รู้จักกบั กลองมโหระทกึ โดยกลองมโหระทึกเป็ นกลองชนิดหน่ึง มีหนา้ เดียว และหล่อดว้ ยโลหะ ไม่ขึงหนงั เหมือนกลองทว่ั ๆ ไป ตวั กลองเป็ นโลหะผสมประกอบดว้ ย ทองแดง ตะกวั่ และดีบุกผสมตามเกณฑ์ แลว้ หลอมเทหล่อลงในแบบที่ทาไว้ บนหนา้ กลองมีโลหะหล่อเป็ นตวั กบอยปู่ ระจา 4 ทิศ ท้งั น้ีอาจเป็ นไปไดว้ า่ กลองชนิดน้ีแต่เดิมคงสร้างข้ึนสาหรับตีขอฝน เพราะเช่ือกนั วา่ เม่ือกบร้องแลว้ จะเป็ นเหตุให้ฝนตก (เสียง กลองเป็ นเสมือนเสียงกบร้อง) กลองมโหระทึกน้ี ไทย เรานิยมใช้ตีประโคมท้งั งานหลวง และงานราษฎร์มาแต่ โบราณ (ปรากฏหลกั ฐานมีกล่าวถึงไวใ้ นหนงั สือไตรภูมิ พระร่วงสมยั สุโขทยั ) และในปัจจุบนั ยงั คงใชต้ ีประโคม ร่วมกบั แตรสงั ข์ ในงานพระราชพิธีต่างๆ เช่น ในโอกาส ท่ีพระมหากษตั ริยเ์ สด็จพระราชดาเนินโดยกระบวนพยุ หยาตรา เป็นตน้ ในการใชไ้ มต้ ี 2 อนั ทาดว้ ยไมร้ วกหรือไมจ้ ริงเหลากลมเกล้ียง ขนาดพอเหมาะ ตรงปลายที่ ใชต้ ีพนั ดว้ ยผา้ จนแน่นแลว้ ผกู เคียน หรือถกั ดว้ ยดา้ ย กลองมโหระทึกจะอยใู่ นประเภทเคร่ืองประโคมแตร และมโหระทึก ใช้ในการเสด็จออกขนุ นาง หรือนาเสด็จพระราชดาเนินขบวนน้อย โดยเป็ นเครื่องทาเสียง ของไทยภาคเหนือ จดั อยใู่ นประเภทฆอ้ ง และเป็นของที่มีมาแตโ่ บราณ ทมี่ ำของสำนวนนักข่ำวหวั เหด็ โดยหวั เห็ดเป็ นตะปูชนิดหน่ึงท่ี มีหวั บานเหมือนดอกเห็ด ใชส้ าหรับตีย้าสังกะสีหรือวสั ดุอื่น ๆ ห้ตรึงติดแน่นไม่หลุดง่าย คนที่มีความคิดเห็นอะไรคงท่ีไม่ เปล่ียนแปลง หรือด้ือร้ัน จึงพูดกนั เป็ นสานวนว่า “ หัวเห็ด ” บางทีกว็ า่ “ หวั เห็ดย้า ” ปัจจุบนั สานวนน้ีมีความหมายเลื่อนไป อยา่ ง “ นกั ข่าวหวั เห็ด ” กไ็ ม่ไดม้ ีความหมายวา่ นกั ข่าวที่มีนิสัย ด้ือร้ัน ยึดถือความเห็นตวั เองไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีความหมาย วา่ นกั ข่าวที่มุ่งทางานตามอุตมคติ ไม่ย่อทอ้ ต่ออุปสรรคใด ๆ สานวนน้ีไม่ไดใ้ ช้เฉพาะนักข่าว อาชีพอ่ืน ๆ ก็เห็นใช้กันอยู่ เช่น “ ตารวจหวั เห็ด ” เป็นตน้ “ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 188
รู้จักกับกลุ่มดำวยูไรอัน กลุ่มดาวยไู รอนั (องั กฤษ: EURion constellation) มีอีกชื่อที่เป็ นที่รู้จกั กนั คือ Omon rigns หรือ Doughnuts มนั เป็นลวดลาย \"สัญลกั ษณ์วงกลม\" ท่ีพิมพล์ งไปบนตวั ธนบตั ร ถูกคิดคน้ และเริ่มใช้ อยา่ งแพร่หลายในหลากหลายประเทศ ต้งั แตป่ ี 1996 เจา้ ลวดลายวงกลม EURion constellation น้ีจะทาหนา้ ท่ี บอกใหเ้ ครื่องพรินเตอร์, เครื่องถ่ายเอกสาร หรือซอฟตแ์ วร์แกไ้ ขรูปภาพกราฟิ กรับรู้วา่ งานที่กาลงั ทาอยนู่ ้นั เป็ นธนบตั ร จากน้นั มนั ก็จะหยุดทางานทนั ที เพื่อลดโอกาสการทาธนบตั รปลอม เครื่องสแกนเนอร์, เครื่อง ถ่ายเอกสารในปัจจุบนั จะมีการซอฟตแ์ วร์ตรวจจบั EURion constellation อยใู่ นเฟิ ร์มแวร์เคร่ืองเลย ดงั น้นั จึงไม่ตอ้ งแปลกใจหากเราพยายามสแกน หรือถ่ายเอกสารแลว้ พบว่ามีความผิดปกติเกิดข้ึนกบั ไฟล์ภาพท่ี ได้มา ภาพธนบตั รอาจจะแหว่งไปมาแค่บางส่วน หรือไม่ก็เหมือนมีแถบสีปิ ดทบั ท้งั หมดน้ีเกิดข้ึนเพ่ือ ป้ องกนั การผลิตธนบตั รปลอมนนั่ เอง วธิ ีกำรเลอื กขนำดของถุงยำงอนำมัย ปกติถุงยางในไทยจะมีขนาดตา่ ง ๆ แลว้ แต่ยหี่ อ้ ดงั น้ี เช่น ดูเร็กซ์ อาจจะ มีต้งั แต่ 49 ,52 ,52.5, 53 ,54 และ 56 มม ส่วนยหี่ อ้ อ่ืนๆ อาจจะมีแค่ 49 ,52 ,54 และ 56 ซ่ึงจริง ๆ วดั จากเส้นรอบวงนะครับ ไมใ่ ช่ความยาว และกไ็ ม่ใช่ เอามาหารสองเป็ นค่า 49 หรือ 52 ดว้ ยครับ ซ่ึงวธิ ีที่ บางคนวดั ถุงยางจากความยาวน้นั คือผดิ เพราะ ถุงยางเกือบทุกยห่ี อ้ จะทาความยาวมาเกือบเทา่ ๆ กนั ครับ คือทามายาวมาตรฐาน 6-7 นิ้ว แต่มนั จะต่างกนั ท่ีเส้นรอบวง โดยถา้ เอาเป๊ ะจะตอ้ งวดั รอบวง โดย การใชส้ ายวดั พนั ตรงกลางลากระชบั ๆ ไมต่ อ้ งหลอกตวั เอง ใหห้ น่วยเป็น mm ,cm หรือ นิ้ว จากสายวดั เทา่ น้นั โดยตวั เลขในตารางดา้ นล่างเป็นตวั เลขประมาณการท่ีใชไ้ ดจ้ ริงครับ ไซส์ถุงยาง(ม.) รองรับขนาด ความใหญ่ของรอบวง (ซม.) ขนาดความใหญข่ องรอบวง (นิ้ว) 49 มม. สาหรับรอบวง 11-12ซม.หรือใหญป่ ระมาณ 4.5 นิ้ว เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 189
52 มม. สาหรับรอบวง 12-13ซม.หรือใหญ่ประมาณ 5 นิ้ว 54 มม. สาหรับรอบวง 13-14ซม.หรือใหญ่ประมาณ 5.5 นิ้ว 56 มม. สาหรับรอบวง 14-15ซม.หรือใหญป่ ระมาณ 6 นิ้ว ข้ึนไป สรุปวธิ ีวดั ถุงยางง่ายสุดนะครับ ใหว้ ดั รอบวงเป็นเซนต์ ไดเ้ ท่าไหร่ก็เขา้ ตารางตามน้นั แหละ หรือซ้ือมาเลย 3 size 49,52,54 ลองสามอนั อนั ใส่สบายไมห่ ลวมไป ไมร่ ัดไป กอ็ นั น้นั แหละครับ ลงทุนคร้ังเดียว จาไวใ้ ชไ้ ด้ ตลอดชีวติ และจากสถิติ ถุงยางไซส์ท่ีขายดีสุดในเมืองไทยคือ 52 นะครับ รองลงมาคือ 49 ซ่ึงแค่สองไซส์น้ี กก็ ินส่วนแบง่ การตลาดเกือบ 80 เปอรเซนตแ์ ลว้ ครับ ส่วน 54 กบั 56 กม็ ีแต่นอ้ ยมากครับ ไมต่ อ้ งนอ้ ยใจไป เนน้ ใชง้ านแบบปลอดภยั กบั คนที่เรารักก็พอครับ รู้จักคำฮิตตดิ เทรนต์ หวดั ดีเบลล์คืออะไร #หวดั ดีเบล 1- เร่ืองน้ีมีท่ีมาจากเอม็ วเี พลง \"ถา้ เธอรักฉนั จริง\" ของวง Three Man Down ซ่ึงเริ่มตน้ ฉากแรกดว้ ยขอ้ ความวา่ \"หวดั ดีเบล\" 2- จากน้นั เอม็ วีเล่าเรื่องราวความสัมพนั ธ์ของเพือ่ น 3 คน ท่ีตอ้ งอยใู่ นเฟรนดโ์ ซนและเป็นรักสามเส้า กระทง่ั 1 ใน 3 มาจากไปชว่ั นิรันดร์ 3- ต่อมามีแฟนเพลงคนหน่ึงทกั ไปหา \"กิต\" นกั ร้องนา Three Man Down เล่าวา่ เธออยากทกั ไปหาคนที่ชอบ ใหเ้ ขาช่วยคิดหน่อยวา่ จะทกั ยงั ไงดี กิตกแ็ นะนาใหท้ กั ไปวา่ \"หวดั ดีเบล\" 4- แลว้ กิตกข็ ยายความวา่ เมื่อเราทกั ไปแลว้ เขาอาจจะงง และตอบกลบั ประมาณวา่ \"เบลอะไรของมึงวะ\" หรือ \"กไู ม่ไดช้ ื่อเบล\" ใหเ้ รารีบบอกเขาไปวา่ Three Man Down บอกวา่ ถา้ ชอบใครแลว้ อยากคุยดว้ ยใหบ้ อก วา่ ‘หวดั ดีเบล’ 5- ถา้ เขาตอบกลบั มาวา่ \"หวดั ดีเบล\" เช่นกนั แสดงวา่ เขากช็ อบเรา อยากคุยกบั เรา แต่ถา้ เขาหายไปหรือไม่ ตอบก็จงทาใจ 6- คราวน้ีหลายคนเลยเอา \"หวดั ดีเบล\" ไปใชท้ กั คนที่ชอบกนั เพียบ แลว้ เอามาแชร์ในทวติ เตอร์ ซ่ึงแต่ละคน กไ็ ดผ้ ลลพั ธ์ต่าง ๆ กนั ไป บางคนไดห้ วดั ดีเบลกลบั มา บางคนโดนด่า บางคนเขาบอกวา่ กมู ีผวั แลว้ ฯลฯ 7- ซ่ึงท้งั หมดน้ีกท็ าใหแ้ ฮชแทก็ #หวดั ดีเบล ติดเทรนดท์ วติ เตอร์ ใหอ้ ารมณ์ท้งั เขิน ท้งั ขา ท้งั ฮากนั ไป จน ตอนน้ียอดทวิตทะลุแสนเรียบร้อยแลว้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 190
รู้จักกบั ยพุ นิ จำกเพลงหนุ่มนำข้ำวสำนำเกลอื โดยบทเพลง \"หนุ่มนาขา้ ว สาวนาเกลือ\" น้นั เขียนเน้ือและขบั ร้องโดย \"สรเพชร ภิญโญ\" คู่กบั \"นอ้ งนุช ดวงชีวนั \" ซ่ึงที่มาของเพลง น้นั ก็ตอ้ งบอกว่าเป็ นอะไรที่ใครไม่คาดคิดมาก่อน \"สรเพชร ภิญโญ\" เป็ นนามปากกาท่ีใช้ในการเขียนเพลงและขบั ร้องเพลงของหนุ่มโคราช \"เสมอ จนั ดา\" (24 ก.ค. 2493) ดว้ ยความที่เป็ นคนรักในเสียงเพลง หลงั เรียนจบช้นั ประถมปี ที่ 4 เจา้ ตวั ก็ไปสมคั รเป็ นนกั ร้องตามคณะต่างๆ ทว่าก็ไม่มีใครสนใจ กระทง่ั มีโอกาสไดพ้ บกบั \"สวาท ศรีอุดร\" นกั จดั รายการวิทยุ \"ดอนเจดีย\"์ เขาจึงได้เข้าไปเป็ นนักร้องก่อนข้ึนไปเป็ น หวั หนา้ วงดนตรีลูกทุ่งช่ือ \"คณะดอนเจดีย\"์ หลงั เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไดพ้ กั หน่ึงประกอบกบั ความฝันท่ีจะเป็ นนกั แต่งเพลง ต่อมาเจา้ ตวั จึงได้ ออกมาต้งั วงดนตรีในชื่อ “สรเพชร ภิญโญ” ในปี 2528 ระหวา่ งน้นั เองเขาก็ไดแ้ ต่งเพลงต่างๆ ไปดว้ ย หน่ึง ในน้นั ก็คือเพลงท่ีมีชื่อวา่ \"หนุ่มนาขา้ ว สาวนาเกลือ\" นน่ั เอง อยา่ งไรก็ตาม หลงั พยายามขายเพลงดงั กล่าว ให้กบั ค่ายเพลงต่างๆ เพ่ือใหค้ ่ายเพลงนาไปให้นกั ร้องในสังกดั ของตนเองร้องอยนู่ าน ทวา่ ก็ไม่มีค่ายเพลง ใดๆ ใหค้ วามสนใจเพลงน้ีเลย จนเจา้ ตวั ตดั สินใจทาเดโมเพลงน้ีข้ึนมาโดยร้องคู่กบั \"นอ้ งนุช ดวงชีวนั \" เพ่ือ ไปเสนอขายอีก แต่ก็ไม่ไดร้ ับความสนใจเช่นเดิม แต่แลว้ ดวงคนจะดงั อะไรก็ฉุดไม่อยู่ เม่ือนายหา้ งสุชยั วงศ์ ดาเนินสะดวก เจา้ ของ บริษทั จรเขโ้ ปรโมชนั่ ทนความราคาญไม่ใหวจึงซ้ือมาสเตอร์เพลงเอาไว้ โดยไม่คิด วา่ จะเอามาใหใ้ ครร้องและออกเทป ทวา่ ในช่วงเวลาดงั กล่าวเป็นจงั หวะท่ีค่ายเพลงไม่มีนกั ร้องคนไหนมีงาน ใหม่ๆ เลย ทาให้นายห้างสุชัยตดั สินใจนาเอาเดโมดังกล่าวมาบนั ทึกเสียงและวางขายแบบขัดตาทพั กลายเป็ นวา่ บทเพลง \"หนุ่มนาขา้ ว สาวนาเกลือ\" ไดร้ ับความนิยมเป็ นอย่างมากจนสร้างประวตั ิศาสตร์ขาย เทปไดเ้ ป็นลา้ นตลบั และแน่นอนมนั ยงั ส่งใหช้ ื่อเสียงของ \"สรเพชร ภิญโญ\" กบั \"นอ้ งนุช ดวงชีวนั \" โด่งดงั เป็นพลุแตกเพลงดงั ขา้ มปี ก่อนจะมีผลงานตามมาอีกมากมาย อาทิ เช่น ผวั เมียพอๆ กนั , ทุยอดหญา้ ขา้ อดขา้ ว , ตามหาศนั สนีย์ , แบ่งลูกคนละคร่ึง, หนุ่มโคราชขาดรัก ฯลฯ นอกจากในฐานะนกั ร้องแลว้ \"สรเพชร ภิญโญ\" ยงั ดช้ ื่อวา่ เป็นครูเพลงท่ีสร้างสรรคง์ านใหก้ บั ศิลปิ นลูกทุ่งหลายตอ่ หลายคนไม่วา่ จะเป็ น พิมพา พรศิ ริ, จินตรา พูนลาภ, ย่งิ ยง ยอดบวั งาม เป็ นตน้ ช่วงท่ีผา่ นมาทางดา้ นของนกั ร้องลูกทุ่งดงั ในอดีตยงั คงรับงาน ร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง กระทงั่ เม่ือสองปี ที่ผา่ นมาเจา้ ตวั ไดเ้ กิดลม้ ป่ วยกะทนั หนั จากอาการสมองขาดเลือด ทาให้เกิดภาวะปากเบ้ียว แขนขาชาอ่อนแรง ปัจจุบนั \"สรเพชร ภิญโญ\" ในวยั 70 ปี อาศยั อยกู่ บั ภรรยาท่ี จ. ขอนแก่น และถึงแมร้ ่างกายจะไม่เต็มร้อยทว่าเจา้ ตวั ก็ยงั คงรับงานร้องเพลงอยเู่ ท่าท่ีจะทาไหว และแน่นอน เพลงที่เจา้ ตวั จะไม่พลาดในยามที่ออกงานกค็ ือ \"หนุ่มนาขา้ ว สาวนาเกลือ\" เพลงน้ีนนั่ เอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 191
วนั แห่งกำรปฏิวตั ิของประเทศโรมำเนีย ทว่ั โลกในวนั ที่ 25 ธนั วาคม เป็ นวนั ฉลองวนั แห่งความสุข แต่สาหรับ ในประเทศโรมาเนียในวันน้ีเป็ นวนั ฉลองวัน แห่ง อิสรภาพ อิสรภาพท่ีแลกด้วยเลือดและเน้ือของชาว โรมาเนีย จากการปลดแกคอมมิวนิสต์ นับต้ังแต่สิ้น สงครามโลกคร้ังที่ 2 ในปี 1944 โรมาเนียกลายเป็ น ป ร ะ เ ท ศ ที่ ป ก ค ร อ ง ด้ว ย ร ะ บ อ บ ค อ ม มิ ว นิ ส ต์ อ ย่ า ง เข้มงวด โดยการนาของทรราชเชาเชสคู และหน่วย ตารวจลับซิกูริตาเต้ คุณภาพชีวิตของประชากรย่าแย่ อย่างถึงขีดสุด แต่เมื่อฟ้ าในยุโรปตะวนั ออกเปล่ียนสีด้วยนโยบายกราสนอต และเปเรสทรอยกา้ ทาให การเมืองในประเทศยโุ รปตะวนั นออกเปล่ียนไป การลม้ ระบอบคอมมิวนิสตเ์ กิดข้ึนทวั่ ยโุ รปตะวนั ออก จาก โปแลนด์ สู่ฮงั การ่ี เยอรมนั ตะวนั ออก และมาถึงโรมาเนียในเดือนธนั วาคม 1989 โดยเริ่มจากการประทว้ งท่ี เมืองทิมิสซัวร่า อนั เกิดจากการท่ีหน่วยซิกูริตาเตเ้ ขา้ จบั บาทหลวงชาวโรมาเนียเช้ือสายฮงั การ่ี ที่ไดร้ ับการ เคารพอยา่ งสูง จากการขอให้ทางการปล่อยบาทหลวงกลายเป็ นการเรียกร้องเสรีภาพ ซ่ึงลุกลามดุจไฟไหม้ ฟาง จาก ทิมิส ไปยงั บราซอฟ คอนสแตนตา้ บูคาเรสต์ และลามไปทว่ั ประเทศอยา่ งรวดเร็ว เชาเชสคูตกใจ กบั การลุกฮือของประชาชนคร้ังน้ีเป็นอยา่ งยงิ่ และไดส้ ัง่ ให้ หน่วยซิกูริตาเต้ และกองทพั เขา้ ปราบปรามอยา่ ง รุนแรง แต่กองทพั โรมาเนียเปล่ียนใจเขา้ ขา้ งประชาชน แลว้ เขา้ ต่อสู้กบั หน่วยซิกูริตาเต้ อยา่ งดุเดือด ทาให้ ประชาชนชาวโรมาเนียเสียชีวิตหลายพนั ศพ การต่อสู้ยาวนานนบั อาทิตย์ จนกระทง่ั สิ้นสุดลงดว้ ยการท่ีเชา เชสคู และครอบครัวหลบหนีออกจากกรุงบูคาเรสต์ แต่ก็ถูกจบั ไดแ้ ละถูกประหารชีวิตท้งั นิโคไล และอีเลีย น่า เชาเชสคู ผเู้ ป็นภรรยา สิ้นสุดการปกครองดว้ ยระบอบคอมมิวนิสต์ อนั ทารุณที่ต่อเน่ืองยาวนานกวา่ 50 ปี ในโรมาเนียลง ในวนั น้นั ผมยงั เด็กมากแต่เห็นการต่อสู้ของพวกคุณในวนั น้นั ทา ให้ผมรักพวกคุณอยา่ งสุด หวั ใจ ขอบคุณท่ีคุณสู้เพื่ออิสรภาพ ขอบคุณท่ีพวกคุณแสดงใหเ้ ห็นถึงความรักชาติ สาหรับผมแลว้ วนั ท่ี 25 ธนั วาคม จะไม่ใช่วนั คริสตม์ าสแตจ่ ะเป็นวนั ฉลองอิสรภาพ ของชาวโรมาเนีย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 192
ทำไมประเทศสหรัฐอเมริกำถึงเรียกฟุตบอลว่ำซอค เกอร์ คาว่าซอคเกอร์เกิดข้ึนในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1800 กีฬาเตะบอลดว้ ยเทา้ (และใชม้ ือบา้ ง)เป็ นที่นิยม ในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลยั ต่างๆ ขององั กฤษเป็ น จานวนมาก แต่ละมหาวทิ ยาลยั ก็มีกฎกติกาของตวั เอง ซ่ึงต่างไปจากมหาวิทยาลัยอ่ืนๆ วนั หน่ึงนักศึกษา มหาวิทยาลยั เหล่าน้ีเกิดอยากจะแข่งฟุตบอลระหวา่ ง กนั ข้ึนมา แตถ่ า้ กติกาของมหาวทิ ยาลยั แตล่ ะแห่งไม่เหมือนกนั ก็คงแข่งกนั ยาก นกั ศึกษาเหล่าน้ีจึงรวมตวั กนั เป็ นสมาคมฟุตบอล หรือ Football Association ข้ึนแลว้ เรียกกีฬาฟุตบอลแบบท่ีตกลงร่วมกนั น้ีวา่ ฟุตบอล แบบ \"Association Football” แต่ก็อยา่ งที่รู้ๆ กนั ทว่ั ไปนะครับ เด็กวยั รุ่นทวั่ โลกทุกยคุ ทุกสมยั จะตอ้ งมีภาษา เป็ นของตวั เอง จะเรียกแบบธรรมดาๆ มนั ก็ไม่ฮิป จึงตอ้ งเรียกฟุตบอลแบบมาตรฐานน้ีในช่ือยอ่ ๆ วา่ แอซ ซ็อค assoc ซ่ึงยอ่ มาจาก association อารมณ์คลา้ ยๆ กบั การยอ่ ไดเ้ ป็ นด้ยั แฟนดอ้ มเป็ นดอ้ ม ตวั เองเป็ นเตง) แต่แค่น้นั ไม่พอ เรียก assoc เด๋ียวใครๆ ก็ฟังออกบวกกบั วยั รุ่นองั กฤษยุคน้นั ชอบเติมคาวา่ เออ้ หรือ อา้ เขา้ ไปหลงั คาเพราะเช่ือวา่ มนั จะทาใหด้ ูเท่ เช่น rugby football ก็เรียกเป็ น rugger ดงั น้นั assoc จึงถูกเรียกเป็ น socca บา้ ง socker บา้ ง หรือไม่ก็ soccer สุดทา้ ยเมื่อใชไ้ ปนานๆ เด็กวยั รุ่นเหล่าน้ีอายมุ ากข้ึนกลายเป็ นผหู้ ลกั ผใู้ หญ่ คาว่า soccer ท่ีต้งั ข้ึนมาฮิปๆ จึงกลายเป็ นคามาตรฐานท่ีใช้กนั (แบบไม่เหลือความฮิป)ไป ในช่วง แรกๆ น้นั กีฬา soccer แบบมาตรฐานนิยมเล่นกนั เฉพาะในหม่ไู ฮโซ ซ่ึงกค็ ือคนที่มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลยั ต่อมาเมื่อกีฬาน้ีแพร่หลายไปยงั คนระดบั ล่างหรือชนช้นั แรงงานมากข้ึน ฟุตบอลกติกาใหม่น้ีก็ถูกเรียกในหมู่ ชนช้นั แรงงานตรงๆวา่ football ดงั น้นั ในช่วงเวลาท่ีวา่ น้ีคนองั กฤษจึงสามารถใชค้ าวา่ soccer และ football แทนกนั ไปมาไดโ้ ดยไมร่ ู้สึกวา่ คาไหนเป็นคาท่ีถูกตอ้ ง ตอ่ มาเมื่อกีฬาน้ีแพร่หลายไปทวั่ โลก ช่ือที่ไดร้ ับความ นิยมมากกวา่ ก็คือ football ส่วนสาเหตุก็พอจะเดาไดไ้ ม่ยาก คือชื่อมนั ตรงตวั เล่นดว้ ยเทา้ ก็ควรจะชื่อ football ส่วนคาวา่ soccer คืออะไร มาจากไหน แปลวา่ อะไร? ไม่มีใครรู้ (พูดง่ายๆ คือคนชาติอื่นๆ ไม่เก็ตมุก ซ็อค เกอ้ ซอ้ คกา้ อะไรดว้ ย) แต่ท่ีอเมริกามีเหตุผลที่แตกต่างไปครับ เพราะเม่ือกีฬาฟุตบอลท่ีเล่นดว้ ยเทา้ เดินทาง ไปถึงประเทศอเมริกาน้นั ชาวอเมริกนั มีกีฬาที่คลง่ั ไคลช้ ื่อฟุตบอลเล่นกนั อยกู่ ่อนแลว้ กีฬาใหม่ท่ีช่ือซ้ากนั จึง เกิดยาก สุดทา้ ยกีฬาที่ใชเ้ ทา้ เตะบอลจึงตอ้ งไปใชอ้ ีกชื่อหน่ึงที่เป็ นทางเลือกและชาวองั กฤษก็ใชเ้ รียกอยแู่ ลว้ นนั่ กค็ ือ soccer นน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 193
ผมหงอกยิ่งถอนย่ิงหงอกจริงหรือ เส้นผมของคนเรา น้นั ประกอบไปดว้ ย เส้นผม เซลล์สร้างเน้ือผม เซลล์ สร้างเมด็ สี ซ่ึงจะคอยทาหนา้ ที่ป้ อนเม็ดสีเขา้ ไปในเน้ือผม ทาให้เส้นผมไม่เกิดสี ขาว เนื่องจากสาเหตุท่ีผมมีสีขาวหรือที่เรียกกนั วา่ ผมหงอก น้นั ในทางการแพทยใ์ ห้คาอธิบาย กบั เร่ืองน้ีว่า เกิดจากเม็ดสีเมลานินของเส้น ผม ทางานลดลง หรือหยุดทางาน จึงทาให้ ผมเป็ นสีขาว หยาบ และดูไม่เป็ นประกาย สาเหตุเกิดข้ึนจากกรรมพนั ธุ์ รวมถึงความเครียด การด่ืมเหลา้ และการสูบบุหรี่น้นั ทาให้ผมหงอกไวข้ึนดว้ ย นอกจากน้ีสาเหตุของผมหงอก ก็สามารถเกิดจากโรคบางโรคได้ เช่น ผมร่วงเป็ นหย่อม หรือโรคด่างขาว โรคท่ีมีความเก่ียวขอ้ งกบั ระบบภูมิคุม้ กนั ต่อร่างกาย โรคเร้ือรังที่ส่งผลทาใหเ้ กิดความเครียดต่อร่างกาย ส่วน ผมหงอกท่ีกลบั มาดาไดน้ ้นั เป็ นผมหงอกท่ีเกิดจากโรคภายในร่างกาย ถา้ รักษาโรคหายแลว้ ผมก็จะกลบั มา ดาได้ โรคที่ทาใหเ้ กิดผมหงอก ไดแ้ ก่ โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง โรคต่อมไทรอยด์ โรคด่างขาว รวมท้งั การบาดเจบ็ และโรคของระบบประสาท ผมร่วงเป็ นหยอ่ ม การลม้ ป่ วยบางอยา่ ง เช่น โรคมาลาเรีย และโรค ไขห้ วดั ใหญ่ ส่วนอายทุ ่ีเริ่มมีผมหงอกข้ึนอยกู่ บั กรรมพนั ธุ์ ในชาวตา่ งชาติท่ีมีผวิ ขาว ผมจะเริ่มหงอกคร้ังแรก ต้งั แต่อายุ 24-44 ปี ในคนผวิ สีจะเร่ิมหงอกเม่ืออายุ 34-54 ปี ส่วนชาวเอเชีย จะเริ่มมีผมหงอกต้งั แต่อายุ 30-40 ปี ผมท่ีเริ่มหงอกตามวยั น้ีไม่สามารถกลบั มาดาไดอ้ ีก ส่วนผมท่ีหงอกก่อนวยั จะเริ่มหงอกก่อนอายุ 20 ปี ใน คนผวิ ดา ส่วนคนเอเชียผมจะเร่ิมหงอกก่อนอายุ 30 ปี ซ่ึงเป็ นเร่ืองตามธรรมชาติ ส่วนประเด็นท่ีวา่ ยิง่ ถอน ผมหงอก ผมหงอกก็จะยิ่งข้ึนน้นั อธิบายไดว้ ่า “ไม่เป็ นความจริง” เพราะการขาดสารอาหารบางตวั เช่น วติ ามินบี 12 อาจทาให้มีผมหงอกได้ ในบางกรณีความเครียดอาจทาให้ผมหงอกไดเ้ ช่นกนั ซ่ึงบางคนเช่ือวา่ ความเครียดทาใหร้ ่างกายขาดวติ ามินบี ถา้ กินวติ ามินบีขนาดสูง อาจทาให้ผมหงอกกลบั ดาได้ การกินยาบาง ตวั เช่น คลอโรควิน อาจทาให้คนท่ีมีผมสีอ่อนหรือผมน้าตาลแดงกลายเป็ นสีขาวได้ดว้ ยเช่นกนั ท้งั น้ีผม หงอก ไม่สามารถรักษาได้ ทาไดเ้ พียงเล็มออกหรือยอ้ มสีผมเพ่ือปกปิ ดผมหงอกเทา่ น้นั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 194
รีดผ้ำให้เรียบ ทำไมต้องพรมนำ้ การรีดผา้ เป็ นงานบา้ นอีกอยา่ งหน่ึงท่ีตอ้ งใชฝ้ ี มือและเวลา เพราะกวา่ ผา้ ยบั ๆ จะเรียบกริบน่าสวมใส่น้นั เราตอ้ งทบั เตารีดซ้าแลว้ ซ้าอีก แต่ เรากม็ ีเทคนิครีดผา้ เรียบ นนั่ คือ การพรมน้าหรือน้ายารีดผา้ เรียบ ซ่ึงช่วยให้ผา้ เรียบง่ายข้ึน แลว้ ทาไมการพรมน้าก่อนรีดผา้ จึงทา ใหผ้ า้ เรียบไดง้ ่ายกวา่ การไม่พรมน้า เส้ือผา้ โดยทว่ั ไปท่ีทามาจาก พืช จะมาจากเซลลูโลส (C6H10O5)n ของพืช ซ่ึงเป็ น สารประกอบอินทรียโ์ ดยประกอบดว้ ยโมเลกลุ ของกลูโคสหลายพนั โมเลกุลมาต่อเขา้ ดว้ ยกนั เป็ นสายโซ่ยาว โดยแต่ละหน่วยยอ่ ยของกลูโคสจะสร้างพนั ธะไฮโดรเจนระหวา่ งกนั จนเป็ นโครงข่ายท่ีแข็งแรง ทาใหผ้ า้ มี ความเหนียวและแข็งแรงได้ อยา่ งไรก็ตาม พนั ธะไฮโดรเจนน้นั เป็ นพนั ธะท่ีไม่แข็งแรงนัก เมื่อเทียบกบั พนั ธะเคมีอ่ืน ๆ ดงั น้นั เพียงแค่เรานาเส้ือผา้ ที่ตอ้ งการจะรีดมากองรวมกนั ก่อนจะกางโตะ๊ รองรีดผา้ และเร่ิม ลงมือรีดผา้ อยา่ งจริงจงั พนั ธะไฮโดรเจนดงั กล่าวจะถูกทาลาย และพวกมนั ก็จะสร้างพนั ธะข้ึนมาใหม่ทนั ที แตพ่ นั ธะใหม่ท่ีสร้างข้ึนมาน้ีกลบั ทาใหเ้ กิดร่องรอยยบั ท่ีเพ่ิมข้ึนบนเส้ือผา้ หากเราใชเ้ ตารีดทบั ลงไปบนรอย ยบั ของเส้ือผา้ จะพบวา่ กวา่ ท่ีพวกมนั จะเรียบน้นั เราก็ตอ้ งทบั รอยยบั ซ้า ๆ กนั อยู่หลายคร้ังทีเดียว เพราะมี เพียงพลงั งานความร้อนจากเตารีดเท่าน้นั ที่เราใช้ทาลายพนั ธะไฮโดรเจน ขณะที่การพรมน้าลงไปบนผา้ เล็กนอ้ ย จะช่วยให้ผา้ เรียบง่ายข้ึน เน่ืองจากโมเลกุลของน้าจะแทรกเขา้ ไประหวา่ งโมเลกุลของเซลลูโลส ประกอบกบั ความร้อนจากเตารีด จึงช่วยทาลายพนั ธะไฮโดรเจนได้ง่ายข้ึน ทาให้โมเลกุลของเซลลูโลส สามารถเลื่อนไปมาได้ จากน้นั เซลลูโลสจะสร้างพนั ธะไฮโดรเจนข้ึนมาใหม่พร้อมกบั การถูกกดทบั จากเตา รีด จึงทาใหผ้ า้ เรียบนนั่ เอง นอกจากน้ีวทิ ยาศาสตร์ยงั มีวธิ ีการที่จะช่วยใหผ้ า้ เรียบและแขง็ โดยไม่ตอ้ งรีดอยา่ ง การลงแป้ ง เนื่องจากแป้ งน้นั มีกิ่งของโพลีเมอร์อยู่ ซ่ึงเมื่อรวมกบั เซลลูโลสแลว้ จะจบั โมเลกุลของเซลลูโลส ท้งั หมดไว้ ทาใหผ้ า้ อยทู่ รงมากข้ึน รวมถึงวิธีการพิเศษในกระบวนการผลิตผา้ ก็ช่วยลดปัญหาผา้ ยบั หลงั การ ซกั ไดด้ ว้ ย โดยการเติมสารประกอบอินทรียฟ์ อร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde, CH2O) ลงไปในกระบวนการ ผลิต เพื่อสร้างพนั ธะเช่ือมระหวา่ งงสายโซ่โมเลกุล ซ่ึงจะทาใหโ้ มเลกลุ ยดึ กนั ไดแ้ ขง็ แรงข้ึน ประวตั ิพระเจ้ำอชำตศัตรู พระเจา้ อชาตศตั รู เป็ นพระราชบุตรของพระเจา้ พิมพิสาร และพระนางเวเทหิ เมื่อ คร้ังท่ียงั อยู่ในพระครรภ์ พระนางเวเทหิทรงแพท้ อ้ ง อยากเสวยพระโลหิตของพระสวามีและพระเจา้ พิม พสิ ารยนิ ยอม โหราจารยท์ านายวา่ ราชกุมารในครรภจ์ ะทาการปิ ตุฆาต (ฆ่าพอ่ ) พระนางเวเทหิจึงพยายามทา แทง้ หลายคร้ังแต่ไม่สาเร็จ พระเจา้ พิมพิสารเม่ือทรงทราบก็ทรงหา้ ม พอประสูติมีพระนามว่า “อชาตศตั รู” (แปลวา่ ผทู้ ี่ไม่เป็นศตั รู) ในวยั เยาว์ ทรงเล้ียงดูพระโอรสเป็นอยา่ งดี และทรงสถาปนาเป็ นมกุฎราชกุมาร เมื่อ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 195
เขา้ วยั รุ่นทรงมีสติปัญญาเฉียบแหลม แต่ก็ไดร้ ู้จกั กบั พระเทวทตั ท่ีกาลงั จะ แ ส ว ง ห า ผู้ที่ จ ะ ม า ช่ ว ย ต น ป ล ง พ ร ะ ชนม์ พระบรมศาสดา ซ่ึงต้องการ ได้รับความสนับสนุนจากผูม้ ีอานาจ ทางบา้ นเมือง พระเจ้าอชาตศตั รูเกิด ความศรัทธาในพระเทวทตั ถูกเส้ียม สอนวา่ ชีวิตคนเราน้นั ไม่เท่ียงไม่แน่ว่าจะไดค้ รองราชยส์ มบตั ิ จึงควรปลงพระชนม์พระเจา้ พิมพิสารเสีย แลว้ ข้ึนครองราชยแ์ ทน พระเจา้ อชาตศตั รูหลงเชื่อ แต่ถูกองครักษจ์ บั ไดว้ า่ อชาตศตั รูราชกุมารกาลงั จะลอบ ปลงพระชนม์พระเจา้ พิมพิสาร จึงไดน้ าตวั พระราชกุมารไปให้เหล่าเสนาอามาตยต์ ดั สินลงโทษ เมื่อพระ เจา้ พิมพิสารทรงทราบวา่ พระราชโอรสตอ้ งการราชสมบตั ิ จึงทรงสละราชสมบตั ิมอบใหแ้ ก่อชาตศตั รูราช กุมาร แต่พระเทวทตั ก็ยงั ยุยงพระเจา้ อชาตศตั รูอีกวา่ แมพ้ ระเจา้ พิมพิสารจะทรงสละราชสมบตั ิมอบให้แก่ พระองค์ พระเจา้ พิมพิสารอาจจะมาแยง่ ชิงตาแหน่งคืนก็เป็ นไปได้ ทาให้พระองคห์ ลงเชื่อจึงมีรับส่ังให้จบั พระเจา้ พิมพิสารไปจองจาขงั ในคุก พระเจา้ อชาตศตั รูตรัสทาตามคาแนะนาของพระเทวทตั ตรัสสั่งใหง้ ด อาหาร เมื่อพระมารดาแอบซ่อนอาหารเขา้ เย่ียมดว้ ยวธิ ีต่างๆ ซ่อนในชายพกผา้ บา้ ง มวยผมบา้ ง ฉลองพระ บาทบา้ ง กระทงั่ ทาพระวรกายดว้ ยอาหารแลว้ ให้พระสวามีเลียพระวรกายประทงั ชีวติ ท่ีสุดพระราชกุมารก็ ทรงสั่งหา้ มเด็ดขาดไมใ่ หพ้ ระราชมารดาเขา้ เยย่ี ม นบั แต่น้นั มา พระเจา้ พมิ พิสารไม่มีพระกระยาหารเสวย แต่ พระองคก์ ด็ ารงพระชนมช์ ีพอยไู่ ดด้ ว้ ยความสุขในมรรคผลท่ีพระองคท์ า่ นบรรลุ แลว้ ดว้ ยวธิ ีเดินจงกรม ทรง มีพระวรกายเปล่งปลง่ั พระราชกุมารทรงทราบแลว้ ตรัสใหช้ ่างผมใชม้ ีดโกนกรีดพระบาทของพระราชบิดา ท้งั สองขา้ ง แลว้ เอาน้ามนั ผสมเกลือทาและใชค้ วามร้อนจากถ่านไมต้ ะเคียนยา่ งพระบาทเพ่ือมิให้เดินจงกลม ได้ (ในอดีตพระราชาพมิ พิสารน้ีเคยใส่ฉลองพระบาทเขา้ ไปในลานพระเจดีย์ และเอาเทา้ สกปรกเหยียบเสื่อ ที่เขาจดั ไวส้ าหรับนง่ั จึงทรงเสวยผลของกรรมน้นั ) พระเจา้ พิมพิสารทรงเสวยทุกขเวทนาอยา่ งแรงกลา้ แต่ก็ ทรงระลึกถึงพระรัตนตรัยอยู่ แลว้ ทรงมีพระชนมอ์ ยไู่ ดอ้ ีก 2-3 วนั ก็เสด็จสวรรคต ไปบงั เกิดเป็ นยกั ษช์ ื่อ ชน วสภะ ในสวรรคช์ ้นั จาตุมหาราชิกา ในวนั ท่ีทรงสวรรคตนนั่ เอง พระมเหสีของพระเจา้ อชาตศตั รูก็ประสูติ พระโอรส พระเจา้ อชาตศตั รูเกิดความรู้สึกรักลูกท่วมทน้ ทว่ั พระวรกาย ทรงรู้ซ้ึงถึงคุณของพระราชบิดา ตรัส ใหร้ ีบไปปล่อยตวั พระเจา้ พมิ พสิ าร เม่ือทราบวา่ พระราชบิดาสวรรคตแลว้ จึงทรงกนั แสงเสด็จไปเขา้ เฝ้ าพระ ราชมารดา รับสั่งถามวา่ สมยั ท่ีขา้ พระองคป์ ระสูติ พระบิดารักขา้ พระองคไ์ หม? พระราชมารดาตรัสตอบวา่ เจา้ ลูกโง่ เจา้ พดู อะไร ยามเจา้ ยงั เล็กอยู่ เกิดฝีที่นิ้วมือ เสดจ็ พอ่ ยงั เคยดูดฝี แตกออกดว้ ยพระโอษฐ์ และยงั กลืน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 196
น้าเหลืองน้นั ดว้ ยพระเจา้ อชาตศตั รูทรงกนั แสงอยา่ งหนกั คร่าครวญจดั พิธีถวายพระเพลิงพระศพพระบิดา และมีโอกาสฟังธรรมจากพระพุทธเจา้ แต่ไม่สามารถบรรลุธรรมข้นั สูงไดเ้ พราะการกระทากรรมหนกั คือ ปิ ตุฆาต ดงั ที่พระผมู้ ีพระภาคตรัสกบั ภิกษุท้งั หลายวา่ “ดูกรภิกษุท้งั หลาย พระราชาพระองคน์ ้ีถูกขุดเสียแลว้ พระราชาพระองคน์ ้ีถูกขจดั เสียแลว้ หากทา้ วเธอจกั ไม่ปลงพระชนมช์ ีพพระบิดาผดู้ ารงธรรม เป็ นพระราชา โดยธรรมไซร้ ธรรมจกั ษุ ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน จกั เกิดข้ึนแก่ทา้ วเธอ ณ ที่ประทบั น้ีทีเดียว พระผมู้ ี พระภาคได้ตรัสคาเป็ นไวยากรณ์น้ีแล้ว. ภิกษุเหล่าน้ันช่ืนชมยินดีภาษิตของพระผูม้ ีพระภาคแล้วแล” พระราชาอชาตศตั รูไม่ทรงบรรลุโสดาบนั แตท่ รงบรรทมเป็ นสุข และทรงยกเลิกการบารุงพระเทวทตั พร้อม ท้งั บริวาร ทรงสนบั สนุนพระพุทธเจา้ ต้งั แต่บดั น้นั และทรงกระทากุศลใหญ่ ทรงรับอุปถมั ภก์ ารสังคายนา คร้ังแรก อรรถกถาวา่ พระเจา้ อชาตศตั รูสวรรคตแลว้ เกิดในโลหกุมภีนรก ตกอยเู่ บ้ืองต่า 3 หม่ืนปี (นรก) ถึง พ้ืนเบ้ืองล่างแลว้ ผดุ ข้ึนเบ้ืองบนอีก 3 หมื่นปี นรก เมื่อถึงการตกลงและผุดข้ึนอีกจึงจกั พน้ ได้ และในอนาคต จกั ไดต้ รัสรู้เป็นพระปัจเจกพทุ ธเจา้ ช่ือ ชีวติ วเิ สส ทำไมสัตว์ประเภทมีเปลอื กเช่น ก้งุ ปูเม่ือถูกควำมร้อนแล้วถึง เปลยี่ นเป็ นสีแดง โดย นกั วิจยั พบวา่ สารสี (pigment) ท่ีทาให้ เกิดสีในกงุ้ มีชื่อวา่ แอสตาแซนทิน (astaxanthin) ซ่ึงเป็ นสาร สีประเภทแคโรทีนอยด์ ซ่ึงให้สีแดงสดใส สารแอสตาแซน ทินยงั เป็ นสาเหตุที่ทาให้เกิดสีแดงในพืชและสัตวอ์ ื่นๆ อีก เช่น ส้ม มะเขือเทศ และสีของขนนก เมื่อสารน้ีเขา้ ไปอย่ใู น ตวั กุง้ จะเกาะติดกบั โปรตีนที่ช่ือวา่ ครัสตาไซยานิน (crustacyanin) ถา้ หากกุง้ ถูกตม้ ให้สุก ความร้อนจะทา ใหโ้ ปรตีนคลายตวั ทาใหส้ ารแอสตาแซนทินหลุดออกมาเป็นอิสระ สารสีท่ีเป็นอิสระน้ีจะใหส้ ีแดง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 197
ทำไมนำงรำในวังต้องหน้ำขำว สมยั ก่อนที่ผูห้ ญิงจะเขา้ ถวายตวั ต่อพระมหากษตั ริยจ์ ะตอ้ งทาหน้าขาวก็ เพราะวา่ คนสมยั ก่อนมีความเชื่อวา่ พระมหากษตั ริยเ์ ปรียบดง่ั องคส์ มมติเทพ ซ่ึงก็คือพระนารายณ์ที่อวตารลง มาบนโลกมนุษย์ ดงั น้นั เหล่าสตรีท่ีจะมาเป็ นมเหสี สนม หรือนางใน จึงเปรียบเสมือนนางฟ้ าเทพธิดาต่างๆ บ น ส ร ว ง ส ว ร ร ค์ต า ม ล ง ม า ค อ น ปรนนิบตั ิรับใช้ ซ่ึงเหล่านางฟ้ าเทพธิดา ก็ได้รับการพรรณาว่ามีผิวขาวนวล คิ้ว โก่งดง่ั คนั ศร ผมสีดาขลบั ปากแดงดง่ั สี ชาด ตามความเช่ือจากคมั ภีร์ไตรภูมิพระ ร่วงท่ีมีมาต้งั แต่สมยั สุโขทยั จะเห็นได้ จากภาพจิตรกรรมฝาผนังวดั วาอาราม ต่างๆ เหล่านางฟ้ าจะมีหน้าตาแนว เดียวกนั หมดนน่ั เอง อน่ึงนางราหลวง ก็ ถือเป็ นหญิงสาวชาววงั การแสดงราต่อ หนา้ พระพกั ตร์พระมหากษตั ริย์ จึงตอ้ ง ทาหน้าขาวให้งดงามราวนางฟ้ านาง สวรรค์ส่วน”การแต่งหน้า” ของนางราสมยั ก่อนน้นั จะแต่งหนา้ โดยใชน้ ้ามนั มะพร้าวชะโลมทาให้ทว่ั ใบหนา้ ทบั ดว้ ยแป้ งฝ่ นุ จีนท่ีเป็นกอ้ น ขดู ใหเ้ ป็ นผงแลว้ นามาผสมกบั น้าสะอาดเกลี่ยทาให้ทวั่ ทาปากและทา แกม้ ดว้ ยชาดสีแดง และเขียนคิ้วดว้ ยมะพร้าวหา้ วท่ีฝนปลายแหลมเผาไฟจนดา ก็จะมีใบหนา้ ที่สวยผอ่ ง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2563 198
ทปี่ รึกษำ คณะผู้จัดทำ นางนิตยา ภนู่ อ้ ยศกั ด์ิ นางสาวคุณลกั ษณ์ อุชชิน ประธานกรรมการสถานศึกษา กศน.เขตหนองแขม ผอู้ านวยการ กศน.เขตหนองแขม คณะผ้จู ัดทำ นายบุญชนะ ลอ้ มสิริอุดม ครู ชานาญการ นางสาวสรวยี ์ แสงอุ่น ครูอาสาสมคั ร นางสาวกาญจนา ศิลปวลิ าศ ครู กศน.ตาบล นางสาววชั ลี ฟักทบั ทิม ครู กศน.ตาบล นางสาวสุพชิ ฌาย์ ลาวนอ้ ย ครู กศน.ตาบล นายวชิ าญ อืนทรปลดั ครู กศน.ตาบล นายอนนั ต์ โคตรคา ครู กศน.ตาบล บรรณำธิกำร ครู ชานาญการ นายบุญชนะ ลอ้ มสิริอุดม ครู ชานาญการ ออกแบบปก นายบุญชนะ ลอ้ มสิริอุดม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212