Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาการดำเนินงานการท่องเทียวเดินป่า

วิชาการดำเนินงานการท่องเทียวเดินป่า

Published by nuengrutaiw, 2021-02-01 08:38:16

Description: วิชาการดำเนินงานการท่องเทียวเดินป่า

Keywords: เดินป่า,การท่องเที่ยว,ท่องเที่ยวเดินป่า

Search

Read the Text Version

ธรรมชาตสิ รา้ งสรรค์ (ภาคกลาง) ภาคกลางเป็ นภูมิภาคที่ตอ้ งใช้ องคป์ ระกอบทางธรรมชาติสาหรบั การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แบ่ง ออกเป็ น 2 ส่วนใหญ่ๆตามลกั ษณะ คือ 1. ทรี่ าบภาคกลางตอนบน คือ สว่ นที่ อยูเ่ หนือจงั หวดั นครสวรรคข์ ้ ึนไป 2. ท่ีราบภาคกลางตอนล่าง คือ ส่วน ท่ีอยใู่ ตจ้ งั หวดั นครสวรรคล์ งมา

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคกลาง) • ท่ีราบภาคกลางสี่แคว เป็ นท่ีราบที่ซึ่งสะสมตะกอนจากแคว ปิ ง วงั ยม น่าน ลกั ษณะเดน่ คือช่วงสง่ เสรมิ สนบั สนุนการท่องท่ียว ศิลาแลง ใหเ้ ป็ นท่ีสรา้ งสถาปัตยกรรมที่ยง่ิ ใหญ่ ของ กาแพงเพชร และ สุโขทยั รวมไปถึงศรสี ชั นาลยั

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคกลาง) • ท่ีราบดจุ มหานที ธรรมชาติถูกสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการสะสมตะกอนทะเล เก่าและทบั ถมดว้ ยตะกอนน้าจืดจากแม่น้าใหญ่ 4 สาย คือเจา้ พระยา บางปะกง ท่าจีน และ แม่น้ากลอง ธรรมชาติส่วนน้ ีท่ีก่อใหเ้ กิดการ ท่องเท่ียวในเชิงรากฐานวิถีชีวิตลุ่มแม่น้า เช่น ชุมชนโบราณ ซึ่ง สว่ นมากจะเก่ียวขอ้ งทางประวตั ศิ าสตร์ อยุธยา ลพบุรี และ ทวารวดี

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคกลาง) • ชายฝัง่ สามสมุทร ภาคกลางมีลกั ษณะเฉพาะภายใตอ้ ิทธิพลน้า ทะเลข้ ึนทาใหแ้ ผ่นดินชุ่มเป็ นบางเวลา และแหง้ ในบางโอกาส จึง ทาใหม้ ีลกั ษณะทางธรรมชาติที่มีอิทธิพลของน้าเค็มและน้ากรอ่ ย เช่น การทานาเกลือ บ่อกุง้ ฟารม์ หอย การประมง ป่ าชายเลน

ธรรมชาตสิ รา้ งสรรค์ (ภาคตะวนั ออก) ภาคตะวันออกมีธรรมชาติที่โดนเด่นและเป็ นเอกลักษณ์ และที่มีช่ือเสยี งสว่ นมากจะเก่ียวขอ้ งกบั ทะเล ชาดหาด เกาะ และ สวนผลไม้

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ออก) • ชายฝัง่ จตั ุรมุข คือ แนวชายฝัง่ ต้งั แต่จงั หวัดชลบุรีถึงสัตหีบ เพราะมีส่วนแผ่นดินที่เรียกว่า แหลม ที่ยื่นลงไปในทะเลช่วงน้ ี 4 แหลมคือ แหลมแทน แหลมฉบงั แหลมเขาพระ และ แหลมกลมุ่ เกาะสตั หีบ

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ออก) • ชายฝัง่ ฉา่ วารี คือลกั ษณะชายฝัง่ หาดเลน หาดโคลน เพราะ พ้ ืนท่ีชายฝัง่ มีแม่น้าคลองไหลลงทะเลเป็ นจานวนมาก จึงเป็ น แหล่งท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมเช่น ท่องป่ าชายเลน ตกปลาตาม กลมุ่ เกาะวิถีชีวิตชายประมง

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ออก) • อุทยานหินอัคนี แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออกเป็ นสถานท่ี ทอ่ งเทีย่ วที่สาคญั มีมีภูเขาสูงมีป่ าไมต้ า่ งๆปกคลุมโครงสรา้ งสว่ น ใหญ่จะเป็ นหินอคั นีประเภทหินแกรนิตซึ่งมีความสาคัญในบริบท ของแห่งตน้ น้าลาธาร

ธรรมชาตสิ รา้ งสรรค์ (ภาคตะวนั ตก) • พ พ้ ืนทภ่ี ูเขาตะวนั ตกไดช้ ื่อว่าเป็ นตน้ น้าลาธารภาคตะวนั ตก มี ภเู ขาสูงสลบั ซบั ซอ้ นจงึ มีภมู ิประเทศแบบชายฝัง่ เขา้ มาสรา้ งความ หลากหลายและเป็ นเอกลกั ษณ์

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ตก) • เทือกเขาอุทยาน เป็ นภูเขาสบั ซบั ซอ้ น มีท้งั ป่ าดิบช้ นื ดิบแลง้ ดิบ เขา ป่ าสน เบญจพรรณ ดงั น้ันภาคตะวนั ตกจึงมีอุทยานแห่งชาติ และเขตรกั ษาพนั ธุส์ ตั วป์ ่ า ที่สมบูรณท์ ี่สุด

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ตก) • แผ่นดินหินปูน ภาคตะวันตกมีแหล่งท่องเท่ียวท่ีสวยงามและ เป็ นที่รูจ้ กั 2 ประเภทคือ ถ้า และ น้าตก สภาพภูมิประเทศเกิด กบั หินปูนโดยตรง

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ตก) • ชายฝัง่ หาดทราย สนั ทราย ทะเลสาบ ลกั ษณะสณั ฐานหลัก คือมีชายหาดท่ียาว มีหาดทรายมากกว่าหิน หรือ หาดเลนซ่ึงจะ แตกตา่ งจากฝัง่ ตะวนั ตกทเี่ ป็ นหาดเลน

องคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรคธ์ รรมชาติ (ภาคตะวนั ตก) • ชายฝัง่ เกาะแก่งและแอ่งอ่าว เป็ นชายฝัง่ ท่ีมีคุณลักษณะ พิเศษมีลกั ษณะเด่นๆ เช่นหมู่เกาะสิมิลนั หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะ ภูเก็ต

การจดั การเขตการทอ่ งเท่ยี ว

การจาแนกพื้นทใ่ี นเขตอุทยานแห่งชาติ หลักการกาหนดเขต (zoning) ของพื้นท่ีธรรมชาติ คือการสงวนรักษาไว้ซ่ึงสภาพเดิมที่สุด โดยใน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเขา้ ไปใช้พ้ืนที่เพ่ือ การศกึ ษาวิจัย และเพ่ือการพกั ผอ่ นด้วย

การจาแนกพน้ื ท่ใี นเขตอุทยานแหง่ ชาติ 1. เขตการศกึ ษาวิจยั ทางวทิ ยาศาสตร์/เขตคุ้มครองธรรมชาตเิ ขม้ งวด เป็นพื้นท่ีธรรมชาติมีพืชพันธุ์/หรือสัตว์ป่าที่ต้องการการคุ้มครอง วัตถุประสงค์เพ่ือจัดแบง่ พื้นทางการศึกษาวิจัยและตรวจสอบติดตามสภาวะ แวดล้อม ป้องกันรักษาระบบนิเวศและทรัพยากรพันธุกรรมที่เปราะบางเป็น พิเศษ เป็นเขตจัดการที่เข้มงวดไม่อนุญาตให้มีถนนหรือการใช้ยานยนต์ทุก ประเภท

การจาแนกพ้นื ท่ีในเขตอทุ ยานแหง่ ชาติ 2. เขตสันโดษ/เขตป่าเปล่ียวหรือเขตอนุรักษ์สภาพแวดล้อมธรรมชาติ เป็นพ้ืนที่ที่มีองค์ประกอบของระบบนิเวศที่เด่นเป็นพิเศษ ถูก รบกวนโดยมนุษย์น้อยมาก ได้รับการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ด้านการ ท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ โดยจากัดให้มีส่ิงอานวยความสะดวก และ ประกอบกิจกรรมได้น้อยมาก เป็นเขตการท่ีเข้มงวดไม่ให้มีถนนหรือ การใช้ยานยนตท์ กุ ประเภท

การจาแนกพ้นื ทใี่ นเขตอทุ ยานแหง่ ชาติ 3. เ ข ต นั น ท น า ก า ร ห รื อ เ ข ต ก า ร ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ท่ั ว ไ ป เป็นพ้ืนที่ท่ีส่วนใหญ่ธรรมชาติอาจมีบางส่วนท่ีถูกเปล่ียนแปลงไป บ้างมีทิวทศั นส์ วยงาม สามารถประกอบกจิ กรรมนนั ทนาการได้ แต่ไม่ เหมาะสาหรับคนหมู่มากบุคคลทั่วไปเข้าถึงได้โดยไม่เข้มงวดมากนัก และ จัดให้มีเส้นทางเข้าถึงและส่ิงอานวยความสะดวกต่างๆ รองรับ กิจกรรมนันทนาการ

