8. จา่ ยชำระหน้เี จา้ หนี้ 45,000 บาท ซ้อื สินคา้ เงินสด 31,000 บาท สว่ นลดจา่ ย 500 บาท จ่ายตามต๋ัวเงนิ จ่าย 4,400 บาท ส่วนลดรับ 2,800 บาท ส่งคนื สินคา้ 4,000 บาท เจ้าหน้ลี ดลง 7,000 บาท ตัว๋ เงนิ จา่ ยเพิ่มขึน้ 4,800 บาท จงคำนวณหายอดซอื้ สินคา้ ทง้ั สน้ิ เท่ากบั เท่าใด ก. 91,500 บาท ข. 92,500 บาท ค. 92,000 บาท ง. 85,000 บาท 9. ซ้อื สินคา้ เงินสด 24,800 บาท จ่ายชำระหนเ้ี จ้าหน้ี 37,000 บาท จ่ายตามต๋ัวเงนิ จา่ ย 6,000 บาท ส่วนลดรับ 3,600 บาท ตัว๋ เงนิ จ่ายลดลง 2,400 บาท ส่งคืนสินคา้ 4,400 บาท ตั๋วเงินรบั ลดลง 1,300 บาท เจ้าหนี้ลดลง 6,600 บาท จงคำนวณหายอดซอ้ื สินค้าท้ังสนิ้ เท่ากับเทา่ ใด ก. 70,400 บาท ข. 66,800 บาท ค. 81,200 บาท ง. 65500 บาท 10. รายไดด้ อกเบ้ียรบั ระหวา่ งงวด 4,600 บาท รายไดด้ อกเบยี้ รับล่วงหนา้ ปลายงวด 2,700 บาท รายได้ ดอกเบ้ยี ค้างรับปลายงวด 2,300 รายไดด้ อกเบย้ี รับลว่ งหน้าตน้ งวด 3,100 จงหาดอกเบ้ยี รับของปีปัจจบุ นั เท่ากบั เท่าใด ก. 7,300 บาท ข. 10,000 บาท ค. 8,100 บาท ง. 1,100 บาท 11. ค่าโฆษณาจา่ ยระหวา่ งปี 2,500 บาท ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหน้าต้นปี 3,800 บาท คา่ โฆษณาคา้ งจา่ ยตน้ ปี 5,900 บาท ค่าโฆษณาคา้ งจ่ายปลายปี 4,100 บาท จงหาค่าโฆษณาของปีปจั จบุ นั ก. 3,700 บาท ข. 4,500 บาท ค. 10,400 บาท ง. 500 บาท 12. เงนิ เดือนจ่ายระหว่างปี 7,600 บาท เงนิ เดือนค้างจา่ ยปลายปี 8,800 บาท เงนิ เดือนจา่ ยล่วงหนา้ ปลายปี 6,700 บาท เงินเดือนคา้ งจ่ายต้นปี 5,300 บาท จงเงนิ เดอื นของปปี ัจจุบนั ก. 16,400 บาท ข. 10,800 บาท ค. 6,200 บาท ง. 4,400 บาท 13. คา่ เผอื่ หนี้สงสัยจะสญู ปลายปี 1,300 บาท ค่าเผ่ือหนี้สงสยั จะสูญต้นปี 1,400 บาท หนสี้ ญู ระหว่างปี 800 บาท หนีส้ งสัยจะสญู เท่ากบั เท่าใด ก. 1,900 บาท ข. 3,500 บาท ค. 700 บาท ง. 900 บาท 14. รายไดค้ ่าเชา่ ระหวา่ งปี 8,400 บาท คา่ เช่าค้างรับตน้ ปี 3,500 บาท ค่าเชา่ คา้ งรับปลายปี 4,200 บาท รายไดค้ า่ เช่าของปีปัจจุบันเทา่ กับเทา่ ใด ก. 12,600 บาท ข. 9,100 บาท ค. 7,700 บาท ง. 700 บาท 15. วสั ดสุ ำนกั งานต้นปี 4,300 บาท ซ้อื ระหวา่ งปี 2,300 วสั ดสุ ำนกั งานปลายปี 3,700 บาท วัสดสุ ำนักงานใช้ไป ก. 10,300 บาท ข. 5,700 บาท ค. 1,700 บาท ง. 2,900 บาท 16. 1 มกราคม 2539 กิจการมีเคร่ืองใช้สำนักงานราคาทนุ 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคดิ ค่าเสื่อมราคาเคร่ืองใช้สำนกั งานในอตั รา 10% ต่อปี ตอ่ มาเม่ือวันที่ 1 เมษายน 2539 กิจการซอ้ื เคร่อื งใช้ สำนกั งานเพม่ิ เติมในราคา 12,000 บาท กิจการมีค่าเสอ่ื มราคาของปี 2539 เท่าใด ก. 3,600 บาท ข. 900 บาท ค. 4,500 บาท ง. 2,500 บาท
17. จากข้อที่ 16 กิจการมีค่าเส่ือมราคาสะสม-เครื่องใช้สำนักงาน เท่ากับเทา่ ใด ง. 13,300 บาท ก. 15,300 บาท ข. 11,700 บาท ค. 14,400 บาท 18. 1 มกราคม 2537 กิจการมีเคร่ืองใช้สำนกั งานราคาทุน 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคดิ ค่าเส่ือมราคาเคร่อื งใชส้ ำนักงานในอตั รา 10% ต่อปี เมือ่ วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2539 ขายเครอ่ื งใช้สำนักงาน สว่ นหน่งึ ราคาทนุ 18,000 บาท ไปในราคา 11,000 บาท และเมื่อวนั ที่ 1 ตุลาคม 2539 กิจการซื้อเครอื่ งใช้ สำนกั งานเพ่มิ อีก 12,000 บาท จงคำนวณหาค่าเส่อื มราคา - เคร่ืองใชส้ ำนักงานของปี 2539 เท่ากบั เท่าใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 1,000 บาท 19. จากขอ้ ท่ี 18 กจิ การมีคา่ เสอ่ื มราคาสะสม-เครอื่ งใช้สำนักงานของปี 2539 เท่ากบั เทา่ ใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 9,900 บาท 20. จากข้อท่ี 18 กจิ การมกี ำไรหรอื ขาดทุนจากการจำหนา่ ยสินทรพั ย์ เท่ากบั เท่าใด ก. กำไรฯ 2,800 บาท ข. ขาดทุน 2,800 บาท ค. กำไรฯ 6,100 บาท ง. ขาดทนุ ฯ 6,100 บาท
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 16 หน่วยที่ 5 วชิ า 30201 – 2005 การบัญชีชน้ั สูง 1 สอนครง้ั ที่ 16 ชอื่ หนว่ ย ระบบบัญชที ่ไี ม่สมบูรณแ์ บบหรอื ระบบบัญชเี ดี่ยว จำนวน 12 ช่วั โมง ช่ือเรื่อง การคำนวณหากำไรขาดทุนโดยการวเิ คราะห์ จำนวน 4 ชั่วโมง รายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทนุ หวั ขอ้ เรอื่ ง ด้านความรู้ 1. แสดงความร้เู กี่ยวกับความหมาย ของระบบบัญชีที่ไม่สมบูรณ์แบบได้ 2. แสดงความร้เู กยี่ วกับความสำคัญของระบบบญั ชที ี่ไม่สมบูรณ์แบบได้ ดา้ นทักษะ 3. คำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการวเิ คราะห์รายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทุนได้ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง (มีวินัย มคี วามรับผิดชอบ ขยนั ประหยดั ซ่ือสตั ย์สจุ ริต และมีความสามัคค)ี 4. รับฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ ื่น 5. ปฏบิ ัติงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายสำเร็จตามที่กำหนดได้ด้วยตนเอง 6 ปฏิบตั ิตนตามกฎ ระเบยี บข้อบงั คับของสถานศึกษาและสงั คม ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สาระสำคญั จากวิธีการบันทึกบัญชีและการจัดทำงบการเงินในหน่วยก่อนๆ นั้น เป็นการบันทึกบัญชีและจัดทำ งบการเงินตามหลักการบัญชี หรือระบบคู่ (Double Entry System) กล่าวคือ เมื่อมีรายการค้าเกิดขึ้น จะมีการบันทึกบัญชีทางด้านเดบิตบัญชีหนึ่งหรือหลายบัญชี และจะมีการเครดิตอีกบัญชีหนึ่ง หรือหลายบัญชี ในจำนวนเงินที่เท่ากัน (ยอดรวมที่บันทึกทางด้านเดบิต และยอดรวมที่บันทึกทางด้านเครดิตจะต้องมีจำนวนเงิน เทา่ กนั ) และสามารถทจ่ี ะพิสจู นถ์ งึ ความถกู ตอ้ งของการบันทกึ รายการได้โดยการจดั ทำงบทดลอง สำหรับกิจการที่เป็นกิจการขนาดเล็ก หรือเจ้าของคนเดียวที่ควบคุมการบริหารงานเองทั้งหมด และรายการค้ามีจำนวนน้อยแล้ว เจ้าของกิจการส่วนใหญ่มักจะทำบัญชีเองตามความรู้เท่าที่มีอยู่ ซึ่งการบันทึก บัญชีของเจ้าของกิจการส่วนใหญ่จะบันทึกบัญชีไมส่ มบูรณ์ เพราะเจ้าของกิจการขาดความรู้ ความชำนาญ ดังนั้น เมื่อต้องการแสดงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการในวันสิ้นงวดบัญชี เจ้าของกิจการมักจะขอให้ นกั บัญชชี ่วยรวบรวมเอกสารหลักฐานเทา่ ที่มีอย่จู ดั ทำงบการเงนิ ใหส้ มบรู ณ์ตามหลกั การบญั ชีคู่ สมรรถนะประจำหนว่ ย การคำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการวิเคราะห์รายละเอียดประกอบงบกำไรขาดทุน
จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับความหมาย ความสำคัญของระบบบญั ชีท่ีไม่สมบรู ณแ์ บบ และ คำนวณหากำไรขาดทุน โดยการวิเคราะห์รายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทุน จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. แสดงความรูเ้ กยี่ วกับความหมาย ของระบบบัญชีที่ไมส่ มบูรณแ์ บบได้ 2. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ความสำคัญของระบบบัญชีท่ไี ม่สมบรู ณ์แบบได้ 3. คำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการวเิ คราะหร์ ายละเอียดประกอบงบกำไรขาดทุนได้ 4. อธิบายหลักธรรมคำสอนทเ่ี ปน็ แบบแผนในการดำเนนิ ชีวิตได้ 5. ประยุกต์หลักธรรมคำสอนมาเป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิทีถ่ ูกต้องได้ 6. ปฏบิ ัตงิ านไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ตรงเวลาที่กำหนดอยา่ งมีเหตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และคณุ ลักษณะ3D การบรู ณาการกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ 3D หลักความพอประมาณ 1. นักเรยี นจดั สรรเวลาในการฝกึ ปฏบิ ตั ิตามใบงานไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. นักเรียนรู้จักใชแ้ ละจดั การ วัสดอุ ปุ กรณ์ต่างๆ อย่างประหยัดและคุ้มคา่ 3. นกั เรียนปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามท่ีดี 4. นกั เรียนเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องกลมุ่ เพ่อื และสงั คม หลักความมีเหตผุ ล 1. เหตคุ ณุ ค่าของการจัดทำบัญชไี ดอ้ ย่างมเี หตุมีผล และสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ในการดำเนิน ธรุ กจิ และใช้ชวี ติ ประจำวนั ได้ 2. กลา้ แสดงความคิดอย่างมีเหตผุ ล 3. กล้าทกั ทว้ งในสง่ิ ทไี่ มถ่ ูกต้องอยา่ งถกู กาลเทศะ 4. กลา้ ยอมรับฟังความคดิ ของผ้อู ่ืน 5. ใช้วัสดุถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน 6. ไม่มีเร่อื งทะเลาะววิ าทกบั ผู้อนื่ 7. มคี วามคดิ วเิ คราะหใ์ นการแก้ปัญหาอย่างเปน็ ระบบ หลกั ความค้มุ กนั 1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจดา้ นความรทู้ ่ัวไปเกีย่ วกับการคำนวณหากำไรขาดทุนโดยการวเิ คราะห์รายละเอยี ด ประกอบงบกำไรขาดทุนได้อย่างถกู ต้อง 2. มีทักษะในการแสดงวธิ กี ารบันทึกบัญชีเก่ยี วกับการคำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการวเิ คราะห์ รายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทนุ ได้ 3. นกั เรียนไดร้ บั ความร้ทู ีถ่ ูกต้อง และพรอ้ มที่จะนำความรเู้ ก่ียวกับการบญั ชีได้
การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงหรือตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงน้ัน ตอ้ งอาศัยทงั้ ความรู้และคณุ ธรรมเปน็ พน้ื ฐาน ดงั น้ี เงอ่ื นไขความรู้ 1. นักเรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจกี่ยวกบั การบัญชี 2. ใช้วสั ดอุ ย่างประหยัดและค้มุ คา่ 3. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เงอื่ นไขคุณธรรม 1. ปฏบิ ัตงิ านทีไ่ ดร้ บั มอบหมายเสร็จตามกำหนด 2. ใช้วัสดุอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ 3. มีความเพยี รพยายามและกระตอื รอื ร้นในการเรียนและการปฏิบัติงาน 4. ให้ความรว่ มมอื กับการทำกิจกรรมของสว่ นรวม อาสาช่วยเหลืองานครแู ละผูอ้ ืน่ เนือ้ หาสาระ 1. การคำนวณหากำไรขาดทนุ โดยวธิ คี ำนวณรายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทนุ 2. การเปลย่ี นแปลงวธิ กี ารบญั ชีทีไ่ ม่สมบูรณเ์ ป็นระบบบัญชคี ู่ 1. การคำนวณหากำไรขาดทุน โดยวิธีคำนวณรายละเอียดประกอบงบกำไรขาดทนุ สำหรับกรณีที่ฝ่ายบริหารต้องการส่วนประกอบของรายการในงบกำไรขาดทุน เพื่อใช้ในการวาง แผน ของกิจการ หรือควบคุมงบประมาณรายจ่ายต่าง ๆ การจัดทำงบกำไรขาดทุน จะต้องเริ่มจากการคำนวณ สว่ นประกอบของรายการรายได้ และคา่ ใชจ้ ่าย ดังน้ี 1) ทำการรวบรวมรายการทรัพย์สินและหนี้สินประเภทต่าง ๆ ให้ได้รายละเอียดมากที่สุด โดยแยก เป็นยอดคงเหลอื ของงวดบัญชที ่ีผา่ นมากบั งวดบญั ชปี จั จุบันทีต่ อ้ งการวิเคราะห์ 2) วิเคราะห์รายการในสมดุ เงินสดทั้งดา้ นรบั และดา้ นจา่ ย โดยสามารถจำแนกไดเ้ ปน็ สมดุ เงนิ สดรับ สมุดเงินสดจ่าย 1. ขายสินค้าเป็นเงนิ สด 1. ซ้อื สินค้าเป็นเงนิ สด 2. เกบ็ เงนิ จากลกู หนี้ 2. จา่ ยชำระเงนิ ให้กับเจ้าหนี้ 3. เก็บเงนิ ตามตั๋วเงนิ รับ 3. จา่ ยชำระเงนิ ตามต๋ัวเงินจา่ ย 4. เงินสดรบั จากการขายสนิ ทรพั ย์อื่น ๆ 4. จ่ายเงินซอื้ สนิ ทรพั ย์อืน่ ๆ 5. รับเงนิ จากการกู้ยืม 5. จา่ ยชำระเจา้ หน้ีเงนิ กู้ 6. รับเงนิ จากการลงทุนเพ่มิ 6. เงนิ ที่เจา้ ของกิจการถอนคืน ตลอดจน ถอนใช้สว่ นตวั 7. รับเงนิ จากรายไดอ้ นื่ ๆ เชน่ ดอกเบ้ยี รบั 7. การจ่ายคา่ ใชจ้ ่ายต่าง ๆ 3) รวบรวมรายการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินที่ไม่เกี่ยวกับการรับ – จ่ายเป็นเงินสด แต่จะเกี่ยวข้องกับรายได้และค่าใช้จ่ายตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป อันได้แก่ การรับคืนสินค้า การส่งคืน สนิ คา้ หน้ีสงสยั จะสูญ การคำนวณค่าเส่อื มราคา ส่วนลดจ่าย สว่ นลดรับ เป็นตน้ เมื่อได้ข้อมูลตามที่ตอ้ งการแลว้ ก็จะทำการวเิ คราะห์หารายการประกอบงบกำไรขาดทนุ ที่ต้องการทราบ อันได้แก่
ก. รายไดต้ า่ ง ๆ เช่น ยอดขาย รายได้อน่ื ๆ ข. รายจา่ ยตา่ ง ๆ เชน่ ยอดซื้อ รายจ่ายในการดำเนนิ งาน กจิ กรรมการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้ 1. ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ทบทวนเนื้อหาการเรียนการสอนเกี่ยวกับความหมายและลักษณะกิจการที่บันทึกบัญชีตามระบบ บญั ชีเดี่ยว ตามหลักการบัญชที รี่ ับรองกันโดยทวั่ ไป เพ่ือใหส้ อดคล้องกับเนื้อหาการสอน และหลักสูตร การเรยี นการสอน อาจารยส์ ุ่มเลอื กตอบจนครบทุกคน เพื่อให้เกิดความสมั พนั ธ์ในเนือ้ หาตามหลักสูตร การเรยี นการสอน 2. ข้ันดำเนินการสอน 1. อาจารย์ความหมายและลักษณะกิจการที่บันทึกบัญชีตามระบบบัญชีเดี่ยวโดยจัดการเรียนการสอน แบบเน้นการปฏิสัมพันธ์ (Interactive Instruction) โดยการอภปิ รายและสาธิตดว้ ยสอ่ื 2. อาจารย์อธิบายและสาธิตการคำนวณกำไรขาดทุนโดยการวิเคราะห์รายละเอียดประกอบงบกำไร ขาดทนุ โดยจดั การเรยี นการสอนแบบเนน้ การปฏิสัมพนั ธ์ (Interactive Instruction) โดยการอภิปราย และสาธิตดว้ ยสือ่ 4. แต่ละกลุ่มที่แบ่งไว้กลุ่มละ 5-6 คน ช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดเห็นจากกลุ่มซึ่งกันและกัน ฝึกการจดั ระบบความคิด การโตแ้ ย้งอย่างมเี หตุผลจนได้ข้อสรุป 5. นักศึกษาร่วมกันอภิปรายเพื่อฝึกใหค้ ิดอย่างหลากหลายและแสดงออกได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผลใน การบันทึกบัญชีรวมทั้งการคำนวณที่เกี่ยวข้องรวบรวมผลงานที่ได้วิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ออกมา นำเสนอหน้าชน้ั เรียน เพื่อน ๆ ทกุ คนรว่ มเสนอแนะ และนำผลงานส่งอาจารย์เพ่ือประเมนิ ผลงาน 3. ขนั้ สรุป 1. ให้ผเู้ รียนช่วยกันสรุปเน้อื หาสาระและการบันทกึ บัญชีท่ีผู้เรียนได้ศึกษาไปแล้ว 2. เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นซกั ถาม 3. มอบหมายแบบฝกึ หดั รายบุคคล 4. ทดสอบหลังเรยี น เพื่อประเมนิ ความก้าวหนา้ ในการเรยี นรูข้ องผู้เรียน 5. ตรวจเคร่ืองแต่งกายผูเ้ รยี นใหผ้ ู้เรียนดูแลความสะอาดของหอ้ งเรียนกอ่ นออกจากห้อง 4. ขั้นนำไปใชห้ รือประเมนิ ผล 1. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม โดยวิธีให้นักศึกษาจัดกลุ่มเอง จับสลากหรือ เรียงลำดับเลขท่ี แล้วแต่ความเหมาะสม เพื่อให้นักศึกษาระดมสมอง ศึกษาเนื้อหาตามที่ได้รับมอบหมายและค้นคว้า เพม่ิ เติมตามหวั ข้อดังน้ี 1. การคำนวณหากำไรขาดทุน โดยการวเิ คราะห์หารายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทนุ 2. การเปลย่ี นแปลงวธิ ีการบญั ชีทีไ่ มส่ มบูรณ์เปน็ ระบบบญั ชีคู่ 2. หัวหน้ากลุ่ม เลขานุการกลุ่มหรือตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนใช้เวลากลุ่มละไม่เกิน 10 นาที หรืออาจารย์กำหนดเวลาให้เหมาะสมกับเนอื้ หา
3. นักศึกษาแตล่ ะกลุ่มประเมนิ ผลกลมุ่ ตนเองและประเมนิ ผลกลมุ่ อื่นๆ อกี 3 กลุม่ อาจารย์ประเมินผลทุก กลุ่ม โดยใชแ้ บบประเมนิ 1 และเฉลีย่ คะแนนโดยนำคะแนนที่ได้หารดว้ ย 5 (คะแนนท้ังหมด 25 หาร ดว้ ย 5 เท่ากบั 5 คะแนน ถา้ มจี ดุ ทศนิยมให้ปดั ตามหลกั คณิตศาสตร์) 4. อาจารย์รวบรวมแบบประเมิน 1 มาสรุปคะแนนลงในแบบประเมิน 2 รวมคะแนนและหารด้วย 5 (นกั ศกึ ษา 4 กลุ่ม + อาจารย์) พร้อมแสดงข้อคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ สือ่ การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้ 1. สอื่ Power Point เรื่อง การคำนวณหากำไรขาดทุน โดยวิธคี ำนวณรายละเอียดประกอบ งบกำไรขาดทนุ 2. สือ่ Power Point เรอ่ื ง การเปลี่ยนแปลงวิธกี ารบญั ชีท่ไี มส่ มบรู ณ์เปน็ ระบบบัญชคี ู่ 3. สื่อการเรยี นการสอนออนไลน์ https://pubhtml5.com/bookcase/ewue 4. แบบประเมนิ ผลการเรียนรกู้ ่อนเรียนและหลงั เรียน 5. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 6. เว็บไซต์ ก.ล.ต. 7. เว็บไซต์กรมสรรพากร 8. เวบ็ ไซตส์ ภาวชิ าชีพบัญชี 9. หนงั สือเรยี นรายวชิ า การบญั ชชี ้ันสูง 1 งานทมี่ อบหมายหรอื กิจกรรม ก่อนเรยี น 1. จัดเตรยี มเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามท่ผี ู้สอนและบทเรียนกำหนด 2. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. ทำความเขา้ ใจเกย่ี วกับจดุ ประสงค์การเรยี นของหนว่ ยท่ี 5 และการใหค้ วามรว่ มมือ ในการทำกจิ กรรมในหน่วยการเรียนที่ 5 ขณะเรยี น 1. ผมู้ อบหมายให้ผเู้ รยี นแบ่งกลุ่มยอ่ ยตามความสมัครใจ 2. ปฏบิ ตั งิ านตามใบงาน 3. รว่ มกนั สรปุ ตามหวั ขอ้ ทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4. รายงานหน้าชัน้ เรียนตามหัวขอ้ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย หลังเรียน 1. ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยที่ 5 2. ทำแบบทดสอบหลังเรียน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ วธิ ีวดั ผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น 2. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบประเมินผลการเรียนรกู้ ่อนเรียนและหลังเรยี น 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละ นกั ศกึ ษารว่ มกันประเมิน เกณฑก์ ารประเมินผล 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ก่อนเรียนไม่มีเกณฑ์ผา่ น อาจารย์จะเกบ็ คะแนนไว้เปรียบเทียบ กับคะแนน ทไ่ี ดจ้ ากการทำแบบประเมินผลการเรยี นรู้หลงั เรยี น 2. ผลคะแนนประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ขนึ้ อยู่กับ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รียน 1. ผเู้ รยี นทำใบงานและแบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรยี นถกู ต้อง 2. กระดาษคำตอบแบบฝึกหัดทา้ ยหน่วยการเรียน 3. ใบงานได้จากการค้นควา้ 4. ผ้เู รยี นออกแบบผังความคิดรวบยอด เร่ือง การคำนวณหากำไรขาดทนุ โดยวธิ คี ำนวณรายละเอยี ด ประกอบงบกำไรขาดทุน
แบบสงั เกตแบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล คำช้ีแจง ทำเคร่อื งหมาย ในช่องท่ีตรงกบั ความเป็นจรงิ ตามเกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การประเมนิ (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผูส้ อน) เลขท่ี ช่ือ - สกลุ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบ ทำงานด้วยความเพียร รวม ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่กี ารงาน 8 คะแนน พยายาม และอดทนเพ่อื ให้ งานสำเร็จตามเปา้ หมาย 4 3 21 4 3 21 1 2 3 4 5 เกณฑ์การใช้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ 4 คะแนน เท่ากับ ดมี าก 3 คะแนน เท่ากับ ดี ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 คะแนน เท่ากบั พอใช้ 7-8 ดมี าก 1 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรุง 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรับปรงุ (ลงชอื่ )...................................ครูผปู้ ระเมนิ (…………………………………………………) ............../................./.............
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมทีน่ ักเรียนปฏบิ ัติ รายการ รบั ผิดชอบ รับฟัง นำเสนอ มีความคิดรเิ รมิ่ ทำงานเสร็จ เลขที่ ช่ือ-สกลุ งานท่ไี ด้รบั ความคิดเหน็ ผลงานได้ สร้างสรรค์ ตามเวลาท่ี มอบหมาย ของผูอ้ ืน่ นา่ สนใจ (2 คะแนน) กำหนด (2 คะแนน) (2 คะแนน) (2 คะแนน) (2 คะแนน) เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9 – 10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7 – 8 ระดับ ดี คะแนน 5 – 6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0 – 4 ระดับ ควรปรับปรงุ (ลงช่อื )...................................ครผู ปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./.............
แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ช่อื ผปู้ ระเมนิ /กลุม่ ประเมนิ ................................................................................................................ ช่อื กลมุ่ รบั การประเมนิ ...................................................................................................................... ระดบั พฤตกิ รรม ท่ี คุณลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ใชไ้ ด้ ควรปรับปรุง คะแนนที่ได้ (2 คะแนน) (0 คะแนน) 1 ความมีมนษุ ยส์ มั พนั ธ์ - แสดงกิริยาทา่ ทางสภุ าพตอ่ ผู้อ่ืน - ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผู้อน่ื 2 ความมวี ินยั - ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และขอ้ ตกลงตา่ ง ๆ ของวิทยาลัย ได้แก่ การแตง่ กายถกู ตอ้ ง ตามระเบียบและขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา 3 ความรับผดิ ชอบ - เตรยี มความพร้อมในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน - ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความต้งั ใจ - มีความเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั ิงาน 4 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง - กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล 5 ความปลอดภัย - ปฏิบตั งิ าน ทำกิจกรรมดว้ ยความระมัดระวัง 6 ความสนใจใฝร่ ู้ - ซักถามปัญหานา่ สงสยั 7 ความรกั สามคั คี - รว่ มมอื ในการทำงาน 8 ความกตญั ญกู ตเวที - มสี ัมมาคารวะตอ่ ครู-อาจารยอ์ ย่างสมำ่ เสมอ ท้ังตอ่ หน้าและลับหลัง 9 พึ่งตนเอง - ทำงานปฏบิ ัติงานด้วยตนเอง 10 มีความอดทนอดกล้นั - ควบคมุ อารมณ์/ความรู้สกึ อยา่ งมสี ตแิ ละเหตผุ ล
ใบงานท่ี 1 เรื่อง การคำนวณหากำไรขาดทุน โดยวธิ ีคำนวณรายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทนุ วัตถปุ ระสงค์ เพื่อให้นกั ศึกษาเกิดทกั ษะการคำนวณกำไรหรือขาดทนุ สทุ ธิของปี โจทย์ ต่อไปนเ้ี ปน็ รายการเกยี่ วกบั สนิ ทรัพย์และหนส้ี นิ ของร้านสรุ ีย์พร 31 ธนั วาคม 2561 2562 เงนิ สด 21,250 216,975 ลกู หน้ี 18,500 27,700 ต๋ัวเงินรับ 4,500 6,300 สินคา้ 27,200 11,700 เครอ่ื งใชส้ ำนักงาน-ราคาทนุ 20,000 12,000 เจา้ หนี้ 5,500 18,000 คา่ เชา่ คา้ งจ่าย 2,400 1,600 รายการรับจา่ ยเงนิ ระหว่างปี 2562 สรปุ ได้ดงั นี้ รายรบั ขายสด 225,000 รับชำระหน้จี ากลูกหน้ี 188,000 รับตามตัว๋ เงนิ รับ 9,300 เงินกู้ 11,000 ขายเครอื่ งใช้สำนักงาน 5,200 รายจ่าย ซอื้ สด 107,200 จ่ายชำระหน้ีเจ้าหนี้ 88,500 ชำระเงินกแู้ ละดอกเบย้ี จา่ ย 11,275 ค่าเช่า 9,500 คา่ ใชจ้ ่ายดำเนินงานอนื่ ๆ 23,000 เงินถอน 3,300 กิจการซื้อเครื่องใช้สำนักงาน ราคา 20,000 บท เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 คิดค่าเสื่อมราคา 10%ต่อปี ของราคาซื้อ และจำหน่ายเคร่ืองใช้สำนักงานราคาทุน 8,000 บาท เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ได้เงินสด 5,200 บาท ระหวา่ งปี 2562 มรี ับคนื สนิ ค้า 3,700 บาท และตดั หนี้สูญ 2,500 บาท ส่งคนื 2,800 บาท ให้ทำ 1. งบกำไรขาดทุนปี 2562
แบบประเมินผลการเรียนรูก้ อ่ น/หลังเรยี น หนว่ ยที่ 5 ระบบบญั ชที ไ่ี มส่ มบูรณ์แบบหรือระบบบญั ชเี ดี่ยว คำสัง่ จงทำเคร่ืองหมาย ทบั ข้อท่ีถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพียงขอ้ เดยี ว 1. ร้านต้อย มีทุนปลายปี 10,000 บาท ทุนต้นปี 8,000 บาท ลงทุนเพิ่ม 5,000 บาท จะมีกำไรสุทธิ หรือขาดทนุ สุทธเิ ท่าใด ก. ขาดทนุ สุทธิ 3,000 บาท ข. ขาดทนุ สทุ ธิ 7,000 บาท ค. กำไรสุทธิ 3,000 บาท ง. กำไรสทุ ธิ 7,000 บาท 2. ร้านตุ้ย มีทุนปลายปี 15,000 บาท ถอนใช้ส่วนตัว 2,000 บาท มีทุนต้นปี 8,000 บาท จะมีกำไร หรอื ขาดทนุ สุทธิเท่าใด ก. กำไรสุทธิ 21,000 บาท ข. กำไรสุทธิ 9,000 บาท ค. กำไรสทุ ธิ 5,000 บาท ง. ขาดทุนสุทธิ 9,000 บาท 3. รบั ชำระหนี้จากลูกหน้ี 22,600 บาท รบั ตามตั๋วเงินรับ 5,600 บาท สว่ นลดจ่าย 3,800 บาท หนส้ี ูญ 1,200 บาท รบั คืนสนิ ค้า 5,000 บาท ลูกหนต้ี น้ ปี 7,600 บาท เจา้ หนีต้ ้นปี 2,300 บาท ลูกหน้ปี ลายปี 8,400 บาท ตว๋ั เงินรับ ต้นปี 2,400 บาท ต๋ัวเงนิ รับปลายปี 3,400 บาท ขายสด 26,000 บาท จงคำนวณหายอดขายทง้ั สนิ้ ก. 63,700 บาท ข. 66,000 บาท ค. 61,200 บาท ง. 62,400 บาท 4. ลกู หนี้ตน้ ปี 26,000 บาท ลูกหน้ีปลายปี 29,000 บาท เจา้ หน้ลี ดลง 800 บาท เก็บเงนิ จากลกู หน้ี 160,000 บาท ขายสด 57,000 บาท จงคำนวณหายอดขายท้งั สนิ้ ก. 219,200 บาท ข. 162,000 บาท ค. 214,000 บาท ง. 220,000 บาท 5. รบั ตามต๋ัวเงินรบั 6,400 บาท ตวั๋ เงนิ รับปลายปี 4,800 บาท ตว่ั เงินจ่ายตน้ ปี 1,100 บาท ต๋ัวเงนิ รับต้นปี 3,600 บาท รับชำระหนีด้ ้วยต๋วั เงินรับเท่ากับเท่าใด ก. 7,600 บาท ข. 5,200 บาท ค. 6,500 บาท ง. 2,000 บาท 6. จา่ ยชำระหนีแ้ ละซอ้ื สด 44,600 บาท จ่ายตามต๋ัวจ่าย 6,000 บาท ส่วนลดรับ 1,600 บาท สง่ คืนสินคา้ 2,000 บาท เจา้ หนต้ี ้นปี 11,000 บาท เจา้ หน้ปี ลายปี 12,400 บาท ตั๋วเงนิ จ่ายตน้ ปี 3,000 บาท ต๋ัวเงนิ จา่ ยปลายปี 2,400 บาท ลกู หนลี้ ดลง 900 บาท จงคำนวณหาซื้อท้ังสนิ้ เทา่ กบั เท่าใด ก. 69,000 บาท ข. 55,000 บาท ค. 53,400 บาท ง. 54,100 บาท 7. รับชำระหนีจ้ ากลกู หน้ี 38,600 บาท รบั ชำระหน้ีดว้ ยต๋ัวเงนิ รบั 5,400 บาท สว่ นลดจา่ ย 2,800 บาท หนสี้ ูญ 1,200 บาท รับคืนสนิ ค้า 5,000 บาท สว่ นลดรับ 1,000 บาท ลกู หนีล้ ดลง 7,000 บาท รับจากการขาย 22,400 บาท จงคำนวณหายอดขายทัง้ สน้ิ ก. 75,400 บาท ข. 76,400 บาท ค. 69,400 บาท ง. 68,400 บาท
8. จา่ ยชำระหน้เี จา้ หนี้ 45,000 บาท ซ้อื สินคา้ เงินสด 31,000 บาท สว่ นลดจา่ ย 500 บาท จ่ายตามต๋ัวเงินจ่าย 4,400 บาท ส่วนลดรับ 2,800 บาท ส่งคนื สินคา้ 4,000 บาท เจ้าหน้ลี ดลง 7,000 บาท ตัว๋ เงนิ จา่ ยเพิม่ ขึน้ 4,800 บาท จงคำนวณหายอดซอื้ สินคา้ ทง้ั สน้ิ เท่ากบั เท่าใด ก. 91,500 บาท ข. 92,500 บาท ค. 92,000 บาท ง. 85,000 บาท 9. ซ้อื สินคา้ เงินสด 24,800 บาท จ่ายชำระหนเ้ี จ้าหน้ี 37,000 บาท จ่ายตามต๋ัวเงนิ จา่ ย 6,000 บาท ส่วนลดรับ 3,600 บาท ตัว๋ เงนิ จ่ายลดลง 2,400 บาท ส่งคืนสินค้า 4,400 บาท ต๋วั เงินรบั ลดลง 1,300 บาท เจ้าหนี้ลดลง 6,600 บาท จงคำนวณหายอดซอื้ สินค้าท้ังสนิ้ เท่ากับเท่าใด ก. 70,400 บาท ข. 66,800 บาท ค. 81,200 บาท ง. 65500 บาท 10. รายไดด้ อกเบ้ียรบั ระหวา่ งงวด 4,600 บาท รายไดด้ อกเบยี้ รับล่วงหนา้ ปลายงวด 2,700 บาท รายได้ ดอกเบ้ยี ค้างรับปลายงวด 2,300 รายไดด้ อกเบย้ี รบั ลว่ งหน้าตน้ งวด 3,100 จงหาดอกเบย้ี รบั ของปีปัจจบุ นั เท่ากบั เท่าใด ก. 7,300 บาท ข. 10,000 บาท ค. 8,100 บาท ง. 1,100 บาท 11. ค่าโฆษณาจา่ ยระหวา่ งปี 2,500 บาท ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหน้าต้นปี 3,800 บาท คา่ โฆษณาคา้ งจา่ ยตน้ ปี 5,900 บาท ค่าโฆษณาคา้ งจ่ายปลายปี 4,100 บาท จงหาค่าโฆษณาของปปี จั จบุ นั ก. 3,700 บาท ข. 4,500 บาท ค. 10,400 บาท ง. 500 บาท 12. เงนิ เดือนจ่ายระหว่างปี 7,600 บาท เงนิ เดือนค้างจา่ ยปลายปี 8,800 บาท เงนิ เดือนจา่ ยล่วงหนา้ ปลายปี 6,700 บาท เงินเดือนคา้ งจ่ายตน้ ปี 5,300 บาท จงเงนิ เดอื นของปปี ัจจุบนั ก. 16,400 บาท ข. 10,800 บาท ค. 6,200 บาท ง. 4,400 บาท 13. คา่ เผอื่ หนี้สงสัยจะสญู ปลายปี 1,300 บาท ค่าเผ่อื หนี้สงสัยจะสูญต้นปี 1,400 บาท หนสี้ ญู ระหว่างปี 800 บาท หนีส้ งสัยจะสญู เท่ากบั เท่าใด ก. 1,900 บาท ข. 3,500 บาท ค. 700 บาท ง. 900 บาท 14. รายไดค้ ่าเชา่ ระหวา่ งปี 8,400 บาท คา่ เช่าค้างรับตน้ ปี 3,500 บาท ค่าเชา่ คา้ งรับปลายปี 4,200 บาท รายไดค้ า่ เช่าของปีปัจจุบันเท่ากบั เทา่ ใด ก. 12,600 บาท ข. 9,100 บาท ค. 7,700 บาท ง. 700 บาท 15. วสั ดสุ ำนกั งานต้นปี 4,300 บาท ซ้อื ระหวา่ งปี 2,300 วสั ดสุ ำนกั งานปลายปี 3,700 บาท วัสดสุ ำนักงานใช้ไป ก. 10,300 บาท ข. 5,700 บาท ค. 1,700 บาท ง. 2,900 บาท 16. 1 มกราคม 2539 กิจการมีเคร่ืองใช้สำนักงานราคาทนุ 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคดิ ค่าเสื่อมราคาเคร่ืองใช้สำนกั งานในอตั รา 10% ต่อปี ตอ่ มาเม่ือวันที่ 1 เมษายน 2539 กิจการซอ้ื เคร่อื งใช้ สำนกั งานเพม่ิ เติมในราคา 12,000 บาท กิจการมีค่าเสื่อมราคาของปี 2539 เท่าใด ก. 3,600 บาท ข. 900 บาท ค. 4,500 บาท ง. 2,500 บาท
17. จากข้อที่ 16 กิจการมีค่าเส่ือมราคาสะสม-เครื่องใช้สำนักงาน เท่ากับเทา่ ใด ง. 13,300 บาท ก. 15,300 บาท ข. 11,700 บาท ค. 14,400 บาท 18. 1 มกราคม 2537 กิจการมีเคร่ืองใช้สำนกั งานราคาทุน 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคดิ ค่าเส่ือมราคาเคร่อื งใชส้ ำนักงานในอตั รา 10% ต่อปี เมือ่ วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2539 ขายเครอ่ื งใช้สำนักงาน สว่ นหน่งึ ราคาทนุ 18,000 บาท ไปในราคา 11,000 บาท และเมื่อวนั ที่ 1 ตุลาคม 2539 กิจการซื้อเครอื่ งใช้ สำนกั งานเพ่มิ อีก 12,000 บาท จงคำนวณหาค่าเส่อื มราคา - เคร่ืองใชส้ ำนักงานของปี 2539 เท่ากบั เท่าใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 1,000 บาท 19. จากขอ้ ท่ี 18 กจิ การมีคา่ เสอ่ื มราคาสะสม-เครอื่ งใช้สำนักงานของปี 2539 เท่ากบั เทา่ ใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 9,900 บาท 20. จากข้อท่ี 18 กจิ การมกี ำไรหรอื ขาดทุนจากการจำหนา่ ยสินทรพั ย์ เท่ากบั เท่าใด ก. กำไรฯ 2,800 บาท ข. ขาดทุน 2,800 บาท ค. กำไรฯ 6,100 บาท ง. ขาดทนุ ฯ 6,100 บาท
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 17 หนว่ ยที่ 5 วชิ า 30201 – 2005 การบัญชีชั้นสงู 1 สอนครง้ั ที่ 17 ช่อื หนว่ ย ระบบบัญชที ไ่ี ม่สมบรู ณแ์ บบหรือระบบบญั ชเี ด่ียว จำนวน 12 ชวั่ โมง ช่อื เร่ือง การเปลี่ยนวธิ กี ารบัญชีจากระบบบญั ชที ี่ไม่สมบูรณ์ จำนวน 4 ช่ัวโมง แบบมาเป็นระบบบัญชีคู่ หวั ขอ้ เร่อื ง ดา้ นความรู้ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมาย ของระบบบญั ชีท่ไี มส่ มบูรณแ์ บบได้ 2. แสดงความรูเ้ กีย่ วกับความสำคญั ของระบบบญั ชีท่ีไมส่ มบรู ณ์แบบได้ ด้านทกั ษะ 3. บนั ทึกการเปลี่ยนวธิ กี ารบญั ชี จากระบบบัญชที ไ่ี มส่ มบรู ณแ์ บบ มาเปน็ ระบบบญั ชีคูไ่ ด้ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง (มวี นิ ยั มคี วามรับผดิ ชอบ ขยัน ประหยดั ซื่อสัตย์สุจริต และมคี วามสามคั ค)ี 4. รับฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ นื่ 5. ปฏบิ ัติงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายสำเร็จตามทีก่ ำหนดได้ดว้ ยตนเอง 6 ปฏิบตั ิตนตามกฎ ระเบียบขอ้ บงั คับของสถานศึกษาและสังคม ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สาระสำคญั จากวิธีการบันทึกบัญชีและการจัดทำงบการเงินในหน่วยก่อนๆ นั้น เป็นการบันทึกบัญชีและจัดทำ งบการเงินตามหลักการบัญชี หรือระบบคู่ (Double Entry System) กล่าวคือ เมื่อมีรายการค้าเกิดขึ้นจะมีการ บนั ทึกบญั ชีทางด้านเดบิตบัญชีหน่ึงหรือหลายบัญชี และจะมกี ารเครดิตอีกบัญชหี นึ่ง หรอื หลายบัญชีในจำนวนเงิน ที่เท่ากัน (ยอดรวมที่บันทึกทางด้านเดบิต และยอดรวมที่บันทึกทางด้านเครดิตจะต้องมีจำนวนเงินเท่ากัน) และ สามารถท่ีจะพสิ จู นถ์ งึ ความถูกต้องของการบันทึกรายการไดโ้ ดยการจัดทำงบทดลอง สำหรับกิจการที่เป็นกิจการขนาดเล็ก หรือเจ้าของคนเดียวที่ควบคุมการบริหารงานเองทั้งหมด และรายการค้ามีจำนวนน้อยแล้ว เจ้าของกิจการส่วนใหญ่มักจะทำบัญชีเองตามความรู้เท่าท่ีมีอยู่ ซึ่งการบันทึก บัญชีของเจ้าของกิจการส่วนใหญ่จะบันทึกบญั ชีไมส่ มบูรณ์ เพราะเจ้าของกิจการขาดความรู้ ความชำนาญ ดังน้ัน เมื่อต้องการแสดงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการในวันสิ้นงวดบัญชี เจ้าของกิจการมักจะ ขอใหน้ ักบัญชีช่วยรวบรวมเอกสารหลักฐานเทา่ ทีม่ ีอยจู่ ดั ทำงบการเงิน ใหส้ มบรู ณต์ ามหลักการบัญชคี ู่ สมรรถนะประจำหนว่ ย การเปล่ยี นวิธกี ารบญั ชี จากระบบบญั ชีทไ่ี ม่สมบูรณ์แบบ มาเป็นระบบบัญชคี ู่
จุดประสงค์การสอน/การเรยี นรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความหมาย ความสำคัญของระบบบญั ชที ี่ไม่สมบรู ณแ์ บบ และคำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการวิเคราะห์รายละเอยี ดประกอบงบกำไรขาดทุน จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. แสดงความรู้เกีย่ วกบั ความหมาย ของระบบบัญชีท่ีไมส่ มบรู ณแ์ บบได้ 2. แสดงความรู้เก่ยี วกับความสำคญั ของระบบบัญชีที่ไมส่ มบรู ณ์แบบได้ 3. บันทกึ การเปลยี่ นวธิ กี ารบัญชี จากระบบบัญชที ่ไี มส่ มบูรณ์แบบ มาเปน็ ระบบบัญชคี ไู่ ด้ 4. วเิ คราะห์แนวทางปฏิบัตติ นบนความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ ได้ 5. ประยุกต์ใช้เปน็ แนวทางในการดำเนนิ ชวี ิตอยา่ งสุจรติ ได้ 6. ปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ย่างถกู ต้อง ตรงเวลาทก่ี ำหนดอยา่ งมเี หตุและผลตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และคณุ ลกั ษณะ3D การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและคุณลักษณะ 3D หลักความพอประมาณ 1. นักเรียนจัดสรรเวลาในการฝกึ ปฏิบตั ติ ามใบงานได้อย่างเหมาะสม 2. นกั เรียนรูจ้ กั ใชแ้ ละจัดการ วสั ดอุ ปุ กรณต์ า่ งๆ อยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ 3. นกั เรียนปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูน้ ำและผูต้ ามที่ดี 4. นักเรียนเป็นสมาชิกท่ีดีของกลมุ่ เพอ่ื และสังคม หลักความมีเหตุผล 1. เหตคุ ณุ คา่ ของการจดั ทำบัญชไี ดอ้ ย่างมีเหตุมีผล และสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ในการดำเนิน ธุรกจิ และใชช้ ีวิตประจำวันได้ 2. กล้าแสดงความคดิ อย่างมเี หตผุ ล 3. กลา้ ทกั ทว้ งในสิง่ ทไี่ มถ่ กู ตอ้ งอย่างถกู กาลเทศะ 4. กล้ายอมรบั ฟังความคดิ ของผอู้ น่ื 5. ใช้วัสดถุ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั งาน 6. ไม่มีเรอ่ื งทะเลาะวิวาทกับผู้อืน่ 7. มคี วามคดิ วเิ คราะห์ในการแก้ปัญหาอย่างเปน็ ระบบ หลักความคมุ้ กัน 1. มคี วามรูค้ วามเข้าใจด้านความรู้ท่วั ไปเก่ียวกับการเปลี่ยนวธิ กี ารบัญชีจากระบบบัญชที ไ่ี ม่สมบรู ณแ์ บบ มาเปน็ ระบบบัญชคี ไู่ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 2. มีทักษะในการแสดงวธิ ีการบันทึกบัญชีเกีย่ วกบั การเปลย่ี นวธิ กี ารบญั ชีจากระบบบญั ชีที่ไมส่ มบรู ณ์แบบ มาเป็นระบบบญั ชีคไู่ ดอ้ ยา่ งถูกต้องได้ 3. นกั เรียนได้รับความรู้ท่ีถกู ตอ้ ง และพร้อมท่จี ะนำความรเู้ กี่ยวกบั การบญั ชีได้
การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงหรือตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทัง้ ความรู้และคณุ ธรรมเปน็ พื้นฐาน ดงั น้ี เงอ่ื นไขความรู้ 1. นกั เรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจกีย่ วกับการบัญชี 2. ใช้วสั ดุอยา่ งประหยดั และคุ้มคา่ 3. มคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เงื่อนไขคณุ ธรรม 1. ปฏิบตั ิงานที่ไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกำหนด 2. ใชว้ ัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า 3. มีความเพยี รพยายามและกระตอื รือร้นในการเรยี นและการปฏิบตั งิ าน 4. ให้ความร่วมมอื กบั การทำกจิ กรรมของสว่ นรวม อาสาชว่ ยเหลอื งานครูและผู้อน่ื เนอ้ื หาสาระ การเปลีย่ นแปลงวิธีการบัญชที ี่ไมส่ มบรู ณ์เปน็ ระบบบญั ชคี ู่ เนื่องจากการบันทึกบัญชีไม่สมบูรณ์มีข้อบกพร่องต่าง ๆ ดังได้กล่าวมาแล้ว เพื่อให้วิธีการบัญชีถูกต้อง สมบูรณ์ สามารถใช้ผลงานทางบัญชีให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น กิจการจึงควรเปลี่ยนวิธีการบัญชีให้เป็นระบบ บญั ชคี ู่ โดยดำเนนิ การเปล่ยี นแปลง ดงั น้ี 1. กำหนดวันเริม่ ต้นบนั ทึกบัญชีตามระบบบัญชีคู่ ซ่ึงส่วนมากควรเป็นวันเรม่ิ ตน้ งวดบัญชีใหม่ 2. สำรวจสินทรพั ย์และหนี้สินและจัดทำงบดุลขนึ้ ณ วนั เร่ิมต้นใช้ระบบบญั ชคี ู่ 3. จัดทำผังบัญชีที่จำเป็นให้ถูกต้องสมบูรณ์ และเปิดบัญชีแยกประเภทต่าง ๆ ในสมุดแยกประเภท ทั่วไป 4. นำสินทรัพย์และหนี้สินจากงบดุล ณ วันเริ่มต้นมาบันทึกในสมุดรายวันท่ัวไปเป็นรายการเปิดบัญชี และผ่านรายการไปบัญชแี ยกประเภท 5. บันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้น ภายหลังจากนั้นทางด้านเดบิตและเครดิตด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน แล้วผา่ นรายการไปบัญชแี ยกประเภทตามระบบบัญชีค่ตู ่อไป 6. การจดั ทำงบกำไรขาดทนุ 7. การจัดทำงบแสดงฐานะการเงนิ กิจกรรมการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้ 1. ข้นั นำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ทบทวนเนื้อหาการเรียนการสอนเกี่ยวกับความหมายและลักษณะกิจการที่บันทึกบัญชีตามระบบ บญั ชเี ดีย่ ว ตามหลักการบัญชที รี่ บั รองกันโดยทัว่ ไป เพื่อใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหาการสอน และหลักสูตร การเรียนการสอน อาจารย์สุ่มเลอื กตอบจนครบทุกคน เพ่อื ใหเ้ กิดความสมั พันธ์ในเนอื้ หาตามหลักสูตร การเรียนการสอน
2. ขนั้ ดำเนนิ การสอน 1. อาจารย์ความหมายและลักษณะกิจการที่บันทึกบัญชีตามระบบบัญชีเดี่ยวโดยจัดการเรียนการสอน แบบเน้นการปฏสิ มั พนั ธ์ (Interactive Instruction) โดยการอภปิ รายและสาธิตดว้ ยสือ่ 2. อาจารยอ์ ธบิ ายและสาธติ การเปล่ยี นแปลงวธิ กี ารบัญชที ไ่ี ม่สมบูรณ์เปน็ ระบบบญั ชีคู่ โดยจดั การเรียน การสอนแบบเน้นการปฏิสัมพนั ธ์ (Interactive Instruction) โดยการอภปิ รายและสาธติ ดว้ ยสือ่ 3. แต่ละกลุ่มที่แบ่งไว้กลุ่มละ 5-6 คน ช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดเห็นจากกลุ่มซึ่งกันและกัน ฝึกการจัดระบบความคิด การโต้แย้งอย่างมีเหตุผลจนไดข้ ้อสรุป 4. นักศึกษาร่วมกันอภิปรายเพื่อฝึกให้คิดอย่างหลากหลายและแสดงออกได้อยา่ งชัดเจนและมีเหตุผลใน การบันทึกบัญชีรวมทั้งการคำนวณที่เกี่ยวข้องรวบรวมผลงานที่ได้วิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ออกมา นำเสนอหน้าช้ันเรียน เพื่อน ๆ ทกุ คนร่วมเสนอแนะ และนำผลงานสง่ อาจารย์เพ่อื ประเมนิ ผลงาน 3. ข้นั สรปุ 1. ใหผ้ ู้เรียนช่วยกนั สรุปเน้ือหาสาระและการบนั ทึกบัญชที ่ผี ู้เรียนไดศ้ กึ ษาไปแล้ว 2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม 3. มอบหมายแบบฝึกหัดรายบคุ คล 4. ทดสอบหลงั เรยี น เพอื่ ประเมนิ ความก้าวหน้า ในการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี น 5. ตรวจเครื่องแต่งกายผเู้ รยี นให้ผเู้ รียนดแู ลความสะอาดของหอ้ งเรียนกอ่ นออกจากห้อง 4. ขั้นนำไปใช้หรอื ประเมินผล 1. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม โดยวิธีให้นักศึกษาจัดกลุ่มเอง จับสลากหรือ เรียงลำดับเลขที่ แล้วแต่ความเหมาะสม เพื่อให้นักศึกษาระดมสมอง ศึกษาเนื้อหาตามที่ได้รับมอบหมายและค้นคว้า เพิม่ เติมตามหัวข้อดังนี้ การเปลยี่ นแปลงวธิ ีการบญั ชีที่ไม่สมบูรณเ์ ป็นระบบบัญชคี ู่ 2. หัวหน้ากลุ่ม เลขานุการกลุ่มหรือตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนใช้เวลากลุ่มละไม่เกิน 10 นาที หรอื อาจารย์กำหนดเวลาใหเ้ หมาะสมกบั เนอ้ื หา 3. นักศึกษาแตล่ ะกล่มุ ประเมินผลกลุม่ ตนเองและประเมินผลกลมุ่ อนื่ ๆ อกี 3 กลุม่ อาจารย์ประเมินผล ทกุ กลมุ่ โดยใช้แบบประเมิน 1 และเฉลี่ยคะแนนโดยนำคะแนนที่ได้หารด้วย 5 (คะแนนท้งั หมด 25 หาร ด้วย 5 เท่ากบั 5 คะแนน ถา้ มจี ดุ ทศนยิ มใหป้ ดั ตามหลกั คณิตศาสตร์) 4. อาจารย์รวบรวมแบบประเมิน 1 มาสรุปคะแนนลงในแบบประเมิน 2 รวมคะแนนและหารด้วย 5 (นักศกึ ษา 4 กลุ่ม + อาจารย์) พร้อมแสดงข้อคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะ
ส่ือการเรียนการสอน/การเรยี นรู้ 1. สอื่ Power Point เร่ือง การเปลี่ยนแปลงวธิ ีการบัญชที ีไ่ ม่สมบรู ณเ์ ป็นระบบบัญชคี ู่ 2. ส่อื การเรยี นการสอนออนไลน์ https://pubhtml5.com/bookcase/ewue 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรกู้ อ่ นเรยี นและหลังเรียน 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. เว็บไซต์ ก.ล.ต. 6. เว็บไซต์กรมสรรพากร 7. เวบ็ ไซตส์ ภาวิชาชีพบญั ชี 8. หนงั สือเรยี นรายวชิ า การบัญชชี ้นั สูง 1 งานท่มี อบหมายหรอื กจิ กรรม ก่อนเรยี น 1. จดั เตรียมเอกสาร สอ่ื การเรียนการสอนตามที่ผู้สอนและบทเรยี นกำหนด 2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ทำความเขา้ ใจเกี่ยวกับจดุ ประสงค์การเรยี นของหนว่ ยที่ 5 และการให้ความรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรมในหนว่ ยการเรยี นที่ 5 ขณะเรยี น 1. ผ้มู อบหมายใหผ้ ูเ้ รียนแบ่งกลุม่ ย่อยตามความสมัครใจ 2. ปฏบิ ัติงานตามใบงาน 3. รว่ มกันสรุปตามหัวข้อทไ่ี ด้รบั มอบหมาย 4. รายงานหนา้ ชัน้ เรียนตามหวั ข้อทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย หลงั เรยี น 1. ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยที่ 5 2. ทำแบบทดสอบหลังเรยี น การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ วิธวี ัดผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี น 2. การสงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบประเมินผลการเรยี นร้กู ่อนเรียนและหลงั เรียน 2. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยอาจารยแ์ ละ นกั ศึกษาร่วมกันประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล 1. แบบประเมนิ ผลการเรียนร้กู ่อนเรียนไมม่ ีเกณฑผ์ ่าน อาจารยจ์ ะเก็บคะแนนไว้เปรียบเทียบ กบั คะแนน ท่ไี ดจ้ ากการทำแบบประเมินผลการเรยี นรู้หลังเรียน 2. ผลคะแนนประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ขน้ึ อย่กู ับ การประเมินตามสภาพจริง ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเร็จของผู้เรียน 1. ผูเ้ รียนทำใบงานและแบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยการเรยี นถูกตอ้ ง 2. กระดาษคำตอบแบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยการเรียน 3. ใบงานได้จากการคน้ คว้า 4. ผู้เรยี นออกแบบผงั ความคิดรวบยอด เรื่อง การเปล่ียนแปลงวิธีการบัญชีทไี่ มส่ มบูรณ์เปน็ ระบบบัญชคี ู่
แบบสงั เกตแบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล คำช้ีแจง ทำเคร่อื งหมาย ในช่องท่ีตรงกบั ความเป็นจรงิ ตามเกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การประเมนิ (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผูส้ อน) เลขท่ี ช่ือ - สกลุ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบ ทำงานด้วยความเพียร รวม ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่กี ารงาน 8 คะแนน พยายาม และอดทนเพ่อื ให้ งานสำเร็จตามเปา้ หมาย 4 3 21 4 3 21 1 2 3 4 5 เกณฑ์การใช้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ 4 คะแนน เท่ากับ ดมี าก 3 คะแนน เท่ากับ ดี ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 คะแนน เท่ากบั พอใช้ 7-8 ดมี าก 1 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรุง 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรับปรงุ (ลงชอื่ )...................................ครูผปู้ ระเมนิ (…………………………………………………) ............../................./.............
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมทีน่ ักเรียนปฏบิ ัติ รายการ รบั ผิดชอบ รับฟัง นำเสนอ มีความคิดรเิ รมิ่ ทำงานเสร็จ เลขที่ ช่ือ-สกลุ งานท่ไี ด้รบั ความคิดเหน็ ผลงานได้ สร้างสรรค์ ตามเวลาท่ี มอบหมาย ของผูอ้ ืน่ นา่ สนใจ (2 คะแนน) กำหนด (2 คะแนน) (2 คะแนน) (2 คะแนน) (2 คะแนน) เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9 – 10 ระดับ ดีมาก คะแนน 7 – 8 ระดับ ดี คะแนน 5 – 6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0 – 4 ระดับ ควรปรับปรงุ (ลงช่อื )...................................ครผู ปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./.............
แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ช่อื ผปู้ ระเมนิ /กลุม่ ประเมนิ ................................................................................................................ ช่อื กลมุ่ รบั การประเมนิ ...................................................................................................................... ระดบั พฤตกิ รรม ท่ี คุณลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ใชไ้ ด้ ควรปรับปรุง คะแนนที่ได้ (2 คะแนน) (0 คะแนน) 1 ความมีมนษุ ยส์ มั พนั ธ์ - แสดงกิริยาทา่ ทางสภุ าพตอ่ ผู้อ่ืน - ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผู้อน่ื 2 ความมวี ินยั - ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และขอ้ ตกลงตา่ ง ๆ ของวิทยาลัย ได้แก่ การแตง่ กายถกู ตอ้ ง ตามระเบียบและขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา 3 ความรับผดิ ชอบ - เตรยี มความพร้อมในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน - ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความต้งั ใจ - มีความเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั ิงาน 4 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง - กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล 5 ความปลอดภัย - ปฏิบตั งิ าน ทำกิจกรรมดว้ ยความระมัดระวัง 6 ความสนใจใฝร่ ู้ - ซักถามปัญหานา่ สงสยั 7 ความรกั สามคั คี - รว่ มมอื ในการทำงาน 8 ความกตญั ญกู ตเวที - มสี ัมมาคารวะตอ่ ครู-อาจารยอ์ ย่างสมำ่ เสมอ ท้ังตอ่ หน้าและลับหลัง 9 พึ่งตนเอง - ทำงานปฏบิ ัติงานด้วยตนเอง 10 มีความอดทนอดกล้นั - ควบคมุ อารมณ์/ความรู้สกึ อยา่ งมสี ตแิ ละเหตผุ ล
ใบงานที่ 1 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงวธิ ีการบญั ชที ีไ่ มส่ มบรู ณ์เปน็ ระบบบญั ชีคู่ วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ให้นักศกึ ษาเกิดทกั ษะการคำนวณกำไรหรอื ขาดทุนสุทธิของปี โจทย์ ตอ่ ไปน้ีเป็นรายการเกี่ยวกับสนิ ทรัพยแ์ ละหนส้ี นิ ของรา้ นสุรยี ์พร 31 ธันวาคม 2561 2562 เงนิ สด 21,250 216,975 ลกู หน้ี 18,500 27,700 ตว๋ั เงนิ รบั 4,500 6,300 สินค้า 27,200 11,700 เคร่อื งใช้สำนกั งาน-ราคาทนุ 20,000 12,000 เจ้าหน้ี 5,500 18,000 ค่าเชา่ ค้างจ่าย 2,400 1,600 รายการรบั จา่ ยเงนิ ระหว่างปี 2562 สรุปได้ดังน้ี รายรบั ขายสด 225,000 รบั ชำระหนจ้ี ากลูกหนี้ 188,000 รับตามตัว๋ เงินรับ 9,300 เงนิ กู้ 11,000 ขายเคร่ืองใชส้ ำนักงาน 5,200 รายจา่ ย ซือ้ สด 107,200 จ่ายชำระหนเี้ จา้ หน้ี 88,500 ชำระเงนิ กแู้ ละดอกเบยี้ จา่ ย 11,275 ค่าเชา่ 9,500 ค่าใช้จ่ายดำเนินงานอืน่ ๆ 23,000 เงนิ ถอน 3,300 กิจการซื้อเครื่องใช้สำนักงาน ราคา 20,000 บท เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 คิดค่าเสื่อมราคา 10%ต่อปี ของราคาซื้อ และจำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานราคาทุน 8,000 บาท เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ได้เงินสด 5,200 บาท ระหว่างปี 2562 มรี ับคนื สินค้า 3,700 บาท และตัดหน้สี ญู 2,500 บาท ส่งคืน 2,800 บาท ให้ทำ 1. งบแสดงฐานะการเงินวันท่ี 31 ธนั วาคม 2562
แบบประเมินผลการเรยี นรูก้ อ่ น/หลังเรยี น หนว่ ยที่ 5 ระบบบญั ชที ไ่ี มส่ มบูรณ์แบบหรือระบบบญั ชเี ดี่ยว คำสัง่ จงทำเคร่ืองหมาย ทบั ข้อท่ีถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพียงขอ้ เดียว 1. ร้านต้อย มีทุนปลายปี 10,000 บาท ทุนต้นปี 8,000 บาท ลงทุนเพิ่ม 5,000 บาท จะมีกำไรสุทธิ หรือขาดทนุ สุทธเิ ท่าใด ก. ขาดทนุ สุทธิ 3,000 บาท ข. ขาดทนุ สทุ ธิ 7,000 บาท ค. กำไรสุทธิ 3,000 บาท ง. กำไรสทุ ธิ 7,000 บาท 2. ร้านตุ้ย มีทุนปลายปี 15,000 บาท ถอนใช้ส่วนตัว 2,000 บาท มีทุนต้นปี 8,000 บาท จะมีกำไร หรอื ขาดทนุ สุทธิเท่าใด ก. กำไรสุทธิ 21,000 บาท ข. กำไรสุทธิ 9,000 บาท ค. กำไรสทุ ธิ 5,000 บาท ง. ขาดทุนสุทธิ 9,000 บาท 3. รบั ชำระหนี้จากลูกหน้ี 22,600 บาท รบั ตามตั๋วเงินรับ 5,600 บาท สว่ นลดจ่าย 3,800 บาท หนส้ี ูญ 1,200 บาท รบั คืนสนิ ค้า 5,000 บาท ลูกหนต้ี น้ ปี 7,600 บาท เจา้ หนีต้ น้ ปี 2,300 บาท ลูกหน้ปี ลายปี 8,400 บาท ตว๋ั เงินรับ ต้นปี 2,400 บาท ต๋ัวเงนิ รับปลายปี 3,400 บาท ขายสด 26,000 บาท จงคำนวณหายอดขายทั้งสนิ้ ก. 63,700 บาท ข. 66,000 บาท ค. 61,200 บาท ง. 62,400 บาท 4. ลกู หนี้ตน้ ปี 26,000 บาท ลูกหน้ีปลายปี 29,000 บาท เจ้าหน้ลี ดลง 800 บาท เก็บเงนิ จากลกู หน้ี 160,000 บาท ขายสด 57,000 บาท จงคำนวณหายอดขายท้งั สนิ้ ก. 219,200 บาท ข. 162,000 บาท ค. 214,000 บาท ง. 220,000 บาท 5. รบั ตามต๋ัวเงินรบั 6,400 บาท ตวั๋ เงนิ รับปลายปี 4,800 บาท ตว่ั เงินจ่ายตน้ ปี 1,100 บาท ตั๋วเงนิ รับต้นปี 3,600 บาท รับชำระหนีด้ ้วยต๋วั เงินรับเท่ากบั เท่าใด ก. 7,600 บาท ข. 5,200 บาท ค. 6,500 บาท ง. 2,000 บาท 6. จา่ ยชำระหนีแ้ ละซอ้ื สด 44,600 บาท จ่ายตามต๋ัวจ่าย 6,000 บาท ส่วนลดรับ 1,600 บาท สง่ คืนสินคา้ 2,000 บาท เจา้ หนต้ี ้นปี 11,000 บาท เจา้ หน้ปี ลายปี 12,400 บาท ตั๋วเงนิ จ่ายตน้ ปี 3,000 บาท ต๋วั เงินจา่ ยปลายปี 2,400 บาท ลกู หนลี้ ดลง 900 บาท จงคำนวณหาซื้อท้ังสนิ้ เทา่ กบั เท่าใด ก. 69,000 บาท ข. 55,000 บาท ค. 53,400 บาท ง. 54,100 บาท 7. รับชำระหนีจ้ ากลกู หน้ี 38,600 บาท รบั ชำระหน้ีดว้ ยต๋ัวเงนิ รบั 5,400 บาท สว่ นลดจา่ ย 2,800 บาท หนสี้ ูญ 1,200 บาท รับคืนสนิ ค้า 5,000 บาท สว่ นลดรับ 1,000 บาท ลกู หนีล้ ดลง 7,000 บาท รับจากการขาย 22,400 บาท จงคำนวณหายอดขายทัง้ สน้ิ ก. 75,400 บาท ข. 76,400 บาท ค. 69,400 บาท ง. 68,400 บาท
8. จา่ ยชำระหน้เี จา้ หนี้ 45,000 บาท ซ้อื สินคา้ เงินสด 31,000 บาท สว่ นลดจา่ ย 500 บาท จ่ายตามต๋ัวเงินจ่าย 4,400 บาท ส่วนลดรับ 2,800 บาท ส่งคนื สินคา้ 4,000 บาท เจ้าหน้ลี ดลง 7,000 บาท ตัว๋ เงนิ จา่ ยเพิม่ ขึน้ 4,800 บาท จงคำนวณหายอดซอื้ สินคา้ ทง้ั สน้ิ เท่ากบั เท่าใด ก. 91,500 บาท ข. 92,500 บาท ค. 92,000 บาท ง. 85,000 บาท 9. ซ้อื สินคา้ เงินสด 24,800 บาท จ่ายชำระหนเ้ี จ้าหน้ี 37,000 บาท จ่ายตามต๋ัวเงนิ จา่ ย 6,000 บาท ส่วนลดรับ 3,600 บาท ตัว๋ เงนิ จ่ายลดลง 2,400 บาท ส่งคืนสินค้า 4,400 บาท ต๋วั เงินรบั ลดลง 1,300 บาท เจ้าหนี้ลดลง 6,600 บาท จงคำนวณหายอดซอื้ สินค้าท้ังสนิ้ เท่ากับเท่าใด ก. 70,400 บาท ข. 66,800 บาท ค. 81,200 บาท ง. 65500 บาท 10. รายไดด้ อกเบ้ียรบั ระหวา่ งงวด 4,600 บาท รายไดด้ อกเบยี้ รับล่วงหนา้ ปลายงวด 2,700 บาท รายได้ ดอกเบ้ยี ค้างรับปลายงวด 2,300 รายไดด้ อกเบย้ี รบั ลว่ งหน้าตน้ งวด 3,100 จงหาดอกเบย้ี รบั ของปีปัจจบุ นั เท่ากบั เท่าใด ก. 7,300 บาท ข. 10,000 บาท ค. 8,100 บาท ง. 1,100 บาท 11. ค่าโฆษณาจา่ ยระหวา่ งปี 2,500 บาท ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหน้าต้นปี 3,800 บาท คา่ โฆษณาคา้ งจา่ ยตน้ ปี 5,900 บาท ค่าโฆษณาคา้ งจ่ายปลายปี 4,100 บาท จงหาค่าโฆษณาของปปี จั จบุ นั ก. 3,700 บาท ข. 4,500 บาท ค. 10,400 บาท ง. 500 บาท 12. เงนิ เดือนจ่ายระหว่างปี 7,600 บาท เงนิ เดือนค้างจา่ ยปลายปี 8,800 บาท เงนิ เดือนจา่ ยล่วงหนา้ ปลายปี 6,700 บาท เงินเดือนคา้ งจ่ายตน้ ปี 5,300 บาท จงเงนิ เดอื นของปปี ัจจุบนั ก. 16,400 บาท ข. 10,800 บาท ค. 6,200 บาท ง. 4,400 บาท 13. คา่ เผอื่ หนี้สงสัยจะสญู ปลายปี 1,300 บาท ค่าเผ่อื หนี้สงสยั จะสูญต้นปี 1,400 บาท หนสี้ ญู ระหว่างปี 800 บาท หนีส้ งสัยจะสญู เท่ากบั เท่าใด ก. 1,900 บาท ข. 3,500 บาท ค. 700 บาท ง. 900 บาท 14. รายไดค้ ่าเชา่ ระหวา่ งปี 8,400 บาท คา่ เช่าค้างรับตน้ ปี 3,500 บาท ค่าเชา่ คา้ งรับปลายปี 4,200 บาท รายไดค้ า่ เช่าของปีปัจจุบันเท่ากบั เทา่ ใด ก. 12,600 บาท ข. 9,100 บาท ค. 7,700 บาท ง. 700 บาท 15. วสั ดสุ ำนกั งานต้นปี 4,300 บาท ซ้อื ระหวา่ งปี 2,300 วสั ดสุ ำนกั งานปลายปี 3,700 บาท วัสดสุ ำนักงานใช้ไป ก. 10,300 บาท ข. 5,700 บาท ค. 1,700 บาท ง. 2,900 บาท 16. 1 มกราคม 2539 กิจการมีเคร่ืองใช้สำนักงานราคาทนุ 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคดิ ค่าเสื่อมราคาเคร่ืองใช้สำนกั งานในอตั รา 10% ต่อปี ตอ่ มาเม่ือวันที่ 1 เมษายน 2539 กิจการซอ้ื เคร่อื งใช้ สำนกั งานเพม่ิ เติมในราคา 12,000 บาท กิจการมีค่าเสื่อมราคาของปี 2539 เท่าใด ก. 3,600 บาท ข. 900 บาท ค. 4,500 บาท ง. 2,500 บาท
17. จากข้อที่ 16 กิจการมีค่าเส่ือมราคาสะสม-เครื่องใช้สำนักงาน เท่ากับเทา่ ใด ง. 13,300 บาท ก. 15,300 บาท ข. 11,700 บาท ค. 14,400 บาท 18. 1 มกราคม 2537 กิจการมีเคร่ืองใช้สำนกั งานราคาทุน 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคดิ ค่าเส่ือมราคาเคร่อื งใชส้ ำนักงานในอตั รา 10% ต่อปี เมือ่ วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2539 ขายเครอ่ื งใช้สำนักงาน สว่ นหน่งึ ราคาทนุ 18,000 บาท ไปในราคา 11,000 บาท และเมื่อวนั ที่ 1 ตุลาคม 2539 กิจการซื้อเครอื่ งใช้ สำนกั งานเพ่มิ อีก 12,000 บาท จงคำนวณหาค่าเส่อื มราคา - เคร่ืองใชส้ ำนักงานของปี 2539 เท่ากบั เท่าใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 1,000 บาท 19. จากขอ้ ท่ี 18 กจิ การมีคา่ เสอ่ื มราคาสะสม-เครอื่ งใช้สำนักงานของปี 2539 เท่ากบั เทา่ ใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 9,900 บาท 20. จากข้อท่ี 18 กจิ การมกี ำไรหรอื ขาดทุนจากการจำหนา่ ยสินทรพั ย์ เท่ากบั เท่าใด ก. กำไรฯ 2,800 บาท ข. ขาดทุน 2,800 บาท ค. กำไรฯ 6,100 บาท ง. ขาดทนุ ฯ 6,100 บาท
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 18 หน่วยที่ - วิชา 30201 – 2005 การบัญชีช้นั สูง 1 สอนคร้งั ที่ 18 ชอ่ื หนว่ ย ทบทวน/สอบประมวลความรู้ จำนวน 4 ชั่วโมง ชอ่ื เรื่อง ทบทวน/สอบประมวลความรู้ จำนวน 4 ชว่ั โมง หัวข้อเรื่อง ดา้ นความรู้ 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับความหมาย ของระบบบัญชีที่ไมส่ มบรู ณ์แบบได้ 2. แสดงความร้เู กยี่ วกับความสำคัญของระบบบัญชที ่ีไมส่ มบรู ณแ์ บบได้ ดา้ นทักษะ 3. คำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการเปรยี บเทียบทนุ ได้ 4. คำนวณหากำไรขาดทุน โดยวิเคราะหร์ ายละเอียดประกอบงบได้ 5. บนั ทึกการเปล่ยี นวิธกี ารบญั ชี จากระบบบัญชที ่ีไมส่ มบูรณ์แบบ มาเป็นระบบบัญชคี ไู่ ด้ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง (มีวนิ ยั มคี วามรบั ผิดชอบ ขยนั ประหยดั ซอ่ื สัตย์สุจริต และมีความสามัคค)ี 6. รับฟังความคิดเหน็ ของผ้อู น่ื 7. ปฏิบตั งิ านทไี่ ดร้ ับมอบหมายสำเร็จตามทก่ี ำหนดไดด้ ้วยตนเอง 8 ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบข้อบงั คับของสถานศึกษาและสังคม ตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สาระสำคัญ จากการที่ผู้เรียนได้ศึกษาวิชานี้ จะได้รับความรู้ความเข้าใจ และเกิดทักษะการฝึกปฏิบัติกิจกรรม การเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้ผู้เรียนฝึกคิด เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (แก้ไขปรบั ปรุงเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2545) โดยยึดหลกั การนำไปใชใ้ หเ้ กิด ไปประโยชน์ในการพฒั นาสงั คม พร้อมทั้งนำ หลักคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศกึ ษา มาประยุกต์ใชก้ ับกิจกรรมการเรยี นอยา่ งเหมาะสม สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมาย ของระบบบัญชีทไ่ี ม่สมบรู ณแ์ บบได้ 2. แสดงความรเู้ กยี่ วกับความสำคญั ของระบบบญั ชีท่ีไมส่ มบรู ณแ์ บบได้ 3. คำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการเปรียบเทียบทุนได้ 4. คำนวณหากำไรขาดทนุ โดยการวเิ คราะหร์ ายละเอียดประกอบงบได้ 5. บนั ทกึ การเปล่ียนวิธีการบญั ชี จากระบบบัญชที ี่ไม่สมบรู ณ์แบบ มาเป็นระบบบญั ชีคู่
จุดประสงคก์ ารสอน/การเรยี นรู้ จุดประสงค์ท่ัวไป 1. นำเรอื่ งท่ีทบทวนตามเนอื้ หาวิชาไปใช้ประโยชน์ได้ 2. แจง้ คะแนนระหว่างภาคเรยี นให้ผูเ้ รียน 3. แกป้ ัญหาการเรยี นของผเู้ รยี นได้ 4. ผเู้ รยี นนำความร้ทู ี่ศกึ ษามาไปสอบปลายภาคเรียนได้ 5.มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศกึ ษาสำนักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรือ่ ง 5.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 5.2 ความมีวนิ ยั 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.4 ความซื่อสตั ยส์ จุ ริต 5.5 ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝ่รู้ 5.8 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนนั 5.9 ความรกั สามคั คี 5.10 ความกตญั ญูกตเวที เนอ้ื หาสาระ 1. ทบทวนเนอ้ื หาวชิ าทไี่ ดศ้ กึ ษามาแบบย่อ 2. รวบรวมคะแนนระหวา่ งภาคเรยี น 3. ปัญหาการเรยี นของผู้เรียน 4. สอบปลายภาคเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอน/การเรียนรู้ 1. ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูแจ้งให้ผู้รียนทราบคะแนนระหว่างภาค และกลางภาค จุดประสงค์ที่ผู้เรียนยังไม่ได้ปฏิบัติ หรือไม่ผ่าน หรือไม่ได้สอบ ให้ผู้เรียนดำเนินการโดยพบครูผูส้ อนกำหนดวันเวลาที่จะปฏิบัติหรือสอบ หรือเรยี นเพ่มิ เตมิ 2. ขั้นดำเนินการสอน 2. ผูเ้ รยี นรบั ทราบจุดประสงค์การสอบปลายภาคว่า จะมีการสอบเร่ืองใดบ้าง ผู้เรียนไมเ่ ขา้ ใจเร่ืองใดก็ให้ ซักถาม
3. ขัน้ สรุป 1. ให้ผ้เู รยี นชว่ ยกนั สรุปเนอ้ื หาสาระและการบันทึกบัญชีท่ผี เู้ รียนได้ศกึ ษาไปแลว้ 2. เปิดโอกาสให้ผ้เู รียนซกั ถาม 3. มอบหมายแบบฝึกหัดรายบุคคล 4. ทดสอบหลังเรยี น เพื่อประเมนิ ความก้าวหน้า ในการเรยี นรู้ของผู้เรยี น 5. ตรวจเครื่องแตง่ กายผู้เรยี นให้ผู้เรียนดแู ลความสะอาดของหอ้ งเรยี นกอ่ นออกจากหอ้ ง 4. ขน้ั นำไปใช้หรือประเมนิ ผล 1. ครูและผเู้ รยี นร่วมกันทบทวนบทเรียนทผี่ า่ นมาโดยสรุป ส่อื การเรยี นการสอน/การเรียนรู้ 1.ขอ้ มูลการเก็บคะแนนของผเู้ รียน 2.จดุ ประสงคก์ ารสอบปลายภาค 3. แบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี น 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ งานทมี่ อบหมายหรือกจิ กรรม กอ่ นเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามทผี่ ู้สอนและบทเรยี นกำหนด 2. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเรื่อง การบญั ชีเก่ียวกับตน้ ทนุ ฐานกิจกรรม 3. ทำความเข้าใจเกย่ี วกับจุดประสงค์การเรียนของหน่วยท่ี 5 และการให้ความร่วมมือ ในการทำกจิ กรรมในหน่วยการเรียนท่ี 5 4. ทำความเขา้ ใจเก่ียวกับจุดประสงค์การเรียนของหนว่ ยท่ี 5 และการให้ความรว่ มมือ ในการทำกรณีศกึ ษาหนว่ ยการเรียนที่ 5 ขณะเรียน 1. ผู้มอบหมายใหผ้ ู้เรียนแบ่งกลุม่ ยอ่ ยตามความสมคั รใจ 2. ปฏบิ ัตงิ านตามใบงาน 3. รว่ มกันสรปุ ตามหัวข้อทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4. รายงานหน้าชัน้ เรียนตามหวั ขอ้ ท่ไี ด้รับมอบหมาย หลงั เรยี น 1. ผู้สอนมอบหมายให้ผูเ้ รยี นทำแบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 5 2. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธีวดั ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล 2. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 5 4. การสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล 2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักศึกษา ร่วมกันประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑ์ผ่าน ต้องไม่มีชอ่ งปรบั ปรงุ 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม เกณฑ์ผา่ น 50% ขน้ึ ไป 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 5 เกณฑ์ผ่าน ทำถูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อยูก่ ับ การประเมินตามสภาพจรงิ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รียน 1. ผู้เรยี นทำใบงานและแบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ยการเรียนถกู ตอ้ ง 2. กระดาษคำตอบแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยการเรยี น 3. ใบงานทไี่ ดจ้ ากการค้นคว้า 4. ผเู้ รียนทำกรณีศกึ ษา
แบบสังเกตแบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล คำชแ้ี จง ทำเครอ่ื งหมาย ในชอ่ งทต่ี รงกบั ความเปน็ จรงิ ตามเกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ (ใช้ขอ้ มลู จากการสงั เกตตามสภาพจรงิ ของครูผู้สอน) เลขที่ ชือ่ - สกุล ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ทำงานด้วยความเพียร รวม ในการปฏบิ ตั ิหน้าทก่ี ารงาน 8 คะแนน พยายาม และอดทนเพ่ือให้ งานสำเร็จตามเปา้ หมาย 4 3 21 4 3 21 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารใช้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ 4 คะแนน เท่ากับ ดีมาก 3 คะแนน เทา่ กับ ดี ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 2 คะแนน เท่ากับ พอใช้ 7-8 ดมี าก 1 คะแนน เท่ากบั ปรับปรุง 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรบั ปรงุ (ลงชอื่ )...................................ครผู ปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./.............
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ คำชีแ้ จง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทน่ี ักเรียนปฏิบัติ รายการ รับผดิ ชอบ รบั ฟงั นำเสนอ มีความคดิ ริเริ่ม ทำงานเสร็จ เลขท่ี ชือ่ -สกลุ งานท่ีได้รับ ความคิดเหน็ ผลงานได้ สร้างสรรค์ ตามเวลาท่ี มอบหมาย ของผอู้ ื่น น่าสนใจ (2 คะแนน) กำหนด (2 คะแนน) (2 คะแนน) (2 คะแนน) (2 คะแนน) เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน 9 – 10 ระดบั ดมี าก คะแนน 7 – 8 ระดับ ดี คะแนน 5 – 6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0 – 4 ระดบั ควรปรับปรุง (ลงช่อื )...................................ครผู ปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./.............
แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ช่อื ผปู้ ระเมนิ /กลุม่ ประเมนิ ................................................................................................................ ช่อื กลมุ่ รบั การประเมนิ ...................................................................................................................... ระดบั พฤตกิ รรม ท่ี คุณลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ใชไ้ ด้ ควรปรับปรุง คะแนนที่ได้ (2 คะแนน) (0 คะแนน) 1 ความมีมนษุ ยส์ มั พนั ธ์ - แสดงกิริยาทา่ ทางสภุ าพตอ่ ผู้อ่ืน - ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผู้อน่ื 2 ความมวี ินยั - ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และขอ้ ตกลงตา่ ง ๆ ของวิทยาลัย ได้แก่ การแตง่ กายถกู ตอ้ ง ตามระเบียบและขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา 3 ความรับผดิ ชอบ - เตรยี มความพร้อมในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน - ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความต้งั ใจ - มีความเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั ิงาน 4 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง - กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล 5 ความปลอดภัย - ปฏิบตั งิ าน ทำกิจกรรมดว้ ยความระมัดระวัง 6 ความสนใจใฝร่ ู้ - ซักถามปัญหานา่ สงสยั 7 ความรกั สามคั คี - รว่ มมอื ในการทำงาน 8 ความกตญั ญกู ตเวที - มสี ัมมาคารวะตอ่ ครู-อาจารยอ์ ย่างสมำ่ เสมอ ท้ังตอ่ หน้าและลับหลัง 9 พึ่งตนเอง - ทำงานปฏบิ ัติงานด้วยตนเอง 10 มีความอดทนอดกล้นั - ควบคมุ อารมณ์/ความรู้สกึ อยา่ งมสี ตแิ ละเหตผุ ล
แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ น/หลงั เรยี น หนว่ ยที่ 5 ระบบบญั ชีทไี่ มส่ มบูรณแ์ บบหรอื ระบบบัญชีเด่ียว คำสัง่ จงทำเคร่ืองหมาย ทบั ข้อท่ีถูกตอ้ งทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ร้านต้อย มีทุนปลายปี 10,000 บาท ทุนต้นปี 8,000 บาท ลงทุนเพิ่ม 5,000 บาท จะมีกำไรสุทธิ หรือขาดทนุ สุทธเิ ท่าใด ก. ขาดทนุ สุทธิ 3,000 บาท ข. ขาดทนุ สทุ ธิ 7,000 บาท ค. กำไรสุทธิ 3,000 บาท ง. กำไรสุทธิ 7,000 บาท 2. ร้านตุ้ย มีทุนปลายปี 15,000 บาท ถอนใช้ส่วนตัว 2,000 บาท มีทุนต้นปี 8,000 บาท จะมีกำไร หรอื ขาดทนุ สุทธิเท่าใด ก. กำไรสุทธิ 21,000 บาท ข. กำไรสุทธิ 9,000 บาท ค. กำไรสทุ ธิ 5,000 บาท ง. ขาดทนุ สุทธิ 9,000 บาท 3. รบั ชำระหนี้จากลูกหน้ี 22,600 บาท รบั ตามต๋ัวเงินรบั 5,600 บาท สว่ นลดจ่าย 3,800 บาท หนส้ี ญู 1,200 บาท รบั คืนสนิ ค้า 5,000 บาท ลูกหนต้ี น้ ปี 7,600 บาท เจ้าหนตี้ ้นปี 2,300 บาท ลูกหน้ีปลายปี 8,400 บาท ตวั๋ เงินรับ ต้นปี 2,400 บาท ต๋ัวเงนิ รับปลายปี 3,400 บาท ขายสด 26,000 บาท จงคำนวณหายอดขายทงั้ ส้นิ ก. 63,700 บาท ข. 66,000 บาท ค. 61,200 บาท ง. 62,400 บาท 4. ลกู หนี้ตน้ ปี 26,000 บาท ลูกหน้ีปลายปี 29,000 บาท เจ้าหน้ลี ดลง 800 บาท เกบ็ เงนิ จากลูกหนี้ 160,000 บาท ขายสด 57,000 บาท จงคำนวณหายอดขายท้งั สิน้ ก. 219,200 บาท ข. 162,000 บาท ค. 214,000 บาท ง. 220,000 บาท 5. รบั ตามต๋ัวเงินรบั 6,400 บาท ตวั๋ เงนิ รับปลายปี 4,800 บาท ตว่ั เงินจา่ ยตน้ ปี 1,100 บาท ต๋ัวเงินรับตน้ ปี 3,600 บาท รับชำระหนีด้ ้วยต๋วั เงินรับเท่ากับเท่าใด ก. 7,600 บาท ข. 5,200 บาท ค. 6,500 บาท ง. 2,000 บาท 6. จา่ ยชำระหนีแ้ ละซอ้ื สด 44,600 บาท จ่ายตามตัว๋ จ่าย 6,000 บาท ส่วนลดรบั 1,600 บาท สง่ คืนสินค้า 2,000 บาท เจา้ หนต้ี ้นปี 11,000 บาท เจา้ หน้ปี ลายปี 12,400 บาท ต๋ัวเงนิ จา่ ยตน้ ปี 3,000 บาท ต๋ัวเงินจ่ายปลายปี 2,400 บาท ลกู หนลี้ ดลง 900 บาท จงคำนวณหาซื้อทั้งสิ้นเทา่ กบั เท่าใด ก. 69,000 บาท ข. 55,000 บาท ค. 53,400 บาท ง. 54,100 บาท 7. รับชำระหนีจ้ ากลกู หน้ี 38,600 บาท รบั ชำระหนดี้ ว้ ยต๋วั เงินรับ 5,400 บาท สว่ นลดจ่าย 2,800 บาท หน้สี ูญ 1,200 บาท รับคืนสนิ ค้า 5,000 บาท สว่ นลดรับ 1,000 บาท ลูกหนีล้ ดลง 7,000 บาท รับจากการขาย 22,400 บาท จงคำนวณหายอดขายทัง้ สน้ิ ก. 75,400 บาท ข. 76,400 บาท ค. 69,400 บาท ง. 68,400 บาท
8. จ่ายชำระหนเี้ จา้ หนี้ 45,000 บาท ซือ้ สนิ ค้าเงนิ สด 31,000 บาท สว่ นลดจ่าย 500 บาท จ่ายตามต๋วั เงินจา่ ย 4,400 บาท สว่ นลดรับ 2,800 บาท ส่งคืนสนิ คา้ 4,000 บาท เจา้ หน้ลี ดลง 7,000 บาท ตั๋วเงนิ จา่ ยเพม่ิ ข้นึ 4,800 บาท จงคำนวณหายอดซ้อื สนิ คา้ ท้ังสิน้ เท่ากับเท่าใด ก. 91,500 บาท ข. 92,500 บาท ค. 92,000 บาท ง. 85,000 บาท 9. ซอ้ื สนิ ค้าเงนิ สด 24,800 บาท จ่ายชำระหนี้เจ้าหน้ี 37,000 บาท จ่ายตามตว๋ั เงนิ จา่ ย 6,000 บาท ส่วนลดรบั 3,600 บาท ต๋ัวเงนิ จา่ ยลดลง 2,400 บาท สง่ คนื สินค้า 4,400 บาท ตวั๋ เงนิ รบั ลดลง 1,300 บาท เจ้าหน้ีลดลง 6,600 บาท จงคำนวณหายอดซ้อื สนิ ค้าทงั้ สิ้นเท่ากับเท่าใด ก. 70,400 บาท ข. 66,800 บาท ค. 81,200 บาท ง. 65500 บาท 10. รายได้ดอกเบ้ียรับระหว่างงวด 4,600 บาท รายไดด้ อกเบี้ยรับล่วงหนา้ ปลายงวด 2,700 บาท รายได้ ดอกเบ้ยี ค้างรับปลายงวด 2,300 รายไดด้ อกเบยี้ รับลว่ งหนา้ ตน้ งวด 3,100 จงหาดอกเบ้ียรับของปีปัจจบุ ัน เทา่ กบั เท่าใด ก. 7,300 บาท ข. 10,000 บาท ค. 8,100 บาท ง. 1,100 บาท 11. คา่ โฆษณาจ่ายระหวา่ งปี 2,500 บาท ค่าโฆษณาจ่ายลว่ งหนา้ ตน้ ปี 3,800 บาท คา่ โฆษณาค้างจา่ ยตน้ ปี 5,900 บาท ค่าโฆษณาคา้ งจ่ายปลายปี 4,100 บาท จงหาค่าโฆษณาของปีปจั จุบัน ก. 3,700 บาท ข. 4,500 บาท ค. 10,400 บาท ง. 500 บาท 12. เงินเดือนจา่ ยระหวา่ งปี 7,600 บาท เงนิ เดือนค้างจ่ายปลายปี 8,800 บาท เงินเดอื นจา่ ยลว่ งหน้าปลายปี 6,700 บาท เงินเดือนคา้ งจ่ายต้นปี 5,300 บาท จงเงนิ เดือนของปปี ัจจุบนั ก. 16,400 บาท ข. 10,800 บาท ค. 6,200 บาท ง. 4,400 บาท 13. ค่าเผอ่ื หนีส้ งสยั จะสญู ปลายปี 1,300 บาท คา่ เผื่อหนส้ี งสยั จะสญู ตน้ ปี 1,400 บาท หนสี้ ญู ระหวา่ งปี 800 บาท หนี้สงสยั จะสญู เท่ากับเท่าใด ก. 1,900 บาท ข. 3,500 บาท ค. 700 บาท ง. 900 บาท 14. รายไดค้ า่ เช่าระหวา่ งปี 8,400 บาท ค่าเชา่ ค้างรับตน้ ปี 3,500 บาท ค่าเช่าคา้ งรบั ปลายปี 4,200 บาท รายไดค้ ่าเชา่ ของปีปัจจุบันเท่ากับเทา่ ใด ก. 12,600 บาท ข. 9,100 บาท ค. 7,700 บาท ง. 700 บาท 15. วสั ดสุ ำนักงานตน้ ปี 4,300 บาท ซ้อื ระหว่างปี 2,300 วสั ดสุ ำนักงานปลายปี 3,700 บาท วัสดสุ ำนักงานใชไ้ ป ก. 10,300 บาท ข. 5,700 บาท ค. 1,700 บาท ง. 2,900 บาท
16. 1 มกราคม 2539 กิจการมเี คร่ืองใช้สำนักงานราคาทุน 36,000 บาท หกั ด้วยค่าเสอ่ื มราคาสะสม 10,800 บาท กิจการคิดค่าเส่อื มราคาเครื่องใชส้ ำนกั งานในอตั รา 10% ตอ่ ปี ตอ่ มาเม่อื วนั ท่ี 1 เมษายน 2539 กิจการซื้อเครอ่ื งใช้ สำนักงานเพ่ิมเตมิ ในราคา 12,000 บาท กิจการมีค่าเสอ่ื มราคาของปี 2539 เท่าใด ก. 3,600 บาท ข. 900 บาท ค. 4,500 บาท ง. 2,500 บาท 17. จากข้อท่ี 16 กิจการมีคา่ เส่ือมราคาสะสม-เครอื่ งใชส้ ำนกั งาน เท่ากบั เทา่ ใด ง. 13,300 บาท ก. 15,300 บาท ข. 11,700 บาท ค. 14,400 บาท 18. 1 มกราคม 2537 กิจการมีเครื่องใช้สำนักงานราคาทุน 36,000 บาท หักดว้ ยค่าเส่ือมราคาสะสม 10,800 บาท กจิ การคิดค่าเสื่อมราคาเครื่องใช้สำนักงานในอัตรา 10% ต่อปี เม่ือวนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2539 ขายเคร่อื งใช้สำนักงาน สว่ นหนง่ึ ราคาทุน 18,000 บาท ไปในราคา 11,000 บาท และเม่อื วนั ที่ 1 ตุลาคม 2539 กิจการซือ้ เครอ่ื งใช้ สำนกั งานเพ่ิมอีก 12,000 บาท จงคำนวณหาค่าเส่ือมราคา - เครื่องใช้สำนกั งานของปี 2539 เท่ากบั เท่าใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 1,000 บาท 19. จากข้อท่ี 18 กิจการมีคา่ เส่อื มราคาสะสม-เคร่อื งใชส้ ำนกั งานของปี 2539 เทา่ กับเท่าใด ก. 6,900 บาท ข. 7,500 บาท ค. 2,700 บาท ง. 9,900 บาท 20. จากข้อที่ 18 กิจการมีกำไรหรือขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรพั ย์ เท่ากบั เทา่ ใด ก. กำไรฯ 2,800 บาท ข. ขาดทุน 2,800 บาท ค. กำไรฯ 6,100 บาท ง. ขาดทุนฯ 6,100 บาท
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238