ทำไมตวั กำร์ตูนของ Walt Disney ต้องใส่ถุงมอื สีขำว หลายคนน่าจะเคยสังเกตกนั วา่ ตวั การ์ตนู หลกั ของ วอลท์ ดิสนียห์ ลายๆ ตวั มกั จะใส่ถุงมือสีขาว และ ตวั ละครส่วนมากไมใ่ ช่มนุษยด์ ว้ ย เคยต้งั ขอ้ สงสยั กนั ไหม วา่ ทาไมถึงเป็นแบบน้นั เหตุผลท่ีวา่ ทาไม การ์ตูนของ Walt Disney ถึงตอ้ งใส่ถุงมือ 1. เพ่อื ประหยดั เวลาคนวาด เม่ือก่อนน้นั การ์ตูน ถูกวาดดว้ ยมือลว้ นๆ ซ่ึงงานค่อนขา้ งหนกั และ เสียเวลา ถา้ จะตอ้ งวาดนิ้วครบทุกนิ้ว ในทุกเฟรมของการ์ตนู ดงั น้นั เพ่ือความรวดเร็ว เคา้ จึงตอ้ งทาให้ รายละเอียดของตวั การ์ตูนลดลงโดยการใส่ถุงมือเพอื่ ท่ีจะไดไ้ มต่ อ้ งวาดนิ้ว 2. เพือ่ ความโดดเด่นของมือ การ์ตนู สมยั ก่อนน้นั เป็ นสีขาว-ดา ถา้ ตวั ละครไม่ใส่ถุงมือ หรือถุงมือเป็นสีดา มือจะถูกกลืนไปกบั ตวั ละครทาใหม้ องดูยาก ดงั น้นั ถุงมือจึงเป็นสีขาวเพื่อใหถ้ ุงมือดูโดดเด่นมากข้ึน 3. เพ่ือใหด้ ูเป็นมนุษย์ วอลท์ ดิสนียเ์ คยบอกเป็นภาษาองั กฤษแตเ่ ราแปลเป็นไทยใหว้ า่ “เราไม่ตอ้ งการใหม้ ิก ก้ีเมา้ ส์มีมือแบบหนู แต่เราอยากใหเ้ คา้ มีความเป็นมนุษย์ เราเลยใส่ถุงมือให”้ เทคนิคน้ีแจ่มวา้ วมาก สาหรับดิสนีย์ เคา้ เลยนาเทคนิคน้ีไปใชก้ บั ตวั ละครอื่นๆ ดว้ ย CPTPP คืออะไร CPTPP มีช่ือเตม็ วา่ Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership หรือ ความตกลงที่ ครอบคลุมและกา้ วหนา้ สาหรับ หุน้ ส่วนทางเศรษฐกิจภาคพ้ืนแปซิฟิ ก โดยเป็นความตกลงการคา้ เสรีที่ ครอบคลุมในเรื่องการคา้ การบริการ และการลงทุนเพือ่ สร้างมาตรฐานและ กฎระเบียบร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ สมาชิก ท้งั ในประเดน็ การคุม้ ครองทรัพยส์ ินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดลอ้ ม รวมถึง กลไกแกไ้ ขขอ้ พพิ าทระหวา่ งรัฐบาลและนกั ลงทุนตา่ งชาติ ความตกลงน้ีริเริ่มกนั มาต้งั แตป่ ี 2006 มีช่ือเดิมวา่ TPP (Trans-Pacific Partnership) และมีสมาชิกท้งั หมด 12 ประเทศ แต่หลงั จากสหรัฐฯ ซ่ึงเป็นหวั เรือใหญ่ในตอนน้นั ถอนตวั ออกไปเมื่อตน้ ปี 2017 ประเทศสมาชิกที่ เหลือก็ตดั สินใจเดินหนา้ ความตกลงตอ่ โดยใชช้ ื่อใหม่วา่ CPTPP ปัจจุบนั สมาชิก CPTPP มีท้งั หมด 11 เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 88
ประเทศ คือ ญี่ป่ ุน แคนาดา เมก็ ซิโก เปรู ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และเวยี ดนาม ประเทศไทยไดอ้ ะไร - เสียอะไร จากการเขา้ ร่วม CPTPP จากการท่ีประเทศไทยพึงพงิ การส่งออก-นาเขา้ เป็ น หน่ึงในเสาหลกั เศรษฐกิจโดยมีมูลค่าสูงถึง 123% ของ GDP ทาใหป้ ัจจยั เก้ือหนุนของไทยจาก CPTPP น้นั สามารถแบ่งออกเป็ น 3 เร่ืองดงั น้ี การส่งออก CPTPP จะเพม่ิ โอกาสการส่งออกของไทยไปยงั ประเทศ สมาชิก CPTPP โดยเฉพาะตลาดแคนาดา และเมก็ ซิโกที่ไทยมีสดั ส่วนการส่งออกอยรู่ าว 2 % เป็นสินคา้ จาพวก อาหารทะเลแปรรูป ขา้ ว ผลิตภณั ฑย์ าง รถยนตแ์ ละส่วนประกอบ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทาให้ สินคา้ กลุ่มน้ีมีโอกาสขยายตวั เพมิ่ ข้ึน การลงทุนจากตา่ งประเทศ ที่จะการเขา้ ร่วม CPTPP จะช่วยดึงดูดการ ลงทุนท่ีตอ้ งการใชไ้ ทยเป็ นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยงั ประเทศสมาชิก CPTPP ความสามารถทางการ แข่งขนั CPTPP จะช่วยเพม่ิ ขีดความสามารถทางการแข่งขนั ของไทย จากการปรับปรุงกฎระเบียบ ภายในประเทศเพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานของ CPTPP ที่ไดช้ ่ือวา่ เป็ นความตกลงทางการคา้ คุณภาพสูง ตวั อยา่ งกฎเกณฑท์ ี่ CPTPP สนบั สนุน ไดแ้ ก่ กฎหมายสิทธิแรงงาน การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม การสนบั สนุน การแข่งขนั อยา่ งเทา่ เทียมระหวา่ งธุรกิจชาวทอ้ งถ่ิน และชาวต่างชาติ เป็ นตน้ ซ่ึงการปฏิรูปกฎหมายเหล่าน้ีจะ เป็นผลบวกกบั ไทยในระยะยาว ขณะเดียวกนั ก็จะมี 2 ธุรกิจของไทยที่โดนผลกระทบจากการเขา้ ร่วม CPTPP คือ ธุรกิจบริการ ภาคบริการน้นั CPTPP ใชเ้ ง่ือนไขการเจรจาแบบ negative list หรือการระบุรายการ ท่ีไม่เปิ ดเสรี หมายความวา่ ประเทศสมาชิกสามารถระบุหมวดธุรกิจบริการท่ีไมต่ อ้ งการเปิ ดเสรีได้ ส่วนที่ หมวดธุรกิจบริการอ่ืนๆ ท่ีไม่ไดเ้ ลือกไวใ้ นขอ้ ตกลงจะตอ้ งเปิ ดเสรีตอ่ นกั ลงทุนต่างชาติท้งั หมด ดงั น้นั สาหรับไทยท่ีเป็นประเทศที่ค่อนขา้ งปิ ดในหมวดบริการ การเปิ ดเสรีน้ีอาจทาใหธ้ ุรกิจบริการภายในประเทศ เสียประโยชน์ใหน้ กั ลงทุนต่างชาติไป อุตสาหกรรมเกษตร มีความเป็นไปไดส้ ูงท่ีไทยจะเผชิญกบั การแขง่ ขนั ท่ีมากข้ึน โดยเฉพาะสินคา้ เกษตรจากแคนาดา เช่น ป๋ ุย และถว่ั เหลือง ท่ีจะเขา้ มาตีตลาดไทยหลงั การเปิ ดเสรี ดา้ นการคา้ นอกจากน้ี CPTPP ยงั มีขอ้ บญั ญตั ิใหป้ ระเทศสมาชิกตอ้ งเขา้ ร่วมในอนุสัญญาการคุม้ ครองพนั ธุ์ พชื ใหม่ หรือ UPOV (International Union for the Protection of New Varieties of Plants) ที่จะเปิ ดโอกาสให้ ตา่ งชาติสามารถนาพนั ธุ์พืชพ้ืนเมืองไทยไปทาการวจิ ยั เพือ่ สร้างพนั ธุ์พชื ใหม่แลว้ จดสิทธิบตั รได้ ขอ้ น้ีส่งผล เสียต่อเกษตรกรไทยโดยตรง เพราะถา้ นาพนั ธุ์พชื ใหม่น้ีมาปลูกแลว้ จะไม่สามารถเก็บเมลด็ ไปปลูกตอ่ ได้ เหมือนเม่ือก่อน ตอ้ งซ้ือเมล็ดใหมเ่ ทา่ น้นั ทาใหต้ น้ ทุนการเกษตรยงิ่ สูงข้ึน ขอ้ กงั วล 5 ประการเกี่ยวกบั CPTPP กบั ประชาชนคนไทย iLaw ไดใ้ หร้ ายละเอียดเกี่ยวกบั ผลกระทบของ CPTPP กบั ประชาชนชาวไทยที่น่ากงั วลอยู่ 5 เร่ืองดว้ ยกนั คือ 1.ประเทศไทยตอ้ งการปรับแก้ พ.ร.บ.คุม้ ครองพนั ธุ์พชื เพื่อเขา้ เป็ นสมาชิก UPOV 1991 ซ่ึงจะหา้ มเกษตรกร เก็บเมลด็ พนั ธุ์ที่ไดร้ ับการคุม้ ครองไวป้ ลูกในฤดูกาลถดั ไป จะเห็นไดว้ า่ รัฐบาลชุดน้ีโดยเฉพาะกระทรวง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 89
เกษตรพยายามผลกั ดนั มาหลายคร้ัง รวมท้งั พยายามผา่ น ร่าง พ.ร.บ.ขา้ ว ดว้ ย แต่วา่ ในท่ีสุดก็ถูกเสียงคดั คา้ น จากประชาชนจนไม่สามารถทาได้ เมื่อเป็นเช่นน้ีการเขา้ CPTPP จะบงั คบั ใหค้ วามตกลงตา่ งประเทศมา บงั คบั ใหก้ ฎหมายในประเทศเป็นไปตามน้นั 2.ยกเลิกการใหส้ ิทธิประโยชนแ์ ก่องคก์ ารเภสชั กรรมในการจดั ซ้ือยาของภาครัฐ อีกท้งั ตอ้ งใหร้ ัฐวสิ าหกิจ ดา้ นการซ้ือหรือขายสินคา้ และบริการโดยไมเ่ ลือกปฏิบตั ิและเป็นไปตามกลไกตลาด ยกเลิกการอุดหนุน/ให้ ความช่วยเหลือรัฐวสิ าหกิจท่ีอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐวสิ าหกิจ ธุรกิจ และอุตสาหกรรมของ ต่างประเทศ โดยไมส่ นใจวา่ รัฐวสิ าหกิจมีพนั ธกิจทางสังคม เช่น น้าประปา ไฟฟ้ า ยารักษาโรค สินคา้ และ บริการเหล่าน้ีไม่ใช่สินคา้ ปกติ แต่ตอ้ งดูแลสงั คมใหป้ ระชาชนเขา้ ถึงดว้ ย จะทาอยา่ งไร ถา้ ไม่สามารถทา หนา้ ท่ีทางสงั คมได้ จะกลายเป็นวา่ เฉพาะคนท่ีมีเงินเทา่ น้นั จึงจะสามารถเขา้ ถึงน้าประปา ไฟฟ้ า และยา รักษาโรค 3.ตอ้ งปรับแกป้ ระกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากไทยกาหนดขอ้ หา้ มเกี่ยวกบั ฉลากเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลม์ ากกวา่ ที่ CPTPP กาหนด โดยเฉพาะเรื่องรูปภาพคาเตือนบนฉลาก นี่เป็นเร่ือง ใหญม่ าก แมจ้ ะเป็ นแค่การปรับแกป้ ระกาศท่ีเร่ืองรูปภาพคาเตือนบนฉลากเคร่ืองด่ืม แตจ่ ริงๆ แลว้ ส่งนยั ยะ ตอ่ ไปการออกกฎหมาย ระเบียบและกาหนดนโยบายเพอ่ื คุม้ ครองประชาชน คุม้ ครองสุขภาพหรือ ส่ิงแวดลอ้ ม ไม่สามารถทาได้ หากมนั เกินขอบเขตที่ CPTPP กาหนด 4.การคุม้ ครองการลงทุน และการใหเ้ อกชนฟ้ องร้องภาครัฐ หรือท่ีเรียกวา่ กลไกระงบั ขอ้ พพิ าทระหวา่ งรัฐ และเอกชน (ISDS) ท่ีผา่ นมานโยบายของประเทศไทยชดั เจนวา่ คุม้ ครองการลงทุน ที่เป็ นการลงทุนโดยตรง หรือลงทุนจริงเท่าน้นั แตส่ ่ิงที่ไทยตอ้ งยอมรับหากจะเขา้ CPTPP คือ การลงทุนใน portfolio หรือการลงทุน โดยการซ้ือหุน้ ซ่ึงเป็นการลงทุนที่ไมไ่ ดร้ ับอนุมตั ิคุม้ ครองเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ซ่ึงตอนน้ีคดีของวอลเตอร์ บาวกบั ทางด่วนดอนเมืองโทลลเ์ วย์ กเ็ ป็นแบบน้ีเพราะนกั ลงทุนไม่ไดร้ ับการอนุมตั ิการคุม้ ครองท่ีเป็นลาย ลกั ษณ์อกั ษร แตม่ าอา้ งขอรับการคุม้ ครองการลงทุน 5.ประเทศไทยตอ้ งยอมรับการท่ีจะใหส้ ินคา้ ที่ปรับสภาพเป็นของใหม่ (remanufactured goods) โดยเฉพาะ ในเร่ืองท่ีเก่ียวกบั เครื่องมือทางการแพทย์ อนั น้ีจะเทา่ กบั เอาขยะเครื่องมือแพทยม์ าทิ้งท่ีประเทศไทย เพราะ ในความตกลงฯ ระบุวา่ \"หา้ มปฏิบตั ิต่อสินคา้ ดงั กล่าวเหมือนสินคา้ ใชแ้ ลว้ \" ขณะที่ประเทศไทยไม่มี เทคโนโลยใี นการตรวจสอบในเรื่องน้ี ถา้ รับมาแลว้ ใชไ้ ดไ้ ม่นานก็ไม่ต่างกบั รับซากเครื่องมือเหล่าน้ีมาทิ้งที่ ประเทศไทย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 90
ทำไมคนไทย เรียกนักบวชในศำสนำคริสต์ว่ำบำทหลวง สาหรับคาวา่ \"บาทหลวง\" ไดถ้ ูกใชเ้ ป็ นคร้ังแรกใน สมยั กรุงศรีอยธุ ยา ซ่ึงเป็นยคุ สมยั ที่เมืองไทย ไดต้ ิดต่อคา้ ขายและมีสมั พนั ธไมตรีกบั บรรดาชาติตะวนั ตกต่าง ๆ โดยชาติยุโรปชาติแรก ที่ไดเ้ ขา้ มาในกรุงศรีอยุธยา ก็คือ โปรตุเกส ในสมยั ของสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 2 (พ.ศ. 2034-2072) การเขา้ มาของโปรตุเกสน้ี พวกเขาก็ไดน้ าเอาศาสนาคริสต์ นิกายโรมนั คาทอลิกที่พวกเขา นบั ถือ เขา้ มาเผยแพร่ภายในกรุงศรีอยุธยา ผา่ นทางนกั บวชและคณะมิชชนั นารีอีกดว้ ย ซ่ึงในช่วงเวลาน้นั คนไทยก็ได้เรี ยกเหล่านักบวชและมิชชันนารี ชาวโปรตุเกสวา่ \"บาท\" ซ่ึงคา ๆ น้ี มีท่ีมาจากคา ในภาษาโปรตุเกสวา่ \"Padre\" (ปา-ดริ) ที่แปลวา่ พ่อหรือพระสงฆ์ นบั แต่น้นั คนไทยก็ไดเ้ รียก นักบวชในศาสนาคริ สต์ว่า \"บาท\" เรื่ อยมา จ น ก ร ะ ท ั่ง ใ น ส ม ัย ข อ ง ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ร า ย ณ์ มหาราช ฝรั่งเศสไดม้ ีการส่งบิชอป (Bishop) หรือสังฆราช เขา้ มาเผยแพร่ศาสนา ซ่ึงตาแหน่งบิชอปน้ี มี สถานะท่ีสูงกวา่ นกั บวชทว่ั ไป หรือบาทที่คนไทยรู้จกั ดงั น้นั คนไทยจึงไดใ้ หเ้ กียรติกบั บิชอปน้ี โดยไดเ้ รียก บิชอปวา่ \"บาทหลวง\" ซ่ึงหมายถึง พระสงฆใ์ หญ่ เพ่ือให้แตกต่างจากนกั บวชทว่ั ไปที่เรียกวา่ \"บาท\" เฉย ๆ ก่อนที่ในภายหลงั ท้งั บิชอปรวมไปถึงนกั บวชทว่ั ไป ก็ไดถ้ ูกเรียกรวม ๆ กนั วา่ \"บาทหลวง\" หมด และน้ีเอง ก็คือเรื่องราวความเป็นมาของคาวา่ \"บาทหลวง\" ท่ีหมายถึงนกั บวชในศาสนาคริสต์ นิกายโรมนั คาทอลิก ใน ภาษาไทยนน่ั เอง มำรู้จักทมี่ ำของขนมจีน จากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์กล่าวถึงที่มาของขนมจีนไวว้ า่ ขนมจีนเป็ นอาหาร พ้ืนบา้ นของ ชาวมอญ ซ่ึงชาวมอญจะคุน้ เคยกนั ในชื่อ \"คนอมจิน\" หรือ \"คนอม\" ท่ีหมายถึง กริยาจบั ให้เป็ นกลุ่มเป็ นก้อน ส่วน \"จิน\" แปลว่า นาไปทาใหส้ ุกโดยการหุงตม้ ท้งั หมดน้ีจึงถูกสันนิษฐานวา่ ขนมจีนน่าจะ เป็ นอาหารท่ีชาวมอญนิยมรับประทาน และดว้ ยความอร่อยของขนมจีน ต่อมาก็อาจจะแพร่ขยายไปยงั ประเทศตา่ ง ๆ ในละแวกใกลเ้ คียง จนเป็ นที่ รู้จกั และอาจจะเรียกชื่อเพ้ียนต่อ ๆ กนั มานน่ั เอง ท้งั น้ีคนภาคกลางร้ ียกวา่ ขนมจีน ส่วนภาคเหนือจะออกเสียงว่า ขนมเส้น และภาคอีสานอาหาร ชนิดน้ีก็ คือ ขา้ วป้ ุน แต่ไม่วา่ ขนมจีนจะอยใู่ นชื่ออะไร ความอร่อยก็ยงั คง ไม่เปลี่ยนแปลง จนกลายเป็นอาหารเส้นจานโปรดของคนทุกยคุ ทุกสมยั ยาวนานมาถึงปัจจุบนั เลยล่ะ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 91
ทมี่ ำของช่ือต้นมินต์ หรือสะระแหน่ ช่ือตน้ มินตน์ ้นั เกี่ยวขอ้ งกบั ตานานเทพเจา้ ของกรีก คือ ตามตานานกรีก เล่าวา่ คร้ังนึงเทพแห่งใตพ้ ้ืนพิภพ คือ เทพฮาเดส ไดข้ ้ึนมาบน พ้ืนโลกและพบกบั เทพีเปอร์เซโฟนี (Persephone) เทพีแห่ง ฤดูใบไมผ้ ลิ เทพฮาเดสหลงรักเปอร์เซโฟนีทนั ทีที่พบนาง และ ไดฉ้ ุดนางพาลงไปสู่ดินแดนใตพ้ ิภพเพ่ือครองคู่ ร้อนถึงเมื่อ เทพดี ิมีเตอร์มารดาของนาง ตอ้ งไปร้องเรียนต่อมหาเทพซุสให้ ช่วย การเจรจาต่อรองจึงสรุปไดว้ ่า ว่าในแต่ละปี เทพีเปอร์เซ โฟนีจะอยูก่ บั เทพฮาเดสใตพ้ ิภพ6เดือน และจะกลบั ข้ึนมาอยู่ กบั พระมารดาบนพ้ืนโลก 6 เดือน (เม่ือนางข้ึนมาบนพ้ืนโลกจึงเกิดฤดูใบไมผ้ ลิและฤดูร้อน เม่ือกลบั ไปจึง เป็ นช่วงฤดูใบไม่ร่วงและฤดูหนาว) เรื่องราวมาเกี่ยวพนั กบั มินต์ ตรงที่เมื่อ เทพีเปอร์เซโฟนีกลบั ไปหา มารดา เทพฮาเดสกเ็ กิดความเปลี่ยวเหงาและไดไ้ ปติดพนั กบั นางอปั สรที่น่ารักนามวา่ มินธี (Minthe) แต่ทวา่ เม่ือ เทพีดีมิเตอร์ ซ่ึงมีฐานะเป็ นแม่ยายของเทพฮาเดส รู้เขา้ ก็พิโรธลงทณั ฑ์สาปใหม้ ินธีนางอปั สรกลายเป็ น พืชช้นั ต่าอยตู่ ิดพ้ืนดินเพ่ือให้คนเหยียบย่า เทพฮาเดสรู้สึกเวทนาสงสารนางอปั สรนอ้ ยน้นั แต่ไม่สามารถแก้ คาสาปได้ จึงบนั ดาลให้พืชน้นั มีกล่ินหอมเพ่ือระลึกถึงความสวยงามน่ารักของนางและไม่ให้คนเหยียบย่า นาง พืชชนิดน้นั กค็ ือตน้ มินต(์ Mint)และไดก้ ลายเป็นพชื ประจาพระองคต์ ลอดมา ในเกมยิงไข่เขำพูดว่ำอะไร ในเกมยงิ ไข่ไดโนเสาร์ เวลาเรายิง ไดต้ ่อเนื่อง จะมีคาพดู ซ่ึงคาพดู น้นั คือ ช่ือยคุ ของไดโนเสาร์ ซ่ึง ประกอบดว้ ย ยตุ ไตรแอสสิก ยคุ จูราสสิก และยคุ ตรีเตเชียส ซ่ึง เป็นยคุ ยอ่ ยในมหายคุ เมโสโซอิค (Mesaozoic Era) เมื่อ 65-225 ลา้ นปี โดยรายละเอียดของแตล่ ะยคุ มี ดงั น้ี ยคุ ไตรแอสสิก (Triassic) 190-225 ลา้ นปี การครอบครองโลก ของไดโนเสาร์ในยุคน้ีโลกถูกปกคลุมด้วยป่ าไมจ้ านวนมาก พืชตระกลู ท่ีใชส้ ปอร์ในการขยายพนั ธ์ประสบความสาเร็จและ มีวิวฒั นาการถึง ข้นั สูงสุด ในป่ ายุคไตรแอสสิกช่วงแรกน้นั มี สัตวใ์ หญ่ไม่มากนกั สัตวป์ ี กท่ีใหญ่ ท่ีสุดคือแมลงปอยกั ษท์ ่ีปี ก กวา้ งถึง2ฟุตและไดช้ ื่อว่าเป็ นนกั ล่าเวหา เพียงชนิด เดียวของ ยุคน้ี เน่ืองจากในช่วงปลายของยุคเปอร์เมียนเกิดการสูญพนั ธุ์ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 92
คร้ัง ใหญ่ของสิ่งมีชีวิตทาให้พวกสัตวเ์ ล้ือยคลานก่ึงเล้ียงลูกดว้ ยนมจานวนมาก สูญ พนั ธุ์ไปพวกที่เหลือได้ สืบทอดเผา่ พนั ธุ์มาจนถึงตน้ ยุคไตรแอสสิกในกลุ่มสัตว์ เหล่าน้ีเจา้ ซินนอกนาตสั เป็ นสัตวน์ กั ล่าที่น่าเกรง ขาม ที่สุด ในหมู่พวกมันและใน ช่วงน้ีเองไดโนเสาร์ก็ถือกาเนิดข้ึนโดยพวกมนั วิวฒั นาการมาจาก สตั วเ์ ล้ือยคลาน ที่เดินดว้ ยขาหลงั อยา่ งเจา้ ธีโคดอน ซ่ึงถือกนั วา่ เป็ นบรรพบุรุษของไดโนเสาร์ การสูญพนั ธ์ คร้ังใหญ่ในยุคเปอร์เมียนทาให้พวกมนั สามารถขยายเผ่าพนั ธุ์ได้ อย่าง มากมายในช่วงตน้ ยุคไตรแอสสิก และกลายมาเป็นคู่แขง่ ของพวกสัตว์ เล้ือยคลานก่ึงเล้ียงลูกดว้ ยนมท่ีเหลือ ไดโนเสาร์ในยคุ แรกเป็ นพวกเดิน สองขา เช่น พลาทีโอซอร์ ไดโนเสาร์กินพืชคอยาวที่เป็ นบรรพบุรุษของพวก ซอโรพอด หรือเจา้ ซีโลไฟซิส บรรพบุรุษของพวกกินเน้ือ นกั ล่าสองขาความสูง 1 เมตร การท่ีมนั สามารถเคล่ือนไหวไดด้ ว้ ยสองขาหลงั ทา ใหพ้ วกมนั มีความคล่องตวั ใน การล่าสูงกวา่ ซินนอกนาตสั หรือ อีรีโทรซูคสั ท่ียาวถึง 15 ฟุตซ่ึงมีกรามขนาด ใหญ่และแข็งแรง นกั ล่าเหล่าน้ีได้เปรียบซินนอกนาตสั และสัตวเ์ ล้ือยคลานก่ึง เล้ียงลูกดว้ ยนมอื่นๆทาให้ พวกน้ีต้อง วิวฒั นาการให้มีขนาดเล็กลงเพื่อท่ีจะ หลบหนีพวกไดโนเสาร์ และหลีกทางให้เผ่าพนั ธุ์ ไดโนเสาร์กา้ วมาครองโลกน้ีแทนในที่สุด ยคุ จูราสสิก (Jurassic) 135-190 ลา้ นปี ไดโนเสาร์ครอบครองโลกไดส้ าเร็จในตอนปลายยคุ ไตรแอสสิก จน เม่ือเขา้ ถึงยุคจูราสสิก พวกมนั ก็ขยายเผา่ พนั ธุ์ไปทวั่ โลก ในยุค น้ีผืนแผน่ ดินถูกปกคลุมดว้ ยพืชขนาดยกั ษ์ จาพวกสนและเฟิ ร์น อยา่ งไรก็ตามไดเ้ ร่ิมมีพืชดอกปรากฏข้ึนเป็ นคร้ังแรกในช่วงกลาง ของยุคน้ีนบั วา่ เป็ น จุดเริ่มของการขยายพนั ธุ์รูปแบบใหม่ของพวก พืช ในยุคจูราสสิกนบั ไดว้ ่าเป็ นยุคท่ีพวกไดโนเสาร์คอยาว ตระกูลซอ โรพอด(Sorropod)ขยายเผ่าพนั ธุ์อยา่ งกวา้ งขวางพวกมนั เป็ น ไดโนเสาร์ ขนาดยกั ษ์ สายพนั ธุ์ที่ รู้จักกันดีก็คือ บราคคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ดิโพลโดคัส(Diplodocus) และอะพาโทซอรัส (Apatosaurus)หรืออีกช่ือคือบรอนโตซอรัสนอกจากน้ียงั มีชนิด อื่นๆอีกมากมายสัตวย์ กั ษเ์ หล่าน้ีคร้ังหน่ึงถูก มองว่า เป็ นสัตว์ที่โง่ และไม่อาจป้ องกันตวั จากสัตว์นักล่าได้ทว่าในปัจจุบนั นักโบราณคดี ชีววิทยา (paleontology)เช่ือวา่ พวกมนั ใชห้ างท่ีหนา หนกั ศตั รูท่ีมา จู่โจมซ่ึงนบั วา่ เป็ นการตอบโตท้ ี่น่ายาเกรงไม่นอ้ ย และเพราะหางที่ยาว และมีน้าหนกั มากนี่เองท่ีทาใหพ้ วกมนั ตอ้ ง มีคอยาวเพื่อสร้างสมดุลย์ ของสรีระของมนั ยุคคริเตเซียส (Cretaceous) 65-135 ลา้ นปี ยคุ ครีเตเชียสเป็ นยคุ ท่ีต่อจากยุคจูแรสสิก สัตวเ์ ล้ือยคลานเจริญ มากในยคุ น้ี ไดแ้ ก่ พวกไดโนเสาร์คอยาว โมซาซอรัส เป็นพวกกิ้งก่าทะเล อาเครอน เป็ นพวกเต่าอาศยั อยใู่ น ทะเล บนทอ้ งฟ้ าก็มี เคอาร์โคโทรุสซ่ึงมีขนาดปี กยาวถึง 15 เมตร บินอยมู่ ากมาย ยุคน้ีเป็ นยุคที่ไดโนเสาร์มี การพฒั นาตวั เองอยา่ งมาก พวกซอริสเชียนท่ีกินเน้ือ มีตวั ขนาดใหญ่ไดแ้ ก่ อาร์บาโตซอรัส ไทแรนโนซอรัส ปรากฎในยุคน้ีมีลกั ษณะ ดงั น้ี ไทแรนโนซอรัสน้นั มีเล็บท่ีขาหลงั ใหญ่โตและมีฟันแหลมยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เพื่อใชจ้ บั เหยื่อพวกซอริสเชียน ท่ีกินท้งั พืชและสัตวเ์ ป็ นอาหารก็ไดแ้ ก่ ออนิโตมิมสั พวกออร์ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 93
นิธิสเชียนมกั จะเป็ นพวกกินพืช พวกที่ถูกคน้ พบคร้ังแรก ก็ไดแ้ ก่ อิกวั โนดอน แล้วก็พบ ฮิพุชิโรโฟดอน และ ฮาโดโรซอรัส พวกออร์นิธิสเชียน ไดแ้ ก่ ไทรเซอราทอปส์ สเตโกซอรัส แองคีลอซอรัส พบเจริญอยู่ มากมาย แตว่ า่ ก่อน จะหมดยคุ ครีเตเชียส น้นั อากาศก็เร่ิมเปล่ียนแปลงไดโนเสาร์ บางพวกเริ่มตายลงและ สูญ พนั ธุ์ หลงั จากไดโนเสาร์สูญพนั ธุ์ไปแลว้ สัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนมก็มีบทบาทข้ึนมาบนโลก ท่ีมำของช่ือต้นสะระแหน่ ประวตั ิและที่มาของช่ือสะระแหน่ โดยฝร่ังเรียกสะระแหน่ว่า ‘’มินท์” (mint ) และใช้มินทเ์ ป็ นสมุนไพรปรุงอาหารมาต้งั แต่สมยั กรีก สมยั โรมนั โดยตานานโรมนั เล่าวา่ “มินทา“ หรือ “มินเท” เป็นช่ือนางฟ้ าองคห์ น่ึงอนั เป็นที่รักใคร่สุดสวาทของเทพเจา้ พลูโต ต่อมาพลูโตเสกนางใหก้ ลายเป็ น พชื ซ่ึงก็คือตน้ มินทน์ นั่ เอง โดยสะระแหน่เป็ นพืชด้งั เดิมของทวีป ยุโรป ตะวนั ออกกลาง และพบไดใ้ นหลายภาคของโลกรวมท้งั ประเทศไทย ใช้แพร่หลายในอารยธรรมอียิปต์ กรีก และโรมนั โบราณมาก่อน โดยในคอลมั น์ตน้ ไมใ้ บหญา้ ของนิตยสารหมอ ชาวบา้ นอา้ งวา่ สะระแหน่ถูกนาเขา้ มาในเมืองไทย ในช่วงรัชสมยั สมเด็จพระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 3 โดยชาวอีตาเลียน ชื่อนาย สะระนี่ คนไทยจึงต้งั ชื่อผกั นาเขา้ ชนิดน้ีตามช่ือของคนนามา และ แปลงใหถ้ ูกลิ้นคนไทย เป็น “ สะระแหน่ ” นน่ั เอง สงครำมนกอมี ู สงครำมท่ีคนพ่ำยแพ้ให้แก่นก มารู้จกั สงครามที่สุดฮาคร้ังน้ีกนั หลงั สงครามโลกคร้ังท่ีหน่ึง สิ้นสุดในปี 1918 ทหารผ่านศึกชาวออสเตรเลียประมาณ 5 พนั นาย เดินทางกลับถึงบา้ นเกิด รัฐบาลได้จดั สรรที่ดินฝากตะวนั ตกของ ประเทศ บริ เวณท่ีรกร้างในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) ใหเ้ ป็นท่ีทากินสาหรับเหล่าชาวนาหนา้ ใหม่ พวกเขาจึงเร่ิม หกั ร้างถางพง และปรับปรุงผนื ดินใหเ้ หมาะสมสาหรับปลูกขา้ วสาลี แต่ในปี 1932 ฝงู นกอีมูกวา่ 2 หม่ืนตวั ปรากฏข้ึนในเขตแชนเดลอร์ (Chandler) วลั กูแลนด์ (Walgoolan) และแคมเปี ยน (Campion) ใน รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เดิมทีนกอีมูเหล่าน้ีอาศยั อยู่ตอนกลางของ ประเทศ หลงั ฤดูผสมพนั ธุ์ พวกมนั ไดอ้ พยพผา่ นมาทางน้ีพอดี เมื่อกองทพั นกอีมูพบทุ่งขา้ วสาลีเหลืองอร่าม รวมถึงแหล่งน้าท่ีชาวนาขุดข้ึนสาหรับเพาะปลูกและเล้ียงสัตว์ พวกมนั จึงออกหากินตามอธั ยาศยั บางตวั ถึง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 94
ข้นั พงั ร้ัวก้นั หมาป่ าดิงโกและกระต่ายป่ า เพ่ือบุกเขา้ ที่นาชาวบา้ น ทาให้เหล่าโจรตวั นอ้ ยกรูกนั เขา้ ไปกดั กิน ผลผลิตอย่างสบายใจ ชาวบา้ นทนไม่ไหว แต่งต้งั ตวั แทนไปร้องทุกขก์ บั เซอร์จอร์จ เพียร์ส (Sir George Pearce) วุฒิสมาชิกจากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในขณะน้ัน เพ่ือขอให้ รัฐบาลดาเนินการข้นั เด็ดขาด รัฐบาลยอมรับขอ้ ร้องเรียนและอนุมตั ิแผนสังหารนกอีมู โดยแต่งต้งั หน่วยจู่ โจมหน่วยหน่ึง ประกอบดว้ ยพนั ตรี จี. พี. ดบั เบิลย.ู เมเรดิธ (Major G. P. W. Meredith), สิบเอก เอส. แมค เมอเรย์ (Sergeant S. McMurray) และพลปื น เจ. โอ'ฮลั โลแรน (Gunner J. O'Halloran) รวม 3 นาย พร้อมกบั ปื นลูอิส (Lewis gun) 2 กระบอก และกระสุน 1 หมื่นนดั รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหมในเวลาน้นั เป็ น ไดล้ งช่ือคาบญั ชาประกาศ ‘การสู้รบ’ กบั เหล่านกอีมูตวั ร้ายซะเลย วนั ที่ 1 พ.ย. 1932 การศึกกบั เหล่านกอีมูก็ เลยได้ปะทุข้ึน โดยพลตรีของเขาก็นาปื นกลไปต้ังและก็ยิงใส่ฝูงนกอีมู แต่ว่าผลที่ได้กลับไม่เป็ นผล เน่ืองจากวา่ นกอีมูมีท้งั ยงั ความเร็ว ถึก แถมมีจานวนมาก UFABET ถดั มาก็เลยใชก้ ารซุ่มจู่โจมเหล่านกอีมู แทน แต่วา่ ในลูกกระสุนปื นนบั พนั นดั หมายท่ีเสียไป กลบั ทาให้พบวา่ มีนกอีมูเสียชีวิตเพียงแต่นอ้ ยนิดแค่ น้นั และไม่วา่ จะใชก้ ลยทุ ธ์ใดผลท่ีไดก้ ็ออกมาเสมือนๆเดิม จนถึงกาเนิดปัญหาข้ึนอยา่ งร้อนระอุขา้ งในสภา นิติบญั ญตั ิของประเทศ ซ่ึงวุฒิสมาชิก James Dunn ไดย้ ดั เยียดขอ้ หารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอยา่ ง Sir George Pearce เลยวา่ สติฟั่นเฟื องรึเปล่า UFABET ท่ีเซ็นชื่อทาสงครามกบั เหล่านกอีมูท่ีไม่เป็ นพิษเป็ นภยั แถมความเห็นในห้องประชุมจานวนมากก็เห็นดว้ ยกบั ความนึกคิดน้ี ในวนั ที่ 10 เดือนธนั วาคม 1932 ก็เลย ไดม้ ีการประกาศใหก้ ารทาศึกน้ีจบลง โดยผลของสงครามนกอีมูเสียชีวิตไปประมาณ 2,500 ตวั แต่ทหารก็ ไม่สามารถยึดพ้ืนท่ีคืนให้กับชาวนาได้ แล้วก็น่ีก็คือเร่ืองราวของการทาศึกนกอีมู การสู้รบเดียวของ มนุษยชาติที่มีการประกาศกบั สัตว์ แถมแพใ้ หอ้ ีกต่างหาก ฝนตก 1 ห่ำ เท่ำกับ เท่ำไร ช่วงน้ีฝนตกบ่อย ก็เลยอยากเล่าถึงการวดั ปริมาณน้าฝนแบบ ไทย ๆ โดยมีหน่วยเป็ น ห่า โดยห่าคาน้ี เขียนเหมือโรคห่า (อหิวาตกโรค) แต่ไม่ เกี่ยวขอ้ งกนั โดยห่า คาน้ีหมายถึงปริมาณ ของบาตรพระ โดยการเอาบตรไปรอง ปริมาณน้าฝน ฝนตกเต็มบาตร นบั เป็ น 1 ห่า เม่ือเตม็ แลว้ ลองให่ ถา้ เตม็ อีก ก็จะนบั เป็ นห่าท่ี 2 โดยปริมาณ น้าฝน 1 ห่า ประมาณ 200 มิลิเมตร ถา้ วดั ได้ 1 ห่าแสดงวา่ ฝนตกหนกั มาก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 95
มำรู้จักกบั ข้ำว 5 % 15% 30% มาตรฐานขา้ ว....(ของไทย) -ส่วนของเมล็ดขา้ ว (parts of rice kernels) หมายถึง ส่วนของเมล็ดขา้ วที่ไมม่ ีส่วนใด หกั ท่ีแบง่ ตาม ความยาวของเมลด็ ออกเป็ น 10 ส่วนเทา่ ๆ กนั -ตน้ ขา้ วหรือขา้ วตน้ (head rice) หมายถึง เมลด็ ขา้ วที่มีความยาวมากกวา่ ขา้ วหกั ของ แตล่ ะช้นั คุณภาพ แตไ่ มถ่ ึงความยาวของขา้ วเต็มเมลด็ และใหร้ วมถึงเมลด็ ขา้ วแตกเป็นซีกท่ีมีเน้ือท่ีเหลืออยตู่ ้งั แต่ 80% ของ เมลด็ ข้ึนไป -ขา้ วหกั (brokens) หมายถึง เมล็ดขา้ วหกั ที่มีความยาวต้งั แต่ 2.5 ส่วนข้ึนไป แตไ่ มถ่ ึงความยาวของ ตน้ ขา้ ว และใหร้ วมถึงเมลด็ ขา้ วแตกเป็นซีกที่มีเน้ือที่เหลืออยไู่ ม่ถึง 80% ของเมล็ด -ขา้ วหกั ใหญ่หมายถึงขา้ วหกั ท่ีมีความยาวต้งั แต่5ส่วนข้ึนไป แต่ไม่ถึงความยาวตน้ ขา้ ว ความยาวของเมล็ดขา้ วขาว แบ่งเป็น 4 ช้นั ดงั น้ี 1.ขา้ วเมลด็ ยาว ช้นั 1 (long grain class 1) คือ ขา้ วเตม็ เมล็ดท่ีมีขนาดความยาวเกิน 7.0 mm 2.ขา้ วเมลด็ ยาว ช้นั 2 (long grain class 2) คือ ขา้ วเตม็ เมล็ดท่ีมีขนาดความยาวเกิน 6.6 mm ถึง 7.0 mm 3.ขา้ วเมล็ดยาว ช้นั 3 (long grain class 3) คือ ขา้ วเตม็ เมล็ดท่ีมีขนาดความยาวเกิน 6.2 mm ถึง 6.6 mm 4.ขา้ วเมล็ดส้ัน (short grain) คือ ขา้ วเตม็ เมล็ดท่ีมีขนาดความยาวไม่เกิน 6.2 mm ขา้ วขาว 100% ตอ้ งมีขา้ วเมล็ดยาวช้นั 1ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 40 มีขา้ วเมลด็ ส้นั ไม่เกินร้อยละ 5 มีตน้ ขา้ ว(เตม็ เมล็ด)ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 มีขา้ วเมลด็ หกั ไมเ่ กินร้อยละ 4.5 ขา้ วขาว 5% ตอ้ งมีขา้ วเมลด็ ยาวช้นั 1ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 20 มีขา้ วเมล็ดส้นั ไม่เกินร้อยละ 10 มีตน้ ขา้ ว(เตม็ เมลด็ )ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 มีขา้ วเมล็ดหกั ไม่เกินร้อยละ 7 ขา้ วขาว 10% ตอ้ งมีขา้ วเมล็ดยาวช้นั 1ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 10 มีขา้ วเมล็ดส้ันไม่เกินร้อยละ 15 มีตน้ ขา้ ว(เตม็ เมล็ด)ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 55 มีขา้ วเมลด็ หกั ไมเ่ กินร้อยละ 12 ขา้ วขาว 15% ตอ้ งมีขา้ วเมลด็ ยาวช้นั 1ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 5 มีขา้ วเมลด็ ส้ันไม่เกินร้อยละ 30 มีตน้ ขา้ ว(เตม็ เมล็ด)ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 55 มีขา้ วเมล็ดหกั ไมเ่ กินร้อยละ 17 เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 96
ทอดทิง้ กับละทิง้ หน้ำที่รำชกำรต่ำงกันอย่ำงไร “ละทิ้งหนา้ ท่ีราชการ” หมายถึง ไม่อยู่ปฏิบตั ิหน้าที่ราชการตามหน้าท่ี ซ่ึงได้แก่ การไม่มายงั สถานที่ราชการเพื่อปฏิบตั ิราชการตามหน้าที่ หรือเพื่อให้ผูบ้ งั คบั บญั ชา มอบหมายงาน ให้ปฏิบตั ิ รวมท้งั การมายงั สถานท่ีราชการแลว้ แต่ไม่อยู่ ปฏิบตั ิงาน ละทิ้งไปยงั สถานท่ีอ่ืน “ทอดทิ้งหนา้ ที่ราชการ” หมายถึง การ มาอยใู่ นสถานท่ีราชการ หรือมาปฏิบตั ิงาน แต่ไม่สนใจ ไม่ปฏิบตั ิงานตาม หนา้ ที่ที่ตอ้ งรับผดิ ชอบ ปล่อยใหง้ านคงั่ คา้ ง ควำมหมำยของอนุเสำวรีย์ประชำธิปไตย วนั น้ีเม่ือ 88 ปี ท่ีแลว้ เป็ นวนั อภิวฒั น์สยาหรือวนั เปล่ียนแปลงการ ปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็ นระบอบประชาธิปไตย และถา้ พดู ถึง ประชาธิปไตยเราก็จะนึกถึง อนุเสาวรี ย์ ประชาธิปไตย ทราบไหมครับวา่ อนุเสาวรีย์ ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย มี ค ว า ม ห ม า ย ว่า อ ย่า ง ไ ร อนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย ต้งั อยกู่ ่ึงกลางวง เวียน ระหว่างถนนราชดาเนินตดั กบั ถนน ประชาธิปไตย สร้างข้ึนเป็ นที่ระลึกถึง เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชยเ์ ป็ นระบอบประชาธิปไตย ที่มีองค์ พระมหากษตั ริยเ์ ป็นประมุขเมื่อวนั ท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475อนุสาวรียน์ ้ี เริ่มก่อสร้าง เมื่อวนั ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 สมยั จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ออกแบบโดย หม่อมหลวงป่ ุม มาลากุล ควบคุม การก่อสร้างจนแลว้ เสร็จ โดยศาสตราจารยศ์ ิลป์ พีระศรี ศิลปิ นผปู้ ้ันอนุสาวรียค์ ือ นายสิทธิเดช แสงหิรัญ มี พิธีเปิ ดเมื่อวนั ท่ี 24 มีนาคม พ.ศ. 2483 โดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม กล่าวในในพิธีเปิ ดอนุสาวรียว์ ่า \"อนุสาวรียน์ ้ีจะเป็ นศูนยก์ ลางแห่งความเจริญก้าวหน้าท้งั มวล เป็ นต้นว่า ถนนสายต่างๆ ท่ีจะออกจาก กรุงเทพฯ ไปยงั หวั เมืองก็จะนบั ตน้ ทางจากอนุสาวรียน์ ้ี ถนนราชดาเนินซ่ึงเป็ นแนวของอนุสาวรีย์ ก็กาลงั สร้างอาคารใหส้ ง่างามเป็ นที่เชิดชูเกียรติของประเทศ และเป็ นการสนองพระราชดาริของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระปิ ยมหาราช ที่ทรงต้งั พระราชหฤทยั จะทาให้ถนนน้ีเป็ นที่เชิดชูย่งิ \" อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย เป็นรูปรัฐธรรมนูญประดิษฐานบนพานแวน่ ฟ้ า สร้างดว้ ยทองแดง มีความสูง 3 เมตร หนกั 4 ตนั ต้งั บนฐานรูปทรงกลมดา้ นบนโคง้ กลม ลานอนุสาวรียย์ กสูงมีบนั ไดโดยรอบ รอบนอกลานอนุสาวรียม์ ี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 97
ครีบทรงแบน อยู่ 4 ทิศ ที่โคนครีบมีภาพแกะสลกั ลายป้ันนูน และมีร้ัวเต้ียๆก้นั โดยรอบลานอนุสาวรีย์ ร้ัวน้ี ใช้ปื นใหญ่โบราณจานวน 75 กระบอกฝังดินโผล่ท้ายกระบอกข้ึนมาเป็ นเสา คล้องโซ่เช่ือมต่อกัน ความหมาย ของอนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย • ครีบ 4 ดา้ น สูงจากแท่นพ้ืน 24 เมตร มีรัศมียาว 24 เมตร หมายถึง วนั ท่ี 24 ซ่ึงเป็ นวนั เปลี่ยนแปลงการ ปกครอง • พานรัฐธรรมนูญ ซ่ึงต้งั อยบู่ นยอดป้ อมกลางตวั อนุสาวรีย์ สูง 3 เมตร หมายถึง เดือน 3 หรือ เดือนเมษายน ตรงกบั เดือนท่ีมีการเปล่ียนแปลงการปกครองสมยั น้นั และหมายถึง อานาจอธิปไตยท้งั 3 ภายใตร้ ัฐธรรมนูญ (นิติบญั ญตั ิ บริหาร ตุลาการ) • ปื นใหญ่จานวน 75 กระบอก (ปากกระบอกปื นฝังลงดิน) โดยรอบฐานของอนุสาวรียท์ ี่มีโซ่เหล็กร้อยไว้ หมายถึงปี ที่ทาการเปล่ียนแปลงการปกครอง (เลข 75 เป็ นเลขทา้ ยสองหลกั ของปี พ.ศ.2475 ) ส่วนโซ่ที่ร้อย ไวด้ ว้ ยกนั หมายถึงความสามคั คีพร้อมเพรียงของคณะปฏิวตั ิ • ลายป้ันนูนท่ีฐานครีบท้งั 4 เนน้ ถึงเร่ืองราวการดาเนินงานของคณะราษฎรตอนที่นดั หมายและแยกยา้ ยกนั ก่อการเปล่ียนแปลงการปกครอง เม่ือวนั ท่ี 24 มิถุนายน 2475 • พระขรรค์ 6 เล่ม ที่รายลอ้ มรอบป้ อมกลางตวั อนุสาวรีย์ หมายถึง หลกั 6 ประการของคณะราษฎร รู้จักกับหมุดคณะรำษฎร หมุดก่อกาเนิดรัฐธรรมนูญ หรือเรียกโดยทว่ั ไปว่า หมุดคณะราษฎร เป็ นหมุด ทองเหลืองฝังอยู่กบั พ้ืนถนนบนลานพระบรมรูปทรงม้าดา้ นสนามเสือป่ า ณ ตาแหน่งท่ีพระยาพหลพล พยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) อ่านประกาศคณะราษฎร มี ข้อความว่า \"ณ ที่น้ี 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ารุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกาเนิ ดรั ฐธรรมนู ญเพ่ือความเจริ ญของ ชาติ\" จดั ทาข้ึนโดยกระทรวงมหาดไทย มีพิธีฝังหมุดเมื่อ วนั ที่ 10 ธันวาคม 2479 โดยมีพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีในขณะน้นั และหวั หนา้ คณะราษฎรเป็นผฝู้ ังหมุด ในช่วงปี หลงั น้ีหมุดคณะราษฎรเป็ นสถานที่ จดั งานราลึกเหตุการณ์การปฏิวตั ิสยาม พ.ศ. 2475 ในวนั ที่ 24 มิถุนายน ร่วมกบั มีการเคล่ือนไหวทาง การเมืองในบริเวณน้นั แต่เม่ือวนั ที่ 14 เมษายน 2560 หมุดคณะราษฎรอนั เดิมถูกเปล่ียน โดยหมุดใหม่มี ขอ้ ความวา่ \"ความนบั ถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศต์ ระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรง ในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็ นเครื่องทาให้รัฐของตนเจริญยิ่ง ขอประเทศสยามจงเจริญยงั่ ยืนตลอดไป ประชาชนสุขสันต์ หน้าใส เพ่ือเป็ นพลงั ของแผ่นดิน\" ขอ้ ความดังกล่าวตรงกบั คาถาภาษิตในพระราช เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 98
ลญั จกรประจาเครื่องขตั ติยราชอิสริยาภรณ์อนั มีเกียรติคุณรุ่งเรืองย่ิงมหาจกั รีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) ซ่ึง ณ ปัจจุบนั ก็ยงั ไม่ทราบวา่ หมุดเดิมไปอยทู่ ่ีใด เรื่องธงแดงในกำรสวนสนำมวนั แห่งชัยชนะของรัสเซีย ทุกวนั ที่ 9 พ.ค. เป็นวนั แห่งชยั ชนะ ของกองทพั แดง ท่ีมีเหนือกองทพั นาซีเยอรมนั ซ่ึงท่ีรัสเซียจะมีการเดินสวนสนามเพ่ือเฉลิมฉลองวนั แห่งชยั ชนะ ในสงคราม กอบกูป้ ิ ตุภูมิ แต่ในปี 2563 มีการจดั สวนสนามในวนั ที่ 24 มิถุนายน 2563 ซ่ึงในการสวนสนามจะมีธงแดง รัสเซียผผืนหน่ึงเดินตามธงชาติ วนั น้ีอยากจะเล่าถึงที่มาของธงแดงผืนน้ีครับ ธงแดงผืนน้ีโด่งดงั ข้ึนมาได้ เนื่องจาก เป็ นธงที่ ถูกนาไปปัก ณ อาคารรัฐสภาเยอรมนี โดยเหตุการณ์วนั น้นั เกิดข้ึนเม่ือ 30 เมษายน 1945 เม่ือทหารโซเวียตชื่อ มิคาอิล มินิน วยั 23 ปี ซ่ึงเป็ นทหารโซเวียตคนแรก ที่บุกเขา้ มาในอาคารรัฐสภา สามารถข้ึนไปถึงรูปป้ันหักๆเหนืออาคาร และนาธง แดงไปเสียบไวท้ ี่รูปป้ันดงั กล่าว เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดข้ึนตอนมืด เวลาประมาณ 4 ทุ่ม 40 นาที จากความ มืด ประกอบกบั การรบท่ีติดพนั จึงไม่สามารถถ่ายรูป ออกมาได้แต่ในวันถัดมา ธงดังกล่าวก็ถูกทหาร เยอรมนั ที่ยงั ปักหลกั สู้อยู่ในอาคาร ปลดลงมา แต่ใน ท่ีสุด ฝ่ ายโซเวียต ก็ยดึ อาคารหลงั น้ี และกรุงเบอร์ลิน ไดอ้ ย่างเด็ดขาดมินินเล่าวา่ สตาลินมีคาสั่งว่ากองทพั แดงจะตอ้ งนาธงไปปักไวท้ ี่เหนืออาคารหลงั น้ีไม่ช้า ไปกวา่ วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 1945 ซ่ึงเป็ นวนั แรงงานสากล หน่ึงในวนั ที่โซเวียตให้ความสาคญั อยา่ งย่ิง ทาง ผบู้ งั คบั บญั ชาของมินิน ก็ส่ังการมาวา่ จะตอ้ งเอาผา้ สีแดงไปปักไวบ้ นอาคาร เพ่ือเป็ นสัญลกั ษณ์ของชยั ชนะ ในสงคราม ธงน้ีมีขอ้ ความที่สามารถแปลเป็ นไทยไดด้ งั น้ี กองพลทหารปื นเล็กยาวที่ 150, อิสริยาภรณ์คูตู ซอฟช้นั ท่ี 2, กองพลอีดฺริตซา, กองทพั นอ้ ยทหารปื นยาวที่ 79, กองทพั สนามท่ี 3 และแนวรบเบียโลรัสเซียท่ี 1 ท้งั น้ี ธงผนื จริงน้นั ไมไ่ ดป้ ักท่ีอาคารไรช์สทกั แต่ใชเ้ ป็ นธงชยั ประจาหน่วย \"อยา่ งเป็ นทางการ\" ธงที่ใชใ้ น พิธีสวนสนามเป็ นธงที่ทาข้ึนมาใหม่เพื่อใช้ในพิธีสวนสนามวนั แห่งชยั ชนะเท่าน้นั ส่วนผืนจริงด้งั เดิมน้นั ตามกฎหมายของสหพนั ธรัฐรัสเซียระบุไวช้ ัดเจนว่าธงชัยผืนน้ีจะตอ้ งถูกเก็บไวต้ ลอดไปในสถานที่ท่ี ปลอดภยั และสาธารณชนสามารถเขา้ ชมได้ ปัจจุบนั จดั แสดงที่พิพิธภณั ฑก์ องทพั รัสเซีย กรุงมอสโก เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 99
รู้จักกบั วหิ คอมตะฟิ นิกซ์ นกฟิ นิกซ์ (Phoenix) เป็นนกในตานานของกรีก ซ่ึงกล่าวกนั วา่ นกฟิ นิกซ์เป็ นนกท่ี เกิดมาจากวญิ ญาณที่ออกมาจากเปลวไฟที่เกิดข้ึนต้งั แต่เม่ือโลกเกิด และไดร้ ับพรใหม้ ีชีวติ อมตะไม่มีวนั ตาย เม่ืออายถุ ึง 500 ปี นกฟิ นิกซ์ท่ีแก่ชรามากจะเผาตวั เองจนกลายเป็ นเถา้ ถ่าน แลว้ จะเกิดลูกนกฟิ นิกซ์ตวั ใหม่ ข้ึนจากเปลวเพลิงดงั กล่าว และจะนาเถา้ ถ่านจากการเผาไหมข้ องนกตวั เก่าไปเก็บไวใ้ นวิหารของสุริยเทพ โดยจะวนเวียนอยอู่ ยา่ งน้ีตลอดไปจนกระทง่ั ถึงวนั สิ้นสุดโลก นกฟิ นิกซ์จะอาศยั อยบู่ นสรวงสวรรคแ์ ละทา หนา้ ท่ีร้องเพลงขบั กล่อมพระผเู้ ป็ นเจา้ นกฟิ นิกซ์ถูกพูดถึงคร้ังแรกในบทกวีเรื่อง Account of Egypt ของเฮ โรโดตสั เมื่อประมาณปี 430 ก่อนคริสตกาล โดยเช่ือวา่ เฮโรโดตสั ไดน้ าตน้ เคา้ มาจากตานานของนกเบนนู (Bennu) ซ่ึงเป็นนกของสุริยเทพของอียปิ ต์ ซ่ึงสามารถเกิดใหมไ่ ดท้ ุกรุ่งอรุณ ส่วนในตานานของชาวยวิ มีนก วเิ ศษที่ชื่อวา่ มิลชาม (Milcham) ซ่ึงเป็ นสัตวช์ นิดเดียวที่ ไม่ยอมกินผลไมต้ อ้ งหา้ มในสวนอีเดน จึงทาใหพ้ ระองค์ ทรงโปรดและมอบชีวิตอมตะให้กบั นกฟิ นิกซ์ ลกั ษณะ ของนกฟิ นิกซ์ที่พรรณนาจะมีลกั ษณะคลา้ ยนกอินทรีตวั ผู้ ขนาดใหญ่ ขนมีสีม่วงแดง จะงอยปากสีทองเป็ นประกาย ดวงตามีสีเหลืองสดใส แต่บางแห่งก็ว่าเป็ นสีฟ้ า นก ฟิ นิกซ์จะกินสายลมอ่อน ๆ ท่ีเกิดจากการเผาเครื่องหอม น้าอมฤตและน้าคา้ งเป็ นอาหาร นอกจากความเป็ นอมตะแลว้ นกฟิ นิกซ์ยงั มีอานาจวเิ ศษอีกหลายประการ เช่น น้าตาของนกฟิ นิกซ์จะสามารถช่วยชิตมนุษยท์ ี่ใกล้ตายได้ รวมถึงยงั สามารถจบั คาพูดโกหกได้ นก ฟิ นิกซ์จะเป็ นมิตรกบั คนดีและเป็ นศตั รูกบั คนชวั่ เสียงของนกฟิ นิกซ์จะทาให้คนดีมีเกิดความกลา้ หาญและ เขม้ แขง็ แต่จะทาใหค้ นชวั่ หวาดกลวั ในตานานของชาวกรีกและโรมนั นกฟิ นิกซ์เป็ นสัญญาณแห่งไฟและ ชีวติ อมตะ รวมถึงการเกิดใหม่ เป็นสัญลกั ษณ์ของการเกิด ความหวงั ความบริสุทธ์ิ ความเป็ นอมตะ และแสง สวา่ ง เป็นไฟของจกั รวาลที่คงอยนู่ ิรันดร ท่ีมำของค่ำว่ำ กูรู “กูรู” เป็ นการเขียนทบั ศพั ทเ์ สียงอ่านของคาภาษาองั กฤษวา่ guru แต่อยา่ เพ่ิงเขา้ ใจวา่ คาน้ี เป็นคาภาษาองั กฤษนะครับ คาวา่ guru น้นั คนตะวนั ตกรับเอามาจากภาษาสันสกฤตอีกต่อหน่ึง คือมาจากคา วา่ “คุรุ” หรือในภาษาบาลีคือคาวา่ “ครุ” นนั่ เอง ความหมายตามรากศพั ทเ์ ดิมของ “คุรุ” คือ หนกั ซ่ึงหมายถึง หนักด้านความรู้ สติปัญญา และยงั หมายรวมถึงผูน้ าทางจิตวิญญาณ หรือผูซ้ ่ึงช้ีทางไปสู่หนทางแห่ง ปรินิพพานหรือการรู้แจง้ เห็นจริง ซ่ึงทาหนา้ ท่ีเป็ นครูสอนดา้ นศาสนาดว้ ย อาทิ ศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ ศาสนาซิกข์ เป็ นตน้ ในประเทศอินเดียและอินโดนีเซียจะใช้คาน้ีในความหมายวา่ ครู อาจารยโ์ ดยทวั่ ไป เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 100
ในประเทศตะวนั ตก คาวา่ guru เริ่มมีใชใ้ นสมยั คริสตศ์ ตวรรษที่ 17 เม่ือชาวองั กฤษเดินทางไปอินเดียและนา เรื่องของ “คุรุ” กลบั ไปเผยแพร่ในบทความบนั ทึกการเดินทางและสารคดีต่างๆ เกี่ยวกบั อินเดีย ต่อมา ความหมายของคาวา่ guru กเ็ ร่ิมเปลี่ยนไป จากผนู้ าทางจิตวิญญาณ มาเป็ นผรู้ ู้หรือผูเ้ ช่ียวชาญพิเศษดา้ นต่างๆ คาน้ีจึงถูกนาไปใช้ใน แวดวงอื่นๆ นอกเหนือจากด้านศาสนามากข้ึน เช่น กูรูด้าน อินเตอร์เน็ต กรู ูดา้ นกอล์ฟ เป็ นตน้ คราวน้ีลองหนั มามองฝ่ังไทย กนั บา้ ง “กรู ู” น้นั ไม่ใช่คาใหมเ่ สียทีเดียว เนื่องจาก guru มีท่ีมาจาก ภาษาสันสกฤตท่ีคนไทยคุน้ เคยมาเป็ นเวลานาน เราจึงมีคาท่ีมา จากคาวา่ guru หรือ “คุรุ” ก่อนอยแู่ ลว้ โดยที่หลายคนไม่รู้ตวั เช่น ครู คุรุสภา คุรุศึกษา รวมไปถึงครุศาสตร์ ครุภณั ฑ์ ท่ีมาจาก “ครุ” ในภาษาบาลีดว้ ย โดยคนไทยมกั ใชค้ าวา่ “คุรุ” ในความหมายวา่ ครู อาจารย์ ส่วน “ครุ” เรามกั จะใชใ้ นความหมายวา่ หนกั นอกจากน้ี ในปัจจุบนั เราคน ไทยยงั รับเอาคาวา่ “กรู ู” เพ่ิมมาอีกคา โดยใชใ้ นความหมายวา่ ผชู้ านาญการในดา้ นใด ดา้ นหน่ึงเป็ นพิเศษ จึง ถือเป็นเร่ืองน่าสนใจ ทางภาษาศาสตร์ ท่ีคาคาเดียวกนั แตเ่ ม่ือถูกนาไปใชโ้ ดยชนชาติต่างกนั ก็เกิดเป็ นคาใหม่ ที่มีความหมายตา่ งกนั ได้ ควำมหมำยของสำนวนหมำเยยี่ วรดภูเขำทอง สานวนน้ีหมายถึง เป็ นคน ตอ้ งไม่หวน่ั ไหวต่อลมปากคนอ่ืน ยงิ่ อยทู่ ่ีสูงยิ่งตอ้ งหวนั่ ไหวนอ้ ยลง ซ่ึง เป็นสานวนเปรียบเทียบของ มรว.คึกฤทธ์ิ ปราโมช ซ่ึงการที่หมาเยย่ี วรด น้นั ไมไ่ ดท้ าใหค้ วามบริสุทธ์ิ หรือความสาคญั และความยิ่งใหญ่ของภูเขา ทองลดลง ทมี่ ำของผมทรงนักเรียน จากขอ้ เขียนของ อ.นิธิ เอ่ียวศรีวงศ์ ไดก้ ล่าวถึงที่มาของผมทรงนกั เรียนวา่ มาจาก เหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ซ่ึงตรงกบั สมยั จอมพล ป.พิบูลสงคราม ไดก้ าหนดให้นกั เรียนตดั ผมทรงนกั เรียนปัจจุบนั โดยทรงน้ีไดต้ น้ แบบมาจาก ทหารญี่ป่ ุน ในช่วงสงครามโลก แลว้ ทาไม จอมพล ป.ถึงเลือกทรงน้ี ก็เพราะวา่ ในช่วงสงคราม เหาระบาดอย่างหนกั อนั เน่ืองมาจากสขอนามยั ที่ไม่ดี และการ ขาดแคลนยาที่ใชใ้ นการฆ่าเหา ท่านจึงใหน้ กั เรียนไวผ้ มทรงนกั เรียน เพื่อใหด้ ูแล รักษาผมไดง้ ่าย และดีตอ่ สุขภาพนนั่ เอง อีกท้งั ตอ้ งการใหน้ กั เรียนไทยมีระเบียบวนิ ยั แบบทหารอีกดว้ ย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 101
รู้จักกบั กองเชียร์อลุ ตร้ำ ในวนั ที่สนามฟุตบอลไม่มีกองเชียร์กลุ่มอุลตร้า ตอนน้ีฟุตบอลกบั มาแข่งเหมือนเดิม แล้ว แต่ไร้สีสันเพราะไม่อนุญาตให้กอง เชียร์เขา้ มาชมการแข่งขนั วนั น้ีเลยขอพามา รู้จกั กบั กองเชียร์อุลตร้า กนั เดอะ ค็อป ของ ลิเวอร์พูล \" บี เดอะ เรด \"จากเกาหลีใต้ \" อุลตร้า นิปปอน \" จากญี่ป่ ุน ช่ือเหล่าน้ี อาจ จะ คุ้นหู แฟน บอ ล ชา วไ ทย ม าอ ยู่ พอสมควร กลุ่มเหล่าน้ี คือแฟนบอลพนั ธุ์ แท้ ท่ีตามเชียร์ทีมไปเกือบทุก ๆที่ในโลก แต่หากบอกวา่ กลุ่มเหล่าน้ีถือเป็ น \" กลุ่มแฟนบอลอุลตร้า หลายคนอาจสงสัยอยวู่ า่ อุลตร้ามนั คืออะไร คาวา่ อุลตร้า ( ultra ) ในภาษาของฟุตบอลสากลหมายถึง กลุ่มท่ีเชียร์แบบสุด ๆ หรือเป็ นสะแลงวา่ พวกหวั รุนแรง หรือเชียร์แบบสุดขอบสุดโต่ง เราอาจเคยไดย้ ินคา ๆน้ี มาจากกลุ่มกองเชียร์สโมสรต่าง ๆในยุโรป หรือ อเมริกาใต้ โดยเฉพาะในอิตาลีและกลุ่มประเทศยโุ รปตะวนั ออกที่มีกองเชียร์กลุ่มอุลตร้าประจาการเชียร์ใน สนามฟุตบอลของทีมสโมสรตา่ งๆ แบบอุ่นหนาฝาคงั่ ลกั ษณะเด่นของกลุ่มเหล่าน้ีมกั จะมีชื่อและสัญลกั ษณ์ ของกลุ่มเป็ นของตวั เอง บางทีมก็มีหลายกลุ่มแมจ้ ะเชียร์ทีมเดียวกนั เช่นกลุ่มอุลตร้าของโรมาและลาซิโอ กลุ่มบูโลนบอยด์ของปารีส แซงค์ แชร็ก แมง คาว่าอุลตร้าน้ัน ในช่วงหลังถูกโยงไปในทางลบมากข้ึน โดยเฉพาะในสังเวียนแขง้ บนแผ่นดินยุโรปเน่ืองจากมีความเก่ียวเน่ืองกบั \" ฮูลิแกน \" หรือกลุ่มอนั ธพาล ลูกหนังที่ก่อกวนความสงบและคอยหาเร่ืองทะเลาะวิวาท กบั แฟนบอลฝ่ ายตรงขา้ มจนเป็ นข่าวโด่งดัง ท้งั ท่ีความจริงแลว้ กองเชียร์ที่ถูกสถาปนาจากดั ความอยใู่ นกลุ่มอุลตร้านน้นั มกั จะเร่ิมจากการรวมกลุ่มของ แฟนบอลที่มีอุดมการณ์คลา้ ย ๆ กนั นนั่ คือมีการทาป้ าย ธง ขอ้ ความไปติดที่ขา้ งสนาม ใส่เส้ือแข่งของทีม เส้ือกลุ่ม หรือเส้ือเชียร์ รวมตวั กนั ตามเชียร์ทีมรักของตน กฎหลกั ๆ มกั จะคลา้ ยกนั เช่น การเชียร์และปลุก เร้านกั เตะของทีมตนเองตลอดเวลา ที่เกมยงั แขง่ ขนั อยตู่ อ้ งยนื เชียร์ตลอดเกมตามเชียร์ให้มากท่ีสุด และมีฝั่งที่ นงั่ ประจาในสนามเหยา้ ของตนเอง วฒั นธรรมการเชียร์แบบน้ีแพร่กระจายมาสู่เอเชียมากข้ึน ลกั ษณะการ เชียร์แบบน้ีมีอยใู่ นหลาย ๆประเทศในเอเชีย เช่น ญ่ีป่ ุน เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย หรือแมก้ ระทงั่ ในอาเซียน ท้งั ที่ อินโอนีเซีย มาเลเซีย เวยี ดนาม ลว้ นมีแฟนบอลกลุ่มอุลตร้าเป็นของตวั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 102
ทำไมเมฆจึงมีสีขำว ช่วงน้ีอากาศร้อน ทอ้ งฟ้ าแจ่มใส เม่ือมอง ทอ้ งฟ้ าเวลากลางวนั นอกจากทอ้ งฟ้ าสีฟ้ าสดใสแลว้ ส่ิงหน่ึงท่ี เราคงจะได้เห็นก็คือ ปุยเมฆสีขาวสะอาดราวกับสาลี รูปร่าง ต่าง ๆ ทาไมเมฆจึงมีสีขาว ในเวลากลางวนั โลกจะไดร้ ับแสง สวา่ งจากดวงอาทิตย์ ซ่ึงประกอบดว้ ยคลื่นแสงท่ีมีความถี่ต่าง ๆ จึงทาให้เราเห็นแสงท่ีมาจากดวงอาทิตย์เป็ นแสงขาว เม่ือผ่านช้ันบรรยากาศโลก โมเลกุลของก๊าซใน บรรยากาศจะทาให้เกิดการกระเจิงของแสง โดยแสงที่กระเจิงมากท่ีสุดจะเป็ นสีฟ้ าและสีม่วง จึงทาให้เรา มองเห็นทอ้ งฟ้ าเป็ นสีฟ้ า แต่ในกอ้ นเมฆน้นั ประกอบดว้ ยละอองน้าและผลึกน้าแขง็ ขนาดเล็กจานวนมาก ละอองน้าดงั กล่าวน้ีมีขนาดใหญ่กวา่ โมเลกุลของก๊าซมาก จึงสามารถกระเจิงแสงทุกสีที่ตาของเรามองเห็น ได้ ทาใหแ้ สงท่ีกระเจิงออกมาจากกอ้ นเมฆประกอบดว้ ยแสงทุกสี เม่ือแสงดงั กล่าวรวมกนั ก็จะกลบั รวมกนั เป็ นสีขาว จึงทาใหเ้ รามองเห็นกอ้ นเมฆเป็ นสีขาว อยา่ งไรก็ตามหากกอ้ นเมฆมีความหนาเพิ่มมากข้ึน เช่น เมฆท่ีกาลงั จะตกลงมาเป็ นฝน แสงที่จะทะลุผา่ นกอ้ นเมฆมาไดก้ ็จะนอ้ ยลง ส่งผลทาใหก้ อ้ นเมฆเปล่ียนเป็ น สีเทามืดลงไปนน่ั เอง ทม่ี ำของเจ้ำม้ำลำพองสัญลักษณ์ของเฟอรำร่ี Enzo Ferrari ผูก้ ่อต้งั Ferrari เคยเป็ นนกั แข่งและวิศวกรในสังกดั ค่ายรถ Alfa Romeo มา ก่อน และเม่ือปี 1923 หลงั จากที่เขาควา้ ชยั ไดท้ ี่สนาม Savio Circuit เขาได้มีโอกาสพบกับขุนนางสองคน สองคนน้ันเป็ นพ่อแม่ของ Francesco Baracca วีรบุรุษนกั บินชื่อดงั ของกองทพั อากาศอิตาลี ท่ี สร้างช่ือในสงครามโลกคร้ังที่ 1 ซ่ึงบงั เอิญอีกวา่ เครื่องบินรบของเขา น้นั มีสัญลกั ษณ์มา้ ป่ าถูกวาดอยขู่ า้ งเครื่อง Baracca ไดเ้ สียชีวิตลงไป แลว้ แต่สองขุนนางผเู้ ป็ นพ่อแม่ไดบ้ อกกบั Enzo วา่ ให้นารูปมา้ ป่ าน้ี ไปติดบนรถแข่งของเขาสิ มนั จะนาโชคดีมาให้ Enzo จึงนามนั มาใชบ้ นรถแข่งของเขาจริงๆ ก่อนที่จะกลาย มาเป็ นโลโกข้ องแบรนด์ Ferrari ที่เขาแยกออกมาสร้างทีหลงั โดยมา้ ป่ าจะอยใู่ นพ้ืนหลงั สีเหลืองที่เป็ นสี ประจาเมือง Modena บา้ นเกิดของ Enzo ส่วนสีเขียว ขาว แดง ดา้ นบนคือสีธงชาติอิตาลีนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 103
ทำไมเรียกสีเมจิก อนั ท่ีจริงแลว้ สีแบบน้ีเคา้ เรียกเป็ นทางการว่า Marker Pen แต่มีนายคนนึงชื่อ Sidney Rosenthal ต้งั ชื่อวา่ Magic Marker ท่ีเรียกวา่ Magic เพราะมนั เขียนบนพ้ืนผิวอะไรก็ติดหมด ต่อมาญ่ีป่ ุนก็เอามาต้งั เป็นชื่อตราของตวั เองวา่ \"Magic\" โดยไม่มีคา ว่า Marker มาด้วย เราก็เรียกกนั มาว่า สีแมจิก กนั มาต้งั แต่น้ัน นอกจากไทยแลว้ ก็มีญ่ีป่ ุนกบั เกาหลี ท่ีเรียกปากกาแบบน้ีวา่ แมจิก ที่อินเดียเรียกวา่ sketch pens ที่ฟิ ลิปปิ นส์ เรียกวา่ Pentel Pen (เป็ น ยี่ห้อนึงของญ่ีป่ ุนเหมือนกัน) ท่ีมาเลเซียและสิงคโปร์เรียกว่า marker ครับ กญั ชำ กบั กญั ชง ต่ำงกนั อย่ำงไร เร่ิมที่กญั ชากนั ก่อน กญั ชามีช่ือภาษาองั กฤษที่มกั ถูกเรียกวา่ Marijuana ตวั ลาตน้ มกั จะมีลกั ษณะเต้ียและเป็ นพุ่ม ตน้ กญั ชาจะแตกก่ิงกา้ นค่อนขา้ งมากเมื่อเทียบกบั กญั ชง ส่วนใบก็สี เขียวจดั จะมีประมาณ 5-7 แฉก ที่สาคญั เลยทีช่วยแยกแยะสองส่ิงน้ีออกจากกนั คือสารที่ทาใหเ้ มาหรือ THC (Tetrahydroconnabinol) ซ่ึงจะพบมากในกญั ชา เมื่อเราเสพสารชนิดน้ีไปแลว้ มนั จะทาให้เคลิบเคลิ้มเป็ น พิเศษ น่ีจึงเป็ นเหตุผลทาให้กญั ชาถูกนาไปใช้ในเร่ืองของสันทนาการ (อย่างไรก็ดีสารสกดั ของ THC ก็ สามารถนาไปใช้ในทางการแพทยไ์ ดด้ ว้ ยเหมือนกนั นะ) ้่สlวน กญั ชง น้ันมีช่ือภาษาองั กฤษว่า Hemp สาหรับลกั ษณะภายนอก กญั ชงจะมีตน้ ท่ีสูงและเรียว ย่งิ ถา้ เทียบกบั ตน้ กญั ชาแลว้ ตน้ กญั ชงมกั จะสูงกวา่ ในส่วนของใบกญั ชงจะมีขนาด ใหญ่กวา่ กญั ชา มีการเรียงสลบั ของใบท่ีห่างกนั ลกั ษณะของใบกญั ชงจะมีประมาณ 7-11 แฉก โดยสีของใบกญั ชงจะเป็ นเขียวอ่อน ขณะท่ีจุดเด่นของกญั ชงน้ันจะไม่ใช่สาร THC แต่จะเป็ น CBD (Canabidiol) ซ่ึงถา้ หากเสพ CBD แลว้ จะไม่ไดเ้ คลิบเคลิ้มเหมือนกบั กญั ชา หลกั ๆ แล้วจะถูกสกดั ออกมาเพ่ือประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น การลดอาการเจ็บปวด หรือช่วยต้านอาการของโรคลมชัก ขณะเดียวกนั สารน้ีก็มกั ถูกนาไปใชใ้ นอุตสาหกรรมสิ่งทอบางชนิด ดว้ ยเหมือนกนั เอาเขา้ จริงแลว้ กญั ชาและกญั ชงเป็ นเหมือนพืชท่ีมีแม่คนเดียวกนั เพราะตน้ กาเนิดของพวก มนั มาจาก Cannabis sativa L. เหมือนกนั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 104
Movie Film Cinema ต่ำงกนั อย่ำงไร Movieมาจากคาวา่ Motion picture (ภาพเคลื่อนไหว) ชาว American นิยมใช้ - มีความหมายวา่ หนงั /ภาพยนตร์ ทวั่ ๆ ไป หนงั ตลาด Film - คือ แผน่ หนงั /ฟิ ลม์ ถ่ายรูป/ที่เก็บ motion picture หรือ movie นน่ั เอง ชาว British นิยมใช้ - มีความหมายวา่ หนงั /ภาพยนตร์ ไดเ้ ช่นกนั แต่โดยนยั ยะ จะหมายถึง หนงั แนวอาร์ต อินด้ี Cinema มาจากภาษากรีก แปลวา่ movement (การเคลื่อนไหว) รวมไปถึง กระบวนการการทาภาพยนตร์ ดว้ ย แตใ่ ชใ้ นเชิง “สถานท่ีท่ีฉายหนงั /ภาพยนตร์” นนั่ คือ โรงหนงั คลา้ ยกบั คาวา่ Theater ซ่ึงเป็นโรงหนงั เช่นกนั แต่คาน้ีสามารถรวมไปถึง การแสดงสดไดด้ ว้ ย เช่น การแสดงละครเวที เป็นตน้ ทม่ี ำของชื่อ แขวงศำลำธรรมสพน์ และ ตาบล ศาลายา โดยชื่อของสถานท่ีท้งั 2 แห่ง น้นั มาจาก เมื่อปี พ.ศ. 2403 รัชกาลที่ 4 โปรดเกลา้ ฯ ให้ขดุ คลองเชื่อมต่อไปยงั หวั เมือง ใหเ้ จา้ พระยาทิพากรวงศเ์ ป็ นแม่กอง พระ สิริสมบตั ิเป็ นนายงาน ขุดคลองเริ่มต้งั แต่คลองบางกอกน้อย บริเวณวดั ไชยพฤกษมาลา ไปทะลุแม่น้าท่าจีนที่เมืองนครไชยศรี (นครปฐม) โดย คลองขดุ ใหม่น้ียาว 676 เส้น ขดุ แกค้ ลองเก่า 8 เส้น รวมระยะทาง 684 เส้น กวา้ ง 7 วา ลึก 6 ศอก ใชเ้ งินไปท้งั สิ้น 88,120 บาท พระราชทานนามวา่ “คลองมหาสวสั ด์ิ” ที่มาของคาวา่ ศาลายาและศาลาธรรมสพน์น้นั สมเด็จฯ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ทรง นิพนธ์อธิบายไวใ้ นพระนิพนธ์ “เรื่องตานานสถานที่และวดั ถุต่าง ๆ ซ่ึงพระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้า เจา้ อยหู่ วั ทรงสร้าง” ในประชุมพงศาวดารภาคท่ี 25 ไวว้ า่ “เม่ือขดุ คลองแลว้ สร้างศาลาอาศรัยท่ีริมคลอง 100 เส้นหลงั 1 เปนระยะไป ที่ศาลาหลงั กลางยา่ น เจา้ พระยาทิพากรวงศใ์ หเ้ ขียนตารายารักษาโรคต่าง ๆ ใส่แผน่ กระดานติดไวเ้ ปนการกุศล คนจึงไดเ้ รียกศาลาหลงั น้นั วา่ ‘ศาลายา’ เลยเปนชื่อสถานีรถไฟอยบู่ ดั น้ี ศาลาอิก หลงั 1 เจา้ พระยาทิพากรวงศส์ ร้างในการกุศลปลงศพคนของท่านคน 1 จึงเรียกวา่ ‘ศาลาทาศพ’ เลยเปนช่ือ สถานีรถไฟเหมือนกนั ” เดิมศาลาธรรมสพน์เขียนเป็ น “ศาลาทาศพ” แต่คนไทยเห็นว่าไม่เป็ นมงคล เลย เปล่ียนวิธีการเขียนใหม่ จึงแปลงเป็ น “ธรรมสพน์” มีท่ีมาจาก “ธรรมสวนะ” ซ่ึง ว.แหวน และ พ.พาน สามารถแทนกนั ได้ จึงกลายเป็น ธรรมสพนะ-ธรรมสพน์ ซ่ึงอา่ นออกเสียงตรงกบั คาวา่ ทาศพนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 105
ทม่ี ำของช่ือ เมอร์ซิเดส เบนซ์ สัญลกั ษณ์ดาวสามแฉกลอ้ มรอบดว้ ยวงกลมบนรถของ “เมอร์ซิเดส-เบนซ์” แทบเป็ นสัญลกั ษณ์ความยิ่งใหญ่ของบริษทั รถยนต์แห่งเยอรมนีซ่ึงมีประวตั ิความเป็ นมามากกว่าร้อยปี บุคคลสาคญั ท่ีบุกเบิกเมอร์ซิเดส-เบนซ์ มี 3 รายดว้ ยกนั คือ คาร์ล เบนซ์, กอตตล์ ิบ เดมเลอร์ และวลิ เฮล์ม เมย์ บาร์ค หลายคนอาจสงสัยว่า แลว้ คาว่า “เมอร์ซิ เดส” มาจากไหน โดยในช่วงปี 1936 เกิดการ ควบรวม บริษทั ของ นายเบนซ์ กบั นายเดมเลอร์ ซ่ึงก่อนที่จะเกิดการควบรวมบริษัท โดยในปี 1907 บริษัทของนายเดมเลอร์ ได้ผลิตรถ รุ่นทวั ร่ิง โคช โดยมีนายอีมิล เจลลิเน็ต คหบดี ชาวเวียนนา เอเยนตใ์ หญ่ของเดมเลอร์ ในยุโรป และอเมริกา โดยนายเจลลิเน็ต รายน้ีเป็ นผนู้ าชื่อลูกสาวคือ “เมอร์ซิเดส” มาเป็ นเง่ือนไขในการเจรจาธุรกิจ กบั เดมเลอร์ นายเจลลิเน็ต ต่อรองว่า ถา้ ส่ังซ้ือรถเดมเลอร์ 36 คนั มูลค่า 550,000 มาร์กทองคา ตอ้ งใส่ช่ือ “เมอร์ซิเดส” ซ่ึงเป็นภาษาสเปน หมายความวา่ “สง่างาม” ในรถทุกคนั ที่เดมเลอร์ผลิต เงื่อนไขน้ีเป็ นท่ีตกลง คาวา่ “เมอร์ซิเดส” กลายเป็นเครื่องหมายการคา้ ของเดมเลอร์ กระทง่ั มารวมกบั บริษทั เบนซ์ จึงใชช้ ่ือ “เมอร์ซิ เดส-เบนซ์” มาจนถึงทุกวนั น้ี ทำไมข้ำวกล้องแพงกว่ำข้ำวขำว การท่ีขา้ วกลอ้ งมีราคาแพงกวา่ ขา้ วขาว ก็เพราะว่าเม่ือชาวนาสีขา้ วกลอ้ ง โรงสีจะไม่ไดร้ าขา้ ว และปลายขา้ วเพื่อไปจาหน่าย ต่อครับ จึงต้องคิดค่าสีข้าวกับชาวนา ส่วนการสี ขา้ วขาวน้นั ชาวนาอาจจะไม่ตอ้ งเสียค่าสีขา้ วเลยก็ เป็ นไดค้ รับ เพราะโรงสีสามารถนาเอาราขา้ ว และ ปลายขา้ วไปขายต่อได้ ดว้ ยเหตุน้ีจึงทาให้ตน้ ทุนในการสีขา้ วกลอ้ งแพงกว่าการสีขา้ วขาวครับ นอกจากน้ี ขา้ วกลอ้ งพอสีเสร็จ จะคงคุณภาพไวไ้ ดไ้ ม่นานเท่ากบั ขา้ วขาวครับ พอเก็บไวส้ ักพกั ก็จะเร่ิมมีกลิ่นหืน จึงทา ใหต้ น้ ทุนบรรจุภณั ฑข์ องขา้ วกลอ้ งน้นั สูงกวา่ ของขา้ วขาว เพราะตอ้ งแพค็ ดว้ ยระบบสุญญากาศเท่าน้นั แต่ถึง อยา่ งไรอายใุ นการขายของขา้ วกลอ้ งกย็ งั ส้ันกวา่ ขา้ วขาวอยดู่ ี จึงตอ้ งทาใหต้ อ้ งต้งั ราคาขา้ วกลอ้ งไวใ้ ห้สูงสัก หน่อย เพื่อชดเชยกบั ความสูญเสียจากขา้ วกล้องท่ีเกินอายุขายน่ันเองครับ ปัจจยั สาคญั ท่ีสุด ก็คือ อุปสงค์ หรือความตอ้ งการขา้ วกลอ้ งในตลาดยงั มีนอ้ ยกวา่ ขา้ วขาวอยมู่ าก จึงทาใหก้ ารผลิตขา้ วกลอ้ งไม่มีปริมาณมาก พอท่ีจะทาใหต้ น้ ทุนการผลิตต่อหน่วยถูกลงครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 106
รู้จักกบั สงครำมดอกกุหลำบ ในช่วงปี ค.ศ.1337 ถึง ค.ศ. 1453 องั กฤษ กบั ฝรั่งเศส พุ่งรบกนั อยา่ งยาวนาน นบั ศตวรรษ ศึกคร้ังน้นั มีช่ือว่า สงคราม 100 ปี สงครามคร้ังน้ี จบลงดว้ ยการที่ฝร่ังเศสเป็ นฝ่ ายควา้ ชยั ชนะ ดินแดนขององั กฤษบนภาคพ้ืนยุโรปโดนฝรั่งเศสยึดไปหมด นน่ั ทาให้ประชาชนและขุนนางจานวนมาก ผิดหวงั กบั การไร้ความสามารถของกษตั ริย์ ซ่ึงไดแ้ ก่พระเจา้ เฮนร่ีท่ี 6 นอกจากเรื่องความสามารถแลว้ อีก ประเดน็ ท่ีสาคญั คือ พระเจา้ เฮนร่ีท่ี 6 อายุ 32 ปี แลว้ แตไ่ ม่มีบุตร ที่จะสืบทอดบลั ลงั ก์ รวมถึงมีสภาพจิตใจไม่ มนั่ คงนกั จนถูกกล่าวหาวา่ มีความฟั่นเฟื อน สติไม่ค่อยดี นน่ั ทาให้เกิดความคิดที่จะลม้ อานาจข้ึนจากเหล่า ขนุ นาง พระเจา้ เฮนร่ีท่ี 6 เป็ นคนของ ตระกูลแลงคาสเตอร์ (House of Lancaster) ซ่ึงมีตราประจาตระกลู คือ \"กหุ ลาบสีแดง\" ตระกลู แลงคาสเตอร์ ต้ังอยู่ที่ แคว้นแลงคาเชี ย ร์ ทาง ตะวนั ตกเฉียงเหนือขององั กฤษ ซ่ึง ในอดีตเมืองแมนเชสเตอร์ ก็รวมอยใู่ นแควน้ แลงคาเชียร์ดว้ ย องั กฤษในตอนน้นั อยภู่ ายใตก้ ารปกครองของ ตระกลู แลงคาสเตอร์มาถึง 3 กษตั ริยค์ ือ เฮนร่ีที่ 4 , เฮนรี่ที่ 5 และ เฮนรี่ที่ 6 รวมระยะเวลาการปกครอง 54 ปี ซ่ึงดว้ ยระยะเวลาการปกครองท่ีไม่นานนกั ทาให้ประชาชนยงั ไม่ไดถ้ ึงกบั รักเทิดทูน ดงั น้นั เม่ือ ริชาร์ด แห่ง ตระกูลยอร์ก ตดั สินใจเขา้ มายึดอานาจ จึงไดร้ ับการสนบั สนุนจากประชาชนเป็ นอยา่ งดี การยึดอานาจทา สาเร็จ แตร่ ิชาร์ดแห่งยอร์ก ไมไ่ ดท้ าการรัฐประหาร เขาปล่อยใหพ้ ระเจา้ เฮนร่ีท่ี 6 ยงั คงดารงตาแหน่งกษตั ริย์ ในฉากหนา้ ต่อไป ส่วนตวั เองก็มาชกั ใยอยเู่ บ้ืองหลงั ในฐานะผสู้ าเร็จราชการ เท่ากบั วา่ ตอนน้ีตระกูลยอร์ก (House of York) มีอานาจอยเู่ บ้ืองหลงั กษตั ริยอ์ ีกทีหน่ึง ซ่ึงนน่ั สร้างความเจ็บแคน้ ใหก้ บั ฝั่งตระกูลแลงคา สเตอร์เป็ นอยา่ งมาก สาหรับตระกลู ยอร์กน้นั มีตราประจาตระกูลคือ \"กุหลาบสีขาว\" โดยแควน้ ยอร์กเชียร์ ต้งั อยทู่ างภาคเหนือขององั กฤษ เมืองใหญใ่ นปัจจุบนั ก็เช่น ลีดส์, เชฟฟิ ลด,์ แบรดฟอร์ด, มิดเดิลสโบรห์ และ บาร์นสลีย์ เป็ นตน้ สงครามระหว่างสองตระกูล แลงคาสเตอร์ กบั ยอร์ก ในท่ีสุดก็ระเบิดข้ึนในปี 1455 ในตอนน้ีตระกูลยอร์กไม่พอใจแค่อยเู่ บ้ืองหลงั แลว้ พวกเขาจดั การโค่นลม้ อานาจของแลงคาสเตอร์ โดยริ ชาร์ดแห่งยอร์ก ต้งั ใหล้ ูกชายเป็นกษตั ริยค์ นใหม่ ในชื่อพระเจา้ เอด็ เวิร์ดที่ 4 แต่ครองราชยไ์ ดแ้ ค่ 9 ปี ตระกูล แลงคาสเตอร์ก็มาเอาคืน แลว้ ยอร์กก็โค่นบลั ลงั ก์คืน วนไปวนมาอยู่อย่างน้นั รวมแล้วสงครามคร้ังน้ีกิน เวลานานถึง 30 ปี ท้งั สองฝ่ ายมีคนลม้ ตายกนั มากมาย แต่สุดทา้ ยสงครามก็จบลงในปี 1485 เม่ือพระเจา้ เฮนรี่ ท่ี 7 ซ่ึงเป็นคนจากฝั่งแลงคาสเตอร์ สามารถโค่นริชาร์ดแห่งยอร์กไดส้ าเร็จ จากน้นั ก็ไปสู่ขอ แต่งงานกบั เจา้ หญิงอลิซาเบ็ธแห่งยอร์ก ซ่ึงเป็ นลูกสาวของพระเจา้ เอ็ดเวิร์ดท่ี 4 และสถาปนาข้ึนเป็ นกษตั ริยอ์ งคใ์ หม่ พระ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 107
เจา้ เฮนรี่ที่ 7 ไม่ใช่คนจากตระกลู แลงคาเชียร์โดยตรง แต่คุณพอ่ เป็ นคนตระกูลทิวดอร์ (House of Tudor) ดงั น้นั พระเจา้ เฮนรี่ท่ี 7 จึงเป็ นจุดเร่ิมตน้ ของราชวงศท์ ิวดอร์ พระเจา้ เฮนรี่ท่ี 7 ซ่ึงเป็ นคนของแลงคาสเตอร์ เมื่อแต่งงานกบั เจา้ หญิงอลิซาเบ็ธซ่ึงเป็ นคนของยอร์ก นนั่ ทาให้ความขดั แยง้ ของสองตระกูลลดดีกรีความ รุนแรงลง ย่ิงไปกวา่ น้นั พระเจา้ เฮนรี่ที่ 7 ยงั ตดั สินใจวา่ ตราประจาตระกลู จะใช้กุหลาบสีแดงแห่งแลงคา สเตอร์ รวมกบั กุหลาบสีขาวแห่งยอร์ก กลายเป็ นกุหลาบแดง-ขาว แห่งทิวดอร์ และน้ีก็คือที่มาของสงคราม ดอกกุหลาบ และในฤดูกาลหนา้ เราก็จะเห็นสงครามดอกกุหลาบอีกคร้ังแต่คราวน้ี มนั จะเกิดข้ึนในสนาม ฟุตบอล นน่ั ก็คือการปะทะกนั ระหวา่ งลีดส์ ยไู นเตด็ และแมนเชสเตอร์ ยไู นเตด็ ทำไมน้ำอัดลมหรือเบียร์ที่แช่เยน็ จัดๆ พอเปิ ดขวดแล้วจะกลำยเป็ นเกลด็ น้ำแข็ง(เป็ นวุน้ ) สาเหตุมาจาก เกิด จากปรากฎการณื super cooling effect เน่ืองจากเม่ือเปิ ด ขวดน้ าอัดลม จะเกิดฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ (Carbon dioxide) ลอยตวั ข้ึนมาดา้ นบน และฟองก๊าซจะ เป็ นตวั กลางใหผ้ ลึกน้าแข็งก่อตวั เนื่องจากอุณหภูมิของ จุดเยือกแข็ง จะแปรผนั กบั ความดนั ในขวดน้าอดั ลมมี ความดนั สูงกว่า ความดันบรรยากาศ ฉะน้ันเมื่อแช่ น้าอดั ลมที่อุณหภูมิท่ี -6 องศา ท่ีอุณหภูมิน้ีเลยจุดเยือกแขง็ ของน้าอดั ลม ในความดนั บรรยากาศไปแลว้ เม่ือ เปิ ดขวดทาใหค้ วามดนั ลดลง ทาใหอ้ ุณหภูมิจุดเยอื กแขง็ สูงกวา่ -6 องศา ทาใหน้ ้าอดั ลมแขง็ ตวั รู้จักกับถ้วยพรีเมียร์ลีก ถว้ ยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ใบปัจจุบนั ผลิตโดย บริษทั การ์ราร์ด แอนโค จากดั ซ่ึงเป็ นบริษทั ท่ีออกแบบจิวเวอร่ี และเคร่ืองเงินช่ือ ดัง รวมท้ังเคยได้รับหน้าที่ดูแลรักษาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของสหราช อาณาจกั รต้งั แตป่ ี 1843-2007 อีกดว้ ย โดยตวั ถว้ ยทาจากเงินแทป้ ระกอบดว้ ย มงกุฎหล่อจากเงินชุบ 24 กะรัต ขณะที่ฐานทาดว้ ยมาลาไคต์ หรืออญั มณีสี เขียว ซ่ึงตวั ฐานหนกั 15 กิโลกรัม รวมกบั ตวั โทรฟ่ี อีก 10 กิโลกรัม เป็ น 25 กิโลกรัม ตวั ถว้ ยสูง 76 เซนติเมตรเมื่อรวมฐานดว้ ย กวา้ ง 43 เซนติเมตร และ ขา้ งในถว้ ยมีความลึกราว 25 เซนติเมตร โดยจะมีสิงโต 2 ตวั อยทู่ ่ีหูจบั แต่ละขา้ ง ซ่ึงหมายถึง \"ทรี ไลออนส์\" หรือตราแผน่ ดินของประเทศองั กฤษนน่ั เอง โดยสิงโตตวั ท่ี 3 กค็ ือ กปั ตนั ของทีมแชมป์ ในแต่ละปี ท่ีจะชูถว้ ย เหนือศีรษะเพื่อประกาศความเป็นเบอร์ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลน้นั ๆ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 108
รู้จักกับแฟลชม็อบ แฟลชม็อบ (flash mob หรือ flashmob) คือการท่ีคนกลุ่มหน่ึงออกมารวมตวั กนั ในท่ี สาธารณะอยา่ งฉบั พลนั เพ่ือทาอะไรสกั อยา่ ง โดยเฉพาะส่ิงท่ีแปลกๆ หรือดูเหมือนไม่มีจุดมุ่งหมายเป็ นเวลา ส้ันๆ แลว้ สลายตวั อย่างรวดเร็ว การทาแฟชม็อบมีจุดประสงคเ์ พื่อความบนั เทิง เสียดสี หรือการแสดงออก ทางศิลปะ โดยใชว้ ธิ ีนดั หมายกนั ผา่ นโซเชียลมีเดีย หรืออีเมล โดยทว่ั ไปคาวา่ แฟลชม็อบจะไม่นาไปใชเ้ รียก เหตุการณ์หรือการแสดงท่ีมีจุดประสงค์เกี่ยวกบั การเมือง (เช่น การชุมนุมประทว้ ง) การโฆษณาในเชิง พาณิชย์ อีเวน้ ทท์ ี่จดั ข้ึนโดยบริษทั ประชาสัมพนั ธ์ ซ่ึงหากเป็ นการชุมนุมกนั เพื่อจุดประสงคเ์ หล่าน้ี จะใชค้ า เรียกวา่ “สมาร์ทม็อบ” (Smart Mob) แทน บิลล์ วาสิค บรรณาธิการอาวโุ สของนิตยสาร Harper’s เป็ นให้ กาเนิดคาวา่ แฟลชมอ็ บเมื่อปี 2003 โดยวาสิคเป็ นผจู้ ดั แฟลชมอ็ บข้ึนท่ีห้าง Macy’s หา้ งสรรพสินคา้ ชื่อดงั ใน ยา่ นแมนฮตั ตนั ของสหรัฐ โดยส่งอีเมลนดั แนะผคู้ นราว 130 คนให้ไปรวมตวั กนั ท่ีแผนกขายพรมหรู และมี ขอ้ ตกลงกนั วา่ หากพนกั งานเขา้ มาถาม ก็ให้ตอบไปว่าพวกเขามาจากชุมชน แห่งหน่ึงในย่านชนบทของมหานคร นิวยอร์ก จะมาซ้ือพรมแห่งความรัก ไปไวใ้ นชุมชน และจะตดั สินใจซ้ือก็ต่อเมื่อทุกคนเห็นชอบแลว้ เท่าน้นั ก่อนจะแยกยา้ ยกนั ไปเหมือนไม่มี อะไรเกิดข้ึน ท่ามกลางความงุนงงของพนักงานขาย ต่อมาการจดั แฟลชม็อบได้แพร่หลายออกไป จน พจนานุกรมภาษาองั กฤษชื่อดงั ไดบ้ รรจุคาวา่ แฟลชมอ็ บลงไป อาทิ ออกซ์ฟอร์ด (Concise Oxford English Dictionary) ที่ใหค้ วามหมายไวว้ า่ “เป็นการกระทาแปลกๆ หรือไม่มีจุดมุ่งหมาย” และเวบ็ สเตอร์ (Webster's New Millennium Dictionary of English) ท่ีจากดั ความวา่ “กลุ่มคนที่นดั หมายกนั ทางอินเทอร์เน็ตเพื่อออกมา รวมตวั กนั อยา่ งฉบั พลนั ในท่ีสาธารณะ เพอื่ ทาสิ่งแปลกๆ จากน้นั แยกยา้ ยกนั ไป” รู้จักกับซีอุย ถึงแมว้ า่ จะผา่ นมานานจนครบ 60 ปี แลว้ แต่ช่ือของ “ซีอุย” ก็ ยงั คงไม่เลือนหายไปจากความทรงจาของคนไทย ซีอุยมีช่ือจริงว่า “หลีอุย แซ่อ้ึง” เกิดท่ีจงั หวดั ซวั เถา ประเทศจีน เมื่อปี พ.ศ. 2470 คร้ังยงั เด็กเป็ นคน ตวั เล็กกวา่ เพื่อนฝงู จึงมกั ถูกรังแกอยเู่ สมอ ต่อมามีนกั บวชรูปหน่ึงแนะนา ให้ซีอุยกินหัวใจและตับมนุษย์ จะได้มีพละกาลังแข็งแรง เมื่อเกิด สงครามโลกคร้ังที่สองข้ึน ซีอุยถูกเกณฑ์ไปเป็ นทหาร และคร้ังหน่ึงใน ระหวา่ งท่ีถูกศตั รูลอ้ มเอาไวจ้ นกระทง่ั เสบียงหมด ซีอุยจึงตอ้ งหนั่ ศพเพื่อน ทหารท่ีตายแล้วเพื่อควกั หัวใจและตับมากินเพ่ือประทังชีวิต หลังจาก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 109
สิ้นสุดสงครามโลกคร้ังท่ีสองแลว้ ซีอุยก็ไดห้ นีความยากลาบากในบา้ นเกิดเขา้ มาเมืองไทย และไดท้ างาน รับจา้ งทว่ั ไปโดยไม่มีที่อยเู่ ป็นหลกั แหล่งแน่นอน จนกระทงั่ ในวนั ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2501 ท่ีจงั หวดั ระยอง หลังจากท่ีเด็กชายสมบุญ บุญยกาญจน์ ได้หายออกจากบา้ นที่ไปนานจนผิดสังเกต นายนาวา บิดาของ เด็กชายสมบูรณ์จึงได้ออกตามหาลูกชาย จนไปพบเห็นซีอุยทาตวั ลบั ๆ ล่อ ๆ คลา้ ยกบั กาลงั จะเผาอะไร บางอย่างจึงเขา้ ไปดู เมื่อพบว่าสิ่งท่ีซีอุยจะเผาคือศพของลูกชายตวั เองที่ถูกผ่าเอาอวยั วะภายในบางส่วน ออกไปแล้ว นายนาวากบั เพ่ือนบา้ นที่ออกมาด้วยกนั จึงช่วยกันจบั ตวั ซีอุยนาส่งตารวจทนั ที จากการ สอบสวน ซีอุยใหก้ ารรับสารภาพวา่ เป็นคนฆ่าเดก็ ชายสมบูรณ์จริง และไดม้ ีการโยงไปถึงคดีเก่าอีกหลายคดี ท่ีมีแกการฆ่าเดก็ และผา่ เอาอวยั วะภายในออกไป เน่ืองจากในการสอบสวนพบวา่ ซีอุยไดเ้ คยไปพกั อาศยั ตาม แหล่งต่าง ๆ ที่เกิดคดีเหล่าน้นั ซ่ึงซีอุยยอมรับสารภาพวา่ เป็ นผกู้ ่อเหตุดงั กล่าว รวม 7 คดี ซ่ึงไม่มีใครทราบ แน่ชดั ว่าเป็ นเร่ืองจริงหรือไม่ หรือซีอุยอาจจะรับสารภาพตามคาแนะนาของตารวจท่ีตอ้ งการจะปิ ดคดี เหล่าน้นั แตไ่ มว่ า่ ซีอุยจะประกอบคดีเหล่าน้ีจริงหรือไม่ แต่เร่ืองที่เกิดข้ึนก็ทาใหช้ ื่อของซีอุยกลายเป็ นที่รู้จกั ของคนทว่ั ประเทศไปแลว้ โดยเฉพาะเดก็ ๆ ที่กลวั ซีอุยกนั มากจนถึงขนาดวา่ เวลาเดก็ คนไหนด้ือมากซนมาก พอถูกขวู่ า่ ระวงั ซีอุยจะมากินตบั เท่าน้นั เด็กที่ด้ือก็ถึงกบั กลวั จนหายด้ือหายซนกนั เป็ นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ใน ท่ีสุดศาลไดต้ ดั สินใหป้ ระหารชีวติ ซีอุยในความผดิ ฐานฆาตกรรมเดก็ ชายสมบูรณ์ และไดถ้ ูกประหารชีวิตใน วนั ท่ี 16 กนั ยายน พ.ศ. 2502 ซ่ึงหลงั จากการประหารชีวิตแลว้ ทางโรงพยาบาลศิริราชไดข้ อรับศพของซีอุย เพื่อมาทาการศึกษาวิจยั และยงั คงเก็บรักษาไวท้ ี่พิพิธภณั ฑ์ทางการแพทยข์ องโรงพยาบาลศิริราชตลอดมา และในวนั ที่ 23 กรกฎาคม 2563 ไดม้ ีการเผาศพซีอุย ที่วดั บางแพรกใต้ จงั หวดั นนทบุรีเป็นท่ีเรียบร้อยแลว้ ที่มำของคำว่ำ เมืองแพร่แห่ระเบิด โดยสานวนน้ีมีท่ีมาโดยในปี พ.ศ. 2499 นายมา สุภาแกว้ และนายชาญณรงค์ อินปันดี ท้งั สองคนไดน้ าชา้ ง ไ ป รั บ จ้า ง ล า ก ไ ม้ซุ ง ท่ี ถู ก ลัก ล อ บ ตัด ทิ้ ง ไ ว้บ น เ ข า ใ ห้ กับ อ ง ค์ ก า ร อุตสาหกรรมป่ าไม้ ไดพ้ บเศษเหล็กกระจดั กระจายเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อยบู่ ริเวณเชิงเขาใกลล้ าน้ายมและใกลก้ บั สะพานรถไฟห้วยแม่ตา้ ดว้ ย ความสงสยั จึงไดข้ ดุ ดูและพบกบั ทอ่ นเหลก็ ขนาดใหญ่ซ่ึงเป็ นซากระเบิด สมยั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ซ่ึงเป็นระเบิดที่ทหารฝ่ ายสัมพนั ธมิตรนามาทิ้ง ทาลายสะพานรถไฟหว้ ยแมต่ า้ เพ่ือสกดั การเดินทางของทหารญี่ป่ ุนที่จะ เขา้ สู่ภาคเหนือและขา้ มแดนไปประเทศพม่า ซากระเบิดที่พบเป็ นระเบิด ท่ีทิง้ ลงมาจากเคร่ืองบินแลว้ ไม่ระเบิด ทหารสัมพนั ธมิตรจึงไดท้ าลายดว้ ยการตดั ส่วนหางของระเบิดเพื่อเอา เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 110
ดินปื นขา้ งในทิ้ง และทิ้งซากลูกระเบิดไวเ้ พราะไม่สามารถนาระเบิดกลบั ไปไดเ้ น่ืองจากน้าหนกั มาก และ ห่างจากบริเวณท่ีขดุ พบระเบิดลูกที่หน่ึงประมาณ 10 เมตร ก็ไดเ้ จอกบั ระเบิดอีกลูกหน่ึง ท้งั สองจึงไดใ้ ชช้ า้ ง ลากลูกระเบิดข้ึนมาจากหลุมและลากมาไวบ้ ริเวณปางไมร้ ิมน้ายม จากน้นั ไดน้ าซากระเบิดข้ึนแพไมส้ ักของ องคก์ รอุตสาหกรรมป่ าไม้ เพ่ือนามาข้ึนฝ่ังบริเวณปากลาห้วยแม่ลานในเขตตาบลปากกาง แลว้ ใชช้ า้ งลาก ซากระเบิดมาไวท้ ่ีบา้ น โดยแบ่งซากระเบิดกนั คนละลูก และนาซากระเบิดไปต้งั ไวใ้ กลบ้ นั ไดบา้ นเพ่ือใส่น้า ไวล้ า้ งเทา้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2516 นายมา สุภาแกว้ ไดน้ าซากระเบิดไปถวายวดั ศรีดอนคา เพื่อทาเป็ นระฆงั เน่ืองจากเคาะดูแลว้ มีเสียงดงั กงั วาน โดยในวนั ท่ี 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2516 ไดน้ าใส่เกวยี นแห่ร่วมกบั ขบวน แห่ครัวทาน(เคร่ืองไทยทาน) งานประเพณียี่เป็ ง(ลอยกระทง)ของหมู่บา้ นดอนทราย ในขบวนแห่มีการนา ฆอ้ ง กลอง มาตีกนั อยา่ งสนุกสนาน จึงเกิดคาว่า “แพร่แห่ระเบิด” ข้ึน และในวนั ท่ี 10 ธนั วาคม พ.ศ.2516 นายชาญณรงค์ อินปันดี ไดน้ าซากระเบิดอีกลูกไปถวายใหว้ ดั นาตุม้ อ.ลอง จ.แพร่ รู้จักกับเจ้ำหนูแฮมทำโร่ การ์ตูนแฮมทาโร่ ถือกาเนิดข้ึนในเดือนเมษายน ค.ศ. 1997 คาซึฮิโกะ คุโรคาวะ ผู้ เป็นหวั หนา้ กองบรรณาธิการของนิตยสารโชงะคุนิเน็ง เซ ในสมยั น้นั ไดเ้ สนอความคิดวา่ น่าจะเอาแฮมสเตอร์ ซ่ึงเป็ นท่ีชื่นชอบของเด็กๆ มาเป็ นตวั เอกการ์ตูนบา้ ง ประจวบกบั ท่ีตวั ผูแ้ ต่ง ริสึโกะ คาวาอิ เองก็เล้ียงแฮม สเตอร์เป็ นสัตวเ์ ล้ียงอยู่แลว้ การ์ตูนที่มีตวั เอกเป็ นแฮม สเตอร์อย่างเรื่ อง แฮมทาโร่ จึงได้ถือกาเนิดข้ึนมา จากน้นั ในปี ค.ศ. 2000 แฮมทาโร่ก็ไดร้ ับการสร้างเป็ น ภาพยนตร์อะนิเมะ ออกอากาศทุกวนั ศุกร์ เวลา 18.30 น. (ตามเวลาประเทศญี่ป่ ุน) ทางสถานีทีวโี ตเกียว โดย หลงั จากท่ีออกฉายก็ไดร้ ับความนิยมเป็นอยา่ งสูงในหมผู่ ชู้ ม ท้งั เดก็ เล็กและเด็กโต ซ่ึงจากความนิยมอยา่ งลน้ หลามในญ่ีป่ ุนน้ีเอง แฮมทาโร่จึงไดอ้ อกอากาศในหลายๆประเทศ รวมท้งั ประเทศไทยดว้ ย นอกจากน้ียงั สร้างเป็ นภาพยนตร์จอเงิน OVA และเกมอีกหลากหลายภาค ส่งผลใหแ้ ฮมทาโร่กลายเป็ นตวั การ์ตูนยอดฮิต อีกตวั หน่ึงท่ีโด่งดงั มากไม่แพ้ โดราเอมอน หรือ โปเกมอน เลย โดยตวั ละครเอกในเร่ืองคือ แฮมทาโร่ (ช่ือ ญี่ป่ ุน:ハム太郎, ฮามุทาโร่ / ชื่อองั กฤษ:Hamtaro) เพศผู้ เกิดวนั ท่ี 6 สิงหาคม ราศีกรกฎ สูง 8.6 ซม. แฮมสเตอร์ตวั น้อยท่ีเขา้ ใจความรู้สึกของคนอื่นๆเป็ นอยา่ งดี มีนิสัยร่าเริง และมกั จะมองโลกในแง่ดีเสมอ ชอบช่วยเหลือผอู้ ่ืน เป็ นฮีโร่ในดวงใจของแฮมสเตอร์ทุกตวั ชอบริบบอ้ นจงั และตวั ริบบอ้ นจงั เองก็ชอบเขา ดว้ ยเหมือนกนั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 111
มำรู้จักกบั แยกคอกววั แยกคอกววั เป็นส่ีแยกที่เป็นจุดตดั ระหวา่ งถนนราชดาเนินกลางกบั ถนนตะนาว ต้งั อยู่ ในแขวงบวรนิเวศ และแขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ส่วนสาเหตุท่ีช่ือแยกคอกววั ราวร้อย กวา่ ปี มาแลว้ ในยคุ ตน้ รัตนโกสินทร์ ท่ีเรามีพระมหากษตั ริย์ 2 พระองคท์ ่ีมีการบนั ทึกไวว้ า่ ท้งั 2 พระองคน์ ้นั ทรงโปรดปรานการเสวย นมววั โดยในคร้ังแรกน้นั เกิดข้ึนในรัชสมยั ของพระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้า เจา้ อยหู่ ัวน้นั ไดม้ ีการบนั ทึกไวใ้ น สาสน์สมเด็จฯ วา่ รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดปรานการเสวยนมววั เป็ นย่ิงนกั ดงั น้นั พระองคจ์ ึงทรงโปรดให้มีการเล้ียงววั หลวงพนั ธุ์ใหน้ ้านมเป็ นจานวนมาก ท้งั น้ีก็เพื่อไวใ้ ชเ้ สวย และ ใชถ้ วายแด่พระสงฆท์ ี่บิณฑบาตรโดยพระองค์เองดว้ ย ซ่ึงทุกเช้าจะมีแขกนุ่งห่มเย่ียงพราหมณ์จากบริเวณ พ้ืนที่ระหว่างป้ อมมหากาฬ และพระบรมมหาราชวงั นาขวดนมววั จากคอกววั หลวงน้ี ไปส่งที่ประตูสนาม ราชกิจในพระบรมมหาราชวงั ทุกวนั อีกท้งั นมววั น้ี จะตอ้ งนาไปต้งั ไวใ้ ห้กบั พระราชาคณะไวฉ้ นั รองทอ้ ง ก่อนเพลเสมอ และดว้ ยเหตุที่ ในหลวงรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดที่จะเสวยน้านมววั ทุกๆ วนั นนั่ เอง พระองคจ์ ึง ทรงโปรดฯ ให้สร้างคอกววั หลวงข้ึน เพ่ือใชส้ าหรับเล้ียงววั นมท่ีจะตอ้ งรีดส่งราชสานกั ทุกวนั โดยโปรดฯ ให้สร้างข้ึนไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวงั มากนกั คร้ันพอมาถึงรัชกาลท่ี 4 พระองคก์ ็ทรงโปรดปรานการ เสวยนมววั เช่นกนั ดงั น้ัน คอกววั น้ีจึงอยู่มาไดห้ ลาย สิบปี กาลล่วงเขา้ สู่ รัชสมยั ของพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หัว พระองค์ทรงปรับพ้ืนที่ในเขต พระนครเป็ นการใหญ่ เพื่อท่ีจะรับกบั แผนการขยาย เมือง ดงั น้นั พระองคจ์ ึงโปรดฯ ให้ปรับพ้ืนที่โดยรอบ พระบรมมหาราชวงั เรื่อยไปจนถึงบริเวณคลองคูเมือง เดิมใหเ้ ป็นอาคารบา้ นเรือนแทน รวมท้งั คอกววั ท่ีถนน ราชดาเนินน้ีดว้ ย ดงั น้นั อดีตที่ต้งั ของ คอกววั จึงไดเ้ หลือแต่ชื่อ ที่ทิ้งเอาไวเ้ ป็ นอนุสรณ์วา่ อดีตน้นั เราเคยมี การเพาะเล้ียงววั นมอยู่ ณ บริเวณพ้นื ท่ีหลวงน้ีมาก่อน ทำไมสนำมหลวงถึงปลูกต้นมะขำม ตน้ มะขามท่ีปลูก ในสนามหลวง ปลูกสมัย พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว โปรดฯให้ปลูกต้นมะขามไว้ รอบๆสนามหลวง จานวน 365 ตน้ โดยปลูก 2 แถว วดั จากถนน 3 เมตรปลูกแถวนึง เวน้ 1.50 เมตร ปลูกอีก แถวนึง ระยะห่าง แตล่ ะตน้ 7 เมตรแต่ปัจจุบนั มีการปลูก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 112
เพิ่ม โดยนบั ได้ 708 ตน้ โดยแบ่งออกเป็น 4 แถว แถวท่ี 1 ติดถนน มี 198 ตน้ แถวที่ 2 ถดั มา มี 198 ตน้ แถวท่ี 4 ติดสนามหญ้ามี 165 ตน้ ส่วนแถวท่ี 3 มี 147 ต้น และมีตน้ นกยูงแซมอยู่ 38 ตน้ ในแถวที่ 3 ทาไมตอ้ งปลูกตน้ มะขาม เพราะ 1.ชือของมนั มะขาม เน่ืองจากสนามหลวงเป็ นพ้ืนท่ีของพระมหากษตั ริยจ์ ึง ตอ้ งนาตน้ ไมท้ ีมีช่ือมงคลหรือชื่อที่ดูดีเพราะทาให้ดูใหญ่โตเหมือนคาวา่ เกรงขาม 2.พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนาแบบอย่างการปลูกต้นไมร้ อบสนามหลวงมาจากอินโดนีเซีย ในสมยั น้ัน ฮอลนั ดาจะปกครองหมู่เกาะเหล่าน้ีเป็ นอาณานิคม แต่ก็ยงั มีสุลต่านสุสุหูนนั เป็ นเจา้ ผูค้ รองนครปกครอง เมืองยอ็ กยา (Yogyakarta) และเมืองโซโล (Surakarta) เกาะชวา หนา้ พระราชวงั ของสุสุหูนนั (Kraton) ท้งั สองเมืองน้ีจะมีสนามหลวงเหมือนกนั ภาษาอินโดนีเซียเรียกวา่ \"Alun Alun\" ในสมยั น้นั มีการปลูกตน้ ไม้ โดยรอบสวยงามดี รัชกาลท่ี 5 เสด็จประพาสชวาไปพบเห็นบรรยากาศสนามท่ีมีตน้ ไม้รอบดูสวยงาม เรียบร้อย เลยนาแบบอยา่ งมาปรับปรุงทุ่งพระเมรุในพระนครบา้ ง ทำไม 29 กรกฎำคม ถึงเป็ นวนั ภำษำไทยแห่งชำติ สางเหตุที่วนั ที่ 29 กรกฎาคม เป็นวนั ภาษาไทย เน่ืองมาจาก ในวนั ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดาเนินไป ทรงเป็ นประธานและทรงอภิปรายเรื่อง \"ปัญหาการใช้คาไทย\" ร่วมกับผูท้ รงคุณวุฒิในการประชุมทาง วชิ าการของชุมนุมภาษาไทย คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ทรงแสดงความห่วงใย ในภาษาไทย ทาให้ผู้ร่ วมประชุมคร้ังน้ัน ประทบั ใจ พระราชดารัสตอนหน่ึงวา่ เรามีโชค ดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควร อยา่ งย่ิงท่ีจะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในดา้ นรักษา ภาษาน้ีก็มีหลายประการ อยา่ งหน่ึงตอ้ งรักษาใหบ้ ริสุทธ์ิในทางออกเสียง คือ ให้ออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ งชดั เจน อีกอย่างหน่ึงตอ้ งรักษาให้บริสุทธ์ิในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คามาประกอบประโยค นบั เป็ นปัญหาที่ สาคัญ ปัญหาท่ีสาม คือ ความร่ารวยในคาของภาษาไทย ซ่ึงพวกเรานึกว่าไม่ร่ารวยพอ จึงต้องมีการ บญั ญตั ิศพั ทใ์ หมม่ าใชส้ าหรับคาใหมท่ ี่ต้งั ข้ึนมีความจาเป็นในทางวชิ าการไมน่ อ้ ย แต่บางคาที่ง่าย ๆ ก็ควรจะ มี ควรจะใชค้ าเก่า ๆ ที่เรามีอยแู่ ลว้ ไม่ควรจะ มาต้งั ศพั ทใ์ หม่ใหย้ งุ่ ยาก รัฐบาลไดป้ ระกาศใหว้ นั น้ีเป็ นวนั สาคญั ต้งั แต่ พ.ศ. 2542 เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 113
รู้จักกบั โคเคน โดเคนน้นั เป็นสารท่ีไดจ้ ากการสกดั จากใบของตน้ โคคา (Coca) ซ่ึงพบมากในอเมริกาใต้ โดย เริ่มตน้ จากเม่ือประมาณ 1,000 ปี ก่อน ชาวอินเดียแดงในเปรูมีวฒั นธรรมในการเค้ียวใบโคคา และใบโคคาน้ี ไดเ้ ขา้ ไปในยุโรปและอเมริกา และเม่ือถึงถึงศตวรรษท่ี 19 Sigmund Freud ปรมาจารยท์ างจิตเวช นาสารที่ สกดั จากตน้ โคคามาใช้เป็ นยารักษาโรคจิต ซึมเศร้า และภาวะติดยาเสพติดอื่นๆ ต่อมาทางการแพทยใ์ ช้ โคเคนเพื่อเป็ นยาชาเฉพาะที่ ขณะเดียวกนั มีการนาไปผลิตเครื่องดื่มที่ทาจากใบโคคาและ caffeine ใชช้ ื่อวา่ Coca Cola ไดร้ ับความนิยมอยา่ งแพร่หลาย จนถึงศตวรรษท่ี 20 บริษทั เครื่องดื่มไดส้ กดั เอาโคเคนออกจาก ใบโคคา ตามพระราชบญั ญตั ิยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 โคเคนจดั อยใู่ นยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภทท่ี 2 คือ ยาเสพติดประเภทน้ีสามารถนามาใชเ้ พ่ือประโยชน์ทางการแพทยไ์ ด้ แต่ตอ้ งใช้ในการควบคุมของแพทย์ และใชเ้ ฉพาะกรณีท่ีจาเป็ นเท่าน้นั ซ่ึงกลุ่มน้ีประกอบดว้ ย ฝ่ิ น มอร์ฟี น โคเคน หรือโคคาอีน โคเคอีน และเม ทาโดน โดยมีบทลงโทษสาหรับผผู้ ลิต นาเขา้ หรือส่งออก จะตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่ 20 ปี ข้ึนไปจนถึงตลอดชีวิต และปรับต้งั แต่ 2 ลา้ นบาท ถึง 5 ล้านบาท ดา้ นผเู้ สพก็มีโทษ เช่นกนั ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่ 6 เดือน ถึง 3 ปี หรือปรับต้งั แต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ โดยข้นั ตอนการผลิตโคเคน น้นั มี 2 ประเทศหลกั ท่ีผลิต คือ เปรูและโบลิเวีย เป็ น แหล่งแปรสภาพใบโคคาเป็ น COCA PASTE และ COCA BASE ซ่ึงจะแปรเป็ น COCAINE HYDROCHLORIDE หรือโคเคนบริสุทธ์ิ ซ่ึงกลุ่มผเู้ สพมกั นิยมเรียกวา่ COKE , SNOW , SPEED BALL , CRACK ฯลฯ สาหรับในประเทศไทยพบโคเคนใน 2 ลกั ษณะ คือ 1.ชนิดผง มีลกั ษณะเป็ นผงละเอียด สีขาว มีรสขม ไมม่ ีกล่ิน 2.ชนิดผลึกเป็ นกอ้ น หรือเรียกวา่ แคร็ก ท้งั น้ีความแตกต่างของโคเคนท้งั 2 ชนิดคือ แคร็ก จะเสพโดยการสูบ ทาให้เกิดอารมณ์สนุกสนานเร็วกวา่ มาก ภายในระยะเวลาเพียง 10 วนิ าที และมีฤทธ์ิอยู่ นานถึง 5-15 นาที นอกจากน้ีจะทาให้เคลิบเคลิ้ม มีความสุขมากกว่า เสพติดง่ายกว่า แต่จะทาให้ผูเ้ สพ อ่อนแอและเกิดโรคทางกายเร็วและรุนแรงกวา่ อาการท่ีปรากฏ ขณะที่โคเคนผงน้นั เสพดว้ ยการสูดดม ออก ฤทธ์ิชา้ กวา่ แตอ่ ยไู่ ดน้ านใกลเ้ คียงกนั เมื่อเสพแคร็กดว้ ยกลอ้ งสูบไปป์ พิษของโคเคนท่ีมีต่อร่างกาย มีลมใน ช่องอก เนื่องจากผปู้ ่ วยหายใจอยา่ งแรงเพื่อดูดซึมโคเคนไดม้ ากที่สุด ทาให้ผนงั ช่องปอดฉีกขาด หายใจไม่ ออก และอาจเสียชีวิตเป็ นโรคไซนสั อกั เสบ เลือดออกในจมูก และผนงั ก้นั ในจมูกทะลุน้าหนกั ลดมาก โดย โคเคนกดสมอง ทาใหไ้ มอ่ ยากรับประทานอาหาร อาจเป็นโรคหวั ใจขาดเลือด และเสียชีวิต แมอ้ ายยุ งั นอ้ ยใจ สั่นหวั ใจเตน้ ไม่สม่าเสมอมีอาการชกั แบบโรคลมบา้ หมู เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 114
ทม่ี ำของช่ือถั่วลันเตำ ถั่วลันเตำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Pisum sativum) จดั อยใู่ นตระกูลถวั่ มีถิ่นกาเนิด แถบ ประเทศ เอธิโอเปี ย ต่อมา แพร่กระจายปลูก ในแถบ เมดิเตอร์เรเนียน และเอเชีย และเขตอบ อุ่นต่างๆ ของ โลก ถว่ั ลนั เตา เป็นพชื ฤดูเดียว มีใบแบสลบั ปลายใบ เปล่ียน เป็ นมือเกาะ การเจริญ เติบโตแบบพุ่ม หรือ ข้ึนคา้ ง บางสายพนั ธุ์ อาจมีเฉพาะ ใบบางพนั ธุ์ อาจมี เฉพาะ มือเกาะ ใบมีสีเขียวอ่อน ถึงสีเขียวเขม้ ลาตน้ เล็ก เป็ นเหล่ียม รากเป็ นระบบ รากแกว้ ดอกเป็ นแบบ ดอกสมบูรณ์เพศ ผสมตวั เอง สามารถแบ่ง ประเภท ของ ถว่ั ลนั เตาเป็ น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภท ฝักเหนียว และแข็ง เมล็ดโต นิยมปลูกเพื่อ รับประทานเมล็ด ส่วนอีกชนิดปลูก เพอ่ื รับประทานฝักสด โดยฝักจะมี ขนาดใหญ่ มีปี ก เป็ นตน้ โดยที่มาของชื่อ มาจากคาใน ภาษาจีนวา่ ห่อหลน่ั เตา หรือ ห่อหลน่ั เตา่ ห่อหลน่ั คือ ฮอลแลนด์ เตา หรือ เต่า แปลวา่ ถวั่ ภาษาไทยเรียกถวั่ ชนิดน้ีวา่ ลนั เตา โดยตดั คาเรียกในภาษาจีนใหส้ ้ันลง แลว้ เติมคาวา่ ถวั่ เขา้ ขา้ งหนา้ เป็น ถวั่ ลนั เตา ทมี่ ำของคำว่ำโป๊ คำว่ำ ‘โป๊ ’ มีท่ีมาจากยุคโรงหนงั ไทยเฟื่ องฟู ตอนน้นั หนงั แต่ละเร่ืองยาวไม่เท่ากนั เรื่องไหนส้ันหน่อยคนดู จะหงุดหงิดเพราะรู้สึกไม่คุม้ เจ้าของโรงหนังชาวจีนเลยเกิด ไอเดียคดั สรรหนงั ส้ันมาฉายควบ ปรากฏวา่ ท่ีพีกสุดคือหนงั นุ่ง นอ้ ยห่มนอ้ ย ทีน้ีดว้ ยความท่ีเป็นหนงั ซ่ึงถูกเพิ่มเขา้ มา หนงั พวก น้ีเลยถูกเรียกวา่ ‘หนงั โป๊ ว’ ซ่ึงเป็นคาจีนแตจ้ ๋ิวแปลวา่ ซ่อมแซม เพิ่มเติม เสริมสร้าง บารุง เวลากินยาโด๊ปท้งั หลาย คนจีนเลยพูดว่า กินยาโป๊ ว ส่วนหนงั โป๊ วน้นั พูดไปพูด มาเลยกลายเป็น ‘หนงั โป๊ ’ ในท่ีสุด ทำไมเรียกซีรำย์ชำยรักชำย วา่ ซ่ีรีย์ วาย ตวั Y น้นั มาจากคา วา่ やおい YAOI (ยะโออิ) やおい YAOI (ยะ โออิ) เป็ นคาศพั ท์ที่มีตน้ กาเนิดมาจากญี่ป่ ุน ใช้ในวงการ นิยายและการ์ตูน เร่ิมแรกเดิมทีคาน้ีหมายถึง ประเภทหน่ึง ของงานโดจินชิซ่ึงเป็ นผลงานลอ้ เลียนมงั งะหรืออะนิเมะที่ กาลัง เป็ นท่ีนิยมในขณะน้ัน แต่ปัจจุบันความหมายได้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 115
เปล่ียนไปกลายเป็น ลกั ษณะความสัมพนั ธ์แบบรักร่วมเพศเชิงอีโรติกหรือโรแมนติกระหวา่ งชายกบั ชาย ซ่ึง อยใู่ นรูปแบบของมงั งะ อะนิเมะ เกม นิยาย และโดจิน ต่อมาในญี่ป่ ุนไดเ้ กิดคาศพั ทใ์ หม่แทนที่ ยะโอะอิ คือ คาว่า บ อย ส์ เลิ ฟ (Boy's Love) (ボーイズラブ Booizu Rabu) แมช้ ่ือจะบอกวา่ เป็นความรักของเดก็ หนุ่ม แตใ่ นความเป็นจริงแลว้ สามารถใชไ้ ดก้ วา้ งต้งั แต่เรื่องราวระหวา่ ง วยั รุ่นไปจน ถึงคนสูงวยั ถา้ เป็ นคนอายุมากกว่าจะเรียก โลลิค่อน ส่วนในต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ไทย ยงั คงนิยมใชค้ าวา่ ยะโอะอิ คาวา่ やおい YAOI (ยะโออิ) หรือความรักร่วมเพศระหวา่ งชาย-ชาย จริงๆ มนั เป็นคายอ่ มาจาก .... 山なし (ยะมะนะชิ - ไม่มีไคลแมก็ ซ์) 落ちなし (โอจินะชิ - ไม่มีมุข จบ) 意味なし (อิหมินะชิ - ไม่มีสาระ) รวมกนั เป็นคาวา่ ยะ-โอ-อิ YA-O-I ความหมายนยั ๆ ของมนั ก็ คืออยากเขียนอะไรกเ็ ขียนๆ ไปตามใจชอบ จะจบั คู่หนุ่มไหนกบั หนุ่มไหนก็เชิญ ไม่จาเป็ นตอ้ งคิดหาเหตุผล อะไรมากมาย ขอแค่ จิน้ ออกมาแลว้ อิ่มเอมใจเป็นพอ เกม กับ เกมส์ ต่ำงกันอย่ำงไร ความแตกต่างของการใชค้ าวา่ \"เกม\" กบั \"เกมส์\" อธิบายโดยใชห้ ลกั เกณฑ์ การทบั ศพั ท์ของราชบณั ฑิตยสภาได้ดงั น้ี คาว่า \"เกม\" เขียนทบั ศพั ทม์ าจากภาษาองั กฤษว่า game พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ใหค้ วามหมายของคา ว่า \"เกม\" ไวว้ ่า หมายถึง การแข่งขนั ที่มีกติกากาหนด เช่ น เกมกี ฬ า การเล่นเพ่ือความสนุ ก เช่ น เก ม คอมพิวเตอร์ การแสดงเพื่อสาธิตกิจกรรม เช่น เกมการ บริหาร โดยปริยายหมายถึง การแสดงที่ใชก้ ลวิธีหรือเล่ห์ เหล่ียม เพ่อื หกั ลา้ งกนั เช่น เกมการเมือง ลกั ษณนามเรียก การแข่งขันหรื อการเล่นท่ีจบลงด้วยการแพ้ชนะกันคร้ังหน่ึง ๆ เช่น เล่นแบดมินตัน 3 เกม ส่วน \"เกมส์\" ใชเ้ มื่อเป็นชื่อเฉพาะ \"เกมส์\" คาน้ีถอดทบั ศพั ทม์ าจากคาภาษาองั กฤษวา่ games ซ่ึงมี s ตามหลงั เสมอ คาวา่ games น้ีหมายถึงการแข่งขนั กีฬารายการใหญ่ ๆ ท่ีมีการแข่งขนั กีฬาหลายประเภท เช่น เอเชียน เกมส์ โอลิมปิ กเกมส์ คาเหล่าน้ีเป็นชื่อเฉพาะ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 116
Sex กบั Gender ต่ำงกนั อย่ำงไร sex คือเพศทางกายภาพ เช่น เกิดมาเป็ น เพศชาย หรือ หญิง ส่วน gender คือเพศ ทางจิตใจ คือสภาพจิตใจคิดวา่ ตนเองเป็ นเพศใด ดงั น้นั gender เป็ น\"เพศ\"ในความหมายของการรับรู้ และ บทบาททางสังคม ซ่ึงอาจตรงหรือไม่ตรงกบั เพศท่ีไดม้ า จากการเกิดกไ็ ด้ ควำมแตกต่ำงระหว่ำง โรงแรม กบั รีสอร์ท เราสามารถแยกความแตกต่างระหวา่ งรีสอร์ตกบั โรงแรมไดด้ งั น้ี 1.วตั ถุประสงคใ์ นการสร้าง โรงแรมจะมีท่ีพกั และอาหาร ซ่ึง จะมีระดบั ส่ิงอานวยความสะดวกที่แตกต่างกนั ไป ข้ึนอยกู่ บั ราคาและระดบั ดาว สาหรับรีสอร์ต จะมีอาหารและสิ่งอานวยความสะดวกพ้ืนฐาน เช่นเดียวกบั โรงแรม ตอ้ งการใหเ้ ป็นสถานที่พกั ผอ่ นท่ีมีความ สะดวกสบาย ผอ่ นคลาย โดยไมต่ อ้ งออกไปจากรีสอร์ตเลย เพราะมีใหค้ รบหมดแลว้ 2.ทาเลที่ต้งั โรงแรมมกั จะอยใู่ จกลางเมืองหรือสถานท่ีที่มีคนพลุกพล่าน เดินทางสะดวก ในขณะที่ รีสอร์ ตมกั จะอยหู่ ่างไกลจากผคู้ น เพราะตอ้ งการความสงบ ใกลช้ ิดธรรมชาติ มีสภาพแวดลอ้ มสวยงาม พ้นื ท่ี กวา้ งขวาง และมีการจดั กิจกรรมตา่ งๆ ภายในรีสอร์ต 3.ลกั ษณะที่พกั โรงแรมมกั จะเป็นตึกหลายช้นั และมีหอ้ งพกั หลายหอ้ งในแตล่ ะช้นั ในขณะที่รีสอร์ตจะทา เป็นบา้ นพกั แยกเป็นหลงั ๆ เพ่อื ความเป็นส่วนตวั เพราะฉะน้นั จานวนหอ้ งพกั ของโรงแรมส่วนใหญจ่ ึงมี มากกวา่ รีสอร์ต 4.กลุ่มลูกคา้ จุดมุ่งหมายสาหรับคนที่จะมาพกั กแ็ ตกตา่ งกนั ไปดว้ ย ถา้ เป็นรีสอร์ตส่วนใหญม่ กั จะมากนั เป็น หม่คู ณะหรือเป็นครอบครัว เพราะมีกิจกรรมใหท้ าเยอะกวา่ โรงแรม ส่วนโรงแรมจะเหมาะสาหรับคนที่มา ติดต่อเร่ืองธุรกิจ หรือจดั งานต่างๆ ตอ้ งการแค่สถานที่พกั ไมไ่ ดต้ อ้ งการกิจกรรมอ่ืนๆ นอกเหนือจากที่พกั และอาหาร ส่วนใหญ่แลว้ คนจึงมกั จะพกั ท่ีรีสอร์ตเป็ นระยะเวลานานกวา่ โรงแรม อยา่ งไรกต็ าม ส่ิงที่เหมือนกนั ของท้งั โรงแรมและรีสอร์ต ก็คือ ต่างก็มีสิ่งอานวยความสะดวกเหมือนกนั เช่น ฟรีWi-Fi, ท่ีจอดรถฟรี เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 117
ทำไม เวลำจัดงำนศพของทหำรต้องเป่ ำแตร การเป่ าน้นั เรียกวา่ แตรนอนครับ เป็นสัญญาณแตรเด่ียว - แตรนอน บอกเวลานอนสาหรับทหารในยามปกติ แต่น้ีก็ใช้เป็ น เพลงในพธิ ีศพของทหารดว้ ยเช่นกนั โดยจะเป่ าในเวลา ที่กาลงั ฝังร่างผตู้ ายลงหลุมศพ หรือในเวลาจุดไฟเผาศพ เพลงน้ีมีที่มาจากเหตุการณ์เม่ือคร้ังสงครามกลางเมือง ระหวา่ งฝ่ ายเหนือ-ใต้ เมื่อปี ค.ศ. 1862 ร.อ.โรเบิร์ท เอลลิคอม แห่งกองทพั สหพนั ธรัฐฝ่ ายเหนือ ท่ีมีท่ีมน่ั อยู่ ค่ายแฮริสัน รัฐเวอร์จิเนีย ตอ้ งสูญเสียลูกชาย (ผูซ้ ่ึงเดินทางไปเรียนวิชาดนตรีท่ีดินแดนฝ่ ายใต้ก่อนเกิด สงครามไมน่ านและไดส้ มคั รเป็ นทหารของฝ่ ายใต)้ ในวนั หน่ึงมีการรบทีหนกั น่วง และในคืนหน่ึงเม่ือเงียบ เสียงปื นลง ก็มีแต่เสียงผบู้ าดเจบ็ ร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหสั และโหยหวนท้งั สองฝ่ าย โดยท่ีไม่มีใครกลา้ เขา้ ไปช่วยเหลือ และการสู้รบกย็ งั ดาเนินตอ่ ไป จนผา่ นไปสองสามวนั จึงสงบลง และส่ิงท่ีน่าสะเทือนใจก็คือ ผเู้ ป็นพอ่ ท่ีอยฝู่ ่ ายหน่ึง ไดพ้ บศพลูกชายของเขาท่ีอยอู่ ีกฝ่ ายหน่ึง โดยสองสามวนั ก่อนน้นั เขา้ ก็ไดย้ ินเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือแต่เขาก็ไม่ไดค้ ิดจะทาอะไรเพื่อเป็ นการช่วยเหลือคนเจ็บเลย เขาจึงขอจดั งานศพของลูก ชายเขาเพ่ือให้สมเกียรติ แต่ผบู้ งั คบั บญั ชาไม่อนุญาติโดยให้เหตุผลวา่ ลูกชายของเขาเป็ นศตั รู และจากการ ตรวจภายในกระเป๋ าของลูกชาย เขาไดเ้ จอโนต้ เพลง เขาเลยขอพลแตรให้เป่ าตามโนต้ ในระหวา่ งฝังศพลูก ชายเขา และเม่ือแตรเด่ียวเริ่มเป่ า ทานองและเสียงแตรมนั มีความโศกเศร้าเป็ นอย่างมากสาหรับคนที่ไดย้ ิน และมนั กก็ ลายเป็นทานองแตรเดี่ยวมาถึงปัจจุบนั รู้จักกบั “สำยล่อฟ้ ำ” ผูย้ ืนหยดั ตา้ นทานฟ้ าผา่ ช่วงหน้าฝนแบบน้ี สิ่งหน่ึงที่เป็ นปัญหาอยา่ งมากในการ ดารงชีวิตก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่ องของฝนฟ้ า คะนอง ซ่ึงถา้ มีแค่ฝนตกเฉย ๆ ก็ยงั พอทาเนา แต่ถ้ามีฟ้ าแลบฟ้ าร้องจนถึงฟ้ าผ่าด้วยแล้ว อ า จ จ ะ ส ร้ า ง อั น ต ร า ย ใ ห้ กั บ ผู้ค น ไ ด้ ม า ก โดยเฉพาะคนท่ีอยู่บนอาคารสูง ถ้าไม่มีการ ติดต้งั สายล่อฟ้ าเอาไวแ้ ล้วก็อาจจะกลายเป็ น เหยื่อของฟ้ าผ่าได้โดยง่าย สายล่อฟ้ า (Lightining rod หรือ lightning conductor) เป็ นอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการป้ องกนั อนั ตรายจากฟ้ าผา่ โดยการชกั นา ใหป้ ระจุไฟฟ้ าท่ีปลดปล่อยออกมาจากกอ้ นเมฆเม่ือเกิดฟ้ าผา่ ให้ไหลผา่ นสายล่อฟ้ าลงสู่พ้ืนโลก ช่วยทาให้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 118
อาคารรวมถึงวตั ถุส่ิงของอื่น ๆ ในบริเวณใกลเ้ คียงรอดพน้ จากความเสียหายจากการถูกประจุไฟฟ้ าจากฟ้ าผา่ ไหลผา่ นได้ บุคคลแรกท่ีประดิษฐส์ ายล่อฟ้ ากค็ ือ เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) นกั วิทยาศาสตร์ และรัฐบุรุษชาวอเมริกา ซ่ึงมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของฟ้ าผ่า และเชื่อว่าฟ้ าผ่าคือรูปแบบหน่ึงของ กระแสไฟฟ้ า นบั ต้งั แต่ปี 1746 แฟรงคลินจึงไดท้ าการทดลองเพ่ือศึกษาธรรมชาติของฟ้ าผา่ ดว้ ยการส่งวา่ วท่ี แขวนอุปกรณ์โลหะ เช่น ลูกกุญแจ หรือลูกโลหะกลม ข้ึนไปบนทอ้ งฟ้ าในขณะท่ีเกิดพายฝุ นฟ้ าคะนองอยา่ ง รุนแรง และพบว่ามนั สามารถช่วยชักนากระแสไฟฟ้ าจากฟ้ าผ่าลงมายงั พ้ืนดินได้ ดงั น้ันในปี 1752 แฟรงคลินจึงไดท้ ดลองติดต้งั อุปกรณ์ท่ีประกอบดว้ ยแท่งโลหะที่นาไฟฟ้ าติดต้งั ไวบ้ นดาดฟ้ าของโบสถแ์ ห่ง หน่ึงในเมืองฟิ ลาเดลเฟี ย และต่อสายไฟฟ้ าจากแท่งโลหะดงั กล่าวลงสู่พ้ืนดิน ซ่ึงปรากฏวา่ อุปกรณ์ของแฟ รงคลินช่วยทาใหโ้ บสถแ์ ห่งน้ีรอดพน้ จากความเสียหายในการถูกฟ้ าผา่ ไดส้ าเร็จ หลงั จากประสบความสาเร็จ ในการทดลองดงั กล่าวแลว้ แฟรงคลินก็ไดร้ ณรงค์ให้อาคารต่าง ๆ ในอเมริกาติดต้งั สายล่อฟ้ า และเนื่อง ดว้ ยแฟรงคลินเป็ นบุคคลท่ีมีชื่อเสียง จึงทาให้อาคารสูงในอเมริกาหันมาติดต้งั อุปกรณ์ป้ องกนั ฟ้ าผ่าตาม ความคิดของแฟรงคลินเป็ นจานวนมากจนแทบจะกลายเป็ นสัญลกั ษณ์ของอเมริกาในเวลาน้นั และต่อมาใน ยโุ รปกเ็ ริ่มมีการติดต้งั สายล่อฟ้ ากนั บา้ งเช่นกนั หลกั การทางานของสายล่อฟ้ ามาจากธรรมชาติของติฟ้ าผา่ จะ พยายามหาเส้นทางส้ันท่ีสุดที่จะเคล่ือนที่ลงมายงั พ้ืนโลก ดงั น้นั หากมีวตั ถุใดที่เป็ นตวั นาไฟฟ้ ท่ีอยจู่ ากพ้ืน โลกมากที่สุดในบริเวณน้นั กระแสไฟฟ้ าก็จะถูกชกั นาใหเ้ คล่ือนท่ีผา่ นวตั ถุน้นั เพื่อลงสู่พ้ืนโลก สายล่อฟ้ าจะ ประกอบดว้ ยเสาที่ทาจากโลหะท่ีนาไฟฟ้ าไดด้ ี เช่น อะลูมิเนียม ทองแดง ท่ีหวั เสาจะมีตวั ล่อ ความสูงของเสา ควรไม่นอ้ ยกวา่ 5 เมตรเพ่ือป้ องกนั อนั ตราย เสาจะต่อกบั สายนาลงดิน ซ่ึงทาจาโลหะตวั นา และร้อยใส่ใน ท่อที่แขง็ แรงและเป็นฉนวนไฟฟ้ าที่ดี เช่น PVC สายนาอาจจะมีหลายสายเพ่ือลดปริมาณกระแสไฟฟ้ าท่ีไหล ผา่ น ซ่ึงจะตอ้ งติดต้งั ห่างกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เมตร และไม่ต้งั อยใู่ กลก้ บั ส่ิงท่ีอาจจะนาไฟฟ้ าได้ เช่น ท่อประปา สายนาจะต่อเขา้ สู่ระบบดิน ซ่ึงจะทาหนา้ ท่ีชกั นาให้ประจุไฟฟ้ าลงสู่พ้ืนดินอีกที การติดต้งั ระบบสายล่อฟ้ า น้นั สามารถทาไดท้ ้งั การติดต้งั พร้อมกบั การก่อสร้างอาคารแห่งน้นั หรือการติดต้งั ในภายหลงั แมว้ า่ การ ติดต้งั อุปกรณ์สายล่อฟ้ าจะมีค่าใชจ้ ่ายอยบู่ า้ ง แต่เมื่อเทียบความปลอดภยั ต่อชีวิตและทรัพยส์ ินท่ีไดร้ ับแลว้ แน่นอนวา่ ยอ่ มเป็นการลงทุนที่คุม้ คา่ อยา่ งยง่ิ อยแู่ ลว้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 119
ทมี่ ำของกำรชู 3 นิ้ว วา่ กนั วา่ การชู 3 นิ้ว เป็ นกระแสท่ีไหลบ่ามาจากภาพยนตร์ระดบั แชมป์ บ็อกซ์ออฟฟิ ศ อยา่ ง “The Hunger Games” ภาพยนตร์เร่ืองดงั กล่าว ฉายภาพการปกครองแบบเผด็จการปลุกสร้างความกลวั จนประชาชนไม่กล้าแมแ้ ต่จะคิดแข็งขืนหรือต่อตา้ น เร่ืองราวย่อๆ คือคณะผูป้ กครองไดแ้ บ่งอาณาจกั ร ออกเป็ น 12 เขตการปกครอง และยงั ไดล้ ดทอนคุณค่าชีวิตมนุษยย์ น่ ย่อให้เหลือเป็ นเพียงความบนั เทิงช่วง ส้นั ๆ ดว้ ยการส่งั ใหแ้ ต่ละเขตส่งตวั แทน ชาย-หญิง มาร่วมเกม โดยมีการถ่ายทอดสดใหท้ ุกคนร่วมชม กติกา ง่ายๆ คือ “ฆ่า” กนั ให้หมด ... ใครรอดคือผูช้ นะ ทว่า เรื่องราวระหวา่ งบรรทดั ผลกั ให้นางเอกสามารถควา้ ชยั ในเกมมรณะน้ี หนาซ้าเธอยงั ช่วยให้ชายคนรักซ่ึงเป็ น ตัว แ ท น ข อ ง เ ข ต เ ดี ย ว กั น ร อ ด ค ว า ม ต า ย ด้ ว ย นบั เป็ นการ “ขบถต่อกฎ” ที่จบั ตอ้ งไดจ้ ริง นบั เป็ นการ ปลุกให้พลงั เงียบซ่ึงถูกกดทบั ด้วยอานาจกล้าคิด-กล้า พอท่ีจะยืนหยดั ลุกข้ึนสู้ ช่วงหน่ึงในเกมการแข่งข้ัน นางเอกไดช้ ูสัญลกั ษณ์ 3 นิ้ว ข้ึน ส่งต่อไปยงั ชาวเมือง อ่ืนๆ ที่กาลงั รับชมอยู่ ซ่อนนยั “กระดา้ งกระเด่ือง” ต่อ อานาจที่บีบค้นั ท่ีสุดแล้วเกิดพฤติกรรมเลียนแบบข้ึน และขยายออกเป็ นวงกวา้ ง ผปู้ กครองจึงตอ้ ง “ฆ่า” ทุกผู้ ทุกคนที่ชู 3 นิ้ว น่ันเป็ นเร่ื องของภาพยนตร์ ทว่า อีกความหมายท่ีซ่อนเร้นในสัญลกั ษณ์การชู 3 นิ้ว มาจากประวตั ิศาสตร์การ “ปฏิวตั ิฝร่ังเศส” ค.ศ.1789-1799 เป็ นการเปล่ียนผา่ นสังคม “ระบอบเก่า” จากยคุ ที่ ทุกอย่างถูกผูกขาดโดยเจา้ ขุนมูลนาย-อภิสิทธ์ิชน สู่ยุคท่ีคาขวญั ว่า เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” ถูก บญั ญตั ิไวใ้ นรัฐธรรมนูญฝร่ังเศสปี 2489 และ 2501 เสรีภาพ คือการเนน้ ในเสรีภาพของบุคคลหรือปัจเจกชน นิยม และไดข้ ยายไปในเรื่องเสรีภาพในดา้ นความคิด ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาหาความรู้ การพิมพแ์ ละ เผยแพร่ขา่ วสาร รวมท้งั เสรีภาพในทางการเมือง เสมอภาค คือความเท่าเทียมกนั ตามกฎหมายของปัจเจกชน ความเสมอภาคข้ึนอยกู่ บั หลกั ความเที่ยงธรรม ความเท่าเทียมกนั ในเร่ืองสิทธิและหนา้ ที่ เช่น ความเท่าเทียม ในดา้ นการเสียภาษี การรับใชช้ าติโดยการเป็นทหาร และสิทธิในการออกเสียงเลือกต้งั ภราดรภาพ คือความ เป็ นพี่เป็ นน้องกนั มนุษยท์ ุกคนจะตอ้ งมีความเท่าเทียมกนั และปฏิบตั ิต่อกนั ดุจพ่ีนอ้ ง ความเป็ นพี่เป็ นน้อง เป็นส่ิงที่ธรรมชาติมอบใหม้ นุษย์ คือ การไม่เนน้ ผวิ พรรณ หรือ เผา่ พนั ธุ์ นนั่ เป็นเร่ืองของประวตั ิศาสตร์ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 120
รู้จักกับเพลง Do You Hear the People Sing หรือในชื่อภาษาไทยวา่ ไดย้ ินเสียงประชาชนไหม เป็ นบท เพลงที่แต่งข้ึนโดย Claude-Michel Schönberg เพอื่ ใชใ้ นการแสดงละคร เวทีเร่ือง Les Misérables ซ่ึงเปิ ด แสดงคร้ังแรกในเดือนกันยายนปี 1980 ท่ีโรงละคร Palais des Sports ในปารีส ก่อนจะถูกจดั แสดงซ้าและ นาไปทาเป็ นภาพยนตร์อีกหลายคร้ัง โดย Les Misérables หรือท่ีชาวไทยรู้จกั กนั ในนาม ‘เหย่ืออธรรม’ เป็ นวรรณกรรมฝร่ังเศสที่เขียนโดย วกิ ตอร์ อูโก (Victor Hugo) นกั เขียนและรัฐบุรุษที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ซ่ึงมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่การ เปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองของฝร่ังเศสวุ่นวายที่สุด คือมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ระบอบกษตั ริย์ เป็นระบอบจกั รวรรดิและระบอบสาธารณรัฐ สลบั ไปมาอยหู่ ลายต่อหลายคร้ัง เพลง Do You Hear the People Sing? ถูกบรรเลงข้ึนในช่วงทา้ ยของเร่ือง ในปี 1832 เมื่อ ‘ฌอง วลั ฌอง’ ตวั เอกของเร่ือง และ ‘โคเซ็ตต’์ ลูกสาวบุญธรรม มีเหตุใหต้ อ้ งเขา้ ไปเกี่ยวพนั กบั กลุ่มปัญญาชนชาวปารีสซ่ึงลุกข้ึนมาต่อตา้ น กษตั ริยห์ ลุยส์ ฟิ ลลิปส์ เพื่อเรียกร้องให้ฝรั่งเศสเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษตั ริยเ์ ป็ นระบอบ สาธารณรัฐ ในเหตุการณ์กบฏเดือนมิถุนายน หรือ June Rebellion ซ่ึงเกิดข้ึนจริงในประวตั ิศาสตร์ โดย เหตุการณ์ในคร้ังน้นั เกิดข้ึนจากความไม่พอใจที่อานาจซ่ึงควรเป็ นของประชาชนถูกแยง่ ชิงไปคร้ังแลว้ คร้ัง เล่า โดยเฉพาะหลงั จากท่ีกษตั ริยช์ าร์ลส์ที่ 10 แห่งราชวงศบ์ ูร์บงถูกโค่นลงไดส้ าเร็จใน July Revolution ปี 1830 แต่แทนท่ีรัฐสภาในขณะน้นั จะสถาปนาระบอบสาธารณรัฐข้ึนในฝรั่งเศส กลบั ยกพระเจา้ หลุยส์- ฟิ ลิปป์ ข้ึนเป็ นกษตั ริยแ์ ทน หลงั จากที่ละครเวทีเวอร์ชนั่ แรกเปิ ดแสดงในปี 1980 หรือกวา่ 40 ปี มาแลว้ Do You Hear the People Sing? ถูกนาไปใชป้ ลุกใจทางการเมืองมาแลว้ นบั คร้ังไม่ถว้ นทวั่ โลก ไม่เวน้ แมก้ ระทง่ั ในประเทศไทย โดยส่ิงที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มคนที่นาเพลงน้ีมาใชร้ ณรงคแ์ ต่ละกลุ่ม กลบั อยใู่ นข้วั ความคิด และอุดมการณ์ท่ีแตกตา่ งแบบสุดข้วั ท้งั กลุ่ม นปช.และ กลุ่มพนั ธมิตร รวมถึง กปปส. เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 121
ทมี่ ำของช่ือสโมสร อตำลันตำ ช่ือสโมสรอตาลนั ตา (Atalanta) มาจากตานานเทพปกรณมั กรีก เป็ นลูกสาว ของพรานป่ า ต้งั แต่เด็ก เธอไดอ้ อกช่วยบิดาล่าสัตว์ และไดฝ้ ึ กฝน การวงิ่ ไล่ล่าสตั วป์ ่ า จนไดช้ ่ือวา่ เป็นผทู้ ่ีมีฝีเทา้ เป็นเลิศยงิ่ กวา่ ใคร (ถา้ เป็ นสมยั น้ีก็คงเป็ นแชมป์ วิ่ง 100 เมตรหญิงเหรียญทองโอลิมปิ ก) ขณะเดียวกนั เมื่อเธอเขา้ สู่วยั สาว ความงามของเธอก็เป็ นที่เลื่องลือ ไปทวั่ เช่นกนั จึงทาให้มีชายหนุ่มจานวนมากหมายปองในตวั เธอ แต่เธอก็ต้งั กฎไวว้ ่า ผูท้ ี่จะไดเ้ ธอไปครองน้นั จะตอ้ งวิ่งเอาชนะเธอ ใหไ้ ด้ แต่หากพ่ายแพ้ เธอจะสังหารชายผนู้ ้นั เสีย ซ่ึงแมว้ า่ เธอจะต้งั เง่ือนไขไวถ้ ึงเพียงน้ี แต่ก็ยงั มีชายหนุ่มจานวนมากท่ีหลงใหลในตวั เธอเดินทางมาขอท้าวิ่งแข่งกับเธอ และก็ตอ้ งพ่ายแพแ้ ละถูกเธอ สังหารไปทุกคน จนกระทงั่ เมื่อฮิปโปเมเนส (Hippomenes) ซ่ึง หลานชายของเทพเจา้ โพเซดอนไดม้ าพบกบั นางอตาลนั ตา และหลงใหลในตวั เธอเช่นเดียวกบั ชายหนุ่มคน อ่ืน แต่เขาก็รู้ตวั ดีวา่ ไม่สามารถวิ่งเอาชนะเธอไดแ้ น่ เขาจึงไดอ้ อ้ นวอนต่อเทพีอโฟรไดตี (Aphrodite) ให้ ช่วยเหลือตน เทพีไดต้ อบรับคาขอของฮิปโปเมเนส โดยมอบแอปเปิ ลทองคาให้กบั เขา 3 ผล เมื่อถึงวนั แขง่ ขนั ฮิปโปเมเนสวง่ิ ออกนาไปก่อน แต่ไม่ชา้ อตาลนั ตาก็วง่ิ ไล่ตามมาทนั และกาลงั แซงหนา้ เขาไป ฮิปโป เมเนสจึงไดโ้ ยนแอปเปิ ลผลแรกลงกบั พ้ืน ดว้ ยความสงสัย อตาลนั ตาจึงกม้ ลงเก็บแอปเปิ ลทองคาลูกน้นั จึง เปิ ดโอกาสให้ฮิปโปเมเนสวง่ิ หนีไปอีกคร้ัง แต่ไม่นานนกั อตาลนั ตาก็ว่งิ ไล่เขามาจนทนั อีกคร้ัง ฮิปโปเมเน สจึงโยนแอปเปิ ลผลท่ีสองออกไป เม่ืออตาลนั ตาตามไปเก็บ ก็ทาใหฮ้ ิปโปเมเนสว่ิงหนีไปไดอ้ ีกคร้ังจนใกล้ จะถึงเส้นชยั แตอ่ ตาลนั ตากว็ ง่ิ ไล่กวดมาจนทนั ไดอ้ ีก ฮิปโปเมเนสจึงตอ้ งโยนแอปเปิ ลผลสุดทา้ ย คราวน้ีเขา โยนแรงมากจนออกไปนอกเส้นทาง ดงั น้นั เมื่ออตาลนั ตาพยายามไปเก็บแอปเปิ ลน้นั ให้ได้ เธอก็พบว่าไม่ สามารถไล่ตามทนั และฮิปโปเมเนสไปถึงเส้นชยั ได้ก่อนแบบหวุดหวิด เธอจึงตอ้ งยอมแต่งงานกบั ฮิปโป เมเนสตามท่ีตกลงกนั ในท่ีสุด อยา่ งไรก็ตามเร่ืองน้ีก็ไม่ไดจ้ บลงอยา่ งมีความสุข เพราะหลงั จากท้งั คู่แต่งงาน กนั ไดไ้ ม่นาน เทพีอโฟรไดตีซ่ึงโกรธที่ฮิปโปเมเนสหลงใหลในตวั นางอตาลนั ตาจนละเลยการบูชาเทพี จึง ไดส้ าปใหท้ ้งั คูก่ ลายเป็นสิงโตไป เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 122
ควำมหมำยของกำรชู 2 นิ้ว การชู 2 นิ้ว หรือท่ีเรียกกนั ในภาษาองั กฤษวา่ “V sign” น้นั เป็ นท่ีรู้จกั กนั ดีใน ความหมายของ “ชยั ชนะ” คือ V แทนคาวา่ Victory นอกจากน้ีการชู สองนิ้วยงั หมายถึง “สนั ติภาพ” และ “การดูถูกทา้ ทาย” ไดอ้ ีกดว้ ย ... โดยหากเราไปแสดงอากปั กิริยาดว้ ยการชูสองนิ้วแต่หนั ฝ่ ามือเขา้ หา ตวั เองในสหราชอาณาจกั รอยา่ งองั กฤษ สกอตแลนด์แลว้ ถือวา่ เป็ น การแสดงท่าทางดูถูกต่อวา่ อีกฝ่ ายหน่ึง โดยความหมายของการทา เช่นน้ีน้ันจะเหมือนกับการที่เราไปทาท่าที่หยาบคายอย่างการ “ชู นิ้วกลาง” (The Finger) ใหค้ นอื่นเลยทีเดียว ซ่ึงพฤติกรรมน้ีถือวา่ ร้ า ย แ ร ง แ ล ะ เ ป็ น ก า ร เ สี ย ม า ร ย า ท เ ป็ น อ ย่ า ง ม า ก เ ล ย ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา การชู 2 นิ้วน้ันจะใช้กันใน ความหมายที่วา่ เป็ นการแสดงสันติภาพมากกวา่ โดยเริ่มไดร้ ับความ นิยมมาจากการท่ีประชาชนออกมาเคล่ือนไหวเพื่อใหเ้ กิดสันติภาพในช่วงทศวรรษที่ 1960 สาหรับประเทศ ในทวปี เอเชียน้นั ส่วนใหญจ่ ะใชก้ นั ตอนถ่ายรูปโดยไม่ไดม้ ีความหมายอะไรซ่อนอยเู่ ลย (กลายเป็ นท่าฮิตไป ซะอยา่ งน้นั ) แตใ่ นเวลาตอ่ มาผคู้ นนอกทวปี เอเชียเร่ิมหนั มาชู 2 นิ้วตอนถ่ายรูปกนั มากย่ิงข้ึน ซ่ึงพฤติกรรมน้ี เป็นผลสืบเนื่องมาจากบรรดาการ์ตูนของญี่ป่ ุนที่ไปไดร้ ับความนิยมในประเทศอ่ืน ๆ นน่ั เอง นอกจากน้ีบาง คนยงั เชื่อว่าการที่ชาวญ่ีป่ ุนนิยมชู 2 นิ้วน้ันตอ้ งการสื่อถึงเร่ืองสันติภาพ หลงั จากท่ีญ่ีป่ ุนโดนบอมบ์ดว้ ย ระเบิดปรมาณู สาหรับจุดเร่ิมตน้ ของการชู 2 นิ้วน้นั ไม่มีการบนั ทึกเอาไวอ้ ยา่ งแน่ชดั วา่ เกิดข้ึนเม่ือไหร่ แต่ก็ เป็ นที่เชื่อกนั มาอยา่ งยาวนานวา่ จุดเริ่มตน้ ของการชู 2 นิ้วน้นั เร่ิมจากพลธนูชาวเวลส์ ที่ต่อสู่ร่วมกบั องั กฤษ ในการสู้รบท่ีหมู่บา้ นอกินคอร์ต ทางตอนเหนือของฝร่ังเศส เมื่อวนั ท่ี 25 ตุลาคม 1415 ซ่ึงเป็ นส่วนหน่ึงของ สงครามร้อยปี ระหวา่ งองั กฤษและฝร่ังเศส ซ่ึงมีการกล่าวไวว้ า่ ทหารฝรั่งเศสจะตดั นิ้วมือขา้ งขวาของพลธนู ชาวเวลส์ท่ีถูกจบั ตวั ไดไ้ ป 2 นิ้ว จนไมส่ ามารถยงิ ธนูไดอ้ ีก ดว้ ยเหตุน้ีบรรดาพลธนูชาวเวลส์ที่ยงั ไม่ถูกจบั ตวั จึงชูนิ้ว 2 นิ้วเป็นการดูถูกทา้ ทายทหารของฝรั่งเศส ถึงตรงน้ีคงทาให้หลายคนรู้จกั การชู 2 นิ้วมากข้ึนถึงท่ีมา ที่ไป เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 123
พริกไทยขำวกบั พริกไทยดำต่ำงกันอย่ำงไร พริกไทยขาวและพริกไทยดามาจากตน้ เดียวกนั แต่เหตุไฉนสีจึง ไม่เหมือนกันคาตอบ คือ เพราะมีกรรมวิธีในการ เตรียมต่างกนั พริกไทยดาน้นั เตรียมมาจากผลพริกไทย แก่ท่ีโตเต็มท่ี สีเขียวและยงั ไม่สุก นามาตากแห้ง ผลสี เขียวจะเปล่ียนเป็ นสีดาคล้า ส่วนพริกไทยขาวเตรียม มาจากผลแก่ที่สุด ซ่ึงมีสีเหลืองหรือส้ม แลว้ นามาแช่ น้าราวหน่ึงสัปดาห์เพอื่ ใหเ้ ปลือกยุย่ แลว้ ลา้ งขดั เปลือก ออกให้หมด จากน้ันนาไปตากแดดให้แห้ง ก็จะได้ พริกไทยขาว ในทางพฤกษศาสตร์ถือวา่ พริกไทยขาวเป็ นส่วนของเมล็ด เพราะส่วนเน้ือที่หุ้มอย่นู ้นั ถูกขดั ออกไปแล้ว จากกรรมวิธีการเตรียมพริกไทยดงั กล่าว จะปรากฏว่าพริกไทยดาน้ันมีกลิ่นหอมแรงกว่า พริกไทยขาว เพราะพริกไทยดายงั มีน้ามนั หอมระเหยท้งั ในส่วนของผลและเมล็ด ส่วนพริกไทยขาวมีน้ามนั หอมระเหยเฉพาะในส่วนเมล็ด จึงมีกลิ่นหอมอ่อนนุ่มกว่าพริกไทยดา ดงั น้นั จึงตอบไม่ไดว้ า่ พริกไทยชนิด ไหนดีกวา่ กนั ข้ึนอยกู่ บั วา่ คุณชอบแบบไหน “ สัญลักษณ์ จุดสีเขียว และจุดสีน้ำตำล บนฉลำกอำหำรหมำยถึงอะไร สัญลกั ษณ์น้ีเกิดข้ึนในปลายปี 2011 โดยทางการของประ เทศอิ นเดี ยออก กฎระเบียบเกี่ยวกบั มาตรฐานความปลอดภยั ทางดา้ นอาหาร [Food Safety And Standards (Packaging And Labelling) Regulations, 2011 บงั คบั ให้ผผู้ ลิตสินคา้ อาหาร ตอ้ งระบุ ให้ชดั เจนว่าสินคา้ ใดสาหรับ ผรู้ ับประทาน มงั สวริ ัติ Vegetarian โดยการพมิ พโ์ ลโกร้ ูปทรงสี่เหล่ียมและมีวงกลมสีเขียวอยตู่ รงกลาง รวมท้งั มีอกั ษรระบุ ขา้ งล่างวา่ “Veg (Green)”ลงบนสลาก (Label) ท่ีติดหีบห่อบรรจุสินคา้ อาหาร สาหรับ Non-Vegetarian ก็ เช่นกนั ตอ้ งพิมพโ์ ลโก้รูปทรงสี่เหลี่ยมและมีวงกลมสีน้าตาลอยู่ตรงกลาง รวมท้งั มีอกั ษรระบุขา้ งล่างว่า “Non-Veg (Brown)” ลงบนสลาก เพื่ออานวยความสะดวกให้ผูบ้ ริโภคหยิบจบั จ่ายสินคา้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง รวดเร็ว เวลาลองซ้ือสินคา้ ลองสังเกตดูกนั นะครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 124
ทำไม ถึงมีประโยคท่วี ่ำ อ่ำนสำมก๊กครบ 3 จบ คบไม่ได้ คนแตจ้ ๋ิวน้นั ให้ความสาคญั กบั การร่าเรียนหนงั สือ ของผูช้ าย ผูช้ ายชาวแตจ้ ๋ิวจะตอ้ งต้งั ใจอ่านตาราเรียนระดบั คมั ภีร์ต่าง ๆ เพื่อสอบซ่ิวไฉ ไต่ระดบั ข้ึนไปถึง ระดบั สอบจอหงวน ใครมามวั เสียเวลาอา่ นนิยาย ก็เหมือนไม่ ต้งั ใจเรียน ย่งิ ถา้ หลงใหลมาก ขนาดหมกหมุ่น อา่ นแลว้ อา่ นอีก กค็ งจะเอาดีทางการสอบเขา้ รับราชการไม่ได้ ท่านจึงวา่ \"อ่านสามกก๊ สามจบ คบไม่ได\"้ มิใช่ หมายถึงวา่ อ่านแลว้ จะเจา้ เล่ห์แสนกลหรอก อยา่ งไรก็ตาม เพราะนิยายเรื่องน้ีอ่านสนุก อ่านง่าย (เม่ือเทียบ กบั จดหมายเหตุประวตั ิศาสตร์ฉบบั จริง) และก็มีคติเตือนใจมากมาย มีบทบาทของตวั ละครมากมายที่ให้ บทเรียนในทางการบริหารได้ ในยคุ การตอ่ สู้ทางธุรกิจทุนนิยม ผคู้ นกย็ งั ใชป้ ระโยชน์จากเร่ืองสามก๊กมาเป็ น ขอ้ สอนใจทางการบริหารไดม้ าก ความนิยมน้ีเร่ิมตน้ ในกลุ่มนักธุรกิจญ่ีป่ ุนก่อน ต่อมาขยายไปทว่ั เอเชีย สาหรับในเมืองไทยผมตอ้ งสร้างวาทกรรมข้ึนมาสู้กบั ภาษิต \"อ่านสามก๊กสามจบ คบไม่ได\"้ ก็เลยเกิดภาษิต จีนแปลง (คือไทยทาปลอม) ข้ึนวา่ \"ยงั มิไดอ้ ่านสามก๊กอยา่ พึงคิดการใหญ่\" แลว้ หนงั สือสามก๊กเกี่ยวกบั การ บริหาร กไ็ ดร้ ับความนิยมสืบเน่ืองมาจนถึงทุกวนั น้ี\" สำเหตุท่ดี ำวพลูโตถูกกอดจำกกำรเป็ นดำวเครำะห์ในระบบสุริยะ วนั ท่ี 24 สิงหาคม 2563 น้ี เป็ นปี ท่ี 14 ที่ ดาวพลูโตถูกปลดออกจากดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ แต่ก่อนอ่ืน เราควรมารู้จกั ดาวพูลโตกนั ก่อน เพอร์ซีวาล โลเวลล์ นักดารา ศาสตร์อเมริกนั ต้งั ขอ้ สังเกตวา่ การเคล่ือนท่ีดาวเนปจูนและดาว ยูเรนัส ถูกรบกวนจากดาวเคราะห์ดวงอ่ืน ซ่ึงเขาสันนิษฐานว่า อาจเป็ นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ และพยายามคน้ หาดาวเคราะห์ ดงั กล่าวอยนู่ าน 11 ปี โดยไม่พบอะไรจนกระทงั่ เขาเสียชีวิตไปใน พ.ศ. 2459 ในปี พ.ศ.2472 หอดูดาวโลเวลล์ ซ่ึงเพอร์ซีวาล โล เวลล์เองเป็ นผูก้ ่อต้งั ข้ึน ไดร้ ิเร่ิมโครงการคน้ หาดาวเคราะห์ลึกลบั อีกคร้ัง มีการจา้ งเจา้ หน้าท่ีคนหน่ึงมาทา หน้าท่ีคน้ หาโดยเฉพาะ ไคลด์ ทอมบอก์ ทอมบอก์ใชเ้ วลาราวปี กว่ากบั กลอ้ งขนาด 33 เซนติเมตรและ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 125
เคร่ืองวดั เทียบกะพริบ จนกระทง่ั วนั ท่ี 18 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2472 เขาก็คน้ พบดาวเคราะห์ดวงใหม่แลว้ หอดู ดาวไดป้ ระกาศการคน้ พบดาวเคราะห์ดวงที่เกา้ ของระบบสุริยะในวนั ที่ 13 มีนาคม ซ่ึงเป็ นวนั เกิดครบรอบปี ท่ี 75 ของโลเวลล์พอดี ส่วนช่ือ “พลูโต” มาจากการเสนอของเด็กสาวชาวออกฟอร์ดคนหน่ึงชื่อ เวเนเทีย เบอร์เนย์ พลูโตเป็ นชื่อเทพแห่งใตพ้ ิภพของโรมนั ผูล้ ่องหนได้ เหตุผลดีอีกขอ้ หน่ึงท่ีช่ือน้ีไดร้ ับเลือกก็คือ อกั ษรสองตวั แรกของช่ือพลูโตคือ พี-แอล ตรงกบั อกั ษรนาของชื่อและสกุลของโลเวลล์ จึงเป็ นการใหเ้ กียรติ นกั ดาราศาสตร์คนสาคญั คนน้ีดว้ ย ในการประชุมสมชั ชาใหญ่แห่งสหพนั ธ์ดาราศาสตร์สากล (IAU General Assembly) ณ กรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก เดือนสิงหาคม 2549 มีการหาขอ้ สรุปนิยามคาว่า “ดาวเคราะห์” ใหม่ ซ่ึงทาให้ “ดาวพลูโต” สูญเสียสถานภาพการเป็ นดาวเคราะห์ท่ีดาเนินมา 76 ปี ขณะน้ี ระบบสุริยะของเราจึงมีดาวเคราะห์เพียง 8 ดวง นิยามดาวเคราะห์ ตามขอ้ สรุป ไดใ้ หค้ วามหมายว่า “ดาว เคราะห์” ในระบบสุริยะหมายถึงวตั ถุท่ี (1) โคจรรอบดวงอาทิตย์ (2) มีมวลมากพอที่ทาใหร้ ูปร่างใกลเ้ คียง ทรงกลม และ (3) ไม่มีวตั ถุอ่ืนท่ีมีขนาดใกลเ้ คียงกนั และลกั ษณะทางกายภาพคลา้ ยคลึงกนั อยใู่ กลว้ งโคจร ซ่ึงดาวพลูโต ไม่ผา่ นในขอ้ ท่ี 3 เพราะวงโคจร เขา้ ไปอยใู่ นวงโคจรของดาวเนปจูน ท่มี ำของสำนวน กินคำวไม่กินหวำนสันดำนไพร่ สานวนน้ีเป็ นการ เหยยี ดชนช้นั ทางสังคม เน่ืองจากในสมยั ก่อนการท่ีไพร่ไดก้ ินอาหาร คาวเพื่อประทังชีวิตก็เพียงพอแล้ว ไม่ได้กินของหวาน เนื่องจาก น้าตาลมีราคาแพง ดงั น้นั คนที่จะได้กินของหวานมีเพียงชนช้ันสูง เท่าน้นั สานวนน้ีเกิดจากการเปรียบของสังคมชนช้นั สูงท่ีเหยียดชน ช้นั ล่างที่ยากจนไม่มีโอกาสไดก้ ินของหวานหลงั ของคาวนน่ั เอง ทีม่ ำของดินสอ เมื่อประมาณ 400 กวา่ ปี ก่อน บาทหลวงชาวสวสิ เซอร์แลนด์ไดเ้ ป็ นผคู้ ิดคน้ ประดิษฐ์เคร่ือง เขียนท่ีทาจากขนนกข้ึนเป็ นคร้ังแรก แต่ใช้ตน้ ทุนค่อนขา้ งสูงและไส้ดินสอมีความเปราะเกินกว่าจะใช้ใน งานเขียนปกติได้ ทาใหง้ านเขียนชา้ มาก ต่อมาในปี ค.ศ. 1564 ไดม้ ีการคน้ พบวสั ดุที่ใชท้ าไส้ดินสอได้ ดีโดยบงั เอิญ เน่ืองจากเกิดพายุใหญ่ในทุ่งเล้ียงแกะ ใกลก้ บั หมู่บา้ นบอร์โรวเ์ ดล ตาบลคมั เบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ ต้นไม้ใหญ่ถูกพายุพดั ถอนราก ถอนโคนเป็ นจานวนมาก หลังจากพายุสงบ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 126
ชาวบา้ นไดพ้ บหินสีดาอยูใ่ ตด้ ิน ณ บริเวณรากของตน้ ไมท้ ่ีโค่นลม้ เม่ือทดลองนามาขีดเขียน ปรากฏวา่ มี ความคมชดั ดีมาก คนเล้ียงแกะจึงนามาเขียนสัญลกั ษณ์ลงบนตวั แกะของตนเอง หินสีดาที่คน้ พบในคร้ังน้นั คือ แกรไฟต์ ( Graphite เป็นคาร์บอนชนิดหน่ึง ) หลงั จากน้นั ไมน่ านมีผนู้ าหินน้ีมาทาเป็ นแท่งและนาไปขาย โดยโฆษณาว่าเป็ น \" หินสี \" สามารถนาไปเขียนบนสิ่งใดก็ติดท้งั น้นั พ่อคา้ นิยมซ้ือไปเขียนตราสัญลกั ษณ์ และทาเครื่องหมายบนสินคา้ หรือหีบห่อท่ีบรรจุสินคา้ ของตน เพื่อเป็ นการบอกชนิด จานวน และราคาของ สินคา้ น้นั ๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการใชง้ าน ปี ค.ศ. 1795 พระเจา้ นโปเลียนที่ 1 มีรับสั่งให้ นิโคลาส แจค๊ ดงั เต้ ซ่ึงเป็นหวั หนา้ นกั เคมีและนกั ประดิษฐช์ ้นั แนวหนา้ ของประเทศฝร่ังเศส นาแกรไฟตท์ ี่สามารถหา ไดท้ ้งั หมดในฝรั่งเศสมาทาเป็ นดินสอ แต่เม่ือนานเขา้ ทาให้เกิดการขาดแคลนแกรไฟต์ นิโคลาสจึงไดน้ าเอา แกรไฟตม์ าบดเป็นผงแลว้ ผสมเขา้ กบั ดินเหนียวชนิดหน่ึง (Clay) ในสัดส่วนท่ีแตกต่างกนั เพ่ือหาส่วนผสมที่ ดีท่ีสุด แลว้ จึงนาไปเขา้ เตาเผา จนกลายเป็ นตน้ ตารับของการทาดินสอ คือ เน้ือเหนียวข้ึน ไม่หกั เปราะง่าย และดว้ ยการเพิ่มดินเหนียวเขา้ ไปตามอตั ราส่วนน้ีเองทาใหส้ ามารถผลิตไส้ดินสอออกมาไดห้ ลายขนาด คือ แขง็ ( Hard ) หรือ H ลงมาจนอ่อนสามารถเขียนไดต้ ิดดาสนิท ( Black ) หรือ B ซ่ึงในปัจจุบนั มีต้งั แต่ 5 H และ 6 B เพ่ือใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน ต่อมาชาวอเมริกนั ช่ือ วิลเลียม มอนโร ซ่ึงเป็ นช่างทาเฟอร์นิเจอร์ ไดป้ ระดิษฐ์เคร่ืองมือสาหรับผลิตดินสอขนาดมาตรฐานได้สาเร็จ สามารถตดั ไมอ้ อกเป็ นแผน่ บางๆ ยาว ประมาณ 6-7 นิ้ว เซาะเป็ นร่องเล็กๆตลอดความ ยาวของแผน่ ไม้ เพื่อบรรจุแท่งแกรไฟต์ และใชไ้ มอ้ ีกแผน่ หน่ึงเซาะร่องไวอ้ ย่างชิ้นแรก นามาทากาวแล้วประกบลงไป ซ่ึงเป็ นดินสอที่มีไมห้ ุ้มและเป็ นดินสอท่ี ทนั สมยั แท่งแรกของโลก เป็ นเครื่องมือสาหรับใช้ในการขีด - เขียน ที่มีราคาถูกและ สะดวก รูปร่าง กระทดั รัดและสวยงาม เป็ นที่ยอมรับในทุกวงการ ทาให้ปากกาขนห่านจุ่มน้าหมึกในสมยั น้นั เส่ือมความ นิยมไป ท่ีมำของสติกเกอร์ “เศรษฐีเรือทอง” สติกเกอร์ เศรษฐีเรือ ทอง ท่ีติดตามกระจกหลงั รถยนต์ ที่ใช้ติดตามหลงั กระจก รถยนต์ โดย สติกเกอร์น้ีมาจากวดั พุนอ้ ย อ.บา้ นหมี่ จ.ลพบุรี วดั แห่งน้ีโด่งดงั จากการประกอบพิธียกเรือแม่ตะเคียนทองที่ เดียวในไทย โดยผูท้ ี่จะเช่าวตั ถุมงคลหรือแมแ้ ต่การไดส้ ติก เกอร์เศรษฐีเรือทองมาติดท่ีรถ ส่วนมากตอ้ งผา่ นการประกอบ พิธียกเรือที่ทางวดั จดั ข้ึนก่อนทาการเช่า และเชื่อวา่ หากผา่ นพิธีน้ีแลว้ มาทาการเช่าวตั ถุมงคลหรือสติกเกอร์ จะทาใหก้ ิจการคา้ เจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภและร่ารวยข้ึน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 127
ทำไมในกำร์ตูนเวลำตัวละครหลบั ต้องมี ตัว ZZZZ ดว้ ย เรื่องน้ีเกิดจาก การ์ตูนสัญชาติอเมริกนั เร่ือง The Katzenjammer Kids ของ Rudolph Dirks (ชาวเยอรมนั ที่ยา้ ยมาอยู่ นิวยอร์ก) ในช่วงตน้ ศตวรรษท่ี 20 โดยจะใชต้ วั อกั ษร Z เพ่ือบอก ว่าตวั ละครหลบั ไปแลว้ ไม่ใช่นอนเฉยๆ ท้งั น้ีจะใช้ Z ก่ีตวั ก็ได้ และจะเป็ นตวั พิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้ และท่ีสาคญั ท่ีหลายๆคน เขา้ ใจผิดคือ คาน้ีไม่ไดส้ ื่อวา่ ตวั ละครกาลงั กรน แต่แค่กาลงั หลบั เท่าน้นั (โดยไม่จาเป็ นตอ้ งกรน) เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ เป็ นท่ีน่า สังเกตุว่า การสื่อถึงการนอนหลับในการ์ตูนน้ันแตกต่างกัน ระหวา่ งวฒั นธรรมตะวนั ตกและตะวนั ออก ฝร่ังจะ get กบั กล่องคาพดู ที่มี zzz ซ่ึงหมายถึงตวั ละครกาลงั นอน หลบั ในขณะที่ชาวเอเชียจะ get กบั ตวั ละครที่มีลูกโป่ งน้ามูกออกจากจมูก ซ่ึงก็สื่อถึงตวั ละครกาลงั นอน หลบั เช่นกนั ครับ ปัจจุบนั ทุกคน เขา้ ใจกนั หมดแลว้ ครับไม่วา่ จะส่ือแบบไหน เพราะการ์ตูนฝร่ังก็เผยแพร่มา เอเชียมากพอๆกบั ที่การ์ตูนเอเชียแพร่ไปตะวนั ตกล่ะครับ รู้จักกับรัฐธรรมนูญฉบับแรกของโลก รัฐธรรมนูญ มีประวตั ิมายาวนาน แต่มีหลกั ฐานชดั เจนในประเทศ องั กฤษ ในรัชสมยั พระเจา้ จอห์น ซ่ึงเป็ นกษตั ริยท์ ่ี โหดร้าย และใชอ้ านาจอยา่ งไม่มีขอบเขต ในวนั ท่ี 15 มิถุนายน ค.ศ. 1215 ขุนนาง และ พระราชา คณะ จานวน 25 คน ไดบ้ งั คบั ให้ พระเจา้ จอห์น ลงนามในเอกสารที่เรี ยกว่า “มหาบัตร“?(The Great Charter, Magna Carta) ซ่ึงเป็ น สัญญา ระหวา่ งพระมหากษตั ริยก์ บั ขุนนางและพระ โดยใน มหาบตั ร ไดก้ าหนด ถึงองคก์ าร และอานาจของสภา ใหญ่ (Magnum Concillium) และกาหนดวา่ พระมหากษตั ริยจ์ ะเก็บภาษีบางอยา่ งตามที่กาหนดไว้ โดยมิได้ รับความเห็นชอบจากสภาใหญ่มิได้ จะจบั กุมคุมขงั บุคคลไดก้ ็ต่อเม่ือ มีคาพิพากษาท่ีชอบดว้ ยกฎหมาย มหา บตั ร น้ี นกั กฎหมายบางท่านเห็นว่า เป็ นกฎหมาย รัฐธรรมนูญฉบบั แรกของโลก ต่อมาในปี ค.ศ. 1776 สหรัฐอเมริกาไดป้ ระกาศอิสรภาพ จากการเป็ นดินแดนอาณานิคมขององั กฤษ และในปี ค.ศ.1789 ไดม้ ีการ ประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐ (The Constitution of United States) รัฐธรรมนูญฉบบั แรกของโลก?น้ีได้ มีการวางกฎเกณฑใ์ นการปกครองประเทศ อานาจและหนา้ ท่ีขององคก์ รปกครองต่างๆ ในประเทศอยา่ งเป็ น ระเบียบ โดยมีการแยกองคก์ รการปกครองประเทศออกเป็ นฝ่ ายนิติบญั ญตั ิ ฝ่ ายบริหาร และฝ่ ายตุลาการ ซ่ึง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 128
รู้จกั กนั ในนาม “หลกั การแบ่งแยกอานาจ” (Seperation of Power) มีการบญั ญตั ิให้ รัฐธรรมนูญ เป็ นกฎหมาย สูงสุด และยอมรับอานาจสูงสุดของประชาชนชาวสหรัฐอเมริ กา โดยเรี ยกว่า “อานาจอธิปไตย” (Sovereignty) การจดั ทา รัฐธรรมนูญ ของสหรัฐฯน้ี เป็ นตน้ แบบใหป้ ระเทศต่างๆ เอาเป็ นแบบอยา่ ง ไม่วา่ จะเป็น รัฐธรรมนูญ ฝร่ังเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน เป็นตน้ นอกจากน้นั รัฐธรรมนูญ สหรัฐอเมริกายงั เป็ นการ นาเอาแนวคิดของ นกั ปรัชญาท่ีถกเถียงกนั อยา่ งเป็ นนามธรรมมาบญั ญตั ิ ไวอ้ ยา่ งเป็ นรูปธรรม ไม่วา่ จะเป็ น การแบ่งแยกอานาจ หลกั อานาจ อธิปไตย หลกั สัญญาประชาคม ดว้ ยเหตุน้ีเอง นกั กฎหมายบางท่านจึงเห็น วา่ รัฐธรรมนูญ ของสหรัฐอเมริกา เป็ น รัฐธรรมนูญฉบบั แรกของโลก?อนั เป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร และ เป็ น อนุสาวรียแ์ ห่งกฎหมาย มหาชน ทมี่ ำของ สำนวนแมวมอง จากพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 กล่าววา่ แมวมองหมายถึง ผมู้ ี หนา้ ท่ีคอยหาผทู้ ี่มีความสามารถหรือสวยงามมาเป็ นดารา โดยคาน้ีมีที่มาจาก หน่วยเสือหมอบแมวเซา และ หน่วยเสือป่ า ในสมยั รัชกาลที่ 6 โดยเป็ นช่ือหน่วยนกั รบของไทยหน่วยหน่ึงแต่โบราณกาลมา มีหนา้ ที่เป็ น กองคอยเหตุหรือและลาดตระเวนสอดแนมฟังดูข่าวคราวของขา้ ศึกดว้ ย เป็ นกาลงั สาคญั ของกองทพั เท่ากบั เป็ นหูเป็ นตาของแม่ทพั มีคาเรียกผทู้ าหน้าที่ชนิดน้ีอีกคาหน่ึงคือ แมวมอง เป็ นคาคู่กนั เรียกวา่ |เสือป่ าแมว มอง| ดงั ปรากฏในหนงั สือกวีนิพนธ์โบราณอยู่เสมอบุคคลผูท้ ี่จะทาหน้าท่ีเสือป่ าหรือแมวมองได้ตอ้ ง ประกอบดว้ ยคุณลกั ษณะพเิ ศษ เพยี บพร้อมหลายอยา่ งหลายประการ เป็ นตน้ วา่ ตอ้ งเป็ นผกู้ ลา้ หาญ อดทน มี สติปัญญาเชาวน์ไวไหวพริบดี รู้ทันเหตุการณ์ ปฏิภาณคล่องแคล่วคาดคะเนเหตุการณ์ไดใ้ กลเ้ คียง หรื อถูกต้อง มีมานะพยายามช่างสังเกต จาภูมิ ประเทศไดแ้ ม่นยา รักชาติยิ่งชีพ หน้าท่ีของเสือป่ า แมวมองในเวลาปกติ ก็คือ สอบสวน สืบสวน ความเคล่ือนไหวของชาติท่ีเคยเป็ นคู่ศึกในเวลา สงครามก็ดาเนินเป็ นตวั การส่งข่าวคราวของขา้ ศึก ทีเดียวเสื อป่ าจึงเป็ นนักรบเหล่ากล้าตายอย่าง องอาจเหล่าหน่ึง ลน้ เกลา้ ฯ รัชกาลท่ี 6 ไดใ้ ชค้ าน้ีเป็นช่ือเรียกผทู้ ี่รักชาติอยา่ งแรงกลา้ วา่ เป็ นผมู้ ีน้าใจเป็ นเสือ ป่ าอีกดว้ ย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 129
ทำไมแขกจึงมักจะประกอบอำชีพขำยถั่ว อาจารย์อรุณ เฉตตีย์ กรรมการบริ หารศูนย์อินเดียศึกษา มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ใหค้ าตอบวา่ เพราะคนอินเดียผกู พนั กบั ถวั่ มาก ใน ฐานะท่ีเป็ นธัญพืชประเภทมงั สวิรัติ และการประกอบอาหารจากถวั่ ยงั ถือ เป็ นเร่ืองถนดั เม่ือมาอยู่เมืองไทยเห็นวา่ คนไทยมีนิสัยกินจุกกินจิก ถว่ั จึง กลายเป็นอาหารวา่ งของคนไทย โดยมีคนอินเดียเป็ นผขู้ าย ในสมยั ก่อนมีถว่ั หลากชนิดมากกว่าสมยั น้ี นอกเหนือจากถวั่ ปากอ้า ถ่ัวเหลือง ถ่วั ดิน ซ่ึง คุน้ เคยกนั อยา่ งดีแลว้ เม่ือก่อนยงั มีถวั่ บาเยยี คือถวั่ บดทอดเป็ นกอ้ นๆ ถว่ั มา้ ซ่ึงปัจจุบนั หาไดย้ ากนกั จะมีบา้ งแถวพาหุรัด คนอินเดียเขา้ มาทามาหากินใน ประเทศไทยมากวา่ 70 ปี แลว้ ต้งั แต่รัชกาลที่ 5 โดยแบ่งออกเป็ น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่ม แรกมาจากทางใตข้ อง อินเดีย เรียกวา่ กลุ่ม ทามิล มาเพ่ือประกอบสัมมาชีพหลายแบบ เช่น เล้ียงววั คา้ ขาย รวมไปถึงการขายถว่ั กลุ่มน้ีเริ่มตน้ จากภาคใตข้ องไทย แลว้ ทยอยเขา้ สู่กรุงเทพฯ แยกเป็ น 2 กลุ่ม คือ อยแู่ ถวสีลม และถนนตก กลุ่มที่สองจากอุตระประเทศ หรือเรียกส้ันๆ ว่า ยูพี ซ่ึงอยู่ทางด้านเหนือของอินเดีย กลุ่มน้ีส่วนใหญ่มา เฝ้ ายาม บางส่วนคา้ ขายเล็กๆ นอ้ ยๆ เช่น ขายถว่ั ส่งหนงั สือพิมพ์ ส่งนม หรือเป็ นท้งั แขกยามและขายของไป พร้อมๆ ในปัจจุบนั พบวา่ มีคนอินเดียเขา้ มาทามาหากินมากข้ึน โดยเฉพาะกลุ่มยพู ี และเขา้ มาเพื่อคา้ ขายใน หลายอาชีพมากข้ึน เช่น ขายสินคา้ เงินผอ่ น เช่น มุง้ ของตกแต่งบา้ น เป็นตน้ ขายผา้ ซ่ึงพบเห็นไดไ้ ม่ยากตาม แหล่งขายผา้ มีช่ือ และกลุ่มสุดทา้ ยเขา้ มาขายถวั่ และโรตี นำ้ ทเ่ี หลอื จำกกำรซักผ้ำใช้รดต้นไม้ได้จริงหรือ เชื่อวา่ ผอู้ ่านหลายคนคงจะเคยไดย้ นิ คาแนะนาที่วา่ น้าที่เหลือ จากการซกั ผา้ อยา่ ทิง้ ใหเ้ สียประโยชน์ ควรเอาไปรดตน้ ไมด้ ีกวา่ นอกจากจะเป็ นการไม่เทน้าทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์แลว้ น้า เหลือทิ้งจากการซกั ผา้ ยงั ทาให้ตน้ ไมโ้ ตเร็วข้ึนอีกดว้ ย จริงเท็จ เป็ นอย่างไร มาลองหาคาตอบกันดีกว่าในความจริ งคือ ผงซกั ฟอกท่ีใชก้ นั หลายชนิดจะมีส่วนผสมของสารฟอสเฟตอยู่ ดว้ ย หนา้ ท่ีของสารฟอสเฟตดงั กล่าวคือช่วยปรับสภาพน้าให้มีความเป็ นด่างเล็กนอ้ ย ทาใหป้ ระสิทธิภาพใน การชาระลา้ งของผงซกั ฟอกดีข้ึน รวมถึงยงั เป็ นตวั ช่วยจบั ไอออนของโลหะบางชนิดเอาไวไ้ ม่ใหไ้ ปจบั ตวั กบั สายโซ่ของสารซกั ฟอก ป้ องกนั ไมใ่ หเ้ กิดสภาพน้ากระดา้ ง แตใ่ นขณะเดียวกนั ฟอสเฟตก็เป็ นสารอาหาร ท่ีสาคญั ต่อการเจริญเติบโตของพืช ซ่ึงพบไดใ้ นป๋ ุยเคมี ดงั น้นั เมื่อเราเทน้าจากการซกั ผา้ ลงในท่อระบายน้า น้าจากทอ่ ระบายน้าท่ีรับน้าจากการซกั ผา้ จากบา้ นเรือนไหลมารวมกนั จะมีปริมาณสารฟอสเฟตเขม้ ขน้ ช่วย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 130
ใหพ้ ชื น้ารวมถึงสาหร่ายหลายชนิดเจริญเติบโตไดด้ ี แบบน้ีแสดงวา่ น้าจากการซกั ผา้ เหมาะกบั การนามารด ตน้ ไมใ้ ช่ไหม คาตอบคือ ได้ แต่คาแนะนาคือ ควรจะใชเ้ ฉพาะน้าที่ใชใ้ นการซกั คร้ังทา้ ย ๆ ไม่ควรจะใชน้ ้า แรก (หรือน้าท่ีผสมผงซักฟอกโดยตรง) หรือหากจะใช้น้าท่ีได้จากการซักรอบแรก ก็ควรตอ้ งเจือจางมนั เสียก่อน เพราะฟอสเฟตท่ีเขม้ ขน้ เกินไปจะมีผลต่อคา่ ความเป็นกรดด่างของดิน ซ่ึงจะเป็นอนั ตรายต่อพืชและ สัตวใ์ นดินได้ นอกจากน้นั แลว้ น้าจากการซกั ผา้ ที่จะนามารดน้าตน้ ไมค้ วรจะใชท้ นั ที ไม่ควรทิ้งไวข้ า้ มวนั หากไม่ใชใ้ นทนั ทีก็ควรเททิ้งไปดีกวา่ อยา่ งไรก็ตาม ผงซกั ฟอกยคุ ใหม่บางยหี่ ้อใชส้ ารซีโอไลทเ์ ป็ นตวั ลด ความกระด้างแทนฟอสเฟต สารซีโอไลท์ไม่มีสารอาหารจาเป็ นต่อพืช การรดต้นไม้ด้วยน้าซักผา้ ท่ีใช้ ผงซกั ฟอกประเภทน้ีจึงไม่ช่วยให้ตน้ ไมเ้ จริญงอกงามดีข้ึน เพียงแต่เป็ นการช่วยลดการใชน้ ้าโดยไม่นาน้าท่ี ใชแ้ ลว้ ทิง้ ไปโดยเปล่าประโยชน์เท่าน้นั รู้จักกับรำชกิจจำนุเบกษำ ราชกิจจานุเบกษา เป็ นหนังสือรวบรวมคาประกาศของทางราชการ โดยเริ่ม จดั พิมพข์ ้ึนในสมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อวนั จนั ทร์ ข้ึน 1 ค่า เดือน 5 ปี มะเมีย นพศก จุลศกั ราช 1219 ตรงกบั วนั ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2401 เพื่อช้ีแจงข่าวคลาดเคลื่อนท่ีตีพิมพ์ใน หนงั สือพิมพข์ องหมอบรัดเลย์ (บางกอกรีคอเดอ) เป็ นเอกสารหลกั ใน การแจ้งประกาศ กฎหมาย และคาสั่งทางราชการให้ประชาชนทราบ อย่างเป็ นทางการจวบจนปัจจุบนั น้ี นับเป็ นส่ิงพิมพ์ของไทยที่มีอายุ ยาวนานที่สุด โดยมีสานักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา สานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผรู้ ับผดิ ชอบจดั พมิ พแ์ ละเผยแพร่ โดย ราชกิจจานุเบกษา แบ่งไดเ้ ป็ น 4 ประเภทประกอบด้วย 1.ประเภท ก ฉบบั กฤษฎีกา เป็ นการประกาศเก่ียวกบั รัฐธรรมนูญ พระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบญั ญตั ิ พระราชกาหนด พระราชกฤษฎีกา พระบรมราชโองการที่เป็ นกฎ กฎ ระเบียบ ข้อบังคบั ข้อกาหนด 2.ประเภท ข ฉบบั ทะเบียนฐานนั ดร หมายกาหนดการ และข่าวในพระราชสานกั เป็ นการประกาศเก่ียวกบั สถาปนาและถอดถอนสมณศกั ด์ิ รายช่ือผทู้ ี่ไดร้ ับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหรียญราชการ หรือยศ รายชื่อผถู้ ูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือถูกถอดยศ 3.ประเภท ค ฉบบั ทะเบียนการคา้ เป็ นการประกาศ เกี่ยวกบั การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน บริษทั จากดั และบริษทั มหาชนจากดั การเปล่ียนแปลง และการเพิก ถอนทางทะเบียน 4.ประเภท ง ฉบบั ประกาศและงานทว่ั ไป เป็นการประกาศเรื่องอ่ืน ๆ นอกเหนือจากที่ระบุ ในประเภท ก ประเภท ข และประเภท ค เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 131
ทม่ี ำของประโยค พบกนั ใหม่เมื่อชำติต้องกำร “พบกนั ใหม่เมื่อชาติตอ้ งการ” คือหน่ึงในคาพดู ฮิตติดปากคน ไทยมากกวา่ 60 ปี เจา้ ของคือ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ (2451-2506) คาพดู น้ีเกิดข้ึนหลงั จากการเลือกต้งั ส.ส. ทวั่ ประเทศในปี 2500 ที่ไม่ไดร้ ับการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่ และถูกเรียกวา่ “การเลือกต้งั สกปรก” เกสารร็จเลหือนก่วตย้งั เคลรือ้ังกนต้นั้งั บปารงาแกหฏ่งวทา่ ีาํี่กหาีบรโคกะงแคนะนแหนานยกกนั็มมี กาวกา่ จกะาตรนิดตบั าคมะเแอนาหนีบบคาะงแแหน่งนทคาืนกมนั าสไอดงต้ วอ้ นั งสใชอเ้ งวคลืนาขกา้็ยมงั วไนัม่ ขา้ มคืน ผลการเลือกต้งั วนั ท่ี 26 กุมภาพนั ธ์ 2500 ในเขตพระนคร พรรคเสรีมนงั คศิลาของ จอมพล ป.พิบูล สงคราม ชนะถึง 7 ฝ่ ายพรรค ประชาธิปัตย์ได้มาเพียง 2 ที่น่ัง เมื่อรวม คะแนนเสียงทว่ั ประเทศแลว้ พรรรคเสรีมนงั ค ศิลามีคะแนนมากท่ีสุดคือ 86 ท่ีนงั่ แต่เม่ือประกาศผลแลว้ ปรากฎวา่ นิสิต นกั ศึกษา และประชาชน ออกมา ประทว้ งผลการเลือกต้งั เมื่อขบวนนิสิตนกั ศึกษาและประชาชนเดินขบวนไปยงั ทาเนียบรัฐบาล จอมพลสษด์ิ ธนะรัชต์ ซ่ึงดารงตาแหน่งรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม ก็สั่งใหท้ หารเปิ ดทางและเป็นผนู้ าขบวนไปพบ จอมพล ป. พิบูลสงครามเสียเองและเมื่อปล่อยให้ฝงู ชนได้ “ซักฟอก” จอมพล ป. อยู่ระยะหน่ึงแลว้ จอม พลสฤษด์ิก็เป็ นคนพูดไกล่เกลี่ยจนฝ่ ายเดินขบวนยอมสลายตวั จอมพลสฤษด์ิไดก้ ล่าวกบั ฝงู ชนวา่ “ขา้ พเจา้ เป็นทหารของชาติ และขอพูดอยา่ งชายชาติทหารวา่ ขา้ พเจา้ มีความเห็นใจ ประชาชน ส่ิงใดที่มติมหาชนไม่ ตอ้ กงาร ขา้ พเจา้ จะไม่ร่วมมือดว้ ย…” และไดป้ ิ ดทา้ ยการปราศรัยของตนวา่ “พบกนั ใหม่เม่ือชาติตอ้ งการ” และทา้ ยที่สุด จอใพลสฤษด์ิ ก็ยดึ อานาจการปกครองจาก จอมพล ป.พบิ ูลย์ สงคราม ที่มำของชื่อ บำงรัก คาวา่ รัก ใน “บางรัก” ไม่เกี่ยวกบั “ความรัก” แลว้ ช่ือ ย่านบางรัก มาจากไหน? บางรัก คือชื่อย่านการค้าสาคญั ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั จนถึงปัจจุบนั เพราะเคยเป็ นยา่ น ท่ีอยอู่ าศยั และสถานท่ีราชการ เช่น สถานทูตของชาวตะวนั ตกหลายชาติ หลายภาษา ที่มาของช่ือไม่มีหลกั ฐานเอกสารบนั ทึกไวแ้ น่นอน เป็ นแต่คา บอกเล่าซ่ึงเล่าสืบกนั มาเป็น 2 ประการ ประการแรก เล่ากนั วา่ บริเวณน้ีเคย มีคลองเล็กๆ ไหลผา่ นไปสู่ แม่น้าเจา้ พระยา คร้ังหน่ึงมีผพู้ บไมต้ น้ รักขนาดใหญ่ อยา่ งท่ีเรียกวา่ ซุง จมอยใู่ น คลองน้นั ความใหญโ่ ตของไมร้ ักท่ีพบคร้ังน้นั เป็นท่ีสงสยั และ เล่าลือกนั ถึงที่มา แต่ก็ไม่มีผใู้ ดทราบวา่ ซุงไม้ รักน้นั มาจากไหน ต่อมา คร้ังใดท่ีเอ่ยถึงสถานที่บริเวณน้นั ก็จะใชช้ ่ือไมร้ ักเป็ นท่ีหมาย เมื่อเวลาผ่านไปคา เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 132
เรียกไมร้ ักไม่เป็ นท่ีรับรู้ของคนรุ่นต่อมา จึงกลายเป็ น บางรัก ไปในท่ีสุด ส่วนคลองที่พบซุงไมร้ ักน้นั เรียก กนั ติดปากวา่ คลองตน้ ซุง ภายหลงั เม่ือถมคลองกลายเป็ นตรอกจึงเรียกวา่ ตรอกซุง ประการที่สอง กล่าววา่ ช่ือบางรักมาจากช่ือโรงพยาบาล หรือท่ี เรียกกนั ในสมยั น้นั วา่ โรงหมอ เขา้ ใจวา่ เป็ นหมอมิชชนั นารีรักษา ตาม แบบสมยั ใหม่ มีชื่อเสียงในการรักษาพยาบาล ผคู้ นนิยมเดินทางมารับ การรักษา จึงเรียกสถานท่ีน้ีวา่ บางรักษ์ และกลายเป็นบางรัก ทำไมเวลำด่ืมเหล้ำแล้วหน้ำแดง สาเหตุคนที่ด่ืมเหลา้ หลายคนมีอาการหน้าแดง โดยเฉพาะคนในเอเชีย ตะวนั ออก อย่างคนจีน คนญ่ีป่ ุน และคนเกาหลี ที่ดื่มสุรา ราว 34 % จะมีอาการหน้าแดง หลายคนดื่มสุรา เพียงเล็กน้อยก็เกิดอาการแลว้ และนอกจาก จะหนา้ แดงคอแดงแลว้ บางคนยงั แดงไปทวั่ ท้ังตัวด้วย คนที่มีอาการแบบน้ี อาจรู้สึ ก วิงเวียน คลื่นไส้ รู้สึกร้อนวูบวาบ หัวใจเตน้ เ ร็ ว ห า ย ใ จ ไ ม่ ทั น แ ล ะ ป ว ด ศี ร ษ ะ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า สาเหตุ คือ ความ แตกต่างทางพนั ธุกรรม เพราะคนที่มีอาการน้นั มี gene หรือเช้ือพนั ธุ์ตวั หน่ึงคือ ALDH2 บกพร่อง ซ่ึงทาให้ ร่างกายของคนเหล่าน้นั รับหรือมีปฏิกริยาตอ่ แอลกอฮอลต์ ่างไปจากคนอื่น นกั วิจยั เตือนวา่ ผลกระทบเร่ืองน้ี อาจเป็ นอนั ตรายมากไปกว่าเพียงแค่หน้าแดง เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกบั ความเสี่ยงต่อการเป็ นโรคมะเร็ง หลอดอาหารด้วย ยิ่งด่ืมเคร่ืองด่ืมประเภทแอลกอฮอล์มากเท่าใด ก็ย่ิงมีความเสี่ยงมากข้ึนเท่าน้นั อย่างใน ญ่ีป่ ุนและเกาหลีใต้ นกั วิจยั พบวา่ คนท่ีมีจีนหรือเช้ือพนั ธ์ ALDH2 บกพร่องที่ด่ืมจดั มีอตั ราเสี่ยงต่อการเป็ น มะเร็งหลอดอาหารมากกวา่ คนอ่ืนราว 6 – 10 เท่า ทำไมถึงมีกำรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบำรมีใน โรงภำพยนตร์ พิธีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระ บารมีในโรงภาพยนตร์น้ันมีตน้ ตอมาจากประเทศ องั กฤษ โดยเร่ิมในช่วงตน้ ทศวรรษท่ี 1910 ในรัช สมยั ของพระเจา้ จอร์จท่ี 5 โดยจะมีการบรรเลง God save the King หลงั จากฉายภาพยนตร์เสร็จ และฉาย ภาพพระบรมฉายาลกั ษณ์ของพระองค์ ซ่ึงเป็ นหน่ึง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 133
ในแนวทางการสร้างอุดมการณ์ “ พระเจา้ กษตั ริย์ และประเทศ” เน่ืองจากประเทศองั กฤษในขณะน้นั อยู่ ใ น ช่ ว ง ส ง ค ร า ม โ ล ก ค ร้ั ง ที่ 1 จึ ง มี ค ว า ม จ า เ ป็ น ต้อ ง ต อ ก ย้ า อุ ด ม ก า ร ณ์ เ ห ล่ า น้ี อยา่ งไรกต็ าม ในช่วงตน้ ของรัชสมยั พระนางเจา้ อลิซาเบธท่ี 2 หลงั สงครามสงบลง เสรีภาพทางการเมืองและ การแสดงออกกลับคืนสู่องั กฤษ ทาให้ในช่วงปี ค.ศ. 1950-1960 ไดม้ ีกลุ่มนักศึกษาแคมบริดจ์ และอ๊อก ฟอร์ด ออกมาแสดงออกเชิงสัญลกั ษณ์ดว้ ยการนงั่ หรือลุกเดินออกทนั ทีหลงั จากภาพยนตร์จบ เพื่อแกป้ ัญหา ดงั กล่าวเจา้ ของโรงภาพยนตร์จึงแกป้ ัญหาดว้ ยการนาเพลง God Save The Queen มาฉายก่อนเปิ ดภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีการต่อต้านอีกอยู่ดี จนกระท่ังประเพณีดังกล่าวหายไปในท่ีสุ ดในช่วงทศวรรษที่ 1970 สาหรับประเทศไทย เพลงสรรเสริญพระบารมีเขา้ สู่โรงภาพยนตร์คร้ังแรกในปี 2478 โดยไดร้ ับแนวคิดจาก องั กฤษ โดยในสมยั รัฐบาลพลเอกพหลพลพยุหเสนา มีการออกพระราชกิจจานุเบกษา เรื่อง “ประกาศ ระเบียบการบรรเลงเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี” โดยในขอ้ 6 มีการระบุไวว้ า่ “ในการมหรสพ สมควรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแบบสังเขป ฯลฯ” ต่อมารัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามได้ ประกาศใน ประกาศสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยรัฐนิยม ฉบบั ท่ี 4 เร่ือง การเคารพธงชาติ, เพลงชาติ และ เพลงสรรเสริญพระบารมี ลงวนั ที่ 8 กนั ยายน พ.ศ. 2482 โดยระบุไวใ้ นขอ้ ท่ี 4 วา่ “เม่ือไดย้ ินเพลงสรรเสริญ พระบารมี ซ่ึงทางราชการบรรเลงในราชการก็ดี ซ่ึงบุคคลบรรเลงในโรงมหรสพหรือในงานสโมสรใดๆ ก็ดี ให้ผูท้ ่ีร่วมงาน หรือท่ีอยู่ในวงงาน หรือในโรงมหรสพน้ันแสดงความเคารพ โดยปฏิบตั ิตามระเบียบ เครื่องแบบหรือตามประเพณีนิยม” จึงเป็นท่ีมาของการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ ทำไมหนังสือแผนท่ี จึงเรียกว่ำแอตลำส (Atlas) คนที่เคยเรียนวชิ าภมู ิศาสตร์ และเคยตอ้ งใชห้ นงั สือรวมแผน ท่ีโลกมาแลว้ น่าจะเคยมีหลายคนที่สงสัยกนั ไหมวา่ ทาไมคาวา่ แผนที่ใน ภาษาองั กฤษเรียกว่า map แต่พอเป็ นหนังสือรวมแผนที่ กลับไม่นิยม เรียกวา่ map book แต่ไปเรียกวา่ “แอตลาส” (Atlas) แทนเสียอยา่ งน้นั มนั มีที่มาที่ไปอย่างไร แอตลาส (Atlas) เป็ นเชื่อของยกั ษ์ในตานานเทพ ปกรณมั ของกรีกในวงศไ์ ททนั ส์ (Titans) ซ่ึงมีโครนุส (Cronus) เป็ นผนู้ า และไดป้ กครองสวรรคอ์ ยรู่ ะยะหน่ึง ต่อมาเมื่อซูสเติบโตข้ึนและเป็ นผนู้ า ของพี่ ๆ ในการลม้ อานาจของวงศไ์ ททนั ส์ ยกั ษแ์ อตลาสก็เป็ นหน่ึงในวงศ์ ไททนั ส์ท่ีต่อสู้กบั พวกเทพโอลิมปัสท่ีนาโดยเทพซูส ดงั น้นั เม่ือฝ่ ายเทพซู สชนะ แอตลาสจึงถูกลงโทษด้วยการให้แบกโลก (บางแห่งก็ว่าแบก ทอ้ งฟ้ า) ไวบ้ นบ่าตลอดกาล จนกระทงั่ เม่ือเพอร์ซิอุสตดั หวั เมดูซาไดแ้ ลว้ ระหวา่ งเดินทางกลบั บา้ น เพอร์ซิ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 134
อุสไดพ้ บกบั ยกั ษแ์ อตลาสแลว้ เกิดทะเลาะกนั เพอร์ซิอุสจึงชูหวั ของเมดูซาข้ึน ทาใหแ้ อตลาสกลายเป็ น เกิด เป็ นเทือกเขาแห่งหน่ึงทางตะวนั ตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา แถบประเทศโมร็อกโกในปัจจุบัน ส่วนการที่คาวา่ “แอตลาส” กลายมาเป็นช่ือเรียกหนงั สือรวมแผนท่ีน้นั เกิดข้ึนในปี ค.ศ. 1595 โดย เกอราร์ด เมอเคเตอร์ (Gerardus Mercator) นกั ทาแผนที่ชาวเนเธอร์แลนด์ (คนเดียวกบั ที่ทาแผนที่เมอเคเตอร์ท่ีรู้จกั กนั ดี จนทาให้หลายคนคิดว่ากรีนแลนดใ์ หญ่กว่าทวีปออสเตรเลียนน่ั แหละ) ไดท้ าหนงั สือรวมแผนที่สาหรับ นักเดินเรือข้ึน และได้ใช้คาว่า “แอลลาส” ในช่ือหนังสือดังกล่าว คือ Atlas Sive Cosmographicae Meditationes de Fabrica Mundi et Fabricati Figura. โดยเช่ือกนั วา่ ท่ีเมอเคเตอร์ใชช้ ื่อแอตลาสเป็ นช่ือ หนงั สือรวมแผนทีก็มาจากตานานของแอตลาสแบกลูกโลก ซ่ึงเมอเคเตอร์ไดน้ ารูปดงั กล่าวมาพิมพไ์ วท้ ่ีปก หนงั สือดว้ ย ดงั น้นั เม่ือปรากฏวา่ หนงั สือแผนท่ีของเมอเคเตอร์ขายดีเป็ นท่ีรู้จกั ของคนทวั่ ยุโรป ก็เลยทาให้ คนทว่ั ไปเรียกหนงั สือรวมแผนที่วา่ “แอตลาส” ตอ่ ๆ กนั มา จนทาใหค้ าน้ีกลายเป็ นข่ือเรียกหนงั สือรวมแผน ที่ทวั่ โลกไปในท่ีสุด รู้จักกับสะพำนมัฆวำนรังสรรค์ สะพานมฆั วานรังสรรค์ มีท่ีมาจากการที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานแห่งน้ีข้ึนใน พ.ศ.2443 เม่ือให้กรมสุขาภิบาลตดั ถนนราชดาเนินนอก เพ่ือเป็ นทางเสด็จ พระราชดาเนินไปยังพระราชวังดุสิ ต จึงโปรดเกล้าฯ ให้ กระทรวงโยธาธิการสร้างสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ตวั สะพานมีโครงสร้างเป็ นคานเหล็ก พ้ืนคอนกรีต ราวสะพานเป็ น เหล็กหล่อ มีดวงตารูปช้างเอราวณั ท่ีก่ึงกลางสะพาน นายช่าง ผอู้ อกแบบชื่อ คาร์โล อาเลกรี เป็ นชาวอิตาลี โดยมีพระประสงค์ ให้เป็ นสะพานขนาดใหญ่และงดงาม เม่ือสร้างเสร็จใน พ.ศ. 2446 ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน นามวา่ สะพานมฆั วานรังรักษ์ ตอ่ มา โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ ปลี่ยนเป็ น สะพานมฆั วานรังสรรค์ และเสด็จพระราช ดาเนินทรงเปิ ดสะพานเมื่อวนั ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2446 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 50 พรรษา โดยชื่อสะพาน คาวา่ มฆั วาน แปลวา่ พระอินทร์ มฆั วานรังสรรค์ จึงแปลวา่ พระอินทร์เป็ นผู้ ทรงสร้าง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 135
รู้จักบั ฟอสฟิ น “ฟอสฟี น” สัญญาณบ่งบอกถึงการพบสิ่งมีชีวิต ฟอสฟี น (Phosphine) เป็ นก๊าซชนิดหน่ึง มี สูตรเคมีคือ PH3 ประกอบดว้ ยอะตอม ของฟอสฟอรัส 1 อะตอม จับกับ ไฮโดรเจน 3 อะตอม เป็ นรูปพีระมิด ฐานสามเหล่ียม โดยมีฟอสฟอรัสอยู่ท่ี มุมยอดและไฮโดรเจนอยู่ท่ีฐาน มีจุด เดือด -87.7 องศาเซลเซียส ดงั น้ันที่ อุณหภูมิหอ้ งจะมีสถานะเป็ นก๊าซไม่มีสี และมีกลิ่นคาวเล็กนอ้ ย ความหนาแน่น 1.379 กรัมต่อลิตร ละลายน้าไดเ้ ล็กน้อย รวมถึงยงั ละลายไดใ้ นตวั กลางอินทรีย์ เช่น แอลกอฮอล์ อีเทอร์ (Ether) อีกดว้ ย ฟิ ลิปเป กองเกมเบรอ (Philippe Gengembre) เป็ นบุคคลแรกที่สังเคราะห์ฟอสฟี นไดส้ าหรับ ในปี 1783 โดยการใหค้ วามร้อนกบั ฟอสฟอรัสขาวในสารละลายของโพแทสเซียมคาร์บอเนต ซ่ึงก็ยงั คงเป็ น หน่ึงในวธิ ีการผลิตก๊าซฟอสฟี นที่ใชใ้ นอุตสาหกรรม ฟอสฟี นยงั พบไดเ้ ล็กนอ้ ยในช้นั บรรยากาศของโลก โดยเกิดจากแบคทีเรียชนิดไม่ใชอ้ อกซิเจนในการดารงชีวติ ตามหนองบึงหรือแหล่งอื่นที่ขาดแคลนออกซิเจน เป็ นส่วนหน่ึงของวฎั จกั รฟอสฟอรัสบนโลก นอกจากน้ันก่อนหน้าน้ีก็ยงั มีการพบก๊าซฟอสฟี นบนช้ัน บรรยากาศของดาวพฤหสั กบั ดาวเสาร์เล็กนอ้ ย แต่สิ่งสาคญั ในเรื่องน้ีก็คือ ยงั ไม่เคยมีการพบฟอสฟี นท่ีเกิด จากสาเหตุธรรมชาติท่ีไม่เกี่ยวกบั สิ่งมีชีวิต อยา่ งนอ้ ยก็ในดาวขนาดเท่าโลกหรือดาวศุกร์ ทาให้การคน้ พบ คร้ังน้ีมีความสาคญั มากกวา่ ฟอสฟี นดงั กล่าวมาจากท่ีใด เป็ นผลผลิตจากส่ิงมีชีวิต หรือเกิดจากปรากฏการณ์ อ่ืน ๆ ที่ไม่เก่ียวขอ้ งกบั สิ่งมีชีวิต ประโยชน์ของก๊าซฟอสฟี นไดแ้ ก่การใชเ้ ป็ นยาฆ่าแมลง ใชร้ มควนั อาหาร หรือใบยาสูบเพ่ือให้เก็บไดน้ านข้ึน ใช้เป็ นสารต้งั ตน้ ในการผลิตสารหน่วงไฟในพลาสติก รวมถึงใช้ใน อุตสาหกรรมผลิตสารก่ึงตวั นาดว้ ย อยา่ งไรก็ตาม ก๊าซฟอสฟี นมีความเป็ นพิษต่อร่างกายมนุษย์ รวมถึงยงั สามารถติดไฟไดด้ ีมากและมีฤทธ์ิกดั กร่อนวสั ดุอ่ืน ซ่ึงอาจจะทาใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุไดง้ ่าย การเก็บรักษาและการ ใชง้ านจึงตอ้ งทาอยา่ งระมดั ระวงั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 136
รู้ จั ก กั บ ม ห ำ วิ ท ย ำ ลั ย ธ ร ร ม ศ ำ ส ต ร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ก่อต้งั เม่ือวนั ที่ 27 มิถุนายน 2477 โดยมีชื่อเมื่อเริ่มก่อต้ังว่า \"มหาวิทยาลัยวิชา ธรรมศาสตร์ และการเมือง\" (มธก.) มหาวิทยาลัยน้ีถือ กาเนิดมาจากความคิดริเร่ิมของ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ (รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวง มหาดไทย ในขณะ น้ั น ) domebuildingโ ด ย เ ล็ ง เ ห็ น ว่ า ก า ร ศึ ก ษ า ใ น ระดบั อุดมศึกษา ขณะน้นั มีจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั เพียง แห่งเดียว เม่ือมีการ เปล่ียนแปลงการปกครองเป็ นระบอบ ประชาธิปไตยใน พ.ศ.2475 ประเทศชาติ มีความจาเป็ นตอ้ งมีบุคคล ที่มีความรู้ ทางกฎหมาย การปกครอง และสงั คม มารับใชป้ ระเทศชาติโดยด่วน จึงไดเ้ สนอร่างพระราชบญั ญตั ิมหาวิทยาลยั วชิ าธรรมศาสตร์ และ การเมือง พ.ศ.2476 เพ่ือเปิ ดสอนในวชิ าแขนงดงั กล่าว เมื่อพระราชบญั ญตั ิผา่ นสภาผแู้ ทนราษฎรแลว้ ไดม้ ี พิธี เปิ ดมหาวิทยาลยั ข้ึน เม่ือวนั ที่ 27 มิถุนายน 2477 โดยผสู้ าเร็จ ราชการแทนพระองคเ์ ป็ นผกู้ ระทาพิธีเปิ ด และ ศาสตราจารย์ ดร.ปรี ดี พนมยงค์ ได้รับแต่งต้ังเป็ นบุคคลสาคัญของมหาวิทยาลัยคนแรกของ มหาวิทยาลัย (และเป็ นบุคคลสาคญั ของมหาวิทยาลัยคนเดียว เพราะต่อมาได้เปลี่ยนช่ือ ตาแหน่ง เป็ น อธิการบดี ปรัชญาของการต้งั มหาวิทยาลยั ปรากฏตามสุนทรพจน์ ของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รายงานต่อผูส้ าเร็จราชการ แทนพระองค์มีดงั น้ี \"...มหาวิทยาลยั ย่อมอุปมา ประดุจบ่อน้า บาบดั ความ กระหายของราษฎร ผสู้ มคั รแสวงหาความรู้ อนั เป็ นสิทธิและโอกาส ที่เขาควรมีควรได้ ตามหลกั เสรีภาพ ของการศึกษา...\" ด้วยเหตุน้ีมหาวิทยาลยั วิชาธรรมศาสตร์และการเมือง จึงเป็ นตลาดวิชา และเป็ น มหาวทิ ยาลยั เปิ ดแห่งแรกของประเทศไทย แต่เมื่อวนั ที่ 8 พฤศจิกายน 2490 คณะรัฐประหาร ไดย้ ดึ อานาจ การปกครองประเทศ ดว้ ยเหตุผลทางการเมือง และการ ปกครอง ของคณะรัฐประหาร ทาให้ มหาวิทยาลยั ไดร้ ับผลกระทบ และถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บุคคลสาคญั ของมหาวิทยาลยั ปรีดี พนมยงค์ ตอ้ งล้ีภยั ก า ร เ มื อ ง ไ ป อ ยู่ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ช่ื อ ม ห า วิท ย า ลัย ถู ก ตัด ค า ว่า \" ก า ร เ มื อ ง \" อ อ ก เ ป ลี่ ย น เ ป็ น \"มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์\" ตาแหน่ง ผปู้ ระศาสน์ การถูกยกเลิก เปลี่ยนเป็ นอธิการบดี หลกั สูตรการศึกษา ธรรมศาสตรบณั ฑิตถูกเปลี่ยนแปลงเป็ น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบญั ชี ความเป็ นตลาดวิชาหมดไป ตามพระราชบญั ญตั ิมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ พ.ศ.2495 ในปี พ.ศ.2518 ศาสตราจารย์ ดร.ป๋ วย อ๊ึงภากรณ์ เป็นอธิการบดี ท่านเห็นวา่ ควรท่ีจะขยายการศึกษา ดา้ นวิทยาศาสตร์ในช้นั ปริญญาตรีเพ่ิมข้ึน ท้งั น้ีเพราะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มีส่วนสาคญั ในการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาสังคม เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 137
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212