การจาแนกพน้ื ที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ 4. เ ข ต ก า ร ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ อ ย่ า ง เ ข้ ม ข้ น ห รื อ เ ข ต บ ริ ก า ร เป็นเขตพื้นที่ธรรมชาติท่ีได้ถูกดัดแปลงสามารถรองรับกิจกรรมท่ีมี คนหมู่มาก มีการพัฒนาสิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ วัตถุประสงค์ หลักเพ่ือส่งเสริมการส่ือความหมายธรรมชาติ การเรียนรู้ และ กิจกรรมนันทนาการ แบบโดยไม่ทาลายความงดงามตามธรรมชาติ และกอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยท่ีสุดเทา่ ท่จี ะเป็นไปได้

การจาแนกพื้นทใ่ี นเขตอทุ ยานแหง่ ชาติ 5. เขตบรหิ ารงาน เป็นบริเวณท่ีกาหนดให้เป็นสถานที่ที่ใช้ในการบริหารจัดการพ้ืนที่ ของเจ้าหน้าที่ทร่ี บั ผดิ ชอบวตั ถปุ ระสงค์หลักของการจัดการพ้ืนท่ีเขตนี้ เพ่ือจัดให้มีสถานท่ีที่เอื้ออานวยความสะดวกในงานการบริหารจัดการ พ้ืนที่ในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม เขต การจดั การนอี้ าจรวมอย่ใู นเขตการใช้ประโยชนแ์ บบเข้มงวดได้

การจาแนกพืน้ ที่ในเขตอทุ ยานแห่งชาติ 6. เขตฟนื้ ฟธู รรมชาติ เป็นบริเวณที่เคยถูกรบกวน หรือบุกรุกทาลายอย่างหนักมาก่อน จึงต้องการการฟ้ืนฟู ปรับปรุงส่ิงแวดล้อมให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติ โดยการปลูกพืชท้องถ่ินขึ้นมาทดแทนใหม่ วัตถุประสงค์หลักก็เพ่ือ ฟื้นฟูสภาพท่ีถูกทาลาย หรือถูกเปล่ียนแปลงให้กลับคืนสู่สภาพ ธรรมชาติให้ได้มากท่ีสดุ เท่าทีจ่ ะเป็นไปได้

การจาแนกพน้ื ทใ่ี นเขตอุทยานแห่งชาติ 7. เขตโบราณสถาน/โบราณวัตถุ เป็นพ้ืนที่ท่ีมีการค้นพบหลักฐานสาคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของการจดั การพ้นื ที่เขตน้ีกเ็ พือ่ ปอ้ งกัน สงวน รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุต่างๆ ท่ีปรากฏในสภาพแวดล้อมธรรมชาติเป็นมรดก ทางวัฒนธรรม และจัดให้ประชาชนท่ัวไปสามารถศึกษาหาความรู้ ได้ชื่นชมกับ ส่งิ เหลา่ น้ี

การจาแนกพืน้ ท่ใี นเขตอทุ ยานแห่งชาติ 8. เขตการใชป้ ระโยชนเ์ พ่อื วตั ถุประสงคพ์ ิเศษ เป็นเขตท่ีกันไว้สาหรับการใช้ประโยชน์ท่ีไม่ระบุหรือปรากฏในวัตถุประสงค์ ของการจัดการพื้นท่ีอนุรักษ์ประเภทนั้นๆ เช่น หมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ภายในพื้นที่ การใช้ประโยชน์ในราชการทหารหรอื หน่วยงานอน่ื ๆ เปน็ ต้น

การจาแนกพ้นื ที่ในเขตอทุ ยานแห่งชาติ 9. เขตกันชน เป็นเขตที่กาหนดขึ้นสาหรับเป็นกันชนระหว่างพนื้ ที่อนรุ ักษ์/ทรพั ยากรในพน้ื ท่ี กบั ผลกระทบตา่ งๆท่อี าจเกดิ ขน้ึ จากการใชป้ ระโยชนท์ ี่ดินนอกพืน้ ท่อี นุรักษ์ เขต กนั ชนน้ีไมจ่ าเปน็ ต้องเป็นพ้ืนท่ธี รรมชาตเิ สมอไป อาจเปน็ พ้นื ท่ีทมี่ ีกจิ กรรมการใช้ ประโยชนท์ ดี่ นิ รูปแบบอื่นๆ กไ็ ดแ้ ต่ตอ้ งไม่สง่ ผลกระทบเข้าไปสูพ่ ืน้ ทอ่ี นรุ ักษ์

การสื่อความหมายธรรมชาติ

การสื่อความหมายธรรมชาติ • องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร ผสู้ ่งสาร สื่อ/ช่องทาง ขอ้ มูล Sender Channel ป้อนกลบั Feedback สาร ผรู้ บั สาร Message Receiver ใคร >> กล่าวอะไร >> ช่องทางใด >> ถึงใคร >> ผลเป็ นอยา่ งไร

การสอ่ื ความหมายธรรมชาติ • การส่ือความหมายธรรมชาติ หมายถึง การนาเทคนิคหรือวิธีการอัน เหมาะสมมาใช้ในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและ ผลผลิตทางวัฒนธรรมในลักษณะท่ีง่ายต่อความเข้าใจของนักท่องเท่ียว ท้ังน้ีเพ่ือให้เกิดความเพลิดเพลินและเป็นการกระตุ้นคนเหล่าน้ันให้เกิด ความร้สู กึ รกั หวงแหน และมีจติ อนรุ ักษ์

การสื่อความหมายธรรมชาติ • วัตถุประสงค์ของการสื่อความหมายความหมายธรรมชาติแบ่งออกเป็น 3 ประการ หลักไดแ้ ก่ 1. เพื่อช่วยให้ผู้มาเยอื นอุทยานแห่งชาติได้เข้าใจตระหนักและพึงพอใจเกี่ยวกับพื้นที่และ ทรัพยากร ซึ่งจะทาใหผ้ ู้มาเยือนเพลดิ เพลนิ ไดร้ บั ประสบการณ์ท่ีดแี ละมีคณุ คา่ กลับไป 2. เพื่อช่วยสนับสนุนการจัดการพื้นท่ีในลักษณะต่างๆ เช่น สามารถใช้เป็นเครื่องมือ ส่งเสริมแนะนาผู้มาเยือนให้รู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างถูกต้อง หลีกเล่ียงการใช้ พ้นื ที่เปราะบางและชว่ ยลดผลกระทบตอ่ ระบบนิเวศชนดิ ต่างๆในพืน้ ที่ เปน็ ต้น

การสอ่ื ความหมายธรรมชาติ • ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการสือ่ ความหมาย 1. การส่อื ความหมายชว่ ยเสรมิ ประสบการณต์ อ่ นกั ท่องเทย่ี ว 2. การส่ือความหมายจะทาให้นักท่องเท่ียวตระหนักถึงความสาคัญของพื้นที่ ทรพั ยากร และ สิง่ แวดลอ้ ม ชว่ ยใหน้ กั ท่องเทย่ี วเขา้ ใจมากยิง่ ขึ้น 3. การสอ่ื ความหมายจะช่วยเสริมความเขา้ ใจของนกั ท่องเท่ยี วในภาพรวมของ ทรัพยากรธรรมชาติในพ้ืนท่ี

การส่ือความหมายธรรมชาติ • ประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการสอ่ื ความหมาย (ตอ่ ) 4. การสื่อความหมายจะช่วยให้ข้อมูลต่อสาธารณะท่ีประกอบการวางแผนและตัดสินใจ อนั ชาญฉลาดในเรอ่ื งที่เกย่ี วกบั การจัดการธรรมชาติ 5. การสื่อความหมายจะลดค่าเสียหายท่ีเกิดจากพฤติกรรมของนักท่องเท่ียวซ่ึงจะส่งผล ใหต้ ้นทุนในการดูแลบารงุ รกั ษาพ้นื ท่ีลดลง 6. การสือ่ ความหมายสามารถใชเ้ ป็นวิธกี ารในการกระจายนกั ท่องเที่ยว

การสื่อความหมายธรรมชาติ • ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการสื่อความหมาย (ต่อ) 7. การสอื่ ความหมายเปน็ วิธกี ารหนึ่งทีส่ ร้างภาพพจน์ตอ่ สาธารณะ 8. การสื่อความหมายจะชว่ ยใหน้ กั ทอ่ งเท่ยี วเกดิ ความภาคภมู ใิ จในทรพั ยากร ธรรมชาตแิ ละ วฒั นธรรมของพื้นที่ 9. การสื่อความหมายจะชว่ ยส่งเสรมิ การท่องเทย่ี วแบบยงั่ ยืนในพื้นทน่ี ันทนาการ คุ้มครองใน ยามท่ีการทอ่ งเทยี่ วเป็นกลไกลก่อใหเ้ กิดรายได้ 10. การสือ่ ความหมายจะชว่ ยเสริมประสทิ ธิภาพในการค้มุ ครองพนื้ ทธี่ รรมชาติและประวัติศาสตร์

การสือ่ ความหมายธรรมชาติ • ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการสื่อความหมาย (ต่อ) 11. การส่อื ความหมายจะกระตุ้นให้สาธารณะเขา้ มาร่วมในการคมุ้ ครอง สงิ่ แวดลอ้ มโดยวิธกี ารสร้างแรงจูงใจ

หลักพนื้ ฐานในการสือ่ ความหมาย 1. การสอื่ ความหมายไม่ใชก่ ารส่งั สอน แตเ่ ปน็ การกระตนุ้ ความรู้สึก อารมณร์ บั รแู้ ละเขา้ ใจ 2. ต้องคานงึ ถึงลกั ษณะพืน้ ฐานของกลมุ่ และขอบเขตของนักท่องเทยี่ ว 3. การให้ข้อมลู ขา่ วสารและข้อเทจ็ จริงไม่ใช่การสอ่ื ความหมาย แตก่ ารส่ือ ความหมายต้องอาศยั ขอ้ มูลและขอ้ เทจ็ จรงิ 4. ควรใชว้ ิธีการหลากหลายในการสือ่ ความหมาย เช่น บุคคล เทคนคิ วิธกี ารและความเหมาะสมของทรพั ยากร ขีดจากดั ในการบรหิ าร 5. การสอ่ื ความหมายมุ่งท่จี ะเสนอในความหมายรวมไม่ใชแ่ ค่บางส่วน

หลักพื้นฐานในการสอื่ ความหมาย 6. การส่อื ความหมายของเด็กควรใช้วธิ กี ารแตกต่างจากผใู้ หญ่ 7. ตอ้ งใชส้ งิ่ ทมี่ อี ยู่รอบตวั สาหรับการบอกเล่าหรือสือ่ ความหมาย 8. ควรมีการพฒั นารูปแบบและวธิ กี ารนาเสนอท่นี า่ สนใจ 9. กิจกรรมการส่ือความหมายจาเป็นตอ้ งใช้ความรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์ และดา้ นศลิ ปะประกอบกัน 10. ต้องมีการจดั การระบบระเบียบของเนือ้ หาสาระให้ง่ายต่อการเขา้ ใจ 11. ต้องสามารถถ่ายทอดความสาคัญของพ้ืนทีใ่ ห้นกั ท่องเที่ยวได้ทราบและ ตระหนกั ถงึ

หลักพ้นื ฐานในการสื่อความหมาย 12. การออกแบบสอื่ ตอ้ งวางแผนไปถึงอนาคตถึงหวั ขอ้ ของการส่อื ความหมาย วิธกี าร สถานที่ งบประมาณ ส่ิงอานวยความสะดวก

รูปแบบของการสอ่ื ความหมาย • สื่อหรือตวั กลางส่อื ความหมาย หมายถงึ วธิ กี าร อุปกรณ์ และเครื่องมือท่ี ใช้ในการสอื่ ความหมายที่จะให้ขอ้ มลู ขา่ วสาร จาแนกได้ 2 กลมุ่ หลัก 1. การใชบ้ ุคคลในการใหบ้ รกิ าร (Personal Services) 2. การให้บริการโดยไมใ่ ช้บคุ คล (Non-Personal Services)

สิง่ อานวยความสะดวก / กจิ กรรมสนับสนุน ในการส่อื ความหมาย • ศูนย์บริการนกั ทอ่ งเท่ยี ว ลานแสดงกลางแจง้ เส้นทางเดินชมธรรมชาติ ป้ายใหข้ อ้ มลู เครือ่ งหมาย • สื่อ อปุ กรณแ์ สงสีเสียง ผูป้ ระเมนิ ผล

การดาเนินชีพในป่ า

อปุ กรณพ์ ้ นื ฐานในการยงั ชีพในป่ า

1.เตน็ ท์ หรือเปล • เปลมุง้

1. เตน็ ท์ หรอื เปล

1. เตน็ ท์ หรอื เปล

2. ถงุ นอน

3. ฟลายชีท

4. ผา้ ปูพ้ ืน

5. หมอ้ สนาม

6. กระตกิ น้า

7. ท่ีกรองน้า

8. ไฟฉาย

9. เทยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook