Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พนักงานการเงิน 4 ธกส 2564

พนักงานการเงิน 4 ธกส 2564

Published by kitthanachon01, 2021-11-05 15:49:58

Description: พนักงานการเงิน 4 ธกส 2564

Search

Read the Text Version

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 95 ------------------------------------------------------------------------------- หมายถงึ การทเี่ งนิ ทาหน้าท่ชี ่วยในการดาเนินงานของระบบเศรษฐกจิ ให้เปน็ ไปได้ด้วยดี 4 ประการ คือ 1. เป็นสื่อกลางในการแลกเปล่ียน (Medium of Exchange) 2. เปน็ มาตรฐานที่ใช้วดั มูลค่า (Standard of Value) 3. เป็นมาตรฐานชาระหน้ีภายหนา้ (Standard of Deferred Payments) 4. เปน็ เครื่องสะสมมลู คา่ (Store of Value) 1. เงินเป็นสือ่ ในการแลกเปล่ียน (Medium of Exchange) กล่าวคอื เมื่อแลกเปล่ียนสนิ ค้าและบริการเปน็ เงนิ แล้วนาเงินไปซ้อื สนิ ค้าและบริการอืน่ ๆ ได้ ในลกั ษณะ เงนิ เป็นส่ือกลางในการแลกเปลี่ยน 2. เป็นมาตรฐานที่ใชว้ ัดมลู ค่า (Standard of Value) ในระบบแลกเปล่ียนของต่อของ มูลคา่ ของสินคา้ หรอื อตั ราการแลกเปลีย่ นขึ้นอย่กู ับบุคคลที่ทาการ แลกเปล่ยี นสินค้ากันตามความพอใจ ซง่ึ อาจก่อให้เกิดการถกเถียงกนั ได้ เม่อื เงินทาหนา้ ท่ีเปน็ มาตรฐานในการเทียบ ค่าจะทาให้เกิดความสะดวกในการวัดมูลคา่ สนิ คา้ แต่ละชนิดทไี่ ม่เหมือนกนั ให้เทียบค่าเปน็ หน่วยของเงิน โดยราคา สินคา้ จะกาหนดเป็นไปตามอุปสงค์และอปุ ทานของสินค้า ซึง่ ทาใหผ้ ซู้ อ้ื และผู้ขายพอใจ นอกจากนี้ยงั เป็น ประโยชนใ์ นทางบัญชี เพราะสามารถรวมมลู คา่ ของสง่ิ ของต่างๆ เขา้ ด้วยกันได้เนอ่ื งจากมหี น่วยออกมาเป็นเงินตรา เดียวกนั 3. เงินเป็นมาตรฐานในการชาระหนีภ้ ายหนา้ (Standard of deferred payments) การใชเ้ งนิ ทาให้สามารถเล่ือนเวลาชาระหนไ้ี ปได้ในอนาคตทาใหม้ ีการซ้อื ขายเงินเชื่อเกดิ ขึ้นการชาระหน้ี ในภายหน้าต้องชาระเทา่ กับเงินที่ก้ยู มื มาบวกด้วยอตั ราดอกเบ้ยี ซึ่งถ้าอยใู่ นระบบแลกของต่อของ ถ้าส่งิ ท่ียมื เป็น สิ่งของ เชน่ ตกลงยืมควายไปไถนา แล้วจะสง่ คนื พรอ้ มข้าวอกี 10 ถัง เม่อื นาควายไปคนื พร้อมข้าวอกี 10 ถงั กอ็ าจ เกดิ ข้อถกเถยี งวา่ ตอนทยี่ มื ไปควายอว้ นกวา่ น้ี ฉะน้นั ต้องเอาข้าวมาใหเ้ พมิ่ ขนึ้ เป็น 20 ถงั กจ็ ะเกดิ ข้อถกเถียงกนั ได้ เม่ือมีการใช้เงินทาให้มคี วามสะดวกในการชาระหนีใ้ นภายหน้า 4. เงินเป็นเครื่องสะสมมลู คา่ (Store of Value) เงนิ ทาหนา้ ที่สะสมมูลคา่ ได้ดีกวา่ การสะสมเป็นสนิ คา้ ซงึ่ อาจเก็บไวไ้ ม่ได้นานเนื่องจากเนา่ เสยี ได้ ดงั น้ัน เงินจะสามารถสะสมไปใชใ้ นโอกาสหน้า 2. หนา้ ท่ีอนั มสี ภาพเคลอื่ นไหว (Dynamic Function) หมายถึง การทเี่ งินมีอทิ ธิพลต่อการเปลยี่ นแปลงของระดับราคา กล่าวคอื เมื่อปรมิ าณเงินมากข้ึนจะมผี ลให้ ระดับราคาสนิ คา้ สงู ข้นึ และเมือ่ ปริมาณเงนิ ลดลง จะมีผลให้ระดบั ราคาสนิ คา้ ถกู ลง  ปรมิ าณเงนิ (Money Supply) ปรมิ าณเงินมีความหมาย 2 ประการคอื 1. ปริมาณเงินตามความหมายอย่างแคบ (narrow money) 2. ปริมาณเงินตามความหมายอย่างกวา้ ง (broad money) 1. ปรมิ าณเงินตามความหมายอย่างแคบ (narrow money) ปริมาณเงินประเภทนี้ หมายถงึ เหรียญกษาปณ์ ธนบัตร และเงินฝากกระแสรายวัน (Demand Deposit)

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 96 ------------------------------------------------------------------------------- ปรมิ าณเงินประเภทน้ีจะใชห้ มุนเวียนอยใู่ นระบบเศรษฐกิจ และเปน็ ปรมิ าณเงินที่ใช้วัดอานาจซื้อของประชาชน เหตุที่เงินฝากกระแสรายวัน (Demand Deposit) ซ่ึงจา่ ยโอนกนั ด้วยเช็คเป็นเงินอยา่ งหน่ึงเพราะมีอานาจซ้อื เชน่ เดียวกบั ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ เมอื่ ต้องการใช้เงินกส็ ามารถเซ็นตเ์ ชค็ ส่ังจา่ ยได้ทนั ที และธนาคารจะจา่ ยเงิน ให้เมอ่ื ถกู ทวงถาม ดงั ท่ีไดก้ ล่าวแล้ววา่ ปรมิ าณเงินประเภทนีจ้ ะเปน็ ปรมิ าณเงินที่ใช้หมุนเวยี นในระบบเศรษฐกิจ ดงั น้ันปริมาณเงิน จงึ หมายถึงปรมิ าณเงินในทอ้ งตลาดซ่ึงอยใู่ นมือของประชาชน และหน่วยธุรกจิ ต่างๆ ส่วน ปรมิ าณเงินท่อี ยูใ่ นมือของรฐั บาลและอย่ใู นระบบธนาคารโดยทัว่ ไปจะไมถ่ อื ว่าเป็นปริมาณเงนิ ในท้องตลาด ทั้งน้ี เพราะวา่ เงินเหล่านี้ในขณะน้ันมิได้นาออกมาใชห้ มนุ เวยี นในท้องตลาด 2. ปริมาณเงินตามความหมายอย่างกว้าง (broad money) ปริมาณเงินประเภทนจี้ ะเท่ากับ ปรมิ าณเงินตามความหมายอย่างแคบบวกด้วย เงินฝากประจา (Time Deposits) ตว๋ั เงินระยะสนั้ หนุ้ กู้พนั ธบตั รรัฐบาล พนั ธบัตรอื่น ๆ ฯลฯ โดยถอื ว่าส่ิงตา่ งๆ เหลา่ นเี้ ป็นส่งิ ทค่ี ล้ายเงิน (near money) ทัง้ นีเ้ พราะสามารถเปล่ียนเป็นเงนิ ได้ง่าย ดังนน้ั ปรมิ าณเงินตามความหมายอยา่ งกว้าง จงึ ประกอบด้วยเหรยี ญกษาปณ์ ธนบตั ร เงินฝากกระแสรายวนั เงินฝากประจาเงนิ ฝากออมทรพั ย์ พันธบัตรรัฐบาล หนุ้ กู้ และส่งิ ทใ่ี กลเ้ คียงกับเงนิ อื่นๆ แตเ่ น่ืองจากปริมาณเงินทเี่ ปน็ เงนิ ฝากประจาหรือต๋วั เงนิ คลัง หรือพันธบตั รอ่นื ๆไม่ได้นาออกมาหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกจิ เม่ือพดู ถงึ ปรมิ าณเงิน จงึ หมายถงึ ปริมาณเงินตามความหมายอยา่ งแคบเท่านั้น ทฤษฏเี กีย่ วกบั การเงิน ทฤษฏีทอี่ ธิบายเกีย่ วกบั การเงนิ มีอยหู่ ลายทฤษฏี และอาจแบง่ ออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือแนวคดิ ของกลมุ่ คลาสสิค และแนวคิดของเคนส์ 1. แนวคดิ ของกลมุ่ คลาสสคิ กลุม่ คลาสสิคมขี ้อสมมตุ ิในการวเิ คราะห์วา่ เศรษฐกิจมีการจ้างงานเต็มท่ี ดงั นน้ั ปริมาณผลผลติ ในระบบ เศรษฐกิจจะคงที่ อัตราการหมุนเวียนของเงนิ (Velocity of money: V) คงทแ่ี ละความต้องการถือเงินของบุคคลมี ไวเ้ พือ่ การใชจ้ า่ ยประจาวัน นักเศรษฐศาสตร์กลุม่ คลาสสคิ ไดเ้ สนอแนวคดิ ทฤษฏีปรมิ าณเงินหลายทฤษฏเี ริ่ม ตัง้ แต่ ทฤษฏปี ริมาณเงนิ ดัง้ เดิม(Crude Quantity) และได้รับการปรบั ปรุงแก้ไขเพ่มิ เติมต่อ ๆ มา นกั เศรษฐศาสตรก์ ล่มุ คลาสสิคมีความเหน็ วา่ การเปลีย่ นแปลงในปริมาณเงนิ จะมผี ลกระทบตอ่ ราคาสนิ ค้า 1. ทฤษฏปี รมิ าณเงินแบบดงั้ เดมิ (Crude Quantity Theory) อธิบายวา่ เมอ่ื ปรมิ าณเงินเพมิ่ เป็น 2 เทา่ และถ้าการหมุนเวียนของเงนิ คงที่ จะทาให้คา่ ของเงนิ ลดลงเป็น 2 เทา่ เชน่ เดียวกนั อันเนือ่ งจากราคาสนิ คา้ ทสี่ งู ข้นึ ในระดับเดียวกับการเพ่ิมขนึ้ ของปริมาณเงนิ โดยมีสมการอธิบายได้ ดังน้ี M=kP หรอื P = M โดย M = ปรมิ าณเงนิ P = ระดับราคาสินค้า k = ตวั คงที่

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 97 ------------------------------------------------------------------------------- 2. ทฤษฏีปริมาณเงินในรูปสมการแลกเปลยี่ น (Equation of Exchange or Fisher Equation) Irving Fisher ไดน้ าเอาทฤษฏีแบบด้งั เดมิ มาดัดแปลงแกไ้ ขโดยเพิม่ การหมนุ เวียนของเงิน (Velocity of circulation) และปริมาณสนิ คา้ ทีซ่ อ้ื ขายแลกเปลยี่ น (volume of transaction) เขา้ ไปในสมการด้วย เขียนเป็น สมการได้ว่า ค่าใชจ้ ่ายในการซ้ือสินค้าและบริการเท่ากับรายรับท่ีได้จากการขายสนิ คา้ และบริการ คา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ หมดที่ใชใ้ นการซ้อื สนิ คา้ และบริการเท่ากับจานวนเงินคูณจานวนคร้ังทใี่ ช้ และรายได้ทีไ่ ด้จาก การขายสินค้าและบริการเทา่ กบั ราคาสินคา้ คณู ดว้ ยจานวนสนิ คา้ MV = PT โดยที่ M = ปริมาณ (Money supply) V = ความเรว็ หรือความถ่ีในการใช้เงิน (Velocity of Circulation) P = ระดับราคา (Price) T= ปรมิ าณรายการค้า (Volume of Transaction) นกั เศรษฐศาสตร์สานักคลาสสิคมีความเห็นว่าขณะใดขณะหน่งึ Vและ T จะคงที่ เนื่องจากระบบเศรษฐกิจ มกี ารจา้ งงานเตม็ ที่ ดงั นนั้ T จะคงที่ และ V ไม่เปล่ยี นแปลง เนอื่ งจากขนึ้ อยู่กบั รายได้และอุปนิสัยการใชจ้ า่ ย ดงั น้ัน เมื่อปรมิ าณเงินเปลี่ยนแปลงจะทาให้ราคาสนิ ค้าเปลย่ี นแปลงด้วย นั่น คือ ระดบั ราคาจะเปลีย่ นแปลงเป็นปฏภิ าค โดยตรงกับปริมาณเงิน ตวั อย่างเช่น ถ้า M = 200, V = 6, T = 200 จะได้คา่ ของ P ดงั นี้ P= =6 ถา้ กาหนดให้ V และ T คงที่แล้ว จะเหน็ ว่า P และ M จะผนั แปรไปในทิศทางเดียวกัน นัน่ คือถ้า M เพม่ิ จะทา ให้ P เพม่ิ ดว้ ย ดังนน้ั ถ้าตอ้ งการรักษาระดับราคาสนิ ค้าให้คงทสี่ อดคลอ้ งกับจานวนสินค้าทเ่ี พ่มิ ในแตล่ ะปี จะตอ้ งเพมิ่ ปริมาณเงนิ ใหไ้ ด้สดั สว่ นของจานวนของสินค้า 3. ทฤษฏีการถอื เงิน (The Cash Balance Equation of Exchange) ทฤษฏีนี้ได้รบั การปรบั ปรุงจากทฤษฏีปริมาณเงินในรปู สมการแลกเปลย่ี น (Equation of Exchange) โดยนักเศรษฐศาสตรส์ านักเคมบริดจ์ ดงั นั้นทฤษฏนี ี้จงึ เรียกอกี อย่างวา่ The Cambridge Equation of Exchange มีสมการว่า M = KPT เม่ือ M = ปรมิ าณเงินท่ีมอี ยใู่ นมอื ประชาชนและเงนิ ฝากเผื่อเรียก (money supply) K = ระยะเวลาเฉลีย่ ทป่ี ระชาชนถอื เงินไว้ใชจ้ ่าย = T = จานวนสินค้าท่ีจะซอ้ื หาได้ในระยะหน่งึ ๆ (Transaction) P = ระดับราคาสนิ ค้าและบริการ M = KPT= PT MV = PT จะเหน็ ไดว้ ่าสมการของทฤษฏกี ารถือเงนิ น้ีเป็นแบบเดียวกับทฤษฏปี รมิ าณเงินในรูปสมการแลกเปลย่ี น (Equation of Exchange) นั่น เอง แต่เน้นดา้ นอุปสงคห์ รือความปรารถนาท่ีจะถอื เงิน สว่ นทฤษฏีปริมาณเงนิ ใน

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 98 ------------------------------------------------------------------------------- รูปสมการแลกเปลย่ี นเน้นทางด้านอปุ ทาน ทฤษฏีการถอื เงินน้ีจะแสดงใหเ้ หน็ วา่ ระดบั ราคาสนิ คา้ จะเปล่ียนแปลงเมื่ออปุ สงคแ์ ละอปุ ทานของเงิน เปลย่ี นแปลงไป ดงั นน้ั ถ้าจะให้ราคามเี สถยี รภาพจะตอ้ งควบคุมให้อุปสงค์และอปุ ทานของเงนิ คงท่ีหรือ เปล่ยี นแปลงใหไ้ ด้สัดสว่ นกนั แนวคดิ ของเคนส์ เคนส์ไมเ่ หน็ ดว้ ยกับนักเศรษฐศาสตรก์ ลมุ่ คลาสสคิ ที่ให้ V คงท่ี และยังมคี วามเหน็ วา่ ความต้องการถือเงิน ของบุคคลมใิ ช่จะถือไว้เพ่อื ใช้จา่ ยประจาวัน (Transaction motives) อยา่ งเดยี วดงั เช่นนกั เศรษฐศาสตร์กลมุ่ คลาสสคิ มคี วามเหน็ ไว้เทา่ น้ัน แต่ความตอ้ งการถือเงินของประชาชนจะมีวัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื (ก) ถือเงนิ ไว้เพ่อื ใชจ้ า่ ย ประจาวนั (transaction motives) (ข) ถือเงินเพ่ือใช้จ่ายในยามฉุกเฉนิ (precautionary motives) และ (ค) ถอื เงิน ไวเ้ พื่อเกง็ กาไร (speculative motives) ความต้องการถือเงินไว้เพื่อใชจ้ า่ ยประจาวัน และเพอ่ื ใชใ้ นยามฉุกเฉิน จะมากหรือน้อยจะขนึ้ อยู่กบั รายได้ ถ้ามรี ายได้มากกจ็ ะถอื ไว้มาก และถ้ามีรายไดน้ อ้ ยก็จะถอื ไว้น้อย ส่วนความต้องการถือเงนิ ไว้เพ่อื เกง็ กาไร (speculative motives) จะข้ึนอยู่กบั อตั ราดอกเบ้ีย ท้งั น้ีเพราะประชาชนจะเปรียบเทียบระหว่างการถือหลกั ทรพั ย์ ท่ีมีอตั ราดอกเบ้ียเป็นผลตอบแทนกบั การถือเงิน ถา้ อัตราดอกเบยี้ อยใู่ นระดับสงู (ราคาหลักทรพั ยต์ ่า) ประชาชนจะ ถอื เงนิ ไวเ้ พื่อเกง็ กาไรน้อย แตจ่ ะเอาเงินไปซ้ือหลกั ทรพั ยห์ มด และเม่ืออัตราดอกเบยี้ ต่า (ราคาลักทรพั ย์สงู ) ประชาชนจะขายหลักทรพั ย์และถอื เป็นเงินไว้เก็งกาไรมากข้ึน เสน้ อุปสงคต์ ่อการถอื เงนิ ตามแนวคิดของ Keynes จะมีอยู่ 2 สว่ น คือ สว่ นท่ีเป็นเส้นตรงตงั้ ฉากกบั แกน นอน(ปรมิ าณเงนิ ) หรือขนานกบั แกนต้ัง (แกนอัตราดอกเบ้ยี ) มคี ่าเท่ากบั ปรมิ าณเงินท่ีถือไว้เพ่ือใชจ้ ่ายประจาวัน (transaction motives) และความตอ้ งการถอื เงินไวเ้ พอ่ื สารองเหตฉุ ุกเฉิน (precautionary motives) ทงั้ น้ีเพราะ ความต้องการถือเงินทง้ั สองประเภทดังกล่าวขึ้นอยกู่ บั รายได้ จงึ ไมม่ คี วามยดื หยุ่นต่อการเปลยี่ นแปลงในอัตรา ดอกเบี้ย และในส่วนที่สองอยูใ่ นชว่ งทเี่ สน้ ความต้องการถือเงนิ มคี วามชันเป็นลบ ซ่ึงเปน็ สว่ นทีต่ ้องการถอื เงินไว้ เพ่ือเกง็ กาไร (speculative motives) โดยความต้องการถอื เงนิ เพ่ือเก็งกาไรเปลย่ี นแปลงในทิศทางตรงกนั ขา้ มกบั อตั ราดอกเบยี้ ดังแสดงในรูปที่ 1 – 1 รูปท่ี 1 – 1 เส้นความตอ้ งการถอื เงินทง้ั หมด

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 99 ------------------------------------------------------------------------------- สาหรับอุปทานของเงิน (Money supply) ในขณะใดขณะหน่งึ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กบั ตัวกาหนด ภายนอก เช่น ปริมาณเงินถูกกาหนดโดยธนาคารกลาง จงึ ทาให้เส้นอุปทานของเงิน (Money supply) จึงไม่ขนึ้ อยู่ กับอัตราดอกเบ้ีย ทาให้เสน้ อุปทานของเงินมลี ักษณะเปน็ เสน้ ตงั้ ฉากกับแกนปรมิ าณเงิน หมายความวา่ ไม่ว่าอัตรา ดอกเบ้ียจะเป็นเท่าใดก็ตาม ปริมาณเงินไมเ่ ปล่ยี นแปลง ท้งั น้ีเพราะปริมาณเงนิ กาหนดโดยธนาคารกลาง รปู ท่ี 1 – 2 อุปทานของเงิน จากรปู 1–2 ให้แกนตั้งแสดงอัตราดอกเบีย้ แกนนอนแสดงปรมิ าณหรอื อปุ ทานของเงนิ เส้นอุปทานของ เงนิ (MS) จะไมม่ คี วามยดื หยุน่ ต่ออัตราดอกเบี้ย จงึ เป็นเสน้ ตง้ั ฉากกับแกนนอน โดยทใ่ี นขณะใดขณะหน่งึ ปริมาณ เงินจะคงที่ การเปล่ียนแปลงของปรมิ าณเงินจะข้ึนอยูก่ ับธนาคารกลางวา่ จะเพ่ิมหรือลดปริมาณเงิน อัตราดอกเบีย้ ดลุ ยภาพ จะถกู กาหนดขน้ึ จากอุปสงคร์ วมสาหรบั เงิน (Demand for money) กับอปุ ทาน ของเงิน (Money supply) ดังแสดงดว้ ยรูปท่ี 1 – 3 รปู ท่ี 1 – 3 อตั ราดอกเบยี้ ดุลยภาพ จากรปู ที่ 1 – 3 อตั ราดอกเบ้ียดุลยภาพจะถูกกาหนดขน้ึ จากอุปสงคส์ าหรบั งิน (Demand for money) กับ อุปทานของเงิน (Money supply) เม่ือปรมิ าณเงินเทา่ กับ OM บาท อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพเทา่ กับ iE บาท เคนสม์ ีความเห็นว่าการเปล่ียนแปลงในปริมาณเงนิ จะมผี ลกระทบต่ออัตราดอกเบ้ีย ถ้าอุปทานของเงินเพ่มิ ขน้ึ (MS ขยบั ไปทางขวา) โดยท่ี Md ไมเ่ ปลีย่ นแปลง จะทาให้อัตราดอกเบีย้ ดลุ ยภาพลดลง และถ้า MS ลดลง (MS ขยับไป ทางซ้าย) จะทาให้อัตราดอกเบ้ียดลุ ยภาพเพ่มิ ขึน้ ดงั แสดงด้วยรปู ที่ 1 – 4

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 100 ------------------------------------------------------------------------------- รูปท่ี 1 – 4 การเปลยี่ นแปลงของอัตราดอกเบ้ยี ดุลยภาพ เคนส์มคี วามเห็นว่าการเปลย่ี นแปลงในปริมาณเงินจะมีผลทาให้อตั ราดอกเบย้ี อัตราดอกเบ้ียเปลี่ยนแปลง และการเปล่ียนแปลงในอตั ราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบถงึ ปรมิ าณการลงทุน ซงึ่ มีผลต่อการเปลีย่ นแปลงในรายได้ ประชาชาติ และการจ้างงาน ความหมายและระบบของธนาคารพาณชิ ย์ ธนาคารพาณิชย์ หมายถงึ การประกอบธุรกจิ ประเภทรับเงินฝากท่ตี ้องจา่ ยคืนเม่ือทวงถามหรอื เมอ่ื สิ้น ระยะเวลาอันกาหนดไว้ และใชป้ ระโยชนเ์ งินนัน้ ในทางหนึ่งหรือหลายทาง เช่น ก. การให้กู้ยืม ข. ซ้อื ขายหรือเก็บเงนิ ตามตั๋วแลกเงนิ หรือตราสารเปลี่ยนมืออืน่ ใด ค. ซอื้ หรือขายเงินปริวรรตตา่ งประเทศ ท้ังนจี้ ะประกอบธรุ กจิ ประเภทอื่นอันเป็นประเพณีที่ธนาคารพาณชิ ย์พงึ กระทาหรือไม่ก็ตามธนาคาร พาณิชยแ์ บง่ เปน็ 2 ระบบ คอื 1. ระบบธนาคารสาขา (Branch Banking System) 2. ระบบธนาคารเด่ยี ว (Unit Banking System) 1. ระบบธนาคารสาขา (Branch Banking System) ธนาคารสาขา หมายถงึ บริษัทหนึ่งซ่ึงทากจิ การธนาคารโดยธนาคารหนงึ่ มสี าขาออกไปเปดิ ทาการใน ท้องถิ่น โดยมสี านักงานสาขาอยู่เป็นจานวนต้ังแต่ 2 แห่งขึ้นไป โดยแต่ละสาขามีผูจ้ ดั การทีไ่ ดร้ ับแตง่ ตั้งจาก ธนาคารใหญผ่ ลดีของระบบธนาคารสาขา กค็ ือ (1) ชว่ ยระบายเงินทนุ ที่เหลือใชจ้ ากท้องถิน่ ตา่ งๆ ไปยงั ท่ตี ้องการใช้ทนุ และกระจายสินเชือ่ ไปยังกิจการ ตา่ งๆ ในท้องถ่ินที่ธนาคารสาขาตง้ั อยู่ (2) ช่วยใหก้ ารโอนเงินให้ลูกคา้ จากทหี่ น่ึงไปยังอีกทห่ี นึง่ ได้สะดวกรวดเรว็ และเสียคา่ ใช้จา่ ยต่าเพราะว่า ระบบธนาคารสาขาสามารถปรบั (adjust) หน้ีระหวา่ งกันไดด้ ี (3) ชว่ ยกระจายสนิ เชอ่ื ไปยังกจิ การตา่ งๆ ในท้องถนิ่ และชว่ ยให้เกษตรกรกลุ่มเล็กๆ ในชนบทไดร้ ับความ สะดวกจากบริการตา่ งๆ ของธนาคารเพราะวา่ ธนาคารสาขาสามารถสง่ ผู้แทนเขา้ ติดต่อใหบ้ ริการแก่ลกู ค้าไดถ้ ึง หมู่บ้าน

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 101 ------------------------------------------------------------------------------- ธนาคารพาณชิ ย์ของไทยและของอังกฤษ นยิ มใชร้ ะบบธนาคารสาขา 2. ระบบธนาคารเด่ยี ว (Unit Banking System) ธนาคารเดยี่ วเป็นบรษิ ัททม่ี สี านักงานอย่แู หง่ เดยี วโดยทนุ และพนักงานของตนเอง และไมม่ ีธนาคารอ่นื เปน็ เจา้ ของหรือควบคมุ ผลดขี องธนาคารเดย่ี ว คือ เปิดโอกาสใหบ้ คุ คลในท้องถนิ่ น้นั เปน็ เจา้ ของและดาเนินธรุ กจิ ของธนาคารให้ สอดคล้องกบั ความต้องการของลูกค้าในทอ้ งถิน่ แต่ระบบธนาคารแบบน้ีหาเงินได้นอ้ ยกวา่ งบดุลของธนาคารพาณชิ ย์ ปกตแิ ล้วธนาคารพาณิชย์มแี หลง่ เงนิ ทุนได้มา 3 ทาง คือ 1. จากการลงทนุ ของผถู้ ือหุน้ ของธนาคาร 2. กจู้ ากสถาบนั การเงินต่างๆ 3. เงนิ ฝากของลูกค้า เมอ่ื ได้รับเงนิ ทุนแล้วธนาคารพาณชิ ย์จะดาเนินการคือ ก. ให้ลกู ค้ากยู้ มื และรบั ซือ้ ลดตวั๋ เงิน ข. ลงทนุ ในหลักทรพั ย์รัฐบาลและหลกั ทรพั ย์อื่นๆ ค. ลงทนุ ในอสังหารมิ ทรพั ย์ ถา้ ดูงบดลุ ของธนาคารพาณิชยแ์ ลว้ จะได้เปน็ ดงั ตารางต่อไปนี้ งบดลุ ของธนาคารพาณชิ ย์ สนิ ทรพั ย์ หน้ีสินและทนุ 1. เงนิ สดในมอื 1. เงินฝาก -ฝากตามกาหนด - เงินฝากตามสทิ ธทิ ่จี ะถอนคืน - เงนิ ฝากตามลกั ษณะของผู้ฝาก 2. เงนิ ฝากท่ีธนาคารแหง่ ประเทศไทย 2. เงนิ กู้ยืม และธนาคารอ่นื ๆ 3. ทรัพยส์ ินหาผลประโยชน์ของธนาคาร 3. หนสี้ นิ อน่ื ๆ – หลกั ทรัพยร์ ัฐบาลไทย – ต๋ัวเงินคลงั – หลกั ทรัพยอ์ ืน่ ๆ ไดแ้ ก่ หุ้นและหนุ้ กู้ 4. เงนิ ใหก้ ูย้ ืม 4. บญั ชีทุน – ต๋ัวเงิน – เงนิ สารอง – เงินให้กู้ – กาไรสุทธคิ งเหลอื ท่ยี ังไม่ได้จดั สรร – เงินเบกิ เกนิ บัญชี – คา่ สินทรัพย์สทุ ธิ (สินทรัพย์ ลบหนี้สนิ ) 5. สนิ ทรพั ยถ์ าวรและอ่ืน ๆ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 102 ------------------------------------------------------------------------------- การสร้างเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ การสร้างเงินฝากหรือการขยายเครดิตของธนาคารพาณชิ ย์โดยการใหก้ ู้ยืมน้ัน หมายถึง การนาเงินทไี่ ด้รบั จากแหล่งหน่งึ ไปให้อีกแหล่งหน่ึงก้ยู ืมเพอ่ื แสวงหากาไร ดังนนั้ ธนาคารพาณิชยจ์ ึงเป็นทง้ั เจ้าหน้ีและลกู หนใี้ น ขณะเดยี วกนั ซง่ึ การใหส้ ินเช่ือของธนาคารพาณิชยม์ ีบทบาทสาคญั ในการสร้างเงิน เพราะฉะน้ันจงึ มีคากล่าววา่ ธนาคารพาณิชย์กอ่ หนี้เพอื่ สร้างสนิ ทรัพย์ เนอ่ื งจากวา่ ธนาคารพาณิชย์ไมต่ อ้ งเกบิ เงนิ สดสารองทงั้ 100 เปอรเ์ ซ็นต์ ท้ังน้ีเพราะวา่ ประชาชนแต่ละคน จะไม่มาถอนเงนิ ที่ฝากไวใ้ นคราวเดยี วกนั ทงั้ หมดและไม่มาถอนพร้อมๆ กนั ด้วย ดงั น้ันธนาคารพาณชิ ย์จงึ สามารถ นาเงนิ ฝากของลูกค้าไปหาประโยชนจ์ ากการใหก้ ู้ยืม (Loans) เบิกเกินบัญชี (Overdrafts) และลงทนุ ซื้อหลกั ทรัพย์ ต่างๆ (Investment) ได้ การให้ก้ยู มื การใหเ้ บิกเกนิ บญั ชี และการลงทนุ ในหลกั ทรัพย์ เชน่ นท้ี าใหธ้ นาคารพาณชิ ย์ สามารถสร้างเงนิ ฝากขึน้ มาได้ แตอ่ ย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณชิ ยจ์ าเป็นต้องเกบ็ สารองเงินสดไวส้ ว่ นหน่ึงธนาคารจะเก็บเงินสดสารองไว้ มากน้อยเพียงใดขึน้ อยกู่ บั (1) อตั ราส่วนเงินสดสารองทีก่ ฏหมายกาหนดไว้ (Legal Cash Reserve Requirement) โดยธนาคารกลางจะกาหนดใหธ้ นาคารพาณิชย์ต้องมเี งนิ สดสารองตามทีก่ ฎหมายกาหนดไว้โดยคิดเป็น เปอร์เซ็นตข์ องยอดเงนิ ฝาก โดยตอ้ งฝากเงินน้ีไวท้ ี่ธนาคารกลาง และเงนิ สารองทฝ่ี ากไว้ท่ีธนาคารกลางนี้อนุญาต ให้เปน็ หลกั ทรัพยไ์ ดไ้ ม่เกนิ 50 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องเงินทพ่ี งึ จะสารองได้ (2) เงนิ สดทธ่ี นาคารพาณิชย์ต้องเก็บไว้จ่ายลูกค้า หมายถงึ เงินสดท่ีสารองอกี จานวนหนึ่งท่ธี นาคาร พาณชิ ย์จะตอ้ งเก็บไวจ้ า่ ยให้ลกู คา้ นอกจากสารองตามกฎหมาย จานวนเงินสดสารองท่ีเก็บไว้จะมากนอ้ ยเพียงใด ขน้ึ อยู่กับสภาพคล่อง (liquidity) ของสินทรัพย์ท่ีธนาคารมอี ยู่ (เช่น เงินกรู้ ะยะส้ัน ตวั๋ เงินคลัง ซ่ึงดวู ่าสินทรัพย์ เหล่าน้สี ามารถเปลีย่ นเปน็ เงินสดไดเ้ ร็วหรอื ไม)่ และปจั จัยอนื่ ๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจทั่ว ๆ ไป การทก่ี ฏหมายต้องกาหนดใหธ้ นาคารพาณชิ ย์ต้องดารงเงินสดไวใ้ นอัตราที่แนน่ อนกเ็ พอ่ื บงั คับไม่ให้ ธนาคารขยายเครดติ มากเกินควร ขอ้ สมมุตใิ นการพิจารณาการขยายเครดติ ของธนาคารพาณิชยค์ อื (1) ไม่มเี งินสดไหลจากระบบเศรษฐกจิ (2) ธนาคารพาณชิ ย์จะขยายเครดิตอย่างเต็มที่จนสารองส่วนเกนิ เท่ากับศูนย์ (3) ความตอ้ งการขอกู้เงินมีมากกวา่ ความสามารถของธนาคารพาณชิ ยท์ ี่จะหาเงินได้ (4) ธนาคารพาณิชยต์ ้องดารงเงนิ สดสารองท่ีธนาคารกลางเท่ากับ 20 เปอรเ์ ซน็ ต์ของยอดเงินฝาก 1. การสรา้ งเงนิ ฝากของธนาคาร สมมุตมิ ีธนาคารเพียงแหง่ เดียวคอื ธนาคาร A และมเี งินฝากขัน้ ตน้ (Primary Deposit) เทา่ กับ 100 บาท ดงั น้ันธนาคารจะมสี า รองส่วนเกนิ เทา่ กบั 80 บาท (100 – (100 x 0.2)= 80) ธนาคารพาณชิ ยจ์ ะให้บคุ คลอ่ืนกูย้ มื โดยการเปิดบัญชีเงินฝากให้แกผ่ ้กู ูย้ มื ธนาคารจะสามารถสรา้ งเงินฝากข้ันทส่ี อง (Secondary Deposit) เทา่ กบั 80 บาท และลงบัญชีเงินให้กูย้ มื เปน็ สินทรพั ย์ของธนาคาร จากเงินฝากขั้น ทส่ี องท่ีธนาคารสรา้ งข้ึนธนาคารสามารถ สรา้ งเงนิ ฝากได้เพิม่ ขึ้นอีกเท่ากับ 64 บาท (หาไดจ้ าก 80 – (80 x 0.2) = 64) โดยการให้ก้ยู มื โดยเปดิ บัญชีเงินฝาก และจากเงนิ ทีส่ รา้ งข้นึ โดยการให้กู้ยมื น้ันธนาคารก็จะนาสารองสว่ นเกนิ ไปใหก้ ยู้ มื อีก ธนาคารสามารถขยายเครดติ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 103 ------------------------------------------------------------------------------- โดยวิธีการนา้ ไปเร่ือยๆ จนกระท่งั สารองส่วนเกนิ เทา่ กับศูนย์ธนาคารจะสามารถสรา้ งเงินฝากไดท้ ้งั หมดเทา่ กบั 500 บาท ซ่งึ สามารถพจิ ารณาไดด้ งั นี้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 104 ------------------------------------------------------------------------------- เมอ่ื D = ปรมิ าณเงนิ ฝากที่ธนาคารทงั้ หมดสร้างขึ้นได้เตม็ ที่ P = เงนิ ฝากขัน้ แรก R = อัตราส่วนของเงินสดสา รองทีก่ ฏหมายกาหนดไว้ L = จานวนเงินสดที่คาดวา่ จะมีผู้มาถอนไปจากธนาคาร ตวั อยา่ ง ถา้ เงนิ ฝากข้ันตน้ เท่ากบั 100 บาท (P = 100 บาท), R = 6% และ L = 4% ธนาคารจะสร้างเงิน ฝากได้ทงั้ หมดเท่ากบั เทา่ ใด ในกรณพี จิ ารณาการสร้างเงินฝากโดยระบบธนาคารจะสามารถพจิ ารณาไดใ้ นทานองเดยี วกนั 2. ข้อจากดั ในการขยายเครดิตของธนาคารพาณิชย์ ในการขยายเครดิต ธนาคารจะขยายเครดิตไดม้ ากน้อยแคไ่ หนข้นึ อย่กู ับ 1) ปรมิ าณเงินสดท่ีใชห้ มุนเวียนอยูใ่ นระบบเศรษฐกจิ 2) ปรมิ าณความตอ้ งการถือเงินสดของประชาชน 3) อตั ราส่วนเงินสดสารองท่ีกาหนดไวต้ ามกฏหมาย 4) จานวนเงินสดท่ธี นาคารต้องเกบ็ ไวเ้ พื่อจา่ ยใหแ้ ก่ลูกคา้ ที่นาเงนิ มาฝากไว้ 3. การหดเครดิตของธนาคารพาณิชย์ การหดเครดิตของธนาคารพาณชิ ยเ์ มื่อมีการไหลออกของเงนิ (Cash Drain)โดยไมม่ ีการนาเงินท่ีถอนไป มาฝากกบั ธนาคารพาณชิ ย์ เม่ือเงนิ สดสารองของธนาคารพาณชิ ยล์ ดลง ธนาคารพาณชิ ยก์ ็ต้องหดเครดติ ลง ซง่ึ ทาได้ โดยการเรียกคอื เงนิ กหู้ รือเงินลงทนุ ทัง้ นเ้ี พื่อมาชดเชยเงนิ สดสารองที่ขาดไปนั่นเอง การหดตัวเครดิตของธนาคารพาณชิ ยเ์ กดิ ข้ึนเน่อื งจาก 1. ปรมิ าณเงินสดของธนาคารลดลงโดยเม่ือผู้ถอนมาถอนเงินแล้วเอาเงินนั้นไปเก็บไว้เฉยๆ ธนาคารจาตอ้ ง เรียกคนื เงินกู้หรือขายหลักทรพั ย์ หรือลดการใหก้ ้ยู ืม หรอื ลดการถอนเงินเกนิ บัญชี สมมติวา่ ธนาคาร ก. จะมีเงิน สดสารองตามกฏหมาย 20% ดังน้ันถา้ มีคนมาถอนเงนิ 100 บาท ธนาคาร ก. จะมเี งนิ สดสารองแค่ 20 บาท ยงั ขาด เงินอีก 80 บาท กจ็ ะตอ้ งเรยี กคนื เงินกหู้ รอื ขายหลักทรพั ย์ของธนาคาร 2. เมือ่ ธนาคารกลางกาหนดใหเ้ พมิ่ อัตราเงนิ สดสารองตามกฏหมายใหส้ ูงข้นึ เพือ่ ให้มีเงินสารองครบตาม กฏหมายของธนาคารพาณชิ ย์จาเป็นตอ้ งเรียกคืนเงินกู้หรือทาการขายหลกั ทรัพย์ 3. ธนาคารพาณิชย์ประสงค์จะเกบ็ เงินสดไว้สารองจ่ายเพิ่มขึน้ 4. ลกู คา้ ผฝู้ ากเงินไวก้ บั ธนาคารมคี วามต้องการถือเงินสดมากขนึ้ ธนาคารกลาง (Central Bank) ธนาคารกลางเป็นสถาบันการเงินของรฐั บาลทจี่ ัดต้ังข้ึนเพื่อรกั ษาเสถยี รภาพของเงินตราและเศรษฐกิจของ ประเทศโดยใชน้ โยบายการเงนิ (Monetary Policy) ควบคุมการดาเนนิ งานของธนาคารพาณชิ ย์ และทาหนา้ ทีเ่ ป็น

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 105 ------------------------------------------------------------------------------- นายธนาคารของรัฐบาล ธนาคารกลางในประเทศต่างๆ อาจมีชอื่ เรยี กตา่ งกัน แตท่ าหนา้ ท่ีเหมือนๆ กนั เช่น ธนาคารกลางของ องั กฤษ มีช่ือเรียกว่า Bank of England ของสหรฐั อเมริกามชี อื่ Federal Reserve Bank ของไทยเรยี กว่า Bank of Thailand เปน็ ตน้ ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ จะแตกต่างจากธนาคารพาณชิ ย์ ดงั น้ี 1. ธนาคารกลางทาหน้าที่ควบคุมรกั ษาเสถยี รภาพของเงินตราและเศรษฐกิจ มไิ ดแ้ สวงหาผลกาไรเหมือน ธนาคารพาณิชย์ 2. ลกู ค้าของธนาคารกลางได้แก่ธนาคารพาณิชย์และหนว่ ยงานของรัฐบาล ส่วนลูกคา้ ของธนาคารพาณชิ ย์ สว่ นมากไดแ้ กผ่ ้ปู ระกอบธรุ กิจและประชาชนท่วั ไป 3. ธนาคารกลางทาหนา้ ทเี่ ป็นนายธนาคารของธนาคารพาณิชย์ คอยควบคุมและใหค้ วามช่วยเหลือสรา้ ง ความมนั่ คงให้แกธ่ นาคารพาณชิ ยเ์ ป็นสว่ นมาก ธนาคารกลางจงึ ไม่มนี โยบายทจี่ ะประกอบธรุ กิจและหากาไร แขง่ ขันกบั ธนาคารพาณชิ ย์ หน้าท่ีของธนาคารกลาง โดยทัว่ ไปธนาคารกลางของประเทศต่างๆ มีหน้าทส่ี าคัญ ดงั น้ี (1) เป็นผูอ้ อกพันธบตั รธนาคารหรอื ธนบัตร และควบคมุ ดแู ลให้จานวนธนบัตรและการใหเ้ ครดิตมีพอกบั ความต้องการของธุรกิจตา่ งๆ (2) เปน็ นายธนาคารให้รัฐบาล โดยทาหน้าทเี่ ช่นเดียวกับธนาคารพาณชิ ย์ ทาใหแ้ ก่ลกู คา้ เช่น รบั ฝากเงนิ และจ่ายเงินขององคก์ ารรัฐบาล ให้รัฐบาลหรือรัฐวสิ าหกิจกู้ยมื ซ้ือตว๋ั เงนิ คลัง และพนั ธบัตรรัฐบาล เปน็ ตน้ (3) เปน็ ตัวแทนรัฐบาลทางด้านการเงิน เช่น ควบคุมการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ จัดการเกีย่ วกบั หนี้ สาธารณะ เปน็ ต้น (4) เปน็ ธนาคารของธนาคารพาณิชย์ เช่น รับฝากเงินสารองของธนาคารพาณิชย์ จัดการหกั บญั ชีระหว่าง ธนาคาร ให้ธนาคารพาณชิ ย์กู้ยมื เงิน เป็นต้น (5) ควบคมุ ธนาคารพาณชิ ยเ์ พอื่ ให้ดาเนนิ งานถกู ต้องตามกฎหมายให้ธนาคารดาเนินธุรกิจดว้ ยความม่ันคง ในการตรวจสอบ ควบคมุ การกอ่ ตั้งและการเลิกกจิ การของธนาคารพาณิชย์ (6) ควบคมุ ปริมาณเงินภายในประเทศตามนโยบายการเงิน ซง่ึ เปน็ หนา้ ทสี่ าคัญของธนาคารกลาง ทัง้ น้ี เพอื่ ใหอ้ ัตราแลกเปล่ยี น (exchange rate) เป็นไปอย่างเหมาะสม (7) รักษาเงินสารองที่เปน็ เงินตราตา่ งประเทศ นโยบายการเงิน หน้าท่ีทสี่ าคัญประการหนงึ่ ของธนาคารกลางคอื การควบคมุ ปรมิ าณเงินในทอ้ งตลาดเพอื่ ใหร้ ะบบ เศรษฐกิจมีเสถยี รภาพ ไมก่ อ่ ให้เกิดปญั หาเงนิ เฟ้อหรือเงนิ ฝดื ซึง่ ถอื ว่าเปน็ นโยบายทางการเงิน การควบคุมปรมิ าณเงินภายในประเทศ แบ่งออกได้เป็น 1. การควบคมุ ทางปรมิ าณ (Quantitative Control) การควบคมุ ทางปริมาณ ทาไดโ้ ดย (1) ซ้อื ขายหลักทรพั ย์ (Open Market Operation)

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 106 ------------------------------------------------------------------------------- เปน็ วิธที ธี่ นาคารกลางใช้ในการเพิม่ หรอื ลดปรมิ าณเงินสดสารองของระบบธนาคารโดยทาการซือ้ ขายหลกั ทรพั ย์ ตา่ ง ๆ เชน่ พนั ธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลังและหลกั ทรพั ยอ์ ่ืนๆ ในตลาดเงินและตลาดทุน ดังนนั้ ถ้ารัฐบาลตอ้ งการหดเครดิต รัฐบาลจะทาการขายหลักทรัพย์ (เพ่ือยบั ยัง้ เงนิ เฟ้อ) ซ่งึ เป็นการลด ปรมิ าณเงินในมอื ของประชาชนและยิ่งถ้าผซู้ ้อื หลกั ทรพั ย์รฐั บาลน้นั ใช้เงินทถ่ี อนมาจากธนาคารพาณชิ ย์แล้ว จะทา ให้ธนาคารพาณชิ ย์ลดเงนิ ฝากได้ เชน่ ถา้ ธนาคารพาณิชย์เสียเงินไป 100 บาท และถ้าอัตราสว่ นสารองตามกฏหมาย เทา่ กบั 7% จานวนเงินท่ีตอ้ งสารองจ่ายลูกคา้ เท่ากับ 13% จะทาให้ธนาคารพาณิชย์ต้องลดเงินฝากลงถึง 500 ลา้ น บาท หรือลดลงถึง 5 เท่าของเงนิ สดสารอง ถ้ารฐั บาลตอ้ งการเพม่ิ เครดิตรฐั บาลจะทาการซ้อื คืนหลกั ทรัพย์จากประชาชน ธนาคารพาณชิ ยห์ รือบริษัท ประกนั ภัย โดยในการซ้ือหลักทรพั ยธ์ นาคารกลางจ่ายเงนิ ไปให้ผ้ขู ายหลกั ทรพั ย์เปน็ เช็ค สมมุติ 100 ลา้ นบาท ผู้ขาย หลักทรัพยก์ จ็ ะนาเชค็ ไปฝากธนาคารพาณิชยต์ ่าง ๆ มีผลทาใหร้ ะบบธนาคารสามารถสรา้ งเงนิ ฝากได้เพิ่ม 5 เท่าของ เงินฝากข้ันแรก (2) วธิ เี พิ่มลดอัตรารับชว่ งซ้ือลดต๋วั เงิน(Rediscount Rate หรือ Bank Rate) ธนาคารพาณิชย์ใหล้ ูกคา้ กูย้ ืม โดยการซื้อลดตั๋วเงิน (Discount) ถา้ ธนาคารพาณิชย์ตอ้ งการขอกยู้ ืมเงนิ จาก ธนาคารกลางกจ็ ะเอาหลกั ทรัพย์รัฐบาลมาคา้ ประกนั หรอื นาต๋ัวเงินทีธ่ นาคารพาณชิ ย์ซ้ือลดมาขายลดกับธนาคาร กลางก็ได้ การซือ้ ลดตั๋วเงินของธนาคารกลางซ่งึ รบั ซอ้ื ต๋วั เงนิ ตอ่ จากธนาคารพาณิชย์ เรยี กวา่ ธนาคารกลางรับช่วงซ้ือ ลด โดยธนาคารกลางจะคดิ อัตราดอกเบ้ียจากธนาคารพาณิชยเ์ ปน็ ค่ารบั ช่วงซื้อลด อัตราดอกเบ้ยี ดังกล่าวนี้ เรียกว่า “อัตรารับช่วงซ้อื ลด” (Rediscount Rate หรือ Bank Rate) ดงั นน้ั ถา้ ธนาคารกลางเพมิ่ อัตราช่วงซ้อื ลดให้สูงกวา่ อัตราซือ้ ลดของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพาณิชยจ์ ะไมข่ อกูจ้ ากธนาคารกลางจึงทาใหธ้ นาคารพาณชิ ย์ไม่สามารถ ขยายเครดิตไดเ้ พิ่ม แต่ถา้ ธนาคารกลางลดอตั รารับช่วงซอ้ื ลดใหต้ า่ กวา่ อัตราซื้อลดของธนาคารพาณิชย์ ธนาคาร พาณชิ ย์จะได้กาไรโดยการซื้อตัว๋ แลกเงินและ ธนาคารพาณิชย์จะนาต๋ัวเงินมาขายลดให้ธนาคารกลางมากขึน้ หรือ ทาใหธ้ นาคารพาณิชย์ต้องการกู้ยืมโดยวิธนี ม้ี ากขึน้ นนั่ คือธนาคารพาณิชยข์ ยายเครดิตไดเ้ พมิ่ ข้ึน เพราะฉะน้ันการ จะเพมิ่ หรือลดปรมิ าณเงินได้มากน้อยเพยี งใดขนึ้ อยูก่ บั สถานะการณ์ทางเศรษฐกิจ (3) วิธีเพ่ิมลดอัตราส่วนเงินสดสารองตามกฏหมาย การท่ธี นาคารกลางเปล่ยี นแปลงอัตราส่วนเงนิ สดสารองตามกฏหมายจะทาใหป้ ริมาณการให้กู้ยืมและ ลงทุนของธนาคารพาณชิ ยเ์ ปล่ียนแปลงไปด้วย ถา้ ลดอตั ราส่วนสารองตามกฏหมาย จะทาให้สารองส่วนเกินเพ่มิ ขึ้นและขยายเครดิตได้มากข้ึน แตถ่ า้ เพ่ิมอัตราส่วนเงินสดสารองตามกฎหมาย จะทาใหส้ ารองสว่ นเกนิ ลดลง ทาใหข้ ยายเครดิตได้น้อยลง 2. วิธกี ารควบคมุ เครดิตเฉพาะอย่างและการควบคุมคุณภาพ (Selective Control and Qualitative Control) การควบคุมการให้เครดติ โดยมีเงื่อนไขว่า การใหเ้ ครดิตบางประเภทจะต้องปฏบิ ตั ิอย่างไร การควบคุมการใหเ้ ครดิต วิธนี ไี้ ด้แก่ (1) การควบคมุ เครดติ เพ่อื การเก็งกาไรหรือเพอ่ื ซื้อขายหลักทรพั ย์ เพ่อื ขจัดการให้กู้ยมื เพือ่ นาเงินไปเส่ยี งหากาไรโดยการซอื้ ขายหลกั ทรพั ย์ นักเก็งกาไรจะทาการเกง็ กาไรจาก

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 107 ------------------------------------------------------------------------------- การซอื้ หลักทรัพย์ในตอนน้ีแล้วขายในอนาคต (เชน่ ถา้ คาดว่าราคาหลกั ทรพั ยเ์ พมิ่ ขึ้น จะทาใหม้ กี ารซ้ือหลักทรพั ย์ ไว)้ ฉะนน้ั นักเกง็ กาไรท่ีมีทุนไมพ่ อกจ็ ะทาการกู้ โดยเอาหลกั ทรพั ยน์ นั้ มาคา้ ประกันการกู้ ดงั นน้ั ถ้าธนาคารกลางไม่ ตอ้ งการให้มีการเก็งกาไรกจ็ ะกาหนด “เงนิ มัดจา (Margin Requirement) ให้สูงข้นึ เชน่ เงินมัดจา 70% หมายความวา่ เมอ่ื ต้องการจะซือ้ หลกั ทรพั ย์ ผู้กตู้ อ้ งให้เงนิ ของตนเอง 70% และกจู้ ากธนาคารพาณิชยไ์ ด้เพยี ง 30% เทา่ น้นั นนั่ คอื ถา้ ต้องการจะจากัดการให้กู้ยมื เพือ่ เก็งกาไร ธนาคารพาณิชยก์ ็จะเพมิ่ เงนิ มัดจา (Margin Requirement) ให้สูงขึ้น สมมตุ ิ 80% ทาให้กจู้ ากธนาคารได้ 20% เป็นต้น “เงินมัดจา (Margin Requirement)” หมายถึงสัดสว่ นของราคาขายของหลกั ทรพั ย์ซง่ึ ธนาคารพาณิชย์ และนายหนา้ หรือผมู้ ีอาชีพเกีย่ วกับการซอ้ื ขายหลกั ทรพั ย์จะไม่ไดร้ ับอนุญาตใหก้ ้ยู ืมเงินจากธนาคารกลางได้ (2) การควบคุมเครดิตเพอื่ การบริโภค วิธีนี้จะใช้กับการกยู้ มื เพือ่ ซือ้ สินคา้ ทม่ี ีความทนทานและมีการจาหน่ายโดยการผ่อนชาระ เหตทุ ่ีธนาคาร กลางตอ้ งจากัดเครดิตเพื่อการบริโภคเพราะอปุ ทานของสินคา้ มีจากดั ผู้ท่ีขายสนิ ค้าแบบผอ่ นสง่ มกั จะมที ุน หมุนเวยี นไมพ่ อจงึ ต้องกธู้ นาคารพาณิชยม์ าดาเนนิ กิจการ ซง่ึ ถา้ ธนาคารกลางตอ้ งการจากัดเครดิตการบริโภค ก็ทา ไดโ้ ดยกาหนดวงเงินทีจ่ ะจา่ ยคร้งั แรกให้สงู หรือกาหนดจานวนงวดท่ีจา่ ยใหน้ อ้ ยลง (3) การควบคมุ เครดิตเพือ่ การกอ่ สร้างหรือการซ้ืออาคาร ทาโดยกาหนดจานวนเงนิ สงู สดุ ทีธ่ นาคารพาณิชยจ์ ะใหก้ เู้ พ่ือไปใชใ้ นการก่อสรา้ งหรือซือ้ อาคาร หรือ กาหนดราคาใช้คืน และเง่อื นไขในการใชค้ ืนเงนิ กู้ ธนาคารกลางทาการควบคุมเครดิตเมือ่ เกิดภาวะเงินเฟ้อหรอื มี สงคราม เพอื่ ไมใ่ ห้ราคาสินค้าต่างๆ ที่ใช้ในการกอ่ สรา้ งตลอดจนแรงงานสูงขน้ึ เนื่องจากอปุ ทานของปัจจยั ที่ใช้ใน การก่อสรา้ งน้อยกวา่ อุปสงค์ (4) การควบคมุ เครดติ โดยวิธีการขอร้องอย่างกันเอง (Gentleman’s Agree -ment) หรอื วธิ ี “ช้ชี วนทาง ศีลธรรม” (Moral Suasion) เป็นวธิ ที ่ีธนาคารกลางขอรอ้ งไม่ให้ ธนาคารพาณิชย์ปฏิบตั ิการอย่างหนึ่งอยา่ งใดท่ีธนาคารกลางไมม่ ี นโยบายให้ปฏบิ ตั ิ โดยชีช้ วนใหธ้ นาคารพาณชิ ย์เห็นผลเสีย ถา้ ธนาคารพาณิชย์ไม่รว่ มมือธนาคารกลางจะไม่ให้ ความช่วยเหลอื ธนาคารพาณิชยเ์ วลาท่ตี ้องการกู้จากธนาคารกลาง ---------------------------------

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 108 ------------------------------------------------------------------------------- แนวขอ้ สอบ ความรู้เก่ยี วกับบญั ชีและการเงิน 1. ขอ้ ใดหมายถึง การลดลงของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบัญชีในรูปกระแสเงินสดออกหรือการ ลดค่าของสนิ ทรัพยห์ รอื การเพิ่มของหนสี้ ินอันสง่ ผลใหส้ ่วนของเจ้าของลดลง ก. สนิ ทรัพย์ ข. หน้สี ิน ค. รายได้ ง. ค่าใช้จ่าย ตอบ ง. 2. ข้อใดไม่ใชข่ อ้ จากดั ของงบการเงนิ ตามแม่บทการบัญชี ก. ทนั ตอ่ เวลา ข. ความสมดุลของลกั ษณะเชิงคณุ ภาพ ค. เก่ยี วขอ้ งต่อการตดั สนิ ใจ ง. ความสมดุลระหว่างประโยชน์กบั ตน้ ทุน ตอบ ค. 3. ข้อใดไมใ่ ชอ่ งคป์ ระกอบของงบการเงิน ก. สินทรพั ย์ ข. สว่ นของเจา้ ของ ค. งบประมาณเงินสด ง. คา่ ใช้จา่ ย ตอบ ค. 4. ข้อมลู จะเก่ยี วข้องกับการตัดสนิ ใจเชิงเศรษฐกจิ ได้เม่ือข้อมลู นัน้ ชว่ ยผู้ใช้งบการเงนิ ในเรื่องใด ก. สามารถประเมินเหตุการณ์และยนื ยนั ผลการประเมินๆได้ ข. การเขา้ ใจในการอ่านผลการดาเนินงานและฐานะทางการเงิน ค. เข้าใจกิจกรรมเชงิ เศรษฐกิจและวิเคราะหผ์ ลของงบการเงนิ ง. ความเป็นอิสระและเที่ยงธรรม ทาให้ได้ขอ้ มูลทถี่ ูกตอ้ ง ตอบ ก. 5. ขอ้ ใดเป็นสาระสาคญั ของการทาบัญชี ก. การจดบนั ทกึ เหตุการณท์ างการเงนิ ตามแผน ท่ีได้จดั วางไว้ ข. การจัดประเภท เป็นหมวดหมู่ ตามลกั ษณะของรายการคา้ ค. สรุปผลในการดาเนนิ งานของกจิ การออกมาในรปู ของงบแสดงฐานะทางการเงินและกาไรขาดทนุ ง. ถูกทุกข้อ ตอบ ง. ข. ความเกีย่ วขอ้ งกบั การตัดสินใจ 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะเชงิ คุณภาพของงบการเงิน ง. ทนั ตอ่ เวลา ก. ความเข้าใจได้ ค. การเปรยี บเทยี บกันได้ ตอบ ง. ลักษณะเชิงคณุ ภาพของงบการเงิน ประกอบดว้ ย 1.ความเข้าใจได้ (UNDERSTANDABILITY) 2.ความเกย่ี วข้องกบั การตดั สินใจ (RELEVANCE) 3.ความเช่อื ถือได้ (RELIABILITY) 4.การเปรยี บเทยี บกันได้ (COMPARABILITY)

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 109 ------------------------------------------------------------------------------- 7. การวเิ คราะห์ จัดประเภทและบันทึกรายการ โดยมีแผน ที่ไดจ้ ัดวางไว้เพ่ือความเป็นระเบยี บในการ ดาเนินงานและสามารถแสดงฐานะการเงินและผลการดาเนนิ งานของการประกอบการได้ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. การบัญชี ข. การจดั ทาบัญชี ค. นโยบายบญั ชี ง. หลกั การจดั ทาบญั ชที ี่ไดร้ ับการรบั รอง ตอบ ข. 8. ผมู้ ีหน้าท่รี ับผดิ ชอบในการจัดทา และนาเสนองบการเงินของกิจการ คือใคร ก. ผ้ตู รวจสอบบญั ชีภายใน ข. ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ค. ผู้จัดทาบัญชีขององค์กร ง. ผู้บรหิ ารของกิจการ ตอบ ง. 9. กรอบหรือแนวคิดขน้ั พ้นื ฐานในการจัดทาและนาเสนองบการเงิน ตลอดจนการกาหนด และนามาตรฐานการ บญั ชี มาปฏบิ ัติ หมายถึงข้อใด ก. หลกั การบัญชที รี่ ับรองโดยทัว่ ไป ข. การจัดทาบัญชี ค. แมบ่ ทการบญั ชี ง. มาตรฐานการบัญชี ตอบ ค. 10. ในระหว่างงวดปีบัญชีกจิ การตอ้ งลงรายการในบญั ชีเงนิ สด บญั ชีเงินฝากธนาคาร ให้เสรจ็ ภายในกี่วันนับแต่ วันท่รี ายการนน้ั เกิดข้นึ ก. ภายในวนั ทเ่ี กิดรายการ ข. ภายใน 7 วนั ค. ภายใน 15 วนั ง. ภายใน 30 วนั ตอบ ค. 11. ณ วนั สิ้นงวดบัญชี บัญชีรายวนั ซ้ือ บญั ชีรายวันขาย บัญชีรายวนั ท่ัวไป ใหล้ งรายการยอดคงเหลือในบัญชเี งิน สด บัญชเี งินฝากธนาคารให้เสร็จภายในกวี่ ัน นบั แต่วันปดิ บญั ชี ก. ภายในวนั ทีเ่ กดิ รายการ ข. ภายใน 15 วนั ค. ภายใน 30 วนั ง. ภายใน 60 วนั ตอบ ง. 12. ผมู้ หี น้าทจ่ี ัดทาบัญชตี ้องจดั ทางบการเงินและยนื่ งบการเงนิ ตอ่ สานักงานกลางบญั ชหี รอื สานกั งานบญั ชปี ระจา ท้องท่ภี ายในกีว่ ันนับแตว่ ันปิดบัญชี ก. 1 เดอื น ข. 2 เดอื น ค. 3 เดอื น ง. 5 เดอื น ตอบ ง. 13. ผู้มหี นา้ ที่จดั ทาบัญชตี ้องเกบ็ รักษาบญั ชีและเอกสารที่ตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบัญชไี ว้ ณ ที่ ใด ก. สถานทีท่ าการประจาของกิจการ ข. สถานทที่ ใี่ ช้เปน็ ทท่ี าการผลิตหรือเก็บสนิ คา้ เป็นประจา ค. สถานทอ่ี นื่ กรณไี ด้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชี ง. ถกู ทุกข้อ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 110 ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ ง. 14. หลักการบัญชที รี่ ับรองท่วั ไป หมายถงึ ข้อใด ก. การจดบนั ทกึ การจาแนก การสรุปผล และการรายงานเกีย่ วกบั การเงนิ โดยใช้หน่วยเงนิ ตรารวมทั้ง การ แปลความหมายของผลการปฏิบัติ ข. การวิเคราะห์ จดั ประเภท และบนั ทึกรายการโดยมแี ผน ทไี่ ด้จัดวางไว้เพ่อื ความเปน็ ระเบยี บในการดาเนิน กิจการและสามารถแสดงฐานะทางการเงนิ และผลการดาเนินงานของการประกอบการได้ ค. แนวทางในการจัดทาบัญชที ี่ได้รบั การรับรองและยอมรบั จากผ้มู อี านาจหนา้ ทีใ่ นวิชาชพี การบัญชเี ป็น สว่ นใหญ่ ง. กรอบหรอื แนวความคดิ ขั้นพน้ื ฐานในการจัดทาและนาเสนองบการเงิน ตลอดจนการกาหนดและนา มาตรฐานการบัญชมี าเปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ใิ ห้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตอบ ค. 15. ข้อใดหมายถงึ รายการ และเหตกุ ารณ์ทางการบัญชี จะรบั รเู้ ม่ือเกิดขน้ึ มิใช่เมอื่ มีการรบั หรือจา่ ยเงินสด หรือ รายการเทียบเท่าเงนิ สด โดยรายการต่าง ๆจะบนั ทกึ บัญชีและแสดงในงบการเงนิ ตามงวดบญั ชีท่ีเกย่ี วข้อง ก. ข้อสมมตุ ฐิ านทางการบัญชเี ก่ียวกบั เกณฑ์คงค้าง ข. ขอ้ สมมตุ ฐิ านทางการบัญชีเก่ียวกบั เกณฑเ์ งนิ สดและเกณฑส์ ทิ ธิ ค. ข้อสมมตุ ิฐานทางการบัญชเี กยี่ วกับเกณฑด์ าเนินงานอย่างตอ่ เน่ือง ง. หลกั การบันทึกบญั ชตี ามหลกั เกณฑ์ทร่ี บั รองโดยทั่วไป ตอบ ก. 16. ความสมั พันธร์ ะหว่างสินทรัพย์ หนส้ี ินและสว่ นของเจ้าของ ซ่งึ มลี กั ษณะสมดลุ กันตามหลักการจัดหา เงินทนุ และการใช้เงินทนุ ก. การจัดทางบกาไรขาดทนุ ข. การจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ ค. การแสดงการเปล่ยี นแปลงฐานะการเงิน ง. สมการบญั ชี ตอบ ง. สมการบญั ชีสามารถเขยี นในรปู สินทรัพย์ = หนีส้ นิ + สว่ นของเจา้ ของ 17. กจิ การซ้อื สนิ คา้ เป็นเงินเช่ือจากรา้ นพร จานวน 20,000 บาท มีผลกระทบต่องบดุลอยา่ งไร ก. สนิ ทรัพยเ์ พม่ิ ขึน้ หน้ีสินเพ่มิ ขนึ้ ข. สนิ ทรพั ย์เพิ่มขน้ึ สว่ นของเข้าของลดลง ค. หนีส้ นิ เพิม่ ขน้ึ ส่วนของเจ้าของเพมิ่ ขึ้น ง. สนิ ทรพั ย์ลด หน้สี ินเพ่มิ ข้ึน ตอบ ก. เดบติ สินค้า 20,000 สินคา้ เปน็ สินทรัพย์ เม่ือสินค้าเพมิ่ บนั ทึกด้าน เดบิต เครดิต เจา้ หน้ีการค้า 20,000 เจา้ หน้ีเป็นหนี้สิน เม่ือเจา้ หนี้เพ่ิม บันทึกด้านเครดิต 18. ส่งบิลเรยี กเกบ็ เงนิ จากลูกค้าเป็นคา่ บรกิ าร จานวน 5,000 บาท ยังไม่ได้รับเงนิ ก. สนิ ทรพั ย์เพ่มิ ขึน้ หน้ีสนิ เพมิ่ ขนึ้ ข. สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ ขน้ึ สว่ นของเข้าของเพ่ิมขึ้น ค. หน้สี ินเพ่มิ ขน้ึ ส่วนของเจ้าของเพ่มิ ข้ึน ง. สนิ ทรัพยล์ ด หน้ีสนิ เพม่ิ ขนึ้ ตอบ ข. เดบิต ลกู หนกี้ ารคา้ 5,000 ลกู หนเ้ี ปน็ สินทรัพย์ เมื่อลูกหน้เี พมิ่ บนั ทึก ด้านเดบติ เครดติ รายไดค้ า่ บรกิ าร 5,000 รายได้ทาใหส้ ว่ นของเจ้าของเพม่ิ บนั ทึก ดา้ นเครดิต

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 111 ------------------------------------------------------------------------------- 19. จ่ายเงินเดอื นพนกั งาน 15,000 บาท มีผลกระทบต่องบดลุ อย่างไร ก. สินทรพั ย์เพ่มิ ข้ึน หนส้ี ินเพ่มิ ขน้ึ ข. สินทรพั ย์ลดลง สว่ นของเขา้ ของลดลง ค. หน้ีสนิ เพ่ิมขน้ึ ส่วนของเจา้ ของเพิม่ ข้ึน ง. สนิ ทรัพย์ลด หน้สี นิ เพม่ิ ขนึ้ ตอบ ข. เดบิต เงินเดอื น 15,000 เงนิ เดือนทาให้ส่วนของเจา้ ของลด บันทึก ด้านเดบิต เครดิตเงินสด 15,000 เงินสดเป็นสนิ ทรพั ย์ เมอ่ื เงินสดลด บันทกึ ด้านเครดิต 20. กิจการจา่ ยเชค็ ซื้อสินคา้ 21,400 บาทใหก้ ิจการทปี่ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพิ่ม 7% กจิ การถกู คิด ภาษีมูลค่าเพ่ิมกีบ่ าท ก. ไมเ่ สียภาษีมูลคา่ เพ่มิ ข. 1,400 บาท ค. 1,498 บาท ง. ผดิ ทกุ ขอ้ ตอบ ข. ( ) 21. กจิ การจดทะเบียนภาษีมูลคา่ 7% เมอื่ กจิ การจา่ ยคา่ สาธารณปู โภค 1,605 บาทเป็นเชค็ บนั ทึกบัญชอี ยา่ งไร ก. เดบติ ค่าสาธารณปู โภค 1,500 ข. เดบิต คา่ สาธารณปู โภค 1,500 เครดิต เงินสด 1,500 เครดิต ธนาคาร 1,500 ค. เดบติ ค่าสาธารณูปโภค 1,500 ง. เดบิต คา่ สาธารณูปโภค 1,500 ภาษซี ้ือ 105 ภาษีซือ้ 105 เครดิต เงินสด 1,605 เครดิต ธนาคาร 1,605 ตอบ ง. ( ) 22. สน้ิ เดือนกิจการมีภาษีซอ้ื 5,120 บาท ภาษขี าย 6,200 บาท กจิ การต้องนาสง่ หรือขอคืนภาษี เท่าไร ก. ขอคนื 6,200 บาท ข. นาส่ง 1,080 บาท ค. ขอคืน 5,120 บาท ง. นาส่ง 5,120 บาท ตอบ ข. ภาษีขายมากกวา่ ภาษีซื้อกจิ การต้องนาภาษมี ลู คา่ เพิ่มส่งกรมสรรพากร(6,200 – 5,120) =1,080 บาท 23. บรษิ ทั สมเจต จากัด จ่ายค่าขนสง่ สนิ ค้าทซ่ี ือ้ สินคา้ มาเมือ่ วนั ที่ 1 ม.ี ค. 54 จานวน 500 บาท ตามเง่ือนไข F.O.B. Shipping Point 500 ก. คา่ ขนส่งเข้า เงินสด 500 ข. ค่าขนส่งเขา้ 500 เจา้ หนก้ี ารค้า 500 ค. สนิ ค้าคงเหลอื 500 เงินสด 500 ง. สินค้าคงเหลือ 500 เจ้าหนก้ี ารค้า 500 ตอบ ก. 24. ต้นทุนข้ันตน้ (Prime Cost) ประกอบดว้ ย ก. วตั ถุดบิ ทางตรง ค่าแรงงานทางตรง คา่ ใช้จ่ายในการผลติ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 112 ------------------------------------------------------------------------------- ข. วัตถดุ บิ ทางตรง และ ค่าแรงงานทางตรง ค. คา่ แรงงานทางออ้ ม และ ค่าใชจ้ า่ ยในการผลิต ง. คา่ ใช้จา่ ยการผลติ และ วัตถุดิบทางอ้อม ตอบ ข. ต้นทนุ ขั้นตน้ (Prime costs) หมายถึง ต้นทุนขนั้ ตน้ ทใี่ ชใ้ นการผลติ สินคา้ โดยตรง ซงึ่ ประกอบด้วย ตน้ ทนุ วัตถุดิบทางตรง และต้นทุนค่าแรงงานทางตรง 25. ต้นทนุ แปรสภาพ (Conversion costs) ประกอบดว้ ย ก. วตั ถดุ บิ ทางอ้อม ค่าแรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายในการผลิต ข. วัตถดุ ิบทางตรง และ ค่าแรงงานทางตรง ค. ค่าแรงงานทางตรง และ ค่าใช้จ่ายในการผลิต ง. ค่าใช้จา่ ยการผลิต และ วัตถุดิบทางอ้อม ตอบ ค. ตน้ ทนุ แปรสภาพ (Conversion costs) หมายถงึ ตน้ ทนุ ที่นามาใชใ้ นการแปรสภาพวัตถดุ บิ หลกั ให้ กลายเป็นสินค้าสาเร็จรปู ประกอบดว้ ย ตน้ ทุนคา่ แรงงานทางตรง และ คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 26. ต้นทุนทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลงไปตามระดบั กจิ กรรมหรือปริมาณการผลติ ถ้าปริมาณการผลิตเพิ่มข้นึ ต้นทุนก็ จะเพมิ่ ขนึ้ ถ้าปรมิ าณการผลิตลดลง ตน้ ทนุ กจ็ ะลดลง ในขณะทต่ี น้ ทนุ ตอ่ หนว่ ยจะเท่าเดิมไมว่ ่าปริมาณการผลิตจะ อยใู่ นระดบั ใด ก. ต้นทนุ ผนั แปร ข. ตน้ ทนุ คงที่ ค. ต้นทุนกงึ่ ผันแปร ง. ต้นทุนก่งึ คงท่ี ตอบ ก. 27. ลูกหนท้ี ่ีกิจการไดต้ ิดตามทวงถามจนถงึ ทส่ี ดุ แล้ว แตไ่ มไ่ ด้รบั ชาระหนแี้ ละกิจการตัดจาหน่ายออกจากบญั ชี เปน็ ค่าใชจ้ ่ายเนื่องจากลกู หนี้ถกู ศาลตัดสินให้เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย หมายถึงขอ้ ใด ก. หนีส้ งสยั จะสญู ข. หนส้ี ูญ ค. ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ง. การด้อยค่าของลกู หนี้ ตอบ ข. 28. การรับรรู้ ายได้เมื่อมกี ารสง่ มอบสนิ ค้าให้กับลกู คา้ ถอื เปน็ ลักษณะของข้อใด ก. เนื้อหาสาคัญกวา่ รปู แบบ ข. เปน็ ตวั แทนอนั เท่ยี งธรรม ค. มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือได้ ง. ความระมัดระวงั ตอบ ข. 29. กจิ การขายสินคา้ และเป็นผ้ปู ระกอบการอยู่ในระบบภาษีมูลคา่ เพ่ิม7 % หากจุดความรับผดิ ชอบในการเสีย ภาษีเกดิ ขน้ึ หน้าที่ของผู้ประกอบการจะต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ก. บนั ทกึ การได้รับเงินจากลูกคา้ ข. ออกใบสง่ ของพร้อมกับใบแจ้งหน้ี ค. จัดทารายงานภาษมี ูลค่าเพิ่ม ง. กรอกแบบ ภ.พ. 30 ตอบ ค. รายงานภาษีมลู ค่าเพิม่ ประกอบด้วย รายงานภาษีขาย รายงานภาษขี าย และรายงานสนิ คา้ และวัตถุดิบ 30. หากกจิ การขายสนิ คา้ เป็นเงนิ 120,000 บาท โดยขายเปน็ เงนิ เช่อื ให้เครดิตลูกค้า 45 วัน จึงจะชาระเงิน ต่อมา ลกู ค้านาเงินมาชาระคา่ สนิ คา้ ภายในกาหนดกจิ การจงึ ลดให้ 2% ถอื วา่ เป็นสว่ นลดประเภทใด

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 113 ------------------------------------------------------------------------------- ก. ส่วนลดเงนิ สด ข. สว่ นลดการคา้ ค. สว่ นลดพเิ ศษ ง. สว่ นลดเฉพาะ ตอบ ก. ส่วนลดเงินสด หมายถงึ สว่ นลดทเี่ จ้าหน้ีจะยอมลดหน้ีให้แกล่ ูกหนเี้ มื่อลูกหนี้ได้นาเงินสดมาชาระหน้ี ภายในเวลาที่กาหนด เป็นสว่ นลดที่เกิดขน้ึ เมอ่ื ผผู้ ลิตหรือผู้ขายตอ้ งการจงู ใจใหล้ กู หนี้ชาระเงนิ โดยเรว็ หรือก่อน หมดกาหนดระยะเวลาทผ่ี อ่ นผันการชาระหน้ี การใหส้ ว่ นลดนี้ผู้ขายจะกาหนดอตั ราร้อยละที่จะลดใหแ้ ละกาหนด ระยะเวลาอย่างชา้ ทจ่ี ะต้องนาเงินมาชาระด้วย โดยผ้ขู ายจะแจง้ เง่ือนไขส่วนลดเงินสดไว้ในกากบั สินคา้ เช่น 2/10 , n/30 หมายถงึ ถา้ ผู้ซอ้ื ชาระหนี้คา่ สนิ คา้ ภายในกาหนด 10 วัน นับแต่วนั ท่ีในใบกากับสนิ คา้ แล้ว จะไดส้ ว่ นลดเงนิ สดจากผขู้ าย 2% ของราคาสินค้าท่ซี อื้ แตถ่ ้าไม่สามารถชาระหนี้ภายในระยะเวลาท่ีได้ สว่ นลดกจ็ ะต้องกระทาการชาระหนใี้ หเ้ สร็จส้ินภายในกาหนดเวลา 30 วัน และตอ้ งชาระหน้ีเต็มจานวน 2/10 , 1/30 , n/60 หมายถงึ ถ้าผู้ซ้อื ชาระหนี้คา่ สินค้าภายในกาหนด 10 วันนับแตว่ ันทใี่ นใบกากับ สินคา้ จะไดร้ บั ส่วนลด 2 เปอรเ์ ซ็นต์ ถา้ ชาระหน้ีค่าสินคา้ ภายในกาหนด 30 วันนับแต่วันทีใ่ นใบกากับสินคา้ จะ ไดร้ บั สว่ นลด 1% แตถ่ า้ ไม่สามารถชาระหนภ้ี ายในระยะเวลาท่ีได้ส่วนลด ก็จะต้องชาระหนี้ใหเ้ สรจ็ ส้ินเตม็ จานวน ภายในกาหนดเวลา 60 วัน 2/EOM , n/30 หมายถึง ถา้ ผ้ซู ้ือชาระหนคี้ า่ สนิ ค้าภายในสน้ิ เดือนทีม่ ีการซอ้ื สนิ ค้านั้นกจ็ ะได้รบั ส่วนลด 2% แตถ่ ้าไมส่ ามารถชาระหนภ้ี ายในระยะเวลาท่ีได้สว่ นลด กจ็ ะตอ้ งชาระหน้ีใหเ้ สรจ็ สิ้นเต็มจานวน ภายในกาหนด 30 วนั 31. กิจการซื้อเครอื่ งจักรมาเครื่องหนง่ึ เมื่อวนั ท่ี 1 มกราคม 2554 มีราคา 160,000 บาท มีราคาซาก 10,000 บาท คาดวา่ จะมอี ายุการใชง้ าน 5 ปี กิจการคดิ ค่าเสื่อมราคาโดยวธิ ผี ลรวมจานวนปี ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรเมื่อส้นิ ปี ท่ี 1 ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2554 เป็นเงนิ เทา่ ไร ก. 20,000 บาท ข. 30,000 บาท ค. 40,000 บาท ง. 50,000 บาท ตอบ ง. (160,000 – 10,000 = 150,000 x 5/15 = 50,000) เดบิต คา่ เส่อื มราคา-เคร่อื งจกั ร 50,000 เครดิต คา่ เสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร 50,000 32. กระบวนการทางานบัญชแี ต่ละขั้นตอนตง้ั แต่เริ่มวิเคราะห์รายการค้าจนถึงการจดั ทางบการเงินในแตล่ ะรอบ ระยะเวลาบัญชี หมายถงึ ข้อใด ก. การกาหนดผงั บัญชี ข. การกาหนดรหัสบญั ชี ค. การจัดทาบัญชี ง. วงจรการบนั ทึกบัญชี ตอบ ง. วงจรบัญชีเรมิ่ จาก การวิเคราะหร์ ายการค้า บันทกึ รายการในสมุดรายวันท่ัวไป ผา่ นรายการไปบัญชแี ยก ประเภท เก็บยอดทางบทดลอง ปรับปรุงบัญชี ณ วันสน้ิ งวด ออกงบการเงนิ 33. สมดุ รายวนั ทว่ั ไป ถอื เป็นสมุดบญั ชปี ระเภทใด ก. บัญชแี ยกประเภท ข. สมุดรายวนั ขัน้ ตน้ ค. สมดุ รายวนั ขนั้ ปลาย ง. สมุดรายวันเฉพาะ ตอบ ข.

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 114 ------------------------------------------------------------------------------- 34. งบทดลองจดั ทาข้ึนเพื่อประโยชนอ์ ะไร ก. เพื่อหาข้อผดิ พลาดและพิสูจนค์ วามถูกต้องในการบนั ทกึ บัญชีและการผา่ นบัญชี ข. รวบรวมรายการบัญชใี ห้เป็นหมวดหมู่ เป็นประเภทของบัญชใี หค้ รบถ้วนถกู ต้อง ค. ตรวจสอบกระบวนการบันทึกบญั ชเี ป็นไปตามหลักการบญั ชที ี่รบั รองโดยท่ัวไป ง. ถูกทุกข้อ ตอบ ก. 35. กิจการท่ีได้มีการจัดทางบวเิ คราะหอ์ ายขุ องลูกหนี้ (Aging) จะได้รบั ประโยชนใ์ นเรื่องของ ก. ประสทิ ธิภาพของการควบคุมลูกหนี้ ข. การต้งั คา่ เผื่อหนี้สงสยั จะสูญ ค. วดั ประสทิ ธภิ าพในการจัดเกบ็ หน้ี ง. ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. 36 การทจุ ริตโดยการยกั ยอกเงินทไ่ี ด้รบั ชาระหน้จี ากลกู หน้ีนาไปใช้ แลว้ คืนให้กบั กจิ การภายหลังเมอ่ื ไดม้ ีการ รบั เงนิ จากลูกหน้ีรายใหมแ่ ล้ว เปน็ การทุจริตโดยวิธี ก. Lapping ข. Kiting ค. Losing ง. Kipping ตอบ ก. 37. กจิ การได้ตรวจสอบงบกาไรขาดทนุ ของกิจการเม่ือสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี 2554 พบวา่ 1) สนิ ค้าคงเหลือปลายงวด สูงเกินไป 20,000 บาท 2) ค่าโทรศพั ท์ ต่าไป 5,000 บาท ผลจากความผิดพลาดดงั กล่าว ทาให้กาไรสุทธิสาหรับปี 2554 ก. สงู ไป 25,000 บาท ข. สูงไป 15,000 บาท ค. ต่าไป 25,000 บาท ง. ต่าไป 15,000 บาท ตอบ ก. สนิ คา้ คงเหลอื ปลายปสี ูงไป ทาใหก้ าไรสูงไป 20,000 แตบ่ นั ทึกค่าใชจ้ ่ายตา่ ไป ทาให้กาไรสูงไป 5,000 ดังนน้ั สรปุ ได้วา่ กจิ การมีข้อผิดพลาดคอื ทาให้กาไรสูงไป 25,000 บาท 38. พนกั งานของกิจการนาเชค็ ของกิจการไปเข้าบัญชขี องตนเองเนื่องจากเป็นเชค็ เงนิ สด แลว้ นาเชค็ ของตนเอง ไปเขา้ บัญชขี องกิจการแทนเช็คดงั กลา่ วแต่ให้เขา้ ไม่ทนั เคลียร์ริ่ง เพอ่ื เงนิ ในบัญชขี องตนเองมีเพียงพอต่อการ หมนุ เวยี น แลว้ รบี นาเงนิ สดไปเข้าบญั ชขี องตนเพอื่ ให้เชค็ ของตนเองท่ีนาไปเข้าบัญชกี จิ การผา่ นได้ เปน็ วธิ กี าร ทุจรติ ท่ีเรยี กวา่ ก. Check kiting (การโอนลอย) ข. Lapping (การยกั ยอกเงินลูกค้า) ค. Loading ง. Checking ตอบ ก. 39. เช็คทีก่ จิ การได้จ่ายไปเพ่ือชาระหนี้ให้เจา้ หน้ี แตผ่ ู้รับยังไม่ไดน้ าไปขึน้ เงินท่ีธนาคาร หมายถงึ ก. Deposit in Transit ข. Current Check ค. Check Register ง. Outstanding Check ตอบ ง. ถือเป็นเช็คค้างจา่ ย

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 115 ------------------------------------------------------------------------------- 40. ข้อใดไมถ่ ือเป็นต้นทุนของสินค้าคงเหลือ ก. คา่ ใช้จา่ ยออกแบบผลิตภัณฑ์ ข. ค่าใช้จ่ายในการออกของ ค. ค่านายหนา้ ในการจัดซื้อวัตถุดิบ ง. ค่าขนสง่ สินค้าใหล้ กู คา้ ตอบ ง. เนือ่ งจากค่าขนสง่ สนิ คา้ ใหล้ กู คา้ เปน็ คา่ ขนส่งออก ซ่ึงเปน็ ค่าใช้จา่ ยในการขาย 41. สมุดเงินสดยอ่ ยให้ประโยชน์ตอ่ การบันทึกรายการคา้ อยา่ งไร ก. ชว่ ยแบ่งแยกหนา้ ท่ีระหว่างการจ่ายเงนิ ที่เปน็ จานวนเลก็ ๆนอ้ ยๆทีเ่ ปน็ เงนิ สดกับการจ่ายเงนิ จานวน เงินมากๆดว้ ยเชค็ ข. ชว่ ยใหพ้ นกั งานบญั ชีไม่ต้องผ่านรายการจากสมุดบัญชไี ปยงั สมุดบญั ชแี ยกประเภทบอ่ ยคร้ัง ค. ชว่ ยในการพิจารณารายจา่ ยไดร้ ัดกมุ ถกู ต้องยงิ่ ขึน้ เนื่องจากจานวนเงินไมม่ ากนกั และสามารถ ตรวจสอบไดง้ า่ ยและรวดเร็ว ง. ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. 42. วัตถุประสงค์ของการกาหนดแมบ่ ทการบัญชี คือ ก.อธิบายเกย่ี วกับลกั ษณะเชงิ คุณภาพของงบการเงนิ ข.อธบิ าย คานิยาม การรับรู้ และการวดั มลู คา่ ขององคป์ ระกอบของงบการเงนิ ค.เป็นแนวทางในการจัดทาและนาเสนองบการเงิน ตลอดจนเปน็ แนวทางในการจดั ทา ทบทวน และพฒั นา มาตรฐานการบัญชีในเรอ่ื งตา่ งๆใหส้ อดคล้องกบั การจัดทาและนาเสนองบการเงิน รวมทั้งเปน็ แนวทางในการ ปฏิบตั ิสาหรับเรื่องท่ยี งั ไมม่ มี าตรฐานการบัญชรี องรับ ง.เปน็ แนวทางในการเขยี นนโยบายการบัญชแี ละหมายเหตุประกอบงบการเงนิ ตอบ ค. 43. ความเขา้ ใจได้ของงบการเงินท่ีเป็นลักษณะเชิงคณุ ภาพ หมายถงึ ก.การสมมติวา่ ผใู้ ชง้ บการเงินมีความรู้ตามควรเก่ยี วกบั ธุรกจิ กจิ กรรมเชงิ เศรษฐกิจและการบญั ชี รวมท้ังมี ความตงั้ ใจตามควรท่ีจะศึกษาข้อมลู ดังกล่าว ข.ไมค่ วรแสดงข้อมลู ท่มี คี วามยงุ่ ยากซับซอ้ นไวใ้ นงบการเงิน แม้ว่าข้อมลู นนั้ จะเกยี่ วข้องกบั การตัดสินใจเชงิ เศรษฐกิจ ค.ควรแสดงข้อมลู ในงบการเงินอยา่ งง่ายๆ ไมว่ ่าขอ้ มูลน้นั จะเกยี่ วขอ้ งกบั การตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจหรือไม่ ง.การสมมตวิ า่ ผู้ใชง้ บการเงินไมม่ ีความรเู้ พยี งพอเก่ียวกบั ธรุ กจิ กิจกรรมเชิงเศรษฐกิจและการบัญชี และไม่มี ความตั้งใจทจ่ี ะศกึ ษาข้อมูลดังกลา่ วเพมิ่ เตมิ ตอบ ก. 44. ขอ้ ความขอ้ ใดต่อไปนี้แสดงถงึ การเปรียบเทียบกันได้ ก.กิจการควรใชน้ โยบายการบัญชีที่ใช้ปฏิบตั กิ บั รายการและเหตุการณท์ างบัญชีน้นั อย่างสม่าเสมอ หากเน้ือ หาทางเศรษฐกิจทเี่ กี่ยวข้องกับรายการและเหตุการณท์ างบัญชนี ้นั มิได้เปล่ียนแปลงไป ข.กิจการควรใช้นโยบายการบญั ชีท่ใี ชป้ ฏบิ ัตกิ บั รายการและเหตุการณท์ างบัญชีนน้ั ๆ ตลอดไป แม้วา่ เน้ือ หาทางเศรษฐกิจที่เก่ียวขอ้ งกับรายการและเหตุการณ์ทางบัญชนี ้นั เปล่ียนแปลงไป

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 116 ------------------------------------------------------------------------------- ค.กิจการควรใช้นโยบายการบญั ชที ใี่ ชป้ ฏิบตั กิ ับรายการและเหตกุ ารณท์ างบัญชีนนั้ ๆ ตามดุลยพนิ จิ ของ ผูบ้ ริหาร โดยไมค่ านงึ ถึงการเปลี่ยนแปลงเน้อื หาทางเศรษฐกจิ ท่ีเก่ียวข้องกบั รายการและเหตกุ ารณท์ างบัญชีน้ัน ง.กจิ การควรใช้นโยบายการบญั ชีที่ใช้ปฏิบัติกบั รายการและเหตกุ ารณท์ างบัญชนี น้ั ๆ เปลย่ี นแปลงไปตามการ เปลีย่ นแปลงนโยบายการบัญชขี องคู่แข่งขนั ทใ่ี ช้ปฏบิ ตั กิ บั รายการและเหตุการณท์ างบัญชนี ัน้ ตอบ ก. 45. การจดั ทางบการเงินแบบสมบรู ณต์ ามมาตรฐานการบัญชีฉบบั ที่ 35 ต้องประกอบดว้ ย งบดุล, งบกาไร ขาดทนุ , งบกระแสเงินสด และงบแสดงการเปล่ียนแปลงของผถู้ ือหุ้น ทา่ นมคี วามเห็นว่า ก.ถกู ต้อง ข.ไม่ถูกต้อง ค.ตอ้ งเปิดเผยนโยบายการบัญชี และข้อมลู เพิ่มเตมิ ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ง.ไม่มีข้อใดถกู ต้อง ตอบ ค. ข.การรบั รูร้ ายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ย 46. ขอ้ ใดไมจ่ ดั เป็นการเปิดเผยนโยบายการบญั ชี ง.ประมาณการหน้สี นิ ก.การตรี าคาสินคา้ คงเหลือ ค.ภาระผกู พนั ตามสญั ญา ตอบ ค. 47. ขอ้ ใดคอื รายการสินทรพั ยแ์ ละหน้สี ินที่นามาหักกลบกันไม่ได้ ก.ขายหกั ดว้ ยสว่ นลดจากการขาย ข.ค่าเผ่อื หน้สี งสัยจะสูญหกั กบั ยอดลูกหน้ที ี่เกย่ี วข้อง ค.ยอดสนิ ทรพั ย์ทีเ่ ชา่ ตามสัญญาเช่าการเงินหกั กับยอดหนี้สนิ ที่เกีย่ วข้อง ง.รายการกาไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลยี่ นของบริษทั ขายสินค้าทวั่ ไป ตอบ ค. 48. ข้อใดคอื ข้อทีค่ วรพจิ ารณาในการนาเสนองบการเงิน ก.ให้แสดงงบการเงนิ โดยถูกตอ้ งตามหลักการบัญชที ่ีรบั รองทัว่ ไป ข.การดาเนนิ งานต่อเนื่อง ค.ความมนี ยั สาคัญและการรวมยอด ง.ถกู ทกุ ขอ้ ตอบ ง. 49. ตามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ท่ี 30 การแปลงคา่ งบการเงินของหน่วยงานต่างประเทศเพื่อจดั ทางบการเงิน รวม คอื ข้อใด ก.สินทรพั ยแ์ ละหน้ีสินแปลงค่าด้วยอตั ราปิด ข.รายการรายได้และรายจ่ายแปลงคา่ ด้วยอตั รา ณ วันท่ีเกิดรายการ ค.ผลต่างของอัตราแลกเปลยี่ นแสดงเปน็ รายการภายใตส้ ่วนของทุนจนกว่าจะจาหน่ายเงนิ ลงทุน ง.ถูกทุกขอ้ ตอบ ง.

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 117 ------------------------------------------------------------------------------- 50. ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ งตามมาตรฐานการบัญชีฉบบั ที่ 33 ในเร่อื งการคิดดอกเบี้ยเป็นราคาทนุ ของทรัพยส์ นิ ก.บรษิ ัทบนั ทึกดอกเบย้ี เงินทุน ซ่งึ เกิดข้นึ ในระหวา่ งดาเนินการโครงการพัฒนาอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละระหว่าง การก่อสร้างอาคารโรงแรมเป็นค่าใช้จ่ายโครงการรอตัดบัญชี ข.ดอกเบีย้ จ่ายที่เกิดจากเงนิ กู้ยมื นาไปใชใ้ นโครงการก่อสร้างอาคาร ได้นาไปรวมเป็นราคาทนุ ของอาคาร จนกว่าอาคารน้ันจะอยูใ่ นสภาพพร้อมที่จะใชไ้ ด้ตามวัตถุประสงค์ ค.ดอกเบี้ยจา่ ยสาหรับเงินท่ีกู้มาเพือ่ วัตถปุ ระสงค์ทั่วไป บรษิ ัทมีนโยบายทจ่ี ะบนั ทึกต้นทุนเป็นคา่ ใชจ้ ่ายใน ระหวา่ งงวด สาหรับการจดั หาสินทรัพย์ประเภทอ่ืน ง.บริษทั บนั ทกึ ดอกเบ้ยี จา่ ยทีเ่ กิดขึน้ เน่ืองจากการกู้ยมื มาเพอื่ ใช้เป็นการซื้อท่ีดิน ก่อสร้างอาคาร และจ่ายซอื้ สทิ ธกิ ารเช่าเขา้ เปน็ ต้นทนุ สว่ นหนง่ึ ของสินทรัพย์ และจะหยุดบันทึกดอกเบยี้ จา่ ยเขา้ เป็นต้นทุนเมื่อก่อสรา้ งแลว้ เสร็จ และพร้อมสาหรับใชด้ าเนินงานไดต้ ามสัดส่วนของเงนิ ก้ยู มื มาเพอ่ื ทรัพยส์ ินน้ันๆ ตอบ ก. 51. วิธีเปลย่ี นทันทใี ชก้ ับการเปล่ยี นแปลงทางบญั ชีประเภทใด ก.การเปลี่ยนแปลงหลักการบญั ชี ข.การนามาตรฐานการบัญชีทปี่ ระกาศใหม่มาถอื ปฏบิ ัติ ค.การเปล่ยี นแปลงประมาณการบญั ชี ง.การแก้ไขข้อผิดพลาดทส่ี าคัญ ตอบ ข. 52. ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2548 ห้างหุ้นส่วน รกั แท้ จากดั ซือ้ เครอ่ื งจกั รซงึ่ มีราคาทุน 660,000 บาท คิดคา่ เส่ือม ราคาโดยวิธีเสน้ ตรงไมม่ มี ูลคา่ ซาก มีอายกุ ารใชง้ าน 8 ปี เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงทาให้อายกุ ารใช้ งานและมลู คา่ ซากเปลยี่ นแปลงไป ณ วนั ท่ี 1 มกราคม 2551 กจิ การประมาณวา่ เครื่องจกั รมีอายกุ ารใช้งานนบั จาก วันทซ่ี อ้ื เท่ากบั 6 ปี มีมลู คา่ ซาก 55,000 บาท ราคาตามบัญชี ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2551 เท่ากบั เท่าใด ก.365,000 บาท ข.385,000 บาท ค.400,000 บาท ง.440,000 บาท ตอบ ก. 53. อัตราแลกเปลย่ี นที่ใชใ้ นการแปลงคา่ รายการทีเ่ ป็นลูกหน้ีการคา้ ณ วันสิ้นงวดบัญชี คือ ก.อตั ราแลกเปลี่ยน ณ วนั ที่เกิดรายการ ข.อตั ราปิด ณ วันท่ใี นงบดลุ ค.อัตราลว่ งหนา้ ณ วันทม่ี ีการชาระเงิน ง.ไมต่ ้องมกี ารแปลงคา่ เนื่องจากเป็นรายการทเี่ ป็นตัวเงิน ตอบ ข. 54. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไมถ่ กู ต้อง ก.บัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้าในนามของหลกั ทรัพยไ์ มค่ วรบนั ทกึ ในบัญชีเงินสดและเงินฝากธนาคาร ข.เงนิ เบิกเกินบญั ชีธนาคารควรแสดงเป็นหน้สี นิ หมนุ เวยี น ค.บัญชคี า่ ใช้จ่ายลว่ งหนา้ เป็นสนิ ทรพั ย์หมุนเวียนเนื่องจากเปน็ สินทรัพยท์ ่ีคาดว่าจะแปลงสภาพเงนิ สดใน ระยะเวลาการดาเนนิ งานปกติ ง.ถูกทกุ ขอ้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 118 ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ ค. 55. ขอ้ ใดต่อไปนีถ้ ูกตอ้ ง ก.รายการแตล่ ะบรรทัดในงบดุลควรมกี ารแสดงไว้อยา่ งกว้างๆ ตามลักษณะของแตล่ ะประเภท ข.คาอธบิ ายและการจัดเรยี งลาดบั ของรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงใหเ้ ป็นไปตามระบบบญั ชีหรือลกั ษณะ ของกิจการเพื่อให้ผ้ใู ช้งบการเงนิ เข้าใจฐานะของกิจการ ค.บรษิ ัทควรพิจารณาจานวน ลักษณะ และวนั ครบกาหนดของหนี้สินเปน็ ปจั จยั ในการแยกหน้ีสินหมนุ เวียน และไม่หมุนเวียนรวมทง้ั หนี้สินท่ีระบอุ ัตราดอกเบีย้ และไมร่ ะบอุ ัตราดอกเบีย้ จากประมาณการหนสี้ ิน ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. ข.เงินมัดจาอาคารชวั่ คราว 56. สินทรัพยห์ มนุ เวยี น คอื ข้อใด ง.ถูกทกุ ข้อ ก.คา่ ใชจ้ ่ายจ่ายลว่ งหน้า ค.เงนิ สดและรายการเทยี บเท่าเงินสด ตอบ ง. 57. ขอ้ ใดต่อไปนีไ้ ม่ถูกต้อง ก.เจา้ หน้กี ารค้าทีม่ ีระยะเวลาดาเนนิ งานปกติเกินกว่า 12 เดอื น ควรบนั ทึกเปน็ หนี้สินไมห่ มนุ เวียน ข.ในกรณที ่กี ิจการชาระบญั ชีซงึ่ กจิ การคาดวา่ จะไมแ่ ล้วเสรจ็ ภายในรอบระยะเวลาบัญชีนน้ั กจิ การควรบนั ทกึ หนส้ี ินจากเร่ืองดงั กลา่ วเปน็ หน้สี นิ ระยะยาว ค.เงินปนั ผลคา้ งจ่ายส่วนทม่ี ไิ ดช้ าระในระหว่างรอบการดาเนนิ งาน แต่ถงึ กาหนดชาระภายใน 12 เดือน กิจการควรบันทึกเปน็ หนสี้ นิ หมุนเวียน ง.ถูกทกุ ขอ้ ตอบ ก. 58. การบนั ทกึ บัญชลี ูกหน้ที ่ีเก็บเงนิ ไม่ไดโ้ ดยวธิ ีตัง้ ค่าเผ่ือ คือขอ้ ใด ก.วิธกี ารประมาณการคา่ เผ่ือมี 4 วิธี ข.เป็นวิธีสอดคล้องกับหลักการเปรียบเทยี บรายได้กับค่าใช้จา่ ย ค.เปน็ วิธที ี่งา่ ยและสะดวก ง.ถูกทุกขอ้ ตอบ ข. 59. ถา้ กิจการมีคา่ เผ่ือหนีส้ งสัยจะสูญเกินความต้องการควรทาอย่างไร ก.ปรับปรงุ ลดยอดลงโดยให้ถอื เปน็ รายได้ของกจิ การ ข.คงยอดทเี่ กนิ ไว้เพื่อนาไปใช้ในปีตอ่ ไป ค.ปรับปรุงลดยอดลงโดยให้นาไปลดค่าใชจ้ า่ ยของกิจการ ง.นาส่วนท่ีเกินไปแยกแสดงไวท้ างดา้ นหนสี้ นิ ตอบ ค.

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 119 ------------------------------------------------------------------------------- 60. กจิ การจะต้องพิจารณาความเพียงพอของค่าเผ่ือหน้สี งสัยจะสูญในบญั ชใี ด ก.ลกู หนกี้ ารคา้ ข.ลกู หนอ้ี นื่ ค.เงนิ ให้กยู้ ืม ง.ถูกทกุ ขอ้ ตอบ ง. ห้างหุ้นส่วน โชคดี จากัด รายละเอยี ดสนิ คา้ คงเหลือ ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม 2558 ผลต่าง ราคาทนุ มูลค่าสุทธทิ ีค่ าดว่าจะไดร้ ับ เครื่องถา่ ยเอกสาร ร่นุ AF 27,500 37,800 10,300 เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ร่นุ STAR 32,600 28,000 (4,600) เคร่ืองโทรสาร รนุ่ CT 4,800 3,500 (1,300) 64,900 69,300 44,000 61. บริษทั ควรบันทกึ คา่ เผ่ือการลดมูลคา่ สินค้าคงเหลอื เป็นจานวนเท่าใด ก.10,300 บาท ข. 4,400 บาท ค. 5,900 บาท ง.ไมต่ ้องบนั ทกึ ค่าเผ่ือการลดมลู ค่า ตอบ ค. 62. มลู คา่ ของเคร่ืองถา่ ยเอกสารทีค่ วรแสดงอยูใ่ นงบการเงิน ควรเป็นจานวนเท่าใด ก.27,500 บาท ข.37,800 บาท ค.69,300 บาท ง.64,900 บาท ตอบ ก. 63. ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก.กจิ การควรเปิดเผยราคาตามบัญชขี องสนิ คา้ คงเหลือทีใ่ ช้เปน็ หลักประกันหน้ีสนิ ข.ผลขาดทนุ จากการท่สี ินค้าคงเหลอื มีมูลคา่ ลดลงจากการปรบั ราคาให้เปน็ มลู คา่ สุทธิที่จะได้รบั ควรบนั ทึก เป็นคา่ ใชจ้ ่ายในงวดบัญชนี ั้น ค.ในกรณีทก่ี ิจการใช้วธิ ีการกาหนดต้นทุนของสนิ คา้ คงเหลอื ตามวิธเี ขา้ หลังออกก่อน กิจการควรเปิดเผย มูลคา่ ตามราคาต้นทนุ ปจั จบุ ัน ณ วนั ท่ีในงบดุล หรือมูลค่าสุทธิทีจ่ ะได้รับแล้วแต่มูลค่าใดจะต่ากวา่ ง.ถกู ทกุ ข้อ ตอบ ง. 64. ข้อใดไม่ใชต่ ้นทุนทางตรงในการจดั หาสินทรพั ยซ์ ึ่งถือเปน็ สว่ นหนงึ่ ในการคานวณหาต้นทนุ สนิ ทรัพย์ ก.ต้นทุนในการเตรียมสถานท่ี ข.รายจ่ายในการติดตง้ั เคร่ืองจกั ร ค.ค่าธรรมเนยี มวิชาชีพในการจดั หาสินทรัพย์ ง.คา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหาร ตอบ ง. 65. ถา้ กิจการใชว้ ธิ กี ารคดิ ค่าเส่ือมราคาวิธีเสน้ ตรง อุปกรณ์ราคาทุน 20,000 บาท ราคาซาก 2,000 บาท ประมาณอายุการใชง้ าน 9 ปี ซึง่ กจิ การซอ้ื มาเมือ่ ต้นปจี ะมีราคาตามบัญชเี ม่ือสน้ิ ปที ่ี 1 เทา่ กบั เทา่ ใด ก.20,000 บาท ข.18,000 บาท ค.16,000 บาท ง.14,000 บาท

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 120 ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ ข. 66. จากโจทยข์ อ้ 24 คา่ เส่ือมราคาอุปกรณป์ ลายปที ่ี 2 เท่ากบั เท่าใด ถ้ากิจการใช้วธิ คี ดิ คา่ เสอ่ื มราคาแบบผลรวม จานวนปี ก.2,000 บาท ข.2,200 บาท ค.2,400 บาท ง.3,200 บาท ตอบ ง. 67. ขอ้ ใดไมจ่ ดั เป็นรายการสนิ ทรพั ย์อ่ืน ก.ทีด่ นิ -รอการจาหน่าย ข.สทิ ธิการเช่า ค.รายจ่ายรอการตัดบญั ชี ง.เงนิ สดทีไ่ ม่สามารถใช้จ่ายได้ ตอบ ข. 68. ข้อใดเป็นต้นทุนทางตรงในการจัดหาสินทรพั ย์และเป็นส่วนหน่ึงในการคานวณหาต้นทุนสนิ ทรัพย์ ก.คา่ ธรรมเนยี มวชิ าชีพในการจัดหาสนิ ทรัพย์ ข.คา่ จ้างในงานสานกั งาน ค.รายจ่ายในการซอ่ มแซมเคร่อื งจกั รประจาปี ง.ค่าใช้จ่ายในการบรหิ าร ตอบ ก. 69. กิจการจะเครดติ บัญชใี ดตอ่ ไปนี้ เมอ่ื บันทกึ ค่าสญู สนิ้ ก.สนิ ทรพั ย์ ข.คา่ สญู ส้ินสะสม ค.คา่ สูญสนิ้ ง.กาไรขาดทนุ ตอบ ข. 70. กจิ การจะบนั ทกึ บัญชีโดยเครดิตบัญชใี ดเมื่อเกดิ การด้อยค่าในสินทรัพยไ์ ม่มีตวั ตน ก.สนิ ทรัพย์ ข.กาไรขาดทุน ค.ขาดทุนจากการด้อยคา่ ง.ขาดทุนจากการด้อยค่า-สนิ ทรัพย์ ตอบ ก. 71. สมมติว่างานกอ่ สรา้ งแบ่งเป็น 3 ขนั้ ตอนและอตั รากาไรในแตล่ ะขัน้ ตอนแตกตา่ งกัน ข้ันท่ี ราคาขาย ต้นทนุ กาไร ปีท่ีเสรจ็ 1 1,000 500 500 2556 2 1,000 700 300 2557 3 1,000 800 200 2558 3,000 2,000 1,000 บรษิ ัทจะรบั รูก้ าไรในปี 2556 เทา่ กับเทา่ ใด ก.1,000 ข.0 ค.500 ง.250 ตอบ ค. 72. ข้อใดไมใ่ ชข่ อ้ แตกตา่ งระหว่างการเช่าซ้อื และสญั ญาเชา่ ระยะยาว ก.วตั ถปุ ระสงค์การเชา่ ข.ชนดิ ของทรัพย์สินทเี่ ช่า ค.กรรมสิทธ์ใิ นทรพั ยส์ นิ ง. การใช้ประโยชนใ์ นทรพั ย์สนิ ตอบ ง.

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 121 ------------------------------------------------------------------------------- 73. การเปิดเผยขอ้ มลู ในงบการเงนิ เกี่ยวกบั การใหเ้ ช่าซอ้ื ในข้อใดถูกตอ้ ง ก.แสดงยอดลูกหน้ีตามสญั ญาเช่าซอ้ื ในงบดุลดว้ ยยอดสทุ ธิของลกู หน้ีหากดอกผลเช่าซื้อรอการตัดบญั ชี ข.สนิ ทรัพย์ทใี่ หเ้ ชา่ แสดงด้วยราคาเต็มโดยไมต่ ้องหักค่าเส่ือมราคา ค.แสดงสินทรัพยร์ อการขายดว้ ยราคาตามบัญชี หรือราคาทีค่ าดวา่ จะได้รบั คืนแล้วแตอ่ ยา่ งใดจะสงู กวา่ ง.เปิดเผยนโยบายการบญั ชีเกี่ยวกับการรบั รู้ดอกผลเชา่ ซื้อเป็นรายไดเ้ พยี งอยา่ งเดียว ตอบ ก. 74. สถานการณใ์ ดทไ่ี มบ่ ง่ ชี้ใหม้ กี ารจดั ประเภทเป็นสญั ญาเช่าการเงิน ก.ผู้เชา่ รบั ผดิ ชอบในรายการกาไรหรือขาดทุนจากการผนั ผวนของมลู ค่ายตุ ธิ รรมของราคาซาก ข.สนิ ทรพั ยท์ ใ่ี ห้เชา่ มีลกั ษณะเฉพาะจนกระท่ังมีผู้เช่าเพยี งผเู้ ดียวท่ีสามารถใช้สินทรพั ยน์ ั้น ค.ผู้เชา่ รับผิดชอบตอ่ ความเสียหายของผู้ให้เช่า ในกรณีทผ่ี ู้เชา่ บอกเลกิ สญั ญา ง.ผู้เช่าสามารถต่อสัญญาเช่าครั้งที่ 2 ด้วยการจ่ายเงนิ ค่าเช่าตา่ กว่าค่าเช่าในตลาดอย่างมีสาระสาคญั ตอบ ข. 75. จานวนเงินขน้ั ต่าทต่ี ้องจา่ ยตามสญั ญา หมายถงึ ก.ค่าเชา่ ขั้นตา่ ตลอดอายุสัญญา ข.ค่าเช่าข้ันตา่ ตลอดอายุสญั ญา รวมกบั ราคาสินทรพั ย์ท่ีผู้เช่าตอ้ งจ่ายเม่ือเลอื กจะซอื้ ค.คา่ เชา่ ขัน้ ต่าตลอดอายสุ ญั ญา ราคาสินทรัพยท์ ่ีผ้เู ช่าต้องจ่ายเมือ่ เลือกจะซอ้ื และเงินประกันภยั ง.ค่าเช่าขัน้ ต่าตลอดอายสุ ญั ญา ราคาสินทรัพยท์ ผี่ เู้ ช่าต้องจ่ายเม่อื เลือกจะซอื้ เงนิ ประกนั ภัย และค่าบารงุ รักษา ตอบ ข. 76. ข้อใดต่อไปนี้ถือเป็นกิจการร่วมคา้ ก.บคุ คล 3 คน นาเงนิ คนละเทา่ ๆ กนั มาลงทนุ ร่วมกัน เพ่ือทาธุรกิจรับจ้างสร้างอาคาร ข.นายเอกและนายโทนาเงินมาลงทนุ เพอื่ ทาธรุ กจิ อย่างหนึ่งรว่ มกัน โดยนายเอกมอี านาจควบคมุ กจิ การแต่ เพียงผเู้ ดยี ว ค.เอก โท ตรี นาเงินคนละ 100,000 บาท มาลงทนุ เพื่อทาธุรกจิ ร่วมกนั โดยทาสญั ญาเพ่อื แบ่งปนั ส่วนได้เสีย จากผลการดาเนินงานของธุรกิจดงั กลา่ ว ด้วยอัตรา 30:30:40 ตามลาดบั ง.เอกโท ตรี นาเงนิ มาลงทนุ คนละเท่าๆ กัน บุคคลทัง้ สามทาสัญญาร่วมกนั ฉบับหนงึ่ โดยให้โท และ ตรี มี อานาจในการควบคมุ การดาเนนิ ธรุ กิจรว่ มกนั โดยทเ่ี อกคอยรบั ส่วนแบ่งจากผลกาไรเท่านน้ั ตอบ ง. 77. ตามมาตรฐานการบญั ชีฉบับที่ 46 ขอ้ ความใดต่อไปนี้ถกู ต้องทีส่ ุด ก.วธิ รี วมตามสดั สว่ น คือ การรวมรายได้และคา่ ใช้จา่ ยของกจิ การร่วมค้าเฉพาะส่วนทีเ่ ปน็ ของผู้รว่ มค้าในงบ กาไรขาดทุนรวม ข.ผูร้ ่วมค้าต้องนาเสนองบการเงนิ เฉพาะกิจการควบคู่ไปกับงบการเงินรวมตามสดั สว่ น ค.วิธีรวมตามสัดสว่ นไมว่ ่าจะรวมตามแบบที่ 1 หรือ แบบที่ 2 ยอ่ มให้ผลทมี่ ีจานวนเทา่ กันไม่วา่ จะเปน็ กาไร สทุ ธิ สินทรัพย์ หนส้ี นิ รายได้หรือคา่ ใช้จ่าย

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 122 ------------------------------------------------------------------------------- ง.ถา้ ผ้รู ว่ มคา้ เลือกวิธีรวมตามสัดส่วนแบบทน่ี าสินทรัพย์ หนส้ี นิ รายได้และค่าใชจ้ า่ ย แต่ละรายการที่ คล้ายคลงึ กันมารวมกนั ตามเกณฑ์แต่ละบรรทัดกบั งบการเงินเฉพาะกจิ การแล้ว ผ้รู ว่ มค้าอาจเลือกรายการสินทรพั ย์ บางรายการมาหักกลบกับหน้ีสนิ ได้ ตอบ ค. 78. กจิ การท่ีมีสนิ ทรัพยอ์ ยู่ในความควบคมุ ของกิจการเอง ก่อใหเ้ กิดหนีส้ นิ รายได้และค่าใช้จา่ ยเป็นของกิจการ รว่ มค้า ทาสญั ญาจัดหาเงนิ ทุน เพือ่ การดาเนนิ งาน และควบคมุ รว่ มกันเอง โดยผ้รู ่วมคา้ แตล่ ะรายมสี ทิ ธิในสว่ นแบ่ง จากผลการดาเนินงานของกจิ การรว่ มค้า กิจการร่วมคา้ ลักษณะน้เี รียกว่า ก.สินทรัพยท์ ่ีควบคมุ รว่ มกัน ข.การดาเนนิ งานท่คี วบคมุ รว่ มกัน ค.กจิ การทีค่ วบคุมรว่ มกัน ง.บรษิ ทั จากัดร่วมคา้ ตอบ ค. 79. การรบั รเู้ งินลงทุนเป็นสินทรัพย์จะไมร่ วมรายจ่ายในข้อใดเป็นตน้ ทุนของเงินลงทุน ก.คา่ นายหนา้ ข.รายจา่ ยซ้ือเงินลงทุน ค.อากรแสตมป์ ง.ผดิ ทุกขอ้ ตอบ ง. ข. ณ วนั ทม่ี ีการขายหน่วยลงทนุ 80. กิจการลงทุนต้องวดั มลู คา่ สินทรพั ย์สุทธิเม่ือใด ง.ถกู ทกุ ข้อ ก. ณ วันที่ในงบการเงิน ค. ณ วนั ทม่ี ีการรับซอ้ื คืนหน่วยลงทนุ ตอบ ง. 81. งบการเงินใดของกิจการอนื่ ๆ ทีเ่ ปรยี บได้กบั งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสนิ ทรพั ยส์ ทุ ธิของกิจการลงทนุ ก.งบกาไรสะสม ข.งบกระแสเงินสด ค.งบแสดงฐานะการเงิน ง.งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในสว่ นของเจ้าของ ตอบ ง. 82. การตดั สนิ ใจเชงิ เศรษฐกิจเกีย่ วขอ้ งกับงบการเงินอย่างไร ก.งบการเงินจะใหข้ ้อมลู ที่ทาให้ผ้ลู งทนุ ตัดสนิ ใจเชิงเศรษฐกจิ ไปในทิศทางเดียวกนั เสมอ ข.งบการเงินจะให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ฐานะการเงิน ผลการดาเนินงาน และการเปลยี่ นแปลงฐานะการเงิน ซงึ่ ใช้วดั ความเสยี่ ง และผลตอบแทนทั้งในอดีต ปัจจบุ นั และแนวโน้มในอนาคต ค.งบการเงินสามารถให้ข้อมูลทตี่ อบสนองความต้องการของผใู้ ชง้ บการเงินได้ทกุ กล่มุ และทุกเรื่อง ง.เป็นแนวทางให้ผู้บริหารกจิ การวางแผนการดาเนินธุรกิจในอนาคต ตอบ ข. 83. ขอ้ ความใดตรงกับความเกย่ี วขอ้ งกับการตัดสนิ ใจ ก.งบการเงินควรแสดงข้อมลู เก่ียวกับรายการและเหตกุ ารณ์ทางบัญชใี ห้ครบถว้ นเสมอโดยไม่คานึงว่าจะ ทนั เวลาต่อการนาไปใช้ประโยชน์หรือไม่ ข.งบการเงินควรแยกแสดงข้อมูลเกย่ี วกับรายการและเหตุการณ์ทางบญั ชีทมี่ ลี ักษณะไมป่ กติ หรือรายการ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 123 ------------------------------------------------------------------------------- พเิ ศษออกจากรายการปกติ ค.งบการเงนิ ควรแสดงข้อมลู เกยี่ วกับรายการและเหตกุ ารณ์ทางบัญชที ่ีมีนยั สาคัญเทา่ น้ัน ง.งบการเงนิ ควรแสดงข้อมลู เกยี่ วกับรายการและเหตกุ ารณ์ทางบญั ชสี าหรับรอบระยะเวลาบัญชปี ัจจบุ นั เท่าน้นั ตอบ ข. 84. การรบั รอู้ งคป์ ระกอบของงบการเงินคือขอ้ ใด ก.ต้องเป็นไปตามความประสงคข์ องผู้บรหิ ารกจิ การ ข.ตอ้ งเป็นไปตามความประสงคข์ องผู้ใช้งบการเงนิ ค.ตอ้ งเป็นไปตามคานยิ ามขององค์ประกอบของงบการเงิน ง.ตอ้ งเป็นไปตามคานิยามขององคป์ ระกอบของงบการเงนิ และเขา้ เงอ่ื นไขทกุ ข้อ คือ มีความเป็นไปได้ ค่อนขา้ งแนท่ ี่ประโยชนเ์ ชิงเศรษฐกจิ ในอนาคตของรายการนนั้ จะเขา้ หรอื ออกจากกจิ การและรายการนน้ั มีราคาทุน หรือมูลค่าท่สี ามารถวัดได้อย่างนา่ เช่อื ถอื ตอบ ง. 85. ขอ้ ใดควรพิจารณาถึงในการจัดทางบการเงินให้ถกู ตอ้ ง ก.การดาเนินงานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ข.การดาเนนิ งานอย่างต่อเนื่อง กับเกณฑค์ งคา้ ง ค.การดาเนินงานอยา่ งตอ่ เนื่อง เกณฑค์ งค้าง ความสม่าเสมอ และขอ้ มูลเปรียบเทยี บ ง.การดาเนินงานอยา่ งตอ่ เน่ือง นโยบายการบัญชีตา่ งๆกบั การเปดิ เผย ตอบ ค. 86. กจิ การต้องแยกรายการบัญชีสินทรัพยท์ ่ีแสดงในงบดลุ ออกเป็นอย่างไร ก.รายการหมนุ เวียนและไม่หมุนในเวยี น ข.รายการหมุนเวยี น ไม่หมุนในเวยี น และสินทรัพยอ์ ื่น ค.รายการระยะสัน้ และระยะยาว ง.รายการระยะสน้ั ระยะปานกลางและระยะยาว ตอบ ก. 87. ค่าใชจ้ ่ายประเภทใดทต่ี ้องเปิดเผยข้อมลู เพ่มิ เตมิ หากมีการจัดประเภทคา่ ใชจ้ า่ ยตามหนา้ ท่ี ก.คา่ เสือ่ มราคาและคา่ ใช้จ่ายพนักงาน ข.คา่ ใชจ้ ่ายประเภทพลงั งาน ค.คา่ ใชจ้ ่ายในการขายและบริหาร ง.ต้นทุนขาย ตอบ ก. 88. นโยบายการบญั ชีไม่เกี่ยวข้องกบั เรอ่ื งใด ก.การบญั ชีทีใ่ ช้ในการกาหนดมลู คา่ ตามบญั ชีของท่ดี นิ อาคาร และอุปกรณ์ ข.จานวนต้นทุนของการก้ยู ืมทีร่ วมเป็นราคาทุนของสนิ ทรัพยใ์ นระหว่างงวด ค.อายุการใชง้ านของอาคารและอุปกรณ์ ง.การรบั รูข้ าดทุนจากการด้อยคา่ หากมูลค่าทีค่ าดว่าจะได้รับคนื ตา่ กวา่ ราคาตามบญั ชี ตอบ ข.

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 124 ------------------------------------------------------------------------------- 89. การรบั รรู้ ายได้ในข้อใดไม่ถูกตอ้ ง ก.บริษทั รบั รู้รายได้คา่ บรกิ ารตามเกณฑ์สทิ ธิ ข.ดอกเบ้ียรบั รู้ตามเกณฑส์ ดั ส่วนของเวลา ค.บรษิ ัทรับรรู้ ายได้คา่ ขายทด่ี ินทันทที ไ่ี ดร้ ับชาระเงินจากลกู คา้ รอ้ ยละ 10 ของราคาท่ีดิน ง.เงนิ ปันผลรับรเู้ มื่อผ้ถู ือหนุ้ มีสิทธไิ ด้รับเงนิ ปนั ผล ตอบ ค. 90. เหตกุ ารณใ์ นขอ้ ใดที่หากเกดิ ข้นึ ภายหลงั วันทีใ่ นงบการเงินแลว้ กจิ การจะต้องปรบั ปรุงบญั ชีกอ่ นออกงบ การเงิน ก.การเปลยี่ นแปลงราคาตลาดของหลกั ทรัพย์ทีก่ ิจการถือไว้ ข.คา่ เสียหายจากคดีความท่ยี งั ไม่ทราบผลทีแ่ น่นอน เม่ือตอนสิ้นปี แต่ทราบผลแนน่ อนภายหลงั ค.การขายหุ้นทนุ หรือหุ้นกู้ การแบ่งแยกหนุ้ หรือจ่ายหนุ้ ปันผล ง.ลูกหน้ีประสบภัยพิบัตทิ าให้ไมส่ ามารถจา่ ยชาระหนีแ้ ก่กจิ การได้ ตอบ ข. 91. รายการใดเป็นขอ้ ผิดพลาดที่ไม่ได้รับการชดเชย ก.กจิ การไมไ่ ด้บนั ทึกรายการปรบั ปรุงสาหรบั คา่ แรงงานค้างจ่าย ข.กิจการไมไ่ ด้บนั ทกึ รายการปรับปรงุ คา่ ใช้จ่ายจ่ายลว่ งหนา้ ค.กจิ การบันทกึ ยอดซ้ือตา่ ไป ง.กิจการไมไ่ ด้บนั ทกึ สินคา้ ระหว่างทางตามเงื่อนไข FOB Shipping Point แต่บนั ทึกซื้อถูกต้องแลว้ ตอบ ข. 92. ณ วนั ที่ 1 มกราคม 2557 หา้ งหนุ้ สว่ นทองดีจากัด ซอ้ื เคร่ืองจักรราคาทนุ 200,000 บาท ไม่มมี ลู ค่าซาก เครื่องจกั รมีอายกุ ารใชง้ าน 5 ปี ในปี 2557 พนกั งานบญั ชีลมื บันทกึ ค่าเสอ่ื มราคา ข้อผิดพลาดดงั กลา่ วพบในปี 2558 สมมตวิ ่าข้อผดิ พลาดดังกลา่ ว เปน็ ข้อผิดพลาดทไ่ี ม่มผี ลกระทบอย่างมสี าระสาคัญ ข้อความใดถกู ตอ้ งท่ีสุด ก.รายการดังกล่าวเปน็ การเปลยี่ นแปลงประมาณการทางบัญชี ข.กิจการต้องใช้วธิ กี ารปรับย้อนหลัง ค.กจิ การต้องปรับปรุงรายการโดยลดยอดกาไรสะสม 40,000 บาท ง.ขอ้ ผิดพลาดดังกล่าวให้นามาแกไ้ ขในงบกาไรขาดทนั ในปี 2558 ตอบ ข. 93. หลักการในการแปลงค่างบการเงนิ ของหน่วยงานต่างประเทศคอื ก.แปลงคา่ รายการทเี่ ป็นตวั เงินด้วยอัตราปิด ข.แปลงคา่ รายการท่ีไมเ่ ป็นตัวเงนิ ด้วยอัตราปดิ ค.แปลงคา่ สินทรัพยแ์ ละหน้ีสินทกุ รายการดว้ ยอัตราปิด ง.แปลงคา่ รายได้และค่าใชจ้ ่ายทกุ รายการด้วยอัตราปดิ ตอบ ค. 94. การหกั กลบลบหนใ้ี นขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก.การหักกลบลบหน้บี ริษทั ก เป็นไปตามที่กฎหมายระบุ ข.กจิ การมีลกู หนี้และเจา้ หนี้บริษทั ก ทีร่ ะบุจานวนท่ีแน่นอนได้

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 125 ------------------------------------------------------------------------------- ค.โดยปกติลูกหนแี้ ละเจ้าหน้ีบรษิ ัท ก ตัง้ ใจจะชาระโดยหักกลบลบหนี้ ง.ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. 95. ระยะเวลาดาเนินงานปกติ หมายถงึ ข้อใด ก.ระยะเวลาทเ่ี ริม่ ตงั้ แต่ได้วัตถดุ บิ มาเพอื่ ผ่านกระบวนการต่างๆ จนกระทัง่ ได้รับเงินสด ข.ระยะเวลาต้ังแต่เรม่ิ รอบระยะเวลาบญั ชี ถึงวนั สน้ิ สุดรอบระยะเวลาบัญชี ค.ระยะเวลาตงั้ แต่เริม่ สั่งซอื้ สินค้า จนกระทั่งขายสนิ คา้ ดังกลา่ วใหแ้ ก่ผซู้ ้อื ง.ถกู ทกุ ข้อ ตอบ ก. 96. ขอ้ ใดต่อไปน้ีถกู ตอ้ ง ก.งบดลุ ต้องแสดงรายการตามลกั ษณะและหน้าท่ี และมียอดรวมเพิม่ เตมิ เพ่ือใหง้ บการเงินแสดงฐานะการเงิน โดยถกู ตอ้ งตามทคี่ วร ข.ในกรณที ก่ี ิจการมคี ่าใช้จา่ ยในการขายสนิ ค้าโดยมกี ารประกันการซ่อมแซม 5 ปี กจิ การควรบันทกึ หน้ีสิน ดังกลา่ วในหน้ีสินหมุนเวียน ค.กรณหี น้สี ินทค่ี รบกาหนดชาระภายใน 12 เดือน แต่หากทาสญั ญาใหม่และปรับเงื่อนไขการชาระหนีใ้ หม้ ี กาหนดเกิน 1 ปี ควรบันทกึ เปน็ หนส้ี นิ หมุนเวียน ง.ถกู ทกุ ข้อ ตอบ ก. 97. การบนั ทกึ บญั ชลี กู หนี้ตามมาตรฐานการบัญชี คือข้อใด ก.บันทึกบญั ชเี มอ่ื ไดอ้ อกใบกากับภาษี ข.บันทึกบัญชเี ม่ือสามารถประมาณตัวเลขได้อย่างสมเหตุสมผล ค.บันทึกบญั ชีเม่ือคาดว่าจะได้รบั ประโยชนเ์ ชิงเศรษฐกจิ ในอนาคต ง.ข้อ ข. และ ข้อ ค. ถูกต้อง ตอบ ง. 98. วิธีประมาณหนีส้ งสัยจะสญู โดยคานวณจากยอดขายเกี่ยวข้องกบั ขอ้ ใด ก.วเิ คราะหจ์ ากประสบการณ์ท่ผี ่านมาโดยดูจากจานวนลูกหนท้ี เี่ ก็บเงินไม่ได้ ข.อาจคานวณเปน็ ร้อยละของยอดขายโดยรวมยอดขายสดด้วยกไ็ ด้ ค.อาจคานวณเป็นร้อยละของยอดขายเชอ่ื ง.ขอ้ ก. และ ขอ้ ค. ถกู ต้อง ตอบ ง. 99. กิจการต้องปฏิบตั ิอยา่ งไร หากไดร้ ับเงินคืนจากลกู หน้ที ี่ตัดเปน็ หน้ีสูญไปแลว้ ก.บันทึกรายการหนี้สูญได้รับคืนเปน็ รายได้อื่น ข.ตง้ั ลูกหนี้ขึน้ มาใหม่และเครดติ บัญชีหนสี้ งสยั จะสูญ ค.ต้งั ลูกหนีข้ น้ึ มาใหม่และเครดติ บัญชคี ่าเผอื่ หนีส้ งสยั จะสูญ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 126 ------------------------------------------------------------------------------- ง.ขอ้ ก. และ ขอ้ ค. ถูกตอ้ ง ตอบ ง. 100. บัญชลี กู หนแ้ี ละคา่ เผื่อหนี้สงสัยจะสญู กิจการควรจะต้องเปดิ เผยข้อมูลใดบา้ ง ก.จานวนเงินของลกู หนท้ี ่ีตดิ ภาระคา้ ประกนั กับสถาบันการเงิน ข.เกณฑ์ในการต้งั ค่าเผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญ ค.จานวนค่าเผื่อหนีส้ งสัยจะสูญ ถ้าลกู หน้ีแสดงในงบดลุ ดว้ ยยอดสทุ ธิ ง.ถูกทกุ ข้อ ตอบ ง. 101. ตน้ ทุนสินคา้ คงเหลือไม่ควรรวมค่าใชจ้ ่ายประเภทใด ก.เงินเดือนของพนกั งานท่ีเป็นตัวแทนจาหนา่ ย ข.คา่ บรรจภุ ัณฑ์เพ่ือส่งออก ค.อากรขาเข้า ง.ถูกทกุ ข้อ ตอบ ก. 102. หา้ งหนุ้ ส่วนอวยพรจากัดมีสนิ คา้ คงเหลือเปน็ เครื่องจกั ร 4 เคร่ือง โดยราคา ณ วันส้นิ งวดมมี ลู คา่ 5 ล้านบาท แตม่ ูลค่าสุทธิท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับเพยี ง 3 ล้านบาท ในปีตอ่ มาสนิ คา้ คงเหลือดังกลา่ วเหลืออยู่ 2 เคร่อื ง และ มมี ลู ค่าสทุ ธิ 2 ลา้ นบาท ราคาท่คี าดวา่ จะขายได้ 1.5 ล้านบาท หา้ งฯควรตีราคาสินค้าคงเหลอื อย่างไร ก.เปรยี บเทียบมลู ค่าทค่ี าดว่าจะขายได้ ณ วนั สนิ้ งวด กับราคาทุนเดิม ข.เปรียบเทยี บมลู ค่าสุทธิท่ีคาดว่าจะได้รับ ณ วันสิ้นงวด กบั ราคาทุนเดิม ค.เปรียบเทยี บมลู คา่ ท่คี าดวา่ จะขายได้ ณ วนั สน้ิ งวด กบั ราคาทนุ ใหม่ ง.ถกู ทกุ ขอ้ ตอบ ข. 103. กิจการควรคานวณตน้ ทนุ โดยใชว้ ธิ รี าคาเจาะจงหากมีสินค้าคงเหลอื ประเภทใด ก.สนิ ค้าคงเหลอื เป็นชนิดเดยี ว ข.สนิ คา้ คงเหลอื ไมอ่ าจสบั เปล่ียนกันได้ ค.สนิ ค้าคงเหลอื มลี กั ษณะสบั เปลีย่ นกันไดโ้ ดยปกติ ง.สินคา้ คงเหลอื มกี ารเปล่ยี นแปลงจานวนอย่างรวดเรว็ และให้ผลกาไรที่ใกลเ้ คียงกนั ตอบ ค. 104. รายการใดต่อไปนีไ้ มใ่ ชข่ ้อมูลทตี่ ้องเปิดเผยจากการเปลยี่ นแปลงประมาณการทางบัญชี ก.อายุการใชง้ านของสินทรัพย์ ข.ราคาซากของสนิ ทรัพย์ ค.ราคาตามบัญชกี อ่ นหักค่าเส่อื มราคาสะสม ง.วิธีการคิดค่าเสือ่ มราคา ตอบ ค. 105. หลกั การคดิ คา่ เสือ่ มราคาแบบใดท่ีกิจการใชว้ ธิ กี ารคดิ ค่าสูญส้นิ ก.วิธจี านวนผลผลติ ข.วิธีจานวนผลผลติ – คดิ ตามจานวนผลผลิตทีไ่ ด้ ค.วิธจี านวนผลผลติ – คิดตามเวลาการผลิต ง.วิธีเสน้ ตรง

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 127 ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ ค. 106. ขอ้ ใดไม่ใช่สินทรัพยไ์ มม่ ตี ัวตน ก.ลิขสทิ ธ์ิ ข.สทิ ธบิ ัตร ค.สัมปทาน ง.คา่ ใช้จ่ายรอการตดั บัญชี ตอบ ง. 107. กิจการต้องเปิดเผยข้อมลู ใดหากมกี ารเปล่ียนแปลงประมาณการทางบัญชี ก.สว่ นเกินทุนจากการตรี าคาสนิ ทรพั ย์ ข.เกณฑใ์ นการตีราคาของสินทรัพย์ ค.ราคาตามบัญชีกอ่ นหกั คา่ เสอ่ื มราคาสะสม ง.วธิ กี ารคดิ คา่ เส่ือมราคาสินทรพั ย์ ตอบ ง. 108. กิจการจะเดบิตบญั ชีใดต่อไปน้ี เมือ่ กจิ การขายสินทรพั ย์ต่ากวา่ ราคาตามบัญชี ก.กาไรขาดทนุ ข.ค่าเส่ือมราคาสนิ ทรัพย์ ค.กาไรสะสม ง.ขาดทนุ จากการจาหน่ายสนิ ทรัพย์ ตอบ ง. 109. สินทรัพย์ไม่มตี ัวตนนยิ มแสดงรายการไว้อยา่ งไรในงบการเงนิ ก.แสดงไว้ภายใต้หวั ข้อสนิ ทรัพย์อ่ืน ข.แสดงไวภ้ ายใต้หวั ข้อสนิ ทรัพยไ์ ม่มตี ัวตน ค.แสดงไว้ภายใตห้ ัวข้อท่ดี นิ อาคาร และอุปกรณ์ ง.แสดงไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ตอบ ก. 110. ในงบการเงนิ สนิ ทรัพย์อื่นต้องแสดงดว้ ยราคาใด ก.ราคาปัจจบุ นั ข.ราคาตามบัญชี ค.ราคาทุน ง.ราคาทุนทดแทน ตอบ ค. -------------------------

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 128 ------------------------------------------------------------------------------- ความรู้เกีย่ วกับสนิ เชอื่ เบือ้ งต้น หลักการวเิ คราะห์สนิ เชอื่ การวเิ คราะหส์ ินเชอ่ื แหล่งท่มี าของรายไดข้ องธนาคารพาณิชย์ คอื ส่วนต่างของอตั ราดอกเบี้ยระหวา่ งเงนิ ฝากกับเงินให้สินเชอ่ื โดยเมื่อธนาคารรบั ฝากเงินมาแล้วก็จะนาเงนิ ฝากท่ีไดไ้ ปปลอ่ ยกู้ เงินฝากทธ่ี นาคารรบั ฝากมาไม่ว่าจะจานวนเท่าใด เม่ือครบกาหนดเวลา ธนาคารก็ต้องจ่ายดอกเบยี้ อยา่ งครบถ้วนใหก้ ับลูกคา้ ผ้ฝู ากเงิน แต่ทางด้านเงินกู้ เมอ่ื ครบ กาหนดธนาคารอาจจะไม่ไดร้ บั ชาระหนจี้ ากลกู ค้าเงนิ กู้ก็ได้ ซ่งึ จดุ นี้ทาให้ธนาคารเกดิ ความเสยี่ งขน้ึ ความเสยี่ งใน การปลอ่ ยสนิ เชอ่ื ของธนาคารเป็นสาคัญ เน่ืองจากเกี่ยวกับความอยู่รอดของธนาคารเลยทีเดยี ว หากเกดิ ปัญหาหนี้ สญู เพียงรอ้ ยละ 10 ของเงนิ เครดติ ท่ีปล่อยกเ็ กนิ กวา่ เงินของธนาคารทั้งระบบ นอกจากนธ้ี นาคารแห่งประเทศไทย ยงั มบี ทบาทในเรือ่ งเงนิ สดสารองตามกฎหมาย การปลอ่ ยเงินก้แู กภ่ าคเอกชนทร่ี ัฐบาลเป็นผกู้ าหนด อาทสิ ินเช่ือสู่ ชนบท และการที่ทางธนาคารต้องพิจารณาการให้เครดิตอยา่ งรอบคอบก็เนื่องจากวา่ หากเกิดปัญหาหนี้สญู กบั ธนาคาร 1 ราย ธนาคารจะต้องหาหนี้ดีๆ จานวนนับร้อยมาชดเชยผลตอบแทนทีไ่ ด้รับ จึงจะค้มุ กบั ความสญู เสยี ท่ี เกิดขน้ึ การพจิ ารณาใหเ้ ครดิต คาวา่ เครดติ น้ันรวมถึงการใหก้ ูย้ ืม(LENDING) และการคา้ ประกัน (GUARANTEE)ดังนั้นการใหเ้ ครดิต จงึ มคี วามหมายกว้างกว่าการให้กู้ยมื เพราะการให้กู้ยมื น้ันผูใ้ ห้กูย้ ืมใหเ้ งินของตนแกผ่ ู้กู้ทาการกู้โดยตรง แต่ก็ตอ้ ง เขา้ รับความเสี่ยงในกรณที ่ธี นาคารใหก้ ารคา้ ประกันนั้นไมส่ ามารถชาระหนี้ หรอื ปฏบิ ัติตามสญั ญาที่ตกลงไวก้ ับอีก บคุ คลหนึ่งได้ กอ่ นทธ่ี นาคารพาณชิ ยจ์ ะตัดสินใจให้เครดิตแก่ลกู ค้า ธนาคารจะพจิ ารณาถึงหลักทเี่ รียกวา่ 3P ดงั น้ี 1. วตั ถุประสงคก์ ารขอกู้ (Purpose) วตั ถปุ ระสงคก์ ารขอกู้เป็นส่งิ จาเป็นทธี่ นาคารจะต้องพจิ ารณา ท้ังนี้เพราะกิจการบางอยา่ งธนาคารไม่ สนบั สนุน กล่าวคือ ธนาคารจะสนับสนุนเครดติ ที่ก่อใหเ้ กดิ ผล(Production) ไมใ่ ช่นาไปเก็งกาไร (Speculative) นอกจากน้วี ัตถุประสงค์ของลกู คา้ จะทาใหท้ างธนาคารรู้ว่าลกู คา้ มวี ิธีชาระเงนิ ไดอ้ ยา่ งไร 2. การชาระหนี้ (Payment) การชาระหนี้ เม่ือทราบวัตถุประสงคแ์ ลว้ ทางธนาคารกจ็ ะทราบว่าลกู คา้ ต้องการเงินกปู้ ระเภทใด ระยะส้ัน หรอื ระยะยาว และจะมวี ธิ ีการชาระหนี้ได้อยา่ งไร เช่น ถา้ เป็นเงนิ กู้ระยะส้ันสาหรบั หมุนเวียน ปกติลกู ค้าสามารถ ชาระหนภ้ี ายในระยะเวลาอนั สัน้ เพราะมลี กั ษณะเปน็ Self Liquidisting Schedule แต่ถ้าเป็นเงนิ กู้ระยะยาวก็ ต้องใช้เวลาทีย่ าวนานเปน็ ปใี นการชาระหนี้เรยี กวา่ Payment Schedule การทาความเข้าใจในเร่ืองนี้ จะทาใหผ้ ้กู ู้ สามารถสรา้ งความเชอ่ื ถือให้กบั ธนาคารได้ เพราะธนาคารจะถอื เรื่องความตงั้ ใจจรงิ และความสามารถในการชาระ หนีไ้ ด้ ในจานวน และเวลาท่ีกาหนด 3. การปอ้ งกนั ความเสี่ยง (Protection) การป้องกนั ความเสยี่ ง หลงั จากท่ีธนาคารพิจารณาถึงจุดประสงค์ และวธิ กี ารชาระหนีแ้ ลว้ ขั้นตอนต่อไปก็ ตอ้ งพิจารณาถงึ ความเส่ียงที่จะเกิดขึน้ ความเสี่ยงท่วี ่าคือความเสี่ยงที่เกิดจากการที่ธนาคารจะไมไ่ ด้รับชาระหนี้หรือ ไดร้ บั ชาระหนีไ้ มเ่ ต็มจานวนภายในระยะเวลาทีก่ าหนด อยา่ งไรกต็ ามการป้องกันความเสยี่ งในแงน่ ้ี มไิ ดห้ มายถงึ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 129 ------------------------------------------------------------------------------- หลกั ประกนั เพยี งอย่างเดยี วแตจ่ ะพิจารณาถงึ ความเปน็ ไปได้ และความสามารถในการคุม้ ครองผลประโยชนข์ อง ธนาคารเอง ในกรณีท่ีเกิดความเส่ียงจากการทล่ี ูกคา้ ไมอ่ าจชาระหนีไ้ ด้ เชน่ ถา้ ลูกค้าประสบปัญหาขาดทุนลกู คา้ จะ หาเงนิ มาชาระไดเ้ พียงใด มีกาลงั ความสามารถในการเพม่ิ ทนุ เพียงใด ถา้ ธนาคารมั่นใจในความสามารถของตัว ลูกค้าแล้ว เร่ืองหลักประกนั อาจจะไมส่ าคญั แต่ถ้าลกู ค้ามีความเสย่ี งสงู ธนาคารก็ตอ้ งให้ความสาคญั กบั หลักประกัน มาก แต่ถ้าเห็นวา่ ความเสยี่ งมีสูงมากก็อาจปฏิเสธการใหเ้ ครดิตไป เงินกทู้ ี่มวี ตั ถปุ ระสงค์อย่างไรท่ธี นาคารไม่สนบั สนุน แม้ว่าในระยะหลังๆ ธนาคารพาณชิ ย์จะแข่งขันเสนอบริการตลอดจนสนิ เชอื่ ชนิดใหมๆ่ เพิม่ ขน้ึ จากเดมิ เป็น จานวนมาก แต่กย็ งั คงมเี ครดิตบางประเภททธ่ี นาคารไมส่ นับสนุน ซง่ึ มดี ังน้ี 1. การนาเงินกู้ของธนาคารไปลงทุน การทธ่ี นาคารไมส่ นบั สนนุ เร่ืองนี้ เนอื่ งจากเลง็ เห็นว่าการลงทุนนัน้ ผูก้ จู้ าเป็นต้องมีเงนิ ทุน(Capital) ของ ตัวเองด้วยจานวนหนงึ่ ถ้าไม่พอจงึ ค่อยมาขอกู้เพิม่ เติมจากธนาคาร เพราะถ้าหากธนาคารปล่อยให้ก้เู พื่อการลงทนุ จนหมด เท่ากับวา่ ผู้ก้ไู ม่ตอ้ งลงทนุ อะไรเลยเพียงแต่พงึ่ เงินจากธนาคารอยา่ งเดยี วก็สามารถดาเนินการได้ แต่อยา่ งไร กต็ ามธนาคารอาจพจิ ารณาใหเ้ ปน็ กรณพี ิเศษในบางกรณีเท่านั้น 2. การกเู้ พ่อื ชาระหน้ี ธนาคารไม่สนับสนุน เนือ่ งจากการชาระหนี้ข้ึนอยูก่ ับความสามารถในการจัดหาเงนิ ทุนของผูก้ ู้ ซ่ึงสามารถ ทาได้โดยการทากาไร หรือเพ่ิมทุน แต่ไมค่ วรจะกระทาการชาระหน้ีโดยการกยู้ ืมอีก เพราะเท่ากบั ว่า เปน็ การกอ่ หน้ี ใหมเ่ พอ่ื นาไปชาระหน้ีเกา่ แต่ถ้าธนาคารเห็นวา่ ผู้ก้จู ะเป็นลูกคา้ ทีด่ ขี องธนาคารในอนาคตกอ็ าจจะอนุโลมใหเ้ ปน็ กรณพี เิ ศษ 3. การก้ยู ืมเงินไปจ่ายเป็นเงินปันผล โดยหลักการแล้วไมค่ วรสนับสนุน เพราะเม่ือบรษิ ทั มีกาไรแลว้ กค็ วรจะจา่ ยเงนิ ปนั ผล แตก่ ็อาจจะมกี าร ยกเวน้ ให้ลูกค้าบางรายการที่แมม้ ีกาไร แตก่ ็อยใู่ นรูปทรัพยส์ นิ อนื่ ทไ่ี มใ่ ช่เงินสด ซง่ึ สามารถเปลยี่ นเปน็ เงนิ สดได้ใน ภายหลัง 4. การนาเงนิ กู้ของธนาคารไปปลอ่ ยให้ผอู้ ื่นกูต้ อ่ ลกู ค้าประเภทนีจ้ ะอาศยั ช่องโหว่ของความแตกต่างระหว่างอตั ราดอกเบ้ยี เงินกใู้ นระบบธนาคารพาณชิ ย์กบั อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยมื นอกระบบมาใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์ ซงึ่ เป็นสง่ิ ทธ่ี นาคารไมส่ นับสนุนอกี ท้งั ยงั มคี วามเสี่ยงสงู ดว้ ย ประเดน็ ในการพิจารณาการปลอ่ ยสินเชื่อของธนาคาร ก่อนที่ธนาคารจะตดั สนิ ใจใหเ้ ครดิตแก่ผู้ขอกูน้ ้ัน ธนาคารจะพิจารณาปจั จยั เครดิตต่อไปนี้ 1. ความสามารถในการชาระหนี้ (Capacity) ความสามารถในการชาระหนีเ้ ป็นปัจจยั ท่ีสาคัญทส่ี ดุ ในการพจิ ารณาใหส้ นิ เชื่อ ลูกหนี้ท่ีแม้อยากจะชาระหนี้ สักเพยี งใด หากปราศจากซ่งึ ความสามารถในการชาระหนแี้ ล้ว ย่อมไม่เกิดการชาระหนี้ ดังนน้ั การใหก้ ู้ยืม และการ ใหเ้ ครดิตของธนาคารจะต้องประเมินความสามารถในการชาระหน้ขี องลูกหนเี้ ป็นประเภทตา่ งๆ ดงั นี้ 1.1 ความสามารถในการชาระหนขี้ องบุคคลธรรมดา การประเมนิ ความสามารถในการชาระหนี้ของบุคคล

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 130 ------------------------------------------------------------------------------- ธรรมดา พจิ ารณาได้จากขอ้ มูลตอ่ ไปน้ี รายไดป้ ระจา หมายถึง เงินเดือน และรายได้อ่ืน ความสามารถในการชาระหนใี้ นระยะเวลาที่ต่อเน่อื งข้ึนอยู่ กับเงนิ เดือน และรายไดท้ ีไ่ ด้รบั อยา่ งสมา่ เสมอ และความสามารถนารายไดน้ ้ันมาใชส้ ่วนหนงึ่ เพื่อการชาระหน ความสามารถในการหารายได้จะชใ้ี ห้เห็นความแน่นอนของรายได้อนั นามาส่กู ารชาระหนใ้ี นอนาคต พิจารณาได้จากลกั ษณะของงานท่ีทา พนื้ ความรู้ความสามารถในการทางาน สุขภาพความมน่ั คงในการทางาน และ ความก้าวหนา้ ในการทางาน หนส้ี นิ ท่มี อี ยู่ หมายถึง ภาระผูกพนั ที่มีอยเู่ ดิม รปู แบบของการใช้จา่ ย หมายถึง ภาวะทผี่ มู้ รี ายได้จะต้องรับผิดชอบก่อนที่จะเหลือรายได้เพอ่ื การชาระหน้ี พิจารณาได้จากฐานะการสมรส ขนาดครอบครวั และระดับการครองชพี เมือ่ ทราบรายได้ ความแน่นอนของรายได้ หนส้ี ินเดิม และรูปแบบของการใชจ้ ่ายแลว้ สว่ นท่เี หลือจะเป็นเคร่อื งคุ้มครองรายจา่ ยชาระหนีแ้ ก่ธนาคาร 1.2 ความสามารถในการชาระหน้ีของธุรกิจ พิจารณาไดจ้ าก อัตราส่วนทางการเงิน ดงั นี้ - อัตราสภาพคล่อง (Liquidity Ratio) - อตั ราสว่ นหน้สี ิน และความคุ้มครองรายจ่ายประจา - อัตราส่วนความสามารถในการหากาไร (Profitability Ratio) - อตั ราสว่ นความเจริญเตบิ โต และอื่นๆ (Growth and Others) 2. ความเตม็ ใจชาระหนี้ และอปุ นิสยั (Character) ข้อน้ีถือว่าสาคัญเป็นอันดบั แรก เพราะแม้ว่าปัจจัยทเ่ี หลือจะดี แตถ่ า้ ลูกคา้ หรือลูกหนีข้ าดความซอ่ื สตั ย์ ความ จริงใจแล้ว กย็ อ่ มมีโอกาสเกิดหนสี้ ญู แก่ทางธนาคารมาก ปกติแลว้ ถา้ เป็นลกู ค้ารายใหมธ่ นาคารจะดูถึงช่อื เสียง ฐานะการศกึ ษา อุปนสิ ัยครอบครวั ความซอื่ สตั ย์ การท่ีจะทราบอปุ นสิ ัยทแ่ี ทจ้ รงิ ของผู้กู้ได้โดยความสาคัญอย่าง ใกลช้ ดิ ซงึ่ ความซ่อื สตั ยเ์ ปน็ หลกั สาคัญของอปุ นสิ ยั แต่กไ็ มม่ วี ิธีใดท่ีจะประกันไดว้ ่าความซือ่ สตั ย์จะคงอยตู่ ลอดไป ดงั น้ันธนาคารจงึ ต้องให้ความสาคัญทัง้ ในกรณที ี่ธรุ กิจที่ขอสนิ เชอ่ื น้นั มีการบรหิ ารงานแบบเจ้าของคนเดยี ว หรอื ใน กรณกี ารขอสินเช่ือเพื่อการบรโิ ภค 3. ทนุ ที่จะนามาลง (Capital) ทนุ หมายถงึ สง่ิ ของทรัพย์สินเงินทองทผ่ี ู้ประกอบการนามาลงทุนไว้ในธุรกจิ ธรุ กจิ อาจดาเนินการได้โดยไม่ มีการกยู้ มื ทาใหม้ เี งนิ ทนุ หมุนเวียนน้อย เป็นผลให้กาไรของกจิ การน้อยตามไปด้วย ดงั นน้ั ผู้ประกอบการจึงทาการ กยู้ มื ตามกาลงั ความสามารถของตน แตข่ ณะเดยี วกันถ้ามีการใชเ้ งินกู้ยืมสงู (Leverage) ธุรกิจอาจประสบปญั หา เน่อื งจากกาไรทธ่ี รุ กิจได้รับส่วนใหญ่จะต้องนาไปใชช้ าระคนื เงินกแู้ ก่ธนาคาร และถ้ากาไรของธุรกิจนั้นน้อยธุรกจิ นั้นอาจขาดทุน ปกตแิ ลว้ เงินทนุ เท่ากับ มูลค่าของทรพั ยส์ นิ ท้ังหมดของกิจการหักดว้ ยหนสี้ ินทั้งหมด ถ้ากจิ การใดมีหนสี้ นิ มากกวา่ เงินทุนที่ลงไว้ หมายความว่า เจ้าหนี้มีอัตราเสีย่ งสงู เพราะเจ้าหนีไ้ ดล้ งทนุ มากกว่าเจ้าของกจิ การ ดังนัน้ เงนิ ทุนของผูข้ อกู้จงึ เปรยี บเสมือนเกราะใหค้ วามปลอดภัย (Margin of safety) กับธนาคาร ซึ่งโดยปกติแลว้ ธนาคารจะยอมใหก้ จิ การกูท้ อ่ี ตั ราสว่ นของหนี้ต่อเงินทนุ ไม่เกิน3 เท่า 4. หลกั ประกนั (Collateral) โดยปกตกิ ่อนที่ธนาคารจะอนมุ ตั ิเงินให้กบั ลูกค้า ธนาคารมกั จะใหล้ ูกค้าผู้ขอกูเ้ งินวางหลกั ทรพั ย์เปน็ ประกัน

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 131 ------------------------------------------------------------------------------- ไว้กบั ธนาคาร ท้ังน้เี พ่ือชดเชยกบั จดุ ออ่ นทเี่ ห็นได้ชัดเจนในดา้ นความเสย่ี งเช่น ความสามารถของผ้กู ูท้ ่ยี งั ไมไ่ ด้ พสิ จู น์ หรือเพอ่ื ป้องกนั ความเสี่ยงตอ่ หนส้ี ูญทอ่ี าจเกิดขึ้น แต่อยา่ งไรก็ตามหลกั ประกันไม่อาจท่ีจะมาชดเชยกับ จดุ อ่อนทางด้านความซ่ือสตั ย์ เพราะถ้าหากผ้ขู อกขู้ าดความซ่ือสตั ย์แล้ว ย่อมหมายถึงความเส่ยี งอยู่ในระดับสงู มาก โดยท่วั ไปแลว้ เรามักจะเข้าใจวา่ การก้เู งนิ จากธนาคารต้องมีทดี่ ิน หรอื สง่ิ ปลกู สร้างมาค้าประกันแตค่ วามจริง แล้วยงั มีสิง่ อ่ืนๆ ทใ่ี ช้คา้ ประกนั ได้ ดังน้ี 4.1 การใชบ้ ุคคลคา้ ประกัน (Personal Guarantee) บุคคลที่คา้ ประกนั ต้องเปน็ บุคคลทีม่ ชี อ่ื เสียง ฐานะดี หรอื คนท่ธี นาคารรูจ้ ัก หรือคนทธี่ นาคารยอมรับใหเ้ ครดิต 4.2 การใชเ้ งนิ ฝากประจาคา้ ประกนั (Fixed deposit) โดยการมอบอานาจให้กบั ธนาคารมสี ทิ ธ์ิหกั เงนิ ฝาก ประจาชาระหน้ี การขอใหก้ ู้ในลกั ษณะนี้มักเสยี ดอกเบ้ยี ในอตั ราตา่ กว่าอัตราปกติโดยธนาคารมักจะใช้วธิ บี วกอตั รา ดอกเบย้ี เหนืออตั ราดอกเบยี้ เงนิ ฝากประจาในขณะนั้นข้นึ อกี ร้อยละ 3-4 จดุ ประสงคใ์ นการขอกู้โดยใชเ้ งนิ ฝากคา้ ประกันน้ีผขู้ อกู้มักจะมาขอกูเ้ พือ่ ใชเ้ ป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นในรูปของการเบิกเงนิ เกนิ บัญชี 4.3 การกโู้ ดยการโอนสิทธกิ ารเชา่ ในบางกรณีผู้กไู้ ม่มีหลักทรพั ยข์ องตนเอง แตไ่ ดท้ าสัญญาเชา่ สถานทีเ่ พ่ือ เป็นทป่ี ระกอบการเป็นสัญญาระยะยาว ธนาคารกอ็ าจนับเปน็ หลกั ทรัพยไ์ ด้ 4.4 การให้ก้โู ดยมสี ินค้าเป็นหลักประกัน (Stock Financing) โดยธนาคารจะพจิ ารณาเลอื กเอาสนิ ค้าท่ีมี คุณภาพแบบเดียวกนั (Homogeneous) เพือ่ ความสะดวกในการตรวจสอบ และควบคุมผู้ขอก็จะต้องทาประกนั ภัย สนิ ค้าท่ีจานาไว้กบั ธนาคาร ตลอดจนสลักหลังกรมธรรม์มอบให้กับธนาคารเป็นผู้ได้รับผลประโยชนเ์ มื่อเกิดความ เสยี หาย 5 ภาวการณ์ (Condition) เน่อื งจากภาวะเศรษฐกจิ ที่เปล่ียนแปลง อาจมีผลกระทบกระเทอื นต่อการบรโิ ภคสินคา้ วิธีการจาหน่าย ตลอดจนการเปลย่ี นแปลงนโยบายของรฐั บาลในการควบคมุ ยกเลิก การส่งเสรมิ การเพ่ิมภาษี เพ่มิ กฎขอ้ บังคับ ซงึ่ อาจจะสง่ ผลกระทบถงึ ความสามารถในการชาระหนขี้ องลกู คา้ หลักการวเิ คราะห์สนิ เชื่อ หลัก 5C 1. Character คอื อุปนสิ ยั ของลูกคา้ เป็นการวิเคราะห์ถงึ อุปนิสยั ของลกู ค้าว่ามคี วามซื่อสัตย์ มีความ รบั ผดิ ชอบหรอื ไม่ ความตรงตอ่ เวลาในการชาระหน้ี และความสมา่ เสมอในการชาระหนี้ นโยบาย และวธิ ีการชาระ หน้ีของธรุ กิจนนั้ ซึ่งผู้อนุมัติสนิ เชือ่ สามารถอาศัยประสบการณท์ ่บี อกใหท้ ราบถงึ ปัจจัยดา้ นคุณธรรมนี้ และเปน็ ปจั จยั ทส่ี าคัญทสี่ ดุ ในการวิเคราะหก์ ารขายสินเชื่อ 2. Capacity คือ ความสามารถในการชาระหน้ี เปน็ การใช้วิจารณญาณในการประเมินความสามารถในการ ชาระหน้ี โดยอาศัยขอ้ มูลจากการติดตอ่ กบั ลูกค้าในอดตี ประกอบกบั สภาพทัว่ ๆ ไปของโรงงาน เคร่อื งมืออุปกรณ์ ทาเลท่ีตั้งของธุรกิจ หรือโรงงานว่าอยใู่ นทาเลทเี่ หมาะสมหรือไม่ มีการกระจายคลังสนิ คา้ ไปไดท้ ่วั ถึงแคไ่ หน นอกจากนนั้ ก็พิจารณาถึงรายได้ของธุรกจิ ว่าได้มาจากท่ใี ด รวมทง้ั ดูถึงคา่ ใช้จ่ายท่ใี ช้ในกิจการ 3. Capital คอื ทนุ ของลกู คา้ เป็นการวิเคราะห์ฐานะทางการเงนิ ทั่วๆ ไป โดยวิเคราะห์อตั ราสว่ นทางการเงิน โดยเฉพาะส่วนทุนทส่ี ามารถสัมผัสได้ ได้แก่ 3.1 ทรพั ยท์ มี่ ตี ัวตน และไม่มตี ัวตน เช่น ท่ีดิน อาคาร เคร่ืองใชส้ านกั งาน เคร่ืองจกั ร เป็นต้น 3.2 การตอบแทนของเงนิ ทุน

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 132 ------------------------------------------------------------------------------- 3.3 สินทรัพยใ์ ดๆ ที่สามารถนาไปค้าประกนั หน้ีสนิ ได้ 4. Collateral คอื หลักทรพั ยค์ า้ ประกนั ซึ่งหมายถงึ ทรัพย์สนิ หรือตัวบคุ คลท่ลี กู คา้ นามาเป็นหลักทรพั ยค์ ้า ประกนั ในการซ้ือสนิ เชื่อ ซงึ่ ชว่ ยลดความเสีย่ งภัยทางการเงินในกรณที ่ีลูกหนี้มีผลการดาเนนิ งาน และฐานะการเงิน ในอนาคตเปล่ียนแปลงในทางที่ไมด่ ี ซง่ึ บคุ คลทนี่ ามาค้าประกนั นนั้ ต้องเป็นบคุ คลท่บี รรลุนติ ิภาวะ เปน็ บคุ คลท่มี ี ชอ่ื เสียงเป็นทีน่ า่ เช่อื ถือ และมที รพั ยส์ ินสว่ นตัวในปริมาณเพยี งพอทส่ี ามารถชาระหน้ีได้ สว่ นทรพั ยส์ นิ ท่นี ามาค้า ประกันมกั จะเป็นทรัพย์สินถาวรเช่น ท่ีดิน เคร่ืองจกั ร อาคาร ยานพาหนะ และจะต้องเป็นทรัพยส์ ินท่ีซ้อื ไดง้ ่าย ขาย คล่อง ราคาไม่เปลยี่ นแปลงง่าย 5. Condition คือ สภาพทัว่ ๆ ไป หมายถงึ ผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยทว่ั ๆ ไป ไดแ้ ก่นโยบายของรัฐบาล สภาพทางการเมือง สภาพดินฟ้าอากาศ สภาวะทางด้านแรงงาน สภาวะทางดา้ นการเงนิ และการคลังที่มผี ลต่อการ ชาระหนข้ี องลูกคา้ หลกั 5P 1. Policy คอื นโยบายของกิจการ เป็นการดวู ่ากิจการนมี้ ีนโยบายทาการผลติ เพื่อการส่งออกไปจาหนา่ ยใน ตา่ งประเทศ หรือจาหนา่ ยภายในประเทศ นโยบายการขาย นโยบายการบริหารดีหรือไม่ นโยบายการผลิตสนิ คา้ ท่ีมี คณุ ภาพ มมี าตรฐานหรือไมเ่ พียงใด นโยบายทางด้านราคา ดูว่าจาหน่ายในราคาท่ียตุ ธิ รรมหรือไม่ 2. Price คือ ราคา เป็นการพิจารณาราคาจาหน่ายของผลิตภัณฑ์ ของกจิ การว่ามีราคาสงู หรือต่าเพยี งใด โดย จะทาการเปรียบเทยี บกับคแู่ ข่ง และเปน็ การพิจารณาว่าต้นทนุ ในการผลติ สินค้าของกจิ การวา่ สงู หรือตา่ กว่าหรือไม่ ซ่งึ จะเป็นตัวกาหนดราคาจาหน่ายสินค้าของกจิ การ 3. Place คือ สถานที่ หรอื ช่องทางการจัดจาหนา่ ย เป็นการพจิ ารณาถงึ เขตพ้ืนท่ที ่ีเป็นตัวแทนในการจัด จาหนา่ ยของกจิ การ เช่น จาหนา่ ยเฉพาะภาคใดภาคหนงึ่ หรอื จาหน่ายทั่วประเทศเป็นต้น มกี ารจัดจาหน่ายโดยวิธี ใดบา้ ง เช่น จาหน่ายโดยตรง หรอื ผา่ นตัวแทน สถานท่ีต้ังของกจิ การ หรือโรงงานจะต้องคานึงถึงความไดเ้ ปรียบ ทางภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ เช่น ความใกลไ้ กลแหลง่ วัตถุดิบ ความใกล้ไกลตลาด เป็นตน้ สถานทต่ี ั้งมีสาธารณูปโภคท่ี ดหี รือไม่ เช่น ไฟฟ้าประปา โทรศพั ท์ การคมนาคมสะดวกหรือไม่ 4. Production คือ การผลติ เป็นการพจิ ารณาถึงผลิตภัณฑ์ทผ่ี ลิต ว่ามลี กั ษณะอย่างไร มีคณุ ภาพ และ มาตรฐานท่ดี หี รือไม่ ตรงกบั ความตอ้ งการของตลาดหรอื ไม่ กระบวนการผลติ เป็นอย่างไร ใช้เทคนิคการผลิต อย่างไร กาลังการผลติ ของเคร่อื งจักรที่ใช้ในการผลิตเต็มประสิทธภิ าพหรอื ไม่ และผลิตไดเ้ ท่าไร ผลิตตามฤดกู าล หรอื ผลติ ไดต้ ลอดท้ังปี ผลิตไดส้ ม่าเสมอหรือไม่ ถ้าต้องการผลติ เพิ่มขึ้นสามารถขยายกาลงั การผลิตไดห้ รือไม่ 5. Promotion คือ การส่งเสรมิ การตลาด เปน็ การพจิ ารณาวา่ กิจกรรมใดบ้างท่ีเป็นการสง่ เสริมการตลาด เชน่ การโฆษณา การแจกของแถม การแจกสนิ คา้ ตัวอย่าง เป็นตน้ ซงึ่ จะสามารถทาใหส้ นิ ค้าเปน็ ที่รู้จักของตลาด การบริหารงานสนิ เชอื่ สินเชือ่ (credit) มที ่มี าจากคาภาษาลาตนิ ว่า Credere แปลวา่ to trust หรือ to believe และนักวิชาการบาง ทา่ นกลา่ ววา่ มาจากคาภาษาลาตนิ Credo ซง่ึ เปน็ คาผสมระหวา่ งคาภาษาสันสกฤต Crad แปลวา่ ความเชื่อถือ ไว้วางใจ กับคาภาษาลาติน do แปลวา่ ทาใหเ้ กดิ หรอื มอบ จะเหน็ ได้ว่าทีม่ าของคาว่าสินเชื่อนัน้ มาจากรากฐาน เดยี วกัน คอื ความเชื่อถือและไว้วางใจ (ดารณี พุทธวบิ ลู ย์,2543 หน้า2)

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 133 ------------------------------------------------------------------------------- การค้า สนิ เชอ่ื หมายถึง ความเชื่อถือท่ผี ขู้ ายมีตอ่ ผซู้ ือ้ และยอมมอบสินค้าหรือบรกิ ารให้แกผ่ ูซ้ ้อื ไปก่อนโดย ไมต่ ้องชาระเงนิ สด แต่มีสญั ญาการชาระเงนิ คา่ สินคา้ หรือบรกิ ารนั้นในวันข้างหน้าตามการตกลงกนั ระหวา่ งผูซ้ ื้อ และผู้ขาย ซง่ึ ก่อให้เกิดภาวะความเปน็ ลกู หนแ้ี ละเจ้าหน้ีตามมา ผู้บริโภค สินเช่ือ หมายถึง ความสามารถท่ีจะไดส้ นิ คา้ หรือบรกิ ารไปใชก้ อ่ นโดยตกลงวา่ จะนาเงนิ มาชาระ สนิ ค้าหรอื บรกิ ารในภายหน้า สถาบนั การเงนิ สนิ เชื่อ หมายถงึ บรกิ ารชนดิ หน่งึ ของสถาบันการเงินท่กี ่อใหเ้ กิดรายไดห้ ลกั แกส่ ถาบนั การเงนิ สรุป ความหมายของสินเช่ือ คือ ความเชื่อถือไว้วางใจระหวา่ งบคุ คล 2 ฝ่าย ในการทจ่ี ะใหส้ ินค้าหรือบริการ ไปใชก้ ่อน โดยมสี ัญญากาหนดเง่ือนไขและเง่ือนเวลาการชาระคืนในอนาคต ซ่งึ การยินยอมหรือไม่ จะข้ึนอยู่กบั คุณลักษณะของผู้กู้หรอื ลูกหนี้เป็นสาคัญว่า จะสามารถทาใหเ้ จ้าหนี้เชอื่ ถือไดม้ ากหรือน้อยเพียงใด และมี ความสามารถจะกยู้ มื หรือเป็นหน้ไี ด้อยา่ งไร ตลอดจนประเภทของสินเช่ือตา่ งๆ ปจั จัยการพิจารณา 4 ประการคอื 1.เชอ่ื ว่าลูกหน้ีจะชาระเงินค่าสินคา้ หรือเงินทกี่ ยู้ มื น้นั 2.เชอื่ วา่ ลูกหน้ีมีความสามารถท่จี ะชาระหนไ้ี ด้ 3.เชอื่ ว่าลกู หน้คี งไม่โกง 4.เชื่อวา่ ลกู หนคี้ งไมม่ ีเหตกุ ารณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นจนมาเป็นอปุ สรรคในการชาระหน้ี องค์ประกอบทีส่ าคัญในการพิจารณาการใชส้ ินเช่อื 1.การบริการสินเชอื่ ประเภทตา่ งๆ 2.คณุ ค่าทางเครดิตของผูใ้ ช้สินเช่อื 3.อานาจซื้อ 4.การชาระหน้ี 5.ปริมาณของสนิ เช่ือ กระบวนการสินเชื่อ 9 ขน้ั ตอน (ชนินทร์ พิทยาวิธชิ , 2549) 1.การศึกษาธรุ กิจที่นา่ สนใจ (Business Opportunity) 2.การคัดเลือกกลุ่มลูกค้าเปา้ หมาย 3.การรวบรวมข้อมลู - วัตถุประสงคใ์ นการขอสนิ เชือ่ - ขอ้ มลู ในอดีต, ปจั จุบัน, อนาคต 4.การเข้าพบลูกคา้ เพื่อสมั ภาษณ์ 5.การพิจารณาหลกั ประกัน 6.การวเิ คราะห์เพ่ือประเมินความเสี่ยง 7.การนาเสนอเครดิตโดยการจาแนกแยกแยะความเสย่ี ง 8.เอกสารประกอบสนิ เชื่อ (Documentation) 9.การดูแลและทบทวนความเสยี่ งของสนิ เชื่อ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 134 ------------------------------------------------------------------------------- กระบวนการสนิ เช่ือ 3 ขน้ั ตอน (ดารณี พทุ ธวบิ ลู ย์, 2543) ประกอบด้วย 1.รายการสนิ เชื่อ (Credit Transaction) 2.สถานะทางสินเชื่อ (Credit Standing) 3.ตราสารสนิ เชื่อ (Credit Instruments) บทบาทของสนิ เช่ือในระบบเศรษฐกจิ ผลดี 1.ชว่ ยบาบัดความต้องการของมนษุ ย์ 2.ชว่ ยส่งเสริมใหเ้ ศรษฐกจิ ดีขน้ึ ไดโ้ ดยการก่อให้เกิดเงนิ ออม 3.ช่วยสง่ เสริมศีลธรรมของสังคม ผลเสยี 1.เกิดหนส้ี ินลน้ พน้ ตัว ล้มละลาย 2.ภาวะเงินเฟ้อ 3.ลงทนุ ในการเพ่มิ ผลผลิตท่ีไมไ่ ดก้ อ่ ใหเ้ กิดผลดแี ก่ผลู้ งทุน สถาบนั ทางสงั คมตา่ งๆ ทม่ี ีผลตอ่ ลักษณะการใช้สนิ เชอื่ 1.ครอบครัว 2.การศกึ ษา 3.เศรษฐกิจ 4.ทางดา้ นศาสนา 5.การปกครอง สว่ นประกอบของผู้ใช้สินเช่ือในระบบเศรษฐกิจ 1.ผู้บริโภค 2.ผู้คา้ ปลีกและผ้ใู หบ้ รกิ าร 3.ผู้ผลติ และผคู้ า้ ส่ง 4. สถาบนั การเงิน บทบาทของสินเชอ่ื สาหรบั ผูบ้ ริโภค เหตุผลทผ่ี บู้ รโิ ภคจาเป็นต้องใชส้ นิ เชอื่ 1. เพือ่ สนองความต้องการและมคี วามพอใจในอนั ที่จะบรรลุวัตถปุ ระสงคท์ จี่ ะทาให้การดารงชีวติ ดีขึน้ 2. เพราะความสะดวกสบายในการใชส้ นิ เชื่อ 3. เพราะความจาเป็นบงั คบั บทบาทของสินเชื่อต่อผูค้ า้ ปลีกและผู้ให้บริการ 1.การให้สินเชือ่ แกผ่ ู้บริโภค เพ่อื บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ในการจูงใจให้มีการซ้ือสินค้าหรือใช้บรกิ ารมากขึน้ ทา ใหเ้ พ่มิ ยอดขายได้ 2.การได้สินเช่ือจากพอ่ ค้าสง่ หรือสถาบนั การเงิน ทาใหพ้ ่อค้าสามารถนาสินคา้ มาขายไดเ้ งนิ สดกอ่ น จนกวา่

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 135 ------------------------------------------------------------------------------- จะถงึ กาหนดชาระเงินแกเ่ จา้ หนี้ มีประโยชน์ต่อเงนิ ทุนหมุนเวยี นทาใหก้ ารค้าคลอ่ งตวั ข้ึน บทบาทของสินเช่ือต่อผผู้ ลิตและผู้ค้าส่ง การขายสินค้าของผูผ้ ลติ และผคู้ า้ ส่งโดยท่วั ไปจะขายเป็นเงินเชื่อ แตร่ ะยะเวลาการใหส้ ินเชื่อแตกต่างกนั ไปแล้วแตล่ ักษณะของ - สินคา้ - ความเสย่ี งภยั - ชนดิ ของลกู คา้ - การแข่งขนั - ฐานะการเงนิ ของผูผ้ ลติ และผคู้ า้ สง่ ภาวะเศรษฐกิจและอืน่ ๆ บทบาทของสินเชื่อตอ่ สถาบันการเงิน ตัวกลางจดั หาเงินทนุ ให้แก่ธุรกิจและเอกชน อานวยความสะดวกในการใหส้ นิ เช่อื นโยบายหลีกเลย่ี งความเสยี่ งภยั อันเกดิ จากการจากการเรียกเกบ็ หนไ้ี มไ่ ด้ ผลเสยี ท่ีอาจเกิดขน้ึ จากการใช้สินเช่อื โดยไมถ่ ูกต้อง 1.การใหส้ ินเช่อื ไปโดยไมก่ ่อใหเ้ กิดผลผลิต 2.การใชส้ ินเชือ่ เปน็ เคร่อื งมือการแลกเปลยี่ นมากเกินไป 3.ผลเสียท่อี าจจะเกดิ ขนึ้ ได้กับแตล่ ะบคุ คล การกาหนดหนา้ ท่ขี องการบริหารสนิ เชอ่ื ขอบเขตและหนา้ ที่ของฝ่ายบรหิ ารที่จะสามารถบรหิ ารงานใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงคท์ วี่ างไว้ และประสบ ความสาเร็จ มีดังนี้ 1.การกาหนดเปา้ หมาย 2.การดาเนินงานเพือ่ ใหบ้ รรลเุ ป้าหมายท่วี างไว้ 3.การประเมินผลและการควบคมุ หน้าท่ีทสี่ าคญั ของฝา่ ยบริหาร 1.การวางแผน (Planning) 2.การจดั องค์การ (Organizing) 3.การจดั คนเพื่อให้เหมาะกบั งาน (Staffing 4.การบงั คบั บัญชาและการช้ีแนวทาง (Directing) 5.การควบคุม (Controlling) ส่วนประกอบของการบริหารงานทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ 1.การรวบรวมข้อมลู เพอื่ ประกอบการวางแผนและตดั สนิ ใจ 2.การกลั่นกรองข้อมูลเพอ่ื ให้ได้ข้อมลู ทีด่ ีและเชื่อถอื ได้ 3.การวางแผนทงั้ ระยะส้ันและระยะยาว ไมว่ ่าจะเปน็ แผนการตลาด แผนการบรหิ าร การเงิน การบริหาร สินเชอื่ แผนการบรหิ ารบคุ คล

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 136 ------------------------------------------------------------------------------- 4.การตัดสนิ ใจที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ท่ดี ี มีเหตผุ ล การใช้วิจารณญาณ และประสบการณ์เพอ่ื ตัดสนิ ใจ 5.การจดั องคก์ าร และการวางตวั บคุ คลตามตาแหนง่ ตา่ งๆ 6.การสอ่ื ขอ้ ความระหวา่ งผ้บู ังคบั บัญชาและผู้อย่ใู ตบ้ ังคบั บญั ชาใหเ้ ขา้ ใจซึง่ กันและกนั จะไดร้ ว่ มกนั ทางาน ใหต้ รงตามเปา้ หมายได้ 7.การกระตุ้นให้เกดิ มกี าลงั ใจหรือมไี ฟในการทางานไม่เกิดความเบ่ือหนา่ ย 8. การช่วยเป็นพ่เี ล้ียงช้แี นะแนวทางเมื่อเกิดปัญหาในการปฏิบตั ิงาน ให้คาปรกึ ษา ในฐานะทม่ี ปี ระสบการณ์ มามากกว่า 9. การประเมินผลการปฏิบัตงิ านรวมทงั้ การควบคุมใหไ้ ดผ้ ลมากที่สุด 10. การสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้รว่ มทางานมคี วามคิดริเรม่ิ จะได้กระตือรือร้นในการทางานและพัฒนาวิธีการตา่ งๆ มา ทางานให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน 11. การส่งเสริมใหพ้ นกั งานมีความรู้มากขึ้น การใหม้ ีการอบรมใหม้ คี วามรใู้ หมๆ่ และมีความพอใจในการ ทางานร่วมกัน 12. การประสานงานใหห้ น้าที่ตา่ งๆ ให้สอดคลอ้ งและเป็นไปในทิศทางเดยี วกนั การบรหิ ารจดั การหน้ี การบรหิ ารจัดการหนีค้ ือ กระบวนการบริหารและจัดการหนี้ ไมใ่ ห้เกดิ เป็นหน้ีค้างชาระและแก้ไขหนีค้ า้ ง ชาระอย่างเป็นระบบ ทาให้ลกู หนชี้ าระหนคี้ ืนได้ การบริหารหน้ีคา้ งชาระ การวเิ คราะหล์ กู หนี้และศักยภาพของลูกหนี้ การวิเคราะหล์ ูกหนีแ้ ละศักยภาพของลกู หนี้ ข้อมลู ทส่ี านักงานสหกรณ์จงั หวัดควรนามาใช้ในการวิเคราะห์ ลกู หน้คี ้างชาระแต่ละรายน้ัน จะตอ้ งร้สู ภาพท่แี ทจ้ ริงของสหกรณ์ สาเหตุทผ่ี ิดปกติท่ีเกิดข้ึนท่ที า่ ใหส้ หกรณไ์ ม่ สามารถสง่ ชาระหน้ไี ด้ ดังนั้น กระบวนการวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาลูกหนี้ ควรดาเนนิ การ ดังนี้ 1) กาหนดตัวผู้รบั ผิดชอบ 2) กาหนดเปา้ หมาย 3) วิเคราะหล์ ูกหนแ้ี ละศักยภาพ 4) กาหนดแนวทางในการแก้ไข 5) ปฏิบตั ิตามแนวทางที่กาหนด 6) ประเมนิ ผล การวเิ คราะห์ลูกหนี้และศักยภาพ มอี งค์ประกอบในการวิเคราะห์ ดงั นี้ 1) วิเคราะห์ ศกั ยภาพของลูกหนี้ เปน็ การวัดความสามารถและความตง้ั ใจในการชาระหน้ขี องสหกรณ์โดย การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของสหกรณ์ ได้แก่ วเิ คราะห์ รายได้ รายจา่ ย ภาระหนี้สิน ประวัตกิ ารชาระหน้ี 2) วิเคราะห์ถึงความผิดปกติทเี่ ปน็ เหตใุ นตัวลูกหน้ี ได้แก่ ภยั ธรรมชาติ สมาชิกไมส่ ง่ ชาระหนี้ เกิดการทุจริต ในองค์กร 3) วเิ คราะห์หลักประกันและทรพั ย์สินของลกู หน้ี โดยวเิ คราะห์ว่าหลกั ประกันคุ้มกบั มูลหนห้ี รือไม่ กาหนดกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาหน้ีค้างชาระ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 137 ------------------------------------------------------------------------------- 1) ให้ชาระหน้ีเกา่ และใหส้ ินเชือ่ ใหม่ 2) การขยายกรอบเวลาชาระหนี้ 3) การปรับปรงุ โครงสร้างหน้ี 4) การขอลดหนี้ 5) การดาเนินคดีและบังคับคดี 6) การไกลเ่ กลย่ี คดี การประนีประนอมหนี้ (ก่อนศาลมคี าพิพากษา) 7) การขอเจรจาประนีประนอมหนี้ กองทนุ พฒั นาสหกรณ์ ภายหลงั ศาลมคี าพพิ ากษา และออกหมายบงั คบั คดแี ลว้ 8) การตดั หนี้สญู การบรหิ ารความเสี่ยงดา้ นสินเชือ่ ธรุ กิจธนาคารพาณิชย์คอื ธุรกิจทเ่ี ก่ียวข้องโดยตรงกับการบรหิ ารความเส่ียง ความเสย่ี งเกิดขึน้ ได้จาก การให้สินเชือ่ จากปัจจัยด้านการตลาด หรือจากกระบวนการในการดาเนินธรุ กิจ เป้าหมายในการทาธุรกจิ คือ การสร้างความมง่ั ค่งั ใหแ้ ก่ผู้ถือหุ้น ดงั นั้นธนาคารจะต้องทาธุรกิจเพอื่ ให้เกิด ผลตอบแทนท่ีเหมาะสมกบั ความเสีย่ ง ธนาคารจะต้องยอมรบั ความเสย่ี งในระดับหน่งึ ทง้ั นี้จะตอ้ งมนี โยบายการบริหารความเสยี่ งอยา่ งครอบคลุม ความเสีย่ งของสถาบันการเงิน 1. ความเสีย่ งดา้ นกลยุทธ์ (Strategic Risk) คอื ความเสย่ี งทีเ่ กดิ จากการกาหนดแผนกลยุทธ์ แผนดาเนินงาน และการนาไปปฏบิ ตั ทิ ี่ไมเ่ หมาะสม หรือไม่ สอดคลอ้ งกับปจั จัยภายในและสภาพแวดลอ้ มภายนอก อนั ส่งผลกระทบตอ่ รายได้ เงนิ กองทุน หรอื การดารงอยูข่ อง กจิ การ กาหนดกลยทุ ธแ์ ล้วไมไ่ ดน้ าไปปฎบิ ัติ Ex. วกิ ฤติ Sub-prime ในสหรฐั , วกิ ฤตหิ นี้ในยุโรป, ความขัดแยง้ ทางการเมืองในประเทศ การระบาดของ ไขห้ วดั นก วิกฤติน้าท่วม ฟองสบอู่ สังหารมิ ทรพั ย์ลว้ นแลว้ แต่สง่ ผลใหอ้ ุปสงคใ์ นประเทศทัง้ การบริโภคและการ ลงทนุ ซบเซาลง ธนาคารตอ้ งปรับกลยทุ ธ์ให้สอดคลอ้ งกบั ภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยูเ่ สมอ 2. ความเสีย่ งดา้ นเครดิต (Credit Risk) ความเส่ยี งที่เกดิ จากการท่คี ู่สัญญา ของธนาคาร ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิตามเงื่อนไขและขอ้ ตกลงในสญั ญา ทาให้ ไม่สามารถชาระหน้ีได้ตามกาหนด สง่ ผลเสียหายตอ่ ธนาคาร คู่สญั ญา ทส่ี าคัญทีส่ ดุ ได้แก.่ ........ เป้าหมายของการปล่อยสนิ เช่ือคือไมเ่ ป็น NPLs เราจะมั่นใจไดอ้ ย่างไรวา่ ผ้กู ู้จะสามารถชาระคนื หนไ้ี ด้ ซึง่ อาจมีสาเหตุหลายประการ ไดแ้ ก่ 2.1 ความเสย่ี งจากการกระจุกตวั ของการให้สินเช่อื -ธนาคารอาจกาหนดวงเงนิ สินเช่ือสูงสดุ สาหรับอตุ สาหกรรมแต่ละประเภท (Sector limit) เพือ่ ไมใ่ ห้ สินเช่ือกระจกุ ตัวทงั้ ในกลมุ่ ลกู คา้ รายใหญ่ หรอื กลมุ่ อุตสาหกรรมใดมากเกนิ ไป -Single lending limit ไมเ่ กนิ 25% ของเงินกองทนุ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 138 ------------------------------------------------------------------------------- 2.2 ความเส่ยี งจากคุณภาพสนิ เชือ่ -ธนาคารต้องปรบั ปรุงกระบวนการ นโยบายสินเชอื่ ใหม้ ีประสิทธิภาพ -มกี ารติดตามดูแลสนิ เชื่อหลังการอนมุ ัติอยา่ งใกลช้ ิด ควบคุมใหใ้ ช้สินเชอ่ื ตรงตามวตั ถุประสงค์ -มีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพสนิ เช่ือของลูกคา้ อย่างสมา่ เสมอ -การเรง่ ปรับปรงุ โครงสร้างหนีส้ าหรบั ลกู หนี้ NPL -การเรง่ จาหนา่ ย NPA (สินทรพั ย์ทไี่ ดจ้ ากการตกลงแลกเปลย่ี นเพอ่ื ชาระหน้ี หรือจากการทธ่ี นาคารไปซ้อื จากการขายทอดตลาดจากกรมบังคับคด)ี 2.3 ความเส่ยี งจากมูลคา่ หลักประกนั -(ตย.ที่เหน็ ไดช้ ดั คือ subprime crisis) -ธนาคารต้องดูแลควบคุมการประเมินราคาหลกั ประกันอย่างเขม้ งวด และติดตามการเปล่ียนแปลงของมูลคา่ หลกั ประกันอย่างใกล้ชดิ -ปัจจยั อะไรทาให้มลู ค่าทีด่ นิ เพ่ิม / ลด (ทาเล โซนผงั เมือง รูปร่าง ขนาด) -ต้องใหล้ กู ค้าทาประกนั อัคคีภยั 2.4 ความเสย่ี งจากการเกินวงเงนิ ของค่สู ัญญา -ธนาคารต้องเขม้ งวด ไมใ่ ห้สนิ เชอ่ื เกนิ กวา่ วงเงนิ ที่กาหนดไว้ 3. ความเสี่ยงดา้ นตลาด (Market risk) -not a marketing risk -ความเสย่ี งท่ีเกดิ จากการเปลีย่ นแปลงมูลค่าของตราสารทางการเงินทธี่ นาคารถือครอง เนอื่ งจากการ เปล่ียนแปลงปจั จยั ตลาด เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลีย่ น ความเส่ียงจากราคา (price risk) -ธนาคารต้องกาหนดนโยบายบรหิ ารความเสยี่ งดา้ นตลาดใหส้ อดคล้องกับกลยทุ ธข์ องธนาคาร -กาหนดเพดานความเสีย่ งดา้ นตลาด สงู สดุ ทีย่ อมรับได้ -มกี ารประเมินมูลคา่ ตามราคาตลาดทุกส้นิ วัน (Mark to the market) 4. ความเส่ียงดา้ นสภาพคลอ่ ง (Liquidity Risk) -ความเสยี่ งทเี่ กิดจากการท่ธี นาคารไมส่ ามารถชาระหน้สี นิ หรือภาระผกู พันเม่อื ถึงกาหนด เน่ืองจาก -ไม่สามารถเปล่ียนสนิ ทรัพยใ์ หเ้ ปน็ เงินสดได้ ทันที ในราคาทปี่ กติ -ไมส่ ามารถจัดหาเงินทนุ ได้เพียงพอ -ธนาคารควรแสวงหาแหล่งเงนิ ทนุ เพือ่ สภาพคล่องที่หลากหลาย ท้ังจากตลาดเงินและตลาดทนุ ท้งั ใน ประเทศและตา่ งประเทศ -สินทรัพยส์ ภาพคล่องได้แก่ เงินสด เงนิ ฝากและหลักทรัพยท์ สี่ ภาพคลอ่ งสงู 5. ความเสี่ยงดา้ นปฏบิ ัตกิ าร (Operational Risk) -ความเสี่ยงที่จะเกดิ ความเสยี หายเนอ่ื งจากขาดระบบการกากับดูแลและควบคมุ ทด่ี ี หรือขาดธรรมาภบิ าลใน องค์กร เช่น การทุจริต ความลา่ ช้าในการปฏิบตั งิ าน (ไม่มีประสิทธิภาพ=> ตน้ ทนุ สงู ) -อาจมสี าเหตมุ าจาก กระบวนการปฏบิ ัติงาน บุคลากร หรือปัจจยั ภายนอก เชน่ นา้ ทว่ ม ธนาคารถกู ปล้น

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 139 ------------------------------------------------------------------------------- หรือ ระบบคอมพวิ เตอร์เสยี หาย ธนาคารจะกาหนดมาตรฐานการจัดการปัญหาอย่างไร (เชน่ กรณีตย. การคานวณ ดอกเบ้ยี ผิด ศาลยกฟ้อง ธพ.เสยี หาย) กระบวนการบรหิ ารความเสี่ยงของธนาคาร 1. การระบุความเสย่ี ง มีความเส่ียงเร่ืองใดบา้ ง ทที่ าให้เราไมส่ ามารถบรรลเุ ปา้ หมายท่ตี ง้ั ไวไ้ ด้ 2. การประเมินความเสย่ี ง ร้ายแรงมาก-น้อย / ควบคุมได้-ไม่ได้ /จัดการภายใน-ภายนอก 3. การตดิ ตามและควบคุมความเสี่ยง สาเหตจุ ากอะไร จะแกไ้ ขอย่างไร 4. การรายงานความเส่ยี ง สรปุ ว่าความเสี่ยงลดลงได้หรือไม่ อย่างไร -----------------------

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 140 ------------------------------------------------------------------------------- แนวขอ้ สอบ ความร้เู กีย่ วกบั สนิ เชอ่ื เบื้องต้น 1. ปัจจบุ นั นี้ธนาคารตา่ งๆมีนโยบายท่จี ะลดความเสย่ี งเพือ่ ให้ไดร้ ับชาระหน้จี ากลูกคา้ มากทส่ี ดุ และ มีหน้ีคา้ ง ชาระนอ้ ยทสี่ ดุ หากท่านได้รับมอบหมายให้วางแผนงานบริหารหนเ้ี งินกู้ จะใชแ้ นวทางใดเปน็ แนวปฏบิ ตั ิจงึ จะตรง ตามหลักการ มากทีส่ ุด ก. จ่ายสนิ เชอื่ โดยมอี ตั ราเงินกูต้ ่อรายต่าลงเพ่ือป้องกนั หนี้คา้ งชาระ ข. จ่ายสินเชื่อรายกลุ่มใหม้ ากขนึ้ ค. จา่ ยสนิ เชอื่ เป็นเงินค่าใชจ้ า่ ยให้มากขน้ึ ง. ใช้การตลาดนาสนิ เช่ือเพ่ือช่วยลูกคา้ ขายผลิตผล เพ่ิมชอ่ งทางการตลาดมากข้นึ เพ่ือลดความเสยี่ ง ตอบ ง. 2. ขอ้ ใดเป็นการลดความเส่ยี งทางด้านการเงินของธนาคาร ก.กู้เงินจากตา่ งประเทศโดยทาสัญญากู้เงนิ ระยะยาว ข.หาเงนิ ฝากจากลกู ค้ารายย่อย ค.ออกหุ้นกู้ในอัตราดอกเบยี้ ทส่ี ูงและระยะยาว ง.ถกู ทุกข้อ ตอบ ข. 3. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ ารประเมินระดับความเสีย่ งด้านสนิ เช่ือ ก.ระดบั ความเสยี่ งทไ่ี มค่ าดหวัง (Unexpected Loss) ข.ระดบั ความเส่ียงท่ีคาดหวงั (Expected Loss) ค.ค่าโอกาสผิดนดั ชาระ (Probability of Default : PD) ง.ผลตอบแทนเฉล่ยี (Yield) ของพอรต์ สินเช่ือ ตอบ ง. 4. การนา Capital Risk Requirement มาคานวณค่าเสียโอกาสการลงทนุ (Opportunity Cost) เปน็ การ ประเมินด้านใด ก.การประเมินระดับความสามารถในการทากาไร ข.การประเมินระดบั ความเสี่ยงดา้ นสินเชือ่ ค.ถกู ท้งั 2 ข้อ ง.ผดิ ทง้ั 2 ข้อ ตอบ ก. 5. ความเส่ยี งของการดาเนนิ กิจการธรุ กจิ ขอ้ ใดเส่ยี งที่สุด ก.ความเสย่ี งท่ีจะขาดทนุ ข.ความเสยี่ งท่จี ะขาดสภาพคลอ่ ง ค.ความเสยี่ งทีเ่ กิดจากกความต้องการของลกู ค้าที่ไม่แน่นอน ง.ความเสี่ยงจากสภาวะแวดล้อม ตอบ ข. ข.การออกหนังสือคา้ ประกนั 6. ขอ้ ใดต่อไปน้ีคือ Financial Risk ง.ถกู ทุกขอ้ ก.Letter of Credit ค.Funding Risk ตอบ ค.

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 141 ------------------------------------------------------------------------------- 7. หน่วยงานใดมีหน้าท่กี ากับดูแลการบรหิ ารความเส่ียงของ ธ.ก.ส. ก.ธนาคารแหง่ ประเทศไทย (ธปท.) ข.คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ค.บรษิ ัท ไทยเรทต้งิ แอนด์ อินฟอร์เมชน่ั เซอร์วิส จากัด (TRIS) ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. 8. ขณะนหี้ ลาย สนจ.ไดเ้ รง่ อบรมพนักงานในสงั กัด ท้งั ในดา้ นการเงิน และสนิ เชือ่ เพื่อให้สามารถนาความรไู้ ป ใช้ในการปฎบิ ัตงิ านได้ จนบางคร้งั ทาใหห้ วั หน้างานบางคนบน่ ว่า จะอบรมอะไรกันนักหนาท่สี าขายิ่งขาด คนทางานอยู่ การท่ี สนจ.จดั อบรมเปน็ การจดั การความเสี่ยงประเภทใด ก. การยอมรับความเส่ียง (Take, Accept) ข. การลดความเสยี่ ง (Reduce, Treat) ค. การแบ่งปนั หรือโอนความเส่ยี ง (Share, Transfer) ง. การเลกิ หรือหลกี เลีย่ งความเสีย่ ง (Terminate, Avoid) ตอบ ข. 9. ข้อใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบของการบรหิ ารความเสย่ี ง ก. Risk Management Committee ข. การจัดการความเส่ยี ง ค. ระบบสารสนเทศเพ่ือการบรหิ ารความเสีย่ ง ง. Undesirable Impact ตอบ ง. 10. ข้อใดคอื ความหมายของความเส่ยี งท่ีถูกตอ้ งท่ีสดุ ก. เหตกุ ารณห์ รือการกระทาใด ๆ ทีต่ อ้ งเกดิ ขึ้นภายใต้สถานการณ์ทแี่ นน่ อน และส่งผลกระทบและ ลดโอกาสที่จะบรรลุเปา้ หมาย ข. เหตกุ ารณ์หรือการกระทาใด ๆ ทีอ่ าจเกดิ ข้ึนภายใตส้ ถานการณ์ทไี่ มแ่ น่นอน และส่งผลกระทบ และลดโอกาสทจี่ ะบรรลุเปา้ หมาย ค. เหตุการณห์ รือการกระทาใด ๆ ท่ีอาจเกดิ ข้ึนภายใตส้ ถานการณท์ ไ่ี มแ่ น่นอน แต่ไม่ส่งผลกระทบ และไม่ลดโอกาสทจี่ ะบรรลุเปา้ หมาย ง. เหตุการณห์ รือการกระทาใด ๆ ท่ตี อ้ งเกิดข้นึ ภายใต้สถานการณท์ ่ีแนน่ อน แต่ไม่สง่ ผลกระทบและ ไม่ลดโอกาสที่จะบรรลเุ ป้าหมาย ตอบ ข. 11. การจดั การความเสย่ี งโดยใชว้ ิธีการโอนหรือการกระจายความเส่ียงได้แกข่ ้อใด ก. การสอบทาน/การอนุมัติ ข. การแบ่งแยกหนา้ ท่ี ค. การจ้างเหมาบริการ/การประกัน ง. การใหค้ วามรู้ความเขา้ ใจ ตอบ ค. 12. องคป์ ระกอบของการควบคุมภายในในขอ้ ใดทีป่ ระกอบด้วยการระบปุ จั จยั เส่ียง วิเคราะห์ความเสยี่ ง และการจดั การความเสย่ี ง

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 142 ------------------------------------------------------------------------------- ก. สภาพแวดล้อมของการควบคุม ข. การประเมินความเสย่ี ง ค. กจิ กรรมการควบคุม ง. ข้อมูลสารสนเทศและการสอ่ื สาร ตอบ ข. 13. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถกู ต้องตามคาจากดั ความ \"การบริหารความเสี่ยง\" ของ ERM COSO ก. การบรหิ ารความเส่ียงเชงิ สัมพันธ์ระดบั องค์กร ข. เปน็ กระบวนการท่ีเป็นผลมาจากคณะกรรมการบริษัท และฝา่ ยบริหารสรา้ งและรว่ มกนั ปฏิบตั ิ ในการ กาหนดกลยทุ ธแ์ ละในการปฏิบตั งิ านท่วั ทง้ั องคก์ ร ค. กระบวนการบรหิ ารความเสี่ยงสร้างข้นึ เพื่อระบุเหตุการณ์ท่ีอาจเกิดขนึ้ ที่มผี ลกระทบสาคัญตอ่ องค์กร ง. เปน็ การสรา้ งความมัน่ ใจอยา่ งสมเหตุผลเก่ียวกับการบรรลุวตั ถปุ ระสงค์องค์กร ตอบ ข. 14. ข้อใดเป็นวัตถุประสงคข์ องการบรหิ ารความเสี่ยงองค์กร ก. วตั ถปุ ระสงคด์ า้ นกลยุทธ์ (Strategic Objective) ข. วัตถุประสงคด์ า้ นการปฏิบตั งิ าน (Operation Objective) ค. วตั ถปุ ระสงค์ดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบ (Compliance Objective) ง. วตั ถปุ ระสงค์ด้านการรายงาน (Reporting Objective) จ. ถกู ทุกข้อ ตอบ จ. 15. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชน์หรือเป้าหมายหลกั ของการบริหารความเส่ยี งองคก์ ร ก. ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการกากบั ดแู ลกจิ การท่ดี ี ข. สร้างความมัน่ ใจในความสาเร็จของกลยทุ ธ์ท่กี าหนด ค. เป็นการบริหารเชงิ รกุ และมีการป้องกนั ลว่ งหน้า (Proactive management) ง. เพ่อื ให้องค์กรมีผลประกอบการทดี่ ขี นึ้ จ. เกดิ ระบบสารสนเทศและการสอื่ สารจากทกุ ระดับในองคก์ ร ตอบ ง. ข.สร้างทางเลอื กในการป้องกนั ความเสี่ยง 16. แนวทางการบริหารความเสยี่ ง คอื ขอ้ ใด ง.ถกู ทกุ ขอ้ ก.ต้องคน้ หาให้ไดว้ ่าความเสยี่ งคืออะไร ค.เลือกทางเลือกในการบริหารความเส่ยี ง ตอบ ก. 17. การป้องกนั ความเสยี่ งในการลงทุน คอื ก.จัดพอรต์ การลงทุนให้กระจาย ข.การลงทุนในอุตสาหกรรมเดยี วกนั หลาย ๆ บรษิ ัท ค.ลงทุนในอุตสาหกรรมทม่ี ีผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ในภาพรวม ง.ลงทนุ ในรปู การให้ผลกาไรจากการซอ้ื ขายห้นุ สงู สุด ตอบ ก.

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 143 ------------------------------------------------------------------------------- 18. ขอ้ ใดต่อไปนต้ี ้องเกดิ ข้นึ ก่อน เพือ่ ที่จะระบุเหตกุ ารณ์สาคญั ทอี่ าจจะเกดิ ข้ึนและปจั จยั ที่มีผลกระทบต่อ ความสาเรจ็ ได้ ก. การสร้างสภาพแวดล้อมภายในองคก์ ร ข. การสือ่ สารและเทคโนโลยี ค. การกาหนดวัตถุประสงค์ ง. การประเมินความเสยี่ ง จ. การมอบอานาจหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบในตาแหน่งตา่ งๆ ตอบ ค. 19. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความเสีย่ งจากการดาเนนิ งาน ก. ความเพียงพอของปริมาณน้าสารอง กรณีเกิดเหตุฉกุ เฉิน ข. ทอ่ สง่ น้าหลกั ไมส่ ามารถส่งจา่ ยน้าได้ ตามความต้องการใชน้ ้าลกู คา้ ค. ปริมาณนา้ ดิบจาหน่ายไม่เพม่ิ ขนึ้ ตามแผนงาน (ลูกคา้ ใช้นา้ ต่ากว่าแผนเน่ืองจากมีแหลง่ น้าของตนเอง) ง. การประเมนิ การลงทนุ ไม่ถูกต้องหรือไมเ่ พยี งพอ จ. ทรพั ยากรนา้ ทีไ่ ด้รับการจัดสรรไมเ่ พียงพอต่อความต้องการของลูกคา้ เนื่องจากไมไ่ ด้รับการจัดสรร เพม่ิ เติม ตอบ ง. 20. ข้อใดเปน็ องคป์ ระกอบด้านการประเมินความเสยี่ ง ก. คณุ มารตุ ให้ความสาคัญในการประเมินความเสย่ี ง ข. คณุ พมิ านพจิ ารณาการกาหนดโอกาสท่นี า่ จะเกิดและระดับผลกระทบ ค. คุณมานพไดร้ ับสารสนเทศทท่ี นั การในการปฎิบัติงาน ง. คณุ เกยี รตศิ ักด์พิ ิจารณาการกระจายอานาจและระบบติดตามผล ตอบ ข. 21. ความเสี่ยงทไี่ ด้รบั การพิจารณาหลงั การจดั การหรือการควบคมุ ภายในแลว้ เรยี กวา่ อะไร ก. ความเส่ยี งขัน้ ต้น ข. ความเสี่ยงคงเหลอื ค. ความเส่ยี งสทุ ธิ ง. ความเสีย่ งข้ันปลาย จ. ความเสีย่ งทางธรุ กิจ ตอบ ข. 22. ข้อใดไมใ่ ช่วตั ถุประสงค์ของการจดั การความเสี่ยง ก. ลดโอกาสในการเกิดและผลกระทบของความเส่ยี งให้อยู่ในระดับทีย่ อมรบั ไดโ้ ดยการจดั การสาเหตุของ ความเส่ยี งอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ข. ลดโอกาสในการเกดิ และผลกระทบของความเสย่ี งใหอ้ ยใู่ นระดับที่ยอมรบั ไดโ้ ดยการจดั การผลกระทบที่ อาจจะเกดิ ขนึ้ ของความเสยี่ ง ค. ลดโอกาสในการเกิดและผลกระทบของความเสี่ยงโดยคานึงถงึ เพียงต้นทุนทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ง. การลดผลกระทบของความเส่ยี ง ซึ่งโดยระบบการเตือนภยั หรือระบบการบรหิ าร พรอ้ มด้วยการจัดทา แผนฉกุ เฉิน หรือแผนฟื้นฟู จ. เพม่ิ โอกาสในการเกิด หรือผลกระทบจากความเสยี่ งทเี่ ปน็ โอกาสใหม้ ากท่สี ุดโดยการปฏิบัตเิ พ่ือสรา้ งหรือ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 144 ------------------------------------------------------------------------------- หาโอกาส หรือการจดั การเพ่ือให้ได้ผลลัพธท์ ีด่ ีขน้ึ ตอบ ค. 23. เครื่องมอื ในการบริหารความเส่ยี งดา้ นเครดิตของธนาคาร คือข้อได ก.การจัดช้ันลกู คา้ ข.การวิเคราะห์สนิ เชื่อ ค.การส่งหนงั สอื เตอื น ง.ถกู ทกุ ขอ้ ตอบ ง. 24. ข้อใดทาให้ Bussiness Risk เพม่ิ ขึ้น ก. สดั ส่วนของการก้ยู ืมต่อสนิ ทรัพยร์ วมเพม่ิ ขึ้น ข. บรษิ ทั มคี ู่แขง่ เพิ่มข้ึน ค. ราคานา้ มนั สูงข้นึ ง. ข้อ 2 และ 3 ถกู ตอบ ก. 25. ธนาคารมีวตั ถปุ ระสงคใ์ ดในการพฒั นาโมเดลในการบรหิ ารความเส่ียงดา้ นสนิ เชื่อบคุ คล ก.เพอ่ื ทราบระดับความเสีย่ ง (Expected loss) ข.เพอ่ื ทราบระดบั ความสามารถในการทากาไร (Profitability) ค.เพือ่ เป็นตวั แบบ (Prototypes) ในการสร้างเปน็ Model ให้ส่วนงานท่ีเกี่ยวขอ้ งสามารถนาไปใชใ้ นการ บรหิ ารความเส่ียงด้านสนิ เชอ่ื ง.ถูกทกุ ข้อ ตอบ ง. 26. ไมใ่ ช่การประเมินระดับความเสย่ี งดา้ นสนิ เช่อื ก.ค่าโอกาสผิดนัดชาระ (Probability of Default : PD) ข.ระดบั ความเส่ยี งที่คาดหวงั (Expected Loss) ค.ระดับความเส่ียงทไ่ี ม่คาดหวัง (Unexpected Loss) ง.ผลตอบแทนเฉลยี่ (Yield) ของพอรต์ สนิ เชื่อ ตอบ ง. 27. ตัววัดเส้นการลงทนุ ท่มี ปี ระสิทธิภาพ (Efficient Line) ด้านสินเชื่อบุคคลคือ ก.จดุ คุ้มทุน (Breakeven Point) ในการดาเนินงานสินเชอ่ื ข.ผลตอบแทนต่อสว่ นทุนหลังปรับความเส่ยี ง ค.ค่าตอบแทนเฉล่ยี (Yield) ของพอรต์ สินเชื่อ ง.ถกู ทกุ ข้อ ตอบ ข. 28. ข้อใดคอื ความสาคญั ของการวเิ คราะห์สินเชือ่ ก.เป็นเครื่องมือให้ผ้อู นุมตั ิใช้ในการตัดสินใจและลดความเสี่ยงของผ้ใู หก้ ู้ ข.เปน็ เครอ่ื งมือใหผ้ ู้อนุมตั ิใช้ในการตดั สนิ ใจและลดความเสี่ยงของผู้กู้ ค.เกิดความเสมอภาคแก่ผู้ขอรับสนิ เช่ือ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook