Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือคอมพิวเตอร์สำหรับครู - ฉบับผ่านการ

หนังสือคอมพิวเตอร์สำหรับครู - ฉบับผ่านการ

Published by Master of Education Suandusit, 2022-07-06 02:38:35

Description: หนังสือคอมพิวเตอร์สำหรับครู - ฉบับผ่านการ

Search

Read the Text Version

230 ภาพท่ี 8.58 ปุ่มลูกศรสาหรับเลือกอ่านหนงั สือยงั หน้าถดั ไปหรอื กลบั สู่หนา้ ก่อนหนา้ ภาพที่ 8.59 คลกิ Fullscreen เม่อื ต้องการอ่านหนังสือแบบเต็มจอ

231 ภาพที่ 8.60 คลิก Exit Fullscreen เมอ่ื ต้องการย่อขนาดของหนงั สอื ลง 8. คลิก Share ตามภาพท่ี 8.61 เม่ือต้องการแชร์ลิงก์หรือส่งต่อหนังสือให้ผู้เรียนหรือ ผสู้ นใจอ่าน หรอื ต้องการนาลิงกไ์ ปใส่ไวใ้ นเว็บไซตส์ ว่ นตวั จะไดผ้ ลลัพธต์ ามภาพที่ 8.62 > Copy ลงิ ก์ เพื่อสง่ ต่อใหผ้ เู้ รยี น ภาพที่ 8.61 การแชร์ลงิ ก์หรือส่งต่อหนงั สือใหผ้ เู้ รยี น

232 ภาพที่ 8.62 การ Copy ลิงก์ท่ตี ้องการแชรห์ รือสง่ ต่อหนงั สอื ให้ผู้เรียน 9. เม่ือผู้สอนสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพิ่มข้ึน PubHTML5 จะจัดเก็บผลงานไว้ดังภาพ ท่ี 8.63 ภาพท่ี 8.63 รปู แบบการจดั เก็บหนังอเิ ล็กทรอนิกส์ของโปรแกรม PubHTML5

233 Jamboard ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ออนไลน์สาหรบั การเรยี นแบบรว่ มมือ Jamboard คือกระดานหรือจอแสดงผลอัจฉริยะท่ีทาหน้าท่ีเสมือนไวท์บอร์ดแต่อัจฉริยะ กว่ามาก เน่ืองจากเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ออนไลน์ของตระกูล Google ท่ีช่วยสนับสนุนกิจกรรม การเรียนการสอนแบบรว่ มมอื ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ระหว่างผ้สู อนและผเู้ รียนท่ีอยู่ในสถานท่ีเดียวกัน หรือต่างสถานที่กันก็ตาม ผู้เรียนทุกคนสามารถวาด เขียน พิมพ์ข้อความ ลบ และแทรกรูปเพ่ือ สร้างสรรคผ์ ลงานเรอื่ งเดยี วกันได้พร้อมกนั บนหน้าจอเดียวกันผา่ นคอมพิวเตอรส์ ว่ นบุคคลของใครของ มนั ดงั ภาพท่ี 8.64 เปน็ การวาดภาพรว่ มกันระหว่างผู้เรยี น 4 คนบน Jamboard ในหวั ขอ้ “เมื่อนึกถึง ตลาดน้า” โดยมีผู้สอนและผู้เรียนกลุ่มอื่นร่วมสังเกตการทางานของสมาชิกในกลุ่มได้ตลอด การสร้างสรรค์ผลงานเสมือนผู้เรียนออกมาวาดภาพบนไวท์บอร์ดหน้าห้องเรียน ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียน มีสว่ นรว่ มและรว่ มกันทางานแบบประสานเวลา โดยผูส้ อนสามารถตรวจสอบการทางานของผู้เรียนได้ แบบทันทีทันใด สามารถใช้จัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติหรือจัดการเรียนการสอนออนไลน์ แบบประสานเวลาและแบบไมป่ ระสานเวลาได้ ภาพท่ี 8.64 ผลงานของผ้เู รยี นท่สี ร้างสรรคร์ ว่ มกนั ด้วยโปรแกรม Jamboard วธิ ีการใช้งานโปรแกรม Jamboard มีดงั ต่อไปนี้ 1. Login ด้วย Gmail > Google apps หรือจุดเก้าจุด > Jamboard ดังภาพที่ 8.65 จะ ได้ผลลัพธเ์ ปน็ หน้าแรกซง่ึ เปน็ พ้ืนท่ีสาหรบั การทางานของ Jamboard ตามภาพที่ 8.66 2. คลิก Untitled Jam เพื่อเปล่ียนชื่อหัวข้อเรื่องให้เข้ากับสิ่งท่ีกาลังจะทา เช่น คอมพิวเตอรส์ าหรบั ครู ดังภาพที่ 8.66

234 3. คลิก Share เพ่ือเชิญผู้เรียนเข้าร่วม Jamboard ตามภาพที่ 8.67 > พิมพ์ ช่ือ หรืออีเมลของผู้เรียนที่ต้องการเชิญเข้าร่วม ดังภาพที่ 8.68 > Send > รอตอบรับเข้าร่วมจาก ผู้เรยี น ภาพท่ี 8.65 การเข้าใช้งานโปรแกรม Jamboard ผา่ นทาง Google apps ภาพที่ 8.66 พื้นท่สี าหรับการทางานของโปรแกรม Jamboard ภาพที่ 8.67 การเชิญผู้อื่นเข้าร่วม Jamboard

235 ภาพที่ 8.68 การเชิญผ้อู น่ื เขา้ รว่ ม Jamboard ทางอเี มล 4. เม่ือผู้สอนส่งจดหมายเชิญผู้เรียนเข้าร่วม Jamboard ผู้เรียนจะได้รับจดหมายเชิญดัง ภาพที่ 8.69 > ผเู้ รียนคลกิ เปิดใน Jamboard เพื่อตอบรับเข้ารว่ ม ภาพที่ 8.69 ลกั ษณะของจดหมายเชิญทผี่ ู้เรยี นได้รบั 5. เมอ่ื ผู้เรียนตอบรบั เขา้ รว่ ม Jamboard จะปรากฎภาพและช่ือของผูเ้ รียนดงั ภาพที่ 8.70 6. เมื่อผู้เรียนทากิจกรรมใน Jamboard อาทิ วาดภาพ จะปรากฎภาพของผู้เรียนท่ีกาลัง ทากิจกรรมควบคู่ไปกับสิ่งท่ีทา ดังภาพท่ี 8.70 มีผู้เรียน 2 คนกาลังวาดภาพลายเส้น เพื่อให้เห็นว่า สมาชกิ ของกล่มุ แตล่ ะคนกาลังทาอะไรลงใน Jamboard

236 ภาพท่ี 8.70 แสดงชอ่ื และภาพของผู้เรยี นขณะเข้ารว่ มทากิจกรรมใน Jamboard 7. กิจกรรมท้ังหมดที่เกิดข้ึนใน Jamboard จะถูกบันทึกเป็นไฟล์โดยอัตโนมัติเก็บไว้ใน Google Drive เพ่ือให้สามารถปรับปรุงและแก้ไขเพ่ิมเติมได้ในอนาคต ท้ังน้ีสามารถบันทึกเป็นไฟล์ PDF และไฟล์ภาพได้ดว้ ยการคลกิ ท่ี More Actions หรอื จดุ สามจุดดา้ นขวาบนดงั ภาพท่ี 8.71 ภาพท่ี 8.71 การบนั ทึกเป็นไฟลเ์ ปน็ PDF และเปน็ ไฟลภ์ าพ

237 AutoDraw ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกตอ์ อนไลน์สาหรบั การคดิ สร้างสรรค์ AutoDraw เป็นเครื่องมือดิจิทัลออนไลน์รูปแบบใหม่ท่ีรองรับการทางานบนคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลทุกแบบเพื่อสรา้ งสรรค์ผลงานดว้ ยการวาดรูปลงไปในโปรแกรม หากลองวาดรูปอะไรก็ได้ลง ไปในโปรแกรม ระบบจะเรียนรู้ว่าสิ่งท่ีวาดลงไปนั้นคือรูปอะไร หลังจากน้ันด้วยความฉลาดของ AutoDraw จะแนะนาภาพวาดจากฝีมือของจิตรกรจริง ๆ ให้เลือกใช้ ทดลองวาดวงกลมข้ีเหร่สองวง ห่างกันเล็กน้อยและเช่ือมวงกลมท้ังสองวงด้วยเส้นตรง ระบบจะเรียนรู้และแนะนาภาพวาดแว่นตา จกั รยาน และภาพวาดสวย ๆ มาใหเ้ ลือกใชม้ ากมาย ดังแถบดา้ นบนของภาพท่ี 8.72 ภาพที่ 8.72 การทดลองวาดภาพลงใน Jamboard AutoDraw ช่วยเปลี่ยนภาพวาดธรรมดาให้กลายเป็นภาพวาดที่สวยงามอย่างมีศิลปะ ดัง ภาพท่ี 8.73 เป็นผลงานช่ือโรงเรียนในฝันท่ีวาดด้วย AutoDraw เรียกว่าเป็นเคร่ืองมือท่ีเปล่ียน ภาพวาดแสนเศร้าให้กลายเป็นภาพวาดแสนสุข ซ่ึงเหมาะสมท่ีจะเป็นเครื่องมือฝึกฝนผู้เรียนเพื่อ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และเหมาะกับผู้ท่ีมีทักษะการวาดภาพไม่มากให้สามารถนา AutoDraw ไปสรา้ งสรรคผ์ ลงานภาพวาดได้ ดงั ภาพท่ี 8.73 ภาพที่ 8.73 ผลงานของผู้เรยี นที่สรา้ งสรรค์รว่ มกันด้วยโปรแกรม Jamboard

238 วธิ ีการใช้งานโปรแกรม AutoDraw มีดังต่อไปนี้ 1. เข้าเว็บไซต์ www.autodraw.com จะได้ผลลัพธ์เป็นหน้าแรกและเมนูของ AutoDraw ดงั ภาพที่ 8.74 2. เมนูท่ีสาคัญของ AutoDraw ประกอบดว้ ย 2.1 Select สาหรบั เลอื กรูปภาพท่ีถูกวาดลงใน AutoDraw 2.2 AutoDraw สาหรับวาดรูปแลว้ ให้ AutoDraw แสดงภาพวาดใหเ้ ลือก 2.3 Draw สาหรับวาดภาพด้วยตนเอง AutoDraw จะไม่แสดง ภาพวาดให้เลอื ก 2.4 Type สาหรบั พิมพต์ ัวอกั ษรหรอื ขอ้ ความ 2.5 Fill สาหรบั ใส่สีใหพ้ น้ื หลัง 2.6 Shape สาหรบั วาดรปู ทรง 2.7 Color สาหรับเลอื กสี 3. วาดภาพตามโจทย์ทีผ่ สู้ อนกาหนดหรือตามจินตนาการของผ้เู รยี น ดงั ภาพที่ 8.75 ภาพที่ 8.74 หน้าแรกและเมนูของโปรแกรม AutoDraw ภาพท่ี 8.75 วาดภาพตามจนิ ตนาการด้วยโปรแกรม AutoDraw

239 4. เม่ือต้องการแชร์หรือดาวน์โหลดไฟล์ภาพวาดมาใช้งานคลิกท่ีขีดสามขีดใกล้ๆ กับ Select > Download หรือ Share ดังภาพที่ 8.76 จะได้ผลลัพธต์ ามภาพท่ี 8.77 ภาพท่ี 8.76 การแชรห์ รอื ดาวนโ์ หลดไฟล์ ภาพที่ 8.77 การ Copy Link เพื่อแชร์ไฟล์

240 บทสรุป กิจกรรมการเรียนการสอนทาให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพและบรรลุ วัตถุประสงค์ ประกอบด้วย กิจกรรมก่อนสอน ประกอบด้วยวางแผนการสอน และเตรียมการสอน กิจกรรมระหว่างสอน ประกอบด้วยจัดกิจกรรมการเรียน เสริมสร้างบรรยากาศการเรียน สนับสนุน ผู้เรียน และประเมินผลระหว่างเรียน และกิจกรรมหลังสอน ประกอบด้วยประเมินผลหลังเรียน และ ให้ข้อมูลย้อนกลบั แก่ผู้เรียน การนาเครอ่ื งมือดิจิทัลประเภทซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ออนไลน์มาชว่ ยในการ สนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอน ช่วยลดภาระและหน้าที่หลักเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอน ของผู้สอนได้ อาทิ นา MindMup ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ออนไลน์สาหรับสร้างแผนผงั ความคิด นา Prezi ซอฟต์แวร์ประยุกต์ออนไลน์สาหรับสร้างคลิปวิดีโอการสอน นา PubHTML5 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ออนไลน์สาหรับสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ นา Jamboard ซอฟต์แวร์ประยุกต์ออนไลน์สาหรับ การเรียนแบบร่วมมือ นา AutoDraw ซอฟต์แวร์ประยุกต์ออนไลน์สาหรับการคิดสร้างสรรค์ และ นา AnyDesk ซอฟต์แวร์ประยกุ ตอ์ อนไลนส์ าหรับควบคุมคอมพวิ เตอรร์ ะยะไกล MindMup เป็นโปรแกรมสาหรับสร้างแผนผังความคิด (Mind Mapping) ที่สามารถใช้ งานผ่านเว็บไซต์ได้โดยตรง รองรับการทางานผ่าน Google Drive ผู้สอนสามารถนา MindMup มาประยุกต์ใช้ในการสร้างแผนผังความคิดเพื่อสนับสนุนกิจกรรมก่อนสอน อาทิ สร้างแผนผงั ความคดิ เนอ้ื หาวิชาเพ่ือเตรยี มเขยี นแผนการสอน เตรียมเขียนเอกสารประกอบการสอน เตรียมส่ือการสอน Prezi เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ออนไลน์สาหรับสร้างส่ือการสอนและส่ือสาหรับนาเสนอ คล้ายกับ Microsoft PowerPoint สาหรับสร้างคลิปวิดีโอการสอนแบบออนไลน์ ด้วยการนา Prezi Video มาบันทึกการสอนผ่านกล้องวิดีโอและไมโครโฟน โดยไม่ต้องติดตั้งลงในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ใชบ้ นั ทึกการสอนเฉพาะผูส้ อน หรอื บนั ทกึ การสอนของผสู้ อนและสือ่ พรอ้ มกนั ได้ AnyDesk เป็นซอฟต์แวร์สาหรับควบคุมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบออนไลน์ หากผู้สอน กับผู้เรียนอยู่คนละสถานที่แต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล๊ตของผู้เรียนมีปัญหา ไม่สามารถเปิดโปรแกรมได้ ไม่สามารถเข้าเรียนออนไลน์ได้ หรือเกิดปัญหาใดกับคอมพิวเตอร์ของ ผู้เรียนก็ตามแต่ยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ผู้สอนสามารถเข้าถึงและควบคุมคอมพิวเตอร์ของ ผู้เรียนได้ด้วยโปรแกรม AnyDesk โดยผู้สอนสามารถมองเห็นหน้าจอ ควบคุมเมาส์ และใช้งาน คอมพิวเตอร์ของผเู้ รียนได้เสมอื นผูส้ อนนงั่ อยู่ทห่ี นา้ คอมพิวเตอร์ของผเู้ รียน PubHTML5 เป็นเครื่องมือดิจิทัลสาหรับสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Book : E-Book) หรือ ฟลิปบุค (Flipbook) อาทิ เอกสารการสอน ส่ือการสอน รวบรวมผลงานของครูและ ผลงานนักเรียน จดหมายข่าวของโรงเรียน แผ่นพับประชาสัมพันธ์ข้อมูลของโรงเรียน เฟรนด์ชิปของ ผู้เรียน (Friendship) และเอกสารอื่นในรูปแบบออนไลน์ ใช้งานง่าย สวยงาม และสามารถเผยแพร่ ทางสือ่ สังคมออนไลน์สู่ผเู้ รยี นไดอ้ ย่างรวดเรว็ ด้วยการอัปโหลดประเภท PDF Jamboard คือกระดานหรือจอแสดงผลอัจฉริยะที่ทาหน้าท่ีเสมือนไวท์บอร์ด เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ออนไลน์จาก Google ช่วยสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนแบบร่วมมือ ระหว่างผู้สอนและผู้เรียนท่ีอยู่ในสถานที่เดียวกันหรือต่างสถานท่ีกันก็ตาม ผ่านการวาด เขียน พิมพ์ ข้อความ ลบ และแทรกรูปภาพตามโจทย์ท่ีผู้สอนกาหนด ผู้สอนและผู้เรียนคนอ่ืนสามารถร่วมสังเกต

241 การทางานของสมาชิกในกลุ่มอ่ืนได้ตลอดการสร้างสรรคผ์ ลงาน เสมือนผูเ้ รียนออกมาวาดภาพบนไวท์ บอร์ดหน้าห้องเรียน ช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและร่วมกันทางานแบบประสานเวลา โดยผู้สอน สามารถตรวจสอบการทางานของผู้เรยี นไดแ้ บบทันทีทันใด AutoDraw เป็นเครื่องมือดจิ ิทลั ออนไลน์สาหรบั สรา้ งสรรคผ์ ลงานด้วยการวาดรูปธรรมดา ลงไปในโปรแกรม ด้วยความฉลาดของ AutoDraw จะช่วยเปล่ียนภาพวาดธรรมดาให้กลายเป็น ภาพวาดท่ีสวยงามอย่างมีศิลปะ เป็นเคร่ืองมือฝึกฝนผู้เรียนเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และ เหมาะกบั ผ้ทู มี่ ที กั ษะการวาดภาพไมม่ ากนกั

243 บทที่ 9 ซอฟต์แวร์ประยุกตส์ ำหรับกำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียน การทราบความก้าวหน้าและพัฒนาการทางการเรียนของผู้เรียน อันจะส่งผลต่อ การจัดการเรียนการสอนให้ตรงกับผู้เรียนแต่ละคนต่อไป การวัดและการประเมินผลการเรียนจึงเป็น กิจกรรมการเรียนการสอนที่สาคัญและจาเป็นต้องจัดกระทาเพ่ือสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ดังกลา่ ว ผสู้ อนสามารถวัดและประเมินผลผู้เรียนได้ตั้งแต่ก่อนสอน ระหวา่ งสอน หลังสอน ปลายภาคเรียน และสามารถใช้ติดตามผู้เรียนได้ตลอดแม้ผู้เรียนจะเล่ือนช้ันเรียนหรือสาเร็จการศึกษาไปแล้ว เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการวัดและประเมินผลการเรียน บทนี้จึงนาเสนอซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับวดั และประเมินผลการเรียนท่ีได้รับความนิยม ประกอบด้วย Google Form และ Kahoot ซึ่งเป็น ซอฟตแ์ วร์ทีเ่ หมาะสมสาหรบั นามาใช้จัดการเรียนการสอนทัง้ แบบออฟไลน์และออนไลน์ Google Form ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์สำหรับสร้ำงแบบฟอรม์ เก็บข้อมูล Google Form เปน็ ซอฟต์แวร์ประยุกต์จากตระกูล Google ท่รี ู้จกั กนั เปน็ อย่างดี ใชส้ ร้าง แบบฟอร์มสาหรับกรอกข้อมูลที่ต้องการจากผู้ตอบ เช่น ฟอร์มแบบสอบถาม แบบประเมิน ใบสมัคร งาน ใบสมัครเข้ารับการฝึกอบรม เหมาะสมอย่างย่ิงสาหรบั วัดและประเมินผลการเรยี นออนไลน์ อาทิ แบบทดสอบออนไลน์ แบบฝึกหัดออนไลน์ โดยข้อมูลทั้งแบบสอบถามและคาตอบจะถูกบันทึกเก็บไว้ ใน Google Drive โดยอัตโนมัติ ทาให้ม่ันใจว่าจะสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา สามารถแทรก รูปภาพ วิดีโอ ข้อความส่วนหัวและข้อความส่วนช้ีแจง และที่สาคัญสามารถนาข้อมูลออกมาใช้งานใน รปู แบบ Excel ไดอ้ ีกดว้ ย การสรา้ งแบบทดสอบออนไลนส์ ามารถทาได้ดงั น้ี 1. Login เข้า Gmail > Google apps หรือจุดเก้าจุด > Form เข้าสู่หน้าแรกของ Form > คลกิ + หรือ Start a new form ตามภาพท่ี 9.1 > จะได้ผลลพั ธเ์ ป็นฟอร์มเปลา่ ดังภาพที่ 9.2 ภำพท่ี 9.1 การเริม่ ทางานกบั Google Form

244 ภำพท่ี 9.2 หน้าแรกของ Google Form 2. คลิก Untitled form เพ่ือต้ังช่ือฟอร์มของแบบทดสอบตามต้องการ > พิมพ์คาแนะนา สาหรับการทาข้อสอบ เชน่ เวลาในการทาขอ้ สอบ ภำพที่ 9.3 ตง้ั ช่อื ฟอรม์ ของแบบทดสอบ 3. คลิก Untitled Question เพ่ือพิมพ์ข้อความ ในที่นพ้ี มิ พ์วา่ “กรอกชอ่ื และนามสกลุ ” 3.1 เลือก Short answer สาหรบั กรอกขอ้ ความแบบสั้น 3.2 เลอื ก Required เพอื่ บงั คับใหผ้ เู้ รยี นตอ้ งกรอกข้อมลู 3.3 คลิก Duplicate หากต้องการเพ่ิมฟอร์มย่อยสาหรับข้อต่อ โดยฟอร์มย่อยข้อนั้น เหมือนหรอื คลา้ ยฟอรม์ ย่อยข้อก่อนหนา้ > กรอกข้อความ “รหสั ประจาตัวผเู้ รยี น” ดงั ภาพท่ี 9.5

245 ภำพที่ 9.4 ชื่อฟอรม์ ของแบบทดสอบ ภำพที่ 9.5 ฟอร์มและฟอรม์ ย่อยของแบบทดสอบ 4. คลกิ Add title and description เมอื่ ต้องการเพ่ิมคาชีแ้ จงให้ข้อสอบ > พิมพค์ าช้แี จง ของขอ้ สอบ จะได้ผลลพั ธด์ ังภาพท่ี 9.6 และภาพท่ี 9.7

246 ภำพท่ี 9.6 การเพิ่มคาช้ีแจง ภำพที่ 9.7 การเพ่ิมคาช้แี จง (ต่อ) 5. คลิก Add question เม่ือต้องการเพิ่มฟอร์มย่อยท่ีแตกต่างจากฟอร์มย่อยก่อนหน้า > พิมพ์หรือ Copy คาถามและคาตอบจาก Word ลงไป > Multiple choice เมื่อเป็นข้อคาถามแบบ เลือกตอบหรอื ปรนยั จะได้ผลลพั ธ์ดงั ภาพที่ 9.9

247 ภำพท่ี 9.8 การเพิ่มฟอรม์ ย่อยทีแ่ ตกตา่ งจากฟอร์มยอ่ ยกอ่ นหน้า ภำพที่ 9.9 การสรา้ งข้อสอบแบบเลอื กตอบ

248 6. การแทรกรูปภาพในขอ้ สอบทาไดด้ ้วยการคลกิ สญั ลักษณ์ Add image ภำพที่ 9.10 การแทรกรปู ภาพในข้อสอบ 7. หากต้องการเลือกรูปแบบของคาตอบนอกเหนือจากแบบปรนัย สามารถเลือกให้ เหมาะสมได้ เช่น เลือก Paragraph เม่ือต้องการให้ผู้เรียนพิมพ์คาตอบลงในฟอร์มแบบทดสอบ ดัง ภาพท่ี 9.11 ภำพที่ 9.11 รปู แบบของคาตอบ

249 8. เม่ือทาข้อสอบจนครบตามท่ีต้องการแล้ว เลือก Preview เมื่อต้องการดูมุมมองของ ขอ้ สอบในมุมมองของผูเ้ รียน จะไดผ้ ลลพั ธด์ งั ภาพที่ 9.13 ภำพท่ี 9.12 การดูมมุ มองของขอ้ สอบในมุมมองของผู้เรียน ภำพท่ี 9.13 มมุ มองของข้อสอบในมุมมองของผเู้ รียน

250 8. การตกแต่งฟอร์มของแบบทดสอบ คลิกเลือกจานสี หรือ Customize Theme ตาม ภาพที่ 9.14 เลือกสแี ละภาพตามต้องการ ตวั อยา่ งผลลัพธ์ทไี่ ดด้ งั ภาพที่ 9.15 ถึงภาพท่ี 9.17 ภำพที่ 9.14 การตกแต่งฟอร์มของแบบทดสอบ ภำพท่ี 9.15 ผลการตกแตง่ ฟอรม์ ของแบบทดสอบ

251 ภำพท่ี 9.16 ผลการตกแต่งฟอรม์ ของแบบทดสอบ (ต่อ) ภำพท่ี 9.17 ผลการตกแต่งฟอร์มของแบบทดสอบ (ตอ่ ) 9. หลังจากสร้างฟอร์มแบบทดสอบครบทุกข้อ ตกแต่งฟอร์มแบบทดสอบ และทดลอง แสดงผลฟอร์มแบบทดสอบแล้ว ลาดับต่อไปเป็นการกาหนดเงื่อนไขในการทาแบบทดสอบด้วย การคลกิ Setting ตามภาพท่ี 9.18 หลงั จากนน้ั อาจเลือกกาหนดเงอ่ื นไขดงั น้ี

252 9.1 เมนู General > คลิก Limit to 1 response เมื่อต้องการให้ผู้เรียนเข้าถึงด้วย บัญชีของ Google ก่อนทาแบบทดสอบ และสามารถทาแบบทดสอบได้เพียงคร้ังเดียวเท่าน้ัน หมายความวา่ หากผู้เรียนกดส่งคาตอบของแบบทดสอบแล้วจะไมส่ ามารถเขา้ ถึงข้อสอบไดอ้ ีก ภำพที่ 9.18 การกาหนดเง่ือนไขในการทาแบบทดสอบ 9.2 เมนู Presentation > สาหรับแสดงผลการส่งคาตอบของผู้เรียนด้วยกราฟแท่ง สาหรบั สลบั ข้อคาถามของแบบทดสอบ และสาหรับเขยี นขอ้ ความถงึ ผู้เรียน ภำพที่ 9.19 การแสดงผลการสง่ คาตอบของผ้เู รียนด้วยกราฟ 9.3 เมนู Quizzes > สาหรับแสดงผลคะแนนทันทีหลังจากผู้เรียนส่งคาตอบ หาก ต้องการให้ผู้เรียนเห็นผลสอบท้ังข้อที่ผู้เรียนตอบผิด ตอบถูก และเห็นผลคะแนนให้ ลงในช่อง สเ่ี หลี่ยม

253 ภำพที่ 9.20 การแสดงผลคะแนนหลังจากผเู้ รยี นสง่ คาตอบ 10. ส่งแบบทดสอบให้ผู้เรียนเพ่ือทาแบบทดสอบด้วยการคลิก Send และเลือกรูปแบบ การส่งตามภาพที่ 9.21 ซ่ึงเป็นการส่งลิงก์ให้ผู้เรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ไลน์ เป็นต้น ส่วนภาพท่ี 9.22 ใช้ในกรณีที่ผู้สอนไม่ต้องการให้ผู้เรียนเข้าถึงหรือเห็นแบบทดสอบและลงมือทาก่อนถึงเวลาที่ กาหนดไว้ เป็นอีกเงื่อนไขหน่ึงที่ผู้สอนควรระมัดระวังไม่เผลอเปิดหรือปิดแบบทดสอบก่อนถึงเวลาอนั ควร ภำพท่ี 9.21 ลิงกส์ าหรับส่งแบบทดสอบใหผ้ เู้ รยี น

254 ภำพที่ 9.22 กาหนดไม่ให้ผู้เรียนเขา้ ถึงหรือเหน็ แบบทดสอบก่อนถงึ เวลาทก่ี าหนด 11. เม่ือผู้เรียนทาและส่งแบบทดสอบแล้วจะแสดงจานวนตรงเมนู Responses ตาม ตวั อยา่ งที่ 9.23 ผ้สู อนสามารถคลกิ เพอ่ื ดูสรุปภาพรวมผลสอบของผู้เรียนท้ังหมดดงั ภาพท่ี 9.24 ภำพท่ี 9.23 จานวนผ้เู รยี นที่ส่งคาตอบแล้ว

255 ภำพท่ี 9.24 ภาพรวมผลสอบของผู้เรียนทั้งหมด ภำพท่ี 9.24 ภาพรวมผลประเมนิ ของผ้เู รียนท้ังหมด

256 12. การดาวน์โหลดไฟล์ผลการทดสอบหรือผลการประเมินของผู้เรียนท้ังหมดเป็นไฟล์ Excel เพ่ือนาไปวเิ คราะหผ์ ลการสอบทาไดด้ ว้ ยการคลิกทีส่ ัญลักษณต์ ามภาพที่ 9.25 > Create > จะ ได้ผลลัพธ์ในรูปของ Spreadsheet ดังภาพที่ 9.26 ซ่ึงประกอบด้วยวันและเวลาในการเข้าทา แบบทดสอบของผู้เรียน ผลคะแนนท่ีได้ ชื่อและนามสกุล รหัสของผู้เรียน และผลการทาแบบทดสอบ เป็นรายขอ้ ให้ผู้สอนได้นาไปใช้งานต่อไป ภำพที่ 9.25 ผลการทดสอบของผเู้ รยี นท้ังหมดเป็นไฟล์ Excel ภำพท่ี 9.26 ผลการทดสอบของผเู้ รียนทแี่ สดงใน Excel Kahoot ซอฟต์แวรป์ ระยุกตส์ ำหรับสรำ้ งแบบทดสอบ Kahoot เป็นโปรแกรมเกมออนไลน์ที่ตอบสนองต่อการเรียนการสอน ช่วยให้นักเรยี นสนุก กับการเรียนโดยเป็นเคร่อื งมือชว่ ยในการประเมินผล โดยผ่านการตอบคาถาม เช่น คาถามปรนัย การ อภิปราย หรือการสารวจความคิดเห็น คาถามจะแสดงที่จอหน้าช้ันเรียนและผู้เรียนตอบคาถามบน อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ของตนเอง เชน่ คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแทบ็ เลต็ ผู้สอนและผ้เู รียนทุก คนสามารถสร้างเกมทางการเรียนรู้ด้วย Kahoot ได้ด้วยตนเองโดยปราศจากข้อจากัดทางอายุ หรือ หัวข้อทาให้ได้รับความสนใจในห้องเรียนท่ีมีนโยบายการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนาอุปกรณ์ ของคุณมาเอง เป็นต้น ผู้สอนสามารถนา Kahoot มาใช้ประกอบการสอน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับ ผู้เรียน ประเมนิ ความรู้พน้ื ฐานของผู้เรียนได้ และนาผลการประเมินมาออกแบบการสอนใหส้ อดคล้อง

257 กับความสามารถของผู้เรียน และใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินตนเองเกี่ยวกับเทคนิคการสอนให้ ผเู้ รยี นบรรลุเป้าหมายการเรยี นรู้ สว่ นผู้เรยี นมคี วามต่ืนตวั ในการเรียนมากขึน้ เขา้ ใจเนื้อหาการเรียนรู้ ได้มากข้ึน ไม่เบื่อหน่ายในระหว่างเรียน และท่ีสาคัญสามารถใช้เทคโนโลยีประกอบการเรียนรู้ให้เป็น ประโยชน์ การสรา้ งแบบทดสอบออนไลน์ด้วย kahoot สามารถทาได้ดงั น้ี 1. เข้าเว็บไซต์ www.kahoot.com > Sign up เพ่ือสมัครเข้าใช้งานคร้ังแรก > Teacher ตามภาพที่ 9.27 > เลือกระดับของสถานศึกษาดังภาพท่ี 9.28 > Sign up with your email หรือ ชอ่ งทางทส่ี ะดวกตามภาพที่ 9.29 > Setting เพือ่ กรอกข้อมลู ส่วนตวั และรปู ภาพ ดังภาพท่ี 9.30 และ ภาพที่ 9.31 ภำพท่ี 9.27 การ Sign up เพื่อสมัครเขา้ ใช้งานครัง้ แรก ภำพที่ 9.28 การเลือกลกั ษณะของผู้ใชง้ าน

258 ภำพท่ี 9.29 การเลือกลักษณะของหนว่ ยงาน ภำพท่ี 9.30 การสรา้ งบัญชีผู้ใชง้ าน ภำพที่ 9.31 การเพิ่มขอ้ มลู ส่วนตวั

259 2. การสรา้ งแบบทดสอบให้คลกิ Create > Create > ตามภาพที่ 9.32 ถงึ ตามภาพท่ี 9.34 ภำพท่ี 9.32 หน้าแรกของ Kahoot พร้อมสร้างแบบทดสอบ ภำพที่ 9.33 เลือกรปู แบบการนาเสนอ 3. พิมพ์ขอ้ คาถาม คาตอบ และรูปภาพลงตามภาพท่ี 9.35 จะได้ผลลัพธ์ดังภาพท่ี 9.36 > คลิกเลือกคาตอบข้อที่ถูก > สร้างข้อคาถามให้ครบตามที่ต้องการ > คลิก Done เม่ือสร้าง แบบทดสอบเสร็จทุกข้อจะได้ผลลัพธด์ งั ภาพท่ี 9.37

260 ภำพที่ 9.34 ลักษณะของแบบทดสอบแบบเลือกตอบ ภำพที่ 9.35 ตวั อยา่ งคาถามและคาตอบ

261 ภำพที่ 9.36 ตวั อย่างคาถามและคาตอบ (ต่อ) 3. เมื่อตอ้ งการใหผ้ ้เู รียนทาแบบทดสอบคลกิ Play ตามภาพท่ี 9.37 ถงึ ภาพที่ 9.39 ภำพที่ 9.37 แบบทดสอบพร้อมใชง้ าน

262 ภำพที่ 9.38 เลอื กรูปแบบการนาเสนอแบบทดสอบ ภำพที่ 9.39 เลอื กรูปแบบการเล่นใหก้ ับผู้เรยี น 4. ผู้สอนรอให้ผู้เรียนเข้าร่วมทาแบบทดสอบ ผู้เรียนสามารถเข้าร่วมทาแบบทดสอบได้ ด้วยการใส่ Game PIN ท่ีโปรแกรมกาหนดไว้ให้ตามภาพที่ 9.40 และตามภาพที่ 9.41 กรณีเป็น โทรศัพท์มือถือ

263 ภำพท่ี 9.40 รอผู้เรียนเข้าร่วมทาแบบทดสอบด้วยเกมพิน ภำพท่ี 9.41 การกรอกเกมพินเข้าร่วมทาแบบทดสอบของผเู้ รยี นด้วยโทรศัพท์มือถือ

264 5. เม่ือผู้เรียนเข้ามาครบทุกคนแล้วให้ผู้สอนคลิก Start ตามภาพที่ 9.42 ข้อสอบท่ีผู้สอน เคยสร้างไวก้ จ็ ะปรากฏขนึ้ มาทลี ะข้อดงั ภาพที่ 9.43 ภำพที่ 9.42 คลิกปุ่ม Start เม่ือผเู้ รียนพร้อมทาแบบทดสอบ ภำพท่ี 9.43 ลักษณะของขอ้ สอบหลังคลิกปุ่ม Start

265 ภำพที่ 9.44 ลักษณะคาตอบที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของผู้เรียน ภำพที่ 9.45 การเฉลยผลทดสอบหลงั จากหมดเวลาทาแบบทดสอบแตล่ ะข้อ

266 ภำพท่ี 9.46 รายชอื่ ผูท้ าคะแนนได้สูงสดุ สามลาดับ ภำพที่ 9.47 ดรู ายงานผลคะแนนของผเู้ รียน

267 ภำพที่ 9.48 ดาวนโ์ หลดรายงานผลคะแนนของผู้เรียน ภำพท่ี 9.49 รายงานผลคะแนนของผูเ้ รยี น

268 ภำพท่ี 9.50 รายงานผลคะแนนของผู้เรียนในรปู ของ Excel ภำพที่ 9.51 รายงานผลคะแนนของผ้เู รยี นรายบุคคลในรปู ของ Excel

269 บทสรปุ การวัดและประเมินผลการเรียน เป็นเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่สาคัญและ จาเป็นต้องจัดกระทาเพ่ือสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนต้ังแต่ก่อนสอน ระหว่างสอน หลังสอน ปลายภาคเรียน และสามารถใช้ตดิ ตามผ้เู รียนได้ตลอดแมผ้ เู้ รียนจะเล่อื นชัน้ เรยี นหรือสาเร็จการศึกษา ไปแล้ว เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการวัดและประเมินผลการเรียน ซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับวัดและ ประเมินผลการเรียนที่ไดร้ ับความนิยม ประกอบด้วย Google Form และ Kahoot Google Form เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์จากตระกูล Google ใช้สร้างแบบฟอร์มสาหรับ กรอกข้อมูล อาทิ ฟอร์มแบบสอบถาม แบบประเมิน ใบสมัครงาน ใบสมัครเข้ารับการฝึกอบรม และ สร้างแบบวัดและประเมินผลการเรียนออนไลน์ อาทิ แบบทดสอบออนไลน์ แบบฝึกหัดออนไลน์ สามารถนาขอ้ มูลออกมาใชง้ านในรูปแบบ Excel ได้ Kahoot เป็นซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ทชี่ ว่ ยใหน้ ักเรียนสนุกกบั การเรียน เป็นหนง่ึ ในเครือ่ งมือที่ ได้รับความนิยมสาหรับวัดและประเมินผลการเรียนออนไลน์ อาทิ คาถามปรนัย การอภิปราย หรือ การสารวจความคิดเห็น การนา Kahoot มาใช้ช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เรียนในการเรียนรู้ สามารถ ประเมินความรู้ของผู้เรียน และนาผลการประเมินมาออกแบบการสอนให้สอดคล้องกับความสามารถ ของผ้เู รียนตอ่ ไปได้

271 บทที่ 10 เครือขา่ ยคอมพิวเตอรแ์ ละอนิ เทอรเ์ นต็ สาหรบั ครู โดยปกติเม่ือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมีองค์ประกอบครบทั้งฮาร์ดแวร์ (Hardware) และ ซอฟต์แวร์ (Software) คอมพิวเตอร์ก็จะสามารถทางานตามคาส่ังและความต้องการของผู้ใช้งาน (User) ได้แล้ว ซึ่งเป็นการทางานแบบรับและส่งข้อมูลกันแบบตัวต่อตัวระหว่างคอมพิวเตอร์และ ผู้ใช้งานผ่านอุปกรณ์นาเข้าข้อมูล (Input Device) และอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล (Output Device) ท่ี ได้นาเสนอไปแล้วเท่านั้น เรียกการทางานของคอมพิวเตอร์แบบนี้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทางานได้ ด้วยตวั เองโดยไม่ต้องเชือ่ มโยงกับเครือ่ งคอมพิวเตอร์เคร่อื งอ่ืน (Stand alone) ดงั ภาพท่ี 10.1 (A) แต่ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสาร เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และความต้องการแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสารท่ีทันสมัย สะดวกสบาย และประหยัดเวลาและเงินทอง ทาให้มีการพัฒนาให้ คอมพิวเตอร์ต้ังแต่สองเคร่ืองข้ึนไปสามารถเช่ือมต่อเข้าด้วยกันเพื่อส่ือสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหวา่ งคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยกนั เองได้เรียกวา่ เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ (Network) ดงั ภาพที่ 10.1 (B) (A) (B) ภาพที่ 10.1 การทางานกบั คอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คลในอดตี และปัจจุบนั ทม่ี า: Pixabay (2021) เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network) เป็นการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบต้ังโต๊ะ แบบโน้ตบุ๊ก แบบแท็บเล็ต และแบบสมาร์ตโฟนเข้าด้วยกันกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายอ่ืน ๆ จากเครือข่ายขนาดเล็กท่ีมีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป (Local Area Network : LAN) จนถึงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Wide Area Network : WAN) ที่มีคอมพิวเตอร์จานวนมาก เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เพ่ือการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ท่ัวโลกแบบไร้ขีดจากัดที่เรียกว่า อินเทอร์เนต็ (Internet) สาหรับบทน้ีเพื่อให้ผู้สอนรู้ เข้าใจ สามารถใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้สามารถติดตั้งและแก้ไขเครือข่ายคอมพิวเตอร์เบ้ืองต้น รวมทั้งสามารถ นาไปประยุกต์ใช้ในการจดั การเรียนการสอนได้ จึงขอนาเสนอเครือข่ายคอมพิวเตอรแ์ ละอินเทอร์เน็ต สาหรับครูเพือ่ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ประกอบด้วย รูปแบบการเชื่อมตอ่ ของเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์

272 ฮาร์ดแวร์สาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การเช่ือมต่อและการใช้งานอินเทอร์เน็ต การจัดการกับ ซอฟต์แวร์สาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการใช้งานและการจัดการ Web Browser โดยมี รายละเอยี ดดังนี้ รูปแบบการเชือ่ มตอ่ ของเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ การเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายน้ันโดยปกติแล้วจะมีอยู่ 3 รปู แบบหลกั ๆ ประกอบด้วยการเชอื่ มต่อแบบบสั (Bus) แบบสตาร์ (Star) และแบบวงแหวน (Ring) มี รายละเอยี ดดงั น้ี 1. การเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์แบบบัส (Bus) เป็นการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง เขา้ ดว้ ยกนั แบบต่อท้ายกนั ไปเรอ่ื ย ๆ เหมือนรถบัสท่ีจอดต่อแถวกนั เพ่ือรบั ผโู้ ดยสารตามป้าย โดยตอ้ ง มีสายสัญญาณเส้นหน่ึงเป็นเป็นสายหลักดังภาพท่ี 10.2 เนื่องจากการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบบัส คอมพิวเตอร์ทุก ๆ เคร่ืองบนเครือข่ายจะต้องเชื่อมต่อเข้ากับสายสัญญาณเส้นน้ีเท่าน้ันเหมือนการต่อ ประปาเข้าบ้าน ขอ้ ดีของการเชื่อมตอ่ แบบบัสคือมีโครงสร้างและอปุ กรณ์การเชื่อมต่อท่ีไม่ซับซอ้ น ง่าย ต่อการเพิ่มจานวนคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายเนื่องจากสามารถเช่ือมต่อเข้ากับสายหลักได้ทันที ทาให้ ประหยัดสายสัญญาณ แต่ข้อเสียคือหากสายสัญญาณขาดหรือชารุดจะทาให้คอมพิวเตอร์ท้ังหมดบน สายสัญญาณเสน้ น้ไี มส่ ามารถใชใ้ นการตดิ ต่อสือ่ สารและรับส่งข้อมูลไดเ้ รียกกันว่าเครอื ขา่ ยลม่ ภาพที่ 10.2 การเชื่อมตอ่ คอมพิวเตอร์แบบบัส (Bus) ที่มา: Pixabay (2021) 2. การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบสตาร์ (Star) เป็นการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เคร่ืองเข้าด้วยกันคล้ายแฉกของประกายแสงดาวดังภาพท่ี 10.3 การเชื่อมต่อรูปแบบนี้จาเป็นต้องมี คอมพวิ เตอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายบางอยา่ งที่ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ศนู ย์กลาง ในทนี่ ี้คอมพิวเตอร์ A ทาหน้าที่ เป็นศูนย์กลาง แล้วคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องก็จะมาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครือข่ายศูนย์กลางดังกล่าว หากใครเคยแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบต้ังโต๊ะ แบบโน้ตบุ๊ก แบบแท็บ เล็ต หรือแบบสมาร์ตโฟนให้คนอ่ืนใช้ (Mobile hotspot) นั่นคือการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบสตาร์ ตามสานักงานและสถานศึกษาโดยทั่วไปนิยมเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายรูปแบบน้ี เน่ืองจากง่ายต่อการบริหารจัดการ และเม่ือคอมพิวเตอร์เคร่ืองใดเคร่ืองหน่ึงเกิดความเสยี หายก็จะไม่ ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายเคร่ืองอื่น เพียงแต่การเชื่อมต่อรูปแบบนี้อาจต้องใช้ สายสัญญาณค่อนข้างมากหากไม่มีอุปกรณ์เครือข่ายศูนย์กลางแบบไร้สาย เน่ืองจากต้องต่อจาก

273 อุปกรณ์เครือข่ายศูนย์กลางไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ือง จึงทาให้ไม่สามารถเช่ือมโยงสายสัญญาณ ออกไปในระยะไกล ๆ ได้มากนัก แต่ท่ีสาคัญหากอุปกรณ์ศูนย์กลางเกิดความเสียหายคอมพิวเตอร์ ท้งั หมดบนเครอื ขา่ ยนจี้ ะไมส่ ามารถใช้งานไดท้ งั้ หมดเชน่ กนั A ภาพที่ 10.3 การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบสตาร์ (Star) ท่ีมา: Pixabay (2021) 3. การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (Ring) เป็นการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครอื่ งเข้าด้วยกนั คลา้ ยกบั การเชื่อมตอ่ คอมพวิ เตอรแ์ บบบัส (Bus) คือตอ่ ท้ายกนั ไปเร่ือย ๆ เหมือนรถ บัสที่จอดรับผู้โดยสารตามป้าย แต่ความแตกต่างระหว่างการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์แบบบัส (Bus) กับ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (Ring) คือคอมพิวเตอร์เครื่องสุดท้ายกับคอมพิวเตอร์เคร่ือง แรกของเครือข่ายจะต้องถูกเช่ือมต่อเข้าด้วยกันดังภาพท่ี 10.4 เรียกว่าเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนหรือ วงกลม ข้อดีของการเช่ือมต่อแบบวงแหวนคือสามารถส่งข้อมูลไปได้ระยะทางไกลกว่าแบบอื่น ๆ เนอ่ื งจากขอ้ มูลจะถกู สง่ ผ่านไปยังคอมพิวเตอรแ์ ต่ละเคร่ืองในทิศทางเดยี วกัน ทาใหค้ อมพิวเตอรแ์ ต่ละ เคร่ืองทาหน้าท่ีเปน็ เครือ่ งขยายสญั ญาณไปในตัวด้วย เน่ืองจากการส่งข้อมูลไปในระยะทางไกล ๆ จะ ทาให้สัญญาณลดคุณภาพลง จาเป็นต้องมีอุปกรณ์มาทาหน้าที่ขยายสัญญาณเพื่อให้สัญญาณมี คุณภาพและเดินทางไปถึงปลายทางได้ ข้อเสียคือหากสายสัญญาณขาดจะทาให้คอมพิวเตอร์ท้ังหมด บนสายสัญญาณเส้นนี้ใช้งานไม่ได้ในทันทีเช่นกัน อาจจะเคยพบหรือเคยได้ยินกันบ้างว่ามีสายเคเบิล ส่ือสารใต้น้าขาดเน่ืองจากสาเหตุใดก็ตามจนทาให้เครือข่ายล่มไม่สามารถเชื่อม ต่อออกสู่โลก อนิ เทอรเ์ นต็ ได้

274 ภาพที่ 10.4 การเชือ่ มต่อของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์แบบวงแหวน (Ring) ท่มี า: Pixabay (2021) การเชือ่ มต่อเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์แต่ละรูปแบบมลี ักษณะการใช้งาน และมีขอ้ ดี ขอ้ เสียท่ี แตกต่างกันไป และสามารถนาแต่ละรูปแบบมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้อีกด้วยทาให้เกิดรูปแบบ การเชื่อมต่ออ่ืน ๆ ตามมา การเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายตามสานักงานและ สถานศึกษาโดยท่ัวไปนิยมเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายแบบสตาร์ (Star) เน่ืองจากง่ายต่อการบริหาร จัดการ และเม่ือคอมพิวเตอร์เคร่ืองใดเคร่ืองหนึ่งเกิดความเสียหายก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อ คอมพวิ เตอรบ์ นเครือข่ายเครอื่ งอน่ื ฮารด์ แวรส์ าหรบั เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าด้วยกันต้ังแต่สองเคร่ืองขึ้นไปเป็นเครือข่ายใดก็ ตามจาก 3 รปู แบบดงั กล่าว นอกจากจะต้องมีคอมพิวเตอรส์ ่วนบคุ คลแลว้ จาเปน็ จะต้องมอี ุปกรณ์หรือ ฮาร์ดแวร์สาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์อีกด้วย เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถสื่อสารและนาส่ง ข้อมูลผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์เคร่ืองอ่ืนได้หากไม่มีอุปกรณ์ใดมาทาหน้าที่ในการแปลง สัญญาณของคอมพิวเตอร์และนาส่งข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนเรามีจดหมายแต่ไม่มี

275 ไปรษณียแ์ ละบุรุษไปรษณียม์ าทาหนา้ ที่นาส่งจดหมายเราไปยังผ้รู ับปลายทางน่ันเอง ฮาร์ดแวรส์ าหรับ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ผู้สอนควรรู้จัก ทาความเข้าใจ และสามารถติดตั้งและใช้งานได้เบ้ืองต้น มีรายละเอยี ดดงั น้ี 1. คอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คลแบบตงั้ โตะ๊ แบบโนต้ บ๊กุ แบบแทบ็ เล็ต หรอื แบบสมาร์ตโฟน 2. การ์ดแลน (NIC : Network Interface Card) เป็นการ์ดสาหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับสายสัญญาณหรือสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) โดยปกติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ ๆ มักจะมกี าร์ดมาให้ทงั้ สองแบบคือการด์ สาหรบั เช่ือมต่อคอมพิวเตอร์เขา้ กับสายสัญญาณ (Wired) และ สัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) หรือไร้สาย (Wireless) แต่สาหรับแบบโน้ตบุ๊ก แบบแท็บเล็ต หรือแบบสมารต์ โฟนมักจะมีแต่การ์ดสาหรับเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสัญญาณไวไฟติดตั้งม าให้พร้อมอยู่แล้วใน ตัวเคร่ือง (Built in) การ์ดแลนจะมีขนาดและรูปร่างท่ีแตกต่างกันไปตามขนาดและรูปร่างของ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแต่ละแบบ ภาพท่ี 10.5 การ์ดแลนสาหรับเชื่อมตอ่ กับเครือข่ายแบบมีสายสัญญาณและแบบไรส้ ายสัญญาณ 3. อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณ เป็นอุปกรณ์สาหรับใช้ในการเชื่อมต่อ สื่อสาร และรับส่ง ข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตามบ้าน ตามสานักงานขนาดเลก็ หรือตาม ห้องเรียนมักจะใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณ ADLS Router นิยมเรียกกันว่าเราเตอร์ดังภาพที่ 10.6 (A) อุปกรณเ์ ครอื ข่ายประเภท ADLS Router โดยปกตผิ ้ใู หบ้ ริการสัญญาณอินเทอรเ์ นต็ จะเปน็ ผู้จัดหา มาให้พร้อมกับการเข้ามาติดตั้งและปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ผู้ใช้งานอยู่แล้ว แต่หากเป็น สานักงาน หน่วยงาน และสถานศึกษาที่มีขนาดใหญ่มักจะใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณประเภทฮับ (Hub) สวิตซ์ (Switch) และเราเตอร์ (Router) ร่วมด้วย ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนี้เป็นอุปกรณ์ท่ีมี ศักยภาพและประสิทธิภาพในการสือ่ สารข้อมูลและรองรับผู้ใช้งานได้จานวนมาก แต่จาเป็นต้องใช้ผทู้ ่ี มคี วามชานาญในการติดต้ัง ดูแล และบารุงรักษา จึงไม่ได้กล่าวไว้ในหนังสอื เล่มน้ี 4. สายสัญญาณแบบ UTP และหัวต่อ RJ45 มักเรียกกันว่าสายแลน (LAN) มีลักษณะ คล้ายสายโทรศัพท์เพียงแตม่ ีขนาดใหญ่กวา่ เนื่องจากมีสายสัญญาณย่อยข้างในอีก 8 เส้นท่ีบิดเกลยี ว รวมกันเป็นคู่ ๆ เพื่อช่วยลดสัญญาณรบกวนท่ีอาจจะมาจากภายนอก สายแลนจะทาหน้าที่เชื่อมต่อ และรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่เช่ือมต่อเข้ากับ

276 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสายแลนจะต้องใช้งานควบคู่กันกับหัวต่อ RJ45 เสมอดังภาพที่ 10.6 (B) สายแลนและหัวต่อ RJ45 มีขายตามร้านอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทั้งสายแลนท่ีประกอบหัวต่อ RJ45 มาแล้ว และสายแลนที่ยังไม่ได้ประกอบหัวต่อ RJ45 แต่ในปัจจุบันสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi) ครอบคลุมพ้ืนท่ีเกือบทั้งหมดท้ังท่ีสานักงานและท่ีบ้านจึงอาจทาให้ไม่ค่อยได้เห็นและได้ใช้สายแลน กันมากนกั (A) (B) ภาพท่ี 10.6 อุปกรณเ์ ครือขา่ ยประเภท ADLS Router สายสญั ญาณแบบ UTP และหวั ตอ่ RJ45 5. ผใู้ ห้บรกิ ารสัญญาณอินเทอรเ์ นต็ มกั เรยี กกันว่า ISP (Internet Service Provider) ISP ที่เป็นผู้ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตท่ีได้รับความนิยม อาทิ 3BB, AIS, True, Dtac และ TOT แม้ ISP อาจจะไม่ใช่อุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้องกับการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแต่เป็นผู้ให้บริการสัญญาณ อินเทอร์เน็ตตามสานักงาน สถานศึกษา และตามบ้านที่จาเป็นต้องมีไม่อย่างน้ันอุปกรณ์สาหรับ เครือข่ายท่ีจัดหาไว้ในหัวข้อด้านบนจะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตออกสู่โลกภายนอกได้ แม้ ISP จะไม่ใช่อุปกรณ์แต่เม่ือติดต่อไปเพื่อขอเช่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตทาง ISP จะนัดวันเวลาและมาพร้อม กับอุปกรณ์และเครื่องมือมากมาย เป็นอุปกรณ์ที่เก่ียวข้องกับการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น ADLS Router สายแลนพร้อมหัวต่อ RJ45 และเคร่ืองมือสาหรับติดต้ังอุปกรณ์ที่เก่ียวข้องกับการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น สาหรับสถานศึกษามี ISP ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตกับสถานศึกษาด้วยซ่ึงอาจ ไม่ต้องเสียคา่ ใช้จ่ายในการใชบ้ รกิ าร การเช่อื มตอ่ และการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ หลังจากจัดเตรียมอุปกรณ์หรือฮาร์ดแวร์สาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ครบแล้วก็ประสาน ไปทาง ISP เพื่อให้เข้ามาติดต้ังอุปกรณ์และปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต การติดต้ังและเชื่อมต่อ อุปกรณ์สาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ มีความซับซ้อนอยู่บ้าง ดังนั้นจึงควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของ ISP ได้ติดต้ังและเชื่อมต่ออุปกรณ์ แต่ในระหว่างการติดต้ังและเชื่อมต่อผู้สอนสามารถเข้ามา พูดคุยเพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้กับเจ้าหน้าท่ีจาก ISP ได้ และอย่าลืมประสานขอเบอร์โทรศัพท์หรือ ช่องทางติดต่อกลับกับ ISP เพ่ือไว้ใช้ในกรณีที่การเชื่อมต่อและการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีปัญหา ในอนาคต

277 สัญญาณอนิ เทอรเ์ น็ต User A สายแลนพรอ้ ม User B หวั ตอ่ RJ45 หรอื Wi-Fi ภาพท่ี 10.7 รปู แบบการติดต้ังและการเช่ือมต่ออุปกรณ์สาหรับเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ท่มี า: Pixabay (2021) ภาพท่ี 10.7 เป็นตัวอย่างรูปแบบการติดตั้งและการเช่ือมต่ออุปกรณ์สาหรับเครือข่าย คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ User A และ User B เร่ิมจาก ISP ได้เข้ามาติดตั้ง ADSL Router และ ปลอ่ ยสญั ญาณอินเทอร์เน็ตให้กับบ้านทัง้ สองหลังผ่านทาง ADSL Router สญั ญาณวงิ่ ออกจาก ADSL Router ผา่ นสายแลนทต่ี ดิ ตง้ั หวั ต่อ RJ45 แลว้ หรือผ่าน Wi-Fi ขึน้ อยู่กบั การเลือกใชง้ านของ User ท้ัง สอง สัญญาณอินเทอร์เน็ตจาก ADSL Router เข้าสู่ LAN Card ซ่ึงในความเป็นจริงแล้ว LAN Card ถูกติดตั้งอยู่ภายใต้ฝาครอบคอมพิวเตอร์ที่มักเรียกกันว่าตัวเคร่ือง หรือเคส (Case) แต่ผู้เขียนแยก ออกมาให้เห็นชัดเจนขึ้น และสัญญาณจาก LAN Card ผ่านเขาสู่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ แบบโน้ตบุ๊ก แบบแท็บเล็ต หรือแบบสมาร์ตโฟนของ User ในท่ีสุด ทาให้ User A และ User B ติดต่อสื่อสาร แลกเปล่ียนข้อมูล ใช้โซเชียลมีเดีย (Social Media) สามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตและ สืบค้นข้อมูลต่าง ๆ ได้ทั่วโลก หาก User ท้ังสองหรือสมาชิกภายในบ้านหรือภายในสานักงานของ User ทั้งสองมีคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เคร่ืองก็สามารถเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน ADSL Router ตวั เดียวกันนไ้ี ด้เช่นเดยี วกนั ข้อควรระวังคือด้วย ADSL Router ในปัจจุบันสามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ไปได้ไกล พอสมควร จึงอาจมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์คนอื่นเข้ามาเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงจาเป็นต้องกาหนดบัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่านให้รัดกุม เพ่ือป้องกันการเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว โดยปกติผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) จะกาหนดบัญชีผู้ใช้งานและ รหัสผ่านไว้ให้อยู่แล้วตอนมาติดต้ังและเช่ือมต่อ ADSL Router หรืออาจจะให้เจ้าของเป็นผู้กาหนด บัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่านด้วยตนเอง จึงจาเป็นที่ผู้ใช้งานหรือเจ้าของจะต้องจาบัญชีผู้ใช้งานและ

278 รหัสผ่านให้ได้ เพื่อใช้ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในครั้งต่อไป และควรเปลี่ยนรหัสผ่านอยู่เป็น ระยะ ๆ ตามความเหมาะสมเพือ่ ป้องกันผู้อน่ื จากการเข้าถงึ สัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รบั อนญุ าต การจัดการกับซอฟตแ์ วร์สาหรบั เครอื ข่าย เม่ืออุปกรณ์สาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ถูกติดตั้งและเช่ือมต่อเรียบร้อย ส่ิงท่ีผู้ใช้งาน คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะต้องรู้ เข้าใจ และใช้งานได้คือการทาให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าถึง เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เน่ืองจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นส่ิงสาคัญสาหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ใน ปัจจุบัน ในบทน้ีผู้เขียนเลือกนาเสนอการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi เนื่องจากสะดวกในการใช้ งาน เข้าถึงได้ง่าย รับและส่งข้อมูลได้มาก และทาการเชื่อมต่อได้ไม่ยาก จึงทาให้ Wi-Fi เป็นท่ีนิยมใช้ สาหรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยใช้ซอฟต์แวร์ระบบหรือระบบปฏิบัติการ Windows 10 ของ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลท่ีได้กล่าวถึงไปแล้วมาเป็นซอฟต์แวร์สาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi ดังน้ี คลิกท่ีปุ่ม Start ตามด้วย Setting > Network & Internet > Status เพ่ือดูสถานะการ เช่ือมต่อไปยังเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ดังภาพท่ี 10.8 ซึ่งพบว่าสถานะคือยังไม่ได้เช่ือมต่ออินเทอร์เน็ต (Not connected) สถานะการเชื่อมตอ่ Wi-Fi กลุ่มโปรแกรมเพือ่ ความบันเทิงใน Windows 10 ภาพท่ี 10.8 การตรวจสอบสถานะการเชอื่ มต่อของ Wi-Fi หลังจากน้ันไปยังเมนู Wi-Fi และคลิกเลือก Wi-Fi ให้มีสถานะเป็น On ดังภาพที่ 10.9 เพื่อสง่ั ให้ Wi-Fi ทางาน จะพบกับสัญลักษณ์การเช่ือมต่อด้วย Wi-Fi และคาวา่ Connected แสดงว่า Wi-Fi เชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้ใช้ลองลองเข้าเว็บไซต์ดูเพ่ือทดสอบว่าสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ เครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ ไดแ้ ลว้ จริง ๆ

279 คลกิ ให้มสี ถานะเปน็ On สัญลกั ษณก์ ารเช่อื มตอ่ Wi-Fi ภาพท่ี 10.9 สถานะการเชอื่ มตอ่ ของ Wi-Fi การเช่ือมต่อ Wi-Fi อีกทางหนึ่งคือคลิกท่ีปุ่ม “^” ท่ีวางอยู่ตรงตาแหน่งขวามือด้านล่าง ของจอภาพดังภาพที่ 10.10 คลิกสัญลักษณ์ Wi-Fi เลือกเครือข่ายที่ต้องการเช่ือมต่อและกดปุ่ม Connect เท่าน้ีก็สามารถเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้แล้ว หากต้องการตัดการเชื่อมต่อก็สามารถ ทาได้ดว้ ยการกดปุ่ม Disconnect ดงั ภาพที่ 9.11 คลิกสัญลักษณ์ Wi-Fi ทีน่ ่ี ภาพที่ 10.10 สญั ลักษณ์สาหรับเช่ือมตอ่ Wi-Fi จากหน้าจอคอมพิวเตอร์

280 ตดั การเชอื่ มตอ่ Wi-Fi เชื่อมตอ่ Wi-Fi แลว้ รายชอ่ื Wi-Fi เชอ่ื มต่อ Wi-Fi แลว้ ภาพที่ 10.11 การเช่ือมต่อ Wi-Fi จากหนา้ จอคอมพวิ เตอร์และรายชอื่ Wi-Fi อืน่ ๆ การจัดการเว็บเบราวเ์ ซอร์และการท่องอนิ เทอรเ์ น็ต หลงั จากเชื่อมต่ออินเทอรเ์ น็ตเรียบร้อยแลว้ ต่อไปจะเป็นการเตรยี มเคร่ืองมือสาหรบั เข้าถึง ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตกัน เคร่ืองมือสาหรับเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเรียกว่าเว็บเบราวเ์ ซอร์ (Web Browser) หากแปลตามตัวได้ว่าเคร่ืองมือท่ีช่วยในการค้นหาข้อมูลบนเว็บหรือบนอินเทอร์เน็ตนั่นเอง เว็บเบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือสาหรับผู้ใช้ คอมพิวเตอร์จากต้นทางในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลปลายทางที่มีอยู่อย่างมหาศาลบนอินเทอร์เน็ต โดย ปกติเมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบหรือระบบปฏิบัติการของ Windows 10 ก็จะได้รับการติดต้ังเว็บ เบราว์เซอร์หลกั อย่าง Microsoft Edge มาให้โดยอัตโนมัติด้วย นอกจากน้ียังมีเว็บเบราวเ์ ซอร์ท่ีได้รบั ความนิยมนามาใช้เป็นเคร่ืองมือสาหรับเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตอีกจานวนมาก อาทิ Firefox, Opera, Safari และ Google Chrome Microsoft Edge Firefox Opera Safari Google Chrome ภาพที่ 10.12 Web Browser ที่ไดร้ ับความนิยม

281 ในบรรดาเว็บเบราว์เซอร์ทงั้ หมด Google Chrome เป็นเวบ็ เบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยม อย่างมากมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 เน่ืองจากใช้งานง่าย ทางานรวดเร็ว มีลักษณะทางกายภาพ ท่ีดูปลอดโปร่งโล่งสบายตา มีการทางาน (Function) และโปรแกรมท่ีผกู ติดอยู่กับ Google Chrome ให้เลือกใช้มากมายโดยเฉพาะโปรแกรมเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน ดังน้ันเพ่ือให้ผู้สอนรู้ เข้าใจ และสามารถนาเว็บเบราว์เซอร์ของ Google Chrome ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ หัวข้อน้ีจึงได้นาเสนอการใช้งานและการจัดการเว็บเบราว์เซอร์ของ Google Chrome หรือ มักเรียกกันสน้ั ๆ ว่า Chrome เป็นหลัก โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี 1. การเปิดใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ผู้ใช้สามารถคลิกที่ปุ่ม Start ตามด้วย All apps > Google Chrome หรือคลิกที่ไอคอน (Icon) ของ Chrome ท่ีวางอยู่ท่ีหน้าหลักของ คอมพิวเตอร์ (Desktop) หรือคอมพิวเตอร์บางเคร่ืองไอคอนของ Chrome อาจถูกวางไว้ท่ี Taskbar ใกลๆ้ กบั ปุ่ม Start เพื่อใหส้ ามารถเรยี กใช้งานได้ง่ายยิง่ ขนึ้ ก็สามารถทาได้ดังภาพท่ี 10.13 ภาพท่ี 10.13 หนา้ แรกของ Web Browser ของ Chrome 2. เพ่ือให้ผู้ใช้งานได้ตระหนักถึงการรักษาความเป็นส่วนตัวหรืออีกนัยหน่ึงการเพิ่ม ความปลอดภัยในการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตผ่าน Chrome เน่ืองจากทุกคร้ังท่ีเข้าใช้อินเทอร์เน็ตหรือ พิมพ์ข้อความเพ่ือค้นหาส่ิงใด ๆ บนอินเทอร์เน็ต Chrome จะบันทึกร่องรอยการเข้าใช้งานเอาไว้ (History) และเก็บข้อมูลการเข้าเย่ียมชมโดยคุกก้ี (Cookies) ซึ่งเป็นไฟล์ขนาดเล็กทถี่ ูกดาวนโ์ หลดไป ยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพ่ือทาหน้าท่ีบันทึกสถานะการเข้าใช้งานเรียกว่าประวัติการใชง้ าน ไว้ในระบบของ Chrome หากมองในเชิงบวกการเก็บร่องรอยการเข้าใช้งานแบบนี้ของ Chrome นับเป็นส่ิงท่ีดีเนื่องจากจะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการค้นหาซ้าในอนาคตได้ต่อเนื่องและ รวดเรว็ มากขึ้น แตห่ ากมองในเชิงความเปน็ ส่วนตวั ก็จะร้สู ึกเหมือนกาลังถูกแอบส่องพฤติกรรมการทา กิจกรรมออนไลน์ หากไม่ต้องการให้มีการเก็บร่องรอยและประวัติการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตไว้ สามารถทาไดด้ ังน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook