0
1 ส 31101 สังคมศึกษำ 1 คำอธิบำยรำยวิชำ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 4 ภำคเรียนท่ี 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษำฯ เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ 1) คำอธิบำยรำยวิชำสำระ ภมู ศิ ำสตร์ ศกึ ษา ใช้แผนทแ่ี ละเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรปุ ขอ้ มูลตามกระบวนการ ทางภมู ศิ าสตร์ และนาภมู สิ ารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของพื้นท่ี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ลักษณะทางกายภาพซึ่งทาให้เกิดปัญหาหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างสง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับกิจกรรมของมนษุ ย์ในการสร้างสรรค์วิถีการดาเนนิ ชีวิตของ ท้องถนิ่ ทงั้ ในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ความสาคัญของสิ่งแวดล้อมท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิตของ มนุษย์ สถานการณ์ สาเหตุ และผลกระทบของการเปล่ียนแปลงด้านทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของ ประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก รหสั ตัวช้ีวัด ส 5.1 ม. 4-6/1, ม. 4-6/3 2) คำอธบิ ำยรำยวชิ ำสำระ พระพุทธศำสนำ ศึกษา วิเคราะห์ ลักษณะของสังคมชมพูทวีปและคติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนามที ฤษฎแี ละวิธีการที่เป็นสากลและมีข้อปฏิบัติที่ยดึ สายกลาง การพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ ถูกตอ้ งในพระพุทธศาสนา พระพทุ ธเจ้าในฐานะเปน็ มนษุ ย์ผฝู้ ึกตนได้อย่างสงู สดุ ในการตรัสรู้ การก่อต้ัง วิธกี าร สอนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พทุ ธประวัติดา้ นการบริหารและการธารงรกั ษาศาสนา ข้อปฏิบัตทิ างสาย กลางในพระพุทธศาสนาหรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือ การพัฒนาศรัทธาและปัญญาท่ีถูกต้องลักษณะ ประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนา หลักการของพระพุทธศาสนากบั หลกั วิทยาศาสตร์ การคดิ ตามนัยและการคิด แบบวิทยาศาสตร์ การฝกึ ฝนและพฒั นาตนเอง การพงึ่ ตนเอง และการมุ่งอสิ รภาพ พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสตร์ แหง่ การศึกษาซ่งึ เน้นความสัมพนั ธ์ของเหตปุ ัจจัยกบั วิธีการแก้ปญั หา การฝึกตนไม่ใหป้ ระมาท มุ่งประโยชน์สุข และสันติภาพแก่บุคคล สังคมและโลก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน การศึกษาท่ีสมบูรณ์ การเมือง และสันติภาพ ข้อคิดและแบบอย่างการดาเนินชีวิตจากประวัติพทุ ธสาวก พุทธ สาวิกา พุทธศาสนกิ ชนตัวอย่าง ชาดก (เวสสันดรชาดก มโหสถชาดก มหาชนกชาดก) รหัสตวั ชว้ี ัด ส 1.1 ม. 4-6/1, ม. 4-6/2,ม. 4-6/3,ม. 4-6/4,ม. 4-6/5,ม. 4-6/6,ม. 4-6/7,ม. 4-6/8 ม. 4-6/9,ม. 4-6/10,ม. 4-6/11,ม. 4-6/12,ม. 4-6/14
2 โครงสร้ำงรำยวชิ ำสังคมศึกษำ (พ้นื ฐำน) ชัน้ ม.4 ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 1.1 สำระภูมศิ ำสตร์ ลำดบั ชอื่ หนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน มโนทศั น์สำคัญ เวลำ นำ้ หนัก ท่ี กำรเรียนรู้ (ชม.) คะแนน /ตวั ชว้ี ัด 1 เครือ่ งมือทาง ส 5.1 - การใชแ้ ผนท่ีและ 5 11 ภมู ิศาสตร์ ม.4-6/3 เคร่อื งมือทางภมู ศิ าสตรต์ าม กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ จะชว่ ยให้สามารถนาภูมิ สารสนเทศทไ่ี ดม้ าใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ 2 การเปล่ียนแปลงทาง ส 5.1 - ปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ที่มี 15 26 กายภาพของโลก ม.4-6/1 อทิ ธิพลตอ่ การเปล่ียนแปลง ทางกายภาพในประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งสง่ ผลต่อภมู ปิ ระเทศ ภมู ิอากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติ รวม 20 37
โครงสรำ้ งแผนกำรจัดกำรเรยี หนว่ ยกำร แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ วิธีสอน/วิธีกำรจดั กำร ควำม เรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 1. เครื่องมือ แผนท่ี 1 เครื่องมอื ทาง กระบวนการทาง 1. ความเข้าใจ ภูมศิ าสตร์ และมนษุ ย์ ทางภมู ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) 2. การใหเ้ หตุผ แผนที่ 2 เทคโนโลยภี มู ิ- ภมู ิศาสตร์ สารสนเทศ 3. การตัดสนิ ใจ ระบบ
3 ยนรู้สำระ ภมู ศิ ำสตร์ ช้ัน ม.4 กำรร้เู รื่องภมู ิศำสตร์ (Geo-Literacy) เวลำ (ช่วั โมง) มสำมำรถ กระบวนกำร ทกั ษะ 3 จระบบธรรมชาติ 1. การตั้งคาถามเชิง 1. การสงั เกต ผลทาง ภมู ศิ าสตร์ 2. การแปลความขอ้ มูล 2 จอย่างเปน็ ทางภมู ิศาสตร์ 2. การรวบรวมข้อมลู 3. การใชเ้ ทคนิคและ 3. การจดั การขอ้ มลู เคร่ืองมอื 4. การวิเคราะหข์ อ้ มูล 5. การสรุปเพอื่ ตอบ ทางภูมศิ าสตร์ 4. การคิดเชิงพน้ื ที่ คาถาม 5. การใช้เทคโนโลยี 6. การใชส้ ถิตพิ ืน้ ฐาน
หน่วยกำร แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ ีกำรจัดกำร ควำม เรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 2. การ แผนท่ี 1 ธรณภี าค กระบวนการทาง 1. การใหเ้ หตุผ เปล่ยี นแปลง ภมู ิศาสตร์ แผนท่ี 2 บรรยากาศภาค ภมู ศิ าสตร์ ทาง (Geographic Inquiry 2. การตัดสินใจ กายภาพ แผนท่ี 3 อทุ กภาค ระบบ Process) ของโลก แผนที่ 4 ชีวภาค แผนท่ี 5 การ เปลยี่ นแปลงทาง กายภาพท่สี ง่ ผลตอ่ ภมู ิประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ
4 กำรรู้เรอ่ื งภมู ิศำสตร์ (Geo-Literacy) เวลำ (ชั่วโมง) มสำมำรถ กระบวนกำร ทักษะ 3 ผลทาง 1. การต้งั คาถามเชงิ 1. การแปลความขอ้ มลู 3 จอย่างเป็น ภูมิศาสตร์ ทางภูมศิ าสตร์ 3 2. การคดิ เชิงพ้ืนที่ 3 2. การรวบรวมข้อมูล 3. การจัดการข้อมูล 3 4. การวเิ คราะหข์ ้อมูล 5. การสรปุ เพอ่ื ตอบ คาถาม 20
5 1.2 สำระพระพทุ ธศำสนำ ลำดับ ชอื่ หน่วยกำรเรียน มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ น้ำหนัก ท่ี เรยี นรู้ / ตวั ช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน 1 ประวัติและ ส 1.1 สงั คมชมพทู วีปและคตคิ วามเชอ่ื ทาง 7 12 ความสาคัญของ ม.4-6/1 ม.4- ศาสนาสมัยก่อน พระพทุ ธเจ้ามีคติความ พระพุทธศาสนา 6/4 เชื่อทางศาสนาแตกต่างกบั ม.4-6/5 ม.4- พระพทุ ธศาสนาซง่ึ มี 6/6 ทฤษฎแี ละวิธีการทเ่ี ปน็ สากล มีขอ้ ม.4-6/7 ม.4-6/8 ปฏิบัตทิ ี่ยึดทางสายกลาง และเน้นการ ม.4-6/9 ม.4- พฒั นาศรัทธาและปญั ญาทีถ่ ูกต้อง 6/10 ม.4-6/11 ม.4- 6/12 2 พุทธประวตั ิ ส 1.1 พระพทุ ธเจา้ เปน็ ผฝู้ ึกตนไดอ้ ย่าง 7 11 และชาดก ม.4-6/2 สงู สุดในการตรัสรู้ การก่อตงั้ วธิ ีการ ม.4-6/3 สอนและการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ม.4-6/14 การศกึ ษา พุทธประวัติ ชาดก เรอ่ื ง เลา่ จะได้ขอ้ คิดเพื่อนาไปใช้เป็น แบบอยา่ งในการดาเนนิ ชีวติ 3 วันสาคัญทาง ส 1.2 พุทธศาสนกิ ชนทุกคนพงึ ปฏบิ ัติตน 6 10 พระพทุ ธศาสนา ม.4-6/2 อย่างถกู ต้องในศาสนพิธี พิธกี รรม 20 40 และศาสนพธิ ี ม.4-6/4 วันสาคัญทางพระพทุ ธศาสนา และ แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ ซ่ึงถือเป็น การธารงรกั ษาพระพุทธศาสนา รวม
โครงสรำ้ งแผนกำรจัดกำรเรียนร หนว่ ยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจดั วธิ กำรเรียนรู้ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 1. ลกั ษณะของสงั คมชมพูทวีปและคติ 1. วธิ ีสอนโดย ประวตั แิ ละ ความเชอ่ื ทางศาสนาสมยั กอ่ น วเิ คราะห์ ความสาคญั ของ พระพุทธเจา้ พระพุทธศาสนา 2. วิธีสอนโดย 2. พระพุทธศาสนามที ฤษฎแี ละวิธกี าร กลุ่ม ท่ีเป็นสากลและมขี อ้ ปฏิบัติที่ยึดทาง สายกลาง หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 2 1. พทุ ธประวัติ 1. วธิ ีสอนโดย พุทธประวตั ิและชาดก วเิ คราะห์ 2. ชาดก 2. วธิ ีสอนโดย กลุ่ม
รู้สำระ พระพุทธศำสนำ ช้ัน ม.4 6 ธสี อน / กระบวนกำรจดั ทักษะกำรคิด เวลำ กำรเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) ยเน้นกระบวนการ : กระบวนการคดิ 1. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 4 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมี 3 วิจารณญาณ ยเน้นกระบวนการ : กระบวนการ 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ยเน้นกระบวนการ : กระบวนการคดิ 1. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 4 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมี 3 วิจารณญาณ ยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการ 3. ทักษะการคดิ วิเคราะห์
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจัด วธิ กำรเรยี นรู้ หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ 3 1. วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา 1. วิธสี อนโดย วนั สาคัญทาง เทคนคิ การตอ่ พระพุทธศาสนา 2. ศาสนพธิ ี และศาสนพิธี 2. วิธสี อนโดย เทคนิคการจัด 3. วธิ สี อนโดย เทคนิคคู่คดิ รวม
ธสี อน / กระบวนกำรจัด ทักษะกำรคิด 7 กำรเรียนรู้ 1. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ เวลำ ยการจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื : 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมี (ชว่ั โมง) อเรอื่ งราว (Jigsaw) วจิ ารณญาณ 3 ยการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมือ : 3. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ดทีมแข่งขัน 3 ยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : 20
8 กำหนดกำรสอน รำยวชิ ำ สังคมศกึ ษำ (พน้ื ฐำน) รหัสวชิ ำ ส31101 ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4 เวลำ 40 ช่วั โมง/ภำคเรยี น จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภำคเรียน 1 ปีกำรศึกษำ 2564 สัปดำห์ เนอ้ื หำ/สำระทีส่ อน จำนวน คะแนน ภำระงำน/ วธิ ีกำรประเมนิ หมำย ท่ี ช่วั โมง ช้ินงำน เหตุ สำระภูมศิ ำสตร์ 1-2 หนว่ ยท่ี 1 เคร่อื งมอื ทำงภมู ิศำสตร์ 3 6 - แบบทดสอบ - ประเมนิ เครอื่ งมือทำงภูมศิ ำสตร์ - ใบงาน แบบทดสอบ - ความสาคญั และประโยชน์ของ - แบบประเมิน เครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ ชิน้ งาน ประเภทต่าง ๆ - วธิ กี ารใช้เครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู อันเป็น ประโยชน์ต่อการใช้ชวี ิตประจาวัน 3 เทคโนโลยีภูมิสำรสนเทศ 2 5 - ใบงาน - แบบประเมนิ - ความสาคญั และประโยชน์ของ ชน้ิ งาน เทคโนโลยภี ูมิสารสนเทศ ประเภทต่าง ๆ - วิธกี ารใชเ้ ทคโนโลยีภูมสิ ารสนเทศ เพอ่ื ประโยชน์ต่อการใช้ ชีวิตประจาวัน 4-5 หน่วยที่ 2 กำรเปลยี่ นแปลงทำง 3 5 - แบบทดสอบ - ประเมนิ กำยภำพของโลก - ใบงาน แบบทดสอบ ธรณภี ำค - แบบประเมนิ - อิทธพิ ลของปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ท่ี ช้ินงาน ส่งผลต่อโครงสร้างและกระบวนการ เปลย่ี นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณี ภาคของพนื้ ทใ่ี นประเทศไทยและ ภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก 6 บรรยำกำศภำค 3 5 - ใบงาน - แบบประเมิน - ช้นั บรรยากาศและองคป์ ระกอบ ชิ้นงาน
สาคญั ของชนั้ บรรยากาศของโลก 9 - อทิ ธพิ ลของปจั จัยทางภมู ิศาสตร์ที่ - แบบประเมนิ ช้นิ งาน สง่ ผลตอ่ การเปล่ียนแปลงทาง - แบบประเมิน กายภาพด้านบรรยากาศภาคของ ช้นิ งาน พนื้ ทใี่ นประเทศไทยและภมู ภิ าค - แบบประเมิน ช้นิ งาน ต่าง ๆ ของโลก 7 อทุ กภำค 3 5 - ใบงาน 5 - ใบงาน - วฏั จักรทางอุทกวิทยาและ 6 - ใบงาน ผลกระทบท่ีเกดิ จากนา้ ใน มหาสมทุ ร - อทิ ธพิ ลของปัจจัยทางภูมิศาสตรท์ ี่ สง่ ผลต่อการเปลย่ี นแปลงทาง กายภาพด้านอุทกภาคของพ้นื ท่ี ในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก 8 ชีวภำค 3 - ระบบนิเวศและลกั ษณะการ เปล่ยี นแปลงทางชวี ภาคของ แต่ละพื้นที่ - อทิ ธพิ ลของปจั จัยทางภมู ศิ าสตรท์ ี่ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทาง กายภาพด้านชีวภาคของพืน้ ท่ใี น ประเทศไทยและภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของ โลก 9 กำรเปลี่ยนแปลงทำงกำยภำพทสี่ ง่ ผล 3 ต่อภมู ิประเทศ ภูมิอำกำศ และ ทรพั ยำกรธรรมชำติ - ระบบนเิ วศและลักษณะการ เปล่ียนแปลงทางชวี ภาคของ แต่ละพ้ืนท่ี - อิทธิพลของปัจจยั ทางภูมศิ าสตรท์ ่ี สง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงทาง กายภาพด้านชีวภาคของพ้นื ทใี่ น
10 ประเทศไทยและภูมภิ าคต่าง ๆ ของ 10 - แบบทดสอบ - ประเมิน โลก กลางภาค แบบทดสอบ 1. โครงสรา้ งประชากรโลก 4 6 - แบบทดสอบ - ประเมนิ และประชากรไทย 2.ปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างสง่ิ แวดล้อม 3 - ใบงาน แบบทดสอบ 4 ทางกายภาพกับกิจกรรมของ 3 - แบบประเมิน มนุษย์ท่ีก่อให้เกิดการกระจาย 3 และความหนาแนน่ ของประชากร 3 ชิ้นงาน 10 สอบกลางภาค 40 6 - ใบงาน - แบบประเมนิ สำระพระพุทธศำสนำ ชิน้ งาน 11-12 หนว่ ยที่ 1 ประวัติและควำมสำคัญ 6 - ใบงาน - แบบประเมิน ของพระพุทธศำสนำ 5 - ใบงาน ชิ้นงาน - ลักษณะของสงั คมชมพูทวีปและคติ 5 - ใบงาน ความเชอื่ ทางศาสนาสมัยกอ่ น - แบบประเมนิ พระพุทธเจ้า ช้นิ งาน 13 - พระพุทธศาสนามที ฤษฎีและวิธกี ารที่ เปน็ สากลและมีข้อปฏิบตั ิทย่ี ึดทางสาย - แบบประเมนิ กลาง ชิ้นงาน 14-15 หนว่ ยท่ี 2 พุทธประวตั ิและชำดก - พทุ ธประวตั ิ 5 - ใบงาน - แบบประเมิน 16 - ชาดก ชิ้นงาน 17 หนว่ ยท่ี 3 วันสำคัญทำง 20 - แบบทดสอบ - ประเมนิ พระพุทธศำสนำและศำสนพธิ ี ปลายภาค แบบทดสอบ - วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 100 18 - ศาสนพธิ ี 19 ทบทวนความรู้/แนวข้อสอบ 20 สอบปลายภาค รวม
11 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เครอื่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ เวลา 5 ชัว่ โมง 1. มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พนั ธ์ของสรรพส่งิ ซง่ึ มีผลตอ่ กนั ใชแ้ ผนทแ่ี ละ เครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปขอ้ มลู ตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ ม.4-6/3 ใช้แผนที่และเครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ และสรปุ ข้อมูลตาม กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ และนาภูมสิ ารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวัน 2. สำระกำรเรยี นรู้ 2.1 สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง 1) แผนท่ีและองค์ประกอบ 2) การอ่านแผนทีเ่ ฉพาะเรอ่ื ง 3) การแปลความหมายรูปถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทยี ม 4) การนาภูมสิ ารสนเทศไปใช้ในชวี ิตประจาวนั 2.2 สำระกำรเรยี นรู้ท้องถนิ่ (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศึกษา) 3. มโนทัศนส์ ำคัญ (Key Concept) - การใช้แผนทแี่ ละเคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ตามกระบวนการทางภูมศิ าสตรจ์ ะชว่ ยใหส้ ามารถนาภมู ิสารสนเทศ มาใช้ในชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4. คำถำมหลัก (Big Question) - การอ่านแผนที่ การแปลความหมายรปู ถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทียม รวมท้ังการคน้ หาข้อมลู จาก เคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตรม์ วี ธิ กี ารอย่างไร และนาภมู ิสารสนเทศไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งไร 5. กำรรูเ้ ร่ืองภูมิศำสตร์ (Geo–Literacy) ควำมสำมำรถทำงภูมศิ ำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ทักษะทำงภูมิศำสตร์ 1. ความเข้าใจระบบธรรมชาติ 1. การต้ังคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ 1. การสงั เกต 2. การรวบรวมขอ้ มลู 2. การแปลความขอ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ และมนุษย์ 3. การจดั การข้อมูล 3. การใชเ้ ทคนคิ และเครื่องมอื ทาง 2. การใหเ้ หตุผลทางภูมศิ าสตร์
12 3. การตดั สนิ ใจอย่างเป็นระบบ 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ภูมศิ าสตร์ 5. การสรุปเพ่อื ตอบคาถาม 4. การคดิ เชิงพนื้ ท่ี 5. การใชเ้ ทคโนโลยี 6. การใช้สถติ ิพื้นฐาน 6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 1) ทักษะการสารวจค้นหา 2) ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 7. ช้ินงำน/ภำระงำน (รวบยอด) รายงานแผนที่ Google Maps เร่อื ง แผนท่ี Google Maps กาหนดเสน้ ทางจากบ้านของฉันถึงโรงเรยี น 8. กำรวัดและกำรประเมินผล รำยกำรวดั วิธวี ดั เครือ่ งมือ เกณฑ์กำรประเมิน - แบบประเมนิ รายงาน - ระดบั คุณภาพ 2 8.1 การประเมินชน้ิ งาน/ - ประเมินรายงานแผนท่ี แผนที่ Google Maps ผา่ นเกณฑ์ เรือ่ ง แผนที่ Google ภาระงาน (รวบยอด) Google Maps เรือ่ ง Maps กาหนดเสน้ ทาง - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ จากบา้ นของฉนั ถงึ แผนท่ี Google Maps โรงเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น กาหนดเส้นทางจากบ้าน ของฉนั ถึงโรงเรยี น 8.2 การวดั และประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรยี น ก่อนเรียน - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง เครอ่ื งมอื ทาง ภมู ศิ าสตร์
13 รำยกำรวัด วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์กำรประเมิน 8.3 การวัดและประเมนิ ผล - ตรวจใบงานที่ 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม 1) เครอื่ งมือทาง - ตรวจใบงานท่ี 1.2 - ใบงานท่ี 1.2 - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ภูมศิ าสตร์ - ตรวจใบงานท่ี 1.3 - ใบงานท่ี 1.3 2) เทคโนโลยีภูมิ - ตรวจใบงานท่ี 1.4 - ใบงานท่ี 1.4 - ระดับคุณภาพ 2 สารสนเทศ - ตรวจใบงานท่ี 1.5 - ใบงานที่ 1.5 ผา่ นเกณฑ์ - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ ผลการนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ ผลงาน - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 4) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2 การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล - แบบประเมินคุณลักษณะ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ อันพึงประสงค์ 5) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม การทางานกลุม่ การทางานกลมุ่ - แบบทดสอบหลังเรยี น 6) คณุ ลกั ษณะ - ประเมินคณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ อันพึงประสงค์ 8.4 การวัดและประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ หลงั เรยี น หลงั เรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เคร่ืองมอื ทาง ภูมิศาสตร์ 8.5 การรู้เรอื่ งทางภูมิศาสตร์ - ประเมนิ รายงานแผนท่ี - แบบประเมินรายงาน - ระดับคุณภาพ 2 Google Maps เรือ่ ง แผนท่ี Google Maps ผ่านเกณฑ์ แผนที่ Google Maps เรอ่ื ง แผนท่ี Google กาหนดเสน้ ทางจากบา้ น Maps กาหนดเสน้ ทาง ของฉันถงึ โรงเรียน จากบ้านของฉนั ถึง โรงเรียน
14 9. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เครอ่ื งมือทางภมู ศิ าสตร์ เรอ่ื งท่ี 1 : เครื่องมอื ทำงภมู ิศำสตร์ เวลำ 3 ช่วั โมง วิธีสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process) ขนั้ นำ นกั เรียนชมภาพ หรอื คลปิ วิดโี อลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี ตา่ ง ๆ ของโลก แล้วตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ข้นั สอน ขนั้ ท่ี 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภมู ิศำสตร์ 1. นักเรยี นดแู ผนท่ีประเภทตา่ ง ๆ แล้วรว่ มกนั ตอบคาถามเก่ยี วกับแผนที่ 2. นักเรียนช่วยกนั ตง้ั คาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ ขน้ั ท่ี 2 กำรรวบรวมขอ้ มูล 1. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ศึกษาความรู้เกยี่ วกับแผนท่ีตามประเดน็ ท่กี าหนด 2. ครูแนะนาแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศเพิม่ เติม ขั้นท่ี 3 กำรจัดกำรขอ้ มูล 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลท่ีตนไดจ้ ากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลีย่ นความรู้ระหวา่ งกนั 2. จากน้ันสมาชิกในกลุ่มช่วยกนั คดั เลือกขอ้ มูลเพื่อใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่ถูกต้องและนาเสนอขอ้ มูล ข้นั ท่ี 4 กำรวเิ ครำะห์และแปลผลข้อมลู 1. สมาชิกในกลมุ่ ทุกคนนาข้อมูลเกี่ยวกบั ลักษณะภูมอิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวีปยุโรป ท่ีสืบค้นมาวเิ คราะห์ตามประเด็นเพ่อื อธิบายคาตอบ 2. ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน สมาชกิ กลมุ่ อืน่ เสนอขอ้ คิดเหน็ หรือข้อเสนอแนะเพิม่ เติม 3. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันทาใบงานที่ 1.1 เร่อื ง เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ และรว่ มกันเฉลยคาตอบ ข้นั ที่ 5 กำรสรุปเพอื่ ตอบคำถำม 1. นักเรยี นในชัน้ เรยี นช่วยกันสรปุ ความรู้เกย่ี วกบั เครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ 2. สมาชิกในแตล่ ะกลุม่ ช่วยกันสรปุ สาระสาคญั เพือ่ ตอบคาถามเชิงภมู ศิ าสตร์ ขั้นสรุป นักเรียนรว่ มกนั สรปุ เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ ตลอดจนความสาคญั ทม่ี ีอิทธิพลตอ่ การนามาใช้ใน ชวี ติ ประจาวัน
เรอื่ งที่ 2 : เทคโนโลยีภมู สิ ำรสนเทศ 15 วธิ ีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) เวลำ 2 ชั่วโมง ขัน้ นา ครูให้นักเรยี นเล่นเกมแข่งขันการใชส้ มาร์ตโฟนในการหาเส้นทางไปยังสถานที่ทน่ี กั เรียนสนใจในทวีปตา่ ง ๆ จานวน 10 แห่ง จากน้ันอภปิ รายแสดงความคิดรว่ มกนั ขนั้ สอน ขน้ั ท่ี 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภมู ศิ ำสตร์ 1. นกั เรยี นดรู ูปถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทยี ม แล้วรว่ มกนั ตอบคาถาม 2. นกั เรียนชว่ ยกันตัง้ คาถามเชิงภูมิศาสตร์ ขน้ั ท่ี 2 กำรรวบรวมขอ้ มูล 1. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีภมู ิสารสนเทศผา่ นการทาใบงานตามประเดน็ ท่ีกาหนด 2. ครูแนะนาแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศเพมิ่ เติม ขั้นท่ี 3 กำรจัดกำรขอ้ มลู 1. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มนาข้อมูลท่ีตนได้จากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลี่ยนความรูร้ ะหว่างกนั 2. จากนัน้ สมาชกิ ในกล่มุ ช่วยกนั คดั เลือกข้อมลู เพื่อให้ได้ขอ้ มูลที่ถกู ต้อง ข้ันที่ 4 กำรวิเครำะหแ์ ละแปลผลขอ้ มูล 1. สมาชิกแต่ละกลมุ่ นาขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการศกึ ษามาทาการนาเสนอ และรว่ มกนั วเิ คราะหต์ รวจสอบความ ถกู ต้องของขอ้ มลู โดยครชู ่วยชีแ้ นะเพมิ่ เติม 2. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ อภิปรายผลการวเิ คราะห์ข้อมูล ขนั้ ท่ี 5 กำรสรุปเพ่ือตอบคำถำม 1. นักเรยี นในชนั้ เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ ก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. สมาชกิ ในแต่ละกล่มุ ช่วยกันสรปุ สาระสาคญั เพ่ือตอบคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ ขน้ั สรปุ นักเรยี นร่วมกนั สรุปเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตลอดจนความสาคัญท่ีมอี ิทธพิ ลตอ่ การนามาใช้ในชีวติ ประจาวัน
16 10. สือ่ /แหล่งกำรเรยี นรู้ 10.1 ส่ือกำรเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 2) แบบฝกึ สมรรถนะและการคิด ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 3) แบบวัดและบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ ภูมิศาสตร์ ม.4-6 4) หนังสอื ค้นควา้ เพมิ่ เตมิ (1) ทรงกต ทศานนท์.2550. หลกั กำรรบั ร้จู ำกระยะไกล. เอกสารประกอบการสอนวชิ า 106601. นครราชสมี า : สานักวชิ าวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี. (2) พรทพิ ย์ กาญจนสุนทร.2541. แผนทแ่ี ละกำรแปลตีควำมแผนที่. กรงุ เทพมหานคร : ภาควิชา ภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (3) สัญญา สราภริ มย.์ 2550. ระบบสำรสนเทศภูมศิ ำสตร์. เอกสารประกอบการสอนวชิ า 10611. นครราชสีมา : สานกั วชิ าวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี รุ นาร.ี 5) เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ ได้แก่ แผนท่ี ลกู โลกจาลอง รปู ถา่ ยทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม 6) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง เคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ 7) ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง การรบั รู้จากระยะไกล 8) ใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง ระบบกาหนดตาแหน่งบนพนื้ โลก 9) ใบงานที่ 1.4 เรือ่ ง ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ 10) ใบงานท่ี 1.5 เร่ือง การใช้ประโยชนเ์ ทคโนโลยภี ูมิสารสนเทศ 10.2 แหล่งกำรเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.learners.in.th/blogs/posts/32187 - http://www.skoolbuz.com/library/content/3942 - http://earth.google.co.th - http://maps.google.co.th - http://thaigoodview.com/node/59898
17 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ 1 เครอื่ งมือทำงภมู ิศำสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 5 คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตรม์ ีความสาคัญอยา่ งไร 6. ปจั จบุ ันนักเรยี นคดิ ว่าเครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ใดที่ ก. ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการแกป้ ญั หา เกี่ยวขอ้ งกบั ชวี ติ ประจาวันของเราอยา่ งมาก ข. ชว่ ยให้มนุษยม์ องเห็นโลกได้สวยงาม ค. ใช้เปน็ ช่องทางการติดตามธุรกิจพื้นบา้ น ก. อนิ เทอรเ์ น็ต ง. ใชเ้ ปน็ ข้อมูลในการยึดครองมาทาประโยชน์ ข. รูปถา่ ยทางอากาศ ค. ภาพจากดาวเทียม 2. ข้อใดเป็นเครือ่ งมือสาคัญในการศึกษาภูมิศาสตรท์ ี่ ง. แผนที่แสดงเสน้ ทางหลวง มนษุ ย์สร้างข้ึนเพือ่ จาลองสงิ่ ทเี่ กิดขนึ้ โดยสรา้ งบนแผน่ 7. ประโยชนส์ งู สดุ ของแผนที่คอื อะไร ก. เพื่อคานวณหาพน้ื ท่บี นผวิ โลก แบนราบ ยอ่ ขนาดให้เล็กลงตามอตั ราสว่ น ข. สรา้ งสัญลักษณต์ า่ ง ๆ ของผวิ โลก ค. ทราบข้อมูลพื้นฐานเบือ้ งตน้ ของโลก ก. ลกู โลก ข. เข็มทศิ ง. เพ่ือเหน็ สญั ลักษณ์ทแ่ี ท้จริงของผวิ โลก ค. แผนท่ี ง. ภาพถา่ ยทางอากาศ 3. วัตถปุ ระสงคข์ องการใชแ้ ผนท่ี คือขอ้ ใด 8. ปจั จุบันเราใช้ประโยชน์จากโปรแกรม Google maps ก. ศึกษาฤดกู าล ข. หาตาแหนง่ ท่ตี ้งั ด้านใดมากท่ีสุด ค. ศึกษาพนื้ ทีข่ องโลก ง. เทยี บเวลาของโลก ก. บอกเส้นทางลมพายุ ข. บอกทิศทางการเดินทาง 4. แผนทแี่ สดงจดุ เสีย่ งภัยแผ่นดนิ ไหว จดั เปน็ แผนท่ี ค. บอกเส้นทางเสย่ี งอุทกภยั ประเภทใด ง. บอกลมฟา้ อากาศประจาวัน ก. แผนทีท่ ่ัวไป 9. สมใจวางแผนการไปท่องเท่ียวประเทศองั กฤษ สมใจ ข. แผนท่ีอ้างองิ ค. แผนที่เฉพาะเรือ่ ง ควรใชเ้ คร่ืองมอื ทางภูมิศาสตรข์ ้อใด ง. แผนทภี่ มู ปิ ระเทศ 5. ข้อใดกาหนดความหมายระยะทางบนแผนทกี่ ับ ก. ภาพจากดาวเทียม ข. เข็มทิศ ระยะทางจรงิ บนพ้ืนผวิ โลก ค. แผนที่ ง. ภาพถ่ายทางอากาศ ก. ทิศ ข. มาตราสว่ น 10. ทุกข้อคอื ประโยชน์ของ GPS ยกเว้นข้อใด ก. การใชอ้ ้างองิ ในการนบั เวลา ค. สญั ลักษณ์ ง. ขอบระวาง ข. การสารวจรังวดั และการทาแผนท่ี ค. การใช้คล่นื แสงในการทาลายสารพิษ ง. การตดิ ตามการเคลอื่ นท่ีของคนและวตั ถุ
41 เฉลยแบบทดสอบก่อน–หลังเรียน หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ 1 เครื่องมอื ทำงภูมิศำสตร์ 1. ก. 2. ค. 3. ข. 4. ค. 5. ข. 6. ก. 7. ค. 8. ข. 9. ค. 10. ค.
42 แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ี่ 1 หน่วยท่ี 1 เครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตร์ เรื่อง เคร่อื งมอื ทำงภูมิศำสตร์ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 3 ชวั่ โมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ผสู้ อน นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั 1.1 ตวั ชี้วัด ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธข์ องสรรพสิง่ ซึ่งมีผลต่อกนั ใช้แผนท่ี และเครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตรใ์ นการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ม.4-6/3 ใชแ้ ผนท่ีและเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมลู ตาม กระบวนการทางภูมิศาสตร์ และนาภมู สิ ารสนเทศมาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายความสาคญั และประโยชนข์ องเครื่องมอื ทางภูมศิ าสตร์ประเภทตา่ ง ๆ ได้ (K) 2. เลือกใช้เครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตรใ์ นการสืบค้นข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชวี ิตประจาวันได้ (P) 3. เหน็ คณุ ค่าของการศึกษาเคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร์เพือ่ การใช้ประโยชน์ในชวี ติ เพม่ิ มากขึ้น (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้ท้องถน่ิ สำระกำรเรียนรู้จำกส่ือ สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) - เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ 1) แผนที่และองค์ประกอบ 2) การอ่านแผนท่ีเฉพาะเร่อื ง (แผนที่,ลกู โลกจาลอง) 4. มโนทัศน์สำคัญ (Key Concept) - การใชแ้ ผนท่ีและเคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตรต์ ามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์จะชว่ ยให้สามารถนาภมู ิสารสนเทศ มาใช้ในชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 5. คำถำมหลกั (Big Question) - การอ่านแผนท่ี รวมทั้งการค้นหาข้อมลู จากเครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตรม์ ีวิธีการอยา่ งไร และนาไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งไร
43 6. กำรร้เู รอ่ื งภมู ศิ ำสตร์ (Geo–Literacy) ควำมสำมำรถทำงภูมิศำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ทักษะทำงภมู ศิ ำสตร์ 1. การสังเกต 1. ความเข้าใจระบบธรรมชาติ 1. การตั้งคาถามเชิงภูมิศาสตร์ 2. การแปลความขอ้ มลู ทางภูมิศาสตร์ 3. การใช้เทคนคิ และเครอื่ งมือทาง และมนษุ ย์ 2. การรวบรวมข้อมูล ภมู ิศาสตร์ 2. การใหเ้ หตุผลทางภูมศิ าสตร์ 3. การจดั การขอ้ มูล 4. การคิดเชงิ พ้นื ท่ี 5. การใชเ้ ทคโนโลยี 3. การตัดสนิ ใจอย่างเปน็ ระบบ 4. การวเิ คราะห์ข้อมูล 6. การใชส้ ถิตพิ นื้ ฐาน 5. การสรปุ เพือ่ ตอบคาถาม 7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี นและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการคดิ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทกั ษะการทาให้กระจา่ ง 2. มงุ่ ม่ันในการทางาน 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ช่ัวโมงท่ี 1 ข้นั นา 1. ครแู จ้งใหน้ ักเรยี นทราบถึงวิธีสอนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ช่ือเรื่องทจี่ ะเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง เครอื่ งมือทางภมู ิศาสตร์ 3. ครนู าภาพ หรอื คลปิ วดิ โี อลักษณะทางกายภาพในทวีปตา่ ง ๆ ของโลกมาใหน้ ักเรียนดู ซงึ่ มที ั้งภเู ขา ทรี่ าบสงู แมน่ ้า และทะเลทราย 4. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความคดิ โดยให้นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคาถาม เช่น 1) ถ้าเราตอ้ งการเดนิ ทางไปทอ่ งเท่ียวประเทศตา่ ง ๆ ในโลก เราควรศกึ ษาความรเู้ ก่ยี วกบั การเดินทาง
44 สถานที่ท่องเทยี่ ว หรอื สภาพภมู ิประเทศ ดังนัน้ จะสามารถใชเ้ ครอื่ งมือทางภูมิศาสตร์ใดได้บ้าง และ ประโยชน์ที่จะไดร้ บั จากเคร่ืองมอื ดังกลา่ วคอื อะไร (แนวตอบ เช่น แผนที่ เพราะนาเสนอข้อมูลลกั ษณะของสิง่ ทป่ี รากฏบนผิวโลก และทาให้ทราบไดถ้ ึงสภาพ ภมู ิประเทศ ตลอดจนสถานที่ท่องเท่ียวในบรเิ วณพน้ื ท่ีต่าง ๆ บนโลกได้เปน็ อย่างดี) 2) เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์มีความสาคัญอยา่ งไร (แนวตอบ เปน็ เครอ่ื งมอื ทีส่ ามารถใชศ้ ึกษาเรื่องราวสภาพพืน้ ทีต่ ่าง ๆ บนโลก เชน่ ลกั ษณะทางกายภาพ ของโลก ตลอดจนการสะทอ้ นให้เห็นถึงสภาพสังคมและการดารงชวี ิตประจาวันของมนษุ ย์ จึงนามาซ่ึงขอ้ มูล ที่มีความถูกต้องและทันสมัย รวมถึงสามารถนามาประยุกต์ใช้เพ่ือเป็นประโยชนใ์ นการดารงชีวิตประจาวัน ได)้ ขน้ั สอน ข้ันที่ 1 กำรต้ังคำถำมเชิงภมู ิศำสตร์ 1. ครนู าแผนท่ีประเภทต่าง ๆ มาให้นักเรียนดู แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถามตามประเดน็ หรอื แสดง ความคิดเห็นเพ่มิ เติมประกอบการตั้งคาถามจาก Geo Tip ในหนงั สอื เรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 เชน่ 1) นักเรียนพบเหน็ ส่งิ ใดจากแผนท่ีบ้าง (แนวตอบ ชอ่ื แผนที่ เสน้ โครงแผนท่ี สี สัญลักษณ์ มาตราสว่ น พิกัดทางภูมศิ าสตร์ ฯลฯ) 2) นักเรยี นคิดวา่ แผนท่ีมปี ระโยชน์อยา่ งไร (แนวตอบ เช่น ใชศ้ ึกษาลักษณะภูมปิ ระเทศ ศกึ ษาลกั ษณะทรพั ยากรธรรมชาติ ศึกษาสภาพอากาศ ศกึ ษาเสน้ ทางการเดนิ ทาง ศกึ ษาเสน้ ทางการท่องเที่ยว) 3) หากนักเรียนมกี ารสบื ค้นขอ้ มูลจากแผนทเี่ ชงิ เลขบนสมารต์ โฟน จะสามารถตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ได้จากสว่ นใดของแผนที่ (แนวตอบ มาตราสว่ น เนือ่ งจากข้อมูลของแผนทเี่ ชงิ เลขมีความสมั พันธร์ ะหว่างข้อมลู พกิ ัดและ สญั ลักษณ์แสดงผล โดยสามารถแสดงรายละเอยี ดทง้ั ทางราบและทางด่ิงได้ จึงมคี วามถกู ต้องที่จะ สามารถพจิ ารณาไดต้ ามหลกั เกณฑ์ของมาตราส่วน เช่นเดยี วกับแผนท่ปี ระเภทกระดาษท่วั ไป) 2. จากนน้ั ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตงั้ ประเดน็ คาถามเชิงภูมิศาสตร์เกี่ยวกบั แผนท่ี เพอื่ คน้ หาคาตอบ เช่น 1) แผนท่แี ตล่ ะประเภท มขี ้อแตกตา่ งกันอยา่ งไร 2) การใชป้ ระโยชน์จากแผนทีม่ ขี ้อจากดั หรอื ไม่ อยา่ งไร 3) เพราะเหตุใด แผนที่จงึ ถกู นามาใชใ้ นการศึกษาขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตรใ์ นประเทศไทยและโลก 4) ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ท่ีพบในแผนทมี่ ีความสัมพันธ์กนั หรอื ไม่ อยา่ งไร 5) หากในอนาคตไม่มแี ผนทเี่ ปน็ หนง่ึ ในเคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตรจ์ ะส่งผลกระทบอยา่ งไร ขน้ั ที่ 2 กำรรวบรวมข้อมูล 1. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน สืบค้นข้อมูลเกีย่ วกบั แผนท่ี จากหนงั สอื เรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6
45 หรอื จากแหลง่ การเรยี นรู้อ่ืน ๆ เชน่ หนังสือในหอ้ งสมดุ เว็บไซตใ์ นอนิ เทอร์เนต็ เพ่อื นามาอภิปราย รว่ มกนั ในชน้ั เรียนตามประเด็นต่อไปน้ี 1) ประเภทของแผนที่ 2) องคป์ ระกอบของแผนท่เี ฉพาะเรอื่ ง 3) การอา่ นและแปลความแผนที่ 4) การใชป้ ระโยชนแ์ ผนที่ 2. ครแู นะนาแหล่งข้อมูลสารสนเทศท่ีน่าเช่อื ถอื เกีย่ วกับแผนทแี่ ละการอา่ นแผนท่ี เพ่อื เป็นการรวบรวม ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ ช่ัวโมงท่ี 2 ข้นั ที่ 3 กำรจดั กำรข้อมลู 1. สมาชิกแต่ละคนในกล่มุ นาขอ้ มูลท่ีตนได้จากการรวบรวมมาอธิบายแลกเปล่ยี นความรู้ระหว่างกัน 2. จากนน้ั สมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกันคัดเลอื กข้อมูลท่ีนาเสนอเพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีถกู ต้อง และรว่ มอภิปรายแสดง ความคิดเห็นเพมิ่ เตมิ 3. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาตัวอยา่ งองคป์ ระกอบของแผนท่ี จากแผนทแ่ี สดงลกั ษณะภมู ิประเทศ คาบสมทุ รอินโดจนี จากหนังสอื เรยี นภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 หรือใช้สมาร์ตโฟนคน้ หาสัญลกั ษณท์ ่ีพบในแผนท่ี เพม่ิ เติม แลว้ นาข้อมูลมาอภปิ รายร่วมกันภายในช้ันเรียน ขนั้ ที่ 4 กำรวิเครำะหแ์ ละแปลผลข้อมูล 1. ครสู ุ่มนกั เรียนเพอื่ ลองอา่ นและแปลความหมายตวั อยา่ งแผนท่ีเขตภมู ิอากาศของทวปี แอฟริกา จากหนงั สอื เรียนภูมศิ าสตร์ ม.4-6 แล้วอภิปรายร่วมกนั ในกลุม่ พรอ้ มทั้งประโยชนท์ ่ีไดร้ ับ 2. ครูใหส้ มาชกิ แต่ละกลุ่มนาข้อมูลทร่ี วบรวมมาไดท้ าการวิเคราะห์ร่วมกนั เพ่อื อธบิ ายคาตอบ 3. ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น สมาชกิ กลมุ่ อน่ื ผลัดกนั ให้ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ 4. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มนาความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาและวิเคราะห์ข้อมูลมาวิเคราะห์และเรียบเรียงประเดน็ สาคัญเพ่ือร่วมกันทาใบงานท่ี 1.1 เร่ือง เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ และรว่ มกนั เฉลยคาตอบ ขั้นท่ี 5 กำรสรปุ เพื่อตอบคำถำม 1. นักเรยี นในชั้นเรียนรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกับแผนที่ องค์ประกอบของแผนที่ การอา่ นและแปลความแผนท่ี ตลอดจนการใช้ประโยชนแ์ ผนที่ โดยอาจศึกษา Geo Tip เก่ยี วกบั แอปพลเิ คชนั แผนท่เี พิม่ เตมิ จาก หนังสือเรยี นภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 2. ครใู หส้ มาชิกในแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันสรุปสาระสาคญั เพ่ือตอบคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ โดยครูแนะนาเพิ่มเตมิ 3. นักเรียนทาแบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 เรือ่ ง แผนท่ี เพ่ือทดสอบความรทู้ ีไ่ ด้ศกึ ษามา ขนั้ สรปุ
46 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปความรเู้ ก่ียวกบั แผนท่ี ตลอดจนความสาคัญของแผนที่มอี ิทธิพลต่อการดาเนนิ ชีวิต ของผ้คู นในปจั จุบัน หรอื อาจใช้ PPT สรปุ สาระสาคัญของเน้ือหา ขนั้ ประเมนิ 1. ครูประเมนิ ผลโดยสงั เกตจากการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทางาน และการนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาใบงาน และแบบฝกึ สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6 9. กำรวัดและประเมินผล รำยกำรวัด วิธวี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์กำรประเมนิ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ร้อยละ 60 ผา่ น 9.1 การวดั และประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ เกณฑ์ ก่อนเรยี น ก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง เคร่อื งมอื ทาง ภูมิศาสตร์ 9.2 การวัดและประเมินผล ระหวา่ งการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) เลือกใชเ้ ครื่องมือทาง - ตรวจใบงานท่ี 1.1 - ใบงานท่ี 1.1 - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ ภมู ิศาสตร์ในการสืบค้น ขอ้ มลู อันเป็นประโยชน์ ต่อการใชช้ ีวติ ประจาวนั ได้ 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการนาเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2 ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่ การทางานรายกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ - ระดับคุณภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มัน่ ใน อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ การทางาน
47 9.3 การรู้เรอ่ื งภมู ศิ าสตร์ - ประเมนิ การใชเ้ คร่อื งมือ - แบบประเมินการใช้ - ระดับคณุ ภาพ 2 ทางภมู ิศาสตร์ เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ ผา่ นเกณฑ์ 10. สื่อ/แหลง่ กำรเรยี นรู้ 10.1 สอื่ กำรเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียนภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 2) แบบฝกึ สมรรถนะและการคิด ภูมิศาสตร์ ม.4-6 3) หนงั สอื คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ - พรทพิ ย์ กาญจนสนุ ทร.2541.แผนท่แี ละกำรแปลตคี วำมแผนท่ี. กรงุ เทพมหานคร : ภาควิชา ภูมศิ าสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร.์ 4) เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ ไดแ้ ก่ แผนท่ี ลกู โลกจาลอง รูปถา่ ยทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม 5) ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง เคร่อื งมือทางภมู ศิ าสตร์ 10.2 แหลง่ กำรเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://earth.google.co.th - http://maps.google.co.th
48 ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ ตอนท่ี 1 คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนบอกชอ่ื ประเทศตำมพกิ ัดทำงภมู ศิ ำสตรท์ ี่กำหนดให้ ท่ี ตำแหน่งละติจดู ตำแหนง่ ลองจจิ ดู ช่อื ประเทศ 1 60 องศาเหนอื 60 องศาตะวนั ออก 2 55 องศาเหนือ 3 20 องศาใต้ 0 องศา 4 45 องศาเหนอื 135 องศาตะวนั ออก 5 35 องศาใต้ 105 องศาตะวันออก 6 48 องศาเหนือ 60 องศาตะวนั ตก 7 60 องศาเหนือ 8 26 องศาเหนอื 5 องศาตะวนั ตก 9 40 องศาเหนอื 140 องศาตะวันออก 10 30 องศาใต้ 78 องศาตะวนั ออก 35 องศาตะวันตก 65 องศาตะวันตก
49 ตอนท่ี 2 คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนใช้เคร่ืองมือทำงภมู ศิ ำสตร์สบื ค้นขอ้ มูลเกย่ี วกบั ภูมปิ ระเทศของประเทศต่ำง ๆ ในภมู ภิ ำค ต่ำง ๆ ของโลก ตำมหวั ขอ้ ทก่ี ำหนด 1. ขอ้ มลู ทไ่ี ด้จากการสืบค้น มีสาระสาคัญอะไรบา้ ง 2. เคร่อื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ทใ่ี ช้สบื ค้นคืออะไร มวี ิธกี ารดาเนินการอยา่ งไร 3. เครอื่ งมือทางภูมศิ าสตรท์ ี่ใช้ประกอบการนาเสนอข้อมูล คอื อะไรบ้าง
ใบงานท่ี 1.1 50 เรื่อง เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตร์ เฉลย ตอนท่ี 1 ช่อื ประเทศ คำชี้แจง : ให้นกั เรียนบอกชอื่ ประเทศตำมพิกัดทำงภมู ศิ ำสตรท์ กี่ ำหนดให้ รสั เซีย อังกฤษ ท่ี ตำแหนง่ ละติจูด ตำแหน่งลองจจิ ูด 1 60 องศาเหนอื 60 องศาตะวนั ออก ออสเตรเลีย 2 55 องศาเหนือ มองโกเลยี 3 20 องศาใต้ 0 องศา ปารากวัย 4 45 องศาเหนอื 135 องศาตะวันออก ฝรัง่ เศส 5 20 องศาใต้ 105 องศาตะวันออก รัสเซยี 6 48 องศาเหนอื 60 องศาตะวนั ตก อินเดีย 7 60 องศาเหนอื 3 องศาตะวนั ออก ฟินแลนด์ 8 26 องศาเหนอื 140 องศาตะวนั ออก อาร์เจนตินา 9 65 องศาเหนอื 78 องศาตะวันออก 10 30 องศาใต้ 28 องศาตะวนั ตก 65 องศาตะวนั ตก
51 ใบงานท่ี 1.1 คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนใช้เคร่อื งมอื ทำงภมู ิศำสตร์สืบค้นขอ้ มูลเกย่ี วกบั ภูมปิ ระเทศของประเทศตำ่ ง ๆ ในภูมภิ ำค ตำ่ ง ๆ ของโลก ตำมหวั ข้อทกี่ ำหนด 1. ขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการสบื คน้ มีสาระสาคัญอะไรบา้ ง 2. เครื่องมือทางภมู ศิ าสตรท์ ี่ใช้สืบค้นคอื อะไร มวี ธิ กี ารดาเนนิ การอยา่ งไร 3. เคร่อื งมือทางภูมิศาสตรท์ ใี่ ช้ประกอบการนาเสนอขอ้ มูล คืออะไรบา้ ง (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อย่ใู นดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน)
52 แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ลาดบั ช่ือ – สกุล ความร่วมมือ การแสดง การรับฟัง การต้งั ใจ การร่วม รวม ท่ี ของผ้รู ับการ 4321 ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น ทางาน ปรับปรุง 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน ประเมนิ 4321 4321 4321 4321 เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ ดีมาก = 4 ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรบั ปรุง =1 เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5 – 8 ปรบั ปรุง
53 53 บันทึกหลังกำรจัดกำรเรียนรู้ แผนท่ี 1 เรื่อง เคร่อื งมือทำงภูมศิ ำสตร์ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเนอ้ื หา ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสื่อ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. อน่ื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่เี กิดขึน้ กบั ผ้เู รยี น 1) นกั เรยี นอธิบายความสาคัญและประโยชน์ของเครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ประเภทต่าง ๆ ได้ 2) เลอื กใช้เครอื่ งมือทางภมู ิศาสตรใ์ นการสืบค้นขอ้ มูลอนั เป็นประโยชน์ต่อการใชช้ วี ิตประจาวัน 3) เห็นคุณค่าของการศกึ ษาเครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตร์เพื่อการใช้ประโยชน์ในชีวิตเพิ่มมากขนึ้ 2. ปญั หำและอปุ สรรค นักเรยี นยังขาดความกระตอื รือร้นสนใจในการเรียน 3. แนวทำงแก้ปัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ตี รงกับสภาพของนักเรียน และมกี ารกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นกั เรียน ไดม้ ีส่วนรว่ มมากขนึ้ ลงช่ือ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยทุ ธ์ อ่อนนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชื่อ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กีตา) ผ้อู านวยการโรงเรียน
54 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 2 หน่วยที่ 1 เครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ เรอ่ื ง เทคโนโลยภี มู สิ ำรสนเทศ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 2 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ผู้สอน นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ัด 1.1 ตวั ช้ีวัด ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พันธข์ องสรรพสง่ิ ซง่ึ มผี ลต่อกัน ใช้แผนท่ี และเครื่องมือทางภูมิศาสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมลู ตามกระบวนการทาง ภมู ศิ าสตร์ ตลอดจนใช้ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ม.4-6/3 ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการคน้ หา วิเคราะห์ และสรปุ ขอ้ มลู ตาม กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ และนาภมู สิ ารสนเทศมาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั 2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายความสาคัญและประโยชนข์ องเทคโนโลยภี มู สิ ารสนเทศได้ (K) 2. ประยุกต์ความรเู้ กย่ี วกับเทคโนโลยีภูมสิ ารสนเทศมาใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ (P) 3. เหน็ คณุ ค่าของการศึกษาเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพ่อื การใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ เพิม่ มากข้นึ (A) 3. สำระกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน สำระกำรเรียนรู้จำกสอ่ื (พจิ ารณาตามหลกั สตู ร - เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง 1) การแปลความหมายรูปถ่าย สถานศึกษา) (เทคโนโลยภี มู ิสารสนเทศ) ทาง อากาศและภาพจาก ดาวเทียม 2) การนาภมู ิสารสนเทศไปใช้ใน ชวี ิตประจาวนั 4. มโนทศั นส์ ำคญั (Key Concept) - การใช้แผนที่และเครื่องมอื ทางภมู ิศาสตร์ตามกระบวนการทางภมู ศิ าสตรจ์ ะชว่ ยให้สามารถนาภมู สิ ารสนเทศ มาใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
55 5. คำถำมหลกั (Big Question) - การแปลความหมายรปู ถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทียม รวมทั้งการคน้ หาขอ้ มูลจากเครอ่ื งมือทาง ภูมศิ าสตร์มวี ธิ กี ารอย่างไร และนาภูมสิ ารสนเทศไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร 6. กำรรเู้ รอื่ งภูมศิ ำสตร์ (Geo–Literacy) ควำมสำมำรถทำงภมู ิศำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ทกั ษะทำงภูมศิ ำสตร์ 1. การสังเกต 1. ความเข้าใจระบบธรรมชาติ 1. การตงั้ คาถามเชิงภูมศิ าสตร์ 2. การแปลความขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์ 3. การใช้เทคนิคและเคร่อื งมอื ทาง และมนษุ ย์ 2. การรวบรวมข้อมูล ภูมิศาสตร์ 2. การใหเ้ หตุผลทางภูมศิ าสตร์ 3. การจัดการข้อมูล 4. การคดิ เชิงพนื้ ที่ 5. การใชเ้ ทคโนโลยี 3. การตดั สนิ ใจอย่างเปน็ ระบบ 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 6. การใชส้ ถติ พิ น้ื ฐาน 5. การสรปุ เพ่ือตอบคาถาม 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการคดิ 1. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะการทาใหก้ ระจ่าง 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 8. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ชั่วโมงที่ 1 ข้ันนา 1. ครใู หน้ กั เรียนเล่นเกมแขง่ ขนั การใช้สมารต์ โฟนคน้ หาเสน้ ทางไปยังสถานท่ที ี่นกั เรียนสนใจในทวปี ต่าง ๆ จานวน 10 แห่ง ภายในเวลาทกี่ าหนด จากน้ันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นร่วมกัน 2. ครสู นทนาประกอบการซกั ถามเกีย่ วกบั เทคโนโลยภี ูมสิ ารสนเทศในความรูค้ วามเข้าใจเบ้ืองต้นของนักเรยี น เพิม่ เติม เชน่
56 1) เทคโนโลยภี มู ิสารสนเทศได้แกส่ งิ่ ใด (แนวตอบ เช่น รปู ถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม GPS GIS) 2) ในปจั จุบันเทคโนโลยภี มู สิ ารสนเทศมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง (แนวตอบ เชน่ มปี ระโยชน์ในดา้ นการสารวจ การสบื ค้นขอ้ มลู การวิเคราะหข์ ้อมลู การบริหาร การวางแผน ใน พืน้ ท่ที ม่ี ขี ้อจากัด ทง้ั ในด้านระยะทาง หรอื การเข้าถึง ตลอดจนเปน็ การอานวยความสะดวกในการนา เทคโนโลยมี าใช้ในชีวิตประจาวันเพ่มิ มากข้นึ ) ขนั้ สอน ขน้ั ที่ 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภูมิศำสตร์ 1. ครูนารูปถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทยี มสวย ๆ มาให้นักเรียนดู จากนัน้ ให้นกั เรียนลองบอกส่ิง ท่ี เห็นจากสายตา 2. ครกู ระตนุ้ ให้นกั เรียนชว่ ยกนั ต้งั ประเดน็ คาถามเชิงภมู ศิ าสตร์ เช่น 1) เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศที่นามาใช้ในการหาเส้นทางการเดินทางไปยังเป้าหมาย เรียกว่าระบบ อะไร 2) เทคโนโลยภี ูมสิ ารสนเทศแตล่ ะประเภท มคี วามเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั หรือไม่ อย่างไร 3) นอกจากเครื่องมือทางภูมิศาสตร์อย่างลูกโลก แผนท่ี รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม แลว้ ยงั มีเครอ่ื งมอื ใดอีกบ้างที่ใชศ้ ึกษาขอ้ มูลทางภูมศิ าสตร์ และให้ข้อมูลเกยี่ วกับอะไร 3. ครอู าจให้นักเรียนศึกษา Geo Tip เกย่ี วกับดาวเทียมสารวจทรัพยากร จากหนงั สอื เรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 ประกอบการตง้ั ประเด็นคาถามเชิงภมู ศิ าสตรเ์ พิม่ เตมิ ขน้ั ที่ 2 กำรรวบรวมข้อมูล 1. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 4 คน โดยใหน้ ักเรียนในแต่ละกลมุ่ มหี มายเลขประจาตวั คอื หมายเลข 1 2 3 และ 4 เรียกว่า กลุ่มแมบ่ า้ น 2. นักเรยี นกลุม่ แมบ่ า้ นแยกยา้ ยไปรวมกนั ตามหมายเลขเดียวกัน เรยี กว่า กลุม่ ผ้เู ชีย่ วชาญ 3. สมาชกิ ในกลุม่ ผูเ้ ชี่ยวชาญ ร่วมกนั สบื คน้ ความรู้ เรือ่ ง เทคโนโลยภี ูมสิ ารสนเทศ จากหนังสอื เรยี น ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 และสรุปความรู้ลงในใบงาน ตามประเด็นต่อไปน้ี 1) หมายเลข 1 ทาใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง การรับร้จู ากระยะไกล 2) หมายเลข 2 ทาใบงานท่ี 1.3 เรือ่ ง ระบบกาหนดตาแหนง่ บนพืน้ โลก 3) หมายเลข 3 ทาใบงานท่ี 1.4 เร่ือง ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ 4) หมายเลข 4 ทาใบงานท่ี 1.5 เรื่อง การใชป้ ระโยชน์เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ 4. สมาชิกในกลมุ่ ผ้เู ชยี่ วชาญแต่ละหมายเลขทาการรวบรวมและอภปิ รายขอ้ มูลจากการทาใบงาน ขน้ั ท่ี 3 กำรจดั กำรขอ้ มูล
57 1. สมาชิกในกลุ่มผ้เู ช่ียวชาญแตล่ ะหมายเลขกลบั ไปยงั กลุม่ แม่บ้านของตนเอง 2. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มนาขอ้ มูลท่ีตนได้จากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลี่ยนความรู้ระหวา่ งกัน 3. จากนั้นสมาชกิ ในกลุ่มช่วยกนั คดั เลอื กขอ้ มลู ที่นาเสนอเพือ่ ให้ไดข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง ชั่วโมงที่ 2 ข้ันที่ 4 กำรวเิ ครำะหแ์ ละแปลผลข้อมูล 1. สมาชิกแต่ละกลมุ่ นาข้อมูลทีไ่ ด้จากการศึกษามาทาการวิเคราะห์ และร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ของขอ้ มลู โดยครูช่วยชแ้ี นะเพ่มิ เติม 2. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ใช้ความร้เู รอ่ื ง เทคโนโลยีสารสนเทศที่นามาใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน มาประกอบการนาเสนอเพ่ิมเติมตามประเด็น ดังนี้ 1) กลมุ่ ที่ 1 เร่ือง การรบั รู้จากระยะไกล 2) กลุ่มท่ี 2 เรอื่ ง ระบบกาหนดตาแหน่งบนพนื้ โลก 3) กลมุ่ ที่ 3 เรื่อง ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ 4) กลมุ่ ท่ี 4 เรอ่ื ง การใชป้ ระโยชนเ์ ทคโนโลยีภูมสิ ารสนเทศ 3. ครแู ละนักเรยี นวเิ คราะห์ในเรื่องราวที่นาเสนอ และอภิปรายเสนอแนะข้อคิดเหน็ ร่วมกัน ขั้นท่ี 5 กำรสรปุ เพอ่ื ตอบคำถำม 1. ครูให้สมาชิกในแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั สรุปสาระสาคัญเพือ่ ตอบคาถามเชิงภูมศิ าสตร์ 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การทารายงาน แผนท่ี Google Maps กาหนดเส้นทางจากบา้ นของฉนั ถงึ โรงเรียน โดยกาหนดใหป้ กั หมุด “บา้ นของฉัน” และ “โรงเรยี น” พรอ้ มอธบิ ายวธิ ีการนาระบบภมู ิสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ให้เขา้ ใจง่ายและชดั เจน 3. ใหน้ ักเรียนทาแบบวดั ฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 เรอื่ ง เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์เพอื่ ทดสอบความรู้ ท่ไี ด้ศกึ ษามา แลว้ นาสง่ ครใู นชัว่ โมงถดั ไป ขนั้ สรปุ - ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกบั เครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตร์ หรอื ใช้ PPT สรุปสาระสาคัญของเน้ือหา ตลอดจนความสาคญั ของเคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตรต์ ่อการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั ขน้ั ประเมนิ 1. ครูประเมนิ ผลโดยสังเกตจากการตอบคาถาม การร่วมกนั ทางาน และการนาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น 2. ครูตรวจสอบผลจากการทาใบงาน และแบบวดั ฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6 3. ครูให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง เครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตร์
58 9. กำรวดั และประเมินผล รำยกำรวัด วิธีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์กำรประเมิน 9.1 การวัดและประเมินผล ระหว่างการจดั กจิ กรรม การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายความสาคญั และ - ตรวจใบงานที่ 1.2 - ใบงานที่ 1.2 - ร้อยละ 60 ผา่ น - ใบงานที่ 1.3 เกณฑ์ ประโยชน์ของเทคโนโลยี - ตรวจใบงานท่ี 1.3 - ใบงานท่ี 1.4 - ใบงานที่ 1.5 ภูมิสารสนเทศได้ - ตรวจใบงานท่ี 1.4 2) ประยกุ ต์ความรเู้ กย่ี วกบั - ตรวจใบงานท่ี 1.5 ภมู ิสารสนเทศมาใช้ใน ชีวิตประจาวนั ได้ 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผลงาน นาเสนอ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน 4) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดับคุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทางาน รายบุคคล 5) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดบั คณุ ภาพ 2 การทางานกลุ่ม การทางานกลุม่ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทางานกลุ่ม 6) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความใฝ่เรียนรู้ - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ และมุ่งมัน่ ในการทางาน คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ อันพงึ ประสงค์ 9.2 การวดั และประเมินผล - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลัง - ร้อยละ 60 ผา่ น หลังเรียน หลังเรยี น - แบบทดสอบหลงั เรยี น เรียน เกณฑ์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง เครอ่ื งมอื ทาง ภูมิศาสตร์
59 9.3 การร้เู ร่อื งภูมศิ าสตร์ - ประเมนิ การใช้เครือ่ งมือ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพ 2 ทางภูมศิ าสตร์ ใช้ ผา่ นเกณฑ์ เคร่อื งมือทาง ภูมิศาสตร์ 10. สอื่ /แหลง่ กำรเรียนรู้ 10.1 สอื่ กำรเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6 2) แบบฝกึ สมรรถนะฯ ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 3) หนงั สอื ค้นควา้ เพ่มิ เตมิ (1) ทรงกต ทศานนท์.2550. หลกั กำรรบั ร้จู ำกระยะไกล. เอกสารประกอบการสอนวิชา 106601. นครราชสมี า : สานักวิชาวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี. (2) สญั ญา สราภริ มย.์ 2550. ระบบสำรสนเทศภมู ิศำสตร์. เอกสารประกอบการสอนวิชา 10611. นครราชสมี า : สานกั วิชาวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีสุรนาร.ี 4) เครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ ได้แก่ แผนที่ ลกู โลกจาลอง รูปถา่ ยทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม 5) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง การรบั รู้จากระยะไกล 6) ใบงานท่ี 1.3 เร่อื ง ระบบกาหนดตาแหน่งบนพืน้ โลก 7) ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ 8) ใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง การใชป้ ระโยชนเ์ ทคโนโลยีภมู ิสารสนเทศ 10.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://earth.google.co.th - http://maps.google.co.th
60 ใบงำนที่ 1.2 เร่ือง กำรรบั รจู้ ำกระยะไกล คำชี้แจง : ให้นักเรยี นศึกษำควำมรู้เรือ่ ง กำรรับรจู้ ำกระยะไกล แล้วตอบคำถำมต่อไปน้ี 1. การรับรจู้ ากระยะไกล (Remote Sensing) เปน็ ระบบสารวจเกบ็ ข้อมูลเกี่ยวกบั พ้นื ผวิ โลก โดยใช้ส่งิ ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การทางานของเคร่ืองรับรูจ้ ากระยะไกล จะตรวจจับสิ่งใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ระบบการทางานของเครือ่ งรับร้จู ากระยะไกลจะแปลงข้อมลู ออกมาในลักษณะรูปแบบใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงยกตวั อย่างระบบการทางานของเครอ่ื งรับรรู้ ะยะไกลทนี่ ามาประยกุ ต์ใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
61 ใบงำนท่ี 1.3 เรอ่ื ง กำรกำหนดตำแหนง่ บนพน้ื โลก คำช้ีแจง : ให้นักเรียนศึกษำควำมรู้เรื่อง กำรกำหนดตำแหน่งบนพน้ื โลก แล้วตอบคำถำมต่อไปน้ี 1. ระบบกาหนดตาแหนง่ บนพื้นโลก (Global Positioning System) เปน็ เทคโนโลยีท่ีใช้กาหนดตาแหนง่ บนพ้นื โลก โดยอาศยั สงิ่ ใดบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ระบบกาหนดตาแหน่งบนพ้นื โลก ใช้ข้อมลู จากดาวเทียมอยา่ งน้อยกีด่ วง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงยกตัวอย่างระบบกาหนดตาแหนง่ บนพืน้ โลกที่นามาประยุกตใ์ ชป้ ระโยชน์ในโลกยุคปัจจุบนั ในดา้ นต่าง ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
62 ใบงำนที่ 1.4 เรอ่ื ง ระบบสำรสนเทศภูมศิ ำสตร์ คำช้แี จง : ให้นกั เรียนศึกษำควำมรู้เรื่อง ระบบสำรสนเทศภูมศิ ำสตร์ แลว้ ตอบคำถำมต่อไปนี้ 1. ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ (Geographic Information System) เปน็ ระบบท่ีเชื่อมโยงกบั คา่ พิกัดภูมศิ าสตร์ และรายละเอียดของพื้นทน่ี ัน้ บนพนื้ โลก โดยใช้สง่ิ ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ระบบคอมพวิ เตอร์ทีถ่ กู สร้างขน้ึ เพื่อใชท้ างานกบั ข้อมลู ทางภมู ศิ าสตร์ ประกอบดว้ ยส่ิงใดบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อมลู ตาแหนง่ เป็นข้อมูลท่เี ก่ียวขอ้ งกบั สง่ิ ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ขอ้ มูลคุณลักษณะ เป็นขอ้ มูลท่เี กย่ี วขอ้ งกับสิ่งใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ มีข้อดีอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
63 ใบงำนที่ 1.5 เร่อื ง กำรใช้ประโยชนเ์ ทคโนโลยภี ูมสิ ำรสนเทศ คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนศึกษำควำมรู้เรอื่ ง กำรใช้ประโยชน์เทคโนโลยีภมู ิสำรสนเทศ แลว้ ตอบคำถำมต่อไปน้ี 1. บทบาทของภมู สิ ารสนเทศในปัจจุบนั จะปรากฏให้เหน็ ถงึ การใชป้ ระโยชน์อย่างแพรห่ ลายบนเทคโนโลยใี ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงยกตัวอยา่ งการประยกุ ตใ์ ชป้ ระโยชน์ภมู สิ ารสนเทศในด้านต่าง ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อดขี องการนาระบบภมู สิ ารสนเทศมาชว่ ยในการจดั ทาแผนที่ภาษี คือสิ่งใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ข้อดขี องระบบภมู สิ ารสนเทศท่ีนามาใช้ประโยชนใ์ นการจัดการทรัพยากรของประเทศ มีความเกี่ยวข้องกบั ส่ิงใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลย 64 ใบงำนท่ี 1.2 เรื่อง กำรรับรู้จำกระยะไกล คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนศกึ ษำควำมร้เู รอื่ ง กำรรบั ร้จู ำกระยะไกล แล้วตอบคำถำมตอ่ ไปน้ี 1. การรบั รจู้ ากระยะไกล (Remote Sensing) เปน็ ระบบสารวจเกบ็ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั พ้นื ผวิ โลก โดยใช้สงิ่ ใด …เ…คร…ื่อ…ง…รบั …ร…ู้ (…Se…n…s…or…s…) ซ…่ึง…ต…ดิ ไ…ป…ก…บั …ดา…ว…เท…ีย…ม…เ…คร…ื่อ…งบ…นิ……ห…รอื …บ…อ…ล…ลนู………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การทางานของเคร่ืองรับรู้จากระยะไกล จะตรวจจบั สง่ิ ใด …ค…ล…น่ื …พ…ลัง…ง…าน…แ…ม…่เห…ล…็ก…ไฟ…ฟ…้า…ท…ส่ี …ะท…อ้ …น…จ…าก…ว…ตั …ถุบ…น…ผ…ิว…โล…ก…ห…ร…ือ…ตร…ว…จ…จับ…ค…ล…่นื …ท…่ีสง่…ไ…ปแ…ล…ะ…ส…ะท…้อ…น…ก…ลับ…ม…า………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ระบบการทางานของเคร่ืองรบั รู้จากระยะไกลจะแปลงขอ้ มลู ออกมาในลกั ษณะรูปแบบใด …เ…ชงิ…ต…ัว…เล…ข…ซ…ึ่งน…า…ไ…ปใ…ช…้แ…สด…ง…เป…น็ …ภ…า…พแ…ล…ะ…ท…าแ…ผ…น…ท…ี่ ……………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงยกตวั อยา่ งระบบการทางานของเครื่องรบั ร้รู ะยะไกลทนี่ ามาประยกุ ตใ์ ชป้ ระโยชน์ในด้านตา่ ง ๆ …(แ…น…ว…ต…อบ…)………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …1…. …ง…าน…ต…ดิ …ต…าม…พ…ืน้ …ท…ีไ่ ฟ…ป…่า…แ…ล…ะค…ว…าม…เ…สีย…ห…า…ย…จา…ก…ไฟ…ป…่า…………………………………………………………………………………… …2... งานสารวจพ้นื ทที่ ่ีไดร้ บั ผลกระทบจากอทุ กภัย …3…. …ก…า…รป…ร…ะ…เม…นิ …ท…ิศท…า…ง…กา…ร…ไห…ล…ข…อ…งน…้า………………………………………………………………………………………………………… …4…. …ก…า…รเ…ป…ล่ีย…น…แ…ป…ลง…ก…า…รใ…ช…้ที่ด…ิน…ใ…น…แต…ล่ …ะ…ช่ว…ง…เว…ล…า………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลย 65 ใบงำนท่ี 1.3 เรือ่ ง กำรกำหนดตำแหนง่ บนพื้นโลก คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนศึกษำควำมรเู้ รือ่ ง กำรกำหนดตำแหนง่ บนพน้ื โลก แล้วตอบคำถำมตอ่ ไปนี้ 1. ระบบกาหนดตาแหนง่ บนพนื้ โลก (Global Positioning System) เป็นเทคโนโลยที ใ่ี ช้กาหนดตาแหน่งบนพื้นโลก โดยอาศัยสง่ิ ใดบา้ ง ……ดา…ว…เท…ยี …ม…ส…ถ…าน…ีภ…า…ค…พ…้นื ด…นิ……แล…ะ…เค…ร…่อื …งร…บั …จ…พี …ีเอ…ส………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ระบบกาหนดตาแหน่งบนพื้นโลก ใชข้ อ้ มูลจากดาวเทยี มอยา่ งนอ้ ยกดี่ วง ……อ…ยา่…ง…น…อ้ ย……4…ด…วง……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงยกตวั อย่างระบบกาหนดตาแหนง่ บนพ้ืนโลกท่นี ามาประยกุ ตใ์ ชป้ ระโยชน์ในโลกยุคปัจจบุ นั ในดา้ นต่าง ๆ ……(แ…น…วต…อ…บ…) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……1.……งา…น…รงั…ว…ัด…เพ…อื่ …งา…น…ค…วบ…ค…ุม…แ…ล…ะท…า…แ…ผน…ท…ี่ ………………………………………………………………………………………………… ….2.. งานตดิ ตามการจราจร ……3.……งา…น…ต…รว…จ…วดั…ก…า…รเ…ค…ลื่อ…น…ย…า้ …ยข…อ…ง…โค…ร…งส…ร…้าง…ท…าง…ว…ศิ …วก…ร…รม……รว…ม…ท…้ังส…ะ…พ…า…น…แล…ะ…อ…าค…า…ร…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
66 เฉลย ใบงำนที่ 1.4 เรื่อง ระบบสำรสนเทศภมู ิศำสตร์ คำช้แี จง : ให้นกั เรียนศึกษำควำมรเู้ รื่อง ระบบสำรสนเทศภูมศิ ำสตร์ แลว้ ตอบคำถำมต่อไปนี้ 1. ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ (Geographic Information System) เป็นระบบทเี่ ชอ่ื มโยงกบั ค่าพิกดั ภูมศิ าสตร์ และรายละเอยี ดของพน้ื ที่นัน้ บนพน้ื โลก โดยใช้สิง่ ใด ……ใช…ค้ …อ…มพ…ิว…เ…ตอ…ร…์ แ…ล…ะ…แส…ด…ง…ผล…ล…พั …ธ…์ไป…ร…ูป…แบ…บ…ต…่า…ง…ๆ…เช…น่ ……แผ…น…ท…ี่ ภ…า…พ…ส…าม…ม…ิต…ิ ส…ถ…ติ …ิ ต…า…รา…ง…ขอ้…ม…ลู …ร…อ้ …ย…ละ……………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ระบบคอมพิวเตอร์ท่ีถกู สร้างขึ้นเพอื่ ใชท้ างานกบั ขอ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ ประกอบด้วยสงิ่ ใดบา้ ง ……ป…ระ…ก…อ…บ…ด้ว…ย…ข…อ้ ม…ลู …ต…า…แห…น…่ง……แล…ะ…ข…อ้ …มูล…ค…ุณ…ล…ัก…ษ…ณ…ะ…………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ มลู ตาแหน่ง เป็นข้อมลู ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับสิ่งใด ……ต…าแ…ห…น…่ง…ท…่ีตัง้…ข…อ…งข…้อ…ม…ูลต…า่ …ง…ๆ…บ…น…พ…ืน้ …โล…ก…ป…ร…ะ…ก…อบ…ด…ว้ …ย…ขอ้…ม…ลู …จ…ดุ …เ…ส…น้ …แ…ละ…พ…น้ื …ท…ี่ ………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ขอ้ มูลคุณลกั ษณะ เป็นขอ้ มลู ทเ่ี ก่ียวข้องกบั ส่งิ ใด ……กา…ร…อ…ธิบ…า…ย…ถึง…ค…ณุ …ล…ัก…ษ…ณ…ะต…่า…ง…ๆ…ใ…น…พ…ืน้ …ที่น…น้ั……ๆ…เช…่น…ข…้อ…ม…ูล…จา…น…ว…น…ปร…ะ…ช…าก…ร…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ มขี ้อดอี ยา่ งไร เปน็ ระบบที่สามารถจดั เกบ็ ข้อมลู ไดม้ าก เรียกดูหรอื คน้ หาข้อมลู ไดร้ วดเร็ว และสามารถสร้างขอ้ มูลสารสนเทศ ข้นึ มาใหม่ด้วยการบรู ณาการ หรือใช้ข้อมูลหลายชนิดท่ีอย่ใู นพน้ื ที่เดยี วกนั มาวิเคราะห์ร่วมกนั ไดง้ ่าย
67 เฉลย ใบงำนที่ 1.5 เรื่อง กำรใช้ประโยชนเ์ ทคโนโลยีภมู ิสำรสนเทศ คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนศกึ ษำควำมรู้เรือ่ ง กำรใช้ประโยชน์เทคโนโลยีภูมสิ ำรสนเทศ แลว้ ตอบคำถำมต่อไปนี้ 1. บทบาทของภูมสิ ารสนเทศในปัจจุบัน จะปรากฏให้เหน็ ถึงการใช้ประโยชนอ์ ย่างแพรห่ ลายบนเทคโนโลยใี ด ……ค…อ…มพ…วิ…เต…อ…ร…์ …โท…ร…ศ…พั …ท์เ…ค…ล่อื…น…ท…่ปี …ร…ะเ…ภ…ท…สม…า…ร…์ตโ…ฟ…น…แ…ล…ะแ…ท…บ็ …เล…็ต………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงยกตัวอยา่ งการประยกุ ตใ์ ช้ประโยชน์ภมู ิสารสนเทศในดา้ นต่าง ๆ ……(แ…น…ว…ต…อบ…)……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……1…. …ก…าร…จ…ัด…ท…าข…อ…บ…เข…ต…ข…อง…พ…น้ื …ท…ีป่ …่าไ…ม…้ ……………………………………………………………………………………………………… …..2. การสรา้ งขอ้ มลู เชงิ พื้นท่ีเพอื่ สนับสนุนการบริหารพน้ื ที่ ……3…. …ก…าร…ใ…ช้ร…ะ…บ…บ…G…P…S…ใน…ย…า…น…พ…าห…น…ะ………………………………………………………………………………………………………… ……4…. …ก…าร…จ…ดั …ท…าแ…ผ…น…ท…ี่ภ…าษ…ี ………………………………………………………………………………………………………… ……5…. …ก…าร…จ…ดั …ท…าแ…ผ…น…ท…ี่ท…รัพ…ย…า…กร…………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อดีของการนาระบบภมู ิสารสนเทศมาชว่ ยในการจดั ทาแผนท่ภี าษี คือส่ิงใด ……ท…าใ…ห…ก้ …าร…จ…ัด…เก…็บ…ภ…าษ…งี …า่ …ยแ…ล…ะ…สะ…ด…ว…ก…ขนึ้……เพ…ร…าะ…ม…ขี …อ้ …มูล…ท…่ใี …ช้ใ…น…ก…าร…ค…าน…ว…ณ…ภ…า…ษี……………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ขอ้ ดีของระบบภมู สิ ารสนเทศทีน่ ามาใช้ประโยชน์ในการจดั การทรพั ยากรของประเทศ มคี วามเก่ียวข้องกับส่ิงใด เกย่ี วข้องกบั การทาฐานขอ้ มลู ทรพั ยากรในชมุ ชน โดยใช้ขอ้ มูลจากภาพดาวเทยี มที่นามาจัดเกบ็ ไว้ในระบบ ภมู ิสารสนเทศ ที่สามารถเรยี กใชง้ าน หรอื นามาวเิ คราะห์ประมวลผลกบั ขอ้ มูลอ่นื ๆ เพ่ือสนับสนนุ การตดั สนิ ใจ ในการบรหิ ารพื้นท่ไี ดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
68 ชิ้นงำน/ภาระงานรวบยอด กจิ กรรม รำยงำนแผนท่ี Google Maps คำชี้แจง : ให้นกั เรียนจัดทำรำยงำน แผนท่ี Google Maps กำหนดเส้นทำงจำกบ้ำนของฉนั ถึงโรงเรียน โดยกำหนดให้ปกั หมุด “บำ้ นของฉนั ” และ “โรงเรียน” พรอ้ มอธบิ ำยวธิ ีกำรนำระบบภมู สิ ำรสนเทศ มำใชป้ ระโยชน์ให้เข้ำใจงำ่ ยและชดั เจน แบบประเมนิ กำรรเู้ รื่องภมู ศิ ำสตร์ กิจกรรม รำยงำนแผนที่ Google Maps รายการ ดมี าก เกณฑ์การประเมิน ปรับปรุง ระดบั ประเมิน (4) ดี พอใช้ (1) คุณภาพ (3) (2) ดมี าก 1.ความสามารถ อธิบายวิธีการนาระบบ อธิบายวิธีการนาระบบ อธิบายวิธีการนาระบบ อ ธิ บ า ย วิ ธี ก า ร น า ดี ทาง ภูมิสารสนเทศมาใช้ ภูมิสารสนเทศมาใช้ ภูมิสารสนเทศมาใช้ ระบบภูมิสารสนเทศ พอใช้ ภมู ศิ าสตร์ ประโยชน์ให้เข้าใจงา่ ย ประโยชน์ให้เข้าใจง่าย ประโยชนใ์ ห้เขา้ ใจงา่ ย มาใช้ปร ะ โ ยชน์ ใ ห้ ปรบั ปรงุ ชดั เจนและครบถว้ น ชดั เจนเปน็ ส่วนใหญ่ ชดั เจนเปน็ บางสว่ น เขา้ ใจแต่ไมช่ ัดเจน 2. กระบวนการ วิ เคร าะ ห์ข้อ มู ล ภู มิ วิ เคร าะ ห์ข้อ มู ล ภู มิ วิ เคร าะ ห์ข้อ มู ล ภู มิ วิเคราะห์ข้อมูลภูมิ ทาง สารสนเทศภูมิศาสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ ภูมศิ าสตร์ ตามกระบวนการทาง ตามกระบวนการทาง ตามกระบวนการทาง ตามกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ได้ถูกต้อง ภูมิศาสตร์ได้ถูกต้อง ภูมิศาสตร์ได้ถูกต้อง ภูมิศาสตร์ได้แต่ไ ม่ ชดั เจนและครบถ้วน ชดั เจนเป็นสว่ นใหญ่ ชดั เจนเปน็ บางส่วน ชัดเจน 3. ทกั ษะทาง น า เ ส น อ ข้ อ มู ล ภู มิ น า เ ส น อ ข้ อ มู ล ภู มิ น า เ ส น อ ข้ อ มู ล ภู มิ น า เ ส น อ ข้ อ มู ล ภู มิ ภมู ศิ าสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ ได้ถูกต้องชัดเจนและ ได้ถูกต้องชัดเจนเป็น ได้ถูกต้องชัดเจนเป็น ได้แตไ่ ม่ชัดเจน ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางส่วน เกณฑก์ ำรตัดสินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ 9-12 ดี 6-8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265