การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคด์ า้ นใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชี้วัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ชวี้ ัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน 4.1.1 ตัง้ ใจเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1.2 เอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ 4.2.1 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เทคโนโลยีต่างๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสิ่งที่เรียนรู้ สรุป ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนาไปใช้ เปน็ องค์ความรู้ ในชีวติ ประจาวันได้ 4.2.3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ้สู อน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี 32 1 ตามข้อ 4.1 – 4.2 เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก บอ่ ยครัง้ เปน็ บางครัง้ โรงเรยี นเป็นประจา
ระดบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดเี ย่ยี ม 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยู่ในระดบั ผ่าน 1 อยูใ่ นระดับ ไมผ่ า่ น 0 อยู่ในระดับ หมายเหตุ นักเรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์
การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) แบบประเมนิ การปฏิบตั กิ ิจกรรมการคานวณ รายช่ือสมาชกิ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชแี้ จง: ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียน แล้วขีด ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน 3 21 1.การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา 2.เลือกสตู รที่เหมาะสมและสัมพนั ธ์กับ โจทย์ 3.การแทนค่าและแสดงวธิ ีหาคาตอบ 4.ตรวจสอบคาตอบของโจทย์ และระบุ หนว่ ยได้ชัดเจน รวมคะแนน ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน ดมี าก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ดมี าก 9 – 12 อย่ใู นระดบั ดี 5 – 8 อย่ใู นระดับ พอใช้ 1 – 4 อยู่ในระดบั
การประเมินดา้ นเจตคติ (A) แบบประเมินการมีความอยากร้อู ยากเหน็ รายช่ือสมาชิก…………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชีแ้ จง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะเสาะ แสวงหาความรู้ในสถาน การณ์ใหม่ๆ ตระหนักถึง ความสาคัญของการแสวงหา ข้อมูลเพิ่มเติม และช่างซัก ช่างถาม ช่างอ่าน เพื่อให้ได้ คาตอบเป็นความรู้ที่สมบูรณ์ แบบย่งิ ขึ้น รวมคะแนน ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อย่ใู นระดบั พอใช้ 1 อยู่ในระดบั
การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ใฝ่เรียนรู้) นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 คาชแ้ี จง: ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอื่ - นามสกลุ คะแนน 1 ท่ี 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ดเี ยย่ี ม 3 อยู่ในระดับ ดี 2 อยใู่ นระดับ ผ่าน 1 อยใู่ นระดบั ไมผ่ า่ น 0 อยูใ่ นระดบั หมายเหตุ นกั เรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์
บนั ทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ผลการจัดกจิ กรรม ตารางท่ี 1 ผลการประเมินด้านความรู้ (K) ลาดบั ที่ ระดบั ช้นั จานวน ดมี าก (4) สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรยี น รวม ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางท่ี 2 ผลการประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (P) ลาดับท่ี ระดบั ช้ัน จานวน สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรียน ดมี าก (9 – 12) ดี (5 – 8) พอใช้ (1 – 4) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 รวม 3 ม.6/4 4 ม.6/5
บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลการจดั กจิ กรรม ตารางท่ี 3 ผลการประเมนิ ดา้ นเจตคติ (A) ลาดบั ที่ ระดับชนั้ จานวน ดีมาก (3) สรุปผลการประเมนิ พอใช้ (1) รวม นกั เรยี น รวม ดี (2) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางที่ 4 ผลการประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ลาดับที่ ระดับชน้ั จานวน ดมี าก (3) สรุปผลการประเมิน ไม่ผา่ น (0) รวม นักเรียน รวม ดี (2) ผา่ น (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5
บันทึกหลังการสอน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ผลการสอน ด้านความร้.ู ................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ด้านทกั ษะ.................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ด้านเจตคต.ิ .................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ด้านสมรรถนะ.................................................................................................................. ................................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค.์ ............................................................................................................ ............... ปัญหา/อปุ สรรค................................................................................................................ .................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ แนวทางการแกไ้ ข............................................................................................................... ................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ หมายเหต.ุ .................................................................................................................... ........................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... ลงชื่อ..........................................................ผ้สู อน (.............................................................) ........./........................./.........
ใบงานที่ 1.12 การผลติ ไฟฟ้ากระแสสลับ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายหลักการทางานของเครื่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส และการส่งไฟฟ้า กระแสสลบั ไปตามบา้ นเรือนได้ (K) 2. นกั เรยี นคานวณหาคา่ พลงั งานท่ีสูญเสียไปในสายไฟฟา้ เม่อื ส่งด้วยความต่างศกั ยไ์ ด้ (P) 3. ความใฝ่เรียนรูแ้ ละอยากรอู้ ยากเหน็ (A) คาชแี้ จง : ตอนที่ 1 ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ กู ต้อง 1) การผลติ ไฟฟ้ากระแสสลบั โดยเคร่ืองกาเนดิ ไฟฟ้าน้นั เปน็ การเปลีย่ นพลังงานกลเป็นพลังงานอะไร ตอบ................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................ 2) การผลิตไฟฟ้ากระแสสลับโดยเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้า ทาได้อยา่ งไร ตอบ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................... ... ........................................................................................................................................................................ 3) การผลิตไฟฟา้ กระแสสลบั ด้วยเครอ่ื งกาเนิดไฟฟา้ ทมี่ ีขดลวด 1 ชดุ ไฟฟ้ากระแสสลับที่ผลติ ไดจ้ ะถกู ส่งจาก เครอ่ื งกาเนดิ ดว้ ยสายส่ง 2 เส้น เรียกระบบไฟฟา้ น้วี า่ ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ 4) จากข้อ 3) แต่โรงไฟฟา้ จะใช้เครอ่ื งกาเนิดไฟฟ้าท่ีมีขดลวด 3 ชดุ ในการหมนุ แม่เหล็กแตล่ ะรอบทาให้ สามารถผลิตไฟฟา้ กระแสสลบั ออกมาท้งั 3 ชุด เรยี กระบบไฟฟ้านวี้ ่า ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ 5) เคร่อื งกาเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั ทใี่ ชง้ านตามโรงไฟฟ้าจะเปน็ เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ากี่เฟส และมีขดลวดตวั นาอยู่กช่ี ดุ ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................
6) จากกราฟความต่างศกั ยแ์ ละกระแสไฟฟ้าของตวั ตา้ นทานกับเวลาขา้ งตน้ อยากทราบว่าความตา่ งศักย์ และกระแสไฟฟ้าของไฟฟ้ากระแสสลบั เปลยี่ นแปลงอย่างไร ตอบ........................................................................................................................................................ ......... ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ 7) ในการผลติ ไฟฟ้ากระแสสลับจากเครื่องกาเนิดไฟฟา้ 3 เฟส ประกอบด้วยสายไฟฟ้ากเ่ี ส้น ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ 8) จงบอกขอ้ ดีของการผลติ และการสง่ ไฟฟา้ 3 เฟส ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ................................ 9) ถ้าต้องการให้สญู เสยี กาลงั ไฟฟ้าในสายไฟฟา้ น้อย จะตอ้ งให้กระแสไฟฟา้ ทผ่ี า่ นสายไฟฟ้ามีคา่ อย่างไร ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ 10) การส่งกาลงั ไฟฟา้ ปริมาณมากจากโรงไฟฟ้าผ่านสายไฟฟา้ เปน็ ระยะทางไกลให้มีการสญู เสียกาลงั ไฟฟ้าใน สายไฟฟา้ อย่างไร จะตอ้ งสง่ กาลงั ไฟฟา้ ด้วยกระแสไฟฟ้าน้อย จึงตอ้ งใช้ความต่างศักยส์ งู ตอบ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................
คาชี้แจง : ตอนท่ี 2 ให้นักเรียนคานวณหาค่าพลังงานที่สูญเสียไปในสายไฟฟ้า เมื่อส่งด้วยความต่างศักย์จาก โจทย์ท่ีกาหนดให้ต่อไปนี้ การส่งกาลังไฟฟ้า 13.2 กิโลวัตต์ จากต้นทาง ถ้ากาหนดให้สายไฟฟ้าที่ใช้ส่งมีความต้านทาน 0.5 โอห์ม หากส่งกาลงั ไฟฟ้าจานวนนเ้ี ป็นเวลา 10 วนิ าที จงหาพลงั งานท่สี ูญเสยี ไปในสายไฟฟ้า เม่ือส่งด้วยความ ตา่ งศักย์ต่อไปนี้ ก. 220 โวลต์ ข. 22000 โวลต์ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ........................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 13 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว30205 รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ แม่เหลก็ และไฟฟ้า เร่อื ง หลกั การทางานของหมอ้ แปลง วนั ท…่ี …….เดือน……………พ.ศ……………… เวลา……………………น. จานวน 2 ชว่ั โมง ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ผูส้ อน นางสาวไขม่ ุก สุพร สาระฟิสกิ ส์ 3. เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคลู อมบ์ สนามไฟฟ้า ศกั ยไ์ ฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และกฎของ โอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงาน ไฟฟ้าและกาลังไฟฟ้า การเปล่ียนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทากับประจุไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้าและกฎ ของฟาราเดย์ ไฟฟา้ กระแสสลับ คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้าและการสือ่ สาร รวมทัง้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ อธิบายหลักการทางานและประโยชน์ของเครื่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส การแปลงอีเอ็มเอฟ ของหมอ้ แปลง และคานวณปรมิ าณต่างๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธบิ ายหลกั การทางานของหมอ้ แปลงได้ (K) 2. นักเรียนคานวณหาปริมาณตา่ งๆ ท่ีเกี่ยวข้องได้ (P) 3. ความใฝ่เรยี นรู้และอยากรูอ้ ยากเห็น (A) สาระการเรียนรู้ หม้อแปลงประกอบด้วยขดลวด 2 ชดุ พนั อยู่บนแกนเหล็กเดยี วกนั โดยขดลวดทใี่ ช้ต่อกับแหล่งกาเนิด ไฟฟ้าเรยี กวา่ ขดลวดปฐมภูมิและขดลวดท่ใี ช้ต่อกบั เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า เรียกว่าขดลวดทุติยภูมิ เมื่อต่อขดลวด ปฐมภูมิกับไฟฟ้ากระแสสลับเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนา ������1 ในขดลวดปฐมภูมิ จะเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนา ������2 ใน ขดลวดทุตยิ ภมู ิ ซ่ึงสัมพันธ์กบั จานวนรอบของขดลวดปฐมภูมิ ������1 และทุติยภมู ิ ������2ตามสมการ ������2 = ������2 ������1 ������1 หาก ������2 > ������1 จะได้ ������2 > ������1 เรียกหม้อแปลงขึ้น และถา้ ������2 < ������1จะได้ ������2 < ������1 เรยี กหมอ้ แปลงลง
สาระสาคญั หมอ้ แปลง อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้เปลี่ยนความต่างศักย์หรืออีเอ็มเอฟของไฟฟ้ากระแสสลับ คือ หม้อแปลง (Transformer) โดยมีทั้งแบบที่เปลี่ยนให้ความต่างศักย์สูงขึ้น และแบบที่เปลี่ยนความต่างศักย์ให้ต่าลง เพื่อให้เหมาะสมกับการนาไปใช้งานดังรูป หม้อแปลงประกอบด้วยขดลวดท่ีมีฉนวนหุม้ พันบนแกนเหล็ก 2 ขด และเขียนสัญลกั ษณ์แทนหม้อแปลงได้ รปู หม้อแปลง ขดลวดที่ต่อกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า เรียกว่า ขดลวดปฐมภูมิ (primary winding) ขดลวดที่ต่ออยู่กับ อุปกรณ์ท่ใี ช้ไฟฟ้า เรยี กว่า ขดลวดทตุ ิยภูมิ (secondary winding) รูปการจัดอุปกรณ์ทดสอบ ต่อแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับเข้ากับขดลวด 100 รอบ และนาหลอดไฟต่อกับขดลวด 200 รอบ เปิดสวิตซ์ให้แหล่งกาเนิดไฟฟ้าทางาน พบว่าหลอดไฟสว่าง แต่เมื่อสลับด้าน โดยต่อแหล่งกาเนิดไฟฟ้า กระแสสลับเข้ากับขดลวด 200 รอบ และนาหลอดไฟต่อกับขดลวด 100 รอบ เมื่อเปิดสวิตซ์ให้แหล่งกาเนิด ไฟฟ้าทางาน พบว่าหลอดไฟสว่าง แต่จะมีความสว่างน้อยกว่ากรณีก่อนหน้าจากสถานการณ์ดังกล่าว พบว่า เมื่อต่อแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับเข้ากับขดลวดปฐมภูมิจะเห็นว่าหลอดไฟที่ต่ออยู่กับขดลวดทุติยภูมิจะ สว่างทั้งสองครั้ง แต่เมื่อหลอดไฟต่ออยู่กับขดลวด 200 รอบ จะมีความสว่างมากกว่า ตอนที่ต่ออยู่กับขดลวด 100 รอบ ความสว่างของหลอดไฟขึน้ อยู่กับความตา่ งศักย์และกระแสไฟฟ้าจากขดลวดทุติยภูมิที่ผ่านหลอดไฟ ซึง่ มคี วามสมั พันธก์ บั จานวนรอบของขดลวดปฐมภูมิและขดลวดทุตยิ ภมู ิอย่างไร ศกึ ษาได้ดงั น้ี เนื่องจากขดลวดปฐมภูมิและขดลวดทตุ ิยภูมิมีแกนเหล็กร่วมกนั ทาให้ฟลกั ซ์แมเ่ หล็กท่ีผ่านขดลวดทั้ง สอง มีอัตราการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็ก (∆������ ) เท่ากัน เมื่อกระแสไฟฟ้าจากแหล่งกาเนิดไฟฟ้ามีการ เปลี่ยนแปลง จะทาให้เกิดฟลักซ์แม่เหล็กเปลี่ยนแปลงในขดลวดทั้งสอง เกิดอีเอ็มเอฟ ������1 ที่ขดลวดปฐมภูมิ และอีเอม็ เอฟ ������2 ทขี่ ดลวดทตุ ยิ ภูมิ ซ่ึงเก่ยี วข้องกบั จานวนรอบของขดลวดดงั น้ี ถ้าขดลวดปฐมภมู ิมจี านวน ������1 รอบ และขดลวดทุติยภูมจี านวน ������2 รอบ อีเอม็ เอฟท่สี ัมพันธ์กับการ เปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กในขดลวดทั้งสองตามกฎการเหนี่ยวนาของฟาราเดย์ เป็นดังสมการที่ขดลวดปฐม
ภูมิ ������1 = ������1 |∆∅| ที่ขดลวดทุติยภูมิ ������2 = ������2 |∆∅| จากสมการทั้งสอง จะได้ว่า ������2 = ������2 ถ้าจานวน ∆������ ∆������ ������1 ������1 รอบ ������2 > ������1 จะทาใหอ้ ีเอม็ เอฟหรือความตา่ งศักย์ทางด้านขดลวดทุตยิ ภูมิมากกวา่ ทางดา้ นขดลวดปฐมภูมิ เรียกหมอ้ แปลงลักษณะนี้ หมอ้ แปลงขึ้น (Step-up transformer) ลักษณะตรงข้ามกันนี้ ถ้า ������2 < ������1 จะได้อีเอ็มเอฟหรือความต่างศักย์ทางด้านขดลวดทุติยภูมิน้อย กวา่ ทางด้านขดลวดปฐมภูมิ เรยี กหมอ้ แปลงน้วี ่า หมอ้ แปลงลง (Step-down transformer) สมรรถนะสาคัญ ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคดิ สงั เคราะห์ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (จติ วทิ ยาศาสตร์) ความใฝ่เรียนรู้และมีความอยากรู้อยากเห็น นักเรียนแสดงออกถึงความตั้งใจความต้องการที่จะรู้และ เสาะแสวงหาความรเู้ กีย่ วกับสิง่ ต่างๆ ทีสนใจหรอื ต้องการคน้ พบสง่ิ ใหม่ แสดงออกไดโ้ ดยการถามคาถาม หรือมี ความสงสัยในสิ่งที่สนใจอยากรู้ มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่สนใจ เพียร พยายามในการเรียนและการทากจิ กรรมต่างๆ แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ อยเู่ สมอ โดยการเลือกใช้ สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และ นาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ ช้ินงาน/ภาระงาน ใบงานที่ 1.13 หลกั การทางานของหม้อแปลง กิจกรรมการเรยี นรู้ วธิ สี อนใช้รูปแบบวงจรการเรยี นรู้ 5 ขน้ั ตอน (5E Learning Cycle model) ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั สร้างความสนใจ ( 15 นาที ) 1. ครูทบทวนบทเรียนทีผ่ า่ นมา เรือ่ ง การผลิตไฟฟา้ กระแสสลบั และสมการท่เี กย่ี วข้อง 2. ครตู ้งั คาถามเพ่อื นาเข้าสู่การทากจิ กรรม เรื่อง หม้อแปลง ดงั นี้ - หากนาขดลวดปฐมภมู ขิ องหม้อแปลงต่อเขา้ กบั แหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ หลอดไฟฟ้าที่ต่อ อยูก่ ับขดลวดทตุ ิยภมู ิจะมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร (แนวคาตอบ ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบที่ ถกู ต้อง)
ข้นั ที่ 2 ข้นั สารวจและค้นหา ( 45 นาที ) 3. ครูชี้แจงจุดประสงค์และวิธีการปฏิบัติกิจกรรมให้นักเรียนทราบ ตามรายละเอียดในใบงานที่ 1.13 หลักการทางานของหม้อแปลง 4. ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนคานวณคา่ การผลิตไฟฟ้ากระแสสลับจากโจทย์ทีก่ าหนดให้ 5. นักเรียนลงมือปฏบิ ตั ิกจิ กรรม และรายงานผล ขัน้ ท่ี 3 ขั้นสร้างคาอธบิ ายและลงขอ้ สรุป ( 30 นาที ) 6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหน้าชน้ั 7. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายเพ่อื นาไปส่กู ารสรปุ โดยใชค้ าถามตอ่ ไปนี้ - อุปกรณไ์ ฟฟ้าที่ใช้เปลี่ยนความตา่ งศกั ย์หรืออีเอม็ เอฟของไฟฟ้ากระแสสลบั คืออะไร (แนวคาตอบ หมอ้ แปลง(transformer)) - หมอ้ แปลง (transformer) มีก่ีแบบ อะไรบ้าง (แนวคาตอบ มี 2 แบบ คือ แบบที่เปลี่ยนให้ความต่างศักย์สูงขึ้น และแบบที่เปลี่ยนความต่าง ศักยใ์ ห้ตา่ ลง) - ขดลวดท่ีตอ่ กับแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ เรยี กวา่ อะไร (แนวคาตอบ ขดลวดปฐมภูมิ (primary winding)) - ขดลวดทตี่ อ่ อยูก่ บั อุปกรณ์ท่ีใชไ้ ฟฟ้า เรียกวา่ อะไร (แนวคาตอบ ขดลวดทตุ ิยภูมิ (secondary winding)) - ความสว่างของหลอดไฟข้ึนอยกู่ บั คา่ ใดบา้ ง (แนวคาตอบ ความสว่างของหลอดไฟข้ึนอยู่กับความต่างศักย์และกระแสไฟฟ้าจากขดลวดทุติย ภมู ทิ ีผ่ า่ นหลอดไฟ) 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ เรื่อง หลักการทางานของหม้อแปลง ดังน้ี หม้อแปลง ประกอบด้วยขดลวด 2 ชุด พันอยู่บนแกนเหล็กเดียวกัน โดยขดลวดที่ใช้ต่อกับแหล่งกาเนิดไฟฟ้า เรียกว่า ขดลวดปฐมภูมิ และขดลวดที่ใช้ต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เรียกว่า ขดลวดทุติยภูมิ เมื่อต่อกับขดลวดปฐมภูมิกับ ไฟฟ้ากระแสสลับจะเกดิ อีเอม็ เอฟเหนีย่ วนาในขดลวดทตุ ยิ ภูมิ ซึง่ มคี วามสัมพันธ์ตามสมการ ������2 = ������2 ������1 ������1
ขน้ั ที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ ( 15 นาที ) 9. ครูตั้งประเด็นคาถามเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนร่วมกันคิดและอภิปรายในประเด็นคาถามที่ได้ โดยมี ประเด็นคาถาม ดังน้ี หากเปล่ียนแหล่งกาเนิดไฟฟา้ กระแสสลับซึง่ ต่อเข้ากบั ขดลวดปฐมภูมิของหม้อแปลงเป็น แหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงที่มีค่าคงตัว เมื่อเปิดสวิตซ์ให้แหล่งกาเนิดไฟฟ้าทางาน หลอดไฟที่ต่ออยู่กับ ขดลวดทุติยภมู ิจะสว่างหรือไม่เพราะเหตใุ ด (แนวคาตอบ ทันทีเปิดสวิตซ์จะสังเกตเห็นหลอดไฟสว่างชั่วขณะ หลังจากนั้นหลอดไฟจะไม่สว่าง เพราะในขณะที่เปิดสวิตซ์ กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดปฐมภูมิเปลี่ยนแปลงจากไม่มีกระแสไฟฟ้าเป็น มี กระแสไฟฟ้า เกิดการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กชั่วขณะทาให้เกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนาที่ขดลวดทุติยภูมิทาให้ หลอดไฟสว่างชั่วขณะ หลังจากนั้นเมื่อกระแสไฟฟ้าคงตัว ทาให้เกิดฟลักซ์แม่เหล็กคงตัวผ่าน ขดลวดทั้งสอง ของหม้อแปลง จึงไม่เกดิ อเี อม็ เอฟเหน่ยี วนาท่ีขดลวดทุติยภมู ิ ทาใหห้ ลอดไฟไมส่ ว่าง) ขน้ั ที่ 5 ประเมนิ ผล ( 15 นาที ) 10. ครูสังเกตและประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในขณะที่ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมและ การนาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม วัสดุ/อปุ กรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นฟสิ กิ ส์ ม.6 เลม่ 1 สังกดั อจท. 2. หนงั สือเรียนฟิสิกส์ ม.6 เล่ม 5 สงั กัด สสวท. 3. ห้องเรยี น 4. หอ้ งสมุด 5. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 6. ใบงานท่ี 1.13 หลกั การทางานของหมอ้ แปลง
การวดั ผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. นักเรียนอธิบายหลักการ ตรวจใบงาน ใบงานที่ 1. 13 หลัก ได้ระดับคุณภาพดี ทางานของหมอ้ แปลงได้ (K) การท างานของหม้อ จึงผา่ นเกณฑ์ แปลง 2. นักเรียนคานวณหาปริมาณ สังเกตและประเมินการ แ บ บ ป ร ะ เ ม ิ น ก า ร ได้ระดับคุณภาพดี ตา่ งๆ ท่ีเก่ยี วข้องได้ (P) ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรมการ จงึ ผา่ นเกณฑ์ คานวณ 3. มีความอยากรูอ้ ยากเห็น (A) สังเกตและประเมินการ แบบประเมินการความ ได้ระดับคุณภาพดี ความอยากรู้อยากเหน็ อยากรู้อยากเห็น จงึ ผ่านเกณฑ์ 4. คุณลักษณะด้านความใฝ่ สงั เกตพฤตกิ รรม แ บ บ ป ร ะ เ ม ิ น ค ุ ณ - ได้ระดับคุณภาพดี เรียนรู้ ลักษณะอันพึงประสงค์ จึงผ่านเกณฑ์ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ................................................................ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา (…………………….………….……….………………………….) ........./........................./.........
การประเมนิ ดา้ นความรู้ (K) เกณฑก์ ารให้คะแนนใบงาน ประเดน็ การประเมิน คะแนน 4 321 หม้อแปลงประกอบด้วยขดลวด 2 ชุด ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงาน มี ค ว า ม พันอยู่บนแกนเหล็กเดียวกัน โดย กับประเด็น การ กับประเด็นการ กับประเด็นการ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ขดลวดที่ใช้ต่อกับแหล่งกาเนิดไฟฟ้า ประเมิน เนื้อหา ประเมินส่วนใหญ่ ประเมิน เนื้อหา ป ร ะ เ ด ็ น ก า ร เรียกว่า ขดลวดปฐมภูมิ และขดลวดท่ี ใช้ต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เรียกว่า สาระของผลงาน เนื้อหาสาระของ สาระของผลงาน ประเมินเนื้อหา ขดลวดทุติยภูมิ เมื่อต่อกับขดลวดปฐม ถกู ต้องครบถว้ น ผลงานถูกต้องแต่ ถูกต้องเป็นบาง สาระแค่บางส่วน ยังมีข้อบกพร่อง ป ร ะ เ ด ็ น แ ต่ และมีข้อบกพร่อง ภูมิกับไฟฟ้ากระแสสลับจะเกิดอีเอ็ม เอฟเหนี่ยวนาในขดลวดทุติยภูมิ ซึ่งมี เลก็ นอ้ ย ม ี ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง มาก ความสัมพันธต์ ามสมการ ������2 = ������2 บางสว่ น ������1 ������1 เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ดีมาก 4 อย่ใู นระดับ ดี 3 อยใู่ นระดับ พอใช้ 2 อยใู่ นระดบั ปรับปรุง 1 อยใู่ นระดับ
การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) เกณฑ์การประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการคานวณ ประเด็นการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1.การว ิเคราะห์โ จทย์ บอกส่งิ ท่ีโจทยใ์ ห้มา และ บอกสงิ่ ทโี่ จทยใ์ ห้มา และ บอกสิ่งท่ีโจทยใ์ หม้ า และ ปญั หา สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ อย่างถูก และเขียน และเขียนสมการการ และเขียนสมการการ สมการการคานวณของ โจทย์ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ค านวณของโจทย์ได้ คานวณของโจทย์ได้ อยา่ งถูกตอ้ ง 2.เลือกสูตรที่เหมาะสม เลือกสูตรการคานวณที่ เลือกสูตรการคานวณที่ เลือกสูตรการคานวณท่ี และสมั พันธก์ ับโจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ ต้องการให้หาได้อย่าง ต้องการให้หาได้อย่าง ต้องการให้หาได้ แต่ไม่ ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ถกู ต้อง สามารถหาค าตอบที่ ถกู ตอ้ งได้ 3.การแทนค่าและแสดงวิธี การแทนค่าของตัวแปร การแทนค่าของตัวแปร การแทนค่าของตัวแปร หาคาตอบ ในโจทย์ได้อย่างถูกต้อง ในโจทย์ได้อย่างถูกต้อง ในโจทย์ได้ และแสดง แสดงวิธีการคานวณเป็น แสดงวิธีการคานวณเป็น วิธกี ารคานวณได้ ลาดบั ขั้นตอนชดั เจนและ ล าดับขั้นตอนและได้ ได้ค าตอบที่ถูกต้องมี คาตอบทถ่ี กู ต้อง ความแมน่ ยา 4.ตรวจสอบค าตอบของ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ โจทย์ และระบุหน่วยได้ คาตอบของโจทยไ์ ด้อย่าง คาตอบของโจทยไ์ ด้ และ คาตอบของโจทย์ได้บ้าง ชดั เจน ถูกต้อง และระบุหน่วย ระบุหนว่ ยไดช้ ัดเจน เล็กน้อย และระบุหน่วย ได้ชัดเจน ได้ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 9 – 12 อย่ใู นระดับ ดีมาก 5 – 8 อยูใ่ นระดบั ดี 1 – 4 อยใู่ นระดับ พอใช้
การประเมินดา้ นเจตคติ (A) เกณฑ์การประเมินการมีความอยากรู้อยากเหน็ ประเด็นการประเมิน 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะ พยายามหาความรู้ใหม่ๆ มีการแสวงหาความรู้บ้าง ไม่มีการแสวงหาความรู้ เสาะแสวงหาความรู้ใน อยู่เสมอ ซึ่งไม่สามารถ นาความรู้ที่มีอยู่เดิมมา ใดๆ ใช้เพียงความรู้เดิม ส ถ า น ก า ร ณ ์ ใ ห ม่ ๆ อธิบายได้ด้วยความรู้ที่มี อธิบายเล็กน้อย จึงทาให้ ที่มีอยเู่ ท่าน้นั ไมเ่ กิดการ ต ร ะ ห น ั ก ถ ึ ง ค ว า ม อยู่เดิม เพื่อให้เกิดการ เกดิ การเรียนรไู้ ดน้ ้อย ซ่ึง เรียนรู้เท่าที่ควร และไม่ สาคัญของการแสวงหา เรียนรู้ และใช้ความรู้ที่ อ า จ ป ร ั บ ใ ช ้ ไ ด ้ กั บ สามารถแก้ไขต่างๆ ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม และช่าง ได้ในการแก้ปัญหา หรือ ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ า วั น แ ค่ ไม่ให้ความสาคัญกับการ ซัก ช่างถาม ช่างอ่าน ใช้กับชีวิตประจาวันได้ บางส่วน ให้ความสาคัญ เรียนรู้เท่าที่ควร และไม่ เพื่อให้ได้ค าตอบเป็น ให้ความสาคัญกับการ กับการเรียนรู้บ้าง แต่ไม่ มีการสังเกต หรือเกิด ความรู้ที่สมบูรณ์แบบ เรียนรู้ เป็นผู้กระตือ- มีความกระตือรือร้นใน ความสงสยั เทา่ ที่ควร ย่ิงขน้ึ รือร้นในการเรียนหรือ การเรียนหรือแสวงหา แสวงหาความรอู้ ยู่เสมอ ความรู้ และรู้จักถามเมื่อ และช่างสงสัย สังเกต มีข้อสงสัยจากการได้ รู้จักถามเมื่อมีข้อสงสัย สังเกตบ้าง ท าให้ ได้ ท าให้ได้ค าตอบท่ีเป็น ค าตอบที่เป็นความรู้ ความรู้ที่สมบูรณ์แบบ เพิม่ เตมิ จากความรเู้ ดิม ยิ่งขึ้น เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยูใ่ นระดับ พอใช้ 1 อยูใ่ นระดับ
การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคด์ า้ นใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชี้วัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตัวชวี้ ัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน 4.1.1 ตัง้ ใจเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1.2 เอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ 4.2.1 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เทคโนโลยีต่างๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสิ่งที่เรียนรู้ สรุป ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนาไปใช้ เปน็ องค์ความรู้ ในชีวติ ประจาวันได้ 4.2.3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ้สู อน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี 32 1 ตามข้อ 4.1 – 4.2 เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก บอ่ ยครัง้ เปน็ บางครัง้ โรงเรยี นเป็นประจา
ระดบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดเี ย่ยี ม 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยู่ในระดบั ผ่าน 1 อยูใ่ นระดับ ไมผ่ า่ น 0 อยู่ในระดับ หมายเหตุ นักเรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์
การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) แบบประเมนิ การปฏิบตั กิ ิจกรรมการคานวณ รายช่ือสมาชกิ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชแี้ จง: ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียน แล้วขีด ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน 3 21 1.การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา 2.เลือกสตู รที่เหมาะสมและสัมพนั ธ์กับ โจทย์ 3.การแทนค่าและแสดงวธิ ีหาคาตอบ 4.ตรวจสอบคาตอบของโจทย์ และระบุ หนว่ ยได้ชัดเจน รวมคะแนน ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน ดมี าก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ดมี าก 9 – 12 อย่ใู นระดบั ดี 5 – 8 อย่ใู นระดับ พอใช้ 1 – 4 อยู่ในระดบั
การประเมินดา้ นเจตคติ (A) แบบประเมินการมีความอยากร้อู ยากเหน็ รายช่ือสมาชิก…………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชีแ้ จง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะเสาะ แสวงหาความรู้ในสถาน การณ์ใหม่ๆ ตระหนักถึง ความสาคัญของการแสวงหา ข้อมูลเพิ่มเติม และช่างซัก ช่างถาม ช่างอ่าน เพื่อให้ได้ คาตอบเป็นความรู้ที่สมบูรณ์ แบบย่งิ ขึ้น รวมคะแนน ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อย่ใู นระดบั พอใช้ 1 อยู่ในระดบั
การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ใฝ่เรียนรู้) นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 คาชแ้ี จง: ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอื่ - นามสกลุ คะแนน 1 ท่ี 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ดเี ยย่ี ม 3 อยู่ในระดับ ดี 2 อยใู่ นระดับ ผ่าน 1 อยใู่ นระดบั ไมผ่ า่ น 0 อยูใ่ นระดบั หมายเหตุ นกั เรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์
บนั ทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ผลการจัดกจิ กรรม ตารางท่ี 1 ผลการประเมินด้านความรู้ (K) ลาดบั ที่ ระดบั ช้นั จานวน ดมี าก (4) สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรยี น รวม ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางท่ี 2 ผลการประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (P) ลาดับท่ี ระดบั ช้ัน จานวน สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรียน ดมี าก (9 – 12) ดี (5 – 8) พอใช้ (1 – 4) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 รวม 3 ม.6/4 4 ม.6/5
บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลการจดั กจิ กรรม ตารางท่ี 3 ผลการประเมนิ ดา้ นเจตคติ (A) ลาดบั ที่ ระดับชนั้ จานวน ดีมาก (3) สรุปผลการประเมนิ พอใช้ (1) รวม นกั เรยี น รวม ดี (2) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางที่ 4 ผลการประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ลาดับที่ ระดับชน้ั จานวน ดมี าก (3) สรุปผลการประเมิน ไม่ผา่ น (0) รวม นักเรียน รวม ดี (2) ผา่ น (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5
บันทึกหลังการสอน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ผลการสอน ด้านความร้.ู ................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ด้านทกั ษะ.................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ด้านเจตคต.ิ .................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ด้านสมรรถนะ.................................................................................................................. ................................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค.์ ............................................................................................................ ............... ปัญหา/อปุ สรรค................................................................................................................ .................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ แนวทางการแกไ้ ข............................................................................................................... ................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ หมายเหต.ุ .................................................................................................................... ........................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... ลงชื่อ..........................................................ผ้สู อน (.............................................................) ........./........................./.........
ใบงานท่ี 1.13 หลักการทางานของหมอ้ แปลง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธบิ ายหลักการทางานของหมอ้ แปลงได้ (K) 2. นักเรยี นคานวณหาปริมาณต่างๆ ที่เกีย่ วขอ้ งได้ (P) 3. ความใฝเ่ รียนร้แู ละอยากรอู้ ยากเห็น (A) คาชี้แจง : ตอนท่ี 1 ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ใี หถ้ กู ต้อง 1) อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทใ่ี ชเ้ ปล่ยี นความต่างศกั ย์หรืออีเอ็มเอฟของไฟฟา้ กระแสสลบั คืออะไร ตอบ.......................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 2) หม้อแปลง(transformer) มกี ่ีแบบ อะไรบ้าง ตอบ.......................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 3) จงเขียนสญั ลกั ษณแ์ ทนหม้อแปลง ตอบ.......................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 4) ขดลวดทีต่ อ่ กับแหล่งจ่ายไฟฟ้า เรียกว่าอะไร ตอบ......................................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 5) ขดลวดที่ตอ่ อยู่กับอุปกรณ์ท่ีใชไ้ ฟฟ้า เรียกว่าอะไร ตอบ.......................................................................................................................... ............................... ....................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
6) กรณที ี่ 1 ต่อแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั เข้ากับขดลวด 100 รอบ และนาหลอดไฟต่อกับขดลวด 200 รอบ และกรณีที่ 2 ต่อแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั เข้ากบั ขดลวด 200 รอบ และนาหลอดไฟตอ่ กบั ขดลวด 100 รอบ เม่ือเปดิ สวิตซใ์ ห้แหล่งกาเนิดไฟฟ้าทางาน ท้งั 2 กรณี ผลทเี่ กิดขน้ึ เหมือนหรอื แตกตา่ ง กันอยา่ งไร ตอบ.......................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 7) ความสว่างของหลอดไฟขนึ้ อยู่กับคา่ ใดบา้ ง ตอบ.......................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 8) จงเขยี นสมการหาอีเอ็มเอฟดา้ นขดลวดปฐมภูมิ ตอบ.......................................................................................................................... ............................... ................................................................................................... .................................................................... ....................................................................................................................................................................... 9) จากสมการ ������2 = ������2 ถา้ จานวนรอบ ������2 > ������1 จะทาใหอ้ ีเอม็ เอฟหรอื ความต่างศักย์ทางด้าน ������1 ������1 ขดลวดทุติยภูมิมากกว่าทางด้านขดลวดปฐมภูมิ เรียกหม้อแปลงลักษณะนี้ ตอบ...................................................................................................................... ................................... .................................................................................................................................... ................................... ....................................................................................................................................................................... 10) จากสมการ ������2 = ������2 ถ้าจานวนรอบ ������2 < ������1 จะไดอ้ ีเอ็มเอฟหรอื ความต่างศักย์ทางด้าน ������1 ������1 ขดลวดทตุ ยิ ภูมนิ ้อยกว่าทางด้านขดลวดปฐมภมู ิ เรยี กหม้อแปลงนวี้ ่า ตอบ.......................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................... ................................... .......................................................................................................................................................................
คาชแี้ จง : ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรียนคานวณหาปริมาณตา่ งๆ ท่เี กี่ยวข้องได้จากโจทย์ที่กาหนดให้ต่อไปนีใหถ้ ูกตอ้ ง หมอ้ แปลงลกู หน่งึ มขี ดลวด 2 ขด ทีม่ ีจานวนรอบ 500 รอบ และ 60 รอบ นาไปตอ่ กบั แหลง่ จ่ายไฟฟ้า กระแสสลับความต่างศักย์ 220 โวลต์ จงหาอีเอ็มเอฟท่ีเกิดข้ึนด้านขดลวดทุติยภมู ิในกรณีท่ีต่อแหล่งจ่ายไฟเข้า กบั ก. ขดลวด 500 รอบ ข. ขดลวด 60 รอบ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ..............................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284