Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มหาราชปริตร

มหาราชปริตร

Published by thiwadon jirapunyo, 2022-07-14 15:24:49

Description: พระมหาวิสุทธิ ฐานากโร เรียบเรียงจากตำราและคำเทศนาของ
พระมหาประนอม ธมฺมาลงฺกาโร

Search

Read the Text Version

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล คร้ังทีส่ อง พระพุทธเจ้าทรงทราบขา่ วอาพาธของพระมหา- โมคคลั ลานะ จงึ เสดจ็ ดา� เนินจากวัดเวฬวุ ันไปเยี่ยมถงึ เขาคชิ ฌกฏู พระมหาโมคคลั ลานะทลู ตอบอาการเหมอื นพระมหากสั สปะ พอ พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเร่ืองโพชฌงค์โปรดก็หายจากอาพาธ เชน่ เดียวกัน คร้งั ทส่ี าม เมือ่ พระพทุ ธเจา้ ทรงประชวรทีอ่ ารามเวฬุวนั ได้ ตรสั บอกพระมหาจนุ ทะที่เข้าไปเฝ้าใหแ้ สดงโพชฌงคว์ า่ “ดกู อ่ นจนุ ทะ โพชฌงค์ทง้ั หลำยจงแจม่ แจง้ กับเธอ” พอ ท่านแสดงโพชฌงคถ์ วายจบ พระพุทธองคก์ ็หายจากพระประชวร บทบาทของโพชฌงค์ในสามเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็น สจั จะว่าช่วยให้หายปว่ ยไดจ้ ริง โพชฌังคปริตรน�าสามเหตกุ ารณ์ น้นั มาเปน็ บทต้งั สัจจะให้ผสู้ วดหรอื ผู้ปว่ ยหายจากอาการปว่ ย ซ่งึ เป็นคนละกรณีกนั ๒๐๐ มหาราชปรติ ร

โพชฌงั คปริตร กรณีของพระพุทธเจ้า พระมหากัสสปะ และพระมหา- โมคคลั ลานะ ซ่ึงเป็นพระอรหนั ต์ ระลกึ ถงึ โพชฌงค์ของตนซึ่งเป็น สภาวะธรรมที่มคี ณุ ภาพมาก เมอ่ื ฟงั แล้วระลกึ ตามจงึ หายปว่ ยได้ ส่วนกรณีของผู้สวดพระปริตรจะอาศัยสัจจะเป็นส�าคัญ และหากผู้ป่วยจะปฏบิ ตั ิตนเจริญโพชฌงคท์ ง้ั เจด็ ประการ กย็ อ่ มจะ เป็นประโชนม์ ากขึ้นด้วย คือไดใ้ ชค้ วามป่วยไข้ระลึกถงึ ธรรมะ ใช้ เวลานัน้ เจรญิ กุศล เพรำะสิ่งทีป่ ว่ ยนัน้ คือ ร่างกาย ซึ่งสง่ ผลถึง จติ ใจ ท่รี ัก รำ่ งกำยมำก จิตใจเปน็ กังวล เพรำะอยำกให้ร่ำงกำยหำยเป็นปกติ เมือ่ ยงั ไมห่ ำย จติ ใจจงึ เปน็ ทกุ ขม์ ำก เป็นทกุ ข์กายด้วยการป่วย และ เป็นทุกข์ใจด้วยโทสะ ทำ� ให้ทกุ ขก์ ำยดเู หมอื นวำ่ มีมำกกวำ่ เดมิ เพรำะถกู เพิม่ ดว้ ยทกุ ข์ใจ จนทกุ ขเ์ พรำะ อยากให้หายป่วย มำกกวำ่ ทุกข์เพราะปว่ ย มหาราชปริตร ๒๐๑

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล หากรักษาจติ ใจไว้ได้ในขณะทก่ี ายปว่ ยไข้ ก็ชอื่ ว่าได้หยดุ ความทุกข์ไว้ได้หนง่ึ ทาง และโพชฌงคท์ ้ังเจด็ คือธรรมะท่ีเหมาะสม ทสี่ ดุ ท่ีควรศึกษาพิจารณา ดงั ท่พี ระพุทธเจ้าตรัสในนพิ พานสูตรวา่ “ดกู ่อนภิกษทุ ง้ั หลำย โพชฌงค์ ๗ เหล่ำน้ี อันบคุ คลเจรญิ แล้ว กระท�ำให้มำกแล้ว ย่อมเป็นไปเพ่อื ควำมหน่ำยโดยส่วน เดยี ว เพือ่ คลำยก�ำหนัด เพื่อควำมดบั เพอื่ ควำมสงบระงบั เพื่อ ควำมรู้ยิ่ง เพือ่ ควำมตรสั รู้ เพอ่ื นิพพำน โพชฌงค์ ๗ เป็นไฉน คือ สติสัมโพชฌงค์ ธมั มวจิ ย- สมั โพชฌงค์ วิรยิ สมั โพชฌงค์ ปีติสมั โพชฌงค์ ปัสสทั ธิสัมโพชฌงค์ สมำธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขำสมั โพชฌงค์ ดูก่อนภิกษทุ งั้ หลำย โพชฌงค์ ๗ เหล่ำนี้แล อนั บคุ คลเจรญิ แล้ว กระทำ� ให้มำกแล้ว ย่อมเป็นไปเพอ่ื ควำมหน่ำยโดยส่วนเดยี ว เพื่อคลำยก�ำหนดั เพื่อควำมดับ เพอื่ ควำมสงบระงับ เพื่อควำมรยู้ ิ่ง เพื่อควำมตรัสรู้ เพือ่ นิพพำน” ขอให้มสี ุขภาพกายใจทแ่ี ข็งแรงเจริญด้วยกศุ ล ขอใหบ้ รรลุ อานสิ งส์ของพระปรติ รนี้ เทอญ. ๒๐๒ มหาราชปรติ ร

บทขดั โพชฌังคปริตร บทขดั โพชฌงั คปริตร สังสาเร สงั สะรันตานัง สพั พะทุกขะวนิ าสะเน สัตตะ ธมั เม จะ โพชฌังเค มาระเสนปั ปะมัททิโน. พชุ ฌติ ๎วา เยปเิ ม สัตตา ตภิ ะวา มุตตะกุตตะมา อะชาติง อะชะราพย๎ าธิง อะมะตงั นิพภะยัง คะตา. บคุ คลผู้ประเสรฐิ พน้ แล้วจากภพทั้งสาม บรรลพุ ระนิพพาน อันไม่เกดิ ไมแ่ ก่ ไม่เจ็บ ไมต่ าย ไม่มอี นั ตรายใด ๆ เพราะรแู้ จง้ โพชฌงค์เจ็ดประการ อนั เปน็ เครือ่ งขจดั ทกุ ข์ทั้งปวงของเหลา่ สัตว์ ผ้ทู อ่ งเทยี่ วไปในวฏั สงสาร อันย�่ายีมารและกองทพั ได้ เอวะมาทิคณุ เู ปตงั อะเนกะคณุ ะสังคะหงั โอสะถัญจะ อิมัง มันตงั โพชฌังคนั ตัมภะณามะ เห. ขอเราท้งั หลายจงสวดโพชฌงั คปริตรน้ัน อนั มีคุณอยา่ งน้ี เปน็ ต้น ซึง่ เปน็ ท้ังโอสถและมนต์ อันเปน็ ที่รวมแห่งคณุ เปน็ อเนกน้ี เทอญ. มหาราชปรติ ร ๒๐๓

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล บทโพชฌงั คปริตร โพชฌงั โค สะติสังขาโต ธัมมานงั วิจะโย ตะถา วริ ยิ ัมปีติปัสสัทธิ โพชฌงั คา จะ ตะถาปะเร. สะมาธุเปกขะโพชฌงั คา สตั เตเต สพั พะทสั สนิ า มนุ ินา สัมมะทกั ขาตา ภาวิตา พะหุลกี ะตา. โพชฌงค์ ๗ ประการ เหล่านี้ คือ สตสิ ัมโพชฌงค์ ธมั มวจิ ย- สัมโพชฌงค์ วิรยิ สัมโพชฌงค์ ปีตสิ ัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสมั โพชฌงค์ สมาธสิ ัมโพชฌงค์ อุเบกขาสมั โพชฌงค์ อันพระมุนีผูท้ รงรู้แจง้ ธรรม ท้ังปวงตรสั ไว้แล้วโดยชอบว่า ผ้บู า� เพ็ญและกระทา� โพชฌงค์ให้มาก สงั วตั ตนั ติ อะภิญญายะ นพิ พานายะ จะ โพธิยา เอเตนะ สจั จะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา. ย่อมเป็นไปเพ่อื ความรแู้ จ้ง เพือ่ บรรลถุ ึงพระนพิ พาน และ เพ่อื ความตรสั รู้ ด้วยสจั วาจาน้ี ขอความสวสั ดีจงมแี กท่ ่านทกุ เมือ่ เถดิ ๒๐๔ มหาราชปรติ ร

บทโพชฌงั คปริตร เอกัส๎มงิ สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คลิ าเน ทกุ ขิเต ทสิ ว๎ า โพชฌงั เค สตั ตะ เทสะยิ. สมัยหนง่ึ พระโลกนาถเจ้าทอดพระเนตรเห็นพระโมคคลั ลานะ และพระมหากัสสปะอาพาธได้รับความทกุ ข์ จึงทรงแสดง โพชฌงค์เจ็ด เต จะ ตัง อะภนิ ันทิตว๎ า โรคา มุจจงิ สุ ตงั ขะเณ เอเตนะ สจั จะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา. พระเถระทงั้ สองต่างยินดีรบั โพชฌงคน์ ั้น หายจากโรคทนั ที ด้วยสจั วาจาน้ี ขอความสวัสดีจงมแี ก่ท่านทกุ เมื่อเถดิ เอกะทา ธมั มะราชาปิ เคลัญเญนาภปิ ีฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตญั เญวะ ภะณาเปต๎วานะ สาทะรงั . ครั้งหนงึ่ แมอ้ งคพ์ ระธรรมราชาเอง ทรงพระประชวรหนกั จงึ ตรสั ส่ังใหพ้ ระจุนทเถระ สาธยายโพชฌงค์นั้นแหละถวายโดย เคารพ สัมโมทิตว๎ า จะ อาพาธา ตัม๎หา วฏุ ฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สพั พะทา. พระพทุ ธองค์ทรงบันเทิงพระทยั ทรงหายจากโรคาพาธ นั้นโดยพลนั ด้วยสัจวาจาน้ี ขอความสวสั ดีจงมีแกท่ า่ นทกุ เมือ่ เถิด มหาราชปรติ ร ๒๐๕

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ปะหนี า เต จะ อาพาธา ติณณนั นมั ปิ มะเหสินัง มคั คาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานปุ ปตั ตธิ มั มะตงั เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา. อาพาธเหลา่ น้ัน ของพระพทุ ธเจา้ และพระเถระท้งั หลาย ผู้ แสวงหาคณุ อนั ประเสรฐิ ท้ังสาม ไดห้ ายไปแลว้ ดจุ กิเลสทถี่ กู พระ อรยิ มรรคก�าจัดแล้ว ถงึ ความไม่กา� เริบอีกเปน็ ธรรมดา ดว้ ยสัจ- วาจานี้ ขอความสวัสดีจงมแี กท่ ่านทุกเมื่อเถิด. ๒๐๖ มหาราชปรติ ร

อภยปริตร อภยปรติ ร อภยปรติ ร คอื พระปริตรไมม่ ีภยั ทกี่ ลา่ วอา้ งคณุ พระ รัตนตรยั มาขจดั สิ่งชวั่ รา้ ย สนั นิฏฐานว่าประพนั ธ์โดยพระเถระชาว เชียงใหม่ สมยั เดยี วกบั คาถาชนิ บญั ชร ต่อมาได้แพร่หลายไปถงึ ประเทศพม่าและศรลี งั กา โบราณทา่ นแนะนา� ว่า หากฝันรา้ ยให้ สวด ยันทนุ จะช่วยกลับรา้ ยกลายเป็นดี ยนั ทนุ ก็คอื อภยปรติ ร น้ี เอง แท้จรงิ แล้ว ความฝนั เกิดจากเหตุ ๔ ประการ คอื ๑. ธาตโุ ขภะ ธำตกุ �ำเริบ คือ ธาตุสไ่ี ม่สมดุลกันเนอ่ื งจากรับ ประทานมากเกนิ ไปเป็นตน้ เช่น ฝนั ว่าตกเขา ถกู สตั ว์รา้ ยไลต่ าม ๒. อนุภตู ปพุ พะ อำรมณ์ทีเ่ คยเสวย คอื ใจหน่วงเหนี่ยว เกบ็ เอาส่ิงทต่ี นพบเหน็ เม่ือกอ่ นมาฝัน ๓. เทวโตปสงั หาระ เทวดำนอ้ มนำ้ วใจ คือ เทวดาบอกเหตุ ดีหรอื รา้ ย ทา� ใหฝ้ ันส่ิงทเ่ี ป็นประโยชนบ์ ้าง ความหายนะบา้ ง อาจ เปน็ จริงหรือไม่จรงิ ก็ได้ ๔. ปพุ พนิมติ ตะ บุพนิมติ ของกรรม คอื ฝันเหน็ ส่งิ ทีจ่ ะเปน็ ประโยชน์บา้ ง ความหายนะบา้ ง เพราะอา� นาจของกุศลและอกุศล ที่ได้ทา� ไว้ ในความฝันทัง้ ส่ขี ้อนี้ ข้อสดุ ท้ายเช่อื ถอื ได้ อยา่ งไรกต็ าม เมื่อระลึกถึงพระรัตนตรัยแล้วจิตย่อมผ่องใสด้วยศรัทธาท่ีเช่ือใน พระพุทธเจ้าและในกรรม มหาราชปริตร ๒๐๗

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล บทขดั อภยปริตร ปุญญะลาภัง มะหาเตชัง วณั ณะกติ ตมิ ะหายะสัง สพั พะสตั ตะหิตงั ชาตงั ตงั สุณันตุ อะเสสะโต. อัตตัปปะระหิตัง ชาตงั ปะริตตันตัมภะณามะ เห. ขอท่านสาธชุ นทั้งหลาย จงฟงั พระปรติ รนน้ั อนั ให้ได้บญุ มีเดชมาก มเี กยี รติคุณ มยี ศมาก อนั เปน็ ประโยชนเ์ กอ้ื กูลแก่สตั ว์ ทั้งปวงโดยท่ัวไป ขอเราท้งั หลาย จงสวดพระปรติ รนั้น อันเป็น ประโยชน์เก้อื กูลแก่ตนและผู้อนื่ เทอญ. ๒๐๘ มหาราชปริตร

บทอภยปริตร บทอภยปรติ ร ยนั ทนุ นิมิตตงั อะวะมงั คะลัญจะ โย จามะนาโป สะกณุ สั สะ สทั โท ปาปัคคะโห ทสุ สุปนิ ัง อะกันตงั พุทธานภุ าเวนะ วินาสะเมนต.ุ ลางร้ายและสง่ิ ที่เปน็ อัปมงคลใด ๆ เสยี งนกทีไ่ ม่นา่ ชอบใจและบาปเคราะหใ์ ด ๆ ฝนั รา้ ยทีไ่ ม่ตอ้ งการอนั ใด ท่มี อี ยู่ ขอส่ิงเหลา่ นน้ั จงถงึ ความพินาศไป ดว้ ยพุทธานุภาพเถดิ ยนั ทุนนมิ ติ ตงั อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปคั คะโห ทุสสุปินัง อะกนั ตัง ธมั มานภุ าเวนะ วนิ าสะเมนตุ. ลางรา้ ยและสิง่ ทเ่ี ป็นอัปมงคลใด ๆ เสยี งนกท่ไี มน่ า่ ชอบใจและบาปเคราะหใ์ ด ๆ ฝนั รา้ ยทไี่ ม่ตอ้ งการอนั ใด ทีม่ อี ยู่ ขอสง่ิ เหลา่ นนั้ จงถงึ ความพนิ าศไป ดว้ ยธรรมานุภาพเถิด มหาราชปรติ ร ๒๐๙

ความเป็นมา : บทสวด : คา� แปล ยนั ทนุ นมิ ิตตงั อะวะมังคะลญั จะ โย จามะนาโป สะกณุ ัสสะ สทั โท ปาปคั คะโห ทสุ สุปนิ ัง อะกนั ตัง สงั ฆานุภาเวนะ วินาสะเมนต.ุ ลางรา้ ยและสงิ่ ทีเ่ ปน็ อัปมงคลใด ๆ เสยี งนกท่ไี ม่นา่ ชอบใจและบาปเคราะหใ์ ด ๆ ฝนั ร้ายทีไ่ ม่ต้องการอันใด ท่ีมีอยู่ ขอส่งิ เหลา่ น้นั จงถงึ ความพนิ าศไป ดว้ ยสังฆานภุ าพเถิด. ๒๑๐ มหาราชปรติ ร

เทวตาอุยโยชนคาถา เทวตาอยุ โยชนคาถา เป็นบทสวดส่งเทวดำ ทไ่ี ด้เชื้อเชญิ มาด้วยน้�าใจและด้วยกตัญญใู นตอนต้นอย่างเป็นการเป็นงาน เมอ่ื จะจากลา จงึ มบี ทส�าหรบั สวดให้เหมาะสม ขอให้เทวดาเหล่านั้นอนโุ มทนาบญุ กศุ ล และขอฝากคา� ย้�า เตอื นว่า จงใหท้ านดว้ ยศรัทธา รักษาศลี อยู่เสมอ และยินดใี นการ เจริญภาวนา และขอผูกมนต์ความคุ้มครองรักษาด้วยเดชก�าลังของพระ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระปจั เจกพุทธเจ้า และพระอรหนั ตท์ ้งั หลาย มหาราชปรติ ร ๒๑๑

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล เทวตาอยุ โยชนคาถา ทกุ ขปั ปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปตั ตา จะ นพิ ภะยา โสกัปปตั ตา จะ นิสโสกา โหนตุ สพั เพปิ ปาณิโน. ขอสตั ว์ท้ังปวงทีม่ ีทกุ ข์ จงหายทกุ ข์ ทมี่ ีภยั จงปราศ จากภัย ทม่ี โี ศก จงหายโศกเถิด เอตตาวะตา จะ อมั ๎เหหิ สัมภะตัง ปญุ ญะสมั ปะทงั สัพเพ เทวานโุ มทนั ตุ สัพพะสัมปตั ติสทิ ธิยา. ขอเหลา่ เทวดาท้ังปวง จงอนุโมทนาบุญสมบตั ิ ที่ข้าพเจ้า ทั้งหลายไดบ้ �าเพญ็ ด้วยการสวดพระปรติ รเหล่าน้ี เพ่อื ความสา� เรจ็ แหง่ สมบัติทงั้ ปวงเถดิ ทานงั ทะทนั ตุ สัทธายะ สลี งั รักขันตุ สัพพะทา ภาวะนาภิระตา โหนตุ คจั ฉนั ตุ เทวะตาคะตา. ขอเทวดาทัง้ หลายจงใหท้ านดว้ ยศรัทธา จงรักษาศีลอยทู่ กุ เมอ่ื จงเปน็ ผู้ยินดใี นภาวนา ขอเชิญเทวดาทั้งหลายที่มาประชุมกัน ในทีน่ กี้ ลับสถานของตนเถดิ สัพเพ พทุ ธา พะลปั ปัตตา ปัจเจกานญั จะ ยงั พะลัง อะระหนั ตานญั จะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส. ข้าพเจ้าขอผูกมนต์คุ้มครองรักษาไว้โดยประการทั้งปวง ดว้ ยเดชแห่งพระกา� ลังของพระพุทธเจ้าทัง้ หลายทกุ พระองค์ ผู้ทรง พลานุภาพ ดว้ ยเดชแหง่ ก�าลังของพระปัจเจกพทุ ธเจ้าทั้งหลาย และ ดว้ ยเดชแห่งกา� ลังของพระอรหนั ต์ทงั้ หลาย. ๒๑๒ มหาราชปริตร

ชยปรติ ร ชยปริตร หรือเรียกวา่ ชะยันโต นี้ กล่ำวถงึ ชัยชนะของ พระพทุ ธเจ้ำ แลว้ อา้ งสัจวาจาน้นั มาคุ้มครองใหม้ ีความสวัสดี คำถำ ๑-๓ กล่าวอ้างอิงชยั ชนะทีเ่ ยีย่ มยอดของพระพทุ ธ- เจา้ คอื การชนะกิเลสทง้ั สิ้น ณ ควงไมโ้ พธิ์ คำถำ ๔-๖ เป็นพระพทุ ธพจนท์ ี่นา� มาจากคมั ภรี อ์ ังคตุ ตร- นิกาย ปุพพณั หสตู ร ท่ีกลา่ วถึงเวลาท่ีทา� ความดีเป็นฤกษท์ ่ีดี พระปริตรนี้ มอี านิสงสใ์ หเ้ กดิ ชัยชนะและสริ ิมงคล อย่างไร กต็ าม กำรเอำชนะกิเลสตนได้ก็คอื ชยั ชนะอันเปน็ สริ ิมงคล มหาราชปรติ ร ๒๑๓

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล บทขดั ชยปรติ ร ชะยงั เทวะมะนสุ สานงั ชะโย โหตุ ปะราชิโต มาระเสนา อะภิกกนั ตา สะมนั ตา ท๎วาทะสะโยชะนา. ขนั ตีเมตตาอะธิฏฐานา วทิ ธงั เสต๎วานะ จกั ขุมา ภะวาภะเว สงั สะรนั โต ทพิ พะจกั ขงุ วิโสธะย.ิ ขอชยั ชนะจงมแี กเ่ ทวดาและมนุษย์ท้ังหลาย ขอใหผ้ ู้ท่ีพ่าย แพจ้ งกลับมชี ยั ชนะ พระพทุ ธเจ้าผูม้ ีจักษุ เมอ่ื ยังท่องเท่ียวอยูใ่ น ภพนอ้ ยใหญ่ ทรงก�าจดั มารและกองทัพใหห้ ่างออกไป ๑๒ โยชน์ โดยรอบ ดว้ ยขนั ตบิ ารมี เมตตาบารมี และอธิษฐานบารมี ทรงท�า ทิพยจักษุให้บรสิ ทุ ธผ์ิ ่องใสแล้ว ปะรยิ าปนั นาทิโสตถานงั หิตายะ จะ สุขายะ จะ พุทธะกิจจงั วิโสเธต๎วา ปะรติ ตนั ตัมภะณามะ เห. ทรงบ�าเพญ็ พุทธกจิ ส�าเรจ็ บรบิ รู ณ์ เพอ่ื ประโยชนเ์ ก้อิื กลู และความสขุ แกส่ ัตวท์ ้งั หลายผ้มู ุง่ หมายความสวสั ดเี ป็นต้น ขอเรา ทั้งหลายจงสวดพระปรติ รนน้ั เทอญ. ๒๑๔ มหาราชปรติ ร

บทชยปริตร บทชยปริตร มะหาการณุ ิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรต๎วา ปาระมี สัพพา ปตั โต สมั โพธิมตุ ตะมงั เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง. พระพทุ ธเจ้าผู้ทรงพระมหากรุณาธคิ ณุ ทรงเป็นทีพ่ ึ่งของ โลก ทรงบ�าเพ็ญบารมีครบทุกประการ เพอ่ื ประโยชน์เก้ือกลู แก่ สตั วท์ ้งั ปวง ทรงบรรลุพระสมั โพธิญาณอันยอดเยยี่ ม ด้วยสจั วาจานี้ ขอชยั มงคลจงมแี กท่ า่ น ชะยันโต โพธิยา มูเล สกั ๎ยานงั นันทิวัฑฒะโน เอวัง ต๎วงั วชิ ะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล. ขอทา่ นจงมชี ัยชนะ เหมือนพระพทุ ธเจ้าผ้ทู รงเพิ่มพูนความ ยนิ ดแี กเ่ จา้ ศากยะท้งั หลาย ทรงชนะ ณ ควงไมโ้ พธพิ ฤกษ์ ขอทา่ น จงชนะในชยั มงคลเถิด อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวโิ ปกขะเร อะภิเสเก สพั พะพทุ ธานัง อคั คปั ปัตโต ปะโมทะต.ิ (ขอทา่ นจงบรรลุถงึ ความเปน็ เลิศ เบิกบานใจ) เหมือนพระ พุทธเจา้ ผ้ทู รงบรรลุธรรมอันเลิศ ทรงเบกิ บานพระทยั เหนอื บัลลังก์ แหง่ ชยั ชนะ ณ พน้ื ปฐพอี ันประเสรฐิ เลิศแผน่ ดิน อนั เปน็ ที่ตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้าทกุ พระองค์ มหาราชปริตร ๒๑๕

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล สนุ กั ขตั ตงั สุมังคะลงั สุปะภาตัง สุหฏุ ฐติ ัง สุขะโณ สมุ ุหุตโต จะ สุยฏิ ฐัง พร๎ ัห๎มะจาริสุ. (วันทบ่ี �าเพ็ญสจุ ริตธรรมสามประการ) ก็เปน็ ฤกษ์ดี มงคล ดี ยามรุ่งดี ยามตื่นดี ขณะดี ชัว่ ครู่ดี ทานท่ีถวายแก่ผ้ปู ระพฤติ พรหมจรรย์ (ในวนั ทบ่ี �าเพญ็ สุจรติ ธรรมสามประการ) เปน็ ทานท่ี ถวายดีแลว้ ปะทักขิณัง กายะกมั มงั วาจากัมมัง ปะทกั ขิณงั ปะทักขณิ งั มะโนกัมมงั ปะณิธี เต ปะทกั ขิณา ปะทกั ขณิ านิ กัตว๎ านะ ละภนั ตตั เถ ปะทักขเิ ณ. กายกรรม (ที่ทา� ในวนั นั้น) เป็นกรรมท่ดี ี วจกี รรมก็เป็น กรรมทด่ี ี มโนกรรมก็เป็นกรรมที่ดี ความตง้ั ใจของท่านก็เป็นสง่ิ ทด่ี ี บุคคลท้งั หลายเมื่อทา� กายกรรมเป็นต้นทีด่ ี ยอ่ มได้รบั ผลทีด่ ี เต อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬ๎หา พทุ ธะสาสะเน อะโรคา สขุ ิตา โหถะ สะหะ สพั เพหิ ญาติภิ. ขอให้ทา่ นท้ังหลาย (ทงั้ ชายและหญงิ ) พร้อมทั้งญาตมิ ติ ร ทั้งปวง จงไดร้ บั ประโยชน์ มีความสุข ร่งุ เรอื งในพระศาสนาของ พระพุทธเจ้า เป็นผ้ปู ราศจากโรค มีความสุข เทอญ. ๒๑๖ มหาราชปรติ ร

บทสพั พมังคลคาถา บทสัพพมังคลคาถา ภะวะตุ สัพพะมงั คะลัง รักขนั ตุ สัพพะเทวะตา สพั พะพุทธานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. ขอสรรพมงคลจงมแี ก่ทา่ น ขอเหล่าเทวดาท้งั ปวงจงรักษา ทา่ น ด้วยอานภุ าพแหง่ พระพุทธเจา้ ท้งั ปวง ขอความสวัสดที ้ังหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมือ่ เทอญ. ภะวะตุ สัพพะมงั คะลงั รกั ขนั ตุ สพั พะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทง้ั ปวงจงรกั ษา ท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทงั้ ปวง ขอความสวสั ดที ั้งหลายจง มแี กท่ า่ นทุกเม่อื เทอญ. ภะวะตุ สพั พะมังคะลงั รักขนั ตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวนั ตุ เต. ขอสรรพมงคลจงมีแกท่ ่าน ขอเหลา่ เทวดาทง้ั ปวงจงรกั ษา ท่าน ดว้ ยอานภุ าพแห่งพระสงฆท์ ง้ั ปวง ขอความสวสั ดีทั้งหลายจงมี แก่ทา่ นทุกเมื่อ เทอญ. มหาราชปริตร ๒๑๗

ความเปน็ มา : บทสวด : ค�าแปล แผเ่ มตตา เมตตา เป็นหนงึ่ ใน พรหมวิหารสี่ ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของ พรหม คอื เมตตา ควำมปรำรถนำดีอย่ำงจริงใจต่อเพ่อื นมนุษย์ กรณุ า ควำมสงสำร เม่อื พบเห็นผอู้ ่นื ประสบทุกข์และปรารถนาให้ พ้นจากทกุ ข์ มทุ ติ า ควำมพลอยยนิ ดี เมื่อพบเห็นผู้อ่นื ดกี ว่าตน และ อเุ บกขา กำรวำงเฉย เมอ่ื ตนไม่อาจชว่ ยเหลือผ้อู ่นื ด้วยเมตตา หรอื กรุณา ก็คา� นงึ วา่ เขาไดร้ ับผลเชน่ นีเ้ พราะกรรมของตน ในขณะแผเ่ มตตา ควรแผ่เมตตาให้ตวั เองก่อน เพือ่ สรา้ ง ความรู้สกึ เป็นมิตรในจิตเราว่า เราปรารถนาสขุ เกลยี ดทกุ ข์ คน อนื่ ๆ ก็เช่นกัน แลว้ จงึ แผแ่ กผ่ อู้ นื่ ภายหลัง โดยจิตเรามงุ่ ไปสู่ความ ปรารถนาดเี ปน็ หลัก สรรพสัตวเ์ ปน็ เพียงฉากหลงั ถา้ จติ ของเรามุ่ง ไปทส่ี รรพสตั วเ์ ป็นหลกั เมตตาจะมกี า� ลงั น้อย บรกิ รรมคา� แผเ่ มตตา อยา่ งตอ่ เนื่อง จะบริกรรมในใจหรือเปลง่ เสียงเบา ๆ เป็นคา� บาลี หรือไทยก็ได้ ๒๑๘ มหาราชปรติ ร

บทแผ่เมตตาให้แก่ตนเอง บทแผเ่ มตตาให้แกต่ นเอง อะหัง สุขโิ ต โหมิ. ขอให้ข้าพเจ้าจงมคี วามสขุ เถดิ อะหงั นิททุกโข โหมิ. ขอให้ขา้ พเจ้าอย่าไดม้ คี วามทกุ ขเ์ ลย อะหัง อะเวโร โหมิ. ขอใหข้ า้ พเจา้ จงเป็นสขุ เป็นสุขเถดิ อยา่ ได้มเี วรแก่กันและ กันเลย อพั ย๎ าปชั โช โหม.ิ จงเปน็ สุขเป็นสขุ เถดิ อย่าได้เบยี ดเบียนซ่ึงกนั และกันเลย อะนีโฆ โหมิ. จงเป็นสุขเปน็ สุขเถิด อย่าไดม้ คี วามทกุ ขก์ ายทุกข์ใจเลย สขุ .ี อตั ตานงั ปะริหะรามิ. จงมคี วามสุขกายสุขใจ รกั ษาตนให้พ้นจากทกุ ข์ภัยท้งั สิ้น เถดิ . ถ้าผูแ้ ผเ่ มตตาเป็นสตรใี หบ้ รกิ รรมวา่ อะหงั สขุ ิตา โหมิ. นทิ ทกุ ขา โหมิ. อะหงั อะเวรา โหม.ิ อัพ๎ยาปชั ชา โหม.ิ อะนฆี า โหม.ิ สขุ ินี. อัตตานงั ปะริหะราม.ิ มหาราชปริตร ๒๑๙

ความเป็นมา : บทสวด : ค�าแปล บทแผอ่ ัปปมญั ญา บทแผเ่ มตตา สพั เพ สัตตา สตั วท์ ้งั หลายทั้งปวง อะเวรา โหนตุ. จงเป็นสขุ เป็นสขุ เถดิ อยา่ ได้มเี วรแก่กนั และกันเลย อัพย๎ าปชั ชา โหนต.ุ จงเป็นสขุ เป็นสุขเถดิ อย่าไดเ้ บียดเบียนซึง่ กนั และกันเลย อะนฆี า โหนตุ. จงเป็นสุขเป็นสขุ เถิด อยา่ ไดม้ ีความทุกข์กายทกุ ขใ์ จเลย สขุ .ี อตั ตานงั ปะรหิ ะรันตุ. จงมคี วามสุขกายสขุ ใจ รักษาตนใหพ้ น้ จากทกุ ข์ภยั ทั้งสิ้น เถดิ . บทแผก่ รณุ า สัพเพ สัตตา ทกุ ขา มจุ จนั ตุ. สัตวท์ ั้งหลายทง้ั ปวง จงพ้นจากทกุ ขเ์ ถิด. ๒๒๐ มหาราชปรติ ร

บทแผอ่ ัปปมญั ญา บทแผม่ ุทิตา สพั เพ สัตตา ยะถาลทั ธะสัมปัตตโิ ต มา วิคจั ฉนั ต.ุ สัตวท์ ั้งหลายทัง้ ปวง อย่าพลดั พรากจากสมบตั ิทตี่ นได้ รบั เลย. บทแผ่อุเบกขา สัพเพ สตั ตา กมั มสั สะกา โหนติ. สตั ว์ทงั้ หลายทง้ั ปวง เปน็ ผู้มกี รรมเปน็ สมบตั ขิ องตน. ตามหลกั อภธิ รรม พรหมวหิ ารเหลา่ น้ี เรยี กว่า อัปปมญั ญา คอื ธรรมทไ่ี มม่ ีประมำณ หมายความว่า ผู้บา� เพ็ญพรหมวหิ ารเหล่านี้ พงึ แผไ่ ป ในเหลา่ สตั ว์ผ้อู ย่ใู นสถานที่ทง้ั ปวงไมจ่ า� กดั บคุ คล ท้งั ปราศจากจิตผกู พันใน บุคคลเหลา่ น้ัน มหาราชปรติ ร ๒๒๑

ความเป็นมา : บทสวด : ค�าแปล บทปั ตติทานคาถา ยา เทวะตา สนั ติ วหิ าระวาสนิ ี ถูเป ฆะเร โพธิฆะเร ตะหงิ ตะหิง เทวดาเหล่าใดมปี กตอิ ยใู่ นวิหาร, สถติ อยู่ที่เรอื นพระสถูป ทีเ่ รือนโพธิใ์ นที่น้นั ๆ ตา ธัมมะทาเนนะ ภะวนั ตุ ปูชิตา โสตถงิ กะโรนเตธะ วหิ าระมณั ฑะเล เทวดาเหล่าน้ัน เปน็ ผ้อู นั เราท้ังหลายบชู าแล้ว ดว้ ยธรรม ทาน ขอจงกระทา� ความสวสั ดใี นวิหารมณฑลนี้ เถรา จะ มชั ฌา นะวะกา จะ ภกิ ขะโว สารามิกา ทานะปะตี อุปาสะกา พระภิกษทุ ้งั หลาย ท่เี ปน็ เถระกด็ ี ที่เปน็ มชั ฌิมะก็ดี ที่เปน็ นวกะกด็ ี, อบุ าสกอุบาสิกาท้งั หลาย ผู้เป็นทานบดีก็ดี พรอ้ มดว้ ย อารามกิ ชนกด็ ี คามา จะ เทสา นคิ ะมา จะ อิสสะรา สปั ปาณะภตู า สุขิตา ภะวันตุ เต ชนทง้ั หลายที่เปน็ ชาวบา้ นก็ดี ที่เป็นชาวเมืองกด็ ี ทีเ่ ป็นชาว นคิ มก็ดี ที่เปน็ อสิ รชนก็ด,ี ขอสัตวท์ ีม่ ชี วี ิตเหล่านน้ั จงเป็นผูถ้ งึ ซ่ึง ความสุขเถดิ ๒๒๒ มหาราชปริตร

บทปัตติทานคาถา ชะลาพุชา เยปิ จะ อณั ฑะสมั ภะวา สังเสทะชาตา อะถะโวปะปาตกิ า แมส้ ตั ว์เหล่าใด ที่เป็นชลาพุชะกา� เนดิ กด็ ี ทเี่ ป็นอัณฑชะ ก�าเนดิ ก็ด,ี ท่ีเป็นสังเสทชะกา� เนดิ กด็ ี ที่เปน็ โอปปาติกะก�าเนดิ ก็ดี นิยยานกิ ัง ธัมมะวะรัง ปะฏิจจะ เต สัพเพปิ ทกุ ขสั สะ กะโรนตุ สงั ขะยัง. สัตว์เหล่านนั้ แม้ท้ังปวงอาศัยพระธรรมอันประเสริฐอันเป็น นยิ ยานิกธรรมน�าออกจากสงั สารแลว้ , จงกระทา� ความส้นิ ไปแห่ง ทุกข์เถดิ ฐาตุ จิรงั สะตัง ธมั โม ธัมมัทธะรา จะ ปคุ คะลา ขอธรรมของสตั บุรุษท้ังหลาย และบุคคลทั้งหลายผู้ทรง ธรรม จงดา� รงอย่สู ้ินกาลนาน สังโฆ โหตุ สะมัคโควะ อัตถายะ จะ หติ ายะ จะ ขอพระสงฆ์จงเป็นผูพ้ รอ้ มเพรียงกันทีเดียว เพ่อื ประโยชน์ และเก้อื กลู เถดิ อัม๎เห รกั ขะตุ สทั ธมั โม สพั เพปิ ธมั มะจารโิ น ขอพระสัทธรรมจงรักษาเราทั้งหลาย และผูป้ ระพฤติธรรม แมท้ ง้ั ปวง วฑุ ฒิง สัมปาปเุ ณยยามะ ธัมเม อะรยิ ปั ปะเวทเิ ต. ขอเราท้งั หลายพงึ ถงึ พร้อมความเจริญ ในธรรมทีพ่ ระอรยิ เจา้ ประกาศไว้แลว้ เถิด. มหาราชปรติ ร ๒๒๓

ความเปน็ มา : บทสวด : คา� แปล ปะสนั นา โหนตุ สพั เพปิ ปาณโิ น พทุ ธะสาสะเน ขอสัตวม์ ีชวี ิตแม้ทงั้ ปวง จงเป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา สมั มา ธารงั ปะเวจฉันโต กาเล เทโว ปะวัสสะตุ ขอฝนจงตกต้องตามฤดูกาล เพม่ิ สายธารให้โดยชอบ วฑุ ฒภิ าวายะ สตั ตานัง สะมทิ ธงั เนตุ เมทะนิง จงนา� ความส�าเร็จมาสู่พ้ืนปฐพี เพือ่ ความเจริญแกส่ ัตวท์ ั้ง หลาย มาตา ปติ า จะ อตั ร๎ ะชัง นจิ จงั รกั ขนั ติ ปตุ ตะกงั มารดาและบิดายอ่ มรักษาบุตรน้อย ผเู้ กดิ ในตนเป็นนิตย์ ฉนั ใด, เอวงั ธมั เมนะ ราชาโน ปะชงั รกั ขันตุ สพั พะทา. ขอพระราชาจงปกครองประชาชนโดยชอบธรรม ในกาล ทุกเมื่อ ฉนั น้ัน เถดิ . ๒๒๔ มหาราชปริตร

คา� ถวายผา้ กฐิน คา� ถวายผา้ กฐิน นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พุทธสั สะ. (สวด ๓ หน) มะยงั ภนั เต กัมมญั จะ กัมมะผะลญั จะ สัททะหิต๎วา สะมะสทั ธา สะมะฉนั ทา สะมะจติ ตา สังสาระวัฏฏะทกุ ขะโต โมจะนัตถายะ นพิ พานัสสะ สจั ฉิกะระณัตถายะ อมิ ัง กะถินะ- จวี ะรัง สะปะรวิ ารัง สังฆสั สะ เทมะ, อมิ นิ า จวี ะเรนะ กะถนิ งั อตั ถะระถะ. อิทัง โน ปญุ ญัง นพิ พานสั สะ ปจั จะโย โหต.ุ อมิ ัง ปุญญะปตั ติง มาตาปติ ุ อาจะริยะ อยั ยะกะ อยั ยิกา ญาตมิ ิตตานงั เสสะสัตตานัญจะ เทมะ. สัพเพปิ เต อิมงั ปุญญะ- ปตั ตงิ ลทั ธานะ สขุ ติ า โหนต.ุ ข้าแตพ่ ระสงฆ์ผเู้ จรญิ ขา้ พเจ้าทง้ั หลายเชื่อกรรมและผลของ กรรม มีจติ ศรัทธา พรอ้ มเพรียงกนั เป็นเอกฉนั ท์ ขอนอ้ มถวายกฐิน จีวรน้ี พรอ้ มท้ังของบริวาร แดพ่ ระสงฆ์ เพ่อื ความพ้นจากทกุ ข์ใน วัฏสงสาร เพอ่ื การกระทา� ใหแ้ จง้ ซงึ่ พระนพิ พาน, ขอทา่ นทงั้ หลาย จงกรานกฐินด้วยจวี รน้.ี ขอบญุ นข้ี องข้าพเจ้าทง้ั หลายจงเปน็ ปจั จัยแหง่ พระนิพพาน. ขา้ พเจ้าทงั้ หลายขออทุ ศิ ส่วนบญุ นี้ ให้แกม่ ารดาบิดา ครูบา- อาจารย์ ปู่ ยา่ ตา ยาย และญาตมิ ิตรสหาย ท่ีมชี ีวติ อยูก่ ด็ ี ที่ล่วงลับ ไปแลว้ กด็ ี พรอ้ มด้วยสรรพสัตวท์ ง้ั หลาย. ขอใหท้ ่านเหล่านน้ั เมอื่ ได้ รบั สว่ นบุญน้แี ลว้ จงมีความสุขโดยทวั่ กัน เทอญ. มหาราชปรติ ร ๒๒๕

หนงั สอื ประกอบการเรียบเรยี ง พระไตรปฎิ กและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกฏุ ราช- วิทยาลัย คมั ภรี ์วสิ ุทธมิ รรค พระพุทธโฆสเถระ รจนา สมเด็จพระ- พฒุ าจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) แปลและเรียบเรยี ง คมั ภีร์อภธิ านวรรณนา พระมหาสมปอง มุทิโต แปลและ เรยี บเรยี ง พระปริตรธรรม แปลโดย พระคนั ธสาราภวิ งศ์ คณุ ธรรมของคนดแี ละพรหมวหิ าร ๔ เรยี บเรียงโดย พระคนั ธสาราภิวงศ์ พจนานุกรมพทุ ธศาสตรฉ์ บับประมวลธรรมเรียบเรยี งโดย พระพรหมคุณาภรณ์ ปรมัตถธรรม ๔ เรยี บเรียงโดย พระเทพกิตติปัญญาคุณ มลิ ินทปัญหา มูลนิธิปราณี สา� เรงิ ราชย์ แปลโดย ไชยวฒั น์ กปิลกาญจน์ อานสิ งส์ไตรสรณคมน์ เรยี บเรยี งโดย ธนติ อยโู่ พธิ์ อานุภาพพระปริตต์ แปลและเรยี บเรยี งโดย ธนิต อยูโ่ พธ์ิ พุทธมนตส์ าระทีปนี แปลและเรยี บเรยี งโดย สมภพ สงวนพานิช คมู่ อื คลังปริยัติธรรม เรียบเรียงโดย นายแพทย์เกดิ ธนชาต จากเทศนาโดย พระมหาประนอม ธมมฺ าลงกฺ าโร พระมหาวสิ ุทธิ านากโร [email protected] เรียบเรยี งรอ้ ยความ ๒๒๖ มหาราชปรติ ร

อานภุ าพพระปริตร “กตปริตฺตญฺหิ มหาราช ปุริส� ฑส� ิตุกาโม อหิ น ฑส� ติ, วิวฏ� มุข� ปทิ หต,ิ โจราน� อุกฺขติ ฺตลคฬุ มฺปิ น สมฺภวติ, เต ลคุฬ� มญุ ฺจติ ฺวา เปม� กโรนฺติ, กปุ โิ ตปิ หตฺถนิ าโค สมาคนฺตฺวา อุปรมต,ิ ปชฺชลิตมหาอคคฺ กิ ฺขนโฺ ธปิ อปุ คนตฺ ฺวา นิพพฺ ายติ, วิส� หลาหลมฺปิ ขายิต� อคท� สมปฺ ชชฺ ติ, อาหารตถฺ � วา ผรติ, วธกา หนตฺ ุกามา อุปคนฺตฺวา ทาสภตู า สมฺปชชฺ นฺต,ิ อกกฺ นฺโตปิ ปาโส น ส�วรต.ิ ” (มลิ นิ ฺทปญฺหพยากรณ, เมณฑฺ กปญหฺ กณฺฑ, อเภชฺชวคคฺ , มจฺจปุ าสมตุ ตฺ ปิ ญหฺ ) พระนาคเสนเถระกล่าวถึงอานุภาพพระปริตรแก่พระเจ้า มลิ นิ ทว์ ่า “ขอถวายพระพร งูต้องการจะกดั กไ็ ม่อาจจะกดั บรุ ุษผู้ เจรญิ พระปรติ รได้ ย่อมอ้าปากไมข่ ึน้ , พวกโจรกไ็ ม่อาจเงื้อไม้ค้อน ข้ึน (ท�าร้าย) ได้ พวกโจรเหลา่ นั้นจะพากันทง้ิ ไม้คอ้ นเสียแลว้ ทา� ความรักใหเ้ กดิ ขน้ึ แทน, แมช้ ้างดุ พอมาถงึ ตวั เขา้ เทา่ นั้น ก็เชอ่ื งไป, แมก้ องไฟใหญ่ก�าลังลกุ โพลงอยู่ ลามมาถึงตวั เท่านั้นก็พลันดบั ไป, แม้ยาพิษแรงกล้าทกี่ ลนื กนิ เขา้ ไป ก็หายไปเหมือนเจอยาแก้พษิ หรอื กลบั เป็นอาหารแผซ่ ่านไป, นักฆา่ คนผตู้ อ้ งการจะก�าจัดพอถึงตวั เข้าเทา่ นนั้ ก็ยอมตนเป็นทาสไป, แมเ้ ดินเหยียบบ่วง มนั ก็หาคลอ้ ง ตวั เอาไม่.” มหาราชปรติ ร ๒๒๗




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook