ลกั ษณะการ ทเี่ นน้ ผเู้ รยี น 1. Active Learning เป็ ผกู ้ ระทาหรอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยต กระตอื รอื รน้ เชน่ ไดค้ ดิ ค ทาโครงการ สมั ภาษณ์ แ ประสาทสมั ผัสตา่ งๆ ผสู ้ บรรยากาศการเรยี นรู ้ จัดส คาปรกึ ษาและสรปุ สาระก
รจดั กจิ กรรม นเป็ นสาคญั ปนกจิ กรรมทผี่ เู ้ รยี นเป็ น ตนเอง ดว้ ยความ คน้ ควา้ ทดลองรายงาน แกป้ ัญหา ฯลฯ ไดใ้ ช ้ สอนทาหนา้ ที่ เตรยี มการจัด สอื่ สง่ิ เรา้ เสรมิ แรงให ้ การเรยี นรรู ้ ว่ มกนั
(ตอ่ ) 2. Construct เป็ นกจิ กรรมท สาระสาคญั หรอื องคก์ ารความ ไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ ทดลอง แลก ปฏบิ ตั จิ รงิ ทาใหผ้ เู ้ รยี นรักกา เกดิ ทกั ษะในการแสวงหาคว การเรยี นรู ้ ซง่ึ นาไปสกู่ ารเป็ น (Learning Man) ทพี่ งึ ประส
ทผี่ เู ้ รยี นไดค้ น้ พบ มรใู ้ หมด่ ว้ ยตนเอง จากการ กเปลยี่ นเรยี นรแู ้ ละลงมอื ารอา่ น รักการศกึ ษาคน้ ควา้ วามรู ้ เห็นความสาคญั ของ นบคุ คลแหง่ การเรยี นรู ้ สงค์
(ตอ่ ) 3. Resource เป็ นกจิ กรรม แหลง่ เรยี นรตู ้ า่ งๆทห่ี ลากห เครอ่ื งมอื ทงั้ ในหอ้ งเรยี นแล ไดส้ มั ผัสและสมั พันธก์ บั สง่ิ (เชน่ ชมุ ชน ครอบครัว องค เทคโนโลยี ตามหลกั การท ทกุ ทที่ กุ เวลาและทกุ สถาน
มทผ่ี เู ้ รยี นไดเ้ รยี นรจู ้ าก หลายทงั้ บคุ คลและ ละนอกหอ้ งเรยี น ผเู ้ รยี น งแวดลอ้ มทงั้ ทเี่ ป็ นมนุษย์ คก์ รตา่ งๆ) ธรรมชาตแิ ละ ทว่ี า่ \"การเรยี นรเู ้ กดิ ขนึ้ ได ้ นการณ์\"
(ตอ่ ) • 4. Thinking เป็ นกจิ กรรม หลายลกั ษณะ เชน่ คดิ หลา ชดั เจน คดิ ลกึ ซงึ้ คดิ อยา่ งม ในลกั ษณะตา่ งๆ จะทาใหผ้ แกป้ ัญหาเป็ น มเี หตผุ ลในก การคดิ วเิ คราะห์ สามารถแส ชดั เจนและมเี หตผุ ลอนั เป็ น ชวี ติ ประจาวนั (ทศิ นา แขมมณ
มใหผ้ เู ้ รยี นไดฝ้ ึกวธิ คี ดิ ใน ากหลาย คดิ ละเอยี ด คดิ มเี หตผุ ล เป็ นตน้ การฝึกคดิ ผเู ้ รยี นเป็ นคนคดิ เป็ น การคดิ มคี วามสามารถใน สดงความคดิ เห็นไดอ้ ยา่ ง นประโยชนต์ อ่ การดารง ณี และคณะ, 2543)
(ตอ่ ) 5. Happiness ผเู ้ รยี นไดเ้ รยี ไดเ้ รยี นในสง่ิ ทต่ี นสนใจ สาร คน้ ควา้ ศกึ ษาทา้ ทาย ใหไ้ ดแ้ ศกั ยภาพของตนอยา่ งเต็มทแ ผเู ้ รยี นกบั ผสู ้ อนและระหวา่ งผ ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั มกี จิ รสู ้ กึ มคี วามสขุ และสนุกกบั กา
ยนอยา่ งมคี วามสขุ จากการที่ ระการเรยี นรู ้ ชวนใหส้ นใจใฝ่ แสดงความสามารถและใช ้ แี่ ละมปี ฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ ง ผเู ้ รยี นกบั ผเู ้ รยี น มกี าร จกรรมรว่ มกนั ทาใหผ้ เู ้ รยี น ารเรยี น
• 6. Participation ผเู ้ รยี กาหนดงาน วางเป้าหมายร ทางานหรอื ศกึ ษาคน้ ควา้ ใน ความสามารถ ความสนใจข เรยี นดว้ ยความกระตอื รอื รน้ เรยี นและสามารถประยกุ ตค์ ชวี ติ จรงิ
ยนมสี ว่ นรว่ มในการวางแผน รว่ มกนั และมโี อกาสเลอื ก นเรอื่ งทตี่ รงกบั ความถนัด ของตนเอง ทาใหผ้ เู ้ รยี น น มองเห็นคณุ คา่ ของสง่ิ ท่ี ความรนู ้ าไปใชป้ ระโยชนใ์ น
7. Individualization ผสู ้ ในความเป็ นเอกกตั บคุ คล ผ ความคดิ เห็น ความแตกตา่ ง ใหผ้ เู ้ รยี นไดพ้ ัฒนาตนเองให เปรยี บเทยี บแขง่ ขนั ระหวา่ งก ทกุ คนมคี วามสามารถในการ ทแี่ ตกตา่ งกนั
สอนใหค้ วามสาคญั แกผ่ เู ้ รยี น ผสู ้ อนยอมรับในความสามารถ งระหวา่ งบคุ คลของผเู ้ รยี น มงุ่ หเ้ ต็มศกั ยภาพมากกวา่ กนั โดยมคี วามเชอื่ มน่ั ผเู ้ รยี น รเรยี นรไู ้ ด ้ และมวี ธิ กี ารเรยี นรู ้ http://www.sut.ac.th/tedu/news/Activity.html
8. Good Habit เป็ นกจิ ก คณุ ลกั ษณะนสิ ยั ทดี่ งี าม เ มเี มตตากรณุ า ความมนี ้าใ ระเบยี บวนิ ัย ความเสยี สล ทางานอยา่ งเป็ นกระบวนก การยอมรับผอู ้ นื่ เป็ นตน้
กรรมทผ่ี เู ้ รยี นไดพ้ ัฒนา เชน่ ความรับผดิ ชอบ ความ ใจ ความขยัน ความมี ละ และ ลกั ษณะนสิ ยั ในการ การ การทางานรว่ มกบั ผอู ้ นื่
ลกั ษณ การจดั เรยี นการ การสอนภาคปฏบิ ตั ิ การสอนในสถานการณจ์ รงิ นาวธิ กี ารสอนในชน้ั เรยี น มา ประยกุ ตร์ ว่ มกบั การอภปิ ราย และการทางานกลมุ่ พฒั นาทกั ษะพสิ ยั และ จติ พสิ ยั ผเู้ รยี น ใหม้ คี วาม สนใจ มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ การ ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล
ณะสาคญั รสอนภาคปฏบิ ตั ิ
รปู แบบการเรยี นก (Memo ขน้ั ท1่ี การสงั เกต ขนั้ ท2ี่ หรอื ศกึ ษาเนอื้ หา สรา้ งค เชอ่ื มโ อยา่ งตงั้ ใจ
การสอนเนน้ ความจา ory Model) การ ขนั้ ท3ี่ การใช้ ความ จนิ ตนาการ โยง ขนั้ ท4่ี การฝึ ก ใชเ้ ทคนคิ ตา่ งๆ
รปู แบบการเรยี นการสอนท (Affective รปู แบบการเรยี นการสอนตามแนวคดิ การพ (Instructional Model Based on Bloom ขน้ั ท่ี 1 การรบั รคู้ า่ นยิ ม ผสู ้ อนจัดประสบการ คา่ นยิ ม ควรพยายามกระตนุ ้ ใหผ้ เู ้ รยี นเกดิ พฤต 1) การรตู ้ วั 2) การเต็มใจรับรู ้ 3) การควบคมุ ก ขนั้ ท่ี 2 การตอบสนองตอ่ คา่ นยิ ม ผสู ้ อนจัด ตอ่ คา่ นยิ มในลกั ษณะใดลกั ษณะหนง่ึ ควรพยา 1) การยนิ ยอมตอบสนอง 2) การเต็มใจตอบส
ทเ่ี นน้ การพฒั นาดา้ นจติ พสิ ยั e Domain) พัฒนาดา้ นจติ พสิ ยั ของบลมู m’s Affective Domain) รณห์ รอื สถานการณท์ ช่ี ว่ ยใหผ้ เู ้ รยี นไดร้ ับรู ้ ตกิ รรมดงั นี้ การรับรู ้ ดสถานการณ์ใหผ้ เู ้ รยี นมโี อกาสตอบสนอง ายามกระตนุ ้ ใหผ้ เู ้ รยี นเกดิ พฤตกิ รรมดงั นี้ สนอง 3) ความพงึ พอใจในการตอบสนอง
(ตอ่ ) ขน้ั ที่ 3 การเห็นคณุ คา่ ของคา่ นยิ ม ผสู ้ ลองปฏบิ ตั ติ ามคา่ นยิ ม เห็นประโยชนห์ รอื 1) การยอมรับในคณุ คา่ 2) การชนื่ ชอบใน ขน้ั ท่ี 4 การจดั ระบบคา่ นยิ ม ผเู ้ รยี นเห็นคณุ รับคา่ นยิ มมาใชใ้ นชวี ติ ของตน กระตนุ ้ ใหผ้ เู ้ รยี 1) การสรา้ งมโนทศั นใ์ นคณุ คา่ 2) การจัดระ ขนั้ ที่ 5 การสรา้ งลกั ษณะนสิ ยั ผสู ้ อนสง่ เสร และการเสรมิ แรงเป็ นระยะจนกระทง่ั ผเู ้ รยี นสาม พฤตกิ รรมดงั น้ี 1) การมหี ลกั ยดึ ในการตดั สนิ ใจ 2) การปฏบิ ในขนั้ ตอนทงั้ 5 ไมส่ ามารถทาไดใ้ นระยะเวลา และ 5 ตอ้ งการเวลาในการปฏบิ ตั ิ ซง่ึ แตกตา่ งก
สอนจดั ประสบการณห์ รอื สถานการณใ์ ห ้ อโทษ กระตนุ ้ ใหผ้ เู ้ รยี นเกดิ พฤตกิ รรมดงั น้ี นคณุ คา่ 3) ความผกู พันในคณุ คา่ ณคา่ ของคา่ นยิ มและเกดิ เจตคตทิ ดี่ ตี อ่ คา่ นยิ ม ยนเกดิ พฤตกิ รรมสาคญั ดงั น้ี ะบบในคณุ คา่ นัน้ รมิ ใหผ้ เู ้ รยี นปฏบิ ตั ติ นตามคา่ นยิ มอยา่ งสมา่ เสมอ มารถปฏบิ ตั ไิ ดเ้ ป็ นนสิ ยั กระตนุ ้ ใหผ้ เู ้ รยี นเกดิ บตั ติ ามหลกั ยดึ นัน้ จนเป็ นนสิ ยั 3) การดาเนนิ การ าอนั สนั้ ตอ้ งอาศยั เวลาโดยเฉพาะในขนั้ ท่ี 4 กนั ไปในผเู ้ รยี นแตล่ ะคน
รปู แบบการเรยี นการสอนทเี่ น (Psycho-Mot รปู แบบการเรยี นการสอนตามแนวคดิ ก (Instructional Model Based on Simpso Develop ขนั้ ท่ี 1 ขนั้ การรบั รู้ ใหผ้ เู ้ รยี นรับรใู ้ นสง่ิ ทจี่ ะ อยา่ งตงั้ ใจ ขน้ั ที่ 2 ขนั้ การเตรยี มความพรอ้ ม เป็ นขนั้ แสดงพฤตกิ รรม โดยการปรบั ตวั ใหพ้ รอ้ มทจี่ อารมณ์ทดี่ ตี อ่ การทจ่ี ะทาหรอื แสดงทกั ษะ ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั การสนองตอบภายใตก้ ารควบ ตอ่ สง่ิ ทรี่ ับรู ้ ซงึ่ อาจใชว้ ธิ กี ารใหผ้ เู ้ รยี นเลยี นแ อาจใชว้ ธิ กี ารใหผ้ เู ้ รยี นลองผดิ ลองถกู จนกร
นน้ การพฒั นาดา้ นทกั ษะพสิ ยั tor Domain) การพัฒนาทกั ษะปฏบิ ตั ขิ องซมิ พซ์ นั on’s Processes for psycho-Motor Skill pment) ะทาโดยการใหผ้ เู ้ รยี นสงั เกตการทางานนัน้ นการปรบั ตวั ใหพ้ รอ้ มเพอื่ การทางานหรอื จะแสดงทกั ษะนัน้ และมจี ติ ใจและสภาวะ บคมุ ใหโ้ อกาสแกผ่ เู ้ รยี นในการตอบสนอง แบบการกระทา การแสดงทกั ษะนัน้ หรอื ระทง่ั สามารถตอบสนองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
(ตอ่ ) ขนั้ ท่ี 4 ขนั้ การใหล้ งมอื กระทาจนสามาร ประสบผลสาเร็จในการปฏบิ ตั ิ และเกดิ ความ ขนั้ ท่ี 5 ขน้ั การกระทาอยา่ งชานาญ ชว่ ย สามารถทาไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ ชานาญ เป็ ตนเอง ขนั้ ที่ 6 ขนั้ การปรบั ปรงุ และประยกุ ตใ์ ช้ ของตนใหด้ ยี ง่ิ ขน้ึ และประยกุ ตใ์ ชท้ กั ษะทต่ี ขนั้ ที่ 7 ขนั้ การคดิ รเิ รม่ิ เมอื่ ผเู ้ รยี นสามาร และสามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ นสถานการณท์ หี่ ล ใหมใ่ นการกระทาหรอื ปรบั การกระทานัน้ ใหเ
รถกระทาไดเ้ อง เป็ นขนั้ ทชี่ ว่ ยใหผ้ เู ้ รยี น มเชอ่ื มน่ั ในการทาสง่ิ นัน้ ยใหผ้ เู ้ รยี นไดฝ้ ึกฝนการกระทานัน้ จนผเู ้ รยี น ปนไปโดยอตั โนมัติ และดว้ ยความเชอ่ื มั่นใน ชว่ ยใหผ้ เู ้ รยี นปรับปรงุ ทกั ษะหรอื การปฏบิ ตั ิ ตนไดร้ ับการพัฒนาในสถานการณ์ตา่ งๆ รถปฏบิ ตั หิ รอื กระทาสง่ิ ใดไดอ้ ยา่ งชานาญ ลากหลายแลว้ ผปู ้ ฏบิ ตั จิ ะเรม่ิ เกดิ ความคดิ เ้ ป็ นไปตามทต่ี นตอ้ งการ
รปู แบบการเรยี นการสอนกระ ตามแนวคดิ ของทอรแ์ รนซ์ (T Solving Instru ขน้ั ที่ 1 การนาสภาพการณอ์ นา ขน้ั ที่ 2 การระดมสมองเพอื่ คน้ ห ขนั้ ท่ี 3 การสรปุ ปัญหา และจัดล ขน้ั ท่ี 4 การระดมสมองหาวธิ แี ก ขนั้ ท่ี 5 การเลอื กวธิ กี ารแกป้ ัญห ขนั้ ที่ 6 การนาเสนอวธิ กี ารแกป้
ะบวนการคดิ แกป้ ญั หาอนาคต Torrance’s Future Problem uctional Model) าคตเขา้ สรู่ ะบบการคดิ หาปัญหา ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา กป้ ัญหา หาทดี่ ที ส่ี ดุ ปัญหาอนาคต
การสอนทเ่ี (Reflect •หมายถงึ สงิ่ ทส่ี ะ มองเห็นตนเองภา ตนเองดว้ ยวธิ กี าร การปฏบิ ตั งิ านขอ
เนน้ การสะทอ้ นคดิ tive practice) ะทอ้ นการกระทาทผ่ี ปู ้ ฏบิ ตั สิ ามารถ ายใตบ้ รบิ ทจากประสบการณข์ อง รเผชญิ เขา้ ใจและแกไ้ ขปัญหาจาก องตนเอง
ประโยชนข์ องการสะทอ้ นค 1.ทาใหบ้ คุ คลเป็ นอสิ ระจากการก 2.สามารถคาดการณส์ งิ่ ทจี่ ะเกดิ ข 3.เกดิ ความตระหนักในคณุ คา่ ขอ 4.เกดิ ความระมดั ระวงั ในการกระ การสะทอ้ นคดิ ใ พยาบาล เป็ นสง วเิ คราะหเ์ พอื่ กา สภาพการณจ์ รงิ
คดิ กระทาแบบเดมิ ขน้ึ ในอนาคต องสงิ่ นัน้ ๆ ะทาสง่ิ ตา่ งๆ มากขนึ้ ในการฝึกภาคปฏบิ ตั ขิ องนักศกึ ษา ง่ิ สาคญั มากเพราะนาไปสกู่ ารคดิ ารแกไ้ ขปัญหาบนพน้ื ฐานของ ง
รปู แบบการสอนโดยกา •ขน้ั ท1ี่ บรรยายสถานการณป์ ัญหาใน •ขน้ั ท2ี่ การแลกเปลย่ี นประสบการณ์ร การสงั เกต ความรสู ้ กึ และการรับรตู ้ อ่ ส •ขน้ั ท3่ี การประเมนิ วเิ คราะหป์ ระสบก •ขน้ั ท4่ี วเิ คราะหส์ ถานการณว์ า่ สง่ิ ทเี่ ก หลกั การทฤษฎที เ่ี กยี่ วขอ้ ง •ขน้ั ท5่ี สรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรจู ้ ากสถานก •ขน้ั ท6ี่ การวางแผนเพอื่ นาไปใชห้ าก เป็ นการบอกแผนการพัฒนาหรอื ปรับป
ารสะทอ้ นคดิ (Chong, 2009) นรายละเอยี ดทตี่ อ้ งการนามาศกึ ษา รว่ มกนั โดยการสะทอ้ นการคดิ จาก สถานการณท์ เี่ กดิ ขน้ึ การณ์ มกี ารอา้ งองิ ทฤษฎที เ่ี กย่ี วขอ้ ง กดิ ขนึ้ มกี ารอา้ งองิ และเชอ่ื มโยง การณ์ กเกดิ สถานการณซ์ า้ ปรงุ ใหด้ ขี น้ึ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมสะทอ้ นคดิ (อรญั ญา บญุ ธรรม และคณะ, 2558) ประกอบดว้ ยขอ้ คาถามจานวน 20 ขอ้ ลกั ษณะ คาตอบเป็ นแบบมาตรประมาณคา่ 4 ระดบั 1 =ไมเ่ คยทา 2 = ทานานๆครัง้ 3 = ทาบอ่ ยๆ 4 = ทาเป็ นประจา การแปลผลคะแนน คะแนน 1.00 – 1.50 มพี ฤตกิ รรมระดบั ตา่ คะแนน 1.51 – 2.50 มพี ฤตกิ รรมระดบั ปานกลาง คะแนน 2.51 – 3.50 มพี ฤตกิ รรมระดบั สงู คะแนน 3.51 – 4.00 มพี ฤตกิ รรมระดบั สงู มาก
ตวั อยา่ งงานวจิ ยั
สร การจัดกจิ กรรมการสอนภาค ผเู ้ รยี นเป็ นสาคญั เป็ นกจิ กรรม จากการเรยี น ไดพ้ ัฒนาตนเอ ประยกุ ตค์ วามรไู ้ ปใชป้ ระโยชน สนุกกบั การเรยี นรู ้ ตลอดจนม พงึ ปรารถนาเป็ นการพัฒนาคว ปรับตวั ใหอ้ ยกู่ บั ผอู ้ น่ื ไดอ้ ยา่ ง
รปุ คปฏบิ ตั ทิ หี่ ลากหลายทเ่ี นน้ มทผ่ี เู ้ รยี นไดร้ ับประโยชนส์ งู สดุ องอยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ ได ้ นใ์ นชวี ติ จรงิ ไดม้ คี วามสขุ และ มคี ณุ ลกั ษณะนสิ ยั ดตี ามทส่ี งั คม วามฉลาดทางอารมณ์ สามารถ งมคี วามสขุ
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม เอกสารประกอบการอบรม เรอ่ื ง หลักสตู รและการจดั การศกึ ษาสาขาพยาบาลศาสตร์ (Curriculum and Teaching Education in Nursing Science Program) จำนวน 3 ช่ัวโมง อาจารย์ผูส้ อน ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์วรางคณา สายสทิ ธิ์ เมื่อสิน้ สดุ การอบรม ผู้เข้าอบรมสามารถ 1. อธิบายองคป์ ระกอบของหลกั สูตรและการจัดการศึกษาภาคปฏิบัตไิ ด้ 2. อธิบายคณุ สมบตั ขิ องอาจารย์พี่เล้ียงภาคปฏบิ ัตไิ ด้ 3. วางแผนการใช้รูปแบบการฝกึ ปฏิบตั กิ ารพยาบาลโดยมีส่วนร่วมของอาจารย์พเี่ ลีย้ งสำหรบั นกั ศกึ ษา พยาบาลในการฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลทางคลินิกได้ บทนำ บณั ฑิตสาขาพยาบาลศาสตร์ เป็นผลท่ีเกิดจากกระบวนการจัดการเรียนการสอนทเ่ี ป็นไปตามมาตรฐาน คุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ ท้ังภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่เกิดขึ้นในห้องเรียน มหาวิทยาลัย และแหล่งฝึกปฏิบัติทางการพยาบาลท้ังระดบั ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ โดยครอบคลุมทุกมิติ ของการพยาบาล ทั้งนี้ การที่จะผลิตบัณฑิตสาขาพยาบาลศาสตร์จนสำเร็จไปเป็น “พยาบาลวิชาชีพ” ท่ีมีใบ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้น 1 ได้น้ัน จำเป็นอย่างย่ิงที่ต้องอาศัยความร่วมมือจาก บุคลากรหลากหลายสาขาและสหสาขาวิชาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ท่ีมีบทบาทสำคัญในแหล่งฝึกปฏิบัติการ พยาบาลคือพยาบาลพิเศษภาคปฏิบัติ หรืออาจารย์พี่เล้ียงภาคปฏิบัติ (preceptor) ต้องมีความรู้ความเข้าใจถึง กระบวนการต้ังแต่ตอนต้นของการฝึกปฏิบัติ ระหว่างดำเนินการฝึกปฏิบัติ และการประเมินผลเม่ือส้ินสุดฝึก ปฏบิ ัติ เพ่อื ใหน้ ำไปสู่การปรบั ปรุงและการพฒั นารว่ มกนั กบั อาจารย์พยาบาลตอ่ ไป
2 เนอ้ื หา ข้อมลู ทว่ั ไปของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม ปรัชญา “สนับสนุนการเรียนรู้ เสรมิ สร้างศกั ยภาพ สรา้ งสรรค์การเปล่ียนแปลง” วิสัยทศั น์ “คณะพยาบาลศาสตร์จะเปน็ สถาบันการศึกษาพยาบาลท่ีมีมาตรฐานวชิ าชพี เป็นเลิศด้วยคณุ ภาพในระดับสากล” เอกลักษณ์ : ให้การพยาบาลด้วยมาตรฐานวิชาชพี และคุณภาพในระดับสากล อัตลกั ษณ์ : พรอ้ มเรียนรู้ มจี ิตให้บริการ พนั ธกิจ 1. ผลติ บณั ฑติ พยาบาลนักปฏบิ ัติทีม่ คี ุณภาพ ไดร้ ับการยอมรับมาตรฐานวชิ าชีพและยดึ มั่นใน จริยธรรมแหง่ วชิ าชีพ 2. สนบั สนุนการเรียนรดู า้ นงานวจิ ยั ด้านงานบริการวิชาการ สร้างสรรคน์ วัตกรรมทางการ พยาบาล รว่ มกับเครือข่ายทางการพยาบาลเพื่อสขุ ภาวะชมุ ชนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. เสริมสรา้ งศกั ยภาพของบุคลากรและนักศกึ ษาให้ไดม้ าตรฐานการพยาบาลและยดึ ม่ันใน คุณธรรมจรยิ ธรรมแห่งวิชาชีพ มาตรฐานคณุ วุฒิระดบั ปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ ปัจจุบัน การผลิตบัณฑิตสาขาพยาบาลศาสตร์นั้น ได้องิ ตามกรอบของมาตรฐานคุณวุฒิการศึกษาระดับ ปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ พ.ศ.2562 หรือที่เรียกว่า “มคอ 1” เป็นฐานของการวางแผนจัดการเรียนการ สอน และการประเมินผลจนจบการศึกษา 4 ปี มีรายละเอียดท่ีสำคัญ ดังน้ี (ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ, 2560) 1. ช่อื สาขา พยาบาลศาสตร์ (Nursing Science) 2. ชอื่ ปริญญา ภาษาไทย : พยาบาลศาสตรบณั ฑติ (พย.บ.) ภาษาองั กฤษ : Bachelor of Nursing Science (B.N.S.) 3. คุณสมบตั ิผเู้ ขา้ ศกึ ษาในหลักสตู รพยาบาลศาสตรบณั ฑติ สำเรจ็ การศกึ ษาไม่ตำ่ กว่ามัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ขอ้ บงั คบั สภาการพยาบาล, 2562)จาก สถาบันการศึกษาท่ีกระทรวงศึกษาธิการให้การรับรองวิทยฐานะและมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือผู้ท่ีสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขาอื่นท่ีไม่ใช่สาขาการพยาบาล จากสถาบันการศึกษาที่ ได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ต้องมีระดับคะแนนเฉลี่ย สะสมระดับปรญิ ญาตรไี ม่ตำ่ กว่า 2.50
3 4. ลักษณะของสาขา สาขาพยาบาลศาสตร์เป็นวิชาชีพที่ต้องปฏิบัติโดยตรงต่อชีวิต สุขภาพและอนามัยของประชาชน ด้วย ความเอาใจใส่ อย่างเอื้ออาทร จำเป็นต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ทางการพยาบาล การผดุงครรภ์ศาสตร์ ท่ีเก่ียวข้อง และหลักฐานเชงิ ประจักษเ์ พ่อื ให้การพยาบาลองคร์ วมแกผ่ รู้ ับบริการที่เป็นบุคคล ครอบครัว และชุมชน ในทุกมติ ิ ทกุ ภาวะสขุ ภาพ และทุกชว่ งชวี ิต โดยคำนึงถึงความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมของผู้รับบริการ การเปล่ยี นแปลงของ สังคม ความก้าวหน้าของศาสตร์ทางการพยาบาล ศาสตร์ที่เก่ียวข้อง และเทคโนโลยี ทางการแพทย์รวมถึง เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สนองตอบความต้องการของประชาชนและผู้รับบริการสุขภาพ ท้ังน้ีการปฏิบัติการ พยาบาลต้องยึดม่ันในจรรยาบรรณวิชาชีพและความเท่าเทียมกันของคุณค่าชีวิตมนุษย์ ดังน้ัน การจัดการเรียน การสอนจึงเน้นการฝึกปฏิบัติการพยาบาลทั้งในสถานการณ์จําลองเสมือนจริง และสถานการณ์จริง เพ่ือให้มี ความปลอดภยั ตอ่ ชวี ติ ของผ้รู ับบริการสขุ ภาพ 5. คุณลกั ษณะบณั ฑิตทพ่ี ึงประสงค์ โดยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม มี วตั ถุประสงค์ในการผลิตบัณฑติ ดงั น้ี 5.1 มีความรู้ในศาสตรก์ ารพยาบาลและศาสตรท์ ี่เกี่ยวขอ้ ง 5.2 เจตคติทีด่ ีและมจี ติ ให้บรกิ าร 5.3 มที ักษะปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลตามกระบวนการพยาบาลด้วยมาตรฐานวชิ าชพี และคุณภาพโดย คำนึงถึงความแตกต่างด้านวัฒนธรรม 5.4 มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามจรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาล 5.5 มคี วามสามารถคดิ วิเคราะห์อยา่ งเป็นระบบ สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและเทคโนโลยี ดจิ ิทัล เพือ่ ส่ือสารด้านสุขภาพ และพฒั นานวตั กรรมทางการพยาบาล 5.6 มภี าวะผู้นำ มีทกั ษะการทำงานเปน็ ทมี มมี นุษย์สัมพนั ธ์ และสามารถใหค้ ำปรกึ ษาทางด้าน สขุ ภาพได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 6. มาตรฐานผลการเรยี นรู้ ในการจัดการเรยี นการสอนสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพน้นั จำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรฐานผลการเรียนรู้ และวัดประเมินผลเมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอน โดยผลการ เรียนรู้ท่ีกำหนดในมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรีสาขาพยาบาลศาสตร์ เป็นแนวทางในการกำหนดผลการ เรียนรู้ระดับหลักสตู ร (มคอ.2) ซึ่งแต่ละสถาบนั การศึกษาจะกำหนดผลการเรียนรู้ระดับหลกั สตู รอย่างสอดคล้อง กับปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและกระจายความรับผิดชอบผลการเรียนรู้ระดับหลักสูตร สู่รายวิชา ต่างๆ (มคอ 3 ในวิชาทฤษฎี และ มคอ 4 ในวิชาปฏิบัติ) ทั้งน้ีผลการเรยี นรู้ของหลักสูตรท่สี ถาบันกำหนดจะต้อง สนองตอบความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน ผู้ใช้บัณฑิต หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์ในการ บรหิ ารจดั การการศกึ ษาภายในสถาบัน และเป็นการรองรบั การประเมนิ ตามมาตรฐานสากลต่อไป โดยมีมาตรฐานผลการเรียนรู้ทางการเรียนการสอนภาคทฤษฎี 5 ดา้ น (ดา้ นที่ 1-5) สำหรบั ภาคปฏบิ ัตมิ ี 6 ดา้ น (ด้านท่ี 1-6) ดังนี้ (คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม, 2562) (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 แสดงมาตรฐานผลการเรยี นรู้ มาตรฐานผลการเรียนรู้ กลยุทธก์ ารสอนที่ใช้พฒั นาการเรยี น 1. ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม 1) มคี วามซื่อสตั ย์ มวี นิ ยั ตรงตอ่ เวลา 1) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในทุกรายวิชาทา 2) มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสงั คม ผู้เรียนมีสว่ นร่วม 3) สามารถใช้ดุลยพินิจในการจัดการประเด็น 2) เนน้ การเรยี นรจู้ ากสถานการณจ์ รงิ หรอื ปัญหาทางจรยิ ธรรม 3) เรียนจากบทบาทสมมุติ และกรณีตัวอยา่ งที่ครอบ 4) แสดงออกถึงการเคารพ คุณ ค่า ความ ปญั หาด้านคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมท้ังในวิชาชพี และก แตกต่าง และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของ 4) สร้างวฒั นธรรมองค์กร เช่น เร่ืองการแต่งกาย ระ ผู้อืน่ และตนเอง 5) ฝกึ ความรับผิดชอบในการทำงานเปน็ กลุ่ม 5) แสดงออกถึงการมีจิตสาธารณะ คำนึงถึง 6) สอดแทรกประเดน็ คณุ ธรรมจริยธรรมทุกรายวิชา สว่ นรวมและสังคม 6) แสดงออกถึงการมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพการ พยาบาล ตระหนกั ในคุณคา่ วชิ าชีพและสทิ ธิของ พยาบาล 2. ความรู้ 1) มีความรอบรู้และเข้าใจในสาระสำคัญของ 1) เน้นการสอนโดยมีกิจกรรมให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วย ศาสตร์ท่ีเป็นพ้ืนฐานชีวิตทั้งด้านสังคมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และกลวิธกี ารสอนท่ีหลากหล มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ 2) เนน้ การเรยี นรู้แบบมสี ่วนร่วม วทิ ยาศาสตร์สุขภาพ รวมถงึ ศาสตรอ์ น่ื ท่ีส่งเสริม 3) จัดการสอนโดยใชป้ ญั หาเปน็ พนื้ ฐาน ทกั ษะศตวรรษที่ 21 ตลอดถึงความเป็นมนุษยท์ ี่ 4) เรียนรู้จากสถานการณ์จริงทั้งการเรียนรู้ในชั้นเร สมบูรณ์ ชมุ ชน 2) มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญของ 5) การบรรยายร่วมกบั การอภิปราย
นรู้ กลยทุ ธก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ างการพยาบาลให้ 1) ประเมินระหว่างเรียนโดยผู้เรยี นประเมินตนเอง ประเมินโดย กลุ่มเพื่อน อาจารย์ อาจารย์สอนพิเศษภาคปฏิบัติในแหล่งฝึก ผู้ใช้บริการและชุมชน โดยใช้วิธีการประเมินท่ีหลากหลาย ท้ังการสังเกต ใชแ้ บบสอบถาม สนทนา บคลุมประเด็นและ กลุ่ม แบบบนั ทึก แบบประเมินและแบบวดั ทเ่ี กี่ยวข้อง เชน่ การเข้าชั้นเรียน การดำรงชีวติ ตรงเวลา การแตง่ กายถูกระเบียบและการส่งงานตามกำหนดระยะเวลา การ ะเบยี บวนิ ยั คำนึงถึงบุคคลอ่ืน ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม การมีจิตสาธารณะ ฯลฯ า 2) ประเมินภายหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว โดยให้บัณฑิตประเมินตนเอง ประเมินจากผู้ใช้บัณฑิต โดยใช้แบบสอบถาม สัมภาษณ์ การสังเกต และ สนทนากลุ่ม ยตนเองด้วยการใช้ 1) การประเมินหลายวิธี/กิจกรรม เพ่ือให้ครอบคลุมการประเมินผลด้าน ลาย ความรู้ ทัง้ การเรียนในหอ้ งเรียน และการเรียนร้ดู ้วยตนเอง 2) การวัดความรู้โดยใช้ข้อสอบ 3) การรายงานการศึกษาค้นคว้า รียน แหล่งฝึก และ 4) การรายงานและวเิ คราะห์กรณศี กึ ษา 5) การทำโครงการ และการนำเสนอปากเปลา่
มาตรฐานผลการเรียนรู้ กลยทุ ธก์ ารสอนทีใ่ ชพ้ ัฒนาการเรยี น ศาสตร์ทางวิชาชีพการพยาบาลและการผดุง 6) การค้นคว้า การวิเคราะห์ และทำกรณศี กึ ษา ครรภอ์ ยา่ งกว้างขวางและเปน็ ระบบ 7) การนำเสนอประเดน็ ท่ีผู้เรยี นสนใจ เพ่ือการเรยี น 3) มีความรู้และเข้าใจในระบบสุขภาพของ ประเทศ และปจั จยั ที่มผี ลตอ่ ระบบสขุ ภาพ 4) มีความรู้และตระหนักในงานวิจัยทางการ พยาบ าลที่เป็ นปั จจุบั น และสามารถน ำ ผลการวจิ ยั มาใช้ในการปฏบิ ัตทิ างการพยาบาล 5) มีความรู้และความเข้าใจในการบริหารและ การจดั การทางการพยาบาล 6) มีความรู้และความเข้าใจกฎหมายวิชาชีพ และกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง หลักจริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ และสิทธิผปู้ ่วย 7) มคี วามรู้ ความเข้าใจ และเลือกใชเ้ ทคโนโลยี ดิจิทัลได้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานการ สอ่ื สารและผรู้ บั สาร 3. ทักษะทางปัญญา 1) สามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลาย การสอนที่เน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการคิด และก วิเคราะห์ และเลือกใช้ข้อมูลในการอ้างอิงเพื่อ ระดับบุคคลและกลุ่มในสถานการณ์ทั่วไปและสถาน พฒั นาความรแู้ ละแกไ้ ขปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ กับสุขภาพ โดยใช้วิธีการสอนท่ีหลากหลาย เช่น ก 2) สามารถคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ การสะทอ้ นความคดิ การทำกรณีศกึ ษา การประชุมป คดิ อยา่ งมีวิจารญาณ เพื่อหาแนวทางใหม่ในการ โต้วาที การตั้งคำถาม การศึกษาอิสระ การจัดท แก้ไขปัญ ห าการป ฏิบั ติงาน และบ อกถึง นวัตกรรม และการใชเ้ กม เป็นต้น ผลกระทบจากการแก้ไขปญั หาได้
5 นรู้ กลยทุ ธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ นรรู้ ่วมกันของกล่มุ การแก้ไขปัญหาท้ัง 1) การสอบวดั ความสามารถในการคดิ และแกไ้ ขปญั หาโดยใชก้ รณศี ึกษา นการณ์ที่เก่ียวข้อง 2) การประเมินจากผลงานที่เกิดจากการใช้กระบวนการแก้ไขปัญหา การอภิปรายกลุ่ม การศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์วิจารณ์ เช่น รายงานการ ปรึกษาปัญหา การ วิเคราะห์ วิจารณ์กรณีศึกษา รายงานการศึกษาปัญหาเฉพาะทางการ ทำโครงการสร้าง พยาบาล การศึกษาอิสระ รายงานผลการอภิปรายกลุ่ม การประชุมปรึกษา ปญั หาทางการพยาบาล และการสมั มนา
มาตรฐานผลการเรียนรู้ กลยุทธก์ ารสอนท่ใี ชพ้ ฒั นาการเรยี น 3) สามารถใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทางการวิจัย และนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหา และการศึกษาปญั หาทางสขุ ภาพ 5. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและ ความรบั ผิดชอบ 1) มีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับผู้รับบริการ 1) กลยุทธ์การสอนท่ีเน้นการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ผรู้ ว่ มงาน และผ้ทู ีเ่ กี่ยวขอ้ ง ผเู้ รียนกับผสู้ อน ผ้เู รยี นกับผใู้ ช้บริการ และผู้รว่ มทีม 2) สามารถทำงานเป็นทีมในบทบาทผู้นำและ 2) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนทมี่ กี ารทำงานเปน็ ท สมาชิกในบริบทหรอื สถานการณ์ทหี่ ลากหลาย แสดงบทบาทของการเปน็ ผนู้ ำและผตู้ าม 3) สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่าง 3) จัดประสบการณก์ ารเรียนร้ใู นภาคปฏบิ ตั ทิ ่สี ่งเสร เปน็ เหตเุ ป็นผล และเคารพในความคิดของผูอ้ ื่น และการแสดงออกของภาวะผู้นำหลากหลายสถาน 4) แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนา และในชมุ ชน วิชาชีพและสงั คมอย่างตอ่ เนื่อง 6. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1) สามารถประยุกต์ใช้หลักทางคณิตศาสตร์ 1) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นให้ผู้เรีย และสถิติในการปฏบิ ัติงาน ส่ือสารระหว่างบุคคลทั้งการพูด การฟัง และการเข 2) ส าม าร ถ ส่ื อ ส าร ด้ วย ภ าษ าไท ย แ ล ะ ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน และบุคคลท่ีเก่ียวข้อง ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธภิ าพ หลากหลาย 3) สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างมี 2) การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เร ประสทิ ธภิ าพและมีจริยธรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารท่ีหลากหลายร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 626
Pages: