Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore RMUTSV

RMUTSV

Published by taweelap_s, 2019-05-17 00:19:12

Description: RMUTSV

Search

Read the Text Version

2. เขา้ สรู่ ะบบใส่รหัสผา่ น ชอ่ื ผใู้ ช้,รหสั ผ่านกดปมุ่ เข้าสรู่ ะบบ 3. สามารถเลอื กรายการเข้าสู่ระบบ :: รายการหนงั สือสง่ :: แกไ้ ขและบนั ทึก :: -5-

4. สามารถเลือกรายการเข้าสู่ระบบ :: ค้นหาหนังสือรับ :: ค้นหาหนังสือส่ง :: รายการ หนังสือรับ :: รายการหนังสือส่ง :: แก้ไขและบันทึก :: ผู้ดูแลระบบ :: เปล่ียนรหัสผ่าน :: ออกจากระบบ ในการสบื คน้ หนงั สอื ราชการ 5.การสืบค้นหนงั สือราชการ -6-

6.ระบบจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ e-Document System ได้ถูกสแกนให้อยู่ในรูปแบ ของไฟลแ์ ละจดั เกบ็ เอกสารท้งั หมดลงในระบบสามารถเขา้ ถึง และค้นหา เอกสารในระบบได้อย่าง สะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่างานเอกสารแบบเดิม 7.เลอื กเมนู ออกจากระบบ -7-

ผลและอภิปรายผลการดาํ เนินงาน : ระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ e-Document System มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สามารถทาให้การดาเนินงานของบุคลากรคณะครุศาสตร์ อตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี สะดวก รวดเร็ว และมปี ระสทิ ธภิ าพ ไมว่ ่าจะเป็นการจัดเก็บเอกสาร ลงในระบบ การเข้าถึงเอกสาร การค้นหา การแก้ไข การลบ การกาหนดสิทธ์ิเข้าถึงเอกสารและ สามารถลดทรัพยากรในการจดั เก็บเอกสารได้ สรปุ : ก า ร น า ร ะ บ บ ก า ร จั ด ก า ร เ อ ก ส า ร อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ น้ี เ ข้ า ม า ใ ช้ ม ห า วิ ท ย า ลั ย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยใช้ในงานสารบรรณการจัดเก็บเอกสาร เน่ืองจากเอกสารได้ถูกสแกน ให้อยู่ในรปู แบบของไฟล์และจัดเกบ็ เอกสารทง้ั หมดลงในระบบสามารถเข้าถึง และค้นหา เอกสาร ในระบบได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่างานเอกสารแบบเดิม การทางานน้ันเกิดประสิทธิภาพ การเรียกดูบันทึกต่าง ๆ ก็สามารถทาได้ง่าย เนื่องจากอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะอานวย ความสะดวกตอ่ ผูใ้ ชง้ าน และช่วยลดปัญหา การใช้กระดาษหรือการสือ่ สารโดยวิธอี ืน่ ลงได้ บรรณานกุ รม : ทีม่ า https://software.thaiware.com/10885-E-Document.html ความหมายของหนงั สอื ราชการตามระเบียบสํานกั นายกรัฐมนตรวี ่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 ศรญั ญา ส่งศร,ี การใช้งานระบบสารบรรณอิเลก็ ทรอนิกส์เบ้ืองต้น,สงขลา:มหาวทิ ยาลัยทกั ษิณ, 2552 -8-

ชอ่ื เรื่อง / แนวปฏบิ ัติที่ดี : การพัฒนาระบบตดิ ตามขอ สัง่ การออนไลน โดยใชร ะบบ Office Command Management (OCM) ชอื่ -นามสกลุ ผูน าํ เสนอ : นายสุขรัฐจติ มงคลศิริเจรญิ หนว ยงาน : คณะครุศาสตรอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เบอรโ ทรศัพทมือถือ : 09 0220 9995 เบอรโทรสาร : 0 7431 7181 E-Mail address : [email protected] -1-

การพัฒนาระบบตดิ ตามขอ สัง่ การออนไลน โดยใชระบบ Office Command Management (OCM) The Development of Online Command Tracking System with Office Command Management (OCM) นายสุขรฐั จติ มงคลศิรเิ จริญ (MR.Sukrattajit mongkhonsiricharoen) เจา หนาทหี่ องปฏิบตั ิการ คณะครศุ าสตรอตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย E-mail : [email protected] บทสรุป : แนวปฏบิ ตั ใิ นการพฒั นาระบบตดิ ตามเอกสารออนไลน โดยใชระบบ Office Command Management (OCM)เปนแนวปฏิบัติท่ีจัดทําข้ึนเพื่อสนับสนุนดานขอมูลใหบุคลากรสํานักงาน คณบดีคณะครุศาสตรอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีท่ีจะตองมีหนาที่รับผิดชอบงานแตละฝาย เพ่ือใหเปนศูนยกลางขอมูลสารสนเทศ สามารถเขาถึงขอมูลตรงกัน ทันเวลา สะดวก รวดเร็ว ถกู ตอ ง และตรวจสอบได สามารถนําไปใชใ หเ กิดประโยชนเปนการตอ ไป Summary : Practice in development of development online tracking system by using of Online Command Tracking System with Office Command Management (OCM) is made for support the data to personnel of each sector in facuilty of industrial and Education Technology and to be a contral information to reach it quickly accurately and verifiable คาํ สาํ คญั : การพัฒนาระบบ,ติดตามขอ สั่งการ, ออนไลน บทนาํ : ปจจุบันคณะครุศาสตรอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มีความตองการที่จะส่ังงานและ ติดตามผลการปฏิบัติงานบุคลากร ใหเปนไปอยางถูกตองครบถวน สะดวก และรวดเร็ว การ สั่งงานการส่ังงานในระบบเดิมที่ใชกันอยูในรูปแบบของกระดาษเอกสารคอนขางยุงยาก ทั้งการ จัดการและการจัดเก็บ การติดตามผลการปฏิบัติงานทําไดยาก สิ้นเปลืองแรงงาน และเวลาเปน อยางมาก นอกจากน้ันในกรณีการส่ังงาน และติดตามผลกระทาจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่ หนึ่งซึ่งอยูหางไกลกัน ยังคงเปนปญหาใหญ คอนขางเสียเวลาเพราะมีปญหาหลายประการ เขน สภาพการจราจร การติดตอส่ือสาร ผูปฏิบัติงาน ไมมาตามนัดหมาย ระบบส่ังงานแบบเดิม คอนขางลาชา และความเขาใจที่ไมตรงกัน ซ่ึงอาจทาให เกิดความผิดพลาดของงานนั้น ๆซึ่ง ปจจุบันอินเตอรเน็ตออนไลนเขามามีบทบาทในชีวิตประจําวัน คณะครุศาสตรอุตสาหกรรมและ เทคโนโลยี จึงประยุกตใชกับระบบการส่ังหรือติดตามงานออนไลน เนื่องจากปจจุบันระบบ -2-

อินเตอรเน็ตถือวาไดเขามามีบทบาทในสังคมอยางมากเพื่อลดระยะเวลา รวดเร็ว ถูกตองและ ติดตามงานไดทนั กบั สถานการณ วธิ กี ารดาํ เนนิ งาน : 1. ศกึ ษาโครงสรา งการสงั่ งานของคณะครุศาสตรอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี 2. ทําการเก็บขอ มลู เก่ยี วกับความตอ งการของผูใชงานระบบ 3. ศกึ ษาการทํางานของระบบฐานขอมูลทจี่ ะใช 4. วิเคราะหแ ละออกแบบระบบ ขนั้ ตอนการทาํ งานระบบOCM ดังนี้ 1. เขา หนา ระบบ http://inded.rmutsv.ac.th/OCM/home2.php 2. หากตองการคนหาเอกสาร ใหเลือกปุมคนหา และเลือกหมวดท่ีตองการเลือก แลวพิมพK eyword ท่ีตองการและกดปุมคนหา 3.ขอมลู จะขนึ้ โชวต ามทเี่ ราไดเลือกไว -3-

4.หากตองการเขาใชระบบใหกดปมุ Login เขา สรู ะบบ มุมขวาบน 5. หนา เขาสูระบบ ใหใสUsername Password ของแตละฝาย และกดปุม เขาสู ระบบ 6. หากใส Username Password แลว จะเดงมาหนาคนหาขอมูล ถาเราตองการเพ่ิม เอกสาร ใหกดปมุ เพมิ่ ขอมูลเอกสาร -4-

7.หนาเพ่มิ ขอ มลู ในสวนของ email ผรู ับผดิ ชอบ ใหใสช ่อื ทเ่ี ราตองการจะสง email -5-

8.ตรงฝายใหใสฝา ยที่ไดรับมอบหมาย 9.วันทีก่ าํ หนดสง ใหใ สวนั ท่ี ทเี่ ราจะตอ งสงเอกสาร 10.หากใสขอมูลเสร็จเรียบรอยแลว ใหก ดปุม บันทึกขอมูล -6-

11. หากเรากดบันทึกแลว ขอมูลจะเดงไปทห่ี นา คนหาขอมูล 12. หากตองการดูขอมูลที่เราทําการกรอกไปใหกดไปที่ ดูขอมูลขอมูลจะโชวรายละเอียดท่ี เราไดกดเลอื ก -7-

13.ถา หากตองการแกไขขอ มูลท่เี ราทําการกรอกไปใหก ดไปท่ี แกไ ขขอมลู และกดบันทึก ขอมลู ผลและอภิปรายผลการดาํ เนินงาน : ระบบ Office Command Management (OCM) สามารถทําใหการดําเนินงานของ สํานักงานคณะครุศาสตรอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จากการจัดทําการพัฒนาระบบติดตามเอกสารออนไลน และทําใหผูรับผิดชอบงานแตละฝาย เขาถงึ ระบบการสั่งการตดิ ตาม ทําใหลดระยะเวลา ทันตอเหตุการณ การส่ือสารตรงกัน ระหวาง หวั หนา งานและผปู ฏบิ ตั งิ าน สรปุ : การพัฒนาระบบติดตามเอกสารออนไลน โดยใชระบบ Office Command Management (OCM) ชวยใหผูมีสวนเกี่ยวของและผูรับผิดชอบแตละฝายของสํานักงานคณะ ครุศาสตรอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ทําใหเกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้นกวางานเอกสาร แบบเดิม การทํางานน้ันเกิดประสิทธิภาพ การเรียกดูบันทึกตาง ๆ ก็สามารถทําไดงาย เน่ืองจาก อยูในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส ซึ่งจะเพ่ิมความสะดวกตอผูใชงาน เพิ่มความรวดเร็ว และชวยลด ปญ หา การตดิ ตามงานโดยใชกระดาษหรอื การสอ่ื สารโดยวิธอี ่ืนลงได บรรณานุกรม : ท่ีมา : http://inded.rmutsv.ac.th/OCM/home2.php -8-

ชื่อเรื่อง / แนวปฏิบตั ทิ ด่ี ี : สบื สานภูมิปัญญาไทยโดยบูรณาการศาสตรเ์ ทคโนโลยี ภายใต้โครงการศกึ ษาวถิ ชี ีวติ ชุมชนตาลโตนด ต.ทา่ หนิ อ.สทงิ พระ จ.สงขลา ชอ่ื -นามสกลุ ผูนาํ เสนอ : นายเอกศกั ดิ์ สงสังข์ สถาบัน : มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลศรวี ิชยั หนวยงาน : คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เบอรโทรศัพทมือถือ : 06 1773 2402 E-Mail address : [email protected] -1-

สืบสานภมู ปิ ัญญาไทยโดยบรู ณาการศาสตรเ์ ทคโนโลยี ภายใตโ้ ครงการศึกษาวิถชี วี ิตชุมชนตาลโตนด ต.ทา่ หนิ อ.สทิงพระ จ.สงขลา Inheritance of thai wisdoms by integrated science technology under Tan Tanod community lifestyle Tha Hin, Sathing Phra District, Songkhla นายเอกศกั ดิ์ สงสังข์ (Akasak SongSung) นายอนุกลู นนั ทพุธ (Anugool Nuntaput) เจ้าหน้าทบ่ี รหิ ารงานทว่ั ไป คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี E-mail : [email protected] เจา้ หนา้ ทีบ่ ริหารงานทว่ั ไป คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี E-mail : [email protected] บทสรุป : วิถีชีวิตชุมชนตาลโตนด ต.ท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นชุมชนที่มีวิถีพ้ืนบ้านที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมีวัฒนธรรมอันดีงามเกี่ยวข้องกับตาลโตนด นับเป็นแหล่งที่มีต้นตาลโตนด จํานวนมาก นํามาซึ่งอาชีพที่หลากหลาย คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จึงมีภารกิจหลักในการทํางานด้านทํานุบํารุงศิลปวัฒนธรรม บูรณา การความรู้จากรายวิชาเรียนด้านเทคโนโลยีผ่านการจัดกิจกรรม โครงการศึกษาวิถีชีวิตชุมชน ตาลโตนด ต.ท่าหนิ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษาหรือคนรุ่นใหม่ได้รับความรู้และ สามารถเผยแพรว่ ิถชี วี ิตชุมชนตาลโตนดให้เป็นทร่ี ้จู ักมากข้นึ Summary Tan Tanod community lifestyle Tha Hin Sub-district Sathing Phra District, Songkhla Province where is a community with a distinctive folk simply lifestyle. There are lots of good cultures with. It is the most abundant palmyra palm tree plant in Thailand where brings a variety of occupations. The main task of Faculty of Industrial and Technology Education Rajamangala University of Technology Srivijaya are to maintain arts and cultures and integrate knowledge from the technology curriculum through the activities of Tan Tanod community lifestyle project Tha Hin, Sathing Phra District, Songkhla to cultivate the students or new generations to gain knowledge and be able to disseminate the Tan Tanod community lifestyle. คาํ สําคญั : ภูมิปญั ญาไทย,ศาสตร์เทคโนโลยี,วถิ ีชวี ติ ,ชมุ ชนตาลโตนด -2-

บทนาํ : ชุมชนตาลโตนด ต้ังอยทู่ ่ีตาํ บลทา่ หิน อาํ เภอสทิงพระ จงั หวดั สงขลา ตง้ั อยทู่ างทศิ ใต้ของอาํ เภอ สทิงพระ สภาพภูมิประเทศเป็นท่ีราบลุ่ม ด้านตะวันตกติดต่อกับทะเลสาบสงขลา เมื่อกล่าวถึงวิถี ชีวติ ของชาวบา้ นชุมชนแห่งนท้ี ี่เรยี กกันว่า “วถิ ี โหนด-นา-เล” กลา่ วคอื ชมุ ชนทา่ หิน กับวิถีโหนด เป็นพชื เศรษฐกิจที่มีอยใู่ นพื้นที่ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชาวบ้าน เช่น แปรรูปเป็นขนมหรืออาหาร พื้นบ้านและผลิตภัณฑ์อ่ืน ๆ วิถีนา บางช่วงฤดูชาวบ้านนิยมทํานา ปลูกข้าว เพ่ือบริโภคและ จําหน่ายเพื่อเป็นรายได้อีกทางหน่ึง และวิถีเล ชาวบ้านจะประกอบอาชีพประมงน้ําจืด มีการอนุรักษ์พันธ์ปลา ทําการประมงหาเล้ียงชีพ ซึ่งปัจจุบันวิถีชีวิตเหล่านี้ในชุมชนท่าหินและ ใกล้เคียงมีแนวโน้มลดน้อยลง และผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับตาลโตนดไม่มีการสืบทอดสู่คนรุ่นใหม่ และในปัจจุบันต้นตาลโตนด มีจํานวนลดลงมากเน่ืองจากสาเหตุสําคัญ คือไม่มีการปลูกเพ่ิมเติม และพื้นที่ถูกนํามาใช้ในการทํานากุ้ง ต้นตาลโตนดจะถูกทําลายหรืออาจเพราะน้ําเค็มท่วมขังเป็น เวลานาน คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นอกจากจัดการเรียนการสอนในสาขาครุศาสตร์อุตสาหกรรมแล้วน้ัน ยังได้จัดการเรียนการสอน ในสาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม โดยมีสาขาวิชาเทคโนโลยีส่ือสารมวลชน ซ่ึงเป็นสาขาวิชาที่ สามารถฝกึ ทักษะใหก้ บั ผเู้ รียนใหไ้ ดเ้ รยี นรกู้ ารปฏบิ ตั ิจริง สามารถสร้างสรรค์ผลิตสอื่ ต่าง ๆ ได้เป็น อย่างดี จึงนําความรู้ของนักศึกษาในรายวิชาภาพยนตร์โฆษณา วิชาโครงงาน มาบูรณาการกับ กิจกรรมทํานุบํารุงศิลปวัฒนธรรมโดยกําหนดให้เป็นภารกิจหลักของการทํางานด้านทํานุบํารุง ศิลปวฒั นธรรม และสอดคลอ้ งกับประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 4 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย ว่าด้วยการปลูกจิตสํานึกในการทํานุบํารุงศาสนาอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม แก่นักศึกษาและบุคลากร กลยุทธ์ที่ 14 สนับสนุนและส่งเสริมการทํานุบํารุงศาสนาสืบสาน ประเพณศี ลิ ปวัฒนธรรม เผยแพร่ภูมิปัญญาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (แผนกลยุทธ์ พ.ศ. 2555 - 2559) เพ่ือจะได้เป็นส่วนหน่ึงในการช่วยกันสืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรม เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ตาลโตนด ซึ่งในการจัดกิจกรรมคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาเรียนรู้ สืบสานภูมิ ปัญญาไทย ของวิถีชีวิตชุมชนตาลโตนดและสามารถนําความรู้มาพัฒนาโดยการผลิตส่ือ สร้างสรรค์วิถีชีวิตโหนด นา เล ปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่มีความตระหนักต่อการอนุรักษ์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชนมากข้ึนและเผยแพร่ภูมิปัญญาของชาวบ้านในชุมชนเพ่ือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับ ชุมชนอื่น ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแบ่งกลุ่มศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตตาลโตนด ศึกษา วธิ กี ารข้นึ ตาลโตนด ศึกษาการแปรรปู อาหาร ศึกษาการประดิษฐ์ส่ิงของเคร่ืองใช้และการบรรยาย ใหค้ วามรจู้ ากผู้นาํ ชมุ ชน ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมได้นํากระบวนการจัดการความรู้ในขั้นตอนต่าง ๆ เข้า มามีส่วนร่วม เช่น การแสวงหาความรู้ การกลั่นกรองความรู้ การเข้าถึงความรู้ การแลกเปล่ียน ความรู้ เป็นต้น จึงได้นําเสนอการจัดการความรู้ โดยการศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนตาลโตนดเพ่ือ สืบสานภมู ิปัญญาไทยโดยบรู ณาการศาสตร์เทคโนโลยอี ย่างยง่ั ยืนข้นึ -3-

วธิ ีการดาํ เนินงาน : การศึกษาวิถีชีวิตชุมชนตาลโตนดเพื่อผลิตสื่อสร้างสรรค์สืบสานภูมิปัญญาไทย อย่างยั่งยืน มีการศึกษาข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูลทุติยภูมิ เกี่ยวกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญา วิถีชีวิต ชุมชนตาลโตนด ตําบลท่าหิน อําเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา โดยใช้กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process) มาประยุกต์ใช้ในการดําเนินงานซึ่งประกอบด้วย 7 ข้ันตอนและรว่ มกบั การดาํ เนินงานตามกระบวนการ PDCA ดงั นี้ ขนั้ ตอนที่ 1 การคน้ หาความรู้ (Knowledge Identification) ไดเ้ ชญิ ชวนผู้ท่ีเก่ียวข้องใน การจัดกิจกรรมในชุมชนท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซ่ึงที่ผ่านมาเข้าร่วมประชุมพร้อม ดว้ ยคณะกรรมการดาํ เนินงานเพ่อื สอบถามข้อมูลและทบทวนการทาํ งานของปีท่ีผ่านมาและนํามา วางแผนการดําเนินงานในครั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลและการรวบรวมองค์ความรู้ ประสบการณ์จากการดําเนินกิจกรรมกับชุมชนท่าหิน ซึ่งพบว่ายังมีข้อเสนอแนะท่ีจะส่งเสริมให้ คนรุ่นใหม่ มีความตระหนัก มีจิตสํานึกในการอนุรักษ์ สืบสาน วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนใน ชุมชนและมีความต้องการจะเผยแพร่ “วิถี โหนด นา เล” ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีการ บูรณาการศาสตร์ดา้ นเทคโนโลยสี อ่ื สารมวลชนเข้ามามสี ว่ นร่วมในการดาํ เนนิ งาน ข้ันตอนท่ี 2 การสร้างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) คณะกรรมการดาํ เนินงานได้รับความรู้เบื้องต้นจากบุคคลท่ีเกี่ยวข้อง รวบรวมจัดการข้อมูลที่มีอยู่ แลว้ เพอ่ื เปน็ แนวทางในการจดั กจิ กรรมเบื้องต้น แต่ยงั ตอ้ งแสวงหาความรู้เพ่ิมเติมซึ่งเป็นความรู้ที่ เก่ียวกับวิถีชีวิตชุมชนตาลโตนด การประกอบอาชีพของชาวบ้านในชุมชน สภาพแวดล้อมและ ความเป็นอยู่ โดยการลงสํารวจพื้นที่ สังเกตสภาพแวดล้อมในชุมชนท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา นอกจากน้ีผู้เข้าร่วมโครงการยังต้องศึกษาข้อมูล หาความรู้ท่ีเก่ียวกับการผลิตส่ือ โดยบูรณาการ เรียนการสอนในรายวิชาภาพยนตร์โฆษณา วิชาโครงงาน เป็นต้น ตลอดจนศึกษาวิธีการและ ช่องทางของการเผยแพร่สื่อประเภทต่าง ๆ เช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ วีดีทัศน์ ภาพยนตร์ส้ัน เปน็ ต้น ขั้นตอนท่ี 3 การจดั ความร้ใู ห้เปน็ ระบบ (Knowledge Organization) คณะกรรมการ ดําเนินงานร่วมประชุมพิจารณาแบ่งกลุ่มตามท่ีสนใจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเรียนรู้ทาง พฤกษศาสตร์ตาลโตนด โดยใช้ KM : tools เวทีสําหรับการแลกเปล่ียนเรียนรู้ (Knowledge Forum) กลุ่มเรียนรู้การแปรรูปอาหาร กลุ่มเรียนรู้การแปรรูปวัสดุเหลือใช้จากตาลโตนดเป็น สิ่งประดิษฐ์และของอื่น ๆ โดยใช้ KM : tools ด้วยวิธีการเรียนรู้โดยการปฏิบัติ (Action Learning) และแหล่งผู้รู้ในองค์กร (Center of Excellence-CoE) และกลุ่มเรียนรู้การผลิตสื่อ สร้างสรรค์ โดยใช้ KM : tools วิธีการทบทวนสรุปบทเรียน (After action review หรือ AAR) และฐานความรู้ (Knowledge Bases) และแต่งต้ังคําส่ังบุคลากรเพ่ือปฏิบัติหน้าท่ี ตามท่ีได้รับ มอบหมายแบ่งเป็นคณะกรรมการดําเนินงานฝ่ายต่าง ๆ เช่น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสรุปผล – -4-

ประเมินผลฝ่ายพัสดุ การเงินและบัญชี ฝ่ายประสานงาน เป็นต้น ทั้งน้ี ได้จัดทําเอกสาร ประกอบการเรียนรู้ซึ่งมีเน้ือหาที่เก่ียวข้องกับตาลโตนด และประวัติความเป็นมาเบ้ืองต้นของ ชุมชนท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไว้เป็นแนวทางในการศึกษาอีก ช่องทางหน่ึง ในส่วนของการจัดทําสื่อ วิถีชีวิตชุมชนตาลโตนดเพื่อสืบสานภูมิปัญญาไทยอย่าง ย่ังยืน ผู้รับผิดชอบต้องจําแนกข้อมูลออกเป็นประเด็นต่าง ๆ เช่น ประวัติความเป็นมาของชุมชน วิถชี วี ิตของคนในชมุ ชน เป็นต้น และนํามาวิเคราะห์รวบรวมข้อมูลเพ่ือนํามาสู่กระบวนการจัดทํา ส่อื ตอ่ ไป ขั้นตอนที่ 4 การประมวลและกลั่นกรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement) จากที่ได้แบ่งกลุ่มศึกษาเรียนรู้และผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิต ชมุ ชนตาลโตนด อ.สทิงพระ จ.สงขลา จากการลงพ้นื ท่แี ละวิทยากรซ่ึงเป็นผ้นู ําชมุ ชนและจากการ สังเกตการณ์สภาพแวดล้อมในชุมชน เป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแบ่งกลุ่มผู้เรียนตามความต้องการ เป็น 4 กลุ่ม (ข้ันตอนที่ 3) และแบ่งความรับการดําเนินงานโดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของ บุคลากรท่ีเก่ียวข้องตามฝ่ายต่าง ๆ ดังท่ีกล่าวมาข้างต้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละกลุ่มจะมีการ ประชุมกลุ่มย่อย เพื่อสอบถามแลกเปล่ียนข้อมูลของสมาชิก เพ่ือสรุปเป็นข้อมูลท่ีถูกต้อง ชัดเจน สามารถนาํ มาขยายความเพ่อื เป็นแนวทางในการสรุปข้อมูลและจัดทําส่ือสร้างสรรค์วิถีชีวิตชุมชน ตาลโตนดเพ่ือสืบสานภูมิปัญญาไทยอย่างผู้รับผิดชอบทําสื่อก็จะปฏิบัติหน้าท่ีตามที่ได้รับ มอบหมาย เมื่อสมาชิกในกลุ่มทํางานในหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็จะช่วยสมาชิกคนอ่ืน ๆ และ ร่วมแลกเปล่ียนข้อมูลกับกลุ่มต่าง ๆ โดยใช้ KM : tools เวทีเสวนา (Dialogue) และวิธีการ ทบทวนสรปุ บทเรียน (After action review) ขั้นตอนท่ี 5 การเข้าถึงความรู้ (Knowledge Access) จากการท่ีผู้เข้าร่วมกิจกรรม แบ่งกลุ่มกันศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนตาลโตนด ตามความสนใจของกลุ่มต่าง ๆ ซ่ึงได้รับความรู้ จากชาวบา้ น ผนู้ ําชุมชนโดยตรง และลงพื้นที่เพ่ือเข้าถึงความรู้ได้อย่างทั่วถึง สมาชิกแต่ละกลุ่มท่ี ผ่านการเรียนร้มู าแลว้ จะต้องนําเสนอความรู้ ความเข้าใจ เพ่อื ใหส้ มาชิกคนอ่ืน ๆ ได้ทราบและได้ รวบรวมข้อมูลวิถีชีวิตชุมชนตาลโตนด ในรูปแบบเล่มเอกสาร ท่ีน่าสนใจซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ องค์ความรใู้ หเ้ กิดประโยชนแ์ บบบรู ณาการไปใชอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ โดยที่ผู้รับไม่ต้องร้องขอหรือ ต้องการ ด้วยวิธีการนําเสนอองค์ความรู้ต่อกลุ่มผู้รับผิดชอบ เพื่อบูรณาการเทคโนโลยีพัฒนาต่อ ยอดเพ่ือสืบสานภูมิปัญญาชุมชน มีการนําเสนอองค์ความรู้ต่อที่ประชุมประจําเดือนของคณะ กรรมการบริหารคณะ เพื่อนํามาสู่การพัฒนาชีวิตของชาวบ้านในชุมชนโดยความร่วมกับหน่วย บรกิ ารวิชาการของคณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี -5-

ภาพที่ 1 การเข้ารว่ มกจิ กรรมแลกเปลยี่ นเรียนรูเ้ พอ่ื การเขา้ ถงึ องคค์ วามรู้ ทม่ี า : งานประชาสัมพนั ธ์ คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มทร.ศรีวชิ ยั ขนั้ ตอนที่ 6 การแบ่งปันแลกเปลยี่ นความรู้ (knowledge Sharing) เป็นข้ันตอนของการ ทบทวนผลของการปฏบิ ตั ิงานจากการเข้าร่วมกิจกรรมแต่ละกลุ่มเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ จะต้องนําเสนอความรู้ ความเข้าใจ เพ่ือให้ถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ โดยการจัดประชุมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เปิดโอกาสให้ถาม ตอบ และผ่านกระบวนการจัดทําเล่มเอกสารเผยแพร่ข้อมูลวิถีชีวิต ชุมชนตาลโตนด นอกจากน้ยี ังอาศัยใช้สื่อช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook,Line (กลุ่ม),YouTube และ http://inded.rmutsv.ac.th เป็นช่องทางช่วยให้เข้าถึงความรู้เพื่อสร้างความน่าสนใจของ คนในสงั คมปัจจุบันโดยเฉพาะกลมุ่ คนรุ่นใหม่ ภาพที่ 2 การเรียนรูข้ องนักศกึ ษาแบบบรู ณาการ วิถชี ุมชน โหนด นา เล ในพ้นื ท่ีลมุ่ นํา้ ทะเลสาบสงขลา ทม่ี า : ขา่ วสารมติชนออนไลน.์ สบื ค้นเมอ่ื วนั ที่ 12 ธันวาคม 2561, จาก www.matichon.co.th ขั้นตอนที่ 7 การเรียนรู้ (Learning) เม่ือเสร็จส้ินกิจกรรมการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ตาลโตนด ต.ทา่ หิน อ.สทงิ พระ จ.สงขลา คณะกรรมการดําเนินงานได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มี การแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มนักศึกษาตามกลุ่มที่สนใจกับนักศึกษาท่ีไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ในครั้งน้ี เพื่อให้เกิดการเรียนวิถีชีวิตของคนในชุมชนตาลโตนด และกลุ่มผู้รับผิดชอบส่ือ สร้างสรรค์สามารถนําข้อมูลไปผลิตสื่อวิถีชีวิตชุมชนตาลโตนดเพ่ือสืบสานภูมิปัญญาไทยอย่าง ย่ังยนื ได้อยา่ งมคี ณุ ภาพ และได้นาํ องคค์ วามรมู้ าบรู ณาการดําเนินงานเพื่อพัฒนาและสร้างคุณค่า ให้กับชุมชนมากขึ้น โดยการจัดโครงการบริการวิชาการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 – 5 ปี เช่น โครงการให้บริการทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนของชุมชน -6-

โครงการพฒั นาแม่พิมพ์สําหรับผลิตภณั ฑ์สบู่ตาลโหนด โครงการปรบั ปรุงพัฒนาชดุ เครื่องผลิตเส้น ใยตาลโตนด เป็นตน้ ผลและอภปิ รายผลการดําเนนิ งาน : จากการดําเนินงานศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนตาลโตนดเพ่ือสืบสานภูมิปัญญาไทยโดย บูรณาการศาสตร์เทคโนโลยี ภายใต้โครงการศึกษาวิถีชีวิตชุมชนตาลโตนด ต.ท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา คณะกรรมการดําเนินงานได้นํากระบวนการจัดการความรู้ร่วมกับการดําเนินงานตาม กระบวนการ PDCA มาปรับใช้ในการทํางาน โดยการประชุมวางแผน เตรียมการดําเนินงานและ ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น พร้อมลงพื้นท่ีเข้าร่วมโครงการผ่านกิจกรรมศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ตาลโตนด กิจกรรมรับฟังบรรยายจากผู้นําชุมชน มีการแบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวบรวม ความรู้ที่น่าสนใจ เพื่อนํามาบูรณาการกับการผลิตส่ือสร้างสรรค์ เรื่อง รุ่งสางถึงยามเย็น ตอนขึ้นโหนด และเรื่อง ชีวิตนี้เรามีเวลากันแค่ไหน วิถีตลาดโตนด ซึ่งได้นําเผยแพร่ผ่านช่องทาง ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ มีตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องเพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีน่าสนใจและคณะกรรมการ ดําเนินงานได้สํารวจความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมโครงการในประเด็นต่าง ๆ และบรรลุตาม วัตถุประสงค์ที่วางไว้ และคณะกรรมการดําเนินงานได้ตรวจสอบความถูกต้องและความน่าสนใจ ของสื่อก่อนนําไปเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ และการทํากิจกรรมครั้งน้ีทําให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับความรู้ ได้เห็นสภาพแวดล้อมวิถีการใช้ชีวิตชุมชนตาลโตนดมากขึ้น มีการประยุกต์ใช้ เคร่ืองมือการจัดการความรู้ ในการสืบสานภูมิปัญญาชุมชน ด้านองค์ความรู้วิถีชีวิตชุมชน ตาลโตนด เช่น เวทีสําหรับการแลกเปล่ียนเรียนรู้ (Knowledge Forum) แหล่งผู้รู้ในองค์กร (Center of Excellence-Coe) การทบทวนสรุปบทเรียน (After action review หรือ AAR) และการเรียนรจู้ ากการปฏิบตั ิท่ีเปน็ เลศิ เปน็ กรณศี กึ ษาทดี่ ใี นลุ่มนาํ้ ทะเลสาบสงขลา ภาพที่ 3 การจดั ทาํ สอื่ การเรียนรแู้ ละเผยแพร่ วิถชี มุ ชน โหนด นา เล ในพื้นท่ีลุ่มนาํ้ ทะเลสาบสงขลา ทมี่ า : ภาพยนตรส์ น้ั โหนด นา เล. สบื คน้ เมื่อวนั ที่ 12 ธนั วาคม 2561,จาก www.youtube.com. MC@RMUTSV. สรปุ : สืบสานภูมิปัญญาไทยโดยบูรณาการศาสตร์เทคโนโลยี ภายใต้โครงการศึกษาวิถีชีวิต ชุมชนตาลโตนด ต.ท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา ได้ดําเนินงานโดยใช้กระบวนการจัดการความรู้ -7-

(Knowledge Management Process) มาประยุกต์ใช้ในการดําเนินงานซ่ึงประกอบด้วย 7 ข้ันตอนและร่วมกับการดําเนินงานตามกระบวนการ PDCA การค้นหาความรู้ด้วยการวิเคราะห์ ข้อมูลและการรวบรวมองค์ความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้โดยการลงสํารวจพ้ืนที่ การจัด ความรู้ใหเ้ ปน็ ระบบ โดยใช้ เวทีสําหรับการแลกเปล่ียนเรียนรู้ (Knowledge Forum) การเรียนรู้ โดยการปฏิบัติ (Action Learning) เป็นต้น ผลการดําเนินกิจกรรมบรรลุตามวัตถุประสงค์ กล่าวคือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีองค์ความรู้ เกิดความตระหนักที่จะร่วมสืบสานภูมิปัญญาชุมชน วถิ ีชวี ิตชุมชนตาลโตนด มเี อกสารความรู้เกี่ยวกบั ชมุ ชนตาลโตนด จาํ นวน 1 เลม่ และมีผลงานสื่อ สรา้ งสรรค์ จํานวน 2 เร่ือง ได้แก่ เรอ่ื งรุ่งสางถึงยามเย็น ตอน ขน้ึ โหนด และเรื่องชีวิตนี้เรามีเวลา กันแค่ไหน วิถีตลาดโตนด ซ่ึงได้นํามาเผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ ท่ีน่าสนใจ และนําไปสู่การ ประยกุ ต์ใช้องค์ความรแู้ ละแนวทางปฏิบัตทิ ีเ่ ปน็ เลิศ เพ่อื สร้างความเขม้ แขง็ และสืบสานภูมิปัญญา ชมุ ชน ตามวถิ ชี ีวติ ชุมชนตาลโตนดในพ้นื ท่ีล่มุ น้ําทะเลสาบสงขลา บรรณานุกรม : จักรกฤษ แก้วประเสรฐิ .(2560).การพัฒนาสอ่ื ภาพยนตร์ชดุ “ชมุ ชนเขม้ แข็ง วถิ ที อ้ งถิน่ ”ชมุ ชนบ้านทา่ หิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา. ชมุ ชนตาลโตนด. สืบค้นเม่ือวันที่ 12 ธนั วาคม 2561, จาก http://www.mgronline.com ข่าวสารมตชิ นออนไลน.์ สบื คน้ เมอื่ วนั ที่ 12 ธนั วาคม2561,จากhttp://www.matichon.co.th ภาพยนตรส์ ั้นโหนดนาเล.สบื ค้นเมือ่ วนั ท่ี 12ธนั วาคม2561,จากhttp://www.youtube.com. MC@RMUTSV. -8-

การพฒั นาและการขยายผลเทคโนโลยีเตาประหยัดพลงั งานในชุมชน ลมุ น้าํ ทะเลสาบสงขลา The Development for Extension of Technology of Saving Energy Stove in the Communities of Songkhla Lake Basin สมบรู ณ ประสงคจ นั ทร1* พลชยั ขาวนวล2 นุชลี ทิพยมณฑา3 1*อาจารยห ลกั สตู รรายวทิ ยาศาสตร สาขาศกึ ษาทวั่ ไป มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลศรีวชิ ยั อีเมล : 1*[email protected] 2,3อาจารยหลักสตู รรายวิทยาศาสตร สาขาศึกษาท่ัวไป มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ิชยั บทสรปุ ปจจุบันชาวสวนยางพาราประสบปญหาตนทุนการผลิตสูง ราคายางตกตํ่า สงผลตอ รายไดและคุณภาพชีวิต การสงเสริมกิจกรรมลดรายจายเพ่ิมรายได โดยใชหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือแกปญหาการเปล่ียนสวนยางเปนสวนปาลมน้ํามันหรือสวนผลไม ตาม กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ซึ่งการลดลงของพ้ืนที่สวนยางสงผลตอการเปลี่ยนแปลง ของภมู ิอากาศ เน่ืองจากการเผาเศษชีวมวลเหลือทิง้ ในชมุ ชน จงึ จําเปน ตอ งมีการพัฒนาและขยาย ผลเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงาน เพื่อใหเกษตรกรเห็นความสําคัญและคุณคาของพลังงาน ทางเลือก และการแกปญหามลพิษส่ิงแวดลอมในพ้ืนที่ลุมน้ําทะเลสาบสงขลา (Songkhla Lake Basin: SLB) โดยใชเครื่องมือการจัดการความรู (KM tools) ซึ่งไดแก การระดมสมอง (Brainstorming) รวมกับชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice-CoP) มีการสกัดความรู การพัฒนาและขยายผลเทคโนโลยีเตาประหยดั พลังงาน โดยการเลาเรื่อง (Storytelling) แลวจึง จัดการความรูเพื่อนําไปปฏิบัติรวมกับพ่ีเล้ียง (Mentor) ซึ่งมีการทบทวนหลังการปฏิบัติ (After Action Review) โดยมีนักวิจัยมาสอนงาน (Coaching) ควบคูกับวิทยากรชุมชน (Center of Excellence-CoE) และเพอื่ นชว ยเพ่ือน (Peer Assist) จงึ ไดอ งคความรูท ีช่ ัดเจนท่ีสามารถพัฒนา รูปแบบเตาและจัดทําคูมือการปฏิบัติงาน (Work Manual) ใชเปนเอกสารในการแบงปนความรู (Sharing) เร่ือง การออกแบบและพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพ่ือชุมชน มีการจัดต้ังฐานเรียนรู ชุมชน และวิสาหกิจชมุ ชนหมูบา นพลังงานทางเลือก เพ่ือใหเกิดการเรียนรูในชุมชนอยางตอ เนอื่ ง และเกิดเปนเครือขายชมุ ชนนกั พัฒนาเทคโนโลยเี ตา เพ่ือขยายผลเทคโนโลยเี ตาแกชมุ ชนในพ้ืนท่ี SLB มีการใหคําปรึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรูโดยใช Social Network ของชุมชน SLB และขยาย เครือขายไปทั่วประเทศ ทําใหเกิดการใชเตาประหยัดพลังงานและการใชพลังงานทางเลือกใน ชมุ ชนทย่ี ่งั ยืน คาํ สําคัญ : การพฒั นา เทคโนโลยีเตาประหยัดพลงั งาน ลมุ น้าํ ทะเลสาบสงขลา

Summary At present, rubber planters suffer from high production costs, falling rubber prices, these affect income and quality of life. Activities to reduce expenses, increase income by using the philosophy of sufficiency economy are promoted to solve the problem of changing rubber plantations into oil palm plantations or fruit orchards according to the economic changes. Which the reduction of the rubber plantation area affects the climate change due to the burning of residual biomass waste in the community. To allow farmers to see the importance and value of alternative energy and solving environmental pollution problems in Songkhla Lake Basin: SLB, therefore the development and result expansion of energy-saving stove technology are needed. By using Knowledge Management Tools (KM tools), which are brainstorming (Brainstorming) together with the Community of Practice-CoP (Community of Practice-CoP), Knowledge extraction, development and expansion of energy-saving stove technology by telling the story (Storytelling), and then manage the knowledge to practice with the mentor (Mentor), which is reviewed after the action (After Action Review), with the teaching of researchers (Coaching) along with community lecturers (Center of Excellence-CoE ) and Peer Assist (Peer Assist). Once they have a clear knowledge that can develop the stove model and create a work manual (Work manual), which is used as a document to share knowledge (Sharing) about the design and development of the Energy-saving Stove for the community. In order to develop continuously learning in the community and form a community of stove technology developer, therefore a community learning base and the alternative-energy village community enterprise have been established. And to expand the stove technology to communities in the SLB area, by providing consultation, exchange of knowledge by using the social network of the SLB community and expanding the network throughout the country. Resulting in the use of energy-saving stoves and the use of alternative energy in sustainable communities. Keyword : Development Technology of Saving Energy Stove Songkhla Lake Basin บทนาํ ชีวมวล (Biomass) เมื่อผานกระบวนการหรอื กรรมวิธีแลว สามารถนํามาผลิตไฟฟาหรอื พลงั งานความรอ นได การนาํ ชวี มวลมาแปรรปู เปน พลังงาน จําเปนตอ งประยกุ ตใชเทคโนโลยีหรือ นวัตกรรม โดยเฉพาะการออกแบบและพัฒนาเตากาซชีวมวลประหยัดพลังงาน (Biomass of Saving Energy Stove) เปนกระบวนการผลิตพลังงานความรอนโดยใชเทคโนโลยีกาซซิฟเคชัน

(Gasification Technology) เมอื่ เผาเช้ือเพลิงชีวมวลจะเกิดกาซคารบอนมอนอกไซด (CO) 17- 22 % กาซไนโตรเจน (N2) 12-20 % กาซไฮโดรเจน (H2) 12-20 % กาซคารบอนไดออกไซด (CO2) 9-15 % และกาซมีเทน (CH4) 2-3 % ดังน้ัน การพัฒนาและการขยายผลเทคโนโลยีเตา ประหยัดพลังงานในชุมชน SLB เปนการประยุกตใชว ัสดุเหลือทิ้งจากสวนยางประเภทเศษไมและ กิ่งไมยางพารา มาใชทดสอบการผลิตพลังงานดว ยเตากาซชีวมวลประหยัดพลังงาน โดยเร่ิมจาก การใชวัสดุโลหะเหลือใชในชุมชนมาทําชุดประกอบเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงาน ดําเนินการ ภายใตแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ รัชกาลท่ี 9 ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ทําใหเกิดชุมชนท่ีสามารถพึ่งพาตนเอง และนําไปสูการสรางรายไดเสริมแก ครอบครัว มกี ารรวมกลุมของชุมชนในการผลิตเตาประหยัดพลังงาน กอใหเกิดการเรียนรูและมี การแบงปน เกิดการลดรายจาย เพิ่มรายได และลดการใชพลังงานหลัก และแกปญหาสาเหตุท่ี กอใหเกิดมลพิษสิ่งแวดลอมจากการเผาวัสดุเหลือทิ้งโดยเฉพาะเศษไม ก่ิงไมยางพารา ซ่ึงการ ดําเนินการดังกลาวก็เพ่ือมุงแกปญหาเร่ือง เทคโนโลยี อุปกรณ และการลดมลพิษ จึงหาแนวทาง ที่จะทําใหเทคโนโลยีน้มี ีความนยิ มแพรหลาย จึงไดพัฒนาเตาพลังงานชวี มวลชนิด (Top Lip Up Draft : TLUD) โดยคํานึงถึงสิ่งสําคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี คือ เปนเทคโนโลยีท่ีใชตนทุนต่ํา คํานงึ ถึงผลประโยชนเชงิ สงั คมและเศรษฐกิจ และสรางสมดุลดา นส่งิ แวดลอม พ้ืนท่ี “ลุมน้ําทะเลสาบสงขลา” (Songkhla Lake Basin : SLB) เปนทะเลแบบลากูน (Lagoon) หน่ึงเดียวของประเทศไทย ครอบคลุมพ้ืนดินและพ้ืนนํ้ารวม 3 จังหวัด คือ จังหวัด นครศรธี รรมราช พัทลุง และสงขลา มีพ้นื ที่ 8,599.61 ตารางกโิ ลเมตร แบง เปนพื้นดิน 7,559.40 ตารางกิโลเมตร และพื้นน้ําทะเลสาบสงขลา 1,040.21 ตารางกิโลเมตร มีความกวางจากทิศ ตะวันตกไปทิศตะวันออกประมาณ 67 กิโลเมตร สวนความยาวจากทิศเหนือไปทิศใตประมาณ 163 กิโลเมตร (สถาบันวจิ ยั สารสนเทศภูมิศาสตรมหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร, 2553) ทะเลสาบ สงขลามีลักษณะเฉพาะที่มีระบบนิเวศ 3 นํา้ คือ น้ําจดื นาํ้ กรอย และนํ้าเคม็ จากลักษณะพิเศษ เชนนี้ จึงทาํ ให SLB อุดมสมบรู ณไ ปดว ยทรพั ยากรสตั วนาํ้ และมีความหลากทางชวี ภาพสงู ปจจุบันลุมทะเลสาบสงขลากําลังประสบปญหาความเสื่อมโทรม ความรอยหรอของ ทรพั ยากรธรรมชาติ และวิกฤตการณด า นส่ิงแวดลอม ซ่งึ ประกอบดวยปญหาหลัก 17 ปญ หา จึง จําเปนตองหาแนวทางการแกปญหาท่ีสําคัญคือ การจัดการความรูแบบบูรณาการในการการ บริหารจัดการลุมนํ้าทะเลสาบสงขลา โดยการปลูกจิตสํานึกจากกิจกรรมการเรียนรูในการ แกปญหาแบบมีสวนรว ม โดยสรางกระบวนการลดรายจาย เพ่ิมรายไดจากการประยุกตใชหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อใหสอดคลองกับการเปลี่ยนแปลงพ้ืนที่สวนยางพาราเปน เกษตรอินทรียและสวนปาลมนํ้ามัน สวนยางพาราจึงเปนแหลงเช้ือเพลิงชีวมวลหลักในชุมชน บรเิ วณพื้นท่ี SLB ซ่ึงพื้นทกี่ ารปลูกยางพารามแี นวโนมลดลงทุกป จึงเปนแหลง ชีวมวลท่ีสําคัญใน พื้นที่ SLB (ภาพที่ 1) จากฐานเรียนรูเพื่อการพัฒนาและขยายผลเทคโนโลยีเตากาซชีวมวล ประหยัดพลังงานจากชุมชนหน่งึ ไปสูชุมชนอื่น ๆ รอบพ้ืนที่ SLB ทําใหเกิดฐานเรยี นรูชมุ ชน และ วิสาหกิจชุมชนหมูบานพลังงานทางเลือก (สมบูรณ ประสงคจันทร และคณะ, 2561) การใช พลงั งานชีวมวลเปนเช้ือเพลิงในพืน้ ท่ี SLB ของเกษตรกรในบางชุมชนยังขาดความเขาใจ เกย่ี วกับ การใชพลังงานชีวมวลในประเด็น เชน แหลงพลังงานชีวมวล กระบวนการเผาไหมชีวมวล

หลักการทํางานของเตา การประกอบเตาชีวมวลและการประยุกตใชในชุมชน ซึ่งเปนไปตาม วัตถุประสงคของการวิจัย คือ 1) เพื่อออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงานชนิด TLUD ทบี่ รู ณาการการใชป ระโยชนใ นชมุ ชนลุมนํา้ ทะเลสาบสงขลา 2) เพือ่ การผลติ และถายทอด เทคโนโลยเี ตาประหยดั พลังงานชนิด TLUD สูการสรางเครอื ขา ยการเรยี นรูในชุมชน ภาพท่ี 1 พื้นท่ปี ลกู ยางพาราบรเิ วณพ้นื ทล่ี ุมนา้ํ ทะเลสาบสงขลา จําแนกตามอายขุ องสวนยาง ทม่ี า : http://slb-gis.envi.psu.ac.th/pararubber/ สืบคนเมือ่ วันท่ี 26 มกราคม 2561 ดังนั้น คณะผวู ิจัย จงึ สรางรปู แบบการถายทอดเทคโนโลยีเตาประหยดั พลังงานเพ่ือสราง เครือขายการเรยี นรูในชุมชน โดยนาํ กระบวนการจัดการความรมู าเปน เครือ่ งมือในการสกดั ความรู จากตัวแทนเกษตรกรท่ีมีความสามารถในการผลิตและถายทอดเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงาน ซึ่งมปี ระสบการณและประสบความสําเร็จในการสราง “ฐานเรียนรชู ุมชน” และจัดทํา “วิสาหกจิ ชุมชนหมูบานพลังงานทางเลือก” เพ่ือถอดบทเรียนความสําเร็จ และนํามาเรียบเรียงเปนคูมือ จัดการความรู “เตาประหยดั พลังงาน” เพื่อขยายผลการผลติ และถายทอดเทคโนโลยเี ตาประหยัด พลังงาน เพ่ือสรางความเขม แขง็ แกชุมชนและการสรา งเครือขา ยการเรียนรูในชมุ ชนอยา งย่งั ยืน วธิ กี ารดาํ เนนิ งาน การพัฒนาและการขยายผลเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงานในชุมชนลุมนํ้าทะเลสาบ สงขลา เปนวัตถุประสงคหลักของการวิจัย “เพ่ือขับเคล่ือนชุมชนในการผลิตและขยายผล เทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงานและการสรางเครือขายการเรียนรูสูชุมชนแบบมีสวนรวม ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซ่ึงไดรับการสนับสนุนทุนวิจัยจากงบประมาณ เงินรายได ประจําป 2560 เปนลักษณะงานวิจัยเชิงปริมาณและปฏิบัติการแบบมีสวนรวม (Participatory Action Research : PAR) และคณะผวู ิจยั ไดม ีวิธีการดาํ เนนิ การวิจัยตามรูปแบบของกระบวนการ จดั การความรู (KM Process) และประยกุ ตใ ชเคร่ืองมอื การจดั การความรู (KM tools) ดงั น้ี ขั้นที่ 1 กําหนดความรู (Identify) มีการลงพ้ืนที่เก็บขอมูลเพื่อดําเนินการวิจัยบริเวณชุมชนลุมน้ําทะเลสาบสงขลา (SLB) ทําใหทราบวากลุมเกษตรกรและตัวแทนชมุ ชนในพ้ืนท่ี SLB มีกลุมเกษตรกรและตัวแทนชุมชนมี การใชประโยชนจากเช้ือเพลิงชีวมวลเปนพลังงานทางเลือกในการปรุงอาหารในครัวเรือน การ แปรรปู สมุนไพร การน่ึงหนอไม การทอดอาหาร การนึ่งกอนเห็ด การผลิตขนมเปยะ และการใช

ในการผลิตไบโอดีเซล เปนตน โดยใชเทคโนโลยีการผลิตพลังงานความรอนจากเช้ือเพลิงชีวมวล แบบดั้งเดิม และปญหาการเผาวัสดุเหลือทิ้ง ทําใหเกิดปญหามลพิษส่ิงแวดลอมและสงผลตอ สขุ ภาพ ซงึ่ ดาํ เนินการวจิ ัย “การพฒั นาและการขยายผลเทคโนโลยเี ตาประหยัดพลงั งานในชุมชน SLB” ซึ่งดําเนินการมาต้ังแตป 2559 กอเกิดองคความรูเตาประหยัดพลังงาน แตองคความรู ดังกลาวนี้ไมไดนําไปเผยแพรสูเกษตรกรและชุมชน SLB จึงไดดําเนินการจัดการความรูรวมกัน ระหวางนักวิจัย ผูนํากลุมเกษตรกร ชางชุมชน และผูบริหารทองถ่ินในชุมชน โดยเฉพาะกลุม เกษตรพลังงานสรา งสรรคชุมชนทุงลาน จ.สงขลา โดยวธิ ีการเสวนากลุม ยอ ย มกี ารศึกษาประเด็น การใชประโยชนพลังงานจากเช้ือเพลิงชีวมวล การนําเศษไม กิ่งไมไ ปใช กระบวนการพัฒนาและ การขยายผลเตาแบบมีสวนรวม การประยุกตใชเตาในกิจกรรมตาง ๆ ปญหาและอุปสรรคของ กลมุ เกษตรกรทใ่ี ชเตา โดยการระดมสมองเพอื่ แลกเปล่ยี นความรู และรวมหาแกปญ หาในชุมชน KM tools ที่ใช คือ การระดมสมอง (Brainstorming) เพ่ือแลกเปลี่ยนความรูและ ประสบการณ โดยการเสวนาพูดคุยกับกลุมเกษตรกรหรือตัวแทนชุมชนที่ผลิตและใชประโยชน เตาประหยดั พลังงานในชมุ ชน ซึง่ เปน ชุมชนนักปฏบิ ตั ิ (Community of Practice-CoP) และการ มีนักวจิ ัยเปน ท่ีปรึกษา (Mentor) คอยใหค ําปรึกษาในการหาแนวทางแกไขปญ หาอยา งเปน ระบบ ผลทไ่ี ดร บั คอื ทราบวธิ กี ารออกแบบ การพฒั นาและผลิตเตาประหยดั พลังงาน เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการใชงานของกลุมเกษตรพลังงานสรางสรรคชุมชนทุงลาน และวิสาหกิจชุมชน หมูบา นพลังงานทางเลือกบานปาพงศ ที่รวมกลุมกนั ผลิตเตา ซง่ึ พบประเดน็ ทนี่ าสนใจ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก เกษตรกรที่สมาชิกกลุมมีความรู ความสามารถในการพัฒนาและผลิตเตา และ การผลิตเตาที่มีคุณภาพดี แตอัตราการผลิตไมเพียงพอตอความตองการของชุมชน จึงตองการ สรางเครอื ขา ยเกษตรกรหรือผูสนใจผลิตเตาเพ่ิมขึ้น เพอ่ื ฐานเรียนรูการผลิตเตา และการผลิตเพ่ือ ขายทั้งใน SLB และทั่วประเทศ ประเด็นท่ีสอง เกษตรกรท่ีสนใจในการนําเตาไปใชในครัวเรือน และแปรรูปผลผลิต ยังขาดความรูความเขาใจเก่ียวกับวิธีการใช การบํารุงรักษา และการใชเตาที่ ปลอดภัย ดังนั้น นักวิจัย และนักวิจัยชุมชน จึงรวมกันวางแผนดําเนินการจัดการความรู และการ สรา งฐานเรยี นรูชมุ ชน เพอ่ื สรางนวตั กรรมที่มีประโยชนตอเศรษฐกิจ สังคม และสิง่ แวดลอ ม ขน้ั ที่ 2 สรา งและแสวงหาความรู (Create and Acquire) นักวิจัยและนักศึกษา ซ่ึงเปนผูชวยวิจัยไดดาํ เนินการสัมภาษณชางปฏิบัติการชุมชนและ เกษตรกรแบบเจาะลึก เพื่อคนหาความรูดานเทคนิคทางชาง และเกษตรกรที่ประสบความสําเร็จ ในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยจดบันทึกขอมูลจากการเลาเร่ือง แลวจัดอบรมเสวนา ชางปฏิบัติการชมุ ชนและเกษตรกร รวมกับนักวิจัย ผูชวยวจิ ัย (นักศึกษา) และนักวิจัยชุมชน เปน การทบทวนความรูท่ีเก็บจากการสัมภาษณ และการบริการวิชาการเพ่ือการถายทอดเทคโนโลยี เปนการเรียนรูระหวางการทํางาน (After Action Review : AAR) ทาํ ใหชางชุมชนและเกษตรกร ไดมโี อกาสทบทวนความรู และเรียนรอู งคค วามรูใหม แลวจดบันทกึ ความรไู วเพ่อื เผยแพรต อไป KM tools ที่ใช คือชุมชนนกั ปฏิบัติ (Community of Practice-CoP) ทน่ี ักวิจัยไดสกัด ความรูการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีเตาชีวมวลประหยัดพลังงาน โดยการเลาเรื่อง (Storytelling) แลว จดั อบรมเสวนาเชิงปฏิบัติการเพ่อื ทบทวนการปฏิบตั ิ (AAR) ซ่งึ ไดเ รยี นรคู วาม คดิ เห็น (Learning Reviews) กบั ชางชมุ ชน เกษตรกร พระนักพฒั นาพลงั งานทดแทนชมุ ชน และ

นักศึกษา กับนักวิจัย ที่ทําหนาท่ีเปนท่ีปรึกษา (Mentor) ชวยใหคําแนะนําเก่ียวกับเทคนิคการ พฒั นาเทคโนโลยเี ตา วิธีการใชแ ปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร และการลดตนทนุ การครวั เรอื น ผลท่ีไดรับ คือ สรางองคความรูแกเกษตรกรในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การ ประยุกตใชเตาในครัวเรือน และการนําไปใชในงานบุญเพ่ือสืบทางดานประเพณีและวัฒนธรรม นอกจากนี้ไดแนวทางในการการพฒั นานักวิจยั ชมุ ชน และชางชมุ ชน ในพืน้ ที่ SLB เกดิ องคค วามรู แบบบูรณาการระหวา งเกษตรกรกับชา งชมุ ชน และเกดิ นวัตกรรมจากนักวจิ ยั และชางชุมชน ข้นั ที่ 3 รวบรวมและจดั เก็บความรู (Collect/Organize) นักวิจัยไดรวบรวมองคค วามรูเกี่ยวกับการพัฒนาและการถายทอดเทคโนโลยีเตาชวี มวล ประหยัดพลงั งานระดับครัวเรอื น และระดบั อุตสาหกรรมครวั เรือน มีการวางแผนการจัดต้ังแหลง เรยี นรชู ุมชนรว มกับชา งชุมชนและเกษตรกร กลุม เกษตรพลงั งานสรางสรรคช ุมชนทุงลาน จังหวดั สงขลา ซึ่งมีความรูและประสบความสําเร็จในการออกแบบและพัฒนาเตาเพื่อชุมชน โดยการจัด ประชมุ แลกเปลีย่ นความรูใน SLB ท้งั ในพืน้ ท่ีจังหวัดสงขลา พัทลงุ และนครศรีธรรมราช KM tools ที่ใช คือ การเรียนรูระหวางการปฏิบัติงาน (AAR) เพ่ือทบทวนการปฏิบัติ ตามขัน้ ตอนการพัฒนาและผลิตเตาเพ่ือชุมชน โดยนักวิจัยลงพืน้ ที่อยางสมา่ํ เสมอ ซงึ่ เปน การชวย สอนงาน (Coaching) เพิ่มเติมความรูตามหลักเทคโนโลยีเตาแกชางชุมชนและเกษตรกร โดยมี การสรางเครอื ขายชางชุมชนและเกษตรกรที่มีประสบการณมาเลาเร่ือง การพัฒนา การผลิตเตา และการใชประโยชนเตาในชุมชน ในรูปแบบเพื่อนชวยเพื่อน (Peer Assist) ทําใหเกษตรกรและ ชางชุมชนในพืน้ ทไ่ี ดร ับความรูใ หม มีความม่นั ใจในการพัฒนาและผลติ เตาเพอ่ื ชมุ ชนท่ยี ัง่ ยืน ผลท่ีไดรับ คือ ความรูในการออกแบบและพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพื่อชุมชนท่ีมี มาตรฐานขึ้น พรอมนําไปเรียบเรียงเปนคูมือในการพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพ่ือชุมชน ซึ่ง สามารถนําไปเผยแพรเ พ่อื ทาํ ใหเ กดิ การแบง ปน ความรูแกช า งชุมชนและเกษตรกรรนุ ตอไป ขนั้ ที่ 4 การเขา ถึงความรู (Access) กระบวนการเขาถึงความรูที่อยูในตัวบุคคลท่ีเก่ียวของ ไดแก ชางชุมชนและเกษตรกรที่ ประสบความสําเร็จในการออกแบบและพัฒนาเตาเพ่ือชุมชน และการใชประโยชนเตาในชุมชน นักวิจยั และนักศกึ ษา โดยการรว มเสวนาแลกเปลย่ี นความรู มีการพบปะปรกึ ษาปญหาตาง ๆ ใน ระหวางการออกแบบและพัฒนาเตาเพื่อชุมชนแบบส้ินสุดในจุดเดียว (One Stop Service) เพื่อใหเ ขา ถงึ ความรอู ยา งแทจ ริงจากการปฏบิ ัติ KM tools ท่ีใช คือ แหลงผูรูโดยวิทยากรชุมชน (CoE) การเขาถึงขอมูล ดวยวิธีการ สอบถามขอมูลจากผูรหู รือวิทยากรชุมชน นักวิจัย และการสรางเครือขายเรียนรูโดยใชบุคลากร ชมุ ชน ท่ีเคยเขามาเรียนรโู ดยผานการเสวนาเชิงปฏิบัตกิ ารในการสรางนักวจิ ัยชุมชนนาํ รอ ง SLB ผลท่ีไดรับ คือ ชางปฏิบัติการชุมชนและเกษตรกรมีความเขาใจในการออกแบบและ พัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพ่ือชุมชน และการใชประโยชนเตาในชุมชน เกิดมคี วามสัมพันธท่ีดี ระหวา งวทิ ยากรชุมชน นักวจิ ยั และบคุ ลากรทรี่ ว มสรางเครือขา ยการเรียนรใู นชุมชน ขน้ั ที่ 5 การแสดงนทิ รรศการและแบงปนแลกเปลี่ยนความรู (Show and Share) นักวิจัยไดจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการใหความรูเกี่ยวกับการพัฒนาและการผลิตเตาเพื่อ ชุมชน และการใชเตาในชุมชน มีการวางแผนการออกแบบและพัฒนาเตาเพ่ือชุมชน และการ

ประยกุ ตใ ชเตา รวมกับวิทยากรชุมชนและเกษตรกรในพื้นท่ีตาง ๆ บริเวณ SLB ที่สนใจจะเรียนรู การพัฒนาและการผลิตเตาเพื่อชุมชน ซ่ึงเปนชุมชนเปาหมาย โดยนําวิทยากรชุมชนไปสราง เครือขายการเรียนรูในการผลิตเตาประหยัดพลงั งานโดยชุมชนเพ่ือขยายเครือขายการผลิตเตาท่ี ไดม าตรฐาน ซ่งึ เปนท้งั วทิ ยากรชมุ ชน และเกษตรกรที่มกี ารแปรรูปผลผลิต โดยการถา ยทอดองค ความรูและการประสบความสําเร็จในการพฒั นาและผลติ เตาเพื่อชมุ ชนในบรรยากาศท่เี ปนกันเอง พรอมทัง้ มอบเอกสารคมู ือการพฒั นาและผลติ เตาเพ่ือเผยแพรแ กช ุมชนตา ง ๆ เพอ่ื ศกึ ษาและการ ฝกปฏิบัติการผลิตเตาตอไป นอกจากนี้มีการแบงปนแลกเปลี่ยนความรูผานสังคมออนไลน (Social Network) และมีการจดั นิทรรศการโชวผลติ ภณั ฑเ ตาและแลกเปล่ียนความรูกบั ชุมชน KM tools ที่ใช คือ การเลา เร่ือง (Storytelling) จากประสบการณการพัฒนาและผลิต เตาประหยัดพลงั งานเพ่ือชมุ ชน และคมู ือการพฒั นาเตาและการถา ยเทคโนโลยกี ารใชเ ตาในชุมชน (Work Manual) เพื่อใหผูนําเครือขายการเรียนรูในชุมชนและเกษตรกรรุนใหมสามารถปฏิบัติ ตามข้ันตอนในการพัฒนาและผลิตเตาไดง า ย โดยมีชางปฏิบัติการชุมชนและกลุมเกษตรพลังงาน สรางสรรคช มุ ชนทุง ลาน จังหวดั สงขลา และวสิ าหกจิ ชุมชนหมูบา นพลังงานทางเลือกบา นปาพงศ จังหวัดพัทลุง ทาํ หนา ทีเ่ ปนพ่ีเล้ยี ง (Mentor) ซ่ึงไดมีการแลกเปล่ียนหมายเลขโทรศัพท ไอดีไลน (Social Network) และมีการแลกเปล่ียนความรผู า น Facebook ช่ือเพจ : “เตาพอเพียง” เพจ : เตาแกสชีวมวล 900 บาท เตาประหยัดพลังงาน” และเพจ : “เตาชีวมวล ใชฟนใชถาน 900 ฿ ถูก ทน คุณภาพ” นอกจากน้ีมีการสรางเครือขายการเรียนรูผานโทรทัศนดิจิทัล และผานทาง YouTube โดยการเสนอขาวเท่ียง NBT HD2 รายงาน พลังงานทางเลือก \"เตาแกสชีวมวล\" วันท่ี 13 กุมภาพันธ 2560 (EnT Digest, 2561) ใชเปนชองทางในการติดตอสื่อสารและการสราง เครอื ขายการเรียนรูในระดบั ชมุ ชนและระดบั ประเทศตอ ไป ผลท่ีไดรับ คือ มีการส่ือสารขยายผลเพื่อการพัฒนาและถายทอดองคความรูเรื่อง การ ออกแบบและพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพ่ือชุมชน และการประยุกตใชในชุมชน ท้ังทีเ่ ปนการ สื่อสารในชุมชนดวยวาจา การสรางเครือขายการอบรบเชิงปฏิบัติการในชุมชนลุมน้ําทะเลสาบ สงขลา การส่อื สารดว ยลายลักษณอ ักษรจากคูมือปฏิบัติการการออกแบบและพัฒนาเตาประหยัด พลังงานเพื่อชุมชน ซ่ึงมีการสรางความสัมพันธรวมกลุมกันเปนเครือขายชางชุมชนและเกษตรกร ในพื้นท่ี SLB และเกดิ การเรียนรผู านสงั คมออนไลน (Social Network) ขั้นท่ี 6 การนาํ ความรูไ ปใช (Apply) เมอื่ เครือขายชา งปฏิบัตกิ ารชมุ ชนและเกษตรกรในพน้ื ที่ SLB สรางกระบวนการเรยี นรูใน พ้ืนท่ีชุมชนอ่ืน ๆ โดยการสรางฐานเรียนรูใหมไดถายทอดเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงาน ใช รูปแบบการจัดการเรียนรูแบบลงมือปฏิบัติการออกแบบและพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพ่ือ ชุมชน และการประยุกตใชในชุมชน โดยมีมีชางปฏิบัติการชุมชนและกลุมเกษตรพลังงาน สรา งสรรคชมุ ชนทงุ ลาน อําเภอคลองหอยโขง จังหวดั สงขลา และวสิ าหกิจชุมชนหมูบานพลังงาน ทางเลือกบานปาพงศ อําเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง ทําหนาที่เปนพ่ีเลี้ยง ควบคูกับการใชคูมือ การออกแบบและพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพ่ือชุมชนและการประยุกตใชในชุมชน เปน แนวทางการปฏิบัติดวย และมีการประชุมทบทวนหลังการปฏิบัติ (After Action Review) เพ่ือ นําไปสูการปรับปรงุ รายละเอยี ดของเน้ือหาความรสู าํ หรบั การเผยแพรต อไป

KM tools ที่ใช คือ ชางปฏิบัติการชุมชนและเกษตรกรเปนพี่เลี้ยง (Mentor) คอยให คําปรึกษาอยางตอเนื่อง เสร็จแลวมีการประชุมทบทวนหลังการปฏิบัติ (After Action Review) รวมท้ังมีนกั วิจยั เปน ผูสอนงาน (Coaching) เพิ่มเติมความรูทางวิชาการแกช มุ ชนหรอื เกษตรกร ผลที่ไดรับ คือ คูมือปฏบิ ัติการออกแบบและพัฒนาเตาประหยัดพลังงานเพื่อชุมชน และ การประยุกตใชในชุมชน เปนเนื้อหาท่ีผานการปรับปรุงอยางถูกตอง เปนคูมือท่ีใชเปนแนวทาง ปฏิบัติที่ใชแกเครือขายชางชุมชนหรอื เกษตรกรรุนใหม โดยใชหลักการการจัดการความรู (KM) สกัดความรูแ ละพฒั นาเนื้อหาท่ีมมี าตรฐานและนาเชอ่ื ถอื สามารถปฏิบัติตามไดจรงิ จากวิธีดําเนินการดังกลาว สามารถสรุปแนวคิดตามกรอบกระบวนการจัดการความรู (KM Process) และเครอ่ื งมอื การจัดการความรู (KM tools) ดงั ตอ ไปนี้ KM Process KM Tools วิธกี ารดําเนนิ งาน ขน้ั ท่ี 1 กาํ หนด - Brainstorming 1. ประชมุ นกั วจิ ัย นกั วิจยั ชุมชน ชางชุมชน และผูนํา ความรู (Identify) - Mentor เกษตรกร โดยการระดมสมอง และวางแผนรว มกนั ขั้นท่ี 2 สรา งและ - CoP 1. สมั ภาษณเชิงลกึ เกษตรกร และชา งปฏิบัติการชุมชน แสวงหาความรู - Storytelling เกย่ี วกบั การออกแบบและพัฒนาเตาประหยดั พลังงาน (Create/Acquire) - After Action Review เพื่อชมุ ชน และการประยกุ ตใ ชในชุมชน - Mentor 2. จดบนั ทกึ ขอมลู จากการเลา เรอื่ ง 3. ประชมุ ทบทวนความรูท ่เี ก็บขอ มลู ไดและวเิ คราะห ขน้ั ท่ี 3 รวบรวมและ - After Action Review จัดเกบ็ ความรู - Coaching 1. ประชุมแลกเปลย่ี นความรู และดาํ เนนิ การรว มกัน (Collect/Organize) - Peer Assist 2. นักวจิ ยั มกี ารแนะนําและสรางกระบวนปฏบิ ตั ิงาน 3. มีการพบปะกนั ระหวา งเกษตรกรและชา งในพ้นื ที่ ขั้นที่ 4 เขา ถึงความรู - Center of Excellence (Access) (CoE) 1. การเขาถึงความรใู นองคก รชุมชน ไดแก เกษตรกรท่ี ประสบความสําเรจ็ ในการรว มปฏบิ ัติการออกแบบและ ข้ันท่ี 5 นิทรรศการ - Storytelling พฒั นาเตาประหยัดพลงั งานเพ่อื ชุมชน นกั วิจัย และ เพอื่ การแบง ปน และ - Work Manual เจา หนา ท่ีกองชางเทศบาลตําบลทงุ ลาน จงั หวัดสงขลา แลกเปลย่ี นความรู - Mentor (Show and Share) - Social Network 1. ถายทอดความรใู นลักษณะเลา เร่อื งและความสาํ เรจ็ 2. แจกคมู ือการออกแบบและพัฒนาเตาประหยดั ขน้ั ที่ 6 การนําความรู - Mentor พลงั งานเพ่ือชมุ ชน 3. มชี างชุมชนจากกองชา งเปน พ่เี ลย้ี ง มกี ารทบทวน ไปใช (Apply) - After Action Review ออกแบบและพัฒนาเตาประหยดั พลังงานเพอื่ ชุมชน 4. ใช Line และ Facebook เปน ชอ งทางการสอื่ สาร - Coaching สรา งเครอื ขา ยการเรยี นรูในระดบั ชุมชนและประเทศ 5. จัดนิทรรศการและแลกเปล่ียนความรรู ว มกบั ชุมชน 1. กลมุ เกษตรพลังงานสรา งสรรคช มุ ชนทุง ลาน และ วิสาหกจิ ชมุ ชนหมูบานพลงั งานทางเลือกบา นปา พงศ เปน พีเ่ ลยี้ ง 2. จัดการประชุมทบทวนหลังการปฏิบัติ 3. นกั วจิ ัยกลุมเกษตรพลงั งานสรางสรรคชุมชนทงุ ลาน และกลมุ วิสาหกจิ ชุมชนหมบู านพลังงานทางเลือกบาน ปาพงศเปนผูสอนงาน

ผลและอภิปรายผลการดาํ เนนิ งาน การใชกระบวนการจัดการความรูเปนเคร่ืองมือในการสื่อสารขยายผลนวัตกรรมการ พฒั นาเตาประหยัดพลังงานเพื่อชมุ ชน แกเ กษตรกรหรือชางปฏิบัติการชุมชนรนุ ใหมในพืน้ ที่ SLB ซ่ึงการพัฒนาเตาประหยดั พลังงาน มีการยดึ หลักการจัดการความรูในเบื้องตนคอื การคนหาองค ความรูเชิงปฏิบัติการโดยใชหลักการ “งา ย ใชไดจ ริง ใครใครก็ทําได สรางเครือขายการเรียนรูสู ชุมชน” การนําองคความรูไปสรางเครือขายโดยใชหลักการ “งาย ใชไดจริง ใครใครก็เขาถึงได สรางเครือขายการเรียนรสู ูชุมชน” และเม่ือเขาใจองคความรูจึงนําไปสูการพัฒนาเพ่ือสรา งรายได โดยยึดหลัก “งาย ขายไดจริง ใครใครก็ซื้อได สรางเครือขายเรียนรูหลายชุมชน” (ภาพท่ี2) กอใหเกิดศักยภาพของชางชุมชนหรือเกษตรกรที่จะทําหนาท่ีเปนวิทยากร และเปนเกษตรกร ตนแบบในการถายทอดองคความรูเร่ือง นวัตกรรมเตาประหยัดพลังงานเพ่ือชุมชนได และ สามารถสรางเครือขายชุมชนในการถายทอดเทคโนโลยีเตาประหยดั พลังงานไดมากขึ้น เกิดการ รวมกลมุ กนั เปน เครือขายการเรยี นรเู ตาประหยัดพลังงานในพ้ืนทล่ี ุมนํ้า SLB ซง่ึ เกษตรกรตนแบบ หรือชา งชุมชนมีการวางแผนการผลิตรว มกนั และดแู ลชวยเหลือกันตอไป แมวาเกษตรกรหรอื ชา งชมุ ชนรุนใหมจะมกี ารพัฒนาเตาประหยัดพลังงานตามคําปรึกษา ของวทิ ยากรชุมชนที่เปนพี่เล้ียง และคูมือการพัฒนาเตาประหยัดพลังงาน แตเกษตรกรหรือชาง ชุมชนบางรายก็ยังขาดทักษะการผลิตเตาท่ีมีประสิทธิภาพ จึงเกิดปญหาการผลิตเตา เชน สมรรถนะเชิงความรอนของเตาตํ่า กําลังไฟของเตาตํ่า และอัตราการเผาไหม เปนตน ดงั น้ัน จึง ตอ งมกี ารสอนงานโดยนกั วิจยั และวิทยากรชุมชน (นกั วิจยั ชมุ ชน) เพมิ่ เตมิ ในเรอ่ื งการผลิตเตาท่ีมี มาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูง เพ่ือการพัฒนาทีย่ ่ังยืน การจัดการความรตู องมีการทบทวนหลัง การปฏิบัติอยางตอเนื่อง และพัฒนาเตาใหเหมาะสมกับกิจกรรมในชุมชน และสงผลไปสูการ ขอรบั อนุสิทธิบัตร สิง่ ประดิษฐ “เตาประหยัดพลงั งานระดับครวั เรือนท่ีพฒั นาชองปอนเชื้อเพลงิ ” เลขทีค่ ําขอ 1803001269 วันท่ยี ่ืนคาํ ขอ 1 มถิ ุนายน 2561 และ “เตาประหยัดพลังงานสําหรับ อตุ สาหกรรมครวั เรือน” เลขทีค่ าํ ขอ 1703001114 วันทย่ี น่ื คาํ ขอ 23 มิถนุ ายน 2560 (ก) (ข) (ค) ภาพที่ 2 ถา ยทอดเทคโนโลยี (ก) การอบรมโดยนักวิจัย (ข) การเสนอขา วเท่ียงผาน NBT HD2 ปจจัยสําคัญทีท่ าํ ใหเกิดผลสาํ เร็จ การพัฒนาและการขยายผลเทคโนโลยเี ตาประหยัดพลังงานในชุมชนใหป ระสบผลสําเร็จ และสามารถสรา งเครอื ขายเกษตรกรหรือชางชุมชนที่มีความรูความเขาใจกอใหเกิดความยั่งยืนใน ชุมชน และสามารถขอรับอนุสทิ ธบิ ตั รเตาประหยดั พลังงานไดน นั้ มปี จ จัยสาํ คญั 2 ประการ คือ

1. ภาวะผูนําของประธานกลุมเกษตรพลังงานสรางสรรคชุมชน และวิสาหกิจชุมชน หมูบานพลังงานทางเลือกมีความเขมแข็ง กระตือรือรน และการประสานในการทํางานเปนเพ่ือ สวนรวม และเสียสละอุทิศตนใหความรู และเปนที่ปรึกษาแกเพื่อนเกษตรกรหรือชางชุมชน สามารถทํางานรว มกบั นักวจิ ัย เพอื่ แลกเปลี่ยนความรแู ละประสบการณแกส มาชกิ และชุมชนได 2. การประชุมทบทวนความรูหลังปฏิบัติอยางตอ เนื่อง ทําใหเกษตรกรหรือชางชุมชนได ประเมนิ ความรขู องตนเอง และรว มแลกเปล่ียนประสบการณ นําไปสกู ารรว มแกปญหาของ ทําให เกดิ ความรว มมือในการชว ยเหลอื กันในชมุ ชน ทําใหการผลิตเตาประหยดั พลงั งานที่ไดม าตรฐาน สรปุ การจัดการความรู (Knowledge Management) เปนเคร่ืองมือสาํ คญั ในการพัฒนาและ การขยายผลเทคโนโลยีเตาประหยัดพลงั งานในชุมชน ท่ีสามารถนําองคความรูจาการพัฒนาเตา ประหยัดพลังงาน เพื่อขยายผลแกเกษตรกรหรือชางชุมชนใหมีความรูทชี่ ัดเจน ในการออกแบบ และพฒั นาเทคโนโลยเี ตาประหยดั พลังงานเพ่ือใชในการถา ยทอดเทคโนโลยีการบรกิ ารวิชาการแก ชุมชน เพ่ือสรางเครือขายการเรียนรูที่มีประสิทธิภาพ ทั้งทําใหเกษตรกรเกิดความตระหนักใน คุณคาของพลังงานทางเลือกที่สงผลดีตอเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดลอม สรางเครือขายผลิต และพัฒนาเตาประหยัดพลังงานทั้งในชุมชนและพ้ืนท่ี SLB เปนการสรางรายไดใหแกครอบครัว และชุมชนไดอ ยางมัน่ คง ลดมลพิษไดเ ปนอยา งดี จึงทําใหเกิดความเขม แข็งไดอยา งยั่งยืน จากผลการวิจัยโดยใชกระบวนการจัดการความรู ทําใหไดคมู ือการพัฒนาและการขยาย ผลเทคโนโลยีเตาประหยัดพลังงานในชมุ ชน สําหรับใชเปนสื่อประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ และถายทอดเทคโนโลยีแกชุมชน เพ่ือใหความรแู กเกษตรกรหรือชางชุมชนรนุ ใหม คณะผูวิจัยมี แนวคิดตอยอดพัฒนาสื่อจากคูมือท่ีเปนเอกสารเผยแพรใหเปนวีดิทัศนเผยแพรการพัฒนาและ การขยายผลเทคโนโลยีเตาประหยดั พลังงานในชุมชนอยา งละเอยี ดทุกขน้ั ตอน เพื่อการเรยี นรูของ เกษตรกรที่สนใจและเผยแพรความรูแกเยาวชนลูกหลานเกษตรกรเพื่อสรางเครือขายการเรียนรู ในระดับพนื้ ทล่ี ุมน้าํ ทะเลสาบสงขลาและระดบั ประเทศตอไป บรรณานกุ รม มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร คณะการจดั การสิ่งแวดลอม. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตรพ น้ื ท่ีปลูก ยางพารา: บริเวณพื้นท่ีลุมน้ําทะเลสาบสงขลา. สืบคนเมื่อวันท่ี 26 มกราคม 2561, จาก http://slb-gis.envi.psu.ac.th/pararubber/ วิจารณ พานิช. 2551. การจัดการความรู ฉบับนักปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันสงเสริมการ จดั การความรูเ พือ่ สังคม (สคส.). สมบูรณ ประสงคจันทร และคณะ. 2561. เทคโนโลยีกาซชีวมวล : พลังงานสรางสรรคชุมชน อยา งยั่งยนื , EnT Digest. กรุงเทพฯ: ฉบับท่ี 5 เดือนกรกฎาคม 2561 : 18-25. สมบูรณ ประสงคจันทร และคณะ. 2560. รายงานการวิจัย เร่ือง “การพัฒนาเตาชีวมวล ประหยัดพลังงานและบูรณาการการใชประโยชนในชุมชนทุงลาน” คณะศิลปศาสตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ชิ ัย สงขลา.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook