Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำราNL605 (FULL)

ตำราNL605 (FULL)

Published by Petcharat Saelin, 2022-07-05 09:32:25

Description: ตำราNL605 (FULL)

Search

Read the Text Version

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 6.3. ความเส่ียงภยั จากอปุ กรณ์สนบั สนนุ ตา่ งๆ เชน่ ระบบไฟฟ้า ระบบกาเนิดไฟฟ้า หม้อต้มไอ นา้ เครื่องผลิตลมอดั ระบบขนสง่ ภายใน การเดนิ เคร่ืองเกินกาลงั 7. ความเสี่ยงภยั อ่ืนๆ (Other Hazards & Exposures) 7.1. ความเส่ียงภยั ของพืน้ ท่ีรอบข้าง (External Exposures) 7.2. ความเส่ียงจากภยั ธรรมชาติ (Natural perils) 7.3. ความเสี่ยงภยั จากอบุ ตั ภิ ยั อื่นๆ (Other Hazards) เชน่ ภยั จากมนษุ ย์ อบุ ตั เิ หตตุ า่ งๆ 8. ประวตั ิความเสียหาย (Loss History) 9. ประวตั ิการทาประกนั ภยั และการเรียกร้องคา่ สนิ ไหมทดแทน (Insurance and Claims History) งานสารวจภยั วัตถุประสงค์ของการสารวจภัย วตั ถปุ ระสงคข์ องการสารวจภยั มีดงั นี ้ 1.1 เพื่อเก็บและรวบรวมข้อมลู เบอื ้ งต้นของสถานที่เอาประกนั ภยั 1.2 เพื่อใช้ในการประเมนิ ความเสี่ยงภยั ของทรัพย์สินที่จะเอาประกนั ภยั 1.3 เพ่ือตรวจสอบคณุ ภาพของสถานที่เอาประกนั ภยั และเพ่ือกาหนดมลู คา่ ทรัพย์สนิ ก่อนการรับ ประกนั ภยั 1.4 เพ่ือประเมนิ มลู คา่ ความเสียหายสงู สดุ ที่อาจเกิดขนึ ้ ได้ 1.5 เพื่อเก็บข้อมลู เก่ียวกบั ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ ในอดีต 1.6 เพ่ือแนะนาและกาหนดแนวทางการจดั การกบั ความเส่ียงภยั 1.7 เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงสภาพการเสี่ยงภยั ซงึ่ อาจจะเพมิ่ หรือลดสภาพของความเส่ียงภยั จากที่เคยประเมินไว้เดมิ ขอบเขตของการสารวจภยั ในการเข้าสารวจภยั ผ้เู ข้าสารวจภยั ต้องประเมนิ ขอบเขตของการสารวจภยั ท่ีจะกระทา ณ สถานที่ประกอบการ และศกึ ษาขอบเขตความค้มุ ครองของกรมธรรม์แตล่ ะประเภทท่ีอาจจะเกี่ยวข้อง เชน่ หากเป็นการเอาประกนั ภยั ทรัพย์สนิ โดยใช้กรมธรรม์ประกนั ความเสี่ยงภยั ทกุ ชนิด ขอบเขตของการ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/15

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมินความเส่ียงภยั สารวจภยั ก็ต้องครอบคลมุ ถงึ ความเส่ียงภยั ท่ีอาจเกิดขนึ ้ ตอ่ เครื่องจกั ร อปุ กรณ์ไฟฟ้า กระจก การ หยดุ ชะงกั ของธุรกิจ ด้วยเป็นต้น ขัน้ ตอนการสารวจภัย 1. การเตรียมความพร้อมก่อนการสารวจภยั 1.1 ถ้าหากเคยมีการสารวจภยั มาก่อนแล้ว ก็ให้ศกึ ษาจากสาเนารายงานการสารวจภยั 1.2 ถ้ามีกระบวนการผลิตท่ีไมค่ ้นุ เคยก็ต้องศกึ ษาจากคมู่ ือก่อน 1.3 ศกึ ษากรมธรรม์ประกนั ภยั แตล่ ะประเภทท่ีเกี่ยวข้อง 1.4 สืบค้นข้อมลู เบือ้ งต้นของผ้ขู อเอาประกนั ภยั จากแหลง่ ตา่ งๆ เชน่ เวบ็ ไซต์ รายงานประจาปี ของบริษัท รายงานเกี่ยวกบั ความเสียหายในอดตี จากผ้รู ับประกนั ภยั ตอ่ เป็นต้น 1.5 นดั หมายเข้าสารวจภยั 1.6 แจ้งให้ผ้ขู อเอาประกนั ภยั นดั หมายบคุ คลท่ีสามารถให้ข้อมลู ที่จาเป็นในการประเมินความ เส่ียงภยั และจดั เตรียมเอกสารที่จาเป็นไว้ลว่ งหน้า 1.7 เตรียมสมดุ บนั ทกึ เพ่ือจดบนั ทกึ และ วาดภาพท่ีจาเป็น รวมทงั้ กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดีโอ (ถ้ามีโอกาสใช้) รวมทงั้ ตลบั เทปวดั ระยะ 2. การสารวจภยั 2.1. ทาการสารวจภยั โดยความยินยอมจากผ้เู อาประกนั ภยั โดยมีเจ้าหน้าท่ีของผ้เู อาประกนั ภยั ซงึ่ ค้นุ เคยกบั สถานที่และกระบวนการผลิตร่วมในการสารวจด้วย 2.2. ปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนโดยยืนยนั กบั ผ้เู อาประกนั ภยั วา่ ทรัพย์สนิ ท่ีจะสารวจนนั้ ถกู ต้องตามข้อมลู ที่ ได้รับ และตรวจสอบบริเวณรอบๆ รวมทงั้ สภาวะแวดล้อม ทาการตรวจวดั ระยะทาง และ ข้อมลู ที่จาเป็นเพ่ือเตรียมใช้ในการทาแผนผงั และตรวจสอบภายในอาคารทีละหลงั อยา่ ง ทว่ั ถึง บนั ทกึ รายละเอียดที่จาเป็นระหว่างการสารวจ ถ้าขาดข้อมลู ที่สาคญั ต้องพร้อมที่จะ กลบั ไปสารวจซา้ 2.3. ในการสารวจภายในอาคาร ควรทาเป็นระบบโดยเร่ิมจากชนั้ บนลงลา่ ง หรือจากชนั้ ลา่ งขนึ ้ บน ทาการสารวจทีละอาคารจนเสร็จ บนั ทึกจดุ ที่เป็นปัญหา และบนั ทกึ ตาแหนง่ ชอ่ งเปิดตา่ งๆ ของแตล่ ะชนั้ และผนงั สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/16

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมินความเสี่ยงภยั 2.4 จดั ทารายงานการสารวจภยั พร้อมทงั้ ระบขุ ้อแนะนาในการปรับปรุงสภาวะภยั หรือลดการ เสี่ยงภยั ด้วย (หากมี) การประเมนิ ค่าความเสียหายสูงสุดท่ีอาจจะเกดิ ขึน้ ได้ การกาหนดจานวนเงินเอาประกนั ภยั (Sum Insured) ในกรมธรรม์ประกนั ภยั ทรัพย์สินสว่ น ใหญ่จะกาหนดโดยประเมินจากมลู คา่ ท่ีแท้จริงรวม (Total Actual Value) ของทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั แตใ่ นบางกรณี การกาหนดจานวนเงินเอาประกนั ภยั จากมลู คา่ ทงั้ หมดอาจจะทาให้ผ้เู อาประกนั ภยั ต้อง เสียเบยี ้ ประกนั ภยั สงู เกินไป เน่ืองจากโอกาสที่จะเกิดความเสียหายครัง้ หนง่ึ ๆ นนั้ มีความเป็นไปได้น้อย มากที่จะเสียหายถงึ ระดบั ของมลู คา่ ของทรัพย์สินนนั้ บริษทั ประกนั ภยั จงึ มีทางเลือกเพมิ่ ขนึ ้ โดย คานวณเงินเอาประกนั ภยั จากการประเมินความเสียหายสงู สดุ ที่จะเกิดขนึ ้ ได้แทน การคานวณค่า PML และ ค่า EML หลกั การขนั้ พืน้ ฐานในการพิจารณาคานวณคา่ PML และ คา่ EML คือ 1. ความเป็นภยั โดดเดีย่ ว 2. ปัจจยั ประกอบท่ีใช้ในการพจิ ารณา และ 3. ความนา่ จะเป็นท่ีจะเกิดความเสียหาย ภยั โดดเด่ียว ตามแนวทางท่ีกาหนดไว้ในพิกดั อตั ราเบีย้ ประกนั อคั คีภยั ของประเทศไทย นนั้ ภยั ท่ีจะถือเป็นภยั โดด เด่ยี วได้นนั้ 1.1 ถ้าเป็นส่งิ ปลกู สร้างชนั้ 1 ตอ่ สิง่ ปลกู สร้างชนั้ 1 ด้วยกนั ต้องมีบริเวณรัศมีหา่ งจากผนงั ด้านนอก ของส่ิงปลกู สร้างนนั้ ไมน่ ้อยกวา่ 10 เมตร 1.2 ถ้าเป็นกรณีนอกเหนือจากข้อ 1.1 แล้ว ต้องมีบริเวณรัศมีหา่ งจากผนงั ด้านนอกของสิง่ ปลกู สร้าง นนั้ ไมน่ ้อยกวา่ 20 เมตร ปัจจัยประกอบท่ีใช้ในการพจิ ารณา บทที่ 4/17 ผ้สู ารวจภยั ใช้ปัจจยั ตอ่ ไปนีใ้ นการคานวณคา่ PML และ EML 1) มลู คา่ ของทรัพย์สินทงั้ หมดที่มีอยู่ 2) ขนาด, ความสงู และ รูปร่างของพืน้ ท่ีที่กาลงั พจิ ารณานนั้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 3) วสั ดทุ ่ีใช้ในการก่อสร้างกาแพง, พืน้ และหลงั คา 4) มีวสั ดตุ ดิ ไฟอะไรหรือไมใ่ นแนวกาแพง, หลงั คา, ฝา้ เพดาน และผนงั ห้อง 5) ปริมาณของวสั ดไุ วไฟ (Fire Load) ท่ีอยใู่ นอาคารนนั้ 6) มีการใช้และการแยกวสั ดไุ วไฟและกระบวนการผลติ ที่อนั ตรายออกจากวสั ดแุ ละกระบวนการผลิต ท่ีไมอ่ นั ตรายหรือไม่ 7) โอกาสที่ทรัพย์สินท่ีมีอยภู่ ายในอาคารจะได้รับความเสียหายจากควนั , ความร้อน และความ เสียหายจากนา้ ท่ีใช้ในการดบั เพลงิ 8) การระเบิดจากแหลง่ ใดๆ 9) การเพิ่มความเส่ียงภยั จากก๊าซ และวตั ถหุ รือของเหลวอ่ืนที่อาจจะตดิ ไฟได้ 10) การกระจกุ ตวั ของมลู คา่ ทรัพย์สนิ 11) การจดั การและการดแู ลรักษาภายในสถานที่แหง่ นนั้ ความน่าจะเป็ นท่จี ะเกดิ ความเสียหาย ผ้สู ารวจภยั จะต้องเสนอความคดิ เห็นของเขาวา่ มีโอกาสท่ีจะเกิดความเสียหายสงู สดุ ในสถานท่ี แหง่ นนั้ ได้มากน้อยเพียงไรจากประสบการณ์ที่เขาได้เห็นภยั อื่นๆ ที่คล้ายคลงึ กนั อยา่ งไรก็ตาม การประเมนิ คา่ ข้างต้นนี ้คอ่ นข้างจะเป็นเร่ืองท่ีถือเป็นอตั วิสยั (Subjective) อยู่ มาก เจ้าหน้าที่พจิ ารณารับประกนั ภยั จงึ มกั นิยมใช้วิธีประเมินคา่ ความเป็นไปได้ของการเกิดความ เสียหายจากมลู คา่ ที่แท้จริงของทรัพย์สินมากกวา่ จากแนวคดิ เรื่องของความเสียหายสงู สดุ ที่นา่ จะเป็นได้ในเหตกุ ารณ์หนงึ่ นีเ้อง การประกนั ภยั โจรกรรมจงึ รับแนวคิดนีม้ าใช้ในการกาหนดจานวนเงินเอาประกนั ภยั แบบ ความเสียหายสว่ นแรก (First Loss) ซงึ่ จานวนเงินเอาประกนั ภยั จะน้อยกวา่ มลู คา่ ท่ีแท้จริงของทรัพย์สนิ มาก โดยเจ้าหน้าที่จะ พจิ ารณาจากโอกาสความเป็นไปได้ที่ทรัพย์สินจะสญู หายไปได้สงู สดุ หากมีการโจรกรรมเกิดขนึ ้ ครัง้ หนง่ึ และกาหนดเป็นจานวนเงินเอาประกนั ภยั ขนึ ้ มาและกาหนดอตั ราท่ีปรับขนึ ้ ให้สอดคล้องกบั การประเมนิ ความเสี่ยงแบบนี ้จากพจนานกุ รมคาศพั ท์ประกนั ภยั ให้ความหมายของ การประกนั ภยั ความเสียหาย สว่ นแรก (First Loss Insurance) วา่ เป็นการประกนั ภยั ทรพั ย์สินลกั ษณะหนึ่งทีผ่ ูร้ บั ประกนั ภยั ยอมรบั เอาประกนั ภยั โดยจานวนเงินเอาประกนั ภยั ต่ากว่ามูลค่าทีแ่ ทจ้ ริงของทรัพย์สินนน้ั และผูร้ บั ประกนั ภยั จะจ่ายค่าเสียหายใหจ้ นถึงจานวนเงินทีเ่ อาประกนั ภยั ไว้ ความเสียหายทีเ่ กินจากจานวนเงินเอา สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/18

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมนิ ความเส่ียงภยั ประกนั ภยั นนั้ ผเู้ อาประกนั ภยั จะเป็นผจู้ ่ายค่าเสียหาย ทงั้ นีผ้ รู้ บั ประกนั ภยั จะไม่นาหลกั การเฉลีย่ ค่าเสียหายมาใช้ ตัวอย่าง แบบฟอร์ มรายงานการสารวจภยั รายงานการสารวจภยั 1. ช่ือผ้เู อาประกนั ภยั ……………………………………………………………………………………. ท่ีอย่…ู ………………………………………………………………………………………………… ประเภทธรุ กิจ…………………………………………………………………………………………. สถานท่ีตงั้ ทรัพย์สนิ …………………………………………………………………………………… พืน้ ที่ทงั้ หมด………………………………… บลอ็ ก………………………………………………. วนั ที่ทาการสารวจ................................เวลา ………… น. สารวจครัง้ ที่ ………………………. ผ้สู ารวจ………………………………………………………………………………………………….. ผ้ใู ห้ข้อมลู ................................................. ตาแหนง่ …………………… โทร……………. 2. จานวนเงินเอาประกนั ภยั 2.1 ทรัพย์สินรวม ………………………. บาท ตวั อาคาร ……………………….. บาท เครื่องจกั ร ………………………. บาท สต๊อกสินค้า ……………………….. บาท เฟอร์นเิ จอร์ ……………………… บาท อื่นๆ ……………………… บาท กรณีมีสง่ิ ปลกู สร้างหลายหลงั ให้แยกมลู คา่ จานวนเงินเอาประกนั ภยั ตามสว่ นของโรงงาน / หนว่ ยการ ผลิต / สถานที่เก็บสนิ ค้า ฯลฯ (โดยใช้เอกสารแนบ) สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/19

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 2.2 ธรุ กิจหยดุ ชะงกั ……………. บาท ระยะเวลาการชดใช้……….. เดือน 2.3 อตั ราความเสียหายสงู สดุ ท่ีคาดวา่ จะเกิด (Probable Maximum Loss) 2.3.1 ทรัพย์สิน………………………………………………………………………. 2.3.2 ธุรกิจหยดุ ชะงกั ………………………………………………………………. 2.3.3 PML (อธิบายเหตผุ ลประกอบ)……………………………………………….. 3. ข้อมลู ทวั่ ไป 3.1 ปีท่ีสร้างเสร็จ ปี พ.ศ. ……………………………………. 3.2 ปีท่ีเร่ิมดาเนนิ การ ปี พ.ศ. ………………………………… 3.3 การสร้างเพม่ิ เตมิ  มี  ไมม่ ี 3.4 ช่ือเจ้าของหรือห้นุ สว่ น………………………………………………………………………….. 3.5 บริษทั ผ้รู ับเหมาก่อสร้าง………………………………………………………………………… 3.6 วตั ถดุ บิ หลกั ที่ใช้ในการผลิต…………………………..………………………………………... 3.7 ผลผลติ หลกั (อธิบายพอสงั เขป)...............................................................…………………. 3.8 จานวนลกู จ้าง / พนกั งาน : ………………..คน จานวนคนตอ่ กะ : ……..คน 3.9 ชว่ งเวลาการทางาน : …… ชม. จานวนกะ :…….กะตอ่ วนั จานวนวนั : ……วนั ตอ่ สปั ดาห์ 4. สถานที่ตงั้ และโอกาสเส่ียงภยั 4.1 โอกาสเส่ียงภยั จากสภาพแวดล้อม โดดเด่ยี ว ไมโ่ ดดเด่ียว ถ้าไมโ่ ดดเดยี่ ว - ภยั ข้างเคียง………………………………………….. - ภยั อื่นๆ (อธิบาย)……………………………………. 4.2 ลกั ษณะผงั บริเวณของอาคาร / โรงงาน (แนบแผนผงั ประกอบ) ดมี าก ดี พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ 4.3 ระยะหา่ งระหวา่ งโรงงาน อาคาร แท็งก์ และอ่ืนๆ (อธิบาย) 4.4 ความสะดวกที่รถดบั เพลงิ จะเข้าถึงสถานท่ีเอาประกนั ภยั ดี ไมด่ ี (อธิบายพร้ อมภาพประกอบ)………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/20

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 5. รายละเอียดสง่ิ ปลกู สร้าง 5.1 ลกั ษณะและวสั ดกุ อ่ สร้าง ชนั้ 1 ชนั้ 2 ชนั้ 3 5.1.1 จานวนชนั้ ………………………………………………...ชนั้ 5.1.2 ฝาผนงั ด้านนอก…………………………………………. 5.1.3 ฝาผนงั ด้านใน……………………………………………. 5.1.4 ประตดู ้านใน……………………………………………… 5.1.5 หลงั คาและโครงหลงั คา………………………………….. 5.1.6 เสา/กาแพงรับแรง……………………………………….. 5.1.7 คาน……………………………………………………… 5.1.8 พืน้ ………………………………………………………. 5.1.9 ชอ่ งเปิด มี ไมม่ ี (ถ้ามีระบบกนั ควนั หรือไฟโปรด อธิบาย)……………………….………………………….. 5.1.10 ระยะหา่ งจากส่งิ ปลกู สร้างอ่ืน ด้านหน้า ……………………เมตร ด้านหลงั ……………………เมตร ด้านซ้าย ……………………เมตร ด้านขวา ……………………เมตร 5.1.11 ลกั ษณะการถือครองท่ีดนิ เจ้าของ ผ้เู ชา่ 5.1.12 ลกั ษณะการถือครองอาคาร เจ้าของ ผ้เู ชา่ 5.2 ระบบระบายควนั มี ไมม่ ี แบบอตั โนมตั ิ แบบมือกด ระบบระบายความร้อน มี ไมม่ ี แบบอตั โนมตั ิ แบบมือกด 5.3 การบารุงรักษา ดมี าก ดี พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ 5.4 อาคารแตล่ ะสว่ นมีการแยกออกจากกนั ด้วยผนงั กนั ไฟหรือประตกู นั ไฟ มี ไมม่ ี (ถ้ามีอธิบาย)………………………………………………………………………….. สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/21

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมนิ ความเสี่ยงภยั 5.5 ระบบปอ้ งกนั ฟา้ ผา่ มี ไมม่ ี ถ้ามีโปรดระบชุ นดิ : ……………. ได้ ไมไ่ ด้ 5.6 ภยั นีส้ ามารถแบง่ ออกได้เป็นภยั ยอ่ ย (ถ้าได้) จานวน…………………..ภยั 6. สาธารณูปโภค/สภาพการเสี่ยงภยั ทวั่ ๆ ไป 6.1 แหลง่ กาเนดิ ไฟฟา้ รัฐ สว่ นตวั เครื่องป่ันไฟฟา้ ฉกุ เฉิน มี ไมม่ ี 6.2 การปอ้ งกนั หม้อแปลงไฟฟ้า ใช้ระบบอปุ กรณ์ดบั เพลิงชนดิ ติดตงั้ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ชนิด: …………………………………………… ใช้ผนงั กนั ไฟแยกหม้อแปลง มี ไมม่ ี อ่ืนๆ (ระบ)ุ ……………………………………………….. 6.3 การอดุ ชอ่ งผา่ นของสายเคเบลิ ด้วยวสั ดทุ นไฟ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) มีทงั้ หมด มีบางสว่ น 6.4 การใช้เคร่ืองกาเนิดไอนา้ มี ไมม่ ี (ถ้ามี อธิบาย)………………………………………………………………………………. 6.5 เชือ้ เพลิงท่ีใช้กบั หม้อไอนา้ เตาเผา เคร่ืองทาความร้อน ฯลฯ แก๊สธรรมชาติ นา้ มนั เตา ถา่ นหนิ ไฟฟา้ อื่นๆ (ระบ)ุ ………………………………………………………………………….. 6.6 เคร่ืองอดั อากาศ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ชนิด/จานวน : ……………………………………………… ความดนั : ……………………………………………… จดุ ประสงค์ที่ใช้ : ……………………………………………… สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/22

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมินความเสี่ยงภยั 6.7 แหลง่ นา้ นา้ ประปา บอ่ นา้ แมน่ า้ ลาคลอง อา่ งเก็บนา้ อ่ืนๆ (ระบ)ุ ………………………………………………………………… 6.8 การขนสง่ ภายใน รถยก รถบรรทกุ สายลาเลียง อ่ืนๆ(ระบ)ุ …………………………………………………………………………………………… 7. การจดั เก็บสินค้า 7.1 การจดั เก็บวตั ถดุ บิ /ผลิตภณั ฑ์สาเร็จรูปท่ีเป็นของเหลว ถงั แทง็ ก์บนพืน้ ดนิ แทง็ ก์ใต้ดนิ อา่ งบรรจุ 7.2 ลกั ษณะของการจดั เก็บวสั ดทุ ่ีเป็นของเหลว / ของแข็ง กอง บนที่รอง จดั เรียง วางบนชนั้ วางของ 7.3 สภาพการจดั เก็บ 7.3.1 ความสงู ของสต๊อกสนิ ค้าท่ีจดั เก็บ……เมตร ช่องหา่ งระหวา่ งสต๊อก…..เมตร 7.3.2 การใช้ PALLET ในการจดั เก็บ มี ไมม่ ี 7.3.3 ชอ่ งทางเดนิ ภายในโกดงั ……เมตร 7.3.4 ชนดิ ของรถยก ใช้คน ไฟฟ้า เครื่องยนต์ 7.3.5 ระยะหา่ งจากท่ีผลิตสินค้า……เมตร 7.3.6 ระยะหา่ งจากหวั พรมนา้ ดบั เพลงิ อตั โนมตั ิ……เมตร 7.3.7 ระบบหลงั คาระบายอากาศอตั โนมตั ิ มี ไมม่ ี 7.3.8 ความมนั่ คงเรียบร้อยของการจดั เก็บ ดมี าก ดี พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ 7.4 ความรุนแรงของการลกุ ไหม้ (Fire Load) สงู กลาง ต่า 7.5 จดุ ติดไฟของวสั ดทุ ี่จดั เก็บ สงู กลาง ต่า 7.6 ขนาดของพืน้ ท่ีที่จดั เก็บ (กวา่ ง X ยาว) …………. เมตร 8. กระบวนการผลิต 8.1 กรรมวธิ ีการผลิตหลกั : …………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………… สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/23

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมนิ ความเส่ียงภยั 8.2 อณุ หภมู ิและความดนั สงู สดุ ที่ใช้ อณุ หภมู ิสงู สดุ : …………………องศาเซลเซียส หนว่ ยงาน: ………………… ความดนั สงู สดุ : ……………… องศาเซลเซียส หนว่ ยงาน: ………………… 8.3 ผลติ ภณั ฑ์ระหวา่ งการผลิต และผลิตภณั ฑ์ขนั้ สดุ ท้ายที่ได้รับคอื อะไร? (อธิบาย)………………………………….. (ให้แนบแผนผงั แสดงขนั้ ตอนการผลิตอยา่ งคร่าวๆ) 9. สภาวะการเสี่ยงภยั พเิ ศษ 9.1 ขนั้ ตอนการผลิตที่มีสภาวะการเสี่ยงภยั สงู มี ไมม่ ี (ตวั อยา่ งเชน่ : การพน่ สี การผลิตที่ใช้ไม้ พลาสติก กระดาษ การแยกสารละลาย เป็นต้น) (ถ้ามี อธิบาย)……………………………………………………………………………… 9.2 การใช้แก๊สที่ไวไฟ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ชนิด: …………ปริมาณ: ………… (อธิบาย) 9.3 มีฝ่นุ ละอองท่ีอาจเกิดการระเบดิ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ชนดิ : ………………………………………………………………… มีมาตรการในการควบคมุ หรือไม่? มี ไมม่ ี 10. อปุ กรณ์ประมวลผลข้อมลู อเิ ลค็ โทรนคิ ส์ อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบอปุ กรณ์ควมพิวเตอร์ท่ีควบคมุ การผลติ 10.1 มีการแยกออกจากสว่ นอื่นด้วยผนงั กนั ไฟ มี ไมม่ ี 10.2 สถานที่ติดตงั้ ปลอดภยั จากไฟ ระเบดิ นา้ จากภายนอก ใช่ ไมใ่ ช่ (อธิบาย) ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… 11. การจดั การ 11.1 ลกั ษณะโดยรวมของการดแู ลรักษา (ความสะอาด ความเป็นระเบยี บ) ดีมาก ดี พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/24

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมนิ ความเส่ียงภยั 11.2 การกาจดั ของเสียและเศษของทิง้ ทกุ ชว่ั โมง ทกุ กะ ทกุ วนั อ่ืนๆ (ระบ)ุ ……………. ไมม่ ีการควบคมุ มี ไมม่ ี 11.3 การควบคมุ การสบู บหุ ร่ี ห้ามเดด็ ขาด มีท่ีเฉพาะ 11.4 มีการใช้ระบบการออกใบอนญุ าตให้ทางานโลหะท่ีมีประกายไฟ 11.5 การจดั หนว่ ยงานควบคมุ ความปลอดภยั วิศวกรความปลอดภยั หรือเจ้าหน้าท่ีความปลอดภยั แผนกควบคมุ ความปลอดภยั (Safety engineer) (Safety department) การตรวจสอบด้วยตวั เอง ข้อตกลงร่วมมือระหวา่ งโรงงาน (Self inspection) (Mutual aid agreement) 11.6 การจดั ระเบยี บในคลงั เก็บสินค้า ดีมาก ดี พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ 12. การตรวจสอบและการบารุงรักษา 12.1 มีการบารุงรักษาเคร่ืองจกั รและอปุ กรณ์ไฟฟา้ อยา่ งดี มี ไมม่ ี ข้อคดิ เห็น………………………………………………………. 12.2 การตรวจสอบระบบไฟฟา้ และอปุ กรณ์ มี ไมม่ ี ครัง้ สดุ ท้ายที่มีการตรวจสอบ……………………………………… 12.3 มีการตรวจสอบสญั ญาณเตอื นภยั และอปุ กรณ์ดบั เพลิงเป็นประจา มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ครัง้ สดุ ท้ายท่ีทาการตรวจสอบ: …………… สภาพดมี าก ดี พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ 13. การปอ้ งกนั อคั คภี ยั และการระเบดิ 13.1 สญั ญาณเตือนภยั มี ไมม่ ี 13.1.1 สญั ญาณเตือนภยั ชนิดมือกดตดิ ตงั้ ทวั่ บริเวณ (ถ้ามี) ……………………………………….. 13.1.2 อปุ กรณ์ตดิ ตอ่ สื่อสารกบั หนว่ ยงานดบั เพลงิ มี ไมม่ ี โทรทศั น์ วิทยมุ ือถือ วทิ ยสุ ื่อสาร อ่ืนๆ (ระบ)ุ ………… สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/25

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมนิ ความเสี่ยงภยั 13.1.3 ระบบการตรวจจบั เพลงิ ไหม้แบบอตั โนมตั ิ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ประเภท ความร้อน ควนั เปลวไฟ แก๊ส 13.1.4 บริเวณใดบ้างที่มีการตดิ ตงั้ เครื่องตรวจจบั เพลงิ ไหม้ (อธิบายพร้อมแผนผงั แสดง)…………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………. 13.1.5 ศนู ย์รับสญั ญาณเตือนภยั มี ไมม่ ี สถานีดบั เพลิง ปอ้ มยาม ห้องควบคมุ 13.2 แหลง่ นา้ สารองสาหรับการดบั เพลงิ ใช่ ไมใ่ ช่ 13.2.1 การดบั เพลงิ ใช้นา้ ประปา ขนาดของทอ่ : …….นิว้ แรงดนั : ……….PSI 13.2.2 แหลง่ นา้ สารองของตวั เอง มี ไมม่ ี (ถ้ามี) แท็งก์ อา่ งเก็บนา้ สระนา้ บอ่ นา้ แทง็ ก์ยกระดบั อ่ืนๆ (ระบ)ุ 13.2.3 ปริมาณนา้ ตา่ สดุ ที่ใช้ในการดบั เพลงิ ได้ประมาณ …………… ลกู บาศก์เมตร 13.2.4 ปัม้ นา้ ดบั เพลงิ ที่สามารถนานา้ สารองตามที่กลา่ วมาข้างต้นมาใช้ มี ไมม่ ี (ถ้ามี) จานวน: ……..เคร่ือง ใช้คน อตั โนมตั ิ ขบั ด้วย : ไฟฟา้ ปกติ เคร่ืองยนต์ ขนาดของเคร่ือง: ……….HP ไฟฟา้ สารอง แรงดนั : ………………..PSI 13.2.5 เส้นผา่ ศนู ย์กลางของทอ่ ดบั เพลิงหลกั สงู สดุ : ……….นวิ ้ ตา่ สดุ : ………นวิ ้ 13.2.6 ทอ่ ดบั เพลิงชนิดทอ่ แห้งหรือทอ่ เปียกในอาคารสงู มี ไมม่ ี (ถ้ามี) จานวน: …………………… ชนดิ : …………………………… 13.2.7 การตดิ ตงั้ หวั ท่อดบั เพลงิ -ท่อดบั เพลิงภายนอกสิง่ ปลกู สร้าง มี จานวน …….จดุ ไมม่ ี -ท่อดบั เพลงิ ภายในส่ิงปลกู สร้าง มี จานวน …….จดุ ไมม่ ี สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/26

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมนิ ความเสี่ยงภยั -ทอ่ ดบั เพลิงชนิดมีสายสบู ขนาดเลก็ ตดิ อยู่ มี จานวน …….จดุ ไมม่ ี 13.2.8 ท่อดบั เพลิงแยกเป็นสว่ นๆ หรือไม่? ใช่ ไมใ่ ช่ 13.2.9 มีหวั ทอ่ ดบั เพลงิ รับกบั สายสบู พร้อมหวั ฉีด มี ไมม่ ี 13.3 อปุ กรณ์ดบั เพลิง 13.3.1 ชนิด ขนาด จานวน ของอปุ กรณ์ดบั เพลิงที่มี ผงเคมีชนิดแห้ง จานวน : ………..ถงั ขนาด: …………….ปอนด์ การติดตงั ้ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม นา้ จานวน : ………………… ขนาด: ………… ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จานวน : ………………… ขนาด: ………… ก๊าซ Halon จานวน: ………………… ขนาด: ………… อ่ืน ๆ (ระบ)ุ 13.3.2 การบารุงรักษาและทาเครื่องหมายตาแหนง่ ท่ีตงั้ ดี ปานกลาง พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ บารุงรักษาเป็นประจาโดย : ……………………………………………………… 13.4 ระบบดบั เพลิงอตั โนมตั ชิ นิดตดิ ตงั้ ประจา มี ไมม่ ี 13.4.1 การตดิ ตงั้ เครื่องพรมนา้ ดบั เพลงิ อตั โนมตั ิ (Sprinkler) (ถ้ามี) ชนิด ทา่ เปียก ทอ่ แห้ง พืน้ ท่ีตดิ ตงั้ : ............................................... 13.4.2 การตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ดบั เพลิงแบบเคมีชนิดแห้ง มี ไมม่ ี คาร์บอนไดออกไซด์ มี ไมม่ ี ก๊าซ Halon มี ไมม่ ี 13.4.3 การตดิ ตงั้ เคร่ืองดบั เพลิงแบบใช้โฟม มี ไมม่ ี (ถ้ามี) บริเวณท่ีตดิ ตงั้ : ............................................ 13.4.4 การตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ตา่ งๆ ได้มาตรฐาน ได้ ไมไ่ ด้ (ถ้ามี) มาตรฐานของ : ……………………………… สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/27

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 13.5 หนว่ ยดบั เพลิง 13.5.1 มีหนว่ ยดบั เพลงิ สว่ นตวั มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ประจาตลอดเวลา ใช่ ไมใ่ ช่ จานวนพนกั งานดบั เพลิงขนั้ ต่าตอ่ กะ: ............................................ 13.5.2 มีพนกั งานโรงงานท่ีได้รับการฝึกการดบิ เพลงิ เพื่อให้ชว่ ยเหลือหนว่ ยดบั เพลิง ดงั กลา่ ว มี ไมม่ ี (ถ้ามี) จานวนอาสาสมคั รดบั เพลงิ ตอ่ กะ : .............................คน 13.5.3 การฝึกหดั เร่ืองการดบั เพลิงเป็นประจา ทกุ สปั ดาห์ ทกุ เดอื น ไมม่ ี อ่ืนๆ 13.5.4 สถานีดบั เพลงิ ในโรงงาน มี ไมม่ ี 13.5.5 รถดบั เพลงิ ของโรงงาน มี ไมม่ ี (ถ้ามี) จานวน : ........................ 13.5.6 มีสารที่ใช้ในการดบั เพลิงหรือไม่ ? มี ไมม่ ี (ถ้ามี) ผงเคมี จานวน .............กก. โฟม จานวน................ลิตร อ่ืนๆ (ระบ)ุ ........................ 13.5.7 สถานีดบั เพลงิ ราชการที่ใกล้ ประจา ชว่ั คราว ช่ือ :…………………………………………………………. ระยะหา่ ง : ............เมตร ระยะเวลาที่ใช้ในการมาถงึ ......... นาที สภาพของอปุ กรณ์ดี ปานกลาง พอใช้ ใช้ไมไ่ ด้ 13.5.8 ตารวจดบั เพลงิ มีความค้นุ เคยกบั สภาพของโรงงาน ใช่ ไมใ่ ช่ 13.5.9 มีข้อตกลงให้ความชว่ ยเหลือซงึ่ กนั และกนั กบั หน่วยดบั เพลิงของสถานประกอบการ ใกล้เคียง มี ไมม่ ี 13.6 ความปลอดภยั 13.6.1 สถานท่ีตงั้ มีการปิดล้อมโดยรอบ มี ไมม่ ี บางสว่ น สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/28

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 13.6.2 จานวนยามรักษาการณ์ตอ่ กะ ............... คน ประจา ณ ที่ใด : ..................... 13.6.3 การเดนิ ลาดตระเวน มี ไมม่ ี 13.6.4 การบนั ทกึ เวลา มี ไมม่ ี จานวนจดุ บนั ทกึ เวลา : ..................................................... 13.6.5 สถานที่มีแสงสวา่ งทวั่ บริเวณ มี ไมม่ ี บางสว่ น 13.6.6 มีระบบการปอ้ งกนั ในสว่ นใดเป็นพเิ ศษ มี ไมม่ ี (ถ้ามี อธิบาย) ................................................................................... ........................................................................................................ 14. ภยั เพ่ิมพเิ ศษ 14.1 การเกิดนา้ ทว่ มบริเวณนี ้ เคย ไมเ่ คย ความถี่ : 14.2 วสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีจดั เก็บมีความเสียหายง่ายเน่ืองจากนา้ ใช่ ไมใ่ ช่ บางสว่ น 14.3 สถานที่ตงั้ มีความเสี่ยงตอ่ ภยั ธรรมชาติ แผน่ ดนิ ไหว ลมพายุ ลกู เห็บ ไฟป่า อ่ืนๆ (ระบ)ุ ............. 14.4 มีความเส่ียงภยั ตอ่ ภยั ทางอากาศหรือไม่ ? มี ไมม่ ี ไกลมาก ระยะหา่ งจากสนามบนิ ...................กิโลเมตร 14.5 มีความเส่ียงภยั จากยวดยานพาหนะหรือไม่ ? มี ไมม่ ี 14.6 ภยั เน่ืองจากควนั จะมีผลตอ่ อปุ กรณ์ วตั ถดุ บิ ผลิตภณั ฑ์ มี ไมม่ ี 14.7 ความเส่ียงภยั จากภยั จลาจลและนดั หยดุ งาน ป่าเถ่ือนเจตนาร้าย ฯลฯ มี ไมม่ ี (ถ้ามี อธิบาย) ...................................................................................................... ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ 15. ประวตั คิ วามเสียหาย 15.1 เคยเกิดความเสียหายบ้างหรือไม่ ? เคย ไมเ่ คย (ถ้าเคย) จานวนครัง้ : ..................................ครัง้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 4/29

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 4 : การประเมินความเส่ียงภยั 15.2 จานวนครัง้ ที่เกิดความเสียหายรุนแรง : ....................................ครัง้ คา่ ความเสียหายโดยประมาณ : ..............................................บาท สาเหตใุ นการเกิดความเสียหาย ................................................................................ 16. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผ้สู ารวจภยั - ....................................................................................................................................... - ....................................................................................................................................... ลงชื่อ..........................ผ้สู ารวจภยั แบบฝึ กหดั 1. แบบฝึกหดั เรื่อง EML มีอาคารสองหลงั คอื อาคาร A และ B เป็นคอนกรีตซง่ึ อาคาร A ใช้เป็นโรงงานและอาคาร B ใช้ เป็นโกดงั เก็บของ อยหู่ า่ งจากกนั เป็นระยะเกิน 10 เมตร โรงงาน A มีจานวนเงินเอาประกนั ภยั สาหรับอาคาร 2,000,000 บาท เครื่องจกั ร 8,000,000 บาทและสต็อกสินค้า 3,000,000 บาท ในขณะที่โกดงั B มีจานวนเงินเอาประกนั ภยั สาหรับอาคาร 3,000,000 บาทและสตอ็ กสินค้า 24,000,000บาท อาคารทงั้ สองหลงั ไมม่ ีกาแพงกนั ไฟภายในอาคารเลย ดงั นนั้ ถ้าเกิดเพลงิ ไหม้ ขนึ ้ ไฟจะลกุ ไหม้ตวั อาคารแตล่ ะหลงั ได้ง่าย ให้คานวณคา่ EML 2. ผ้บู ริหารโรงงานผลิตชนิ ้ ส่วนยานยนต์แหง่ หนง่ึ สร้างโรงงานอยใู่ นนิคมอตุ สาหกรรมนวนคร จ.ปทมุ ธานี ต้องการให้ท่านซ่งึ เป็นผ้จู ดั การด้านความเส่ียงภยั ทารายงานการจดั การความเสี่ยง ภยั โดยให้วิเคราะห์ตามกระบวนการจดั การความเสี่ยงภยั 4 ขนั้ ตอนตามบทเรียนที่ได้กลา่ วแล้ว และนาเสนอให้ผ้บู ริหารเข้าใจ 3. หากทา่ นเป็นผ้สู ารวจภยั และต้องเข้าสารวจภยั โกดงั เก็บสนิ ค้า ซงึ่ เป็นโกดงั ให้เชา่ เก็บสินค้า และลกู ค้าต้องการซือ้ ประกนั ภยั ทา่ นจะสอบถามข้อมลู ใดลกู ค้าบ้าง และเพราะเหตใุ ด จงอธิบาย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 4/30

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 การพจิ ารณารับประกันภัยทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นกั ศกึ ษาอธิบายลกั ษณะของการประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ 2. เพื่อให้นกั ศกึ ษาเข้าใจกระบวนการและปัจจยั ในการพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สิน 3. เพ่ือให้นกั ศกึ ษากาหนดแนวทางในการพจิ ารณาและการวิเคราะห์ผลการรับประกนั ภยั ทรัพย์สิน เชิงพาณิชย์ 4. เพ่ือให้นกั ศกึ ษาเข้าใจความสาคญั และวตั ถปุ ระสงค์ของการสารวจภยั รูปแบบและวิธีการสารวจ ภยั รวมถงึ การประเมินความเสียหายสงู สดุ ที่อาจจะเกิดขนึ ้ เพื่อนามาเป็นข้อมลู ในการพจิ ารณารับ ประกนั ภยั ในบทเรียนตอ่ ไป หลักการท่ัวไปในการพจิ ารณารับประกันภัยทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ (Commercial Lines Insurance Underwriting) การประกนั ภยั ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์นนั้ เป็นการประกนั ภยั ที่เกี่ยวข้องกบั ธรุ กิจการค้า พาณิชย- กรรม และอตุ สาหกรรม ซงึ่ มีลกั ษณะสลบั ซบั ซ้อนกวา่ การประกนั ภยั สว่ นบคุ คล ทงั้ นีเ้ นื่องจากประเภท ธุรกิจตา่ งๆ มีความเสี่ยงภยั ตา่ งกนั รวมถงึ กระบวนการผลิตตา่ งกนั ตวั อยา่ งเชน่ ลกั ษณะภยั อาคารชดุ จะ มีลกั ษณะของภยั แตกตา่ งกบั ภยั ในโรงงานอตุ สาหกรรมผลิตพลาสตกิ เป็นต้น จงึ จาเป็นต้องมีการ พจิ ารณารับประกนั ภยั อยา่ งละเอียดรอบคอบ ใช้ความชานาญในการคดั เลือกภัยหรือดดั แปลงเง่ือนไขการ ประกนั ภยั ให้เหมาะสมกบั ธุรกิจแตล่ ะประเภท นอกจากนนั้ หากเป็นภยั ประเภทอตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ จานวนเงินเอาประกนั ภยั มกั จะมีมลู คา่ สงู ซง่ึ ผ้รู ับประกนั ภยั ไมส่ ามารถรับเสี่ยงภยั เองได้ทงั้ หมด จาเป็นต้องมีการประกนั ภยั ตอ่ ออกไป ซง่ึ ผ้รู ับประกนั ภยั ตอ่ ก็จะมีข้อจากดั ของตนเองว่า ภยั ประเภทใดบ้าง ที่ตนเองจะไมร่ ับเสี่ยงภยั ทาให้ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั จึงจาเป็นต้องแสวงหาผ้รู ับประกนั ภยั ตอ่ ให้ เหมาะสม สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/1

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ การพจิ ารณารับประกันภัย (Underwriting) การพจิ ารณารับประกนั ภยั คือ การพจิ ารณาประเมนิ ความเสี่ยงภยั จากข้อมลู ที่ได้จากผ้ขู อเอา ประกนั ภยั และหากผ้รู ับประกนั ภยั เหน็ วา่ สามารถรับประกนั ภยั ได้ ก็จะกาหนดเงื่อนไขความค้มุ ครองและ อตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั เสนอแก่ผ้ขู อเอาประกนั ภยั จากนนั้ หากผ้ขู อเอาประกนั ภยั ตกลงตามข้อเสนอ ผ้รู ับ ประกนั ภยั ก็จะออกกรมธรรม์ประกนั ภยั ตอ่ ไป ในกรณีท่ีผ้รู ับประกนั ภยั เห็นวา่ ภยั นนั้ เป็นภยั ท่ีมีความเส่ียงสงู กวา่ ปกตมิ าก ผ้รู ับประกนั ภยั ก็ อาจจะใช้วธิ ีตา่ งๆ ตอ่ ไปนี ้ ก. ปฏิเสธไมร่ ับประกนั ภยั ข. เสนอขอปรับปรุงความเส่ียงภยั โดยวธิ ีการตา่ งๆ เช่น 1) การให้ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ปฏิบตั ติ ามเง่ือนไขบางอยา่ งกอ่ นแล้วจงึ รับประกนั ภยั ซงึ่ อาจจะ เป็นข้อรับรอง (Warranty) 2) เสนอให้มีข้อยกเว้น (Exclusions) เป็นกรณีพเิ ศษ 3) เสนอให้มีจานวนเงินจากดั ความรับผิดยอ่ ย (Sub-Limits) 4) เสนอให้ผ้ขู อเอาประกนั ภยั รับผิดชอบสาหรับคา่ เสียหายสว่ นแรก (Deductible) 5) เพ่ิมเบยี ้ ประกนั ภยั จากอตั ราปกติ (Extra premium) กระบวนการในการพจิ ารณารับประกันภัย (The Underwriting Process) 1. ขนั้ ตอนในการประเมินความเสี่ยงภยั ขนั้ ตอนนีจ้ ะประกอบด้วยขนั้ ตอนยอ่ ยๆ 5 ขนั้ ตอน คือ 1.1 การพิจารณาวา่ ภยั ท่ีขอเอาประกนั ภยั นนั้ เป็นภยั ที่รับได้หรือไม่ 1.2 พจิ ารณาวา่ ข้อมลู ท่ีต้องใช้ในการประเมนิ ความเส่ียงภยั มีเพียงพอหรือไม่ 1.3 พิจารณารายละเอียดของการประกอบกิจการของผ้ขู อเอาประกนั ภยั 1.4 พิจารณาปัจจยั เสี่ยงที่อาจเกิดจากลกั ษณะของการประกอบกิจการนนั้ ๆ 1.5 พิจารณาปัจจยั เส่ียงอนั อาจเกิดจากการบริหารจดั การอื่นๆ 2. ขนั้ ตอนในการรับประกนั ภยั จะประกอบด้วยขนั้ ตอนยอ่ ยๆ อีก 5 ขนั้ ตอน ดงั นี ้ 2.1 พิจารณากาหนดเงื่อนไขความค้มุ ครองที่เหมาะสม 2.2 พิจารณาประวตั กิ ารเรียกร้องสนิ ไหมทดแทนในอดีต 2.3 คานวณอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ที่เหมาะสม สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/2

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ 2.4 พจิ ารณาถึงการใช้อานาจในการรับประกนั ภยั อยา่ งถกู ต้อง 2.5 การเสนอการประกนั ภยั ไปยงั ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ปัจจัยหลักในการพจิ ารณารับประกันภัย มีปัจจยั หลกั อยู่ 5 ปัจจยั ท่ีใช้ในการพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินคือ 1. สถานที่ตงั้ (Location/Situation) 2. ลกั ษณะของภยั ท่ีเก่ียวเน่ืองกบั การประกอบการและการใช้สถานที่ (Occupancy) 3. ลกั ษณะส่ิงปลกู สร้าง (Construction) 4. ภยั (Perils) 5. เง่ือนไขความค้มุ ครองของกรมธรรม์ (Policy Wordings) 1, สถานที่ตงั้ จะเก่ียวข้องกบั ภยั ที่ค้มุ ครอง ผ้พู จิ ารณารับประกนั ภยั จะต้องประเมนิ ภยั หลกั ๆ ท่ีอาจจะก่อให้เกิด ความเสียหาย และผลกระทบจากความเสียหายท่ีอาจจะเกิดขนึ ้ ตวั อยา่ งเชน่ 1.1 อคั คภี ยั ควรพิจารณาถงึ สถานที่ตงั้ ของแหลง่ นา้ ท่ีสามารถจะใช้ในการดบั เพลงิ , ความ เพียงพอของแรงดนั นา้ , สถานีดบั เพลิงที่อยใู่ กล้เคยี ง ตลอดจนสงิ่ ปลกู สร้างท่ีอยขู่ ้างเคยี งวา่ ทาอะไรเป็นต้น 1.2 โจรภยั ควรพจิ ารณาถงึ สถิตกิ ารเกิดโจรกรรมในพืน้ ท่ีนนั้ 1.3 ภยั นา้ ทว่ ม ควรพจิ ารณาวา่ สถานท่ีนนั้ อยใู่ นพืน้ ที่ท่ีคอ่ นข้างตา่ และมีประวตั ิการเกิดนา้ ทว่ ม บอ่ ยหรือไม่ 1.4 ภยั แผน่ ดนิ ไหว ควรพจิ ารณาวา่ ภยั นนั้ ตงั้ อยใู่ นบริเวณที่อยใู่ นเขตแผ่นดนิ ไหวหรือไม่ 2. ลกั ษณะภยั ท่ีเก่ียวเนื่องกบั การประกอบการและการใช้สถานท่ี ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั จะต้องพิจารณาอยา่ งละเอียดถงึ ลกั ษณะการประกอบการในสถานที่นนั้ โดยเฉพาะกระบวนการผลิตที่มีอยมู่ ากกวา่ ท่ีจะมงุ่ ไปท่ีลกั ษณะภยั เทา่ นนั้ กระบวนการผลติ เลก็ ๆ น้อย อาจจะเป็นความเสี่ยงภยั ขนาดใหญ่ก็ได้ ผ้พู จิ ารณารับประกนั ภยั ควรจะตระหนกั ถึงการเปล่ียนแปลงใน เทคโนโลยีท่ีอาจจะกระทบถึงภยั ที่กาลงั พจิ ารณาอยวู่ า่ จะเป็นเชน่ ไร สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/3

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ จากรายงานสถิตริ ายปี การประกนั อคั คีภยั ประเทศไทย (ปีรับประกนั ภยั 2544 - 2548) มีการระบุ วา่ ลกั ษณะภยั ที่มีอตั ราคา่ สินไหมทดแทนอคั คภี ยั เฉล่ีย ระหวา่ งปีรับประกนั ภยั 2544 – 2548 สงู สดุ 5 ลกั ษณะภยั แรก ได้แก่ 1. โรงงานทาฟองนา้ (6036) 2. โรงงานผลิตยางพาหนะ ข. อื่นๆ (2115) 3. โรงบม่ หรือโรงอบใบยาสบู ใช้ความร้อนจากไอนา้ หรือไฟฟา้ (2050) 4. โรงงานทาที่นอน ไมด่ าเนนิ งานด้วยนนุ่ หรือ กากมะพร้าว (6018) และ 5. โรงงานผลิตยางพาหนะ ก. มีเง่ือนไข (2114) ซง่ึ มีอตั ราคา่ สินไหมทดแทน อคั คภี ยั เฉลี่ย ตงั้ แตร่ ้อยละ 275.77 จนถึงร้อยละ 807.25 สว่ นลกั ษณะภยั ที่มีอตั ราคา่ สินไหมทดแทนอคั คีภยั เฉลี่ยระหวา่ งปีรับประกนั ภยั 2544 - 2548 ต่าสดุ 5 ลกั ษณะภยั แรก ตา่ งก็มีอตั ราคา่ สินไหมทดแทนอคั คีภยั เฉล่ีย 5 ปีท่ีศกึ ษาร้อยละ 0.00 ได้แก่ 1. สถานท่ีทาการของราชการ (1059) 2. โรงงานทากระป๋ อง (4001) 3. โรงงานเบยี ร์ (2047) 4. โรงตีเหล็ก หรือหลอมเหล็ก (4011) และ 5. โรงงานประกอบรถยนต์ (4023) อยา่ งไรก็ตาม ในปี 2549-2550 รายงานสถิตกิ ารประกนั ภยั ทรัพย์สนิ ของ บริษัท ไทยรับประกนั ภยั ตอ่ จากดั (มหาชน) ระบวุ า่ ลกั ษณะของภยั ท่ีมีอตั ราคา่ สินไหมทดแทนสงู สดุ 5 อนั ดบั แรกสาหรับการ รับประกนั อคั คีภยั จาแนกตามลกั ษณะภยั ที่มีเบีย้ ประกนั ภยั รับโดยตรงสงู สดุ 5 อนั ดบั แรกเป็นดงั นี ้ Accounting Year Basis ปี 2550 อัตราค่า ปี 2549 อัตราค่า อันดบั ท่ี ลักษณะภัย (รหัส) สินไหม ลักษณะภยั (รหัส) สินไหม 985.94% รง. ผลิตภณั ฑ์ยา (6039) 207.44% 1 รง.ทากระดาษหรือผลิตภณั ฑ์ กระดาษ (2001) 2 โรงบม่ ยาง (2092) 602.23% รง. ทาผลิตภณั ฑ์ยาง (ยกเว้น 163.87% รองเท้ายาง) (2091) 3 รง.ทาฝา้ ยสาหรับการสางฝา้ ย รีด 215.14% รง.ทาฝา้ ยสาหรับการสางฝา้ ย 139.63% ป๋ ยุ สาวใย (2071) รีดป๋ ยุ สาวใย (2071) 4 โรงงานทาเคร่ืองนงุ่ หม่ (2019) 164.15% โรงย้อม (2088) 106.94% 5 รง. ทาพลาสตกิ ไมด่ าเนินงานด้วย 136.60% รง. ทาเคร่ืองนงุ่ หม่ (2019) 104.54% เซลลลู อยด์ (6033) สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/4

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ สว่ นการประกนั สรรพภยั นนั้ ลกั ษณะภยั ท่ีมีอตั ราคา่ สินไหมทดแทนสงู สดุ 5 อนั ดบั แรกของปี 2550-2549 จาแนกตามลกั ษณะภยั ที่มีเบยี ้ ประกนั ภยั รับโดยตรงสงู สดุ เป็นดงั นี ้ Accounting Year Basis ปี 2550 ปี 2549 อันดับท่ี ลักษณะภยั (รหสั ) อัตราค่า ลักษณะภยั (รหัส) อัตราค่า สนิ ไหม สนิ ไหม 1,392.94% 1 รง. ทาผลิตภณั ฑ์ยาง (ยกเว้นรองเท้า 985.94% โรงแรม (1051) 190.02% ยาง) (2091) 135.17% 2 รง. ประกอบเคร่ืองโทรทศั น์วิทยุ 290.57% โกดงั เก็บสนิ ค้าไมม่ ีอนั ตราย 116.49% (4003) (1006) 108.29% 3 สานกั งานไมเ่ ก็บสนิ ค้าอนั ตรายไมท่ า 247.36% สานกั งานธนาคาร (1029) การผลิต (1062) 4 รง. ผลิตเครื่องกระป๋ อง (3007) 241.12% โรงพยาบาล (1038) 5 รง.ผลิตยางพาหนะ (ก.มีเง่ือนไข) 155.76% โรงไฟฟา้ (1041) (2114) 3. ลกั ษณะสง่ิ ปลกู สร้าง นอกจากการพิจารณาถึงลาดบั ชนั้ ของส่ิงปลกู สร้างท่ีกาหนดไว้ในพกิ ดั อตั ราเบยี ้ ประกนั อคั คภี ยั แล้ว เจ้าหน้าที่รับประกนั ภยั ต้องศกึ ษาถึงสิง่ ปลกู สร้างสาหรับการผลติ บางอยา่ งที่อาจจาเป็นต้องมีวิธีการ ก่อสร้างเป็นพิเศษ เชน่ โรงงานท่ีผลติ สี หรือโกดงั ท่ีเก็บวตั ถไุ วไฟ หรือวตั ถรุ ะเบดิ โดยเน้นที่ความปลอดภยั (Safety) และความทนไฟ (Fire Resistance) เป็นสาคญั นอกเหนือจากนนั้ เจ้าหน้าท่ีรับประกนั ภยั จะต้อง พจิ ารณาถึงระยะเวลาที่รถดบั เพลงิ จะมาถึงสถานท่ีนนั้ ประกอบด้วย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/5

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ 4. ภยั ท่ีค้มุ ครอง ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ควรตระหนกั ถึงภยั ที่พบในการประกนั ภยั ทรัพย์สินที่กาลงั พิจารณาอยนู่ นั้ ตวั อยา่ งเชน่ การค้มุ ครองภยั จากควนั และภยั เปียกนา้ อาจมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยตอ่ อาคารสานกั งาน แตอ่ าจจะทาให้ผ้รู ับประกนั ภยั ต้องจา่ ยเงินคา่ สินไหมเป็นจานวนมากจากภยั เปียกนา้ ก็ได้ 5. เงื่อนไขความค้มุ ครองของกรมธรรม์ ผ้พู จิ ารณารับประกนั ภยั ควรจะให้ความสนใจในประเดน็ ตอ่ ไปนี ้ - ข้อความท่ีระบใุ นกรมธรรม์และขอบเขตการค้มุ ครอง - วิธีการชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทน - เงื่อนไขพิเศษที่มีในกรมธรรม์ - ข้อยกเว้นในสญั ญาประกนั ภยั ตอ่ ของบริษัท นอกจากปัจจยั ข้างต้นแล้ว ในการประกันอคั คภี ยั และการประกนั สรรพภยั เจ้าหน้าที่รับประกนั ภยั ควรพิจารณาถึงปัจจยั อื่นๆ ตอ่ ไปนีป้ ระกอบด้วย - การดแู ลรักษาความเรียบร้อย - มาตรการปอ้ งกนั ภยั - ประสบการณ์ของผ้ปู ระกอบการ - ประวตั ิความเสียหาย - ประวตั ิการประกนั ภยั - มลู คา่ ของทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั - จานวนเงินเอาประกนั ภยั - ความเสียหายสงู สดุ ท่ีอาจจะเกิดขนึ ้ ได้ - ประวตั กิ ารดาเนินธุรกิจ - ความสามารถในการสร้างกาไรของธุรกิจ - ฐานะการเงินของผ้เู อาประกนั ภยั ตอ่ ไปนีจ้ ะกลา่ วถงึ เงื่อนไขที่สาคญั บางข้อ รวมถึงลกั ษณะความค้มุ ครองบางอยา่ งท่ีปรากฏในกรมธรรม์ ประกนั ภยั ทรัพย์สินทว่ั ไป สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/6

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ การเฉล่ียความเสียหาย (Average) หลกั การเฉล่ียความเสียหายเป็นเงื่อนไขท่ีกาหนดไว้ในสญั ญาประกนั ภยั บางประเภทเทา่ นนั้ มิได้ ระบไุ ว้ในกฎหมายฉบบั ใดๆ การเฉล่ียความเสียหาย มาจากหลกั การท่ีวา่ เมื่อมีการเอาประกนั ภยั ตา่ กวา่ มลู คา่ ที่แท้จริง (Under-Insurance) ทงั้ ผ้รู ับประกนั ภยั และผ้เู อาประกนั ภยั จะถกู ถือเสมือนหนง่ึ วา่ เป็นผ้รู ับประกนั ภยั ร่วมกนั (Co-Insurers) ในกรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั ระบขุ ้อความเป็นเงือ่ นไขไวว้ ่า การประกันภัยทรัพย์สินต่ากว่ามูลค่าที่แท้จริง ในกรณีทีเ่ กิดความเสียหายขึ้นแก่ทรัพย์สินทีเ่ อาประกนั ภยั และปรากฏว่าทรพั ย์สินนน้ั มีมูลค่าสูง กว่าจานวนเงินทีไ่ ดเ้ อาประกนั ภยั ไว้ ใหถ้ ือว่า ผเู้ อาประกนั ภยั เป็นผูร้ ับประกนั ภยั เองในส่วนทีต่ ่างกนั และ ในการคานวณค่าสินไหมทดแทน ผูเ้ อาประกนั ภยั ตอ้ งรับภาระส่วนเฉลีย่ ความเสียหายไปตามส่วนทกุ ๆ รายการ และหากมีมากกว่าหน่ึงรายการใหแ้ ยกพิจารณาเป็นแต่ละรายการโดยบริษทั จะชดใชค้ ่าสินไหม ทดแทนตามความเสียหายแต่ละรายการตามหลกั การต่อไปนี้ ค่าสินไหมทดแทน = จานวนเงินเอาประกนั ภยั x มูลค่าความเสียหาย - ความเสียหายส่วนแรก (ถา้ มี) มูลค่าทีแ่ ทจ้ ริงของทรัพย์สิน ณ เวลาทีเ่ กิดความเสียหาย การละทงิ้ ซากทรัพย์สิน (Abandonment) ภายใต้กรมธรรม์ประกนั ภยั ทรัพย์สิน ผ้เู อาประกนั ภยั ไมม่ ีสทิ ธ์ิท่ีจะละทิง้ ซากทรัพย์สินท่ีได้รับความ เสียหายโดยวนิ าศภยั ท่ีเกิดขนึ ้ การละทงิ ้ ซากทรัพย์สินเชน่ นนั้ จะมีผลกระทบตอ่ การพิจารณาชดใช้ คา่ เสียหายโดยบริษทั ประกนั ภยั การประกันภยั ร่วม (Coinsurance) ในการประกนั ภยั ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์และอตุ สาหกรรมนนั้ เน่ืองจากเป็นภยั ที่มกั จะมีขนาดใหญ่ ทาให้บริษทั ประกนั ภยั เพียงรายเดยี วรับประกนั ภยั น้นทงั้ หมดไมไ่ ด้ จงึ ต้องมีการเอาประกนั ภยั ตอ่ อยา่ งไรก็ ตาม บริษทั ประกนั ภยั อาจจะเลือกรูปแบบของการประกนั ภยั ร่วม โดยที่บริษัทประกนั ภยั หลายบริษัทเข้า ร่วมรับเสี่ยงภยั ในสดั สว่ นท่ีแตกตา่ งกนั มากบ้างน้อยบ้างตามวสิ ยั สามารถของตน การประกนั ภยั ร่วมเชน่ นี ้ สามารถรวมถึงการท่ีผ้เู อาประกนั ภยั ทาหน้าที่เป็นผ้รู ับประกนั ภยั ร่วมเองด้วยก็ได้ บริษัทประกนั ภยั แตล่ ะ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/7

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ รายก็จะออกกรมธรรม์ของตนเองระบสุ ดั สว่ นความเสี่ยงภยั ท่ีตนเองรับประกนั ภยั ไว้และสง่ มอบให้แก่ผ้เู อา ประกนั ภยั การกระทาดงั กลา่ วทาให้เกิดความสนิ ้ เปลืองคา่ ใช้จา่ ยของบริษัทท่ีร่วมรับประกนั ภยั และผ้เู อา ประกนั ภยั เองก็ต้องมีเอกสารกรมธรรม์หลายฉบบั ด้วยเหตนุ ี ้จงึ มีการพฒั นารูปแบบของกรมธรรม์เป็นแบบ Collective Policy (ในคาศพั ท์ประกนั วินาศภยั ให้ความหมายว่า กรมธรรม์ร่วม กรมธรรม์หมู่ 1. กรมธรรม์ประกนั ภยั ทีอ่ อกในนามของผรู้ บั ประกนั ภยั หลายๆ ราย 2. กรมธรรม์ประกนั ภยั ฉบบั เดียวที่ออก คมุ้ ครองบคุ คลหลายๆ คน (แทนการแยกกรมธรรม์ประกนั ภยั สาหรับแต่ละราย) โดยทกุ รายจะได้รับความ คมุ้ ครองเป็นเอกเทศเฉพาะตวั ) โดยที่มีบริษทั ประกนั ภยั รายเดยี วท่ีมกั จะถกู เรียกวา่ Leading insurer หรือ Leading Underwriter เป็นผ้อู อกกรมธรรม์ฉบบั เดียวและระบรุ ายช่ือบริษัทที่ร่วมรับประกนั ภยั ทกุ ราย พร้อมทงั้ สดั สว่ นของการรับประกนั ภยั แตล่ ะราย บริษทั ท่ีออกกรมธรรม์จะทาหน้าที่แทนบริษัทอื่นๆในการ ออกเอกสารแนบท้าย ออกใบเสร็จรับเงิน และตดิ ตามเบีย้ ประกนั ภยั โดยปกติ บริษัทนีจ้ ะได้รับ คา่ ธรรมเนียมการดาเนินการเหลา่ นีจ้ ากบริษัทท่ีร่วมรับประกนั ภยั Floating Cover (คาศพั ท์ประกนั วินาศภยั ใหค้ วามหมายว่า คือกรมธรรม์ลอยตวั กรมธรรม์ประกนั ภยั ทรพั ย์สิน แบบหนึ่งทีค่ มุ้ ครองการสูญเสียหรือการเสียหายของทรพั ย์สินไม่ว่าจะอย่ทู ี่ใด เช่นกระเป๋ าเดินทาง หรือ กลอ้ งถ่ายรูปของนกั ท่องเทีย่ ว ส่วนใหญ่จะให้ความคมุ้ ครองสาหรบั ภยั ทกุ ประเภท) สาหรับการรับประกนั ภยั อตุ สาหกรรมท่ีมีขนาดใหญ่ที่มีสถานท่ีตงั้ ทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั กระจายไปหลายแหง่ แตม่ ีทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั เป็นประเภทเดียวกนั บริษัทประกนั ภยั อาจจะออก กรมธรรม์โดยให้ความค้มุ ครองเป็นแบบ Floating คือ มีจานวนเงินเอาประกนั ภยั จานวนเดียว (Single Sum Insured) ค้มุ ครองทรัพย์สินประเภทเดียวกนั ท่ีอย่ตู ามสถานที่ตงั้ ตา่ งๆ ท่ีระบใุ นกรมธรรม์ประกนั ภยั บริษัทประกนั ภยั จะต้องพจิ ารณามลู คา่ ของทรัพย์สินนนั้ ๆ วา่ ในแตล่ ะแหง่ มีจานวนเงินสงู สดุ เทา่ ใด และใช้ จานวนเงินที่ใกล้เคยี งกบั จานวนเงินสงู สดุ นนั้ เป็นจานวนเงินเอาประกนั ภยั ของกรมธรรม์ กรมธรรม์ประเภท นีจ้ ะมีเง่ือนไขการเฉลี่ยความเสียหาย (Average) เสมอ อยา่ งไรก็ตาม การออกกรมธรรม์ประเภทนี ้ไมเ่ ป็น ท่ีนิยมของบริษทั ประกนั ภยั เพราะประเมินความเส่ียงภยั อยา่ งละเอียดได้ยาก คานวณอตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั และกาหนดวงเงินรับเสี่ยงภยั เองท่ีเหมาะสมได้ลาบาก สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/8

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ Blanket Cover (คาศพั ท์ประกนั วินาศภยั ให้ความหมายว่า คือกรมธรรม์คมุ้ ครองรวม กรมธรรม์ซ่ึงมีจานวนเงิน เอาประกนั ภยั จานวนเดียว แต่คมุ้ ครองรวมหลายรายการ โดยมิได้แยกจานวนเงินเอาประกนั เป็นรายๆ เช่น กรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั ที่ค้มุ ครองสิ่งก่อสร้างหลายแห่ง หรือกรมธรรม์ประกนั ความซื่อสตั ย์ของลกู จ้าง) ในบางกรณี ผ้เู อาประกนั ภยั อาจจะมีทรัพย์สินท่ีต้องการเอาประกนั ภยั หลายประเภทอยใู่ นอาคาร (Buildings) หรือนอกอาคารหลายแหง่ ที่ตงั้ อยภู่ ายในบริเวณสถานที่เอาประกนั ภยั (Insured Premises) แหง่ เดียว บริษัทประกนั ภยั อาจจะออกกรมธรรม์เป็นแบบ Blanket Cover เพ่ือค้มุ ครองทรัพย์สินทงั้ หมด นนั้ โดยไมม่ ีการแยกจานวนเงินเอาประกนั ภยั ของทรัพย์สินในแตล่ ะอาคารเป็นแตล่ ะรายการ แตม่ ีจานวน เงินเอาประกนั ภยั จานวนเดียวสาหรับทรัพย์สนิ แตล่ ะประเภทในสถานท่ีตงั้ นนั้ เชน่ จานวนเงินเอา ประกนั ภยั สาหรับอาคาร จานวนเงินเอาประกนั ภยั สาหรับเครื่องจกั ร และจานวนเงินเอาประกนั ภยั สาหรับ สตอ็ กสินค้า เป็นต้น กรมธรรม์ประเภทนีจ้ ะมีเง่ือนไขเฉลี่ยความเสียหาย (Average) เสมอ นอกเหนือจากการประกนั อคั คีภยั ซง่ึ มีความค้มุ ครองพืน้ ฐานเป็นอคั คีภยั แล้วนนั้ การประกนั สรรพ ภยั ซงึ่ มีการขยายความค้มุ ครองเพ่ิมเตมิ และเป็นสาเหตขุ องการสญู เสียหรือเสียหายได้มากมาย เชน่ เครื่องจกั รเสียหาย (Machinery Breakdown) การระเบิดของหม้อนา้ ภยั ตอ่ เครื่องไฟฟ้า การลกั ทรัพย์ ความรับผิดตอ่ สาธารณะ และที่สาคญั คอื ธุรกิจหยดุ ชะงกั (Business Interruption) ดงั นนั้ เจ้าหน้าที่ รับประกนั ภยั ควรพิจารณาถึงปัจจยั ที่มีผลตอ่ ความเส่ียงภยั เพ่มิ เตมิ สาหรับความค้มุ ครองแตล่ ะประเภท ด้วย การที่ความค้มุ ครองเหลา่ นีเ้ป็นเพียงสว่ นขยายความค้มุ ครองภายใต้กรมธรรม์ประกนั สรรพภยั อาจ ทาให้เจ้าหน้าท่ีรับประกนั ภยั ละเลยท่ีจะพิจารณาถึงปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ ความเส่ียงภยั อยา่ งละเอียด เชน่ เดยี วกบั การเอาประกนั ภยั แตล่ ะประเภทไป กระบวนการรับประกันภยั (Underwriting Procedures) จากท่ีกลา่ วข้างต้นในการพิจารณารับประกนั ภยั แล้ว กระบวนการรับประกนั ภยั จะเป็นดงั นี ้ 1.ใบคาขอเอาประกนั ภยั (Proposal Forms) 2.ใบเสนอราคา (Quotations) 3.การคานวณเบีย้ ประกนั ภยั (Premium Calculation) 4.กรมธรรม์ประกนั ภยั หนงั สือค้มุ ครองชว่ั คราว ใบรับรองการประกนั ภยั (Policy, Cover Note, Certificate) สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/9

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ 5.การชาระเบีย้ ประกนั ภยั (Premium Payment) 1. ใบคาขอเอาประกันภยั (Proposal Forms) ใบคาขอเอาประกนั ภยั เป็นเครื่องมือพืน้ ฐานของผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ซงึ่ ได้ออกแบบเพื่อ ต้องการสอบถามข้อมลู ของผ้ขู อเอาประกนั ภยั และผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องแถลงความจริง ในปัจจบุ นั ใบคา ขอเอาประกนั ภยั จะระบขุ ้อความเตอื นให้ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ตอบคาถามเป็นจริง หากปกปิดความจริง ผ้รู ับ ประกนั สามารถปฎิเสธคา่ สนิ ไหมทดแทนได้ โดยใช้หลกั การ Utmost Good Faith “คาเตือน ผู้ขอเอาประกันภยั ต้องตอบคาถามตามแบบสอบถามตามความเป็ นจริงทกุ ข้อ การปกปิ ด ข้อเทจ็ จริงใดๆ อาจเป็ นเหตุให้บริษัทผู้รับประกันภัยปฏเิ สธไม่จ่ายเงนิ ค่าสนิ ไหมทดแทนตาม สัญญาประกันภัย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 865” ผ้พู จิ ารณารับประกนั ภยั นาข้อมลู ในใบคาขอเอาประกนั มาประเมนิ ความเส่ียงภยั หากข้อมลู ยงั ไม่ เพียงพอผ้พู จิ ารณารับประกนั อาจจะขอข้อมลู เจาะจงเพมิ่ เตมิ ใบคาขอเอาประกนั ภยั อาจจะสง่ ให้กบั ผ้ขู อ เอาประกนั ภยั โดยตรงหรือสง่ ผา่ นให้กบั ตวั แทน นายหน้า ของผ้ขู อเอาประกนั ภยั โดยปรกตใิ บคาขอเอา ประกนั ภยั นีจ้ ะเหมาะสมกบั ภยั ขนาดเลก็ (personal line) และ ขนาดกลาง (SME) ซงึ่ สามารถให้ข้อมลู จากใบคาขอเอาประกนั ภยั แตอ่ าจจะไมเ่ หมาะสมสาหรับภยั ขนาดใหญ่เพราะมีความซบั ซ้อนของภยั มากกวา่ จงึ จาเป็นต้องมีการสารวจภยั เพ่ิมเตมิ อยา่ งไรก็ตามใบคาขอเอาประกนั ภยั จะเป็นคาเสนอให้กบั บริษทั ประกนั ภยั และเป็นพืน้ ฐานทาสญั ญาประกนั ภยั 2. ใบเสนอราคา (Quotations) หลงั จากผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ได้รับใบคาขอเอาประกนั ภยั และประเมนิ ความเส่ียงภยั แล้ว หากเข้า ขา่ ยในหลกั การที่สามารถจะรับเสี่ยงภยั ได้ ผ้พู จิ ารณารับประกนั ก็จะออกใบเสนอราคา (Quotations) ให้กบั ผ้ขู อเอาประกนั ภยั หรือ ผ้มู งุ่ หวงั (Prospect) โดยในใบเสนอราคาจะกาหนดความค้มุ ครองและ เงื่อนไขในการรับประกนั ภยั ตา่ งๆ รวมถึงเบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีผ้ขู อเอาประกนั ภยั จะต้องชาระ ใบเสนอราคานีจ้ งึ เป็นคาเสนอให้กบั ผ้ขู อเอาประกนั ภยั หากผ้ขู อเอาประกนั ภยั ยนิ ยอมตกลงตามใบเสนอราคา สญั ญา ประกนั ภยั ก็จะเริ่มขนึ ้ ดงั นนั้ ใบเสนอราคานีจ้ าเป็นต้องกาหนดวนั ครบอายขุ องใบเสนอราคา (valid date of Quotations) เพราะผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั จะเป็นผ้ทู าคาเสนอกลบั ให้แก่ลกู ค้า หรือ ผ้ขู อเอา สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/10

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ ประกนั ภยั หากไมก่ าหนดวนั ครบอายขุ องใบเสนอราคา จะทาให้ใบเสนอราคานีเ้ป็นคาเสนออยตู่ ลอดเวลา หากผ้ขู อเอาประกนั ภยั สนองตอบเมื่อใดสญั ญาจะเกิดขนึ ้ ทนั ที ทาให้เกิดความเส่ียงของผ้รู ับประกนั ภยั มากขนึ ้ 3. การคานวณเบีย้ ประกันภยั (Premium Calculations) ก่อนท่ีผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั จะทาใบเสนอราคาให้กบั ผ้ขู อเอาประกนั ภยั เป็นหน้าที่ของผ้พู จิ ารณา รับประกนั ภยั จะต้องคานวณเบีย้ ประกนั ภยั ให้เหมาะสมกบั ความเสี่ยง โดยประเมนิ ความเสี่ยงประกอบกบั สถิตติ า่ งๆ ดงั นนั้ หากสถิตมิ ีจานวน risk มาก โดยหลกั การ law of large number ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ก็จะสามารถคานวณเบยี ้ ประกนั ภยั ได้ถกู ต้องมากขนึ ้ สาหรับการประกนั ภยั ทรัพย์สิน การคานวณเบยี ้ ประกนั ภยั นนั้ ผ้พู จิ ารณารับประกนั ภยั จะคานวณ อตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั คณู กบั จานวนเงินเอาประกนั ภยั เบยี ้ ประกนั ภยั = จานวนเงินเอาประกนั ภยั x อตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั ตวั อย่าง โรงงานทาประกนั อคั คภี ยั จานวนเงิน 10,000,000 บาท ผ้รู ับประกนั ภยั คานวณความเสี่ยงภยั คดิ เป็นอตั รา 0.2% เบยี ้ ประกนั ภยั = 10,000,000 x 0.2% = 20,000 บาท 4. กรมธรรม์ประกันภยั หนังสือคุ้มครองช่ัวคราว ใบรับรองการประกันภยั (Policy, Cover Note, Certificate) กรมธรรม์ประกันภัย (Policy) เม่ือผ้ขู อเอาประกนั ภยั ตอบรับใบเสนอราคาแล้ว ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ก็จะออกเอกสาร กรมธรรม์ (Insurance Policy) เพ่ือเป็นหลกั ฐานหนงั สือของสญั ญาประกนั ภยั ให้กบั ผ้เู อาประกนั ภยั โดยในกรมธรรม์ประกนั ภยั จะระบรุ ายละเอียดคาจากดั ความ ทรัพย์สนิ ที่เอาประกนั ภยั ข้อตกลง ค้มุ ครอง ข้อยกเว้น เงื่อนไขตา่ งๆของการประกนั ภยั รวมถึงเบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีจะต้องชาระ หนังสือคุ้มครองช่ัวคราว (Cover Note) ในบางครัง้ ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ยงั ไมส่ ามารถออกกรมธรรม์ประกนั ภยั ได้ทนั ที เน่ืองจากจะต้อง รอรายละเอียดเพม่ิ เตมิ จากผ้ขู อเอาประกนั ภยั หรือ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั กาลงั จะตดั สินใจเพิม่ จานวน เงินเอาประกนั ภยั แตต่ ้องการให้เริ่มการประกนั ภยั ตามใบเสนอราคาก่อน เป็นต้น ดงั นนั้ ผ้พู จิ ารณา สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/11

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ รับประกนั ภยั ก็จะออกหนงั สือค้มุ ครองชวั่ คราวให้กบั ผ้เู อาประกนั ภยั โดยค้มุ ครองตามใบเสนอราคา จนกวา่ ผ้เู อาประกนั ภยั จะสง่ รายละเอียดให้ครบเรียบร้อยตามท่ีผ้พู จิ ารณารับประกนั ร้องขอ หลงั จาก นนั้ ผ้พู ิจารณารับประกนั ภยั ก็จะออกกรมธรรม์ประกนั ภยั ทดแทนหนงั สือค้มุ ครองชวั่ คราว ดงั นนั้ หนงั สือค้มุ ครองชวั่ คราวจงึ มีระยะเวลาค้มุ ครองระยะสนั้ เชน่ 60 วนั นบั จากวนั เริ่มประกนั ภยั ซง่ึ ใน ระยะเวลาดงั กล่าวเพียงพอท่ีจะรวบรวมข้อมลู ในการออกกรมธรรม์ประกนั ภยั ใบรับรองการประกันภัย (Certificate) ในตา่ งประเทศใบรับรองการประกนั ภยั จะเป็นไปตามท่ีกาหนดไว้ในกฎหมายเพ่ือแสดงวา่ ผ้เู อา ประกนั ภยั ได้ทาประกนั ภยั ไว้เรียบร้อยแล้ว เชน่ ในประเทศองั กฤษ กฎหมายกาหนดวา่ จะต้องมี ใบรับรองการประกนั ภยั รถยนต์ในระหวา่ งที่ขบั รถยนตอ์ ยตู่ ลอดเวลา แตใ่ นประเทศไทยอาจจะ นามาใช้ทดแทนกบั กรมธรรม์ประกนั ภยั เป็นต้น 5. การชาระเบีย้ ประกันภัย (Premium Payment) ตามท่ีระบใุ นกรมธรรม์ ผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องชาระเบีย้ ประกนั ภยั ให้กบั บริษทั ประกนั ภยั เพ่ือเป็นการ ตอบแทนในเร่ืองการเส่ียงภยั ของบริษัทประกนั ภยั ในรูปสญั ญาตา่ งตอบแทน แนวทางในการพจิ ารณาและการวิเคราะห์ผลการรับประกันภัยทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ การจัดการ Portfolio สาหรับการประกันภัยทรัพย์สิน เมื่อบริษัทประกนั ภยั เริ่มการดาเนนิ การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินใด จนกระทง่ั ตดั สนิ ใจที่ จะรับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ นนั้ แล้ว ก็จะออกกรมธรรม์ค้มุ ครองผ้เู อาประกนั ภยั สาหรับทรัพย์สินดงั กล่าว ตามเง่ือนไขของการรับประกนั ภยั จานวนกรมธรรม์หรือความเส่ียงภยั ท่ีบริษัทรับประกนั ภยั อยกู่ ็จะเพ่ิมขนึ ้ คุณภาพของ Portfolio ในอดีตที่ผา่ นมาแทบจะกลา่ วได้วา่ บริษัทประกนั ภยั ของไทยมี Portfolio ที่ทากาไรได้แทบทงั้ หมด หลายบริษทั จงึ อาจละเลยการจดั การ Portfolio ไป อาจกลา่ วได้วา่ Portfolio ท่ีมีคณุ ภาพท่ีดีนนั้ จะ ประกอบด้วยความเสี่ยงภยั ที่ให้กาไรมากกวา่ ความเส่ียงภยั ท่ีขาดทนุ หรือมีความเส่ียงภยั ท่ีดมี ากกวา่ ความเส่ียงภยั ท่ีไมด่ ี การรับประกนั ภยั ท่ีดีนนั้ หมายถึง การรับประกนั ภยั ท่ีมีจานวนเบยี ้ ประกนั ภัยสงู กวา่ ความเสียหายท่ีคาดหวงั (Expected Loss) ไว้ (ซงึ่ รวมกบั คา่ ใช้จา่ ยตา่ งๆ ของบริษทั ด้วย) การกาหนด สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/12

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ ความเสียหายท่ีคาดหวงั จงึ เป็นส่งิ สาคญั หากเจ้าหน้าที่รับประกนั ภยั รับประกนั ภยั เข้ามาจานวนมากโดย คดิ วา่ เบยี ้ ประกนั ภยั มีความเหมาะสมแล้ว แตใ่ นความเป็นจริงก็อาจจะรับประกนั ภยั ที่ไมด่ ีเข้ามามาก เกินไป ขณะเดียวกนั หากกาหนดความเสียหายท่ีคาดหวงั ไว้สงู เกินไปก็ทาให้เจ้าหน้าท่ีรับประกนั ภยั ปฏิเสธการรับประกนั ภยั ท่ีอาจจะดีเป็นจานวนมากได้เชน่ เดยี วกนั ดงั นนั้ การคาดหวงั ถึงความเสียหายของ ความเส่ียงภยั ใด จงึ ต้องกระทาด้วยความระมดั ระวงั โดยอาศยั สถิตทิ ี่ถกู ต้อง รวมทงั้ ประสบการณ์ความรู้ ความชานาญที่มากพอด้วย อัตราส่วนค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ในการพจิ ารณาความเสี่ยงภยั วา่ ดีหรือไมน่ นั้ จะต้องพจิ ารณาถึงคา่ สินไหมทดแทนวา่ มีมากกวา่ เบยี ้ ประกนั ภยั รับหรือไม่ หากคา่ สินไหมทดแทนมากกวา่ เบยี ้ ประกนั ภยั รับ ก็จะขาดทนุ ดงั นนั้ เคร่ืองมือในการ พิจารณาวา่ กาไรหรือขาดทนุ จากความเสี่ยงนนั้ จะใช้อตั ราสว่ นคา่ สนิ ไหมทดแทน (Loss Ratio) โดย คานวณเปรียบเทียบกบั เบยี ้ ประกนั ภยั ที่ถือเป็นรายได้ (Earned Premium) อตั ราสว่ นคา่ สินไหมทดแทน (Loss Ratio) = คา่ สนิ ไหมทดแทนที่เกิดขึน้ x 100 เบยี ้ ประกนั ภยั ถือเป็นรายได้ เบีย้ ประกันภยั ถือเป็ นรายได้ (Earned Premium) ปรกตเิ บยี ้ ประกนั ภยั ที่ผ้เู อาประกนั ภยั ชาระ (Gross Written Premium : GWP) บริษทั ประกนั ภยั บนั ทกึ เป็น รายรับของบริษทั แตไ่ มส่ ามารถบนั ทกึ เป็นรายได้ของบริษัทได้เตม็ จานวน เน่ืองจากลกั ษณะการเสี่ยงภยั เป็นไปตามระยะเวลา ดงั นนั้ ในรูปของรายได้จาเป็นต้องบนั ทกึ ให้สอดคล้องกบั ระยะเวลาเสี่ยงภยั ตวั อยา่ ง โรงงาน ก ทาประกนั อคั คภี ยั โดยมีระยะเวลาเร่ิม 1/6/2555 – 1/6/2556 โดยชาระเบีย้ ประกนั ภยั จานวน 12,000 บาทตอ่ ปี สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/13

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ ปี 2555 31/12/2555 ปี 2556 55 1/6/2555 1/6/2556 6,000 (A) 6,000 (B) สาหรับปี 2555 บริษัทประกนั ภยั จะบนั ทกึ เบยี ้ ประกนั รับ (GWP) จานวน 12,000 บาท แตจ่ ะบนั ทกึ เป็น รายได้ของปี 2555 เพียง 6,000 (A) บาทเท่านนั้ เน่ืองจากมีระยะเวลาเส่ียงภยั ของปี 2555 เพียงคร่ึงหนงึ่ ของเบยี ้ ประกนั รับทงั้ หมด ส่วน 6,000 (B) จะเป็นสารองเบยี ้ ประกนั ภยั รับเพราะยงั ไมถ่ งึ กาหนด 6,000 (A) = เบยี ้ ประกนั ถือเป็นรายได้ในปี 2555 (Earned Premium) 6,000 (B) = สารองเบยี ้ ประกนั ภยั (Unearned Premium Reserve) สมมตุ ิ เกิดความเสียหายจานวนเงิน 600 บาท ในวนั ที่ 1/11/2555 และเกิดความเสียหายในวนั ที่ 1/5/2556 จานวนเงิน 11,400 บาท ดงั นนั้ การพิจารณาอตั ราสว่ นคา่ สินไหมทดแทนจะเปล่ียนแปลงตามระยะเวลา ดงั นี ้ 1.ณ วนั ที่ 31/12/2555 อตั ราสว่ นคา่ สนิ ไหมทดแทน (Loss Ratio) = 600 x 100 = 10% 6,000 2.ณ วนั ที่ 1/6/2556 ซง่ึ เป็นวนั ครบอายขุ องกรมธรรม์ฉบบั นี ้ อตั ราสว่ นคา่ สนิ ไหมทดแทน (Loss Ratio) = (600 + 11,400) x 100 = 100% 12,000 ขัน้ ตอนการจัดการ Portfolio 1. การกาหนดคณุ ภาพของ Portfolio 2. การตรวจสอบคณุ ภาพของ Portfolio 3. การวางแผนการสร้างและปรับปรุง Portfolio 4. การดาเนินการตามแผนการสร้างและปรับปรุง Portfolio 5. การประเมินผลและการตรวจสอบคณุ ภาพเพ่ือปรับแผนให้เหมาะสมขนึ ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/14

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ 1. การกาหนดคณุ ภาพของ Portfolio Portfolio ที่จะสร้างผลกาไรอยา่ งตอ่ เน่ืองแก่บริษัทประกนั ภยั ควรต้องมีการควบคมุ คณุ ภาพไว้ใน ระดบั หนงึ่ วธิ ีหนง่ึ ในการควบคมุ คณุ ภาพของ Portfolio อาจใช้การกาหนดสว่ นผสมของ Portfolio (Portfolio Mix) ระหวา่ งความเส่ียงภยั ที่ดีและไมด่ ีในอตั ราท่ีปลอดภยั บางบริษัทอาจกาหนดให้ต้องมี สว่ นผสมของความเส่ียงภยั ท่ีดีไว้ไมต่ า่ กวา่ ร้อยละ 70 ในขณะที่บางบริษทั อาจมีมากกวา่ หรือน้อยกวา่ ซงึ่ ขนึ ้ อย่กู บั นโยบายการบริหารของแตล่ ะบริษทั อยา่ งไรก็ตาม การกาหนดสว่ นผสมเพียงไรจะเหมาะสมนนั้ จะต้องคานงึ ถึงความถกู ต้องของการใช้ข้อมลู ท่ีมีอยใู่ นการคาดคะเนความเสียหายที่อาจจะเกิดขนึ ้ ด้วย หากข้อมลู ขาดความแนน่ อน ก็จะต้องเผื่อสดั สว่ นในทางที่เพม่ิ ความเส่ียงภยั ท่ีดมี ากขนึ ้ 2. การตรวจสอบคณุ ภาพของ Portfolio การตรวจสอบคณุ ภาพของ Portfolio จะต้องมีการจดั ระบบการตรวจวดั คณุ ภาพ หากคณุ ภาพของ Portfolio ถกู กาหนดโดยมีส่วนผสมของความเสี่ยงภยั ที่ดี และ ความเส่ียงภยั ท่ีไมด่ แี ล้ว ระบบการตรวจวดั ต้องรู้ว่า ความเส่ียงภยั ท่ีดีนนั้ จะวดั จากอะไร ตวั อยา่ งเชน่ ในประเทศไทย มีการกาหนดรหสั ภยั (Occupancy Code) สาหรับการประกนั อคั คีภยั ทกุ ภยั ดงั นนั้ ในการตรวจวดั ก็อาจมีการแยกอย่างชดั เจน วา่ รหสั ภยั ใดถือเป็นความเสี่ยงภยั ท่ีดี และรหสั ภยั ใดถือเป็นความเส่ียงภยั ท่ีไมด่ ี หลงั จากนนั้ จงึ ถือเอาเบยี ้ ประกนั ภยั หรือ จานวนความเส่ียงภยั หรือ จานวนกรมธรรม์มาตรวจสอบตอ่ ไปวา่ มีสดั สว่ นอยรู่ ้อยละ เทา่ ไรในความเสี่ยงภยั ที่ดี และความเส่ียงภยั ท่ีไมด่ ีตามรหสั ภยั ดงั กลา่ วข้างต้น 3. การวางแผนสร้างและปรับปรุง Portfolio เม่ือได้ทราบถึงคณุ ภาพของ Portfolio ท่ีบริษัทมีอย่ตู อ่ ไป ก็ต้องวางแผนเพื่อท่ีจะสร้างหรือปรับปรุง Portfolio ให้ได้คณุ ภาพตามที่กาหนด การวางแผนดงั กลา่ วนนั้ ก็จะเช่ือมโยงถงึ เรื่องแผนการตลาด และ การกาหนดนโยบายการพจิ ารณารับประกนั ภยั ในการวางแผนการตลาดจะทาให้ทราบถงึ แหลง่ ที่มาของ ความเส่ียงภยั ท่ีมีคณุ ภาพไมด่ ี การ กาหนดนโยบายพจิ ารณารับประกนั ภยั จะเปรียบเสมือนการควบคมุ การไหลเข้ามาของความเสี่ยงภยั ทงั้ ที่ดี และไมด่ ี สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/15

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ 4. การดาเนินการตามแผนการสร้างและปรับปรุง Portfolio เมื่อได้มีการแผนและปรับปรุง Portfolio โดยการวางแผนด้านการตลาดและการพิจารณารับ ประกนั ภยั แล้ว ก็ต้องดาเนินการตามแผนที่วางไว้ให้ใกล้เคยี งท่ีสดุ ซง่ึ จะต้องอาศยั ระเบยี บวนิ ยั ของ เจ้าหน้าท่ีการตลาด และเจ้าหน้าที่พจิ ารณารับประกนั ภยั ในระดบั ท่ีสงู พอสมควร การยอ่ หย่อนตอ่ การ ดาเนินการตามแผนดงั กลา่ ว อาจทาให้คณุ ภาพของ Portfolio เปล่ียนไปได้อยา่ งรวดเร็วโดยคาดไมถ่ ึง และ อาจจะสายเกินกวา่ จะปรับปรุงได้ทนั โดยเฉพาะในภาวการณ์ท่ีมีการแขง่ ขนั สงู และการตกตา่ ของภาวะ เศรษฐกิจ 5. การประเมินผลและการตรวจสอบคณุ ภาพเพ่ือการปรับแผนให้เหมาะสมขนึ ้ ระหวา่ งการดาเนินการตามแผน เราจาเป็นต้องตรวจสอบความคบื หน้าของคณุ ภาพของ Portfolio ที่ได้กาหนดเปา้ หมายไว้ บางครัง้ แผนงานที่วางไว้อาจไมส่ ามารถดาเนินการได้จริงทงั้ หมด ก็ต้องมีการปรับ แผนบางสว่ น ในกรณีท่ีสภาวะทางการตลาดเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็ว อาจกระทบอยา่ งรุนแรงตอ่ แผนการ ตลาด และมาตรฐานการพจิ ารณารับประกนั ภยั หากขาดการติดตาม และย่อหยอ่ นตอ่ ระเบยี บวินยั แล้ว ก็ อาจจะเกิดผลกระทบทางลบขนึ ้ ได้ การปรับแผนตามสมควรอาจจาเป็นต้องกระทา แตต่ ้องไมล่ ืมถงึ หลกั การพืน้ ฐานสาคญั ดงั กล่าวมาแล้ว และเม่ือสิน้ สดุ ระยะเวลาของแผนที่วางไว้ กระบวนการก็จะเริ่มต้น ใหม่ ตงั้ แตข่ นั้ ตอนแรกอีกครัง้ หนง่ึ และตอ่ ไปเร่ือยๆ วิธีการท่ใี ช้ในการจัดการ Portfolio วธิ ีการที่ใช้ในการจดั การ Portfolio อยา่ งมีประสิทธิภาพมีอยู่ 3 วธิ ีด้วยกนั คอื 1. การกาหนดสดั สว่ นของผลิตภณั ฑ์ (Product Mix) 2. การวิเคราะห์ Risk Profile (Risk Profile Analysis) 3. การวิเคราะห์อตั ราสว่ นรวม (Combined Ratio) 1. การกาหนดสดั ส่วนของผลติ ภณั ฑ์ (Product Mix) การกาหนดสดั สว่ นของผลิตภณั ฑ์เป็นวธิ ีหนง่ึ ท่ีถือเป็นกลยทุ ธ์ที่บริษัทประกนั ภยั ชนั้ นาสว่ นใหญ่จะ กระทากนั ในชว่ งการวางแผนงบประมาณประจาปี รวมถึงการกาหนดแผนธุรกิจขององคก์ าร การกาหนด สดั สว่ นของผลิตภณั ฑ์นนั้ อาจจะเป็นสดั สว่ นของประเภทการประกนั ภยั ใหญ่ 2 ประเภท เชน่ การ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/16

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ ประกนั ภยั รถยนต์ และการประกนั ภยั ประเภทอื่นๆ หรืออาจจะเป็นประเภทที่ย่อยลงไป เชน่ อคั คีภยั รถยนต์ ทะเล และเบด็ เตลด็ หรือแม้กระทง่ั การกาหนดสดั สว่ นของประเภทรถยนต์ท่ีแตกตา่ งกนั ในการ ประกนั ภยั รถยนต์เอง เป็นต้น ผลท่ีตามมาจากการกาหนด Product Mix จะก่อให้เกิดการบริหารลกั ษณะภยั ในแตล่ ะผลิตภณั ฑ์ (Managed Portfolio) เหตผุ ลหลกั ท่ีบริษัทมีความจาเป็นต้องทา Managed Portfolio เพราะมี 1) ต้นทนุ การดาเนนิ งานท่ีแตกตา่ งกนั 2) อตั ราความสญู เสีย (Loss Ratio) ท่ีแตกตา่ งกนั 3) ต้นทนุ คา่ บาเหนจ็ (Commission) ที่แตกตา่ งกนั 4) ต้นทนุ ของการจดั การประกนั ภยั ตอ่ (Reinsurance) ท่ีแตกตา่ งกนั 5) กลยทุ ธ์ในการดาเนินงานท่ีแตกตา่ งกนั 6) ผลตอบแทน หรือกาไรที่แตกตา่ งกนั 2. การวเิ คราะห์ Risk Profile (Risk Profile Analysis) Risk Profile จะแสดงให้เหน็ ถึงรูปแบบการรับประกนั ภยั ของบริษัทประกนั ภยั แตล่ ะแห่งวา่ เป็น อยา่ งไร ใน Risk Profile จะประกอบด้วยข้อมลู ดงั นี ้ 2.1 ชว่ งของทนุ ประกนั ภยั 2.2 จานวนภยั หรือ กรมธรรม์ 2.3 จานวนเบีย้ ประกนั ภยั รับตรง 2.4 จานวนครัง้ ของความเสียหาย 2.5 มลู คา่ ความเสียหาย การวเิ คราะห์ Risk Profile ของบริษทั จะทาให้สามารถนากลยทุ ธ์ตา่ งๆ มาวางแผนขยายงานในสว่ น ที่เป็นจดุ แข็งของบริษทั ซง่ึ สามารถทากาไรได้สงู สดุ รวมถึงการจดั โปรแกรมการประกนั ภยั ตอ่ (Reinsurance Program) ได้อยา่ งถกู ต้องตอ่ ไป 3. การวเิ คราะห์อตั ราสว่ นรวม (Combined Operating Ratio : COR or Combined Ratio) การดาเนินงานด้านการรับประกนั ภยั มีความเก่ียวข้องกบั ปัจจยั หลายประการ เชน่ จานวน เงินกองทนุ ของบริษัท ซง่ึ เป็นตวั กาหนดความสามารถในการรับเสี่ยงภยั เอง คา่ สินไหมทดแทนท่ีเกิดขนึ ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/17

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ คา่ ใช้จา่ ยในการรับประกนั ภยั คา่ ใช้จา่ ยดาเนินงาน และการประกนั ภยั ตอ่ จงึ มีอตั ราสว่ นท่ีเกี่ยวข้องที่ควร ศกึ ษาทาความเข้าใจดงั ตอ่ ไปนี ้ 3.1 อตั ราสว่ นคา่ สนิ ไหมทดแทน (Loss Ratio) สาหรับ Portfolio หมายถงึ อตั ราสว่ นระหวา่ งคา่ สนิ ไหมทดแทนที่เกิดขนึ ้ ระหวา่ งปี (Loss Incurred) กบั เบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีถือเป็นรายได้ (Earned Premium) หากมีอตั ราสว่ นนีส้ งู ก็แสดงว่ามีการจา่ ยคา่ สินไหมทดแทนสงู โดยปกติ อตั ราสว่ นนีไ้ มค่ วรเกิน 60% ทงั้ นีข้ นึ ้ อย่กู บั ประเภทของงาน อตั ราสว่ นคา่ สนิ ไหมทดแทน (Porfolio) = คา่ สนิ ไหมทดแทนที่เกิดขนึ ้ ระหวา่ งปี เบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีถือเป็นรายได้ คา่ สนิ ไหมทดแทนท่ีเกิดขนึ ้ ระหวา่ งปี คานวณได้จาก คา่ สินไหมทดแทนท่ีจ่ายระหว่างปี หกั เงินสารองคา่ สินไหมทดแทนต้นปี บวกเงินสารองคา่ สนิ ไหมทดแทนปลายปี สว่ นเบยี ้ ประกนั ภยั ที่ถือเป็นรายได้ คานวณได้จาก เบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิ หกั เงินสารองเบยี ้ ประกนั ภยั ปลายปี บวกเงินสารองเบยี ้ ประกนั ภยั ต้นปี 3.2 อตั ราสว่ นคา่ ใช้จา่ ย (Expense Ratio) หมายถึงอตั ราส่วนระหวา่ งคา่ ใช้จา่ ยด้านการรับ ประกนั ภยั (Underwriting Expenses) กบั เบยี ้ ประกนั ภยั ที่ถือเป็นรายได้ (Earned Premium) อตั ราสว่ นที่ตา่ แสดงวา่ บริษัทมีคา่ ใช้จา่ ยตา่ อตั ราสว่ นคา่ ใช้จา่ ย (Financial Basis) = คา่ ใช้จา่ ยด้านการรับประกนั ภยั เบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีถือเป็นรายได้ คา่ ใช้จา่ ยด้านการรับประกนั ภยั หมายรวมถึง คา่ บาเหน็จท่ีต้องจา่ ยออกไปในการได้งานมา หกั ด้วยคา่ บาเหน็จท่ีได้รับจากการเอาประกนั ภยั ตอ่ บวกคา่ ใช้จา่ ยในการพิจารณารับ ประกนั ภยั โดยตรง เชน่ การสารวจภยั ก่อนการรับประกนั ภยั และบวกด้วยคา่ ใช้จา่ ย ดาเนินงานของบริษัท (Operating Expenses) 3.3 อตั ราสว่ นรวม (Combined Ratio or COR) หมายถึงอตั ราสว่ นรวมของอตั ราสว่ นคา่ สินไหม ทดแทนกบั อตั ราสว่ นคา่ ใช้จ่าย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/18

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ ถ้าอตั ราสว่ นรวมนีต้ ่ากวา่ 100% แสดงวา่ บริษทั มีกาไรในการรับประกนั ภยั ถ้าอตั ราสว่ นรวมนีส้ งู กวา่ 100% แสดงวา่ บริษัทขาดทนุ จากการรับประกนั ภยั ตวั อยา่ ง Combined Ratio = Loss Ratio + Expense ratio (financial basis) 80% + 26% = 106% Underwriting Profit = 100% - 106% = - 6% 3.4 นอกจากอตั ราสว่ นข้างต้น ยงั มีเครื่องมือวดั ความสามารถของผ้รู ับประกนั ภยั ดงั นี ้ 3.4.1 อตั ราสว่ นการรับเส่ียงภยั เอง (Kenny Ratio) หมายถึงอตั ราสว่ นท่ีแสดงความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งเบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิกบั เงินกองทนุ วา่ บริษัทรับเส่ียงภยั เองมากเกินไปหรือไม่ เม่ือเปรียบเทียบกบั เงินกองทนุ ของบริษทั ที่มีในปีนนั้ Kenny rule (casualty ratio) = เบยี ้ ประกนั ภยั รับ <= 2 เงินกองทนุ หากอตั ราส่วนมากกวา่ 2 แสดงวา่ บริษทั รับเส่ียงภยั ไว้เกินฐานะของตนเอง ซง่ึ อาจจะ ไมม่ ีความสามารถเพียงพอที่จะชดใช้คา่ สินไหมทดแทน 3.4.2 Insurance Regulatory and Information System (IRIS) ของประเทศอเมริการได้ คดิ ค้นเครื่องมือเตือนภยั ของบริษัทประกนั ภยั ใช้วดั อตั ราสว่ นการรับเส่ียงเองอีกแบบ หนงึ่ โดยใช้เบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิ และ เงินกองทนุ (Net Premium to Surplus) เป็น การวดั ความสามารถของผ้รู ับประกนั ภยั ดงั นี ้ เบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิ <= 300 % เงินกองทนุ 3.4.3 อตั ราสว่ นการเปล่ียนแปลงของเบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิ หมายถงึ การเพ่มิ ขนึ ้ หรือลดลง ของเบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิจากปีก่อน ซงึ่ ควรพิจารณาตอ่ เนื่องเป็นเวลาหลายปี หาก บริษทั มีการขยายงานดีในอตั ราสม่าเสมอ อตั ราสว่ นนีค้ วรจะเพ่ิมขนึ ้ อยา่ งสม่าเสมอ เชน่ กนั ทกุ ๆ ปี หากบริษัทขยายงานไมส่ ม่าเสมอ อตั ราสวน่ นีจ้ ะเพิม่ ขนึ ้ บางปีและ ลดลงบางปี อตั ราสว่ นนีต้ ้องอยรู่ ะหวา่ ง – 33% และ + 33% ถ้าอตั ราสว่ นนีเ้พิ่มขนึ ้ หรือลดลงในอตั ราเกินกวา่ 33% ขนึ ้ ไป แสดงวา่ มีการดาเนนิ งานที่ผิดปกตกิ ว่าเกณฑ์ มาตรฐาน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/19

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ อตั ราสว่ นการเปลี่ยนแปลงของเบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิ = เบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิปีปัจจบุ นั – เบีย้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิปีกอ่ น เบีย้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิปีกอ่ น นอกเหนือจากการวดั ผลการดาเนนิ งานด้วยการใช้อตั ราส่วนดงั ท่ีกล่าวมาข้างต้นแล้ว บริษัทยงั สามารถวดั ประสิทธิภาพการดาเนนิ งานด้านการรับประกนั ภยั ได้ โดยใช้ประสทิ ธิภาพตอ่ จานวนกรมธรรม์ และ ประสิทธิภาพตอ่ จานวนพนกั งานเป็นเกณฑ์ 1. การวเิ คราะห์ประสทิ ธิภาพด้านการรับประกนั ภยั ต่อกรมธรรม์ บริษัทท่ีมีประสทิ ธิภาพในการดาเนนิ งานด้านการรับประกนั ภยั จะมีคา่ ใช้จา่ ยในการรับ ประกนั ภยั ตอ่ กรมธรรม์ (Expenses per policy) ตา่ และมีกาไรจากการรับประกนั ภยั ตอ่ กรมธรรม์ (Profit per policy) สงู ซงึ่ ตวั ชีว้ ดั ทงั้ สองตวั นีแ้ สดงให้เหน็ ถงึ ความสามารถในการ บริหารจดั การคา่ ใช้จา่ ยของบริษัท จากผลการวจิ ยั ของบริษัท ไทยรับประกันภยั ตอ่ จากดั (มหาชน) สรุปวา่ บริษัทขนาดใหญ่ท่ีมีความพร้อมของระบบสารสนเทศจะมีการประหยดั เชงิ ขนาด (Economies of Scale) มากกวา่ บริษทั ขนาดเล็กอยา่ งชดั เจน 2. การวิเคราะห์ประสิทธิภาพด้านการรับประกนั ภยั ตอ่ พนกั งาน บริษัทที่มีประสิทธิภาพในการรับประกนั ภยั จะสามารถทาเบยี ้ ประกนั ภยั ตอ่ พนกั งาน (Premium per head) และกาไรตอ่ พนกั งาน (Profit per head) ได้สงู ซง่ึ แสดงให้เห็นถงึ ความสามารถในการหารายได้จากการรับประกนั ภยั ที่ดี จากผลการวิจยั ของบริษทั ไทยรับ ประกนั ภยั ตอ่ จากดั (มหาชน) สรุปได้วา่ บริษัทท่ีมีขนาดใหญ่จะมีประสทิ ธิภาพในการหา รายได้ตอ่ พนกั งานและการทากาไรตอ่ พนกั งานมากกว่าบริษทั ขนาดเลก็ การวัดมาตรฐานการทางานของเจ้าหน้าท่ีพจิ ารณารับประกันภัย ในตอนสดุ ท้ายของบทนี ้จะกลา่ วถงึ แนวทางในการพจิ ารณาวา่ เจ้าหน้าที่พิจารณารับประกนั ภยั ของบริษัททาหน้าท่ีได้อยา่ งมีประสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธิผลได้อยา่ งไร การวดั นีเ้ป็นการวดั ผลการ ทางานโดยรวมของเจ้าหน้าที่ของฝ่ายพจิ ารณารับประกนั ภยั โดยรวม ในบางกรณี หวั หน้างานอาจจะ กาหนดตวั ชีว้ ดั บางตวั เป็นตวั ชีว้ ดั ความสาเร็จของเจ้าหน้าที่แตล่ ะรายก็ได้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/20

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ ตวั ชีว้ ดั ท่ีแสดงถึงมาตรฐานการทางานของเจ้าหน้าที่พิจารณารับประกนั ภยั มีอยู่ 10 ประการด้วยกนั ดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. อตั ราความเสียหาย (Loss Ratio) โดยปกตแิ ล้ว ตงั้ แตก่ ารทาแผนธุรกิจของบริษทั ประกนั ภยั ฝ่ายพิจารณารับประกนั ภยั จะมี หน้าที่กาหนดอตั ราความเสียหายของงานแตล่ ะประเภทและโดยรวม เมื่อกาหนดแล้ว ในการรับ งานก็ต้องมีการตดิ ตามผลการรับประกนั ภยั ตลอดเวลาอยา่ งสม่าเสมอ เพ่ือคอยควบคมุ อตั รา ความเสียหายให้อยใู่ นระดบั ท่ีกาหนดไว้ เมื่อถึงสิน้ ปี หากอตั ราความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ จริงเป็นไป ตามหรือไมเ่ กินอตั ราท่ีกาหนดไว้ ก็แสดงวา่ เจ้าหน้าท่ีพิจารณารับประกนั ภยั ประสบความสาเร็จ 2. การคดั เลือกภยั (Selection) ถ้าภยั ท่ีเจ้าหน้าท่ีรับประกนั ภยั รับเข้ามาสว่ นใหญ่เป็นภยั ท่ีมีผลการรับประกนั ภยั ดีมากกวา่ ไมด่ ี หรือ สว่ นใหญ่เป็นภยั ท่ีรับตามหลกั เกณฑ์ที่กาหนดไว้ ไมม่ ีการรับภยั ท่ียกเว้นหรือต้องขอการ รับพเิ ศษ (Special Acceptance) จากผ้รู ับประกนั ภยั ตอ่ มากเกินไป ก็ถือได้วา่ เจ้าหน้าท่ีพิจารณา รับประกนั ภยั ทางานได้ดี 3. สว่ นผสมผลิตภณั ฑ์ (Product Mix) บริษัทอาจจะมีการกาหนดสดั สว่ นประเภทของงานท่ีจะรับประกนั ภยั ไว้ ตงั้ แตง่ านรถยนต์ กบั งานประเภทอื่นๆ เชน่ งานรถยนตไ์ มเ่ กินร้อยละ 60 และงานอื่นๆ ร้อยละ 40 เป็นต้น หรือ อาจจะมีการกาหนดย่อยลงไปอีก เชน่ ในประเภทของงานรถยนตน์ นั้ จะต้องเป็นรถยนต์สว่ น บคุ คลไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 70 ฯลฯ เราต้องไมล่ ืมวา่ การกาหนดอตั ราความเสียหายนนั้ มี องคป์ ระกอบมาจากการกาหนดสว่ นผสมผลิตภณั ฑ์ท่ีลงตวั ด้วย หากเจ้าหน้าที่พจิ ารณารับ ประกนั ภยั สามารถควบคมุ สว่ นผสมดงั กลา่ วนีไ้ ว้ได้โดยไมเ่ อนเอียงไปตามฝ่ายขาย ก็ถือวา่ ประสบ ความสาเร็จ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/21

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ 4. การกาหนดราคา (Pricing) การกาหนดราคาก็คือการกาหนดอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั หรือ กาหนดเบีย้ ประกนั ภยั นน่ั เอง อตั ราที่ดีนนั้ ต้องเหมาะสมกบั สภาพความเส่ียงภยั พอเพียงสาหรับความเสียหาย คา่ ใช้จา่ ยและมี กาไร และต้องใช้รับประกนั ภยั ได้ด้วย ถ้าเจ้าหน้าที่รับประกนั ภยั สามารถกาหนดราคาได้ตาม เปา้ หมาย ก็ถือวา่ ประสบความสาเร็จ 5. ธุรกิจเกือ้ กลู (Accommodation Business) พจนานกุ รมคาศพั ท์ประกนั ภยั ให้ความหมายวา่ เป็น ธุรกิจทีผ่ รู้ บั ประกนั ภยั ยอมรับ ประกนั ภยั ไวจ้ ากตวั แทนหรือนายหนา้ ทง้ั ๆ ที่ตามนโยบายแลว้ ไม่ควรรับประกนั ภยั รายนน้ั แต่ที่ รบั ประกนั ภยั ไว้ เพราะเห็นว่านายหน้าตวั แทน หรือผูเ้ อาประกนั ภยั ไดน้ าธุรกิจอืน่ ที่ค้มุ ค่ามา ประกนั ภยั ไวแ้ ลว้ ดงั นนั้ ถ้ามีงานประเภทนีน้ ้อยเทา่ ใด ก็ยอ่ มแสดงว่า เจ้าหน้าที่รับประกนั ภยั ปฏิบตั ติ ามกฏเกณฑ์ที่ตงั้ ไว้ได้สาเร็จ - บริษัทประกนั ภยั ที่มีมาตรฐานในการพจิ ารณารับประกนั ภยั จะมีการกาหนดเง่ือนไขขนั้ ตา่ สาหรับงานประเภทนีไ้ ว้ เชน่ 1) ตวั แทนหรือผ้สู ง่ งานรายนีจ้ ะต้องมีคณุ คา่ เพียงพอต่อบริษัท ทงั้ ในปัจจบุ นั และศกั ยภาพใน อนาคต โดยเจ้าหน้าที่พิจารณารับประกนั ภยั จะต้องประเมินในเร่ืองตอ่ ไปนี ้ ก. การมีผลกาไรจากการรับประกนั ภยั ของผ้สู ง่ งานรายนี ้ ข. ผลประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รับจากการเกือ้ กลู นี ้ ค. เบยี ้ ประกนั ภยั รวมทงั้ หมดของผ้สู ง่ งานที่เหมาะสมตอ่ ธุรกิจเกือ้ กลู รายนี ้ ง. ผลกาไรจากการรับประกนั ภยั โดยรวม รวมถงึ ธรุ กิจเกือ้ กลู รายนีด้ ้วย 2) จานวนเงินรับเส่ียงภยั เองของธรุ กิจเกือ้ กลู รายนีจ้ ะต้องต่าท่ีสดุ เทา่ ที่จะทาได้ 3) แฟม้ กรมธรรม์ที่เก็บไว้ในบริษัทจะต้องมีการระบไุ ว้ให้เห็นได้ชดั เจนว่าเป็น ธรุ กิจเกือ้ กลู 4) ระยะเวลารับประกนั ภยั สาหรับธุรกิจเกือ้ กลู นีไ้ มค่ วรเกินหนง่ึ ปี และถ้าจะมีการตอ่ อายตุ ้อง ได้รับอนมุ ตั จิ ากผ้มู ีอานาจรับประกนั ภยั 5) การรับประกนั ภยั จะต้องได้รับการอนมุ ตั ิกอ่ นที่จะเร่ิมค้มุ ครอง และ 6) ผ้ทู ี่จะทาการอนมุ ตั ไิ ด้จะต้องเป็นผ้มู ีอานาจสงู สดุ ในการพิจารณารับประกนั ภยั ร่วมกบั ผ้บู ริหารสงู สดุ ของบริษทั สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/22

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ 6. อตั ราสว่ นที่เก็บไว้เอง (Retention Ratio) แนน่ อนที่สดุ ว่าบริษทั ไมส่ ามารถเก็บงานหรือความเส่ียงภยั ทงั้ หมดท่ีรับเข้ามาไว้ได้เอง ทงั้ หมด นอกจากงานรายยอ่ ยๆ ที่หากเกิดความเสียหายแล้วจะไมก่ ระทบตอ่ ฐานะการเงินของ บริษัท ดงั นนั้ การเอาประกนั ภยั ตอ่ เป็นเร่ืองสาคญั แตอ่ ย่างไรก็ตาม สว่ นท่ีเก็บไว้เอง (Retained Portion) นนั้ มีความสาคญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ ผลการรับประกนั ภยั ของบริษัท ถ้าสว่ นที่เก็บไว้เองเป็นภยั ดี มีกาไร บริษทั ก็มีกาไร แตถ่ ้าเจ้าหน้าที่เลือกเก็บภยั ที่ไมด่ ไี ว้เองเป็นจานวนมากเกินควร ก็อาจจะ กระทบตอ่ ผลการรับประกนั ภยั ของบริษัทได้ อยา่ งไรก็ตาม การมีเบยี ้ ประกนั ภยั รับสทุ ธิ (Net Premium Written) มากนนั้ ยอ่ มทาให้บริษัทมีรายได้สาหรับนาไปลงทนุ มากขนึ ้ ด้วย 7. อตั ราสว่ นความสาเร็จในการได้งาน (Success ratio) เจ้าหน้าท่ีพิจารณารับประกนั ภยั เมื่อทาข้อเสนอการรับประกนั ภยั (Quotation) ให้แก่ ลกู ค้าแล้วก็ยอ่ มหวงั วา่ จะได้รับประกนั ภยั งานนนั้ ถ้าจานวนข้อเสนอการรับประกนั ภยั งานสว่ น ใหญ่ที่เจ้าหน้าท่ีเสนอไปนนั้ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ตกลงยอมรับ ในอตั ราที่สงู ก็ยอ่ มแสดงวา่ เจ้าหน้าท่ีประสบความสาเร็จ 8. การให้บริการแก่ตวั แทนผ้สู ง่ งาน (Service to Producers) บทบาทของเจ้าหน้าท่ีรับประกนั ภยั ไมใ่ ชเ่ พียงเป็นผ้พู ิจารณารับงานจากตวั แทนผ้สู ง่ งาน เทา่ นนั้ แตย่ งั จาเป็นต้องมีความสมั พนั ธ์อนั ดกี บั ตวั แทนผ้สู ง่ งานด้วย ในการสร้างความสมั พนั ธ์นี ้ เจ้าหน้าที่ต้องสามารถให้บริการที่ครอบคลมุ ได้ เชน่ ให้คาปรึกษาด้านกรมธรรม์ ด้านการจดั การ สนิ ไหมทดแทน ด้านการเก็บเบยี ้ ประกนั ภยั หรือเป็นสื่อกลางในการประสานงานกบั ฝ่ ายอ่ืนๆ 9. การไมต่ อ่ อายกุ รมธรรม์ (DNR Action) เจ้าหน้าท่ีพจิ ารณารับประกนั ภยั จะต้องพิจารณานากรมธรรม์ประกนั ภยั ที่จะครบกาหนดมา ตรวจสอบผลการรับประกนั ภยั ในชว่ งเวลาที่ผา่ นมา หากผลการรับประกนั ภยั ไมด่ ี ก็อาจจะต้องทา การกาหนดเง่ือนไขใหม่ หรือเพ่มิ เบยี ้ ประกนั ภยั ในการตอ่ อายุ หรือแม้กระทงั่ การแจ้งงดตอ่ อายแุ ก่ ลกู ค้าหรือตวั แทนหรือนายหน้าอยา่ งมีเหตผุ ล คาว่า DNR คือ Do Not Renew ซง่ึ เป็นตราประทบั ท่ีเจ้าหน้าที่รับประกนั ภยั เม่ือพิจารณาแล้วเห็นวา่ ไมส่ มควรตอ่ อายุ ก็จะประทบั ตรานนั้ ไว้บนใบ เตอื นตอ่ อายหุ รือสาเนากรมธรรม์ประกนั ภยั สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/23

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ 10. การมีสมั พนั ธภาพที่ดีกบั หน่วยงานภายในอ่ืนๆ (Relationship with other Departments) การดาเนนิ งานแทบทกุ สว่ นของฝ่ายรับประกนั ภยั ต้องเก่ียวข้องกบั ฝ่ายตา่ งๆ เชน่ ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายสินไหมทดแทน ฝ่ ายการเงินและบญั ชี ฝ่ายสารสนเทศ ฝ่ายบริหารสานกั งาน ดงั นนั้ การมีความสมั พนั ธ์ที่ดีกบั หนว่ ยงานอื่นๆ ในบริษัทยอ่ มทาให้การทางานราบรื่นและเป็นท่ี เข้าใจกนั เคร่ืองมือท่ีสาคัญในการพจิ ารณารับประกันภัย นอกเหนือจากการจดั การด้าน Portfolio ดงั ท่ีกล่าวข้างต้นแล้ว การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินที่ดีนนั้ ต้องอาศยั เคร่ืองมือ 3 ประการตอ่ ไปนีด้ ้วย 1. คมู่ ือการรับประกนั ภยั ของบริษทั (Underwriting Manual) 2. ข้อมลู และรายงานเชงิ สถิตจิ ากฝ่ายสินไหมทดแทน (Claims statistics and Information) 3. คมู่ ือในการเอาประกนั ภยั ตอ่ (Reinsurance Manual) 1. คมู่ ือการรับประกนั ภยั ของบริษทั (Underwriting Manual) ดงั ท่ีได้กลา่ วถึงแล้วในบทก่อนๆ วา่ บริษัทประกนั ภยั ต้องมีการจดั ทาคมู่ ือการรับประกนั ภยั สาหรับ ให้เจ้าหน้าท่ีใช้ในการพจิ ารณารับประกนั ภยั ซง่ึ เนือ้ หาท่ีระบไุ ว้ในคมู่ ือการรับประกนั ภยั นนั้ อาจจะแตกตา่ งกนั ไปบ้างแล้วแตค่ วามรู้และประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ผ้จู ดั ทา อยา่ งไรก็ตาม เนือ้ หาสว่ นใหญ่จะประกอบด้วย - แนวทางและวธิ ีการในการพจิ ารณารับประกนั ภยั - ดชั นีสภาวะภยั (Hazard Index) สาหรับกิจการตา่ งๆ - ปัจจยั ในการกาหนดอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั สาหรับแตล่ ะกิจการ - ปัจจยั เสี่ยงสาหรับแตล่ ะกิจการ - ข้อกาหนด ข้อยกเว้น ตลอดจนเอกสารแนบท้ายขยายความค้มุ ครองหรือวงเงินเอาประกนั ภยั ท่ีเป็นมาตรฐาน และท่ีสามารถเลือกยกเว้นได้ - จานวนเงินรับเส่ียงภยั เองสงู สดุ - อานาจในการรับประกนั ภยั - ภยั ท่ีไมค่ วรรับประกนั ภยั (Advisory Declined Risks หรือ Referral Risks) - ภยั ที่ห้ามรับประกนั ภยั (Declined Risks) สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/24

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์ - แนวทางการจดั ประกนั ภยั ตอ่ - ฯลฯ 2. ข้อมลู และรายงานเชิงสถิตจิ ากฝ่ายสินไหมทดแทน (Claims Statistics and Information) ในการพจิ ารณารับประกนั ภยั นนั้ การควบคมุ ผลการรับประกนั ภยั มีความสาคญั การควบคมุ จะ ได้ผลดีหรือไมก่ ็อยทู่ ี่ประสิทธิภาพของการเก็บและใช้ข้อมลู หลงั จากได้ทาการรับประกนั ภยั แล้ว ซง่ึ ข้อมลู ท่ีสาคญั ก็คอื ข้อมลู ด้านสินไหมทดแทนของผ้เู อาประกนั ภยั ข้อมลู เหลา่ นี ้เป็นข้อมลู ท่ีมีผล ตอ่ การรับประกนั ภยั รายใหม่ การกาหนดอตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีเหมาะสมกบั ความเส่ียงภยั และ การควบคมุ ผลกาไรจากการรับประกนั ภยั สถิตเิ หลา่ นีอ้ าจจะเป็นสถิตขิ องบริษัทท่ีรับประกนั ภยั เอง หรืออาจจะเป็นสถิติของธรุ กิจซงึ่ ประมวลผลโดย บริษัท ไทยรับประกนั ภยั ตอ่ (มหาชน) จากดั 3. คมู่ ือในการเอาประกนั ภยั ตอ่ (Reinsurance Manual) บริษทั ประกนั ภยั มกั จะมีการทาสญั ญาประกนั ภยั ตอ่ กบั บริษัทประกนั ภยั ตอ่ เพ่ือโอนความเสี่ยงภยั หรือกระจายความเสี่ยงภยั ในการเอาประกนั ภยั ตอ่ นนั้ บริษัทผ้รู ับประกนั ภยั ตอ่ มกั จะมีการ กาหนดนโยบายในการรับประกนั ภยั ตอ่ ไว้อย่างชดั เจน อาทิ ภยั ที่รับหรือไมร่ ับประกันภยั ประเภท ของทรัพย์สินท่ีรับหรือไมร่ ับประกนั ภยั ขีดจากดั ความรับผิด และเง่ือนไขท่ีสาคญั ๆ ในการรับ ประกนั ภยั ดงั นนั้ จงึ จาเป็นต้องมีการจดั ทาคมู่ ือในการเอาประกนั ภยั ตอ่ ไว้ให้เจ้าหน้าท่ีปฏิบตั ิตาม เพ่ือจะได้ไมก่ ระทาผิดสญั ญาประกนั ภยั ตอ่ คมู่ ือนีถ้ ือเป็นเคร่ืองมือท่ีสาคญั ในการควบคมุ การ พจิ ารณารับประกนั ภยั ด้วย การวิเคราะห์ผลการรับประกันภยั จากกระบวนการพิจารณารับประกนั ภยั ท่ีกลา่ วถึงข้างต้น ได้มีการกลา่ วถงึ วธิ ีการท่ีสามารถ นามาใช้ในการวิเคราะห์ผลการรับประกนั ภยั ได้ เชน่ การพิจารณาถงึ สดั ส่วนของผลิตภณั ฑ์ Risk profile แ ละอตั ราสว่ นรวม ตอ่ ไปจะเป็นการนาเสนอข้อมลู เชงิ สถิตสิ าหรับการประกนั ภยั ทรัพย์สนิ (อคั คีภยั และ สรรพภยั ) ในประเทศไทยมาศกึ ษาประกอบกบั กระบวนการเหลา่ นีต้ ามสมควร เนื่องจากการประกนั อคั คภี ยั และสรรพภยั เป็นการประกนั ภยั ที่มีการเก็บสถิตคิ อ่ นข้างสมบรู ณ์ที่สดุ ของประเทศไทย โดยบริษัท ไทยรับประกนั ภยั ตอ่ จากดั (มหาชน) การประกนั ภยั ทรัพย์สินในชว่ งปี 2549-2550 ซง่ึ ประกอบด้วยการประกนั อคั คภี ยั และการประกนั สรรพภยั เป็นดงั นี ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 5/25

Accounting Year Basis NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ หนว่ ย: ล้านบาท รายการ 2550 2549 อัตราการขยายตวั เบยี ้ ประกนั ภยั รับโดยตรงรวม 14,425 14,863 -2.95 - การประกนั อคั คภี ยั 6,708 6,684 0.36 - การประกนั สรรพภยั 7,716 8,179 -5.66 10,286,004 3,216,042 0.69 ทนุ ประกนั ภยั 3,192,941 3,216,042 -0.72 - การประกนั อคั คีภยั 7,093,064 6,999,466 1.34 - การประกนั สรรพภยั 1,768,868 1,793,589 -1.38 จานวนกรมธรรม์ 1,714,208 1,746,517 -1.85 - การประกนั อคั คภี ยั 54,660 47,072 16.12 - การประกนั สรรพภยั 14,450 14,583 -0.91 6,672 6,667 0.07 เบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีถือเป็นรายได้ 7,779 7,916 -1.74 - การประกนั อคั คภี ยั 7,126 7,551 -5.63 - การประกนั สรรพภยั 2,434 1,658 46.77 4,692 5,893 -20.38 ความเสียหายที่เกิดขนึ ้ 49.32% 51.78% - การประกนั อคั คีภยั 36.48% 24.87% - การประกนั สรรพภยั 60.32% 74.44% อตั ราความเสียหาย - การประกนั อคั คีภยั - การประกนั สรรพภยั ผลการรับประกนั ภยั ข้างต้นเป็นการเก็บสถิติตามปีปฏิทิน สว่ น การเก็บสถิตติ ามปีรับประกนั ภยั (Underwriting Year Basis) จะอยใู่ นรูปแบบท่ีเรียกวา่ Triangular Statistics ดงั นี ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/26

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทที่ 5 : การพิจารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สินเชงิ พาณิชย์ Underwriting Year Basis หนว่ ย: ล้านบาท UY รายการ อคั คีภยั สรรพภยั ณ ธ.ค. 50 ณ ธ.ค. 49 ณ ธ.ค. 48 ณ ธ.ค. 50 ณ ธ.ค. 49 ณ ธ.ค. 48 2550 เบยี ้ ประกนั ภยั รับโดยตรง 6,748 7,593 ความเสียหายที่เกิดขนึ ้ 763 982 อตั ราความเสียหาย 11.31% 12.94% 2549 เบยี ้ ประกนั ภยั รับโดยตรง 6,689 5,998 8,117 6,414 ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ 2,686 693 3,517 678 อตั ราความเสียหาย 40.16% 11.55% 43.33% 10.57% 2548 เบยี ้ ประกนั ภยั รับโดยตรง 6,391 6,424 5,699 7,412 7,864 5,463 ความเสียหายที่เกิดขนึ ้ 1,152 1,158 423 6,365 1,905 590 อตั ราความเสียหาย 18.03% 18.03% 7.42% 85.88% 24.22% 10.79% ในตาราง 2 ตารางตอ่ ไปนี ้จะแสดงให้เห็นถงึ ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ จานวนครัง้ ของความเสียหาย และ จานวนกรมธรรม์ประกนั ภยั ของกรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั และกรมธรรม์ประกนั สรรพภยั ให้นักศกึ ษาคานวณ 1. ความเสียหายท่เี กดิ ขนึ้ โดยเฉล่ียต่อครัง้ 2. จานวนครัง้ ความเสียหายต่อ 1,000 กรมธรรม์ และ 3. ความเสียหายท่เี กิดขนึ้ โดยเฉล่ียต่อกรมธรรม์ กรมธรรม์ประกันอัคคีภยั Accounting Year Basis หนว่ ย: บาท ปี ความเสียหายที่เกิดขนึ ้ จานวน Severity Frequency Pure Premium Amount No. of Losses กรมธรรม์ ตามวนั ท่ีบนั ทึก (Loss Booked) 2550 2,433,959,213 6,262 1,714,208 2549 1,658,293,930 6,264 1,746,517 ตามวนั ท่ีเกิดเหตุ (Losses Occurred) 2550 1,635,199,719 5,091 1,714,208 2549 1,982,975,107 5,800 1,746,517 สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/27

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 5 : การพจิ ารณารับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์ กรมธรรม์ประกันสรรพภัย Accounting Year Basis หนว่ ย: บาท ปี ความเสียหายที่เกิดขนึ ้ จานวน Severity Frequency Pure Premium Amount No. of Losses กรมธรรม์ ตามวนั ท่ีบนั ทึก (Loss Booked) 2550 4,692,156,233 23,443 54,660 2549 5,892,897,123 19,211 47,072 ตามวนั ท่ีเกิดเหตุ (Losses Occurred) 2550 1,581,201,879 10,396 54,660 2549 3,473,766,675 15,841 47,072 แบบฝึ กหดั 1. การประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์มีลกั ษณะสาคญั อยา่ งไร และแตกตา่ งจากการประกนั ภยั ทรัพย์สินสว่ นบคุ คลอยา่ งไร 2. การประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์มีแนวทางในการพจิ ารณาและการวิเคราะห์ผลการรับประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชงิ พาณิชย์อยา่ งไร และวธิ ีการใดบ้างจงอธิบาย 3. การจดั การ Portfolio สาหรับการประกนั ภยั ทรัพย์สนิ เชิงพาณิชย์มีก่ีขนั้ ตอน จงอธิบายวิธีการในแตล่ ะ ขนั้ ตอน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 5/28

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 6 : กรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั บทท่ี 6 กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ 1. เพ่ือให้นกั ศกึ ษาอธิบายลกั ษณะของกรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั ได้ 2. เพ่ือให้นกั ศกึ ษามีความเข้าใจในความค้มุ ครอง เงื่อนไขทว่ั ไปและข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั 3. เพ่ือให้นกั ศกึ ษากาหนดทนุ ประกนั ภยั กรมธรรม์ประกันอคั คีภยั ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม 4. เพ่ือให้นกั ศกึ ษามีความเข้าใจวิธีการจดั การคา่ สนิ ไหมทดแทนของกรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั ได้ แนวคิดการประกันอัคคีภัยสาหรับธุรกิจเชิงพาณิชย์ (Commercial Insurance) − เป็นการประกนั ภยั ทรัพย์สิน (Property Insurance) – ค้มุ ครองความเสียหายโดยตรงทางกายภาพตอ่ วตั ถทุ ่ีเอาประกนั ภยั (Direct Physical Damage to Property) –Coven v. Hong Kong Chinese Ins. − ไมค่ ้มุ ครองความเสียหายทางการเงินสืบเน่ือง (Consequential Loss) –Leger v. Royal Ins. Co. − ไมค่ ้มุ ครองความรับผดิ ตามกฎหมายของผ้เู อาประกนั ภยั (Liability) ทรัพย์สินท่ีคุ้มครอง (Property Covered) หมายถึง ทรัพย์สินใดๆ ก็ตามที่ผ้เู อาประกันภัยมีความประสงค์จะให้ผู้รับประกันภัยค้มุ ครอง ผู้เอา ประกันภัยควรต้องระบทุ รัพย์สินที่จะเอาประกันภยั ไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยให้ละเอียด ถูกต้องและชดั เจน เพื่อปอ้ งกนั มใิ ห้เกิดปัญหาในการชดใช้คา่ สินไหมทดแทน โดยปกตทิ รัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั แบง่ ได้ดงั นี ้ 1. อาคารสิง่ ปลกู สร้าง (ไมร่ วมรากฐาน) (Building excluding foundation) จะเห็นได้วา่ กรมธรรม์ ประกนั อคั คภี ยั จะไมม่ ีคาจากดั ความของคาว่า “สง่ิ ปลกู สร้าง” ระบไุ ว้ชดั เจนเหมือนในกรมธรรม์ ประกนั อคั คภี ยั สาหรับท่ีอยอู่ าศยั แตโ่ ดยปกตแิ ล้วส่วนประกอบพืน้ ฐานตา่ งๆ ของอาคารส่ิงปลกู สร้าง โดยทว่ั ไป ได้แก่ - รากฐานของตวั อาคาร - โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก - หลงั คา - ประตู หน้าตา่ ง - ลกู กรงและราวลกู กรงบนั ได สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 6/1

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 6 : กรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั - สว่ นประกอบภายนอกอาคาร ได้แก่ ทางเดนิ เท้ารอบอาคาร ถนน ลานจอดรถ รัว้ ประตู ทางเข้าออก - ระบบพืน้ ฐานสาหรับบริการ (ระบบสาธารณปู โภค) เชน่ ระบบสขุ าภิบาลและสขุ ภณั ฑ์ ก๊าซ ไฟฟ้า นา้ หรือระบบสื่อสาร เชน่ โทรศพั ท์และอินเทอร์เน็ต - สงิ่ ท่ียดึ ติดเพ่ือปิดฝาผนงั พืน้ หรือเพดาน รวมถงึ สีภายในและภายนอกอาคาร - ส่งิ ของประเภทติดตงั้ เชน่ ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ เป็นต้น - หากอาคารสิง่ ปลกู สร้างเป็นอาคารสงู หรือโรงงานขนาดใหญ่ จะมีสว่ นประกอบอื่นๆ ท่ีสาคญั ท่ีสามารถเอาประกนั ภยั เพิม่ เตมิ ได้แก่ ระบบลิฟท์และทางเลื่อนตา่ งๆ ระบบดบั เพลงิ ระบบ รักษาความปลอดภยั ระบบอื่นๆ ดงั นนั้ ความหมายของอาคารสง่ิ ปลกู สร้างในกรมธรรม์ประกนั อคั คภี ยั จงึ หมายถงึ เฉพาะตวั อาคารส่ิงปลกู สร้างรวมถึงส่วนควบของอาคารเทา่ นนั้ ไม่รวมถงึ ถนน ทางเท้า รัว้ หรือ ประตทู ีอยนู่ อก อาคาร โดยปกตกิ รมธรรม์ประกนั อคั คภี ยั จะยกเว้นความค้มุ ครองรากฐานของตวั อาคาร และ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กในสว่ นท่ีเก่ียวกบั ตอหม้อและคานยดึ รากฐาน เน่ืองจากสว่ นประกอบ ดงั กลา่ วอยใู่ ต้ดิน หากเกิดความเสียหายจากอคั คีภยั ในสว่ นที่ได้กลา่ วมาแล้วนนั้ จะไมไ่ ด้รับความ เสียหาย สาหรับสว่ นประกอบภายนอกอาคาร หากผ้เู อาประกนั ภยั มีความประสงคจ์ ะเอาประกนั ภยั ก็ ควรระบลุ งในใบคาขอเอาประกนั ภยั ให้ชดั เจนเหมือนท่ีได้กลา่ วไว้แล้วข้างต้น หากตวั อาคารส่งิ ปลกู สร้างเป็นโรงงานขนาดใหญ่ หรืออาคารสงู เชน่ อาคารสานกั งาน คอนโดมิเนียม ผ้เู อาประกนั ภยั สามารถท่ีจะเอาประกนั ภยั ในสว่ นของรากฐานได้ โดยเฉพาะการ ค้มุ ครองสาหรับภยั แผน่ ดนิ ไหว เพราะหากเกิดความเสียหายจากภยั แผ่นดนิ ไหวขนึ ้ สว่ นรากฐานหรือ โครงสร้างดงั กลา่ วจะเกิดความเสียหายเชน่ กนั 2. เคร่ืองจกั ร (Machinery) รวมถงึ อะไหลข่ องเครื่องจกั ร 3. สต๊อกสินค้า (Stock) ซง่ึ รวมถึงวตั ถดุ บิ สนิ ค้าในระหวา่ งการผลิต และสนิ ค้าสาเร็จรูปรวมถึงวสั ดใุ น การหอ่ สินค้าซงึ่ ต้องระบใุ ห้ชดั เจน 4. เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ เคร่ืองตกแตง่ ตดิ ตงั้ ตรึงตรา (Furniture fixtures fitting) หรือเครื่องใช้สานกั งาน ตา่ งๆ เป็นต้น 4.1 เฟอร์นิเจอร์ หมายถึง เครื่องเรือนซง่ึ จาเป็นต้องมีไว้ใช้อย่อู าศยั และสามารถเคล่ือนย้ายได้ เชน่ โต๊ะ ตู้ เตยี ง เก้าอีแ้ ละชดุ รับแขก เป็นต้น 4.2 เคร่ืองตกแตง่ หมายถงึ ส่ิงที่ทาขนึ ้ เพื่อให้เกิดความสวยงาม เชน่ รูปภาพ วอลล์เปเปอร์ ผ้ามา่ น และพรม เป็นต้น สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 6/2

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทที่ 6 : กรมธรรม์ประกนั อคั คภี ยั 4.3 สิ่งตดิ ตงั้ ตรึงตรา หมายถงึ ส่ิงท่ีสร้างขนึ ้ ให้ตดิ ตรึงกบั อาคารและเคล่ือนย้ายไมไ่ ด้ เชน่ ต้ฝู ังกบั ผนงั หรือพืน้ และฉากกนั้ พืน้ ท่ี เป็นต้น 4.4 เครื่องใช้และอปุ กรณ์ไฟฟ้า หมายถงึ เคร่ืองไฟฟา้ ที่มีไว้ใช้ในท่ีอยอู่ าศยั เชน่ โทรทศั น์ วทิ ยุ เคร่ือง เลน่ วดิ โี อ เคร่ืองเสียง ต้เู ย็น เป็นต้น 5. ทรัพย์สินท่ีอยใู่ นความดแู ลของผ้เู อาประกนั ภยั ในฐานะผ้รู ักษาทรัพย์ โดยปกตแิ ล้วทรัพย์สินที่อยใู่ นความดแู ลของผ้เู อาประกนั ภยั ในฐานะผ้รู ักษาทรัพย์นีเ้ ป็น ข้อยกเว้นในสว่ นของทรัพย์สินที่ไมไ่ ด้รับความค้มุ ครอง แตห่ ากผ้เู อาประกนั ภยั ประสงค์ที่จะให้ ค้มุ ครองสาหรับทรัพย์สินดงั กลา่ ว ผ้เู อาประกนั ภยั ต้องระบลุ งไปอยา่ งชดั เจนในหน้าตารางกรมธรรม์ ประกนั ภยั ทนุ ประกันภัย (Sum Insured) 1. ทรัพย์สนิ ที่ขอเอาประกนั ภยั ในแตล่ ะหวั ข้อสามารถคานวณจานวนเงินเอาประกนั ภยั ได้ 2. หลกั การคดิ จานวนเงินเอาประกนั ภยั แบง่ เป็น 2.1 New replacement basis (NRV)(ราคาทรัพย์สินใหมท่ ี่ไมห่ กั คา่ เส่ือม) 2.2 Actual value basis (ราคาทรัพย์สินที่หกั คา่ เสื่อมแล้ว) 2.1 New replacement basis (ราคาทรัพย์สินใหมท่ ่ีไมห่ กั คา่ เสื่อม) ตวั อยา่ งการประเมนิ ราคาอาคารสิ่งปลกู สร้าง ราคาสร้างใหม่ (NRV) - การประเมนิ ราคาคา่ ก่อสร้างสาหรับตวั อาคาร ใช้คานวณจากพีน้ ท่ีใช้งานทงั้ หมดของอาคาร เป็นจานวนตารางเมตร คณู ราคาคา่ ก่อสร้างตอ่ ตารางเมตร - ราคาคา่ ก่อสร้างใหม่ = พืน้ ที่ของอาคารเป็นตารางเมตร x จานวนชนั้ x ราคาคา่ ก่อสร้าง ตอ่ ตารางเมตร - การหาพืน้ ที่ของชนั้ จะใช้สตู รคณิตศาสตร์ คอื พืน้ ที่ = กว้าง x ยาว ▪ ตวั อยา่ ง อาคารสานกั งานสงู 10 ชนั้ มีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร ก่อสร้าง ด้วยคอนกรีต ▪ สมมตุ ิ คา่ ก่อสร้างตอ่ ตารางเมตร 12,000 บาท ▪ ราคาคา่ ก่อสร้างใหม่ = 10 x 20 x 10 x 12,000 = 24,000,000 บาท ▪ จานวนเงินเอาประกนั ภยั อาคารสิ่งปลกู สร้าง ราคาใหม่ (New Replacement Value : NRV) = 24,000,000 สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 6/3

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 6 : กรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั 2.2 Actual value basis (ราคาทรัพย์สนิ ท่ีหกั คา่ เส่ือมแล้ว) - การประเมนิ ราคาปัจจบุ นั หมายถงึ ราคาที่เป็น actual value ซง่ึ หมายถึงราคาท่ีหกั ค่าเสื่อม แล้ว - Actual value = New replacement value - depreciation (engineer) - การหาคา่ เสื่อมราคา (depreciation) ▪ คา่ เส่ือมราคา จงึ หมายถงึ จานวนเงินที่ใช้ทรัพย์สินตามระยะเวลาและทาให้ทรัพย์สิน เส่ือมราคาโดยสภาพเน่ืองจากการใช้งาน ▪ การหาคา่ เส่ือม มีหลายวธิ ี และวธิ ีที่สะดวกคอื วิธีหาคา่ เส่ือมโดยเส้นตรง ▪ อตั ราคา่ เส่ือมราคาตอ่ ปี = 100% จานวนอายกุ ารใช้งานทงั้ สนิ ้ ตวั อยา่ ง อาคารสร้างมา 10 ปี และประเมนิ วา่ อาคารมีอายกุ ารใช้งานได้ 100 ปี อตั ราคา่ เส่ือมราคาตอ่ ปี = 100% 100 ปี = 1% อาคารใช้งานมาแล้ว 10 ปี คา่ เสื่อมราคาจงึ เป็น 10% ค่าเส่ือมราคาทางบัญชีและค่าเส่ือมราคาทางวิศวกรรม ▪ ในทางบญั ชีคา่ เส่ือมราคาจะถกู กาหนดจากกฎหมาย ตวั อยา่ ง อตั ราคา่ เส่ือมราคาตอ่ ปี อาคาร กาหนดอายกุ ารใช้งาน 20 ปี 5% เฟอร์นเิ จอร์ 5 ปี 20% เครื่องจกั ร 5 ปี 20% อาคารสร้างในปี 2000 มลู คา่ 10,000,000 บาท ตอ่ มาปี 2010 อาคารจะมีคา่ เสื่อม รวม ตงั้ แตส่ ร้างเทา่ ไร และอาคารมีคา่ เหลือเทา่ ไร? อาคารมีอตั ราคา่ เส่ือมราคา 5% ตอ่ ปี ปี 2010 จะมีคา่ เสื่อมราคารวม 10 ปีx 5% = 50% อาคารจะมีมลู คา่ เหลือทางบญั ชี 10,000,000 – 50% = 5,000,000 ▪ คา่ เสื่อมราคาทางบญั ชีและคา่ เส่ือมราคาทางวิศวกรรม สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 6/4

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชงิ พาณิชย์ บทท่ี 6 : กรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั 1) สาหรับทางด้านวิศวกรรม จะคานวณอายกุ ารใช้งานจากสภาพจริง ตาม ทรัพย์สินแตล่ ะประเภท ซง่ึ ขนึ ้ อยกู่ บั การบารุงรักษา การปรับปรุงทรัพย์สิน นนั้ วา่ สามารถยืดอายกุ ารใช้งานให้นานขนึ ้ ได้หรือไม่ 2) ดงั นนั้ อายกุ ารใช้งานในด้านวิศวกรรมจงึ แตกตา่ งกบั บญั ชีที่ถกู กาหนดโดย กฎหมาย 3) การคานวณมลู คา่ ทรัพย์สินในทางวิศวกรรมนนั้ คานวณจากราคา replacement value เป็นเกณฑ์ ไมไ่ ด้ใช้ราคาสร้างหรือราคาซือ้ ตงั้ แตแ่ รก เป็นเกณฑ์ การคานวณมลู คา่ Actual Value ของอาคารสง่ิ ปลกู สร้าง - ตวั อยา่ ง อาคารสร้างมา 10 ปี ต้องการทราบมลู คา่ ปัจจบุ นั การประเมนิ วิศวกรตรวจสอบ อาคารและประเมนิ วา่ อาคารมีการบารุงรักษาดี คาดวา่ มีอายกุ ารใช้งาน (useful life) ได้ถงึ 80 ปี คา่ เส่ือมราคา (Depreciation) ตอ่ ปี = 100/80 = 1.25% ตอ่ ปี คา่ เส่ือมราคารวม 10 ปี = 10 x 1.25% = 12.5% ราคาอาคาร Actual value = Replacement value – depreciation (engineer) = 24,000,000 – 12.5%(24,000,000) = 21,000,000 การคานวณจานวนเงินเอาประกนั ภยั สต๊อกสนิ ค้า ▪ สินค้ามีหลายรูปแบบ และหลายประเภท ดงั นนั้ ในการขอเอาประกนั ภยั สต๊อกสินค้า จงึ ต้องหาวิธีคานวณเพื่อให้ใกล้เคียงกบั ความเป็นจริงมากท่ีสดุ การคดิ จานวนเงินเอา ประกนั ภยั ของสต๊อกสนิ ค้าต้องคดิ ราคาต้นทนุ (Cost value basis) ไมใ่ ชร่ าคาขาย ซง่ึ รวมกาไร (Selling price basis) ▪ สต๊อกสินค้ามีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงรายวนั จะกาหนดจานวนเงินเอาประกนั ภยั อยา่ งไร เน่ืองจากสต๊อกสินค้ามีการเคลื่อนไหวทกุ วนั ดงั นนั้ จงึ ต้องประเมนิ มลู คา่ สงู สดุ ของ สนิ ค้าตอ่ วนั ในระยะเวลา 1 ปี เป็นตวั กาหนดทงั้ นีเ้พื่อปอ้ งกนั การทาประกนั ภยั ต่า กวา่ มลู คา่ (under insurance) เชน่ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ประเมนิ วา่ มลู คา่ สงู สดุ ของ สินค้าจานวนเงิน 100 ล้านบาท ตอ่ วนั และตลอดระยะเวลา 1 ปี จงึ กาหนดเป็น จานวนเงินเอาประกนั ภยั ทงั้ ท่ีบางวนั มลู คา่ ของสต๊อกสนิ ค้าอาจจะไมถ่ งึ 100 ล้าน บาท ก็ตาม และเพื่อความถกู ต้องและยตุ ธิ รรม ผ้รู ับประกนั ภยั จะคานวณเบยี ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 6/5

NL605 : การจดั การสาหรับการประกนั ภยั เชิงพาณิชย์ บทท่ี 6 : กรมธรรม์ประกนั อคั คภี ยั ประกนั ภยั เก็บก่อน (deposit premium) เพียง 75% ของเบยี ้ ประกนั ภยั เตม็ ปี ในทกุ เดือนผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องสง่ รายการเคล่ือนไหวของสต๊อกสินค้าในระหวา่ งเดือน (Stock Declaration) ให้กบั ผ้รู ับประกนั ภยั ทราบ เม่ือสิน้ สดุ ระยะเวลาประกนั ภยั 1 ปี แล้ว ผ้รู ับประกนั ภยั จะต้องคานวณเบีย้ ประกนั ภยั ที่แท้จริง จากข้อมลู สต๊อกสินค้าท่ี เคลื่อนไหวแตล่ ะเดือนของผ้เู อาประกนั ภยั หากเบีย้ ประกนั ภยั ที่แท้จริง มากกวา่ เบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีเก็บก่อน ผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องจา่ ยเพิม่ เบยี ้ ประกนั ภยั ในสว่ นตา่ ง หากเบีย้ ประกนั ภยั ที่แท้จริง น้อยกวา่ เบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีเก็บกอ่ น ผ้รู ับประกนั ภยั จะต้องจา่ ยคนื เบีย้ ประกนั ภยั ในสว่ นตา่ ง การคานวณจานวนเงินขอเอาประกนั ภยั เครื่องจกั ร เฟอร์นิเจอร์ เคร่ืองตกแตง่ ตดิ ตงั้ ตรึงตรา ▪ เชน่ เดียวกบั ตวั อาคารซงึ่ มีหลกั การ 2 แบบ – Actual value basis (ราคาทรัพย์สินท่ีหกั คา่ เสื่อมแล้ว) – New replacement basis (ราคาทรัพย์สินใหมท่ ่ีไมห่ กั คา่ เสื่อม) - สรุป การกาหนดทนุ ประกนั ภยั ▪ อาคารส่ิงปลกู สร้าง – Actual value basis – Replacement basis ▪ เครื่องจกั ร – Actual value basis – Replacement basis ▪ เฟอร์นิเจอร์ เคร่ืองตกแตง่ ตดิ ตงั้ ตรึงตรา – Actual value basis – Replacement basis ▪ สต๊อกสินค้า – Cost value basis สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 6/6


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook