Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พนักงานการเงิน 4 ธกส 2564

พนักงานการเงิน 4 ธกส 2564

Published by kitthanachon01, 2021-11-05 15:49:58

Description: พนักงานการเงิน 4 ธกส 2564

Search

Read the Text Version

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 145 ------------------------------------------------------------------------------- ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. 29. ธ.ก.ส. ควรบรหิ ารจัดการความเสย่ี งเพมิ่ เตมิ จากปัจจุบันอยา่ งไร ก. กาหนดแรงจูงใจใหล้ ูกค้าเขา้ รว่ มกจิ กรรมที่ลดความเส่ียงในการใหส้ นิ เช่อื เช่น การเข้าร่วมโครงการลด ตน้ ทุนการผลิต ข. บรหิ ารสนิ เช่ือรายผลผลิต ค. พจิ ารณาจ่ายเงินกู้เพ่ือเหตุฉกุ เฉนิ ให้ลูกคา้ เพ่มิ ข้ึนเพื่อลดการก่อหน้นี อกระบบ ง. ถกู ทุกข้อ ตอบ ง. 30. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การบริหารจดั การความเส่ียงของ ธ.ก.ส. ก.การจัดตง้ั สมาคมฌาปนกิจลกู คา้ ข.การจัดตัง้ บรษิ ทั บริหารสินทรัพย์ ค.การจัดตัง้ สหกรณก์ ารเกษตรเพอื่ การตลาดลกู คา้ ธ.ก.ส. (ส.ก.ต.) ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ข. 31. ทาไมในการจ่ายเงินกู้ของสถาบนั การเงนิ ตอ้ งทาการวเิ คราะหส์ นิ เชื่อ ก.เพ่ือการตัดสนิ ใจอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ข.เพื่อลดความเสยี่ งด้านสินเชอ่ื ค.เพื่อลดภาระในการเรยี กเก็บหน้ี ง.ถูกทกุ ขอ้ ตอบ ง. ข. สินเชื่อระยะกลาง 32. สนิ เชื่อทม่ี อี ายุ 3 ปี คือ ง. สนิ เชือ่ ทก่ี าหนดระยะเวลา ก. สนิ เช่อื ระยะสน้ั ค. สินเชอื่ ระยะยาว ตอบ ข. ข. สนิ เชือ่ ระยะกลาง 33. สินเช่อื บัตรเครดิต เป็นสินเช่ือประเภทใด ง. สนิ เช่ือทกี่ าหนดระยะเวลา ก. สินเชือ่ ระยะส้ัน ค. สนิ เชอ่ื ระยะยาว ตอบ ก. ข. ความเท่ียง 34. ข้อใด มใิ ช่ องคป์ ระกอบของสินเชือ่ ง. การเปล่ียนแปลงทางการเมือง ก. ความเช่อื ใจ ค. เวลาในอนาคต ตอบ ง. 35. สินทรพั ยท์ ีส่ ามารถเปล่ยี นเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว มเี งินหมุนเวียนในกจิ การอยา่ งไมข่ าดมอื เพยี งพอท่ีจะ จบั จ่ายใช้สอยประจาวัน และมเี งินพอที่จะจา่ ยให้กบั เจ้าหนท้ี ันทที ันใดเรียกว่า ก. สินเชื่อ ข. สภาพคลอ่ ง

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 146 ------------------------------------------------------------------------------- ค. เครดิต ง. การพาณิชย์ ตอบ ข. 36. กระบวนการทางด้านสินเช่ือมกี ขี่ ้ันตอน ก. 2 ขั้นตอน ข. 3 ข้นั ตอน ค. 4 ขนั้ ตอน ง. 5 ขั้นตอน ตอบ ค. 37. การเปิดบัญชีไว้กบั รา้ นอาหาร เม่ือถงึ สิ้นเดือนจึงชาระครงั้ เดียว การผ่อนส่งจากการซื้อสนิ คา้ เช่น ตู้เยน็ โทรทศั น์ รถยนต์ เปน็ ตน้ จัดเปน็ สินเช่ือประเภทใด ก. สินเชอื่ เพ่ือการบริโภค ข. สนิ เชอื่ เพื่อการอุปโภค ค. สินเช่อื เพ่ือการอยอู่ าศยั ง. สนิ เชื่อเพื่อการลงทนุ ตอบ ก. 38. การซ้อื เครอื่ งเยบ็ ผา้ ซื้อผ้า เพ่ือผลิตเส้ือผ้าออกขายหรือจ้างลกู จ้างมาเย็บผ้าจานวนมากขึ้น จัดเป็นสนิ เช่ือ ประเภท ก. สินเชอื่ เพื่อการบริโภค ข. สินเชือ่ เพื่อการอุปโภค ค. สนิ เช่ือเพื่อการอย่อู าศัย ง. สินเชื่อเพื่อการลงทนุ ตอบ ง. 39. การซ้อื สนิ คา้ มาจาหนา่ ยตอ่ จัดเป็นสนิ เช่ือประเภทใด ก. สินเชอ่ื เพ่ือการพาณิชยห์ รือสินเชอื่ การค้า ข. สินเชื่อเพ่ือการบริโภค ค. สินเชื่อเพื่อการอปุ โภค ง. สนิ เชือ่ เพ่ือการลงทุน ตอบ ก. 40. สินเชื่อระยะสัน้ คือ สนิ เชอ่ื ที่มอี ายุไม่เกินก่ี ก. 1 ปี ข. 2 ปี ค. 3 ปี ง. 4. ปี ง. 1-5 ปี ตอบ ก. ง. ไม่เกนิ 12 ปี ง. ถกู ทุกข้อ 41. สินเชอื่ ระยะกลาง คอื สินเชือ่ ท่มี อี ายุ เท่าใด ก. 1-2 ปี ข. 1-3 ปี ค. 1-4 ปี ตอบ ง. 42. สินเชื่อระยะยาว คือ สนิ เชื่อทีม่ ีอายุเท่าใด ก. 4 ปี ขึ้นไป ข. 5 ปขี ้นึ ไป ค. ไม่เกนิ 10 ปี ตอบ ข. 43. เอกสารเครดิตทน่ี ิยมใชก้ นั ในวงการธุรกิจปัจจุบันได้แก่ ก. เช็ค ข. ตั๋วแลกเงนิ ค. ตัว๋ สญั ญาใชเ้ งนิ ตอบ ง. 44. อาวลั เครดติ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. เครดิตที่ธนาคารรับซ้ือตัว๋ เงนิ ท่ลี กู คา้ นามาขายให้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 147 ------------------------------------------------------------------------------- ข. เครดิตทธ่ี นาคารรบั รองตัว๋ เงินเกีย่ วกับการค้าต่างประเทศ ค. เปน็ เครดิตทีธ่ นาคารเข้ารับประกนั หนี้สินของลกู คา้ ตามทีล่ ูกคา้ ใหค้ า้ ประกัน ง. เป็นเครดิตที่จะใหล้ ูกคา้ สัง่ จ่ายหรือโอนเงินโดยธนาคารยินยอมให้ลกู คา้ ใช้ “เครดิต” ได้ในปริมาณวงเงนิ จานวนหน่งึ ตอบ ค. 45. ข้อใดไม่ใช่หน้าทขี่ องธนาคารกลางโดยทั่วไป ก. เป็นตวั แทนทางการเงนิ ของรัฐ ข. สรา้ งเงนิ ฝาก หรือขยายเครดติ ค. ควบคุมการเงินและเครดติ ในระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ ง. รกั ษาเงนิ สารองระหว่างประเทศ ตอบ ข. 46. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ที ี่ธนาคารแห่งประเทศไทย มตี ่อธนาคารพาณชิ ย์ ก. กาหนดเงือ่ นไข และรักษาเงนิ สดสารองทธี่ นาคารพาณิชยต์ อ้ งดารงตามกฎหมาย ข. เปน็ สานักงานกลางในการหกั บญั ชี ค. ควบคมุ ตรวจสอบการดาเนินกิจการของธนาคารพาณชิ ยโ์ ดยสม่าเสมอ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ง. ข. ดอกเบยี้ เงินฝากกบั ธนาคารออมสิน 48. ดอกเบ้ยี ชนดิ ใดท่ีไมต่ ้องเสียภาษเี งินได้ ง. ดอกเบยี้ เงินฝากประจากับธนาคารกรุงไทย ก. ดอกเบยี้ จากพนั ธบตั รรัฐบาล ค. ดอกเบ้ยี เงินฝากประจากับธนาคารพาณิชย์ ตอบ ค. ข. บริษัทเงนิ ทุน 49. บริษทั เครดติ ฟองซเิ อรส์ ว่ นใหญด่ ัดแปลงมาจาก ง. สหกรณ์ออมทรัพย์ ก. บรษิ ัทจัดสรรบ้านและท่ีดิน ค. บริษทั หลักทรัพย์ ตอบ ก. 50. ข้อใดไม่ถูกต้องเกยี่ วกบั ธนาคารเพ่อื การเกษตรและสหกรณ์ ก. เปน็ รัฐวสิ าหกจิ ข. อยูภ่ ายใตก้ ารควบคมุ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ค. รับฝากเงินจากประชาชน ชนดิ ที่ต้องจ่ายคนื เมอ่ื ทวงถาม หรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันมีกาหนด ยกเว้น ประเภทท่ีใชเ้ ชค็ ในการทวงถาม ง. มีอานาจในการออก ซ้ือ หรือขายตั๋วเงนิ ตอบ ข. 51. กิจการทบ่ี ริษทั หลักทรัพย์จะดาเนินการได้มีอะไรบ้าง ก. กิจการจัดจาหนา่ ยหลกั ทรัพย์ และกจิ การจดั การลงทุน

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 148 ------------------------------------------------------------------------------- ข. รบั ฝากเงนิ กระแสรายวัน การถอนเงินทาโดยใช้เชค็ ค. ออกพันธบตั รหลักทรพั ย์และสลากหลกั ทรัพย์ ง. ถูกทุกขอ้ ตอบ ก. 52. ในประเทศไทยสถาบันการเงินประเภทใดทีม่ คี วามสาคญั ในการขายสินเช่ือแกเ่ อกชนเป็นปริมาณมากที่สุด และรองลงมาตามลาดับ ก. ธนาคารออมสิน-ธนาคารพาณิชย์ ข. ธนาคารพาณิชย์-ธนาคารออมสนิ ค. ธนาคารพาณชิ ย์-บรษิ ทั เงินทนุ หลกั ทรพั ย์ ง. บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์-ธนาคารพาณชิ ย์ ตอบ ข. 53. ขอ้ ใดสอดคล้องกับภาวะเงินฝืด ก. ระดับราคาสนิ คา้ และบรกิ ารโดยทวั่ ไปสงู ขนึ้ รวดเร็วผิดปกติ ข. ระดับราคาสนิ คา้ และบริการโดยท่ัวไปลดลงรวดเรว็ ผิดปกติ ค. ระดับราคาสินค้าและบรกิ ารโดยทัว่ ไปลดลงอย่างสมา่ เสมอ ง. อุปสงค์รวมมากกวา่ อปุ ทานรวม ตอบ ค. 54. ภาวะเงนิ เฟ้อเกิดจากสาเหตขุ ้อใด ก. ธนาคารกลางซอ้ื พันธบตั รคนื มากผิดปกติ ข. อุปสงค์ตอ่ สินค้าและบรกิ ารรวมท้งั ระบบเศรษฐกจิ สูงขึ้น ค. การสัง่ สินคา้ เขา้ จากต่างประเทศมีมากเกนิ กวา่ ปกติ ง. ถกู ทกุ ข้อ ตอบ ง. 55. สถาบนั ทีท่ าหน้าท่เี ปน็ ตัวกลางระหว่างผู้ออมกบั ผู้ต้องการใชเ้ งิน เรียกวา่ อะไร ก. ธนาคารพาณิชย์ ข. ธนาคารชาติ ค. ธนาคารกลาง ง. สถาบนั การเงนิ ตอบ ง. 56. ธนาคารกลางควรใชม้ าตรการใดในการควบคุมการใหส้ นิ เช่ือของธนาคารพาณชิ ย์เพื่อให้มีปรมิ าณท่ี เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกจิ ของประเทศ ก. การกาหนดอัตราดอกเบีย้ เงนิ กู้ยมื ข. การกาหนดอัตราเงินสารองตามกฏหมาย ค. การกาหนดอัตรารบั ซื้อลดตวั๋ เงนิ ง. การกาหนดวงเงินใหก้ ้ยู มื สูงสุดเป็นอัตราเทา่ กันทกุ ธนาคาร ตอบ ข. 57. เหตุผลสาคญั ท่ีรัฐบาลจัดตัง้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร คือข้อใด ก. เพื่อระดมเงนิ ออมจากชาวนา ชาวไร่ ข. เพอ่ื ระดมเงนิ ออมจากประชาชนท่วั ไป ค. เพ่ือช่วยเหลอื เกษตรกรดา้ นสนิ เช่อื เพือ่ การเกษตร

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 149 ------------------------------------------------------------------------------- ง. เพือ่ เป็นแหล่งเงินทนุ สาหรับการปฏริ ปู ท่ีดนิ เพ่ือเกษตรกรรม ตอบ ค. 58. ในกรณี ทร่ี ัฐบาลกาหนดงบประมาณรายจ่ายของแผน่ ดินในปีหนึ่งเอาไว้ 120,000 ลา้ นบาท แตส่ ามารถหา รายไดจ้ ากประชาชนในประเทศได้เพียง 100,000 ล้านบาท เราเรยี กลักษณะของงบประมาณชนิดนี้ว่าอย่างไร ก. งบประมาณขาดดลุ ข. งบประมาณเกินดุล ค. งบประมาณสมดุล ง. งบประมาณคล่องตวั ตอบ ก. 59. ทเ่ี รยี กวา่ “ภาษที างออ้ ม” มคี วามสาคญั อย่างไร ก. เปน็ ภาษที ีร่ ัฐบาลเรยี กเก็บย้อนหลงั จากบรษิ ทั หา้ งรา้ นท่ีหลีกเลี่ยงภาษี ข. เปน็ ภาษที ี่ผู้เสยี สามารถผลกั ภาระให้แก่ผูอ้ น่ื ได้ เช่น ภาษีมูลคา่ เพิม่ ค. เปน็ ภาษที ผ่ี ู้รับสมั ปทานจะต้องเสยี ให้รัฐบาล ง. เป็นภาษที เี่ รยี กเก็บจากดอกเบ้ียเงนิ ฝากในธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ตอบ ข. 60. เงนิ ทเ่ี หลือจากการใชจ้ า่ ยของงบประมาณปีที่แล้ว ตามหลักเศรษฐศาสตร์ เรยี กว่าอย่างไร ก. งบประมาณค้างปี ข. เงินออม ค. งบประมาณเกินดุล ง. เงินคงคลัง ตอบ ง. 61. สาเหตทุ ่ีเกิด “ภาวะเงนิ เฟ้อ” และสง่ ผลกระทบการเทือนต่อเศรษฐกิจของประเทศคือในขอ้ ใด ก. อานาจซือ้ ของประชาชนมีสูงแต่ปริมาณสินค้ามีน้อย ข. ต้นทุกการผลติ สนิ คา้ สงู ขึ้นทาให้นายทนุ ต้องเพิม่ ราคาสนิ ค้า ค. ประชาชนขาดอานาจในการซ้อื และสินค้ามปี ริมาณมากเกนิ ไป ง. ถกู เฉพาะ ข้อ ก.และ ข. ตอบ ข. 62. การใชเ้ งินอย่างไรท่ีมีความสาคัญน้อยในระบบเศรษฐกจิ ก. เปน็ สอื่ กลางของการแลกเปล่ียน ข. เป็นมาตรฐานการชาระหนภี้ ายหนา้ ค. เป็นปัจจยั ในการเก็บรกั ษาค่า ง. เป็นรางวลั ตอบ ค. ข.หนี้สนิ ไมห่ มุนเวียน (Non Current Liabilities) 63. ข้อใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของหน้สี นิ ง.หนี้ค่าไถ่ ก.หนี้สนิ หมนุ เวียน (Current Liabilities) ค.หน้ีสินอื่นๆ ตอบ ง. องค์ประกอบของหนี้สนิ • หนสี้ ินหมุนเวยี น (Current Liabilities) ได้แก่ 1) เจ้าหนีก้ ารคา้ ซอ้ื สินค้ามายังไม่จา่ ยเงิน (Account Payable)

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 150 ------------------------------------------------------------------------------- 2) ต๋ัวเงินจ่าย (Notes Payable) – การให้คาสัญญาว่าจะชาระตามกาหนดระยะเวลา • หนสี้ ินไม่หมุนเวยี น (Non Current Liabilities) / หนส้ี ินระยะยาวคอื หนี้สนิ ท่ไี ม่สามารถแปรสภาพหรอื term การชาระเงินเกิน 12 เดือนเช่น - ฐานเงินกู้ - ฐานพันธบัตรเงินกู้ มกี ารกาหนดผลตอบแทนในระยะเวลาทแี่ น่นอน - ฐานหุ้นกู้ (Mort gate Payable) คือการกูโ้ ดยเอาทรัพย์สินเปน็ ประกนั ส่วนการกูต้ ิดจานองสว่ นใหญ่มี ดอกเบ้ยี ถือเป็นค่าใชจ้ า่ ยทางการเงนิ หนี้สนิ อ่ืนๆคอื หนส้ี ินอ่นื ๆทีไ่ ม่จัดอยู่ในทั้ง 2 ประเภท 64. ได้เสียคงเหลอื ในสินทรพั ยข์ องกจิ การหลงั จากหกั หนสี้ ินทง้ั ส้นิ ออกแล้วหมายถึง ก.Owner’s Equities ข.Shareholders Equities ค.Capital Stocks ง. ก และ ข ถูกตอ้ ง ตอบ ง. สว่ นของเจ้าของ (Owner’s Equities) หรือส่วนของผ้ถู ือหุ้น (Shareholders Equities) หมายถงึ สว่ นได้ เสยี คงเหลือในสินทรพั ยข์ องกิจการหลังจากหักหนี้สินทัง้ สิ้นออกแล้ว 65. ขอ้ ใดคือองคป์ ระกอบของส่วนของเจ้าของ ก.ทุนเรือนหุ้น (Capital Stocks) ข.ส่วนเกินมลู ค่าหนุ้ ค.กาไรสะสม ง.ถกู ทุกข้อ ตอบ ง. ทนุ เรือนหุ้น (Capital Stocks) แบ่งเป็น • ทุนห้นุ สามัญ (Common Stocks) เป็นหุน้ ท่วั ไปทข่ี ายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ • หุ้นปุริมสิทธิ์ (Prefer Stocks) เป็นหุ้นท่ีออกใหแ้ กค่ นบางกลมุ่ ซง่ึ มสี ทิ ธ์ิมากกวา่ หุ้นสามัญเช่น ได้รบั เงินปันผลการได้รบั สทิ ธก์ิ อ่ น 66. ข้อใดคอื หน้ีสินหมุนเวียน ก.เงนิ เบกิ เกินบัญชีธนาคาร ข.เจ้าหน้กี ารค้า ค.เงินกูย้ มื ระยะสัน้ ง.ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง. หนี้สนิ หมนุ เวียนระยะเวลาชาระไมเ่ กนิ 1 ปี ข.เจา้ หนก้ี ารค้า • เงินเบกิ เกินบัญชีธนาคาร ง.ถูกทุกข้อ • เจ้าหน้ีการค้า • เงินกู้ยมื ระยะสั้น • ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 67. ขอ้ ใดคอื หน้สี ินไม่หมุนเวยี น ก.เงินกู้ยืมระยะยาว ค.เงนิ กูย้ มื ระยะสั้น ตอบ ก หน้ีสนิ ไม่หมนุ เวยี นระยะเวลาชาระเงนิ เกนิ 1 ปี • เงินกูย้ มื ระยะยาว • พันธบัตรเงินกู้ • หนุ้ กู้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 151 ------------------------------------------------------------------------------- 68. แนวคิดหลกั ในการบริหารความเส่ียงคือขอ้ ใด ก. การระบคุ วามเสยี่ ง(Risk Identification) ข. การวัดความเสยี่ ง (Risk Measurement) ค. การบริหารความเสยี่ ง (Risk Management) ง. การตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยง (Risk Monitoring and control) จ.ถูกทุกข้อ ตอบ จ. 69. ความเสยี่ งหลัก ของสถาบนั การเงนิ คือข้อใด ก. ความเส่ยี งดา้ นกลยุทธ์ (Strategic Risk) ข. ความเส่ียงด้านเครดิต (Credit Risk) ค. ความเสีย่ งด้านตลาด (Market Risk) ง. ถูกทกุ ข้อ ตอบ ง. ความเสย่ี งหลัก 5 ประเภทของสถาบันการเงิน 1. ความเส่ยี งดา้ นกลยทุ ธ์ (Strategic Risk) 2. ความเส่ยี งดา้ นเครดิต (Credit Risk) 3.ความเสย่ี งด้านตลาด (Market Risk) 4.ความเสยี่ งด้านสภาพคลอ่ ง (Liquidity Risk) 5.ความเสีย่ งด้านปฏบิ ตั กิ าร (Operational Risk) 70. เงินกูจ้ ัดอยใู่ นหมวดใด ก. รายได้ ข. ทุน ค. สนิ ทรัพย์ ง. หนส้ี นิ ตอบ ง. ข. ใบกากบั สินค้า 71. ขอ้ ใดเป็นลักษณะของการสรุปขอ้ มูล ง. สมดุ รายวันขนั้ ต้น ก. การวางระบบบญั ชี ค. งบกาไรขาดทุน ตอบ ค. 72. รับบลิ ค่าไฟฟา้ จากการไฟฟ้านครหลวง สามารถบันทกึ บัญชโี ดย ก. เดบิตลกู หนี้ เครดิตรายได้ ข. เดบิตเจ้าหนี้ เครดติ เงนิ สด ค. เดบติ คา่ ไฟฟ้า เครดิตเจ้าหน้ี ง. เดบิตคา่ ไฟฟา้ เครดิตเงนิ สด ตอบ ค. 73. ข้อใดคอื หนส้ี ินหมุนเวียน ก. เงินลงทนุ ข. เงนิ กูร้ ะยะยาว ค. เงนิ ก้รู ะยะเวลา 2 ปี ง. เจา้ หนี้ ตอบ ง. 74. ขอ้ มูลทางการเงนิ มปี ระโยชนต์ อ่ บุคคลตามขอ้ ใดบา้ ง ก. รัฐบาล ข. เจา้ หน้ี ค. ผูล้ งทุน ง. ถูกทกุ ขอ้ ตอบ ง. 75. บัญชีค่าเชา่ สานกั งาน แสดงยอดในกระดาษทาการตามข้อใด ก. ดา้ นเดบิตของงบดลุ ข. ดา้ นเครดิตของงบกาไรขาดทุน

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 152 ------------------------------------------------------------------------------- ค. ดา้ นเดบิตของงบกาไรขาดทุน ง. ด้านเครดิตของงบดลุ ตอบ ค. 76. ข้อใดไมม่ ีในแบบฟอรม์ งบทดลอง ก. เดบิต ข. หน้าบัญชี ค. เลขที่บัญชี ง. ชอื่ บัญชี ตอบ ข. ข. งบดลุ ด้านเดบิต 77. กาไรสุทธจิ ะแสดงยอดดา้ นใดของกระดาษทาการ ง. งบกาไรขาดทุนดา้ นเดบิต งบดุลด้านเดบิต ก. งบกาไรขาดทุนด้านเดบิต งบดุลดา้ นเครดติ ค. งบดลุ ดา้ นเครดิต ตอบ ก. ---------------------

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 153 ------------------------------------------------------------------------------- แนวขอ้ สอบ ความรู้เกย่ี วกับเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง และนวัตกรรมเทคโนโลยี ปจั จบุ ันประเทศไทยไดม้ ีการขบั เคลอื่ นพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหนา้ สูงขึน้ ในดา้ นตา่ งๆ อย่างไรก็ดี จากรายงานการจัดอันดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั (The Global Competitiveness Report) ของ World Economic Forum (WEF) พบวา่ ประเทศไทยยงั คงถูกจดั ใหอ้ ยู่ในกลุ่มประเทศทขี่ ับเคลื่อน โดยการพฒั นา ประสิทธิภาพการผลติ (Efficiency-driven Country) เปน็ หลัก เปน็ กล่มุ ประเทศท่ีมีรายไดเ้ ฉลยี่ ต่อหวั ของ ประชากร (GDP per capita) อยู่ที่ 3,000-8,999 เหรยี ญดอลลารส์ หรัฐต่อปี ดังนั้น การพฒั นาประเทศใหม้ ีการ เตบิ โตเพื่อหลดุ พน้ กบั ดกั รายได้ปานกลาง จาเปน็ ต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถในดา้ นต่าง ๆ ท่ีจะช่วยยกระดับ การพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะการวิจยั และพฒั นาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาทุนมนษุ ย์ สรา้ งสภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสมต่อการลงทุนและการพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐาน เพ่ือกา้ วไปสกู่ ลุ่มประเทศที่ ขบั เคลอื่ นโดยนวัตกรรมการผลิต (Innovation-driven Country) หรือ Thailand 4.0 และประเด็นอ่ืนๆ ทจี่ ะต้อง ไดร้ ับการพัฒนาอยา่ งตอ่ เนื่อง ทง้ั ในเร่ืองของความเทา่ เทียม โอกาส คุณภาพชีวิต ความมน่ั คง และความพร้อมท่ีจะ รองรับการเปล่ยี นแปลงในอนาคต ตลอดจนการวางรากฐานการพัฒนาในระยะตอ่ ไปให้มคี วามสมดลุ ย่งั ยืน เมือ่ พจิ ารณาภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงท่ผี า่ นมาจะเหน็ ว่าเศรษฐกิจไทยปรบั ตัวดี ขึน้ อย่างชัดเจน จากการขยายตวั ร้อยละ 1.0 ในปี 2557 เป็นรอ้ ยละ 4.3 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 และคาดว่า ท้งั ปี 2561 จะขยายตวั รอ้ ยละ 4.2 สาหรบั ในปี 2562 คาดวา่ เศรษฐกจิ จะขยายตัวลดลงเหลอื ร้อยละ 4.0 ตาม แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกจิ โลก สถานการณ์การออกจากสมาชิกสหภาพยโุ รปของสหราชอาณาจกั ร (Brexit) สงครามการค้า และดอกเบย้ี โลก แต่ทงั้ น้ยี ังคงมีอัตราการขยายตวั สงู กว่าการขยายตัวของเศรษฐกจิ โลก อันเนือ่ งมาจากองคป์ ระกอบหลกั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยมีการขยายตวั และกระจายตัวมากข้นึ ในทกุ ดา้ น ทง้ั มลู คา่ การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน การอุปโภคบรโิ ภคภาคเอกชน รวมท้งั ผลผลติ ภาคอุตสาหกรรมและการจา้ ง งานปรบั ตัวดขี ึน้ ตามลาดับ โดยมผี ูว้ า่ งงานคดิ เปน็ เพียงร้อยละ 1 ของกาลังแรงงานรวม ซงึ่ เปน็ อัตราท่ีน้อยทีส่ ุดเปน็ อันดับ 4 ของโลก ตลอดจนสดั สว่ นหน้ีภาครัฐทรงตัวจากอัตราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจแม้ว่ารัฐบาลจะมี โครงการลงทุนขนาดใหญ่อย่างต่อเนอ่ื ง สาหรับผลการพัฒนาประเทศไทยในช่วงทผ่ี า่ นมา (พ.ศ.2557-2561) ภาครัฐมคี วามมุ่งม่ันท่ีจะพฒั นา ประเทศให้มีการเจรญิ เติบโตอย่างมีเสถียรภาพในมติ ติ ่าง ๆ ประกอบดว้ ย (1) การปฏริ ูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ของประเทศ โดยการพัฒนาความสามารถในการแขง่ ขนั พรอ้ มกบั ให้ความสาคัญในการกากับดแู ลเศรษฐกิจฐานราก (2) การปฏิรปู โครงสร้างทางสังคมของประเทศเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวติ และสรา้ งโอกาสของประชาชน (3) การลด ความเส่ยี งของประเทศในด้านต่างๆ (4) การสร้างความภาคภมู ิใจและการได้รับการยอมรบั จากนานาชาติ และ (5) การแก้ไขกฎหมายและปรับระบบการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน ดงั มีรายละเอียดท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ 1. การปฏิรปู โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ เพ่อื เพ่ิมขดี ความสามารถในแขง่ ขันควบคู่กบั การดูแล เศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ประกอบด้วย 1.1 ความสามารถในการแขง่ ขนั 1.1.1 การปรับโครงสรา้ งอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อขับเคล่ือนประเทศไทยไปสปู่ ระเทศที่พัฒนาแล้วด้วย นวตั กรรมและเทคโนโลยแี ห่งอนาคต (Innovation driven) ในชว่ งปี 2558-2561 ประเทศไทยมกี ารลงทนุ กวา่

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 154 ------------------------------------------------------------------------------- 539,463 ลา้ นบาทในอตุ สาหกรรม New S-Curve ประกอบด้วย (1) อตุ สาหกรรมเช้ือเพลงิ ชวี ภาพและเคมชี วี ภาพ (2) อุตสาหกรรมการแพทยค์ รบวงจร (3) อุตสาหกรรมดจิ ิทลั (4) อตุ สาหกรรมอากาศยานและโลจิสติกส์ (5) อุตสาหกรรมเคร่ืองจกั รอตั โนมตั ิและห่นุ ยนต์ และได้กาหนดอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพ่ิมเติม ได้แก่ อุตสาหกรรม ปอ้ งกนั ประเทศ ทัง้ น้กี ารดาเนนิ การได้มีการพัฒนาเชงิ พน้ื ที่เพอ่ื รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตโดยการพัฒนาเขต พฒั นาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทจ่ี ะยกระดบั ประเทศไทยสกู่ ารเป็นศูนยก์ ลางทางเศรษฐกิจระดบั โลก โดยมีการ อนมุ ตั ิโครงการพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานดา้ นคมนาคมขนสง่ ทีส่ าคญั เพื่อพัฒนาระบบการจัดการขนสง่ แบบไร้ รอยต่อ (Seamless Operation) ไดแ้ ก่ ระบบรางเพ่ือเชือ่ มโยง 3 สนามบิน ไดแ้ ก่ สุวรรณภมู ิ ดอนเมือง อตู่ ะเภา การพัฒนาทา่ เรือนา้ ลึกหลกั 3 แหง่ ได้แก่ ทา่ เรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ท่าเรอื มาบตาพดุ ระยะท่ี 3 และท่าเรือพาณิชย์ สตั หบี การพัฒนาโครงขา่ ยรถไฟเชอ่ื มโยง 3 ท่าเรือ ซงึ่ กระตนุ้ ให้เกิดการลงทุนในพนื้ ท่ี EEC มากขน้ึ 1.1.2 การสร้างความได้เปรียบในเชงิ แข่งขัน โดยการขบั เคลื่อนเศรษฐกิจทีใ่ ชน้ วัตกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยที ่สี ามารถสรา้ งมูลคา่ เพ่มิ ให้กับเศรษฐกิจเพอื่ ใหส้ อดรับกับบริบทของเศรษฐกจิ และ สงั คมโลกสมยั ใหม่ตามนโยบาย Thailand 4.0 การเพ่ิมการลงทนุ เพื่อการพฒั นาการวิจัยและนวัตกรรม (R&D) เพอื่ สร้างนวัตกรรมและต่อยอดเชิงพาณชิ ย์ ลดการนาเข้า และใหป้ ระเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ทาใหก้ าร ลงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรมมีสดั ส่วนต่อ GDP เพิ่มขน้ึ จากร้อยละ 0.5 ในปี 2556 เปน็ ร้อยละ 1 ในปี 2560 การจัดตง้ั กระทรวงการอุดมศึกษาวิจยั และนวัตกรรม เพอ่ื บรู ณาการ การเรียนการสอนโดยให้ความสาคญั กบั การ วจิ ัยและพัฒนาเพือ่ สรา้ งองค์ความร้ใู หมท่ างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคกู่ ับการพัฒนาคนท่ีมีคณุ ภาพ การ สร้างนักรบเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยการสร้างและพฒั นาผ้ปู ระกอบการยคุ ใหมท่ ม่ี ีทกั ษะ ความสามารถในการแขง่ ขนั และอตั ลกั ษณท์ ี่ชดั เจน อาทิ พฒั นาศกั ยภาพและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผ้ปู ระกอบการ SMEs การสร้างและ พัฒนา Tech Start up หรือ Start up ที่มีศักยภาพเชิงธุรกิจ การพัฒนา Smart Farmer และ Young Farmer นอกจากน้ไี ด้มกี ารแกไ้ ขปัญหาการค้าระหว่างประเทศและที่กระทบกบั ความสามารถในการแขง่ ขนั และกาหนด แนวทางการพัฒนาท่สี าคญั เช่น การแก้ไขปัญหาทรพั ย์สินทางปัญญาท่สี หรฐั ฯ เลือ่ นสถานะการคุม้ ครองทรัพย์สนิ ทางปัญหาจาก Priority Watch List (PWL) เป็น Watch List (WL) การจัดทาข้อตกลงทางการคา้ เสรี (FTA) กบั ชิลี อินเดีย และฮ่องกง เป็นตน้ 1.1.3 การสร้างความเข้มแขง็ ด้านการท่องเทย่ี ว โดยรกั ษาฐานทรพั ยากรการทอ่ งเทย่ี วให้มีคุณภาพและ พัฒนาการเพมิ่ รายไดจ้ ากการท่องเทย่ี วภายในประเทศโดยเฉพาะเมืองรอง รวมท้ังรกั ษาการเป็นจุดหมายปลายทางที่ สาคญั ของการท่องเทย่ี วระดับโลกเพม่ิ สดั สว่ นของนกั ท่องเที่ยวท่ีมคี ณุ ภาพสงู โดยประเทศไทยถือว่าเปน็ จุดหมาย ปลายทางอนั ดบั หน่ึงของประเทศในเอเชยี - แปซฟิ กิ มจี านวนนกั ท่องเที่ยวสูงสุดเป็นอันดบั 10 ของโลก และ สามารถสร้างรายไดจ้ ากการท่องเทย่ี วกวา่ 57,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรฐั สูงสุดเป็นอนั ดับ 4 ของโลก โดย รายได้จากการท่องเท่ยี วทั้งภายในประเทศและระหวา่ งประเทศมีสดั ส่วนเพ่ิมข้ึนอยา่ งต่อเน่ืองจากรอ้ ยละ 14.2 ต่อ GDP เป็นร้อยละ 18.4 ต่อ GDP ในปี 2561 1.1.4 การเร่งลงทุนพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐานของประเทศ หลังจากหยดุ นงิ่ มา 10 ปี โดยดาเนนิ การพัฒนา โครงขา่ ยคมนาคมและขนสง่ ไร้รอยตอ่ เชื่อมไทยเชื่อมโลก และปรบั สภาพแวดลอ้ มให้เออ้ื ตอ่ การพฒั นา อตุ สาหกรรมและบรกิ ารอนาคต ด้วยการพัฒนาที่ครอบคลุม การพฒั นาโครงสร้างพืน้ ฐานด้านคมนาคมขนส่ง อาทิ การลงทนุ ระบบรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ทางหลวงพเิ ศษระหว่างเมอื ง และระบบรถไฟฟา้ ขนสง่ มวลชนในเขต

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 155 ------------------------------------------------------------------------------- กรงุ เทพและปรมิ ณฑล วงเงินรวมกว่า 2.4 ล้านล้านบาท การพัฒนาโครงขา่ ยโทรคมนาคม อาทิ การขยายโครงขา่ ย อนิ เทอร์เน็ตความเรว็ สูงครอบคลมุ 59,255 หมูบ่ ้าน การลงทนุ โครงข่ายเคเบิลใตน้ า้ ระหว่างประเทศและการพฒั นา ระบบดาวเทยี มสารวจเพ่ือการพัฒนา วงเงินรวม 13,779 ล้านบาท และ การปรับโครงสร้างพ้ืนฐานให้รองรับ รปู แบบการค้า การขนสง่ การเงนิ และการบรหิ ารจัดการภาครฐั แบบดิจิทลั ยุคใหม่ (Digital Transformation) อาทิ การพัฒนาระบบ E-payment ระบบ National Single Window เพ่อื อานวยความสะดวกทางการค้า การ จดั ทาฐานข้อมลู ขนาดใหญท่ ี่สาคญั เชน่ Doing Business Portal, TPMAP เพ่อื ใช้เป็นขอ้ มลู ประกอบในการ วางแผนพัฒนาประเทศในระยะตอ่ ไป เป็นตน้ 1.1.5 การดแู ลการจัดการทรัพยากรของประเทศ เพ่อื สร้างความม่ันคงของการใชท้ รพั ยากรอย่างมเี สถยี รภาพ อย่างยงั่ ยนื เช่น การพัฒนาทรพั ยากรน้าในภาคการผลิตที่สามารถเพิ่มพนื้ ทช่ี ลประทานได้ 2.83 ลา้ นไร่ และมแี หลง่ น้าสาหรับไร่นา 180,278 แห่ง รวมทง้ั การจัดการอทุ กภัยชมุ ชนเมอื ง 14 แหง่ เนื้อที่ 0.4 ลา้ นไร่ สาหรับด้าน พลงั งานมกี ารบรหิ ารจัดการกา๊ ซธรรมชาตโิ ดยสามารถเปิดประมูลสมั ปทานทจ่ี ะหมดอายขุ องแหล่งปิโตรเลียม บงกช-เอราวัณ ทาให้มีก๊าซธรรมชาติใช้อย่างต่อเน่ืองลดการนาเขา้ ประมาณ 22 ล้านตัน หรือประมาณ 4.6 แสน ล้านบาท สรา้ งรายไดภ้ าครัฐเพม่ิ ข้ึน 100,000 ลา้ นบาท เป็นตน้ 1.2 การดแู ลเศรษฐกิจฐานราก การดาเนินการในระยะทผี่ า่ นมาภาครัฐม่งุ เน้นการสรา้ งโอกาสทางเศรษฐกจิ ใหช้ มุ ชน อาทิ การจดั สรรทดี่ ินทากินและสง่ เสริมการพฒั นาอาชีพ ใน 61 จังหวดั จานวน 46,674 ราย พ้นื ท่ี 399,481 ไร่ การพฒั นา Smart Farmer มากกว่า 1 ล้านราย การช่วยเหลือเกษตรกรท่ีมีปญั หา เช่น ช่วยเหลือ ชาวนา 3.63 ลา้ นครวั เรือน วงเงิน 39,506 ล้านบาท และชาวสวนยาง 1.54 ลา้ นครัวเรือน วงเงนิ 18,882 ลา้ นบาท เป็นต้น รวมท้ังได้มกี ารระบายข้าวจากโครงการรบั จานาข้าว กวา่ 17 ลา้ นตัน การส่งเสรมิ ให้มกี ารผลติ สินค้าเกษตร ใหส้ อดคลอ้ งกับความต้องการของตลาด ผา่ นการพฒั นาเกษตรแปลงใหญ่ 4,663 แปลง พื้นท่ี 5.41 ล้านไร่ การใช้ Agri-Map เพ่ือปรบั เปลยี่ นการผลติ สินค้าเกษตรให้เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของพ้นื ที่ การวางแผนการผลิตและ การตลาด การเพ่มิ มูลค่าสินคา้ ของชุมชนผ่านการดาเนนิ โครงการสินคา้ OTOP และส่งเสริมสินคา้ GI สามารถ ขยายตลาดใหเ้ ป็นทีร่ ู้จักในระดับนานาชาติด้วยการสร้างโอกาสในการจับคธู่ รุ กจิ และนาผลิตภณั ฑ์ OTOP จาหน่าย บนเคร่ืองบนิ และสามารถเพ่ิมมูลค่าของผลิตภัณฑไ์ ด้มากขน้ึ โดยเฉพาะสนิ ค้า OTOP ทีม่ แี นวโนม้ การสร้างรายได้ เพิ่มมากขน้ึ อย่างต่อเนื่องจาก 98,000 ลา้ นบาท ในปี 2557 เป็น 190,000 ล้านบาทในปี 2561 นอกจากนี้ ภาครฐั ไดต้ ระหนักถึงการพฒั นาคุณภาพชวี ิตของประชาชนให้สามารถดาเนินชวี ติ ได้อยา่ งมีความสขุ โดยการสร้างงาน สร้างรายได้ใหแ้ กช่ ุมชน เช่น สนิ เช่ือเพื่อการซอื้ บ้านและซ่อมแซมบา้ นและสินเชือ่ เพ่ือทอ่ี ยู่อาศัย การให้สวัสดกิ ารต่างๆ ผา่ นบัตรสวสั ดิการแห่งรัฐ การเปดิ โครงการรา้ นธงฟ้า การแก้ไขปัญหาหน้ีนอกระบบ ตลอดจนการดาเนินการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชมุ ชนเมอื งรวมทัง้ สน้ิ จานวน 79,598 กองทนุ เพ่ือเปน็ การสรา้ ง รายได้ สง่ เสริมการออม รวมทัง้ การพฒั นาอาชพี และคณุ ภาพชวี ติ ให้เกิดความม่ันคง กินดอี ยดู่ ีและมีความสขุ มาก ย่ิงข้ึน โดยสดั ส่วนหนค้ี รวั เรือนต่อ GDP มีการปรับตัวลดลง และยอดคงค้างสนิ เชือ่ เพ่ืออปุ โภคบริโภคสว่ นบคุ คล มีสัดส่วนของสินเชื่อเพ่ือทีอ่ ยอู่ าศัยคดิ เป็นรอ้ ยละ 50.4 ของสินเชื่อรวมจากธนาคารพาณชิ ยท์ ้งั หมด สาหรบั การพัฒนาให้เกิดการกระจายความเจรญิ ออกสภู่ ูมิภาคเพอื่ ให้ประชาชนในพ้ืนท่มี ีรายไดแ้ ละ คุณภาพชชวี ิตที่ดีข้ึน ได้ดาเนินการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 พ้ืนท่ี มผี ปู้ ระกอบการ SMEsสนใจจดั ตง้ั ธุรกจิ จานวน 3,017 ราย และมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI วงเงนิ รวม 8,818.5 ล้านบาทรวมท้ังได้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 156 ------------------------------------------------------------------------------- ดาเนนิ การจดั ทากรอบแนวคิดการพัฒนาพ้ืนทร่ี ะเบยี งเศรษฐกจิ ภาคใต้อยา่ งยั่งยนื (SEC) เพื่อพฒั นาพน้ื ที่ภาคใต้ และมุง่ เนน้ ใหเ้ กดิ การใช้ประโยชน์จากศกั ยภาพของพน้ื ทใี่ ห้เกิดประสทิ ธิภาพสงู สุด 2. การปฏริ ูปโครงสรา้ งทางสงั คมของประเทศ เป้าหมายการปฏริ ปู โครงสรา้ งทางสังคมมงุ่ เน้นการพัฒนาคนในทกุ ช่วงวัย ทกุ กลุ่มเป้าหมาย และไมท่ ิง้ ใครไวข้ า้ งหลงั ประกอบดว้ ย 3 แนวทางหลกั ดงั นี้ 2.1 การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และการดูแลทกุ ขส์ ุขของประชาชน ม่งุ เน้นการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ซึ่งเป็น ทรพั ยากรท่ีมคี า่ และสาคัญของประเทศและเป็นรากฐานสาคญั ของการพฒั นาอยา่ งยั่งยืนโดยกาหนดนโยบายและ การดาเนินการทีส่ าคัญ ดังน้ี 2.1.1 การศกึ ษา ได้แก่ การพัฒนาเด็กปฐมวยั เพ่ือวางรากฐานสูก่ ารเตบิ โตในช่วงถดั ไปอย่างมคี ณุ ภาพและ พัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรียนใหเ้ ดก็ ทกุ คนไดม้ ีโอกาสได้รบั การศกึ ษาท่ีมคี ณุ ภาพเท่าเทียมกัน โดย จดั ทามาตรฐานสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัยแหง่ ชาติ จัดทา School Mapping และร่างพระราชบัญญัติการพฒั นาเด็ก ปฐมวยั การลดความเหลือมล้าดา้ นการศึกษา โดยจัดต้ังกองทนุ เพอื่ ความเสมอภาคทางการศกึ ษาสามารถสนบั สนุน ผู้ขาดแคลนทุนทรพั ย์และดอ้ ยโอกาสไปแล้วกวา่ 4.3 ลา้ นคน และ การยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาในทกุ ระดับ ทั้ง การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพือ่ ตอบโจทย์ด้านการพฒั นาอุตสาหกรรมในอนาคตของประเทศ 2.1.2 การพฒั นาและยกระดบั บรกิ ารสุขภาพขั้นปฐมภูมิ ให้ความสาคัญกับการดแู ลสุขภาพของประชาชน ในระดับพนื้ ท่ี โดยกาหนดกลไกต่าง ๆ เพ่ือดูแลสขุ ภาพของประชาชนในลักษณะเชงิ รุก โดยบุคลากรทางด้าน สาธารณสขุ รว่ มกับภาคสว่ นทีเ่ กยี่ วขอ้ ง อาทิ คลินกิ หมอครอบครัว ซึง่ ปี 2561 มมี ากกวา่ 800 ทมี มีแพทย์พรอ้ มให้ คาปรึกษาและดแู ลสุขภาพถึงท่ีบ้าน การส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสขุ ประจาหม่บู ้าน สนับสนนุ การดาเนินงาน ของ อสม. โดยเพิ่มค่าปว่ ยการเปน็ 1,000 บาท การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ระดบั อาเภอ เพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตท่ดี ี ขึน้ ในระดับพ้นื ที่ผ่านการขับเคล่อื นโดยคณะกรรมการพัฒนาคณุ ภาพชีวิต (พชอ.) ทง้ั 878 อาเภอ นโยบาย \"เจบ็ ปว่ ยฉกุ เฉินวกิ ฤต มีสิทธิทกุ ท่ี” (UCEP) โดยจัดต้งั ศูนยป์ ระสานคุ้มครองสิทธผิ ปู้ ว่ ยฉกุ เฉนิ วกิ ฤต (UCEP Coordination Center) อานวยความสะดวกใหก้ บั ประชาชนเข้ารบั การใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินโดยไม่ต้องสารอง ค่ารกั ษาพยาบาล 72 ชัว่ โมงแรก 2.1.3 การดแู ลทุกข์สุขของประชาชน ดาเนินการเปดิ ศนู ย์ดารงธรรมเพอื่ ทาหน้าทีร่ บั เรือ่ งร้องเรยี นร้องทุกข์ และอานวยความยตุ ธิ รรมแก่ประชาชน ใหค้ าปรึกษาดา้ นปัญหาความต้องการ ความช่วยเหลอื ในเร่ืองต่าง ๆ ไดท้ ุก เร่ืองตลอดเวลา สาหรบั ข้อมูลข่าวสารและขอ้ มูลเก่ียวกับบรกิ ารจากหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ประชาชานสามารถ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1111 ซ่งึ จะช่วยใหป้ ระชาชนได้รบั ความสะดวกและรวดเร็วมากข้นึ นอกจากนี้ ดา้ น การบรรเทาสาธารณภัยไดช้ ว่ ยเหลอื เกษตรกรผปู้ ระสบภัยพิบตั ใิ นระหว่างปี 2557-2561 รวม 49,880.64 ล้านบาท และได้เร่งรัดการเยียวยาผูป้ ระสบอุทกภัยในพ้ืนทภ่ี าคใต้อยา่ งเรง่ ดว่ น รวมทั้งการวางแผนแก้ปัญหาอทุ กภัยและภัย แล้งในระยะยาวโดยการบริหารจัดการทรพั ยากรนา้ และการจัดการแหล่งน้าอยา่ งเปน็ ระบบ 2.2 การปอ้ งกนั และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ได้ดาเนินการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และรกั ษาสิง่ แวดล้อม ด้วยการจดั ทาแผนปฏบิ ัตกิ ารเพือ่ ให้มกี ารดาเนินงานท่ีชัดเจนท้งั เจา้ หนา้ ท่ีรัฐและผ้มู ีสว่ น เกย่ี วขอ้ ง การปรบั แกไ้ ขกฎหมายและการบงั คับใช้ และกาหนดมาตรการและแนวทางสง่ เสรมิ สนับสนุน โดยมกี าร ดาเนินงานทสี่ าคัญ อาทิ การลักลอบคา้ และครอบครองงาช้าง การบุกรุกทด่ี ินของรัฐเพ่ืออยู่อาศัยและทากนิ การตดั ไมม้ คี า่ ในที่ดินกรรมสทิ ธ์ิ การแก้ไขปญั หาหมอกควันไฟปา่ การแกไ้ ขปญั หาขยะพลาสติกและโฟม การยกเลกิ การ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 157 ------------------------------------------------------------------------------- นาเข้าขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ สผ์ ิดกฎหมาย 2.3 การจัดระเบียบสังคม เพื่อสง่ เสริมการสรา้ งชมุ ชนให้นา่ อยู่และสร้างสังคมให้อย่รู ่วมกันอย่างเป็นสุข โดยดาเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น การจัดระเบียบทางเท้าและหาบเร่แผงลอย การปรับปรุงภูมทิ ัศน์ การพฒั นาพน้ื ที่ สาธารณะและลาคลองเพอ่ื การดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย กวดขันและปราบปรามการ การแขง่ รถยนตแ์ ละรถจักรยานยนตใ์ นทางสาธารณะ กาหนดนโยบายลดอบายมขุ ในทุกกลมุ่ วยั 3. การลดความเส่ยี งของประเทศ การดาเนนิ การในระยะทผ่ี ่านมาไดม้ ีการติดตามและแกไ้ ขปัญหาระหวา่ ง ประเทศทสี่ ะสมมานานและสง่ ผลกระทบกับการพัฒนาประเทศอย่างมีนัยสาคัญเพอื่ ลดความเส่ยี งและช่วยลดความ รนุ แรงของผลกระทบทางเศรษฐกจิ ในอดีต รวมทง้ั สร้างโอกาสและความยงั่ ยนื ให้เศรษฐกจิ ไทยในระยะยาว โดย ดาเนินการปรบั ปรุงแก้ไขกฎระเบียบและบังคบั ใช้กฏหมาย รวมทัง้ จดั ทาแผนการบรหิ ารจดั การต่างๆ ติดตามและ เฝ้าระวงั รวมท้งั จัดทาข้อตกลงระหวา่ งประเทศ ทาใหส้ ามารถลดความเสย่ี งของประเทศได้เปน็ ผลสาเร็จ อาทิ การ ปลดธงแดงขององคก์ ารการบินพลเรอื นระหวา่ งประเทศ หรอื ICAO (วันที่ 5 ตุลาคม 2560) จากประเดน็ มาตรฐานความปลอดภยั ด้านการบนิ การปลดใบเหลืองของสหภาพยุโรป (วันท่ี 8 มกราคม 2562) จากประเด็น ปัญหาด้านประมง หรือ IUU และการทาให้ประเทศไทยขึ้นมาอยู่ Tier 2 ในประเด็นการคา้ มนษุ ย์ 4. การสรา้ งความภาคภมู ิใจและการไดร้ ับการยอมรบั จากนานาชาติ โดยมผี ลสาเร็จของการดาเนินการท่ี สาคญั ไดแ้ ก่ ประเทศไทยเป็นประธาน G77 ปี 2559 สามารถบรรจหุ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (SEP) เปน็ แนวทางการบรรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาท่ียั่งยืน (SDGs) ภายใต้นโยบาย SEP for SDGs Partnership ซ่ึงได้รับ ความร่วมมือจากประเทศกาลังพัฒนา 24 ประเทศ และภาคีอน่ื ๆ ในการนาไปประยุกตใ์ ช้ การดารงตาแหน่ง ประธานอาเซยี น ในปี 2562 ท่ีประเทศไทยมบี ทบาทเชงิ รุกอยา่ งสรา้ งสรรค์ผ่านภายใต้แนวคดิ \"ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าว ไกลและย่ังยนื ” โดยผลักดนั ประเดน็ ตา่ งๆ อาทิ การรกั ษาความเปน็ แกนกลางของอาเซียนในภูมิภาคเพ่ือสนั ติภาพ การสรา้ งความเช่ือมโยงระหวา่ งกันในอาเซียนกบั ภมู ิภาคอืน่ เพื่ออาเซียนทไี่ รร้ อยต่อ และการแก้ไขปญั หา อาชญากรรมขา้ มชาติ การเสนอแผนแมบ่ ท ACMECS ระยะ 5 ปี ของประเทศไทยทีส่ ่งเสรมิ การพฒั นาภมู ภิ าค อย่างยง่ั ยืน นอกจากน้ี ประเทศไทยยังไดร้ บั การยอมรบั ให้เปน็ สมาชกิ ประเภท Participant ของ OECD ดา้ น ดิจิทัลและด้านวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม นอกจากนี้ประเทศไทยได้รับการจดั อนั ดบั ท่ีดขี ึน้ ในระดับ นานาชาติจากการสรา้ งบรรยากาศท่ีเอื้อตอ่ การเพม่ิ ขีดความสามารถทางแขง่ ขันให้กบั ภาคธรุ กจิ สาหรับการจัดอนั ดับขององค์กรระหวา่ งประเทศทเ่ี ป็นท่ียอมรบั มีลาดับทดี่ ขี ้ึน อาทิ อันดบั ความยากงา่ ยใน การประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ประเทศไทยอยู่ในอนั ดบั ที่ 26 ในปี 2561 มีอนั ดับที่ดขี ึ้น 20 อนั ดบั การจดั อนั ดบั ความสามารถทางการแขง่ ขันระดับโลก 4.0 (Global Competitiveness Index: GCI 4.0) ประเทศไทยอยู่ในอันดบั ที่ 38 ในปี 2561 มีอนั ดับท่ีดีขน้ึ 2 อนั ดับ และการวัดประสทิ ธภิ าพระบบโลจสิ ติกส์ ระหวา่ งประเทศ (International Logistics Performance Index) ประเทศไทยอย่ใู นอันดับที่ 32 ในปี 2561 มี อันดบั ที่ดีขนึ้ 13 อันดบั การประเมนิ ผลดัชนนี วัตกรรมโลก (Global Innovation Index : GII) ประเทศไทยอยใู่ น อันดับที่ 44 ในปี 2561 มอี ันดบั ทดี่ ขี ้ึน 7 อนั ดับ 5. การแกไ้ ขกฎหมายและปรับระบบการบริหารราชการแผน่ ดิน ประกอบดว้ ย 5.1 การแกไ้ ขและปรับปรุงกฎหมาย เพือ่ ใหป้ ระเทศไทยมีกฎหมายที่ทนั สมัยสอดคลอ้ งกับสถานการณ์ ปจั จุบัน ลดความเหล่ือมล้าและสรา้ งเป็นธรรมในสังคม โดยมพี ระราชบญั ญัติทผ่ี า่ นพิจารณาของสภานติ ิบัญญัติ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 158 ------------------------------------------------------------------------------- แห่งชาติ (สนช.) แลว้ ทงั้ หมดจานวน 346 ฉบบั และอย่รู ะหว่างการพิจารณาอีก 103 ฉบับ โดยมกี ฎหมายทส่ี าคญั เชน่ 1) ด้านเศรษฐกิจ อาทิ พ.ร.บ. สง่ เสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ พ.ร.บ. ว่าด้วยธรุ กรรมทาง อิเล็กทรอนกิ ส์ 2) ดา้ นความเหลอ่ื มลา้ อาทิ พ.ร.บ. จัดรปู ทีด่ ินเพอ่ื เกษตรกรรม และ พ.ร.บ. คุ้มครองประชาชนใน การทาสญั ญาขายฝากที่ดินเพ่ือเกษตรกรรมหรอื ที่อยู่อาศยั 3) ดา้ นความมั่นคง อาทิ พ.ร.บ.ว่าดว้ ยการกระทา ความผิดเกยี่ วกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ. ป้องกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ และ พ.ร.บ. การรกั ษาความม่ันคง ปลอดภัยไซเบอร์ 4) ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม อาทิ พ.ร.บ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศกึ ษา พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมลู ส่วนบคุ คล และ พ.ร.บ. การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั 5) ด้านสวสั ดกิ าร อาทิ พ.ร.บ. คมุ้ ครองแรงงาน และ พ.ร.บ. การจัดประชารัฐสวสั ดกิ ารเพ่ือเศรษฐกิจฐานรากและสังคม 6) ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม อาทิ พ.ร.บ. สงวนและ ค้มุ ครองสัตวป์ ่า และ พ.ร.บ. ป่าชุมชน และ 7) ด้านกระบวนการยุติธรรม/ภาครัฐ อาทิ พ.ร.บ. กองทุนยตุ ธิ รรม พ.ร.บ. การอานวยความสะดวกในการพจิ ารณาอนุญาตของทางราชการ และ พ.ร.บ. การไกล่เกลย่ี ข้อพิพาท 5.2 การปรบั ระบบการบริหารราชการแผน่ ดนิ ประเทศไทยมีการจดั ทายุทธศาสตรช์ าติ (พ.ศ. 2561 – 2580) ฉบับแรกของประเทศไทย เพอื่ เปน็ กรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยมวี สิ ยั ทัศน์ \"ประเทศ ไทยมคี วามม่นั คง มง่ั คง่ั ย่ังยืน เป็นประเทศท่ีพัฒนาแลว้ ด้วยการพฒั นาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” โดยประกอบด้วย 6 ประเดน็ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านความม่นั คง 2) ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสรา้ ง ความสามารถในการแขง่ ขนั 3) ยุทธศาสตร์ชาตดิ า้ นการพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ 4) ยุทธศาสตรช์ าตดิ ้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม 5) ยุทธศาสตรช์ าติด้านการสร้างการเตบิ โตบน คุณภาพชวี ิตท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 6) ยุทธศาสตรช์ าติด้านการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบรหิ าร จดั การภาครฐั ซึ่งภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติจะประกอบด้วย 23 แผนแมบ่ ทการพัฒนาที่จะครอบคลมุ การดาเนินการใน ประเด็นต่างๆ และมแี ผนการปฏิรปู ประเทศ 11 ดา้ น เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาประเทศในระยะยาวทีจ่ ะ นาไปสูก่ ารลดความเหล่ือมล้าและความไมเ่ ปน็ ธรรมในสังคม พฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศใหเ้ ตบิ โตอยา่ งมี เสถยี รภาพ สรา้ งรากฐานและพัฒนาชมุ ชนและสงั คมใหม้ คี วามเขม้ แข็งในทกุ ระดบั แก้ไขปญั หาและพัฒนาการ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมอยา่ งยั่งยนื สรา้ งความโปรง่ ใสและเพิ่มประสิทธภิ าพ กระบวนการทางานของภาครฐั รวมท้ังพัฒนากระบวนการยตุ ธิ รรมและปรบั ปรุงกฎหมาย สรปุ ผลการพัฒนาท่ผี ่านมา ในระยะ 5 ปี (พ.ศ.2557-2561) ทผี่ ่านมาไดม้ ีการวางรากฐานการขยายตัวทาง เศรษฐกจิ ให้มีเสถียรภาพ สร้างโอกาสใหช้ มุ ชนในการมรี ายไดท้ มี่ ่นั คงในระยะยาว พฒั นาคุณภาพชวี ิต ดแู ลทกุ ข์สุข และความเปน็ อยู่ของประชาชนในทกุ ช่วงวยั ภายใตก้ ารบรหิ ารจดั การทรพั ยากรอย่างเป็นระบบ มปี ระสิทธิภาพ ส่งผลกระทบกับประชาชนในทกุ กลุม่ อาทิ ประชาชนตลอดช่วงชวี ิต ภาคครัวเรอื น กลุ่มผู้ประกอบการ กล่มุ เกษตรกร และกลมุ่ ผู้ด้อยโอกาส แตก่ ย็ งั คงมีปญั หาทีจ่ ะต้องแก้ไขต่อไป อาทิ ความเหลื่อมลา้ ทรัพยากรธรรมชาติ การเพิ่มขดี ความสามารถในการแขง่ ขัน 6. การวางแผนอนาคตของประเทศไทยในระยะตอ่ ไป การพัฒนาประเทศไทยในระยะตอ่ ไปควรม่งุ เน้น การแก้ไขปญั หาพืน้ ฐานในสังคมที่มอี ย่ใู นปจั จบุ ันให้มีความต่อเน่ือง ยกระดบั ประสทิ ธภิ าพในการดูแลคนทุกชว่ ง วยั ตลอดจนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอาศยั อุตสาหกรรมศักยภาพและการพฒั นาพ้ืนท่เี ศรษฐกจิ ใหมท่ จ่ี ะเขา้ มา รองรบั การขยายตัวของเศรษฐกจิ โลก โดยสามารถสรุปได้เป็น 3 ส่วน ครอบคลมุ 15 ประเดน็ เร่งด่วน ดังนี้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 159 ------------------------------------------------------------------------------- 6.1 การแกไ้ ขปัญหาพ้ืนฐาน ประกอบด้วย 1) ตาบลมัน่ คง มัง่ ค่ัง ยงั่ ยืน เน้นสร้างความสามัคคปี รองดอง และการบริหารพ้นื ทอี่ ยา่ งย่งั ยนื 2) แก้ปญั หาความม่ันคงเรง่ ด่วน โดยเฉพาะปญั หาด้านยาเสพตดิ และความปลอดภัย ดา้ นไซเบอร์ 3) พฒั นาประสิทธภิ าพการทางานภาครัฐในดา้ นการประเมินผลและการใช้งบประมาณ 4) แก้ปญั หา ทจุ ริตของการดาเนินการทกุ ภาคสว่ น และ 5) บริหารจัดการนา้ และมลพษิ จากภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม 6.2 การดูแลยกระดบั ประกอบด้วย 1) สภาพแวดลอ้ มภาครฐั ทส่ี นับสนุนการดาเนินธุรกจิ และการบรกิ าร ภาครัฐ 2) สังคมสูงวัยที่มคี ุณภาพชวี ิตท่ีดีและสามารถดแู ลตัวเองได้ 3) คนและการศกึ ษา พัฒนาศักยภาพคนทุกชว่ ง วัยใหม้ ีทกั ษะความรู้ ทักษะอาชพี และทักษะชวี ติ 4) เศรษฐกจิ ฐานราก เน้นการพฒั นาผู้ประกอบการระดับตาบลท้ัง ในดา้ นเกษตรกรรมและนวัตกรรม 5) บริการสาธารณสุขท่มี ีคุณภาพและเข้าถึงง่าย และ 6) กระจายศนู ยก์ ลางความ เจริญไปสภู่ มู ภิ าคต่างๆ ผ่านการพฒั นาเมอื งอจั ฉรยิ ะและสิ่งอานวยความสะดวกในพืน้ ที่เมือง 6.3 สร้างรายไดแ้ ละรองรบั การเติบโตในระบบอยา่ งย่ังยนื ประกอบ 1) การท่องเทย่ี วที่ยง่ั ยนื ครบวงจร และได้รบั การยอมรบั ในระดับโลก 2) อุตสาหกรรมทม่ี ีศักยภาพ เน้นอุตสาหกรรมมลู ค่าสงู และอตุ สาหกรรม เปา้ หมาย อาทิ อุตสาหกรรมยานยนตส์ มัยใหม่ 3) การพฒั นาพน้ื ทเ่ี ขตเศรษฐกจิ EEC และ SEC รวมท้ังการเปิด พืน้ ท่ใี หม่ เพือ่ ส่งเสรมิ การลงทนุ และการพัฒนาแบบกา้ วกระโดด และ 4) การพัฒนาระบบโลจิสตกิ ส์และ โครงสร้างพื้นฐานดิจทิ ลั สร้างความเช่อื มโยงทว่ั ประเทศและระหว่างประเทศ อ้างองิ จาก สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ มองขา้ มชอ็ ต \"เศรษฐกจิ ไทย\" ปี 2564 ปีทย่ี ากจะเหน็ การฟ้ืนตวั ดขี ึ้นในระดับ 4-5% ดงั น้นั ภาพท่อี อกมา จงึ จะเปน็ ลักษณะปแี ห่ง 4-3-2-1 การคลงั เป็นกองหน้านาการฟ้นื ตัวของเศรษฐกจิ การเงินเป็นกองหลัง ต่อสกู้ บั โค วดิ ท่จี ะฉดุ ร้ังเศรษฐกจิ โลกและความเชอื่ มน่ั ภาคเอกชน 2563 เป็นปอี าถรรพณ์ท่ีหักปากกาเซยี นเศรษฐกิจทกุ ราย ในสว่ นของผู้เขยี นนั้นเคยคาดการณใ์ นปลายปี 2562 ไวว้ ่าเศรษฐกิจโลกปี 2563 จะไมแ่ ตก ไม่ตาย แต่ไม่โต แตค่ วามเส่ยี งวกิ ฤตจิ ะมากขน้ึ ตามดชั นชี ้ีวัดหนึง่ ทไ่ี ม่ เคยผิดพลาด อนั ไดแ้ ก่ Inverted Yield Curve หรือผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรฐั กลบั ทิศ ขณะท่เี ศรษฐกจิ ไทยในปี 2563 นน้ั ผเู้ ขียนเคยมองวา่ จะเป็นปีแหง่ 0-1-2 กลา่ วคอื การสง่ ออกไม่โตเลย เงินเฟ้อและดอกเบ้ยี ที่ 1% และจีดพี ีโตท่ี 2% แต่โควิดก็หักปากกาทุกคน เพราะไวรสั ที่นาไปสกู่ ารปดิ เมืองทาให้เศรษฐกจิ โลกหดตัวในระดบั 4% ตกตา่ ที่สุดต้งั แต่ยคุ the great depression ในช่วง 80 ปีกอ่ น ขณะทเี่ ศรษฐกิจไทยกลายเป็นปแี หง่ (-8)-(-1)-(-8) กล่าวคือเศรษฐกิจและการสง่ ออกติดลบประมาณ 8% ตา่ สดุ ตงั้ แต่วิกฤติต้มยากงุ้ และเงินเฟ้อตดิ ลบประมาณ 1% (แตด่ อกเบย้ี อยทู่ ี่ +0.5%) ยิ่งไปกวา่ น้ัน โควิดยังนาไปสแู่ ผลเป็นลากยาว เพราะสงครามระหว่างไวรัสกับมนษุ ยชาติยงั ไม่เหน็ แสง สวา่ ง ผู้นาประเทศชัน้ นาทว่ั โลกตดิ เช้อื ไวรัส หลายประเทศกาลงั เผชญิ กับการติดเชื้อครั้งใหม่ (Second wave) ขณะที่ประเทศทย่ี ังไม่ติดก็ไมก่ ลา้ เปดิ ประเทศใหก้ ับนักเดนิ ทาง ส่งผลกระทบต่อภาคทอ่ งเท่ยี วและบรกิ ารโดยรวม จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2564 เศรษฐกจิ จะกลับมาโตเปน็ ปกติได้ไหม คาตอบของคาถามเหล่านข้ี น้ึ อยกู่ บั การ มาของวัคซนี ซ่ึงจะได้กต็ ่อเมื่อวคั ซีนได้รับการคิดค้น พสิ ูจน์ ยอมรับ และแจกจา่ ยให้กับพลโลกทัง้ หมด หรือ มิฉะน้ันทุกคนก็ตอ้ งยอมรบั ทีจ่ ะอยู่กบั ไวรสั ตลอดไป ในกรณีแรกน้นั หลายฝา่ ยคาดว่าวัคซีนอาจสาเร็จได้ในไตร

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 160 ------------------------------------------------------------------------------- มาสที่ 1 ของปี 2564 และได้รับการแจกจา่ ยทวั่ โลกภายในไตรมาสท่ี 3 เปน็ อยา่ งเรว็ ที่สดุ กระนนั้ ก็ตาม แมผ้ ูค้ นจะ ไดว้ ัคซนี แลว้ แตค่ วามเช่ือมั่น การเดนิ ทาง การสันทนาการ ยากทจ่ี ะกลับสู่ระดบั เดิม เมือ่ เป็นเช่นนัน้ ภูมิลกั ษณ์เศรษฐกจิ โลกในปี 2564 จะมีภาพ 3 ประการ คือ 1.การขยายตวั จะต่าลง โอกาส ทีจ่ ะฟน้ื ในระดบั 4-5% เป็นไปไดย้ าก โดยรูปแบบการฟื้นตัวจะคล้ายเครื่องหมายไนกี้ แตอ่ ่อนแอและขรขุ ระกว่า 2.นโยบายเศรษฐกิจเชงิ กระตุ้นจะลดลง โดยนโยบายการคลงั จะเรมิ่ กังวลเร่ืองหนีส้ าธารณะและการขาดดลุ งบประมาณมากขนึ้ ขณะทกี่ ารเงินจะกงั วลเร่ืองภาวะฟองสบ่แู ละพฤติกรรมสมุ่ เสยี่ งในการลงทนุ (Moral Hazard) อนั เป็นผลจากนโยบายดอกเบี้ยต่ามากขน้ึ และ 3.ความเส่ียงมมี ากขน้ึ ทัง้ การเมืองในสหรัฐ (ไมว่ ่าใครจะขึ้นมาเป็นประธานาธบิ ดีกต็ าม) ยุโรป รวมถงึ ประเดน็ ภูมิรัฐศาสตร์ระหวา่ งจีนกับสหรัฐ (โดยเฉพาะในประเดน็ ไต้หวัน) และภาวะภมู อิ ากาศผนั ผวนอัน เป็นผลจากภาวะโลกร้อน เมื่อภมู ลิ กั ษณ์เศรษฐกิจโลกเปน็ เช่นน้ัน ยากที่จะเหน็ เศรษฐกิจไทยฟน้ื ตวั ดขี ้ึนในระดบั 4-5% อนั เปน็ ระดับท่สี านักวจิ ยั หลายแหง่ คาดในปหี น้า โดยในส่วนของผูเ้ ขยี นมองวา่ ภูมิลกั ษณ์เศรษฐกจิ ไทยในปี 2564 น้ันจะ ประกอบดว้ ยภาวะความแตกตา่ ง 3 ประการ คือ 1.เศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศกบั ในประเทศ โดยภาวะโควิดท่ลี ากยาวนั้น จะทาใหเ้ ศรษฐกจิ ท่ีพงึ่ พงิ ต่างประเทศ เช่น การท่องเทย่ี วและการส่งออกน้ันยงั ถูกกดดัน ขณะทีเ่ ศรษฐกิจในประเทศ เช่น การบรโิ ภคเอกชน และการลงทุนภาครฐั จะฟืน้ ตัวได้บ้างตามมาตรการการคลงั 2.ภาคการผลติ กบั ภาคบรกิ าร โดยภาคบรกิ ารจะยงั ถกู กดดันจากการท่องเทีย่ วและความกังวลของผู้บริโภค (Consumer risk-averse) ทาให้จะยงั หดตวั หรือเตบิ โตต่า ขณะที่ภาคการผลิต โดยเฉพาะภาคเกษตรจะเรมิ่ ฟ้ืนตวั ดี ขึ้น ตามความตอ้ งการซ้ือสินค้าไม่คงทน (Non-durable) ที่จะเรม่ิ กลบั มาบ้างตามการบรโิ ภค รวมถึงภาวะ La Nina ทีท่ าใหผ้ ลติ ผลทางการเกษตรออกมาดี 3.นโยบายการเงินและการคลงั โดยการคลงั จะเห็นการอัดฉดี ท่ีเพมิ่ ขึน้ ทง้ั จากโครงการ “ช้อปดมี คี ืน” “คน ละคร่ึง” และบตั รสวสั ดิการแห่งรัฐทจี่ ะกระตุ้นอารมณ์การบริโภคต่อเน่ืองได้บา้ ง อย่างน้อยในครึ่งปีแรก และจาก โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ท่ี (หวงั ว่า) จะเพิ่มขน้ึ ขณะทนี่ โยบายการเงินจะหนั มาเปน็ กองหลัง เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กังวลผลขา้ งเคียงจากนโยบายดอกเบยี้ ต่า ---------------------------- แนวขอ้ สอบ ความรเู้ กยี่ วกับเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง และนวัตกรรมเทคโนโลยี

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 161 ------------------------------------------------------------------------------- 1. นางสงกรานต์ปี 2564 นามว่า 1. นางรากษสเทวี 2. นางโคราคะเทวี 3. นางทุงสะเทวี 4. นางมโหธรเทวี ตอบ 1 นางสงกรานต์ปี 2564 นามว่า นางรากษสเทวี ทรงพาหรุ ดั ทัดดอกบวั หลวง อาภรณแ์ กว้ โมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถซ์ ้ายทรงธนศู ร เสดจ็ นอนหลับตา มาเหนือหลงั วรวาหะ (สุกร) เปน็ พาหนะ 2. การฉีดวัคซีนโควิด 19 พบว่ามีอาการข้างเคียงทีพ่ บไดบ้ ่อย ไดแ้ ก่ 1. อาการปวด บวม แดง ตรงจุดทฉ่ี ีดยา 2. ร้สู กึ ออ่ นเพลีย ไม่สบายตวั 3. มอี าการไข้ คร่นั เนอ้ื คร่ันตัว 4. ถกู ทุกขอ้ ตอบ ง การฉีดวคั ซนี โควิด 19 พบว่ามอี าการขา้ งเคยี งท่ีพบได้บ่อย ไดแ้ ก่ -อาการปวด บวม แดง คนั หรอื ชา้ ตรงจดุ ที่ฉดี ยา -รสู้ ึกออ่ นเพลีย ไมส่ บายตวั ปวดหวั เล็กน้อย -มอี าการไข้ ครัน่ เนอื้ ครัน่ ตวั ปวดเมอ่ื ยกลา้ มเน้ือและตามข้อ -มอี าการคลนื่ ไส้ 3. วัคซีนแอสตรา้ เซนเนกา (AstraZeneca) เป็นวคั ซนี ประเภท Viral Vector สาหรบั ฉีดในแก่ผูท้ ่มี อี ายุก่ปี ขี ึน้ ไป 1. 12 ปีขนึ้ ไป 2. 15 ปีขนึ้ ไป 3. 18 ปีขนึ้ ไป 4. 20 ปีขนึ้ ไป ตอบ 3 วคั ซนี แอสตร้าเซนเนกา (AstraZeneca) เป็นวัคซนี ประเภท Viral Vector สาหรบั ฉีดในแกผ่ ู้ทมี่ อี ายุ 18 ปขี ้ึนไป (แตใ่ นประเทศไทยใช้ในผูท้ มี่ ีอายุ 60 ปีขึ้นไป) โดยจะฉีดบรเิ วณต้นแขนท้ังหมด 2 เข็ม ซึง่ ทาง คณะอนกุ รรมการสรา้ งเสริมภูมิคมุ้ กนั โรค กาหนดให้ฉีดแตล่ ะเข็มห่างกนั 10 – 12 สปั ดาห์ (ไม่แนะนาให้ผทู้ มี่ ีภาวะ ภูมิค้มุ กนั บกพรอ่ งอย่างมากฉีดวคั ซีนดังกล่าว) 4. การลงทะเบยี นจองวคั ซนี โควดิ -19 \"แอสตร้าเซนเนกา\" สาหรับผูส้ ูงอายุ 60 ปขี ึ้นไป มชี ื่อวา่ 1. เราชนะ 2. หมอพร้อม 3. หมอชนะ 4. ไมม่ ีขอ้ ใดถูกตอ้ ง ตอบ 2 “หมอพร้อม” เป็นระบบลงทะเบยี นขอสิทธ์กิ ารฉีดวัคซนี ผ่านทาง Line Official Account (Line OA) และ Mobile application ซงึ่ อาจเป็นส่งิ ใหม่สาหรับบางคน รวมถงึ มเี ง่ือนไข และข้อมูลตา่ งๆ ทีท่ าใหม้ ีคาถาม ตามมามากมาย 5. โควดิ รอบ 3 ไดม้ ีการออก พ.ร.ก.กเู้ งนิ เพมิ่ เพือ่ แก้ไขปัญหาเศรษฐกจิ และสงั คมจากการระบาดระลอกใหม่ เท่าไร 1. 700,000 ล้านบาท 2. 800,000 ลา้ นบาท 3. 900,000 ล้านบาท 4. ไมม่ ขี ้อใดถูกตอ้ ง ตอบ 1 ครม.ผ่านรา่ ง พ.ร.ก.กเู้ งินรอบใหม่เพม่ิ 700,000 ลา้ นบาท หลังเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทเดมิ ไม่พอใช้ จ่าย ชาแหละเงนิ กกู้ ้อนเดิมพบว่าเหลือเพียง 16,525 ล้านบาท คลงั แจงจาเป็นตอ้ งมีเงินแกไ้ ขปญั หาเศรษฐกจิ และ สงั คมจากการระบาดระลอกใหม่ ช้ใี ช้งบประมาณปี 2565 ไม่ทนั ต่อสถานการณ์

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 162 ------------------------------------------------------------------------------- 6. 18 พ.ค. 2564 อิสราเอลปิดทางข้ามพรมแดนกาซาเนอ่ื งจากสาเหตุใด 1. ปาเลสไตน์ยิงจรวดถล่ม 2. รัสเซยี ยงิ จรวดถล่ม 3. อเมรกิ ายงิ จรวดถล่ม 4. เยอรมันยงิ จรวดถลม่ ตอบ 1 อสิ ราเอลปดิ ดา่ นขา้ มพรมแดนกาซาอกี ครง้ั หลังก่อนหน้าน้ีเปิดใหข้ นเสบยี งเขา้ ช่วยชาว ปาเลสไตน์ แตก่ ลุ่มติดอาวุธยิงจรวดโจมตไี ม่หยดุ ทาแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวติ 2 ศพ 7. ภายใน 2 เดอื น (มิ.ย.-ก.ค.64) นายกฯ เร่งแก้โควดิ ระบาด ตัง้ เป้าฉดี วคั ซีน คน กทม.ก่ีคน 1. 2 ลา้ นคน 2. 3. ล้านคน 3. 4 ล้านคน 4. 5 ล้านคน ตอบ 4 ภายใน 2 เดอื น (มิ.ย.-ก.ค.64) นายกฯ เรง่ แก้โควดิ ระบาด ตั้งเปา้ ฉีดวคั ซีน คน กทม 5 ล้านคน 8. “พิชัย” หว่ ง เศรษฐกิจไทยทรุดหนัก เตอื น นายกฯ แนะ แก้ 4 เร่ืองดว่ น ยกเวน้ ข้อใด 1. เรง่ การกระจายการฉีดวคั ซีนอยา่ งเป็นรปู ธรรม 2. การสรา้ งความมนั่ ใจ 3. เรง่ การกระจายรายได้ให้ทั่วถงึ 4. เร่งเจรจาการคา้ กับประเทศหลักท่ีสาคัญ ตอบ 3 “พิชยั ” หว่ ง เศรษฐกิจไทยทรุดหนกั เตอื น นายกฯ แนะ แก้ 4 เรื่องดว่ น ได้แก่ 1. เร่งการกระจายการฉดี วคั ซนี อยา่ งเปน็ รปู ธรรม 2. การสรา้ งความมัน่ ใจ 3. เรง่ เจรจาการค้ากับประเทศหลักทสี่ าคัญ 4. การสรา้ งภาพลักษณ์ทด่ี ี 9. 18 เม.ย. 64 ทหารเมียนมาเปิดศกึ ไทใหญ่ ณ ทใี่ ด 1. ฝ่งั ตรงขา้ มเชยี งราย 2. ชายแดนแม่ฮ่องสอน 2. ฝง่ั ตรงข้ามเชียงใหม่ 4. ชายแดนลาปาง ตอบ 1 (18 เม.ย.) มีรายงานวา่ ทหารเมยี นมาจากฐานปฏิบัตกิ ารอ่องเมย์ 2 กองพนั เคลื่อนทเ่ี รว็ 314 ไดม้ ี การยงิ ปืน ค.120 จานวน 2 นัดเขา้ ไปในพ้นื ท่ีบ้านปางควาย เขตอทิ ธพิ ลของกองกาลังกู้ชาติไทใหญ่ (SSA) ซง่ึ อยู่ ตรงข้ามบ้านพญาไพร ต.เทอดไทย อ.แม่ฟา้ หลวง จ.เชียงราย พ้ืนทโี่ ดยรอบบริเวณกระสนุ ตก เป็นไร่นาของ ชาวบา้ น ทาให้ไม่มคี วามเสียหายท้ังชีวิตและทรัพย์สนิ 10. รัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวหานางอองซานซูจี ผูน้ ารัฐบาลเมียนมาผู้ถูกยึดอานาจเม่ือตน้ เดือนกุมภาพันธ์ วา่ รบั สินบนมูลค่าเท่าไร 1. มากกวา่ 18 ล้านบาท 2. มากกวา่ 20 ล้านบาท 3. มากกวา่ 23 ลา้ นบาท 4. มากกวา่ 25 ล้านบาท ตอบ 1 โฆษกกองทัพเมียนมา พลจัตวา ซอว์ มนิ ตัน แถลงขา่ วทกี่ รงุ เนปิดอว์ กล่าวหาว่านางซูจี รับเงินมูลคา่ ราว 600,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 18 ล้านบาท) และทองคาแทง่ ขณะท่ดี ารงตาแหน่งที่ปรกึ ษาแห่งรัฐ อ้างองิ จากคาร้องของอดีตเจ้าหน้าทีร่ ะดับสงู ของนครยา่ งกุ้ง 11. มิสยนู ิเวริ ส์ 2020 ผ้ชู นะอันดับหนง่ึ ได้แก่ประเทศใด 1. อินเดยี 2. เม็กซโิ ก

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 163 ------------------------------------------------------------------------------- 3. ปานามา 4. ไทย ตอบ 2 นางสาวอนั เดรอา เมซา ตัวแทนจากเมก็ ซิโก ได้รับชยั ชนะจากเวทปี ระกวดมิสยนู ิเวิร์ส 2020 ที่จัด ทรี่ ัฐฟลอรดิ าของสหรัฐ เมื่อวันจนั ทร์ (17 พ.ค.) 12. แอสตรา้ เซนเนก้า ข้ึนทะเบียน อย.ในไทยตั้งแตเ่ มื่อใด 1. 20 มกราคม 64 2. 20 กุมภาพันธ์ 64 3. 20 มีนาคม 64 4. 20 เมษายน 64 ตอบ 1 แอสตรา้ เซนเนกา้ ข้นึ ทะเบยี น อย.ในไทยต้ังแตป่ ระมาณ 20 ม.ค.64 13. ซิโนแวค เปน็ วคั ซนี ท่มี าจากประเทศใด 1. อเมริกา 2. รสั เซีย 3. จีน 4. เกาหลี ตอบ 3 ซโิ นแวค วคั ซนี จากประเทศจนี ขึ้นทะเบียน อย.ในไทยต้ังแตช่ ว่ งเดอื น ก.พ.64 14. จอห์นสนั แอนด์ จอห์นสัน เปน็ วคั ซีนท่ีมาจากประเทศใด 1. อเมรกิ า 2. รัสเซีย 3. จนี 4. เกาหลี ตอบ 1 จอหน์ สนั แอนด์ จอหน์ สนั วัคซยี นจาดสหรัฐฯ : ขึ้นทะเบียน อย.ในไทยตง้ั แต่ชว่ งเดือน ม.ค.64 (วคั ซีนชนิดเข็มเดยี ว) 15. โมเดอร์นา ขนึ้ ทะเบียน อย.ไทย เมอื่ วนั ที่เท่าไร 1. 10 พ.ค.64 2. 11 พ.ค.64 3. 12 พ.ค.64 4. 13 พ.ค.64 ตอบ 4 โมเดอร์นา ขนึ้ ทะเบยี น อย.ไทย เม่อื วนั ท่ี 13 พ.ค.64 16. ในการอภปิ รายไมไ่ วว้ างใจรัฐบาลเม่อื วันที่ 31 สิงหาคม 2564 มคี าพดู ทช่ี ี้แจงในสภาผุ้แทนราษฎรที่วา่ “ตนเองได้สวดมนตท์ กุ วัน เพราะฉะนั้นตนจะไม่ทาอะไรที่มนั ผดิ ” เป็นคาพูดของใคร 1. พลเอกประวติ ร วงษ์สวุ รรณ 2. นายไพบูลย์ นติ ิตะวนั 3. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 4. พล.ต.อ.เสรพี ศิ ทุ ธ์ เตมยี เวส 5. นายสมพงษ์ อมรววิ ฒั น์ ตอบ 3. จากเหตุการณ์ที่ นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จนั ทร์โอชา ลกุ ขน้ึ ชแี้ จงในสภา อ้างถึง ไดส้ วดมนต์ทุกวัน เพราะฉะน้ันไมท่ าอะไรที่ผิด ขอใหเ้ ข้าใจกนั ด้วย ทาให้คาว่า “สวดมนต์” เปน็ หัวข้อที่ถูกพูดถึงในแพลทฟอร์มโซ เชียล จนตวั เลขดาต้าพงุ่ สูง 17. พายุเตีย้ นหมู่ ทถี่ ลม่ 40 จังหวัดทั่วไทย ชว่ งปลายเดอื น กันยายน 2564 นี้ มจี ุดกาเนิดจากประเทศอะไร 1. พม่า 2. เวยี ดนาม 3. จีน 4. ไต้หวัน ตอบ 3. เตยี้ นหมู่ เป็นชือ่ พายุหมนุ เขตร้อนในรายชอ่ื ชดุ ท่ี 4 ลาดบั ท่ี 16 ของมหาสมุทรแปซิฟกิ ตะวันตกฝ่งั เหนอื สง่ โดยประเทศจนี 18. ใหส้ วดมนต์ขอพน้ พายุ เป็นคากลา่ วของใคร

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 164 ------------------------------------------------------------------------------- 1. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 2. นายเฉลมิ ชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ 3. พล.อ.ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา นายกรฐั มนตรี 4. นายฉัตรชยั พรหมเลิศ ปลดั กระทรวงมหาดไทย ตอบ 3. “บก๊ิ ต-ู่ บ๊ิกป๊อก” ดูน้าท่วมสโุ ขทัยเมื่อเวลา วันท่ี 26 ก.ย. 64 ท่ีผ่านมา โดยพดู ผ่านเครื่องขยายเสียงบนรถ ทกั ทายชาวบา้ น 2 ข้างทาง เม่ือถึงวดั ดอนจันทร์ นายกฯกล่าวกับประชาชนท่มี าต้อนรบั วา่ ปัญหาบ้านเมืองไม่ใชม่ ี เพียงแคต่ รงน้ี มีหลายที่ วนั น้ีพายเุ ข้ามา 1 ลกู ปี 63 พายุเข้ามา 5 ลกู น่ลี กู เดยี วสวดมนตห์ น่อย อยา่ มาอีกเลย ลูกเดยี ว ก็พอแลว้ 19. เงินจากการลงทะเบียนคนละครงึ่ เฟส 3 รอบ 2 จะเรมิ่ เข้าวันไหน 1. 1ก.ย. 64 2. 1 ต.ค. 64 2. 1 พ.ย. 64 4. 1 ธ.ค. 64 ตอบ 2. รอบที่ 2 : 1 ตุลาคม – 31 ธนั วาคม 2564 จานวน 1,500 บาท ทั้งนี้ สิทธิในโครงการคนละคร่งึ สามารถ สะสมใชไ้ ด้ ----------------------------

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 165 ------------------------------------------------------------------------------- แนวขอ้ สอบความรู้เก่ียวกบั ธ.ก.ส. 1. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไดจ้ ดั ตง้ั ขึ้นปี พ.ศ. ใด 1. 2507 2. 2508 2. 2509 3. 2510 ตอบ 2. 2. ผจู้ ัดการ ธ.ก.ส. คนแรกคือ 1. นายจาเนียร สาระนาค 2. นายลักษณ์ วจนานวชั 3. นายธรี พงษ์ ต้งั ธีระสุนันท์ 4. นายทานอง สงิ คาลวานิช ตอบ 1. 3. ผู้จัดการ ธกส. .คนปัจจุบัน คือ (ขอ้ มูล ลา่ สุด ณ วันที่ 28 ตุลาคม 64) 1. นายจาเนยี ร สาระนาค 2. นายสรุ ชยั รศั มี 3. นายธีรพงษ์ ตั้งธรี ะสนุ ันท์ 4. นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ตอบ 4. 4. ปรับบทบาท สู่ธนาคารพัฒนาชนบทได้พฒั นาการให้สินเชื่อและบริการครบวงจร ในทศวรรษท่ีเทา่ ใด 1. ทศวรรษที่ 1. 2. ทศวรรษที่ 2. 3. ทศวรรษที่ 3. 4. ทศวรรษท่ี 4. ตอบ 2. 5. วสิ ยั ทศั น์ (Vision) ของ ธกส. ข้อใดถูกตอ้ ง 1. บรกิ ารทางการเงินครบวงจร เพ่ือเพ่มิ ประสิทธิภาพของหว่ งโซ่คณุ ค่าสนิ คา้ เกษตร และตอบสนองความ ตอ้ งการของลกู คา้ อยา่ งมีคณุ ภาพและประสิทธิภาพ 2. เปน็ ธนาคารพัฒนาชนบททีย่ งั่ ยืน ม่งุ สนับสนนุ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพ่ือยกระดบั คณุ ภาพชีวติ ของ คนในชนบท 3. เปน็ ธนาคารพัฒนาชนบททม่ี ่ันคง มกี ารจัดการทท่ี ันสมัย ใหบ้ รกิ ารทางการเงินครบวงจร เพื่อยกระดับ คณุ ภาพชีวติ ของเกษตรกรอย่างยง่ั ยนื 4. มงุ่ ม่ันหลกั การกากบั ดแู ลกจิ การทดี่ ี และยึดม่ันในความรบั ผิดชอบต่อสังคมและส่งิ แวดล้อม เพ่ือความ มั่นคง และย่ังยนื ตอบ 2. 6. คา่ นิยม (Core Values) ธ.ก.ส. ยดึ หลัก SPARK ในการบรหิ ารงานเพื่อช่วยสะทอ้ นความรับผิดชอบของ องค์การทม่ี ีต่อประชาชน สังคมและสงิ่ แวดล้อม รวมถงึ การขับเคลือ่ นการดาเนินงานตามพันธกจิ ให้บรรลุวสิ ยั ทัศน์ ตัว A หมายถึงข้อใด 1. ความเคารพและใหเ้ กียรติตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน 2. ความยง่ั ยืนทง้ั องค์การ พนักงาน เกษตรกร ผู้ถอื หุ้น สงั คม และส่งิ แวดล้อม 3. การสง่ เสริมและยกระดับการนาความรสู้ ู่นวตั กรรมให้เปน็ ธนาคารแห่งการเรยี นรู้ 4. ความสานกึ ในหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบของคณะกรรมการและพนักงาน ตอบ 4. 7. ประธานกรรมการ ธกส .คนปัจจบุ ัน คือ (ข้อมูล ลา่ สดุ ณ วนั ที่ 28 ตุลาคม 64)

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 166 ------------------------------------------------------------------------------- 1. นายธรี ภัทร ประยรู สิทธิ (ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) 2. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ(รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลงั ) 3. นายสมชาย ชาญณรงค์กุล (ผแู้ ทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 4. นายสุวิชญ โรจนวานชิ (ผู้แทนกระทรวงการคลงั ) ตอบ 2. 8. ธกส. มีบรกิ ารเงนิ ฝากตามข้อใด 1. เงนิ ฝากออมทรัพยท์ วีโชค 2. เงนิ ฝากสงเคราะห์ 3. เงินฝากออมทรัพย์พเิ ศษ 4. เงนิ ฝากออมทรัพย์โครงการ 5. ถกู ทุกข้อ ตอบ 5. 9. ตราธนาคารปจั จบุ ัน คาวา่ ธกส. สขี าว หมายถงึ 1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร ซึ่งเปน็ รัฐวสิ าหกจิ ประเภทสถาบันการเงิน ท่ีจดั ตั้งขน้ึ เพ่ือ ดาเนินการตามนโยบายพิเศษของรัฐ มกี ารบริหารจดั การด้วยความโปร่งใส ยดึ หลักธรรมาภิบาล 2. สขี องกระทรวงการคลงั ซง่ึ ธ.ก.ส. เปน็ รัฐวิสาหกจิ สังกัดกระทรวงการคลงั 3. อาชพี หรือการดาเนินงานของเกษตรกร คือการเกษตรและอาชพี ทมี่ ีลกั ษณะต่อเนื่องจากอาชพี การเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ของภาคเกษตรกรรม สญั ลักษณ์แทนเกษตรกรลกู คา้ ซึง่ เปน็ กลุม่ เป้าหมายของธนาคาร 4.ความต่อเน่ือง การสือ่ สมั พันธอ์ นั ดี การบริการ ความเขา้ ใจ ความรว่ มมือ การประสานประโยชน์ ความ ผกู พนั ความไม่มที ีส่ ้ินสดุ ระหวา่ ง รฐั บาล ธ.ก.ส. และ เกษตรกรลูกคา้ ซงึ่ จะผูกสมั พันธเ์ ป็นวัฏจกั รต่อเน่อื ง ตลอดไป เพื่อช่วยเหลือเกอื้ กูลซ่ึงกนั และกนั จะขาดจากกันไมไ่ ด้ ตอบ 1. 10. กรอบรปู ส่เี หล่ียมมมุ มน หมายถึง 1. ธนาคารเพ่อื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซ่งึ เปน็ รัฐวสิ าหกจิ ประเภทสถาบันการเงิน ท่ีจดั ต้ังขึ้นเพ่ือ ดาเนนิ การตามนโยบายพิเศษของรัฐ มกี ารบริหารจดั การด้วยความโปร่งใส ยึดหลกั ธรรมาภิบาล 2. สขี องกระทรวงการคลัง ซึ่ง ธ.ก.ส. เปน็ รฐั วิสาหกิจสงั กัดกระทรวงการคลัง 3. อาชีพหรือการดาเนินงานของเกษตรกร คือการเกษตรและอาชีพทมี่ ีลกั ษณะตอ่ เนื่องจากอาชพี การเกษตร ความอดุ มสมบรู ณ์ของภาคเกษตรกรรม สัญลกั ษณ์แทนเกษตรกรลกู ค้า ซึ่งเป็นกลุม่ เปา้ หมายของธนาคาร 4.ความต่อเนื่อง การส่ือสมั พันธอ์ ันดี การบรกิ าร ความเขา้ ใจ ความรว่ มมือ การประสานประโยชน์ ความ ผกู พนั ความไม่มีท่ีส้ินสดุ ระหว่าง รัฐบาล ธ.ก.ส. และ เกษตรกรลูกค้า ซง่ึ จะผกู สมั พันธเ์ ป็นวัฏจกั รต่อเน่ือง ตลอดไป เพื่อช่วยเหลือเกอ้ื กูลซง่ึ กันและกัน จะขาดจากกันไมไ่ ด้ ตอบ 4. 11. ธ.ก.ส.จบั มอื กระทรวงอตุ สาหกรรมเพม่ิ ขีดความสามารถ SMEs ช่ือโครงการวา่ อะไร 1. โครงการปรบั เปลย่ี นการผลิตสู้วิกฤติภยั แล้ง 2. โครงการ 1 สนิ เชือ่ 1 ตาบล SME เกษตร 3. โครงการเพม่ิ ความเขม้ แข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 167 ------------------------------------------------------------------------------- 4. โครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมนั สาปะหลงั ตอบ 2. 12. ข้อใดไมใ่ ช่เว็บไซต์ โดย ธกส. 1. ทอ่ งเทย่ี ววิถีไทย 2. แผ่นดนิ ธรรม 3. แผ่นดนิ ทอง 4. การจดั การความรู้ ธกส. ตอบ 2. 13. Call center ของ ธกส. คือหมายเลขใด 1. 02-555-0555 2. 02-556-0666 3. 02-655-6565 4. 02-566-6666 ตอบ 1. 14. ในกรณีที่การปรบั บทบาทของธนาคารสชู่ นบทมที ั้งหมดก่ีทศวรรษ 1. ทศวรรษที่ 1 (พ.ศ. 2509 – 2519) 2. ทศวรรษที่ 3 (พ.ศ. 2530 – 2539) 3. ทศวรรษที่ 4 (พ.ศ. 2540 – 2549) 4. ทศวรรษท่ี 5 (พ.ศ. 2550 – ปจั จบุ นั ) ตอบ 4. 15. ใครเปน็ ประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส. 1. ผบู้ รหิ ารสงู สุดของ ธ.ก.ส. 2. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการคลงั 3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณชิ ย์ 4. นายกรัฐมนตรี ตอบ 2. 16 ข้อใดต่อไปนค้ี ือ พนั ธกิจ ธ.ก.ส. 1. การบรหิ ารความเส่ยี งใหแ้ กล่ ูกค้า 2. บริหารจัดการเงนิ ทุนใหเ้ พยี งพอ และมตี น้ ทุนท่เี หมาะสมตอ่ ลูกค้าและการดาเนินงาน 3. การสง่ เสริมสภาพคล่องให้ระบบเศรษฐกิจฐานราก 4. เป็นศนู ย์กลางทางการเงนิ ทีใ่ หบ้ รกิ ารทางการเงนิ ครบวงจรและทันสมัยในภาคชนบท ตอบ 4. 17. สถานะทางกฎหมายของ ธ.ก.ส. เปน็ อย่างไร 1. เป็นสถาบนั ธนาคารระดับชาติมฐี านะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลงั 2. เปน็ สถาบันทางการเงิน สงั กดั กระทรวงพาณิชย์ 3. เป็นธนาคารพัฒนาชนบท สังกดั กระทรวงพาณิชย์ 4. เปน็ ธนาคารพัฒนาชนบท สงั กัดกระทรวงการคลัง ตอบ 1. 18 ธ.ก.ส. ส่งเสริม การรว่ มกลมุ่ เปน็ สกต, คาว่า สกต. หมายถึง 1. สหกรณก์ ารเกษตรเพื่อการเกษตร 2. สหกรณก์ ารเกษตรเพ่ือการตลาด 3. สหกรณก์ ารเกษตรเพ่ือการผลิต 4. สหกรณ์การเกษตรเพ่ือการพัฒนา ตอบ 2.

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 168 ------------------------------------------------------------------------------- 19. ระบบบริหารที่เรยี กว่า SEPA คืออะไร 1. ระบบการบริหารกจิ การท่ีดี 2. ระบบบริหารคณุ ภาพรฐั วิสาหกจิ 3. ระบบบริหารคุณภาพของสถาบันธนาคาร 4. ระบบบริหารคณุ ภาพของสถาบันการเงนิ ตอบ 2. 20. ขอ้ ใดต่อไปนค้ี ือ หลกั การเกี่ยวกบั การกากับดูแลกิจการที่ดี 1. หลกั ซอื่ สัตยส์ จุ ริต หมายถงึ การดาเนินงานด้วยความซ่ือสัตย์ สจุ รติ ไม่แสวงหาผลประโยชน์อนั มชิ อบ เพอื่ ตนเอง 2. หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อเช่ือมโยงเป็นเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชน 3. หลักเสมอภาคเป็นธรรม คอื การดาเนนิ งานเปน็ ธรรม เปน็ ทยี่ อมรบั และมีความเทา่ เทยี มกนั ในการยึดถือ ปฏบิ ตั ิ 4. ถกู เฉพาะขอ้ 1.และ ข้อ 3 ตอบ 4. 21. เว็บไซต์ ธกส. คือข้อใด 1. www.baad.or.th 2. www.baab.ox 3. www.baac.or.th 4. www.bank.or.om ตอบ 3. 22. ถ้าประชาชนขอตรวจดูขอ้ มลู ขา่ วสารในความครอบครองของ ธ.ก.ส. ได้ตามกฎหมายใด 1. พ.ร.บ. ขอ้ มูลขา่ วสาร พ.ศ. 2540 2. พ.ร.บ. ข้อมลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 3. พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2545 4. พ.ร.บ. ขอ้ มลู ขา่ วสารของรัฐวสิ าหกจิ พ.ศ. 2540 ตอบ 2. 23. ธ.ก.ส. ใหค้ วามสาคัญในการบริหารจดั การและดาเนินงานตามหลักการกากบั ดแู ลกจิ การทีด่ ีในการเปดิ เผย ข้อมูลขา่ วสารอย่างไร 1. เพ่ือให้ความถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส 2. เพื่อให้ความถูกต้องและเป็นธรรม 3. เพอื่ ใหค้ วามถกู ต้อง ตรวจสอบได้ 4. ถูกทกุ ข้อ ตอบ 1. 24. ในการเปิดเผยข้อมลู มหี ลกั การสาคญั อยา่ งไร 1. ขอ้ มลู ขา่ วสารท่เี ปิดเผยจะต้องถูกตอ้ ง ครบถว้ น ชดั เจน และทันกาล 2. มกี ารปฏิบตั ติ ามกฎข้อบังคับทเ่ี ก่ียวกบั การเปิดเผยขอ้ มูลขา่ วสารอย่างถูกตอ้ ง 3. ผ้มู ีส่วนได้สว่ นเสียซ่ึงรวมถงึ ผู้ถอื ห้นุ และผู้ทมี่ ีความสนใจอนื่ ๆ มีสิทธิที่เทา่ เทียมกันในการรบั ทราบและ เข้าถงึ ขอ้ มูลข่าวสารทีเ่ ผยแพร่ 4. ถูกทุกขอ้ ตอบ 4. 25 บคุ คลใดมีหน้าที่รบั ผิดชอบในการเปดิ เผยขอ้ มูล 1. ประธานกรรมการ 2. ผู้จัดการ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 169 ------------------------------------------------------------------------------- 3. ผู้อานวยการฝาย 4. ถูกทุกข้อ ตอบ 4. 26. สานักประชาสมั พนั ธแ์ ละสือ่ สารองคก์ รเปน็ ผู้รับผิดชอบในการทาหนา้ ที่เปน็ ส่วนงานหลกั ในการประสาน กับสว่ นงานใด 1. ผู้อานวยการฝา่ ย 2. ผู้จดั การ 3. เจา้ ของข้อมูลในการเผยแพร่ขอ้ มูลสาคญั ของธนาคารผา่ นชอ่ งทางการเปดิ เผยข้อมูลต่าง ๆ 4. ไมม่ ขี อ้ ใดถูก ตอบ 3. 27. ธนาคารจะมกี ารเปิดเผยข้อมูลอยา่ งไร 1. เปิดเผยข้อมูลตา่ ง ๆ ท่ธี นาคารไดจ้ ัดเตรยี มไวโ้ ดยการเลือกช่องทางการเปิดเผยข้อมูลจะขึน้ อยกู่ บั ข้อกาหนดของกฎหมายหรือหน่วยงานทางการ 2. เปิดเผยข้อมูลโดยใชช้ อ่ งทางของกฎหมาย 3. เปิดเผยข้อมูลโดยใช้ชอ่ งทางส่ือมวลชน 4. เปิดเผยข้อมูลโดยใชช้ อ่ งทางวทิ ยุโทรทศั น์ ตอบ 1. 28. ประเภทข้อมลู ข่าวสารที่ธนาคารจะเผยแพร่ ธนาคารมีหลักในการเผยแพร่อย่างไร 1. ธนาคารจะเผยแพรข่ อ้ มลู ภายในกาหนดเวลา 2. ธนาคารจะเผยแพรต่ ามท่ีกฎหมายหรอื หนว่ ยงานทางการกาหนด 3. ธนาคารจะเผยแพรท่ างหน่วยงานทกี่ ากับดแู ลธนาคารกาหนด 4. ถกู ทกุ ขอ้ ตอบ 4. 29. ธนาคารได้จัดช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารภายในองคก์ รไว้อยา่ งไร 1. สื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น อินเทอร์เน็ต 2. ส่อื ส่งิ พิมพ์ เช่น แผ่นพับ 3. สอื่ มวลชน 4. ถกู ทุกขอ้ ตอบ 4. 30. ธนาคารไดจ้ ดั ชอ่ งทางการเผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสารภายนอกองคก์ รไว้อย่างไร 1. ส่ือมวลชน ส่ือส่งิ พมิ พ์ สื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ 2. สอื่ มวลชน วทิ ยุ โทรทศั น์ 3. สอ่ื มวลชน วทิ ยุ ศนู ย์เรียนรู้ การประชุมวิชาการ 4. ถูกทกุ ขอ้ ตอบ 4. 31. ธ.ก.ส. มหี ลักการดาเนนิ งานดา้ นความรบั ผดิ ชอบต่อสังคมและสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งไร 1. ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ตามหลักขอ้ บงั คับของธนาคาร 3. ตามหลกั ขอ้ กาหนดและข้อบงั คบั ทางกฎหมาย 4. ถูกทุกข้อ ตอบ 1.

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 170 ------------------------------------------------------------------------------- 32 ธ.ก.ส. มหี ลกั การดาเนนิ งานด้านความรับผิดต่อสงั คมและสิ่งแวดล้อมกี่ประการ 1. 3 ประการ 2. 4 ประการ 3. 5 ประการ 4. 7 ประการ ตอบ 4. 33. ธ.ก.ส. ดาเนินการตามหลกั การกากับดูแลกจิ การที่ดีและหลักจรรยาบรรณทางธรุ กิจ มกี ารเปดิ เผยข้อมลู ใหผ้ ู้ มสี ว่ นได้ส่วนเสียรบั ทราบหลายชอ่ งทาง โดยมชี ่องทางใดบา้ ง 1. รายงานกจิ การประจาปที างเว็บไซค์ ธ.ก.ส. วทิ ยุทอ้ งถน่ิ 2. วทิ ยุท้องถ่นิ หนงั สอื พมิ พ์รายวนั 3. วทิ ยุทอ้ งถ่ิน หนังสือพิมพร์ ายเดอื น 4. วทิ ยทุ ้องถนิ่ โทรทัศน์ ตอบ 1. 34. ผ้บู ริหาร ธ.ก.ส. บุคคลใดทต่ี อ้ งแสดงบัญชที รัพย์สนิ และหน้สี นิ ตามกฎหมายกาหนด 1. คณะกรรมการ ธ.ก.ส. และผู้บรหิ าร ธ.ก.ส. 2. ผู้บริหาร ธ.ก.ส. และผู้จัดการ ธ.ก.ส. 3. ผู้บรหิ าร ธ.ก.ส. และกรรมการ ธ.ก.ส. 4. ไมม่ ขี ้อใดถูก ตอบ 1 35. ธ.ก.ส. มีหลกั การในการปฏิบัติต่อลกู ค้าของธนาคารอย่างไร 1. ใช้หลกั สทิ ธิมนุษยชนโดยทกุ คนเท่าเทียมกนั 2. ใช้หลักแยกลกู ค้าออกเปน็ กลมุ่ ๆ 3. ใช้หลกั แบ่งแยกลกู ค้าจากยอดเงินฝาก 4. ถูกทกุ ข้อ ตอบ 1. 36. ธ.ก.ส. มหี ลกั การในการปฏบิ ัตดิ ้านแรงงานอยา่ งไร 1. ส่งเสริมให้พนกั งานมีความสุขในการทางาน 2. พฒั นาและฝึกอบรมพนักงานอยา่ งต่อเนื่อง 3. จัดระบบสวสั ดิการและผลตอบแทนที่เหมาะสม 4. ถกู ทุกข้อ ตอบ 4. 37. ธ.ก.ส. มีหลกั การดูแลส่ิงแวดล้อมอย่างไร 1. เน้นการช่วยลดปญั หาภาวะโลกร้อนและพื้นฟสู เี ขยี นคนื ธรรมชาติ 2. เน้นรูปแบบอาคารประหยัดพลังงาน 3. นานา้ ทิ้งทีผ่ ่านการบาบดั กลบั มาใช้รดสนามหญา้ และตน้ ไม้ 4. ถูกทกุ ข้อ ตอบ 4. 38 ธ.ก.ส. มหี ลักการใส่ใจต่อผูบ้ ริโภค อยา่ งไร 1. กาหนดให้พนกั งานให้ความรู้แกล่ กู ค้าทีม่ าใชบ้ ริการ 2. กาหนดให้มีระบบเทคโนโลยีท่ีทันสมยั 3. กาหนดให้การรกั ษาความลับของข้อมูลของลกู ค้าโดยจัดใหม้ รี ะบบการรบั ข้อร้องเรียนผา่ นช่องทางตา่ ง ๆ 4. กาหนดใหล้ ูกค้าไดเ้ ข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ตอบ 3.

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 171 ------------------------------------------------------------------------------- 39 ธ.ก.ส. มีสว่ นรว่ มของชุมชนรวมทง้ั มีการสนบั สนุนสง่ เสริมด้านใดบา้ ง 1. ดา้ นการศกึ ษา วัฒนธรรม 2. ด้านการศกึ ษา วฒั นธรรมและกฬี า 3. ดา้ นการศกึ ษา วัฒนธรรมและสง่ิ แวดล้อม 4. ดา้ นการศึกษา และสิ่งแวดล้อม ตอบ 2. 40. โครงสร้างการบริหารคณะกรรมการด้านสังคมและสิ่งแวดลอ้ มประกอบดว้ ยคณะใดบ้าง 1. คณะกรรมการ ธ.ก.ส. คณะอนุกรรมการกากับดแู ลกิจการทดี่ ี คณะอนุกรรมกากับดูแลความรบั ผิดชอบ ตอ่ สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม 2. คณะกรรมการ ธ.ก.ส. กรรมการ ธ.ก.ส. 3. คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ผู้จัดการ ธ.ก.ส. 4. ถูกทุกข้อ ตอบ 1. 41 คณะกรรมการบริหารกองทุนเพ่อื สังคมและสิง่ แวดลอ้ มอยู่ภายใต้การกากับดูแลของคณะใดในธ.ก.ส. 1. คณะอนุกรรมการกากับดูแลกจิ การที่ดี 2. คณะอนกุ รรมการกากบั ดูแลความรบั ผดิ ชอบต่อสังคมและสิง่ แวดลอ้ ม 3. คณะอนุกรรมการความเปน็ ธรรมตอ่ สงั คม 4. ถูกทุกขอ้ ตอบ 2. 42. คณะทางานเพ่ือสงั คมและสง่ิ แวดล้อมอยภู่ ายใต้การกากับดแู ลของคณะใดในโครงสรา้ งการบรหิ าร คณะกรรมการด้านสงั คมและส่ิงแวดล้อม 1. คณะกรรมการบริหารกองทนุ เพอ่ื สงั คมและส่งิ แวดล้อม 2. คณะกรรมการความเดือดรอ้ นผู้ประสบภัย 3. คณะอนุกรรมการกากับดูแลความรับผิดชอบต่อสังคมและสง่ิ แวดล้อม 4. คณะกรรมการบริหารการศกึ ษาสิ่งแวดล้อม ตอบ 3. 43 คณะกรรมการบรหิ ารกองทุนบรรเทาความเดือดร้อนผูป้ ระสบภัยอยภู่ ายใต้การกากับดูแลของคณะใดใน โครงสร้างการบริหารคณะกรรมการดา้ นสงั คมและส่งิ แวดล้อม 1. คณะอนุกรรมการกากบั ดูแลความรับผิดชอบต่อสงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม 2. คณะกรรมการบรหิ ารกองทนุ เพ่ือสังคมและสง่ิ แวดล้อม 3. คณะทางานเพื่อสังคมและส่ิงแวดลอ้ ม 4. ไมม่ ีขอ้ ใดถูก ตอบ 1. 44 คณะทางานบรรเทาความเดอื ดรอ้ นผูป้ ระสบภยั อย่ภู ายใตก้ ารกากับดูแลของคณะใดในโครงสรา้ งการบรหิ าร คณะกรรมการด้านสงั คมและส่ิงแวดล้อม 1. คณะอนุกรรมการกากบั ดูแลความรับผดิ ชอบต่อสังคมและสิง่ แวดลอ้ ม 2. คณะกรรมการบรหิ ารกองทุนเพื่อสังคมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. คณะทางานเพอ่ื สงั คมและสิง่ แวดล้อม 4. คณะกรรมการบรหิ ารด้านการเงนิ การคลงั

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 172 ------------------------------------------------------------------------------- ตอบ 1. 45. ธ.ก.ส. เป็นรฐั วสิ าหกิจประเภทใด 1. เป็นสถาบนั การเงินท่มี ีบทบาทในการเปน็ ธนาคารพฒั นาชนบท สนบั สนุนเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม และส่งิ แวดลอ้ ม 2. เปน็ สถาบนั การเงินทม่ี บี ทบาทในการใหค้ วามชว่ ยเหลือเกษตร 3. เป็นสถาบันการเงินทส่ี ่งเสริมดา้ นการเกษตรกรรม 4. ถกู ทุกข้อ ตอบ 1. 46. บคุ คลใดแตง่ ตงั้ ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการกากับดแู ลความรับผดิ ชอบต่อสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม 1. กรรมการ ธ.ก.ส. 2. คณะกรรมการ ธ.ก.ส. 3. ผู้จดั การ ธ.ก.ส. 4. ผูบ้ รหิ าร ธ.ก..ส. ตอบ 2. 47. คณะอนุกรรมการกากับดูแลความรับผดิ ชอบต่อสังคมและสิง่ แวดล้อมประกอบด้วยใคร 1. ประธานอนกุ รรมการและอนกุ รรมการ 2. รองผู้จัดการที่ไดร้ ับมอบหมายเปน็ อนุกรรมการและเลขานกุ าร 3. ผู้ช่วยผจู้ ัดการท่ีไดร้ ับมอบหมายเปน็ อนุกรรมการและผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร 4. ถกู ทกุ ข้อ ตอบ 4. 48. ธ.ก.ส. มสี นิ เช่อื ประเภทใดบ้าง 1. สินเช่อื เพ่ือการเกษตร 2. สินเช่อื เพ่ือพฒั นาความรู้ 3. สนิ เชอ่ื เพื่อการรักษาพยาบาล 4. ถูกทกุ ขอ้ ตอบ 4. ----------------------

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 173 ------------------------------------------------------------------------------- ความร้ดู า้ นเศรษฐศาสตร์เบื้องตน้ แนวคิดทางดา้ นเศรษฐศาสตร์มมี าต้ังแต่สมยั โบราณแลว้ นักปราชญ์สมยั โบราณพยายามสอดแทรก แนวความคิดและกฎเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตรป์ ะปนอย่ใู นหลกั ปรัชญา ศาสนา ศลี ธรรมและหลกั ปกครอง แต่ ความคิดเหล่านี้ยังไมถ่ ือเปน็ ทฤษฎที างเศรษฐศาสตร์ เช่น แนวคดิ เรื่องการแบง่ งานกนั ทาของเพลโต (Plato) แนวคิดเรื่องความม่งั คง่ั ของอรสิ โตเตลิ (Aristotle) เปน็ ต้น ศาสตรห์ รอื วชิ าท่ีเก่าแกท่ ่ีสุด เชน่ วชิ าทางด้านแพทยศาสตร์ ฟสิ กิ ส์ เคมี หรือแมก้ ระทง่ั ศาสตร์ทางทหาร ซง่ึ แมว้ ่า เศรษฐศาสตร์ (Economics) จะไม่ใช่ศาสตร์ที่เก่าแก่ แต่หากโดยหลักคิดของวิชาเศรษฐศาสตรน์ ั้น ได้ถือ กาเนิดขนึ้ กบั พฤตกิ รรมการใช้ชวี ิตของมนุษย์มาอย่างยาวนาน เชน่ การทีม่ นษุ ย์เลอื กท่ีจะตัดสนิ ใจหรอื กระทาการ ใดๆลว้ นแล้วแตม่ ีหลกั คิดและเหตผุ ลทางเศรษฐศาสตร์เขา้ มาเก่ียวขอ้ งหรอื รบั รองเสมอ เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุด (Maximize Utilities) กบั ส่งิ ทท่ี าไปของผู้ตัดสินใจนัน้ ๆ (สถานการจัดการพลงั งาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2550) ในแง่ของประวัติศาสตรก์ ารศกึ ษาทางเศรษฐศาสตร์ค่อนขา้ งเป็นเร่อื งใหม่ของโลก โดยไดถ้ ูกเรียบเรียงขึ้น เพอื่ รับรองการคน้ หาแนวคดิ ทมี่ นษุ ยจ์ ะสามารถจดั การทรัพยากรท่ีมีอยู่อยา่ งจากัดใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด เพ่ือ ตอบสนองความต้องการของมนุษยท์ มี่ อี ยอู่ ย่างไมจ่ ากดั ท้ังตอ่ ส่ิงที่จาเป็นไดแ้ ก่ปัจจัย 4 คือ - ยารักษาโรค - เครื่องนงุ่ ห่ม - ทอี่ ยอู่ าศัย- อาหารและส่งิ ไม่จาเปน็ เช่น รถยนต์ แหวน นาฬกิ า โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และสินคา้ ฟมุ่ เฟอื ยตา่ งๆ เป็นต้น จากแนวคิดนี้จงึ ได้มกี ารเรียบเรยี งอย่างเป็นระบบคร้งั แรก ในปี ค.ศ. 1776 (พ.ศ. 2319) เมือ่ Adam Smith นักเศรษฐศาสตร์ชาวองั กฤษ ได้จัดพิมพ์หนงั สือที่ชื่อ “An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations” และไดม้ กี ารเผยแพร่จนกลายเป็นทนี่ ิยมในการศกึ ษามากท่สี ุดอีกสาขาในโลกปจั จุบัน 1. ความหมายของเศรษฐศาสตร์ “เศรษฐศาสตร์” ภาษาอังกฤษใช้คาวา่ “Economics” เปน็ คาศัพท์ท่มี ีรากฐานมาจากภาษากรีก คือ “Oikonomikos” ซึ่งหมายความวา่ ศาสตร์แห่งการจัดการครอบครัว (สุดารตั น์, 2557) ท้ังนี้เน่ืองจากในสมยั โบราณน้นั มนุษยจ์ ะอยู่ในสังคมเล็กๆ ทแี่ คบ ไมม่ กี ารติดต่อข้ามชนเผ่า มีระบบผลติ และบริโภคในเชงิ ผลผลิตทาง เกษตรกรรมเพื่อเล้ียงคนภายในสังคมเล็กๆ ของตนเองเท่าน้ัน (รตั นา และ ชลลดา, 2544) เนื่องจากสมยั ก่อนเป็นยคุ แห่งการล่าอาณานคิ ม และมีทรพั ยากรอยา่ งเหลือเฟือ จงึ ไม่ได้กลา่ วถงึ การจากดั ของทรัพยากร (เน่ืองจากสว่ นหน่ึง มาจากเมอื งขนึ้ ) Alfred Marshall ไดใ้ หน้ ิยาม เศรษฐศาสตร์ ว่า (เอกฉตั ร, 2547) “เศรษฐศาสตรเ์ ป็นวิชาทศี่ ึกษาถงึ การดาเนนิ ชวี ติ (Business of Life) ตามปกติของมนษุ ย์” เมื่อประชากรในยุโรปเพม่ิ มากข้ึนพร้อมกับการอยู่ดีกนิ ดี ทาใหท้ รัพยากรทีเ่ คยมีเหลอื เฟือในยุคลา่ อาณานคิ ม เริม่ มปี ัญหาขาดแคลน (Scarcity of Resources) ทาใหน้ ิยามของเศรษฐศาสตร์เปลย่ี นไปจากเดมิ และถูกใชม้ าจนถงึ ปจั จบุ ัน ความหมายท่นี ยิ มคอื นิยามของ Prof. Paul A. Samuelson (Samuelson and Nordhaus, 2001) คือ “เศรษฐศาสตร์ คือ วิชาที่ศึกษาถงึ วธิ ที ี่มนษุ ย์และสังคมเลอื กใชใ้ นการตัดสนิ ใจเพ่อื เลือกใชท้ รพั ยากรท่มี อี ยู่ อย่างจากดั และสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ไดใ้ นหลายๆ ทาง เพ่อื ผลิตสินคา้ และบรกิ ารแบบตา่ งๆ และมกี ารจา หนา่ ยจา่ ยแจกสินคา้ และบริการดงั กล่าวไปยงั บุคคลหรอื กลุ่มบคุ คลต่างๆ ในสงั คมเพือ่ ใช้บรโิ ภค ทัง้ ในปจั จบุ ันและ อนาคต”

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 174 ------------------------------------------------------------------------------- นอกจากนี้ยงั มีนยิ ามของ Lionel Robbins ได้รับการยอมรบั มากอกี คน ซ่ึงกล่าวว่า “เศรษฐศาสตรค์ ือ วิชา ทศี่ ึกษาถึงการจัดการทรัพยากรท่มี ีจานวนจากดั เพื่อสนองตอบต่อความตอ้ งการของมนุษยท์ ่มี ีอยู่อย่างไม่จากัดให้ เกดิ ประโยชน์สงู สดุ ” เศรษฐศาสตรถ์ อื เปน็ ศาสตร์ท่พี ิเศษ เนือ่ งจากเป็นศาสตร์ทม่ี ีความเกย่ี วขอ้ งกบั การตัดสนิ ใจของมนุษยซ์ ่งึ ถอื เปน็ ปกั เจก ดงั น้ันการตดั สินใจของมนุษย์ในการเลือกบรโิ ภคสินคา้ ชนิดเดียวกนั น้ัน จงึ มีความแตกตา่ งกนั ได้ท้ัง ในด้าน ย่หี อ้ ราคา คุณภาพ หรืออาจพูดได้วา่ แม้นักเศรษฐศาสตรไ์ ดศ้ กึ ษามาเหมือนกนั อาจจะคดิ และเลือกใช้ แนวทางเพ่ือแก้ปัญหาทีต่ ่างกัน และมีมุมมองในการแก้ไขปญั หาทต่ี ่างกนั โดยสิน้ เชิง ดังแสดงในตารางที่ 1 ตารางท่ี 1. เศรษฐศาสตรก์ ับการแกป้ ญั หาท่ัวไปของสังคม ปญั หา การแก้ไข ข้อแยง้ กรณีญปี่ ุ่น รฐั บาลต้งั กาแพงภาษขี า้ วท่ี - ราคาข้าวในญีป่ นุ่ จะสูงขึ้น ทาให้ ข้าวจากไทยจะเขา้ มาขาย จะนาเข้า อุตสาหกรรมขนบกระทบกระเทือน ในญปี่ ุน่ ด้วยราคาขายท่ตี า่ ราคาขนมสูงข้ึนตาม กวา่ - ไทยขายขา้ วญี่ปนุ่ ได้น้อยลง ทาให้ ชาวนาไทยขาดกาลงั ซ้อื และซื้อสนิ ค้า อ่ืนๆ ของญี่ปนุ่ น้อยลง กรณีสหรัฐ ออกแบบระบบตาข่ายจับ - ตน้ ทุนการจับทนู า่ สงู ขึ้น ทาใหร้ าคา อุตสาหกรรมจบั ปลาทนู า่ ปลาทูน่าใหม่ เพ่ือให้ ขายทนู า่ ในสหรัฐสงู ขน้ึ สง่ ผลใหจ้ านวนปลาโลมา ปลาโลมารอดออกมาได้ - ตาขา่ ยชนดิ ใหม่อาจทาให้จับทูน่าได้ ลดน้อยลง ยากขน้ึ ทาให้ต่างประเทศสามารถสง่ ปลาทนู า่ เข้ามาขายในสหรัฐมากขึน้ กรณไี ทย สงครามตอ่ ตา้ นยาเสพติด - รฐั บาลปราบปรามอยา่ งหนัก ทาให้ คนไทยตดิ ยาบ้ามากข้ึน และการบญั ญัติโทษผู้ที่ ยาบา้ หายาก ราคาจงึ สงู ข้ึนมาก ส่งผล เกี่ยวขอ้ งรุนแรงขึ้น ใหผ้ ู้เสพที่มรี ายได้น้อยกอ่ อาชญากรรม เพ่ือหาเงินมาซือ้ - ผลประโยชนข์ องยาบ้ามมี าก อาจ ก่อให้เกดิ การคอรัปช่ันในผ้ทู ่ีเกยี่ วข้อง - ผลการปราบปราม อาจสง่ ผลให้ผู้ บริสุทธ์มิ ีการสญู เสยี ประเภทของเศรษฐศาสตร์ ก่อนท่จี ะทราบวา่ เศรษฐศาสตรม์ กี ่ีประเภท สงิ่ ท่ีจาเป็นต้องทาความเขา้ ใจกอ่ นคือ ตอ้ งทราบว่า การศกึ ษา เศรษฐศาสตรม์ ขี อ้ สมมุติฐานอยา่ งไรก่อน เพอ่ื กาหนดแนวทางในการศึกษาใหช้ ัดเจน โดยทว่ั ไป สมมตุ ิฐานทาง เศรษฐศาสตร์ (Economics Assumption) โดยแบง่ เปน็ 2 ประเภท คือ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 175 ------------------------------------------------------------------------------- -มนษุ ยด์ าเนินกจิ กรรมอย่างมีเหตุผลทางเศรษฐกจิ (Economics Rationality)มนษุ ยไ์ มว่ ่าอย่ใู นเพศ ฐานะ การศกึ ษา หรอื ตาแหนง่ ใดๆ จะมีการตดั สินใจที่จะทาใหต้ นเองได้รับประโยชน์สงู สดุ เสมอ (Maximization Hypothesis) เช่น หากมีร้านหลายร้านให้เลอื กซ้อื VDO มนุษย์จะตัดสินใจเลือกซื้อ VDO จากร้านที่ขายราคา ตา่ สดุ หรือบางกรณีอาจตัดสินตามความนิยมหรือความเคยชนิ ของตัวเอง หรือเพราะความมีระดบั แม้ราคาสินคา้ อาจจะแพงกว่าร้านอน่ื กต็ าม -สิ่งอน่ื นอกเหนอื จากการพิจารณา ให้มคี ่าคงท่ี (All other things being equal)เนอ่ื งจากในทาง เศรษฐศาสตร์การตัดสนิ ใจมีความหลากหลายและมีผลกระทบในวงกวา้ งมาก จึงเปน็ ไปไมไ่ ดท้ ผ่ี ู้ศึกษาจะมีขอ้ มูล ครบทกุ ดา้ น ดงั นน้ั จะสมมตุ ิฐานให้ ปัจจยั รอบดา้ นทไ่ี ม่เกี่ยวขอ้ งหรือมีความเก่ยี วขอ้ กับปญั หาน้อยมากนน้ั มีคา่ ไม่ เปลย่ี นแปลงตลอดช่วงเวลาท่ีทาการศกึ ษา เชน่ รสนิยมของผู้บรโิ ภคมีค่าคงท่ี ตัวอยา่ ง เช่น กรณีในจังหวัดเชยี งใหม่มีขา่ วลงหนงั สือพิมพ์ “แหก่ นิ ลาบตน้ ยาง น้องแนนสาวเสริ ฟ์ สวย ระดับนางแบบ” สือ่ ให้เหน็ ว่าผูท้ ไี่ ปรับประทานอาหารมีวัตถุประสงคใ์ นการตัดสินใจต่างกัน บางคนไปเนื่องจาก อาหารอรอ่ ย แต่บางคนไปเน่ืองจากมขี ่าวจงึ ต้องการเจอกับผู้ทเ่ี ป็นข่าว ดงั น้ันจงึ เขา้ กับประเดน็ สมติฐาน มนุษย์ ดาเนินกิจกรรมอยา่ งมีเหตผุ ลทางเศรษฐกจิ (Economics Rationality) สิ่งอนื่ นอกเหนือจากการพิจารณา ให้มี คา่ คงท่ี (All other things being equal) ในการศึกษาด้านเศรษฐศาสตรจ์ ะแบง่ การวิเคราะห์ออกเปน็ 2 รปู แบบด้วยกนั คือ การวิเคราะห์ตามความเปน็ จรงิ (Positive Economics) เป็นการวิเคราะห์เพ่อื อธบิ ายพฤติกรรมทางเศรษฐศาสตร์อย่างมีเหตมุ ีผลโดยปราศจากการใชด้ ลุ ยพินิจ ทัง้ การวิเคราะหส์ ิ่งท่ีเคยเกดิ ขนึ้ ในอดีต (What was?) ที่กาลงั เกดิ ขึ้นอยู่ (What is?) หรือทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขึ้นในอนาคต (What will be) เช่น การวเิ คราะห์ผลของราคานา้ มันทส่ี ูงขึ้น(หรอื ลดต่าลง) ทีม่ ตี ่อราคาสนิ คา้ และบรกิ ารอื่นๆ หาก รฐั บาลเก็บภาษีจากผ้ปู ล่อยมลพษิ จะส่งผลตอ่ ราคาสินค้าและปริมาณการบริโภคในสินคา้ นนั้ ๆหรอื ไม่ การวเิ คราะหจ์ ากท่คี วรเปน็ (Normative Economics) เปน็ การวิเคราะห์โดยคาตอบท่ไี ด้จากวเิ คราะห์แบบน้ีจะไมแ่ น่นอนตายตัวเหมือนแบบแรก เน่ืองจากจะ ข้ึนกับวจิ ารณญาณของผวู้ ิเคราะห์นัน้ ๆ เปน็ หลัก เช่น การวเิ คราะหว์ ่ารัฐบาลไทยมนี โยบายแทรกแซงราคานา้ มันใน ช่วงเวลาทร่ี าคานา้ มันในตลาดโลกมีราคาสูงขนึ้ หรือไม่ หรอื รัฐบาลมีนโยบายลอยตวั ราคากา๊ ซหุงตม้ ให้สะทอ้ น ราคาท่ีแท้จริงหรือไม่ ซึ่งแตล่ ะคนก็จะมีแนวคิดไมเ่ หมือนกนั นบั ตง้ั แต่ผลงาน The Wealth of the Nation ของ Adam Smith ถือกาเนดิ ขึน้ ในปี ค.ศ.1776 เน่ืองจาก เป็นยุคอุตสาหกรรมดงั นั้นการศึกษาเศรษฐศาสตรห์ ลังจากนนั้ จะเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกจิ ของคนในสังคม เชน่ การแก้ปญั หาครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรม โดยเชื่อตามกฎของชายส์ (Say’s Law) ว่า อุปทานจะสร้างอปุ สงค์ ดว้ ยตัวมนั เองเสมอ (Supply always creates its own demand) เช่น เมื่อโรงงานสามารถผลิตสนิ ค้ามาขายกไ็ ม่ ต้องกลวั จะไมม่ คี นซื้อ เนื่องจาก คนงานหรอื ลกู จ้างของโรงงานก็สามารถเปน็ ผู้ซื้อได้ ดังนัน้ การศึกษาในช่วงแรก จงึ มงุ่ เนน้ ไปในสง่ิ ที่ในปัจจบุ ันเข้าใจกนั ในช่ือ เศรษฐศาสตร์จลุ ภาค เป็นหลัก แต่หลงั จากเมื่อโลกประสบปัญหาเศรษฐกิจตกตา่ ครงั้ ใหญ่ (The Great Depression) ในทศวรรษที่ 1930 ส่งผลให้อตั ราคนว่างงานในองั กฤษและสหรัฐพ่งุ สงู ถึง 25 % ของคนงานทง้ั หมด ดังนน้ั จึงพบว่าแนวคดิ เดมิ ตาม หลักของ Adam Smith น้นั ไมส่ ามารถแกป้ ัญหาได้เสมอไปโดยเฉพาะหากไมส่ นใจสภาพเศรษฐกจิ โดยรวม จงึ มี

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 176 ------------------------------------------------------------------------------- การปรับปรงุ แนวคิดและการพิจารณาให้ความสาคัญต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมากข้นึ ไม่ใช่ไปมองเฉพาะภาพเลก็ โดยในทางสากลยดึ ถอื แนวคิดของ John Maynard Keynes นกั เศรษฐศาสตร์ชาวองั กฤษที่บุกเบิกแนวคิดที่เน้น เศรษฐศาสตรใ์ นภาพรวม และหลังจากนน้ั ได้มกี ารศกึ ษาแนวคดิ ดังกลา่ วและมกี ารแตกแขนงสบื ตอ่ กนั มามากมาย โดยรู้จักกนั ในนาม เศรษฐศาสตร์มหภาค ซึง่ รายละเอยี ดของการศึกษาเศรษฐศาสตร์ท้ัง 2 ประเภท มดี งั ตอ่ ไปน้ี เศรษฐศาสตร์จุลภาค (Microeconomics) เปน็ การศกึ ษาถงึ พฤติกรรมของเศรษฐกิจในระดับหนว่ ย หรอื ระดับบคุ คล เช่น ศกึ ษาเกยี่ วกบั การ ดาเนนิ การเก่ียวกบั การผลติ การบริโภคของบคุ คลใดบุคคลหน่ึงซ่ึงเก่ยี วกบั ส่วนยอ่ ยๆ ของระบบเศรษฐกจิ โดยเนน้ ถงึ ปัจจยั การผลิตตา่ งๆ โดยมีตน้ ทุนการผลิตทตี่ ่าทสี่ ุดเพอ่ื กอ่ ให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด (Minimization of Cost for Maximization of Utilities) ซึ่งทาใหเ้ ศรษฐศาสตร์จลุ ภาคเน้นไปทีก่ ารกาหนดราคาสนิ ค้าจากตน้ ทุนการผลิต และความตอ้ งการใชส้ ินคา้ และบรกิ ารน้ันของผูบ้ ริโภค กลา่ วโดยสรุปคอื เปน็ เรื่องของธุรกิจเดยี ว ตลาดเดยี ว ซง่ึ สามารถใช้หลักอุปสงค์ (Demand) คือ การมองทางดา้ นผ้ซู ื้อ และอปุ ทาน (Supply) ซึ่งเปน็ การมองทางด้านผูข้ าย โดยในการวิเคราะหส์ ามารถใช้กลไกลราคาทาหนา้ ทใี่ นตลาด เช่น - การศกึ ษาพฤตกิ รรมของผู้บริโภคทีม่ ีตอ่ การบริโภคสนิ คา้ ชนิดใดชนิดหนงึ่ - การศึกษาว่าการโฆษณามีอิทธิพลตอ่ พฤตกิ รรมการบริโภคของประชาชนมากนอ้ ยเพียงใด เศรษฐศาสตรม์ หภาค (Macroeconomics) เปน็ การศึกษาถงึ พฤตกิ รรมของเศรษฐกจิ ในระดบั นโยบาย หรอื มองภาพเศรษฐกิจโดยรวม เช่น ศกึ ษาถงึ ผลผลิตรวมของประเทศ อตั ราการจา้ งงาน การเงินการธนาคาร รายได้ประชาชาติ การส่งออก/นาเขา้ เป็นต้น โดยมี แนวคิดในการวเิ คราะห์มากมาย แต่หลกั การเบ้ืองตน้ ง่ายๆ คือ อุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) เชน่ กัน ซง่ึ การศกึ ษาเศรษฐศาสตรม์ หภาคทาใหเ้ ราสามารถทาความเขา้ ใจถงึ ปรากฏการณท์ างเศรษฐกิจได้ดีข้ึน สามารถ นาเอาแนวคดิ และทฤษฎไี ปใช้เปน็ เครือ่ งมือประกอบการวเิ คราะห์ตัดสินใจบริหารงานดา้ นตา่ งๆ ท้งั ภาครัฐและ เอกชนในการการสรา้ งความเจริญเตบิ โตทางดา้ นเศรษฐกจิ (Economic Growth) การรกั ษาเสถยี รภาพทาง เศรษฐกิจ (Economic Stabilization) และการกระจายความเป็นธรรม (Distribution Function) เช่น - รัฐบาลออกแถลงการณว์ ่า เศรษฐกจิ ในปี พ.ศ. 2551 ขยายตัวร้อยละ 5 ต่อปี - การศกึ ษาถงึ ผลกระทบของการกอ่ หนส้ี าธารณะทม่ี ีต่อภาระภาษีของประชาชน เศรษฐศาสตร์มหภาค เป็นศาสตรท์ ่ีวา่ ด้วยเร่ืองราวหรือพฤติกรรมทางเศรษฐกจิ ในระดับกว้าง ซงึ่ เปน็ เรื่องราวของเศรษฐกจิ ในระดับสว่ นรวมของประเทศ ของภูมิภาค จนถงึ ระดบั โลก เชน่ การศึกษาเก่ียวกบั ผลผลติ โดยรวมของประเทศ หรอื รายได้ประชาชาติ การจ้างงาน ระดบั ราคา พฤตกิ รรมการใช้จา่ ยอุปโภคบริโภคของ ครวั เรอื น การนาเขา้ ส่งออก ดลุ การค้า โครงสร้างและปรากฎการณ์ทางเศรษฐกิจระดบั ชาติ และนโยบายของ ภาครฐั ที่ถูกใช้เพอื่ ให้เกดิ ผลกระทบต่อปรากฎการณ์ทางเศรษฐกิจ เป็นตน้ 2.ระบบเศรษฐกจิ ระบบเศรษฐกจิ (Economic System) หมายถงึ กลมุ่ บคุ คลของสังคมท่ีรวมตัวกันเป็นกลุม่ ของสถาบัน ทางเศรษฐกิจต่างๆ ซง่ึ ยึดถอื แนวปฏิบตั ิแนวทางเดียวกันในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกจิ โดยมีวตั ถุประสงค์ ร่วมกัน คือ อานวยความสะดวกในการท่จี ะแกไ้ ขปญั หาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เพอื่ ให้สามารถบาบัดความต้องการ ให้แก่บคุ คลต่างๆ ทอ่ี ยรู่ ว่ มกันในสังคมน้นั ให้ได้รับประโยชน์มากท่สี ดุ เกิดประสิทธิภาพสูงสดุ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 177 ------------------------------------------------------------------------------- 1. องคป์ ระกอบของระบบเศรษฐกิจ โดยในระบบเศรษฐกจิ จะประกอบไปดว้ ย หน่วยเศรษฐกิจ (Economics Unit) 3 หน่วยทส่ี าคัญ คือ 1. หน่วยครัวเรือน (Household) หมายถึง หนว่ ยเศรษฐกจิ ทปี่ ระกอบด้วยบคุ คลเพียงหนง่ึ คนหรอื มากกว่า หนง่ึ คนอาศยั อยู่ใต้หลงั คาเดียวกัน มกี ารตัดสินใจรว่ มกันในการใชท้ รพั ยากรหรือปัจจัยทางดา้ นการเงิน เพอื่ ให้เกดิ ผลประโยชน์และสวัสดิภาพแก่กลุ่มตนมากที่สดุ ซงึ่ หนว่ ยครวั เรือนจะมีหน้าท่ีสาคญั คือ มหี น้าท่ีเปน็ ผูผ้ ลิตหรือหา ปัจจยั การผลติ ได้แก่ ทีด่ ิน ทุน แรงงาน และการประกอบการ ใหฝ้ ่ายผลติ นาไปผลติ เป็นสนิ ค้าและบริการ และ หนว่ ยครัวเรือนอาจเปน็ ผบู้ ริโภคเอง ดงั นั้น หน่วยครวั เรือนจงึ มหี น้าท่สี าคัญในระบบเศรษฐกิจ 2 ประการ คอื เปน็ ผใู้ ห้ปจั จัยการผลิตหรือผูผ้ ลิตและเปน็ ผ้บู ริโภคสินคา้ และบริการ โดยโดยปัจจยั การผลิตในทางเศรษฐศาสตร์ พลังงาน จะประกอบดว้ ยหลัก 4 ปจั จัยหลัก คอื KLEM ดงั น้ี - ทนุ (Capital: K) คอื ทนุ ทุกประเภทที่ใชใ้ นการผลิต เช่น สนิ ทรัพยป์ ระเภททนุ อย่าง ทีด่ นิ เครือ่ งจกั รใน โรงงาน ตัวอาคาร รวมไปถงึ ผลตอบแทนของการใชท้ ุนในการผลติ นั่นคอื ดอกเบีย้ (Interest) หรือ คา่ เช่า (Rent) - แรงงาน (Labour: L) คือ บคุ คลทเี่ ข้ามามสี ่วนร่วมในการผลิตสนิ คา้ และบรกิ าร จะเป็นแรงงานมี ฝมี อื หรอื ไม่มฝี มี ือกไ็ ด้ โดยมีผลตอบแทนเปน็ ค่าแรงหรือค่าจ้าง (Wages) - พลังงาน (Energy: E) คือ พลังงานทีต่ อ้ งใช้ในการผลิตสินคา้ และบริการ เชน่ ไฟฟา้ น้ามัน เป็นต้น ผลตอบแทนของผู้ผลิตพลงั งานคอื กาไร (Profit) หรือรายไดน้ ่ันเอง - วตั ถดุ ิบ (Raw Materials: M) คือ วัตถุดิบท่ตี ้องเข้าสู่การผลติ สินคา้ และบรกิ าร เชน่ แกลบในโรงไฟฟ้า ชีวมวล เป็นต้น ผลตอบแทนของผผู้ ลติ พลงั งานคือ กาไร (Profit) หรือรายไดเ้ ช่นกัน 2. หนว่ ยธุรกจิ (Business Unit) หมายถึง กล่มุ คนหรอื กลมุ่ บุคคลท่ีทาหน้าทใี่ นการนาปัจจยั การผลิตมาทาการผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารแล้ว จาหน่ายไปให้ผบู้ ริโภค ดงั นั้น หน่วยธรุ กจิ เป็นท้ังผู้ผลิตที่ผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารเอง หรือเป็นผู้จาหนา่ ยสินคา้ และ บริการ หรอื บางรายอาจอาจเป็นทงั้ ผผู้ ลิตและผจู้ าหน่ายกไ็ ด้ หนว่ ยเศรษฐกจิ ทส่ี าคัญจะประกอบไปด้วยสมาชิก ใหญๆ่ 2 กล่มุ คือ ก. ผผู้ ลิต (Producers) ข. ผู้ขาย (Sellers) บคุ คลทง้ั 2 กลุ่มนี้อาจทาหน้าท่ีทั้งผผู้ ลิตและผูข้ ายในขณะเดยี วกนั ก็ได้ เป้าหมายหลักของหนว่ ยธุรกิจ ได้แก่ การแสวงหากาไรสูงสุดจากการประกอบการของตน โดยอาจทาได้หลายวิธี เช่น พยายามขายให้ไดม้ ากทส่ี ดุ การขยายส่วนแบง่ ของตลาด (Market Share) ให้มากขึน้ หรอื การกระทาท่จี ะชว่ ยให้สินคา้ ของตนเปน็ ที่ตอ้ งการ ของผูบ้ ริโภคมากกว่าสนิ คา้ ของผู้ขายรายอ่ืนๆ หน่วยเศรษฐกิจทงั้ 2 หนว่ ย คือ หนว่ ยครวั เรือนและหน่วยธุรกจิ จะทาหนา้ ท่สี ัมพนั ธ์กันจนเกิดเปน็ วงจร ในระบบเศรษฐกจิ ดังรูปท่ี 1.

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 178 ------------------------------------------------------------------------------- รปู ที่ 1. วงจรเศรษฐกิจพ้ืนฐาน (Circular flow of Macroeconomics Diagram) 3. หน่วยรฐั บาล (Government ) หมายถงึ หนว่ ยงานหรือส่วนราชการท่จี ัดต้ังข้ึนโดยมวี ัตถุประสงคเ์ พื่อการดาเนินการสาธารณประโยชน์ ซง่ึ หนว่ ยรฐั บาลจะเป็นท้งั ผผู้ ลติ ผูบ้ ริโภค เจ้าของปัจจยั การผลติ และมีความสมั พนั ธก์ บั หน่วยอน่ื ๆ ในระบบ เศรษฐกิจ โดยใหค้ วามช่วยเหลือ ส่งเสรมิ สนับสนนุ และควบคุมดแู ลการดาเนนิ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจใหเ้ ปน็ ไป ตามแนวทางท่ปี ระเทศต้องการ โดยสรุปบุคคลตา่ งๆ ที่อยใู่ นแต่ละหนว่ ยของระบบเศรษฐกิจจะมีหนา้ ทแ่ี ตกต่างกันซงึ่ อาจจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ - ผู้ผลติ (Producer): เปน็ ผูท้ ่ีดาเนินกิจกรรมในการผลติ สินคา้ หรือบรกิ ารเพ่ือจาหน่ายใหแ้ กผ่ ูบ้ ริโภค โดย มีจุดมุง่ หมายคือตอ้ งการผลกาไรสูงสดุ (Maximize Profit) จากการผลิตสินค้าและบริการนั้นๆ - ผู้บริโภค (Consumer): เป็นผูท้ ด่ี าเนินกจิ กรรมในการบรโิ ภคสนิ คา้ และบริการ โดยมีจุดมุง่ หมายคอื ต้องการความพงึ พอใจสงู สดุ (Maximize Satisfaction) จากการผลิตสนิ ค้าและบริการน้นั ๆ - ปจั จัยการผลติ (Factor Owners): เปน็ ผ้ทู ่เี ป็นเจา้ ของหรือครอบครองปัจจยั การผลิต (Factor Inputs) ท่ี เสนอขายปัจจยั การผลติ ทต่ี นมหี รือครอบครองใหแ้ กผ่ ผู้ ลิต โดยมจี ุดมงุ่ หมายคอื ตอ้ งการผลตอบแทนสงู สุด ทั้งที่ เปน็ ตัวเงนิ หรือไม่เป็นตัวเงิน

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 179 ------------------------------------------------------------------------------- รปู ที่ 2. วงจรเศรษฐกิจพ้ืนฐาน โดยใชก้ ลไกลหน่วยรัฐบาลในการควบคมุ ท้ังผูผ้ ลติ ผู้บริโภค และเจา้ ของปจั จัยการผลิต ต่างมคี วามสัมพันธเ์ ชิงเศรษฐกจิ ต่อกนั โดยทีเ่ จา้ ของปจั จัย การผลติ จะจาหน่ายปจั จยั การผลิต (KLEM) ผา่ น “ตลาดสาหรับปจั จัยการผลติ ” เพ่อื ปอ้ นสู่ผู้ผลติ (หรือจะเรยี กว่า ผใู้ ช้ปจั จัยการผลติ กไ็ ด้) โดยเจา้ ของปัจจยั การผลิตจะได้รับรายได้ (Incomes) จากผผู้ ลิต ในขณะผู้ผลิตจะต้องจา่ ย รายไดน้ ัน้ ในรูปของแรงงาน (Wages) เพอ่ื จา้ งแรงงาน คา่ เชา่ (Rent) ในทีด่ นิ เครื่องจักร หรือคา่ เชา่ โรงงาน หรือ ผลกาไรจากรายได้อ่ืนๆ (Profit) จากการขายวัตถดุ บิ คา่ น้า คา่ ไฟฟา้ และคา่ ดอกเบี้ยธนาคาร เป็นตน้ ในขณะดา้ น หนง่ึ เม่ือผู้ผลติ สามารถผลติ สินคา้ และบริการของตนไดแ้ ล้ว กจ็ ะนาสินคา้ และบริการน้ันเขา้ สู่ “ตลาดสนิ ค้าและ บรกิ าร” เพื่อจาหนา่ ยให้แกผ่ ู้บริโภค อนั จะนามาซง่ึ รายรับ (Revenues) ของผู้ผลิตท่ีเกิดจากค่าใชจ้ ่ายของการ บรโิ ภค (Consumption Expenditures) ของฝั่งผู้ผลติ นั่นเอง ดงั แสดงในวงจรเศรษฐกจิ พ้ืนฐาน ดังรปู ที่ 2. 2.ประเภทระบบเศรษฐกจิ ระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ ในโลกนนั้ แบง่ ตามหน้าที่การตัดสนิ ใจทางเศรษฐกจิ ว่าอานาจการตัดสินใจ ขึ้นอยูก่ บั กลมุ่ ใด ระหวา่ งเอกชนกบั รัฐ หรือผสมผสานระหว่างเอกชนและรัฐ ปัจจุบันระบบเศรษฐกิจของโลกแบง่ ตามลักษณะลทั ธินยิ ม ซึง่ สอดคลอ้ งกบั การเมืองการปกครองของประเทศนนั้ ๆสามารถแบ่งได้ 4 ระบบ ดังน้ี 1. ระบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม (Capitalist Economic System) เปน็ ระบบเศรษฐกิจท่ีถอื ว่ากจิ กรรมทาง เศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างย่ิง การเปน็ เจา้ ของปัจจัยและการลงทนุ ในการผลิตเป็นกรรมสทิ ธิข์ องเอกชน และยอมให้ ผู้ประกอบการมีโอกาสแขง่ ขันในทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ได้มาซง่ึ ผลกาไร หรอื ผลประโยชน์ตามความสามารถและ ความปรารถนาของแต่ละบุคคล ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมีชอื่ เรยี กตา่ งๆ กัน เชน่ ระบบเศรษฐกจิ แบบเสรี (Free Economy) ระบบธุรกจิ เอกชน (Private Enterprise) ระบบตลาดแท้ (Market System) ระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยมนี้เราจัดอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบไม่มีการวางแผน เพราะการตัดสนิ ใจท่ีจะผลิตอะไร ผลติ อยา่ งไร และผลิตเพอื่ ใคร ตกอยใู่ ต้อทิ ธิพลของกลไกราคาทงั้ สิน้ โดยเช่ือว่า การแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยเสรี เป็นวิธที ด่ี ี

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 180 ------------------------------------------------------------------------------- ที่สดุ ในการเพ่มิ ประสิทธิภาพการผลติ รวมถึงในการกาหนดปริมาณและคณุ ภาพของผลผลิตใหส้ อดคลอ้ งกับความ ต้องการของผบู้ รโิ ภค 2. ระบบสังคมนิยม (Socialist Economic System) หมายถงึ ระบบเศรษฐกิจท่ีรัฐเข้าไปเปน็ เจา้ ของ ปจั จยั การผลิตในภาคอตุ สาหกรรมข้ันพื้นฐาน เสรีภาพในการผลติ ของเอกชนถูกจากัดลงไป รฐั จะเปน็ ผู้วางแผน และควบคมุ การผลิต โดยเป็นผ้กู าหนดว่าจะผลติ อะไร จานวนมากน้อยเทา่ ไร และจะแบ่งสรรให้แก่ผใู้ ด มใิ ช่เพ่ือม่งุ ผลทางด้านกาไร ประเทศเหลา่ นีจ้ ะโอนกิจการธนาคาร และกจิ การท่ใี ชท้ รัพยากรเป็นวตั ถุดบิ เชน่ ป่าไม้ นา้ มนั เหมอื งแร่ เป็นต้น รัฐทีใ่ ช้ระบบเศรษฐกิจแบบน้ีสว่ นมากจึงต้องเป็นรัฐสวัสดกิ าร (Welfare State) เพื่อเป็น หลักประกนั การกินดีอยู่ดีของประชาชน 3. ระบบคอมมิวนสิ ต์ (Communist Economic System) เปน็ ระบบเศรษฐกิจท่ที รัพย์สินทกุ อย่างเป็น ของรัฐ เอกชนไม่มสี ทิ ธ์เิ ปน็ เจ้าของทรัพย์สินใดๆ รัฐเขา้ ควบคมุ การผลิตเองโดยสมบรู ณ์ การทจ่ี ะผลติ อะไร ผลิต อยา่ งไร และผลิตเพ่ือใครบา้ งนน้ั รัฐเปน็ ผู้วางแผนและดาเนินการทง้ั ส้ิน 4. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economic System) หมายถงึ ระบบเศรษฐกจิ ท่ีรฐั มสี ว่ นใน กจิ กรรมทางเศรษฐกิจของประเทศหลายประการ เชน่ เขา้ แทรกแซงหรือควบคุมกิจกรรมเศรษฐกิจบางอย่าง ตลอดจนดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกิจเสียเอง แตก่ ิจกรรมส่วนใหญ่ยังเปน็ ของเอกชนอยู่ ในระบบนรี้ ัฐบาลและ เอกชนต้องรับผดิ ชอบร่วมกัน ในการตัดสินปญั หาวา่ จะผลิตอะไร ผลติ อย่างไร และผลติ เพอื่ ใคร โดยพยายาม กาหนดขอบเขตของรัฐบาลในการควบคุม สง่ เสริม ช่วยเหลือในดา้ นตา่ งๆ เชน่ การไฟฟา้ การประปา การขนส่ง การศกึ ษา การป้องกันประเทศ เปน็ ต้น 3. ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทย ตามท่ีได้พจิ ารณาจะเห็นว่า ประเทศประชาธิปไตยทก่ี าลังพฒั นาส่วนมากใช้ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม (Mixed Economic System) ค่อนไปทางทนุ นยิ ม รวมถึงประเทศไทยดว้ ย โดยทีท่ ้ังรฐั บาลและเอกชนมสี ิทธเิ ป็น เจ้าของทั้งทรัพยากร และปจั จัยการผลิตต่างๆ เอกชนยงั คงมีแรงจงู ใจในการผลิต โดยอาศัยกลไกราคา และโดยการ ควบคุมจากรฐั บาล เพื่อแกป้ ัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกจิ และคุ้มครองผลประโยชน์ของสงั คมส่วนรวม ในสว่ นท่ีรัฐ เข้าไปดาการบางอยา่ ง เชน่ 1. ดาเนนิ การเกย่ี วกบั การป้องกนั ประเทศและความมั่นคงของประเทศ เชน่ กจิ กรรมด้านทหาร ตารวจ ศาล เปน็ ต้น 2. ดาเนินการด้านเศรษฐกิจพื้นฐาน เช่น สรา้ งสนามบนิ ถนน รถไฟ เป็นต้น 3. ควบคมุ การดาเนนิ การดา้ นการศึกษาและการสาธารณสขุ เช่น จดั การศึกษาข้ันพ้ืนฐานจดั การดา้ น การแพทย์ เปน็ ต้น 4. ดาเนินกิจการสาธารณูปโภค เชน่ การรถไฟ การไฟฟ้า การประปา เป็นตน้ อุปสงค์และอุปทาน 1. อุปสงค์ อุปสงค์ (Demand) หมายถงึ ปริมาณสินค้าและบริการชนิดใดชนดิ หน่งึ ทม่ี ผี ้ตู ้องการซ้ือ ณ ระดับราคา ตา่ งๆ ของสินคา้ ชนิดน้นั ภายในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยสมมติให้ปจั จยั อื่นๆ ท่ีกาหนดอปุ สงคค์ งที่ ความตอ้ งการ ในทนี่ ี้ตอ้ งมีอานาจซอื้ (Purchasing Power หรอื Ability to Pay) ดว้ ย ถ้าบุคคลใดบุคคลหนึง่ มแี ตค่ วามต้องการ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 181 ------------------------------------------------------------------------------- ในตวั สนิ คา้ โดยไมม่ ีเงินท่จี ะจ่ายซือ้ เราเรยี กความต้องการลกั ษณะนนั้ วา่ “ความต้องการ (Want)” ไมใ่ ช่ “อปุ สงค์ (Demand)” ดงั นนั้ องค์ประกอบของอปุ สงค์ จะประกอบด้วย ความต้องการและอานาจซอื้ 2. อุปทาน อปุ ทาน (Supply) หมายถงึ ปรมิ าณสินคา้ และบริการชนิดใดชนิดหนึง่ ทผี่ ผู้ ลติ เตม็ ใจนาออกเสนอขาย ใน ตลาดภายในระยะเวลาหน่งึ ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ของสินคา้ และบรกิ ารนั้น โดยสมมตใิ ห้ปจั จัยอ่ืนๆ ทกี่ าหนด อปุ ทานคงที่ อปุ ทานประกอบดว้ ย 2 ส่วนสาคญั คือ 1. ความเต็มใจท่ีจะเสนอขายหรอื ใหบ้ ริการ (Willingness to Sell) กลา่ วคือ ณ ระดบั ราคาตา่ งๆ ทต่ี ลาด กาหนดมาให้ ผู้ผลติ หรือผูป้ ระกอบการมคี วามยนิ ดีหรือเต็มใจท่ีจะเสนอขายสนิ ค้าหรอื ใหบ้ ริการตามความต้องการ ซ้อื ของผู้บริโภค 2. ความสามารถในการจดั หามาเสนอขายหรอื ใหบ้ รกิ าร(Ability to Sell) กลา่ วคือ ผู้ผลิต หรือ ผปู้ ระกอบการ จะตอ้ งจัดหาให้มสี นิ ค้า หรือบริการ อย่างเพยี งพอที่จะตอบสนองความต้องการซื้อของผู้บริโภค ณ ระดบั ราคาของตลาดในขณะนน้ั ๆ (สามารถเสนอขาย หรือให้บรกิ ารได)้ เมือ่ กล่าวถงึ คาวา่ “อุปทาน” จะเปน็ การมองทางด้านของผู้ผลิต ซึง่ ตรงข้ามกับอุปสงคท์ ี่เป็นการมอง ทางดา้ นของผบู้ ริโภค ในทางเศรษฐศาสตรแ์ ล้วความสมั พันธข์ องราคาสนิ ค้าท่ีมีต่ออุปทานและอปุ สงค์มีดงั น้ี กฎของชายส์ (Say’s Law) พจิ ารณารูปที่ 4. เสน้ อุปสงค์ AD และเส้นอุปทาน AS พบว่า ทจี่ ดุ A ซึ่งเปน็ จดุ ดลุ ยภาพเริ่มต้นที่เสน้ อุป สงค์ตัดเสน้ อปุ ทาน คือ ผูผ้ ลติ สามารถจาหน่ายสนิ ค้าในปริมาณ Q ใหก้ บั ผบู้ รโิ ภคในราคา P เม่ือสมมุติว่าระบบ เศรษฐกจิ มปี ัญหาทาใหข้ าดกาลังซือ้ จากผบู้ รโิ ภค ทาให้เส้นอปุ สงค์ AD ลดลงเลือ่ นมาทางซ้ายมือมาเป็นเส้น AD’ หากยังจาหนา่ ยสินค้าในราคาเดิมจะทาให้บางคนไมม่ ีกาลังซือ้ ทาใหย้ อดจาหนา่ ยลดต่าลง ซงึ่ จะทาให้การผลติ ลดลง ในช่วงแรก (จดุ B) หลังจากนั้นจะมีการปรบั ตวั ของผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึง่ จะทาใหร้ าคาขายสนิ คา้ ลดลงจาก P เป็น P’ และเมือ่ ราคาลดลงระบบการผลติ จะเขา้ สูส่ ภาวะดุลยภาพ การบริโภคจะกลับมาที่จุด Q’ ซ่ึงกค็ อื ปรมิ าณเดยี วกบั จดุ Q อกี คร้ังเข้าสู่ดุลยภาพทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Equilibrium) ทจ่ี ดุ C รูปที่ 4. ความสัมพันธข์ องอุปสงคแ์ ละอปุ ทานตามทฤษฎขี องชายส์ (ภราดร ปรดี าศกั ด์ิ, 2556) แนวคดิ ของเคนส์ Kynesian Economics

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 182 ------------------------------------------------------------------------------- เมอ่ื โลกเจอวกิ ฤตเศรษฐกิจ ผู้บรโิ ภคขาดกาลังซื้ออย่างมาก มีการวา่ งงานมากมายพบว่า อุปทานไม่สามารถ กาหนดอปุ สงค์ได้จรงิ ตาม Say’s Law ตอ่ มาจงึ ได้เกดิ แนวคดิ ใหม่โดย Keyne และรูจ้ ักกนั ต่อมาวา่ เปน็ ของสานกั เคนส์เซยี่ น (Kynesian Economics) โดยสามารถสรุปได้วา่ แนวคิดเดิมที่เส้นอุปทานรวมเป็นเสน้ แนวดง่ิ น้ันไม่ เป็นจริงเสมอไป โดยเส้นอปุ ทานรวมจะเป็นเส้นทีค่ ่อนข้างลาดขนึ้ บนจากซ้ายไปขวาในลักษณะความชันของเส้น เป็นบวกเสมอ อกี ท้ังอุปทานจะไม่สามารถสร้างอปุ สงค์ไดเ้ อง ผลผลติ จะเบย่ี งเบนไปหาดุลยภาพใหมไ่ ดใ้ น ระยะเวลาทยี่ าวนาน รูปที่ 5. ความสัมพันธ์ของอุปสงคแ์ ละอุปทานตามสานกั เคนสเ์ ซีย่ น (ภราดร ปรดี าศักด์ิ, 2556) ยกตัวอย่าง การผลติ ปาล์มน้ามันจะมีปรมิ าณตามศกั ยภาพตามแนวเสน้ QP แต่ในความเป็นจริงสังคมน้ี ขาดแคลนอุปสงค์รวม (คนในสังคมขาดกาลังซอื้ ปาลม์ นา้ มัน) ทาให้มีการผลติ แค่ปรมิ าณ Q ซึง่ เปน็ จุดท่ีเสน้ อุป สงค์รวมไปตดั กับเสน้ อุปทานรวมท่จี ุด X ซ่งึ เมือ่ ผลติ ปริมาณนอ้ ยลงอัตราการวา่ งงานกเ็ พ่มิ ข้ึนถา้ รัฐบาลแทรก แทรงโดยการชว่ ยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพือ่ ให้มีการจับจา่ ยใช้สอยมากขน้ึ ในสนิ คา้ ปาล์มนา้ มัน จะสง่ ผลใหเ้ สน้ อปุ สงค์ รวมขยบั ไปทางขวา ทาใหเ้ ส้นอปุ สงค์รวมใหม่นไี้ ปตดั กับเสน้ อปุ ทานที่จดุ Y จึงมกี ารผลิตนา้ มันปาลม์ มากขนึ้ เป็น ทีจ่ ดุ Q’ ซง่ึ แม้จะยงั ต่ากว่าปริมาณศกั ยภาพทจ่ี ดุ QP แต่กถ็ อื ไดว้ า่ การกระตุ้นจากรฐั บาลช่วยสร้างงานให้แกค่ นใน สงั คมเพิ่มข้นึ อีกท้ังยงั จะชว่ ยเพมิ่ ผลผลิตของสงั คมใหส้ ูงขึน้ ดว้ ย แนวคดิ ของ Keynesc หรือที่เข้าใจในช่ือสานกั เคนสเ์ ซ่ยี นนั้นขดั แย้งกับแนวคดิ ของ Say อย่างส้ินเชิง จาก แนวคิดของทั้งสองสานักนี้ ในเวลาต่อมาไดม้ ีการขยายแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์อีกมากมาย เช่น แนวคิดสานกั การเงินนิยม สานกั คลาสสิคแบบใหม่ หรือ สานกั เสรนี ยิ มใหม่ เปน็ ต้น อย่างไรก็ตามท่ีไมส่ ามารถปฏเิ สธไดก้ ็คือ แนวคดิ ของ Keynes ของสานักเคนสเ์ ซีย่ นน้ันได้กอ่ ใหเ้ กิดแนวคิดใหมใ่ นแงเ่ ศรษฐศาสตร์ทใ่ี ช้ในการมองภาพรวม ของทั้งระบบเศรษฐกิจ และสานต่อไปยังการจัดทารายได้ประชาชาตผิ า่ นบัญชปี ระชาชาติ ตารางปจั จยั ผลผลิต – ผลผลติ และเมตรกิ ซ์บัญชสี งั คม เปน็ ต้น รายได้ประชาชาติ ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์ระดับมหภาคนั้น เปน็ การศกึ ษาในภาพรวม เช่นในระดบั ประเทศจะมีรายได้ การ ออม การลงทุน เปน็ เท่าไหร่นั้น จาเป็นต้องมเี ครื่องมือในการวดั ผลการดาเนินเศรษฐกิจของประเทศ เพอื่ ใช้เปน็ ข้อมูลในการวางแผนระดบั ประเทศในอนาคต ซงึ่ เคร่ืองมือท่ใี ช้น้มี ชี อื่ เรียกวา่ “รายได้ประชาชาติ”

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 183 ------------------------------------------------------------------------------- รายได้ประชาชาติ (National Income) หมายถงึ มูลค่าหรอื ผลรวมของรายได้ประเภทตา่ งๆที่บุคคลใน ระบบเศรษฐกิจ (มักหมายถึงประเทศ) ได้รบั ที่เกดิ จากการผลติ ในระบบเศรษฐกจิ ปจั จัยในรอบระยะเวลาที่กาหนด (เชน่ รอบไตรมาส Quarter หรอื ที่นิยมใช้คอื รอบ 1 ป)ี ประโยชน์ของรายไดป้ ระชาชาติ ตัวเลขรายได้ประชาชาติเป็นดัชนีแสดงถึงความสามารถของระบบเศรษฐกิจว่ามีกาลังและความสามารถ ผลติ สินค้าและบริการทค่ี ดิ เป็นมลู ค่าไดม้ ากนอ้ ยเพียงใดในระยะหนึ่งๆ สว่ นมากมรี ะยะเวลา 1 ปี ดังน้นั ตัวเลข รายไดป้ ระชาชาติจึงเป็นดัชนีสาคัญอยา่ งหนง่ึ ในการท่ีจะช้ีใหเ้ หน็ ถึงระดับการพัฒนา รวมทง้ั ความมง่ั คั่งหรือยากจน ของระบบเศรษฐกิจในประเทศหนึง่ ๆ การเปลีย่ นแปลงในระดบั รายได้ประชาชาติจะเปน็ เครื่องแสดงถึงการ เปล่ยี นแปลงของภาวะเศรษฐกิจของแตล่ ะประเทศว่าดีข้ึนหรือเลวลงไดโ้ ดยใชต้ วั เลขรายไดป้ ระชาชาตเิ ปรียบเทียบ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปนี น้ั ๆ กับปีทีผ่ ่านๆ มา นอกจากนี้ตัวเลขรายไดป้ ระชาชาติยังใช้เป็นตวั เปรยี บเทยี บ ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศกบั ประเทศตา่ งๆ รวมทง้ั ใช้เป็นเครือ่ งมือกาหนดนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศ และแสดงให้เหน็ ถึงความสาเรจ็ ของนโยบายต่างๆ ท่ไี ด้ดาเนนิ การไปแล้ว จากทกี่ ลา่ วน้ี อาจสรปุ ได้ว่าตัวเลขรายได้ ประชาชาตมิ ีประโยชน์ดังนี้ 1. ในด้านการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ตัวเลขรายไดป้ ระชาชาติทาให้รวู้ า่ เศรษฐกิจของ ประเทศกาลังรงุ่ เรืองหรือตกตา่ และสามารถเปรียบเทียบเศรษฐกิจของประเทศวา่ ในระยะเวลาเดยี วกนั เศรษฐกิจ รุ่งเรืองกว่าหรือตกต่ากวา่ ประเทศอืน่ ๆ นอกจากนี้ยงั ช้ีใหเ้ ห็นการกระจายรายไดต้ ลอดจนมาตรฐานการครองชีพ และความเป็นอยขู่ องประชากร 2. ในการกาหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ตวั เลขรายไดป้ ระชาชาตินอกจากจะชี้ใหเ้ หน็ ถึงภาวะ เศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังเปน็ เครือ่ งมือสาคญั ในการกาหนดนโยบายเศรษฐกจิ ของประเทศในอนาคต โดยทาให้ ทราบว่ารัฐควรจะแทรกแซง ส่งเสริม หรือตัดทอนกิจการประเภทใด และภายในขอบเขตใดจึงจะเหมาะสม 3. เป็นเครือ่ งมือวางนโยบายจัดเก็บภาษอี ากรตัวเลขรายได้ประชาชาติทาใหท้ ราบขีดความสามารถในการ เสียภาษีของประชาชน รวมทั้งเปน็ เคร่ืองมือท่ีรัฐใช้ประกอบในการจดั เก็บภาษที ัง้ ทางตรงและทางอ้อมเพอื่ ใหภ้ าระ ภาษตี กแกบ่ ุคคลที่ควรต้องเสียภาษี 4. ใชเ้ ปน็ ดชั นีเก่ียวกับฐานะทางเศรษฐกิจ การคานวณรายได้ประชาชาติ จากการที่ระบบเศรษฐกจิ มีการซือ้ ขายแลกเปล่ยี นสนิ คา้ และบริการและปจั จัยการผลติ ต่างๆ โดยใชเ้ งนิ เปน็ ส่ือกลางในการแลกเปล่ยี น ดังน้ันการทาความเขา้ ใจวธิ กี ารคานวณรายได้ประชาชาตสิ ามารถทาไดโ้ ดยการพจิ ารณา จากกระแสการหมุนเวยี นของธรุ กรรมทางเศรษฐกิจหรือวงจรเศรษฐกิจ โดยถ้าเราพจิ ารณาระบบเศรษฐกิจอยา่ ง งา่ ยๆ ซึ่งประกอบด้วยหนว่ ยครัวเรือนและหนว่ ยธุรกิจ และสมมตวิ ่าระบบเศรษฐกิจเป็นระบบเศรษฐกจิ แบบปิด ไม่ มีการติดตอ่ ทางเศรษฐกจิ กับต่างประเทศและไมม่ ีรัฐบาล ครวั เรือนจะใชร้ ายไดท้ งั้ หมดจ่ายไปในการซื้อสนิ คา้ และ บรกิ าร (ไมม่ กี ารออม) และหนว่ ยธรุ กจิ นาเงินท่ไี ด้จากการขายสนิ ค้าและบรกิ ารจา่ ยเป็นค่าปัจจัยการผลติ ท้งั หมด จากรปู 1. ครวั เรือนผู้เปน็ เจา้ ของปจั จัยการผลิต ซึง่ ได้แก่ ท่ีดนิ แรงงาน ทุน และการประกอบการ จะนาปัจจัยการ ผลิตเหล่านไ้ี ปขายให้กับหน่วยธุรกิจ โดยครัวเรือนจะได้รบั ผลตอบแทนในรปู ของค่าเช่า ค่าจ้าง ดอกเบย้ี และกาไร

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 184 ------------------------------------------------------------------------------- ตามลาดับ หนว่ ยธุรกิจเมอื่ ได้ปจั จัยมาแล้วก็นาไปผลติ เป็นสนิ ค้าและบรกิ ารแล้วขายต่อให้กบั ครวั เรอื น ครัวเรือน จะต้องจา่ ยเงินคา่ ซื้อสนิ ค้าและบรกิ ารให้แกห่ น่วยธรุ กจิ หมุนเวยี นเช่นน้ีเร่ือยไป กล่าวได้วา่ รายได้ของครวั เรือนก็คือ รายจ่ายของหน่วยธรุ กจิ และรายจ่ายของครัวเรอื นก็คือ รายไดข้ อง หนว่ ยธุรกจิ ซง่ึ ท้งั รายได้และรายจ่ายจะมคี า่ เทา่ กับมูลค่าของสนิ คา้ และบรกิ ารท้งั หมดท่ีระบบเศรษฐกจิ นนั้ ผลิต ข้ึนมาได้ ดังนั้นการคานวณรายไดป้ ระชาชาติไม่ว่าจะคานวณทางดา้ นรายได้หรือรายจา่ ย หรอื มูลค่าของสนิ คา้ และ บริการ จะได้ผลลพั ธ์ออกมาเทา่ กัน เพราะฉะนน้ั เราสามารถคานวณรายได้ประชาชาตไิ ด้ 3 วิธีด้วยกัน คอื 1. Product Approach เปน็ การคานวณดา้ นผลผลติ คือ มูลค่าทีแ่ ทจ้ ริงของสินคา้ และบรกิ ารข้นั สดุ ทา้ ยท้ังหมดทพี่ ลเมืองของประเทศผลิตข้ึนในระบบ เศรษฐกจิ ภายในรอบระยะเวลาหนง่ึ 2. Income Approach เปน็ การคานวณดา้ นรายได้ คือ รายไดท้ งั้ หมดทเี่ จ้าของปัจจัยการผลติ ได้รับในรอบระยะเวลาหนึง่ 3. Expenditure Approach เป็นการคานวณดา้ นรายจ่าย คอื รายจา่ ยรวมท่ีหน่วยเศรษฐกจิ ใชจ้ ่ายในการซอ้ื สินค้าและบรกิ าร ในทางเศรษฐศาสตร์ไดม้ ีการจาแนกประเภทของรายไดป้ ระชาชาตอิ อกเป็น 6 ประเภทดงั นี้ 1.ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเบอ้ื งต้น ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศเบือ้ งต้น (Gross Domestic Product : GDP) คือ มูลค่ารวมของสินค้า และบรกิ ารข้นั สดุ ทา้ ย (Final Goods and Services) ท่ีผลติ ขึ้นในประเทศหนงึ่ ๆในรอบระยะเวลาหนึง่ ที่กาหนด โดยวัดเฉพาะสินคา้ และบริการทถี่ ูกผลติ ขึน้ ในรอบระยะเวลาท่ีพจิ ารณาเทา่ นน้ั ไมน่ ับรวมมลู ค่าสนิ คา้ ที่ผลิตไวก้ อ่ น เช่น GDP ของไทย คือ มลู ค่าผลผลิตทช่ี าวไทยและชาวต่างประเทศผลิตขึน้ ได้ในประเทศ แต่ถา้ มูลค่าผลผลติ ท่ีคน ไทยผลิตข้ึนในต่างประเทศจะไมใ่ ช่ GDP GDP ถอื เปน็ ข้อมูลท่สี าคัญในเศรษฐศาสตรม์ หภาคของประเทศซึง่ ใช้ในการวเิ คราะห์ วางแผนและ กาหนดทศิ ทางเศรษฐกจิ ของประเทศและเป็นดชั นชี ้วี ดั ความเจริญของประเทศ GDP มักจะหมายถึงรายได้ ประชาชาตใิ นภาพรวมด้วย โดย GDP เปน็ มลู คา่ ของสินค้าแตล่ ะชนดิ รวมกัน ดังนั้นเราสามารถหามูลค่าสินค้าใน แตล่ ะชนดิ ได้จากปรมิ าณสนิ คา้ และบริการแต่ละชนิดคณู กบั ราคาสนิ คา้ และบรกิ ารนัน้ ๆดงั น้ันจึงสามารถหา GDP ไดจ้ าก GDP = ∑ (1.) Pi = ราคาสินคา้ และบรกิ ารแต่ละชนดิ Qi = ปรมิ าณสินค้าและบริการแต่ละชนิด i = สนิ ค้าและบรกิ ารต้งั แต่ชนิดที่ i ถงึ ชนดิ ที่ n GDP = ผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศเบื้องต้น ตัวอยา่ งท่ี1. จากการสารวจค่าใช้จ่ายในภาคเกษตรกรรมของนักศกึ ษามหาวิทยาลัยแมโ่ จ้ (ประเทศแมโ่ จ้) ประจาปี 2556 พบว่า

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 185 ------------------------------------------------------------------------------- 1. ปยุ๋ ตราข้คี า้ งคาวแม่ไกจ่ ากคณะผลิตกรรมการเกษตร กิโลกรมั ละ 50 บาท จานวน 500 kg ซือ้ เมือ่ 1 มกราคม 2556 2. รถไถนาเดินตามจากวทิ ยาลัยพลงั งานทดแทน 5 คนั ๆ ละ 1,500,000 บาท ซอ้ื เมอื่ 30พฤษภาคม 2556 3. ซือ้ ควายจากวทิ ยาลัยพลังงานทดแทน 4 ตัวๆ ละ 30,000 บาท ซือ้ เม่ือ 12 สงิ หาคม 2554 4. ซ้อื ท่นี าเพม่ิ จากคณะการท่องเทย่ี วและโรงแรม 10 ไรๆ่ ละ 100,000 บาท เมื่อ 10 มนี าคม 2556 อยากทราบว่า GDP ดา้ นคา่ ใชจ้ า่ ยของประเทศแม่โจป้ ระจาปี 2556 เป็นเท่าใด วิธที า การหาคา่ GDP จะพิจารณาเฉพาะค่าใช้จ่ายท่เี กดิ ขน้ึ ในปี 2556 ดงั นนั้ จากข้อมลู ขา้ งต้น ในสว่ นข้อ 3 ซอ้ื ควายจากวทิ ยาลยั พลงั งานทดแทน 4 ตัวๆ ละ 30,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายนเ้ี กดิ ขึ้นเม่อื 12 สิงหาคม2554 ซ่งึ จะ ไมน่ ามาคานวณ ดังนัน้ เราสามารถหาคา่ GDP ประจาปี 2556 ไดจ้ ากสมการที่ (1.) GDP = ∑ GDP = [(50 บาท/kg) x (500 kg)] + [(1,500,000 บาท/คนั ) x (5 คนั )] + [(100,000 บาท/ไร)่ x (10ไร)่ ] = [25,000] + [7,500,000] + [1,000,000] = 8,525,000 บาท/ปี คาตอบ GDP ดา้ นคา่ ใชจ้ ่ายของประเทศแม่โจ้ประจา 2556 มมี ลู คา่ 8,525,000 บาท/ปี Ans. ตัวอย่างท่ี 2. บา้ นหลงั หนง่ึ จากการสารวจมีการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ เฉล่ยี 30 kWh/วัน เจ้าของบา้ นจึงทาการตดิ ตง้ั Solar PV Rooftop เพ่อื ผลติ กระแสไฟฟ้าใช้ในบา้ นและส่วนทเ่ี หลอื จะขายคนื ใหก้ บั การไฟฟา้ โดย Solar PV Rooftop สามารถผลติ พลังงานไฟฟ้าได้ 50 kWh/วนั อยากทราบว่า GDP ด้านรายได้ของการผลติ ไฟฟ้าบ้านหลัง นม้ี คี ่าเทา่ ไรตอ่ ปี กาหนดให้ ค่าไฟฟา้ เฉล่ีย (ซ้ือไฟฟ้าจาก กฟภ.) 3.50 บาท/kWh ราคารับซ้อื ไฟฟา้ เฉลีย่ 3.00 บาท/kWh ราคา Adder Cost 6.50 บาท/kWh วธิ ที า พิจารณาพลังงานไฟฟ้าท่ผี ลติ ได้จาก Solar PV Rooftop พลังงานไฟฟา้ ที่ใช้เองในบ้าน และพลงั งาน ไฟฟา้ ที่ขายให้การไฟฟ้า แลว้ นามาแทนค่าในสมการที่ (1.) โดยมีรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี พลงั งานไฟฟา้ ท่ี Solar PV Rooftop ผลิตได้ = 50 kWh/วนั x 365 วัน/ปี = 18,250 kWh/ปี พลงั งานไฟฟ้าใชใ้ นเองในบา้ น = 30 kWh/วนั x 365 วนั /ปี = 10,950 kWh/ปี คดิ เป็นเงิน = 10,950 kWh/ปี x 3.50 บาท/kWh = 38,325 บาท/ปี พลงั งานไฟฟา้ ทีข่ ายให้การไฟฟ้า = 18,250 – 10,950 = 7,300 kWh/ปี คิดเปน็ เงนิ = 7,300 kWh/ปี x 9.50 บาท/kWh = 69,350 บาท/ปี ดังนัน้ จากสมการที่ (1.) GDP = 38,325 + 69,350 = 107,675 บาท/ปี คาตอบ

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 186 ------------------------------------------------------------------------------- GDP ด้านรายได้ของการผลิตไฟฟา้ บา้ นหลงั นี้มคี า่ 107,675 บาท/ปี Ans. สรปุ หากการซอื้ ขายสนิ คา้ และบริการตามสมการขา้ งต้น มีการซอื้ ขายตามราคาทั่วไป จะเรยี กวา่ GDP at current market prices หรือ ตาม “ราคาตลาด” โดยคาว่าราคาตลาดเป็นราคาที่รวมไปถึงภาษีทางอ้อม (Indirect Tax) เชน่ ภาษสี รรพสามิต ภาษีศุลกากร และภาษีทางการค้า ไวด้ ว้ ย ดงั น้ันราคาทใ่ี ช้ซ้ือขายสนิ ค้าดังกล่าวนจ้ี งึ เป็น ราคาที่ผซู้ ื้อได้รับ แตไ่ ม่ใช่ราคาท่ีผู้ขายได้รบั สว่ นรายได้สุทธิท่ผี ูข้ ายไดร้ ับนนั้ คือ ราคาทีต่ อ้ งหกั ภาษที างอ้อม ออกไปก่อน โดยเรียก ราคา ณ ต้นทนุ ปัจจัยการผลติ (Price at Factor Cost) ข้อดอ้ ยของการใช้ราคาตลาดในการคานวณหา GDP คือ จะไม่สามารถทราบว่าตวั เลข GDP ดงั กล่าวมี มูลค่าสูงขน้ึ หรือตา่ ลงจากปีกอ่ นๆ ดงั น้ันนักเศรษฐศาสตร์ทตี่ ้องการจะเปรยี บเทยี บในสนิ ค้าชนดิ เดมิ จาเป็นต้องทา การแปลงราคาตลาดของแต่ละปใี หเ้ ป็นราคาคงที่ (Constant Price) เสยี ก่อน โดยเลือกเอาปใี ดปีหนงึ่ มาเป็นปี ฐาน ประเทศไทยโดย สศช. ไดเ้ ลือกใชป้ ีฐานของระบบราคาคงทีเ่ ป็นปี พ.ศ.2531 (ค.ศ.1988) ตัวอยา่ ง ผลิตภัณฑม์ วลรวมในประเทศเบื้องต้น (Gross Domestic Product : GDP) แสดงดงั รูปท่ี 6. และรูปท่ี 7. รูปที่ 6.ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศเบอ้ื งตน้ ตามราคาตลาด (สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ, 2557)

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 187 ------------------------------------------------------------------------------- รปู ท่ี 7. ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศเบ้อื งต้น ณ ราคาคงท่ี (สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ, 2557 ผลติ ภัณฑม์ วลรวมประชาชาติเบือ้ งตน้ ผลติ ภัณฑม์ วลรวมประชาชาตเิ บือ้ งตน้ (Gross National Product : GNP) คอื มลู ค่ารวมของสินค้าและ บริการขัน้ สดุ ท้ายทั้งหมดทป่ี ระชาชนของประเทศทาการผลติ ข้นึ ในระยะเวลาหนงึ่ โดยนบั รวมทั้งทผี่ ลิตข้ึน ภายในประเทศ และต่างประเทศด้วย แต่ไม่นับรวมผลผลติ ของต่างชาติที่ผลติ ข้นึ ในประเทศนั้นๆ เชน่ ผลติ ภัณฑ์ ประชาชาตเิ บื้องต้นของไทย หมายถึง รายไดข้ องประชาชนในประเทศทัง้ หมด รวมท้งั รายได้ทค่ี นไทยไปทางาน หรือลงทนุ ในต่างประเทศดว้ ย น่ันคอื GNP จะเท่ากับ GDP บวกด้วยผลต่างของรายไดท้ ก่ี ่อให้เกิดขึ้นโดยพลเมือง ของประเทศนั้นในตา่ งประเทศ กบั รายได้ท่พี ลเมืองของประเทศอื่นหาได้ในประเทศนั้น ดงั สมการ GNPe = GDP + F (2.) F = รายไดส้ ุทธจิ ากต่างประเทศ (Net Income from Abroad) ถ้ารายได้ท่กี ่อให้เกิดขึ้นโดยพลเมืองของประเทศน้นั ในต่างประเทศมากกวา่ รายได้ของพลเมอื งของ ประเทศอื่นท่หี าได้ในประเทศนัน้ รายไดส้ ุทธจิ ากต่างประเทศจะมีคา่ เป็นบวกซง่ึ ทาให้ค่า GNP มากกวา่ GDP แตถ่ า้ รายไดส้ ุทธิของปัจจัยจากตา่ งประเทศเป็นลบ จะทาให้ GNP นอ้ ยกวา่ GDP และถา้ ไม่มกี าร เคลอ่ื นย้ายทรพั ยากร GDP = GNP ตวั อยา่ งที่ 3. ขอ้ มูลจากสานักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ.2555 พบว่า 1. รายไดใ้ นภาคเกษตรกรรมมมี ูลคา่ 35 พนั ล้านบาท 2. รายได้ในการกอ่ สรา้ งมีมลู ค่า 65 พนั ล้านบาท 3. รายไดใ้ นการขายสินค้าและบรกิ ารในสว่ นภาครัฐ มมี ลู ค่า 25 พันล้านบาท 4. รายไดท้ ่ีเกดิ จากต่างประเทศโดยคนไทยมีมลู ค่า 1.5 พันลา้ นบาท

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 188 ------------------------------------------------------------------------------- 5. รายไดข้ องคนต่างประเทศในประเทศไทย มีมลู ค่า 0.5 พันลา้ นบาท จงหาผลติ ภัณฑ์มวลรวมในประเทศเบื้องต้นและผลิตภัณฑม์ วลรวมนานาชาตเิ บื้องต้น และถา้ GDP ปี 2554 = 120 พันลา้ นบาท และ GNP ปี 2554 = 122 พนั ล้านบาท ให้หาอัตราการเจรญิ เติบโตของ GDP (Growth Rate of Gross Domestic Product) และอตั ราการเจริญเตบิ โตของ GNP (Growth Rate of Gross National Product) วิธีทา พิจารณาวา่ โจทยต์ ้องการหาอะไร GDP / GNP โจทยก์ าหนดอะไร รายไดจ้ ากคนไทยในต่างประเทศ 1.5 พันล้านบาท รายไดค้ นตา่ งชาตใิ นประเทศไทย 0.5 พนั ล้านบาท ดังนัน้ สามารถหารายได้สทุ ธจิ ากต่างประเทศ (Net Income from Abroad) F = 1.5 พันล้านบาท – 0.5 พันลา้ นบาท = + 1 พันลา้ นบาท ผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศทางด้านรายได้ GDP เกิดจากรายละเอียดดังน้ี 1. รายไดใ้ นภาคเกษตรกรรมมมี ลู คา่ 35 พันล้านบาท 2. รายไดใ้ นการกอ่ สร้างมีมลู คา่ 65 พนั ล้านบาท 3. รายได้จาการขายสินคา้ และบริการในสว่ นภาครัฐ มีมูลค่า 25 พนั ลา้ นบาท ดังน้ัน GDP ปี 2555 = 35 พนั ล้านบาท + 65 พนั ล้านบาท + 25 พันลา้ นบาท = 125 พันลา้ นบาท # GNP ปี 2555 = GDP + F = 125 + 1 = 126 พนั ลา้ นบาท # หาอัตราการเจรญิ เติบโตของ GDP (Growth Rate of Gross Domestic Product) และ อตั ราการ เจริญเติบโตของ GNP (Growth Rate of Gross National Product) โจทย์กาหนดให้ และจากผลการคานวณ GNP, GDP สรปุ ได้ดังตาราง ตารางที่ 2. รายได้ประชาชาติ ปี 2554 และ ปี 2555 ป.ี พ.ศ. GDP (พนั ล้านบาท) GNP(พันล้านบาท) 2554 120 122 1444 125 126 Growth rate of GDP = (125-120) x 100/120 = 4.17 % Growth rate of GNP = (126-122) x 100/122 = 3.28 % คาตอบ = 125 พนั ล้านบาท = 126 พนั ลา้ นบาท GDP ปี 2555 GNP ปี 2555

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 189 ------------------------------------------------------------------------------- Growth rate of GDP = 4.17 % Growth rate of GNP = 3.28 % # Ans. สรุปไดว้ า่ เศรษฐกจิ มีการขยายตวั ตัวอยา่ งที่ 4 จากตวั อยา่ งที่ 1. หากมีการใช้จา่ ยดังรายการข้อ 5 และ 6 เพ่มิ เตมิ จากการสารวจค่าใชจ้ ่ายในภาค เกษตรกรรมของนักศกึ ษาประเทศแม่โจ้ ประจาปี 2556 พบวา่ 1. ปยุ๋ ตราขีค้ ้างคาวแมไ่ กจ่ ากคณะผลติ กโิ ลกรัมละ 50 บาท จานวน 500 kg ซือ้ เมอื่ 1 มกราคม 2556 2. รถไถนาเดนิ ตามควายจากวทิ ยาลัยพลงั งานทดแทน 5 คันๆ ละ 1,500,000 บาท ซอื้ เม่ือ 30 พฤษภาคม 2556 3. ควายจากวทิ ยาลยั พลงั งานทดแทน 4 ตัวๆ ละ 30,000 บาท ซอื้ เมื่อ 12 สิงหาคม 2554 4. ซื้อทน่ี าเพม่ิ จากคณะพัฒนาการทอ่ งเทีย่ ว 10 ไรๆ่ ละ 100,000 บาท เมอ่ื 10 มนี าคม 2556 5. นักศกึ ษาแม่โจ้ไปซอ้ื หมูจากมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ 10 ตัวๆ ละ 5,000 บาท เม่อื 10 กนั ยายน 2556 6. ซอื้ ขา้ วเหนยี วจาก มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชยี งใหม่ 5 กระสอบๆ ละ 2,000 บาท เมอ่ื 5 มีนาคม 2557 อยากทราบ GNP ดา้ นรายได้ของประเทศแมโ่ จ้ประจาปี 2556 วิธีทา รายการท่ี 6 เกดิ ขน้ึ ในปี 2557 ดงั นั้นไม่นามาคานวณ รายการที่ 5 เกดิ ขึ้นในปี 2556 ดังนั้นนามาคานวณ โดย นักศึกษาแมโ่ จไ้ ปซอื้ หมูจากมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ 10 ตวั ๆ ละ 5,000 บาท เมอ่ื 10 กันยายน 2556 คดิ เป็นเงนิ = 10 ตวั x 5,000 บาท/ตัว = 50,000 บาท F = รายได้สทุ ธิจากต่างประเทศ (Net Factor Income from Abroad) = - 50,000 บาท/ปี จากสมการ (2.) GNP = GDP + F จากตวั อยา่ งท่ี 1. คานวณหาค่า GDP ในปี 2556 มีมูลค่า = 8,525,000 บาท/ปี แทนคา่ ในสมการ GNP = 8,525,000 บาท/ปี - 50,000 บาท/ปี = 8,475,000 บาท/ปี คาตอบ GNP ด้านรายได้ของประเทศแม่โจป้ ระจาปี 2556 มมี ูลคา่ 8,475,000 บาท Ans. ขอ้ มูล ในปี 2548 รายได้ประชาชาตมิ ีมูลคา่ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเกดิ จากผลผลิต 50,000 ชนิ้ ณ ระดับ ราคาเฉล่ยี 10 ดอลลารส์ หรัฐ ในปี 2549 รายได้ประชาชาติมมี ูลค่า 600,000 ดอลลาร์สหรฐั คาถาม รายประชาชาติเพม่ิ แตป่ ระเทศมีการเจริญเติบโตจรงิ หรือ คาตอบ ประเทศจะเจรญิ เตบิ โตอย่างมเี สถียรภาพต้องมีการผลติ การลงทนุ ดังน้ันการวัดปริมาณผลผลติ ที่แท้จริง

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 190 ------------------------------------------------------------------------------- ตอ้ งเทยี บจากรายได้ทแ่ี ท้จรงิ ท่ขี จดั การเปล่ยี นแปลงของราคาออกไป รายไดป้ ระชาชาติที่เป็นตัวเงินและรายได้ประชาชาติท่ีแท้จริง (Money GDP and Real GDP)จากท่ีผา่ น มาเรารูอ้ ยแู่ ลว้ ว่ารายได้ประชาชาตินั้นสามารถคานวณได้จากมลู ค่าของผลผลติ ท่ีเกดิ ขึน้ ดงั นัน้ รายไดป้ ระชาชาติจึง มคี วามสมั พันธ์กับตัวแปรอยู่ 2 ตวั แปรคือ 1.ราคา 2.ปริมาณ นอกจากนี้ยงั อาจจะมเี รื่องของระยะเวลาเขา้ มา เก่ียวขอ้ งดว้ ย ซ่งึ รายได้ประชาชาติท่ีคานวณในแตล่ ะปี โดยใช้ระดบั ราคาสินคา้ ของปีนน้ั ๆ เราเรยี กว่า รายไดป้ ระชาชาติ ทเ่ี ปน็ ตัวเงิน (Money GDP หรอื บางครง้ั เรยี กวา่ Nominal GDP) เมอ่ื นามาเปรียบเทียบกนั อาจจะทาการขจัด อทิ ธิพลของราคาได้ดว้ ยการปรับแต่ง โดยการใช้ระดับราคาของปใี ดปีหนึ่งเปน็ หลกั ซ่ึงเราเรยี กว่า ปฐี าน (Base Year) ดงั ทก่ี ลา่ วมาข้างตน้ ซงึ่ โดยทวั่ ไปแลว้ น้ันเราจะมกี ารใช้ดชั นีราคา (Price Index) ซึง่ จะเปน็ ตัวปรับมลู คา่ ของรายไดป้ ระชาชาตใิ ห้อยูใ่ นมาตรฐานของราคาเดยี วกัน ซง่ึ รายไดท้ ี่เราได้มีการปรับแต่งคา่ ของระดบั ราคาน้นั เรา เรยี กกนั วา่ รายได้ประชาชาติทแ่ี ท้จริง (Real GDP) ซงึ่ เราสามารถคานวณหาค่ารายได้ประชาชาติทแ่ี ท้จริงได้ดงั นี้ GDP ที่แท้จริง (Real GDP) หรือ GDP ตามราคาคงที่ (GDP in Constant Prices) รายได้ประชาชาตทิ ่ีแท้จรงิ (Real GDP) เป็นการคานวณผลรวมของมลู ค่าสินคา้ และบริการขัน้ สุดท้ายท่ี ระบบเศรษฐกิจผลติ ได้ ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหน่งึ โดยใช้ราคา ณ ปีฐาน ในการคานวณ ทั้งนี้ เพ่ือขจดั ปัญหา ความผันผวนของราคาตลาดในแตล่ ะปี นยิ มเรียกกนั ว่า GDP ตามราคาคงท่ี (GDP in constant prices) โดยจะมี การปรบั ราคาปจั จบุ ันของปที ี่พจิ ารณาให้องิ ราคาตามราคาตลาดปีฐานท่ใี ช้อา้ งอิง (ประเทศไทยใช้ ปี พ.ศ.2531 หรอื ค.ศ.1988 เปน็ ปฐี าน) GDP ทีเ่ ป็นตัวเงนิ (Money GDP) หรือ GDP ตามราคาตลาด (GDP at Current Market) รายได้ประชาชาติที่เป็นตัวเงิน (Money GDP หรอื Nominal GDP) นยิ มเรียกกนั ว่า GDP ตามราคา ตลาด (GDP at Current Market) เปน็ การคานวณผลรวมของมูลค่าสนิ ค้าและบริการขั้นสดุ ท้ายทีร่ ะบบเศรษฐกิจ ผลติ ได้ ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนงึ่ ณ ราคาตลาด โดยรวมมลู ค่าของเงนิ ตามกาลหรือเงนิ เฟ้อเขา้ ไปด้วย ดงั น้ัน Money GDP จึงมีค่าสงู กวา่ GDP at Current Prices ตวั ปรับลดผลิตภณั ฑ์ (Deflator) หรือ ดชั นีราคา ตัวปรบั ลดผลิตภณั ฑ์ หรอื ตัวหักลดผลิตภณั ฑ์ (GDP Deflator) หมายถึง คา่ คงท่ที ี่ได้จากการหารมลู คา่ ผลติ ภัณฑ์ในราคาประจาปดี ้วยผลิตภัณฑท์ ่ีแทจ้ รงิ ของปีนั้นแล้วคูณดว้ ยหน่งึ ร้อย ดังนี้ Real GDP ในปที ี่ x 100 (3.) ตัวอย่างที่ 5. รายไดป้ ระชาชาตติ ามราคาปี 2549 (Money GDP) = 30,000 ลา้ นบาท ถา้ ดชั นีราคาปี 2549 = 120 จงหา Real GDP วธิ ีทา จากสมการ (3.) แทนค่าในสมการ Real GDP ในปีที่ x 100 = x 100 = 25,000 ลา้ นบาท คาตอบ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 191 ------------------------------------------------------------------------------- Real GDP ปี 2549 มีมูลค่า 25,000 ล้านบาท Ans. สรุป GDP มีประโยชนใ์ นการแสดงกาลงั ความสามารถในการผลติ ของประเทศและทาใหท้ ราบรายจา่ ยท้ังหมด ของผบู้ ริโภค นอกจากนี้ในระยะส้ัน GDP จะทาให้ทราบสาเหตุของภาวะเงินเฟ้อและอนื่ ๆในวฏั จักรธุรกจิ ได้ และ GDP ยงั ใช้วดั ความสาคญั ของอุตสาหกรรมในแต่ละสาขาด้วย ในระยะสัน้ GNP ใชว้ ัดมลู ค่าและความสาคัญของอุตสาหกรรมในแต่ละสาขา และชว่ ยใหท้ ราบถึงภาวะ เศรษฐกจิ ของประเทศ ผลิตภัณฑ์ประชาชาตสิ ุทธิ ผลิตภัณฑป์ ระชาชาตสิ ทุ ธิ (Net National Product: NNP) หมายถงึ มูลค่าสนิ คา้ และบริการขัน้ สดุ ทา้ ย ทงั้ หมดทค่ี ิดตามราคาตลาดในรอบระยะเวลาหนง่ึ ซ่งึ หักค่าเสือ่ มราคาของการใชท้ ุนออกแลว้ สามารถคานวณได้ จากสมการ NNP = GNP – CCA (4.) Capital Consumption Allowance (CCA) คือ คา่ เส่อื มราคาการใช้ทุน หรือเรยี กว่า คา่ ใช้จา่ ยกินทุน โดยประกอบไปด้วย - คา่ เส่อื มราคา (Depreciation) - คา่ เครื่องมือเคร่ืองใช้ในการผลติ (Equipment) ทชี่ ารดุ - คา่ ทรพั ย์สินสูญหาย (Accidental Damage) NNP จะใชใ้ นการวัดความสามารถในการผลติ ของประเทศในระยะยาว เพราะเม่อื หักค่าใชจ้ ่ายกินทนุ ออกไปแลว้ จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผลติ สินคา้ และบรกิ ารทเี่ พ่ิมขนึ้ สุทธิของประเทศ แต่ท่วั ไปนิยม ใช้ GNP มากกวา่ เพราะการคานวณคา่ เสอ่ื มราคาการใช้ทุนทาได้ยากและซบั ซ้อ รายได้ประชาชาติ รายไดป้ ระชาชาติ (National Income: NI) คือ มูลค่าสทุ ธิของสินคา้ และบรกิ ารขั้นสุดท้ายท่ีผลิตได้ ของประเทศในรอบระยะเวลาทกี่ าหนด โดยคดิ ในสว่ นราคาต้นทุนการผลติ ทแี่ ท้จรงิ โดยตัดค่าภาษีทางอ้อมที่ ภาครฐั ดาเนินการเก็บไป และนบั รวมมูลค่าการอุดหนุนราคาสนิ คา้ จากรัฐที่เพ่มิ เข้ามา ค่า NI จะคานึงถงึ เฉพาะคา่ ใช้จ่ายทีต่ ้องใชเ้ พื่อซ้ือปจั จัยการผลิตเท่านน้ั เช่น ค่าจ้างแรงงาน ค่าเช่าท่ีดนิ ค่า ดอกเบ้ยี เป็นต้น ตา่ งจากค่า NNP ทร่ี าคาตลาดเพราะต้องรวมภาษีทางอ้อม (Indirect Tax) เชน่ ภาษสี รรพสามิต ภาษีการคา้ ภาษีศลุ กากร และเงินที่รัฐบาลใชอ้ ุดหนุนในการผลิตในธรุ กจิ ต่างๆ มาคานวณดว้ ย ดงั นัน้ สามารถคานวณหา NI ไดด้ ังสมการต่อไปนี้ NI = NNP at Market Price - Indirect Tax (5.) NI จะชใ้ี ห้เหน็ ถึงระดบั รายไดแ้ ละความสาคญั ของอาชพี ตา่ งๆ และช้ีให้เหน็ กบั การกระจายรายไดไ้ ปยัง ประชาชนกลุ่มต่างๆ ตัวอยา่ งที่ 6. ถ้าตวั เลขผลติ ภณั ฑม์ วลรวมประชาชาตเิ บื้องต้น 1,000 ลา้ นบาท ในขณะที่ค่าเสื่อมราคาของอุปกรณ์ ต่างมีคา่ 15 ล้านบาท คา่ เครื่องมอื และทรพั ย์สนิ ท่ีสูญหายมีค่า 8 ลา้ นบาท อยากทราบ ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิ NNP และ รายได้ประชาชาติ NI เม่ือมีมลู คา่ ภาษที างอ้อม 22 ลา้ นบาท

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 192 ------------------------------------------------------------------------------- วธิ ีทา โจทยต์ อ้ งการทราบคา่ NNP และ NI โจทยก์ าหนดอะไร GNP = 1,000 ล้านบาท CCA คอื ค่าเส่อื มราคาการใช้ทุน จากโจทยป์ ระกอบไปด้วย คา่ เสอื่ มราคาอปุ กรณ์ 15 ลา้ นบาท ค่าเคร่ืองมอื และทรัพย์สนิ ท่ีสูญหายมีคา่ 8 ล้านบาท ดังนน้ั CCA = 15 + 8 = 23 ล้านบาท แทนคา่ ในสมการ (3.4) NNP = GNP – CCA = 1,000 ล้านบาท – 23 ล้านบาท = 977 ลา้ นบาท มูลคา่ ภาษที างอ้อม 22 ลา้ นบาท (Indirect Tax) รายได้ประชาชาติ NI = NNP at Market Price - Indirect Tax = 977 – 22 = 955 ล้านบาท คาตอบ ผลิตภณั ฑป์ ระชาชาติสทุ ธิ NNP มมี ูลค่า 977 ล้านบาท รายไดป้ ระชาชาติ NI มมี ูลคา่ 955 ลา้ นบาท Ans. รายได้ส่วนบคุ คล รายได้สว่ นบุคคล (Personal Income: PI) คอื รายไดส้ ่วนบุคคลท้ังหมดกอ่ นหกั ภาษเี งนิ ได้สว่ น บคุ คลแตกตา่ งจากรายได้ประชาชาติ คอื รายไดป้ ระชาชาตเิ ป็นรายไดท้ ีเ่ กิดข้ึนจรงิ จากการผลติ ซ่ึงไม่จาเปน็ ต้อง กลายเป็นรายได้สว่ นบคุ คลท้งั หมดแมร้ ายได้จะเกิดขึ้นแล้วก็ตาม แต่ถา้ หน่วยผลิตไม่จ่ายใหแ้ กค่ รวั เรอื นแลว้ ก็ไมถ่ ือ เป็นรายไดส้ ่วนบุคคล ได้แก่ ภาษีประกนั สงั คม ภาษีเงินไดบ้ รษิ ทั (Corporate Income Tax) เงินกาไรทย่ี ังไม่ได้ นามาจดั สรร (Distributed Profit) เหลา่ นี้ ไมถ่ อื เป็นรายไดส้ ่วนบคุ คล นอกจากนี้รายได้ส่วนบุคคลยัง ประกอบด้วยรายไดท้ ี่ไม่ได้เกดิ จากการผลิตโดยตรงอีกด้วย เชน่ เงินโอนตา่ งๆ ดอกเบี้ยทเี่ อกชนได้รบั จากรัฐบาล เป็นต้น ดงั น้ันการคานวณรายได้ส่วนบุคคลจากรายไดป้ ระชาชาติจึงเป็นดังน้ี PI = NI - (ภาษปี ระกนั สงั คม + ภาษรี ายไดบ้ รษิ ัท + กาไรที่ยงั ไม่ได้จัดสรร) + เงินโอน + ดอกเบยี้ ที่เอกชนได้รับจากรฐั บาล (6) เมื่อเงินโอนเป็นรายไดท้ ไ่ี มไ่ ดเ้ กดิ จากการผลิตแต่เปน็ การโอนอานาจซ้อื จากบุคคลหนึ่งไปยงั อกี บคุ คลหนง่ึ เช่น เงนิ ที่รัฐจา่ ยใหผ้ ไู้ ด้รบั ความช่วยเหลอื เงินสงเคราะห์คนชรา เงินชดเชยการว่างงาน เงนิ ทาบุญ เงินมรดก เนื่องจากรายได้ประชาชาติ เป็นรายได้ทเี่ กิดจากการผลิตโดยตรงและบางส่วน มิได้เป็นของบุคคล เช่น เงนิ ออมหรือองคก์ ารนติ ิบคุ คล จึงต้องหักเงินจานวนนี้ออกจาก NI รายได้ท่เี หลือจะเป็นรายไดข้ องบุคคล รายไดส้ ่วนบุคคลสุทธิ รายได้สว่ นบุคคลสุทธิ (Disposable Income: DI) คือ รายไดส้ ว่ นบุคคลท่ไี ด้รับมาหลงั หกั ภาษีเงนิ ได้

คู่มือสอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 193 ------------------------------------------------------------------------------- บคุ คลธรรมดา (PI) ซ่งึ หมายถงึ รายไดส้ ทุ ธทิ ่บี ุคคลในสงั คมสามารถนาไปใช้สอยในกิจกรรมต่างๆได้อยา่ งแท้จรงิ โดยสามารถเขียนความสมั พันธข์ องค่า PI และ DPI ไดด้ ังน้ี DI = PI – ภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา (7.) การบริโภคและการออม (Consumption and Saving) การออม (Saving: S) คอื รายไดท้ ีเ่ หลอื จากการบริโภค (Consumption: C) และนาไปสะสมสินทรพั ย์ ของภาครัฐและเอกชน แต่เน่ืองจากรายได้สุทธิของครวั เรือนในทางเศรษฐศาสตร์แบง่ ออกเป็น 2 สว่ นใหญ่ๆ คือ การบริโภคและการออม ซึ่งมีความสัมพนั ธ์กนั โดยหากมีการบริโภคท่ีเพมิ่ ข้ึนจะสง่ ผลให้การออมลดลง การออม (Saving: S) = รายได้ส่วนบคุ คลสุทธิ (DI) – การบริโภค (C) (8.) รายไดเ้ ฉลี่ย เพอ่ื ที่จะวัดฐานะแทจ้ รงิ ของประเทศ และใชเ้ ทยี บฐานะทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นๆ จงึ จาเปน็ ตอ้ งหา รายได้เฉล่ีย โดยมีรายละเอียดรายไดเ้ ฉลีย่ ดงั น้ี 1. ผลิตภัณฑม์ วลรวมประชาชาตติ อ่ หวั ผลิตภัณฑม์ วลรวมประชาชาตติ ่อหัว (GNP per Capital) หาได้จาก GNP หารดว้ ยจานวนประชากรใช้ เป็นเครือ่ งช้ีวัดความสามารถในการผลติ ของประชากรโดยเฉลยี่ แต่ละคนของแตล่ ะประเทศสามารถคานวณไดจ้ าก สมการ ผลติ ภัณฑม์ วลรวมประชาชาติตอ่ หวั = (9.) 2. ผลิตภณั ฑ์มวลรวมประชาชาติตอ่ กาลังแรงงาน ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมประชาชาติต่อกาลงั แรงงาน (GNP per Labour Force) เปน็ ตวั ช้ีวัดประสิทธิภาพ ในการทางาน คานวนได้จากผลิตภณั ฑม์ วลรวมประชาชาติต่อกาลงั แรงงานหาได้จาก GNP หารด้วยกาลงั แรงงาน ตัวเลขผลติ ภัณฑ์มวลรวมประชาชาตติ ่อกาลงั แรงงานมปี ระโยชน์ในการใชเ้ ปรียบเทียบประสทิ ธภิ าพในการทางาน ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมประชาชาตติ อ่ กาลงั แรงงาน = (10.) 3. รายไดป้ ระชาชาตเิ ฉลีย่ ตอ่ คน รายไดป้ ระชาชาติเฉลี่ยต่อคน (NI per Capital) ใชเ้ ป็นเครือ่ งชีว้ ัด ฐานะ และ แสดงมาตรฐานการครองชพี ของแต่ละประเทศ คานวณได้จากสมการ รายไดป้ ระชาชาติเฉลี่ยตอ่ หัว = (11.) 4. รายได้สุทธิส่วนบุคคลเฉลี่ยตอ่ คน รายได้สุทธสิ ่วนบคุ คลเฉล่ยี ต่อคน (DI per Capital) เป็นตัวแสดงอานาจซอ้ื ของแตล่ ะบุคคลของแต่ละ ประเทศ คานวณได้จากสมการ รายไดส้ ทุ ธสิ ่วนบุคคลเฉลย่ี ต่อหัว = (12.) ข้อสังเกตบางประการเกยี่ วกับรายได้ประชาชาติ 1. สนิ ค้าและบรกิ ารขั้นสดุ ท้ายบางอย่างได้มกี ารผลติ จรงิ แต่ไมไ่ ดซ้ ื้อขายผา่ นตลาด จงึ ไม่มีการบนั ทกึ ไว้ ในรายไดป้ ระชาชาติ 2. สินคา้ และบรกิ ารขนั้ สดุ ท้ายที่มกี ารซื้อขายกันจริงแต่ไม่ไดม้ กี ารบนั ทึกรวมไวใ้ นรายได้ประชาชาติ

คู่มอื สอบพนกั งานการเงิน ระดบั 4 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ 194 ------------------------------------------------------------------------------- เนื่องจากเป็นส่งิ ผดิ กฎหมาย 3. รายไดท้ ีเ่ กดิ จากอาชีพอิสระตา่ งๆทไ่ี มม่ ีการบนั ทึกหรือบันทึกต่ากวา่ ความเป็นจริงทาใหร้ ายได้ ประชาชาตนิ ั้นตา่ กวา่ ความเป็นจริง 4. รายได้ประชาชาติ ไมไ่ ดใ้ ห้ความสาคัญต่อเวลาวา่ งหรือเวลาพักผ่อน (Leisure) ของบุคคล 5. รายได้ประชาชาตไิ มไ่ ด้แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การกระจายสนิ คา้ และบรกิ ารว่าถูกแบง่ สรรอยา่ งไร 6. รายไดป้ ระชาชาตไิ ม่คานึงถงึ ความเสยี หายที่การผลติ กอ่ ใหเ้ กิดขนึ้ แก่สงั คม โดยสามารถสรปุ ภาพรวมรายไดป้ ระชาชาตดิ งั รูปที่ 9. รปู ท่ี 8. ความสัมพนั ธ์ของรายได้ประชาชาติ เศรษฐศาสตร์พลังงานและความสาคญั จากความสาคญั ของพลังงานในฐานะที่ถอื เป็นหนง่ึ ในปัจจัยการผลติ ทีส่ าคญั ของภาคอุตสาหกรรม ภาค เกษตรกรรม และภาคบริการ อีกทั้งราคาพลังงานได้มีแนวโน้มเพ่มิ สงู ขึ้น ดังน้นั การศกึ ษาด้านเศรษฐศาสตร์ท่ี มุ่งเน้นไปสูก่ ารแก้ปัญหาพลังงานทัง้ ด้านจุลภาคและมหาภาค ลว้ นมีความจาเป็นและสาคญั ย่งิ ตอ่ การวางแผนพัฒนา ในระดบั ประเทศทัง้ ปัจจบุ นั และอนาคต ปจั จุบนั การศึกษาเศรษฐศาสตรพ์ ลงั งานเป็นไปอยา่ งกวา้ งขวางมากขนึ้ ครอบคลุมทงั้ ด้านผผู้ ลิตและ ผู้บรโิ ภคตัง้ แต่การสารวจและการผลิตในแหลง่ พลังงานต่างๆ ไปจนถงึ การบรโิ ภคพลังงานของผู้ใชพ้ ลงั งานข้นั สุดทา้ ย หรือ End users เชน่ การเลอื กซอื้ เครื่องปรบั อากาศ เบอร์ 5 แทนทีจ่ ะเลอื กซอ้ื เครือ่ งปรบั อากาศเบอรต์ ่า กว่าเพ่อื ลดค่าใชจ้ ่ายดา้ นพลงั งานไฟฟ้า หรอื ในกรณีการวเิ คราะหผ์ ลกระทบของนโยบายดา้ นพลงั งานของภาครัฐ ต่อระบบเศรษฐกจิ เชน่ การศึกษาผลกระทบของการแทรกแซงราคากา๊ ซหุงตม้ ของรัฐบาล เป็นต้น กล่าวไดว้ ่า การศกึ ษาเศรษฐศาสตรพ์ ลงั งานได้มกี ารทาการศึกษาทั้งระดับจลุ ภาค และระดบั มหภาค โดย เศรษฐศาสตร์ดา้ นจลุ ภาค เช่น การพิจารณานาพลังงานแยกออกเปน็ อีกหนงึ่ ปัจจยั การผลติ หลกั ในการผลิตสนิ คา้ และบริการในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ และหาแนวทางทาให้ต้นทนุ ในดา้ นพลงั งานมคี ่าตา่ ทส่ี ดุ เพอื่ เพม่ิ ผลกาไร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook