Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64 สัดส่วนคณาจารย์

64 สัดส่วนคณาจารย์

Published by รัตนา อนันต์ชื่น, 2021-05-18 02:26:00

Description: 64 สัดส่วนคณาจารย์

Search

Read the Text Version

การดาํ เนนิ งานการรับรองปริญญา และประกาศนยี บัตรทางการศกึ ษาเพอื่ การประกอบวชิ าชีพ สํานกั งานเลขาธิการครุ สุ ภา Secretariat Office of the Teachers’ Council of Thailand ISBN : 978-616-7746-29-6

การดาํ เนินงานการรับรองปริญญา และประกาศนยี บตั รทางการศกึ ษาเพอื่ การประกอบวชิ าชพี พมิ พค์ รัง้ ที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๕๘ จาํ นวน ๑,๐๐๐ เลม่ ISBN 978-616-7746-29-6 ผู้จดั พิมพเ์ ผยแพร่ สํานักมาตรฐานวิชาชีพ สาํ นกั งานเลขาธิการคุรุสภา ๑๒๘/๑ ถนนนครราชสมี า แขวงดสุ ติ เขตดสุ ิต กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐ ผ้พู มิ พ์ โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว ๒๒๔๙ ถนนลาดพรา้ ว แขวงสะพานสอง เขตวงั ทองหลาง กรุงเทพฯ ๑๐๓๑๐

คํานํา คุรุสภา ดําเนินการตามอํานาจหน้าท่ีในการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรของสถาบันต่าง ๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามที่กําหนดในมาตรา ๙(๗) แหง่ พระราชบัญญัตสิ ภาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.๒๕๔๖ โดยออกประกาศคุรุสภา เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพ พ.ศ.๒๕๕๗ ซ่ึงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ แทนฉบับเดิม ซ่ึงออกต้ังแต่ พ.ศ.๒๕๔๙ โดยประกาศฉบับใหม่มีคุณวุฒิท่ีสามารถย่ืนขอรับรองเพิ่มเติม จากฉบับเดิม ครอบคลุมทั้งระดับปริญญาตรีถึงระดับปริญญาเอก นอกจากนี้คุรุสภา ยังได้ปรับเปลี่ยนมาตรฐานวิชาชีพ รวมทั้งสาระความรู้ และสมรรถนะ ทั้งทางวิชาชีพครู และวิชาชีพบริหารการศกึ ษา อีกด้วย ดังน้ัน สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา จึงจัดทําหนังสือการดําเนินงาน การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพ่ือการประกอบวิชาชีพ เพ่ือให้ ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งใช้เปน็ แนวทางในการดาํ เนนิ งานใหเ้ ปน็ ตามหลกั เกณฑท์ ี่คุรุสภากําหนด สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นแนวทาง ท่สี ามารถนําไปปฏบิ ตั ไิ ด้บรรลุวตั ถปุ ระสงค์อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ (นายกมล ศิรบิ รรณ) รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปฏิบตั หิ นา้ ท่ใี นตาํ แหนง่ เลขาธิการคุรุสภา

สารบญั หนา้ y ข้อบงั คับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวชิ าชีพ พ.ศ.๒๕๕๖ ๑ y ขอ้ บังคบั ครุ ุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวชิ าชพี พ.ศ.๒๕๕๖ ๘ y ประกาศคุรสุ ภา เรอื่ ง การรบั รองปริญญาและประกาศนียบตั รทางการศึกษา ๑๑ เพื่อการประกอบวิชาชพี พ.ศ.๒๕๕๗ y ประกาศคณะกรรมการครุ ุสภา เรื่อง สาระความรู้ สมรรถนะ ๒๘ และประสบการณ์วิชาชพี ของผูป้ ระกอบวิชาชพี ครู ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ผบู้ รหิ ารการศกึ ษา และศึกษานิเทศก์ ตามข้อบงั คบั ครุ ุสภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.๒๕๕๖ y ประกาศคณะกรรมการครุ สุ ภา เรื่อง หลักเกณฑค์ ุณสมบตั ิ ๔๐ ของสถานศึกษาสําหรับปฏิบตั ิการสอน y แบบคําขอรบั รองปรญิ ญาและประกาศนยี บัตรทางการศกึ ษา ๔๗ y ตารางวเิ คราะห์เน้ือหาความรู้ตามรายวชิ าท่เี ปิดสอน - วิชาชีพครู ๔๘ - วชิ าชพี บรหิ ารการศึกษา ๕๒ y แบบประเมนิ มาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการผลิต และมาตรฐานบัณฑติ - ปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสตู ร ๕ ป)ี ๕๘ - ประกาศนียบตั รบณั ฑิตทางการศกึ ษา ๗๒ - ปรญิ ญาโททางการศึกษา (วิชาชีพคร)ู ๙๑ - ปริญญาโท / ปริญญาเอก (วิชาชีพบรหิ ารการศึกษา) ๑๑๐

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๓๐ ง หนา้ ๖๕ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา ข้อบงั คบั ครุ สุ ภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยท่ีเป็นการสมควรยกเลิกข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณ ของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ (๑) (๑๑) (ฉ) และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมติคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุม คร้งั ท่ี ๕/๒๕๕๖ วนั ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และคร้งั ที่ ๑๑/๒๕๕๖ วันท่ี ๒ กันยายน ๒๕๕๖ โดยความเหน็ ชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการคุรุสภาจึงออกข้อบังคับคุรุสภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี ไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ขอ้ บงั คบั น้ีเรียกว่า “ข้อบังคบั คุรุสภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี พ.ศ. ๒๕๕๖” ข้อ ๒ ขอ้ บงั คบั นี้ใหใ้ ชบ้ งั คับต้งั แต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป ขอ้ ๓ ใหย้ กเลกิ (๑) ข้อบงั คบั คุรุสภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวชิ าชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๒) ข้อบังคับคุรุสภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณของวชิ าชพี (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ (๓) ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เร่ือง มาตรฐานความรู้ มาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ สาระความรู้ สมรรถนะ และมาตรฐานการปฏิบตั ิงานของผูป้ ระกอบวชิ าชพี ศกึ ษานิเทศก์ (๔) ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง มาตรฐานความรู้ มาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ สาระความรู้ สมรรถนะ และมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านของผูป้ ระกอบวิชาชีพศึกษานิเทศก์ (ฉบบั ท่ี ๒) ขอ้ บงั คับคุรุสภาฉบับใดอ้างองิ ข้อบงั คับครุ สุ ภาฉบับท่ียกเลิกแล้วตามวรรคหน่ึง รวมทั้งระเบียบ หรือประกาศใดทอ่ี อกภายใตข้ ้อบังคบั ดังกล่าว ให้ถือว่าอ้างอิงข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖ หรือข้อบังคบั คุรุสภา วา่ ด้วยจรรยาบรรณของวชิ าชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖ แลว้ แตก่ รณี ข้อ ๔ ในข้อบงั คับนี้ “วิชาชีพ” หมายความว่า วชิ าชพี ทางการศกึ ษาที่ทําหน้าท่ีหลักทางด้านการเรียนการสอนและ การส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษา ในสถานศึกษาปฐมวัย ขน้ั พ้นื ฐาน และอุดมศกึ ษาท่ีตํ่ากว่าปรญิ ญาทง้ั ของรัฐและเอกชน และการบริหาร การศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือ ปฏิบัติงานเก่ียวเน่ืองกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษา ในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ “สถาบัน” หมายความว่า มหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบัน บัณฑิตวิทยาลัย คณะ หรือ หนว่ ยงานที่เรยี กชื่ออยา่ งอ่นื ท่ีมฐี านะเทยี บเทา่ ซง่ึ จัดการศึกษาตามหลักสูตรปรญิ ญา หรือประกาศนยี บัตร

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง หนา้ ๖๖ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา “ผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา” หมายความวา่ ครู ผบู้ ริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบคุ ลากรทางการศึกษาอนื่ ซ่ึงได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครูและ บุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๖ “คร”ู หมายความวา่ บุคคลซง่ึ ประกอบวิชาชีพหลกั ทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริม การเรยี นรขู้ องผเู้ รียนดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ในสถานศกึ ษาปฐมวัย ขั้นพ้ืนฐาน และอุดมศึกษาท่ีต่ํากว่าปริญญา ท้ังของรัฐและเอกชน “ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา” หมายความว่า บุคคลซง่ึ ปฏิบัตงิ านในตําแหนง่ ผู้บริหารสถานศึกษาภายใน เขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา และสถานศกึ ษาอ่นื ที่จดั การศึกษาปฐมวัย ขั้นพ้ืนฐาน และอุดมศึกษาท่ีต่ํากว่าปริญญา ทงั้ ของรฐั และเอกชน “ผบู้ ริหารการศกึ ษา” หมายความว่า บุคคลซ่ึงปฏิบัติงานในตําแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษา ในระดบั เขตพ้ืนที่การศกึ ษา “บุคลากรทางการศึกษาอ่ืน” หมายความวา่ บุคคลซึ่งทําหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเน่ืองกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษา ในหน่วยงานการศกึ ษาต่าง ๆ ซ่ึงหน่วยงานการศึกษากําหนดตําแหนง่ ใหต้ ้องมคี ณุ วุฒิทางการศึกษา “มาตรฐานวิชาชพี ทางการศึกษา” หมายความวา่ ขอ้ กาํ หนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ และคุณภาพ ท่ีพงึ ประสงคใ์ นการประกอบวชิ าชีพทางการศึกษา ซง่ึ ผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการศึกษาตอ้ งประพฤติปฏิบตั ติ าม ประกอบดว้ ย มาตรฐานความรูแ้ ละประสบการณว์ ิชาชีพ มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านและมาตรฐานการปฏิบตั ติ น “มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ” หมายความว่า ข้อกําหนดเกี่ยวกับความรู้และ ประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ หรือการจัดการศึกษา ซึ่งผู้ต้องการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีเพยี งพอทสี่ ามารถนาํ ไปใชใ้ นการประกอบวิชาชพี ได้ “มาตรฐานการปฏบิ ัติงาน” หมายความวา่ ข้อกาํ หนดเกีย่ วกบั คณุ ลกั ษณะหรือการแสดงพฤติกรรม การปฏิบัติงานและการพัฒนางาน ซ่ึงผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดผล ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายการเรียนรู้ หรือการจัดการศึกษา รวมท้ังต้องฝึกฝนให้มีทักษะหรือ ความชาํ นาญสงู ขึ้นอยา่ งต่อเน่ือง “มาตรฐานการปฏบิ ตั ติ น” หมายความว่า จรรยาบรรณของวิชาชีพที่กําหนดข้ึนเป็นแบบแผน ในการประพฤติตน ซ่งึ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียง และฐานะของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ผู้รับบริการและสังคม อนั จะนํามาซึง่ เกยี รติและศกั ดิศ์ รีแหง่ วิชาชพี ขอ้ ๕ ให้ประธานกรรมการคุรุสภารักษาการตามข้อบังคับนี้ และให้มีอํานาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคําส่ังเพ่ือปฏิบัติตามข้อบังคับน้ี รวมทั้งให้มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเก่ียวกับ การปฏิบตั ิตามที่กําหนดไว้ในขอ้ บงั คับ

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง หนา้ ๖๗ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๑ มาตรฐานความรูแ้ ละประสบการณ์วชิ าชีพ ขอ้ ๖ ผปู้ ระกอบวชิ าชีพครู ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรอื มีคุณวฒุ อิ ืน่ ที่ครุ ุสภารบั รอง โดยมีมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดงั ต่อไปน้ี (ก) มาตรฐานความรู้ ประกอบด้วยความรู้ ดังตอ่ ไปน้ี ๑) ความเป็นครู ๒) ปรชั ญาการศึกษา ๓) ภาษาและวฒั นธรรม ๔) จิตวทิ ยาสําหรบั ครู ๕) หลักสูตร ๖) การจดั การเรยี นรู้และการจดั การช้นั เรยี น ๗) การวจิ ัยเพอ่ื พัฒนาการเรียนรู้ ๘) นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ๙) การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ ๑๐) การประกนั คณุ ภาพการศึกษา ๑๑) คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ (ข) มาตรฐานประสบการณว์ ชิ าชพี ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตร ปรญิ ญาทางการศึกษา เปน็ เวลาไม่น้อยกว่าหนง่ึ ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอื่ นไขที่คณะกรรมการคุรสุ ภากําหนด ดังตอ่ ไปน้ี ๑) การฝึกปฏบิ ัตวิ ิชาชีพระหว่างเรยี น ๒) การปฏิบตั ิการสอนในสถานศกึ ษาในสาขาวชิ าเฉพาะ ข้อ ๗ ผูป้ ระกอบวชิ าชพี ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีทางการบริหาร การศึกษา หรอื เทยี บเทา่ หรอื มคี ณุ วฒุ อิ ่ืนท่ีคุรุสภารับรอง โดยมีมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดงั ต่อไปนี้ (ก) มาตรฐานความรู้ ประกอบดว้ ยความรู้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การพัฒนาวิชาชพี ๒) ความเปน็ ผู้นําทางวิชาการ ๓) การบรหิ ารสถานศกึ ษา ๔) หลกั สูตร การสอน การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๕) กจิ การและกิจกรรมนักเรยี น ๖) การประกันคณุ ภาพการศึกษา ๗) คณุ ธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๓๐ ง หน้า ๖๘ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (ข) มาตรฐานประสบการณว์ ิชาชพี ดงั ต่อไปน้ี ๑) มีประสบการณด์ ้านปฏบิ ตั ิการสอนมาแล้วไมน่ อ้ ยกว่าหา้ ปี หรือ ๒) มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนและต้องมีประสบการณ์ในตําแหน่ง หัวหน้าหมวด หรือหัวหน้าสาย หรือหัวหน้างาน หรือตําแหน่งบริหารอ่ืน ๆ ในสถานศึกษามาแล้ว ไมน่ ้อยกว่าสองปี ข้อ ๘ ผูป้ ระกอบวิชาชพี ผู้บริหารการศึกษา ต้องมีคุณวฒุ ิไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีทางการบริหาร การศึกษา หรือเทยี บเทา่ หรอื มคี ณุ วุฒิอ่นื ท่ีคุรสุ ภารับรอง โดยมมี าตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดงั ต่อไปนี้ (ก) มาตรฐานความรู้ ประกอบด้วยความรู้ ดังต่อไปน้ี ๑) การพฒั นาวชิ าชีพ ๒) ความเปน็ ผ้นู ําทางวิชาการ ๓) การบรหิ ารการศกึ ษา ๔) การส่งเสรมิ คุณภาพการศึกษา ๕) การประกันคุณภาพการศกึ ษา ๖) คุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ (ข) มาตรฐานประสบการณว์ ิชาชีพ ดงั ต่อไปน้ี ๑) มีประสบการณ์ด้านปฏิบตั ิการสอนมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าแปดปี หรือ ๒) มีประสบการณใ์ นตําแหน่งผบู้ รหิ ารสถานศึกษามาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ สามปี หรือ ๓) มปี ระสบการณ์ในตําแหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอืน่ ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง มาแลว้ ไมน่ ้อยกว่าสามปี หรอื ๔) มีประสบการณใ์ นตําแหนง่ บุคลากรทางการศึกษาอื่นที่มีประสบการณ์การบริหาร ไมต่ ่าํ กว่าหวั หนา้ กลมุ่ หรือผอู้ ํานวยการกลมุ่ หรือเทียบเท่ามาแล้วไมน่ ้อยกวา่ หา้ ปี หรอื ๕) มีประสบการณ์ด้านปฏบิ ตั กิ ารสอน และมีประสบการณ์ในตําแหน่งผู้บริหาร สถานศึกษา หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง หรือบุคลากรทางการศึกษาอ่ืน ทมี่ ปี ระสบการณ์การบรหิ ารไม่ตาํ่ กว่าหัวหน้ากลุ่ม หรือผู้อํานวยการกลุ่ม หรือเทียบเท่า รวมกันมาแล้ว ไมน่ ้อยกว่าแปดปี ขอ้ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพศึกษานิเทศก์ ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ํากว่าปริญญาโททางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง โดยมีมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดังต่อไปนี้ (ก) มาตรฐานความรู้ ประกอบด้วยความรู้ ดังตอ่ ไปน้ี ๑) การพฒั นาวชิ าชพี ๒) การนเิ ทศการศึกษา ๓) แผนและกจิ กรรมการนเิ ทศ

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๓๐ ง หน้า ๖๙ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ๔) การพฒั นาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ ๕) การวิจัยทางการศึกษา ๖) นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา ๗) การประกนั คุณภาพการศึกษา ๘) คุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ (ข) มาตรฐานประสบการณว์ ชิ าชีพ ดังตอ่ ไปนี้ ๑) มีประสบการณด์ ้านปฏบิ ัตกิ ารสอนมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ห้าปี หรือมีประสบการณ์ ดา้ นปฏิบตั ิการสอนและมปี ระสบการณ์ในตําแหน่งผบู้ รหิ ารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา รวมกันมาแล้ว ไมน่ อ้ ยกว่าหา้ ปี ๒) มีผลงานทางวชิ าการทม่ี คี ุณภาพและมีการเผยแพร่ ข้อ ๑๐ สาระความร้แู ละสมรรถนะของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตามมาตรฐานความรู้ และประสบการณ์วชิ าชีพให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการครุ สุ ภากาํ หนด หมวด ๒ มาตรฐานการปฏิบัติงาน ขอ้ ๑๑ ผู้ประกอบวชิ าชีพครู ต้องมีมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมทางวชิ าการเพ่อื พฒั นาวชิ าชพี ครใู หก้ า้ วหนา้ อยู่เสมอ ๒) ตัดสนิ ใจปฏิบตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ โดยคํานึงถึงผลท่จี ะเกิดแก่ผเู้ รียน ๓) มงุ่ มั่นพฒั นาผูเ้ รียนใหเ้ ติบโตเต็มตามศักยภาพ ๔) พฒั นาแผนการสอนให้สามารถปฏบิ ัติได้จริงในช้ันเรยี น ๕) พัฒนาสื่อการเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพอยู่เสมอ ๖) จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์โดยเน้น ผลถาวรท่เี กดิ แก่ผู้เรยี น ๗) รายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพของผเู้ รยี นไดอ้ ย่างมรี ะบบ ๘) ปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีแกผ่ ูเ้ รียน ๙) รว่ มมอื กบั ผู้อ่ืนในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์ ๑๐) ร่วมมอื กับผูอ้ ืน่ ในชุมชนอย่างสร้างสรรค์ ๑๑) แสวงหาและใชข้ อ้ มูลขา่ วสารในการพฒั นา ๑๒) สร้างโอกาสให้ผูเ้ รียนไดเ้ รียนรใู้ นทุกสถานการณ์ ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษา ต้องมีมาตรฐาน การปฏบิ ตั ิงาน ดังตอ่ ไปนี้ ๑) ปฏิบัตกิ จิ กรรมทางวิชาการเพื่อพัฒนาวชิ าชพี การบริหารการศึกษาให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง หนา้ ๗๐ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ๒) ตดั สนิ ใจปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ โดยคํานงึ ถงึ ผลทจี่ ะเกิดข้ึนกับการพัฒนาของผู้เรียน บคุ ลากร และชมุ ชน ๓) มงุ่ ม่ันพฒั นาผู้รว่ มงานใหส้ ามารถปฏิบตั งิ านได้เต็มศักยภาพ ๔) พฒั นาแผนงานขององค์การใหม้ คี ณุ ภาพสูง สามารถปฏิบตั ใิ ห้เกิดผลไดจ้ ริง ๕) พฒั นาและใช้นวตั กรรมการบรหิ ารจนเกดิ ผลงานท่มี ีคณุ ภาพสูงขน้ึ เป็นลําดับ ๖) ปฏบิ ัติงานขององคก์ ารโดยเน้นผลถาวร ๗) ดําเนินการและรายงานผลการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาได้อยา่ งเป็นระบบ ๘) ปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอย่างทีด่ ี ๙) ร่วมมอื กับชมุ ชนและหน่วยงานอน่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์ ๑๐) แสวงหาและใชข้ ้อมลู ข่าวสารในการพัฒนา ๑๑) เป็นผู้นาํ และสรา้ งผนู้ าํ ทางวิชาการในหนว่ ยงานของตนได้ ๑๒) สร้างโอกาสในการพัฒนาได้ทกุ สถานการณ์ ขอ้ ๑๓ ผปู้ ระกอบวิชาชพี ศกึ ษานิเทศก์ ต้องมมี าตรฐานการปฏิบัตงิ าน ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) ปฏิบัติกจิ กรรมทางวิชาการเพื่อพัฒนาการนิเทศการศึกษา เพื่อให้เกิดการพัฒนา วชิ าชีพทางการศึกษาอย่างสมาํ่ เสมอ ๒) ตดั สนิ ใจปฏิบัติกจิ กรรมการนิเทศการศกึ ษา โดยคาํ นึงถงึ ผลที่จะเกดิ แกผ่ ูร้ ับการนิเทศ ๓) มุ่งม่ันพัฒนาผู้รับการนิเทศให้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจนเกิดผลต่อการพัฒนา อย่างมีคณุ ภาพ เต็มศกั ยภาพ ๔) พฒั นาแผนการนเิ ทศใหม้ ีคณุ ภาพสงู สามารถปฏบิ ตั ิใหเ้ กดิ ผลได้จริง ๕) พัฒนาและใชน้ วตั กรรมการนเิ ทศการศกึ ษาจนเกิดผลงานที่มีคุณภาพสงู ขนึ้ เป็นลาํ ดบั ๖) จดั กิจกรรมการนิเทศการศึกษาโดยเน้นผลถาวรท่เี กิดแกผ่ รู้ ับการนเิ ทศ ๗) ดําเนินการและรายงานผลการนิเทศการศกึ ษาใหม้ ีคุณภาพสงู ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ๘) ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างทด่ี ี ๙) รว่ มพัฒนางานกบั ผู้อื่นอย่างสรา้ งสรรค์ ๑๐) แสวงหาและใชข้ อ้ มลู ข่าวสารในการพฒั นา ๑๑) เปน็ ผ้นู ําและสร้างผูน้ ําทางวิชาการ ๑๒) สรา้ งโอกาสในการพฒั นางานไดท้ กุ สถานการณ์ หมวด ๓ มาตรฐานการปฏิบตั ติ น ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชพี ทางการศึกษา ต้องมีมาตรฐานการปฏิบัติตนตามข้อบังคับคุรุสภา วา่ ดว้ ยจรรยาบรรณของวชิ าชพี

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง หน้า ๗๑ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๔ บทเฉพาะกาล ข้อ ๑๕ ข้อบังคับน้ีไม่กระทบสิทธิและหน้าท่ีของบรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษา ทใี่ ชม้ าตรฐานวิชาชีพตามขอ้ บงั คับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๑๖ ให้สถาบันที่ยังปรับปรุงหลักสูตรไม่แล้วเสร็จตามข้อบังคับนี้ ยังคงใช้หลักสูตร ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ไปพลางก่อน ท้งั น้ี ตอ้ งไมเ่ กินสามปีหลังจากวันที่ข้อบงั คับนีใ้ ชบ้ ังคับ ข้อ ๑๗ ผู้ทส่ี ําเรจ็ การศึกษาตามหลักสูตรที่ใช้มาตรฐานวิชาชีพตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ต้องการข้ึนทะเบียนขอรับใบอนุญาต ให้มาขอข้นึ ทะเบียนใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายในห้าปีนบั ตง้ั แต่วนั ทีส่ ําเรจ็ การศกึ ษา ผมู้ ีคุณวฒุ ิไม่ตาํ่ กว่าปรญิ ญาตรีทางการศึกษา หรือเทยี บเท่า หรือคุณวุฒิอ่ืนที่คุรุสภาให้การรับรอง ตามขอ้ บงั คับคุรสุ ภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณของวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๔๘ สามารถใช้เป็น คุณวุฒิในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไดภ้ ายในห้าปนี ับแต่วันทีข่ ้อบงั คบั นี้ใช้บังคับ ผู้มคี ณุ วฒุ ิไม่ตํา่ กว่าปรญิ ญาตรีทางการบริหารการศกึ ษา หรอื เทยี บเทา่ หรือคณุ วุฒิอื่นที่คุรุสภา ใหก้ ารรบั รองตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ สามารถใช้เป็นคณุ วุฒใิ นการขอรบั ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บรหิ ารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาได้ ภายในหา้ ปีนับแตว่ ันที่ขอ้ บงั คบั นใ้ี ช้บงั คบั ผู้มคี ุณวุฒิไมต่ ํ่ากวา่ ปริญญาโททางการศกึ ษา หรอื เทียบเท่า หรือคุณวุฒิอ่ืนท่ีคุรุสภาให้การรับรอง ตามขอ้ บงั คับครุ สุ ภา ว่าด้วยมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณของวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๔๘ สามารถใช้เป็น คณุ วุฒใิ นการขอรบั ใบอนุญาตประกอบวิชาชพี ศึกษานเิ ทศก์ไดภ้ ายในหา้ ปนี ับแตว่ ันที่ขอ้ บงั คับนใี้ ชบ้ ังคบั ประกาศ ณ วันท่ี ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ศาสตราจารยไ์ พฑรู ย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการครุ ุสภา

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๓๐ ง หน้า ๗๒ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ บงั คบั คุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวชิ าชพี พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยท่ีเป็นการสมควรยกเลิกข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณ ของวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๔๘ อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๙ วรรคหนงึ่ (๑) (๑๑) (จ) และมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติ สภาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมติคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุม คร้งั ที่ ๕/๒๕๕๖ วันท่ี ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการคุรสุ ภาจึงออกข้อบงั คบั ครุ ุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ขอ้ บงั คบั นี้เรยี กวา่ “ขอ้ บังคับครุ ุสภา วา่ ดว้ ยจรรยาบรรณของวชิ าชพี พ.ศ. ๒๕๕๖” ขอ้ ๒ ข้อบงั คบั นี้ให้ใชบ้ งั คบั ตั้งแตว่ ันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับคุรุสภา วา่ ด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อบงั คบั ครุ ุสภาฉบับใดอา้ งองิ ข้อบงั คบั คุรุสภาฉบับที่ยกเลิกแล้วตามวรรคหน่ึง รวมท้ังระเบียบ หรอื ประกาศใดทีอ่ อกภายใต้ข้อบงั คับดังกล่าว ให้ถือว่าอ้างอิงข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖ หรอื ขอ้ บังคับครุ สุ ภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๕๖ แล้วแต่กรณี ข้อ ๔ ในข้อบังคับนี้ “วิชาชีพ” หมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่ทาํ หน้าท่ีหลักทางด้านการเรียนการสอน และการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษา ในสถานศกึ ษาปฐมวยั ขัน้ พืน้ ฐาน และอุดมศึกษาท่ีตํ่ากวา่ ปรญิ ญาท้งั ของรฐั และเอกชน และการบริหาร การศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนการศึกษาให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเน่ืองกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษา ในหน่วยงานการศกึ ษาตา่ ง ๆ “ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา” หมายความวา่ ครู ผู้บรหิ ารสถานศึกษา ผบู้ รหิ ารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอ่ืน ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ “ครู” หมายความว่า บคุ คลซึง่ ประกอบวชิ าชพี หลกั ทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริม การเรียนรูข้ องผู้เรียนดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ในสถานศกึ ษาปฐมวัย ข้ันพ้ืนฐาน และอุดมศึกษาท่ีตํ่ากว่าปริญญา ทัง้ ของรฐั และเอกชน

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๓๐ ง หนา้ ๗๓ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา “ผู้บริหารสถานศึกษา” หมายความว่า บุคคลซ่ึงปฏิบัติงานในตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ภายในเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา และสถานศกึ ษาอ่นื ทจ่ี ดั การศึกษาปฐมวัย ข้ันพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ํากว่าปริญญา ทง้ั ของรัฐและเอกชน “ผูบ้ ริหารการศกึ ษา” หมายความวา่ บุคคลซ่ึงปฏิบัติงานในตําแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษา ในระดับเขตพืน้ ท่กี ารศึกษา “บุคลากรทางการศึกษาอ่นื ” หมายความว่า บุคคลซึ่งทําหน้าท่ีสนับสนุนการศึกษา ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเน่ืองกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษา ในหน่วยงานการศกึ ษาต่าง ๆ ซึง่ หน่วยงานการศกึ ษากาํ หนดตาํ แหนง่ ใหต้ อ้ งมีคณุ วุฒทิ างการศึกษา “จรรยาบรรณของวิชาชีพ” หมายความว่า มาตรฐานการปฏิบัติตนที่กําหนดขึ้นเป็นแบบแผน ในการประพฤตติ น ซ่ึงผู้ประกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษาตอ้ งปฏบิ ัติตาม เพ่ือรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณช่ือเสียง และฐานะของผ้ปู ระกอบวิชาชีพทางการศกึ ษาใหเ้ ป็นทเ่ี ชอื่ ถือศรัทธาแกผ่ ู้รบั บริการและสังคม อันจะนํามา ซึง่ เกยี รตแิ ละศักด์ศิ รีแห่งวิชาชพี ข้อ ๕ ให้ประธานกรรมการคุรุสภารักษาการตามข้อบังคับนี้ และให้มีอํานาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งเพ่ือปฏิบัติตามข้อบังคับน้ี รวมท้ังให้มีอํานาจตีความและวินิจฉัยช้ีขาดปัญหา เกี่ยวกับการปฏบิ ัติตามทีก่ ําหนดไว้ในขอ้ บังคบั ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ และแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวชิ าชีพ หมวด ๑ จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลกิ ภาพ และวิสยั ทัศน์ ใหท้ นั ต่อการพฒั นาทางวิทยาการ เศรษฐกจิ สงั คม และการเมอื งอยเู่ สมอ หมวด ๒ จรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ ข้อ ๘ ผู้ประกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา ตอ้ งรกั ศรัทธา ซือ่ สัตยส์ จุ รติ รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเปน็ สมาชิกทด่ี ีขององคก์ รวชิ าชีพ หมวด ๓ จรรยาบรรณตอ่ ผู้รบั บริการ ขอ้ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ใหก้ าํ ลงั ใจแก่ศษิ ย์ และผ้รู ับบริการ ตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหนา้

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๓๐ ง หนา้ ๗๔ ๔ ตลุ าคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัย ท่ีถูกต้องดงี ามแก่ศิษย์ และผูร้ ับบรกิ าร ตามบทบาทหน้าที่อยา่ งเตม็ ความสามารถ ดว้ ยความบริสุทธิ์ใจ ข้อ ๑๑ ผูป้ ระกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา ต้องประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ีดี ทั้งทางกาย วาจา และจติ ใจ ข้อ ๑๒ ผ้ปู ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทําตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปญั ญา จติ ใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รบั บรกิ าร ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตอ้ งให้บรกิ ารด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไมเ่ รียกรับ หรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตําแหน่งหน้าท่โี ดยมิชอบ หมวด ๔ จรรยาบรรณต่อผ้รู ว่ มประกอบวชิ าชพี ขอ้ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซ่ึงกันและกันอย่างสร้างสรรค์ โดยยดึ มน่ั ในระบบคุณธรรม สรา้ งความสามคั คใี นหม่คู ณะ หมวด ๕ จรรยาบรรณต่อสงั คม ข้อ ๑๕ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นําในการอนุรักษ์ และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ ของสว่ นรวม และยดึ มนั่ ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ศาสตราจารย์ไพฑรู ย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา

เล่ม ๑๓๑ ตอนพเิ ศษ ๔๖ ง หนา้ ๑๖ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคุรุสภา เร่ือง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศกึ ษาเพ่ือการประกอบวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๗ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ (๗) และมาตรา ๒๐ (๑) แห่งพระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ประกอบกับมติคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุม คร้ังที่ ๑๖/๒๕๕๖ วันท่ี ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ คุรุสภาจึงกําหนดเกณฑ์การรับรองปริญญา และประกาศนียบตั รทางการศึกษาเพ่ือการประกอบวิชาชพี ไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ใหย้ กเลิก (๑) ประกาศคุรุสภา เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อ การประกอบวชิ าชพี (๒) ประกาศคุรุสภา เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพ่ือ การประกอบวิชาชีพ (ฉบบั ท่ี ๒) (๓) ประกาศคุรุสภา เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อ การประกอบวชิ าชีพ (ฉบบั ท่ี ๓) ข้อ ๒ นอกจากจะกําหนดไวเ้ ปน็ อย่างอนื่ ในประกาศน้ี “เกณฑ์การรับรอง” หมายความว่า เกณฑ์การรับรองปริญญาตรี โท และเอกทางการศึกษา ประกาศนยี บตั ร “ปริญญา” หมายความว่า ปริญญาตรี โท และเอกทางการศึกษา หรือที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซ่งึ กําหนดให้มีการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีในสาขาวิชาชีพครู และมกี ารปฏบิ ัตกิ ารวิชาชพี ในสาขาบริหารการศกึ ษา “ประกาศนยี บตั ร” หมายความว่า ประกาศนยี บัตรบัณฑติ วชิ าชีพครู หรือทีเ่ รยี กชอื่ อย่างอนื่ “หลักสูตร” หมายความว่า หลักสูตรปริญญาตรี โท และเอกทางการศึกษา ประกาศนียบัตร บณั ฑติ วชิ าชีพครู “สถาบัน” หมายความว่า มหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบัน บัณฑิตวิทยาลัย คณะ หรือหน่วยงาน ที่เรยี กช่ืออยา่ งอ่นื ท่มี ฐี านะเทียบเท่า ซ่ึงจดั การศึกษาตามหลกั สตู รปรญิ ญา หรือประกาศนียบัตร

เลม่ ๑๓๑ ตอนพเิ ศษ ๔๖ ง หน้า ๑๗ ๑๔ มนี าคม ๒๕๕๗ ราชกจิ จานุเบกษา “การปฏิบัติการสอน” หมายความว่า การสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะหรือวิชาเอก ตามหลักสูตรปริญญาหรือประกาศนียบัตร เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีการศึกษาในสถานศึกษาท่ีมี คณุ สมบตั ิตามที่คณะกรรมการกาํ หนด “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการคุรสุ ภา “คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ ประเมินเพ่ือการรับรองปริญญา หรือประกาศนียบัตรบัณฑิตทางการศึกษา รวมทั้งพิจารณาเปรียบเทียบ มาตรฐาน องค์ประกอบและรายละเอียดอื่น ๆ ในกรณีท่ีสถาบันจัดการศึกษาที่ต่างไปจากมาตรฐาน ที่กาํ หนด “เลขาธิการ” หมายความวา่ เลขาธกิ ารคุรสุ ภา ขอ้ ๓ การรับรองปรญิ ญาหรอื ประกาศนยี บัตร พิจารณาจากมาตรฐาน ๓ ด้าน ดังนี้ (๑) มาตรฐานหลกั สูตร (๒) มาตรฐานการผลิต (๓) มาตรฐานบัณฑติ องค์ประกอบของมาตรฐานและเกณฑ์การรับรองตามวรรคหนึ่ง การขอรับการรับรอง และ การตดิ ตามผลการรบั รองใหเ้ ปน็ ไปตามรายละเอยี ดแนบท้ายประกาศน้ี ขอ้ ๔ หลักสูตรปริญญา หรือประกาศนียบัตรที่จะเสนอให้คุรุสภารับรอง ต้องเป็นหลักสูตร ทไ่ี ดร้ ับความเห็นชอบหรือได้รบั อนมุ ตั ิจากสภาสถาบัน ขอ้ ๕ สถานทเี่ ปดิ สอนหลกั สูตรปรญิ ญาหรือประกาศนียบตั รทางการศึกษาตอ้ งได้รับความเห็นชอบ หรอื ได้รบั อนุมัติจากสภาสถาบนั ขอ้ ๖ ผู้สําเร็จการศึกษาท่ีได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรที่คุรุสภาให้การรับรอง ซึ่งเป็นไป ตามเกณฑ์การรับรองในขอ้ ๓ ต้องผ่านการทดสอบ เพือ่ ขอรับใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี ตามทคี่ รุ สุ ภากําหนด ขอ้ ๗ สถาบันท่ีประสงค์จะขอรับการประเมินเพ่ือรับรองปริญญาหรือประกาศนียบัตร ให้ย่ืนคําขอเป็นหนังสือ พร้อมท้ังจัดส่งเอกสารตามแบบท่ีคุรุสภากําหนดต่อเลขาธิการก่อนเปิดสอน ไมน่ อ้ ยกว่า ๖๐ วัน ข้อ ๘ ให้คณะกรรมการแต่งต้ังคณะอนุกรรมการเพ่ือทําหน้าท่ีประเมินเพื่อรับรอง ประกอบด้วย

เล่ม ๑๓๑ ตอนพเิ ศษ ๔๖ ง หนา้ ๑๘ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ ราชกิจจานุเบกษา (๑) ประธานอนุกรรมการซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ด้านบริหารจัดการการศึกษาและ มาตรฐานวิชาชีพ โดยมีตําแหน่งทางวิชาการไม่ต่ํากว่ารองศาสตราจารย์ หรือดํารงตําแหน่ง หรือ เคยดํารงตําแหนง่ ทางการบริหารในระดบั อุดมศึกษาไมต่ ่าํ กว่าคณบดีหรือเทยี บเท่า (๒) อนุกรรมการ จํานวนไม่น้อยกว่าสี่คน ซ่ึงเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้มีความรู้ และประสบการณ์ด้านบริหารจัดการการศึกษา ดา้ นวชิ าการ หรอื ดา้ นการนิเทศการศึกษา ในระดบั อดุ มศกึ ษา (๓) อนกุ รรมการจากกรรมการคุรสุ ภา จํานวนไมเ่ กินสองคน ใหเ้ ลขาธิการแตง่ ตง้ั พนักงานเจ้าหน้าทค่ี รุ สุ ภาคนหนง่ึ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ขอ้ ๙ คณะอนุกรรมการอาจขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือให้สถาบันช้ีแจงรายละเอียดเพ่ิมเติม ประกอบการพจิ ารณาด้วยก็ได้ โดยสถาบนั จะตอ้ งส่งขอ้ มลู เพม่ิ เติมภายใน ๔๕ วนั ขอ้ ๑๐ เม่ือคณะอนุกรรมการประเมินมาตรฐานหลักสูตรและมาตรฐานการผลิตแล้วให้เสนอ คณะกรรมการพจิ ารณาตอ่ ไปโดยเร็ว ขอ้ ๑๑ เมื่อคณะกรรมการให้การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาแล้ว ใหเ้ ลขาธิการจัดทาํ ประกาศครุ สุ ภาและแจง้ ใหส้ ถาบนั ทราบ ในกรณีท่ีคณะกรรมการเห็นว่า ผลการประเมินไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ให้เลขาธิการแจ้ง ให้สถาบันปรบั ปรงุ ใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑภ์ ายในระยะเวลาท่คี ณะกรรมการกาํ หนด ข้อ ๑๒ ในกรณีท่ีสถาบันเปล่ียนแปลงรายละเอียดท่ีได้รับการรับรองแล้ว ให้แจ้ง การเปลี่ยนแปลงเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ เพ่ือดําเนินการประเมินตามที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือในกรณี ที่คณะอนุกรรมการติดตามผลการรับรอง ให้นําความในข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ และข้อ ๑๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม คณะกรรมการอาจเพิกถอนการรับรองตามข้อ ๑๑ หากผลการประเมินตามวรรคหนึ่งไม่เป็น ไปตามเกณฑ์ท่กี ําหนด โดยจดั ทําประกาศครุ สุ ภาและแจ้งใหส้ ถาบนั ทราบ ข้อ ๑๓ การรับรองปริญญาหรือประกาศนียบัตรของแต่ละสถาบันไม่เกินคราวละห้าปี และสถาบนั ตอ้ งขอรบั การประเมินใหม่กอ่ นครบกําหนดไม่น้อยกว่า ๖๐ วนั ข้อ ๑๔ การดําเนินงานรับรองปริญญาหรือประกาศนียบัตรของแต่ละสถาบันต้องให้แล้วเสร็จ ภายใน ๑๘๐ วัน ขอ้ ๑๕ สถาบันจะต้องส่งข้อมูลหลังการรับรองตามท่ีคุรุสภากําหนด โดยคณะอนุกรรมการ จะไปตดิ ตามผลเชิงประจกั ษ์ ไมน่ ้อยกวา่ หลกั สูตรละ ๑ ครัง้

เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๔๖ ง หนา้ ๑๙ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๑๖ ปริญญาและประกาศนียบัตรท่ีคุรุสภาให้การรับรอง เป็นคุณวุฒิท่ีขอรับใบอนุญาต ประกอบวชิ าชพี ไดต้ ามเกณฑ์ที่ครุ สุ ภากาํ หนด ให้สถาบันเสนอรายช่ือผู้ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรในแต่ละปีการศึกษาเพ่ือ ประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตอ่ เลขาธิการ ข้อ ๑๗ หากสถาบันยังปรับปรุงหลักสูตรไม่แล้วเสร็จตามประกาศนี้ ให้ใช้เกณฑ์การรับรอง ตามประกาศคุรสุ ภา เร่ือง การรับรองปริญญาและประกาศนียบตั รทางการศึกษาเพ่ือการประกอบวิชาชีพ (ประกาศ ณ วันท่ี ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙) ท้ังน้ี ต้องไม่เกินสามปีหลังจากวันที่ประกาศน้ี ใชบ้ งั คบั ขอ้ ๑๘ ในกรณที ี่ไมเ่ ปน็ ไปตามประกาศข้อใดขอ้ หน่งึ ให้คณะกรรมการพจิ ารณาเปน็ กรณี ๆ ไป ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ศาสตราจารย์ไพฑรู ย์ สนิ ลารัตน์ ประธานกรรมการคุรสุ ภา

มาตรฐานและเกณฑ์การรับรอง การขอรับการรับรอง และการติดตามผลการรับรอง ปริญญาและประกาศนียบตั รทางการศึกษา รายละเอยี ดแนบท้ายประกาศคุรุสภา เร่ือง การรับรองปริญญา และประกาศนียบตั รทางการศึกษา เพอ่ื การประกอบวชิ าชีพ พ.ศ.๒๕๕๗ ส่วนที่ ๑ มาตรฐานและเกณฑ์การรับรอง ประกอบดว้ ย ๓ ตอน คือ (๑) มาตรฐานหลกั สูตร (๒) มาตรฐานการผลิต และ (๓) มาตรฐานบณั ฑิต ดงั น้ี ตอนท่ี ๑ : มาตรฐานหลกั สูตร มาตรฐานหลกั สูตร เกณฑ์การรับรอง ก. วชิ าชีพครู ๑. โครงสร้างของหลกั สูตร ๑. มาตรฐานหลกั สูตร ๑.๑ ปริญญาตรี (๕ ปี ) ๑.๑ โครงสร้างหลกั สูตรวิชาชีพครู (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๖๐ หน่วยกิต (หลกั สูตรปริญญาตรี ๕ ปี และ (๒) หมวดวิชาศึกษาทว่ั ไป ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ หน่วยกิต ปริญญาตรีควบโท ๖ ปี ) (๓) หมวดวชิ าเฉพาะดา้ น ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๒๔ หน่วยกิต (๑) มีจาํ นวนหน่วยกิตไมน่ อ้ ยกวา่ (๓.๑) วชิ าชีพครู ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๖ หน่วยกิต มาตรฐาน (รายวชิ า ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๔ หน่วยกิต (๒) มีการกาํ หนดจาํ นวนหน่วยกิตที่ให้ ปฏิบตั ิการสอน ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๒ หน่วยกิต) เทียบโอนไดต้ ามเกณฑ์ สกอ. และ (๓.๒) วชิ าเอก ไม่นอ้ ยกวา่ ๗๘ หน่วยกิต ตอ้ งเป็นวชิ าท่ีเรียนมาแลว้ ไม่เกิน (ถา้ เป็นวชิ าเอกคูไ่ ม่นอ้ ยกวา่ วชิ าเอกละ๓๙ หน่วยกิต) ๕ ปี (๔) หมวดวิชาเลือกเสรี ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกิต (๓) มีการลงทะเบียนเรียนแต่ละภาค ๑.๒ ปริญญาตรีควบโท (๖ ปี ) การศึกษาตามเกณฑข์ อง สกอ. (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๘๐ หน่วยกิต (๔) มีการกาํ หนดใหก้ ารทาํ วทิ ยานิพนธ์ (๒) หมวดวชิ าศึกษาทวั่ ไป ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ หน่วยกิต (๓) หมวดวชิ าเฉพาะดา้ น ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๓๒ หน่วยกิต หรือสาระนิพนธ์ เป็นงานเด่ียว และมีกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ (๓.๑) วชิ าชีพครู ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๖ หน่วยกิต ตามเกณฑ์ สกอ. (สาํ หรับหลกั สูตร (รายวชิ าไม่นอ้ ยกวา่ ๓๔ หน่วยกิต ปริญญาตรีควบโท ๖ ปี ) ปฏิบตั ิการสอนไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๒ หน่วยกิต) (๓.๒) วิชาเอก ไม่นอ้ ยกวา่ ๘๖ หน่วยกิต (ถา้ เป็นวชิ าเอกคู่ไม่นอ้ ยกวา่ วชิ าเอกละ๔๓ หน่วยกิต) (๔) หมวดวิชาเลือกเสรี ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกิต (๕) วิทยานิพนธ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๒ หน่วยกิต หรือสาระนิพนธ์ ๓ - ๖ หน่วยกิต

๒ มาตรฐานหลกั สูตร เกณฑ์การรับรอง ๑.๓ ประกาศนียบตั รบณั ฑิต ๑.๒ โครงสร้างหลกั สูตรวชิ าชีพครู (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๓ หน่วยกิต (หลกั สูตรประกาศนียบตั รบณั ฑิต (๒) รายวิชา ไม่นอ้ ยกวา่ ๒๗ หน่วยกิต ปริญญาโท ปริญญาโทควบเอก ๔ ปี (๓) ปฏิบตั ิการสอน ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกิต และปริญญาเอก) ๑.๔ ปริญญาโท (๒ ปี ) (๑) มีจาํ นวนหน่วยกิตไม่นอ้ ยกวา่ (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๕ หน่วยกิต มาตรฐาน (๒) รายวชิ า ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๓ หน่วยกิต (๒) มีการกาํ หนดจาํ นวนหน่วยกิตที่ให้ (รายวชิ าไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๗ หน่วยกิต เทียบโอน ตามเกณฑ์ สกอ. และ ปฏิบตั ิการสอนไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกิต) ตอ้ งเป็นวชิ าที่เรียนมาแลว้ ไม่เกิน (๓) วิทยานิพนธ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๒ หน่วยกิต ๕ ปี กรณีหลกั สูตร หรือสาระนิพนธ์ ๓ - ๖ หน่วยกิต ประกาศนียบตั รบณั ฑิตวิชาชีพครู ๑.๕ ปริญญาโทควบเอก (๔ ปี ) เป็นหลกั สูตรเฉพาะ จะตอ้ งเรียนใหค้ รบ (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๗๖ หน่วยกิต ตามท่ีกาํ หนด ไม่สามารถเทียบโอนได้ (๒) รายวชิ า ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๐ หน่วยกิต (๓) มีการลงทะเบียนเรียนในแต่ละ (รายวชิ าไมน่ อ้ ยกวา่ ๓๒ หน่วยกิต ภาคการศึกษาตามเกณฑข์ อง สกอ. ปฏิบตั ิการสอนไม่นอ้ ยกวา่ ๘ หน่วยกิต) (๔) มีการกาํ หนดใหท้ าํ วทิ ยานิพนธ์ (๓) วิทยานิพนธ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๖ หน่วยกิต หรือสาระนิพนธ์ เป็นงานเดี่ยว ๑.๖ ปริญญาเอก (๓ ปี ) และมีกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๖๙ หน่วยกิต ตามเกณฑ์ สกอ. (๒) รายวิชา ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๓ หน่วยกิต (รายวิชาไม่นอ้ ยกวา่ ๒๗ หน่วยกิต ปฏิบตั ิการสอนไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกิต (๓) วิทยานิพนธ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๖ หน่วยกิต

๓ มาตรฐานหลกั สูตร เกณฑ์การรับรอง ๒. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วชิ าชีพ ๑.๓ ความรู้วชิ าชีพครู ๒.๑ มาตรฐานความรู้ (๑) คาํ อธิบายรายวชิ าบงั คบั ในหลกั สูตร ๑) ความเป็นครู ประกอบดว้ ย มาตรฐาน ๒) ปรัชญาการศึกษา สาระความรู้ และสมรรถนะ ๓) ภาษาและวฒั นธรรม ในแต่ละมาตรฐานไม่นอ้ ยกวา่ ท่ี ๔) จิตวทิ ยาสาํ หรับครู คุรุสภากาํ หนด ๕) หลกั สูตร (๒) มีการวดั และประเมินผลรายวิชา ๖) การจดั การเรียนรู้และการจดั การช้นั เรียน อยา่ งเป็นระบบ ๗) การวจิ ยั เพอื่ พฒั นาการเรียนรู้ ๘) นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา ๙) การวดั และการประเมินผลการเรียนรู้ ๑๐) การประกนั คุณภาพการศึกษา ๑๑) คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ๒.๒ มาตรฐานประสบการณ์วชิ าชีพ ๑.๔ ประสบการณ์วิชาชีพครู ๑) การฝึกปฏิบตั ิวชิ าชีพระหวา่ งเรียน (๑) คาํ อธิบายรายวชิ าบงั คบั ในหลกั สูตร ๒) การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา ประกอบดว้ ย มาตรฐาน ในสาขาวชิ าเฉพาะ สาระการฝึกทกั ษะ และสมรรถนะ ไม่นอ้ ยกวา่ ท่ีคุรุสภากาํ หนด (๒) มีแผนการจดั กิจกรรมเสริม ความเป็ นครูเป็ นกิจกรรมเสริ ม หลกั สูตรเป็นระยะๆ ตลอดหลกั สูตร เพ่มิ เติมจากกิจกรรมรายวชิ า (๓) มีขอ้ กาํ หนดการปฏิบตั ิการสอน จะตอ้ งแบ่งเป็น ๒ ภาคการศึกษา มีหน่วยกิตรวมกนั ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน และมีชว่ั โมงสอนใน วิชาเอกไม่นอ้ ยกวา่ สปั ดาห์ละ ๘ ชวั่ โมง เป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ ๑๕ สปั ดาห์ รวมไม่นอ้ ยกวา่ ๑๒๐ ชวั่ โมง ต่อภาคการศึกษา มีเวลาเตรียมสอน ตรวจงาน และ

๔ มาตรฐานหลกั สูตร เกณฑ์การรับรอง การปฏิบตั ิงานอ่ืนที่ไดร้ ับมอบหมาย ไม่นอ้ ยกวา่ ภาคการศึกษาละ ๑๒๐ ชว่ั โมง (๔) มีการพบคณาจารยแ์ ละเขา้ ร่วม สมั มนาการศึกษากบั คณาจารยแ์ ละ เพื่อนนิสิตนกั ศึกษา โดยการใชส้ ื่อ และ/หรือ Face to face ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๕ ชว่ั โมง ต่อภาคการศึกษา (๕) มีการวดั และประเมินผลการ ฝึกปฏิบตั ิวชิ าชีพระหวา่ งเรียน และการปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา อยา่ งเป็นระบบ ๓. การพฒั นาหลกั สูตร ๑.๕ การพฒั นาหลกั สูตรวชิ าชีพครู ๓.๑ กระบวนการพฒั นาหลกั สูตร (๑) มีคาํ สงั่ แตง่ ต้งั คณะกรรมการพฒั นา (๑) มีคณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตร หลกั สูตรสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน (๒) มีองคป์ ระกอบของคณะกรรมการที่มาจาก (๒) มีเอกสารรายงานการวิพากษห์ ลกั สูตร ผเู้ กี่ยวขอ้ งดา้ นวิชาชีพครูและวิชาเน้ือหา และการนาํ ผลไปใชป้ รับปรุงแกไ้ ข (๓) มีการวิพากษห์ ลกั สูตรจากผทู้ รงคุณวฒุ ิภายนอก หลกั สูตร และบุคคลท่ีเกี่ยวขอ้ ง (๓) มีเอกสารระบุนโยบายและ ๓.๒ คุณสมบตั ิของคณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตร แผนงานการปรับปรุงหลกั สูตร (๑) มีคุณวฒุ ิตรงตามสาขา และวิชาเอก (๒) มีประสบการณ์ท่ีเก่ียวขอ้ ง ๓.๓ การพฒั นาหรือการปรับปรุงหลกั สูตร (๑) มีนโยบายในการพฒั นาหรือการปรับปรุงหลกั สูตร (๒) มีแผนงานท่ีชดั เจนในการพฒั นาหรือการ ปรับปรุงหลกั สูตร

๕ มาตรฐานหลกั สูตร เกณฑ์การรับรอง ข. วชิ าชีพผ้บู ริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษา ๑. โครงสร้างของหลกั สูตร ๑.๖ โครงสร้างหลกั สูตรวิชาชีพผบู้ ริหาร ๑.๑ ประกาศนียบตั รบณั ฑิต สถานศึกษาและผบู้ ริหารการศึกษา (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ หน่วยกิต (๑) มีจาํ นวนหน่วยกิตไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๒) รายวิชา ไม่นอ้ ยกวา่ ๒๗ หน่วยกิต (๒) มีการกาํ หนดจาํ นวนหน่วยกิต (๓) ปฏิบตั ิการวิชาชีพบริหารการศึกษา ที่ใหเ้ ทียบโอนได้ ตามเกณฑ์ สกอ. ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกิต โดยตอ้ งเป็นวชิ าที่เรียนมาแลว้ ไม่เกิน๕ปี (๓) มีการลงทะเบียนเรียนในแต่ละ ๑.๒ ปริญญาโท (๒ ปี ) ภาคการศึกษาตามเกณฑ์ สกอ. (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๒ หน่วยกิต (๒) รายวิชา ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ หน่วยกิต (๔) มีการกาํ หนดใหท้ าํ วทิ ยานิพนธ์ (มีวชิ าปฏิบตั ิการวชิ าชีพบริหารการศึกษา หรือสาระนิพนธ์ เป็นงานเดี่ยว และ ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกิต) มีกรรมการสอบวทิ ยานิพนธต์ ามเกณฑ์สกอ. (๓) วทิ ยานิพนธ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๒ หน่วยกิต หรือสาระนิพนธ์ ๓ - ๖ หน่วยกิต ๑.๓ ปริญญาโทควบเอก (๔ ปี ) (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๖๙ หน่วยกิต (๒) รายวชิ า ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๓ หน่วยกิต (มีวชิ าปฏิบตั ิการวิชาชีพบริหารการศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกิต) (๓) วิทยานิพนธ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๖ หน่วยกิต ๑.๔ ปริญญาเอก (๑) จาํ นวนหน่วยกิตรวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๖๐ หน่วยกิต (๒) รายวิชา ไม่นอ้ ยกวา่ ๒๔ หน่วยกิต (มีวิชาปฏิบตั ิการวชิ าชีพบริหารการศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกิต) (๓) วิทยานิพนธ์ ไม่น้อยกว่า ๓๖ หน่วยกิต ๒. มาตรฐานความรู้และปฏบิ ัตกิ ารวชิ าชีพบริหารการศึกษา ๒.๑ มาตรฐานความรู้ ๑.๗ ความรู้วชิ าชีพผบู้ ริหารสถานศึกษาและ ๒.๑.๑ มาตรฐานความรู้ผบู้ ริหารสถานศึกษา ผบู้ ริหารการศึกษา ๑) การพฒั นาวชิ าชีพ (๑) คาํ อธิบายรายวิชาบงั คบั ในหลกั สูตร ๒) ความเป็นผนู้ าํ ทางวิชาการ ประกอบดว้ ย มาตรฐาน ๓) การบริหารสถานศึกษา สาระความรู้ และสมรรถนะ

๖ เกณฑ์การรับรอง มาตรฐานหลกั สูตร ในแต่ละมาตรฐานไม่นอ้ ยกวา่ ที่ ๔) หลกั สูตร การสอน การวดั และประเมินผล คุรุสภากาํ หนด การเรียนรู้ (๒) มีการวดั และประเมินผลรายวชิ า ๕) กิจการและกิจกรรมนกั เรียน อยา่ งเป็นระบบ ๖) การประกนั คุณภาพการศึกษา ๗) คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ ๑.๘ ปฏิบตั ิการวิชาชีพผบู้ ริหารสถานศึกษาและ ผบู้ ริหารการศึกษา ๒.๑.๒ มาตรฐานความรู้ผบู้ ริหารการศึกษา (๑) คาํ อธิบายรายวิชาบงั คบั ในหลกั สูตร ๑) การพฒั นาวิชาชีพ ประกอบดว้ ย มาตรฐาน ๒) ความเป็นผนู้ าํ ทางวชิ าการ สาระความรู้ และสมรรถนะ ๓) การบริหารการศึกษา ในแต่ละมาตรฐานไม่นอ้ ยกวา่ ที่ ๔) การส่งเสริมคุณภาพการศึกษา คุรุสภากาํ หนด ๕) การประกนั คุณภาพการศึกษา (๒) มีแผนการจดั กิจกรรมเสริมความเป็น ๖) คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ ผบู้ ริหารสถานศึกษา และผบู้ ริหาร การศึกษาเป็นระยะ ๆ ตลอดหลกั สูตร ๒.๒ ปฏิบตั ิการวิชาชีพบริหารการศึกษา (๓) มีการกาํ หนดการฝึกปฏิบตั ิการบริหาร การฝึกปฏิบตั ิการบริหารสถานศึกษาและปฏิบตั ิการ สถานศึกษาและการบริหารการศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกิต และมีชว่ั โมง บริหารการศึกษาระหวา่ งเรียนตามหลกั สูตรท่ีคุรุสภารับรอง ปฏิบตั ิไม่นอ้ ยกวา่ ๙๐ ชว่ั โมง (๑๕ x ๖ ชวั่ โมง) ประกอบดว้ ย การฝึกการบริหารสถานศึกษา ร้อยละ๕๐ และฝึกการบริหารการศึกษา ร้อยละ๕๐

๗ มาตรฐานหลกั สูตร เกณฑ์การรับรอง ๓. การพฒั นาหลกั สูตร ๑.๙ การพฒั นาหลกั สูตรวชิ าชีพผบู้ ริหาร ๓.๑ กระบวนการพฒั นาหลกั สูตร สถานศึกษาและผบู้ ริหารการศึกษา (๑) มีคณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตร (๑) มีคาํ สง่ั แต่งต้งั คณะกรรมการพฒั นา (๒) มีองคป์ ระกอบของคณะกรรมการท่ีมาจาก หลกั สูตรสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน ผเู้ กี่ยวขอ้ งดา้ นวชิ าชีพครูและวชิ าเน้ือหา (๒) มีเอกสารรายงานการวพิ ากษห์ ลกั สูตร (๓) มีการวิพากษห์ ลกั สูตรจากผทู้ รงคุณวฒุ ิภายนอก และการนาํ ผลไปใชป้ รับปรุงแกไ้ ข และบุคคลท่ีเกี่ยวขอ้ ง หลกั สูตร ๓.๒ คุณสมบตั ิของคณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตร (๓) มีเอกสารระบุนโยบายและแผนงาน (๑) มีคุณวฒุ ิตรงตามสาขา และวชิ าเอก การปรับปรุงหลกั สูตร (๒) มีประสบการณ์ที่เก่ียวขอ้ ง ๓.๓ การพฒั นาหรือการปรับปรุงหลกั สูตร (๑) มีนโยบายในการพฒั นาหรือการปรับปรุงหลกั สูตร (๒) มีแผนงานที่ชดั เจนในการพฒั นาหรือการปรับปรุง หลกั สูตร ตอนที่ ๒ : มาตรฐานการผลิต มาตรฐานการผลติ เกณฑ์การรับรอง ๒. มาตรฐานการผลติ ๑. กระบวนการคดั เลอื กนิสิตนักศึกษา ๒.๑ กระบวนการคดั เลือกนิสิตนกั ศึกษา (๑) มีการกาํ หนดคุณสมบตั ิและเกณฑก์ ารคดั เลือกนิสิต (๑) มีประกาศกาํ หนดคุณสมบตั ิและ นกั ศึกษา ท่ีเนน้ การสรรหาผทู้ ่ีมีความรู้ความสามารถสูง เกณฑก์ ารคดั เลือกนิสิตนกั ศึกษา เขา้ ศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๒) มีการคดั เลือกหรือสอบคดั เลือก โดยการสอบขอ้ เขียน (๒) มีการใชเ้ ครื่องมือในการประเมิน และ/หรือการสอบสมั ภาษณ์อยา่ งเป็นระบบ ผสู้ มคั ร ประกอบการคดั เลือกนิสิต นกั ศึกษา เช่น ขอ้ สอบวดั หรือประเมิน ความรู้พ้นื ฐาน ขอ้ สอบวดั แววความเป็นครู ๒. จาํ นวนนิสิตนักศึกษา ๒.๒ จาํ นวนนิสิตนกั ศึกษา (๑) มีการรับนิสิตนกั ศึกษาตามแผนการรับท่ีกาํ หนดไวใ้ น (๑) ขอ้ มูลการรับนิสิตนกั ศึกษา และ หลกั สูตร และแผนความตอ้ งการกาํ ลงั คนในวชิ าชีพใน แผนการรับนิสิตนกั ศึกษาตามท่ีกาํ หนด ระยะยาว ในเล่มหลกั สูตร (๒) มีการรับนิสิตนกั ศึกษาสอดคลอ้ งกบั จาํ นวนคณาจารย์ (๒) ขอ้ มูลสัดส่วนคณาจารยต์ ่อนิสิต นกั ศึกษา ๑:๓๐ (อาจารย์ : นกั ศึกษา)

