เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก 2563

เช่นเดียวกบั หลกั สูตรทางสังคมศาสตร์ที่มียเู่ ดิม พ้ืนท่ีธรรมศาสตร์ท่าพระจนั ทร์ มีเน้ือที่ประมาณ 50 ไร่ ไม่ เพียงพอ ต่อการขยายตวั ทางวิชาการและการพฒั นา มหาวิทยาลยั จึงเจรจาขอใช้ท่ีดินนิคมอุตสาหกรรม กระทรวง อุตสาหกรรม เน้ือที่ประมาณ 2,400 ไร่ ที่รังสิต เพ่ือสนองรับการขยายตวั ของมหาวิทยาลยั ต่อไป มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์จึงขยายออกไปที่รังสิต เรียกว่า มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ศูนยร์ ังสิต ซ่ึงเจริญ กา้ วหนา้ และพฒั นามาจนถึงปัจจุบนั นอกจากน้ี ยงั ขยายไปที่ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ศูนยล์ าปาง และ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ศูนยพ์ ทั ยาดว้ ย โดยอยบู่ นพ้ืนฐานการปลูกฝังจิตวญิ ญาณความเป็ นธรรมศาสตร์ ดงั่ เช่น จิตวญิ ญาณธรรมศาสตร์ ทา่ พระจนั ทร์ ทำไม ชุดนักเรียนหญงิ ม.ต้น ถึงคล้ำยชุดกะลำสีเรือ เครื่องแบบนกั เรียนเป็ นเครื่องแบบสาหรับนกั เรียน ใช้ ในสถาบันการศึกษา ใช้กันมากในระดับประถมศึกษาและระดับ มธั ยมศึกษา โดยการแต่งเครื่องแบบนกั เรียนมีพ้ืนฐานมาจากการแต่งตวั ให้เขา้ กบั กาลเทศะของโรงเรียนหรือสถาบนั การศึกษา เคร่ืองแบบของ นกั เรียนชายส่วนใหญ่ประกอบไปดว้ ยกางเกงขาส้ันหรือขายาวสีดาและ เส้ือเชิ้ตสีขาวและอาจมีเนคไทด้วย ส่วนเครื่องแบบของนักเรียนหญิง ส่วนใหญ่แลว้ ประกอบไปดว้ ยเส้ือคร่ึงตวั และกระโปรง ส่วนสาเหตุท่ีว่า ทาไม ชุดนกั เรียนหญ7้ิง ม.ตน้ ถึงเหมือนชุดกะลาสีเรือ น้นั ไดอ้ ิทธิพล มาจาก ปี ค.ศ.1846 ไดป้ รากฏภาพเจา้ ชายเอด็ เวริ ์ดขององั กฤษ โอรสพระ ราชินีวิคตอเรียทรงแต่งชุดกะลาสีเผยแพร่ทางหนงั สือพิมพ์ ชุดดงั กล่าว ต่อมากลายเป็ นที่นิยมของเด็กๆ ทวั่ โลก จากน้ันมีการนาชุดกะลาสีไปเป็ นแบบฟอร์มของนักเรียนใน สหรัฐอเมริกาและแพร่ขยายต่อไปยงั เยอรมนี ญี่ป่ ุนและประเทศไทย ฯลฯ” แมช้ ุดนกั เรียนของไทยไดร้ ับ อิทธิพลจากต่างชาติไม่ตรงเป๊ ะๆ แต่ก็ใกลเ้ คียง ในระดบั ช้นั ประถมปลายจนถึง ม.ตน้ จะสวมเส้ือคอปก ใหญ่ๆ แลว้ ผูกคอซอง รวมถึงเด็กๆ ในครอบครัวชนช้นั สูงสมยั ก่อน มกั จะเห็นสวมเส้ือแบบกะลาสีเรืออยู่ บ่อยๆ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 138

วธิ ีแก้อำกำรปวดขีแ้ บบฉุกเฉิน ก่อนอื่นมาเขา้ ใจหลกั การทางานของการอ้นั ข้ีกนั ก่อน ซ่ึงรูตูด จะมีกลา้ มเน้ือ หูรูด 2 ด่าน ด่านแรกไม่สามารถใชจ้ ิตบงั คบั ได้ ส่วน ด่านที่2อยใู่ ตบ้ งั คบั ของจิตใจ ซ่ึงหูรูดจุดน้ีเป็ นตวั ควบคุมการปิ ดเปิ ดของรูตูดโดยตรง ซ่ึงน้นั หมายความ วา่ จิตใจเป็นส่วนสาคญั ที่สามารถควบคุมการขบั ถ่าย ได้ คราวน้ีเรามาดูเทคนิคที่เราสรรหามาใหถ้ ึง 7 ขอ้ ดว้ ยกนั ท่ีจะช่วยใหค้ ุณหลุดจากวกิ ฤติข้ีแตกได้ 1. #เกำน่องเพอื่ เบ่ยี งเบนสมอง วธิ ีน้ีเป็นวธิ ีที่นกั จิตวทิ ยาทางสมองแนะนา เพราะการเกาน่องมนั จะเป็นการ หลอกสมองใหม้ าโฟกสั ตรงน่องแทน ทาใหส้ มองลืมไปวา่ กาลงั ปวดอึอยู่ (ซ่ึงนบั จากน้ี หากบทความน้ี เผยแพร่ออกไป หากคุณเห็นใครเกาน่องยกิ ๆ ใหเ้ ดาไดเ้ ลยวา่ คนๆน้นั กาลงั ปวดข้ีอยอู่ ยา่ งแน่นอน) 2. #กดจุดสยบขี้ อนั น้ีเป็นวธิ ีของจีน โดยการใชน้ ิ้วกดสกดั จุดดว้ ยตนเอง ซ่ึงมีดว้ ยกนั 2จุด คือ (1) จุดเน่ยกวาน จุดน้ี อยหู่ ่างจากเส้นขอ้ มือระหวา่ งเอน็ ท้งั สองโดยห่างจากเส้นขอ้ มือประมาณ 2 นิ้ว วธิ ีกด ใหใ้ ชห้ วั แมม่ ือกดจุดท้งั สองขา้ ง จนกวา่ อาการจะดีข้ึน (ซ่ึงจุดน้ีนอกจากช่วยบรรเทาอาการปวดอึ ไดแ้ ลว้ ยงั ช่วยแกอ้ าการเมารถเมาเรือ วงิ เวยี นไดอ้ ีกดว้ ย) (2) จุดใตห้ วั เข่า โดยใหว้ ดั จากหวั เข่าลงมาหนา้ แขง้ ประมาณ 1 ขอ้ นิ้วช้ีและวดั ออกจากหนา้ แขง้ ไปดา้ นนอก ของขาอีก1 ขอ้ นิ้ว วธิ ีกด ให้เอานิ้วกดแช่ไวจ้ นกวา่ อาการจะดีข้ึน 3. #ใช้ปำกกำหรือม้วนกระดำษทดั หูเอำไว้ น่ีเป็นอีกวธิ ีนึงท่ีนกั จิตวทิ ยา นาเสนอวา่ การใชป้ ากกาทดั หูจะ สามารถหลอกอาการปวดข้ีได้ เพราะหูเป็นจุดที่อยใู่ กลส้ มองที่สุด การนาส่ิงแปลกปลอมมาเกี่ยวไวท้ ี่หู จึง เป็นการเบ่ียงเบนสมองใหม้ าโฟกสั กบั สิ่งแปลกปลอมตรงท่ีหูแทน 4. #คิดถึงเรื่องอนื่ เข้ำไว้ คือใหค้ ิดถึงเร่ืองฮาๆ สนุกๆ หรือเรื่องเศร้าชนิดชีวิตบดั ซบ เร่ืองน่ากลวั ๆชนิดใหข้ ้ี หด ตดหายไปเลย หรือถา้ อยใู่ นรถก็ใหเ้ ปิ ดเพลงดงั ๆ พร้อมตะโกนใหส้ ุดเสียงตามเพลง มนั จะทาใหจ้ ิต เราไม่ไปจดจ่อกบั การปวดข้ี 5. #ใช้คำถำเข้ำช่วย เอาจริงๆนะต่อให้โคตรคาถายงั ไงคุณก็ตอ้ งข้ี แตค่ าถาท่ีเราแนะนา มนั คือหลกั ธรรมะที่ หลกั จิตวทิ ยาสากลพสิ ูจนไ์ ด้ ซ่ึงคาถามีดงั น้ี \"อนั ตวั กไู ม่ใช่ของกู ท่ีกทู รมานกแ็ ค่จิตคิดไปเอง ทอ้ งที่ปวดนี่ มนั คือทอ้ งหมู ทอ้ งหมา หาใช่ทอ้ งกไู ม\"่ ท่องไปเรื่อยๆ ท่ีท่องไมใ่ ช่วา่ คาถาจะศกั สิทธ์ิ แตม่ นั จะทาใหจ้ ิตเรา มาโฟกสั กบั การท่องคาถาแทน จนลืมไปวา่ กาลงั ปวดข้ีอยู่ 6. #ตดนำร่องไปก่อน ก่อนอ่ืนตอ้ งคลายเขม็ ขดั และกระดุม ใหไ้ ม่มีอะไรบีบรัดพุง และถา้ มนั่ ใจวา่ ที่ปวดเป็น เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 139

เน้ือใหพ้ ยายามตด เพ่อื ระบายทอ้ งไม่ใหอ้ ึดอดั เกินไป มนั จะช่วยผอ่ นคลายแรงดนั ได้ แตถ่ า้ เป็นน้าหา้ มตดนา ร่องเด็ดขาด เพราะการตดมนั มีโอกาสสูงมากท่ีคุณตอ้ งสละกางเกงในทิง้ ไป เพราะมนั จะมีน้าปนเน้ือ ตามตด ออกมาดว้ ยอยา่ งแน่นอน!! 7. #ฝึ กขมิบตูดจนแขง็ แกร่ง การกล้นั ข้ีไดเ้ วลามากนอ้ ยกวา่ กนั นอกจากจิตใตตอ้ งแกร่งแลว้ ท่ีสาคญั อยทู่ ี่ ความแขง็ แรงในการขมิบตูด ใครอ่อนแอกแ็ พไ้ ป เตรียมข้ีเละติดตูด ฉะน้นั วธิ ีฝึก คือตอ้ งหดั ขมิบตูดให้ บ่อยๆเพื่อใหห้ ูรูดแขง็ แรงข้ึน ซ่ึงมนั จะช่วยใหค้ ุณเป็นเทพในการอ้นั ข้ีไดน้ านข้ึนนน่ั เอง ประชำชน ประชำกร พลเมอื ง รำษฎร คำเหล่ำนี้ต่ำงกันอย่ำงไร ประชาชน เป็ นคาที่เกิดจากคาวา่ ประชา คือ กลุ่มคน และชน หมายถึง คน มา รวมกนั หมายถึง คนที่เกิดและอาศยั อยู่ ในประเทศใดประเทศหน่ึง ถือว่าเป็ น เจา้ ของหรือสมาชิกของประเทศ โดย มกั ใช้ในความหมายพหูพจน์ หมายถึง หมู่คนหรือคนจานวนมาก ประชากร เป็ น คาท่ี ตร งกับ ภาษ าอังก ฤ ษ ว่า Population โดยมกั ใชใ้ นวชิ าสถิติและการวิจยั หมายถึง กลุ่มของสิ่งต่างๆ ท่ีผวู้ ิจยั สนใจและมุ่งศึกษา อาจ เป็ นส่ิงมีชีวติ หรือไม่มีชีวติ ก็ได้ เช่น คน สัตว์ พืช โดยรวมความหมายของคาน้ีจะมุ่งเนน้ ที่จานวน เป็ นหลกั ราษฎร หมายถึง ผูท้ ี่เป็ นคนของประเทศ ถือสัญชาติเดียวกนั อยู่ภายใตก้ ารปกครองเดียวกนั มีสิทธิตาม กฎหมาย และตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายบา้ นเมืองเหมือนกนั ทุกคน พลเมือง หมายถึง คนท่ีมีสิทธิและหนา้ ท่ี ในฐานะประชาชนของประเทศใดประเทศหน่ึง หรือประชาชนท่ีอยู่ภายใต้ผูป้ กครองเดียวกัน มกั มี วฒั นธรรมเดียวกนั อน่ึงคาวา่ พลเมือง มีความหมายต่างกบั ประชาชน ในแง่ที่เนน้ สิทธิและหนา้ ที่มากกว่า คาวา่ ประชาชน รู้จักกับท่ำพระจันทร์ ท่าพระจนั ทร์ เป็ นท่าเรือริมฝ่ังแม่น้าเจา้ พระยา ต้งั อย่บู ริเวณสุดถนนพระจนั ทร์ ขา้ ง มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ แขวงพระบรมมหาราชวงั เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ใหบ้ ริการเฉพาะเรือขา้ ม ฟากในเส้นทางท่าพระจนั ทร์-วงั หลงั และท่าพระจนั ทร์-พระปิ่ นเกลา้ บริเวณท่าเรือแห่งน้ีเคยเป็ นที่ต้งั ของ ป้ อมพระจนั ทร์ ซ่ึงเป็ นป้ อมแห่งหน่ึงที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ให้ สร้างข้ึนตามแนวกาแพงพระนครดา้ นตะวนั ตก ต่อมาในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 140

โปรดเกลา้ ฯ ให้ใช้บริเวณพระราชวงั บวรสถานมงคลเป็ นทอ้ งสนามหลวง ถนนหน้าพระธาตุ ป้ อมต่าง ๆ รอบกาแพงพระราชวงั บวรสถานมงคลถูกร้ือลงหมดรวมถึงป้ อมพระจนั ทร์ดว้ ย ถนนท่ีตดั ตรงสู่บริเวณท่ีเคย เป็ นท่ีต้งั ของป้ อมพระจนั ทร์จึงมีช่ือว่า \"ถนนพระจนั ทร์\" และท่าน้าในบริเวณท่ีเคยเป็ นท่ีต้งั ของป้ อม พระจนั ทร์จึงเรียกวา่ \"ท่าพระจนั ทร์\" มาจนถึงปัจจุบนั ใชเ้ ป็ นท่าเรือโดยสารซ่ึงมีบริษทั เอกชนเป็ นผดู้ าเนิน กิจการเดินเรือขา้ มฟากท่ีประมูลมาจากกรุงเทพมหานคร ปัจจุบนั บริเวณท่าพระจนั ทร์เป็ นแหล่งการคา้ ที่ คึกคกั มาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเยน็ โดยเป็ นที่รู้จกั กนั ดีของการเป็ นตลาดพระเครื่องและวตั ถุมงคลต่าง ๆ รวมถึงร้านคา้ , ร้านอาหาร, ร้านหนงั สือต่าง ๆ อีกดว้ ย ทำไมกินวำซำบิ แล้วถึงเผ็ดขึน้ จมูก หลายคนคงสงสัย วา่ ทาไมเวลาทานวาซาบิแลว้ ถึงมีอาการจี๊ดข้ึนจมูก หรือบา้ งก็จี๊ดข้ึนสมอง สาเหตุหลกั ก็คือ “ไอระเหย” เน่ืองจากใน วาซาบิน้นั มีส่วนประกอบของสารประกอบออแกนิกซลั เฟอร์ที่มี ชื่อวา่ Allyl isothiocyanate ซ่ึงเจา้ สารประกอบตวั น้ีแหละท่ีมี กล่ินท่ีฉุนรุนแรง ถา้ รับประทานจะให้ความรู้สึกแสบร้อนข้ึน จมูกในระยะส้ันๆ ก่อนที่จะเปล่ียนเป็ นความกลมกล่อม จากรส หวานและขมผสมกนั และใหค้ วามเผด็ เลก็ นอ้ ย ถา้ กินแลว้ รู้สึกข้ึนจมูกมากเกินไป ใหห้ ายใจเขา้ ทางจมูก อยา่ กล้นั หายใจ แลว้ ทานน้าอดั ลมที่มีส่วนผสมของโซดาจะช่วยไดค้ รับ YMCA ย่อมำจำกอะไร วายเอ็มซีเอ (องั กฤษ: YMCA ยอ่ มาจาก Young Men's Christian Association) เป็ นองค์กรเอกชน ของชาวคริสเตียนท่ีทาหน้าท่ีบริการสังคม วายเอม็ ซีเอมี ใน 122 ประเทศทวั่ โลก ในแต่ละประเทศ วายเอ็มซี เอจะมีการดาเนินงานแตกต่างกนั และมีเป้ าหมายที่แตกต่างกนั ในทวีปอเมริกาเหนือ วายเอ็มซีเอบริการสังคมโดยการจดั สรร สาธารณูปการดา้ นกีฬา การเล้ียงเด็ก การต้งั แคมป์ ท่ีพกั สาหรับ เยาวชน สาหรับ วายเอ็มซีเอในประเทศไทย ในตน้ ศตวรรษที่ 20 ศาสนาจารย์ บุญต๋วน บุญอิตไดเ้ ริ่มและเผยแพร่งานของ YMCA ท่ีจะใหเ้ กิดข้ึนในกรุงเทพฯ ที่ถนนวรจกั ร เพ่ือเป็ นศูนยก์ ลางของเยาวชน การกีฬา และงานสังคมสงเคราะห์ ต่าง ๆ ข้ึน ซ่ึงความคิดน้ีใหม่มาก และเหมาะสมกบั บางกอกที่กาลงั เจริญเติบโต โดยไดร้ ับการสนบั สนุนจาก สมาคม YMCA ของสหรัฐอเมริกาที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 141

วธิ ีกำรพจิ ำรณำกฎหมำยของรัฐสภำ เมื่อมีผเู้ สนอร่างกฎหมายเขา้ สู่สภาผแู้ ทนฯ แลว้ จะเขา้ สู่ข้นั ตอนที่สอง คือ การพิจาณากฎหมาย โดยทั่วไปการ พิจารณาร่างกฎหมายของสภาแบ่งเป็ น 3 วาระดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ วาระท่ีหน่ึง เรียกวา่ ‘ข้นั รับหลกั การ’ เป็ นการพิจารณาหลกั การของ ร่างกฎหมาย โดยผูเ้ สนอร่างกฎหมายจะมา ช้ีแจงหลักการและเหตุผลประกอบ ความ จาเป็นท่ีตอ้ งออกกฎหมายน้นั ๆ จากน้นั ส.ส. ในสภาจะอภิปรายเหตุผลคดั คา้ นหรือสนบั สนุน ถามขอ้ สงสัย และต้งั ข้อสังเกต แล้วจึงขอมติที่ประชุมของสภาผูแ้ ทนราษฎรว่า จะรับหลกั การหรือไม่ ถ้ามีมติไม่รับ หลกั การ ร่างกฎหมายน้นั ก็จะ ‘ตกไป’ ทนั ที ไม่ถูกพิจารณาต่อ ถา้ มีร่างกฎหมายหลายฉบบั ท่ีมีหลกั การ ทานองเดียวกนั จะรับหลกั การเฉพาะบางฉบบั ก็ได้ เม่ือสภามีสติดว้ ยเสียงขา้ งมากให้รับหลกั การแลว้ ก็ให้ สภาพิจารณาวาระที่สองต่อไป วาระที่สอง เรียกวา่ ‘ข้นั กรรมาธิการ’ เป็ นการพิจารณาร่างกฎหมายเป็ นราย มาตรา อาจเพิ่ม ตดั ทอนหรือแกไ้ ขบางมาตรา หรือบางถอ้ ยคาให้สมบูรณ์ข้ึน แต่ตอ้ งไม่ขดั แยง้ กบั หลกั การ ของร่างกฎหมายฉบับน้ัน โดยสภาอาจให้ ส.ส. ทุกคนร่ วมพิจารณาในรายละเอียดก็ได้ เรี ยกว่า ‘คณะกรรมาธิการเต็มสภา’ หรือ อาจต้งั คณะกรรมาธิการคณะใดคณะหน่ึงประกอบไปดว้ ยตวั แทนจาก พรรคการเมืองต่างๆ ท้งั ฝ่ ายรัฐบาลและฝ่ ายคา้ นข้ึนมาพิจารณาก็ได้ โดยทว่ั ไป สภาจะต้งั คณะกรรมาธิการ มาประจาสภาอยแู่ ลว้ หลายคณะและมี ส.ส. เป็ นกรรมาธิการอยู่ เรียกวา่ ‘คณะกรรมาธิการสามญั ’ หรืออาจ ต้งั ข้ึนใหม่เป็ นการเฉพาะ เรียกวา่ ‘คณะกรรมาธิการวิสามญั ’ ซ่ึงสามารถเชิญบุคคลภายนอกมาร่วมเป็ น กรรมาธิการได้ เช่น มาตรา 128 ของรัฐธรรมนูญ กาหนดให้ ร่างกฎหมายที่ประชาชนเสนอตอ้ งมีตวั แทน จากประชาชนร่วมคณะไม่นอ้ ยกวา่ 1 ใน 3 ของจานวนคณะกรรมาธิการวิสามญั อยา่ งไรก็ตาม ส.ส. ท่ีไม่ เป็ นกรรมาธิการก็อาจขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายได้ โดยเสนอคาขอ ‘แปรญัติ’ ต่อประธาน คณะกรรมาธิการภายใน 7 วนั หลงั ผา่ นวาระแรก ซ่ึงก็ข้ึนอยกู่ บั คณะกรรมาธิการวา่ จะแกไ้ ขตามหรือไม่ ถา้ คณะกรรมาธิการไม่เห็นดว้ ย ส.ส. ผนู้ ้นั อาจขอ ‘สงวนคาแปรญตั ิ’ เช่นเดียวกนั กบั กรรมาธิการคนใดที่เห็น ต่างจากมติของคณะกรรมาธิการอาจขอ ‘สงวนความเห็น’ ได้ เม่ือคณะกรรมธิการพิจารณาเสร็จแลว้ ตอ้ งนา ร่างกฎหมายเขา้ ท่ีประชุมสภาอีกคร้ัง โดย ส.ส. ท้งั สภาจะมาอภิปรายร่างกฎหมายน้ีอีกคร้ังหน่ึง แต่ประเด็น จะจากดั อยู่ตามขอ้ ความท่ีคณะกรรมาธิการมีการแกไ้ ข สงวนความเห็น หรือ สงวนคาแปรญตั ิเท่าน้นั และ สภากจ็ ะลงมติเห็นชอบโดยใชเ้ สียงขา้ งมาก เรียงตามมาตราไปเร่ือยๆ จนครบ จึงใหส้ ภาพิจารณาวาระท่ีสาม ต่อไป วาระที่สาม เรียกวา่ ‘ข้นั ลงมติเห็นชอบ’ เป็นการลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายท้งั ฉบบั ไม่มีการอภิปราย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 142

ใดๆ และจะแก้ไขข้อความใดๆ ไม่ได้ ถ้ามีมติเห็นชอบก็จะนาไปสู่การพิจารณาของวุฒิสภา แต่ถ้าไม่ เห็นชอบร่างน้นั ก็เป็นอนั ตกไป สังฆกรรมคืออะไร สงั ฆกรรม แปลวา่ กรรมอนั สงฆพ์ งึ ทา หมายถึงกิจกรรมทางพระวนิ ยั ที่ภิกษุจานวน 4 รูป ข้ึนไปซ่ึงถือว่าเป็ นสงฆ์จะพึงร่วมกนั ทาเป็ น สังฆสามัคคี ในการทาสงฆ์จะต้องพร้อม เพรี ยงกันทา ต้องทาในเขตสี มาที่เรี ยกว่า อุโบสถหรือโบสถ์ ตอ้ งน่งั ให้ไดห้ ัตถบาทอยู่ ในท่ีประชุมตลอดเวลาท่ีทา เวลามีมติตอ้ งเป็ น เอกฉันท์โดยใช้วิธีเงียบหรือรับว่าสาธุ และ เป็ นไปโดยถูกตอ้ งเป็ นธรรม ไม่มีอคติ เช่นน้ี จึงจะเป็ นสังฆกรรมแท้ สังฆกรรม ตามพระธรรมวินยั มี 4 อยา่ ง คือ 1.อปโลกนกรรม การปรึกษาหารือ 2. ญตั ติ สวดเผดียงสงฆ(์ การประชุมท่ีมีการสวดต้งั เรื่องที่จะประชุม) เช่นการสวดพระปาฏิโมกข์ 3.ญตั ติทุติย กรรมวาจา สวดต้งั ญตั ติ และสวดอนุสาวนา (ถามความเห็นที่ประชุม)เช่น การสวดกฐิน4 .ญตั ติจตุตถ กรรมวาจา สวดต้งั ญตั ติและสวดกรรมวาจาถงสามคร้ัง เช่น การให้อุปสมบท คนทว่ั ไปนาเอาคา “สังฆ กรรม” มาใช้ในความหมายว่า “การร่วมกนั กระทากิจกรรม” กล่าวเขา้ ใจง่ายๆก็คือการที่ไม่มีใครคบคา้ สมาคมด้วยหรือไม่มีใครอยากร่วมสังสรรค์ด้วย เรียกว่า “ไม่ร่วมสังฆกรรม” ถ้าเป็ นภาษาองั กฤษทาง วชิ าการดา้ นสงั คมและเศรษฐกิจทว่ั ๆ ไปจะหมายถึง Boycott ซ่ึงภาษาไทยอีกคาหน่ึงแปลวา่ “คว่าบาตร” ซ่ึง กม็ ีท่ีมาจากเร่ืองทางพุทธศาสนาเช่นกนั มีโอกำสเท่ำไรท่ีรำงวัลท่ี 1 จะออกเลข 999997 น่าจะเป็ นคาถามท่ีอยใู่ นใจใคร หลาย ๆ คนในวนั น้ี ประการแรก การต้งั คาถามแบบน้ีไม่ใช่คาถามที่ดีเท่าไร เพราะในความเป็ นจริงน้นั โอกาสท่ีรางวลั ที่ 1 จะออกเลข 999997 น้นั มีค่าเท่า ๆ กบั ท่ีมนั จะออกเลข 187245 หรือ 827426 หรือเลขอ่ืน ๆ นนั่ คือ 1/1000000 ซ่ึงเท่ากบั 0.000001 เท่ากนั ท้งั หมด แต่เราจะไม่ต่ืนเตน้ เวลามนั ออกเลข 187245 หรือ 827426 เพราะว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่เราตื่นเตน้ ไม่ใช่การท่ีมนั ออกเลข 999997 แต่คือการท่ีเลขมนั สวยจนดูผดิ หูผิดตาต่างหาก ดงั น้นั คาถามท่ีดีกวา่ ใน กรณีน้ีคือ โอกาสท่ีรางวลั ที่ 1 จะออกเลขที่สวยผิดหูผิดตาขนาดน้ีเป็ นเท่าไร ถา้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 143

คาวา่ สวยผดิ หูผดิ ตาของคุณหมายถึงมนั 'ออกเลขซ้ากนั ต้งั 5 เลข' โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์น้ีคือ 0.00054 ซ่ึง คานวณมาจาก (10x9x6)/1000000 นนั่ เอง การสนใจกรณีท่ีมนั ออกซ้ากนั ต้งั 5 เลขหมายความวา่ คุณกาลงั สนใจ 111811 หรือ 444454 หรือ 919999 ไปดว้ ย แต่เลข 999997 พิเศษกวา่ น้นั เพราะนอกจากมนั จะออกซ้า กนั ต้งั 5 เลขแล้ว ตวั ท่ีไม่ซ้าดนั ไปอยู่ตรงขอบดว้ ย หมายความวา่ เลข 5 ตวั ท่ีซ้ากนั มนั เรียงเป็ นพรืดเลย โอกาสท่ีจะเกิดเหตุการณ์ท่ี 'ออกเลขซ้ากนั ต้งั 5 เลข แลว้ 5 เลขน้นั ยงั เรียงกนั เป็ นพรืดอีกดว้ ย' น้นั เกิดยากข้ึน ไปอีก โอกาสมีเพียงแค่ 0.00018 หรือ 9/50000 ซ่ึงคานวณมาจาก (10x9x2)/1000000 เท่าน้นั ค่า 0.00018 บอกอะไรเรา ค่าน้ีบอกเราวา่ โอกาสที่รางวลั ท่ี 1 จะออกเลขตระกูล 911111 หรือ 444445 หรือ 333332 อะไรทานองน้ี จะเกิดข้ึนไดโ้ ดยเฉล่ีย 1 งวดในทุก 5556 งวด ซ่ึง 1 ปี หวยออก 24 งวด ดงั น้นั โดยเฉล่ียแลว้ คุณจะตอ้ งรอไปอีกราว 232 ปี ถึงจะเกิดเหตุการณ์แบบน้ีอีก ดาวหางฮลั เลยผ์ า่ นเขา้ มาใกลโ้ ลกทุก ๆ 75 ปี ดงั น้นั กวา่ คุณจะไดเ้ ห็นรางวลั ที่ 1 เป็ นเลขเรียงกนั เป็ นพรืด 5 ตวั แบบวนั น้ี คุณอาจจะไดเ้ ห็นดาวหางฮลั เลย์ ไปแลว้ อีก 2 คร้ังก็ได้ เพราะฉะน้นั ยนิ ดีดว้ ยครับ เราทุกคนไดเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของเหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์น้ี ร่วมกนั นำ้ สีฟ้ ำที่ตำรวจใช้กับผู้ชุมนุมคืออะไร พญ.ฉนั ทนา ผดุงทศ นกั วชิ าการสานกั โรคจากการประกอบอาชีพ และส่ิ งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสุข อธิบายว่า จากการสอบถามขอ้ มูลจาก กรมควบคุมมลพิษ และการค้นหาข้อมูลจากศูนย์ ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา(ซีดีซี) และองค์กรอาวุธ เคมีระดบั สากล เกี่ยวกบั น้าสีม่วงที่ใชฉ้ ีดพน่ ผูช้ ุมนุมในหลายพ้ืนท่ีของ กทม. ที่กลุ่มผชู้ ุมนุมเช่ือวา่ เป็ นการ นาน้าผสมแก๊สน้าตาน้นั ในความเป็นจริง \"น้าสีม่วง\" เป็นสารเคมีที่มีสี ใชใ้ นการสลายการชุมนุมเพื่อให้ระบุ ตวั ผชู้ ุมนุมไดง้ ่าย เน่ืองจากสีจะติดตามตวั และเส้ือผา้ ทาใหล้ า้ งออกไดย้ าก สารเคมีท่ีใชผ้ สมเป็ นน้าสีม่วง คือ โปแตสเซียเปอร์แมงกาเนต (Potassium permanganate) หรือ ด่างทบั ทิม ท่ีใชล้ ะลายน้าแช่ผกั ผลไมต้ ามบา้ น ผสมกบั โซเดียมไธโอซลั เฟต (Sodium thiosulphate) เพื่อใหส้ ามารถฉีดพ่นไดด้ ีข้ึน อยา่ งไรก็ตาม สารเคมี 2 ชนิดน้ี เมื่อทาปฏิกิริยากนั แลว้ จะทาใหเ้ กิดกา๊ ซซลั เฟอร์ไดออกไซด์ หรือ กรดกมั มะถนั แบบเดียวกบั ฝนกรด ที่มีฤทธ์ิทาใหผ้ ทู้ ี่สมั ผสั กบั สารน้ี เกิดอาการระคายเคืองเยอื่ บุตา ทางเดินหายใจ และเมื่อทาปฏิกิริยากบั น้า ก็ จะกลายเป็นกรดกามะถนั อ่อนๆ ท่ีมีค่า Ph ประมาณ 6.5-6.9 เป็นเหตุใหผ้ ถู้ ูกน้าสีม่วงจะมีอาการแสบคนั ตาม ผวิ หนงั ได้ ขอ้ แนะนา คือ ถา้ โดนน้าสีมว่ งตอ้ งลา้ งน้า หรือ เปล่ียนเส้ือผา้ ท่ีเป้ื อนออก เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 144

ที่มำของตำแหน่งคุณหญิง ในอดีตน้ันสตรีที่เป็ นภรรยาของขุนนางช้ัน พระยา จะได้ใช้คานาหน้าชื่อว่า คุณหญิง(ตามดว้ ยบรรดาศกั ด์ิของสามี) ถึงแมว้ า่ ในปัจจุบนั รัฐบาล จะไมม่ ีนโยบายขอพระราชทานบรรดาศกั ด์ิใหข้ า้ ราชการแลว้ แต่ คานาหน้าสตรี ผู้ได้รับพระราชทานเครื่ องราชอิสริ ยาภ รณ์ จุลจอมเกลา้ ก็ยงั สมควรไดร้ ับคายกยอ่ งอยู่ เนื่องจากประเทศไทย ปกครองดว้ ยระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ น ประมุข และเพ่ือเป็ นการเทิดทูนองค์พระมหากษตั ริย์ รวมท้งั นบั เป็ นเกียรติที่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวพระราชทานให้แก่ สตรีผนู้ ้นั เป็นกรณีพิเศษ โดยมิไดข้ อพระราชทานโดยรัฐบาล ดงั น้นั จึงสมควรยกยอ่ งสตรีผไู้ ดร้ ับเกียรติจาก องคพ์ ระมหากษตั ริยด์ ว้ ย โดยอนุโลมไม่ตอ้ งยดึ ถือบรรดาศกั ด์ิของสามีเป็นเกณฑ์ คุณหญิง จึง เป็ นคานาหนา้ นามซ่ึงใช้สาหรับสตรีท่ีสมรสแล้วและได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกลา้ ช้ัน จตุตถ จุลจอมเกลา้ (จ.จ.) ตติยจุลจอมเกลา้ (ต.จ.) และ ทุติยจุลจอมเกลา้ (ท.จ.) ส่วนสตรีที่ยงั มิไดส้ มรสให้ใชค้ า นาหนา้ วา่ \"คุณ\" ยกเวน้ สตรีในราชตระกลู ต้งั แต่ช้นั หม่อมเจา้ ข้ึนไป รวมท้งั หม่อมราชวงศแ์ ละหม่อมหลวง ยงั คงใชพ้ ระนามและคานาหนา้ นามเดิม นอกจากน้ี คาวา่ คุณหญิง ยงั ใชเ้ ป็ นนามลาลองของ หม่อมราชวงศ์ หญิง อีกด้วย เช่น หม่อมราชวงศ์ ศรี คารุ้ ง ยุคล มีนามลาลองว่า คุ ณหญิงแมงมุม เป็ นต้น เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าเป็ นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ร้างข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2416 เน่ืองในวโรกาสฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 90 ปี ใหใ้ ชแ้ พรแถบสี ชมพูอนั เป็ นสีของวนั องั คาร ซ่ึงเป็ นวนั พระราชสมภพ โดยเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกลา้ ฝ่ ายใน ช้นั จตุตถจุลจอมเกลา้ มีจานวน 150 ดวง ตติยจุลจอมเกลา้ จานวน 250 ดวง และทุติยจุลจอมเกลา้ จานวน 100 สารับ ดงั น้นั จานวนคุณหญิง (และคุณ) จะมีไดไ้ ม่เกิน 500 คน ทำไม ธนบัตรไม่เป่ื อยยุ่ยในน้ำ หลายคนคงเคยลืมธนบตั ร ไวใ้ นกระเป๋ าเส้ือแลว้ นาไปซก แตท่ าไม ธนบตั รถึงไม่เป่ื อย เหมือนกระดาษทว่ั ไปคาตอบคือ วตั ถุดิบท่ีใช้ทากระดาษ เป็ นคนละอย่างกัน วตั ถุดิบที่ใช้ทากระดาษทวั่ ไปน้ันจะ เป็ นเซลลูโลสที่ไดจ้ ากเย่ือของไม้ ซ่ึงเมื่อสัมผสั กบั น้าแลว้ มนั จะดูดน้าเขา้ ไปและเกิดการพองตวั และหลุดออกจากกนั ไดง้ ่าย จึงทาให้กระดาษธรรมดาเป่ื อยยุย่ เม่ือแช่ในน้าเป็ น เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 145

เวลานาน แต่สาหรับวสั ดุที่ใชท้ าธนบตั รในปัจจุบนั จะเป็ นกระดาษที่ทามาจากเส้นใยผา้ เช่น ผา้ ฝ้ าย ลินิน และบางคร้ังอาจจะผสมเย่อื ไมแ้ ละเจลาตินลงไปดว้ ยเพ่ือเพ่ิมความเหนียว นามาข้ึนรูปแบบเดียวกบั การทา แผ่นกระดาษ (คือไม่ได้ทอเป็ นผืนแบบผา้ ) เม่ือเน้ือกระดาษทามาจากเส้นใยเช่นเดียวกับผา้ มนั จึงมี คุณสมบัติอย่างเดียวกับผ้า คือไม่เป่ื อยยุ่ยตัวในน้ าเหมือนกับกระดาษท่ัวไปที่ทาจากเซลลูโลส นอกจากน้นั ธนบตั รสมยั ใหม่ของบางประเทศกท็ าจากพลาสติก (เหมือนอยา่ งธนบตั รราคา 50 บาทของไทย ช่วงหน่ึงก็ทาจากพลาสติก) ซ่ึงทาใหม้ ีความทนทานตอ่ การใชง้ านมากข้ึนและไมเ่ ป่ื อยยยุ่ ในน้าเช่นกนั เม่ือถึงวนั \"เกษียณ\" วนั ท่ี 30 กนั ยายน นอกจากจะเป็ น วนั สิ้นเดือนแลว้ แน่นอนวา่ ยงั เป็ นวนั ที่มีความสาคญั ต่อ คนท่ีทางานราชการหลายคน เน่ืองจากเป็ นวนั ท่ีราชการ กาหนดไวว้ ่าเป็ นวนั เกษียณอายุราชการ ซ่ึงแน่นอนว่า นอกจากจะตอ้ งมีหลายคนที่ตอ้ งอาลาชีวติ ราชการแลว้ ก็ ย ัง มี ห ล า ย ค น ท่ี อ า จ จ ะ ไ ด้เ ลื่ อ น ต า แ ห น่ ง ใ ห ม่ แ ท น ท่ี เกษียณอายรุ าชการไปดว้ ย คาวา่ \"เกษียณ\" แปลตรงตวั ก็ คือ การสิ้น การหมดไป ดงั น้นั การเกษียณอายรุ าชการจึง หมายถึง การสิ้นสุดหรือการหมดหนา้ ที่การรับราชการ นนั่ เอง การกาหนดให้มีการเกษียณอายุน้นั ก็ดว้ ยจุดประสงคห์ ลกั คือ เพื่อให้ผทู้ ี่มีอายคุ รบเกษียณไดพ้ กั ผอ่ น หลงั จากทางานมาตลอดหลายสิบปี และนอกจากน้นั ยงั ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองคก์ ร มีการเลื่อน ตาแหน่งของคนท่ีอยเู่ ดิม รวมถึงการรับคนรุ่นใหม่แทนตาแหน่งที่ว่าง ซ่ึงจะช่วยกระตุน้ ให้ผูท้ ่ีทางานเกิด ความกระตือรือล้นมากข้ึน การกาหนดอายุในการเกษียณราชการน้ันไปตามสภาพการเปล่ียนแปลงของ สงั คม อยา่ งเช่นในประเทศไทย ไดม้ ีการกาหนดอายเุ กษียณราชการไวท้ ่ี 60 ปี มาต้งั แต่เม่ือปี พ.ศ. 2495 และ ยงั คงใชม้ าจนถึงปัจจุบนั แต่เมื่ออายุขยั เฉล่ียของประชากรในประเทศสูงข้ึน จึงทาให้เกิดแนวคิดที่จะมีการ ขยายอายุราชการไปถึง 65 ปี เพ่ือให้คนสูงอายุได้มีเวลาทางานนานข้ึน แต่ก็ยงั เป็ นท่ีถกเถียงถึงความ เหมาะสมอยู่ ส่วนในประเทศอื่น ๆ ก็มีการกาหนดอายเุ กษียณราชการท่ีแตกต่างกนั ไป เช่น ไอซ์แลนดแ์ ละ กรีซ กาหนดไวถ้ ึง 67 ปี ส่วนท่ีเนปาล กาหนดเพยี ง 58 ปี เทา่ น้นั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 146

หินปูนคืออะไร หลาย ๆ ท่านคงจะเคยไดย้ นิ คาแนะนาจากทนั ตแพทยอ์ ยบู่ ่อย ๆ ว่า “ควรมาขูดหินปูนทุก 6 หรือ 12 เดือนนะ” แลว้ เราทราบกนั หรือไม่ วา่ หินปูนคืออะไร ทาไมเราตอ้ งขดู หินปูน? แล้วถ้าหากเราทิ้งคราบหินปูนไว้นาน ๆ โดยไมข่ ดู ออกล่ะ จะเกิดปัญหาเก่ียวกบั ช่อง ป า ก ห รื อ ฟั น ข อ ง เ ร า ห รื อ ไ ม่ ? คราบหินปูนคืออะไร? คราบหินปูนที่เกาะ ตามฟันของเราน้นั เกิดจากการที่เช้ือแบคทีเรียในช่องปากทาปฏิกิริยากบั โปรตีนหรือเศษอาหารที่ตกคา้ งตาม ซอกฟัน ทาให้เช้ือแบคทีเรียน้ีเจริญเติบโตและผลิตกรดบางอยา่ งมาทาลายผิวเคลือบฟัน หลงั จากน้นั ก็จะ สร้างหินปูนข้ึนมาเพื่อให้เจา้ แบคทีเรียน้ีสามารถเกาะติดกบั ผิวฟันไดอ้ ยา่ งแน่นหนา ซ่ึงคราบหินปูนเหล่าน้ี ไม่สามารถกาจดั ออกไดด้ ว้ ยการแปรงฟัน ตอ้ งกาจดั ออกดว้ ยเคร่ืองมือทนั ตแพทยเ์ ท่าน้นั ทาไมเราตอ้ งขูด หินปูน? คราบหินปูนที่เกาะตามผิวฟันเราน้นั หากปล่อยทิ้งไวน้ านโดยไม่กาจดั ออก จะเกาะตวั หนา ทาให้ สุขภาพเหงือกอ่อนแอ เกิดเป็ นโรคเหงือกอกั เสบได้ และอาจทา ให้เกิดฟันผุ และเป็ นสาเหตุของปัญหา สุขภาพฟันดา้ นอ่ืน ๆ ตามมาอีกดว้ ย เราจะป้ องกนั การเกิดคราบหินปูนสะสมไดอ้ ยา่ งไร? การป้ องกนั การ เกิดคราบหินปูนสะสมน้ัน สามารถทาได้โดยการดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาด แปรงฟันให้ถูกวิธีและ แปรงฟันอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2 คร้ัง ใชไ้ หมขดั ฟันเพื่อขจดั คราบเศษอาหารท่ีติดตามร่องฟันอยา่ งสม่าเสมอ ซ่ึง จะช่วยลดคราบแบคทีเรียและหินปนู สะสมได้ ที่สาคญั ควรพบทนั ตแพทยท์ ุก ๆ 6 เดือนเพื่อทาความสะอาด ช่องปากและขดู คราบหินปูนท่ีสะสม เพยี งเท่าน้ีกจ็ ะช่วยรักษาสุขภาพปากและฟันของเราใหส้ ะอาดแขง็ แรง ทำไมไม่มี วติ ำมีน F G H I J โดยคาซิเมียร์ ฟังค์ (Casimir Funk) นกั เคมีชาวโปแลนด์ เป็ นคนแรกๆ ที่เรียกสารอาหารพิเศษชนิดน้ีวา่ ไวตามิน ซ่ึงมีราก ศพั ทม์ าจากคาวา่ Vital + Amine = Vitamin ต่อมามี การคน้ พบสารอาหารท่ีมีความจาเป็ นและสาคญั ต่อ ชีวิตเราอีกมากมาย แต่ไม่ได้เป็ นสารเอมีน . นักเคมีช่วงหลงั ๆจึงมีการตดั ตวั อกั ษร e ทิ้งไป เหลือเพียงแต่ Vitamin เท่าน้นั การต้งั ชื่อวิตามิน แรกเริ่มเดิมทีคือต้งั ตามอกั ษรภาษาองั กฤษ โดยใชอ้ กั ษร A เรียงตามวติ ามินที่คน้ พบชนิดแรก จากน้นั ก็มีการ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 147

ใชอ้ ีกษร B C D E และ K เรียกชื่อวิตามินท่ีคน้ พบทีหลงั ต่อมาเรื่อยๆ แลว้ F G H I J มีอยหู่ รือเปล่า? จริงๆ แลว้ เคยมี แต่พวกมนั ถูกเปลี่ยนชื่อหรือว่าถูกจดั กลุ่มใหม่ เน่ืองจากมีการคน้ พบคุณสมบตั ิหรือหน้าที่ที่ ซบั ซอ้ นมากข้ึนในยคุ หลงั ๆ .เช่น เราเคยมีวติ ามิน F แต่วา่ ปัจจุบนั มนั ถูกจดั กลุ่มใหอ้ ยใู่ นกลุ่มของกรดไขมนั ชนิดหน่ึงเท่าน้นั ไม่ถือวา่ เป็ นวติ ามินอีกต่อไป ส่วนวติ ามิน G H I และ J ถูกจดั ใหอ้ ยใู่ นในกลุ่มของวติ ามิน B จึงเรียกช่ือใหม่วา่ วติ ามิน B2 B3 หรือวา่ B7 เป็นตน้ ขนมปังขำวกบั ขนมปังโฮสวตี แตกต่ำงกันอย่ำงไร ขนมปังสีขาวนวล ขนมปังขาวมกั จะเป็ นสิ่งที่คุณหยิบ เป็นอนั ดบั แรก แต่ดว้ ยความท่ีขนมปังแผน่ สีขาวนวลน้นั ทามาจากขา้ วสาลีขดั สี จึงทาใหเ้ สียวิตามิน และใย อาหารไปเกินคร่ึง ทาให้ประโยชน์ท่ีได้รับน้นั ไม่ ต่างจากการทานข้าวปกติ แต่จะอิ่มน้อยกว่าการ ทานข้าวกล้อง แป้ งในขนมปังจะถูกย่อยและ เปล่ียนเป็ นน้าตาลอย่างรวดเร็ว หากรับประทาน เยอะจนเกินไป จะทาให้อว้ นได้ง่าย ขนมปังสี น้าตาล เ แมร้ ูปลกั ษณ์ภายนอกของขนมปังโฮลวีต อาจจะสีไม่ขาวนวลสวยเหมือนขนมปังขาว แต่ รับรองไดว้ า่ อดั แน่นไปดว้ ยเส้นใยอาหาร และวิตามินสูง แถมแป้ งในขนมปังชนิดน้ี ร่างกายจะค่อยๆ ยอ่ ย และดูดซึมเพ่ือนามาใช้เป็ นพลงั งาน เมื่อทานแล้วจะรู้สึกอยูท่ อ้ ง อิ่มนานข้ึน ขนมปังโฮลวีตจึงเป็ นท่ีนิยม สาหรับคนรักสุขภาพ และคนที่ตอ้ งการควบคุมน้าหนกั เป็นอยา่ งมาก ทำไมเวลำ เรำเจ็บเรำถงึ ร้องเสียงดัง เวลาที่เราไดร้ ับบาดเจบ็ เช่น เดินเตะขอบโตะ๊ หรือศีรษะกระแทกเขา้ กบั อะไรบางอย่าง ปฏิกิริ ยาตอบสนองท่ีเรา แสดงออกมาอย่างแรกมัก จะ เป็ นการ “อุทาน” หรือตะโกนออกมาดงั ๆ วา่ “โอ๊ย!” สงสัยไหมว่า ทาไมเราตอ้ งร้องเสียงดงั เวลา เจ็บดว้ ย? นกั วิทยาศาสตร์เชื่อวา่ การท่ีเราส่ง เสียงร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บ เป็ นววิ ฒั นาการของมนุษยแ์ รกเร่ิม เพ่ือเป็ นการบอกใหค้ นอื่นๆ รู้วา่ ตนเองน้นั กาลงั เจบ็ ปวด และเป็ นการเตือน หรือบอกคนรอบขา้ งวา่ มีอนั ตรายใกลเ้ ขา้ มา อยา่ งไรก็ดี ทฤษฎีล่าสุดกลบั พบวา่ จริงๆแลว้ การร้องเสียงดงั ออกมาเม่ือเจบ็ น้นั เป็ นขอ้ ดีสาหรับตวั เราเองท้งั น้นั เพราะการร้องเสียงดงั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 148

เป็ นการช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการเจ็บปวดแบบชว่ั คราวได้ หมายความวา่ มนั อาจทาให้เรารู้สึก เจ็บปวดนอ้ ยลงไดบ้ า้ ง หากเราไม่สนใจมนั มากเกินไปนนั่ เอง ยกตวั อย่างเช่น เวลาเราไดร้ ับบาดเจบ็ หรือมี แผล แต่เราไม่รู้ หรือยงั ไม่ไดส้ ังเกตเห็น เราจะไม่มีความรู้สึกวา่ เจ็บนน่ั เอง นนั่ ก็เป็ นเหตุผลเดียวกบั ท่ีนาง พยาบาล มกั จะพดู จาหลอกล่อ เพอ่ื เบี่ยงเบนความสนใจเวลาฉีดยาให้กบั คนไขน้ น่ั เอง เทคนิคเบ่ียงเบนความ สนใจ ไม่ว่าจะเป็ นการไม่มอง หรือการร้องเสียงดงั ก็ดี ล้วนมีอิทธิพลต่อการรับรู้ความเจ็บปวด หรือการ ได้รับบาดเจ็บทางกายหลายอย่าง กระบวนการน้ี เป็ นเสมือนกลไกท่ีร่างกายใช้ต่อสู้ความเจ็บปวด โดย ธรรมชาติน้นั เอง ปังปุริเย่ แปลว่ำอะไร ตอนน้ีบนโซเชียลมองไปทางไหนก็เจอแต่คาวา่ ปังปุริเย่ เตม็ โซเชียลไปหมด ที่เห็นได้ ชัดก็อยู่ในกลุ่มของวยั รุ่นที่มักจะใช้คาน้ีกันเยอะมากจน หลายๆ คนสงสัยว่าคาว่า ปังปุริเย่ คืออะไร มีที่มาจากไหน แล้วมนั แตกต่างจากคาว่า ปัง ยงั ไงนะ ปัง มีความหมายว่า อะไรปังปุริเย่ หมายความว่า เป็ นอะไรท่ีมากกว่าสุดปัง มากกวา่ ปังไม่ไหว คือปังมากกกกกกกก ปังแบบที่สุด ปังที่ หน่ึง ปังแบบไดอ้ รรถรสกวา่ สุดปัง มีการใส่จริตคาวา่ ปุริเยเ่ ขา้ ไป ใหร้ ู้สึกถึงความวา่ มนั ปัง มนั เริ่ด มนั อลงั มาก แบบมากกกกกจริง ๆ นอกจากน้ียงั มีคาวา่ สุดปัง ปัง ปังปะรังปังป้ี / สุดปัง ปัง ปังเย่ะอะเระ ซ่ึงเป็ น หน่ึงในประโยคของเน้ือเพลงผลงาน สุดปัง ของ MILLI ความหมายไมต่ ่างกนั คือปังๆ เร่ิดๆ รู้จักกบั พระกติ ติวฒุ ิโท พระเทพกิตติปัญญาคุณ หรือ‘กิตติวฑุ โฒ ภิกข’ุ มีช่ือเสียงโด่งดงั กบั การใหส้ ัมภาษณ์ ว่า ‘การฆ่าพวกคอมมิวนิสต์ไม่บาป แต่กลับได้บุญ เปรียบเหมือนการฆ่าปลาเพื่อตกั บาตรถวายพระ ’ โดย คาใ ห้สัม ภาษ ณ์ ดังกล่ าวไ ด้มี ก าร ตี พิม พ์เผ ยแพ ร่ ใ น หนงั สือรายสัปดาห์ชื่อว่า ‘จตุรัส’ ฉบบั วนั ที่ 29 มิ.ย. 2519 ดงั น้ี จตุรัส : การฆ่าฝ่ ายซา้ ยหรือคอมมิวนิสตบ์ าปไหม กิตติวุฑโฒ : อนั น้นั อาตมาก็เห็นวา่ ควรจะทา คนไทย แมจ้ ะนบั ถือพุทธ ก็ควรจะทา แต่ก็ไม่ใช่ถือวา่ เป็ นการ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 149

ฆา่ คน เพราะวา่ ใครกต็ ามท่ีทาลายชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มนั ไม่ใช่คนสมบูรณ์ คือ ตอ้ งต้งั ใจเราไม่ได้ ฆ่าคนแตฆ่ า่ มาร ซ่ึงเป็นหนา้ ท่ีของคนไทยทุกคน จตุรัส : ผดิ ศีลไหม กิตติวุฑโฒ : ผดิ น่ะมนั ผดิ แน่ แต่วา่ ผิดน้นั มนั ผิดนอ้ ย..ถึงแมจ้ ะฆ่าคนก็บาปเล็กนอ้ ยแต่บุญกุศลไดม้ ากกว่า เหมือนเราฆ่าปลา แกงใส่บาตรพระ ไอ้บาปมนั ก็มีหรอกที่ฆ่าปลาแต่เราใส่บาตรพระได้บุญมากกว่า จากคาใหส้ มั ภาษณ์ดงั กล่าวถูก‘ฝ่ ายขวา’ อนั ไดแ้ ก่ กลุ่มนวพล,กลุ่มกระทิงแดงในสมยั น้นั นาไปใชเ้ ป็ น‘วาท กรรม’โจมตีฝ่ ายซา้ ย และยยุ งใหค้ นไทยเกลียดชงั นิสิตนกั ศึกษาท่ีชุมนุมตอ่ ตา้ นการกลบั เขา้ ประเทศของจอม พลถนอม กิตติขจร ในมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์และนาไปสู่การปราบปรามนกั ศึกษาใน‘เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519’ สาหรับ ‘พระกิตติวุฒโฑ’ เป็ นภิกษุรูปหน่ึงที่มีส่วนในการก่อต้งั “ขบวนการนวพล”ซ่ึงเป็ นหน่วย สงครามจิตวทิ ยาทางานร่วมกบั “กลุ่มกระทิงแดง”โดยพยายามรวบรวมนายทุนและภิกษุที่ไม่เห็นดว้ ยกบั การ เปล่ียนแปลงทางสังคม ให้ร่วมกนั ต่อตา้ นพลงั นกั ศึกษาและกรรมกร 'พระกิตติวฑุ โฒ’ เป็ นพระที่มีชื่อเสียง ข้ึนธรรมาสน์เทศน์แต่ละคร้ังเรียกความสนใจจากญาติโยมเป็ นจานวนมาก ต่อมาไดบ้ รรยายธรรมออกวิทยุ ทางสถานีวิทยุยานเกราะของทหาร ชื่อรายการ‘ โพธิญาณ’ ต่อมาไดร้ ับแต่งต้งั ให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยเจา้ อาวาสวดั มหาธาตุยวุ ราชรังสฤษฎ์ิ จากน้นั ไดม้ าเป็ นเจา้ อาวาสท่ีวดั จิตตภาวนั จงั หวดั ชลบุรี และเป็ นผกู้ ่อต้งั ‘จิตตภาวนั วิทยาลยั ’ ซ่ึงเป็ นสถาบนั การศึกษาทางพุทธศาสนา แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสอนหลกั ธรรม ผิดเพ้ียนไปจากแนวทางพุทธศาสนา พระกิตติวุฑโฒ ยงั ไดพ้ ยายามท่ีจะสร้างอุโบสถกลางทะเล และระดม ทุนก่อสร้างคอนโดธรรมะ แต่ยงั ไม่บรรลุวตั ถุประสงค์ ก็เสียชีวิตไปเสียก่อน เม่ือวนั ท่ี 21 ม.ค. 2548 รวม อายไุ ด้ 69 ปี ผวิ เผอื กเกิดจำกอะไร ภาวะผิวเผือก (Albinism หรือ achromia) หมายถึง ภาวะความผิดปกติของส่ิงมีชีวิต ท่ี ทาให้ร่างกายบางส่วนหรือท้งั หมดไม่สามารถผลิตสารเมลานิน (Melanin) ซ่ึงเป็ นสารท่ีทาให้เกิดสีบน ผิวหนังของร่างกายได้ จึงทาให้สิ่งมีชีวิตน้ันมีผิวหนัง เส้นขนหรือผม มีสีขาว หรือหากเกิดที่ดวงตา จะทาให้ ดวงตามีสี แดงเน่ื องจากจะ เห็ นสี ของเส้ นเลื อดฝอยใ น ดวงตาไดน้ น่ั เอง ภาวะผวิ เผอื กมกั พบในสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ย นม แต่สัตวอ์ ื่นเช่นนกหรือสัตวเ์ ล้ือยคลานก็สามารถพบ สัตวผ์ ิวเผอื กไดเ้ ช่นกนั แต่เนื่องจากนกและสัตวเ์ ล้ือยคลานบางชนิดจะสามารถสร้างเม็ดสีชนิดอื่นนอกจาก เมลานินได้ จึงอาจจะไม่ไดม้ ีสีขาวสนิทเหมือนอยา่ งสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม ภาวะผิวเผอื กส่วนมากจะเกิดจาก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 150

พนั ธุกรรม ท่ีเรียกวา่ (Oculocutaneous albinism, OCA) ซ่ึงมีอยหู่ ลายรูปแบบ ผทู้ ่ีมีความผดิ ปรกติดงั กล่าวจะ มีความผิดปรกติของเซลล์ที่มีหนา้ ท่ีในการสร้างเม็ดสีท่ีเรียกว่า เซลล์เมลาโนไซต์ (melanocyte) ทาให้ไม่ สามารถผลิตสารเมลานินได้ ที่พบกนั มากคือรูปแบบท่ีเรียกวา่ OCA1 ซ่ึงเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถ สร้างเอนไซมท์ ี่ทาหนา้ ที่เปล่ียนกรดอะมิโน ไทโรซีน (tyrosine) ใหก้ ลายเป็ นเมลานินได้ สัตวเ์ ผอื กประเภท น้ีจะมีสีขาวท้งั ตวั ยกเวน้ ตาท่ีเป็ นสีแดง อีกแบบที่พบกนั มากในทวปี แอฟริกาคือ OCA2 ซ่ึงเกิดจากการขาด โปรตีน P ที่เก่ียวขอ้ งกบั การสร้างเมลานิน สัตวเ์ ผอื กประเภทน้ีจะสร้างเมลานินไดเ้ ล็กนอ้ ย จึงทาใหส้ ีผวิ ไม่ ขาวสนิท แต่จะมีสีอ่อนกว่าสัตวช์ นิดเดียวกนั ทว่ั ไป เน่ืองจากภาวะผิวเผือกเกิดจากพนั ธุกรรม ดงั น้นั จึง สามารถส่งต่อไปยงั ลูกหลานได้ อยา่ งไรก็ตาม สัตวเ์ ผือกที่พบในธรรมชาติมกั เกิดจากพ่อแม่ที่มีลกั ษณะ ปรกติแต่มียีนดอ้ ยแฝงในตวั มากกวา่ เพราะตวั สัตวเ์ ผอื กเองน้นั มีโอกาสนอ้ ยท่ีจะอยรู่ อดจนถึงวยั เจริญพนั ธุ์ และส่งต่อไปถึงลูกหลานได้ เน่ืองจากสัตวเ์ ผือกจะมีขอ้ เสียเปรียบสัตวช์ นิดเดียวกนั ท่ีมีสีปรกติอยู่หลาย ประการ เช่น การขาดเมลานินในดวงตาจะทาใหไ้ ม่สามารถกรองแสงที่จา้ เกินไปได้ รวมถึงการขาดเมลานิน จะมีผลทาให้ผิวหนงั ไหมห้ รือเกิดมะเร็งผิวหนงั ไดง้ ่าย ทาให้สัตวเ์ ผอื กไม่สามารถอยู่ในท่ีที่มีแสงสวา่ งได้ นานเกินไป และท่ีสาคญั คือ สัตวเ์ ผอื กจะตกเป็นเป้ าสายตาของนกั ล่าหรือเหยอ่ื ไดง้ ่ายกวา่ สัตวช์ นิดเดียวกนั ที่ มกั จะมีสีสนั กลมกลืนไปกบั สภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติของพวกมนั จึงทาให้มนั ตกเป็ นเหยอื่ ของนกั ล่าได้ ง่ายข้ึน หรือไมส่ ามารถออกล่าเหยอ่ื ไดด้ ีเทา่ กบั สตั วช์ นิดเดียวกนั ท่ีมีสีสนั ปรกตินน่ั เอง คุก กับ ตะรำงต่ำงกันอย่ำงไร คุก” กบั “ตาราง” แมจ้ ะไม่ใช่คาที่ใชเ้ รียกสถานที่คุมขงั ผตู้ อ้ งขงั อยา่ งเป็ น ทางการ แตก่ ็ยงั คงใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายท้งั ในภาษาพูด และภาษาเขียน โทษประเภทหน่ึงในคดีอาญาก็ยงั คง ใชค้ าวา่ “จาคุก” ชาวบา้ นทว่ั ๆไปก็ยงั คงใชค้ าว่า “ติด คุก” หรือ “ติดตะราง” กบั คนที่ตอ้ งโทษถูกคุมขงั อยใู่ น เรื อนจา แทนท่ีจะใช้คาว่า “ติดเรื อนจา” หรื อ “ติดทณั ฑสถาน” ในความรู้สึกของคนทวั่ ไป “คุก” หรือ “ตะราง” ดูจะมีความหมายเหมือนกนั หรือใชแ้ ทนกนั ได้ แต่โดยขอ้ เทจ็ จริง คุกกบั ตะรางในสมยั ก่อน ไม่ไช่สถานที่ท่ีเดียวกนั ตามการวิเคราะห์ของศาสตราจารยพ์ ิเศษจานงค์ ทองประเสริฐ ราชบณั ฑิต ได้ กล่าวถึงความแตกต่างของคุกกบั ตะราง โดยอา้ งงานเขียนของนายประเสริฐ เมฆมณี อดีตรองอธิบดีกรม ราชทณั ฑ์ ไวด้ งั น้ี “คุกเป็นที่คุมขงั ผตู้ อ้ งขงั มีกาหนดโทษต้งั แต่ 6 เดือนข้ึนไป คุกเดิมต้งั อยทู่ ี่หนา้ วดั พระเชตุ พนวิมลมงั คลาราม ตรงท่ีต้งั กองทหาร ร.พนั 1 ในปัจจุบนั ภาษาสามญั ชนเรียกคุกน้ีวา่ “คุกหนา้ วดั โพธ์ิ” เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 151

และสงั กดั กระทรวงนครบาล หลวงพศั ดีกลางเป็นหวั หนา้ ดูแลรับผดิ ชอบ โดยมีขนุ พศั ดีขวาและขุนพศั ดีซ้าย เป็นผชู้ ่วย ส่วนตะรางใชเ้ ป็นที่คุมขงั ผตู้ อ้ งขงั ที่มีโทษ ต้งั แต่ 6 เดือนลงมา กบั นกั โทษท่ีมิใช่โจรผรู้ ้าย ตะราง มีหลายแห่งซ่ึงสังกดั อยู่ตามกระทรวงทบวงกรมท่ีบงั คบั บญั ชากิจการน้ันๆ เช่น ตะรางกลาโหม ตะราง มหาดไทย ตะราง กรมทา่ ชา้ ง ตะรางกระทรวงวงั เป็ นตน้ จึงสรุปไดว้ า่ ความแตกต่งของคุกกบั ตะรางคือ คุก เป็ นสถานท่ีท่ีใชค้ ุมขงั นกั โทษท่ีมีโทษต้้งั แต่ 6 เดือนข้ึนไป ส่วนตะราง ใชส้ าหรับคุมขงั นกั โทษท่ีมีโทษต่า กวา่ 6 เดือนนน่ั เอง Clock กับ Watch ต่ำงกนั อย่ำงไร ท้งั Clock และ Watch ต่างแปลวา่ นาฬิกา แลว้ 2 คาน้ีใชต้ ่างกนั อยา่ งไร Clock (อ่านว่า คล็อค) “นาฬิกา” คาน้ีเป็ นคานาม แปลวา่ “นาฬิกา” หากใชเ้ ป็ นคากริยา Clock จะแปลวา่ “จบั เวลา” นอกจากน้ี ยงั มีอีกสานวนท่ีมกั พบเห็นบ่อยๆ นนั่ คือ “ around the clock” มีความหมายวา่ “ตลอด 24 ชม. หรือ ต่อเนื่องโดยไม่หยุดพกั ” แถมให้อีกคาคือ Clockwise (อ่านวา่ คล็อค ไวซ์) แปลวา่ “หมุนตามเข็น ตามนาฬิกา” มาดูกนั ต่อท่ีคาวา่ Watch (อ่านวา่ วอซ) แปลว่า “นาฬิกา” คาน้ีเป็ นคานาม แปลว่า “นาฬิกา” หากใช้เป็ นคากริยา จะแปลว่า “เฝ้ าดู จ้องมอง หรือ ระมัดระวงั ” แต่หากไปเจอป้ ายท่ีไหนเขียนไวว้ ่า “Watch Out” ให้รู้เลยวา่ นนั่ คือคาเตือนที่หมายถึง “ให้ระมดั ระวงั ” สาหรับสัตวก์ ็มีคาวา่ Watch Dog ที่ แปลวา่ “หมาเฝ้ าบา้ น” ที่น่าสนใจคือความหมายท่ีเป็นคานามของ ท้งั “Watch” กบั “Clock” น้ีเหมือนกนั นน่ั คือ “นาฬิกา” จุดแตกต่างกนั คือ Watch หมายถึง “นาฬิกา ขอ้ มือหรือนาฬิกาท่ีพกพาติดตวั ได้” ขณะท่ี Clock หมายถึง “นาฬิกาต้งั โต๊ะ หรือ นาฬิกาแขวนผนัง” ซ่ึงจะมีขนาดใหญ่กว่า และไม่สะดวกในการพกพา เหมือนกบั Watch การเลือกใชค้ าศพั ทภ์ าษาองั กฤษใหถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของส่ิงของน้นั มีความจาเป็ นที่เรา ตอ้ งเรียนรู้ จะยดึ แตค่ าแปลภาษาไทยเป็นหลกั อยา่ งเดียวถือวา่ ไมพ่ อครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 152

ในนิทำนกระต่ำยกบั เต่ำ กระต่ำยต้องนอนนำนแค่ไหนถึงแพ้เต่ำ กระต่ายมนั นอนอีท่าไหนตอ้ งนอนนานแค่ ไหน ถึงจะแพ้เต่าได้ โดยเราลองมากาหนดให้ กระต่ายกบั เต่า มาวิ่งมาราธอนแข่งกนั โดยระยะทาง มาตรฐานอยู่ท่ี 42.195 กิโลเมตร เต่ามีความเร็ว โดย ปกติอยทู่ ี่ 0.27 กิโลเมตรต่อชว่ั โมง มีคนเคยเจอเต่าว่งิ เร็วที่สุดได้ 8 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง เพื่อความอวยเต่า อย่างสุดใจเราจะให้เต่าวิ่งได้ 8 กม./ชม. เท่ากบั แช มเป้ี ยนเต่า ส่วนกระต่ายวง่ิ ได้ 40–70 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง ถา้ ตามสถิติน้ี เต่าจะวง่ิ โดยไม่พกั เและไม่เหน่ือย เลย จะใชเ้ วลา 5ชวั่ โมง 27 นาที ส่วนกระต่ายเอาตวั ที่ชา้ ที่สุด จะใชเ้ วลาที่ ประมาณ 1 ชว่ั โมง 5 นาที จาก เหตุผลขา้ งบนกระตา่ ยก็สามารถนอนเล่นได้ 4 ชม.กวา่ ๆสบายๆ ซ่ึงเป็ นเวลาเกิน 80% ของเวลาท่ีเต่าเดินโดย ไม่หยุดให้ถึงเส้นชัย เรียกไดว้ ่าหลบั เกือบท้งั รายการก็ยงั ชนะได้ ดงั น้ันกระต่ายตวั ที่แพน้ ี่อายเผ่าพนั ธุ์ กระต่ายมาก สรุปกค็ ือกระต่ายจะหลบั ไปประมาณ 4 ชวั่ โมง 22 นาที นนั่ เอง รู้จักกับ วิสำ คัญทัพ กวีผปู้ ระพนั ธุ์ วรรคทอง เม่ือฟ้ าสีทองผ่องอาไพ ประชาชนจะเป็ นใหญ่ ในแผ่นดิน วิสา คญั ทพั เกิดท่ี ลพบุรี เติบโต ในยุคเผด็จการครองเมือง เรียนจบช้นั เตรียม อุดมศึกษาจาก โรงเรี ยนราชสี มาวิทยาลัย จงั หวดั นครราชสีมา แลว้ เข้าศึกษาต่อท่ีคณะ มนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง เป็ น ผู้น า นัก ศึ ก ษ า ท า กิ จ ก ร ร ม ก้า ว ห น้า ใ น มหาวิทยาลยั จนถูกอธิการบดีในสมยั น้ันส่ัง ลบชื่อเขาและเพ่ือนรวม 9 คน จนเกิดกรณี ชุมนุมใหญ่ต่อตา้ นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ นกั ศึกษาเม่ือวนั ที่ 21-22 มิถุนายน พ.ศ. 2516 จากน้ันวิสา คญั ทพั เขา้ ร่วมกบั เพื่อนต้งั \"กลุ่มเรียกร้อง รัฐธรรมนูญ\" เพ่ือเคลื่อนไหวให้ประเทศเป็ นประชาธิปไตย จนถูกจบั กุมคุมขงั เป็ น 1 ใน 13 กบฏ รัฐธรรมนูญ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 วสิ าเป็นนกั คิด นกั เขียน เป็ นกวี เป็ นศิลปิ นเพลงเพื่อชีวติ เขา้ สู่ วงการหนงั สือโดยเริ่มตน้ ร่วมกบั เพือ่ นจดั ทาหนงั สือ \"วรรณกรรมเพือ่ ชีวติ \" ตอ่ มาเร่ิมเขียนเพลงคร้ังแรกเป็ น เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 153

เพลงแนวท่ีเรียกว่า \"เพื่อชีวิต\" เพลงแรกร่วมกบั สมคิด สิงสง และ สุรชยั จนั ทิมาธร เขียนเพลง \"คนกบั ควาย\" เพลงที่สองเขียนเน้ือร้องเพลง \"คนภูเขา\" ใหส้ ุรชยั จนั ทิมาธรใส่ทานอง เพลงที่สามร่วมกบั ประเสริฐ จนั ดา เขียนเพลง \"จดหมายชาวนา\" เพลงท่ีสี่เขียนคาร้องทานองด้วยตวั เองเป็ นเพลงสุดท้าย ขณะเกิด เหตุการณ์ลอบฆ่าลอบสังหารผูน้ าฝ่ ายประชาชนจานวนมาก ชื่อเพลง \"น้าท่วมฟ้ าปลากินดาว\" ให้วง คาราวาน โดยมีเน้ือร้องตอนหน่ึงวา่ \"น้าท่วมฟ้ า ปลากินดาว นกเหินหาวสู่สายชล คนดีถูกฆ่ากลางถนน คน ชวั่ ข้ึนนงั่ บลั ลงั ก์บน ฟ้ าฝนจึงไม่ตกมา\" วสิ าเขา้ ป่ าหนีการปราบปรามจากอานาจรัฐ ใช้ชื่อ \"สหายตะวนั \" ขณะอยู่ทางภาคเหนือ และ \"สหายไพรา\" เม่ืออยู่ทางภาคอีสาน เขา้ ร่วมต่อสู้ด้วยกาลงั อาวุธกบั พรรค คอมมิวนิสตแ์ ห่งประเทศไทย เม่ือวนั ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2519 ร่วมกบั เพ่ือน อดิศร เพียงเกษ \"สหายศรชยั \" จดั ต้งั วงดนตรีและเริ่มร้องเพลงเอง บนั ทึกเสียงส่งเพลงออกอากาศทางสถานีวิทยุคลื่นส้ัน \"เสียงประชาชน แห่งประเทศไทย\" มีผลงานเด่น ๆ อาทิ บินหลา, เจด็ สิงหาสู้บนทางปื น, ราวง 1 ธนั วา, ลุงสินป้ าไสว, มา ลาเลียงเดอ้ สหาย ฯลฯ ปลายปี พ.ศ. 2523 ออกจากป่ า เร่ิมเขียนเพลงประกอบภาพยนตร์และเพลงเพื่อชีวิต ทวั่ ไป มีเพลงเด่น ๆ ที่เป็ นอมตะมากมายเช่น ร้อยบุปผา, รอยอดีต, กาลงั ใจ, แรงเทียน, ออนซอนเด (เดิมชื่อ \"สวรรคบ์ า้ นนา\" ประกอบภาพยนตร์ไทยชื่อเดียวกนั เม่ือปี พ.ศ. 2526[2]), เพลงพิณ, รักท่ีอยากลืม, กลกาม แห่งความรัก, สวรรค์ช้ันเจ็ด ฯลฯ ปัจจุบนั วิสา คญั ทพั ยงั คงเขียนหนังสือ เขียนเพลง ร้องเพลง และ สร้างสรรคผ์ ลงานตามแนวทางที่ตนเองเช่ือมน่ั และศรัทธา เหมือนตอนหน่ึงในเพลง \"กาลงั ใจ\" ที่เขาแต่ง \"ชีวติ ท่ีผา่ นพบ มีลบยอ่ มมีเพิ่ม ขอเพียงใหเ้ หมือนเดิม... กาลงั ใจ\" ไม่มีอานาจใดในโลกหลา้ ผปู้ กครองต่าง มาแลว้ สาบสูญ ไม่มีใครล้าเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป เมื่อยนื หยดั ต่อสู้ผกู้ ดขี่ ประชาชน ยอ่ มมีชีวติ ใหม่ เม่ือทอ้ งฟ้ าสีทองผอ่ งอาไพ ประชาชนยอ่ มเป็นใหญใ่ นแผน่ ดิน เป็ นบทกวีวรรคทองของวิสา คญั ทพั เขาเขียนภายหลงั ไดร้ ับอิสรภาพจากการจบั กุมคุมขงั หลงั 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ดว้ ยความประทบั ใจ ในพลงั อนั ยงิ่ ใหญ่ของประชาชนบนถนนราชดาเนิน วสิ า ปัจจุบนั ยงั คงยืนหยดั แสดงจุดยืนชดั เจน \"ต่อตา้ น รัฐประหาร ต่อตา้ นเผด็จการ\" เหมือนวยั หนุ่มที่ผา่ นมา โดยเขา้ ร่วมกบั นปช.ซ่ึงสนบั สนุน พ.ต.ท.ทกั ษิณ ชิน วตั ร อดีตนายกรัฐมนตรี ท่ีสนามหลวง เขาแต่งเพลง \"สญั ญาใจขบั ไล่เผด็จการ\" ข้ึนเวทีร้องเพลงน้ีกบั ไพจิตร อกั ษรณรงค์ และเมื่อตน้ เดือนกนั ยายน พ.ศ. 2550 เขาออกรายการ \"ตวั จริงชดั เจน\" ทางสถานีโทรทศั น์ทีไอ ทีวี ร่วมกบั แอด๊ คาราบาว ในฐานะศิลปิ นเพลงเพ่ือชีวติ วสิ ายนื อยตู่ รงขา้ มกบั แอด๊ คาราบาวโดยสิ้นเชิง ขณะ แอ๊ดเห็นด้วยกับทหาร เทิดทูน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ แต่วิสาต้านการยึดอานาจของทหาร คดั ค้าน รัฐประหาร ปรารถนาใหใ้ ชว้ ิถีทางประชาธิปไตยในการแกไ้ ขปัญหาบา้ นเมือง แสดงทศั นะเชื่อมน่ั ในพลงั ของภาคประชาชน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 154

รู้จักกบั โคกหนองนำโมเดล “โคก หนอง นา โมเดล”โคก สร้างโคกบนพ้ืนที่ของตนเอง จากการนาดินท่ีได้ จากการขุดหนอง นามาถม เป็ นโคกเพ่ือสร้างที่อยู่อาศัย ปลูกผัก เล้ียงสัตว์ รวมท้ัง ป ลู ก ต้น ไ ม้ต า ม แ น ว ท า ง ศาสตร์พระราชา คือ “ป่ า 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อยา่ ง” เพื่อ พ อ กิ น เ พื่ อ ใ ช้ ส อ ย ใ น ครัวเรือนหรือพอใช้ และเพ่ือ สร้างท่ีอยอู่ าศยั หรือพออยู่ จากน้นั ประโยชน์อยา่ งที่ 4 คือ ช่วยสร้างสมดุลระบบนิเวศ เพราะใบไมท้ ่ีร่วงหล่น จะช่วยปกคลุมหนา้ ดิน ในขณะท่ีรากจานวนมากช่วยดูดซบั น้าฝน เพื่อกกั เก็บน้าไวใ้ ตโ้ คกเป็ นน้าใตด้ ินเพิ่ม ความชุ่มช้ืนหนอง ขุดหนอง รูปร่างคดโคง้ อิสระ ไม่เป็ นสี่เหลี่ยม เพื่อเก็บน้าไวใ้ ชย้ ามหนา้ แลง้ หรือจาเป็ น และสามารถใชเ้ ป็นที่รองรับน้ายามน้าท่วมหลาก และเป็ นแหล่งที่อยอู่ าศยั ของปลา นา ยกหวั คนั นาใหก้ วา้ ง และสูงอยา่ งนอ้ ย 1 เมตร ธรรมชาติของขา้ วจะทะล่ึงน้าไม่จมน้าตาย เพ่ือเพ่ิมพ้ืนท่ีกกั เก็บน้าไวใ้ นนา ขดุ ร่อง ใกลห้ วั คนั นา เป็ นท่ีอยขู่ องปลา ปู ป้ันหัวคนั นาให้มีความกวา้ งมากพอที่จะปลูกตน้ ไม้ พืชผกั ให้มีรากยึด เหน่ียวคนั นา และเพิ่มพ้ืนท่ีทากิน คลองไส้ไก่ ช่วยระบายน้ารอบพ้ืนที่ โดยขดุ ใหม้ ีลกั ษณะคดเค้ียว เพ่ือให้ น้าไหลไดท้ วั่ ถึงตลอดท้งั พ้นื ที่เพ่ือใชท้ าการเกษตรและช่วยเพิ่มความชุ่มช้ืนให้กบั ผืนดินและตน้ ไมโ้ ดยรอบ ฝายชะลอน้า ช่วยชะลอและกกั เก็บน้าจากตน้ น้าไวใ้ นพ้ืนที่ เพ่ือไม่ให้น้าหลากลงมาสร้างความเสียหายกบั พ้ืนที่ลุ่มดา้ นล่างและช่วยกกั ตะกอนดินไมใ่ หล้ งมาสะสมในหนอง คลอง บึง หรือเขื่อน นอกจากน้นั สาหรับ พ้นื ท่ีกลางน้าฝายชะลอน้ายงั ช่วยยกระดบั น้าเพ่ือเก็บไวใ้ นพ้ืนที่อีกดว้ ย ดว้ ยรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” น้ี หากมีเกษตรกรมีพ้ืนท่ีรายละ 10 ไร่ คิดเป็น 1 หลุมขนมครก จะสามารถเกบ็ กกั น้าไดป้ ี ละประมาณ 40,000 ลูกบาศกเ์ มตรต่อปี โดยเป็ นน้าบนดินประมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตร และเมื่อมีป่ าชุ่มช้ืนจะสามารถเก็บกกั น้าใตด้ ินไดเ้ พ่ิมข้ึนอีก ถา้ ทุกคนในลุ่มน้าป่ าสัก หรืออยา่ งนอ้ ย 100,000 ราย ร่วมมือร่วมใจกนั สร้าง 100,000 หลุมขนมครก จะสามารถเก็บกกั น้าไดก้ วา่ สี่พนั ลา้ นลูกบาศก์เมตรต่อปี คิดเป็ นมากกวา่ 4 เท่าของความจุ เขื่อนป่ าสักชลสิทธ์ิ จะสามารถแกไ้ ขปัญหาน้าท่วมไดแ้ ละที่สาคญั คือมีน้าเก็บไวใ้ ชย้ ามหน้าแลง้ สามารถ ปลูกพชื พนั ธุ์ไดต้ ลอดปี มีพอกิน พออยู่ พอใช้ เกิดท้งั “ประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน” ในเวลาเดียวกนั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 155

รู้จักกบั ทำเนียบรัฐบำล ทาเนียบรัฐบาล เดิมเป็ นบา้ นพกั ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรด เกล้าฯ ให้สร้างข้ึน เพ่ือพระราชทานแก่ พล เอ ก พล เ รื อ เอ ก เจ้า พ ร ะ ย า ร าม ร า ฆ พ (หม่อมหลวงเฟ้ื อ พ่ึงบุญ) ผเู้ คยดารงตาแหน่ง ผูส้ าเร็จราชการมหาดเล็ก และผูบ้ ญั ชาการ กรมมหรสพ ท้งั ยงั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหถ้ วายงานใกลช้ ิด โปรดใหเ้ ป็ นหวั หนา้ ห้อง พระบรรทม นงั่ ร่วมโต๊ะเสวย ท้งั ม้ือกลางวนั และกลางคืน ตลอดรัชกาล และตามเสด็จโดย ลาพงั เป็นท่ีไวว้ างพระราชหฤทยั บา้ นพกั ของพลเอกพลเรือเอก เจา้ พระยารามราฆพ (ม.ล.เฟ้ื อ พ่ึงบุญ) มีช่ือ วา่ บา้ นนรสิงห์ ต่อมาจอมพล ป. พิบูลสงคราม ติดต่อขอซ้ือเพื่อทาเป็ นสถานท่ีรับรองแขกต่างประเทศท่ีมา เยอื นในราคา 1,000,000 บาท ต่อมาในปี 2484 มาใชเ้ ป็นทาเนียบรัฐบาล มีการเปล่ียนชื่อจาก บา้ นนรสิงห์ มา เป็ น ทาเนียบสามคั คีชัย จากน้ันมาก็ใช้เป็ นทาเนียบรัฐบาลจนถึงปัจจุบนั โดยเป็ นสถานท่ีทางานของ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วยสานักงานของ หน่วยงานต่างๆสาหรับทาเนียบรัฐบาลเป็ นตึกอาคารทรงแบบ\"กอธิก\"ตอนปลายกรมศิลปากรข้ึนทะเบียน เป็นโบราณสถานแลว้ โดยพ้ืนที่รอบๆ ทาเนียบฯ มีท้งั หมด 27 ไร่ 3 งาน 44 ตารางวา Nude กับ Naked ต่ำงกันอย่ำงไร naked...หมายถึงเป็ น การโชวส์ ่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกายที่มองดูแลว้ เห็น ว่าเป็ นการกระทาท่ีมากไปกว่า ปรกติธรรมดา หรือ เป็ นการเปลือยท้งั ร่าง เช่น...การท่ีผหู้ ญิงใส่ชุดราตรี ที่ โชวใ์ หล่ เราจะพูดวา่ naked shoulders ไม่พูดวา่ nude shoulders nude น้ัน หมายถึงการไม่ใส่เส้ือผา้ เลย อยา่ งเช่น a painting of nude หรือเป็ นการแสดงท่ีไม่มี การใส่ เส้ือผา้ ก็พูดวา่ nude scene สรุปคือ Naked มี เส้ือผา้ ตรงกบั ภาษาไทยวา่ โป๊ ส่วน Nude คือไม่มี เส้ือผา้ ตรงกบั ภาษาไทยวา่ เปลือย เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 156

ทำไมพระศิวะ ถึงมีคอสีดำ เหตุท่ีพระศอของพระศิวะเป็ นสีดา สาเหตุท่ีพระศิวะมีคอสีดาน้ันมาจาก คร้ังหน่ึงพระวิษณุดารัสให้มีการกวนเกษียรสมุทรข้ึน เพ่ือให้ ไดม้ าซ่ึงน้าอมั ฤตใหเ้ หล่าเทวดา โดยมีพระศิวะเป็ นประธาน เอา เขาพรสุเมรุเป็ นไมก้ วนทะเลน้านม โดยมีพระวษิ ณุแปลงเป็ นเต่า ลงไปยนั ไมค้ น เพื่อไม่ให้โลกถูกทาลาย โดยมีพญานาควาสุกรี เป็ นเชือกพนั เขาพระสุเมรุไว้ พระวษิ ณุออกอุบาย ให้ฝ่ ายเทวดา จบั ปลายหางนาควาสุกรี ดา้ นหวั นาควาสุกรีน้นั เป็ นเหล่าอสูร ใน การกวนเกษียรสมุทรน้ีไดเ้ กิดของมงคล 9 อยา่ ง คือ นางฟ้ าวารุณี เทวีแห่งสุรา ววั สุรภี ววั แห่งโภคทรัพย์ ภายหลงั ได้กาเนิดนนทิ บริวารของพระศิวะ ตน้ ไมศ้ กั ด์ิสิทธ์ิที่ระลึกชาติไดค้ ือตน้ ปาริชาติ นางฟ้ าหลายลา้ นองคก์ บั พระจนั ทร์เทพ มา้ 7 หวั ที่เป็ นราชรถให้พระอาทิตย์ ชา้ งเอราวณั ท่ีถวายพระอินทร์ สร้อยคออญั มณีถวายพระวษิ ณุ หมอยา เทวดาก็ข้ึนมากบั น้าอมฤต และพระแม่ลกั ษมี อยา่ งสุดทา้ ยคือ พิษของพญานาค ที่ทาลายลา้ งโลกได้ พระศิวะ ทรงดื่มยาพิษท้งั หมด เพอ่ื ใหโ้ ลกมีสันติสุข ต้งั แตน่ ้นั มาพระศอของพระศิวะจึงมีสีดา ทำไม คนไทยจึงใช้คำว่ำเหี้ยเป็ นคำด่ำ ในอดีตคนไทย ไม่ถือว่าเห้ียเป็ นคาด่า อีกท้งั ไข่เห้ีย ยงั เป็ นอาหาร ระดบั ข้ึนโต๊ะเสวยของรัชกาลท่ี 1 เห้ีย กลายเป็ นคาด่าเม่ือเกิดขอ้ พิพาธ กรณีเขาพระวหิ ารระหวา่ งไทยกบั กมั พูชา ในช่วงปี 2506 โดยในพงศวดารกัมพูชาเล่าว่า มีตะกวดตวั หน่ึงได้ฟังพระธรรมเทศนาของ พระพุทธเจ้าจนบรรลุธรรม และได้มาเกิดใหม่เป็ น ปฐมกษตั ริยข์ องกรุงกมั พูชา ด้วยเหตุดงั กล่าว ทาให้ ช่วงกรณีการข้ึนศาลโลกเพ่ือตดั สินคดีปราสาทพระ วิหาร และก็เป็ นในช่วงเวลาดังกล่าวนี่เองท่ีมีการ นาเอาพงศาวดารกัมพูชามาใช้โจมตี และว่าร้าย ปร ะ เท ศ กัมพูช า ผ่า น ทา ง วิทยุก ร ะจ า ยเ สี ย งกับ ส่ื อ ส่ิงพิมพต์ ่างๆ โดยมีหวั หอกคนสาคญั คือ “นายหนหวย” หรือนายศิลปชยั ชาญเฉลิม แน่นอนวา่ กรณีปฐม กษตั ริยช์ าวเขมรเป็นตะกวด (คาเขมรท่ีแปลวา่ เห้ีย) ก็ถูกยกข้ึนมาใชด้ ว้ ย จนสุดทา้ ย “เห้ีย” ก็ถูกเนน้ ย้าวา่ เป็ น ส่ิงไมด่ ีไมง่ าม และกลายเป็นคาหยาบคายที่ใชส้ าหรับการด่าทอที่แพร่หลายไปในที่สุด เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 157

ทม่ี ำของชื่อ ชำ และ ที โลกน้ีมีการเรียก “ชา” อยแู่ ค่สองแบบ คือเรียกวา่ “ฉา-ชา-ไช-เช” หรือเรียกวา่ “ที-ตี- เต-เต๋” ท้งั สองคาน้ีมีตน้ กาเนิดในจีนท้งั สิ้น อน่ึง “ชา” เป็นพชื ที่เกิดบนจีนแผน่ ดินใหญ่ ตามตานานบอกวา่ มี กษตั ริยช์ ื่อเสินหนงโปรดรับประทานน้าร้อน วนั หน่ึง มีใบชาแห้งลอยมาตกในน้ าร้อนของเขาจนน้ า เปล่ียนเป็ นสีน้าตาล เสินหนงสงสัย ลองรับประทาน แล้วกลบั ชอบกว่าเดิมจึงคิดสูตรชาข้ึนเป็ นคร้ังแรก จีนคา้ ขายใบชาผา่ นเส้นทางสายไหม ไม่วา่ ไปท่ีไหน คนก็จะเรียกมันในแนว “ฉา-ชา” ตามจีนกลาง ต่อมาชาวดัตช์บุกเบิกการคา้ ทางเรือ มีท่าเรือหลกั ท่ี มณฑลฮกเก้ียน (หรือฝูเจ้ียน) ในจีน จึงเรียกชาว่า “เต๋” ตามสาเนียงฮกเก้ียนไปดว้ ย ชาติยุโรปอ่ืนๆ รับชาจากดตั ช์ก็เรียกตาม คาวา่ เต๋น้ีจึงกลายเป็ นท่ีมาของคา วา่ “ที” ในภาษาองั กฤษ ท้งั น้ีเร่ืองดงั กล่าวมีขอ้ ยกเวน้ คือโปรตุเกสคา้ ขายชากบั จีนทางเรือเช่นกนั แต่มี ทา่ เรือหลกั ที่มาเก๊า จึงยงั เรียกวา่ “ชา” ตามสาเนียงมาเกา๊ น่ีทาใหใ้ นทวปี อเมริกาเหนือ-ใตน้ ้นั มีเพียงบราซิลท่ี เรียก “ชา” เพราะเป็นเมืองข้ึนโปรตุเกส การเรียกวา่ “ชา” และ “ที” น้ีเป็ นสัญลกั ษณ์ของโลกาภิวฒั น์ในสอง ยคุ สมยั คือยคุ ที่เดินทางตามเส้นทางสายไหมบนบก (เรียกชา) และยคุ ที่คา้ ขายทางเรือ (เรียกที) นน่ั เองครับ รู้จักกบั แอพพลเิ คชัน Telegram Telegram น้นั เป็นแอปพลิเคชนั สื่อสารความปลอดภยั สูงที่ถูกปล่อยออกมา เป็ นคร้ังแรกเมื่อช่วงปี 2013 มนั เป็ นผลงานของ สองพี่ นอ้ งชาวรัสเซีย ช่ือ Pavel Durov และ Nikolai Durov ซ่ึง เป็ นผใู้ ห้กาเนิดโซเชียลมีเดียชื่อ “VKontakte” หรือ VK โดยเหตุผลที่ทาให้สองพี่น้องพฒั นา Telegram ข้ึนน้นั มาจากการท่ีในช่วงปี อดีตแอปพลิเคชนั VK ของพวกเขา ถูกแทรกแซงและซ้ือธุรกิจอย่างไม่เต็มใจโดยรัฐบาล เนื่องจากแพลตฟอร์มดงั กล่าวถูกนาไปใช้โดยผูป้ ระทว้ ง ทาให้รัฐบาลรัสเซียบงั คบั ให้พวกเขาขายให้กบั รัฐบาล เพื่อที่จะจดั การกบั ผปู้ ระทว้ งไดง้ ่ายข้ึนนนั่ เอง ดงั น้นั เพ่ือที่จะแกเ้ ผด็ รัฐบาลของรัสเซีย Pavel Durov และ Nikolai Durov จึงตดั สินใจท่ีจะนาเงินจาก VK ไปพฒั นา Telegram ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยมีจุดมุ่งหมายในการทาแอปพลิเคชนั เขา้ รหสั ท่ีปลอดภยั จากการแทรกแซง ภายใตค้ วามต้งั ใจที่วา่ แมแ้ ต่ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 158

สายลบั ของรัสเซียกจ็ ะไมส่ ามารถเจาะระบบของพวกเขาได้ และพวกเขาก็ทามนั ไดส้ าเร็จเป็ นอยา่ งดีเลยเสีย ดว้ ย นบั ต้งั แต่ที่ปล่อย Telegram ออกมา แอปพลิเคชนั น้ีก็กลายเป็ นอุปกรณ์ท่ีถูกเลือกใชใ้ นการประทว้ ง หลายต่อหลายแห่ง ไม่วา่ จะเป็ นที่รัสเซียเอง หรือในการประทว้ งของฮ่องกง ในขณะท่ีทาง Telegram เองก็ จะมีความพยายามอย่างมากท่ีจะบล็อกช่องทางการติดต่อสื่อสารของผูก้ ่อการร้ายไปด้วย เรียกได้ว่าดว้ ย จุดเด่นในดา้ นความปลอดภยั ของขอ้ มูลน้ีเอง ซ่ึงทาให้ในปัจจุบนั Telegram มียอดผใู้ ชง้ านไปแลว้ มากกวา่ 400 ลา้ นคนต่อเดือนเลยนนั่ เอง มัมหมีคืออะไร มมั หมี เป็ นคาเรียกแทนตวั เองของกลุ่มแฟนคลบั ที่มีความช่ืนชอบ นกั ร้องเกาหลีใตน้ ามวา่ เจโน่ (Jeno) หน่ึงในสมาชิกวง NCT Dream โดยคาวา่ มมั หมี น่าจะเป็ นท่ีใช้เรียกแทนตวั เองว่า “แม่” (Mommy) แต่เพ่ือให้เป็ นเอกลกั ษณ์ และจดจาไดง้ ่ายวา่ หากใชค้ าน้ี จะเป็ นการพูดหรือกล่าวถึง เจโน่ เลยจาก Mommy มาเป็น “มมั หมี” แทน ซ่ึงต่อไป หากเจอคาน้ี ก็จะไดไ้ ม่ตอ้ งสงสัยอีกนะครับ รู้จักกับแกงเทโพ ตอนน้ีคงไม่มีอาหารอะไรออกทีวบี ่อยเท่าแกงเทโพอีกแลว้ แกงเทโพ เป็ นแกงไทย ต้งั แต่ โบราณ โดยมีช่ือ่อยใู่ น \"กาพยเ์ ห่ชมเครื่องคาวหวาน” มีส่วนประกอบประกอบดว้ ย เคร่ืองแกง กะทิ ผกั บุง้ และหมูสามช้ัน แล้วทาไมถึงเรี ยกว่าแกง เทโพ เพราะในอดีตจะใช้ปลาเทโพ และไม่ ใช้หมูสามช้ัน โดยปลาเทโพ (black ear catfish) เป็ นปลาน้าจืดที่ปัจจุบนั เหลือนอ้ ยลง มาก มกั จบั ไดต้ ามแม่น้าสายหลกั อาทิ แม่น้า มูล แม่น้าเจา้ พระยา แมน่ ้าโขง เป็ นตน้ ซ่ึงพบ การจบั เพยี งบางฤดูกาล และมีปริมาณนอ้ ย ทา ใหม้ ีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 80-150 บาท ท้งั น้ี ในบางจงั หวดั มีการเล้ียงปลาชนิดควบคู่กบั การเล้ียงปลาสวายหรือปล่อยเล้ียงร่วมกบั ปลาอื่นๆ โดยปลาเทโพ พบอาศยั ในแม่น้าสายต่างๆ อาทิ แม่น้าโขง แม่น้ามูล แม่น้าเจา้ พระยา และแม่น้าแม่กลอง เป็ นตน้ รวมถึง อา่ งเก็บน้าขนาดใหญ่ อาทิ อ่างเก็บน้าเข่ือนภูมิพล และเขื่อนสิริกิต์ิ นอกจากน้ี ยงั พบแพร่กระจายอยใู่ นแถบ ประเทศเพ่ือบา้ น อาทิ ประเทศกมั พชู า ลาว และเวยี ดนาม เป็นตน้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 159

รู้จักกบั กฐิน ช่วงน้ีเป็นหนา้ กฐิน ซ่ึงเริ่มมาต้งั แตว่ นั ออกพรรษา ข้ึน 15 ค่าเดือน 11 (ปี น้ีตรงกบั วนั ท่ี 2 ตุลาคม) และมีกาหนดหน่ึงเดือนจนั ทรคติ โดยจะไปสิ้นสุดในวนั เพญ็ เดือนสิบสอง หรือวนั ลอยกระทง กฐิน เป็นคาศพั ทบ์ าลี หมายถึง ไมส้ ะดึง หรือไมท้ ่ีใชท้ ากรอบขึงเพ่ือเยบ็ ผา้ จีวรในสมยั โบราณ ซ่ึงผา้ ที่เยบ็ ดว้ ยวธิ ี น้ีก็จะเรียกวา่ “ผา้ กฐิน” การทอดกฐินเป็นประเพณีที่เป็ นไปตามพระวนิ ยั บญั ญตั ิของศาสนาพุทธฝ่ ายเถรวาท ซ่ึงพระพทุ ธเจา้ ทรงอนุญาตใหภ้ ิกษุผอู้ ยจู่ า พรรษาครบ 3 เดือน สามารถรับผา้ กฐินจากผู้ ที่มีจิตศรัทธาท่ีนามากรานกฐินได้ ซ่ึง นอกจากผา้ กฐินแลว้ ผทู้ อดกฐินก็จะถวาย ปัจจยั อ่ืนท่ีเรียกวา่ บริวารกฐิน เช่น ทรัพยส์ ิน หรือวตั ถุสิ่งของท่ีจาเป็น เพื่อนามาทานุบารุง พระพุทธศาสนาใหย้ ง่ั ยนื ตอ่ ไป ความเป็นมาของประเพณีทอดกฐินมีมาต้งั แต่สมยั พทุ ธกาล มีเร่ืองเล่าวา่ คร้ัง หน่ึงมีพระภิกษุชาวปาไถยรัฐจานวน 30 รูป ตอ้ งการเดินทางมาจาพรรษาที่นครสาวตั ถี แตเ่ ม่ือใกลถ้ ึง เขา้ พรรษาก็ยงั มาไม่ถึง จึงไดจ้ าพรรษาท่ีเมืองสาเกต จากน้นั เมื่อออกพรรษาจึงเดินทางต่อเพ่อื ไปเฝ้ าพระ บรมศาสดาท่ีนครสาวตั ถี ดว้ ยความเร่งรีบเดินทาง จึงทาใหจ้ ีวรของพระภิกษุเหล่าน้นั เป้ื อนโคลน เปี ยกชุ่ม ดว้ ยน้าฝน ไดร้ ับความลาบากมาก พระพทุ ธเจา้ เมื่อเห็นดงั น้นั จึงทรงมีพทุ ธานุญาตใหภ้ ิกษุที่จาพรราครบ สามเดือนกรานกฐินหรือรับผา้ จีวรใหม่ได้ ภายในเวลาอานิสงส์กฐิน คือ 1 เดือนจนั ทรคตินบั จากวนั ออก พรรษา การถวายกฐินความพเิ ศษต่างจากการถวายทานอ่ืน เนื่องจากมีขอ้ จากดั หลายประการ คือ 1. จากดั ประเภททาน คือตอ้ งถวายเป็นสงั ฆทานเท่าน้นั จะถวายเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหน่ึงไม่ได้ 2. จากดั เวลา คือตอ้ งถวายภายในเวลา 1 เดือนจนั ทรคติ นบั จากวนั ออกพรรษา 3. จากดั งาน คือ พระภิกษุที่กรานกฐินตอ้ งตดั เยบ็ ยอ้ ม และครองใหเ้ สร็จภายในวนั ที่กรานกฐิน 4. จากดั ไทยธรรม คือ ผา้ ที่ถวาตอ้ งถูกตอ้ งตามลกั ษณะที่พระวนิ ยั กาหนดไว้ 5. จากดั ผรู้ ับ คือ พระภิกษุผรู้ ับกฐิน ตอ้ งเป็นผทู้ ี่จาพรรษาในวดั น้นั โดยไม่ขาดพรรษา และตอ้ งมีอยา่ งนอ้ ย 5 รูป 6. จากดั คราว คือ วดั หน่ึงจะรับกฐินไดเ้ พียงปี ละหน่ึงคร้ังเทา่ น้นั 7. เป็นพระบรมพทุ ธานุญาต คือเป็นขอ้ บญั ญตั ิท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงอนุญาตดว้ ยพระองคเ์ อง มิไดม้ าจากการทูล ขอจากผใู้ ด การทอดกฐินในเมืองไทยแบ่งไดต้ ามประเภทของวดั คือ วดั พระอารามหลวง ซ่ึงจะแบ่งเป็น กฐินหลวง หรือ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 160

ผา้ พระกฐินท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั จะเสด็จพระราชดาเนินไปพระราชทานดว้ ยพระองคเ์ อง หรือ โปรดเกลา้ ใหพ้ ระบรมวงศาสนุวงศช์ ้นั ผใู้ หญ่เสดจ็ ไปรพระราชทานแทน กบั กฐินพระราชทาน คือผา้ พระ กฐินพระราชทานท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานผา้ พระกฐินและ เครื่องกฐินแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ขา้ ราชบริพาร หน่วยงานราชการหรือเอกชน ใหไ้ ปทอดยงั พระอาราม หลวงตา่ ง ๆ ทวั่ ประเทศ ส่วนวดั ท่ีมีฐานะเป็นวดั ราษฎร์ กจ็ ะแบ่งเป็น กฐินตน้ หรือผา้ พระกฐินพระราชทานท่ีพระบาทสมเดจ็ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดาเนินไปพระราชทานยงั วดั ราษฎร์เป็นการส่วนพระองค์ และกฐินราษฎร์ หรือกฐินท่ีราษฏร์ ทวั่ ไปที่มีจิตศรัทธาจดั ถวายผา้ กฐินและเคร่ืองบริวารไปถวายยงั วดั ราษฎร์ตา่ ง ๆ โดยจะตอ้ งมีการจองกฐิน เป็นการล่วงหนา้ เพ่อื ไม่ใหผ้ ดิ พระวนิ ยั ในเร่ืองที่วา่ แต่วดั จะรับกฐินไดเ้ พยี งคร้ังเดียวเทา่ น้นั ในแต่ละปี นอกน้นั ในอดีตยงั มีการทอดกฐินที่เรียกวา่ “กฐินจร” หรือ “กฐินโจร” ที่ไม่ไดห้ มายถึงการจ้ีปลน้ แต่ หมายถึงการทอดกฐินที่ไมไ่ ดม้ ีการจองล่วงหนา้ กฐินลกั ษณะน้ีมกั จะเกิดในช่วงทา้ ย ๆ ของหนา้ กฐิน โดยผู้ ทอดกฐินจะเลือกดูวดั ท่ียงั ไมม่ ีผใู้ ดจองกฐิน แลว้ จึงเขา้ ไปยงั ทอดกฐินยงั วดั ดงั กล่าวโดยไมใ่ หร้ ู้ล่วงหนา้ แต่ ปัจจุบนั ไม่ค่อยพบแลว้ ทำไมหอยนำงรมถงึ เป็ นของเจ หอยนางรม ท่ีถูกยกเวน้ ใหเ้ ป็นอาหารเจ เกิดข้ึนมาจากความเช่ือและตานานที่ เล่าต่อ ๆ กันมาว่า เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านพาประชาชนที่นับถือใน พระพุทธศาสนาหนีตายจากการเข่นฆ่าของพระเจา้ เม่ียววงลงเรือ ออกทะเล บา้ งกว็ า่ เป็นสาวกของเจา้ แมก่ วนอิมเดินทางออกไปแสวง บุญแลว้ เสบียงอาหารหมด แต่ท้งั 2 ตานานมีความคล้ายคลึงกนั ตรงที่การเดินทางออกทะเลดว้ ยหนทางท่ียาวไกลและใชช้ ีวิตอยกู่ ลางทะเลมาเป็ นเวลานาน จนเสบียงต่าง ๆ บนเรือน้นั เร่ิมหมดไป ก็ทาให้เกิดความหิวโหย แต่คร้ันจะหาจบั สัตวห์ รือปลาในทอ้ งทะเลกินน้นั ก็จะเป็ น การทาบาปตอ่ สัตวโ์ ลก ไม่ตรงจุดประสงคใ์ นการมาแสวงบุญ ทุกคนจึงอธิฐานวา่ จะลองเอาไมพ้ ายจุ่มลงไป ในทะเล ถา้ หากมีส่ิงใดติดข้ึนมาก็จะกินส่ิงน้นั เป็ นอาหาร ปรากฎวา่ มีหอยนางรมติดไมพ้ ายข้ึนมา ก็เลยนา หอยนางรมข้ึนมากินเป็ นอาหาร จากเรื่องเล่าน้ีเองท่ีทาให้หอยนางรมเป็ นอาหารที่สามารถรับประทานได้ ในช่วงกินเจนนั่ เอง บางตานานกก็ ล่าววา่ หอยนางรมเป็นสตั วท์ ี่ไม่มีเลือดสามารถกินไดใ้ นช่วงเทศกาลกินเจ แต่ท้งั น้ีท้งั น้นั ก็ข้ึนอยกู่ บั ดุลยพินิจของแต่ละคนวา่ สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะน่ีก็เป็ นเพียงตานานที่เล่าต่อ ๆ กนั มาเท่าน้นั เอง อยา่ งไรก็ตาม ในคนที่ไม่ตอ้ งการเบียดเบียนชีวิตสัตวอ์ ยา่ งแทจ้ ริงก็จะถือวา่ หอยนางรม เป็นส่ิงมีชีวติ และเลือกท่ีจะไมท่ านหอยนางรมในช่วงเทศกาลกินเจ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 161

ไพ่แจ็ก, ควนี , คิง แต่ละหน้ำ หมำยถึงบุคคลใด เช่ือวา่ คงไม่มีผอู้ ่านท่านใดท่ีไม่เคยเล่นไพ่หรือเห็นไพ่มา ก่อน ทุกคนยอ่ มทราบดีวา่ ในไพ่ 1 สารับ จะมี 52+2 ใบ คือไพท่ ว่ั ไป 52 ใบ กบั โจ๊กเกอร์ ซ่ึงปรกติจะมี 2 ใบ (ที่มาชองไพ่โจก๊ เกอร์เคยเล่าไปแลว้ ) โดยไพ่ 52 ใบน้นั นอกจากจะมีใบเลข 1-10 (เลข 1 ส่วนมากจะแทน ดว้ ย A) แลว้ ก็จะยงั มีไพ่อีกกลุ่มที่เรียกวา่ ไพห่ นา้ คน ซ่ึงจะประกอบดว้ ยไพ่คิง (K) ควีน (Q) หรือท่ีบา้ นเรา บางทีก็เรียวา่ แหม่ม และแจก็ (J)ซ่ึงไมใ่ ช่เจา้ ชาย แต่จะหมายถึงอศั วนิ หรือทหารเอก แลว้ คุณทราบหรือไม่วา่ ไพห่ นา้ คนแต่ละใบน้นั มีท่ีมาจากใคร คาตอบก็คือ ไพห่ นา้ คนแต่ละใบ มีที่มาจากบุคคลจริง หรือบุคคลใน ตานานของยุโรปโบราณ โดยไพ่ชุดท่ีได้รับการยอมรับ ตรงกนั มากท่ีสุดคือคิง ซ่ึงคิงแต่ละหน้าจะแทนกษตั ริย์ผู้ ยงิ่ ใหญ่ในประวตั ิศาสตร์ ไดแ้ ก่ คิงโพดา (King of Spades) หมายถึง พระเจา้ เดวิด กษตั ริยข์ องชาวยิวในสมยั โบราณท่ี กล่าวถึงในพระคมั ภีร์ไบเบิล คิงโพแดง (King of Hearts) จะ หมายถึง พระเจา้ ชาเลอร์มาญ กษตั ริยฝ์ ร่ังเศสในช่วงเร่ิมตน้ ยคุ กลางของยโุ รป ซ่ึงพชิ ิตแผน่ ดินยโุ รปตะวนั ตกไวไ้ ดเ้ กือบท้งั หมด คิงดอกจิก (King of Clubs) จะหมายถึง พระเจา้ อเลกซานเดอร์มหาราช กษตั ริยแ์ ห่งมาเซโดเนีย ผพู้ ิชิตดินแดนไปทว่ั โลก คิงขา้ วหลามตดั (King of Diamonds) จะหมายถึง จูเลียส ซีซาร์ ผเู้ ผด็จการแห่งอาณาจกั รโรมนั (แต่บางแห่งก็วา่ หมายถึง ออกุสตุส ซี ซาร์ ที่เป็ นจกั รพรรดิองคแ์ รกต่างหาก) ส่วนควีนกบั แจ็กน้นั จะมีความแตกต่างกนั ไปอย่บู า้ ง อยา่ งเช่นควีน บางแห่งจะเรียงจากโพดา, โพแดง, ดอกจิก และขา้ วหลามตดั เป็ น พลั ลสั (Pallas) หรือเทพีอาธีนา (Athenna), จูดิธ (Judith) สตรีในพระคมั ภีร์ไบเบิล , อาร์จีน (Argine) แห่งโรมนั และราเชล (Rachel) สตรีใน พระคมั ภีร์ไบเบิล แตบ่ างแห่งก็สลบั กนั เป็ น พลั ลสั , ราเชล, อาร์จีน, จูดิธ ในขณะท่ีแจ็ก จะเรียงเป็ น โอเชร์ ( Ogier) ทหารเอกของพระเจา้ ชาร์เลอมาญ, ลาแอร์ (La Hire) ทหารเอกของฝร่ังเศสในยุคสงครามร้อยปี , ลาน สลอต (Lancelot) หน่ึงในอศั วนิ โต๊ะกลมของกษตั ริยอ์ าร์เธอร์ และเฮคเตอร์ (Hector) เจา้ ชายยอดนกั รบของ ฝ่ ายทรอยในสงครามกรุงทรอย แต่บางแห่งก็สลบั กนั ระหว่างโอเชร์กบั เฮคเตอร์ และตดั ลานสลอตออก เปล่ียนเป็ นจูดาห์ แมคคาบี (Judah Maccabee) ผนู้ าของชาวยิวในการทาสงครามอิสรภาพกบั กรีกแทน และ ในบางแห่งก็กล่าววา่ บางทีไพห่ นา้ แต่ละชุด จะหมายถึงบุคคลในตานานแต่ละยุค ไดแ้ ก่ ยิว, กรีก, โรมนั และคริสเตียน ไดแ้ ก่ โพดา เป็ นชุดของยิว ไดแ้ ก่ พระเจา้ เดวดิ , จูดิธ และ จูดาห์ แมคคาบี โพแดง เป็ นชุด ของคริสเตียน ไดแ้ ก่ พระเจา้ ชาร์เลอมาญ, แรกเนล (Ragnel) และโอเชร์ ดอกจิก เป็ นชุดของกรีก ไดแ้ ก่ พระ เจา้ อเลกซานเดอร์, อาร์เกีย (Argia) และเฮคเตอร์ ขา้ วหลามตดั เป็นชุดของโรมนั ไดแ้ ก่ จูเลียส ซีซาร์, พลั ลสั และ ออลุส เฮอร์ติอุส (Aulus Hirtius) เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 162

เยอรมัน กบั เยอรมนี ต่ำงกนั อย่ำงไร Germany (ประเทศเยอรมนี) หรือเรียกอยา่ งเป็ นทางการวา่ the Federal Republic of Germany (สหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) แต่คน ไทยมกั เรียกส้นั ๆวา่ เยอรมนั (German) โดย เยอรมนั (German) หมายถึง ภาษาเยอรมนั หรือชาวเยอรมัน ส่วน เยอรมนี (Germany) จะหมายถึงประเมศเยอรมนั ท้งั น้ี ถ้าจะเรียก ประเทศเยอรมนั ใหถ้ ูกตอ้ ง ตอ้ งเรียกวา่ เยอรมนี หรือ สหพนั ธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี ท้ังน้ี คนเยอรมนั เค้าเรียกตวั เค้าเองว่า Deutsch ( ดอ๊ ยช์) ภาษาก็ Deutsch ( ด๊อยช์) เรียกประเทศเคา้ เอง วา่ Deutschland ( ด๊อยชแ์ ลนด)์ รู้จักกบั ไวรัส RSV ไวรัส RSV คืออะไรไวรัส RSV คือ เช้ือไวรัสชนิดหน่ึง ช่ือภาษาองั กฤษคือ Respiratory Syncytial Virus เป็ นเช้ือไวรัสท่ีก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจไดท้ ้งั ส่วนบนและส่วนล่าง ทาให้ ร่างกายผลิตเสมหะออกมาจานวนมาก ซ่ึงเช้ือไวรัสชนิดน้ีมีมานานหลาย 10 ปี แลว้ แต่ปัจจุบนั เร่ิมมาเป็ นที่ รู้จกั กนั มากข้ึนเนื่องจากเช้ือไวรัสชนิดน้ี มกั จะก่อให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็ก สาเหตุและการติดเช้ือ ไวรัส RSV ท้งั เดก็ และผใู้ หญส่ ามารถติดเช้ือไวรัสชนิดน้ีได้ หากเกิดในผใู้ หญห่ รือเด็กโตท่ีมีสุขภาพแข็งแรง อาการป่ วยจะหายไดเ้ อง แต่ถา้ หากเกิดในเด็กเล็ก ๆ ท่ีภูมิคุม้ กนั ยงั ต่า อาจทาให้มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะ เด็กเล็กที่อายุต่ากว่า 5 ขวบ ขณะเดียวกนั ผูใ้ หญ่ที่เป็ นโรคปอด โรคหัวใจ ก็เป็ นกลุ่มเส่ียงเช่นเดียวกนั เช้ือไวรัส RSV เป็ นเช้ือไวรัส ที่ มี ค ว า ม ท น ท า น ต่ อ ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ภ า ย น อ ก ร่างกาย มกั ติดต่อผ่านทางการ ไอ จาม รวมถึ งการสัมผัส โดยตรงจากสารคดั หลง่ั ไม่วา่ จะเป็ นน้ามูก น้าลาย เสมหะ ปั จ จุ บั น เ ป อ ร์ เ ซ็ น ต์ ก า ร เสียชีวิตของเด็กท่ีติดเช้ือไวรัส RSV โดยตรงน้นั น้อยมาก เพราะไวรัส RSV ไม่ใช่เช้ือโรคท่ีร้ายแรง แตส่ าเหตุการเสียชีวติ ส่วนใหญ่มกั มาจากการเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในเด็กเล็กมาก ๆ หรือ เด็กท่ีมีโรคประจาตวั เช่น โรคหวั ใจ โรคปอด เด็กท่ีคลอดก่อนกาหนด และมีภูมิคุม้ กนั ต่า อาจจะเกิดภาวะ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 163

รุนแรงถึงข้นั การหายใจลม้ เหลว ตอ้ งใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิตได้ วิธีการป้ องกนั ผปู้ กครองสามารถ ป้ องกนั การติดเช้ือไวรัส RSV ในบุตรหลานไดโ้ ดยการพยายามให้เด็ก ๆ ลา้ งมือใหส้ ะอาด เพื่อป้ องกนั การ ติดตอ่ ทางการสัมผสั ใส่หนา้ กากอนามยั ในท่ีท่ีคนพลุกพล่าน ลา้ งจมูกดว้ ยน้าเกลือเป็ นประจา ให้เด็กดื่มน้า อยา่ งเพยี งพอเพอ่ื ลดภาวะขาดน้าและช่วยขบั เสมหะออกจากร่างกาย แต่ถา้ หากเป็ นเด็กเล็กที่ยงั ไม่หยา่ นม ก็ สามารถให้เด็กดูดนมไดม้ ากที่สุดตามตอ้ งการ แยกอุปกรณ์และภาชนะต่าง ๆ ของเด็กแต่ละคน ไม่ควรใช้ ร่วมกนั วธิ ีสังเกตอาการวา่ ติดเช้ือไวรัส RSV หรือไม่ เน่ืองจากการติดเช้ือไวรัส RSV ระยะเร่ิมตน้ น้นั ใช้ เวลาในการฝักตวั ประมาณ 3-6 วนั หลงั จากไดร้ ับเช้ือ ผปู้ ่ วยจะมีอาการคลา้ ยกบั ไขห้ วดั ธรรมดา เร่ิมจากการ มีน้ามูก จาม ไอ ทาให้ คุณพ่อ คุณแม่ หรือผูป้ กครองรู้ตวั ช้า ดงั น้นั จึงตอ้ งคอยสังเกตอาการของลูกหลาน อย่างใกล้ชิด และต้องพิจารณาปัจจยั อื่น ๆ เพ่ิมดว้ ย เช่น อยู่ในช่วงปลายฝนตน้ หนาว ไอ จาม มีเสมหะ จานวนมาก หายใจเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด ซ่ึงเป็ นลกั ษณะอยา่ งหน่ึงท่ีบ่งบอกวา่ หลอดลมตีบ หรือ หลอดลมฝอยอกั เสบ วธิ ีรักษา เบ้ืองตน้ ไวรัส RSV ไม่มีวคั ซีนสาหรับป้ องกนั ดงั น้นั แพทยจ์ ึงใชว้ ิธีการรักษา ไปตามอาการ รักษาประคบั ประคอง ไม่ว่าจะเป็ นการให้ยาลดไข้ หรือในเด็กบางรายท่ีมีลกั ษณะของ หลอดลมตีบ กอ็ าจจะมีการใหย้ าพน่ เพิ่มเพื่อขยายหลอดลม รวมถึงการเคาะปอดและดูดเสมหะ ทำไมในวันฮำโลวีนต้องมีฟักทอง ตานานพ้ืนบา้ นของชาวไอริช ท่ีกล่าวถึง แจ๊คจอมตืด ซ่ึงเป็ นนกั เล่นกล จอมข้ีเมา วนั หน่ึงเขาหลอกล่อปี ศาจข้ึนไปบนตน้ ไม้ และเขียนกากบาทไวท้ ี่โคนตน้ ไม้ ทาให้ปี ศาจลงมา ไม่ได้ จากน้นั เขาไดท้ าขอ้ ตกลงกบั ปี ศาจ ‘ห้าม นาสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก’ แลว้ เขาจะปล่อย ปี ศาจลงจากตน้ ไม้ เม่ือแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่ จะข้ึนสวรรค์ ขณะเดียวกนั ปฏิเสธที่จะลงนรก ปี ศาจจึงใหถ้ ่านท่ีกาลงั คุแก่เขา เพื่อเอาไวป้ ัดเป่ า ความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็ค ไดน้ าถ่านน้ีใส่ไวใ้ นหวั ผกั กาดเทอนิพท่ีถูกเจาะ ใหก้ ลวง เพ่ือใหไ้ ฟลุกโชติช่วงไดน้ านข้ึน ชาวไอริชจึงแกะสลกั หวั ผกั กาดเทอนิพ และใส่ไฟในดา้ นใน อนั เป็ นอีกสัญลกั ษณ์ของวนั ฮาโลวนี เพ่ือระลึกถึง ‘การหยุดย้งั ความชวั่ ’ Trick or Treat เพ่ือส่งผลบุญให้กบั ญาติผูล้ ่วงลบั และพิธีทางศาสนาเพ่ือทาบุญวนั ปี ใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาว อเมริกาพบวา่ ฟักทองหาง่ายกวา่ หวั ผกั กาดมาก จึงเปลี่ยนมาใชฟ้ ักทองแทน หวั ผกั กาดจึงกลายเป็ นฟักทอง ดว้ ยเหตุผลน้ี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 164

รู้จักกบั พระแม่คงคำ พระแมค่ งคา มีพระประวตั ิในหลายแบบ ตามความเชื่อในแบบแรกพระองคเ์ กิดจากน้า ในกาต้มน้าของพระพรหม แบบที่สอง พระองค์เกิดจากน้าล้างเท้าที่ เคารพของพระนารายณ์ และพระพรหมเก็บน้าน้ีไวใ้ นกาต้มน้าของ พระองค์ แบบท่ีสาม พระองคเ์ ป็ นพระธิดาของทา้ วหิมวตั และพระนาง เมนกามีนอ้ งสาวนามวา่ พระอุมาภควตี พระองคเ์ ป็ นพระชายาของพระ ศิวะ ตามคติความเชื่อของอินเดีย ว่ากนั ว่าพระองค์ทรงปลาใหญ่หรือ จระเขเ้ ป็นพาหนะ พระองคเ์ ป็นเทวผี ใู้ หก้ าเนิดสายน้าคงคาตามความเช่ือ ของชาวอินเดีย และนอกจากน้ันชาวฮินดูยงั เชื่อว่าสายน้า คงคาน้ัน สามารถชาระล้างบาปของตนได้ พระนางคงคาน้ันไม่ได้มีปางอนั ใด เนื่องจากว่าไม่มีการแบ่งภาคลงมาเกิดแต่มีการร่วมกบั องค์พระศิวะใน ปางคงเคศวรน้นั เอง นอกจากน้นั กจ็ ะคงพบในรูปเคารพของพระศิวะโดยพระองคจ์ ะปรากฏในเทวลกั ษณะที่ เป็ นน้าไหลจากมวยผมของพระศิวะ พระองค์ทรงเป็ นผูส้ ร้างสายน้าที่แตกต่างกันบนโลกมนุษย์ เพื่อ ช่วยเหลือวิญญาณที่โชคร้าย อยา่ งไรก็ตามเธอเป็ นเพียงแม่น้าท่ีตอ้ งปฏิบตั ิตามโลกท้งั สาม คือ สวรรค์ โลก และ นรก ศาสนาฮินดูเช่ือวา่ พระแม่คงคาตอนท่ีลงมายงั โลกมนุษย์ หากลงมาโดยตรง ความรุนแรงของ สายน้าจะทาให้โลกถึงแก่กาลพินาศ ดงั น้นั พระศิวะจึงไดใ้ ช้มวยผมรองรับเอาพระคงคาไวก้ ่อนทอดหน่ึง ก่อนท่ีพระคงคาจะไหลจากมวยผมของพระศิวะลงมายงั โลกมนุษยอ์ ีกที รู้จักกับกลุ่มดำวแมลงป่ อง กลุ่มดาวแมงป่ องเป็ นกลุ่มดาวท่ีมีตานานและนิทานเล่าขานมากมาย โดยที่กลุ่ม ดาวแมงป่ องน้ัน คือ ตวั แทนของ “แมงป่ องยกั ษ์” ที่ไกอา (Gaia) เทพีแห่งพ้ืนพิภพซ่ึงทาหนา้ ที่ดูแลทุกสรรพชีวิตบนโลก ในตานานกรีกโบราณ ส่งไปตามล่าสังหารนายพรานหนุ่มนาม “โอไรออน” (Orion) ซ่ึงโออ้ วดถึงความสามารถในการล่าสัตว์ และปณิธานท่ีจะตามฆ่าสัตวท์ ุกชนิดบนโลก ก่อนท่ีแมงป่ อง ยกั ษ์จะถูกส่งข้ึนสู่สวรรค์กลายเป็ นกลุ่มดาวแมงป่ อง หลัง สังหารนายพรานหนุ่มสาเร็จเพ่ือเป็ นเกียรติต่อความกลา้ หาญที่ ช่วยขจดั ภยั ให้โลก เช่นเดียวนายพรานโอไรออนที่ถูกส่งข้ึนสู่ ทอ้ งฟ้ า กลายเป็ นกลุ่มดาวนายพรานเพื่อเป็ นเครื่องเตือนใจต่อ ความโอหงั และถือดีของมนุษย์ นอกจากน้ี ในอีกบทหน่ึงของ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 165

ตานานกรีกโบราณ กลุ่มดาวแมงป่ อง คือตวั แทนของ “แมงป่ องยกั ษ์” ท่ีอพอลโล (Apollo) เทพแห่งแสง สวา่ งหรือดวงอาทิตยน์ อ้ งชายฝาแฝดของเทพีอาร์ทิมิส (Artemis) เทพีแห่งดวงจนั ทร์และการล่าสัตว์ ส่งไป สังหารนายพรานหนุ่มนาม “โอไรออน” หลงั พบว่าเทพีอาร์ทิมิสตกหลุมรักนายพรานหนุ่ม ซ่ึงเป็ นมนุษย์ ปุถุชนธรรมดา และหลงั การเสียชีวติ ของนายพรานโอไรออนน้นั เทพีอาร์ทิมิสไดท้ าการร้องขอให้เทพเจา้ ซุส (Zeus) ส่งนายพรานหนุ่มข้ึนสู่สรวงสวรรค์ ดงั น้นั บนทอ้ งฟ้ าของฤดูหนาวจะมีกลุ่มดาวนายพราน ปรากฏข้ึน แต่จะหายลบั ขอบฟ้ าไปในทุกฤดูร้อนเมื่อกลุ่มดาวแมงป่ องมาเยือน ถึงแมแ้ มงป่ องยกั ษ์และ นายพรานหนุ่มจะกลายเป็นกลุ่มดาวบนทอ้ งฟ้ าไปแลว้ การไล่ล่าและหลบหนีของท้งั คู่ยงั ไม่เคยยตุ ิ ส่งผลให้ กลุ่มดาวท้งั สองอยใู่ นทิศทางตรงกนั ขา้ มบนทอ้ งฟ้ าตลอดมา โดยดาวท่ีสุกสวา่ งที่สุดในกลุ่มดาวแมลงป่ อง คือ แอนทาเรส (Antares) หรือที่คนไทยรู้จกั ในนามของ “ดาวปาริชาต” เป็ นดาวยกั ษ์ใหญ่สีแดง (Red Supergiant Star) ท่ีสวา่ งที่สุดดวงหน่ึงในน่านฟ้ าโลก อยู่ตรงใจกลางหรือ “หัวใจ” ของกลุ่มดาวแมงป่ อง เป็นดาวฤกษท์ ี่อยหู่ ่างจากโลกราว 550 ปี แสง มีมวลมากกวา่ ดวงอาทิตยข์ องเราถึง 880 เท่า ทำไมสัญลกั ษณ์ของพรรคกำรเมืองอเมริกำ ถงึ เป็ นช้ำงกบั ลำ พรรครีพบั ลิกนั มีสัตวส์ ัญลกั ษณ์ คือ ชา้ ง ส่วน พรรคเดโมแครต กนั มีสัตวส์ ัญลกั ษณ์ คือ ลา โดย ลา อยู่คู่กบั พรรคเดโมแครคมาต้งั แต่ปี 1828 ซ่ึงประธานาธิบดี แอนดรู แจ็ค สนั ถูกคูแ่ ข่งเรียกวา่ ลาโง่ ในขณะที่กาลงั หาเสียงเลือกต้งั แต่น้นั กลบั ทาให้เขาชอบและนามาใชเ้ ป็ นสัญลกั ษณ์หาเสียง จากน้ัน ในปี 1870 นิตยสารการเมืองรายสัปดาห์ชื่อ Harper ตีพิมพ์ ภาพวาดผลงานลอ้ การเมือง ช่ือ เจา้ ลาโง่เตะสิงโตที่ตายแลว้ (A live Jackass kicking a dead lion) ของ โธมสั แนสต์ นกั เขียนการ์ตูนลอ้ การเมือง ซ่ึงเขาวาดเพ่ือเสียดสีพรรคเดโมแครต โดยเป็ นภาพลากาลงั เตะสิงโตที่ ตายแลว้ เพื่อแสดงใหเ้ ห็นถึงความด้ือและโง่เขลา แต่พรรคเดโมแครต มองวา่ ลา เป็ นสัตวท์ ี่ฉลาด และ กลา้ หาญ ไม่ยอมแพ้ จึงถูกนามาใช้เป็ นสัญลกั ษณ์แบบไม่เป็ นทางการจากน้นั เป็ นตน้ มา ส่วนรูปช้างของฝ่ัง พรรครีพบั ลิกนั ก็มาจาก โธมสั แนสต์ อีกเช่นกนั ในปี 1874 ช่วงที่พรรครีพบั ลิกนั กาลงั มีคะแนนพุ่งสูงสุด โดยตีพิมพใ์ นนิตยสารการเมืองรายสัปดาห์ชื่อ Harper ชื่อ The Third Term Panic เป็ นรูปชา้ งท่ีกาลงั ออก อาละวาดบุกเกบ็ เกี่ยวคะแนนเสียงและใหส้ ัตวอ์ ่ืนๆ กลวั จากน้นั พรรครีพบั ลิกนั จึงเลือกเอาการ์ตูนของเขา มาเป็ นสัญลกั ษณ์ ดว้ ยการตีความว่าช้าง คือความแข็งแรง ฉลาดหลกั แหลม มีเกียรติยศศกั ด์ิศรี ซ่ึงเป็ น สัญลกั ษณ์ของพรรคอยา่ งเป็ นทางการ และในวนั น้ี ศึกเลือกต้งั ประธานาธิดีสหรัฐ 2020 จะช้าง และ จะลา เดินเขา้ สู่ทาเนียบขาว เด๋ียวก็คงรู้กนั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 166

รู้จักกบั สนธิสัญญำ โมโลตอฟ–ริบเบินทร็อพ สนธิสัญญา โมโลตอฟ ริบเบินทร็อพ เป็ นสนธิสัญญาที่ไดช้ ่ือ ตามรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศของโซเวียต วยาเชสลาฟ โมโลตอฟ และรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการ ต่างประเทศของนาซีเยอรมนี โยอาคิม ฟ็อน ริบเบินทร็อพ โดยมีชื่อเรียกอยา่ งเป็นทางการวา่ กติกาสัญญาไม่รุกรานกนั ระหว่างเยอรมนีกบั สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (German–Soviet Non-aggression Pact) และไดร้ ับการลง นามในกรุงมอสโก เม่ือช่วงเชา้ ของวนั ที่ 24 สิงหาคม 1939 (แต่ในกติกาสัญญาระบุเป็ นวนั ท่ี 23 สิงหาคม ความตกลงดงั ล่าวเป็ นการประกาศวางตวั เป็ นกลางหากภาคี ฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงถูกโจมตีโดยประเทศที่สาม ภาคีผลู้ งนามท้งั สองสัญญาจะไม่เขา้ ร่วมกลุ่มกบั อานาจอ่ืนซ่ึง \"พงุ่ เป้ าหมายไปยงั คู่เจรจาฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงโดยตรงหรือโดยออ้ ม\" กติกาสัญญาดงั กล่าวเป็ นท่ีรู้จกั กนั ในหลาย ช่ือดว้ ยกนั ซ่ึงรวมไปถึง กติกาสัญญานาซี–โซเวยี ต (Nazi–Soviet Pact), กติกาสญั ญาฮิตเลอร์–สตาลิน, กติกา สัญญาไม่รุกรานกนั ระหวา่ งเยอรมนี–โซเวยี ต หรือบางคร้ังก็เรียกวา่ พนั ธมิตรนาซี–โซเวยี ต[2] กติกาสัญญา มีผลจนถึงวนั ที่ 22 มิถุนายน 1941 เมื่อเยอรมนีเริ่มปฏิบตั ิการบาร์บารอสซา นอกเหนือจากการกาหนด เงื่อนไขในการไม่รุกรานระหว่างกนั แล้ว กติกาสัญญาดังกล่าวยงั รวมไปถึงข้อตกลงลับ ซ่ึงแบ่งยุโรป ตะวนั ออกใหอ้ ยภู่ ายใตเ้ ขตอิทธิพลของเยอรมนีและโซเวยี ต เพอ่ื ใหม้ ีการจดั ระเบียบทางดินแดนและทางการ เมืองในพ้ืนที่ดงั กล่าวใหม่ หลงั จากน้นั เยอรมนีและสหภาพโซเวียตไดร้ ่วมกนั บุกครองโปแลนด์ ตามดว้ ย การผนวกเอสโตเนีย ลตั เวีย ลิทวั เนียและดินแดนทางตอนเหนือของโรมาเนีย (บาสซาราเบีย) เขา้ ไปอยู่ใน เขตอิทธิพลของสหภาพโซเวียต รวมไปถึงการผนวกดินแดนทางตะวนั ออกของฟิ นแลนด์ หลงั จากความ พยายามรุกรานของสหภาพโซเวยี ตในสงครามฤดูหนาว โดยสาเหตุการเซ็นสัญญาของท้งั 2 ฝ่ าย คือเยอรมนั ไม่ตอ้ งการทาศึกพร้อมกนั 2 ดา้ น โดยมีความต้งั ใจจบศึกทางตะวนั ตกกบั ฝร่ังเศสและองั กฤษก่อน ถึงจะบุก โซเวียต สาวนโซเวียตทาสัญญา เพื่อดึงเวลา และตอ้ งการเตรียมความพร้อมของกองทพั กบั เยอรมนั ใน อนาคตต่อไป เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 167

เคร่ืองหมำย CE ในผลติ ภณั ฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ ำหมำยถึงอะไร เครื่องหมาย CE ยอ่ มาจากคาในภาษาฝร่ังเศสวา่ “Conformite Europeene ซ่ึงมีความหมายเดียวกบั คาใน ภาษาองั กฤษคือ “European Conformity” เดิมทีใช้ เครื่องหมาย EC แต่ภายหลงั ไดเ้ ปล่ียนมาเป็ น เคร่ืองหมาย CE อยา่ งเป็นทางการเม่ือปี 2536 เครื่องหมาย CE ท่ีปรากฏ อยบู่ นสินคา้ เป็ นเคร่ืองหมาย ที่แสดงการรับรองจากผผู้ ลิต (Manufacturer’s Declaration) วา่ สินคา้ น้นั มีคุณสมบตั ิตาม ข้อกาหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภยั และการคุ้มครองส่ิงแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ เกี่ยวขอ้ งของสหภาพยุโรป การมีเคร่ืองหมาย CE กากบั บนสินคา้ จะทาให้สินคา้ น้นั สามารถวางจาหน่าย และสามารถเคล่ือนยา้ ยไดอ้ ยา่ งเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือ European Economic Area (EEA) ซ่ึง ประกอบดว้ ยสหภาพยุโรป หรือ European Community (EU) และ สมาคมการคา้ เสรียโุ รป หรือ European Free Trade Association (EFTA) ยกเวน้ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ โดยสมาชิกแต่ละประเทศจะดาเนินการออก กฎหมายภายในประเทศใหส้ อดคลอ้ งกบั กฎระเบียบของสหภาพยโุ รป หรือ EC Directives ท่ีก่ียวขอ้ งกบั การ ใชเ้ คร่ืองหมาย CE ขอ้ มูลจาก แฟนเพจ DLX Forklift รถยกพาเลท รถลากพาเลท รถยกลากไฟฟ้ า รถยกสูง ไฟฟ้ า รถโฟคลิฟท์ รู้ จักกับสล็อตแมชชี น สล็อตแมชชี น เป็ นเครื่ องเล่นพนันที่ ประกอบดว้ ยวงลอ้ จานวน 3 วง หรือมากกวา่ วงลอ้ น้ีจะหมุนเม่ือผเู้ ล่น หยอดเหรียญ แลว้ กดป่ ุม หรือโยกคนั โยก ต่อมาสล็อตน้นั ถูกพฒั นา เป็ นระบบออนไลน์ โดย สล็อตออนไลน์น้นั มีความสะดวกสะบายใน การเล่นมากข้ึน เคร่ื องเล่นน้ี เหล่าน้ีส่ วนใหญ่จะอยู่ในสถาน ประกอบการคาสิโน มีผปู้ ระมาณการว่า รายไดป้ ระมาณ 70% ของ รายไดท้ ้งั หมดของคาสิโน มาจากเครื่องเล่นน้ี เคร่ืองเล่นสล็อตแมชชีน เคร่ืองแรกสร้างข้ึนโดยชาลส์ เฟย์ วศิ วกรชาวเยอรมนั ท่ีซานฟรานซิส โก แคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ. 1887 ประกอบด้วยวงล้อสามวง มี สัญลกั ษณ์ห้าแบบ คือ รูปเกือกมา้ , เพชร, โพดา, หวั ใจ และระฆงั เครื่องรุ่นแรกมีชื่อเรียกวา่ (องั กฤษ: Liberty Bell) ตามชื่อสัญลกั ษณ์รูป ระฆังเสรี ภาพ ท่ีเป็ นสัญลักษณ์ของการประกาศอิสรภาพของ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 168

สหรัฐอเมริกา ในระยะแรกเคร่ืองถูกติดต้งั ตามสถานบนั เทิงต่างๆ โรงโบวล์ ิง ร้านอาหาร และร้านตดั ผม ต่อมาในปี ค.ศ. 1908 นกั ธุรกิจจากชิคาโกช่ือ เฮอร์เบิร์ต มิลส์ ไดพ้ ฒั นาเคร่ืองรุ่นใหม่ท่ีใชส้ ัญลกั ษณ์เป็ นรูป ผลไมท้ ่ีมีสีสนั สะดุดตาง่ายต่อการสงั เกต คือ รูปผลเชอร์รี ผลเลมอน ผลพลมั และรูปแท่งหมากฝร่ัง (เรียกวา่ บาร์) ซ่ึงยงั เป็นท่ีนิยมใชม้ าจนถึงปัจจุบนั ทำไมนกแก้วถึงพูดได้ ปกติมนุษยจ์ ะมีกล่องเสียงที่เรียกว่า larynx การออกเสียงของมนุษยจ์ ะเกิดจาก การ สั่นสะเทือนของเส้นเสียงในกล่องเสียง แต่นก ทั่ว ไ ป จ ะ ไ ม่ มี เ ส้ น เ สี ย ง แ ล ะ ก ล่ อ ง เ สี ย ง แตเ่ จา้ นกแกว้ มีความพิเศษกวา่ นกตวั อ่ืน ๆ เพราะมี อวยั วะควบคุมเสียงท่ีเรียกว่า Syrinx ท่ีคล้ายกบั กล่องเสียงของมนุษย์ โดยเสียงของนกแกว้ จะเกิด จากการให้ลมส่ันสะเทือนท่ีเย่ือบาง ๆ ท่ีอยรู่ อบ ๆ เ จ้ า Syrinx น่ั น เ อ ง นอกจากน้ีเจา้ นกแกว้ ยงั มีลิ้นท่ีเรียวยาวและอ่อนนุ่ม ทาให้สามารถออกเสียงเป็ นคา ๆ ไดง้ ่าย บวกกบั ยงั มี ความจาดี จึงสามารถเลียนเสียงของมนุษยไ์ ด้ อีกท้งั ตามธรรมชาตินกแกว้ มีนิสัยชอบอยรู่ วมกนั เป็ นฝงู จึงมกั เลียนเสียงเพอ่ื นในฝงู เพือ่ หาเพ่อื น และยงั ใชก้ ารเลียนเสียงเพ่ือหาคูแ่ ละหลีกหนีศตั รูดว้ ย โดยนกแกว้ ท่ีพดู ได้ ดีที่สุดคือนกแก้วสีเทาพนั ธุ์ African Grey ตวั ผู้ ว่ากนั ว่าสามารถพูดศพั ท์ได้ถึง 800 คา สุดยอดจริง ๆ นอกจากนกแกว้ ยงั มีนกขนุ ทอง นกเอ้ียง อีกาท่ีสามารถพดู ไดด้ ว้ ย ที่มำของวันที่ 11 เดือน 11 ในประเทศจีน วนั ที่ 11 เดือน 11 ถือวา่ เป็ น \"วนั คนโสด\" และเป็ นธรรมเนียมท่ีเร่ิมตน้ โดยกลุ่มนกั ศึกษาจีนราวปี 2533 โดยมีชื่อเรียกในภาษาจีนวา่ 光棍节 หรือเทศกาลคนโสด ท้งั น้ีเพราะคาวา่ 光棍ในภาษาจีนนอกจากจะแปลวา่ “ท่อนไม”้ แลว้ ยงั หมายถึง “เป็ นโสด” ไดด้ ว้ ย ขณะที่สาเหตุท่ีเรียกวนั ที่ 11 เดือน 11 เป็ นวนั คนโสดก็เพราะตวั เลข 1 ส่ีตวั ดูเหมือนท่อนไมส้ ่ีท่อนนน่ั เอง วนั คนโสดเปิ ดโอกาสให้คนไร้คู่ได้นดั พบกบั เพศตรงขา้ มเพื่อหาคู่ นอกจากน้ันหนุ่มสาวโสดชาวจีนก็จะออกมาฉลองชีวิตโสดด้วยการชอ้ ปปิ้ งท้งั บนร้านคา้ ทวั่ ไปและทาง ร้านคา้ ออนไลน์กนั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 169

รู้จักกบั หม่ำล่ำ หม่าล่า (Mala) เป็นชื่อของเครื่องปรุงรสชนิดหน่ึง มีตน้ กาเนิดของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน คาวา่ หมา่ ล่า มาจากคาวา่ “หมา่ ” ท่ีหมายถึงอาการชา และ “ล่า” ที่หมายถึงรสเผด็ รวมแลว้ ก็คือ รสชาติที่เผด็ จนทาให้ลิ้นชานัน่ เอง ส่วนประกอบของหม่าล่าที่สาคญั คือ พืชสมุนไพรท่ีเรียกว่า “ฮวาเจียว” ซ่ึงเป็ น สมุนไพร ลกั ษณะคลา้ ยพริกไทยดา มีรสเผด็ ร้อนจนทาให้ลิ้นเกิดอาการชาได้ นอกจากน้นั ก็จะมีส่วนผสม อ่ืน เช่น พริ กป่ น กระเทียม ขิง กานพลู โป๊ ยก๊ัก อบเชย ยี่หร่า ฯลฯ และเค่ียวใน เต้าเจ้ียว น้ามนั งา ซอสหอยนางรม ฯลฯ เพื่อใหส้ ะดวกต่อการนามาใช้ เป็ นเครื่องปรุงรส ต้นกาเนิดของหม่าล่าน้ันไม่ สามารถระบุไดแ้ น่ชดั ว่ามีมานานเพียงใด แต่เท่าท่ี พอคน้ มาได้ อาหารประเภทน้ีเป็ นที่นิยมของบรรดา ค น ง า น ใ น ฉ ง ชิ ง แ ล ะ เ ส ฉ ว น ม า อ ย่ า ง น้อ ย ก็ ต้ ัง แ ต่ ศตวรรษที่ 19 แลว้ เน่ืองจากหม่าล่าจะช่วยในการถนอมอาหาร รวมถึงกลบกลิ่นรสที่ไม่พึงประสงคข์ องเศษ เน้ือราคาถูกหรือเครื่องในท่ีมีกลิ่นแรง นอกจากน้นั รสชาติเผด็ ร้อนของหม่าล่ายงั ช่วยทาให้กินขา้ วไดม้ าก ข้ึนโดยกินกับแต่น้อย จึงเหมาะกับคนงานซ่ึงมีรายได้ไม่มากนัก ในยุคน้ัน คนงานในฉงชิ่งจะนิยม รับประทานซุปหม่าล่าตามร้านขา้ งทาง ซ่ึงจะมีหมอ้ ไฟหม่าล่าสาหรับตม้ เน้ือและผกั คนขายจะคอยเติมน้า ซุปและหม่าล่าลงไปในหมอ้ อยู่เร่ือย ๆ เพ่ือจาหน่ายให้กบั ลูกคา้ ปัจจุบนั น้ีหม่าล่าสามารถนามาประกอบ อาหารไดห้ ลากหลายรูปแบบ ท้งั แบบด้งั เดิมคือการทาเป็ นน้าซุปสาหรับตม้ เน้ือและผกั (แบบชาบู) หรืออีก แบบท่ีพบมากในเมืองไทยคือนามาคลุกกบั เน้ือหรือผกั สาหรับปิ้ งย่าง นอกจากน้นั ก็ยงั สามารถนามาเป็ น เครื่องปรุงในการผดั หรือทอดอาหารกไ็ ด้ ทมี่ ำคตั เตอร์ คตั เตอร์หรือมีดที่หกั ใบมีดออกไดน้ ้ีเป็นผลงานการประดิษฐ์ของนกั ประดิษฐ์ชาวญ่ีป่ ุนชื่อ โยชิ โอ โอกาดะ (Yoshio Okada) กบั น้องชายชื่อซาบู โระ (Saburo) ซ่ึงหลงั จากสงครามโลกคร้ังที่สอง สิ้นสุดลง ท้งั คู่ก็ไดง้ านอยู่ที่โรงพิมพม์ าก่อน ดว้ ย งานดงั กล่าวทาใหเ้ ขาจาเป็ นตอ้ งใชม้ ีดตดั กระดาษ อยู่เป็ นประจา แต่ปัญหาคือมีดท่ีใช้จะท่ืออย่าง รวดเร็วและตอ้ งเสียเวลาลบั ใหม่บ่อยคร้ัง เขาจึงคิด วา่ จะทาอยา่ งไรดีจึงจะทาให้มีดท่ีใชม้ ีความคมอยู่ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 170

ตลอดเวลาไม่ตอ้ งลบั กนั บ่อยคร้ัง จนกระทงั่ วนั หน่ึงขณะที่เขากาลงั ครุ่นคิดถึงวธิ ีการผลิตมีดดงั กล่าวอยนู่ ้นั จู่ ๆ เขากน็ ึกถึงสมยั เดก็ ๆ ที่มีทหารอเมริกนั ให้ช็อกโกแลตกบั เขาดว้ ยการหกั แท่งช็อกโกแลต ทนั ใดน้นั เอง เขาก็เลยเกิดไอเดียในการแกป้ ัญหาเรื่องมีดท่ือว่า เขาควรจะทามีดท่ีใชใ้ บมีดแบบหกั ออกไดท้ ีละท่อน เมื่อ มีดท่อนบนเริ่มทื่อก็หกั ทิ้งไปแลว้ เล่ือนใบมีดท่อนถดั ไปข้ึนมาแทน โยชิโอะใชเ้ วลาทดลองออกแบบใบมีด และตวั มีดอยหู่ ลายปี ในที่สุดเม่ือปี 1956 เขาจึงไดม้ ีดตน้ แบบที่ตอ้ งการ โยชิโอะไดก้ ่อต้งั บริษทั OLFA ซ่ึง มาจากคาในญ่ีป่ ุน Oru ท่ีแปลวา่ “หกั ” และ Ha ที่แปลวา่ “มีด” แตเ่ ปล่ียนจาก H เป็ น F เพื่อใหส้ ะดวกในการ ออกเสียงมากข้ึน เขานาเงินท้งั หมดที่มีอยู่มาลงทุนในการผลิตมีดดงั กล่าวจานวน 3000 อนั และจาหน่าย หมดอยา่ งรวดเร็ว ทาให้เขาตอ้ งขยายกาลงั การผลิตเพื่อให้ทนั กบั คาส่ังซ้ือท่ีมีมาอย่างต่อเน่ือง นอกจากคตั เตอร์แลว้ โยชิโอะยงั ไดอ้ อกแบบมีดชนิดอื่น ๆ อีกหลายแบบสาหรับใชใ้ นงานแบบตา่ ง ๆ เช่น เคร่ืองตดั ผา้ ที่ สามารถตดั ผา้ หนาหลายช้นั กรรไกร รวมถึงแผน่ รองสาหรับการตดั กระดาษดว้ ยคตั เตอร์ดว้ ย รู้จักกบั ทมี่ ำของไอศกรีมแท่ง ไอศกรีมแท่ง หรือท่ีบางทีก็เรียกวา่ ไอศกรีมหวานเยน็ (Ice pop) เป็ นไอศกรีม แบบหน่ึง ซ่ึงทาจากการเอาน้าหวานรสชาติต่าง ๆ มาแช่เย็น จนกระทง่ั กลายเป็นน้าแขง็ โดยมากมกั จะเสียบดา้ มท่ีทาจากไม้ หรือวสั ดุอื่นเพ่ือให้ถือกินไดง้ ่า ตน้ กาเนิดของของหวานชนิดน้ี เกิดข้ึนในปี 1905 ท่ีเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเด็กผชู้ ายวยั เพียง 11 ปี ช่ือแฟรงค์ เอพเพอร์ สัน (Frank Epperson) ซ่ึงในวนั หน่ึงเขาไดท้ าน้าหวานผสม โซดาใส่แกว้ แลว้ ต้งั ทิ้งไวพ้ ร้อมกบั ไมท้ ี่ใชค้ นน้าหวาน คืนน้นั อากาศเย็นจนอุณหภูมิลดต่ากว่าจุดเยือกแข็ง ดังน้ันพอเช้า วนั รุ่งข้ึนเจา้ ตวั กลบั มาดูอีกทีก็พบวา่ น้าหวานดงั กล่าวกลายเป็ น น้าแข็งโดยมีไมค้ นน้าหวานดงั กล่าวติดคาอยดู่ ว้ ย แฟรงค์จึงนา แกว้ น้าหวานดงั กล่าวออกมาแช่น้าร้อนครู่หน่ึงใหน้ ้าแข็งละลาย เลก็ พอใหส้ ามารถดึงกอ้ นน้าหวานแขง็ ออกจากแกว้ ได้ แลว้ เขาก็ลองกินกอ้ นน้าหวานดงั กล่าวและพบวา่ มนั อร่อยกวา่ น้าหวานธรรมดาเสียอีก เขาจึงไดท้ ากอ้ นน้าหวานแข็งดงั กล่าวให้เพ่ือน ๆ ไดล้ องกินกนั บา้ ง ซ่ึง ส่วนใหญก่ ็ชื่นชอบเจา้ กอ้ นน้าแขง็ ดงั กล่าวน้ีเช่นกนั เมื่อเอพเพอร์สันโตข้ึน เขาก็ยงั คงเก็บความคิดเรื่องการ ทากอ้ นน้าหวานแขง็ เอาไว้ และลองทาให้ลูก ๆ ไดก้ ินเล่นอยหู่ ลายปี จนกระทงั่ ในปี 1923 เขาจึงยื่นขอจด สิทธิบตั รส่ิงประดิษฐด์ งั กล่าว ซ่ึงตอนแรกเขาต้งั ชื่อวา่ “Eppsicles” ตามชื่อของเขาเอง แต่ลูก ๆ ของเขากลบั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 171

เสนอวา่ ควรจะเรียกวา่ Pop’s Sicles ดีกวา่ ในที่สุดเอพเพอร์สันจึงคลอ้ ยตามลูกดว้ ยการจดสิทธิบตั รในช่ือ Popsicles และเริ่มผลิตออกจาหน่ายในปี เดียวกนั โดยต้งั ราคาไวท้ ่ี 5 เซนต์ ปรากฏวา่ ไดร้ ับความนิยมอยา่ ง รวดเร็วกระทง่ั เอพเพอร์สนั ก็ไมส่ ามารถผลิตไดท้ นั จนในที่สุดเขาก็ตอ้ งขายสิทธ์ิในส่ิงประดิษฐแ์ ละแบรนด์ สินคา้ ใหก้ บั บริษทั โจโลว์ (Joe Lowe) ในนครนิวยอร์ก ไอศกรีมแทง่ มีจุดเด่นคือ มีหลายรสชาติใหเ้ ลิกและมี ราคาถูก รวมท้งั ยงั หาซ้ือไดท้ ว่ั ไปท้งั ตามร้านคา้ และรถเข็นขา้ งทาง หรือหากไม่พอใจรสชาติที่ขายตาม ทอ้ งตลาดกย็ งั สามารถทากินเองที่บา้ นไดไ้ มย่ ากอีกดว้ ย ขอแค่มีตูแ้ ช่เยน็ เทา่ น้นั กส็ ามารถทาไดแ้ ลว้ รู้จักกับควำมหมำยของคำว่ำเกยี กกำย เกียกกาย เป็ นคาไทยโบราณ หมายถึง กองเสบียงหรือกองพลาธิการ อนั เป็ นส่วนหน่ึงของกองทพั มีหนา้ ท่ีในการจดั หาและส่ง เสบียง ท้งั อาหาร อาหารสัตว์ สาหรับกองทพั ส่วนท่ีเก็บ เสบียงของทหาร เช่น อาวุธยุทธภณั ฑ์ (ammunition) ไม่ รวมอยู่ในหน้าท่ีของเกียกกาย ในเกือบทุก ๆ หน่วยของ ทหาร หนา้ ท่ีการขนส่งและจดั หาเสบียงถูกดาเนินการโดย กองทหารเดียวกันคือสานักงานช่ือว่า กรมเกียกกาย ทหารบก (ปัจจุบนั เป็ นกรมพลาธิการทหารบก) เกียกกาย มีชื่อปรากฏคือ แยกเกียกกาย ตดั กบั ถนนทหาร และถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร บริเวณโดยรอบมีสถานที่สาคญั เช่น รัฐสภา กรมการ อุตสาหกรรมทหาร โรงเรียนโยธินบูรณะ กองพลทหารมา้ ท่ี 2 รักษาพระองค์ กองพนั ทหารมา้ ที่ 4 รักษา พระองค์ กองพลทหารปื นใหญ่ต่อสู้อากาศยาน เป็ นตน้ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เกียกกาย และท่าน้า เกียกกาย บริเวณวดั แกว้ ฟ้ าจุฬามณี ทม่ี ำของคำว่ำ ค-ว-ย ท้งั นี้ คำว่ำ \"ค - ว - ย\" ตามพจนานุกรม แปลวา่ อวยั วะสืบพนั ธุ์ของเพศชาย ท้งั ของคน และสัตว์ แต่นักประวตั ิศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ก็ช่าง ค้นหา หาว่า ทาไมต้องเป็ นคาน้ีท้ังๆ ท่ีคาที่แปลว่า เครื่องเพศชายมนั ก็มีหลายคาอยู่แล้ว เช่น หา จู๋ ฯลฯ ตามแต่ทอ้ งถ่ิน คาไทยที่สะกดด้วยอกั ษร \"ค - ว - ย\" น้นั มาจากคาวา่ ' คุยห- ' อ่านวา่ คุยหะ เป็ นคายอ่ และคา วิเศษณ์ในภาษาบาลี แปลวา่ ลบั หรือ ซ่อนเร้น ใช้นาหน้าคาอ่ืนเพ่ือจะให้ความหมายเพ่ิมว่าลบั (คุย-) คา เตม็ ท่ีใชม้ ากท่ีสุดก็คือคาวา่ \"คุยหฐาน\" หรือ \"คุยหประเทศ\" แปลวา่ อวยั วะที่ลบั หรือที่ชอบเรียกกนั วา่ ของ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 172

ลบั ๆ ซ่ึงก็หมายถึงอวยั วะเพศนนั่ เอง ถา้ เป็นราชาศพั ทจ์ ะใชว้ า่ \"พระคุยหฐาน\" ฉะน้นั จึงพูดไดว้ า่ คาน้ีแต่เดิม ถือเป็นคาสุภาพมาก แต่ต่อมาคนทวั่ ไปเอามาใชโ้ ดยพดู ส้ันๆ จาก คุยหฐาน เหลือเพียง คุยหะ หรือ คุยห์ และ ยงั เพ้ียนเสียงเป็ น จาก \"แม่อุย\" เป็ น \"แม่อวย\" คือการกร่อนคาลงเหลือ \"คุยห\" และแผลงมาเป็ น \"ควย\" ใน ท่ีสุด อยา่ งในปัจจุบนั (ภาษาดิ้นได)้ ส่วนความหมายน้นั กย็ งั คงเหมือนเดิมไม่เปล่ียนแปลง แต่ความรู้สึกของ นยั ในการใชก้ ลบั เปล่ียนไปอยา่ งสิ้นเชิงและถูกนามาใชใ้ นฐานะคาหยาบคายที่ใชด้ ่ากนั ในท่ีสุด ท้งั น้ี คาๆ น้ี กลายเป็นคาไม่สุภาพไปเสียอยา่ งน้นั อนั น้ีไม่ทราบเหมือนกนั วา่ ใชก้ นั เม่ือไหร่ยงั ไง ทมี่ ำของสำนวนทงิ้ ทวน\"ทงิ้ ทวน\" ถา้ แปลตามความหมายก็หมายถึง \"ไวล้ าย ทาอยา่ งไวฝ้ ี มือเป็ นคร้ังสุดทา้ ย\" แต่ภายหลงั จะเพิ่มความหมายอีกอยา่ งคือ\" ฉวยโอกาสทาเป็ นคร้ังสุดทา้ ยก่อนหมดอานาจ\" เชื่อวา่ มีที่มาจากลกั ษณะการ รบในสงครามในสมยั โบราณของไทย ท่ีบรรดาแม่ทพั นายกองและเหล่า นกั รบบนหลงั มา้ จะนิยมใชท้ วนเป็นอาวธุ เพราะมนั ยาวใชท้ ิ่มแทงบรรดาศตั รู ไดด้ ีกวา่ ดาบ แต่พอจะถอยทพั ก็ไม่ตอ้ งเสียดายมนั ละ ขวา้ งออกไปสะกดั ใส่ ก่อนชกั มา้ หนั กลบั ไดอ้ ีกรอบ ก็เลยเกิดคาวา่ \"ทิ้งทวน\" ที่ท้งั ไวล้ ายท้งั ไม่หนกั เกะกะตอนถอยทพั เผลอๆอาจเดด็ ชีพศตั รูไดอ้ ีกหลายคนก่อนจาก รู้จักกับเป็ ดเหลือง ในปี 1939 เอเลนอร์ ชานนาฮาน (Eleanor Shannahan) ไดอ้ อกแบบเป็ ดยางท่ีเหมาะ สาหรับใชเ้ ล่นในอ่างอาบน้า ท่ีสามารถตวงน้าเขา้ ไป ภายใน และยิงน้าเป็ นสายออกจากลาตัว เพิ่มความ สนุกใหบ้ รรดาเด็ก ๆ ไดย้ งิ่ ข้ึน และในปี 1949 เป็ ดยาง ท่ีมีหนา้ ตาคลา้ ยกบั เจา้ เป็ ดในปัจจุบนั ก็ถือกาเนิด โดย ฝี มือการออกแบบของ ปี เตอร์ กานีน (Peter Ganine) ศิลปิ นฮอลลีวูดชาวรัสเซียท่ีล้ีภยั มาอาศยั ในสหรัฐฯ เขาดีไซน์เป็ดยางและต้งั ช่ือใหม้ นั วา่ Toy Duck พร้อมจดสิทธิบตั รเป็นเจา้ ของเรียบร้อย เป็ ดยางของเล่นตวั น้ี นอกจากจะลอยน้าไดแ้ ลว้ ยงั สามารถส่งเสียงดงั แควก แควก เมื่อถูกบีบอีกดว้ ย เวลาล่วงเลยมาถึงปี 1970 เออร์น่ี (Ernie) ตวั ละครจากรายการโทรทศั น์สาหรับเด็กอยา่ ง Sesame Street ไดข้ บั ร้องเพลงที่ช่ือ Rubber Duckie ขณะกาลงั อาบน้าอยใู่ นอ่างอยา่ งสบายใจ ตอกย้าความนิยมของเด็ก ๆ ชาวอเมริกนั ที่มีต่อเจา้ เป็ ดยาง ไดเ้ ป็ นอยา่ งดี นบั จากน้นั เป็ นตน้ มา เป็ ดยางสีเหลืองกลายเป็ นสัญลกั ษณ์ของการอาบน้าในอ่าง และยงั เป็ น เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 173

ส่วนหน่ึงของวฒั นธรรมร่วมสมยั (Pop Culture) อยา่ งเช่นการแสดงประติมากรรมชวนยิม้ โดยศิลปิ นชาว ดตั ช์ชื่อโฟลเรินไตน์ โฮฟมนั (Florentijn Hofman) ท่ีนาเป็ ดยางตวั ยกั ษ์ไปลอยน้าตามเมืองสาคญั ต่าง ๆ ของโลก ทำไมเด็กมักจะติดหมำเน่ำ สาเหตุที่เด็กติดหมาเน่า ผา้ เน่า น้นั มาจาก ในช่วงประมาณ 6 เดือนแรกของเด็ก แรกเกิด ทารกจะแยกตวั เองกบั โลกภายนอก ไม่ออก และคิดไปเองว่าแม่ หรือคนท่ีดูแล เขาเป็ นคนๆ เดียวกบั เขา แค่นึกว่าอยากได้ อะไรก็จะได้ แค่คิดวา่ หิวเดี๋ยวก็จะอิ่ม ไม่ได้ นึกว่าคนที่คอยหานมให้กินคือคนละคนกบั ตวั เอง ในเวลาต่อมา พอรู้ว่าตัวเองกับแม่ เป็ นคนละคนกนั เด็กจะเกิดความวติ กกงั วล เพราะเขารู้แล้วว่าแม่คือคนอื่น เขาอยู่ด้วย ตวั เองไม่ได้ตอ้ งพ่ึงพิงแม่ จึงกลวั วา่ อาจจะ ถูกทอดทิ้งได้ ในปี 1951 โดนลั ด์ วดู ส์ วนิ นิคอตต์ (Donald Woods Winnicott) กุมารแพทย์ และนกั จิต วเิ คราะห์ เป็นผเู้ ร่ิมใชค้ าวา่ วตั ถุเปล่ียนผา่ น (Transitional Object) ในการเรียกผา้ เน่า เพราะวา่ ผา้ เน่าน้ีเองเป็ น ตวั ช่วยใหล้ ูกนอ้ ยเปล่ียนผา่ นจากภาวะเป็ นหน่ึงเดียวกบั แม่ สู่ภาวะที่ตระหนกั รู้วา่ แม่กบั ตวั เขาเป็ นคนละคน กนั ‘ผา้ เน่า’ หรือวตั ถุเปลี่ยนผา่ นอ่ืนๆ มกั จะเป็ นของชิ้นแรกที่เด็กเป็ นเจา้ ของจริงๆ ในแง่ท่ีวา่ เขารู้ตวั ดีวา่ น่ี เป็ นสิ่งของที่ไม่ใช่ตวั เขาเอง แต่เขาสามารถควบคุมมนั ได้ ขณะท่ีแม่ไม่สามารถอยู่กบั เขาไดต้ ลอดเวลา แต่ เขารู้วา่ ผา้ เน่าจะอยกู่ บั เขาเสมอ ผา้ เน่าเป็ นเหมือนตวั แทนของแม่ที่ทาใหเ้ ด็กทารกรู้สึกปลอดภยั โดยเฉพาะ ในเวลานอน และเวลาที่รู้สึกเครียด ผใู้ หญ่จึงไม่ควรแอบเอาไปทิ้งโดยท่ีเจา้ ตวั ยงั ไม่ยินยอมเด็ดขาด จากการ วจิ ยั พบวา่ ผา้ เน่ายงั ส่งผลดีกบั เด็กอีกดว้ ย เมื่อปล่อยใหเ้ ด็กเลก็ เล่นในหอ้ งที่ไมค่ ุน้ เคยโดยมีส่ิงที่ให้ความรู้สึก ปลอดภยั อยา่ งแม่ หรือผา้ เน่าอยู่ เด็กจะกลา้ เล่น สารวจส่ิงตา่ งๆ และอดทนไม่ร้องไห้ไดด้ ีกวา่ เด็กท่ีไม่มีอะไร อยูด่ ว้ ยเลย แต่ผา้ เน่าจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเด็กรู้สึกผกู พนั กบั มนั จริงๆ เท่าน้นั การติดผา้ เน่าเป็ นเร่ืองปกติ ของทารกท่ีคุณพอ่ คุณแม่ไมจ่ าเป็นตอ้ งเป็นห่วงอะไร ในอเมริกาพบวา่ ราว 60 เปอร์เซ็นตข์ องเด็กอเมริกาเคย มีผา้ เน่า หมอนเน่า หรือตุ๊กตาเน่าท้งั น้นั เด็กมกั เร่ิมมีผา้ เน่าของตวั เองในช่วง 4-12 เดือนแรก และเม่ือมีอายุ ได้ 5-6 ขวบ ผา้ เน่าก็มกั จะเริ่มสาคญั กบั เขานอ้ ยลง จนหยา่ จากกนั ไปเองในท่ีสุด เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 174

ทำไมประตูในห้องนำ้ สำธำรณะถึงไม่ตดิ สนิทกบั พนื้ โดยทว่ั ๆไปแลว้ ห้ อ้ งน้าสาธารณ้ะ ทาไม ประตูถึงไม่ ยาวจนติดพ้ืน สาเหตุท่ีประตูยาวไมถ่ ึงพ้นื เพราะ เหตุผลดงั น้ี 1. หากมีคนลม้ หรือหมดสติคุณสามารถเห็นวา่ มีคน ตอ้ งการความช่วยเหลือทางการแพทยไ์ ด้ 2. ป้ องกนั การถูกรบกวนจากผอู้ ่ืน เม่ือประตหู อ้ งมีช่องวา่ งดา้ นล่าง กจ็ ะทาใหค้ นที่อยขู่ า้ งนอกมองเห็นไดว้ า่ มีคนใชห้ อ้ งน้าหอ้ งไหนอยบู่ า้ ง เพอื่ ท่ีจะไมต่ อ้ งไปผลกั ประตูดู และยงั สะดวกต่อการคานวณเวลาสาหรับผทู้ ี่ รอต่อคิววา่ คนที่ใชห้ ้องน้า จะใชร้ ะยะเวลานานหรือไม่นาน และสามารถรอได้ หรือจะออกไปใชห้ อ้ งน้า สาธารณะที่อื่นดีกวา่ 3. ระบายกลิ่นภายในหอ้ งน้าไดเ้ ร็วข้ึน ลองนึกภาพดูสิ ถา้ เป็นหอ้ งน้าที่ปิ ดทึบถึงดา้ นล่าง คงจะมีกล่ินตลบ อบอวลไปทว่ั หอ้ งน้าอยา่ งแน่นอน แตถ่ า้ เป็ นหอ้ งน้าแบบประตมู ีช่องวา่ งดา้ นล่าง ก็จะช่วยระบายกล่ินไดเ้ ร็ว ข้ึน เพราะอากาศสามารถถ่ายเทไดด้ ีกวา่ 4. ราคาถูก สิ่งสาคญั อีกอยา่ งในการสร้างหอ้ งน้าสาธารณะ กค็ ือ ตน้ ทุน แน่นอนวา่ ประตูหอ้ งน้าที่มีช่องวา่ ง ดา้ นล่าง ใชว้ สั ดุที่นอ้ ยกวา่ ยอ่ มตอ้ งมีราคาท่ีถูกกวา่ แบบท่ีเป็นบานเตม็ และยงั ง่ายตอ่ การติดต้งั 5. ในกรณีที่ทิชชู่หมด หากบงั เอิญวา่ คุณรีบเขา้ ห้องน้าอยา่ งกระทนั หนั จนลืมสงั เกตเห็นวา่ ทิชชู่ในหอ้ งน้า น้นั หมดพอดี การมีช่องวา่ งดา้ นล่างประตู จะช่วยใหค้ ุณสามารถขอความช่วยเหลือจากคนดา้ นนอกใหช้ ่วย ส่งทิชชู่ใหค้ ุณได้ และช่วยกสู้ ถานการณ์อนั โชคร้า ยน้ีให้ผา่ นไปไดด้ ว้ ยดี 6. สร้างความเกรงใจในการใชห้ อ้ งน้าสาธารณะ ในบรรยากาศท่ีหอ้ งน้าสาธารณะเป็นประตูแบบปิ ดทึบ จะ สร้างความรู้สึกเป็นส่วนตวั จนคนท่ีเขา้ ห้องน้าใชเ้ วลานานอยใู่ นหอ้ งน้าจนเกินไป อยา่ งเช่น เล่นโทรศพั ท์ และนง่ั แช่ จนไม่ไดส้ นใจผทู้ ี่อยขู่ า้ งนอกท่ีรอตอ่ คิวอยู่ ในทางกลบั กนั ถา้ เป็นประตแู บบมีช่องวา่ งดา้ นล่าง จะไม่ทาใหร้ ู้สึกสบายจนเกินไป และมองเห็นวา่ มีคนอ่ืนรอเขา้ ห้องน้าต่อ สร้างความเกรงใจในการใช้ หอ้ งน้า และรีบทาภารกิจให้เสร็จเร็วๆ 7. ง่ายตอ่ การทาความสะอาด ในหอ้ งน้าสาธารณะที่มีคนมาใชร้ ่วมกนั เป็นจานวนมาก ยอ่ มเป็นเรื่องยากที่จะ ดูแลความสะอาดไดท้ ้งั หมด ดงั น้นั จึงตอ้ งมีแมบ่ า้ นคอยทาควาวมสะอาดห้องน้าอยตู่ ลอดเวลา และการใช้ ประตูแบบมีช่องวา่ งดา้ นล่าง กจ็ ะช่วยใหก้ ารทาความสะอาดหอ้ งน้าง่ายข้ึน และประหยดั เวลา โดยท่ีแม่บา้ น สามารถใชไ้ มถ้ ูพ้ืนถูไปใตป้ ระตไู ดโ้ ดยที่ไม่ตอ้ งเสียเวลาเปิ ดเขา้ ไปถูทีละหอ้ ง และยงั ทาความสะอาดไดใ้ น ขณะท่ีมีผกู้ าลงั เขา้ ใชห้ อ้ งอยกู่ ็ตาม เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 175

รู้จักกับมำริโอ ตวั การ์ตูนมาริโอ ไดร้ ับการออกแบบโดย ชิเงรุ มิยาโมโตะ ไดส้ ร้างตวั ละครมาริโอข้ึนขณะ กาลงั พฒั นาเกม ดองกีคอง (Donkey Kong) เพอื่ พยายามที่จะสร้างวดิ ีโอเกมที่ขายดีท่ีสุดใหก้ บั บริษทั นินเทน โด หลงั จากเกมประเภทเกมตูก้ ่อนหน้าน้ีท่ีชื่อ Sheriff ไม่ประสบ ความสาเร็จอยา่ งเกม Pac-Man เม่ือแรกเร่ิมน้นั มิยาโมโตะอยากสร้าง วิดีโอเกมโดยใชต้ วั ละคร ป๊ อปอาย (Popeye) บลูโต (Bluto) และโอ ลีฟ ออยล์ (Olive Oyl) แต่ในเวลาน้นั เขาไม่ไดร้ ับอนุญาตให้ใช้ตวั ละครเหล่าน้ี (และไม่ไดร้ ับอนุญาตจนถึง ค.ศ. 1982) เขาจึงตดั สินใจ คิดทาตวั ละครชื่อ จมั ป์ แมน (Jumpman) (หรือในเวลาต่อมาเป็ นท่ีรู้จกั กนั ดีวา่ มาริโอ) ดองก้ีคอง (Donkey Kong) และ พอลีน (Pauline)[2] โดยในด่านแรก ๆ ของเกมดองกีคองก์ มาริโอยงั กระโดดไม่ได้ และ มุ่งเป้ าไปที่การหาทางออกจากเขาวงกตให้ได้ อยา่ งไรก็ดี มิยาโมโตะ ทาใหม้ าริโอกระโดดได้ พร้อมกล่าววา่ “ถา้ คุณเจอลงั ไมก้ ลิ้งมาหาคุณ คุณจะทาอยา่ งไรดี” เดิมที มิยาโมโตะเคยต้งั ชื่อมาริโอวา่ \"มิสเตอร์ วิดีโอ\" (Mr.Video) และถูกนามาใช้ในทุกวิดีโอท่ีมิยาโมโตะพฒั นา จากเรื่องเล่าที่แพร่กระจายไปอย่าง กวา้ งขวาง ในระหว่างการจาหน่ายเกมดองกีคองให้ลูกคา้ ในอเมริกาเหนือ เจา้ ของพ้ืนท่ีคลงั เก็บสินคา้ ของ นินเทนโดที่ช่ือ มาริโอ ซีเกล ได้เรียกค่าเช่ากับมิโนรุ อาราคาวะ ผูซ้ ่ึงเป็ นประธานบริษทั ในเวลาต่อมา หลงั จากการโตเ้ ถียงท่ีในท่ีสุดพนกั งานของนินเทนโดก็รับปากซีเกลวา่ จะจ่ายค่าเช่าให้ พวกเขาจึงเลือกท่ีจะ ต้งั ชื่อตวั ละครน้ีวา่ มาริโอ ตามช่ือของเขา มิยาโมโตะใหค้ วามเห็นวา่ ถา้ เขาต้งั ชื่อมาริโอวา่ \"มิสเตอร์วิดีโอ\" มาริโออาจจะ \"หายสาปสูญไปจากโลกน้ี\" แลว้ ดว้ ยความต้งั ใจของเขา เขาเลือกอาชีพของมาริโอใหเ้ หมาะ กบั รูปแบบของเกม เนื่องจากฉากในเกมดองกีคองกเ์ ป็นเขตการก่อสร้าง มาริโอจึงมีอาชีพเป็ นช่างไม้ เมื่อเขา ปรากฏตวั อีกคร้ังในเกมมาริโอบราเธอร์ส เขาไดร้ ับเลือกให้เป็ นช่างประปา เน่ืองจากเกมส่วนใหญ่เป็ นฉาก ใต้ดิน ในการออกแบบตัวละครมาริโอ โดยเฉพาะจมูกโตของเขาน้ัน ถูกวาดตามแบบจากอิทธิพล ชาวตะวนั ตก เมื่อเขาไดเ้ ป็นช่างประปา มิยาโมโตะตดั สินใจกาหนดใหเ้ ขาอยใู่ นนครนิวยอร์ก และให้เขาเป็ น ชาวอิตาลี โดยจงใจบ่งบอกสัญชาติผา่ นหนวดเคราของเขา ในแหล่งอ่ืน มีการเลือกอาชีพของมาริโอใหเ้ ป็ น ช่างไมเ้ พื่อพรรณนาตวั ละครให้เป็ นคนทางานหนกั และเพื่อให้ผูเ้ ล่นระบุถึงตวั เขาไดง้ ่าย หลงั จากเพื่อน ร่วมงานช้ีวา่ มาริโอดูคลา้ ยคลึงกบั ช่างประปามากกวา่ มาริโอจึงเปล่ียนอาชีพของมาริโอตามน้นั และพฒั นา เกมมาริโอบราเธอร์ส โดยนาเสนอตวั ละครในท่อระบายน้าของนครนิวยอร์ก เนื่องจากขอ้ จากดั ดา้ นกราฟิ ก ของฮาร์ดแวร์อาเคดขณะน้นั มิยาโมโตะจึงใส่เส้ือใหม้ าริโอเป็ นชุดคลุมสีแดงและเส้ือเชิ้ตสีฟ้ าให้ขดั กนั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 176

และขดั กบั พ้ืนหลงั หมวกแก๊ปสีแดงถูกเพ่ิมเขา้ ไปเพื่อใหม้ ิยาโมโตะไม่ตอ้ งออกแบบทรงผม หนา้ ผาก และ คิว้ รวมถึงเพอื่ เลี่ยงปัญหาการเคล่ือนไหวของทรงผมในขณะกระโดด เพ่ือใหเ้ ขาดูเป็ นมนุษยอ์ ยใู่ นจอท้งั ๆ ท่ี ตวั เล็ก มาริโอจึงมีคุณลกั ษณะท่ีแตกต่างชดั เจน นนั่ คือจมูกใหญ่อนั โดดเด่นและหนวดเครา เพ่ือหลีกเลี่ยง ความจาเป็ นในการวาดปากและสีหนา้ ใหก้ บั ตวั ละครตวั เล็กๆบนจอ ท้งั น้ีการที่มาริโอ ทาลายบล็อกอิฐน้นั มาริโอจะกระโดดตอ่ ย นะครับ ไม่ใช่ใชห้ วั โขก ที่มำของวันชำติโรมำเนีย ทุกวันท่ี 1 ธันวาคม จะเป็ นวนั มหาสหภาพโรมาเนีย หรื อวันชาติโรมาเนีย สาเหตุที่ประเทศ โ ร ม า เ นี ย เ ลื อ ก วัน น้ี เ น่ื อ ง จ า ก ใ น ประวตั ิศาสตร์ของ ประเทศโรมาเนีย มีชาว โรมาเนียอาศยั อยู่ในดินแดนหลายๆ ส่วน แตไ่ ม่สามารถรวมเป็ นหน่ึงเดียวกนั ได้ โดย ดินแดนที่มีชาวโรมาเนียอยู่ มาร่วมกนั เป็ น ประเทศโรมาเนีย คร้ังแรก เม่ือวันที่ 10 พฤษภาคม 1887 หลกั จากการประกาศเอก ราชจากจกั รวรรดิออตโตมนั โดยเป็ นการ รวมกนั ของแควน้ วาลองเคียและมอลดาเวีย ต่อมาโรมาเนียเขา้ ร่วมในสงครามโลกคร้ัง ท่ี 1 ในฝ่ ายสัมพนั ธมิตร และเป็ นฝ่ ายชนะ ส ง ค ร า ม จึ ง ส า ม า ร ถ ร ว ม ดิ น แ ด น ท่ี มี ค น โรมาเนียอาศยั อยไู่ ด้ ซ่ึงประกอบดว้ ย ทรานซิลเวเนีย บาสซาราเบีย (ประเทศมอลโดวาปัจจุบนั ) และบูโควิ น่า กบั อาณาจกั รโรมาเนียเดิมกลายเป็ น Grester Romania โดยการรวมดินแดนสาเร็จในวนั ท่ี 1 ธันวาคม 1918 ประเทศโรมาเนียจึงเรียกวนั น้ีวา่ วนั มหาสหภาพโรมาเนีย (Great Union Day) หรือในภาษาโรมาเนีย เรียกวา่ Ziua Marii Uniri โดยวนั ท่ี 1 ธนั วาคม กลายเป็นวนั ชาติโรมาเนีย ในปี 1990 เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 177

ชุดไปรเวทคอื อะไร คาวา่ ชุดไปรเวต จะออกเสียงคลา้ ยกบั คาภาษาองั กฤษวา่ Private Dress ท่ีแปลตรง ๆ วา่ ชุดส่วนตวั หรือจะเรียกอีกอยา่ งวา่ ชุดลาลอง (Casual Dress) ก็ได้ ลกั ษณะการแต่งกายชุดไปรเวต คือ การ สวมชุดธรรมดาทวั่ ไปแบบไม่เป็นทางการ ไม่มีกฎบงั คบั หรือตอ้ งแต่งตามยนู ิฟอร์มท่ีกาหนด ตามภาษาท่ีพดู กันบ่อย ๆ ก็คือ ชุดอยู่บ้าน หรือ ชุดไปเที่ยว นั่นเอง แต่งยงั ไงถึงจะเรียกว่า ชุดไปรเวตแบบสุภาพ ความหมายของการ แต่งตวั สุภาพ คือ การแตง่ ตวั แบบมิดชิดโดยคานึงถึงความเหมาะสมต่อสถานการณ์หรือ สถานที่น้นั ๆ โดยบางคร้ังมีการอนุโลมใหใ้ ส่ชุดไปรเวตได้ แต่ตอ้ งสุภาพเรียบร้อย เลยเกิดเป็ นขอ้ สงสัยว่า ชุดไปรเวตสุภาพ ตอ้ งแต่งยงั ไง ? อยา่ งท่ีบอกชุดไปรเวต ไม่ใช่ชุดที่เป็ นทางการและไม่มีกฎบงั คบั ใด ๆ ค่อนข้างเลือกแต่งได้อย่างอิสระ จึงไม่มีคาว่า เหมาะสมที่ตายตวั แต่สาหรับบา้ นเราจะนิยาม การใส่ชุดไปรเวตแบบสุภาพ คือ การใส่เส้ือคอ ปก กางเกงขายาว และรองเทา้ หุม้ ส้น ซ่ึงเป็ นลุค เบสิกท่ีดูเรียบร้อย ใส่ไดก้ บั ทุกสถานการณ์เขา้ กบั ทุกบริบท ท้งั น้ีไม่ได้หมายความว่า เส้ือคอ กลม กางเกงขาส้ัน รองเทา้ แตะ จะกลายเป็ นชุด ไม่สุภาพซะทีเดียว เพียงแต่มนั ดูไม่เหมาะสมกบั บางสถานการณ์ เช่น การเขา้ วดั หลวง การติดต่อพบปะผู้ หลกั ผใู้ หญ่ สถานท่ีทางาน เป็นตน้ ซ่ึงคนส่วนใหญจ่ ะทราบเรื่องน้ีดีอยแู่ ลว้ รู้จักกับที่มำของเมล็ดก๋วยจ๊ี เมล็ดก๋วยจี๊ทามาจากอะไร แน่นอนวา่ ตอ้ งไม่ใช่มาจากเมล็ดแตงโมอยา่ งท่ีบา้ นเรา กิน เพราะเมล็ดแตงโมไม่วา่ จะเน้ือเหลืองหรือเน้ือแดง เมล็ดมนั กม็ ีขนาดเล็กกวา่ เมล็ดก๋วยจี๊มาก คงไม่สามารถ ท่ีจะทาให้มนั พองใหญ่นไดข้ นาดน้นั แน่ คาตอบคือ มา จากผลแตงชนิดหน่ึงท่ีเรียกว่า ตา้ กวย (Dagua) แตง ชนิดน้ีมีเปลือกไมห่ นามากสามารถใชม้ ือทุบหรือฉีกให้ แตกไดโ้ ดยไม่ตอ้ งใชม้ ีดผา่ ออก เน้ือภายในมีสีออกขาว รสชาติไม่หวานและเน้ือนอ้ ย จึงไม่นิยมรับประทาน เน้ือ แต่จะมีเมล็ดเป็ นจานวนมาก ลกั ษณะเมล็ดจะเป็ นรูปทรงกลมรีและแบน เปลือกสีดาและตรงกลางมีสี ออกเหลือง เมื่อขบเปลือกออกจะได้เน้ือเมล็ดสีขาวอมเหลือง แตงต้ากวยจะนิยมปลูกกนั ในแถบภาค ตะวนั ตกเฉียงเหนือของจีน โดยเฉพาะในมณฑลกานซู ซ่ึงจดั เป็ นแหล่งปลูกแตงตา้ กวยที่ใหญ่สุดของจีน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 178

ชาวจีนนิยมกินเมล็ดก๋วยจี๊กนั มาต้งั แต่เมื่อไหร่ แต่มีบนั ทึกในสมยั ตน้ ราชวง์ซ้องวา่ ในเวลาน้นั คนจีนก็นิยม กินเมด็ ก๋วยจ๊ีเป็นของวา่ งกนั แลว้ และในสมยั ราชวงศห์ มิงก็มีบนั ทึกวา่ แมแ้ ต่ฮ่องเตบ้ างพระองคก์ ็ยงั เสวยเม็ด ก๋วยจี๊เช่นกนั ไม่เพียงแต่การรับประทานในยามวา่ ง แต่คนจีนในเวลาน้นั ยงั กินเมด็ ก๋วยจี๊ในระหวา่ งรับรอง แขก หรือแมแ้ ต่ในงานเล้ียงระหวา่ งท่ีรออาหารมาเสิร์ฟ เจา้ ภาพก็มกั จะมีเม็ดก๋วยจี๊ต้งั ไวใ้ ห้แขกเหรื่อขบกิน เล่นกนั ไปพลาง ๆ ก่อน เม็ดก๋วยจี๊สามารถรับประทานไดท้ ้งั แบบสด หรือนามาประกอบอาหารก็ได้ เม็ด ก๋วยจ๊ีจะมีแร่ธาตุท่ีเป็ นประโยชน์หลายชนิด เช่น แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม มีโปรตีน เล็กนอ้ ย ท่ีสาคญั คือมีไขมนั ไมอ่ ่ิมตวั จึงช่วยลดคอเลสเตอรอล จึงช่วยลดการเกิดโรคหวั ใจ ไขมนั อุดตนั เส้น เลือดไดอ้ ีกดว้ ย ทำไมทมี ชำติอำร์เจนติน่ำ ถึงไม่มีนักเตะผิวสี ทาไมทีมชาติอาร์เจนตินาแทบไม่เคยเห็นมีนกั ฟุตบอลผวิ สีมา ติดทีมชาติเลย ท้งั ที่เพ่ือนร่วมทวีปอเมริกาใตแ้ ทบทุกชาติต่างก็มีนกั เตะผิวสีอยใู่ นทีมดว้ ยกนั ท้งั น้นั เหตุใด อาร์เจนตินาจึงต่างไปจากเพ่ือนบา้ นชาติอ่ืน หรือวา่ ประเทศน้ีไม่มีคนผิวสีอาศยั อยเู่ ลย ยอ้ นกลบั ไปในอดีต อาร์เจนตินาก็เหมือนกบั ชาติอื่นในอเมริกาใตท้ ี่มี ประชากรผิวสีอยู่เป็ นจานวนมากท่ีสืบเช้ือสาย จากชาวแอฟริกาท่ีถูกนาเขา้ มาเป็นแรงงานในภาค เกษตรกรรม ซ่ึงจริง ๆ แลว้ นครบวั โนสแอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ก็คือหน่ึงในเมืองท่า ใหญ่ที่เรื อขนทาสชาวแอฟริ กาจะมาจอดเพ่ือนา ทาสเดินทางต่อไปยงั จุดหมายปลายทางด้วยซ้า ร่องรอยของชาวผิวสีเองก็ยงั ปรากฏอยู่ในวฒั นธรรมของชาวอาร์เจนตินา เช่น ดนตรีแบบแทงโก มีการ ประมาณกนั วา่ ในช่วงปลายศตวรรษท่ี 18 ประชากรในอาร์เจนตินาประมาณคร่ึงหน่ึงเป็ นคนท่ีสืบเช้ือสายมา จากคนผวิ สี และยงั มีบนั ทึกดว้ ยวา่ คนผวิ สีที่อาร์เจนตินาไดร้ ับการปฏิบตั ิท่ีคอ่ นขา้ งดีกวา่ คนผวิ สีในประเทศ อ่ืน ๆ ด้วยซ้า อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนของเร่ืองน้ีเกิดข้ึนเมื่อปี 1868 เม่ือโดมิงโก ฟุสติโน ซาร์เมียนโต (Domingo Faustino Sarmiento) ไดร้ ับเลือกใหด้ ารงตาแหน่งประธานาธิบดีของประเทศอาร์เจนตินา ซาร์ เมียนโตมีนโยบายเชิดชูคนผิวขาว จึงไดด้ าเนินนโยบายท่ีไม่เป็ นธรรมต่อชาวผิวสีเป็ นจานวนมาก เช่น โดย การส่ังแยกชุมชนชาวผิวสีออกจากคนผิวขาว ส่งผลทาให้คนผิวสีไม่สามารถเขา้ ถึงบริการสาธารณสุขข้นั พ้นื ฐานได้ ดงั น้นั เม่ือเกิดอหิวาตกโรคและไขเ้ หลืองในช่วงเวลาน้นั จึงทาใหค้ นผวิ สีในอาร์เจนตินาเสียชีวติ ไปเป็ นจานวนมาก รวมถึงยงั มีการเกณฑ์ชายชาวผิวสีจานวนมากเป็ ฯทหารเขา้ ร่วมสงครามกบั ประเทศ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 179

ปารากวยั และเสียชีวติ ไปเป็นจานวนมาก ทาใหอ้ ตั ราการเกิดของคนผวิ สีลดลงไปอีก จากเหตุการณ์ดงั กล่าว จึงทาให้ ชาวผิวสีท่ีเหลือก็ตดั สินใจอพยพไปยงั บราซิลและอุรุกวยั ท่ีพวกเขาหวงั ว่าจะได้รับการดูแลท่ีดี กวา่ เดิม และในเวลาเดียวกนั น้นั ประเทศอาร์เจนตินาก็ยงั เปิ ดรับผอู้ พยพชาวยุโรปที่ตอ้ งการเขา้ มาทามาหา กินในประเทศของตน ทาใหม้ ีชาวยุโรปหลงั่ ไหลเขา้ ไปในอาร์เจนตินาเป็ นจานวนมากโดยเฉพาะชาวอิตาลี (มาราโดนาเอง รวมถึงลีโอเนล เมสซี ยอดนกั เตะทีมชาติอาร์เจนตินาคนปัจจุบนั ก็มีเช้ือสายของชาวอิตาลีที่ อพยพเขา้ ไปในอาร์เจนตินา) ทาให้สัดส่วนประชากรชาวผวิ สีในอาร์เจนตินาลดต่าลงจนแทบจะสาบสูญไป จากประเทศอาร์เจนตินาเลยทีเดียว จากการสารวจสามะโนประชากรเมื่อปี 2010ในประเทศอาร์เจนตินา ยงั คงมีคนผวิ สีอาศยั อยเู่ พยี งประมาณ 1.5 แสนคน หรือประมาณ 0.37% ของพลเมืองท้งั ประเทศอาร์เจนตินา 40 ลา้ นคน ท่มี ำของต้นคริสต์มำส ความเป็ นมาของตน้ คริสมาสตน์ ้นั สืบเนื่องจากในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์นิยมนา เร่ืองเล่าเก่ียวกบั เทศกาลคริตส์มาสมาแสดงเป็ นละครเพื่อถ่ายทอดความหมายของวนั คริสตม์ าสใหช้ าวบา้ น ไดร้ ับรู้ โดยในยุคน้นั ไดม้ ีการนาตน้ สนมาต้งั ไวต้ รงกลางเวทีเพ่ือใชเ้ ป็ นของประดบั ฉาก ส่วนสาเหตุเลือก ตน้ สน ก็เน่ืองมากจากเป็ นตน้ ไมท้ ี่หาไดง้ ่าย ทาให้ในภายหลงั จึงมีการ เรียกตน้ สนท่ีใชป้ ระกอบฉากในการแสดงดงั กล่าววา่ ตน้ คริสตม์ าส ซ่ึง ต้นคริ สต์มาส น้ี ไม่ใช่ พรรณไม้ที่ชื่ อคริ ส ต์มาสดังที่ หล ายคนเข้าใ จ นอกจากน้ี ในวัฒนธรรมของชาวคริ สต์ ยังมีความเชื่ออีกว่า ต้น คริสตม์ าส หมายถึง ตน้ ไมใ้ นสวนสวรรค์ ซ่ึงเป็ นตน้ ไมท้ ี่อดมั และอีฟ แอบเด็ดผลไมม้ ากิน ซ่ึงเป็ นการทาบาป เนื่องจากไม่เช่ือฟังพระเจ้า ดงั น้ันตน้ คริสมาสต์จึงเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจเกี่ยวกบั การเร่ือง ละเมิดคาสอนของพระเจา้ นนั่ เอง ท้งั น้ี ละครเก่ียวกบั เทศกาลคริสตม์ าส ได้ถูกนามาแสดงอย่างต่อเนื่องนานนับหลายร้อยปี จนกระท่ังใน ศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชจานวนหน่ึงไดห้ า้ มไม่ใหม้ ีการแสดงละครดงั กล่าวอีก เนื่องจากเห็นวา่ การแสดง เหล่าน้ีไดถ้ ูกบิดเบือนจนกลายเป็ นการแสดงละครเพ่ือลอ้ เลียนชาวบา้ น ผปู้ กครองบา้ นเมือง และศาสนา ซ่ึง ไม่ตรงกบั บรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ดา้ นชาวบา้ นท่ีรู้สึกเสียดาย เน่ืองจากไม่มีโอกาสไดด้ ูละครสนุก ๆ แลว้ จึงหนั ไปสนุกกนั ในบา้ นของตน โดยการนาตน้ สนมาต้งั ไวใ้ นบา้ น จากน้นั คนในครอบครัวก็จะช่วยกนั นาลูกแอปเปิ้ ล ขนม หรือกล่องของขวญั ขนาดจ๋ิวต่าง ๆ มาประดบั ประดาบนตน้ ไม้ สาหรับที่มาของการ ประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยไฟกะพริบต่าง ๆ น้ัน คาดว่าน่าจะมาจาก ประเพณีเก่ียวกับเทศกาล เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 180

คริสตม์ าสของชาวเยอรมนั ที่แต่เดิมไดม้ ีการจุดเทียนหลายเล่มเป็ นรูปปิ รามิดไวต้ ลอดคืนคริสตม์ าส โดยมี ดาวดาวิด หรือสัญลักษณ์เป็ นดาวหกแฉกประดับอยู่บนยอดปิ รามิด ซ่ึงมุมท้งั หกของดาวได้ส่ือความ หมายถึง ลกั ษณะ 6 ดา้ นของพระเจา้ คือ ฤิทธ์ิเดช, สติปัญญา, ความสง่างาม, ความรัก, ความเมตตา และ ความยตุ ิธรรม จากน้นั ในศตวรรษที่ 16 จึงไดม้ ีการนาประเพณีการตกแต่งตน้ คริตส์มาส และการจุดเทียนมา รวมรวมกัน จนกลายเป็ นประเพณีในปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวญั และตกแต่งไฟกะพริบไวท้ ่ีต้น คริสตม์ าส โดยมีดาวดาวดิ ประดบั อยบู่ นยอดของตน้ ไม้ ซ่ึงประเพณีน้ียงั คงเป็ นที่นิยมในหมู่ชาวตะวนั ตกมา จนถึงปัจจุบนั ที่มำของช่ือแขวงหนองค้ำงพลู โดยนายเสง่ียม นาค วชั ระ อดีตกานันตาบลหลกั สองได้เล่าว่า พ้ืนที่แขวง หนองคา้ งพลูในอดีตต้งั อยู่บนเส้นทางลาเลียงพลู โดย ชาวบา้ นจะเดินทางหาบพลูจากนครชยั ศรีซ่ึงเป็ นแหล่ง ปลูกพลูแหล่งใหญ่ไปขายแถบบางกอกน้อย เมื่อถึง หนองน้าแห่งหน่ึงในบริเวณน้ีก็จะแวะพกั หรือคา้ งคืน ผคู้ นจึงเรียกหนองน้าแห่งน้นั วา่ \"หนองคา้ งพลู\" ตำนำนดอกทำนตะวนั ในเทพนิยายกรีก ไดก้ ล่าวถึงนางไคลทีเอ ซ่ึงหลงรักสุริยเทพ และเป็ นพ่ีสาวของนาง ลูโคธีอา(บางที่วา่ นางลูโคโธเอ) แต่สุริยเทพไมไ่ ดห้ ลงรักนาง แต่กบั ชอบนอ้ งสาวของนาง จนตอ้ งปลอมเป็ น มารดาของนางลูโคธีอาเพ่ือเขา้ หานาง พอเขา้ หอ้ งนางได้ กก็ ลบั เป็นเฮลิออสร่วมหลบั นอนกบั นาง นางไคลทีเอซ่ึง หลงรักสุริยเทพอยรู่ ู้เขา้ ก็เกิดริษยาจึงไปฟ้ องกษตั ริยอ์ อร์ คามสั ผูเ้ ป็ นบิดา ทาให้นางลูโคธีอาถูกลงโทษให้ฝังท้งั เป็ น สุริยเทพเฮลิออสเสียใจมากจึงบนั ดาลใหน้ างลูโคธี อากลายเป็ นพุ่มไมห้ อมหรือกายาน แต่ก็ไม่ไดม้ ารักใคร่ ไยดีอะไรกบั นางไคลทีเอ มีหนาซ้าจะเกลียดข้ีหน้าหนกั เขา้ เสียอีก นางไคลทีเอจึงตอ้ งทุกขร์ ะทมอยลู่ าพงั นางเฝ้ าคร่าครวญหาสุริยเทพ ไม่ยอมแตะตอ้ งท้งั อาหารและน้าเลยติดต่อกนั ถึง 9 วนั จนรากงอก กลายเป็ น ดอกทานตะวนั คอยหนั หนา้ ตามดวงอาทิตยต์ ้งั แต่อรุณรุ่งจนกระทงั่ อาทิตยอ์ สั ดงตลอดไป เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 181

วธิ ีกำรอำบนำ้ ไม่ให้หนำว เวลาท่ีเราอาบน้าแลว้ รู้สึกหนาว เกิดจากสาเหตุ ดงั น้ี ครับ 1.อุณหภมู ิท่ีแตกตา่ งของร่างกายกบั น้า (แปล แบบไทยวา่ น้าที่อาบน้นั มีอุณหภูมิที่ต่ากวา่ ร่างกายมากๆ) จนทาใหร้ ่างกายตอ้ งยอมเสีย ความร้อนไปซ่ึงน้ายง่ิ อุณหูมิต่าเท่าไรก็จะทา ใหเ้ ราหนาวมากข้ึน 2. อตั ราการไหลผา่ นของน้าท่ีราดรดร่างกาย เรา (เรียกแบบบา้ นๆวา่ ราดดว้ ยความแรงของ น้า ยามท่ีเอาขนั จว้ งน้าแลว้ ราดอยา่ งรวดเร็ว) ยง่ิ ราดดว้ ยความเร็วสูงเทา่ ไรกจ็ ะทาใหร้ ่างเราสัน่ แบบเจา้ เขา้ ได้ นะครับ 3.อตั ราการระเหยของน้า เมื่อโดยผวิ หนงั ของเรา ยง่ิ อตั ราการระเหยน้าเร็วเทา่ ไรก็จะทาใหเ้ ราหนาวมากข้ึน โดยส่ิงท่ีเป็นปัจจยั ท่ีทาใหอ้ ตั ราการระเหยของน้าเปล่ียนไปก็ไดแ้ ก่ ความเร็วลม ความร้อน และสบู่ (หรือ สารลดแรงตึงผวิ อ่ินฯ) แลว้ วธิ ีการที่จะอาบน้าแลว้ ไม่รู้สึกหนาวทาอยา่ งไร การอาบน้าใหห้ นาวทรมานนอ้ ยลงน้นั ทาไดโ้ ดยใช้ วธิ ีการฟอกสบขู่ ณะตวั แหง้ นะครับ โดยการฟอกสบู่จนข้ึนฟองในน้าท่ีมือก่อน (จะใชภ้ าชนะตีฟองกไ็ ด)้ แลว้ จึงคอ่ ยนาฟองสบูท่ ี่ข้ึนแลว้ มาลูบตวั แลว้ ฟอกจนเรียบร้อย หลงั จากน้นั กใ็ ชน้ ้าลา้ งออกตามปกตินะครับ การฟอกฟองสบทู่ ่ีผวิ หนงั ที่ยงั ไม่เปี ยกของเราน้นั สามารถลดการสูญเสียความร้อนจากร่างกายไดเ้ ป็นอยา่ งดี เน่ืองจากวา่ เมื่อสารลดแรงตึงผวิ อยา่ งสบู่ (สบเู่ หลว ครีมนวดผม ยาสระผม) ที่ละลายในน้าน้นั จะมีท้งั ส่วน ของ \"ไมเซลล\"์ (micelle) และ \"โมเลกลุ เดี่ยว\" (monomolecules) อยปู่ นกนั แตพ่ อนาสารละลายเหล่าน้นั มาถู ตวั น้นั ท้งั micelle และ monomolecules ของสบู่น้นั จะไปที่ผวิ สมั ผสั ใหม่ แลว้ เกาะบนผวิ หนงั เราจน เปรียบเสมือนการเคลือบสบบู่ นผวิ หนงั เราเพิ่มอีกช้นั และเป็นฉนวนกนั ความร้อนไม่ใหผ้ วิ หนงั ตอ้ งสูญเสีย และนอกจากน้นั ยงั สามารถลดการระเหยของน้าไดด้ ว้ ย จึงทาใหก้ ารฟอกสบทู่ ่ีตีกบั น้า ก่อนท่ีจะเอานามาราด ตวั น้นั จะลดความหนาวไดเ้ ป็ นอยา่ งดี เพราะนอกจากสบจู่ ะเป็นตวั ลดการระเหยของน้าไดแ้ ลว้ ยงั เป็นการ เบรคการราดน้าขนั แรกท่ีตวั เราไดด้ ว้ ย แลว้ พอเราฟอกสบู่เสร็จร่างกายเราก็เริ่มจะชินกบั อุณหภูมิร่างกาย ขณะเปี ยกไปแลว้ จึงทาใหก้ ารราดน้าเพื่อลา้ งสบนู่ ้นั ไม่ทรมานเท่ากบั การราดน้าขนั แรกอยา่ งปกติดว้ ยนะ ครับ แลว้ อยา่ กงั วลวา่ การฟอกสบูก่ ่อนราดน้าตวั น้นั จะสะอาดสู้การฟอกขณะตวั เปี ยกไม่ไดน้ ะครับ เพราะ ในความเป็นจริงแลว้ กลบั จะทาใหส้ ะอาดล้าลึกข้ึน โดยท่ีไมท่ าใหผ้ วิ น้นั แหง้ มากกวา่ การฟอกตวั ขณะเปี ยก ดว้ ยนะครับ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 182

ที่มำของสัญลักษณ์ค้ อน เคียว ตราค้อนเคียวมีความหมายด้ังเดิมคือการรวมตัวกันของแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม (แทน ด้วยคอ้ น) และแรงงาน ภาคเกษตรกรรม (แทน ดว้ ยเคียวเกี่ยวขา้ ว) เป็ น สัญลักษณ์ ท่ีถูกใช้มา ต้ังแต่ปลายศตวรรษที่ 19 หลักๆ พบใน เหรี ยญเปโซของชิลี มี variation เช่นรูปคอ้ นกบั คันไถ (ความหมาย เดียวกบั คอ้ นเคียว คือคนั ไถแทนภาค เกษตรกรรม) ต่อมาปี 1917 เม่ือวลาดิมีร์ เลนิน ไดน้ าการปฏิวตั ิตุลาคมไดร้ ับชยั ชนะในรัสเซีย จึงให้คนมาประกวดออกแบบสัญลกั ษณ์ของรัฐใหม่ อนั จะ เป็ นรัฐที่สร้างข้ึนโดยชนช้นั แรงงาน เพื่อชนช้ันแรงงาน ตามอุดมการณ์คอมมิวนิสต์(ต่อมาคือสหภาพ โซเวยี ต) ศิลปิ นผปู้ ระกวดชนะคือนายเยฟเกนี คมั โซลกิน เขาวาดภาพคอ้ นเคียวบนลูกโลก มีดาวแดงขา้ งบน ดวงอาทิตย์ข้างล่าง มีรูปรวงข้าวอยู่ซ้ายขวา และบนรวงข้าวมีริบบินเขียนว่า “ชนช้ันแรงงานโลก จง รวมกนั !” เป็ นหกภาษา คือภาษารัสเซีย ยเู ครน เบลารุส จอร์เจีย อาร์มีเนีย และอาเซอร์ไบจาน ซ่ึงเป็ นภาษา ของรัฐที่จะรวมเป็ นโซเวียตตอนน้นั ตราน้ีถูกพฒั นาเร่ือยมาจนกลายเป็ นตราแผน่ ดินของโซเวียตอย่างเป็ น ทางการในปี 1923 อน่ึงตอนแรกตราน้ีมีดาบดว้ ย แต่เลนินเอาออกเพราะไม่ชอบภาพลกั ษณ์ท่ีส่ือถึงสงคราม ในลกั ษณะน้ีตราคอ้ นเคียวจึงกลายเป็ นสัญลกั ษณ์ของโซเวียต และลทั ธิคอมมิวนิสต์ ภายหลงั มีการให้ ความหมายไปอีกหลากหลาย เช่นช่วงหน่ึงมีการตีความวา่ คอ้ นหมายถึงผูช้ าย เคียวหมายถึงผหู้ ญิง และต่อ มาตราคอ้ นเคียว รวมถึงดวงดาว ไดก้ ลายเป็ นสัญลกั ษณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ทวั่ โลกจนถึงปัจจุบนั ตรา สัญลกั ษณ์คอมมิวนิสตต์ า่ งๆ รวมถึงตราแผน่ ดินจีนลว้ นไดร้ ับแรงบนั ดาลใจจากดวงตราแรกน้ี เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 183

ทำไมถึงเรียกนำ้ ส้มสำยชู น้าส้มสายชูน่ีเป็ นผลิตผลการคน้ คิดของชาวจีนมาแต่ โบราณกวา่ สองพนั ปี แลว้ ปรากฏในหนงั สือโจวหล่ี ต้งั แต่ปี ค.ศ. 1508 โน่น ที่ เขียนถึงวิธีการหมกั น้าส้ม และโดยเหตุท่ีแหล่งผลิตคือเมืองจิ้นหยางที่เรียกคน เมืองน้ีกนั วา่ \"ซานซี\" หรือ \"ซานซู\" น้าส้มหมกั น้ีจึงเรียกกนั ว่า \"น้าส้มซานซู\" และก็เช่นเคย เม่ือถึงเมืองไทยเราก็เลยเรียกกนั แบบไทยๆจาก \"ซานซู\" เป็ น \"สายชู\" รู้จักกบั ทรงผมของชำวญีป่ ่ ุนสมัยโบรำณ “ชนมาเกะ (Chonmage)” คือ ช่ือทรงผมสมยั โบราณของชาวญ่ีป่ ุน ซ่ึงมกั จะมีความเก่ียวขอ้ งกบั ซามูไรและยุคเอโดะ ลกั ษณะของผมทรงน้ีจะมีบริเวณท่ีถูกโกนออกไปและผม ท่ีเหลืออยจู่ ะถูกมดั รวบแบบทรงดงั โงะ ทรงผม “ชนมาเกะ” เริ่มมีมา ต้งั แต่สมยั นารา ในอดีตผมทรงน้ีเกิดข้ึนเพื่อใหซ้ ามูไรใชม้ นั ยึดหมวก ของซามูไร (คาบูโตะ-kabuto) ให้อยู่กบั ท่ีเวลาสู้รบ นอกจากน้ีการ โกนผมออกยงั เป็ นการช่วยบรรเทาความร้อนท่ีเกิดข้ึนในเวลาท่ีใส่ หมวกอีกดว้ ยว่ากนั ว่าน้ีเป็ นอีกวิธีในการซ่อนปัญหาศีรษะล้านของ ผชู้ ายอีกดว้ ย เน่ืองจากซามไู รถือวา่ เป็ นตาแหน่งสูงศกั ด์ิในสังคม “ชน มาเกะ” จึงกลายเป็ นสัญลกั ษณ์แสดงถึงสถานะทางสังคม ในสมยั เอ โดะผมทรง “ชนมาเกะ” ถูกมองวา่ เป็ นสิ่งที่แสดงถึงความเป็ นผดู้ ีและ ดูเรียบร้อย การไวผ้ มใหเ้ รียบร้อยในสมยั น้นั จะไดร้ ับการปฏิบตั ิอยา่ งดีจากผอู้ ื่น ในทางกลบั กนั คนท่ีทาผมยุง่ เหยงิ น้นั แมแ้ ตเ่ หล่าศิลปิ นในยคุ น้นั ยงั พรรณนาในเชิงดูถูกดูแคลน รู้จักกับไมโล วนั น้ีจะแนะนาให้รู้จกั กบั ไมโล แต่ไม่ใช่ไมโลท่ี เป็ นเคร่ืองด่ืมนะครับ ไมโล ออฟ คอร์ตนั (Milo of Croton) คือ ชื่อชื่อของนกั มวยปล้าผไู้ ม่แพใ้ ครของกรีก เป็นเจา้ ของทฤษฏีการ เพิ่มความหนักหน่วงทีละน้อยในการฝึ ก โดยที่มาคือ ไมโล ตอ้ งการฝึ กฝนร่างกาย เขาจึงใชว้ ิธียกววั ทุกๆวนั เร่ิมต้งั แต่ววั ยงั เป็ นลูกววั วนั เวลาผา่ นไป ลูกววั ตวั น้นั โตข้ึนเรื่อยๆ ร่างกายของ ไมโลกแ็ ขง็ แรงตามไปเรื่อยๆ จนกระทง่ั ลูกววั ตวั น้นั โตเตม็ วยั ถึง วนั น้นั ร่างกายของไมโลก็แข็งแรงข้ึนจนสามารถยกววั ตวั ใหญ่ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 184

เดินไปเดินมาได้ จึงทาใหเ้ ขาควา้ แชมป์ เหนือคนอื่นไดใ้ นการแขง่ โอลิมปิ กอยา่ งง่ายดาย ไมโลไม่ไดย้ กแม่ววั ได้ในวนั เดียว! ทุกอย่างต้องค่อยเป็ นค่อยไป ทฤษฎีไมโลนิยมใช้ในการฝึ กฝนการออกกาลงั กาย แต่ก็ สามารถปรับใช้ในการพฒั นาตนเองด้านอ่ืนๆในชีวิตได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็ นการฝึ กทกั ษะใหม่ๆ การอ่าน หนงั สือ การฝึกภาษาใหม่ ฯลฯ แตท่ ่ีสาคญั ท่ีสุดในการฝึกฝนคือความต่อเน่ืองครับ ซ่ึงจากประวตั ิดงั กล่าวทา ให้ นายทอมสั เมยน์ ผคู้ ิดคน้ ไมโล เอาชื่อของ ไมโล ออฟ คอร์ตนั มาเป็นชื่อสินคา้ รู้จักบั ประเทศท่ไี มมี ีทำงออกทะเล ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล หรือ Landlocked Country ความหมายก็ ตรงตามช่ือ คือหมายถึงประเทศท่ีไม่มีดินแดนส่วนใดติดทะเลเปิ ดหรือมหาสมุทรเลย (ไม่นบั รวมส่วนท่ี ติดกบั ทะเลสาบท่ีไม่มีทางออกเช่ือมกบั ทะเลภายนอก) ซ่ึงปัจจุบนั มีท้งั สิ้น 44 ประเทศ อยู่ในทวีป แอฟริกามากท่ีสุด 16 ประเทศ รองลงมาคือยโุ รป 14 ประเทศ เอเชีย 12 ประเทศ (รวมประเทศอาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจนั ท่ีแมว้ งการกีฬาจะไปร่วมกบั ทางยโุ รป แต่ทางภูมิศาสตร์นบั เป็ นประเทศในเอเชีย) และอเมริกาใตอ้ ีก 2 ประเทศ ในขณะที่ทวีปอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย/โอเชียเนีย ไม่มีประเทศท่ีไม่มี ทางออกทะเลอยู่เลย นอกจากน้ัน ยงั มีดินแดนท่ีมีสถานะเป็ นรัฐที่ไดร้ ับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์ (Partially recognized State) อีก 5 แห่ง ซ่ึงหากรวมท้งั หมด 49 ประเทศ/ดินแดน แลว้ จะมีพ้ืนที่ 14,776,228 ตารางกิโลเมตร (11.4% ของพ้ืนที่โลก) ประชากร 475,818,737 คน (6.9% ของประชากรท้งั โลก) ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลท่ีมีพ้ืนท่ีใหญ่ที่สุดในโลก ไดแ้ ก่ประเทศคาซักสถาน มีพ้ืนท่ี 2,724,900 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 5 เท่าของประเทศไทย) ส่วนประเทศที่มีประชากรมากท่ีสุด ไดแ้ ก่ ประเทศเอธิโอเปี ย ประชากร 101,853,263 คน ขณะท่ีประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลท่ีเล็กและมีประชากร เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 185

นอ้ ยสุดกค็ งเดาไดไ้ ม่ยากวา่ ตอ้ งเป็ นนครรัฐวาติกนั ซ่ึงมีพ้ืนท่ีเพียง 0.44 ตารางกิโลเมตร ประชากร 826 คน นอกจากเป็นประเทศเลก็ ที่สุดแลว้ วาติกนั ยงั เป็น 1 ใน 3 ประเทศท่ีไม่มีทางออกทะเลที่มีพรมแดนติด กบั ประเทศอ่ืนเพียงประเทศเดียว (หรือพดู อีกอยา่ งคือถูกประเทศอื่นลอ้ มรอบไวท้ ุกทาง) คือถูกลอ้ มรอบ ดว้ ยดินแดนของประเทศอิตาลี ส่วนอีก 2 ประเทศกค็ ือประเทศซานมาริโน ซ่ึงลอ้ มรอบดว้ ยดินแดนของ ประเทศอิตาลีเช่นกนั และประเทศเลโซโท (Lesotho) ที่ถูกลอ้ มรอบดว้ ยประเทศแอฟริกาใต้ ส่วน ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลท่ีมีพรมแดนติดกบั ประเทศอื่นมากที่สุด ไดแ้ ก่ ออสเตรีย (เรียงจากทิศเหนือ วนตามเขม็ นาฬิกามี สาธารณรัฐเช็ก, สโลวาเกีย, ฮงั การี, สโลวีเนีย, อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ลิคเทนส ไตน์, เยอรมนั ) และเซอร์เบีย (ฮงั การี, โรมาเนีย, บลั แกเรีย, นอร์ทมาเซโดเนีย, คอซอวอ (หรือถา้ ไม่นบั คอซอวอ กจ็ ะเป็ นแอลบาเนีย) มอนเตเนโกร, บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา, โครเอเชีย) รวม 8 ประเทศ เทา่ กนั ลิคเทนสไตน์ และอุซเบกิสถาน เป็ นเพียง 2 ประเทศท่ีไดช้ ่ือว่าเป็ น Double Landlocked Country คือดินแดนท้งั หมดถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลดว้ ยกัน ลิคเทนสไตน์อยู่ตรงกลาง ระหว่างประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนอุซเบกิสถานถูกลอ้ มรอบดว้ ยประเทศคาซกั สถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกีสถาน, อฟั กานิสถาน, เติร์กเมนิสถาน ประเทศท่ีไม่มีทางออกทะเลท่ีอยใู่ กลท้ ะเลที่สุด คือ ประเทศซานมาริโน ซ่ึงอยหู่ ่างจากชายฝ่ังที่ใกลส้ ุดที่ทะเลเอเดรียติกเพียง 7 กิโลเมตรเท่าน้นั ส่วน ประเทศที่อยไู่ กลทะเลมากท่ีสุดในโลกกค็ ือ ประเทศคีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) โดยชายทะเลท่ีอยใู่ กลส้ ุด คือมหาสมทุ รอินเดีย ก็ยงั ห่างออกไปถึงประมาณ 1600 กิโลเมตร นอกจาก 49 ประเทศ/ดินแดนดงั กล่าว แลว้ กย็ งั มีอีกบางประเทศท่ีเรียกวา่ “เกือบ” ไม่ติดทะเล คือมีเส้นชายฝ่ังทะเลนอ้ ยมากเมื่อเทียบกบั ขนาด ประเทศ เช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนคองโก (DR Congo) มีชายฝั่ง 37 กิโลเมตร พ้ืนที่ 2.37 ลา้ นตารางกิโลเมตร หรือเฉล่ียพ้ืนที่ 6.3 แสนตารางกิโลเมตรต่อชายทะเล 1 กิโลเมตร อิรัก มีชายฝั่งทะเล 58 กิโลเมตร พ้ืนท่ี 4.37 แสนตารางกิโลเมตร เฉล่ียพ้ืนท่ี 7.6 พนั ตารางกิโลเมตรต่อชายฝั่ง1 กิโลเมตร บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา มีชายฝ่ังทะเล 20 กิโลเมตร พ้ืนที่ 5.1 หม่ืนตารางกิโลเมตร เฉลี่ยพ้ืนท่ีต่อ ชายฝั่ง 2.6 พนั ตารางกิโลเมตรตอ่ ชายฝ่ัง 1 กิโลเมตร เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 186

ทำไมถึงเรียกนกรู้ สานวน นกรู้น้นั ใชใ้ นการเปรียบเปรยถึง คนท่ี รู้เท่าทนั เหตุการณ์ หรือภยั ท่ีกาลงั จะมาถึงตน จนทาให้สามารถ แกไ้ ข สถานการณ์ต่างๆไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที ท่ีมาของสานวน นกรู้ เปรียบเทียบกบั นกที่มีประสาทสมั ผสั รวดเร็ว สามารถที่จะรับรู้ถึง ภยั อนั ตรายไดล้ ่วงหน้าก่อนท่ีจะมีเหตุการณ์อะไร ที่ไม่ผิดปกติ โดยคนโบราณจะสังเกตจากพฤติกรรมของนก เช่นแผ่นดินไหว หรือมีภยั ทางธรรมชาติต่างๆ นกจะทาการแสดงพฤติกรรมที่ ผิดปกติไป เช่นอพยพยา้ ยถิ่น หรือ บินหนีกันเป็ นฝูงๆ ท่านจึง นามาอุปมาอุปไมย ผทู้ ่ีมีไหวพริบรู้เท่าทนั เหตุการณ์ หรือ ภยั ท่ีจะ มาถึงตนวา่ “ นกรู้ ” นน่ั เอง ทำไมวัดมอญถึงต้องมีหงส์ ท่ีในวดั มอญตอ้ งมีเสาหงส์ก็เพราะคนมอญเชื่อว่า หงส์น้นั เกี่ยวขอ้ งกบั ตานาน การเกิดเมืองหงสาวดี อนั เป็ นเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองยง่ิ ของอาณาจกั รมอญ ก่อนจะสิ้นแผน่ ดินใหแ้ ก่พม่า ในปี พ.ศ. 2300 ตานานดงั กล่าวมีวา่ ในสมยั พุทธ กาลคร้ังท่ีพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา้ ตรัสรู้ ไดแ้ ปดพรรษา ไดเ้ สด็จเที่ยวจาริกมาถึงภูเขาสุทศั นมรังสิต คร้ังน้นั ประเทศตรงน้ียงั เป็ นทะเล เมื่อ พระองค์เสด็จมาถึง ได้ทอดพระเนตรเห็น หงส์ทองสองตวั กาลงั ลงเล่นน้า พระองค์จึงทรง ทานายวา่ กาลภายหน้าประเทศท่ีหงส์ลงเล่นน้า จะเป็ นมหานครข้ึน ช่ือว่าเมืองหงสาวดี และเป็ นท่ีต้งั พระ ธาตุสถูปเจดียพ์ ระศรีมหาโพธ์ิ ศาสนาของเราจะรุ่งเร่ืองอยทู่ ่ีนี่ คร้ันพระองค์นิพพานล่วงไป 1,116 ปี ทอ้ ง ทะเลตรงน้นั กต็ ้ืนเขินกลายเป็นแผน่ ดินแลว้ เกิดเมืองหงสาวดี คนมอญผกู พนั กบั เมืองน้ีมาก จึงนา \"หงส์\" มา ใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์แทนเมืองหงสาวดีและเช้ือชาติมอญ เหตุน้ีบนผนื ธงชาติมอญ กเ็ ป็นรูปหงส์ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 187