การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ Causes of drug addiction and prevention of Na Si Nuan villagers, Na Siew Subdistrict, Mueang Chaiyaphum District Chaiyaphum Province Abstract research on Causes of drug addiction and prevention of Ban Na Si Nuan, Na Siew Subdistrict, Mueang Chaiyaphum District Chaiyaphum Province The objective of the research is to 1. To study the factors related to drug addiction behavior of people in Ban Na Si Nuan community, Na Siew sub-district, Mueang Chaiyaphum district. Chaiyaphum Province 2. To study knowledge Understanding of drugs among people in Ban Na Si Nuan Community, Na Siew Sub-district, Mueang Chaiyaphum District Chaiyaphum Province 3. To know the causes of drug addiction and prevention of people in Ban Na Si Nuan community, Na Siew sub-district, Mueang Chaiyaphum district. Chaiyaphum Province 4. To study the guidelines for solving drug problems and behavior of people in Ban Na Si Nuan community, Na Siew sub-district, Mueang Chaiyaphum district. Chaiyaphum Province by studying from Ban Na Si Nuan, Na Siew Sub- district, Mueang Chaiyaphum District Chaiyaphum Province A total of 248 people were collected for the data collection process from people in Ban Na Si Nuan Community, Na Siew Sub-district, Mueang Chaiyaphum District. Chaiyaphum Province Used in this research has defined the process or method for collecting data by themselves, so the students created a questionnaire to use the questionnaire to collect data from the group. The students went to the area to distribute questionnaires. and allow the respondents to do the questionnaire independently by collecting information manually After that, the students compiled and separated, examined and analyzed the data. by collecting information manually After that, the students compiled and separated, examined and analyzed the data. by collecting information manually After that, the students compiled and separated, examined and analyzed the data. Comparison of drug addiction causes and prevention of drug addiction causes and prevention of Ban Na Sinuan Village, Na Siew Sub-district, Mueang Chaiyaphum District Chaiyaphum Province Therefore, it is a research hypothesis and when comparing the causes of drug addiction and prevention of Ban Na Si Nuan, Na Siew Sub-district, Mueang Chaiyaphum District. Chaiyaphum Province classified by gender, age, and status found that people ~ 133 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ participated in solving drug problem in Ban Na Sin Nuan, Na Siew Sub-district, Mueang Chaiyaphum District. Chaiyaphum Province So it's a research hypothesis. Keywords: 1. Causes of drug addiction 2. Prevention 3. Guidelines for problem solving 4. Behavior ~ 134 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ บทนำ ปัญหายาเสพตดิ เป็นปญั หาทีส่ ำคัญในระดับชาตขิ องประเทศไทย และยังเปน็ ปญั หาการแพร่ระบาดทั่ว โลก ส่วนใหญ่ประเทศเราจะต้องยกปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาขนาดใหญ่เพราะประชากรส่วนใหญ่เป็นวัยร่นุ และเยาวชนถือเปน็ กลมุ่ เส่ยี งต่อการตดิ ยาเสพติดเพราะวัยเยาวชนเป็นวัยทถ่ี กู รวมเล้าง่ายเปน็ วยั ท่ีอยากรู้อยาก ลอง ถือเป็นภัยคุกคามกับประชากร โดยเฉพาะยาเสพติดส่งผลต่อ ภาวะสุขภาพ คุณภาพชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งต่อตัวผู้เสพ ครอบครัว และสังคมรอบข้าง ยาเสพติดได้สร้างปัญหาใหญ่และเป็นภัยคุกคามกับประชากร โดยเฉพาะประชากรที่เป็นเยาวชน และทำให้เกิดผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของทุก ประเทศในโลกประเทศไทยเราเองก็เช่นกัน ถึงแม้ทางรัฐบาลทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ มีนโยบาย ปราบปรามและป้องกันการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง มีบทลงโทษรุ่นแรงต่อผู้ค้าหรือผู้จำหน่ายแต่ ปัญหายาเสพติดก็มิได้หมดไปจากสังคม แต่ในปัจจุบันน้ีปญั หาเรื่องยาเสพติดยังไรว้ ่ีแววทีจ่ ะมตี ัวเลขเรื่องผ้ตู ิด ยาและผู้ค้ายาเสพติดจะลดลงไปเลย ปัจจุบันการแพร่ระบาดของยาเสพติดได้กลับมาสู่ภาวะที่มีความรุนแรง สง่ ผลกระทบตอ่ ชมุ ชน การดำรงชวี ิต ความปลอดภยั ในทรพั ยส์ นิ ความสงบสขุ ของประชาชนและสังคม รวมทง้ั เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ การแพร่ระบาดของยาเสพติดจะทวีความรุ่นแรงต่อไป เพราะประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีการผลติ การค้าการจำหน่ายการลำเลียงและการลักลอบขนย้ายยาเสพติดตามแนวชายแดน เมื่อ ยาเสพติดได้ระบาดเข้าสู่สังคม ชุมชนปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา นอกจากนี้ยาเสพติดยังได้ สร้างปัญหาความรุนแรงและความแตกแยกในระดับครอบครัว เยาวชนจำนวนมากซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติ ต้องตกเป็นทาสของยาเสพติดและนำไปสู่ปัญหาพฤติกรรมเบี่ยงเบนและก่อการกระทำความผิดต่อผู้อื่นส่งผล กระทบต่อตนเอง สังคม สุขภาพอนามัย และผลกระทบด้านความมั่นคงของประเทศในที่สุด ปัญหายาเสพติด เปน็ ปัญหาสำคัญที่รัฐบาลทกุ สมัยพยายามแก้ไขเพื่อให้หมดไปมีการกำหนดทั้งนโยบายและกลยุทธ์ที่จะป้องกัน และปราบปามไว้อย่างชัดเจนแต่ผลการดำเนินงานยังไม่สามารถเอาชนะยาเสพติดได้ โดยเฉพาะยาเสพติดที่ แพร่ระบาดไปสู่สถานศึกษาและเยาวชน การรรับมือตามนโยบาย แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายา เสพติด พ.ศ. 2563 – 2564 ประกอบด้วย 5 มาตรการ 1.มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ มุ่งพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับนานาชาติ และในภมู ิภาคอาเซยี น โดยเฉพราะ ประเทศลาว เมียนมา เวยี ดนาม และกัมพชู า 2.มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายในการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ปราบปรามกลมุ่ การคา้ ยาเสพติด และอาชญากรรมยาเสพตดิ ทางเทคโนโลยรี ปู แบบใหม่ๆ 3.มาตรการปอ้ งกนั ยาเสพตดิ เสรมิ สรา้ งความเขม้ แข็งของหมบู่ ้าน/ชมุ ชน พัฒนาชวี ิตความเปน็ อย่ขู อง ประชาชนโดยเฉพาะแนวชายแดน และการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเสี่ยงกลุ่มเฉพาะ เยาวชน วัยรุ่น และวัย แรงงาน กลุ่มเปราะบางรวมทั้งการเสริมสร้างสภาพแวดลอ้ มเชงิ บวก จดั ระเบยี บสังคม 4. มาตรการการบำบดั รกั ษายาเสพตดิ ถือเปน็ มาตรการทีส่ ำคญั ละเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จหน่งึ ของ การแก้ไขปญั หาผู้ใช้ ผ้เู สพ ผ้ตู ิดยาเสพติดอยา่ งมีประสิทธิภาพ เน้นสร้างเสริมสุขภาพทางกาย และจิตใจ เปน็ ตน้ ~ 135 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชยั ภูมิ ซ่งึ ปจั จัยท่ไี ด้กลา่ วถงึ ข้างต้น ลว้ นส่งผลตอ่ การเพิ่มขึ้นของปัญหายาเสพตดิ ในขณะท่ี ประมาณการผู้ เสพยาเสพติดรายใหม่ ประมาณ 70,000คน และผู้ที่กลับไปมีพฤติการณ์ซำ้ ประมาณ 30,000-40,000 คน ซ่ึงมี สัดส่วนของตัวเลขที่ไม่แตกต่างกันนักกับจำนวนท่ีถูกจับกุมและบำบดั รกั ษา การทจี่ ะหยุดยัง้ และลดระดับ ปญั หายาเสพติดได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ จะต้องมีการปรบั กรอบความคดิ ยุทธศาสตร์ กระบวนการบริหาร จดั การ ให้สอดคล้องกบั ความมุ่งหมายและเจตจ านง ทางการเมอื งของรัฐบาล เพอ่ื ให้ปัญหายาเสพตดิ ลดลงให้ มากทีส่ ุด (สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวง ยุตธิ รรม) ยาเสพตดิ กย็ งั คงแพร่ระบาดในเรือนจำและมีเครือข่ายการคา้ ยาเสพติดรายสำคัญกย็ ังคงมีอยู่นักค้าใน เรือนจำ ถึงแม้จะได้มีมาตรการเข้มงวดในการตรวจค้นการลักลอบนำโทรศัพท์เข้าเรือนจำ การจู่โจมตรวจค้น เรือนจำ การคัดย้ายนักโทษรายสำคัญไปคุมขังที่แดนความมั่นคงสูงสุด การตัดสัญญาณโทรศัพท์ แต่นักค้ายา เสพติดที่ถูกจับกุมแล้วและต้องโทษอยู่ในเรือนจำยังไม่หยุดพฤติการณ์การค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ หรือการสำรวจข้อมูลยาเสพติดของฝ่ายเอกชน พบว่าปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดได้ทวีความรุ่นแรง อย่างต่อเนื่อง และเยาวชนยังคงเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากเด็กและเยาวชน เป็นช่วงวัยที่มีลักษณะเอื้อต่อ การเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งปัจจัยจากตนเองคือเป็นวัยที่ต้องการการเรียนรู้ อยากลอง เป็นวัยท่ี ต้องการเรียกร้องความสนใจ ต้องการค้นหา – สร้างตวั ตน สรา้ งการยอมรับ มีแรงผลักดนั ทางอารมณ์สูงทำให้ เกิดภาวะทางอารมณ์เช่น น้อยใจ เศร้าใจคับข้องใจ ฯลฯ ได้ง่ายขณะเดียวกันก็กล้าเสี่ยง กล้าทำ สิ่งท้าทาย นอกจากนี้บรรดานักค้ายาเสพติดต่างมองว่าเยาวชนส่วนใหญ่มีเงนิ ซึ่งพ่อแม่และผู้ปกครองให้มาอยูใ่ นกระเป๋า เสมอจากสถติ ดิ ้านยาเสพตดิ พบวา่ เดก็ และเยาวชนทเี่ ขา้ ไปเกี่ยวข้องกบั ยาเสพตดิ เรมิ่ มีอายุน้อยลง จากความสำคัญปัญหาดังกล่าวมานัน้ จึงทำให้ผู้วิจัยมีความสนใจในการศึกษารู้ ทำความเข้าใจค้นควา้ เก่ยี วกบั ปัญหาเรือ่ งยาเสพตดิ และการรับมือปอ้ งกันของบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมอื งชยั ภมู ิ จงั หวัด ชัยภูมิ ว่าประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องยาเสพติดมากน้อยเพียงใดและรู้โทษของการเสพยา และการติด ยาเสพติดส่งผลต่อ ภาวะสุขภาพ คุณภาพชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งต่อตัวผู้เสพ ครอบครัว และสังคมรอบข้าง มากน้อยเพียงใดทั้งโทษทางกฎหมาย เพราะกลุ่มวัยรุ่นเล่านี้ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อ การติดยาเสพติด และ เพอื่ ศกึ ษาข้อมูลท่ีได้มารับมือป้องกันและนำความรทู้ ี่ไดเ้ ปน็ กรณีศกึ ษาต่อไปนี้ 2. วัตถปุ ระสงค์ของการวิจยั 1. เพื่อศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการเสพยาเสพติดของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวดั ชยั ภมู ิ 2. เพื่อศึกษาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติดของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอ เมอื งชยั ภูมิ จังหวดั ชัยภมู ิ 3. ทำให้ทราบถึงสาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมอื งชยั ภมู ิ จังหวดั ชัยภูมิ 4. เพื่อศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและพฤติกรรมของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนา เสยี ว อำเภอเมอื งชัยภูมิ จังหวัดชัยภมู ิ ~ 136 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏชยั ภูมิ 3. ประโยชนข์ องการวิจยั 3.1 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รบั 3.1.1 ประโยชนเ์ ชงิ วชิ าการ 1. ทำใหท้ ราบถึงการป้องกนั และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ของคนในชุมชนบา้ นนาสนี วล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวัดชัยภมู ิ 2. ทำให้ทราบถงึ ผลกระทบการตดิ ยาเสพตดิ สาเหตุการตดิ ยาเสพติดของคนในชมุ ชนบา้ นนาสีนวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมืองชยั ภมู ิ จังหวัดชัยภมู ิ 3.1.2 ประโยชนเ์ ชิงนโยบาย 1.กระบวนการที่ไดเ้ สนอไปในชมุ ชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมอื งชัยภูมิ จังหวัดชยั ภมู ิ 2.ทำให้ทราบถึงปัจจัยที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการเสพยายาเสพติดของบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมอื งชยั ภมู ิ จังหวัดชยั ภมู ิ 4. สมมติฐานของการวจิ ยั 1.สาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวดั ชยั ภมู ิ นา่ จะเกดิ จากความคึกคะนอง อยากรอู้ ยากลองของเยาวชน 2.สาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชยั ภูมิ นา่ จะเกิดจากวัยรนุ่ เกิดจากการเครยี ดกับปญั หาตา่ งๆทีเ่ ข้ามา 3.สาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวัดชัยภูมิ น่าจะเกดิ จากวยั รุ่นทอ่ี ยู่ในครองครัวท่ีพ่อแมห่ ย่าร้าง จึงขาดความอบอ่นุ และคาดความดูแลจาก พอ่ แม่ 4.สาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวดั ชยั ภูมิ นา่ จะเกิดจากพอ่ แม่ทำงานหนกั จนเกินไป จงึ ไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูก 5.สาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวดั ชัยภมู ิ นา่ จะเกิดจากถูกชกั จงู จากเพ่อื นใหล้ องเสพยาเสพตดิ และสภาพสงั คม สภาพแวดลอ้ ม 5. ขอบเขตของการวิจัย การศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาสาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวัดชยั ภูมิ มุ้งเนน้ ในศึกษาในชุมชนกลุ่มวัยรุ่น วยั เยาวชน และวยั ทำงาน เพราะปัจจุบัน มจี ำนวนประชากรสว่ นใหญเ่ ปน็ วัยรนุ่ และเยาวชนถือเป็นกลมุ่ เสย่ี งต่อการตดิ ยาเสพติดเพราะถูกชักจูงง่ายเป็น วัยทอ่ี ยากรอู้ ยากลองและมผี ตู้ ิดยาเสพติดเปน็ จำนวนมากเปน็ วยั ท่ีกำลังเจริญเติบโต ผู้ศึกษาได้กำหนดขอบเขต การศกึ ษาไว้ดงั น้ี ~ 137 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ สำหรบั ตวั แปรที่ใชใ้ นการวิจัยครัง้ น้ี ประกอบด้วย 1.ตัวแปรอิสระ ได้แก่ - ความคกึ คะนอง อยากรู้อยากรองของเยาวชน - วัยรุน่ เกดิ จากความเครยี ดเคา้ มารมุ เลา้ กบั ปัญหาต่างๆทเี่ ข้ามา - วัยรุ่นที่อยู่ในครอบครวั ที่พ่อแม่หย่าร้าง จึงขาดความอบอุ่น และคาดความดูแลจากพ่อแม่ดูแลจาก พ่อแม่ - พอ่ แมท่ ำงานหนักจนเกนิ ไป จงึ ไมม่ ีเวลาเอาใจใส่ลกู - ถูกชกั จูงจากเพื่อนใหล้ องเสพยาเสพติดและสภาพสงั คม สภาพสิ่งแวดลอ้ ม 2.ตัวแปลตาม ไดแ้ ก่ สาเหตุการติดยาเสพตดิ และการป้องกัน 1.4.1 ขอบเขตดา้ นเวลา ในการวิจัยครงั้ นี้ทำการวจิ ยั และเก็บข้อมลู ในชว่ งเดือนพฤษภาคม - มถิ ุนายน พ.ศ 2564 ระยะเวลา 2 เดือน 1.4.2 ขอบเขตดา้ นเนือ้ หา ขอบเขตด้านเนื้อหาในการวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเกี่ยวกับสาหุตการติดยาเสพติดและการป้องกันของคน ในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เนื้อหาที่เกี่ยวข้องจึงประกอบด้วย แนวคิดและทฤษฎีเก่ียวข้องกับสาเหตกุ ารติดยาเสพติด 1.4.3 ขอบเขตดา้ นพน้ื ท่ี ในการวิจัยคร้งั นี้มปี ระชากรที่ใชใ้ นการการวิจยั คือประชากรบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมือง ชยั ภมู ิ จงั หวดั ชยั ภมู ิ เพ่อื ใหก้ ารศกึ ษาเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์จงึ กำหนดขอบเขตในการวิจยั 1.4.4 ขอบเขตด้านประชากร 1.กลุ่มประชากร กล่มุ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการศึกษาวิจัยครัง้ นคี้ ือบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมือง ชยั ภูมิ จังหวัดชัยภมู ิ จำนวนทง้ั ส้นิ 700 คน 2.ด้านเน้อื หา คือ สาเหตกุ ารตดิ ยาเสพติดและการป้องกันของบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอ เมอื งชยั ภูมิ จงั หวัดชยั ภมู ิ 6.1 ที่มาประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง 1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจยั ครั้งนี้ คอื ประชากรทีอ่ ยู่อาศยั ในชุมชนบ้านนาสนี วล ตำบลนาเสียว อำเภอ เมืองชัยภมู ิ จงั หวดั ชยั ภมู ิ จำนวนทงั้ สน้ิ 200 คน 2. กลุม่ ตวั อย่าง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือสาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของชุมชนบ้านบ้านนาสี นวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมอื งชยั ภูมิ จังหวัดชยั ภมู ิ จำนวนท้ังสน้ิ 248 คน โดยในการวจิ ยั ครั้งนี้ ไดก้ ำหนด ~ 138 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชยั ภูมิ ขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการเปิดตารางสำเร็จของเครซี่และมอร์แกน (Krejcie and Morgan) ประชาชนกลุ่ม ตัวอย่าง คือ บ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 248 คน และใช้วิธีการ สุ่มตัวแบบตามสะดวก คือ เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบไม่มกี ฎเกณฑ์ที่แนน่ อนถือเอาความสะดวก หรือความง่าย ในการเกบ็ ข้อมลู หลกั คือการเกบ็ ข้อมูลกับใครกไ็ ด้ท่ีอยู่ในขณะท่ีผูว้ ิจยั กำลงั เก็บข้อมูล ระยะเวลาในการวิจัย ในการวิจยั ครงั้ นท้ี ำการวจิ ยั และเกบ็ ข้อมลู ในชว่ งเดือนพฤษภาคม - มถิ ุนายน พ.ศ 2564 ระยะเวลา 2 เดือน 6.2 โดยใช้ตารางสำเร็จรปู สูตรเครซแ่ี ละมอรแ์ กน(Krejicie & Morgan) 6.3 เครื่องมือท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลวิจัยในครั้งนี้ คือ เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) สาเหตุ การติดยาเสพติดและการป้องกันของบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่ง ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นคำถามปลายปิดและปลายเปิด แบ่งออกเปน็ 4 ตอน คือ ตอนที่ 1 สอบถามขอ้ มลู ทั่วไปเก่ยี วกับปัจจัยสว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 3ขอ้ ลกั ษณะของ คำถามเป็นแบบเลือกตอบ ตอนที่ 2 สอบถามข้อมลู ความรเู้ กี่ยวกบั สาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกนั ของบา้ นนาสีนวล ตำบล นาเสยี ว อำเภอเมืองชยั ภมู ิ จงั หวัดชยั ภูมิ ซ่ึงกำหนดไว้ 2 ด้าน จำนวน 11 ข้อโดย แบง่ ระดับในการวัด ออกเป็น ใช/่ ไมใ่ ช่ ตอนท่ี 3 แบบสอบถามนี้เพ่ือเปน็ แนวทางในการแก้ไขปญั หาเร่ืองยาเสพติดของชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบล นาเสียว อำเภอเมืองชยั ภมู ิ จังหวัดชัยภูมิ ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะ/ขอ้ คดิ เห็นเพมิ่ เติม 6.4 การเกบ็ รวบข้อมูลการวิจยั ในการวจิ ัยครง้ั นี้ ผู้วจิ ยั ไดด้ ำเนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ตามขน้ั ตอนดงั นี้ 1. สำหรบั กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชาชนในชมุ ชนบ้านนาสนี วล ตำบลนาเสยี ว อำเภอ เมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภมู ิ ทีน่ ำมาใช้ในการวจิ ยั ครั้งน้ีได้กำหนดกระบวนการหรือแนวทางในการเกบ็ รวบรวม ขอ้ มูลดว้ ยตนเองผศู้ ึกษาจงึ สร้างแบบสอบถามข้ึนมาเพอ่ื นำแบบสอบถามไปดำเนนิ การเก็บรวบรวมข้อมลู จาก กลุ่มตวั อย่าง ในเดอื นพฤษภาคม – 28 มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 โดยผศู้ ึกษาลงพื้นท่ีไปแจกแบบสอบถาม และให้ ผตู้ อบแบบสอบถามไดท้ ำแบบสอบถามอย่างอิสระ โดยเก็บรวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง หลังจากน้ันผศู้ ึกษาทำ การเรียบเรยี งและจัดแยกตรวจสอบและวเิ คราะห์ข้อมูล ~ 139 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชัยภูมิ 6.5 การวิเคราะหข์ ้อมลู ผู้วจิ ยั เกบ็ รวบรวมขขอ้ มลู เชิงปริมาณจากแบบสอบถามท้ังหมด แล้วนำขอ้ มูลต่างๆ ที่ได้จดั หมวดหมู่ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง และได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอรโ์ ปรกรมสำเร็จรูปทางสถติ ิ ทใ่ี ชใ้ นการ ประมวลผล ซึ่งแยกวเิ คราะห์ ตามลำดบั ดังน้ี 1. นำแบบสอบถามมาวเิ คราะห์ข้อมูลทั่วไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ วุฒกิ ารศึกษา อาชพี โดยใชส้ ถิติเชงิ พรรณนาเพอ่ื อธบิ ายลกั ษณะข้อมูลเก่ียวกับปัจจัยสว่ นบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถามโดย การแจกแจงค่าความถ่ี (Frequency) และหาคา่ ร้อยละ (Percentage) 2. ผ้วู ิจัยศกึ ษาข้อมูลทว่ั ไปเกี่ยวกับความคดิ เหน็ ของประชาชนทม่ี พี ฤติกรรมเก่ียวข้องกับสาเหตกุ าร ติดยาเสพติดและการป้องกนั ของชมุ ชนบา้ นนาสีนวล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมอื งชัยภมู ิ จังหวดั ชัยภมู ิ โดยการ โดยใชส้ ถิติเชิงพรรณนาเพ่ืออธบิ ายลักษณะข้อมูล ไดแ้ ก่ ค่าเฉล่ีย (x ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 6.6 สถิติทใี่ ชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล การนำโปรแกรมคำนวณสถิติสำเร็จรูป มาใช้ในคำนวณสถิติและการหาเปอร์เซ็นต์ ค่าความถี่ของ แบบสอบถามพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับสาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกันของชุมชนบ้านบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้ได้รู้ถึงปัญหาและนำมาวิเคราะห์ สรุปผลในการทำวจิ ัย ในครั้งน้ี 7. สรปุ ผลการวิจยั วัตถุประสงคข์ องการวิจัย 1. เพ่ือศกึ ษาปัจจยั ท่เี กยี่ วกับพฤติกรรมการเสพยาเสพติดของคนในชมุ ชนบา้ นนาสนี วล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวดั ชัยภูมิ 2. เพือ่ ศึกษาความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั ยาเสพตดิ ของคนในชมุ ชนบา้ นนาสนี วล ตำบลนาเสยี ว อำเภอ เมอื งชัยภูมิ จังหวดั ชยั ภมู ิ 3. ทำใหท้ ราบถึงสาเหตกุ ารติดยาเสพติดและการป้องกนั ของคนในชุมชนบา้ นนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชยั ภมู ิ จังหวดั ชัยภูมิ 4. เพอื่ ศึกษาแนวทางในการแกไ้ ขปัญหายาเสพติดและพฤติกรรมของคนในชมุ ชนบ้านนาสนี วล ตำบลนา เสยี ว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวดั ชยั ภูมิ 1.สรปุ ผลการวิจัยตามวตั ถุประสงคข์ องการวิจัย 1. เพอ่ื ศึกษาปัจจยั ท่เี กี่ยวกบั พฤติกรรมการเสพยาเสพตดิ ของคนในชมุ ชนบา้ นนาสนี วล ตำบลนาเสยี ว อำเภอเมืองชัยภูมิ จงั หวดั ชยั ภูมิ เกดิ จากปัญหายาเสพติดก่อให้เกิดประสาทหลอนหวาดระแวง ขโมยของ ทำ ร้ายรางกายประชาชนท่ีเขา้ มาไกล้ทำให้คนชุมชนเดือดรอ้ น เน่ืองจากเกรงวา่ บตุ รหลานจะเขา้ ไปเกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ หรอื ถกู ทำร้ายจากผู้เสพปญั หายาเสพติด ต้องดำเนิน ควบคกู่ นั ทุกดา้ นท้ังปอ้ งกันและปราบปราม ปัญหายาเสพติดต้องอาศัยความรว่ มมือกับทุกฝา่ ยแก้ไขปัญหาไม่มี ใครสามารถแก้ไขได้โดยลำพัง ~ 140 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ 2. เพื่อศึกษาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติดของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ผู้เสพส่วนใหญ่รู้ละเข้าใจว่าเฮโลอีนเป็นยาเสพติดที่มีพิษร้ายแรงและมี อันตรายต่อร่างกายมากที่สุดและเป็นภัยอันตรายต่อผู้อื่นชุมชน ประเทศชาติ เพิ่มงบประมาณของประเทศใน การป้องกนั ปราบปรามและบำบดั รักษา สง่ ผลตอ่ เศรษฐกจิ และวฒั นธรรมของประเทศ 3. ทำให้ทราบถึงสาเหตุการติดยาเสพติดและการป้องกนั ของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมอื งชยั ภูมิ จงั หวดั ชัยภมู ิ เกิดจาก ความอยากรอู้ ยากลอง การถูกชักชวน ถกู หลอกลวง ความคกึ คะนอง สภาพแวดล้อมและความเจ็บปวดทาง กาย เชน่ เปน็ โรคทางประสาทได้รบั ความทรมานทางร่างกายมากผู้ป่วย ตอ้ งการบรรเทาอาการเจ็บปว่ ยมานาน จนหันเขา้ ยาเสพติดจนติดยาในท่ีสดุ ผู้ติดส่งิ เสพติดส่วนใหญ่จะเกิดการ ครอบครวั ที่แตกแยกมปี ญั หาขาดความ รกั ความอบอุ่นเกดิ ความหว้าเหวข่ าดทยี่ ดึ เหนีย่ วทางจิตใจ 4. เพือ่ ศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและพฤติกรรมของคนในชุมชนบ้านนาสีนวล ตำบล นาเสียว อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ การให้ความรักความเข้าใจ แก่เด็กและเยาวชนบุตรหลานของท่าน อย่างมเี หตมุ ผี ลท่ีถูกต้องเหมาะสมก็จะเป็นการป้องกันปัญหาการติดยาเสพติดได้ และมีการอบรมแก่ทุกคนใน ชมุ ชนให้เห็นโทษหรืออันตรายจากส่ิงเสพติด และส่งเสริมกิจกรรมยามว่าง โดยการสง่ เสริมอาชีพแก่ชุมชนยาม ว่างและตั้งศูนย์รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับสิ่งเสพติดเมื่อพบว่ามีการซื้อขาย หรือเสพสิ่งเสพติดในชุมชนและยังมี การเข้าร่วมโครงการชุมชนปลอดสิ่งเสพติดต่างๆท่ที างราชการจัดขน้ึ และ พ่อแม่ควรเปน็ แบบอยา่ ท่ีดีและเป็นที่ ปรึกษาให้แก่ลูกท าให้ลูกไม่หันไปพึ่งยาเสพติดหรือสร้างความรักความ อบอุ่นและความสัมพันธ์อันดีระหว่าง สมาชิกในครอบครัวปฏิบัติตามบทบาทหน้าทไี่ ม่ใหเ้ กีย่ วข้องกบั ยาเสพตดิ ใหก้ าลังใจและหาวิธีแกไ้ ขหากพบว่า คนในครอบครวั ติดยาเสพติด ทางโรงเรียนใหค้ วามร้เู กี่ยวกับโทษและ อนั ตรายของส่ิงเสพตดิ ให้กบั นักเรยี น 8. การอภิปราย 1.8 อภปิ รายผลการวจิ ัย จากการวเิ คระห์ขอ้ มลู สาเหตุการตดิ ยาเสพติดและการป้องกันของบา้ นนาสนี วล ตำบลนาเสยี ว อำเภอ เมอื งชยั ภูมิ จงั หวัดชยั ภมู ิ พบว่าเกิดการเห็นความสำคัญของปัญหายาเสพติด เกิดจากความคึกคะนอง อยากรู้ อยากลองของเยาวชน และการมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ การป้องกันซึ่งภายในชุมชนมีการให้ความรู้เกี่ยวกบั โทษหรืออันตรายจากสิ่งเสพติดเมื่อพบว่ามีการซื้อขายหรือเสพสารเสพติดในชุมชนและการเข้าร่วมโครงการ ชมุ ชนปลอดสารเสพตดิ ต่างๆท่ที างราชการจดั ขน้ึ ดงั น้นั การวิจัยเร่ืองสาเหตุการตดิ ยาเสพตดิ และการปอ้ งกันของบา้ นบา้ นนาสนี วล ตำบลนาเสียว อำเภอเมอื งชยั ภูมิ จังหวัดชัยภมู ิ เกิดจาก 1.ความคกึ คะนอง อยากร้อู ยากรองของเยาวชน 2.วัยรุ่นเกดิ จากความเครยี ดกบั ปัญหาตา่ งๆทีเ่ ข้ามา 3.วยั รนุ่ ทีอ่ ยู่ในครอบครัวทพี่ อ่ แม่หย่ารา้ ง จึงขาดความอบอุ่น และคาดความดูแลจากพ่อแมด่ แู ลจากพ่อแม่ 4.พอ่ แมท่ ำงานหนักจนเกินไป จึงไมม่ ีเวลาเอาใจใส่ลกู 5.ถกู ชักจูงจากเพ่อื นให้ลองเสพยาเสพตดิ และสภาพสังคม สภาพสง่ิ แวดล้อม ~ 141 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภูมิ 9. ข้อเสนอแนะ 9.1ข้อเสอนแนะและขอ้ คิดเห็นเพ่มิ เติม จากผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้พบข้อควรปรับปรุงและพัฒนาแก้ไขอยู่หลายประการ ประชาชน ชาวบ้านนาสีนวล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชยั ภมู ิ จงั หวดั ชยั ภมู ิ บางสงิ่ ควรเปลีย่ นแปลงหรือพฒั นาตนเองให้ มีศักยภาพที่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ชีวิติให้มีคุณภาพมากขึ้นควรที่จะให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด มากกว่านี้ 9.2ข้อเสอนแนะในการวจิ ัยครง้ั ตอ่ ไป 1.ควรศกึ ษาปัจจยั ท่มี ีอิทธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการป้องกันการเสพยาเสพตดิ และศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาการ เสพยาเสพตดิ 2.ควรศกึ ษาปัญหายาเสพติดของวยั รนุ่ ในชมุ ชนบ้านนาสนี วล ตำบลนาเสียว อำเภอเมืองชัยภมู ิ จังหวัดชัยภูมิ 10. บรรณานกุ รม จริ เดช กมลเพชร. (2562). สถานการณย์ าเสพตดิ ในพนื้ ที่ชายแดนด้านจงั หวดั เชียงใหมแ่ ละจังหวัด เชยี งราย มคี วามรนุ แรงมาตอ่ เนอ่ื งนับ ๒๐ ปี โดยเฉพาะหว้ งปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑. สำนกั งานวิจัย แหง่ ชาติ (วช). จรูญ จิตตวิ ฒุ ิการ. กลไกทางสมองของการติดยาและสารเสพตดิ . (กรงุ เทพฯ : วชั ระอินเตอร์ ปรินติง จํากดั , ๒๕๔๔). เจริญ แฉกพิมาย,ปนัดดา ศรีธนสาร. ( พ.ศ.2555 ). งานวิจยั พฤติกรรมการปอ้ งกนั ตนเองจากยาเสพ ตดิ ของนักศกึ ษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนอื . ชรสั บุญณสะ. (2562). ปัจจุบันสถานการณ์ปญั หายาเสพติดกำลังเป็นปัญหาสำคญั ของประเทศ มี การแพร่ ระบาดอย่างรนุ แรงทั้งท่รี ัฐบาลหลายยุคทผี่ ่านมาให้ความสำคัญกบั นโยบายแกไ้ ข ปญั หายาเสพติด มาอย่างต่อเนือ่ ง. สำนักงานวิจยั แหง่ ชาติ(วช). นทั ธี จิตสวา่ ง และสมนุ ทิพย์ ใจเหลก็ . เส้นทางผตู้ อ้ งขงั คดียาเสพตดิ . (กรงุ เทพฯ: กรมราชทัณฑ์และ สาํ นักงานป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด,2544). ~ 142 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ ปัจจยั ทีม่ ผี ลต่อความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลหนองแวง อำเภอเทพารักษ์ จงั หวัดนครราชสมี า กงุ้ นาง พวดขุนทด (Kungnang Phuakhunthod)1 บทคัดยอ่ การวิจัยในเล่มน้ีมีศึกษาเรื่อง ปัจจัยทม่ี ผี ลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วน ตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงาน ของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา 2) เพ่ือศึกษาผลกระทบที่เกิดจาก ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา 3) เพื่อศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วน ตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา และเพอ่ื ศึกษาผลกระทบท่ีเกิดจากปัจจัยท่ีมผี ลต่อความสุขในการทำงาน ของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมาประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ บุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 100 คน วิธีการเก็บข้อมูลใช้ แบบสอบถาม โดยในการวจิ ยั ครั้งนี้ ได้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการเปิดตารางสำเรจ็ ของเครซ่ีและมอร์ แกน (Krejcie and Morgan) จากบุคลากร จำนวน 100 คน ได้กลุ่มตัวอย่าง 80 คน และใช้วิธีการสุ่มตวั แบบ ตามสะดวก คือ เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนถือเอาความสะดวก หรือความง่ายในการเก็บ ขอ้ มลู หลักคอื การเก็บขอ้ มูลกบั ใครก็ไดท้ ่ีอยู่ในขณะที่ผวู้ ิจยั กำลงั เก็บขอ้ มูล ผลการศกึ ษาพบว่า 1. ความเครยี ดเรอ่ื งส่วนตัว เช่น ความเครยี ดด้านหนี้สิน ความเครยี ดด้านครอบครัว เปน็ ต้น 2. ปจั จยั ทางด้านรา่ งกายหรือสุขภาพของแตล่ ะบุคคลทไ่ี มเ่ หมือนกนั 3. ปจั จัยด้านสงั คมในทท่ี ำงานที่มคี วามเครยี ดมากเกนิ ไปจนบา้ งครั้งสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพจิตหรือ ความสุขของบุคลกรไดเ้ ป็นอย่างมาก คำสำคญั : องคก์ รแห่งความสุข, ความสุขในการทำงาน, องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง 1 นักศกึ ษาระดับปริญญาตรี สาขาวชิ ารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ Corresponding author, E- mail: [email protected] ~ 143 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชยั ภูมิ Factors Affecting the Happiness of Workers in Nong Waeng Sub-district Administrative Organization Thepharak District Nakhon Ratchasima Province. ABSTRACT Research in this book has studied Factors Affecting the Happiness of Workers in Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization Nakhon Ratchasima Province The objectives are to 1) to study the factors affecting the happiness of work of personnel in Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization Nakhon Ratchasima Province 2) To study the impact of factors affecting the happiness of work of personnel in Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization Nakhon Ratchasima Province 3) to study and find solutions to factors affecting the happiness of work of the personnel in Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization Nakhon Ratchasima Province. To study the effect of factors affecting work happiness of personnel in Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization Nakhon Ratchasima Province The population used in the study was personnel in Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization. Nakhon Ratchasima Province, number 100 people. Data collection method was used by questionnaires. In this research The sample size was determined by the opening method of Krejcie and Morgan from 100 personnel. 80 people were sampled and used a convenient sampling method. Of course, it equates to convenience. Or how easy it is to collect primary data is to collect information with anyone at the time the researcher was collecting the data. The study found that 1. Stress on personal matters, such as debt stress Family stress, etc. 2. Physical or health factors of each person are not the same. ~ 144 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 3. Social factors at work that are sometimes too stressful can greatly affect the mental health or happiness of the personnel. Keywords: Happy Workplace, Happiness at Work, Nong Waeng Subdistrict Administrative Organization ~ 145 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ชัยภูมิ 1. บทนำ จากสภาพเศรษฐกจิ สังคมและสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งปจั จยั ภายนอกและภายในของชวี ิต มนุษย์ใน ปัจจุบัน ล้วนมีความเครยี ดและความกดดันอยา่ งหลีกเลี่ยงไมไ่ ดเ้ สมอ ดังนั้นทุกคนจึง ต้องการแสวงหาสิง่ ท่ที ำ ให้ตนเองนั้นผ่อนคลายความกดดัน เกิดความรู้สึกภายในจติ ใจที่เรียกว่า ความสุข ไม่ว่าจะเป็นความสุขในชีวิต ส่วนตัว ความสุขในชีวิตการทำงาน หรือแม้แต่ชีวิตในสังคม ทั่วไปก็ตาม จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่12 ( 2560-2564) ในยุทธศาสตร์ หนึ่งของแผนพัฒนาฯ ซึ่งมีความสุข เป็นเป้าหมายหลัก ได้ กล่าวถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ที่มา จากการพัฒนาคุณภาพคนและสังคมไทย เน้นคนเป็นศูนย์กลาง ของการพัฒนา ซึ่งได้ให้ความสำคัญ กับการเสริมสร้างคนไทยให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุ ข มุ่ง เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของ คนในสังคมบนฐานของความมีเหตุมีผล ดำรงชีวิตอย่างมั่นคงทั้งในระดับ ครอบครัวและชุมชน ส่งเสริมการดำรงชีวิตที่มีความปลอดภัย น่าอยู่ บนพื้นฐานของความยุติธรรมในสังคม เสริมสร้าง จิตสำนึกดา้ นสทิ ธิและหน้าที่ของพลเมือง และความตระหนักถึงคณุ ค่าและเคารพศักด์ิศรีความเป็น มนษุ ย์เพื่อลดความขดั แย้ง เพ่อื มุ่งสูก่ ารสรา้ ง “ความสุข” ใหเ้ กดิ ขนึ้ ซึง่ เม่ือคนในระดบั ปัจเจกมี ความสุขแล้วก็ จะส่งผลให้ชุมชนมีความสุข จากชุมชนก็จะขยายผลไปยังสถาบันต่าง ๆ และรวมไปถึง ระดับประเทศในที่สุด (สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ, 2560) ความสขุ ในการทำงานถือเป็นสิ่งทน่ี ่าพงึ ประสงค์ของคนทุกระดับในองค์กร ตงั้ แต่ ผูบ้ รหิ าร จนถึงพนักงาน เพราะในแต่ละวนั น้นั คนสว่ นใหญ่ใชเ้ วลาหมดไปกับการทำงานมีปจั จัย หลายประการที่เปน็ ปัจจยั ทส่ี ร้างให้คน ในองคก์ ารมคี วามสขุ ได้ ซ่งึ ท่ผี า่ นมานน้ั มีงานวิจัยในตา่ งประเทศได้สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงคา่ นิยมในการมองความสุข ในองค์การที่ต่างกัน เช่น องค์กรแห่งสุขภาวะที่ดี (Healthy Organization) องค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) จิตวิญญาณแห่งองค์การ (Spirituality Organization) คุณภาพชีวิตในการทำงาน(Quality of Work life) ภาวะอยู่เย็นเป็นสุข (Well-being) การจัดการกับความเครียด (Stress Management) ความ ผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร (Employee Engagement) ความพึงพอใจในงาน (Job Satisfaction) องค์กรที่มีความยืดหยุ่น (Flexible Organization) และความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน(Work-life Balance) จากการศึกษาในอดีตนบั ตั้งแต่ Hawthorn studies ท่ี Western electric เมอื งชคิ าโก ซ่ึงเป็นช่วง เร่มิ ตน้ ของการศึกษาแรงจูงใจในการทำงานของมนุษย์ มาจนถึงปจั จุบันซึ่งมีผลการศึกษา สำรวจและวิจัยของ หลายสถาบัน เช่น การสำรวจของเอแบคโพลล์ ระหว่างวันที่ 1-18 สิงหาคม 2561 เรื่อง “ประเมิน ความสุข ของทำงาน(Happiness at Workplace) : กรณีศกึ ษาประชาชนอายุ 18 - 60 ปที ี่ทำงานใน สถานประกอบการ และองค์กรธุรกจิ ในเขตกรุงเทพมหานคร ล้วนสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ สง่ิ ที่ทำให้ คนทำงานมคี วามสุขหรือความทุกข์ จากการทำงานนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ เงินเดือน รายได้ หรือสภาวะเศรษฐกิจ และ ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัย ด้านอื่น ๆ เช่นความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน มี หวั หนา้ ที่เขา้ ถึงได้ สขุ ภาพกาย ใจ และอารมณ์ รวมถงึ สภาพแวดล้อมที่ทำงานทด่ี ีและยังมปี ัจจัยดา้ นอื่นๆ อีก ~ 146 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชัยภมู ิ ที่อาจจะเป็นปัจจัยที่สร้างความสุขให้กับคนใน องค์การได้ (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, 2562) องค์กรที่ประสบความสำเรจ็ ได้ปัจจัยสำคัญปจั จัยหนึง่ ทีเ่ ปน็ ตัวผลักดันและมองข้ามไม่ได้ เลย ก็คือ ปัจจัย แห่งความสขุ “ชวี ติ คนทำงานไม่มใี ครทไี่ มต่ ้องการความสุข เพราะความสขุ ท่เี กิดขน้ึ เปน็ เสมอื นน้ำหล่อเลี้ยงให้ พฤติกรรรมคนปรับเปล่ยี นและพฒั นาไปในทางท่ีดีขึ้น อนั นำไปส่ผู ลการปฏบิ ตั ิงานตามท่อี งค์กรต้องการ ดังนั้น ความสุขจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนแสวงหา” (อาภรณ์ ภู่วิทยพันธุ์ 2553) ดังนั้น องค์กรที่ต้องการจะประสบ ความสำเร็จก็ต้องสามารถบริหารและทราบถึงปัจจัยที่ทำให้ เกิดความสุขในการทำงานของคนทำงานที่อยู่ใน องคก์ รใหไ้ ด้ดว้ ย จะเห็นไดว้ า่ ถ้าบคุ ลากรในองค์กรมี ความสขุ ในการทำงานจะสง่ ผลดีต่อทั้งตนเอง ตอ่ งานและ ต่อองค์กร กล่าวคือ บุคลากรที่มีความสุขทำ ให้มีสุขภาพจิตที่ดี ส่งผลให้มีความพร้อมและมีประสิทธิภาพใน การทำงานนำไปสูก่ ารพัฒนาของ องคก์ รตอ่ ไป ดงั นั้นผวู้ จิ ัยจงึ สนใจท่จี ะศกึ ษาเก่ยี วกับ ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อความสุข ในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง จังหวดั นครราชสมี า โดยผู้วจิ ยั ไดเ้ ลอื กศกึ ษา จากกรณีศึกษาของ องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา ท่ที ำงานอยู่ องค์การบริหารส่วน ตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา มีบคุ ลากรประมาน 100 คน และตอ้ งควบคุมดูแลและบรหิ ารงานทต่ี ัวเอง ได้รับผิดชอบมาจากแตล่ ะอำเภอแต่ละท้องทีแ่ ละต้องค่อยตรวจความเรียบรอ้ ยของงานที่แต่ละอำเภอส่งมาให้ อีกด้วย ดังนั้นบุคลากรในหนว่ ยงามย่อมต้องมีภาระหน้าท่ีรับผิดชอบในการทำงานมากขึน้ ตามไปด้วยจึงทำให้ บุคลากรของหน่วยงานน้ีมงี านเพ่ิมมากขึ้น จึงทำให้ผูว้ จิ ยั มีความสนใจที่จะศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อความสขุ ใน การทำงานของบุคลากรใน องค์การบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสมี า 2. วัตถปุ ระสงค์ของการวิจยั 1. เพื่อศึกษาปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ ความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสีมา 2. เพื่อศึกษาผลกระทบทีเ่ กดิ จากปจั จัยทีม่ ีผลต่อความสขุ ในการทำงานของบคุ ลากรใน องค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา 3. เพื่อศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปจั จยั ที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองแวง จังหวดั นครราชสมี า ~ 147 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภมู ิ 3. ประโยชน์ของการวิจัย 1.4.1 ประโยชน์เชิงวชิ าการ ทำให้ประสิทธิภาพของหน่วยงานและผลงานออกมาดเี พราะบุคลากรมคี วามสุขในการทำงานและ ทำงานด้วยใจและสนกุ กบั งานทีท่ ำในทุกๆวัน 1.4.2 ประโยชนเ์ ชิงนโยบาย เพ่ือทราบถงึ ปัญหาและหาทางต่างๆเพอื่ ชว่ ยลดความเครียดจากการทำงานของบุคลากรทำใหม้ ี ความสขุ มากข้ึนเพ่ือประโยชน์ตอ่ หน่วยงานและต่อตัวบคุ ลากรเองด้วยเพราะหากบุคลากรมคี วามสขุ องค์กร หรอื หน่วยงานกจ็ ะมีคุณภาพและประสิทธมิ ากยิง่ ข้นึ 4. สมมตฐิ านการวิจยั 1. ปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ ความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมาน่าจะเกิดจากเพศ 2. ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องค์การบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสีมานา่ จะเกิดจากอายุ 3. ปัจจัยท่ีมีผลต่อความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสีมาน่าจะเกิดจากการศึกษา 4. ปัจจัยท่มี ีผลตอ่ ความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสมี านา่ จะเกดิ จากรายได้ 5. ปัจจัยท่มี ีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสีมาน่าจะเกดิ จากครอบครัว 6. ปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ ความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสมี าน่าจะเกดิ จากระยะเวลาการทำงาน 7. ปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ ความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสีมาน่าจะเกดิ จากสายงานท่ีปฏิบัติ ~ 148 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชัยภมู ิ 8. ปจั จยั ที่มีผลตอ่ ความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสมี านา่ จะเกดิ จากการเปน็ ทีย่ อมรับ 9. ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารสว่ นตำบลหนองแวง จังหวดั นครราชสีมาน่าจะเกดิ จากการติดตอ่ สัมพนั ธ์ 10. ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จงั หวดั นครราชสมี าน่าจะเกดิ จากความสำเรจ็ ในงาน 5. ขอบเขตของการวิจยั ในการวิจยั ครง้ั นเี้ ป็นการวจิ ัยเพื่อศึกษาปจั จยั ท่ีมีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การ บรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสมี า ผวู้ ิจยั ได้กำหนดขอบเขต การวจิ ยั ไว้ ดังน้ี 1.ขอบเขตเขตด้านประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ บุคลากรในองค์การบริหารส่วน ตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา มีจำนวน ทั้งสิ้น 100 คน (ฝ่ายทะเบียนองค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง, 2563) ผู้วิจัยเลือกประชากรทัง้ หมดในการวิจัย 2. ขอบเขตด้านเน้ือหา การศกึ ษาน้มี ุ่งเนน้ ศึกษาในเรื่องของความสุขในการทำงานและปัจจัยที่มีผลต่อ ความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา 3. ขอบเขตด้านระยะเวลาในการศึกษา การศึกษาในครั้งนี้ได้เริ่มดำเนินการศึกษาในช่วง เดือน ธนั วาคม พ.ศ.2563 – กมุ ภาพนั ธ์ 2564 6. วธิ ีดำเนินการวิจัย ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัด นครราชสีมา มีการดำเนนิ การตามข้นั ตอนดงั น้ี 3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง 3.2 ขอบเขตของการวิจัย 3.3 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.4 การตรวจสอบข้อมูล 3.5 การวิเคราะห์ขอ้ มลู ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวนทงั้ ส้ิน100 คน ~ 149 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชยั ภูมิ กล่มุ ตวั อยา่ ง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวนทั้งสิน้ 100 คน โดยในการวิจยั ครั้งนี้ ได้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยวธิ ีการเปดิ ตารางสำเรจ็ ของเครซี่ และมอรแ์ กน (Krejcie and Morgan) จากบุคลากร จำนวน 100 คน ไดก้ ลุ่มตัวอยา่ ง 80 คน และใช้วิธีการสุ่ม ตัวแบบตามสะดวก คือ เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนถือเอาความสะดวก หรือความง่ายใน การเก็บขอ้ มลู หลักคือการเก็บข้อมลู กบั ใครก็ไดท้ ่ีอย่ใู นขณะท่ีผู้วจิ ัยกำลงั เกบ็ ขอ้ มลู การเก็บรวมรวมขอ้ มลู ผู้วิจัยทำการเก็บมูลจากบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง อำเภอเทพารักษ์ จังหวัด นครราชสีมา โดยการสร้างแบบสัมภาษณ์ขึ้นจากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีลักษณะเป็น คำถามปลายปิดและปลายเปดิ แบ่งออก 3 ตอน คอื ตอนที่ 1 แบบสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ เพศ อายุ รายได้ การศึกษา ลักษณะแบบ สมั ภาษณ์เปน็ แบบตรวจรายการ ตอนที่ 2 แบ่งออกเปน็ 4 ข้อ ข้อ1.ข้อมูลทัศนคติของบุคลากรที่มีท่านคิดปัจจัยที่ทีผลต่อความสุขในการทำงานของ บุคคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 10 ข้อ ลักษณะแบบ สัมภาษณจ์ ะเปน็ แบบเลือกคำตอบ 2 คำตอบคือ ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ ได้แก่ 1. เพศ/ใช่หรือไมใ่ ช่ 2. อาย/ุ ใช่หรอื ไมใ่ ช่ 3. การศกึ ษา/ใชห่ รอื ไมใ่ ช่ 4. รายได้/ใช่หรอื ไมใ่ ช่ 5. ครอบครวั /ใชห่ รือไมใ่ ช่ 6. ระยะเวลาการทำงาน/ใชห่ รือไมใ่ ช่ 7. สายงานท่ปี ฏบิ ัติ/ใชห่ รอื ไม่ใช่ 8. การเปน็ ท่ยี อมรับ/ใช่หรือไมใ่ ช่ 9. การติดตอ่ สมั พันธ์/ใช่หรอื ไม่ใช่ 10. ความสำเร็จในงาน/ใช่หรอื ไม่ใช่ ข้อท2่ี ถงึ ข้อที่4 ลกั ษณะแบบสมั ภาษณจ์ ะคำถามปลายเปดิ ได้แก่ -ท่านคิดว่าปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบล หนองแวง จงั หวัดนครราชสมี า มีอะไรบา้ ง -ท่านคิดว่าผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสมี า มอี ะไรบ้าง ~ 150 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชัยภูมิ - ท่านคิดวา่ แนวทางการแก้ไขปัจจัยท่ีมผี ลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การ บรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา มอี ะไรบ้าง ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม การตรวจสอบข้อมูล ผวู้ จิ ัยดำเนินการสร้างตรวจคณุ ภาพเครื่องมือที่ใชใ้ นการวจิ ยั ไดด้ ำเนินการตามลำดบั ข้นั ตอน ดงั นี้ 1. ศกึ ษาจากตำรา เอกสารและงานวิจัยตา่ งๆท่ีเก่ียวข้องกับปัจจยั และความสุขของบุคลากรในการ ทำงาน 2. กำหนดกรอบแนวคิดและเนือ้ หาตามวตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั นำมาใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการสร้าง แบบสอบถาม ทงั้ ชนิดปลายปิดและปลายเปิด 3. นำร่างแบบสอบถามที่สร้างเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ใหอ้ าจารยท์ ีป่ รกึ ษาทำการตรวจ วจิ ารณ์ แก้ไข เสนอแนะ ปรบั ปรงุ เพื่อความเหมาะสมและความถูกต้องของแบบสอบถาม 4. นำแบบสอบถามท่ีไดป้ รบั ปรงุ เพือ่ ตรวจสอบความถูกต้อง ความเท่ียงตรงของเนอ้ื หา (Content validity) และความครอบคลุมของเนื้อหา 7. สรุปผลของการวิจยั ปจั จยั ท่มี ีผลต่อความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวดั นครราชสมี า 7.1 วตั ถุประสงคข์ องการวิจยั 1. เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การ บรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา 2. เพื่อศึกษาผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จังหวดั นครราชสมี า 3. เพ่ือศึกษาหาแนวทางแก้ไขปจั จัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การ บรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง จังหวดั นครราชสมี า 7.1.1 ปัจจัยท่ีมผี ลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลหนอง แวง จงั หวดั นครราชสีมา มอี ะไรบา้ ง 1. ความเครียดเร่อื งส่วนตัว เช่น ความเครยี ดดา้ นหนีส้ ิน ความเครียดด้านครอบครวั เป็นต้น 2. ปัจจยั ทางดา้ นร่างกายหรือสขุ ภาพของแต่ละบุคคลท่ไี มเ่ หมอื นกัน ~ 151 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ 3. ปัจจัยด้านสังคมในที่ทำงานที่มคี วามเครยี ดมากเกนิ ไปจนบ้างครัง้ ส่งผลตอ่ สุขภาพจติ หรือ ความสุขของบุคลกรได้เปน็ อย่างมาก 7.1.2 ผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การ บริหารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา มีอะไรบา้ ง 1. ทำไหเ้ กิดความเครยี ดและยังอาจส่งผลกระทบไปยงั เรื่องอื่นๆดว้ ยนอกเหนอื จากเรอื่ งงาน 2. ประสทิ ธิภาพของงานท่ีทำหรือการใช้ชวี ิตในแตล่ ะวันลดลงเนอ่ื งจากขาดความรา่ เรงิ 3. เสยี บรรยากาศในท่ีทำงานทำไหบ้ ุคลากรคนอ่ืนไมม่ คี วามสขุ ในการงานไปดว้ ย แนวทางการแก้ไขปจั จยั ที่มผี ลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วน ตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา มีอะไรบา้ ง 1. ที่สำนักงานควรมีกิจกรรมนนั ทนาการท่ีทำไห้บุคลากรลดความเครยี ดจากเรือ่ งต่างๆได้ 2. หวั หนา้ งานควรมีความเปน็ กันเองมากกว่าทีจ่ ะคอ่ ยกดดันลกู น้องในทท่ี ำงาน 3. ทห่ี น่วยงานควรจัดกิจกรรมท่พี าบุคลากรในหน่วยงานไปเท่ยี วหรอื ดูงานท่ีต่างๆบา้ งเพ่ือ เปดิ หาแนวทางในการทำงานทแ่ี ปลกใหม่มาปรับใชก่ ับหน่วยงานตวั เองและยังทำไหพ้ นักงานผอ่ น คลายอีกด้วย 7.1.3 การทดสอบสมมติฐานการวิจยั สมมตฐิ านข้อที่ 1 1) ปจั จัยทีม่ ีผลตอ่ ความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากเพศ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ จำนว 53 คน คิดเป็น เปอรเ์ ซ็นต์ 66.3% ไมใ่ ช่ จำนวน 27 คน คดิ เปน็ เปอรเ์ ซ็นต์ 33.7% สรุปวา่ เปน็ ไปตามสมมตฐิ าน สมมตฐิ านข้อที่ 2 2) ปจั จยั ทม่ี ีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารสว่ นตำบลหนองเวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากอายุ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คน คิดเปน็ เปอร์เซน็ ต์ 33.7% สรปุ ว่าเปน็ ไปตามสมมตฐิ าน สมมตฐิ านข้อท่ี 3 3) ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จงั หวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากการศกึ ษา แบบสมั ภาษณ์จะเหน็ ได้ว่า ใช่ 53 คน คดิ เปน็ เปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคดิ เป็นเปอรเ์ ซน็ ต์ 33.7% สรุปว่าเปน็ ไปตามสมมตฐิ าน สมมตฐิ านขอ้ ท่ี 4 ~ 152 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชัยภมู ิ 4) ปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ ความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากรายได้ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 63 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 78.8% ไมใ่ ช่จำนวน 17 คนคิดเป็นเปอรเ์ ซ็นต์ 21.2% สรปุ ว่าเป็นไปตามสมมติฐาน สมมตฐิ านข้อที่ 5 5) ปัจจัยที่มผี ลต่อความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวดั นครราชสมี า นา่ จะเกิดจากครอบครวั แบบสัมภาษณ์จะเหน็ ได้วา่ ใช่ 68 คน คดิ เปน็ เปอรเ์ ซน็ ต์ 85.0% ไมใ่ ชจ่ ำนวน12 คน คิดเปน็ เปอร์เซ็นต์ 15.0% สรุปวา่ เป็นไปตามสมมติฐาน สมมตฐิ านข้อที่ 6 6) ปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ ความสุขในการทำงานของบคุ ลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากระยะเวลาการทำงาน แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิด เปน็ เปอรเ์ ซ็นต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคดิ เปน็ เปอร์เซ็นต์ 33.7% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน สมมตฐิ านขอ้ ที่ 7 7) ปัจจัยที่มผี ลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากสายงานที่ปฏิบัติ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 68 คน คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ 85.0% ไม่ใชจ่ ำนวน 12 คนคิดเปน็ เปอร์เซน็ ต์ 15.0% สรุปว่าเปน็ ไปตามสมมติฐาน สมมติฐานข้อท่ี 8 8) ปจั จัยทม่ี ีผลต่อความสขุ ในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบรหิ ารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากการเป็นที่ยอมรับ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 63 คน คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ 78.8% ไม่ใชจ่ ำนวน 17 คนคดิ เปน็ เปอรเ์ ซน็ ต์ 21.2% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน สมมติฐานขอ้ ท่ี 9 9) ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา จะเกิดจากการติดต่อสัมพันธ์ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ 66.3% ไมใ่ ช่จำนวน 27 คนคิดเปน็ เปอร์เซน็ ต์ 33.7% สรปุ วา่ เป็นไปตามสมมติฐาน สมมตฐิ านข้อท่ี 10 10) ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากความสำเรจ็ ในงาน แบบสัมภาษณ์จะเหน็ ได้ว่า ใช่ 53 คน คิด เป็นเปอร์เซน็ ต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคดิ เปน็ เปอรเ์ ซ็นต์ 33.7% สรุปวา่ เปน็ ไปตามสมมติฐาน ~ 153 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภูมิ 8. อภิปรายผลการวิจยั จากการวจิ ยั เรื่องปจั จัยท่มี ีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา บุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสมี า มีปัจจัยที่มีผล ตอ่ ความสุขในการทำงาน เปน็ อยา่ งไรนั้น จากการศกึ ษาหลายๆอย่างไมว่ ่าจะเป็นในเรื่องของ ปัจจัยสว่ นบุคคล ปัจจัยด้านครอบครัว ปัจจัยด้านงานที่ปฏิบัติ ปัจจัยด้านการติดต่อสัมพันธ์ เป็นต้น พบว่าส่วนใหญ่แล้วปัจจัย เหล่านี้มีผลตอ่ ความสุขสว่ นตวั และความสุขในการทำงานของบุคลากรในสำนกั งานเป็นอยา่ งมากเพราะในการ ทำงานหรือในการใช้ชีวิตนั้นหากเราขาดความสุขแล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามสิ่งที่ทำนั้นก็จะออกมาตาม ความรู้สึกของบุคคลนั้นๆด้วย เช่น หากพนักงานหรือบุคลากรไม่มีความสุขแล้วงานที่ทำก็จะมีประสิทธิภาพ ลดลงตามไปด้วย เพราะฉะนน้ั ความสุขจึงเปน็ สิง่ ที่สำคัญสำหรับการใช้ชวี ิตและการทำงานเปน็ อยา่ งมาก 8.1.1 การอภปิ รายผลการทดสอบ สมมตฐิ านการวิจยั สมมติฐานข้อท่ี 1 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากเพศ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ จำนว 53 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใช่ จำนวน 27 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 33.7% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้ปัจจัยด้านเพศกับ ความสุขในการทำงานพบว่าคา่ เฉลี่ยระดับความสขุ ในการทำงานของเพศหญิง เพศชาย ต่างกัน เนื่องจากเพศ หญิงที่มีบุคลิกอ่อนโยนจะมีความสุขในการทำงานที่ใช้ความละเอียดรอบคอบ ส่วนเพศชายมีบุคลิกเข้ มแข็ง ลักาณะงานที่ทำต้องใช้กำลังกายเป็นสว่ นใหญ่ ดัง้ น้นั องค์กรควรมีการกำหนดตำแหนง่ หน้าที่ การหมอบหมาย งาน ใหเ้ หมาะสมกับบคุ ลากรแตล่ ะเพศ ทง้ั นี้เพ่อื สร้างความสขุ ในการทำงานมากขนึ้ สมมติฐานข้อที่ 2 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง เวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากอายุ แบบสัมภาษณ์จะเห็นไดว้ ่า ใช่ 53 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใช่จำนวน 27 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 33.7% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้ปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุมี ความสัมพันธ์กับความสุขในการทำงานของบุคคลากรและพบว่าช่วงอายุมีผลต่อระดับความสุขในการทำงาน ของบุคลากร แม้ช่วงอายทุ แ่ี ตกต่างกนั แตค่ วามสุขในการทำงานของบคุ ลากรไม่แตกตา่ งกัน สมมติฐานข้อที่ 3 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากการศึกษา แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคดิ เปน็ เปอรเ์ ซ็นต์ 33.7% สรุปว่าเปน็ ไปตามสมมตฐิ าน ทั้งน้ีปัจจยั ในการศึกษากับ ระดับความสขุ ในการทำงานการศึกษาสอนให้คนรู้จักคดิ วิเคราะห์ และแสวงหาความรู้ใหมๆ่ เสมอ ผู้ที่มีระดบั การศกึ ษาสงู ย่อมได้รบั การถ่ายทอดความรู้ ความคิด และความามารถมากกว่า จึงเช่อื วา่ ระดบั การศึกษาน่าจะ มผี ลต่อความสขุ ในการทำงาน ~ 154 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ สมมติฐานข้อที่ 4 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวงจังหวดั นครราชสมี า นา่ จะเกดิ จากรายได้ แบบสมั ภาษณจ์ ะเหน็ ได้วา่ ใช่ 63 คน คิดเป็นเปอรเ์ ซน็ ต์ 78.8% ไม่ใช่จำนวน 17 คนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 21.2% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้รายได้คือการตอบแทนที่บุ คลารทำงาน สวสดิการ หรอื ผลประโยชน์ที่ได้รบั เหมาะสมกับงานท่ที ำ สมมติฐานข้อที่ 5 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากครอบครัว แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 68 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 85.0% ไม่ใช่จำนวน12 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 15.0% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้ครอบครัวมีการ สนับสนนุ พฒั นาสถาบันครอบครวั ใหเ้ ขม้ แข็งอยูเ่ สมอ ดำรงชวี ิตตามหลักการท่ีเกื้อกลู กนั ส่งผลให้ครอบครวั ดี มี ความสขุ อนั นำไปสูป่ ระสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลในการทำงานได้เปน็ อยา่ งดี สมมติฐานข้อที่ 6 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากระยะเวลาการทำงาน แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคิดเป็นเปอรเ์ ซ็นต์ 33.7% สรปุ ว่าเป็นไปตามสมมตฐิ าน ทัง้ นีร้ ะยะเวลา การทำงานองค์กรควรให้ความสนใจกับบุคลากรที่ทำงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกันและควรจัดให้มีการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการทำงานสูง กับบุคลากรที่มีประสบการณ์น้อย เพื่อ สรา้ งให้เกดิ ความสขุ ในการทำงานมากขนึ้ สมมติฐานข้อที่ 7 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากสายงานที่ปฏิบัติ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 68 คน คิดเป็น เปอร์เซน็ ต์ 85.0% ไม่ใช่จำนวน 12 คนคิดเปน็ เปอร์เซน็ ต์ 15.0% สรุปว่าเปน็ ไปตามสมมติฐาน ทงั้ นส้ี ายงานท่ี ปฏิบัติที่ตอบสนองต่อเปา้ หมายและทศิ ทางขององค์กร เน้นการบริหารข้อตกลง มากกว่าการบริหารโดยคำส่งั และเน้นพันธะความรับผดิ ชอบร่วมกันของบคุ ลากรท่เี ก่ียวขอ้ งทั้งหมด สมมติฐานข้อที่ 8 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากการเป็นที่ยอมรับ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 63 คน คิดเป็น เปอร์เซ็นต์ 78.8% ไม่ใช่จำนวน 17 คนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 21.2% สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้ปัจจัยที่ ส่งเสริมความสุขในการทำงานด้านการเป็นที่ยอมรับ การที่ได้รับความเชื่อถือจากเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และเพอื่ นรว่ มงานยอมรับในความรู้ความสามารถและไวว้ างใจในการทำงาน ไดร้ บั การยกย่องชมเชยในผลงาน ทอี่ อกมาดี สมมตฐิ านขอ้ ท่ี 9 ปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ ความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง จังหวัดนครราชสีมา จะเกิดจากการติดต่อสัมพันธ์ แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคิดเปน็ เปอร์เซน็ ต์ 33.7% สรปุ ว่าเปน็ ไปตามสมมตฐิ าน ทัง้ น้ีปัจจัยที่เสริมความสุข ในการทำงานด้านการติดต่อสัมพันธ์ การที่บุคลากรให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงานมี ความสมั พันธภาพท่ดี ีตอ่ กันรับฟงั และให้คำปรึกษา เปดิ เผยความรู้ความคดิ ระหว่างกนั ได้ ~ 155 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ สมมติฐานข้อที่ 10 ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนอง แวง จังหวัดนครราชสีมา น่าจะเกิดจากความสำเร็จในงาน แบบสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า ใช่ 53 คน คิดเป็น เปอร์เซน็ ต์ 66.3% ไม่ใชจ่ ำนวน 27 คนคิดเป็นเปอรเ์ ซน็ ต์ 33.7% สรุปวา่ เป็นไปตามสมมติฐาน ท้งั นีป้ ัจจยั ทสี่ ง่ เสริความสขุ ในการทำงานดา้ นความสำเร็จในงาน การรบั รวู้ า่ ตนไดป้ ฏบิ ัติงานไดบ้ รรลตุ ามเป้าหมายทกี่ ำหนดไว้ โดยไดร้ ับความสำเร็จในการทำงานและรสู้ ึกมีคณุ ค่าและเกดิ ความภาคภมู ใิ จในการปฏิบัติงานให้สำเรจ็ 9. ข้อเสนอแนะ 9.1 ข้อเสนอแนะการนำผลวิจัยไปใช้ ทางสำนักงานหรือหน่วยงานควรเอาใจบุคลากรไห้มากกว่านี่ไม่ควรมองบุคลากรเป็นแค่ลูกจ้างแต่ควร มองว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เพราะหากคิดว่าเป็นแค่นายจ้างกับลูกจ้างแล้วละก็ความเอาใจกันใน หน่วยงานก็จะหายไปไม่สนใจกันไม่แค่ความรู้สึกกันไม่สนคนในหน่วยงานเดยี วกันเพราะคิดว่างานใครงานมนั จนลมื เหตผุ ลหลกั ว่างานท่ีตนทำคือรับใชแ้ ผ่นดินชว่ ยเหลือประชาชน ด้ังนัน้ ความสขุ ของแต่ละคนจะเกิดข้ึนได้ นัน้ หวั หน้างานและบคุ ลากรควรเอาใจใส่กันใหม้ ากกวา่ น้ี 9.2 ข้อเสนอแนะการทำวิจยั ครง้ั ตอ่ ไป จากการศึกษาพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรใน องค์การบริหารส่วนตำบล หนองแวง จังหวัดนครราชสีมา นั้นมาจากการปัจจัยส่วยบุคคลและการติดต่อสัมพันธ์กันในที่ทำงานเป็นต้น ผูจ้ ดั ทำวิจยั จึงได้ทำข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นประโยชน์ที่เกีย่ วข้องดงั นี้ 1. ทางหน่วยงานควรจดั กจิ กรรมเพ่ือไห้เกิดความสมั พันธท์ ่ดี ีต่อกันภายในองคก์ ร 2. ควรหากิจกรรมนันทนาการไห้บุคลากรเพ่อื ลดความเคียดทเี่ กดิ จากการทำงาน 3. หวั หน้างานหรือเพ่อื นรว่ มงานควรเอาใจใสก่ นั เหมอื นคนในครอบครัว บรรณานุกรม 1. ภาษาไทย สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ, 2560 “ความสขุ สถาบนั ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: http://www.ryt9.com/s/abcp/413185 สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ, 2562 “สง่ เสรมิ สุขภาพในการทำงาน” [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก: https://www.thaihealth.or.th/Books/list/8/. อาภรณ์ ภู่วทิ ยพันธ์.ุ 2553. “บริหารความสขุ ในการทำงาน,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http: / / www. peoplevalue. co. th/ index. php?lay= show&ac= article&Id= 539104744& Ntype=10. ~ 156 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ พฤตกิ รรมการซื้อของออนไลนข์ องนักศกึ ษาปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ อษั ฎาวุธ กุณา (Adsadawut Kuna) บทคัดยอ่ การวิจัยเรื่องพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะ รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาสาเหตุของการซื้อสินค้า ออนไลน์ และ 2.เพอ่ื ศกึ ษาปัญหาในการซื้อสินคา้ ออนไลน์ และ แนวทางในการแก้ไขปัญหา ของนักศกึ ษาปี 1- 4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชยั ภูมิ กลุ่มตัวอยา่ งเป็นนักศึกษา จำนวน 86 คน เปน็ กลุ่มตวั อยา่ ง ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมในการซื้อสินค้าออนไลน์ของนักศึกษาปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ เกิดจากแรงจูงใจในการซื้อสินค้าออนไลน์ คุณภาพและบริการใน การ ซื้อสินค้าออนไลน์และมีคุณภาพของเว็บไซต์ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าทางออนไลน์ของนักศึกษา และ ปัญหาที่เกิดขึ้นของการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาส่วนใหญ่บอกว่าเปน็ การเกิดจากสินค้าไมต่ รงตามท่ี สงั่ จากรา้ นค้าทางออนไลน์และการจัดส่งล่าชา้ ในบางครั้ง มบี างส่วนบอกวา่ ในการจัดสง่ บางครั้งทำให้ของที่สั่ง เกิดความเสยี หายต่อสินค้าทตี่ น แนวทางการแก้ไขก็คอื ควรเช็คร้านคา้ ในชอ่ งทางออนไลน์ก่อนวา่ มกี ารรีวิวและ มีลูกค้ารายอื่นมารีวิวให้ร้านค้าที่เราจะซื้อหรือไม่ ถ้าไม่มีเราควรหาร้านใหม่ที่เชื่อถือได้ และในทางจัดส่งทาง ร้านควรหาบริษัทที่ไม่โยนสินค้าของลูกค้ามีการจัดส่งแบบว่องไวในการจัดส่งสินค้าเพื่อให้เกิดความพอใจของ ลกู ค้ากับทางร้านเอง การวิจัยในครั้งนีใ้ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ นำข้อมูลไปประมวลผลเพ่ือทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดย ใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถามโดยหาค่าร้อยละ (Percentage) และหาคา่ ความถ่ี (Frequency) เพอื่ วดั หาคา่ เฉล่ีย คำสำคญั : การซื้อของออนไลน์ ; ปญั หาในการซือ้ สนิ ค้าออนไลน์ ; แนวทางในการแกไ้ ขปัญหา ~ 157 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ Online shopping behavior of year 1-4 students in Public Administration, Faculty of Political Science Chaiyaphum Rajabhat University Abstract Research on online shopping behavior of students in year 1-4 in Public Administration, Faculty of Political Science, Chaiyaphum Rajabhat University It is an objective research. 1.To study the causes of online shopping and 2.to study the problems in online shopping and guidelines for solving them. of students in years 1-4 in Public Administration, Faculty of Political Science, Chaiyaphum Rajabhat University The sample group was 86 students as a sample group. research results It was found that online shopping behavior of students in Year 1-4 in Public Administration, Faculty of Political Science, Chaiyaphum Rajabhat University caused by the motivation to shop online quality and service in Shop online and have the quality of the website. Affects the decision to shop online among students and the problem of online shopping among students, most say that it is caused by the product that does not match. Ordered from an online store and delivery was sometimes delayed. Some say that sometimes the delivery of the ordered items damage their products. The solution is to check the online store first to see if there are reviews and if other customers have reviewed the store that we are going to buy. If not, we should find a new reliable store. And in the delivery way, the shop should find a company that does not throw the customer's product, has a quick delivery of goods, to ensure customer satisfaction with the store This research uses a successful program to process the data to analyze the data by using a computer statistical program to analyze the information about the respondents by finding the percentage (Percentage) and finding the frequency (Frequency) in order to average Keyword: online shopping ; Trouble shopping online ; Solutions ~ 158 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชยั ภูมิ 1. บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ย้อนกลับไปราวปี 2005 กระแสการเป็น \"ผู้ประกอบการ ออนไลน์\" ขายของในอินเตอร์เน็ต กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย จากการที่มีเครื่องไม้เครื่องมือใน การสร้างเว็บไซด์ของตัวเองเกิดขึ้นมากมาย เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลราคาถูกลง, เกิดผู้ให้บริการเว็บ สำเร็จรูป, เว็บตลาดกลางโพสต์ขายสินค้า และ การกระจายตัวของความรู้การทำการตลาดออนไลน์ บน Google เป็นตน้ ทั้งหมดนี้ ทำใหก้ ารเริ่มต้นทีจ่ ะเปน็ ผปู้ ระกอบการออนไลน์ ขายของในอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ยากอีกตอ่ ไป ปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่า “ออนไลน์” นั้นเข้ามาเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ภายใน สงั คมเปน็ อยา่ งมากเทคโนโลยแี ละโลกของอนิ เทอร์เน็ตสามารถท่ีจะเชื่อมต่อกันอยา่ งง่ายดายเพียงแค่การคลิก ส่งผลให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงลักษณะของการใช้ชีวิต มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากจะติดต่อสื่อสาร ผ่านทางออนไลน์ การค้นคว้าหาข้อมลู ความรตู้ ่าง ๆ สิ่งหนง่ึ ท่ีพบได้มากทส่ี ุดเลยก็คือ การซื้อขายของออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์ต่าง ๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา สั่งซื้อ จัดส่ง ชำระเงินได้อย่างสะดวก และรวดเร็วทนั ใจ และเมื่อยิ่งธุรกิจออนไลน์ขยายเพิม่ ขึ้นแค่ไหนเจา้ ของธุรกิจ และนักการตลาดก็ต้องหมั่นหา กลยุทธ์ตา่ ง ๆ เพื่อที่จะดึงดดู ความสนใจจากลูกค้าให้สินค้าและแบรนด์ติดตลาดรวมไปถึงเพิม่ ความม่ันคงและ รากฐาน ป้องกันคู่แข่งที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวันเมื่อมีการทำธุรกิจและขายสินค้าผ่านทางออนไลน์จึงต้องมีการทำ ตลาดออนไลน์ที่จะต้องปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของลูกค้าและบุคคลทั่วไปในปัจจุบันและมีคู่แข่งมากข้ึน อย่างเหน็ ได้ชดั และเพือ่ ทจี่ ะทำใหส้ ินค้าและธุรกิจของคุณสามารถเป็นแบรนด์ท่ีติดตลาดและได้รับความสนใจ อย่างต่อเนื่อง มียอดขายและกำไรที่พุ่งสูงขึ้น ก็ต้องรู้จักใช้กลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ และนำคำว่า “ออนไลน์” มาใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเรียกได้ว่าปัจจุบันนี้โลกออนไลน์เข้ามีผลต่อการตัดสินใจและ กระตนุ้ ยอดขายของธุรกิจเปน็ อย่างมาก เพื่อสรา้ งรากฐานลกู ค้า เพม่ิ ยอดขายและกำไร รวมไปถงึ ปอ้ งกันคู่แข่ง ที่มีสูงขึ้นทุกวัน คุณจะต้องรู้จักตามกระแส ปรับเปลี่ยนและศึกษาหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการทำตลาดออนไลน์ เนน้ ความสะดวกสบาย รวดเรว็ เต็มไปดว้ ยทางเลือกท่ดี ีและน่าสนใจ และท่ีสำคัญคือ ทันสมัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ กลยุทธ์เหล่านี้จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จทั้งในโลก ออนไลน์และโลกออฟไลน์แน่นอนด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นอย่างเช่นในปัจจุบัน จนส่งผลให้ทุกอย่าง ในการใช้ชีวิตรอบตัวล้วนแล้วแต่ต้องการความรวดเร็วในการใช้ชีวิตแทบทั้งสิ้น และเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้ ร้านค้าต่าง ๆ จึงได้นำสินค้าและบรกิ ารของตัวเองไปไวบ้ นโลกออนไลน์เพื่อเพ่ิมช่องทางการเข้าถึงและซ้ือขาย สินค้าได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพื่อให้กลุ่มลูกค้าทั้งหลายสามารถเข้าถงึ ตวั สนิ ค้าและเลอื กซือ้ สรรหามาจับจ่าย ใช้สอยกันได้จากทุกที่ทุกเวลาถึงแม้ว่าการซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์จะเป็นการซื้อขายสินค้าที่ได้รับ ~ 159 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ ความนิยมอย่างมาก และเป็นช่องทางการซื้อขายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกคนแบบง่าย ๆ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง การซอ้ื ขายบนโลกออนไลน์กเ็ ปรยี บเสมอื นดาบสองคม 2. วัตถุประสงคข์ องการวจิ ัย 1. เพื่อศึกษาสาเหตขุ องการซ้ือสินค้าออนไลน์ของนักศึกษา ปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะ รฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชัยภมู ิ 2. เพื่อศึกษาปัญหาในการซื้อสินค้าออนไลน์ และ แนวทางในการแก้ไขปัญหาของนักศึกษา ปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชัยภมู ิ 3. ประโยชน์ของการวจิ ยั 1. ประโยชน์เชิงวิชาการ นักวิชาการ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจและต้องการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยการ ซ้ือ สนิ คา้ ออนไลนท์ ีส่ ่งผลต่อการซื้อสินคา้ จากเวบ็ ไซต์ทางออนไลน์ต่าง ๆ สามารถนำผลการวจิ ยั ในครั้งนี้ไปใช้เป็น แนวทางให้กับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อไป 2. ประโยชน์เชิงนโยบาย ผลจากการวิจัยในคร้ังนี้เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหมเ่ พิ่มเติมเก่ียวกับปัจจัย การซอ้ื สนิ คา้ ออนไลน์ท่ีส่งผลตอ่ การตดั สินใจซื้อสนิ คา้ จากเว็บไซต์ 4. สมมติฐานของการวจิ ยั 4.1 พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมินา่ จะเกดิ จากการมีความเป็นส่วนตวั ในการเลอื กซื้อสนิ คา้ 4.2 พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิน่าจะเกดิ จากการไมต่ ้องออกจากบา้ นหรือออกจากหอ 4.3 พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมินา่ จะเกิด จากการสามารถซอ้ื สนิ คา้ ไดท้ ุกเวลา 4.4 พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมินา่ จะเกดิ จากการมีร้านคา้ ใหเ้ ลอื กมากมาย 4.5 พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิน่าจะเกดิ จากการมกี ารรวี วิ และการโฆษณาทห่ี นา้ สนใจ ~ 160 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชยั ภมู ิ 5. ขอบเขตของการวิจยั 5.1 ขอบเขตดา้ นเวลา การศึกษาครัง้ นี้ดำเนินการตัง่ แตเ่ ดือนพฤษภาคม ถงึ เดือนมิถุนายน 2564 5.2 ขอบเขตด้านเนื้อหา การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยมุ่งศึกษาถึงสาเหตุการการซื้อสินค้าออนไลน์ของนัก ศึกษคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ และนำแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้พฤติกรรมเหล่านั้นดีไป จากเดมิ 5.3 ขอบเขตดา้ นพื้นท่ี คณะรฐั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ 5.4 ขอบเขตด้านประชากร นักศึกษาสาขารัฐประศาสนศาสตร์ ปี 1-4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏชยั ภมู ิ 6. วิธีดำเนนิ การวิจัย 6.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากร นกั ศกึ ษา ชนั้ ปที ่ี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรฐั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชยั ภูมิ กล่มุ ตัวอยา่ ง ใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชากร คือ นักศึกษา ชั้นปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ โดยการใช้วธิ สี ุ่มตวั อย่างแบบสะดวกเพอื่ ความง่ายในการเกบ็ ขอ้ มูล 6.2 เครอื่ งมือในการวิจัย เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัย พฤติกรรมการซ้ือของออนไลน์ของนักศึกษาคณะ รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ครั้งนี้เป็นแบบสอบสัมภาษณท์ ีผ่ ู้วิจัยไดส้ ร้าง ขึ้นโดยแบ่งแบบสัมภาษณ์ ดงั นี้ 1. เป็นแบบสอบถามขอ้ มูลทว่ั ไปของนกั ศึกษา 2. เปน็ แบบสอบถามเก่ียวกับพฤตกิ รรมการซื้อของออนไลน์ของนกั ศกึ ษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏชยั ภูมิ แบบความคิดเห็นวา่ ใชไ่ ม่ใช่ 3. เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุของการซื้อสินค้าออนไลน์ว่ามีปัญหาในการซื้อสินค้า และ แนวทางในการแกไ้ ขปญั หา 4. เปน็ แบบสอบสมั ภาษณ์ถามเก่ยี วกับข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นเพิม่ เตมิ 6.3 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ~ 161 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ ผู้วิจัยได้นำแบบสอบถามการรวบรวมข้อมูลของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ และรับกลับมาด้วยตนเอง 6.4 การวิเคราะห์ขอ้ มลู การนำโปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้ในการคำนวณสถิติและการหาเปอร์เซ็นของแบบสอบถามข้อมูล เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ เพื่อให้รู้ถึง สาเหตุของปัญหาและนำมาวิเคราะห์ สรปุ ผลเพื่อในการทำวิจัยในครั้งนี้ 7. สรปุ ผลการวิจยั 7.1 ปัจจัยที่ส่งผลต่อสาเหตุของการซื้อสินค้าออนไลน์ของนักศึกษาปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ คือ เกิดจากแรงจูงใจในการซื้อสนิ ค้าออนไลน์ คุณภาพและบริการ ในการ ซ้อื สนิ ค้าออนไลนแ์ ละมคี ณุ ภาพของเว็บไซต์ สง่ ผลต่อการตดั สินใจซือ้ สนิ ค้าทางออนไลน์ของนกั ศกึ ษา 7.2 ปัญหาในการซื้อสินค้าออนไลน์ของนักศึกษาปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภูมิ คือ สว่ นใหญ่บอกว่าเกิดจากสินค้าไมต่ รงตามที่สง่ั จากร้านค้าทางออนไลน์และการ จดั ส่งล่าช้าในบางคร้ัง มีบางส่วนบอกวา่ ในการจัดสง่ บางครง้ั ทำให้ของเกดิ ความเสยี หายตอ่ สินคา้ ทีต่ นสง่ั แนวทางการแก้ไขปัญหาการซื้อสินค้าออนไลน์ของนักศึกษาปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะ รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ คือ ควรเช็คร้านค้าในช่องทางออนไลน์ก่อนว่ามกี ารรีวิวและมีลูกค้าราย อื่นมารีวิวให้ร้านค้าที่เราจะซื้อหรือไม่ ถ้าไม่เราควรหาร้านใหม่ที่เชื่อถือได้ และในทางจัดส่งทางร้านควรหา บริษัทท่ไี ม่โยนสนิ ค้าของลูกคา้ มีการจัดส่งแบบวอ่ งไวในการจัดสง่ สนิ คา้ 8. การอภิปรายผล ผลของการวิจัยเรื่องพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษา ปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ เพื่อศึกษาสาเหตุของการซื้อสินค้าออนไลน์และปัญหาในการ ซื้อสินค้าออนไลน์ และแนวทางในการแก้ไขปญั หา กลุ่มเป้าหมายทีใ่ ชใ้ นการทำวิจัยครัง้ นี้คือ นักศึกษา ปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิรวมทั้งสิ้น 86 คน เครื่องมือที่ใช้ในการ เก็บข้อมูลจะเป็น แบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการซื้อของออนไลน์ของนักศึกษา ปี 1-4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรฐั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภมู ิ ~ 162 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชัยภมู ิ 9. ข้อเสนอแนะ 9.1 ขอ้ เสนอแนะการนำผลการวิจัยไปใช้ สามารถระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่น ออนไลน์ได้ อีกท้ัง ยังสามารถบอกถึงระดับความสำคัญในแต่ละปัจจัยว่าส่งผลกับการตัดสินใจมากน้อย เพียงใด ปัจจัยด้าน ผลติ ภัณฑ์ ชอ่ งทางการจดั จำหน่าย และการยอมรับ เทคโนโลยสี ง่ ผลเชงิ บวกต่อการตัดสนิ ใจซื้อสินค้าผ่านทาง แอพพลเิ คช่ันออนไลน์ของผู้บรโิ ภค และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 9.2 ขอ้ เสนอแนะการวิจัยคร้ังตอ่ ไป 1. ในการทำการวิจัยครั้งต่อไป ควรศึกษาถึงรายละเอียดของกลุ่มประชากรที่ไม่เคยได้ใช้บริการซื้อ สนิ คา้ ผ่านทางออนไลน์ โดยอาจจะใชว้ ธิ ีการสอบถามขอ้ มูลผ่านทางการสัมภาษณ์ให้ได้มากกว่าน้ใี นครง้ั ต่อไป 2. ควรศึกษาพฤตกิ รรมของผปู้ ระกอบการค้าขายสินคา้ ผา่ นทางชอ่ งออนไลน์ 10. บรรณานกุ รม เกวรนิ ทร์ ละเอียดดีนันท.์ (2557). การยอมรบั เทคโนโลยแี ละพฤตกิ รรมผู้บรโิ ภคออนไลน์ที่มผี ลต่อ การตัดสนิ ใจซื้อหนงั สืออิเล็กทรอนกิ สข์ องผ้บู ริโภคในเขตกรงุ เทพมหานคร. กรุงเทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพ. จงจินต จิตร์แจง้ . (2552). ปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ การยอมรบั การตัดสินใจซือ้ สนิ คา้ ผา่ นพาณิชย์ อเิ ล็กทรอนิกส์ แบบผบู้ รโิ ภคกบั ผบู้ รโิ ภคบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ : กรณีศกึ ษา: ผลติ ภณั ฑ์เพือ่ สุขภาพและ ความงาม. ปทมุ ธานี : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. จติ ติวฒั น์ จติ รวตั ร. (2561). ปจั จัยการซื้อสนิ คา้ ออนไลนแ์ ละคณุ ภาพเว็บไซตท์ สี่ ง่ ผลตอ่ การตัดสินใจ ซอ้ื สินค้าจากเวบ็ ไซต์ลาซาด้าของผูบ้ ริโภคในกรุงเทพมหานคร. กรงุ เทพฯ : บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพ. จุฑารัตน์ เกยี รตริ ัศมี. (2558). ปจั จยั ที่มีผลต่อการซือ้ สินค้าผ่านทางแอพพลเิ คช่ันออนไลนข์ องผู้บริโภค ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. ปทมุ ธานี : มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. ชมพนู ุช น้อยหล.ี (2562). ปจั จัยท่ีมีอิทธพิ ลต่อการตดสั ินใจซ้อื เสอื้ ผาจ้ ากรา้ นคา้ ออนไลน.์ กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลัยหอการคา้ ไทย. ชัยวัฒน์ พทิ ักษร์ กั ธรรม. (2560). ปัจจยั ท่ีมีความสัมพนั ธต์ ่อการตดั สินใจซ้ือสินคา้ ออนไลนข์ อง ผู้บรโิ ภค. วิทยานิพนธป์ รญิ ญามหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. นันทพร เขียนดวงจนั ทร์, ขนมกมล ดอนขวา และสรียา วจิ ติ รเสถยี ร. (2561). พฤตกิ รรมลูกค้าในการซอ้ื ~ 163 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ สินค้าผา่ นสอ่ื สังคมออนไลนข์ องคนในกลุ่มเจเนเรชนั วาย (The generation Y consumer behavior of goods purchasing via social media). วารสารวิชาการ Veridian E-Journal บัณฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยศิลปากร สาขามนษุ ยศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และศลิ ปะ. เปรมกมล หงษย์ นต.์ (2562). ปัจจยั ท่ีมอี ิทธิพลต่อการตดั สินใจซอื้ สนิ ค้าผ่านทางแอพพลิเคชนั่ ออนไลน์ (ลาซาด้า) ของผบู้ ริโภคยคุ ดิจทิ ลั ในกรงุ เทพมหานคร. กรุงเทพฯ : บัณฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลัยสยาม. มนัสวี ลมิ ปเสถยี รกลุ . (2554). ปจั จยั ทีม่ ผี ลตอ่ รูปแบบการตดั สินใจของผู้บริโภคสินคา้ ออนไลน์ : ศกึ ษา เปรียบเทยี บระหวา่ งกลุ่มนกั ศกึ ษาและกลุ่มวยั รุ่นเริ่มต้นทา้ งาน. ปทุมธานี : มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. โยษติ า นันทภิ าคย,โยษติ า นันทิภาค. (2563). ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อการตดั สินใจซื้อสนิ คา้ ในร้านคา้ มัลตแิ บรนด์ ผา่ นสื่อสงั คมออนไลนป์ ระเภท Instagram ของผู้บริโภคเจนเนอเรชน่ั วาย. ปทุมธานี : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. วรรณรัตน์ ขันจิรา. (2558). พฤตกิ รรมการใช้แหล่งข้อมูลทางออนไลน์ และพฤตกิ รรมการเลือกซ้ือสนิ คา้ ทางออนไลนท์ สี่ ง่ ผลต่อการตัดสินใจซอื้ อาหารคลนี ผา่ นทางออนไลนข์ องผู้บริโภคใน กรุงเทพมหานคร.ปริญญาบรหิ ารธรุ กิจมหาบัณฑิต. กรงุ เทพฯ: บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยกรงุ เทพ. วรรณา วันหมัด. (2558). ปจั จยั ส่วนบคุ คลท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมในการตดั สินใจซ้ือสินคา้ ทางอินเทอร์เนต็ . วารสารวจิ ัยราชภฏั พระนคร. ปที ่ี 10, ฉบับที่ 2 (เดอื นกรกฎาคม-ธันวาคม): 132-141. วรญั ญา โพธิ์ไพรทอง. (2556). ปจั จัยทส่ี ่งผลตอ่ การตดั สินใจซอ้ื เสอ้ื ผา้ จากรา้ นค้าออนไลน.์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, คณะพาณิชยศาสตรแ์ ละการบัญชี , หลักสูตร บรหิ ารธรุ กิจมหาบัณฑิต. วิกิพเี ดีย. (2556). การซื้อของออนไลน์. สืบคน้ เมอ่ื 23 พฤษภาคม 2564, จาก https://www.th.wikipedia.org ศนู ยว์ ิจัยกสกิ รไทย. (2558). Online Shopping ช่องทางการตลาดยุคดจิ ิตอลบูม จับตาผูบ้ รโิ ภค Shop ผ่านโมบาย หรือ M-Shopping มากขึ้น (กระแสทรรศน์ ฉบับท่ี 2599). สืบคน้ เมอื่ 2 มิถนุ ายน 2564, จาก https://www.kasikornresearch.com สนุ นั ทา ตระกลู สทิ ธศิ ร.ี (2556). การศกึ ษาปัจจัยที่มผี ลต่อความตง้ั ใจในการซือ้ สนิ คา้ ผ่านเฟซบุค ในประเทศไทย. ปทมุ ธานี : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ สธุ าทิพย์ ทว่ั จบ. (2562). พฤตกิ รรมการซือ้ สินค้าผา่ นแอปพลิเคชันออนไลน์ของนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี อำเภอพุทธมณฑล จังหวดั นครปฐม. วารสารวิชาการ มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพธนบรุ .ี ~ 164 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชยั ภูมิ อรวสิ า งามสรรพ์. (2553). ปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ การยอมรับเทคโนโลยกี ารซื้อสนิ คา้ ออนไลน์ (Eshopping) ของผู้บรโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร. ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ eCommerce business school. (2561). คุณลักษณะของพาณชิ ย์อิเล็กทรอนิกส์ (E – Commerce) สบื ค้นเม่ือ 22 พฤษภาคม 2564, จาก https://www. ecommerce.or.th SurveyCan. (2555). แบบสอบถามในการวิจัยเพอ่ื ศึกษาปจั จัยทส่ี รา้ งแรงจูงใจตอ่ ผู้บริโภคในการตัดสนิ ใจ ซอื้ สินค้าและบริการผ่านเวบ็ ไซต์. สืบคน้ เม่ือ 30 พฤษภาคม 2564, จาก https://www.surveycan.com ~ 165 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏชัยภูมิ การศกึ ษาปญั หาและแนวทางแกไ้ ขปญั หาในการผลติ เกลอื สนิ เธาว์โดยการใชภ้ ูมิปัญญา ทอ้ งถ่นิ ของชมุ ชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมอื ง จังหวัดชัยภูมิ นพรจุ พงษ์โสภา (Noparuth Pongsopa)1 บทคดั ย่อ งานวิจัยเรื่องการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในการผลิตเกลือสินเธาว์โดยการใช้ภูมิปัญญา ท้องถิ่นของประชาชนชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์ของการ วิจัยเพื่อ 1. เพื่อศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 2. เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในการผลิตเกลือ สินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ประชากร คือ ประชากรในชมุ ชนบา้ นโนนกอก ตำบลรอบเมอื ง อำเภอเมอื ง จังหวัดชัยภมู ิ จำนวน 800 คน กลุ่มตวั อย่าง คือ ประชากรในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมืองอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 260 คน เครื่องมือที่ใช้ใน การศึกษาครั้งนี้ ได้แก่แบบสัมภาษณ์ประกอบไปด้วย ตอนที่ 1 สอบถาม เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป ซึ่งมีคำถาม ทั้งหมดจำนวน 5 ข้อ ตอนที่ 2 สอบถาม เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตเกลือสินเธาว์และปัญหาในการผลิตเกลือ สนิ เธาว์โดยการใชภ้ มู ิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ชัยภูมิ ตอนที่ 3 สอบถาม เกี่ยวกับข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นเพิม่ เติม วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล คือ ผู้จัดทำดำเนินการเก็บ รวบรวมข้อมูลโดยแจกและเก็บแบบสอบถามด้วยตนเองจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 260 คน ระยะเวลาในการ เกบ็ ขอ้ มูลช่วง วันท่ี 9-10 มิถุนายน 2564 สถติ ิท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู ไดแ้ ก่ การวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าร้อย ละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ผลวิจัยพบว่า 1.ภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์ ของ ประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พบว่า ประชาชนในชุมชนบ้าน โนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์โดย ค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 97.3 มีภูมิปัญญาถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์ดีเยี่ยม 2.ปัญหาในการผลิตเกลือ สนิ เธาว์ ของประชาชนในชุมชน บ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พบว่า ประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบ เมือง อำเภอเมือง จงั หวดั ชยั ภูมิ มีปญั หาและแนวทางแก้ไขปญั หาในการผลิตเกลือสินเธาว์โดยค่าเฉลี่ยคิดเป็น ร้อยละ 98.1 ควรปรบั ปรุง และมแี นวทางในการแก้ไขคือ รฐั ควรให้การสนบั สนนุ และหาตลาดมารองรบั คำสำคัญ : การผลิตเกลือสินเธาว์ ; ปญั หาในการผลิตเกลอื สนิ เธาว์ ; ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน 1 นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชารฐั ประศาสนศาสตรม์ หาวิทยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ corresponding author, E-mail: [email protected] ~ 166 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชยั ภมู ิ A study of problems and solutions in the production of rock salt by using local wisdom of Ban NonKok community, Rob Muang sub-district, Muang district, Chaiyaphum province. Abstract A research study on problems and solutions in rock salt production by using landscapes. Local wisdom of the people of Ban Non Kok Community, Rob Mueang Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province The objectives of this research were: 1. To study local wisdom and process of producing rock salt. of people in Ban Non Kok Community, Rob Mueang Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province 2. To study problems and solutions in rock salt production Of the people in Ban Non Kok Community, Rob Mueang Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province, the population is the population of Ban Non Kok Community, Rob Mueang Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province, totaling 260 people The tools used in this study including the interview form consisting of Chapter 1 Asking about general information There were 5 questions in total. Part 2 asked about rock salt production process and problems in rock salt production by using local wisdom of Ban Non Kok community, Rob Muang sub-district, Muang district, Chaiyaphum province. Part 3 asked about suggestions. and additional comments The method of data collection was that the authors collected the data by handing out and collecting questionnaires by themselves from a total of 260 samples. The data collection period was June 9-10, 2021. The statistics used in the data analysis were percentage analysis and arithmetic mean. The results showed that 1. Local wisdom, rock salt production process. of people in Ban Non Kok Community, Rob Mueang Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province It was found that people in Ban Non Kok Community, Rob Mueang Subdistrict, Mueang District, Chaiyaphum Province There is local wisdom and rock salt production process by an average of 97.3%. There is an excellent local wisdom and rock salt production process. 2. Problems in the production of rock salt It was found that the people in Ban Non Kok Community, Rob Mueang Sub-district, Mueang District, Chaiyaphum Province There are problems and solutions in the production of rock salt, with an average of 98.1 percent, should be improved. and there is a way to fix it. The state should provide support and find a market to support it. Keyword: rock salt production ; Problems in the production of rock salt ; local wisdom. ~ 167 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชัยภูมิ 1. บทนำ ภูมิปัญญาท้องถิ่นจัดเป็นพื้นฐานความรู้ความสามารถและประสบการณ์ดังเดิมของประชาชนใน ท้องถนิ่ โดยได้รับการถ่ายทอดต่อกนั มาจากสติปญั ญา ความคดิ และประสบการณ์ด้วยตนเอง และจากผู้อาวุโส หรือจากบรรพบุรุษ ทั้งนี้ พบว่าในทุกภูมิภาคของประเทศไทยนั้นมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมบนความ หลากหลายทางชีวภาพของแต่ละพื้นที่ จึงทำให้มีความหลากหลายของภูมิปัญญาชาวบ้าน เกิดการเชื่อมโยง บูรณาการความรู้ และนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพและการดำเนินชีวิตในท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นท่ี ชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ อีกทั้งมีการถ่ายทอดภูมิปัญญาการผลิตเกลือ สินเธาว์จากดินที่มีส่วนผสมของเกลือ เรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “ดินขี้กะทา หรือ ดินเอียด”โดยเรียนรู้ ประสบการณ์จากบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน (เนตรนภารัตนโพธานันท์, 2556 : 74) ข้อมูลทางโบราณคดีการ ผลิตเกลือสินเธาว์พบว่า เกลือผลิตจากคราบความเค็มบนเนื้อดินโดยการใช้น้ำแยกความเค็มจากดิน แล้วนำ น้ำเค็มมาต้มในหม้อดินเผา จนได้เกลือแล้วทุบหม้อทิ้งเอาเกลือไปใช้ เพื่อประกอบอาหารและประโยชน์อื่นๆ (บำเพ็ญ ไชยรักษ,์ 2554 : 85) ปจั จบุ ันการผลิตเกลือสนิ เธาวด์ ว้ ยกรรมวิธีนีล้ ดน้อยลงไปมาก แต่ก็ยังมีปรากฏ ให้เห็นอยบู่ า้ ง ในบางพนื้ ที่ เพราะการต้มเกลือแบบพ้ืนบ้านถือเป็นอาชีพเสริมท่สี ร้างรายได้ให้กับชาวบ้านหลัง ฤดูกาลทำนา และยังเป็นทรัพยากรทีส่ ร้างมลู ค่าทางเศรษฐกจิ ใหก้ ับชมุ ชนท้องถนิ่ (รติสมัย พิมัยสถาน, 2546 : 22) ดังนั้นการศึกษาเรียนรู้ภูมิปัญญาการผลิตเกลือสินเธาว์ เพื่อศึกษาบริบทแนวคิดและกระบวนการเรียนรู้ ทางวิทยาศาสตร์ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอ เมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงมีความสอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพ่อื การผลติ เกลอื สินเธาวท์ ่ีมเี อกลกั ษณไ์ ด้ 2. วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย 1.2.1 เพื่อศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบล รอบเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ชยั ภูมิ 1.2.2 เพอ่ื ศกึ ษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปญั หาในการผลิตเกลือสนิ เธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้าน โนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 3. ประโยชน์ของการวจิ ัย 3.1 ประโยชน์เชิงวิชาการ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ เพื่อการผลติ เกลือสินเธาว์ 3.2 ประโยชน์เชงิ นโยบาย สง่ เสริมการอนุรักษภ์ มู ปิ ัญญาการผลิตเกลอื สินเธาว์จากชมุ ชนบา้ นโนนกอก ~ 168 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏชัยภมู ิ 4. สมมติฐานของการวิจยั 1) ขั้นตอนการผลิตเกลือสินเธาว์โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมอื ง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ชัยภมู ิ วสั ดุอุปกรณใ์ นการผลติ อาจจะเปล่ียนไปตามยุคสมยั 2) ปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในการผลิตเกลือสินเธาว์โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ของประชาชนในชุมชน บ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ อาจเกิดจากสภาพภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ดิน จะตอ้ งแห้งเท่านั้น ปรมิ าณ เชอื้ เพลงิ สำหรับการต้มเกลือสนิ เธาวม์ ีน้อยและผู้ผลิตเกลือเปน็ เพศหญิงและมีอายุ มากทำให้มผี ลกระทบต่อ สขุ ภาพความแข็งแรงของรา่ งกาย 5. ขอบเขตของการวิจัย 5.1 ขอบเขตดา้ นเวลา การศึกษาวจิ ยั คร้งั นเ้ี ป็นการศกึ ษาปญั หาในการผลติ เกลือสินเธาว์โดยการใชภ้ ูมปิ ัญญา ท้องถิ่นของชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ 20 พฤษภาคม 2564 – 20 มถิ ุนายน 2564 5.2 ขอบเขตดา้ นเนอ้ื หา การศกึ ษากระบวนการเรียนรทู้ างวทิ ยาศาสตร์จากภูมปิ ัญญาการผลติ เกลือสินเธาว์ , การ ผลติ เกลือด้วยภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ , ความเดิมและสภาพปัญหา , แนวทางแกไ้ ขปญั หา 5.3 ขอบเขตดา้ นพื้นท่ี ชมุ ชนบา้ นโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมอื ง จังหวัดชัยภูมิ 5.4 ขอบเขตดา้ นประชากร ปราชญ์ชาวบ้าน และสมาชกิ กลุ่มผลิตเกลอื สินเธาว์ ในชุมชนบา้ นโนนกอก ตำบลรอบ เมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภมู ิ 6. วิธีดำเนินการ 6.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง 6.1.1 ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชากรในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัด ชัยภมู ิ จำนวน 800 คน 6.1.2 กลุ่มตวั อย่าง ประชากรศึกษาในครั้งนี้เป็นประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัด ชัยภูมิ จำนวน 800 คน ใช้จานวนกลุ่มประชากรตัวอย่างทั้งหมด 260 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบตาม สะดวก ~ 169 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ 6.2 กระบวนการเลือกกลุ่มตวั อยา่ ง ตารางสำเรจ็ รปู ของเครจซ่ีและมอร์แกน สำหรับตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) ตารางนี้ใช้ในการประมาณค่าสัดส่วน ของประชากรเชน่ เดียวกนั และกำหนดใหส้ ดั สว่ นของลักษณะทส่ี นใจในประชากร เท่ากบั 0.5 ระดับความคลาด เคล่อื นท่ยี อมรบั ได้ 5% และระดบั ความเชือ่ มัน่ 95% สามารถคำนวณหาขนาดของกลุ่มตวั อย่างกับประชากรท่ี มีขนาดเล็กได้ต้งั แต่ 10 ขนึ้ ไป 6.3 เคร่อื งมือท่ีใช้ในการรวบรวมขอ้ มูล เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ (Questionnaire) ข้อมูลทั่วไป ปัญหาในการ ผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชากรในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ คณะ ผู้จัดทำสร้างขึ้นมาจากการศึกษาแนวความคิดทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ตอน ดงั น้ี ตอนท่ี 1 สอบถาม เกยี่ วกับขอ้ มูลท่วั ไป ซ่งึ มีคำถามท้ังหมดจำนวน 5 ขอ้ เป็นแบบเลือกข้อที่ถูกต้องท่ีสุดเพียง 1 ตัวเลือก ดงั น้ี (1) เพศ (2) อายุ (3) อาชีพ (4) รายได/้ เดือน (5) การศึกษา ตอนที่ 2 สอบถาม เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตเกลือสินเธาว์ ปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในการผลิตเกลือ สินเธาว์โดยการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เกิด จากสาเหตุใด ซึ่งมีคำถามจำนวนทั้งหมด 10 ข้อ เป็นแบบเลือกตอบ 2 ตัวเลือก ตอบใช่ 1 คะแนน ตอบไม่ใช่ 0 คะแนน ดังนี้ (1) “ส่าเกลือ” เพื่อนำไปทำเป็นน้ำเกลือ ด้วยการนำดินที่ขูดได้ไปผสมกับน้ำเพื่อให้ดินละลาย ก่อน นำไปกรองและต้มใหเ้ ดือด (2) การทำหลมุ สำหรบั การกรองเพื่อทำนำ้ เกลอื 2 หลมุ (หลุมใหญ่กับหลมุ เล็ก) (3) นำดนิ เทลงในหลุมใหญ่ให้เตม็ แล้วจึงใสน่ ำ้ ลงในหลุมใหท้ ว่ มดนิ เพอ่ื ให้ น้ำเกลือผ่านการกรองจากแกลบ และไหลผ่านมาตามท่อไม้ไผ่ ลงไปยังภาชนะในหลุมเล็ก จะได้น้ำเกลือเพ่ือ นำไปทำการตม้ ต่อไป (4) กระทะที่ใช้เป็นภาชนะในการต้มเกลือทำมาจากสังกะสีหรือถังปี๊บ ตัดแต่งให้มีรูปร่าง สีเ่ หลี่ยมผนื ผ้า (5) จัดเกบ็ เมือ่ เกลอื มีลักษณะแห้งสนิท โดยเกบ็ ใส่ในภาชนะตา่ งๆ ทเ่ี ตรียมไว้อยา่ งเหมาะสม เช่น ไห กระสอบ ~ 170 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ (6) ผลติ ขายเป็นอาชพี รองเป็นสว่ นใหญ่ เน่อื งจาก มอี าชพี หลักคอื การทำนาขา้ ว (7) มขี อ้ จำกัดของเวลา สภาพภมู ิอากาศเปลยี่ นแปลง (8) ดนิ ตอ้ งมลี กั ษณะแห้งเทา่ นน้ั จึงจะไดเ้ กลอื สินเธาว์คณุ ภาพดแี ละมปี ริมาณมาก (9) ปริมาณ เชื้อเพลิงสำหรับการต้มเกลือสินเธาว์มีน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจาก พรรณไม้ในพื้นที่ป่า ชมุ ชน และพื้นทีท่ างการเกษตรของตนเอง (10) ผู้ผลิตเกลือเป็นเพศหญิงและมีอายุมากทำให้มีผลกระทบต่อ สุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย สง่ ผลให้การตอ่ ยอดภมู ิปัญญา การผลิตเกลือไม่ตอ่ เนอื่ ง และคนรุน่ ใหม่ไมส่ นใจเนื่องจากมผี ลตอบแทนจากการ ผลติ นอ้ ย (11) ทา่ นมขี น้ั ตอนในการผลติ เกลือสินเธาว์อย่างไรบา้ ง (12) ทา่ นพบปัญหาในการผลติ เกลือสินเธาวม์ ีอะไรบ้าง และจะมแี นวทางแก้ไขปญั หาในการผลิตเกลือ สนิ เธาว์อย่างไร ตอนที่ 3 สอบถาม เกีย่ วกับข้อเสนอแนะและขอ้ คิดเหน็ เพม่ิ เติม 6.4 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ผู้จัดทำดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยแจกและเก็บแบบสอบถามด้วยตนเองจากกลุ่มตัวอย่าง ท้งั หมด 260 คน ระยะเวลาในการเกบ็ ข้อมูลชว่ ง วันที่ 9 – 10 มิถนุ ายน 2564 6.5 การวิเคราะห์ขอ้ มูล ผจู้ ัดทำนำข้อมลู ท่ีได้มาวเิ คราะห์ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ โดยใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อ คำนวณหาค่าสถิติตอ่ ไปน้ี 1) การวเิ คราะหข์ ้อมูลหาค่ารอ้ ยละ (Percentage) 2) ค่าเฉลยี่ เลขคณิต (Average) 7. สรุปผลการวิจยั ผลการศกึ ษาภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ในการผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ชยั ภูมิ ในครง้ั นี้พบวา่ 1. ภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชยั ภูมิ ได้แก่ (1) “ส่าเกลอื ” เพอ่ื นำไปทำเป็นนำ้ เกลอื ดว้ ยการนำดินท่ขี ูดได้ไปผสมกับน้ำเพือ่ ใหด้ ิน ละลาย ก่อนนำไปกรองและตม้ ให้เดือด (2) การทำหลุมสำหรับการกรองเพื่อทำน้ำเกลือ 2 หลมุ (หลุมใหญก่ บั หลุมเล็ก) (3) นำดนิ เทลงในหลุมใหญใ่ ห้เต็ม แล้วจึงใสน่ ำ้ ลงในหลุมใหท้ ่วมดนิ เพ่อื ให้ ~ 171 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชัยภมู ิ น้ำเกลือผ่านการกรองจากแกลบ และไหลผ่านมาตามท่อไม้ไผ่ ลงไปยังภาชนะในหลุมเล็ก จะได้น้ำเกลือเพื่อ นำไปทำการต้มตอ่ ไป (4) กระทะทใ่ี ช้เป็นภาชนะในการต้มเกลอื ทำมาจากสงั กะสีหรือถังปบี๊ ตัดแตง่ ให้มีรูปรา่ งสี่เหลี่ยมผนื ผ้า (5) จดั เกบ็ เม่ือเกลือ มลี ักษณะแห้งสนิท โดยเก็บใสใ่ นภาชนะตา่ งๆ ทเ่ี ตรยี มไว้ พบวา่ ประชาชนในชมุ ชนบา้ นโนนกอก ตำบลรอบเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวัดชัยภูมิ มภี มู ปิ ัญญาท้องถนิ่ กรรมวิธี การผลิตเกลอื สนิ เธาว์โดยคา่ เฉล่ยี คิดเป็นรอ้ ยละ 97.3 มภี ูมิปญั ญาถิน่ กรรมวิธีการผลติ เกลือสนิ เธาว์ดีเยีย่ ม 2. ปัญหาในการผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัด ชัยภมู ิ ได้แก่ (1) ผลิตขายเป็นอาชีพรองเป็นสว่ นใหญ่ เนอ่ื งจาก มีอาชีพหลกั คือการทำนาขา้ ว (2) มขี ้อจำกดั ของเวลา สภาพภมู ิอากาศเปลย่ี นแปลง (3) ดนิ ต้องมีลักษณะแห้งเท่านน้ั จึงจะได้เกลือสินเธาว์คุณภาพดีและมปี ริมาณมาก (4) ปริมาณ เชื้อเพลิงสำหรับการต้มเกลือสินเธาว์มีน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากพรรณไม้ในพื้นที่ป่า ชมุ ชน และพ้ืนที่ทางการเกษตรของตนเอง (5) ผู้ผลิตเกลอื เป็นเพศหญิงและมีอายมุ ากทำให้มผี ลกระทบต่อ สุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย ส่งผลให้การต่อยอดภูมิปัญญา การผลิตเกลือไม่ต่อเนื่อง และคนรุ่นใหม่ไม่ สนใจเนอ่ื งจากมผี ลตอบแทนจากการผลติ น้อย พบว่า ประชาชนในชมุ ชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีปัญหาและแนว ทางแก้ไขปัญหาในการผลิตเกลือสินเธาว์โดยค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 98.1 ควรปรับปรุง และมีแนวทางในการ แกไ้ ขคือ รฐั ควรใหก้ ารสนบั สนุนและหาตลาดมารองรบั 8. การอภิปรายผล ผลการศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผลิตเกลือสินเธาว์ ของประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบล รอบเมือง อำเภอเมอื ง จังหวดั ชยั ภมู ิ มปี ระเดน็ ทจี่ ะนำมาอภปิ รายผล ดงั นี้ 1.ผลการศึกษา พบว่า ประชาชนในชุมชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีภูมิปัญญาท้องถิ่นกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์ ระดับดีเยี่ยม ซึ่งตรงกับงานวิจัยของภูสิทธ์ ภูคำชะโนด (2560: บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาสังคมแห่งความสุขตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียงบนพื้นที่ผลกระทบนาข้าวและนาเกลือด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนอำเภอบ้านดุง จังหวั ด อุดรธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจภูมิสังคมปัญหาเดิมและปัญหาใหม่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบตลอด เส้นทางสายน้ำ 3 สาย ได้แก่ ลำห้วยหลวง ลำห้วยสงคราม ลำห้วยทวน และ 2 นา ได้แก่ นาข้าวและนาเกลอื วิเคราะห์การมีส่วนร่วม ในการมีส่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหาการรุกล้ำของนำ้ เคม็ จากการผลิตนาเกลอื สนิ เธาว์ และการประยุกต์ใช้หลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดำรงชวี ติ ของประชาชน รวมถงึ เพื่อสร้างภาพใน ~ 172 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏชยั ภมู ิ อนาคต รูปแบบและแนวทางการพัฒนา สังคมแห่งการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขของการอยู่ร่วมกันของ ประชาชนผู้ทำนาข้าวและนาเกลือโดยผลจากการศึกษา พบว่า ผู้คนมีความผูกพันต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบนั มากทัง้ เรอื่ งความผกู พันในสถานทมี่ คี วามรู้สึกวา่ เปน็ บ้าน และความรูส้ ึกรักชุมชนซึ่งสามารถสร้างความ กลมเกลียวเหนี่ยวแน่นของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี เมื่อต้องการแก้ไข ปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็มจากการ ผลิตนาเกลือสินเธาว์ ประชาชนให้ความร่วมมือดีมีส่วนร่วมมาก โดยเฉพาะด้าน การร่วมรับรู้และเข้าใจ ด้าน การร่วมคิดและแสดงความคิดเห็น แต่ขาดการลงมือทำ การร่วมดำเนินการอยู่เพียงใน ระดับปานกลางหย่อน ลงมาในระดับน้อย และพบวา่ ปญั หาเชิงพ้นื ท่ีทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากการทำนาเกลือยังคงอย่โู ดย ประชาชนต้อง ปรับตัวตามสภาวะที่เปล่ียนแปลงตลอดเวลา พร้อมกับต้องปรับตัวที่จะต้องค้นหานวัตกรรมหรือผลผลิต หรือ ผลิตภณั ฑ์ใหม่ ๆ สำหรบั การนำเกลือมาสร้างมูลค่าเพิม่ 2. ผลการศึกษา พบวา่ ประชาชนในชมุ ชนบ้านโนนกอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จงั หวัดชัยภูมิ มีปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในการผลิตเกลือสินเธาว์ควรปรับปรุง ซึ่งตรงกับงานวิจัยของสุทธิดา สุนทร โชติ , สาวิตรี รตโนภาส สุวรรณลี และไพบูลย์ บุญไชย (2560: บทคัดย่อ) ได้ศึกษา กระบวนการผลิตและ เส้นทางการคา้ เกลือสินเธาว์บ่อกฐิน จังหวัดขอนแก่น พบว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแอง่ เกลือรองรบั อยู่ใตด้ นิ เป็นโดมเกลือขนาดใหญ่ ทำให้มี การผลิตเกลือในระดับชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ งานวจิ ัยครง้ั นี้มวี ัตถุประสงค์ เพ่อื ศึกษาการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตและเส้นทางการคา้ ขายเกลือสินเธาว์ ในอดีตและ ปัจจบุ ัน บริเวณบ่อกฐิน จังหวัดขอนแก่น ผรู้ ู้ประวัติความเป็นมาการผลติ เกลือ จำนวน 9 คน และ ผูผ้ ลิตเกลอื สนิ เธาว์ จำนวน 8 ครัวเรอื น โดยใช้วิธีแบบเจาะจง เคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการวิจยั คือ แบบ สมั ภาษณ์เชงิ ลึกแบบไม่มีโครงสร้าง วิธีการสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการสนทนากลุ่ม ทำการ รวบรวมข้อมูลตำแหน่ง เส้นทางจากการคา้ เกลือจากเครอื่ งกำหนดตำแหน่งทัว่ โลก ผลการวจิ ัย พบวา่ ผลการเปล่ียนแปลงกระบวนการ เปลี่ยนแปลงการผลิต คือ การทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่โรงเรือน ฮางเกลือ ภาชนะต้มเกลือและตะกร้าใส่เกลือ กระบวนการผลิตทไี่ มเ่ ปลี่ยนแปลง คอื ฤดกู าล เชอื้ เพลิง และทัดทา และผลเสน้ ทางการค้าขายเกลอื สินเธาว์ใน อดีตมี 7 เส้นทางอยู่ใกล้กับแหลง่ ผลิต มีระยะทางประมาณ 97 กิโลเมตร ยานพาหนะเป็นเกวียน ราคาเกลือ 1 ปิ๊ป 12 กิโลกรัม เท่ากับ 3 – 5 บาท ปัจจุบันมีเส้นทางเพิ่มขึ้นเป็น 10 เส้นทาง มีระยะทางประมาณ 237 กิโลเมตร ยานพาหนะเป็นรถบรรทุก ราคาซอ้ื ขายเกลือ 1 ปบ๊ิ ราคา 150 – 200 บาท และแลกข้าวสาร 1 ป๊ิบ งานวิจัยเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองจากทรัพยากร ท้องถิ่น และ การผลิตเกลือสนิ เธาว์สามารถดำรงอยูค่ ูก่ บั ชุมชนได้อย่างย่ังยืน ~ 173 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ชัยภูมิ 9. ขอ้ เสนอแนะ 9.1 ข้อเสนอแนะการนำผลการวจิ ยั ไปใช้ 1. ผปู้ ระกอบการควรคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดจากการผลิตเกลือสินเธาว์ 2. หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งควรเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ 3. ภาครัฐควรใหก้ ารสนับสนุนในการทำโรงเรือนให้ 4. ภาครัฐควรหายตลาดไว้รองรบั ผลผลิตเกลอื สนิ เธาว์จากชาวบ้าน 9.2 ขอ้ เสนอแนะการวิจัยคร้งั ต่อไป 1. ควรมกี ารศึกษาวิจัยทางด้านของผลกระทบการแผ่กระจายดินเค็ม เนอื่ งจากการสลายตัวตามธรรมชาติของ หินอมเกลอื 2. ควรมกี ารศึกษากระบวนการปรบั ปรังดนิ เค็มหลงั จากการผลติ เกลือสนิ เธาว์ 10. บรรณานกุ รม เนตรนภา รัตนโพธานันท.์ (2556). ภูมิปญั ญาการผลิตเกลือในแอง่ ดินโคราช.(ออนไลน์). แหลง่ ที่มา : file:///C:/Users/Administrator/Downloads/92097-ไฟล์บทความ-228122-1-10-20170707%20 . (วนั ท่สี บื ค้นข้อมูล : 5 มถิ นุ ายน 2564). ประชารัฐ เพญ็ นภา ปาละปนิ . (2563). แบบแผนการพัฒนาเกลือสนิ เธาว์อำ เภอบา้ นดงุ เพอ่ื เป็นตน้ แบบ การบริหารจดั การทีด่ ีอยา่ งเป็นรปู ธรรมผา่ นกระบวนการ. (ออนไลน์). แหลง่ ทีม่ า : file:///C:/Users/Administrator/Downloads/225277.pdf. (วันทส่ี บื คน้ ข้อมูล : 5 มิถนุ ายน 2564). บำเพ็ญ ไชยรกั ษ.์ (2554 : 85). บทบาทของเกลือที่มีต่อนเิ วศวัฒนธรรมและสุขภาวะของชุมชนในลมุ่ น้ำ สงคราม. (ออนไลน)์ . แหลง่ ที่มา : https://doi.nrct.go.th/ListDoi/listDetail?Resolve_DOI=10.14457/SU.the.2011.622. (วนั ทส่ี บื ค้นขอ้ มูล : 5 มถิ ุนายน 2564). รตสิ มัย พิมยั สถาน. (2546 : 22). ภูมปิ ญั ญาการผลิตเกลือในแอง่ ดนิ โคราช. (ออนไลน์). แหล่งท่มี า : file:///C:/Users/Administrator/Downloads/92097-1-228122-1-10- 20170707%20(3).pdf. (วันท่ีสืบค้นข้อมูล : 12 มถิ นุ ายน 2564). รพวี รรณ์ พิมพจ์ ันทร์. (2557). ขนาดของกล่มุ ตวั อย่างทเี่ หมาะสม.(ออนไลน)์ . แหล่งทม่ี า : https://sites.google.com/site/bb24559r/khnad-khxng-klum-tawxyang-thi-hemaa-sm. (วนั ท่ีสบื คน้ ขอ้ มูล : 26 มิถุนายน 2564). เพ็ญนภา ปาละปนิ . (2560). การศกึ ษาปัญหาผลกระทบจากการรกุ ลำ้ ของน้ำเคม็ ในมิตทิ างสังคม เศรษฐกิจ และ สง่ิ แวดล้อม ในพื้นทีข่ องอำเภอบา้ นดงุ จังหวดั อดุ รธาน.ี มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา. (วันทสี่ ืบคน้ ขอ้ มูล : 5 มิถนุ ายน 2564). ~ 174 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชยั ภูมิ เพียงตา สาตรักษ์. (2546). การทำนาเกลือสนิ เธาว์ : สภาพปัญหาท่ยี ดื เยื้อในภาคอีสาน. (ออนไลน)์ . แหล่งทมี่ า : https://home.kku.ac.th/peangta/peangta-salt.htm. (วันทสี่ ืบคน้ ข้อมูล : 12 มถิ นุ ายน 2564). ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด. (2560). การพฒั นาสงั คมแห่งความสุขตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนพ้ืนท่ี ผลกระทบนาขา้ วและนาเกลือดว้ ยการมีส่วนรว่ มของประชาชน อำเภอบ้านดงุ จงั หวัดอุดรธานี. มหาวทิ ยาลัย ราชภฏั สวนสุนนั ทา. (วนั ทสี่ บื ค้นข้อมลู : 5 มิถุนายน 2564). สุทธิดา สุนทรโชติ , สาวติ รี รตโนภาส สวุ รรณลี และไพบลู ย์ บุญไชย. (2560). กระบวนการผลติ และเส้นทาง การค้าเกลอื สินเธาวบ์ ่อกฐนิ จังหวดั ขอนแกน่ . (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า : file:///C:/Users/Administrator/Downloads/199268-Article%20Text-605927-1-10- 20190629%20.pdf. (วนั ท่ีสืบค้นขอ้ มลู : 12 มิถนุ ายน 2564). อภิชาต บวั งาม, ไพศาล พากเพียร และประสทิ ธิ์ กลุ บญุ ญา. (2564:). แนวทางการฟ้ืนฟูอนรุ กั ษป์ ลาร้าบา้ น ปากนำ้ ตำบลกดุ ลาด อำเภอเมือง จังหวดั อุบลราชธาน.ี (ออนไลน)์ . แหล่งทม่ี า : file:///C:/Users/Administrator/Downloads/247003 -871285-1-10-20210227.pdf ~ 175 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งท่ี 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ชัยภมู ิ การมีสว่ นร่วมทางการเมอื งของนักศกึ ษาคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครศรีธรรมราช ณรงค์ สุขเพช็ ร (Narong Sookpech)1 จิตรลดา อินทรสวุ รรณ (Jitlada lntharasuwan)2 ชนกิ านต์ ใสยเกอ้ื (Chanikarn Saikuea)3 สมพงศ์ เรือนสูง (Sompong Ruansoong)4 บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 2) เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วม ทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จำแนก ตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะ มนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรธี รรมราช กลุ่มตวั อย่างทใี่ ช้ในการวจิ ัยครั้งนี้ คอื นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราช ภัฏนครศรีธรรมราช จำนวน 329 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) การหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบค่าที (t-test) เพื่อทดสอบสมมติฐานสำหรับกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม และทดสอบค่าเอฟ (f-test ) ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA สำหรับกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่มขึ้นไป ส่วน คำถามปลายเปิดในแบบสอบถามจะทำการวเิ คราะหเ์ นื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นราย ด้าน พบว่า นกั ศึกษามีส่วนรว่ มทางการเมอื งในด้านการใหข้ ้อมูลและรับข้อมลู มากทสี่ ดุ รองลงมามีส่วนร่วมใน ดา้ นการณรงค์ทางการเมือง ส่วนในด้านการแสดงความสนใจต่อกิจกรรมทางการเมืองการมีสว่ นรว่ ม นอ้ ยที่สุด 2) เปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมทางเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครศรีธรรมราช ตามปัจจยั สว่ นบุคคล พบว่า เพศ และอายุ ท่ีแตกตา่ งกัน การมสี ว่ นรว่ มทางการเมือง 1 นักศกึ ษาสาขาวชิ ารฐั ประศาสนศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครศรธี รรมราช E-mail : [email protected] 2 นกั ศึกษาสาขาวชิ ารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครศรีธรรมราช E-mail : [email protected] 3อาจารย์ประจำสาขาวิชารฐั ประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครศรีธรรมราช E-mail : [email protected] 4 อาจารยป์ ระจำสาขาวิชารฐั ประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครศรธี รรมราช E-mail : [email protected] ~ 176 ~
การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชัยภูมิ ของนกั ศึกษาไม่แตกต่างกนั ส่วนประเภทนกั ศกึ ษา ช้นั ปี สาขาทเี่ รยี น และเกรดเฉลี่ย ท่แี ตกตา่ งกันมีส่วนร่วม ทางการเมืองของนักศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3) ปัญหาและอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วม ทางการเมอื งของนกั ศึกษาคณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรธี รรมราช คอื การมี สว่ นร่วมบางรปู แบบเช่น การชุมนุมประทว้ งตามพ้ืนท่ีสาธารณะต่างๆนักศึกษาไม่กล้าแสดงตวั ตนเน่ืองจากกลัว กระทบต่อสถานภาพนักศึกษา หรือกลัวว่าขัดต่อระเบียบสถาบันการศึกษา รวมถึงเกรงว่าจะมีปัญหากับ อาจารย์และเพ่ือนทม่ี คี วามคิดแตกต่างกันจากตนเอง คำสำคญั : การมสี ่วนร่วม; การเมอื ง; นักศึกษา ~ 177 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชยั ภมู ิ Political Participation of Nakhon Si Thammarat Rajbhat University Faculty of Humanities and Social Sciences’ Students Abstract The research aimed to 1) Study the political participation levels of Nakhon Si Themmarat Rajabhat University Faculty of Humanities ane Socail Sciences’ students 2) Compare the political participation of tne NSTRU Faculty of Humanities ane Socail Sciences’ students classified by individual factors 3) Find out the problems and obstacles towards the political participation of NSTRU Faculty of Humanities ane Socail Sciences’ students The samplings were those 329 students of NSTRU Faculty of Humanities ane Socail Sciences. The research tool was a guestionnaire. The statistics employed/ were percentage,mean,standard deviation, t- test and f- test one way ANOVA. The open-ended guestions were content analysized. The study findings were 1) The political participation of the students ; in general, was moderate. When considering from each domain, the political providing and receiving participation was the most ; the political campaign participation the second ; and the political activities interests the least 2) the comparison of the levels in political participation of different ; whereas , different types of stdents , years of study and fields of study and GPA were statistically significant 3) The students’ gatherings for the political protest participation especially in public areas were the constraints and problems of the students due to the prone offended to the University’s rules of laws as well as to the lectures’ penalty and fellow friends’ disapproved Keyword: participation; politics; student ~ 178 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 1. บทนำ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยได้มากขึ้นตามที่รัฐบาลกลางได้กระจายอำนาจให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่นิ และประชาชนมสี ว่ นร่วมในทางการเมืองตามระบอบประชาธปิ ไตยได้ถกู บรรจไุ ว้ในมาตรา 247 ถึง 254 ในหมวด 14 ของรฐั ธรรมนูญฉบับปีพทุ ธศักราช 2560 ซ่ึงนบั ว่าเป็นการกระจายอำนาจจากสว่ นกลางไปสู่ ท้องถิ่นที่เอื้อต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยได้เป็นอย่างดีอีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามี ส่วนรับผิดชอบและการเรียนรู้การปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อร่วมกันคิดร่วมกันทำพัฒนาท้องถิ่นของตนเองการ พัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยขึ้นกับการพัฒนาชุมชนในการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างน้อย จะต้องมี 4 มิติมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันโดยการมีการเมืองเป็นฝ่ายบริหารจัดการประเทศตั้งแต่ ชุมชนท้องถิ่นถึงระดับชาติการเมืองเป็นเรื่องอำนาจจัดสรรผลประโยชน์ในสังคมเป็นตัวกำหนดกิจกรรมของ สังคมนั้น ๆ ในทุกแง่ทุกมุมโดยอำนาจจัดสรรผลประโยชน์ในสังคมนั้น ๆ จะต้องเป็นธรรมและยั่งยืนการ เมอื งไทยในระบอบประชาธิปไตยไดเ้ ลือกรูปแบบการควบอำนาจ (Fusion of Power) โดยทวั่ ไปเรยี กว่าระบบ รัฐสภา (Parliamentary System) เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาจากประเทศ อังกฤษโดยที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและเป็นสัตว์การเมือง“ ไม่ว่าคุณจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ แต่ การเมืองจะเกี่ยวข้องกับชีวิตคุณแน่นอน” นั้นก็คือการเมืองจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับชีวิตและการดำรงชีวิตทุก ด้านทุกมิติเศรษฐกิจสังคมและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมการเมืองจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาท้องถิ่น ซ่งึ เป็นรากฐานสำคญั ต่อการพฒั นาประเทศในภาพรวม (สถาบันพระปกเกลา้ , 2560 : 73-75) อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับกันว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นรูป แบบการปกครองที่ดี ที่สุดเนื่องจากเป็นการปกครองโดยถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็น เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาระบบการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยเพราะการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็น ตัวชี้วัดที่สำคัญประการหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยสังคมใดที่จะมีระดับความเป็นประชาธิปไตยสูงหรือต่ำ พจิ ารณาได้จากการมสี ว่ นรว่ มทางการเมืองของประชาชนสังคมทปี่ ระชาชนมีระดบั การมีสว่ นร่วมทางการเมือง สูงย่อมมีระดับความเป็นประชาธิปไตยสูงในทางตรงกันข้ามสังคมใดประชาชนมีระดับการมีส่วนร่วมทางการ เมอื งต่ำแสดงว่าสังคมนน้ั มีระดับความเป็นประชาธิปไตยต่ำรฐั ธรรมนูญฉบับต่างๆของไทยในอดีตที่ผ่านมาเปิด โอกาสให้ทุกคนที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์เป็นผู้มีสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกตั้งผู้แทนของตน แต่ในความเป็นจริง แล้วจะเหน็ ว่าผ้ทู ี่อายุต่ำกว่า 20 ปีท่อี ยู่ในวัยกำลังศกึ ษาไดแ้ สดงออกถงึ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อให้เกิด การเปล่ียนแปลงระดับชาตหิ ลายครงั้ เปน็ ต้น (สุจิต บุญบงการ, 2551 : 14) การมีส่วนร่วมทางการเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2563 เป็นการประท้วงที่กำลังดำเนินอยู่ต่อรัฐบาล นายกรฐั มนตรีและอดีตหวั หน้าคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แรกเร่ิมเกิดจากคำ วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 การประท้วงเกิดขึ้นในพื้นที่ สถานศึกษาทั้งหมด และหยุดไปช่วงหนึ่งจากการระบาดทัว่ ของโควิด-19 ในประเทศไทย การประท้วงกลับมา อุบัติขึ้นอีกครั้งในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ในรูปแบบการเดินขบวนซึ่งจัดระเบียบภายใต้กลุ่ม \"เยาวชนปลด ~ 179 ~
การประชุมวชิ าการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครั้งที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจัดการศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชัยภมู ิ แอก\" ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นับเป็นการชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 6 ปี มีการยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประการต่อ รัฐบาล ได้แก่ ให้ยุบสภาผ้แู ทนราษฎร หยดุ คุกคามประชาชน และรา่ งรัฐธรรมนญู ฉบับใหม่ (วิกิพีเดีย, 2563) จะเห็นได้วา่ บรบิ ทสังคมการเมอื งไทย เยาวชน นิสิต นกั ศึกษา ในระดบั อดุ มศึกษาไดม้ ี บทบาทสําคัญ มีส่วนร่วมเป็นหลักเป็นแนวหนา้ และเป็น “กลุ่มพลังทางการเมือง” ที่ช่วยกระตุ้นให้ การมีส่วนร่วมพฒั นาทาง การเมืองและพัฒนาประชาธิปไตยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน นิสิต นักศึกษา ที่มาจาก สถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนการกล่อมเกลาทางการเมือง ซึ่งมหาวิทยาลัยเหล่านี้ มีการ จัดการเรียนการสอนในสาขาวิชารัฐศาสตร์เพื่อ ปลูกฝังให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา ได้เรียนรู้วัฒนธรรมทาง การเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัฒนธรรม ทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมเพื่อนํามาใช้ในการพัฒนาการเมืองการ ปกครองของไทยให้มคี วามเป็น ประชาธปิ ไตยที่แทจ้ ริง นอกจากนี้การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนในจังหวัด นครศรีธรรมราช ยงั ออกมารว่ มชมุ นุมทีบ่ ริเวณสนามหน้าเมืองนครศรธี รรมราช มีการจัดกิจกรรมการเมือง ใช้ ชื่อว่า “คนคอนไม่ทน” โดยมีกลุ่มเยาวชน จากสถาบันอุดมศึกษา และโรงเรียนมัธยมศึกษา ในจังหวัด นครศรธี รรมราช นดั กันแตง่ ชุดดำ ชมุ นมุ เรียกรอ้ งขบั ไล่รัฐบาล พร้อมชปู้ า้ ยข้อความต่างๆ จำนวนมาก โดยยื่น ขอ้ เรียกรอ้ งใหร้ ฐั บาลยบุ สภา หยดุ คกุ คามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อย่างไรก็ตาม การชุมนมุ ครง้ั น้ไี ม่ มีแกนนำ แต่มีการสลับตะโกนด่ารัฐบาลต่างๆ นานา และส่งเสียงโห่ขับไล่รัฐบาลเผด็จการตลอดเวลา โดยมี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายสิบนาย คอยสังเกตการณ์รักษาความสงบบริเวณชุมนุม ประทว้ งตลอดเวลา นอกจากน้ี ส่วนหนงึ่ ของกลุม่ ผู้ชมุ นมุ ประท้วงยังตะโกนว่าตำรวจ คกุ คามข่มขู่เด็กนักเรียน มัธยมโรงเรียนแหง่ หนึ่ง ที่ออกมาเคลื่อนไหวเชิญชวนให้ประชาชน และเยาวชนออกมาชุมนุมขับไลร่ ฐั บาลคร้ัง นดี้ ้วย โดยเหตุการณ์ชมุ นุมเป็นไปดว้ ยความสงบเรยี บรอ้ ย ดังนั้น ผู้วิจัยเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะศึกษาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะ มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช เพอ่ื ศกึ ษาวา่ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตรม์ สี ว่ นร่วมทางการเมืองมากน้อยเพียงใด และเป็นแนวทางในการส่งเสรมิ ใหน้ ักศึกษาตระหนัก ถึงความสำคัญของการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามากยิ่งขึ้น อีกทั้งส่งเสริมให้นักศึกษามี วัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วม อันเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยของไทย ขณะเดียวกันสถาบันสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการจดั กิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้น ส่งเสริม หรือสนับสนุนให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ สถาบันอ่นื ๆ ในการสง่ เสริมการเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมอื งมากยิ่งขนึ้ 2. วัตถุประสงคข์ องการวิจัย การศึกษาวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนูษย์สาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช ผู้วจิ ัยไดท้ ำการกำหนดวัตถุประสงคข์ องการวจิ ัยไว้ 3 ประการ ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครศรีธรรมราช ~ 180 ~
การประชุมวิชาการราชภฏั รัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศึกษาไทยในยุค New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ชยั ภมู ิ 2. เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จำแนกตามปัจจยั ส่วนบคุ คล 3. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครศรธี รรมราช 3.ประโยชน์ของการวจิ ัย 1. ได้ทราบถึงระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช 2.ไดท้ ราบถงึ ผลเปรียบเทยี บปัจจัยส่วนบคุ คลของนกั ศึกษาว่ามีความแตกตา่ งในการมีสว่ นรว่ มทางการ เมืองหรอื อไมอ่ ย่างไร 3. ได้ทราบถงึ ปัญหาและอปุ สรรคตอ่ การมสี ว่ นร่วมทางการเมอื งของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และ สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครศรธี รรมราช 4. นำผลวิจัยไปเป็นแนวทางในการส่งเสริมให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการเข้ามามีส่วน ร่วมทางการเมืองของนักศึกษามากยิ่งขึ้น อีกทั้งส่งเสริมให้นักศึกษามีวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วม อนั เปน็ รากฐานสำคญั ในการพัฒนาการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย 4.สมมติฐานของการวิจยั การศกึ ษาวิจยั ครง้ั น้ไี ดต้ งั้ ข้อสมมติฐานไว้ดงั นี้ 1.การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราช ภัฏนครศรธี รรมราช อยูใ่ นระดบั ปานกลาง 2.การมีส่วนร่วมทางการเมืองนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช มีความแตกตา่ งกันตามปจั จัยสว่ นบคุ คล 5.ขอบเขตของการวจิ ัย 5.1 ขอบเขตดา้ นเนอ้ื หา การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครศรธี รรมราช 5.2 ขอบเขตดา้ นตวั แปร ผู้วิจัยได้กำหนดตัวแปรท่วี จิ ยั ในคร้ังนปี้ ระกอบด้วย ตวั แปรตน้ และตวั แปรตาม 1 ตัวแปรต้น คือ ปัจจัยส่วนบุคคลของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 2 ตวั แปรตาม คอื การมสี ่วนรว่ มทางการเมืองของนักศกึ ษาคณะมนษุ ยศาสตร์ ~ 181 ~
การประชุมวชิ าการราชภัฏรัฐศาสตรแ์ ละรัฐประศาสนศาสตรแ์ หง่ ชาติ ครัง้ ที่ 4 (ออนไลน)์ ประจาปี 2564 “การจดั การศกึ ษาไทยในยคุ New Normal” คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏชัยภมู ิ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรธี รรมราช 5.3 ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 1 ประชากร คือ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช จำนวน 2,277 คน (สำนักงานส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช, 2563) 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎ นครศรีธรรมราช จำนวน 329 คน ได้มาโดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรเครจซีและมอร์แกน (อ้างถึง ใน มุครินทร์ สงคง, 2556 : 57) 5.4 ขอบเขตด้านพ้นื ที่ การวจิ ยั คร้งั น้ศี กึ ษาในพน้ื ท่ีมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช 5.5 ขอบเขตด้านระยะเวลา การศึกษางานวิจยั ครัง้ นี้ผูว้ ิจัยได้ศกึ ษาการมสี ่วนรว่ มทางการเมืองของนักศกึ ษา คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ผู้วิจัยได้กำหนดระยะเวลาไว้ตั้งแต่เดือน มกราคม - เมษายน พ.ศ. 2564 6.วิธีดำเนินการวิจัย 6.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรธี รรมราช ดังน้ันผวู้ ิจยั ไดใ้ ช้ประชากรท้ังหมดมาทำการกำหนดกลุ่มตัวอย่าง (simple size) โดยใช้สูตร เครจซีและมอรแ์ กน (krejcie and Morgan) (อ้างถึงใน มุครินทร์ สงคง,2556 : 57) ดังน้ี x2NP(1 − P) e2(N − 1) + x2P(1 − P) n = ขนาดของกลมุ่ ตัวอยา่ ง N = ขนาดของประชากร e = ระดับความคลาดเคล่ือนของการส่มุ ตวั อย่างทีย่ อมรบั ได้ x2= คา่ ไคสแควรท์ ี่df เท่ากับ 1 และระดับความเช่ือม่ัน 95% (������2=3.841) P = สดั สว่ นของลักษณะท่ีสนใจในประชากร (ถ้าไม่ทราบใหก้ ำหนด P = 0.5 ประชากรที่กำหนดข้างต้นมี จำนวน 2,277 คน ดังนั้นแทนจำนวนสมาชิกในสูตรข้างต้นจะได้ กลุ่มตัวอยา่ ง ดงั นี้ ~ 182 ~
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 516
Pages: