Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อนาคตศึกษา

อนาคตศึกษา

Published by educat tion, 2021-04-16 02:15:12

Description: Future_Studies

Search

Read the Text Version

อนาคตศกึ ษา | 186 ยกตัวอยา่ งเชน่ ในการฝกึ ซอ้ มการหนภี ยั สภาพแวดล้อมและเสน้ ทางหนภี ัยถอื เป็นส่วนหนึง่ ของแบบ จ�ำลอง ในขณะที่การซ้อมหนีภัยถือเป็นสถานการณ์จ�ำลอง ในการประเมินผลกระทบจากการด�ำเนิน มาตรการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายการค้าเสรี จะใช้แบบจ�ำลองเศรษฐศาสตร์มหภาคมาค�ำนวณและ ประมาณผลกระทบทอี่ าจเกดิ ขนึ้ ภายใตเ้ งอ่ื นไขสมมตติ า่ ง ๆ สถานการณจ์ ำ� ลองจงึ เปน็ การสรา้ งพลวตั ใหก้ ับแบบจ�ำลองพ้ืนฐานดว้ ยคา่ พารามิเตอรท์ ส่ี มมติข้ึน ส่วนเกมเป็นกิจกรรมท่ีมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจงให้ผู้เล่นแต่ละคนแต่ละกลุ่มต่อสู้หรือแข่งขัน ซึ่งกันและกัน หรอื แขง่ กบั มาตรฐานหรอื เปา้ หมายทก่ี ำ� หนดไวใ้ นแต่ละเกม เกมจงึ มคี ณุ ลกั ษณะคล้าย กบั การจำ� ลองสถานการณ์อยใู่ นหลายดา้ น และการจำ� ลองสถานการณม์ ักใชเ้ ป็นพ้ืนฐานของการสร้าง เกม ประเภทของเกมมีทั้งแบบท่ีทุกคนในเกมชนะได้ (win-win game) แบบที่บางคนหรือไม่ก่ีคน ชนะ (win-lose game) หรอื แบบที่จ�ำนวนหรอื ปริมาณท่ีคนหรอื กลุ่มคนหนึง่ ชนะเท่ากับจำ� นวนหรอื ปริมาณที่อีกคนหรืออีกกลุ่มหนึ่งทแี่ พ้ (zero-sum game) หรอื แบบทร่ี ะดับการชนะและแพไ้ มเ่ ทา่ กนั (non-zero-sum game) แต่ละเกมจะมีกฎกติกาท่ีก�ำหนดเง่ือนไขและข้อจ�ำกัดเพิ่มเติมจากเง่ือนไข ท่ีมาพรอ้ มกบั การจำ� ลองสถานการณท์ ีเ่ ปน็ พืน้ ฐานของเกมนน้ั อยู่แล้ว เชน่ เกมทตี่ ั้งอยูบ่ นการจ�ำลอง สถานการณห์ นง่ึ อาจมเี งอ่ื นไขเพม่ิ ขนึ้ ในดา้ นเวลาทใ่ี ชใ้ นการเลน่ เกม หรอื จำ� นวนผเู้ ลน่ ในแตล่ ะบทบาท ในด้านอนาคตศาสตร์ เกมที่สร้างข้ึนพยายามเลียนแบบสถานการณ์การวางแผนจริง หรือเพ่ือ ใชฝ้ ึกสอนทักษะเฉพาะ เกมจำ� นวนมากเป็นสถานการณท์ ่เี กย่ี วขอ้ งกบั พฤติกรรมมนษุ ย์ โดยเฉพาะใน กลุม่ คนและองค์กร การใช้เกมมักใช้กระบวนกรท่มี องเห็นภาพรวมและสามารถชว่ ยช้นี �ำและแนะนำ� ผ้เู ล่นในเกมได้ โดยผ้เู ลน่ อาจเลน่ บทบาทสมมติ (role play) ก็ได้ เกมจงึ เป็นวิธกี ารหน่ึงทชี่ ว่ ยใหเ้ ราสา มาถเขา้ ใจถงึ กระบวนการใดกระบวนหนง่ึ ไดอ้ ยา่ งดขี นึ้ โดยเฉพาะจากมมุ มองของผอู้ น่ื การปฏสิ มั พนั ธ์ ท่ีเกิดข้ึนในเกมยังท�ำให้เกิดความสนุกสนาน และช่วยสร้างความร่วมมือและการท�ำงานร่วมกันของ สมาชิกในทีมหรือคนที่มีพื้นฐานหรือความคิดเห็นท่ีแตกต่างกัน เกมจึงเป็นวิธีการท่ีใช้ได้ดีในขั้นตอน แรก ๆ ของการวางแผนในระดับองค์กรหรือในระดับชุมชน และในการสรา้ งความพรอ้ มในการรบั มือ กบั ความท้าทายในอนาคต อยา่ งไรกต็ าม เกมแตกตา่ งจากการจำ� ลองสถานการณใ์ นหลายดา้ น การจำ� ลองสถานการณส์ ามารถ สร้างผลลัพธ์ท่ีเป็นแนวคิดและกิจกรรมท่ีหลากหลายมากและอาจไม่ได้เป็นผลลัพธ์ท่ีคาดคิดไว้ก่อน แต่ส�ำหรับเกม แม้ว่าอาจสร้างทางเลือกของผลลัพธ์ได้มาก แต่การแข่งขันในเกมมักจ�ำกัดจ�ำนวนหรือ ขอบเขตของผลลพั ธ์ ดว้ ยเง่ือนไขดา้ นเวลาหรือตามกตกิ าของเกมท่ีต้งั ไว้แต่ตน้ นอกจากน้ี การจ�ำลอง สถานการณ์มีความเหมาะสมมากกว่าเกมในการสร้างฉากทัศน์เพื่อการคาดการณ์อนาคต เนื่องจาก การต่อสู้แข่งขันกันระหว่างผู้เล่นในแต่ละเกมอาจมีผลต่อการพัฒนาและวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ในแต่ละฉากทัศนไ์ ด้ อยา่ งไรกต็ าม การใชเ้ กมอาจทำ� ใหเ้ หน็ ข้อจำ� กดั ของแบบจ�ำลองทีพ่ ฒั นาขน้ึ มา และสามารถสรา้ ง ความตระหนักให้กับผู้เล่นได้เกี่ยวกับข้อจ�ำกัดและทางเลือกที่มีส�ำหรับอนาคต ซ่ึงช่วยให้การตัดสินใจ ในปจั จุบนั เปน็ ไปได้ดีมากขึน้ เกมจึงมปี ระโยชน์มากเมื่อใช้รว่ มกบั วิธกี ารอ่ืนในการคาดการณ์และการ วางแผน ทงั้ วธิ กี ารวเิ คราะหร์ ะบบ วธิ กี ารเดลฟายและวธิ กี ารใชแ้ บบจำ� ลองการตดั สนิ ใจ เมอื่ เปรยี บเทยี บ กบั การจำ� ลองสถานการณเ์ พอ่ื แสดงผลลพั ธท์ น่ี ำ� ไปตดั สนิ ใจตอ่ แลว้ การใชเ้ กมอาจใชไ้ ดด้ กี วา่ เนอื่ งจาก สามารถสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสร้างกระบวนการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพ

187 | อนาคตศึกษา โดยเฉพาะการสอื่ สารเกยี่ วกบั เหตกุ ารณห์ รอื ปจั จยั ทอี่ าจเกดิ ขน้ึ ในอนาคต นอกจากน้ี เกมทเี่ ตรยี มการ วเิ คราะห์ไว้ก่อน สามารถใช้ในการเก็บ วิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์ข้อมลู เก่ยี วกบั พฤตกิ รรมหรือการตอบ รับของผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสยี ตอ่ เง่อื นไขในสถานการณห์ รือฉากทัศนต์ า่ ง ๆ ได้ ขอ้ มูลและผลการวเิ คราะห์ สามารถนำ� ไปพฒั นาแบบจำ� ลองและการจำ� ลองสถานการณท์ ด่ี มี ากขน้ึ รวมถงึ แนวคดิ สำ� หรบั การพฒั นา แนวทางแกไ้ ขหรือนโยบายทเ่ี หมาะสมต่อไปได้ ผเู้ ลม่ เกมยงั รสู้ กึ ถงึ ความทา้ ทายในการแขง่ ขนั กนั ในเกมมากกวา่ การวเิ คราะหต์ วั แปรและตวั เลขใน การวเิ คราะหด์ ว้ ยการจำ� ลองสถานการณ์ เกมจึงสามารถดงึ เอาความร้สู กึ ของผเู้ ลน่ ออกมาได้มากกว่า แบบจำ� ลองแห้ง ๆ ทเ่ี ป็นสมการหรอื ตารางวเิ คราะหบ์ นสเปรดชที (spreadsheet) ดงั นั้น ในกจิ กรรม หรือโครงการท่ีเกี่ยวกับการวางแผนเพ่ืออนาคต การใช้เกมจึงสามารถสร้างความหลากหลายและมิติ ของความไมแ่ น่นอนเก่ียวกับอนาคตได้มากกวา่ การใชแ้ บบจำ� ลองธรรมดา อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างเกมกับการจ�ำลองสถานการณ์เร่ิมลดน้อยลงในโลกเสมือน เชน่ โลกเสมอื นออนไลน์ (online virtual world) ชือ่ เซเกินไลฟ์ (Second Life) ซง่ึ พฒั นาโดยลนิ ดนั แลป (Linden Lab) มาตง้ั แต่ พ.ศ. 2546 โดยในปัจจบุ ันมผี ้เู ล่นมากกวา่ 1 ลา้ นคน แม้ว่าเซเกิน ไลฟ์มคี ณุ ลักษณะหลายอยา่ งคลา้ ยกบั เกมออนไลน์ทผ่ี ู้เลน่ จำ� นวนมากสวมบทบาททห่ี ลากหลาย แตผ่ ู้ พัฒนายืนยันว่า เซเกินไลฟ์ไม่ใช่เกม เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างความขัดแย้งหรือต่อสู้แข่งขันขึ้นมาไว้ ก่อน และไม่มีเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ก่อนเช่นกัน66 ผลลัพธ์ของปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้ก�ำหนดไว้ ก่อนเหมือนเกมทว่ั ไป การจำ� ลองสถานการณแ์ ละเกมสามารถใชไ้ ดใ้ นการคาดการณแ์ ละศกึ ษาอนาคต การวางแผนและ ออกแบบ การเรยี นการสอนและฝกึ อบรม และการบนั เทงิ ในการคาดการณ์ นกั อนาคตศาสตรส์ ามารถ ใชก้ ารจำ� ลองสถานการณข์ องภาพอนาคตทเ่ี ปน็ ไปไดแ้ ละนา่ จะเกดิ ขนึ้ ได้ เพอื่ ชว่ ยในการตดั สนิ ใจ ไมว่ า่ จะเป็นหนว่ ยงานรัฐบาลทต่ี ้องกำ� หนดนโยบายสาธารณะ บรษิ ทั เอกชนท่ตี อ้ งการตดั สินใจยุทธศาสตร์ ในการลงทุน และองค์กรเอกชนท่ีไม่แสวงหาก�ำไรที่ต้องการก�ำหนดทิศทางการท�ำงานในอนาคต การจำ� ลองสถานการณใ์ นหวั ขอ้ หรอื ประเดน็ ทส่ี นใจ สามารถใชร้ ว่ มกบั วธิ กี ารคาดการณแ์ ละวธิ วี จิ ยั อนื่ เพื่อบรรลวุ ัตถุประสงคเ์ หลา่ นี้ วงการอนาคตศาสตร์ช่วงหลังได้พัฒนาวิธีการจ�ำลองสถานการณ์และเกมตามหลักการที่เรียกว่า “ปัญญารวมหมู่” (wisdom of crowds) หรือปญั ญารว่ ม (collective wisdom) ตัวอย่างเช่นวิธีการ ตลาดการพยากรณ์อนาคต (futures prediction market) ซึ่งรวบรวมและวิเคราะห์การคาดการณ์ อนาคตโดยการรว่ มคดิ หรอื คราวดซ์ อสซงิ (crowdsourcing) การใชเ้ กมในการคาดการณส์ ามารถชว่ ย สรา้ งความรเู้ ชิงลึกเพ่ือกำ� หนดนโยบายและยุทธศาสตร์ในการด�ำเนินงานขององค์กรหรอื รัฐบาล ทัง้ ใน ด้านการสรา้ งและประมวลความคิดข้ึนใหม่ การสือ่ สารความคดิ และการตระหนัก รบั รู้และเข้าใจโดย ผา่ นประสบการณใ์ นการคาดการณ6์ 7 ขน้ั ตอนและวธิ ีการ การออกแบบเกมและการจ�ำลองสถานการณ์ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความรู้ในหลายด้านด้วย กัน แต่ละเกมและการจ�ำลองสถานการณ์มีวิธีการออกแบบรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปตาม

อนาคตศกึ ษา | 188 วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเงอ่ื นไขทกี่ ำ� หนดไว้ กระบวนการออกแบบและพฒั นาเกมและการจำ� ลองสถานการณ์ เพื่อการคาดการณอ์ นาคต แบ่งไดเ้ ปน็ ขัน้ ตอนดังนี้ • กำ� หนดวตั ถปุ ระสงค์ เปา้ หมาย ขอบเขตของงาน ความตอ้ งการของลกู คา้ หรอื กลมุ่ เปา้ หมาย และทรัพยากรทีใ่ ชใ้ นการออกแบบและพฒั นา • ก�ำหนดองคป์ ระกอบและรูปแบบของเกมและแบบจำ� ลองทีส่ ามารถแสดงและสือ่ ถงึ ตัวแปร และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตัวแปร และเงือ่ นไขและขอ้ สมมตติ ่าง ๆ • ออกแบบองค์ประกอบและเงื่อนไขเหล่าน้ีตามคุณลักษณะและความต้องการของผู้เข้าร่วม ทง้ั ผเู้ ลน่ เกมหรอื ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี รวมทงั้ ผปู้ ระสานงานและกระบวนกร ในกรณที เ่ี ปน็ การ ประชุมปฏิบตั กิ ารทจ่ี �ำลองสถานการณ์ • คัดเลือกระบบและวิธีการสื่อสาร เพ่ือช้ีแจงแนวทาง วิธีการและกติกาในการเข้าร่วม กระบวนการ และเพื่อรองรับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นเกมหรือผู้เข้าร่วมการจ�ำลอง สถานการณแ์ ละกับผปู้ ระสานงานและกระบวนกร • สร้างช่องทางให้ผู้ออกแบบระบบสามารถตอบค�ำถามจากผู้เข้าร่วมกระบวนการได้ระหว่าง กิจกรรม โดยเฉพาะเก่ียวกับประเด็นที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ครอบคลุมอยู่ในคู่มืออธิบาย กระบวนการ • เลือกสถานที่ อุปกรณ์และเคร่ืองมือที่ใช้ในแสดงแบบจ�ำลองในเกมหรือการจ�ำลอง สถานการณ์ เม่ือออกแบบองค์ประกอบแล้ว จึงพัฒนาและสร้างแบบจ�ำลองและเกม ทบทวนและทดลองใช้ เกมหรือการจ�ำลองสถานการณ์ เพ่ือปรับปรุงแก้ไขต่อไป จากน้ันจึงเป็นการใช้จริงกับลูกค้าหรือกลุ่ม เป้าหมายจริง การใช้เกมและการจ�ำลองสถานการณ์ได้รับความนิยมมากข้ึนและใช้อย่างแพร่หลายในวงการ วิชาการแทบทุกศาสตร์และสาขา ในวงการธุรกิจ และในวงการนโยบายสาธารณะในทุกระดับ ต้ังแต่ ระดบั ทอ้ งถนิ่ ประเทศ และระหวา่ งประเทศ ปจั จยั หลายประการจะยงิ่ ทำ� ใหก้ ารใชเ้ กมและการจำ� ลอง สถานการณม์ ีความสำ� คญั และมีการเปลี่ยนแปลงมากขึน้ ประการแรกคือปรากฏการณ์บ๊ิกดาต้า (big data) ซงึ่ หมายความถงึ จำ� นวนขอ้ มลู ทม่ี มี ากมายมหาศาลจากแหลง่ ขอ้ มลู ทหี่ ลากหลาย การพฒั นาดา้ น คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ ยงิ่ ทำ� ใหข้ ดี ความสามารถในการเกบ็ และประมวลผลจากขอ้ มลู เพม่ิ ขนึ้ แบบ ทวคี ณู รวมถงึ การเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู มชี อ่ งทางทมี่ ากขนึ้ และไดท้ กุ เวลา การพฒั นา เทคโนโลยที เ่ี กีย่ วข้องเชน่ semantic web และ grid computing ไปจนถงึ คอมพิวเตอร์เชิงควอนตัม (quantum computer) จะท�ำใหข้ ดี ความสามารถในการผลิต เผยแพร่ เขา้ ถึงและประมวลผลข้อมูล ย่งิ เพิ่มข้ึน พฒั นาการเหล่านี้มีผลโดยตรงตอ่ การสรา้ งและใชป้ ระโยชน์จากสถานการณจ์ ำ� ลองและเกม นอกจากน้ีแล้ว ความสามารถในการสร้างแบบจ�ำลองและการประมวลผลข้อมูลได้ครอบคลุมไป ถึงการวิเคราะห์รูปภาพและวิดีโอ การวิเคราะห์ภาพและเสียงโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาด้าน เทคโนโลยเี กี่ยวกับสัมผสั (haptic technology) จะเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งมากในการพัฒนาแบบจ�ำลอง และเกมในการพฒั นาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ รวมไปถึงการคาดการณแ์ ละศึกษาอนาคต

189 | อนาคตศกึ ษา ตลาดการพยากรณ์ วิธีการศึกษาและคาดการณ์อนาคตท่ีถือว่าใหม่ส�ำหรับวงการอนาคตศาสตร์คือตลาดการพยากรณ์ (prediction markets) ซึ่งมีช่ือเรียกอ่ืนอีก เช่น ตลาดข้อมูล (information markets) และตลาด สญั ญาซอื้ ขายเหตกุ ารณล์ ่วงหน้า (event futures) แนวคิดเบ้ืองต้นของวิธีการน้ีคือคนทั่วไปจะคาดเดาเก่ียวกับเหตุการณ์หรือผลลัพธ์ในอนาคต ท่ีไม่แน่นอน แล้วท�ำสัญญาท่ีจ่ายผลตอบแทนตามการเกิดหรือไม่เกิดของเหตุการณ์หรือผลลัพธ์ ท่ีคาดเดาไว้ อัตราผลตอบแทน (yield) ของสัญญาจึงสะท้อนผลการพยากรณ์โดยรวมของตลาด (market aggregated forecasts) ของการเกิดเหตุการณ์ขน้ึ จริงในอนาคต ตลาดการพยากรณจ์ งึ เปน็ เหมอื นตลาดอนพุ นั ธข์ องเหตกุ ารณ์ (event derivatives) ซง่ึ การทำ� สญั ญาซอื้ ขายเกย่ี วกบั เหตกุ ารณใ์ ด เหตกุ ารณห์ นงึ่ จะชว่ ยคาดการณโ์ อกาสการเกดิ เหตกุ ารณใ์ นอนาคต รวมถงึ การรบั รขู้ องตลาดเกยี่ วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเหตกุ ารณแ์ ละผลลพั ธต์ า่ ง ๆ เนอื่ งจากตลาดการพยากรณเ์ ปน็ การรวบรวมความ คดิ และความเหน็ ของผคู้ นทหี่ ลากหลาย จงึ เชอื่ กนั วา่ เปน็ เครอ่ื งมอื ทแ่ี สดงแนวโนม้ การเกดิ เหตกุ ารณท์ ี่ มปี ระสทิ ธภิ าพ ผลลพั ธจ์ ากตลาดการพยากรณส์ ามารถนำ� ไปประกอบการตดั สนิ ใจเชงิ นโยบายในภาพ รวม รวมถึงการประกนั ความเสีย่ งของเหตกุ ารณท์ ไ่ี มพ่ งึ ประสงค์ได้ เนอ่ื งจากตลาดการพยากรณเ์ ปดิ กวา้ งใหค้ นทว่ั ไปสามารถเขา้ ลงทนุ ได้ บางคนอาจมขี อ้ มลู เฉพาะ ท่ีไม่เป็นท่ีรู้กันโดยทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเกิดเหตุการณ์และผลลัพธ์ในอนาคต และอาจลงทุนใน เหตุการณ์น้ันโดยไม่เปิดเผยเน้ือหาและแหล่งท่ีมาของข้อมูล ตลาดการพยากรณ์จึงเป็นวิธีการหน่ึงใน การรวบรวมข้อมูลท่ปี กตไิ ม่เปดิ เผยตอ่ สาธารณะ ซ่งึ ทำ� ให้การพยากรณม์ คี วามแมน่ ย�ำมากขนึ้ ในบางกรณี ตลาดการพยากรณอ์ าจชว่ ยเรง่ กระบวนการตดั สนิ ใจในองคก์ รและดา้ นการเมอื ง เมอื่ แต่ละคนมีแรงจูงใจด้านการเงินในการคาดการณ์ผลลัพธ์ที่น่าจะเกิดข้ึนจริงจากฉันทามติของผู้มีส่วน ได้สว่ นเสยี ทั้งหมด เนือ่ งจากการต่อสู้แย่งชิงผลประโยชนส์ ว่ นตัวในกระบวนการตดั สนิ ใจ จะถูกปรบั สมดุลโดยความตอ้ งการสว่ นตัวในการคาดการณ์ถึงทางออกท่ที า้ ยสุดจะได้รับฉันทามติ กลา่ วคือ แรง จงู ใจทางการเงนิ จากการลงทนุ ในตลาดคาดการณจ์ ะโนม้ นา้ วใหแ้ ตล่ ะฝา่ ยคน้ หาและเลอื กทางออกทาง สายกลางท่ยี อมรบั ได้ แทนท่ีจะตอ้ งใช้เวลาและทรัพยากรจ�ำนวนมากในการเจรจาตอ่ รอง เหตุการณ์ที่ซื้อขายในตลาดการพยากรณ์มีต้ังแต่ผลการเลือกต้ัง การซ้ือขายบริษัท ราคาสินค้า โภคภณั ฑ์ หรอื เหตุการณใ์ ดกไ็ ดท้ สี่ ามารถตรวจสอบผลลัพธไ์ ด้ด้วยข้อมลู เชิงประจักษ์เมอ่ื เวลาผ่านไป ตวั อยา่ งหนง่ึ ของตลาดการพยากรณค์ อื ตลาดอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นมลรฐั ไอโอวา (Iowa Electronic Market)

อนาคตศึกษา | 190 เทรดเดอร์ซ้ือขายสัญญาท่ีจะจ่าย 1 เหรียญถ้าผู้สมัครคนหนึ่งชนะการเลือกต้ัง ดังนั้น ถ้าตลาดการ พยากรณม์ ปี ระสทิ ธิภาพจรงิ ราคาของสญั ญาดังกล่าวจะสะท้อนผลรวมของความเปน็ ไปไดท้ ี่ผู้สมัคร แต่ละคนจะได้รับเลือก68 ตลาดการพยากรณ์ท่ีเป็นท่ีรู้จักมากท่ีสุดคือตลาดการพยากรณ์เลือกตั้งท่ี ดำ� เนนิ การโดยมหาวทิ ยาลยั ไอโอวา69แตม่ กี ารประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ นใี้ นการคาดการณใ์ นการดำ� เนนิ ธรุ กจิ ภาคเอกชน เชน่ รายไดจ้ ากภาพยนตร์ ยอดขายของบรษิ ทั การเสรจ็ สน้ิ โครงการ ดชั นเี ศรษฐกจิ ผลลพั ธ์ การวจิ ยั และพฒั นา ความสำ� เรจ็ ของสนิ คา้ ใหม่ ผลกระทบของกฎหมาย ฯลฯ นกั วจิ ยั ยงั เสนอใชว้ ธิ กี าร ประยกุ ตใ์ นตลาดการพยากรณด์ า้ นสาธารณสขุ เชน่ การคาดการณโ์ อกาสในการระบาดของโรคไขห้ วดั ใหญ7่ 0 วิธกี ารและกลไกของตลาดทใี่ ชใ้ นการคาดการณ์มีหลากหลาย เช่นการประมูลแบบผู้ซื้อและผู้ ขายเสนอราคาพรอ้ มกนั และตอ่ เนอื่ ง (continuous double auctions) การพนนั ทายผลการแขง่ ขนั (pari-mutuel pools) ตลาดพนันทม่ี ีคนรับแทง (bookmaker-mediated betting markets) ฯลฯ สว่ นในภาครฐั สำ� นกั โครงการวจิ ยั ขนั้ สงู ดา้ นกลาโหม (Defense Advanced Research Projects Agency - DARPA) พยายามใชต้ ลาดการพยากรณ์ในการประเมินความเสย่ี งด้านภมู ิศาสตร์การเมอื ง โครงการตลาดวเิ คราะห์นโยบาย (Policy Analysis Market) ครอบคลุมประเด็นที่หลากหลาย อาทิ สภาวะเศรษฐกิจ เสถียรภาพทางพลเรอื น การวางก�ำลังทางทหาร ดชั นีความขดั แยง้ ฯลฯ ตัวอย่าง ค�ำถามได้แก่ กองทัพทหารสหรัฐฯ จะถอนก�ำลังออกจากประเทศ ก ภายในสองปีหรือน้อยกว่านั้น อยา่ งไรกต็ าม71 โครงการนไ้ี ดร้ บั การวพิ ากษว์ จิ ารณว์ า่ เปน็ แนวคดิ ทไ่ี มเ่ หมาะสม เพราะเหมอื นพยายาม สรา้ งตลาดฟวิ เจอรข์ องการกอ่ การรา้ ย (terrorism futures) โครงการจงึ ถกู ยกเลกิ ไปในทส่ี ดุ 72 อยา่ งไร กต็ าม มีเว็บไซตต์ ลาดการทำ� นายและพนันผลการแขง่ ขันกฬี า เชน่ Tradesports.com ท่มี กี ารพนนั เหตุการณ์อ่นื ๆ นอกจากด้านกีฬาดว้ ยเช่นกนั ตลาดประเภทนส้ี ะทอ้ นถึงการทผี่ ู้เขา้ รว่ มในตลาดซื้อ ขายสญั ญากนั โดยทผี่ ลตอบแทนขนึ้ อยกู่ บั โอกาสการเกดิ เหตกุ ารณใ์ นอนาคตทไ่ี มส่ ามารถรลู้ ว่ งหนา้ ได้ อีกตัวอย่างหน่ึงของการประยุกต์แนวคิดตลาดการพยากรณ์ในด้านนโยบายสาธารณะและ การเมืองคือ แบบจ�ำลองฟูตาร์คี (Futarchy) ที่เสนอโดยรอบิน แฮนสัน (Robin Hanson) เมื่อ พ.ศ.255673 ในแบบจำ� ลองนี้ ผมู้ อี ำ� นาจในการตดั สนิ ใจไมไ่ ดล้ งคะแนนเลอื กนโยบาย แตเ่ ลอื กผลลพั ธท์ ่ี พงึ ประสงคแ์ ทน จากนนั้ จงึ สรา้ งตลาดการพยากรณเ์ พอ่ื ประเมนิ วา่ นโยบายไหนจะสรา้ งผลลพั ธท์ ม่ี าก ทสี่ ดุ ตามเกณฑ์ทต่ี ้งั ไว้แตแ่ รก แลว้ จงึ เลอื กนโยบายนัน้ เพ่ือดำ� เนินการจรงิ ต่อไป แมว้ า่ แนวคดิ ตลาดการพยากรณม์ มี าหลายทศวรรษแลว้ แตเ่ พง่ิ ไดร้ บั ความสนใจอยา่ งแพรห่ ลาย มากขน้ึ ในชว่ งหลงั เมอ่ื เกดิ นวตั กรรมหลายอยา่ งจากการพฒั นาเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (blockchain) เชน่ ระบบการก�ำกบั ดูแลแบบกระจายศูนย์ (decentralized governance) และสญั ญาอัจฉริยะ (smart contract) เทคโนโลยเี หลา่ นท้ี ำ� ใหเ้ กดิ ทางเลอื กของตลาดการพยากรณม์ ากขนึ้ จากทแี่ ตเ่ ดมิ มเี ฉพาะ ตลาดแบบรวมศูนย์ (centralized markets) ท่ีมีองค์กรหรอื บรษิ ทั หนง่ึ เป็นผบู้ รหิ ารจัดการ แต่ตอน นี้มีตลาดแบบกระจายศูนย์ที่ใช้แพลตฟอร์มท่ีใช้บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในการด�ำเนินธุรกรรม ตวั อยา่ งตลาดการพยากรณแ์ บบกระจายศนู ยท์ เี่ รม่ิ ไดร้ บั ความสนใจมากขน้ึ ไดแ้ ก่ แพลตฟอรม์ Gnosis (https://gnosis.pm) และ Augur (http://www.augur.net) แพลตฟอรม์ เหลา่ นย้ี งั คงอยใู่ นขน้ั ตอน ของการทดลองและทดสอบ แตม่ ีโอกาสท่ีจะกลายเป็นเครือ่ งมอื สำ� คญั ในการคาดการณอ์ นาคตได้

191 | อนาคตศึกษา วสิ ยั ทศั น์ การสร้างวิสัยทัศน์ (visions) เป็นองค์ประกอบส�ำคัญของการวางแผนท่ีรู้จักกันอยู่ท่ัวไป แทบทุก องค์กรในปัจจุบันก�ำหนดวิสัยทัศน์ข้ึนมาเพื่อแสดงถึงภาพอนาคตท่ีพึงประสงค์ที่สุด โดยใช้ค�ำศัพท์ วลี หรือประโยคที่ชัดเจน ทรงพลัง และแสดงถึงความมุ่งมั่นขององค์กรนั้น วิสัยทัศน์จึงเสมือนเป็น ภาพอนาคตทอ่ี งค์กรให้คำ� ม่ันสัญญากบั ตนเองและผู้อื่นวา่ จะพยายามสร้างข้นึ ใหไ้ ด้ พรอ้ มกนั นี้ วิสยั ทัศนย์ งั ส่อื ถงึ คุณคา่ ทอี่ งค์กรใหค้ วามสำ� คัญและตอ้ งการใหเ้ กิดขึ้นในอนาคต วิสัยทศั นใ์ นฐานะเคร่อื ง มอื ด้านอนาคตศาสตร์จงึ สอื่ ถงึ การสร้างและพฒั นาอนาคตท่พี งึ ประสงค์ การสร้างวิสัยทัศน์ส�ำหรับการวางแผนมีมานานแล้ว แต่แนวคิดที่ให้ความส�ำคัญกับวิสัยทัศน์ใน ฐานะพน้ื ฐานของอนาคตศาสตรค์ อื แนวคดิ ภาพลักษณ์ในอนาคตของเฟรด โพลัก (Fred Polak) ซ่ึง เสนอวา่ การสรา้ งวสิ ยั ทศั นเ์ ปน็ องคป์ ระกอบหลกั ของการคดิ เกย่ี วกบั อนาคต เนอ่ื งจากการตดั สนิ ใจทกุ อย่างเป็นเรือ่ งเกย่ี วกบั อนาคตทงั้ หมด ดงั น้ัน ภาพอนาคตจงึ เปน็ พืน้ ฐานของทุกพฤตกิ รรมท่ีเกี่ยวขอ้ ง กบั การเลอื กและการตดั สนิ ใจในการวางแผน ภาพลกั ษณเ์ กยี่ วกบั ความเปน็ ไปไดใ้ นอนาคตของมนษุ ยจ์ งึ มกั เกดิ ขนึ้ กอ่ นและพฒั นาไปพรอ้ มกบั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คมทสี่ ำ� คญั ในประวตั ศิ าสตรโ์ ลก แนวคดิ ของโพลักส่งอิทธิพลต่อแนวคิดการศึกษาอนาคตในยุคต่อมา อาทิ งานของวิลลิส ฮาร์มาน (Willis Harman) จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอรด์ และงานศึกษาของ SRI International และ Institute for Alternative Futures74วิสัยทัศน์เปน็ ภาพอนาคตทแ่ี ตล่ ะคนหรอื องค์กรตอ้ งการสร้างขึน้ วิสยั ทศั นท์ ี่ ดจี งึ ตอ้ งสอ่ื ถงึ คณุ คา่ และวตั ถปุ ระสงคท์ ล่ี มุ่ ลกึ พลงั ของวสิ ยั ทศั นส์ ำ� หรบั การชน้ี ำ� และพฒั นาอนาคตจงึ อยู่ที่ความสามารถในการกระตุ้นคนในองค์กรและประสานการท�ำงานของทุกคนเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ น้ัน พร้อมยกระดับความพยายามของแต่ละคนที่จะด�ำเนินกิจกรรมเพ่ือบรรลุความปรารถนาและ ความทะเยอทะยานของแต่ละคน วิสัยทัศน์จึงเหมือนเป็นภาพใหญ่ที่สร้างกรอบและทิศทางส�ำหรับ กิจกรรมประจ�ำวัน เน่ืองจากวิสัยทัศน์มุ่งกระตุ้นความรู้สึกของคนในองค์กร จึงเสมือนเป็นอนาคต สำ� หรับใจ (futures for the heart) ในขณะท่ีการวเิ คราะหแ์ นวโน้มและฉากทศั น์เป็นเหมือนอนาคต ส�ำหรับสมอง (futures for the head)75 วสิ ยั ทศั น์ทที่ รงพลังจะตอ้ งมอี งค์ประกอบดังต่อไปน้ี • มคี วามชอบธรรม โดยไมเ่ กดิ มาจากหรอื กำ� หนดโดยความคดิ ของคนคนเดยี วหรอื คนกลมุ่ เดยี ว เนอื่ งจากในการผลกั ดนั องคก์ รใหไ้ ปพรอ้ มกนั ได้ วสิ ยั ทศั นต์ อ้ งไดร้ บั การยอมรบั และ

อนาคตศึกษา | 192 มคี วามชอบธรรมจากสมาชกิ ในกลมุ่ โดยอาจเกิดจากการมสี ว่ นร่วมในกระบวนการสร้าง วิสัยทศั น์ หรืออาจเกิดจากความเคารพในผนู้ ำ� หรือกล่มุ คนที่เสนอวสิ ยั ทศั นน์ ั้น • มีส่วนร่วมหรือเป็นหุ้นส่วน วิสัยทัศน์จะเกิดประโยชน์ได้เมื่อสมาชิกในองค์กรมองเห็น ว่า ตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และน�ำไปสู่การยอมรับและความพยายามร่วมกันใน การผลักดันองคก์ รไปขา้ งหน้า • แสดงคณุ คา่ สงู สดุ สำ� หรบั สงั คม วสิ ยั ทศั นท์ ดี่ คี วรแสดงถงึ คณุ คา่ ทอี่ งคก์ รสามารถสรา้ งให้ กบั สงั คมสว่ นรวมได้ ซงึ่ กวา้ งและลมุ่ ลกึ กวา่ ความมงุ่ หมายทจ่ี ะสรา้ งกำ� ไรหรอื แขง่ ขนั ไดก้ บั องค์กรอ่ืน แม้ว่าการสร้างรายได้และท�ำก�ำไรอาจเป็นวัตถุประสงค์ส�ำคัญของบางองค์กร แต่วิสัยทัศนท์ ีแ่ สดงถึงประโยชน์ส�ำหรับสังคมจะทำ� ให้สมาชิกในองค์กรเห็นคุณค่าของสงิ่ ท่ีตนเองทำ� มากเกนิ กวา่ ผลลัพธท์ เ่ี ป็นตวั เงนิ • ไปไกลกวา่ ความเปน็ จรงิ ในปจั จบุ นั วสิ ยั ทศั นท์ ดี่ ตี อ้ งสรา้ งความทา้ ทายใหก้ บั คนในองคก์ ร โดยมุ่งไปทกี่ ารผลกั ดนั และก้าวข้ามขดี จ�ำกัดท่ีมีอยู่ในปจั จบุ ัน เปน็ การสรา้ งความทา้ ทาย ความตืน่ เต้น และความร้สู ึกวา่ ก�ำลังท�ำอะไรที่สำ� คญั อยู่ • สามารถบรรลไุ ดภ้ ายในชว่ งเวลาหนงึ่ วสิ ยั ทศั นต์ อ้ งสามารถบรรลไุ ดภ้ ายในชว่ งเวลาหนง่ึ เพ่ือให้สมาชิกในองค์กรเห็นว่า สามารถท�ำให้บรรลุได้จริง แม้ว่าจะต้องประสบกับความ ยากล�ำบากและใชเ้ วลานานก็ตาม กระบวนการสร้างวิสัยทัศน์เรมิ่ ตง้ั แต่การพินิจพเิ คราะห์ การแก้ไขปรบั ปรุง และการสรา้ งพนั ธ สญั ญาในการทำ� งาน ข้อความท่ีแสดงวสิ ยั ทศั น์แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท76 ไดแ้ ก่ 1. วิสัยทัศน์ท่ีแสดงถึงอัตลักษณ์ (identity) มักเป็นข้อความท่ีแสดงถึงอนาคตท่ีปรารถนา และพึงประสงค์ ซึ่งทำ� ให้เกดิ ความเป็นอันหนึ่งอันเดยี วกัน โดยแสดงถึงอัตลักษณ์ร่วมกัน ของคนในองค์กร วสิ ยั ทศั น์ท่ีทรงพลงั ในแนวนี้มักระบตุ ้นแบบหรอื แมพ่ ิมพ์ทเ่ี ปน็ ตวั อยา่ ง ของสังคม ตัวอยา่ งเช่น วสิ ยั ทัศน์ของ องคก์ ร Military Health System ของสหรฐั ฯ คือ “We are healers who walk with warriors in unity.” 2. วสิ ยั ทศั นท์ แี่ สดงถงึ คณุ คา่ (value) แสดงหลกั การพน้ื ฐานทเี่ ปน็ แรงบนั ดาลใจในการทำ� งาน ขององค์กร เชน่ วิสยั ทัศนข์ ององค์การอนามยั โลก (World Health Organization) คอื “Health for all, with equity, solidarity, sustainability, and gender sensitivity.” 3. วสิ ยั ทศั นท์ แี่ สดงถงึ อนาคตทพี่ งึ ประสงค์ (preferable future) ระบอุ ยา่ งละเอยี ดถงึ ภาพ ในอนาคตทีต่ อ้ งการใหเ้ กดิ ขนึ้ ในองคก์ ร การสรา้ งวิสัยทศั นเ์ ป็นกระบวนการท่ีตอ้ งมสี ว่ นร่วมของผ้มู สี ่วนได้สว่ นเสยี สำ� คญั ในองค์กร โดย ปรับไปตามเงื่อนไขและบริบทของแต่ละองค์กรตามความเหมาะสม ตามความคิดของปีเตอร์ เซงเก้ (Peter Senge) บริบทของการก�ำหนดวสิ ัยทัศน์ในแตล่ ะองค์กรมี 5 แบบด้วยกนั ได้แก7่ 7 1. บอก (telling) ผู้นำ� องค์กรก�ำหนดวิสัยทศั น์ และทกุ คนทำ� ตาม 2. ขาย (selling) ผนู้ �ำองค์กรมวี ิสยั ทศั น์ แตต่ อ้ งโน้มนา้ วคนอน่ื ในองค์กรให้คล้อยตาม

193 | อนาคตศกึ ษา 3. ทดสอบ (testing) ผนู้ ำ� องคก์ รมคี วามคดิ บางอยา่ งทจ่ี ะเปน็ วสิ ยั ทศั นไ์ ด้ และตอ้ งการทดสอบ ปฏกิ ิรยิ าของคนในองคก์ รก่อนดำ� เนนิ การต่อไป 4. ปรึกษา (consulting) ผ้นู ำ� องคก์ รประกอบร่างวสิ ัยทัศน์ขน้ึ มา แล้วเปดิ โอกาสให้คนอนื่ ใน องค์กรใหค้ วามเห็นและค�ำแนะน�ำ 5. สร้างร่วมกัน (co-creating) ผู้น�ำและคนอ่ืน ๆ ในองค์กรร่วมกันสร้างวิสัยทัศน์โดย กระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งตามความคิดของเซงเก้ เป็นบริบทที่พึงประสงค์ท่ีสุดในการ สร้างวสิ ยั ทศั น์ท่ีไดผ้ ล ขั้นตอนและวิธกี าร กระบวนการสร้างวิสยั ทศั น์มอี ยหู่ ลายแนวทาง แตโ่ ดยมากมขี น้ั ตอนหลักดังนี้ ขัน้ ตอนแรกคอื การเลอื กผเู้ ข้ารว่ มกระบวนการ ซงึ่ มกั เน้นผ้มู ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียส�ำคัญทไ่ี มไ่ ดจ้ ำ� กัด อยู่เพียงคนในองค์กรเอง แต่อาจรวมถงึ คนอน่ื ท่ีมสี ว่ นร่วมหรือไดร้ บั ผลประโยชนห์ รอื ผลกระทบจาก การทำ� งานขององคก์ รนนั้ หลกั การสำ� คญั ของวสิ ยั ทศั นค์ อื ตอ้ งไดร้ บั การยอมรบั จากคนในองคก์ ร การ เลือกผ้เู ขา้ ร่วมกระบวนการสร้างวิสัยทศั น์จงึ ตอ้ งคำ� นึงถงึ การเปน็ ตัวแทนและความหลากหลายของผู้ เข้าร่วม ซ่งึ ไมค่ วรมีจำ� นวนคนมากหรือนอ้ ยเกินไป ขน้ั ตอนตอ่ ไปคอื การสรา้ งเวทแี ละบรรยากาศทด่ี สี ำ� หรบั การแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ และคณุ คา่ ของแต่ละคน เพือ่ นำ� ไปสู่คณุ ค่าร่วมกัน ท้งั นี้ อาจจัดเปน็ การประชุมปฏบิ ตั กิ ารนอกสถานทเี่ ปน็ เวลา 1-2 วัน โดยด�ำเนินการตามขนั้ ตอนดงั ต่อไปน้ี • ท�ำความเข้าใจกับอนาคตท่ีอาจเกิดข้ึนได้ โดยค�ำนึงถึงแนวโน้ม ปัญหาและความท้าทาย สถานการณ์ ฉากทศั น์ และการเปลยี่ นแปลงขององคก์ รในชว่ งที่ผ่านมา • สะท้อนความคิดของแต่ละคนและของกลุ่มเกี่ยวกับคุณค่าและความส�ำเร็จขององค์กรใน ช่วงที่ผ่านมา เพื่อกา้ วเขา้ สู่ช่วงเวลาของอนาคตทีค่ าดหวังให้เกิดขึ้น • พฒั นาวสิ ยั ทศั นร์ ว่ มกนั โดยอาจเรมิ่ จากการแลกเปลยี่ นวสิ ยั ทศั นข์ องผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ แตล่ ะ คน แลว้ พฒั นาข้อความท่สี ะท้อนถึงคุณค่าและความมงุ่ หวงั ของผเู้ ขา้ ร่วมประชมุ • ก�ำหนดเป้าหมายที่ต้องการบรรลุให้ถึงภายในเวลาท่ีก�ำหนดไว้ เป้าหมายท่ีต้ังไว้ควรแสดง ถึงความกล้าที่จะบรรลุสิ่งท่ีย่ิงใหญ่ได้ มีความชัดเจน มีความท้าทายและต่ืนเต้นพอท่ีจะ กระตนุ้ สมาชกิ ในองคก์ ร และสามารถวัดได้ • ก�ำหนดข้นั ตอนในการทำ� งานเพ่ือใหบ้ รรลเุ ป้าหมายที่ไดก้ ำ� หนดไว้ การสร้างวิสัยทัศน์สามารถใช้ร่วมกับวิธีการศึกษาอนาคตแบบอื่นได้ เช่น ในงานอนาคตศึกษา ของ Institute for Alternative Futures ข้ันตอนแรกของการสร้างวิสัยทัศน์เร่ิมจากการประเมิน สถานการณแ์ วดลอ้ มและการสรา้ งฉากทศั น์ จากนนั้ จงึ สรา้ งวสิ ยั ทศั น์ เพอื่ ระบถุ งึ ความปรารถนาและ อัตลักษณข์ ององคก์ ร แลว้ จึงตามด้วยการวิเคราะห์และวางแผนยุทธศาสตร์ขององค์กร78

อนาคตศึกษา | 194 แผนทน่ี �ำ ทางดา้ น วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี วธิ คี าดการณท์ นี่ ยิ มใชใ้ นการวางแผนนโยบายและยทุ ธศาสตรด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นตา่ ง ประเทศ คอื การจดั ทำ� แผนทนี่ ำ� ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (Science and Technology Road- mapping) ซงึ่ แสดงเสน้ ทางการพัฒนาวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยจี ากจดุ หนึง่ ในปจั จบุ นั ไปยงั เป้าหมาย หน่ึงที่ต้องการในอนาคต แผนท่ีน�ำทางเทคโนโลยีแสดงจุดเช่ือมและจุดตัดระหว่างข้ันตอนและการ คน้ พบทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยรี ะหวา่ งเส้นทางนั้น จึงเปน็ ทง้ั เครอื่ งมอื ในการคาดการณ์และ การวางแผนไปพร้อมกนั ตน้ ตอของแนวคดิ แผนทน่ี ำ� ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยคี อื การศกึ ษาขน้ั ตอนในววิ ฒั นาการ ของเหตุการณ์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีน�ำไปสู่การเกิดนวัตกรรมหรือระบบใหม่ งานวิจัย ส�ำคัญในด้านนี้คือโครงการวิจัยในทศวรรษที่ 1960 สองโครงการ คือ โครงการ “Traces” ของ มลู นธิ ิวทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Foundation) ของสหรฐั ฯ และโครงการ “Hind- sight” ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งวิเคราะหป์ ฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการค้นพบดา้ นวิทยาศาสตร์ และความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี งานวจิ ยั ทงั้ สองไดว้ างพนื้ ฐานสำ� หรบั การวเิ คราะหว์ วิ ฒั นาการของ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในยคุ ต่อมา อีกแนวคิดหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาแผนท่ีนำ� ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคือเคร่ืองมือ วางแผนทเี่ รยี กวา่ เทคนคิ การประเมนิ ผลและทบทวนแผนงาน (Program Evaluation and Review Technique - PERT) ซึ่งแสดงขั้นตอนในกระบวนการทม่ี งุ่ บรรลุเป้าหมายที่ตงั้ ไว้ โดยแสดงทางเลือก ของเสน้ ทางในการดำ� เนนิ การ และวเิ คราะหเ์ สน้ ทางสำ� คญั ทจ่ี ะทำ� ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายได้ หรอื ทเ่ี รยี กวา่ วธิ กี ารหาเสน้ ทางวกิ ฤติ (Critical Path Method) วธิ กี ารนเ้ี รมิ่ ใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลายในทศวรรษท่ี 1950 ในการวางแผนพฒั นาอาวธุ ต่อมาไดแ้ พร่หลายในการวางแผนโครงการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมการ ผลติ และการคน้ คดิ ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ แผนภาพแบบ PERT แสดงโครงขา่ ยของกจิ กรรมทต่ี อ้ งดำ� เนนิ การ เพอื่ บรรลเุ ปา้ หมายของโครงการ พรอ้ มแสดงจุดเชอ่ื ม (nodes) และขนั้ ตอนก่อนหลังของกจิ กรรม รวมถงึ ระดบั ความเชอ่ื มโยงและพงึ่ พาซง่ึ กนั และกนั การวเิ คราะหโ์ ครงขา่ ยนจ้ี ะชว่ ยระบเุ สน้ ทางวกิ ฤติ ท่มี ผี ลต่อเหตกุ ารณท์ ี่น�ำไปสเู่ ปา้ หมายสดุ ท้ายได้ วิธีการแผนท่ีนำ� ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยไี ด้

195 | อนาคตศึกษา พฒั นาเรอ่ื ยมา และมกี ารพฒั นาเทคนคิ วธิ อี นื่ ทคี่ ลา้ ยกนั เชน่ การวเิ คราะหล์ ำ� ดบั เทคโนโลยี (Technol- ogy Sequence Analysis) ซ่ึงเพมิ่ วธิ กี ารวิเคราะหเ์ ชิงสถติ ิเข้าไปในกระบวนการคาดการณ์ ตแวัผอนยภา่ างพแทผ่ีน2ท1่ีนำ�ทางเทคโนโลยรี ะดบั พืน้ ฐาน ดัดแปลงจาก: Ulrich & Eppinger (2003) นกั อนาคตศาสตร์ใช้เทคนิคแผนทนี่ �ำทางประกอบในการสร้างฉากทศั น์ เพอื่ แสดงถึงพัฒนาการ ของระบบทม่ี คี วามซบั ซอ้ นและมปี จั จยั ทมี่ ผี ลกระทบซงึ่ กนั และกนั แผนทนี่ ำ� ทางจงึ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ โครง รา่ งของฉากทัศน์ โดยอาจวิเคราะห์และระบรุ ะดบั ความเปน็ ไปไดเ้ ปน็ ตัวเลข เพอ่ื คาดการณข์ ้ันตอนที่ ตอ้ งบรรลแุ ละเวลาทต่ี อ้ งใชต้ ามเสน้ ทางทนี่ ำ� ไปสเู่ ปา้ หมายทา้ ยสดุ นอกจากน้ี นกั วางแผนยงั สามารถใช้ แผนทน่ี ำ� ทางในการระบถุ งึ ยทุ ธศาสตรท์ ตี่ อ้ งใชใ้ นการเขา้ สเู่ ปา้ หมาย สำ� หรบั การตดั สนิ ใจการลงทนุ ใน การวิจัยและพัฒนา (R&D) แผนที่น�ำทางช่วยในการวเิ คราะหแ์ ละเลือกเส้นทางในการวิจัยและพฒั นา ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพทสี่ ดุ หรอื มตี น้ ทนุ ตำ่� สดุ กระบวนการสรา้ งแผนทน่ี ำ� ทางยงั ชว่ ยสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ ม แลกเปลี่ยนส่ือสารและบูรณาการระหว่างผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสยี ทีส่ �ำคัญ แผนท่ีน�ำทางด้านเทคโนโลยีคือแผนที่มุ่งบรรลุเป้าหมายในระยะส้ันและระยะยาว โดยใช้วิธี การหรือเคร่ืองมือด้านเทคโนโลยีเฉพาะเจาะจง แผนท่ีน�ำทางเทคโนโลยีสามารถใช้ได้กับการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ กระบวนการหรอื เทคโนโลยีใหม่ โดยมีวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั 3 ประการคือ (1) เพอื่ สรา้ งข้อ ตกลงหรอื ฉนั ทามตเิ กย่ี วกบั ความจำ� เปน็ หรอื ความตอ้ งการดา้ นใดดา้ นหนง่ึ และเทคโนโลยที จี่ ะมาตอบ

อนาคตศึกษา | 196 สนองความจ�ำเปน็ นน้ั (2) เพอื่ สร้างกลไกในการพยากรณเ์ ทคโนโลยที จ่ี ะพฒั นาขน้ึ ในอนาคต และ (3) เพอ่ื ใช้เปน็ กรอบการวางแผนและประสานกจิ กรรมต่าง ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลย7ี 9 แผนทน่ี �ำทางเทคโนโลยีแบง่ ออกเปน็ 3 ประเภทด้วยกนั 80 ไดแ้ ก่ 1. แผนท่นี �ำทางเทคโนโลยผี ลิตภณั ฑ์ (product technology roadmap) แสดงข้ันตอนการ พัฒนาเทคโนโลยีจากปัจจุบนั ไปจนถึงขัน้ ทีส่ ามารถผลติ ภณั ฑ์ทีต่ อ้ งการ 2. แผนทน่ี ำ� ทางเทคโนโลยอี บุ ตั ใิ หม่ (emerging technology roadmap) แสดงววิ ฒั นาการ ของเทคโนโลยหี นง่ึ ทเี่ พง่ิ พฒั นาขน้ึ มา และทรพั ยากรทตี่ อ้ งใชใ้ นการกระตนุ้ หรอื ปรบั เปลย่ี น ทศิ ทางการพัฒนาเทคโนโลยดี งั กลา่ ว 3. แผนท่ีน�ำทางตามประเด็น (issue-oriented roadmap) แสดงถึงเทคโนโลยีท่ีเป็นองค์ ประกอบหน่ึงของกระบวนการหาวิธีแก้ไขปัญหาหรือวิวัฒนาการของปัญหาหรือความ ท้าทายชดุ หนึง่ แผนท่ีน�ำทางเทคโนโลยีมีท้ังท่ีเป็นแบบผลัก (push) ซ่ึงโดยทั่วไปมักใช้ในห้องทดลองในการ ออกแบบแผนงานการวิจัยและพัฒนา โดยแสดงขั้นตอนที่เป็นระบบในการผลักดันเทคโนโลยีจาก สภาพปัจจบุ นั ไปขา้ งหน้า และแบบดงึ (pull) ซง่ึ นักวางแผนพฒั นาผลติ ภัณฑม์ ักใช้ระบุเส้นทางทสี่ ัน้ ที่สดุ ท่ีนำ� ไปสเู่ ปา้ หมายของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ แผนทน่ี ำ� ทางเปน็ แผนภาพทแี่ สดงจดุ เชอ่ื ม (nodes) ทเ่ี ชอ่ื มตอ่ กนั โดยทจี่ ดุ เชอ่ื มแสดงเหตกุ ารณ์ สำ� คญั บนเสน้ ทางเขา้ หาเปา้ หมายทต่ี ง้ั ไว้ โดยอาจเปน็ องคป์ ระกอบทวี่ ดั ไดใ้ นเชงิ ปรมิ าณ เชน่ จำ� นวน สทิ ธิบัตรของแตล่ ะเทคโนโลยี หรือในเชงิ คณุ ภาพ เช่น คณุ ลักษณะของเทคโนโลยี ส่วนเส้นเชื่อมต่อ ระหวา่ งจดุ แสดงถงึ ความเช่อื มโยงระหว่างเหตกุ ารณ์ส�ำคญั ซ่ึงอาจเปน็ ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ เช่น จ�ำนวน การอา้ งองิ ระหวา่ งกลมุ่ เทคโนโลยี หรอื ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ เชน่ รปู แบบความเชอื่ มโยงระหวา่ งเทคโนโลยี แผนภาพดังกล่าวแสดงพัฒนาการของเทคโนโลยี ซึ่งเทคโนโลยีหน่ึงเป็นเงื่อนไขการพัฒนาของอีก เทคโนโลยีหน่ึง เส้นเชื่อมระหว่างแต่ละจุดในแผนภาพสามารถใช้แสดงระยะเวลาหรือความเป็นไป ไดท้ ี่เทคโนโลยีหนงึ่ จะน�ำไปสูอ่ ีกเทคโนโลยหี นึ่ง ขน้ั ตอนและวิธกี าร ในภาพรวม กระบวนการสร้างแผนท่ีน�ำทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีประกอบด้วยข้ันตอนส�ำคัญ คอื 81 (1) ระบจุ ดุ เชอ่ื ม (nodes) (2) กำ� หนดคณุ ลกั ษณะของจดุ เชอ่ื ม (3) เชอ่ื มจดุ ตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั และ (4) กำ� หนดคณุ ลกั ษณะของเสน้ เชอื่ ม กจิ กรรมหลกั สว่ นหนง่ึ ของวธิ กี ารนคี้ อื การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ซง่ึ เชญิ ผเู้ ชย่ี วชาญมารว่ มกนั กำ� หนดจดุ เชอ่ื มและเสน้ เชอ่ื มของระบบวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยที ตี่ อ้ งการ วิเคราะห์ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวมีต้ังแต่นักวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นักการตลาด ไปจนถึงนัก ลงทนุ และนกั นโยบายสาธารณะ โดยแตล่ ะคนมขี อ้ มลู และความรทู้ สี่ ามารถชว่ ยสรา้ งแผนทน่ี ำ� ทางได้

197 | อนาคตศึกษา ในเชิงกิจกรรม การสรา้ งแผนท่นี �ำทางเทคโนโลยสี ามารถแบง่ ออกเป็น 3 ขัน้ ตอนหลกั คือ การเตรยี มการ เรมิ่ จากการกำ� หนดและบรรลเุ งอื่ นไขเบอื้ งตน้ ของการทำ� แผนทนี่ ำ� ทาง เชน่ การ ยอมรบั วา่ องคก์ รหรอื หนว่ ยงานมปี ญั หาหรอื ความทา้ ทายบางอยา่ งทต่ี อ้ งใชแ้ ผนทนี่ ำ� ทางในการจดั การ กบั ปญั หาหรอื ความทา้ ทายนนั้ การจดั เตรยี มทรพั ยากร และการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของตวั แทนผมู้ สี ว่ น ได้ส่วนเสียและผู้ที่เกี่ยวข้องในองค์กรที่มีความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่างและหลากหลาย เพื่อให้ นำ� ผลลัพธไ์ ปใชต้ อ่ ได้จริง จากน้ันจงึ เปน็ การก�ำหนดผนู้ �ำหรอื เจ้าภาพในการด�ำเนนิ กระบวนการ แลว้ ตามดว้ ยการก�ำหนดขอบเขตของแผนท่นี �ำทาง ท้ังขอบเขตในด้านเทคโนโลยแี ละขอบเขตในดา้ นการ มีส่วนร่วมของผู้ทีเ่ กยี่ วข้อง การพัฒนาแผนทนี่ ำ� ทาง ข้นั ตอนน้ีแบ่งเป็น 7 ข้นั ตอนย่อย82 ไดแ้ ก่ 1. ก�ำหนดผลผลิตที่เป็นจุดมุ่งหมายของการท�ำแผนท่ีน�ำทาง หากไม่สามารถวิเคราะห์ หาความตอ้ งการรว่ มกัน (common product needs) ได้ ใหใ้ ช้วิธีการแบบฉากทัศน์ 2. ก�ำหนดความต้องการของระบบท่ีส�ำคัญ (critical system requirements) และ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายทแ่ี สดงมิตติ ่าง ๆ ของเทคโนโลยีทต่ี ้องมี อาทิ ต้นทนุ ตำ่� ความ เชือ่ ถือสูง ความตอ้ งการนี้จะใชเ้ ป็นกรอบในการจดั ทำ� แผนทน่ี �ำทาง 3. ก�ำหนดขอบเขตเทคโนโลยีส�ำคัญท่ีจะท�ำให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามความต้องการท่ี กำ� หนดไว้ก่อนหน้านี้ 4. ก�ำหนดปัจจัยท่ีขับเคลื่อนเทคโนโลยีและเป้าหมาย โดยระบุว่าทางเลือกเทคโนโลยีแต่ละ ชดุ จะต้องใชไ้ ด้ในระดบั ใดภายในเวลาเทา่ ใด 5. วิเคราะห์หาทางเลือกด้านเทคโนโลยีและล�ำดับเวลาของพัฒนาการ ตามเป้าหมายด้าน คณุ ลกั ษณะหรอื ขดี ความสามารถของเทคโนโลยภี ายในชว่ งเวลาและลำ� ดบั เวลาทกี่ ำ� หนดไว้ 6. แนะน�ำทางเลอื กของเทคโนโลยที ค่ี วรด�ำเนินการหรือพัฒนาต่อ รวมถงึ จังหวะเวลาที่ควร เปลย่ี นเป็นเทคโนโลยอี ่ืน 7. จัดท�ำรายงานแผนที่น�ำทางเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยการระบุและให้รายละเอียดเก่ียว กบั เทคโนโลยี ปจั จัยส�ำคัญ ประเด็นท่ยี งั ไม่ไดว้ เิ คราะหแ์ ละจัดการ ขอ้ แนะนำ� ดา้ นเทคนิค และในการนำ� ผลการวเิ คราะหไ์ ปใช้ตอ่ การตดิ ตามงานตอ่ เนอ่ื ง เมอ่ื ไดแ้ ผนทนี่ ำ� ทางแลว้ ตอ้ งเปดิ ใหผ้ ทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งไดว้ พิ ากษ์ ใหค้ ำ� แนะนำ� และยนื ยนั วา่ โครงสรา้ ง และองคป์ ระกอบของแผนทนี่ ำ� ทางทไ่ี ดท้ ำ� ขนึ้ มานน้ั ถกู ตอ้ งและเปน็ ทย่ี อมรบั ได้ โดยเฉพาะภายในกลมุ่ คนทจี่ ะนำ� แผนท่ีน�ำทางนัน้ ไปใช้ต่อ เม่ือใช้ไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ต้องมีการทบทวนและปรับให้ทันสมยั เปน็ ประจ�ำ เน่อื งจากความต้องการและเทคโนโลยมี กั เปลี่ยนไปตามกาลเวลา การวเิ คราะห์ลำ� ดบั เทคโนโลยี วธิ กี ารหนงึ่ ทพ่ี ฒั นาตอ่ ยอดจากการจดั ทำ� แผนทนี่ ำ� ทางวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยคี อื วธิ กี ารวเิ คราะหล์ ำ� ดบั ทางเทคโนโลยี (Technology Sequence Analysis - TSA) ซ่งึ เร่ิมใชค้ รง้ั แรกในทศวรรษท่ี 1980

อนาคตศึกษา | 198 วัตถุประสงค์หลักของวิธีการน้ีคือ เพ่ือคาดการณ์ความเป็นไปได้ท่ีระบบเทคโนโลยีหน่ึงจะมีใช้ได้ใน อนาคต โดยคำ� นวณคา่ ความเปน็ ไปไดต้ ามระยะเวลาทป่ี ระมาณวา่ จะตอ้ งใชใ้ นการพฒั นาแตล่ ะขน้ั ตอน ทจี่ �ำเป็นในการพฒั นาเทคโนโลยีน้ัน แนวคิดพน้ื ฐานของวิธีการนบ้ี างสว่ นมาจากการวิเคราะหล์ �ำดบั ศกั ยห์ รือต้นไมค้ วามเกย่ี วขอ้ ง (Relevance Tree analysis) โดยเพิม่ ขน้ั ตอนการประมาณระยะเวลา ที่ใช้ในเชิงปรมิ าณ แม้วา่ แนวคดิ วธิ กี าร และซอฟต์แวรท์ ไ่ี ดพ้ ัฒนาข้นึ มาในช่วงแรกมุง่ ใชเ้ พอื่ การคาด การณเ์ ทคโนโลยี แตก่ ม็ กี ารนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การวางแผนดา้ นอน่ื ได้ เชน่ การคาดการณผ์ ลลพั ธท์ าง สงั คมของนโยบายโดยคำ� นวณความเปน็ ไปไดข้ องระยะเวลาทจ่ี ะสามารถบรรลเุ ปา้ หมายระยะสนั้ และ ระยะกลางทีจ่ ะน�ำไปสู่เป้าหมายระยะยาว หรอื อาจประยุกต์ใชว้ ธิ กี ารดงั กล่าวเพ่ือวเิ คราะห์นโยบาย ดา้ นเทคโนโลยี โดยเปรยี บเทยี บชุดเทคโนโลยีที่แขง่ กันอยู่ และเลอื กเทคโนโลยที ่ีเหมาะสมท่สี ุด วธิ ี น้ยี ังพัฒนาอยูเ่ รอื่ ยมา ตวั อยา่ งเชน่ ระบบวเิ คราะหล์ ำ� ดบั เทคโนโลยีของกลมุ่ The Futures Group ครอบคลมุ เครอื ข่ายที่มขี ั้นตอนระยะกลาง (intermediate steps) ของเทคโนโลยีตา่ ง ๆ ซง่ึ จ�ำเปน็ ตอ้ งใช้ซอฟตแ์ วร์และฐานขอ้ มูลขนาดใหญใ่ นการวเิ คราะห์ ขอ้ สมมตพิ น้ื ฐานของวธิ ีการ TSA คอื เชื่อว่า อนาคตเปน็ ชดุ ของข้นั ตอนหรอื การตัดสินใจท่ีเช่อื ม ต่อกันอย่างเป็นเหตุและผล ซ่ึงน�ำไปสู่ผลลัพธ์ท่ีเป็นสถาวะหนึ่งในอนาคต ช่วงระยะเวลาระหว่างจุด (node) หรือขั้นตอน (step) ระหว่างเส้นทางนั้นสามารถแสดงเป็นค่าความเป็นไปได้ของแต่ละจุด เมื่อรวมกันแล้วจึงสามารถวิเคราะห์ค่าความเป็นไปได้ของสภาวะอนาคตที่อาจเป็นเทคโนโลยีหรือ ระบบสงั คมทต่ี อ้ งการพฒั นา สำ� หรบั ในการวเิ คราะหเ์ ทคโนโลยี แตล่ ะจดุ ในเครอื ขา่ ยคอื เทคโนโลยขี น้ั กลาง (intermediate technologies) การพัฒนาเทคโนโลยีขน้ั สดุ ทา้ ยจงึ สามารถคาดการณไ์ ด้จาก การวิเคราะห์องค์ประกอบท้ังหมดของระบบหรือโครงข่ายเทคโนโลยีท้ังหมด ประกอบกับช่วงเวลา ทีใ่ ช้ในการพฒั นาเทคโนโลยี ซง่ึ สามารถเกบ็ ขอ้ มลู ได้จากการสัมภาษณค์ วามคดิ เห็นของผ้เู ชีย่ วชาญ ในการวิเคราะห์ TSA ของระบบหรือโครงขา่ ยเทคโนโลยีทั่วไปประกอบด้วยจุดเชื่อมตั้งแต่ 600 ถงึ 800 จุด และมเี ส้นทางเลอื ก (paths) ประมาณ 700 ถงึ 1,000 เส้น ดงั นั้น การประยุกตใ์ ช้งานวธิ ี การนใี้ นการพฒั นาเทคโนโลยจี รงิ จงึ ตอ้ งใชซ้ อฟตแ์ วรท์ พี่ ฒั นาขนึ้ มาเฉพาะเพอื่ การน้ี และโดยมากใช้ วธิ กี ารเชงิ สถติ แิ บบมอนตคิ ารโ์ ลในการคำ� นวณความเปน็ ไปไดใ้ นแตล่ ะทางเลอื ก แมว้ า่ วธิ กี ารดงั กลา่ ว จะมคี วามซบั ซ้อน แต่เหมาะสมสำ� หรบั การคาดการณ์และพฒั นาระบบอนาคตทขี่ ้นึ อยู่กบั เทคโนโลยี และสามารถใช้ได้ดีในการระบุเทคโนโลยีข้ันกลางที่ต้องพัฒนาข้ึนเพ่ือให้เป้าหมายสุดท้ายบรรลุได้ ตามวันเวลาทีก่ ำ� หนดไว้ นอกจากนี้ วิธีการดังกล่าวยังสามารถใช้ได้ในการประมาณต้นทุนของการพัฒนาเทคโนโลยีใน แตล่ ะเส้นทางเลือก รวมถึงการระบุเทคโนโลยีเฉพาะท่ีตอ้ งกำ� หนดไวใ้ นแผนงานวจิ ัยและพัฒนา เพอื่ ลดความเสี่ยงในการพัฒนาเทคโนโลยีในภาพรวม ซ่ึงท�ำให้สามารถลดต้นทุนให้ต�่ำท่ีสุดหรือใช้เวลา น้อยทส่ี ุด วิธีการนย้ี ังสามารถระบถุ งึ ความไมแ่ นน่ อนของกระบวนการและก�ำหนดเวลาของโครงการ พัฒนา ส�ำหรับในกรณีที่ใช้วิธีการนี้ในการวิเคราะห์นโยบาย ผู้วิเคราะห์สามารถคาดประมาณระยะ เวลาและความเป็นไปไดท้ ี่ต้องใชใ้ นการบรรลุเปา้ หมายในระยะส้นั และระยะกลาง

199 | อนาคตศึกษา การวเิ คราะหแ์ บบจ�ำ ลอง ตามพฤตกิ รรมผกู้ ระท�ำ การสรา้ งแบบจำ� ลองตามพฤตกิ รรมผ้กู ระท�ำ (Agent-Based Modeling – ABM) เปน็ อีกวธิ ีการหนงึ่ ทไ่ี ดร้ บั ความนิยมและแพรห่ ลายมากขึ้นในวงการวจิ ยั ที่ตอ้ งการคาดการณ์การเปล่ยี นแปลงในอนาคต แนวคดิ พื้นฐานของ ABM คอื การสรา้ งระบบทรี่ วมการตัดสินใจอยา่ งอิสระ (autonomous decision making) ของผกู้ ระทำ� (agents) ซง่ึ อาจเปน็ บคุ คลหรอื กลมุ่ บคุ คล ผกู้ ระทำ� แตล่ ะคนหรอื แตล่ ะกลมุ่ จะ ประเมินสถานการณ์ของตนเองและตดั สนิ ใจภายใต้เงือ่ นไขเฉพาะของแต่ละคน เพ่ือดำ� เนินพฤติกรรม ท่ีเหมาะสมส�ำหรับบทบาทในแต่ละระบบย่อยท่ีผู้กระท�ำน้ันเป็นตัวแทนอยู่ ตัวอย่างของระบบย่อย น้ี ได้แก่ ระบบการผลิต ระบบการบริโภค ระบบการขาย ฯลฯ คณุ ลกั ษณะหนงึ่ ของแบบจำ� ลองตาม พฤตกิ รรมผูก้ ระท�ำคอื การปฏสิ ัมพนั ธท์ ี่เกิดซ้�ำกันเปน็ ประจ�ำระหว่างผู้กระทำ� แต่ละคน83 นกั วเิ คราะห์ จะใช้คอมพิวเตอร์ในการค�ำนวณพลวัตของปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้กระท�ำที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ด้วย วิธีการแบบจำ� ลองคณติ ศาสตร์ทั่วไป องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของแบบจำ� ลองตาม ABM ประกอบด้วยระบบของผกู้ ระทำ� (a system of agents) และความสมั พนั ธร์ ะหว่างผกู้ ระท�ำ การวิเคราะหด์ ้วยแบบจำ� ลองประเภทนจี้ ะแสดงรูปแบบ พฤติกรรมท่ีซับซ้อน และท�ำให้เราสามารถเข้าใจถึงพลวัตของระบบในโลกความเป็นจริงท่ีจ�ำลองมา แบบจ�ำลองยังสามารถเปิดโอกาสให้ผู้กระท�ำพัฒนาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมท่ีไม่ได้ท�ำนายมาก่อน แบบจำ� ลอง ABM ทซี่ บั ซอ้ นใชโ้ ครงขา่ ยประสาทเทยี ม (neural networks) อลั กอรทิ มึ เชงิ ววิ ฒั นาการ (evolutionary algorithms) หรอื เทคนิคการเรียนรอู้ น่ื ๆ ทีส่ ะทอ้ นวิธกี ารเรียนรูแ้ ละการปรับตัวท่ี เกดิ ขึน้ จรงิ แนวคดิ พนื้ ฐานของแบบจำ� ลอง ABM มมี าตัง้ แต่ในทศวรรษท่ี 1940 และพัฒนาเรอ่ื ยมา แตเ่ ร่ิม มีการใช้ประยุกต์ในการวิเคราะห์และคาดการณ์อย่างแพร่หลายเมื่อขีดความสามารถในการค�ำนวณ ของคอมพิวเตอรไ์ ดเ้ พมิ่ ข้นึ อยา่ งทวีคณู ในช่วง 2-3 ทศวรรษทีผ่ ่านมา บทความวิจัยในวารสารวชิ าการ ที่ตีพิมพ์จ�ำนวนมากใช้วิธีการแบบจ�ำลอง ABM ในแทบทุกสาขาวิชาท่ีเก่ียวข้องกับการตัดสินใจและ พฤติกรรมของมนุษย์ ทง้ั ในด้านลงทุนการเงนิ ดา้ นระบาดวิทยา ด้านนเิ วศวทิ ยาและวทิ ยาศาสตรส์ ่งิ แวดลอ้ ม และดา้ นการใช้ประโยชนท์ ีด่ นิ เปน็ ตน้ หวั ขอ้ หลกั ทีน่ ักวจิ ยั ไดป้ ระยกุ ต์ใช้แบบจ�ำลอง ABM แบ่งออกเป็น 4 กลมุ่ ดว้ ยกนั 84 ไดแ้ ก่ 1. กระแส (flows) เช่น การหนภี ัย การจราจร การจดั การการไหลเวยี นของลูกค้า 2. ตลาด (markets) เชน่ ตลาดหนุ้ ระบบการตอบสนองลกู ค้า (shopbots) และการจำ� ลอง สถานการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์

อนาคตศึกษา | 200 3. องคก์ ร (organizations) เชน่ การวเิ คราะหค์ วามเสยี่ งในการดำ� เนนิ งาน และการออกแบบ องคก์ ร 4. การแพร่กระจาย (diffusion) เช่น การแพร่กระจายของนวัตกรรม และพลวัตของการ เปดิ รับเทคโนโลยี แบบจ�ำลอง ABM มีเงื่อนไขเบื้องต้น คือ ระบบที่มีองค์ประกอบท่ีไม่ซับซ้อนอาจมีรูปแบบ พฤติกรรมที่ซับซ้อนและไม่สามารถท�ำนายได้ ระบบไม่เชิงเส้น (non-linear systems) ที่มีองค์ ประกอบงา่ ย ๆ แตเ่ มื่ออยภู่ ายใต้เงอื่ นไขบางอยา่ ง กลบั มีรปู แบบพฤติกรรมทซ่ี บั ซอ้ นและก�ำหนดได้ หรือดเี ทอรม์ ีนิสตกิ (deterministic) แตไ่ มส่ ามารถคาดการณไ์ ด้ นอกจากนี้ ระบบทด่ี เู หมอื นว่าไม่มี แบบแผน (random) จรงิ แล้วอาจมีแบบแผน (order) อยกู่ ็ได้ ในระบบเคออสและระบบท่จี ดั การตัว เอง (self-organizing systems) อาจมีแบบแผนบางประการอยู่ อกี เง่อื นไขท่สี ำ� คัญของแบบจ�ำลอง ABM คือ ฐานข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทางสังคมของมนุษย์ได้พัฒนาและขยายใหญ่ขึ้นมามาก จน สามารถวเิ คราะหก์ ารระบาดหรอื แพรก่ ระจายของสิง่ ตา่ ง ๆ ดงั ทเี่ กิดกบั การระบาดของโรค ไม่วา่ จะ เป็นความคิด ความเชือ่ ความนิยม หรอื รปู แบบพฤตกิ รรมบางอยา่ ง การพัฒนาขีดความสามารถในการค�ำนวณของคอมพิวเตอร์และแบบจ�ำลอง ABM อาจเป็น ทางเลือกในการแสวงหาความรู้และค�ำตอบแทนวิธีการเชิงวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมท่ีพฤติกรรมของ ระบบได้ถูกคาดการณ์ไว้แล้วโดยสมการที่ก�ำหนดไว้ก่อนหน้าน้ี แบบจ�ำลองคณิตศาสตร์แบบเดิมที่ ใชใ้ นการคาดการณ์พฤตกิ รรมของผ้กู ระท�ำต่าง ๆ อาจไม่สามารถใช้อธบิ ายและคาดการณ์พฤตกิ รรม ของผู้กระท�ำระบบในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เน่ืองจากรูปแบบพฤติกรรมอาจเปล่ียนแปลงและมี ความซับซ้อนมากข้ึน เม่ือเงื่อนไขเปลี่ยนไปเพียงนิดเดียว แม้กระท่ังในระบบที่ดูเหมือนว่าจะมีองค์ ประกอบง่าย ๆ อยกู่ ต็ าม ขีดความสามารถในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ท่ีเพ่ิมข้ึนอย่างทวีคูณ ท�ำให้อาจไม่จ�ำเป็น ตอ้ งเขยี นสมการคณติ ศาสตรแ์ บบเดมิ ทพ่ี ยายามสรา้ งแบบจำ� ลองทเ่ี ปน็ ตวั แทนของปรากฏการณจ์ รงิ ที่ ตอ้ งการศกึ ษา แตส่ ามารถใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการจำ� ลองสถานการณ์ (computer simulations) แทน ข้นั ตอนและวธิ ีการ การสร้างแบบจ�ำลอง ABM เร่ิมจากการก�ำหนดประชากรของปัญหาหรือประเด็นท่ีต้องการวิเคราะ การสร้างแบบจ�ำลอง ABM เรมิ่ จากการก�ำหนดประชากรของปัญหาหรือประเดน็ ท่ตี อ้ งการวเิ คราะห์ ซึง่ ประกอบด้วยผู้กระทำ� กลุม่ ต่าง ๆ ทีม่ พี ฤตกิ รรมทีแ่ ตกต่างกนั จากนัน้ จึงกำ� หนดกฎหรือกตกิ าของ พฤติกรรมของผู้กระท�ำแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม รวมถึงกฎกติกาของการเล่น (play) หรือการแลก เปลีย่ นและปฏสิ มั พนั ธ์ซ่ึงกันและกนั ระหว่างผู้กระทำ� แต่ละคน ในกรณที เ่ี ป็นการวิเคราะหท์ มี่ นี ยั ดา้ น พ้ืนท่ี อาจมีกฎกตกิ าเกี่ยวกบั ตำ� แหนง่ และการใชพ้ นื้ ทนี่ นั้ เชน่ ในกรณีของการใช้แบบจำ� ลอง ABM เพ่ือคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ท่ีดิน กฎกติกาด้านผังเมืองและการควบคุมการใช้ ประโยชน์ท่ีดินสามารถน�ำมาเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ กฎกติกาท่ีก�ำหนดขึ้นในแบบจ�ำลอง อาจแปรผันและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ท้ังเวลา ต�ำแหน่งที่ตั้งของผู้กระท�ำ ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา อาชพี เศรษฐสถานะ หรอื ปจั จัยเง่อื นไขอืน่ ท่ีคิดวา่ นา่ จะมีผลต่อพฤตกิ รรมของผกู้ ระทำ� นอกจากนี้ ผู้กระท�ำแต่ละคนจะมกี ฎกตกิ าของพฤตกิ รรมทแ่ี ตกต่างกัน ขนั้ ตอนตอ่ จากนน้ั เปน็ การวเิ คราะหก์ ารเลน่ หรอื ปฏสิ มั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และกนั ของผกู้ ระทำ� แตล่ ะคน โดยเปิดให้มีการเล่นซ�้ำกันไปอย่างต่อเนื่องภายในรอบเวลาและระยะเวลาท่ีคิดว่าเหมาะสมส�ำหรับ

201 | อนาคตศกึ ษา การวิเคราะห์นั้น ในระหว่างน้ัน จะมีการวิเคราะห์รูปแบบและการเปล่ียนแปลงของพฤติกรรมของผู้ กระทำ� อาทิ ตำ� แหนง่ ทตี่ ง้ั บนพน้ื ที่ รปู แบบการใชพ้ นื้ ท่ี ฯลฯ ในชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ผวู้ เิ คราะหส์ ามารถปรบั เปลย่ี นปจั จยั และเงอื่ นไขของการเลน่ รวมถงึ กฎหรอื เงอ่ื นไขทก่ี ำ� หนดพฤตกิ รรมของผกู้ ระทำ� ไดเ้ ชน่ กนั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผกู้ ระทำ� สามารถแสดงออกเปน็ สมการในหลายรปู แบบ ซงึ่ สามารถสรา้ งตวั แปรได้ ตามท่ีต้ังสมมติฐานไว้ จ�ำนวนรอบของการวิเคราะห์ในแบบจ�ำลองจะสะท้อนช่วงเวลาและระยะเวลา ที่ต้องการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมและผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึน การปรับเปล่ียนกฎกติกาหรือเง่ือนไขของ ผูก้ ระท�ำและของการเลน่ จะท�ำใหเ้ กดิ ความซบั ซ้อนของรูปแบบพฤตกิ รรมมากข้นึ จดุ มงุ่ หมายสำ� คญั ของการปรบั เปลยี่ นกฎกตกิ าในการเลน่ คอื เพอื่ สะทอ้ นปรากฏการณห์ รอื สภาพ ท่ีเกิดขึ้นให้ได้สมจริงมากท่ีสุด ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการใช้แบบจ�ำลอง ABM ในการคาดการณ์การ เปล่ยี นแปลงในตลาดทีด่ นิ อาจตอ้ งแบ่งกลมุ่ ผูซ้ ้อื และผขู้ ายใหช้ ดั เช่น ผู้ประกอบการอสงั หาริมทรพั ย์ ขนาดใหญอ่ าจดำ� เนนิ กลยทุ ธเ์ ชงิ บกุ ในชว่ งเศรษฐกจิ ตกตำ�่ ดว้ ยการกวา้ นซอื้ ทดี่ นิ เนอ่ื งจากมเี งนิ ทนุ อยู่ มากหรือสายป่านยาว ในขณะท่ีผู้ประกอบการรายย่อยจ�ำเป็นต้องปล่อยขายที่ดินท่ีอยู่ในสต็อกออก เพอื่ ใหธ้ รุ กจิ สามารถอยรู่ อด พฤตกิ รรมทแี่ ตกตา่ งกนั นค้ี วรสะทอ้ นอยใู่ นการกำ� หนดกลมุ่ ผกู้ ระทำ� และ กฎเงื่อนไขพฤติกรรมของแตล่ ะกลุม่ หนงึ่ ในจดุ แขง็ ของวธิ กี ารแบบจำ� ลองตามพฤตกิ รรมผกู้ ระทำ� นคี้ อื ความยดื หยนุ่ ของวธิ กี าร ซงึ่ เปดิ โอกาสใหน้ กั วจิ ยั สามารถวเิ คราะหค์ วามออ่ นไหว (sensitivity analysis) ไดง้ า่ ย อกี ทงั้ ยงั สามารถแสดง ผลการจำ� ลองสถานการณ์ทเ่ี กิดขึน้ ในชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ได้งา่ ยและเห็นภาพชัดเจน การเขียนโปรแกรม เพื่อสร้างแบบจ�ำลอง ABM ไม่ต้องการทักษะที่สูงมากเท่าใดนัก85 ความยืดหยุ่นส่วนหนึ่งของวิธีการ น้ีคือ นักวิเคราะห์สามารถเพิ่มลดจ�ำนวนของผู้กระท�ำในแบบจ�ำลองได้ไม่ยาก และสามารถปรับองค์ ประกอบของผู้กระท�ำให้ซับซ้อนได้ตามเงื่อนไขท่ีหลากหลาย ทั้งพฤติกรรมของผู้กระท�ำ ระดับความ มีเหตุผลของแต่ละคน ขีดความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนา รวมถึงกฎเงื่อนไขของปฏิสัมพันธ์ ระหว่างผ้กู ระทำ� เป็นตน้ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังสามารถปรับระดับของการวิเคราะห์และการรวมหรือแยกกลุ่มของผู้ กระทำ� ใหล้ ะเอียดหรอื หยาบไดต้ ามประเดน็ ทต่ี ้องการวิเคราะห์และขอ้ จำ� กดั ในการวิจยั ดังตัวอย่างที่ เสนอไปก่อนหน้าน้ี ผปู้ ระกอบการอสังหารมิ ทรพั ย์อาจถือเป็นกลมุ่ ผู้กระท�ำหนง่ึ แตใ่ นบางกรณี อาจ ต้องแบง่ กล่มุ ผู้ประกอบการเปน็ กลุม่ ย่อย ๆ เพื่อสะท้อนประเดน็ วิเคราะห์ ในบางกรณี นกั วจิ ยั อาจไม่ สามารถก�ำหนดความละเอียดของการแบ่งกลุ่มได้ก่อนล่วงหน้า จึงอาจสร้างแบบจ�ำลอง ABM ด้วย การแบ่งกลุ่มผู้กระท�ำแบบหยาบ ไปก่อน แล้วจึงค่อยปรับรายละเอียดให้สะท้อนความเป็นจริงมาก ขึ้นไดใ้ นภายหลงั ข้อวิพากษ์หน่ึงท่ีมีต่อแบบจ�ำลอง ABM คือ กฎกติกาท่ีผู้วิจัยได้ต้ังข้ึนมาและคาดว่าเป็นปัจจัย ท่ีก�ำหนดพฤติกรรมของผู้กระท�ำนั้น สะท้อนความเป็นจริงมากน้อยขนาดไหนและได้ดีกว่าวิธีการ วเิ คราะหแ์ บบดงั้ เดมิ ทต่ี ง้ั สมมตฐิ านและสรา้ งสมการทส่ี ะทอ้ นพฤตกิ รรมของผกู้ ระทำ� ในแตล่ ะกลมุ่ จรงิ หรอื ไม่ อยา่ งไรก็ตาม แบบจ�ำลอง ABM ได้รบั การแกไ้ ขและพฒั นาใหต้ อบโจทย์ท่หี ลากหลายมากขน้ึ โดยผสมผสานกบั วธิ กี ารวเิ คราะหแ์ บบอน่ื เพอื่ ลดขอ้ จำ� กดั ของวธิ กี ารน้ี แบบจำ� ลอง ABM จงึ ถอื เปน็ วธิ ี การและเคร่อื งมอื สำ� คัญในการคาดการณ์ทีน่ ่าจะไดร้ บั ความนิยมและแพร่หลายมากขนึ้ อกี ในอนาคต

อนาคตศึกษา | 202 การวเิ คราะหช์ น้ั สาเหตุ วิธีการศึกษาอนาคตที่พัฒนาขึ้นในช่วง 3–4 ทศวรรษที่ผ่านมาให้ความส�ำคัญกับการตีความเชิง วิพากษ์มากกว่าวิธีการคาดการณ์เชิงระบบและการพยากรณ์ภาพอนาคตแบบดั้งเดิม หนึ่งในน้ัน คอื วธิ กี ารวเิ คราะหช์ น้ั สาเหตุ (Causal Layered Analysis - CLA) ซงึ่ พฒั นาโดยโซเฮล อนิ ายาตอลลา (Sohail Inayatullah) วิธีการนี้พยายามบูรณาการวิธีการเรียนรู้ในหลายด้านเข้าด้วยกัน ทั้งในเชิง ประจักษ์ เชิงการตีความ เชิงวิพากษ์ และเชิงปฏิบัติการ วัตถุประสงค์หลักของวิธีการวิเคราะห์ ช้ันสาเหตุจึงไม่ได้อยู่ท่ีการพยากรณ์อนาคตเป็นหลัก แต่อยู่ที่การสร้างพ้ืนที่เปิดกว้างส�ำหรับการ เปล่ียนแปลงและพัฒนาทางเลือกของอนาคต รวมท้ังการพัฒนานโยบายระยะยาวที่เปิดกว้างและ ครอบคลมุ กลุ่มคนท่ีหลากหลายมากข้นึ การวิเคราะห์ชั้นสาเหตุแบ่งระดับการวิเคราะห์ออกเป็น 4 ช้ันด้วยกัน คือ ระดับเหตุการณ์ (litany) ระดบั สาเหตเุ ชงิ ระบบ (symtem causes) ระดบั โลกทศั นแ์ ละวาทกรรม (discourse/world- view) และระดบั ต�ำนานและอปุ ลกั ษณ์ (myth and metaphor) วตั ถุประสงค์หนง่ึ ของการวเิ คราะห์ อนาคตดว้ ยวธิ ีการนีค้ ือการเชือ่ มโยงเหตุการณแ์ ละสาเหตุต่าง ๆ ตามระดบั ชั้นของสาเหตทุ ั้ง 4 ระดับ สาเหตชุ ั้นที่ 1 คือระดับเหตุการณซ์ �ำ้ ซาก ประกอบดว้ ยเหตุการณ์ ปรากฏการณ์ แนวโน้มและ ปัญหาที่เกิดข้ึนท่ัวไปเป็นประจ�ำซ�้ำซาก แต่อาจดูไม่ต่อเนื่องและเก่ียวข้องกัน การรับรู้ปัญหาซ้�ำซาก เหล่าน้ีอาจท�ำให้เกิดท่าทีเกี่ยวกับอนาคตในเชิงลบ เช่น ปัญหารถติดในกรุงเทพมหานคร อาจท�ำให้ เกดิ ความรสู้ กึ ว่าชว่ ยอะไรไมไ่ ด้ (helplessness) ความไม่แยแส (apathy) หรือผลักภาระไปใหค้ นอื่น (projected action) การศกึ ษาอนาคตในระดบั นมี้ งุ่ วเิ คราะหป์ ระเดน็ ปญั หาทส่ี ามารถมองเหน็ จบั ตอ้ ง ได้ และไมต่ อ้ งใชว้ ธิ กี ารหรอื ทกั ษะในการวเิ คราะหเ์ ชงิ ลกึ อะไรมาก และไมใ่ หค้ วามสนใจกบั สมมตฐิ าน และเงื่อนไขเชิงลกึ ของปรากฏการณ์มากนัก สาเหตุชน้ั ท่ี 2 เป็นสาเหตเุ ชิงระบบ ซึ่งครอบคลมุ ปัจจัยขบั เคลอื่ นท่ีท�ำใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลง ของระบบเศรษฐกจิ วฒั นธรรม การเมืองและประวตั ศิ าสตร์ งานสว่ นนเ้ี นน้ การวิเคราะห์และตคี วาม ขอ้ มูลเชงิ ปริมาณด้วยคำ� อธบิ ายในเชิงวิชาการ ตวั อย่างสาเหตุทมี่ ักวิเคราะหใ์ นระดับนี้ ได้แก่ พลวตั ดา้ นประชากร การเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยี นโยบายทางเศรษฐกิจสงั คม บทบาทของรฐั และกล่มุ

203 | อนาคตศกึ ษา ผลประโยชน์ เป็นต้น กรอบการวิเคราะห์ STEEP ท่ีใช้ในการกวาดสัญญาณเพ่ือการคาดการณ์เชิง ยทุ ธศาสตรม์ กั เปน็ การวิเคราะหใ์ นระดบั สาเหตุเชิงระบบน้ี สาเหตขุ น้ั ท่ี 3 คอื วาทกรรมและโลกทศั น์ ทร่ี องรบั สนบั สนนุ และสรา้ งความชอบธรรมใหก้ บั ปจั จยั ดา้ นสงั คมและปรากฏการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ เชน่ ถา้ ปรากฏการณท์ นี่ กั อนาคตศาสตรส์ นใจคอื เรอ่ื งประชากรลน้ โลก (overpopulation) และสาเหตใุ นระดบั สงั คมและเศรษฐกจิ คอื การตงั้ ใจมลี กู มาก สาเหตใุ นระดบั วาทกรรมและโลกทัศน์อาจเก่ียวข้องกับมุมมองเก่ียวกับบทบาทของผู้หญิงในสังคม ความเชื่อและค่า นิยมเกยี่ วกบั การวางแผนครอบครวั และการคมุ ก�ำเนดิ รวมไปถึงอ�ำนาจการตอ่ รองของผหู้ ญงิ ในสงั คม เปา้ หมายสำ� คญั ของการวเิ คราะหใ์ นสว่ นนคี้ อื การคน้ หาโครงสรา้ งเชงิ ลกึ ดา้ นสงั คม วฒั นธรรมหรอื แมแ้ ต่ ด้านภาษาท่ีก�ำหนดกรอบของปัจจัยทางสังคมที่ต้องการวิเคราะห์ การค้นหาข้อสมมติและเง่ือนไขเชิง โครงสรา้ งของปญั หาตา่ ง ๆ จะทำ� ใหส้ ามารถสรา้ งมมุ มองและกรอบแนวคดิ ใหมใ่ นการวเิ คราะหป์ ญั หา เดิม ๆ ซึง่ จะทำ� ให้สามารถจินตนาการและสร้างทางเลือกใหมใ่ นการแก้ไขปัญหาได้ การวิเคราะห์โลกทัศน์และวาทกรรมในด้านศาสนา เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม จะแสดง กรอบความคิดเก่ียวกับปัญหาต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น จากตัวอย่างข้างต้นเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงด้าน ประชากร ทางเลือกของฉากทศั นห์ นึ่งอาจเป็นภาพอนาคตของการเพิม่ จำ� นวนประชากรตามโลกทศั น์ ดา้ นศาสนาทสี่ ง่ เสรมิ การเพมิ่ ประชากรและไมย่ อมรบั การคมุ กำ� เนดิ หรอื ภาพอนาคตตามโลกทศั นเ์ ชงิ วฒั นธรรมแนวเสรีนิยม ซึ่งเชื่อในสิทธิสตรีในการตัดสินใจเก่ียวกับรา่ งกายตนเอง ในดา้ นการต้งั ครรภ์ และการทำ� แทง้ รวมถงึ การเลย้ี งดบู ตุ รและบทบาทของผชู้ ายในเรอื่ งนี้ การวเิ คราะหโ์ ลกทศั นแ์ ละวาท กรรมจงึ เปน็ การวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณแ์ ละปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ซำ้� ซากดว้ ยแนวคดิ เชงิ วพิ ากษท์ เ่ี ปดิ มมุ มองของ การศกึ ษาอนาคตให้กว้างย่ิงข้นึ สาเหตชุ นั้ ท่ี 4 คือตำ� นาน (myth) และอปุ ลักษณ์ (metaphor) ซ่ึง เป็นสาเหตเุ บื้องลกึ ท่สี ุด โดย เรอื่ งเลา่ ทแ่ี สดงการรบั รทู้ อ่ี ยใู่ นจติ ใตส้ ำ� นกึ และความรสู้ กึ รว่ มกนั ของคนในสงั คมเกย่ี วกบั ปรากฏการณ์ หรอื ปญั หา เช่น การมองประชากรท่ีไมใ่ ชจ่ ากมุมมองของสถติ ิ แต่มองประชากรเปน็ ชุมชน เปน็ สว่ น หนึ่งของเพื่อนร่วมโลก ฯลฯ สาเหตุระดับนี้เป็นพ้ืนฐานเบื้องลึกของโลกทัศน์ท่ีต้องการวิเคราะห์ ค�ำ ศพั ทท์ ใี่ ชส้ อ่ื ถงึ สาเหตรุ ะดบั นม้ี กั ฟงั ดกู วา้ ง ๆ ไมม่ กี รอบชดั เจน และมกั สอ่ื ถงึ ภาพลกั ษณอ์ ะไรบางอยา่ ง ทส่ี ะทอ้ นอารมณม์ ากกวา่ ตรรกะ การวเิ คราะหส์ าเหตใุ นระดบั นล้ี งไปลกึ ถงึ อตั ลกั ษณแ์ ละความเปน็ ตวั ตน (identity) ในระดับอารยธรรม และในระดบั ข้อสมมตเิ กยี่ วกบั มุมมองเก่ยี วกับอนาคตทอ่ี าจไม่เปน็ ไปตามหลกั เหตผุ ล อาทิ ขอ้ สมมตแิ ละมโนทศั นเ์ กย่ี วกบั เวลา เกยี่ วกบั หลกั เหตผุ ล และเกย่ี วกบั การเปน็ ผกู้ ระทำ� การ (agency) ของมนษุ ย์ อาทิ ผู้คนในแต่ละสังคมวัฒนธรรมมีมโนทัศน์เก่ียวกับเวลาที่แตก ต่างกัน นักวิทยาศาสตร์อาจมองอนาคตเปน็ เรอื่ งของความเปน็ ไปไดท้ างสถติ ิ ในขณะทค่ี วามเชอ่ื ในบาง ศาสนาทอ่ี นาคตขน้ึ อยกู่ ับการกำ� หนดของพระเจ้า ในบางสงั คม เชน่ สังคมอเมรกิ ัน เชอ่ื วา่ อนาคตไม่มี ขดี จำ� กดั และเตม็ ไดด้ ว้ ยทางเลอื กและโอกาส แตใ่ นบางสงั คม เชน่ สงั คมจนี อาจเชอ่ื ตามหลกั ขงจอ๊ื ทวี่ า่ ทางเลอื กและโอกาสไมไ่ ดเ้ ปน็ ไปตามการตดั สนิ ใจของปจั เจกบคุ คล แตข่ นึ้ อยกู่ บั เงอื่ นไขและบรบิ ทของ ครอบครัวและบรรพบุรษุ 86

อนาคตศึกษา | 204 วแิธผกี นาภราวพเิ คทรี่ า2ะ2ห์ช้ันสาเหตุ ดดั แปลงจาก: Inayatullah (2009) ความเข้าใจในสาเหตุของประเด็นปัญหาท�ำให้สามารถสร้างฉากทัศน์ในแต่ละระดับและสามารถ ระบุนโยบายหรือแนวทางการแก้ไขได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ฉากทัศน์ในระดับเหตุการณ์แสดงเนื้อหา เชิงเคร่ืองมือ (instrumental) ฉากทัศน์ในระดับเหตุผลทางสังคมระบุถึงนโยบายท่ีมุ่งแก้ไขปัจจัย ขบั เคลอื่ นในขณะทฉ่ี ากทศั นใ์ นระดบั วาทกรรมและโลกทศั นพ์ ยายามจดั การกบั ความแตกตา่ งระดบั พน้ื ฐานและเชงิ โครงสร้าง ส่วนฉากทัศนใ์ นระดับตำ� นานหรอื อปุ ลกั ษณ์มุง่ ใช้เร่อื งเล่า กลอน หรือศลิ ปะใน การฉายภาพอนาคตท่ีสะท้อนอารมณแ์ ละความร้สู ึกของคน นกั อนาคตศาสตร์สามารถใช้วธิ ีการ CLA เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยประเด็นที่ต้องการศึกษาและคาดการณ์ส�ำหรับอนาคต ในขณะเดียวกัน สามารถใช้วิธีการน้ีในกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมและการปฏิสัมพันธ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพ่ือ สรา้ งภาพอนาคตและการวางแผนทเ่ี ปิดกวา้ งสำ� หรบั คนกลุ่มตา่ ง ๆ ในสงั คม วธิ กี าร CLA สามารถใชใ้ นการตง้ั กรอบความคดิ ในการวเิ คราะหป์ ญั หาและประเดน็ สำ� หรบั อนาคต ทใ่ี หค้ วามส�ำคญั กบั บริบทและเงอ่ื นไข โดยแบง่ บริบทออกเป็น 4 ระดับดังที่ไดก้ ลา่ วมาข้างต้น ความ ท้าทายในการวิเคราะห์แนวนคี้ ือการสรา้ งความเชอ่ื มโยงระหว่างสาเหตุในแตล่ ะระดบั และนัยส�ำหรับ ภาพอนาคตทอี่ าจเกดิ ขนึ้ ได้ในแตล่ ะระดบั ผลลพั ธ์จากการวเิ คราะห์เชิงลกึ สามารถชว่ ยสรา้ งทางเลือก และวธิ แี กไ้ ขปญั หา ทง้ั ในเชงิ นโยบาย มาตรการหรอื นวตั กรรมทมี่ ผี ลระยะยาวกวา่ วธิ แี กไ้ ขปญั หาระยะ สนั้ ทแี่ กไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ในปจั จบุ นั วธิ กี ารนยี้ งั เปดิ โอกาสใหม้ กี ารสรา้ งทางเลอื กอนาคตทพ่ี งึ ประสงค์ โดยคนกลมุ่ ตา่ ง ๆ ทเ่ี ขา้ รว่ มกระบวนการแบบมสี ว่ นรว่ ม ขอ้ ดแี ละประโยชนส์ ำ� คญั ของวธิ กี ารนจี้ งึ ไมไ่ ด้ อยเู่ พียงแค่การวิเคราะหป์ จั จัยสาเหตเุ ชงิ ลกึ แต่เป็นวธิ กี ารที่ช่วยสรา้ งทางเลือกส�ำหรับอนาคตที่ลงลึก และเปิดกว้างใหผ้ มู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสยี เขา้ มามีส่วนรว่ มได้มากข้นึ

205 | อนาคตศึกษา ขัน้ ตอนและวธิ ีการ การวิเคราะห์ชั้นสาเหตุสามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับวิธีการศึกษาอนาคตและคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ อ่ืน ๆ ที่ได้น�ำเสนอมาแล้ว ชุดวิธีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลท่ีนิยมใช้ในการวิเคราะห์สาเหตุคือวิธี การท่ีใช้อยู่ทั่วไปในงานวิจัยเชิงคุณภาพในด้านสังคมศาสตร์ ทั้งกลุ่มวิธีการเชิงโครงสร้าง (Struc- tured approach) เชน่ การวิเคราะหเ์ นอ้ื หา (content analysis) และกลุม่ วธิ กี ารวเิ คราะห์แก่นสาระ (Thematic analysis) เชน่ วิธกี ารทฤษฎฐี านราก (Grounded Theory) ข้ันตอนหลักในการวิเคราะห์เน้ือหาเพ่ือวิเคราะห์ช้ันสาเหตุเริ่มจากการก�ำหนดหน่วยวิเคราะห์ (unit of analysis) ท่ีเป็นองค์ประกอบหลักท่ีต้องการศึกษา ส�ำหรับงานคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ งานในส่วนนี้จะอยู่ในขน้ั ตอนการกำ� หนดกรอบการคาดการณ์ (scoping) จากนัน้ ผู้ศกึ ษาจะทำ� ความ เขา้ ใจเบ้อื งตน้ เกี่ยวกับข้อมูลทม่ี ีอยู่ แล้วจงึ ดำ� เนินกระบวนการก�ำหนดรหัส (coding) โดยเร่ิมจากการ ก�ำหนดรหัสเพื่อจ�ำแนกขอ้ มูลแบบกวา้ ง (open coding) เพอื่ กวาดหาข้อความทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับประเดน็ ที่สนใจ จากน้ัน จึงเป็นการค้นหาข้อความเฉพาะแล้วกรอกข้อความน้ันลงในตารางบันทึกข้อมูล (coding sheet) เพ่ือนำ� ไปแบ่งกลมุ่ และจ�ำแนกประเภทตอ่ ไป ข้นั ตอนท้ายสุดเปน็ การสงั เคราะห์หา นัยและความหมายเชิงนามธรรม (abstracting) ของข้อความท่ีได้วิเคราะห์มาตามกรอบแนวคิดช้ัน สาเหตุทั้ง 4 ระดับที่ไดอ้ ธบิ ายมาขา้ งต้น ทั้งน้ี ความหมายทจ่ี ำ� แนกออกมาเป็นกลมุ่ (category) ตาม วธิ ีการวิเคราะห์เน้ือหา สามารถน�ำมาใช้เป็นพ้ืนฐานของการสร้างภาพอนาคตทางเลือกหรือฉาก ทัศน์ได้ ในทำ� นองเดยี วกนั การวเิ คราะหช์ นั้ สาเหตดุ ว้ ยดว้ ยวธิ กี ารทฤษฎฐี านรากจะมงุ่ คน้ หากลมุ่ หวั ขอ้ หรอื แกนเรอื่ ง (theme) ทม่ี คี วามหมายทแ่ี ตกตา่ งกนั ทง้ั ในระดบั สาเหตเุ ชงิ ระบบ โลกทศั นแ์ ละตำ� นาน ซ่ึงนำ� ใช้เปน็ แกนในการสรา้ งฉากทศั นไ์ ด้เช่นกัน การวิเคราะหช์ ั้นสาเหตยุ ังนิยมใชร้ ่วมกบั การคาดการณ์แบบมีส่วนรว่ ม ซ่ึงมักเป็นการจดั ประชมุ เชิงปฏิบัติการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เชี่ยวชาญ ถึงแม้ว่าการวิเคราะห์อนาคตทางเลือกอาจท�ำได้ โดยนกั วิเคราะห์หรือผู้เชีย่ วชาญกต็ าม แตค่ วามหลากหลายทางความคดิ มมุ มองและค่านิยมของผูเ้ ขา้ ร่วมท่ีมาจากพื้นฐานที่แตกต่างกัน จะเพ่ิมทางเลือกของอนาคตท่ีสามารถวิเคราะห์และจินตนาการได้ ดว้ ยเหตนุ ี้ การเตรยี มการและดำ� เนนิ การประชมุ โดยนกั อนาคตศาสตรแ์ ละกระบวนกรจงึ มคี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ เพราะคำ� ถามทที่ า้ ทายประกอบกบั กระบวนการทเี่ หมาะสมและบรรยากาศทเ่ี ออ้ื ตอ่ การสนทนา จะทำ� ใหผ้ ู้เข้าร่วมประชุมเกิดจนิ ตนาการและแสดงมุมมองเชงิ ลกึ ได้

อนาคตศกึ ษา | 206 สรปุ เนอื้ หาในบทนสี้ รปุ องคป์ ระกอบหลกั ของวธิ กี ารสำ� คญั ในการศกึ ษาอนาคตทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั และใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มนักวิชาการด้านอนาคตศาสตร์และนักวิเคราะห์ด้านการคาด การณ์เชิงยุทธศาสตร์ โดยครอบคลุมท้ังวิธีการ เคร่ืองมือและกระบวนการวิเคราะห์ในเชิง ปริมาณและเชิงคุณภาพ ทั้งท่ีเน้นบทบาทของผู้เช่ียวชาญและนักคาดการณ์มืออาชีพ และที่ เน้นส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนท่ัวไป แต่ละวิธีย่อมมีข้อดีข้อด้อยแตกต่าง กนั ในการศกึ ษาอนาคตและคาดการณเ์ พอื่ การวางแผนและดำ� เนนิ การตอ่ นกั วเิ คราะหแ์ ละนกั วางแผนตอ้ งเลอื กใชว้ ธิ กี ารและเครอื่ งมอื ทเ่ี หมาะสม และอาจผสมผสานวธิ กี ารตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ย กนั เท่าทท่ี รพั ยากรและเวลาจะเอื้ออำ� นวย เพอ่ื ใหผ้ ลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากการคาดการณค์ รอบคลุม ความเป็นไปไดใ้ นอนาคตในทกุ มิตทิ ่สี �ำคัญ

207 | อนาคตศกึ ษา

อนาคตศึกษา | 208 4 การคาดการณ์ เชงิ ยทุ ธศาสตร์ to achieve thinFgosrbekenyoowndeldthgee reenaacbhleosf aorwdiisneargyenmeeranl. Sun Tsu, The Art of War

209 | อนาคตศึกษา การคาดการณ์ เพ่ือการวางแผน วัตถุประสงค์ส�ำคัญประการหน่ึงของการศึกษาอนาคตคือการสร้างข้อมูลเชิงลึกและองค์ความรู้ที่ สามารถใชไ้ ดใ้ นการกำ� หนดนโยบายสาธารณะและยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาทต่ี อบโจทยค์ วามตอ้ งการของ สังคม ท้งั น้ี กจิ กรรมทางวิชาการดา้ นอนาคตศาสตร์และการคาดการณเ์ พื่อการตดั สินใจเชงิ นโยบาย จะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้ จ�ำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีโครงสร้างสถาบันที่เหมาะสม กล่าวคือ ประเทศใดที่ให้ความส�ำคัญกับการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ ก็จะมีการพัฒนาระบบการคาดการณ์ ระดบั ชาติ (national foresight system) ท่ดี ี ซ่งึ ในท่นี หี้ มายถงึ สถาบัน (institutions) และองค์กร (organizations) ท่ีเป็นโครงสร้างของกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษาอนาคตและการคาดการณ์เพ่ือการ ตัดสินใจขององค์กร ท้ังในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพ่ือการวางแผนนโยบายและ การด�ำเนินโครงการ ค�ำว่าสถาบันในท่ีน้ีครอบคลุมทั้งกฎหมาย ระเบียบและกระบวนการอย่างเป็น ทางการ และธรรมเนียมปฏิบัติท่ีไม่เป็นทางการ รวมไปถึงการจัดต้ังองค์กรอย่างเป็นกิจจะลักษณะ หรือการสร้างเครือขา่ ยท่มี ีพนั ธกจิ ด้านอนาคตศกึ ษาและการคาดการณ์ เน้ือหาในบทน้ีอธิบายแนวคิดเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์และโครงสร้างเชิง สถาบนั ทรี่ องรบั กจิ กรรมดงั กลา่ วในระดบั ประเทศ โดยยกตวั อยา่ งระบบสถาบนั ระดบั ชาตขิ องประเทศ ท่มี ีความก้าวหนา้ ในกจิ กรรมด้านอนาคตศึกษา โดยเฉพาะการคาดการณ์เพ่อื สรา้ งนโยบายสาธารณะ และยุทธศาสตรใ์ นการพฒั นา ตวั อย่างทเี่ ลือกมาคอื ฟินแลนด์และสงิ คโปร์ ท้งั สองประเทศน้ไี ดร้ บั การ ยอมรบั ในวงการอนาคตศาสตรร์ ะดบั โลกวา่ ไดพ้ ฒั นาระบบคาดการณร์ ะดบั ประเทศทก่ี า้ วหนา้ ไปมาก เนอ้ื หาสว่ นแรกเปน็ การทบทวนแนวคดิ และหลกั การพน้ื ฐานเกยี่ วกบั การคาดการเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ และ ส่วนทสี่ องและสามเป็นตวั อย่างจากฟนิ แลนดแ์ ละสิงคโปรต์ ามลำ� ดบั

อนาคตศึกษา | 210 การคาดการณ์ เชงิ ยุทธศาสตร์ แนวคิดหน่ึงที่เชื่อมการคาดการณ์เข้ากับการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ (strategic planning) คือ การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ (strategic foresight) ซ่ึงหมายถึงการสร้างความรู้ล่วงหน้า (fore- knowledge) และทางเลอื กเชิงยุทธศาสตร์ส�ำหรับบุคคลหรอื องคก์ ร เพ่ือเอาชนะในการแข่งขนั ไม่ว่า จะเปน็ ดา้ นการทหาร ดา้ นธรุ กจิ หรอื ดา้ นอนื่ ๆ การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรเ์ ปน็ กระบวนการทเี่ สรมิ สร้างความสามารถของบุคคลหรอื องค์กรในการเข้าใจมติ ิที่หลากหลายของอนาคต ทง้ั ความเส่ียงและ โอกาสท่ีก�ำลังจะเกดิ ขึน้ สถานการณ์บนเสน้ ทางบังคบั (path dependency) ปัจจัยขับเคล่ือน แรง จงู ใจ ทรพั ยากร รวมถึงสาเหตกุ ับผลลพั ธ์ของทางเลอื กอนาคต ท้ังอนาคตท่เี ช่อื ว่าเกดิ ข้นึ ได้ อนาคตที่ นา่ จะเกดิ ขน้ึ และอนาคตทคี่ าดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรจ์ งึ อยู่ ทกี่ ารชว่ ยใหบ้ คุ คลหรอื องคก์ รสามารถตดั สนิ ใจไดด้ ยี งิ่ ขนึ้ ในการวางแผนและดำ� เนนิ การเชงิ ยทุ ธศาสตร1์ ข้ันตอนการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์คล้ายคลึงกับกระบวนการวิเคราะห์เพื่อวางแผนเชิง ยทุ ธศาสตรท์ วั่ ไป นกั อนาคตศกึ ษาและนกั คาดการณไ์ ดแ้ บง่ ขนั้ ตอนไวห้ ลายแบบ ยกตวั อยา่ งเชน่ แอน ดี ไฮนส์ (Andy Hines) และปเี ตอร์ บชิ อบ (Peter Bishop) แบง่ ขนั้ ตอนการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ไว้ 6 ขน้ั ตอน2 ไดแ้ ก่ 1. การก�ำหนดกรอบ (framing) คือการก�ำหนดแนวทางเกี่ยวกับหลักการเหตุผล วตั ถุประสงค์ ผู้มสี ว่ นได้ส่วนเสยี คณะท�ำงาน และแนวทางการทำ� งาน 2. การกวาดสัญญาณ (scanning) คือการก�ำหนดขอบเขตของการศึกษา ระบบและองค์ ประกอบ ประวตั ิศาสตร์ รวมถึงบริบทของประเด็นทีต่ อ้ งการศึกษา 3. การคาดการณ์ (forecasting) คอื การใชข้ อ้ มลู จากการกวาดสญั ญาณในการวเิ คราะหห์ า ปัจจัยขับเคลอ่ื น ความไม่แน่นอน และทางเลือกอนาคต 4. การต้ังวิสัยทัศน์ (visioning) คือการวิเคราะห์หานัยของผลจากการคาดการณ์ และตั้ง วิสัยทัศนเ์ กี่ยวกับผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกดิ ขน้ึ กบั องคก์ รหรอื กลุ่มเปา้ หมาย 5. การวางแผน (planning) คือการพัฒนายุทธศาสตร์และทางเลือกของกลยุทธ์ในการ ดำ� เนินการตามยทุ ธศาสตร์

211 | อนาคตศกึ ษา 6. การดำ� เนนิ การ (acting) คอื การสอ่ื สารและเผยแพรผ่ ลการคาดการณไ์ ปสผู่ มู้ สี ว่ นไดส้ ว่ น เสีย และสร้างแนวทางการด�ำเนินงาน รวมไปถึงการพัฒนาระบบการคิดเชิงยุทธศาสตร์ (strategic thinking) และการวเิ คราะห์เชิงลกึ ให้เปน็ สถาบนั (institutionalization) กระบวนการดังกลา่ วไมแ่ ตกตา่ งมากจากขอ้ เสนอของโจเซฟ โวรอส (Joseph Voros)201 ซึ่งระบุ ขั้นตอนหลกั ของการคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ไวด้ ังน2ี้ 02 1. การนำ� เขา้ ข้อมลู (input) กจิ กรรมหลกั ของขั้นตอนน้คี ือการตรวจจับว่าเกดิ อะไรข้นึ ด้วย วธิ กี ารต่าง ๆ ทงั้ วธิ กี ารพืน้ ฐานในการเก็บขอ้ มลู เช่น การสำ� รวจภาคสนาม การสมั ภาษณ์ การระดมสมอง วธิ กี ารเดลฟาย รวมถงึ วธิ กี ารทซ่ี บั ซอ้ นมากขนึ้ เชน่ วธิ กี ารทำ� เหมอื งขอ้ มลู ระบบการเตอื นลว่ งหนา้ (early warning systems) การกวาดสญั ญาณสภาพแวดลอ้ ม การ ตรวจจบั ประเดน็ อบุ ัติใหม่ 2. การวิเคราะห์ (analysis) ข้ันตอนนว้ี เิ คราะหว์ า่ มอี ะไรเกดิ ขึน้ บ้าง โดยใช้วธิ กี ารวิเคราะห์ แนวโน้มและผลกระทบไขว้ การวิเคราะห์เครือข่ายสังคม (social network analysis) กรอบการวิเคราะห์และแปลสัญญาณ (Future Signals Sense-Making Framework) วิธีสามเหล่ียมอนาคต (Futures Triangle) วิธีวงล้ออนาคต แผนท่ีของการจัดระเบียบ ด้วยตนเอง (self-organizing map) การใหเ้ หตุผลแบบจารนัย (abductive reasoning) 3. การแปลผล (interpretation) การวเิ คราะหข์ นั้ ตอ่ ไปพยายามลงลกึ ลงไปอกี เพอื่ หาสาเหตุ ท่ีแท้จริงของปรากฏการณ์ท่ีสามารถสังเกตได้ วิ ธีการคาดการณ์ในส่วนนี้มีต้ังแต่การให้ เหตผุ ลเชงิ อปุ นยั การพสิ จู นว์ า่ เปน็ เทจ็ (falsification) และการวเิ คราะหร์ ปู แบบ (pattern analysis) ไปจนถงึ วิธกี ารเฉพาะในด้านอนาคตศาสตร์ เชน่ การวิเคราะห์ชนั้ สาเหตุ การ วเิ คราะหร์ ะบบ การวิเคราะหป์ ระวตั ิศาสตรม์ หภาค (macrohistorical analysis) 4. การมองอนาคต (prospection) การวิเคราะห์สว่ นน้ีมองไปในอนาคต แลว้ ถามว่า อะไร มโี อกาสเกดิ ขน้ึ ไดบ้ า้ ง โดยใชว้ ธิ กี ารหลากหลาย เชน่ การสรา้ งฉากทศั น์ การสรา้ งวสิ ยั ทศั น์ ไวลดค์ ารด์ วธิ กี ารหงสด์ ำ� การพยากรณย์ อ้ นกลบั รวมถงึ การคดิ เชงิ ยทุ ธศาสตรท์ ใี่ ชอ้ ยทู่ วั่ ไป ในการวางแผนยุทธศาสตร์ 5. นำ� เสนอผลลพั ธ์ (outputs) มที งั้ สว่ นทเ่ี ปน็ ผลผลติ ทจี่ บั ตอ้ งได้ เชน่ รายงานทสี่ อื่ สารและ เผยแพรผ่ ลลพั ธก์ ารคาดการณท์ ไี่ ดม้ าใหช้ ดั เจน และทางเลอื กสำ� หรบั การตดั สนิ ใจ ผลลพั ธท์ ี่ จบั ต้องไม่ได้ เชน่ การปรบั ทัศนคติของผมู้ ีส่วนได้สว่ นเสยี การรับรู้เกยี่ วกบั งานวางแผนเชงิ ยทุ ธศาสตร์ และการเปล่ียนแปลงกระบวนการในการพฒั นายทุ ธศาสตร์ 6. วางแผนยทุ ธศาสตร์ (strategy) ขน้ั ตอนทา้ ยสดุ ของกระบวนการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ คือการพฒั นานโยบายและยุทธศาสตร์ท่อี งค์กรจะดำ� เนินการต่อไป แผนภาพที่ 23 แสดงใหเ้ หน็ วา่ การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรเ์ ปน็ ขนั้ ตอนพน้ื ฐานในการวางแผน เชิงยุทธศาสตร์ เริ่มตั้งแต่การท�ำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงท่ีผ่านมาโดยวิธีการกวาดสัญญาณ (scanning) เพ่ือวิเคราะห์ให้เห็นอนาคตทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ (strategic thinking) จากน้ันจึง

อนาคตศึกษา | 212 ตัดสินใจเลือกเส้นทางยุทธศาสตร์ไหนที่จะน�ำไปสู่อนาคตที่พึงประสงค์ขององค์กรหรือของนโยบาย สาธารณะ (strategic decision making) เมือ่ กำ� หนดเส้นทางยุทธศาสตร์แลว้ จงึ เป็นการวางแผนราย ละเอยี ดของแผนยุทธศาสตร์ เพอ่ื ด�ำเนินการตามแผนให้บรรลผุ ลลัพธ์ท่ีต้งั ไว้ตอ่ ไป กระบวนการขา้ งตน้ เปน็ พนื้ ฐานของการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรท์ อี่ งคก์ รและรฐั บาลหลายแหง่ ทวั่ โลกไดน้ ำ� ไปพฒั นาและประยกุ ตใ์ ชต้ อ่ ตามเงอ่ื นไขและบรบิ ทของแตล่ ะพนื้ ที่ สว่ นในภาคธรุ กจิ การ คาดการณธ์ รุ กจิ (corporate foresight) คอื การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรท์ ใี่ ชใ้ นระดบั บรษิ ทั เพอื่ สรา้ ง ขดี ความสามารถในการแข่งขนั ในเชิงธรุ กจิ ในขณะเดยี วกนั รฐั บาลหลายประเทศได้สร้างสถาบนั และ องคก์ รขนึ้ มาโดยเฉพาะเพอ่ื การคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรใ์ นการพฒั นานโยบายสาธารณะ ตามตวั อยา่ ง ที่นำ� เสนอในส่วนตอ่ ไป กแาผรนคภาาดพกทาร่ี 2ณ3ใ์ นกระบวนการวางแผนยุทธศาสตร์

213 | อนาคตศึกษา การคาดการณ์ เพอื่ กำ�หนด นโยบายสาธารณะ รัฐบาลในหลายประเทศให้ความส�ำคัญกับการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ท่ีไม่ได้มุ่งเฉพาะท่ีประเด็น ใดประเด็นหน่ึง แต่เปิดโอกาสให้มีการวิเคราะห์ข้ามขอบเขตของสาขานโยบายและขอบเขตองค์กรที่ มีอยู่แต่ด้ังเดิม การใช้วิธีการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์เพ่ือการก�ำหนดนโยบายสาธารณะแต่เดิมเน้น ไปที่นโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก แต่ในระยะหลังได้ขยายขอบเขตเน้ือหา ให้ครอบคลุมประเดน็ ดา้ นอื่นมากขนึ้ ทงั้ ด้านเศรษฐกจิ สังคม สุขภาพ สง่ิ แวดลอ้ ม ความมัน่ คง และ ความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศ3 กระบวนการคาดการณเ์ ชิงยทุ ธศาสตรช์ ่วยให้การก�ำหนดและวางแผน นโยบายสาธารณะเปน็ ไปไดด้ ีและมีประสทิ ธิภาพมากขึน้ ดว้ ยการสรา้ งฐานชฃขอ้ มลู และความรทู้ ี่เปน็ ระบบเกย่ี วกบั แนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงและการพฒั นาทมี่ ผี ลกระทบสำ� คญั ตอ่ ประเทศ รวมถงึ เปน็ พนื้ ฐานของการสรา้ งวสิ ยั ทศั นแ์ ละทางเลอื กในเชงิ ยทุ ธศาสตร์ อกี ทงั้ ยงั เปน็ กระบวนการกระตนุ้ การเรยี นรู้ ซ่ึงกันและกนั ระหว่างผู้มสี ่วนได้ส่วนเสยี ในองคก์ รและในสงั คมทวั่ ไป กลมุ่ ประเทศประชาคมยโุ รป (European Union) ใหค้ วามสำ� คญั กบั การคาดการณม์ าไดร้ ะยะหนงึ่ แล้ว โดยเฉพาะในช่วง 20 ปที ีผ่ ่านมา รัฐบาลของประเทศสมาชกิ อียไู ดด้ ำ� เนินโครงการคาดการณ์เชิง ยุทธศาสตรใ์ นรปู แบบท่หี ลากหลายมากขนึ้ พร้อมกันนยี้ งั ไดส้ ร้างสถาบนั และองคก์ รทด่ี ำ� เนินกิจกรรม การคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ ท้ังในรัฐบาลของประชาคมยุโรปเองและในรัฐบาลของแต่ละประเทศ สมาชิก รูปแบบสถาบันด้านการคาดการณ์มีทั้งที่เป็นหน่วยงานชัดเจน เช่น หน่วยงานคาดการณ์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Foresight Unit) ภายใต้ EU Dictorate General for Research และรปู แบบทเี่ ปน็ เครอื ขา่ ยขององคก์ รและผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นอนาคตศกึ ษา เชน่ เครอื ข่ายตดิ ตามการคาดการณ์แห่งยุโรป (European Foresight Monitoring Network) นอกจากนี้ ยงั มีระบบวิเคราะหย์ ทุ ธศาสตร์และนโยบายแห่งยโุ รป (European Strategy and Policy Analysis System) ท่ีต้ังข้ึนเพ่ือค้นหาและระบุแนวโน้มระยะยาวระดับโลกในด้านต่าง ๆ และวิเคราะห์ว่าแนว

อนาคตศกึ ษา | 214 โนม้ เหลา่ นจี้ ะมผี ลตอ่ ประชาคมยโุ รปอยา่ งไรบา้ ง ทง้ั น้ี สถาบนั ศกึ ษาความมนั่ คง (Institute for Secu- rity Studies) ซ่งึ เป็นองคก์ รทีป่ รึกษาทต่ี ัง้ อย่ใู นกรุงปารีส ไดร้ บั มอบหมายให้เปน็ ศูนยด์ �ำเนนิ การของ ระบบคาดการณด์ งั กล่าว กิจกรรมด้านการคาดการณ์ของประชาคมยุโรปโดยมากอยู่ในรูปแบบของแผนงานและโครงการ ซง่ึ มผี ลผลติ หลกั เปน็ รายงาน บทความและสงิ่ ตพี มิ พท์ นี่ ำ� ไปใชว้ เิ คราะหเ์ พอื่ วางแผนนโยบายระดบั ทวปี ตวั อยา่ งสำ� คญั ของโครงการคาดการณข์ องประชาคมยโุ รป ไดแ้ ก่ โครงการ COST Action 22: Advanc- ing Foresight Methodologies ในระหวา่ ง พ.ศ. 2547-2550 ซ่ึงเนน้ การพฒั นาวิธกี ารคาดการณ4์ โครงการ ERA-Net ซ่ึงส่งเสริมเครือข่ายด้านการคาดการณ์ระหวา่ งประชาคมยโุ รปกับประเทศสมาชกิ โดยการด�ำเนินกิจกรรมร่วมกัน ทั้งการแลกเปล่ียนข้อมูลความรู้ทั้งในด้านวิธีการ กรอบด้านการเงิน และกฎหมาย และการวเิ คราะหป์ ระเดน็ ทข่ี า้ มพรมแดนประเทศ5 นอกจากน้ี ยังมีโครงการวจิ ยั Inter- connecting Knowledge (iKNOW) ซง่ึ เนน้ การคาดการณแ์ บบการกวาดสญั ญาณ รวมถึงเหตกุ ารณ์ ท่เี ป็นเหตไุ ม่คาดฝนั หรือไวลดค์ ารด์ และสัญญาณออ่ น แล้ววิเคราะหค์ วามเป็นไปไดแ้ ละผลกระทบของ เหตุการณ์เหล่านี้ต่อยุโรปและท่ัวโลก โครงการดังกล่าวยังพัฒนาเคร่ืองมือวิเคราะห์ Horizon Scan- ning 2.0 ซง่ึ เน้นการใช้เทคโนโลยี web 2.0 ในการสรา้ งการมสี ่วนรว่ มแบบลา่ งขึน้ บน (bottom-up) ของผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี 6 โครงการคาดการณบ์ างโครงการมงุ่ เนน้ ประเดน็ เนอ้ื หาหรอื พน้ื ทเ่ี ฉพาะเจาะจง เชน่ โครงการอนาคตของการพัฒนาภมู ิภาค (Futures for Regional Development) ทีม่ ุ่งพัฒนาชุด เคร่อื งมอื คาดการณเ์ พือ่ การวางแผนภาคในกลุ่มประเทศประชาคมยุโรป7 นอกจากระบบคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ระดับประชาคมยุโรปแล้ว ประเทศสมาชิกแต่ละแห่ง ยังพัฒนาระบบคาดการณ์ระดบั ชาติเปน็ ของตนเอง ตวั อย่างเชน่ ในฝรง่ั เศส ระบบการคาดการณ์เพื่อ การวางแผนนโยบายระดบั ประเทศพฒั นามาตงั้ แตส่ มยั ทศวรรษท่ี 1960 โดยในปจั จบุ นั มอี งคป์ ระกอบ สำ� คญั อยู่ 3 สว่ น ไดแ้ ก่ ศนู ยว์ เิ คราะหย์ ทุ ธศาสตร์ (Centre d'analyse stratégique) ซง่ึ ทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ ที่ ปรกึ ษาใหก้ บั รฐั บาลฝรงั่ เศสและขนึ้ ตรงกบั สำ� นกั นายกรฐั มนตรี ศนู ยว์ เิ คราะหย์ ทุ ธศาสตรน์ กี้ อ่ ตง้ั ขนึ้ ใน พ.ศ. 2549 โดยพัฒนามาแทนที่ Commissariat Général du Plan ซงึ่ เปน็ หนว่ ยงานดา้ นการวางแผน พฒั นาหลกั ของฝรง่ั เศสทมี่ าตงั้ แตห่ ลงั สงครามโลกครง้ั ทสี่ อง ศนู ยด์ งั กลา่ วทำ� หนา้ ทวี่ เิ คราะหแ์ ละใหค้ ำ� ปรึกษากับรฐั บาลในประเดน็ ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม สง่ิ แวดล้อม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะยทุ ธศาสตร์ ในระยะกลางและระยะยาว องค์ประกอบท่ีสองของระบบคาดการณ์ระดับชาติของฝร่ังเศสคือ DATAR (Délégation a l’Aménagement du Territorire et a l’Action Régionale) เป็นหน่วยงานที่มีพันธกิจเพ่ือคาด การณ์และวางนโยบายระดับภูมิภาค ต้ังขนึ้ เมือ่ พ.ศ. 2516 ผลลพั ธจ์ ากกจิ กรรมขององคก์ รน้จี ะใชใ้ น การวางแผนพัฒนาภูมิภาค แต่มีส�ำนักงานที่อยู่นอกประเทศฝร่ังเศสด้วย เพ่ือเก็บข้อมูลและประสาน งานกับตา่ งประเทศ และส่งเสรมิ การลงทุนของต่างชาติในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของฝรง่ั เศส องค์ประกอบท่ีสามคือกลุ่ม Futuribles ซึ่งก่อตั้งโดยแบร์ทร็อง เดอ จูวีเนล (Bertrand de Jouvenel) ใน พ.ศ. 2503 องค์กรน้ีประกอบไปด้วยสำ� นกั พมิ พ์ Futuribles Press ท่ีตีพมิ พว์ ารสาร

215 | อนาคตศกึ ษา Futuribles Journal และ Futuribles Newsletter ฝา่ ยวจิ ยั และใหค้ ำ� ปรกึ ษา Futuribles Research and Consulting และฝา่ ยวิรัชกิจ Futuribles International อกี ประเทศหน่ึงทม่ี รี ะบบคาดการณ์เพอ่ื การวางแผนนโยบายและยทุ ธศาสตร์คือสวเี ดน สถาบัน อนาคตศกึ ษา (Institute for Futures Studies) และหนว่ ยงานดา้ นการวางแผนทอ่ี ยภู่ ายใตก้ ารกำ� กบั ของรฐั บาล องคก์ รในระดบั เมอื งและระดบั ภมู ภิ าค รวมถงึ บรษิ ทั เอกชนขนาดใหญห่ ลายแหง่ ในสวเี ดน ตา่ งมหี นว่ ยงานยอ่ ยทท่ี ำ� หนา้ ทว่ี เิ คราะหแ์ ละคาดการณแ์ นวโนม้ และการเปลยี่ นแปลงในอนาคต ถอื ได้ ว่าสวีเดนเป็นอีกประเทศหนึ่งท่ีการคาดการณ์เป็นองค์ประกอบส�ำคัญในทุกภาคส่วนของการบริหาร จัดการและการธุรกจิ 8 ในการวางแผนนโยบายสาธารณะ มีการแบง่ งานอย่างชัดเจนระหว่างงานคาด การณ์ที่ระบุและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในอนาคต ซึ่งโดยมาก ด�ำเนนิ การโดยหน่วยงานหรอื ผ้เู ชย่ี วชาญเฉพาะทาง กบั งานดา้ นการร่างเนอ้ื หาในแผนการพัฒนา ซ่ึง ดำ� เนนิ การโดยหน่วยงานวางแผนของรฐั บาล สถาบันอนาคตศกึ ษา (Framtidsstudier) เปน็ หน่วยงานหลักทม่ี พี นั ธกิจในการคาดการณร์ ะยะ ยาวเก่ียวกับความท้าทายและโอกาสในอนาคต ไปพร้อมกับการกระตุ้นการอธิปรายสาธารณะในวง กว้างในทุกภาคส่วนของสงั คม การบรหิ ารจัดการและการทำ� งานของสถาบันน้ยี ึดหลักการความอิสระ ทางการเมอื ง โดยมสี ถานะเป็นมลู นิธิ แต่ได้รับเงนิ สนับสนุนการวิจัยสว่ นใหญจ่ ากกระทรวงการศกึ ษา และวจิ ยั (Ministry of Education and Research) โครงการคาดการณข์ องสถาบนั นคี้ รอบคลมุ ตงั้ แต่ ประเด็นระยะยาวมาก (50-100 ป)ี และระยะยาว (10-30 ปี) และมีหวั ข้อทห่ี ลากหลาย ต้ังแต่เรื่อง ประชากรและสังคมสูงวัย ตลาดแรงงานของสวีเดนในบริบทประชาคมยุโรป การเปล่ียนแปลงสภาพ ภูมิอากาศโลก และการผังเมอื ง9 การคาดการณถ์ อื เปน็ เครอื่ งมอื สำ� คญั ของการวางแผนนโยบายสาธารณะในสวเี ดน กอ่ นการออก นโยบายปฏริ ปู สงั คมทสี่ ำ� คญั หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งจะใชว้ ธิ กี ารดา้ นอนาคตศกึ ษาเพอื่ สรา้ งกระบวนการ ปรกึ ษาหารอื กบั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี และใชเ้ ครอ่ื งมอื ดา้ นอนาคตศกึ ษาในการจดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั ทาง ยุทธศาสตร์ ไปพร้อมกับการประมวลและเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกและองค์ความรู้ที่เป็นพ้ืนฐานส�ำหรับ การอภิปรายสาธารณะไปพร้อมกับการสร้างความตระหนักของสังคมเก่ียวกับความท้าทายในอนาคต ของประเทศ สว่ นในทวปี อน่ื ไดม้ กี ารพฒั นาระบบคาดการณร์ ะดบั ชาตใิ นหลายประเทศดว้ ยกนั เชน่ ในประเทศ ญี่ปนุ่ สถาบนั นโยบายวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (National Institute of Science and Technology Policy) ไดพ้ ัฒนาระบบคาดการณว์ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นบั ตง้ั แต่ พ.ศ. 2514 เปน็ ต้นมา สถาบันดงั กลา่ วดำ� เนนิ โครงการคาดการณร์ ะดบั ประเทศคร้งั ใหญ่ทุก ๆ 5 ปี เพือ่ ประมวล ขอ้ มูลและความรู้เชิงลึกเก่ียวกันแนวโนม้ ในอนาคต องค์ประกอบส�ำคญั ของการคาดการณร์ ะดบั ชาติ ของญป่ี นุ่ คอื การสำ� รวจเดลฟายขนาดใหญ่ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเขา้ ร่วมถึงกว่า 6,700 คน ผลลัพธ์จากการส�ำรวจเดลฟายและการคาดการณ์ดังกล่าวจะใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนนโยบายใน ทกุ ภาคส่วน ทั้งหนว่ ยงานรฐั บาล บรษิ ัทเอกชน นักวจิ ัยและวชิ าการ ช่วงเวลาในการคาดการณอ์ ยูท่ ี่ ประมาณ 30 ปี

อนาคตศึกษา | 216 แม้ว่าโครงการคาดการณ์ระดับชาติของญี่ปุ่นมุ่งเน้นการส�ำรวจประเด็นด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยเี ปน็ หลกั แตว่ ธิ กี ารสำ� รวจและวเิ คราะหน์ น้ั ไมไ่ ดเ้ นน้ เฉพาะขอ้ มลู และมมุ มองของผเู้ ชยี่ วชาญ จากสาขาด้าน “อุปทาน”ของวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี เชน่ นกั วทิ ยาศาสตรแ์ ละวศิ วกร ซง่ึ เปน็ ผูผ้ ลติ ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี บั นวตั กรรมเทา่ นน้ั แตก่ ระบวนการนใ้ี หค้ วามสำ� คญั กบั แนวคดิ และขอ้ เสนอของผเู้ ชย่ี วชาญจากฝงั่ “อปุ สงค”์ คอื ด้านสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตรด์ ้วยเช่นกนั วธิ ี การที่ใช้ในการคาดการณม์ ีทง้ั การส�ำรวจเดลฟาย การสรา้ งฉากทศั น์ การก�ำหนดวสิ ัยทศั นพ์ รอ้ มด้วย การระบุวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมทท่ี ำ� ใหส้ ามารถบรรลวุ ิสยั ทัศน์นัน้ 10 นอกจากญป่ี นุ่ แลว้ สงิ คโปรน์ บั เปน็ อกี ประเทศหนง่ึ ในเอเชยี ทชี่ ว่ งหลงั ใหค้ วามสำ� คญั อยา่ งมากกบั ระบบคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ที่ใช้เป็นเครื่องมือหน่ึงในการวางแผนนโยบายและยุทธศาสตร์พัฒนา ประเทศ เนอื้ หาในสว่ นตอ่ ไปจะนำ� เสนอกรณศี กึ ษาของฟนิ แลนดแ์ ละสงิ คโปร์ ซง่ึ ตา่ งไดร้ บั การยอมรบั ในวงการอนาคตศาสตร์ระดับโลกว่า ได้พัฒนาระบบคาดการณ์ที่ช่วยก�ำหนดนโยบายสาธารณะของ ประเทศไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

217 | อนาคตศกึ ษา ระบบคาดการณ์ ของฟนิ แลนด์ ฟนิ แลนดไ์ ดร้ บั การยอมรบั จากวงการอนาคตศกึ ษาวา่ เปน็ ประเทศหนงึ่ ทไี่ ดพ้ ฒั นาระบบคาดการณร์ ะดบั ชาตทิ ท่ี ำ� หนา้ ทสี่ นบั สนนุ การกำ� หนดนโยบายสาธารณะและการวางแผนยทุ ธศาสตรร์ ะดบั องคก์ รไดเ้ ปน็ อยา่ งดี จากการวเิ คราะหข์ องทโู อโม คโู อซา (Tuomo Kuosa) ระบบคาดการณร์ ะดบั ชาตขิ องฟนิ แลนด์ ไมเ่ คยมอี งคก์ รใหญข่ องรฐั ทถี่ อื บทบาทและทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ องคก์ รแมห่ รอื เปน็ รม่ ใหญข่ องหนว่ ยงานหรอื เครอื ขา่ ยยอ่ ยอ่นื ๆ จงึ ไมม่ ีการบรหิ ารจัดการแบบบนลงลา่ ง (top-down) แต่เป็นระบบคาดการณ์เชิง ยุทธศาสตรแ์ บบเครือขา่ ย โดยมีทง้ั หนว่ ยงานและเครือข่ายของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และท้ังหน่วยงานภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมไปถึงความร่วมมือและพันธมิตรระหว่าง หน่วยงานและเครือข่ายเหล่าน1ี้ 1 คณุ ลกั ษณะหลกั ของระบบคาดการณร์ ะดบั ชาตขิ องฟนิ แลนดค์ อื ความสมั พนั ธท์ ซ่ี บั ซอ้ น เปน็ พลวตั และมกี ารซอ้ นทบั และรว่ มมอื กนั ระหวา่ งองคก์ รและเครอื ขา่ ยทที่ ำ� งานเกยี่ วขอ้ งกบั การคาดการณแ์ ละ อนาคตศกึ ษา ในทางกลบั กนั ระบบคาดการณร์ ะดบั ชาตขิ องสงิ คโปรม์ โี ครงสรา้ งดา้ นองคก์ รและสถาบนั ทช่ี ดั เจนมากกว่า แนวทางการด�ำเนนิ งานของฟนิ แลนดจ์ ึงเป็นแบบล่างขนึ้ บน (bottom-up) มากกว่า กรณขี องสงิ คโปร์ ด้วยลกั ษณะดงั กลา่ ว กิจกรรมการคาดการณ์ของฟนิ แลนดจ์ งึ มคี วามยืดหยนุ่ สงู และ สามารถขยายกจิ กรรมให้ครอบคลมุ ส่วนตา่ ง ๆ ของสังคมได้อย่างแพรห่ ลาย จำ� นวนผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรม การคาดการณ์จงึ มกั มจี �ำนวนมาก12 ระบบคาดการณ์ระดับชาตขิ องฟินแลนด์มอี ยู่ 6 องค์ประกอบหลกั ดังน้ี รายงานการคาดการณข์ องรฐั บาลฟนิ แลนด์ ทกุ ครง้ั ทร่ี ฐั บาลใหมใ่ นฟนิ แลนดเ์ รมิ่ ปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ จะมกี ารประกาศแผนงานรฐั บาล (Government Program) สำ� หรบั วาระทจ่ี ะเขา้ มาปฏบิ ตั งิ าน ซง่ึ โดยมากคอื สปี่ ี แผนงานรฐั บาลนป้ี ระกอบดว้ ยวสิ ยั ทศั น์ เปา้ หมาย นโยบาย และแผนปฏบิ ตั กิ ารสำ� หรบั กระทรวงและหนว่ ยงานรฐั ทกุ แหง่ ซึ่งระบุแผนงานย่อย ของแต่ละหน่วยงานข้ึนมาตามกรอบท่ีก�ำหนดไว้ในแผนงานรัฐบาลน้ัน องค์ประกอบหน่ึงของ การเตรียมแผนงงานดังกล่าวคือเอกสารที่เรียกว่ารายงานการคาดการณ์ของรัฐบาล (Government Foresight Report) ซงึ่ แสดงแนวโนม้ และประเดน็ ความทา้ ทายในการพฒั นาของประเทศในระยะ 20-30 ปีในอนาคต เนือ้ หาในรายงานจะใชเ้ ปน็ กรอบในการก�ำหนดวิสยั ทศั น์และแนวทางการด�ำเนินนโยบาย

อนาคตศกึ ษา | 218 ของรฐั บาล รายงานดงั กล่าวจดั ทำ� โดยหน่วยวเิ คราะหน์ โยบาย (Policy Analysis Unit) ภายใตส้ ำ� นกั นายกรฐั มนตรี โดยมีผู้เชย่ี วชาญและตัวแทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการจดั ทำ� รายงาน ในรายงานแตล่ ะฉบบั จะมหี วั ขอ้ หลกั ทเ่ี ลอื กมาเฉพาะในแตล่ ะครง้ั โดยทหี่ นว่ ยวเิ คราะหน์ โยบาย ของรัฐบาลจะทำ� งานร่วมกบั สถาบนั การศกึ ษาและวิจัย หน่วยงานท่ปี รกึ ษา และองคก์ รรฐั หนว่ ยอื่น ๆ เพ่อื จัดเตรียมและคัดเลือกหวั ขอ้ หลกั ส�ำหรับรายงานคร้ังต่อไป รายงานการคาดการณข์ องรฐั บาลมบี ทบาทสำ� คญั ในกระบวนการทางการเมอื งและการบรหิ ารรฐั กจิ ของฟนิ แลนด์ นอกจากเปน็ เอกสารทแ่ี สดงถงึ วสิ ยั ทศั นร์ ะยะยาวแลว้ ยงั เปน็ เอกสารทสี่ ง่ มอบตอ่ ให้ รฐั สภาเพอ่ื ขอความเหน็ จากผแู้ ทนราษฎร ขนั้ ตอนของการจดั ทำ� รายงานดงั กลา่ วเรม่ิ ตงั้ แตก่ ารรเิ รมิ่ และ จดั เตรยี มโครงการโดยเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั บาล โดยอาจทำ� งานรว่ มกบั คณะทปี่ รกึ ษาภายนอก จากนนั้ จงึ มี การจดั ต้ังคณะท�ำงาน ซ่ึงท�ำหนา้ ท่จี ดั เก็บ ประมวล วเิ คราะห์และสงั เคราะห์ขอ้ มลู โดยอาจจดั ประชมุ กลมุ่ ยอ่ ยกบั ผู้เชีย่ วชาญด้านตา่ ง ๆ เมื่อรายงานแล้วเสร็จ รัฐบาลจะส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้กับคณะกรรมาธิการว่าด้วยอนาคต (Futures Committee) ภายใต้รัฐสภาฟินแลนด์ ซ่ึงจะน�ำผลจากรายงานดังกล่าวไปหารือในการ ประชุมกับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพ่ือน�ำเสนอผลการวิเคราะห์และรับฟังความเห็น จากประชาชน คณะกรรมการวา่ ดว้ ยอนาคตของรฐั สภาจะทำ� หนา้ ทป่ี ระมวลผลจากกระบวนการมสี ว่ น รว่ มของประชาชน แลว้ นำ� เสนอรฐั บาลต่อไป รายงานการคาดการณข์ องฟนิ แลนด์จึงเปน็ มากกว่าสงิ่ ตี พิมพ์ทเ่ี ผยแพร่ทวั่ ไป เนอ่ื งจากการดำ� เนินการตามข้อคน้ พบและข้อเสนอของรายงานน้ีมักใช้เวลานาน กวา่ 4 ปี นัน่ หมายความว่า รฐั บาลสมยั ตอ่ ไปยังตอ้ งด�ำเนนิ การบางสว่ นตามรายงานการคาดการณ์นน้ั นอกเหนือจากรายงานการคาดการณ์ของรัฐบาลแล้ว ยังมีรายงานอ่ืนอีกที่หน่วยงานในรัฐบาล ฟินแลนด์ใช้ในการก�ำหนดนโยบายสาธารณะ เครือข่ายการคาดการณ์ของรัฐบาล (Government Foresight Network) จัดท�ำรายงานบรบิ ทการกำ� หนดนโยบายของฟินแลนด์ (Policy-Making Envi- ronment Report) นอกจากนี้ ทุกกระทรวงตอ้ งจดั ท�ำการประมวลภาพอนาคต (Ministries Future Reviews) ซึ่งวิเคราะห์ภาพรวมของประเด็นปัญหาท่ีก�ำลังเกิดข้ึนและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ท่ีเป็นไปได้ภายใต้บทบาทหน้าที่ของแต่ละกระทรวง สภาเศรษฐกิจ (Economic Council) และ กระทรวงการคลงั ของฟนิ แลนด์จัดทำ� รายงานท่คี าดการณอ์ ยู่เปน็ ประจำ� ทกุ ปี ในการนี้ สภาเศรษฐกจิ ของฟนิ แลนดท์ ำ� งานรว่ มกับหน่วยงานภาครฐั อน่ื ๆ สถาบันวจิ ยั และองค์กรทีป่ รึกษา เพ่ือเลอื กหวั ขอ้ ส�ำหรับการศึกษาอนาคตและจดั ทำ� รายงานทีส่ ง่ ตอ่ ใหร้ ฐั บาลพจิ ารณาต่อไป13 เครอื ข่ายการคาดการณข์ องรัฐบาลฟนิ แลนด์ อีกองค์ประกอบหน่ึงของระบบคาดการณ์ของฟินแลนด์คือเครือข่ายการคาดการณ์ของรัฐบาล (Government Foresight Network) ซึ่งมีส�ำนักนายกรัฐมนตรีท�ำหน้าที่เป็นเลขานุการและเป็นเจ้า ภาพในการประสานงานในกระบวนการคาดการณ์ร่วมกันระหว่างผู้เช่ียวชาญและเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ ด้านการคาดการณ์และอนาคตศึกษาของหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมด สมาชิกหลักของเครือข่ายที่เป็น ทางการนี้ประกอบดว้ ยผแู้ ทน 2 คนจากแตล่ ะกระทรวงในรฐั บาลฟินแลนด์ รวมท้ังหมด 12 กระทรวง และเจา้ หนา้ ทเี่ ลขานุการอีก 4 คน รวมเปน็ 28 คน

219 | อนาคตศึกษา วัตถปุ ระสงค์หลกั ของเครือข่ายนี้คือ เพ่อื แลกเปลีย่ นข้อมลู และความรู้ด้านการคาดการณ์ ทง้ั ใน เชงิ สาระและในเชงิ วธิ กี าร โดยมกี จิ กรรมหลกั คอื การวเิ คราะหป์ จั จยั ขบั เคลอื่ นทผ่ี ลตอ่ แนวโนม้ และการ เปล่ียนแปลงที่ส�ำคัญในการพัฒนา รวมไปถึงสัญญาณอ่อนแล้วระบุถึงประเด็นปัญหาและความรับผิด ชอบทซ่ี อ้ นทบั กนั ระหวา่ งหนว่ ยงาน เปรยี บเทยี บผลการวเิ คราะหท์ เี่ หมอื นหรอื แตกตา่ งกนั ระหวา่ งหนว่ ย งาน แลว้ จงึ ผลติ และเผยแพรร่ ายงานการคาดการณ์ เพอ่ื นำ� เสนอตอ่ รฐั บาล รฐั สภาและสาธารณชนตอ่ ไป คณะกรรมาธกิ ารสามัญวา่ ด้วยอนาคต รัฐสภาหรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติในประเทศต่าง ๆ มักจัดต้ังคณะกรรมาธิการสามัญเพ่ือ พิจารณากฎหมายและติดตามการท�ำงานของรัฐบาล รัฐสภาของฟินแลนด์ก็แต่งตั้งคณะกรรมาธิการ สามัญทงั้ หมด 17 คณะ หนึ่งในน้ันคือคณะกรรมาธิการว่าด้วยอนาคต (Parliament’s Committee for the Future) ซึ่งจัดต้ังครั้งแรกเป็นคณะกรรมการวิสามัญใน พ.ศ. 2536 และยกระดับเป็นคณะ กรรมการสามัญใน พ.ศ. 2543 คณะกรรมาธิการน้ีไม่ได้ท�ำหน้าที่ร่างและพิจารณากฎหมายเหมือน กับคณะกรรมาธิการชุดอื่น แต่ท�ำหน้าท่ีให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเก่ียวกับรายงานการคาดการณ์ ของรฐั บาล รวมถงึ ประเดน็ เกย่ี วกบั เทคโนโลยแี ละผลกระทบทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ กบั สงั คม คณะกรรมาธกิ ารดงั กลา่ วสามารถเลอื กหวั ขอ้ และประเดน็ ในการวเิ คราะหแ์ ละพจิ ารณาไดต้ ามดลุ ยพนิ จิ ของตนเอง ทผ่ี า่ นมา คณะกรรมาธิการชุดนี้ผลิตและเผยแพร่เอกสารที่แสดงผลการประเมินเทคโนโลยีและประเด็นที่ส�ำคัญ ซ่งึ กลายเป็นพ้นื ฐานของการอภปิ รายในรฐั สภาเมือ่ ตอ้ งพจิ ารณาประเดน็ ทเ่ี กย่ี วข้อง14 คุณลักษณะสำ� คญั ของคณะกรรมาธกิ ารวา่ ดว้ ยอนาคตของรัฐสภาฟนิ แลนด์ แตกตา่ งจากรูปแบบ ในประเทศอื่น เช่น ในรัฐสภาของเยอรมนี คณะกรรมาธกิ ารรัฐสภาไม่ได้ด�ำเนนิ การศึกษาและประเมนิ อนาคตเอง แตว่ ่าจา้ งที่ปรกึ ษาหรอื สถาบันวจิ ัยภายนอกให้ทำ� หน้าทสี่ ่วนนน้ั แทน เพ่ือใหก้ ระบวนการ และผลการวิเคราะห์มีความเป็นกลางและไม่ขึ้นกับแนวคิดทางการเมืองของผู้แทนในรัฐสภา แต่ใน กรณีของฟินแลนด์ นักการเมืองท่ีอยู่ในคณะกรรมาธิการมีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการคาดการณ์ โดยเริ่มจากการก�ำหนดหัวข้อ ประเด็นและวิธีการคาดการณ์ ไปจนถึงการเข้าร่วมประชุมและเขียน รายงานทใ่ี หค้ วามเหน็ อยา่ งเปน็ ทางการตอ่ ขอ้ เสนอทไ่ี ดร้ บั จากผเู้ ชย่ี วชาญ ความตงั้ ใจของแนวทางแบบ ฟนิ แลนดน์ ค้ี อื เพอื่ ใหน้ กั การเมอื งเขา้ ใจประเดน็ ปญั หาและทางเลอื กของวธิ กี ารแกไ้ ขอยา่ งถอ่ งแท้ เพอ่ื น�ำไปสูก่ ารตัดสนิ ใจทีด่ ีข้ึน15 กลุ่มคาดการณด์ ้านแรงงาน สมรรถนะ และความตอ้ งการด้านการศึกษา นอกจากองคก์ รและสถาบนั ระดบั รฐั บาลและรฐั สภาแลว้ ยงั มกี ารจดั ตง้ั กลมุ่ คาดการณเ์ ฉพาะดา้ น ขนึ้ ระหว่างกระทรวงตา่ ง ๆ หนึง่ ในน้ันคอื การร่วมมอื กันระหว่างกระทรวงการจ้างงานและเศรษฐกิจ (Ministry of Employment and the Economy) กบั กระทรวงศึกษาธิการ (Ministry of Educa- tion) วตั ถุประสงคห์ ลักของการจดั ตั้งกลมุ่ การคาดการณ์รว่ มกนั ระหว่างสองกระทรวงเมื่อ พ.ศ. 2551 คือ เพ่อื สร้างระบบคาดการณส์ ำ� หรับการตัดสนิ ใจเชิงนโยบายท่เี กีย่ วข้องกบั การศกึ ษาดา้ นอาชวี ะและ ความต้องการด้านทักษะและสมรรถนะแรงงาน ทั้งนี้ กระทรวงการจ้างงานและเศรษฐกิจได้เน้นการ

อนาคตศกึ ษา | 220 คาดการณร์ ะยะสน้ั เกย่ี วกบั ความตอ้ งการแรงงานในภาพรวม และความตอ้ งการดา้ นสมรรถนะแรงงาน และการศึกษา ในขณะที่กระทรวงศึกษาธกิ ารจะเนน้ การคาดการณ์ในเร่ืองคล้ายกันแต่เนน้ ภาพระยะ ยาว หน่วยงานทั้งสองไดแ้ ลกเปลีย่ นและวเิ คราะหข์ ้อมลู ดว้ ยกนั แลว้ ผลิตรายงานที่รฐั บาลและรฐั สภา น�ำไปใชใ้ นการวางนโยบายตอ่ ไป เครอื ขา่ ยการคาดการณ์ของกองทนุ นวตั กรรมฟินแลนด์ กองทุนนวัตกรรมฟนิ แลนด์ (SITRA) จัดต้ังขน้ึ ในรปู แบบองค์กรอสิ ระใน พ.ศ. 2510 ภายใต้การ กำ� กับของรฐั สภาฟินแลนด์ เพ่อื สง่ เสริมการสรา้ งนวัตกรรมและสวสั ดิการของประชาชนชาวฟินแลนด์ โดยเนน้ ทป่ี ระเดน็ ความทา้ ทายสำ� หรบั อนาคตของฟนิ แลนด์ พนั ธกจิ หลกั ของกองทนุ นวตั กรรมฟนิ แลนด์ คือการพฒั นาระบบนวัตกรรมและยกระดบั ขดี ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ กจิ กรรมหนงึ่ ของกองทนุ ฯ คอื การคาดการณค์ วามทา้ ทายในอนาคต โดยการสนบั สนนุ การทำ� งานของเครอื ขา่ ยการ คาดการณร์ ะดบั ชาติ (National Foresight Network) ซง่ึ ประกอบไปดว้ ยผเู้ ชยี่ วชาญรายสาขาและนกั นโยบายที่ท�ำงานรว่ มกนั ในการวิเคราะหแ์ นวโนม้ และปจั จยั ขบั เคล่อื นตา่ ง ๆ สมาคมและชมรมอนาคตศึกษาฟนิ แลนด์ นอกเหนอื จากองคก์ รและเครอื ขา่ ยแบบเปน็ ทางการทจี่ ดั ตงั้ โดยรฐั บาลและรฐั สภาแลว้ ฟนิ แลนด์ ยงั มกี ลมุ่ สมาคมและชมรมของนกั อนาคตศาสตรแ์ ละอนาคตศกึ ษาอยหู่ ลายกลมุ่ ดว้ ยกนั กลมุ่ ทมี่ จี ำ� นวน สมาชิกมากที่สุดคือสมาคมอนาคตศาสตร์แห่งฟินแลนด์ (Finnish Society for Futures Studies) ซึง่ กอ่ ตงั้ ใน พ.ศ. 2523 ตามขอ้ เสนอของคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ (Central Board of Research Councils) สมาชกิ ในสมาคมอนาคตศาสตร์แหง่ ฟนิ แลนด์ประกอบดว้ ยมหาวิทยาลยั 14 แห่ง สถาบนั การศกึ ษาและวจิ ัยอ่ืนอีก 14 แห่ง และสมาชิกรายบุคคลมากกวา่ 700 คน16 รแะผบนบภคาาพดทกี่ า2ร4ณร์ ะดับชาตขิ องฟินแลนด์ ทีม่ า: Kuosa 2010

221 | อนาคตศึกษา อีกเครือข่ายหน่ึงที่มีกิจกรรมอนาคตศึกษาหรือการคาดการณ์คือสถาบันอนาคตแห่งฟินแลนด์ (Finland Futures Academy - FFA) ซ่งึ ประกอบดว้ ยมหาวิทยาลัย 9 แหง่ ท่มี ีการเรยี นการสอนดา้ น อนาคตศาสตร์ โดยมีคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเทอร์กู (Turku University) และศูนย์วิจัย อนาคตแห่งฟินแลนด์ (Finland Futures Research Centre – FFRC) ท�ำหน้าที่ประสานงานของ สถาบันศนู ย์ FFRC เปดิ สอนหลักสตู รบณั ฑิตศกึ ษาในดา้ นอนาคตศาสตร์ และเปน็ หนึง่ ในสถาบันการ ศกึ ษาทใี่ หญท่ สี่ ดุ แหง่ หนง่ึ ในโลกในดา้ นน้ี โครงการวจิ ยั และงานศกึ ษาอนื่ ของ FFRC ไดร้ บั เงนิ สนบั สนนุ จากกองทนุ พัฒนาระดบั ชาติของฟินแลนด์และจากประชาคมยุโรป17 ผลงานของ FFRC โดยมากเป็น รายงานเชิงวิชาการมากกว่างานคาดการณ์ที่ตอบโจทย์ของรัฐบาลในการก�ำหนดนโยบายสาธารณะ บทบาทของหน่วยงานน้ีจึงแตกต่างจากองค์กรด้านอนาคตศึกษาอื่น ๆ ท่ีมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ รฐั บาลและรัฐสภา นอกจากสมาคมทั้งสองแลว้ ฟนิ แลนดย์ งั มกี ารรวมกล่มุ อยา่ งไมเ่ ป็นทางการของนัก อนาคตศาสตร์ นกั คาดการณ์ และผเู้ ชี่ยวชาญท่ใี นสาขาต่าง ๆ แผนภาพ 24 แสดงระบบคาดการณ์ ระดบั ประเทศของฟนิ แลนด์ องคป์ ระกอบทง้ั 6 กลมุ่ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งองคก์ รและสถาบนั เหลา่ นี้ กระบวนการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ของฟนิ แลนด์มักด�ำเนินการตามข้นั ตอนดังต่อไปนี้ 1. กำ� หนดกรอบและระเบยี บ แผนพฒั นาของรฐั บาลกำ� หนดหวั ขอ้ และทศิ ทางของการศกึ ษา และคาดการณ์ของแตล่ ะกระทรวง ส�ำนกั นายกรัฐมนตรที ำ� หนา้ ทปี่ ระสานงานและแต่งตัง้ คณะท�ำงานในดา้ นตา่ ง ๆ 2. เก็บรวบรวม ผลิตและประมวลข้อมูล หน่วยงานภาครฐั และสถาบนั วิจัยเก็บรวบรวมและ ประมวลข้อมูลท่ีเกีย่ วข้องกับประเดน็ เน้อื หาแต่ละหวั ขอ้ และประเด็น 3. วเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหข์ อ้ มลู หนว่ ยงานและสถาบนั วจิ ยั วเิ คราะหแ์ นวโนม้ และคาดการณ์ การเปล่ียนแปลงในอนาคต 4. ตีความ ส�ำนักนายกรัฐมนตรีผลิตรายงานเก่ียวกับอนาคต เง่ือนไขและบริบทของการ ด�ำเนนิ โยบาย และผลการศกึ ษาของเครอื ขา่ ยอนาคตของรฐั บาล (Government Future Network) ส่วนคณะกรรมาธิการว่าด้วยอนาคตของรัฐสภา แสดงความเห็นและเสนอผล การประเมินเทคโนโลยี พร้อมด้วยความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนเกี่ยวกับ รายงานการคาดการณต์ ่าง ๆ 5. คาดการณ์ รายงานอนาคตทผ่ี ลติ โดยรัฐบาลจะมีการวิเคราะห์ฉากทศั น์ และสถานการณ์ สมมติทีค่ วรพจิ ารณา 6. ผลผลิตและเผยแพร่ การเผยแพรร่ ายงาน พรอ้ มกบั การจดั กระบวนการมีสว่ นร่วมและรับ ฟงั ความคิดเห็นจากทกุ ภาคส่วน 7. ก�ำหนดยุทธศาสตร์ แต่ละหน่วยงานนำ� เสนอทางเลือกเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ เพอ่ื ส่งต่อไปยังสภาเศรษฐกิจ (Economic Council) และกระทรวงที่เก่ียวข้อง เพ่ือกำ� หนด แผนการท�ำงานของรัฐบาล พร้อมกบั พรรคการเมืองและคณะกรรมาธิการของรฐั สภา

อนาคตศึกษา | 222 ระบบคาดการณ์ ของสงิ คโปร์ สงิ คโปรเ์ ปน็ อกี ประเทศหนงึ่ ทใ่ี หค้ วามสำ� คญั กบั ระบบคาดการณร์ ะดบั ชาติ และไดพ้ ฒั นาระบบสถาบนั และองค์กรท่ีเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์เพื่อการวางแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล จุดเริ่มต้นของระบบ คาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องสงิ คโปรค์ อื การจดั ตง้ั สำ� นกั งานตรวจจบั ความเสย่ี งและวางแผนฉากทศั น์ (Risk Detection and Scenario Planning Office) ภายใตก้ ระทรวงกลาโหม (Ministry of Defense) ใน พ.ศ. 2534 หลังจากนัน้ รฐั บาลสิงคโปรจ์ ดั ตั้งสำ� นักงานวางแผนฉากทัศน์ (Scenario Planning Office) ภายใตแ้ ผนกบริการสาธารณะ (Public Service Division) ของส�ำนกั นายกรฐั มนตรี (Prime Minister’s Office) ใน พ.ศ. 2538 หนา้ ที่หลกั ของหนว่ ยงานน้คี อื การพฒั นาฉากทัศนจ์ ากมมุ มองใน ภาพรวมของรัฐบาลสิงคโปร์18 ต่อมาใน พ.ศ. 2546 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นส�ำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์ (Strategic Policy Office) เพ่ือสะท้อนบทบาทท่ีเน้นการเชื่อมโยงงานด้านการคาดการณ์กับงาน วางแผนเชงิ ยุทธศาสตร์มากข้ึน การพฒั นาครงั้ ใหญข่ องระบบคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องสงิ คโปรค์ อื การจดั ตงั้ แผนงานประเมนิ ความเสยี่ งและการกวาดสญั ญาณ (Risk Assessment and Horizon Scanning Programme ) ใน พ.ศ. 2548 และศูนย์การกวาดสัญญาณ (Horizon Scanning Centre) ใน พ.ศ. 2551 หลังจากน้ัน กิจกรรมด้านการคาดการณ์และศึกษาอนาคตได้แพร่ขยายไปทุกหน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์ โดย จัดตั้งแผนกและกลุ่มงานท่ีท�ำหน้าที่ด้านน้ีโดยเฉพาะในแต่ละหน่วยงาน จึงมีความจ�ำเป็นท่ีต้องจัดตั้ง หน่วยงานประสานการท�ำงานของกลุ่มศึกษาอนาคตเหล่านี้ รัฐบาลสิงคโปร์จึงจัดตั้งเครือข่ายอนาคต เชงิ ยทุ ธศาสตร์ (Strategic Futures Network) ขึ้นใน พ.ศ. 255319 ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดตั้งศูนย์เพ่ืออนาคตเชิงยุทธศาสตร์ (Centre for Strategic Futures – CSF) ใน พ.ศ. 2552 ในฐานะหนว่ ยงานให้คำ� ปรึกษาภายในสำ� นักงานนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ (SPO) เพอื่ เนน้ งานวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั ประเดน็ หวั ขอ้ ทย่ี งั มกี ารศกึ ษาอยนู่ อ้ ยหรอื เปน็ จดุ บอด และด�ำเนินโครงการวิจัยอนาคตระยะยาว ไปพร้อมกับการทดลองใช้วิธีการคาดการณ์ใหม่ท่ีทันสมัย มากขึน้ เมอ่ื ไมน่ านมาน้ี ใน พ.ศ. 2558 ศนู ย์ CSF ไดย้ กระดับเปน็ กล่มุ ยทุ ธศาสตรห์ นง่ึ ในส�ำนกั นายก รฐั มนตรี โดยมหี นา้ ทสี่ นบั สนนุ การวางแผนยทุ ธศาสตรแ์ ละการจดั ลำ� ดบั ความสำ� คญั ของนโยบายรฐั บาล ทง้ั หมด รวมไปถงึ การประสานการทำ� งานและการพฒั นายทุ ธศาสตรร์ ะหวา่ งหนว่ ยงาน และสง่ เสรมิ การ พัฒนาขีดความสามารถดา้ นต่าง ๆ ในงานบรกิ ารสาธารณะของรฐั บาลสงิ คโปร์

223 | อนาคตศกึ ษา รแะผบนบภคาาพดทกี่ า2ร5ณร์ ะดับชาติของสงิ คโปร์ ทม่ี า: Kuosa 2010 กิจกรรมด้านการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสิงคโปร์เกือบท้ังหมดอยู่ภายใต้การก�ำกับ ของส�ำนักนายกรัฐมนตรี ซ่ึงสื่อให้เห็นว่ารัฐบาลสิงคโปร์ให้ความส�ำคัญกับการศึกษาอนาคตและการ คาดการณ์เป็นอย่างมาก หน่วยงานย่อย 2 แห่งภายใต้ส�ำนักนายกรัฐมนตรีมีบทบาทพิเศษในการคาด การณ์เชิงยุทธศาสตร์ของสิงคโปร์ คือ ส�ำนักงานปลัดกระทรวง (Permanent Secretary Secretar- iat) ด้านความมั่นคงแห่งชาติและการประสานงานข่าวกรอง (National Security and Intelligence Coordination - NSIC) ซึ่งมีศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Coordi- ation Center) ภายใต้องค์กรน้ี งานด้านการคาดการณ์จะด�ำเนินการโดยศูนย์กวาดสัญญาณ (Hori- zon Scanning Office) อีกหน่วยงานหน่ึงภายใต้ส�ำนักนายกรัฐมนตรีท่ีท�ำงานด้านการคาดการณ์ คือส�ำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์ (SPO) และศูนย์เพื่ออนาคตเชิงยุทธศาสตร์ (CSF) และเครือข่าย อนาคตเชิงยุทธศาสตร์ (SFN) ที่ได้กล่าวถึงไปตอนต้น บทบาทส�ำคัญของหน่วยงาน SFN คือสร้าง ความตระหนักในหน่วยงานของรัฐบาลทั้งหมดเก่ียวกับกิจกรรมและผลงานของหน่วยคาดการณ์ตาม หน่วยงานต่าง ๆ ไปพร้อมกับการประสานงานระหว่างหน่วยงานเหล่าน้ี เพ่ือเสริมฤทธ์ิของการท�ำงาน รว่ มกันและการขยายขนาดและขอบเขตของงานทีท่ �ำรว่ มกันได้ นอกจากทง้ั สององคก์ รนแ้ี ลว้ ยงั มหี นว่ ย คาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ (Strategic Foresight Unit) ภายใตก้ ระทรวงการคลงั (Ministry of Finance)

อนาคตศกึ ษา | 224 ท่ีด�ำเนินกิจกรรมด้านการคาดการณ์ โดยเน้นประเด็นที่มีผลสืบเนื่องระยะยาวต่อระบบการเงินและ การคลังของสงิ คโปร์ คณุ ลกั ษณะสำ� คญั ของระบบคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องสงิ คโปรท์ เ่ี หมอื นกบั กรณขี องฟนิ แลนด์ คอื ความตระหนกั และการใหค้ วามสำ� คญั กบั การคาดการณภ์ ายในหนว่ ยงานรฐั บาล ทงั้ การจดั ตงั้ องคก์ ร เฉพาะทางดา้ นอนาคตศกึ ษาและการนำ� ผลผลติ และผลลพั ธจ์ ากกจิ กรรมการคาดการณไ์ ปใชต้ อ่ จรงิ ใน การวางแผนนโยบายและยุทธศาสตรด์ ้านตา่ ง ๆ ของประเทศ ส่วนทแ่ี ตกตา่ งกันอยา่ งชัดเจนคอื กล่มุ ชุมชนด้านอนาคตศึกษาทไ่ี มได้อยู่ภายในหนว่ ยงานของรฐั บาล ในสิงคโปร์ นักคาดการณแ์ ละอนาคต ศึกษาที่ไม่ได้สังกัดรัฐบาลโดยตรงมีอยู่ไม่มาก เม่ือเปรียบเทียบกับกรณีของฟินแลนด์ แม้ว่าวิทยาลัย นานาชาตศิ กึ ษา เอส ราชารตั นมั (S. Rajaratnam School of International Studies) ในมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีหนานหยาง (Nanyang Technological University) มกี ารเปิดหลกั สูตรด้านอนาคตศึกษา และมีโครงการวิจัย และศกึ ษาประเดน็ ท้าทายในอนาคตร่วมกบั รัฐบาลสงิ คโปรอ์ ย่เู ป็นประจำ� กต็ าม20 คณุ ลกั ษณะเฉพาะของระบบคาดการณข์ องสงิ คโปรค์ อื การรวมศนู ยข์ องการบรหิ ารจดั การระบบ คาดการณ์ระหว่างหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมด หน่วยงานและกิจกรรมด้านการคาดการณ์ทั้งหมดของ รฐั บาลสงิ คโปร์ ไมว่ า่ จะอยใู่ นกระทรวงหรอื สำ� นกั งานใดกต็ ามจะอยภู่ ายใตก้ ารกำ� กบั โดยตรงของผดู้ ำ� รง ตำ� แหนง่ หวั หนา้ เจา้ หนา้ ทภ่ี าครฐั (Head of civil service) ซงึ่ มบี ทบาทคลา้ ยกบั เลขาธกิ ารสำ� นกั งาน คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื นของรฐั บาลไทย หวั หนา้ เจา้ หนา้ ทภี่ าครฐั โดยตำ� แหนง่ แลว้ ยงั เปน็ ปลดั กระทรวง (permanent secretary) ดา้ นความมั่นคงแห่งชาติและการประสานขา่ วกรอง (National Security and Intelligence Coordination) และปลัดกระทรวงการคลงั อีกทั้งยังเป็นประธานของ เครือข่ายอนาคตเชงิ ยทุ ธศาสตร์ (Strategic Futures Network) อกี ด้วย

225 | อนาคตศึกษา สรุป ระบบคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ระดับประเทศของฟินแลนด์และสิงคโปร์เป็นสองตัวอย่าง ท่ีถือว่าเป็นระบบคาดการณ์ระดับชาติที่ได้พัฒนาไปมาก ทั้งในด้านองค์กร สถาบัน และ บุคลากรท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการคาดการณ์และการน�ำผลจากการคาดการณ์ไปใช้ต่อในการ วางแผนนโยบายระดับประเทศ ท้ังสองประเทศมีรูปแบบและโครงสร้างของระบบคาดการณ์ เชิงยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกัน ซ่ึงเป็นไปตามบริบทด้านการวางแผนนโยบายสาธารณะของ แต่ละประเทศ ปัจจัยส�ำคัญประการหนึ่งที่ท�ำให้ระบบคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ของทั้งสอง ประเทศประสบความส�ำเร็จคือ การเชื่อมระบบคาดการณ์กับองค์ประกอบส่วนอ่ืน ๆ ของ ระบบการวางแผนนโยบายและยุทธศาสตร์ทั้งหมดเขา้ ดว้ ยกัน ไมไ่ ดแ้ ยกสว่ นซ่ึงกันและกัน จงึ ทำ� ใหก้ ระบวนการและผลลพั ธจ์ ากการคาดการณส์ อดคลอ้ งกนั และเปน็ ประโยชนก์ บั หนว่ ยงาน ราชการหรอื องคก์ รเอกชนอ่ืน ๆ ทส่ี ามารถเอาผลการคาดการณ์ไปวางแผนนโยบายและการ ทำ� งานของแต่ละองค์กรได้ เม่ือเปรียบเทียบโครงสร้างและแนวคิดพ้ืนฐานของระบบคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ของ ฟินแลนด์และสิงคโปร์แล้ว จะเห็นได้ว่า ทั้งสองประเทศต่างให้ความสำ� คัญมากกับการคาด การณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ โดยทร่ี ฐั บาลของทง้ั สองประเทศตา่ งตระหนกั และใหค้ วามสำ� คญั กบั การ คาดการณ์ในหนว่ ยงานรฐั บาล ทง้ั สองประเทศจดั ต้ังองคก์ รเฉพาะทางดา้ นการคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์และด้านอนาคตศึกษา อีกทง้ั ยังมกี ารน�ำผลผลติ และผลลพั ธจ์ ากการคาดการณ์ไป ใชต้ อ่ จรงิ ในการวางแผน ในขณะเดียวกัน ทั้งสองประเทศมีความแตกต่างในโครงสร้างและแนวคิดพ้ืนฐานของ ระบบคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ โครงสร้างและระบบด้านการคาดการณ์ของฟินแลนด์แสดง ถึงความพยายามในการถ่วงดุลอ�ำนาจระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ จึงมีหน่วยงานที่ รบั ผดิ ชอบดา้ นการคาดการณท์ อี่ ยภู่ ายใตร้ ฐั บาลและทอ่ี ยภู่ ายใตร้ ฐั สภา และมกี ระบวนการใน การตรวจสอบเนอ้ื หาซงึ่ กนั และกนั พรอ้ มกนั น้ี ชมุ ชนดา้ นอนาคตศกึ ษาและการคาดการณข์ อง ฟนิ แลนด์มอี ยใู่ นหลายองค์กร ทงั้ ทเี่ ปน็ สถาบันการศึกษา สถาบันการวจิ ัย บรษิ ทั เอกชน และ องคก์ รภาคประชาชน โครงการคาดการณท์ นี่ ำ� ไปสกู่ ารกำ� หนดนโยบายมกั เปดิ ใหต้ วั แทนกลมุ่ ผู้ มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี หรอื ประชาชนทวั่ ไปเขา้ มามสี ว่ นรว่ มดว้ ย โครงสรา้ งและระบบคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตรอ์ าจนบั ไดว้ า่ เป็นแบบกระจายศูนย์ ในทางตรงกนั ข้าม โครงสรา้ งและระบบการคาดการณข์ องสงิ คโปร์ข้ึนอยูก่ ับรัฐบาลเป็น หลัก และมีการรวมศูนย์อ�ำนาจในการบริหารจัดการและตัดสินใจไว้กับหน่วยงานหลักของ รัฐบาล แม้ว่าอาจมีสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนและงานวิจัยในด้านอนาคตศึกษา และการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์บ้าง แต่มักเป็นหน่วยงานรัฐบาลท่ีด�ำเนินกระบวนการคาด การณ์ กระบวนการมสี ว่ นรว่ มของตวั แทนประชาชนหรอื ประชาชนทว่ั ไปในการคาดการณเ์ ชงิ

อนาคตศึกษา | 226 ยทุ ธศาสตรจ์ งึ มอี ยนู่ อ้ ย อาจกลา่ วไดว้ า่ ระบบคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องแตล่ ะประเทศสะทอ้ น ปรชั ญาพื้นฐานและแนวทางการบรหิ ารรัฐกิจโดยรวมของประเทศน้ัน ทงั้ นท้ี งั้ นน้ั ระบบคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องทง้ั สงิ คโปรแ์ ละฟนิ แลนดต์ า่ งกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบการวางแผนนโยบายสาธารณะของประเทศท่ีได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพใน การบรหิ ารรฐั กิจ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในดา้ นขดี ความสามารถในการน�ำแผนไปปฏบิ ตั ิใชจ้ ริง สว่ น หนงึ่ อาจเนอ่ื งจากการวางแผนนโยบายสาธารณะในประเทศเหลา่ นย้ี ดึ ถอื หลกั การใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ผลการคาดการณจ์ ึงมกั ได้รับการยอมรบั จากนกั วางแผนและผู้มอี �ำนาจตัดสินใจ ในทางตรงกันข้าม ในประเทศท่ีมีขีดความสามารถในการปฏิบัติต่�ำกว่าประเทศเหล่าน้ี กระบวนการวางนโยบายสาธารณะอาจไม่ให้ความส�ำคัญกับหลักฐานเชิงประจักษ์เท่าใดนัก และแผนที่ได้พัฒนาข้ึนมามักไม่น�ำไปสู่การปฏิบัติ ความท้าทายหน่ึงของระบบคาดการณ์เชิง ยุทธศาสตร์จึงคือการสร้างความตระหนักทั้งในวงกว้างและในวงการนักวิชาการและนักนโยบาย ถึงความส�ำคัญและประโยชน์ของการคาดการณ์ การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ (community of practice) ด้านการคาดการณ์จึงมีความส�ำคัญยิ่ง โดยเป็นชุมชนฐานกว้างท่ีครอบคลุมไปถึงผู้ ปฏิบัติในองค์กรไม่แสวงหาก�ำไร ส่ือมวลชน ผู้น�ำท้องถ่ิน กลุ่มเยาวชน ฯลฯ นอกเหนือไปจาก นักวิชาการ เทคโนแครตในองค์กรภาครัฐ นักการเมือง และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซ่ึงมัก มีบทบาทในการก�ำหนดนโยบายสาธารณะมาแต่เดิมอยู่แล้ว

227 | อนาคตศกึ ษา

อนาคตศึกษา | 228 5 อนาคตศกึ ษา ในประเทศไทย Yesterday is gWoneeh. aTvoemoonrrloywtohdaasyn. Loettyuets cboemgine.. Mother Teresa

229 | อนาคตศกึ ษา อนาคตในภาษา แตล่ ะวฒั นธรรมแตล่ ะภาษาตา่ งพฒั นาคำ� ศพั ทข์ น้ึ มาอธบิ ายปรากฏการณร์ อบตวั ไมเ่ หมอื นกนั ตวั อยา่ ง เช่น คำ� ว่า “หมิ ะ” ในภาษาไทยมอี ยูเ่ พยี งค�ำเดียว เชน่ เดยี วกับคำ� วา่ “นำ้� แข็ง” แต่ในภาษาอนิ นวูท (Inuit) ของชาวเอสกโิ มมคี ำ� ทใี่ ชห้ มายถงึ หมิ ะและสภาพตา่ ง ๆ ของหมิ ะมากกวา่ 50 คำ� ในภาษาซามี (Saami) ท่ีใช้แพร่หลายในนอร์เวย์ สวีเดนและฟนิ แลนด์ มคี ำ� ศัพทม์ ากกว่า 180 คำ� ที่ส่อื ถึงสภาพต่าง ๆ ของหิมะและนำ�้ แขง็ 1 เช่นเดียวกันนี้ ในภาษาอังกฤษมีค�ำท่ีใช้อธิบายความพยายามในการรู้ถึงและเข้าใจถึงอนาคต อยู่จ�ำนวนมาก จากการสืบค้นค�ำเหมือนของค�ำว่า forecast ใน thesaurus.com พบว่ามีค�ำท่ีมี ความหมายเหมือนหรือคล้ายกันอยู่จ�ำนวนมาก อาทิ anticipate, augur, calculate, conclude, determine, estimate, foresee, foretell, gauge, portend, adumbrate, conjecture, demonstrate, divine, figure, gather, infer, plan, predetermine, presage, prognosticate, prophesy, reason, surmise, telegraph, call the turn, dope out, figure out, in the cards, see it coming, soothsay เมื่อค้นหาเพิ่มเติมในพจนานุกรมออนไลน์ Oxforddictionaries.com แล้ว พบค�ำเหมือนเพ่ิมเติม ได้แก่ predict, forewarn, guess, hazard a guess, conjecture, speculate, estimate, reckon, expect, previse, vaticinate, auspicate ในทางกลับกัน ค�ำเหล่าน้ใี นภาษาไทยมีอย่ไู มม่ าก และดูเหมือนกบั วา่ เป็นค�ำทพี่ ยายามแปลมา จากภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น เช่น พยากรณ์ คาดการณ์ คาดคะเน คาดประมาณ ท�ำนายทายทัก เดา คาดเดา หย่ังรู้ มองไปข้างหนา้ ฯลฯ หากเราเชอ่ื ในทฤษฎีภาษาสมั พทั ธ์ (linguistic relativity) ซ่ึงเสนอว่า ผู้คนท่ีใช้ภาษาต่างกันจะคิดและมองโลกต่างกันเน่ืองจากใช้ค�ำศัพท์และไวยากรณ์ที่ต่าง กัน การท่ศี พั ท์ภาษาไทยท่ีส่ือถงึ ความพยายามรถู้ ึงอนาคตมีไม่มากเท่ากับในภาษาอังกฤษหรือภาษา อน่ื อาจตงั้ เปน็ สมมตฐิ านไดว้ า่ ผคู้ นในสงั คมไทยอาจไมไ่ ดค้ ดิ ถงึ อนาคตเทา่ กบั ผคู้ นในสงั คมวฒั นธรรม อ่ืน หรอื มคี วามคิดเก่ยี วกบั อนาคตในรูปแบบทแ่ี ตกต่างจากสงั คมวฒั นธรรมอน่ื อยา่ งไรกต็ าม แมว้ ่า เป็นท่ีร้กู ันดีในวงการอนาคตศึกษาวา่ ประเทศไทยยังมงี านวจิ ยั เกี่ยวกบั อนาคตอยู่ไม่มาก แต่นัน่ ก็ไม่ ได้หมายความว่า คนไทยไม่คิดถึงอนาคต ค�ำถามเก่ียวกับมุมมองและทัศนคติของคนไทยเกี่ยวกับ อนาคตจงึ ยงั คงตอ้ งมกี ารศกึ ษาเชิงประจักษต์ อ่ ไป

อนาคตศกึ ษา | 230 อยา่ งไรกต็ าม การคำ� นงึ ถงึ อนาคตเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการวางแผน ไมว่ า่ จะมกี ารระบอุ ยา่ ง ชัดเจนเกีย่ วกบั ภาพอนาคต และใช้แนวคิดและวธิ กี ารวเิ คราะห์ตามหลกั อนาคตศาสตร์หรอื ไมก่ ต็ าม การวิเคราะห์เพื่อการวางแผนนโยบายในประเทศไทย นับตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ไปจนถึงแผนยุทธศาสตรร์ ะดบั กระทรวงทบวงกรม โดยมากเนน้ การพจิ ารณาแนวโน้มจากอดีต สถานการณ์ปัจจุบัน และความเป็นไปได้ในอนาคต ทั้งการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้าง ประชากร ด้านการต้ังถิ่นฐานดา้ นเศรษฐกิจและการลงทนุ ดา้ นการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ด้าน สงั คมวัฒนธรรม ด้านกฎหมายและสถาบนั รวมถงึ ดา้ นส่ิงแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิ อากาศ ดงั นน้ั ทกุ ศาสตรแ์ ละสาขาวชิ าทสี่ รา้ งองคค์ วามรแู้ ละขอ้ มลู พนื้ ฐานทน่ี ำ� ไปใชใ้ นการวางแผน ลว้ นแลว้ แตม่ กี ารศกึ ษาอนาคตดว้ ยกนั ทง้ั สน้ิ โดยเนน้ การคาดการณแ์ ละพยากรณใ์ นประเดน็ ทส่ี นใจ ของตนเองด้วยกรอบแนวคิดและเครื่องมือวิเคราะห์ที่นิยมอยู่ในศาสตร์นั้น ด้วยเหตุน้ี การศึกษา อนาคตไม่ใชเ่ ปน็ เร่ืองใหมส่ ำ� หรบั วงการวชิ าการและวงการวางแผนนโยบายในประเทศไทย แม้ว่านักวิชาการในประเทศไทยได้ศึกษาการเปล่ียนแปลงด้านต่าง ๆ เพื่อการวางแผนอนาคต มาอยู่พอสมควร แต่การศึกษาอนาคตอย่างเป็นระบบตามแนวคิดท่ีพัฒนาเร่ือยมาในวงการอนาคต ศาสตร์ระดับโลกดังที่ทบทวนมาในบทก่อนหน้านี้ อาจยังไม่แพร่หลายในวงการวิชาการและวงการ วางแผนในประเทศไทยเทา่ ใดนกั กรอบแนวคดิ และเครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นงานศกึ ษาอนาคตในประเทศไทย ทผ่ี ่านมามีจำ� กดั ถึงแม้วา่ นักวิชาการและนักวางแผนนโยบายอาจไดร้ บั การอบรมและเรยี นร้เู กีย่ วกบั อนาคตศาสตรแ์ ละการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรม์ าบา้ ง แตย่ งั ไมม่ ากพอทจี่ ะสรา้ งชมุ ชนทางวชิ าการท่ี มคี วามคกึ คกั และเผยแพรค่ วามรแู้ ละเครอื่ งมอื ดา้ นการศกึ ษาอนาคตไปทวั่ ประเทศ อกี ทง้ั ประเทศไทย ยงั ไมม่ กี ารเรยี นการสอนดา้ นอนาคตศาสตรอ์ ยา่ งเปน็ กจิ จะลกั ษณะ จงึ นบั เปน็ สาขาวชิ าทย่ี งั มชี อ่ งวา่ ง และโอกาสทจ่ี ะพัฒนาต่อไปไดอ้ กี มาก เน้ือหาในบทนี้ทบทวนงานด้านอนาคตศาสตร์ของประเทศไทย ท้ังงานวิชาการท่ีวิเคราะห์แนว โน้มการเปล่ียนแปลงและภาพอนาคตของปรากฏการณ์ การใช้วิธีการวิเคราะห์ด้านอนาคตศาสตร์ โดยเฉพาะงานศึกษาอนาคตของประเทศไทยท่ีได้รับการอ้างอิงถึงในวงการอนาคตศาสตร์ รวมถึง การจดั ตงั้ สถาบนั และองคก์ รทเ่ี นน้ การศกึ ษาอนาคตและการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรใ์ นประเทศไทย

231 | อนาคตศกึ ษา ประสบการณด์ า้ นอนาคต ศกึ ษาในประเทศไทย แม้ว่าสถาบันการศึกษาในประเทศไทยในปัจจุบันยังไม่เปิดสอนหลักสูตรอนาคตศาสตร์อย่างเป็น ทางการ แต่ทผ่ี ่านมามกี ารเผยแพร่แนวคิดและวิธีการวิจยั อนาคตและการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ อยบู่ า้ ง ในบางครง้ั เปน็ การฝกึ อบรมเฉพาะกจิ สำ� หรบั ผบู้ รหิ าร นกั วางแผนหรอื นกั วจิ ยั ทส่ี นใจ ในบาง กรณเี ปน็ การสอนวธิ กี ารศกึ ษาอนาคตในรายวชิ าดา้ นระเบยี บวธิ วี จิ ยั ในหลกั สตู รดา้ นศกึ ษาศาสตรห์ รอื ครศุ าสตร์ วธิ กี ารพยากรณแ์ ละคาดการณบ์ างประเภทเปน็ สว่ นหนงึ่ ของความรแู้ ละทกั ษะในบางสาขา วชิ าอยแู่ ลว้ เชน่ การพยากรณด์ า้ นเศรษฐกจิ ดว้ ยเครอื่ งมอื เศรษฐมติ แิ ละแบบจำ� ลองทางสถติ ใิ นสาขา เศรษฐศาสตร์ การวเิ คราะหร์ ะบบในสาขาวศิ วกรรมศาสตร์ ฯลฯ แตค่ วามรแู้ ละเครอื่ งมอื เหลา่ นไ้ี มไ่ ด้ นำ� เสนอเปน็ สว่ นหนง่ึ ของวชิ าอนาคตศกึ ษาโดยตรง ในการประมวลองค์ความรู้ด้านอนาคตศึกษาในโครงการวิจัยท่ีเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือเล่ม นี้ ผเู้ ขียนพยายามตอบคำ� ถามว่า งานวจิ ยั และงานวางแผนในประเทศไทยท่ผี ่านมาได้ใช้กรอบความ คิดและวธิ กี ารคาดการณ์อยา่ งใดบา้ ง จุดเรม่ิ ตน้ ของการวิเคราะห์ในสว่ นน้คี อื การเลอื กชดุ เคร่ืองมือ ท่ีวงการอนาคตศาสตร์ยอมรับว่าเป็นวิธีการที่เป็นระบบและเช่ือถือได้ โดยเลือกผู้เขียนได้ชุดวิธีการ ศึกษาอนาคตท่ีประมวลโดยเจอโรม เกลน (Jerome Glenn) และเธโอดอร์ กอรด์ อน (Theodore Gordon) ในหนงั สอื Futures Research Methodology Version 3.0 (2009) ตามท่ีอธิบายไปโดย สังเขปในบทที่สี่ พร้อมกันน้ี ผู้เขียนยังได้สืบหาบทความวิชาการท่ีศึกษาประเด็นเกี่ยวกับอนาคต ของประเทศไทยในด้านต่าง ๆ ท่ีใช้เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งที่ระบุไว้ในบทน้ัน การประมวลความ รู้ท่ีน�ำเสนอในบทนี้จะเน้นบทความหรือรายงานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทั้งท่ีมีการเผยแพร่ ต่อสาธารณะและทใี่ ชเ้ พ่ือการวางแผนและดำ� เนินการภายในองคก์ รเท่าที่จะสืบหาและอา้ งอิงถงึ ได้ จากการประมวลงานวจิ ยั และงานวางแผนทมี่ กี ารพยากรณแ์ ละคาดการณอ์ นาคตดา้ นตา่ ง ๆ ใน ประเทศไทยจำ� นวน 140 รายการ พบว่า ในภาพรวม แม้ว่างานวจิ ยั และงานวางแผนในประเทศไทย โดยมากไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นงานด้านอนาคตศึกษาโดยตรง แต่มีงานจ�ำนวนมากท่ีวิเคราะห์ แนวโนม้ การเปลย่ี นแปลงและคาดการณห์ รอื พยากรณไ์ ปขา้ งหนา้ โดยใชว้ ธิ กี ารและเครอื่ งมอื ทไี่ ดร้ ับ การยอมรับในหมู่นักอนาคตศาสตร์ และโดยมากใช้วิธีการและเครื่องมือเชิงปริมาณเป็นหลัก โดยมี ความหลากหลายดา้ นกรอบความคดิ และประเภทของแบบจำ� ลอง ทง้ั น้ี กรอบแนวคดิ เกย่ี วกบั อนาคต ในงานเหลา่ นโ้ี ดยมากเปน็ ในลกั ษณะของการพยากรณ์ (prediction, forecast) ของอนาคตเชงิ เดย่ี ว

อนาคตศึกษา | 232 มากกว่าการคาดการณ์แบบพหุอนาคต (multiple futures) แต่กม็ ีบางงานทวี่ ิเคราะหส์ ถานการณ์ หรือฉากทศั น์ทีผ่ ันแปรไปตามเงือ่ นไขและค่าพารามเิ ตอร์ของตัวแปรท่แี ตกตา่ งกัน นอกจากนี้ งานวจิ ยั และงานวางแผนในประเทศไทยทคี่ ำ� นงึ ถงึ อนาคตมคี วามหลากหลายมากทงั้ ในดา้ นประเดน็ หวั ขอ้ และเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชว้ เิ คราะห์ หวั ขอ้ ทพ่ี บมตี งั้ แตด่ า้ นวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพและดา้ น การแพทย์ เชน่ เรอ่ื งระบาดวทิ ยา ดา้ นวทิ ยาศาสตรก์ ายภาพในหวั ขอ้ เกย่ี วกบั สภาพภมู อิ ากาศและสงิ่ แวดล้อม ไปจนถงึ ดา้ นสังคมศาสตร์ ซึง่ มหี ัวขอ้ ตง้ั แตเ่ ร่ืองการเปลยี่ นแปลงดา้ นประชากร ทรัพยากร บคุ คล ด้านเศรษฐศาสตร์มหี วั ข้อเกี่ยวกบั การเงนิ การธนาคาร ท่ีดนิ และอสงั หาริมทรพั ย์ ที่อยูอ่ าศัย ในด้านภูมิศาสตร์ มีการวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ที่ดิน การศึกษา การท่องเท่ียว รวมถึงงานศึกษา ท่ีมุ่งเพื่อการวางแผน เช่น การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาอุตสาหกรรม การวางแผนด้าน สาธารณปู โภคสาธารณปู การ โครงขา่ ยและระบบการขนสง่ ฯลฯ อาจกลา่ วไดว้ า่ แทบทกุ ศาสตรแ์ ละ สาขาท่ีมีการวิจัยเชิงประจักษ์และมีนัยของการวางแผนนโยบายจะมีงานศึกษาเก่ียวกับแนวโน้มและ การคาดการณไ์ ปยงั อนาคต เปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ ในชว่ งประมาณ 10 ปที ผี่ า่ นมา งานศกึ ษาและวจิ ยั เกยี่ ว กบั อนาคตมจี ำ� นวนเพมิ่ ขนึ้ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ในสาขาวชิ าศกึ ษาศาสตรแ์ ละครศุ าสตร์ โดยเฉพาะในกลมุ่ สาขาวิชาการวจิ ัยและระเบยี บวธิ ีวิจัย และการบรหิ ารและพัฒนาการศกึ ษา อย่างไรกต็ าม งานศกึ ษา เหลา่ นมี้ กั เนน้ การทดลองใชเ้ ครอื่ งมอื ดา้ นอนาคตศกึ ษาเปน็ หลกั โดยแทบไมต่ งั้ กรอบแนวคดิ ทนี่ ำ� มา ใชเ้ ป็นพ้นื ฐานในการตอ่ ยอดความรูเ้ ชงิ ทฤษฎีและนยั เชงิ นโยบายเทา่ ใดนกั จากการประมวลองคค์ วามรใู้ นงานเขยี นดา้ นอนาคตศกึ ษาและการคาดการณใ์ นประเทศไทยตาม เกณฑด์ า้ นวธิ กี ารและเครอ่ื งมอื วเิ คราะหพ์ บวา่ แมว้ า่ งานศกึ ษาหลายชน้ิ ใชว้ ธิ วี จิ ยั และคาดการณห์ ลาย วิธีผสมกนั แตใ่ นภาพรวมการใชว้ ธิ กี ารศกึ ษาทั้งหมด 13 วธิ ีหลัก ซ่งึ สรปุ ได้โดยสงั เขปดงั น้ี การวเิ คราะหแ์ บบจ�ำลองพฤติกรรมของผู้กระท�ำ แนวคิดและเคร่ืองมือแบบจ�ำลองพฤติกรรมผู้กระท�ำ (agent-based modeling) เป็นเคร่ือง มือที่เริ่มเป็นท่ียอมรับและนิยมใช้อย่างแพร่หลายมากข้ึนในงานวิจัยท่ีวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง ในประเทศไทย บางงานประยุกต์ใช้วิธีการนี้ในการจ�ำลองสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น งานศึกษา กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎีในการวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมการใช้ถนนตามสภาพถนนใน กรุงเทพมหานคร2 การประยุกต์ใช้การจ�ำลองสถานการณ์ด้วยวิธีการตัวกระท�ำส�ำหรับแผนกผู้ป่วย นอกในโรงพยาบาล3 การจ�ำลองสถานการณ์แบบการมีส่วนร่วมของการปลูกข้าวและการย้ายถิ่น4 และการจ�ำลองสถานการณ์การบริหารจัดการนำ้� ในลุ่มนำ้� ขนาดเลก็ 5 เป็นตน้ การวิเคราะห์ผลกระทบไขว้ งานศึกษาอนาคตที่ใช้วิธีการวิเคราะห์ผลกระทบไขว้ (cross-impact analysis) มีอยู่บ้างใน ประเทศไทย เชน่ การพยากรณแ์ บบจำ� ลองโอกาสในการผดิ นดั ชำ� ระหนี้ กรณศี กึ ษาหนุ้ กภู้ าคเอกชนใน ประเทศไทย ดว้ ยการวเิ คราะหผ์ ลกระทบไขวร้ ะหวา่ ง Merton Model, Barrier Option Model และ Altman-Z-Score Model6 งานศกึ ษาอนาคตภาพของขดี ความสามารถดา้ นนวตั กรรมในการจดั การ ธรุ กจิ ขนาดกลางทส่ี ง่ ออกเครอื่ งนงุ่ หม่ ในประเทศไทย ซงึ่ ใชว้ เิ คราะหผ์ ลกระทบไขวแ้ ละเทคนคิ เดลฟาย ไปพร้อมกัน7 และการศกึ ษาอนาคตภาพการอาชวี ศกึ ษาเอกชนไทยในยคุ ประชาคมอาเซียน8 เป็นตน้

233 | อนาคตศึกษา วธิ ีการสำ� รวจแบบเดลฟาย เทคนคิ เดลฟายเปน็ วธิ วี จิ ยั ทใ่ี ชก้ นั อยา่ งแพรห่ ลายในงานวจิ ยั ดา้ นสงั คมศาสตรแ์ ละศาสตรอ์ น่ื ท่ี ใหค้ วามสำ� คญั กบั ความคดิ เหน็ ของผเู้ ชยี่ วชาญ แตง่ านสว่ นใหญใ่ นประเทศไทยไมไ่ ดใ้ ชเ้ ทคนคิ ดงั กลา่ ว ในการพยากรณห์ รือคาดการณ์แนวโนม้ ในอนาคต จากการประมวลงานวิจยั ที่มีการศกึ ษาอนาคตใน ประเทศไทย พบวา่ เทคนคิ เดลฟายไดร้ บั ความนยิ มระดบั หนง่ึ โดยมกี ารใชเ้ ทคนดิ นใี้ นการคาดการณ์ แนวโน้มในหลายเร่ือง อาทิ การคาดการณ์แนวโน้มความล่าช้าในการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ใน กรุงเทพมหานคร9 ไปจนถึงการใช้เทคนิคที่มีความซับซ้อนมากขึ้นคือการวิจัยอนาคตด้วยเดลฟาย แบบชาตพิ นั ธว์ุ รรณนา (Ethonographic Delphi Future Research) ตวั อยา่ งเชน่ การศกึ ษากลยทุ ธ์ การตลาดเพือ่ สง่ เสรมิ ธุรกจิ ท่ปี รกึ ษาด้านสุขภาพตอ่ ชาวต่างชาต1ิ 0 และหลายโครงการคาดการณ์เชิง ยทุ ธศาสตร์ทด่ี ำ� เนนิ การโดยของศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค ตามตวั อยา่ งที่แสดงในตารางท่ี 18 เศรษฐมติ ิและแบบจ�ำลองทางสถติ ิ งานศึกษาด้านการพยากรณ์และคาดการณ์แนวโน้มการเปล่ียนแปลงในอนาคตจ�ำนวนมากใช้ เครอ่ื งมอื เศรษฐมติ แิ ละแบบจำ� ลองทางสถติ ิ (Econometrics and Statistical Modeling) โดยเฉพาะ ในสาขาเศรษฐศาสตร์ ทงั้ ดา้ นการเงินการธนาคาร ด้านเศรษฐกจิ มหภาค ไปจนถงึ งานศกึ ษาด้านการ คาดการณค์ วามตอ้ งการหรอื อปุ สงคด์ า้ นบรกิ ารพนื้ ฐาน ทง้ั ดา้ นการขนสง่ การใหบ้ รกิ ารสาธารณปู โภค สาธารณปู การ อาจกลา่ วไดว้ า่ วธิ แี บบจำ� ลองทางสถติ แิ ละเศรษฐมติ เิ ปน็ วธิ กี ารทไี่ ดร้ บั ความนยิ มมาก ทีส่ ดุ ในการศกึ ษาอนาคตท่ีมอี ยใู่ นปัจจบุ ัน หวั ขอ้ ทใ่ี ชเ้ ครอ่ื งมอื นใ้ี นการพยากรณแ์ ละคาดการณม์ คี วามหลากหลาย อาทิ การพยากรณค์ วาม ล้มเหลวทางการเงนิ โดยใช้แบบจ�ำลอง 4 แบบ (Logit, Probit, Mutiple Disciminant, และ Artifi- cial Neural Network) การคาดการณ์ความต้องการทอ่ี ย่อู าศัยในเทศบาลนครขอนแก่นด้วยการใช้ แบบจ�ำลอง Krejcie และแบบจำ� ลอง Morgan11 การวิจยั เรอื่ งคาดการณ์การใชท้ ่ีดนิ ลมุ่ น�ำ้ ลำ� ตะคอง พ.ศ. 2567 ดว้ ยแบบจำ� ลอง CA-MARKOV12 การคาดการณ์อุณหภูมิและปริมาณฝนในล่มุ นำ้� ปิงตอน บน ภายใต้สมมตฐิ านการเปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศโลก ดว้ ยแบบจำ� ลอง Hadley Centre Coupled Model Version 3 (HadCM3) และแบบจ�ำลอง Statistical Downscaling Model (SDSM)13 งานวิจัยอีกจ�ำนวนมากในสาขาเศรษฐศาสตร์ใช้แบบจ�ำลองค�ำนวณดุลยภาพท่ัวไป (Computable General Equilibrium Model - CGE) เพ่ือประมาณคา่ (estimate) และการ คาดการณ์การเปล่ียนแปลงของเศรษฐกิจ ในกรณีท่ีเกิดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยด้านเทคโนโลยี นโยบาย หรอื ปจั จยั ภายนอกอน่ื ๆ แบบจำ� ลอง CGE โดยทวั่ ไปเปน็ แบบสถติ (comparative-static) ซง่ึ วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงของเศรษฐกิจ ณ ช่วงเวลาหนงึ่ หลังจากทีเ่ กิดปจั จัยกระตนุ้ ผลลัพธ์มกั แสดงเป็นค่าความแตกต่างระหว่างสภาวะในอนาคตที่แตกต่างกัน เช่น สภาวะที่มีหรือไม่มีนโยบาย กระตนุ้ โดยสมมติให้ทรัพยากรอยู่ในระดบั คงท่ี ในทางกลับกัน แบบจ�ำลอง CGE แบบพลวัต (dynamic) ให้ความส�ำคัญกับการปรับเปล่ียน ระดับของทรัพยากรหรือปัจจัยการผลิตในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปรับเปล่ียนไปตามนโยบายหรือปัจจัย ภายนอกที่เปลี่ยนไป อาทิ การปรับเปลี่ยนอุปทานด้านแรงงาน สต็อกทุน หรือแม้แต่ระดับผลิต

อนาคตศกึ ษา | 234 ภาพและโครงสร้างตลาด แบบจ�ำลองเชิงพลวัตน้ีสะท้อนสภาพการเปลี่ยนแปลงท่ีแท้จริงของระบบ เศรษฐกิจมากกว่า แต่การพัฒนาแบบจ�ำลองจะยากกว่าและวิเคราะห์ผลได้ยากกว่าแบบสถิต งาน วจิ ยั ทใ่ี ชเ้ ครอ่ื งมอื แบบจำ� ลอง CGE ในประเทศไทยมอี ยพู่ อสมควร ตวั อยา่ งเชน่ การศกึ ษาสภาวการณ์ หนภ้ี าคครัวเรือนและการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทย14 การวิเคราะห์ ตลาดสินค้าส่งออกที่ส�ำคัญของไทย15 การวิเคราะห์ด้านผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อคนจน16 และผลกระทบของนโยบายยกเลกิ โควตาส่งิ ทอและเครื่องนุง่ ห่ม17 การกวาดสญั ญาณ การกวาดสญั ญาณเปน็ วธิ กี ารคาดการณพ์ นื้ ฐานทใี่ ชท้ ว่ั ไปในงานศกึ ษาเพอื่ วางแผนยทุ ธศาสตร์ ในดา้ นต่าง ๆ เชน่ งานศึกษารูปแบบการวางแผนยทุ ธศาสตรข์ องสำ� นักหอสมุดกลาง มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร18 งานศึกษารูปแบบการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของการ กฬี าแหง่ ประเทศไทย19 อยา่ งไรกต็ าม แมว้ า่ งานศกึ ษาเหลา่ นม้ี งุ่ ตอบโจทยใ์ นการวางแผนยทุ ธศาสตร์ แต่เน้ือหางานไม่แสดงถึงภาพอนาคตอย่างชัดเจนเท่าใดนัก การกวาดสัญญาณในงานเหล่านี้จึงเป็น เหมือนการหาแนวโน้มและสภาพปัญหาในปัจจุบัน โดยไม่ค้นหาและวิเคราะห์ปัจจัยขับเคล่ือนท่ีมี ผลต่อการเปล่ียนแปลงของปรากฏการณ์ในอนาคตอย่างเป็นระบบ และมีอยู่น้อยมากท่ีคาดการณ์ การเปลย่ี นแปลงในอนาคตเมอ่ื ปัจจัยขบั เคลือ่ นเปลี่ยนไป ดังที่ควรท�ำตามหลกั การและแนวทางการ ใชว้ ิธกี ารกวาดสัญญาณในงานอนาคตศึกษา ตน้ ไมก้ ารตดั สินใจและต้นไมค้ วามเกีย่ วขอ้ ง อีกวิธีการหนึ่งท่ีพบในงานวิจัยเพื่อคาดการณ์และพยากรณ์แนวโน้มในอนาคตคือวิธีการต้นไม้ การตดั สนิ ใจ (decision trees) โดยพบมากในงานวิจัยดา้ นวศิ วกรรม เชน่ การคาดการณ์ชว่ งรายได้ ของดา่ นภายในสายทางพเิ ศษศรรี ชั ของการทางพเิ ศษแหง่ ประเทศไทย โดยเปรยี บเทยี บดว้ ยวธิ ตี น้ ไม้ ตัดสินใจและโครงข่ายประสาทเทียม20 รวมถึงในงานวิจัยในศาสตร์อื่น เช่น การพยากรณ์การจ่าย ชดเชยค่ารักษาพยาบาล กรณีศึกษาระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าด้วยวิธีต้นไม้ตัดสินใจ21 อย่างไร ก็ตาม การประมวลองค์ความรู้ในครั้งนี้ยังไม่พบงานวิจัยในประเทศไทยท่ีประยุกต์ใช้วิธีการต้นไม้ ความเกย่ี วข้อง (Relevance Trees) ในการคาดการณห์ รอื พยากรณใ์ นดา้ นใด ๆ การจัดทำ� แผนทีน่ ำ� ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวเิ คราะห์ล�ำดับเทคโนโลยี การคาดการณก์ ารเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยแี ละการวางแผนนโยบายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมนิยมใช้วิธีการคาดการณ์ด้วยการจัดท�ำแผนที่น�ำทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Roadmapping) และการวิเคราะห์ล�ำดบั เทคโนโลยี (Technological Sequence Analysis) ตวั อยา่ งงานในกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ แผนทน่ี ำ� ทางการวจิ ยั และพฒั นานาโนเทคโนโลยี ของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564 ซ่ึงจัดท�ำโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี22 แผนท่ี น�ำทางดา้ นเทคโนโลยกี ารลดกา๊ ซเรอื นกระจก ในภาคพลังงาน ภาคของเสยี และภาคกระบวนการ อตุ สาหกรรมของประเทศไทย 12 สาขาเทคโนโลย2ี 3 โครงการคาดการณเ์ ทคโนโลยเี ชอื้ เพลงิ อนาคต24 ด�ำเนินการโดยศนู ย์คาดการณเ์ ทคโนโลยีเอเปคและศนู ยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวัสดุแหง่ ชาติ (MTEC)

235 | อนาคตศึกษา ซึ่งประกอบด้วยภาพเหตุการณ์อนาคตและแผนท่ีเทคโนโลยี (technology roadmap) รวมถึง โครงการ Technology Roadmap (TRM) ในแนวทางการวิจยั และพัฒนาเทคโนโลยี ดา้ นชีววทิ ยา ศาสตร์ทางการแพทย์สกู่ ารใชป้ ระโยชน2์ 5 ของกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ส�ำหรับในงานศึกษาอนาคตที่ไม่ได้มุ่งเพื่อการวางแผนโดยตรงน้ัน มีตัวอย่างงานวิจัยและงาน วิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษาอยู่จ�ำนวนหน่ึง เช่น การจัดท�ำแผนท่ีน�ำทางการพัฒนาเทคโนโลยี ส�ำหรับบริษัทซอฟต์แวร์เกิดใหม่ขนาดเล็ก โดยใช้กรณีศึกษาของบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง และเก็บข้อมูลจากการสมั ภาษณ์เชงิ ลึกกบั กลมุ่ ผู้บริหารของบรษิ ทั 26 แบบจำ� ลองสถานการณ์และเกม งานศึกษาอนาคตทีใ่ ช้วิธีการแบบจ�ำลองสถานการณ์มอี ยู่ทั่วไป ท้งั ในงานวจิ ยั ด้านวิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ อาทิ แบบจำ� ลองสภาพภูมอิ ากาศในอนาคต โดยกรมอุตมุ นิยมวทิ ยา การพยากรณ์ อตั ราการไหลสงู สดุ ในชว่ งนำ�้ หลาก โดยใชว้ ธิ ดี ชั นนี ำ�้ ฝนในลมุ่ นำ�้ เลย27แบบจำ� ลองสถานการณใ์ นการ ด�ำเนินการขนส่งสินค้าแบบเต็มคัน28 ในช่วงหลังเร่ิมมีงานวิจัยท่ีใช้แบบจ�ำลองสถานการณ์และเกม ในงานคาดการณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผนด้านส่ิงแวดล้อมและด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภมู อิ ากาศ เชน่ การสรา้ งเกมแบบจำ� ลองเพอ่ื การวางแผนการจดั การขยะมลู ฝอยโดยชมุ ชน: กรณี ศกึ ษา โครงการเคหะชมุ ชนผมู้ รี ายไดน้ อ้ ย ชมุ ชนแฟลตเคหะคลองจนั่ เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร29 แบบจำ� ลองสถานการณ์ทีส่ ามารถใช้คาดการณ์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอุณหภมู อิ นั เนื่องจาก สภาวะอากาศตอ่ การระบาดของเพลย้ี กระโดดสนี ำ้� ตาล30 แบบจำ� ลองระบบ แนวคดิ เชงิ ระบบมใี ชอ้ ยทู่ วั่ ไปในการศกึ ษาวจิ ยั ดา้ นวศิ วกรรมและดา้ นโนบาย โดยมงี านศกึ ษาท่ี ใชแ้ บบจ�ำลองระบบหลายรูปแบบในการคาดการณ์การเปลยี่ นแปลงในอนาคต อาทิ การคาดการณ์ การเปล่ียนแปลงการใช้ประโยชน์ท่ีดิน ในโครงการศึกษาเพื่อก�ำหนดเป้าหมายและแนวทางการใช้ ทดี่ นิ ทส่ี อดคลอ้ งกบั การพฒั นาของประเทศ31 โดยสำ� นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ ม งานศกึ ษาการเปล่ียนแปลงของระบบนเิ วศและสภาพภมู อิ ากาศ รวมถงึ งานวจิ ยั เก่ยี วกบั ระบาดวทิ ยา เชน่ การพฒั นาโมเดลการแพรข่ องโรคระบาดบนระบบสารสนเทศทางภมู ศิ าสตรผ์ า่ นได นามิคเว็บเซอร์วิส32 ตัวแบบระบบพลวตั สาํ หรบั การแพร่กระจายของโรคเอดสใ์ นประเทศไทย33 และ งานศึกษาทางเลือกเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในการตรวจท้องท่ีของเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจ เพ่ือป้องกัน อาชญากรรมในเขตนครบาล34 การทำ� เหมอื งข้อมลู และขอ้ ความ การท�ำเหมืองข้อมูลเพ่ือศึกษาอนาคตเร่ิมได้รับความนิยมมากข้ึนในช่วงประมาณ 10 ปีท่ีผ่าน มา งานวิจัยท่ีใช้วิธีการน้ีมีจ�ำนวนมากข้ึนและมีความหลากหลายของหัวข้อวิจัยอยู่ระดับหน่ึง เช่น การคาดการณ์ศักย์การคายระเหยของพืชอ้างอิง (ETo) จากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยการประยุกต์ใช้เทคนิคการท�ำเหมืองข้อมูล กรณีศึกษาประเทศไทย35 การพัฒนาตัวแบบการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook