4.6 Leave - Taking การจากลา
1. Good bye everybody. ไปละนะทกุ คน 2. Have a safe trip. เดนิ ทางกลบั โดยสวสั ด์ภิ าพ 3. See you again tomorrow. แล้วพบกนั ใหม่พรุ่งนี้ 4. See you again. ไว้เจอกนั 5. I must leave now. ฉันต้องไปแล้ว 6. I hope we will meet again. หวงั ว่าเราจะได้เจอกนั อกี 7. Good bye. ลาก่อน 8. Good luck. ขอให้โชคดี 9. See you next time. แล้วเจอกนั 10. See you again next time. พบกนั ใหม่คร้ังหน้า 11. See you tomorrow. พบกนั พรุ่งนี้ 12. Good luck. โชคดี 13. Good bye, see you later. ลาก่อน, แล้วพบกนั ใหม่ 14. See you again next time. Good bye! พบกนั ใหม่คร้ังหน้า ลาก่อน
4.7 Expressing Emotions and Feelings –การแสดง อารมณแ์ ละความรูส้ กึ
4.7.1 คาทแี่ สดงอารมณ์และความรู้สึกทวั่ ๆ ไป คาที่แสดงอารมณ์และความรู้สึกทวั่ ๆ ไปมีหลายรูปแบบ จึงจะเสนอหนา้ ที่ของคา ความหมาย และตวั อยา่ งการใชใ้ นประโยค เพ่อื ผอู้ ่านจะไดน้ าไปเป็นตวั อยา่ งในการใช้ หนา้ ที่ของคาจะใส่ไวใ้ นวงเล็บหลงั คา มีดงั น้ี (adj) = adjective /แอจ้ จิคทิฟว/ คาคุณศพั ท์ คาที่ขยายคานาม คาท่ีบอกลกั ษณะของคานาม (n) = noun /นาวน/̣ คานาม (v) = verb /เวริ บ̣ กริยา (ท้งั ที่แสดงอาการการกระทาและท่ีไม่แสดงอาการ) afráid /อะเฟร้ด/ (adj) กลวั (กลวั ใคร กลวั อะไร ใชก้ บั of) ánger /แอง้ เกอร̣/ (n) ความโกรธ (v) ทาใหโ้ กรธ ángry /แอง้ กริ/ (adj) โกรธ áwful /ออ๊ ฟัล; ออ๊ ฟิ ล/ (adj) ไม่น่ายนิ ดี ไม่ดี
4.7.2 คาทแ่ี สดงอารมณ์และความรู้สึก ในรูป –ing และ -ed (ท้งั หมดเป็ น adj) bóring /โบร้ ิง, บอ้ ริง/ น่าเบ่ือ bored /โบร้ ด̣ , บอร̣ด/ เบ่ือ (ใชก้ บั with) astónishing /อะสตอ็ นน่ิชชิ่ง/ น่าประหลาดใจ astónished /อะสตอ็ นนิชท̣/ ประหลาดใจ (ใชก้ บั by) confúsing /คนั ฟยซู้ ซิง/ เขา้ ใจยาก น่าสบั สน confúsed /คนั ฟยซู้ ด/̣ สบั สน ใหจ้ าง่าย ๆ วา่ คาท่ีลงทา้ ยดว้ ย -ing (น่า ..) เป็นตวั การทาใหเ้ กิดความรู้สึก ส่วนคาที่ลงทา้ ยดว้ ย -edแสดงความรู้สึก วา่ รู้สึกอยา่ งไร ซ่ึงหลายคาจะตอ้ งใชก้ บั คาบุพบทท่ีใส่ไวใ้ นวงเล็บ เพ่อื ส่ือต่อวา่ ที่รู้สึกเช่นน้นั มีสาเหตุจากอะไร หรือรู้สึก เช่นน้นั กบั อะไร กบั ใคร เช่น • I'm interested in English. (ไอม̣ อิน้ ทรัสติด, อิ้นเทรสติดดิน อ๊ิงลิช/ (ฉนั สนใจภาษาองั กฤษ) • She's not astonished by his action. /ชีซ น็อท อะสตอ็ นนิชท̣ บาย ฮีซ แอค็ ชนั , แอค็ ชึน/ (เธอไมร่ ู้สึกประหลาดใจกบั การกระทาของเขา)
บทที่ 5 Classroom Language การใชภ้ าษาในหอ้ งเรยี น
5.1 Introduction การเขา้ สูบ่ ทเรยี น
My School (โรงเรียนของฉัน) 5.1.1 The Name /ดะ เนม/ (ชื่อ) ช่ือโรงเรียนเป็ นชื่อเฉพาะ ตอ้ งเขียนข้ึนตน้ ดว้ ยอกั ษรตวั ใหญ่ รวมท้งั คาวา่ School ซ่ึงเป็ นส่วนหน่ึงของชื่อ (แต่ ถา้ ใชใ้ นความหมายวา่ โรงเรียนทว่ั ๆ ไป ไมต่ อ้ งเขียนดว้ ยตวั อกั ษรตวั ใหญ่) และควรจะสะกดตามท่ีทาง โรงเรียนใช้ เมื่อบอกวา่ เรียนท่ีไหน พดู ไดว้ า่ | go to ... School. /ไอ โก ทุ่.... สกลู / (ฉนั เรียนท่ีโรงเรียน....(ชื่อโรงเรียน) ) The name of my school is ... (ชื่อโรงเรียน) /ดะ เนม อฟั ว มาย สกูลอิซ. (ช่ือของโรงเรียนของฉนั คือ ..(ชื่อ โรงเรียน) ) 5.1.2 Location/โลเค้ชัน: โลเค้ชิ้น/(สถานทตี่ ้งั ) ที่ต้งั ของโรงเรียนก็บอกวา่ ต้งั อยใู่ นเขตไหน หรือชุมชนอะไร หรือบอกaddress /อะเดรส/ ของโรงเรียน มีเลขท่ี (เหมือนที่เลขท่ีบา้ นใช)้ ถนน อาเภอจงั หวดั จะพดู ไดด้ งั น้ี It's located in the area of (ชื่อเขต หรือ ชื่อชุมชน)/อิทส̣ โลเคทดิด; โลเคททิด อิน ดิ แอร้ ีอะ อฟั ว.../ (โรงเรียนต้งั อยใู่ นเขต ... หรือชุมชน ) ชื่อเขตในเมืองไทยก็พดู ช่ือสาเนียงไทยไดใ้ นภาษาเขียนใหเ้ ขียนข้ึนตน้ ดว้ ยอกั ษรตวั ใหญ่ ถา้ เป็นช่ือชุมชนกใ็ หพ้ ดู ชื่อก่อนแลว้ ตามดว้ ยคาวา่ Community /ค่ะมยนู้ ่ะดิ; ค่ะมยนู้ ่ะที/(ชุมชน) • Its address is .. (เลขท่ี ถนน เมือง จงั หวดั ) /อิทส̣ อะเดรส อิซ.../ (หมายเลขท่ีอยขู่ องโรงเรียน คือ ...)
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ต่อ) 5.1.2 Location/โลเคช้ นั : โลเคช้ ิ้น/(สถานท่ีต้งั ) ท่ีต้งั ของโรงเรียนก็บอกวา่ ต้งั อยใู่ นเขตไหน หรือชุมชนอะไร หรือบอกaddress /อะเดรส/ ของโรงเรียน มีเลขที่ (เหมือนที่เลขท่ีบา้ นใช)้ ถนน อาเภอจงั หวดั จะพดู ไดด้ งั น้ี • It's located in the area of (ช่ือเขต หรือ ช่ือชุมชน) /อิทส̣ โลเคทดิด; โลเคททิด อิน ดิ แอร้ ีอะ อฟั ว.../ (โรงเรียนต้งั อยใู่ นเขต ... หรือชุมชน ) ช่ือเขตในเมืองไทยกพ็ ดู ชื่อสาเนียงไทยไดใ้ นภาษาเขียนใหเ้ ขียนข้ึนตน้ ดว้ ย อกั ษรตวั ใหญ่ ถา้ เป็นช่ือชุมชนก็ใหพ้ ดู ชื่อก่อนแลว้ ตามดว้ ยคาวา่ Community /คะ่ มยนู้ ่ะดิ; ค่ะมยนู้ ่ะที/(ชุมชน) • Its address is .. (เลขท่ี ถนน เมือง จงั หวดั ) /อิทส̣ อะเดรส อิซ.../ (หมายเลขท่ีอยขู่ องโรงเรียน คือ ...)
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ตอ่ ) 5.1.3 Size /สายซ/ (ขนาด) (1) โรงเรียนขนาดเลก็ (a small school /อะ ส-มอล สกูล) (2) โรงเรียนขนาดกลาง (a medium-sized school /อะ ม้ีดิอมั ; ม้ีดีอมั -สายซด̣ สกูล/) (3) โรงเรียนขนาดใหญ่ (a big school /อะบิ๊ค สกลู /) (4) โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ (an extra large school /แอน็ เนค้ ซ̣ตระ ลาร̣จ สกลู ) นกั เรียนควรจะทราบวา่ โรงเรียนของตวั เองเป็นโรงเรียนขนาดไหน ถา้ ไม่แน่ใจสอบถามทางโรงเรียนจะไดข้ อ้ มูล ท่ีชดั เจน • It's a ... school. /อิทสะ . สกลู / (เป็นโรงเรียนขนาด .. )
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ต่อ) 5.1.4 Type /ไทพ̣/(ประเภทของโรงเรียน) prívate school /ไพร้วทั สกลู / โรงเรียนเอกชน públic school /พบั ลิค สกลู / โรงเรียนรัฐบาล eleméntary school /เอลล่ะเมน้ ทะรี๋; เอลล่ะเมน้ ทร๋ี สกูล/โรงเรียนระดบั ประถมศึกษา primary school /ไพร์เมร้ ี; ไพร้มะ่ รี สกลู / โรงเรียนระดบั ประถมศึกษา Secondary school /เซค้ คนั เดรี; เซค้ คนั ดรี สกลู /โรงเรียนระดบั มธั ยมศึกษา ในโรงเรียนระดบั มธั ยมศึกษาในประเทศไทย ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1 - ม.3) ใช้ lower Secondary school /โล้ เอ่อร̣ เซ็คคนั เดรี; เซ็คคนั ดรี สกูลและช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายใช้ higher Secondary school / ไฮเ้ อ่อร̣ เซ็คคนั เดรี: เซ็ค คนั ดรี สกูล/ ได้
การแบง่ ระดบั ช้นั เรียนในประเทศไทยท่ีจะเทียบเท่าช้นั เรียนในโรงเรียนในระบบการศึกษาแบบอเมริกนั ซ่ึงก็ เป็นที่รู้จกั กนั แพร่หลายได้ ดงั น้ี แบบไทย แบบอเมริกนั ป. 1 Grade 1 ป. 2 Grade 2 elementary school ป. 3 Grade 3 ป. 4 Grade 4 middle school/junior high school ป. 5 Grade 5 (แตใ่ นบางรัฐ จะรวม Grade 9 ดว้ ย) ป. 6 Grade 6 senior high school ม. 1 Grade 7 ม. 2 Grade 8 ม. 3 Grade 9 ม. 4 Grade 10 ม. 5 Grade 11 ม. 6 Grade 12
เมื่อจะบอกวา่ เรียนช้นั ไหน พูดไดว้ า่ • I'm in grade _________. /ไอมนิ เกรด _________./ (ฉนั เรียนอยชู่ นั้ _________.) ซ่ึงในการบอกระดบั ช้นั ถา้ พูดคาวา่ grade ข้ึนก่อนกบ็ อกเลขบอกจานวนเตม็ เช่น เรียนอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 • I'm in grade ten. /ไอมนิ เกรด เท็น/ แตถ่ า้ เอาคาวา่ grade ไวห้ ลงั ตวั เลข ใหใ้ ชเ้ ลขบอกลาดบั ที่ เช่น • I'm in the tenth grade. (ไอมิน ดะ เทน้ ต เกรด/ หรอื พดู วา่ • I'm a tenth grader. /ไอมะ เทน้ ต เกรด้ เดอร/̣ (ฉนั เป็นนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4)
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ตอ่ ) 5.1.5 Philosophy/ฟ่ ะลอ้ สฟี ; ฟ่ ะลอ้ สะฟี / (ปรัชญา) ในทางการศึกษา ปรัชญา คือ ตวั กาหนดเป้าหมายการศึกษา หลกั สูตรและกระบวนการทางการศึกษา ปรัชญาของ โรงเรียนมีว่าอยา่ งไร นักเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนกั เรียนในระดบั มธั ยมศึกษาควรจะไดท้ าความเขา้ ใจกบั ปรัชญาของ สถาบนั การศึกษาที่เรียน ซ่ึงปกติทางโรงเรียนจะมีปรัชญาแบบกระชบั มีคาคลอ้ งจองเพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจและจาไดง้ ่าย ฉะน้นั ถา้ ใครถามวา่ What's the philosophy of your school? /วอ็ ทส̣ ดะ ฟ่ ะลอ้ สพี, ฟ่ ะลอ้ สะฟี อฟั ว ยอร̣ สกูล/ (ปรัชญาของโรงเรียนของคุณคืออะไร /มีวา่ อยา่ งไร) นกั เรียนควรจะตอบได้ ในการตอบถา้ อธิบายเป็นภาษาองั กฤษไดไ้ ม่ค่อยดี กล็ องขอตอบเป็นภาษาไทย เช่น ตอบวา่ I'm sorry I can't explain it well in English. May I do it in Thai? /ไอม̣ ซอ้ รี ไอ แค่นท̣: คา้ นท̣ อิคสเ̣ ปล๋นนิท เวล อิน อ๊ิงลิช. เม ไอ ดู อิท อิน ไถ?) (ผม/หนูขอโทษที่ไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาองั กฤษไดด้ ี ขออธิบายเป็นภาษาไทยไดไ้ หมครับ/คะ)
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ต่อ) 5.1.6 Uniform /ยนู้ ่ะฟอร̣ม; ยนู้ ิฟอม/ (เคร่ืองแบบ) โรงเรียนในประเทศไทยมีเครื่องแบบเป็ นของแต่ละโรงเรียนเอง ซ่ึงจะแบง่ เป็น the uniform for boys /ดะ ยนู้ ่ะฟอรม̣ ; ยนู้ ิฟอม ฟอร̣ บอยซ/ เครื่องแบบสาหรับนกั เรียนชาย the uniform for girls /ดะ ยนู้ ่ะฟอรม̣ ; ยนู้ ิฟอม ฟอร̣ เกิร̣ลซ/ เครื่องแบบสาหรับนกั เรียนหญิง
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ตอ่ ) 5.1.7 Personnel /เพอรส̣ ะเน๋ล/(บุคลากร) บุคลากรในโรงเรียน เช่น school diréctor/diréctor /สกูล ดะเร้คเทอร,̣ ดิเร้คเทอร̣; ไดเร้คทะ; ดิเร้คท่ะ/ ผอู้ านวยการ députy diréctor /เดพ้ ยทั ดี; เดพ้ ยะ่ ที่.../ รองผอู้ านวยการ assístant director /อะซิสตนั ท̣ / ผชู้ ่วยผอู้ านวยการ príncipal /พริ้นซ่ะพลั ; พริ้นซ่ะพึล/ ครูใหญ่ อาจารยใ์ หญ่ school board /สกูล บอร̣ด/ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน commíttee /คะ่ มิทดี; ค่ะมิทที/ คณะกรรมการ mánager /แมน้ นิจเจอร̣/ ผจู้ ดั การ
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ตอ่ ) 5.1.8 School Subjects/สกูล ซบั เจค็ ทส̣ /(วชิ าที่เรียนในโรงเรียน) จะมีใหเ้ ฉพาะรายวชิ าที่เรียนในระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา art /อารท̣ / ศิลปะ biólogy /ไบออ้ ล่ะจี/ ชีววทิ ยา bótany /บอ็ ทนี/ พฤกษศาสตร์ Boy Scout /บอย สเกา๊ ท/̣ ลูกเสือ Búddhism /บุด๊ ดิซมั / พุทธศาสนา chemistry/เคม้ มสั ตรี: เคม้ มิสตรี เคมี
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ต่อ) 5.1.9 Classroom Language /แคลส้ รูม; คลา้ สรูม แลง้ กวจิ /(ภาษาท่ีใชใ้ นหอ้ งเรียน) 5.1.9.1 Words About the Equipment /เวริ ̣ดซะเบา้ ท̣ ดิ อิควพิ ม้นั ท̣/(คาเกี่ยวกบั อุปกรณ์ในหอ้ งเรียน) bláckboard /แบล็คบอร̣ด/, chálkboard/ฉอคบอร̣ด(ภาษาองั กฤษแบบอเมริกนั )/ กระดานดา book /บุค๊ / หนงั สือ chair /แฉร/̣ เกา้ อ้ี chalk /ฉอค/ ชอลก์ compúter /คมั พยเู้ ดอร;̣ คมั พยทู้ ะ่ / คอมพิวเตอร์ cráyon /เคร้อนั / ดินสอเทียน desk /เดสค̣/ โตะ๊ ท่ีมีลิ้นชกั díctionary /ด๊ิกชนั เนรี; ด๊ิกชนั รี/ พจนานุกรม
My School (โรงเรียนของฉนั ) (ตอ่ ) 5.1.9.2 Class Instructions /แคลส้ อินสตรั๊กชนั ซ: คลา้ ส อินสตรั๊กชึนซ/(คาส่งั /คาแนะนาในหอ้ งเรียน) เป็ นคาสั่งที่ครูบอกใหน้ กั เรียนทา จะข้ึนตน้ ดว้ ยคากริยาที่ครูบอกให้ทา ถา้ เป็ นคาส่ังห้ามทา ข้ึนตน้ ดว้ ย Don't.... เช่น Answer these questions./แอน้ เซอร̣ ดีซ เควส้ ฉนั ซ; อา้ นซะ ดีซ เควส้ ฉึนซ/ตอบคาถามเหล่าน้ี Be careful. /บี แคร้ ̣ฟัล/ทางานดว้ ยความรอบคอบหน่อย ระวงั Be quiet. /บี ไควอ้ ทั / เงียบ Close your book. /โคลซ ยอร̣ บุค๊ / ปิ ดหนงั สือ Come here. /ค้มั เฮียร/̣ มาน่ี Correct your mistakes. /คะ่ เร็คท̣ ยอร̣ มิสเตค้ ส/̣ แกข้ อ้ ท่ีผดิ Do as I say. / ดู๋ แอซไซ เซ/ ทาตามท่ีฉนั พูด Do what is requested. / ดู๋ วอ็ ท อิซ รีเควสติด/ทาตามท่ีถูกขอใหท้ า
5.2 Expressive function ใชภ้ าษาเพอื่ แสดงอารมณ์
Expressive function ใช้ภาษาเพ่ือแสดงอารมณ์ นิติพงศ์ ภูมิกุล (2546) กล่าววา่ การพูดภาษาองั กฤษน้นั ไม่มีกฎท่ีตายตวั คุณไม่จาเป็ นตอ้ ง ยึดติดกบั ไวยากรณ์มาก เพราะหวั ใจของการพูดภาษาองั กฤษคือการส่ือสารใหเ้ ขา้ ใจท้งั สองฝ่ าย เมื่อ ตอ้ งการพดู ภาษาองั กฤษเพอ่ื แสดงความเยนิ ยอ ช่ืนชอบใหค้ นอื่นมากล่าวคาชมกบั ตวั เองท้งั น้นั เพราะ นอกจากจะทาให้รู้สึกดีแลว้ ยงั ทาให้คนท่ีถูกชมมีกาลงั ใจที่จะทาสิ่งดี ๆ หรือรักษาภาพลกั ษณ์ที่ดี ๆ ตอ่ ไป โดยเฉพาะครูสอนภาษาองั กฤษเพื่อกระตุน้ ใหน้ กั ศึกษา นกั เรียนกลา้ พูด กลา้ แสดงออกครูตอ้ ง คอยใหก้ าลงั ใจ เสริมแรง ชมเชยดว้ ยประโยคต่าง ๆ ดงั ตวั อยา่ งประโยคตอ่ ไปน้ี 1. That’s nice. ดีจงั 2. That’s excellent. วเิ ศษจงั 3. Well done. ทาไดด้ ี 4. Brilliant! วเิ ศษ 5. Great! เยยี่ ม 6. Pretty good. ดี
5.3 Compliment ชนื่ ชม
Compliment ช่ืนชม 5.3.1 Giving Compliments /กิ้ฟวงิ .../(การใหค้ าชม) คาชมเป็นคาพูดที่ใหค้ วามหมายดา้ นบวก เช่น amázing /อะเมซ้ ซิง/ น่าพิศวง มหศั จรรย์ béautiful /บยดู้ ิฟัล; บยทู้ ิฟึ ล/ สวยงาม เพราะ (เสียง) หอม (กล่ิน) best /เบส้ ท̣/ ดีท่ีสุด fantástic / แพน็ แทส้ ติค, ฟันแทส้ ติค; แฟ็นแทส้ ติค/ ดีมาก ยอดเยยี่ ม fásionable /แฟ้ชน่ะบลั ; แฟ้ชชึนน่ะบึล/ ทนั สมยั เป็นท่ีนิยม good /กุ๊ด/ ดี prétty good /พริ้ทดิ; พริ้ทถิ ก๊ดุ / ค่อนขา้ งดี véry good /เวร้ ี กุ๊ด/ ดีมาก
Compliment ชื่นชม 5.3.2 Accepting a Compliment /อิคแซ็พทิง, แอค็ เซ็พทิง, เอค็ เซ็พทิง อะ คอ้ มผละมนั ทุ;̣ อคั เซ่พทิง อะคอ้ มผลิมนั ท/(การยอมรับคาชม) เพอื่ แสดงการยอมรับคาชม เราควรจะกล่าวเป็นคาพูด เช่น • Thank you. /แตง้ ค̣ย/ู้ ขอบคุณครับ /คะ่ • Thank you for the compliment. /แตง้ ค̣ยู้ เฟอร̣ ฟอร;̣ ฟ่ ะ, ฟอ ดะ คอ้ มผละมนั ท;̣ คอ้ มผลิมนั ท/̣ ขอบคุณสาหรับคาชมครับ/ค่ะ • I appreciate the compliment. (ไอ อะพร้ีชีเอท, อะพริ้ชชีเอท, อะพร้ีซีเอท ดะ คอ้ มผละมนั ท̣;อะพร้ีซีเอท ดะ คอ้ มผลิมนั ท̣/ ขอบคุณท่ีชื่นชม • Oh, it was nothing. /โอ, อิท วซั . วอ้ ซ นตั ติง/ กไ็ มเ่ ท่าไรหรอก (พดู ถ่อมตวั )
Compliment ชื่นชม 5.3.3 Rejecting a Compliment / ริเจค้ ทิง อะ คอ้ มผละมนั ท̣; คอ้ มผลมนั ท/̣ (การปฏิเสธคาชม) ในการตอบปฏิเสธคาชมมกั จะใชก้ นั ในหมูเ่ พ่ือนฝงู ท่ีคุน้ เคยกนั แลว้ คนทถี่ ูกชมก็รู้วา่ ส่ิงที่ตน เป็นหรือทาไมค่ อ่ ยเหมาะท่ีจะไดร้ ับคาชมน้นั เทา่ ไรนกั (ถา้ ผใู้ หญ่หรือคนที่ไม่ค่อยคุน้ เคยกนั ชม ก็ตอบ ขอบคุณกลบั ไป) • Well, it's nothing. /เว๋ล, อิทส̣ นตั ติง/ เออ้ มนั ไม่ขนาดน้นั หรอก • Nonsense. . /นอ้ นเซ็นส,̣ นอ้ นซนั ส;̣ นอ้ นซึนส̣/ ไร้สาระ • Don't flatter me. /โดน้ ท̣ แฟลท้ เดอร̣; แฟลท้ ทะ่ มี ไมต่ อ้ งเยนิ ยอฉนั หรอก
5.4 Directive function การชแี้ นะหรอื สง่ั การ
Directive function การชี้แนะหรือสั่งการ เพ่ือฝึ กใชภ้ าษาองั กฤษให้นกั เรียนในห้องเรียน ครูควรเริ่มสนทนากบั เด็กเป็ นภาษาองั กฤษ ใหน้ กั เรียนคุน้ เคย เขา้ ใจ ชินกบั การใชภ้ าษาองั กฤษของครู ทาให้นกั เรียนซึมซบั จนรู้และเขา้ ใจในคาสั่ง คาช้ีแนะที่ใชภ้ าษาองั กฤษของครู อยา่ งเป็นไปตามธรรมชาติ แลว้ นกั เรียนกจ็ ะปฏิบตั ิหรือโตต้ อบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม คมกฤช – กฤติกา พานิชยน์ าวี (2551) กล่าววา่ ประโยคที่บอกให้บุคคลอ่ืนทาหรือไม่ทาสิ่งใดสิ่งหน่ึง มกั ละ ประธานไว้ ประโยคคาสง่ั มี 2 ลกั ษณะ คือ ประโยคส่งั ใหท้ า ข้ึนตน้ ประโยคดว้ ยคากริยาหรือคาวา่ จง หากมีประธานมกั มีคาว่า ซิ นะ หน่อย อยู่ทา้ ยประโยค และ ประโยคห้ามหรือสั่งไม่ให้ทา มกั มีคาว่า อย่า ห้าม ข้ึนตน้ ประโยค ตาม ตวั อยา่ งประโยคตอ่ ไปน้ี 1. Back to your seats. กลบั ไปนง่ั ท่ี 2. Listen while I call your names. ฟังครูเช็คช่ือดว้ ย 3. Hand in your homework. ส่งการบา้ นดว้ ย 4. Check your answers. ตรวจคาตอบ 5. Stop talking and be quiet. หยดุ พดู คุยและเงียบ
5.5 Command การออกคาสง่ั
Command การออกคาส่ัง การออกคาส่งั ประโยคคาส่ัง คือ ประโยคท่ีบอกให้ผฟู้ ังไดป้ ฏิบตั ิตาม ใหท้ าในส่ิงใดสงิ่ หน่ึง หรือ ไม่ให้ทาสิ่ง ใดส่ิงหน่ึง ครูสามารถใชค้ าส่งั เหล่าน้ีกบั นกั เรียน เมื่อใชไ้ ปเร่ือย ๆ นกั เรียนจะเขา้ ในและปฏิบตั ิตามได้ จากน้นั นกั เรียน ก็จะใชป้ ระโยคเหล่าน้ีกบั คนอ่ืน ๆ ได้ และสามารถใชป้ ระโยคเหล่าน้ีในชีวติ ประจาวนั ไดใ้ นที่สุด ก่อนอื่นเราตอ้ งมาฝึ ก พูด จนสามารถพดู ไดค้ ล่อง ติดปาก ไม่กระดากอาย โดยเริ่มตน้ ส่งั ตวั เองก่อน จากน้นั ให้ฝึ กสั่งเพื่อน ต่อไปครูก็สามารถ ปรับใชป้ ระโยคเหล่าน้ีสัง่ นกั เรียนในหอ้ งในบริบทตา่ ง ๆ ได้ ยกตวั อยา่ งเช่น 1. Answer the question. ตอบคาถาม 2. Listen to the directions. ฟังคาสง่ั นะ 3. Sing along. ร้องเพลงไปพร้อมๆ กนั 4. Work together. ทางานดว้ ยกนั 5. Get back to your seat. กลบั ไปท่ีนง่ั ของเธอ 6. Participate in your pair. ใหม้ ีส่วนร่วมกบั คู่ 7. Stand up and show your picture. ลุกข้ึนและโชวร์ ูปของคุณ 8. We’re going to do pair work. พวกเราจะทางานเป็ นคู่
5.6 Promise การใหส้ ญั ญา
Promise การให้สัญญา บางคร้ังครูและนกั เรียนอาจมีขอ้ ตกลง คามน่ั สัญญากนั เพ่ือใหเ้ กิดพนั ธสัญญา หรือเพ่ือยดึ มนั่ ในพนั ธกิจหน่ึง ๆ ดงั น้นั เราจาเป็นตอ้ งรู้จกั คา วลี ประโยคที่สาคญั ในการใหส้ ัญญาหรือทวงสญั ญา ยกตวั อยา่ ง เช่น 1. I hope we’ll meet again. หวงั วา่ เราจะไดเ้ จอกนั อีก 2. See you again. ไวพ้ บกนั ใหม่ 3. I promise. ฉนั สญั ญา 4. I’m a man of my word. ฉนั เป็นคนรักษาคาพดู 5. I must keep a promise I made. ฉนั ตอ้ งทาตามสัญญาที่ใหไ้ ว้ 6. Can you keep a promise? คุณจะรักษาสญั ญาไดไ้ หม?
บทที่ 6 Helping and Suggestion การชว่ ยเหลอื และใหค้ าแนะนา
6.1 Asking for help การขอความชว่ ยเหลอื
6.1 Asking for help การขอความชว่ ยเหลอื ศิริพร โตพ่งึ พงศ์ (2552) กล่าววา่ การขอความช่วยเหลือมีหลกั ๆ สองวธิ ีก็คือ 1. การขอความช่วยเหลือโดยใชร้ ูปประโยคท่ี สุภาพ 2. การขอความช่วยเหลือโดยการใชร้ ูปประโยคแบบเป็ นกนั เอง ตวั อยา่ งประโยค 1. May I use your calculator? ฉนั ขอใชเ้ คร่ืองคิดเลขของคุณไดไ้ หม? 2. Excuse me, could I borrow your pen? ฉนั ขอยมื ปากกาของคุณไดไ้ หม? 3. Let me see your homework. ขอฉนั ดูการบา้ นของเธอหน่อย 4. Can you help me do this exercise? ช่วยฉนั ทาแบบฝึกหดั น้ีไดไ้ หม? 5. Please clean up the board. ช่วยลบกระดานหน่อย 6. Could you help me to teach cooking? คุณช่วยสอนวธิ ีทาอาหารไดไ้ หม? 7. I suppose you could help me with the case study. ฉนั คิดวา่ คุณสามารถช่วย ฉนั เก่ียวกบั กรณีศึกษาได้ 8. May I use your phone please? ขอฉนั ใชโ้ ทรศพั ทค์ ุณไดไ้ หม? 9. Can I borrow your umbrella? ขอยมื ร่มหน่อย? 10. Will you make me a cup of coffee, please? ชงกาแฟใหฉ้ นั สกั ถว้ ยไดไ้ หม?
6.1 Asking for help การขอความชว่ ยเหลอื (ตอ่ ) 6.1.1 Asking for a Favor (Favour) and Offering a Favor (การขอความช่วยเหลือและการเสนอใหค้ วามช่วยเหลือ) Asking for a Favor พดู ไดห้ ลายแบบ เช่น • Can you help me, please? /แคน ยู เฮล้ พ̣ มี, พลีซ/ คุณช่วยฉนั หน่อยไดไ้ หม • Do something for me, will you? /ดู ซมั ติง เฟอร̣, ฟอร;̣ ฟ่ ะ, ฟอ มี, วลิ ย๋/ู ช่วยทาอะไรใหฉ้ นั หน่อย จะไดไ้ หม • Do me a favor, will you please? /ดู มี อะ เฟ้เวอร;̣ เฟ้วะ่ , วลิ ยู๋ พลีซ/ กรุณาช่วยฉนั หน่อยไดไ้ หม • Can you do me a favor? /แคน ยู๋ ดู มี๋ อะ เฟ้เวอ่ ร̣; เฟ้วะ่ / คุณช่วยฉนั หน่อยไดไ้ หม
6.1 Asking for help การขอความชว่ ยเหลอื (ตอ่ ) 6.1.2 Replies to the Favor Asked (คาตอบรับใหค้ วามช่วยเหลือ) เช่น • Sure. /ชุเออร;̣ ชอ/ ไดแ้ น่นอน • Yes, of course. /เยส, อฟั ว โคร้ ส̣ , คอ้ รส̣ ; คอส/ ไดแ้ น่นอน • Certainly. /เซิร̣ทอ่ึนลี; เซอ้ ทึนลี/ ไดแ้ น่นอน • OK. (Okay) /โอเค่/ ได้ • With pleasure. /วดิ เพลซเฮอร;̣ เพลซ้ ฮะ่ / หรือถา้ ไมส่ ามารถใหค้ วามช่วยเหลือได้ จะไม่ตอบปฏิเสธวา่ No. ควรจะพูดขอโทษ (แสดงความเสียใจ) พร้อมกบั อธิบายเหตุผลลไป เช่น • Sorry. I'm pretty busy right now. /ซอ้ รี. ไอม̣ พริ้ทดี; พริทที บิส้ ซี ไร้ท̣ นาว/ ขอโทษดว้ ย ตอนน้ีฉนั มีงานคอ่ นขา้ งยงุ่ ทีเดียว • I'm sorry, but ... /ไอม̣ ซอ้ รี, บทั ... (เหตุผลลที่ไม่สามารถช่วยได)้
6.2 Offering Help การเสนอใหค้ วามชว่ ยเหลอื
Offering Help การเสนอใหค้ วามชว่ ยเหลอื การเสนอให้ความช่วยเหลือหรือการบริการ ซ่ึง ๆ ทุกวนั น้ีเราตอ้ งเสนอส่ิงต่าง ๆ ในการสนทนากบั ผลูอ้ ่ืนอยูเ่ กือบ ตลอดเวลาในภาษาองั กฤษ การเสนอส่ิงต่างๆ ใหผ้ ลูอ้ ่ืนไม่วา่ จะเป็ นส่ิงของ การกระทา การช่วยเหลือ มกั เริ่มตน้ ดว้ ยคาวา่ Can I…? , Shall I…? , Would you like me to…? ตวั อยา่ งประโยคต่อไปน้ีเป็ นการเสนอแบบสุภาพและดูเป็ นมิตรมากข้ึน (สมชาย ชยั ธนะ ตระกลู , 2555) Can I give you a hand? Would you like me to help you? ฉนั ขอช่วยคุณไดไ้ หม? คุณอยากใหฉ้ นั ช่วยไหม? Can I help you? Let me help you with this. มีอะไรใหผ้ ลมช่วยไหม? ใหผ้ ลมช่วยคุณเรื่องน้ีเถอะ
Offering Help การเสนอใหค้ วามชว่ ยเหลอื (ตอ่ ) 6.2.1 Offering a Favor (การเสนอใหค้ วามช่วยเหลือ) พดู ไดห้ ลายอยา่ งเช่น I'll do it for you. Shall I carry it for you? /ไอล̣ ดู อิท โฟร̣, ฟอร̣ ยะ่ , ย/ู /ชลั ไล, แช็คไล แคร้ ี อิท โฟร,̣ ฟอร̣ ย๋/ู ฉนั จะช่วยทาใหค้ ุณ จะใหช้ ่วยถือไหม Here, let me do that, . Is there anything I can do? /เฮียร̣, เลท็ มี ดู แด็ท/ /อิซ แดร̣ เอน้ น้ีติ๋ง ไอ แคน็ ดู๋ / มาใหฉ้ นั ช่วย มีอะไรจะใหฉ้ นั ช่วยไหม
Offering Help การเสนอใหค้ วามชว่ ยเหลอื (ตอ่ ) 6.2.2 Replies to the Offer (ในการตอบรับขอ้ เสนอที่จะใหค้ วามช่วยเหลือ) มีคาที่ตอ้ งใชค้ ูก่ นั เสมอ คือ
6.3 Requests การขอรอ้ ง
Requests การขอรอ้ ง ประโยคขอร้อง การขอร้องให้ผลูอ้ ่ืนทาอะไรก็ควรพูดให้สุภาพเขา้ ไว้ จะไปพูดห้วนๆ กระโชกโฮกฮากเขาก็คงจะไม่ช่วย เรา การขอร้องมีหลายระดบั ต้งั แตข่ อร้องเชิงคาส่ัง ขอร้องแบบสุภาพและสุภาพมาก (เพญ็ นภา รุจินนั ท,์ 2557) เช่น ตวั อยา่ งประโยคดงั ต่อไปน้ี Please sit down. กรณุ าน่ังลง Please clean the blackboard. กรณุ าทาความสะอาดกระดาน Repeat that please. Explain please. กรณุ าอธบิ าย กรณุ าพดู ซา้ อกี ครงั้
Complaining (การรอ้ งเรยี น การรอ้ งทกุ ข ์ การบ่น) 6.3.1 Making Complaints (คา/ประโยคทใี่ ชใ้ นการรอ้ งเรยี น การบน่ )
Complaining (การรอ้ งเรยี น การรอ้ งทกุ ข ์ การบ่น) 6.3.2 Responding to Complaints (การตอบรบั คารอ้ งเรยี น คาบน่ )
6.4 Warning การตกั เตอื น
Warning การตกั เตอื น 1. I request you to make it done. ฉันขอรอ้ งคณุ ทาเหลา่ นีใ้ หใ้ หเ้ สรจ็ ดว้ ย 2. I would like to finish you task. ฉันอยากใหค้ ณุ ทางานใหเ้ สรจ็ 3. I want to ask you to be on time. ตอ้ งการใหค้ ณุ มาตรงเวลา 4. I want you to sit down. ฉันอยากจะใหค้ ณุ น่ังลง 5. I would like you to hand in home work. ฉันอยากใหค้ ณุ สง่ การบา้ น 6. Can you sit down, please? กรณุ าน่ังลงไดไ้ หม? 7. Would you mind giving me the reason? คณุ จะบอกเหตผุ ลใหฉ้ ันฟังไดไ้ หม? 8. Come in, will you? เขา้ มาขา้ งใน ไดไ้ หม? 9. Quiet, will you? เงยี บ ๆ ไดไ้ หม? 10. I would like you to listen to me. ฉันอยากใหค้ ณุ ฟังฉันบา้ ง 11. Don’t tell anybody. อยา่ บอกใครนะ 12. Don’t do it again. อยา่ ทาอกี นะ
6.5 Suggestions การเสนอแนะหรอื ชกั ชวน
Suggestions การเสนอแนะหรอื ชกั ชวน 1. Close the window, won’t you? ปิ ดหนา้ ตา่ งดว้ ย ไดไ้ หม? 2. Sit down, won’t you? น่ังลงไดไ้ หม 3. Speak slowly, will you? พดู ชา้ ๆ ไดไ้ หม 4. Let’s go to the classroom. ไปหอ้ งเรยี นกนั เถอะ 5. Let’s go have lunch. ไปทานขา้ วเทย่ี งกนั เถอะ 6. Let’s go home. กลบั บา้ นกนั เถอะ 7. I hope you are all ready for your English lesson. ฉันหวงั วา่ ทุก ๆ คนจะพรอ้ มสาหรบั บทเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ 8. I think we can start now. ฉันคดิ วา่ ตอนนีเ้ ราเรม่ิ ไดแ้ ลว้ 9. Now we can get down to work. ตอนนีท้ กุ คนควรเอาใจใสง่ าน 10. How about singing ABC song? มารอ้ งเพลง ABC ดไี หม?
บทที่ 7 Participating in Class Discussions การรว่ มอภปิ รายในชนั้ เรยี น
7.1 Express an opinion or point of view การแสดงความคดิ เห็นและมุมมอง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206