๘ มาตรฐานการผลติ เกณฑ์การรับรอง (๓) หน่ึงหอ้ งเรียนมีนิสิตนกั ศึกษา ไม่เกิน ๓๐ คน ๓. คณาจารย์ ๒.๓ คณาจารย์ (๑) คณาจารยป์ ระจาํ หลกั สูตรมีจาํ นวนและคุณวฒุ ิตาม (๑) มีขอ้ มลู การแต่งต้งั คณาจารยป์ ระจาํ เกณฑข์ องสาํ นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หลกั สูตรไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๒) มีการแต่งต้งั คณาจารยท์ ่ีปรึกษาสาํ หรับนิสิตนกั ศึกษา (๒) มีขอ้ มูลการแต่งต้งั คณาจารยท์ ี่ปรึกษา โดยมีการกาํ หนดหนา้ ที่อยา่ งชดั เจน ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๓) คณาจารยผ์ สู้ อนรายวชิ าชีพครูมีคุณวฒุ ิไม่ต่าํ กวา่ (๓) มีขอ้ มลู การแต่งต้งั คณาจารยผ์ สู้ อน ปริญญาโท หรือดาํ รงตาํ แหน่งทางวิชาการไม่ต่าํ กวา่ ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ หรือมีความเช่ียวชาญในสาขาวิชา (๔) มีขอ้ มูลการแต่งต้งั คณาจารยน์ ิเทศก์ ที่สอนโดยมีประสบการณ์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐ ปี ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๔) คณาจารยผ์ สู้ อนมีจาํ นวนและคุณวฒุ ิตามเกณฑข์ อง สาํ นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (๕) คณาจารยน์ ิเทศกม์ ีคุณวฒุ ิไม่ต่าํ กวา่ ปริญญาโท (กรณี หลกั สูตร ป.ตรี) และไม่ต่าํ กวา่ ป.เอก (ในกรณีหลกั สูตร ป.โท/เอก) ในสาขาวชิ าที่จะนิเทศ หรือมีประสบการณ์ ในการนิเทศมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ ๒ ปี ในกรณีท่ีมี ประสบการณ์ไม่ไดต้ ามมาตรฐาน ใหใ้ ชก้ ารนิเทศ ร่วมกบั ผทู้ ่ีมีประสบการณ์ตามมาตรฐาน (๖) คณาจารยน์ ิเทศกม์ ีจาํ นวนท่ีเหมาะสม ท้งั น้ี ไม่เกิน ๑ : ๑๐ (๗) ผคู้ วบคุมและผสู้ อบวทิ ยานิพนธ์มีจาํ นวนและคุณวฒุ ิ ตามเกณฑข์ องสาํ นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (๘) ครูพเี่ ล้ียง และผบู้ ริหารพเ่ี ล้ียง มีคุณวฒุ ิและมีประสบการณ์ ตรงกบั การปฏิบตั ิการสอน หรือการบริหาร ๔. ทรัพยากรการเรียนรู้ ๒.๔ ทรัพยากรการเรียนรู้ ๔.๑ หอ้ งเรียน มีขอ้ มูลทรัพยากรการเรียนรู้ไม่นอ้ ยกวา่ (๑) มีสภาพหอ้ งเรียนท่ีเหมาะสม เพียงพอกบั การจดั การเรียน มาตรฐาน การสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาํ คญั (๒) มีวสั ดุ อุปกรณ์ และส่ือการเรียนรู้ในปริมาณที่เหมาะสม กบั จาํ นวนผเู้ รียน

๙ มาตรฐานการผลติ เกณฑ์การรับรอง ๔.๒ หอ้ งปฏิบตั ิการ (๑) มีหอ้ งปฏิบตั ิการท่ีเหมาะสมกบั สาขาวชิ าหรือวชิ าเอก ท่ีเปิ ดสอน เช่น หอ้ งปฏิบตั ิการเทคโนโลยสี ารสนเทศ หอ้ งปฏิบตั ิการสอนแบบจุลภาค และหอ้ งปฏิบตั ิการ สื่อการสอน ฯลฯ (๒) มีวสั ดุ อุปกรณ์ และส่ือการเรียนรู้ในปริมาณที่เหมาะสม กบั จาํ นวนผเู้ รียน (๓) มีการใชห้ อ้ งปฏิบตั ิการสาํ หรับการฝึกเพมิ่ เติม นอกเหนือจากการจดั การเรียนการสอนปกติ ๔.๓ หอ้ งสมดุ (๑) มีหนงั สือ ตาํ รา วารสาร และเอกสารทางวชิ าการ ในสาขาวิชาท่ีเปิ ดสอนที่เหมาะสมกบั จาํ นวนผเู้ รียน (๒) มีบริการสืบคน้ โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งเพยี งพอ (๓) มีวสั ดุ อุปกรณ์ และส่ือการเรียนรู้ในปริมาณ ท่ีเหมาะสมกบั จาํ นวนผเู้ รียน ๔.๔ สิ่งแวดลอ้ ม มีการจดั ส่ิงแวดลอ้ มเพอ่ื เสริมสร้างคุณลกั ษณะบณั ฑิต ท่ีพงึ ประสงคต์ ามมาตรฐานบณั ฑิต ๕. การบริหารหลกั สูตรและการเรียนการสอน ๕.๑ การบริหารหลกั สูตร ๒.๕ การบริหารหลกั สูตร (๑) มีคณะกรรมการบริหารหลกั สูตร (๑) มีคาํ สงั่ แต่งต้งั คณะกรรมการบริหาร (๑.๑) องคป์ ระกอบครอบคลุมบุคคลที่เก่ียวขอ้ ง หลกั สูตรและมีการกาํ หนดหนา้ ที่ (๑.๒) มีคุณวฒุ ิตรงกบั หลกั สูตรท่ีรับผดิ ชอบ ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๒) มีการกาํ หนดหนา้ ท่ีของคณะกรรมการอยา่ งชดั เจน ไดแ้ ก่ (๒) มีแผนการประเมินและพฒั นา (๒.๑) การวางแผนการจดั การเรียนรู้ตลอดหลกั สูตร คณาจารย์ (๒.๒) การประเมินการเรียนรู้ (๒.๓) การพฒั นาหรือปรับปรุงหลกั สูตร (๒.๔) การกาํ หนดกิจกรรมเสริมหลกั สูตร (๒.๕) การรายงานผลการปฏิบตั ิงาน (๓) มีการประเมินและพฒั นาคณาจารยอ์ ยา่ งเป็นระบบ

๑๐ มาตรฐานการผลติ เกณฑ์การรับรอง ๕.๒ การบริหารการเรียนการสอน ๒.๖ การบริหารการเรียนการสอน (๑) มีการจดั ทาํ ประมวลรายวชิ า หรือรายละเอียดรายวชิ า (๑) มีเอกสารประมวลรายวชิ า หรือ ตามมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษา รายละเอียดรายวชิ าไม่นอ้ ยกวา่ (๒) มีการจดั การเรียนการสอนตามขอ้ บงั คบั ระเบียบ มาตรฐาน หรือประกาศ ที่สถาบนั กาํ หนด (๒) มีการระบุการนาํ ผลการประเมิน (๓) มีการจดั การเรียนการสอนครบตามคาํ อธิบายรายวชิ า การสอนไปใชใ้ นการปรับปรุงการเรียน รายละเอียดรายวิชา จาํ นวนหน่วยกิต และจาํ นวน การสอนในประมวลรายวิชาหรือ ชว่ั โมง ตามท่ีหลกั สูตรกาํ หนด รายละเอียดรายวิชา (๔) มีการนาํ ผลการประเมินการสอนไปใชใ้ นการปรับปรุง ประมวลรายวชิ า หรือรายละเอียดรายวชิ าอยา่ งต่อเน่ือง ๕.๓ การจดั การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา การฝึกปฏิบตั ิ ๒.๗ การจดั การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา การบริหารสถานศึกษา การบริหารการศึกษา การฝึกปฏิบตั ิการบริหารสถานศึกษา (๑) สถานศึกษาหรือหน่วยงานที่รับนิสิตนกั ศึกษาตอ้ งมี การบริหารการศึกษา และการนิเทศการศึกษา คุณสมบตั ิตามเกณฑท์ ่ีคุรุสภากาํ หนด (๑)มีรายชื่อโรงเรียนสาํ หรับปฏิบตั ิการสอน (๒) สถานศึกษาหรือหน่วยงานมีการจดั ครูพเี่ ล้ียง และ การฝึกปฏิบตั ิการบริหารสถานศึกษา ผบู้ ริหารพี่เล้ียง ที่มีคุณสมบตั ิ และประสบการณ์ตามท่ี การบริหารการศึกษา และการนิเทศ คุรุสภากาํ หนด การศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๓) มีการจดั หรือแต่งต้งั คณาจารยน์ ิเทศกต์ ามที่คุรุสภา (๒) มีรายช่ือครูพ่ีเล้ียง ผบู้ ริหารพ่ีเล้ียง กาํ หนด และคณาจารยน์ ิเทศกไ์ ม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน ๕.๔ การจดั กิจกรรมเสริมความเป็นครู เสริมความเป็น ๒.๘ การจดั กิจกรรมเสริมความเป็นครู ผบู้ ริหารสถานศึกษา และผบู้ ริหารการศึกษา เสริมความเป็นผบู้ ริหารสถานศึกษา (๑) มีคณะกรรมการบริหารกิจกรรม และผบู้ ริหารการศึกษา (๒) มีโครงการตลอดหลกั สูตร โดยจดั เป็นระยะอยา่ ง (๑) มีคาํ สงั่ แตง่ ต้งั คณะกรรมการบริหาร ต่อเนื่อง กิจกรรมไม่นอ้ ยกวา่ มาตรฐาน (๓) มีการกาํ หนดเกณฑข์ ้นั ต่าํ ของการเขา้ ร่วมกิจกรรม (๒) มีแผนการจดั กิจกรรมตลอดหลกั สูตร (๔) มีการประเมินผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งเป็นระบบ (๓) มีคูม่ ือการประเมินผลและสมุดบนั ทึก (๕) มีสมุดบนั ทึก หรือระเบียนรายงานผลการเขา้ ร่วมกิจกรรม หรือระเบียนรายงานผลตามมาตรฐาน และใชใ้ นการพจิ ารณาอนุมตั ิการสาํ เร็จการศึกษา ควบคูก่ บั ระเบียนผลการเรียนรายวิชา

๑๑ มาตรฐานการผลติ เกณฑ์การรับรอง ๖. การประกนั คุณภาพการศึกษา ๒.๙ การประกนั คุณภาพการศึกษา ๖.๑ มีคณะกรรมการรับผดิ ชอบการประกนั (๑) มีคาํ สงั่ แต่งต้งั คณะกรรมการ คุณภาพการศึกษา (๒) มีเอกสารระบบการประกนั คุณภาพการศึกษา (๓) มีแผนการดาํ เนินงานประกนั คุณภาพ ๖.๒ มีระบบและแผนการดาํ เนินงาน การประกนั คุณภาพการศึกษา การศึกษา (๔) มีรายงานการประกนั คุณภาพการศึกษา ๖.๓ มีรายงานการประกนั คุณภาพการศึกษา ตอนที่ ๓ : มาตรฐานบณั ฑิต เกณฑ์การรับรอง ๓. มาตรฐานบณั ฑติ มาตรฐานบณั ฑติ ๓.๑ เรียนครบตามหลกั สูตรที่ไดร้ ับการรับรองจากคุรุสภา ๓.๒ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินของสถาบนั การผลิต ๑. ความรู้ ๓.๓ วชิ าชีพครู ๒. การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา และ ๑) มีการปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาที่มี การปฏิบตั ิการวชิ าชีพบริหารสถานศึกษา / คุณสมบตั ิตามที่คณะกรรมการคุรุสภากาํ หนด บริหารการศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ ๑ ปี ๒) มีรายงานผลการผา่ นเกณฑก์ ารประเมินการ ปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาตามมาตรฐาน ประสบการณ์วิชาชีพครูที่คุรุสภากาํ หนด ไดแ้ ก่ ๒.๑) สามารถจดั การเรียนรู้ในสาขาวชิ าเฉพาะ ๒.๒) สามารถประเมิน ปรับปรุง และ พฒั นาการจดั การเรียนรู้ใหเ้ หมาะสม กบั ศกั ยภาพของผเู้ รียน ๒.๓) สามารถทาํ วิจยั ในช้นั เรียนเพ่ือพฒั นา ผเู้ รียน ๒.๔) สามารถจดั ทาํ รายงานผลการจดั การเรียนรู้ และพฒั นาผเู้ รียน ๓.๔ วชิ าชีพผบู้ ริหารสถานศึกษา / ผบู้ ริหารการศึกษา ๑) มีการปฏิบตั ิการวิชาชีพบริหารสถานศึกษา / บริหารการศึกษา ในหน่วยงานท่ีมีคุณสมบตั ิ ตามท่ีคณะกรรมการคุรุสภากาํ หนด ไม่นอ้ ยกวา่ ๙๐ ชวั่ โมง

มาตรฐานบัณฑติ ๑๒ ๓. การปฏิบตั ิตน เกณฑ์การรับรอง ๒) มีรายงานผลการผา่ นเกณฑก์ ารประเมินการปฏิบตั ิการ ๔. การพฒั นาคุณลกั ษณะความเป็นครู / ความเป็นผนู้ าํ วชิ าชีพบริหารสถานศึกษา/บริหารการศึกษา ๓.๕ มีการปฏิบตั ิตนที่เหมาะสมกบั ความเป็นครูและ ผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษา โดยมีผลการ รับรองความประพฤติจากสถาบนั การผลิต ๓.๖ วิชาชีพครู ๑) เขา้ ร่วมกิจกรรมการพฒั นาคุณลกั ษณะ ความเป็นครู ปี ละไม่นอ้ ยกวา่ ๑ กิจกรรม ไดแ้ ก่ ๑.๑) การปฏิบตั ิธรรม หรือกิจกรรมอาสา ๑.๒) กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณของวชิ าชีพ ๓.๗ วิชาชีพผบู้ ริหารสถานศึกษา / ผบู้ ริหารการศึกษา ๑) เขา้ ร่วมกิจกรรมการพฒั นาคุณลกั ษณะ ความเป็นผนู้ าํ ปี ละไม่นอ้ ยกวา่ ๑ กิจกรรม ไดแ้ ก่ ๑.๑) กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณของวิชาชีพ ๑.๒) กิจกรรมประชุมสมั มนาทางวชิ าการ บริหารการศึกษา / นิเทศการศึกษา ๓.๘ มีหลกั ฐานที่แสดงการเขา้ ร่วมกิจกรรมครบ ตามเกณฑท์ ่ีกาํ หนด และผา่ นการประเมินจาก สถาบนั การผลิต ส่วนที่ ๒ การขอรับการรับรอง ๒.๑ ระยะเวลาการขอรับการรับรอง สถาบนั อุดมศึกษา ที่ประสงคจ์ ะเปิ ดสอนหลกั สูตรใดหลกั สูตรหน่ึงท่ีผสู้ าํ เร็จการศึกษาสามารถ ขอรับใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพทางการศึกษา จะตอ้ งยน่ื ขอรับการรับรองปริญญาหรือประกาศนียบตั รตาม เกณฑก์ ารรับรองน้ี ก่อนเปิ ดรับนิสิตนกั ศึกษาไม่นอ้ ยกวา่ ๖๐ วนั ท้งั น้ีจะตอ้ งเป็นหลกั สูตรที่ไดร้ ับอนุมตั ิ จากสภาสถาบนั แลว้

๑๓ ๒.๒ สถานที่เปิ ดสอนและแผนการรับนิสิตนกั ศึกษา สถาบนั อุดมศึกษา จะตอ้ งระบุสถานที่เปิ ดสอนและจาํ นวนนิสิตนกั ศึกษาท่ีจะรับจาํ แนกเป็นปี การศึกษา หากมีการเปิ ดสอนนอกท่ีต้งั จะตอ้ งแนบหลกั ฐานการรับทราบจากสาํ นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ใหเ้ ป็นไปตามที่สาํ นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษากาํ หนด ๒.๓ เอกสารขอรับการรับรอง สถาบนั อุดมศึกษา จะตอ้ งส่งขอ้ มูลตามมาตรฐานและเกณฑก์ ารรับรองอยา่ งครบถว้ นทุกรายการ ตามแบบฟอร์มที่คุรุสภากาํ หนดพร้อมกบั การขอรับการรับรอง เม่ือเจา้ หนา้ ที่ตรวจสอบแลว้ ขอเอกสารเพม่ิ เติม ขอใหส้ ่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน ๑๕ วนั นบั ต้งั แต่วนั ที่มีการลงนามรับทางไปรษณีย์ ๒.๔ การตรวจสอบเชิงประจกั ษ์ คุรุสภาจะส่งคณะอนุกรรมการ ฯ ไปตรวจสอบขอ้ มลู เชิงประจกั ษ์ ภายใน ๓๐ วนั นบั ต้งั แต่วนั ท่ี ไดร้ ับเอกสารขอ้ มลู ครบถว้ น ก่อนสรุปผลการประเมินเสนอคณะกรรมการคุรุสภาใหก้ ารรับรอง ส่วนที่ ๓ การตดิ ตามผลการรับรอง ๓.๑ การส่งขอ้ มูลหลงั การรับรอง สถาบนั อุดมศึกษาจะตอ้ งส่งขอ้ มูลการเปิ ดสอนตามหลกั สูตรใหค้ ุรุสภาปี ละ ๑ คร้ัง ภายในสิ้นเดือน พฤษภาคม ตามแบบฟอร์มที่คุรุสภากาํ หนด ๓.๒ การติดตามผลเชิงประจกั ษ์ คุรุสภาจะส่งคณะอนุกรรมการ ฯ ไปติดตามผลเชิงประจกั ษ์ หลกั สูตรละไม่นอ้ ยกวา่ ๑ คร้ัง โดยจะ มีการขอพบนิสิตนกั ศึกษา คณาจารย์ พเี่ ล้ียง และผบู้ ริหารสถานศึกษาท่ีนิสิตนกั ศึกษาไปปฏิบตั ิการสอน ปฏิบตั ิการบริหารสถานศึกษา และการบริหารการศึกษา หรือนิเทศการศึกษา โดยสถาบนั อุดมศึกษาจะตอ้ ง เตรียมเอกสารขอ้ มลู ใหค้ ณะอนุกรรมการตรวจสอบตามแบบฟอร์ม และรายละเอียดท่ีคุรุสภากาํ หนด เพอื่ พิจารณาการขยายเวลาการรับรอง พกั การรับรอง หรือยตุ ิการรับรอง

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๔๓ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ประกาศคณะกรรมการคุรสุ ภา เรอื่ ง สาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณว์ ิชาชีพของผู้ประกอบวชิ าชพี ครู ผู้บริหารสถานศกึ ษา ผู้บรหิ ารการศกึ ษา และศกึ ษานิเทศก์ ตามข้อบังคบั คุรุสภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖ อาศัยอํานาจตามความในขอ้ ๕ และข้อ ๑๐ แห่งข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกอบกับมติคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุมคร้ังที่ ๕/๒๕๕๖ วันท่ี ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ จึงมีมติให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เร่ือง สาระความรู้และสมรรถนะ ของผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษาตามมาตรฐานความรู้และ ประสบการณว์ ชิ าชีพ ลงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เร่ือง มาตรฐาน ความรู้ มาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ สาระความรู้ สมรรถนะ และมาตรฐานการปฏิบัติงานของ ผปู้ ระกอบวิชาชีพศึกษานิเทศก์ ลงวนั ท่ี ๓ เมษายน ๒๕๔๙ และประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เร่ือง มาตรฐานความรู้ มาตรฐานประสบการณ์วชิ าชพี สาระความรู้ สมรรถนะ และมาตรฐานการปฏิบัติงาน ของผ้ปู ระกอบวิชาชพี ศกึ ษานเิ ทศก์ (ฉบับที่ ๒) ลงวันท่ี ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๓ คณะกรรมการคุรุสภา จึงออกประกาศคณะกรรมการคุรุสภากําหนดสาระความรู้ สมรรถนะและประสบการณ์ของผู้ประกอบ วชิ าชพี ทางการศึกษา ดังต่อไปน้ี หมวด ๑ ผูป้ ระกอบวิชาชพี ครู สาระความรแู้ ละสมรรถนะของผ้ปู ระกอบวชิ าชีพครูตามมาตรฐานความรู้ ๑. ความเปน็ ครู ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) สภาพงานครู คณุ ลกั ษณะ และมาตรฐานวชิ าชีพครู (๒) การปลกู ฝงั จติ วญิ ญาณความเปน็ ครู (๓) กฎหมายที่เก่ยี วข้องกับครแู ละวชิ าชพี ครู (๔) การจดั การความรู้เกี่ยวกับวชิ าชีพครู (๕) การสรา้ งความกา้ วหน้าและพัฒนาวชิ าชพี ครูอยา่ งต่อเนื่อง (ข) สมรรถนะ (๑) รอบรู้ในเน้ือหาวิชาท่ีสอนและกลยุทธ์การสอน เพ่ือให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ สร้างสรรคส์ ่งิ ใหม่ ๆ ได้ (๒) แสวงหาและเลอื กใช้ข้อมูลขา่ วสารความรเู้ พ่ือให้ทนั ต่อการเปลี่ยนแปลง

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๖ ง หน้า ๔๔ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๓) ปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างครกู ับผูเ้ รียนทีส่ ่งเสริมการพฒั นาศกั ยภาพผ้เู รียน (๔) มจี ิตวญิ ญาณความเปน็ ครู ๒. ปรชั ญาการศึกษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) ปรชั ญา แนวคดิ และทฤษฎีทางการศกึ ษา ศาสนา เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม (๒) แนวคิด และกลวิธกี ารจัดการศึกษา เพอื่ เสริมสรา้ งการพฒั นาที่ย่งั ยืน (ข) สมรรถนะ (๑) ประยุกตใ์ ชเ้ พ่ือพัฒนาสถานศึกษา (๒) วเิ คราะห์เกีย่ วกับการศึกษาเพ่ือการพฒั นาที่ย่ังยืน ๓. ภาษาและวัฒนธรรม ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) ภาษาและวฒั นธรรมไทยเพอ่ื การเป็นครู (๒) ภาษาตา่ งประเทศเพือ่ พฒั นาวิชาชพี ครู (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถใช้ทกั ษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ เพอ่ื การสอ่ื ความหมายอย่างถกู ตอ้ ง (๒) ใชภ้ าษาและวฒั นธรรมเพอื่ การอยู่รว่ มกนั อย่างสนั ติ ๔. จิตวทิ ยาสาํ หรับครู ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) จิตวิทยาพน้ื ฐานและจติ วิทยาพัฒนาการของมนุษย์ (๒) จติ วทิ ยาการเรยี นร้แู ละจติ วิทยาการศกึ ษา (๓) จิตวิทยาการแนะแนวและการใหค้ าํ ปรึกษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถให้คาํ แนะนาํ ชว่ ยเหลือผเู้ รยี นใหม้ คี ุณภาพชวี ิตท่ดี ีขึน้ (๒) ใช้จิตวิทยาเพอื่ ความเข้าใจและสนบั สนุนการเรยี นรู้ของผู้เรยี นใหเ้ ต็มศักยภาพ ๕. หลกั สตู ร ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั การ แนวคิดในการจัดทาํ หลกั สูตร (๒) การนาํ หลกั สูตรไปใช้ (๓) การพฒั นาหลกั สูตร

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๔๕ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา (ข) สมรรถนะ (๑) วเิ คราะห์หลกั สูตรและสามารถจดั ทําหลักสูตรได้ (๒) ปฏบิ ตั ิการประเมนิ หลักสตู รและนาํ ผลการประเมนิ ไปใช้ในการพัฒนาหลกั สูตร ๖. การจดั การเรยี นร้แู ละการจัดการชน้ั เรียน ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั การ แนวคิด แนวปฏิบัตเิ ก่ียวกับการจดั ทําแผนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ และสิ่งแวดล้อมเพ่อื การเรยี นรู้ (๒) ทฤษฎีและรูปแบบการจดั การเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และแกป้ ัญหาได้ (๓) การบูรณาการการเรียนรแู้ บบเรียนรวม (๔) การจัดการชน้ั เรียน (๕) การพฒั นาศูนย์การเรยี นในสถานศกึ ษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถจัดทําแผนการเรียนรูแ้ ละนาํ ไปสู่การปฏิบตั ิใหเ้ กดิ ผลจรงิ (๒) สามารถสรา้ งบรรยากาศการจัดการชั้นเรียนให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรู้ ๗. การวจิ ยั เพือ่ พฒั นาการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั การ แนวคดิ แนวปฏบิ ัตใิ นการวิจัย (๒) การใชแ้ ละผลิตงานวจิ ยั เพ่อื พฒั นาการเรยี นรู้ (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถนาํ ผลการวิจัยไปใช้ในการจดั การเรยี นการสอน (๒) สามารถทําวจิ ยั เพอื่ พัฒนาการเรยี นการสอนและพัฒนาผ้เู รยี น ๘. นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) หลักการ แนวคดิ การออกแบบ การประยกุ ต์ใช้ และการประเมินส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การเรียนรู้ (๒) เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การสอื่ สาร (ข) สมรรถนะ (๑) ประยกุ ตใ์ ช้ และประเมินสอื่ นวตั กรรม เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การเรียนรู้ (๒) สามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการสอื่ สาร

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หน้า ๔๖ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ๙. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) หลักการ แนวคิด และแนวปฏบิ ัติในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น (๒) ปฏบิ ัตกิ ารวดั และการประเมินผล (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถวดั และประเมินผลได้ (๒) สามารถนาํ ผลการประเมินไปใชใ้ นการพฒั นาผู้เรียน ๑๐. การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั การ แนวคิด แนวปฏิบัติเกย่ี วกับการจัดการคุณภาพการศกึ ษา (๒) การประกนั คุณภาพการศกึ ษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถจัดการคุณภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ อยา่ งตอ่ เน่ือง (๒) สามารถดําเนินการจดั กิจกรรมประเมนิ คุณภาพการจดั กิจกรรมการเรียนรไู้ ด้ ๑๑. คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลักธรรมาภบิ าล และความซื่อสตั ย์สุจรติ (๒) คณุ ธรรม และจรยิ ธรรมของวิชาชีพครู (๓) จรรยาบรรณของวิชาชพี ทีค่ รุ สุ ภากําหนด (ข) สมรรถนะ (๑) ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างทีด่ ี มีจติ สํานึกสาธารณะ และเสียสละใหส้ ังคม (๒) ปฏิบัตติ นตามจรรยาบรรณของวชิ าชพี สาระการฝึกทักษะและสมรรถนะของผู้ประกอบวิชาชพี ครูตามมาตรฐานประสบการณว์ ชิ าชพี ๑๒. การฝึกปฏบิ ัตวิ ชิ าชพี ระหวา่ งเรียน ประกอบดว้ ย (ก) สาระการฝกึ ทักษะ (๑) การสังเกตการจดั การเรียนรู้ (๒) การจดั ทําแผนการจดั การเรยี นรู้ให้ผูเ้ รียนสร้างความรดู้ ว้ ยตนเอง (๓) การทดลองสอนในสถานการณ์จําลอง และสถานการณจ์ ริง (๔) การออกแบบทดสอบ ข้อสอบหรือเครื่องมอื วัดผล (๕) การตรวจขอ้ สอบ การใหค้ ะแนน และการตัดสนิ ผลการเรยี น

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๔๗ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (๖) การสอบภาคปฏิบตั ิและการให้คะแนน (๗) การวิจยั แกป้ ญั หาผู้เรยี น (๘) การพัฒนาความเป็นครูมืออาชพี (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถจัดทําแผนการจดั การเรียนรู้ เพ่อื จุดประสงคก์ ารสอนทห่ี ลากหลาย (๒) สามารถปฏิบัตกิ ารสอน ออกแบบทดสอบ วดั และประเมินผลผู้เรียน ๑๓. การปฏบิ ตั ิการสอนในสถานศึกษาในสาขาวชิ าเฉพาะ ประกอบดว้ ย (ก) สาระการฝึกทักษะ (๑) การปฏิบตั ิการสอนวิชาเอก (๒) การวดั และประเมินผล และนาํ ผลไปใช้ในการพัฒนาผูเ้ รียน (๓) การวิจยั เพอื่ พัฒนาผูเ้ รียน (๔) การแลกเปล่ียนเรียนรู้ หรอื แบ่งปนั ความรใู้ นการสัมมนาการศกึ ษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถจดั การเรยี นรู้ในสาขาวิชาเอก (๒) สามารถประเมนิ ปรบั ปรงุ และศกึ ษาวจิ ยั เพื่อพัฒนาผ้เู รยี น (๓) ปฏบิ ตั งิ านอ่นื ทไ่ี ด้รับมอบหมาย หมวด ๒ ผู้ประกอบวิชาชพี ผู้บริหารสถานศึกษา สาระความรแู้ ละสมรรถนะของผูป้ ระกอบวชิ าชพี ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาตามมาตรฐานความรู้ ๑๔. การพัฒนาวิชาชพี ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) จิตวญิ ญาณ อดุ มการณ์ของผู้บรหิ าร (๒) การจดั การความรเู้ ก่ยี วกับการบรหิ ารสถานศกึ ษา (๓) ความเปน็ ผู้บรหิ ารมืออาชีพ (๔) การวจิ ยั เพอื่ พัฒนาวิชาชพี (ข) สมรรถนะ (๑) มอี ดุ มการณ์ของผ้บู รหิ ารและแนวทางการพฒั นาเปน็ ผู้บริหารมอื อาชพี (๒) สามารถศึกษาวิจัยเพอื่ พฒั นาวชิ าชพี ๑๕. ความเป็นผนู้ าํ ทางวิชาการ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๔๘ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา (๑) การเปลย่ี นแปลงของโลกและสงั คม ผนู้ ําการเปล่ยี นแปลง พฤติกรรมผู้นํา ภาวะผู้นาํ (๒) การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา (๓) การนิเทศเพื่อพัฒนาครใู ห้จดั การการเรยี นรขู้ องผ้เู รียนใหเ้ ตบิ โตเต็มตามศกั ยภาพ (๔) การบริหารความเสย่ี งและความขัดแยง้ (๕) ปฏิสัมพนั ธ์และการพฒั นาเพอ่ื นร่วมงาน (๖) ความสมั พนั ธ์ระหว่างสถานศึกษากบั ชมุ ชน และท้องถิ่น (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถระดมทรัพยากรเพ่ือการศกึ ษา (๒) สามารถบรหิ ารการศึกษาและสรา้ งความสมั พันธก์ บั ชมุ ชนและท้องถ่ินได้ ๑๖. การบรหิ ารสถานศึกษา ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) ทฤษฎี หลักการ กระบวนการ และหน้าทใี่ นการบรหิ าร (๒) การบรหิ ารงานวิชาการเพอ่ื คณุ ภาพและความเปน็ เลศิ (๓) การบรหิ ารแหลง่ เรยี นรแู้ ละส่งิ แวดลอ้ มเพ่ือส่งเสริมการจัดการเรยี นรู้ (๔) นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การบริหารและการเรยี นรู้ (๕) การบริหารงานบุคคล (๖) การบริหารงานธุรการ การเงิน พัสดุ และอาคารสถานที่ (๗) กฎหมายทีเ่ ก่ียวข้องกบั การศึกษา และผบู้ ริหารสถานศกึ ษา (๘) การวางแผนเพ่มิ ประสิทธิภาพ และประสทิ ธผิ ลการบรหิ ารสถานศึกษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถกาํ หนดนโยบาย แผน กลยุทธ์ และนําไปสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับ บรบิ ทของสถานศึกษา (๒) เลอื กใช้ทฤษฎี หลกั การ และกระบวนการบริหารใหส้ อดคล้องกับบริบทมหภาค และภมู ิสงั คม (๓) สามารถบริหารงานวิชาการ บริหาร แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริม การจดั การเรียนรู้ ๑๗. หลักสตู ร การสอน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) พฒั นาหลกั สูตรและหลักสูตรสถานศึกษา (๒) การจดั การเรยี นการสอนและการสอนเสรมิ (๓) การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๔๙ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถพัฒนาหลักสตู รและบริหารการจัดการเรยี นการสอนในแนวทางใหมไ่ ด้ (๒) ปฏิบตั ิการประเมนิ และปรบั ปรุงการบริหารหลกั สูตรและการจัดการเรียนรู้ ๑๘. กจิ การและกจิ กรรมนกั เรยี น ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) บริหารกิจกรรมเสริมหลักสูตรและกิจกรรมนักเรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ให้รู้จักการจดั การและคดิ เปน็ (๒) บรหิ ารจัดการให้เกดิ การพัฒนาทกั ษะชวี ิตของผ้เู รยี น (๓) บริหารจัดการใหเ้ กิดการดูแลช่วยเหลือผเู้ รยี น (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถบริหารจดั การใหเ้ กิดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน การดแู ลช่วยเหลอื ผูเ้ รยี น (๒) สามารถสง่ เสริมวนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และความสามคั คีในหม่คู ณะ ๑๙. การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั การและกระบวนการในการประกันคุณภาพการศกึ ษา (๒) การประกนั คณุ ภาพภายในและภายนอก (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถจดั ทํารายงานผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษาเพื่อรองรับการประเมิน ภายนอก (๒) นําผลการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาไปใชเ้ พื่อพัฒนาสถานศึกษา ๒๐. คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั ธรรมาภิบาล และความซือ่ สัตย์สจุ รติ (๒) คณุ ธรรม และจรยิ ธรรมของวชิ าชพี ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา (๓) จรรยาบรรณของวชิ าชีพทคี่ ุรุสภากําหนด (ข) สมรรถนะ (๑) ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ี มีจติ สาํ นกึ สาธารณะและเสยี สละใหส้ งั คม (๒) ปฏบิ ัตติ นตามจรรยาบรรณของวชิ าชีพ หมวด ๓ ผูป้ ระกอบวชิ าชีพผู้บริหารการศึกษา สาระความรู้และสมรรถนะของผู้ประกอบวชิ าชพี ผ้บู ริหารการศึกษาตามมาตรฐานความรู้

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๕๐ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ๒๑. การพัฒนาวิชาชพี ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) จิตวิญญาณ อุดมการณ์ของผบู้ ริหาร (๒) การจัดการความร้เู กย่ี วกับการบริหารการศกึ ษา (๓) ความเป็นผบู้ ริหารมอื อาชพี (๔) การวิจยั เพือ่ พฒั นาวชิ าชีพ (ข) สมรรถนะ (๑) มีอดุ มการณข์ องผ้บู รหิ ารและแนวทางการพัฒนาเป็นผ้บู ริหารมืออาชพี (๒) สามารถศึกษาวจิ ยั เพ่ือพัฒนาวชิ าชพี ๒๒. ความเปน็ ผู้นาํ ทางวิชาการ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) ผ้นู ําการเปล่ียนแปลง พฤติกรรมผนู้ ํา ภาวะผนู้ ํา (๒) การระดมทรัพยากรเพือ่ การศึกษา (๓) การบรหิ ารงานระบบเครือข่าย (๔) การบริหารความเส่ียงและความขัดแยง้ (๕) ปฏิสมั พันธแ์ ละการพฒั นาเพอื่ นร่วมงาน (๖) การนเิ ทศการศึกษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถบริหารงานระบบเครือขา่ ย (๒) สามารถบริหารการศึกษา และกํากับ ติดตาม สง่ เสรมิ และประเมนิ สถานศึกษา ๒๓. การบรหิ ารการศึกษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) ทฤษฎี หลักการ กระบวนการ และหนา้ ทใ่ี นการบริหาร (๒) การบรหิ ารองค์การ สํานกั งาน และองค์คณะบุคคล (๓) การบรหิ ารงานบคุ คล (๔) กฎหมายทเี่ ก่ยี วข้องกับการศึกษา และผบู้ ริหารการศกึ ษา (๕) นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การบรหิ ารและการเรียนรู้ (๖) การวางแผนเพ่มิ ประสิทธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลการบรหิ ารการศกึ ษา (ข) สมรรถนะ (๑) กาํ หนดนโยบาย แผน กลยุทธ์ และนําไปสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับบริบทของ หน่วยงานทางการศึกษา

เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๕๑ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๒) เลอื กใชท้ ฤษฎี หลักการ และกระบวนการบรหิ ารให้สอดคล้องกับบริบทมหภาค และภมู สิ ังคม (๓) สามารถบรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การบรหิ ารและการเรยี นรู้ ๒๔. การสง่ เสริมคุณภาพการศึกษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) การพฒั นาศักยภาพผู้เรยี น (๒) การบรหิ ารแหล่งเรยี นรแู้ ละสิง่ แวดล้อมเพอื่ ส่งเสริมการจดั การเรยี นรู้ (๓) การพัฒนาหลกั สตู ร และหลักสตู รสถานศกึ ษา (๔) การประเมนิ หลักสูตร (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถพัฒนาหลักสตู ร สง่ เสริมการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาศักยภาพผ้เู รยี น (๒) ติดตาม ประเมนิ ผล รายงาน และนาํ ผลการประเมินมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษา ๒๕. การประกนั คุณภาพการศึกษา ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) ระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษาทง้ั ภายในและภายนอก (๒) การกํากบั ติดตามการประกันคุณภาพการศกึ ษา (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถกาํ กับตดิ ตามการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา (๒) นําผลการประกันคุณภาพการศกึ ษาไปใชเ้ พ่อื พัฒนาการศกึ ษา ๒๖. คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั ธรรมาภบิ าล และความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ (๒) คณุ ธรรม และจริยธรรมของวิชาชพี ผบู้ ริหารการศึกษา (๓) จรรยาบรรณของวิชาชพี ทค่ี รุ ุสภากาํ หนด (ข) สมรรถนะ (๑) ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างทด่ี ี มจี ติ สาํ นกึ สาธารณะและเสยี สละให้สังคม (๒) ปฏบิ ตั ติ นตามจรรยาบรรณของวิชาชพี หมวด ๔ ผ้ปู ระกอบวิชาชีพศกึ ษานเิ ทศก์ สาระความรแู้ ละสมรรถนะของผ้ปู ระกอบวิชาชพี ศึกษานิเทศกต์ ามมาตรฐานความรู้

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หน้า ๕๒ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ๒๗. การพฒั นาวิชาชีพ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) สภาพงาน คณุ ลกั ษณะ และมาตรฐานวิชาชีพศกึ ษานิเทศก์ (๒) ทักษะในการแสวงหาความรูใ้ นบรบิ ทของการเปลีย่ นแปลง (๓) การจัดการความรู้เกีย่ วกับการนิเทศการศกึ ษา (๔) กฎหมายและระเบยี บทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับการศกึ ษา และศึกษานเิ ทศก์ (ข) สมรรถนะ (๑) สรา้ งศรัทธาผรู้ บั การนิเทศเพือ่ ให้ตระหนกั และมองเหน็ ประโยชน์ของการนิเทศ (๒) สร้างความก้าวหน้าและพฒั นาวชิ าชีพอย่างตอ่ เนือ่ ง ๒๘. การนิเทศการศึกษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลกั การ แนวคิด แนวปฏิบตั เิ กยี่ วกับการนเิ ทศ (๒) ผูน้ าํ ภาวะผูน้ ํา และภาวะผนู้ าํ ทางวิชาการ (๓) จิตวทิ ยาการนิเทศและการส่อื สาร (๔) กลวธิ กี ารถ่ายทอดความรู้ แนวคิด ทฤษฎี และผลงานทางวิชาการ (๕) การเสรมิ แรง การสร้างพลงั อํานาจ และการพัฒนาศกั ยภาพครู (ข) สมรรถนะ (๑) ใชเ้ ทคนิคการนิเทศอย่างหลากหลายดว้ ยความเปน็ กัลยาณมติ ร (๒) สร้างวฒั นธรรมในการพัฒนางานวิชาการ และนาํ สูก่ ารเป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ ๒๙. แผนและกจิ กรรมการนิเทศ ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) นโยบายการศกึ ษาและการเชื่อมโยงระบบการศกึ ษากับระบบอื่นในสงั คม (๒) การวางแผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา (๓) การพฒั นาแผนการนิเทศตามบรบิ ทมหภาคและภูมสิ งั คม (๔) การจดั ทาํ แผนปฏบิ ัติการนเิ ทศ โครงการ และการนําสู่การปฏิบัติ (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และพัฒนาแผนการนิเทศที่นําสู่ การปฏบิ ัติไดจ้ รงิ (๒) ประเมนิ และปรับปรุงแผนการนเิ ทศ ๓๐. การพัฒนาหลักสตู รและการจัดการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้

เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๕๓ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา (๑) หลักการ แนวคิด ในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียน รจู้ กั คิดวเิ คราะห์ และสร้างสรรคง์ านได้ (๒) การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ (ข) สมรรถนะ (๑) สรา้ ง ใช้ ประเมนิ และปรบั ปรุงหลักสูตร (๒) นเิ ทศเพอื่ พัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และการวดั ประเมนิ ผล ๓๑. การวิจยั ทางการศกึ ษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลักการ แนวคดิ แนวปฏบิ ัติในการวิจยั (๒) การใชแ้ ละผลิตงานวิจัยเพ่อื พัฒนานวตั กรรมการนเิ ทศ (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถดําเนินการวิจัยเพื่อพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา (๒) สามารถนาํ ผลการวจิ ัยไปใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ๓๒. นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลักการ แนวคดิ การออกแบบส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการเรียนรู้ (๒) เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการสือ่ สาร (ข) สมรรถนะ (๑) ประยกุ ตใ์ ช้ และการประเมินสือ่ นวัตกรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การเรียนรู้ (๒) สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การสื่อสาร ๓๓. การประกันคุณภาพการศึกษา ประกอบด้วย (ก) สาระความรู้ (๑) การบริหารจัดการการศกึ ษา (๒) ระบบการประกันคณุ ภาพการศึกษาทง้ั ภายในและภายนอก (ข) สมรรถนะ (๑) สามารถบริหารจดั การการศึกษา (๒) นาํ ผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้เพื่อพัฒนาสถานศกึ ษา ๓๔. คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ ประกอบดว้ ย (ก) สาระความรู้ (๑) หลักธรรมาภบิ าล และความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ (๒) คุณธรรม และจริยธรรมของวชิ าชพี ศกึ ษานิเทศก์

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๖ ง หนา้ ๕๔ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา (๓) จรรยาบรรณของวิชาชพี ทคี่ รุ ุสภากําหนด (ข) สมรรถนะ (๑) ปฏิบัติตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี มจี ติ สํานกึ สาธารณะและเสยี สละใหส้ งั คม (๒) ปฏิบตั ติ นตามจรรยาบรรณของวิชาชพี ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ศาสตราจารย์ไพฑรู ย์ สินลารตั น์ ประธานกรรมการคุรสุ ภา

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๑๐๖ ง หนา ๑๒๓ ๑๒ ตลุ าคม ๒๕๔๙ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เร่อื ง หลักเกณฑคณุ สมบัตขิ องสถานศกึ ษาสาํ หรบั ปฏบิ ัตกิ ารสอน เพ่ืออนุวัติใหเปนไปตามมาตรา ๔๔ (ก) (๓) แหงพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากร ทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ ที่กําหนดใหผูขอรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพควบคุมตองผาน การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเปนเวลาไมนอยกวาหนึ่งป และผานเกณฑการประเมินปฏิบัติการสอน ตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ คุรุสภากําหนด และประกาศคุรุสภา เร่ือง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษา เพือ่ การประกอบวิชาชีพ กําหนดใหสถานศึกษาสําหรับปฏิบัติการสอนมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการ คุรุสภากําหนด ประกอบกับมติคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุมคร้ังท่ี ๓/๒๕๔๙ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๙ คณะกรรมการคุรุสภาจึงกําหนดคุณสมบัติของสถานศึกษาสําหรับปฏิบัติการสอนไว ดังตอไปนี้ ๑. สถานศึกษาสําหรับปฏิบตั ิการสอน ตองมีคณุ สมบัติ ดังนี้ (๑) มมี าตรฐานคณุ สมบัติตามทีก่ ําหนดทา ยประกาศน้ี หรือ (๒) เปนสถานศึกษาท่ีผานการประเมินและไดมาตรฐานคุณภาพจากสํานักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (องคก ารมหาชน) ๒. ใหสถาบันซ่ึงจัดการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร ๕ ป) จัดสง รายช่ือสถานศึกษาสําหรับปฏิบัติการสอนที่เปนเครือขายของสถาบันตอเลขาธิการคุรุสภา เพื่อนําเสนอ คณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาใหค วามเห็นชอบ ท้ังน้ี ใหสถาบันจัดใหมีการใหความชวยเหลือและพัฒนาสถาบันที่เปนเครือขายอยางเปนระบบ เพ่อื ใหมีคณุ ภาพตามมาตรฐานทก่ี ําหนด และแจง ใหค ุรุสภาทราบทกุ ๕ ป ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง เพ่ิมเติมสถานศึกษาสําหรับปฏิบัติการสอน ใหสถาบัน เสนอตอ เลขาธกิ ารครุ ุสภาเพ่อื นําเสนอคณะกรรมการครุ ุสภาพิจารณาใหความเหน็ ชอบเพ่ิมเตมิ

เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๑๐๖ ง หนา ๑๒๔ ๑๒ ตลุ าคม ๒๕๔๙ ราชกจิ จานุเบกษา ๓. ในกรณีท่ีสถานศึกษาสําหรับปฏิบัติการสอนมีคุณสมบัติไมเปนไปตามหลักเกณฑในขอ ๑ ใหสถาบันซ่ึงจัดการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร ๕ ป) เสนอตอเลขาธิการ คุรสุ ภาเพอื่ นําเสนอคณะกรรมการคุรุสภาพจิ ารณาใหความเหน็ ชอบเปน รายกรณี ๔. ใหเลขาธิการคุรุสภาจัดทําประกาศรายชื่อสถานศึกษาสําหรับปฏิบัติการสอนท่ีไดรับ ความเหน็ ชอบตามขอ ๒ และแจงใหส ถาบันทราบ ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เสริมศกั ดิ์ วิศาลาภรณ ประธานกรรมการครุ สุ ภา

มาตรฐานคณุ สมบัตขิ องสถานศึกษาสําหรับปฏบิ ัติการสอน ………………… ก. มาตรฐานดานกระบวนการ ประกอบดวยมาตรฐานและตวั บงชีก้ ารพิจารณา ดังตอ ไปนี้ (๑) สถานศกึ ษามีการจัดองคการ โครงสรางและการบรหิ ารงานอยางเปน ระบบครบวงจรใหบ รรลเุ ปาหมายการศกึ ษา โดยพิจารณาจากตวั บงชี้ ดังตอ ไปนี้ (๑.๑) สถานศกึ ษามีการจดั องคการ โครงสรา งการบริหาร และระบบการ บรหิ ารงานอยา งเปน ระบบ (๑.๒) สถานศึกษามกี ารบรหิ ารเชงิ กลยุทธ (๑.๓) สถานศกึ ษามีการบริหารโดยหลักการมสี ว นรว ม (๑.๔) สถานศึกษามกี ารตรวจสอบและถว งดุล (๒) สถานศึกษาสง เสรมิ ความสัมพันธและความรว มมือกบั ชมุ ชนในการ พัฒนาการศึกษา โดยพิจารณาจากตวั บงช้ี ดงั ตอไปนี้ (๒.๑) สถานศึกษามรี ะบบและกลไกในการสงเสรมิ ความสัมพนั ธแ ละรว มมือ กบั ชุมชนในการพัฒนาการศกึ ษา (๒.๒) สถานศึกษามีกจิ กรรมท่สี งเสรมิ ความสัมพันธแ ละความรว มมอื กบั ชมุ ชนในการพฒั นาการศึกษา (๓) สถานศกึ ษามกี ารจดั สภาพแวดลอ มที่เออ้ื ตอ การเรียนรู สงเสริมสขุ ภาพ อนามัย และความปลอดภัยของผูเรียน โดยพจิ ารณาจากตัวบง ช้ี ดงั ตอ ไปนี้ (๓.๑) สถานศกึ ษามสี ภาพแวดลอ มที่สะอาด เปนระเบียบ และปลอดภยั (๓.๒) มีระบบปองกนั ใหส ถานศึกษาปลอดสารพษิ สิ่งเสพติด อาชญากรรม และอบายมุข (๓.๓) สถานศกึ ษามีสาธารณูปโภคทด่ี ี (๓.๔) สถานศึกษามีสง่ิ อาํ นวยความสะดวกใหค รูและบคุ ลากรอยางเพียงพอ และมีสภาพแวดลอ มใหเอื้อตอ การเรยี นรู (๔) สถานศึกษาสงเสรมิ และพัฒนาบคุ ลากร ครตู ามความจําเปน และ เหมาะสมอยา งสม่าํ เสมอ โดยพจิ ารณาจากตวั บง ช้ี ดังตอไปน้ี (๔.๑) สถานศึกษาจดั ครูเขาสอนตรงตามสาขาวิชา หรือความถนัด หรือความรู ความสามารถ (๔.๒) ครูไดร บั การพฒั นาเกย่ี วกับเรอ่ื งที่ใชสอนหรือปฏิบตั งิ านอยางตอ เนอื่ ง และสอดคลอ งกับสภาพการเปล่ยี นแปลง (๔.๓) สถานศกึ ษาสงเสริมการทาํ งานเปนทมี

-๒- (๕) สถานศกึ ษามีการจดั การเรียนการสอนสอดคลองกับหลกั สูตร ตามความ ตอ งการของผูเ รยี นและทอ งถนิ่ โดยพิจารณาจากตัวบงช้ี ดงั ตอ ไปน้ี (๕.๑) สถานศกึ ษามกี ารพฒั นาหลกั สตู รใหส อดคลอ งกบั สภาพและความ ตองการของทองถ่นิ โดยใหช ุมชนเขา มามีสวนรวม (๕.๒) สถานศกึ ษามีการจัดแนวการเรยี นการสอนใหส อดคลองกบั หลกั สตู ร ความตองการของผเู รยี น ทองถนิ่ และการเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คมใหส ามารถเชอ่ื มโยง แกป ญ หาทอ งถ่นิ ได และนาํ ไปปฏิบตั ิไดจรงิ (๖) สถานศึกษาจดั กจิ กรรมและการเรยี นการสอนโดยเนนผเู รยี นเปน สําคญั โดยพิจารณาจากตวั บง ช้ี ดงั ตอไปนี้ (๖.๑) สถานศึกษามกี ารจัดกิจกรรมการบรหิ าร กิจกรรมการเรียนการสอน และ กจิ กรรมเสริมหลักสตู รอยางหลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาตแิ ละสอดคลองกบั ความตองการ ของผูเรียน (๖.๒) สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมการบริหาร กิจกรรมการเรียนการสอน และ กิจกรรมเสริมหลกั สูตรทกี่ ระตนุ ใหผ เู รยี นรจู ักศึกษาหาความรู แสวงหาคําตอบ และสรา งองคความรู ดวยตวั เอง (๖.๓) สถานศกึ ษามีการจดั กิจกรรมการบรหิ าร กิจกรรมการเรยี นการสอน และ กจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รทกี่ ระตนุ ใหผูเ รยี นรูจักคดิ วิเคราะห คิดสังเคราะห คิดสรา งสรรค คิดแกปญหา และตัดสินใจ (๖.๔) สถานศกึ ษามกี ารจดั กิจกรรมการบรหิ าร กิจกรรมการเรียนการสอน และ กิจกรรมเสริมหลักสตู รทบี่ รู ณาการ เชอื่ มโยงสาระความรู ทกั ษะดา นตาง ๆ และแนวคดิ ของสงิ่ ท่ี เรยี นรูในหอ งเรียนกับความจริงของชีวติ รวมท้ัง ปลูกฝงคุณธรรม จริยธรรมทตี่ อ งปฏิบัตใิ นสงั คม รวมกับผอู ืน่ (๖.๕) สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมการบรหิ าร กจิ กรรมการเรียนการสอน และ กจิ กรรมเสริมหลักสตู รทีส่ ง เสริมความเปน ประชาธิปไตย การทํางานรว มกบั ผอู ่นื และความรับผดิ ชอบ ตอ สวนรวม (๖.๖) สถานศกึ ษามกี ารจดั กิจกรรมการบริหาร กิจกรรมการเรียนการสอน และ กจิ กรรมเสริมหลกั สตู รใหผเู รยี นไดรับการพฒั นาอยา งครบถวน ทั้งดา นดนตรี ศิลปะ และกฬี า (๖.๗) สถานศกึ ษามีการประเมนิ พฒั นาการของผเู รยี นดว ยวิธกี ารท่หี ลากหลาย และตอเนอ่ื ง (๖.๘) สถานศกึ ษามีการจดั กจิ กรรมการบริหาร กิจกรรมการเรยี นการสอน และ กจิ กรรมเสริมหลักสูตรใหผ เู รียนมีความกระตอื รือรนในการเรียนและรักสถานศึกษา

-๓- ข. มาตรฐานดานปจ จยั ประกอบดว ยมาตรฐานและตัวบง ชก้ี ารพจิ ารณา ดังตอไปน้ี (๑) ผูบรหิ ารมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และเปน แบบอยา งท่ีดี โดยพจิ ารณาจาก ตวั บงชี้ ดังตอ ไปน้ี (๑.๑) ผูบรหิ ารอทุ ิศตนใหก บั การปฏบิ ตั งิ านในสถานศกึ ษาอยา งตอ เน่อื ง (๑.๒) ผูบริหารมีความเมตตากรณุ า มคี วามรับผิดชอบ ยุตธิ รรม และซอ่ื สตั ย (๑.๓) ผูบริหารมกี ารครองตนที่ดี ไมมหี นี้สินลนพน ตัว ไมเ กีย่ วของกับ อบายมขุ และสง่ิ เสพตดิ (๒) ผูบริหารมภี าวะผนู าํ และมคี วามสามารถในการบรหิ ารจัดการ โดย พจิ ารณาจากตวั บง ช้ี ดังตอ ไปนี้ (๒.๑) ผูบรหิ ารมวี ิสัยทัศนใ นการจดั การศกึ ษาใหทนั กับการเปล่ียนแปลง (๒.๒) ผูบรหิ ารมีความเปน ผนู าํ มีมนุษยสัมพันธ และเปน ทยี่ อมรับของ ผเู กย่ี วของ (๒.๓) ผูบรหิ ารมคี วามเปนประชาธปิ ไตย (๒.๔) ผูบรหิ ารมคี วามรคู วามสามารถดา นวชิ าการและหลกั การบริหารจัดการ (๓) ครมู ีจิตวิญญาณความเปน ครู มคี ณุ ธรรม และจรยิ ธรรม โดยพิจารณาจาก ตวั บง ช้ี ดงั ตอ ไปนี้ (๓.๑) ครูมคี วามเออื้ อาทร เขา ใจ และเอาใจใสผ เู รียนทุกคนอยา งสมาํ่ เสมอและ เทาเทียมกนั (๓.๒) ครูมมี นษุ ยสัมพันธ ควบคมุ อารมณได และรบั ฟง ความคิดเห็นของผูอนื่ (๓.๓) ครมู คี วามรับผดิ ชอบ ซื่อสัตย ตรงตอ เวลา และอทุ ิศตนใหก บั การพัฒนา ผเู รียน (๓.๔) ครวู างตนเหมาะสม เปน แบบอยางท่ดี ีในเรือ่ งความประพฤติ บคุ ลกิ ภาพ (๓.๕) ครูมีเจตคตทิ ่ีดีตอวชิ าชีพครู (๓.๖) ครศู กึ ษาหาความรู และพัฒนาการสอนอยูเ สมอ (๔) ครูมีความสามารถในการจดั การเรียนการสอนอยางมปี ระสิทธิภาพและ เนนผูเรยี นเปนสาํ คัญ โดยพจิ ารณาจากตัวบง ช้ี ดังตอ ไปนี้ (๔.๑) ครรู ูเ ปา หมายของการจดั การศกึ ษา และเปา หมายหลักสตู ร (๔.๒) ครูมีความสามารถในการวเิ คราะหหลกั สตู ร และจดั ทําแผนการเรยี นรทู ี่ เนนผูเรยี นเปน สําคญั (๔.๓) ครูสามารถจดั การเรยี นการสอนทเี่ นน ผเู รียนเปน สําคญั ในชวงชนั้ ท่ี ๑ ถงึ ชว งช้ันท่ี ๔ (๔.๔) ครูสามารถประเมนิ ผลการเรียนการสอนตามสภาพจริงและอิงพัฒนาการ ของผเู รียน มีการประเมนิ เพือ่ วนิ ิจฉยั จดุ เดน จดุ ดอ ย การประเมินเพื่อปรับปรุงการเรยี นการสอนและ การประเมนิ เพอื่ ตัดสินผลการเรียน

-๔- (๔.๕) ครูนําผลการประเมนิ การเรยี นการสอนมาปรับการเรยี นและเปลยี่ น การสอนเพ่อื พฒั นาคุณภาพอยางตอ เน่ือง (๕) ครมู ีความสามารถในการแสวงหาความรู คิดวิเคราะห และสราง องคค วามรูเพ่ือพัฒนาการเรยี นการสอน โดยพิจารณาจากตัวบง ช้ี ดงั ตอไปนี้ (๕.๑) ครูมีนสิ ัยรกั การแสวงหาความรแู ละขาวสารขอ มูลจากแหลงตา ง ๆ เพอ่ื นาํ มาพฒั นาการเรยี นการสอน (๕.๒) ครมู คี วามสามารถในการศึกษา วิจัย เพื่อพัฒนากระบวนการเรยี นการสอน (๕.๓) ครมู คี วามสามารถในการวเิ คราะหป ญ หาและแกไขสถานการณได (๖) ครมู คี ุณวฒุ ิ ความรูความสามารถตรงกบั งานที่รบั ผิดชอบ โดยพิจารณาจากตวั บงชี้ ดงั ตอไปนี้ (๖.๑) ครทู ีจ่ บระดบั ปริญญาตรขี ึ้นไป (๖.๒) ครทู ี่สอนตรงตามวชิ าเอก โท (๖.๓) ครไู ดสอนตรงกับความถนัด (๖.๔) ครูไดร ับการพัฒนาในวชิ าทสี่ อนปละไมน อ ยกวา ๒๐ ชวั่ โมง (๗) สถานศกึ ษามีหลกั สตู รท่ีเหมาะสมกับผเู รยี นและทอ งถน่ิ มีส่ือการเรยี น การสอนท่ีเอ้อื ตอ การเรยี นรู โดยพิจารณาจากตวั บง ชี้ ดังตอ ไปนี้ (๗.๑) สถานศึกษามหี ลักสตู รและเนอ้ื หาสาระของหลักสูตรทเี่ หมาะสม สอดคลอ งกับเปาหมายการศกึ ษาและความตองการของผเู รยี นและทอ งถนิ่ (๗.๒) สถานศึกษามีสอ่ื การเรียนการสอนทเ่ี หมาะสมและเออื้ ตอการเรยี นรู (๘) สถานศึกษามีอาคาร สถานท่ี และสงิ่ อํานวยความสะดวกเพียงพอ (๘.๑) สถานศึกษามอี าคาร สถานท่ี และสงิ่ อาํ นวยความสะดวกเพียงพอ (๘.๒) สถานศึกษามีหอ งเรียนและหองปฏิบัตกิ ารทจี่ ําเปนตอการเรียนการสอน (๙) สถานศึกษามีการจัดองคการ โครงสราง และการบรหิ ารงานอยา งเปน ระบบ เพ่ือใหม คี วามพรอมในการเปนโรงเรียนรว มพฒั นาวิชาชพี ครู (๙.๑) สถานศึกษามกี ารกําหนดแผนเกี่ยวกับการฝกประสบการณว ิชาชพี ครใู น แผนพฒั นา (๙.๒) สถานศกึ ษามกี ารกาํ หนดผรู ับผิดชอบงานเก่ียวกับการฝก ประสบการณ วชิ าชีพครู (๙.๓) สถานศึกษามีระบบการดูแล นเิ ทศ และประเมินผลการปฏิบัติงานของ นักศกึ ษา (๙.๔) สถานศึกษาจดั และสงเสริมใหน ักศกึ ษาฝก ประสบการณว ชิ าชพี จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนที่กระตนุ ใหผเู รียนรูจกั ศกึ ษาหาความรู แสวงหาคาํ ตอบ และ สรางความรูดวยตนเอง

-๕– (๙.๕) สถานศึกษากําหนดงานใหน กั ศึกษาฝกประสบการณว ชิ าชีพครู อยา งเหมาะสมและตรงตามสาขาวิชาของนกั ศกึ ษาฝก ประสบการณ (๙.๖) สถานศึกษามีการกําหนดแผนกลยทุ ธจากการมสี ว นรว มของบคุ ลากรที่ เก่ียวขอ ง เปน แผนแมบทการพฒั นาโรงเรียนรวมพฒั นาวิชาชพี ครู (๙.๗) สถานศกึ ษามีการจัดกิจกรรมสรางความสัมพนั ธอนั ดีระหวา งนกั ศึกษา ฝก ประสบการณว ชิ าชพี ครกู ับบคุ ลากรทเ่ี ก่ียวของของโรงเรยี น (๙.๘) สถานศกึ ษาจดั กจิ กรรมในทองถิน่ ท่ใี หนักศกึ ษาฝก ประสบการณ วชิ าชีพครไู ดเ ขารว มเพอื่ รูจกั บคุ คลสาํ คัญและขนบธรรมเนยี มประเพณีของทองถนิ่ (๙.๙) สถานศึกษามีการจดั สวสั ดกิ ารท่จี ําเปน แกน ักศึกษาฝก ประสบการณ วิชาชพี ครู (๙.๑๐) สถานศึกษาสามารถจดั โอกาสใหนักศึกษาฝก ประสบการณว ิชาชพี ครู เขา รว มกิจกรรมการพฒั นาหลักสูตรสถานศึกษา การวจิ ัยในช้นั เรยี น การพัฒนาสือ่ นวตั กรรมการ เรยี นรู การพัฒนานกั เรียน และกิจกรรมพฒั นาวชิ าชพี ครูอนื่ ๆ (๑๐) ผบู รหิ ารมีความสามารถในการบริหารหนว ยฝก ประสบการณว ชิ าชพี ครู โดยพิจารณาจากตวั บง ช้ี ดังตอไปน้ี (๑๐.๑) ผบู รหิ ารมีความรูความเขา ใจเก่ียวกบั เปา หมายและกระบวนการ ฝก ประสบการณว ิชาชพี ครู (๑๐.๒) ผูบรหิ ารมีการวางแผนบรหิ ารจดั การเกยี่ วกับการเปน หนวยฝก ประสบการณว ชิ าชพี ครู (๑๐.๓) ผบู ริหารมีความสามารถในการประสานงานและรว มมอื กบั สถาบัน ผลิตครแู ละผเู กีย่ วของในการพัฒนานักศึกษา และการจดั การฝก ประสบการณวชิ าชีพครใู ห มีประสิทธิภาพสงู สดุ (๑๑) ครมู ีความสามารถในการเปนครพู ีเ่ ลย้ี งนกั ศกึ ษาฝกประสบการณ วชิ าชพี ครู โดยพิจารณาจากตัวบง ชี้ ดังตอไปนี้ (๑๑.๑) ครรู ูแ ละเขาใจเกย่ี วกับเปา หมายและกระบวนการฝก ประสบการณ วชิ าชพี ครู (๑๑.๒) ครมู ที กั ษะและเทคนคิ ในการนเิ ทศแบบกลั ยาณมิตร (๑๑.๓) ครคู รองตนเปนแบบอยางท่ีดีตามจรรยาบรรณครู และการเปน ครู มอื อาชพี (๑๑.๔) ครูมีความสามารถในการประสานงานและรว มมอื กับสถาบนั ผลติ ครู และผเู กี่ยวขอ งในการพฒั นานักศกึ ษา และการจดั การฝก ประสบการณวชิ าชพี ครู ---------------------------------


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook