Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มหาราชปริตร

มหาราชปริตร

Published by thiwadon jirapunyo, 2022-07-14 15:24:49

Description: พระมหาวิสุทธิ ฐานากโร เรียบเรียงจากตำราและคำเทศนาของ
พระมหาประนอม ธมฺมาลงฺกาโร

Search

Read the Text Version

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล มะมงั หิ โว ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง, ยัง ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภติ ตั ตัง วา โลมะหังโส วา, โส ปะหยิ ยสิ สะต.ิ เพราะเมือ่ ท่านทง้ั หลายแหงนดูยอดธงของเราอยู่ ความ กลวั ความหวาดหวัน่ หรือความขนพองสยองเกลา้ อนั ใด จกั เกดิ ข้นึ ความกลวั เป็นตน้ น้ันจกั หายไป โน เจ เม ธะชคั คงั อุลโลเกยยาถะ, ถา้ ท่านทงั้ หลายไมแ่ หงนดยู อดธงของเรา อะถะ ปะชาปะติสสะ เทวะราชัสสะ ธะชคั คัง อลุ โลเกยยาถะ. ในลา� ดบั นั้น ขอใหท้ า่ นทั้งหลาย แหงนดยู อดธงของทา้ ว ปชาบดีจอมเทพเถิด ปะชาปะตสิ สะ หิ โว เทวะราชัสสะ ธะชคั คงั อุลโลกะยะตงั , ยัง ภะวสิ สะติ ภะยงั วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา, โส ปะหิยยิสสะต.ิ เพราะเม่ือท่านทั้งหลายแหงนดูยอดธงท้าวปชาบดีจอมเทพ อยู่ ความกลัว ความหวาดหว่นั หรือความขนพองสยองเกลา้ อนั ใด จกั เกิดขน้ึ ความกลัวเป็นต้นนนั้ จกั หายไป โน เจ ปะชาปะติสสะ เทวะราชสั สะ ธะชัคคัง อุลโลเกยยาถะ. ถา้ ท่านทัง้ หลายไมแ่ หงนดูยอดธงของท้าวปชาบดจี อมเทพ ๑๕๐ มหาราชปริตร

บทธชคั คปริตร อะถะ วะรณุ ัสสะ เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อลุ โลเกยยาถะ. ในลา� ดับน้นั ขอให้ทา่ นท้งั หลายแหงนดูยอดธงของท้าววรุณ จอมเทพเถิด วะรณุ สั สะ หิ โว เทวะราชสั สะ ธะชคั คงั อุลโลกะยะตงั , ยงั ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตตั ตงั วา โลมะหงั โส วา, โส ปะหยิ ยิสสะติ. เพราะเม่ือท่านท้ังหลายแหงนดูยอดธงท้าววรุณจอมเทพ อยู่ ความกลัว ความหวาดหวน่ั หรือความขนพองสยองเกลา้ อนั ใด จกั เกดิ ข้นึ ความกลวั เป็นต้นน้นั จกั หายไป โน เจ วะรุณัสสะ เทวะราชสั สะ ธะชคั คัง อุลโลเกยยาถะ. ถ้าท่านท้ังหลายไมแ่ หงนดยู อดธงของทา้ ววรุณจอมเทพ อะถะ อีสานัสสะ เทวะราชัสสะ ธะชัคคงั อุลโลเกยยาถะ. ในลา� ดบั นัน้ ขอใหท้ ่านท้งั หลายแหงนดยู อดธงของทา้ ว อีสานจอมเทพเถดิ อีสานัสสะ หิ โว เทวะราชัสสะ ธะชคั คงั อลุ โลกะยะตงั , ยัง ภะวิสสะติ ภะยงั วา ฉมั ภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา, โส ปะหยิ ยสิ สะตตี .ิ เพราะเม่ือท่านทั้งหลายแหงนดูยอดธงท้าวอีสานจอมเทพ อยู่ ความกลัว ความหวาดหวั่น หรอื ความขนพองสยองเกล้า อนั ใด จกั เกิดขน้ึ ความกลัวเป็นต้นนั้นจกั หายไป มหาราชปริตร ๑๕๑

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ตงั โข ปะนะ ภกิ ขะเว สกั กัสสะ วา เทวานะมินทสั สะ ธะชคั คัง อุลโลกะยะตงั , ดกู ่อนภิกษทุ ั้งหลาย เมอื่ เทวดาทงั้ หลายแหงนดยู อดธงของ ท้าวสกั กะจอมเทพนน้ั อยกู่ ด็ ี ปะชาปะตสิ สะ วา เทวะราชัสสะ ธะชัคคงั อุลโลกะยะตงั , แหงนดูยอดธงของทา้ วปชาบดีจอมเทพอยู่กด็ ี วะรุณสั สะ วา เทวะราชัสสะ ธะชคั คงั อลุ โลกะยะตงั , แหงนดยู อดธงของท้าววรณุ จอมเทพอยู่ก็ดี อีสานสั สะ วา เทวะราชัสสะ ธะชคั คงั อุลโลกะยะตัง, แหงนดูยอดธงของท้าวอีสานจอมเทพอย่กู ็ดี ยัง ภะวสิ สะติ ภะยัง วา ฉัมภติ ตั ตัง วา โลมะหังโส วา, โส ปะหิยเยถาปิ โนปิ ปะหิยเยถะ. ความกลัว ความหวาดหว่ัน หรือความขนพองสยองเกลา้ อนั ใด จักเกิดขึน้ ความกลัวเป็นตน้ นั้น หายไปบ้าง ไมห่ ายไปบา้ ง ตัง กสิ สะ เหต.ุ ขอ้ น้ันเพราะเหตอุ ะไร สกั โก หิ ภกิ ขะเว เทวานะมินโท อะวตี ะราโค อะวีตะโทโส อะวีตะโมโห ภิรุ ฉัมภี อุต๎ราสี ปะลายีติ. ดกู ่อนภิกษทุ งั้ หลาย เพราะท้าวสกั กะจอมเทพยงั ไมป่ ราศ จากราคะ ไมป่ ราศจากโทสะ ไมป่ ราศจากโมหะ ยังมคี วามกลวั มีความหวาดหวัน่ มีความสะดงุ้ มกี ารลบหนีเป็นธรรมดา ๑๕๒ มหาราชปรติ ร

บทธชัคคปรติ ร อะหัญจะ โข ภกิ ขะเว เอวัง วะทามิ ดูกอ่ นภิกษุท้งั หลาย ส่วนเราตถาคตจะขอกล่าวอยา่ งนวี้ า่ สะเจ ตุม๎หากงั ภิกขะเว อะรัญญะคะตานงั วา รกุ ขะมลู ะ- คะตานัง วา สุญญาคาระคะตานัง วา, อุปปชั เชยยะ ภะยัง วา ฉมั ภติ ตั ตงั วา โลมะหังโส วา, ดกู อ่ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย หากความกลวั ความหวาดหวั่น หรือ ความขนพองสยองเกลา้ พึงเกดิ ขึ้นแกเ่ ธอทง้ั หลาย ผู้อย่ใู นปา่ ก็ดี อยูท่ ่ีโคนไม้กด็ ี อยูใ่ นเรือนวา่ งกด็ ี มะเมวะ ตัสม๎ งิ สะมะเย อะนสุ สะเรยยาถะ. ในขณะนนั้ ขอใหเ้ ธอทง้ั หลายพึงพร�า่ ระลึกถึงเราตถาคต น่ันเทียวว่า อิตปิ ิ โส ภะคะวา เพราะเหตนุ ้ี ๆ พระผมู้ พี ระภาคเจ้าพระองค์น้นั อะระหงั , เปน็ ผู้ไกลจากกิเลส ผ้คู วรแก่ปัจจยั สี่และการบชู า สมั มาสัมพทุ โธ, เปน็ ผตู้ รสั รู้ธรรมท้ังปวงโดยชอบดว้ ยพระองค์เอง วิชชาจะระณะสัมปนั โน, เป็นผูถ้ งึ พร้อมด้วยวชิ ชาและจรณะ มหาราชปรติ ร ๑๕๓

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล สคุ ะโต, เปน็ ผ้เู สด็จไปดีแลว้ และผู้ตรัสดีแลว้ โลกะวทิ ,ู เป็นผ้รู ู้โลกอยา่ งแจม่ แจง้ อะนตุ ตะโร ปุริสะทัมมะสาระถ,ิ เปน็ สารถผี ู้ฝกึ บุรุษทีค่ วรฝึก ไมม่ ใี ครย่ิงกวา่ สตั ถา เทวะมะนุสสานัง, เป็นครูผูส้ อนของเทวดาและมนษุ ยท์ ัง้ หลาย พุทโธ, เป็นผูร้ ู้ ผู้ต่นื ผู้เบิกบาน ภะคะวาติ. เป็นผทู้ า� ลายกเิ ลสและบาปธรรมทัง้ ปวง เปน็ ผู้จ�าแนกธรรม มะมงั หิ โว ภิกขะเว อะนสุ สะระตัง, ยงั ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภติ ัตตัง วา โลมะหงั โส วา, โส ปะหิยยสิ สะติ. ดกู อ่ นภิกษทุ ั้งหลาย เพราะเมือ่ เธอท้งั หลาย พร�่าระลึกถึง เราตถาคตอยคู่ วามกลัว ความหวาดหวนั่ หรือความขนพองสยอง เกลา้ อันใด จกั เกดิ ขน้ึ ความกลวั เป็นตน้ น้นั จักหายไป โน เจ มงั อะนสุ สะเรยยาถะ. ถ้าเธอทง้ั หลายไม่พร่�าระลกึ ถึงเราตถาคต ๑๕๔ มหาราชปริตร

บทธชัคคปริตร อะถะ ธมั มงั อะนุสสะเรยยาถะ. ในล�าดบั นั้น เธอท้ังหลายพงึ พร�่าระลึกถึงพระธรรมวา่ ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม. พระธรรม อนั พระผูม้ ีพระภาคเจ้าตรัสดแี ลว้ สันทิฏฐิโก, เป็นธรรมที่พระอรยิ บคุ คลพงึ เหน็ ได้ด้วยตนเอง อะกาลิโก, ไมร่ อกาลใหผ้ ล เอหิปัสสโิ ก, ควรเรยี กให้มาดู โอปะนะยโิ ก, ควรนอ้ มมาไวใ้ นจิตของตน ปัจจตั ตัง เวทิตัพโพ วญิ ญหู ตี ิ. เป็นธรรมทีว่ ญิ ญูชนพงึ รู้ได้เฉพาะตน. ธมั มัง หิ โว ภิกขะเว อะนุสสะระตงั , ยงั ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉมั ภติ ัตตัง วา โลมะหงั โส วา, โส ปะหยิ ยิสสะติ. ดกู ่อนภกิ ษทุ ้งั หลาย เพราะเม่อื เธอทั้งหลาย พรา่� ระลกึ ถงึ พระธรรมอยู่ความกลวั ความหวาดหวั่น หรือความขนพองสยอง เกล้า อันใด จักเกิดข้ึน ความกลวั เปน็ ต้นนนั้ จกั หายไป มหาราชปริตร ๑๕๕

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล โน เจ ธัมมัง อะนุสสะเรยยาถะ. ถา้ เธอทั้งหลายไมพ่ รา�่ ระลกึ ถงึ พระธรรม อะถะ สงั ฆงั อะนุสสะเรยยาถะ. ในลา� ดับน้นั เธอทัง้ หลายพงึ พร่�าระลึกถึงพระสงฆ์วา่ สปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, พระสงฆส์ าวกของพระผู้มีพระภาคเจา้ เป็นผูป้ ฏบิ ัตดิ ี อชุ ปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, พระสงฆ์สาวกของพระผู้มพี ระภาคเจา้ เปน็ ผปู้ ฏิบัตติ รง ญายะปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, พระสงฆ์สาวกของพระผ้มู พี ระภาคเจ้า เปน็ ผปู้ ฏบิ ัตเิ พือ่ พระนิพพาน สามีจิปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, พระสงฆส์ าวกของพระผู้มพี ระภาคเจ้า เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั สิ มควร ยะทิทงั จตั ตาริ ปุรสิ ะยุคานิ อฏั ฐะ ปรุ ิสะปุคคะลา, ท่านเหลา่ น้ัน คือบุรษุ ๔ คู่ กลา่ วคอื พระอริยบุคคล ๘ จ�าพวก เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ, นนั่ แหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ๑๕๖ มหาราชปริตร

บทธชคั คปริตร อาหุเนยโย, เปน็ ผคู้ วรรบั ปจั จัยสี่ทีเ่ ขานา� มาบูชา ปาหเุ นยโย, เปน็ ผู้ควรรับสักการะทเี่ ขาจดั ไว้ต้อนรับ ทกั ขเิ ณยโย, เป็นผ้คู วรรับทักษิณาทาน อญั ชะลิกะระณโี ย, เป็นผ้ทู ีช่ าวโลกท้ังปวงควรทา� อัญชลี อะนตุ ตะรัง ปุญญกั เขตตัง โลกสั สาติ. เปน็ นาบญุ ของโลก ไมม่ ีนาบญุ อน่ื ยงิ่ กว่า. สงั เฆ หิ โว ภกิ ขะเว อะนุสสะระตัง, ยงั ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภติ ัตตัง วา โลมะหงั โส วา, โส ปะหยิ ยสิ สะต.ิ ดูก่อนภกิ ษทุ ้ังหลาย เพราะเม่อื เธอทัง้ หลายพร่า� ระลึกถงึ พระสงฆ์อยู่ ความกลัว ความหวาดหวน่ั หรอื ความขนพองสยอง เกล้า อันใด จักเกิดขึ้น ความกลวั เปน็ ต้นน้ันจกั หายไป ตัง กิสสะ เหตุ. ข้อน้นั เพราะเหตอุ ะไร ตะถาคะโต หิ ภิกขะเว อะระหงั สัมมาสมั พุทโธ วีตะราโค วีตะโทโส วตี ะโมโห อะภิรุ อจั ฉมั ภี อะนุต๎ราสี อะปะลายตี ิ. มหาราชปรติ ร ๑๕๗

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล ดกู อ่ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย เพราะตถาคตเปน็ ผู้ไกลจากกเิ ลส ผู้ ควรแกป่ ัจจัยสีแ่ ละการบชู า ตรัสรธู้ รรมทงั้ ปวงโดยชอบดว้ ยตนเอง เป็นผูป้ ราศจากราคะ ปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ไม่มคี วาม กลัว ไม่มคี วามหวาดหว่ัน ไม่มคี วามสะดุ้ง ไม่มกี ารลบหนีเป็น ธรรมดา อิทะมะโวจะ ภะคะวา, อิทัง วตั ว๎ านะ สุคะโต, อะถาปะรัง เอตะทะโวจะ สัตถา พระผูม้ ีพระภาคเจา้ ไดต้ รัสธชคั คปรติ รน้ีแลว้ พระสุคตเจ้า ครั้นตรัสอย่างน้แี ล้ว พระศาสดาไดต้ รัสพระคาถานี้ตอ่ ไปว่า อะรัญเญ รกุ ขะมเู ล วา สุญญาคาเร วะ ภิกขะโว อะนุสสะเรถะ สัมพทุ ธงั ภะยงั ตุมห๎ ากะ โน สิยา. ดูก่อนภกิ ษทุ ั้งหลาย เมือ่ เธอทัง้ หลายอยูใ่ นปา่ กด็ ี อยทู่ โ่ี คน ไมก้ ็ดี อยใู่ นเรอื นว่างก็ดี เธอทงั้ หลายพงึ หม่ันระลกึ ถงึ พระสัมพุทธ เจ้า แลว้ เธอทัง้ หลายจะไม่มคี วามกลวั โน เจ พุทธัง สะเรยยาถะ โลกะเชฏฐัง นะราสะภงั อะถะ ธัมมัง สะเรยยาถะ นยิ ยานิกัง สเุ ทสติ งั . หากเธอทัง้ หลายไม่หมั่นระลึกถึงพระพทุ ธเจา้ ผู้ยิ่งใหญ่ของ ชาวโลก ผ้ปู ระเสรฐิ กว่านรชน ในกาลนัน้ เธอทัง้ หลายก็พึงหมัน่ ระลึกถงึ พระธรรม อันน�าสตั ว์ออกจากสังสารวฏั ท่ีเราแสดงไว้ ดแี ล้ว ๑๕๘ มหาราชปริตร

บทธชัคคปริตร โน เจ ธมั มัง สะเรยยาถะ นิยยานกิ งั สเุ ทสิตัง อะถะ สังฆงั สะเรยยาถะ ปญุ ญกั เขตตัง อะนตุ ตะรัง. หากเธอทงั้ หลายไมห่ มน่ั ระลึกถึงพระธรรม อนั นา� สตั วอ์ อก จากสงั สารวฏั ทีเ่ ราแสดงไว้ดแี ลว้ ในกาลนน้ั เธอทง้ั หลายกพ็ ึงหม่ัน ระลกึ ถึงพระสงฆ์ ผู้เป็นนาบุญอันยอดเย่ียม เอวงั พุทธงั สะรันตานัง ธัมมัง สังฆญั จะ ภกิ ขะโว ภะยงั วา ฉัมภติ ัตตงั วา โลมะหังโส นะ เหสสะติ. ดกู อ่ นภิกษุทัง้ หลาย ความกลัว ความหวาดหวน่ั หรือความ ขนพองสยองเกล้าจกั ไมป่ รากฏแก่เธอทง้ั หลาย ผู้หม่ันระลกึ ถึงพระ พทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ ดว้ ยประการฉะน้ี. มหาราชปรติ ร ๑๕๙

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล ๑๖๐ มหาราชปริตร

มหาราชปริตร

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล อาฏานาฏิยปรติ ร ภูเขำใหญ่ห้ำลูกที่โอบล้อมกรุงรำชคฤห์ดูทะมึนในควำม มดื ของรำตรี ครัน้ รำวเทยี่ งคืนทีย่ อดเขำหนึง่ กลับปรำกฏแสงสวำ่ ง เรอื ง ท้าวจตุโลกบาลทั้งส่ีพร้อมบริวารเสด็จไปยอดเขาคิชฌกูฏ พระคันธกฎุ ขี องพระสมั มาสมั พุทธเจ้าอยูท่ ่นี นั่ ท้ำวเวสวัณ ประมุขของยักษ์นมัสการพระพทุ ธเจ้า ตาม ดว้ ยยักษ์ทีต่ ิดตามมา ยักษ์บางสว่ นไหว้พระพุทธเจา้ ก่อนเข้าท่ีน่งั บางสว่ นเขา้ มาเจรจานมัสการแลว้ ขอตัวออกไปนงั่ บางส่วนไหว้อยู่ ห่าง ๆ บางส่วนกลา่ วแนะน�าตัวแลว้ จึงน่งั ท้าวเวสวัณมหาราชประมุขของเหล่ายักษ์เองก็ทราบถึง ความหลากหลายของบรวิ ารตนเอง จงึ กราบทลู ถึงทัศนคตขิ องยักษ์ ทม่ี ตี อ่ พระพุทธเจา้ ว่า ประชากรยักษท์ ้ังหมดทง้ั ชัน้ สงู ชน้ั กลาง ช้นั ต�า่ กม็ ที ้ังทศ่ี รทั ธาพระพทุ ธเจา้ และท่ีไมศ่ รัทธา เพราะพระพทุ ธ- เจ้าแสดงธรรมให้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ทา� ผิดในกาม พูดปด และด่มื สรุ า ยกั ษบ์ างพวกที่ยงั ประพฤติผดิ จากค�าสอนอยู่จึง ไม่ชอบไม่ศรทั ธาพระพุทธองค์ ๑๖๒ มหาราชปริตร

อาฏานาฏิยปริตร ท้าวเวสวัณแสดงความห่วงใยไปถึงสาวกของพระพุทธเจ้าที่ บา� เพญ็ เพยี รปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าลึก ซึ่งยักษ์ชัน้ สูงบางกลุ่มชอบ อยปู่ ่าแบบนน้ั และหากเปน็ ยกั ษท์ ี่ไมศ่ รัทธาพระพทุ ธเจ้าแล้วสาวก ก็อาจเปน็ อนั ตราย ฉะน้ัน เพื่อใหย้ กั ษ์เล่อื มใส กลบั ใจมำคมุ้ ครองรักษำภิกษุ ภิกษณุ ี อุบำสก อบุ ำสิกำ จึงขอโอกำสถวำย อาฏานาฏยิ ปรติ ร ไว้ ใหผ้ ู้สนใจไดศ้ กึ ษำและใชส้ ำธยำย ขอ้ ความเต็มทีท่ า้ วเวสวัณกลา่ วเมือ่ กลางราตรนี น้ั เร่ิมด้วย การนอบนอ้ มพระพุทธเจา้ ในอดีตหลายพระองค์ จากนั้นกลา่ วถึง ทา้ วมหาราชแตล่ ะพระองค์ พร้อมพระราชโอรสจา� นวนมากท่ีทรง แสนยานุภาพ ซ่ึงท่านท้งั หมดนน้ั เคารพรกั พระพทุ ธเจา้ พระปริตรน้ีเป็นสนธิสัญญาร่วมของท้าวจตุโลกบาล เป็น เช่นโองการทค่ี วบคมุ ความประพฤตขิ องยักษ์ คนธรรพ์ กุมภณั ฑ์ นาค ทุกหม่เู หล่า ผูป้ ระพฤตคิ ุกคามสวัสดิภาพบรษิ ทั สจี่ ะได้รับการ ลงทัณฑ์ทางสังคมท่ีรุนแรงโดยมียักษ์ผู้มีต�าแหน่งเป็นมหาเสนาบดี ยกั ษ์คอยสนองการ มหาราชปรติ ร ๑๖๓

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล จบจากการถวายพระปริตรแล้วท้าวมหาราชท้ังสี่ก็กราบลา กลุ่มยักษ์ท่ีติดตามท้าวเวสวัณก็กราบลาพระพุทธเจ้าด้วยอาการ เช่นเดียวกับตอนมา คือสว่ นหนงึ่ เขา้ มาไหวไ้ หว้แลว้ หายวับไป สว่ น หนึ่งเข้ามารา�่ ลาสกั พกั แลว้ หายวบั ไปสว่ นหนึง่ น้อมไหวอ้ ยูก่ ับทแ่ี ลว้ หายวับไป สว่ นหนง่ึ กล่าวแนะน�าตัวแลว้ หายวบั ไป วันน้ีพระพุทธเจ้าตรัสเล่าเร่ืองเมื่อคืนให้พระสงฆ์ฟังว่า “ดูก่อนภกิ ษุทั้งหลำย เธอทงั้ หลำยจงเล่ำเรียนกำรรักษำอนั ชือ่ ว่ำ อำฏำนำฏิยะ จงทรงไว้ซง่ึ กำรรักษำอันชอื่ วำ่ อำฏำนำฏยิ ะ กำร รกั ษำอันชอื่ ว่ำอำฏำนำฏิยะประกอบด้วยประโยชน์ ย่อมเปน็ ไป เพอ่ื คมุ้ ครอง เพือ่ รกั ษำ เพ่ือไมเ่ บียดเบยี น เพอ่ื อยูส่ �ำรำญแหง่ ภิกษุ ภิกษณุ ี อบุ ำสก และอบุ ำสิกำทัง้ หลำย” ขอใหบ้ รรลถุ ึงอานิสงสข์ องพระปรติ รนี้ เทอญ. ๑๖๔ มหาราชปรติ ร

บทขัดอาฏานาฏยิ ปริตร บทขดั อาฏานาฏิยปริตร อัปปะสันเนหิ นาถัสสะ สาสะเน สาธุสมั มะเต อะมะนุสเสหิ จณั เฑหิ สะทา กิพพิสะการิภิ. ปะริสานัญจะตัสสนั นะ- มะหงิ สายะ จะ คุตติยา ยันเทเสสิ มะหาวโี ร ปะริตตนั ตมั ภะณามะ เห. พระพุทธเจ้าผู้แกล้วกล้าใหญ่ย่งิ ทรงแสดงพระปริตร อนั ใด เพ่ือความไมเ่ บียดเบยี นกัน และเพ่ือความคมุ้ ครองรักษา พุทธบรษิ ทั ส่ี อันเกดิ จากหม่อู มนษุ ย์ผูด้ รุ ้าย ท�ากรรมหยาบช้า ทุกเมอ่ื ไม่เล่ือมใสคา� สอนของพระโลกนาถ อันบัณฑติ ยกยอ่ งว่า เปน็ ค�าสอนที่ดี ขอเราทง้ั หลายจงสวดพระปรติ รนนั้ เทอญ. มหาราชปริตร ๑๖๕

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล บทอาฏานาฏยิ ปรติ ร วิปสั สิสสะ นะมัตถุ จักขมุ ันตสั สะ สริ มี ะโต สิขิสสะปิ นะมัตถุ สพั พะภตู านกุ ัมปโิ น. ขอนอบนอ้ มแด่พระวิปัสสพี ทุ ธเจา้ ผูท้ รงพระจักษุ ทรงพระ สริ ิ ขอนอบนอ้ มแดพ่ ระสิขพี ทุ ธเจ้า ผทู้ รงอนุเคราะห์สตั ว์ท้งั ปวง. เวสสะภุสสะ นะมัตถุ น๎หาตะกัสสะ ตะปสั สโิ น นะมัตถุ กะกสุ นั ธัสสะ มาระเสนัปปะมทั ทโิ น. ขอนอบนอ้ มแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า ผทู้ รงชา� ระกิเลสไดแ้ ล้ว ผู้มตี บะ ขอนอบนอ้ มแดพ่ ระกกสุ นั ธพทุ ธเจา้ ผูท้ รงเอาชนะมารและ กองทัพได้. โกนาคะมะนสั สะ นะมัตถุ พร๎ าห๎มะณัสสะ วสุ มี ะโต กัสสะปสั สะ นะมัตถุ วิปปะมุตตสั สะ สพั พะธิ. ขอนอบน้อมแด่พระโกนาคมนพุทธเจา้ ผลู้ อยบาปแลว้ อยู่ จบพรหมจรรย์ ขอนอบน้อมแด่พระกัสสปพทุ ธเจา้ ผู้หลุดพน้ แล้ว จากกิเลสทัง้ ปวง. ๑๖๖ มหาราชปริตร

บทอาฏานาฏยิ ปริตร อังครี ะสสั สะ นะมตั ถุ สัก๎ยะปตุ ตสั สะ สริ มี ะโต โย อิมงั ธมั มะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง. ขอนอบน้อมแดพ่ ระศากยบตุ รพุทธเจ้า ผทู้ รงพระฉพั พรรณ- รงั สี ผ้ทู รงสริ ิ ผู้ทรงแสดงธรรมขจดั ทุกขท์ งั้ ปวง. เย จาปิ นพิ พตุ า โลเก ยะถาภตู ัง วปิ ัสสิสุง เต ชะนา อะปสิ ุณา มะหันตา วีตะสาระทา. อน่งึ พระอรหันตเ์ หล่าใดในโลก ดบั กเิ ลสไดแ้ ลว้ รูแ้ จ้งตาม ความเปน็ จรงิ พระอรหันตเ์ หล่านัน้ ปราศจากวาจามงุ่ ร้าย ผู้ยิ่งใหญ่ ไมส่ ะทกสะทา้ น. หติ ัง เทวะมะนุสสานัง ยงั นะมัสสันติ โคตะมัง วชิ ชาจะระระณะสมั ปนั นงั มะหนั ตงั วีตะสาระทงั . ท่านเหล่าน้ันย่อมนอบน้อมพระโคตมพุทธเจ้าพระองค์ใด ผู้ทรงเกอื้ กลู แกเ่ ทวดาและมนษุ ยท์ งั้ หลาย ผ้ถู ึงพร้อมด้วยวิชชาและ จรณะ ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่สะทกสะท้าน ขา้ พเจ้าขอนอบน้อมแดพ่ ระ- โคตมพทุ ธเจ้าพระองคน์ ั้น นะโม เม สพั พะพทุ ธานงั อุปปันนานงั มะเหสินัง ตัณห๎ ังกะโร มะหาวโี ร เมธงั กะโร มะหายะโส. มหาราชปรติ ร ๑๖๗

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล ขา้ พเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจา้ ทกุ พระองค์ ผทู้ รง แสวงหาพระธรรมอนั ยง่ิ ใหญ่ ผ้เู สดจ็ อุบตั ิขึน้ แล้วท้ัง ๒๘ พระองค์ คอื พระตัณหังกรพทุ ธเจ้า ทรงเป็นวีรบรุ ษุ ผูย้ ิง่ ใหญ่ พระเมธังกร- พุทธเจา้ ผู้มพี ระยศใหญ่ สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปงั กะโร ชตุ ินธะโร โกณฑญั โญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ. พระสรณังกรพทุ ธเจา้ ผูท้ รงเกอ้ื กูลแก่สตั วโ์ ลก พระทปี งั กร- พทุ ธเจ้า ผูท้ รงพระปัญญารงุ่ โรจน์ พระโกณฑญั ญพทุ ธเจา้ ผทู้ รง เป็นพระประมุขของหม่ชู น พระมงั คลพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นบรุ ษุ ผู้ ประเสรฐิ สุมะโน สุมะโน ธโี ร เรวะโต ระติวัฑฒะโน โสภโิ ต คุณะสัมปนั โน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม. พระสุมนพทุ ธเจ้า ผู้ทรงเปน็ ปราชญ์ มีพระหทัยงดงาม พระเรวตพุทธเจ้า ผทู้ รงเพ่มิ พนู ความยนิ ดี พระโสภิตพุทธเจ้า ผ้ทู รง เพียบพรอ้ มด้วยพระคุณ พระอโนมทัสสีพทุ ธเจ้า ผูส้ ูงสดุ ในหมชู่ น ปะทโุ ม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี ปะทมุ ตุ ตะโร สัตตะสาโร สเุ มโธ อปั ปะฏปิ ุคคะโล ๑๖๘ มหาราชปริตร

บทอาฏานาฏยิ ปริตร พระปทุมพทุ ธเจ้า ผู้ทรงเปน็ แสงสว่างของชาวโลก พระ- นารทพทุ ธเจา้ ผู้ทรงเปน็ สารถปี ระเสรฐิ พระปทุมตุ ตรพุทธเจ้า ผทู้ รงเปน็ ทพ่ี ึ่งสูงสดุ ของสตั ว์ พระสุเมธพทุ ธเจ้า ผู้ไมม่ บี ุคคลเปรียบ สชุ าโต สัพพะโลกัคโค ปยิ ะทสั สี นะราสะโภ อัตถะทัสสี การณุ โิ ก ธมั มะทสั สี ตะโมนุโท. พระสุชาตพุทธเจ้า ผูเ้ ลศิ ในโลกทง้ั ปวง พระปยิ ทสั สีพุทธ- เจ้า ผเู้ ปน็ ชนประเสริฐ พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ผู้ทรงประกอบดว้ ย พระกรุณา พระธัมมทสั สพี ุทธเจ้า ผู้ทรงขจดั ความมดื สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร ปุสโส จะ วะระโท พทุ โธ วปิ ัสสี จะ อะนูปะโม. พระสิทธตั ถพุทธเจา้ ผูไ้ ม่มบี ุคคลเสมอในโลก พระตสิ ส- พทุ ธเจ้า ผทู้ รงประเสริฐกว่านกั ปราชญท์ ั้งหลาย พระปสุ สพทุ ธ- เจ้า ผูท้ รงประทานพระธรรมอันประเสริฐ พระวิปสั สีพทุ ธเจ้า ผู้หา บุคคลเปรยี บมไิ ด้ สิขี สพั พะหิโต สัตถา เวสสะภู สขุ ะทายะโก กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห พระสิขพี ทุ ธเจ้า ผูท้ รงเป็นพระบรมศาสดา ผเู้ ก้อื กูลแก่สตั ว์ ทั้งปวง พระเวสสภูพทุ ธเจ้า ผู้ทรงประทานความสุข พระกกุสันธ- พทุ ธเจ้า ผูน้ �าของหมู่สตั ว์ พระโกนาคมนพุทธเจ้า ผลู้ ะความชวั่ อัน เปน็ ขา้ ศึก มหาราชปรติ ร ๑๖๙

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล กสั สะโป สิรสิ ัมปันโน โคตะโม สัก๎ยะปุงคะโว. กสั สปพุทธเจา้ ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยสิริ พระโคตมพุทธเจ้า ผู้ ประเสริฐในวงศ์ศากยะ เอเต จญั เญ จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฏโิ ย สัพเพ พทุ ธา อะสะมะสะมา สพั เพ พทุ ธา มะหิทธิกา. พระสัมพุทธเจ้าเจ็ดพระองค์เหลา่ น้กี ็ดี พระสัมพทุ ธเจา้ หลายรอ้ ยโกฏเิ หล่าอน่ื ก็ดี พระพุทธเจา้ ทกุ พระองค์ เสมอดว้ ย พระพทุ ธเจ้าผ้ไู มม่ ีใครเปรียบ พระพทุ ธเจา้ ทกุ พระองค์ ทรงมฤี ทธ์ิ มาก สพั เพ ทะสะพะลูเปตา เวสารชั เชหปุ าคะตา สพั เพ เต ปะฏิชานันติ อาสะภณั ฐานะมุตตะมัง. พระพุทธเจ้าทกุ พระองค์ ทรงประกอบดว้ ยพระทศพล ญาณ ทรงสมบรู ณด์ ว้ ยพระเวสารัชชญาณ พระพทุ ธเจ้าทุก พระองคเ์ หลา่ นัน้ ทรงยืนยนั ความตรัสร้อู นั ประเสรฐิ แกล้วกลา้ ของ พระองค์ สหี ะนาทงั นะทันเต เต ปะริสาสุ วิสาระทา พ๎รหั ๎มะจักกัง ปะวัตเตนติ โลเก อปั ปะฏิวตั ติยงั . ๑๗๐ มหาราชปรติ ร

บทอาฏานาฏิยปรติ ร พระพทุ ธเจ้าเหล่าน้ี ทรงปราศจากความครนั่ คร้าม บนั ลอื สหี นาทในทา่ มกลางพุทธบรษิ ัท ทรงประกาศธรรมจกั รอันประเสรฐิ ในโลก ไม่มีใครจะคัดคา้ นได้ อเุ ปตา พุทธะธมั เมหิ อัฏฐาระสะหิ นายะกา ท๎วัตตงิ สะลักขะณูเปตา สตี ย๎ านุพย๎ ัญชะนาธะรา พระพุทธเจา้ เหลา่ นี้ ทรงเป็นผ้นู �า ทรงประกอบดว้ ยพุทธ- ธรรม ๑๘ ประการ ทรงประกอบดว้ ยพระพทุ ธลกั ษณะ ๓๒ ประการ ทรงไว้ซึง่ พระอนพุ ยัญชนะ ๘๐ ประการ พย๎ ามัปปะภายะ สุปปะภา สัพเพ เต มุนิกญุ ชะรา พทุ ธา สพั พญั ญุโน เอเต สัพเพ ขณี าสะวา ชนิ า. พระพุทธเจ้าทกุ พระองค์ ทรงมพี ระฉพั พัณณรังสีแผ่ไป โดยรอบหน่งึ วา ทรงเป็นมนุ ผี ปู้ ระเสรฐิ พระพุทธเจา้ เหล่านี้ ทรงรู้ แจง้ ธรรมทงั้ ปวง ทรงส้ินอาสวะแลว้ ทรงเปน็ ผู้ชนะ มะหปั ปะภา มะหาเตชา มะหาปัญญา มะหัพพะลา มะหาการุณิกา ธรี า สัพเพสานัง สุขาวะหา. ทรงมพี ระรัศมสี ว่างไสว มเี ดชมาก มีปัญญามาก มกี �าลงั มาก มีความกรุณาใหญ่หลวง มนั่ คง ทรงประทานความสขุ แก่สตั ว์ ทัง้ ปวง มหาราชปรติ ร ๑๗๑

ความเป็นมา : บทสวด : ค�าแปล ทปี า นาถา ปะตฏิ ฐา จะ ตาณา เลณา จะ ปาณินัง คะตี พนั ธู มะหสั สาสา สะระณา จะ หเิ ตสิโน. พระองค์ทรงเป็นท่ีพัก ที่พึ่ง ท่ีพ�านัก คุ้มครอง หลบภยั ของเหล่าสัตว์ ทรงเป็นทีไ่ ป เป็นญาติ เป็นผอู้ ปุ ถมั ภ์ เปน็ ผู้ขจดั ทุกข์ และกระทา� ประโยชน์ สะเทวะกสั สะ โลกัสสะ สัพเพ เอเต ปะรายะนา เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสตุ ตะเม. พระพุทธเจ้าทกุ พระองค์ ทรงเป็นท่ีพงึ่ ของชาวโลกและ เทวดา ข้าพระองคข์ อน้อมไหวพ้ ระบาทยุคลของพระพุทธเจา้ เหล่า นนั้ ด้วยเศยี รเกลา้ ขอน้อมไหวพ้ ระพุทธเจ้าผูเ้ ป็นบุรษุ ประเสรฐิ วะจะสา มะนะสา เจวะ วนั ทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา. ข้าพระองคข์ อนอ้ มไหวพ้ ระตถาคตเจา้ เหล่านั้น ดว้ ยวาจา และดว้ ยใจ ท้ังในเวลานอน น่ัง ยืน และเดนิ ในกาลทุกเม่ือ สะทา สุเขนะ รักขันตุ พุทธา สนั ตกิ ะรา ตุวงั เตหิ ต๎วงั รกั ขิโต สันโต มตุ โต สพั พะภะเยนะ จะ. ขอพระพทุ ธเจา้ ทัง้ หลาย ผู้ประทานพระนิพพาน จงคุ้ม ครองทา่ นให้มีความสุขทกุ เมอื่ เถิด เม่อื พระพุทธเจ้าเหล่าน้ันคุ้ม ครองทา่ นแลว้ ขอใหท้ า่ นเปน็ ผูส้ งบและปลอดจากภัยท้งั ปวงเถดิ . ๑๗๒ มหาราชปริตร

บทอาฏานาฏิยปรติ ร สพั พะโรคะวนิ ิมตุ โต สัพพะสันตาปะวชั ชิโต สพั พะเวระมะติกกันโต นพิ พุโต จะ ตุวงั ภะวะ. ขอให้ท่านจงปลอดจากโรคทัง้ ปวง ปราศจากความเดือด รอ้ นทุกอยา่ ง ลว่ งพ้นเวรทง้ั ปวง และเป็นผ้ดู บั ทุกขท์ ้งั ปวงด้วย เตสัง สัจเจนะ สเี ลนะ ขันตเิ มตตาพะเลนะ จะ เตปิ ตมุ เ๎ ห อะนุรกั ขันตุ อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ขอพระพุทธเจ้าเหล่านัน้ จงคุ้มครองท่านท้งั หลาย ให้เปน็ ผู้ ปราศจากโรคมคี วามสุข ดว้ ยพลานุภาพแหง่ ความสัตย์ ศีล ขนั ติ และเมตตาธรรม ปรุ ตั ถิมัส๎มงิ ทิสาภาเค สนั ติ ภูตา มะหิทธกิ า เตปิ ตุมเ๎ ห อะนุรักขันตุ อาโรค๎เยนะ สเุ ขนะ จะ. เหลา่ คนธรรพ์ผู้มีฤทธ์มิ ากมีอยใู่ นทศิ บูรพา ขอท่านเหล่าน้ัน จงคมุ้ ครองทา่ นทง้ั หลาย ให้เปน็ ผ้ไู ม่มีโรค มคี วามสขุ ทกั ขิณัสม๎ ิง ทสิ าภาเค สนั ติ เทวา มะหทิ ธิกา เตปิ ตมุ ๎เห อะนุรกั ขนั ตุ อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. เหลา่ กุมภณั ฑ์ผูม้ ีฤทธมิ์ ากมอี ย่ใู นทิศทกั ษิณ ขอท่านเหล่า น้นั จงคุ้มครองทา่ นท้ังหลาย ให้เปน็ ผูไ้ มม่ โี รค มคี วามสขุ มหาราชปรติ ร ๑๗๓

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ปัจฉมิ สั ม๎ ิง ทสิ าภาเค สนั ติ นาคา มะหิทธกิ า เตปิ ตมุ เ๎ ห อะนุรกั ขันตุ อาโรคเ๎ ยนะ สเุ ขนะ จะ. เหลา่ นาคผู้มฤี ทธิม์ ากมีอยู่ในทิศประจมิ ขอทา่ นเหลา่ นั้นจง คมุ้ ครองทา่ นทั้งหลายใหเ้ ปน็ ผู้ไม่มโี รค มคี วามสขุ อุตตะรสั ม๎ งิ ทิสาภาเค สนั ติ ยักขา มะหิทธกิ า เตปิ ตุม๎เห อะนรุ ักขนั ตุ อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. เหล่ายกั ษ์ผู้มีฤทธิม์ าก มอี ย่ใู นทิศอดุ ร ขอทา่ นเหล่านั้นจง คุ้มครองท่านท้ังหลายใหเ้ ป็นผไู้ มม่ ีโรค มีความสขุ ปุรมิ ะทิสงั ธะตะรัฏโฐ ทกั ขิเณนะ วิรุฬ๎หะโก ปัจฉิเมนะ วิรูปกั โข กุเวโร อตุ ตะรัง ทิสงั . ท้าวธตรฐรักษาโลกทิศบูรพา ท้าววิรุฬหกรกั ษาโลกทศิ ทักษิณ ท้าววิรปู กั ษร์ ักษาโลกทศิ ประจมิ ท้าวกุเวรรักษาโลกทิศอุดร จตั ตาโร เต มะหาราชา โลกะปาลา ยะสัสสโิ น เตปิ ตุม๎เห อะนุรกั ขันตุ อาโรคเ๎ ยนะ สุเขนะ จะ. ขอมหาราชท้ังสพี่ ระองคเ์ หลา่ นน้ั ผู้รกั ษาโลก ผูม้ บี รวิ าร มาก จงค้มุ ครองทา่ นทั้งหลายให้เป็นผไู้ มม่ โี รค มีความสุข ๑๗๔ มหาราชปริตร

บทอาฏานาฏิยปริตร อากาสฏั ฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เตปิ ตมุ เ๎ ห อะนรุ ักขันตุ อาโรค๎เยนะ สุเขนะ จะ. ขอเหล่าเทวดา และนาคผมู้ ฤี ทธิ์มาก ผสู้ ถิตอยใู่ นอากาศ และบนพนื้ ดนิ จงคมุ้ ครองทา่ นทงั้ หลายให้เปน็ ผู้ไมม่ ีโรค มีความสขุ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พทุ โธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง. ทพ่ี ่ึงอนื่ ของขา้ พเจา้ ไมม่ ี พระพทุ ธเจ้าทรงเปน็ ที่พง่ึ อัน ประเสริฐของขา้ พเจ้า ดว้ ยสจั วาจาน้ี ขอชยั มงคลจงมีแก่ท่าน นตั ถิ เม สะระณัง อญั ญงั ธมั โม เม สะระณัง วะรงั เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมงั คะลัง. ทพี่ ง่ึ อ่นื ของขา้ พเจา้ ไม่มี พระธรรมเปน็ ท่ีพึ่งอนั ประเสรฐิ ของข้าพเจา้ ด้วยสจั วาจาน้ี ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน นัตถิ เม สะระณัง อญั ญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรงั เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลงั . ทพี่ ง่ึ อื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์เป็นทพี่ ึ่งอันประเสริฐ ของข้าพเจ้า ดว้ ยสัจวาจาน้ี ขอชยั มงคลจงมแี กท่ า่ น มหาราชปริตร ๑๗๕

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ยงั กญิ จิ ระตะนงั โลเก วชิ ชะติ วิวธิ งั ปุถุ ระตะนงั พทุ ธะสะมัง นัตถิ ตสั ๎มา โสตถี ภะวนั ตุ เต. รัตนะทกุ อยา่ ง หลายหลากมากชนิด มีอยู่ในโลก รตั นะที่ เสมอกบั พระพุทธเจา้ ยอ่ มไม่มี เพราะเหตุนนั้ ขอความสวัสดที ้ัง หลายจงมีแก่ท่าน. ยังกิญจิ ระตะนัง โลเก วชิ ชะติ ววิ ิธัง ปถุ ุ ระตะนัง ธัมมะสะมงั นตั ถิ ตสั ๎มา โสตถี ภะวนั ตุ เต. รัตนะทกุ อย่าง หลายหลากมากชนิด มอี ยใู่ นโลก รัตนะที่ เสมอกับพระธรรม ยอ่ มไมม่ ี เพราะเหตนุ น้ั ขอความสวสั ดีทงั้ หลาย จงมีแกท่ า่ น. ยังกิญจิ ระตะนงั โลเก วิชชะติ ววิ ิธงั ปถุ ุ ระตะนัง สังฆะสะมงั นัตถิ ตสั ม๎ า โสตถี ภะวันตุ เต. รัตนะทกุ อยา่ ง หลายหลากมากชนดิ มีอยใู่ นโลก รตั นะที่ เสมอกบั พระสงฆ์ ย่อมไมม่ ี เพราะเหตุนนั้ ขอความสวสั ดีท้ังหลาย จงมีแก่ท่าน. สกั กตั ว๎ า พุทธะระตะนงั โอสะถงั อุตตะมงั วะรัง หติ ัง เทวะมะนสุ สานงั พทุ ธะเตเชนะ โสตถินา นัสสนั ตปุ ัททะวา สัพเพ ทุกขา วปู ะสะเมนตุ เต. ๑๗๖ มหาราชปริตร

บทอาฏานาฏยิ ปรติ ร เพราะท�าความเคารพพระพุทธรัตนะ อันเป็นดังโอสถ ประเสริฐสุงสุด ผู้ทรงเก้ือกูลแกเ่ ทวดาและมนุษย์ทงั้ หลาย ดว้ ยเดช แหง่ พระพุทธเจ้า ขออปุ ทั วะทง้ั หลายทงั้ ปวงจงพนิ าศไป ขอทุกข์ ทง้ั หลายของทา่ นจงสงบไปโดยสวสั ดเี ถิด สักกัตว๎ า ธมั มะระตะนงั โอสะถงั อตุ ตะมัง วะรัง ปะรฬิ าหูปะสะมะนงั ธมั มะเตเชนะ โสตถนิ า นสั สนั ตปุ ัททะวา สัพเพ ภะยา วปู ะสะเมนตุ เต. เพราะทา� ความเคารพพระธรรมรัตนะ อนั เป็นดังโอสถ ประเสรฐิ สุงสดุ อนั เปน็ เครอ่ื งระงับความเร่าร้อน ด้วยเดชแหง่ พระธรรม ขออปุ ทั วะท้งั หลายทงั้ ปวงจงพินาศไป ขอภยั ทัง้ หลาย ของท่านจงสงบไปโดยสวัสดเี ถดิ สักกตั ๎วา สังฆะระตะนงั โอสะถงั อุตตะมงั วะรัง อาหเุ นยยงั ปาหเุ นยยัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นสั สันตุปทั ทะวา สพั เพ โรคา วปู ะสะเมนตุ เต. เพราะท�าความเคารพพระสงั ฆรตั นะ อนั เป็นดงั โอสถ ประเสริฐสุงสุด ผูค้ วรรบั ปจั จัยสที่ เ่ี ขาน�ามาบูชา ผู้ควรรบั สักการะ ท่ีเขาจัดไว้ต้อนรบั ดว้ ยเดชแห่งพระสงฆ์ ขออปุ ัทวะทง้ั หลายทั้ง ปวงจงพนิ าศไป ขอโรคท้ังหลายของท่านจงสงบไปโดยสวัสดีเถิด มหาราชปรติ ร ๑๗๗

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล สพั พีตโิ ย ววิ ัชชันตุ สพั พะโรโค วินสั สะตุ มา เต ภะวัต๎วันตะราโย สขุ ี ทีฆายุโก ภวะ. ขอสง่ิ รา้ ยทง้ั ปวงจงบา� ราศไป ขอโรคท้งั ปวงจงพินาศไป ขอทา่ นอยา่ มอี ันตราย จงเป็นผมู้ ีความสุข มอี ายยุ นื อะภวิ าทะนะสลี ิสสะ นิจจงั วฑุ ฒาปะจายิโน จตั ตาโร ธมั มา วฑั ฒันติ อายุ วัณโณ สขุ งั พะลงั . ธรรม ๔ ประการ คอื อายุ วรรณะ สุขะ พละ ยอ่ มเจรญิ แก่บุคคลผู้มปี กตินบไหว้ ผมู้ ีปกตอิ อ่ นน้อม ตอ่ ผู้ใหญ่เปน็ นติ ย์. ๑๗๘ มหาราชปรติ ร

มหาราชปรติ ร

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล อังคุลิมาลปริตร นักศึกษำหนุ่มผู้มำจำกแคว้นโกศลคนนี้นับได้ว่ำสมบูรณ์ แบบ เขำมรี ปู ร่ำงหนำ้ ตำทห่ี ล่อเหลำไมเ่ ป็นรองใคร มำรยำทงดงำม พดู จำไพเรำะ สติปัญญำอย่ใู นขั้นดีมำก เติบโตในครอบครวั ทค่ี ณุ พ่อเปน็ คนสนิทของมหำรำชำปเสนทิ เขาชอื่ อหงิ สกะ แปลว่า ไม่กระทบกระทัง่ ใคร เป็นชื่อ พระราชทานจากพระเจ้าแผน่ ดนิ ได้มาด้วยว่าเขาตกฟากพร้อม กับท่ีอาวุธในนครเปล่งแสงวาบขน้ึ พระราชาเหน็ วา่ ตอนทอ่ี าวุธเกดิ แสงจา้ นั้น พระแสงดาบ หรอื มดี น้อยกไ็ ม่ไดก้ ระทบกระทั่งกันจึงตัง้ ชือ่ ดังกลา่ ว อีกนัยหนง่ึ ก็ถอื เป็นการแก้เคลด็ ไม่ให้เขาไปเบยี ดเบยี นใครด้วย เพราะฤกษ์ที่ เขาเกิดนัน้ มนั เป็น ฤกษด์ ำวโจร สถิตบิ อกวา่ ผ้เู กดิ ในฤกษ์น้ี สุม่ เสี่ยง ต่อกำรเป็นโจร ๑๘๐ มหาราชปริตร

อังคลุ ิมาลปริตร ชีวิตของอหงิ สกะอยู่ห่างไกลนักกบั ค�าว่าโจร มนั สมบูรณ์ แบบ เป็นชีวติ ท่นี า่ อจิ ฉาเสียด้วยซา้� และเขากถ็ กู อจิ ฉาจรงิ ๆ โดย นักศึกษาร่วมส�านักตักสิลาซึ่งทนไม่ได้ที่อหิงสกะเป็นศิษย์รักของ อาจารย์ ศษิ ย์ร่วมสา� นักได้สร้างเรอื่ งหลอกอาจารยว์ า่ อหิงสกะคิด ท�ำรำ้ ยอำจำรย์ หลายตอ่ หลายปากมากพอท่ีจะท�าใหอ้ าจารย์ไขว้ เขว มองเขาด้วยสายตาทต่ี า่ งไปจากเดิม จนทส่ี ดุ กค็ ดิ กา� จัดเขา การก�าจัดอหิงสกะซึ่งไม่มีพิษภัยกับใครดูจะเป็นเร่ืองง่าย แต่หากท�าเช่นนั้นจะส่งผลให้ความน่าเช่ือถือต่อส�านักลดลงและ หมายถงึ รายไดท้ ่ีจะลดลงตามกัน อหิงสกะถูกอาจารย์เรียกเข้าไปพบด้วยเร่ืองวิชาสุดท้ายใน หลกั สตู ร เปน็ วิชาข้ันสงู ท่ีตอ้ งบชู าครู และคัดเลือกผู้มีคณุ สมบัติ ตามเกณฑ์ ผเู้ รียนจะตอ้ งฆ่าคนให้ไดห้ นึ่งพันคนก่อน เขาลงั เลใจเพราะไม่เหีย้ มโหดพอที่จะทา� รา้ ยใคร อย่าพดู ถึงฆา่ คนเลย แมแ้ กล้งสตั ว์เอาสนกุ ก็ยังไมเ่ คยทา� อาจารย์กลา่ ว ว่าไม่มีทางอ่ืนในการเรยี นวชิ าสดุ ทา้ ย มันเป็นวิธีการท่ีอาจารย์ใช้ ท�าร้ายเขานั่นเอง มหาราชปรติ ร ๑๘๑

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล อหิงสกะต่อสู้กับคุณธรรมในใจพร้อมกับฆ่าคนที่ต่อสู้รักษา ชีวิตไปดว้ ย คณุ ธรรมของเขาเปน็ ฝ่ายพา่ ยแพ้ เม่ือจิตใจชินชากับการฆ่า สตปิ ัญญาทเ่ี คยดเี ลิศกลับเลอะ เลอื นไป จ�าไม่ได้แม้แตจ่ า� นวนคนท่ตี นครา่ ชีวติ ร้แู ตเ่ พยี งว่าต้องฆา่ ใหค้ รบหนึง่ พันคน เขาเร่มิ นับจ�านวนศพจากน้ิวท่ตี ดั มาเก็บรวมกันไว้ แต่เมอ่ื จ�านวนนว้ิ เพ่มิ ขึน้ มนั กลบั หายไปไมอ่ ยทู่ ี่เดยี ว เขาจงึ ร้อยนว้ิ เหลา่ นั้นเป็นพวงสวมติดตวั แล้วออกฆ่าผู้คนในรัศมที ไ่ี กลออกไป ชื่อของเขาก็ดงั ออกไปไกลยง่ิ กว่านั้น แต่มิใชใ่ นชือ่ อหิงสกะ หากเปน็ ชื่อ องคุลมิ าล จอมโจรมำลยั นิ้วคน จ�านวนนิ้วท่ีเพ่ิมมากข้ึนหมายถึงจ�านวนผู้คนในย่านใกล้ เคยี งท่ีน้อยลง บ้านเรือนชายป่ากลายเปน็ บา้ นรา้ ง ต�าบล อ�าเภอ และชานเมอื ง ทยอยไรผ้ ู้คนมาตามลา� ดับ ประชาชนอพยพหนโี จร ภยั ไปอาศยั ถึงติดก�าแพงเมืองราชคฤห์ และพากันเขา้ ร้องทุกข์ต่อ พระเจ้าปเสนทโิ กศล สวัสดิภาพชวี ติ ประชาชนลดลงเหลือระดับต�า่ ขณะท่จี อม โจรนับนิว้ มือในพวงมาลัยได้จ�านวนสงู ถงึ ๙๙๙ น้ิว ๑๘๒ มหาราชปรติ ร

อังคุลิมาลปริตร องคุลิมาลอาจได้นิ้วที่หน่ึงพันจากคนใดคนหนึ่งในจ�านวน ๓ คน หนงึ่ คือ พระเจา้ ปเสนทโิ กศล ที่เสด็จพร้อมกองทัพมำ้ หำ้ ร้อยตัวเพ่ือปรำบโจรโหดชื่อองคุลิมำลที่ออกฆ่ำคนมำถึงพื้นท่ีแคว้น โกศล สองคอื คณุ แม่เขาเอง ทไ่ี ปรบั ลูกชำยคนดีชือ่ อหงิ สกะกลบั บำ้ นเกดิ สำมคอื พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า พระบรมศำสดำผทู้ รงพระ กรุณำตอ่ สรรพสตั ว์เท่ำเทียมกนั ท่กี �ำลงั เสดจ็ ไปตำมทำงที่องคลุ -ิ มำลโจรดกั ซุม่ อยู่ หากพบพระเจ้าปเสนทโิ กศล เขามีสิทธกิ์ ลายเปน็ ศพ หาก พบคุณแม่ ผูท้ ี่จะกลายเปน็ ศพคอื คณุ แม่เขาเอง นัน่ หมายถึงเขาท�า กรรมหนัก หากบุญกุศลเขามีก็อาจไดพ้ บพระพุทธเจ้า แตจ่ ะเป็น ใครกต็ าม สา� หรบั องคุลมิ าลหมายถงึ ชีวิตทจ่ี ะมาเติมเตม็ จ�านวนพัน ดาบของเขาพรอ้ มมอบความตายให้แกท่ กุ คนอย่างเท่าเทียมกัน มหาราชปรติ ร ๑๘๓

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ทนั ใดน้ัน ณ เสน้ ทางท่มี ุ่งหนา้ ไปสู่ที่ที่องคลุ มิ าลโจรซุ่มอยู่ กป็ รากฏสมณะรูปหน่งึ ทีเ่ ดนิ อย่างปกติ ไมว่ ายท่ีชาวบา้ นท่เี ล้ียงโค อยจู่ ะตะโกนหา้ มและบอกให้เปลี่ยนเสน้ ทางเสยี แตส่ มณะนั้นยัง คงก้าวเดนิ ต่อไปเพือ่ เปลีย่ นใจโจร องคลุ มิ าลแลเห็นเปน็ คนแตล่ บิ ๆ พอใกล้เขา้ มาในระยะที่ เหน็ ชัดกร็ ูว้ า่ เป็นสมณะ นน่ั ทา� ใหเ้ ขานึกประหลาดใจอยูบ่ า้ ง เพราะ ทุกคราว คนผ่านมาทางนต้ี ้องรวมกล่มุ กนั ทลี ะสามสบิ ส่ีสิบคน และมีท่าทรี ะแวดระวงั ถึงกระนัน้ กไ็ มม่ สี กั คนทร่ี อดชีวติ จากคม อาวธุ ของเขา แม้แต่ทหารหลวงทีย่ กกนั มาเป็นกลุม่ ใหญ่ พอเขาโผออก จากท่ีซอ่ นพูดวา่ “ข้ำองคุลิมำลอยู่น่”ี ทหารเหล่านน้ั กแ็ ตกกระเจงิ กลายเป็นเอาชวี ิตมาทิ้งทง้ั หมด เขากระชับดาบในมอื หมายม่นั กับเหยือ่ รายสุดท้าย วิ่งด้วย ความเร็วสงู ตามหลงั สมณะจนใกล้เขา้ ไปอกี ไม่ก่ีวา ๑๘๔ มหาราชปรติ ร

อังคลุ มิ าลปรติ ร สมณะนน้ั ยงั เดนิ ด้วยอาการปกติ ขณะทีอ่ งคุลิมาลแม้จะ ว่ิงสุดก�าลัง แต่ยงั อยู่ในระยะห่างเท่าเดมิ ท�าใหเ้ ขาแปลกใจไม่ น้อยท่ใี ช้ความเรว็ ขนาดทเี่ คยวิง่ ตามจับกวางได้ ตามฆ่าคนทขี่ ี่ม้า หนไี ด้ แตก่ ลับว่ิงไม่ทันสมณะ การว่ิงไลก่ นิ ระยะทางสามโยชน์ จนท่สี ุดองคลุ มิ าลทเี่ หนื่อย ล้าและฉุนเฉยี วก็บอกใหส้ มณะหยดุ เดินเสียที “เรำหยุดแลว้ องคลุ มิ ำล ท่ำนเลำ่ หยดุ เถิด” ค�าพดู ทบ่ี อกวา่ ตนเองหยดุ ของสมณะขณะที่ยงั กา้ วเดินไป ไม่หยุด สร้างความไม่พอใจใหอ้ งคลุ มิ าลอย่างมาก เขาทราบดวี ่า นกั บวชจะนิยมพูดกนั แต่ความจรงิ “เดินอยู่แท้ ๆ แต่บอกวำ่ หยดุ แล้วยังบอกใหข้ ำ้ หยุด มนั หมำยควำมวำ่ อย่ำงไร” องคุลมิ าลตวาดถาม มหาราชปรติ ร ๑๘๕

ความเป็นมา : บทสวด : ค�าแปล “ดกู อ่ นองคลุ ิมำล หยดุ กค็ ือ หยดุ เบียดเบยี น เรำหยดุ จติ ใจ เบียดเบียนได้ ดว้ ยเมตตา ขนั ติ สาราณียธรรม เรำจึงเปน็ ผู้ท่หี ยดุ ได้และหยุดตลอดไป สว่ นท่ำนทีฆ่ ่ำคนมำเปน็ พัน ไมม่ ีเมตตา ขนั ติ สาราณีย- ธรรม เปน็ ผู้ท่ี ยังไม่หยดุ ถึงรำ่ งกำยจะหยุดอยูใ่ นทำ่ ยนื ก็ ไมใ่ ชจ่ ะ หยดุ การเกิดตอ่ ไปในนรก เปรต อสรุ กาย ทำ่ นยงั ไมห่ ยุดหรอก” องคลุ มิ าลมนั่ ใจในทนั ทีว่า สมณะนเ้ี ป็นใครอืน่ ไปไม่ได้ ต้องเป็น พระศากยบตุ รมหาศาสดา แน่นอน ท่ำนช่ำงมำโปรด อนเุ ครำะหค์ นผูห้ ลงผิดถึงในปำ่ ประทำนธรรมกถำท่ีเขำ้ ถึงใจและ กลับใจใหเ้ ห็นถงึ ธรรมได้ องคุลิมาลวางอาวุธแล้วก้มลงกราบท่ีพระบาทพระพุทธเจ้า ก่อนไดร้ ับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ พระองคุลิมาล อดีตผูเ้ คยถอื ดาบ แตบ่ ดั นเี้ ป็นพระสงฆ์ผูถ้ ือ บาตรตามหลังพระพทุ ธเจ้ากลับพระวิหารเชตวนั ขณะทีเ่ สียงหนึง่ ซง่ึ แหบพร่าดังอยู่ไกล ๆ หากฟงั ใกล้ ๆ จะได้ยินว่า “ลกู อหิงสกะ กลบั บำ้ นเรำเถิดลูก แม่มำรับแลว้ ” ๑๘๖ มหาราชปรติ ร

องั คุลิมาลปรติ ร พระองคุลมิ าลน่ังอยูไ่ ม่ไกลพระพุทธเจ้า ในขณะทพี่ ระเจา้ ปเสนทิโกศลก็ก�าลังเสด็จมากราบสนทนาในวัดก่อนออกเดินทางไป ปราบโจรองคลุ ิมาล พระพุทธองค์ตรสั ทักทายไถ่ถามถึงสขุ ภาพกาย สขุ ภาพใจของพระราชาวา่ มคี วามกังวลดว้ ยพระราชาที่อาณาเขต ตดิ ต่อกันหรอื ไม่ พระเจ้าปเสนทิโกศลตรสั บอกวา่ ไม่มีความหนักใจอน่ื มี เร่ืององคุลิมาลเพียงเรื่องเดียวที่เป็นปัญหาใหญ่ให้ต้องยกกองทัพ ม้าออกทา� หน้าทป่ี ราบโจรผู้ร้าย “มหำบพติ ร หำกองคุลมิ ำลบวชเป็นพระแลว้ พระองคจ์ ะ ท�ำอยำ่ งไรหรือ” “ข้ำแต่พระองค์ผู้เจริญ หมอ่ มฉันจะกรำบไหวด้ ว้ ยดีเลย จะ รบั อปุ ถมั ภ์มอบผำ้ ไตรจีวร กุฏิ วหิ ำร ภัตตำหำร น้�ำปำนะ เจ็บ ป่วยมำก็จะให้หยูกยำรักษำดูแล จะอ�ำนวยควำมสะดวกและคุ้ม ครองให้ด้วย ข้ำแต่พระองค์ผูเ้ จริญ แต่คนอยำ่ งองคุลิมำลก็รกู้ ัน อยูว่ ำ่ อำ� มหิตมำก ไม่มำบวชเป็นพระหรอก พระเจ้ำขำ้ ” มหาราชปรติ ร ๑๘๗

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล พระพุทธองค์ทรงยกพระหัตถ์เบ้ืองขวาข้ึนช้ีตรัสบอก พระเจ้าปเสนทิโกศลวา่ “ดกู ่อนมหำรำช น่นั องคลุ มิ ำล” ภาวะชะงักงนั เกิดกบั พระเจ้าปเสนทิโกศลในทนั ที แปร เป็นความกลัวจนจับจิต พระโลมชาติชชู ันด้วยหวนั่ ผวา ทหารทง้ั กองแตกกระเจงิ โดยท่ยี งั ไม่ได้มีเหตุการณ์ใดเกิดข้ึนเลย “อยำ่ ทรงกลัวเลย มหำรำช อยำ่ ทรงกลวั เลย มหำรำช จะไมม่ ีอันตรำยใด ๆ เกิดข้นึ กับพระองค์” พระพทุ ธองคต์ รสั บอก พระราชา พระเจา้ ปเสนทิโกศลค่อยพระทยั ชนื้ ขึ้น ต้ังสตไิ ดก้ เ็ ข้าไป กราบไหว้ ไต่ถามชื่อคุณพ่อคณุ แมแ่ ลว้ บอกถวายปวารณาใหก้ าร อุปถมั ภ์ พระองคลุ ิมาลตอบว่าที่มอี ยู่กพ็ อใช้ไม่ลา� บาก ขอถวายพระ พรอนโุ มทนา ๑๘๘ มหาราชปริตร

อังคลุ ิมาลปริตร ก่อนการเสด็จกลับ พระราชาได้ตรัสกับพระพุทธองค์ ว่า เป็นความน่าอัศจรรยจ์ รงิ แท้ พระพุทธองค์ทรงให้ความสงบ ใจแก่ผู้ท่ีใคร ๆ ก็ไม่อาจสยบ ข้าพระองค์เองเวลาท่ีจะก�าจัดภัย ก็ต้องใช้อาญาและอาวุธ ส่วนพระองค์ไม่ใชอ้ าญาหรอื อาวุธแต่ อย่างใดเลย พระองคุลิมาลปฏิบัติบ�าเพ็ญและออกบิณฑบาตอยู่เสมอ แม้วา่ จะเปน็ การบณิ ฑบาตทีไ่ ม่ไดอ้ ะไรกลบั มาเลย เสยี งท่ีบอกต่อกนั วา่ องคลุ ิมาลมาแล้ว ทา� ใหผ้ คู้ นหนีหาย เสยี สิ้น แมผ้ ูจ้ วนตัวท่ีหนีไม่ทันเขากย็ ืนหนั หลงั หลบ มหาราชปรติ ร ๑๘๙

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล เหตุการณ์หน่ึงท่ีสะดุดใจท่านจนต้องน�ามาเล่าให้พระ พทุ ธเจ้าฟังกค็ ือเห็น หญงิ ครรภแ์ ก่ ที่เดนิ ร่วมถนนกนั ตอนออก บิณฑบาต ท่านได้รา� พงึ ในใจว่า คนเรำน้ีมคี วำมหมองหม่นหนอ อาจเป็นเรื่องแปลกท่ีผู้เคยฆ่าคนมาเป็นพันจะเกิดความ รสู้ กึ เห็นอกเหน็ ใจเพ่ือนมนษุ ย์ด้วยเหตุเพยี งเหน็ คนอุ้มทอ้ ง แตจ่ ติ ใจดีงามเชน่ น้ีเกิดข้ึนแกพ่ ระองคุลิมาลนัน้ กด็ ้วย อำนุภำพบญุ กุศลที่ เกดิ จำกกำรบวช น่นั เอง พระพุทธองค์ทรงแนะน�าว่า หากพบเธออกี ใหต้ ัง้ ใจ กลำ่ ว สจั วำจำ เพื่อให้มารดาและบุตรในครรภ์ไดถ้ ึงความสวสั ดี น่ีคอื จดุ ก�าเนดิ ของ อังคลุ ิมาลปรติ ร ทใี่ ห้ควำมค้มุ ครองแม่ และเด็ก ซ่งึ เรม่ิ แตห่ ญิงคนนัน้ เปน็ ต้นมา ๑๙๐ มหาราชปริตร

องั คลุ ิมาลปริตร ตอ่ มา พระองคลุ มิ าลกเ็ ป็นทีร่ ้จู กั ในฐานะใหม่วา่ เป็นผใู้ ห้ ควำมปลอดภยั ในกำรคลอดบุตรดว้ ยกำรท�ำสัจจะ เมื่อมีคนจะคลอดก็นิมนต์ท่านไปนั่งเก้าอ้ีนอกม่านหน้าห้อง คลอดแลว้ กล่าวพระปรติ ร แม้แต่สตั วเ์ ลีย้ งทอ่ี อกลกู ยาก ก็มีคนน�า น้า� ล้างเกา้ อ้ีทที่ า่ นน่ังไปราดหัวจนออกลกู ง่ายก็มมี าก พระองคุลิมำลพ้นจำกควำมล�ำบำกกำยเรื่องอำหำร บิณฑบำต แตค่ วำมลำ� บำกใจยงั ไมห่ มดไปงำ่ ย ๆ ค�ำพดู และแววตำ ที่กลำ่ ววำ่ เจ้ำนำยจ๋ำ ปลอ่ ยฉันไปเถอะจะ้ ไวช้ ีวิตฉนั เถิด ลกู ฉันยงั เล็ก ๆ อย่เู ลย เหล่ำน้ีคอยรบกวนจิตใจไม่ให้สงบ แต่เม่ือท่านตั้งสัจวาจาอยู่เสมอตามค�าแนะน�าจากพระ พุทธเจา้ ก็สามารถต้งั มั่นได้ และบรรลธุ รรมเปน็ พระอรหนั ต์ ได้ใน ที่สดุ มหาราชปรติ ร ๑๙๑

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ณ โอกาสน้ี ขออญั เชญิ ถอ้ ยค�าทพี่ ระอรหันตอ์ งคุลิมาลได้ กล่าวในความสงบเงียบมาเป็นเครื่องเพม่ิ พนู ปีติกอ่ นสาธยายองั คุลิ- มาลปรติ ร ขอจงถงึ สารธรรมเช่นเดียวกับทีพ่ ระองคลุ ิมาลทา่ นถึง ขอจงบรรลุอานสิ งส์พระปริตรนี้ เทอญ. ก็ผู้ใดเม่ือก่อนประมาท ภายหลงั ผนู้ ั้นไมป่ ระมาท เขาย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดังพระจนั ทร์ซ่ึงพน้ แลว้ จากเมฆ ฉะนั้น ผใู้ ดทา� กรรมอันเป็นบาปแล้ว ยอ่ มปดิ เสยี ไดด้ ว้ ยกศุ ล ผนู้ นั้ ย่อมยงั โลกนีใ้ หส้ วา่ ง ดุจพระจันทร์พ้นแล้ว จากเมฆ ฉะนนั้ ภกิ ษใุ ดแลยังเปน็ หนุม่ ย่อมขวนขวายในพระพุทธศาสนา ภกิ ษนุ น้ั ยอ่ มยังโลกนใ้ี ห้สว่าง ดจุ พระจนั ทรพ์ น้ แล้ว จากเมฆ ฉะน้นั ขอศตั รทู ั้งหลายของเราจงฟังธรรมกถาเถดิ ขอศัตรูทงั้ หลายของเราจงขวนขวายในพระพุทธศาสนา เถิด ขอมนุษยท์ ง้ั หลายท่ีเป็นศตั รูของเรา จงคบสัตบุรุษ ผชู้ วนให้ถอื ธรรมเถิด ขอจงคบความผอ่ งแผ้วคอื ขันติ ความสรรเสรญิ คือ เมตตาเถดิ ขอจงฟังธรรมตามกาล และจงกระทา� ตามธรรมนนั้ เถดิ ๑๙๒ มหาราชปรติ ร

อังคลุ มิ าลปริตร ผู้ทเี่ ปน็ ศัตรูนน้ั ไม่พึงเบียดเบยี นเราหรือใคร ๆ อ่ืนนนั้ เลย ผถู้ งึ ความสงบอยา่ งย่งิ แลว้ พงึ รกั ษาไว้ซ่ึงสัตวท์ ี่สะดุ้งและ ทีม่ ่ันคง คนทดน�า้ ยอ่ มชักนา�้ ไปได้ ช่างศรย่อมดัดลูกศรได้ ชา่ งถากยอ่ มถากไม้ได้ ฉนั ใด บณั ฑติ ทัง้ หลายยอ่ ม ทรมานตนได้ ฉันนั้น คนบางพวกยอ่ มฝึกสตั วด์ ว้ ยท่อนไมบ้ ้าง ด้วยขอบ้าง ดว้ ยแส้บา้ ง เราเป็นผู้ทพี่ ระผู้มีพระภาคทรงฝกึ แลว้ โดยไม่ตอ้ งใช้อาญา ไม่ต้องใชศ้ าตรา เม่ือก่อนเรามชี ื่อวา่ อหิงสกะ แตย่ ังเบียดเบยี นสัตวอ์ ยู่ วันนี้เรามชี ่อื ตรงความจรงิ เราไม่เบยี ดเบียนใคร ๆ เลย เมอ่ื ก่อนเราเปน็ โจรปรากฏชอื่ วา่ องคลุ ิมาล ถกู กิเลส ดุจห้วงนา้� ใหญพ่ ัดไป มาถงึ พระพทุ ธเจ้าเป็นสรณะแล้ว เมอ่ื กอ่ นเรามมี ือเป้อื นเลือด ปรากฏชื่อวา่ องคุลิมาล ถงึ พระพทุ ธเจ้าเป็นสรณะ จงึ ถอนตัณหาอนั จะน�าไป สู่ภพเสยี ได้ เรากระท�ากรรมทจ่ี ะใหถ้ ึงทุคตเิ ช่นนัน้ ไวม้ าก อันวบิ ากของกรรมถกู ตอ้ งแล้ว เป็นผไู้ มม่ หี น้ี บรโิ ภคโภชนะ มหาราชปรติ ร ๑๙๓

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล พวกชนท่ีเปน็ พาลทรามปัญญา ย่อมประกอบตาม ซึ่งความประมาท ส่วนนักปราชญท์ ้ังหลายยอ่ มรกั ษา ความไมป่ ระมาทไว้ เหมือนทรัพย์อันประเสริฐ ฉะนั้น ทา่ นทัง้ หลายจงอยา่ ประกอบตามความประมาท อยา่ ประกอบตามความชดิ ชมดว้ ยอา� นาจความ ยินดใี นกาม เพราะว่าผู้ไมป่ ระมาทแล้วเพง่ อยู่ ย่อมถงึ ความสขุ อันไพบลู ย์ การทีเ่ รามาสู่พระพทุ ธศาสนานี้นนั้ เปน็ การมา ดแี ลว้ ไม่ปราศจากประโยชน์ ไมเ่ ป็นการคิดผิด บรรดาธรรมทีพ่ ระผูม้ ีพระภาคทรงจ�าแนกไว้ดีแลว้ เราก็ไดเ้ ขา้ ถงึ ธรรมอันประเสรฐิ สุดแล้ว (นิพพาน) การทเี่ ราไดเ้ ข้าถงึ ธรรมอนั ประเสริฐสุดนน้ี ั้น เป็นการถึงดแี ลว้ ไม่ปราศจากประโยชน์ ไมเ่ ป็นการคิดผิด วชิ ชา ๓ เราบรรลแุ ล้ว คา� สอนของพระพทุ ธเจา้ เรากระท�าแลว้ . ๑๙๔ มหาราชปริตร

บทขัดอังคุลมิ าลปริตร บทขัดองั คลุ ิมาลปริตร ปะริตตงั ยัมภะณนั ตัสสะ นิสินนฏั ฐานะโธวะนัง อุทะกมั ปิ วินาเสติ สัพพะเมวะ ปะรสิ สะยัง. น�า้ ลา้ งท่ีนัง่ ของพระองคลุ ิมาลผู้สวดพระปรติ รใด สามารถ ขจดั อนั ตรายท้ังปวงให้หมดไปได้ โสตถินา คัพภะวฏุ ฐานงั ยญั จะ สาเธติ ตงั ขะเณ เถรัสสงั คลุ มิ าลสั สะ โลกะนาเถนะ ภาสิตงั กัปปฏั ฐายิง มะหาเตชัง ปะรติ ตันตัมภะณามะ เห. พระปรติ รใด ที่พระมหาโลกนาถเจา้ ทรงภาษิตไว้ แก่พระ องคุลิมาลเถระย่อมสามารถยังการคลอดบุตรให้ส�าเร็จได้โดยสวัสดี ในทนั ที ขอเราทัง้ หลายจงสวดพระปริตรอันมีเดชใหญ่ คงอยู่ตลอด กปั นัน้ เทอญ. มหาราชปรติ ร ๑๙๕

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล บทองั คลุ ิมาลปรติ ร ยะโตหงั ภะคนิ ิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต, นาภชิ านามิ สญั จิจจะ ปาณัง ชวี ิตา โวโรเปตา. เตนะ สจั เจนะ โสตถิ เต โหต,ุ โสตถิ คัพภสั สะ. ดูกอ่ นน้องหญงิ นับแตเ่ ราเกิดโดยอริยชาตินีแ้ ลว้ เราไม่เคยคิดปลงชวี ติ สัตวเ์ ลย ดว้ ยสัจวาจาน้ี ขอความสวัสดจี งมีแก่เธอ ขอความสวัสดจี งมีแกค่ รรภข์ องเธอ ๑๙๖ มหาราชปรติ ร

มหาราชปรติ ร

ความเป็นมา : บทสวด : ค�าแปล โพชฌงั คปริตร โพชฌงค์ กับ โพชฌงั คปรติ ร โพชฌงค์ ๗ เปน็ หมวดธรรมอยใู่ นชดุ ของ โพธปิ ักขิยธรรม ๓๗ ประกำร ซึง่ เป็นธรรมะขนั้ ละเอยี ดลกึ ซง้ึ ท่ชี ่วยให้ตรสั รู้ เชน่ สติปัฏฐำน ๔ สัมมัปปธำน ๔ โพชฌงค์ แปลวา่ ธรรมท่ีเป็นองคแ์ ห่งกำรตรสั รู้ ประกอบ ดว้ ยธรรมเจด็ ประการ สติ ธมั มวจิ ยะ วริ ยิ ะ ปตี ิ ปสั สัทธิ สมำธิ และ อเุ บกขำ ผู้ปฏบิ ตั จิ ะใช้ธรรมะน้ีตามกรณไี ป เช่น เมื่อจติ ใจ ทอ้ ถอย กใ็ ช้ วิรยิ ธรรม เพ่ือความสมดลุ ของธรรม ในใจ หรือเม่ือจิตใจ ด�ำเนนิ ไปได้ดี ในการปฏิบตั ิกป็ ล่อยวางด้วย อุเบกขำธรรม พระอริยบคุ คลผูบ้ รรลุธรรมลว้ นแตไ่ ดร้ ับกำรเก้ือกลู ดว้ ยธรรมทง้ั เจด็ เหลำ่ นี้ สว่ น โพชฌังคปรติ ร คือ บทสวดท่ีกลำ่ วถึงโพชฌงค์ทัง้ เจด็ และเหตุกำรณส์ ำมเหตุกำรณ์ ทโ่ี พชฌงคเ์ ป็นธรรมโอสถช่วยเปลื้อง อาการป่วยไข้ให้หายส้ินไปได้ ๑๙๘ มหาราชปรติ ร

โพชฌงั คปรติ ร ครง้ั แรก พระพุทธเจา้ ประทับอยู่ทวี่ ดั เวฬวุ นั วดั ในปา่ ไผ่ ทรงทราบวา่ พระมหากสั สปเถระอาพาธหนัก ตอนเยน็ จงึ ได้เสด็จ ไปเยยี่ มถงึ ทอี่ ย่ขู องทา่ น ประทบั นง่ั ท่อี าสนะทีป่ ูไว้แล้วตรสั ถามถึง อาการอาพาธ พระมหากัสสปเถระทูลตอบว่า “ข้ำแต่พระองค์ผู้เจรญิ ขำ้ พระองค์อดทนไม่ได้ ยงั อตั ภำพ ให้เป็นไปไม่ได้ ทกุ ขเวทนำของข้ำพระองค์ก�ำเริบหนกั ยงั ไมค่ ลำย ไป ควำมก�ำเริบขึน้ ย่อมปรำกฏ ควำมทเุ ลำไม่ปรำกฏ” จากนั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเร่ืองโพชฌงค์แก่พระ มหากสั สปะ เมอ่ื ท่านไดฟ้ ังแล้วกร็ ะลกึ ถงึ โพชฌงค์เมอ่ื ครง้ั ทที่ ่าน บรรลธุ รรมเป็นพระอรหนั ต์ในวันทเี่ จ็ดของการบวช เป็นโพชฌงค์ ของท่านเอง เป็นองค์แห่งการตรสั รทู้ ี่เกดิ กับท่านเอง เปน็ การ ตรัสรขู้ องทา่ นเอง ผลคือระบบโลหิตและร่างกายกระฉับกระเฉง โรคในกายก็หายส้นิ ไป เหมือนหยดน้�าท่ีเกาะใบบวั ไมไ่ ดเ้ ป็นกล้งิ หลน่ ไป มหาราชปริตร ๑๙๙


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook