบิ ายกฎการสะท้อนของแสง สร้างแบบจำลองทอี่ ธิบายการเกิดคลืน่ และบรรยายสว่ นประกอบของคลื่นแบบจำลองที่อธิบายการ เกดิ ฤดแู ละการเคลอื่ นทป่ี รากฏของดวงอาทิตย์แบบจำลองท่ีอธบิ ายการเกิดข้างข้นึ ขา้ งแรม การเปลย่ี นแปลง เวลาขึ้นและตกของดวงจนั ทร์ และการเกิดน้ำข้ึนน้ำลง วัดความสว่างของแสงโดยใชอ้ ปุ กรณ์วดั ความสว่างของ แสงอธบิ ายและคำนวณพลงั งานไฟฟ้าโดยใชส้ มการ w=Pt รวมท้งั คำนวณคา่ ไฟฟ้าของเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในบ้าน อธบิ ายคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ และสเปกตรมั คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้าจากข้อมูลทรี่ วบรวมการหักเหของแสงเมื่อผ่าน ตวั กลางโปร่งใสท่แี ตกตา่ งกนั และอธบิ ายการกระจายแสงของแสงขาวเมื่อผ่านปรซิ ึมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ปรากฏการณ์ทีเ่ กย่ี วกบั เลนส์และการทำงานของทศั นูปกรณ์จากข้อมูลทรี่ วบรวมได้ผลของความสวา่ งท่ีมีต่อ ดวงตาจากข้อมูลท่ีไดจ้ ากการสบื คน้ ๑. อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตยด์ ้วยแรงโน้มถว่ งจาก สมการ F=Gm1m2 / R2 การใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยอี วกาศและยกตัวอย่างความก้าวหน้าของ โครงการสำรวจอวกาศจากข้อมูลที่รวบรวมได้ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา มี ความสามารถในการสำรวจ ตรวจสอบ การสืบคน้ ข้อมลู และการอภปิ ราย
78 เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งทเ่ี รียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ น การดำรงชวี ิตและดูแลส่งิ แวดล้อม มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมท่ีเหมาะสม และเขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสงิ่ แวดล้อมเกยี่ วข้องสัมพนั ธ์กนั รหัสตัวช้ีวัด ว 2.3 ม.3/1 - ม.3/21 ว 3.1 ม.3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 รวมตัวช้ีวดั ท้ังหมด 25 ตวั ชีว้ ดั
79 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 23101 วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 2 วเิ คราะห์ ตระหนัก ออกแบบ สร้าง บอกวัด เปรยี บเทยี บ ระบุ และอธบิ ายวิเคราะหป์ ฏิกริ ิยาดูดความ รอ้ นและปฎิกริ ิยาคายความร้อนจากการเปล่ยี นแปลงพลังงานความร้อนของปฏิกริ ิยาตระหนกั ถึงความสัมพันธ์ ของสง่ิ มีชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ มในระบบนิเวศ โดยไมท่ ำลายสมดลุ ของระบบนิเวศถงึ ประโยชน์ของความรเู้ ร่ืองโรค ทางพันธุกรรม โดยรู้ไว้ก่อนแต่งงานควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยภาวะเสี่ยงของลูกที่เกิดโรคทาง พันธุกรรม๘.ตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมที่อาจมีต่อมนุษย์และ ส่ิงแวดลอ้ ม โดยการเผยแพรค่ วามรู้ท่ีได้จากการโต้แย้งทางวทิ ยาศาสตร์ซง่ึ ข้อมลู สนับสนุนถึงคุณค่าของการใช้ วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสมโดยเสนอแนะแนวทางการใช้วัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า ออกแบบวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีโดยบรูณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์แสดงความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของความ หลากหลายทางชีวภาพ โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ สร้างแบบจำลองในการ อธิบายการถ่ายทอดพลังงานในสายใยอาหารบอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซมอาจทำให้เกิด โรคพันธุกรรมพร้อมทั้งยกตัวอย่างโรคทางพันธุกรรมเปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพในระดับ สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศระบุสมบัติทางกายและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซารามิกส์และ สารสนเทศระบุประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมและยกตัวอย่างวิธีการ ปอ้ งกนั และแก้ปัญหาที่เกิดจากปฏกิ ิริยาเคมที ่ีพบในชีวิตประจำวนั จากการสืบคน้ ขอ้ มูลอธบิ ายปฏิสัมพันธ์ของ ระบบนิเวศที่ได้จากการสำรวจ รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆในแหล่งที่อยู่ เดียวกันทไ่ี ดจ้ ากการสำรวจความสัมพนั ธ์ของผูผ้ ลิต ผบู้ ริโภค และผ้ยู อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ในระบบนิเวศอธิบาย การสะสมสารพิษในสิ่งมีชวี ิตในโซ่อาหารความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ยีน ดี เอ็น เอ และโครโมโซม โดยใชแ้ บบจำลอง๒ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม จากการผสมโดยพจิ ารณาลกั ษณะเดียวท่ีแอลลลี เดน่ ขม่ แอลลนี ด้อยอย่าง สมบรูณ์ อธิบายการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของลูกและคำนวณอัตราส่วนการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของ รุ่นลูกความแตกต่างของการแบ่งเซลล์แบบไมโทซีสและไมโอซีสการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปลง พันธุกรรมและผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมความสำคัญของความ หลากหลายชวี ภาพท่มี ตี ่อการรกั ษาสมดลุ ของระบบนิเวศและต่อมนษุ ย์การเกิดปฏิกิรยิ าเคมี รวมถงึ การจัดเรยี ง ตัวใหม่ของอะตอมเมื่อเกิดปฏิกริ ิยาเคมี โดยใช้แบบจำลองและแก้สมการขอ้ ความ กฎทรงมวลโดยใช้หลักฐาน เชิงประจักร ปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็กปฎิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรดกับเบสและปฏิกิริยา ของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้การเกิดฝนกรดการสังเคราะห์ ดว้ ยแสงโดยใชส้ ารสนเทศ รวมท้งั เขยี นสมการขอ้ ความแสดงปฎิกิริยาดงั กลา่ ว โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปญั หา มี ความสามารถในการสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความ เข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตและดูแลสิ่งแวดล้อม มี คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ มที่เหมาะสม และเขา้ ใจว่าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิง่ แวดล้อมเกี่ยวข้อง สัมพนั ธ์กนั
80 รหสั ตัวชี้วดั ว 1.1 ม.3/1 ,ม.3/2, ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ว 1.3 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10,ม.3/11 ว 2.1 ม.3/1 ,ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 , ม.3/7, ม.3/8 รวมตัวชี้วัดท้ังหมด 25 ตัวช้ีวดั
81 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 11101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี ศกึ ษาและฝึกทักษะในการแก้ปญั หา โดยใชข้ น้ั ตอนการแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ย การแสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หา โดยการเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือใชส้ ญั ลกั ษณ์ การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บือ้ งตน้ การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บื้องตน้ การสรา้ ง จัดเกบ็ และเรยี กใชไ้ ฟล์ ตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์ การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งเหมาะสม 1.แกป้ ญั หาอย่างง่ายโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถูกการเปรยี บเทยี บ 2.แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานหรือการแก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใชภ้ าพสัญลักษณห์ รือข้อความ 3.เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สอ่ื 4.ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้างจดั เกบ็ เรียกใชข้ ้อมลู ตามวตั ถุประสงค์ 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันดูแลรกั ษาอุปกรณ์ เบ้ืองต้น ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม ตวั ช้ีวัด ว. 4.2 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวชี้วัด
82 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 12101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง/ปี ศกึ ษาและฝกึ ทักษะในการแก้ปญั หาโดยใช้ข้นั ตอนการแก้ปัญหาอย่างง่ายการแสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หา โดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สญั ลักษณ์ การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สือ่ การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยเี บ้อื งต้น การใชง้ านซอฟต์แวร์เบือ้ งตน้ การสรา้ ง จัดเกบ็ และเรยี กใช้ไฟล์ ตามวตั ถปุ ระสงค์การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ข้อปฏบิ ตั ิในการใช้งานและการดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์ การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างเหมาะสม 1.แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพสัญลกั ษณห์ รือข้อความ 2.เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื ส่อื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด 3.ใช้เทคโนโลยีในการสร้างจดั เกบ็ เรียกใชข้ ้อมูลตามวตั ถุประสงค์ 4.ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ว่ มกันดแู ล รักษาอุปกรณ์เบื้องตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม ตัวช้ีวัด ว. 4.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวชวี้ ดั
83 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 13101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศกึ ษาและฝกึ ทักษะในการแก้ปญั หา โดยใช้ขัน้ ตอนการแก้ปัญหาอยา่ งง่าย การแสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หา โดยการเขียน บอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใชส้ ัญลกั ษณ์ การเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรอื ส่อื การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยีเบื้องต้น การใช้งานซอฟต์แวร์เบอื้ งต้น การสร้าง จดั เกบ็ และเรยี กใช้ไฟล์ ตามวตั ถุประสงค์ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ขอ้ ปฏิบัติในการใชง้ านและการดูแลรกั ษา อปุ กรณ์ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งเหมาะสม 1. แสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรอื การแกป้ ญั หา อยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ 2. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื ส่อื และตรวจหาข้อผิดพลาด 3. ใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ 4. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมลู โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ตามวัตถุประสงค์ 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในอินเตอร์เน็ต ตัวช้วี ัด ว. 4.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 รวมทั้งหมด 5 ตัวช้ีวัด
84 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 14101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาและฝึกทักษะการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหา ขอ้ ผดิ พลาด และแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอ ข้อมลู และสารสนเทศโดยใช้ซอฟต์แวร์ทีห่ ลากหลาย เพื่อแกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิของผ้อู ื่นแจง้ ผ้เู กีย่ วขอ้ งเม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลที่ไม่ เหมาะสม พัฒนาทักษะการคดิ สศู่ ตวรรษท่ี 21 โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวมยอด กระบวนการ เรียนรูค้ วามเขา้ ใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวเิ คราะห์ กระบวนการส่ือสาร สื่อความหมายและการ นำเสนอ กระบวนการสร้างค่านยิ มและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่ืนในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 รวม 5 ตวั ชวี้ ดั
85 คำอธิบายสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 15101 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (วทิ ยาการคำนวณ) สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาและฝึกทักษะการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหา ข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือ ของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม พัฒนาทักษะการคิดสู่ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวมยอด กระบวนการ เรียนรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการส่ือสาร สื่อความหมายและการ นำเสนอ กระบวนการสรา้ งค่านิยมและกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผู้อ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข ตัวช้วี ัด ว 4.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.4/3, ป.5/4, ป.5/5 รวม 5 ตวั ช้วี ัด
86 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 16101รายวิชาวิทยาศาสตร์ (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี ศึกษาและฝึกทักษะการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมี ประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานร่วมกันอย่าง ปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพ ในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบ ข้อมลู หรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม พฒั นาทกั ษะการคดิ สศู่ ตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวมยอด กระบวนการ เรียนรู้ความเข้าใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการวิเคราะห์ กระบวนการสื่อสาร สื่อความหมายและการ นำเสนอ กระบวนการสรา้ งค่านยิ มและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกับผ้อู ่ืนในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, รวม 4 ตวั ชว้ี ัด
87 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 คำอธิบายรายวิชา ศกึ ษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคดั เลือกคุณลักษณะทจี่ ำเป็นตอ่ การแก้ปัญหา ขั้นตอนการแก้ปญั หา การเขียนรหัสจำลองและผังงาน การเขียนออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย ท่ีมีการใช้งานตวั แปร เงื่อนไข และการวนซ้ำ เพื่อแกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมลู ปฐมภูมิ การประมวลผล ข้อมลู การสร้างทางเลือกและประเมินผลเพ่ือตัดสนิ ใจ การใช้ซอฟต์แวร์และบริการบนอนิ เทอร์เนต็ ท่ีใช้ในการ จดั การข้อมูล แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย การจัดการอัตลักษณ์ การพิจารณาความ เหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและข้อกำหนด การใชส้ อื่ และแหล่งข้อมลู นำแนวคดิ เชงิ นามธรรมและข้ันตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกตใ์ ช้ในการเขยี นโปรแกรม หรือการ แกป้ ญั หาในชวี ิตจรงิ รวบรวมขอ้ มลู และสร้างทางเลอื ก ในการตดั สินใจได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ และตระหนกั ถึง การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เกดิ ประโยชนต์ อ่ การเรียนรแู้ ละไม่สรา้ งความเสยี หายใหแ้ ก่ ผอู้ ืน่ ภูมปิ ญั ญาพืน้ บ้าน ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม 1.1ภมู ปิ ญั ญาพ้ืนบ้านดา้ นอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ออกแบบขน้ั ตอนการทำงานเครื่องปั้นดินเผา ของชาวบ้านเชยี งเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร รหัสตัวชี้วดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , , ม.1/4 รวม 4 ตัวช้ีวดั
88 คำอธบิ ายสาระการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาแนวคดิ เชิงนามธรรม การคดั เลือกคณุ ลักษณะท่จี ำเป็นตอ่ การแกป้ ัญหา ข้ันตอนการแกป้ ญั หา การเขียนรหสั จำลองและผังงาน การเขยี นออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย ทมี่ ีการใชง้ านตวั แปร เงือ่ นไข และการวนซำ้ เพ่ือแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์ การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ การประมวลผล ขอ้ มูล การสรา้ งทางเลือกและประเมนิ ผลเพื่อตดั สนิ ใจ การใช้ซอฟตแ์ วร์และบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตที่ใช้ในการ จัดการข้อมูล แนวทางการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย การจัดการอตั ลกั ษณ์ การพิจารณาความ เหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและข้อกำหนด การใชส้ อื่ และแหลง่ ข้อมลู นำแนวคิดเชงิ นามธรรมและขั้นตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกตใ์ ช้ในการเขียนโปรแกรม หรอื การ แก้ปัญหาในชีวติ จรงิ รวบรวมขอ้ มลู และสร้างทางเลือก ในการตดั สินใจได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และตระหนกั ถึง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้และไมส่ ร้างความเสียหายให้แก่ ผอู้ นื่ ภูมปิ ัญญาพื้นบา้ น ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม 1.1ภมู ิปญั ญาพ้นื บา้ นดา้ นอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ออกแบบขัน้ ตอนการทำงานเคร่ืองปนั้ ดนิ เผา ของชาวบ้านเชยี งเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ชี้วดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , , ม.1/4 รวม 4 ตัวช้ีวดั
89 คำอธบิ ายสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคดิ เชิงคำนวณการออกแบบอลั กอริทึมทใี่ ช้แนวคิดเชงิ คำนวณ เพื่อแกป้ ญั หาอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันผ่านกระบวนการ STEM การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ท่ีมีการใช้ตรรกะ ตัวดำเนินการบูลนี และฟงั ก์ชนั เพ่ือแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ อภปิ รายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยี การสอ่ื สารเพื่อประยุกต์ใช้งานและการแก้ปญั หาเบ้ืองตน้ การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภัยและมี ความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธคิ วามเปน็ เจ้าของผลงาน นำแนวคดิ เชิงนามคำนวณและขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จริง ประยุกตใ์ ช้งานระบนบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบโดยเลือกแนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อ พบเนือ้ หาทีไ่ ม่เหมาะสม ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ น ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ นด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครอ่ื งป้ันดนิ เผา ของชาวบ้านเชียงเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วดั
90 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คำอธิบายสาระการเรียนรู้ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณการออกแบบอลั กอริทึมทีใ่ ชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ เพื่อแกป้ ญั หาอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวันผ่านกระบวนการ STEM การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ท่ีมีการใช้ตรรกะ ตัวดำเนินการบูลนี และฟงั ก์ชนั เพื่อแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี การสอ่ื สารเพื่อประยุกต์ใช้งานและการแกป้ ญั หาเบ้ืองต้นการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภยั และมี ความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธคิ วามเปน็ เจา้ ของผลงาน นำแนวคดิ เชิงนามคำนวณและขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จรงิ ประยุกตใ์ ช้งานระบนบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการสอื่ สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบโดยเลือกแนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อ พบเนือ้ หาทีไ่ ม่เหมาะสม ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ น ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ นด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครอ่ื งป้ันดนิ เผา ของชาวบ้านเชียงเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วดั
91 คำอธิบายสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวิชา ขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชนั โดยการเขยี นโปรแกรม App Inventor เพื่อแกป้ ัญหาอย่างงา่ ย การใช้ Internet of Things (IoT) การรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลปฐมภมู แิ ละทุติยภมู ิ ประมวลผล สร้าง ทางเลือก ประเมินผลจะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพอ่ื ใช้ในการแก้ปญั หาหรือการตัดสนิ ใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ ซอฟตแ์ วร์หรอื บริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้แก้ปัญหาได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล วเิ คราะห์ ผลกระทบของส่ือ เพื่อการใชง้ านอยา่ งรู้ทัน การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภัยและมคี วามรับผดิ ชอบ กฎหมายเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ การใชส้ ิทธิ์ของผู้อ่ืนอยา่ งชอบธรรม นำแนวคิดเชิงนามคำนวณและข้นั ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั และ ตระหนกั ถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ปฏบิ ัติตามกฎหมายเกย่ี วกับ คอมพวิ เตอร์และใช้ลขิ สทิ ธ์ิของผู้อ่ืนโดยชอบธรรม ภมู ิปัญญาพนื้ บา้ น ดา้ นอุตสาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภมู ปิ ญั ญาพืน้ บ้านด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครือ่ งปน้ั ดนิ เผา ของชาวบา้ นเชยี งเครือ ตำบลเชยี งเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตัวช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วัด
92 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คำอธิบายสาระการเรียนรู้ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณการออกแบบอลั กอริทึมทีใ่ ชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณ เพื่อแกป้ ญั หาอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวันผ่านกระบวนการ STEM การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ท่ีมีการใช้ตรรกะ ตัวดำเนินการบูลนี และฟงั ก์ชนั เพื่อแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี การสอ่ื สารเพื่อประยุกต์ใช้งานและการแกป้ ญั หาเบ้ืองต้นการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภยั และมี ความรบั ผดิ ชอบ สร้างและแสดงสทิ ธคิ วามเปน็ เจา้ ของผลงาน นำแนวคดิ เชิงนามคำนวณและขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรอื การ แก้ปญั หาในชวี ติ จรงิ ประยุกตใ์ ช้งานระบนบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการสอื่ สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมคี วามรบั ผิดชอบโดยเลือกแนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อ พบเนือ้ หาทีไ่ ม่เหมาะสม ภูมิปญั ญาพืน้ บา้ น ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม 1.1 ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ นด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ออกแบบข้นั ตอนการทำงานเครอ่ื งป้ันดนิ เผา ของชาวบ้านเชียงเครือ ตำบลเชียงเครอื อำเภอเมือง จงั หวัดสกลนคร รหัสตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 รวม 4 ตัวชี้วดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313