เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 1
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน เขตหนองแขม ที่มาของ เพลงพรปี ใหม่ วนั น้ีไปไหนเรากจ็ ะไดย้ นิ เพลงพรปี ใหม่ เลยอยากเล่าถึงท่ีมาของเพลงน้ีให้ฟังครับ เพลงพระราช นิพนธ์ พรปี ใหม่ เป็ นเพลงพระราชนิพนธ์ลาดบั ที่ 13 ทรงพระราชนิพนธ์ข้ึนในเดือนธนั วาคม พ.ศ. 2494 เม่ือ เสด็จนิวตั พระนครและประทบั ณ พระตาหนกั จิตรลดา รโหฐาน พระราชวงั ดุสิต มีพระราชประสงค์ที่จะ พระราชทานพรปี ใหม่ แก่บรรดาพสกนิกรไทยด้วย เพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพลง \"พรปี ใหม่\"และทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศ์เธอ พระองค์ เจา้ จกั รพนั ธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คาร้องเป็ นคาอวยพรปี ใหม่ แล้วพระราชทานแก่วงดนตรี 2 วง คือ วงดนตรีนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั นาออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นาออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวนั ปี ใหม่ วนั องั คารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2495 ในโอกาสส่งทา้ ยปี เก่าตอ้ นรับปี ใหม่ระหวา่ ง พ.ศ. 2494 – 2495 พระบาทสมเด็จพระ เจา้ อยู่หัว มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปี ใหม่แก่บรรดา พสกนิกรชาวไทย จึงได้ทรงพระราช นิพนธ์เพลง พรปี ใหม่ข้ึน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอพระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ ทรงเป่ าแซ็กโซโฟนในช่วงแรกและช่วงท่ีสาม พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ทรงเป่ าแซ็กโซโฟนในช่วงท่ี สองและช่วงท่ีสี่สลบั กนั ไป วงดนตรีท่ีไดร้ ับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกลา้ ฯ ให้บรรเลงเพลงพรปี ใหม่ เพื่อ พระราชทานแก่ปวงชนคร้ังแรกคือ วงดนตรีชมรมสากลสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และวงสุนท ราภรณ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้พระเจา้ วรวงศเ์ ธอพระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์ เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์เน้ือร้องเป็ นคาประพนั ธ์ 4 บท ที่ใช้คาง่ายๆ แต่ไพเราะและสื่อความหมายได้ชัดเจน ดังเช่นในที่น้ีสรรพนามบุรุ ษท่ี 1 คือ \"ข้า\" หมายถึง \"ข้าฯ\" หรื อ \"ข้าพเจ้า\" อันเป็ นสรรพนามที่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ทรงใชแ้ ทนพระองคใ์ นทุกคราวท่ีทรงมีพระราชดารัสหรือพระบรมราโชวาท ต่อปวงชนชาวไทย โนต้ เพลงพระราชนิพนธ์พรปี ใหม่มีลกั ษณะไล่ข้ึนลงเหมือนลูกคล่ืน ลอ้ รับกนั ท้งั ท่อน แต่เพื่อมิใหร้ าบเรียบจนเกินไป ในหอ้ งท่ี 4 ต่อหอ้ งท่ี 5 จะมีการเนน้ เสียง ซ่ึงมีผลต่อเน้ือร้องดว้ ย ดงั ในวรรค \"ใหบ้ รรดาเราทา่ นรื่นรมย\"์ ตรงตาแหน่งคาวา่ \"ร่ืนรมย\"์ มีการเนน้ เสียงท่ีต่อเน่ืองใหล้ ากสูงข้ึนอีก 3 เสียง ซ่ึง นอกจากจะทาใหท้ านองเพลงไพเราะแลว้ ยงั ทาใหเ้ สียงคาวา่ \"รื่นรมย\"์ สื่ออารมณ์ของความสุขไดม้ ากย่งิ ข้ึน เช่นเดียวกับสรรพนามบุรุษท่ี 2 พหูพจน์คือ \"ปวงท่าน\" ซ่ึงมักทรงใช้กับปวงชนชาวไทยเสมอ วลีที่ สนบั สนุนใหช้ ดั กค็ ือ \"ผองชาวไทย\" ซ่ึงครอบคลุมปวงประชาของพระองค์ ส่ิงท่ีพิเศษสุดของเพลงพระราช นิพนธ์น้ี คือเป็นบทเพลงที่เป็นสายใยแห่งความรักและความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ท่ีมีต่อ พสกนิกรไทยท้งั มวล เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 2
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของคาว่าเซียงกง วนั น้ีขบั รถผ่านบริเวณขายอะไหล่รถท่ี เรียกวา่ เซียงกง กเ็ ลยอยากรู้วา่ ทาไม ถึงเรียกท่ีขายอะไหล่รถวา่ เซียงกง ในสมยั อยธุ ยาเม่ือคนจีนอพยพเขา้ มา มากข้ึนเร่ือย ๆ เพ่อื ง่ายต่อการควบคุมคนจีน กษตั ริยใ์ นสมยั น้นั ไดท้ รงแต่งต้งั ขุนนางเป็ นคนจีนในตาแหน่ง\" พระยาโชฏึกราชเศรษฐี\" มาควบคุมคนจีนดว้ ยกนั เอง คนจีนในเมืองไทยเม่ือมีความเดือดร้อนก็มกั พากนั มา หาพระยาโชฏึก ฯ บา้ นของพระยาโชฏึก ฯ กก็ ลายเป็นสถานที่สังสรรคข์ องคนจีนท้งั หลาย เวลามีงานเล้ียงมี สารทพธิ ีตา่ ง ๆ ก็ใชบ้ า้ นของพระยาโชฏึก ฯ นน่ั แหละเป็ นที่จดั งาน เมื่อนานวนั เขา้ คนจีนมีจานวนมาก แบ่ง กนั เป็ นชุมชนหลาย ๆ ชุมชน เห็นวา่ บา้ นของพระยาโชฏึก ฯ คบั แคบไป ไม่เหมาะแก่การจดั งานสังสรรค์ และจดั ทาพิธีกรรมตา่ ง ๆ จึงไดร้ ่วมใจกนั จดั สร้างศาลเจา้ ของแต่ละชุมชน แรกเริ่มไดส้ ร้างเป็ นศาลเจา้ เรียก กนั ว่าศาลเจา้ ปึ งเถ่ากง และก็ได้นิยมกนั สร้างเป็ นศาลเจา้ เผยแพร่ออกไปตามแต่ละชุมชนแต่ละจงั หวดั นอกจากน้ี ก็ยงั มีการสร้างศาลเจา้ ของเทพเจา้ องค์อ่ืนตามมาด้วย เช่นศาลเจา้ พ่อ กวนอู และศาลเจา้ แม่ กวนอิม ฯ ล ฯ คาวา่ เซียงกง แปลวา่ อากงท่ีเป็นเซียน เป็นชื่อของศาลเจา้ จีน คือศาลเจา้ เซียงกง หรือ เชียงกง อย่ตู รงปลายถนนทรงวาด ถือเป็ นศาลเจา้ ปึ งเถ่ากง ที่เก่าแก่ที่สุดใน กรุงเทพ ฯ ศาลเจา้ ปึ งเถ่ากงคือเจา้ พ่อ หลกั เมืองของจีน คาวา่ ปึ งเถ่ากง ตามความหมายทางภาษาจีน คาวา่ ปึ ง หรือ ป้ึ ง แปลวา่ ด้งั เดิม ส่วนคาวา่ เถ่า กง แปลวา่ อากง (ผอู้ าวุโสท่ีเคารพนบั ถือ) คนแรก หรืออากงผนู้ าคนแรก รวมความแลว้ ปึ งเถ่ากง จ่ึงแปลวา่ อากงผนู้ าคนแรกแต่ด้งั เดิมตอ่ มาบริเวณ\" ศาลเจา้ เซียงกง\" กลายเป็ นแหล่งรวมอะไหล่รถเก่า ท่ีผใู้ ชร้ ถ และอู่ ซ่อมรถ ต่างแวะเวียนหาสิ่งที่ตอ้ งการ ท้งั อะไหล่เก่าจากยุโรป และญี่ป่ ุน ซ่ึงส่วนใหญ่ตอ้ งการจะลดภาระ ค่าใชจ้ ่ายจากการซ่อมห้าง โดยเลือกใชแ้ ทนการซ้ืออะไหล่ใหม่ ท่ีมีราคาสูงเกินไป และไม่มนั่ ใจกบั อะไหล่ เทียม การหาซ้ืออะไหล่เก่าของผบู้ ริโภคจึงเป็ นท่ีนิยมต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั หลงั จากท่ี \"เซียงกง\" แห่งแรก ก็เลิกกิจการไป ทาให้เกิดแหล่งอะไหล่เก่าขนาดใหญ่ล้อมรอบกรุงเทพ ฯ และยงั คงใช้คาว่า \"เซียงกง\" เช่นเดิม เซียงกงจุฬาเป็นเซียงกงเก่าแก่ท่ีรู้จกั กนั ทวั่ ไป แตด่ ว้ ยความแออดั ของพ้ืนท่ี ทาให้พ่อคา้ ต่างพากนั ไป ต้งั เซียงกงเพิ่มมากข้ึน โดยมีการขยายตวั ไปยงั บริเวณชานเมือง เช่น บนถนนเช้ือเพลิง ถนนเรียบแม่น้า พระราม 3 หลกั ส่ี นวนคร สี่มุมเมือง รังสิต วงั นอ้ ย หนองแค ถนนบางนา-ตราด พุทธมณฑล บางบอน บาง แค ฯลฯ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 3
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาของสานวนข้าวใหม่ปลามัน ช่วงน้ีไปงานแต่งงานบ่อยก็ มกั จะไดย้ ินสานวนวา่ ขา้ วใหม่ปลามนั ที่มาของสานวนน้ีมา จาก การเป็ นสังคมเกษตรกรรมและความเป็ นชาติ ที่มีการ ดาเนินชีวิตสัมพนั ธ์กบั ธรรมชาติของคนไทย นั่นคือในช่วง เดือนหา้ เดือนหกฝนตกเขา้ สู่ฤดูทานา ซ่ึงจะทานาเรื่อยมาต้งั แต่ เดือนห้าจนสิ้นปี ในช่วงน้ีขา้ วท่ีคนไทยกินคือขา้ วเก่าที่เก็บ เกี่ยวต้งั แต่ปี ท่ีแลว้ หรือจากในฤดูเก็บเกี่ยวเม่ือช่วงเดือนอา้ ยที่ ผา่ นมา ซ่ึงถือกนั วา่ เป็ นขา้ วเก่า ในช่วงน้ี(ช่วงกินขา้ วเก่า) ปลา ที่เคยตกคา้ งอดอยากอยตู่ ามบึงตามห้วยที่หนองน้าแห้งลงใน หน้าแล้งที่ผา่ นมา พอย่างเขา้ สู่ฤดูฝนก็จะวา่ ยออกสู่แม่น้าลา คลองทอ้ งทุง่ หากินไดเ้ ตม็ ท่ีใหห้ ายอดอยากอีกคร้ังหน่ึง ปลาในช่วงคร่ึงปี หลงั คือช่วงกินขา้ วเก่าน้ีจะเป็ นฤดู ผสมพนั ธุ์และวางไข่ไม่ค่อยจะมีเน้ือและไม่มีมนั กินไม่อร่อย แต่พอถึงเดือน 11 เดือน12 ขา้ วตกทอ้ งน้านอง บริบูรณ์ปลาหากินได้มากข้ึนแล้ว พอดีเขา้ เดือนอา้ ยฤดูเก็บเก่ียว ซ่ึงในช่วงเดือนอา้ ยเดือนย่ีไปถึงเดือนสี่ เดือนหา้ น้ีคนไทย จะไดก้ ินขา้ วใหมท่ ี่เพิ่งเกบ็ เก่ียวได้ ซ่ึงถือวา่ อร่อยกวา่ ขา้ วเก่า ซ่ึงในช่วงเดือนเดียวกนั น้ีน้า เริ่มลดก็พอดีเป็ นช่วงท่ีปลาพน้ ฤดูวางไข่ไปแลว้ และไดห้ ากินมาในช่วงหน้าฝน ปลาช่วงเดือนอา้ ยไปถึง เดือนสี่เดือนห้าถือวา่ มีมนั มากกินอร่อย ในช่วงเวลาดงั กล่าวจึงถือวา่ เป็ นช่วง ขา้ วใหม่ปลามนั เป็ นช่วงเวลา แห่งความสุขของคนไทย อยดู่ ีกินอร่อย อยดู่ ีคือหลงั ฤดูเก็บเก่ียวก็ไดพ้ กั ผอ่ นหลงั จากเหนื่อยจากการทานามา กม็ ีสตุง้ สตางค์ กินอร่อยกค็ ือมีขา้ วใหม่ ๆ ปลามนั ๆ กิน จึงเอาสานวนน้ีมาเปรียบเทียบกบั ความรักหรือการ ครองคู่ท่ีแรกรักแรกอยดู่ ว้ ยกนั จะมีความสุขเหมือนไดก้ ินขา้ วใหม่ปลามนั นน่ั เอง เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของสานวนนา้ ร้อนปลาเป็ น นา้ เยน็ ปลาตาย สานวนน้ีน้นั น้นั ตามพจนานุกรมหมายถึงการใช้คาพูดท่ีตรงๆแรงๆ แต่จริงใจ ย่อมส่งผลดีกว่าการใช้คาพูดไพเราะ แต่มีพิษภยั ท่ีมาของ สานวนน้ีมาจาก ในสมยั ก่อนคนมกั จะชอบสร้างบา้ นอยรู่ ิมน้า เพราะสมยั ก่อนการสัญจรส่วนใหญ่จะใชก้ ารสัญจรทางน้า และ ทุกๆ บา้ นจะมีท่าน้าไวจ้ อดเรือเป็ นของตวั เอง และท่ีขา้ งๆ ท่า น้าน้นั หลายๆ บา้ นก็จะปลูกผกั บุง้ ไวเ้ ป็นแพๆ ดว้ ย ปลาที่วา่ ยอยู่ ในน้าน้นั มกั จะชอบวา่ ยอยใู่ ตแ้ พผกั บุง้ เพราะน้าท่ีอยใู่ ตแ้ พผกั บุง้ น้นั มนั เยน็ เพราะแสงแดดส่องลงไปใตน้ ้า ไม่ถึง พอเวลาคนมาเก็บผกั บุง้ ก็จะเจอปลาท่ีอยใู่ ตแ้ พผกั ดว้ ย แลว้ ปลาพวกน้นั ก็จะกลายเป็ นอาหารของคน ไป ส่วนปลาที่วา่ ยอยทู่ ี่น้าร้อน (ทีนอกแพผกั ที่แดดส่องถึงใตน้ ้า) ก็จะมีโอกาสรอดมากกวา่ ซ่ึงนนั่ ก็คือที่มา ของสานวนดงั กล่าวนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 4
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความแตกต่างของ ต้งั โอ๋ กบั คนื่ ช่าย พชื 2 ชนิดน้ีไมเ่ หมือนกนั โดย \"ต้งั โอ๋\" ...... เป็นพชื ลม้ ลุก ตน้ เด่ียว ความสูงของตน้ ประมาณ 10- 15 ซม. ใบมีลกั ษณะเรียวยาว สีเขียวอ่อน ขอบใบ หยกั เลก็ นอ้ ย นิยมนามาใส่แกงจืด (ลกั ษณะเดียวกบั ตาลึง) หรือ ผดั กบั หมูกรอบ หมูสับ (ทานองเดียวกบั ผดั ผกั บุง้ ) ... หาซ้ือได้ ไม่ทุกฤดูกาล มีเยอะในฤดูหนาว ส่วน \"ค่ึนช่าย\" หรือ \"ค่ึนไช่\" หรือ \"ข้ึนฉ่าย\" ... เป็นพชื พืชลม้ ลุกมีอายุ 1 - 2 ปี สูง 30 - 50 เซนติเมตรครับ มีลกั ษณะของใบเหมือนขนนก เป็ นรูปล่ิมหยกั ขอบใบหยกั สีใบเป็นสีเหลืองอมเขียว นิยมนาเอามาใส่แกงจืด หรือนาไปผดั กบั เน้ือสัตวต์ า่ ง ๆ เพ่ือปรุงแตง่ กลิ่น หรือใชด้ บั คาว ... หาซ้ือไดใ้ นทุกฤดูกาล มีราคาถูกในช่วง ฤดูหนาว เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของสานวนควันหลง วนั น้ี ขอเสนอสานวนไทยคาว่า \"ควนั หลง\" ซ่ึงเป็ นสานวนที่ไดม้ าจากวงนกั เลง สูบฝ่ิ นหรือกญั ชา เพราะพวกน้ีจะเขา้ ใจคาว่า \"ควนั หลง\" เป็ นอย่างดีที่สุด หมายความถึงควนั ที่หลงเหลืออยใู่ น บอ้ งกญั ชาหรือกลอ้ งสูบฝ่ิ น ภายหลงั ท่ี สูบแลว้ คนที่ไม่เคยสูบเม่ือไดเ้ ห็นเขา้ ก็มกั อยากลองสูบ หรือลองดูดดูวา่ จะ มีรสชาดเป็ นฉนั ใด คร้ันดูดดูเล่นๆนึกวา่ เป็ นกลอ้ งเปล่า แต่กลายเป็ นอดั เอา ควนั หลงเขา้ ไปเตม็ ปอด เพราะยงั เหลือคา้ งในกลอ้ ง จะเกิดความมึนเมาข้ึน ทนั ทีทนั ควนั ในทางสานวนหมายถึงผูท้ ี่ไม่ได้เป็ นตวั การ แต่พลอยถูก กระเส็นกระสายในเร่ืองร้ายๆ ท่ีเขาก่อกนั ข้ึนไวเ้ ป็ นการใหญ่ แลว้ พลอยถูกเกาะกุมตวั ไปดว้ ยภายหลงั โดย สานวนจึงหมายถึงวา่ ผนู้ ้นั โดนเอาควนั หลงเขา้ ใหแ้ ลว้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 5
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของสัญลักษณ์ @ ซ่ึงเรามกั จะ เห็นสัญลกั ษณ์ @ น้ีใน email address และไม่ค่อยไดเ้ ห็นการใชง้ านในท่ีอ่ืนๆ อีก จึงไม่แปลกที่หลายคนจะคิดว่ามนั เกิดข้ึนมาพร้อมกบั email แต่จริงๆ แล้วตน้ กาเนิดของมนั น้นั ยอ้ นไปไกลถึงศตวรรษท่ี 6 เลยทีเดียว ในสมยั น้นั นกั บวชใน ศาสนาคริสตย์ งั นิยมเขียนบนั ทึกทางศาสนาต่างๆ ดว้ ยภาษาละติน (ปัจจุบนั ไม่มี ใครใชแ้ ลว้ ) ซ่ึงในภาษาละตินมีคาวา่ “ad” ซ่ึงมีความหมายเดียวกบั คาวา่ “at” ในภาษาองั กฤษ ปัญหาก็คือมนั เขียนเหมือนกบั คาวา่ AD ซ่ึงยอ่ มาจาก Anno Domini หรือ “คริสตศกั ราช” เพื่อไม่ใหเ้ กิดความสับสนจึงมี การนาสญั ลกั ษณ์ @ มาใชแ้ ทนคาวา่ ad ในภาษาละติน ต่อมาในปี 1885 เริ่มมีการใชส้ ัญลกั ษณ์น้ีในการบญั ชี ในความหมาย “at the rate of” หรือ “ในอตั ราท่ี” หลงั จากน้นั ในปี 1971 โปรแกรมเมอร์นามวา่ Raymond Tomlinson ไดน้ า @ มาใชค้ น่ั ระหว่างชื่อ address ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อใชแ้ ยกระหวา่ งผูใ้ ชก้ บั เคร่ืองปลายทาง และมนั กถ็ ูกใชใ้ นลกั ษณะน้ีเร่ือยมาจนถึงปัจจุบนั เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของคาว่าภารตะ ทาไมเราเรียกประเทศอินเดียวา่ ภารตะ ภารตะซ่ึงเป็ นคาท่ีเราใชเ้ รียกอินเดีย มาจากภาษาสันสกฤษ วา่ บหรัต-Bharat หมายถึงประเทศอินเดีย และคงจะเพ้ียน เป็น พาหุรัด ชื่อยา่ นการคา้ ในกรุงเทพฯ ถ่ินชาวอินเดียท่ีเรา คุน้ เคยกนั ดีนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วิธีการนับเลขของอนิ เดีย การนบั เลขของอินเดีย โดยการนบั เลข 1-10 ของอินเดียออกเสียงว่า เอก โด ตีน (ไม่ไดห้ มายถึงบาทา) จาร ปาญจ เฉห สาต อาฐ นอ ดสั เมื่อ กลายเป็ นภาษาไทยและออกเสียงแบบไทยก็คือ เอก โท ตรี จตุ ปัญจ (ปัญจนที) ฉ (อ่านวา่ ฉอ เช่น ฉกษตั ริย์ แปลวา่ กษตั ริยอ์ งค์ ท่ี 6) สัตต (เช่น สัตตบงกช) อัษฎ (เช่นในคาว่า อัษฎางค ประดิษฐ)์ นพ (เช่น นพเกา้ ) ทศ (เช่น ทศวรรษ) แมแ้ ต่เลขศูนย์ อินเดียก็เรียกวา่ ศูนย์ และอา้ งวา่ อินเดียเป็นผคู้ น้ คิด แต่เรื่องน้ี ยงั เป็ นเรื่องที่ถกเถียงกนั อยู่ ชาวอาหรับเองก็อา้ งวา่ เป็ น ผคู้ ิดทฤษฎี absolute zero หรือศูนยส์ มบูรณ์ ไทยกบั อินเดียใกลช้ ิดกนั กวา่ ท่ีคิด เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 6
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความแตกต่างของเด็กและ เยาวชน เด็กกบั เยาวชนต่างกนั อยา่ งไร เกณฑ์การแยกว่าใครคือเด็ก ใครคือเยาวชน และใครคือผใู้ หญ่ ดูอยา่ งไร? พรบ.ศาลเยาวชนและ ครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ให้ ความหมายไวด้ งั น้ี\"เด็ก\" หมายความว่า บุคคลอายุยงั ไม่เกิน 15 ปี บริบูรณ์\"เยาวชน\" หมายความวา่ บุคคลอายุเกิน 15 ปี บริบูรณ์ แต่ยงั ไม่ถึง 18 ปี บริบูรณ์กฎหมายไม่ได้เขียนบอกไว้ว่า \"ผู้ใหญ่\" หมายความวา่ อยา่ งไร แตจ่ ากความหมายของเด็ก และเยาวชน ก็แสดง ว่า เกินจากเยาวชนข้ึนไป คือ ต้งั แต่อายุครบ 18 ปี บริบูรณ์ข้ึนไป ท้งั หมด ถือว่า \"เป็ นผใู้ หญ่\" ตามนยั ของกฎหมายน้ีน้นั เองกรณีกระทาความผดิ เป็ นคดีและจะตอ้ งถูกนาตวั ฟ้ องต่อศาลเพ่ือพิจารณาคดีก็จะมีกระบวนการ หรือวิธีพิจารณาที่ต่างกนั กล่าวคือ ถา้ เป็ น เด็กและเยาวชน อายยุ งั ไมถ่ ึง 18 ปี บริบูรณ์ (ดูอายขุ ณะกระทาความผิด) จะตอ้ งถูกนาตวั ส่งฟ้ องยงั ศาลเยาวชนและครอบครัว และหากศาลพิพากษาว่าผิดจริงและมีโทษแบบตดั อิสรภาพ ก็จะถูกส่งเขา้ ไปควบคุมในสถานท่ีเฉพาะ สาหรับเดก็ และเยาวชน (ไม่ใช่เรือนจา) แต่ถา้ เป็ นผใู้ หญ่ คือ บุคคลอายุต้งั แต่ 18 ปี ข้ึนไป (ดูอายขุ ณะกระทา ความผิด) ถูกกล่าวหาว่ากระทาความผิดจะตอ้ งส่งตวั ฟ้ องยงั ศาลที่มีอานาจพิจารณาคดีของผใู้ หญ่ตามปกติ เช่น ศาลจงั หวดั ศาลอาญา ศาลแขวง เป็ นตน้ และถา้ หากศาลพิพากษาลงโทษแบบตดั อิสรภาพหรือจาคุกก็ จะตอ้ งถูกส่งตวั เขา้ ไปในเรือนจา เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของช่ือ S&P โดย S&P หมายถึง บริษทั เอส แอนด์ พี ซินดิ เคท จากดั (มหาชน) เป็นบริษทั ผปู้ ระกอบธุรกิจประเภทอาหารและเบเกอร่ีภายใตเ้ คร่ืองหมายการคา้ “S&P” ก่อต้งั โดยสองพ่ีน้องตระกูลไรวา และตระกูลศิลาอ่อน เม่ือปี พ.ศ. 2516 S&P เร่ิมตน้ ธุรกิจจากการเปิ ดร้านเบเกอร่ีและไอศครีมขนาดเล็กในซอย สุขมุ วทิ 33 จากน้นั เริ่มขยายสาขาไปยงั แหล่งธุรกิจสาคญั ในกรุงเทพฯ เช่น สยามสแควร์ และเซ็นทรัล ลาดพร้าว ปัจจุบนั S&P มีสาขาอยู่ในประเทศ ไทยและต่างประเทศ โดยมีสินค้าท่ีคุ้นเคยเช่น ไอศกรีม “ฮาเก้น-ดาซ”, อาหารแช่แข็งสาเร็จรูป “ควิก มีล” เป็ นตน้ โดยคาวา่ S&P น้นั มาจากชื่อ และนามสกุลของเจา้ ของ คือ คุณภทั รา ศิลาอ่อน โดยเลือกใชช้ ื่อสกุลข้ึนก่อน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 7
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วธิ ีการทางานของยา เคยสงสัยไหมวา่ เกิดอะไรข้ึนหลงั จากท่ีเรา รับประทานยาต่างๆเช่นยาแกป้ วดอยา่ งIbuprofen? ยาท่ีไหลลงไปตามลาคอของเราสามารถช่วยบรรเทา อาการปวดหวั ,ปวดหลงั ,หรือปวดขอ้ เทา้ ไดแ้ ลว้ ยาที่เรารับประทานเขา้ ไปมนั รู้ไดอ้ ย่างไรว่าตอ้ งไปท่ีไหน ก่อน? คาตอบก็คือตวั ยาจะเขา้ สู่ระบบไหลเวียนของเลือดที่สูบฉีดหมุนเวียนไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพ่ือที่จะทาหน้าที่ของมนั ก่อนท่ีจะโดนดกั จบั โดยระบบขบั ถ่ายหรือโมเลกุลต่างๆเพื่อขบั สารแปลกปลอม หรือตวั ยาต่างๆออกจากร่างกายและทาให้ร่างกาย กลบั สู่สภาวะปกติ โดยกระบวนการน้ีเร่ิมจากระบบ ยอ่ ยอาหารของเรา สมมุติวา่ เรารับประทานยาแกป้ วด Ibuprofenเพ่ือบรรเทาอาการปวดขอ้ เทา้ ภายในไม่ก่ี นาทีตวั ยาจะถูกย่อยโดยน้าย่อยในกระเพาะอาหาร ของเรา Ibuprofenที่ละลายแลว้ จะเดินทางไปผ่านไป ยงั ลาไส้เล็กและจะผ่านผนงั ลาไส้เล็กเพ่ือไปยงั เส้น เลือดต่างๆท่ีจะพาไปยงั ตบั กา้ วต่อไปคือการทาให้ยาที่ละลายแลว้ น้ีผา่ นออกจาตบั ใหไ้ ด้ เพราะวา่ เม่ือเลือด และโมเลกุลยาท่ีผสมอยู่ในเลือดเดินทางผ่านตบั เอ็นไซม์จะพยายามทาปฏิกริยากบั โมเลกุลยาIbuprofen เพื่อท่ีจะขบั มนั ออกไปทาให้โมเลกุลยาท่ีถูกเอน็ ไซมด์ กั จบั น้นั เสียหายเรียกวา่ Metabolites ทาให้ฤทธ์ิยาน้นั หายไปจึงไม่ไดเ้ ป็ นโมเลกุลยาแกป้ วดอีกต่อไป ซ่ึงในระยะน้ีIbuprofenส่วนใหญ่จะสามารถผา่ นจากตบั ได้ โดยท่ีไม่โดนดกั จบั และไม่ทาให้โมเลกุลยาเสียหาย มนั จะถูกส่งออกจากตบั ผา่ นเส้นเลือดต่างๆเขา้ สู่ระบบ หมุนเวยี นเลือดคร่ึงชวั่ โมงหลงั จากที่คุณรับประทานยา โดสของยาบางส่วนจะเขา้ สู่ระบบหมุนเวยี ดเลือดซ่ึง การหมุนเวยี นน้ีเดินทางไปทวั่ ร่างกายรวมถึงหวั ใจ,สมอง,ไต,และกลบั มาสู่ตบั อีกรอบเม่ือโมเลกุลของตวั ยา พบเจอกบั ตาแหน่งท่ีปวดของร่างกาย มนั จะเขา้ ไปรวมตวั กนั ในบริเวณที่มีอาการปวดซ่ึงเกิดจากปฏิกริยา ของตวั ยา ตวั ยาแกป้ วดอยา่ งIbuprofenจะไปปิ ดก้นั ตวั ส่งสัญญาณปวดที่จะส่งผา่ นไปยงั สมองเพื่อให้รับรู้จุด ท่ีกาลงั ปวด ยิ่งโมเลกุลตวั ยาเขา้ มารวมตวั กันมาก็ย่ิงช่วยให้ความเจ็บปวดลดน้อยลงซ่ึงตวั ยาจะใช้เวลา ประมาณ1-2ชวั่ โมงก่อนออกฤทธ์ิเตม็ ที่ หลงั จากน้นั ร่างกายจะเร่ิมทาการกาจดั ตวั ยาออกจากร่างกายโดยผา่ น ทางหลอดเลือดต่างๆกลบั ไปสู้ตบั และแปลงมนั เป็ นMetabolitesซ่ึงจะถูกกรองโดยไตและขบั ออกไปโดย ปัสสาวะกระบวนการและข้นั ตอนเหล่าน้ีจะเกิดข้ึนกับยาทุกชนิดท่ีเรารับประทานเข้าไปทางปาก แต่ ความเร็วของกระบวนการหรือปริมาณยาที่สามารถเขา้ สู่กระแสเลือดไดน้ ้นั จะต่างกนั ออกไปซ่ึงข้ึนอยกู่ บั ชนิดของยา,ตวั บุคคล,และวธิ ีที่ยาเขา้ สู่ร่างกาย ปริมาณยาที่ระบุไวบ้ นฉลากยาจึงเป็ นเร่ืองสาคญั เพื่อใหไ้ ดร้ ับ ยาในปริมาณที่พอดี ถา้ ปริมาณยานอ้ ยไปมนั จะไมส่ ามารถทางานไดแ้ ละถา้ มากไปอาจจะทาใหเ้ กิดพิษ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 8
เรืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่มี าของการไฮด์ปารค์ ช่วงน้ีเห็นพรรคการเมืองปราศรัย หรือ ไฮด์ปารค์กนั ที่มาของคาว่า ไฮด์ปาร์ค Hyde Park น้นั มาจากชื่อสวนสาธารณะ แห่งหน่ึงใน กรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ เป็ นสถานที่ที่มี ชื่อเสียงทางดา้ นการชุมนุมทางดา้ นการเมือง และการพูดแสดงความคิ ดเห็ นอย่างเสรี ต่อ สาธารณชน สาหรับเมืองไทย การไฮด์ปาร์คมี ข้ึนเป็ นคร้ังแรกเมื่อวนั ที่ 27 สิงหาคม 2497 ณ ท้องสนามหลวง เป็ นการอภิปรายปัญหา แบบเรียนเบสิคของหลวงพรหมโยธี จากน้ันมาทุกเย็นวนั เสาร์-อาทิตย์ก็จะมีการวิจารณ์ทางการเมือง อภิปรายความผดิ พลาดของรัฐบาล ไฮด์ปาร์คเฟื่ องฟูอยูไ่ ดไ้ ม่นานก็ถูกทางการห้ามเม่ือวนั ท่ี 23 กุมภาพนั ธ์ 2499 แตต่ ่อมากอ็ นุญาตใหไ้ ฮดป์ าร์คไดอ้ ีกจนปัจจุบนั เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วนั เยาวชนแห่งชาติคือวันใด ในคาขวญั วนั เด็กปี น้ี กาหนดไวว้ า่ เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพฒั นาชาติ แต่ทราบไหม ครับว่านอกจากวนั เด็กแลว้ ประเทศไทยมีวนั เยาวชน อีกดว้ ย โดยเด็กนับต้งั แต่เกิด จนถึงอายุ 15 ปี ส่วน เยาวชน อายุ 15-18 ปี บริบูรณ์ โดยวนั เยาวชนแห่งชาติ เร่ิมมีข้ึนในประเทศไทยเม่ือสหประชาชาติกาหนดให้ ปี พ.ศ. 2528 เป็นปี เยาวชนสากล คณะรัฐมนตรีจึงไดม้ ี มติเมื่อวนั ท่ี 18 มิถุนายน พ.ศ. 2528 กาหนดให้วนั ท่ี 20 กันยายน ของทุกปี เป็ นวนั เยาวชนแห่งชาติ เน่ืองจากวนั ดังกล่าวเป็ นวนั คล้ายวนั พระราชสมภพ ของพระมหากษตั ริยแ์ ห่งราชวงศ์จกั รีสองพระองค์ ซ่ึงเสด็จเถลิงถวลั ยร์ าชสมบตั ิในฐานะยุวกษตั ริย์ คือ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล รัชกาลท่ี 8 ซ่ึงท้งั 2 พระองค์ ข้ึนเป็นกษตั ริย์ ในขณะที่เป็ นเยาวชนนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 9
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของนิทานเรื่อง สโนว์ไวท์กบั คนแคระท้งั 7 ครับ เราคงเคย อ่านหรือเคยชม นิทานเรื่องสโนวไ์ วท์ กนั มาแลว้ โดยนิทานเร่ืองน้ี แต่งโดยพ้ีนอ้ งตระกูลกริมม์ โดยมีเคา้ โครงเร่ืองมาจาก มาเรีย โซเฟี ย ฟอน เออเทล หญิงสาวคนหน่ึงในช่วงคริสตศ์ ตวรรษที่ 18 เธอเป็ นบุตรสาว เพียงคนเดียวของฟิ ลิป คริสตอฟ ฟอน เออเทล ผูเ้ ป็ น เจา้ ของที่ดินและเป็ นเจ้าของปราสาทแห่งหน่ึง ที่เมือง โลห์อมั มาน แควน้ บาวาเรีย ทางตอนใตข้ องเยอรมนี ซ่ึง เป็ นเมืองเล็ก ๆ แวดลอ้ มไปดว้ ยป่ าและภูเขา แม่ของเธอ เสียชีวิตไปต้งั แต่เธอยงั เด็ก พ่อของเธอแต่งงานใหม่กบั คลอเดีย เอลิซาเบธ มาเรีย ฟอน ฟิ นนินเกน, เคาทเ์ ตสแห่ง รีเชนสไตน์ แตด่ ว้ ยความท่ีเธอเป็นเด็กสาวอายเุ พียง 14 ปี แตม่ ีความสวยงาม ท้งั ผิวพรรณ, เรือนผม และพวง แกม้ นนั่ ทาใหแ้ มเ่ ล้ียงคนใหม่ของเธอเกิดความอิจฉาและปฏิบตั ิต่อเธออยา่ งเยน็ ชา จึงเกิดเป็ นความมึนตึงข้ึน ระหวา่ งความสัมพนั ธ์ของคนท้งั สอง วนั หน่ึงเธอนอนป่ วยอยู่ แต่ก็ไม่ไดร้ ับการดูแลจากแม่เล้ียง เธอจึงว่ิง หนีออกจากบา้ น ขา้ มภูเขา 7 ลูกไปจนกระทง่ั เจอคนแคระ ซ่ึงเชื่อกนั วา่ ท่ีมาของคนแคระน้นั คือ คนงานที่ ทางานในเหมืองบนภเู ขารอบโลห์อมั มาน ซ่ึงสภาพของเหมืองเป็ นสถานท่ีแคบและต่ามาก จึงตอ้ งใชค้ นที่มี รูปร่างเล็ก เธอได้ใช้ชีวิตอยู่กบั เหล่าคนงานน้ัน แมว้ ่าในตอนทา้ ยเธอจะได้กลบั มาใช้ชีวิตอยู่ที่ปราสาท จนกระทงั่ เสียชีวิตในวยั ชรา เมื่ออายกุ วา่ 70 ก็ตาม แต่ทวา่ ท้งั ชีวิตเธอก็ไม่มีความสุขอีกเลย และเธอก็ไม่ได้ แต่งงานเลยตลอดท้งั ชีวติ ปัจจุบนั ปราสาทของเธอยงั คงอยทู่ ี่เมืองโลห์อมั มาน และภายในน้นั ก็มีกระจก ขนาดใหญบ่ านหน่ึง ซ่ึงเชื่อวา่ เป็นที่มาของกระจกวเิ ศษในเร่ือง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของนิทานเรื่องราพนั เซล โดยราพนั เซล-ตวั จริงน้นั ไดร้ ับแรง บนั ดาลใจจาก เซนตบ์ าบารา (Saint Barbara) บาร์บาราเป็ น สาวงามท่ีมีผูช้ ายขอแต่งงานมากหน้า ผูช้ ายเหล่าน้ันต่าง หลงใหลในความงามราวเทพีจากตานานของเธอ แต่ใคร ต่างๆเหล่าน้ันไม่เป็ นที่พอใจของบิดา จึงจบั เธอขงั ไวใ้ น หอคอย กนั ผูช้ ายท้งั หลายให้ออกห่าง แต่เหตุผลสาคญั กว่า คือ เขาไม่ตอ้ งการให้ลูกสาวสัมผสั กบั ศาสนาคริสต์ ในเมื่อ เขายงั นบั ถือบูชาศาสนาเทพของกรีก-โรมนั และอยากใหเ้ ธอศรัทธาเหมือนเขาเช่นกนั บาร์บาราอาศยั อยใู่ น หอคอยหลายปี ไดร้ ับอาหารและเส้ือผา้ ซักรีดผ่านตะกร้าผกู เชือกดึงจากเบ้ืองล่าง แต่วนั หน่ึง ใครสักคนใส่ หนงั สือเก่ียวกบั ศาสนาคริสตล์ งในตะกร้าของเธอ หนงั สือกระตุน้ ความสนใจในศาสนาข้ึนมาทนั ที ภายหลงั ไม่นาน เม่ือพ่อของเธอพบวา่ เธอเขา้ รีตคริสตไ์ ปเรียบร้อย เขาก็ส่งตวั เธอให้เจา้ หนา้ ท่ีโรมนั ทรมานเพื่อให้ เธอละทิ้งความศรัทธา ทว่าเมื่อมนั ไม่ไดผ้ ล บิดาก็ควา้ ดาบตดั คอลูกสาวขาดกระเด็น ตานานเล่าว่า เพียง หลงั จากน้นั เขาก็ถูกฟ้ าผา่ ร่างลุกไหมด้ ว้ ยไฟแรงร้อน ตายคาที่ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 10
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของนิทานเรื่อง The Little Mermaid การ์ตูนของวอลต์ ดิสนียเ์ ร่ือง The Little Mermaid ดดั แปลงมาจาก วรรณกรรมช่ือเรื่องเดียวกัน แต่งโดยนายฮันส์ ไครส์เตียน อนั ดาเซน โดยผแู้ ต่งไดแ้ รงบนั ดาลใจ จากจดหมายรักท่ีอนั ดาเซนเอง เขียนถึงเพ่ือนสนิท ของเขาท่ีช่ือ นายเอด็ วาร์ด คอลลิน ในปี 2379 เม่ือ อันดาเซนรู้ข่าวว่าคอลลินกาลังจะแต่งงานกับ ผหู้ ญิงที่ชื่อ เฮนรีเอท อนั ดาเซนรู้สึกผิดหวงั มาก จึงได้เขียนจดหมายไปสารภาพรักว่า เขารัก คอลลินเหมือนรักผูห้ ญิง และยงั เปรียบคอลลิน เป็ นสาวคาลิเบรียนอีกดว้ ย หลงั จากท่ีคอลลินได้ อ่านจดหมายน้ัน เขาได้ปฏิเสธอันดาเซน ไม่ ยอมรับและขยะแขยง อันดาเซนเสียใจมากจึง เขี ยนจดหมายเ ปรี ยบเปรยควา มรั กของเขากับ คอลลินวา่ เขาไม่สามารถรักคอลลินได้ เหมือนดงั นางเงือกไม่สามารถรักกบั เจา้ ชายท่ีเป็ นมนุษยไ์ ด้ นนั่ จึงทาให้อนั ดาเซนเกิดแรงบนั ดาลใจท่ีจะแต่งนิยายเร่ือง นางเงือกนอ้ ยผจญภยั ข้ึนมา ตน้ ฉบบั เร่ืองน้ี ไม่ได้จบแบบแฮปป้ี เอนดิ้งอย่างท่ีเห็นในการ์ตูนแม้แต่น้อย ตอนจบของเรื่องน้ีเป็ นการถ่ายทอดความ เจ็บปวดของอนั ดาเซนออกมาอย่างลึกซ้ึง โดยนางเงือกไม่สามารถโน้มน้าวเจา้ ชายให้เชื่อว่าเธอเป็ นคน ช่วยชีวิตเจา้ ชายไว้ เจา้ ชายจึงไปแต่งงานกบั หญิงอื่น แม่มดทราบเร่ืองจึงส่ังให้นางเงือกฆ่าเจา้ ชายแลกกบั ชีวิตตนเอง แต่เธอก็ยงั มัน่ คงในความรัก และตดั สินใจกระโดดน้าตายกลายเป็ นฟองทะเลไปในท่ีสุด เบ้ืองหลงั อนั น่าเศร้าของเทพนิยายกอ้ งโลกเรื่องน้ี สะทอ้ นภาพกลุ่มหลากหลายทางเพศสมยั ก่อนไดเ้ ป็ นอยา่ ง ดี โดยจะเห็นไดว้ า่ คนกลุ่มน้ีไม่เพียงตอ้ งผิดหวงั ในความรักอยบู่ ่อยคร้ัง แต่ยงั ถูกสังคมรังเกียจ ไม่สามารถ แสดงความรักออกมาไดต้ รงๆ ตอ้ งบอกเล่าออกมาในเชิงสัญลกั ษณ์แทน ย่ิงกวา่ น้นั ยงั ตอ้ งปรับเปลี่ยนเน้ือ เรื่องใหเ้ ป็นกระแสหลกั ดว้ ยการจบแบบแฮปป้ี เอนดิ้งอีกดว้ ย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 11
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเรียกข้างเหนียวมูน ทาไมเราจึง เรียกขา้ วเหนียวชนิดน้ีวา่ ขา้ วเหนียวมูน ขา้ วเหนียวมูน ท่ีเอามากินกบั มะม่วงน้ี ถูกประดิษฐ์คิดคน้ มาตงั้ แต่เมื่อไหร่ไม่ปรากฏ แต่จาก การรวบรวมหลกั ฐานทางบทความเชื่อวา่ เป็ น ขนมของคนแถบน้ีมานานมากแล้ว อย่าง น้อยๆก็อยุธยาตอนปลายข้ึนไป หลักฐานท่ี เห็นเก่าท่ีสุดก็คือ กาพยเ์ ห่ชมเครื่องคาวหวาน ของลน้ เกลา้ รัชกาลท่ี2 ที่กล่าวถึงขา้ วเหนียว ยอ้ มสีโศก (สีเขียวเขม้ จากใบเตยค้นั ) กินกบั ไข่ต้งั สังขยา ขา้ วเหนียวมูนกินกบั มะม่วงน้ีก็ น่าจะช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ลงมาแลว้ เพราะไม่ปรากฏวา่ เก่ากวา่ น้นั จะมีการกินขา้ วเหนียวคู่กบั ผลไมอ้ ื่นๆ ที่ พอจะเป็ นเคา้ ลางได้ ส่วนน้ีชายไม่ยืนยนั หนา เพราะอาจจะมีพ้ืนที่อ่ืนๆที่มีการกินขา้ วเหนียวกบั ผลไมบ้ า้ ง และอาจจะเป็นจุดกาเนิดเลก็ ๆของขา้ วเหนียวมะม่วงกไ็ ด้ ใครเคยไดย้ นิ ไดอ้ ะไรมาก็ลองเอามาคุยแลกเปล่ียน กนั ดู ที่วา่ ขา้ วเหนียวมูน เป็ นของเก่า ก็เพราะผกู กบั ขอ้ มูลที่วา่ เดิมทีขา้ วเหนียวเป็ นพืชประจาถิ่นน้ี แต่ขา้ ว เจา้ เรานาเอามาจากจีน สมยั น้นั ขอมเรืองอานาจก็กนั ขา้ วชนิดใหม่น้ี ไวก้ ินกนั ในราชสานกั ถึงไดเ้ รียกวา่ ขา้ ว เจา้ ส่วนขา้ วเหนียวเป็ นขา้ วไพร่ หรือขา้ วบ่าว นน่ั เอง ในเมื่อขา้ วเหนียวมีมานาน และเป็ นเสบียงหลกั ของ แถบน้ี การปรุงขา้ วเหนียวเป็ นขนมจึงมีให้เห็นดาษดื่น ตง้ั แต่ขา้ วหลาม ขา้ วเหนียวมูน ขา้ วเหนียวตดั กลบั เขา้ มาเร่ืองขา้ วเหนียวมูน เคยไดย้ ินวา่ สมยั ก่อนกินขา้ วเหนียวมะม่วง ตอ้ งเป็ นมะม่วงอกร่อง และจากที่จา ความไดม้ ีอย่คู ร้ังหน่ึงที่ไดก้ ินขา้ วเหนียวมูนกบั มะม่วงอกร่องทอง แต่จากน้นั ก็กินกบั น้าดอกไมม้ าตลอด แลว้ ทาไมตอ้ งช่ือวา่ ขา้ วเหนียวมนู คาวา่ มูนแปลวา่ อะไร ถา้ คน้ ในพจนานุกรมกจ็ ะเห็นความหมายตรงตวั วา่ เป็นการเอากะทิเคลา้ กบั ขา้ วเหนียว แตจ่ ะฟันธงไปเลยก็กะไรอยู่ เพราะชายมองวา่ ตอ้ งมีเง่ือนงา มูน มีอีกนยั หน่ึงแปลวา่ กอง สุม โคก หรือเนิน ความหมายน้ี สอดคลอ้ งกบั วธิ ีการกินท่ีมกั จะกองขา้ วเหนียวไวช้ ้นั หน่ึง แลว้ ทบั ดว้ ยหนา้ ตา่ งๆอีกช้นั หน่ึงกองสุมข้ึนคลา้ ยมูนดิน ก็อาจจะเป็ นที่มา อีกสันนิษฐานหน่ึง การเลือกขา้ ว เหนียวสาหรับทา ขา้ วเหนียวมูน หรือ ทาของหวานจากขา้ วเหนียว นิยมใชพ้ นั ธุ์เข้ียวงู เป็ นขา้ วเหนียวพนั ธุ์ พ้นื ถ่ินทางภาคเหนือ มีเมล็ดเรียว ยาว เลือกใชข้ า้ วเหนียวกลางเก่ากลางใหม่จะดี ถา้ ขา้ วเหนียวใหม่จะนิ่มไป เหมาะกบั ทาพวกขา้ วเหนียวเปี ยกต่างๆ ขา้ วเหนียวเก่าก็แห้งไปเหมาะกบั น่ึงกิน เพราะกินง่าย ป้ันง่าย ไม่ติด มือ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 12
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องท่ี 19 ฝ่ ุน PM 2.5 น้ันคืออะไร และ PM ย่อมาจากอะไร คาวา่ PM น้นั ย่อมาจาก Particulate Matters เป็ นคาเรียกค่ามาตรฐานของฝ่ ุนขนาดเล็กที่เป็ นอนั ตรายต่อ สุขภาพของทาง US. EPA (United state Environmental Protection Agency) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซ่ึงมีอยู่ ดว้ ยกนั 2 ชนิด ไดแ้ ก่ PM 10 และ PM 2.5 สาหรับ PM 10 มีคาเรียกโดยทว่ั ไปวา่ ฝ่ ุนหยาบ (Course Particle) เป็นอนุภาคท่ีมีเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 2.5 - 10 ไมครอน มีแหล่งกาเนิดจากการจราจรบนทอ้ งถนนท่ีไม่ไดล้ าดยาง ตามการขนส่ง วสั ดุฝ่ นุ จากงานกิจกรรม บด ยอ่ ยหินส่วน PM 2.5 มีคาเรียกโดยทว่ั ไปวา่ ฝ่ นุ ละเอียด (Final Particles) จดั เป็ นเป็ นอนุภาคท่ีมีเส้นผา่ นศูนยก์ ลางเล็กกวา่ 2.5 ไมครอน มีแหล่งกาเนิดมาจากควนั เสียของ รถยนต์ โรงไฟฟ้ า โรงงานอุตสาหกรรม ควนั ที่เกิดจากการหุงตม้ อาหารโดยใชฟ้ ื น นอกจากน้ีก๊าซซลั เฟอร์ ไดออกไซด์ (SO2), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx), สารประกอบอินทรียร์ ะเหยง่าย (VOCs) ก็อาจ เกิดปฏิกิริยา ก่อให้เกิดฝ่ ุนละเอียดได้เช่นกัน เม่ือเทียบกบั เส้นผมปกติของมนุษยท์ ่ีมีขนาดโดย เฉล่ียประมาณ 50 - 70 ไมครอน จะเห็นไดว้ า่ ฝ่ ุน ละเอียด (PM 2.5) มีขนาดเล็กกวา่ เป็ นอยา่ งนอ้ ย 20 เท่าของเส้นผม ทาให้ฝ่ ุนละเอียดขนาด PM2.5 สามารถเล็ดลอดผ่านขนจมูกเขา้ สู่ร่างกายไดโ้ ดยง่าย (PM10 ก็เล็ดลอดไดโ้ ดยง่ายเช่นกนั ) และที่สาคญั ก็คือ หนา้ กากอนามยั ทวั่ ไปไม่สามารถป้ องกนั ฝ่ นุ ละเอียด ได้ หากจะเลือกซ้ือหนา้ กากอนามยั มาใชง้ าน ควรเลือกหนา้ กากอนามยั ท่ีเป็ นมาตรฐาน N95 ข้ึนไป (ซ่ึงถา้ เป็ นมาตรฐานสูงกวา่ น้ี ลกั ษณะหน้ากากส่วนใหญ่จะเหมาะกบั การใช้งานในอุตสาหกรรมมากกวา่ ใส่ใน ชีวิตประจาวนั ) ในช่วงน้ีก็ขอให้ทุกคน หาหน้ากากอนามยั มาใช้งาน ระหว่างการออกเดินทางไปสถานท่ี ตา่ งๆ นอกบา้ นนะครับ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 13
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขมเรื่องที่ 20 ความเป็ นมาของฟุตบอลเอเอฟซีเอเชียนคัพ (AFC Asian Cup) ฟุตบอลเอเชียนคพั ก็คือการแข่งขนั ฟุตบอลชิงแชมป์ ระหว่างทีมชาติของประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย ซ่ึงจดั ข้ึนโดยสหพนั ธ์ฟุตบอลแห่งทวีป เอเชีย (the Asian Football Confederation, AFC) นนั่ เอง ถือเป็ นการแข่งขนั ฟุตบอลชิงแชมป์ ของทวีปอยา่ งเป็ น ทางการ เช่นเดียวกบั ฟุตบอลโคปาอเมริกา (อเมริกาใต)้ ฟุตบอลยโู ร (ยโุ รป) ฟุตบอลแอฟริกนั คพั ออฟเนชนั (แอฟริกา) ฟุตบอลคอนคาเคฟ โกลด์คพั (อเมริกาเหนือ) และฟุตบอลโอเชียเนียเนชันคพั (โอเชียเนีย) หลงั จากมีการก่อต้งั สหพนั ธ์ฟุตบอลแห่งชาติข้ึนในปี 1954 ขาติสมาชิกก็ได้ตกลงกนั ว่าจะจดั ให้มีการ แข่งขนั ฟุตบอลชิงแชมป์ ระหวา่ งชาติต่าง ๆ ในเอเขียข้ึน และในอีกสองปี ต่อมาคือปี 1956 ก็ไดม้ ีการจดั การ แข่งขนั ฟุตบอลรายการน้ีคร้ังแรกที่ฮอ่ งกง โดยในคร้ังน้นั มีทีมตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมการแข่งขนั ในรอบสุดทา้ ยเพียง 4 ชาติ และเกาหลีใตเ้ ป็ นผชู้ นะเป็ นทีมแรก จากน้นั ก็ไดม้ ีการแข่งขนั กนั มาทุก 4 ปี จนกระทง่ั ในปี 2004 จึง ไดม้ ีการเปล่ียนแปลงอีกคร้ัง โดยเลื่อนใหเ้ ร็วข้ึนอีกปี เป็ นปี 2007 แทนท่ีจะเป็ นปี 2008 ก่อนจะเวน้ ระยะ 4 ปี คร้ังเหมือนเดิม และในปี 2011 ก็เป็ นคร้ังแรกท่ียา้ ยเวลามาจดั ในช่วงตน้ ปี ซ่ึงเป็ นช่วงที่ลีกฟุตบอลของชาติ ในเอเชียส่วนใหญ่ ในเอเชียพกั การแข่งขนั จานวนทีมท่ีเขา้ ร่วมการแข่งขนั ฟุตบอลรายการน้ีไดเ้ พิ่มข้ึน ตามลาดบั จากคร้ังแรกมีเพียง 4 ชาติ ต่อมากเ็ พ่ิมเป็น 5,6, 10, 12 และ 16 ทีมตามลาดบั และในคร้ังน้ีก็ไดเ้ พิ่ม ทีมอีกคร้ังเป็ น 24 ทีมอยา่ งไรก็ตามแมว้ า่ จะมีการจดั แข่งขนั มาแลว้ ถึง 16 คร้ัง (คร้ังน้ีเป็ นคร้ังที่ 17) แต่สิ่งท่ี ยงั คงเป็ นปัญหาสาหรับรายการน้ีก็คือ ยงั ไม่ประสบความสาเร็จเท่าท่ีควรเมื่อเทียบกบั รายการฟุตบอลชิง แชมป์ ทวีปอ่ืน ๆ อย่างฟุตบอลยูโรของยุโรป โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเร่ืองของจานวนผูช้ มในสนาม ซ่ึง โดยมากแลว้ จะเต็มสนามเฉพาะเกมท่ีทีมเจา้ ภาพลงแข่งขนั ส่วนเกมอื่น ๆ มกั จะมีคนดูไม่มากนกั (บางคร้ัง เพียงหลกั ร้อย) และแฟนบอลส่วนมากก็จะสนใจเฉพาะทีมชาติของตวั เองเป็ นหลกั หากทีมชาติของตวั เอง ไม่ไดเ้ ขา้ รอบสุดทา้ ยหรือแข่งแลว้ ตกรอบกเ็ ลิกติดตามต่อ ซ่ึงยงั คงเป็ นปัญหาท่ีสหพนั ธ์ฟุตบอลเอเชียยงั ตอ้ ง แกไ้ ขกนั ต่อไปสาหรับทีมชาติไทยของเราน้นั ไดร้ ่วมการแข่งขนั ต้งั แต่คร้ังแรกในปี 1956 แต่ถอนตวั ไป ในรอบคดั เลือก ก่อนจะได้เขา้ แข่งขนั ในรอบสุดทา้ ยคร้ังแรกในปี 1972 ซ่ึงไทยเป็ นเจา้ ภาพเอง และได้ อนั ดบั 3 ในการแข่งขนั คร้ังน้นั และยงั คงเป็ นผลงานท่ีดีท่ีสุดในรายการน้ีของทีมชาติไทย และหลงั จากน้นั ไทยก็ไดเ้ ป็ นเจา้ ภาพร่วมอีกคร้ังในปี 2007 (แต่ตกรอบแรก) โดยตลอดการแข่งขนั ท่ีผา่ นมา ทีมชาติไทยได้ ผา่ นเขา้ ไปเล่นในรอบสุดทา้ ย 6 คร้ัง ลงแข่ง 20 เกม ชนะ 1 เสมอ 8 แพ้ 11 ยิงได้ 15 เสีย 45 ประตู (ไม่นบั ปี 2019 นะครับ) เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 14
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเวียดนามมีแต่คนช่ือเหงียน ทาไม คนเวียดนามมีแต่ นามสกุลเหงียน วนั น้ี จะมาบอกกล่าวเล่า ใหฟ้ ังครับ ชื่อของคนเวยี ดนามส่วนใหญ่ ประกอบไปด้วย นามสกุล/ชื่อตระกุล+ ช่ือกลาง+ชื่อตวั นอกน้นั ก็มีกรณีพิเศษที่ ช่ือมีเพียง 2 คาหรือมากกวา่ 3 คา ซ่ึงไม่ เหมือนหลายประเทศที่เขียนชื่อก่อนแลว้ ตามด้วยนามสกุล ขอยกควั อย่างคนช่ือ Nguyễn Văn Tý (เหงีวยนวนั ตี๊) มีนามสกุล “เหงีวยน” ช่ือกลางคือ “วนั ”และช่ือตวั “ต๋ี” โดยนามสกุล/ชื่อ ตระกุลท่ีพบเห็นมากท่ีสุดคือ Nguyễn (เหงียวน) – Trần (เจิ่น) – Lê (เล)- Phạm (ฝ่ าม)- Vũ (ว)ู๊ – Hoàng (หวา่ ง) – Phan (ฟาน) สาหรับชื่อกลาง เป็นส่วนท่ีบ่งช้ีวา่ ผนู้ ้นั เป็นหญิงหรือชาย และสมยั ก่อนมกั จะมีสองคา คือวนั และถิ โดยหญิงจะนิยมใชค้ าวา่ Thị (ถิ) ส่วนผชู้ ายนิยมใชค้ าวา่ Văn (วนั ) เร่ืองช่ือของแต่ละคนก็มี ความเปลี่ยนแปลงไปตามยคุ สมยั หากสมยั ก่อนมกั จะใชช้ ื่อแบบชาวบา้ นเพราะคนโบราณเช่ือวา่ การต้งั ชื่อ เด็กไม่สวยจะย่ิงช่วยให้เด็กโตเร็วแข็งแรง โดยอาจจะเป็ นชื่อตามปี นักษตั รหรือช่ือผลไม้ต่างๆ เช่น นา (Na)/น้อนหน่า มิต(Mít)/ขนุน ติ๊(Tý)/ หนู มุ่ย(Mùi)/แพะ สิว(Sửu)/ควาย ตอ้ งบอกก่อนว่าเดิมทีสกุล ‘Nguyen’ เป็ นช่ือที่ไดอ้ ิทธิพลมาจากประเทศจีนอีกทีหน่ึง ซ่ึงในภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) มีการเรียกคาน้ี วา่ ‘Ruan’ หรือ ‘Yuen’ ในภาษาจีนกวางตุง้ ยอ้ นกลบั ไปเม่ือสมยั ปี 1232 เจา้ ชาย Trần Thủ Độ ไดแ้ ยง่ ชิง อานาจมาจากราชวงศ์ Lý และมีการบงั คบั ให้ลูกหลานในวงศ์ตระกูลของตวั เองเปล่ียนมาใช้นามสกุล ‘Nguyen’ต่อมาในยคุ สมยั ท่ี Hồ Quý Ly ข้ึนครองราชยแ์ ทนราชวงศ์ Trần ไดม้ ีการกวาดลา้ งคนในตระกูล เดิมท่ีใชน้ ามสกุล Nguyen เหมือนกนั ท้งั หมด ทาให้ในช่วงเวลาน้นั เหล่าลูกหลานของราชวงศ์ Trần ตอ้ ง อพยพเอาตวั รอดระหกระเหินกนั ไปคนละทิศคนละทางกระทงั่ ในปี 1407 ราชวงศ์ Hồ ไดล้ ่มสลายลง ทาให้ ลูกหลานของราชวงศ์หลายคนหนั ไปเปลี่ยนมาใช้นามสกุล Nguyen อีกคร้ัง เพราะกลวั ว่าจะถูกตามล่า เหมือนในเหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์ที่ผา่ นมาตอ่ มาในปี 1592 จากการล่มสลายของราชวงศ์ Mạc ก็ทาใหเ้ หล่า ลูกหลานสืบเช้ือสายท้งั หลายตอ้ งระหกระเหินเปลี่ยนช่ือแซ่มาใชเ้ ป็ น Nguyen อีกคร้ัง (เหมือนเป็ นช่ือเอาไว้ หนียงั ไงยงั ง้นั )จนในที่สุดปี 1802 ก็ถึงเวลาที่ราชวงศ์ Nguyen ไดก้ ลบั มาผงาดอีกคร้ัง ซ่ึงส่วนใหญ่ก็เป็ น ลูกหลานจากราชวงศ์ Trần นน่ั เอง และนบั วา่ ราชวงศ์ Nguyen ไดเ้ ป็ นราชวงศส์ ุดทา้ ยท่ีของเวยี ดนามท่ีได้ ปกครองมานานกวา่ 143 ปี นบั ต้งั แต่น้นั มาก็ดูเหมือนวา่ เร่ืองการเมืองในวงั จะสงบลงกวา่ ช่วงก่อน ราชวงศ์ Nguyen ไดม้ ีการพระราชทานนามสกุลใหแ้ ก่ชาวบา้ นชาวเมืองไวม้ ากมาย ถึงขนาดที่วา่ นกั โทษในสมยั น้นั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 15
หลายๆ คนยอมเปลี่ยนมาใชน้ ามสกุล Nguyen เพียงเพื่อท่ีจะไดร้ ับการลดโทษนน่ั เองโดยคนเวยี ดนาม จะมี นามสกลุ เหงียนประมาณ 39 เปอร์เซนตข์ องประชากรท้งั หมด แหม่ เห็นแบบน้ีก็ไม่ตอ้ งแปลกใจไปวา่ ทาไม นกั ฟุตบอลท้งั สนามจะมีแต่ “เหงียน” เตม็ ไปหมดเลยน้นั เอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมส้อมที่ใช้กินข้าว ถึงต้องมี 4 ซ่ี ก็เลยไปหาขอ้ มูลเลยได้ คาตอบแบบน้ีครับ ส้อมในยคุ แรกๆ มีเพยี ง 2 ซี่เท่าน้นั ครับ โดยพฒั นามาจากมีดขนาดเล็ก เพ่ือใชก้ ด(เพ่ือใช้ มืดหน่ั ) และจิ้มเน้ือสัตว(์ เขา้ ปาก)ไดถ้ นดั มากข้ึน ส้อมช่วงแรกๆ จึงมีลกั ษณะตรง ไม่ได้มีลกั ษณะโคง้ เลก็ นอ้ ยอยา่ งในปัจจุบนั จากส้อม 2 ซี่ น้นั จึงพฒั นาจานวนซี่มากข้ึน จนบางแบบมีถึง 6 ซ่ี ไม่ค่อยเป็ นท่ีนิยม และสูญหายไป เพราะดว้ ยเทคโนโลยี่ในสมยั น้นั จานวน ซ่ี 5 – 6 ซ่ี หากจะทาใหม้ นั มีขนาดพอจะเอาเขา้ ปากได้ แบบไม่ลาบาก มนั จะมีซ่ีท่ีเล็ก บอบบางเกินไป ถา้ จะให้ แข็งแรง ก็ต้องทาให้มันน้อยซ่ีลง ดังน้ันส้อมท่ีนิยม ต้งั แต่คริสศตวรรษที่ 10 เป็ นตน้ มาจึงมกั จะไม่เกิน 4 ซ่ี โดยส้อมที่มี 4 ซ่ีที่มีลกั ษณะโคง้ เล็กนอ้ ยกลายเป็ นส้อม มาตรฐานบนโต๊ะอาหารในช่วงตน้ คริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 น่ีเองปัจจุบนั ส้อม 2 ซี่แบบโบราณ ก็ยงั ใชอ้ ยู่ พวก ส้อมแล่เน้ือ ยงั ใชส้ ้อมแบบน้ี (แต่ขนาดใหญ่หน่อย) หรือส้อมท่ีใชบ้ นโต๊ะดินเนอร์ ก็ยงั มีพวก ก็ยงั มีส้อม 2 ซ่ี (อยา่ งส้อมจิ้มผลไม)้ และ 3 ซี่(พวกส้อมจิม้ เน้ือ) เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่มี าของซาลาเปา ซาลาเปาน้ีมีจุดเร่ิมตน้ มานานกวา่ 1,000 ปี แลว้ ซ่ึงเกิดข้ึนท่ามกลางชยั ชนะของขง้ เบง้ ท่ีนาทพั ไปปราบกบฏ ทางภาคใต้ โดยหลังเสร็จศึกสงครามขงเบง้ ก็ได้นาทพั กลบั สู่ เสฉวน แต่ระหว่างทางตอ้ งผ่านแม่น้าท่ีชาวบ้านบอกว่าเป็ น แม่น้าปี ศาจ เพราะมกั ไดย้ ินเสียงร้องของทหารท่ีเสียชีวิตขณะ ทาสงครามบริเวณแมน่ ้าสายน้ี ขงเบง้ จึงไดน้ าเน้ือสตั วม์ าห่อดว้ ย แป้ ง แลว้ ป้ันเป็ นกอ้ นกลมราวกบั ศีรษะคนแลว้ นาไปน่ึง เพื่อทา พิธีเซ่นบวงสรวงทหารท่ีเสียชีวิต จากน้ันมาแป้ งที่ป้ันแทน ศีรษะคนก็ถูกเรียกว่า\"หม่านโถว\"ซ่ึงแปลว่าหวั ของชาวหนานหมาน นานเขา้ ก็แปลงเป็ นคาว่า“หมนั่ โถว” และเมื่อชาวบา้ นลองนาหมน่ั โถวน้ีไปทาดูก็พบว่ามีรสชาติอร่อยมากจึงไดก้ ลายเป็ นอาหารท่ีคนจีนเหนือ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 16
นิยมนาไปรับประทานเป็นอาหารเชา้ หรืออาหารวา่ ง โดยเรียกเมนูน้ีวา่ \"เปาจึ\"หรือ\"ซาลาเปา\"ซ่ึงปัจจุบนั เป็ น อาหารที่นิยมไปทว่ั โลก แลว้ ทาไมซาลาเปาถึงตอ้ งมีจุดสีแดง?เหตุผลก็เพราะคนจีนมีความเชื่อวา่ ซาลาเปาท่ี มีสีขาวลว้ นน้นั ไม่เป็ นมงคล เพราะสีขาวลว้ นเป็ นสัญลกั ษณ์ของการไวท้ ุกข์ และอาจเป็ นเพราะจุดกาเนิด ของซาลาเปาก็ดูไม่เป็ นมงคลนกั จึงมีการแตม้ จุดสีแดง ซ่ึงเป็ นสีที่คนจีนเชื่อว่าเป็ นสิริมงคลไปบนเน้ือ ซาลาเปา เพ่ือเสริมสร้างความเชื่อท่ีวา่ หากใครไดก้ ินอาหารเหล่าน้ีก็จะเป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของคาว่าสวสั ดี วนั น้ี เม่ือ 77 ปี ที่แลว้ ประเทศไทยเร่ิมใชค้ า วา่ สวสั ดี ผูท้ ่ีริเร่ิมใช้คาว่า \"สวสั ดี\" คือ พระยาอุปกิตศิลป สาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) โดยพิจารณามาจากศพั ท์ \"โสตฺถิ\" ในภาษาบาลี หรือ \"สวสั ติ\" ในภาษาสันสกฤต โดยไดเ้ ร่ิมใช้ เป็ นคร้ังแรก ณ คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ขณะท่ีพระยาอุปกิตศิลปสาร (น่ิม กาญจนาชีวะ) เป็ นอาจารย์ อยู่ท่ีนั่น หลังจากน้ัน ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูล สงคราม นายกรัฐมนตรีในสมยั น้นั เห็นชอบใหใ้ ชค้ าวา่ \"สวสั ดี\" เป็ นคาทกั ทายอยา่ งเป็ นทางการต้งั แต่วนั ที่ 22 มกราคม เป็นตน้ มา \"สวสั ดี\" เป็นภาษาสันสกฤต มาจากคาวา่ \"สุ\" เป็ นคาอุปสรรค (คาเติมหนา้ ศพั ทท์ ี่ทา ให้ความหมายของศพั ท์เปลี่ยนแปลงไป) แปลวา่ ดี งาม หรือ ง่าย และคาวา่ \"อสฺติ\" เป็ นคากิริยาแปลว่า มี แผลงคาวา่ \"สุ\" เป็น \"สว\" (สฺวะ) ไดโ้ ดยเอา \"อุ\" เป็น \"โอ\" เอา \"โอ\" เป็ น \"สฺว\" ตามหลกั ไวยากรณ์ แลว้ สนธิ กบั คาวา่ \"อสฺติ\" เป็ น \"สวสฺติ\" อ่านวา่ สะ-วดั -ติ แปลวา่ \"ขอความดีความงามจงมี (แก่ท่าน) \"คาวา่ สวสั ดีน้นั จะทาหนา้ ท่ีท้งั การทกั ทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกนั และเมื่อเรากล่าวคาวา่ สวสั ดี คนไทยเรายงั ยกมือ ข้ึนประนมไหวต้ รงอก มือท้งั สองจะประสานกนั เป็ นรูปดอกบวั ตูม เหมือนสัญลกั ษณ์ท่ีสื่อความหมายถึงสิ่ง สูงค่าที่เป็ นมงคล เพราะชาวไทยใชด้ อกบวั ในการสักการะผูใ้ หญ่ บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วน การวางมือไวต้ รงระดบั หวั ใจน้นั เป็ นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทกั ทายน้นั มาจากใจของผไู้ หว้ ท้งั น้ี คาเรียกตราสัญลกั ษณ์ ของพรรคนาซี ท่ีเราเรียกวา่ สวสั ดิกะ น้นั ก็มีรากศพั ท์มาจากคาวา่ สวสั ดี น้ีเอง ท้งั น้ีคาวา่ สวสั ดิกะ แปลวา่ เคร่ืองหมายแห่งความรุ่งเรือง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 17
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม การพยาบาลคนเป็ นโรคลมชัก ถา้ พบเห็นคนเป็นลมชกั อยา่ เอา อะไรใส่ปากเขา อาการชกั มกั เกิดข้ึนในรูปแบบคลา้ ยเดิมและหยดุ ไดด้ ว้ ยตวั เอง ขณะชกั ผปู้ ่ วยอาจมีอาการ เกร็ง หรือกระตุกบางส่วนของร่างกายหรือทว่ั ท้งั ตวั บางคนอาจแคเ่ หม่อลอย ไม่ตอบสนอง กะพริบตาถ่ี เค้ียวปาก พดู จาสบั สน หรือมือคลาขา้ วของ บางคร้ังอาจมีลกั ษณะคลา้ ยสะดุง้ แลว้ ลม้ ไป ขณะชกั บางคนอาจ ร้องเสียงดงั หายใจแรงติดขดั และผวิ หนงั อาจเปล่ียนเป็นสีคล้า โดยเฉพาะกรณีชกั เกร็งกระตุกท้งั ตวั -การช่วยเหลือ 1. หา้ มเอาอะไรยดั ปาก เพราะ อาจทาใหฟ้ ันหกั หรือ ทาใหส้ ่ิงของท่ียดั ปากเกิดหกั ตกลงไปในคอ..อุดตนั ทางเดินหายใจและตายได้ 2. หากผปู้ ่ วยเกิดอาการชกั ในสถานท่ีอนั ตราย เช่น บนถนน บนั ได ห้องครัว ควรเคล่ือนยา้ ย ผปู้ ่ วยใหอ้ ยใู่ นท่ีโล่งปลอดภยั 3. ถอดแวน่ ตา คลายเส้ือไม่ใหร้ ัดแนน้ 4. จบั ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนตะแคงซา้ ย เพ่ือป้ องกนั ไมใ่ ห้ มีการสาลกั อาหารหรือสารคดั หลงั่ ต่างๆ ลงใน หลอดลม หากเป็นไปไดห้ าอะไรมาใหผ้ ปู้ ่ วยหนุนนอน 5. ไมค่ วร ยดึ ย้อื ดึงร้ัง รัด ตรึงผกู แขนขา หรือพยายามทาใหผ้ ปู้ ่ วยหยดุ ชกั เพราะผปู้ ่ วยควบคุมตวั เองไมไ่ ด้ และโดยทวั่ ไปจะหยดุ ชกั เอง 6. เช็ดน้าลายหรือสิ่งที่อาจอุดก้นั การหายใจ 7. หา้ มใหป้ ้ อนยาหรือน้าในขณะที่ผปู้ ่ วยชกั เพราะจะทาใหส้ าลกั ลงปอดได้ 8. อยกู่ บั ผปู้ ่ วยตลอดเวลาจนกวา่ ผปู้ ่ วยจะรู้สึกตวั ดีข้ึนหรือเจา้ หนา้ ท่ีทางการแพทยม์ าช่วยเหลือ -กรณีดงั ต่อไปน้ีควรนาผปู้ ่ วยส่งโรงพยาบาล 1 .ผปู้ ่ วยชกั เกินกวา่ 5 นาที 2. ชกั ติดๆกนั 3. ผปู้ ่ วยหายใจติดขดั 4. ผปู้ ่ วยไดร้ ับการบาดเจบ็ ท่ีรุนแรงระหวา่ งชกั สรุปจากดา้ นบน - อาการชกั จะหยดุ ไดเ้ อง หา้ มนาอะไรมายดั ปากผปู้ ่ วย ควรใหผ้ ปู้ ่ วยอยใู่ นพ้นื ท่ีโล่งหรือปลอดภยั ถอดแวน่ และคลายเส้ือไม่ใหร้ ัดแน่น จบั ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนตะแคงซา้ ย ห้ามป้ อนยาหรือน้า อยกู่ บั ผปู้ ่ วยตลอดเวลาจนกวา่ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 18
ผปู้ ่ วยจะดีข้ึนหรือเจา้ หนา้ ที่ทางการแพทยม์ าช่วยเหลือ และควรนาผปู้ ่ วยส่งโรงพยาบาลถา้ ผปู้ ่ วย ชกั เกิน5 นาที ชกั ติดๆกนั หายใจติดขดั ผปู้ ่ วยไดร้ ับการบาทเจบ็ ท่ีรุนแรงระหวา่ งชกั จบ!! และช่วยกนั แชร์กระทนู้ ้ีดว้ ยนะครับ ใหค้ นที่ยงั ไม่รู้..ใหเ้ ขารู้ จะไดช้ ่วยเหลือผปู้ ่ วยอยา่ งถูกวธิ ี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความแตกต่างของ องั่ เปา กับ แต๊ะเอีย ใกลต้ รุษจีนแลว้ หลายคน รอองั่ เปา กบั แตะ๊ เอีย อยา่ งใจจดใจจ่อ แลว้ ทราบไหมครับวา่ สองคาน้ีต่างกนั อยา่ งไร ความแตกต่างของ สองคาน้ีอยู่ตรงท่ี ... คาวา่ \"อง่ั \" แปลวา่ สีแดง คาว่า \"เปา\" แปลวา่ ซอง ห่อ \"อง่ั เปา\" แปลวา่ ซองสีแดง แต่ ความหมายขององั่ เปาอยู่ที่ของในซองสีแดง ซ่ึง หมายถึง เงิน หรือ ธนบตั ร หรือ เช็คแลกเงินท่ีอยู่ ในซองน้นั มากกวา่ \"องั่ เปา\" คือ ซองสีแดงที่ผใู้ หญ่ ที่ทางานแลว้ หรือมีรายไดจ้ ะใส่เงินแลว้ นามาให้ ผนู้ ้อย หรืออาจจะแลกเปลี่ยนกนั เองในหมู่ญาติพี่ นอ้ ง สีแดงของซองเป็ นสัญลกั ษณ์ที่แสดงถึงความ โชคดี และเงินท่ีบรรจุภายบางคร้ังจะเป็ นเลขนา โชค เช่น เลข 8 อ่านในภาษาจีนจะมีความหมายถึง ความรุ่งเรือง หรือความร่ารวย ส่วนคาวา่ แต๊ะเอีย \"แต๊ะ\" แปลว่า ทับ หรือ กด \"เอีย\" แปลว่า เอว \"แตะ๊ เอีย\" แปลวา่ ของท่ีมากดหรือทบั เอว ส่วน \"แตะ๊ เอีย\" น้นั มีท่ีมาจากในสมยั ก่อน เหรียญเงินที่ชาวจีนใช้ จะมีรูตรงกลาง ตามธรรมเนียมปฏิบตั ิผใู้ หญ่จะร้อยเหรีญเงินเหล่าน้นั ดว้ ยเชือกสีแดงเป็ นพวงๆ และนามา มอบให้เด็กๆ ในเทศกาลตรุษจีน พวกเด็กๆ ก็มกั จะนามาผูกเก็บไวท้ ี่เอว และนอกจากการให้อง่ั เปาหรือ แตะ๊ เอียแลว้ ชาวจีนยงั มีอีกธรรมเนียมปฏิบตั ิที่ทาสืบต่อกนั มานน่ั ก็คือ การอวยพรในวนั ตรุษจีน ซ่ึงเราจะได้ ยนิ กนั บอ่ ยๆ เช่น \"ซินเจียยอู่ ่ี ซินน้ีฮวดไช\"้ ซ่ึงแปลเป็ นไทยวา่ \"ขอให้ประสบโชคดี ขอใหม้ ง่ั มีปี ใหม่\" หรือ อาจจะกล่าวอวยพรวา่ \"เกียฮ่อซินน้ี ซินน้ีต้วั ถนั่ \" ซ่ึงแปลวา่ \"สวสั ดีปี ใหม่ ขอใหร้ ่ารวยๆ\" อีกฝ่ ายท่ีไดร้ ับคา อวยพรกจ็ ะกล่าวตอบวา่ \"ตง่ั ตงั ยอู่ ี่\" ซ่ึงแปลวา่ \"ขอใหส้ ุขสมหวงั เช่นกนั \" เป็นตน้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 19
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ครูใหญ่ กับ ผอ.ต่างกันอย่างไร ในสมยั เราเป็ นเด็ก ผูบ้ ริหาร โรงเรี ยน จะเป็ น ครูใหญ่พอเรี ยน มั ธ ย ม ผู้ บ ริ ห า ร ก็ เ ป็ น ผู้อ า น ว ย ก า ร แ ล้ว ค รู ใ ห ญ่ กับ ผูอ้ านวยการ ต่างกนั อย่างไร ในอดีต น้นั ครูใหญ่จะเป็ นตาเเหน่งผูบ้ ริหาร สูงสุดสาหรับโรงเรียนระดบั ประถม ไม่เกิน ป.6 ส่วน ผอ เป็ นผูบ้ ริหาร สูงสุดของโรงเรียนท่ีมีช้นั มธั ยม จะมี ต้งั เเต่ ม.3 หรือ ม.6 ตาแหน่งบริหารสถานศึกษาในอดีตผกู ติดกบั จานวนนกั เรียน จานวนนกั เรียนมากเป็ น ผอู้ านวยการ นกั เรียนน้อยเป็ นครูใหญ่ แต่ต่อมา มีการปรับเปล่ียน พรบ.ทาให้ ผูบ้ ริหารโรงเรียนทุกคน เปลี่ยนตาแหน่งเป็น ผอ.ท้งั หมด เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วธิ ีการนับแต้มของเทนนิส ไดม้ ีโอกาสดู เทนนิส อสเตรเลีย โอ เพ่น ก็เลยอยากมาเล่าถึงสาเหตุ ของการนับแต้มในกีฬาเทนนิส เป็น 0 15 30 40 เกม จริงแลว้ ๆ ไม่ เป็ นท่ีแน่ชดั วา่ เหตุใดกีฬาเทนนิส จึงนับแต้มด้วยวิธีการน้ี แต่จาก ข้อสันนิษฐานเชื่อว่า มีที่มาจาก วิ ธี ก า ร นั บ แ ต้ ม เ ท น นิ ส ใ น ส มัย ก่ อ น ที่ ใ ช้ น า ฬิ ก า ซ่ึ ง ต้ ัง อ ยู่ ด้านหลังผู้แข่งขันเป็ นตัวบอก ครับแนน โดยจะหมุนนาฬิกาทีละเศษ 1 ส่วน 4 ของหนา้ ปัดเพื่อให้ดูง่ายๆ ดงั น้นั วธิ ีการนบั แตม้ จึงเพ่ิมทีละ 15 แตม้ เป็ น 15 30 45 และ 60 ซ่ึงหมายถึงจบเกมหากฝ่ ายไหนถึง 60 ก่อนก็ไดเ้ กมน้นั ไปต่อมาปี 1875 สโมสร Marylebone Cricket Club (MCC) ในองั กฤษซ่ึงดูแลเรื่องการออกกฎกติกาเทนนิสสมยั ใหม่ไดเ้ ปล่ีย วธิ ีการขานแตม้ ใหมเ่ ป็น 15 30 40 แลว้ ก็ เกม ท้งั น้ี เชื่อวา่ น่าจะเป็ นเพราะตอ้ งการช่วยให้กรรมการออกเสียง ไดง้ ่ายข้ึนเพราะในภาษาองั กฤษ 15 30 40 จะออกเสียงวา่ 'ฟิ ฟทีน' 'เธอร์ตี' 'ฟอร์ตี' แต่หากใชแ้ ตม้ สุดทา้ ยเป็ น เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 20
45 กรรมการก็ตอ้ งออกเสียงวา่ 'ฟอร์ตีไฟว'์ ซ่ึงค่อนขา้ งยาวและออกเสียงลาบากจึงย่อให้เหลือแค่ 'ฟอร์ตี' นน่ั เองนอกจากวธิ ีการนบั ครับแนนที่พสิ ดารไม่เหมือนกีฬาอ่ืนๆ แลว้ คอเทนนิสท้งั หลายเคยสังเกตบา้ งไหม วา่ ทาไมเวลาดูการแข่งขนั เทนนิสจากต่างประเทศ กรรมการจึงขานแตม้ ของผแู้ ข่งขนั ท่ีไดแ้ ตม้ 0 วา่ 'เลิฟ' (Love) มนั เก่ียวอะไรกบั 0 ตรงไหน หากเคยล่ะก็จากน้ีไปคงจะหายสงสัยแลว้ ล่ะ เพราะท่ีมาของคาวา่ 'เลิฟ' ท่ีกรรมการขานน้นั มาจากคาวา่ 'L' oeuf' ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลวา่ 'ไข่' ซ่ึงมีรูปทรงเหมือนเลข '0' นน่ั เอง พอ พูดเป็ นภาษาองั กฤษก็ออกเสียงตรงกบั คาวา่ 'Love' ที่แปลวา่ 'รัก' นนั่ เองเช่นเดียวกบั คาวา่ 'ดิวซ์' (deuce) ท่ี กรรมการขานเมื่อผเู้ ล่นท้งั สองฝ่ ายไดค้ รับแนนเท่ากนั ท่ี 40 ต่อ 40 แตม้ ก็มาจากคาวา่ 'deux' ในภาษาฝรั่งเศส ที่แปลวา่ 'สอง' ซ่ึงหมายความวา่ ใหผ้ เู้ ล่นที่มีแตม้ เสมอกนั อยทู่ ี่ 40-40 แข่งกนั อีก 2 ลูกเพ่ือตดั สินวา่ ใครจะได้ เกมน้ีไป เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความหมายของเคร่ืองเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ความหมายของสิ่ง ตา่ งๆ ในของไหวบ้ รรพบุรุษ ชุดโหงวแซ – เน้ือสัตว์ 5 ชนิด ชุดโหงวแซ คือเน้ือสตั ว์ 5 ชนิด ไดแ้ ก่ – หมู ซ่ึงหมายความอุดมสมบูรณ์ – เป็ด ส่ือถึงความสามารถท่ี หลากหลาย และความสาเร็จ – ไก่ หมายถึงความกา้ วหนา้ ใน หนา้ ท่ีการงาน – ตบั ซ่ึงในภาษาจีนพอ้ งเสียงกบั คาวา่ กวั ที่แปลวา่ ขนุ นาง จึงหมายถึง อานาจวาสนา – ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ (หรือสามารถปรับไปไหวเ้ ป็นกงุ้ หรือในปี น้ีเป็ นปี หมูทอง สามารถเสริม ดว้ ยดว้ ยการใช้ หมกู รอบ เพราะสีเหลืองทองคลา้ ยทองคา เป็นสญั ลกั ษณ์ของสิริมงคล ความร่ารวย) ซิ่วทอ้ -หรือซาลาเปาลูกทอ้ -และซาลาเปาที่ทาเป็นรูปลกั ษณ์ตา่ งๆเพ่ือเสริมมงคล ซิ่วทอ้ -หรือซาลาเปาลูกทอ้ -และซาลาเปาที่ทาเป็นรูปลกั ษณ์ตา่ งๆเพ่ือเสริมมงคล ชุดซาแซ คือเน้ือสัตว์ 3 ชนิด อาหารและผลไมม้ งคล ส่วนชุดซาแซ คือเน้ือสตั ว์ 3 ชนิด ไดแ้ ก่ หมู เป็ด ไก่ และนอกจากเน้ือสัตวท์ ี่เป็นเคร่ืองไหวย้ งั มีอาหารและ ผลไมค้ วามหมายมงคล เช่น – ขนมเข่ง หมายถึงความมง่ั มี (โดยปัจจุบนั มีการเสริมสิริมงคลตามความเช่ือ โดย ทาขนมเขง่ รูปหมสู ีทอง ซ่ึงสื่อถึงความอุดมสมบรู ณ์และร่ารวย) – รูปปลากิมหลีฮ้ือ เพราะชาวจีนเช่ือวา่ ปลาหลีฮ้ือนาพาโชคลาภ ทาใหค้ า้ ขายดี หรือรูปตาลึงเงิน ก็ส่ือถึง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 21
โชคลาภทางดา้ นเงิน – ขนมเทียน หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง – ขนมถว้ ยฟู หมายถึงความมีช่ือเสียง – ซ่ิวทอ้ หรือซาลาเปาลูกทอ้ สื่อถึงสุขภาพแขง็ แรง อายยุ นื ยาว ชุดไหวผ้ ลไมม้ งคล และชุดไหวผ้ ลไมม้ งคล นิยมใชผ้ ลไม้ 5 ชนิด เพราะคนจีนถือวา่ เป็นจานวนมงคล โดยนิยมไหวผ้ ลไมท้ ่ีมี สีสันสดใส เป็นสีมงคลช่วยเสริมพลงั อยา่ ง สีแดง สีส้ม สีเขียว ฯลฯ โดยนิยมไหวผ้ ลไม้ ไดแ้ ก่ – ส้ม ซ่ึงคาจีนเรียก “ไตก้ ิก” แปลวา่ โชคดี – แอปเปิ้ ลสีแดง หมายถึง ความสนั ติสุข – องุ่นแดง สื่อถึงความเจริญงอกงาม – กลว้ ยหอมหวใี หญ่ หมายถึง กวกั โชคลาภเขา้ มา และมีลูกหลานเตม็ บา้ นเตม็ เมือง – ส้มโอทบั ทิมสยาม สื่อถึงความสมบูรณ์, เมล่อน ส่ือถึงการเจริญเติบโต – สาล่ี ประสบแตเ่ รื่องดีๆ มีเงินทองไหลมาเทมาเหมือนสีทองของสาลี่ การไหวเ้ ทพเจา้ แห่งโชคลาภ ส่วนช่วงกลางคืนจะไหว้ เทพเจา้ ไฉ่ซิงเอ๊ีย หรือเทพเจา้ แห่งโชคลาภท่ีในหน่ึงปี จะมาเพียงคร้ังเดียวใน ช่วงเวลา 23.00 น. ของคืนวนั ที่ 4 ก.พ. 62 ไปจนถึงของเชา้ วนั ท่ี 5 ก.พ. 62 โดยใหห้ นั หนา้ ไปทางทิศใต้ ซ่ึง เป็นทิศท่ีเทพเจา้ จะเสดจ็ มาในปี กนุ น้ี นิยมไหวด้ ว้ ยผลไมม้ งคลเช่นกนั โดยจะไมไ่ หวด้ ว้ ยของคาว และเคล็บ ลบั ตอนไหวเ้ ทพเจา้ ไฉ่ซิงเอ๊ีย ใหน้ ากระเป๋ าเงิน สมุดบญั ชี บตั รเอทีเอม็ ของท่ีเกี่ยวกบั ธุรกรรมการเงิน ส่วนตวั ไปวางท่ีโตะ๊ ไหว้ เพ่ือเสริมดวงเหมือนเปิ ดช่องทางใหโ้ ชคลาภการเงิน” เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของพวงหรีด แทจ้ ริงแลว้ พวงหรีดมีตน้ กาเนิดต้งั แต่สมยั อารยธรรมอีทรัสคนั ในแถบทวปี ยโุ รปตอนใต้ เน่ืองจากมีการพบ มงกุฎทองสาหรับนักรบเมื่อเวลาออกรบเพื่อเป็ นเกียรติยศโดย แกะเป็ นลายใบไมแ้ ละดอกไม้ อายรุ าว 400 ปี ก่อนคริสตกาล จึง คาดว่ามงกุฎดงั กล่าวอาจเป็ นจุดเริ่มตน้ ของการทาพวงหรีดค่ะ ตอ่ มาชาวคริสเตียนในศตวรรษท่ี 16-19 ไดน้ ากระดาษและริบบิ้น มาตดั เป็ นดอกไมใ้ บไมร้ ูปพวงหรีดเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาล เตรียมรับเสด็จพระคริสตเ์ จา้ (Advent) จากน้นั จึงไดเ้ ปล่ียนมาใช้ ดอกไมส้ ดแทน เพราะมีความสวยงามกวา่ ซ่ึงหนา้ ตาก็จะกลมๆ ประดบั ไปด้วยดอกไมค้ ล้ายพวงหรีดดอกไมส้ ดแบบใน หมวด พวงหรีดดอกไมส้ ด แต่มีขนาดที่เล็กกวา่ เพราะจะไดน้ าไปแขวน ไวใ้ นโบสถ์ได้ค่ะ ภายหลังในยุควิคตอเรียนความหมายของ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 22
ดอกไมก้ วา้ งมากข้ึน พวงหรีดจึงถูกกลายเป็ นส่ิงท่ีแสดงความอาลยั ใหก้ บั ผทู้ ี่ตายดว้ ยเช่นเดียวกนั เม่ือพวง หรีดเขา้ ประเทศไทย อารยธรรมตะวนั ตกเร่ิมแพร่หลายอยา่ งมากในยคุ ล่าอาณานิคม หรือในสมยั รัชกาลที่ 5 ซ่ึงมีการรับเอาอารยธรรมตะวนั ตกหลายอย่างเขา้ มาในประเทศไทย โดยปรากฏหลกั ฐานภาพถ่ายการนา ดอกไมห้ ลากหลายชนิดมาตกแต่งเป็ นพวงกลมคลา้ ยพวงหรีดคร้ังแรก ในพระเมรุของสมเด็จพระปิ ยมาวดี ศรีพชั รินทรมาตา หรือ เจา้ จอมมารดาเป่ี ยม พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5 ในพ.ศ. 2447 ดว้ ยเหตุน้ีเองทาให้ คาดการณ์ไดว้ า่ พวงหรีดไดถ้ ูกนาเขา้ มาในประเทศไทยและใชเ้ ป็ นส่ือแทนความโศกเศร้าต้งั แต่สมยั น้นั ครับ การแพร่หลายของพวงหรีด หลงั จากการนาเขา้ อารยธรรมตะวนั ตกของรัชกาลท่ี 5 ทาใหพ้ วงหรีดไดเ้ ร่ิม แพร่หลายในงานศพของชนช้นั สูงมากข้ึน จนกระทงั่ เขา้ ถึงชนช้นั กลางไปจนถึงคนทวั่ ไป ซ่ึงพวงหรีดน้นั ไม่ไดม้ ีเพียงความสวยงามเท่าน้นั นะครับ แต่ยงั มีความหมายที่แฝงอยจู่ ากการใชด้ อกไมป้ ระดบั พวงหรีด นน่ั คือ ดอกไมย้ อ่ มเหี่ยวเฉาตามกาลเวลาเปรียบเสมือนกบั ชีวติ มนุษยท์ ี่ยอ่ มประสบการเกิดแก่เจบ็ ตายไม่ยง่ั ยืน นั่นเอง นอกจากน้ีดอกไม้ยงั สามารถสื่อถึงความหมาย อารมณ์และความรู้สึกได้มาก ทาให้พวงหรีด กลายเป็นสญั ลกั ษณ์ของการไปงานศพ กล่าวไดว้ า่ หากมีงานศพจะตอ้ งมีพวงหรีดไวแ้ ทนความอาลยั ของผทู้ ี่ ล่วงลบั อยเู่ สมอครับ ทราบประวตั ิและความเป็ นมาของพวงหรีดแลว้ ก็หายสงสัยเลยใช่ไหมครับ วา่ ทาไม พวงหรีดจึงเป็ นที่นิยมและมกั ใช้ในงานศพอย่บู ่อยคร้ัง แมใ้ นปัจจุบนั พวงหรีดจะถูกประยุกต์จดั ทาหลาย รูปแบบมากข้ึน เช่นมีพวงหรีดผา้ พวงหรีดพดั ลม เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ านและเขา้ กบั ยุคสมยั แต่มนั ก็ ยงั คงความหมายเดิมอยคู่ ่ะ นน่ั คือการไวอ้ าลยั แก่ผลู้ ่วงลบั นนั่ เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความเป็ นมา ของเคร่ืองหมายสวสั ดิกะ เช่ือวา่ เม่ือวานท่ีผา่ นมาหลาย คนคงไดย้ ินข่าวดราม่าที่มีนกั ร้องวยั รุ่นคนหน่ึงของวง เกิร์ลกรุปเมืองไทยสวมใส่เส้ือที่มี “ตราสวสั ดิกะ” จน กลายเป็ นเรื่องใหญ่โตถึงขนาดว่าสถานทูตอิสราเอล ป ระ จา ป ระ เท ศ ไ ท ย ต้อง แส ดง ค วา ม รู้ สึ ก วิตก กัง วล เกี่ยวกบั เร่ืองน้ี เร่ืองราวจะเป็ นอยา่ งไรต่อไปก็คงวา่ กนั ไป แต่ ใ นท่ี น้ี จ ะ มา คุ ย กันถึ งค วาม เป็ นมา ขอ ง เคร่ืองหมายสวสั ดิกะกนั ดีกวา่ วา่ มีความเป็ นมาอยา่ งไร สวสั ติกะ (Swastika) เป็ นเคร่ืองหมายอย่างหน่ึงที่ มี ลกั ษณะเป็นรูปกากบาทท่ีมีปลายหกั เป็นมุมฉาก โดยจะ หกั ไปทางขวาหรือซา้ ยทางใดทางหน่ึง แต่ทวั่ ไปมกั จะ หกั ไปทางขวา คาวา่ สวสั ติกะ เป็นคาท่ีมาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง เป็ นอยดู่ ี (เป็ นคาเดียวกบั “สวสั ดี” ท่ี เราใช้ทกั ทายกนั ทุกวนั ) สัญลกั ษณ์สวสั ติกะเป็ นตวั แทนของความเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งกบั ท่ี วฎั จกั รของ ฤดูกาล บางคร้ังก็จะหมายถึ งดวงอาทิ ตย์ ชี วิต ความอุดมสมบูรณ์ ความโชคดี มีความสุ ข เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 23
เคร่ืองหมายสวสั ติกะน้นั มีมาแตส่ มยั โบราณไม่นอ้ ยกวา่ 3000 ปี มาแลว้ แต่เชื่อวา่ น่าจะนานกวา่ น้นั อีก เพราะ พบวา่ มีการใชเ้ ครื่องหมายสวสั ติกะในงานศิลปะของอารยธรรมต่าง ๆ มากมายต้งั แต่อินเดีย เปอร์เชีย กรีก- โรมนั ไปถึงในเกาะองั กฤษ และจีน แมก้ ระทง่ั ชนพ้ืนเมืองอเมริกาบางเผา่ ก็ยงั มีการใชส้ ญั ลกั ษณ์สวสั ติกะใน งานศิลปะเช่นกนั โดยเฉพาะในดา้ นความเช่ือทางศาสนาและเทพเจา้ อยา่ งไรก็ตามความหมายของสวสั ติกะ ไดเ้ ปล่ียนไปอยา่ งสิ้นเชิง เมื่อพรรคนาซีเยอรมนั ไดน้ าเคร่ืองหมายสวสั ติกะมาใช้เป็ นสัญลกั ษณ์ของพรรค ของตน โดยเช่ือวา่ เป็นสัญลกั ษณ์ที่หมายถึงความโชคดีของชาวอารยนั ซ่ึงพรรคนาซีถือวา่ เป็ นชนช้นั ท่ีสูงส่ง ที่สุดในโลก แต่จากการกระทาอนั โหดเห้ียมทารุณของพรรคนาซีในสมยั สงครามโลกคร้ังท่ีสอง จึงทาให้ เคร่ืองหมายสวสั ติกะที่เคยเป็ นสัญลกั ษณ์แห่งความดีงามถูกทาลายลงจนกลายเป็ นสัญลกั ษณ์ของความ โหดร้ายอามหิตในสายตาของชาวโลกมาจนทุกวนั น้ี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม พรรคนาซี” พรรคการเมืองทโ่ี ลกไม่มีวันลมื พรรคนาซีหรือนา ซี เช่ือวา่ คงไม่มีใครในโลกท่ีไม่เคยไดย้ ิน เพราะการกระทาอนั เลวร้ายของพวกน้ีในระหวา่ งที่ครองอานาจ ในเยอรมนั คงเป็นที่จดจาของชาวโลกมาจนทุกวนั น้ี แมจ้ ะผา่ นมากวา่ 70 ปี แลว้ กต็ าม พรรคนาซี (Nazi) มีชื่อ ทางการคือ พรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมนั ( Nationalsozialistische Deutsche Arbeiterpartei, NSDAP) ส่วนคาวา่ นาซีน้นั กล่าวกนั วา่ เป็นช่ือที่คนนอกเรียกพรรคน้ี และมีความหมายในเชิงดูถูกวา่ เป็ นคน เงอะงะเซ่อซ่า สมาชิกของพรรคเองก็จะเรียกตัวเองว่า Nationalsozialisten (ชาติสังคมนิยม) หรือ Parteigenosse (สมาชิก) อยา่ งหน่ึงท่ีคนเขา้ ใจผิดกนั มากก็คือ ฮิตเลอร์ไม่ใช่ผกู้ ่อต้งั พรรคน้ี แมว้ า่ ฮิตเลอร์จะ เป็ นผูท้ าให้คนรู้จกั พรรคน้ีก็ตาม พรรคน้ีก่อต้งั โดยอนั ตอน เดรกซ์เลอร์ (Anton Drexler) และบรรดา นายทหารรวมถึงชนช้นั สูง บางกลุ่มในแควน้ บาวาเรีย ทางตะวนั ออกเฉียงใตข้ อง เยอรมัน ในปี 1920 แต่ หลงั จากไม่นาน ฮิตเลอร์ก็ ได้เข้าเป็ นสมาชิกพรรค และได้กลายเป็ นผูน้ าของ พรรคต้งั แต่ปี 1921 เป็ นตน้ มา นโยบายหลกั ของพรรค นาซีก็คือ ตอ้ งการยกเลิกสญั ญาแวร์ซายล์ ซ่ึงเป็นสนธิสัญญาท่ีเยอรมนั จาเป็นตอ้ งลงนามหลงั จากเป็ นฝ่ ายแพ้ สงครามโลกคร้ังแรก และการสร้างชาตื โดยเช่ือในความยิ่งใหญ่ของชาวอารยนั (เยอรมนั ) วา่ เป็ นเผา่ พนั ธุ์ท่ี สูงส่งกวา่ เผา่ พนั ธุ์อื่น ต่อตา้ นชนเผา่ พนั ธุ์อื่นรวมถึงคนยิวที่กุมอานาจทางเศรษฐกิจในเยอรมนั รวมถึงลทั ธิ คอมมิวนิสตท์ ี่เพิ่งเกิดข้ึนในเวลาน้นั ในระยะแรกน้นั พรรคนาซียงั ไม่เป็ นที่นิยมมากนกั จนกระทง่ั เม่ือเกิด วกิ ฤติเศรษฐกิจในเยอรมนั เมื่อช่วงปลายทศวรรษท่ี 1920 ซ่ึงทาใหค้ นยากจนในเยอรมนั รู้สึกสิ้นหวงั ในชีวิต เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 24
และตอ้ งการทางเลือกใหม่ ๆ ท่ีคิดวา่ ดีกวา่ เดิม จึงหนั มาให้ความสนใจพรรคนาซีกนั เป็ นอยา่ งมาก จนทาให้ พรรคนาซีชนะการเลือกต้งั ในเดือนพฤศจิกายน 1932 และฮิตเลอร์ไดร้ ับการแต่งต้งั ให้เป็ นนายกรัฐมนตรี เยอรมนั คร้ังแรกเม่ือเดือนมกราคม 1933 และหลงั จากน้นั บรรดาพรรคการเมืองอื่น ๆ ในเยอรมนั ก็ถูกส่ังยุบ จนหมดเหลือเพยี งพรรคนาซีเพยี งพรรคเดียวเท่าน้นั ซ่ึงแมห้ ลงั จากน้นั จะยงั คงมีการเลือกต้งั แต่ก็เป็ นแค่พิธี การเฉย ๆ เพราะพรรคนาซีไดร้ ับการเลือกต้งั เขา้ มาทุกที่นง่ั ตลอดทุกคร้ัง พรรคนาซีครองอานาจในเยอรมนั ต่อมาจนกระทง่ั เมื่อเยอรมนั พา่ ยแพส้ งครามโลกคร้ังท่ีสองและฮิตเลอร์ฆ่าตวั ตายไม่นาน พรรคนาซีก็ถูกสั่ง ยบุ ไปในปี 1945 นนั่ เอง และหลงั จากน้นั ในเยอรมนั ก็มีกฎหมายหา้ มก่อต้งั พรรคนาซีข้ึนมาอีกอยา่ งเดด็ ขาด เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาของ คาว่าลอยอังคาร ทาไม ไม่ลอยพุธ ศุกร์ จนั ทร์ สา เหตที่เรียกวา่ ลอยองั คาร เพราะ คาวา่ “องั คาร” น้นั หมายถึง ถ่านไม้ ถ่านเผา ถ่านไฟที่กาลังปะทุอยู่ และยงั หมายถึง เถ้าถ่านของศพท่ีเผาแล้ว แต่มัก เขา้ ใจกนั ว่า หมายถึง อฐั ิหรือกระดูกของคนตายที่ เผาแลว้ และเมื่อทาพิธีเก็บอฐั ิและทาบุญเสร็จแลว้ นิยมรวบรวมองั คารห่อดว้ ยผา้ ขาวหรือใส่โถ แลว้ ห่อดว้ ย ผา้ ขาว นาไปทิ้งแม่น้าหรือทะเลตอนท่ีมีร่องน้าลึก โดยเช่ือวา่ จะทาให้ผตู้ ายไดอ้ ยใู่ นสถานท่ีเยน็ ๆ โดยไม่มี ใครรบกวน เรียกการกระทาอยา่ งน้นั วา่ \"ลอยองั คาร\" เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วิธีการกินยาพาราเซตามอล การกินพาราเซตามอลเพ่ือบรรเทา อาการปวดและลดไขเ้ บ้ืองตน้ น้นั ถูกตอ้ งแลว้ วธิ ีการ การกินพาราเซตามอลแต่ละคร้ัง ไม่ควรไดร้ ับเกิน 15 มิลลิกรัมต่อน้าหนกั ตวั 1 กิโลกรัม หากหนกั 50 กิโลกรัม ก็ไม่ควรไดร้ ับยาเกิน 750 มิลลิกรัม“พารา เซตามอล 1 เมด็ มีปริมาณยา 500 มิลลิกรัม หลายคน เกรงวา่ กิน 1 เมด็ จะไมห่ ายปวด กเ็ ลยเลือกกิน 2 เมด็ นั่นเท่ากบั ว่า เขาจะได้รับยา 1,000 มิลลิกรัม ซ่ึง ผหู้ ญิงไทยส่วนใหญ่ค่อนขา้ งตวั เล็ก หากกินพาราฯ 2 เม็ด ก็ยอ่ มเป็ นปริมาณที่เกินขนาด”ฉะน้นั เม่ือนา ปริมาณและน้าหนกั มาคานวณดูก็จะพบว่า คนที่กินพาราฯ 2 เม็ดไดป้ ลอดภยั ไม่มีผลทาร้ายตบั จะตอ้ งมี น้าหนกั 67 กิโลกรัมข้ึนไป โดยจะตอ้ งรู้ด้วยว่า พาราเซตามอล กินเกิน 8 เม็ดต่อวนั ไม่ได“้ นอกจากน้ี ปริมาณที่เหมาะสมของการกินพาราเซตามอล สาหรับคนทวั่ ไปท่ีตอ้ งกินต่อเนื่องเพื่อลดไข้ หรือบรรเทา อาการปวด ควรเป็ น 1 เมด็ ทุก 6 ชว่ั โมง หากกินเกิน ถามวา่ ผลเสียมีหรือไม่ ตรงน้ีบอกไดว้ า่ การกินพารา เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 25
ฯ เกิน เป็ นพิษต่อตบั การกินเยอะเกินไปติดต่อกนั หลายวนั อย่างต่อเนื่อง จะทาให้ตบั อกั เสบ มีอาการปวด ทอ้ ง คล่ืนไส้อาเจียน ตาเหลือง ตวั เหลือง เมื่อเซลลต์ บั ถูกทาลายมากๆ กอ็ าจเป็นเหตุใหเ้ สียชีวติ ได”้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี 35 ทาไมถงึ ต้องเวยี นศพ ก่อนขึน้ เมรุ โดยการเวยี นศพตอ้ ง เวียนซ้าย ต่างกับงานมงคล จะทาการเวียนขวา เรียกว่า ทกั ษิณาวรรต การเวียนศพ 3 รอบ เป็ น การเวียนเพื่อไวอ้ าลยั แก่ผตู้ าย และหมายถึง การ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพท้งั สาม อนั มี กามภพ รูปภพ อรูปภพ ดว้ ยอานาจ กิเลสตณั หาอุปทาน ก็ จะเป็ นทุกข์ไม่จบสิ้น ฉะน้ันต้องทวนกระแส กิเลส รวมถึงเป็ นการสอนธรรมช้ันสูง ซ่ึงเป็ น ปริศนาธรรมเกี่ยวกบั พระไตรลกั ษณ์ คือ อนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา หรือเก่ียวกบั การเวียนว่ายตายเกิด ของสัตวใ์ นสามภพ คือ โลก นรก และสวรรค์ นน่ั เอง เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไม วนั ตรุษจีนต้องใส่เสื้อสีแดง สาหรับเหตุผลท่ีชาวจีนนิยมใส่ \"สีแดง\" ในวนั ตรุษจีนหรือวนั ข้ึนปี ใหม่ของจีน แทนเส้ือผา้ สีอื่นน้นั เป็ นเพราะสีแดงในความเช่ือ ของชาวจีนถือเป็ นสีแห่งความเป็ นสิริมงคล ความ โชคดี ความสุข และเป็ นสีแห่งแสงสว่าง เช่ือกนั วา่ เป็ นสีที่มีพลงั อานาจในการขบั ไล่สิ่งชวั่ ร้าย ส่ิง อปั มงคล และภตู ผปี ี ศาจท้งั หลาย นอกจากน้ีสีแดง ยงั เป็ นสัญลกั ษณ์แทนธาตุไฟ ท่ีส่ือถึงความเป็ น มงคลและความเจริญรุ่งเรืองอีกดว้ ย ซ่ึงไม่เพียงแต่ เทศกาลตรุ ษจีนเท่าน้ ันท่ีคนจีนจะนิ ยมใส่ สี แดง แต่ยงั นิยมใส่ในงานมงคลต่าง ๆ ด้วย เช่น งาน แต่งงาน งานเปิ ดกิจการใหม่ หรือวนั สาคญั ต่าง ๆ ของชาวจีน เป็ นตน้ และนอกจากความเชื่อเร่ืองสี แดงคือสีแห่งมงคลแลว้ ยงั มีตานานของตรุษจีนที่ เก่ียวกบั สีแดงอีกวา่ ในสมยั โบราณ ในป่ าทึบแห่ง หน่ึง มีสัตว์ป่ าท่ีดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหน่ึง เรียกว่า \"เหนียน\" มกั ออกอาละวาดกินคนเป็ นประจาในคืนก่อนวนั ตรุษจีน ทาให้ผูค้ นหวาดกลวั จนตอ้ ง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 26
ป้ องกนั การมาของเหนียน แรก ๆ ทุกครัวเรือนจะสะสมเสบียงอาหารไวใ้ นบา้ น เมื่อถึงตอนค่าของวนั ท่ี 30 เดือน 12 ก็จะปิ ดประตูและหนา้ ต่างเอาไว้ ไม่หลบั ไม่นอนตลอดคืน จนกระทง่ั ถึงรุ่งเชา้ (วนั ข้ึน 1 ค่า เดือน 1) เมื่อเหนียนกลบั ไปแลว้ ทุก ๆ บา้ นกจ็ ะเปิ ดประตอู อกมาแสดงความยินดีต่อกนั ท่ีโชคดีไม่ไดถ้ ูกเหนียนทา ร้ายแต่ต่อมาชาวบา้ นพบวา่ เหนียนมีจุดอ่อนคือ มีอยคู่ ร้ังหน่ึง เหนียนไปยงั หมู่บา้ นแห่งหน่ึงเจอเด็ก ๆ กาลงั เล่นหวดแส้กนั เสียงดงั เปร้ียงปร้างก็เลยตกใจเผน่ หนีไป เมื่อไปถึงหมู่บา้ นอีกแห่งหน่ึงก็เห็นมีชุดเส้ือผา้ สี แดงฉูดฉาดตากอยหู่ นา้ บา้ น เหนียนกต็ กใจเผน่ หนีไปอีก และเม่ือไปถึงหมู่บา้ นแห่งที่สาม ปรากฏวา่ เหนียน ไปพบเห็นกองเพลิงบนถนน สีของเพลิงท่ีเจิดจา้ ส่องสวา่ งก็ทาใหเ้ หนียนเผน่ หนีไปอีกคร้ัง และต้งั แต่น้นั มา ชาวบา้ นจึงไดร้ ู้ว่าเหนียนแมจ้ ะดุร้าย แต่ก็กลวั เสียงดงั สีแดง และไฟและจากเหตุผลและตานานความเชื่อ ขา้ งตน้ น้ี จึงทาให้เป็ นที่มาของการใส่เส้ือสีแดง และการประดบั ประดาสถานที่ต่าง ๆ ด้วยสีแดงในวนั ตรุษจีนต้งั แต่น้นั มา เพราะเชื่อวา่ สีแดง เป็ นสีมงคล สามารถขบั ไล่สิ่งชวั่ ร้ายได้ นอกจากน้ียงั เชื่ออีกว่า สี แดง ใส่ในวนั ข้ึนปี ใหม่แลว้ จะยงิ่ เฮงอีกดว้ ย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทีม่ าของสานวนไทย สานวน ตัดหางปล่อยวัด แลว้ ตดั หางของ ตั ว อ ะ ไ ร ใ ห้ ท า ย ค รั บ . . . . . . . . . . . . . . . . .............ห ม ด เ ว ล า สานวนตัดหางปล่อยวัด เป็ น ส านวนห มาย ถึ ง ตัดขาดไ ม่ เก่ียวขอ้ ง ไม่เอาเป็ นธุระอีกต่อไป เช่น เด็กคนน้ีถูกพ่อแม่ตัดหาง ปล่ อย วัดเพราะประ พฤติ ตัว เกกมะเหรกเกเรไม่เช่ือฟังคาสั่ง สอนของผใู้ หญ่ สานวนน้ีมีท่ีมาจากการตดั หางไก่แลว้ นาไปปล่อยเพ่ือสะเดาะเคราะห์หรือแกเ้ คราะห์ใน สมยั โบราณ มีหลกั ฐานในกฎมนเทียรบาลว่า เม่ือเกิดส่ิงที่เป็ นอปั มงคล เช่นมีวิวาทตบตีกนั ถึงเลือดตกใน พระราชวงั ตอ้ งทาพธิ ีสะเดาะเคราะห์ โดยเอาไก่ไปปล่อยนอกเมือง เพื่อให้พาเสนียดจญั ไรไปใหพ้ น้ ในสมยั รัชกาลที่ 4 มีประกาศกล่าวถึง การนาไก่ไปปล่อยท่ีวดั เพื่อสะเดาะเคราะห์ สันนิษฐานวา่ ไก่ที่จะนาไปปล่อย ท่ีวดั จะตดั หางเพอื่ เป็นเคร่ืองหมายวา่ เป็ นไก่ที่ปล่อย เพ่ือการสะเดาะเคราะห์ดว้ ย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 27
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเราสามารถเกบ็ นา้ ตาลได้นานมากโดยท่ีมนั ไม่เคยเน่า ไม่เคย เสีย ไม่เคยมีราข้ึนใด ๆ ท้งั สิ้น ทาไมจึงเป็ นเช่นน้นั อนั ท่ีจริง ส่ิงมีชีวิต สามารถยอ่ ยน้าตาล ไดอ้ ยา่ งง่ายดาย จึงเป็ นเรื่องแปลกว่า ทาไม น้าตาล กลบั ไม่เน่าเสียง่าย เหมือนกบั แป้ ง หรืออาหารประจาครัวอ่ืน ๆ เพราะว่า น้าตาล มีค่าความช้ืนอยนู่ อ้ ยเหลือเกิน คือประมาณ 0.02 เปอร์เซ็นต์เท่าน้ัน ซ่ึงทาให้จุลินทรีย์ตกอยู่ในสภาวะ ขาดน้า (dehydration) คาอธิบายมีวา่ โมเลกุลของน้าจะ แพร่กระจายออกจากจุลินทรียใ์ นอตั ราเร็วสูงกว่าท่ีมนั จะซึมเขา้ ดงั น้นั ในที่สุดจุลินทรียก์ ็จะตายลง เพราะขาด น้าในร่างกาย นอกจากน้ีระดบั ค่าความช้ืนที่ต่ามากของ น้าตาลยงั เป็ นอุปสรรคต่อการเปล่ียงแปลงทางเคมีใด ๆ อนั ก่อใหเ้ กิด การเน่าเสีย อยา่ งไรก็ตาม ถา้ ละลาย น้าตาลในน้า ย่ิงสารละลายน้าตาลเจือจางมากเท่าใด โอกาสที่ ราและยีสตจ์ ะเกิดก็มากข้ึนเท่าน้นั การเก็บ น้าตาลไวใ้ นภาชนะท่ีกนั อากาศเขา้ จะช่วยชะลอการดูดความช้ืน แมใ้ นสภาวะอากาศช้ืน ถา้ รักษาระดบั ค่า ความช้ืนท่ี 0.02 เปอร์เซนตไ์ วไ้ ด้ น้าตาล จะคงสภาพดี ไมม่ ีวนั หมดอายเุ ลย เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมมดถึงไม่ตายเม่ืออยู่ในไมโครเวฟ เวลาเราเอากบั ขา้ วไปอุ่น ในไมโครเวฟ แลว้ ถา้ กบั ขา้ วน้นั มีมดอยู่ เม่ืออุ่นแลว้ ทาไม มดถึงไม่ตาย สาเหตุท่ีมดไม่ตายเป็ เพราะ ในเตา Microwave จะมีพ้ืนที่การแพร่คลื่นเป็ นช่วง Hotspots ตาม ตาแหน่งของ standing wave ท่ีเกิดข้ึนภายในเตา เม่ือเตาเริ่ม แพร่คลื่น ตวั คล่ืนจะเริ่มแพร่ออกมาจากทางช่องดา้ นขวา และ สะทอ้ นไปมาในเตา โดยจะเกิดเป็ น standing wave ภายในช่อง ของเตา ตามภาพล่างน้ี จากภาพน้ี แสดงถึงช่วงของ standing wave เป็ นช่วง ๆ ภายในพ้ืนท่ีเตา เรียกวา่ HotSpots ซ่ึงห่างช่วง ละประมาณ 2.3 - 2.5 นิ้ว เม่ือมีการแพร่คลื่นในเตา มดอาจจะ พยายามเอาตวั รอดโดยการเล่ียงพ้ืนท่ีร้อน (HotSpots) น่ะครับ นอกจากน้ี มดยงั มีองค์ประกอบ ท่ีช่วยป้ องกนั ตวั เองจากคล่ืน ไมโครเวฟ ดงั น้ี -มดตวั เล็กเกินไป โอกาศในการรับคลื่นแบบเตม็ ๆ มีนอ้ ยมากใน microwave เพราะในตูม้ นั ไม่ไดม้ ีคล่ืนขนาดเตม็ พ้นื ท่ีของตู้ มีพ้นื ท่ีที่ไมโ่ ดนคล่ืนอยมู่ ากมาย-มดมีจานวนน้านอ้ ยมาก ถา้ บงั เอินมดเดิน ไปเจอจุดท่ีโดนคลื่นเขา้ ก็จะทาปฎิกิริยากบั ตวั มดไดไ้ ม่ร้อนมาก-ผวิ ของมดน้นั มีคุณสมบตั ิ แขง็ มนั วาว จะมี การสะทอ้ นคลื่นบางส่วนออกไปไดพ้ อสมควร เหมือนกระดาษฟรอย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 28
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ฝ่ ายซ้ายและฝ่ ายขวาคืออะไร หลายๆคนท่ีไดต้ ิดตามหรือศึกษา เร่ืองราวของการบา้ นการเมือง อาจจะเคยไดย้ นิ คาว่า \"ฝ่ ายซ้าย\" และ \"ฝ่ ายขวา\" แต่ยงั มีอีก หลายๆคนที่ยงั ไมท่ ราบวา่ ฝ่ ายซา้ ยและฝ่ ายขวา น้ีคืออะไรกนั แน่?ยอ้ นกลบั ไปในช่วงการปฏิวตั ิ ฝร่ังเศส ในปี ค.ศ.1789 ในช่วงเวลาน้นั ฝร่ังเศส อยู่ภายใตก้ ารบริหารของ \"สมชั ชาแห่งชาติ\" (National Assembly) ซ่ึงที่มาของฝ่ ายซ้ายและ ขวา ก็มีจุดกาเนิดจากช่วงเวลาน้ีเช่นกนั กล่าวคือ เมื่อสมชั ชาแห่งชาติจดั การประชุมคร้ังใด จะมี การแบ่งท่ีนงั่ ของสมาชิกออกเป็ น 2 ฝ่ าย คือ สมาชิกท่ีนง่ั อยู่ทางซ้ายมือของประธาน กลุ่มน้ี จะมีแนวคิดล้มล้างและต้องการให้ฝรั่งเศส ปกครองแบบสาธารณรัฐ ส่วนสมาชิกที่นงั่ อยทู่ างขวามือของประธาน กลุ่มน้ีจะมีแนวคิดสนบั สนุนพระเจา้ หลุยส์ท่ี 16 (Louis XVI) และตอ้ งการให้ฝร่ังเศสปกครองแบบกษตั ริยเ์ หมือนเดิม ซ่ึงน้ีกลายเป็ นจุดเร่ิมตน้ ของฝ่ ายซ้ายและฝ่ ายขวาน้นั เองสาหรับแนวคิดฝ่ ายซ้าย (Left Wing) หลกั ๆแลว้ คือ กลุ่มที่มีแนวคิดลม้ ลา้ ง ตอ้ งการการเปลี่ยนแปลง ตอ้ งการให้สังคมมีความเท่าเทียมและไม่มีชนช้ัน สาหรับแนวคิดของฝ่ ายซ้าย ตวั อย่างเช่น สังคมนิยม (Socialism), เสรีนิยม (Liberalism), อนาธิปไตย (การปกครองแบบไม่มีรัฐ: Anarchism) เป็นตน้ โดยแนวคิดซา้ ยจดั (Far Left) ก็คือแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ (Communism)ส่วนแนวคิด ฝ่ ายขวา (Right Wing) หลกั ๆแลว้ คือ กลุ่มท่ีมีแนวคิดอนุรักษน์ ิยม (Conservatism) คือ ไม่ตอ้ งการการ เปล่ียนแปลง ยึดมน่ั ในจารีตและประเพณีดงั่ เดิม และตอ้ งการให้สังคมมีชนช้ัน สาหรับแนวคิดฝ่ ายขวา ตวั อย่างเช่น กษัตริยน์ ิยม (Royalism), สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy), ชาตินิยม (Nationalism), เผดจ็ การทหาร (Dictator) เป็ นตน้ โดยแนวคิดขวาจดั (Far Right) ก็คือแนวคิดแบบฟาสซิสต์ (Fascism) เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 29
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ช่ือแฮมเบอร์เกอร์แต่ทาไม แฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม แต่กลบั เสิร์ฟมาด้วยเน้ือหมูบด หรือเน้ือววั สับ ไม่เคยกินแฮมเบอร์เกอร์ท่ีมีเน้ือแฮมจริงๆซักที ท่ีมาที่ไปคือ Hamberger น้นั มนั เร่ิมจากกษตั ริยท์ ี่ชื่อว่า พระเจา้ ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) สั่งให้ สร้างป้ อมปราสาทไวเ้ ม่ือประมาณปี ค.ศ. 808 ข้ึน แล้วให้ช่ือว่า Hammaburg จากน้ันจึงกลายเป็ นเมือง Hamburg ใน ปัจจุบนั ถา้ ถามให้ลึกข้ึนอีกคือ แลว้ ทาไม เมืองน้ีตอ้ งช่ือเมือง Hamburg หรือต้งั ชื่อ ป้ อมวา่ Hammaburg ล่ะ ก็ตอ้ งบอกวา่ มา จากคาวา่ Ham หรือ Hamma ในภาษาเยอรมนั โบราณหมายความวา่ การโคง้ งอหรือหกั มุม เพราะในพ้ืนท่ีๆ สั่งให้สร้างปราสาทข้ึนมาน้ีน้ันอยู่ในบริเวณโคง้ น้า เลยเป็ นที่มาของท้งั ชื่อเมือง Hamburg และปราสาท Hammaburg แลว้ มนั เกี่ยวกบั Hamberger ยงั ไงอีกล่ะ ก็ตอ้ งบอกวา่ เมืองน้ีเป็ นเมืองท่ีสร้างเมนูพิเศษดว้ ยการ นาเน้ือส่วน Ham หรือดา้ นหลงั ของขาหมูข้ึนมาดว้ ยการสับบดละเอียด เพราะเน้ือส่วนน้ีเดิมทีเป็ นเน้ือที่ เหนียวเต็มไปด้วยไขมนั และกินยาก ทาให้ชาวบา้ นตอ้ งลงทุนสับๆๆทุบๆๆให้ละเอียดจนง่ายต่อการกิน จากน้นั กเ็ อามาเสริฟในรูปแบบเน้ือยา่ งหรือสเตก็ ยงั ไม่ไดแ้ ปะบนขนมปังแบบในทุกวนั น้ี จนคนจากเมืองน้ี อพยพไปอเมริกาเม่ือไม่ก่ีร้อยปี ก่อน ชาวอเมริกาที่เต็มไปดว้ ยผอู้ พยพร้อยพ่อพนั แม่ต่างก็ชอบใจในเมนูน้ี เพราะกินง่าย นอกจากเน้ือส่วนแฮมก็ยงั นาเน้ือเหลือส่วนอื่นเอามาบดๆป้ันเป็ นแผน่ แลว้ ก็ยา่ ง จากน้นั ก็แปะ ใส่ขนมปังแลว้ ก็หยิบกินกนั ไดง้ ่ายๆและรวดเร็ว นนั่ แหละครับที่มาของ Ham จนกลายเป็ นป้ อมปราการ Hammaburg แลว้ กลายเป็ นเมือง Hamburg จนให้กาเนิดเน้ือ Ham Streak แลว้ ก็อพยพเขา้ อเมริกากลายเป็ น Hamberger ยอดฮิตของทว่ั โลกถึงทุกวนั น้ี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 30
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาของสัญลักษณ์รูปหัวใจ ใกลว้ นั วาเลนไทน์ แลว้ เราก็ฌจะ เห็นสัญลกั ษณ์รูปหัวใจ เต็มไปหมด สัญลกั ษณ์น้ีมีที่มาอย่างไร เพราะดูอย่างไร ก็ไม่เหมือนหัวใจจริงๆ แมแ้ ต่นอ้ ย โดยนกั ประวตั ิศาสตร์กล่าวถึงความเป็ นไปไดข้ องสัญลกั ษณ์รูปหัวใจวา่ น่าจะมีท่ีมาจากเมล็ด \"Silphium\" ซ่ึงมีรูปร่างคล้ายสัญลักษณ์รูปหัวใจใน ปัจจุบนั ซ่ึงพืชชนิดน้ีได้สูญพนั ธุ์ไปกว่าสองพนั ปี แลว้ ชาวกรีกโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ชนิดน้ีเป็ นของขวญั จาก เทพเจา้ Apollo มนั ถูกพบหลงั จากน้าท่วมใหญ่ในเมือง Cyrene ตอนเหนือของ Africa ถือเป็ นพืชมีค่าและหาได้ ยาก เพราะมนั จะเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติเท่าน้นั ตน้ ไม้ ชนิดน้ียงั ถูกใช้อย่างแพร่หลายในประเทศอียิปต์อีก ดว้ ย เมล็ดของตน้ Silphium ถูกใชอ้ ยา่ งแพร่หลาย เป็ น ยาคุมกาเนิดตามธรรมชาติที่ไดผ้ ลดีที่สุด ดงั น้นั เมล็ดของ มนั จึงกลายเป็ นสัญลกั ษณ์ของ\"เซ็กส์และความรัก\" ใน ท่ีสุด อีกทฤษฎีหน่ึงซ่ึงฟังดูดีไม่นอ้ ย คือ สัญลกั ษณ์รูปหวั ใจทุกวนั น้ีมาจากใบ Ivy ซ่ึงมีลกั ษณะโคง้ มนเป็ นรูปหวั ใจ Ivy leaf ในสมยั กรีกและโรมนั โบราณเป็ นสัญลกั ษณ์ของความเป็ นอมตะ เนื่องจากวา่ ใบของมนั มีสีเขียวสดตลอดปี ไมว่ า่ ฤดูจะเปลี่ยน ส่วนลกั ษณะเถาที่เล้ือยไปกระวดั พนั กบั สิ่งๆต่างๆก็คือสัญลกั ษณ์แห่ง ความรัก ความผกู พนั นนั่ เอง ชาวโรมนั โบราณจึงนิยมสลกั รูปทรงใบไอวีไ่ วท้ ี่หินจารึกหลุมศพ เพื่อแสดงถึง รักอนั เป็นนิรันดร์ตอ่ ผทู้ ่ีล่วงลบั ไปแลว้ นนั่ เอง ซ่ึงความเชื่อน้ียงั ส่งต่อไปถึงชาวคริสเตียนในระยะเร่ิมแรกอีก ดว้ ย เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมต้องให้ช็อคโกแล็ตในวันวาเลนไทน์ วนั วาเลนไทน์ นอกจากกุหลายที่มอบใหก้ นั แลว้ ยงั มีการมอบช็อกโกแล็ตให้อีกด้วย แลว้ ทาไมตอ้ งให้ช็อคโกแล็ตในวนั วาเลนไทน์ เป็ นขนมหวานชนิดอ่ืน ไดไ้ หม สาเหตุที่ให้ช็อคโกแล็ต นีมี ท่ีมาครับ ในยคุ โรมนั ท่ีนกั บุญวาเลน ไทน์ได้เสี ยชีวิตน้ัน ช็อคโกแลต ยงั คงเป็ นของหายาก จึงเป็ นส่ิงที่มี ค่าที่คนรักจะมอบแทนใจให้แก่กัน ในวนั วาเลนไทน์ จึงส่งไปพร้อม การ์ดและดอกไม้ นอกจากน้ี อาจมาจากความเช่ือว่า ช็อคโกแล็ตสามารถช่วยกระตุน้ อารมณ์รักได้ด้วย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 31
เพราะมีเรื่องเล่าขานกนั มาวา่ นายมองเตชูมา นกั รบผพู้ ิชิตแห่งสเปน มกั จะดื่มช็อกโกแลตเป็ นประจาเสมอ ก่อนไปหาเหล่าสาวๆในฮาเร็มของเขาและดว้ ยความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ทาให้เรารู้วา่ ในช็อกโกแลต น้นั มีสารท่ีช่วยกระตุน้ อารมณ์รักจริงๆ สารน้นั มีช่ือว่าเอ็นดอร์ฟิ น ( Endorphin) หรือสารแห่งความสุข น้นั เอง สารตวั น้ีจะช่วยปรับอารมณ์และจิตใจให้เขา้ สู่สภาวะปกติ สดช่ืน โดยจะหลงั่ ออกมาตอนท่ีเราไดท้ า สิ่งที่ชอบ หรือเม่ือรู้สึกรัก ช็อคโกแลตจึงถูกเลือกมาเป็ นของขวญั เพ่ิมดีกรีความหวานใหแ้ ก่กนั ในวนั วาเลน ไทน์ ไดเ้ วลาออกไปหาซ้ือของขวญั แทนใจสาหรับคนที่คุณรักแลว้ ล่ะ ไม่จาเป็ นตอ้ งเป็ นความรักแบบหนุ่ม สาว ความรักแบบเพ่ือนฝงู ครอบครัว หรือผรู้ ่วมงานก็เป็นสิ่งที่ท่ีเราควรแสดงออกใหร้ ู้และมอบให้แก่กนั ใน ทุกๆ วนั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเรียกผ้าขาวม้า เคยสงสัยกนั ไหมครับวา่ ผา้ ขาวมา้ ที่เราใช้ กนั ไม่เห็นขาว และไม่เห็นมีม้า ? …” ผา้ ขาวม้า” ไม่ใช่ผา้ ด้ังเดิมของไทย และ ไม่ใช่คาไทยแท้ แต่เป็นภาษาเปอร์เซีย ท่ีมีคาเต็มวา่ “กามาร์บนั ด์” (Kamar band) “กามาร์” หมายถึง เอว หรือ ท่อนล่างของ ร่างกาย “บนั ด์” แปลวา่ พนั รัด หรือ คาด เมื่อนาท้ังสองคามารวมกัน จึงหมายถึง เข็มขดั ผา้ พนั หรือ คาดสะเอว คาว่า “กา มาร์บนั ด”์ ยงั ปรากฎอยใู่ นภาษาอ่ืนๆ อีก เช่น ภาษามลายู มีคาวา่ “กามาร์บนั ” (Kamarban) ภาษาฮินด้ีมีคาวา่ “กามาร์บนั ด์” (Kamar band) และ ในภาษาองั กฤษมีคาวา่ “คมั เมอร์บนั ด์” (Commer band) หมายถึง ผา้ รัด เอว ในชุดทคั ซิโด้ (Tuxedo) ซ่ึงเป็ นชุดสาหรับออกงานราตรีสโมสร….จากงานวจิ ยั เรื่อง “ผา้ ขาวมา้ ” ของ อาภรณ์พนั ธ์ จนั ทร์สวา่ ง อธิบายไวว้ า่ “ผา้ ขาวมา้ ” เป็ นคาที่เพ้ียนมาจากคาวา่ “กามา” (Kamar) ซ่ึงเป็ นภาษา อิหร่านทีใช้กนั อยู่ที่ประเทศสเปน เขา้ ใจว่าสเปนเอาคาว่า “กามา” ของภาษาแขกไปใช้ดว้ ย เพราะใน ประวตั ิศาสตร์ ประเทศท้งั สองมีการติดตอ่ กนั มาชา้ นาน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 32
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วธิ ีการทาความสะอาดฝ่ ุนพดั ลม ฝ่ นุ บนพดั ลม ปัญหาหน่ึงที่เรา ๆ ท่าน ๆ ตอ้ งประสบอยเู่ สมอก็คือ ฝ่ นุ ท่ีเกาะอยู่บนพดั ลมเกรอะกรังไปหมด ซ่ึงนอกจากจะทาให้เกิดความสกปรก ไม่น่าดูแลว้ ฝ่ นุ ที่เกาะบนใบพดั รวมถึง ตะแกรงก็ยงั ทาให้รู้สึกว่าเย็นน้อยลง อีกดว้ ย ฝ่ ุนเหล่าน้ีมาจากไหน...ความ จริงแลว้ ในอากาศที่เหมือนกบั วา่ งเปล่า ไม่มีอะไรน้นั แทท้ ่ีจริงแลว้ เตม็ ไปดว้ ย อนุภาคของฝ่ นุ เป็ นจานวนมาก ซ่ึงมาจากหลายแหล่ง ไม่วา่ จะเป็ นดินทรายท่ีปลิวข้ึนจากพ้ืนดิน เศษผมเศษ ขนหรือข้ีไคลจากร่างกายสิ่งมีชีวติ เขม่าควนั ไฟ ฯลฯ ละอองฝ่ นุ เหล่าน้ีตามปรกติมองไม่เห็นดว้ ยตาเปล่า แต่ เมื่อมนั จบั ลงบนพ้ืนผวิ แลว้ จึงมองเห็นได้ ฝ่ นุ ละอองโดยมากแลว้ จะมีประจุไฟฟ้ า ดงั น้นั มนั จึงถูกจบั ไดง้ ่าย โดยพ้ืนผวิ ที่มีประจุไฟฟ้ าหรือมีกระแสไฟฟ้ าผา่ น เช่นบนอุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็ นโทรทศั น์ เคร่ือง เสียง หรือแมแ้ ต่คอมพิวเตอร์ แลว้ ทาไมฝ่ ุนจึงเกาะตามพดั ลมมากกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้ าอื่น...คาตอบก็คือ การ ทางานของพดั ลมน้นั จะทาใหเ้ กิดอากาศหมุนเวยี น จึงมีอากาศท่ีถูกดูดให้ไหลผา่ นตวั พดั ลมเป็ นจานวนมาก ทาใหฝ้ ่ นุ ละอองท่ีอยใู่ นอากาศจานวนมากดงั กล่าวถูกดูดจบั ไวบ้ นตวั พดั ลมนนั่ เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความแตกต่างของปริญญาบัตร กบั ประกาศนียบัตร ปริญญาบตั ร กับ ป ร ะ ก า ศ นี ย บัต ร แ ต ก ต่ า ง กั น อยา่ งไร ปริญญาบตั ร ( อ่านวา่ ปะ - ริน - ยา - บดั ) กบั ประกาศนียบตั ร ( อ่านว่า ประ - กาด - สะ - นี - ยะ - บัด ) ใช้ แตกต่างกันในทางการศึกษา ผูท้ ่ีสาเร็จ การศึกษาในระดบั ตา่ งๆ จะไดร้ ับเอกสาร แสดงการบรรลุความสาเร็จทางการศึกษา ถ้าเป็ นระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็ น ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก เรียกเอกสารน้นั วา่ ปริญญาบตั ร ถา้ เป็ นระดบั ประโยคประถมศึกษา มธั ยมศึกษา สายวชิ าชีพ หรือหลกั สูตร อื่นที่เน้ือหาวิชามีส่วนราชการท่ีเกี่ยวขอ้ งรับรอง เช่น ช่างไฟฟ้ า ช่างเช่ือม ช่างเสริมสวย เรียกเอกสารน้นั วา่ ประกาศนียบตั ร ( อ่านวา่ ประ - กาด - สะ - นี - ยะ - บดั ) การศึกษาเหนือระดบั ปริญญาตรีแต่ต่ากวา่ ปริญญา โท เรียกวา่ ประกาศนียบตั รบณั ฑิต ( อา่ นวา่ ประ - กาด - สะ - นี - ยะ - บดั - บนั - ดิด) เช่น ประกาศนียบตั ร บณั ฑิตดา้ นการแปล เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 33
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ราลกึ ถึง “ศึกษาภัณฑ์” คิดวา่ ในช่วงสองสามวนั ที่ผา่ นมา บางคน อาจจะได้ยินข่าวเล็ก ๆ ท่ีอาจทาให้ รู้สึกใจหายเล็กน้อยอยู่บ้าง เม่ือร้าน ศึกษาภณั ฑ์ราชดาเนิน ท่ีเปิ ดบริการ ม า อ ย่ า ง ย า ว น า น จ น ก ล า ย เ ป็ น สั ญ ลัก ษ ณ์ อ ย่า ง ห น่ึ ง ข อ ง ถ น น ร า ช ดาเนินกลางไปแลว้ ไดป้ ระกาศปิ ดตวั ลง นบั ต้งั แต่วนั ท่ี 16 กุมภาพนั ธ์เป็ น ตน้ ไป โดยจะมีการยา้ ยไปใหบ้ ริการท่ี สาขาราชบพิธแทน ง้นั วนั น้ีเรามาทา ความรู้จักกับร้านศึกษาภณั ฑ์กันซัก นิดดีกวา่ เมื่อถา้ พูดถึงร้านศึกษาภณั ฑ์แลว้ เชื่อแน่นอนวา่ คงจะไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จกั เพราะสมยั เป็ น เด็ก ๆ แทบทุกคนคงจะตอ้ งเคยไปซ้ือหาหนงั สือเรียนหรืออุปกรณ์การเรียนท่ีร้านศึกษาภณั ฑ์มาแลว้ ท้งั น้นั หรือไมจ่ ริง ร้านศึกษาภณั ฑ์ เป็ นร้านคา้ ในสังกดั ขององคก์ ารคา้ ของคุรุสภา เปิ ดใหบ้ ริการคร้ังแรกต้งั แต่เมื่อ มีการก่อสร้างอาคารสมยั ใหม่สองฟากถนนราชดาเนินกลางในปี พ.ศ. 2485 โดยในตอนแรกสังกดั กรม สามญั ศึกษา ต่อมาเม่ือมีพระราชบญั ญตั ิก่อต้งั คุรุสภาในปี พ.ศ. 2488 จึงได้โอนร้านศึกษาภณั ฑ์ รวมถึง โรงเรียนช่างพิมพว์ ดั สังเวชวศิ ยาราม ในสังกดั กรมอาชีวศึกษา (ต้งั อยทู่ ี่ขา้ งป้ อมพระสุเมรุ บางลาพู) มาใหค้ ุรุ สภาดาเนินการแทน โดยมีการก่อต้งั องค์การคา้ ของครุสภาในปี พ.ศ. 2493 โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อ ผลิต จาหน่าย และพฒั นาหนงั สือและสื่อการเรียนการสอน ตามหลกั สูตรของกระทรวงศึกษาธิการในราคาท่ี เหมาะสมเป็ นธรรม เพ่ือบริการแก่นกั เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสนบั สนุนการจดั การศึกษา ของชาติร้านศึกษาภณั ฑน์ อกจากจะจาหน่ายหนงั สือแบบเรียนท้งั ท่ีองคก์ ารคา้ ของคุรุสภาจดั ทาข้ึนและของ บริษทั เอกชนแลว้ ก็ยงั จาหน่ายคู่มือครู หนงั สืออ่ืนที่เป็ นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน อุปกรณ์และส่ือการ เ รี ย น ก า ร ส อ น เ ค รื่ อ ง แ บ บ นั ก เ รี ย น ชุ ด ลู ก เ สื อ อี ก ด้ ว ย แ ล ะ อ่ื น ๆ ร้านศึกษาภณั ฑ์ในปัจจุบนั เปิ ดให้บริการท้งั สิ้น 9 สาขา (ไม่รวมสาขาราชดาเนินที่เพ่ิงปิ ดไป) คือ สาขา ลาดพร้าว (แถวโรงพิมพค์ ุรุสภา ระหวา่ งซอยลาดพร้าว 61 กบั 63) ออ้ มนอ้ ย เซียร์รังสิต ทอ้ งฟ้ าจาลอง ราช บพิธ คุรุสภา (ถนนราชสีมา) สนามกีฬาแห่งชาติ อิมพีเรียลสาโรง และท่ีจงั หวดั อุตรดิตถ์สาหรับสาขาราช ดาเนินท่ีปิ ดตวั คร้ังน้ี ตามรายงานข่าวบอกวา่ อาจจะเป็ นการปิ ดตวั ชวั่ คราว เน่ืองจากทางสานกั งานทรัพยส์ ิน ส่วนพระมหากษตั ริยซ์ ่ึงเป็ นเจา้ ของพ้ืนท่ีจะปรับปรุงพ้ืนที่ และเม่ือแล้วเสร็จก็อาจจะมีการเปิ ดสาขาราช ดาเนินข้ึนอีกคร้ัง แต่จะมีการลดพ้ืนที่ลงตามความเหมาะสมเพื่อลดค่าเช่าพ้ืนที่ โดยจะไม่ใหม้ ีผลกระทบต่อ การบริการแต่อยา่ งใด เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 34
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ใครคือเจ้าของเสียงบนรถไฟฟ้ า เวลาท่ี เราใชบ้ ริการ BTS MRT ทุกๆวนั เดินทางไปเรี ยน ไปทางาน ทราบกนั บา้ งหรือไม่วา่ น้าเสียงใสๆ ที่ ประกาศบอกสถานีเป็ นภาษาอังกฤษ และภาษาไทย เช่น \"Please mind the gap between train and platfrom.\" \"โปรดใชค้ วามระมดั ระวงั ขณะกา้ วออก จากรถ\" \"Next station....\" \"สถานีต่อไป ....\" ทราบไหมครับวา่ เสียงน้นั เป็ นของ ใคร โดย BTS เป็ นเสียงของ \"คุณรัด เกลา้ อามระดิษ\" ส่วน MRT เป็ นเสียง ของ \"คุณสโรชา พรอุดมศกั ด์ิ\" เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมวัว ควาย กินแต่หญ้า ถึงอ้วน สาเหตุที่ ววั และควาย กินแต่ หญ้า แล้วอ้วนได้น้ัน ท่ีวัว ควาย กินญ้าแล้วอ้วน เน่ืองจาก ในกระเพาะรูเมน (ผา้ ข้ีริ้ว) ของววั ควายมี จุลินทรียท์ ี่อยใู่ นกระเพาะรูเมน เป็ นเอนไซมเ์ ซลลูเลส ซ่ึงสามารถย่อยเซลลูโลส ให้เป็ นกลูโคส (Glucose) และยงั ยอ่ ยโปรตีนจากพืชใหเ้ ป็ นกรดอะมิโน (Amino Acid) นามาใช้ ประโยชน์ จุลินทรียพ์ วกน้ีจึงมีท้งั พลังงาน และโปรตีนอยู่ในตัว จุลินทรี ย์พวกน้ี บางส่วนที่ติดไปกบั หญ้าจะถูกน้าย่อยจากกระเพาะ ส่วนโอมาซมั ยอ่ ยใหต้ าย และววั ควายก็ใชโ้ ปรตีนใน การเจริญเติบโต แต่คนไม่มีจุลินทรียจ์ าพวกน้ีอยู่ จึงไม่ สามารถยอ่ ยเพ่อื นาไปใชป้ ระโยชน์ได้ - แพะ แกะ เป็นสัตวก์ ระเพาะรวม เช่นเดียวกบั ววั ควาย - ชา้ ง มา้ เป็นสตั วก์ ระเพาะเด่ียวเหมือนคน แต่ ชา้ ง มา้ มีแบคทีเรียอยทู่ ี่บริเวณไส้ติ่งท่ีสามารถยอ่ ย เซลลูโลส เฮมิเซลลูโลสได้ นนั่ ก็หมายความวา่ ควายเปล่ียนหญา้ เป็นน้าตาลได้ แตค่ นเปลี่ยนหญา้ หรือพวก ผกั เป็นน้าตาล แลว้ สะสมเป็ นไขมนั ไม่ได้ พชื ทุกชนิดมีโปรตีน มากนอ้ ย ข้ึนอยกู่ บั ชนิด ขา้ ว ขา้ วโพด รา มนั สาปะหลงั กม็ ีโปรตีน ขา้ วมีประมาณ 4-5% หญา้ ก็มีโปรตีน โปรตีนของหญา้ ข้ึนอยกู่ บั ช่วงการเจริญเติบโต ช่วงท่ีมีโปรตีนสูงสุก คือ ช่วงที่หญา้ ออกดอก จึงอยา่ แปลกใจ ที่ววั ควายกินแต่หญา้ ถึงมีไขมนั ไดค้ รับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 35
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาเพลงหนักแผ่นดิน เพลงหนักแผน่ ดินน้ีแต่งเม่ือประมาณ พ.ศ. 2518 ช่วงน้ีไดม้ ีโอกาสฟังเพลงหนกั แผน่ ดิน เลยอยากเล่าท่ีมาของเพลงน้ีครับ เพลงหนกั แผ่นดิน ใช้ เปิ ดออกอากาศทางสถานีวิทยุ จ.ส. กรมการสื่อสารทหารบก กองทพั บก ในการต่อสู้ทางการเมืองกบั ขบวนการคอมมิวนิสต์ ในช่วง พ.ศ. 2518-2523 ประพนั ธ์คาร้องโดย พ.อ.บุญส่ง หกั ฤทธ์ิศึก และขบั ร้องโดย สันติ ลุนเผ่ ต่อมาใน พ.ศ. 2520 ช่ือ เพลงน้ีถูกนามาสร้างเป็ นภาพยนตร์ ชื่อ “หนักแผ่นดิน” กากับโดย สมบตั ิ เมทะนี แสดงนาโดยสมบตั ิ เมทะนี และนยั นา ชีวานนั ท์ โดย ช่วงแรกๆเพลงเหล่าน้ีจะถูกเปิ ดใน งานศพของทหาร -ตารวจและ เจา้ หนา้ ท่ีซ่ึงเสียชีวติ ในการต่อสู้กบั กองกาลังพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทยท่ีวดั มหาธาตุ หลักสี่ โดยมีสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ถ่ายทอดสดทุกคร้ัง วงดนตรี ก อ ง ท ัพ จ ะ จัด ใ ห้ มี ก า ร ร้ อ ง เ พ ล ง พวกน้ีหน้าพิธีในวดั ก่อนพิธีเผา แล้วจะให้ร้องวนเวียนซ้ าไปซ้ ามา โ ด ย พิ ธี ก ร โ ท ร ทั ศ น์ อ้ า ง ว่ า ประชาชนเรียกร้องขอฟังซ้า เพลงเหล่าน้ีคือชุดเพลงท่ีกระตุน้ และปลุกเร้าให้คนไทยเกลียดคอมมิวนิสต์ จนเขา้ เส้นเลือด และอีกดา้ นหน่ึงก็ออกข่าวโหมกระแสใหเ้ กิดความเชื่ออีกเหมือนกนั วา่ ศูนยน์ ิสิตนกั ศึกษา ในช่วงน้นั ไดร้ ่วมมือกบั พรรคคอมมิวนิสตท์ าลายประเทศไทย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 36
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม โลกของเราหนักเท่าไร ช่วงน้ีเพลงหนกั แผ่นดินกาลงั ดงั แลว้ ท ร า บ ไ ห ม ค รั บ ว่า โ ล ก ข อ ง เ ร า ใ บ น้ ี มี น้าหนักเท่าไร โดยนักซิทยาศาสตร์ให้ ค า ต อ บ ว่ า อ ยู่ ท่ี ป ร ะ ม า ณ 6,000,000,000,000,000,000,000,000 กิโลกรัม (อ่านว่า 6 ลา้ นลา้ นลา้ นลา้ น) หรือ 6 x 10^24 กิโลกรัม โดยตวั เลขน้ีมา จากการวดั แรงดึงดูดตามแรงโน้มถ่วง ของโลกที่มีต่อวตั ถุต่าง ๆ รอบตัวมัน ต้งั อยบู่ นพ้ืนฐานวา่ วตั ถุท่ีมีมวล 2 ชนิดจะมีแรงดึงดูดต่อกนั ยกตวั อยา่ งว่าหากเราวางลูกโบวล์ ิ่ง 2 ลูกไว้ ดว้ ยกนั ลูกโบวล์ ่ิงแต่ละลูกก็จะดึงดูดต่อกนั โดยแรงโนม้ ถ่วง การดึงดูดน้ีเกิดข้ึนเบาบางมาก ๆ จนเราเกือบ รู้สึกไม่ได้ ตอ้ งวดั ดว้ ยเคร่ืองมือที่ละเอียดพอจะตรวจจบั ไดเ้ ท่าน้นั โดยย่งิ วตั ถุมีมวลมากก็จะยิง่ รู้สึกไดม้ าก ในส่วนของวตั ถุทรงกลม นิวตนั ต้งั สมมติฐานไวว้ า่ มวลของวตั ถุจะรวมเขา้ สู่ศูนยก์ ลาง เราถึงคิดเป็ นสมการ เพ่ือหาแรงดึงดูท่ีแตล่ ะวตั ถุทรงกลมมีตอ่ กนั ไดว้ า่ F = G (M1*M2/R2) โดย F แทนแรงดึงดูดท่ีวตั ถุมีแต่ก่อน G เป็ นค่าคงที่ที่ 6.67259 x 10-11 m3/kg s2 M1 และ M2 เป็ นมวลของวตั ถุท้งั คู่ และ R แทนระยะห่าง ระหวา่ งวตั ถุ เราคิดเล่น ๆ โดยแทนค่าโลกเขา้ ไปเป็ น M1 และให้วตั ถุทรงกลมที่มีมวล 1 กิโลกรัม เป็ น M2 หากต้งั ระยะห่างไวท้ ่ีจุดท่ีแรงโนม้ ถ่วงโลกสามารถกระทาต่อวตั ถุน้ี (9.8 m/s2) แลว้ คานวณ จากค่าความเร่ง สาหรับวตั ถุขนาด 1 กิโลกรัมก็จะไดต้ วั เลขค่าแรงระหวา่ งสองวตั ถุเป็ น 9.8 kg*m/s2 รัศมีของโลกอย่ทู ี่ 6,400,000 เมตร เมื่อเราแทนค่าตวั เลขท้งั หมดลง ก็จะได้ตวั เลขสาหรับค่า M1 หรือมวลของโลกที่ 6,000,000,000, 000,000,000,000,000 กิโลกรัม (6 x 10^24 กิโลกรัม) ซ่ึงเป็ นค่าความหนกั ของแผน่ ดิน นนั่ เอง เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของคาว่าทหาร ทหารน้นั คือผทู้ ่ีรับราชการป้ องกนั ชาติ หรือ นักรบ ซ่ึงในเมืองไทยของเราน้ี แยกทหาร ออกเป็น 3 กองทพั คือกองทพั บก กองทพั เรือ และกองทัพอากาศ หรือเรียกว่า ทหารบก ท ห า ร เ รื อ ท ห า ร อ า ก า ศ น่ั น แ ห ล ะ มีผูส้ งสัยกนั มานานแลว้ วา่ คาว่าทหารน้นั มา จากคาอะไรและแปลตามตวั ว่าอะไร พวกท่ี เรียนหนงั สือวดั หรือภาษาบาลีสันสกฤตมาก็ ว่า คาว่าทหารน่าจะมาจากคาว่า ทหโร ซ่ึง แปลว่าคนหนุ่ม แต่ก็มีผูแ้ ยง้ ว่า ทหารน้นั มี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 37
แต่คนทหารหนุ่มเม่ือไร คนมีอายุก็เป็ นทหารออกมากมาย และเป็ นทหารช้นั ผใู้ หญ่ หวั ใจของกองทพั เสีย ดว้ ย การแปลวา่ ทหารคือคนหนุ่มน่าจะไมถ่ ูก บางทา่ นกว็ า่ ทหารน้นั กค็ ือคนกลา้ หาญ เพราะมีคาวา่ ทะแกลว้ ซ่ึงคูก่ บั คาวา่ ทหาญ ใชอ้ ยู่ ซ่ึงความเห็นอนั หลงั น้ีดูจะมีเหตุผลมากอยคู่ าวา่ ท เป็ นคานาหนา้ นาม แปลวา่ คน หรือผู้ เช่น ทแกล้ว แปลว่า ผูก้ ล้าเป็ นตน้ ในภาษาอะหม ซ่ึงเป็ นคนไทยเผ่าหน่ึงอยู่ในแควน้ อสั สัมของ อินเดีย และอยทู่ างตอนเหนือของประเทศพม่า ยงั มีภาษาไทยด้งั เดิมตกคา้ งอยมู่ าก เช่นเรียกพระเจา้ แผน่ ดิน วา่ ฟ้ า เป็นตน้ ไทยอะหมน้ี มีคาวา่ หาน อยคู่ าหน่ึงเหมือนกนั หานในภาษาอะหมแปลวา่ นกั รบ ดงั น้นั จึงน่า เชื่อไดว้ า่ คาวา่ ทหารของเราก็คงจะมาจากคาวา่ ท ซ่ึงแปลวา่ คนหรือผู้ ผสมกบั คาว่า หาน ซ่ึงแปลวา่ นกั รบ เป็นทหาน ก็คือคนที่เป็นนกั รบนน่ั เองและคาวา่ ทหานน่ีเอง ไทยเรามาเขียนมี ร สะกดแทนท่ีจะใช้ น หรือ ญ สะกด ซ่ึงกไ็ ม่แปลกประหลาดอะไร จะเขียนดว้ ยตวั อะไรสะกดก็ได้ เพราะเก่ียวแก่ความนิยม แต่ความหมาย ของคาน้นั เราหมายกนั ดว้ ยคาพดู คาวา่ ทหารหรือทหาญ ทหาน กค็ ือผเู้ ป็ นนกั รบอยา่ งท่ีไทยอะหมวา่ นนั่ เอง อนั ว่านกั รบน้นั ก็คือผทู้ ี่กลา้ หาญ คนท่ีข้ีขลาดตาขาวจะเป็ นนกั รบอยา่ งไรได้ เร่ืองของคาว่า ทหารจึงน่าจะ ยตุ ิเสียทีวา่ มาจากคาอะไรแน่ หรือท่านผใู้ ดมีความคิดเห็นอยา่ งไร ก็น่าจะเล่าสู่กนั ฟังบา้ ง ท่ีวา่ มาขา้ งตน้ น้นั เป็ นความเห็นของผมเองเท่าน้นั ซ่ึงจะผิดถูกอย่างไร ก็เป็ นเพียงเร่ืองสันนิษฐานกนั ท้งั น้นั คาว่าทหาร นามาใชเ้ รียกช่ือของนกั รบเมื่อไรน้นั ยงั ไมม่ ีผคู้ น้ ควา้ ไวแ้ น่ชดั ในสมยั กรุงสุโขทยั เรียกทหารวา่ หวั พุง่ หวั รบ แต่เขา้ ใจวา่ จะใชเ้ รียกนายทหารมากกวา่ พลรบ ปรากฏในศิลาจารึกของพอ่ ขนุ รามคาแหงวา่ “คนใดข่ีชา้ งมา หา พาเมืองมาสู่ ช่วยเหนือเฟ้ื อกู มนั บ่มีช้างบ่มีมา้ บ่มีบวั่ บ่มีนาง บ่มีเงินบ่มีทองให้แก่มนั ช่วยมนั ตวงเป็ น บา้ นเป็นเมือง ไดข้ า้ เสือกขา่ เสือหวั พงุ่ หวั รบกด็ ีบ่ฆ่าบ่ดี ดงั น้นั คาวา่ หวั เรายงั ใชก้ นั อยทู่ ุกวนั น้ี ในภาษาปักษ์ ใตเ้ รียกหวั หนา้ งานโดยมากเกี่ยวกบั งานกรรมกรวา่ นายหวั ดงั น้นั คาวา่ หวั พุง่ หวั รบก็คือพวกแม่ทพั นายกอง หรือตวั นายทหารนนั่ เองในหนงั สือ ลิลิตพระลอ ซ่ึงเขา้ ใจกนั วา่ แต่งข้ึนระหวา่ ง พ.ศ. 1991-2076 ก่อนรัชกาล สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเจา้ ปรากฏวา่ ใชค้ าวา่ ทหารในที่ว่านกั รบแลว้ ดงั ปรากฏในร่ายตอนที่พระบิดา ของพระเพ่ือนพระแพงรู้วา่ พระลอรักกบั พระเพ่อื นพระแพง จึงยินดีจะจดั การให้อภิเษกสมรสกนั ข่าวน้ีรู้ไป ถึงยา่ ซ่ึงเคยเป็ นศตั รูคู่อาฆาตกบั พระบิดาของพระลอ “ยา่ ไปว่าไปวอน อา้ ภูธรธิบดี ลูกไพรีใจกาจ ฆ่าพระ ราชบิดา แลว้ ลอบมาดูถูก ประมาทลูกหลานเรา จะให้เอาจงไดอ้ ยา่ ไวช้ าดสั กร เราจะใหฟ้ อนให้ฟันเราจะให้ บนั่ ใหแ้ ล่ ทุกกระแบจ่ งหนาใจ วอนเท่าใดกด็ ีปิ่ นธรณีนาถมิฟัง ยา่ ไปยงั วงั ยา่ วา่ แก่หมู่ทหารกลา้ ” ดงั น้ี คาวา่ ทหารจึงน่าจะใช้กนั มาก่อนหน้าน้ีแลว้ นอกจากน้ีปรากฏว่าเม่ือพุทธศกั ราช 1991 สมเด็จพระบรมไตร โลกนาถ โปรดใหก้ าหนดขา้ ราชการ เป็น “ฝ่ ายทหาร” และฝ่ ายพลเรือนข้ึน แต่ท้งั ฝ่ ายทหารและฝ่ ายพลเรือน น้ีก็มิใช่วา่ จะแยกหน้าท่ีกนั อย่างปัจจุบนั เวลามีศึกสงครามท้งั ฝ่ ายทหารและฝ่ ายพลเรือนต่างก็มีหนา้ ที่ออ กรบป้ องกนั ประเทศชาติเหมือนกนั รวมความแลว้ คาวา่ ทหารจึงน่าจะใชม้ าอยา่ งนอ้ ยท่ีสุดก็ในสมยั กรุงศรี อยธุ ยานน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 38
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของคาว่า เด็กเนิร์ด เนิร์ด (Nerd) เป็ นคาเรียกส้ันๆ ที่ฮิตฮอต น้ี ท่ีจริงแลว้ นิยามของเนิร์ดมีมาต้งั แต่ยุค 40 จากการที่ Rensselaer Polytechnic Institute สถาบนั การศึกษาทางดา้ น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอเมริกา แบ่งนิยามของ นกั ศึกษาออกเป็ นสองกลุ่ม คือ Drunk กลุ่มท่ีไม่ชอบเรียน ตกกลางคืนเอาแต่ปาร์ต้ี กินเหลา้ เมาหวั ราน้า (อนั น้ีรู้สึกว่า เด็กไทยเป็ นกนั เยอะนะ) ส่วนอีกกลุ่มตกเยน็ กลบั ท่ีพกั ทา การบา้ นอ่านหนงั สือ เรียกว่า Knurd (สะกดตวั อกั ษรกลบั หลงั จาก Drunk) ต่อมาก็ไดต้ ดั k และเปล่ียนมาเป็ น Nerd ในปัจจุบัน หากสนใจเร่ืองราวประมาณน้ีก็หาดูได้จาก ภาพยนตร์ปี 1984 เรื่อง Revenge of Nerds โดยปัจจุบนั คา วา่ เนิร์ด (Nerd) หมายถึง กลุ่มคนท่ีมีระดบั สติปัญญาสูงกวา่ เกณฑ์มาตรฐาน พูดง่ายๆก็คือฉลาดกว่าคนทว่ั ๆไป และ ชอบในเรื่องท่ีชาวบา้ นเขาไม่สนใจกนั ส่วนมากก็จะเป็ นเร่ืองวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ห้องเรียน หรือ คอมพิวเตอร์ที่ไดจ้ ากหนา้ จอส่ีเหลี่ยม แมก้ ระทงั่ ภาษาไทย สังคม องั กฤษ ก็ยงั สามารถจดั ในหมวดหมู่ใน ชาวเนิร์ดได้ ซ่ึงคาน้ีจะใชก้ นั แพร่หลายท่ีสุดในอเมริกา ภาพลกั ษณ์ของพวกเขาก็คือ นึกภาพคนใส่แวน่ หนา เตอะ ขลุกอยกู่ บั กองหนงั สือท้งั วนั น้นั แหละใช่เลย แต่ภาพลกั ษณ์ดว้ ยส่วนมากก็จะเป็นชายหนุ่มใส่แวน่ หนา กรอบดา มีไมโ้ ปรเทกเตอร์ติดกระเป๋ า ใส่ชุดท่ีเป็ นทางการมากเกินไป และบางคร้ังภาพท่ีออกมาก็เป็ นคนที่ ไม่รักษาความสะอาด และถา้ ไม่ผอมก็อว้ นเกินไป เป็ นคนเขา้ สังคมไม่เก่ง ไม่สามารถสนทนาเรื่องที่ไม่ใช่ เร่ืองเทคนิคกบั คนอ่ืนๆไดป้ ัจจุบนั เนิร์ดกลายเป็นรสนิยมและกาลงั กลายเป็นแฟชนั่ สไตลห์ น่ึง โดยมีท่ีมาจาก ฝร่ัง ซ่ึงถา้ เป็ นผชู้ ายจะมีลกั ษณ์ท่ีเห็นไดช้ ดั คือดดั ฟัน แวน่ หนาๆ เอาเส้ือเขา้ ในกางเกง ใส่รองเทา้ เชยๆ และ ชอบโดนแกลง้ อยเู่ สมอๆ และถา้ เป็นเด็กผหู้ ญิงมกั จะผกู ผมเรียบร้อย ตดั หนา้ มา้ ใส่แวน่ ดดั ฟัน หนา้ เป็ นกระ ชอบทาตวั แปลกๆ เฉ่ิมๆ และดูไม่มีอะไรน่าสนใจ สาหรับเนิร์ดในเมืองไทยเวลาน้ีกาลงั เป็ นแฟชั่น เหมือนกบั เมื่อก่อนท่ีมีเด็กแนว เด็กอินด้ี ซ่ึงทุกคนพยายามท่ีจะแต่งตวั หรือสร้างอตั ลกั ษณ์ใหโ้ ดดเด่น และ แตกต่างกนั ออกไป การแต่งตวั แบบเด็กเนิร์ดจึงหาทางออกหน่ึง มนั เริ่มตน้ มาจากการที่เด็กเนิร์ดสวมแวน่ เปล่ียนกรอบแวน่ จากโลหะธรรมดาๆ เชยๆ มาใส่เป็ นกรอบพลาสติกสีสันสดใส จนทาใหค้ นที่ไม่ไดส้ ายตา ส้ันเห็นแลว้ อยากใส่แวน่ บา้ ง แวน่ ตาจึงเป็ นแมททีเรียลที่เห็นแลว้ ให้ความรู้สึกชดั เจนถึงความเป็ นเด็กเนิร์ด ท่ีสุด เวลาน้ีเด็กสยาม หรือเดก็ แนว ทวั่ ไปกส็ ามารถกลายเป็นเด็กเนิร์ดได้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 39
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ผ่าตัดห้ามทานไข่ถูกต้องหรือ คนโบราณ หรือผใู้ หญ่มกั ห้าม ไม่ให้เราทานไข่ หลงั ผ่าตดั เพราะบอก วา่ เป็ น“ของแสลง”กินเขา้ ไปแลว้ อาจทา ใหแ้ ผลหายชา้ หลงั ผา่ ตดั ควรงดกินไข่ เพราะเป็ นของแสลงจะทาให้เกิ ด แผลเป็ น และแผลหายช้า!! ซ่ึง ถือเป็ น ความเช่ือที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะไข่เป็ น แหล่งของโปรตีนช้ันดีที่หาง่ายและอยู่ ใกล้ตวั ไข่มีโปรตีนที่จะช่วยซ่อมแซม ร่างกายส่วนที่สึกหรอ หลงั การผา่ ตดั โปรตีนเหล่าน้ีจาเป็นตอ่ การสร้างเน้ือเยอื่ และผิวหนงั ใหม่ท่ีช่วยให้แผล หาย แต่การเกิดแผลเป็ นเกิดจากความไม่สมดุลกนั ของร่างกายที่สร้างคอลลาเจนออกมาในปริมาณมาก เกินไป จึงทาให้เกิดแผลเป็ นและนูนได้ ความจริงเก่ียวกบั เร่ืองแผลเป็ นน้นั ข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะที่ถ่ายทอดมา ทางพนั ธุกรรม ไม่ใช่เพราะไข่แตอ่ ยา่ งใด ทราบแบบน้ีแลว้ กอ็ ยา่ ลืมทานอาหารท่ีมีประโยชนก์ นั นะครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมโครงกระดูกถึงไม่มีจมูก เวลาเราเห็นหวั กะโหลกของมนุษย์ เคยสงสัยไหมครับว่าทาไมกะโหลกถึงไม่มีด้ัง สาเหตุเมื่อเรามองดูโครงกระดูกมนุษย์ เราเห็นแต่รู กลวงโบ๋ตรงส่วนที่ควรเป็ นจมูก นน่ั เป็ นเพราะจมูก ข อ ง ค น เ ร า ไ ม่ ไ ด้ป ร ะ ก อ บ ส ร้ า ง ข้ ึ น จ า ก ก ร ะ ดู ก (bone) ท้งั หมดเช่นเดียวกบั กะโหลกศีรษะท่ีอยหู่ ลงั ใบหนา้ และห่อหุ้มสมองของเราไว้ ตรงส่วนบนสุด ของจมูกเป็ นกระดูกขนาดเล็กเพียงสองชิ้นซ่ึง ประกอบกนั เขา้ เป็ นสันจมูก หากสัมผสั จมูกบริเวณ ท่ีต้งั ของแว่นตา คุณจะพบกระดูกสองชิ้นน้ัน แต่ ส่วนท่ีเหลือของจมูกประกอบสร้างข้ึนจากกระดูก อ่อน (cartilage อ่านวา่ คา-ทิ-ลิจ) ลองกดตรงปลาย จมกู ดู คุณจะสัมผสั ส่ิงท่ียืดหยนุ่ และอ่อนนุ่มกวา่ กระดูก นนั่ แหละคือกระดูกอ่อน ดว้ ยเหตุที่กระดูกอ่อนไม่ คงทนเท่ากบั กระดูก หลงั จากที่คนเราเสียชีวิตแล้ว มนั จึงเส่ือมสลายไปก่อน และนี่คือคาอธิบายว่าทาไม โครงกระดูกจึงไมม่ ีจมกู เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 40
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมถึงเรียกองุ่นแห้งว่า Raisin ในสหราชอาณาจกั ร ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย เรี ยก “องุ่นแห้ง” ว่า “raisin” สันนิษฐานว่า ภาษาองั กฤษยืม raisin ต้งั แต่ยุคกลาง (Middle English) มาจากภาษาฝรั่งเศสเก่า (พฒั นาจากภาษาละตินว่า “racemus” หมายถึงพวงองุ่น) แลว้ ใชใ้ นความหมายวา่ องุ่นสด เมื่อจะเรียกองุ่นแห้งจึงใช้ raisin sec ขณะเดียวกนั ภาษาองั กฤษก็ ยงั ใช้ grape ในความหมายขององุ่นสดดว้ ย คนไทยจึงเลือกรับคา วา่ grape มาใช้เรียกองุ่นสด หากเป็ นองุ่นแห้งจะเรียกว่า “ลูก เกด” โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 สันนิษฐานว่า ลูกเกดน่าจะเพ้ียนมาจากการเรี ยกทับศัพท์ ภาษาองั กฤษวา่ “ลูกเกรป” นน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ในสมยั พุทธกาล เมื่อคร้ังพระสัมมาสัมพุทธเจา้ ยงั ดารงพระชนม์ อยู่ มีพญานาคผหู้ น่ึงไดแ้ ปลงร่าง เ ป็ น ม นุ ษ ย์ เ ข้ า ม า บ ว ช เ ป็ น พระภิกษุ อยู่มาวนั หน่ึงได้เผลอ นอนหลับ ร่างจึงกลับกลายเป็ น พญานาคดั่งเดิม ภิกษุอ่ืนไปพบ เข้าก็เกิดความเกรงกลัว เม่ือ พระพุทธเจา้ ทรงทราบจึงเรียกมา ตรัสถาม ได้ความว่าเพราะเกิด ความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงปลอมตวั มาบวช พระพุทธองค์ ทรงดาริวา่ สัตวด์ ิรัจฉานไม่อย่ใู นฐานะควรจะบวชจึงโปรดให้ปลงเพศบรรพชิตกลบั ไปเป็ นาคดง่ั เดิม แต่ ภิกษุน้นั มีความอาลยั จึงขอฝากช่ือนาคไวใ้ นพระพุทธศาสนา ดงั น้นั จึงมีคาเรียกขานคนที่ตอ้ งการจะบวชวา่ \"นาค\" สืบต่อมาจนถึงปัจจุบนั (ท่ีมา:ประเพณี พิธีมงคล และวนั สาคญั ของไทย) เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 41
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม บรรพชา กบั อุปสมบท ต่างกันอย่างไร เคยสงสัยไหมครับวา่ ใน การบวชจะมีคาว่าบรรพชา กับ อุปสมบท สองคาน้ี ใช้จ่างกัน อย่างไร โดยการบวชน้ันจะมี 2 ลัก ษ ณะ ได้แก่ ก ารบวชเป็ น สามเณร เรียกว่า \"บรรพชา\" และ การบวชเป็ นพระภิกษุ เรี ยกว่า \"อุปสมบท\" การบรรพชา หมายถึง การบวชเป็ น สามเณร ซ่ึง เป็นการเวน้ จากพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ เคย กระทาในชีวิตฆราวาส หนั มา ใช้ชีวิตแบบสันโดษ สงบ ดว้ ยจุดมุ่งหมายเพ่ือความหลุดพน้ จากกิเลสอนั เป็ นจุดหมายปลายทางของชีวิต การบรรพชา เป็ นกิจเบ้ืองตน้ ของการอุปสมบท การอุปสมบท การอุปสมบท คือการบวชเป็ นพระภิกษุ มี 3 วิธีคือ 1. เอหิภิกขอุ ุปสัมปทา หมายถึง การบวชดว้ ยพระวาจาของพระพุทธเจา้ วา่ “จงเป็ นภิกษุมาเกิด” เป็ น วิธีการอุปสมบทที่พระพุทธเจา้ ทรงประทานใหโ้ ดยตรงการอุปสมบทแบบน้ีมีเฉพาะในสมยั ท่ีพระพุทธเจา้ ยงั มีพระชนมช์ ีพอยู่ 2. ติสรณคมนูปสัมปทา หมายถึง การบวชดว้ ยการถึงซ่ึงที่พ่ึงท่ีระลึก 3 ประการ คือ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นวธิ ีอุปสมบทท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงอนุญาตให้พระสาวกบวชใหแ้ ก่ผตู้ อ้ งการ บวช โดยให้ผนู้ ้นั ปลงผมและหนวดเครา ห่มผา้ กาสาวพสั ตร์แลว้ กราบพระภิกษุผทู้ ่ีจะบวชให้พระภิกษุน้นั กล่าวนาถึงพระรัตนตรัยเป็ นท่ีพ่ึงที่ระลึกให้ผูต้ อ้ งการบวชกล่าวตาม เท่ากบั เป็ นคาปฏิญาณตนเขา้ นบั ถือ พระพุทธศาสนา เมื่อกล่าวคาถึงพระรัตนตรัยจบแลว้ เป็นอนั สาเร็จเป็นภิกษุ การอุปสมบทแบบน้ีใชค้ วบคู่มา กบั เอหิภิกขอุ ุปสัมปทา 3. ญตั ติจตุตถกมั มอุปสัมปทา หมายถึง การบวชดว้ ยคาประกาศย้า 3 คร้ัง รวมท้งั คา ประกาศนาเป็ นคร้ังท่ี 4 เป็ นวธิ ีอุปสมบทท่ีพระพุทธเจา้ ทรงอนุญาตให้สงฆบ์ วชให้แก่กุลบุตร โดยใหผ้ นู้ ้นั บวชเป็ นสามเณรช้นั หน่ึงก่อน แลว้ ให้ขออุปสมบท จากน้นั พระกรรมวาจาจารยส์ วนประกาศน้าคร้ังท่ี 1 วา่ สงฆจ์ ะรับผนู้ ้นั เป็ นภิกษุหรือไม่ เมื่อสงฆย์ งั นิ่งอยู่ก็สวดประกาศย้าอีก 3 คร้ัง ถา้ ไม่มีใครคดั คา้ นก็เป็ นอนั สาเร็จเป็นพระภิกษุ วธิ ีอุปสมบทแบบน้ีใชม้ าต้งั แตพ่ ุทธกาล ตอนกลางมาจนถึงปัจจุบนั และเมื่อทรงอนุญาต ญตั ติจตุตถกมั มอุปสมั ปทาแลว้ กท็ รงเลิกเอหิภิกขอุ ุปสัมปทา และติสรณคมนูปสมั ปทาเสีย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 42
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม H และ B บนดินสอ คืออะไรใกลส้ อบปลายภาคแลว้ ครู ก็ให้ นกั ศึกษาเตรียมดินสอ 2B เพ่ือใชใ้ นการสอบ วา่ แต่ 2B คืออะไร ทาไมถึงตอ้ งใชด้ ินสอชนิดน้ี มาลองหา คาตอบกนั ดีกวา่ ก่อนท่ีจะพดู ถึงว่า 2B คืออะไร คงตอ้ งพดู ถึงเรื่องของไส้ดินสอเสียก่อน ไส้ดินสอที่ใชใ้ น ปัจจุบนั น้นั จะมีส่วนประกอบหลกั อยู่ 2 อย่างคือ กราไฟต์ (Graphite) ซ่ึงเป็ นตวั ที่ทาให้เกิดสีดาของไส้ ดินสอ และดินเหนียว ซ่ึงเป็ นตวั ทาให้ไส้ดินสอมีความแข็งแรงอย่ตู วั เมื่อนาส่วนผสมท้งั สองมาผสมดว้ ย สดั ส่วนท่ีแตกต่างกนั จะทาใหไ้ ส้ดินสอมีสมบตั ิที่แตกต่างไปดว้ ย โดยถา้ ผสมกราไฟตม์ าก สีก็จะเขม้ มาก แต่ ขอ้ เสียคือจะเปราะไม่ทนทาน แต่หากใส่ดินเหนียวมากก็จะให้ผลตรงกนั ขา้ มคือสีจะอ่อนลง แต่เน้ือจะแข็ง ข้ึน การระบุสัดส่วนของกราไฟตแ์ ละดินในไส้ดินสอจะใชต้ วั อกั ษร H (Hard) และ B (Black) เป็ นตวั แทน โดย H หมายถึงดินสอที่มีความแข็ง (ดินมาก) ส่วน B คือดินสอท่ีมีสีเขม้ (กราไฟตม์ าก) ดินสอท่ีใชง้ านกนั ทวั่ ไป จะเป็ นเกรด HB ใหส้ ีดาเขม้ ปานกลางและแข็งแรงพอสมควร ส่วนดินสอที่แขง็ กวา่ HB จะใชต้ วั เลข นาหนา้ อกั ษร H คือ 1H 2H 3H 4H ซ่ึงยงิ่ ตวั เลขมาก แสดงวา่ ดินสอน้นั จะแข็งมาก และในทางตรงขา้ มสีก็จะ อ่อนลงไปดว้ ยเช่นกนั ย่ิง H มากก็ยิ่งสีอ่อนมาก ส่วน B ก็ใชต้ วั เลขนาอกั ษรเป็ น 1B 2B 3B 4B แต่ตรงขา้ ม คือยงิ่ ถา้ ตวั เลขมาก สีก็เขม้ ข้ึน แต่ขณะเดียวกนั ก็จะเปราะดว้ ยเช่นกนั นอกจากน้นั ก็อาจจะมีดินสอเกรด F (Fine) ซ่ึงหมายถึงดินสอท่ีจะให้จุดที่เล็กละเอียดกวา่ ดินสอทวั่ ไป แลว้ ทาไมตอ้ งใชด้ ินสอ 2B ในการฝน กระดาษคาตอบ คาตอบก็คือ ดินสอ 2B เป็ นดินสอที่ให้ความเขม้ ต่าสุดเท่าที่เคร่ืองอ่านกระดาษคาตอบจะ สามารถอ่านได้ และหาไดง้ ่ายพอสมควรนนั่ เอง ซ่ึงจริงแลว้ ผสู้ อบจะใชด้ ินสอที่เขม้ กวา่ น้ีอยา่ ง 3B 4B หรือ มากกวา่ น้ีก็ได้ แต่ขอ้ เสียคือมนั จะเปราะกวา่ ทาใหอ้ าจจะหกั ไดง้ ่าย (โดยเฉพาะรีบฝนเร็ว ๆ ) รวมถึงหายาก กวา่ 2B ดว้ ย ดินสอท่ีมี H หรือ B สูง ๆ โดยมากแลว้ จะใชใ้ นงานวาดเขียนเพ่ือแรเงาภาพมากกวา่ จะใชใ้ น งานทว่ั ไป เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 43
เรื่องน่ารู้กับคณุนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี 59 ต้มไข่ 7 นาทีนับจากตอนไหน เราคงไดย้ ินมาว่า ถา้ ตอ้ งการให้ตม้ ไข่เป็ นยางมะตูมให้ตม้ 7 นาที แลว้ เจด็ นาทีท่ีวา่ นบั จาก เร่ิมตม้ หรือ นบั จากน้าเดือด การตม้ ไข่ให้ ตม้ น้าให้ เดือดก่อนครับแล้วค่อยนาไข่ลงต้ม ถ้า ตอ้ งการให้ไข่แดงเหลว ตม้ 6 นาที เป็ นยาง มะตูมตม้ 7 นาที ไข่เป็ นครีม ตม้ 8 นาที ถา้ ตอ้ งการให้สุกตม้ 9 นาที เคล็ดลบั สาคญั คือเมื่อครบเวลาท่ีตอ้ งการแล้วให้เอาไข่ท่ี ตม้ แช่น้าเยน็ ทนั ที เพ่ือไม่ให้ความร้อนเขา้ ไปในไข่เพ่ิมได้อีก ออ้ อีกอย่างในน้าท่ีตม้ ใส่เกลิอลงไปสักนดจะทาใหแ้ กะไขง่ ่ายข้ึน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของสานวน อยู่ไปก็ไลฟ์ บอย - พูดไปกไ็ ลฟ์ บอย .แลว้ ทาไม ตอ้ งไลฟ์ บอยดว้ ย ? สานวนสาหรับทา่ นท่ีอายเุ กิน 35 ปี ข้ึนไป ท่ีจะตอ้ งเคยไดย้ นิ สักคร้ัง เพราะเป็ นสานวนที่ ฮิตมากในสมยั ก่อน คือ \"พูดไปก็ไลฟ์ บอย - อยู่ไป ก็ ไ ล ฟ์ บ อ ย - ท า ไ ป ก็ ไ ล ฟ์ บ อ ย \" เ ม่ื อ ท่ า น นายกรัฐมนตรี \"พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา\" พูด ถึงคาน้ีข้ึนมาว่า \"จะเป็ นอื่นไปไม่ได้ อยู่ไปก็ไลฟ์ บอย\" นกั ข่าวยุคใหม่จึงมีอนั เป็ นงงเมื่อเด็กยุคใหม่ มาฟังคงงงกนั น่าดูวา่ ทาไมตอ้ ง \"ไลฟ์ บอย\" แลว้ คา วา่ ไลฟ์ บอย น้ีคืออะไร ? คาตอบคือ ไลฟ์ บอย เคย เป็ นชื่อของสบู่ยห่ี ้อนึง ราคาถูกมาก กอ้ นละประมาณ 2-4 บาทเป็ นสินคา้ ท่ีนิยมในกลุ่มคนรายไดน้ อ้ ย หรือ ตอ้ งการประหยดั ค่าใชจ้ ่าย เม่ือประมาณ 30-40 ปี มาแลว้ กลิ่นไม่หอม ซ่ึงในยคุ น้นั สบู่ราคาแพงคือ \"เซฟ การ์ด วินโนเลีย\" ทาให้เกิดเป็ นสานวนว่า \"พูดไปก็ไลฟ์ บอย นิ่งไวก้ ็เซฟการ์ด\" สบู่ไลฟ์ บอย เขียนเป็ น ภาษาองั กฤษคือ Lifebuoy ในขณะที่สบู่เซฟการ์ดสมยั ก่อนเป็ นสินคา้ นาเขา้ ภาษาองั กฤษคือ Safeguard เหมือนปัจจุบนั แต่นาเขา้ จากอเมริกา กล่ินหอมมาก และค่อนขา้ งมีลกั ษณะผสมเน้ีอครีมมากกวา่ ความหมาย ของสานวนน้ี จึงมีความหมายทานองว่า พูดอะไรออกไป หรือทาอะไรไป ก็เสียเวลาเปล่าๆ ไม่มีใครเห็น คุณค่า ดูเหมือนของราคาถูก ถา้ เปรียบก็จะคลา้ ยๆ สานวน \"พูดไปสองไพเบ้ีย น่ิงเสียตาลึงทอง\" คนรุ่นเกิด ประมาณพ.ศ.2500 คงจาสบูน่ ้ีไดน้ ะครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 44
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของ # ฟ้ า รักพ่อ คาว่า \"ฟ้ ารักพ่อ\" น้นั มาจากละครเร่ือง \"ดอกส้มสี ทอง\" ละครสะท้อนสังคมท่ีออกฉายทางสถานีวิทยุ โทรทศั น์ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศตอนแรก วนั ท่ี 30 มีนาคม 2554 โดยวลีที่กล่าวว่า \"ฟ้ ารักพ่อ\" น้ันมาจากตวั ละครหญิงที่ชื่อ \"เรยา\" แสดงโดย ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ซ่ึงมีความหมายถึง การเรียกสามีท่ีเป็ นผูใ้ หญ่กว่า เป็ นนัก ธุรกิจใหญ่ หน้าตาดี ในกรณีน้ีชาวเน็ตหมายถึงหัวหน้า พรรคอนาคตใหม่ อยา่ ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ดูมีอายุ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดสาวเล็ก สาวใหญ่ หรื อ แมก้ ระทง่ั สาวประเภทสอง ท่ีดูแล้วจะหลงเสน่ห์หัวหน้า พรรคอนาคตใหม่ รายน้ีอยไู่ ม่มากกน็ อ้ ย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วิธีการล็อคเอกสาร ใน Microsoft Office Word งานเอกสารใน Microsoft Office Word ท่ีเราใชพ้ ิมพง์ านกนั อยบู่ ่อยๆ น้นั เราสามารถต้งั ค่า ป้ องกนั ไม่ให้คนอ่ืนเขา้ มาอ่าน โด ย ไ ม่ไ ด้รั บอ นุ ญ าต อ ย าก รู้ แ ล้ว ใ ช่ ไห ม ล ะ ครั บ ว่าท า ยังไ ง ถ้า อ ย า ก รู้ ม า ติ ด ต า มกัน เ ล ย เร่ิมจาก 1. เข้าไปท่ีเมนู ไฟล์ (File) > ขอ้ มูล (prepare) > ป้ องกันเอกสาร (Encrypt Document) 2. ต้งั รหสั ผา่ น และ ยืนยนั รหัสผ่าน จากน้นั คลิก Ok Ok*ขอ้ สาคญั ถา้ คุณลืมหรือทารหัสผา่ นหาย คุณ จะไม่สามารถกูค้ ืนรหัสผ่านน้นั ได้ ดงั น้ัน คุณควรจะเก็บรักษารายการรหสั ผ่านและ รายช่ือเอกสาร ท่ีใชร้ หสั ผา่ นน้นั ไวใ้ นท่ีที่ปลอดภยั 3. และ Save ไฟล์งาน ต้งั ชื่องานปกติ 4. เม่ือปิ ดงานและ เขา้ งานมาใหม่ จะพบวา่ Microsoft Office Word มีการถามถึงรหสั ผา่ นเปิ ดงาน วิธียกเลิกรหสั ผา่ น กดเขา้ เมนูเดิม จนถึงข้นั ตอนที่ 2 ลบรหสั ผา่ นออกใหห้ มด แลว้ คลิก Ok เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 45
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เทคนิคการฝัง Font ใน PowerPoint เปิ ดที่ไหนก็ไม่เพยี้ น การฝัง Font ใน PowerPoint ช่วยทาให้งาน ง่ายข้ึน ไม่ตอ้ งกงั วล กบั 3 วิธีง่ายๆ ดงั น้ี ท่ีจะทาให้คุณร้องอ๋อ! ทนั ที 1. เปิ ดโปรแกรม PowerPoint คลิกแท็บ File > Options 2. สังเกตดา้ นซ้าย คลิกแท็บ Save 3. ต๊ิกเลือก Embed fonts in the file เพ่ือฝัง Font ท่ีใชใ้ น ไฟล์เท่าน้นั ไม่รวม Font มาตรฐาน ของ Windows แลว้ คลิก Ok วิธีการเช็ค Font วา่ สามารถฝังไดห้ รือไม่? 1. คลิกเขา้ ไปที่ Control Panel > Fonts 2. คลิกเลือกฟอนต์ แลว้ ดูสิทธ์ิการใชง้ านที่ Font embeddability แจง้ เป็ นขอ้ มูลอีกนิด!! Office for Mac ไมร่ องรับการฝังฟอนต์ แตส่ ามารถเปิ ดไฟลท์ ี่มีการฝังฟอนตไ์ ด้ เร่ืองน่ารู้กับ่ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วิธีการดูวนั หมดอายุ ทุกคร้ังที่ซ้ืออาหาร ส่ิงหน่ึงที่ไม่ควรลืมดู คือ “วนั หมดอายุ” เชื่อเลยว่าทุกคนคงจะเคย เห็นคาน้ีบนสินคา้ อาหารทุกชนิด ซ่ึงฉลากท่ี ติดขอ้ ความไวบ้ างคร้ังจะใชค้ าวา่ EXP…(ควร บริโภคก่อน) หรือ BBE…(หมดอายุ) สองคา น้ีต่างกนั อย่างไร? หมดอายุ หมายถึง วนั ท่ี อาหารน้ันหมดอายุ หลังจากวันน้ันแล้ว อาหารจะเน่าเสีย หรือบูด ห้ามรับประทาน ควรนาไปทิ้ง ควรบริโภคก่อน หมายถึง อาหารจะมีรสชาติดี ยงั คงคุณค่าทางอาหารครบถว้ นตามท่ีระบุไวบ้ นฉลากอาหารจนถึงวนั น้นั หลงั จากวนั น้นั ไปรสชาติ คุณภาพและคุณค่าทางอาหารจะลดลง แต่จะไม่มีปัญหาในเชิงความปลอดภยั จึงยงั สามารถ บริโภคไดโ้ ดยไม่มีอนั ตราย แต่อาจไม่ไดป้ ระโยชน์จากอาหารน้นั ตามที่ระบุไวบ้ นฉลากอาหารก็ได้ และจะ กาหนดวนั ล่วงหนา้ ไวร้ ะยะหน่ึงก่อนที่อาหารน้นั จะหมดอายุหรือเสีย เหนือสิ่งอื่นใดท่ีผบู้ ริโภคควรสังเกต คือ รูปลักษณ์ของอาหาร เช่น สี กลิ่น รส หากเปล่ียนไปแต่ยงั ไม่ถึงวนั หมดอายุที่กาหนด ก็ไม่ควร รับประทานเพราะอาจเกิดจากความผดิ พลาดในกระบวกการขนส่งกเ็ ป็นได้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 46
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของซีซาร์สลดั วนั น้ีไดม้ ีโอกาสกินสลดั จะวา่ ไปสลดั ผกั ก็มี อยมู่ ากมายหลายสูตร แต่สลดั สูตรเด็ดท่ีดูจะเป็ นท่ี ถูกอกถูกใจ ติดลิ้นของคนไทยไม่น้อยก็คงหนีไม่ พน้ ซีซาร์สลดั (Caesar Salad) สลดั ผกั ชื่อเก๋ท่ีบอก ถึงความเป็ นฝร่ังจ๋าสุดฤทธ์ิ ซ่ึงหากคุณเองก็ติดใจ เจา้ ซีซาร์สลดั ไม่นอ้ ยเหมือนกนั ซีซาร์สลดั มีทีมาท่ี ไปจากไหนกนั นะ ประวตั ิของซีซาร์สลดั เร่ิมมา จากชายหนุ่มเจา้ ของโรงแรมในประเทศเม็กซิโก เขามีชื่อวา่ นายซีซ่าร์ คาร์ดินี และเจา้ ของโรงแรม ชาวอิตาลีคนน้ีไม่ไดม้ ีดีกรีเป็ นแค่เจา้ ของโรงแรมเท่าน้นั แต่เขายงั มีฝี มือในการทาอาหารชนิดหาตวั จบั ยาก เลยทีเดียว และในวนั ที่ห้องอาหารในโรงแรมของเขาเตม็ ไปดว้ ยลูกคา้ มากมาย จนอาหารในครัวไม่เพียงพอ ต่อความตอ้ งการ นายซีซาร์คนน้ีก็เลยแสดงฝี มือ นาวตั ถุดิบท่ีเหลือ ๆ อยู่ มาคลุกเคลา้ เป็ นสลดั 1 จานใหญ่ จดั เสิร์ฟแก่ลูกคา้ ทุกคนโดยทว่ั ถึง และโชคดีมากที่สลัดมว่ั ๆ จานน้ี กลบั มีรสชาติอร่อยจนน่าท่ึง และ กลายเป็นเมนูประจาหอ้ งอาหารในโรงแรมต้งั แตน่ ้นั เป็นตน้ มา ซ่ึงตอ่ มาเจา้ สลดั จานน้ีก็มีช่ือเรียกตามช่ือของ ตน้ ตารับดว้ ยครับ จุดเด่นของซีซาร์สลดั อยทู่ ี่ผกั กาดชื่อวา่ Romaine เศษขนมปังกรอบ พาร์มีซานชีส และน้า สลดั แบบน้าใสที่เน้นรสเค็ม และมนั เท่าน้นั แต่ปัจจุบนั น้ีหน้าตาของซีซาร์สลดั ก็ถูกดดั แปลงไปตามแต่ ความชอบของคนทา มีท้งั ใส่เบคอน ไก่ยา่ ง ไข่ลวก และมะเขือเทศเขา้ ไปดว้ ย เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เขาวัดแกรมกระดาษกันอย่างไร ถา้ ถามว่ากระดาษถ่ายเอกสาร ท่วั ไป หลายคนคงบอกได้ว่าเป็ น A4 หนา 70 แกรม กบั 80 แกรม เรา คงพอจะรู้กนั วา่ กระดาษท่ีมีจานวน แกรมมากกวา่ คือกระดาษท่ีมีขนาด หนากว่ากนั อยแู่ ลว้ ใช่ไหมครับ แต่ เราเคยสงสัยกนั ม้ยั ว่า แกรมท่ีว่าน้ี มนั คืออะไรวดั กนั ยงั ไง จริง ๆ แลว้ คาว่าแกรมน้ี ก็คือกรัม (gram) น่ันเองครับ เป็ นหน่วยท่ีเราใช้วดั มวลกระดาษว่า เมื่อนากระดาษ ชนิดหน่ึง ๆ ที่มีพ้ืนท่ี 1 x 1 ตารางเมตรมาชงั่ แลว้ จะมีน้าหนกั กี่กรัม (แกรม) ฉะน้นั กระดาษขนาด 120 แก รม จึงหมายถึงกระดาษขนาด ท่ีมีน้าหนกั 120 กรัม / ตารางเมตร นน่ั เอง ในทางกระบวนการพิมพแ์ ล้ว กระดาษที่มีจานวนแกรมนอ้ ย (บาง) จะทาให้แสงส่องผา่ นไดม้ ากกวา่ เม่ือทาการพิมพไ์ ปแลว้ จึงมีโอกาส เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 47
เป็นไปไดม้ ากที่จะมองทะลุไปเห็นหนา้ ตรงขา้ ม ทาให้ดูแลว้ ไม่สวยงามแลว้ ยงั รบกวนการอ่านดว้ ยครับ แต่ ท้งั น้ีท้งั น้นั เราก็จะตอ้ ง balance เร่ืองของความหนาให้เหมาะสมกบั จานวนหนา้ และประเภทของหนงั สือที่ พิมพใ์ หด้ ีดว้ ย หนงั สือท่ีหนามากไม่ควรจะใชก้ ระดาษท่ีหนาเกินไป เพราะจะทาใหห้ นกั และหนาไม่น่าอ่าน อีกท้งั ยงั ส่งผลโดยตรงตอ่ ราคาตน้ ทุนดว้ ยครับ ส่วนหนงั สือท่ีมีจานวนหนา้ นอ้ ย การใชก้ ระดาษที่หนาข้ึนมา นิดนึง อาจจะทาใหต้ น้ ทุนสูงข้ึนนิดหน่อย แต่ก็จะทาใหห้ นงั สือไม่บางจนเกินไป ดูแลว้ สวยงามไม่น่าเกลียด ครับ แกรมท่ีเหมาะสมสาหรับการพิมพเ์ น้ือหาดา้ นในคือ 70 - 80 แกรมครับส่วนการพิมพห์ นา้ ปกน้นั ต่าง จากการพิมพเ์ น้ือหาดา้ นในอยู่ เพราะปกเป็ นส่ิงที่ห่อหุ้มไส้ในไว้ จึงจาเป็ นจะตอ้ งแขง็ แรงและปกป้ องอายุ ของหนงั สือ ไวไ้ ดน้ านระดบั หน่ึง อีกท้งั ยงั เป็ นสิ่งแรกสุดที่ผูอ้ ่านเห็น หน้าปกที่สวยงามดึงดูดตาจึงเป็ น สิ่งจาเป็น กระดาษที่ใชจ้ ึงจะตอ้ งหนาและเหมาะสมแก่การพิมพป์ ก ทางโรงพิมพแ์ นะนาให้ใช้ 120 แกรมข้ึน ไปสาหรับการพมิ พป์ กครับ และจานวนแกรมท่ีนิยมใชใ้ นงานต่าง ๆ จะเป็ นประมาณน้ีครับบิลเล่มทวั่ ไป ถา้ มีช้นั เดียว 55-80 แกรมบิลเล่มทว่ั ไป ถา้ มีหลายช้นั 45-60 แกรม ส่ิงพิมพท์ ี่ตอ้ งมีสาเนา หรือหนา้ ในของ dictionary 40-50 แกรมกระดาษหวั จดหมาย หนา้ เน้ือในของหนงั สือ นิตยสาร เน้ือในของสมุด 70-80 แกรม ซองจดหมายมาตรฐาน เบอร์ 9 ใช้ 80 - 100 แกรมโบรชวั ร์สี่สี หนา้ สี่สีของนิตยสาร โปสเตอร์ 105 – 160 แกรม ปกหนงั สือ นิตยสาร สมุด แฟ้ มนาเสนองาน กล่องสินคา้ 230 แกรมข้ึนไปแฟ้ มงาน แนะนาต้งั แต่ 210 แกรม ข้ึนไป เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความเป็ นมาของแซนวชิ แซนวิช ขนมปังแสนอร่อย ทีมีเน้ือใน ประกอบด้วยเน้ือหรื อผกั ต่าง ๆ อาหารสุ ดพิเศษ สาหรับผทู้ ีเร่งรีบในยามเชา้ ของวนั ทางาน แต่จะมีใคร ซกั กี่คนทีจะรู้วา่ จุดกาเนิดมนั มาอยา่ งไร เราจึงนาเสนอ จุดกาเนิดแซนวิชมาให้รับชมกนั จา้ เอ็ดเวริ ์ด มอนทา กิว หรือ สมญานามของเขาคือ ท่านเอิร์ณแห่งแซนวิช รัฐบุรุษทีมีชื่อเสียงขององั กฤษและนกั พนนั ตวั ยง ชื่น ชอบการพนนั เป็นชีวติ จิตใจชนิดทีเรียกวา่ ขา้ วปลาไม่ สนใจ แต่ข้ึนช่ือว่า คน ก็หิวเป็ นธรรมดาแต่ อนิจจา พ่ีท่านติดการพนนั คร้ังจะเลิกเล่นไปทานขา้ วก็กลัว เสียเวลากินแตม้ สุดทา้ ยทา่ นก็ไดส้ ั่งพอ่ ครัวประจาบา้ นใหท้ าอะไรมากไ็ ดใ้ หท้ ่านและเพ่ือนๆ ไดท้ านไปดว้ ย เล่นไปดว้ ย พ่อครัวก็หนกั เอ้ จะทาอะไรให้ท่านทานดีทีสามารถทานไปดว้ ยเล่นไปดว้ ย สุดทา้ ยก็เกิดป๊ิ งไอ เดีย พอ่ ครัวเอาขนมปังประกบกบั เน้ือทอด แลว้ ใส่จานไป เม่ือไปถึงหอ้ งเล่น ท้งั เจา้ นายและพวกพอ้ ง ก็เกิด หิวไปดว้ ยเล่นไปดว้ ย จนอาหารมาถึงมือ เขาก็ถึงกบั แปลกใจ เพราะอาหารในจานมีขนมปังประกบกบั เน้ือ ทอด แต่เมื่อพิจารณาไปแลว้ มนั สุดยอดไปเลย ท้งั ท่านและเพื่อนก็ต่างพากนั เล่นการพนนั อยา่ งมีสุขพร้อม กบั อาหารทีเลิศรส นบั แต่น้นั เป็นตน้ เจา้ ขนมปังประกบเน้ือกเ็ ป็ นทีนิยมในหมนู่ กั พนนั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 48
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม วิธีการคิดเกรดเฉลี่ย เทอมน้ีมีนักศึกษาหลายคน ที่จะจบ การศึกษา แลว้ แจง้ วา่ ตอ้ งการจบแลว้ มีเกรดเฉล่ีย มากกวา่ 3.00 ก็เลยลองให้นกั ศึกษาคิดเกรดเฉลี่ย ของตนเอง (ปรากฎว่านกั ศึกษา งง) แลว้ เกรดเฉลี่ย มีวิธีคิดอย่างไร วิธีการคิดเกรดเฉล่ียคือ ตอ้ งรู้ว่า เรียนก่ีวิชา แต่ละวิชาก่ีหน่วยกิตเท่าไหร่ และแต่ละ วิชาไดเ้ กรดเท่าไหร่ จึงขอทารีวิวแบบง่าย ๆ ดงั น้ี ขอ้ มูลท่ีตอ้ งมีคือ วชิ าคณิตศาสตร์ จานวน 4 หน่วย กิต เกรดท่ีได้ เกรด 4 วิชาภาษาไทย จานวน 2 หน่วยกิต เกรดที่ได้ เกรด 4 วิชาสังคม จานวน 2 หน่วยกิต เกรดที่ได้ เกรด 2 วิชาภาษาองั กฤษ จานวน 3 หน่วยกิต เกรดท่ีได้ เกรด 1 โดยวิธีคิดคือ ผลรวมของ (เกรดxหน่วยกิต) หารกับ ผลรวมของหน่วยกิตทุกวิชา ลองคิดตามตวั อย่างนะครับ วิชา คณิตศาสตร์ จานวน 4 หน่วยกิต เกรดท่ีได้ เกรด 4 คือ 4x4 วชิ าภาษาไทย จานวน 2 หน่วยกิต เกรดท่ีได้ เกรด 4 คือ 2x4 วชิ าสังคม จานวน 2 หน่วยกิต เกรดที่ได้ เกรด 2 คือ 2x2 วิชาภาษาองั กฤษ จานวน 3 หน่วยกิต เกรดที่ได้ เกรด 1 คือ 3x1 ดงั น้นั [(4x4)+(2x4)+(2x2)+(3x1)] / (4+2+2+3)(16+8+4+3) / 1131 / 11 = 2.81 คุณไดเ้ กรดเฉลี่ย 2.81 ลองคิดกนั ดูนะครับจะได้ หายงง เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาของสัญลักษณ์เพศชายและหญิง วนั น้ีไปเขา้ ห้องน้าท่ีห้าง แห่งหน่ึง แลว้ เห็นสัญลกั ษณ์เพศหญิงเพศชาย ทราบไหม ครับว่าสัญลักษณ์น้ี มีท่ีมาจากไหน มีท่ีมาจากไหน (♂) ตามเทพนิยายกรีก Mars เป็นเทพเจา้ สงครามของโรมนั ซ่ึงมีความแขง็ แกร่งมากก็เลยถูกใชเ้ ป็ นสัญลกั ษณ์ของผชู้ าย สัญลกั ษณ์ของเพศชายจะมีสองส่วน คือส่วนที่เป็ นวงกลมก็ คื อ โ ล่ ส่ ว น ลู ก ศ ร ก็ คื อ ห อ ก ที่ ช้ี ข้ึ น ไ ป ท า ง ตะวนั ออกเฉียงเหนือ เอามารวมกนั ก็หมายถึงอาวุธของเทพ เจา้ Mars นนั่ เอง (♀) Venus เทพเจา้ ประจาดาวศุกร์เป็ น เทพธิดาแห่งความรัก ดว้ ยลกั ษณะที่เป็ นหญิงเลยนามาเป็ น สัญลกั ษณ์แทนเพศหญิง ส่วนสัญลกั ษณ์แทนเพศหญิงก็คือ กระจกมือถือของเทพวนี สั (Venus) นน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 49
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมวนั ที่ 8 มีนาคม จึงเป็ นวนั สตรีสากล วนั สตรีสากล \"วนั สตรี สากล\" เกิดข้ึนจากกรรมกรหญิงในโรงงานทอผา้ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาไดพ้ ากนั ลุกฮือประทว้ ง ให้นายจา้ งเพ่ิมค่าจา้ ง และเรียกร้องสิทธิของพวกเธอ แต่สุดทา้ ยกลบั มีผูห้ ญิงถึง 119 คนตอ้ งเสียชีวิตจาก เหตุการณ์น้ี ดว้ ยการท่ีมีคนลอบวางเพลิงเผาโรงงานที่พวกเธอน่งั ชุมนุมกนั อยู่ โดยเหตุการณ์ท้งั หมดน้ี เกิดข้ึนในวนั ท่ี 8 มีนาคม ค.ศ. 1857 (พ.ศ. 2400) จากน้นั ในปี ค.ศ.1907 (พ.ศ. 2450) กรรมกรหญิงใน โรงงานทอผา้ ที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาทนไม่ไหวต่อการเอารัด เอาเปรียบ กดข่ี ทารุณ ของ นายจา้ งท่ีใชง้ านพวกเธอเยย่ี งทาส เน่ืองจากกรรมกรหญิงเหล่าน้ีตอ้ งทางานหนกั ถึงวนั ละ 16-17 ชวั่ โมง โดย ไม่มีวนั หยุด ไม่มีประกันการใช้แรงงานใด ๆ เป็ นผลให้เกิดความเจ็บป่ วยล้มตายตามมาในระยะเวลา อนั รวดเร็ว แตก่ ลบั ไดร้ ับค่าแรงเพียงนอ้ ยนิด และหากต้งั ครรภก์ ็ถูกไล่ออก ความอดั อ้นั ตนั ใจจึงทาใหค้ ลารา เซทคิน นกั การเมืองสตรีสังคมนิยมชาวเยอรมนั ตดั สินใจปลุกระดมเหล่ากรรมกรสตรีดว้ ยการนดั หยดุ งาน ในวนั ท่ี 8 มีนาคม ค.ศ.1907 พร้อมกบั เรียกร้องใหน้ ายจา้ งลดเวลาการทางานลงเหลือวนั ละ 8 ชว่ั โมง อีกท้งั ใหป้ รับปรุงสวสั ดิการทุกอยา่ ง และใหส้ ตรีมีสิทธิออกเสียงเลือกต้งั ดว้ ย อยา่ งไรก็ตาม แมก้ ารเรียกร้องคร้ังน้ี จะไม่ประสบผลสาเร็จ เนื่องจากมีแรงงานหญิงหลายร้อยคนถูกจบั กุม แต่ก็ทาให้สตรีทวั่ โลกสนบั สนุนการ กระทาของคลารา เซทคิน และเป็ นการจุดประกายให้สตรีทว่ั โลกเริ่มตระหนกั ถึงสิทธิของตวั เองมากข้ึน ต่อมาในวนั ที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1908 (พ.ศ. 2451) มีแรงงานหญิงกว่า 15,000 คน ร่วมเดินขบวนทว่ั เมือง นิวยอร์ก เรียกร้องใหย้ ตุ ิการใชแ้ รงงานเด็ก โดยมีคาขวญั การรณรงคว์ า่ \"ขนมปังกบั ดอกกหุ ลาบ\" ซ่ึงหมายถึง การไดร้ ับอาหารที่พอเพยี งพร้อม ๆ กบั คุณภาพชีวติ ที่ดีนน่ั เอง จนกระทงั่ ในวนั ท่ี 8 มีนาคม ค.ศ. 1910 (พ.ศ. 2453) ความพยายามของกรรมกรสตรีกลุ่มน้ีก็ประสบผลสาเร็จ เมื่อมีตวั แทนสตรีจาก 17 ประเทศ เขา้ ร่วม ประชุมสมชั ชาสตรีสังคมนิยมคร้ังท่ี 2 ณ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยในท่ีประชุมไดป้ ระกาศ รับรองขอ้ เรียกร้องของบรรดากรรมกรสตรี ในระบบสาม 8 คือ ยอมใหล้ ดเวลาทางานเหลือวนั ละ 8 ชว่ั โมง ใหเ้ วลาศึกษาหาความรู้เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพของตวั เองอีก 8 ชว่ั โมง และอีก 8 ชว่ั โมงเป็ นเวลาพกั ผอ่ น พร้อม กนั น้ียงั ไดป้ รับคา่ แรงของแรงงานหญิงให้เท่าเทียมกบั แรงงานชาย และยงั มีการคุม้ ครองสวสั ดิการสตรีและ แรงงานเดก็ อีกดว้ ยท้งั น้ียงั ไดร้ ับรองขอ้ เสนอของคลารา เซทคิน ดว้ ยการกาหนดให้วนั ท่ี 8 มีนาคม ของทุกปี เป็น วนั สตรีสากล เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 50
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218