Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-18

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-18

Published by รัชนี อัศวจุฬามณี, 2020-03-12 22:16:15

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-18

Keywords: แผนการจัดการเรียนการสอน

Search

Read the Text Version

51 แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานกล่มุ กลุ่มท่ี..................... ระดบั คณุ ภาพ 54321 ข้อ พฤตกิ รรมบ่งชี้ รวม 1 ความร่วมมือในการทางาน รวมคะแนน 2 วธิ ีการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3 การใชส้ ่ือและอปุ กรณ์นาเสนอ 4 ความชดั เจนของเน้ือหาท่ีนาเสนอ 5 เวลาท่ีใชใ้ นการนาเสนอ ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = พอใช้ 2 = ควรปรับปรุง 1 = ใชไ้ ม่ได้ เกณฑผ์ า่ นกิจกรรมกลุ่ม ไดค้ ะแนน 20-25 อยใู่ นระดบั ดีมาก ไดค้ ะแนน 15-19 อยใู่ นระดบั ดี ไดค้ ะแนน 12-14 อยใู่ นระดบั พอใช้ ไดต้ ่ากวา่ 11 อยใู่ นระดบั ปรับปรุง

52 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น จริง โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์ 54321 2.ความมีวนิ ยั  แสดงกริยาท่าทางสุภาพต่อผอู้ ่ืน 3. ความรับผิดชอบ  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น 4. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต  ตรงต่อเวลาในการทางาน 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ประพฤติตนถูกตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 6. ความเชื่อมนั่ ในตนเอง  ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ  ไม่นาผลงานผอู้ ื่นมาแอบอา้ งเป็ นของตนเอง  พดู ในส่ิงท่ีเป็ นความจริง  ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่  กลา้ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล  กลา้ ทกั ทว้ งในส่ิงที่ไมถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนทไ่ี ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….…………………………………………. 2. สิ่งท่ีควรปรบั ปรุงคือ……….…………………………………….………………………………………………. ประเมิน....................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 0-14 คะแนน =

53 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เคร่ืองหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดยกาหนด น้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 5432 1 1. ผลการเรียนที่คาดหวงั มีความชดั เจน ครอบคลุมพฤติกรรมทุกดา้ น 2. เน้ือหาสาระมีความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และชดั เจน 3. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 4. กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย น่าสนใจและเนน้ กระบวนการคิด การฟัง การพดู การอ่าน การดูและการเขียน 5. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ใหผ้ เู้ รียนลงมือปฏิบตั ิจริง 6. กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง 7. กิจกรรมการเรียนรู้เพยี งพอที่จะส่งผลใหบ้ รรลผุ ลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 8. กิจกรรมการเรียนรู้ที่กาหนดสามารถนาไปปฏิบตั ิการสอนไดจ้ ริง 9. มีสื่อที่สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมและเป็ นสื่อท่ีเนน้ กระบวนการคิด 10. มีการวดั ผลประเมนิ ผลที่สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 11. วธิ ีการวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนรู้ 12. มีการกาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม รวม ข้อคดิ เห็นเพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….……………………………………………….………………………………… ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. 2. สิ่งท่ีควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. ผปู้ ระเมิน.............................................

54 แผนการจัดการเรียนรู้ รหสั วชิ า 3201 – 2001 วชิ า การบัญชีช้ันกลาง 1 หน่วยท่ี 4 จานวน 4 ช่ัวโมง ช่ือหน่วยช่ือหน่วย ลูกหน้ี เรื่อง ความหมาย ประเภท การวดั มูลค่า การวิเคราะห์และการจดั หาเงินสดจากบญั ชีลูกหน้ี 1. สาระสาคญั ในปัจจุบนั ไมว่ า่ จะเป็นธุรกิจขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการที่มีการขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการเป็ นเงินเช่ือ ยอ่ มมีบญั ชีลูกหน้ีการคา้ เป็นสินทรัพยข์ องกิจการ เพ่ือเรียกเก็บเงินจากลูกหน้ีในอนาคต ถา้ พิจารณา บญั ชีลูกหน้ีแลว้ กิจการอาจมีความเสี่ยงในการเรียกเกบ็ เงินไมไ่ ด้ เม่ือใดท่ีเรียกเก็บเงินไมไ่ ดย้ อ่ มแสดงวา่ กิจการมีคา่ ใชจ้ ่ายเกิดข้ึนแลว้ ตามจานวนเงินท่ีสูญเสียไป 2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้ แสดงการรับรู้และวดั มูลของลูกหน้ีในงบการเงิน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทว่ั ไป สามารถบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ลูกหน้ีและสามารถแสดงการวดั มูลคา่ ลูกหน้ีได้ 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของลูกหน้ีได้ 2. จดั ประเภทของลูกหน้ีได้ 3. วดั มูลค่าลูกหน้ีได้ 4. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ลูกหน้ีในกรณีท่ีไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ 5. วเิ คราะห์บญั ชีลูกหน้ีได้ 6. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั การจดั หาเงินสดจากบญั ชีลูกหน้ีได้ 7. เปิ ดเผยขอ้ มูลในงบการเงินได้ 8. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ ่ีผสู้ อน สามารถสงั เกตเห็นได้ ในดา้ นความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความรับผิดชอบ ความ เช่ือมนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝ่ รู้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญูกตเวที

55 4. การบูรณาการ บูรณาการคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของลูกหน้ี 2. ประเภทของลูกหน้ี 3. การวดั มูลค่าลูกหน้ี 4. การวเิ คราะห์บญั ชีลูกหน้ี 5. การจดั หาเงินสดจากบญั ชีลูกหน้ี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั ศึกษาร่วมกนั ทบทวนเรื่องลูกหน้ีท่ีเคยศึกษามาบา้ งแลว้ ในระดบั ปวช. โดยครู ยกตวั อยา่ งรายการคา้ แลว้ ใหผ้ เู้ รียนช่วยกนั วเิ คราะห์รายการคา้ และบนั ทึกในสมุดข้นั ตน้ เพอื่ ใหส้ มั พนั ธ์กบั เน้ือหาของสัปดาห์น้ี 2. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ข้นั สอน 3. ครูอภิปรายเน้ือหาเก่ียวกบั ลูกหน้ี และอภิปรายการคานวณ การบนั ทึกบญั ชีท่ีเกี่ยวขอ้ ง 4. ครูและนกั ศึกษายกตวั อยา่ งประเดน็ ลูกหน้ี ประกอบการอภิปรายร่วมกนั 5. นกั ศึกษาอภิปรายเพื่อแสดงความคิดเห็นพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ 6. แบ่งนกั ศึกษาออกเป็ น 5 กลุ่ม และใหน้ กั ศึกษาคน้ ควา้ ตามหวั ขอ้ การเรียนรู้ของสปั ดาห์น้ี 7. สุ่มตวั แทนบางกลุ่มมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน 8. ผเู้ รียนปฏิบตั ิตามใบงาน หน่วยท่ี 4 ข้ันสรุปและการประยุกต์ 9. ครูและผเู้ รียนช่วยกนั สรุปเน้ือหาตามสาระการเรียนรู้ในสัปดาห์น้ี 10. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 4

56 7. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 (3201-2001) ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2. หนงั สืออ่านประกอบวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 ของ ผศ.กอบแกว้ รัตนอุบล มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 3. ใบงาน 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล 8.1 เคร่ืองมือวดั 8.1.1 แบบทดสอบหลงั เรียน 8.1.2 แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 8.1.3 แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 8.1.4 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน) 8.1.5 กิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 8.1.6 แบบฝึ กปฏิบตั ิ 8.1.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้ 8.1.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและ นกั เรียนร่วมกนั ประเมิน 8.2 เกณฑ์การประเมินผล 8.2.1 เกณฑผ์ า่ นแบบทดสอบหลงั เรียนคือ 50% 8.2.2 เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรุง 8.2.3 เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.4 เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.5 ตอบคาถามในกิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้จึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 8.2.6 แบบฝึกปฏิบตั ิ เกณฑผ์ า่ น คือ 50% 8.2.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้มีเกณฑ์ 5 ระดบั คือ 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควร ปรับปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ 8.2.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน ข้ึนกบั การประเมินสภาพจริง 9. งานทมี่ อบหมาย/ภารกจิ ต่อเน่ือง 1. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 4 2. ใบงานท่ี 1 และใบงานที่ 2 หน่วย 4

57 10. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 10.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.2 ปัญหาทพี่ บ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแก้ปัญหา ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................

58 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 4 ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบทถี่ ูกทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดียว 1. ลูกหน้ีที่เกิดข้ึนจากรายการในขอ้ ใดหมายถึงลูกหน้ีการคา้ ก. ใหบ้ ริการแก่ลูกคา้ ยงั ไม่ไดร้ ับชาระ ข. ขายสินคา้ เป็นเงินเช่ือ ค. ขายสินคา้ เป็นเงินเช่ือ ไดร้ ับชาระทนั ทีคร่ึงหน่ึง ง. ถูกทุกขอ้ 2. ลูกหน้ีท่ีเกิดข้ึนจากรายการในขอ้ ใดหมายถึงลูกหน้ีอื่น ๆ ก. ขายคอมพิวเตอร์ที่กิจการเลิกใชแ้ ลว้ ใหแ้ ก่พนกั งาน พนกั งานขอชาระเงินในวนั สิ้นเดือน ข. ขายสินคา้ เป็นเงินเชื่อ ค. ขายสินคา้ เป็นเงินเช่ือ ไดร้ ับชาระทนั ทีคร่ึงหน่ึง ง. ถูกทุกขอ้ 3. การรับชาระคา่ สินคา้ หรือบริการเป็ นบตั รเครดิตมีขอ้ ดีขอ้ เสียอยา่ งไร ก. ขอ้ ดีคือทาใหข้ ายสินคา้ หรือบริการไดม้ ากข้ึน ขอ้ เสียไม่มี ข. ขอ้ ดีคือทาใหข้ ายสินคา้ หรือบริการไดม้ ากข้ึน ขอ้ เสียคือเสียคา้ ธรรมเนียม ค. ขอ้ เสียคือกิจการไดร้ ับชา้ ง. ขอ้ เสียคือกิจการตอ้ งเสียค่าธรรมเนียม ทาใหก้ าไรลดลง 4. ร้านคา้ ในขอ้ ใดจดั ใหม้ ีบตั รเครดิตเป็นของตนเอง ก. Big C ข. ร้านแวน่ ทอ๊ ปเจริญ ค. ร้านทอง ง. ร้านเมย์ 5. บญั ชีหน้ีสงสยั จะสูญและบญั ชีคา่ เผอ่ื หน้ีสงสัยจะสูญจะแสดงในงบการเงินอยา่ งไร ก. หน้ีสงสัยจะสูญ แสดงในงบดุล คา่ เผอื่ หน้ีสงสัยจะสูญแสดงในงบกาไรขาดทุน ข. หน้ีสงสัยจะสูญ แสดงในงบกาไรขาดทุน ค่าเผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญแสดงในงบดุล ค. หน้ีสงสัยจะสูญ และ คา่ เผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญแสดงในงบกาไรขาดทุน ง. หน้ีสงสยั จะสูญ และ คา่ เผอ่ื หน้ีสงสัยจะสูญแสดงในงบดุล 6. กิจการมีค่าเผือ่ หน้ีสงสัยจะสูญยกมา 1,200 บาท ระหวา่ งปี มียอดขายเช่ือ 150,000 บาท หากกิจการ ตอ้ งการประมาณการหน้ีสงสัยจะสูญ 2%ของยอดขายเชื่อ กิจการจะบนั ทึกบญั ชีตามขอ้ ใด ก. เดบิต ค่าเผอื่ หน้ีสงสยั จะสูญ 3,000 บาท ข. เครดิต คา่ เผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญ 3,000 บาท ค. เดบิต คา่ เผอื่ หน้ีสงสัยจะสูญ 1,800 บาท ง. เครดิต ค่าเผื่อหน้ีสงสัยจะสูญ 1,800 บาท

59 7. กิจการมีค่าเผื่อหน้ีสงสัยจะสูญยกมา 1,200 บาท ระหวา่ งปี มียอดลูกหน้ี 150,000 บาท หากกิจการ ตอ้ งการประมาณการหน้ีสงสัยจะสูญ 2%ของยอดลูกหน้ี กิจการจะบนั ทึกบญั ชีตามขอ้ ใด ก. เดบิต ค่าเผอ่ื หน้ีสงสัยจะสูญ 3,000 บาท ข. เครดิต คา่ เผอ่ื หน้ีสงสัยจะสูญ 3,000 บาท ค. เดบิต คา่ เผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญ 1,800 บาท ง. เครดิต คา่ เผอ่ื หน้ีสงสัยจะสูญ 1,800 บาท 8. ขอ้ ใดกล่าวถึงการบนั ทึกหน้ีสูญไดร้ ับคืนตามกฎกระทรวงไดถ้ ูกตอ้ ง ก. เดบิต ลูกหน้ี เครดิต หน้ีสูญไดร้ ับคืน ข. เดบิต ลูกหน้ี เครดิต ค่าเผื่อหน้ีสงสยั จะสูญ ค. เดบิต เงินสด เครดิต หน้ีสูญไดร้ ับคืน ง. เดบิต เงินสด เครดิต ลูกหน้ีไดร้ ับคืน 9. อตั ราการหมุนเวยี นของลูกหน้ี คานวณไดต้ ามขอ้ ใด ก. ยอดขายเช่ือ/ลูกหน้ีสุทธิถวั เฉลี่ย ข. ยอดขายเชื่อ/ลูกหน้ีท้งั สิ้น ค. ลูกหน้ีสุทธิถวั เฉลี่ย/ยอดขายเชื่อ ง. ยอดขายท้งั หมด/ลูกหน้ีสุทธิถวั เฉล่ีย 10. ขอ้ ใดคือการจดั หาเงินสดจากบญั ชีลูกหน้ี ก. การนาบญั ชีลูกหน้ีไปค้าประกนั เงินกู้ ข. การขายบญั ชีลูกหน้ี ค. การโอนบญั ชีลูกหน้ี ง. การรับชาระหน้ีจากลูกหน้ี

60 ใบงานท่ี 1 หน่วยท่ี 4 เรื่อง ลูกหน้ี จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของลูกหน้ีได้ 2. จดั ประเภทของลูกหน้ีได้ 3. วดั มูลค่าลูกหน้ีได้ 4. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ลูกหน้ีในกรณีท่ีไมส่ ามารถเรียกเก็บเงินได้ 5. วเิ คราะห์บญั ชีลูกหน้ีได้ 6. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั การจดั หาเงินสดจากบญั ชีลูกหน้ีได้ 7. เปิ ดเผยขอ้ มูลในงบการเงินได้ กจิ กรรมการเรียน 1. ใหน้ กั เรียนอธิบายหวั ขอ้ ต่อไปน้ี (10 คะแนน) 1. อธิบายลูกหน้ีการคา้ มีลกั ษณะอยา่ งไร 2. ประเภทของลูกหน้ีมีก่ีประเภทไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 3. เพราะเหตุใด ลูกหน้ีจึงแสดงดว้ ยมูลคา่ ท่ีคาดวา่ จะเก็บเงินได้ 4. บอกความหมายของหน้ีสูญ หน้ีสงสยั จะสูญและคา่ เผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญ 5. การจดั หาเงินจากบญั ชีลูกหน้ีทาไดก้ ี่วธิ ี อะไรบา้ ง 2. ประเมินกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ตามพฤติกรรมบ่งช้ีที่ปรากฏจากกิจกรรมการเรียนท่ีผเู้ รียน ไดล้ งมือปฏิบตั ิตามแบบ

61 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดย กาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 54321 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์  สุภาพ เรียบร้อยอ่อนนอ้ มถ่อมตน  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน 2.ความมีวนิ ยั  ตรงตอ่ เวลา  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 3. ความรับผิดชอบ  ปฏิบตั ิงานท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 4. ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต  ไม่ลอกเลียนงานของผอู้ ื่น  มีความซื่อสตั ย์ 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ศึกษาคน้ ควา้ มาตรฐานการบญั ชี  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่ 6. ความเช่ือมนั่ ในตนเอง  ยอมรับฟังขอ้ เสนอแนะจากผอู้ ่ืน  แสดงความคิดเห็นในการบนั ทึกรายการบญั ชี รวมคะแนนทไี่ ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….………………………………………….. 2. สิ่งที่ควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ผปู้ ระเมนิ ...................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 0-14 คะแนน =

62 ใบงานที่ 2 หน่วยท่ี 4 หัวข้อเรื่องศึกษาค้นคว้า 1. ลูกหน้ี 2. การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ลูกหน้ี ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 1. แบ่งผเู้ รียนออกเป็น 5 กลุ่มโดยวธิ ีร่วมแรงร่วมใจ (Co- operative Learning) 2. แต่ละกลุ่มเลือกหวั หนา้ กลุ่ม 3. ครูใหผ้ เู้ รียนส่งตวั แทนจบั สลากเลือกหวั ขอ้ ท่ีจะไปสืบคน้ ดงั น้ี 3.1 ความหมายของลูกหน้ี 3.2 การบนั ทึกบญั ชีลูกหน้ีตามกฎกระทรวง 3.3 การบนั ทึกบญั ชีลูกหน้ีท่ีไมเ่ ป็นไปตามกฎกระทรวง 3.4 การวดั มูลคา่ ลูกหน้ี 3.5 การแสดงรายการในงบการเงินเกี่ยวกบั ลูกหน้ี 4. แต่ละกลุ่มร่วมกนั ระดมความคิด วางแผน แบง่ งานและมอบหมายหนา้ ที่ เพือ่ ไปทาการ สืบคน้ ขอ้ มูล 5. หวั หนา้ กลุ่มหรือตวั แทนกลุ่มนาเสนอหนา้ ช้นั เรียนในการเรียนคร้ังตอ่ ไป โดยครูเป็นผู้ กาหนดเวลานาเสนอใหเ้ หมาะสม 6. ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มประเมินตนเองและประเมินกลุ่มอ่ืน 7. ครูประเมินผลนาคะแนนมาเฉล่ียและสรุปคะแนนในแบบประเมินผล พร้อมเสนอแนะและ ใหข้ อ้ คิดเห็น

63 แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานกล่มุ กลุ่มท่ี..................... ระดบั คณุ ภาพ 54321 ข้อ พฤตกิ รรมบ่งชี้ รวม 1 ความร่วมมือในการทางาน รวมคะแนน 2 วธิ ีการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3 การใชส้ ่ือและอปุ กรณ์นาเสนอ 4 ความชดั เจนของเน้ือหาท่ีนาเสนอ 5 เวลาท่ีใชใ้ นการนาเสนอ ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = พอใช้ 2 = ควรปรับปรุง 1 = ใชไ้ ม่ได้ เกณฑผ์ า่ นกิจกรรมกลุ่ม ไดค้ ะแนน 20-25 อยใู่ นระดบั ดีมาก ไดค้ ะแนน 15-19 อยใู่ นระดบั ดี ไดค้ ะแนน 12-14 อยใู่ นระดบั พอใช้ ไดต้ ่ากวา่ 11 อยใู่ นระดบั ปรับปรุง

64 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เคร่ืองหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น จริง โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์ 54321 2.ความมีวนิ ยั  แสดงกริยาท่าทางสุภาพต่อผอู้ ่ืน 3. ความรับผิดชอบ  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น 4. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต  ตรงต่อเวลาในการทางาน 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 6. ความเชื่อมนั่ ในตนเอง  ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ  ไม่นาผลงานผอู้ ื่นมาแอบอา้ งเป็ นของตนเอง  พดู ในส่ิงที่เป็ นความจริง  ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่  กลา้ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล  กลา้ ทกั ทว้ งในสิ่งท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนทไ่ี ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….…………………………………………. 2. สิ่งท่ีควรปรบั ปรุงคือ……….…………………………………….………………………………………………. ประเมิน....................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 0-14 คะแนน =

65 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดยกาหนด น้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 5432 1 1. ผลการเรียนที่คาดหวงั มีความชดั เจน ครอบคลมุ พฤติกรรมทุกดา้ น 2. เน้ือหาสาระมีความถูกตอ้ ง ครอบคลมุ และชดั เจน 3. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 4. กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย น่าสนใจและเนน้ กระบวนการคิด การฟัง การพดู การอ่าน การดูและการเขียน 5. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ใหผ้ เู้ รียนลงมือปฏิบตั ิจริง 6. กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง 7. กิจกรรมการเรียนรู้เพยี งพอที่จะส่งผลใหบ้ รรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 8. กิจกรรมการเรียนรู้ที่กาหนดสามารถนาไปปฏิบตั ิการสอนไดจ้ ริง 9. มีสื่อที่สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมและเป็ นส่ือท่ีเนน้ กระบวนการคดิ 10. มีการวดั ผลประเมนิ ผลที่สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั 11. วธิ ีการวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนรู้ 12. มีการกาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม รวม ข้อคดิ เห็นเพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….……………………………………………….………………………………… ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. 2. สิ่งที่ควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. ผปู้ ระเมิน.............................................

66 แผนการจดั การเรียนรู้ รหสั วชิ า 3201 – 2001 วชิ า การบญั ชีช้ันกลาง 1 หน่วยที่ 5 จานวน 4 ชั่วโมง ชื่อหน่วยชื่อหน่วย ตว๋ั เงินรับ เรื่อง ความหมาย ประเภท การบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินรับ 1. สาระสาคญั ตวั๋ เงินรับจดั เป็นสินทรัพยป์ ระเภทหมุนเวยี นท่ีมีสภาพคล่อง และเป็นตวั๋ เงินที่กิจการไดร้ ับจาก บุคคลภายนอกท่ีสัญญาวา่ จะจา่ ยชาระเงินตามตวั๋ เมื่อตว๋ั น้นั ครบกาหนด เมื่อเปรียบเทียบระหวา่ งลูกหน้ีและ ตวั๋ เงินรับ กิจการอาจยนิ ยอมที่จะรับตว๋ั เงินมากกวา่ ลูกหน้ี เพราะถา้ ตว๋ั เงินเป็นตวั๋ ชนิดท่ีมีดอกเบ้ียกจ็ ะทาให้ กิจการมีรายไดเ้ พ่ิมข้ึนจากดอกเบ้ียรับ สาหรับลูกหน้ีกิจการไม่ไดค้ ิดดอกเบ้ีย นอกเหนือจากน้นั กิจการ สามารถนาตว๋ั ท่ียงั ไมถ่ ึงกาหนดไปขายลดใหก้ บั ธนาคารได้ 2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้ บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินรับแต่ละประเภทในสมุดรายวนั ทว่ั ไป 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทว่ั ไป สามารถบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ตว๋ั เงินรับได้ 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของตวั๋ เงินรับได้ 2. จดั ประเภทของตวั๋ เงินรับได้ 3. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินรับการคา้ ได้ 4. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินรับอื่นๆ ได้ 5. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินรับขาดความเชื่อถือได้ 6. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับขายลดได้ 5. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ี่ผสู้ อน สามารถสังเกตเห็นได้ ในดา้ นความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความรับผิดชอบ ความ เช่ือมนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝ่ รู้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญูกตเวที

67 4. การบูรณาการ 1. คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. หลกั การประชาธิปไตย 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของตว๋ั เงินรับ 2. ประเภทของตวั๋ เงินรับ 3. การนบั วนั ครบกาหนดชาระของตวั๋ เงิน 4. การคานวณดอกเบ้ียตามตวั๋ เงิน 5. การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับการคา้ 6. ตวั๋ เงินรับอื่นๆ 7. ตวั๋ เงินรับขาดความเชื่อถือ 8. ตว๋ั เงินรับขายลด 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน 1. นกั ศึกษาและครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินรับ ซ่ึงเคยศึกษามาแลว้ ในระดบั ปวช. โดย การยกตวั อยา่ งรายการคา้ มาวเิ คราะห์และบนั ทึกรายการตามท่ีเคยศึกษามา 2. ครูทบทวนให้เห็นความสาคญั ของการคานวณดอกเบ้ียตามตว๋ั เงินรับ และการบนั ทึกรายการ ในสมุดรายการทว่ั ไป เพ่ือเป็ นประโยชนใ์ นการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ต่อไป 3. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ข้นั สอน 4. ครูแนะนารูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือ โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มใหน้ กั ศึกษามีส่วน ร่วมในกระบวนการเรียนรู้ เนน้ การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ซ่ึงกนั และกนั จนเกิด ความคิดรวบยอด 5. ครูอธิบายเน้ือหาตามสาระการเรียนรู้ของสัปดาห์น้ี และสาธิตการคานวณ การบนั ทึกรายการ บญั ชีของตว๋ั เงินรับ 6. เปิ ดโอกาสใหน้ กั ศึกษาซกั ถาม 7. นกั ศึกษาจบั กลุ่มคละกนั ประกอบดว้ ยเก่ง ปานกลาง และออ่ น กลุ่มละประมาณ 5 คน 8. ใหท้ ุกคนในกลุ่มช่วยกนั ระดมสมอง วเิ คราะห์โจทยต์ ามท่ีครูมอบหมายให้

68 9. ส่งตวั แทนกลุ่มนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 10. นาผลงานส่งครูเพื่อประเมินผล ข้นั สรุป 11. ครูสุ่มนกั ศึกษาออกมาคานวณดอกเบ้ียตามตวั๋ เงินและบนั ทึกรายการบญั ชี 12. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 5 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 (3201-2001) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. หนงั สืออ่านประกอบวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 ของ ผศ.กอบแกว้ รัตนอุบล มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 3. ใบงาน 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล 8.1 เคร่ืองมือวดั 8.1.1 แบบทดสอบหลงั เรียน 8.1.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 8.1.3 แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 8.1.4 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน) 8.1.5 กิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 8.1.6 แบบฝึ กปฏิบตั ิ 8.1.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้ 8.1.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและ นกั เรียนร่วมกนั ประเมิน 8.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.2.1 เกณฑผ์ า่ นแบบทดสอบหลงั เรียนคือ 50% 8.2.2 เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรุง 8.2.3 เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.4 เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.5 ตอบคาถามในกิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้จึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

69 8.2.6 แบบฝึกปฏิบตั ิ เกณฑ์ผา่ น คือ 50% 8.2.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้มีเกณฑ์ 5 ระดบั คือ 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควร ปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ 8.2.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนน ข้ึนกบั การประเมินสภาพจริง 9. งานทมี่ อบหมาย/ภารกจิ ต่อเน่ือง 1. แบบประเมินผลการเรียนรู้หน่วยท่ี 5 2. แบบฝึกปฏิบตั ิหน่วยที่ 5

70 10. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 10.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.2 ปัญหาทพี่ บ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแก้ปัญหา ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................

71 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 5 ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดียว 1. ขอ้ ใดหมายถึงตวั๋ เงินท่ีแบ่งตามลกั ษณะของตราสารท่ีออก ก. ตวั๋ สญั ญาใชเ้ งิน ข. ตว๋ั แลกเงิน ค. เช็ค ง. ถูกทุกขอ้ 2. ขอ้ ใดหมายถึงตวั๋ เงินที่แบ่งตามลกั ษณะของดอกเบ้ีย ก. ตวั๋ เงินชนิดมีดอกเบ้ียและชนิดไมม่ ีดอกเบ้ีย ข. ตว๋ั สญั ญาใชเ้ งินและตวั๋ แลกเงิน ค. ตวั๋ เงินท่ีเกิดจากการดาเนินงานตามปกติและไม่ปกติ ง. ถูกทุกขอ้ 3. กิจการไดร้ ับตว๋ั ชนิดมีดอกเบ้ียจานวน 1,000 บาท ลงวนั ท่ี 15 มีนาคม 2551 มูลคา่ ตามหนา้ ตวั๋ 200,000 บาท อายุ 30 วนั ตอ้ งการทราบวา่ ตว๋ั ฉบบั น้ีมีอตั ราดอกเบ้ียเทา่ ไร (1ปี =360วนั ) ก. 9% ข. 8% ค. 7% ง. 6% 4. จากโจทยข์ อ้ 3 วนั ครบกาหนดคือขอ้ ใด ก. 14 มีนาคม ข. 31 มีนาคม ค. 14 เมษายน ง. 15 เมษายน 5. ตวั๋ ลงวนั ที่ 30 มกราคม กาหนด 1 เดือน วนั ครบกาหนดคือขอ้ ใด ก. 30 กมุ ภาพนั ธ์ ข. 28 กมุ ภาพนั ธ์ ค. 30 มกราคม ง. 31 กมุ ภาพนั ธ์ 6. ขอ้ ใดคือหลกั ในการคานวณดอกเบ้ีย ก. เงินตน้ X อตั ราดอกเบ้ีย ข. เงินตน้ X อตั ราดอกเบ้ีย X ระยะเวลา ค. เงินตน้ X ระยะเวลา ง. อตั ราดอกเบ้ีย X ระยะเวลา

72 7. ตว๋ั เงินฉบบั หน่ึงมูลค่า 30,000 บาท ลงวนั ท่ี 1 พฤษภาคม 25X1 อตั ราดอกเบ้ีย 6% ต่อปี อายุ 60 วนั ดอกเบ้ียตว๋ั เงินคือขอ้ ใด (1 ปี = 365 วนั ) ก. 295.089 ข. 300 ค. 1,800 ง. 30,000 8. ตวั๋ เงินรับฉบบั หน่ึงมูลคา่ 75,000 บาท ลงวนั ที่ 1 พฤศจิกายน 25X1 อตั ราดอกเบ้ีย 7.5%ตอ่ ปี อายุ 3 เดือน ถา้ กิจการปิ ดบญั ชีวนั ที่ 31 ธนั วาคม ดอกเบ้ียคา้ งรับจะเป็นระยะเวลาก่ีเดือน ก. 1 เดือน ข. 2 เดือน ค. 3 เดือน ง. 4 เดือน 9. ในวนั ที่กิจการไมไ่ ดร้ ับเงินตามตว๋ั กิจการจะดาเนินการอยา่ งไร ก. ไปแจง้ ความเพ่ือขอทาคาคดั คา้ น ข. ไปแจง้ ตารวจเพ่ือลงบนั ทึกประจาวนั ค. บนั ทึกลดตว๋ั เงินรับทางดา้ นเครดิตและต้งั ลูกหน้ีทางดา้ นเดบิต ง. ถูกท้งั ขอ้ ก และ ค 10. ในวนั ท่ีกิจการนาตว๋ั เงินรับในมือไปขายลดใหธ้ นาคาร เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาดา้ นเศรษฐกิจของกิจการ ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. ระยะเวลาในการคิดส่วนลด จะคานวณจากวนั ท่ีลงในตวั๋ ถึงวนั ท่ีขายลด ข. ระยะเวลาในการคิดส่วนลด จะคานวณจากวนั ที่ขายลดถึงวนั ท่ีตวั๋ ครบกาหนด ค. ระยะเวลาในการคิดส่วนลด จะคานวณจากวนั ท่ีขายลดถึงวนั ท่ีไดร้ ับชาระเงิน ง. ระยะเวลาในการคิดส่วนลด จะคานวณจากวนั ท่ีไดร้ ับตว๋ั จนถึงวนั ที่ครบกาหนด

73 ใบงานที่ 1 หน่วยท่ี 5 เรื่อง ตว๋ั เงินรับ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของตว๋ั เงินรับได้ 2. จดั ประเภทของตวั๋ เงินรับได้ 3. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับการคา้ ได้ 4. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับอ่ืนๆ ได้ 5. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับขาดความเช่ือถือได้ 6. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับขายลดได้ กจิ กรรมการเรียน 1. ใหน้ กั เรียนอธิบายหวั ขอ้ ต่อไปน้ี (10 คะแนน) 1. ความหมายของตวั๋ เงิน และแบง่ ไดก้ ี่ประเภท 2. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินต้งั แต่ไดร้ ับจนถึงการนาตว๋ั ไปขายลดธนาคาร 3. บนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ตว๋ั เงินรับขาดความเช่ือถือ 4. สาเหตุใดที่ตอ้ งนาตว๋ั ไปขายลดธนาคาร 5. การจดั หาเงินจากตว๋ั เงินรับมีวธิ ีการใดบา้ ง 2. ประเมินกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ตามพฤติกรรมบ่งช้ีท่ีปรากฏจากกิจกรรมการเรียนที่ผเู้ รียน ไดล้ งมือปฏิบตั ิตามแบบ

74 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดย กาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 54321 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์  สุภาพ เรียบร้อยอ่อนนอ้ มถ่อมตน  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน 2.ความมีวนิ ยั  ตรงตอ่ เวลา  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 3. ความรับผิดชอบ  ปฏิบตั ิงานท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 4. ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต  ไมล่ อกเลียนงานของผอู้ ื่น  มีความซื่อสตั ย์ 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ศึกษาคน้ ควา้ มาตรฐานการบญั ชี  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่ 6. ความเช่ือมนั่ ในตนเอง  ยอมรับฟังขอ้ เสนอแนะจากผอู้ ่ืน  แสดงความคิดเห็นในการบนั ทึกรายการบญั ชี รวมคะแนนทไี่ ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….………………………………………….. 2. ส่ิงที่ควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ผปู้ ระเมนิ ...................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 0-14 คะแนน =

75 ใบงานที่ 2 หน่วยท่ี 5 หัวข้อเรื่องศึกษาค้นคว้า 1. ความหมายของตว๋ั เงินรับ 2. ประเภทของตว๋ั เงินรับ ข้นั ตอนการปฏิบัติงาน 1. แบง่ ผเู้ รียนออกเป็น 5 กลุ่มโดยวธิ ีร่วมแรงร่วมใจ (Co- operative Learning) 2. แตล่ ะกลุ่มเลือกหวั หนา้ กลุ่ม 3. ครูใหผ้ เู้ รียนส่งตวั แทนจบั สลากเลือกหวั ขอ้ ที่จะไปคน้ ควา้ ดงั น้ี a. ความหมายของตว๋ั เงินในวงการธุรกิจที่นิยมใช้ b. ตว๋ั เงินรับในความหมายของธุรกิจ c. ตวั อยา่ งตว๋ั ชนิดต่าง ๆ ท่ีใชใ้ นวงการธุรกิจ d. เหตุการณ์เก่ียวกบั ตว๋ั เงินท่ีปรากฏในวงการธุรกิจ e. ประเดน็ ปัญหาเกี่ยวกบั ตวั๋ เงินที่ปรากฏในวงการธุรกิจ 4. แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ระดมความคิด วางแผน แบง่ งานและมอบหมายหนา้ ที่ เพ่อื ไป ทาการคน้ ควา้ ขอ้ มูล 5. หวั หนา้ กลุ่มหรือตวั แทนกลุ่มนาเสนอหนา้ ช้นั เรียนในการเรียนคร้ังตอ่ ไป โดยครูเป็นผู้ กาหนดเวลานาเสนอให้เหมาะสม 6. ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มประเมินตนเองและประเมินกลุ่มอื่น 7. ครูประเมินผลนาคะแนนมาเฉล่ียและสรุปคะแนนในแบบประเมินผล พร้อมเสนอแนะและ ใหข้ อ้ คิดเห็น

76 แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานกล่มุ กลุ่มท่ี..................... ระดบั คณุ ภาพ 54321 ข้อ พฤตกิ รรมบ่งชี้ รวม 1 ความร่วมมือในการทางาน รวมคะแนน 2 วธิ ีการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3 การใชส้ ่ือและอปุ กรณ์นาเสนอ 4 ความชดั เจนของเน้ือหาท่ีนาเสนอ 5 เวลาท่ีใชใ้ นการนาเสนอ ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = พอใช้ 2 = ควรปรับปรุง 1 = ใชไ้ ม่ได้ เกณฑผ์ า่ นกิจกรรมกลุ่ม ไดค้ ะแนน 20-25 อยใู่ นระดบั ดีมาก ไดค้ ะแนน 15-19 อยใู่ นระดบั ดี ไดค้ ะแนน 12-14 อยใู่ นระดบั พอใช้ ไดต้ ่ากวา่ 11 อยใู่ นระดบั ปรับปรุง

77 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เคร่ืองหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น จริง โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์ 54321 2.ความมีวนิ ยั  แสดงกริยาท่าทางสุภาพต่อผอู้ ่ืน 3. ความรับผิดชอบ  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น 4. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต  ตรงต่อเวลาในการทางาน 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 6. ความเชื่อมนั่ ในตนเอง  ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ  ไม่นาผลงานผอู้ ื่นมาแอบอา้ งเป็ นของตนเอง  พดู ในส่ิงที่เป็ นความจริง  ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่  กลา้ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล  กลา้ ทกั ทว้ งในสิ่งท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนทไ่ี ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….…………………………………………. 2. สิ่งท่ีควรปรบั ปรุงคือ……….…………………………………….………………………………………………. ประเมิน....................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 0-14 คะแนน =

78 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดยกาหนด น้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 5432 1 1. ผลการเรียนที่คาดหวงั มีความชดั เจน ครอบคลุมพฤติกรรมทุกดา้ น 2. เน้ือหาสาระมีความถูกตอ้ ง ครอบคลมุ และชดั เจน 3. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 4. กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย น่าสนใจและเนน้ กระบวนการคิด การฟัง การพดู การอ่าน การดูและการเขียน 5. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ใหผ้ เู้ รียนลงมือปฏิบตั ิจริง 6. กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง 7. กิจกรรมการเรียนรู้เพยี งพอที่จะส่งผลใหบ้ รรลผุ ลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 8. กิจกรรมการเรียนรู้ที่กาหนดสามารถนาไปปฏิบตั ิการสอนไดจ้ ริง 9. มีสื่อที่สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมและเป็ นสื่อท่ีเนน้ กระบวนการคิด 10. มีการวดั ผลประเมนิ ผลที่สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 11. วธิ ีการวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนรู้ 12. มีการกาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม รวม ข้อคดิ เห็นเพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….……………………………………………….………………………………… ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. 2. สิ่งที่ควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. ผปู้ ระเมิน.............................................

79 แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 4 ชั่วโมง รหสั วชิ า 3201 – 2001 วชิ า การบญั ชีช้ันกลาง 1 หน่วยท่ี 6 ช่ือหน่วยช่ือหน่วย สินคา้ คงเหลือ เร่ือง ความหมาย การตีราคาสินคา้ คงเหลือดว้ ยวธิ ีราคาทุน 1. สาระสาคัญ สินคา้ คงเหลือจดั เป็นสินทรัพยป์ ระเภทหมุนเวยี นที่กิจการตอ้ งจดั สรรเงินทุนส่วนหน่ึงมาลงทุน เพื่อซ้ือสินคา้ มาไวเ้ พอ่ื ขาย เม่ือสิ้นงวดบญั ชีกิจการตอ้ งทาการตรวจนบั และตีราคาสินคา้ คงเหลือ เพือ่ วดั ผล การดาเนินงาน และแสดงฐานะการเงินของกิจการ ถา้ กิจการตรวจนบั และตีราคาสินคา้ ผดิ พลาด ก็จะ ส่งผลกระทบต่อผลการดาเนินงานและฐานะทางการเงินของกิจการดว้ ย 2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้ ตีราคาและเปรียบเทียบผลการตีราคาสินคา้ คงเหลือแตล่ ะวธิ ีในงบการเงิน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป สามารถตีราคาสินคา้ คงเหลือ วเิ คราะห์อตั ราส่วนทางการเงินและสามารถประยกุ ต์ หลกั การลดภาวะโลกร้อนได้ 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของสินคา้ คงเหลือได้ 2. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั สินคา้ คงเหลือ ท้งั วธิ ีเม่ือสิ้นงวด และแบบต่อเนื่องได้ 3. อธิบายขอ้ แตกตา่ งของบญั ชีตน้ ทุนขายระหวา่ งวธิ ีบนั ทึกสินคา้ คงเหลือเมื่อสิ้นงวดกบั แบบตอ่ เนื่อง 4. ตีราคาสินคา้ คงเหลือและเปรียบเทียบผลการตีราคาสินคา้ แตล่ ะวธิ ีในงบการเงินได้ 5. วเิ คราะห์อตั ราส่วนทางการเงินของสินคา้ คงเหลือได้ 6. สามารถบูรณาการการลดภาวะโลกร้อนในชีวติ ประจาวนั ได้ 7. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ี่ผสู้ อนสามารถ สงั เกตเห็นได้ ในดา้ นความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความเช่ือมนั่ ใน ตนเอง ความสนใจใฝ่ รู้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญูกตเวที

80 4. การบูรณาการ ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดแ้ บ่งการบูรณาการเป็น 2 รูปแบบ คือ การบูรณาการ ภายในเน้ือหาวชิ า/สาขาวชิ าบญั ชี และบูรณาการกบั ต่างสาขาวชิ า การบูรณาการภายในเนื้อหาวิชา/สาขาวิชาบญั ชี ครูมอบหมายงานตามใบงานท่ี 3 หน่วยที่ 6 เพื่อใหน้ กั ศึกษาตระหนกั ถึงการมีส่วนร่วมในการลด ภาวะโลกร้อนในปัจจุบนั การบูรณาการต่างสาขาวิชา นกั ศึกษาบูรณาการวชิ าการจดั การสิ่งแวดลอ้ มเบ้ืองตน้ เรื่อง การลดภาวะโลกร้อน 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของสินคา้ คงเหลือ 2. วธิ ีการบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั สินคา้ คงเหลือ 3. วธิ ีบนั ทึกสินคา้ คงเหลือเม่ือสิ้นงวด 4. วธิ ีบนั ทึกสินคา้ คงเหลือแบบตอ่ เน่ือง 5. ขอ้ แตกตา่ งของบญั ชีตน้ ทุนขายระหวา่ งวธิ ีบนั ทึกสินคา้ คงเหลือเม่ือสิ้นงวดกบั แบบตอ่ เนื่อง 6. การตีราคาสินคา้ คงเหลือวธิ ีราคาทุน 7. การเปรียบเทียบผลการตีราคาสินคา้ แตล่ ะวธิ ีในงบการเงิน 8. การวเิ คราะห์อตั ราส่วนทางการเงินของสินคา้ คงเหลือ 9. ภาวะโลกร้อน 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนกั ศึกษาทบทวนความรู้เก่ียวกบั สินคา้ ท่ีเคยศึกษามาแลว้ ในระดบั ปวช. ซ่ึงนกั ศึกษา สามารถยกตวั อยา่ งประกอบการอภิปรายร่วมกนั เพ่ือให้เกิดความต่อเนื่องกบั สาระสาคญั ใน สปั ดาห์น้ี 2. ครูเล่าถงึ เหตุการณ์ต่าง ๆ ทกี่ ่อให้เกดิ ภาวะโลกร้อน ข้นั สอน 3. ครูอภิปราย แนะนาความรู้เก่ียวกบั สินค้า และเช่ือมโยงถงึ การเกดิ ภาวะโลกร้อน รวมถงึ อธิบายวธิ ีแก้ไขภาวะของโลกร้อน

81 4. ครูเล่าประสบการณ์ในการตรวจนบั สินคา้ คงเหลือในกิจการแห่งหน่ึง ที่เคยปฏิบตั ิมาเพ่ือให้ นกั ศึกษาเขา้ ใจไดง้ ่ายข้ึน 5. แบง่ นกั ศึกษาออกเป็ น 5 กลุ่ม 6. ใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษา คน้ ควา้ วเิ คราะห์ ตามสาระการเรียนรู้ของสัปดาห์น้ี 7. ส่งตวั แทนของกลุ่มออกมารายงานหนา้ ช้นั เรียน 8. นกั ศึกษาปฏิบตั ิตามใบงานหน่วยท่ี 6 9. เปิ ดโอกาสใหน้ กั ศึกษา แสดงความคิดเห็น ข้นั สรุป 10. ครูและนกั ศึกษาช่วยกนั สรุปเพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจ และปฏิบตั ิ ในชีวติ ประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 11. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 6 6. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 (3201-2001) ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2. หนงั สืออา่ นประกอบวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 ของ ผศ.กอบแกว้ รัตนอุบล มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 3. ใบงาน 7. การวดั ผลและประเมินผล 8.1 เครื่องมือวดั 8.1.1 แบบทดสอบหลงั เรียน 8.1.2 แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 8.1.3 แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 8.1.4 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน) 8.1.5 กิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 8.1.6 แบบฝึ กปฏิบตั ิ 8.1.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้ 8.1.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและ นกั เรียนร่วมกนั ประเมิน 8.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.2.1 เกณฑผ์ า่ นแบบทดสอบหลงั เรียนคือ 50% 8.2.2 เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ีช่องปรับปรุง

82 8.2.3 เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.4 เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.5 ตอบคาถามในกิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้จึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 8.2.6 แบบฝึกปฏิบตั ิ เกณฑ์ผา่ น คือ 50% 8.2.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้มีเกณฑ์ 5 ระดบั คือ 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควร ปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ 8.2.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนน ข้ึนกบั การประเมินสภาพจริง 9. งานทม่ี อบหมาย/ภารกจิ ต่อเนื่อง 1. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 6 2. ประยกุ ตใ์ ชก้ ารลดภาวะโลกร้อน ในชีวติ ประจาวนั กลมุ่ ละ จานวน 2 เร่ือง และจดั ทาสรุปเป็ นรูปเลม่ รายงาน พร้อมมีภาพการปฏิบตั ิงานประกอบ

83 10. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 10.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.2 ปัญหาทพี่ บ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแก้ปัญหา ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................

84 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 6 ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1. สินคา้ คงเหลือของกิจการซ้ือมาขายไปคือขอ้ ใด ก. วตั ถุดิบและวสั ดุโรงงาน ข. งานระหวา่ งทา ค. สินคา้ สาเร็จรูป ง. วตั ถุดิบและแรงงานทางตรง 2. สินคา้ คงเหลือของกิจการผลิตสินคา้ หรือกิจการอุตสาหกรรมคือขอ้ ใด ก. วตั ถุดิบและวสั ดุโรงงาน ข. งานระหวา่ งทา ค. สินคา้ สาเร็จรูป ง. ถูกทุกขอ้ 3. สินคา้ ขอ้ ใดนบั รวมเป็ นสินคา้ คงเหลือของกิจการ ก. สินคา้ ท่ีนาไปฝากขาย ข. รถจกั รยานยนตท์ ่ีขายผอ่ นโดยระบุการโอนกรรมสิทธ์ิใหผ้ ซู้ ้ือ ค. สินคา้ ที่ผลิตตามคาสง่ั ของลูกคา้ ง. สินคา้ ที่อยบู่ นเรือรอการส่งตามเงื่อนไข F.O.B. Shipping point 4. ขอ้ ใดคือการบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั สินคา้ คงเหลือวธิ ีบนั ทึกสินคา้ คงเหลือแบบต่อเนื่อง ก. เดบิต สินคา้ และภาษีซ้ือ เครดิต เจา้ หน้ี ข. เดบิต ตน้ ทุนขาย เครดิต สินคา้ ค. เดบิต เงินสด เครดิต สินคา้ และภาษีซ้ือ ง. ถูกทุกขอ้ 5. กิจการมียอดสินคา้ คงเหลือตน้ งวด 24,000 บาท สินคา้ ปลายงวด 35,000 บาท ซ้ือ 65,000 บาท ค่าขนส่ง เขา้ 1,200 บาท ส่งคืนสินคา้ 4,100 ขอ้ ใดคือตน้ ทุนขาย ก. 51,100 ข. 65,000 ค. 86,100 ง. 90,200 6. การตีราคาสินคา้ คงเหลือโดยวธิ ีราคาทุน วธิ ี Specific เหมาะกบั สินคา้ ชนิดใด ก. สินคา้ ท่ีมีปริมาณมาก ข. สินคา้ ที่มีหลาย ๆ ชนิด ค. สินคา้ ที่มีขนาดใหญ่และมีราคาสูง ง. สินคา้ ท่ีมีขนาดเลก็ และราคาเทา่ ๆ กนั

85 7. กิจการมียอดสินคา้ ยกมา 700 ชิ้น ๆ ละ 45 บาท ซ้ือคร้ังท่ี 1 จานวน 500 ชิ้น ๆ ละ 46 บาท ซ้ือคร้ังที่ 2 จานวน 1,000 ชิ้น ๆ ละ 44 บาท ซ้ือคร้ังท่ี 3 จานวน 300 ชิ้น ๆ ละ 50 บาท สิ้นปี ตรวจนบั ได้ 850 ชิ้น ถา้ กิจการตีราคาสินคา้ คงเหลือวธิ ี FIFO สินคา้ คงเหลือปลายงวดคือขอ้ ใด ก. 38,250 ข. 38,400 ค. 38,590 ง. 39,200 8. จากขอ้ 7 ถา้ กิจการตีราคาสินคา้ คงเหลือวธิ ี ถวั เฉล่ียถ่วงน้าหนกั สินคา้ คงเหลือปลายงวดคือขอ้ ใด ก. 38,250 ข. 38,400 ค. 38,590 ง. 39,200 9. กิจการมีตน้ ทุนสินคา้ 3,309 บาท สินคา้ คงเหลือตน้ งวด 500 บาท สินคา้ คงเหลือปลายงวด 440 บาท อตั ราการหมุนเวยี นของสินคา้ คงเหลือคือขอ้ ใด ก. 3.52 คร้ัง/รอบ ข. 3.61 คร้ัง/รอบ ค. 5.32 คร้ัง/รอบ ง. 7.04 คร้ัง/รอบ 10. จากโจทยข์ อ้ 9 ตอ้ งการหาระยะเวลาในการเปล่ียนสภาพเป็นเงิน (1 ปี =360 วนั ) ก. 102 วนั ข. 100 วนั ค. 68 วนั ง. 51 วนั

86 ใบความรู้ เร่ือง ภาวะโลกร้อน 1. ความหมายของภาวะโลกร้อน ภาวะโลกร้อน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศท่ีเกิดจากการกระทาของมนุษย์ ท่ีทา ใหอ้ ุณหภูมิเฉล่ียของโลกเพิ่มสูงข้ึน เราจึงเรียกวา่ ภาวะโลกร้อน (Global Warming) กิจกรรมของมนุษยท์ ่ี ทาใหเ้ กิดภาวะโลกร้อน คือ กิจกรรมท่ีทาใหป้ ริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศเพ่ิมมากข้ึน ไดแ้ ก่ การ เพมิ่ ปริมาณกา๊ ซเรือนกระจกโดยตรง เช่น การเผาไหมเ้ ช้ือเพลิง และ การเพม่ิ ปริมาณกา๊ ซเรือนกระจกโดย ทางออ้ ม คือ การตดั ไมท้ าลายป่ า ปรากฏการณ์เรือนกระจก หมายถึง การที่ช้นั บรรยากาศของโลกกระทาตวั เสมือนกระจก ท่ียอมใหร้ ังสีคล่ืนส้ันจากดวงอาทิตยผ์ า่ นทะลุลงมายงั ผวิ พ้ืนโลกได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคล่ืนยาวท่ีโลกคาย ออกไปไม่ใหห้ ลุดออกนอกบรรยากาศ ทาใหโ้ ลกไม่เยน็ จดั ในเวลากลางคืน บรรยากาศเปรียบเสมือนผา้ ห่มผนื ใหญ่ที่คลุมโลกไว้ กา๊ ซท่ียอมใหร้ ังสีคล่ืนส้นั จากดวงอาทิตยผ์ า่ นทะลุลงมาไดแ้ ตไ่ ม่ยอมใหร้ ังสี คล่ืนยาวท่ีโลกคายออกไปหลุดออกนอกบรรยากาศ เรียกวา่ ก๊าซเรือนกระจก กา๊ ซเรือนกระจกที่สาคญั ๆ มีอะไรบา้ ง แตล่ ะชนิดมีที่มาอยา่ งไร ก๊าซเรือนกระจกท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทนและก๊าซไนตรัสออกไซด์ 1. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดจาก การเผาไหมเ้ ช้ือเพลิง โรงงานอุตสาหกรรม และการ ตดั ไมท้ าลายป่ า 2. กา๊ ซมีเทน เกิดจาก การยอ่ ยสลายซากสิ่งมีชีวติ ในพ้ืนท่ีที่มีน้าขงั เช่น นาขา้ ว 3. ก๊าซไนตรัสออกไซด์ เกิดจาก อุตสาหกรรมท่ีใชก้ รดไนตริกในกระบวนการผลิต และ การใชป้ ๋ ุยไนโตรเจนในการเกษตรกรรม 2. ปัจจัยทเ่ี กดิ ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ท้งั หลายเกิดจากภาวะโลกร้อนข้ึนท่ีมีมูลเหตุมาจากการปล่อยกา๊ ซพษิ ต่าง ๆ จากโรงงานอุตสาหกรรม ทาใหแ้ สงอาทิตยส์ ่องทะลุผา่ นช้นั บรรยากาศมาสู่พ้นื โลกไดม้ ากข้ึน ซ่ึงนน่ั เป็น ที่รู้จกั กนั โดยเรียกวา่ สภาวะเรือนกระจก พลงั งานจากดวงอาทิตยเ์ ป็นคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า มีท้งั รังสีคลื่นส้นั และคลื่นยาว บรรยากาศของโลกทาหนา้ ที่ปกป้องรังสีคล่ืนส้นั ไมใ่ หล้ งมาทาอนั ตรายต่อส่ิงมีชีวติ บนพ้นื โลกได้ โมเลกลุ ของก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนในบรรยากาศช้นั บนสุดจะดูดกลืนรังสีแกมมาและรังสีเอก็ ซ์จน ทาใหอ้ ะตอมของก๊าซในบรรยากาศช้นั บนมีอุณหภูมิสูง และแตกตวั เป็นประจุ (บางคร้ังเราเรียกช้นั บรรยากาศท่ีเตม็ ไปดว้ ยประจุน้ีวา่ \"ไอโอโนสเฟี ยร์\" มีประโยชน์ในการสะทอ้ นคลื่นวทิ ยสุ าหรับการ สื่อสาร) รังสีอุลตราไวโอเลต็ สามารถส่องผา่ นบรรยากาศช้นั บนลงมา แต่ถูกดูดกลืนโดยก๊าซโอโซนใน

87 ช้นั สตราโตสเฟี ยร์ที่ระยะสูงประมาณ 19 - 48 กิโลเมตร แสงแดดหรือแสงที่ตามองเห็นสามารถส่องลง มาถึงพ้ืนโลก รังสีอินฟราเรดถูกดูดกลืนโดยก๊าซเรือนกระจก เช่น ไอน้าและคาร์บอนไดออกไซดใ์ นช้นั โทรโปสเฟี ยร์ ส่วนคล่ืนไมโครเวฟและคลื่นวทิ ยใุ นบางความถ่ีสามารถส่องทะลุช้นั บรรยากาศได้ 3. ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน  ระดบั น้าทะเลอาจสูงข้ึนระหวา่ ง 7-23 นิ้ว ซ่ึงระดบั น้าทะเลสูงข้ึนเพยี ง 4 นิ้วก็จะเขา้ ทว่ มเกาะ และพ้นื ที่จานวนมากในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้  ผคู้ นนบั ร้อยลา้ นท่ีอยใู่ นระดบั ความสูงไม่เกิน 1 ฟุต เหนือระดบั น้าทะเล อาจะตอ้ งยา้ ยถ่ิน โดยเฉพาะในสหรัฐ รัฐฟลอริดา และหลุยส์เซียนาก็เส่ียงเช่นกนั  ธารน้าแขง็ ละลายอยา่ งต่อเน่ือง ทาใหร้ ะดบั น้าทะเลสูงข้ึน อาจส่งผลตอ่ การขาดแคลนน้าจืดได้  พายทุ ่ีรุนแรง ภาวะแหง้ แลง้ คล่ืนความร้อน ไฟป่ า และภยั ธรรมชาติต่างๆ จะเกิดข้ึนบ่อยข้ึน จน กลายเป็นเร่ืองปกติ ทะเลทรายจะขยายตวั ทาใหเ้ กิดการขาดแคลนอาหารในบางพ้ืนที่  สัตวน์ บั ลา้ นสปี ช่ีส์ จะสูญพนั ธุ์ จากการไม่มีที่อยู่ ระบบนิเวศน์เปล่ียนแปลง และน้าทะเลเป็นกรด  การไหลเวยี นของกระแสน้าในมหาสมุทรอาจเปลี่ยนทิศทาง ส่งผลใหเ้ กิดยคุ น้าแขง็ ยอ่ ยๆ ใน ยโุ รป และภาวะอากาศแปรปรวนในหลายพ้ืนที่  ในอนาคต เมื่อภาวะโลกร้อนอยใู่ นข้นั ท่ีควบคุมไมไ่ ด้ จะเกิดส่ิงท่ีเรียกวา่ Positive Feedback Effect ซ่ึงอุณหภูมิที่สูงข้ึนจะปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกเก็บ อยใู่ นส่วนช้นั น้าแขง็ ที่ไมเ่ คย ละลาย (Permafrost) และ ใตท้ ะเลออกมา หรือคาร์บอนท่ีถูกน้าแขง็ กบั เกบ็ ไว้ ส่งผลใหภ้ าวะโลก ร้อนทวคี วามรุนแรงยง่ิ ข้ึน 4. วธิ ีป้องกนั การเกดิ ภาวะโลกร้อน เพ่ือไมใ่ หป้ ระชากรโลกรวมท้งั ประเทศไทยไดร้ ับผลกระทบที่รุนแรงจากการ เปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ จึงควรใหค้ วามร่วมมือในการรักษาสมดุลทางธรรมชาติใหค้ งอยตู่ ราบนานเท่า นาน ตามมาตรการดงั ต่อไปน้ี 1. ร่วมกนั ใชก้ ๊าซธรรมชาติแทนถ่านหินและน้ามนั ในกระบวนการผลิตและการขนส่ง ต่างๆ เพ่อื ลดปริมาณการปล่อยออกก๊าซคาร์บอนไดออกไซดใ์ หน้ อ้ ยลง 2. ใชพ้ ลงั งานทดแทน เช่น จากแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล 3. รักษาป่ าท่ีมีอยใู่ หค้ งอยตู่ ่อไป ฟ้ื นฟูสภาพป่ าท่ีเสื่อมโทรม ปลูกป่ าเพ่มิ เติม 4. ศึกษาและปรับปรุงวธิ ีการใชป้ ๋ ุยใหเ้ หมาะสมกบั ชนิดของพืช

88 5. ใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งมีประสิทธิภาพท้งั ในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมและครัวเรือน 6. เพม่ิ ประสิทธิภาพในดา้ นการคมนาคม ซ่ึงอาจทาไดโ้ ดยการใชเ้ ทคโนโลยสี มยั ใหม่ ทดแทนเช้ือเพลิง หรือปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ เป็ นตน้

89 ใบงานท่ี 1 หน่วยท่ี 6 เร่ือง สินคา้ คงเหลือ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของสินคา้ คงเหลือได้ 2. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั สินคา้ คงเหลือ ท้งั วธิ ีเมื่อสิ้นงวด และแบบต่อเน่ืองได้ 3. อธิบายขอ้ แตกตา่ งของบญั ชีตน้ ทุนขายระหวา่ งวธิ ีบนั ทึกสินคา้ คงเหลือเมื่อสิ้นงวดกบั แบบตอ่ เน่ือง 4. ตีราคาสินคา้ คงเหลือและเปรียบเทียบผลการตีราคาสินคา้ แต่ละวธิ ีในงบการเงินได้ 5. วเิ คราะห์อตั ราส่วนทางการเงินของสินคา้ คงเหลือได้ กจิ กรรมการเรียน 1. ใหน้ กั เรียนอธิบายหวั ขอ้ ต่อไปน้ี (10 คะแนน) 1. อธิบายความสินคา้ คงเหลือตามมาตรฐานการบญั ชี 2. ระบบการบนั ทึกบญั ชีมีก่ีระบบ อะไรบา้ ง 3. รายการใดบา้ งท่ีนบั รวมเป็ นสินคา้ คงเหลือ 4. หลกั การคานวณอตั ราการหมุนเวยี นของสินคา้ 5. หลกั การคานวณหาระยะเวลาการเกบ็ รักษาสินคา้ ก่อนนาออกขาย 2. ประเมินกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ตามพฤติกรรมบ่งช้ีท่ีปรากฏจากกิจกรรมการเรียนท่ีผเู้ รียน ไดล้ งมือปฏิบตั ิตามแบบ

90 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชีแ้ จง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดย กาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 54321 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์  สุภาพ เรียบร้อยอ่อนนอ้ มถ่อมตน  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน 2.ความมีวนิ ยั  ตรงตอ่ เวลา  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 3. ความรับผิดชอบ  ปฏิบตั ิงานท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 4. ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต  ไม่ลอกเลียนงานของผอู้ ื่น  มีความซื่อสตั ย์ 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ศึกษาคน้ ควา้ มาตรฐานการบญั ชี  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่ 6. ความเช่ือมนั่ ในตนเอง  ยอมรับฟังขอ้ เสนอแนะจากผอู้ ่ืน  แสดงความคิดเห็นในการบนั ทึกรายการบญั ชี รวมคะแนนทไี่ ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….………………………………………….. 2. ส่ิงที่ควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ผปู้ ระเมนิ ...................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 0-14 คะแนน =

91 ใบงานท่ี 2 หน่วยที่ 6 หัวข้อเรื่องศึกษาค้นคว้า 1. ความหมายของสินคา้ คงเหลือตามมาตรฐานการบญั ชี 2. วธิ ีการตีราคาสินคา้ คงเหลือ ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 1. แบง่ ผเู้ รียนออกเป็น 5 กลุ่มโดยวธิ ีร่วมแรงร่วมใจ (Co- operative Learning) 2. แตล่ ะกลุ่มเลือกหวั หนา้ กลุ่ม 3. ครูใหผ้ เู้ รียนส่งตวั แทนเลือกหวั ขอ้ ตามถนดั เพ่ือไปศึกษาคน้ ควา้ ดงั น้ี 1. ความหมายของสินคา้ คงเหลือตามมาตรฐานการบญั ชี 2. การตีราคาสินคา้ คงเหลือ 3. ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์อตั ราการหมุนของสินคา้ ของธุรกิจ 4. เหตุการณ์เก่ียวกบั สินคา้ คงเหลือท่ีปรากฏในวงการธุรกิจ 5. วธิ ีการควบคุมภายในเก่ียวกบั สินคา้ คงเหลือ 4. แต่ละกลุ่มร่วมกนั ระดมความคิด วางแผน แบง่ งานและมอบหมายหนา้ ที่ เพื่อไป ทาการคน้ ควา้ ขอ้ มูล 5. หวั หนา้ กลุ่มหรือตวั แทนกลุ่มนาเสนอหนา้ ช้นั เรียนในการเรียนคร้ังตอ่ ไป โดยครูเป็นผู้ กาหนดเวลานาเสนอให้เหมาะสม 6. ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มประเมินตนเองและประเมินกลุ่มอ่ืน 7. ครูประเมินผลนาคะแนนมาเฉล่ียและสรุปคะแนนในแบบประเมินผล พร้อมเสนอแนะและ ใหข้ อ้ คิดเห็น

92 ใบงานที่ 3 หน่วยที่ 6 หวั ข้อเรื่องศึกษาค้นคว้า 1. วธิ ีป้องกนั การเกิดภาวะโลกร้อน 2. วธิ ีลดการเกิดภาวะโลกร้อน 3. การนาหลกั การไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 1. แบง่ ผเู้ รียนออกเป็น 5 กลุ่มโดยวธิ ีร่วมแรงร่วมใจ (Co- operative Learning) 2. แตล่ ะกลุ่มเลือกหวั หนา้ กลุ่มและศึกษาใบความรู้เรื่องภาวะโลกร้อน 3 ครูใหผ้ เู้ รียนร่วมกนั ระดมความคิด ดงั น้ี 1. วธิ ีการป้องกนั การเกิดภาวะโลกร้อน 2. วธิ ีการลดภาวะโลกร้อน 4. แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ระดมความคิด วางแผน แบง่ งานและมอบหมายหนา้ ท่ี 5. หวั หนา้ กลุ่มหรือตวั แทนกลุ่มนาเสนอหนา้ ช้นั เรียนในการเรียนคร้ังตอ่ ไป โดยครูเป็ นผู้ กาหนดเวลานาเสนอใหเ้ หมาะสม 6. ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มประเมินตนเองและประเมินกลุ่มอื่น 7. ครูประเมินผลนาคะแนนมาเฉลี่ยและสรุปคะแนนในแบบประเมินผล พร้อมเสนอแนะและให้ ขอ้ คิดเห็น 8. ครูมอบหมายใหแ้ ตล่ ะกลุ่มนาขอ้ คิดจากการอภิปรายไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั กลุ่มละ จานวน 2 เรื่อง และจดั ทาสรุปเป็นรูปเล่มรายงาน พร้อมมีภาพการปฏิบตั ิงานประกอบ 9. ระยะเวลาปฏิบตั ิงาน 1 เดือน และกาหนดส่งงานสปั ดาห์ท่ี 13

93 แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานกล่มุ กลุ่มท่ี..................... ระดบั คณุ ภาพ 54321 ข้อ พฤตกิ รรมบ่งชี้ รวม 1 ความร่วมมือในการทางาน รวมคะแนน 2 วธิ ีการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3 การใชส้ ่ือและอปุ กรณ์นาเสนอ 4 ความชดั เจนของเน้ือหาท่ีนาเสนอ 5 เวลาท่ีใชใ้ นการนาเสนอ ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = พอใช้ 2 = ควรปรับปรุง 1 = ใชไ้ ม่ได้ เกณฑผ์ า่ นกิจกรรมกลุ่ม ไดค้ ะแนน 20-25 อยใู่ นระดบั ดีมาก ไดค้ ะแนน 15-19 อยใู่ นระดบั ดี ไดค้ ะแนน 12-14 อยใู่ นระดบั พอใช้ ไดต้ ่ากวา่ 11 อยใู่ นระดบั ปรับปรุง

94 แบบประเมนิ กจิ กรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เคร่ืองหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น จริง โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ 1. การมีมนุษยสมั พนั ธ์ 54321 2.ความมีวนิ ยั  แสดงกริยาท่าทางสุภาพต่อผอู้ ่ืน 3. ความรับผิดชอบ  รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น 4. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต  ตรงต่อเวลาในการทางาน 5. ความสนใจใฝ่ รู้  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศีลธรรมอนั ดีงาม 6. ความเชื่อมนั่ ในตนเอง  ปฏิบตั งิ านท่ีไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบตั ิงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ  ไม่นาผลงานผอู้ ื่นมาแอบอา้ งเป็ นของตนเอง  พดู ในส่ิงที่เป็ นความจริง  ศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหมๆ่  กลา้ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล  กลา้ ทกั ทว้ งในสิ่งท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนทไ่ี ด้.......................................คะแนน ข้อคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….…………………………………….…………………………………………. 2. สิ่งท่ีควรปรบั ปรุงคือ……….…………………………………….………………………………………………. ประเมิน....................................... เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดีมาก 28-30 คะแนน = ดี 25-27 คะแนน = พอใช้ 20-24 คะแนน = ควรปรับปรุง 15-19 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 0-14 คะแนน =

95 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คาชี้แจง : ใหป้ ระเมินรายการแต่ละขอ้ แลว้ เขียน เครื่องหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็ นจริง โดยกาหนด น้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 5432 1 1. ผลการเรียนที่คาดหวงั มีความชดั เจน ครอบคลมุ พฤติกรรมทุกดา้ น 2. เน้ือหาสาระมีความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และชดั เจน 3. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 4. กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย น่าสนใจและเนน้ กระบวนการคิด การฟัง การพดู การอ่าน การดูและการเขียน 5. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ใหผ้ เู้ รียนลงมือปฏิบตั ิจริง 6. กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง 7. กิจกรรมการเรียนรู้เพยี งพอท่ีจะส่งผลใหบ้ รรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 8. กิจกรรมการเรียนรู้ที่กาหนดสามารถนาไปปฏิบตั ิการสอนไดจ้ ริง 9. มีสื่อที่สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมและเป็ นส่ือที่เนน้ กระบวนการคดิ 10. มีการวดั ผลประเมนิ ผลที่สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั 11. วธิ ีการวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนรู้ 12. มีการกาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม รวม ข้อคดิ เห็นเพมิ่ เตมิ 1. กระบวนการคิดท่ีใช้ คือ……….……………………………………………….………………………………… ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. 2. สิ่งที่ควรปรบั ปรุง คือ……….…………………………………….………………………………………………. ……….……………………………………………………………………………..………..........................….. ผปู้ ระเมิน.............................................

96 แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 4 ชั่วโมง รหสั วชิ า 3201 – 2001 วชิ า การบัญชีช้ันกลาง 1 หน่วยที่ 6 ช่ือหน่วยช่ือหน่วย สินคา้ คงเหลือ (ตอ่ ) เร่ือง การตีราคาสินคา้ คงเหลือตามวธิ ีอ่ืน 1. สาระสาคญั นอกจากการตีราคาสินคา้ คงเหลือโดยวธิ ีราคาทุนแลว้ กิจการสามารถใชว้ ธิ ีการตีราคาวธิ ีอื่นไดใ้ น กรณีที่สินคา้ คงเหลือมีราคาตลาดไมแ่ น่นอน หรือสินคา้ ลา้ สมยั ทาใหร้ าคาตลาดลดลง ดงั น้นั เพ่ือใหง้ บ การเงินแสดงผลการดาเนินงานและฐานะทางการเงินที่แทจ้ ริง กิจการก็ควรจะแสดงราคาสินคา้ ในราคา เชิงต่ากวา่ ท่ีควรจะเป็ น 2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้ ตีราคาและเปรียบเทียบผลการตีราคาสินคา้ คงเหลือแตล่ ะวธิ ีในงบการเงิน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป สามารถตีราคาสินคา้ คงเหลือดว้ ยวธิ ีอ่ืนไดแ้ ละสามารถประยกุ ตห์ ลกั การประชาธิปไตย ในการทางานได้ 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของราคาตลาดได้ 2. ตีราคาสินคา้ คงเหลือ ตามราคาทุนหรือมูลคา่ สุทธิที่จะไดร้ ับท่ีต่ากวา่ ได้ 3. บนั ทึกบญั ชีเพื่อลดราคาสินคา้ คงเหลือและแสดงรายการในงบการเงินได้ 4. ตีราคาสินคา้ คงเหลือตามวธิ ีอตั รากาไรข้นั ตน้ และวธิ ีราคาขายปลีกได้ 5. บอกความหมายของศพั ทท์ ่ีเก่ียวกบั ราคาขายปลีกได้ 6. บอกผลกระทบต่อกาไรรวมจากการตีราคาตามวธิ ีราคาขายปลีกได้ 7. มีการพฒั นาคุณธรรมจริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ ่ีผสู้ อน สามารถสังเกตเห็นได้ ในดา้ นความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความ เช่ือมน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่ รู้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญูกตเวที

97 4. การบูรณาการ ในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดแ้ บ่งการบูรณาการเป็น 2 รูปแบบ คือ การบูรณาการ ภายในเน้ือหาวชิ า/สาขาวชิ าบญั ชี และบูรณาการกบั ตา่ งสาขาวชิ า การบูรณาการภายในเนื้อหาวิชา/สาขาวชิ าบัญชี ครูมอบหมายงานตามใบงานที่ 3 หน่วยที่ 7 เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาสามารถประยกุ ตห์ ลกั การ ประชาธิปไตยในชีวติ ประจาวนั การบูรณาการต่างสาขาวิชา บูรณาการร่วมกบั วชิ า วถิ ีธรรม วถิ ีไทย เรื่อง ประชาธิปไตย 5. สาระการเรียนรู้ 1. การตีราคาสินคา้ คงเหลือตามราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิท่ีจะไดร้ ับที่ต่ากวา่ 2. วธิ ีอตั รากาไรข้นั ตน้ 3. วธิ ีราคาขายปลีก 4. ความหมายของศพั ทเ์ กี่ยวกบั ราคาขายปลีก 5. ผลกระทบต่อกาไรรวมจากการตีราคาตามวธิ ีราคาขายปลีก 6. หลกั ประชาธิปไตยในการดารงชีวติ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนการคานวณและการบนั ทึกสินคา้ คงเหลือ เพือ่ ใหน้ กั ศึกษาเขา้ ใจและเกิดการเรียนรู้ โดยใชค้ าถามตา่ งๆ กระตุน้ ใหน้ กั ศึกษาตอบ 2. ครูแจง้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ข้นั สอน 3. ครูแนะนาวธิ ีการเรียนแบบร่วมแรงร่วมใจดว้ ยการจบั คู่เพ่ือนคู่คิด เพ่อื แลกเปลี่ยนความคิด และแนะนาการเรียนแบบแบ่งกลุ่ม 4. ครูอภิปรายสาระการเรียนรู้แต่ละหวั ขอ้ ตามใบความรู้และสาธิตการคานวณ การบนั ทึกบญั ชี สินคา้ คงเหลือใหน้ กั ศึกษาไดเ้ ขา้ ใจมากยง่ิ ข้ึน 5. เปิ ดโอกาสใหน้ กั ศึกษาซกั ถาม 6. นกั ศึกษาจบั คู่เพ่อื น คู่คิด เพอ่ื วเิ คราะห์รายการบญั ชีและคานวณตามวธิ ีตา่ ง ๆ 7. สุ่มนกั ศึกษา บางคู่ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 8. เปิ ดโอกาสใหน้ กั ศึกษาแสดงความคิดเห็น 9. นกั ศึกษาปฏิบตั ิตามใบงานหน่วยที่ 6

98 ข้ันสรุป 10. ครูและนกั ศึกษาสรุปร่วมกนั โดยครูกระตุน้ ดว้ ยคาถามเพ่ือใหน้ กั ศึกษาตอบ 11. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 6 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 (3201-2001) ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2. หนงั สืออ่านประกอบวชิ า การบญั ชีช้นั กลาง 1 ของ ผศ.กอบแกว้ รัตนอุบล มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 3. ใบงาน 8. การวดั ผลและประเมนิ ผล 8.1 เคร่ืองมือวดั 8.1.1 แบบทดสอบหลงั เรียน 8.1.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 8.1.3 แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 8.1.4 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน) 8.1.5 กิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 8.1.6 แบบฝึ กปฏิบตั ิ 8.1.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้ 8.1.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและ นกั เรียนร่วมกนั ประเมิน 8.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.2.1 เกณฑผ์ า่ นแบบทดสอบหลงั เรียนคือ 50% 8.2.2 เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่องปรับปรุง 8.2.3 เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.4 เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 8.2.5 ตอบคาถามในกิจกรรรมเสนอแนะและกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้จึงจะถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 8.2.6 แบบฝึกปฏิบตั ิ เกณฑ์ผา่ น คือ 50% 8.2.7 แบบประเมินผลการเรียนรู้มีเกณฑ์ 5 ระดบั คือ 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช,้ 2 = ควร ปรับปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ 8.2.8 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนน ข้ึนกบั การประเมินสภาพจริง 9. งานทมี่ อบหมายและภารกิจต่อเนื่อง ใบงานที่ 5 หน่วยที่ 6

99 10. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 10.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.2 ปัญหาทพี่ บ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางแก้ปัญหา ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................

100 แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หน่วยท่ี 6 (ต่อ) ตอนท่ี 1 จงเลือกคำตอบทถ่ี ูกทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1. สาเหตุที่ราคาตลาดของสินคา้ คงเหลือต่ากวา่ ราคาทุนคือขอ้ ใด ก. ราคาโดยทวั่ ไปลดลง ข. สินคา้ ลา้ สมยั ค. สินคา้ เสื่อมคุณภาพ ง. สินคา้ หมดคุณคา่ 2. กิจการมีสินคา้ สองชนิด หากกิจการตีราคาสินคา้ คงเหลือตามวธิ ีราคาทุนหรือมูลคา่ สุทธิท่ีจะไดร้ ับท่ีต่า กวา่ โดยการเปรียบเทียบแต่ละรายการ ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ราคาทุน(Cost) มูลค่าสุทธิทจ่ี ะได้รับ (Net Realizable Value) ชนิด A 52,000 50,000 ชนิด B 62,000 63,000 ก. ชนิด A เลือกราคา 52,000 บาท และชนิด B เลือกราคา 63,000 ข. ชนิด A เลือกราคา 50,000 บาท และชนิด B เลือกราคา 62,000 ค. ชนิด A เลือกราคา 52,000 บาท และชนิด B เลือกราคา 62,000 ง. ชนิด A เลือกราคา 50,000 บาท และชนิด B เลือกราคา 63,000 3. จากขอ้ 2 ถา้ กิจการเลือกใชร้ าคายอดรวม ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. ใชร้ าคา 112,000 บาท ข. ใชร้ าคา 113,000 บาท ค. ใชร้ าคา 114,000 บาท ง. ใชร้ าคา 115,000 บาท 4. กิจการมีสินคา้ ยกมา 100 หน่วยๆละ 5 บาทและซ้ือคร้ังท่ี 1 จานวน 200 หน่วยๆละ 6 บาท ซ้ือคร้ังท่ี 2 จานวน 150 หน่วยๆละ 6.50 บาท กิจการตีราคาสินคา้ คงเหลือดว้ ยวธิ ี Cost of Last purchases ขอ้ ใด ถูกตอ้ ง ก. 2,925 บาท ข. 2,275 บาท ค. 1,950 บาท ง. 975 บาท 5. จากโจทยข์ อ้ 4 หากกิจการตีราคาสินคา้ คงเหลือดว้ ยวธิ ี Unit LIFO และกิจการใชว้ ธิ ีถวั เฉลี่ยราคาซ้ือ สินคา้ คงเหลือปลายงวดคือขอ้ ใด ก. 2,675.50 บาท ข. 2,674.50 บาท ค. 2,173.50 บาท ง. 2,137.50 บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook