Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำราNL604 (FULL)

ตำราNL604 (FULL)

Published by Petcharat Saelin, 2022-07-05 08:58:55

Description: ตำราNL604 (FULL)

Search

Read the Text Version

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ ขณะเดียวกนั หากรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายสนิ ้ เชงิ นนั้ ได้ทําประกนั ภยั ไว้ไมน่ ้อยกว่าร้อย ละ 80 ของมลู คา่ รถยนตใ์ นขณะเอาประกนั ภยั แล้ว ผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องโอนรถยนต์นนั้ ให้แกบ่ ริษัทด้วย โดยคา่ ใช้จ่ายที่เกิดจากการโอน ไมว่ า่ จะเป็นคา่ ธรรมเนียมการโอน ภาษีมลู คา่ เพ่มิ บริษทั จะต้องเป็นผ้รู ับผิดชอบทงั้ หมด และเม่ือบริษัทได้จา่ ยจํานวนเงินเอา ประกนั ภยั ให้แก่ผ้เู อาประกนั ภยั หรือผ้รู ับประโยชน์แล้วแตก่ รณีแล้ว ความค้มุ ครองตอ่ รถยนต์ นนั้ ก็เป็นอนั สิน้ สดุ 3. หากรถยนตเ์ กิดการสญู หายไปทงั้ คนั ไมว่ า่ จะเป็นการสญู หายจากการลกั ทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือยกั ยอกทรัพย์ โดยลกู จ้างหรือโดยบคุ คลอื่นใดก็ตาม ก็จะได้รับความค้มุ ครอง ทงั้ สิน้ โดยบริษัทจะต้องรับผิดชดใช้จํานวนเงินเอาประกนั ภยั ให้แกผ่ ้เู อาประกนั ภยั ขณะเดียวกนั ผ้เู อาประกนั ภยั ก็มีหน้าที่ที่จะต้องโอนรถยนต์คนั ดงั กลา่ วให้แก่บริษัท สําหรับ คา่ ใช้จา่ ยท่ีเกิดขนึ ้ จากการโอน ไมว่ า่ จะเป็นคา่ ธรรมเนียมการโอน ภาษีมลู คา่ เพิม่ บริษัท จะต้องเป็นผ้รู ับผิดชอบทงั้ หมด อยา่ งไรก็ตาม หากกรมธรรม์มีการระบใุ ห้บคุ คลอ่ืนเป็นผ้รู ับประโยชน์แล้ว (มีการออก เอกสารแนบท้าย ร.ย.24) บริษัทก็จะต้องชดใช้จํานวนเงินเอาประกนั ภยั ให้แกผ่ ้รู ับประโยชน์ นนั้ ตามสว่ นได้เสียก่อน และเชน่ เดยี วกนั ผ้รู ับประโยชน์นนั้ ก็จะต้องโอนรถยนตใ์ ห้แก่บริษทั โดยคา่ ใช้จา่ ยของบริษทั ด้วยเชน่ กนั และเม่ือบริษัทได้จา่ ยจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ให้แกผ่ ้เู อาประกนั ภยั หรือผ้รู ับประโยชน์ แล้วแตก่ รณีแล้ว ความค้มุ ครองตอ่ รถยนต์นนั้ ก็เป็นอนั สนิ ้ สดุ เม่ือบริษัทได้จา่ ยจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ไปแล้ว ตอ่ มาเกิดได้รถยนต์คืนมา บริษัทจะต้อง มีหนงั สือแจ้งให้ผ้เู อาประกนั ภยั ทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบยี นตามที่อยคู่ รัง้ สดุ ท้ายที่ผ้เู อา ประกนั ภยั แจ้งให้บริษทั ทราบ ภายใน 7 วนั นบั แตว่ นั ท่ีได้รับรถยนต์คืนมา ในกรณีดงั กลา่ วผู้ เอาประกนั ภยั มีสิทธิ ดงั ตอ่ ไปนี ้ 1) ขอรับรถยนต์คืน แตผ่ ้เู อาประกนั ภยั จะต้องคืนจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ที่ได้รับมาแล้ว ให้แก่บริษัท ในการขอรับรถยนต์คืนนี ้หากปรากฏว่ารถยนต์ได้รับความเสียหาย บริษัท มีหน้าท่ีซอ่ มแซมให้อยใู่ นสภาพเรียบร้อยก่อนสง่ คนื บริษัทจะไมด่ ําเนนิ การจดั ซอ่ ม โดย อ้างวา่ ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ ตอ่ รถยนตเ์ ป็ นความเสียหายที่เกิดจากการชน ซงึ่ อยใู่ น สว่ นความค้มุ ครองความเสียหายตอ่ รถยนต์ที่ผ้เู อาประกนั ภยั มไิ ด้ซือ้ ความค้มุ ครองไว้ ไมไ่ ด้ เพราะความค้มุ ครองการสญู หายนนั้ รวมถึงความเสียหายตอ่ รถยนตท์ ี่เป็ นผลมา จากการลกั ทรัพย์ ชงิ ทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือการยกั ยอกทรัพย์ด้วย 2) สละสิทธิไมข่ อรับรถยนต์คนื สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/48

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ เม่ือผ้เู อาประกนั ภยั ได้รับหนงั สือแจ้งจากบริษทั แล้ว ผ้เู อาประกนั ภยั ต้องแสดงเจตนาให้ บริษัททราบวา่ ตนประสงค์จะขอรับรถยนตค์ ืนตาม 1.1 หรือสละสิทธิไมข่ อรับรถยนต์คืน ตาม 1.2 แตห่ ากผ้เู อาประกนั ภยั ไมแ่ สดงเจตนาให้ปรากฏภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั ท่ีได้รับ หนงั สือแจ้งจากบริษัทแล้ว ให้ถือว่าผ้เู อาประกนั ภยั ไมป่ ระสงคจ์ ะขอรับรถยนตค์ ืน แม้ตามเง่ือนไขจะกําหนดวา่ กรณีที่บริษทั ได้จา่ ยจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ไปแล้ว ตอ่ มาเกิดได้รถยนตก์ ลบั คืนมา ให้ผ้เู อาประกนั ภยั มีสิทธิเลือกตาม 1.1 หรือ 1.2 ก็ตาม แต่ เน่ืองจากกฎหมายได้มีการกําหนดระยะเวลาที่บริษทั จะต้องจา่ ยจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ในกรณีรถยนต์สญู หายไว้ชดั แจ้ง ดงั นนั้ หากพ้นระยะเวลาท่ีกฎหมายกําหนด ให้บริษทั ต้องจา่ ยจํานวนเงินเอา ประกนั ภยั แล้ว แม้บริษทั ยงั ไมไ่ ด้จา่ ย และมีการตดิ ตามรถยนต์กลบั คืนมาได้หลงั จากนนั้ ผ้เู อาประกนั ภยั ก็ยงั คงมีสิทธิที่จะ เลือกตาม 1.1 หรือ 1.2 อยู่ บริษัทจะอ้างวา่ เมื่อยงั ไมม่ ี การจา่ ยจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องรับรถยนต์คนื ในสภาพท่ีซ่อมแซม ดีแล้วเพียงประการเดียวไมไ่ ด้ ปัจจัยท่ีใช้ในการพจิ ารณารับประกันภัย และการกาํ หนดอัตราเบีย้ ประกันภยั ในการพิจารณารับประกนั ภยั บริษัทจะต้องมีข้อมลู ทงั้ หลายที่เก่ียวข้องกบั การรับประกนั ภยั และ เพื่อให้ได้มาซงึ่ ข้อมลู ดงั กลา่ ว บริษทั จะต้องจดั ให้มีเอกสารชนิดหนง่ึ ซง่ึ เรียกวา่ “คําขอเอาประกนั ภยั รถยนต์” โดยในใบคาํ ขอเอาประกนั ภยั รถยนต์ดงั กลา่ ว จะมีรายละเอียดเกี่ยวกบั ข้อมลู ในการรับประกนั ภยั ให้ผ้เู อาประกนั ภยั กรอก ข้อมลู ดงั กลา่ ว ได้แก่ 1. ช่ือ-ท่ีอยู่ อาชีพของผ้ขู อเอาประกนั ภยั ทงั้ นี ้เพื่อให้บริษทั สามารถตรวจสอบได้ว่าบคุ คลที่ขอเอา ประกนั ภยั มีสว่ นได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกนั ภยั หรือไม่ 2. ประเภทของการประกนั ภยั ท่ีต้องการ โดยหากรถยนตท์ ่ีประสงคจ์ ะขอเอาประกนั ภยั เป็ นรถยนตท์ ี่ ใช้เป็นสว่ นบคุ คลแล้ว ผ้ขู อเอาประกนั ภยั จะต้องพจิ ารณาเลือกประเภทการประกนั ภยั ให้เหมาะสม กบั สภาพความเสี่ยงภยั ของตน โดยหากเป็นรถยนต์ที่มีบคุ คลท่ีใช้ขบั ขี่เพียง 1-2 คน ก็ควรที่จะ เลือกการประกนั ภยั ประเภทระบชุ ื่อผ้ขู บั ขี่ ทงั้ เพื่อจะได้เป็ นการประหยดั เสียเบีย้ ประกนั ภยั ในอตั รา ที่ถกู ลงกวา่ การประกนั ภยั ประเภทไมร่ ะบชุ ่ือผ้ขู บั ขี่ แตห่ ากรถยนต์คนั ดงั กลา่ วมีผ้ใู ช้มากกวา่ 2 คน ทงั้ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ไมพ่ ร้อมท่ีจะต้องมามีสว่ นรับผิดชอบในความเสียหายสว่ นแรกเองแล้ว ก็อาจ เลือกทําประกนั ภยั ประเภทไมร่ ะบชุ ่ือผ้ขู บั ขี่ก็ได้ ในการขอเอาประกนั ภยั ประเภทระบชุ ื่อผ้ขู บั ขี่ ผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องระบชุ ื่อผ้ขู บั ขี่ท่ีประสงค์ จะให้บริษทั ค้มุ ครอง พร้อมกบั ระบวุ นั /เดือน/ปี เกิดและอาชีพ ของแตล่ ะบคุ คลไว้ด้วย และเพ่ือมิให้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/49

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ มีปัญหาโต้แย้งกนั ในภายหลงั ได้วา่ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั มีเจตนาจะปกปิ ด หรือแถลงเท็จเก่ียวกบั อายหุ รือความสามารถในการขบั รถยนต์ของผ้ขู บั ขี่ จงึ กําหนดให้ผ้ขู อเอาประกนั ภยั แนบสําเนาบตั ร ประจําตวั ประชาชน และสําเนาใบอนญุ าตขบั ขี่ไปพร้อมกบั ใบคําขอเอาประกนั ภยั ด้วย และหาก บริษทั ตกลงรับประกนั ภยั โดยที่ผ้ขู อเอาประกนั ภยั มิได้แนบหลกั ฐานทงั้ สองมาด้วยแล้ว ต้องถือวา่ บริษัทไมต่ ดิ ใจในส่วนท่ีเก่ียวข้องกบั ข้อมลู ดงั กลา่ ว บริษทั จะยกขนึ ้ มากลา่ วอ้างในภายหลงั มิได้วา่ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั ปกปิด หรือแถลงเท็จเก่ียวกบั เร่ืองดงั กลา่ ว 3. เลขเครื่องหมาย บริษทั ระยะเวลาสนิ ้ สดุ ทงั้ นีเ้นื่องจาก ความค้มุ ครองในสว่ นความรับผิดตอ่ ชีวิต ร่างกาย อนามยั ของบคุ คลภายนอกจะค้มุ ครองเฉพาะสว่ นท่ีเกินวงเงินค้มุ ครองสงู สดุ ตาม กรมธรรม์ค้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ (กรมธรรม์ พ.ร.บ.) จงึ จําเป็นต้องระบขุ ้อมลู สว่ นนีไ้ ว้ ทงั้ นี ้ เพ่ือวา่ หากผ้ขู อเอาประกนั ภยั ทําประกนั ตามกรมธรรม์ค้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถกบั บริษัทอื่น บริษัทผ้รู ับประกนั ภยั รถยนต์นีจ้ ะได้สามารถแจ้งให้บคุ คลภายนอกไปใช้สทิ ธิเรียกร้องขนั้ ต้นจาก บริษทั อ่ืนนนั้ ได้ 4. การใช้รถยนต์ ผ้ขู อเอาประกนั ภยั มีหน้าท่ีระบแุ ตเ่ พียงวา่ ตนประสงค์จะนํารถยนต์ที่ขอเอา ประกนั ภยั นนั้ ไปใช้ประโยชน์อยา่ งไรเทา่ นนั้ สว่ นบริษัทมีหน้าที่พิจารณากําหนดลกั ษณะการใช้ รถยนต์ตามพิกดั อตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั - ในกรณีผ้ขู อเอาประกนั ภยั จะระบวุ า่ ประสงค์จะนํารถยนตไ์ ปใช้สว่ นบคุ คล ไมร่ ับจ้าง หรือให้ เชา่ หรือใช้ในกิจการอื่นใดก็ตาม แตห่ ากพิจารณาถึงประเภทรถยนต์ตามพิกดั อตั ราเบีย้ ประกนั ภยั รถยนตแ์ ล้ว รถยนตน์ นั้ ไมส่ ามารถกําหนดลกั ษณะการใช้ให้เป็ นการใช้ส่วนบคุ คลได้ เชน่ กรณีรถบรรทกุ ซง่ึ จดั อยใู่ นรหสั ประเภทรถยนต์ : รถยนต์บรรทกุ (รหสั 320 340) ผ้ขู อเอา ประกนั ภยั ประสงค์ท่ีจะขอ เอาประกนั ภยั อยา่ งรถยนตน์ งั่ สว่ นบคุ คล แตต่ ามพิกดั อตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั ไมส่ ามารถกําหนดลกั ษณะการใช้เป็ นการใช้สว่ นบคุ คลได้ ให้บริษทั กําหนดลกั ษณะ การใช้ให้ถกู ต้อง - กรณีรถปิ คอพั ท่ีมีโครงสร้างรถเข้าขา่ ยรหสั ประเภทรถยนต์ : รถยนต์โดยสาร (รหสั 210 220 , 230) เชน่ รถปิ คอพั ดดั แปลง หรือรถแวน รถโดยสารสองแถว ฯลฯ สามารถขอเอาประกนั ภยั ที่มี ลกั ษณะการใช้รถยนตส์ ่วนบคุ คล เพ่ือการพาณิชย์ เพ่ือรับจ้างสาธารณะ อยา่ งหนง่ึ อยา่ ง ใดก็ได้ตามที่ใช้จริง - กรณีรถยนต์ประเภทปิคอพั ที่มีการเปล่ียนแปลงสภาพรถยนต์ เป็นประเภทรถยนต์นงั่ ไมเ่ กิน 7 ที่นง่ั สามารถเอาประกนั ภยั เป็นลกั ษณะการใช้สว่ นบคุ คล รหสั 110 หรือการใช้เพ่ือการ พาณิชย์ รหสั 120 ก็ได้ตามลกั ษณะการใช้งานแท้จริง สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/50

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ - การที่บริษทั กําหนดลกั ษณะการใช้ท่ีผิดพลาดเอง จะยกขนึ ้ มากลา่ วอ้างในภายหลงั ให้ 5. ผ้เู อาประกนั ภยั ได้รับความเสียหายมิได้ เชน่ รถยนตท์ ี่ขอเอาประกนั ภยั เป็นรถบรรทกุ (Pick Up) ผู้ ขอเอาประกนั ภยั มิได้ไปใช้ในการรับจ้างหรือให้เชา่ หรือใช้ในกิจการอ่ืนใด แตบ่ ริษัทกลบั ไประบุ ลกั ษณะการใช้รถในตารางวา่ “ ใช้สว่ นบคุ คล ไมใ่ ช้รับจ้างหรือให้เชา่ ” (ทงั้ ๆ ท่ีตามพกิ ดั อตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั รถยนต์ดงั กลา่ วจะต้องทําประกนั ภยั ในลกั ษณะใช้เพ่ือการพาณิชย์ หรือพาณิชย์พิเศษ เทา่ นนั้ ) เมื่อผ้เู อาประกนั ภยั นํารถยนต์ดงั กลา่ วไปใช้อย่างรถยนต์นง่ั สว่ นบคุ คลทวั่ ไป บริษัทจะมา กลา่ วอ้างในภายหลงั วา่ รถบรรทกุ (Pick Up) เป็นรถท่ีจะต้องทําประกนั ภยั ในลกั ษณะการใช้เพ่ือ การพาณิชย์ หรือการใช้เพื่อการพาณิชย์พิเศษเทา่ นนั้ เม่ือทําประกนั ภยั ผิดประเภท ผ้เู อา ประกนั ภยั จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรกเอง จํานวน 2,000 บาท สําหรับความ เสียหายตอ่ ทรัพย์สนิ ของบคุ คลภายนอก สว่ นความเสียหายตอ่ รถยนต์ เข้าข้อยกเว้นไมค่ ้มุ ครอง ไมไ่ ด้ บริษัทจะต้องรับผิดตามเนือ้ ความแหง่ สญั ญาท่ีปรากฏในกรมธรรม์ทกุ ประการ กลา่ วคือ ผู้ เอาประกนั ภยั ไมจ่ ําเป็นต้องรับผิดชอบความเสียหายสว่ นแรกเอง 2,000 บาท สําหรับความ เสียหายตอ่ ทรัพย์สนิ ของบคุ คลภายนอก ทงั้ บริษทั จะต้องรับผิดชอบตอ่ ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ ตอ่ รถยนต์ด้วย 6. ผ้รู ับประโยชน์ ในที่นีห้ มายถึง ผ้รู ับประโยชน์ในกรณีท่ีรถยนตส์ ญู หาย หรือรถยนต์เสียหายสนิ ้ เชิง จนไมส่ ามารถซอ่ มแซมได้เท่านนั้ ไมไ่ ด้เก่ียวกบั ผ้รู ับประโยชน์ตามเอกสารแนบท้าย การประกนั ภยั อบุ ตั เิ หตสุ ว่ นบคุ คลแตอ่ ยา่ งใด 7. รายการรถยนตท์ ่ีเอาประกนั ภยั ทงั้ นี ้เน่ืองจากรถยนต์เป็ นวตั ถทุ ่ีเอาประกนั ภยั โดยตรง จงึ จําเป็นต้องมีรายละเอียดเก่ียวกบั รถยนต์นนั้ เพ่ือท่ีบริษัทจะได้กําหนดเบยี ้ ประกนั ภยั ได้ถกู ต้อง ตามปัจจยั ความเส่ียงภยั ของรถยนตน์ นั้ - เม่ือรายการรถยนต์เป็นสาระสําคญั ในการคาํ นวณเบยี ้ ประกนั ภยั ในการพิจารณารับ ประกนั ภยั บริษัทจงึ ต้องขอหลกั ฐานคมู่ ือการจดทะเบียนรถยนต์ หากบริษัทไมข่ อหลกั ฐาน คมู่ ือการจดทะเบยี นรถยนต์แล้ว บริษัทจะมากลา่ วอ้างในภายหลงั เม่ือมีการเรียกร้องคา่ สินไหมทดแทนวา่ รายการรถยนต์ไมถ่ กู ต้อง ทําให้บริษัทเรียกเก็บเบีย้ ประกนั ภยั ตํ่ากว่าท่ีควร จะเป็นไมไ่ ด้ เพราะหากบริษัทถือวา่ - รายการรถยนต์เป็ นสาระสําคญั แล้ว ก็ควรจะต้องสําคญั ทงั้ ในขณะพจิ ารณารับประกนั ภยั และ ในขณะพจิ ารณาชดใช้คา่ สินไหมทดแทน มใิ ชม่ าให้ความสําคญั เฉพาะเม่ือจะมีการจ่ายคา่ สนิ ไหมทดแทนเท่านนั้ 8. รายการตกแตง่ เปล่ียนแปลงเพ่มิ เตมิ เน่ืองจากรถยนต์อาจได้มีการตกแตง่ หรือเปลี่ยนแปลง เพม่ิ เตมิ ขนึ ้ ซง่ึ จะมีผลถงึ ราคาของรถยนต์ท่ีเปลี่ยนแปลง จงึ เป็นข้อมลู ท่ีเป็ นตวั กําหนดจํานวนเงิน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/51

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ เอาประกนั ภยั หรือกําหนดอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ได้ถกู ต้อง หากการเปลี่ยนแปลงนนั้ มิได้มีผลเฉพาะ ราคาเท่านนั้ แตอ่ าจทําให้ความเส่ียงภยั เปลี่ยนแปลง หรือเพม่ิ ขนึ ้ 9. จํานวนเงินเอาประกนั ภยั จะแบง่ 3 สว่ น คือ การประกนั ความรับผิดตอ่ บคุ คล ภายนอก การประกนั รถยนต์เสียหาย รถยนต์สญู หาย ไฟไหม้ และการประกนั ภยั ตามเอกสารแนบท้าย โดยจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ขนั้ ต่ํา ที่ผ้เู อาประกนั ภยั จะซือ้ ความค้มุ ครองได้ - สําหรับความเสียหายตอ่ ชีวิต ร่างกาย อนามยั ของบคุ คลภายนอก คอื 100,000 บาทตอ่ หนง่ึ คน และ 10,000,000 บาทตอ่ อบุ ตั เิ หตแุ ตล่ ะครัง้ - สําหรับความเสียหายตอ่ ทรัพย์สนิ ของบคุ คลภายนอก คือ 200,000 บาทตอ่ อบุ ตั เิ หตแุ ตล่ ะครัง้ - สําหรับความเสียหายตอ่ รถยนต์ รถยนต์สญู หาย ไฟไหม้ คือ 50,000 บาทตอ่ อบุ ตั เิ หตแุ ตล่ ะ ครัง้ และ 5,000 บาทสําหรับรถจกั รยานยนต์ - สําหรับการประกนั ภยั อบุ ตั เิ หตสุ ว่ นบคุ คล ในสว่ นความค้มุ ครองการเสียชีวิต สญู เสียอวยั วะ ทพุ พลภาพถาวร 1,000 บาทตอ่ หนงึ่ คน และในสว่ นความค้มุ ครองคา่ ทดแทนรายสปั ดาห์ สําหรับกรณีทพุ พลภาพชวั่ คราว คอื 100 บาทตอ่ สปั ดาห์ตอ่ หนงึ่ คน - สําหรับการประกนั ภยั คา่ รักษาพยาบาล 50,000 บาทตอ่ หนง่ึ คน - สําหรับการประกนั ตวั ผ้ขู บั ข่ี มิได้กําหนดขนั้ ตํา่ ของจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ตอ่ ครัง้ ไว้ 10. เบยี ้ ประกนั ภยั จะแบง่ เป็นเบีย้ ประกนั ภยั สําหรับความค้มุ ครองหลกั กบั เบีย้ ประกนั ภยั สําหรับความ ค้มุ ครองตามเอกสารแนบท้าย 11. ระยะเวลาประกนั ภยั หากในใบคาํ ขอเอาประกนั ภยั มิได้กลา่ วไว้เป็นอยา่ งอื่น ให้การประกนั ภยั มี ระยะเวลาหนง่ึ ปี 12. ลายมือชื่อ และวนั ท่ีขอเอาประกนั ภยั เพื่อเป็นหลกั ฐานการแสดงเจตนา ผ้เู อาประกนั ภยั จงึ ต้องลง ลายมือชื่อ และวนั ที่กํากบั ไว้ แล้วสง่ ใบคําขอเอาประกนั ภยั พร้อมหลกั ฐานประกอบไปยงั บริษัท เพื่อบริษัทจะได้พิจารณารับประกนั ภยั ตอ่ ไป ในกรณีท่ีผ้เู อาประกนั ภยั ประสงค์จะให้บริษัทเร่ิมค้มุ ครองทนั ทีในวนั ท่ีแสดงเจตนานนั้ ผ้เู อา ประกนั ภยั ควรจะต้องมีการแจ้งข้อมลู และหลกั ฐานทางโทรศพั ท์ หรือโทรสารควบคกู่ นั ไปด้วย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/52

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ ปัจจัยในการคดิ เบีย้ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ปัจจยั ในการคดิ เบีย้ ประกนั ภยั รถยนต์ภาคสมคั รใจ กําหนดโดยยึดหลกั วา่ ผ้ทู ่ีมีความเสี่ยงน้อยจะ เสียเบยี ้ ประกนั ภยั ท่ีถกู กวา่ ผ้ทู ่ีมีความเส่ียงภยั มากกวา่ ทงั้ นีเ้พ่ือให้เกิดความเป็นธรรมตอ่ ผ้เู อาประกนั ภยั การคํานวณเบยี ้ ประกนั ภยั รถยนต์ภาคสมคั รใจ บริษัทจะพจิ ารณาจากปัจจยั ตา่ งๆ ดงั นี ้ 1. ประเภทรถยนต์ ตารางเบีย้ ประกนั ภยั พืน้ ฐานจะจดั แบง่ ตามประเภทรถยนต์ 8 ประเภท ประกอบด้วยรถยนต์นงั่ รถยนต์ โดยสาร รถยนต์บรรทกุ รถยนตล์ ากจงู รถพว่ ง รถจกั รยานยนต์ รถยนต์นงั่ รับจ้างสาธารณะ และรถยนต์ เบด็ เตลด็ 2. ลกั ษณะการใช้รถยนต์ แยกรายละเอียดเป็น การใช้สว่ นบคุ คล การใช้เพ่ือการพาณิชย์ การใช้รับจ้างสาธารณะ การใช้เพ่ือการ พาณิชย์พเิ ศษ รถยนตป์ ้ ายแดง รถพยาบาล รถดบั เพลิง รถใช้ในการเกษตร รถใช้ในการกอ่ สร้าง และรถ อื่นๆ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/53

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ 3. ขนาดรถยนต์ ขนาดรถยนต์ แยกการพิจารณาเป็น - ตามขนาดเคร่ืองยนต์ สําหรับรถยนตน์ งั่ รถยนต์นง่ั รับจ้างสาธารณะ รถจกั รยานยนต์ และ รถพยาบาล - ตามจํานวนที่นงั่ สําหรับรถยนตโ์ ดยสาร - ตามนํา้ หนกั บรรทกุ สําหรับรถยนต์บรรทกุ รถยนต์ลากจงู รถพว่ ง รถดบั เพลิง รถใช้ใน - การเกษตร รถใช้ในการก่อสร้าง ทงั้ นี ้นํา้ หนกั บรรทกุ ให้หมายความถึงนํา้ หนกั รถ และ นํา้ หนกั บรรทกุ รวมกนั 4. อายผุ ้ขู บั ขี่ การใช้อายผุ ้ขู บั ขี่ในการคาํ นวณเบีย้ ประกนั ภยั รถยนตจ์ ะใช้เฉพาะกรณีที่ผ้เู อาประกนั ภยั เลือกซือ้ กรมธรรม์ประกนั ภยั รถยนต์แบบระบชุ ่ือผ้ขู บั ข่ี ซง่ึ จะระบไุ ด้ไมเ่ กิน 2 คน บริษทั จะคํานวณเบยี ้ ประกนั ภยั รถยนต์ โดยใช้อายผุ ้ขู บั ข่ีที่มีความเส่ียงภยั มากกวา่ เป็นเกณฑ์ในการคํานวณเบยี ้ ประกนั ภยั และการนบั อายใุ ห้ นบั ปี ที่เกิดถงึ ปี ท่ีย่ืนคาํ ขอเอาประกนั ภยั อายขุ องผ้ขู บั ข่ี แบง่ ตามชว่ งอายเุ ป็ น 4 ชว่ ง ได้แก่ อายุ 18-24 ปี 25-35 ปี 36-50 ปี และ อายเุ กิน 50 ปี ปัจจบุ นั กําหนดให้เบยี ้ ประกนั ภยั รถยนต์สําหรับชว่ งอายทุ งั้ 4 ได้รับการลดเบยี ้ ประกนั ภยั ลง 5% 10% 15% และ 20% ตามลําดบั 5. กลมุ่ รถยนต์ กลมุ่ รถยนต์ แบง่ เป็น 5 กลมุ่ พจิ ารณาจากราคาอะไหลแ่ ละคา่ ซอ่ ม โดยจําแนกรายละเอียดตามย่ีห้อ และรุ่นของรถ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/54

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ 6. อายรุ ถยนต์ พิจารณาจากอายกุ ารใช้งานของรถยนต์ซงึ่ มีผลทําให้ความเส่ียงภยั เพิ่มขนึ ้ หรือลดลง การนบั อายขุ อง รถยนต์ให้นบั ปี ท่ีจดทะเบียนรถยนต์ถึงปี ที่ขอทําประกนั ภยั 7. จํานวนเงินเอาประกนั ภยั หมายถงึ จํานวนเงินเอาประกนั ภยั ของตวั รถคนั ท่ีเอาประกนั ภยั โดยให้รวมถงึ อปุ กรณ์ สว่ นควบ เคร่ือง ตกแตง่ รถ และอปุ กรณ์เพิ่มพิเศษ เชน่ อปุ กรณ์ดมั พ์ เป็นต้น 8. อปุ กรณ์เพม่ิ พเิ ศษ หมายถงึ อปุ กรณ์เพ่มิ เตมิ สําหรับรถยนต์บางประเภท ซงึ่ ทําให้ความเสี่ยงภยั ใน การใช้รถเพ่ิมขนึ ้ และมีผลทําให้คา่ สนิ ไหมทดแทนเพิม่ ขนึ ้ เชน่ อปุ กรณ์ดมั พ์ เครื่องไฮดรอลิค หรือ รถยนตบ์ รรทกุ ท่ีมีเครื่องทําความเยน็ อปุ กรณ์เพมิ่ พิเศษใช้สําหรับรถยนต์บรรทกุ ใช้เพ่ือการพาณิชย์ (รหสั 320) รถยนต์บรรทกุ ใช้เพื่อการพาณิชย์พิเศษ (รหสั 340) รถพว่ งใช้เพ่ือการพาณิชย์ (รหสั 520) และรถพว่ งใช้เพ่ือการพาณิชย์พิเศษ (รหสั 540) สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/55

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ การลดเบีย้ ประกันภัยประวัตดิ ี 1. ในกรณีผ้เู อาประกนั ภยั มีรถยนตเ์ อาประกนั ภยั ไว้กบั บริษทั น้อยกวา่ 3 คนั บริษัทจะลดเบีย้ ประกนั ภยั ให้แกผ่ ้เู อาประกนั ภยั เป็นลําดบั ขนั้ ดงั นี ้ - ขนั้ ท่ี 1 20% ของเบยี ้ ประกนั ภยั ปี ตอ่ อายุ สําหรับรถยนต์คนั ที่ไมม่ ีการเรียกร้องคา่ เสียหายตอ่ บริษัท ในการประกนั ภยั ปี แรก - ขนั้ ท่ี 2 30% ของเบยี ้ ประกนั ภยั ปี ตอ่ อายุ สําหรับรถยนต์คนั ที่ไมม่ ีการเรียกร้องคา่ เสียหายตอ่ บริษทั ในการประกนั ภยั 2 ปี ตดิ ตอ่ กนั - ขนั้ ที่ 3 40% ของเบยี ้ ประกนั ภยั ปี ตอ่ อายุ สําหรับรถยนต์คนั ท่ีไมม่ ีการเรียกร้องคา่ เสียหายตอ่ บริษัท ในการประกนั ภยั 3 ปี ตดิ ตอ่ กนั - ขนั้ ท่ี 4 50% ของเบยี ้ ประกนั ภยั ปี ตอ่ อายุ สําหรับรถยนต์คนั ท่ีไมม่ ีการเรียกร้องคา่ เสียหายตอ่ บริษัท ในการประกนั ภยั 4 ปี ตดิ ตอ่ กนั หรือกวา่ นนั้ ทงั้ นี ้บริษัทจะลดเบีย้ ประกนั ภยั ให้ตอ่ เมื่อผ้เู อาประกนั ภยั ได้ตอ่ อายกุ ารประกนั ภยั กบั บริษัท และ เฉพาะข้อตกลงที่ค้มุ ครองตอ่ อายเุ ท่านนั้ คําวา่ “รถยนต์คนั ที่ไมม่ ีการเรียกร้องคา่ เสียหาย” ให้หมายความรวมถึงรถยนต์คนั ท่ีมีการเรียกร้อง คา่ เสียหาย แตค่ า่ เสียหายนนั้ เกิดจากความประมาทของบคุ คลภายนอกและรู้ตวั ผ้ตู ้องรับผดิ ตาม กฎหมาย ซง่ึ มีผลทําให้บริษัทมีสทิ ธิท่ีจะเรียกคา่ เสียหายท่ีบริษัทได้จา่ ยไปคืนจากบคุ คลภายนอกได้ หากในระหวา่ งปี กรมธรรม์ประกนั ภยั ที่ผ้เู อาประกนั ภยั ได้รับสว่ นลดเบยี ้ ประกนั ภยั ประวตั ดิ ีมีการ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/56

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ เรียกร้องคา่ เสียหายตอ่ บริษัทแล้ว ในการตอ่ อายกุ ารประกนั ภยั ปี ตอ่ ไป บริษทั จะลดเบยี ้ ประกนั ภยั ให้แก่ผ้เู อาประกนั ภยั ดงั นี ้ ก. ลดลงหนงึ่ ลําดบั ขนั้ จากเดมิ หากการเรียกร้องนนั้ เกิดจากความประมาทของรถยนตค์ นั เอาประกนั ภยั หรือผ้เู อาประกนั ภยั ไมส่ ามารถแจ้งบริษัททราบถงึ คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนง่ึ ได้ ข. ลดลงสองลําดบั ขนั้ จากเดมิ แตไ่ มเ่ กินอตั ราปกติ หากมีการเรียกร้องที่รถยนต์คนั เอา ประกนั ภยั เป็ นฝ่ ายประมาท หรือไมส่ ามารถแจ้งบริษทั ทราบถงึ คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนง่ึ ได้ ตงั้ แต่ 2 ครัง้ ขนึ ้ ไปรวมกนั มีจํานวนเงินเกิน 200% ของเบีย้ ประกนั ภยั 2. ในกรณีผ้เู อาประกนั ภยั มีรถยนต์เอาประกนั ภยั ไว้กบั บริษทั ตงั้ แต่ 3 คนั ขนึ ้ ไป บริษัทจะลดเบยี ้ ประกนั ภยั ให้แกผ่ ้เู อาประกนั ภยั ดงั นี ้ - 30% ของเบยี ้ ประกนั ภยั ของปี ที่ตอ่ อายขุ องรถยนต์ทกุ คนั ท่ีเอาประกนั ภยั ไว้กบั บริษัท หกั ด้วย จํานวนเงินคา่ เสียหายที่เกิดขึน้ ตอ่ บริษัทในปี ที่เอาประกนั ภยั ในกรณีได้เอาประกนั ภยั รถยนต์ 3 คนั ถึง 9 คนั - 35% ของเบยี ้ ประกนั ภยั ของปี ที่ตอ่ อายขุ องรถยนตท์ กุ คนั ที่เอาประกนั ภยั ไว้กบั บริษทั หกั ด้วย จํานวนเงินคา่ เสียหายท่ีเกิดขึน้ ตอ่ บริษัทในปี ท่ีเอาประกนั ภยั ในกรณีได้เอาประกนั ภยั รถยนต์ 10 คนั ถึง 19 คนั - 40% ของเบีย้ ประกนั ภยั ของปี ท่ีตอ่ อายขุ องรถยนตท์ กุ คนั ท่ีเอาประกนั ภยั ไว้กบั บริษทั หกั ด้วย จํานวนเงินคา่ เสียหายท่ีเกิดขึน้ ตอ่ บริษัทในปี ที่เอาประกนั ภยั ในกรณีได้เอาประกนั ภยั รถยนต์ 20 คนั หรือกว่านนั้ ทงั้ นี ้บริษัทจะลดเบีย้ ประกนั ภยั ให้ตอ่ เมื่อผ้เู อาประกนั ภยั ได้ตอ่ อายกุ ารประกนั ภยั กบั บริษทั และ เฉพาะข้อตกลงท่ีค้มุ ครองท่ีตอ่ อายเุ ทา่ นนั้ คําวา่ “จํานวนเงินคา่ เสียหายที่เกิดขนึ ้ ตอ่ บริษทั ” ไมร่ วมถึงคา่ เสียหายที่เกิดจากการกระทําของ บคุ คลภายนอกและรู้ตวั ผ้ตู ้องรับผดิ ตามกฎหมาย ซงึ่ มีผลทําให้บริษัทมีสทิ ธิที่จะเรียกคา่ เสียหายที่ บริษัทได้จ่ายไปคืนจากบคุ คลภายนอกได้ กรณีผ้เู อาประกนั ภยั ทําประกนั ภยั กบั ผ้รู ับประกนั ภยั อื่น และมาตอ่ อายกุ ารประกนั ภยั กบั บริษัท บริษัท จะนําความในข้อ 1 และ 2 มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลมได้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/57

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ การเพ่มิ เบีย้ ประกันภัยประวัตไิ ม่ดี ในกรณีผ้เู อาประกนั ภยั มีรถเอาประกนั ภยั ไว้กบั บริษัทคนั เดยี วหรือหลายคนั และมีการเรียกร้อง คา่ เสียหายระหว่างปี ท่ีเอาประกนั ภยั ท่ีเกิดจากอบุ ตั เิ หตุ ซง่ึ รถยนต์คนั ที่เอาประกนั ภยั เป็นฝ่ ายประมาท หรือไมส่ ามารถแจ้งให้บริษัททราบถงึ คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนง่ึ ได้ อยา่ งน้อยตงั้ แต่ 2 ครัง้ ขนึ ้ ไปรวมกนั มีจํานวนเงิน เกิน 200% ของเบีย้ ประกนั ภยั บริษัทจะเพ่ิมเบีย้ ประกนั ภยั เป็นขนั้ ๆ ดงั นี ้ - ขนั้ ท่ี 1 20% ของอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ปี ตอ่ อายุ - ขนั้ ท่ี 2 30% ของอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ปี ที่ตอ่ อายุ ในกรณีมีคา่ สินไหมทดแทนดงั กลา่ วเกิดขนึ ้ กบั บริษทั 2 ปี ตดิ ตอ่ กนั - ขนั้ ที่ 3 40% ของอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ปี ท่ีตอ่ อายุ ในกรณีมีคา่ สนิ ไหมทดแทนดงั กลา่ วเกิดขนึ ้ กบั บริษัท 3 ปี ติดตอ่ กนั - ขนั้ ที่ 4 50% ของอตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ปี ท่ีตอ่ อายุ ในกรณีมีคา่ สินไหมทดแทนดงั กลา่ วเกิดขนึ ้ กบั บริษทั 4 ปี ติดตอ่ กนั หรือกวา่ นนั้ ในกรณีท่ีผ้เู อาประกนั ภยั ถกู เพ่มิ เบยี ้ ประกนั ภยั ประวตั ไิ มด่ ีไมว่ า่ ลําดบั ขนั้ ใด และในปี กรมธรรม์ ประกนั ภยั นนั้ มีการเรียกร้องคา่ เสียหาย ที่รถยนต์คนั เอาประกนั ภยั เป็ นฝ่ ายประมาทหรือไมส่ ามารถแจ้งให้ บริษัททราบถงึ คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนง่ึ ได้ไมถ่ งึ 2 ครัง้ หรือถึง 2 ครัง้ แตม่ ีคา่ เสียหายไมเ่ กิน 200% ของเบยี ้ ประกนั ภยั บริษัทจะใช้เบีย้ ประกนั ภยั ในลําดบั ขนั้ เดมิ เชน่ ในปี ที่ผา่ นมา แตห่ ากไมม่ ีการเรียกร้อง คา่ เสียหาย หรือมีการเรียกร้องคา่ เสียหาย แตค่ า่ เสียหายที่เกิดขนึ ้ นนั้ มิได้เกิดจากความประมาทของ รถยนตค์ นั เอาประกนั ภยั และผ้เู อาประกนั ภยั สามารถแจ้งให้บริษทั ทราบถงึ คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนง่ึ ได้แล้ว ใน การตอ่ อายกุ ารประกนั ภยั ในปี ตอ่ ไปบริษัทจะใช้เบีย้ ประกนั ภยั ในอตั ราปกติ การโอนรถยนต์ เมื่อผ้เู อาประกนั ภยั ได้โอนรถยนต์ให้แก่บคุ คลอื่น ให้ถือว่าผ้รู ับโอนเป็นผ้เู อาประกนั ภยั ตามกรมธรรม์ ประกนั ภยั นี ้และบริษัทต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกนั ภยั ตอ่ ไปตลอดอายกุ รมธรรม์ประกนั ภยั ท่ียงั เหลืออยู่ อยา่ งไรก็ตาม ในกรณีท่ีทําประกนั ภยั ประเภทระบชุ ่ือผ้ขู บั ขี่ ผ้เู อาประกนั ภยั จะต้องแจ้งการ เปลี่ยนแปลงผ้ขู บั ขี่ให้บริษัททราบ เพื่อจะได้มีการปรับปรุงอตั ราเบยี ้ ประกนั ภยั ตามสภาพความเสี่ยงภยั ท่ี เปล่ียนแปลงไป มิฉะนนั้ ผ้เู อาประกนั ภยั อาจจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายสว่ นแรก ตามเง่ือนไขความ ค้มุ ครองท่ีปรากฏในกรมธรรม์ประกนั ภยั นี ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/58

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ การระงบั ข้อพพิ าทโดยอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่มีข้อพิพาท ข้อขดั แย้ง หรือข้อเรียกร้องใดๆ ภายใต้กรมธรรม์ประกนั ภยั ฉบบั นีร้ ะหวา่ งผ้มู ี สิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกนั ภยั กบั บริษัท และหากผ้มู ีสิทธิเรียกร้องประสงคแ์ ละเหน็ ควรยตุ ขิ ้อพิพาท นนั้ โดยวธิ ีการอนญุ าโตตลุ าการ บริษทั ตกลงยนิ ยอม และให้ทําการวนิ ิจฉยั ชีข้ าดโดยอนญุ าโตตลุ าการ ตามข้อบงั คบั กรมการประกนั ภยั วา่ ด้วยอนญุ าโตตลุ าการ การตีความกรมธรรม์ประกันภยั ข้อความท่ีปรากฏในกรมธรรม์ประกนั ภยั นี ้รวมทงั้ เอกสารแนบท้าย และเอกสารประกอบให้ตคี วาม ตามคมู่ ือการตีความที่นายทะเบยี นได้ให้ความเห็นชอบไว้ การสนิ้ ผลบังคับของกรมธรรม์ประกันภัย กรมธรรม์ประกนั ภยั นีจ้ ะสนิ ้ ผลบงั คบั เมื่อ 1. ณ วนั ที่ เวลา ท่ีระบไุ ว้ในตารางกรมธรรม์ประกนั ภยั 2. ผ้เู อาประกนั ภยั ไมช่ ําระเบยี ้ ประกนั ภยั หากผ้เู อาประกนั ภยั ไมช่ ําระเบยี ้ ประกนั ภยั ภายในกําหนด 60 วนั นบั แตว่ นั ท่ีกรมธรรม์ประกนั ภยั เร่ิมมีผลบงั คบั ให้ถือวา่ ผ้เู อาประกนั ภยั ไมป่ ระสงค์จะเอาประกนั ภยั อีกตอ่ ไป และให้กรมธรรม์ประกนั ภยั สิน้ ผลบงั คบั ณ วนั พ้นกําหนดดงั กลา่ ว การชําระเบยี ้ ประกนั ภยั ให้แกพ่ นกั งาน ตวั แทน ผ้รู ับมอบอํานาจ นายหน้าประกนั ภยั ตลอดจน บคุ คล หรือนิตบิ คุ คล ที่บริษัทยอมรับการกระทําของบคุ คลหรือนิตบิ คุ คลดงั กลา่ วเสมือนตวั แทนของบริษทั ให้ถือวา่ เป็นการชําระเบีย้ ประกนั ภยั แกบ่ ริษัทโดยถกู ต้อง การบอกเลกิ กรมธรรม์ประกันภัย 1. บริษทั เป็นผ้บู อกเลกิ : บริษัทอาจบอกเลกิ กรมธรรม์ประกนั ภยั นีไ้ ด้ด้วยการสง่ หนงั สือบอกกลา่ ว ลว่ งหน้าไมน่ ้อยกวา่ 15 วนั โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผ้เู อาประกนั ภยั ตามที่อยคู่ รัง้ สดุ ท้ายที่ แจ้งให้บริษทั ทราบ ซง่ึ จะมีผลให้กรมธรรม์ประกนั ภยั สนิ ้ ผลบงั คบั ณ วนั พ้นกําหนดดงั กลา่ ว ในกรณีนี ้บริษทั จะคืนเบีย้ ประกนั ภยั ให้แก่ผ้เู อาประกนั ภยั โดยหกั เบยี ้ ประกนั ภยั สําหรับระยะเวลา ท่ีกรมธรรม์ประกนั ภยั ได้ใช้บงั คบั มาแล้วออกตามสว่ น 2. ผ้เู อาประกนั ภยั เป็นผ้บู อกเลิก : ผ้เู อาประกนั ภยั อาจบอกเลิกกรมธรรม์ประกนั ภยั นีไ้ ด้ โดยแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ซงึ่ จะมีผลให้กรมธรรม์ประกนั ภยั สิน้ ผลบงั คบั ณ วนั ที่บริษทั ได้รับหนงั สือบอกเลิก หรือวนั ท่ีระบไุ ว้ในหนงั สือบอกเลิก แล้วแตว่ า่ วนั ใดเป็ นวนั หลงั สดุ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/59

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ แบบฝึ กหดั ท้ายบท จงเขียนเคร่ืองหมาย X ลงในคาํ ตอบท่ถี ูกท่ีสุดเพียงคาํ ตอบเดยี ว การประกันภยั รถยนต์ภาคบังคับ 1. กรณีรถยนต์ 2 คนั ซง่ึ ตา่ งก็จดั ให้มีการประกนั ภยั ตามกรมธรรม์ค้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ เกิด อบุ ตั เิ หตเุ ฉ่ียวชนกนั โดยยงั ไมท่ ราบฝ่ ายใดเป็นฝ่ ายผิด ผ้ปู ระสบภยั ท่ีเป็นผ้โู ดยสารในรถจะขอรับ คา่ เสียหายเบือ้ งต้นจากท่ีใด ก. ผ้ปู ระสบภยั อยใู่ นรถคนั ใด ให้ย่ืนขอรับคา่ เสียหายเบือ้ งต้น จากบริษัทประกนั ภยั ที่รับประกนั ภยั รถคนั นนั้ ข. ผ้ปู ระสบภยั สามารถย่ืนขอรับคา่ เสียหายเบือ้ งต้น จากรถคนั ใดก็ได้ แตส่ ว่ นเกินคา่ เสียหายเบอื ้ งต้น ผ้ปู ระสบภยั ต้องย่ืนขอจากบริษทั ประกนั ภยั ท่ีเป็นฝ่ ายผิด สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/60

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ ค. ผ้ปู ระสบภยั อยใู่ นรถคนั ใด ให้ย่ืนขอรับคา่ เสียหายเบือ้ งต้น จากกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั สว่ นเกิน คา่ เสียหายเบือ้ งต้นจงึ สามารถร้องขอจากบริษทั ประกนั ภยั ที่เป็นฝ่ ายผิด ง. ผิดทกุ ข้อ 2. นายไทเกอร์ ขบั รถยนตซ์ ่งึ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั คิ ้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 เกิดอบุ ตั เิ หตเุ ฉ่ียวชนกบั รถยนตบ์ รรทกุ ไมท่ ราบหมายเลขทะเบยี น และรถยนตบ์ รรทกุ คนั ดงั กลา่ วได้ หลบหนีไป นายไทเกอร์ จะขอรับคา่ เสียหายเบือ้ งต้นได้ หรือไม่ ก. ได้ จากบริษทั ประกนั ภยั ท่ีรับประกนั ภยั รถยนต์ท่ีนายไทเกอร์ขบั ข. ได้ จากกองทนุ ทดแทน เน่ืองจากรถยนตบ์ รรทกุ เป็นฝ่ ายประมาทได้ขบั รถหลบหนี ค. ถกู ทงั้ ข้อ ก. และ ข้อ ข ง. ผดิ ทกุ ข้อ 3. จํานวนเงินคา่ เสียหายเบือ้ งต้น โดยไมต่ ้องพสิ จู น์ทราบวา่ ใครผิดใครถกู มีวงเงินความรับผดิ เทา่ ใด ก. ความเสียหายตอ่ ร่างกายไมเ่ กิน 15,000 บาทตอ่ คน และความเสียหายตอ่ ชีวิต 35,000 บาทตอ่ คน ข. ความเสียหายตอ่ ร่างกายไมเ่ กิน 15,000 บาทตอ่ คน และความเสียหายตอ่ ชีวิต 50,000 บาทตอ่ คน ค. ความเสียหายตอ่ ร่างกายไมเ่ กิน 35,000 บาทตอ่ คน และความเสียหายตอ่ ชีวิต 50,000 บาทตอ่ คน ง. ความเสียหายตอ่ ร่างกายไมเ่ กิน 35,000 บาทตอ่ คน และความเสียหายตอ่ ชีวิต 2000,000 บาทตอ่ คน 4. กรณีที่รถ 2 คนั ชนกนั และมีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั คิ ้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 ทงั้ 2 คนั เป็นเหตใุ ห้ผ้ปู ระสบภยั ท่ีเดนิ ข้ามถนนถกู รถอีกคนั เฉ่ียวชนเสียชีวิต ซง่ึ ความเสียหายเกิด จากความประมาทของผ้ขู บั ข่ีรถทงั้ 2 คนั ทายาทโดยธรรมของผ้ปู ระสบภยั จะได้รับคา่ เสียหายจาก บริษัทประกนั ภยั ทงั้ 2 คนั จํานวนเทา่ ใด ก. 400,000 บาท ข. 300,000 บาท ค. 200,000 บาท ง. 100,000 บาท สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/61

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ 5. กรณีรถยนต์ชนกบั รถจกั รยานยนต์ เป็นเหตใุ ห้รถจกั รยานยนต์ ซง่ึ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั ิ ค้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 เสียหลกั เฉ่ียวชนคนเดนิ ข้ามถนนได้รับบาดเจ็บ หลงั เกิด เหตผุ ้ขู บั ข่ีรถยนต์ได้หลบหนี และผ้ปู ระสบภยั คนเดนิ ข้ามถนนต้องเสียคา่ รักษาพยาบาลไปเป็นเงิน 10,000 บาท กรณีดงั กลา่ วผ้ปู ระสบภยั จะร้องขอคา่ เสียหายเบือ้ งต้นได้จากใครได้บ้าง ก. ผ้ปู ระสบภยั สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้น ได้เฉพาะจากบริษทั ประกนั ภยั รถจกั รยานยนต์ 10,000 บาท ข. ผ้ปู ระสบภยั สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้น ได้เฉพาะจากกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั 10,000 บาท ค. ผ้ปู ระสบภยั สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้น ได้จากบริษทั ประกนั ภยั รถจกั รยานยนต์ 5,000 บาทและจากกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั 5,000 บาท ง. ถกู ทงั้ ข้อ ก และ ข้อ ข 6. กรณีคนเดินข้ามถนน เมาสรุ า เดนิ ตดั หน้า รถยนตซ์ งึ่ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั ิค้มุ ครอง ผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 ในระยะกระชนั้ ชิด เป็นเหตใุ ห้คนเดนิ ข้ามถนนเสียชีวิต กรณี ดงั กลา่ วทายาทผ้ปู ระสบภยั จะร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้น จากบริษัทผ้ปู ระกนั ภยั ในรถยนตค์ นั ดงั กลา่ วได้หรือไม่ ก. ไมไ่ ด้ เนื่องจากอบุ ตั เิ หตใุ นครัง้ นีเ้กิดจากความประมาทของคนเดนิ ข้ามถนนเอง ข. ได้ โดยขอรับคา่ เสียหายเบือ้ งต้นท่ีกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั 35,000 บาท ค. ได้ จากบริษัทผ้รู ับประกนั ภยั ในรถยนตค์ นั เกิดเหตุ 35,000 บาท ง. ได้ จากกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั 17,500 บาท และจากบริษทั ผ้รู ับประกนั ภยั ในรถยนต์คนั เกิดเหตุ 17,500 บาท 7. นายไทเกอร์ ขบั รถยนต์ซง่ึ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั คิ ้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 เกิดอบุ ตั เิ หตรุ ถพลิกควํ่า เป็นเหตใุ ห้นายไทยเกอร์ เสียชีวิต แตใ่ นขณะเกิดอบุ ตั เิ หตนุ ายไทเกอร์ไมม่ ี ใบอนญุ าตขบั ขี่รถยนต์ อยากทราบว่า ทายาทของนายไทเกอร์ จะได้รับคา่ สินไหมทดแทนตาม กรมธรรม์ค้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ เป็นจํานวนเงินเทา่ ไร ก. ได้ 35,000 บาท ข. ได้ 50,000 บาท ค. ได้ 200,000 บาท สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/62

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ ง. ไมไ่ ด้ เพราะขณะเกิดเหตุ นายไทเกอร์ไมม่ ีใบอนญุ าตขบั ข่ี 8. นายไทยเกอร์ ได้ขบั รถยนต์บรรทกุ คนั เอาประกนั ภยั ซึง่ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั คิ ้มุ ครอง ผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 ได้บรรทกุ เหลก็ เส้นเพ่ือไปสง่ ลกู ค้าท่ีตา่ งจงั หวดั ระหวา่ งทาง ขณะที่นายไทเกอร์ จอดรถติดสญั ญาณไฟแดงอยนู่ นั้ ได้มีนายสงิ ห์ ขบั ขี่รถจกั รยานสองล้อ ชน เหล็กเส้นท่ียื่นออกมา เป็ นเหตใุ ห้นายสงิ ห์ได้รับบาดเจ็บสาหสั ดวงตาข้างซ้ายบอด จากอบุ ตั เิ หตุ ในครัง้ นี ้ นายสงิ ห์จะร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นได้หรือไมอ่ ยา่ งไร ก. นายสงิ ห์ไมส่ ามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นจากใครได้ เน่ืองจากอบุ ตั เิ หตใุ นครัง้ นีเ้กิดจากความ ประมาทของนายสิงห์เอง ข. นายสงิ ห์สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นได้จากกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั 15,000 บาท ค. นายสิงห์สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นได้จากบริษัทประกนั ภยั รถยนต์บรรทกุ 35,000 บาท ง. นายสิงห์สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นได้จากบริษัทประกนั ภยั รถยนต์บรรทกุ 15,000 บาท 9. นายไทเกอร์ กําลงั ถอยรถยนตซ์ งึ่ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญัตคิ ้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 ออกจากบ้านพกั ไมท่ นั ระวงั บตุ รสาวซงึ่ นง่ั เล่นอยหู่ ลงั รถ เป็นเหตใุ ห้นายไทเกอร์ถอยชน บตุ รสาวเสียชีวิต อบุ ตั เิ หตใุ นครัง้ นีบ้ ริษทั ประกนั ภยั ในรถยนตค์ นั ดงั กลา่ วจะรับผิดชอบชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทนในอบุ ตั เิ หตคุ รัง้ นีห้ รือไม่ ก. ไมต่ ้องรับผิดชอบ เพราะเป็ นบตุ รของผ้ขู บั ข่ีเข้าข้อยกเว้นไมค่ ้มุ ครอง ข. ทายาทผ้ปู ระสบภยั สามารถร้องขอคา่ สนิ ไหมทดแทนได้ จากกองทนุ ทดแทนผ้ปู ระสบภยั 200,000 บาท ค. ทายาทผ้ปู ระสบภยั สามารถร้องขอคา่ สนิ ไหมทดแทนได้ จากบริษทั ประกนั ภยั รถยนต์คนั ดงั กลา่ ว 200,000 บาท ง. ถกู ทงั้ ข้อ ข และ ข้อ ค 10. นายไทเกอร์ ขบั รถยนต์ซง่ึ มีประกนั ภยั ตามพระราชบญั ญตั คิ ้มุ ครองผ้ปู ระสบภยั จากรถ พ.ศ. 2535 ด้วยความเร็วสงู ได้ขบั ชนกระป๋ องโค้กท่ีตกอยขู่ ้างทาง เป็ นเหตใุ ห้กระป๋ องโค้กกระเดน็ ไป โดนผ้ปู ระสบภยั ท่ียืนรอรถประจําทางอยไู่ ด้รับบาดเจ็บ กรณีดงั กลา่ วผ้ปู ระสบภยั สามารถร้องขอ คา่ เสียหายเบือ้ งต้นได้หรือไมอ่ ยา่ งไร ก. ไมไ่ ด้ เน่ืองจากผ้ปู ระสบภยั ไมไ่ ด้รับอบุ ตั เิ หตจุ ากรถยนต์โดยตรง ข. ได้ เนื่องจากเป็ นผ้ปู ระสบภยั จากรถ สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นได้จากกองทนุ ทดแทน ผ้ปู ระสบภยั สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/63

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ ค. ได้ เน่ืองจากเป็นผ้ปู ระสบภยั จากรถ สามารถร้องขอคา่ เสียหายเบอื ้ งต้นได้จาก บริษัทประกนั ภยั ในรถยนตค์ นั เกิดเหตุ ง. ถกู ทงั้ ข้อ ข และ ข้อ ค การประกันภยั รถยนต์ภาคสมัครใจ 11. ในการประกนั ภยั รถยนต์ประเภท 1 แบบระบชุ ื่อผ้ขู บั ข่ี ผ้เู อาประกนั ภยั สามารถระบชุ ื่อผ้ขู บั ข่ีได้เกิน กี่คน ก. ไมเ่ กิน 1 คน ข. ไมเ่ กิน 2 คน ค. ไมเ่ กิน 3 คน ง. กี่คนก็ได้ 12.กรมธรรม์ประกนั ภยั รถยนตภ์ าคสมคั รใจประเภท 2 กบั กรมธรรม์ประกนั ภยั รถยนตภ์ าคสมคั รใจ ประเภท 3 แตกตา่ งกนั อยา่ งไร ก. ประเภท 2 ค้มุ ครองรถยนต์สญู หาย ไฟไหม้ ประเภท 3 ค้มุ ครองทรัพย์สินบนรถประกนั ข. ประเภท 2 ค้มุ ครองรถยนต์สญู หาย ไฟไหม้ ประเภท 3 ไมค่ ้มุ ครอง ค. ประเภท 2 ค้มุ ครองรถยนต์สญู หาย ไฟไหม้ การชนกบั ยานพาหนะทางบก ประเภท 3 ไมค่ ้มุ ครอง ง. ประเภท 2 ค้มุ ครองรถยนตส์ ญู หาย ไฟไหม้ ประเภท 3 ค้มุ ครองการชนกบั ยานพาหนะทางบก 13. รถที่เอาประกนั ภยั เกิดยางระเบดิ แล้วทําให้รถพลิกควํ่าตวั รถเสียหาย กรมธรรม์ประกนั ภยั รถยนต์ ภาคสมคั รใจประเภท 2+ ให้ความค้มุ ครองความเสียหายสว่ นใดบ้าง ก. ไมร่ ับผิดชอบยาง รับผิดชอบเฉพาะตวั รถ ข. ไมร่ ับผดิ ชอบความเสียหายใดๆตอ่ ตวั รถคนั เอาประกนั ภยั ค. รับผดิ ชอบความเสียหายทงั้ ยางและตวั รถ ง. รับผิดชอบเฉพาะยาง 14. ข้อใดดงั ตอ่ ไปนี ้กรมธรรม์ประกนั ภยั รถยนตภ์ าคสมคั รใจ ไมค่ ้มุ ครองรถคนั ที่เอาประกนั ภยั ก. ใช้ใบขบั ข่ีรถยนต์สาธารณะมาขบั ขี่รถยนต์สว่ นบคุ คล ข. ใช้ใบขบั ขี่จกั รยานยนตม์ าขบั ขี่รถยนต์ ค. ใช้ใบขบั ขี่รถยนต์สว่ นบคุ คลมาขบั ข่ีรถยนต์โดยสารรับจ้าง สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/64

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่1: การประกนั ภยั รถยนต์ ง. ใช้ใบขบั ข่ีรถยนต์สาธารณะมาขบั ข่ีรถยนตโ์ ดยสาร 15. กรณีที่ไมค่ ้มุ ครองความเสียหายรถคนั เอาประกนั ภยั เมื่อพบวา่ ผ้ขู บั ข่ีรถประกนั มีปริมาณ แอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเท่าไร ก. 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ข. ตงั้ แต่ 150 มลิ ลกิ รัมเปอร์เซน็ ต์ ค. มากกวา่ 150 มลิ ลกิ รัมเปอร์เซน็ ต์ ง. ถกู ทงั้ ข้อ ข และ ข้อ ค 16. กรณีเกิดเหตรุ ถคนั เอาประกนั ภยั เป็นฝ่ ายถกู ผ้ขู บั ขี่ไมต่ รงตามที่ระบใุ นกรมธรรม์และเกิดความ เสียหายตอ่ ตวั รถคนั เอาประกนั ภยั ผ้เู อาประกนั /ผ้ขู บั ข่ี ต้องมีคา่ เสียหายสว่ นแรกเท่าไร ก. 1,000 บาท ข. 2,000 บาท ค. 6,000 บาท ง. ผดิ ทกุ ข้อ 17. รถยนต์คนั เอาประกนั ภาคสมคั รใจ (ฝ่ ายผดิ ) เกิดเหตชุ นคกู่ รณี กรมธรรม์ไม่ค้มุ ครอง ในข้อใด ก. ทรัพย์สนิ ที่อยใู่ นรถคกู่ รณี ข. ผ้โู ดยสารบนรถคกู่ รณี ค. ผ้ขู บั ขี่รถคกู่ รณี ง. ทรัพย์สินบนรถคนั ประกนั 18. การยกเว้นการใช้ การประกนั ภยั นีไ้ มค่ ้มุ ครอง ข้อใดผดิ ก. การใช้รถฝ่ าฝื นสญั ญาณจราจร ข. การใช้รถบรรทกุ นํา้ หนกั เกิน ค. การใช้รถแขง่ ขนั แรลล่ี ง. ถกู ทกุ ข้อ 19. รถคนั เอาประกนั ภยั ทําประกนั ภยั ประเภท 2+ เฉี่ยวชนท้ายรถบรรทกุ สิบล้อ เป็นเหตใุ ห้รถคนั เอา ประกนั ภยั ได้รับความเสียหาย หลงั เกิดเหตรุ ถบรรทกุ สบิ ล้อได้หลบหนี ความเสียหายรถคนั เอา ประกนั ภยั จะได้รับความค้มุ ครองหรือไม่ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/65

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ ก. ได้รับความค้มุ ครอง เพราะความเสียหายรถคนั เอาประกนั ภยั ชนกบั ยานพาหนะทางบก ข. ได้รับความค้มุ ครอง แตผ่ ้เู อาประกนั ภยั ต้องรับผิดชอบความเสียหายสว่ นแรก 2,000 บาท ค. ถกู ทงั้ ข้อ ก และ ข้อ ข ง. ผิดทกุ ข้อ 20 ผ้เู อาประกนั ภยั เหน็ คนร้ายกําลงั งดั รถ และ ทบุ กระจกประตรู ถคนั เอาประกนั ภยั ได้รับความเสียหาย จงึ ร้องให้คนชว่ ย คนร้ายจงึ หนีไป หากรถคนั เอาประกนั ภยั ทําประกนั ภยั ประเภท 2 ความเสียหาย รถคนั เอาประกนั ภยั ได้จะรับการค้มุ ครองหรือไม่ ก.ไมไ่ ด้รับความค้มุ ครอง เนื่องจากการประกนั ภยั ประเภท 2 จะให้ความค้มุ ครองตวั รถคนั เอา ประกนั ภยั กรณีรถสญู หาย ไฟไหม้ เทา่ นนั้ ข. ได้รับความค้มุ ครอง เฉพาะกระจกประตรู ถเท่านนั้ ค. ได้รับความค้มุ ครองความเสียหายรถคนั เอาประกนั แตผ่ ้เู อาประกนั ต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วน แรก 1,000 บาท ง. ได้รับความค้มุ ครอง เนื่องจากความเสียหายเกิดจากการพยายามลกั ทรัพย์ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/66

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ ภาคผนวกบทท่ี 1 การประกันภัยรถยนต์ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 1/67

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี1: การประกนั ภยั รถยนต์ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 1/68

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่2: การพจิ ารณาความเส่ียงภยั บทท่ี 2 การพจิ ารณาความเส่ียงภัย วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้นกั ศกึ ษามีความเข้าใจกระบวนการและวธิ ีการในการจดั การความเสี่ยงภยั 2. เพ่ือให้นกั ศกึ ษามีความเข้าใจวธิ ีการประเมนิ ความเส่ียงภยั และสามารถประเมินความเส่ียงภยั ได้ 3. เพื่อให้นกั ศกึ ษาเข้าใจผลกระทบและวิเคราะห์ผลกระทบความเสี่ยงภยั ในการดําเนินชีวิตของคนเราทกุ ๆคนมีความเสี่ยงภยั ในทกุ วนั และเวลาท่ีเกี่ยวกบั ชีวิต ร่างกาย และ อนามยั ไมว่ า่ จะดาํ เนินชีวติ ในรูปแบบใด แตถ่ ้าบางคนมีการดําเนินชีวิตหรือประกอบอาชีพการงานท่ีภาวะ เส่ียงอนั ตรายสงู ก็อาจส่งผลตอ่ ให้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บได้ง่าย ในบทเรียนนีจ้ ะมา ทําการพิจารณาความเสี่ยงภัยท่ีเกี่ยวข้องกับชีวิตหรือการบาดเจ็บทางร่างกาย รวมถึงการวิเคราะห์ ผลกระทบที่เกิดขนึ ้ รวมถงึ ประเภทของคา่ ใช้จา่ ยหากเกิดมีความเสี่ยงภยั นนั้ ความเส่ียงภัย (Risk) สําหรับการประกนั ภยั ความเส่ียงภยั พอจะสรุปได้ เป็น 5 ความหมาย ดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. ความเสี่ยงภยั หมายถึง ความไมแ่ นน่ อน (Uncertainty) 2. ความเส่ียงภยั หมายถึง โอกาสท่ีจะเกิดความเสียหาย (The chance of loss) 3. ความเส่ียงภยั หมายถงึ ความเป็นไปได้ท่ีจะเกิดความเสียหาย (The possibility of loss) 4. ความเสี่ยงภัย หมายถึง ความผันแปรของผลลัพธ์ท่ีแท้ จริงจากผลลัพธ์ท่ีคาดไว้ (The dispersion of actual results from expected results) 5. ความเสี่ยงภยั หมายถึงความนา่ จะเป็ นไปได้ของผลท่ีออกมาแตกตา่ งไปจากส่ิงที่คาดไว้ (The dispersion of actual results from expected results) ประเภทของการเส่ียงภยั ความเส่ียงภยั สามรถแบง่ ออกได้เป็น 6 ประเภท โดยแตล่ ะประเภทจะมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปดงั นี ้ 1. ความเส่ียงภยั ที่แท้จริง (Pure Risk) หมายถึงความเสี่ยงภยั ท่ีแท้จริง ความเสี่ยงภยั ลกั ษณะนี ้ เป็ นความเสี่ยงภัยที่มีอย่ดู ้วยตวั ของมนั เองตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะมีการเข้าไปกิจกรรมใดๆ หรือไม่ก็ตาม ความเสี่ยงภัยนัน้ ก็มีโอกาสท่ีจะเกิดความเสียหายได้ด้วยตัวของมันเองไม่ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 2/1

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี2: การพจิ ารณาความเส่ียงภยั สามารถหลีกเลี่ยงได้ เชน่ บ้านที่อยอู่ าศยั ที่ตงั้ อยมู่ ีความเสี่ยงภยั ที่อาจจะเกิดอคั คีภยั ทงั้ นีไ้ ม่ วา่ เจ้าของบ้านนนั้ จะดําเนินกิจกรรมใดๆหรือไมก่ ็ตาม 2. ความเสี่ยงภัยเก็งกําไร (Speculative Risk) หมายถึงความเสี่ยงภยั ที่เกิดจากการทํากิจกรรม การลงทนุ ตา่ งๆโดยมีความม่งุ หวงั ว่าจะสร้างผลกําไร อยา่ งไรก็ดีการกระทํากิจกรรมเหล่านนั้ อาจให้ผลลพั ธ์ที่ต่างจากที่คาดหวงั ไว้คืออาจก่อให้เกิดการขาดทุน หรือเท่าทุนก็เป็ นได้ เช่น การท่ีพ่อค้าคาดหวงั ว่าจะสร้างผลกําไรจากการสงั่ สินค้าเข้ามาขายในช่วงเทศกาลปี ใหม่ แต่ เน่ืองจากสินค้าที่สั่งไปเกิดส่งมาล่าช้ากว่าท่ีกําหนดไว้ ทําให้ไม่สามารถขายสินค้าได้ตาม เป้ าหมายท่ีตงั้ ไว้ โดยท่วั ไปแล้วหากบุคคลไม่ต้องการรับภาระความเส่ียงภยั ลักษณะนีก้ ็จะ สามารถหลีกเล่ียงได้โดยไมเ่ ข้าทํากิจกรรมที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงภยั ซ่ึงจะทําให้โอกาสท่ีจะ เกิดความเส่ียงภยั นีไ้ มเ่ กิดขนึ ้ เลย 3. ความเสี่ยงภยั จําเพาะ (Particular Risk) หมายถึงความเส่ียงภัยท่ีมกั จะเกิดขึน้ กับบุคคล เฉพาะจํากดั กล่มุ เทา่ นนั้ ไม่ก่อให้เกิดความเส่ียงภยั ในวงกว้าง เช่น ความเส่ียงภยั ในการขบั ขี่ รถยนต์และเกิดอบุ ตั เิ หตกุ ็จะเกิดเฉพาะกบั กล่มุ คนที่เป็ นเจ้าของยวดยานพาหนะ ความเส่ียง ภยั ตอ่ การถกู โจรกรรมทรัพย์สนิ ภายในบ้านมกั จะเกิดกบั บคุ คลที่เป็นเจ้าของบ้าน 4. ความเสี่ยงภัยต่อส่วนรวม (Fundamental Risk) หมายถึงความเสี่ยงภัยท่ีมีผลกระทบต่อ บคุ คลเป็ นวงกว้าง ยากแก่การควบคมุ ได้ เชน่ ความเส่ียงภยั ของคนที่จะได้รับผลกระทบจาก การเกิดแผน่ ดนิ ไหว ภยั ธรรมชาตติ า่ งๆ ความเส่ียงของคนที่จะได้รับผลกระทบจากภยั สงคราม โดยท่วั ไปแล้วความเส่ียงภยั เหล่านีม้ ักจะมาในรูปของมหตั ภัยที่มีขนาดใหญ่และก่อให้เกิด ผลกระทบในวงกว้าง 5. ความเสี่ยงภยั ที่คงท่ี (Static Risk) หมายถึงความเส่ียงภยั คงที่ ซึ่งไม่มีการแปรผันไปตาม สภาวะเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง พฤตกิ รรมของผ้บู ริโภค ความเสี่ยงภยั เหล่านีย้ งั คงอย่ใู นรูป แบบเดมิ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึน้ ก็ตาม เช่น ความเสี่ยงภยั ที่บ้านแห่งหน่ึงจะเกิด เพลิงไหม้จะยงั คงมีความเส่ียงภยั เหมือนเดิมไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือไมด่ ีก็ตาม ความ เส่ียงของคนท่ีจะเกิดการเจ็บป่ วยจะคงเหมือนเดิมไม่ว่าพฤติกรรมการบริโภคจะเปล่ียนไป หรือไมก่ ็ตาม เป็นต้น 6. ความเส่ียงภยั ผนั แปร (Dynamic Risk) หมายถึงควาเสี่ยงภยั ท่ีมีการผนั แปรไปตามสภาวะ เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง และพฤตกิ รรมของผ้บู ริโภค โดยทว่ั ไปแล้วความเส่ียงชนิดนีย้ ากที่ จะควบคมุ ได้ เช่น พ่อค้าคาดหวงั ว่าจะผลิตสินค้าแฟชน่ั เกาหลีเพื่อรองรับความต้องการของ ผ้บู ริโภคแตต่ ้องประสบกบั ภาวะขาดทนุ เมื่อผ้บู ริโภคได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการ บริโภคและหนั ไปชื่นชอบสินค้าแฟชน่ั ชนดิ อื่นแทน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 2/2

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี2: การพจิ ารณาความเส่ียงภยั ซึ่งความเสี่ยงภยั ท่ีเอาประกนั ภยั (Insurable Risk) คือ ความเสี่ยงภยั ท่ีแท้จริง (Pure Risk) ความ เสี่ยงภยั จําเพาะ (Particular Risk) และความเสี่ยงภยั คงท่ี (Static Risk) สําหรับความเสี่ยงภยั ประเภทอ่ืนๆ จะถือเป็ นความเสี่ยงภยั ที่เอาประกนั ภยั ไม่ได้ (Uninsurable Risk) ซงึ่ ในบทเรียนนีจ้ ะม่งุ เน้นเฉพาะความ เส่ียงภยั ที่มีผลกระทบตอ่ ชีวติ ร่างกายและอนามยั ของบคุ คลเทา่ นนั้ ภยั (Peril) ภยั (Peril) หมายถึงสาเหตทุ ่ีก่อให้เกิดความเสียหาย ซ่ึงอาจก่อให้เกิดผลกระทบตอ่ บคุ คลทางด้าน ชีวิต ร่างกายและอนามยั สามารถเกิดจากสาเหตหุ ลายประการดงั นี ้ 1. ภยั ธรรมชาติ ซึ่งเป็ นภาวะทางกายภาพ ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกายและอนามยั อยา่ งมากมาย ดงั เชน่ เหตกุ ารณ์ที่เคยเกิดขนึ ้ ในหลายประเทศในโลก เชน่ ภยั สึนามิในประเทศ ไทย ภัยโคลนถล่มท่ีเกิดขึน้ ในหลายประเทศในยุโรป ภยั นํา้ ท่วม แผ่นดินไหวในประเทศเฮติ เป็ นต้น 2. ภยั จากความประมาท ความประมาทนีเ้ ป็ นสาเหตหุ นึ่งที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านชีวิต ซึ่งหลายๆ ครัง้ นอกจากชีวิตของผู้ประมาทเองแล้ ว ยังก่อให้ เกิดความสูญเสียต่อ บคุ คลภายนอกซ่ึงเป็ นผ้ปู ระสบภยั ด้วยเช่นกนั เช่น การที่ป่ วยอย่แู ตต่ ้องขบั รถ หรือต้องขบั รถ ตดิ ตอ่ กนั เป็นเวลานานไปซงึ่ การกระทํานีอ้ าจก่อให้เกิดอบุ ตั เิ หตขุ นึ ้ ได้ 3. ภยั จากการถูกลอบทําร้าย เป็ นการถูกลอบทําร้ ายโดยบุคคลอื่นที่มุ่งหวงั ในการได้ทรัพย์สิน หรือมุ่งหวงั เอาชีวิต ซง่ึ อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกาย พิการ การสญู เสียอวยั วะ หรือ สญู เสียชีวติ 4. ภยั จากอบุ ตั ิเหตุ ซง่ึ ภยั ดงั กลา่ วนีเ้ ป็ นภยั ที่ก่อให้เกิดความสญู เสียชีวิตสงู สดุ สาเหตหุ นงึ่ ไม่ว่า จะเป็นอบุ ตั เิ หตทุ างการจราจร อบุ ตั เิ หตจุ ากการทํางาน หรืออบุ ตั เิ หตจุ ากการเดนิ ทาง 5. ภยั จากการกระทําของคน ไม่ว่าจะเป็ นการก่อการร้าย สภาพจิตใจผู้คนที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อ ภาวะการกอ่ เหตตุ า่ งๆ ที่กอ่ ให้ความสญู เสียทางด้านชีวิต 6. ภยั จากสขุ ภาพ จากวิถีการดํารงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในสงั คมเมือง ความรีบเร่ง รูปแบบการ บริโภค เคร่ืองอํานวยความสะดวกมากมาย พร้ อมสารพิษหรือมลพิษท่ีเกิดขึน้ จากเมืองท่ี พฒั นาขึน้ การเกิดภาวะโลกร้อนทําให้เกิดโรคร้ ายในรูปแบบใหม่ๆส่งผลโดยตรงตอ่ สขุ ภาพ หรือร่างกายของบคุ คล 7. ภยั จากความแกช่ รา เน่ืองจากปัจจบุ นั แนวโน้มอายขุ องประชากรได้มีอตั ราความยงั่ ยืนมากขึน้ เพราะระบบสาธารณะสขุ ท่ีมีการพฒั นาและระบบการรักษาโรคตา่ งๆดีย่ิงขึน้ ทําให้ประชากรมี อายุยืนมากขึน้ ซ่ึงทําให้เกิดประชากรผู้สูงวัยจํานวนมากต้องมีชีวิตอยู่และเผชิญกับความ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 2/3

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่2: การพิจารณาความเสี่ยงภยั ยากลําบากในการใช้ชีวิตอนั เกิดจากความเส่ือมถอยของสภาพร่างกาย และข้อจํากดั ทางการ เงิน ผลกระทบต่อความเส่ียงและภยั ความเสี่ยงและภยั ดงั กล่าวมาข้างต้นก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงตอ่ บคุ คล จากการที่มีบุคคลใน ครอบครัวได้รับผลกระทบจากเหตกุ ารณ์ที่ไม่คาดคดิ ไมว่ ่าจะเกิดจากอบุ ตั เิ หตุ ภยั ธรรมชาติ และภัยอ่ืนๆ สง่ ผลให้เกิดความเสียหายดงั นี ้ 1. ผลกระทบด้านสขุ ภาพ (Poor Health) - คนบางคนอาจจะเจ็บป่ วยหรือประสบอบุ ตั เิ หตอุ ยา่ ง รุนแรงโดยที่ไมไ่ ด้คาดคดิ มากอ่ น ตวั อยา่ งเชน่ นาย ก. อาจจะประสบอบุ ตั ิเหตรุ ถยนต์พลิกควํ่า ทําให้กระดกู สนั หลงั หกั ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล และเสียคา่ รักษาพยาบาลเป็ นจํานวน มาก นาย ข. อาจจะป่ วยด้วยโรคเบาหวาน และต้องไปรับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ทุก ๆ เดือน เป็นต้น 2. ผลกระทบจากความพิการหรือทพุ พลภาพ (Dismemberment and Disability) ตวั อยา่ งเช่น ภายหลงั จากท่ี นาย ก. ประสบอุบตั ิเหตุรถยนต์แล้ว เขาอาจจะได้รับการกระทบกระเทือน อย่างหนกั ทําให้ไมส่ ามารถที่จะขยบั ตวั ได้เลย และต้องกลายเป็ นบคุ คลทพุ พลภาพไปตลอด ชีวิต สําหรับ นาย ข. ซ่ึงป่ วยด้วยโรคเบาหวานอย่างรุนแรงนนั้ อาการของโรคเบาหวานอาจ กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนแพทย์จําเป็ นท่ีจะต้องตดั แขนหรือขาทิง้ เพื่อไม่ให้อวยั วะสําคญั ที่ เหลือเนา่ มากไปกวา่ นนั้ ทําให้ นาย ข. ต้องกลายเป็ นคนพิการซึง่ ไมส่ ามารถจะประกอบอาชีพ ใดๆ ได้อีกตอ่ ไป 3. ผลกระทบจากการเสียชีวิตก่อนวยั อนั สมควร (Premature Death) บคุ คลโดยทว่ั ไปตา่ งก็หวงั ว่าจะมีชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพดีในบนั้ ปลายของชีวิตของเขา แต่บางครัง้ คนเหล่านีก้ ็อาจ เสียชีวติ เน่ืองจากอบุ ตั เิ หตุ หรือโรคภยั ไข้เจบ็ บางอยา่ งไปอยา่ งนา่ เสียดายก่อนถึงวยั อนั สมควร ตวั อย่างเช่น นาย ก. อาจจะเสียชีวิตด้วยอบุ ตั ิเหตรุ ถยนต์ในขณะที่เขามีอายเุ พียง 35 ปี และ ยงั มีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าหรือหาเงินเลีย้ งครอบครัวได้มากกวา่ นี ้ 4. ผลกระทบจากความชราภาพ (Old Age) เป็ นผลกระทบท่ีเกิดจากการที่บคุ คลบางคนมีชีวิตที่ ยืนยาวเกินไป และไม่มีรายได้พอเพียงกับค่าใช้จ่ายในการดํารงชีพในช่วงนัน้ หรือไม่มี ลกู หลานคอยดแู ลเอาใจใสเ่ ลย อยา่ งไรก็ตาม ปัญหาของความเส่ียงภยั ตอ่ ความชราภาพนีไ้ ม่ คอ่ ยรุนแรงในประเทศไทยนกั เน่ืองจากคนไทยยงั เป็นสงั คมท่ีมีวฒั นธรรมในการเลีย้ งดบู พุ การี ของตนเองมากกว่าชาวตา่ งประเทศ เช่น คนอเมริกนั ซ่ึงจะแยกกนั อย่กู ับบิดามารดาของตน เม่ือตนมีรายได้แล้ว สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 2/4

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่2: การพจิ ารณาความเส่ียงภยั 5. ผลกระทบจากการว่างงาน (Unemployment) เป็ นผลกระทบซึ่งเกิดจากผลกระทบจากการ เลิกจ้างงาน การว่างงานเหล่านีจ้ ะเกิดขึน้ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี มีอัตราการว่าจ้าง พนกั งานใหมน่ ้อยเมื่อเทียบกบั จํานวนผ้ทู ี่กําลงั หางานทําในตลาด นอกจากนนั้ ธุรกิจบางแหง่ ซึ่งประสบภาวะขาดทนุ ติดตอ่ กันเป็ นเวลานานอาจตดั สินใจให้พนกั งานบางคนหรือบางส่วน ออกไป ทําให้บคุ คลเหลา่ นีก้ ลายเป็นผ้วู า่ งงานด้วย การวิเคราะห์ ผลกระทบท่ ีอาจเกิดขนึ ้ การวิเคราะห์ผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึน้ ต่อบุคคลเม่ือเกิดภัยต่างๆขึน้ นัน้ อาจ วเิ คราะห์ได้ตามลกั ษณะดงั นี ้ 1. วิเคราะห์ตามวงจรชีวิต (Life Cycle) เป็ นการวิเคราะห์ความเสียหายท่ีอาจเกิดขึน้ ได้ตาม สภาวะของวงจรชีวิต โดยเร่ิมตงั้ แตแ่ รกเกิด ชว่ งวยั เดก็ เป็นนกั เรียนในระดบั ประถม มธั ยม และ มหาวิทยาลยั ช่วงชีวิตวัยเริ่มทํางานสร้ างฐานะของตนเอง ช่วงชีวิตวัยเริ่มมีครอบครัวของ ตนเอง ช่วงชีวิตก่อนวยั เกษียณและวัยเกษียณ และช่วงชีวิตวยั ชรา ทัง้ นีผ้ ลกระทบในแต่ละ ช่วงชีวิตจะก่อให้เกิดผลกระทบกบั บุคคลที่เกี่ยวข้องแตกต่างกนั ไปเนื่องจากสภาพของความ รับผิดชอบในเวลาขณะนนั้ และขนาดของประมาณการความเสียหายก็จะแตกตา่ งกนั ไปขนึ ้ อยู่ กบั ความสามารถในการสร้างรายได้ของแตล่ ะบคุ คลและภาระทางการเงินที่ต้องรับผิดชอบอยู่ 2. วิเคราะห์ตามสถานะ (Status) เป็ นการวิเคราะห์ความเสียหายและผลกระทบท่ีอาจเกิดขนึ ้ ตอ่ บคุ คลตามสถานะของบคุ คลนนั้ ตามลกั ษณะที่เป็ นอยู่ เชน่ เป็ นคนโสดหรือมีครอบครัว เป็ น คนที่มีครอบครัวและมีบตุ รหรือไมม่ ีบตุ ร เป็นคนโสดท่ีต้องดแู ลบพุ การีหรือไมม่ ีภาระท่ีต้องดแู ล บพุ การี เป็ นคนที่มีครอบครัวมีบตุ รและต้องดแู ลบพุ การีหรือไม่ต้องดแู ลบพุ การี ซึ่งสถานะแต่ ละชนิดนัน้ มีภาระความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน และหากเกิดความเสียหายขึน้ ย่อมส่งผล กระทบในระดบั ที่แตกต่างกนั นอกจากนีย้ งั ต้องคํานงึ ถึงว่าบุคคลนนั้ เป็ นพนกั งานบริษัทหรือ เป็ นเจ้าของกิจการ ในกรณีท่ีเป็ นพนกั งานบริษัทนนั้ บคุ คลนนั้ อยใู่ นระดบั ต่ําแหน่งใด หากอยู่ ในต่ําแหน่งที่สําคญั การสญู เสียบุคลากรนีอ้ าจส่งผลกระทบต่อการดําเนินงานของบริษัท ใน กรณีที่บคุ คลนนั้ เป็นเจ้าของกิจการและเป็นผ้ทู ่ีมีภาระสินเชื่อกบั ธนาคาร การสญู เสียบคุ คลนีก้ ็ จะกอ่ ให้เกิดผลกระทบตอ่ บริษัทและภาระผกู พนั ที่มีกบั ธนาคาร เป็นต้น 3. วิเคราะห์ตามพฤตกิ รรมการใช้ชีวิต (Life Style) เป็ นการวิเคราะห์ความเสียหายที่อาจเกิดขึน้ ตอ่ บคุ คลนนั้ ตามพฤตกิ รรมการใช้ชีวติ ของบคุ คลนนั้ ทงั้ นีส้ ืบเนื่องจากพฤตกิ รรมในสงั คมสมยั ปัจจบุ นั ท่ีมีกล่มุ บุคคลเลือกใช้ชีวิตที่แตกตา่ งกันอย่างมากตามสภาวะรายได้ ความชอบส่วน บคุ คล พฤติกรรมการบริโภค สงั คมและกล่มุ ของเพ่ือน บุคคลบางกล่มุ ชอบใช้ชีวิตที่หรูหรา สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 2/5

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่2: การพิจารณาความเส่ียงภยั ชอบใช้ของแบรนด์เนมมีราคาแพง บางคนเลือกก่อหนีเ้ พื่อสนองตอบต่อพฤติกรรมดงั กล่าว ดงั นัน้ หากเกิดความเสียหายจากความเส่ียงภัยท่ีมีขึน้ อาจทําให้บุคคลนัน้ อยู่ในสถานะที่ ยากลําบากหากมิได้มีการเตรียมการรับมืออยา่ งรอบคอบ ประเภทของค่าใช้จ่าย เมื่อเกิดเหตคุ วามเสียหายจากความเส่ียงภยั ตา่ งๆนนั้ โดยทวั่ ไปมกั จะก่อให้เกิดความจําเป็ นในการ ใช้เงินเพ่ือวตั ถุประสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการฟื ้นฟูสภาพ ร่างกาย คา่ ใช้จา่ ยประจําตา่ งๆในระหวา่ งที่รักษาตวั คา่ ใช้จ่ายตามภาระทางครอบครัว ซึ่งคา่ ใช้จ่ายเหลา่ นี ้ สามารถแบง่ ออกได้เป็น 2 ลกั ษณะคอื 1. คา่ ใช้จา่ ยฉกุ เฉิน เป็นคา่ ใช้จา่ ยพิเศษท่ีเกิดขึน้ มากกวา่ สภาวะการดําเนินชีวิตในยามปกติ เช่น คา่ ใช้จา่ ยในการรักษาพยาบาล คา่ ใช้จา่ ยในการซือ้ อปุ กรณ์ตา่ งๆเพ่ือการรักษาพยาบาล คา่ ใช่ จ่ายในการจ้างพยาบาลพิเศษ เป็ นต้น ทงั้ นีค้ า่ ใช้จ่ายเหลา่ นีม้ กั จะสงู เน่ืองจากเป็ นการใช้จ่าย อย่างฉุกเฉินเพื่อใช้ในการรักษาตัวจากการเกิดอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่ วยอย่างไม่คาดคิด คา่ ใช้จา่ ยประเภทนีส้ ามารถรองรับได้โดยการใช้เงินเก็บออมของตนเองหรือครอบครัว หรือการ จัดทําประกันภัยเพื่อคุ้มครองเหตกุ ารณ์ท่ีไม่คาดคิดเหล่านี ้ ไม่ว่าจะเป็ นการทําประกันภัย อบุ ตั เิ หตสุ ว่ นบคุ คล หรือการทําประกนั ชีวติ 2. ค่าใช้จ่ายประจํา เป็ นค่าใช้จ่ายในการดําเนินชีวิตประจําวันซึ่งเป็ นภาระท่ีบุคคลนัน้ ต้อง รับผิดชอบอยู่ในสภาวะปกติ เช่น ค่าท่ีพัก ค่าอาหาร ค่านํา้ ค่าไฟฟ้ า ค่าเล่าเรียนบุตร คา่ ใช้จ่ายในการดําเนินธุรกิจ ซ่ึงแม้ในยามที่เกิดเหตกุ ารณ์ที่ไม่คาดคิดจากอบุ ตั ิเหตหุ รือการ เจ็บป่ วย บุคคลนัน้ ก็ยังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านีอ้ ยู่เช่นเดิม ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายเหล่านีส้ ามารถรองรับได้โดยการใช้เงินเก็บออมของตนเองหรือของธุรกิจที่ทําอยู่ อย่างไรก็ดีบุคคลสามารถจดั ทําประกันภัยเพ่ือป้ องกันภาระค่าใช้จ่ายเหล่านีไ้ ด้ เช่น การทํา ประกนั ชีวิตเพื่อเป็ นทนุ ในการดแู ลครอบครัวในกรณีท่ีเกิดการเสียชีวิต การทําประกนั ชีวิตเพ่ือ ครอบคลมุ ภาระหนีส้ นิ ของธุรกิจหรือภาระเงินก้กู รณีท่ีเสียชีวติ หรือการทําประกนั ภยั คา่ ใช้จ่าย ในระหว่างการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อดูแลภาระค่าใช้ จ่ายในการดําเนินชีวิตของ สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเมื่อมีเหตกุ ารณ์ท่ีไมค่ าดคดิ เกิดขนึ ้ จากการเกิดอบุ ตั เิ หตหุ รือการเจ็บป่ วยก็ตามบคุ คล จะมีภาระคา่ ใช้จา่ ยตา่ งๆตามมา ในขณะท่ีภาระคา่ ใช้จา่ ยปกตกิ ็ยงั คงอยู่ ดงั นนั้ การบริหารคา่ ใช้จา่ ยเหลา่ นี ้ โดยการเก็บออมเพียงอยา่ งเดียวอาจไม่เพียงพอและมีประสิทธิภาพมากพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบคุ คล สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 2/6

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี2: การพิจารณาความเส่ียงภยั นนั้ เกิดสญู เสียอวยั วะหรือเกิดทพุ พลภาพจํานวนเงินท่ีเก็บออมไว้อาจไม่เพียงพอรองรับคา่ ใช้จา่ ยตา่ งๆได้ ในระยะยาว ซงึ่ จะสง่ ผลกระทบตอ่ สภาพความเป็นอยขู่ องครอบครัวและการดําเนินของธุรกิจ ดงั นนั้ จงึ ต้อง มีการพิจารณาถงึ การจดั ทําประกนั ภยั เพื่อป้ องกนั ความเส่ียงภยั และความเสียหายท่ีอาจเกิดขนึ ้ ได้ การประเมินมูลค่าความเสียหายหรือเงนิ ทุนท่จี าํ เป็ น การประเมินมูลคา่ ความเสียหายทางหรือเงินทุนท่ีจําเป็ นในการดํารงชีวิตของบคุ คลนนั้ ในกรณีที่ เกิดเหตกุ ารณ์ไม่คาดคิดจนทําให้บคุ คลนัน้ เสียชีวิต ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือมีชีวิตอยู่ในวยั ชรา สามารถประเมินได้จากปัจจยั ตา่ งๆที่เกี่ยวข้องกบั บคุ คลดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. รายได้ท่ีสามารถสร้ างได้ในอนาคต – เป็ นการประเมินความสามารถของบุคคลคนนนั้ ว่ามี ความสามารถในการสร้างรายได้จํานวนเทา่ ไรที่เขาสามารถมีชีวิตตามปกติได้ในระยะเวลาที่ เหมาะสม เช่น กรณีท่ีบคุ คลนนั้ ต้องการทําประกันชีวิตของตนเองโดยยกผลประโยชน์ให้กับ ครอบครัวซงึ่ มีการกําหนดเป้ าหมายไว้วา่ ครอบครัวจะต้องมีสถานะและมาตรฐานความเป็ นอยู่ ในระดบั ที่ดีเชน่ เดยี วกบั ในเวลาท่ีเขายงั มีชีวิตอยแู่ ละสามารถทํางานเพ่ือดแู ลครอบครัวได้ การ กําหนดทุนประกันภัยนนั้ จะคํานวณตามระดบั ความสามารถในการหารายได้ของบุคคลนัน้ ตลอดชว่ งอายทุ ่ีเขาจะสามารถทํางานได้อยา่ งตอ่ เน่ืองไปจนถึงอายหุ นึง่ ซงึ่ จะชว่ ยให้สามารถ กําหนดทุนประกันภยั ที่เหมาะสมให้สอดคล้องกบั ความเป็ นอย่ขู องครอบครัวได้ในระดบั หนึ่ง การคํานวณรายได้ในอนาคนนัน้ สามารถคํานวณได้จากรายได้ต่อปี คูณด้วยจํานวนปี ที่ ต้องการ พร้อมทงั้ เผื่อคา่ ของมลู คา่ เงินเฟ้ อในแตล่ ะปี เข้าไป 2. ระยะเวลาเก็บออม – เป็ นการประเมินจํานวนเงินท่ีบคุ คลนนั้ ต้องการมีเม่ือได้ทํางานสร้าง ฐานะของตนไปในระยะเวลาหน่ึง เช่น การคาดการณ์ว่าจะสามารถออมเงินได้จํานวน 10 ล้านบาท ในระยะเวลาอีก 10 ปี ข้างหน้า ดงั นนั้ หากต้องการป้ องกันเหตกุ ารณ์ที่ไมค่ าดคดิ ใน ระยะเวลาอีก 10 ปี ข้างหน้า บุคคลนีก้ ็สามารถจดั ทําประกันชีวิตหรือประกันอุบตั ิเหตุส่วน บคุ คลเป็นระยะเวลา 10 ปี ในวงเงิน 10 ล้านบาท ในขณะเดียวกนั ก็เดินหน้าการเก็บออมตาม แผนการใช้ชีวติ ของตนและครอบครัวควบคกู่ นั ไปด้วย ซึ่งการประเมินความเส่ียงภยั ด้วยปัจจยั นีจ้ ะทําให้บคุ คลสามารถบริหารจดั การความเสี่ยงภยั ของตนเองได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 3. เป้ าหมายจํานวนเงินท่ีต้องการ – เป็ นการประเมินตามความต้องการใช้เงินของตนเองใน อนาคตหากบุคคลนัน้ สามารถมีชีวิตอย่ไู ปได้ตามอายทุ ี่ได้ตงั้ ไว้ เช่น บคุ คลนนั้ คาดการณ์ว่า จะต้ องใช้ เงิน 10 ล้ านบาทเมื่อวันท่ีได้ ตัดสินใจเกษียณตัวเองจากภาระการทํางาน โดยประมาณการว่าตนเองจะมีชีวิตยืนยาวไปถึงอายุ 70 ปี ดังนัน้ การบริหารจัดการ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 2/7

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่2: การพจิ ารณาความเสี่ยงภยั ความเสี่ยงภัยของตนเองนนั้ จะกําหนดจากเป้ าหมายของเงินที่ต้องการมีตามช่วงระยเวลา ดงั กลา่ ว ซง่ึ สามารถบริหารผา่ นการจดั ทําประกนั ชีวติ ในทนุ ประกนั ท่ีได้ตงั้ เป้ าหมายไว้ 4. ภาระความรับผิดชอบในอนาคต – เป็ นการประเมินตามสภาพภาระความรับผิดชอบของ ตนเองท่ีจะเกิดขนึ ้ ในอนาคตโดยประเมินจากภาระคา่ ใช้จา่ ยของครอบครัวหรือภาระของธุรกิจ ท่ีบุคคลนัน้ ดําเนินการอยู่ เช่น บุคคลอาจว่าแผนในการส่งบุตรไปศึกษาต่อในต่างประเทศ โดยประมาณการว่าจะมีคา่ ใช้จ่ายจํานวน 4 ล้านบาท ในอีก 5 ปี ข้างหน้า ดงั นนั้ เพื่อเป็ นการ เตรียมความพร้อมและป้ องกนั เหตกุ ารณ์ที่ไม่คาดคิดจึงได้จดั ทําประกนั ชีวิตหรือการประกัน อุบตั ิเหตุส่วนบุคคลไว้ในวงเงิน 4 ล้านบาท เพ่ือให้ม่นั ใจว่าบุตรของตนจะได้รับการศึกษา ตามที่ได้วางแผนไว้ 5. อตั ราดอกเบีย้ ในอนาคต – เป็ นการประเมินความต้องการใช้เงินตามภาระที่อาจจะเกิดขนึ ้ ใน อนาคตแต่ทัง้ นีไ้ ด้มองถึงสภาวะของอัตราดอกเบีย้ ที่อาจมีแนวโน้มลดลงซ่ึงจะทําให้การ วางแผนออมเงินไม่เป็ นไปตามท่ีได้ตงั้ ไว้ หรือการจดั ทําประกนั ชีวิตท่ีวางไว้อาจไมเ่ พียงพอตอ่ สภาวะค่าใช้จ่ายในอนาคต ดงั นนั้ หากประเมินวา่ อตั ราดอกเบีย้ จะอยใู่ นระดบั แล้วบุคคลนนั้ ควรจะทําประกันชีวิตในทุนประกันภัยท่ีสงู มากขึน้ เพื่อให้มีเงินเพียงพอตอ่ ภาระค่าใช้จ่ายท่ี คาดการณ์ไว้ในอนาคต 6. ความฝัน – เป็ นการประเมินเงินทุนท่ีจําเป็ นในอนาคตตามความฝันของตนเองท่ีได้ ตงั้ เป้ าหมายไว้เพื่อการใดการหนึ่ง เช่น บคุ คลอาจตงั้ ความหวงั ไว้ว่าต้องการมีเงินจํานวน 3 ล้านบาท เพ่ือใช้ในการเดินทางรอบโลกเม่ือเกษียณตนเองจากการทํางานในอายุ 55 ปี ซง่ึ บคุ คลนนั้ มีระยะเวลาในการทํางานอีก 10 ปี ดงั นนั้ จงึ ได้จดั ทําประกนั ชีวิตเพื่อรองรับความ ฝันของตนเองไว้ตามทนุ ประกนั ภยั ท่ีต้องการ การประเมินผลกระทบของความเสียหายหรือเงินทนุ ที่จําเป็ นอยา่ งถกู ต้องและรอบคอบจะชว่ ยให้ บคุ คล ครอบครัว และธุรกิจของบคุ คลนนั้ สามารถบริหารความเสี่ยงภยั ของตนเองได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับความเสียหายท่ีอาจเกิดขึน้ ได้โดยไม่คาดคิด รวมถึงกรณีท่ีอาจมีชีวิตอย่ยู ืนยาวโดยไม่ เดือนร้ อนแก่ตนเองและผู้อ่ืน ซ่ึงเคร่ืองมือที่ใช้ในการบริหารจดั การความเส่ียงภัยนีค้ ือการประกันชีวิตใน แบบตา่ งๆซง่ึ จะครอบคลมุ ภาระคา่ ใช้จา่ ยของครอบครัวหรือธุรกิจในกรณีที่ตนเองจากไปก่อนวยั อนั ควรอนั เน่ืองมาจากการประสบอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่ วย หรือภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลตนเองเม่ือมีความ จําเป็ นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอนั เน่ืองมาจากการเจ็บป่ วย หรือภาระคา่ ใช้จา่ ยในกรณีที่มีชีวิตอย่ใู น ยามแก่ชรา นอกจากนีก้ ารประกันภัยอุบตั ิเหตสุ ่วนบุคคลก็เป็ นเคร่ืองมืออีกตวั หนึ่งที่ให้การช่วยเหลือใน ยามฉกุ เฉินในกรณีท่ีบคุ คลนนั้ ได้รับความบาดเจ็บในด้านการรักษาพยาบาล การดแู ลภาระคา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 2/8

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี2: การพิจารณาความเส่ียงภยั ในกรณีท่ีเกิดการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพไม่สามารถทํางานได้ ทําให้สามารถได้รับการดูแลอย่าง เหมาะสม และในกรณีที่เสียชีวิตเน่ืองจากอุบตั ิเหตคุ รอบครัวหรือธุรกิจก็จะสามารถดําเนินต่อไปได้โดย ได้รับเงินชดเชยจากกรมธรรม์ประกนั ภยั แบบฝึ กหัดท้ายบท 1. จงยกตวั อยา่ งภยั และความเสี่ยงภยั ของกรมธรรม์ประกนั ภยั ดงั ตอ่ ไปนี ้ ก. กรมธรรม์ประกนั ภยั อคั คีภยั สําหรับที่อยอู่ าศยั ข. กรมธรรม์ประกนั ภยั ความรับผิดสว่ นบคุ คล ค. กรมธรรม์ประกนั ชีวิต ง. กรมธรรม์ประกนั ภยั อบุ ตั เหตสุ ว่ นบคุ คล จ. กรมธรรม์ประกนั ภยั สขุ ภาพ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 2/9

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั บทท่ี 3 การประกันอัคคีภัยและภัยพบิ ัตสิ าํ หรับท่อี ยู่อาศัย กรมธรรม์ประกันอัคคีภยั สาํ หรับท่ีอยู่อาศัย (Fire-Dwelling Insurance) วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ หลงั จากศกึ ษาบทนีจ้ บแล้ว นกั ศกึ ษาจะสามารถอธิบายได้ถึง 1. การประกนั อคั คภี ยั สําหรับที่อยอู่ าศยั คืออะไร? 2. แนวคดิ การประกนั อคั คีภยั สําหรับท่ีอยอู่ าศยั 3. บคุ คลท่ีสามารถเอาประกนั ภยั ได้ 4. ภยั ประเภทของความเสียหาย และทรัพย์สินที่ค้มุ ครอง 5. ข้อยกเว้น 6. เงื่อนไข/ข้อกําหนดสําคญั อาทิ - การกําหนดจํานวนทนุ ประกนั ภยั - การประกนั ภยั ซํา้ ซ้อน (การเฉล่ียคา่ เสียหาย) - การประกนั ภยั ตํ่ากวา่ มลู คา่ - การเรียกร้องคา่ สนิ ไหมทดแทน 7. ปัจจยั ในการกําหนดเบีย้ ประกนั ภยั การประกันอัคคีภัยสาํ หรับท่ีอย่อู าศัย คือ อะไร? − มงุ่ เน้นให้ความค้มุ ครองความเสียหายที่เกิดกบั “ทรัพย์สนิ ” − ซง่ึ เป็นผลมาจาก “อคั คภี ยั ซึง่ หมายรวมถงึ ไฟไหม้ ฟ้ าผา่ และการระเบดิ ของแก๊ส” และยงั รวมถึง ภยั เพิ่มเตมิ ตา่ งๆ ได้แก่ ภยั ระเบดิ ภยั เน่ืองจากนํา้ ภยั ยวดยานพาหนะ และภยั อากาศยาน − และสามารถขยายความค้มุ ครองไปถงึ ความเสียหายจากภยั อ่ืนๆ ด้วย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/1

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พิบตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั แนวคดิ การประกันอัคคีภัยสาํ หรับท่อี ยู่อาศัย − เป็นการประกนั ภยั ทรัพย์สิน (Property Insurance) – ค้มุ ครองความเสียหายโดยตรงทางกายภาพ ตอ่ วตั ถทุ ่ีเอาประกนั ภยั (Direct Physical Damage to Property) –Coven v. Hong Kong Chinese Ins. − ไมค่ ้มุ ครองความเสียหายทางการเงินสืบเน่ือง (Consequential Loss) –Leger v. Royal Ins. Co. − ไมค่ ้มุ ครองความรับผิดตามกฎหมายของผ้เู อาประกนั ภยั (Liability) บุคคลท่สี ามารถทาํ ประกันภยั (Persons) ต้องเป็นผ้มู ีสว่ นได้เสียอยา่ งแท้จริงในทรัพย์สินนนั้ ได้แก่ ก. เจ้าของทรัพย์สนิ หมายถงึ คนที่เป็นเจ้าของท่ีแท้จริงและอาจจะไมจ่ ําเป็นท่ีจะต้องเป็ นเจ้าของคน เดียว ข. ห้นุ สว่ น ค. ผ้เู ชา่ หรือผ้ใู ห้เชา่ ซงึ่ สว่ นใหญ่ผ้ใู ห้เชา่ จะเป็นผ้ทู ําประกนั ภยั เองหรืออาจจะทําประกนั ภยั ร่วมกนั หรือผ้เู ชา่ ทํา ประกนั ภยั แตย่ กผลประโยชน์ให้กบั ผ้ใู ห้เชา่ ง. ผ้คู ้มุ ครองดแู ลทรัพย์สนิ ของบคุ คลอ่ืนตามกฎหมาย ก็อาจจะเป็นผ้ทู ําประกนั ภยั เองได้ ค. ผ้รู ับจ้างดแู ลรักษาทรัพย์ เชน่ เป็นเจ้าของโกดงั หรือคลงั สนิ ค้า หรือผ้รู ับจ้างขนสง่ สนิ ค้าซงึ่ อาจจะ มีสว่ นได้เสียท่ีจะต้องมีความรับผิดชอบในการดแู ลความปลอดภยั ของทรัพย์สินที่อยภู่ ายใต้การ ดแู ลของเขาหรือมีความรับผิดในทรัพย์สนิ ท่ีตนได้รับไว้ เพื่อการขนสง่ ระยะเวลาประกันภัย (Policy Period) โดยปกติ ค้มุ ครอง 1 ปี โดยเร่ิมตงั้ แตว่ นั ที่ต้องการให้ค้มุ ครองเวลา 16.00 น. และสนิ ้ สดุ ในเวลา 16.00 น. ของวนั สนิ ้ สดุ แบบ Both Dates Inclusive แตผ่ ้เู อาประกนั ภยั สามารถเลือกเอาประกนั ภยั แบบ รายปี โดยตกลงลว่ งหน้าที่จะตอ่ อายกุ รมธรรม์ประกนั ภยั เป็นระยะยาวได้ 3 ปี หรือ 5 ปี ซงึ่ จะได้รับสว่ นลด เบยี ้ ประกนั ภยั 5% หรือ 7.5% ตามลําดบั (แต่ห้ามใชใ้ นระหว่างระยะเวลาประกนั ภยั และตอ้ งมีจํานวนเงิน เอาประกนั ภยั ขน้ั ตํ่า 50 ลา้ นบาท) หรือเลือกให้ออกกรมธรรม์ประกนั ภยั ลว่ งหน้าฉบบั เดียว ให้มีระยะเวลา ค้มุ ครองเกิน 1 ปี สงู สดุ 30 ปี อตั ราเบีย้ ประกนั ภยั ก็จะลดลง ดงั ตวั อยา่ งด้านลา่ งนี ้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/2

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั ระยะเวลาประกนั ภยั 2 ปี คํานวณเบยี ้ ประกนั ภยั 175% ของอตั รา 1 ปี ระยะเวลาประกนั ภยั 3 ปี คาํ นวณเบยี ้ ประกนั ภยั 250% ของอตั รา 1 ปี ”” ”” ระยะเวลาประกนั ภยั 30 ปี คํานวณเบีย้ ประกนั ภยั 970% ของอตั รา 1 ปี ขอบเขตของการประกันอัคคีภยั สาํ หรับท่อี ยู่อาศัย กรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั สําหรับท่ีอยอู่ าศยั เป็นกรมธรรม์ประกนั ภยั ที่ระบคุ วามค้มุ ครองอยา่ ง ชดั เจนวา่ กรมธรรม์ประกนั ภยั จะชดใช้คา่ สินไหมทดแทนให้กบั ทรัพย์สินท่ีเสียหายจากภยั ประเภทใด ซง่ึ จดั อยใู่ นประเภท “ระบภุ ยั (Named Perils Policy” นนั่ เอง ขอบเขตของการประกนั อคั คีภยั สําหรับที่อย่อู าศยั แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. ภยั ที่ค้มุ ครอง รวมถึงภยั เพิ่มเตมิ (Perils covered) 2. ประเภทความเสียหายที่ได้รับความค้มุ ครอง (Types of Loss) 3. ทรัพย์สิน (Property covered) 4. ข้อยกเว้น (Exclusion) 1. ภยั ที่ค้มุ ครอง (Perils covered) หมายถงึ ภยั ท่ีค้มุ ครองความเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั ไว้ ซง่ึ การประกนั อคั คีภยั สําหรับท่ี อยอู่ าศยั นีเ้ป็นการประกนั ภยั แบบระบภุ ยั (Named perils) ซงึ่ ประกอบด้วยภยั ตอ่ ไปนี ้ 1) ไฟไหม้ คือ ไฟที่เกิดขึน้ จากอบุ ตั เิ หตุ หรือเกิดจากการกระทําของมนษุ ย์ เรื่องท่ีต้องทําความเข้าใจก็ คือ ไฟไหม้ที่จะได้รับความค้มุ ครองจะต้องเป็นอยา่ งไร เมื่อมีไฟไหม้ ความเสียหายจะได้รับความ ค้มุ ครองก็ตอ่ เมื่อ ก. ต้องมีไฟลกุ ไหม้อยา่ งแท้จริง ข. ต้องมีการลกุ ไหม้บนวตั ถทุ ี่ไมค่ วรถกู ไฟไหม้ ค. ไฟนนั้ ต้องเกิดโดยอบุ ตั เิ หตุ ง. มีผลทําให้ทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั ไว้เสียหาย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/3

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คภี ยั และภยั พิบตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั ความเสียหายท่ีจะได้รับความค้มุ ครองตามกรมธรรม์ประกนั ภยั อาจจะไมไ่ ด้จํากดั อย่ทู ี่ความ เสียหายอนั เกิดจากการท่ีถกู ไฟไหม้โดยตรงแตย่ งั รวมถงึ ลกั ษณะของความเสียหายตอ่ ไปนีด้ ้วย 1. ความเสียหายที่เกิดขนึ ้ ในระหวา่ งหรือทนั ทีท่ีเกิดไฟไหม้อนั มีสาเหตจุ าก ก. ควนั ไฟ ข. การไหม้เกรียม ค. การล้มพงั ของกําแพงหรือเหตอุ ื่นในลกั ษณะอยา่ งเดียวกนั 2. ความเสียหายอนั เกิดจากพนกั งานดบั เพลงิ หรือเจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบตั หิ น้าท่ีและรวมถึง ก. ความเสียหาย อนั เกิดจากนํา้ หรือส่งิ อื่นท่ีใช้ในการดบั เพลิง ข. ความเสียหายจากการท่ีจะต้องพงั หรือทําลายอาคารเพ่ือป้ องกนั หรือระงบั การขยาย ขอบเขตการลกุ ลามของไฟไหม้ 3. ความเสียหายตอ่ ทรัพย์สิน ในขณะท่ีถกู เคล่ือนย้ายจากอาคารท่ีกําลงั ลกุ ไหม้หรือเกิดขนึ ้ ในทนั ทีหลงั จากที่ได้ถกู เคลื่อนย้ายออกมาจากอาคาร เชน่ ความเสียหายที่เกิดจากการลกั ขโมยหรือเกิดจากดนิ ฟ้ าอากาศ เชน่ ถกู นํา้ ฝนเม่ือทรัพย์สินดงั กลา่ วได้ถกู เคล่ือนย้ายออกจาก อาคารเพื่อหลีกเลี่ยงไฟไหม้ 4. คา่ ใช้จา่ ยตา่ งๆ อนั มีเหตผุ ล ซง่ึ เกิดขนึ ้ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อรักษาทรัพย์สนิ ที่เอาประกนั ภยั ไว้ มิให้เสียหาย ความคุ้มครองต่อเน่ืองตามข้อ 1-4 นั้น หากพจิ ารณาความรับผิดของผู้รับประกันภัย ตามกฎหมายแล้ว จะพบว่ามไิ ด้มีความแตกต่างกันเลยกับในประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มาตรา 877 2) ฟ้ าผา่ (รวมถึงความเสียหายตอ่ เครื่องใช้ไฟฟ้ า และอปุ กรณ์ไฟฟ้ าที่เกิดจากการลดั วงจรจากฟ้ าผา่ ) 3) แรงระเบดิ 4) ความสญู เสีย หรือความเสียหายตอ่ ทรัพย์สินที่ได้เอาประกนั ภยั ไว้ รวมทงั้ รัว้ กําแพง และประตู อนั เกิดขนึ ้ จากการเฉี่ยว และ/หรือการชนของยวดยานพาหนะ หรือสตั ว์พาหนะ เชน่ ช้าง ม้า ววั ควาย เป็นต้น ยกเว้นท่ีเป็นของผ้เู อาประกนั ภยั สมาชิกในครอบครัวซง่ึ อยดู่ ้วยกนั กบั ผ้เู อา ประกนั ภยั หรือบคุ คลใดที่กระทําในทางการที่จ้าง หรือถกู ใช้วานโดยผ้เู อาประกนั ภยั นอกจากนี ้ยงั รวมถึงการเฉี่ยว ชน และ/หรือหลน่ ทบั โดยสินค้า หรือทรัพย์สนิ ท่ีบรรทกุ มากบั ยวดยานพาหนะ หรือสตั ว์พาหนะด้วย 5) อากาศยาน และ/หรือวตั ถทุ ี่ตกจากอากาศยาน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/4

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คภี ยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั 6) ภยั เนื่องจากนํา้ (ไมร่ วมนํา้ ทว่ ม) รวมถงึ นํา้ ฝนท่ีไหลผา่ นชอ่ งชํารุดของประตู หน้าตา่ ง วงกบ ชอ่ ง รับลม ชอ่ งรับแสงสวา่ ง ไมร่ วมถงึ นํา้ ทว่ ม นํา้ ไหลบา่ จาก ทางนํา้ ภายนอก ทอ่ ประปาใต้ดนิ ที่อยู่ ภายนอกอาคาร การรั่วไหลของระบบพรมนํา้ ดบั เพลิงอตั โนมตั 7) ความเสียหายท่ีเกิดจากภยั ดงั ตอ่ ไปนี ้ 7.1 ภยั จากลมพายุ หมายถึง 7.1.1 ความเสียหายของทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั จากนํา้ ในทะเล ทะเลสาบ หรือมหาสมทุ ร ซงึ่ ถกู พดั หรือหอบมาพร้อมกบั ลมพายแุ ล้วทําให้เกิดคล่ืนซดั เข้าทว่ มชายฝั่ง 7.1.2 ความเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั ภายในตวั อาคาร เน่ืองจากนํา้ ฝน นํา้ ค้าง แข็ง หิมะ ทราย หรือฝ่ นุ ละอองท่ีผา่ นเข้าไปในอาคารตามร่องแตกร้าวของอาคารสง่ิ ปลกู สร้างซง่ึ ได้รับความเสียหายอนั เกิดจากลมพายโุ ดยตรงเทา่ นนั้ 7.1.3 ความเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั ภายในตวั อาคารเนื่องจากเครื่องพรมนํา้ หรือท่ออื่น ๆ ซงึ่ ได้รับความเสียหายจากลมพายโุ ดยตรงเทา่ นนั้ ทงั้ นีไ้ มค่ ้มุ ครอง (1) ความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อมท่ีเกิดจากคลื่นใต้นํา้ (Tidal Wave) หรือ สนึ ามิ(Tsunami) หรือนํา้ หนนุ (High Water) และหรือนํา้ ที่ไหลล้น (Overflow)และหรือนํา้ ท่วม (2) ทรัพย์สนิ ท่ีเอาประกนั ภยั ที่เคลื่อนย้ายได้ ซงึ่ เก็บอยใู่ นอาคารโปร่ง หรืออาคารท่ีมี ผนงั ด้านหนง่ึ เปิดโลง่ หรือเก็บอย่กู ลางแจ้ง ไมว่ า่ จะมีการปกคลมุ ด้วยผ้าใบหรือ วสั ดปุ กคลมุ ใด ๆ หรือไมว่ า่ จะอยใู่ นเตน็ ท์ก็ตาม 7.2 ภยั จากนํา้ ทว่ ม คําวา่ “นํา้ ทว่ ม” ในกรมธรรม์หมายถึงนํา้ ซง่ึ ไหลล้นหรือไหลออกจากทางนํา้ ปกติ ซง่ึ จะเป็นทางนํา้ ธรรมชาติ หรือจะเป็ นทางนํา้ ท่ีสร้างขนึ ้ ก็ได้(ไมร่ วมถงึ รางนํา้ บนหลงั คา หรือเกิดจากทอ่ นํา้ สาธารณะแตก ทําให้เกิดการทว่ มของนํา้ จากภายนอกอาคารที่เอา ประกนั ภยั ไว้ หรืออาคารท่ีเก็บทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ตามกรมธรรม์ประกนั ภยั รวมถงึ นํา้ ทว่ ม อนั เกิดจากลมพายุ นํา้ ป่ า และโคลนถลม่ ทงั้ นีไ้ มค่ ้มุ ครอง (1) ความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อมที่เกิดจากคลื่นใต้นํา้ (Tidal Wave) หรือสึนามิ (Tsunami) และหรือนํา้ หนนุ (High Water) และหรือนํา้ ที่ไหลล้น (Overflow)และหรือ นํา้ ทว่ มอนั มีสาเหตจุ ากแผน่ ดนิ ไหวหรือภเู ขาไฟระเบดิ ) (2) ทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั เคลื่อนย้ายได้ ซงึ่ เก็บอยใู่ นอาคารโปร่ง หรืออาคารที่มีผนงั สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/5

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คภี ยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั ด้านหนง่ึ เปิดโลง่ หรือเก็บอยกู่ ลางแจ้ง ไมว่ า่ จะมีการปกคลมุ ด้วยผ้าใบหรือวสั ดุ ปกคลมุ ใด ๆ หรือไมว่ า่ จะอย่ใู นเตน็ ท์ก็ตาม 7.3 ภยั จากแผน่ ดนิ ไหว หรือภเู ขาไฟระเบดิ หรือคลื่นใต้นํา้ หรือสนึ ามิ ท่ีมีสาเหตจุ ากธรรมชาติ และให้หมายความรวมถงึ นํา้ ทว่ ม อนั มีสาเหตจุ ากแผน่ ดนิ ไหวหรือภเู ขาไฟระเบดิ ที่มีสาเหตุ จากธรรมชาติ ทงั้ นี ้ไมค่ ้มุ ครองความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อมท่ีเกิดจากภยั แผน่ ดนิ ไหวหรือ ภเู ขาไฟระเบดิ อนั เกิดจากวตั ถใุ ด ๆ จากอวกาศ 7.4 ภยั จากลกู เห็บ ให้หมายความรวมถงึ นํา้ ฝน นํา้ ค้างแขง็ หิมะ ทราย หรือฝ่ นุ ละอองดงั กลา่ ว ไหลผา่ นเข้าไปในอาคาร ตามร่องแตกร้าวของอาคารส่ิงปลกู สร้างท่ีได้รับความเสียหายอนั เกิด จากลกู เหบ็ โดยตรงเทา่ นนั้ หรือนํา้ จากเคร่ืองพรมนํา้ หรือทอ่ นํา้ อ่ืน ๆ ท่ีเกิดเสียหายขนึ ้ เนื่องจากลกู เห็บโดยตรง ทงั้ นี ้ความค้มุ ครองในข้อ 7.1 ถงึ 7.4 ผ้รู ับประกนั จะชดใช้คา่ สินไหมทดแทน ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ จริง ทกุ ภยั รวมกนั แล้วไมเ่ กิน 20,000.-บาทตอ่ ปี 8. การขยายความค้มุ ครองคา่ เชา่ ท่ีอยอู่ าศยั ชว่ั คราว ความค้มุ ครองคา่ เชา่ ท่ีอยอู่ าศยั ชว่ั คราว เฉพาะ กรณีทรัพย์สนิ เป็นสง่ิ ปลกู สร้าง และได้รับความเสียหายจากภยั ในข้อ 1) – 6) จะค้มุ ครองคา่ เชา่ ท่ี อยอู่ าศยั ชว่ั คราว ดงั นี ้(เป็นสว่ นเพ่มิ ขนึ ้ มาจากจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ) 8.1 ความสญู เสีย หรือความเสียหายคดิ เป็นมลู คา่ มากกวา่ 50% ของมลู คา่ การจดั การทดแทนส่งิ ปลกู สร้าง หรืออาคารที่เป็นการสร้างขนึ ้ ใหม่ − ส่ิงปลกู สร้างชนั้ 1 ไมเ่ กินวนั ละ 1,000 บาท และรวมแล้วไมเ่ กิน 50,000 บาท ตลอด ระยะเวลาเอาประกนั ภยั − ส่งิ ปลกู สร้างชนั้ 2 หรือชนั้ 3 ไมเ่ กินวนั ละ 500 บาท และรวมแล้วไมเ่ กิน 25,000 บาท ตลอดระยะเวลาเอาประกนั ภยั 8.2 ความสญู เสีย หรือความเสียหายคดิ เป็นมลู คา่ เทา่ กบั มลู คา่ การจดั การ-ทดแทนส่ิงปลกู สร้าง หรืออาคารท่ีเป็นการสร้างขนึ ้ ใหม่ − สิ่งปลกู สร้างชนั้ 1 ไมเ่ กินวนั ละ 1,000 บาท และรวมแล้วไมเ่ กิน 100,000 บาท ตลอด ระยะเวลาเอาประกนั ภยั − สงิ่ ปลกู สร้างชนั้ 2 หรือชนั้ 3 ไมเ่ กินวนั ละ 500 บาท และรวมแล้วไมเ่ กิน 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาเอาประกนั ภยั สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/6

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั 9. ความเสียหายเน่ืองจากภยั บางอยา่ ง สามารถซือ้ ความค้มุ ครองเพมิ่ เตมิ ได้ เชน่ 9.1 ภยั ธรรมชาตติ ามที่ระบใุ นข้อ 7 ได้แก่ ภยั จากลมพายุ ภยั จากนํา้ ทว่ ม ภยั จากแผน่ ดนิ ไหว หรือภเู ขาไฟระเบดิ หรือคลื่นใต้นํา้ หรือสึนามิ สามารถขอขยายจํานวนเงินจํากดั ความรับผดิ เพม่ิ เตมิ ได้ 9.2 ภยั ธรรมชาตอิ ื่น ในบางภยั ก็สามารถซือ้ เพ่มิ เตมิ ได้ เชน่ ไฟป่ า 9.2 ภยั สงั คม ได้แก่ ความสญู เสีย หรือความเสียหายจากการนดั หยดุ งาน การจลาจล การกระทํา อนั มีเจตนาร้าย ที่ไมเ่ ก่ียวเนื่องกบั การเมือง ศาสนา หรือ ลทั ธินิยม 9.3 ภยั อื่นๆ ได้แก่ ภยั จากควนั (จากเคร่ืองทําความร้อน หรือเคร่ืองปรุงอาหารเทา่ นนั้ ) 9.4 ภยั เกี่ยวกบั เครื่องใช้ไฟฟ้ า เชน่ กระแสไฟฟ้ าเกินกําลงั หรือการลดั วงจร 2. ประเภทของความเสียหายที่ได้รับความค้มุ ครอง (Types of Loss) แยกออกได้เป็น 1) ความเสียหายทางกายภาพ ซง่ึ เกิดขนึ ้ และเป็นผลโดยตรงจากภยั ที่ค้มุ ครอง 2) ความเสียหายท่ีเกิดขนึ ้ สืบเน่ืองจากภยั ที่ค้มุ ครอง 3) คา่ ใช้จา่ ยท่ีสมควรเพื่อป้ องกนั หรือบรรเทาความเสียหาย 3. ทรัพย์สนิ ท่ีค้มุ ครอง (Property covered) หมายถึง ทรัพย์สินใดๆ ก็ตามท่ีผ้เู อาประกนั ภยั มีความประสงคจ์ ะให้ผ้รู ับประกนั ภยั ค้มุ ครอง ผ้เู อา ประกนั ภยั ควรต้องระบทุ รัพย์สินที่จะเอาประกนั ภยั ไว้ในกรมธรรม์ประกนั ภยั ให้ละเอียด ถกู ต้องและ ชดั เจน เพ่ือป้ องกนั มใิ ห้เกิดปัญหาในการชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทน โดยปกติทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั แบง่ ได้ดงั นี ้ 1) สิง่ ปลกู สร้างตวั อาคาร ตามคําจํากดั ความของคาํ วา่ “สิ่งปลกู สร้าง” ในกรมธรรม์ประกนั อคั คีภยั สําหรับที่อย่อู าศยั ได้แก่ − เฉพาะอาคารที่ใช้เป็นท่ีอย่อู าศยั ได้แก่ บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ตกึ แถว สําหรับอย่อู าศยั ห้องชดุ สําหรับอย่อู าศยั ในแฟลต อาคารชดุ คอนโดมเิ นียม − สง่ิ ปลกู สร้างท่ีอยภู่ ายนอกบ้าน ได้แก่ โรงรถ และอาคารยอ่ ย เช่น เรือนคนรับใช้ เรือนครัว เป็ นต้น − กําแพง รัว้ ประตู รวมทงั้ สว่ นปรับปรุงตอ่ เตมิ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/7

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พิบตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั − ระบบพืน้ ฐานสําหรับบริการ (ระบบสาธารณปู โภค) เชน่ ระบบสขุ าภิบาลและสขุ ภณั ฑ์ ก๊าซ ไฟฟ้ า นํา้ โทรศพั ท์และอินเทอร์เนต็ − สง่ิ ที่ยดึ ติดเพ่ือปิดฝาผนงั พืน้ หรือเพดาน รวมถงึ สีภายในและภายนอกอาคาร − สง่ิ ของประเภทติดตงั้ เชน่ ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ เป็นต้น − โครงสร้างถาวรของทรัพย์สินที่ใช้เพื่อวตั ถปุ ระสงค์ในครัวเรือน ตวั อยา่ งเชน่ เสาอากาศ โทรทศั น์ ทางเดนิ และทางรถท่ีมีการปพู ืน้ ราวตากผ้า จานดาวเทียม 2) เฟอร์นิเจอร์ เคร่ืองตกแตง่ สิ่งตดิ ตงั้ ตรึงตรา เครื่องมือ เคร่ืองใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้ าและอปุ กรณ์ไฟฟ้ าภายในบ้าน เครื่องดนตรี เคร่ืองเสียง เครื่องครัว เคร่ืองนงุ่ หม่ ต้องระบใุ ห้ชดั เจน ซงึ่ อธิบายได้วา่ − เฟอร์นิเจอร์ หมายถึง เครื่องเรือนซงึ่ จําเป็นต้องมีไว้ใช้อยอู่ าศยั เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอีแ้ ละชดุ รับแขก เป็นต้น − เครื่องตกแตง่ หมายถึง ส่ิงท่ีทําขนึ ้ เพ่ือให้เกิดความสวยงาม เชน่ รูปภาพ วอลล์เปเปอร์ ผ้ามา่ นและพรม เป็นต้น − สิง่ ตดิ ตงั้ ตรึงตรา หมายถงึ ส่ิงท่ีสร้างขนึ ้ ให้ตดิ ตรึงกบั อาคารและเคลื่อนย้ายไมไ่ ด้ เชน่ ต้ฝู ังกบั ผนงั หรือพืน้ และฉากกนั้ พืน้ ที่ เป็นต้น − เคร่ืองใช้และอปุ กรณ์ไฟฟ้ า หมายถึง เครื่องไฟฟ้ าท่ีมีไว้ใช้ในท่ีอย่อู าศยั เชน่ โทรทศั น์ วทิ ยุ เคร่ืองเลน่ วิดโี อ เครื่องเสียง ต้เู ยน็ เป็นต้น 3) ทรัพย์สินใดๆ ท่ีผ้เู อาประกนั ภยั ต้องการให้ค้มุ ครอง ซงึ่ จะต้องมีการระบใุ ห้ชดั เจนในกรมธรรม์ ประกนั ภยั โดยเฉพาะท่ีเป็นทรัพย์สินท่ีกรมธรรม์ประกนั ภยั ระบไุ มค่ ้มุ ครองไว้ในข้อยกเว้น ทรัพย์สินนนั้ ต้องเป็นทรัพย์สินเพ่ือการอยอู่ าศยั ของผ้เู อาประกนั ภยั หรือบคุ คลซง่ึ ตามปกตพิ กั อาศยั อยกู่ บั ผ้เู อาประกนั ภยั วธิ ีการกาํ หนดจาํ นวนเงนิ เอาประกันภยั (Amount of Coverage) 1. หลกั สําคญั ก็คือ จํานวนเงินท่ีค้มุ ครองสงู สดุ คือจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ที่ระบไุ ว้ในกรมธรรม์ ประกนั ภยั ซง่ึ อาจจะเป็นจํานวนเงินเอาประกนั ภยั สําหรับทรัพย์สนิ ที่เอาประกนั ภยั ทงั้ หมด หรือ จํานวนเงินเอาประกนั ภยั สําหรับทรัพย์สนิ แตล่ ะรายการ 2. หากเกิดความเสียหายขนึ ้ จํานวนเงินเอาประกนั ภยั ที่ยงั คงเหลืออยจู่ ะต้องหกั มลู คา่ ความเสียหาย นนั้ ออกเสียก่อน นอกจากผ้เู อาประกนั ภยั ได้ตกลงชําระเบยี ้ ประกนั ภยั เพ่ือให้จํานวนเงินเอา ประกนั ภยั กลบั สจู่ ํานวนเตม็ ดงั เดมิ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/8

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พิบตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั 3. การกําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั มีผลตอ่ การชดใช้คา่ สินไหมทดแทน ดงั นนั้ ผ้เู อาประกนั ภยั ไมค่ วรเอาประกนั ภยั สงู กวา่ หรือต่ํากวา่ มลู คา่ ท่ีแท้จริงในขณะเอาประกนั ภยั และต้องพิจารณาถึง ข้อกําหนดตอ่ ไปนี ้ 3.1 ถ้ากําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั เป็นแบบมลู คา่ ทรัพย์สินท่ีเป็นของใหม่ (Replacement Cost Value) การชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทนจะเป็นแบบมลู คา่ ทรัพย์สนิ ท่ี เป็นของใหมเ่ ชน่ กนั ณ เวลา และสถานที่ท่ีเกิดความเสียหาย 3.2 ถ้ากําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั เป็นแบบมลู คา่ ที่แท้จริงของทรัพย์สิน (Actual Cash Value) การชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทนจะเป็นแบบมลู คา่ ที่แท้จริงของทรัพย์สิน ซงึ่ เทา่ กบั มลู คา่ ทรัพย์สินท่ีเป็นของใหม่ หกั ด้วยคา่ เส่ือมราคา ณ เวลาและสถานท่ีที่เกิดความ เสียหาย 3.3 ถ้ากําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั เป็นแบบมลู คา่ ท่ีตกลง (Agreed Value) ผ้รู ับ ประกนั ภยั จะชดใช้คา่ สินไหมทดแทนให้ตามจํานวนที่ตกลงกนั นนั้ สาํ หรับตัวอาคารหรือส่ิงปลูกสร้าง สามารถกําหนดบนฐานของราคาได้ 2 แบบ คือ − แบบมลู คา่ ท่ีเป็ นของใหม่ (Replacement Cost Value - RCV) : ไมม่ ีการหกั คา่ เส่ือมราคา − แบบมลู คา่ ที่แท้จริง (Actual Cash Value) – ACV) : มีการหกั คา่ เสื่อมราคาออกจากมลู คา่ ท่ีเป็ นของใหม่ การประเมนิ ราคาสิ่งปลกู สร้าง คาํ นวณได้จากจน.พท.ใช้งาน (ตร.ม.) คณู ด้วย ราคาก่อสร้าง ตอ่ ตารางเมตร ตัวอย่าง อาคารพาณิชย์สงู 3 ชนั้ หน้ากว้าง 4 เมตร ลกึ 12 เมตร สมมตุ ริ าคาคาก่อสร้างเทา่ กบั 7,000 บาทตอ่ ตารางเมตร ดงั นนั้ ราคาประเมนิ = (4 x 12 x 3) x 7,000 = 1,008,000 บาท สมมตุ อิ าคารพาณิชย์มีอายกุ ารใช้งานโดยเฉล่ีย 50 ปี และอาคารหลงั นีม้ ีอายุ 10 ปี คา่ เส่ือมราคา = 1,008,000 x (10/50) = 201,600 บาท สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/9

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั หากกําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั แบบมลู คา่ ท่ีเป็นของใหม่ (RCV) จะได้ RCV = ราคาประเมนิ = 1,008,000 บาท หากกําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั แบบมลู คา่ ที่แท้จริง (ACV) จะได้ ACV = RCV - คา่ เส่ือม = 1,008,000 – 201,600 = 806,400 บาท แบบฝึ กหดั บ้านพกั อาศัย 2 ชัน้ หน้ากว้าง 6 เมตร ลกึ 18 เมตร สมมุตริ าคาคาก่อสร้างเท่ากับ 5,600 บาทต่อตารางเมตร อายุการใช้งานโดยเฉล่ีย 50 ปี และบ้านหลังนีม้ ีอายุ 20 ปี แล้ว จงหา 1. มูลค่าท่เี ป็ นของใหม่ 2. มูลค่าท่ีแท้จริง วิธีทํา สาํ หรับเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ เคร่ืองตกแต่ง ฯลฯ สามารถกําหนดบนฐานราคาได้ 2 แบบ ได้แก่ − แบบมลู คา่ ที่เป็ นของใหม่ (Replacement Cost Value - RCV) : ไมม่ ีการหกั คา่ เสื่อมราคา − แบบมลู คา่ ที่แท้จริง (Actual Cash Value) – ACV) : มีการหกั คา่ เส่ือมราคาออกจากมลู คา่ ท่ี เป็ นของใหม่ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/10

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คภี ยั และภยั พิบตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั สาํ หรับทรัพย์สินท่ีประเมินมูลค่าปกตไิ ด้ยาก − สามารถกําหนดบนฐานราคาได้แก่ แบบมลู คา่ ที่ตกลงกนั ณ วนั เอาประกนั ภยั ( Agree Value – AV) 4. ข้อยกเว้น (Exclusion) 1. ระบถุ งึ สงิ่ ท่ีการประกนั ภยั จะไมใ่ ห้ความค้มุ ครอง 2. ส่งิ ท่ีต้องเข้าใจ คือ ความหมายของข้อยกเว้นแตล่ ะข้อ 3. สง่ิ ที่ต้องระมดั ระวงั และตระหนกั คอื สง่ิ ท่ีกรมธรรม์ไมค่ ้มุ ครองอาจจะไมจ่ ํากดั อยเู่ พียงในสว่ นของ ข้อยกเว้น 4. ในการประกนั อคั คีภยั เราสามารถแบง่ ข้อยกเว้นออกเป็ น 3 กลมุ่ ใหญ่ ได้แก่ − ภยั ที่ไมค่ ้มุ ครอง (Perils not covered) − ทรัพย์สินท่ีไมค่ ้มุ ครอง (Property not covered) − ลกั ษณะของความเสียหายที่ไมค่ ้มุ ครอง (Type of Loss not covered) ภยั ที่ไมค่ ้มุ ครอง หมายถึง ภยั ท่ีไมค่ ้มุ ครอง หากเป็นสาเหตขุ องความสญู เสีย หรือความเสียหายของ ทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั ได้แก่ 1) ภยั สงคราม การรุกราน การกระทํามงุ่ ร้ายของศตั รูตา่ งชาติ หรือการกระทํามงุ่ ร้ายคล้าย สงคราม ไมว่ า่ จะมีการประกาศสงคราม หรือไมก่ ็ตาม สงครามกลางเมือง การกบฏ การ จลาจลการนดั หยดุ งาน การกอ่ ความวนุ่ วาย การกระทําของผ้กู ่อการร้าย การปฏิวตั ิ การ รัฐประหาร การประกาศกฎอยั การศกึ หรือเหตกุ ารณ์ใดๆ ซงึ่ จะเป็นเหตใุ ห้มีการประกาศ หรือคงไว้ซงึ่ กฎอยั การศกึ 2) ความเสียหายที่เป็นผลโดยตรง หรือโดยอ้อมจากกมั มนั ตรังสี นวิ เคลียร์ เชือ้ เพลิงหรือ สว่ นประกอบของนิวเคลียร์ 3) ภยั ตา่ งๆ ท่ีเป็นภยั เพม่ิ เตมิ และไมไ่ ด้ซือ้ ความค้มุ ครองเพ่ิม และระบไุ ว้ในกรมธรรม์ ประกนั ภยั (ดขู ้อ 8 เร่ืองภยั ท่คี ุ้มครอง) ข้างต้น 4) การเผาโดยคําสง่ั เจ้าหน้าท่ี หรือพนกั งานผ้มู ีอํานาจตามกฎหมาย สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/11

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั ทรัพย์สินที่ไมค่ ้มุ ครอง ได้แก่ทรัพย์สินที่ไมไ่ ด้ระบไุ ว้ในกรมธรรม์ประกนั ภยั ให้ค้มุ ครอง และทรัพย์สินท่ี ยกเว้นดงั ตอ่ ไปนี ้เว้นแตจ่ ะได้ระบไุ ว้ในกรมธรรม์ประกนั ภยั ให้ค้มุ ครอง 1) เงินแทง่ หรือเงินรูปพรรณ หรือทองคําแทง่ หรือทองรูปพรรณ หรืออญั มณี 2) โบราณวตั ถุ หรือศลิ ปวตั ถุ อนั มีมลู คา่ รวมทงั้ สนิ ้ เกินกว่า 10,000 บาท โบราณวตั ถหุ รือศิลปวตั ถุ มีความหมายตามคําจํากดั ความทีป่ รากฎอย่ใู น พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปะวตั ถแุ ละพิพิธภณั ฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 “โบราณวตั ถุ หมายความว่า สงั หาริมทรัพย์ทีเ่ ป็นของโบราณ ไม่ว่าจะเป็นส่ิงประดิษฐ์หรือ เป็นสิ่งทีเ่ กิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือทีเ่ ป็น่วนหน่ึงส่วนใดของโบราณสถาน ซากมนษุ ย์ หรือ ซากสตั ว์ ซ่ึงโดยอายหุ รือโดยลกั ษณะแห่งการประดิษฐ์ หรือโดยหลกั ฐานเกี่ยวกบั ประวตั ิ ของสงั หาริมทรัพย์นนั้ เป็นประโยชน์ในทางศิลปะ ประวตั ิศาสตร์ หรือโบราณคดี” “ศิลปวตั ถุ หมายความว่า ส่ิงทีท่ ําดว้ ยฝี มือและเป็นส่ิงที่นิยมกนั ว่ามีคณุ ค่าในทางศิลป” (โดยปกติแลว้ ทรัพย์สินทีต่ อ้ งการใหค้ มุ้ ครองจะตอ้ งระบใุ นกรมธรรม์ประกนั ภยั และมี การ ระบมุ ูลค่าไว้ตามมูลค่าทีแ่ ทจ้ ริง เวน้ แต่จะได้กําหนดมูลค่าในลกั ษณะอย่างอืน่ สําหรับ ทรัพย์สินประเภทนีจ้ ะต้องกําหนดเป็นแบบตกลงมูลค่ากนั (Agreed Value) หรือราคาแห่ง มูลประกนั ภยั ซ่ึงหากไฟไหม้เสียหาย แม้เพียงบางส่วน ทรพั ย์สินนนั้ ก็จะหมดค่าไป โดย หลกั การในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจะตอ้ งเป็นการชดใช้แบบเสียหายสิ้นเชิงเสมอ ฉะนนั้ ในกรณีนี้ มิไดค้ วามหมายว่า จะยกเวน้ ความคมุ้ ครองเฉพาะทีม่ ีมูลค่ารวมกนั ทงั้ สิ้น เกินกว่า 10,000 บาท ข้ึนไปเท่านน้ั ส่วนทีต่ ํ่ากว่านนั้ จะค้มุ ครองโดยอตั โนมตั ิ แต่มี วตั ถปุ ระสงค์จะใหข้ ยายเฉพาะทรัพย์สินทีม่ ีมูลค่ารวมกนั เกินกว่า 10,000 บาทเท่านน้ั เพราะฉะนน้ั หากจะรับประกนั ภยั จะตอ้ งพิจารณาเป็นพิเศษ) 3) ต้นฉบบั หรือสําเนาเอกสาร แบบแปลน แผนผงั ภาพเขียน รูปออกแบบ ลวดลาย แบบ หรือ แบบพิมพ์ หรือแมพ่ มิ พ์ 4) หลกั ประกนั หนีส้ ิน หลกั ทรัพย์ เอกสารสําคญั ตา่ งๆ ไปรษณียากร อากรแสตมป์ เงินตรา ธนบตั ร เชค็ สมดุ บญั ชี หรือสมดุ หนงั สือเกี่ยวกบั ธรุ กิจใดๆ 5) วตั ถรุ ะเบดิ 6) เครื่องใช้ไฟฟ้ า เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าและอปุ กรณ์ไฟฟ้ าตา่ งๆ แผงวงจรไฟฟ้ า อปุ กรณ์ อิเลก็ ทรอนิกส์ สายไฟฟ้ า หรือหลอดไฟฟ้ า ซง่ึ ได้รับความเสียหายเนื่องจาก หรือเพราะการ เดนิ เคร่ืองเกินกําลงั การใช้ความกดดนั เกินกําหนด ไฟฟ้ าลดั วงจร การเกิดประกายไฟฟ้ า การเผาไหม้ของสายไฟในตวั เอง การรั่วของกระแสไฟฟ้ า รวมทงั้ สาเหตทุ ี่เกิดจากการ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/12

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พิบตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั เสื่อมสภาพตามธรรมชาติ หรือจากการใช้งานเฉพาะเคร่ืองท่ีเกิดความเสียหายจากสาเหตุ ดงั กลา่ ว (ขอใหส้ งั เกตว่า แม้ทรัพย์สินเหล่านีจ้ ะระบเุ อาประกนั ภยั ไว้ หากเกิดความ เสียหายจากภยั ทีร่ ะบไุ วว้ ่า เป็นภยั ทีค่ มุ้ ครอง เช่น ไฟไหม้ ก็จะไดร้ บั ความคมุ้ ครอง แต่หาก เกิดความเสียหาย เพราะสาเหตตุ ามข้อนีโ้ ดยตรง จะไม่ค้มุ ครอง เว้นแต่จะได้ขยายถึงความ เสียหายต่อเครื่องใชไ้ ฟฟ้ า ซ่ึงเป็นเอกสารแนบทา้ ย โดยเสียเบีย้ ประกนั ภยั เพ่ิม) 7) ยานพาหนะทกุ ชนดิ ไมว่ า่ จะเป็นยานพาหนะทางบก ทางนํา้ หรือทางอากาศ 8) ต้นไม้ การจดั แตง่ สวน สนามหญ้า ลกั ษณะความเสียหายที่ไมค่ ้มุ ครอง 1) ความเสียหายท่ีจะได้รับการชดใช้จากกรมธรรม์ประกนั ภยั ทางทะเลและขนสง่ ยกเว้นสว่ นที่ เกินจากท่ีจะได้รับการชดใช้จากกรมธรรม์ข้างต้น 2) ความเสียหายตอ่ เนื่องใดๆ ทกุ ชนดิ เว้นแตแ่ ตก่ ารสญู เสียรายได้จากคา่ เชา่ ที่ระบไุ ว้ว่าจะ ได้รับความค้มุ ครอง เง่อื นไข/ข้อกาํ หนดต่างๆ (Terms and Conditions) − เป็นการระบเุ ก่ียวกบั รายละเอียดอื่นๆ ในกรมธรรม์ประกนั ภยั ทงั้ ที่เป็นเร่ืองของสิทธิ หน้าท่ี และ ข้อตกลงในการปฏิบตั เิ ร่ืองตา่ งๆ ระหวา่ งบริษทั กบั ผ้เู อาประกนั ภยั − สิ่งท่ีพงึ เข้าใจ คอื เง่ือนไขและข้อกําหนดที่สําคญั ตา่ งๆ วา่ ตคี วามหรือมีขอบเขตอยา่ งไร − สง่ิ ที่พงึ ระวงั คอื อยา่ มองข้ามรายละเอียดปลีกยอ่ ย เพราะอาจมีความสําคญั มากเชน่ กนั มีทัง้ หมด 14 ข้อ ได้แก่ 1. การตกเป็นโมฆียะของกรมธรรม์ประกนั ภยั 2. หน้าท่ีในการรักษาสิทธิของบริษัทเพื่อการรับชว่ งสิทธิ 3. การเรียกร้องให้ชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทน 4. การคํานวณเงินเอาประกนั ภยั และมลู คา่ สินไหมทดแทน 5. การชดใช้โดยจดั หาทรัพย์สินมาทดแทน 6. การประกนั ภยั ทรัพย์สินต่ํากวา่ มลู คา่ ที่แท้จริง 7. การประกนั ภยั ซํา้ ซ้อน 8. สิทธิของบริษัทเพ่ือการรักษาซากฯ 9. การปฏิเสธคา่ สนิ ไหมทดแทน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/13

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คภี ยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั 10. การระงบั ข้อพิพาทโดยอนญุ าโตฯ 11. การระงบั ไปแหง่ สญั ญาประกนั ภยั 12. การบอกเลิกกรมธรรม์ประกนั ภยั 13. การจํากดั อายคุ วาม 14. การบอกกล่าว 1. การตกเป็นโมฆียะของกรมธรรม์ประกนั ภยั สญั ญาประกนั ภยั ตามกรมธรรม์ประกนั ภยั จะตกเป็นโมฆียะ จากกรณีตอ่ ไปนี ้(ซงึ่ ถือเป็นสภาวะ ภยั ทางศีลธรรม Moral hazards) เป็นไปตามหลกั ความสจุ ริตใจอยา่ งย่ิงในประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์มาตรา 865 − มีการบรรยายคลาดเคล่ือนในสาระสําคญั แหง่ ทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั ท่ีจําเป็นตอ่ การ ประเมินความเสี่ยงภยั หรือการกําหนดเบีย้ ประกนั ภยั แตห่ ากปรากฏวา่ สถานท่ีเอาประกนั ภยั ซง่ึ ยงั คงใช้เป็นที่อยอู่ าศยั นนั้ ได้ใช้ประโยชน์อื่นเพ่ิมขนึ ้ จากการอยอู่ าศยั แม้เพียงบางสว่ นในขณะท่ีเกิดความเสียหาย บริษัทจะชดใช้จํานวนเงินคา่ สนิ ไหมทดแทน โดยคํานวณตามสว่ นเฉลี่ยของจํานวนเงินเอาประกนั ภยั − มีการละเว้นไมเ่ ปิดเผยข้อความจริง 2. หน้าที่ในการรักษาสิทธิของบริษัทเพ่ือการรับชว่ งสิทธิ เป็นสิทธิของผ้รู ับประกนั ภยั ท่ีจะขอให้ผ้เู อาประกนั ภยั กระทําการตามสมควร (ไมใ่ ชท่ กุ อยา่ งโดยไม่ มีเหตอุ นั สมควร) โดยคา่ ใช้จา่ ยของผ้รู ับประกนั ภยั หน้าที่นีม้ ีอยทู่ งั้ ก่อนและหลงั การชดใช้คา่ สินไหมทดแทน 3. การเรียกร้องและชดใช้คา่ สินไหมทดแทน หน้าที่ของผ้เู อาประกนั ภยั ในการเรียกร้อง 1. ต้องแจ้งและสง่ หลกั ฐานภายใน 30 วนั เว้นแตม่ ีเหตอุ นั สมควร หรือขอขยายเวลา (โดยคชจ. ของผ้เู อาประกนั ภยั ) 2. ต้องแสดง จดั หา มอบหลกั ฐาน รายละเอียด สมดุ บญั ชี ฯลฯ ข้อพิสจู น์เก่ียวกบั การเกิดเหตุ และความเสียหาย ตามท่ีบริษัทเรียกร้องตามสมควร (โดยคชจ.ของผ้เู อาประกนั ภยั ) 3. ดําเนนิ การและยินยอมให้บริษทั หรือตวั แทนของบริษัทดาํ เนินการเพ่ือป้ องกนั ความเสียหาย อนั อาจเพิ่มขนึ ้ 4. บริษทั อาจไมต่ ้องรับผิด หากผ้เู อาประกนั ภยั เจตนาหรือจงใจไมก่ ระทําตามทงั้ 3 ข้อข้างต้น สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/14

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั 5. เมื่อมีการนําเรื่องเรียกร้องขนึ ้ สศู่ าลหรืออนญุ าโตตลุ าการ และบริษทั แพ้คดี ต้องชดใช้พร้อม ดอกเบีย้ ในอตั ราร้อยละ 15 ตอ่ ปี 4. การคํานวณเงินเอาประกนั ภยั และมลู คา่ สนิ ไหมทดแทน ผ้เู อาประกนั ภยั มีสทิ ธ์ิเลือกวิธีใดวธิ ีหนง่ึ จาก 2 วิธี ได้แก่ วิธีตามมลู คา่ ทรัพย์สินที่เป็นของใหม่ (RCV) ตามมลู คา่ ท่ีแท้จริงของทรัพย์สิน (ACV) หากกําหนดทนุ ประกนั ภยั แบบใด ในการชดใช้ก็ต้องชดใช้ ในรูปแบบเดียวกนั 5. การชดใช้โดยจดั หาทรัพย์สนิ มาทดแทน วธิ ีการชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทน มี 4 วิธี 1. สร้างให้ใหม่ 2. จดั หาทรัพย์สินมาทดแทน 3. ซอ่ มแซมให้ 4. จา่ ยเงินสด จะเลือกวิธีใด เป็นสิทธิของบริษัท แตใ่ นกรณีสร้างให้ใหม่ จะไมผ่ กู พนั จะสร้างให้เหมือนกนั เพียงแต่ ตามสภาพการจะอํานวย 6. การประกนั ภยั ทรัพย์สนิ ต่ํากวา่ มลู คา่ ที่แท้จริง (Underinsurance) − เฉพาะกรณี “เกิดความเสียหายบางสว่ น (Partial Loss)” เทา่ นนั้ − เป็นความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง “มลู คา่ ของทรัพย์สนิ ณ เวลาที่เกิดความเสียหาย” กบั “จํานวนเงิน เอาประกนั ภยั ” − เกิดขนึ ้ เมื่อ “จํานวนเงินเอาประกนั ภยั ” ตํ่ากวา่ “มลู คา่ ของทรัพย์สินฯ” − หากจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ≥ 70% ของมลู คา่ ณ เวลาเกิดเหตุ บริษัทจะชดใช้เตม็ ตาม จํานวนเงินเอาประกนั ภยั − หากจํานวนเงินเอาประกนั ภยั < 70% ของมลู คา่ ณ เวลาเกิดเหตุ บริษัทจะเฉลี่ยการชดใช้ − ผลท่ีตามมาก็คือ ผ้เู อาประกนั ภยั ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบในความเสียหายเสมือนตนเป็นผ้รู ับ ประกนั ภยั ไว้เองในสว่ นที่แตกตา่ ง − ความรู้ที่เก่ียวข้องต้องรู้ในหวั ข้อนี ้คอื “วิธีการกําหนดจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ”สําหรับ ทรัพย์สนิ แตล่ ะชนิด สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/15

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั − หากผู้เอาประกันภยั ทาํ ประกันภยั ต่าํ กว่ามูลค่าทรัพย์สินท่ีแท้จริง บริษัทจะชดใช้ค่า สินไหมทดแทนให้ ดังนี้ ตวั อยา่ ง อาคารมลู คา่ 5 ล้านบาท จํานวนเงินเอาประกนั ภยั 4 ล้านบาท เกิดความเสียหาย 2 ล้านบาท ความรับผดิ ส่วนแรก 50,000 บาท คา่ สนิ ไหมทดแทน = (4,000,000 x 2,000,000) – 50,000 (ไมเ่ กินจํานวนเงินเอาประกนั ภยั ) 5,000,000 = 1,550,000 7. การประกนั ภยั ซํา้ ซ้อน − กรณีมีกรมธรรม์ 2 ฉบบั หรือมากกวา่ − ทกุ กรมธรรม์มีผลบงั คบั ใช้อยู่ − ค้มุ ครองภยั เดยี วกนั − ค้มุ ครองสว่ นได้เสียและวตั ถทุ ี่เอาประกนั ภยั เดียวกนั − ไมว่ า่ ผ้เู อาประกนั ภยั เองหรือโดยบคุ คลอ่ืนกระทําแทน − ผ้รู ับประกนั ภยั จะร่วมเฉลี่ยชดใช้คา่ เสียหายตามสดั สว่ นมลู คา่ ความเส่ียงภยั ท่ีตนรับตอ่ มลู คา่ รวมไมถ่ ือลําดบั ก่อนหลงั 8. สิทธิของบริษัทเพ่ือการรักษาซากทรัพย์ท่ีได้รับความเสียหาย บริษทั มีสิทธิ 1. เรียกร้องให้สง่ มอบทรัพย์สิน 2. เข้ายดึ ถือ ครอบครอง สํารวจ จดั คดั เลือก โยกย้าย หรือจดั การอยา่ งหนง่ึ อยา่ งใด 3. ขายหรือจําหนา่ ยทรัพย์สินท่ีเอาประกนั ภยั สิทธินีจ้ ะมีตงั้ แตเ่ กิดความเสียหายจนตกลงความเสียหายกนั ได้ หรือจนเมื่อผ้เู อาประกนั ภยั สละ สทิ ธิเรียกร้อง 9. การปฏิเสธคา่ สินไหมทดแทน สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/16

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทท่ี 3 : การประกนั อคั คภี ยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั บริษทั มีสิทธิปฏิเสธการชดใช้คา่ สินไหมทดแทน โดยไมต่ ้องคืนเบีย้ ประกนั ภยั หากความเสียหาย นนั้ เกิดจาก การทจุ ริต การปฏิเสธตามเงื่อนไขนี ้สามารถอ้างถึง 1. ปพพ. 879 วรรคแรก ว่าดว้ ยความทจุ ริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผูเ้ อาประกนั ภยั / ผูร้ บั ประโยชน์ 2. ปพพ. 879 วรรคสอง ว่าดว้ ยความไม่สมประกอบในเนือ้ แห่งวตั ถทุ ีเ่ อาประกนั ภยั การฉ้อฉล 1. เจตนาหรือสมรู้ของผ้เู อาประกนั ภยั /ผ้รู ับประโยชน์ หรือบคุ คลอ่ืนท่ีทําในนาม เพื่อให้ได้รับ ผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกนั ภยั 2. ผ้เู อาประกนั ภยั หรือผ้แู ทนได้กระทําการอนั เป็นเท็จเพ่ือให้ได้มาซง่ึ ประโยชน์ตามกรมธรรม์ ประกนั ภยั 10. การระงบั ข้อพพิ าทโดยอนญุ าโตตลุ าการ เป็นการให้สิทธิผ้เู อาประกนั ภยั ในการใช้วิธีระงบั ข้อพิพาทท่ีเกิดขึน้ ด้วยวธิ ีการอนญุ าโตตลุ าการ ตามข้อบงั คบั ของสํานกั งานคณะกรรมการกํากบั และสง่ เสริมการประกอบธุรกิจประกนั ภยั (คปภ.) 11. การระงบั ไปแหง่ สญั ญาประกนั ภยั 1) สถานท่ีเอาประกนั ภยั มีการเปล่ียนแปลงจากที่อย่อู าศยั ไปเป็นการประกอบการประเภทอ่ืน และการเปลี่ยนแปลงนนั้ ได้ทําให้การเสี่ยงภยั เพ่ิมขนึ ้ 2) ทรัพย์สินซงึ่ เอาประกนั ภยั ไว้ถกู โยกย้ายไปยงั สิง่ ปลกู สร้าง หรือสถานที่อื่นใดนอกจากท่ีระบไุ ว้ ในตารางกรมธรรม์ประกนั ภยั 3) กรรมสทิ ธิ์ในทรัพย์สินซง่ึ เอาประกนั ภยั ไว้ ได้ถกู เปลี่ยนมือจากผ้เู อาประกนั ภยั โดยวธิ ีอื่น นอกจากทางพนิ ยั กรรม หรือโดยบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย อยา่ งไรก็ตาม เง่ือนไขข้อนีจ้ ะไม่ นํามาบงั คบั ใช้ หากลกั ษณะการใช้สง่ิ ปลกู สร้างอนั เป็นทรัพย์สนิ เอาประกนั ภยั หรือสถานท่ีท่ี ระบเุ อาประกนั ภยั ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกนั ภยั ยงั คงใช้เพ่ือการอยอู่ าศยั ตอ่ ไป 4) ผ้เู อาประกนั ภยั ไมช่ ําระเบยี ้ ประกนั ภยั ภายใน 60 วนั (เว้นแตบ่ ริษทั รับทราบและตกลง ยินยอม) 5) สงิ่ ปลกู สร้างท่ีระบไุ ว้ในตารางกรมธรรม์ประกนั ภยั หรือส่วนใดสว่ นหนงึ่ ของสิ่งปลกู สร้างนนั้ ได้มี การพงั ทลาย หรือเคลื่อนไปจากเดมิ ไมว่ า่ ทงั้ หมดหรือบางสว่ น จนทําให้ส่ิงปลกู สร้างนนั้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/17

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พิบตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั เสียประโยชน์ในการใช้ทงั้ หมด หรือบางสว่ น หรือทําให้ส่งิ ปลกู สร้างนนั้ หรือ สว่ นใดสว่ นหนง่ึ ของสิ่งปลกู สร้างนนั้ หรือทรัพย์สินที่อยภู่ ายในสงิ่ ปลกู สร้างนนั้ ตกอยใู่ นการเสี่ยงตอ่ วินาศภยั เพิม่ ขนึ ้ เว้นแตเ่ หตดุ งั กลา่ วมานี ้เป็นผลสืบเน่ืองมาจากภยั ท่ีได้รับความค้มุ ครองตาม กรมธรรม์ประกนั ภยั ฉบบั นี ้ 6) สงิ่ ปลกู สร้างที่เอาประกนั ภยั หรือสถานท่ีตงั้ ทรัพย์สินที่เอาประกนั ภยั ตกอยใู่ นสภาพไม่มีผ้อู ยู่ อาศยั หรือไมม่ ีผ้ดู แู ลรักษา และคงยงั อยใู่ นสภาพเชน่ นนั้ เป็นเวลาเกินกวา่ 60 วนั ตดิ ตอ่ กนั เง่อื นไขในข้อนีจ้ ะไม่นํามาบังคับใช้ หากผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบ และบริษัท ตกลงยนิ ยอมรับประกันภัยต่อไป โดยได้บันทกึ การแก้ไขแสดงไว้ในกรมธรรม์ประกันภยั ฉบับนีแ้ ล้ว 12. การบอกเลิกกรมธรรม์ประกนั ภยั 1) บริษัทบอกเลกิ ได้โดยไมต่ ้องคืนเบืย้ ฯ กรณีผ้เู อาประกนั ภยั ทจุ ริต 2) หรือ บริษทั บอกเลิกได้โดยแจ้งลว่ งหน้า ไมน่ ้อยกวา่ 15 วนั ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน และคืน เบีย้ ประกนั ภยั แบบเฉล่ียรายวนั (Pro-rata) 3) หรือ ผ้เู อาประกนั ภยั บอกเลกิ และจะได้รับเบีย้ ประกนั ภยั คืนตามตารางอตั ราเบีย้ ระยะสนั้ (Short Rate) 13. การจํากดั อายคุ วาม ต้องเรียกร้องภายใน 2 ปี นบั จากวนั เกิดความเสียหาย เว้นแต่ ข้อเรียกร้องอยรู่ ะหว่างการดําเนิน เรื่องในศาลหรืออนญุ าโตฯ 14. การบอกกล่าว ต้องทําเป็นหนงั สือจงึ จะมีผลบงั คบั ปัจจัยในการพจิ ารณารับประกันภัยและกาํ หนดอัตราเบีย้ ประกันภัย ปัจจยั ในการพิจารณารับประกนั ภยั การฉ้อฉล ซง่ึ เป็นไปได้ที่จะมีเหตกุ ารณ์เชน่ นี ้ผ้พู จิ ารณารับประกนั ภยั ต้องใช้ความระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ เน่ืองจากเป็ นสภาวะภยั ทางศลี ธรรม (Moral Hazard) โดยปกตแิ ล้วจะสงั เกตได้ยาก สว่ นใหญ่ผ้รู ับ ประกนั ภยั ต้องพจิ ารณาในหลายๆ ด้าน ซงึ่ สงั เกตได้จากลกั ษณะดงั ตอ่ ไปนี ้ - ไมเ่ คยมีประวตั กิ ารประกนั ภยั กบั บริษัทประกนั ภยั หรือกบั บริษัทประกนั ภยั ใดๆ มาก่อน - กําหนดมลู คา่ สงิ่ ของในบ้านไว้สงู เม่ือเทียบกบั มลู คา่ ที่รับประกนั ภยั โดยรวม - การมีประวตั กิ ารเรียกร้องคา่ สินไหมทดแทน และประวตั อิ าชญากรรม สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทท่ี 3/18

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พิบตั สิ ําหรับท่ีอยอู่ าศยั - เว้นการตอบคําถามในบางข้อของใบคําขอเอาประกนั ภยั ลักษณะทางกายภาพ - สถานที่ตงั้ (Situation) o อยใู่ นเขตนํา้ ทว่ มหรือไม่ ยิง่ โดยเฉพาะในปี พ.ศ.2554 ท่ีผา่ นมาได้เกิดนํา้ ทว่ มหลายพืน้ ท่ี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซงึ่ ก่อให้เกิดความเสียหายอยา่ งมหาศาล ดงั นนั้ ผ้รู ับ ประกนั ภยั จะละเลยการพิจารณาในกรณีนีไ้ มไ่ ด้ โดยเฉพาะกรมธรรม์ประกนั อคั คภี ยั ท่ี ขยายความค้มุ ครองถึงภยั นํา้ ทว่ มเพิ่ม o มีหนว่ ยดบั เพลิงใกล้เคียงหรือไม่ เพราะหากเกิดเพลงิ ไหม้แล้วจะทําให้ความเสียหาย น้อยลง o มีแหลง่ นํา้ สําหรับใช้ดบั เพลิงหรือไม่ o โอกาสได้รับความเสียหายจากภยั ข้างเคยี ง - ทรัพย์สนิ ภายในส่งิ ปลกู สร้าง o จํานวนเงินเอาประกนั ภยั เม่ือเปรียบเทียบกบั มลู คา่ ท่ีแท้จริง o มีทรัพย์สินที่มลู คา่ สงู เช่น อญั มณี หรือไม่ - ลกั ษณะของสิง่ ปลกู สร้าง (Construction) o มีการใช้วสั ดทุ นไฟในการก่อสร้างหรือไม่ o เป็นอาคารโปร่ง และมีโอกาสเสียหายจากลมพายหุ รือไม่ o ลกั ษณะของพืน้ อาคาร o ชอ่ งวา่ งระหวา่ งกําแพง - การป้ องกนั (Protection) o มีแหลง่ นํา้ เพียงพอตอ่ การดบั เพลิงหรือไม่ o ความชว่ ยเหลือจากหนว่ ยดบั เพลิง o วสั ดคุ วามปลอดภยั เชน่ ลกู กรงหน้าตา่ ง o ระบบความปลอดภยั และสญั ญาณเพลิงไหม้ - ประวตั กิ ารเรียกร้องคา่ เสียหาย การกาํ หนดอัตราเบีย้ ประกันภยั ลําดบั ชนั้ ของส่งิ ปลกู สร้าง (Construction Class) ก. สําหรับอาคารประเภทอย่อู าศยั หรือตกึ แถว ท่ีมีความสงู ไมเ่ กิน 4 ชนั้ สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/19

NL604 : การจดั การการประกนั ภยั สว่ นบคุ คล บทที่ 3 : การประกนั อคั คีภยั และภยั พบิ ตั สิ ําหรับที่อยอู่ าศยั สิ่งปลกู สร้างชนั้ 1 อาคารท่ีมีโครงสร้างหลกั เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือเหล็กที่มีฉนวน หอ่ ห้มุ และมีผนงั ท่ีทําด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หนิ อฐิ ฉาบปนู 2 ด้าน คอนกรีต บล็อกฉาบปนู 2 ด้าน มากกวา่ ร้อยละแปดสิบของพืน้ ที่ผนงั ทงั้ หมด สิ่งปลกู สร้างชนั้ 2 อาคารท่ีมีโครงสร้างหลกั เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือเหล็กที่มีฉนวน หอ่ ห้มุ และมีผนงั ท่ีทําด้วยคอนกรีตเสริมเหลก็ หิน อิฐฉาบปนู 2 ด้าน คอนกรีต บล็อกฉาบปนู 2 ด้าน ร้อยละห้าสิบถึงแปดสิบของพืน้ ท่ีผนงั ทงั้ หมด สิง่ ปลกู สร้างชนั้ 3 อาคารท่ีไมม่ ีลกั ษณะตามท่ีกําหนดไว้ในส่งิ ปลกู สร้างชนั้ 1 หรือสง่ิ ปลกู สร้างชนั้ 2 ให้ถือเป็นส่ิงปลกู สร้างชนั้ 3 หมายเหตุ ตกึ แถว หมายความวา่ อาคารท่ีกอ่ สร้างตดิ ตอ่ กนั เป็ นแถวยาวตงั้ แตส่ องคหู าขนึ ้ ไปมีผนงั ร่วมแบง่ อาคารเป็นคหู า และประกอบด้วยวสั ดทุ นไฟเป็นสว่ น ใหญ่ ข. สําหรับอาคารประเภทอื่นๆ ท่ีมไิ ด้กําหนดไว้ในข้อ ก. สิ่งปลกู สร้างชนั้ 1 (1) เสา กําแพงรับแรงทําด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เหลก็ หรือวสั ดอุ ่ืนท่ีมีความทนไฟมีฉนวนทนไฟ หอ่ ห้มุ ให้มีอตั ราทนไฟไมน่ ้อยกวา่ 3 ชวั่ โมง (2) คาน พืน้ ทําด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เหลก็ หรือวสั ดอุ ื่นท่ีมีความทนไฟ หรือมีฉนวนทน ไฟหอ่ ห้มุ ให้มีความทนไฟไมน่ ้อยกวา่ 2 ชว่ั โมง สิ่งปลกู สร้างชนั้ 2 (1) เสา กําแพงรับแรงทําด้วยคอนกรีตท่ีมีฉนวนทนไฟหอ่ ห้มุ ให้มีอตั ราความทนไฟไมน่ ้อยกวา่ 2 ชว่ั โมง หรือวสั ดอุ ่ืนท่ีความทนไฟ หรือมีฉนวนทนไฟหอ่ ห้มุ ให้มีอตั ราความ ทนไฟไมน่ ้อยกวา่ 2 ชวั่ โมง (2) คาน พืน้ ทําด้วยเหลก็ ที่มีฉนวนทนไฟหอ่ ห้มุ ให้มีอตั ราทนไฟไมน่ ้อยกวา่ 1 ชว่ั โมง หรือวสั ดอุ ื่นที่มีความทนไฟ หรือมีฉนวนทนไฟหอ่ ห้มุ ให้มีอตั ราความทนไฟไม่ น้อยกวา่ 1 ชว่ั โมง สงิ่ ปลกู สร้างชนั้ 3 อาคารที่ไมม่ ีลกั ษณะตามท่ีกําหนดไว้ในสงิ่ ปลกู สร้างชนั้ 1 หรือส่งิ ปลกู สร้าง ชนั้ 2 ให้ถือเป็นสง่ิ ปลกู สร้างชนั้ 3 สถาบนั ประกนั ภยั ไทย บทที่ 3/20


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook