12 2.3 การรบั รู้ (perception) ผ้สู ังเกตจะต้องมีการรบั รูท้ ี่ถูกต้องและรวดเร็วซ่ึงการจะรับรูไ้ ด้รวดเรว็ ถูกต้องหรอื ไม่ข้ึนอยู่กบั ประสบการณแ์ ละความสามารถของผู้สงั เกต 4.3 เคร่อื งมอื และเกณฑท์ ่ีใชใ้ นการประเมิน ในการประเมินรูปแบบใหม่ ผปู้ ระเมินควรจะกำหนดเกณฑ์ในการประเมิน และผู้เรียนควรจะได้ทราบ ก่อนลงมือทำงาน เกณฑ์การประเมินนี้จะระบุคุณภาพที่ต้องการให้ผู้เรยี นกระทำ แต่ละคะแนนบน rubric จะ สอดคล้องกับตวั อย่างการตอบสนอง ดังน้ันผู้เรียนจะรชู้ ัดเจนว่าครตู ้องการอะไร และเขาจะต้องทำอะไรเพ่ือจะ ได้คะแนนน้ันมา rubrics เป็นแนวทางการให้คะแนน (scoring guideline) ท่ีเกิดจากการรวมกันระหว่าง เกณฑ์การให้คะแนน (scoring criteria) กับ มาตราประมาณค่าหรือระดับคะแนน (rating scale) ซ่ึง rubrics จะเป็นแนวทางการให้คะแนนท่ีระบุถึงความแตกต่างของผลงานหรือประสิทธิภาพ (proficiency) ของงาน (McMillan, 2001 : 221 - 222) ลักษณะของ Rubrics ทดี่ ี rubrics เปน็ ชุดคะแนนท่เี ปน็ แนวทางสำหรับการประเมินผลงานของผูเ้ รียน ลักษณะที่ดีของ rubrics มดี ังน้ี (Wiggins, 1998 : 184) 1. มคี วามเกย่ี วขอ้ งกับจดุ มุง่ หมายหรือเป้าหมายทั่วไป (general goals) กลา่ วคือ เกีย่ วข้อง กับงานท่ีทำ 2. จำแนกการปฏิบตั ไิ ด้อย่างเทยี่ งตรง (performances validly) 3. ในแต่ละ rubric จะไม่มีการรวมเกณฑ์การให้คะแนน 4. วเิ คราะห์งานได้อยา่ งละเอียด 5. ภาษาที่ใช้อธิบายคุณลักษณะงาน จำแนกคุณภาพของงานได้ถูกตอ้ ง 6. สามารถตดั สินงานได้ถกู ต้อง 7. อธิบายอย่างชัดเจนในแต่ละระดบั ของคะแนน และมีความแม่นตรงในการให้คะแนนในตัวของมัน เอง 8. ตัดสินให้คะแนนจากผลงานท่ปี ฏบิ ตั ิเท่านน้ั มากกว่ากระบวนการ รูปแบบ เนื้อหา หรือความต้งั ใจ ในการทำงาน นอกจากน้ี วกิ กนิ้ (Wiggins, 1998 : 184 - 185) ได้นำเสนอคุณลักษณะของ Rubrics วา่ ต้องมีลักษณะ ดงั น้ี 1. มีความต่อเน่อื ง (Continuous) กล่าวคือ คะแนนแตล่ ะคะแนนมีความห่างเท่ากัน เช่น คะแนน 5 กบั 4 มีความต่างเทา่ กับ คะแนน 2 กบั 1 คือ หา่ งกันเท่ากับ 1 คะแนน 2. มคี วามเป็นคู่ขนาน (Parallel) คือ คำอธิบายแตล่ ะระดับของ Rubrics จะใช้คำอธิบายใน แต่ละคำอธบิ ายทบี่ ่งบอกถงึ เกณฑก์ ารให้คะแนนในระดบั นัน้ ๆ 3. มีความเกี่ยวเนื่องกัน (Coherent) ในแตล่ ะระดับของการใหค้ ะแนน 4. นำ้ หนักการใหค้ ะแนนในแตล่ ะระดับมีความเหมาะสม (Aptly weighted) มีเหตุผล (not arbitrary) น้ำหนักของคะแนนในแต่ละระดบั สามารถอ้างอิงไปยงั ระดับอ่นื ๆ ได้ 5. มคี วามตรง (Valid) คะแนนที่ให้ในแต่ละระดับเป็นคณุ ภาพของการปฏบิ ตั ิ เป็นจดุ สะท้อนถึง คณุ ภาพของงาน ไม่ไดเ้ น้นถึงปริมาณ เป็นเกณฑ์ตามสภาพจริง (authentic criteria) 6. เชือ่ ถือได้ (Reliable) กลา่ วคือ มีความคงเสน้ คงวาในการให้คะแนน ถึงแม้ใครจะเป็นผู้ ประเมนิ ก็ตาม และ จะประเมินในชว่ งเวลาใดกต็ าม
13 การสร้าง Rubrics การสร้าง Rubrics มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะทำใหก้ ารประเมินครอบคลุม พรอ้ มทั้งการให้ คะแนนเกิดความยุติธรรม หลกั การสร้าง Rubrics มีดงั นี้ (Mc Millan, 2001 : 224 – 228) 1. ต้องแนใ่ จวา่ เกณฑก์ ารให้คะแนนได้เน้นประเด็นทีส่ ำคัญของงาน 2. มคี วามสอดคล้องระหวา่ งระดับคะแนนกับจุดม่งุ หมายของการประเมิน ถา้ จุดมงุ่ หมายของการ ประเมินกวา้ งและต้องใช้การตัดสินทุกๆ ส่วนของชน้ิ งาน ควรจะใชก้ ารประเมินแบบภาพรวม (holistic scale) แต่ถา้ การประเมินตอ้ งการสะท้อนกลับให้เหน็ ความแตกตา่ งของประเด็นตา่ ง ๆ ของงงาน/การปฏบิ ัติควรใช้ การประเมินแบบรายละเอียดย่อย (analytical approach) 3. ข้อความทีเ่ ปน็ เกณฑ์ให้คะแนนควรจะประเมินหรอื สงั เกตได้ 4. เกณฑ์ควรจะเขยี นโดยผู้เรียน ผปู้ กครองและผทู้ เี่ ขา้ ใจในการสร้างเกณฑ์ 5. ลักษณะของการวดั ควรชัดเจนและนยิ ามอยา่ งเฉพาะเจาะจง 6.แสดงข้นั ตอนหรือลำดบั ช้ันท่ีเหมาะสมของคะแนนในแต่ละระดบั เพื่อให้เกิดความคลาดเคล่ือนน้อย ทสี่ ุด เพื่อหลีกเลยี่ งการให้คะแนนท่ีสงู เกินไป (generosity error) ต่ำเกนิ ไป (severity error) การให้คะแนน สว่ นใหญอ่ ยตู่ รงกลาง (central tendency error) และการใหค้ ะแนนทเ่ี กิดจากความพึงพอใจเป็นการส่วนตวั ของครทู ่ีมีต่อผเู้ รียนคนนั้นๆ (halo effect) 7. ระบบของการให้คะแนนต้องมีความเปน็ ไปได้ กล่าวคือ การใหค้ ะแนนนิยมแบง่ ระดับคะแนนเปน็ 5-8 ระดับ ดงั นนั้ ในแต่ละระดบั คะแนนต้องมคี วามชดั เจน และแยกจากกันได้ ขัน้ ตอนการสรา้ ง Rubrics ข้ันตอนในการสรา้ ง Rubrics มี 12 ข้นั ตอน ดงั นี้ 1. กำหนดกจิ กรรม/งานทจี่ ะประเมิน 2. กำหนดองคป์ ระกอบของเกณฑ์การประเมิน 3. นิยามปฏบิ ัตกิ ารให้สอดคล้องกับงานนน้ั ๆ 4. กำหนดจำนวนระดับของเกณฑ์ 5. พิจารณาเกณฑ์ผา่ นและไม่ผา่ นพร้อมคำอธิบาย 6. เขยี นคำอธิบายในแต่ละระดับ 7. ตรวจสอบโดยผเู้ ชีย่ วชาญ 8. ปรบั ปรุงแก้ไขจากความคิดเห็นของผเู้ ชย่ี วชาญ 9. ทดลองใช้เกณฑ์ตรวจสอบผลงาน 10. หาคณุ ภาพของเกณฑ์ เช่น Inter rater reliability 11. ปรับปรุงเกณฑ์ท่ีไม่ไดม้ าตรฐาน 12. จัดพิมพเ์ กณฑ์การประเมินเปน็ รูปเลม่ พร้อมคู่มือการใช้ การกำหนดเกณฑก์ ารประเมิน (Designing Rubrics) การกำหนดระดบั คะแนนใน Rubrics การกำหนดระดับคะแนนใน rubrics ส่วนใหญ่จะมีต้ังแต่ 3 - 6 ระดับ ข้ึนอยู่กับลักษณะของงาน และความต้องการของครูว่าจะพิจารณางานละเอียดมากน้อยเพียงใด การให้ระดับคะแนน 3 ระดับ คือ สูง- ปานกลาง-ต่ำ เป็นการง่ายในการอธิบายคุณลักษณะ และง่ายต่อการตัดสินใจ แต่ครูบางคนชอบใช้ 4 ระดับ เพราะสัมพันธ์กับการให้ grade คือ 1, 2, 3 และ 4 จะเลือกใช้อย่างไรข้ึนอยู่กับความต้องการของครูและ
14 ผเู้ รียน ท่ีจะตกลงร่วมกนั ในการกำหนดระดับคะแนน เมอ่ื ครแู ละผู้เรียนมีความเขา้ ใจ และมีทักษะแล้วค่อยเพ่ิม เป็น 5 หรอื 6 ระดบั ได้ การเขยี น Rubrics ในการเขียน Rubrics จะเรมิ่ จากเขียนแบบการประเมนิ ภาพรวม หรือ ประเมนิ แยกเป็นด้านๆ ก็แล้วแต่ความถนดั ของครโู ดยให้ยึดตามแนวทางคณุ ลักษณะท่ดี ีของ Rubrics ดงั ทก่ี ล่าวมาแลว้ เทคนคิ การเขยี น Rubrics อาจจะเร่ิมจากด้านดที ีส่ ุด กบั ด้านทีแ่ ย่ทีส่ ุด ใหต้ รงข้ามกนั ก่อน เพ่ืองา่ ยต่อการ เขียนในระดับอ่ืน ๆ หรือ อาจจะเขยี นด้านดีทสี่ ดุ ก่อน (เขียนเหมือนกบั แบบประเมนิ ภาพรวม) แล้วระบุดา้ นลบ หรือ ดา้ นไม่ดี ในระดับคะแนนทตี่ ำ่ ลงมา หรอื อาจจะเขียนดา้ นแย่ที่สุดก่อน เปน็ ด้านลบทั้งหมด ซึง่ เปน็ คะแนนต่ำสดุ แล้วในระดบั คะแนนทีส่ งู ขน้ึ ให้เพม่ิ ด้านบวกหรอื ด้านดีไปเร่อื ย ๆ ในทีน่ ีผ้ เู้ ขียนขอเสนอแนว ทางการเขียน Rubrics ดงั น้ี 1. การเขียนแบบประเมินภาพรวม ใหอ้ ธิบายคณุ ลักษณะของงานในแตล่ ะระดับ โดย ต้องให้ครอบคลมุ คุณภาพในระดบั นั้น แต่ต้องไมใ่ ชส่ ่ิงเพ้อฟัน เกนิ ความเป็นจรงิ จนผ้เู รียน ไมส่ ามารถท่จี ะปฏบิ ตั ไิ ด้ เช่น 2. การเขยี นแบบแยกเปน็ ด้าน ๆ การใหค้ ะแนนแบบน้ีจะดีกวา่ แบบประเมินภาพรวม เพราะ มีความเป็นปรนัยในการใหค้ ะแนนมากขึ้น และในการตดั สินใหค้ ะแนน ผปู้ ระเมนิ สามารถตดั สนิ ใจได้งา่ ยข้ึน โดยเทยี บงานกับเกณฑ์การให้คะแนนในแต่ละระดบั ในแตล่ ะประเดน็ การกำหนดเกณฑ์การประเมินที่ดี ต้องเหมาะสมกับงาน และมีเหตุมีผล บอกระดับก่อนหลังของ คะแนน (chronology) ผู้เรียนสามารถประเมินด้วยตนเองได้ จากเกณฑ์ที่ครูสร้างขึ้น เกณฑ์ ในการประเมิน โดยท่วั ไปมี 2 แบบ คอื 1. การกำหนดเกณฑ์โดยภาพรวม (Holistic) โดยการอธบิ ายลกั ษณะคุณภาพของงาน โดยจะมี คำอธิบายลักษณะของงานในแตล่ ะระดับไวอ้ ย่างชดั เจน เกณฑ์การประเมนิ ในภาพรวมนเ้ี หมาะทจี่ ะใช้ในการ ประเมินทักษะการเขียน สามารถทีจ่ ะตรวจสอบความต่อเน่อื ง ความคิดสร้างสรรค์ และความสละสลวยของ ภาษาทเ่ี ขียนได้ (บญุ เรียง ขจรศลิ ป์, 2544 : 61 - 60) 2. การกำหนดเกณฑ์โดยแยกเป็นด้าน ๆ (Trait - Analytic) เป็นการให้คะแนนเป็นส่วน ๆ โดย ระบุรายละเอียดออกเป็นดา้ น ๆ และแตล่ ะด้านมีคณุ ภาพอยา่ งไร เช่น การประเมนิ การเขียน จะมแี บง่ ดูดา้ น สำนวนภาษา ความคิดสร้างสรรค์ การเขยี นถูกหลักไวยากรณ์ หรอื การประเมินทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ อาจจะ พจิ ารณาด้านความถูกต้องในการคำนวณ และ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น กลา่ วโดยสรุป การสอน (การจัดกิจกรรมการเรียนร้)ู การสอบ (การวดั ผลการเรยี นรู)้ และการตัด เกรด (การประเมนิ ผลการเรียนรู้) เป็นกิจกรรมที่เก่ียวข้องสมั พันธ์กันอยา่ งเปน็ ระบบซ่ึงจำเป็นต้องวางแผนไป ดว้ ยกันเพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมาย และผู้สอนสามารถประเมินผลการเรียนรู้ ของผเู้ รยี นไดอ้ ยา่ งยุติธรรมมีความโปรง่ ใสและสามารถตรวจสอบได้ ....................................................................
แผนการสอ เรื่อง............................................................................................................... สาหรับผู้เรียน ……………………………………………………………… สถานทส่ี อน …………………………………… …………………วนั ที่…… ผู้สอน………………………………………………………………………… ………………………….…………………………………………………… มโนทศั น์หลกั /ความคิดรวบยอด (Concept) ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… วตั ถุประสงค์ เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนนักศึกษาสามารถ 1. ……………………………………………………………… 2. ……………………………………………………………… 3. ………………………………………………………………
อนในคลนิ ิก ........................................................................................................... …………… จานวน……………………………………….…………คน ………………………… ต้งั แต่เวลา…………น. ถึงเวลา……………น. ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤติกรรม บทนา ………………………………………………………………………… หลงั จากเรียนจบ ………………………………………………………………………… แลว้ สามารถ…… ………………………………………………………………………… ………………… ……………………………................................................................... ………………… ……………………………………………………………….............. ………………… ………………………………………………………………................ ………………… ………………………………………………………………................ ………………… ………………………………………………………………................ ………………… ………………………………………………………………................. ………………………………………………………………................ ………………………………………………………………................. ………………………………………………………………................. ………………………………………………………………................ ………………………………………………………………................. ………………………………………………………………................. ……………………………………………………………….................
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมินผล ผลการสอน การสอน ………………… ………………… ………………… ………………… ………………… ………………… ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………….……… ………………… ………………… ………………… ………………….……………… ………………… ………………… ………………… ………….……………………… ………………… ………………… ………………… ….………………………….…… ………………… ………………… ………………… …………………….…………… ………………… ………………… ………………… …………….…………………… ………………… ………………… ………………… …….………………………….… ………………… ………………… ………………… ……………………….………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… …………………………………
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา ข้น … เชิงพฤติกรรม เน้ือหา……………………………………………………………… … ………………………………………………………….................... … หลงั จากเรียนจบ ………………………………………………………………............ … แลว้ สามารถ…… ………………………………………………………………............ … ………………… ………………………………………………………………............. … ………………… ………………………………………………………………............ … ………………… ………………………………………………………………............ … ………………… ………………………………………………………………........... … ………………… ………………………………………………………………............. … ………………… ………………………………………………………………............. … ………………………………………………………………............. … ………………………………………………………………............. … ………………………………………………………………............. ………………………………………………………………............
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน การสอน ………………… ………………… ………………… ………………… ………………… ………………… นั ดาเนินการสอน ………………… ………………… ………………… ………………………….……… ………………… ………………… ………………… ………………….……………… ………………… ………………… ………………… ………….……………………… ………………… ………………… ………………… ….………………………….…… ………………… ………………… ………………… …………………….…………… ………………… ………………… ………………… …………….…………………… ………………… ………………… ………………… …….………………………….… ………………… ………………… ………………… ……………………….………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………………………… ………………… ………………… ………………… ………………… ………………… …………………
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา ก เชิงพฤติกรรม สรุป ข้นั สร - ควรรวบรวมแนวคิดและประโยชนจ์ ากการสอนท้งั ใน ……… ……………….. ……… ………….…..… ปัจจุบนั และอนาคตวา่ เป็ นอยา่ งไร มิใช่การทบทวนส่ิงท่ี ……… ………….…….. สอนมาต้งั แตต่ น้ …………………………………………. ……… ………….…….. - หรือสรุปภาวะเสี่ยง หรือภาวะวกิ ฤติท่ีตอ้ งการการดูแล การ ……… ………………… ระวงั การป้องกนั หรือการดูแลเป็ นพเิ ศษ ท้งั ในระยะส้นั ……… ………………… และระยะยาว……………………………………………… ……… ……..…………. ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… ………………………………………………………………… ……… …………………………………………………………………
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน การสอน ……………… ………………… ……………………… ……………… ………………… ……………………… รุป ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… ……………… ………………… ……………………… ………………………… …………………………
บรรณา ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………
านุกรม ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………….
คณะพยาบาลศาสตร์ ม แผนการสอนแบบ N เรื่อง การพยาบาลเพือ่ ป้องกนั การเกิดกลา้ มเน้ือลีบโดยการออกกาลงั สาหรับ นกั ศึกษาหลกั สูตร พยาบาลศาสตรบณั ฑิต ช้นั ปี ท่ี 2 จา สถานทส่ี อน หอผปู้ ่ วยออร์โธปิ ดิกส์หญิง วนั ท่ี 25 กุมภาพนั ธ ผู้สอน มโนทัศน์หลกั /ความคิดรวบยอด(concept) การผา่ ตดั เปล่ียนขอ้ เขา่ เทียมเป็นการผา่ ตดั เพ่อื รักษาผปู้ ่ วยขอ้ เข่า โดยหลงั ผา่ ตดั ผปู้ ่ วยตอ้ งไดร้ ับการฟ้ื นฟูสมรรถภาพของกลา้ มเน้ือขาเพ่ือ วตั ถุประสงค์ทว่ั ไป เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนนกั ศึกษาสามารถ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม 2. ตระหนกั ถึงความสาคญั ในการดูแลตนเองของผปู้ ่ วยที่ไดร้ ับการ 3. สามารถนาความรู้เก่ียวกบั การดุแลตนเองของผปู้ ่ วยที่ไดร้ ับการ
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม Nursing Clinic Teaching งกายในผปู้ ่ วยท่ีไดร้ ับการผา่ ตดั ขอ้ เข่าเทียม านวน 8 คน ธ์ 2563 ต้งั แต่เวลา 11.00 น. ถึงเวลา 11.45น. าเสื่อมท่ีผวิ ขอ้ สึกหรอไม่สามารถประสบความสาเร็จโดยวธิ ีการรักษาอ่ืนๆ อใหผ้ ปู้ ่ วยสามารถกลบั ไปทากิจวตั รประจาวนั ใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด ม รผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม รผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียมไปแนะนาแก่ผปู้ ่ วยได้
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม บทนา สาระการเรียนรู้ 1. เพอ่ื ใหน้ กั ศึกษา ข้นั นา (5 นาท)ี ความจาเป็นในการเรียนรู้เร่ืองการพยาบาลเพือ่ ป้องกนั การเกิดกลา้ มเน ตระหนกั ถึงความ ออกกาลงั กายในผปู้ ่ วยท่ีไดร้ บั ผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม ประสบการณ์การดูแ เปลี่ยนขอ้ เขา่ โดยมีวตั ถุประสงคใ์ นการสอนคร้ังน้ีเพ่อื ปรับปรุงการพ จาเป็ นในการเรี ยนรู้ ป้องกนั การเกิดกลา้ มเน้ือลีบโดยการออกกาลงั กายในผปู้ ่ วยกรณีตวั อย เร่ืองการผา่ ตดั ขอ้ เข่าเทียมใหด้ ีข้ึน เร่ืองการพยาบาลเพ่อื เนื้อหา (10 นาท)ี การผา่ ตดั เปล่ียนขอ้ เขา่ เทียมคือการผา่ ตดั เพื่อนาผิวขอ้ เข่าเดิมท่ีเส่ือมส ป้องกนั การเกิด ทดแทนผวิ ขอ้ ใหมด่ ว้ ยขอ้ เข่าเทียม ควรพิจารณาผา่ ตดั เปล่ียนขอ้ เขา่ เท โรคขอ้ เข่าเสื่อมที่รับการรักษาดว้ ยวธิ ีการไมผ่ า่ ตดั (การใชย้ าการทากา กลา้ มเน้ือลีบโดยการ และการปรับเปลี่ยนการใชง้ านขอ้ เขา่ )อยา่ งเตม็ ท่ีแลว้ ยงั ใหผ้ ลการรักษ มีลกั ษณะตอ่ ไปน้ีอยู่ ออกกาลงั กายในผปู้ ่ วย -ยงั มีอาการปวดท่ีรุนแรงจนไมส่ ามารถทากิจวตั รประจาวนั พ้นื ฐานไดป้ กติ เช่น ยนื /เดินลาบาก ลกุ นง่ั ลาบาก จาเป็ นตอ้ งใช้ ท่ีไดร้ ับการผา่ ตดั ขอ้ อปุ กรณ์ช่วยพยงุ เดินตลอด - มีการผดิ รูปของขอ้ เข่า เช่น เขา่ โกงเขา้ ในหรือโก่งออกนอกอยา่ งมาก เข่าเทียม 2. เพือ่ กระตุน้ ความ สนใจและใหน้ กั ศึกษา แลกเปล่ียนเรียนรู้ ประสบการณ์เร่ืองการ พยาบาลเพ่ือป้องกนั การเกิดกลา้ มเน้ือลีบ โดยการออกกาลงั กาย ในผปู้ ่ วยที่รับผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน น้ือลีบโดยการ การสอน รูปภาพ - สงั เกตความสน แลผปู้ ่ วยผา่ ตดั -ทกั ทายผเู้ รียน โปสเตอร์ภาพ ใจและความพร้อม พยาบาลเพอื่ - เขา้ สู่บทเรียนโดย ผปู้ ่ วยผา่ ตดั ในการเรียนของ ยา่ ง ท่ีมีปัญหา ถามผเู้ รียนเกี่ยวกบั เปลี่ยนขอ้ เขา่ ผเู้ รียน ประสบการณ์การ เทียม ดูแลผปู้ ่ วยที่ไดร้ ับ การผา่ ตดั เปล่ียนขอ้ เขา่ สภาพออก และ -โปสเตอร์ ทียมเมื่อผปู้ ่ วย รูปภาพ ายภาพบาบดั ษาท่ีไม่ดี โดยยงั ก
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม เนื้อหา (ต่อ) นกั ศึกษาสามารถ - ขอ้ เข่ายดึ พิสยั การเคล่ือนไหวขอ้ เขา่ ลดลงงอและเหยยี ดเข่าได้ รวบรวมขอ้ มูล ไมเ่ ตม็ ท่ีเหมือนเดิม ของผปู้ ่ วยได้ - จาเป็นตอ้ งใชย้ าเพ่อื ลดอาการปวดทุกวนั หรือเกิดผลขา้ งเคียง ครบถว้ นและ จากยาจนทาใหไ้ มส่ ามารถใชย้ าได้ ถูกตอ้ ง กรณตี วั อย่าง หญิงไทย อายุ 61 ปี การวนิ ิจฉยั โรค Osteoarthritis Right knee อาการสาคญั ทมี่ าโรงพยาบาล ปวดเข่าขวา 2 ปี ก่อนมารพ. แพทยน์ ดั มาผา่ ตดั ประวตั กิ ารเจบ็ ป่ วยในปัจจุบัน ~ 8 ปี ก่อนมารพ.ปวดเข่า 2 ขา้ ง ขา้ งขวามากกวา่ ขา้ งซา้ ย ambulate 2 ปี ก่อนมารพ. ปวดเข่าขวามากข้ึน มีเข่าผดิ รูป ตอ้ งการผา่ ตดั ประวตั กิ ารเจบ็ ป่ วยในอดตี มีประวตั ิเป็ นโรคความดนั โลหิต รับประทานยาและรักษาตอ่ เนื่องท่ีโร ราชบุรี ประวตั คิ รอบครัว (การเจบ็ ป่ วย/ปัญหา) ปฏิเสธมีประวตั ิเจบ็ ป่ วยในครอบครัว สาเหตุ สาเหตุทพี่ บในผ้ปู ่ วยรายนี้ ผปู้ ่ วยมีอายมุ าก และรูปร่างอว้ น สาเหตุทพี่ บในผ้ปู ่ วยรายอ่ืนๆ โรคน้ีอาจเกิดจากกรรมพนั ธุ์ หรือขอ้ อ อบุ ตั ิเหตุจากการเลน่ กีฬา หรือจากการทางาน
กจิ กรรมการเรียน สื่อการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน การสอน เวชระเบียน วธิ ีการ ประวตั ิ ถามคาถามนกั ศึกษา ข้นั ท่ี 1 ผปู้ ่ วย ถึงสาเหตุของการ ครูและนกั ศึกษา -ขอ้ มลู เกิดขอ้ เขา่ เสื่อม ประชุมเพ่ือทาความ กรณีศึกษา เกณฑ์ เขา้ ใจขอ้ มูลผปู้ ่ วย นกั ศึกษาตอบ ได้ ร่วมกนั คาถามไดถ้ ูกตอ้ ง 3 รงพยาบาล -นกั ศึกษาที่ไดร้ ับ จาก 5 ขอ้ มอบหมายใหศ้ ึกษา 1. อายมุ าก อาจไดร้ บั กรณีศึกษานาเสนอ 2. น้าหนกั เกินมีผล ขอ้ มลู พ้ืนฐาน ใหเ้ ข่ารับน้าหนกั สถานการณ์/ปัญหา มากเกินไป การพยาบาล 3. กรรมพนั ธุ์ -สมาชิกกลุ่มศึกษา 4. อุบตั ิเหตจุ ากการ จากเวชระเบียน เล่นกีฬาหรือการ -ซกั ถาม ทางาน -ครูและนกั ศึกษา อภิปรายร่วมกนั 1. ปัญหาทางการ พยาบาลที่พบใน ผปู้ ่ วยรายน้ี 2. วตั ถุประสงคก์ าร ปรับปรุงการ พยาบาลในผปู้ ่ วยท่ี ไดร้ ับการผา่ ตดั
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม -นกั ศึกษาสามารถ พยาธิสภาพ เปรียบเทียบสาเหตกุ าร ผปู้ ่ วยรายน้ีเป็ นผสู้ ูงอายแุ ละมีรูปร่างอว้ นทาใหข้ อ้ เขา่ รับน้า เกิดโรคของผปู้ ่ วยกบั ทฤษฎีได้ ทาใหก้ ระดูกอ่อนของเขา่ มีการเส่ือมสภาพ ซ่ึงกระดูกออ่ นไมส่ ามารถ น้าหนกั มีการสูญเสีย คุณสมบตั ิของน้าหล่อเล้ียงเขา่ เมื่อมีการเคลอื่ น -นกั ศึกษาสามารถ ก็จะเกิดการเสียดสี และเกิดการสึกหรอของกระดูกออ่ น ผวิ ของกระด เปรียบเทียบอาการและ เรียบ เม่ือขอ้ เข่าเคล่ือนไหวจะเกิดเสียงดงั ในขอ้ และเกิดอาการเจบ็ ปว อาการแสดงโรคของ จะพบวา่ ขอ้ เข่ามขี นาดใหญข่ ้นึ ซ่ึงเกิดจากขอ้ เขา่ มีการอกั เสบจึงมีการ ผปู้ ่ วยกบั ทฤษฎีได้ เพม่ิ ทาใหเ้ กิดการบวม ปวดขอ้ เขา่ ได้ และเม่ือขอ้ เขา่ เส่ือมมากข้ึน กร ขนาดบางลง ผวิ จะขรุขระ จะมีการงอกของกระดูกข้ึนมาเรียกวา่ osteo อาการและอาการแสดง อาการและอาการแสดงทพี่ บในผ้ปู ่ วยรายนี้ - อาการปวด มีลกั ษณะปวดต้ือ ๆ ปวดเร้ือรัง อาการปวดจะมากข้ึนเม่ือ หนกั ลงบนขอ้ เขา่ - มีขอ้ เข่าบวมและผดิ รูป (swelling and deformity) ขอ้ เข่ามีขนาดใหญ - มีเสียงดงั กรอบแกรบ (crepitus) ในขอ้ เข่าขณะเคลื่อนไหว
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน าหนกั มาก และ การสอน -chart ถเป็ นเบาะรองรับ เปลี่ยนขอ้ เขา่ เทียม กระดาษ นไหวของขอ้ เข่า 3. การเตรียมความ ดูกอ่อนจะแขง็ ไม่ พร้อมในการนา วดในผปู้ ่ วยรายน้ี ผปู้ ่ วยเขา้ มาร่วม รสร้างน้าขอ้ เขา่ ศึกษา เช่น ระดูกออ่ นจะมี ขอ้ สงั เกตที่ตอ้ ง ophyte ศึกษาเพิม่ เติมขอ้ มลู ที่ตอ้ งการชนิด อมีการลงน้า คาถามที่จะใชก้ บั ผปู้ ่ วย ญ่ข้ึน - ผสู้ อนร่วมซกั ถาม แสดงความคิดเห็น ข้นั ที่ 2 ครูและนกั ศึกษา ร่วมกนั สอนผปู้ ่ วย เพ่อื ปรับปรุงการ พยาบาลผปู้ ่ วย เปล่ียนขอ้ เขา่ เทียม โดย 1. ครูและนกั ศึกษา ร่วมทกั ทาย
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม - มีการสูญเสียการเคลื่อนไหวและการทางาน เดินไม่สะดวก อาการและอาการแสดงทพ่ี บในผ้ปู ่ วยรายอื่น ๆ ผปู้ ่ วยรายอ่ืนอาจมีอาการของขอ้ ฝื ด (stiffness) ซ่ึง จะมีการฝื ดของขอ้ หลงั จากพกั ขอ้ นาน ๆแตม่ กั ไม่เกิน 30 นาที การตรวจเพื่อการวนิ จิ ฉัย การตรวจเพ่ือการวนิ ิจฉัยในผู้ป่ วยรายนี้ - ซกั ประวตั ิและตรวจร่างกายโดยเนน้ ที่การตรวจขอ้ เข่า ซ่ึงจะพบลกั ษ ขอ้ บวมและผดิ รูป ขอ้ เข่ามีขนาดใหญ่ข้ึน มีเสียงดงั กรอบแกรบในขอ้ เคล่ือนไหว -การตรวจทางหอ้ งปฏิบตั ิการ Hct 39% PLT COUNT 307,000/Cu.mm WBC 9,880/Cu.mm การตรวจเพ่ือการวนิ ิจฉัยในผู้ป่ วยรายอ่ืน ๆ - การถา่ ยภาพรังสี กจ็ ะพบวา่ ช่องวา่ งระหวา่ งกระดูกเข่าแคบลงซ่ึงหม ออ่ นมีการสึกหรอ หากสึกมากก็ไมพ่ บช่องวา่ งดงั กลา่ ว - การเจาะเลือด เพ่อื วนิ ิจฉยั แยกโรคที่อาจจะเป็นสาเหตขุ องโรคปวดเข
กจิ กรรมการเรียน สื่อการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน อในช่วงเชา้ และ การสอน วธิ ีการ ถามคาถามนกั ศึกษา ษณะท่ีสาคญั คือ 2. ครูและนกั ศึกษา ถึงอาการของการ อเขา่ ขณะ ร่วมศึกษากรณี เกิดขอ้ เขา่ เสื่อม ตวั อยา่ ง เกณฑ์ มายถึงกระดูก ข้นั ท่ี 3 วเิ คราะห์ นกั ศึกษาตอบ ขา่ เร้ือรัง และประเมินขอ้ มลู คาถามไดถ้ กู ตอ้ ง 2 พฤติกรรมผปู้ ่ วย จาก 4 ขอ้ โดย 1. ปวดเร้ือรัง ปวด 1. ครูและนกั ศึกษา มากเมื่อลงน้าหนกั ร่วมกนั อภิปราย 2. ขอ้ เข่าบวมและ ขอ้ สงั เกตที่ได้ ผิดรูป เปรียบเทียบ 3. มีเสียงดงั กรอบ ความคิดจากตารา แกรบในขอ้ เข่าขณะ และส่ิงท่ีผปู้ ่ วย เคล่ือนไหว ไดร้ ับจริง 4. สูญเสียการ 2. ครูและนกั ศึกษา เคล่ือนไหว เดินไม่ หาขอ้ ยตุ ิตดั สินสิ่งท่ี สะดวก เหมาะสมที่สุดมาใช้ ปฏิบตั ิจริงกบั ผปู้ ่ วย กรณีตวั อยา่ ง 3. นกั ศึกษาร่วมกนั สรุปผลการศึกษา และการปฏิบตั ิการ พยาบาลท่ีจะไปทา
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม - การตรวจน้าหลอ่ เล้ียงเข่า ในกรณีที่เขา่ บวมแพทยจ์ ะเยาะเอาน้า หลอ่ -นกั ศึกษาสามารถ ตรวจดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ อธิบายการรักษา - การตรวจความหนาแน่นของกระดูกเป็นการตรวจหาโรคกระดูกพร เปรียบเทียบระหวา่ ง วนิ ิจฉยั โรคขอ้ เส่ือม ผปู้ ่ วยกบั ทฤษฎีได้ ภาวะแทรกซ้อน ภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่ วยรายนี้ ทาใหผ้ ปู้ ่ วยอาจเดินไมถ่ นดั ภาวะแทรกซ้อนในผ้ปู ่ วยรายอื่น ๆ โรคเข่าเสื่อมมกั ไม่มีภาวะแทรกซอ้ นอกจากในรายที่เป็นมาก อาจเดินไม่ถนดั ขาโก่ง เขา่ ทรุดหกลม้ ได้ การรักษา การรักษาในผ้ปู ่ วยรายนี้ ผปู้ ่ วยไดร้ ับการผา่ ตดั เปล่ียนขอ้ เขา่ เทียมท้งั ขอ้ ขวา (Total Knee Arthr วนั ที่ 11 กมุ ภาพนั ธ์ 2558 และไดร้ ับการรักษาโดยการใชย้ า ไดแ้ ก่ tab oral prn. การรักษาในผ้ปู ่ วยรายอื่น ๆ การรักษาทวั่ ไป - ปฏิบตั ิตวั เพือ่ หลีกเล่ียงการเกิดเขา่ เส่ือม เช่นการยกของหนกั เพยี บ การนง่ั ยองๆ - การลดน้าหนกั - การออกกาลงั และการบริหารกลา้ มเน้ือ - ใหพ้ กั เข่าหากมีอาการปวดเข่า - ใชไ้ มเ้ ทา้ ค้าเวลาจะลกุ อยา่ หยดุ ใชง้ านเพราะจะทาใหก้ ลา้ มเ - ประคบอุ่นเวลาปวด
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน อเล้ียงเข่าออกมา การสอน -ขอ้ มลู รุนการ จริง กรณีศึกษา 4. ครูสรุปประเดน็ อนร้ายแรง เพิ่มเติม กรณีไม่ ครอบคลมุ roplasty Rt.) 5. เปิ ดโอกาสให้ paracetamol 2 นกั ศึกษาร่วมกนั วเิ คราะห์สาเหตุการ ก การนง่ั พบั เกิดโรคของผปู้ ่ วย กบั ทฤษฏี -เปิ ดโอกาสให้ นกั ศึกษาร่วมกนั วเิ คราะห์การักษา ของผปู้ ่ วย เปรียบเทียบกบั ทฤษฎี เน้ืออ่อนแรง
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม การรักษาโดยการใช้ยา -นกั ศึกษาสามารถ ยาในการรักษาจะเป็ นยาในกลมุ่ ยาแกป้ วด มีท้งั ยาแกป้ วด แตไ่ มไ่ ดแ้ ก อธิบายการพยาบาล paracetamol ยาแกอ้ กั เสบ steroid และยาแกอ้ กั เสบท่ีไมใ่ ช่ steroid ยา ผปู้ ่ วยที่ไดร้ บั การผา่ ตดั อ่อน หรือการใชน้ ้าหล่อเล้ียงขอ้ ชนิดเทียม ขอ้ เขา่ เทียมได้ การผ่าตดั วธิ ีการผา่ ตดั ก็มีไดห้ ลายวธิ ีดงั น้ี -การผา่ ตดั โดยการส่องกลอ้ ง (arthroscope) แพทยจ์ ะเอาสิ่งสกปรกท่ีเก ออกมา -การผา่ ตดั แกค้ วามโก่งงอของเข่า วธิ ีน้ีตอ้ งตดั กระดูกบางส่วนออก -การผา่ ตดั ใส่ขอ้ เทียม คือการใส่ขอ้ เขา่ เทียมแทนขอ้ ท่ีเสื่อม 10.การพยาบาล แนะนาเก่ียวกบั การดูแลตนเองหลงั ผา่ ตดั ขอ้ เข่าเทียมดงั น้ี 1. หา้ มลงน้าหนกั ขาขวา 6 สปั ดาห์ 2. นอนยกขาบนหมอนสูงกวา่ ระดบั หวั ใจ เพื่อป้องกนั ขาบวม 3. เดินดว้ ยไมค้ า้ ยนั หรือคอกช่วยเดิน สาหรับผปู้ ่ วยรายน้ีจะแนะนาให หรือเคร่ืองพยงุ 4 ขา ดงั น้ี ข้นั ที่ 1 มือท้งั สองขา้ งยกเครื่องช่วยพยงุ 4 ขา และวางเคร่ืองช่วยพยงุ 4ขา ห่าง ทิศทางท่ีจะเดินไปขา้ งหนา้ ประมาณ 2-3 นิ้ว และควรตรวจสอบใหม้ ของเคร่ืองช่วยพยงุ แนบกบั พ้ืนทุกคร้ัง ข้นั ท่ี 2 โนม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ และปลอ่ ยใหเ้ ครื่องช่วยพยงุ 4 ขา รับน้าหนกั ตวั ข ขา้ งที่เขา้ รับการผา่ ตดั ไปขา้ งหนา้ อยา่ งระมดั ระวงั อยา่ ใหเ้ ทา้ ของท่าน
กจิ กรรมการเรียน ส่ือการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน การสอน กอ้ กั เสบ เช่นยา าบารุงกระดูก กิดจากการสึก หใ้ ชค้ อกช่วยเดิน เปิ ดโอกาสให้ ภาพพลิก วธิ ีการ นกั ศึกษาบอก แสดง เรื่อง ถามคาถามนกั ศึกษา งออกไปยงั วธิ ีการการดูแล การดูแล ถึงสาเหตขุ องการ มนั่ ใจใหข้ าท้งั 4 ตนเองหลงั ผา่ ตดั ขอ้ ตนเองหลงั เกิดขอ้ เข่าเส่ือม เขา่ เทียม ผา่ ตดั ขอ้ เข่า เกณฑ์ ของท่าน กา้ วเทา้ -ผสู้ อนซกั ถาม เทียม นกั ศึกษาตอบ น ขอ้ มลู และใหข้ อ้ มลู -แผน่ พบั การ คาถามไดถ้ ูกตอ้ ง 2 เพ่ิมเติมเก่ียวกบั ปฏิบตั ิตวั จาก 4 ขอ้ วธิ ีการการดูแล สาหรับผปู้ ่ วย ตนเองหลงั ผา่ ตดั ขอ้ ผา่ ตดั เปล่ียน เขา่ เทียม ขอ้ เข่าเทียม -ผสู้ อนและ -ส่ือวดี ีทศั น์ นกั ศึกษาสรุปวธิ ี -สาธิต
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม กา้ วเทา้ ขา้ งท่ีเขา้ รับการผา่ ตดั ไปขา้ งหนา้ อยา่ งระมดั ระวงั อยา่ ใหเ้ ทา้ ข เทา้ ของเครื่องช่วยพยงุ ข้นั ท่ี 3 เกาะเครื่องช่วยพยงุ ส่ีขาใหแ้ น่นดว้ ยมือท้งั สองขา้ ง จากน้นั กา้ วไปขา้ ง ขา้ งท่ีไม่ไดร้ ับการผา่ ตดั 4. ออกกาลงั กายกลา้ มเน้ือขาอยา่ งตอ่ เนื่อง อยา่ งนอ้ ย 2 เดือน หลงั ผา่ ต - เหยยี ดขาขา้ งที่ผา่ ตดั ตรง กระดกขอ้ เทา้ ข้ึน กดเข่าลงกบั ที่นอน นบั 1 - นอนหงายต้งั ขาขา้ งที่ดีข้ึน แลว้ ยกขาขา้ งท่ีผา่ ตดั ข้นึ สูงใหเ้ ข่าเหยยี ดต อยา่ งชา้ ๆ ทา 10 คร้ัง - นง่ั หอ้ ยขาบนเตียงมว้ นผา้ เลก็ ๆ รองใตเ้ ข่าขา้ งท่ีผา่ ตดั แลว้ ยกเขา่ เหย มากที่สุดค่อย ๆ วางขาลง
กจิ กรรมการเรียน สื่อการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน ของท่านพนั กบั การสอน ของการดูแลตนเอง งหนา้ โดยใชเ้ ทา้ หลงั ผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม ตดั ดงั น้ี -พานกั ศึกษาไปท่ี 1 – 10 เตียงผปู้ ่ วยเพื่อไป ตรง และยกลง สาธิตวธิ ีการดูแล ตนเองหลงั ผา่ ตดั ขอ้ ยยี ดข้ึนใหต้ รง เข่าเทียม -ใหน้ กั ศึกษาที่ ไดร้ ับมอบหมายให้ ดูแลผปู้ ่ วยสาธิต วธิ ีการดูแลตนเอง หลงั ผา่ ตดั ขอ้ เข่า เทียม -เปิ ดโอกาสให้ ผปู้ ่ วยและนกั ศึกษา ซกั ถามระหวา่ งการ สาธิต -หลงั สาธิตให้ นกั ศึกษาตอบคา ถามเกี่ยวกบั วธิ ีการ ดูแลตนเองหลงั ผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม
วตั ถุประสงค์ เนื้อหา เชิงพฤตกิ รรม สรุป -นกั ศึกษาสามารถสรุป ผปู้ ่ วยท่ีไดร้ บั การผา่ ตดั เปล่ียนขอ้ เข่าเทียมน้นั กลา้ มเน้ือและเอน็ ต่าง ๆ สาระสาคญั ของการ ตอ้ งการเวลาที่จะสมานแผล ดงั น้นั หลงั จากที่ผปู้ ่ วยไดก้ ลบั บา้ นแลว้ ก ดูแลผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั กายเพื่อเพิม่ ความแขง็ แรงของกลา้ มเน้ือขา, การเพม่ิ ความยดื หยนุ่ ของ ขอ้ เข่าเทียมได้ และการเพม่ิ ช่วงการเคลื่อนไหวของขอ้ เขา่ เทียม เพือ่ ใหผ้ ปู้ ่ วยสามารถ กิจวตั รประจาวนั ใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด จึงเป็ นส่ิงสาคญั นอกจากน้ียงั มีภาวะ บางอยา่ ง เช่น ภาวการณ์ติดเช้ือที่ขอ้ เขา่ เทียม, ภาวะเสน้ เลือดดาท่ีขาอ ผปู้ ่ วยไม่สามารถเหยยี ดเขา่ ท่ีผา่ ตดั ไดต้ รงสามารถเกิดข้นึ ไดห้ ลงั จากท อยบู่ า้ น
กจิ กรรมการเรียน สื่อการสอน การประเมนิ ผล ผลการสอน การสอน -นกั ศึกษาสามารถ สรุปสาระสาคญั -ผสู้ อนประเมิน ของการดูแลผปู้ ่ วย ๆ รอบขอ้ เขา่ คาตอบของ หลงั ผา่ ตดั ขอ้ เขา่ การออกกาลงั นกั ศึกษาหากยงั ไม่ เทียมไดถ้ ูกตอ้ ง งกลา้ มเน้ือขา ถกู ตอ้ งใหน้ กั ศึกษา ครบถว้ น ถกลบั ไปทา คนอื่นช่วยตอบและ ะแทรกซอ้ น ผสู้ อนใหค้ าแนะนา อดุ ตนั , หรือการท่ี เพม่ิ เติม ท่ีผปู้ ่ วยกลบั ไป -นกั ศึกษาช่วยสรุป ส่ิงที่ไดจ้ ากการ เรียนรู้ในการดูแล ผปู้ ่ วยหลงั ผา่ ตดั ขอ้ เขา่ เทียม -ผสู้ อนบรรยายสรุป เพ่ิมเติม
บรร คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล.(2558). กายวิภาคศาสตร์และส จรูญศรี รุ่งสุวรรณ์และคณะ.(2560). วิธีการพยาบาลทางศัลยกรรม. เชียง ช่อราตรี สิริวตั ถานนั ต,์ บรรณาธิการ. (2559). การพยาบาลออร์โธปดิกส ณฐั สุรางค์ บุญจนั ทร์ . (2557). ปวดข้อ-ข้อเสื่อม และการประยกุ ต์กระบ นาวี อนุชาติบุตร. (2561). Orthopaedics for medical student . พิมพค์ ร้ัง วรรณี สตั ยววิ ฒั นแ์ ละคณะ.(2559). การพยาบาลผ้ปู ่ วยออร์โธปดิกส์. พ Luckman, Jone and Soresen Karen C. (2017). Medical surgical Nursin
รณานุกรม สรีระวิทยา.กรุงเทพมหานคร: อกั ษรสมั พนั ธ์การพมิ พ.์ งใหม่ : มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม.่ ส์และเวชศาสตรฟ้ื นฟู .กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว บวนการพยาบาล. พมิ พคร์ ั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: เอน็ พี เพรส. งท่ี2. กรุงเทพมหานคร:ราไทยเพลสจากดั . พิมพค์ ร้ังท่ี 4 , กรุงเทพมหานคร: ไพศาลศิลปะการพมิ พ.์ ng 2nd, Philadelphia : W.B. Saunders Co.
แผนก คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐ ชื่อผ้นู ิเทศ ............................................. สถานที่นิเทศ หอผปู้ ่ วย.................... จานวนนักศึกษารับการนิเทศ ......... คน
1 การนิเทศ ฐม ................................................. ...................โรงพยาบาล.......................... วนั เวลาทีน่ ิเทศ ………………………
ข้อมูลของนักศึกษาคนท.่ี ......... ช่ือนักศึกษา .................................................................................... ผู้ป่ วยได้รับมอบหมายชื่อ ................................................................................... การวนิ ิจฉัยโรค .................................................................................... .................................................................................... ………. ……………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ประวตั กิ ารรักษา/ทาหัตถกรรม/ผ่าตัด ……………………………………………… .......................................................................................................................................... การรักษาปัจจุบนั ..............................................…………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… อาการปัจจุบัน.................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................
2 ...................................................................................................................... ..................................................... อายุ ……………… ……………… ....................................................................................................................... ......................................................................................................................... ……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………… ........................................................................................................................ ………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………….. ........................................................................................................................ ......................................................................................................................... ........................................................................................................................... ...........................................................................................................................
แผนการพยาบาลของผู้ป่ วยรายท.ี่ ......... วตั ถุประสงค์ ปัญหาทางการพยาบาลและข้อมูลสนับสนุน
กจิ กรรมการพยาบาล 3 ประเมินผล เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมนิ
ข้อมูลของนักศึกษาคนท.ี่ ......... ช่ือนักศึกษา .................................................................................... ผ้ปู ่ วยได้รับมอบหมายชื่อ ................................................................................... การวนิ ิจฉัยโรค .................................................................................... .................................................................................... ………. ……………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ประวตั กิ ารรักษา/ทาหัตถกรรม/ผ่าตัด ……………………………………………… .......................................................................................................................................... การรักษาปัจจุบัน..............................................…………………………………………… …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… อาการปัจจุบนั .................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................
4 ...................................................................................................................... ..................................................... อายุ ……………… ……………… ....................................................................................................................... ......................................................................................................................... ……………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………… ........................................................................................................................ ………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………….. ........................................................................................................................ ......................................................................................................................... ........................................................................................................................... ...........................................................................................................................
แผนการพยาบาลของผู้ป่ วยรายท.ี่ ......... วตั ถุประสงค์ ปัญหาทางการพยาบาลและข้อมูลสนับสนุน
กจิ กรรมการพยาบาล 5 ประเมินผล เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมนิ
ประสบการณ์เดิมของนักศึกษา เคยเรียน เคยดูแล (ประสบการณ์เดมิ เฉพาะทเ่ี ก่ยี วข้องก คนที่ 1 วตั ถุประสงค์ในการจัดประสบการณ์ (เขยี นวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมให้สอดคล้องกับป คนท่ี 1
6 กบั ผู้ป่ วยทไ่ี ด้รับมอบหมาย) คนที่ 2 ประสบการณ์เดมิ ของนักศึกษาด้วย) คนท่ี 2
วนั /เดือน/ปี กจิ กรรมการนิเทศ แผนการนิเทศ เวลา พฤตกิ รรมน
7 ศนักศึกษาประจาวนั นักศึกษา การประเมินผล คาแนะนาของครู หมายเหตุ
แผนการนิเทศป คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐ ชื่อผ้นู ิเทศ นางสาวอบรม แสนต้งั ใจ สถานท่ีนิเทศ หอผปู้ ่ วย…………… จานวนนักศึกษารับการนิเทศ 2 คน อาจารย์พเ่ี ลยี้ ง น่ารัก แสนดี
1 ประจาวนั (ตวั อย่าง) ฐม ……………………. โรงพยาบาลนครปฐม วนั เวลาที่นิเทศ 11 มิถุนายน 2553
นักศึกษาคนท่ี 1 ช่ือนักศึกษา นางสาวออ้ ยหวาน ปานฝัน นกั ศึกษาพยาบาลศ ผู้ป่ วยได้รับมอบหมายช่ือ ชายไทย (เตียง 13) อายุ 41 ปี การวนิ ิจฉัย Complete quadriplegia C4 with Pressure sore (อมั พา ประวตั กิ ารรักษา/ทาหตั ถกรรม/ผ่าตัด - ประวตั ิการเจ็บป่ วยปัจจุบนั 5 เดือนก่อนมาโรงพยาบาลผปู้ ่ วยขี่จกั รยานล Pressure sore ท่ีกน้ กบ แผลมีกล่ินเหมน็ 1 สปั ดาห์ก่อนมาโรงพยาบาลรับประทานอา 1วนั ก่อนมาโรงพยาบาล แผล pressure sore ท ประวตั กิ ารรักษา B1-6-12 1tab ⓪ tid pc, FeSO4 1 tab ⓪ tid pc, effor การรักษาปัจจุบัน - ทากายภาพบาบดั วนั ละ 1 คร้ังตอนบา่ ย อาการสาคญั ทม่ี าโรงพยาบาล - Wet dressing with pack Intrasite gel แผล Pressu อาการแรกรับ - ยา : Diazepam (5mg.) 1 tab ⓪ hs, Diazepam (2m อาการปัจจุบัน แผล Pressure sore ที่กน้ กบมีกล่ินเหมน็ มาก มีไข้ 1 ว รู้ตวั ดี มีไข้ สีหนา้ อ่อนเพลีย แขน-ขา 2 ขา้ งอ Retained foley’s cath ไว้ flow ดี สีเหลืองขนุ่ เล็กนอ้ ย ผปู้ ่ วยรู้ตวั ดี พูดคุยรู้เรื่อง แขน-ขา 2 ขา้ งออ่ น ลึกประมาณ 1 cm. มี discharge ซึมพอควร มีกล่ินเหม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 626
Pages: